ขอให้คุณปล่อยให้สายน�้ำ ไหลไปในความเร็วในแบบท่ีมันเป็น ไม่ต้อง พยายามบังคับควบคุมให้สายน้�ำไหลเร็วขึ้น หรือเร่งรัดให้เกิดความคิดต่าง ๆ ไม่ ต้องพยายามให้ใบไม้ไหลไปด้วยความรวดเร็วหรือพยายามก�ำจัดความคิดออกไป ขอให้คุณเพียงแค่ปล่อยให้ความคิดผุดข้ึนตามธรรมชาติ และมองดูมันลอยไปกับ ใบไมด้ ว้ ยความเรว็ ของมนั เอง หากใจคุณก�ำลังบอกว่า “สิ่งท่ีท�ำอยู่นี้มันโง่มาก” “ฉันมันน่าเบ่ือ” หรือ “ฉันท�ำได้ไม่ถูกต้อง” ขอให้คุณวางความคิดเหล่าน้ันไว้บนใบไม้ แล้วปล่อยให้มัน ลอยไปตามสายน�้ำ เฉกเช่นเดยี วกนั หากใบไมล้ อยไปพบกบั สงิ่ กดี ขวาง ไมส่ ามารถลอยตอ่ ไปได้ ขอใหป้ ลอ่ ยมนั ตดิ อยตู่ รงนนั้ สกั ครจู่ นกวา่ มนั จะพรอ้ มทไ่ี หลไปกบั สายนำ�้ หากความคดิ ทผี่ ดุ ขน้ึ มา เปน็ ความคดิ ซ้ำ� เดมิ ขอใหค้ ณุ มองดมู ันคอ่ ย ๆ ลอยไปกบั สายนำ้� อกี คร้งั หากมีความรู้สึกเบื่อ หงุดหงิด เสียใจ เจ็บปวดผุดข้ึนมา ขอให้คุณแค่ รับรู้มัน แล้วบอกกับตัวเองว่า “ฉันสังเกตว่าตัวฉันมีความรู้สึกเบื่อ หงุดหงิด กระวนกระวาย” วางความรู้สึกเหล่านั้นไว้บนใบไม้และปล่อยให้มันลอยไปกับ สายน�้ำ ในหลายๆ ครั้ง ความคิดของคุณอาจท�ำให้คุณคิดวนเวียนและดึงความ สนใจของคุณไปจากกิจกรรมจินตนาการเพื่อการผ่อนคลายท่ีก�ำลังท�ำอยู่ ไม่ เป็นไรค่ะ เป็นเร่ืองธรรมดา ทันทีที่คุณรู้ตัวว่าสมาธิของคุณก�ำลังหลุดออกไป คอ่ ย ๆ พาสมาธิและความสนใจของคณุ กลบั มา กลบั มาทีก่ ิจกรรมอกี คร้ัง เอกสารอา้ งองิ Harris R. Cognitive defusion exercise used in Acceptance & Commitment Therapy; 2009 [cited 2020 May 5]. Available from: https://www.actmindfully.com.au/free- stuff/worksheets-handouts-book-chapters/ Harris R. ACT made simple. Oakland, CA: New Harbinger; 2009. 38
39
เมอื่ ส้ินหวัง...จนไมอ่ ยากมชี วี ิตอยู่ ในชว่ งโควดิ -19 ดร. ร่งุ อรุณ อนุพันธ์สบื สาย สถานการณ์การแพร่กระจายของเช้ือโควิด-19 (COVID-19) สร้างผล กระทบต่ออารมณ์และจิตใจของผู้คนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความกังวลที่จะได้ รบั เชอื้ หรือกลัวจะเปน็ คนแพร่เชอ้ื ใหก้ บั คนอืน่ นอกจากน้ีมาตรการเวน้ ระยะห่าง ทางกายภาพ (physical distancing) ทุกคนต้องอยู่บ้านให้มากท่ีสุด อาจท�ำให้ รู้สึกเครียดมากขึ้น เบ่ือหน่าย อึดอัด การอยู่กับครอบครัวนาน ๆ ในภาวะเช่นน้ี ก็อาจจะทะเลาะกันมากขึ้น ผู้สูงอายุท่ีอยู่คนเดียว ก็อาจจะรู้สึกโดดเดี่ยว หลาย คนที่ตกงาน ขาดรายได้ ไม่รู้ว่าจะหาเงินท่ีไหนมาใช้จ่าย ในขณะที่บางคนป่วยไม่ สบายทางกายโรคอืน่ ๆ กเ็ ข้าถึงการรกั ษาไดย้ ากมากข้นึ เมื่อใดก็ตามที่เจอปัญหาหนักและรุนแรง หาทางออกไม่ได้ หรือไม่เห็น ทางท่ีจะท�ำให้ปัญหานั้นดีข้ึน หลายคนอาจมีภาวะซึมเศร้า สิ้นหวัง หดหู่ หมด กำ� ลงั ใจ จนท�ำให้เกิดเป็นความคิดท่ีไม่อยากมีชวี ติ อย่ขู ้ึนมาได้ การท�ำร้ายตนเอง หรือฆ่าตัวตาย นับเป็นปัญหาท่ีรุนแรงมากทางด้าน สุขภาพจิต ในต่างประเทศพบว่า ผู้ที่ฆ่าตัวตาย มีท้ังผู้ที่ติดเช้ือ ผู้ที่คิดว่าตนเอง ตดิ เชอื้ บคุ ลากรทางการแพทยท์ ตี่ ดิ เชอ้ื และผทู้ เี่ ครยี ดจากผลกระทบทางเศรษฐกจิ ในสถานการณโ์ ควดิ -19 40
การป้องกันปัญหาสุขภาพจิตหรือการท�ำร้ายตัวเองจึงมีความส�ำคัญ ไม่ว่า จะเป็นกลมุ่ ผ้ทู ่ีติดเชอ้ื หรือผ้ทู ไ่ี ด้รบั ผลกระทบกต็ าม จะท�ำอย่างไรเมอ่ื รู้สกึ ส้ินหวงั จนไม่อยากมีชีวติ อยู่ 1. มองหาศักยภาพตนเอง หลายครงั้ ทช่ี วี ติ เผชญิ กบั ปญั หา เราเคยผา่ นมนั มาไดอ้ ยา่ งไร เราจะรวู้ า่ เรา มศี กั ยภาพอะไร หรอื เราเคยแกม้ นั อยา่ งไร นอกจากนอี้ าจจะลองยอ้ นคดิ อกี วา่ เรา เคยท�ำอะไรได้ส�ำเร็จบ้าง และเรามีจุดแข็งหรือข้อดีอะไรบ้าง เราจะค่อย ๆ เห็น ศักยภาพของตวั เองได้ และจะมคี วามเช่อื มั่นในการแก้ปัญหามากข้ึน 2. มองหาสง่ิ ดี ๆ ในชวี ิต ในยามสิ้นหวังเราอาจจะลืมมองไปว่า มีอะไรที่เป็นส่ิงดี ๆ ในชีวิตเราบ้าง ลองค่อย ๆ มองหาว่า มีใครท่ีคอยห่วงใยหรือคอยให้ก�ำลังใจเราบ้าง นอกจากนี้ ควรมองหาว่าเรามีสิ่งต่าง ๆ หรือชีวิตที่มันดีอยู่แล้วอย่างไรบ้าง สิ่งเหล่าน้ีจะ ทำ� ให้เรามกี �ำลงั ใจและรสู้ ึกมคี วามหวังมากข้นึ ได้ 3. มองหาเหตุผลทที่ ำ� ใหย้ งั อยากมชี ีวิตอยู่ ค่อย ๆ คิดว่า เราอยากมีชีวิตอยู่เพ่ือใครบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อคนที่รักเรา หรอื เพ่ือคนที่เรารัก เช่น แม่ ลูก หรอื หลาน เป็นต้น หรอื มองหาวา่ เราอยากมีชีวิต อยเู่ พ่อื ทำ� อะไรบ้าง อาจจะเปน็ การทำ� ตามเปา้ หมายของเราทตี่ ้งั ไวใ้ นอนาคตก็ได้ 41
จะรบั มอื เมอ่ื เกิดความคดิ ท่ีไมอ่ ยากมีชีวติ อยูอ่ ย่างไร 1. พยายามเบีย่ งเบนความสนใจ การจมอยู่กับปัญหา การคิดวนไปวนมา จะยิ่งท�ำให้ความรู้สึกแย่มากขึ้น เรอื่ ย ๆ และจะยงิ่ หาทางออกไม่ได้ เนอื่ งจากมุมมองจะค่อนขา้ งแคบและเป็นลบ อาจน�ำไปสู่การไม่อยากมีชีวิตอยู่ได้ แม้ว่าช่วงท่ีก�ำลังตกอยู่ในภาวะน้ีจะไม่อยาก ทำ� อะไรเลย แตจ่ �ำเปน็ อย่างมากท่ีตอ้ งฝืนตัวเองใหท้ �ำกิจกรรมอ่นื ๆ เพื่อเบ่ียงเบน จากความคดิ ไปกอ่ น ในชว่ งโควดิ -19 กจิ กรรมควรเปน็ กจิ กรรมทท่ี ำ� ไดใ้ นบา้ น เชน่ ดูหนัง ฟังเพลง ท�ำกับข้าว ออกกำ� ลังกายในบ้าน หรอื กิจกรรมอะไรกต็ ามทีท่ ำ� ให้ อารมณด์ ขี ึ้น 2. ปรับทุกขก์ ับคนท่ีไว้ใจ การพูดคุยกับใครสักคนท่ีเราไว้ใจ จะท�ำให้รู้สึกสบายใจข้ึนได้ ปัญหาท่ี รู้สึกว่าไม่มีทางออก อาจจะสามารถเห็นทางออกได้มากขึ้น ถึงแม้จะไม่สามารถ ไปพบปะคนอ่ืน ๆ ไดแ้ บบตวั ต่อตวั แต่การตดิ ต่อทางโทรศพั ท์ หรือทางวิดีโอคอล พูดคุยถึงปัญหาท่ีเผชิญอยู่ หรือความรู้สึกแย่ท่ีเป็นอยู่ รวมถึงถ้าสามารถบอกว่า เรามีความคิดไม่อยากมีชีวิตหรืออยากท�ำร้ายตัวเองก็ให้บอกผู้ฟังด้วย ผู้ฟังจะได้ เข้าใจและหาทางช่วยได้ 3. ปรกึ ษาผเู้ ช่ยี วชาญ ถ้าพยายามจัดการอารมณ์ด้วยตนเอง หรือพูดคุยกับคนใกล้ชิดแล้วไม่ดี ขึน้ บคุ ลากรทางการแพทยเ์ ป็นอกี ทางหนง่ึ ทส่ี ามารถชว่ ยใหค้ วามรูส้ กึ ต่าง ๆ หรือ ปัญหาคลี่คลายได้ ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือนักให้ค�ำปรึกษา หรือ 42
บรกิ ารสายด่วนตา่ ง ๆ เชน่ โทร 1323 (สายดว่ นสขุ ภาพจิตตลอด 24 ชั่วโมง) หรอื โทร 02-7136793 (สมาคมสะมารติ นั สแ์ หง่ ประเทศไทย เวลา 12.00 -22.00 น.) ในภาวะวกิ ฤตเชน่ นี้ หากคนไทยช่วยเหลอื แบง่ บัน เอ้ือเฟื้อ ใหก้ ำ� ลังใจซ่งึ กนั และกนั คณุ สามารถเป็นสว่ นหนงึ่ ทช่ี ่วยคนที่ก�ำลงั ตกอยใู่ นอารมณ์ทเี่ ศรา้ และ ท้อแท้ ช่วยให้เขามีก�ำลังใจต่อสู้และมีความหวังที่จะดีข้ึนได้ ซึ่งอาจจะสามารถ ป้องกันการพัฒนาไปสู่การท�ำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตายได้ และอย่าลืมดูแลจิตใจ ของตวั เองและคนรอบข้างของคุณด้วย “เราจะผา่ นวิกฤตโควิดไปด้วยกัน” เอกสารอ้างอิง Pavolovsak E. German state minister commits suicide as coronavirus hits economy. 2020 Mar 30 [cited 2020 May 5]. Available from: https://www.neweurope. eu/article/german-state-minister-commits-suicide-as-coronavirus-hits-economy/ Goyal K, Chauhan P, Chhikara K, Gupta P, Singh MP. Fear of COVID 2019: First suicidal case in India. Asian J Psychiatr 2020; 49:101989. doi: 10.1016/j. ajp.2020.101989. Jung SJ, Jun JY. Mental health and psychological intervention amid COVID-19 outbreak: Perspectives from South Korea. Yonsei Med J 2020;61:271-72. doi: 10.3349/ymj.2020.61.4.271. Mamun MA, Griffiths MD. First COVID-19 suicide case in Bangladesh due to fear of COVID-19 and xenophobia: Possible suicide prevention strategies. Asian J Psychiatr 2020 Apr 7 [cited 2020 May 5];51:102073. doi: 10.1016/j.ajp.2020.102073. [Epub ahead of print] Montemurro N. The emotional impact of COVID-19: From medical staff to common people. Brain Behav Immun. 2020 Mar 30 [cited 2020 May 5]. doi:10.1016/j.bbi.2020.03.032. [Epub ahead of print] O’Connor RC, Kirtley OJ. The integrated motivational-volitional model of suicidal behaviour. Philos Trans R Soc Lond B Biol Sci. 2018;373(1754):20170268 doi:10.1098/rstb.2017.0268. 43
