Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทางไกล ป5

ทางไกล ป5

Published by มัตติกาล บุตรเบ้า, 2019-04-10 04:18:34

Description: ทางไกล ป5

Search

Read the Text Version

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง แหล่งการเรียนรู้/สื่อ 1. แก้วน�้ำพลาสติก, เส้นเอ็น, ลวดเสียบกระดาษ, สายวัด, กรรไกร, เข็มหมุด, ภาชนะใส่น้�ำสี, ส้อมเสียงพร้อม ไม้เคาะ 2. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ 3. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ การวัดและการประเมินผล 1. สังเกตการร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. ตรวจแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ช่ัวโมงท่ี 14 เรื่อง เราได้ยินเสียงได้อย่างไร จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกส่วนประกอบและอธิบายการท�ำงานของหู 2. สร้างแบบจ�ำลองส่วนประกอบภายในหู กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันน�ำ 1. ครูชักชวนนักเรียนอภิปรายเก่ียวกับรายการโทรทัศน์หรือข่าวท่ีมีการใช้ภาษามือ ครูถามนักเรียนโดยอาจ ใช้ค�ำถามดังน้ี 1.1 เพราะเหตุใดจึงต้องมีการใช้ภาษามือ (เป็นการสื่อสารของคนหูหนวกหรือคนใบ้ท่ีไม่สามารถได้ยิน เสียงหรือพูดได้) 1.2 ใครเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากภาษามือ เพราะเหตุใด (คนหูหนวก คนใบ้ เพราะคนใบ้ไม่สามารถพูด คนหูหนวกไม่สามารถได้ยินเสียงได้) 1.3 คนหูหนวกไม่สามารถได้ยินเสียงได้เพราะเหตุใด (หูมีปัญหา) 1.4 ส่วนประกอบของหูและหน้าท่ีของส่วนประกอบของหูมีอะไรบ้างท่ีท�ำให้เราได้ยินเสียง (นักเรียนตอบ ค�ำถามตามความเข้าใจของตนเอง) ข้ันสอน 1. ครูชักชวนให้นักเรียนท�ำกิจกรรม โดยนักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 32 อ่านชื่อกิจกรรมและท�ำเป็น คิดเป็น จากน้ันครูสอบถามความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนโดยอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 1.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร (ส่วนประกอบและหน้าที่ของส่วนประกอบของหู) 1.2 นักเรียนจะได้เรียนเร่ืองนี้ด้วยวิธีใด (ผ่านการสืบค้นและการสร้างแบบจ�ำลอง) 1.3 เมอื่ เรยี นแลว้ นกั เรยี นจะท�ำอะไรได้ (สามารถอธบิ ายสว่ นประกอบและหนา้ ทขี่ องสว่ นประกอบของหไู ด)้ 220

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 2. นักเรียนอ่านท�ำอย่างไรโดยครูอาจใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสมกับนักเรียน จากนั้นครูถามความเข้าใจ ขั้นตอน การท�ำกิจกรรมทีละขั้น จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถท�ำได้ จึงให้นักเรียนลงมือท�ำกิจกรรม 3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับองค์ประกอบท่ีท�ำให้เราได้ยินเสียงโดยครูอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 3.1 นักเรียนน่ังในห้องที่เงียบและไม่มีวัตถุใดส่ัน จะได้ยินเสียงหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ได้ยินเสียงเพราะ ไม่มีแหล่งก�ำเนิดเสียง) 3.2 องค์ประกอบท่ีท�ำให้ได้ยินเสียงมีอะไรบ้าง (แหล่งก�ำเนิดเสียง ตัวกลางของเสียงและหูท่ีปกติ) 4. ครูให้นักเรียนสืบค้นความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนประกอบและหน้าที่ของหูจากหนังสือและสื่ออื่น ๆ ใน ห้องสมุดหรือสืบค้นในอินเทอร์เน็ต พร้อมให้นักเรียนระบุแหล่งที่มาของข้อมูลในแบบบันทึกกิจกรรม 5. ให้นักเรียนสร้างแบบจ�ำลองแสดงส่วนประกอบของหูจากดินน�้ำมันและจากน้ันนักเรียนน�ำเสนอแบบจ�ำลอง พร้อมให้เหตุผลประกอบ 6. ครูให้นักเรียนตอบค�ำถามฉันรู้อะไรในแบบฝึกหัด 7. ครูให้นักเรียนตรวจสอบตนเองว่าได้ท�ำอะไรบ้างในแบบนักวิทยาศาสตร์ ข้ันสรุป ครูให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันจนสรุปได้ว่าการได้ยินเสียงของเรานั้นเกิดจากส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในหูเกิด การส่ัน ซ่ึงหูแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ หูชั้นนอก หูช้ันกลางและหูช้ันใน แหล่งการเรียนรู้/สื่อ 1. ดินน้�ำมัน, กระดาษแข็ง, ปากกาเคมี 2. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ 3. แบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ การวัดและการประเมินผล 1. สังเกตการร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. ตรวจการสร้างแบบจ�ำลองส่วนประกอบของหู ช่ัวโมงท่ี 15 เรื่อง เสียงสูง เสียงต�่ำ เสียงดัง เสียงค่อย จุดประสงค์การเรียนรู้ สังเกตและอธิบายการเกิดเสียงสูง เสียงต�่ำ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน�ำ 1. ครูให้นักเรียนท�ำเสียงเลียนแบบเสียงท่ีได้ยินในชีวิตประจ�ำวัน เช่น เสียงลมพัด เสียงแมว เสียงสุนัข เสียงนาฬิกาปลุก และครูถามนักเรียนต่อไปว่า 221

