Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แด่...นักสร้างบารมี เล่ม ๔

แด่...นักสร้างบารมี เล่ม ๔

Description: แด่...นักสร้างบารมี เล่ม ๔

Search

Read the Text Version

๑) แยกให้ออกว่าการทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ทำงานเป็นกลุ่ม การ ทำ งานเป็นทีม คือการรวบรวมคนหลาย ๆ กลุ่มมาทำงานร่วมกันจน ประสบความสำเร็จ ๒) การทำงานเป็นทีม ต้องมีกฎเกณฑ์คัดกรองคนเข้าส่หมู่ • ^ ^ \\t St ^ เป็นทีม กลอุทธ็ไนการบริหารงาน ต้องกำหนดตำแหน่งเฉพาะ ให้ชัดเจน เรื่องของกลยุทธ์ในการบริหารงาน ถ้าใครเคยเล่นหมากรุกจะเห็น ว่า มีการวางนํ้าหนักการเดินทัพของหมากแต่ละตัวไว้แตกต่างกันขุน เรีอ ม้า เบี้ยโคน แต่ละตัวนี้มีสิทธื้ มีหน้าที่ มีอำ นาจในการเดินแตกต่างกันไป เดินตรงจุดนั้นได้ เดินตรงจุดนั้!ม่ได้ การบริหารงานของวัดก็เช่นกัน เมื่อเริ่มสร้างวัด หลวงพ่อได้ถูก วางตัวเหมีอนอย่างกับการเล่นหมากรุก หรีอเหมือนอย่างกับการเล่น ฟุตบอล คือในการติดต่อประสานงานนั้น หลวงพ่อถูกวางตำแหน่งไว้ เหมือนเป็นกองหน้า (Striker) มีภาระหน้าที่อะไรก็รับเอาไว้หมด ร้บทั้ง เรื่องผิดชอบชั่วดี รับไว้แล้วก็เคลียร์จัดการเองทั้งหมด แส่...นกสร้างบารมี Ce so งานสร้างบารมีสำพํจได้ด้วยก•ทท่พนฟ็นท็ม www.kalyanamitra.org

พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยมีตำแหน่งเป็นเหมือนกองกลาง และกองหลัง {Midfielder & Defender) อยู่ตรงกลางสนาม ทำ หน้าที่ แจกลูกแจกงานออกไป งานอะไรที่หลวงพ่อรับไม่อยู่ เดี๋ยวท่านรับเอา ไว้เอง แล้วก็แก้ไขปรับปรุงให้ดีฃึ้น แล้วก็ส่งลูกมากองหน้าให้หลวงพ่อ จัดการต่อไป คุณยายท่านมีตำแหน่งเป็นเหมือนนายประตู (Goalkeeper) คีอ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ต้องหยุดตรงนั้นให้ได้ ยิ่งกว่านั้นไม่ได้ แล้วท่านก็หยุดปัญหาให้ทุกเรื่องทุกราว ไม่เคยผิดพลาด แม้ท่านจะเป็น ผู้หญิง เป็นอุบาสิกา เป็นผู้เฒ่า แต่อะไรที่จะเป็นผลร้ายต่อหมู่คณะ อะไร ที่จะเป็นอุปสรรคขัดขวางการสร้างบุญบารมี คุณยายจะหยุดปัญหา เหล่านั้นให้ทั้งหมด เพราะฉะนั้น หลวงพ่อและหลวงพ่อธัมมชโยก็สามารถทำงาน กันได้ชนิดที่เรียกว่า เต็มกำลัง เต็มสติปัญญาความรู้ความสามารถ โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ถ้าหลุดจากหลวงพ่อไป ก็ยังมีหลวงพ่อ ธัมมชโย มีคุณยายท่านแก1ขจัดการให้เรียบร้อย เพราะท่านสืกตัวของ ท่านมาดีแล้ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากนํ้าได้สืกคุณยายขึ้นมาไว้รองรับ งานแก้ไขปัญหาตั้งแต่ในยุคของท่านแล้ว จากพื้นฐานที่คุณยายวางไว้ ให้ตรงนี้ทำให้วัดพระธรรมกายของเราก้าวหน้ามาตามลำดับ ๆ โดยไม่ ผิดพลาด และไม'ว่าวัดพระธรรมกายจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม เราไม่ เคยหวั่นไหว เราก็เดินหน้าทำงานของเราต่อไป งานสร้!งยารมีสำเร็จได้ด้วยการทำงานเป็นทิม (re\" แด่...นักสร้างบารมี Ce www.kalyanamitra.org

ถามว่าเราผ่านวิกฤตการณ์ต่าง ๆ มาได้อย่างไร ? เรื่องนี้ต้องบอกว่า เป็นอัจฉริยภาพของคุณยาย ต้องยกให้ท่าน เลย ถ้าพวกเรานึกถึงพระคุณของหลวงพ่อที่ช่วยอบรมบ่มนิสัยมาล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องมากราบหลวงพ่อ ไปกราบคุณยายเถอะ เพราะความรู้และ ประสบการณ์ที่นำมาสอนพวกเราทั้งหมดนี้หลวงพ่อได้มาจากคุณยาย เมื่อตอนก่อนบวชหลวงพ่อธัมมชโยเป็นผู้พาหลวงพ่อมาพบ คุณยาย แต่ก่อนจะพามาพบนั้น หลวงพ่อธัมมชโยได้แกไขปรับบ่รุง ทั้งความประพฤติ ทั้งกิริยามารยาท ทั้งทัศนคติของหลวงพ่ออยู่เกือบ ๓ เดือน เมื่อเห็นว่าพอจะหมดเชื้อดื้อแล้ว ท่านจึงนำตัวไปพบคุณยาย เมื่อตอนนำตัวไปพบคุณยายนั้น หลวงพ่อยังมีความรู้สีกว่า หลวงพ่อธัมมชโยเป็นน้องเรา ไมใช่อาจารย์เราหรอก ไมใช่เพื่อนเราด้วย แต่เป็นน้องเรา แล้วหลวงพ่อธัมมชโยก็บอกคุณยายว่า ''ยาย พาพื่เขามา เป็นลูกศิษย์ยาย\" คุณยายก็ยิ้ม ๆ ไม่พูดอะไร ถึงเวลานั่งสมาธิ ถึงเวลาอบรมต่าง ๆ หลวงพ่อธัมมชโยก็จะพาหลวงพ่อไปรับการอบรมจากคุณยายโดยตรง แต่ว่าคุณยายไม่ได้ทำอย่างนั้นหรอก ถ้าเป็นเรื่องพื้น ๆ คุณยายจะพูด อบรมพร้อม ๆ กัน เหมือนอย่างกับหลวงพ่อกับหลวงพ่อธัมมชโยนี่ เท่า ๆ กัน แต่เมื่อถึงคราวจะสอนธรรมะละเอียดไห้นั้น คุณยายท่านวาง ดำ แห'น่งฬน้าที่ฬเพาะ คือมอบหมายให้หลวงพ่อธัมมธโยเแนผู้สอน แด่...iinสร้างบารมี Ce (ร:๕ งานสร้างบารมีสำเร็จได้ด้วยการทำงานเป็นทีม www.kalyanamitra.org

ทีแรกหลวงพ่อไม่รู้ตัวยังถือว่า \"นี่น้องเรา\" ต่อมาเริ่มรู้สืกตัวนิด ๆ แต่ก็ยังถือว่า นี่เพื่อนเรา\" ผ่านมาเถือบปีจึงเกิดความรู้สึกว่า \"นี่อาจารย์เรา\" ดูให้ดี'ICลูก ตรงนี้สำคัญ คุณยายเป็นอาจารย์หลวงพ่อด้วย เป็น อาจารย์หลวงพ่อธัมมชโยด้วย ส่วนหลวงพ่อไม่ใช่พื่ ไม่ใช่เพื่อนของ หลวงพ่อธัมมชโย แต่เป็นลูกดีษย์ของหลวงพ่อธัมมชโย คุณยายวางตำแหน่งหน้าที่เฉพาะไว้เรียบร้อย 'ทำให้หลวงพ่อ เกิดความรู้สึกว่า หลวงพ่อธัมมชโยเป็นอาจารย์ของเราตั้งแต่ท่าน ยังไม่ได้บวช เพราะฉะนั้น เมื่อท่านบวชแล้ว ความรู้สึกว่า ท่านคีออาจารย์ของ หลวงพ่อ ยิ่งเกิดความสึกซึ้งขึ้นไป หน้กแน่นมั่นคงขึ้นไป และต่อมาเมื่อ หลวงพ่อได้มาบวชอีก ก็อยูในการอบรมดูแลของหลวงพ่อธัมมชโยชํ้าลง ไปอีก ความเป็นคัษย์ความเป็นอาจารย์จึงลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก ทำ ไมจึงต้องมา'พูดเริ่องนี้ เพราะว่าตามธรรมดาแล้ว หมู่คณะไหน ๆ ก็ตาม เมื่อทำงานกันไปนาน ๆ แล้ว อดที่จะกระทบกระทั่งกันไม'ได้ แต่เมื่อกระทบกันแล้ว ก็เป็นเริ่องลูกดีษย์กับอาจารย์ ซึ่งลูกดีษย์จะต้อง มีความเคารพเทิดทูนกันไว้เหนือหัว จึงเป็นการกระทบที่ไม่มีผลแห่ง ความเจ็บชํ้าใด ๆ มีแต่ว่าจะช่วยกันปรับปรงแก้ไขให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะฉะนะ้น คุณความด7ีตรงนiิ ความม'ันคงของว1ัดพระธรรมกายตรงนIิ เ1ป็น เพราะคุณยายวางหมากไว้ตั้งแต่ก่อนสร้างวัดนั่นเอง งานสฑ้งบารมีสำเร็จได้ฟ้วยการทำงานเป็นทม ราอ นต่...นกสร้างบารมึ Ce www.kalyanamitra.org

ต่อจากนั้น เมื่อพวกเราเข้ามา^หยู่คณะ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโยจะวางตำแหน่งหน้าที่เฉพาะไว้ว่า ผู้ที่เข้ามาฟ็นสมาชิกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกาต้องมาผ่านการสืกจาก หลวงพ่อทัตตชีโวก่อน ให้ฝึกหัดได้ดีในระดับหนึ่งแล้วจึงค่อยส่งไป ถึงท่าน มีการกรองกันเป็นชั้น ๆ อย่างนี้ ณ วันนี้ หลวงพ่อและหลวงพ่อธัมมชโยได้พยายามสร้างรุ่น หลวงพี่ของพวกเรา เพี่อให้มาเป็นครูบาอาจารย์ของพวกเราตามลำดับ ชั้นตอนกันอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าต้องการจะสร้างระบบดักดินาอะไรทั้งสิน แต่ต้องการจะสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ และนึ่คีอการฝึก ความเคารพแบบชนิดหยั่งรากลึกในคุณธรรมให้เกิดขึ้นกับพวกเรา พระสัมมาส้มพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ชัดเจนว่า สิงใดก็ทำลายพระพุทธ ศาสนาไม่ได้ ไม่ว่าดิน นํ้า ลม ไพ่ แผ่นดินไหว ภูเขาไพ่ระเบิด พายุ กระหนํ่า ระเบิดนิวเคลียร์ แต่พระพุทธศาสนาจะถูกทำลายด้วยตัวของ ตัวเอง คีอภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาขาดความเคารพ ตั้งแต่ขาด ความเคารพในพระพุทธ ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในการดีกษา ในการ ทำ สมาธิ แต่ถ้าตราบใดพุทธบริษัททั้ง ๔ยังมีความเคารพอยู่แบบหยั่งราก ฝังลึกในจิตใจ พระพุทธศาสนาจะไม่มีทางตกตํ่าอย่างแน่นอน\" ® กิมพิลสูตร, องฺ.ปฌฺจก. ๓๖/๒๐๑/๔๔๖-๔๔๗ (มมร.) นด่...นกสร้างบารมี Ck ๔๗ งานสร้างบา'5มิส่าทจได้ด้วยก-ททำง■ทนป็นทีม www.kalyanamitra.org

