Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore HOPE MAGAZINE VOL 3

Description: HOPE MAGAZINE VOL 3

Search

Read the Text Version

www.tltpress.com Thailand for life cForepey hope changes everything Vol. 03 วารสาร เพื่อจุดประกายความหวังสำหรับทุกชีวิต We and dreams know that everyone has ยากแคไหนแกท ่ีใจ คุณจะเลือกทางไหน คร้งั กสาุดหรทญเดายินงิ ขทชอารงงา ดเธวองคพอื ิเดศวษงดาว E-book for Free Download





เร่ืองโดย magazinefor พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ Life เรียบเรียงโดย ณัฐชลัยย์ ปานใจ ยากแค่ไหน แก้ท่ีใจ แม้ยอดเขาเอเวอร์เลสจะสูงแค่ไหน แต่หากมีความ ท่ีเราสามารถปรับสมดุลของร่างกายให้กลับมาปกติได้คือ เช่ือและความมุ่งมั่นก้าวเท้าเดินออกไป สุดท้ายย่อมถึงยอด เขาต่อให้ปัญหาจะใหญ่ท่วมฟ้าแค่ไหน แต่ถ้าเราเชื่อมั่นว่า ปรับใจ เพราะตัวตนของคนเรา ประกอบไปด้วยร่างกายกับ เราทำ� ได้ สไู้ หว สดุ ทา้ ยกจ็ ะผา่ นมนั ไปไดเ้ ชน่ กนั เพราะความ เชื่อม่ันจะเป็นพลังงานขับเคลื่อนร่างกายให้ไปสู่จุดมุ่งหมาย จิตใจท่ีส่งผลเน่ืองถึงกันตลอดเวลา หากจิตใจสดชื่นแจ่มใส ไม่เว้นแม้แต่หายจากโรคท่ีสร้างความทุกข์ทรมานให้กับ ร่างกาย ร่างกายก็จะพลอยแข็งแรงตามไปด้วย โรคเป็นภาวะสมมติที่เกิดจากส่วนต่างๆ ในร่างกาย เคยมีการทดลองโครงการหน่ึงได้น�ำคนไข้ 2 คนที่ ไมส่ มดลุ โดยปกตแิ ลว้ คนทมี่ สี ขุ ภาพดี สว่ นตา่ งๆ ในรา่ งกาย จะอยู่ในสภาวะสมดุล แม้อุณหภูมิจะเพ่ิมบ้าง ลดบ้าง แต่ก็ เป็นโรคเดียวกัน มีอาการและพ้ืนฐานสุขภาพร่างกายใกล้ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซ่ึงถ้าส่วนต่างๆ เกิดการเปล่ียนแปลง มากหรือน้อยเกินขอบเขตของปกติจะท�ำให้เกิดอาการป่วย เคยี งกนั มาก มาทำ� การทดลอง โดยแยกคนไขท้ งั้ 2 คนใหอ้ ยู่ วธิ รี กั ษา หมอจะใหย้ าหรอื หาวธิ กี ารตา่ งๆ ปรบั กลไก กันคนละห้อง ของรา่ งกายใหก้ ลบั เขา้ สสู่ ภาวะสมดลุ อกี ครงั้ หนง่ึ และอกี วธิ ี คนไข้คนท่ี 1 เจ้าหน้าที่ได้ติดป้ายที่ปลายเตียงของ เขาไว้ว่า “วันน้ีเราแข็งแรงขึ้นอีกนิดแล้วนะ” ซึ่งทุกเช้า ส่ิง แรกท่ีเขาจะเห็นก็คือป้ายข้อความน้ี คนไข้คนท่ี 2 ท่ีปลายเตียงของเขาก็ถูกติดป้ายใน แบบเดยี วกัน แต่ขอ้ ความตา่ งออกไป มนั ถูกเขียนไว้วา่ “วัน น้ีเราทรุดไปอีกนิดแล้วนะ” 4