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 1.1 เสียงแต่ละเสียงมีความเหมือนหรือต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แตกต่างกัน เช่นเสียงแหลม เสียงทุ้ม เสียงดัง เสียงค่อย) 1.2 เสียงสูง เสียงต่�ำ เสียงดัง เสียงค่อย เกิดได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) ขั้นสอน 1. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 33 แล้วอ่านชื่อเร่ืองค�ำถามชวนคิด จากนั้นนักเรียนตอบค�ำถามตามความ เข้าใจของตนเอง จากนั้นอ่านค�ำศัพท์ในอ่านเป็น 2. นักเรียนอ่านเน้ือเรื่องทีละย่อหน้า จากน้ันครูถามค�ำถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่านโดยอาจใช้ ค�ำถามดังน้ี 2.1 ความถี่คืออะไร (จ�ำนวนรอบที่วัตถุสั่นได้ในหน่ึงหน่วยเวลา) 2.2 ความถี่ของเสียงคืออะไร (ความถี่ของการสั่นของแหล่งก�ำเนิดเสียง) 2.3 หน่วยของความถ่ีของเสียงคืออะไร (เฮิรตซ์) 2.4 มนุษย์และสัตว์แต่ละชนิดได้ยินเสียงในช่วงความถ่ีเดียวกันหรือไม่อย่างไร (มนุษย์และสัตว์ได้ยินเสียง ในช่วงความถี่ต่างกัน มนุษย์ได้ยินเสียงในช่วงความถี่ 20 - 20,000 เฮิรตซ์ สุนัขได้ยินเสียงในช่วง ความถี่ 15 - 50,000 เฮิรตซ์) 2.5 มีสัตว์ชนิดใดบ้างที่ใช้เสียงในการด�ำรงชีวิตและสัตว์เหล่าน้ันใช้เสียงท�ำอะไรบ้าง (ค้างคาวใช้เสียงใน การหาต�ำแหน่งของอาหาร วาฬและโลมาใช้เสียงในการหาคู่และหาอาหาร) 3. นักเรียนตอบค�ำถามรู้หรือยังในแบบฝึกหัด 4. หลังจากน้ันครูชักชวนนักเรียนท�ำกิจกรรมต่อไป เรื่อง เสียงสูง เสียงต�่ำเกิดข้ึนได้อย่างไร 5. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 34 อ่านชื่อกิจกรรมและท�ำเป็นคิดเป็น จากน้ันถามความเข้าใจของ นักเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนโดยอาจใช้ค�ำถามดังนี้ 5.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร (การเกิดเสียงสูง เสียงต่�ำ) 5.2 นักเรียนจะได้เรียนเรื่องน้ีด้วยวิธีใด (ผ่านการสังเกต) 5.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะท�ำอะไรได้ (สามารถอธิบายการเกิดเสียงสูง เสียงต�่ำได้) 6. นักเรียนอ่านท�ำอย่างไรตอนท่ี 1 โดยครูอาจใช้วิธีการอ่านที่ความเข้าใจ ขั้นตอนการท�ำกิจกรรมทีละขั้น จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถท�ำได้ 7. ครูให้นักเรียนท�ำกิจกรรมในข้อ 1 โดยให้แต่ละกลุ่มสังเกตการสั่นของไม้บรรทัดและเสียงที่ได้ยินว่าเป็น อย่างไร หลังจากนั้นครูถามนักเรียนว่า 7.1 ไม้บรรทัดสั่นครบ 1 รอบดูได้อย่างไร (ไม้บรรทัดส่ันขึ้นแล้วลงกลับมาท่ีต�ำแหน่งเดิม) 7.2 จากนั้นครูถามค�ำถามว่าถ้าเปลี่ยนความยาวของไม้บรรทัดท่ีย่ืนเลยพ้นขอบโต๊ะ เม่ือกดปลายไม้บรรทัด ลงแล้วปล่อย ไม้บรรทัดจะส่ัน ความถี่ในการส่ันและเสียงท่ีได้ยินจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร 8. จากน้ันครูให้นักเรียนต้ังสมมติฐานพร้อมระบุตัวแปรและก�ำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการในการทดลอง 8.1 ตัวแปรต้นคือความยาวของไม้บรรทัด 222

