Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เเด่นักสร้างบารมี๑--ok

เเด่นักสร้างบารมี๑--ok

Description: เเด่นักสร้างบารมี๑--ok

Search

Read the Text Version

ถ้าจะว่าไปแล้ว หลวงพ่อเองยกเพดานความอดทนมาได้สูงถึง ระดับนี้ เพราะความเคารพครูบาอาจารย์แท้ๆ ขณะมองงานยังไม่ออก มองไม่เห็นว่าจะต้องทำอะไรต่อไปข้างหน้า ยังดันด้นทำมาได้ขนาดนี มา ครั้งที่ ๒ นี้ เจองานช้าง สร้างธุดงดสถาน ๒,0๐๐ ไร่ รู้เลยว่างวดนี เสียงตาย แต่หสวงฟอก็ตัดสินตัดไจทำ คราวนี้ไม่ได้ท้าเพราะความ เคารพครูบาอาจารย์อย่างเดียว แต่ท้าด้วยอำนาจแห่งความกด้ญฌู รู้คุณท่าน นึกถึงพระคุณของท่านที่เหนื่อยยากหิ้วเราให้พ้นจากนรก ปัน เราขึ้นมาจนกระทั่งเราได้บวชเป็นพระอยู่ทุกวันนี้ ตามธรรมดาคนเรา ถ้าจะอาดัยความเคารพเพียงอย่างเดียว เมื่อ ต้องทำงานหนักมากขึ้นๆ เพดานความอดทนแม้จะยกสูงขนไปได้ แต่ มันก็จะต้องตันเมื่อถึงระดับหนื่ง จากนันทำอย่างไรๆ ก็เร่งไม่ขึ้น คุณยายอาจารย์ท่านรู้วาระจิต รู้ว่าลูกสิษย์คนนี้ของท่านชักไม่ ไหว ชักล้าจะหมดความอดทนเสียแล้ว ท่านรีบเตือนเลย เตือนให้เรา เกิดความกตัญญกตเวทีขึ้นมา แต่ท่านไม่พูดตรงๆ ท่านไข้วิธีพูดอ้อมๆ เอาเรื่องเก่าๆ ครั้งหลวงพ่อเข้าวัดมาพบท่านใหม่ๆ มาเล่าทวนให้ฟัง ซมว่าหลวงพ่อเองแสนจะดี ตั้งใจแกไขตนเองสุดฤทธิ อยู่ในโอวาท น่ารักมาก ฟังแล้วก็ชื่นใจ มีกำ ลังใจ พอได้จังหวะท่านก็พูดเลยว่า \"หลวงพ่อท้ดดะน่ะเหรอ กว่ายายจะแก้ไขให้เลิกเดรัจฉานวิชา เอาด้วมาบวชได้ ยายเหนื่อยแทบตาย\" ท่านพูดแค่นี้เราสะดุ้งเฮือกเลย นึกถึงวันเก่าๆ ที่ท่านทุ่มเทให้กับลูกศิษย์คนนี้ ตัดสินได้ ตัดไจลง ocor นด่-นักสร้างบารมี Q www.kalyanamitra.org

เวลาที'คุณยายท่านทุ่มเทสอนธรรมะละเอียดให้กับหลวงพ่อ ธัมมชโย ท่านทุ่มเทให้สุดชีวิต ถ้าใครเอาสมบัติทั้งโลกมากองตรงหน้า ท่าน แล้วขอแลกเอาตัวหลวงพ่อธัมมชโยไป ร้บรองได้เลยว่าท่านจะเขี่ย สมบัติทั้งโลกทิ้งหมด เอาไว้แต่หลวงพ่อธัมมชโย มาถึงคราวหลวงพ่อเองก็เหมือนกัน รู้อยู่กับใจว่าทั้งหลวงพ่อ ธัมมชโยและคุณยายอาจารย์ เห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันว่า ยกสมบัติ ทั้งโลกให้ก็ไม่เอา จะเอาทัตตชีโวไปนิพพานด้วยให้ได้ หลวงพ่อได้รู้ได้เห็นนํ้าใจท่านมานาน ยิ่งมาได้ยินคำพูดของ คุณยายประโยคนี้เข้าอีก ที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ มันก็เฉื่อยไม่ได้แล้ว เพราะ นึกย้อนเห็นภาพในอดีตออกเป็นฉากๆ ว่าท่านทุ่มให้เราหนักหนาสาห้ส มาเท่าไร ทั้งมารหยาบ มารละเอียดที่ตามมาผจญหลวงพ่อไม่รู้กี่ยู่งๆ ท่านปัดกระเด็นหมด เพราะฉะนั้น หลวงพ่อจึงมีกำลังใจที่จะรองร้บงานพระศาสนา ไม่ ว่าจะเหนึ่อยยากเย็นแสนเข็ญเพียงใดก็ตาม มีแรงทำงานหยาบได้ก็ทำ ถ้าเหนึ่อยนักปวยนักทำงานหยาบไม่ไหว ก็ขอพักทำภาวนาลักพัก ให้ใจ ละเอียดพอที่จะมองเรื่องนั้นได้ทะลุ และเห็นวิธีจัดการกับปัญหาที่เกิด ขึ้นได้เป็นฉากๆ แล้วก็ทุ่มเทเข็นงานของหมู่คณะต่อไป นด่...นักสร'างบารมี ๑ ocdr ฟ้ดณิไต้ คัดใจรพ www.kalyanamitra.org

วิธียกระดับความอดทน คุณธรรม ๒ ประการ คีอ ความเคารพ และความกตัญฌูรู้คุณ ที่หลวงพ่อยกขึ้นมาพิจารณาเป็นประจำนั่นเอง ที่มีอุปการคุณช่วยทำให้ ระดับความอดทนของหลวงพ่อสูงขึ้นๆ มาตามลำดับๆ ถ้าจะถามว่า แล้วคนอื่นๆ จะสามารถยกระดับความอดทนให้สูงขึ้นด้วยวิธีการ เดียวกันนี้บ้างจะได้Iหม ก็ตอบว่าได้ แต่ต้องรู้เคล็ดลับนะลูก เคล็ดลับที่สำคัญทีสุด คือ ต้องแกนั๋งสมาธิมากๆ แลัรนั่ง(แน ประจำต้รย โดยเฉพาะเมื่อถึงคราวต้องเผชิญกับการกระทบกระทั่ง หรือใจตกตํ่า ท้อแห้ในเรื่องใดก็ตาม ต้องรืบนั่งสมาธิทันที อย่าชักช้า รืรอเป็นอันขาด ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดใหม่ๆ แล้ว หากคุณยายลังเกตเห็นว่าหลวงพ่อ หรือพระรูปใดรูปหนึ่ง หรือทั้งหยู่คณะชักเหนึ่อยจัด ชักจะมีความเห็น ไม่ตรงกันขึ้นมา ท่านจะไล่ให้ไปนั่งสมาธิกันก่อน ไม่ยอมให้ประชุมต่อ บางทีต้องนั่งสมาธิต่อเนึ่องกันถึง ๒ - ๓ วัน แล้วจึงค่อยมาประชุมใหม่ เดี๋ยวนี้หลวงพ่อธัมมชโย ก็ยังนำวิธีของคุณยายมาใช้กับพวกเรา ท่านเคี่ยวเข็ญพวกเราให้นั่งสมาธิกันจริงๆ จังๆ ถึงกับตังเป็นกติกากัน ว่า ภาคเช้าเป็นเวสาของการนั่งสมาธิ หลังจากฉันเพลแล้ว ภาคปายถึง คํ่า ใครมีหน้าที่อะไร ค่อยไปดูไปทำกัน หลวงพ่ออยากให้ทุกคนในวัด ช่วยกันรักษากติกา รักษาธรรมเนียมประเพณีอันวิเศษนั้1วัให้ดีๆ ตัดสินไพ้ ตัดใจรง oro นด่...นักสร้างบารมี G) www.kalyanamitra.org

หลวงพ่อตอนยังไม่บวชไม่มีค่าหัว'นะ แต่พอบวชแล้วมีค่าหัว เมื่อ ครังเริมชีอ'ทีดินสร้างธุดงคสถาน ๒,๐00 ไร่ ทางฝ่ายทหารด้านข่าว กรอง เขามาเตือนด้วยความหวังดีว่า \"ท่าน ! ท่านมีค่าหัวแล้วนะ\" พูดอย่างกับหลว'^พ่อเป็นมือปีนถูก ตามล่า \"ขอบใจ มีก็มี\" \"ท่านอย่าประมาทนะ\" '■ก็ไม่ได้ประมาทหรอก แต่ว่าไม่รู้จะท่าอย่างไร จะให้หลวงพ่อไป ซื้อเสือเกราะมาใส่หรือยังไง\" \"เวลา'นั่งรถ ท่านไม่ควรจะนั่งซื้าคันนะครับ\" \"แล้วจะให้หลวงพ่อไปเหมารถที่ไหนมา\" \"อย่างน้อย ในวัดมีรถหลายคันก็ควรเปลี่ยนสลับคันนั่งบ้าง วันนี้ นั่งคันนี้ พรุ่งนี้นั่งคันโน้นก็ได้\" เขาก็แนะด้วยความหวังดี ก็ขอบใจเขา แล้วตอบเขาไปว่า \"โยม ถ้าอาตมาท่าตามที่แ'นะนำมา ลูกดีษย์วัดเขาจะนึกยังไง เขา คงคิดว่าฌึ่อหลวงพ่อเราปอดแหกอย่างนี้ เรากลับไปนอนบ้านดีกว่า ขืน อยู่เดี๋ยวถูกลูกหลงตายก่อนหลวงพ่อ\" นค่...นักสร้างบารมี G) <xev ทัดสินได้ ตัดใจรง www.kalyanamitra.org

หลวงพ่อก็ขอบใจนายทหารข่าวกรองที่หวังดี แต่ว่าชีวิตนียกให้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปแล้ว เป็นตายอย่างไร ก็เพือพระพุทธศาสนา ไม่ได้เสียดมเสียดายอะไรอีกแล้ว เขาก็ส่ายหน้าแล้วพูดอะไรต่อรู!หม เขาพูดว่า \"คนดื้อ พอแก!ด้ แต่พระดื้อนี่ไม่รู้จะทำยังไง !\" จากวันนั้นถึงวันนี้ ดีที่สุดที่ทำได้ก็คีออดทนกันไป ตังหน้า ปรับปรุงพื้นที่สร้างธุดงคสถานเรื่อยไป ขณะนี้ชาวบ้านที่เคยอยู่ในเขต พื้นที่ของวัด ก็ยอมย้ายออกไปหมดแล้ว เลิกเดินขบวนต่อต้านวัด เพราะเห็นความบริสุทธี้ และความตั้งใจจริงของเรา ตอนนั้น ถ้าใจคอไม่มั่นคง ไม่อดทนว่าจะแทนคุณหลวงพ่อธัมม- ชโย และคุณยายอาจารย์ให้ถึงที่สุด ปฏิเสธท่านเรื่องสร้างธุดงคสถาน หรือขี้แง ขอย้ายไปอยู่วัดที่บ้านเกิดในจังหวัดกาญจนบุรืเสีย พวกเราที่ นั่งกันอยู่ที่นี่ คงไม่มีโอกาสได้มาเจอกัน ใครจะแตกกระสานซ่านเชีนไป อยู่ชุมไหน ชั้นไหนบ้างก็ไม่รู้ ถ้าถามว่าจริงๆ แล้วกลัวตายไหม กลัวลูกเอ๊ย แต่มันไม'มีทาง เสือก มันจำเป็นต้องตัดสิน แล้วก็ตัดใจ รวมทั้งปลอบใจว่า ถึงต้องตาย ก็ไปดี เพราะมีจิตเป็นกุคล มันก็เลยไม่ตาย แถมได้งานได้บุญอีกพะเรอ เกวียนด้วย คัดสินได้ คัดใจลง (XC นด่...นักสฑ้งบารม © www.kalyanamitra.org