เวลา 2 สัปดาห์ผ่านไป อาการของคนไข้ท้ัง 2 คนท่ี เปน็ เรอื่ งนา่ แปลกทน่ี กั โทษผนู้ น้ั เสยี ชวี ติ เพราะเสยี ง เคยมคี วามใกลเ้ คยี งกนั กลบั ตา่ งกนั อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั คนไขค้ น ตง๋ิ ๆ ทน่ี กั โทษไดย้ นิ นน้ั ไมใ่ ชเ่ สยี งหยดของเลอื ด หากแตเ่ ปน็ แรกมีอาการดีข้ึนจนเกือบจะหายจากโรค แต่คนไข้คนท่ี 2 เสียงหยดของน้�ำท่ีหมอได้เตรียมการไว้ อาการของเขาทรุดหนักมากข้ึนกว่าเดิม การทดลองน้ีหมอตั้งใจหลอกให้นักโทษเชื่อว่าเลือด ถือเป็นผลการทดลองท่ีพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ของตัวเองก�ำลังไหลออกไปไม่หยุด โดยหลังจากที่หมอเจาะ จิตใจ มีผลต่อร่างกาย จิตใจที่ได้สมดุล จะท�ำให้ร่างกายท่ี แขนของนักโทษและปล่อยให้นักโทษเห็นเลือดของตนหยด เสียสมดุลกลับมาได้สมดุลดังเดิม หากใจเสียสมดุล ร่างกาย ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วปิดไฟ ในช่วงเวลาท่ีปิดไฟน้ัน หมอได้ปิดสายน้�ำเกลือไม่ให้เลือดไหลออก แล้วเปิดท่อท่ี กจ็ ะเสยี สมดลุ ตามไปดว้ ย และหากรา่ งกายเสยี สมดลุ อยแู่ ลว้ เตรียมไว้ด้านล่างให้น้�ำหยดแทน และใจเสียสมดุล จะยิ่งท�ำให้ร่างกายทรุดหนักมากข้ึน เพราะความไม่รู้ นักโทษจึงยังคงคิดว่าเลือดของตัว การทดลองอีกโครงการหนึ่งได้ยืนยันผลการทดลอง เองก�ำลงั ไหล ความหวาดกลัวได้ทำ� ให้เขาเชือ่ วา่ ตัวเองก�ำลงั แบบเดียวกัน แต่เป็นผลการทดลองที่หนักหนายิ่งกว่า เขา จะตาย เลอื ดของเขากำ� ลงั ไหลออกจากรา่ งกายอยา่ งชา้ ๆ ใน ได้น�ำนักโทษประหารชีวิตท่ีสมัครใจรับโทษในรูปแบบการ ที่สุดเขาก็สิ้นลมจริงๆ ทดลองทางวิทยาศาสตร์มาท�ำการทดลอง โดยบอกกับ นักโทษว่าต้องการทดลองหาค�ำตอบว่า จะต้องเสียเลือดใน ซึ่งถ้าเราใช้ความคิดเช่ือมั่นในเรื่องราวท่ีสร้างสรรค์ ปริมาณเท่าไหร่ ร่างกายจึงจะหยุดท�ำงาน แนน่ อนวา่ มนั จะตอ้ งใหผ้ ลอยา่ งเดยี วกนั ความเชอื่ มน่ั จงึ เปน็ สง่ิ สำ� คญั และเปน็ พลงั ทจี่ ะนำ� เราไปสจู่ ดุ มงุ่ หมาย แมบ้ างครง้ั หมอเริ่มการทดลองด้วยการน�ำนักโทษเข้าไปในห้อง เรื่องราวในชีวิตจะน�ำพาเราไปเผชิญกับอุปสรรคที่หนักหนา มืด แทงเข็มท่ีต่อสายน�้ำเกลือที่แขนของนักโทษ โดยให้ หากเราเชื่อม่ันว่าเราจะต้องผ่านมันไปได้ เราจะผ่านมันไป นกั โทษไดเ้ หน็ เลอื ดทกี่ ำ� ลงั ไหลออกจากแขนของตวั เอง จาก ได้ นน้ั จงึ ปดิ ไฟ แลว้ ทงิ้ ใหน้ กั โทษอยตู่ ามลำ� พงั กบั เสยี งหยดตงิ๋ ๆ และเครื่องวัดชีพจรภายในห้องมืด หลังจากผ่านไปไม่ถึง 1 คงไมใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยทจี่ ะรวบรวมความเชอื่ มน่ั ใหก้ ลบั มา ชั่วโมง นักโทษก็เสียชีวิต อกี ครง้ั หนง่ึ เมอ่ื ตอ้ งเผชญิ หนา้ กบั ปญั หา แตห่ ากเราใชส้ มาธิ เป็นเครื่องมือจะสามารถสร้างความเช่ือม่ันให้เกิดขึ้นได้ เพราะจิตใจท่ีสงบจะท�ำให้เราค้นพบทางออกและยุติปัญหา ได้ในที่สุด 5