ตัวหา่ งไกล แต่ใจไมห่ า่ งกนั 44
45
วางใจอยา่ งไร ในยามที่คณุ พ่อคุณแม่ ต้องห่างไกลลูก ผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ พทยห์ ญิง สิรนิ ดั ดา ปัญญาภาส จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน หากคุณพ่อคุณแม่ ได้รับเช้ือ หรืออยู่ในกลุ่มเส่ียงที่ต้องแยกจากลูก คุณพ่อคุณแม่คงรู้สึกว้าวุ่นใจ หลายอยา่ ง ไมว่ า่ จะเปน็ “ลกู จะตดิ เชอื้ ไหม พอ่ แมไ่ มอ่ ยบู่ า้ นแลว้ ลกู จะเปน็ อยา่ งไร ใครจะดูแลเขา เขาจะรู้สึกอย่างไร” ความคิดเหล่าน้ีเกิดขึ้นได้กับพ่อแม่ทุกคน และเป็นธรรมดาของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่จะมีความห่วงใย และความปรารถนาดี ตอ่ ลกู ความกังวลทั้งหลายนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือกับมันได้ ขอเพียง ตั้งสติ แล้วค่อย ๆ จัดการกับความรู้สึกภายใน ขอให้คุณพ่อคุณแม่นึกไว้เสมอว่า การกักตัวห่างจากคนอื่น หรือแม้กระท่ังการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ล้วนแต่ เป็นการกระท�ำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรคไปสู่สังคม ไปสู่คน ในครอบครัว และไปสคู่ นท่คี ุณพอ่ คุณแม่รกั การกระท�ำเช่นนี้จึงเป็นการเสียสละเพื่อทุกคนในสังคม และผลแห่ง การเสียสละน้ี ย่อมย้อนกลับมาสู่คนทคี่ ณุ พอ่ คณุ แม่รักมากท่ีสุด 46
ส่วนตัวของลูกน้ัน เมื่อเขาโตพอ เขาจะเข้าใจว่าโรคติดต่อน้ันอาจแพร่ กระจายจากความใกล้ชิดได้ ซ่ึงเป็นธรรมดาท่ีคุณพ่อคุณแม่จะใกล้ชิดกับลูก เพราะพ่อแม่นั้นรักลูก พ่อแม่ไม่อาจรู้ว่าตัวเองได้รับเช้ือมา มันจึงไม่ใช่ความผิด ของคุณพอ่ คุณแม่ จากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะน้ี ทุกคนมีโอกาสได้รับเชื้อโรคน้ีจากความใกล้ชิด ถึงแม้ว่าลูกจะมีโอกาสเป็นโรค แต่ความรุนแรงของโรคน้ีในเด็กมักจะน้อยกว่า ในผู้ใหญ่ ขอ้ มูลน้สี อดคลอ้ งกันทั้งในประเทศทางฝัง่ ยุโรปและเอเชีย ถึงตอนน้ี หากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ลูก คุณพ่อคุณแม่ก็ยังคงเป็น ท่ีพ่ึงทางใจของลูกเสมอ ลูกสามารถรับรู้ได้ว่า เมื่อเขาทุกข์เขาจะมีพ่อและแม่ อย่ขู า้ งเขาตลอดเวลา หากคุณพ่อคุณแม่มีโทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยีในมือน้ีสามารถช่วยให้ลูก รับรูไ้ ดว้ า่ แมเ้ ราไมไ่ ดอ้ ยใู่ กลช้ ิดกนั ใจเราน้นั กย็ งั คงใกล้กนั ไดเ้ สมอ คณุ พอ่ คณุ แม่ สามารถโทรหาลูกได้ทุกวัน ให้ลูกได้รับรู้ว่าเขาน้ันมีพ่อและแม่ ท้ังเขาและคุณพ่อ คุณแม่ เราจะผ่านเรื่องนีไ้ ปด้วยกนั ทุกอย่างจะค่อย ๆ ดขี ึน้ ๆ คุณพ่อคณุ แมจ่ ะทำ� ทกุ อยา่ งใหต้ ัวเองแขง็ แรง และจะท�ำทุกอย่างให้ลูกนั้นปลอดภัยเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไป คุณพ่อคุณแม่ อาจพบกบั เรอ่ื งทม่ี หศั จรรย์ คอื การไดเ้ หน็ ลกู เตบิ โต ไดเ้ หน็ วา่ ลกู สามารถชว่ ยเหลอื ตัวเองได้ หรือมากกว่าน้ัน อาจจะได้เห็นว่า ลูกท�ำหน้าท่ีบางอย่างแทนคุณพ่อ คุณแม่ได้ด้วย ลูกอาจจะเปล่ียนแปลงตัวเอง ท�ำงานบางอย่างท่ีไม่เคยท�ำมาก่อน เช่น ดูแลท�ำงานบ้านระหว่างท่ีคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ หรือช่วยดูแลคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คร้ันเม่ือทุกอย่างจบลง สิ่งเหล่าน้ีจะท�ำให้คุณพ่อคุณแม่เช่ือมั่น ในตัวลูกมากข้ึน ลูกอาจจะมศี กั ยภาพบางอยา่ งทไี่ มเ่ คยเห็นมากอ่ น นอกจากได้เห็นบางอย่างในตัวลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังอาจจะเห็น พลัง บางอย่างในตัวเองดว้ ย พลังท่ีพาตัวเองผ่านพน้ บททดสอบน้ีมาได้ ขอให้คุณพ่อคุณแม่มีศรัทธาในตัวลูก และตัวเอง มนุษย์น้ันมีศักยภาพ ในการปรับตัวท่ีย่ิงใหญ่ ขอให้คุณพ่อคุณแม่จงเชื่อม่ันในสิ่งน้ี ส่ิงท่ีคุณพ่อคุณแม่ 47
จะช่วยลกู ใหป้ รบั ตัวผา่ นการทีต่ ้องแยกจากกนั นไ้ี ด้ คือ การสนับสนนุ ให้ลกู ไดท้ ำ� กิจวัตรประจ�ำวันตามปกติ ให้ลูกได้ท�ำในสิ่งที่ชอบ คุณพ่อคุณแม่อาจจะอ่าน นิทานร่วมกับลกู ผ่านวดิ โี อคอล พดู คยุ กบั ลูกทกุ วันในเรอื่ งทวั่ ๆ ไป เพอื่ จะได้รู้ว่า ลูกเป็นอยา่ งไร สบายดีหรือไม่ มอี ะไรรบกวนใจลูกบา้ ง หากลูกเริ่มไม่สบาย คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้บอกหมอ หมอจะได้ประเมิน หรือให้การดูแลลูกของคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่ระยะต้นๆ เพราะธรรมชาติของโรคนี้ หากไดร้ ับการวินิจฉัยและรกั ษาตงั้ แต่ระยะตน้ ๆ จะทำ� ให้ผลการรกั ษาน้ันดมี าก อย่างไรก็ตาม การต่อสู้กับโรคนี้ยังอีกยาวไกล ก�ำลังใจจึงเป็นส่ิงส�ำคัญ ดังน้ันนอกเหนือจากการจัดการกับความวุ่นวายใจแล้ว อยากให้คุณพ่อคุณแม่ ลองแบง่ เวลาเพ่อื คิดถงึ ส่งิ ดี ๆ ดว้ ย สิ่งดี ๆ มีอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นก�ำลังใจจากครอบครัว จากผู้รักษา จาก ผคู้ นมากมาย โดยเฉพาะก�ำลังใจจากผูท้ ่ผี า่ นพ้นเหตุการณเ์ ดยี วกันนีไ้ ดส้ ำ� เร็จ ส่ิงดี ๆ รวมถึง การได้เห็นความสามัคคีของผู้คน การได้เห็นน�้ำใจท่ีผู้คน มใี ห้กนั ส่ิงดี ๆ ยังรวมถึง การได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ฝึกสติ ฝึกดูแลจิตใจตัวเอง ทบทวนสิง่ ตา่ ง ๆ รอบตวั ท่บี างครงั้ เคยมองข้ามคณุ คา่ ของมนั ไป นอกจากน้ี คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถเป็นผู้ให้ก�ำลังใจแก่ผู้คนท่ีก�ำลัง เผชิญส่ิงเดียวกันนี้ โดยการส่งต่อเรื่องราวของคุณพ่อคุณแม่ ให้ผู้อ่ืนได้เห็น วธิ ีการสรา้ งกำ� ลงั ใจ การจัดการกบั ความรู้สึกภายใน และการฝา่ ฟันอปุ สรรค เร่ืองราวของคุณพ่อคุณแม่จะมีอิทธิพลต่อผู้คนมากมาย เป็นแรงบัน ดาลใจ เป็นตัวอย่างของนักสู้ และเป็นความหวัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ศรัทธา ท่ีมีอยู่ เชอ่ื มนั วา่ มนั จะผา่ นไป คณุ พ่อคณุ แม่จะมีจิตใจท่แี ข็งแกรง่ ขึ้น มีภูมคิ ุ้มใจ ทจ่ี ะชว่ ยให้รา่ งกายตอ่ สู้กับโรค ความมน่ั คงจากภายในจิตใจนจ้ี ะช่วยให้ “คุณพ่อ คณุ แม่ และ ลกู ” เกิดพลงั ใจวา่ คุณพอ่ คณุ แมจ่ ะเอาชนะ จะตอ่ สูก้ ับโรคและผ่าน อปุ สรรคทั้งหลายเหล่าน้ไี ปได้ ในทสี่ ุด เมื่อทกุ อย่างผา่ นพ้นไป ทกุ คนจะเรียนรแู้ ละเติบโตไปพรอ้ ม ๆ กัน 48
49
การดแู ลผูส้ งู อายุในชว่ งทต่ี ้องเวน้ ระยะหา่ ง ระหว่างกัน อาจารยแ์ พทย์หญงิ กนั ตก์ มล จัยสิน ในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด (COVID-19) อย่างเช่นปัจจุบัน ผู้สูงอายุเป็น ประชากรกลุ่มท่ีมีความเสี่ยงสูงท่ีสุดต่อการติดเช้ือ แต่การท�ำให้ผู้สูงอายุดูแลตัว เองตามนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) หรือ การเว้น ระยะหา่ งทางกายภาพ (physical distancing) น้นั อาจเป็นเรอ่ื งยากส�ำหรบั บาง ครอบครวั บทความน้ีจะน�ำเสนอวิธกี ารเพ่ือชว่ ยจูงใจผ้สู งู อายุให้ปฏบิ ตั ิตวั ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสมในชว่ งท่ตี อ้ งเวน้ ระยะหา่ งระหว่างกนั ค่ะ การสือ่ สารกบั ผู้สูงอายใุ นช่วงที่ตอ้ งเวน้ ระยะหา่ งระหว่างกัน อธบิ ายความจำ� เปน็ ทตี่ อ้ งเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งกนั โดยคอ่ ย ๆ สอ่ื สาร ด้วยท่าทีเคารพและเข้าอกเข้าใจ ส�ำคัญท่ีสุดคือต้องท�ำให้ผู้สูงอายุ สัมผัสได้ว่าได้รับความห่วงใยในความปลอดภัยจากลูกหลาน ไม่ใช่ ตอ้ งปฏบิ ตั ิตามคำ� สั่งหรอื ถูกสง่ั อธิบายให้เขา้ ใจง่าย สั้น กระชบั 50