ผลสำเร็จจากความอดทน วัดใหtyๆ ในประเทศไทยที่เขาสร้างต่อเนื่องกันมาแล้ว ๑๐๐ ปี บ้าง ๒๐๐ - ๓๐๐ ปีบ้าง ก็มีอยู่หลายวัด แต่ละวัดก็มีฐานะมั่นคง เช่น วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของวัดพระธรรมกาย วัด มหาธาตุยุวราชรังสฤษดี้ เป็นต้น ในพรรษาหนื่งๆ มีพระจำพรรษามาก กว่า ๔๐๐ - ๕๐๐ รูป บางปีวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ก็มีพระมากที่สุด เป็นอันดับหนื่งของประเทศ บางปีก็วัดมหาธาตุฯ มีพระมากที่สุดเป็น อันดับหนื่ง สลับกันอย่างนี้มาหลายสิบปีเต็มที วัดพระธรรมกายเพิ่งสร้างมาได้ ๒๐ ปี แต่บัดนี้มีพระอยู่จำ พรรษามากเป็นอันดับที่ ๓ ของประเทศ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง เพราะ ถ้าเปรียบอายุวัดเหมือนอายุคน ก็ต้องบอกว่าวัดพระธรรมกายยังเป็น วัยรุ่น แต่มีพระมากเป็นอันดับสามของประเทศได้ ก็นับว่าอัศจรรย์แล้ว ยิ่งได้เห็นพวกเราทั้งพระทั้งเณร ที่อยู่ประจำมีมากถึง ๔๓๓ รูป ตั้งใจ ประพฤติปฏิบัติธรรมกันตลอดพรรษา อย่างนี้หลวงพ่อก็หายเหนื่อย จากการขยายพื้นที่วัดออกมาเป็น ๒.๐๐๐ ไร่ ก็เลยกลายเป็นว่า ขณะนี้วัดพระธรรมกาย เป็นวัดที่มีประชาชนมาฟังเทศน์ฟังธรรมกัน มากที่สุดในประเทศไทย วันอาทิตย์ปกติก็ ๑,๐๐๐ - ๒,๐๐๐ คนขึ้นไป วันอาทิตย์ต้นเดือนก็ ๑๐,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ คน ส่วนวันงานบุญใหญ่ไม่ ต้องพูดกันแล้ว นับกันไม่ไหว ๔๐,๐๐๐ - ๕๐,๐๐๐ คน ขึ้นไป จนเป็น ๑๐๐,๐๐๐ คน ยังรออยู่ว่าเมื่อไรจะถึงหลักล้าน นด่...นทสร้างบารม ๑ g»C(K ตัดสินได้ ตัดใจลง www.kalyanamitra.org

ทั้งหมดนี้ก็เป็นผลของความอดทนนั่นเอง โดยอาสัยความเคารพ ครูบาอาจารย์ และความกตัญญกตเวทีเป็นที่ตั้ง ทำ ให้เราทุกรูป ทุกคน มีโอกาสสร้างบุญสร้างบารมีร่วมกันได้เต็มที่อย่างนี้ หลวงพ่อนึกถึงเรื่องนี้ครั้งใดก็ชื่นใจทุกที แล้วก็อดไม่ได้ที่จะนำ มาเล่าซํ้าแล้วชํ้าอีก ให้พวกเราได้รับรู้ จะได้มีกำลังใจสร้างขันติบารมี ตามหลวงพ่อมาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป แล้วก็จะมีโอกาสสร้างบารมีได้ง่ายกว่า หลวงพ่ออีกด้วย เพราะได้รู้ฃนตอนเหลี่ยมคูของพวกมารผลาญความดี จากหลวงพ่อไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก หรีอค้นหา วิธีใหม่อีก เมื่อสมัยที่หลวงพ่ออายุเท่าพวกท่าน ไม่เคยมีใครมาอธิบายไห้ฟัง อย่างนี้ ทุกอย่างต้องคิดค้น ตัดสินถูกผิดเอาเอง กว่าจะได้บวช อายุก็ ปาเข้าไปตั้ง ๓๑ ปี กว่าจะมองทะลุปรุโปร่ง สามารถอธิบายถ่ายทอด เหตุผลไห้พวกท่านได้เป็นขั้นเป็นตอนอย่างนี้ ก็ล่วงเลยมาจนอายุ ๕๐ ปีแล้ว จึงขอให้พวกท่านรักษาความมีโชคดี'^ว้ ด้วยการตั้งหน้าตั้งตา ประพฤติปฏิบัติธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ตัดสินได้ ตัดใจรง 6)0๐ แด่...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

สรุป สำ หรับวาระวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อปีนี้ หลวงพ่อก็ขอสรุป ข้อคิดความเห็นอันเกิดจากการประพฤติปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อเอง ที่ ได้รับความก้าวหน้ามาตามลำดับๆ เท่าที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ สำ หรับ นักสร้างบารมี ผู้มีความทุ่มเทอย่างพวกเรา ชึ่งก็มีเรื่องหลัก ๒ เรื่อง คีอ ๑. ขอให้ท่านฝึกเป็นคนสามารถตัดสินเรืองต่างๆ ปัญหา ต่างๆ ได้ถูกตัอง และกล้าตัดใจลงมือปฏิบัติขัดเกลาไตัเร็าๆ ๒. ขอให้ท่านพยายามฝึกยกระดับความอดทนให้สูงยิ่งๆ ขึ้น ไป ไม่ยอมหยุดยั้ง ด้วยการฝึกคุณธรรมอีก ๓ ประการกำกับไปด้วย คือ ๒.๑ ฝึกตัวเองให้มากด้วยความเคารพในอุปัชฌาย์ อาจารย์ ๒.๒ ฝึกตัวเองให้มากด้วยความกตัญฌูกตเวที ๒.๓ ขณะกำลังฝึกคุณธรรมทั้ง ๒ ประการข้างด้น ให้ฝึก ตัวเองให้มากด้วยความเพียรในการนั่งสมาธิ คือจะ ต้องขยันนั่งสมาธิอย่างหนักอีกด้วย เมื่อปฏิบัติได้ครบตามที่หลวงพ่อแนะนำแล้ว ท่านจะสามารถยก ระดับความอดทนให้สูงขึ้นไปได้!ม่มีที่สินสุด นด่...นกสร้างบารมี ๑ ๑00 พัลินน ตัดใจลง www.kalyanamitra.org

เมื่อถึงเวลาสมควร การเข้าถึงธรรมกาย ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญใน การบวชของพวกเรา ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป และที่แน่นอน อย่างไร เสียเราคงจะได้ฝากผีฝากไข้กันไปจนกว่าชีวิต่จะหาไม่ คงไม่มีใครเลิก สืกษา คิดลาเพศ หรือตกหลุมตกร่องเสียท่า ลงไปอยูในปล่องในชุม เดียวกับพญามารเสียก่อนนะ แล้ววันหนึ่ง วันที่เราเข้าถึงธรรมกายได้ทั่วหน้า คงจะมาถึง มัน คงไม่ช้าเกินรอนะลูกนะ สำ หรับวาระนี้หลวงพ่อขอฝากข้อคิดไว้เพียง เท่าน้ก่อน ด้วยอำนาจบารมีธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาล้มพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้าทั้งหลาย อำ นาจบารมีธรรมที่หลวง พ่อได้สร้างสมอบรมมาดีแล้ว นับด้วยร้อยชาติพันชาติ หมื่นชาติแสน ชาติก็ดี ในปัจจุบันชาตินี้ก็ดี และที่จะปาเพ็ญใหัยิ่งๆ ขื้นไปในกายภาค หน้าอีกด้วย รวมทั้งความปรารถนาดีที่พวกเราทุกๆ คน มีต่อหลวงพ่อ อยากให้หลวงพ่อมีอายุยีนยาว สุขภาพพลานามัยแข็งแรง ได้สร้างบุญ บารมีได้เต็มที่ เป็นอาทิ ขออำนาจบารมีธรรมทั้งหสายเหล่านี้ จงประมวลรวมเข้าด้วยกัน เป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นพลวปัจจัย ส่งผลดลบันดาลอภิบาลคุ้มครอง ปกป้องรักษา ให้ลูกๆ ของหลวงพ่อทุกรูป ทุกคน มีความอดทนที่จะ สร้างบารมีเป็นเลิศ สามารถยกระดับแห่งความอดทนให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่มีขอบเขตจำกัด ตัดสินได้ ตัดใจลง ๑0® นต่...นักสร้างบารเ] ๑ www.kalyanamitra.org

ขอให้ลูกๆ ของหลวงพ่อจงบำเพ็ญบารมีไปได้ตลอดรอดฝัง สามารถปรับปรุงกลั่นกาย วาจา ไจ ของตนเองไห้สะอาด ไห้บริสุทธี้ ไห้ผ่องไส ไม่มีตำหนิ ราคีไดๆ ไห้สามารถช่วยกันประคับประคองตัว เองและหยู่คณะ ไห้พ้นจากภัยพิบัติต่างๆ เดินไปตามเสันทางอัน ประเส% ซึ่งประกอบด้วยมรรคมีองค์ ๘ ของพระสัมมาสัมทุทธเจ้าไป ได้อย่างง่ายดาย ทุกภพ ทุกชาติ ตราบเข้าถึงพระนิพพาน เทอญฯ นด่...นักสร้างบารมี ๑ ๑0« สัดสินได้ สัดใจลง www.kalyanamitra.org

np^ilMViyik^iiM!' จ IV แเ ^' [i ^':\" s '■ ■ '^0- ' \\-^ -Lf ^\\^ ■■■\"'พt ร^-..;.Vii, <H ไ-.*- • .- <:;7- พ •-. '-,!.1 i:■ %«VV•VvO^X'.^;^ f'/./.'* :i' .f ^s '»' *t' if i■' tV i» ;•' 'ใ- \\\\^*: I\\y\\'''น''v\\>'v\\1 ■w ส '/ • :• > /' wiwpw.fk:alya'nami ityra.\\org^ I * ^ ะ. *. ^ •: >:1

'''ร \"HP'.Wic\"?-'v»ไ F.'-'*-r«-»--^ สร้างบารมีอย่างไร ให้ก้าวหน้า •fj '^' ^'\" ''^ I [ร' • s •- •• ■•พ'ะ- s . /'■; ; ; ;•; , .\" ไ' www.k» a•lya♦nam»itr1a.org

สร้างบารมีอย่างไรให้ก้าวหน้า V. โอวาทพรรเดชพระคุณพระภาวนาริริยคุณ (เผด็จ ทตฺตซีโว) ในวาระวันคล้ายวันเกิด ๒๑ รันวาคม พทธสักราช ๒๕๓๙ ในวาระวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อ มาได้ยินคำปฏิญาณของ พวกเรา ก็รู้สีกดีใจ แต่ในความดีใจนั้น ก็มีความห่วงอยู่ด้วย ที่ว่าดีใจคือ ดีใจที่พวกเรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างบารมีร่วมกันเป็นหยู่ เป็นคณะ ติดตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากนํ้า พระมงคลเทพ มุนี ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายให้ทัน ทั้งๆ ที่ตั้งแต่เกิดมา ก็ไม่เคยพบ ท่าน เพราะท่านได้มรณภาพแล้ว ก่อนพวกเราจะเกิดตั้งหลายสิบปี ในส่วนที่เป็นห่วงนั้น ก็จะขอยกเป็นเรื่องๆ ไปก็แล้วกัน www.kalyanamitra.org

เรื่องที่ ๑ การตั้งเป้าหมายชีวิต เป้าหมายในการสร้างบารมี พวกเราทุกคนต่างก็มีเป้าหมายชีวิตชัดเจน เหมือนๆ กันว่า จะ สร้างบารมีติดตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปพระนิพพาน ซึ่งไม่ว่าใคร ในโลกนี้ ขอให้เป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิตจริงๆ เถอะ เมื่อได้ยินเข้า เขา ย่อมจะต้องยกย่องชื่นชมในความมุ่งมั่นของพวกเราด้วยกันทั้งนั้น แต่ ว่ามันยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะการที่^ตจะสามารถประคับประคองพาตัวเอง ให้สร้าง บารมืไปได้ตลอดรอดฝัง จนถึงพระนิพพานตามที่ตั้งใจไวได้ จำ เป็นจะ ต้องแปงงานที่ต้องทำตลอดชีวิต ออกมาทำเป็นส่วนๆ ให้เหมาะสมกับ แต่ละช่วงอายุ เป็นรายปี รายเดือน จนกระทั่งถึงรายวัน มิฉะนั้น เราจะ ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งใจไวโด้เลย ใครอยู่ในวัยต้น อายุระหว่าง ๒๐ ปี ยังไม่เกิน ๓๐ ปี ควรจะ ต้องรีบทำอะไรบ้าง ให้สมกับวัยหนุ่มสาวกำลังเจริญเติบโต คนอายุ ๓๐ - ๔๐ ปี ควรจะทำอะไรบ้าง ให้สมกับร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่ง สำ หรับอายุ ๔๐ - ๕๐ ปี ควรจะทำอะไรบ้าง ให้สมกับอยู่ในวัย รอบคอบสุชุม แต่กำลังกายเริ่มจะถดถอย ไล่ไปเรื่อยๆ เป็นช่วงๆ ไป ช่วงละ ๑๐ ปี สร้างนารมือย่างไรใท้ก้■ทพ่เา aoa แด่...นักสร้างบารมี © www.kalyanamitra.org

