Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิทานชาดกอันดับที่2

Description: นิทานชาดกอันดับที่2

Search

Read the Text Version

นฬปานชาดก ชาดกว่าด้วยการHปัญญาพิจารณา สดๆนทีดรสซๆดก ณ ป่าใหญ่ในหมู่บ้านนฬปาน แคว้นโกศล สาเทดุทีดรสชาดก ครั้งหนึ่ง พระสัมมาล้มพุทธเจ้าเสด็จใปถึงหมู่บ้านนฬปาน แคว้นโกศล พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณรจำนวนหนึ่ง พระภิกษุ ทIงหลายไดi้ลงใปอาบน%ำ\\ในสระ'นTำ เIห็นzด้น\\อ.้^อขึนอย,ู่มากมาย Iจึงใ«หl้ สามเณรไปตัดมาทำกล่องเข็ม

นิทานชาดกเล่มสอง ๑0๑ เมื่อสามเณรตัดต้นอ้อขึ้นมาดู ก็รูลึกแปลทใจ เพราะต้นอ้อ ไม'มีปล้องเลย เป็นรูกลวงตลอด จึงพากันไปแล้งแก่พระภิกษุ พระภิกษุ ทั้งหลายจึงนำต้นอ้อไปเพื่อกราบทูลถามพระสัมมาล้มพุทธเล้า เมื่อพระพุทธองค์ทอดพระเนตรแล้ว ทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาลา นุลติญาณ แล้วตรัลว่า \"ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ต้นอ้อที'เธอเห็นเป็นรูกลวงตลอดนี เภิดขึ้นเพราะแรงอธิษฐานของเราแต่ชาติปางก่อน\" แล้วพระพุทธองค์ทรงเล่า น'พ'ปานชาดก ตังนี เนี้อหาชาดก พญาวานรตัวหนึ่งคุมปริวารประมาณแปดหมื่นลึพันตัวเข้าไป หากินไนป่าทึบแห่งหนึ่ง แต่ก่อนทีจะเข้าไปไนป่านี พญาวานรสัง บริวารทั้งหลายว่า \"พี่น้องทั้งหลาย ในปานี้เรายังไม่เคยไป ฉะนี้นอย่าประมาท อย่าชะล่าใจ จงระมัดระวังตัวตลอดเวลา ถ้าเห็นอะไรทีผิดสังเกต ให้รอถามเราก่อน ถ้าเห็นผลไม้แปลกๆอย่าเพี่งกิน นำ สระไหน ยังไม่เคยดื่ม อย่าเพี่งดื่ม เพราะเราอาจจะเผลอกินผลไม้ปีพิษ หรือ ดื่มนี้าในสระพี่ปียักษ์หรือผีเสอนี้าเม้าอยู่ก็ไต้' วานรบริวารรับคำ แล้วพากันออกเดินทาง จนกระทังเข้าไป ไนป่าลึกและกันดาร ไม่มีนํ้าดื่มเลย อีกทั้งผลไม้ก็หายาก วานร

๑๐๒ นิทานชาดกเล่มลอง ทั้งหลายมีความอดอยากหิวโหยมาก พญาวานรจึงให้บริวารแยกย้าย กันหานำอยู่หลายวัน จนกระทั่งไปพบลระใหญ่แห่งหนึ่ง มีนํ้าใส เต็มปรี่ จึงพากันกระโดดโลดเต้นล่งเลียงร้องด้วยความดีใจที่ใม่ต้อง อดนำตายแน่แล้ว แต่วานรทั้งหลายก็ยังไม่ลงไปดึ่มนํ้า เพราะนึกถึง คำ เตือนของพญาวานร เมื่อพญาวานรมาถึง จึงแสร้งถามเพี่อลองใจบริวารว่า \"อาว พวกเรา อดนํ้ากันมาตั้งหลายวันแล้ว ทำ ไมยังไม่ดื่ม อีกล่ะ?\" วานรทั้งหลายจึงตอบว่า \"พวกเราคอยหัวหน้าก่อนจ้ะ\" พญาวานรกล่าวซมเชยบริวารทั้งหลายที่เชื่อฟัง แล้วเดินไป รอบ ๆ สระนำ สังเกตเห็นรอยเท้าของสัตว์ต่าง ๆ แต่แปลกที่มีแต่รอย เดินลง ไม'มีรอยเดินฃึนมาเลย จึงกล่าวกับบริวารว่า \"สระนี้ปี อมนุษย์เน้าอยู่ มันจะจับผู้ที่ลงไปดื่มนากินเป็น อาหาร\" ฝ่าย ผีเสื้อนํ้า เมื่อเห็นว่าพญาวานรรู้ความจริงก็โกรธ รีบโผล่ ขึ้นจากนํ้า พูดว่า \"เจ้าลิงเอ๋ย ข้าอยากจะรู'ว่าพวกแกจะยอมอดนํ้าไปได้นาน สักแค'ไหน?\" พญาวานรจึงถามว่า \"เจ้าเป็นผีเสื้อนํ้าใช'ไหม?\"