ผู้สูงอายุบางท่านอาจมีแนวโน้มจะไม่รับฟังค�ำแนะน�ำของลูกหลาน ในกรณนี จ้ี ำ� เปน็ ตอ้ งหาบคุ คลทผี่ สู้ งู อายเุ ชอื่ ถอื ชว่ ยอธบิ ายความจำ� เปน็ แทนหรือ หาส่ือที่เข้าใจได้ง่ายประกอบการอธิบาย เช่น ให้ผู้สูงอายุ ไดอ้ ่านประกาศของทางราชการที่มรี ปู ภาพประกอบ เพ่ือช่วยลดความรู้สึกอึดอัด ควรเน้นกับผู้สูงอายุว่าการรักษาะระยะ ห่างระหว่างกันนี้ จ�ำเป็นในเพียงชั่วระยะเวลาหน่ึงเท่าน้ัน เมื่อผ่าน พ้นช่วงโรคระบาดแลว้ กส็ ามารถกลับมาใกล้ชดิ กันเชน่ เดิม แสดงความเข้าใจว่าความรู้สึกที่เกิดข้ึนระหว่างช่วงที่ห่างไกลกันน้ี อาจเกิดข้ึนได้เป็นเร่ืองปกติ เช่น เหงา เบ่ือ เศร้า วิตกกังวล หรือ รู้สึกกลวั ว่าตวั เองหรอื คนที่รักจะติดเชือ้ พึงระลึกว่าหากผู้สูงอายุมีโรคสมองเสื่อมอยู่เดิม อาจมีอารมณ์ เบ่อื ซึม หงุดหงดิ หรือกระวนกระวายมากกวา่ ผสู้ งู อายุท่วั ไป สมาชิก ในครอบครัวจ�ำเปน็ ต้องช่วยกันตอบสนองเพื่อบรรเทาอารมณน์ ้นั คอยไต่ถามผู้สูงอายุถึงการรับข่าวสารเร่ืองการแพร่ระบาดของไวรัส และแก้ไขข้อมูลข่าวลือหรือความเข้าใจในข้อมูลท่ีรับมาให้ถูกต้อง อยูเ่ ป็นระยะ หากมีการรับขา่ วสารมากเกินไปจนเกดิ ความวติ กกงั วล ควรเบี่ยงเบนความสนใจของผู้สูงอายุไปท�ำกิจกรรมอื่น เพื่อลดการ ดขู า่ วระหวา่ งวนั เน้นเรื่องการดูแลสุขอนามัยของตัวเองในช่วงเกิดการระบาดของ เช้ือไวรัส เช่น การล้างมือบ่อย ๆ การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมี อาการไอ จาม หรือเม่ือจ�ำเป็นต้องออกจากบ้านเพ่ือป้องกันการ ตดิ เชือ้ หากผู้สูงอายุไม่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม ให้ไต่ถามด้วยท่าทีที่ไม่ หงุดหงิด เพื่อพยายามท�ำความเข้าใจว่าเพราะอะไรผู้สูงอายุจึง ฝ่าฝืนค�ำแนะนำ� และพยายามชว่ ยหาทางแก้ไข 51
การเตรยี มสง่ิ แวดลอ้ มใหพ้ รอ้ มกบั การเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งกนั สร้างกิจกรรมภายในครอบครัวที่ผู้สูงอายุสามารถมีส่วนร่วมด้วยได้ เพอ่ื ลดอารมณด์ า้ นลบที่อาจเกิดขน้ึ หากไม่ได้อยู่อาศัยกับผู้สูงอายุท่ีบ้าน หรือไม่สามารถเดินทางกลับไป หาได้ ควรอธิบายความจ�ำเป็นท่ีต้องอยู่ไกลกัน และเตรียมช่องทาง ติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินให้แก่ผู้สูงอายุ เช่น เบอร์โทรศัพท์ของ โรงพยาบาล ญาติ หรือเพ่อื นบา้ นท่ีสามารถมาช่วยดูแลแทนได้ พยายามชว่ ยหากจิ กรรมใหผ้ สู้ งู อายไุ ดท้ ำ� เชน่ การดลู ะครหรอื รายการ โทรทัศนท์ ่ผี ้สู งู อายชุ นื่ ชอบ การทำ� งานศลิ ปะหรืองานฝีมอื ถอื โอกาส ชวนผสู้ ูงอายชุ ่วยจดั บา้ นในชว่ งที่ตอ้ งเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งกัน สนบั สนนุ ใหผ้ สู้ งู อายไุ ดส้ อื่ สารกบั ผอู้ น่ื ผา่ นทางโทรศพั ทห์ รอื สอื่ สงั คม ออนไลน์ เช่น แนะน�ำผู้สูงอายุให้ติดต่อกับเพื่อนฝูงผ่านทางการ โทรคุยหรือส่งข้อความในไลน์กรุ๊ป แทนการออกไปพบเจอกัน สร้าง กิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้สื่อสารกับลูกหลาน เช่น ให้ถ่ายภาพกิจกรรม ที่ท�ำเม่ืออยู่บ้านแล้วส่งมาให้ดูทางไลน์แล้วลูกหลานคอยตอบสนอง ช่ืนชม อย่าลืมช่วยเช็คด้วยว่าอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์หรือสัญญาณ อนิ เทอรเ์ นต็ ยังใช้ได้เป็นปกตหิ รือไม่ เตรยี มสภาพบา้ นใหพ้ รอ้ มกบั การเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งกนั เชน่ เตรยี ม ของใช้พื้นฐานให้มีเพียงพอต่อการใช้ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ไม่ จ�ำเป็นต้องกักตุนมากเกินไป ช่วยวางแผนเรื่องการซ้ืออาหารมา บริโภคในแต่ละวัน มียาสามัญประจ�ำบ้านเพื่อรักษาตนเองเบ้ืองต้น ในกรณีเจ็บปว่ ยเลก็ นอ้ ยจะไดไ้ มจ่ �ำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ช่วยดูแลเร่ืองการรักษาโรคประจ�ำตัวของผู้สูงอายุ เช่น คอยไต่ถาม อาการท่ีเก่ียวข้องกับโรคประจ�ำตัว ผู้สูงอายุอาจมีความกังวลท่ีจะ ไมไ่ ดไ้ ปพบแพทยต์ ามนดั ตอ้ งอธบิ ายใหผ้ สู้ งู อายเุ ขา้ ใจถงึ นโยบายของ 52
ทางโรงพยาบาลท่ีต้องการให้ผู้สูงอายุหลีกเล่ียงการเดินทางมา โรงพยาบาล เมื่อถึงวันนัดพบแพทย์หากผู้สูงอายุมีอาการคงท่ีควร ให้ญาติที่แข็งแรงไปรับยาแทน และหากโรงพยาบาลมีบริการส่งยา รกั ษาโรคเดมิ ทางไปรษณยี ์ ควรชว่ ยผสู้ งู อายตุ ดิ ตอ่ กบั ทางโรงพยาบาล เพอ่ื ขอรบั ยาตอ่ เนอื่ ง ท้ังหมดนี้เป็นวิธีการเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุให้ความร่วมมือ กับการเว้นระยะห่างระหว่างกัน หรือ physical distancing ได้มากขึ้น ขอให้ ทุกท่านมีสุขภาพแขง็ แรง และขอส่งกำ� ลงั ใจให้ทกุ ทา่ น แลว้ เราจะผ่านพน้ วกิ ฤตนี้ ไปดว้ ยกันคะ่ เอกสารอา้ งองิ 1. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Social Distancing, Quarantine, and Isolation; 4 April 2020; cited 4 April 2020. Available from: https:// www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/prevent-getting-sick/social-distancing.html 2. World Health Organization. Mental health and psychosocial considerations during the COVID-19 outbreak; 18 March 2020; cited 4 April 2020. Available from: https://www.who.int/docs/default-source/coronaviruse/mental-health- considerations.pdf 3. National Child Traumatic Stress Network(NCTSN). Parent/Caregiver Guide to Helping Families Cope with the Coronavirus Disease 2019 (COVID-19); 1 March 2020; cited 4 April 2020. Available from: https://www.nctsn.org/resources/ parent-caregiver-guide-to-helping-families-cope-with-the-coronavirus-disease-2019 53
54
เมื่อลูกหลานไม่สามารถกลับมาดูแลท่านได้ อาจารย์แพทย์หญิงกติ กิ านต์ ธนะอดุ ม จากสถานการณ์โรคระบาดในขณะน้ี ผู้คนในสังคมจ�ำเป็นต้องปรับตัว และปรับเปล่ียนวิถีชีวิต เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบายเว้นระยะห่างทางกายภาพ ซึ่งแม้จะช่วยชะลอการแพร่กระจายของโรคได้ แต่ก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจของคน ทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงผู้สูงอายุ ในกรณีท่ีลูกหลานไม่สามารถอยู่กับท่านใน ชว่ งเวลานไี้ ด้ ก็อาจท�ำใหร้ ู้สกึ กังวล เหงาหรอื วา้ เหว่ไดใ้ นบางเวลา คำ� แนะนำ� เบ้อื งตน้ 1. เตรียมพร้อม การเตรียมพร้อม ประกอบด้วย การหาข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรค หากท่านมีโรคประจ�ำตัว ควรตรวจสอบวันนัดและจ�ำนวนยาที่ท่านมี ค้นหาช่อง ทางติดต่อโรงพยาบาลเพื่อรับยา หรือเตรียมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินไว้ เพ่ือสร้าง ความม่ันใจ และลดความกังวลเก่ียวกับการดูแลสุขภาพของตน หากท่านมีข้อ จ�ำกัดในการจัดหาสิ่งของ อาหาร หรือ ยา อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจากหน่วยงานภาครัฐ จากคนในครอบครวั หรือแมแ้ ต่คนบ้านใกล้เรือนเคียง ท่ีส�ำคัญควรหาเวลาพูดคุยกับลูกหลานถึงความจ�ำเป็นท่ีท�ำให้พวกเขาไม่สามารถ มาอยู่เป็นเพ่ือนท่านได้ในยามนี้ เช่น การถูกจ�ำกัดการเดินทาง การท�ำงาน ฯลฯ เพ่อื ให้เสรมิ สร้างความเขา้ ใจกันในครอบครัว 55
2. ออกกำ� ลังกาย ผู้สูงอายุควรจัดสรรเวลาเพื่อยืดเส้นยืดสายภายในบริเวณบ้าน การออก ก�ำลังกายอย่างสม่�ำเสมอ ไม่ว่าจะท�ำช่วงเวลาใดของวัน นอกจากท�ำให้ร่างกาย แข็งแรงแล้ว ยังส่งผลดีต่อความจ�ำ ความคิด และ อารมณ์ที่แจ่มใสขึ้น อีกทั้ง ยงั คลายความเบ่อื หนา่ ยในชว่ งเวลากกั ตัวน้ีได้เป็นอยา่ งดี 3. เปดิ รับกิจกรรมใหม่ พยายามคงกิจวัตรเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าท่ีจะท�ำได้ ช่วงเวลาน้ียังเป็นช่วง เวลาท่ีดีในการค้นหากิจกรรมใหม่ ๆ ท่ีอาจเป็นกิจกรรมโปรดในอนาคต ไม่ว่าจะ เป็นการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ เช่น ปลูกพืชผักสวนครัวเพ่ือรับประทานเอง ลองท�ำอาหารเมนูใหม่ ๆ ตัดเย็บหน้ากากผ้า หรือ ท�ำกิจกรรมช่วยผ่อนคลาย เช่น ฟงั เพลง หรอื ทำ� สมาธิ เป็นตน้ 4. นำ� เทคโนโลยมี าใช้ ท่านสามารถพูดคุยแบบเห็นหน้าหรือไม่เห็นหน้าผ่านโทรศัพท์ หรือ การ ติดต้ังโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่ใช้ง่าย นอกจากนั้นเทคโนโลยียังท�ำให้ท่าน รับข้อมูลข่าวสารได้จากทุกหนแห่ง รวมทั้งรับชมเร่ืองท่ีท่านสนใจ หลักส�ำคัญ นอกจากค้นหาในสิ่งที่ชอบแล้ว ท่านอาจเลือกช่องทางท่ีถนัด พยายามลดข้อ จ�ำกัดในการใช้เทคโนโลยี เช่น อาจให้ลูกหลานอธิบายวิธีใช้อย่างง่ายแทน ที่จะศึกษาวิธีใช้งานเองทั้งหมด เลือกขนาดตัวอักษรและขนาดหน้าจอที่มอง แลว้ สบายตา เป็นต้น กรณีท่ที า่ นอยู่คนเดยี ว หากท่านปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำข้างต้นแล้ว ยังรู้สึกกังวล เครียด หรือนอน ไม่หลับ ใหท้ ่านลองปฏบิ ัติดงั นี้ 56
