Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพัฒนาบุคลิกภาพสำหรับนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร

การพัฒนาบุคลิกภาพสำหรับนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร

Published by te_pim1990, 2021-09-12 05:36:05

Description: การพัฒนาบุคลิกภาพสำหรับนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร
โดย ผศ.ดร.สุรพล จันทราปัตย์

Search

Read the Text Version

หลกั การเรียนรูท้ ีส่ าคญั ทีว่ ิทยากรควรทราบ หลกั การลงมอื ทา หลกั การฝึ กฝน ดว้ ยตนเอง หลกั การน้ ชี ้ ีว่า หลกั การน้ชี ้วี ่า การเรียนรูท้ ีผ่ ูเ้ รียนไดม้ ีโอกาส การเรียนร้ทู ่ผี ู้เรียนได้ลงมือทา ฝึ กฝนหลายๆ คร้งั จะช่วยให้ เขาจดจาสิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรูน้ ้นั ได้ ด้วยตนเอง จะให้ผลดกี ว่า มากกว่า และร้ ือฟ้ ื นความจาได้ การไม่ได้ลงมือทา เร็วกว่าดว้ ย 21

หลกั กาลเทศะ หลกั ความพรอ้ ม หลักการน้ชี ้วี ่า หลักการน้ชี ้วี ่า การจัดกจิ กรรมการฝึกอบรม หากผู้เรียนมีความพร้อม ท่จี ะเรียนแล้ว การจดั ฝึกอบรม ในช่วงเวลาท่เี หมาะสม ในช่วงน้นั จะให้ผลดีอย่างย่ิง กลุ่มเป้ าหมายได้ทนั ใช้ จะมีผลดีต่อ การเรียนร้ขู องพวกเขาอย่างมาก และดกี ว่าการจดั กจิ กรรม ในช่วงเวลาท่ไี ม่เหมาะสม 22

หลกั การจูงใจ หลกั ความพงึ พอใจ หลักการน้ชี ้ีว่า หลกั การน้ชี ้ีว่า ความพึงพอใจของกลุ่มเป้ าหมาย กจิ กรรมการฝึกอบรมท่มี ี ความหมายแก่กลุ่มเป้ าหมาย จะส่งเสริมการเรียนรู้ จะช่วยให้พวกเขาเรียนร้ไู ด้ง่าย และรวดเรว็ ข้นึ 23

หลกั การถา่ ยโยงการเรียนรู้ หลกั การน้ชี ้วี ่า หากผู้เรียนได้เรียนรู้จนเกดิ ทกั ษะในส่งิ ท่เี รียน และกจิ กรรมหรือสภาพการเรียนการสอนท่จี ดั ข้ึนน้ัน คล้ายคลึงกบั สภาพท่ผี ู้เรียนจะพบนอกสถานท่เี รียนแล้ว ผู้เรียนกจ็ ะสามารถนาส่งิ ท่ไี ด้เรียนร้ไู ปปรับใช้ในอกี สภาพหน่ึง นอกสถานท่เี รียนได้ง่าย และมากข้ึน และใช้ได้กบั ความร้ทู ่จี ะเรียนใหม่ได้อกี ด้วย 24

การใชจ้ ิตวิทยาการเรียนรู้ • ตระหนกั ถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล • สร้างพลัง(แรง)จูงใจ • ให้ผู้เข้าอบรม/ผู้เรียนเข้าร่วมในกจิ กรรมการเรียนรู้ • สร้างบรรยากาศอานวยต่อการเรียนร้แู ละมชี วี ติ ชวี า • กระตุ้นการถ่ายโยงความร้แู ละประสบการณ์ 25

พฤติกรรมของบุคคล เกิดจากความสมั พนั ธร์ ะหว่าง วตั ถปุ ระสงค์ พลงั (แรง)จูงใจ และ ความตอ้ งการของบุคคล พลงั จูงใจ พฤติกรรม วตั ถุประสงค์ (Motivation) (Behavior) Objective (s) ความตอ้ งการ (Human Needs) 26

การสรา้ งการเรียนรูใ้ นการฝึ กอบรม เป็นกจิ กรรมสาคญั ย่งิ ท่มี ุ่งให้กลุ่มเป้ าหมายเกดิ การเรียนรู้ คือได้รับความรู้ ความเข้าใจ หรือเกดิ ทกั ษะ หรือสร้างเจตคติ ตามท่ไี ด้กาหนดไว้ใน วัตถุประสงค์ของการฝึ กอบรม สงิ่ ทีต่ อ้ งพจิ ารณาในการจดั กิจกรรมสรา้ งการเรียนรู้ 1. เน้ อื หาสาระทีจ่ ะเรียนรู้ 2. สภาพแวดลอ้ มทีจ่ ะจดั กจิ กรรม 3. การเลือกวิธีการและเทคนิคในการถา่ ยทอด 4. การเลือกใชส้ ือ่ ในการถ่ายทอด 5. การเลือกใชแ้ หล่งวิทยาการและทรพั ยากรในชุมชน