©OffiT นิทานชาดกเล่มสอง ผีเสือนำตอบทันทีว่า \"ใช่ ข้านี่แหละผีเสื้อนํ้า ไม'ว่าคนหรือสัตว์ที'ไหน ถ้าลงมา ดื่มนํ้าไนสระนี่ละก็ ข้าเป็นจับกินหมด แม้แต่นกบินโฉบลงมา ข้าก็ จับกินได้สบายมาก พวกแกก็เหมือนกัน ข้าจะจับกินเสียไห้หมด\" พญาวานรจึงตอบว่า \"อย่าฝันหวานไปหน่อยเลย เด้าไม่มืทางจับเราได้หรอก\" \"ทำไมจะไมได้ อย่างไรเสียพวกแกก็ด้องลงมาดื่มนี่าอยู'แล้ว หรือคิดว่าพวกลิงอย่างแกจะไวกว่าข้า ก็ลองดู\" ผีเสือนำท้า แต่ พญาวานรตอบว่า \"ผีเสื้อนํ้าเอ๋ย เราได้เห็นรอยเท้าเดินลง แต่ไม่เห็นรอยเดิน ขึน้ เลย ด้งนี่น เราจักดูดนํ้ามาด้วยลำอ้อ ท่านก็จะฆ่าเราไม่ได้\" ว่าแล้ว พญาวานรดึงต้นอ้อจากสระขึ้นมาต้นหนึ่ง แล้ว อธิษฐานจิต ขออำนาจบุญบารมีที่ไต้สั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ดลบันดาลให้ลำอ้อทะลุเป็นโพรงตลอด แล้วเป่าลงไปที่ปลายอ้อ ข้างหนึ่ง ลำ อ้อนึ่นก็ทะลุเป็นโพรงตลอดลำทันที จากนั้นจึงอธิษฐาน ให้ลำอ้อรอบ ๆ สระนั้นทะลุเป็นโพรงตลอดทุก ๆ ต้น พญาวานรและบริวารทงแปดหมื่นลี่พันตัวจึงไข้ลำอ้อดูดนํ้า ในสระไต้อย่างง่ายดาย โดยที่ผีเสื้อนํ้าไต้แต่ยืนมองตาปริบ ๆไม่อาจ ทำ อะไรไต้

\"นิทานชาดกคือคำสอนแบบเล่านิทานคติธรรม คำ ว่า ซาตกหรือชาดกแปลว่า ผู้เกิด คือเล่าถึงการที่พระพุทธเจ้า ทรงเวียนว่ายตายเกิด ถือเอากำเนิดในชาติต่างๆ ได้พบปะ ผจญกับเหตุการณ์ดีบ้างชั่วบ้าง แต่ก็ได้พยายามทำความดี ติดต่อกันมากบ้างน้อยบ้างตลอดมา จนเป็นพระพุทธเจ้า โนชาติสุดท้าย กล่าวอีกอย่างหนี่ง จะถือว่านิทานชาดก เป็นวิวัฒนาการ แห่งการบำเพ็ญคุณงามความดีของ พระพุทธเจ้า ตั้งแต่ยัง เป็นพระโพธิส์'ตว์อยู่ก็ได้ ลาระสำคัญจึงอยู่ที่คุณงามความดี และอยู่ที่คติธรรมในนิทาน\" จาก พระไตรปีฎกฉบับสำหร้บประชาชน