ทำ� ความเขา้ ใจตนเอง และ มองหาคนที่เข้าใจ สังเกตความคิดของท่านว่า ท่านก�ำลังนึกถึงเรื่องอะไรที่ก่อให้เกิดความ ไม่สบายใจ ลองส่ือสาร หาคนรับฟัง หรือ หาช่องทางติดต่อกับคนในครอบครัว หรือเพ่ือนท่ีไว้ใจ ค่อย ๆ เร่ิม จนกลายเป็นความสม�่ำเสมอ ผู้สูงอายุที่กำ� ลังเว้น ระยะห่างทางกายภาพหลายคน พบว่าตนเองมีความสุขขึ้น เพราะได้กลับมา ติดต่อกับเพ่ือนเก่า หรือคนในครอบครัวท่ีไม่ได้พบกันนาน หลายคนได้เพ่ือนใหม่ ขอเพียงเปดิ ใจและเร่ิมมองหาคนรอบข้างเท่าน้นั แสดงนำ�้ ใจ เทคนิคท่ีเป็นจุดเร่ิมต้นในการกระชับความสัมพันธ์ช่วงที่ห่างกัน ก็คือ การแสดงน้�ำใจต่อกัน เช่น ถามถึงความเป็นอยู่ของกันและกัน อาสาท�ำบางส่ิง บางอย่างให้แก่กัน เช่น ท�ำกับข้าวไปให้คนในละแวกบ้านท่ีอาจต้องการความ ชว่ ยเหลือ กรณีท่ที ่านอย่กู ับสามีหรือภรรยาของทา่ น หากทา่ นไม่คนุ้ ชนิ กับการอย่เู พยี งล�ำพังกบั คู่สมรส หรอื ในกรณที ีส่ ามีหรือ ภรรยาของท่านแสดงพฤติกรรมที่ท�ำให้ท่านร�ำคาญ หรือ ไม่พอใจ ท่านสามารถ พิจารณาดงั นี้ ทบทวนกอ่ น โดยให้ท่านทบทวนกับตนเองก่อนว่า เร่ืองท่ีท�ำให้ท่านไม่พอใจ คือ เรื่อง อะไร สิ่งนี้เคยเกิดข้ึนมาก่อนหรือไม่ ในบางคร้ังเม่ือคนเราเครียดกับสถานการณ์ ต่าง ๆ โดยไม่รู้ตัว ก็อาจแสดงพฤติกรรมท่ีท�ำให้คนรอบข้างไม่พอใจได้โดยไม่ได้ ตงั้ ใจ หากพฤติกรรมเหล่านีไ้ ม่เคยเกิดขนึ้ ก็เป็นโอกาสอันดี ทท่ี ่านจะแสดงความ เปน็ ห่วง และมองหาวิธใี หค้ คู่ รองของทา่ นผอ่ นคลายมากขึน้ 57
ส่ือสารอยา่ งสร้างสรรค์ ควรพูดเรื่องท่ีท่านมองว่าเป็นปัญหาในปัจจุบัน พยายามไม่พูดโยงกับ เรอื่ งในอดตี ไมว่ า่ จะเกยี่ วกบั ปญั หาในปจั จบุ นั หรอื ไมก่ ต็ าม เพราะมกั ทำ� ใหค้ คู่ รอง ของท่านรู้สึกต่อต้าน ควรบอกความรู้สึกของท่าน และยกประเด็นที่ท่านเห็นว่า สำ� คญั และควรปรับปรงุ แทนที่จะกล่าวโทษกนั ทางสายกลาง เมื่อเกิดปัญหา หลายคร้ังท่ีข้อสรุปอาจไม่ตรงใจฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง หาก สามารถอะลุ่มอล่วย หรือเลือกแก้ปัญหาแบบทางสายกลางได้ ก็เท่ากับว่าท่านได้ พบความสงบใจไปแล้วข้ันหนึ่ง อย่างไรก็ตามหากยังคงรู้สึกว่าการใช้เวลาร่วมกัน ท�ำให้ท่านขุ่นเคืองมากขึ้น ให้ลองจัดสรรเวลาอยู่กับตนเองอย่างผ่อนคลาย หรือ อยู่กบั สงิ่ ท่ีสนใจ สลบั กบั การปฏสิ มั พนั ธก์ บั คูส่ มรส ไม่ว่าสถานการณ์โรคระบาดจะเป็นอย่างไร อยากให้ท่านตระหนักถึงหลัก ความจรงิ ทวี่ า่ เราทกุ คนลว้ นตอ้ งการสงิ่ พนื้ ฐานเชน่ เดยี วกนั นนั่ คอื ความปลอดภยั ความรักความเข้าใจ ขอให้ท่านดูแลตนเองอย่างดี อาจค่อย ๆ ปรับตัวโดยอาศัย ค�ำแนะน�ำข้างต้น และเผื่อแผ่สิ่งที่ดี ๆ ให้กับผู้อื่น หวังว่าทุกท่านจะมีกายและใจ ที่แข็งแรงค่ะ 58
เมอ่ื ตัวใกล้ ทำ� อย่างไรไม่ให้ (เหนิ ) หา่ ง 59
60
อยบู่ า้ นพรอ้ มหนา้ ทำ� ไมถงึ ทะเลาะกนั มากขน้ึ ? อาจารย์แพทย์หญิงธิดารตั น์ ปรุ ณะชัยครี ี ในชว่ งนเ้ี นอ่ื งจากสถานการณข์ องโรคโควดิ -19 อาจทำ� ใหห้ ลาย ๆ ครอบครวั สมาชิกอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่หลายคนต้องท�ำงานจากที่บ้าน เดก็ ๆ ไมไ่ ด้ไปโรงเรียนหรอื ใช้การเรียนออนไลน์ หรือบางคนอาจจะเดนิ ทางกลับ บา้ นเนอื่ งจากงานทเ่ี คยทำ� ตอ้ งถกู ปดิ กจิ การไป การทคี่ รอบครวั ไดอ้ ยกู่ นั พรอ้ มหนา้ เช่นนี้ หลาย ๆ คนอาจมองว่าควรเป็นช่วงเวลาท่ีดีของครอบครัวที่จะได้ใช้เวลา ร่วมกัน จากเดิมที่แต่ละคนต่างบ่นว่าไม่มีเวลา แต่น่าแปลกที่หลาย ๆ ครอบครัว กลับเขียนมาเล่าให้หมอฟังว่า เครียดมากข้ึน ทะเลาะกับคนในครอบครัวมากขึ้น หรือรู้สกึ เหน็ดเหน่ือยกบั ภาระหน้าทีใ่ นบา้ นมากขึ้น ถ้าคุณก�ำลังรู้สึกแบบน้ีอยู่ หมออยากบอกว่า ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกค่ะ ท่ีร้สู ึกแบบนี้ วนั น้หี มอจะมาเลา่ ใหฟ้ ังค่ะ ในภาวะท่ีมีการแพร่ระบาดของโรคใด ๆ เป็นธรรมดาที่ท�ำให้รู้สึกเครียด หรอื กังวล ซงึ่ แต่ละคนอาจมคี วามกงั วลไมเ่ หมือนกนั เชน่ กลวั จะลม้ ปว่ ยหรือเสยี ชีวิต กลัวจะปกป้องครอบครัวหรือคนท่ีตนเองรักไม่ได้ เครียดเรื่องเศรษฐกิจและ ค่าใช้จ่ายในครอบครัว รู้สึกหมดหวังโดดเด่ียว กลัวถูกแยกจากคนท่ีรัก เป็นต้น 61
นอกจากความเครียดท่ีเกิดจากตัวโรคโควิดโดยตรงแล้ว ยังมีความเครียดท่ีเกิด จากผลกระทบทางอ้อมอีกหลายอย่าง อย่างการท่ีโรงเรียนปิด ไม่มีการเรียน ภาคฤดูร้อน ค่ายกิจกรรมนอกหลักสูตรหรือสถานรับดูแลเด็กต่าง ๆ ก็ต้องถูก งดไป ท�ำให้ภาระหน้าที่การดูแลเด็กต้องตกมาเป็นของพ่อแม่แทน พ่อแม่แม้ ว่าจะอยู่บ้าน แต่ก็ต้องท�ำงานจากบ้านแล้วยังต้องเพ่ิมหน้าท่ีในการดูแลลูก อีกด้วย แม่หรือสมาชิกท่ีเคยดูแลเรื่องอาหารของคนในครอบครัวก็ต้องเหนื่อย เพ่ิมข้ึนในการท�ำอาหารให้สมาชิกรับประทานถึงสามม้ือ หลาย ๆ บ้านอาจจะถึง ขั้นคิดเมนูไม่ออกเลยทีเดียว บางครอบครัวท่ีเคยพ่ึงพาร้านอาหารนอกบ้านหรือ อาหารส�ำเร็จรูปก็ต้องระมัดระวังในการออกจากบ้านและหันมาลงมือท�ำกับข้าว รับประทานเองมากขึ้น ในส่วนของพ่อหรือสมาชิกที่เคยออกไปท�ำงานก็อาจ ถูกคาดหวังให้ช่วยดูแลลูกมากขึ้นเนื่องจากมีเวลาอยู่บ้านมากข้ึน หรือบางคน ก็ตอ้ งปรบั ตัวให้เขา้ กับการท�ำงานรูปแบบใหม่ เรยี กไดว้ า่ การดำ� รงชวี ติ และกจิ วตั รประจำ� วนั ในชว่ งนล้ี ว้ นไดร้ บั ผลกระทบ จากโรคโควิดทั้งส้ิน การปรับตัวให้เข้ากับการเปล่ียนแปลงที่รวดเร็วเช่นน้ีย่อม ท�ำให้เกิดความเครียดเป็นธรรมดาค่ะ ถ้าเปรียบเทียบครอบครัวเป็นโมบายท่ีมีสมาชิกแต่ละคนแขวนอยู่ โรค โควิดก็คงเปรียบเหมือนลมพายุที่พัดมา ส่งผลกระทบให้แต่ละแขนของโมบาย แกวง่ ไปมาและพยายามทจ่ี ะปรบั ตวั เพอ่ื กลบั ไปสจู่ ดุ สมดลุ นง่ิ ๆ อกี ครง้ั สถานการณ์ ตอนนจี้ งึ เปน็ ชว่ งทที่ กุ คนกำ� ลงั ปรบั ตวั เขา้ หากนั เพอ่ื ใหค้ รอบครวั กลบั สสู่ มดลุ ปกติ เมื่อคุณได้เข้าใจดังนี้แล้ว หมอเช่ือว่าหลายคนคงท�ำให้รู้สึกโล่งใจไป ได้บ้างว่า ความเครียดที่คุณประสบอยู่น้ัน ไม่ได้เกิดข้ึนเฉพาะครอบครัวของคุณ คนเดยี ว แต่ยังมอี กี หลาย ๆ ครอบครัวทก่ี ำ� ลงั เผชญิ อยเู่ ชน่ กัน ในช่วงภาวะวกิ ฤตเชน่ นี้เราจะมีวธิ ีปรบั ใจตัวเองไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 62
1. ปรบั มุมมอง แน่นอนว่าในสถานการณ์ตอนนี้หากมองไปรอบ ๆ ตัว ส่ิงต่าง ๆ ก็ดู เหมือนจะแย่ไปเสียหมด แต่หากเราลองปรับมุมมองของเราให้เห็น สง่ิ ดี ๆ ท่ีเกิดขน้ึ ในวกิ ฤติเช่นนี้ได้ กจ็ ะทำ� ให้เราร้สู ึกมคี วามหวังในการ ด�ำเนินชีวิตมากข้ึน เช่น การท�ำงานจากที่บ้านอย่างน้อยก็ท�ำให้เรา มเี วลามากขนึ้ อกี วนั ละ 1-2 ชวั่ โมง เนอ่ื งจากไมต่ อ้ งเสยี เวลาไปกบั การ จราจรที่ติดขัด ประหยัดเงินมากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ท�ำอาหารรับประทานท่ีบ้านประหยัดเงินมากกว่าซ้ือนอกบ้าน และ ไม่มีรายจ่ายจากการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง สามารถใช้เวลากับสมาชิก ในครอบครัวมากข้นึ เป็นตน้ 2. ส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นน้ี ทุกคนในครอบครัวต่างมีความเครียด และต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง การสื่อสารที่สม่�ำเสมอเป็น สิ่งส�ำคัญ ให้สมาชิกสามารถถามและบอกความต้องการแบบตรงไป ตรงมา งดการต�ำหนิหรือประชดประชัน สมาชิกแต่ละคนสามารถ ท่ีจะพูดคุยแบ่งปัน รับฟังและปลอบใจซึ่งกันและกันในบรรยากาศ ที่เป็นมิตรและไมต่ ดั สิน 3. พยายามจัดกจิ วัตรประจำ� วันตา่ ง ๆ ใหเ้ ปน็ ตารางสมำ่� เสมอ สมาชิกในครอบครัวควรมีการพูดคุยกัน เพื่อแบ่งปันหน้าที่ความรับ ผิดชอบในครอบครัวให้เหมาะสมตามชีวิตประจ�ำวันที่เปล่ียนแปลง ไป เชน่ พอ่ กบั แมอ่ าจสลบั กนั ดแู ลลกู เปน็ ชว่ งเวลา สมาชกิ อาจแบง่ กนั รับผิดชอบงานบ้าน เป็นต้น หากมีสมาชิกที่เป็นเด็กอยู่ในครอบครัว ก็ควรจัดตารางกิจวัตรประจ�ำวันให้เขาได้ทบทวนบทเรียน สลับกับ กจิ กรรมผ่อนคลาย เปน็ ไปตามตารางทีส่ ม่�ำเสมอ 63