ณ วันนี้ พวกเราก็เห็นด้วยตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะมีข่าวโจมตี ให้ร้ายวัดพระธรรมกายอย่างไร เราไม่ได้สะดุ้งสะเทือนในคำนินทาว่าร้าย ต่าง ๆ เพราะเราไม่เคยมีความหวาดระแวงในความบริสุทธื้กาย วาจา ไจ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของพวกเรา ทั้งหมดนี้ คือกลยุทธ์ในการปลูกฝังความเคารพภายในหมู่คณะที่ คุณยายทำรากฐานไว้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งถ้าไม่นำมาพูดในที่นี้ ต่อไปข้างหน้า คงไม่มีใครจะทราบความจริงเรื่องนี้ แล้วก็จะปลูกฝังเรื่องความเคารพใน หมู่คณะไม่เป็น จึงขอฝากไว้ในที่นี้ด้วย ในวาระวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อครั้งนี้ ก็ขอให้ข้อคิดทั้ง ๖ ประการนี้ เป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิด มอบให้แก่พวกเราทุกรูปทุกคน และหวังว่าพวกเราจะได้นำไปคิด นำ ไปตรอง นำ ไปพิจารณาให้ลึกซึ้ง แล้วไปถือเป็นต้นแบบประพฤติปฏิบัติให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อความเจริญ งอกงาม และความมั่นคงในการสร้ไงบารมีของพวกเราทุกรูปทุกคนสิบไป หลวงพ่อขออาราธนาบารมีธรรมแห่งพระต้นธาตุต้นธรรม ทั้งหลาย บารมีธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากนํ้า บารมีธรรม ของหลวงพ่อธัมมชโย บารมีธรรมของคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกา จันทร์ ขนนกยูง บารมีธรรมของพวกเราทุกรูปทุกคนที่ได้ร่วมทุ่มเท ถวายชีวิตสร้างวัดพระธรรมกายด้วยกันมา ได้สร้างบุญบารมีร่วมกันมา ในอดีตชาตินับอสงไขยภพ อสงไขยชาติไม่ถ้วน จงประมวลรวมกันให้ เป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย เป็นกำลังขวัญกำลังใจ ให้พวกเราได้สามารถ ง7นสร้างบrjมีสำเร็จได้ด้วยๆT5ทำงาmรนทิม GTCT นด่...นิ'ถส'รางบารมี Ce www.kalyanamitra.org

สร้างบุญสร้างบารมีได้เต็มที่ เต็มอิ่ม เต็มใจ มีความฉลาดหลักแหลม ลึกซึ้งในการสร้างบารมี โดยอย่างน้อยไห1ด้เท่ากับคุณยายอาจารย์ใป ทุกภพทุกชาติ ตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม เทอญ ฯ นค่...นักสร้างบารฟึ Cs <i(K งาน371งบารมีส์าเร็จได้ด้วยการทำงานเรพ{พ www.kalyanamitra.org

r www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org ♦V f •Kr-' ;,::<&» ;V<^: f.d 1 /-^.rir f ' โ' •i' *>- .ร»- ร IT' ร *^ -/ V- \\.^ฯ>^ i:■- J /'%p -''•#^t»i • Jrti

พุทธวิธีต่อสู้กับ^ฝหวังดี ต่อพระพทธศาสนา โอวาทพระเดชพระคุณพระราชภาวนาจไรย์ วิ. (เผด็จ ทตฺตซีโว) ในวาระวันคล้ายวันเกิด วันอังคารที่ ๒๑ ธ้นวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒ เจริญพรลูก ๆ ของหลวงพ่อทุกรูปทุกคนขอขอบใจทุก ๆ คนที่มา ให้กำลังใจ และมามุทิตาวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อ เมื่อมาแล้วก็อยาก จะฝากข้อคิดบางอย่างเอาไว้ เพี่อต่อไปข้างหน้าไม่ว่าเหตุการณ์ใด ๆ จะ เกิดฃึ้นดีก็ตามร้ายก็ตามกับวัด กับพระรูปหนึ่งรูปใด หรือแม้พระพุทธ ศาสนาก็ตามที ข้อคิดเหล่านี้จะช่วยให้พวกเราสามารถสร้างบารมีได้โดย ไม่หยุดยั้ง www.kalyanamitra.org

ไม่ตัดสินป้ญหาด้วยวิธีการรุนแรง หลวงพ่ออยากจะเท้าความให้พวกเราได้เห็นว่า ตั้งแต่พระพุทธ ศาสนาบังเกิดขึ้นในโลกนี้ ชาวพุทธรุ่นแล้วรุ่นเล่าต้องผจญกับเหตุการณ์ หนักหนาสาหัสชนิดที่โดนเข่นฆ่ามาตั้งหลายครั้ง แต่ว่าประวัติศาสตร์ของ พระพุทธศาสนาอันยาวนานถึง ๒,๕๔๒ ปีมานี้® มิเคยมีครั้งใดเลยที่ลูก ของพระสัมมาล้มพุทธเจ้าจะแกIขด้วยวิธีที่ณุแรง ชาวพุทธทุกยุคทุกสมัยเลยยอมเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจบางครั้งยอม แม้สละเลือดสละเนี้อและสละชีวิตของตัวเองบ้าง ยอมสละชีวิตของหยู่ คณะส่วนน้อยบ้าง เพื่อให้ส่วนใหญ่ได้รับชัยชนะและเป็นชัยชนะที่ทั้ง นุ่มนวลเด็ดขาด และยุติปัญหาอย่างสงบ กรณีที่ ๑ การแก้ปัญหาสงครามแย่งรงพระบรมสารีริกธาตุ\" หลวงพ่อจะยกตัวอย่างเป็นยุค ๆ ไป ทันทีที่พระสัมมาล้มพุทธเจ้า เสด็จดับฃันธปรินิพพาน ได้มีการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของ พระองค์ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็หลงเหลือเพียงพระอ้ฐ(กระลูก)ของ พระองค์ซึ่งธรรมดาถ้าเป็นของคนทั่วไปแล้วก็เป็นของน่ารังเกียจ แต่ เนื่องจากความบริสุทธอย่างยิ่งยวดของพระองค์ทั้งกายวาจาใจ ทั้งขณะ ที่มีชีวิตและเมื่อเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระอ้เของพระองค์จึงเปลี่ยน สภาพแตกต่างไปจากอ้ฐิของมนุษย์ทั้งหลายคีอ กลายเป็นกึ่งทุกกึ่งกระลูก บ้าง กึ่งทุกกึ่งหินบ้าง กึ่งทุกกึ่งแก้วบ้าง พระทนต์ของพระองค์ก็กลายเป็น ® เวลา ๒,๕๔๒ ปี นับปีพุทธสักราช จนถึงปีที่เทศน์เรื่องนี้ พ.ศ. ๒๕๔๒ มหาปรินิพพานสูตร, ท.ม. ๑๓/๑๕๗-®๖๒/๓๓๒-๓๓๖ (มมร.) ทุทธวิธ็ต่อสัทับ^หวังดีด่อพระพุท!ศาสนา ๔๔ นค่...นักสร้า4บารมี Ce www.kalyanamitra.org

แก้วหรีอพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งเราเรียกพระบรมอ้เนี้ว่า\"พระบรมสารีริกธาตุ\" เนื่องจากความบรีสุทธี้ของพระองค์เป็นเหตุ จึงทำให้พระบรมอ้ฐิ หรีอกระดูกของพระองค์เปลี่ยนสภาพหมดความปฏิกูล มีแต่ความน่า เคารพกราบไหว้เลื่อมใส ใครได้เห็นแล้วจะมีกำลังอกกำลังใจที่จะสร้าง บุญ สร้ไงบารมี สร้างความดีตามพระองค์ไป เช่นเดียวก้บที่พระอรหันต์ ที่พยายามสร้างบารมีตามพระองค์ไป นอกจากนี้พระพุทธองค์ได้ทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุของ พระองค์แตกออกเป็นชิ้น ๆ ถึง ๘๔,๐๐๐ ชิ้น เมื่อพระบรมสารีริกธาตุ ของพระองค์มีลักษณะอย่างนั้นทำให้ลูกดีษย์ลูกหาทั่วชมพูทวีปอยากจะ ได้พระบรมสารีริกธาตุไปเคารพกราบไหว้บุชา จึงเกิดการแย่งชิงก้นชิ้นถึง กับยกกองทัพมาเตรียมก่อสงครามจะฆ่าจะฟันก้น แต่นั่นแหละความที่เป็นซาวพุทธจะไมใช้วิธีการรุนแรงแก้!ขปัญหา ทั้งๆที่แต่ละแคว้นกำลังง้างอาๅธ เตรียมขับม้าขับช้างเข้าลัประยุทธ์จวน จะฆ่ากันอยู่แล้วได้มีชาวพุทธคนหนื่งชื่อโทณพราหมณ์เป็นมหาปราชญ์ มหาบัณฑิตมาช่วยไกล่เกลี่ยแก้ไขสถานการณ์พอพูดตกลงกันรูเรึ่องแล้ว ก็แปงพระบรมสารีริกธาตุให้กษัตริย์ไปแคว้นละเล็กละน้อยไปสร้างเจดีย์ ไว้กราบไหว้บุชากันเหตุร้ไยในครั้งนั้นแทนที่จะฆ่าฟันกันแล้วก็แย่งชิงกัน อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อเอาพระบรมสารีริกธาตุมาเป็นของส่วนตัว เหตุร้ายก็กลับกลายเป็นดี กลายเป็นว่าคนทั้งชมพูทวีปได้พระเจดีย์งาม ๆ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้กราบกันทั้งแผ่นดิน เพราะชาวพุทธ ไม่ตัดสินกันด้วยวีธีรุนแรง นด่...นักสร้างบารมี <£ ๕๕ ทุทธว?ต่อสู้กับผู้ไม่หางดิต่อพระทุทธศาสนา www.kalyanamitra.org

จากจุดเริมตันคำสอนของสมเด็จพ่อก็เริมด้วยการทำทาน และทาน ที่สำ คัญเป็นมหาทานก็คือการให้อภัยทาน จากนั้นก็อบรมให้ลูก ๆ หลานๆ รักษาคืล แล้วก็เลยมาถึงการเจริญภาวนา สิ่งเหล่านี้บ่มเพาะจิตใจ ชาวพุทธให้เป็นค'นมีจิตใจเมตตา ทำ ให้ชาวพุทธแต่ละยุคแต่ละสมัยไมใ'ธ้ วิธีรุนแรงมาแก้ปัญหา เรื่องนี้เป็นตัวอย่างเหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ ที่เกิด ขึ้นทันทีหลังสมเด็จพ่อของเราเสด็จดับขันธบ่รินิพพาน ซึ่งแกไขด้วยการ ใช้วิธีพุดไกล่เกลี่ยให้ทุกคนเข้าใจ จึงไม่ตัองทำสงครามแก่งแย่งพระบรม สารีริกธาตุกัน ภาพนี้ทุกคนต้องชัดเจนก่อน กรณีที่ ๒ การแก้ปัญหาลูกต่างศาสนาฆ่าพระสงฆ์ในพระพุทธ ศาสนา\" ครั้นต่อมาหลังพุทธปรินิพพาน ก็ยังมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก หลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับซาวพุทธ เราก็จะใช้วิธี การที่'นุ่มนวล ค่อยพุดค่อยจา บางทีพุดไม่รู้เรื่อง ฝ่ายหนึ่งถึงกับใช้ความ รุนแรง ใช้อารุธมาเชือดมาเฉือนมาประหัตประหารก้น บางครั้งพลั้งพลาด ไปถึงกับทำให้มีคนตาย แต่ชาวพุทธก่อนตายก็ยังให้ข้อคิดกับผู้ที่ทำร้าย แล้วก็ไม่จองเวรจองกรรม แต่อาคัยเหตุแห่งการตายของตนในครั้งนั้น พลิกสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นดี เมื่อสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช มีเหตุการณ์ว่าคณะสงฆ์เกิด ความแตกแยกเป็นหลายฝ่าย แต่ละฝ่ายต่างก็ไม่ร่วมทำสังฆกรรมกัน คือไม่ร่วมทำ'พิธีกรรมทางสงฆ์ในโบสถ์เดียวกัน เกิดเป็นความแตกร้ไว ของพระพุทธศาสนา ° วิ.มหา.อ. ๑/๙๓-๑๐๗ (มมร.) ทุทร่วิธีต่อ^กับ^ทวังสิค่อพรรทุท!ศาสนา ๕%) แด่...ฟ้กสร้างบารมี Ce www.kalyanamitra.org