การ มันเป็นเวลาเกือบจะหมดกะรถแท็กซี่ของผมแล้ว แต่ผมก็รับค�ำ เดินทาง สง่ั ทใี่ หไ้ ปรบั ผโู้ ดยสารรายหนงึ่ ทงั้ ๆ ทผี่ มกเ็ หนอื่ ยลา้ มาทง้ั วนั และใจกค็ ดิ อยากกลับบ้านไปพักผ่อนเหลือเกิน ครั้ง สุดท้าย ผมขับแท็กซ่ีคู่ใจไปถึงที่อยู่ของผู้โดยสาร ที่โทรเรียกบริการ และ บบี แตรรถสง่ สญั ญาณใหผ้ โู้ ดยสารทราบวา่ ผมมาถงึ แลว้ 2-3 นาทผี า่ นไป ของ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะออกมา ผมไม่รอช้ารีบบีบแตรซ�้ำเพ่ือเร่งผู้ โดยสาร หญิง ชรา ผมเกือบจะขับรถหนีไปโดยไม่รับผู้โดยสารที่ชักช้าคนน้ี เพราะ ไหนๆ น่ีก็เป็นเท่ียวโดยสารสุดท้ายก่อนหมดกะของผม แต่ผมกลับจอด รถ เดนิ ลงไปทป่ี ระตูบา้ นและเคาะประตูเรยี ก “รอสักครู่นะคะ” มันเป็น เสยี งสนั่ เครอื ของหญงิ ชราในวยั ทเี่ ปราะบาง ผมแอบไดย้ นิ เสยี งอะไรบาง อย่างถูกลากมากับพ้ืน เสยี งเงยี บไปพกั ใหญ่ แลว้ ประตบู านนนั้ กเ็ ปดิ ออก หญงิ รา่ งเลก็ วยั กว่า 90 ปี ยืนอยู่ตรงหน้าผม เธอสวมเสื้อลายพิมพ์สีสดและหมวกทรง กลมเล็กๆ มีผ้าลูกไม้บางๆ กลัดไว้ มองแล้วเหมือนใครสักคนที่เพ่ิงหลุด ออกมาจากภาพยนตร์ย้อนยุคเม่ือ 50 หรือ 60 ปีก่อน ขา้ งตวั เธอมกี ระเปา๋ เดนิ ทางทก่ี รดุ ว้ ยผา้ ไนลอ่ นใบหนงึ่ อพารต์ เมน้ ท์ของเธอดูราวกับไม่มีใครอาศัยอยู่มาเป็นแรมปี เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดถูก คลุมไว้ด้วยผ้าใบ บนฝาผนังบ้านไม่มีนาฬิกาสักเรือน ไม่มีข้าวของหรือ เครอ่ื งครวั แตท่ มี่ มุ หอ้ งกลบั มกี ลอ่ งกระดาษหลายใบทมี่ ภี าพถา่ ยเกา่ และ เครื่องแก้วบรรจุอยู่เต็ม “พ่อหนุ่ม เธอจะช่วยยกกระเป๋าของฉันไปท่ีรถหน่อยได้ไหม” หญิงชราถาม 6