4. การจัดระยะห่าง ปกติแลว้ คนแต่ละคนย่อมมขี อบเขตระหว่างบุคคลทแี่ ตกตา่ งกัน บางคนมขี อบเขตส่วนตัวมากต้องการมรี ะยะหา่ งกับคนในครอบครวั มากกวา่ สมาชิกคนอนื่ ๆ ในช่วงเวลาทตี่ อ้ งใช้เวลาอย่ใู นบ้านร่วมกันมากขนึ้ ไม่สามารถออกไปท�ำกจิ กรรมนอกบ้านไดด้ งั เดมิ อาจทำ� ใหส้ มาชกิ บางคนร้สู กึ อึดอดั สมาชิกคนอื่น ๆ อาจชว่ ยได้โดยการเขา้ ใจและ เคารพในความแตกต่างของขอบเขตระหว่างบุคคล ความตอ้ งการ พ้นื ทส่ี ว่ นตวั ของแตล่ ะคน ให้เวลาและพ้นื ทที่ เี่ ขาจะได้ใช้เวลาสว่ น ตวั บ้าง หากเราสามารถรักษาสมดลุ ของระยะใกล้ห่างนี้ได้ ก็จะท�ำให้ สมาชกิ ร้สู กึ สบายใจและไมอ่ ึดอดั เวลาอยู่รว่ มกัน 5. เข้าใจและยอมรับความแตกตา่ ง ในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวอาจมี การตอบสนองต่อเหตุการณ์ไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีความระมัด ระวังและกังวลต่อการติดเชื้อค่อนข้างมาก ไม่กล้าออกจากบ้าน ต้องเช็ดท�ำความสะอาดส่ิงของในบ้านบ่อย ๆ ต้องตรวจวัดไข้บ่อย ๆ ในขณะที่หลาย ๆ คนอาจไม่ค่อยกังวลกับสถานการณ์เท่าไหร่นัก ยังคงออกจากบ้าน พบปะผู้คนและใช้ชีวิตตามปกติ ปฏิกิริยาที่ แตกต่างกนั เหล่าน้ขี นึ้ อยูก่ ับปจั จัยตา่ ง ๆ เช่น ประสบการณ์การด�ำรง ชีวิตในอดีต ระบบความเช่ือ กลยุทธการแก้ปัญหาท่ีบุคคลใช้บ่อย ๆ เป็นต้น ความตระหนักต่อการติดเชื้อท่ีแตกต่างกันย่อมส่งผลกระทบ ให้เกิดความขัดแย้งกันในครอบครัวได้ เน่ืองจากต่างคนก็ต่างมีความ คดิ เห็นท่ีไมเ่ หมือนกัน ในเหตุการณ์แบบนี้หมอแนะน�ำว่าเป็นโอกาสดีท่ีคนในครอบครัว จะได้แลกเปล่ียนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ไม่มีใครที่จะสามารถ บังคับหรือเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นและพฤติกรรมของอีกฝ่ายได้ สมาชิกควรเรียนรู้ที่จะรับฟัง เข้าใจ และยอมรับในความคิดเห็นที่ 64
แตกตา่ งไป การเรม่ิ ตน้ ทจี่ ะเปดิ รบั ฟงั ความคดิ ของสมาชกิ ในครอบครวั จะเป็นจุดเริม่ ตน้ ท่ีดีท่ีจะวางแผนแกป้ ญั หาและผ่านวกิ ฤตไปดว้ ยกนั 6. ติดต่อส่อื สารและขอความชว่ ยเหลอื จากชมุ ชนภายนอก ครอบครวั ในชว่ งนี้หลาย ๆ คนอาจไม่ไดพ้ บปะสงั สรรค์กบั เพ่ือนหรอื ญาตพิ นี่ ้อง แบบเดิม แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่สามารถเดินทาง ไปพบเจอหน้ากันได้ การพูดคุยกันผ่านโทรศัพท์ วิดีโอคอล ก็เป็น ส่ิงหนึ่งท่ีท�ำให้รู้สึกได้ใกล้ชิดกัน แบ่งปันเรื่องราว เล่าสารทุกข์สุกดิบ ให้แก่กนั ฟัง ก็จะช่วยคลายความเหงาลงได้ เพราะเชอ่ื เถอะค่ะวา่ ยงั มี อีกหลาย ๆ คนท่ีรู้สึกเหงาเหมือนกัน ในบางครอบครัวที่ผู้ปกครอง จะต้องท�ำงาน ท�ำให้ไม่มีเวลาดูแลลูกอาจลองขอความช่วยเหลือจาก เพอื่ นหรอื ญาตพิ ่นี อ้ งเพ่ือช่วยแบง่ เบาภาระ หรอื หากเกดิ ความเครียด มากก็ไม่ควรท่ีจะเก็บไว้คนเดียว ควรมองหาวิธีการผ่อนคลาย ความเครียด ปรึกษาคนใกล้ชิด หรือขอการสนับสนุนช่วยเหลือจาก คนรอบตัว ชุมชน หรือองคก์ รต่าง ๆ เปน็ กำ� ลงั ใจใหท้ กุ คนสามารถนำ� พาครอบครวั ผา่ นพน้ อปุ สรรค เขา้ สสู่ มดลุ ใหม่ของการใชช้ ีวติ ร่วมกันได้ด้วยดีค่ะ เอกสารอา้ งองิ อุมาพร ตรงั คสมบตั .ิ จิตบำ� บดั และการใหค้ ำ� ปรึกษาครอบครวั . พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพฯ : ซนั ตา้ การพิมพ์, 2554 Fiorillo A, Gorwood P. The consequences of the COVID-19 pandemic on mental health and implications for clinical practice. Eur Psychiatry. 2020; 63, e32, 1-2. Walsh F. Strengthening family resilience. New York, USA: Guilford Publications; 2015. 65
66
ท�ำอย่างไรไม่ให้เดก็ เครียดจากโควดิ -19 รองศาสตราจารย์นายแพทย์ชาญวิทย์ พรนภดล สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ท�ำให้ทุกคนเครียด วิตกกังวล หรือกลัว ไม่เว้นแม้แต่เด็ก เด็กหลายคนโดยเฉพาะเด็กเล็ก ไม่สามารถบอกได้ว่า ตัวเองก�ำลังเครียดหรือกังวล ผู้ใหญ่บางคนเวลาเครียดแล้วน่ิงเฉย ไม่พูดไม่จา กับใคร บ้างก็เครียดแล้วเก็บตัวแยกตัว บ้างก็เครียดแล้วหงุดหงิดโวยวาย ‘เหว่ียง’ ใส่คนรอบข้าง บางคนเครียดแล้วเกิดอาการทางกาย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หรือรับประทานมากขึ้น เด็กที่เครียดก็มี การเปล่ียนแปลงของอารมณ์และพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันกับผู้ใหญ่ได้ เช่นกนั ในเดก็ เลก็ อาจแสดงออกเป็นการร้องไห้ งอแง มพี ฤตกิ รรมถดถอย ขอ้ี ้อน ตดิ พอ่ ตดิ แม่มากขึ้น ดอ้ื พดู ยากมากขน้ึ ฝนั รา้ ย ตืน่ กลางดกึ 67
สาเหตุท่ที �ำให้เด็กเครียดในสถานการณ์โควิด-19 การด�ำเนนิ ชวี ิตทเี่ ปลย่ี นไปอยา่ งฉับพลนั การท่ีต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน อยู่ในพื้นท่ีท่ีจ�ำกัด ไม่ได้ไปในที่ท่ีอยากไป ไมไ่ ด้ท�ำในสง่ิ ทอี่ ยากท�ำ หรอื ไม่ไดเ้ จอคนทอ่ี ยากเจอ การอย่ทู ่ามกลางบรรยากาศความเครียด ความวิตกกังวลของผู้ใหญ่ในบ้าน: อย่าลืมว่าเด็กเป็นนักแอบฟังตัวฉกาจ เมอื่ ไดย้ นิ อะไรทไ่ี มด่ มี า เดก็ อาจจะจนิ ตนาการ ขยายความนา่ กลวั ของสง่ิ นน้ั เพ่มิ ขนึ้ ไปอกี หลายเทา่ ตัว ท่สี �ำคัญคอื อารมณล์ บ ความเครยี ด ความวิตก กังวล และความกลัว สามารถติดต่อถึงกันได้ง่ายกว่าและรวดเร็วกว่าเจ้า โควดิ -19 เสยี อีก ความขดั แย้งของคนในครอบครัว เมื่อคนส่วนใหญ่ต้องท�ำงานจากบ้าน (work from home) ซ่ึงเป็นเรื่อง ใหม่ส�ำหรับหลายคน มีอะไรที่ต้องปรับตัวและเรียนรู้ในเวลาสั้น ๆ สามี ภรรยาต้องมาแย่งพื้นท่ี แย่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์กันเพ่ือท�ำงาน แถมยัง ต้องเจอหน้ากันตลอด 24 ชั่วโมง ซ่ึงสิ่งเหล่าน้ีล้วนน�ำไปสู่ความเครียด และอาจน�ำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกัน แน่นอนว่าเด็กอาจเห็นและอยู่ ทา่ มกลางความขดั แยง้ นี้ 68
ขา่ ว ข้อมูลต่าง ๆ ที่กระหน่�ำเข้าสู่เด็กผ่านสื่อต่าง ๆ การหมกมุ่นเสพส่ือมาก เกินไปของผู้ใหญ่ในบ้าน การเปิดทีวีหรือส่ือสังคมออนไลน์เพ่ือติดตามข่าว โควิด-19 เกือบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นข่าวเก่ียวกับความสูญเสีย ความตาย หรือมีภาพท่ีน่ากลัว ย่อมไม่เป็นผลดีกับสุขภาพจิตของทุกคนในบ้าน ย่ิงกับเด็กด้วยแล้วยิ่งอันตราย อย่าลืมว่าเด็กเขาเล่ียงไม่ได้ หนีไม่พ้น ต้องทนฟัง หรือเห็นข่าวทผ่ี ใู้ หญ่ยดั เยียดให้ ท้ังโดยเจตนาหรือไมเ่ จตนากต็ าม แลว้ จะท�ำอย่างไรไม่ใหเ้ ดก็ เครยี ด พดู คยุ กับเด็กในเร่ืองนี้ (เม่อื เดก็ พรอ้ ม) พยายามถามความคดิ ความ เข้าใจ ความรู้สึกเก่ียวกับส่ิงท่ีเกิดขึ้นและสิ่งท่ีเปล่ียนแปลงไปเนื่อง จากโควิด พ่อแม่ต้องแสดงให้เด็กมั่นใจว่าพ่อแม่พร้อมท่ีจะรับฟัง และตอบค�ำถามที่เด็กอาจจะมีอยู่มากมาย เช่น “หนูจะติดไวรัสม้ัย พ่อแม่จะติดมั้ย คุณย่าคุณยายจะเป็นอะไรรึเปล่า เมื่อไหร่หนูจะได้ ออกไปเล่นกับเพื่อนได้” ฯลฯ ให้โอกาสเด็กได้ระบายความกลัว ความกังวลออกมา หาโอกาสอธิบาย แก้ความเข้าใจผิดท่ีเด็กอาจ มีเก่ียวกับโควิด แต่อย่าหลอกหรือบอกไม่จริง ใช้ภาษาท่ีเข้าใจง่าย และเหมาะกับพฒั นาการของเดก็ พยายามให้เด็กด�ำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติท่ีสุดเท่าท่ีจะเป็นไปได้ โดยไม่ฝ่าฝืนมาตรการของรัฐเรื่องการเก็บตัวและเว้นระยะห่างทาง กายภาพ ให้เด็กได้มีโอกาสติดต่อพูดคุยกับญาติท่ีเด็กสนิทด้วย หรือเพ่ือนรัก ทโ่ี รงเรยี น ผา่ นทางวดิ โี อคอลได้บ่อยเทา่ ทเี่ ด็กต้องการ 69