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 8.2 ตัวแปรตามคือเสียงที่ได้ยิน ความถ่ีในการสั่นของไม้บรรทัด 8.3 ตวั แปรทตี่ อ้ งควบคมุ ใหค้ งทค่ี อื ใชไ้ มบ้ รรทดั อนั เดมิ ใชม้ อื กดไมบ้ รรทดั ทขี่ อบโตะ๊ เหมอื นกนั กดไมบ้ รรทดั ด้วยแรงเท่าเดิม) 9. นักเรียนน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม จากน้ันครูอภิปรายโดยอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 9.1 เม่ือกดแล้วปล่อยไม้บรรทัดส่วนที่ยื่นพ้นขอบโต๊ะที่มีความยาวมาก การส่ันของไม้บรรทัดเป็นอย่างไร บ้าง (เม่ือความยาวไม้บรรทัดมาก ไม้บรรทัดจะส่ันช้า) 9.2 ความถี่ของการสั่นของไม้บรรทัดเป็นอย่างไร (ความถ่ีน้อย) 9.3 เสียงท่ีได้ยินเมื่อไม้บรรทัดส่วนท่ีเลยพ้นขอบโต๊ะมากเป็นอย่างไร (เสียงทุ้มหรือเสียงต่�ำ) 9.4 เมื่อไม้บรรทัดส่วนที่สั่นมีความยาวน้อย การส่ันของไม้บรรทัดเป็นอย่างไรบ้าง (เมื่อความยาวไม้บรรทัด น้อย ไม้บรรทัดจะสั่นเร็ว) 9.5 ความถ่ีของการสั่นของไม้บรรทัดเป็นอย่างไร (ความถี่มาก) - เสียงที่ได้ยินเมื่อไม้บรรทัดส่วนที่ส่ันมีความยาวน้อยเป็นอย่างไร (เสียงแหลมหรือเสียงสูง) 9.6 เสียงสูง เสียงต่�ำเกิดจากอะไร (เสียงสูง เสียงต่�ำเกิดจากการส่ันของแหล่งก�ำเนิดเสียงท่ีส่ันโดยมีความถี่ ของการส่ันที่แตกต่างกัน) 10. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่าความถ่ีของการส่ันของแหล่งก�ำเนิดเสียงจะเท่ากับความถ่ีของเสียงที่ได้ยิน หาก ความถี่ของการสั่นมาก ความถ่ีของเสียงท่ีได้ยินก็จะมากตามไปด้วย เสียงสูงคือเสียงที่มีความถ่ีสูง เสียงต่�ำ คือเสียงที่มีความถ่ีต่�ำ 11. ครูให้นักเรียนตรวจสอบตนเองว่าได้ท�ำอะไรในแบบนักวิทยาศาสตร์บ้าง ข้ันสรุป ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายจนได้ขอ้ สรปุ วา่ เสยี งสูง เสยี งต�่ำเกิดจากการสน่ั ของแหล่งก�ำเนิดเสียง ถ้าแหล่ง ก�ำเนิดเสียงส่ันด้วยความถี่สูงเสียงที่ได้ยินจะแหลม ถ้าแหล่งก�ำเนิดเสียงสั่นด้วยความถ่ีต�่ำจะให้เสียงต่�ำ แหล่งการเรียนรู้/สื่อ 1. ไม้บรรทัดพลาสติกแข็ง 2. หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ 3. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ การวัดและการประเมินผล 1. การสังเกตจากการท�ำกิจกรรม 2. ตรวจแบบรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ 223