ผมยกกระเปา๋ ของเธอไปแลว้ เดนิ กลบั มาชว่ ยประคอง พนักงานบ้านพักคนชราสองคนออกมาต้อนรับเรา เธอเดินข้ึนรถ หญิงชราจับมือของผมและเราท้ังสองก็เดิน พวกเขาดใู สใ่ จกบั เธอมาก เฝา้ ดหู ญงิ ชราในทกุ อริ ยิ าบถอยา่ ง ช้าๆ ไปท่ีทางเท้า ไม่ละสายตา พวกเขาคงรอการมาถึงของเธออยู่ก่อนแล้ว เธอเฝ้าแต่กล่าวค�ำขอบคุณในความกรุณาของผม ผมเปิดท้ายรถและเอากระเป๋าเดินทางของเธอไปที่ “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยครับ” ผมบอกเธอ “ผมก็แค่ ประตู หญงิ ชราไดน้ งั่ อยบู่ นเกา้ อร้ี ถเขน็ แลว้ “ฉนั คา้ งจา่ ยคา่ ปฏิบัติกับผู้โดยสารของผมเหมือนกับท่ีผมอยากจะให้ผู้คน รถเธอเทา่ ไร” หญงิ ชราถามพรอ้ มๆ กบั เออื้ มมอื เปดิ กระเปา๋ ปฏิบัติกับแม่ผมเท่านั้นเองครับ” สตางค์ของเธอ “โอ้ เธอช่างเป็นเด็กที่ดีจริงๆ” หญิงชราตอบ “ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยครับ” ผมตอบ พอเราไปถงึ ทร่ี ถแทก็ ซี่ เธอกเ็ อาทอี่ ยู่ ซง่ึ เปน็ จดุ หมาย “แต่เธอก็ต้องอยู่ต้องกินนะ” หญิงชรากล่าว ปลายทางท่ีเธอต้องการไปให้ผมและถามผมว่า “เธอจะช่วย “ผมยังมีผู้โดยสารรายอ่ืนๆ อีกครับ” ผมตอบ ขับรถผ่านเข้าไปกลางเมืองสักหน่อยได้ไหมจ๊ะ พ่อหนุ่ม” โดยแทบไม่ได้คิดอะไรเลย ผมก้มตัวลงและกอดเธอ “แต่น่ันไม่ใช่ทางท่ีสั้นท่ีสุดนะครับ” ผมรีบตอบ ไว้ในอ้อมแขน หญิงชรากอดผมไว้แน่น “เธอได้มอบเวลา “ไมเ่ ปน็ ไรหรอก” เธอตอบ ฉนั ไมไ่ ดร้ บี รอ้ นอะไร ฉนั แห่งความสุขเล็กๆ ให้กับคนแก่คนหนึ่ง” เธอพูด “ขอบใจ ก�ำลังจะไปที่ hospice (สถานที่ส�ำหรับดูแลคนป่วยซ่ึงไม่ มากนะ” สามารถรักษาได้แล้ว ในระยะสุดท้ายของชีวิต) ผมบีบมือเธอแน่นเป็นการล่�ำลาและเดินกลับออกไป ผมแอบมองหนา้ เธอทางกระจกมองหลงั ดวงตาหญงิ เสียงประตูถูกปิดลง มันเป็นเสียงปิดลงของชีวิต ชีวิตหนึ่ง ชราเปน็ ประกาย “ฉนั ไมม่ ญี าตพิ นี่ อ้ งหรอื ครอบครวั เหลอื อยู่ ผมไมไ่ ดร้ บั ผโู้ ดยสารอน่ื อกี เลยในกะนนั้ ผมขบั แทก็ ซ่ี แล้ว” เธอพูดต่อด้วยเสียงเบาบาง “หมอบอกว่าฉันคงอยู่ได้ ของผมไปอยา่ งไรเ้ ปา้ หมาย หลงลอ่ งลอยอยใู่ นความคดิ ของ อีกไม่นานนัก” ตัวเอง วันน้ันทั้งวันผมแทบพูดอะไรไม่ถูก ผมค่อยๆ เอ้ือมมือไปปิดมิเตอร์ค่าแท็กซ่ี “คุณอยาก มันจะเกิดอะไรข้ึนถ้าหญิงชราคนน้ันต้องพบกับคน ให้ผมขับพาคุณไปตามถนนสายไหนหรือครับ” ผมถาม ขับรถแท็กซี่ข้ีโมโห หรือคนขับที่คิดแต่จะส่งรถให้ทันกะ ระยะเวลาสองช่ัวโมงจากนั้น เราน่ังรถผ่านกลาง อะไรจะเกดิ ขึน้ ถ้าผมปฏเิ สธท่ีจะรับงานนนั้ เพราะมนั เกอื บ เมอื ง เธอชใี้ หผ้ มดอู าคารทค่ี รง้ั หนงึ่ เธอเคยทำ� งานเปน็ คนคมุ จะหมดกะของผมเหมอื นกนั หรอื ถา้ ผมแคก่ ดแตรเรยี กเพยี ง ลฟิ ต์ เราขบั ผา่ นละแวกบา้ นทเี่ ธอและสามเี คยอยอู่ าศยั เมอื่ ครั้งเดียว พอไม่มีใครขานตอบผมก็ขับหนีออกไปทันที ทงั้ คพู่ บรกั และแตง่ งานกนั ใหมๆ่ เธอกข็ อใหผ้ มจอดรถสกั ครู่ ผมทบทวนเรอ่ื งน้ีซ�้ำไปซ�ำ้ มา ผมคดิ ไมอ่ อกว่าผมเคย ที่หน้าโกดังโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ท่ีคร้ังหน่ึงเคยเป็นสถาน ได้ท�ำอะไรท่ีส�ำคัญกว่านี้มาบ้างหรือเปล่าในชีวิต ลีลาศท่ีเธอเคยมาเต้นร�ำเม่ือคร้ังท่ียังเป็นเด็กสาว เราถูกท�ำให้เช่ือว่าชีวิตของเราได้รับอิทธิพลจาก บางครง้ั เธอกข็ อใหผ้ มขบั รถชา้ ๆ เมอ่ื ผา่ นหนา้ อาคาร เหตุการณ์ส�ำคัญท่ีย่ิงใหญ่ หรือมุมถนน และเธอจะน่ังน่ิงๆ มองผ่านหน้าต่างรถออกไป แต่บ่อยคร้ังเหตุการณ์ย่ิงใหญ่ที่ว่านั้น มันกลับมา ยังความมืดอันว่างเปล่า โดยไม่พูดอะไรเลยสักค�ำ ปรากฏตอ่ หนา้ เราอยา่ งทเี่ ราไมท่ นั ตง้ั ตวั และมาปรากฏตวั ใน เมอ่ื แสงตะวนั ออ่ นแรงลงทตี่ รงปลายฟา้ เธอกพ็ ดู ขน้ึ รปู ทถ่ี กู หอ่ ไวอ้ ยา่ งหมดจดงดงามโดยทคี่ นอน่ื ๆ อาจไมค่ ดิ วา่ ทันทีว่า “ฉันเหน่ือยแล้วล่ะ เราไปกันเถอะ” มันเป็นเหตุการณ์ที่ย่ิงใหญ่อะไรเลย เราขับรถเงียบๆ ไปยังจุดหมายปลายทางที่เธอให้ไว้ กับผม มันเป็นอาคารเต้ียๆ เหมือนศูนย์พักฟื้นท่ัวๆ ไป มี ขอบคุณ แปลโดย:โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ช่องทางให้รถผ่านเข้าไปใต้หลังคาอาคารเพ่ือส่งผู้โดยสาร ที่มา https://www.facebook.com/Amornpich 7

มีเด็กกลุ่มหน่ึงเล่นกันใกล้รางรถไฟ 2 ราง รางหน่ึง อยู่ในระหว่างการใช้งาน ในขณะท่ีอีกรางหน่ึงไม่ได้ใช้งาน แล้ว มีเพียงเด็กคนเดียวเท่าน้ันที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน ส่วนเด็กท่ีเหลือน่ังเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่ เมื่อรถไฟแล่นมา คุณอยู่ใกล้ๆ ที่สับรางรถไฟ คุณ สามารถเปลย่ี นทางรถไฟไปยงั รางทไี่ มไ่ ดใ้ ชง้ านเพอ่ื ชว่ ยชวี ติ เด็กส่วนใหญ่ แต่น่ันหมายถึงการเสียสละชีวิตของเด็กคนท่ี เล่นอยู่บนรางท่ีไม่ได้ใช้งาน หรือคุณเลือกจะปล่อยให้รถไฟว่ิงทางเดิม? คนสว่ นมากอาจเลอื กทจ่ี ะเปลย่ี นทางรถไฟ และยอม สละชีวิตของเด็กคนนั้น ผมคิดว่า คุณก็อาจจะคิดเช่น เดียวกัน แน่นอน ตอนแรกผมก็คิดเช่นน้ีเพราะการช่วยชีวิต เด็กส่วนมาก ด้วยการเสียสละชีวิตเด็กหนึ่งคนน้ันดูสม เหตุผลทั้งทางศีลธรรมและความรู้สึก 8

แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเด็กที่เลือกเล่นบนรางที่ไม่ น้ัน นอกจากนั้น รางท่ีไม่ได้ถูกใช้งานอาจเป็นเพราะรางนั้น ไดใ้ ชง้ านแลว้ ทจ่ี ริงเขาได้ตดั สนิ ใจถูกต้อง ที่จะเล่นในสถาน ไม่ปลอดภัย ถ้ารถไฟถูกเปล่ียนเส้นทางมาที่รางนี้ เราอาจ ท่ีๆ ปลอดภัยแล้วต่างหาก ท�ำให้ชีวิตของผู้โดยสารท้ังหมดตกอยู่ในอันตราย แต่ทว่า เขากลับต้องเสียสละชีวิตให้กับเพื่อนที่ไม่ ในขณะทค่ี ณุ พยายามชว่ ยชวี ติ เดก็ จำ� นวนหนงึ่ โดยการ ใส่ใจ และเลือกท่ีจะเล่นในท่ีอันตราย สละชวี ติ เดก็ หนงึ่ คน อาจกลายเปน็ การสงั เวยชวี ติ ผคู้ นอกี นบั ร้อยก็เป็นได้ เด็กคนท่ีเลือกที่จะไม่เล่นบนรางท่ีอยู่ในการใช้งาน ตามเพอ่ื นๆ ของเขา และคงไมม่ ใี ครเสยี นำ�้ ตาใหห้ ากเขาตอ้ ง เรารู้ว่าชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจอันยากล�ำบาก สละชีวิตก็ตาม บางคร้ังเราอาจลืมไปว่า การตัดสินใจอันรวดเร็วใช่จะเป็นสิ่ง ท่ีถูกต้องเสมอไป เพื่อนที่ส่งต่อเร่ืองนี้มาบอกว่า เขาจะไม่พยายาม เปลี่ยนเส้นทางรถไฟ เพราะเขาเช่ือว่าเด็กที่เล่นอยู่บนรางที่ จำ� ไวว้ า่ สง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ งไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเปน็ สงิ่ ทนี่ ยิ มปฏบิ ตั ิ อยู่ในการใช้งานย่อมรู้ดีว่า รางน้ันยังอยู่ในระหว่างการ ใช้ และส่ิงท่ีเป็นท่ีนิยม ไม่จ�ำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป งาน และพวกเขาควรจะหลบออกมาเม่ือพวกเขาได้ยินเสียง หวูดรถไฟ ทุกๆ คนสามารถท�ำสิ่งผิดพลาดได้ และนั่นคือเหตุผลที่เขาใส่ยางลบไว้ที่ปลายของ ถ้าทางรถไฟถูกเปล่ยี น เด็กหนึ่งคนนนั้ ต้องตายอยา่ ง ดินสอ แนน่ อน เพราะเขาไมเ่ คยคิดวา่ รถไฟจะเปลี่ยนมาใชเ้ สน้ ทาง ขอบคุณ http://thaiforexschool.com/index.php?topic=649.0 9

ถหอญนา้ จงหันหน้า “ก๊อกๆๆๆๆ” เสียงเคาะประตูท่ีดังผ่านแผ่นไม้มาพร้อมๆ กับ สู้ เสียงท่ีดูเหมือนกับเป็นค�ำส่ังว่า กับปัญหา และ “ตื่นนอนได้แล้วจะได้ช่วยกันท�ำงาน” เด็กน้อยคนหนึ่งต่ืนขึ้นมา อย่า ท่าทางงัวเงีย มือจับผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาพับและตอบรับเสียงปลุก ท้อถอย นั้น “ต่ืนแล้ว ได้ยินแล้ว” “วันน้ีวันหยุดนะ” เด็กน้อยบ่นกับตัวเอง “เดยี๋ วกนิ ขา้ วเสรจ็ ไปถอนหญา้ ทไี่ รน่ ะ” พอ่ สงั่ ขณะทใ่ี ชต้ ะเกยี บ คีบเน้ือปลาให้ลูกชาย เด็กน้อยพยักหน้าตอบ และลงมือทานอาหารมื้อแรกของวัน หลงั จากทานอาหารเสรจ็ เดก็ นอ้ ยเดนิ ไปหยบิ หมวกและเสอื้ แขน ยาวมาสวมเพ่ือกันแดด แล้ววิ่งออกไปหน้าบ้านกระโดดข้ึนซ้อนท้าย จักรยานโบราณสภาพเก่าโทรม บ่งบอกถึงอายุการใช้งานซ่ึงมีพ่อเป็นผู้ข่ี ในระหว่างทางเด็กน้อยคุยกับพ่อตลอด เขาป้อนค�ำถามท่ีอยากรู้ ซ่ึงบางคร้ังดูเหมือนกับว่าผู้เป็นพ่อจะพยายามสอดแทรกให้แง่คิดตลอด โดยที่เด็กน้อยไม่รู้เน้ือรู้ตัว ไม่นานนักก็ถึงไร่ท่ีเขามีภารกิจที่จะต้องท�ำ “ถอนหญ้า” ภารกิจท่ีได้รับมอบหมาย ซึ่งหญ้าเปรียบเสมือน “ศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่” “เดี๋ยวเจ้าถอนแปลงน้ีนะ” พ่อส่ังพร้อมกับช้ีน้ิวไปที่แปลงผัก 10