วิธีสิภสมารเบื้องด้น สมาร คือความสงบ สบาย แสะ เกร็ง แต่อย่าให้หสังโค้งงอ หลับตาพอ ความรู้สิกเป็นสุขอย่างยิ่งที่มนุนย์ สบายคล้ายกับกำลังพักผ่อนไม่บีบกล้าม สามารลสร้างขึ้นใต้ด้วยตนเอง เป็นยิ่ง เนี้อตาหรีอว่าขมวดคิ้ว แล้วตั้งใจมั่น ที่พระพุทรศาสนากำหนดเอาไว้เป็นข้อ วางอารมณ์สบาย สร้างความรู้ลึกให้ ควรปฏิบัติเพี่อการดำรงชีวิตทุกวันอย่าง เป็นสุข ไม่ประมาท เต็มไปด้วยสติสัม- พร้อมทั้งกายและใจ ว่ากำลังจะเข้าไป ปชัญญะ และปัญญา อันเป็นเรื่องไม่ ฝูภาวะแห่งความสงบสบายอย่างยิ่ง เหลือวิสัย ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ ๔. นีกกำหนดนิมิต เป็น \"ตวงแก้ว ดังวิธีปฏิบัตที่ พระเดชพระคุณพระ มงคสเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อ กลมใส\" ขนาดเห่าแก้วตาดำ ใสสนิท วัดปากนํ้าภาษีเจริญได้เมตตาสังสอน ปราคจากราคี หรีอรอยตำหนิใดๆ ขาว ไว้ดังนี้ ใสเย็นตาเย็นใจ ดังประกายของดวงดาว ๑. กราบบูชาพระรัตนตรัย เป็น การเตรียมดัวเตรียมใจให้นุ่มนวลไว้เป็น ตวงแก้วกสมใสนี้เรียกว่า บรืกรรมนิมิต เบื้องด้น แล้วสมาทานคืลห้าหรีอคืล นึกสบายๆ นึกเหมือนตวงแก้วนั้นมา นิ่งสนิทอยู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด แปดเพี่อยํ้าความมั่นคงในคุณธรรมของ นึกไปภาวนาไปอย่างนุ่มนวลเป็นพุทธา ตนเอง นุสดีว่า \"สัมมาอะระหัง\" หรือค่อยๆ น้อมนึกตวงแก้ว กลมใสให้ค่อยๆ เตยิ่อน ๒. คุกเช่าหรือนั่งพับเพียบสบายๆ เข้าฝูศูนย์กลางกายตามแนวฐาน โดย ระลึกถึงความดี ที่ได้กระทำแล้วใน เรื่มตนตั้งแต่ฐานที่หนิ่งเป็นด้นไป น้อม วันนี้ ในอดีต และที่ตั้งใจจะทำต่อไป ด้วยการนึกอย่างสบายๆ ใจเย็นๆ ไป ในอนาคตจนราวกับว่าร่างกายทั้งหมด พร้อมๆ กับดำภาวนา ประกอบขึ้นด้วยธาตุแห่งคุณงามความ อนิ่ง เมี่อนึมืตตวงใส และกลมสนิท ดีล้วนๆ ปรากฏแล้ว ณกลางกายให้วางอารมณ์ สบายๆ กับนิมิตนั้น จนเหมือนกับว่า ๓. นั่งขัดสมาธิ เท้าขวาทับเห้า ข้าย มีอขวาทับมือซ้าย นี้วขึ้ขวาจรด ตวงนิมิตเป็นส่วนหนิ่งของอารมณ์หาก ตวงนิมิตนั้นกันดรธานหายไป ก็ไม่ด้อง ทัวแม่มือซ้าย นั่งให้อยู่ในจังหวะพอดี นึกเลึยตาย ให้วางอารมณ์สบายแล้ว ไม่!!นร่างกายมากจนเกินไป ไม่ถึงกับ นึกนิมิตนั้นขึ้นมาใหม่แทนตวงเก่า หรือ