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง ช่ัวโมงที่ 16 เร่ือง เสียงสูง เสียงต�่ำเกิดได้อย่างไร จุดประสงค์การเรียนรู้ สังเกตและอธิบายการเกิดเสียงสูง เสียงต�่ำ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน�ำ ครทู บทวนความรูโ้ ดยถามนักเรยี นวา่ จากกจิ กรรมตอนที่ 1 นักเรียนเหน็ การสนั่ ของไมบ้ รรทัดได้ชัดเจน แตถ่ ้า เป็นอย่างอื่น เช่น น�้ำในแก้ว จะมองเห็นการสั่นของน�้ำเมื่อเคาะได้ชัดเจนเหมือนกับไม้บรรทัดหรือไม่ และ น�้ำในแก้วที่ต่างกันมีผลต่อเสียงที่ได้ยินหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ) ข้ันสอน 1. นักเรียนอ่านท�ำอย่างไรตอนท่ี 2 จากน้ันครูถามความเข้าใจ ขั้นตอนการท�ำกิจกรรมทีละข้ัน จนแน่ใจว่า นักเรียนสามารถท�ำได้ จึงให้นักเรียนลงมือท�ำกิจกรรม 2. ครูให้นักเรียนคาดคะเนและบันทึกผล จากน้ันนักเรียนท�ำกิจกรรมเพื่อตรวจสอบการคาดคะเน 3. นักเรียนน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการท�ำกิจกรรมโดยครูอาจ ใช้ค�ำถามดังนี้ 3.1 เม่ือเคาะแก้วที่มีน�้ำมากเสียงที่ได้ยินเป็นอย่างไร (เสียงทุ้มหรือเสียงต�่ำ) 3.2 เม่ือเคาะแก้วที่มีน้�ำน้อยเสียงท่ีได้ยินเป็นอย่างไร (เสียงแหลมหรือเสียงสูง) 3.3 น้�ำในแก้วใบใดมีมวลมากกว่า (แก้วท่ีมีน้�ำมากกว่า) 3.4 มวลของน�้ำมีผลต่อเสียงท่ีได้ยินหรือไม่ อย่างไร (มีผล แก้วน้�ำท่ีมีมวลมากเสียงท่ีได้ยินจะเป็นเสียงต่�ำ แก้วน�้ำท่ีมีมวลน้อยเสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงสูง) 3.5 มวลของน�้ำสัมพันธ์กับความถ่ีของการส่ันของน้�ำหรือไม่ อย่างไร (น�้ำมวลมากส่ันได้ยาก ความถ่ีในการ สั่นจึงน้อย ในขณะที่น้�ำมวลน้อยสั่นได้ง่ายกว่า ความถ่ีในการสั่นจึงมากกว่า) 4. นักเรียนตอบค�ำถามในฉันรู้อะไรในแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ข้ันสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมได้ว่าเสียงสูง เสียงต�่ำเกิดจากการส่ันของแหล่งก�ำเนิดเสียงที่ส่ันโดยมี ความถ่ีที่แตกต่างกัน ซึ่งความถ่ีของการส่ันของแหล่งก�ำเนิดเสียงข้ึนกับมวลของแหล่งก�ำเนิดเสียง แหล่งการเรียนรู้/ส่ือ 1. ไม้บรรทัดพลาสติกแข็ง, ขวดแก้ว, น�้ำ, ไม้เคาะ 2. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ 3. แบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ 224