ขอบคุณ www.thaireaderclub.com เด็กน้อยรับค�ำและลงมือถอนหญ้าออกจากแปลงผัก พ่อไม่ตอบ ได้แต่อมย้ิม เก็บซ่อนค�ำตอบไว้เพียงผู้ ทีละต้น ทีละต้น จนกระทั่งศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่หายไป เดียว จากแปลงผักจนหมดส้ิน ผา่ นไป 1 สปั ดาห์ พอ่ ไดพ้ าเดก็ นอ้ ยกลบั ไปทไี่ รอ่ กี สง่ิ “ไปพักกินน�้ำท่ีใต้ต้นมะม่วงก่อน ไป” เด็กน้อย ที่เด็กน้อยเห็นก็คือ แปลงที่ใช้มือถอน บัดน้ีไม่มีหญ้าให้เขา รับค�ำพ่อแล้วเดินไปพัก ถอนเลยแมแ้ ตต่ น้ เดยี ว แตแ่ ปลงทใี่ ชจ้ อบถาก กลบั มตี น้ หญา้ ปกคลุมเหมือนเดิม “กลับมาเร็วๆ นะ ยังมีอีกแปลงหนึ่ง” เสียงพ่อสั่ง ตามหลังเด็กน้อย “ท�ำไมมันเป็นอย่างน้ันล่ะ” เด็กน้อยถามด้วยความ สงสัย หลังจากได้พักกินน้�ำพ่อได้ส่งจอบให้เด็กน้อยพร้อม กบั พดู วา่ “เอาไปถากหญา้ ” เดก็ นอ้ ยรบั จอบและตรงไปยงั ทั้งๆ ที่เขาได้จัดการมันหมดไปเม่ือสัปดาห์ที่แล้ว พ่อ แปลงผักเพ่ือท�ำภารกิจต่อ ตอบ ดเู หมอื นกบั วา่ เดก็ นอ้ ยจะพงึ พอใจกบั การใชจ้ อบถาก “แปลงทเี่ จา้ ใชม้ อื ถอน เจา้ ไดถ้ อนมนั ถงึ รากถงึ โคน หญา้ มากกวา่ การใชม้ อื ถอน เหตผุ ลกค็ อื มนั ทำ� ใหเ้ ขาสามารถ สว่ นแปลงทเี่ จา้ ใชจ้ อบถาก เจา้ เพยี งแตต่ ดั เอาสว่ นปลายข ท�ำงานได้รวดเร็ว ซ่ึงไม่นานนักเขาก็จัดการกับศัตรูตัวฉกาจ องมันออกเท่าน้ัน มันยังคงมีส่วนท่ีฝังลึกอยู่ในดินอีก มันก็ ของชาวไร่อย่างราบคาบ เหมือนกับปัญหาต่างๆ ที่เราพบเจอน่ันแหละ ถ้าเราแก้ ปัญหาท่ีปลายเหตุโดยปล่อยสาเหตุของปัญหาไว้ ไม่นาน หลังจากที่ภารกิจเสร็จส้ินลงพ่อลูกก็พากันกลับบ้าน นกั ปญั หานนั้ กจ็ ะกลบั มาสรา้ งความเดอื ดรอ้ นใหเ้ จา้ อกี แต่ ระหวา่ งทางเดก็ นอ้ ยถาม “ทำ� ไมไมใ่ หผ้ มใชจ้ อบตงั้ แตแ่ รก ถ้าเราแก้ปัญหาท่ีต้นเหตุ มันอาจจะยากสักนิดแต่มันก็ ล่ะ ทั้งๆ ที่ท�ำงานได้เร็วกว่า” ท�ำให้ปัญหาน้ันหมดไปได้” เด็กน้อยย้ิมรับด้วยความเข้าใจ 11