เพราะแต่ละช่วงชีวิตของคนเรานั้น ความรู้สีกนึกคิด ตลอดจน สุขภาพร่างกาย กำ ลังวังชา มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเหลีอเกิน ถ้า แปงงานไม่ถูกวัย เราจะล้มเหลว ไม่ว่าจะทุ่มเททำงานมากมายขนาด ไหน และทำรัดกุมเพียงใดก็ตาม สร้างวัดสำเร็จได้ เพราะกำหนดเป้าหมายไร้ทุกระดับ หลวงพ่อขอยกตัวอย่าง การตั้งเป้าหมายในการสร้างวัดพระ- ธรรมกายให้พวกเราฟัง หลวงพ่อกับทีมงานทุกรูปทุกคน ที่สร้างวัดพระธรรมกายมาได้ สำ เร็จ ให้พวกเราได้อยู่สร้างบารมีร่วมกันอย่างสะดวกสบาย มาจน กระทั่งถึงทุกวันนี้ ก็เพราะตั้งแต่วันแรกที่ลงมีอก่อสร้างวัด หลวงพ่อ ธัมมชโย ทำ นตั้งเป้าหมายใหญ่ไวให้ชัดเจนว่า เนื่องจากงานสำคัญที่สุดในการสร้างบารมี คือ การทำสมาธิ ภาวนาให้เข้าถึงธรรมกาย ถ้าที่อยู่อาตัยไม่ดี อาคารปฏิบัติงานไม่เหมาะสม หรือแม้เหมาะ สมกับงานแล้ว แต่มีจำนวนไม่เพียงพอ ต้นไม้ใบหญ้าไม'เขียวสด ไม่ร่มรื่น รวมตั้งทั่วบริเวณวัดไม'สะอาดเรืยบร้อยพอ การทำภาวนา ของหมู่คณะและมหาชนที่มาวัด ย่อมจะก้าวหน้าได้ยาก เพราะฉะนั้น จึงตั้งเป้าเอาไว้ว่า นส่...นกสร้างบารมี ๑ ®0(K สร้!งบารมีอย่างไรให้ทใวทน้า www.kalyanamitra.org

๑) วัดพระธรรมกายจะต้องปลูกต้นไม้นานาพันธุ จัดสวนให้ |||นธรรมอุทยานที่ร่มรื่น สะอาด ๒) มีสิงปลูกสร้างbนพาะเท่าที่จำเแนเท่านั้น และจะต้องสร้าง ให้คงทนแข็งแรง ม่งเพื่อประโยธน์ให้สอยจริงๆ ฅ) ภายใน ๑๐ แนั้จะต้องสร้างวัดพระธรรมกายให้เสร็จ หลังจากเป้าหมายใหญ่ทั้ง ๓ ประการถูกกำหนดลงไปชัดเจนแล้ว อย่างนี้ เราก็แบ่งพื้นที่ออกเป็น ๓ ส่วน คือ ๑) เขตพุทธาวาส เป็นเขตโบสถ์ และที่ประดิษฐานพระประธาน ๒) เขตธรรมาวาส เป็นที่ตั้งของอาคารเอนกประสงค์ ไซIนการ เทศน์สอน ฟังธรรมและการเจริญภาวนาของประชาชน ทั่วไปเป็นหลัก ฅ) เขตสังฆาวาส เป็นเขตที่พักอาลัยของพระภิกษุสามเณร จากนั้นก็พิจารณาเห็นว่า ขณะสร้างวัดไป ควรจะต้องเตรียมสร้าง กองเสบียงไปด้วย แล้วคุณยายอาจารย์ก็กำหนดเวลาลงไปเลยว่า ภายใน ๔ ปีแรกนี้ จะต้องเร่งสร้างโรงครัว ทั้งเพื่อเลี้ยงพระและ ญาติโยมทีมาวัด ตามแบบฉบับวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ และกุฎิที่อยู่ อาลัยของพระภิกษุก็ต้องทำให้เสร็จ สร้างบTsUอย่างไ•รใฟ้ก้าวทน้า ๑00 นดํ...นักสร้างบารมี ® www.kalyanamitra.org

แล้วคุณยายอาจารย์ท่านก็ซอยงาน ออกเป็นเป้าย่อยๆ ต่อไปอีก ว่า ภายในไม่เกิน ๒ ปีนี้ ท่านจะต้องลงมือจัดหาและสืกพ่อครัวแม่ครัว ชื้นมาไหได้สักชุดหนึ่ง อาจจะ ๒ - ๓ คน หรือมากกว่านั้น ทั้งๆ ที่ ตอนนั้นยังไม่มีโครงการที่จะรับบุคลากรเข้ามาอยูในวัดจำนวนมากอย่าง ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ จากนั้นท่านก็หันมาทางหลวงพ่อ พร้อมกับบอกว่า \"ท่านหัตต- ข้โร จำ เป็นจะต้องแกเทฟืนให้คล่อง จะต้องป็กต้วเองให้เป็นแม่บ้าน ดูแลวัดให้เรียบร้อยต้วย\" ชึ่งก็คือช่วยทำงานบริหารวัดไห้เป็นอีกด้วย นั่นเอง ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปเรียนงานทั้ง ๒ อย่างนี้ที่ไหน เพราะตำรับ ตำ ราสมัยโน้นก็ไม'มีไหัค้นคว้า แต่รู้อยู่กับไจว่าต้องท่างานที่รับมอบ หมายไห้ได้ หลวงพ่อก็เริ่มคืกษาชีวิตและงานของหลวงพ่อวัดปากนั้า ทันที เพื่อยึดเป็นด้นแบบ โดยถึอหสักว่า \"สิษย์จะไต้ดี ต้องมีอาจารย์ที่ ประเสรีฐเป็นต้นแบบ\" ขณะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากนํ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่าน เทฟืน์เองทุกวัน และสอนพระ สอนสามเณรให้แกเทฟืน์อีกต้วย โดย ได้ข้อยูลมาว่า ทุกเช้าหลังจากสวดมนต์ท่าวัตรเช้าเสร็จ หลวงพ่อ วัดปากนํ้าจะเทศน์อบรมพระและสามเณรสันๆ ประมาณ <5)0 \" <5)(i นาที ท่านพยายามเคี่ยวเข็ญพระและสามเณร ไห้หัดเทศน์แบบสันๆ ตามอย่างท่าน โดยไม่ไห้รู้ตัว ท่านไข้วิธีชี้ไห้พระหรือสามเณรรูปไดรูป นฅ่...นักสร้างบารมี ๑ QOQ สร้างบารมีอย่างไรใท้ก้าวทน้า www.kalyanamitra.org

หนึ่ง หัดให้พรบ้าง ท่องนวโกวาทให้ท่านฟังบ้าง ท่องบาลี ท่องพุทธ- พจน1ห้ท่านฟัง แล้วแปลบ้าง ขยายความบ้างพอสมควร ท่านได้ท่า อย่างนี้เป็นประจำตลอดชีวิต เมื่อหลวงพ่อได้ข้อมูลมาอย่างนั้นแล้ว ก็มาฝึกหัดเทศน์ง่ายๆ ด้วยตนเอง คือหัดเทศน[หัดนงานฟังทุกเช้า หลังจากสวดมนต์ท่าวัตร แล้ว และสอนให้เขาทั้งอ่านทั้งคัดลายมือ แล้วมาส่งหลวงพ่ออีกด้วย ขณะนั้น คนงานมืไม่มาก แค่ ๓๐ - ๔๐ คน หลังจากหลวงพ่อ เทศน์[ห้เขาฟัง เขาจะต้องคัดลายมือมาส่งหลวงพ่อเช้าวันรุ่งขึ้นด้วย จะ ได้รู้ว่าเขาเช้าใจขนาดไหน ซึ่งการทำเช่นนี้ เป็นผลดี ๒ ประการคือ ๑) เป็นการตรวจสอบความเช้าใจของคนงานว่า เช้าใจธรรมะ ที่เราเทศน์สอนได้ถูกต้องหรือไม่ ๒) เป็นการตรวจสอบตัวเองด้วยว่าที่เราเทศน์นั้น ซาวบ้านเขา รับไดไหม สูง-ตร หนัก-เบา สำ หรับเขาอย่างไร จะได้ ปรับปรุงแก!ข ตามประสาพระลูกทุ่ง เมื่อซอยงานสร้างวัดพระธรรมกายลงไปอย่างนั้!ด้ ก็ช่วยให้เห็น เป้าหมายของงานแต่ละอย่าง แต่ละระดับชัดเจนขึ้นว่า เราจะต้องทำงาน กี่อย่าง อย่างละมากน้อยเท่าไร จะต้องทำอะไรให้สำเร็จก่อนหลัง เมื่อ ถึงปีถึงเดีอนถึงวันที่กำหนดไว้ ก็สามารถตรวจสอบตัวเองได้ว่า ได้ทำ หรือไม่ได้ทำมาขนาดไหน ในที่สุดก็สร้างวัดพระธรรมกายสำเร็จ ให้ พวกเราได้อยู่ร่วมสร้างบารมีอย่างมืความสุขกันขณะนี้ ลร้ใงบารรอย่างไรให้ก้าวหน้า ๑๑!ร) แด่...ไร'กลร้างบารร G) www.kalyanamitra.org

ในการสร้างบารมีต่อไปข้างหน้าของพวกเราก็เช่นกัน จำ ต้องมีการ กำ หนดเป้าหมายให้ครบทุกระดับคือ ทั้งเป้าหมายใหญ่ เป้าหมายกลาง และเป้าหมายย่อย ถ้าพูดให้ง่ายก็คือจะต้องมีการแน่งซอยงานจากเป้า หมายใหญ่ ให้ออกมาเป็นงานที่ต้องทำในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี และแต่ละทุกๆ ๕ ปี ๑๐ ปี ให้ชัดเจนอีกด้วย การลร้างบารมีของเราจึง จะเป็นไปได้ตลอดรอดฝัง ความเสิอมนห่งสังขาร นอกจากแน่งงานออกมาเป็นรายวัน รายเดือน รายปีตามที่โลก นิยมแล้ว หลวงฟอก็มาพิจารณาต่อว่าสุขภาพร่างกายของคนเรา ย่อมมี ความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงอายุ ก็ปรึกษากับหลวงพ่อธัมมชโย แล้วไปถามคุณยายอาจารย์พร้อมๆ กัน เนื่องจากคุณยายท่านไม'ได้เรียนหนังสีอ การจะไปถามปัญหา อะไรในเชิงวิชาการ ก็จะต้องระวัง การตั้งคำถามให้ดื คือ ต้องถามจาก ประลบการน่เโนชีวิตจริงของท่าน แล้วเราค่อยนำมาเรียบเรียงประติด ประต่อเอาเอง หลวงพ่อธัมมชโยก็ตั้งคำถามว่า ••ยาย เมื่อเล็กๆ เคย เป็นหวัดเป็นไข้ ปวดหัวตัวร้อนกับเขาบ้างไหม เพราะตลอดเวลาเห็นคุณ ยายแข็งแรงดืเหลีอเกิน\" คุณยายท่านนิ่งเดี๋ยวหนึ่ง แล้วตอบด้วยภาษา ของท่านว่า \"มันก็ มีบ้าง เราเป็นคน ไม่ใช่เหล็กนึ่\" นส่...นกสร้า4บารมี (ฐ) ๑๑0 ร?1งบ?5มีอย่14ไ1ใฟ้ก้ฑพน้า www.kalyanamitra.org

หลวงพ่อก็ถามต่อ ''ยายจำได้ไหมว่า เริ่มเป็นไข้ เริ่มเจ็บปวย ตั้งแต่อา? คุณยายก็บอกว่า \"ตอนเด็กๆ มันก็ไม่ค่อยเป็นอะไร ตอนอายุยัง ไม่ถึง ๓๐ ปี ถ้าเป็นไข้เป็นหวัด นอนตื่นเดียว ไม่ต้องกินยาก็หาย มัน เป็นเอง ก็หายเอง\" \"พออายุ ๙๐ ปี ขึ้นไป เป็นอย่างไรล่ะยาย\" \"อายุ ๔๐ ปี กินยาเม็ดสองเม็ด นอนอีกตื่นเดียว แล้วจึงจะหาย\" \"แล้วตอนอายุได้ ๕๐ ปี ล่ะ\" \"ตอนอายุ ๕๐ ปี กินยาเม็ดสองเม็ดไม่ยอมหาย มันต้องกินยา มากขึ้นอีกหน่อย เป็น ๕ เม็ด ๑๐ เม็ด แล้วพักอีกวันสองวัน มันจึง จะหาย\" \"แล้วตอนอายุ ๖๐ ล่ะเป็นอย่างไร\" หลวงพ่อค่อยๆ ไล่ถามสูงขึ้นไปทีละ ๑๐ ปี นี่คีอเรื่องสุขภาพ จากนั้นก็ถามเรื่องความจำ โดยไม่ใ'พ้ยายรู้ตัว แล้วก็เข้าประเด็นสำคัญ \"ยาย ช่วงอายุที่ยายนั่งสมาธิได้ดีที่สุด คีอช่วงไหน ?\" คุณยายอาจารย์ก็ตอบว่า \"ตั้งแต่เจอหลวงพ่อวัดปากนํ้า ช่วงที' ยายนั่งสมาธิได้ดีที่สิด คือช่วงอายุ ๔๐ li ยายนั่งทีเดียว ๖ ชั่วโมงรวด กายเนื้อไม่รับรู้อะไรเลย มีแต่การรู้การเ'พ็าเภายในศูนย์กลางกาย สร้างบาใมีอย่างไรใท้ก้าวทน้า ด®ร' นด่...นักสร้างบารมี © www.kalyanamitra.org