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ การวัดและการประเมินผล 1. การสังเกตการร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. ตรวจแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ช่ัวโมงที่ 17 เร่ือง เสียงดัง เสียงค่อยข้ึนกับอะไร จุดประสงค์การเรียนรู้ สังเกตและอธิบายการเกิดเสียงดัง เสียงค่อย กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันน�ำ 1. ครูให้นักเรียนหลับตาแล้วครูเคาะระฆังหรือกระดิ่ง 3 คร้ังโดยเคาะด้วยความแรงไม่เท่ากัน จากน้ันให้ นักเรียนลืมตาแล้วอภิปรายโดยอาจใช้ค�ำถามดังต่อไปน้ี 1.1 เสียงท่ีได้ยินเหมือนหรือต่างกันอย่างไร (เสียงดัง เสียงค่อยแตกต่างกัน) 1.2 นกั เรียนคดิ ว่าครเู คาะระฆงั หรอื กระดงิ่ อยา่ งไรเสยี งท่ีได้ยินจึงเป็นเชน่ น้ัน (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง) ขั้นสอน 1. นกั เรยี นเปดิ หนงั สอื เรยี นหนา้ 37 อา่ นชอื่ กจิ กรรมและท�ำเปน็ คดิ เปน็ จากนน้ั ครถู ามความเขา้ ใจของนกั เรยี น เก่ียวกับสิ่งที่จะเรียนโดยอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 1.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเร่ืองอะไร (การเกิดเสียงดัง เสียงค่อย) 1.2 นักเรียนจะได้เรียนเร่ืองนี้ด้วยวิธีใด (ผ่านการสังเกต) 1.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะท�ำอะไรได้ (สามารถอธิบายการเกิดเสียงดัง เสียงค่อยได้) 2. นักเรียนอ่านท�ำอย่างไรตอนที่ 1 จากน้ันครูถามความเข้าใจ ข้ันตอนการท�ำกิจกรรมทีละข้ัน จนแน่ใจว่า นักเรียนสามารถท�ำได้ จึงให้นักเรียนลงมือท�ำกิจกรรม 3. นักเรียนน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม จากน้ันครูอภิปรายโดยอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 3.1 เมื่อเขย่ากล่องที่มีเมล็ดถั่วเขียวด้วยแรงท่ีต่างกันเสียงที่ได้ยินเป็นอย่างไร (เสียงดังต่างกัน โดยเมื่อ เขย่าเบา ๆ จะได้ยินเสียงค่อย แต่เมื่อเขย่าแรง ๆ จะได้ยินเสียงดัง) 3.2 พลังงานในการเขย่ากล่องที่มีเมล็ดถ่ัวเขียวให้มีเสียงดัง เสียงค่อยต่างกันหรือไม่ อย่างไร (ใช้พลังงาน ในการเขย่าต่างกัน โดยเมื่อเขย่าให้มีเสียงค่อยใช้พลังงานในการเขย่าน้อย แต่เมื่อเขย่าให้มีเสียงดัง ต้องใช้พลังงานในการเขย่ามาก) 4. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่าพลังงานท่ีใช้ในการเขย่ากล่องจะส่งต่อไปให้เมล็ดถ่ัวเขียวกระทบกล่องด้วยพลังงาน ท่ีต่างกัน ท�ำให้ได้ยินเสียงดัง เสียงค่อยต่างกัน 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมตอนท่ี 1 ได้ว่าเมื่อใช้พลังงานมากในการท�ำให้แหล่งก�ำเนิดเสียงส่ันจะ ท�ำให้เกิดเสียงดังมาก 225