คดเดธือวาอวงพิเศษ ยังมีดาวดวงเล็กๆ ดวงหน่ึง เฝ้าแต่น้อยใจ ที่ตัวเอง ห่ิงห้อยแนะน�ำ พร้อมกับกระพือปีกส่องแสงวิบวับ เกิดมาเป็นเพียงดาวเคราะห์ธรรมดาไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แล้วบินจากไป “ดาวท่ีไม่มีแสงในตัวเองจะเป็นดวงดาวที่สมบูรณ์ได้ อย่างไร” ดวงดาวตัดพ้อต่อโชคชะตา ดาวดวงนอ้ ยไมเ่ ขา้ ใจหง่ิ หอ้ ย และคดิ วา่ นไี่ มใ่ ชแ่ สง สว่างอย่างท่ีมันอยากได้ จึงออกค้นหาต่อไป เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ความสกุ สกาวของดาวฤกษด์ วง อื่นๆ มันรู้สึกเป็นทุกข์ และคิดว่าน่ีคือจุดด้อยของตนเอง จากค่�ำคืน กระท่ังรุ่งเช้า ในแสงตะวันอันเจิดจ้า ดวงดาวพบหมู่เมฆอารมณ์ดี “ถ้าไม่มีแสงสว่างในตัวเอง “ฉันต้องการแสงสว่าง ฉันอยากให้ตัวเองมีแสง แล้วฉันจะเป็นดวงดาวที่ดีได้อย่างไรล่ะ” ดวงดาวบอกกับ เหมือนดาวฤกษ์” ดวงดาวร�ำพึงในความเงียบ หมู่เมฆอย่างเศร้าสร้อย “ถ้าอยากมีแสงสว่างในตัวเอง เธอต้องออก คน้ หาแสงสวา่ ง” มเี สยี งจากหงิ่ หอ้ ยตวั เลก็ ๆ ตวั หนง่ึ “หรอื กระพือปีกให้เกิดแสงเหมือนฉัน แม้จะเป็นแสงที่ไม่ สมบูรณ์นัก แต่ฉันก็พอใจท่ีได้รู้ว่าแสงของฉัน ช่วยให้ เด็กๆ หลายคนฝันดี” 12

แสงสว่างท่ีแท้จริง แม้มองไม่เห็น ก็ สามารถเปล่งประกาย ด้วยคุณค่า ภายในตัวเรา “มานส่ี ิ แลว้ เธอจะเหน็ วา่ แมไ้ มม่ แี สงในตวั เอง เรา “แตท่ ำ� ไมเมอื่ สายรงุ้ จากลา ผคู้ นยงั คงจดจำ� รงุ้ โคง้ กย็ งั สามารถทำ� อะไรไดอ้ กี มาก” เมฆฉดุ ดวงดาวใหล้ อยตาม ท่ีขอบฟ้าได้” ดาวฉงน “บางวันท่ีแสงแดดจัดจ้า เราจะทอดเงาเมฆคลาย “เม่ือเราได้ให้ส่ิงดีงาม คุณค่าของการให้จะท�ำให้คน ร้อนให้ผู้คน” เมฆอีกก้อนหนึ่งยิ้มหวานให้ดวงดาว “และถ้า จดจ�ำ เช่ือเถอะว่า เมื่อเราให้ เราก็จะได้ส่ิงน้ัน ส่ิงภายนอก เป็นฤดูเพาะปลูก เราจะกลายเป็นเม็ดฝน นับแสน นับล้าน ไม่ส�ำคัญเท่าสิ่งท่ีอยู่ ‘ภายใน’” อีกคร้ังหนึ่งที่ดาวน้อยนิ่ง ให้เมล็ดพืชบนผืนดินได้งอกงาม” เงียบ “หรือใหค้ วามชุ่มเย็ นในวันทอ่ี บอ้าวอยา่ งน้”ี เมฆ ในขณะท่ีค�่ำคืนเวียนมาเยือนอีกคร้ัง ไม่มีแสงจันทร์ อีกก้อนกล่าว จากนั้นหมู่เมฆก็พากันหัวเราะ “แล้ว ไม่มีแสงสว่างภายนอก ใต้เว้ิงฟ้าดาวดวงไหนก็ดูไม่แตกต่าง โปรยปรายสายฝนอย่างมีความสขุ แมว้ ่าจะไมม่ แี สงสว่างใน กนั เลย ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดาวตก หรอื กระทงั่ อกุ กาบาต ตัวเองก็ตาม” แสงสว่างที่แท้จริง แม้มองไม่เห็น ก็สามารถเปล่ง ทันใดนั้น ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องผ่านม่านฝน ประกาย ด้วยคุณค่า “ภายใน” ตัวเรา สายรุ้งก็โค้งลงมาโอบดวงดาว “นอกจากไม่มีแสงสว่างแล้ว ฉันยังไม่มีตัวตนให้จับต้องได้ แต่ฉันดีใจ ท่ีได้ช่วยปลุกความ หากว่า เราอยากมีแสงสว่างในตัวเองเหมือนห่ิงห้อย หวงั ใหผ้ คู้ น ไดเ้ ปน็ สะพานกำ� ลงั ใจใหค้ นขา้ มจากจนิ ตนาการ เป็นผู้ให้เหมือนเมฆฝน ทอความหวังให้เกิดขึ้นในใจผู้คนแม้ สู่ความจริง” ไร้ตัวตนเช่นสายรุ้ง แม้จะอยากเป็นมากเท่าใด ในท้ายท่ีสุด แล้ว เราก็จะพบว่า การสร้างคุณค่าให้เกิดข้ึนภายใน แล้ว แบง่ ปนั ใหผ้ อู้ นื่ ในแบบทเี่ ราเปน็ ตวั เองนแ่ี หละทม่ี คี า่ ทแี่ ทจ้ รงิ ดาวฤกษอ์ าจสกุ ใส แตจ่ ะไรค้ วามหมาย ถา้ มไิ ดแ้ บง่ ปนั ความ สว่างให้ใครเลยสักคน ขอบคุณ Thaireaderclub.com (ผู้แต่ง : นฤเบศ) 13

