หลกั สตู รสถานศกึ ษา รายวิชาบญั ชชี าวบา้ น (ทช02001) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ประจาภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 จดั กระบวนการเรยี นรู้ 5 รปู แบบ พบกลมุ่ (ON-Site) ออนไลน์ (ON-Line) หนังสือเรียน มอบหมายงาน (ON-Hand) ผ่านชอ่ งทาง ETV (ON-Air) ผา่ นแอปพลิเคชนั (ON-Demand) ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองนราธิวาส สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวดั นราธวิ าส สานกั งาน กศน. สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ แผนการจัดกระบวนการเรียนรู้ กศน.แบบรายวิชา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในรายวิชาบัญชีชาวบ้าน (ทช 02001) ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย ภาคเรียนที่ 1/2564 จัดทำขึ้นเพื่อให้ครู กศน.ใช้เป็นแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้กับนักศึกษา กศน. โดยมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับโครงสร้างหลักสูตร แผนจัดการเรียนรู้แบบรายวิชา และแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ครอบคลุมเนื้อหารายวิชาบังคับและรายวิชาเลือก ในภาค เรียนท่ี 1/2564 ในการจัดทำแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบรายวิชา สำหรับครู กศน. ครั้งนี้ ได้รับความ รว่ มมอื รว่ มใจอย่างดียง่ิ จากวทิ ยากร ขา้ ราชการ ครูอาสาสมคั ร กศน. ครูกศน.ตำบล ครอู าสาสมคั ร กศน.ประจำปอเนาะ ครูประจำกลุ่ม นักศึกษา และภาคีเครือข่ายที่ร่วมจัดการศึกษากับกศน.อำเภอ เมืองนราธิวาสในสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัดนราธิวาส ที่ผ่านการอบรม ร่วมกันระดมความคิดและ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำมาจัดทำเป็นคู่มือครู โดยจัดทำแผนการจัดกระบวนการเรียนแบบรายวิชา ใน รายวิชาบัญชีชาวบา้ น (ทช 02001) วสั ดุศาสตร์ 3 (พว 32024) มี 5 รปู แบบ คอื 1. On Site การพบ กลมุ่ 2. On Line การเรยี นออนไลน์ 3. On Hand การใหใ้ บงาน แบบฝึกหดั 4. On Air การเรยี นผา่ น ระบบดาวเทียม ETV 5. On Demand เรียนผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้ครู กศน.สามารถนำไปใช้ใน การจดั กจิ กรรมการเรียนร้ใู หผ้ เู้ รียนกลุ่มเป้าหมายของ กศน. มีคณุ ภาพ ครบตามตัวชวี้ ัด ผลการเรียนรู้ ทีค่ าดหวงั และพฒั นาผ้เู รียนใหม้ คี ุณสมบตั ิอนั พงึ ประสงคข์ องสถานศกึ ษา คร้งั น้ีขอขอบคณุ ผู้บริหารสถานศึกษา กศน.อำเภอเมืองนราธิวาส และคณะอาจารย์ท่ีปรกึ ษา ทุกท่านที่ให้ความรู้ คำแนะนำ และให้คำปรึกษาเป็นแนวทางในการจัดทำแผนการจัดกระบวนการ เรียนรู้แบบรายวิชา ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เล่มนี้จนสำเร็จเป็นรูปเล่มสมบูรณ์ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้นำไปใช้จัดกระบวนการเรียนรู้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบข้อผิดพลาดหรือมี ข้อเสนอแนะประการใด คณะผูจ้ ดั ทำขอนอ้ มรับไวแ้ ก้ไข ปรับปรุง ด้วยความขอบคณุ ย่ิง คณะผูจ้ ดั ทำ กศน.อำเภอเมอื งนราธวิ าส
สารบญั หน้า คำนำ 1-3 4 สารบัญ 5 8 ปฏทิ ินการพบกลุ่ม 11 1. ตารางวเิ คราะหเ์ นื้อหาสาระการเรยี นร้รู ายวิชาบัญชชี าวบา้ น ครัง้ ที่ 19 14 2. แผนการจัดการเรยี นรู้แบบรายวิชา 5 รูปแบบ คร้ังที่ 19 17 - แผนการจดั การเรียนรู้แบบรายวชิ า รปู แบบ On Site 20 - แผนการจัดการเรียนรู้แบบรายวิชา รูปแบบ On Line 21 - แผนการจดั การเรยี นรู้แบบรายวชิ า รูปแบบ On Hand 48 - แผนการจัดการเรียนรู้แบบรายวิชา รูปแบบ On Air 51 - แผนการจัดการเรยี นรูแ้ บบรายวชิ า รูปแบบ On Demand - กรต.การเรียนร้ดู ้วยตนเอง - ใบความรู้ / ใบงาน - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน ภาคผนวก - แบบบันทกึ สังเกตพฤติกรรม คณะผู้จดั ทำ
ปฏทิ นิ การพบกลุ่ม ประจำภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอเมอื งนราธวิ าส ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ท่ี วนั /เดือน/ปี เนื้อหา กระบวนการจดั การเรยี นรู้ หมายเหตุ 1 ......ม.ิ ย.64 ปฐมนิเทศเตรียมความพร้อมการจดั จดั กระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนการ 5 รปู แบบ สอนโดยครู กระบวนการเรยี นรู้ 1. Onsite (การพบกลุ่ม) ผ้รู ับผดิ ชอบ 2. Online (ออนไลน์) - โครงสรา้ งหลักสตู รตลอดการจบหลักสูตร 3. On Air (ผ่าน ETV) เชา้ 4. On hand (แจกใบงาน) เวลา 09.00 - - รูปแบบการพบกลุ่ม 5. On Demand (ผ่านแอฟ 12.00 น. พลิเคชน่ั ) บ่าย - กิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวิต เวลา 13.00 - จดั กระบวนการเรียนรู้ 16.00 น. - การประเมินคุณธรรมจริยธรรม 5 รปู แบบ 1. Onsite (การพบกลุ่ม) 2 ……มิ.ย.64 กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. Online (ออนไลน)์ รายวิชาภาษาไทย พท31001 3. On Air (ผ่าน ETV) เรื่องที่ 1 การฟงั การดู 4. On hand (แจกใบงาน) เรอ่ื งที่ 2 การพูด 5. On Demand (ผา่ นแอฟ พร้อมสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. พลเิ คชน่ั ) 3 ..... ก.ค.64 กจิ กรรมการเรียนรู้ จดั กระบวนการเรยี นรู้ รายวชิ าภาษาไทย พท31001 5 รูปแบบ เรื่อง การอา่ น 1. Onsite (การพบกลุ่ม) พรอ้ มสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. 2. Online (ออนไลน)์ 3. On Air (ผ่าน ETV) 4. ..... ก.ค.64 กจิ กรรมการเรียนรู้ 4. On hand (แจกใบงาน) รายวชิ าภาษาไทย พท31001 5. On Demand (ผา่ นแอฟ เรอ่ื ง การเขยี น พลเิ คชั่น) พรอ้ มสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. จัดกระบวนการเรยี นรู้ 5 รูปแบบ 1. Onsite (การพบกลมุ่ ) 2. Online (ออนไลน)์ 3. On Air (ผ่าน ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผ่านแอฟ พลเิ คชั่น)
