เนรมิตจิตใจ

mmm จากบันลามเณรโลสกะติสสะก็อยู่ในโอวาทพระสารีบุตร มาโดยตลอด เฃื่อฟังคำสั่งสอนและตั้งใจปฏิบัติธรรม พออายุ ครบบวฃโลสกะติสสะจึงได้บวชเป็นพระ แล้วปฏิบัติธรรมจน ได้เป็นพระอรหันต์ ตลอดชีวิตแม้ได้บวซเป็นพระแล้วก็ยังไม่เคยได้ฉันอิ่มแม้ เฟัยงครั้งเดียว พอออกบิณฑบาตชาวบัานเขาก็ด้กบาตรใหัแค่ ทัพพีเดียวเพราะกรรมมันบังตา คือคนใส่บาตรเขาเห็นว่าข้าว เต็มบาตรแล้วเขาจึงไม่ใส่ให้อีก สุดท้ายจึงได้อาหารบิณฑบาต มานิดเดียวแค'พอกันตาย แต่ไม่เคยได้ฉันอิ่มเลยจนร'างกาย ทรุดโทรม 50 เนรมิตจตใจ www.kalyanamitra.org พ-เะมหารเพาย ฐาาทโฒ

กระทั่งวันหนึ่งพระสารีบุตร!ด้วยญาณทัสสนะว่า ภิกบุ ผู้เป็นศิษย์วันนี้จะนิพพานแล้ว ท่านจึงสงสารอยากให้ได้ฉันอิ่ม 'บางสักมื้อ เลยให้ออกบิณฑบาตด้วยกันโดยเดินตามหลังท่านไป ปรากฏว่าผลกรรมแรงจนท่าให้วันนี้นพระสารีบุตรไม่ได้ รับบิณฑบาตอาหารเลย พระสารีบุตรจึงต้องให้พระโลสกะดิส ละกลับวัด แล้วท่านรับบาตรเองเสร็จเรียบร้อยค่อยนำอาหาร ไปให้ พอพระโลสกะดิสสะแยกทางกลับวัดเท่านี้นเองก็มีคนใส่ บาตรพระสารีบุตรมากมาย พระสารีบุตรรีบแบ่งอาหารบิณฑบาต ให้คนนำไปถวายให้พระโลสกะดิสสะ ปรากฏว่าด้วยผลกรรมคน รับอาหารเดินทางมาถึงกลางทางแล้วเกิดลืมว่าจะเอาอาหารไป ท่าอะไร จึงนั่งกินเองจนหมด เนรมตจิตใจ cr ฯ พรฆพาลฆขายฐทนใฑไฒ ^ www.kalyanamitra.org

พระสารีบุตรทานกลับถีงวัดจีงรู้ว่าพระโลลกะติสสะยังไม่ ได้ฉัน แต่ยังพอมีเวลาจึงเข้าวังไปหาพระเจ้าปเสนทิโกคส หวัง จะไปบิณฑบาตกับพระราซา พระราซาเห็นว่าใกล้เพลแล้ว พระองค์ทรงเกรงว่า เวลาจะไม่พอจึงไม่ถวายของคาว ถวายแต่ของหวานคือเภสัซ ทั้งหลาย มีนํ้าผึ้ง นํ้าอ้อย เนยใส เนยข้น พอพระสารีบุตร กลับมาก็คะขั้นคะยอให้พระโลสกะติสสะฉันภัตตาหารจากบาตร r เนรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org พระJiwiautitj ฐานพุโทเ

ที่พระสารีบุตรถือไว้ อาศัยบุญพระสารีบุตรคํ้าไว้เพราะเกรงว่า ถ้าวางบาตรลงอาจจะมีเหตุให้ภัตตาหารหายไปอีก พระโลสกะ- ติสสะจึงได้ฉันอิ่มในมื้อสุดท้ายแล้วนิพพานว้นนั้นเอง หลังจากพระโลสกะติสสะนิพพาน พระสัมมาล้มพุทธเจ้า ให้ทำพิธีฌาปนกิจแล้วให้เก็บอีฐิซึ่งเป็นพระธาตุของท่านบรรจุใน พระสถูปเจดีย์ ภิกษทั้งหลายสงสัยจึงกราบทูลถามพระสัมมา- ล้มพุทธเจ้าว่า เพราะเหตุใดพระโลสกะติสสะปฏิบัติธรรมจนเป็น พระอรหันต์ แต่ทำไมถืงมีวิบากกรรมหนักหนาขนาดนี้ พระสัมมาล้มพุทธเจ้าจึงทรงระลึกชาติไปดูเหตุแล้วนำ มาเล่าให้พระภิกษุทั้งหลายพิงว่า โลสกะติสสะภิกขุ ภพใน อดีตเคยบวขเป็นพระ ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสที่ตั้งใจปฏิบัติธรรม ตามปกติ กระทั่งวันหนึ่งเศรษฐีอุปัฏฐากใหญ่ของวัดแห่งนี้เห็น พระอรหันต์เดินทางผ่านมา แล้วได้เห็นกิริยาอาการน่าเลื่อมใส จึงนิมนต!ห้เข้ามาพักที่วัดนี้ แล้วปรนนิบัติดูแลอย่างดีจนพระ เจ้าอาวาสเกิดความอิจฉา รู้สึกว่าถ้าขืนปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป เศรษฐีด้องไปศรัทธาพระอาศันตุกะนี้มากกว่าตนแน่ เนรมิตจิตใจ ท0 พรรมvnmททย ฐานๅฬฒ ^^ www.kalyanamitra.org

พอตอนเช้าก่อนจะออกบิณฑบาตเจ้าอาวาสก็วางอุบาย ด้วยความอิจฉาริษยา คือแทนที่เจ้าอาวาสจะเคาะระฆังปลุก พระลูกวัดให้ออกบิณฑบาต ท่านกลับเอาเล็บเคาะระฆังเบา ๆ แล้วกระซิบกับระฆังว่า \"เคาะระฆังปลุกแล้วไม่ได้ยินเสืยงเ,อง ช่วยไม่ได้นะ\" แล้วท่านก็ออกไปบิณฑบาต พอท่านเจ้าอาวาสเจอเศรษฐีก็ใส่ร้ายพระอาคันตุกะทันที ว่า สงสัยท่านนอนหลับอุตุยังไม่ตื่น เมื่อวานท่านเศรษฐีถวาย ภัตตาหารมาก พระท่านคงจะฉันอิมเกินไป แต่ท่านเศรษฐีมีท่าทีนิ่งเฉย พอใส่บาตรเสร็จท่านก็ ฝากภัตตาหารไปถวายพระอาคันตุกะด้วย พอถึงกลางทางท่าน เจ้าอาวาสตั้งใจจะแกล้งพระอาคันตุกะจึงเทอาหารทิ้งทั้งหมด ด้วยวิบากกรรมนี้จึงส่งให้พระโลสกะติสสะตกนรก พอพ้นกรรมจากนรกก็มาเกิดเป็นยักษ์ จากยักษ์มาเกิด เป็นสุนัขอีก 500 ชาติ เป็นสุนัขเร่ร่อนอดอยากยากแคันแสน สาหัส ผอมแห้งเห็นกระดูกซี่โครง จนกระทั่งก่อนตายถึงได้กิน อิ่มหนึ่งมื้อ คือกินเศษอาหารที่เขาอาเจียนออกมา ตอนเป็นสุนัข หิวโซทุกชาติไป จนกระทั่งพ้นกรรมจากสัตว์แล้วมาเกิดเป็นคน ท่านก็ยังต้องเจอวิบากกรรมอย่างนี้เรื่อยไป 54 เนรมตจิตใจ www.kalyanamitra.org พไ!ะม\\1าร1นใทย รานวุฑเฒ

เพราะฉะนั้น เราอย่าไปอิจฉาริษยาใครเด็ดขาด เหีนใคร เขาทำความดีแล้วประสนความสำเร็จก็ให้มีมุทิตาจิต อนุโมทนา สาธุด้วย บุคคล 2 ประเภท ลองสังเกตว่า เมื่อมีคนประสบความสำเร็จ คนที่พบเห็น จะมี 2 ประเภท คือ \"อิจฉาริษยา\" และ \"มีมุทิตาจิต\" คือ บุคคลผู้ \"อิจฉาริษยา\" มักจะมีความรู้สึกอยากทำให้เขายํ่าแย่ ลง ไมคดพัฒนาตัวเองแต่กลับอยากจะฉุดเขาลงมา เขาจะได้ไม่ เด่นเกินหน้าเกินตาเรา ซึ่งเป็นความคิดทางลบ หรอพลังด้าน การทำลายที่ไม่เคยทำให้ใครเจริญขึ้นเลย เนรมิตจิตใจ 55 www.kalyanamitra.org พรร!เพ!ร;!ซารเ ฐานพไพ

ส่วนบุคคลผัมี \"บุทิตาจิต\" มีความคิดทางบวก หรอ มีพลังสร้างสรรค์ พอเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จก็มักจะเกิด มุทิตาจิต รู้สึกชื่นซมอนุโมทนา แล้วเกิดแรงบันดาลใจที่จะพัฒนา ตนเองให้ดีอย่างนั้นบัาง มีพลังแห่งความสร้างสรรค์ที่จะดึง ตัวเองให้พัฒนาล้าวหน้าต่อไป ถ้าประเทศใดสิกนิลัยคนในชาติให้มีมุทิตาจิต ประเทศ นั้นก็จะเจริญล้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ต่างฃาติใครทำดีก็มักชื่นซม ให้รางวัล หรือสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติ ผู้คนจะได้เกิด แรงบันดาลใจอยากเอาเป็นแบบอย่าง และอยากที่จะซวนขวาย พัฒนาตัวเอง ประเทศสหรัฐอเมริกาเจริญล้าวหน้าอย่างรวดเร็วก็ เพราะว่า ซาวยุโรปที่อพยพเข้าไปบุกเบิกบัานปาเมืองเถื่อนอยู่ ที่นั้น ไม่มีข้าวของเครื่องใข้ที่ให้ความสะดวกสบาย จะเดินทาง กลับไปนำข้าวซองเครื่องใข้มาจากยุโรปก็ไกล ดังนั้น ถ้ามืใครคิดค้นหรือสร้างอะไรขี้นมาใข้ได้เองใน ประเทศ ก็เท่ากับว่าช่วยให้ประซากรทุกคนมืความเป็นอยู่ที่สุซ สบายขึ้น เขาจีงได้รับความชื่นซมอย่างมากจนเกิดเป็นค่านิยมใน สังคมว่า ด้องชื่นซมยกย่องคนที่ฉลาดและคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ได้ สำ เร็จในทุก ๆ ด้าน เนรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org

ในสหรัฐอเมริกา ถ้าไครสรัางฺสรรค์สิ่งที่ดีมีประโยชน์แล้ว ประสบความสำเร็จ รัฐบาลจะประกาศเชิด^เกียรติคุณ สังคมก็ เชิดชูเกียรติคุณ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็เกิดแรงบันดาลใจอยาก จะเอาเป็นแบบอย่าง สหรัฐอเมริกาจึงสามารถสร้างนรัตกรรม ใหม่ ๆ ขึ้นมาไดมากมาย ในประเทศญี่ปุนก็เหมือนเาน มือนสาวรีย์อยู'ทั่วทุก หัวระแหง ในหมู'บ้านก็ยังมือนสา'รีย์ประจำหมู่บ้าน คนใน หมู่บ้านนี้มืใครประสบความสำเร็จเละควรยกย่องชื่นชมในทุก ด้าน อาท เป็นนักวิชาการที่มืชื่อแ ยง เป็นนักธุรกิจที่ประสบ เนรมิตจํตใจ 57 www.kalyanamitra.org พรฒพาลมจ!ย ฐาน

ความสำเร็จ เป็นนักกีฬาทีมชาติ เป็นดารา นักร้อง นักแสดง หรือเป็นนักเขียน เขาก็จะสร้างรูปปีนอนุสาวรีย์ให้ แล้วเล่า ให้ลูกหลานในหมู่บ้านฟังต่อ ๆ กันไปด้วยว่า บุคคลนี้เป็นใคร และทำความสำเร็จอะใร ถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็ก ๆ เกิด แรงบันดาลใจว่า อยากจะสืกตัวเองให้ดีอย่างนั้นบ้าง พระเอกประจำชาติ คือบุคคลที่สร้างสรรค์จนประสบ ความสำเร็จ พระเอกประจำชาติของผู้ชายใทยไม่ควรเป็นขุนแผน ที่ชายไทยด้องเอาเป็นแบบอย่างด้วยการมีบ้านเล็ทบ้านน้อย ให้มากทีสุด แต่ว่าพระเอกประจำชาติควรเป็นบุคคลที่มีความ รับผิดชอบ ขยันและอดทนสู้งานหนัก ประเทศไทยชองเราเองก็ควร!]กมุทิตาจิตให้เกิดขึ้นใน ระดับชาติ รัฐบาลต้องเป็นผู้นำ สื่อมวลชนนักวิชาการ และ คนในสังคมต้องร่วมมีอกันยกย่องชื่นชมคนที่ประสบความสำเร็จ โดยพยายามให้ข่าวเชิงบวก เปลี่ยนวงจรลบชื่งเป็นพลังที่คอย ถ่วงรั้งสังคมจนกลายเป็นสังคมทอนกำลัง เพราะชอบอิจฉา ริษยาทำลายกัน เปลี่ยนใหม่ให้เป็นสังคมที่เต็มไปด้วยมุทิตาจิต ใครทำอะไรได้ดีก็ชื่นชมยกย่องให้เป็นแบบอย่าง พัฒนากันไป ทั้งสังคม เนรมิตจิตใจ พระมหาลม'ชาย ฐาบรุทโ{น www.kalyanamitra.org

พ่อแม่ต้องคอยสอนลูกอย่าง^บ่อย ๆ เราก็จะเอาซนะ ความอิจฉาริษยา แล้วกลายเป็นผู้ที่พมุทิตาจิต สังคมไทยกจะ กลายเป็นสังคมที่สงบร่มเย็นสมกันเป็นลังคมเนืองพุทร และเป็น ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลล >ะ^ พ;? V' เนรมิตจิตใจ 59 www.kalyanamitra.org พระฆพาaนขาย ฐานวทโฒ

พ •I ^♦v< Hfh 4U I'fl www.kalyanamitra.org

10 ขั้นถอน สลิถทุกข์หยุถโกรร ความโกรธนั้นเหมือนระเบิด ที่จะต้องทำลายตัวเองก่อน แล้วค่อยลุกลามไปทำลายลิ่งแวดล้อม ผู้ที่โกรธก็เซ่นเดียวกัน ต้องทำให้ตัวเองทุกฃไจก่อนแล้วค่อย ๆ ทำ ให้คนที่อผู่รอบข้าง ทุกข์ใจตามไปด้วย ความโกรธนั้นไม่ดี แต่ในเมื่อเรายังมืกิเลสไม่สามารถ กำ จัดความโกรธให้หมดไปได้ เราลองมาเปลี่ยนความโกรธให้ กลายเป็นการสื่อสารอย่างสันติ ใคร ๆ ต่างก็ต้องมีความโกรธ ด้วยกันทั้งนั้นเพราะเรายังเป็นมนุษย่ปุถุขน แต่เราจะบริหาร ความโกรธอย่างไรให้กลายเป็นพลังสร้างสรรคไตันี่คือสิ่งสำคัญ เนรมิตจิตใจ ^1 พร!:มviaมชาย ฐานๅฬพ JL www.kalyanamitra.org

วิธีบริหารความโกรร ซารี ไคล์น (Shari KLein) และ นีล กิ๊บสัน (Neill Gibson) นักจิตวิทยาและผ้ที่เกี่ยวซ้องด้านพัฒนาบุคคล วิเคราะห์เรื่องความโกรธไว้อย่างน่าสนใจว่า ทำ ไมคนถึงโกรธ แล้วเราจะเปลี่ยนความโกรธให้กลายเป็นความเซ้าใจไค้อย่างไร ก่อนอื่นเราควรวิเคราะห์ก่อนว่า เวลาทื่เราโกรธนั้น เกิดอะไรขึ้น เรื่มแรกจะเกิดความไม่พอใจขึ้น สาเหตุของ ความไม่พอใจ คือความต้องการไม่ไค้รับการตอบสนอง อยากไค้ แล้วไม่ไค้ดั่งใจ เกิดการเพ่งโทษตำหนิผู้อื่น อาจเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ใครบางคนหรีอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้น วัตถแห่ง ความโกรธคือคน สัตว์ หรือสิ่งของนั่นเอง ในขณะที่เราโกรธ พอเราพูดหรือทำอะไรลงไป ผลลัพธ์ ที่เกิดขึ้นมักจะทำให้เราไม่ไดในสิ่งที่ค้องการ แสดงว่าความโกรธ ไม่มีประโยชน์ เราจึงควรแปรสภาพความโกรธให้เป็นอย่างอื่น ที่ ดี กว่า (1'^ เนรมิตจิตใจ (3,^ สนจายฐ-)บๅทโพ www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น เรามาเริ่มเรียนรู 10 ขั้นตอนปรับเปลี่ยน พฤติกรรม แล้วค้นให้พบว่าความโกรธนั้นมาจากไหน เรียนรู้ว่า เราควรจะแสดงความโกรธออกมาไนวิถีทางอย่างไร โดยเข้าใจ ว่าเราต้องไค้รับการตอบสนองร่วมกับผู้อื่น เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ ที่พึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายโดยไม่ใข้ความโกรธ ขั้นถอนสล้คทุกข์หยุดโกรร ขั้นถอนที่ 1 ส์ญญาณเทอน ขั้นตอนแรกเราควรมองว่า \"ความโกรธคือสัญญาณ เตือน\" เมื่อใดก็ตามที่เราเกิดอารมณ์คุกร่นรุนแรงขึ้นมา เรา มักจะมุ่งความสนใจไปยังคู่กรณี แล้วมองว่าความคิด คำ พูด หรีอการกระทำของอีกฝ่ายนั้นผิด เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นเราต้องหยุดความคิดลักษณะนี้ แล้วมองว่าคนอื่นไม่ได้เป็นฝ่ายผิด และไม่ได้เป็นศัตรูของเรา แต่อารมณ์โกรธนี้เป็นเพียงสัญญาณเตือนว่า \"ความต้องการของ เราไม่ได้รับการตอบลนอง\" เราไม่ควรมุ่งความสนใจไปยังสิ่ง ที่ไมได้ดั่งใจ หรือทุ่งเป๋าไปเพ่งโทษคนอื่น จากนั้นให้พยายาม ไตร่ตรองว่าเราอยากได้อะไรกันแน่ ' เนรมิตจิตใจ I ^o พรรUพาลนชาย Jj'WJทโพ '| (3^ www.kalyanamitra.org

ขั้นถอนท 2 ภูให้ซัค เวลาที่เราโกรธเราต้องหาคำตอบที่แท้จริงให้!ด้ว่าสิ่งที่ เราโกรธนั้นคํออะโร ดูให้ขัดว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น แล้วอธิบายให้ ใต้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ เพราะถ้ามีความขัดเจนเกิดขึ้นก็ จะทำให้เวลาสื่อสารเราไม'ไปเพ'งโทษอีกฝ่าย แด'เราจะมีความ พยายามที่จะสื่อสารให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น เมื่อความต้องการขัดเจนขึ้น คือพอเรารู้ว่าตัวเองต้องการ อะไร และอีกฝ่ายรู้ว่าเราต้องการอะไร ก็มีโอกาสมากขึ้นที่อีก ฝ่ายจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เราคิดและพูด เราต้องมีสติเพราะล้า คลุมเครือเราก็จะรู้เพียงว่าเราโกรธ แต่มองไม่เห็นว่าโกรธเพราะ อะไร j เนรมิตจิตใจ >iiruvnautnu ฐานๅฬฒ www.kalyanamitra.org

ขั้นทอนที่ 3 รันผิดซอน ต้องรับผิดชอบและจริงใจต่อความรู้ลีกของตัวเอง เพราะ ความโกรซเป็นสัญญาณบ่งฃี้ว่าเรามีแมวคิคเขิงตัดสิมแตัวออ่าว โทษ และละเลยความต้องการที่สำคัญบางอย่างของตัวเองไป ความร้สีกต่าง ๆ ที่เกิดจากใจเรานั้นเป็นสัญญาณเตือน ขึ่ง เป็นผลมาจากความต้องการในใจเราที่ไม่ไต้รันการตอนสนอง ตังนั้น เราจึงต้องเปลี่ยนจุดสนใจ แทนที่จะไปเพ่งโทษเขาก็ มาหาเหตุว่าเราต้องการอะไรให้ชัดเจน เนรมิตจิตใจ 65 พรรรพาลมโทย ฐาน'}ฬ& www.kalyanamitra.org

ขั้นทอบที่ 4 รู้เท่ากันความคัด โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่มักจะละเลยความต้องทารของ ตัวเอง เพราะด้วยวัฒนธรรมเรามักถูกสั่งลอนว'า ไม'ใหใส่ใจ ความต้องการของตัวเองมากนัก โดยให้พยายามลดความจำเป็น ต่าง ๆ ในชีวิตลง ยกตัวอย่าง ถ้าใครคนหนึ่งบอกความต้องการ ลึก ๆ ของตนเองออกมา กีมักจะถูกคนในสังคมมองว่าเป็นคน เห็นแก'ตัว เรามักจะไม่แลดงออกถึงความต้องการของตัวเองให้คนอื่น รับรู้ทั้งหมด เราจึงรู้ลึกโกรธ เพ่งโทษคนอื่นบ่อย ๆ มีอารมณ์ ความรู้สึกต้านลบแฝงอยู่ในใจเลมอ เนื่องจากความต้องการของเรา ไม่ได้รับการตอบลนองนั่นเอง 66 เ'นรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org ทใ1ะม«า3ฆโทย ฐานๅฑใพ

เพราะฉะ'นน ให้เรารู้เท่าทันความคิดของตัวเอง และ กระจ่างขัดกับความตัองการว่า จริง ๆ แล้วเรารู้สีกอะไร เข่น จริง ๆ แล้วเรารู้สึกกลัว รู้สึกเสึยใจ รู้สึกกังวล รู้สึกสับสน แล้วให้มุ่งความสนใจไปที่ความรู้สึกของเราว่า เราเกิดความรู้สึก นี้ขึ้นมา จากนั้นให้เราแยกความรู้สึกออกจากการตัดสินผู้อื่น ซึ่งขึ้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะจะนำไปสู่ความต้องการที่แห้จริง ของเรา แล้วจะส่งผลให้ไต้รับการตอบสนองด้วยกันทั้งสองฝ่าย เนรมิตจิตใจ I ๆระWEirtny ฐาน•ทุใโ!น I / www.kalyanamitra.org

ขั้นตอนท 5 ค้นหาความตอJการที่แท้จรJ ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง โดยเริ่มลกการ สื่อสารอย่างมีสติ คือสังเกตว่าขณะนี้เกิดอะไรขึ้น และมองใท้ เห็นว่าเรารู้สีกอย่างไร จากนั้นให้ดูว่าจริง ๆ แล้วเราต้องการ อะไร จากนั้นทบทวนว่าเราจะขอร้องให้อีกฝ่ายมาเติมเต็มสื่งใด ที่ เราขาดไปบ้าง เพราะฉะนั้น เราควรใสใจในการตอบสนองความต้องการ พื้นฐานของตัวเอง มากกว่าการใสใจในรายละเอียดที่จะส่งผล ไปสู่การตัดสินผู้อื่น แทนที่เราจะใส่ใจว่าคนอื่นจะรู้สิกตัวบ้าง ไหมที่ทำให้เราโกรธ ก็ให้เราเปลี่ยนมามุ่งความสนใจไปที่ความ ต้องการของตัวเองว่า เราต้องการให้อีกฝ่ายตอบสนองอะไรเรา แล้วเกิดความพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย 68 เนรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org ทระมทาลมชาย ฐาน-)ทโ&

ถ้าเรารู้ความต้องการพื๋'นฐานของตัวเอง ก็จะช่วยให้เรา รับฟ้งผู้อื่นอย่างลึกฃึ้งฃึ้น เพราะเกิดความเคารพและเข้าใจผู้อืน ส่วนความเอื้ออาทรและการเกื้อกูลของอีกฝ่ายก็เป็นพื้นฐานที่ ทุกคนต้องการ ในขณะที่เราต้องการ เขาก็ต้องการต้วยเช่นกัน จากนั้นให้วิเคราะห์ว่า จริง ๆ แล้วที่เราโกรธนันเป็น เพราะเรายังขาดอะไร หรือว่าเขาไม่ได้ตอบลนองสิ่งใดที่เรา ต้องการ ซี่งบางครั้งอาจเป็นเรื่องงาน เรื่องความสัมพันธ์ เรื่อง ของความคาดหวังของเราที่มีต่ออีกฝ่าย แต่ไม่ได้พูดกันให้เข้าใจ เป็นต้น เนรมิตจิตใจ : Vlisuvniiwtาบ ฐาน-!ทโฌ I |3 www.kalyanamitra.org

ขั้นตอนที่ 6 จับประเดน ต้องสรุปประเด็นสำคัญให้ได้ว่า สิ่งที่เราต้องการจริง ๆ คืออะไร เราจะต้องทำอย่างไรเพื่อบรรลุถีงความต้องการนั้นได้ เราโกรธเพราะเราไม่ได้สิ่งที่ต้องการ จงอย่าเอาความโกรธเปึน ประเด็น แตให้เอาสิ่งที่เราต้องการเป็นประเด็น ขั้นตอนที่ 7 เปลี่ยนแปลงอารบณิโกรร เราควรเปลี่ยนแปลงอารมณ์โกรธให้กลายเป็นขั้นของ การเรียน! คือเรียน!วิธีการที่จะขอร้องให้อีกฝ่ายตอบลนองใน สิ่งที่เป็นไปได้ แล้วเขาสามารถที่จะตอบสบองเราได้จริง ขั้นตอนท 8ใท้ความส์าคัญอีกน่ha เราต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับความต้องการของอีกฝ่าย การที่คนทั้งสองฝ่ายจะสื่อสารกัน!เรื่อง เราต้องเข้าใจเขาด้วยว่า จริง ๆ แล้วเขากำลังต้องการการตอบสนองอะไรบ้าง ไม่ไข่คิด เพียงว่าเราอยากจะได้รับการตอบสนองอะไรบ้างแต่ไม่ฟังอีก ■ฝ่ายเลย เพราะฉะนั้น หูของเราอย่าไปฟังเสียงที่เขาทำให้เรา โกรธ แด'ควรคิดวิเคราะทํให้สิกซึ้งว่า จริง ๆ แล้วอีกฝ่ายเขา ต้องการอะไร 'yr\\ เนรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org

ขั้นตอนกี่ 9ใครควรถก่อน เมื่อเรามองทุกอย่างรอบด้านแล้วให้เราตัดสินใจว่า \"ใคร ควรจะเป็นคนพูดก่อน\" เราหรออกฝ่าย โดยให้คิดดูว่าใครเป็น ทุกข์มากกว่ากัน แล้วใครมีความกระจ่างชัดมากกว่ากัน ใดยถ้า เราเปิดใอกาสให้คนที่มีความกระจ่างชัดมากกว่าพูดก่อน การ สื่อสารในคเงใวั้นก็จะไม่ล้มเหลว เจ่น เรามีความชัดเจนโดย รัห้นความรู้สึกทั้งหมดแล้วในขณะที่อีกฝ่ายยังทุกข์อยู่ เมื่อเรารู้ทันความรู้สึกของตัวเองแล้วจึงลามารถคาด- คะเนความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ เพราะเรารู้แล้วว่าเจาอยากได้ อะไร รู้สึกอย่างไร เซ่น เขากำลังกลัว หรือเขากำลังลับสน เพราะฉะนั้น ถ้าเรามีความกระจ่างชัดมากกว่า พอ ไปรับฟ้งคนที่เขากำลังจมอยู่ในความทุกข์อยู่ เหตุการณ์ก็จะ คลี่คลายได้ดีกว่า เป็นด้น ที่สำ คัญขั้นสุดท้ายคือ \"การเริ่มต้นสนทนา\" สรุปว่า พอเรารู้เท่าทันความโกรธ และด้นหาความต้องการของตัวเอง และอีกฝ่ายได้แล้ว ก็มาสรุปด้วยการสื่อสารอย่างลันติ เนรมิตจิตใจ ^ฯ พพพารมขาย ฐานวฺฟ้?น ! / X www.kalyanamitra.org

ขั้นทอนกี่ 10 เรมถ้นการสนทนา ก่อนเริ่มต้นการสนทนา ให้เรานึกถึงหลักว่า \"เรา ต้องการอะไร\" และ \"อีกฝ่ายมีความรู้สิกอย่างไร และต้องการ อะไร\" วิเคราะห้ให้ออกทั้งความรู้สึกของเขา และความต้องการ ของเราด้วย จากนั้นให้รู้ว่า \"เราต้องการให้เกิดผลอะไรในขั้นต่อไป\" นี่คือตัวกรองคำพูดของเรา เพราะถ้าเราไมคดว่าตัวเองต้องการ ให้เกิดผลอะไรในขั้นต่อไป เราก็จะพูดโพล่งกล่าวโทษอีกฝ่าย ออกไปอย่างไม'ทันคิด ซึ่งอาจจะทำให้ทะเลาะกันจนเกิดผล เสียหายบานปลาย แลัวต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ผลที่เกิดขึ้นตามมานั้นเกิดจากคำพูดและการกระทำของ เราเองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น เมื่อรู้ความต้องการที่ขัดเจนแลัว ให้ เราคิดก่อนว่าควรพูดอะไรและไม่ควรพูดอะไร เราควรวิเคราะห์ความรู้สีกว่า เรารู้สึกกังวล รู้สึกอยาก ได้ความเห็นใจ รู้สึกอยากได้ความรัก รู้สึกอยากได้ความจริงใจ จากนั้นให้รับฟังแล้วแสดงความด้องการของเราออกมา I เนรมิตจิตใจ / ' ผ11;มพ'1รแ)ขา[1 ราบ-jwla www.kalyanamitra.org

ที่สำ คัญให้เราพยายามพูดในสิ่งที่อีกp^ายรู้สี'า '■'^น \"พ^ รู้นะว่าคุณต้องการความรักความเอาใจใส่\" เป็นต้น เพียงเท่านี้ ก็จะเป็นการเปีดใจให้อีกฝ่ายพร้อมที่จะรับพีงความต้อง' เราเช่นกัน โดยไม่มีความโกรธหลงเหลืออยู่เลย เพราะฉะนั้น ควรตั้งหลักอย่างชัดเจน การเจรจาไม'ใช่ การเอาขบะกันด้วยวิวาทะ แต่เป็นการสร้างสันติร่วมกัน และ อีกหนึ่งอย่างที่ต้องเน้นยํ้า คือเราจะขอให้อีกฝ่ายทำอะไรให้ก ควรขอในสิ่งที่ไม่เกินความสามารกของเขาต้วย C\\_Jระร'' ะ^-^/^^ เนรมิตจิตใจ ๆ0 พระบMliUltS'liJ ฐานๅฑไฒ / ^ www.kalyanamitra.org

ง www.kalyanamitra.org

นับ 10 ให้ณึ 0 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า \"นตฺถิ โทสสโม กลิ\" แปลว่า \"โทษใดเสมอด้วยความโกรธโม่มี\" แสดงว่าความโกรธ นี้มีโทษมากที่สุด คนเราพอโกรธขึ้นมาจะทำอะไรไปโดยไม' คิดหน้าคิดหสัง พอโกรธจัดทำได้แม้กระทั่งสิ่งที่ตัวเองก็ยังคาด ไม่ถึง แลวพอความโกรธคลายลงก็ได้แต่มาน้กเสียใจภายหลัง เนรมตจิตใจ 75ฐาน!ฬรน www.kalyanamitra.org

กิเลส 3 ทระกล \"กิเลสตระกูลราคะ\" เกิดง่ายหายฃ้าแตมโทษน้อย ที่ ว่ามีโทษน้อยก็อย่าเพิ่งคิดว่าจะไม่มีปัญหา ยกตัวอย่างขายหนุ่ม เจอหญิงสาวแล้วถูกใจกัน พัฒนาความล้มพันธไปอย่างรวดเร็ว เกิดขึ้นง่ายแต่หายข้าและมีโทษน้อย โดยมีความผูกพันกันอยู่ ในใจ เทวดาก็ยังมีดวามซอบในเพศตรงข้าม เทพบุตรก็ซอน เทพธิดา เป็นตัน \"กิเลสตระกูลโมหะ\" คือความหลง เมื่อเกิดแล้วหายข้า แต่ว่ามีโทษเรื้อรัง ไมได้เกิดนุ่นปับขึ้นมาทันที \"กิเลสตระกูลโทสะ\" เกิดง่ายหายเร็วแต่มีโทษมาก พอ เพลิงโทสะโหมขึ้นมาในใจใครเขาก็จะอาละวาด พูดทำได้สารพัด เพื่อให้สะใจ คือโทสะนั้นมีโทษมากแต่จางหายเร็วกว่าโมหะและ ราคะ แต่ระหว่างที่บันดาลโทสะนั้นมีโทษและมีความรุนแรงมาก 76 เนรมิตจิตใจ vnsjji«าลฆ■ะ(าบ ฐาน-}ฬพ www.kalyanamitra.org

เหตุเกิคเพรา:ความโกรร มีแม่บ้านสิงคโปร์ท่านหนึ่งอายุ 30 กว่าปิ อยู่กินกับ สามีมานาน 10 กว่าปี อยู่มาวันหนึ่งกึมีคนมาบอกว่า ตอนนี้ สามีตนเองแอบไปมีภรรยาน้อย เจ้าตัวรู้สีกผิดสังเกตและสงสัย อยู่แล้วว่าทำไมพักนี้พ่อบ้านกสับบ้านผิดเวลาบ่อย ๆ แถมยัง เปลี่ยนรถตันใหม่ และแต่งตัวโฉบเฉี่ยวดูดีผิดปกติ พอมีคนมาเล่าให้ฟ้งเท่านั้นเองกิตัดว่าโซ่แน่ ๆ สามีทำ ธุรกิจขายรถมือสอง แม่บ้านจึงรีบไปหาตัอนปอนด์แล้วบุกไปที่ เต็นท์รถของสามี ไปถีงไม'พูดพล่ามทำเพลงเอาค้อนปอนด์ทุบ กระจกรถบ้าง กระโปรงรถบ้างรวดเดียว 18 ตัน ความโกรธ ถงคลายลง นึ่แต่ระบายความโกรธถงขั้นทุบรถไป 18 ตันรวด ตัด แต่ว่าลุยก่อนแล้วค่อยคุยกันทีหลัง พอทำลายข้าวของเสร็จ เรียบร้อย ถึงร้ว่าความเสียหายที่เกิดขี้นนั้งหมดเปีนเงินประมาณ 6 หมื่นเหรียญ ตัดเป็นเงินไทยกิประมาณ 2 ล้านบาท พอแม่บ้าน รู้ยอดค่าเสืยหายเท่านั้นกิเป็นลมล้มพับทันที เนรมิตจิตใจ 'TT พร{แjvieiuiny 5ใบา1เ*' / / www.kalyanamitra.org

ระหว่างที่โกรธไมคดหน้าคิดหลังจึงอาละวาด!'บสุดฤทธิ๋ สุดเดซ แต่พอความเสียหายเกิดขี้นตามมาก็ร้สืกเสียใจ เขาว่า คนกำลังโกรธฆ่าคนได้ โกรธปุบปีบฃี้นมาบางคนฆ่าบุคคลอัน เป็นที่รัก ฆ่าพ่อฆ่าแม่ โกรธจัด ๆ ฆ่าตวเองก็ทำได้ แล้วด้อง มานกเสียใจภายหลังทั้งนั้น ในกรณีที่คนเกิดบันดาลโทสะจนสรัางความเสียหาย ใหญ่โต ถูกตำรวจจับติดคุกด้าเนินคดีก็มีไม'น้อย ทั้งหมดนั้น เกิดขี้นจากความโกรธที่เรียกว่าอารมณีขั่ววูบ หรือบันดาลโทสะ แล้วตัวเองก็ต้องมานั่งเสียใจ เรองเล่าบันถาลโทสะ สมัยเรียนอยู่ที่คณะแพทย์ ๆ อาตมภาพมีเพื่อนนิสิต คนหนึ่งเขาพักอยู่หอพักเอกซนกบพื่ชาย วันหนึ่งอาตมภาพได้ ทราบข่าวว่าเพื่อนคนนี้เกิดเรื่องซกต่อย จึงถามเขาว่าเกิดอะไรขี้น เพื่อนเล่าให้ฟ้งว่า เขาพักอยู่หอพักชั้น 3 พอเดินขึ้น บันไดลัดไปประมาณ 5-6 ห้อง ก็จะถึงห้องของตัวเอง ในตก ชั้นเดียวกันนี้มีครอบครัวหนึ่งมีภรรยากำลังทั้งห้อง สามีก็ออก เซิงนักเลงชอบยืนกอดอกมองเซาตรงเซิงบันได ๆQ เนรมิตจิตใจ / ■.•.รบ!Vทส;J1ทข ฐานรุnlni www.kalyanamitra.org

ด้วยความท็่เพอนยังเป็นวัยรุ่นแถมยังเป็นนักกีฬาตัว สูงใหญ่ พอเขาเดินขึ้นนันโดมาเห็นมีคนยืนจ้องหน้า เขาจึง จ้องหน้ากลับแล้วค่อยเดินเลยไปที่ห้องของตัวเอง ปรากฏว่า พอนักเลงคนนั้นถูกจ้องหน้าคืนบ้างก็โกรธ ไปพาพวกมาเคาะ ประตูห้องเพื่อน พอเพื่อนเปิดประตูรับเท่านั้นเองกำป้นก็ลอย มาก่อนเลย หนุ่มนักเลงคนนั้นพาเพื่อนนักรักบี้ตัวใหญ่มาอีก 2 คน พอมาถีงก็รุมต่อยไม่ยั้ง เพื่อนอาตมภาพแหวกหลุดจากห้อง มาได้ก็ลงมาข้างล่าง ยืนงง ๆ แล้วรัองเรยกให้คนฃ่วย ส่วน พี่ขายที่พักอยู่ห้องเดียวกันยังถูกรุมอยู่ข้างบน จนลักพักพื่ชาย เดินโซซัดโซเซลงมาจากตึก นักเลงคนนั้นกับพวกรวม 3 คน รุมท่าร้ายเขาจนหนำใจแล้วก่อนกลับยังขับรถเฉี่ยวพี่ชายอีก เนรมิตจิตใจ 7Q ฬรบ«าลยราบ ฐานรุ*โเน : / www.kalyanamitra.org

เพื่อนของอาตมภาพรีบบอกให้ทางบ้านที่จังหวัดเพฃรบุรี รู้ข่าว พอพ่อแม่รู้ว่าลูกขายทั้งสองคนถูกรุมทำร้ายก็โกรธมาก จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ จากนั้นก็เอามือปีนมาดูหน้าดูตา ฝ่ายตรงข้าม คิดไว้ว่าจะสั่งยิงให้หายแค้น พอขึ้นโรงพักฝ่ายภรรยาของนักเลงคนนั้นที่กำลังทั้งห้อง เห็นมือปีนหน้าตาเหี้ยมเกรียมก็กลัว เข้าไปกราบขอร้องพ่อแม่ เพื่อนของอาตมภาพ สุดท้ายพ่อแม่เขาคงฉุกคิดได้ว่าลูกยังเรียน หนังสืออยู่ทั้งคู'จะหมดอนาคต จึงไม่ใช้มือปีนแต่ตำเนินคดีไป ตามกฎหมาย สุดท้ายหนุ่มนักเลงคนนั้นถูกลงโทษจำคุก เสียอนาคต เพราะจะมีประวัติอาชญากรติดตัวว่าเคยติดคุกติดตาราง เพ่ยง เพราะอารมณ์ชั่ววูบไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลังก็เสื่อมเสียไปตลอด ทั้งชาติ CQj ' Yเnนtรjjม'ิ,nตaจinิnด5jใฐจาบรุฬพ www.kalyanamitra.org

พาพวกไปรุมต่อยเขาทั้งที่อาคัยอยู่ใกล้ก้นแค่นั้น แล้ว ต่วเองก็มีภรรยากำลังทั้งท้องอยู่ ไปทำร้ายเขาแล้วจะหนีไปไหน ท้น เพียงเพราะโกรธที่เขามองหน้าตัวเองเท่านี้ ไม่ท้นไตัคิดว่า จะเกิดผลเสียตามมาภายหลัง ลุยก่อนเลยแล้วก็มานีกเสียใจ ภายหลัง เกิดเป็นนีญหาทำใท้ชีวิตภายภาคหน้าลำบาก โทษ]ถเสมอถ้วยความโกรรไม่มี มีอีกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ขาย คนหนึ่งขับรถอยู่บนท้องถนน ปรากฏว่ารถเกิดเสียกลางพาง จึงรู้สึกโกรธ พอหงุดหงิดขึ้นมาก็คว้าป็นอาก้าออกมาจากรถ แล้วกราดยิงรถตัวเองจนกระสุนหมดแม็กกาขืน พอรู้สีกสะใจ ก็คลายโกรธลงหน่อย จึงค่อยโทรตามอู่มาลากรถของตัวเองไป ซ่อม เพราะความโกรธรถโดนกระสุนเจาะเข้าไป 30 นัด เสีย ทั้งเงินเสียทั้งเวลา ตัวเองเดือดร้อนได้เพียงความสะใจ เนรมิตจิตใจ Q1 พใรมvnmmu ฐานๅtilai yj X www.kalyanamitra.org

พระสัมมาสัมพทธเจ้าตรัสว่า \"โทษใดเสมอด้วยความ โกรธไมม\" จริง ๆ เชื้อโกรธนั้นมีกันทุกคนเพราะมนษย์ยังไม่ หมดกิเลส จะตัดความโกรธได้ต้องบรรลุขั้นพระอนาคามีชื้นไป เอาเป็นว่าเราต้องสิกให้ความโกรธอยู่ไนเกณฑ์ที่ควบคุมไต้ อย่า ให้ล่วงเลยไปกอความเสืยหายแก่ตัวเราและผู้อื่น มีคราวหนึ่งพระอินทร์กราบทุลถามพระสัมมาสัมพุทฐเจ้า ว่า \"พระพุทธเจ้าจ้า บุคคลฆ่าอะไรเสืยได้จะนอนเป็นสุข ฆ่า อะไรเสืยได้จะไม่เศร้าโศก พระมหาสมณโคดมทรงสรรเสริญ การฆ่าอะไร\" พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบว่า \"บุคคลฆ่าความ โกรธเสียได้จะนอนเป็นสุข\" ถ้ากำลังโกรธอยู่ก็หลับไม'ลง มันหงดหงิดพลุ่งพล่านไปหมด เมื่อชำระความโกรธออกจากใจ ได้เราก็หลับสบาย นอนหลับอย่างมีความสุข บุคคลฆ่าความ โกรธได้ย่อมไม่เศร้าโศก อาการเผือดใจแห้งใจก็จะหายไป พระอริยเจ้าทั้งหลายทรงสรรเสริญการฆ่าความโกรธ ขี่ง มียอดหวานแต่มีรากเป็นพิษ และออกผลมาเป็นความทุกขไน ที่สุด คือตอนกำลังโกรธถ้าได้ทำอะไรให้ตัวเองรู้สึกสะใจ เข่น 82 เนรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org ท:(รนททสฆใทย ฐาน•{ทโa

คิดว่า \"แหม...'บงอาจนอกใจเรา\" จงคว้าค้อนปอนด์■ทุบรถ 18 ค้นรวดแบบนี้มันว้สีกสะใจ หรือโกรธรถตัวเองจีงคว้าปีน อาท้าขึ้นมายิงกราดรถ 30 นัด มันรู้สึกสะใจดี อย่างนีเรียกว่า \"มียอดหวานแต่มีรากเป็นพิษ และออกผลเป็นความทุกฟ้\" 'ค้าให้เรามีปิญหามากมายตามมา เนรมิต?ตใจ Q0 พรพพาร}JUIK I 00 www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น เราจึงต้องแก้ความโกรธด้วยการ \"ตัดไฟ ต้นลม\" มีหลักการง่าย ๆ คือคนที่กำลังโกรธนั้นมีสาเหตุมาจาก ความผิดหวัง รู้สึกว่าไม่ไต้ดั่งใจ พอผิดหวังก็เกิดอาการโกรธแล้ว ก็ลุยเลย ยกตัวอย่าง คนทีอยากจะเข้าห้องแต่เข้าไม่ไต้เพราะมี กำ แพงขวางกั้นอยู่ พอโกรธก็ควัาค้อนปอนด์ทุบกำแพงเสึยเลย พอเกิดป้ญหาขึ้นให้เราแก้ไขด้วยการตรวจสอบตัวเอง ก่อนว่า จริง ๆ แล้วเราต้องการอะไร แล้วตรวจสอบอีกฝ่าย ว่าเขาต้องการอะไร ทำ ไมเขาถึงทำอย่างนั้น เรียกว่า \"รู้เขา รู้เรา\" พอเราเข้าใจตัวเองและเข้าใจอีกฝ่ายแล้วเราก็จะพบ ทางออกว่า ควรทำอย่างไรให้เขาปรับให้ตรงกับที่เราต้องการ ไต้ เรียกง่าย ๆ ว่าจะทำอย่างไรถึงจะปรับความต้องการของ ทั้งสองฝ่ายให้มาพบก้นครึ่งทางไต้ เมื่อเราเข้าห้องที่มีกำแพงกั้นไม่ไต้ แทนที่จะคว้าค้อน ปอนด์ทุบกำแพงออก ก็ให้สำรวจว่าประตูอยู่ตรงไหน การ \"รู้เขารู้เรา\" คือกุญแจไขประตูหัวใจ พอพบประตูเราก็เข้า ห้องได้อย่างสบาย ๆ เข้าไปนั่งอยู่กลางใจเขาโดยไม่ต้องเอา ค้อนปอนด์ทุบผนังห้องให้เสียหายเลย Q A ณรมิตจิตใจ ^4* พระมพาสนใ)าย^านวุฬพ www.kalyanamitra.org

ดังนั้น เราต้องเข้าใจความต้องการของดัวเองอย่าง ซัดเจนก่อนว่า จริง ๆ แล้วเราอยากไต้อะไร และทีเราซัดไจ จนโกรธนั้นมันดืออะไรกันแน่ พอตรึกตรองไห้ดีความโกรธมัน จะลดหายไปไนที่สุด อย่าลืมความจริงข้อที่ว่า พวกเราทุกคนล้วนแต่เวียน ว่ายตายเกิดมานับภพนับชาติไม่ล้วน ต่อไห้ไนซาตินีเรากับเชา ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย หรือเป็นคู่แค้นกันอยู่ ภพไดภพหนึง ไนอดีตเขาอาจจะเคยเป็นพ่อเป็นแม่หรือเป็นลูกชองเววนวว่อน เคยเป็นบุคคลที่เรารักยิ่งมาว่อน แต่เราลืมไปแล้วเท่านั้นเอง พอคิดไต้อย่างนี้แล้วความปรารถนาดีจะเกิดขึ้น และ ความรู้สึกอยากทำลายเขาก็จะคลายลง ไห้เราตั้งสติ รู้เชารู้ เราไห้ไต้ สุดท้ายเราจะเปลี่ยนแปลงความโกรธเป็นความเข้าไจ และสามารถแก้ไขป็ญหาไต้อย่างราบรื่นไนที่สุด Y เนรมิตจิตใจ พระมฬารนชาย ฐานวุฬฒ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

13 แนวทาง สร้างกำลังไ'าให้ถนเอง มนุษย์มีศักยภาพในตัวเองมากมาย แต่เราไม่สามารถ ดึงศักยภาพที่เรามีมาใฃได้ทั้งหมด เพราะเราอาจจะไม่มีความ มั่นใจในตัวเอง ไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง หรือไม่มีกำลังใจ ที่จะนำพาตัวเองไปสู่ความสุขแสะดวามลัวเร็จ เนรมิตจ็ดใจ j Qๆ msjjwiสนจาย ฐานา*!ไผ I Cj/ www.kalyanamitra.org

เทคนิคสร้าJกำผัใจให้เกิถกับถนเOJ จริง ๆ แล้วความสำเร็จของแต่ละคนขึ้นอยู่กับปัจจัย ภายในคือ \"ตัวเรา\" นั่นเอง ส่วนปัจจัยภายนอกอย่างอื่น (.ข่น มีผู้ใหญ่สนับสนุน ภาวะแวดล้อมเอืออำนวยให้ก็มีความสำกัญ แต่ยังเป็นเพียงปัจจัยรอง ล้าตัวเราไม่พร้อม ปัจจัยภายนอก แม้มีพร้อมมูลก็ไม่เกิดประโยชน์ เคยถามตัวเองหรือไม่ว่า คนธรรมดา ๆ อย่างเรา สามารถพัฒนาตัวเองให้เกิดแรงบันดาลใจ แล้วมีแรงจูงใจที่ จะประสบความสำเร็จได้มากเท่ากับผู้ที่เขาประลบความสำ!,เชุ แล้วในโลกนีอย่าง บิล เกตส์ (Bill Gates) หรือ สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) ได้หรือไม่ คนทีประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้นขึ้นอยู่กับว่า เขา มีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เคยสงสัยไหมว่า ทำ ไมบางคนสามารถพัฒนาตัวเองไปเป็นอย่างที่หจังและกัง'[ว ได้ สิ่งสำกัญที่สุดคือ \"เขาไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ\" เรืยกว่า \"พรแสวง\" เหนือกว่า \"พรสวรรค์\" 88 เนรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org พาสนชาย 5าบวฺฬa

แนวทาjn 1 กำ หนถเยาหมายไนยีวิท สิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างกัน คือแรงบันดาลใจ และความมุ่งมั่นที่จะยกระดับซีวิตของตัวเอง ยกระตับการงาน รวมทั้ง เป๋าหมายในซีวิต และความเชื่อว่าเราเป็นได้มากกว่าที่ ตัวเองเป็นอยู่ แล้วเราจะทำอย่างใรที่จะดึงศักยภาพของตนเอง ออกมา หรือสร้างกำลังใจให้ตัวเองก้าวไปสู่ความสำเร็จได้จริง เราจะเห็นได้ว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเป๋าหมายในชีวิตที่ เราตั้งไว้ ถ้าเราไม่ได้ตั้งเป๋าหมายอะไรไว้เลยก็เหมือนเรือที่ไม่มี เข็มทิศ มุ่งหน้าไปโดยไม่ได้ปรับหางเสือเรือให้ตรงทิศทาง เรือ จึงลอยไปเรื่อย ๆ ไร้จุดหมายปลายทาง เพราะฉะนั้น ขยัน อย่างเดียวยังไม่พอ ก่อนอื่นเราต้องกำหนดเป๋าหมายในชีวิตของด้วเองให้ ซัดเจนก่อน ซึ่งจะต้องเป็นเป๋าหมายที่เฉพาะเจาะจงที่สุดว่า เราต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตบัาง แล้วเลิกพรํ่าบ่นกับ โฃคซะตาฟัาลิขิต หันมากำหนดชีวิตให้ซัดเจนว่า เป๋าหมาย ที่แห้จริงในชีวิตของเราคืออะไร และสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ นั้นคืออะไร เนรมิตจิตใจ YHKมหาสม■ชาย ฐานๅทโฒ www.kalyanamitra.org

แนวกาjn 2 มอาใหัก:ลุไปณึพลลัพรสุคก้ไย เราจำเป็นจะต้องมองทะลุไปให้ถึงผลลัพธ์สุดท้ายของ สิ่งที่เราอยากไต้ แล้วเราจะไต้อะไรในภาพสุดท้ายนั้น เซ่น เฟ้าหมายของเราคือการลดนํ้าหนัก 10 กิโลกรัม เป็าหมาย สุดท้ายที่เรามองทะลุไปถึง คือเราจะมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น ร่างกายกระฉับกระเฉง และมีกำลังวังขาไปไหนมาไหนได้ละดวก เวลาไปร้านขายเสื้อผ้าเราสามารถลองขุดไต้อย่างมีดวามสุข ไม่ ว่าเราจะเดินไปที่ไหนคนอื่นก็ต้องเหลียวมองเรา เพราะว่าเรามี ร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นต้น จริง ๆ แล้วการมองให้ทะลุไปถึงผลลัพธ์สุดท้ายนี้สำคัญ มาก เพราะภาพสุดท้ายจะเป็นแรงจูงใจให้เราเดินไปไต้ตลอด เส้นทาง เพราะฉะนั้น เราจำเป็นจะต้องมีเป็าหมายที่เฉพาะ เจาะจง ไม่คลุมเครือ ย.กโตV้วอย.่.าง เราตะังเMป้าหมายไว้ว่าเราจะรวย เพียงเท่าน อาจจะคลุมเครือไป เราต้องสร้างความขัดเจนในเป้าหมายมาก ยิ่งขึ้น เซ่น เราจะหาเงินให้ไต้ 3 แสนบาทเพื่อนำไปทำบุญ หรือเพื่อไปท่องเที่ยวซ่วงวันหยุดพักร้อน หรือเพื่อขยายธุรกิจ ของตัวเอง เป็นต้น ซึ่งเราจะเป็นผู้กำหนดเป้าหมายต่าง ๆ ให้ ขัดเจนได้ดิที่สุด ล้าเรามีจุดมุ่งหมายขัดเจน และเป็นสิ่งที่ทำไต้ จริงก็จะนำเราไปสู่แผนปฏิบัติการอื่น ๆ ต่อไปได้ เนรมิตจิตใจ พใะมไทซมฃาย ธานพฺโฒ www.kalyanamitra.org

แนวกางท 3 สรางภาพส์าแจให้เกิถขนก่อน การตั้งเปัาหมายโดยการสร้างภาพสำเร็จให้เกิดขึ้นก่อน นั้น ให้เราลองหลับตาแล้ววาดฝืนมองให้เห็นภาพอย่างจริงจังว่า ล้าเราไปถึงเป๋าหมายนั้นแล้วจะเป็นอย่างไร พยายามสร้างความ ร้สีกนี้ไปไห้ทั่วร่างกาย ทำ ซํ้าแล้วซํ้าเล่าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง นี่ถึอการลร้างภาพสำเร็จไห้เกิดขึ้นก่อน แล้วความสำเร็จจริง ๆ จะตามมา ถึอเป็นการตอกยํ้าเฟ้าหมายของเราไห้ซัดเจนยิ่งขึ้น ทำ ให้เรามีแรงเดินหน้าต่อโปนั่นเอง เนรมิตจิตใจ Q \"I พร ฐาบรุ*!โรน www.kalyanamitra.org

iiuomjH 4 uunniชาแนายเป็น(ทัวอักษร บันทึกสิ่งที่เราคิดว่าเป็นเฟ้าหมายในขีวิตออกมาเป็น ตัวอักษร ตัวยการเขียนมันลงไปในหน้ากระดาษ การจดสิ่งที่ เป็นความคิดลงไปในหน้ากระดาษทำให้เราได้ทนทวนเป๋าหมาย ทุก ๆ วัน ใจเราก็จะจดจ่อถึงผลลัพธ์สุดท้ายที่เราต้องการ ไม่ว่า เราจะตั้งเป๋าหมายอะไรไวัก็ตาม ถ้าเราทำเป๋าหมายสมมติ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่มันจะมีความท้าทายตามมาเสมอ พอเราเขียนเป๋าหมายของตัวเองลงไปเป็นตัวอักษรแล้ว ให้ติดมันไว่ในสถานที่ที่เรามองเห็นได้ทุกวัน เพื่อจะเป็นตัวช่วย ยํ้าเตือนให้เราขับเคลื่อนไปสู'เป๋าหมายได้อย่างไม่ไขว้เขว เป๋าหมายไม่ถูกเบี่ยงเบนไปเพราะเราได้ตอกยํ้าอยู่เสมอว่า เป๋าหมายที่แท้จริงของเราคืออะไร และเราต้องการอะไรจนกว่า เราจะบรรลุเป๋าหมายนั้น Q^ 1 เนรมิตจิตใจ insywai.uirj ฐานพุโ«1 www.kalyanamitra.org

แนวทาJfi 5 แคกเบๆหมายใแญ่ ๆ ออกเป็นลำดับขน แตกเป้าหมายใหญ่ ๆ ออกเป็นลำดับขั้น ไมให้เป้าหมาย เป็นเพียงคำพูดลอย ๆ ด้วยการจัดระบบเป้าหมายให้เริ่มเป็น จริงด้วยการระดมความคิดของตัวเอง แล้วแยกย่อยเป้าหมาย ออกเป็นข้อ ๆ เหมือนขั้นบันได เข่น ถ้าเราจะหาเงินไห้ได้ 3 แสน เราควรเริ่มวางแผนจัด ระบบความคิดว่า ไน 1 สัปดาห้ เราจะสามารถทำงานหาเงิน ได้เท่าไร เราจะหาข่องทางสร้างรายได้เสริมด้วยวิธีการอย่างไร แล้วแต่ละซ่องทางนั้นไข้เวลาเท่าไร ได้ผลตอบแทนประมาณ เท่าไร หรือเราควรลงทุนอะไรถ้งจะได้ผลตอบแทนที่สามารถ ครอบคลุมสิ่งที่เราต้องการได้ และต้องไมลมที่จะมองไปถึงราย จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วย นี่คือการแตกเป้าหมายใหญ่ ๆ ออกเป็น ขั้นบันได ทร้อมกับเขียนทั้งหมดลงบนหนากระดาษ เนรมิตจิตใจ Q0 www.kalyanamitra.org

1!นวทา31า 6 วางแผนปฏับัตีการ หลังจากที่เราได้แตกเป้าหมายใหญ่ ๆ ออกเป็นขั้น บันไดแล้ว ให้นำไปสู่ตัวของแผนปฏิบัติการ (Action Plan) คือการเขียนแผนรายวัน รายลัปดาห้ และรายเดือน ว่าเราจะ ทำ อะไร ทำ อย่างไร และลงมือทำเมื่อใด แนวทางท 7 ประ!บินแผนปฏิบัตีการทุกวัน หมั่นประเมินแผนปฏิบัติการทุกวัน เพื่อจะได้รู้ว่าเรา เข้าถงหรือบรรลุแผนในขั้นนั้น ๆ แล้วหรือไม่ แล้วจดบันทึก ความสำเร็จในส่วนของแผนการแต่ละขั้นไว้ด้วย ถ้าเรายังไม่ บรรลุแผนขั้นใดก็ให้ประเมินว่าเราติดขัดตรงไหน แล้วปรับเปลี่ยน แผนตามความเหมาะลม เพื่อมุ'งไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ Q /I เนรมิตจิตใจ www.kalyanamitra.org พ';ะ) าบ ฐานๅ»1โพ

แนวทาjn 8 สร้างมรรยาทๆศส่:เสริมกำลัาใจ ทุกการเดินทางของเรามักจะมี \"มารผจญ\" หรือตัว ขัดขวางความสำเร็จอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น เราจะต้องสร้าง บรรยากาศส่งเสริมกำลังใจให้ตัวเอง ด้วยการอยู่ท่ามกลางคน ที่ให้กำลังใจเรา เพื่อเราจะไต้มุ่งมั่นเดินหน้าไปส่เฟ้าหมายไต้ อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันเราก็ต้องสร้างกำลังใจให้เกิดขึ้นมาจาก ตัวเราเองด้วย บางคนใขัเทคนิคบอกกับตัวเองว่า \"วันนี้ไม่ดี ไม่เป็นไร พรุ่งนี้จะต้องดีขึ้นกว่าเมื่อวาน แล้วดีขึ้นทุก ๆ วัน\" นี่คือการสร้างความมุ่งมั่นให้แก่ตัวเอง และไม่ยอมให้ใครมา ทำ ลายกำลังใจเราได้ง่าย ๆ แนวทางที่ 9 ทา!ๅทอย่างถัวยความสนทสนานท้าทาย ให้ทำทุกอย่างอย่างสนุกสนานท้าทาย โดยเริ่มต้นจาก เฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จ และหัวเราะให้กับความล้มเหลว ให้โอกาสตัวเองไดิใขัเวลาขื่นขมยินดีกับความสำเร็จ ที่เกิดขึ้น ทำ ทุกเรื่องให้เป็นเรื่องสนุกสนานท้าทาย เติมสีสัน ลงไประหว่างการเดินทางสู่เฟ้าหมาย เพื่อที่เราจะไต้เก็บเกี่ยว ประสบการณ์จากสิ่งที่เราทำอยู่ทุก ๆ วัน และประสบความ สำ เร็จได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เนรมิตจิตใจ I ทระม*,ทลน•ช!ยฐานวุฬรฆ I www.kalyanamitra.org

Nuamjn 10 มีควาบรับพิถชอบทๆะบรรลุเบาหมาย เมื่อเราเขียนความต้องการของตัวเองไว้แล้ว สิ่งหนึ่งที่จะ ทำ ให้เราเกิดความรับผิดขอบต่อความต้องการของตัวเอง และ บรรลุเฟ้าหมายไตั คือเราต้องตอกยํ้ากับตัวเองเลมอว่า \"เรา ทำ ได้\" ที่สำ คัญเราจะต้องมีวินัยโนตัวเอง มีความพยายาม และ ต้องเขื่อมั่นว่าเราทำไต้ เราถึงจะประสบความสำเร็จไต้ในที่สุด แนวทาjH 11 มองหาตัวช่วยให้ถี ทรัพยากรที่จำเป็นจะทำให้เราบรรลุเป๋าหมายได้ เรา จำ เป็นจะต้องหาตัวฃํวยที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการขอความฃ่วยเหลือ จากสมาขิกในครอบครัว ขอการสนับสนุนจากคนรอบข้าง และ ขอความช่วยเหลือจากมีออาขีพในเรื่องที่เราไม่ถนัด เข่น ที่ ปรึกษาด้านการลงทุน ที่ปรึกษาต้านภาษา เป็นต้น เรียกไต้ว่า ให้เขาเป็นทั้งตัวช่วย และเป็นทั้งต้นแบบที่ดี % เนรมิตจิตใจ ! หระมพาสนขทยฐาน-}ทใทเ www.kalyanamitra.org

เราควรมองหากลุ่มคนที่มีเฟ้าหมายเดียวกัน ยกตัวอย่าง ถ้าเราต้องการบรรลุธรรมภายในพรรษานี้ เราควรหาตัวช่วยด้วย การจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาใน Social Media หรือช่องทางใดก็ไตั หรือมองหากลุ่มคนที่มีความสนใจร่วมกัน และได้ทำกิจกรรม ร่วมกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และมีการจดบันทึกอยู่เสมอ ๆ การกระทำในรูปแบบนี้ถือเฟ้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ที่จะ ทำ ให้เราไม่เบี่ยงเบนไปจากเฟ้าหมายที่ไตัวางเอาไว้ แนวทาjn 12 คิถหาแนวทบใหม่ ๆ อย่าJสร้าวสรรค์ คิดหาแนวทางใหม่ ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่าง สร้างสรรค์ แล้วเราจะพบว่า ตัวเรามีศักยภาพมากพอที่จะ สร้างสรรค์สิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ แนวทางที่คนอื่นเคยเดินมาก่อน เราทำได้อย่างมากก็ แค่เดินไปตามเส้นทางนั้น แต่ถ้าเราสร้างแนวทางใหม่ ๆ เพื่อ แช่งขันกับสิ่งที่ตลาดมีอยู่แล้ว เช่น หาผลิตภัณฑใหม่ ๆ หรือ เปลี่ยนวิธีคิดต่อการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑใหม่ ๆ ขึ้นมา เราก็ ไม่ด้องไปแช่งขันกับใคร แต่แข'งขันกับตัวเอง เนรมิตจิตใจ I Q'•ๆ พระมVทสมใ)าบ ฐานวุฬท! / www.kalyanamitra.org

ยกตัวอย่าง มีคนสองคนนำรองเท้าไปขายที่ประเทศ อินเดีย พอไปถึงเห็นคนอินเดียไม่มีใครใส่รองเท้าเลย คนที่ หนึ่งบอกว่าขายไม่ได้แน่ จัดแจงขนรองเท้ากลับบ้าน แต่อีก คนหนึ่งกลับบอกว่า ที่นึ่เป็นตลาดใหญ่มากเพราะยังไม่มีใครมี รองเท้าเลย ทุกคนมีโอกาสซื้อรองเท้าของเขาทั้งนั้น นึ่เองถือว่า เป็นการคิดวางแผนหาแนวทางใหม่ ๆ แม้แดอุปกรณ์สื่อสารอย่างโทรศัพท์มีอถึอ หรือ คอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยม และประสบความสำเร็จใน การขายก็เกิดจากการคิดหาแนวทางใหม่ ๆ ที่ไม่เหมีอนเดิม โดย สดีฟ จอบส์ (Steve Jobs) คิดแบบผู้นำที่ไม่เชื่อ ผลการวิจัยตลาดของทีมวิจัย แต่เชื่อมั่นในตัวเองว่า เขารัว่า ตลาดต้องการอะไร เพราะผลิตภัณฑใหม่ ๆ ยังไม่มีในท้องตลาด กลุ่มผู้บริโภคยังไม่รู้จัก ผู้บริโภคไม่เคยใช้เลยแล้วเขาจะรูใด้ อย่างไรว่าตนจะชอบหรือไม่ขอบ คิดฉีกแบบผู้นำอย่างนี้ถึงจะ ประสบความสำเร็จ QQ เนรมิตจิตใจ _^ พระมหารมจาย ฐานพุโฒ www.kalyanamitra.org

แนวทาjn 13 ณมือเถั๋ยวน \"Just do it\" ก็แค์ทำมันซะ ลงมือเลย! เรานั่งวางแผน มาเป็นเดือนเป็นปีแล้ว ล้ายังไม่ได้ลงมือทำมันก็เป็นแค่แบบแผน ในหน้ากระดาษ หากมืแผนการแล้วแต่ทุกอย่างยังไม่พร้อมทั้งหมด ก็จง อย่าคาดหวังความพร้อมเต็มทั้ง 100% ถ้าเรามองเห็นโอกาส และสักยภาพในตัวเอง ที่สำ คัญมองเห็บความเป็นไปได้แล้ว เมื่อ นั้นเราควรกล้าตัดสินใจที่จะเสี่ยง แล้วเริ่มกำจัดความสูญเสียที่ อาจจะเกิดขึ้น เข่น สำ รวจว่าเรามีความเสี่ยงในการสูญเสีย ครั้งบี้มากแค่ไหน และเราสามารถรับความสูญเสียนั้น ๆ ได้ หรือไม่ หากลูแล้วในกรณีแย่สุดเราพอรับได้ก็ตัดสินใจทำไปเลย อย่างกล้าหาญ โอกาสแห่งความสำเร็จถูกเปิดออกแล้ว เหลือ เพียงอย่างเดียวคือ \"การตัดสินใจทำ\" ๒ เนรมิตจิตใจ QQ ทระ!ททสพเาย ฐาน'}*'พ jy www.kalyanamitra.org