เมื่อนิมิตนั้นไปปรากฏที่อี่น ที่มิใช่ศูนย์ หายใจ หริอนึกเมื่อใดเป็นเห็นได้ทุกที กลางกาย ให้ค่อยๆ น้อมนิมิตเข้ามา อย่างนี้แล้ว ผลแห่งสมาธิจะทำ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการบังคับ ให้ชีวิตดำรงอยู่บนเล้นทางแห่งความสุข และเมื่อนิมิตมาหยุดสนิท ณ ศูนย์กลาง ความสำเร็จ และความไม่ประมาทได้ กาย ให้วางสติลงไปยังจุดศูนย์กลาง ตลอดไป ทั้งยังจะทำให้สมาธิละเอียด ของดวงนิมิต ด้วยความรู้สิกคล้ายมี อ่อนก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ได้อีกด้วย ตวงดาวดวงเล็กๆ อีกดวงหนึ๋งซ้อนอยู่ ข้อควรระวัง ตรงกลางดวงนิมีตดวงเติม แล้วสนใจ 0. อย่าใช้กำอัง คือ ไม่ใซ้กำลัง เอาใจใส่แต่ดวงเล็กๆ ตรงกลางนั้นไป เรื่อยๆ ใจจะปรับจนหยุดได้ถูกส่วน ใดๆ ทั้งเน เช่นไม่บีบกล้ามเนี้อตา เพื่อ แล้วจากนั้นทุกอย่างจะค่อยๆ ปรากฏ จะให้เห็นนิมิตเร็วๆ ไม่เกร็งแขน ไม่ เกร็งกล้ามเนี้อหน้าห้องไม่เกร็งตัว ฯลฯ ให้เห็นได้ด้วยตนเอง เป็นภาวะของ เพราะการใช้กำลังตรงส่วนไหนของ ตวงกลม ที่ทั้งใสทั้งสว่างผุดซ้อนขึ้นมา ร่างกายก็ตาม จะทำให้จิตเคลื่อนจาก จากกึ่งกลางดวงนิมิต ตรงที่เราเอาใจ ศูนย์กลางกายไปส่จุดนั้น ใส่อย่างสมาเสมอ ๒.อย่าอยากเห็น คือทำใจให้เป็น กลาง ประคองสติมิให้เผลอจากบริกรรม ดวงนี้เรียกว่า \"ดวงธรรม\" หรีอ ภาวนาและบริกรรมนิมิต ส่วนจะเห็น \"ควงปฐมมรรค\"อันเป็นประตูเบื้องด้น นิมิตเมื่อใดนั้น อย่ากังวล ถ้าถึงเวลา ที่จะเป็ดไปส่หนทางแห่งมรรคผลนิพ- แล้วย่อมเห็นเอง การบังเกิดของดวง พาน การระลกนึกถึงนิมิต หรีอดวงปฐม นิมิตนั้น อุปมาเสมีอนการขึ้นและตก มรรคสามารถทำได้ในทุกแห่งทุกที่ ทุก ของดวงอาทตย์ เราไม่อาจจะเร่งเวลาได้ ค. อย่ากังาสถึงการกำหนดลม อิริยาบถ เพราะดวงธรรมนี้คีอที่พี่งอัน หายใจเช้าออก เพราะการผึเกสมาธิ เป็นที่สุดแล้วของมนุษย์ เจริญภาวนาวิชชาธรรมกาย อาคัย การเพ่ง \"อาโลกกสิณ\" คือกสิณความ ขอแนะนำ คือ ตองทำให้สมาเสมอ สว่าง เป็นบาทเบื้องด้น เมื่อเกิดนิมิต เป็นประอัา ทำ เรื่อยๆ ทำ อย่างสบายๆ เป็นดวงสว่างแล้วค่อยเจริญวิปัสสนา ไม่เร่ง ไม่บังคับ ทำ ได้แค่ไหนให้พอใจ ในภายหลัง จึงไม่มีความจำเป็นด้อง กำ หนดสมหายใจเข้าออกแต่ประการใด แค่นั้นอันจะเป็นเครื่องสกัดกั้นมิให้เกิด ๔. เมื่อเสิกจากนงสมาธิแล้า ให้ ความอยากจนเกินไปจนถึงกับทำให้ใจ ด้องสูญเล็ยความเป็นกลาง และเมื่อ การปฏิบัติบังเกิดผลแล้ว ให้หมั่นตรึก ระลึกนึกถึงอยู่เสมอ จนกระทั่งดวงปฐม มรรคกลายเป็นอันหนี้งอันเดียวกับลม