แต่ทั้งที่พระภิกชุจะแตกแยกกันอย่างหนักหนาสาหัสอย่างไร ก็พยายามที่จะส่งทูตเจรจากันเพื่อทำความเข้าใจกันใหได้ วันนี้ตกลงกันไม่เสร็จ วันหน้าเอาใหม่ เดือนนี้ยังไม่เข้าใจ เดือนหน้า ก็คงจะต้องเข้าใจ ปีนี้!ม่เข้าใจ ปีหน้าคงต้องเข้าใจ พยายามใข้การทูต ใช้ความพุ่นวล ทำ ถึงขนาดนั้นเวลาผ่านมาเป็นปี ๆ แล้วยังตกลงเจรจา ไม่สำเร็จล้กที ก็ไม่เคยถึงลงไม้ลงมีอให้เสียเลือดเสียเนี้อเลย ตอนนั้น มีอำ มาตย์คนหนึ่งของพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งเขาไม่ไต้ น้บถึอพระพุทธศาสนา พยายามเข้ามาแก!ขจัดระเบียบโดยการบังคับให้ พระภิกษุทำสังฆกรรมกันให้!ต้ แต่พระภิกษุก็ยังไม่ยอมเพราะยังเจรจา กันไม่รู้เรื่อง อำ มาตย์เลยไข้ดาบเป็นเครื่องตัดสินแล้วฆ่าพระภิกษุ มรณภาพไปเป็นจำนวนมาก ถ้ามีการฆ่ากันโดยคนต่างศาสนาขนาดนั้นม้นควรจะเกิดโกลาหล ขึ้นในแว่นแคว้นอินเดียยุคนั้นแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่มีเหตุการณ์จุ่นวายเกิด ขึ้น พอมีเหตุเลือดตกยางออก พระภิกษุเองก็ไม่ไต้จองเวรจองกรรมกับ ใคร อีกทั้งก่อนที่ท่านจะมรณภาพยังพูดเป็นธรรมะให้คิด ประเดี๋ยวเดียว คนก็ไต้คิดแล้วหันหน้ามาปรึกษามาแก!ขกัน เรื่องไม่เคยลุกลามใหญ่โต เหมีอนอย่างในยุคปัจจุบันที่เราเคยไต้ยินข่าวคนเผ่านั้นฆ่ากับคนเผ่านี้ อย่างที่เป็นกัน เรื่องนี้ก็เป็นข้อคิดว่า แม้มีเหตุให้ต้องเสียเลือดเนี้อเสียชีวิต ชาวพุทธก็ไม่คิดจองเวรจองกรรมกับใคร แด่...นัทสรางบารมี <£ ๕a ทุทฅิธีต่อเกับ^ทวังดี?iamะทุทธศาสนา www.kalyanamitra.org

กรณีที่ ถ การแก้ป้ญหาการเมืองไทยในต้นรัชกาลที่ ๔ เราคงเคยได้ยินกัน ในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อสินรัชกาลที่ ๔ แล้ว ขณะนั้นรัชกาลที่ ๕ ยังทรงพระเยาว์อยู่มาก ก็เกิดมีเหตุการณ์ ที่กระเทือนความมั่นคงของประเทศเกิดขึ้น เพราะว่าต้องมีการแต่งตั้ง ผู้สำ เร็จราชการแผ่นดินทำหน้าที่ดูแลบริหารว่าราชการแทนพระองค์ ทำ ให้การเมืองในยุคนั้นมีความแตกแยกในการบริหารประเทศอย่างหน้ก จนกระทั่งมีข่าวลีอเกิดขึ้นว่าจะมีการกบฎโค่นล้มราชบัลลังก์ เมื่อมีข่าวลีอขนาดนี้ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง ถ้าเป็นประเทศอื่นคง ได้เปิดฉากฆ่าฟันกันแล้ว แต่ในเมืองไทย ความที่เป็นชาวพุทธ เราลามารถ แก้ไขกันด้วยวิธีลงบ โดยพระภิกพุรูปหนึ่งคือลมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังลี) ท่านได้เข้าไปแก!ขในฐานะเป็นพระราชาคณะชั้นสูงสุด ของลังฆมณฑล ในยุคนั้น ท่านไม่รอให้ถึงกับเลีอดตกยางออก ท่านได้ ลร้างเป็นปริศนาธรรมขึ้นมาเพื่อระงับความหวาดระแวงที่คุกรุ่นรุนแรง ในขณะนั้น ตอนนั้นยังเป็นกลางวันแลก ๆ ท่านจุดคบไฟเข้าไปในพระราชวัง แล้วก็เดินบ่นพึมพำไปว่า \"มันมีด มันมีด มันมีด\" ท่านเดินบ่นไป เรื่อย ๆ จนกระทั่งไปพบกับผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ขึ้งเป็นต้นเหตุที่มา ของการเกิดข่าวลีอว่าจะมีการล้มราชบัลลังก์ เมื่อท่านไปพบกับผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ก็ได้ปรับความเข้าใจกัน ผ'สำเร็จราชการแผ่นดินท่านพดชัดเจนออกมาเลยว่า \"ไม'ต้องกลัว ทุทธวิธีต่อสู้กับ^ทวังดีต่อพระทุทธศาสนา (iCj นส่...นกสร้างบารมี Ce www.kalyanamitra.org

มืดหรอก ที่นี่สว่าง\" ซึ่งเป็นการยีนยันว่า เรื่องการโค่นล้มราชบัลลังก์นั้น ไม่มี มีแต่การที่จะรักษาราชบัลลังก์ให้พัฒนาถาวรให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)ท่านได้ยินคำยีนยันนั้น ท่านอนุโมทนาสาธุแล้วก็กลับวัดของท่านไป นี่เป็นเครื่องยีนยันว่า ตั้งแต่ โบราณนั้น ชาวพุทธโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย เราไม่เคยมี การตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรง ตรงนี้เอง คือสิงที่หลวงพ่ออยากจะฝากไว้กับพวกเราว่า วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ ซึ่งสีบทอดกันมา ๒,๕๐๐ กว่าปีนี้ เป็น สิงที่พวกเราทุก ๆ คน รวมถึงคนไทยทั้งชาติ ตลอดจนชาวโลกได้รักษา อริยประเพณีไว้ อย่าให้สูญหายไปจากโลก เพราะในประเทศอื่น ๆ ถ้ามีเหตุการเน!ม่เข้าใจอะไรกันขึ้นมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งทาง ด้านศาสนาบ้าง ทางด้านการเมืองบ้าง แต่ละประเทศเขาทำกันรุนแรงเหลือ เกินหลวงพ่อไม่อยากเห็นพวกเราซึ่งเข้าวัดแล้ว จะต้องไปประพฤติปฏิบัติ อย่างบุคคลต่าง ๆ เหล่านั้น รวมทั้งไม่อยากเห็นคนไทยซึ่งเป็นชาวพุทธ ไปก่อให้เกิดความรุนแรงอย่างนั้น ไม่ว่าจะกรณีไหน ๆ ก็ตาม ไฝสู้ ไฝหนี ทำ ความดีเรื่อยไป ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายของเราก็มีประเด็น ตกเป็นข่าวถูกโจมตีทุกวัน แต่ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรกระทบกระทั่ง มีการเข้าใจผิดขนาดไหน จะมีการออกข่าวโจมตีในรูปแบบใด ๆ ก็ตาม นด่...นักสร้างบารมี <£ ๕(X ทุทธวิธต่อสู้กับผู้!ม่หวังดีต่อพระทุทธศาสนา www.kalyanamitra.org

หลวงพ่อได้พยายามที่จะขอร้องพวกเราให้อยู่ด้วยความสงบ ค่อย ๆ แก1ฃสถานการณ์กันไป เพราะว่าถึงจะเข้าใจผิดกันหนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ตาม ถ้าหากว่ายังไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อเสียชีวิตโอกาสที่จะพูดจะคุยกันให้ รู้เรื่องโอกาสที่จะอธิบายให้กลับอกกลับใจมันยังมี แต่ว่าถ้ามันมีการเสีย เสีอดเสียเนื้อเสียชีวิตแล้ว สิงเหล่านื้!ม่สามารถตีค่าเป็นเงินทองได้เลย มันมีโอกาสจะเป็นชนวนก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาได้อีกด้วย คราวนื้ เรื่องเล็กน้อยที่พอจะปรับความเข้าใจได้ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที เพราะฉะนั้น ๑ ปีเศษที่ผ่านมา ใครเขาจะโจมตีว่าอย่างไรก็ปล่อย เขาว่าไป เราก็สร้างความดี สร้างบญ สร้างบารมีของเราเรื่อยไปอย่าง เม่หยุดยัง เวลาที่เราทำความดีแล้วถูกโจมตีเสีย ๆ หาย ๆ ถ้าไปคิดว่าคนโน้นด่า คนนื้ด่า คนนั้นกลั่นแกล้ง เราจะไม่สบายใจ เราอาจจะโกรธพลุ่งพล่านได้ แต่ถ้าคิดกลับว่า เขามาช่วยทำให้เรารอบคอบขึ้นให้เราละเอียดถี่ถ้วนขึ้น เขามาฝึกสติสัมปชัญญะให้เรา แม้บทฝึกรุนแรงหน่อยก็ดีเหมีอนกัน จะได้!ม่เผลอสติได้เป็น!^ประมาทได้เร็วขึ้น มันก็หายพลุ่งพล่านไปได้ มาก ขอให้พวกเราได้คิดกลับ มองกลับในลักษถเะนื้ แล้วก็ความอึดอัด ขัดใจมันก็จะคลายลงไปได้มาก หลวงพ่อเองก็ใ'^ธีการอย่างนื้ ที่โบราณจึงบอกว่า กลยุทธ์เปลี่ยน ชยะให้เป็นป๋ย ยังไช!ด้ทุกยุคทุกสมัย ทุทอวิเต่อเกับ^ทวังด็พ่อVfระพุทธคาสนา *50 นดํ...นักศร้างบารมี te www.kalyanamitra.org

ตอนนี้ พวกเราก็อดทนมาได้ ๑ ปีเศษแล้ว เหตุการณ์ต่อไป ข้างหน้าจะ!รนอะไรอย่างไรต่อไปอีก หลวงพ่อก็ไม่รู้ฬรอก แต่อยากจะฝาก พวกเราไว้ กลยุทธ์ในการต่อสู้กับการถูกเข้าใจผิดที่เราใช้มาตามลำดับ ๆ ก็คีอ ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ใช้ความอ่อนสยบความแข็ง แม้บางครั้งมันจะต้องทำให้เสียอารมณ์ ทำ ให้พลุ่งพล่านไปบ้าง แต่ก็เห็น แล้วว่าจากกลยุทธ์นี้ นอกจากสามารถเปลี่ยนขยะเป็นม้ยแล้ว ยังช่วย ทำ ให้พวกเรามีใจคอหนักแน่นมั่นคงยิ่งขึ้นอีกด้วยซึ่งก็คีอ สืกให้เราทน ต่อเสียงนินทา อดทนต่อเสียงกระทบกระแทกแดกด้นได้มากขึ้นกว่า ฒี่อก่อนตั้งมาก วันเวลาที่ผ่านมา เราได้สืกตั้งรับอยู่เฉย ๆ อยู่ ๑ ปีเศษ ใช้ความ สงบสยบศวามเศลี่อนไหว ใช้ความหยุดนิ่งมาต่อต้านความกระแทก กระทั้น วันนี้เรารักษาอารมถเ1ด้แล้ว ต่อแต่นี้!ปเราจะรุกออกไปบ้าง รุกด้วยการทำหน้าที่กัลยาณมิตร เราเช้าไปถึงบ้านไปถึงตัวไปด้วยใบหน้า ยิ้ม ๆ ไปชวนเขาทำบุญ ไปเชิญเขาเปิดบ้านกัลยาณมิตร พวกหนึ่งก็คงจะได้คิดว่า พวกเรานิ่ไม่ได้มีความผิด ไม่มีความ เสียหายอะไร จึงกล้ามาเจอหน้าเขา กล้ามาช้กชวนเขาทำความดี เขาจะต้อง ได้คิด จะมากจะน้อยก็ต้องได้คิด ผู้ที่พอได้คิด แม้เขายังไม่ได้เปิดบ้านกัลยาณมิตร เราก็ชวนเขามา วัดเรา เดี๋ยวเขาก็มาเห็นความจริงเองว่า เราไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวโจมตี เราก็จะได้กัลยาณมิตรเพิ่มขึ้นอีกบ้านสองบ้าน นด่...นกสร้างบารมี Ce จร) ทุทธวิธีต่อสู้กับ^ทวังดีต่อพระทุทซศาสนา www.kalyanamitra.org

แม้ที่สุดเขายังไม่เชื่อเรา และไม่ยอมมาดูวัดของเราด้วย ยังด่าอยู่ ยังว่าอยู่นั่นแหละ ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเขาก็คงได้คิดว่า โดนด่าเท่าไร ๆ ก็ไม่เคยคิดจะเป็นปัจจามิตรกับใคร โดนด่าเท่าไร ๆ ก็ยังคิดจะเป็น กัลยาณมิตรอยู่นั่นแหละ แล้ววันหนึ่งเขาก็ต้องได้คิดเอง ต้องให้เวลากับ เขาบ้าง อดทนต่อคำพูดประชดประชันจนกระทงพลิกวิกฤตการณ์ ได้สำเร็จ มิเรื่องที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา (มิลินทปัญหา) อยู่ เรื่องหนึ่งบันทึกเอาไว้ว่า เมื่อประมาณ พ.ศ. ๓๙๐ พระพุทธศาสนา เสือมโทรมในชมพูทวีปอย่างหน้ก พระอรหันต์รูปหนึ่ง คือพระโรหณะ ท่านเจริญสมาธิภาวนาของท่านแล้ว เห็นในสมาธิว่า เด็กที่เกิดในบ้านของ โสณุตตรพราหมณ์เป็นเด็กที่ฉลาดมีปัญญา ต่อไปข้างหน้าถ้าอบรมดี ๆ จะเป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนาได้ แต่จะต้องเป็นงานหนัก เพราะ พราหมณ์ท่านนึ่!ม่น้บถีอพระพุทธศาสนา แถมยังต่อต้านอีกด้วย เมื่อท่านเห็นในสมาธิอย่างนี้ เช้าฃึ้1ฒาท่านก็ไปบิณฑบาตที่บ้าน หลังนั้น เขาก็ไม่ใส่บาตรให้เพราะเขาต่อต้านพระพุทธศาสนา ท่านก็ไป ยีนบิณฑบาตหน้าบ้านนั้นทุกวัน ๆ เขาก็ไม่ใส่บาตรให้เลยตสอด ๗ ปี เข้าวันรุ่งขึ้นท่านก็ไปบิณฑบาตอีก คนในบ้านของพราหมณ์ เห็นแล้ว ก็พูดขึ้นด้วยทำนองขับ!ล'ว่า vjTiimsอสู้ก้บผุ!ม่ทวังดีต่อพระพุทธศาสนา ไอ® นส่...นักสร้างบารมี Cb www.kalyanamitra.org

\"อะไรกัน มาบิณฑบาตตั้ง ๗ ปี ไม่ได้อะไรเลย ยังจะมาตื๊ออยู่นั่น แหละ\" พระโรหณะท่านก็ยิ้ม แล้วก็เดินบิณฑบาตไปบ้านอื่น ๆ ต่อไป ใน ระหว่างทางท่านก็ไปเจอใสณุตตรพราหมณ์เข้า พราหมณ์จึงถามท่านว่า \"ไปบิณฑบาตที่บ้าน ได้อะไรมาบ้าง\" \"ได้\" ท่านก็ตอบกลับไป \"ได้เหรอ ?\"พราหมณ์ก็แปลกใจ เพราะทุกทีกำชับคนที่บ้านว่าห้าม ใส่บาตร \"ได้ ได้ตั้งเยอะแน่ะวันนี้\" ท่านก็ยีนยันคำเดิม พราหมณ์ยิ่งแปลกใจหนักกว่าเดิม \"เอ๊ะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่บ้าน เจ็ดปีผ่านมา ไม่เคยใส่บาตรให้เลย วันนี้พระท่านบอกว่าได้ตั้งเยอะ แสดงว่าคงใส่บาตรกันเต็มที่\" พราหมณ์จึงรีบกลับไปกามคนที่บ้าน ซึ่งคนที่บ้านก็ตอบปฏิเสธ เสียงแข็ง วันรุ่งขึ้นพราหมณ์ออกมาดักรอ คิดว่าวันนี้จะด่าพระโกหกให้สะใจ เมื่อเห็นพระโรหณะเดินมาถึงหน้าบ้าน พราหมณ์ก็ตวาดกามว่า นด่...นักสรฬบารมี Ce «50 ทุทธวิธิต่อ§กับผูน!หวังด็ต่อพระทุท!!๓สนา www.kalyanamitra.org

\"เราไม่เคยตักบาตรอะไรให้ท่านเลยแม้แต่ทัพพีเดียว ท่าไมเมื่อวาน ท่านบอกว่าได้ตั้งเยอะ บวชเป็นพระแล้วยังโกหกอีกอย่างนั้นรึ\" พระโรหณะก็ยีนยันว่า \"ก็ได้จริง ๆ ได้พูดกับคนในบ้านตั้งหลายคำ เพราะตลอด ๗ ปีนี้ ไม่เคยพูดกันเลย เพิ่งพูดกันเมื่อวานนื้ เราจึงบอกว่าได้ตั้งเยอะ\" พราหมณ์คิดว่า โอ[ห แค่เราพูดประชด ๆ กับพระรูปนี้ พระยัง ไปชมเราว่าได้ตั้งเยอะ นี่ถ้าเราตักบาตรให้สัก ๑ ทัพพี ท่านคงจะชมเรา ไปทั่วเมืองเลยนะนี่' พราหมณ์ได้คิดดังนั้นแล้วก็เลยเริ่มตักบาตรตั้งแต่วันนั้นเรื่อยมา จากตักบาตรทีละทัพพีสองทัพพี ก็กลายเป็นคุ้นเคยกัน แล้วก็นิมนต์ เข้าไปฉันในบ้าน เมื่อนิมนต์เข้าไปฉันในบ้านบ่อย ๆ เข้า ก็คุ้นเคยกับ ลูกชายที่ชี่อ นาคเสนกุมาร ริ่งมือายุ ๗ ขวบ เป็นเด็กมืปัญญามาก ปฏิภาณเยี่ยม พอเห็นพระอรหันต์ท่านฉันเสร็จก็เข้ามาคุยด้วย คุยไม่กี่ ครั้งหรอก ผลสุดท้ายเสยขอออกบวชเป็นสามเณรน้อย สามเณรติดตามพระอาจารย์ไปดีกษาธรรมะกระทั่งแตกฉานแล้ว เมื่ออายุ ๒๐ ปี ก็บวชเป็นพระภิกษุผู้เปรื่องปราด เป็นทนายแล้ต่างให้ พระทุทธศาสนา ท่านโด้วาทะกับพระยามิลินทร์จนได้รับชัยชนะ เมื่อ พลิกมิจฉาทิฐิกสับเป็นสัมมาทิฐิได้แล้ว พระยามิลินทร์ก็ขอฝากตัวเป็น ลูกคิษย์ของพระนาคเสน พระพุทธศาสนาที่กำลังซบเซา ก็พลิกกลับเป็น เจริญรุ่งเรึองขึ้นมา ทุท!ท?ต่อ§กับ^ทวังดีค่อพระทุท!ศาสนา ใอร' นด่...นกสร้า'!บารมี Ce www.kalyanamitra.org

จากตัวอย่างเรื่องนี้เราก็จะเห็นแล้วว่าพระโรหณะอดทนบิณฑบาต เปล่า ๆ อยู่ ๗ ปี ทนเขาพูดประชดประชันแดกดันอยู่ ๗ ปี จนกระทั่ง ในที่สุดเขาก็ยอมรับในคุณธรรมของท่าน แล้วท่านก็ได้ลูกศิษย์ที่มีบิญญา มากมาสืกฝนอบรมจนกระทั่งกลายเป็นนักปราชญ์ผู้พลิกวิกฤติพระพุทธ ศาสนาในครั้งหลังพุทธปรินิพพานไปแล้วเมื่อประมาณ พ.ศ. ๓๙๐ จากตัวอย่างในอดีตเรื่องนี้ เราจะเห็นได้ว่า ขันตี ปรมัง ตโป ตีตีกขา ความอดทนเป็นเครื่องเผาผลาญบาปรย่างยิ่ง° ความอดทนเป็น อุปกรณ์ในการสร้างบารมีอย่างยิ่ง เขาได้ใช้กันมาแล้วตั้งแต่โบราณ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดวิกฤติอย่างไรใช้ตำราเล่มนี้ คืออดทนสร้างความดี ต่อไปเถอะ แล้วเหตุการณ์ร้าย ๆ จะกลายเป็นดีเอง พรพิเศษสำหรับนักสร้างบารมี ผู้คํ้าจุนพระพุทธศาสนา อย่างอุทิศซีรัตเป็นเดิมพัน ขอฝากเป็นข้อคิดกับพวกเราในวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อเอาไว้ เพียงแค่นี้ ขออำนาจกุศลผลบุญที่พวกเราทุกคนมีมุทิตาจิตอยากจะให้ หลวงพ่อมีความสุขทั้งกายทั้งใจ ให้หลวงพ่อมีกำลังใจที่จะต่อสู้อุปสรรค ทั้งหลาย ทั้งอุปสรรคทางโลก ทั้งอุปสรรคในการสร้!งบารมี อุปสรรคใน การเช้าถึงธรรมที่ละเอียดยิ่ง ๆ ขึ้นไป อยากจะเห็นหลวงพ่อสามารถที่จะ เทศน์สอนอบรมชาวโลกให้เข้าถึงธรรมได้มาก ๆ \" ขุ.ธ.อ. ๔๒/๓๓๒ (มมร.) นค่...ฟักสร้างบารมี Ce x>๕ พุ11ท1ต่อสู้กับผู!ฝทวังดิต่อViระพุทธศาสนา www.kalyanamitra.org

ขออำนาจบุญกุศลแห่งความปรารถนาดีของลูก ๆ หลวงพ่อ ทุกคนนี้ จงทับทวีนับอสงไขยไม่ถ้วนไปรวมกันเข้าเรนอันหนึ่งอันเดียวกับ ความปรารถนาดีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ในอายตน นิพพานที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายปรารถนาให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์ ให้เป็นสุขตามพระองค์มากมายมหาคาสฉันใด ขอให้ความปรารถนาดี ทั้งหลายเหล่านั้นรวมกันเข้าด้วยกันกับของพวกเรา แล้วย้อนมาคุ้มครอง ป้องกันรักษาให้ลูกหลวงพ่อทุกคนเลย ให้สุขทั้งกายทั้งใจ ทุกข์โคกโรค ภัยใด ๆ อย่าได้มารบกวนให้มีแต่ความอาจหาญร่าเริงบันเทิงอยูในธรรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีใจกล้าแกร่งที่จะสร้างบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตามรอยเท้าของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตไปอย่างไม่สดสะ ให้ลูกหสวงพ่อทุก ๆ คนจงเป็นที่รักเคารพนับถือเกรงใจทั้งมนุษย์ แสะเทวดาตสอดไปไม่ว่าจะเชื้อเชิญชักชวนผู้ใดให้เปิดบ้านกัสยาณมิตร ให้เปิดบ้านแสงสว่าง ให้ช่วยกันประพฤติปฏิบัติธรรม ก็ขอให้เขา เหล่านั้นจงเต็มอกเต็มใจทิาตามที่ลูกของหลวงพ่อแนะนำได้!ดยง่ายดาย เป็นอัคจรรย์ทุกประการ และให้ลูกของหลวงพ่อทุกคนสามารถพลิกผู้'ที่เป็นมิจฉาทิฐิให้ เป็นสัมมาทิฐิ บำ รุงใจผู้ที่เป็นสัมมาทิฐิอยู่แล้วให้อาจหาญร่าเริงบันเทิง อยู่ในธรรม ประพฤติตามพวกเรามาด้วยความเต็มอกเต็มใจแล้วเข้าถืง พระธรรมกายในตัวตามพวกเรามาได้!ดยง่ายไปทุกภพทุกชาติ ทุท!ทธีต่อสู้กับผู้นพ่วังดิต่อพระทุทธศาสนา าอาะ) นด่...นักสร้างบารมี Ce www.kalyanamitra.org