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 6. ครูสาธิตการเคาะระฆังหรือกระดิ่งหน้าชั้นเรียนอีกครั้งโดยครูเคาะด้วยแรงท่ีไม่เท่ากัน เสียงท่ีได้ยินจึงดัง ค่อยไม่เท่ากัน 7. ครูตั้งค�ำถามให้นักเรียนอภิปรายเพ่ิมเติมอีกว่าการท่ีจะได้ยินเสียงดัง เสียงค่อยนอกจากจะข้ึนกับพลังงาน ของแหล่งก�ำเนิดเสียงแล้วยังมีปัจจัยอ่ืนอีกหรือไม่ (นักเรียนตอบค�ำถามตามความเข้าใจของตนเอง) 8. นักเรียนอ่านท�ำอย่างไรตอนที่ 2 จากนั้นถามสอบความเข้าใจ ขั้นตอนการท�ำกิจกรรมทีละขั้น จนแน่ใจว่า นักเรียนเข้าใจขั้นตอน 9. นักเรียนคาดคะเนและบันทึกผลการคาดคะเน จากน้ันลงมือท�ำกิจกรรมแล้วน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม จากนั้นครูอภิปรายโดยอาจใช้ค�ำถามดังนี้ 9.1 เมอื่ เปดิ วิทยดุ ว้ ยพลงั งานท่ีเทา่ กนั เสียงทีไ่ ด้ยนิ เม่ือเดนิ ห่างจากวิทยอุ อกไปเปน็ อยา่ งไร (เสียงทไี่ ด้ยนิ จะค่อยลง ๆ) ครูถามนักเรียนต่อไปว่า 9.2 เสียงดัง เสียงค่อยที่ได้ยินขึ้นกับอะไร (ระยะห่างจากแหล่งก�ำเนิดเสียง) 10. นักเรียนตอบค�ำถามในฉันรู้อะไรในแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกัน สรุปกิจกรรมทั้งหมดได้ว่าเสียงดัง เสียงค่อยข้ึนกับพลังงานของแหล่งก�ำเนิด เสียงและระยะทางจากแหล่งก�ำเนิดเสียงถึงหูผู้ฟัง แหล่งการเรียนรู้/สื่อ 1. เมล็ดถั่วเขียว, กล่องกระดาษ, วิทยุ 2. หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ 3. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ การวัดและการประเมินผล 1. การสังเกตการตอบค�ำถามระหว่างเรียน 2. ตรวจแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั่วโมงท่ี 18 เร่ือง มลพิษทางเสียงเป็นอย่างไร จุดประสงค์การเรียนรู้ สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับมลพิษทางเสียงและวิธีป้องกันตนเองจากมลพิษทางเสียง กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน�ำ 1. ครูน�ำเข้าสู่บทเรียนโดยใช้แนวค�ำถามดังต่อไปนี้ 1.1 จงเรียงล�ำดับความดังของเสียงจากแหล่งก�ำเนิดเสียงต่อไปนี้ เสียงลมหายใจปกติ เสียงจากล�ำโพง 226

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ เสียงเคร่ืองบินก�ำลังขึ้น เสียงกระซิบแผ่วเบา (เสียงหายใจปกติ เสียงกระซิบแผ่วเบา เสียงจากล�ำโพง เสียงเครื่องบินก�ำลังขึ้น) 1.2 นักเรียนทราบหรือไม่ว่าเขามีวิธีวัดความดังของเสียงอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) 1.3 ถ้านักเรียนจ�ำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดังมาก ๆ นักเรียนจะมีวิธีการป้องกันหูหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) ข้ันสอน 1. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 39 อ่านชื่อกิจกรรมและท�ำเป็นคิดเป็น จากนั้นครูถามความเข้าใจของ นักเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนโดยอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 1.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร (มลพิษทางเสียง อันตรายและวิธีป้องกันอันตรายจาก มลพิษทางเสียง) 1.2 นักเรียนจะได้เรียนเรื่องนี้ด้วยวิธีใด (ผ่านการสืบค้นข้อมูล) 1.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะท�ำอะไรได้ (สามารถอธิบายความหมายของมลพิษทางเสียง อันตรายและวิธี ป้องกันอันตรายจากมลพิษทางเสียง) 2. นักเรียนอ่านท�ำอย่างไร จากนั้นครูถามความเข้าใจ ข้ันตอนการท�ำกิจกรรมทีละขั้น จนแน่ใจว่านักเรียน สามารถท�ำได้ จึงให้นักเรียนลงมือท�ำกิจกรรม 3. ครูใช้สไลด์ให้นักเรียนแบ่งหัวข้อการสืบค้นข้อมูลดังนี้ 3.1 ความหมายของระดับเสียง หน่วยวัดระดับเสียง 3.2 ความหมายของมลพิษทางเสียง 3.3 ระดับเสียงของกิจกรรมที่เกิดข้ึนในชุมชน 3.4 วิธีป้องกันหรือหลีกเล่ียงมลพิษทางเสียง 4. นักเรียนน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม จากนั้นครูอภิปรายโดยอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 4.1 ความดังของเสียงบอกได้อย่างไร (ความดังของเสียงได้บอกด้วยระดับเสียง มีหน่วยวัดเป็นเดซิเบล) 4.2 กิจกรรมแต่ละอย่างมีระดับเสียงอย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่าง (เสียงกระซิบแผ่วเบามีระดับเสียงประมาณ 20 เดซิเบล ถือว่าเป็นเสียงเบามาก เสียงจากเครื่องเจาะถนนมีระดับเสียงประมาณ 100 เดซิเบล ถือว่าเป็นเสียงดัง) 4.3 มลพิษทางเสียงคืออะไร (เสียงท่ีดังมากจนท�ำให้เกิดอันตรายต่อหูหรือเสียงที่ก่อให้เกิดความร�ำคาญ แก่ผู้ฟัง) 4.4 ถ้าได้ยินเสียงดังกว่าปกติเป็นประจ�ำต่อเน่ืองกันเป็นเวลานานจะท�ำให้เกิดผลอย่างไร (ท�ำให้ความ สามารถในการได้ยินลดลง อาจท�ำให้เกิดอาการหูตึงหรือหูหนวกได้) 4.5 เรามีวิธีป้องกันอันตรายจากมลพิษทางเสียงได้อย่างไร (สวมที่ครอบหูหรือไม่ฟังเสียงดังเป็นเวลา นานเกินไป) 5. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มระดมสมองออกแบบโปสเตอร์แสดงความรู้เกี่ยวกับระดับเสียงจากแหล่งก�ำเนิด เสยี งต่าง ๆ 227