ภาพแสดงที่ตั้งจิตทั้ง ๗ฐาน ฐานที่ ๑ ปากช่องจมูก {หญิงข้างซ้าย ฐานที่ ๒ เพลาตา ชายข้างขวา {หญิงข้างซ้าย ชายข้างขวา ฐานท ๓ จอมประสาท ฐานที่ ๔ ช่องเพดาน ฐานที่ ๕ ช่องปากลำคอ ฐานที่ ๖ ศนย์กลางกายระดับสะดือ ฐานที ๗ ศูนยกลางกายทีดังจิตถาวร ^ใจไว้ที่ศูนย์กลางกายที่เดียวไม่ว่าจะ จะไต้เป็นการพักผ่อนหลังจากการ อยู่ในอิริยาบถใดก็ตาม เซ่นยีนก็ดี เดิน ปฏิบัติหน้าที่ภารกิจประจำวัน โดยไม่ ก็ด นอนก็ดี หรือนั่งก็ดิ อย่าย้ายฐานที่ ปรารถนาจะทำให้ถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ ตั้งจิตไปไว้ที่อื่นเป็นอันขาด ให้ตั้งใจ ยังคิดอยู่ว่าการอยู่กับบุตรภรรยาการ บริกรรมภาวนา พร้อมกับนึกถึงบริกรรม มีหน้ามิตาทางโลก การทองเที่ยวอยู่ใน วัฏฏสงสาร เป็นสุขกว่าการเข้านิพพาน นึมิตเป็นตวงแก้วใสควบคู่กันตลอดไป &. นิมิตต่างๆ ที่เกดขึ้นจะต้อง เสมือนทหารเกณฑ์ที่ไม่คิดจะเอาติใน น้อมไปตั้งไว้ที่ศูนย์กลางกายทั้งหมด ถ้า ราชการอีกต่อไปแล้ว นิมิตที่เกิดขึ้นแล้วหายไป ก็ไม่ต้องตาม การแกสมาริเบื้องต้นเห่าที่กล่าว มาทั้งหมดนี้ก็พอเป็นปัจจัยให้เกิดความ หาให้ภาวนาประคองใจต่อไปตามปกติ สุขไต้พอสมควร เมื่อซักช้อมปฏิบัติอยู่ ในที่สุตเมื่อจิตสงบ นิมิตย่อมปรากฏ เสมอๆ ไม่ทอดทิ้ง จนได้ดวงปฐมมรรค แล้ว ก็ให้หมั่นประคองรักษาดวงปฐม ขึ้นใหม่อีก มรรคนั้นไว้ตลอดชีวิต และอย่ากระทำ สำ หรับผู้ที่นับถึอพระพุทรศาสนา ความชั่วอีก เป็นอันมั่นใจไต้ว่าถึงอย่างไร เพียงเพื่ออาภรเนประดับกาย หรือเพื่อ ชาตินี้ ก็พอมืทีพีงทีเกาะที่ติพอสมควร เป็นพีธีการชนิดหนึ่ง หรือผู้ที่ต้องการ แกสมาริเพียงเพื่อให้เกิดความสบายใจ