และด้วยความปรารถนาดีที่พวกเรามีต่อวัด มีต่อพระพุทธศาสนา ตั้งใจทะนุปารุงพระพุทธศาสนาตลอดมาบำรุงวัดพระธรรมกายให้รุ่งเรือง เป็นที่ปฏิบัติธรรมของชาวโลกอย่างไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากตลอดมา ขออำนาจทุศลผลบุญเหล่านี้จงส่งผลให้ลูกหลวงพ่อเป็นมหาเศรษฐี ใจบุญ ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาตลอดไปทุกภพทุกชาติ ให้มหาสมบัติ ผุดขึ้นมา บังเกิดขึ้ใฌาไม่มีที่สินสุด เหมือนอย่างคลื่นในมหาสผุทร ฉะนั้น และให้มหาสมบัติเหส่านี้ให้ลูกของหลวงพ่อทุก ๆ คนได้ใช้สร้าง บุญสร้!งบารมี สร้างความดี สร้างฐานะได้เต็มที่ เต็มอิ่ม เต็มใจ เต็มมือ ตลอดไป แม้ที่สุดจะเลี้ยงชาวพุทธ เลี้ยงพระภิกบุ เลี้ยงผู้มีดีล ผู้ปฏิบัติ ธรรมทั้งโลก ขอให้สามารถทำได้[ดยง่ายไปทุกภพทุกชาติ ตราบวันถึงที่ สุดแห่งธรรม เทอญ ฯ แค่...นกสร้างบารมี Ce ใอพ ทุทธวิธีค่อ^บผูนเทวังดิต่อพระทุทซ๓สนา www.kalyanamitra.org

* I ทิศ^ ยุทธศาสศ?การเผฮแ พระพทธศรสน r-# f 1 พ 9 V I www.kalyanamitra.org

m พ=■-'^ พ? y www.kalyanamitra.org

ทิศ ๖ ยุทธศาสตร์การเผยแผ่ พระพุทธศาสนา เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาจารย์ วิ.(เผด็จ ทตฺตฟ้ว) เนื่องในงานบุญวันที่ ๕, ๑๑. ๑๒ ธันวาคม พุทธสักราช ๒๕๔๗ ณ รัตนบัลลังก์ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย จ.ปทมธานี ในอดีตคนเรามักมองกันว่าหน่วยของลังคมที่เล็กที่สุด ได้แก่ ครอบครัว แล้วก็เอาใจใส่ดูแลแต่ครอบครัวของตัวเองให้เจริญก้าวหน้า ไม่เหลียวแลกลุ่มคนที่อยู่รอบข้างเลย ลังคมของเราถึงได้อ่อนแอตลอดมา สิงเหล่านื่!ม'ได้เกิดขึ้นเฉพาะในปัจจุบันนี้เท่านั้น แมัในสมัยพุทธกาล ก็เป็นมาแล้ว www.kalyanamitra.org

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสพระธรรมเทศนาเรื่องทิศ ๖ ไว!.น สิงคาลกสูตร'' แล้วใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จนกระทั่งครอบคลุมไปทั่วแผ่นดินชมพูทวีป ทิศ ๖ คืออะไร ทิศ ๖ คือ หน่วยชองสังคมที่เล็กที่สุด ส์าคัญที่สุด ทรงอา'แภาพ ที่สุด หากบุคคลในแต่ละทิศปฏิบัติตนตามหน้าที่ ชึ่งมีอยู่ประจำทิศได้ สมบูรณ์จริง ๆ แล้ว ย่อมสามารถที่จะดสังคมส่วนใหญ่ ใ'พ้เจริญรุ่งเรือง ทั้งทางโลกและทางธรรมได้อย่างชนิดฉับพลันทีเดียว องค์ประกอบของทิศ ๖ ทิศ๖ ของใครก็ประกอบด้วยตัวของคนนั้นเองเป็นแกนกลาง แล้ว แวดล้อมด้วยบุคคลอีก ๖ กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มล้วนมีความสัมพันธ์กับ ตัวของเขา ตามฐา'นะและหน้าที่ที่แตกต่างกันไป คือ ๑. ปุรัดลิมทิส แปลว่า ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดา มารดา คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้มีอุปการคุณคนแรกของเรา เพราะว่าท่านก้าว เข้ามา^ผิดชอบต่อชีวิตของเราก่อนใคร ๆ ในโลก และทุกสิงทุกอย่าง \" สิงคาลกสูตร, ที.ปา. ๑๖/๑๗๒-๒๐๖/๗๗-๙๓ {มมร.) ทิศ ๖ ยุทธศาสตร์กา'รเผยแผ่Vทะ าสนา ๗๒ แด่...นักสร้างบารมี Ce www.kalyanamitra.org

ไม่ว่าจะฟ็นชีวิต เลือดเนื้อ รวมทั้งความเป็นคน เราได้มาจากท่านทั้งนั้น พระสัมมาสัมทุทธเจ้าจึงทรงจัดให้ท่านทั้ง ๒ มาอยู่ข้างหน้า เป็นทิศ เบื้องหน้าของเรา ๒. ห้กฃิณทิส แปลว่า ทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์เป็นบุคคลสำคัญกับชีวิตของเราอีกท่านหนึ่ง เพราะ ท่านสอนเราตั้งแตให้รู้จักการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ ให้รู้จักการรักษา เนื้อรักษาตัวให้พ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ ตลอดจนสอนให้รู้จักการทำ มาหากินท่านจึงเป็นทักฃิไณยบุคคล คือบุคคลที่พวกเราต้องเคารพกราบ ไหว้บุชา ฅ. ป็จฉิมทิส แปลว่า ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ ภรรยาหรือสามี ถ้าตรงกลางเป็นผู้ชายทิคเบื้องหลังก็เป็นภรรยา ถ้าตรงกลางเป็น ผู้หญิงทิคเบื้องหลังก็เป็นสามี แต่ถ้าตรงกลางเป็นเด็ก หรือเป็นผู้ที่ยัง ไม่ได้แต่งงาน ทิคเบื้องหลังก็ไม'มี ไม่มีก็ไม่ต้องมี อยู่คนเดียวอย่างนื้ แหละดีแล้ว พระสัมมาลัมพุทธเจ้าทรงนำภรรยาหรือสามีมาไว้ข้างหลัง เพราะ ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา ซึ่งบางทีก็ก่อบุตรขึ้นมาอีก ล้วนถีอว่าเป็น กำ ลังเสริม เป็นผู้ติดตาม คอยสนับสนุนช่วยเหลืออยู่ข้างหลังทั้งสิน เนึ่องจากเรื่องบางเรื่องไม่สามารถทำแทนกันได้ •t. นส่...นกสร้างบารมี (e CTfo ทิ^\" ๖ ยุทธศาส?ท์การผยแพ่ทะทุ>1ธศาสนา www.kalyanamitra.org

๔. อุตตรทิส แปลว่า ทิศเบื้องรํ(าย ได้แก่ มิตรสหาย มิตรสหายที่คบค้าสมาคมกันมาตั้งแต่เด็กจนโตนี่เองที่เป็นผู้คอย ช่วยเหลือให้เราข้ามพ้นอุปสรรคและภัยอันตรายต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน ก็ยังเป็นกำลังสนับสนุน ให้เราสามารถบรรลุความสำเร็จอีกด้วย ทิศเบื้องซ้ายนี้เอาจริง ๆ เข้ากลับกลายเป็นทิศที่ใหญ่ที่สุด เพราะ ตลอดชีวิตของคนเราต้องเกี่ยวข้องคบหากับผู้คนมากมาย เพราะฉะนั้น ใครมีทิศเบื้องซ้ายน้อยก็จะเข้าตำรา \"นกไฝมีขน คนไฝมีเพื่อน\" บินก็ ไม่ขึ้น โตก็ไม่ได้ เตรียมจะเป็นนกปีง เตรียมจะเป็นนกย่าง กำ ลังเตรียม ตัวตายเสียแล้ว ถ้าใครสำรวจตรวจสอบดูแล้วพบว่า ตัวเองมีเพื่อนน้อยล่ะก็ รีบกลับไปแกไขเสีย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะเดือดร้อน ๔. เหฎเมทิส แปลว่า ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ คนร้บใซ้ ลูกน้อง ใครมีลูกน้องเยอะ ๆ ก็เบาแรงกาย คือไม่ต้องทำงานหนักไม่หนัก แรงกายจนเกินไป แต่ว่าอาจจะหนักแรงใจบ้างถ้าฝึกเขาไม่เป็น ซึ่งก็โทษ ใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเราเอง แล้วก็รู!ว้ด้วยว่าทิศเบื้องล่างนี้เอง ที่คอยเป็นฐาน เป็นกำลัง เป็น ที่มาแห่งทรัพย์สินเงินทอง สำ หรับเอามาใช้เป็นกองเสบียง ในการหล่อ เลี้ยงชีวิตของเรา ทิศ ๖ บุทไ!ศาสตร์กา■รเผยแผ่พระทุท®ศาสนา offf แด่...นักสร้างบารมี (เรึ๋ www.kalyanamitra.org

และแน่นอน เราจะมีทรัพย์มาใ^นการสร้างบุญส^งบารมีได้มาก น้อยเท่าไร ก็มาจากทิศเบื้องล่างนี่เอง เพราะฉะนั้น อย่าได้มองข้ามทิศ เบื้องล่างกันทีเดียว ๖. อุปริมทิส แปลว่า ทิศเบืองบน ได้แก่ สมณทิพราหมณ์ ทั้งหลาย เราชาวพุทธก็มีพระภิกษุสงฆ์เป็นผู้นำทางจิตใจ เพราะท่านเป็น ผู้ที่สูงด้วยคุณธรรม อีกทั้งยังเป็นผู้ชี้ทิศ และเป็นแหล่งผลิตศีลธรรม อีกด้วย ความสำคัญของทิศ ๖ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดใฟ้พระสงฆ์เป็นทิศเบื้องบนเพื่อ เป็นแหล่งผลิตศีลธรรม แล้จบือนศีลธรรมน้นให้กับอีก ๕ ทิศที่เหลือ โดยเฉพาะ ๒ ทิศที่สำคัญ คือ ทิศเบื้องหน้ากับทิศเบื้องขวา เพี่อ ให้ทิศทั้ง ๒ นี้ นำ ศีลธรรมที่ได้มาป้อนให้กับบุคคลที่อยู่ตรงกลาง ส่วนพระสงฆ์เองเมื่อมีโอกาส ท่านก็จะลงมาป้อนศีลธรรมให้กับ บุคคลที่อยู่ตรงกลางด้วยตัวของท่านเช่นกัน บ้านวัด โรงเรียนจึงเป็นแหล่งปลูกฝืงศีลธรรมเบื้องต้น ที่ส์าต้ญ ที่สุดธองพวกเราแด่ละคน นค่...นิกลรางบารมี Ce CTTff ทิศ ๖ ศาสตร์กT31ผยแผ่พ-ระทธศาสนา www.kalyanamitra.org

สำ หรับบุคคลในทิศที่เหลือไม่ว่าจะเป็นทิศเบื้องหลัง ทิศเบื้องซ้าย ทิศเบื้องล่าง หรือแม้แต่ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องหน้า ทิศเบืองขวา ของเรา ต่างก็มี บ้าน วัด โรงเรืยน ของเขาเป็นแหล่งปลูกฝังสืลธรรมให้เช่นกัน เมื่อหน่วยที่เล็กที่สุดของลังคม ต่างก็มีแหล่งผลิตและปลูกฝัง สืลธรรมให้อย่างนี้ เมื่อครอบครัวใด หยู่บ้านใด ตลอดจนกระทั่งลังคมใด เกิดปัญหาขึ้นมา จึงสามารถแกไขปัญหาที่ด้นเหตุได้ด้วยตนเองในทันที เพราะฉะนั้น ครั้งใดที่ประสบความสำเร็จ ได้รับชัยชนะ ได้รับโชค ได้รับคำยกย่องสรรเสริญ หรือว่าได้รับเกิยรติยศอะไรขึ้นมาก็ตาม ถ้าเป็นชาวพุทธที่ได้ฝ็กตัวมาดีแล้ว เขาจะนึกขอบพระคุณ ไล่กันไปตาม ทิศทีเดียว ตั้งแต่ หลวง หลวงพ่อ คุณพ่อ คุณเฌ่ ครูบาอาจารย์ ที่ท่าน อบรมเคี่ยวเข็ญเรามา ตอนนี้ท่านอยู่ทิศไหนหนอ แล้วก็หันหน้าไปทาง ทิศนั้นกราบขอบพระคุณท่านงาม ๆ รวมทั้งมิตรสหาย สามี ภรรยา ผู้บังคับบัญชา และลูกน้อง ที่คอย สนับสนุนให้เราประสบความสำเร็จด้วย อย่างนี้ถึงจะเป็นชาวพุทธตัวจริง เป็นนักปฏิบัติธรรมตัวจริง ถ้าใคร ทำ ได้อย่างนี้จะมีความเจริญไม่มีที่สินสุด เรืยกว่าเมื่อขึ้นแล้วไม่มีลง ไม่ทราบที่นั่งกันอยู่นี่ ใครเคยคิด เคยทำอย่างนี้บ้าง ถ้าเคยทำหลวงพ่อ ก็โมทนาด้วย ถ้ายังไม่เคยทำ ต่อแต่นี้รีบไปทำกันเสียเถอะนะ ทิศ ๖ ยุทธศาสตร์การเผยฟพ'ระทุทธศาสนา cfo นด่...นักสร้างบารมี Ce www.kalyanamitra.org

คนเรานั้นไม่ว่าจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถเอาดีเพียงลำพัง คนเดียวได้ เนื่องจากถ้ามองเข้าไปดูในตัวเองแล้วจะพบว่า พวกเราเป็น ผลพวงของทิศ ๖ เพราะว่ามนุษย์เกิดขึ้นมาพร้อมกับความไม่รู้ทั้งสิน เมื่อไม่สังเกตตรงนี้ให้ดีแล้วไปดูเบาในทิศ ๖ มนุษย์ถึงไม่เจริญ เท่าที่ควร แล้วยังไม่โทษตัวเองแต่กลับไปโทษคนอื่นเสียอีก จึงทำให้ ไม่สามารถแกัใขปัญหาของตัวเอง ไม่สามารถแกไขปัญหาของสังคมได้ ถูกจุด ยิ่งแก้ก็ยิ่งแย่ เพราะฉะนั้น ทิศ๖ ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยของสังคมที่เล็กที่สุด แต่ว่า มีความสำคัญที่สุดและทรงอานุภาพที่สุดนี้ ถ้าไม่ระมัดระวังกันให้ดี ย่อมเป็นที่มาแห่งความเสิอม ความวิบัติ ของทุกสิงทุกอย่างได้ หน้าที่สำคัญของทิศ ๖ หน้าที่สำคัญของทิศ ๖ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไวัIดยย่อมีอยู่ ๓ เรื่องใหญ่ ๆ ด้วยกัน คีอ ๑. เแนนฬส่งกำเนิดและเ!!นแฬส่งปลูกฝืงนิสัยใจคอ นิสัยของคนเรานั้นใต้มาจากทิศ๖ ซึ่งเมื่อสรุปแล้วจะเหลือแค่ บ้าน วัด โรงเรียนนื่เอง ไม่ใช่ตกสงมาจากสวรรค์ ไม่ใช่หลั่งไหลมาเองเหมือน อย่างกับนํ้าฝนบนท้องฟ้า นด่...นักสร้างบารมี Ce rtc* ทิศ ๖ ยุท!รศาสตร์การเผยแผ่พะทุทธศาสนา www.kalyanamitra.org

คือตอนเล็ก ๆ เราก็ได้คุณพ่อคุณแม่ ครูบาอาจารย์ ลุงป้าน้าอา หลวง หลวงพ่อ ช่วยกันอบรมให้ จนกระทั่งกลายมาเป็นนิสัยใจคอ ของเรา ส่วนว่โฟานจะอบรมได้ดีขนาดไหนก็เนอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะไม่มี ใครจะอบรมบ่มนิสัยใจคอ หรือคุณงามความดี ให้กับผู้อื่นได้มากกว่าที่ ตัวเองมีอยู่ เพราะฉะนั้น ท่านมีสติปัญญาเท่าไหร่ ท่านก็อบรมให้เราได้ เท่านั้น ยกตัวอย่าง เวลาลูกกินข้าวแล้วไม่ล้างจาน คุณแมกบอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะให้คนรับใช้เอาไบ่ล้าง นั่นเริ่มเพาะนิสัยไม่มี ความร่บผิดชอบต่อตัวเองให้ลูกแล้ว เด็กคนนี้พอโตขึ้นมาก็เลยรับผิดชอบอะไรไม่เป็น แล้วอย่างนี้จะ หวังให้มารับผิดชอบวงคืตระกูล หวังจะให้รับผิดชอบต่อทรัพย์สมบัติ เขาจะไปรับผิดชอบได้อย่างไร ในเมื่อแค่จานข้าวที่ตัวเองกินก็ยัง ไม่ล้างเลย ๒. เป็นแหล่งกำเนิดและเป็นแหล่งปลูกฝืงคจามเก่งความดี ทิศ๖ เป็นแหล่งกำเนิดและเป็นแหล่งปลูกผิงความเก่งความดี หรือ ความรู้ ความสามารถและคุณธรรมประจำใจ แต่ว่าอย่าเอาเริ่องของนิสัย ใจคอ กับความเก่งความดีมาปนกัน ทิศ ๖ ยุทซศาสตร์การเผยแผ่พระทุทธศาสนา acs นด่...นักสร้างบารมี (e www.kalyanamitra.org

เพราะไม่ว่าใครจะเป็นคนหยาบ เป็นคนละเอียด เป็นคนทำอะไร ประณีต เป็นคนทำอะไรทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ก็ตาม นั่นเป็นนิสัยไม่ได้เกี่ยวกับ ความรู้ ความสามารถ ยังไม่เกี่ยวกับเรื่องว่าดีหรีอเลว ความรู้ความสามารถตลอดจนความเก่งความดีของมนุษย์ ก็ได้มา จากทิศ ๖ อีกเหมือนกัน อย่าคิดว่าเก่งได้ด้วยตัวเอง ถ้าใครคิดอย่างนั้น แสดงว่าเป็นคนเนรคุณ ทั้งต่อพ่อเฒ่และครูบาอาจารย์ทีเดียว เพราะกว่าคุณพ่อคุณแม่จะอบรมเลี้ยงดูมาก็แทบแย่ กว่าที่ ครูบาอาจารย์จะเคี่ยวเข็ญสังสอนมาก็แทบแย่ แต่พอโตขึ้นมาเป็นคน ที่มืทั้งความรู้ความสามารถ กลับบอกว่าตนนั้นเก่งได้ด้วยตัวเอง เมื่อทิศ ๖ เป็นแหล่งกำเนิดและเป็นแหล่งปลูกฝังความเก่ง ความดีให้กับเราอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ลูกเอ๊ย เวลาประสบความสำเร็จ ในเรื่องอะไรก็ตาม นึกถึงพระคุณทิศ ๖ ของเราด้วย เช่น เวลาเล่นกีฬาชนะ ก็ให้หันหน้าไปทางทิศที่คุณพ่อคุณแม'ของ เราอยู่ แล้วกราบท่านสักทีหนึ่งโรงเรียนของเราอยู่ทิศไหนหันหน้าไปทาง ทิศนั้น กราบครูบาอาจารย์สักทีหนึ่ง แล้วหลวงปู หลวงพ่อ ที่เราเคารพ นับถือท่านอยู่ทิศไหน กราบไปทางทิศนั้นสักทีหนึ่ง แล้วจะมืแต่ความสุข ความเจริญ ไม่ใช่ไปกระโดดโลดเต้น ร้องกรี๊ด ๆ ดีใจ อย่างนั้นไม่เอานะ นด่...นักสร้างบารมี Ce eves ทิศ ร) พุใ!ศาสตร์ก\"ศเศยแผ่VfระVfiniifliสนา www.kalyanamitra.org

ฅ. เ!]นแหล่งกำเนิดและเแนแฬล่งปลูกฝืงความสุขความเจริญ ทิศ ๖ เป็นแหล่งกำเนิดและเป็นแหล่งปลูกฝืงความสุขความเจริญ ของคนในสังคม ทั้งชาตินี้และชาติหน้า ไม่ใช่เพียงเฉพาะของใครคนใด คนหนึ่งเท่านั้น เพราะจากนิสัยใจคอ จากความเก่งความดีที่มีอยู่นั่นเอง ทำ ให้ คน ๆ นั้น คิด พูด ทำ ในทางที่ดี ในสิงที่ถูก จึงกลายเป็นความสุข ความเจริญทั้งชาตินี้และชาติหน้า แต่ถ้าเขาเอาไป คิด พูด ทำ ในทางไม่ดี ในสิงที่ผิด ก็จะกลายเป็น ความทุกข์ความเสื่อม ทั้งชาตินี้และชาติหน้าอีกเหมือนกัน แหล่งกำเนิดกับแหล่งปลูกฝืงเIเนอย่างไร แหล่งกำเนิดกับแหล่งปลูกฝืงนี้ มืความหมายคล้าย ๆ กัน คือตัวของเราตอนแรกนั้นเหมือนเป็นที่ว่าง ๆ แล้วทิค ๖ ก็เอา นิสัยใจคอ เอาความรู้ ความสามารถ เอาความดี มาปลูกให้เกิดขึ้นมาใน ตัวเรา พูดง่าย ๆ สิงใดที่เรายังไม่มื เช่น คุณความดีใด ๆ ที่ยังไม่มือยู่ ในตัว ความรู้ความสามารถที่ยังไม่มีอยู่ในตัว ก็ได้ทั้ง ๖ ทิครอบข้างเรา นั่นแหละเอามาปลกให้ ทิศ ๖ 1^ทธศาสตรทT5เผยแผ่พะทุทธศาสนา GO UR...UnflTI4บารมี Ce www.kalyanamitra.org

ปลูกเสร็จก็ยังคอยเฝ็าดูแล คอยประคบประหงม เพาะบ่มให้ งอกเงยขึ้นมา จนกระทั่งโตวันโตคืน แล้วแทรกซึมอยู่ทุกอญ,ในเลือด ในเนื้อ ในจิตในใจของเรา กลายเป็นนิสัยใจคอ เป็นธรรมะประจำใจ เป็นความรู้ความสามารถ เป็นความเก่งความดี เป็นความสุขความเจริญ เมื่อสิงเหล่านื้เติบโตขึ้นในตัวเราแล้ว วันหนึ่งเราก็เอาทั้งธรรมะ เอานิสัยใจคอที่ดี ๆ เอาความรู้ ความสามารถ ความเก่ง ความดี ความสุขกาย ความสุขใจของเรา เที่ยวไปหว่านไปโปรยให้กับคนอื่นต่อไป บางครั้งถ้าสิงที่ได้รับมานั้นเจริญงอกงามเต็มที่ เราก็ยังมีสิทธื้ ที่จะเอาย้อนกลับไปให้กับคนที่เคยให้เรา เพราะของเราตอนนื้โตกว่า ของเขาแล้ว ยกตัวอย่าง หลวงพ่อเอง โยมพ่อโยมแม่ประคบประหงมมา ครูบา อาจารย์ประคบประหงมมา จนกระทั่งเจริญเติบโตมาได้ระดับหนึ่ง แล้วเราก็พัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ ครั้นได้มาบวช เราก็สามารถพัฒนาสิ่งที่ท่านซึวยกันปลูกให้นั้นได้ มากขึ้น เมื่อมากขึ้นจนกระทั่งโตกว่าตันเดิม หลวงพ่อก็นำย้อนกลับไป แจกโยมพ่อโยมเฒ่ นำ ย้อนกลับไปแจกครูบาอาจารย์ในสถาบันต่าง ๆ เมื่อย้อนกลับไปกลับมาได้อย่างนื้ ท่านจึงใช้คำว่าทิศ ๖ มีหน้าที่ เป็นทั้งแหล่งกำเนิด เป็นทั้งแหล่งปลูกฝัง ซึ่งทั้งหมดนื้เป็นอานุภาพของ ทิศ ๖ อย่างหนึ่ง ที่เราพอจะมองออกได้นั่นเอง นท่...นกสร้างบารมี Ce GO) ทิศ ๖ ยุทธ๓สตร์การนเยนพ่(ระทุทธ๓สนา www.kalyanamitra.org