สว่างโพลงยิงฑว่าเอาดวงอาทิดย์ยามเที่ยง มาเรียงเป็นดวงๆ เด็ม ท้องฟ้านบเท่าไม่ล้วน เห็นทะลุเช้าไปในพระนิพพานชัดเจน กิเลสของ ตัวเองมีเท่าไร ของมนุษย์ทั้งหลายมีเท่าไร ก็เห็นชัดหมด\" ได้ยินท่าน ตอบอย่างนี้ ก็ได้แต่นั่งเซ่ออ้าปากหวอ สักพักหลวงพ่อธัมมชโยก็ถามท่านต่อ \"ยายนั่งได้รวดเดียว ๖ ชั่วโมงนี่จนถึงอายุเท่าไร ท่านก็ตอบว่า ได้จนกระทั่งถึงอายุราวๆ ๕๐ ปีเศษ หลังจากนั้นไม่ได้\" \"อ้าว อายุยิ่งมากขึ้น น่าจะยิ่งนั่งได้ดีซิยาย\" ตรงนี้เป็นเงื่อนสำคัญนะ คุณยายอาจารย์ท่าน ตอบชัดเจน ท่าน บอกว่า \"พออายุขึ้นเลข ๔ แล้ว จะให้นงสมาธิรวดเดียว ชนิดกลางวัน ๖ ชั่วโมงรวด กลางดีนก็ ๖ ชั่วโมงรวด มันชักจะไม่ได้เสียแล้ว เพราะ ว่าความแท่มันเริ่มบีบคั้น\" พอนั่งไปได้ระยะหนึ่งก็จะเริ่มเมื่อย แต่นั่นยังไม่เท่าไร ที่สำ คัญ คือการช้บถ่าย การบีสสาวะจะดีขึ้น ท่าให้ต้องลุกไปเช้าห้องนํ้าใน ระหว่างนั่งสมาธิ ใจเลยต้องลอนออกมาจากสมาธิสดละเอียดเป็นซ่วงๆ ความแก'มันบังคับสุขภาพให้ต้องเป็นไปอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ถึง แม้เราจะมีดวามเชี่ยวชาญในการนั่งสมาธิมากขนาดไหนก็ตาม ถ้าสังขาร ชักจะไม่ยอมให้แล้ว สมาธิมันก็เริ่มถอยลงๆ เหมีอนกัน คุณยายท่านก็เหลียวมาทางหลวงพ่อ กำ ชับว่า \"ท่านหัตตะ ตั้งใจ เคี่ยวเข็ญตัวเองให้ดี พออายุเกินเลข ๔ แล้ว การนั่งสมาธิจะท่าไต้ไม่ นด่...นักสร้างบารมี ๑ ®®(£■ สร1งบ?5มิอย่างไาใท้๓วพ่เา www.kalyanamitra.org

เต็มที่ แม้ว่าเราจะทรหดอดทนแค่ไหนก็ตาม ในที่สุดก็จะฝืนสังขารไป ไม่ได้\" จริงสินะ เม้ว่าเราอาจมีชีวิตอยู่ได้ถึง ๑๐๐ ปี ก็ตาม แต่ว่าช่วง ทรหดอดทนของเรา มันไม่ถึง ๑๐๐ ปี อย่างที่เราหวังหรอก เหมือน อย่างนักมวย ถึงจะต่อยเก่งเป็นแซมเปียนโลก ก็อาจจะรักษาเข็มขัด แซมเปียนอยู่ได้ถึงแค่อายุ ๓๐ ปี ไม่เกิน ๔๐ ปี จากนั้นร่างกายจะ ทนทานไม่ไหว มันสะบักสะบอมเสียแล้ว จากตัวเลขอายุที่คุณยายอาจารย์ให้มานี่ ทำให้ทั้งหลวงพ่อธัมม- ซโยและหลวงพ่อเอง ต้องหยุดถอนหายใจหลายครั้ง เพราะว่าเดี๋ยวนี้ อายุก็เกินเลข ๕ มาแล้วทั้งคู่ ถล่มสังขารในวัยต้น เม้จะรู้เรื่องความเสือมของสังขารตามวัยแล้ว แต่หลวงพ่อก็ยัง อยากรู1ห้มันยิ่งๆ ขึ้นไปอีก วันหนึ่งก็ได้!อกาลถามคุณยายอาจารย์ \"ยาย ในสมัยทำวิซซาอยู่กับหลวงพ่อวัดปากนํ้า รุ่นเดียวกับยาย เขานั่งสมาธิกันเป็นอย่างไรบ้าง\" ยายก็ตอบว่า \"เวลานั่งสมาธิ เขาไม่ได้ทิ้งชีวิต เหมือนกับยาย นั่ง กันได้สองชั่วโมงสามชั่วโมง เขาก็ลุก พวกหนึ่งลุกมาเดินเพราะความ เมื่อย อีกพวกหนึ่ง แม้ไม'ลุกก็นั่งพลิกซ้ายพลิกขวา เปลี่ยนท่านั่งกัน บ่อยๆ\" สร้างบารมีอย่างไรใ!![ก้าวพน้า C)®t> แด่...iงักสร้า'!บารมี Q www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น จึงมียายเพียงคนเดียว ที่นั่งสมาธิ ครั้งละ ๖ ชั่วโมง รวด โดยไม่ขยับเขยื้อน นอกนั้นทำไม่ได้ มีหลายคนที่เขาก็นั่งทิ้งชีวิต เหมีอนกัน เช่น คุณยายทองสุข ซึ่งเป็นอาจารย์ของคุณยายลมัยก่อน มาถึงวัดปากนั้า เป็นผู้ที'ลอนให้คุณยายอาจารย์ของเราเข้าถึง พระธรรมกาย แต่คุณยายทองสุข แม้จะนั่งลมาธิแบบยอมทิ้งชีวิต อย่างไรก็ตาม ก็นั่งได้นานติดต่อกันครั้งละไม่เกิน ๓ - ๔ ชั่วโมง เพราะ ในขณะนั้นคุณยายทองสุขท่านอายุกว่า ๕๐ ปีแล้ว นั่งได้ไม'ถึง ๖ ชั่วโมง ก็ต้องลุกเข้าห้องนั้า นี่คีอ ขันธมาร มันบีบคั้นเอา \"แล้วคนอื่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับยาย ที่เขาตั้งใจนั่งลมาธิกัน แบบเอาชีวิตวางเป็นเดิมพันอย่างกับยายนี่มีบ้างไหม\" คุณยายอาจารยก็ตอบว่า \"มี\" \"แล้วทำไมเขาจึงนั่งลมาธิติดต่อกันทีละ ๖ ชั่วโมง ไม่ได้ ในเมื่อ อายุเท่าๆ กับยาย\" คุณยายอาจารย์ท่านตอบขัด \"พวกนี้ มันไปถล่มสังขารของมันชะ ตั้งแต่อายุยังน้อย สังขารมันก็เลยโทรมเร็ว\" \"มันเป็นอย่างไรล่ะยาย\" \"เมื่อตอนวัยลาวๆ วัยเด็ก ก็ไม่รู้มันไปท่าอะไรของมัน บางคนหัว เข่าไม่ดี ข้อเท้าไม่ดี บางคนปวดหลัง บางคนชอบกลั้นปัลลาวะนาน เพราะฉะนั้น พออายุ ๔๐ ปี ยังไม่ถึง ๕๐ ปี กล้ามเนี้อหูรูดเสีย ต้อง นฅ่...นักส'ทงบารมี ๑ ©๑พ รร้างบารมีอย่างไรไท้ก้าวVเน้า www.kalyanamitra.org

เข้าห้องนํ้าบ่อย ทำ ให้นั่งนานไม่ได้\" อ้อ...การไฝเจักรักษาสุขภาพ เพียงแค่กลั้นป้สสาวะไจ้นานโดย ใร}เหตุ ก็อาจตัดทอนการสร้างบารมีได้มากลึงเพียงนื้ แล้วยายก็หันงJา เตือนหลวงพ่อธัมมชโยกับหลวงพ่อว่า \"ท'านทัตตะ ท่านธัมมะ\" ตอนนั้นคุณยายยังไม'ได้เรียก \"หลวงพ่อ\" หรอก เรียก \"ท่านหัตตะ ท่านธัมมะ\" เพราะเพิ่งบวชได้ พรรษาแรกๆ \"ท่านหัตตะ ท่านธัมมะ ระรังรักษาสุขภาพให้ดีนะ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง อย่าเกรงใจแขก อ้าปวดหัสสาวะเมือไร ให้รีบสุกไปเข้า ห้องนํ้าเลย ไม่อย่างนั้นละก็ จะแ !นหัญหาในภายหน้า\" นื้ก็คีอที่มาว่า ทำ ไมหลวงพ่อจึงได้จํ้าจี้จำไชพวกเรานักว่าอย่ากลั้น ปัสสาวะนาน แต่ว่าบางคนก็จะฟังผ่านหูซ้ายทะลุหูขวา ทำ ไม่รูเม่ชี้ บ้าง ก็พาลหงุดหงิด คิดว่าหลวงพ่อหัตตชีโวนี่จุกจิกไม่เข้าเรื่อง ยุ่งในเรื่อง ส่วนตัวของเฃามากไบ่ รักธรรมะไฝจริง หลวงพ่อก็ถามต่อไปอีกว่า \"ยาย รุ่นเดียวกับยายที่เรียกว่าไม่เอา จริง ทั้งๆ ที่มาถึงหสวงพ่อวัดปากนํ้าแล้ว มันเป็นอย่างไร พวกนีชอบ หนีการนั่งสมาธิเหรอ\" สร้พบารมีอย่างไรใฟ้ก้T3Vน่เา (ะ)®C นค่...นักสฑ้งบารมี ® www.kalyanamitra.org

\"มันไม่ได้หนีหรอกท่าน แต่พวกนี้เป็นประเภท พอครบเดือนหรีอ ครึ่งเดือน ก็ลากลับไปเยี่ยมบ้านที พอกลับไปแล้ว ก็ไปกระทบเรึ่อง ๅนวายที่บ้าน เมื่อกลับมานั่งสมาธิที่วัดต่อ กว่าจะล้างใจให้หมดกังวล เรึ่องทางบ้านได้สนิทถึงสุดละเอียด อย่างน้อยก็สองสามวัน ถ้าเรึ่องนั้น เป็นเรื่องหน้กๆ เจ็ดวันแล้ว ใจก็ยังสงบได้!ม่สนิทเลย\" \"พอทำท่าจะดีฃึ้นมา ก็ถึงเวลากลับไปเยี่ยมบ้านอีกแล้ว เพราะฉะนั้น ธรรมะก็เลยไม่ก้าวหน้า\" \"บางคนแม้ไม่กลับบ้าน แต่ว่าแม่มาเยี่ยม พ่อมาเยี่ยม เพื่อนมา เยี่ยมบ่อย เพราะฉะนั้น เวลานั่งสมาธิ ก็ถูกตัดทอนให้ลันลงไป ก็ตาม ยายไม่ทัน\" การบริหารเวลา น้บว่าเป็นบุญของหลวงพ่อ ที่มีหน้าที่คอยสอดส่องดูแลสุขภาพ และความเป็นอยู่ของคุณยายอาจารย์ ทำ ให้เห็นการแบ่งเวลาในชีวิต ประจำวันของท่านชัดเจนดีมาก เมือเริ่มสร้างวัดพระธรรมกายนั้น คุณยายอาจารย์ท่านอายุเลย ๖๐ ปี ไปแล้วเล็กน้อย คุณยายอาจารย์จะตี่นตีสีทุกวัน ล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ก็นั่ง สมาธิ จนกระทั่งอรุณขึ้น หรือพอฟัาสางๆ ดือประมาณลักตีห้าสีสิบห้า นั่นดือคุณยาย ได้นั่งสมาธิมาแล้ว ชั่วโมงกว่าเกือบสองชั่วโมง จากนั้น ท่านก็จะทำกิจวัตรส่วนตัว และดูแลทำความสะอาดที่พักอาลัยของท่าน นทํ...นักลร้างบารมี ๑ ๑<aoc สร้ใงบาร}รอย่ใงไรใฟ้ก้Timา www.kalyanamitra.org

พอหกโมงสีสิบห้า ท่านณ็ฃ้าครัวดูความเรียบร้อยเรื่องเด็กจัด ภัตตาหารถวายพระ เจ็ดโมงตรงท่านก็จะรับประทานอาหารเช้า หลังจากนั้นก็จะเดินตรวจตราความสะอาดเรียบร้อยทั่วบริเวณวัด พอเก้าโมงตรง คุณยายจะนิมนต์หลวงพ่อธัมมชโยไปนั่งสมาธิกับ ท่าน ท่านจะพูดกับหลวงพ่อธัมมชโยเสมอๆ ว่า \"หลวงพ่อมานั่งเถอะ ยายแก่แล้ว ธรรมะละเอียดๆ ทียายได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อ วัดปากนามากน้อยเท่าไร ท่านรับเอาไปให้หมด เดํ่ยวยายจะเลือนเอีย ก่อน\" เพราะฉะนั้น ในช้วงสิบปีแรกของการสร้างวัดพระธรรมกาย ช่วง ๙ โมงตรงถึงเพล คือเวลานั่งสมาธิต่อธรรมะละเอียด ระหว่าง คุณยายกับหลวงพ่อธัมมชโย โดยหลวงพ่อท่านลังเป็นคำขาดไว้เลยว่า \"ถ้าไม่ใช่โยมพ่อโยมแม่ท่านตาย ระหว่างเวลานี้ ห้ามเรียก ห้ามรบกวนท่านเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีเรื่องราวใดๆ เกิดขึ้น\" หลวงพ่อธัมมชโยกับคุณยายอาจารย์ ท่านแบ่งเวลาในการนั่ง สมาธิของท่านอย่างนั้น จึงเกิดคำเล่าลือว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถือตัว เข้าพบยาก แม้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำ๓อ ข้าราชการผู้ใหญ่ ถ้ามาตอนก่อนเพลก็ไม่ได้พบ เขาก็โกรธไปหลายราย หลวงพ่อก็จนใจ ไม่รู้จะท่าอย่างไร สร้างบาร))อข่ใงไรใฟ้ก้าวทน้า ๑1ร)0 แด่...ฟ้ทสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

ส่วนในตอนบ่าย ก็เป็นเรื่องของการประชุมปรึกษางาน แลร ค้นคว้ภาัตํำ'รับตำราหาความรู้เพิมเติม ทงของหลวงพอเองและหลวงพ่อ ธัมมชโย บัดนี้ พวกเราแต่ละคนต่างรู้แล้วว่า ตนเองทำงานอยู่สายงานไหน งานหนักงานเบาอย่างไรก็ทราบ ฉะนั้นลองไปหัดคำนวณดูว่า ไนหนึ่ง สัปดาห์ เราจะมีเวลานั่งสมาธิกันจริงๆ เท่าไร จากนี้ไปจนถึงอายุ ๓๐ - ๔๐ ปี และถึงอายุ ๕๐ ปี เราจะมีเวลาเหลือสำหรับการนั่งสมาธิ อีกกี่ชั่วโมง คำ นวณดูแล้วเราจะเว่า เวลาเพื่อการปฏิบัติธรรมของเรา เหลือจริงๆ ไม่มากเลย มันฉึงจุดวิกฤติกันขนาดนี้แล้ว ต้องรู้ด้วย เพราะฉะนั้น งานสํวนรวมก็จะต้องแบ่งกันทำ แบ่งไห์ได้สัดสํวน พอเหมาะ ไม่กินแรงไคร สมาธิก็จะต้องแบ่งเวลานั่งไห์ได้มากๆ ถ้าไคร แบ่งเวลาไม่เป็น นอกจากจะมีผลเสียต่อตัวเองโดยตรงแล้ว ยังมีผลเสีย ถึงหมู่คณะอีกด้วย เพราะล้าเราทำงานบกพร่องมากเท่าไร คนอื่นก็จะ ต้องรับภาระหนักมากขึ้นเท่านั้น ก็ขอไห้มองตรงนี้ชัดๆ นะลูกนะ นทํ...นกสร้างบารร ๑ ๑100 ส?ไงบาารอย่นไรไห้ก้ฑทน้า www.kalyanamitra.org

เรื่องที่ ๒ การรักษาสฃภาพ มาถึงวันนี้หลวงพ่ออายุ ๕๑ ปี เต็ม ถ้าเป็นเสือก็ต้องเรียกว่า เสือเขี้ยวโยกแล้ว เป็นอย่างไร ? ได้พบว่าความประมาทเมื่อวัยรุ่น ได้ ทำ ความเดือดร้อนให้หลวงพ่ออย่างมาก เมื่ออยู่ในวัยรุ่น ผู้ใหญ่ท่านเตือนว่า อย่าอ่านหนังสือในที่สลัวๆ แสงสว่างไม่พอ เพราะจะทำให้เสืยสายตา ก็นึกเถึยงในใจว่า เราอ่านมา ตั้งหลายปี ไม่เห็นเป็นอะไร แด'เดี๋ยวนี้มันก็ยํ่าแย่เป็นไปตามที่ท่านเตือน เรียบร้อยแล้ว จึงได้แต่เสียใจ เราไม่ควรจะไปฝืนสังขารไปใช้มันอย่าง ถล่มทลายเลย เดี๋ยวนี้ถ้าไม่มีแว่น ก็หมดสิทธที่จะอ่านหนังสือ ฟัน ขณะนี้ก็เริ่มรวนไปบ้างแล้ว ถ้าฟันซึ่งเปรียบเสมีอนเคริ่องโม่ อาหารระดับหยาบรวนเสียแล้ว กระเพาะและลำไล้ ซึ่งเป็นเครื่องโม' อาหารระดับละเอียดประจำตัว ก็ด้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าใครฟันไม่ดี แม้ตนเองจะนอนหสับทั้งคืน แต่พอ ตื่นขึ้นมาก็จะยังเพลียอยู่นั่นแหละ เพราะขณะนอนหลับ ลำ ไสั!ม่ได้พัก เลย มันต้องโม่ต้องย่อยอาหารแทนฟันตลอดคืน นี้ก็เป็นเพราะประมาท ไปถล่มทลายสังขารไว้มากนั่นเอง มาดูชิว่า ทำ ไมฟันหลวงพ่อจึงรวน ก็พบว่าจริงๆ แล้วเราชอบกิน อาหารประเภทกรอบๆ บ้าง เนี้อเหนียวๆ บ้าง หนำชํ้ายังแปรงฟัน สร!งบาใม็อน่ใงไรให้ทาพนา ๑®!ร) นฅ่...นักสflงบารมี ® www.kalyanamitra.org

ไม'เป็นเสียอีก หลวงพ่อว่าพวกเราที่นั่งอยู่นี้ ไม'น้อยกว่า ๙๐ % ยัง แปรงฟันไม่เป็น ว่างๆ ลองไปคุยกับทันตแพทย์ดู แล้วจะรู้ เมื่อเด็กๆ หลวงพ่อก็ได้รับการสอนมาว่า เวลาแปรงฟันบนไห้ปัด ลง แปรงฟันล่างให้ปัดขึ้น ไม่ให้ถูขวาง ฯลฯ ก็ทำ ตามนั้น แต่ฟันมันก็ ยังไม่ดีเทำที่ควรจะเป็น จนกระทั่งมารู้เอาเมื่อต้นปีนี้เองว่า ยังมีวิธีแปรง ฟันที่ดีกว่านี้อีก ก็เลยมาฝึกแปรงฟันเป็นเมื่ออายุ ๕๑ ปี ยังดีที่มันมี เหลือให้แปรง ไม่หลุดหมดปากไปเสียก่อน เพราะฉะนั้น ก็ขอให้ทุกคนไปสืกษาดูว่า ที่ว่าแปรงฟันถูกวิธีนั้น แปรงอย่างไร ไม่อย่างนั้นพอฟันรวนเสียแล้ว ระบบการย่อยอาหารจะ รวน.ดาม และจะส่งผลให้กลายเป็นคนหงุดฬงิดง่ายอีกด้วย มันเกี่ยว โยงเป็นเหตุเป็นผลกันอย่างนาเะลูก กลั้นปัสสาวะก็เป็นปัญหา ฝึนสายตาไปอ่านหนังสีอในที่สลัวก็ เป็นปัญหา กินอาหารเหนียวๆ แปรงฟันไม่เป็นก็ก่อให้เกิดปัญหา แต่ว่า มันจะไม่เกิดปัญหาในทันที มันค่อยเป็นค่อยไป แล้วทำลายเราใน อนาคต เมื่อเด็กๆ พ่อเฌ่ก็ลั้งนักทั่งหนา ลูกเอ๊ย ดึกๆ อย่าไปอาบนํ้าเย็น เช็ดตัวเอาก็พอ ประเดี๋ยวจะเป็นหวัด เหนี่อยๆ เหงื่อทํวมตัวมา อย่าไป อาบนํ้าทันที ต้องพักให้เหงื่อมันแห้งก่อน ประเดี๋ยวจะเป็นไข้ เราก็เถียง ว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย ไปซ้อมวิ่งมาหยกๆ เหงื่อไหลพทั่กๆ ไม่ต้องรอให้ เหงื่อแห้ง โดดลงสระนํ้าว่ายเล่น ไม่เห็นเป็นไรเลย นฅ่...นกสร้างบารมี ๑ QIBC) สร้ใงบ-ทมีอบ่างไร้,ทท้าวทน้า www.kalyanamitra.org

หลวงพ่อมารู้ตัวอีกที โพรงจยูกอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง สูญเสีย ความสามารถในการรับกลิ่นไปแล้ว ดีว่าดั้งมันยังไม่ยุบ เพราะฉะนั้น ใครที่ยังตะบี้ตะบัน ดื้อรั้น ไม่พยายามรักษาสุขภาพตามกฎเกณฑ์ ก็ดู หลวงพ่อเอาไว้เป็นตัวอย่าง ต่อแต่นี้ไป ก็ฃอให้พยายามดีกษาวิธีดูแลรักษาสุขภาพให้เป็น เพราะล้ารักษาสุขภาพร่างกายไม่ดีแล้ว จะเป็นผลเสียหายระยะยาว กระทบลึงความก้าวหน้าในภารปฏิบัติธรรมอย่างมหาศาลเกินคาด ปูย่าตายาย ครูบาอาจารย์ สอนให้ออกกำลัง ให้บริหารร่างกาย แต่เราก็ฃี้เกียจ ในที่สุดก็จะพบปัญหา หลวงพ่อจะยกตัวอย่างให้ฟัง ถ้าเราเป็นคนที่ออกกำลังกายสมํ่าเสมอ กล้ามเนื้อจะฟูยืดหยุ่นได้ มาก เซลล์มีความสามารถในการอุ้มนํ้าได้อย่างดี ทำ ให้เซลล์ชุ่มเกิด ความสดชื่นตลอดเวลา ไม่ง่วงเหงาหาวนอนขณะนั่งสมาธิ แม้เราดื่มนํ้า เข้าไปเต็มที่ กว่าจะขับปัสสาวะออกมา ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ แต่ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายสมํ่าเสมอ ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อก็ ไม่ดี ความสามารถในการดูดซับนํ้าก็มีน้อย เพราะฉะนั้น ดื่มนํ้าเข้าไป เพียง ๑๕ นาที หรือครึ่งชั่วโมง ร่างกายก็ฃับออก เฌ้ดื่มนํ้ามาก ก็ไม่ เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพราะถูกขับออกทางปัสสาวะเร็ว เกินไป เหมือนเทนํ้าทิ้งอย่างนั้น ครั้นจะดื่มนํ้าให้ได้ปริมาณพอเพียงกับความต้องการของร่างกาย ก็จะต้องเข้าห้องนํ้าปอยๆ เป็นที่น่ารำคาญ ถ้าลดปริมาณการดื่มนํ้าลง สร้พนารมีอย่ใงไรใฟ้กฑหนา ©ISKT นด่...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

เพื่อจะไดไม่ต้องเข้าห้องนํ้าบ่อย ร่างกายก็จะขาดนํ้า เป็นอันตรายต่อ สุขภาพ เพียงแค่ฃี้เกียจออกกำลังกาย บอกได้เลยว่าอนาคตกา*ณั่งสมาธิ ของเราดับเสียแล้ว เพราะสุขภาพไม่อำนวย เหมือนกับเราฆ่าตัวเองผ่อน ส่ง นี่!ป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการไม่เจักรักษาสุขภาพ เพราะฉะนั้น จึงขอผ่ากเอาไว้ตรงนี้ว่า การออกกำลังกาย สมรเสมอ และการรู้จักรักษาสุขภาพของทุกส่วนในร่างกาย มืดวาม จำ เป็นต้องสีกษาอย่างละเอียดลออ และจะต้องระมัดระวัง ดูแลตั้งแต่ บ่ลายผมจรดปลายเท้าทีเดียว เราทะนุถนอมดวงตาอย่างไร ก็ขอให้ถนอมแม้ห้วแม'เท้าให้ได้ อย่างนั้น เพราะแค'เท้าเป็นโรคฮ่องกงพีตเท่านั้นแหละ นั่งสมาธิไม่ได้ นานหรอกลูก นั่งสมาธิกำลังจะดี มันเกิดอาการคันเท้าขึ้นมา จิตเคลื่อน จากศูนย์กสางกายไบ่เสียแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ามองข้ามเรื่องการออก กำ ลังกาย และการรักษาสุขภาพทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่บ่ลายผมถึง ปลายเท้า นี้เป็นเรื่องที่สองที่อยากจะฝากเอาไว้ เรื่องแรก ให้รู้จักแบ่งซอยเป้าหมายของการสร้างบุญสร้างบารมื สร้างความดีของเรา จากเป้าใหญ่จะไปนิพพาน ซอยออกมาเป็นเป้า ระดับกลาง ว่าจะต้องทำอะไรให้สำเร็จภายใน ๕ ปี ๑๐ ปี และซอย ออกมาเป็นเป้าระดับย่อยว่า วันหนึ่ง คืนหนึ่ง หรือลับ่ดาห์หนึ่ง เดือนหนึ่ง จนถึงปีหนึ่ง จะต้องทำอะไรบ้าง ให้สมกับอายสมกับวัยของ เ™เ1ะ™ นค่...นกสร้างบารมึ ๑ ©\\a(f สร้างบารมีอย่างไใ[ใฟ้ก้าวทน้า www.kalyanamitra.org

เรื่องที่สอง แม้ว่าจะตั้งใจแบ่งเป้าหมายเป็นระดับๆ ไปแล้ว แต่ว่า ถ้าไม่รู้จักรักษาสุขภาพตัวเอง พูดง่ายๆ แม้แค่กลั้นอุจจาระ กลั้น ป้สสาวะนานๆ เป็นประจำ นั่นแหละเป็นการป็ดทางนิพพานชองตัว เองแล้ว จำ ไวIห้ดีนะลูกนะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงกับทรงบัญฤรู้ติในวินัยสงฆ์ สอนจน กระทั่งว่า ห้ามพระภิกชุเบ่งอุจจาระแรง เพราะว่าถ้าเบ่งแรงมาก เดี๋ยว โรคริดสีดวงทวารก็อาจเกิด แล้วจะให้นั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ได้อย่างไร นึกเอาเองก็แล้วกัน การดูแลรักษาสุขภาพในทุกวิถีทาง มีดวามจำเป็นอย่างยิ่ง ใครๆ จะดูเบาไม่ได้ แค'โรคผิวหนังนิดเดียว ทำ ให้เราทิ้งดิ่งปล่อยใจเข้า ศูนย์กลางกายไม่ได้ มันปีดทางนิพพานอย่างไม่น่าเชื่อ ฟันโยกฟันรวน หายใจไม่ค่อยสะดวก สายตาไม่ดี ล้วนเป็นการปีดหนทางนิพพานได้ทั้ง 11เ สร้างบารมีอย่ใงไรใท้ก้าวทน้า ดาร)าะ) นด่...นักสร้างบารมี o www.kalyanamitra.org

เรื่องที่ ๓ การสั่งสมบารมี ๑๐ ทัศ'' พวกเราแต่ละคนต่างสละชีวิต และความสะดวกสบายทางโลก มาประพฤติพรหมจรรย์ที'วัด \"เพื่อมาสร้างบารมี\" แต่ถ้าถามต่อว่า บารมี ๑๐ ประการ คือทานบารมี คืลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญา บารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี ฌตตาบารมี และอุเบกขาบารมีนั้น เรามีวิธีสร้างกันอย่างไร สามารลทำพร้อมกันทั้ง ๑๐ ประการ ไดไหม ก็ขอตอบว่า ได้ หลวงพ่อจะยกตัวอย่างให้ฟัง ทานบารมี พวกเราที่นั่งกันอยู่นี้ ต่างสละทร้พ่ย์ สละบ้าน สละครอบครัวมา ตั้งใจว่าจะมาสังสมบุญบารมีไปนิพพานกัน เพราะฉะนั้น ทรัพย์สมบัติ ใดๆ แบบซาวโลก เราก็ไมมความจำเป็นจะต้องสะสมกันต่อไปอีก มีอะไรเราก็ปันกันฉันปันกันใช้ นี้ถีอว่าเป็นทานบารมีเบิ้องต้นของ พวกเรา แต่ว่าก็ต้องระวัง อย่าทำลายทานบารมีของตัวเองโดยรู้เท่าไม่ถึง การณ์ เช่น เพียงแค่จะยืมพิมพ์ดีด ยืมรถยนต์ของส่วนกลาง ก็อย่า หวงกัน ถ้าหมู่คณะรูปใด คนใดใช้ข้าวของไม่ถนอม แล้วเราหวง กลัว \" โลภสูตร. ชุ.อิติ.อ. ๔๕/®๗๙/๑๓ (มมร.) นส่...นกล^งบารมี ๑ GfiSKf สร้างบารมีอย่างไรให้ก้าวพ่เา www.kalyanamitra.org

สมบัติพระศาสนาจะทรุดโทรมนั้นเป็นการดี แต่ถ้าหวงกับทุกคนไป หมด อย่างนี้ก็ใซ!ม่ได้ แสดงว่าเราเริ่มไม่รู้จักปันกันฉันบันกันใช้แล้ว ฟ้องว่าเชื้อตระหน!ด้แอบย้อนกลับเช้ามาทุ้มใจแล้ว และเราก็ยังไม่รู้สืก ตัวอีก เมื่อสมัยหลวงพ่อเป็นนิสิต ยังไม่ได้เข้าวัด บางครั้งการเงินมัน ขาดมือ ไข่เค็มลูกเดียว จะผ่าเป็น ๒ ซีก ๔ ซีก ปันกันกินกับเพื่อน เพราะฉะนั้น จึงมีเพื่อนรักที่ซึ้งนํ้าใจอยู่หลายคน ขนาดยังไม'เข้าวัด หลวงพ่อก็ไม่เคยหวงอะไรเพื่อนอย่างนี้ เพราะฉะนั้น พวกเราเมื่อเข้าวัดมาแล้ว ต้องระวังอย่าให้ความ ตระหนี่ย้อนกลับมางอกชื้นใหม่อีก มืฉะนั้น จะร่วมทางกันไปนิพพาน ไม่ได้ สืลบารมี เรามักจะนึกกันเพียงว่า ถ้ารักษาสืลของตัวเอง ให้เคร่งครัดให้ บริสุทธี้ ก็เป็นการบำเพ็ญดีลบารมีแล้ว เพื่อนพ้องหยู่คณะจะเป็น อย่างไร ไม่ไข่ธุระ เป็นเรื่องส่วนตัว พวกเราอยู่กันเป็นหยู่คณะใหญ่ คิดตื้นๆ แค่'นี้!ม่ได้ ต้องเข้าใจ วัตลุประสงค์ของคิลให้ลึกซึ้งว่า เรื่องดีล เรื่องวินัย เรนเรื่องความร่วม แรงร่วมใจของหมู่คณะ สร้1ง1ภรมีอช่างไรใฟ้ก้าวหนา OlSCS นดํ...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

เช่น เราอยู่กันกุฏิละ ๑๐ รูป ทั้งหลังติดบุ้งลวดให้แล้ว ถ้ามีใคร ลักคนมากางบุ้งกางกลดหลังเล็กเฉพาะตัว นอนอยู่กลางกุฏิ เพราะกลัว ยุงกัด มันก็ฟ้องว่า ตอนนี้เราอยู่กันแบบตัวใครตัวมัน แล้วจะเข็นคนทั้ง โลกไปนิพพานได้อย่างไร ที่ลูก คือ สมารกทกคนตัองประชุมกัน หาสาเหตุว่ายุงมันเข้ามา ทางไหน แล้วหาทางป้องกันไม่ให้มันเข้ามา ความจริงที่ยุงมันเข้ามาได้ เป็นเพราะเวลาเข้าออก เราเป็ดประตูกว้างเกินไปใช่ไหม หริอบุ้งลวดมัน ขาดตรงไหน หรีอใครสะเพร่าเป็ดประตูทิ้งไว้ตอนเย็น ยุงมันจึงเข้า หรือว่ารอบๆ กุฏิมีนํ้าขังเป็นที่เพาะยุง ทำ ให้ยุงชุม ให้ไปช่วยกันตรวจดู แล้วจัดการแก็ไฃที่ต้นเหตุให้กับส่วนรวม เราจะไม่ยอมบุดเข้ากลดไป นอนหลบยุงเพียงลำพังๆ แล้วปล่อยให้ยุงกินเลือดพรรคพวกทั้งกุฏิ เราดั้งปณิธานว่าจะขนชาวโลกไปนิพพาน ล้าใจเราแคบเหมือน รูเข็ม ไม่ได้คิดเมื่อแผ่ถึงแมักับหมู่คณะ ใจแคบอย่างนี้ ความดีย่อม ไหลเข้าไปไม่ได้ สืลบารมีไม่เกิดหรอกลูกเอ๊ย มันต้องเข็นกันไปทั้งวัด แน่นอนมันเป็นงานหนัก แต่เราต้องทำให้!ด้ แล้วจึงจะขนไปนิพพานทั้ง โลกได้ อย่าเอาแด่ตัวรอด เพราะมันจะรอดเฉพาะตัว แด่ห้วจะไม่รอด เนกขัมมบารมี วิธีปาเพ็ญเนกขัมมบารมี ทำ ได้ไม่ยาก ขอให้ยึดหลักที่ว่า ถ้าไม่มี เรื่องจำเป็นถึงขั้นคอขาดบาดตาย ก็อย่าไปเยี่ยมบ้านบ่อยนัก หลวงพ่อ เองกว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้านแต่ละทีก็เป็นปี นต่...นักสเางบารมี ๑ ®\\8)0f สท้ทภใรรอย่ไงไนัฟ้ก้าวทน้า www.kalyanamitra.org

ถ้าเรากลับไปเยี่ยมบ้านบ่อยๆ เดี๋ยวก็จะเกิดความอาลัย ครอบครัว ใจก็จะทิ้งดิ่งเข้าสูนย์กลางกายไม่ได้ มันทิ้งไม่ลงจริงๆ นะ ลูก มันอาลัยอาวรณ์เรื่องบ้าน เรื่องพี่เรื่องน้อง มันเข้ามาชิงพื้นที่ของใจ ไปหมด ไม่เหลือพื้นที่ว่างสำหรับกำหนดนิมิตเป็นองค์พระ หรีอเป็นดวง แก้วเสียแล้ว ขอให้ระมัดระวังก้นด้วย ที่สำ คัญ ถ้าเรากลับบ้านบ่อยๆ ญาติพี่น้องก็เลยไม่ยอมมาวัด รอ แต่จะให้เรากลับอยู่นั่นแหละ แล้วเมื่อไหร่จะได้โปรดเขาจริงๆ ลักที ป้ญญาบารมี สำ หรับปัญญาบารมี ขอยกตัวอย่างของหลวงพ่อเองก็แล้วกัน หลวงพ่อเองจบวิชาเลี้ยงควาย คือ จบลัตวบาล เรื่องเทศน์เรื่องสอนไม่ เคยเรียนหรอก เรื่องวางแผน เรื่องการพินการทอง ไม่เคยเรียน เรื่อง การก่อสร้างก็ไม่เคยเรียน แต่ว่าเมื่อได้รับงานอะไรมา ทั้งๆ ที่ไม'เคย เรียน ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนั้นๆ หลวงพ่อก็ไปคืกษาค้นคว้าหา ข้อยูลเรื่องนั้นๆ มาอย่างละเอียดลออ แล้วก็ลงมีอทำอย่างเต็มที' สุดสืมีอ สุดความสามารถ ความรู้มันก็เพี่มพูน ปัญญามันก็งอกเงยขึ้น มาเอง เมื่อเรื่มสร้างวัดครั้งแรก หลวงพ่อธัมมชโยให้หสวงพ่อจัดการขุด คูรอบพื้นที่ ขุดสระเบ้อเรื่ม ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องเฌ่ หลวงพ่อไม่ เคยขุดสระขุดคลองอะไรเลย ขุดอย่างไรก็ไม่เคยรู้ เคยแต่ขุดหลุมปลูก สฑ้งนาฟ้อย่างไรนก้าวทพ้า ๑00 นดํ...นักสร้างบารมี G) www.kalyanamitra.org