คือเป็นหลักประกันได้ว่าจะไม่ต้องตก 0.๔ ด้านคิลธรรมจรรยา นรกแล้วทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป - ย่อมเป็นผู้มีลัมมาทิฏฐิ เชื่อกฎแห่ง กรรม สามารถคุ้มดรองตนให้พ้นจาก ประโยซ'นของการแกสมาธิ ดวามชั่วทั้งหลายได้ เป็นผู้มีดวาม 0. ผลต่อตนเอง ประพฤติดี เนื่องจากจิตใจดี ทำ ให้ดวาม ประพฤติทางกายและวาจาดีตามไปด้วย 0.0 ด้านสุชภาพจิต - ย่อมเป็นผู้มีดวามมักน้อย ลันโตษ - ลังเสริมให้คุณภาพของใจดีขึ้น คือ ทำ ให้จิตใจผ่องใส สะอาด บริสุทอึ๊ สงบ รักสงบและมีขันติเป็นเลิศ เยือกเย็น ปลอดโปร่ง โล่ง เบา สบาย - ย่อมเป็นผู้มีดวามเอื้อเฟ้อเผื่อแผ่ มีดวามจำ และสติปัญญาดีขึ้น เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประ- - ลังเสริมสมรรถภาพทางใจ ทำ ให้ โยชน์ลัวนตัว ย่อมเป็นผู้มีลัมมาดารวะ คิดอะไรไต้รวดเร็วถูกต้อง และเลือก และมีดวามอ่อนน้อมถ่อมตน คิดแต่ในลืงที่ดีเท่านั้น ๒. ผลต่อครอบครัว 0.๒ ด้านพัฒนาบุคลิกภาพ ๒.0ทำ ให้ครอบครัวมีความสงบสุข - จะเป็นผ้มีบุคลกภาพดี กระฉับ เพราะสมาชิกในดรอบครัวเห็นประ- กระเฉง กระปริกระเปร่า มีดวามองอาจ สง่าผ่าเผย มีผิวพรรณผ่องใส โยชน์ของการประพฤติธรรม ทุกคนตั้ง มั่นอยู่ในคิส ปกดรองกันด้วยธรรม - มีดวามมั่นดงทางอารมเน์ หนัก แน่น เยือกเย็นและเชื่อมั่นในดนเอง เด็กเคารพผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เมตตาเด็กทุก - มีมนุษยลัมพันธ์ดี วางตัวได้ คนมีดวามรกใคร่สามัดคิเป็นนั้าหนื่งใจ เหมาะสมกบกาลเทศะเป็นผู้มีเสน่ห์ เดียวกัน เพราะไม่มักโกรธ มีดวามเมตตากรุณา ๒.๒ ทำ ให้ครอบครัวมีความเจริญ ต่อบุดดลทั่วไป ก้าวหน้า เพราะสมาชิกต่างก็ทำหน้าที่ 0.๓ ด้านชีวิตประจำวัน ของตนโดยไม่บกพร่อง เป็นผู้มีใจดอ - ช่วยให้ดลายเดรียด เป็นเดรึ่อง หนักแน่น เมื่อมีปัญหาดรอบดรวหรือมี เสริมประลืทธิภาพในการทำงาน แสะ อุปสรรดอันใด ย่อมร่วมใจกันแก้ไข ปัญหาให้ลุล่วงไม่ได้ การคิกษาเล่าเริยน ๓. ผลต่อสังคมและประเทศชาติ - ช่วยเสริมให้มีสุขภาพร่างกาย ๓.0 ทำ ให้สังคมสงบสุข ปราศจาก แข็งแรง เพราะร่างกายกับจิตใจย่อม มี อิทธิพลต่อกันถ้าจิตใจเข้มแข็งย่อม ปัญหาอาชญากรรม และปัญหาลังดม เป็นภมีต้านทานโรดไปในตัว