ให้เด็กได้เล่นหรือท�ำกิจกรรมท่ีเด็กชอบอย่างอิสระ (ยกเว้นการ เล่นเกม หรืออยู่กับหน้าจอมือถือ ที่ควรจ�ำกัดเวลา ไม่ควรให้เกิน วันละ 2-3 ชั่วโมง) ควรให้เด็กได้เล่นออกแรง ออกก�ำลังอย่างน้อย วนั ละ 1 ชั่วโมง ไมว่ ่าจะเปน็ ในบา้ นหรอื นอกบา้ น (ถา้ บา้ นมีบรเิ วณ โปรง่ โลง่ ไม่แออดั ไปดว้ ยผูค้ น) พยายามพลิกวิกฤตให้เปน็ โอกาส ถามเด็กวา่ เขาเห็นส่ิงดี ๆ ท่เี กิดขน้ึ ทา่ มกลางวิกฤตนี้หรือไม่ เห็นอะไรบา้ ง ในด้านดงี าม ความเอ้ืออาทร การช่วยเหลือเก้ือกูลกันและกันของมวลมนุษย์ การฟื้นตัวของ ธรรมชาติ การที่เราทุกคนในครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา กนั ฯลฯ หลีกเล่ียง ลดการเสพข่าวร้าย ๆ การติดตามสถิติผู้ป่วย/ผู้เสียชีวิต รายวัน หรือข่าวที่ไม่สร้างสรรค์ โดยเริ่มจากตัวของผู้ใหญ่ในบ้าน เองเสียก่อน หยุดการสนทนา วิพากษ์วิจารณ์ ออกความเห็นใน แง่ลบเกย่ี วกบั สถานการณ์น้ตี อ่ หนา้ เด็ก พูดคุยกันในครอบครัวว่า เรามีส่วนในการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน และก�ำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากล�ำบากกว่าเราได้อย่างไรบ้าง ใหเ้ ดก็ ๆ ไดม้ สี ว่ นในการออกความคดิ เหน็ และรเิ รม่ิ กจิ กรรมเหลา่ นนั้ หมั่นส�ำรวจอารมณ์ ความรู้สึกของตัวพ่อแม่เอง พ่อแม่ต้องเป็น ตัวอยา่ งให้เด็กเหน็ ถงึ ความน่ิง สงบ ความมีสติ ไมต่ ื่นตระหนก หรือ วิตกกังวลมากเกินไป พ่อแม่ควรดูแลใจตัวเองให้มั่นคงเพื่อสามารถ เป็นท่ีพ่ึงทางใจให้เด็กได้ หากพ่อแม่พูดปลอบเด็กว่า เดี๋ยวทุกอย่าง ก็จะดีขึ้น เราจะไม่เป็นอะไร แต่พฤติกรรมของพ่อแม่แสดงออกว่า กำ� ลัง ‘สติแตก’ ตืน่ ตระหนก ทายสคิ รบั วา่ เด็กจะเชือ่ อะไร เดก็ เช่ือ ในส่ิงท่ีเด็กเห็นมากกว่าค�ำปลอบประโลมของพ่อแม่ แล้วสุดท้าย เด็กก็จะเครยี ดและต่ืนตระหนกตามพ่อแม่ 70
ในแต่ละวันให้ทุกคนในครอบครัวได้มีโอกาสฝึกสติโดยการติดตาม ลมหายใจ (mindfulness breathing) หรอื ติดตามอารมณ์ ความคิด ความรูส้ กึ ของตวั เอง ส่ิงที่ส�ำคัญท่ีสุด คือ หากิจกรรมสนุก ๆ ท�ำร่วมกันในครอบครัว กิจกรรมที่ท�ำให้ทุกคนผ่อนคลาย เรียกเสียงหัวเราะได้ โอกาสท่ี ทุกคนในบ้านอยู่พร้อมกันหลาย ๆ วันติดกันมีไม่บ่อยนัก รีบคว้า ไว้เสีย แล้วท�ำให้เป็นช่วงเวลาดี ๆ ท่ีจะอยู่ในความทรงจ�ำของลูก ตลอดไป หมอหวงั วา่ บทความนจี้ ะชว่ ยใหเ้ ดก็ ๆ ทกุ คนผา่ นพน้ ชว่ งวกิ ฤตนไี้ ปดว้ ย ดี และไดร้ บั ผลกระทบทางจิตใจน้อยทส่ี ดุ 71
72
หยุดอยบู่ า้ นเพราะโควิด แต่หงดุ หงิดเพราะคนข้างๆ : คิดอยา่ งไรให้หายกล้มุ แพทย์หญิงกีรติ พฒั นเสรี ดูเหมือนเร่ืองการกระทบกระท่ังกันระหว่างลิ้นกับฟันจะเป็นปัญหาท่ี เกิดข้ึนในหลาย ๆ ครอบครัวท่ีในภาวะปกติอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียวกันดี แต่ พอมีนโยบายให้คนส่วนใหญ่ต้องอยู่บ้าน งานก็ท�ำงานจากที่บ้าน กิจกรรม ทุกอยา่ งที่เคยตา่ งคนต่างท�ำทง้ั หมดก็กลบั มาอยู่ในบ้าน ‘ค่รู ัก’ บางทกี เ็ ลยจะอาจ เล่ียงการเป็น ‘คู่กัด’ ได้ยาก เหตุขุ่นใจกันเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะลามไปจนถึง เกิดความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาก็ไม่อยากให้เกิด ตัวตนของตัวเองก็ยัง อยากใหม้ ี งัน้ จะท�ำยงั ไงได้บ้าง 73
1. หาพ้นื ที่ส่วนตัว ยามที่รู้ตัวว่าก�ำลังมีอารมณ์ขุ่นมัว อาจจะต้องจัดการให้ทุกคนได้มีพ้ืนท่ี ส่วนตัว เวลาส่วนตัว เพื่อท่ีจะจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น การจัดพื้นที่ส่วน ตัวอาจจะล�ำบากหน่อยในครอบครัวที่อยู่ห้องขนาดไม่ใหญ่นัก อาจต้องอาศัย การจัดตารางเวลาเพ่ือใช้พื้นท่ีแต่ละส่วนของห้อง รวมไปถึงการจัดท่ีส�ำหรับการ ทำ� งานจากบา้ น (work from home) ของแตล่ ะคน เชน่ มมี ุมท่ีหนั หน้าไปคนละ ทิศกนั ใช้ของเล็ก ๆ มาต้งั เปน็ แนวเพื่อแยกพ้นื ที่ในชว่ งเวลาท�ำงาน กอ็ าจจะชว่ ย ไดค้ ะ่ 2. ส�ำรวจใจเพื่อหาท่มี าของปัญหา เวลาที่มีเหตุข้ึนมาอาจลองมาช่วยกันคิดค่ะว่าปัญหาที่เกิดมีที่มาท่ีไป จากอะไร ยกตัวอย่างเช่น บางบา้ นมีปญั หาคนขา้ งกายไมย่ อมอยู่บ้าน แลว้ ตัวเรา รสู้ ึกไม่ดี หมออยากชวนให้ลองส�ำรวจใจตัวเองดกู ่อนคะ่ ว่า เรารสู้ ึกยังไงบา้ ง เช่น หงุดหงิด ขัดใจ เครียด กังวล กลัว เหงา เศร้า น้อยใจ ฯลฯ เพราะ ‘อารมณ์ แต่ละอารมณ์มีที่มาจากความคิดท่ีแตกต่างกัน’ ค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ เวลา ที่คนข้างกายออกไปข้างนอก เช่น บ้านเพ่ือน บางคนอาจจะคิดว่าเขาจะติด โควิดกลับมาไหม จะเอาโรคมาติดลูกและฉันหรือเปล่า ย่อมท�ำให้เกิดความ กังวลใจ บางคร้ังเวลาที่เราคิดว่าท�ำไมยังออกจากบ้านอยู่ได้ เขาบอกให้เก็บตัว อยู่บ้านช่วยประเทศ ท�ำไมไม่สนใจคนอ่ืน อาจจะท�ำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิด หรอื โกรธ แตถ่ า้ หากเราคดิ ไปวา่ ทเ่ี ขาไมย่ อมอยบู่ า้ นกบั เรา เปน็ เพราะเขาไมอ่ ยาก อยู่ด้วยกัน คงเป็นเพราะไม่รักเราแล้วแน่ ๆ ก็มักจะท�ำให้เกิดความเศร้าเสียใจ หรือน้อยใจคะ่ 74
เมื่อเราส�ำรวจใจตนเองจนเจอก้อนความคิดท่ีท�ำให้เกิดปัญหาแล้วหมอ ขอเสนอวิธีจัดการความคดิ ทท่ี �ำไดง้ ่าย ๆ ทบ่ี า้ น ดว้ ยวธิ ี FAST ค่ะ F - Fact: ท่ีคดิ นัน้ จริงไหม เรามาส�ำรวจกันก่อนค่ะว่าความเชื่อของเราเป็นความจริงมากน้อย แค่ไหน เช่น ความคิดที่ว่าเขาไม่รักเรา มีหลักฐานอะไรท่ีมาช่วยยืนยันได้ว่าเขา รักเรา หลักฐานอะไรมาบอกได้ว่าเขาไม่รักเรา แล้วลองช่ังน�้ำหนักดูค่ะ ถ้าพบ ว่ามันมีความจริงเจืออยู่น้อย เราจะบอกตัวเองได้เลยค่ะว่าน่ีเป็นความคิดไปเอง อยา่ ไปสนใจค่ะ A - Alternative: ท่ีคิดน้นั เปน็ อย่างอ่ืนไดห้ รือเปล่า เราสามารถมองมมุ มองอนื่ จากเรอื่ งทเ่ี ราคดิ ไดห้ รอื ไม่ เชน่ ทเ่ี ขาไปขา้ งนอก แต่เขาก็ป้องกันตัวดี ไปบ้านเพ่ือนที่ไม่ได้ออกไปไหนมาเป็นเดือนแล้ว เขาก็ไม่น่า จะติดโรคได้ ก็จะชว่ ยลดความกังวลได้คะ่ S - So what: เป็นงัน้ แล้วยังไงต่อ ในขน้ั นอ้ี ยากใหล้ องจนิ ตนาการสมมตวิ า่ เหตกุ ารณท์ เ่ี รากลวั หรอื ไมช่ อบใจ น้ันมันเป็นอย่างน้ันจริง ๆ เช่น ถ้าเขาออกไปบ้านเพ่ือนต้องไปดื่มเหล้ามาแน่ ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้จริงแล้วส่ิงที่ร้ายแรงท่ีสุดคืออะไร เช่น เขาจะเมา ถ้าเขาเมาเรา กลัวอะไรมากที่สุด เช่น จะกลับเกินเวลาเคอร์ฟิวแล้วโดนต�ำรวจจับ งั้นลองมา คดิ ดคู ะ่ ว่า ถา้ เรากลัวเขาโดนจบั เราสามารถแกป้ ญั หาน้ไี ด้ยังไงบา้ ง เช่น ใหแ้ ฟน นอนบ้านเพื่อนไปเลยแลว้ เชา้ ค่อยกลบั ให้เพ่ือนทีไ่ มเ่ มารีบพามาส่งบา้ นกอ่ นหมด เวลาเคอรฟ์ ิว หรอื ทิ้งรถไว้บา้ นเพ่อื นก่อนแลว้ เรียกรถรับจา้ งกลบั ค่ะ 75
T - Toll taken: คิดอย่างนแี้ ลว้ ค้มุ ไหม? สุดท้ายคือให้ลองพิจารณาค่ะว่า ‘เราต้องจ่ายอะไรไปบ้างกับความคิดท่ี ท�ำให้เราขุ่นใจน้ี’ เช่น หงุดหงิดจนไม่ได้ท�ำงานบ้าน แถมยังหงุดหงิดใส่ลูกหรือ คุณพ่อคุณแม่ท่ีอยู่ด้วยกัน ‘มันคุ้มกันไหม’ ท่ีจะวนเวียนคิด ถ้ามันไม่คุ้ม ง้ันเรา ลองเลิกคิด แล้วไปหาอะไรท�ำอย่างอื่นดีไหม แต่ถ้าความคิดมันกลับมาใหม่ก็ ไม่เป็นไรนะคะ ไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะจริง ๆ แล้วมันเป็นธรรมชาติที่สมอง ของเราจะคิดในเวลาท่ีเราไม่ได้ท�ำกิจกรรมอะไร ขอเพียงแค่คุณรู้ตัว ลุกขึ้นไปหา อะไรท�ำ และบอกตัวเองว่าน่มี ันก็เป็นเพียงความคิดเทา่ นั้นก็เพียงพอค่ะ แตถ่ า้ ลองหลายวธิ แี ลว้ ยงั คดิ วา่ ไมไ่ หว แนะนำ� ใหต้ ดิ ตอ่ สายดว่ นสขุ ภาพจติ โทร 1323 หรอื ชอ่ งทางใหค้ ำ� ปรกึ ษาได้คะ่ ชว่ ยกนั คิดหลาย ๆ คนดกี วา่ วนคดิ อยู่ คนเดยี วนะคะ 76
77