ต้นไม้ พลั่วก็ไม่เคยใช้ เคยใช้แต่จอบ แต่เมื่อได้รับมอบหมายงาน ก็มา สืกษาหาความรู้ แล้วก็ลงมือทำในเรื่องนั้นๆ ไป การติดต่อกับราชการ หลวงพ่อก็ไม่เคย แต่ว่าเมื่อลงมือบุกเบิก สร้างวัด จะต้องทำจดหมายส่งให้ทางราชการ วิชาเลขานุการก็ไม่เคย เรียน พิมพ์ดีดก็ไม่เป็น แต่เมื่อจะต้องทำ หลวงพ่อก็ไม่เคยเกี่ยงเลย ลูกเอ๊ย ตอนนั้นรวบรวมเงินกันอยู่ ๔ - ๕ เดือน กว่าจะซื้อเครื่องพิมพ์ ดีดตัวแรกได้ ระหว่างที่รวบรวมเงินจะซื้อเครื่องพิมพ์ดีดอยู่นั้น หลวงพ่อยังไม่ได้บวช ก็คิดว่าอย่ากระนั้นเลย เราต้องฝึกพิมพ์ดีดให้ได้ ก่อน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาฝึก หลวงพ่อก็ทำง่ายๆ มีกระเปาเจมส์บอนอยู่ใบหนึ่ง รีบเขียนรูป แป้นพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ดีดติดไว้ ระหว่างที่ขึ้นรถฌล์จากวัดปากนํ้า มาที่วัดพระธรรมกาย ก็เอากระเป๋าวางบนหน้าตัก แล้วเริ่มต้นเคาะ กระเป๋าแทนแป้นของเครื่องพิมพ์ดีดไป คนที่นั่งข้างๆ เขาจะคิดอย่างไรก็ช่าง เคาะกระเป๋ามันเรื่อยไป ประมาณ ๓ เดือนล่วงหน้าเห็นจะได้ พอได้เครื่องพิมพ์ดีดมาวันนั้น ก็พิมพ์สัมผัสได้วันนั้น ไม่ได้ไปเข้าโรงเรียนพิมพ์ดีดที่ไหน เอาความ จำ เป็นนั่นแหละ มาเป็นพื้นฐานเป็นปอเกิดให้ป็ญญาบารมีได้งอกเงย ขึ้น แด่...นักสฑ้งบารมี ๑ QC)® สร้างบารมีอย่างไวใท้ก้าวหน้า www.kalyanamitra.org

โถ...จะไปปฏิเสธหลวงพ่อธัมมชโยได้อย่างไร ว่าผมเรียนแต่วิชา เลี้ยงควายมา ไม่ได้เรียนวิชาเลขานุการ มันปฏิเสธไม่ได้ ท่านให้งาน อะไรก็เอางานนั้น มาห้ดให้เป็นให้!ด้ อย่าไปหนีมัน เพราะปัญญามันจะ มาพร้อมๆ กับงาน วิริยบารมี วิรียบารมีก็เช่นกัน วิริยะ มาจากคำว่า วิระ วีระ แปลว่า กล้า จำ เอาไว้ นักสร้างบารมีที่แท้จริง คือคนกล้า กล้าอะไร กล้าทีจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข กล้าทีจะสร้างงานใหม่ กล้าจะทวนกระแสแม้ของคนทั้งโลก หากว่าการกระทำของเราลูกต้อง ตามคำสอนของพระล้มมาล้ม*^ทธเจ้า เพราะหมู่คณะของเราอาสัย ความกล้าเหล่านี้แหละ จึงได้เกิดวัดพระธรรมกายขึ้^tมา เมื่อพวกเรามาอยู่วัดวันแรก หลวงพ่อใฟ้.ห้ท่าอะไร ก็เห็นตั้งใจทำ หมดทั้งนั้น ขอให้หลวงพ่อบอกมาเถอะ แต่พอเริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลง โยกย้าย สับเปลี่ยนหน้าที่กัน บางครั้งพวกเราก็ชักจะเริ่มขยาด ไม่รู้ว่า ความกล้าคิด กล้าเปลี่ยนแปลง กล้าสร้างงาน ที่เคยมีมาแต่เดิมหายไป ไหนหมด เรายิ่งอยู่วัดนานขื้น ก็ยิ่งต้องเพิ่มความกล้าเปลี่ยนแปลงในทางที่ ดี เพราะครามกล้าฟลี่ยนแปลงแ ]นรากเหง้าของวิริยบารมี ถ้าใครกสัว การเปลี่ยนแปลง แล้วจะสร้างวิริยบารมีไปตลอดรอดฝังได้อย่างไร สร้าง!ทรมีอช่■พไรใฟ้เ'เาวพ่เา ๑ฅ® นดํ...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

จำ ไว้นะลูก เพราะเจ้าชายสิทธัตถะกล้าเปลี่ยนแปลง กล้าทวนกระแส โลก เราถึงได้มีพระสัมมาล้มพุทธเจ้าไว้กราบจนกระทั่งทุกวันนี้ ขันติบารมี เรื่องขันติบารมี หลวงพ่อได้พูดไปมากแล้ว ขันติชั้นอนุบาล คือ อดทนต่อแดด ต่อลม ต่อฝน ความอดทนระดับนี้ ก็เห็นพวกเราสู้กันดี ขันติชั้นประถม คืออดทนต่อทุกขเวทนา เจ็บไข!ด้ปวย ถ้างานไม่เสร็จก็ ต้องคลานไปทำกัน ความอดทนระดับนี้พวกเราไม่มีที่ติ แล้วที่สำคัญ คือ ความอดทนต่อการกระทบกระทั่ง พูดง่ายๆ คืออดทนคน อย่าให้เป็นอย่างที่คนโบราณพูดไว้ว่า พร้อมจะเป็นมิตร กับคนทั้งโลก ยกเร้นคนที่อยู่บ้านติดกัน เมื่อเป็นเด็ก หลวงพ่อเคยเห็นพวกเช่าบ้านห้องแถวฝาไม้อยู่ ถ้า บ้านใดจะแขวนรูปไว้กับข้างฝา เขาก็ตอกตะยู่ลงไปที่ข้างฝานั้น แล้วเอา รูปไปแขวน ถ้าบังเอิญปลายตะยู่โผล่ไปทางข้างฝาอีกบ้านหนึ่ง ข้างฝ่าย โน้นพอเห็นปลายตะยู่โผล่ออกมา พ่อคว้าค้อนมาตอกเปรี้ยงกลับไป รูปของฝ่ายแรกก็เลยตก แตกเพลัง ! ไปฟ้องตำรวจ จะให้ตำรวจจับ คนตอกตะยู่กลับ โทษฐานทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น ตำ รวจก็จะบ้าตาย เพราะฝ่ายข้างโน้นก็สวนทันควัน ใครจะไปรู้ว่า มีรูปไม่มีรูป แต่ว่าตะยู่ของเอ็งโผล่แหลมเข้ามาในบ้านข้า ข้าก็ต้องรักษา สิทธของตัวเอง ตอกปลายตะยู่กลับไป ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวข้างฝาบ้านข้า ก็จะมีแต่ปลายตะยู่เต็มไปหมด นด่...นก97างบารมี €D QC1C5 สTางบ■ทม็อย่างไรใฟ้ก้าวทน้•เ www.kalyanamitra.org

ความเกของคนที่อยู่บ้านร่วมฝาเดียวกัน แด่คนละด้านกันก็เลย หมดไป มีแด่ความอาผาดแค้นเข้ามาแทน เวลากวาดขยะในบ้านก็เช่นเดียวกัน เด็กๆ บางคนก็กองขยะทิง ไว้ตรงรอยต่อระหว่างบ้าน ไม้รีบใส่ถังขยะ พอลมพัดมา ขยะก็ปลิวเข้า บ้านติดกันบ้าง เข้าบ้านตัวเองบ้าง ^หญ่ที'ขาดความอดทน ก็จะ ทะเลาะกัน เพราะความสะเพร่าของเด็ก เราอยู่ด้วยกัน ล้าไม่มีความอดทนต่อการกระทบกระทั่งกัน ผล ตางๆ รวมกน ลูกไปพิจารณาตัวเองให้ดี ถ้าใครมีอาการอย่างที่หลวงพ่อว่ามาละ ก็ แสดงว่าขันติบารมีของเราน่ะ นับวันจะลดน้อยถอยลงแล้ว ไม้ได้ เพิ่มพูนขื้นหรอก สุดท้าย คือ สุดยอดของความอดทน คือความอดทนต่อความ ยั่วเย้าเย้ายวน พูดอย่างนี้ พวกเราอาจยังมองไม้ออก เพราะว่าเราพ้น จากเรื่องเย้ายวนทางโลกมาแล้ว ความอดทนในระดับนี้ของชาววัดก็คือ อดทนต'อการ ตะเกียกตะกาย อยากหาความสะดวกสบายเกีนเหตุในการทำงาน นั่นเอง ไม้ว่าจะไปทำงานตรงไหน อย่าตะเกียกตะกายหาความสะดวก สบายเพิ่มฃื้นไม้รู้จบ ส71งบทรอย่างไาใฟ้เา\"ททพ ancr นด่...นักสร้างบารมี 0 www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะรู้ว่าขันติบารมีของเรา มีมากน้อยแค่ไหน ก็สังเกตดู ครั้งใดที่นึกอยากได้ห้องแอร์ อยากได้รถยนต์ อยากได้ ความสะดวกสบายต่างๆ โดยไม่จำเป็นละก็ ฟ้องว่าขันติบารมีของเรา หดลงแล้ว ต้องรีบนั่งสมาธิมากๆ แล้วพิจารณาว่า มันจำเป็นจริงๆ หรีอ เปล่า ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ไม่ว่ากระไรหรอกtเะ หริอครั้งไหนรู้สึกรำคาญ เพื่อนที่อยู่กุฏิหลังเดียวกัน เพื่อนที่ทำงานสำนักเดียวกัน แสดงว่าขันติ บารมีหดลงแล้วนะลูกนะ ริบพิจารณาแกไขตัวเองเร็วๆ สัจจบารมี สัจจบารมี คืออย่างไร ? ถ้าจะให้ง่ายก็ต้องบอกว่า \"พูดอย่างไร ต้องทำอย่างนั้น ทำ อย่างไร ต้องพูดอย่างนั้น\" รวมไปจนถึงไม่ยอมทำ งานสะเพร่าๆ แบบชุ่ยล่ง ถ้าลงมือทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ดีสุดฝืมีอ ในการทำงานเป็นทีม สิงที่ต้องระมัดระวังกัน ให้มากก็คือ หาก รับปากพรรคพวกเพื่อนยู่งว่าจะทำอะไรแล้ว ถึงเวลาต้องทำให้ได้อย่างที่ พูด มิฉะนั้น ความไว้เนื้อเชื่อใจในหมู่พวกเรากันเองจะหมดไป แล้วจะ ทำ ให้หมู่คณะรวนหมด เพราะคราวหน้านอกจากหงุดหงิดกันแล้ว ยัง จะระแวงกันอีกด้วย ให้นกเสมอว่า แค่เราไม่รักษาสัจจรเอาไว้ให้ดี แม้เพียงครั้งเดียร รันหลังจะรรนหมดทั้งวัด เพราะฉะนั้น ใครรับงานอะไรจากหมู่คณะไป แล้ว ถ้าหากรู้ตัวว่าไม่ไหว มีแนวโน้มจะทำไม่ได้ตามที่สัญญา ต้องริบ แจ้งให้หมู่คณะทราบล่วงหน้า จะได้หาทางช่วยกันแกั!ขให้ทันท่วงที นฅ่...นกลร้างนารมี G) ocKSr สร้างบฑมีอย่างไรใฟ้ก้าวทนา www.kalyanamitra.org

อธิษฐานบารมี อธิษฐานบารมีก็คีอ การรางแผนขันตอนการหำงานอย่างรเดเจน รัดกม แล้วหำให้ได้ตามแผนการทีวางเอาไว้นัน ทังดีและทันตามที กำ หนดไว้ทุกประการ และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ก็ต้องทำให้เสร็จก่อน กำ หนด และต้องดีด้วย เช่น กำ หนดเวลา ๗ วัน ก็พยายามทำให้เสร็จ เร็วกว่านั้น ลดเวลาทำงานให้เหลือครึ่งหนึ่ง หากให้เวลาไว้หนึ่งชั่วโมง ก็ ต้องพยายามให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมง ยิ่งเวลาลดลงมากเข้านั่นแหละ อธิษฐานจึงจะขลัง พระลัมมาลัมพุทธเจ้าของเรา ใครไปทำบุญกับท่าน ไม่เกิน ๗ วัน ผลบุญปรากฎทันตาเห็น ถ้าตั้งใจจริงๆ เห็นผลบุญเกิดขึ้นในวันนัน ทันทีเลย ชนิดฝนเงินฝนทอง ฝนเพชรฝนพลอยตกลงมากลางอากาศ ต่อหน้าต่อตา นั่นก็เพราะอธิษฐานบารมีของท่านในอดีตชาติ ที่ทำ ไว้ดี เหลือเกิน ไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติที่ผ่านมา หากตั้งโครงการอะไรไว้แล้ว ท่าน ต้องทำได้สำเร็จทุกขั้นตอน แล้วก็ทำเสร็จเร็วกว่ากำหนดทุกครังไป คนอื่นคิดแล้วทำ กว่าจะเสร็จก็อีกปีหนึ่ง แต่พระพุทธองค์ท่าน คิดใ]บ เสร็จออกมาปับเลย นั่นเพราะอธิใสํฐานบารมีที่สืกมาดีแล้วของท่าน เพราะฉะนั้น ใครได้รับงานอะไรมา ก็ตั้งใจทำให้ดีและให้เร็วนะ ลูก ไม่ใช่รอไปทำเมื่อจะถึงวินาทีสุดท้าย กลายเป็นว่าไม่ว่างานชินใด ต้องเสร็จแบบไฟลนก้นทุกทีไป ศร้างบารมีอย่างไรใฟ้ก้•ทพ!!า ๑ฅไอ นด่...นักสร้างบารเ] © www.kalyanamitra.org