ลอรด์ เนลสนั แมท่ พั เรอื ผยู้ งิ่ ใหญเ่ ปน็ คนเมาคลนื่ โฮราทิโอ เนลสัน เป็นเด็กร่างผอมเล็ก ป่วยเป็น ประจำ� เมอ่ื อายสุ บิ สองขวบ พอ่ จงึ สง่ ไปเปน็ ลกู เรอื เนล สันใช้เวลาหลายปีไต่เต้าจนเป็นกัปตันเรือ เมอื่ นโปเลยี น โบนาปารต์ ยาตราทพั ไปทวั่ ยโุ รป เนลสนั กเ็ ขา้ สสู่ งคราม สรู้ บจนไดร้ บั บาดเจบ็ ตาขา้ งขวา บอด และในสงครามคร้ังถัดมา เขาก็เสียแขนขวา หาก เป็นกัปตันคนอื่น ก็คงเลิกประจ�ำการไปแล้ว แต่เนลสัน ไม่ยอมเลิก เขาคิดว่ามันเป็นเพียง “ความไม่สะดวก เล็กๆ” เท่าน้ัน สงครามครั้งหน่ึงเขาได้ประจันหน้ากับทัพนโป เลียนท่ีอียิปต์ และเอาชนะศัตรูได้อย่างงดงาม และ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บท่ีศีรษะ สมองถูกกระทบ กระเทือน แต่เขายังคงไม่ยอมเลิก ไเคกมล็แว็ก่สคาะม่ดๆวก 14

ในสงครามใหญ่คร้ังหนึ่ง ผู้บัญชาการของเนลสันส่ง ใบหน้ามีสิวส�ำหรับคนหนึ่งอาจเป็นเร่ืองใหญ่โตถึง สัญญาณใหเ้ ขาถอยหนขี ้าศกึ เนลสนั หยิบกลอ้ งส่องทางไกล ขนาดจะฆ่าตัวตาย แต่ส�ำหรับอีกคนอาจเป็นเพียงเร่ืองที่ไม่ ขนึ้ มองดว้ ยตาขา้ งขวา และบอกวา่ “ไมเ่ หน็ มสี ญั ญาณอะไร เป็นเรื่อง การตกงานส�ำหรับคนๆ หนึ่งคือความล้มเหลวท่ี เลยน่ีหว่า” เม่ือยืนหยัดสู้ ทัพเรือของเขาก็ชนะข้าศึก เลวร้าย แต่ส�ำหรับอีกคนหนึ่งอาจเป็นประตูที่จะน�ำพาไปสู่ ชีวิตใหม่ ในสงครามคร้ังสุดท้ายของเขา เนลสันต่อกรกับทัพ เรืออันเกรียงไกรของฝร่ังเศส-สเปน เนลสันถูกนักแม่นปืน เมื่อพิจาร ณาปัญหาท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจ�ำ ศตั รยู งิ บาดเจบ็ สาหสั นอนรอความความตายอยหู่ ลายชว่ั โมง วัน จะพบว่า ส่วนหน่ึงเป็นปัญหาที่เราจินตนาการขึ้นเอง แต่เขาก็ไม่ยอมตายจนกว่าจะได้ยินว่าทัพเรือของตนชนะ และท�ำให้มันหนักหนากว่าตัวปัญหาจริงๆ อีกส่วนหน่ึงเป็น ปญั หาจรงิ ๆ ทอ่ี าจใหญไ่ มถ่ งึ หนง่ึ ในสบิ ของจนิ ตนาการทเ่ี รา ปัญหาในโลกน้ีแบ่งออกเป็นสองอย่าง อย่างหน่ึงคือ คิดไปเอง ปัญหาจริง อย่างหน่ึงคือปัญหาที่คิดข้ึนเอง หากพิจารณาดู ปญั หาของเราใหด้ ี อาจพบวา่ บางปญั หาเปน็ เพยี งจนิ ตนาการ ดังน้ันทัศนคติท่ีเรามีต่อปัญหาจึงส�ำคัญมากกว่าตัว เชิงลบเท่าน้ัน เช่น “ตายแน่เลย ถ้าเราขายงานนี้ไม่ผ่าน” ปัญหาจริงๆ พูดง่ายๆ คือ ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นปัญหา มันก็ หรือ “หน้าตาอย่างเรา ใครเขาจะเหลียวแล” ที่ตลกก็คือ จะเป็นปัญหา ถ้าคิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ มันก็จะเป็น แม้แต่ปัญหาจริงก็ยังมีการแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ปัญหาใหญ่ และถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ปัญหาน้ันก็จะ รบกวนเราได้แค่ “ความไม่สะดวกเล็กๆ” เท่านั้นเอง ขอบคุณ Thaireaderclub.com ภาพ: https://maupes.files.wordpress.com/2012/04/ master-and-commander 15

มองเหมือนกนั แต่คดิ ไมเ่ หมือนกนั HOPE MAGAZINE THAILAND www.tltpress.com ค้นหาเพือ่ ความแตกต่าง ทุกเสาร์ E-book FB / Hope-magazineThailand magazine for for Free Life Download