อื่นๆ เพราะปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นใน มีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อลังคม จะมายุแหย่ให้ ส์งคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการข่า การ เกิดความแดกแยกกิจะไม่เป็นผลสำเร็จ ข่มขืน โจรผู้ร้าย การทุจริตคอรัปชั่น เพราะสมาชิกในลังคมเป็นผู้มีจิตใจ ล้วนเกิดขึ้นมาจากคนที่ขาดคุณธรรม หนักแน่น มีเหตุผลและเป็นผู้รกสงบ เป็นผู้ที่มีจิดใจอ่อนแอหวั่นไหวตออำนาจ สิงยั่วยวนหรือกิเลสได้ง่าย ผู้ที่ฝ็กสมาธิ ๔. ผลต่อศาสนา ย่อมมีจิตใจเข้มแข็ง มีคุณธรรมในใจสูง ๔.© ทำ ให้เข้าใจพระพุหธศาสนาได้ ถ้าแต่ละคนในสิ'งคมต่างแกฝนอบรมใจ อย่างถูกด้อง แสะร้ขึ้งถงคุณค่าของ ของตนให้หนักแน่น มั่นคงปัญหาเหล่า พระพุทธศาสนารวมทังร้เห็นดวยดัวเอง นี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ส่งผลให้สิ'งคมสงบสุขได้ วาการแกสมาธไมใซเรอง^^^^ หาก ฅ.๒ ทำ ให้เกิดความมีระเบียบวนัย แต่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พ้นทุกข์เข้าส่ และเกิดความประหยัด ผู้ที่แกใจให้ นิพพานได้ ดีงามด้วยการทำสมาธิอยู่เสมอ ย่อม เป็นผู้รักความมีระเบียบวินย รักความ ๔.๒ ทำ ให้เกิดศรัทธาตั้งมั่นในพระ สะอาด มีความเคารพกฎหมายของบ้าน เมีอง ดังนั้นบ้านเมีองเรากิจะสะอาด รัตนตรัย พร้อมที่จะเป็นทนายแก้ต่าง น่าอยู่ไม่มีคนมักง่ายทั้งขยะลงบนพื้น ให้กับพระศาสนาอันจะเป็นกำลังสำคัญ ถนน จะข้ามถนน กิเฉพาะตรงทางข้าม ในการเผยแผ่การปฏิบัติธรรม ที่ถูก เป็นด้น เป็นเหตุให้ประเทศขาดีไม่ต้อง ต้องให้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง สินเปลืองงบประมาณ เวลา และ ๔.๓ เป็นการสืบอายุพระพุทธ- ศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองดสอดไป เพราะ กำ ลังเจ้าหน้าที่ ที่จะไปใช้สำหรับแก้ ตราบใดที่พุทธศาสนิกชนยังสนใจปฏิบัติ ธรรมเจริญภาวนาอยู่พระพุทธศาสนา ปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่มีระเบียบ กิจะเจริญรุ่งเรืองอยู่ตราบนั้น วินัยของประชาชน ๔.๔ จะเป็นกำสง่ส่งเสริมทะนุบำรุง ๓.ฅ ทำ ให้สังคมเจริญก้าวหน้า เมึ่อ สมาชิกในลังคมมีสุขภาพจิตดี รักความ ศาสนา โดยเมื่อเข้าใจชาบขึ้งถึงประ- เจริญก้าวหน้า มีประสิทธิภาพในการ โยชน์ของการปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง ทำ งานสูง ย่อมส่งผลให้ลังคมเจริญก้าว แล้วย่อมจะซักชวนผู้อื่นให้ทำทาน หน้าตามไปด้วย และเมื่อมีกิจกรรมของ รักษาดีล เจริญภาวนาตามไปด้วย แสะ ส่วนรวม สมาชิกในลังคมกิย่อมพร้อม เมื่อใดที่ทุกคนในลังคมตั้งใจปฏิบ้ดีธรรม ที่จะสสะความสุขส่วนตน ให้ความ ทำ ทานรักษาดีล แสะเจริญภาวนา เมื่อ ร่วมมีอกับส่วนรวมอย่างเต็มที่ แสะถ้า นั้นย่อมเป็นที่หวังได้ว่าลันดีสุขที่แห้จริง กิจะบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