เมตตาบารมี วิธีวัดฒตตาบารมีของเราง่ายๆ คือ สังเกตดูตัวเอง ถ้าเห็นพรรค พวกคนไหนทำผิด แล้วเราอยากเตือนเขาไหม ถ้ายังอยากเตือนแล้ว รีบเข้าไปเตือน โดยไม่เกรงว่า เขาจะเป็นเด็ก หรือเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา ยังมีนำใจรักอยากเข้าไปเตือน แสดงว่าเมตตายังมีอยู่ แต่ว่าพอเห็นใครทำอะไรไม่ถูก ทำ เสียๆ หายๆ แล้วเรากลับคิด ว่าช่างหัวมัน ไม่ใช่หน้าที่ของข้า อย่างนี้ฌตตาไม่มีหรอก หายหดหมด แล้ว สุดยอดของความเมตตา คือ การกถ้าตักเตือน แมัรู้ล่วงหน้าว่า เขาจะโกรธถ้าถูกเตือน คนไหนที่ไม่เตือนพรรคพวกเพี่อนผู้ง พวก'^' น่าให้อยู่วัดพระธรรมกาย เพราะว่าคนประ๓ทนี้อยู่ร่วมกันจนตาย ก็ ไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรจากเขา อุเบกขาบารมี อุเบกขาบารมี ก็คือการมองให้เห็นว่า ส่วนรวมขาดอะไรตรงไหน หรือเกินอะไรตรงไหน แล้วพยายามจัดสรรปีนส่วน แปงความสะดวก ความสบายทังหสายให้เสมอหน้ากัน นั่นคืออุผกขาบารมีของเรา ไม่ เอียงเข้าข้างตนเอง ไม่เอียงเข้าข้างคนอื่น ให้ความเสมอหน้ากัน นฅ่...นกลร้างนารนี ๑ สร้างบารมอย่างไโใฟ้ก้าวทน้า www.kalyanamitra.org

ตรงนี้สำคัญนะลูก ถ้าใครมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เริ่มสร้างวัด จะเห็นเริ่อง นี้ของหลวงพ่อชัด เซ่น ห้องสมุดของหลวงพ่อ แต่เดิมนั้นอยู่ที่อาคาร ดาวดึงส์ ต่อมาถึงคราวมีงานใหญ่ เห็นหลวงพี่สุวิชชาโภ^ แผนก เหรัญญิกที่ท่านดูแลอยู่ไม่มีที่จะทำงาน ครันท่านจะเอ่ยปากขอกับ หลวงพ่อ ท่านก็เกรงใจ วันหนึ่งหลวงพ่อเข้าไปเห็นโดยบังเอิญ ว่าท่านกับคณะทำงานไม่ สะดวก ก็ถามท่านว่า \"จะเอาไหมหลังนี้\" ท่านก็บอก \"เอาครับ\" ถ้าอย่างนั้นเอาไปเลย หลวงพ่อก็ขนหนังสือทังหมด มาไวัทีห้อง เล็กๆ ข้างโรงไพ่ฟ้า ย้ายห้องสมุดไปตังไว้ตรงนัน ใครจะค้นอะไร ก็มา ค้นเอาก็แล้วกัน หลวงพ่อย้ายให้เลย ไม่ต้องรอให้ใครเอ่ยปาก แม้ตัว เองจะไม่ค่อยสะดวกก็ยอม เพราะเห็นแก่ส่วนรวม ต่อมาสร้างอาคารยู่โรหิตาเสร็จ มีพื้นที่กว้างลักหน่อย หลวงพ่อก็ กันพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้ทำเป็นห้องสมุด ทุกคนจะไดึใช้ แต่ไม่นาน เนื่องจากขณะนั้นจำนวนอุบาสกที่อยู่ประจำในวัดเริ่มมากขึ้น ก็เกรงว่าที่ พักที่นอนจะไม่สะดวก อย่ากระนั้นเลย ให้ลูกอยู่ก็แล้วกัน พ่อไปละ ว่า แล้วก็ขนหนังสือกลับมาไว้ที่ห้องข้างโรงไพ่ฟ้าตามเดิม ° ที่ปรึกษาอาๅโส ผู้บริหารรุ่นบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย และเป็นหยู่คณะรุ่นแรกดั้งแต่ สมัยบ้านธรรมประสิทธํ่ วัดปากนํ้า ภาษีพริญ สร้างไภรม็อย่างไรใท้ก้ฑทน้า aoG แด่...างักสร้างบารมี <ร่) www.kalyanamitra.org

ต่อมาเขาบ่นว่าไม่มีที่จะเก็บเสือ หลวงพ่อก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้น ก็เอามาไว้ในห้องสมุดของหลวงพ่อก็แล้วกัน ว่าแล้วก็ขนหนังสือไปไว้ที่ กุฏิตัวเอง เล่นเอาหลวงพ่อแทบจะไม่มีที่นอนเหมือนกัน แต่ก็ทนกันไป อยู่ต่อๆ มา อาคารปุโรหิตาว่าง หลวงพ่อก็เลยขนหนังสือไปไว้ ทำ เป็นห้องสมุด แล้วก็เชิญให้ทุกคนไปใช้ ต่อมาหนังสือเริ่มมากขึ้น คนมาใช้ก็มากขึ้น หลวงพ่อก็เลยไปใช้ ห้องประชุมใหญ่อาคารมหาพรหม คราวนี้สบายเลย จะค้นคว้า จะนอน เอกเขนกอ่านก็ได้ วันหนึ่งก็เห็นท่านสุว้ชชาโกกับทีมงานเหรัญญิกกำลังนั่งนับปัจจัย ทำ บุญอยู่ นั่งกันแน่นแทบไม่มืที่จะเดินในอาคารดาวดึงส์ ก็ถามว่า ''สุวัชซาโก ไม่แน่นไปเรอะ\" ''แน่นครับ\" \"เอาที่ห้องสมุดไหม ?\" \"เอาครับ\" \"เอาก็เอาสิ\" ว่าแล้วหลวงพ่อก็ย้ายห้องสมุดมาไว้ตรงที่ปัจจุบันนี้ ไม่ต้องรอให้ ใครขอ ไม'ต้องรอให้[ครไล่ นฅํ...นกสร้างบารมี Q OCTOC สร้าง!ภรม3£ก่งไรใท้ก้TwiJl www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น ถ้าใครอยากได้อะไรก็มาคุยกับหลวงพ่อ ถ้าสมเหคุ สมผลจำเป็นจะต้องใช้งานแล้ว มาเลยไม่ต้องเกรงใจ เดียวหลวงพ่อ ย้ายไปอยู่แถวๆ ท้ายวัดก็ได้ ขอให้รู้ว่าสิงทีหลวงพ่อมีอยู่แล้ว มันเกิด ประโยชน์สูงสุดกับหมู่คณะละก็ บอกมาเลย จะยกให้ ไม่เอาอะไรไว้ หรอก แม้สมบัติที่พ่อแม่ยกให้ ยังทิ้งมาได้ แล้วจะมาหวงอะไรกันอีก เมื่อตั้งใจว่าเกิดมาสร้างบารมีแล้ว ตรงไหนที่จะทำให้ทุกคนสร้างบารมี ได้เต็มที่ เป็นประโยชน์!ด้เต็มที่ เอาเช้าไปเลย ไม่ต้องมาเกรงใจ ไม่ต้อง มาหวงกัน นี่ละอุเบกขาบารมี มันถึงจะเกิด...ลูกเอ๊ย เราต้องหัดมองหาประโยชน์สูงสุดชองฬมู่คผะให้เจอ แล้วใคร สามารถใช้ประโยชน์สูงสุด ตรงที่เรามีอยู่ได้ เอาไปเลย เราจะลำบาก ลำ บนสักหน่อย ก็คงไม่ถึงตาย อย่างนีอุเบกขาบารมีจึงจะเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ภาพการสร้างบารมีในการมาอยู่รวมกันในวัดนี้ ขอให้ทุกๆ คนมองใหม่ แล้วก็มองให้ชัด ไม่อย่างนัน การมาอยู่วัดของ เราจะเป็นหมัน ไม่ได้บุญไม่ได้บารมีอย่างที่เราคิด ใครที่ยิ่งอยู่วัดนาน ยิ่งรู้สีกว่าข้อแม้มากขึ้นทุกวัน ให้รู้ตัวไว้นะ หากมีข้อแม้มากขึ้นเท่าไร บารมีก็หดลงไปเท่านั้น ให้จำคำนี้!ว้ \"อย่าไต้มีข้อแม้เป็นอันขาด\" ข้อคิดทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ไว้เป็นของขวัญแก่ลูกๆ ทุกคน เนืองใน โอกาสวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อในครั้งนี้ สฑ้งบารมีอย่างไรใท้ฌ้พน้า ©sro แด่...ฟักสร้ฬบารมี © www.kalyanamitra.org

ด้วยอำนาจบุญกุศลที่พวกเราตั้งใจมากราบหลวงพ่อ มาตั้ง ปณิธานที่จะสร้างบารมีให้ตลอดรอดฝัง ในวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อนี้ ได้นำดอกไม้มาเป็นเครื่องสักการะ นำ ความปรารถนาดี อยากจะให้ หลวงฟอมีอายุยีนยาว สุขภาพพลานามัยแข็งแรง ให้อยู่สร้างบารมีร่วม กับพวกเราไปนานๆ ขออำนาจความปรารถนาดีที่ลูกๆ ทุกคนมีต่อหลวงพ่อ จะบังเกิด เป็นบุญมากมายมหาศาลเพียงไหน ขอให้บุญนั้นจงทับทวีนับอสงไขย ไม่ถ้วน ย้อนกลับไปสนองตอบพวกเรา ไห้มีความสุขกายสุขไจ ยิ่งๆ ขึ้นไปเพียงนั้น และด้วยอำนาจบารมีธรรมที่หลวงพ่อได้สละชีวิตเป็นเดิมพัน อุทิศตนมาสร้างบารมีไนพระพุทธศาสนานี้ โดยไม่มีจิตไจหวั่นไหว ท้อถอยแต่อย่างได แม้จะต้องประสบอุปสรรคแทบเลือดตากระเด็นมา เพียงไดก็ตาม ขอไห้อำนาจแห่งบุญกุศลที่หลวงพ่อได้สร้างมาดีแล้วนี้ จงคุ้ม ครองลูกๆ ทุกคน ไห้มีแต่ความอาจหาญร่าเริงที่จะสร้างบารมีไห้ยิ่งๆ ขึ้นไป ไห้ทุกคนเป็นผู้ที่มีสติ มีความพีนิจพิจารณารอบคอบ มีปัญญา กว้างไกล สว่างไสวทั้งทางโลกทางธรรม สามารถเข้าถึงพระธรรมกาย โดยง่าย บำเพ็ญบารมีได้ตลอดรอดฝัง ตรัสรู้ธรรมไปตามลำดับๆ สามารถทำวิชชาที่ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไป ตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อ วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ (สด จนฺทสโร) ตามหลวงพ่อธัมมชโย และ คุณยายอาจารย์ไปได้โดยง่าย ทุกวาระจิต จนกระทั่งปราบมารประหาร กิเลสได้สินเชื้อไม่เหลือเศษ เข้าส่นิพพานโดยถ้วนหน้ากัน เทอญฯ นค่...นักสเางบารมี ๑ Off® ลาพทมีอย่างไ1ใท้ก้ฑทน้า www.kalyanamitra.org

พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตซโว) • ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย President of Dhammakaya Intemationฟ Society of North America and Europe รองหัวหน้าพระธรรมทูต สาย ฟิ • เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๙๘๓ • สำ เร็จการสืกษาด้านกสิกรรมและสัตวบาลบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และ Diploma of Dairy Technology จาก Hawkesbury College. Australia • อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาศม พ.ศ. ๒๕๑๔ ณ พัทธสีมาวัดปากนํ้า เฃตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร โดยมี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ในขณะดำรงสมณด้กด ที่พระเทพวรเวที เป็นพระอุปัชฌาย์ นรทัรทรพฟอ ©cr® แต่...ไร'กสร้างบา'!ร ๑ www.kalyanamitra.org