ทิศ ๖ บทแกที่ทำให้เกิดความสำนึกในการรับผิดชอบ ร่วมกัน ทิศ๖ มีดวามสำคัญต่อมวลมนุษยชาติ คีอ เป็นที่มาของนิสัยใจคอ เป็นที่มาของความเก่งความดี เป็นที่มาของความสุขความเจริญ ทั้งชาตินี้ และชาติหน้า สิงเหล่านี้!มใช่ว่าใครจะได้มาง่าย ๆ ต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติหน้าที่ อย่างสมนุรณ์ของทิค ๖ ดังนี้ ประการที่ ๑ ผู้ที่อยู่ตรงกลางปฏิบัติตัวตามหน้าที่ที่มีประจำทิค ได้ครบถ้วน ประการที่ ๒ ทิคทั้ง ๖ ที่อยู่รอบข้างต่างก็ปฏิบัติตัวได้เหมาะสม ตามหน้าที่ประจำทิศของตน ส่วนวิธีที่จะปฏิบัติตัวตามหน้าที่ประจำทิศให้ได้อย่างสมบูรณ์ เราต้องรู้เสียก่อนว่าหน้าที่ประจำของแต่ละทิศตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกำหนดไว้นั้น พระองค์ทรงแพรกดีลธรรมเอาไว้อย่างไรบัาง ในเบื้องตันเราลองมาดู ๓ ทิศใหญ่ คือ ทิศเบื้องหน้า ทิศเบื้องขวา และทิศเบื้องบน ซึ่งจัดว่าเป็นทิศที่สำคัญ เพราะคนเราจะมีนิสัยใจคอที่ดี มีความเก่งความดี มีความสุขความเจริญ ก็เพราะได้มาจาก ๓ ทิศนี้ ก่อนเลย ทิศ ๖ ยุท!ศาสตร์การเผยแผ่พระทุทธศาสนา Ct® แด่...ฟ้ทสร้างบารมี (รึ๋. www.kalyanamitra.org

เริ่มตั้งแต่วันที่เราคลอดออกมา ถ้าคุณพ่อคุณแม่ปฏิบัติหน้าที่ ประจำทิศของท่านอย่างดี เราก็รอดตัว แต่ถ้าหากท่านไม่สนใจในหน้าที่ ของตัวเอง แล้วจับเราใส่ลุงโยนลงถังขยะ ชีวิตของเราก็จบถัน หรีอแม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ต้องมีคุณพ่อคุณแม่คอยประคบประหงมเลี้ยงดู พอโตขึ้นมาหน่อย เข้าโรงเรียนอนุบาล ก็ได้คุณครูมาคอยช่วยดูแล อบรมสังสอนให้ รวมทั้งหลวงพ่อหลวงปูที่วัดข้างบ้าน เวลาบิณฑบาตผ่านมา ท่านอาจจะเทศน้[ห้เราฟังโดยตรง หรีอเทศน้โห้คุณพ่อคุณเฒ่ เทศน้โห้ คุณครูที่โรงเรียนฟัง แล้วทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณครูก็นำสิงเหล่านั้น มาอบรมสิงสอนเราอีกทีหนึ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าบุคคลใน ๓ ทิศใหญ่นี้ ปฏิบัติหน้าที่ไม่สมบุรณ์ ก็เป็นการยากที่เราจะได้นิสัยใจคอที่ดี ๆ ได้ความเก่งความดี ความมี ศักยภาพ รวมทั้งความสุขความเจริญ อีกทั้งโอกาสที่จะทำให้เราพลาดพลั้งไปทำบาปอลุศล จนต้องไปส่ อบาย ได้ร้บทุกข์ทรมานแสนสาหัส ก็มีมากขึ้น แต่คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องย้อนกลับมาดูว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเอง สมบุรณ์หรีอไม่ เพราะถ้าลูกเป็นคนไม่ดีก็ฟ้องว่า คุณพ่อคุณแม่กำลัง บกพร่องในหน้าที่ นด่...นักสร้างบารมี (e GO ทิศ ๖ ยุทธศาสตร์การเผยแพ่พระพุทธศาสนา www.kalyanamitra.org

หรือเป็นครูแล้วมีลูกสิษย์เกเร ก็ฟัองว่า คุณครูทำหน้าที่บกพร่อง เช่นเดียวกัน พระภิกษุที่อยู่วัดใกล้ ๆ กับสถานที่ที่เด็กยกพวกตี กันเสมอ ก็ฟ้องว่าท่านปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง เด็กแถวนั้นถึงได้ชอบยก พวกตีกัน เมื่อมองกันแบบนี้ ก็จะทำให้เกิดพฤติกรรมที่เรียกว่า มีความสำนึก ในการร้บผิดชอบร่วมกันขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพราะหน้าที่ประจำของบุคคสในแต่ละทิศนั้น พระพุทธองค์ทรง แฝงดีลธรรม ทรงแฝงวิธีกำจัดอวิชชา หรือความไม่รู้เอาไว้ด้วย จึงมีผล ทำ ให้ผ้ที่ถกหล่อหลอมจากทิศ ๖ ที่ดี เกิดความสำนึกในการร้บผิดชอบ ด้งนี้ ๑. มีความสำนึกรับผิดชอบต่อตัวเอง ๒. มีความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ๓. มีความสำนึกรับผิดชอบต่อศีลธรรมทางเศรษฐกิจ ๔. มีความสำนึกรับผิดชอบต่อสิงแวดล้อม เพราะฉะนั้น หน้าที่ประจำทิศ ๖ จึงเป็นบทแกคน ที่ทำ ให้เกิด ครามสำนึกในการรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งตรงนี้เองที่ลามารถนำไปใ'^น การประเมินศีลธรรม ว่าตัวของเราและทิศ๖ได้ทำหน้าที่ของตนลมบูรณ์ แล้วหรือไม่ ทิศ ร [(ทธศาสตร์การเผยแผ่พระทุท!ศาสนา Cfff แด่...นักสร้างบารมี (£ www.kalyanamitra.org

หน้าที่ประจำของแต่ละทิศ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดหน้าที่ของเราอันพึงปฏิบัติต่อ ทิศ ๖ และหน้าที่ของทิศ ๖ อันพึงปฏิบัติต่อตัวเรา ในลักษณะที่มี ความสัมพันธ์กันดังนี้ ๑. ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดา มารดา หน้าที่ของพ่อแม่ที่มีด่อลูก คือ ๑) ห้ามไมให้ทำความชั่ว ๒) สอนให้ตั้งอยู่ในความดี ๓) ให้คืกษาคืลปวิทยา ๙) หาคู่ครองที่สมควรให้ ๕) มอบทร้พย์สมบัติให้ในเวลาอันควร หน้าที่ของลูกที่มีต่อพ่อเฟ คือ ๑) ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ ๒) ช่วยท่าการงานของท่าน ๓) ดำ รงวงส์ตระกูล ๔) ประพฤติตนให้เป็นที่ผู้สมควรแก่การรับมรดก ๕) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ท่าบุญอุทิศให้ท่าน uci...unflfไงบารมี (c ๔๔ ทิศ ๖ ยุทธศาสตร์การพยแผ่พระทุทธศ!ศนา www.kalyanamitra.org

หน้าที่เหล่านี้พระพุทธองค์ทรงให้ไว้โดยหลักการ จึงเป็นหน้าที่ ของเราที่จะต้องนำไปคิดกันต่อว่า จะประพฤติปฏิบัติตนตามหลักการ นั้นอย่างไร เพื่อให้ขอบเขตแห่งความรับผิดชอบเหมาะสมกับบุคคลใน แต่ละวัย ยกตัวอย่าง หน้าที่ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ในข้อที่ว่า \"ห้ามไม่ให้ ทำ ครามชั่ว\" ถ้าลูกกำลังเรียนอยู่ชั้แอนุบาล คุณพ่อคุณเฌ่ก็ต้องคอยสอดส่อง ดูแลว่าลูกจะไปทำความชั่วอะไรได้บ้าง เพื่อจะได้รีบห้าม หรีอหาทาง ป้องกันเสียกํอน เช่น ๑. ถ้าลูกบี้มด ตบยุง ซึ่งเป็นการฆ่าสัตว์ ต้องรีบห้าม ๒. ถ้าลูกเริ่มขโมยเงิน เริ่มไปแย่งของเพื่อน อย่าปล่อยปละ ละเลย ๓. เด็กอาจจะยังไม่ประพฤติผิดในกาม แต่ผู้ปกครองบางคน ชอบไปเขียนคิ้วทาปากให้ หรีอจับแต่งตัวโชว์สะดือ พอโตขึ้นแกก็จะไม่มีความละอาย เนื่องจากมีความ เคยชินมาตั้งแต่เด็ก ๆ ๙. ถ้าลูกพูดโกหก พูดคำหยาบ คุณพ่อคุณแม่ต้องห้าม แล้วยังต้องคอยดูต่อไปอีกว่า ลูกจะทำความชั่วอะไรได้บ้าง ถ้าลูกเรียนชั้นประถมสืกษาปีที่ ๑ - ๓ ชั้นประถมดืกษาปีที่ ๔ - ๖ ชั้แมัธยมดืกษาปีที่ ๑- ๓ ชั้แมัธยมดืกษาปีที่ ๔-๖ และอยู่มหาวิทยาลัย ท็ศ ๖ ยุทธศาสตร์การเผยแผ่พระทุทธศาสนา 0าอ นด่...นกสร้างบารมี (e www.kalyanamitra.org

ในทำนองเดียวกัน การทำความดีในแต่ละระดับชั้นการศึกษา แต่ละวัย ลูกจะทำอะไรได้บ้าง ถ้าพ่อแม่คิดเตรียมไว1ห้พร้อมทุกทิศ ทุกทางอย่างนี้ ก็มีสิทธื้ที่จะได้ลูกดี แต่ถ้าไม่ได้ทำอย่างนี้ ก็มีสิทธื้จะได้ ลูกที่ไม่ดีเช่นกัน ตัวอย่างหน้าที่ของลูกที่มีต่อพ่อแม่ ในหัวข้อที่ว่า \"ท่านแยงเรามา เราจักแยงท่านตอบ\" ถ้าหากจะรอให้ลูกโตขึ้นมา แล้วคิดกลับมาเลี้ยงดูพ่อแม่เอง ย่อมเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้น ต้องฝึกกันตั้งแต่วัยอนุบาลทีเดียว เช่น การยกอาหารไปให้คุณtJคุณย่าของลูก ซึ่งก็ศึอให้คุณพ่อ คุณแม่ของเรา ให้ลูกเห็นอยู่ทุกวัน แล้วค่อย ๆ สอนให้ลูกยกอาหารไป ให้คุณปูคุณย่าบ้าง โดยเริ่มจากการให้ช่วยยกถ้วยนํ้าปลาให้ยกจานเปล่า ไปก่อน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวแกจะยกอาหารไปเททิ้งเสียหมด จะอดกินกัน หรีอเวลาคุณพ่อคุณแม่ของเราปวยไข้ ถึงเวลาก็เช็ดเนี้อเช็ดตัว อาบนั้าอาบท่าให้ท่าน ลูกอยู่ชั้นอนุบาลก็เรียกมาช่วยกันได้ เช่น ลูกเอ๊ย ไปหยิบผ้าเช็ดตัวมา ไปเอานั่นมา ไปเอานี่มา เดี๋ยวพ่อกับแม่จะอาบนํ้าให้ปูให้ย่า ให้ตาให้ยาย แล้วก็ทำให้แกดู สิ่งเหล่านี้ คือการปูพื้นฐานว่าต่อไปลูกจะเลี้ยงดูเรา เพราะแกได้เห็น แล้วว่าคุณพ่อคุณแม่ทำกับคุณปูคุณย่าอย่างไร อีกหน่อยแกก็จะทำกับ คุณพ่อคุณแม่อย่างนั้นบ้าง แส่...นกสร้างบารมี te Gcy ทิค ๖ (เทธศาสตร์การเผยแผ่พระทุทธคาสนา www.kalyanamitra.org

แต่ถ้าไม่สืกกันให้ดีตั้งแต่เล็ก ๆ ปล่อยให้ไปเรียนรู้เอาเองตอนโต ชาติหน้าบ่าย ๆ ลูกกไม่ทำอย่างที่เราต้องการ แล้วจะมาน้อยอกน้อยใจ ว่า ตั้งแต่แต่งงานไป ไม่รู้จักพ่อ ไม่รู้จักแม่เลย ดีแต่จะไปเอาใจสามี ดีแต่จะไปเอาใจภรรยาของตัวเองเท่านั้น และถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ ครอบครัวส่วนมากจะมีลักษณะเป็น ครอบครัวเดี่ยว คือ ปูย่าตายายไม่ได้อยู่ด้วยก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นอะไร ที่ลูกพอมาช่วยเราได้ ก็ด้องสืกให้แกท่าให้เป็น สมมุติว่า ถ้าเราตายไปวันนี้ ลูกของเราก็จะสามารถช่วยตัวเองได้ ในระดับหนึ่ง หรีอลุงป้า น้าอา ช่วยเอาไปเลี้ยง เขาก็จะได้เบาแรง เพราะ ลูกของเราเป็นเด็กน่ารัก เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ ต้องมองภาพเหล่านี้ให้ไกล ๆ จะได้ไม่ผิดหวังตลอดไป ๒. ทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครูบาอาจารย์ หน้าที่ของสิษย์ที่มีต่อครู คือ ๑) ลุกขึ้นต้อนรับ ๒) เข้าไปคอยรับใต้ใกล้รด ฅ) เร่อฟ้งคำสั่งสอน ๔) ปรนนิบัติรับใข้ ๔) เรียนสืลปวิทยาต้วยความเคารพ ทิศ ร ยุทธศาสตร์กาแผยแผ่พระทุทธศาสนา cJcr แด่...ฟ้ถสร้างบารมี <£ www.kalyanamitra.org

หน้าที่ทั้ง ๕ ประการนี้ ลูกสิษย์ไม่รู้หรอก หรือถึงรู้ก็รู!ม่หมด ถ้าพ่อเฌ่ไม่ได้สอนเอาไว้ก่อน ก็เป็นเรื่องหนักของครู แต่ถึงอย่างไร ครูก็ต้องสอน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะได้ลูกด้ษย์ที่เหลีอฃอกันเต็มบ้าน เต็มเมือง เพราะเมื่อตอนเป็นลูกต็ษย์ครูไม่ได้สอนให้ดี พอลูกดีษย์มีลูก เขาก็เอาลูกมาฝากให้ครูสอนอีก ซึ่งลูกของเขาก็คงจะอาการหนักกว่าพ่อ หนักกว่าเฌ่แน่นอน หน้าที่ซองครูที่มีด่อดีษย์ คีอ ๑) แนรนาให้เป็นคนดี ถ้าคุณพ่อคุณแม่อบรมสังสอนให้ลูกเป็นคนดีมาจากบ้านแล้ว คุณครูก็เบาแรง หน้าที่นี้ก็จะกลายเป็นเรื่องของสืกมารยาท ในการอยู่ ร่วมกันกับเพื่อน ๆ จำ นวนมาก เพราะอยู่ที่บ้านเคยมีแต่พื่ ๆ น้อง ๆ ๒ - ๓ คนเท่านั้น เพราะฉะนั้น ถ้าเด็กนิสัยไม่ดี ดีลธรรมยํ่าแย่ จะโทษวาเป็น ความผิดครูเพียงลำพังก็ไม่ได้ ถ้าพ่อเฟไมใf{ใจ แม้ครูจะสอนดีอย่างไร พอกสับไปถึงบ้าน แม่บอกว่า'■ลูกเอ๊ย มาก็ดีแล้ว ช่วยถือไพให้แม่ที เฟจะเข้าห้องนํ้า ก่อน\" นลํ...นกสร้างบารมี Ce gqc ทิค ร ยุทธศาสตร์การเผยนผ'พระทุทรศาสนา www.kalyanamitra.org

หรือพ่อบอกว่า \"ลูกเอ๊ย ไปชื้อเหล้ากับบุหรี่ ให้พ่อที เงินที่เหลือก็ เป็นค่าขนมของเอ็งก็แล้วกัน\" แค่นี้ก็แย่แล้ว ๒) ให้เรียนดี ฅ) บอกความ!ในสิลปวิทยาทุกอย่างด้วยดี ไม่หวงวิชา ๔) ยกย่องให้ปรากฏในหมู่เพื่อนฝูง ๔) ทำ ความป้องกันในทิศทั้งหลาย คือ ชี้โทษซึ่งแฝงอยู่ ในวิทยาการที่สอน ความรู้ทางด้านวิชาการ หากเกิดแก่คนพาล หรือคนที่มีศีลธรรม ไม่พอ ย่อมนำความเดือดร้อนมาให้ เพราะเขาจะใช้ความ^มีไปในทาง ที่ผิด ที่เป็นอกุศล เพทะวิชาที่สอนล้วนมีข้อบกพร่องประจำวิชา เพทะฉะนั้น ครูจึง ต้องสอนวิธีที่จะใ^ชาการอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการป้องกันให้แกด้วย เมื่อลูกศีษย์ทำหน้าที่ของตัวเองครบบริบูรณ์ทั้ง ๕ข้อ ครูบาอาจารย์ ก็ทำ กลับไปอีก ๕ ข้อ ความดืระหว่างลูกศีษย์กับอาจารย์ก็จะไหลเข้าหา กัน ไม่มีความชั่วเข้ามาเจือปนเลย แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ศีษย์และอาจารย์ก็จะมีความไม่ดือยู่ในตัว แล้วความไม่ดีของทั้ง ๒ ฝ่ายก็จะไหลเข้าหากัน ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อ การศีกษาหาความรู้อย่างยิ่ง ทิศ ๖ ยุทธศาสตร์การIผยฟพระทุท!รศาสนา «o นด่...นักสร้างบารมี te www.kalyanamitra.org

ฅ. ทิศเบื้องบน ได้แก่ สมณะ หรือว่าพระภิกษุผู้ทรงสืล หน้าที่ของญาติโยมที่มีต่อพระภิกษุ คือ ๑) ปฏิบัติต่อท่านด้วยจิดเมดดา ๒) พดกับท่านด้วยอิดเมตดา ท) ติดต่อท่านด้วยอิดเมดดา พูดง่าย ๆ อย่าเสียเวลามา คอยจับผิดพระ เพราะพระที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนานั้น แบ่งออก เป็น ๒ บ่ระ๓ทด้วยกัน คือ ประ๓ทที่ ๑ พระครูบาอาจารย์ คือ บวชถวายชีวิตแก่พระศาสนา ตั้งใจมาคืกษาหาความรู้ ตั้งใจมาอบรมบ่มนิสัยตัวเอง ตั้งใจจะถางทางไบ่ พระนิพพาน เมื่อได้รับ่ความรู้เท่าไหร่ ก็นำ กสับมาสอนให้กับญาติโยม บ่ระ๓ทที่ ๒ พระน้กเรืยน คือพอเข้าพรรษาก็ลองมาบวชดู เผื่อจะมีอะไรดีบ้าง ถ้าดีก็อยู่ต่อ ถ้าไม่ดีก็สืก ๔) ให้การด้อนรับด้วยความเต็มใจ ๕) ถวายทานเป็นประจำ ชีวิตพระจริง ๆ แล้ว คือชีวิต ของครูสอนคืลธรรม บ่ระ๓ทอาสาสมัคร ไม่มีเงินเดีอน มีแต่ข้าวปลา อาหารที่ญาติโยมนำมาถวาย เพราะฉะนั้น เช้า ๆ ช่วยตื่นขึ้นมาตักบาตร กันด้วยนะ นดํ...นักสร้างบารมี Ce <XO ทิศ to ยุทธศาสตร์การIผยแผ่พท■รทธศาสนา www.kalyanamitra.org

หน้าที่ของพรรภิฑชุ;ที่มีด่อญาติโยม คือ ๑) ห้ามไม่ให้ทาความที่ว ๒) ให้ทำนด่ความดี จะเห็นว่าพระภิกษุกับพ่อแม่มีหน้าที่ ๒ ประการแรกเหมีอนกัน คือ ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว และสอนให้ทำแด่ความดี เพราะฉะนั้น ท่านจึงบอกว่า \"พ่อแม่คือพระอรห้นส์ในบ้าน\" ฅ) มีเมตตาอนุเคราะห์ญาติโยม ๔) เป็นครูสอนดีลธรรมให้กับขาวโลก ๔) อริบายธรรมะให้แจ่มแจ้ง ๖) เทางสวรรค์ให้ ถ้าพระภิกษุไม่ฝึกฝนตนเองให้ดีพอ จนกระทั่งรู้ว่า นรก สวรรค์ เป็นอย่างไร ก็คงยากที่จะไปชี้ทางสวรรค์!ห้กับญาติโยมในเมื่อตัวเองยัง ไม่รู้ แล้วจะไปชี้ทางให้คนอื่นได้อย่างไร พระภิกษุจึงต้องมีหน้าที่เคี่ยวเข็ญ ตัวเองด้วย เพราะฉะนั้น ประชาชนชาวไทย เยาวชนไทย ครูไทย ควรท่อง หน้าที่ประจำทิศที่ตัวเองจะต้องท่ากับทิศทั้ง ๖ และทิศทั้ง ๖ จะต้องท่า ต่อตัวเองว่ามีอะไรบ้างให้ใต้ เมื่อท่องไต้แล้วก็นำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ท่ากัน อย่างนี้เป็นประจำ เราก็จะไต้พลเมืองประเภทที่มีหน้าตาแจ่มใส ทิศ ๖ ยุทธศาสตร์การเผยแผ่พระพุทธศาสนา (X® แด่...นักสร้างบารมี C6 www.kalyanamitra.org

มีใบหน้าใส ๆ ด้วยบ้าน ด้วยวัด ด้วยโรงเรียน คือใสด้วยพ่อแม่ ด้วยพระ ด้วยครู มองภาพตรงนี้ให้ชัด แล้วเราจะเข้าไปในโรงเรียนด้วย หน้าบาน ๆ ไม่ต้องหน้าหงิกหน้างอกับใคร ตอนเย็นออกจากโรงเรียน ทั้งลูกศิษย์ทั้งครูก็หน้าบานด้วยกันทุกคน พอมาถึงบ้านก็หน้าบาน ๆ ต้อนรับพ่อบ้าน แม่บ้าน ลูกบ้านของ ตัวเอง วันโกน วันพระไปวัด ก็ไปด้วยหน้าบาน ๆ ไมใช่ชนิดไปถึงก็ \"หลวงพ่อขอหวยสักงวดหนึ่งเถอะ\" แต่ไม่ว่าจะเป็นครู เป็นพระ หรีอเป็นพ่อแม่ก็ตาม ถ้าไม่ปฏิบัติ หน้าที่ประจำทิศของตนให้สมyรณ์ เดี๋ยวก็จะมีหน้าดำ ๆ เขี้ยวยาว ๆ ใจขุ่น ๆ อยู่ทั้งในโรงเรียน ทั้งในวัด ทั้งในบ้าน แล้วสังคมของเราจะ จุ่นวายขนาดไหน ลองไปนึกดูก็แล้วกัน แน่นอนใคร ๆ ก็อยากได้หน้าบาน ๆ ใจใส ๆ ด้วยกันทั้งนั้น แต่ว่าความสำเร็จนี้ไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง ต้องอยู่ที่ครูทั้งแผ่นดิน พระทั้งแผ่นดิน และพ่อแม่ทั้งแผ่นดิน ร่วมมีอกันทำ เป็นอันว่าหน้าที่ประจำของแต่ละทิศ ศรึ่งหนึ่งเป็นหน้าที่ของ เราที่ต้องปฏิบัติต่อผู้อื่น อีกครึ่งหนึ่งเป็นหน้าที่ของผู้อื่นที่ต้องปฏิบัติ ต่อเรา แด่...นักสร้างบารมี (£ ocei ทิศ ๖ ยุทซศาสตร์การเผยแผ่พร!!Vรทธศาสนา www.kalyanamitra.org

ในเวลาเดียวกัน พอเราเปลี่ยนหน้าที่จากลูกมาเป็นพ่อแม่ จากดีษย์มาเป็นครู จากญาติโยมมาเป็นพระภิกชุ; หน้าที่ที่เมื่อก่อน ไม่ต้องทำ วันนี้ต้องทำเสียแล้ว ผลสุดท้ายก็คงจะต้องทำหน้าที่ทั้งหมด นั่นแหละ เพราะฉะนั้น แผ่นดินไทยของเราจะเจริญรุ่งเรืองหรือเลี่อม จะสงบสุขหรือรุ่นวาย จะแบ่งแยกดินแดนหรือเที่อมประสานเป็น ขวานทองเหมือนเดิม ก็อยู่ที่ ฅ ทิศหลัก ดือ บ้าน วัด โรงเรียนนี่เอง ทิศ ๖(^ศาสตร์การเผยนผ่พระทุทธศาสนา OCGT นด่...นักสร้างบารร (e www.kalyanamitra.org