ที่ วัน/เดือน/ปี เนื้อหา กระบวนการจัดการเรยี นรู้ หมายเหตุ 5 ..... ก.ค.64 กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกระบวนการเรยี นรู้ จัดการเรียนการ 5 รูปแบบ สอนโดยครู รายวิชาภาษาไทย พท31001 1. Onsite (การพบกลุ่ม) ผรู้ บั ผดิ ชอบ 2. Online (ออนไลน)์ เรื่อง หลักการใชภ้ าษา 3. On Air (ผ่าน ETV) เชา้ 4. On hand (แจกใบงาน) เวลา 09.00 - พรอ้ มสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. 5. On Demand (ผ่านแอฟ 12.00 น. พลิเคชน่ั ) บา่ ย 6 ..... ก.ค.64 กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา 13.00 - รายวิชาภาษาไทย พท31001 จัดกระบวนการเรียนรู้ 16.00 น. เรอ่ื ง วรรณคดีและวรรณกรรม 5 รปู แบบ พรอ้ มสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. 1. Onsite (การพบกลมุ่ ) 2. Online (ออนไลน)์ 7 ..... ก.ค.64 กจิ กรรมการเรยี นรู้ 3. On Air (ผา่ น ETV) รายวิชาศลิ ปศึกษา ทช31003 4. On hand (แจกใบงาน) เรื่อง ทศั นศิลปสากล 5. On Demand (ผา่ นแอฟ พรอ้ มสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. พลเิ คช่นั ) 8 ..... ส.ค.64 กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกระบวนการเรยี นรู้ รายวิชาศิลปศึกษา ทช31003 5 รปู แบบ เรอื่ งท่ี 1 ดนตรสี ากล 1. Onsite (การพบกลุ่ม) เรื่องที่ 2 ทัศนศิลปสากล 2. Online (ออนไลน)์ พร้อมสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. 3. On Air (ผา่ น ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 9 ..... ส.ค.64 กิจกรรมการเรยี นรู้ 5. On Demand (ผ่านแอฟ รายวชิ าศาสนาและหนา้ ที่พลเมอื ง สค31002 พลิเคชน่ั ) เรื่อง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี พร้อมสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. จดั กระบวนการเรยี นรู้ 5 รปู แบบ 1. Onsite (การพบกลมุ่ ) 2. Online (ออนไลน)์ 3. On Air (ผ่าน ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผ่านแอฟ พลเิ คชัน่ ) จดั กระบวนการเรียนรู้ 5 รูปแบบ 1. Onsite (การพบกลุม่ ) 2. Online (ออนไลน)์ 3. On Air (ผ่าน ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผ่านแอฟ พลเิ คชั่น)
ที่ วัน/เดือน/ปี เนื้อหา กระบวนการจดั การเรียนรู้ หมายเหตุ 10 ..... ส.ค.64 กจิ กรรมการเรียนรู้ จดั กระบวนการเรยี นรู้ จัดการเรยี นการ รายวิชาศาสนาและหนา้ ทีพ่ ลเมอื ง สค31002 5 รปู แบบ สอนโดยครู เรอ่ื ง หนา้ ท่ีพลเมือง 1. Onsite (การพบกลุ่ม) ผรู้ ับผิดชอบ พร้อมสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. 2. Online (ออนไลน)์ เช้า 3. On Air (ผ่าน ETV) เวลา 09.00 - 4. On hand (แจกใบงาน) 12.00 น. 5. On Demand (ผ่านแอฟ บา่ ย พลเิ คชั่น) เวลา 13.00 - 11 ..... ส.ค.64 กิจกรรมการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ 16.00 น. รายวชิ าลูกเสือ กศน. สค32035 5 รปู แบบ เรื่องท่ี 1 ลกู เสือกบั การพฒั นา 1. Onsite (การพบกลุม่ ) เร่อื งที่ 2 การลูกเสือไทย 2. Online (ออนไลน)์ เรื่องที่ 3 การลกู เสือโลก 3. On Air (ผ่าน ETV) เรอ่ื งท่ี 4 คุณธรรม จรยิ ธรรมของ ลกู เสือ 4. On hand (แจกใบงาน) เร่อื งท่ี 5 วนิ ยั และความเปน็ ระเบยี บ เรยี บรอ้ ย 5. On Demand (ผ่านแอฟ พรอ้ มสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. พลิเคช่นั ) 12 ..... ก.ย.64 กิจกรรมการเรียนรู้ จดั กระบวนการเรยี นรู้ รายวชิ าลกู เสอื กศน. สค32035 5 รปู แบบ เรอ่ื งท่ี 1 ลกู เสือ กศน.กับการพฒั นา 1. Onsite (การพบกล่มุ ) เรอ่ื งที่ 2 ลกู เสือ กศน. กบั จิตอาสาและการ 2. Online (ออนไลน์) บรกิ าร 3. On Air (ผา่ น ETV) เรอ่ื งที่ 3 การเขยี นโครงการเพ่ือพัฒนาชุมชน 4. On hand (แจกใบงาน) และสงั คม 5. On Demand (ผ่านแอฟ เรอ่ื งท่ี 4 ทักษะลกู เสือ พลเิ คช่นั ) พรอ้ มสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. 13 ..... ก.ย.64 กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกระบวนการเรยี นรู้ รายวิชาลกู เสอื กศน. สค32035 5 รูปแบบ เรอ่ื งท่ี 1 ความปลอดภัยในการเข้ารว่ ม 1. Onsite (การพบกลมุ่ ) กิจกรรมลูกเสือ 2. Online (ออนไลน์) เรื่องท่ี 2 การปฐมพยาบาล 3. On Air (ผ่าน ETV) เรื่องที่ 3 การเดนิ ทางไกล อยู่คา่ ยพักแรม 4. On hand (แจกใบงาน) และชีวิตชาวคา่ ย 5. On Demand (ผ่านแอฟ เร่ืองท่ี 4 การฝึกปฏบิ ตั กิ ารเดินทางไกล อยู่ พลิเคชั่น) คา่ ยพักแรม และชีวิตชาวค่าย พร้อมสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต.