บรรณานุกรม • พระไตรปีฎกภาษาไทย ฉบับหลวง (กรุงเทพฯ. กรมการศาสนา, ๒๕๒๕) เป็นพระไตรปิฎกฉบับแปลจากภาษาบาลีที่สมบูรเน์ฉบับ แรกในประเทศไทย มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสืกษาค้นศว้าทาง พุทธศาสนาในส่วนที่เป็นชาดกจะมีเฉพาะพุทธพจน์หรือคำสุภาษิต สันๆ เป็นเนื้อหาธรรมะล้วนๆ ผู้อ่านจำเป็นต้องมีศวามรู้พื้นฐาน ทางศาสนา และภาษาบาลี ใช้เป็นหสักในการต้นคว้าของนักคักษา วิชาการศาสนา • พระคัมภีร์ชาดกแปล ฉบับ ส.อ.ส. (พระนคร, โรงพิมพ์ยิ้มศรื, ๒๔๙๓)เป็นฉบับแปสจากภาษาบาลี ซึ๋งแต่งโดยพระพุทธโฆษาจารย์ พระเถระ ชาวอินเดีย เมื่อประมาณ พ.ศ. ๙๐0โดยนำพุทธพจน์ใน พระไตรปิฎกมาขยายความเป็นอรรถกถาให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น • พระสูตรและอรรถกถาแปล ของมหามกุฎราชวิทยาลัย(กรุงเทพฯ เฉลิมชาญการพิมพ์, ๒๕๒๖) เป็นฉบับแปลจากภาษาบาลีของพระ พุทธโฆษาจารย์เช่นเดียวกับคัมภีร์ชาดกฉบับ ส.อ.ส. แต่เป็นอิก สำ นวนหน็่ง • พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ โดยปิย แสงฉาย (กรุงเทพฯ, สำ นักพิมพ์ ส.ธรรมภักดี, ๒๕๐๔) แปสจากพระไตรปิฎก และอรรถกถาต่างๆ เรืยบเรียงเป็นคำเทศน์แบบสรุปเอาความโดยย่อใช้ภาษาอ่านเช้าใจ ง่าย แต่รายละเอียดถูกตัดทอนไปมาก • ชีวประวัติพุทธสาวก (ประวัติอัจฉริยะเถระ)โดย จำ เนียร ทรงฤกษ์ (กรุงเทพฯ, มูลนีธิอภีธรรมมหาธาตุวิทยาลัย, ๒๕๒๕) เป็นหนังสือ รวบรวมประวัติโดยละเอียดของพระอรหันตสาวกที่เป็นกำลังสำคัญ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสมัยปฐมโพธิกาล

การเดินทางไปวัด รถประจำทาง รถประจำทางหลายสายสุดทางที่รังสิต (สาย ๒๙, ฅ๔, ต๙, ปอ.00, ปอ.๑ฅ) จากรังสิตมีรถเมล์สาย 000๘ ไปถึงคลองสาม รถส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ ๔๔ นาที จากอนุสาวรีย์ซัยสมรภูมิ วันอาทิตย์ธรรมดา วันอาทิตย์ต้นเดือน และวันส์าตัญทางศาสนา มีรถออกจาก - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รถจอดหน้าป้ม ปตท. ใกล้ ททบ.๔ ถนนพหลโยธิน รถออก เวลา ๖.00-๘.00 น. - สนามหลวง รถจอดหน้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้านตรงข้ามสนามหลวง วันอาทิตย์ธรรมดา รถออก ๗.๓0 น. วันอาทิตย์แรกของเดือน รถออกเวลา ๗.00-๘.00 น. - มหาวิทยาลัยรามคำแหง รถจอดหน้าตึกอธิการบดืรถออกเวลา ๗.๓0 น. - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน รถจอดระหว่างหอประชุมและสระนํ้าใน มหาวิทยาลัย ด้านถนนพหลโยธิน รถออกเวลา ๗.๓0 น. '■\"•\"*^ ^■วัดพระธรรมกาย หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ แผนกจราจร สำ นักบริการกลาง วัดพระธรรมกาย โทร. £๒๔-๐๒๕๗-๖๓ ต่อ ๒0๒๔,๒0๒๕

เป็นสมบัติลํ้าค่าของซาวพุทธ มิใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อสอนคุณธรรม แต่นิทานชาดก คือเรื่องในอดีตชาติของพระสัมมาส้มพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงแสดงแก่พระภิกษุในโอกาสต่าง เพื่อเป็นแบบแผนในการทำความดี ผู้อ่านหรือฟ้งนิทานชาดก จึงควรอ่านหรือ ฟ้งด้วยความพิจารณา และในที่สุด นำ หลักธรรมที่ได้ ไปใช้เป็นคุณประโยชน์แก่ตนเองและผู้อี่น