ใจหา่ ง : การใชส้ อ่ื สงั คมออนไลน์ในสถานการณ์ โรคระบาด รองศาสตราจารย์นายแพทย์เธียรชัย งามทิพย์วฒั นา ในบรรยากาศทท่ี กุ คนกงั วลเกยี่ วกบั การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19 ทำ� ให้ รฐั บาลตอ้ งมมี าตรการจำ� กดั การแพร่ระบาดของโรค ซึง่ มาตรการตา่ ง ๆ ที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็น การปิดสถานท่ีที่น่าจะมีผลต่อการรวมกลุ่มคน โดยเริ่มต้นที่สถาน ที่ท�ำงาน (ปิดสถานท่ีท�ำงาน ให้ท�ำงานที่บ้าน) ปิดสถานศึกษา (เรียนออนไลน์) ปิดห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และกิจการบางอย่างท่ีมีผลกระทบกับชีวิต ประจ�ำวันไม่มากนัก และล่าสุดคือการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน และการประกาศ เคอร์ฟิว ทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียว คือ การท�ำให้เกิด “การเว้น ระยะหา่ งทางสังคม” (social distancing) หรือ ในภายหลงั เปลี่ยนเป็น “การเวน้ ระยะห่างทางกายภาพ” (physical distancing) เนื่องจากไวรัสโคโรนาสามารถ แพร่เช้ือผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเช้ือ ระยะห่าง 2 เมตรจึงเป็นระยะที่ ปลอดภัย 78
นอกจากผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้ว ผลกระทบด้านลบท้ังจากโรคเอง และจากมาตรการต่าง ๆ ก็คือ ชีวิตประจ�ำวันของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปหมด ไม่มากก็น้อย ทุกคนจะรู้สึกว่าชีวิตไม่อิสระเหมือนแต่ก่อน อย่างน้อยที่สุดก็ต้อง ใส่หน้ากากอนามัย ความสะดวกสบายในชีวิตหายไป ไม่ได้เดินเล่นตามห้างสรรพ สินค้า ดูภาพยนตร์ การรับประทานอาหารนอกบ้าน การสังสรรค์ตามสถาน บันเทิง ฯลฯ รวมกระท่ังการใช้เวลาออกก�ำลังกายตามสวนสาธารณะ หรือแค่ การเดินออกไปหาของกินในช่วงเคอร์ฟิว ความอึดอัดมากบ้างน้อยบ้างในเรื่องนี้ จึงน่าจะขึ้นกับว่า ชีวิตประจ�ำวันที่ผ่านมาของแต่ละคนมีกิจกรรมทางสังคม มากนอ้ ยเพยี งใด ทางออกทที่ กุ คนท�ำ คือ อะไร สมมุตฐิ านคือ ส่วนใหญ่นา่ จะใชเ้ วลากบั การออนไลน์มากขึน้ ทง้ั เพอ่ื ความ บันเทิง หาข้อมูล และติดต่อสื่อสาร ฯลฯ เมื่อลองค้นข้อมูลประกอบบทความนี้ กพ็ บตัวเลขท่นี า่ สนใจในนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ตพี มิ พเ์ มอื่ 25 มนี าคม 2563 จากการสำ� รวจเบื้องต้น พบวา่ อตั ราการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ เพิ่มข้ึนทั่วโลกระหวา่ งร้อย ละ 50-70 และอตั ราการใชส้ อื่ บนั เทงิ ออนไลนเ์ พม่ิ ขนึ้ ประมาณรอ้ ยละ 12 แนน่ อน วา่ พลเมอื งไทยก็คงไมต่ กกระแสพลเมืองโลกในเรือ่ งน้ี แล้วจะส�ำคัญอย่างไร หากพลเมืองไทยหรือพลเมืองโลกใช้วิธีน้ีในการ รับมือกับโรคโควิด-19 และผลกระทบของมัน เพราะอินเทอร์เน็ตก็น่าจะเป็น วิธีการช่วยให้เกิดการเว้นระยะห่างทางกายภาพ สอดคล้องกับสิ่งท่ีผู้เช่ียวชาญ และรัฐบาลก�ำลังท�ำอยู่ อีกทั้งบุคลากรทางด้านสาธารณสุขและสุขภาพจิตก็มี ความพยายามให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ทางด้านสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นการให้ ค�ำปรึกษาทางโทรศัพท์ การให้ความรู้เก่ียวกับความเครียดและการจัดการ ฯลฯ ซงึ่ แนน่ อนวา่ สว่ นใหญจ่ �ำเป็นตอ้ งใช้อนิ เทอร์เนต็ เปน็ ตัวกลางในการส่ือสาร การใช้อินเทอร์เน็ตที่เพ่ิมข้ึนในชีวิตประจ�ำวัน (ในขณะน้ี) แม้ว่าจะท�ำให้ เราจัดการกับความเครียด ความอึดอัด และก่อให้เกิดความสะดวกในบางด้าน (การซอื้ ของ หรอื การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร) แตใ่ นอกี ดา้ นหนงึ่ คอื เรากำ� ลงั พงึ่ พามนั มากขน้ึ 79
เรอื่ ย ๆ ซ่ึงนำ� ไปสปู่ ระเด็น 3 ประเด็นทจี่ ะกลา่ วถึง คอื เราจะเสพติดอนิ เทอรเ์ นต็ หรือไม่ เราจะใช้อินเทอร์เน็ตและเนื้อหาในนั้นเพื่อจัดการปัญหาเป็นวิธีการหลัก หรือไม่ และท้ายสุดคือ การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานาน ๆ จะมีผลกระทบต่อ สขุ ภาพจิตหรือไม่ ประเด็นแรก เราจะเสพติดอินเทอร์เน็ต หรือไม่ ค�ำตอบคือ มีความ เปน็ ไปได้ แมว้ า่ โรคทางจติ เวชหรอื ปญั หาสขุ ภาพจติ มสี าเหตจุ ากหลากหลายปจั จยั แตถ่ า้ ใชก้ ลไกในการตดิ สารเสพตดิ มาใชอ้ ธบิ าย จะพบวา่ หากกจิ กรรมนน้ั ทำ� ใหเ้ กดิ ความเพลิดเพลิน มคี วามสุข และเราจะใชเ้ วลากับมนั มากขึ้นเรอ่ื ย ๆ และหากไม่มี การควบคมุ เวลาที่ใช้ กจิ กรรมที่ท�ำน้ันจะมาทดแทนกจิ กรรมอ่ืน ๆ ทเ่ี คยให้ความ เพลดิ เพลนิ (เช่น ออกกำ� ลังกาย อา่ นหนงั สอื พบปะเพื่อนฝงู ) หรอื เข้ามาทดแทน กจิ กรรมที่เราไมช่ อบ แตจ่ �ำเปน็ ต้องทำ� (เชน่ งาน การเรียน) หรอื กระทั่งทดแทน กิจกรรมพืน้ ฐานของการใช้ชวี ติ (เช่น การกนิ การนอน) น่นั คือการตดิ ในคำ� จ�ำกดั ความของการเสพติดอินเทอรเ์ น็ต นอกจากนห้ี ากเราใชเ้ วลาสว่ นใหญก่ บั มนั มากจนกระทง่ั เราละเลยกจิ กรรม อ่ืน ๆ ในชีวิต ก็จะส่งผลให้สมองบางส่วนเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจและบุคลิกภาพ มีการลดลงของสารส่ือประสาท ในสมองโดยเฉพาะโดปามีน ซึ่งจะยิ่งท�ำให้เกิดอาการขาดหรืออยากมากข้ึน สง่ ผลใหพ้ ฤตกิ รรมเสพตดิ รุนแรงขนึ้ ดังน้ันมีความเป็นไปได้ว่า เมื่อพ้นวิกฤตนี้ไปแล้ว พลเมืองไทยจ�ำนวนหน่ึง (ซึ่งมากกวา่ เดิมแน่ ๆ) จะใช้อินเทอร์เนต็ มากขึน้ จนอาจถึงขน้ั เรยี กได้ว่าเสพติด ประเด็นที่สอง เราจะใช้อินเตอร์เน็ตและเนื้อหาในนั้นเพ่ือจัดการปัญหา (ความเครียด) เป็นวิธีการหลักหรือไม่ มีความเป็นไปได้มากอีกเช่นกัน จากการ ท่ีต้องเว้นระยะห่างทางกายภาพ ไม่สามารถท�ำกิจกรรมตามปกติ กิจกรรมบน อินเตอร์เน็ตจะเข้ามาทดแทนการแก้ปัญหาแบบเดิม ๆ ที่ผ่านมา ช่วงเร่ิมต้น อาจเร่ิมจากการหาข้อมูลเก่ียวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ติดตามความรู้ต่าง ๆ เพื่อ ปอ้ งกนั หรือรกั ษาตนเอง รวมไปถึงการซ้อื อปุ กรณป์ อ้ งกันต่าง ๆ เม่ือทำ� ไปเรื่อย ๆ 80
จนกลายเป็นความเคยชิน พอเกิดอะไรขึ้นมาใหม่ หรือเผชิญกับปัญหา ก็มีความ เป็นไปได้ว่า เราจะนึกถึงอินเทอร์เน็ตเป็นล�ำดับต้น ๆ แม้ว่าจะได้ผลบ้าง ไม่ได้ ผลบ้าง แต่ถ้าใช้มากพอและนานพอ วิธีการน้ันจะถูกน�ำมาใช้เป็นวิธีแรก ๆ ใน สถานการณ์อื่น ๆ เน่ืองจากความเคยชิน ย่ิงบางคนที่มีข้อจ�ำกัดทางด้านสังคม หรอื เพอื่ น อนิ เทอรเ์ นต็ และบรกิ ารอนื่ ๆ จะยงิ่ กลายเปน็ วธิ จี ดั การกบั ปญั หา ไมใ่ ช่ วิธีหาความรู้เพ่ือจัดการปัญหา เขาอาจจะย่ิงหลบตัวอยู่ในโลกของการออนไลน์ มากข้ึน ดังน้ันมีความเป็นไปได้ที่กิจกรรมเหล่านี้จะมากข้ึนหลังการแพร่ระบาด ส้ินสดุ ลง ประเด็นสุดท้าย การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานาน ๆ จะมีผลกระทบต่อ สุขภาพจิตหรือไม่ งานวิจัยจ�ำนวนมากบอกกับเราว่า การใช้เวลากับส่ือสังคม ออนไลน์ หรือกิจกรรมอน่ื บนอนิ เทอร์เนต็ เปน็ เวลานานอยา่ งตอ่ เนอื่ ง อาจน�ำไปสู่ ภาวะเสพตดิ มีผลให้การนอนผิดปกติ ซึง่ สง่ ผลตอ่ สุขภาพจติ หรอื ท�ำใหโ้ รคจติ เวช ท่ีเป็นอยู่เดิมแย่ลง เกิดภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า ความสามารถในการควบคุม ตนเองลดลง ความอดทนตอ่ การรอคอยลดลง และการกล่ันแกลง้ ในโลกไซเบอร์ อย่างไรก็ตามนน่ั เป็นเร่อื งของอกี ชว่ งเวลาหน่งึ แต่สิ่งที่นา่ เป็นห่วง คอื ใน ภาวะการเว้นระยะห่างทางกายภาพ ท�ำให้เราใช้อินเทอร์เน็ตมากข้ึน (เน่ืองจาก กิจกรรมนอกบ้านไม่สามารถทำ� ได้) เช่น การเล่นเกม ฟังเพลง เล่นเฟซบุ๊ก ฯลฯ เป็นวิธีจัดการกับความเครียด หรือแสวงหาความเพลิดเพลิน ซ่ึงอาจจะได้ผลใน ระยะสั้น แต่ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาโดยตรง ซ่ึงหากปัญหาน้ันจบลงก็คงไม่เป็นไร อยา่ งไรกต็ ามหากปญั หานน้ั ยงั คงอยู่ นกี่ จ็ ะกลายเปน็ การหลกี หนจี ากการแกป้ ญั หา หรือการใช้อินเทอร์เน็ตเพ่ือระบายความทุกข์ ความผิดหวัง ความโกรธ ความไม่ พอใจกบั เรอื่ งราวตา่ งๆ ทปี่ ระสบใหค้ นอนื่ ไดร้ บั รู้ ในดา้ นหนงึ่ ผใู้ ชอ้ าจจะรสู้ กึ ดขี นึ้ ท่ี ไดร้ ะบายออก หรอื ไดร้ บั ความเหน็ ใจความเขา้ ใจจากผอู้ น่ื แตใ่ นอกี ดา้ นหนง่ึ ความ ทกุ ขค์ วามเครยี ดทม่ี อี ยอู่ าจจะมากขนึ้ เมอ่ื พบวา่ มคี นทเี่ หน็ ดว้ ยหรอื ประสบปญั หา แบบเดยี วกับตน แล้วรู้สึกวา่ ทุกคนร่วมชะตากรรมเดียวกัน 81
หรือจากการที่คนเข้ามาให้ความเห็นที่ต่างหรือวิพากษ์วิจารณ์ความเห็นของตน ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คงจะเป็นเร่ืองการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่มีการ เขียนแสดงออกบนสื่อออนไลน์ มีท้ังคนที่เห็นด้วยและช่ืนชม มีคนท่ีเห็นต่างและ วจิ ารณด์ ว้ ยเหตผุ ล หรอื เสยี ดสี และในหลายครง้ั กล็ งเอยดว้ ยการดา่ วา่ ดว้ ยถอ้ ยคำ� รนุ แรง นำ� ไปสกู่ ารเขยี นโตต้ อบกนั ระหวา่ งกลมุ่ ทส่ี นบั สนนุ กบั กลมุ่ ทเ่ี หน็ ตา่ ง กลาย เปน็ ความรุนแรงทางถอ้ ยค�ำ หรือด่าทอกันอยา่ งเปดิ เผยบนส่อื สงั คมออนไลน์ อีกทั้งการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับโรค แต่กลับกลาย เป็นการสร้างความหวาดระแวง หรือตราบาปให้กับผู้อ่ืน เช่น การเผยแพร่ว่า บริเวณไหน หรือที่พักอาศัยที่ใดท่ีมีผู้ติดเชื้อให้หลีกเลี่ยง รวมไปถึงการให้ความรู้ ความเข้าใจท่ไี ม่ถกู ต้อง การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตเพ่ือการน้ีอาจจะยง่ิ ทำ� ใหส้ ขุ ภาพจติ ของผู้ใชแ้ ย่ลง สง่ิ ทที่ กุ คนตอ้ งปรบั ตวั กบั การใชช้ วี ติ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ อกี อยา่ งหนงึ่ คอื ครอบครวั จากการทไี่ ม่สามารถมีสงั คมนอกบ้านไดเ้ หมอื นแตก่ อ่ น ระยะห่าง ทางกายภาพของคนในครอบครวั จงึ ลดลงในเชงิ ของระยะเวลาทอ่ี ยรู่ ว่ มกนั มากขน้ึ แล้วเราให้ความส�ำคัญกับความใกล้ชิดในครอบครัวมากข้ึน หรือเรายัง คงเว้นระยะห่างระหว่างคนในครอบครัวด้วยการใช้ชีวิตใช้เวลามากขึ้นกับโลก ออนไลน์ ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือท่ีโต๊ะกินข้าว ท้ังที่เราน่า จะมีเวลามากขึ้นในการท�ำอาหารและกินร่วมกัน น่ังสนทนากัน ดูโทรทัศน์ หรือ ฟงั เพลงรว่ มกัน ได้แลกเปลีย่ นความเห็นและมมุ มองทม่ี ีตอ่ ชวี ิตและสังคม รวมทัง้ คุยถึงความเครียด ความทุกข์ และความสุขให้คนในครอบครัวได้ร่วมแบ่งปัน และชว่ ยเหลอื กนั และกนั หรอื การรว่ มกนั ทำ� กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมทบ่ี า้ น เชน่ การทำ� อปุ กรณส์ ำ� หรบั บุคลากรท่เี ป็นดา่ นหนา้ ในการต่อสู้กบั โรคโควดิ -19 นอกเหนือจากการพูดถึงความสามัคคี หรือการให้ก�ำลังใจคนในสังคม (ผ่านอินเทอร์เน็ตอีกเช่นกัน) เราต้องกลับมาถามตัวเราและคนในครอบครัวว่า ความใกล้ชิดทางจิตใจเพ่ิมข้ึน หรือย่ิงลดลง ในช่วงเวลาที่เรามีเวลาอยู่กับบ้าน และครอบครวั มากขน้ึ 82
ใช้อินเทอรเ์ นต็ ให้น้อยลง ท�ำกจิ กรรมรว่ มกนั และพูดคยุ กันให้มากขน้ึ สิ่งที่เหมือนการประชดตนเองของบทความน้ี คือ บทความนี้อาจส่ือถึง ผู้อ่านบางท่านด้วยการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต แต่นั่นก็คือข้อดีของโลกออนไลน์ ทท่ี ำ� ใหเ้ รายงั ตดิ ตอ่ กนั ได้ แมก้ ายจะหา่ ง แตใ่ จยงั สอ่ื ถงึ กนั ได้ หากมคี วามปรารถนา ดีตอ่ กัน เอกสารอา้ งองิ Beech M. COVID-19 pushes up internet use 70% and streaming more than 12%, first figures reveal. Forbes 2020 Mar 25. [cited 2020 May 5] Available from: https://www.forbes.com/sites/markbeech/2020/03/25/covid-19-pushes-up-inter- net-use-70-streaming-more-than-12-first-figures-reveal/#85362813104e) Tripathi A. Impact of internet addiction on mental health: an integrative therapy is needed. Integr Med Int 2017;4:215–22. Hökby S, Hadlaczky G, Westerlund J, Ed. Are mental health effects of internet use attributable to the web-based content or perceived consequences of usage? A longitudinal study of European adolescents. JMIR Ment Health. 2016;3: e31. Parks PJ., Online addiction. Referencepoint Press, Inc. 2013 Montag C, Reuter M. Editor. Internet addiction neuroscientific approaches and therapeutical interventions. Geneva, Switzerland: Springer International Publishing; 2015. Dharshini MP. Internet addiction may lead to more mental health problems, study finds. Medical Daily 2016 Sep 19. [cited 2020 May 5] Available from: https:// www.medicaldaily.com/internet-addiction-internet-usage-mental-health-depres- sion-and-anxiety-398216 83
เมือ่ อยู่ใกล้ ทำ� อย่างไรไม่ให้ ‘ตดิ ’ 84
85
โควิด-19 กบั การจับจา่ ยในโลกออนไลน์ ทม่ี ากเกินไป อาจารย์นายแพทยส์ มบูรณ์ หทยั อยสู่ ขุ อย่างท่ีทุกท่านทราบกันดีว่า ในช่วงน้ีวิถีชีวิตของคนไทยแทบทุกคน หรือเหมารวมพลเมืองท้ังโลกนี้เลยก็ว่าได้ ล้วนได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อ โควิด-19 (COVID-19) กันถ้วนหน้า จากที่ต้องออกไปท�ำงาน ก็ถูกปรับเป็นการ ทำ� งานจากบา้ น (work from home) จากที่เดก็ ๆ จะได้เปิดเทอมกนั กลางเดอื น พฤษภาคม กถ็ กู เลอื่ นไปเปน็ เดอื นกรกฎาคม จากทร่ี า้ นอาหารมที น่ี ง่ั กเ็ หลอื แตซ่ อ้ื กลบั บา้ นเทา่ นน้ั สว่ นทา่ นทช่ี อบจบั จา่ ยชอปปงิ ทกุ ๆ วนั หยดุ กไ็ มม่ หี า้ งใหเ้ ดนิ เลน่ ถกู ปรับมาเปน็ ออนไลน์ไปเสียหมด หลายคนบอกว่า มัน ‘ไมฟ่ นิ ’ เทา่ ไปเดนิ เลอื ก ซ้อื ดว้ ยตัวเอง แต่หลายคนบอกว่า ชอปปิงออนไลนน์ ีแ่ หละตัวดี ท�ำเงินในกระเปา๋ วงเงินในบัตรเครดิตลดฮวบฮาบ เห็นโปร 1 แถม 1 โค้ดสง่ ฟรี แลว้ มือมนั กก็ ดซอื้ โดยไมท่ นั ตง้ั ตวั และแนน่ อนวา่ พวกเรายงั ตอ้ งอยกู่ บั โควดิ -19 ไปอกี พกั ใหญ่ วถิ ชี วี ติ ยงั คงอยใู่ นรปู แบบนไี้ ปนานพอสมควร หากคนทจี่ บั จา่ ยใชส้ อยดว้ ยเงนิ จำ� นวนมาก ไปเรื่อย ๆ ยอ่ มเกดิ ผลเสียตามมามากมาย 86
บทความน้ี จะพามารู้จักกับ “โรคคลั่งชอป” โรคคล่ังชอปเป็นชื่อ ท่ีผู้เขียนต้ังข้ึนมาโดยหมายถึงการซ้ือของมากเกินพอดี ซึ่งโรคหรือภาวะดังกล่าว ได้รับการพูดถึงในวงการแพทย์มาสักระยะหน่ึง ในชื่อ compulsive buying disorder, impulsive buying disorder และ addictive buying disorder ซึ่งโรคคล่ังชอปน้ีอยู่ในกลุ่มโรคเกี่ยวกับความยับยั้งช่ังใจ (Other specified impulse control disorder) ตามเกณฑ์วินิจฉัยขององค์การอนามัยโลกแล้ว แม้ยังไม่ถูกระบุว่าเป็นโรคทางจิตเวชตามเกณฑ์การวินิจฉัยของสมาคมจิตแพทย์ อเมริกัน แต่ในช่วงหลังภาวะดังกล่าวได้รับความสนใจมากขึ้น โดยบางบทความ กล่าวว่าเป็นภาวะท่ีใกล้เคียงกับการติดสารเสพติด และกลุ่มอาการย�้ำคิดย้�ำท�ำ เชอ่ื ได้วา่ ในภาวะวิกฤตโควดิ -19 อาจจะทำ� ใหภ้ าวะนี้เป็นทสี่ นใจมากขน้ึ หากประยุกต์ใช้เกณฑ์การวินิจฉัยเดียวกันกับโรคติดสารเสพติด จะแบ่ง หลักการเป็น 2 ขอ้ ดังน้ี 1. ซ้ือของในปริมาณหรือมูลค่าที่มากขึ้น หรือใช้เวลากับการซื้อของ มากข้ึนเรื่อย ๆ เพ่ือให้รู้สึกดีเท่าเดมิ 2. ร้สู กึ หงุดหงดิ กระวนกระวายใจ หรอื อารมณ์เศร้า เม่อื ไมไ่ ดซ้ ื้อของ นอกจากน้ันแล้วยังมีการกล่าวถึงว่า ผู้ท่ีมีภาวะดังกล่าวจะเกิดความรู้สึก อยาก (urge) ทจ่ี ะซ้ือของมาก ๆ จนต้านทานไมไ่ หว ถงึ แมว้ ่าบางทีเจา้ ตัวจะรวู้ า่ ไม่ควรท่ีจะท�ำสิ่งนั้น และขณะที่ท�ำการซ้ือของจะเกิดความรู้สึกพึงพอใจ และ รู้สึกผ่อนคลาย แต่เมื่อซื้อของเสร็จส้ิน ส่ิงท่ีตามมาคือความรู้สึกผิดกับการ กระท�ำของตนเอง หรอื เกิดความรู้สึกผดิ กับผลกระทบดา้ นลบต่าง ๆ ทจ่ี ะตามมา ในผู้ที่มีภาวะดังกล่าวบางรายพบว่าองค์ประกอบที่ท�ำให้เกิดโรคคลั่งชอป อาจจะไม่ได้อยู่แค่จังหวะที่ท�ำการซ้ือ แต่ความรู้สึกดีเกิดข้ึนเมื่อได้ค้นหา เลือก ของที่มีจ�ำนวนมาก ๆ หรือบางรายมีความสุขเมื่อได้แลกเปล่ียนความคิดเห็นกับ ผู้ขาย จะเห็นได้ว่าในแต่ละรายมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันไป แต่ปลายทาง ลว้ นกลายมาเปน็ โรคคลง่ั ชอปเหมอื น ๆ กนั นอกจากนน้ั แลว้ ยงั พบอกี วา่ สว่ นใหญ่ 87
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170