วตั ถุประสงคข์ องการฝึ กอบรม/หวั ขอ้ วิชา มีเน้ อื หาอะไรทีจ่ ะจดั ใหแ้ ก่กล่มุ บุคคลเป้ าหมาย เพอื่ ใหเ้ กิดการเรียนรูไ้ ปตามวตั ถุประสงค์ ตอ้ งรู้ ควรรู้ น่าจะรู้ 28

วตั ถปุ ระสงคข์ องการฝึ กอบรม/หวั ขอ้ วิชา จะใชร้ ูปแบบและวิธีการใดในการนาเสนอเน้ อื หา เพอื่ ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ มีเน้ อื หาอะไรทีจ่ ะจดั ใหแ้ ก่กลุ่มบุคคลเป้ าหมาย เพอื่ ใหเ้ กดิ การเรียนรูไ้ ปตามวตั ถปุ ระสงค์ 29

รูปแบบและวิธีการทีใ่ ชเ้ พอื่ เพมิ่ พูนความรูค้ วามเขา้ ใจ รูปแบบ/ยุทธศาสตร์ วิธีการทีแ่ นะนา การถ่ายทอดความรู้ ข้อมูล • การบรรยาย (lecture) ข่าวสาร ความคดิ เหน็ • การบรรยายเป็นชุด (symposium) • การสาธติ ผล (result demonstration) ข้อเทจ็ จริง เพ่ือให้กลุ่มบุคคล เป้ าหมายได้ทราบเร่ืองราวท่มี ี • การอภปิ รายเป็นคณะ (panel คุณค่า ทาให้เกดิ ความรู้ความ เข้าใจ ในเร่ืองท่นี าเสนอน้ัน discussion) • การอภิปรายกล่มุ (group discussion) • การศึกษาดูงาน (field trip) ฯลฯ 30

รูปแบบและวิธีการทีใ่ ชเ้ พอื่ เพมิ่ พูนทกั ษะ รูปแบบ/ยทุ ธศาสตร์ วิธีการทีแ่ นะนา การจัดให้กลุ่มบุคคลเป้ าหมาย • การสาธติ วิธี (method ได้เรียนรู้ด้วยการลงมือทาหรือ ฝึกหัดเป็นข้นั ตอน ทาให้เกดิ demonstration) ความร้คู วามเข้าใจ และทาได้ • การใช้กรณศี กึ ษา (case study) ด้วยตนเอง • การประชุมเชิงปฏบิ ัตกิ าร (workshop) • การทาแบบฝึกหัด (exercise) • การทาโครงการจริง (life project) ฯลฯ 31

รูปแบบและวิธีการทีใ่ ชเ้ พอื่ เปลีย่ นแปลงเจตคติ รูปแบบ/ยทุ ธศาสตร์ วิธีการที่แนะนา การจัดให้กล่มุ บุคคลเป้ าหมายได้ • การระดมสมอง (brainstorming) เรียนร้โู ดยผ่านกระบวนการกลุ่ม • การใช้บทบาทสมมตุ ิ (role playing) ทาให้เกดิ ความร้สู กึ ใหม่จาก ประสบการณต์ รงท่มี ีปฏสิ มั พันธ์ • การใช้เกม (game) กนั ระหว่างสมาชิกในกลุ่ม จึงเกดิ • วิธกี ารฝึกอบรมอ่นื ๆ ท่ผี ู้เข้ารับการ ความเช่อื ม่ัน และยอมรับ อบรมเป็นศนู ยก์ ลาง (learner-centered methods) • ฯลฯ 32

การเป็ นวิทยากรฝึ กอบรมทีม่ ีประสทิ ธิผล คุณสมบตั ิพ้ นื ฐานของผูเ้ ป็ นวิทยากร • มีความร้แู ละประสบการณเ์ ป็นอย่างดี ในเร่ืองท่จี ะถ่ายทอด (เพ่ือให้กลุ่มบุคคลเป้ าหมายได้ร้จู ริง และสามารถ นาไปใช้ประโยชน์ได้จริงอกี ด้วย) • มคี วามสามารถในการถ่ายทอด (เพ่ือผลสมั ฤทธ์ใิ นการแพร่กระจายความร้แู ละ 33 ทกั ษะ ตลอดจนพัฒนาเจตคตขิ องกลุ่มบุคคล เป้ าหมาย)