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มน�ำเสนอภาพโปสเตอร์ 7. นักเรียนตอบค�ำถามในฉันรู้อะไรในแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ 8. ครูให้นักเรียนอ่านฉันรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเสียง จากน้ันครูให้นักเรียนกลับไปตรวจค�ำตอบในกิจกรรมส�ำรวจ ความรู้ก่อนเรียน ขั้นสรุป มลพิษทางเสียงเป็นเสียงดังท่ีท�ำให้เกิดอันตรายต่อหูซ่ึงขึ้นอยู่กับระดับเสียงและระยะเวลาในการฟังเสียง หรือเสียงท่ีก่อให้เกิดความร�ำคาญ เราควรหลีกเล่ียงมลพิษทางเสียงหรือใช้เครื่องป้องกันหากหลีกเล่ียงไม่ได้ แหล่งการเรียนรู้/ส่ือ 1. สไลด์ ให้นักเรียนแบ่งหัวข้อการสืบค้นข้อมูล 2. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ 3. แบบแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ การวัดและการประเมินผล 1. การตอบค�ำถามระหว่างเรียน 2. ผลการอภิปรายจากหัวข้อการสืบค้นข้อมูล ช่ัวโมงท่ี 19 ทดสอบประจ�ำหน่วย จุดประสงค์การเรียนรู้ ทดสอบความรู้ความเข้าใจในเร่ือง แรงและพลังงาน กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันน�ำ ครูทบทวนความรู้ หน่วยที่ 1 เรื่อง แรงและพลังงาน ขั้นสอน 1. ครูใช้สไลด์ในการทดสอบความรู้ความเข้าใจ หน่วยท่ี 1 เร่ือง แรงและพลังงาน 2. ครูใช้สไลด์ในการเฉลยและสอนในข้อที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือข้อท่ีนักเรียนตอบผิด 3. ครูให้นักเรียนท�ำแผนผังมโนทัศน์สรุปเร่ือง แรงและพลังงาน ข้ันสรุป นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ท่ีได้เรียนมาในหน่วยท่ี 1 เร่ืองแรงและพลังงานในรูปแบบแผนผังมโนทัศน์เพื่อ รวบรวมความรู้ให้เกิดความรู้ที่คงทนต่อไป แหล่งการเรียนรู้/ส่ือ 1. สไลด์ทดสอบประจ�ำหน่วยที่ 1 เร่ืองแรงและพลังงาน 228

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 2. หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ การวัดและการประเมินผล 1. ตรวจแบบฝึกหัด 9. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ........................................................................... ผู้สอน ( ........................................................................... ) วันที่ ............... เดือน ........................................ พ.ศ. .................. 10. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ........................................................................... ผู้ตรวจ ( ........................................................................... ) วันที่ ............... เดือน ........................................ พ.ศ. .................. 229

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 230

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 231

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 232

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 233

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 234

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 235

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 236

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 237

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 238

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 239

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 240

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 241

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 242

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 243

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 244

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 245

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 246

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 247

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 248

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 249

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 250

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 251

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 252

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 253

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 254

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 255

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 256

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 257

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 258

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 259

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 260

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 261

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 262

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 263

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 264

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 265

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 266

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 267

คู่มือครูพระราชทานสอนทางไกลผ่านดาวเทียมส�าหรับโรงเรียนปลายทาง 268

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ 269


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook