หน่วย1_ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต

ชวี วทิ ยาSlidePPT61-NEW ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 Slide PowerPoint_ส่ือประกอบการสอน บรษิ ทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกัด : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทรศพั ท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

1หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี การศกึ ษาชีววิทยา ตัวชี้วดั • อธบิ ำยและสรุปสมบัตทิ ่สี ำคัญของสิง่ มชี วี ติ • ควำมสัมพนั ธ์ของกำรจดั ระบบในสงิ่ มีชวี ิตที่ทำใหส้ งิ่ มีชีวติ ดำรงชีวิตอยู่ได้ • อธบิ ำยและบอกควำมสำคัญของกำรระบุปญั หำ ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งปญั หำ สมมติฐำน และวธิ กี ำรตรวจสอบสมมติฐำน รวมทงั้ ออกแบบกำรทดลองเพ่อื ตรวจสอบ สมมติฐำน

ตวั ชี้วดั

ส่ิงที่นักเรียนเห็นในภาพเป็ นส่ิงมชี ีวติ หรือสิ่งไม่มชี ีวติ ตวั ชี้วดั จะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งทเี่ ห็นเป็ นส่ิงมีชีวติ หรือไม่

ตรวจสอบความร้กู อ่ นเรยี น

ตรวจสอบความร้กู อ่ นเรยี น



1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.1 ธรรมชาติของสง่ิ มีชีวติ ลักษณะสาคัญของสง่ิ มีชวี ิต 1) ส่ิงมีชีวิตมีการสืบพนั ธ์ุ 2) ส่ิงมีชีวิตต้องการสารอาหารและพลงั งาน 3) ส่ิงมีชีวิตมีการเจริญเติบโต มีอายขุ ยั และขนาดจากดั 4) สิ่งมีชีวิตมีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม 5) สิ่งมีชีวิตมีลกั ษณะจาเพาะ 6) สิ่งมีชีวิตมีการรกั ษาดลุ ยภาพของรา่ งกาย 7) ส่ิงมีชีวิตมีการจดั ระบบภายในเซลลแ์ ละรา่ งกาย

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

การรกั ษาดลุ ยภาพของปลา ปลานา้ จดื ปลาน้าเค็ม อำศยั อยใู่ นสภำพแวดล้อมท่ีมคี วำมเขม้ ขน้ ของแร่ธำตตุ ำ่ ง ๆ น้อยกว่า อำศยั อยู่ในสภำพแวดล้อมท่ีมีควำมเขม้ ขน้ ของแร่ธำตุต่ำงๆ มากกวา่ ภำยในรำ่ งกำย ภำยในร่ำงกำย เกล็ดป้องกันนา้ ออสโมซิส เกล็ดป้องกันน้าออสโมซิส เขา้ สู่ร่างกาย ออกจากรา่ งกาย เซลล์พิเศษบริเวณเหงอื ก ปัสสาวะเจือจาง เซลลพ์ ิเศษบรเิ วณเหงอื ก ปสั สาวะเข้มข้น ดูดซึมแร่ธาตเุ ข้าสูร่ ่างกาย ขบั แร่ธาตอุ อกจากร่างกาย

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.1 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ

1.2 การศกึ ษาชวี วิทยาและวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์

ชวี วทิ ยาคอื อะไร ?

1.2 การศกึ ษาชวี วิทยาและวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์

นิเวศวิทยา (ecology) แขนงวชิ ายอ่ ย กายวิภาคศาสตร์ (anatomy) ของ ศกึ ษำเก่ยี วกบั ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ ง ศึกษำเกย่ี วกับโครงสร้ำงร่ำงกำยสิง่ มชี ีวิต ส่งิ มชี วี ติ กบั ส่งิ แวดลอ้ ม ชวี วทิ ยา สรีรวทิ ยา (physiology) พันธศุ าสตร์ (genetics) อนกุ รมวธิ าน (taxonomy) ศกึ ษำเกย่ี วกบั กำรทำงำนและหน้ำทข่ี อง ศกึ ษำเกีย่ วกบั ลักษณะตำ่ งๆ ทำงพันธกุ รรม ศกึ ษำเก่ยี วกับกำรจัดหมวดหมู่สงิ่ มชี วี ิต อวัยวะต่ำงๆ ในรำ่ งกำย และกำรถำ่ ยทอดลกั ษณะทำงพันธกุ รรม ของส่งิ มชี ีวิต วทิ ยาเซลล์ (cell biology) พฤกษศาสตร์ (botany) ศกึ ษำเก่ียวกับโครงสร้ำงเซลล์สงิ่ มีชีวิต กระบวนกำรเจริญเติบโตและกำรตอบสนอง ศกึ ษำเก่ียวกับโครงสรำ้ ง ลักษณะ ของเซลลต์ อ่ ส่ิงตำ่ งๆ และสว่ นประกอบของพชื คัพภวทิ ยา (embryology) จลุ ชีววิทยา (microbiology) ศกึ ษำเกย่ี วกบั พฒั นำกำรและกำรเปล่ียนแปลง ศึกษำเกีย่ วกบั จลุ ินทรีย์ ในชว่ งตำ่ งๆ ของตวั ออ่ นสง่ิ มีชีวิต

1.2 การศกึ ษาชวี วิทยาและวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์

1.2 การศกึ ษาชวี วิทยาและวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์

1.2 การศกึ ษาชวี วิทยาและวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์

. . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ชวี วทิ ยากบั การดารงชวี ิต Biology and existence

1.2 การศกึ ษาชวี วิทยาและวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์

ชวี จรยิ ธรรม Bioethics



1 จรรยาบรรณ 2 ผู้ใชส้ ตั ว์ต้องตระหนักถึงคณุ คา่ การใช้สัตว์ ผู้ใชส้ ัตว์ต้องตระหนกั ถึงความแมน่ ยา ของชวี ิตสัตว์ เพอ่ื งานทางวทิ ยาศาสตร์ ของผลงาน โดยใชส้ ตั วจ์ านวนนอ้ ยทีส่ ุด 5 ผใู้ ช้สัตว์ต้องบันทึกข้อมูลการปฏบิ ตั ิต่อสัตว์ 3 การใช้สัตว์ปา่ ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานอย่างครบถว้ น และนโยบายการอนรุ ักษส์ ตั วป์ า่ 4 ผ้ใู ชส้ ตั ว์ต้องตระหนกั วา่ สัตว์ เป็นสง่ิ มีชวี ิตเช่นเดยี วกบั มนษุ ย์







การศกึ ษาชีววิทยา Biology and Scientific method

วธิ กี ารวทิ ยาศาสตร์ 2 1? การตัง้ สมมติฐาน การกาหนดปัญหา เปน็ ขน้ั ตอนท่ีตอ้ งใชท้ ักษะกำรสงั เกต กำรคำดคะเนสง่ิ ท่คี ดิ วำ่ จะเป็นคำตอบที่อำจเปน็ จรงิ ซ่งึ ตอ้ งได้รับกำรพิสจู นห์ รอื ตรวจสอบหลำยๆ ครั้ง ซงึ่ เปน็ พ้นื ฐำนสำคัญตอ่ กำรศึกษำวทิ ยำศำสตร์ 5 4 3 การสรปุ ผล การเก็บรวบรวมขอ้ มูลและวิเคราะหข์ ้อมลู การตรวจสอบสมมติฐาน เป็นข้นั ตอนแปลควำมหมำยของขอ้ มูลท่ไี ด้ กำรนำขอ้ มลู ท่ไี ด้จำกกำรสงั เกต คน้ ควำ้ ทดลอง สำมำรถทำได้ 2 วิธี จำกกำรทดลองหรอื กำรศกึ ษำ หรือรวบรวมข้อมูลและขอ้ เท็จจริง มำวเิ ครำะห์ผล 1.ใชก้ ำรสงั เกตและกำรรวบรวมข้อเทจ็ จริงตำ่ งๆ แลว้ ลงขอ้ สรุปวำ่ สมมตฐิ ำนข้อใดถูกตอ้ ง อธบิ ำยควำมหมำยของขอ้ เท็จจริง 2.ใชก้ ำรทดลอง และนำไปเปรยี บเทียบกบั สมมติฐำนทต่ี ้งั ไว้









ตัวแปรในกระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ตวั แปรต้นหรือตวั แปรอิสระ ตัวแปรทผ่ี ทู้ ดลองกำหนดขึ้นเพ่อื ทดสอบผลท่เี กิดข้นึ จำก ตวั แปรน้ี (independent variable) ตวั แปรตาม ตัวแปรทเ่ี ป็นผลมำจำกตัวแปรตน้ หรือตวั แปรอสิ ระ (dependent variable) ตวั แปรควบคมุ ส่ิงต่ำงๆ นอกเหนอื จำกตัวแปรต้น ที่อำจทำให้ผลกำรทดลองเกดิ ควำมคลำดเคล่ือน ผู้ทดลองจะต้องควบคุมให้ส่งิ ตำ่ งๆ เหลำ่ น้ัน (controlled variable) คงท่ีตลอดกำรทดลอง

. . . . . . . . . . . . . . . . . . .

เว็บไซต์เพม่ิ เติม https://www.youtube.com/watch?v=QHZhTyF_NcY https://www.youtube.com/watch?v=bPmBUOH5ArY https://www.youtube.com/watch?v=AZBTrxPT1fc&t=63s http://anyflip.com/vxiv/qeyw/basic http://anyflip.com/guufw/dizk