การเป็ นวิทยากรฝึ กอบรมที่มีประสทิ ธิผล คุณสมบตั ิที่ผูเ้ ป็ นวิทยากรควรมีอย่างยงิ่ • มีความเข้าใจในระบบและกระบวนการฝึกอบรม • สามารถจัดวางหลักสตู รการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ อย่างน้อยใน ระดับท่ตี นรับผดิ ชอบอยู่ได้ • สามารถจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ทาให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม เกดิ การเรียนร้ไู ปตามวตั ถุประสงค์ท่กี าหนดไว้ได้ • มีความร้แู ละทกั ษะในการใช้วิธกี ารและเทคนคิ ต่างๆ ในการฝึกอบรม รปู แบบต่างๆ • มคี วามร้แู ละทกั ษะในการใช้หลกั การเรียนร้แู ละกระตุ้นจูงใจ เพ่ือเพ่ิม ประสทิ ธผิ ลในการถ่ายทอด 34

การเป็ นวิทยากรฝึ กอบรมที่มีประสิทธิผล คุณสมบตั ิที่ผูเ้ ป็ นวิทยากรควรมีอย่างยงิ่ (ต่อ) • สามารถใช้ส่อื ประกอบการฝึกอบรมได้อย่างถูกต้องและคล่องตัว • สามารถจดั ทาแผนการสอน/แผนการฝึกอบรม เพ่ือประสทิ ธผิ ล และ ประสทิ ธภิ าพในการถ่ายทอด • สามารถเขยี นเน้อื หาในเอกสารประกอบการฝึกอบรมได้อย่างถูกต้อง ทางวิชาการ และอ่านเข้าใจง่าย • มคี วามร้คู วามสามารถในการวัดผลและประเมินผลการฝึกอบรม • สามารถเป็นท่ปี รึกษา ช่วยให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมใช้ส่งิ ท่ไี ด้เรียนรู้ จากการฝึกอบรม ไปในการปฏบิ ตั ิงานของเขาให้เกดิ ประสทิ ธผิ ล 35

ศิลปะการพูด • ข้นึ พูดด้วยท่าทที ่มี ่นั ใจ • ทกั ทายท่ปี ระชุมไม่วกวน • เร่ิมต้นให้โน้มน้าว • เสนอเร่ืองราวให้กระชับ • ไม่สบั สนในการใช้คา • ใช้นา้ เสยี งอย่างถูกต้อง • ตามองท่ผี ู้ฟัง • สร้างพลังด้วยบุคลิกภาพ • เอบิ อาบด้วยสาระ • กะเวลาให้พอดี • มีความสามารถตอบคาถาม • ให้ความกระจ่างทุกประเดน็ • เน้นสมั พันธภาพท่ดี ีกบั ผู้ฟัง • สร้างความประทบั ใจในท่สี ดุ 36

การสร้างบรรยากาศท่ดี ีในการถ่ายทอดแก่เกษตรกร ข้นั ท่ี 1 : การสร้างความคาดหวงั ร่วมกนั ข้นั ท่ี 2 : การสร้างสมั พันธภาพท่ดี ีระหว่างกนั ข้นั ท่ี 3 : การตชิ มเชิงสร้างสรรค์ 37

ข้นั ที่ 1 : การสรา้ งความคาดหวงั ร่วมกนั • วทิ ยากรนาเข้าส่เู ร่ืองท่จี ะนาเสนอ โดยช้ีถงึ สถานการณท์ ่เี ป็นอยู่ ปัญหาท่ี เกดิ ข้นึ และผลกระทบท่เี กดิ ข้นึ หรือท่จี ะเกดิ ข้นึ แก่เกษตรกร • ช้ีให้เกษตรกรเหน็ ถงึ ความจาเป็นท่ตี ้องปรับปรงุ สถานการณท์ ่เี ป็นอยู่ หรือ จะต้องแก้ไขปัญหา โดยเน้นว่าอยู่ในวสิ ยั และความสามารถของเกษตรกร ท่จี ะกระทาได้ • บอกจุดมุ่งหมายท่วี ิทยากรนาเสนอเร่ืองราวข่าวสาร ความร้ใู นคร้ังน้ี โดยช้ี ให้เกษตรกรเหน็ ถงึ ประโยชนท์ ่จี ะได้รับจากการฟังการนาเสนอ • บอกผลดที ่จี ะเกดิ ข้นึ จากการท่เี กษตรกรจะนาเร่ืองท่นี าเสนอไปใช้ • บอกถงึ ผลเสยี ท่อี าจเกดิ ข้นึ หากไม่มกี ารนาเร่ืองท่นี าเสนอไปใช้ 38

ข้นั ที่ 2 : การสรา้ งสมั พนั ธภาพทีด่ ีระหว่างกนั • สร้างบรรยากาศฉันทม์ ิตรและเป็นกนั เอง • แสดงออกถงึ การให้ความสาคัญแก่กล่มุ ผู้ฟัง การยอมรับ ยกย่องให้เกยี รติ ชมเชย หรือการกระทาอ่นื ใดท่นี าความช่ืนชมยินดีมาส่กู ลุ่มผ้ฟู ัง • ไม่สร้างความขบขนั บนจุดด้อย หรือข้อท่นี าความอบั อายมาส่ผู ู้ฟังคนใด หรือกล่มุ ใดในท่นี ้นั • ไม่ให้ความสนใจแก่ผู้ฟังคนใดหรือกล่มุ ใดโดยเฉพาะ โดยละท้งิ กล่มุ ผู้ฟัง ท้งั หมด 39

ข้นั ที่ 3 : การติชมเชิงสรา้ งสรรค์ • การวจิ ารณเ์ ชิงสร้างสรรค์ และให้ความสาคญั แก่เป้ าหมาย ท่เี กษตรกรจะ ได้รับประโยชน์ร่วมกนั • ระวงั ในการให้คาแนะนา ควรเสนอทางเลือกแก่เกษตรกร และบอกจุด แขง็ -จุดอ่อน ของแต่ละทางเลอื กด้วยเหตแุ ละผล และไม่อคติ • ไม่ยัดเยยี ดค่านิยมส่วนตวั ให้แก่เกษตรกร ท่นี าไปส่คู วามลาเอยี ง หรือ ความไม่ถูกต้องชอบธรรม • สนับสนุนให้เกษตรกรร่วมคดิ ร่วมปรึกษาหารือ ร่วมวางแผน ร่วมตดั สนิ ใจ ร่วมดาเนินงาน ร่วมติดตามงาน และร่วมรับผลประโยชน์ด้วยกนั บน พ้ืนฐานของการพ่ึงพาตนเอง และพ่ึงพากนั และกนั ของเกษตรกรในชุมชน ทาให้เกดิ ความเข้มแขง็ 40

เทคนิคการใชค้ าถาม • รูจ้ กั ใชค้ าถามปิ ดและคาถามเปิ ด • ถามผูฟ้ ังทวั่ ไป ไม่เจาะจงผู้ใดโดยเฉพาะ • ถามตรง เจาะจงใครคนใดคนหน่งึ • ถามต่อ โยนคาถามไปให้คนอ่นื หรือกลุ่มพิจารณา • ถามยอ้ น สง่ คาถามย้อนกลับไปยงั ผู้ถาม 41

เทคนิคการตอบคาถาม • จงตอบคาถามโดยการพดู กบั ทุกคน อย่าพูดตอบเฉพาะกบั ผู้ถาม หรือเจาะจงพดู กบั ใครคนใดคนหน่ึงเทา่ น้ัน • จงตอบคาถามอย่างกระชับ ตรงประเดน็ ท่ผี ู้ฟังถาม • จงอย่าดูถูกผู้ถามหรือคาถาม ว่าเป็นเร่ืองง่ายหรือไร้สาระไม่ควร ถาม หรือคิดว่าเป็นคาถามลองเชิงผู้พูด • ผู้พูดอาจถอื โอกาสนาคาถามของผู้ถามคนใดคนหน่ึงมาขยายผล เพ่ือให้ผู้ฟังคนอ่นื ๆ เข้ามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล หรือแสดง ความคิดเหน็ ด้วย 42

ขอ้ แนะนาเพอื่ เพมิ่ ประสิทธิผลในการถ่ายทอดแก่เกษตรกร • เร่ิมต้นจากประสบการณท์ ่เี กษตรกรมีอยู่เดิม • เร่ิมจากส่งิ ท่เี กษตรกรร้อู ยู่แล้ว ไปส่สู ่งิ ท่พี วกเขายังไม่รู้ • ส่งิ ใหม่ท่นี าไปเสนอ ต้องสมั พันธก์ บั ส่งิ เก่าท่เี กษตรกรมีหรือทาอยู่ • กระตุ้นจูงใจให้เกษตรกรมีความสนใจท่จี ะฟังการนาเสนอโดยตลอด • การนาเสนอต้องมีความหมายต่อเกษตรกรท่เี ข้าฟัง • สาระสาคัญต้องได้รับการเน้นยา้ และป้ อนกลบั เป็นระยะๆ • นาเสนอให้ถูกกาลเทศะ • จัดสภาพการนาเสนอ เพ่ือให้เกษตรกรเรียนร้แู ละเข้าใจกระจ่างแจ้ง และ สามารถถ่ายโยงส่งิ ท่ไี ด้เรียนร้ไู ปส่กู ารปฏบิ ตั อิ ย่างได้ผล 43

เตรียมใหพ้ รอ้ ม ซอ้ มใหด้ ี ท่าทีใหม้ นั่ ใจ จะให้ ประสทิ ธิผลในการพูดนาเสนอในการฝึ กอบรม 44

45