ท่ี วัน/เดือน/ปี เนือ้ หา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 14 ..... ก.ย.64 กิจกรรมการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรยี นรู้ จัดการเรียนการ รายวิชาวัสดศุ าสตร์ พว32024 5 รูปแบบ สอนโดยครู เรือ่ ง หลักวัสดศุ าสตร์ 1. Onsite (การพบกล่มุ ) ผูร้ บั ผดิ ชอบ พร้อมสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. 2. Online (ออนไลน)์ เชา้ 3. On Air (ผ่าน ETV) เวลา 09.00 - 4. On hand (แจกใบงาน) 12.00 น. 5. On Demand (ผ่านแอฟ บ่าย พลิเคชน่ั ) เวลา 13.00 - 15 ..... ก.ย.64 กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ 16.00 น. รายวชิ าวสั ดศุ าสตร์ พว32024 5 รูปแบบ เรอ่ื ง การใช้ประโยชน์และผลกระทบจากวัสดุ 1. Onsite (การพบกล่มุ ) พรอ้ มสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. 2. Online (ออนไลน์) 3. On Air (ผา่ น ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผา่ นแอฟ พลิเคช่ัน) 16 ..... ก.ย.64 กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกระบวนการเรยี นรู้ รายวชิ าวสั ดุศาสตร์ พว32024 5 รปู แบบ เรอ่ื ง การคัดแยกและการรีไซเคิล 1. Onsite (การพบกลุ่ม) พร้อมสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. 2. Online (ออนไลน์) 3. On Air (ผ่าน ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผ่านแอฟ พลิเคชั่น) 17 ..... ก.ย.64 กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ รายวชิ าโครงงานเพ่ือพฒั นาทักษะการเรียนรู้ 5 รูปแบบ ทร02006 1. Onsite (การพบกลุม่ ) เร่อื ง โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ 2. Online (ออนไลน์) พรอ้ มสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. 3. On Air (ผา่ น ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผ่านแอฟ พลิเคช่ัน) 18 ..... ก.ย.64 กจิ กรรมการเรยี นรู้ จัดกระบวนการเรยี นรู้ รายวชิ าโครงงานเพอื่ พฒั นาทักษะการเรียนรู้ 5 รูปแบบ ทร02006 1. Onsite (การพบกล่มุ ) เรอื่ ง โครงงานเพื่อพฒั นาทักษะการเรยี นรู้ 2. Online (ออนไลน์) พรอ้ มสรปุ และทำใบงาน มอบหมาย กรต. 3. On Air (ผ่าน ETV) 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผ่านแอฟ พลิเคชั่น)
ท่ี วนั /เดอื น/ปี เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ 19 ..... ก.ย.64 กจิ กรรมการเรยี นรู้ จดั กระบวนการเรยี นรู้ จดั การเรยี นการ รายวชิ าบัญชีชาวบ้าน ทช02001 5 รูปแบบ สอนโดยครู เรอ่ื ง บัญชชี าวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. Onsite (การพบกลมุ่ ) ผูร้ บั ผดิ ชอบ พร้อมสรุปและทำใบงาน มอบหมาย กรต. 2. Online (ออนไลน์) เช้า 3. On Air (ผา่ น ETV) เวลา 09.00 - 4. On hand (แจกใบงาน) 12.00 น. 5. On Demand (ผ่านแอฟ บา่ ย พลเิ คชั่น) เวลา 13.00 - 20 ..... ต.ค.64 ปัจฉิมนเิ ทศ จดั กระบวนการเรียนรู้ 16.00 น. - แนะแนวการเตรยี มตวั ในการสอบปลายภาค 5 รูปแบบ - เตรียมเอกสารหลกั ฐานสำหรับนักศึกษาที่คาด 1. Onsite (การพบกลุ่ม) วา่ จบหลกั สตู ร 2. Online (ออนไลน)์ - แนะแนวการศึกษาต่อในระดับทส่ี ูงขน้ึ 3. On Air (ผา่ น ETV) - แนะแนวการประกอบอาชีพ 4. On hand (แจกใบงาน) 5. On Demand (ผา่ นแอฟ พลิเคชั่น) ปฏิทินการพบกลุ่ม : กศน.อำเภอเมอื งนราธิวาส
ตารางวเิ คราะห์เนอื้ หาส หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดับการ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 สาระทักษะการดำเนนิ ชวี ติ รายวิชาบ จำนวน 1 หน่วย ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษ มาตรฐานท่ี 4.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติทด่ี ีเก่ียวกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงแล หวั เร่ือง 1. บัญชชี าวบ้านงา่ ยนิดเดยี ว ครงั้ ที่ ตัวช้ีวดั เนอื้ หา 1. บัญชีชาวบ้านง่ายนิดเดยี ว 19 1. อธบิ ายความหมาย และประโยชน์ 1. ความหมาย ประโยชน์ของการ ของการทำบัญชชี าวบ้านอย่างงา่ ยได้ ทำบญั ชชี าวบ้าน 2. วิเคราะห์และอธบิ ายแนวคิด 2. หลกั การ แนวคิด การทำบญั ชี หลักการของบัญชีชาวบา้ นได้อยา่ ง ชาวบา้ น ถูกต้อง เหมาะสม 3. รูปแบบและวิธีการทำบัญชี 3. อธิบายวิธกี ารทำบัญชชี าวบ้าน ชาวบ้าน (บัญชีในครัวเรอื นกับการ (บญั ชใี นครัวเรอื นกบั การประกอบ ประกอบอาชีพ) อาชีพ) 2.บัญชีชาวบา้ นกบั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง 1. อธบิ ายแนวคิด หลักการของ 1. แนวคดิ หลักการของปรัชญา ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ เศรษฐกิจพอเพียง
1 สาระการเรียนรรู้ ายวชิ า รศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย บัญชีชาวบ้าน รหัสวชิ า ทช02011 ยกติ 40 ช่ัวโมง ษาตามอัธยาศัยอำเภอเมอื งนราธวิ าส ละสามารถประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตไดอ้ ย่างเหมาะสม วิเคราะหเ์ นือ้ หา วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ ง่าย ปาน ยาก เนอ้ื หา กรต. ครูสอน สอน โครงงาน จำนวน กลาง ลกึ ซงึ้ เสริม ชั่วโมง (5) 5 (5) 5 (1) 1 (5) 5
คร้งั ท่ี ตวั ชว้ี ดั เนือ้ หา 2. วเิ คราะหบ์ ัญชชี าวบา้ นให้ 2. บญั ชีชาวบา้ นตามหลักของ สอดคลอ้ งกับปรชั ญาเศรษฐกิจ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง พอเพียง 3. บัญชีชาวบา้ นในครวั เรอื น 1. สามารถวเิ คราะห์รายรบั -รายจ่าย 1. วธิ ีการวเิ คราะหร์ ายรบั - และทำบญั ชีตนเอง บัญชีครัวเรือน ได้ รายจ่าย 2. สามารถอธิบายความหมายของ 2. วธิ ีการทำบัญชรี ายรบั -รายจ่าย บัญชีชาวบา้ นในครวั เรือนได้ถูกตอ้ ง 3. ตระหนักเหน็ คุณคา่ และนำ ของตนเองและครอบครวั หลกั การและวิธกี ารทำบญั ชไี ปใชใ้ น 3. แนวทางการทำบญั ชคี รัวเรือน ชีวติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง 4, สามารถอธิบายแนวทางการทำ และการประกอบอาชีพอยา่ งง่าย บัญชคี รวั เรอื นและการประกอบ 4. การวางแผนการจดั ทำบัญชี อาชพี อย่างงา่ ยได้ถูกต้อง 5. สามารถอธิบายการการวาง รายรับ-รายจ่าย เพื่อการประยกุ ต์ใช้ แผนการจัดทำบญั ชรี ายรับ-รายจา่ ย ในครัวเรอื นทางการประกอบอาชีพ เพอ่ื การประยุกตใ์ ชใ้ นครวั เรือน ทางการประกอบอาชพี 4. การลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ 1. แนวคิดการกำหนดมาตรการ ควบคมุ ค่าใชจ้ า่ ย
2 วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา วธิ ีการจัดการเรียนรู้ งา่ ย ปาน ยาก เนอ้ื หา กรต. ครูสอน สอน โครงงาน จำนวน กลาง ลึกซงึ้ เสริม ช่วั โมง (2) 2 (0.5) 0.5 (0.5) 0.5 (1) 1 (5) 5 (7) 7
คร้งั ท่ี ตวั ชว้ี ัด เนื้อหา 1. สามารถกำหนดมาตรการควบคุม 2. การลดรายจ่าย (การวเิ คราะห์ คา่ ใชจ้ ่ายของตนเองและครวั เรือนให้ รายรบั -รายจา่ ยและแนวทางการลด สมดุลกบั รายรับ รายจา่ ย) 2. สามารถลดรายจา่ ยและเพิ่ม 3. การเพิ่มรายได้และแนว รายได้ ทางการเพิ่มรายได้ 4. การวางแผนการลดรายจา่ ย และเพ่ิมรายได้ของตนเองและ ครอบครวั
3 วิเคราะหเ์ นอื้ หา วิธีการจดั การเรียนรู้ งา่ ย ปาน ยาก เน้ือหา กรต. ครูสอน สอน โครงงาน จำนวน กลาง ลกึ ซง้ึ เสริม ชั่วโมง (0.5) 0.5 (0.5) 0.5 (7) 7 - - - - 34 6 - - 40
4 แผนการจัดการเรยี นรู้รายสัปดาห์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย คร้งั ที่ 19 รายวิชา บญั ชชี าวบ้าน รหสั วิชา ทช02011 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง (พบกลมุ่ 6 ช่วั โมง การเรียนรดู้ ้วยตนเอง 34 ชวั่ โมง) วนั ที่ เดอื น พ.ศ. 2564 มาตรฐานที่ 4.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติที่ดีเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถประยุกต์ใช้ใน การดำเนินชีวติ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับ ความหมาย ประโยชน์หลักการ แนวคิด รูปแบบและวธิ กี ารทำบัญชี ชาวบ้าน วิเคราะห์รายรับ-รายจ่าย ให้สอดคล้องกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางการจัดทำบัญชี ครวั เรือน การวางแผน การประยกุ ตเ์ พอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชนก์ บั ตนเอง ครอบครัว ตัวช้วี ดั 1. อธิบายความหมาย และประโยชน์ของการทำบัญชีชาวบ้านอย่างงา่ ยได้ 2. วิเคราะหแ์ ละอธิบายแนวคิด หลกั การของบัญชชี าวบา้ นได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม 3. อธิบายวธิ ีการทำบญั ชชี าวบา้ น (บญั ชใี นครวั เรือนกับการประกอบอาชีพ) 4. อธบิ ายแนวคดิ หลกั การของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ 5. วเิ คราะห์บญั ชีชาวบ้าน ให้สอดคลอ้ งกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 6. สามารถวเิ คราะหร์ ายรบั -รายจ่ายและทำบัญชีตนเอง บัญชคี รัวเรือนได้ 7. สามารถอธิบายความหมายของบัญชชี าวบ้านในครัวเรือนไดถ้ ูกต้อง 8. ตระหนักเห็นคุณค่าและนำหลกั การและวิธีการทำบัญชีไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันไดอ้ ย่างต่อเน่ือง 9. สามารถอธบิ ายแนวทางการทำบัญชคี รัวเรอื นและการประกอบอาชีพอย่างงา่ ยไดถ้ ูกตอ้ ง 10. สามารถอธบิ ายการการวางแผนการจดั ทำบัญชรี ายรับ-รายจ่าย เพื่อการประยุกตใ์ ช้ในครัวเรือน ทางการประกอบอาชีพ 11. สามารถกำหนดมาตรการควบคมุ ค่าใชจ้ า่ ยของตนเองและครวั เรือนให้สมดลุ กบั รายรับ 12. สามารถลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ เนือ้ หา 1. บญั ชีชาวบ้านงา่ ยนิดเดียว 2. บญั ชีชาวบา้ นกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3. บัญชชี าวบ้านในครัวเรอื น 4. การลดรายจ่าย เพ่มิ รายได้
5 วิธีการเรยี น : แบบพบกลุ่ม (ON-Site) กระบวนการจดั การเรยี นรู้ การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น ( 30 นาที ) 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนำเขา้ สู่บทเรียนโดยแจง้ ขา่ วสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ให้นักศึกษาทราบ พร้อมทงั้ แลกเรยี นเปลยี่ นเรยี นรูข้ อ้ มลู ข่าวสารเหตุการณป์ ัจจุบนั ร่วมกนั วเิ คราะห์ และแสดงความคดิ เห็นรว่ มกนั ในชัน้ เรียน และทบทวนบทเรียนจากครั้งที่แลว้ เร่ือง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เพื่อดึงความรู้และประสบการณ์ เดิมของนักศึกษา เน้นการมสี ่วนรว่ ม มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ สะทอ้ นความคิด และอภิปราย โดยให้เช่อื มโยงกบั ความรู้ใหม่ 1.2 ครนู ำเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยครูเปิดวีดที ัศน์ เรื่อง บญั ชีชาวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก ลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=AG8_IOQCb88 ให้นักศึกษารับชมเพอื่ ให้นกั ศึกษามีความรู้ ความเข้าใจ พร้อมทั้งยกตัวอยา่ งบญั ชีชาวบ้านตามหลักของปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง ให้นักศึกษาทราบ เพ่ือเชือ่ มโยงส่บู ทเรียนต่อไป 1.3 ครแู ละนักศึกษาสรุปสงิ่ ท่ีได้อภปิ รายรว่ มกัน และนักศกึ ษาบนั ทึกลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 2. ข้นั จัดกิจกรรมการเรียนการสอน ( 4 ช่ัวโมง ) 2.1 ครอู ธิบายเนื้อหาจากหนงั สอื เรยี นรายวิชาบญั ชีชาวบ้าน ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ บัญชีชาวบ้านงา่ ยนดิ เดียว, บัญชชี าวบ้านกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง, บัญชีชาวบา้ นในครัวเรือนและการลดรายจา่ ย เพมิ่ รายได้ พร้อมใหน้ ักศึกษาจดบนั ทึกรายละเอยี ดลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 2.2 ครใู ห้นักศึกษาแบง่ กลุ่มออกเป็น 4 กลมุ่ ๆละเท่าๆ กนั เพือ่ ศกึ ษาข้อมูลเกย่ี วกบั เรอ่ื ง บญั ชชี าวบา้ น 2.3 ครูให้นกั ศึกษา ทำกจิ กรรมสรุปความรเู้ ปน็ แผนผงั ความคิด เรอื่ ง บัญชีชาวบ้าน ลงในกระดาษบรฟู๊ ในหวั ขอ้ ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี 1 บัญชชี าวบา้ นง่ายนิดเดยี ว กลุ่มท่ี 2 บญั ชชี าวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง กลมุ่ ท่ี 3 บัญชีชาวบ้านในครัวเรือน กล่มุ ที่ 4 การลดรายจา่ ย เพิม่ รายได้ 2.4 ครใู ห้แตล่ ะกลุม่ สง่ ตวั แทนมาออกมานำเสนอหน้าห้องเรยี น และครูเปน็ ผู้ตรวจสอบความ ถกู ต้อง ให้ความรู้เพม่ิ เตมิ และขอ้ เสนอแนะ โดยใหน้ ักศึกษาจดบันทกึ ส่ิงที่ได้จากการฟงั และสรุปลงในแบบบนั ทึก การเรียนรู้ กศน. 2.5 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความขยัน ความประหยัด ความซอื่ สตั ย์สุจริต ความสามัคคี ความมีน้าใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษตั ริย์ รักความเป็นไทย และ ยึดมน่ั ในวิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข
6 การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขั้นการปฏบิ ัติและนำไปประยกุ ต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครสู มุ่ ตัวแทนกลุ่มนำเสนอ เพ่ือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซงึ่ กนั และกัน สรปุ ส่ิงท่ีได้เรียนรรู้ ว่ มกันและ ใหน้ กั ศึกษาบันทึกความรทู้ ี่ได้ ลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานำความรูท้ ไ่ี ด้จากการเรยี นรู้มาเปน็ แนวทางในการแกป้ ัญหาและการดำเนินชวี ติ ใน ประจำวนั ต่อไป ขนั้ ประเมินผล (E : Evaluation) 4. ข้ันสรุปและประเมนิ ผล (1 ชั่วโมง) 4.1 ครูใหน้ กั ศึกษาทำแบบทดสอบย่อย เร่ือง บญั ชีชาวบ้าน แบบปรนยั จำนวน 10 ขอ้ จากชุด แบบทดสอบ หรือจาก Google From พร้อมเฉลยและประเมินผล ให้นกั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการ เรยี นรู้ กศน. 4.2 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) แบบปรนยั วชิ า บัญชชี าวบ้าน จำนวน 10 ขอ้ ผ่านทาง Google Form พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ให้นักศึกษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึก การเรียนรู้ กศน. 4.3 ครใู ห้นกั ศึกษาสรปุ การทำความดีและคุณธรรมทไี่ ด้ปฏิบัติ พรอ้ มบันทึกลงในสมดุ บันทกึ ความดี เพื่อการประเมนิ คุณธรรม 4.4 ครตู ิดตามงานทไ่ี ดม้ อบหมายนักศึกษา เพ่อื ติดตามความคืบหนาทางแอปพลิเคชัน Line ดงั นี้ 4.4.1 ตดิ ตามงานท่ีได้รับมอบหมายสปั ดาหท์ ่ผี า่ นมา 4.4.2 ตดิ ตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (กพช.) 4.4.3 ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศึกษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย) 4.4.4 ตดิ ตามสอบถามการทำความดีในแตล่ ะวนั สัปดาหท์ ี่ผ่านมาและตดิ ตามการบนั ทึก กิจกรรมที่ทำความดีลงในสมุดบันทึกบันทึกความดเี พื่อการประเมินคุณธรรม 4.4.5 ติดตามสอบถามเกี่ยวกับงานอดเิ รก สุนทรียภาพ การเล่นกีฬา การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ฯลฯ 4.4.6 ติดตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ า ทช02011 บัญชชี าวบา้ น หรือ หนังสอื เรียนออนไลน์ ลงิ ค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf 2. คู่มือนักศึกษา 3. วดี ที ัศน์, Youtube เก่ยี วกบั บญั ชชี าวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. แบบทดสอบย่อย เร่อื ง บัญชีชาวบ้าน แบบปรนัย จำนวน 10 ขอ้ (ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form) 5. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) วชิ าบญั ชชี าวบา้ น ทช 02011 จำนวน 10 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form) 6. ใบความรู้ ท่ี 1 เร่อื ง บญั ชีชาวบ้านง่ายนิดเดียว 7. ใบความรู้ ท่ี 2 เรื่อง บญั ชีชาวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8. ใบความรู้ ที่ 3 เรือ่ ง บญั ชีชาวบ้านในครัวเรอื น 9. ใบความรู้ ที่ 4 เรอ่ื ง การลดรายจา่ ย เพิม่ รายได้ 10. ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง บัญชีชาวบ้านในครัวเรอื น 11. ใบงานท่ี 2 เรอื่ ง บญั ชีชาวบ้านกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
7 12. ใบงานที่ 3 เรอื่ ง บญั ชีชาวบา้ นในครัวเรอื น 13. ใบงานท่ี 4 เรือ่ ง การลดรายจ่าย เพม่ิ รายได้ 14. แบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. การมอบหมายงาน 1. ครูมอบหมายให้นักศกึ ษาไปอ่านทบทวนเนือ้ หาเพิม่ เติมจากหนงั สอื เรียน เร่ือง บัญชีชาวบา้ น ในหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี บัญชีชาวบา้ นงา่ ยนดิ เดียว, บญั ชชี าวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง, บญั ชชี าวบา้ นในครัวเรือนและการ ลดรายจา่ ย เพมิ่ รายได้ จากหนงั สือเรยี นออนไลน์ รายวชิ าบัญชีชาวบ้าน ลิงค์ลงิ ค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และสรปุ ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 2. ครูมอบหมายใหน้ กั ศึกษาไปศึกษาคน้ คว้าเนื้อหาจากหนังสอื เรียนออนไลน์ รายวชิ าบัญชชี าวบ้าน ลงิ ค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ ใบความรู้ ที่ 1 เร่ือง บญั ชชี าวบ้านงา่ ยนดิ เดียว ใบความรู้ ท่ี 2 เร่ือง บัญชีชาวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ใบความรู้ ท่ี 3 เร่ือง บัญชชี าวบา้ นในครวั เรือน ใบความรู้ ที่ 4 เรือ่ ง การลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ และทำใบงานที่ 1 เรอื่ ง บัญชี ชาวบา้ นในครัวเรือน ใบงานที่ 2 เร่ือง บัญชชี าวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใบงานที่ 3 เร่ือง บญั ชชี าวบ้าน ในครวั เรือน ใบงานท่ี 4 เร่ือง การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้ นักศึกษาสง่ งานทาง LINE ตามวนั เวลาทคี่ รกู ำหนด การวดั และประเมินผล 1. การสังเกตพฤติกรรมการมีรายบุคคล/รายกลุ่ม 2. การตรวจแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ช้ินงาน 4. การตรวจใบงาน 5. การตรวจแบบทดสอบ 6. การประเมนิ คุณธรรม
8 วธิ ีการเรียน : แบบออนไลน์ (ON-Line) กระบวนการจดั การเรียนรู้ การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขัน้ นำเข้าส่บู ทเรียน ( 30 นาที ) 1.1 ครูทกั ทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรยี นโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปจั จุบัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลมุ่ ใหน้ ักศึกษาทราบ พรอ้ มทง้ั แลกเรียนเปลย่ี นเรียนรู้ขอ้ มลู ข่าวสารเหตกุ ารณ์ ปจั จบุ นั ร่วมกันวเิ คราะห์ และแสดงความคดิ เห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE กลมุ่ พรอ้ ม อธบิ ายถึงเหตผุ ลความจำเป็นทีต่ ้องจัดกจิ กรรมการเรียนรูปแบบออนไลน์ 1.2 ครเู ปดิ วีดที ศั น์ เร่ือง บญั ชชี าวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ให้นักศกึ ษารบั ชมผ่านทาง YouTube จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=AG8_IOQCb88 โดยครูส่งลงิ คผ์ ่านทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชนั LINE แลว้ ครถู ามนกั ศึกษาว่า จากวีดที ัศนท์ ่นี ักศึกษารับชม นกั ศึกษาสามารถทำ บัญชีรายรบั -รายจา่ ยตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ ไดห้ รือไม่ อย่างไร โดยให้นักศึกษาร่วมกันวเิ คราะหแ์ ละ แลกเปลี่ยนเรยี นรแู้ สดงความคิดเห็นผา่ นทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชนั LINE เพื่อเชือ่ มโยงเข้าสู่ บทเรียนต่อไป การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ข้ันจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ( 4 ชั่วโมง ) 2.1 ครมู อบหมายใหน้ กั ศึกษาไปศึกษาหาความรู้ เร่อื ง บัญชชี าวบ้าน จากหนังสือเรียนออนไลน์ รายวชิ าบัญชีชาวบา้ น ลงิ ค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf หรือจากสื่อและ แหลง่ เรียนรู้ต่างๆ และใหส้ รปุ ลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. ในหวั ข้อต่อไปนี้ 1. บญั ชีชาวบ้านง่ายนิดเดียว 2. บัญชชี าวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3. บัญชีชาวบ้านในครัวเรือน 4. การลดรายจ่าย เพิม่ รายได้ 2.2 ครูมอบหมายใหน้ ักศึกษาเลอื กหวั ข้อที่สนใจ จำนวน 1 เร่อื ง ให้ไปศกึ ษาค้นควา้ จากหนังสอื เรียนออนไลน์ รายวิชาบญั ชชี าวบา้ นลงิ ค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf หรอื จากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ และให้นกั ศกึ ษาจัดทำสรปุ ความรูเ้ ปน็ แผนผงั ความคดิ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. ดังนี้ 1. บญั ชชี าวบ้านงา่ ยนิดเดียว 2. บัญชชี าวบ้านกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3. บัญชชี าวบา้ นในครวั เรือน 4. การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ 2.3 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรือ่ ง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญู กตเวที ความขยนั ความประหยัด ความซอื่ สตั ย์ ความมนี ้ำใจ ความมีวนิ ยั ศาสน์ กษัตรยิ ์ รักความเป็นไทย และยึด มัน่ ในวิถีชวี ติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข ผา่ นทาง LINE กลมุ่
9 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ข้ันการปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยุกต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครสู ่มุ ตัวแทนกลุ่มนำเสนอ เพ่ือแลกเปลย่ี นความคิดเห็นซง่ึ กันและกัน สรปุ สง่ิ ที่ได้เรียนรู้ร่วมกนั และ ใหน้ กั ศึกษาบันทึกความรูท้ ่ไี ด้ ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. 3.2 นกั ศกึ ษานำความรทู้ ่ีไดจ้ ากการเรียนร้มู าเปน็ แนวทางในการแกป้ ัญหาและการดำเนินชีวติ ใน ประจำวนั ตอ่ ไป ข้ันประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ขั้นสรุปและประเมินผล (1 ชวั่ โมง) 4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบยอ่ ย เร่อื ง บัญชีชาวบา้ น แบบปรนยั จำนวน 10 ข้อ ผ่านทาง Google From พรอ้ มเฉลยและประเมินผล ให้นักศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 4.2 ครใู หน้ กั ศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) แบบปรนัย วิชาบัญชีชาวบ้าน จำนวน 10 ขอ้ ผา่ นทาง Google Form พร้อมเฉลยและประเมินผล ใหน้ กั ศกึ ษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 4.3 ครูใหน้ ักศึกษาสรุปการทำความดแี ละคุณธรรมทไ่ี ด้ปฏิบตั ิ จากบันทึกลงในสมดุ บนั ทึกความ ดีเพือ่ การประเมนิ คุณธรรม 4.4 ครตู ดิ ตามงานทีไ่ ดม้ อบหมายนกั ศึกษา เพ่อื ติดตามความคืบหน้าทางแอปพลิเคชัน Line ดงั น้ี 4.4.1 ตดิ ตามงานที่ไดร้ บั มอบหมายสัปดาหท์ ผ่ี ่านมา 4.4.2 ติดตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวิต (กพช.) 4.4.3 ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนักศกึ ษา (การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย) 4.4.4 ตดิ ตามสอบถามการทาความดใี นแตล่ ะวนั สปั ดาห์ที่ผา่ นมาและตดิ ตามการบนั ทกึ กิจกรรมท่ีทำความดีลงในสมุดบันทึกบันทึกความดีเพื่อการประเมินคุณธรรม 4.4.5 ติดตามสอบถามเกยี่ วกับงานอดิเรก สุนทรยี ภาพ การเลน่ กีฬา การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็น ประโยชน์ ฯลฯ 4.4.6 ติดตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. Google Classroom / แอปพลิเคชนั LINE 2. หนังสือเรียนวิชา ทช02011 บัญชชี าวบ้านหรือ หนังสือเรยี นออนไลน์ ลิงค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf 3. แบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. 4. วดี โี อ, Youtube เกี่ยวกบั เรือ่ ง บญั ชีชาวบ้านกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=AG8_IOQCb88 5. แบบทดสอบย่อย เรือ่ ง บัญชชี าวบา้ นจำนวน 10 ขอ้ (รูปแบบ Google Form) 6. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) วิชาบญั ชชี าวบ้าน จำนวน 10 ขอ้ (รูปแบบ Google Form) 7. ใบความรู้ ที่ 1 เรอื่ ง บญั ชีชาวบา้ นงา่ ยนดิ เดียว 8. ใบความรู้ ท่ี 2 เรือ่ ง บญั ชีชาวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 9. ใบความรู้ ท่ี 3 เรื่อง บญั ชีชาวบ้านในครวั เรอื น 10. ใบความรู้ ที่ 4 เร่อื ง การลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ 11. ใบงานที่ 1 เร่อื ง บญั ชีชาวบ้านในครัวเรอื น 12. ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง บัญชชี าวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 13. ใบงานที่ 3 เร่อื ง บญั ชีชาวบ้านในครวั เรอื น 14. ใบงานที่ 4 เรื่อง การลดรายจ่าย เพิม่ รายได้
10 การมอบหมายงาน 1. ครูมอบหมายใหน้ กั ศึกษาไปอา่ นทบทวนเนอ้ื หาเพ่ิมเติมจากหนงั สือเรยี น เร่ือง บัญชีชาวบ้าน ในหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ บญั ชชี าวบ้านงา่ ยนดิ เดยี ว, บญั ชีชาวบ้านกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง,,บัญชีชาวบ้านในครวั เรือนและการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จากหนังสอื เรยี นออนไลน์รายวชิ าบัญชีชาวบ้าน ลงิ ค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และสรุปลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. 2. ครมู อบหมายให้นกั ศึกษาไปศกึ ษาคน้ คว้าเนื้อหาจากหนังสือเรียนออนไลน์ รายวชิ า บัญชีชาวบ้าน ลิงค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และศึกษาเน้ือหาจากใบ ความรู้ ท่ี 1 เรื่อง บัญชชี าวบ้านง่ายนิดเดียว ใบความรู้ ท่ี 2 เร่ือง บัญชีชาวบ้านกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ใบ ความรู้ ที่ 3 เร่อื ง บญั ชีชาวบ้านในครวั เรือน ใบความรู้ ที่ 4 เรอื่ ง การลดรายจ่าย เพ่มิ รายได้ และทำใบงานที่ 1 เรื่อง บัญชีชาวบ้านในครัวเรือน ใบงานที่ 2 เรือ่ ง บัญชีชาวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ใบงานที่ 3 เร่อื ง บญั ชชี าวบ้านในครวั เรือน ใบงานท่ี 4 เรอื่ ง การลดรายจา่ ย เพิ่มรายได้ (โดยครูจะสง่ ใบงานทาง Google classroom) และใหน้ ักศกึ ษาส่งงานทาง LINE ตามวันเวลาท่ีกำหนด การวัดและประเมินผล 1. การมีส่วนรว่ มในการเขา้ เรียน จาก Google Classroom/LINE 2. ตรวจแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. การตรวจใบงาน 4. การตรวจแบบทดสอบ 5. การประเมนิ คณุ ธรรม
11 วธิ กี ารเรยี น : แบบหนงั สือเรยี น มอบหมายงาน (ON - Hand) กระบวนการจัดการเรียนรู้ การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ขน้ั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน ( 30 นาที ) 1.1 ครูสำรวจความพร้อมของนกั ศึกษาในการเรยี นรู้ สำหรับนักศกึ ษาไมม่ ีอินเตอรเ์ น็ต และเครื่องมือ สื่อสาร โดยนำหนังสอื เรียน ใบความรู้ และใบงาน ใหผ้ ู้เรียนไดเ้ รียนร้ทู ี่บ้าน ในรายวชิ า บัญชีชาวบ้าน จากหนังสอื ทคี่ รูไดน้ ำไปให้ พร้อมใหน้ กั ศึกษา ศึกษาใบความรู้ จดั ทำใบงาน พรอ้ มท้ังทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 1.2 ครูนำตัวอย่างการเรียนร้แู บบโครงงาน ไปใหน้ ักศึกษา ศึกษาเรยี นรู้ทบี่ ้าน เพ่ือเชอ่ื มโยงเข้าสู่บทเรียน และมอบหมายงานต่อไป 1.3 นักศึกษาสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในตัวอย่างรูปเล่มโครงงาน บันทึกลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. และ นำสง่ ตามวนั เวลาทค่ี รกู ำหนด การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขั้นจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ( 4 ช่ัวโมง ) 2.1 ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรู้ เร่อื ง บัญชีชาวบ้าน จากหนงั สือ รายวชิ าบญั ชชี าวบ้าน ในหวั ข้อต่อไปน้ี 1. บญั ชีชาวบา้ นงา่ ยนิดเดยี ว 2. บญั ชีชาวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. บญั ชีชาวบา้ นในครวั เรือน 4. การลดรายจา่ ย เพิม่ รายได้ 2.2 ครมู อบหมายใหน้ กั ศึกษาไปศกึ ษาคน้ คว้าเนอ้ื หาจากหนังสอื เรยี นรายวชิ าบัญชชี าวบ้านและทำใบงาน ดงั นี้ ใบงานที่ 1 เรือ่ ง บัญชชี าวบ้านในครัวเรือน ใบงานท่ี 2 เรื่อง บัญชชี าวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ใบงานท่ี 3 เรือ่ ง บญั ชชี าวบ้านในครัวเรือน ใบงานที่ 4 เรื่อง การลดรายจ่าย เพิม่ รายได้ 2.3 ครูสอนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเร่อื ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตัญญู กตเวทคี วามขยัน ความประหยัด ความซ่อื สตั ย์ ความมีนำ้ ใจ ความมีวนิ ัย ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเปน็ ไทย และยึด มั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่านใบความรู้ ใบ งาน การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏิบตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครสู ุ่มตวั แทนกลมุ่ นำเสนอ เพ่ือแลกเปล่ียนความคดิ เห็นซึ่งกนั และกัน สรุปส่งิ ที่ได้เรียนรรู้ ว่ มกนั และ ใหน้ ักศึกษาบนั ทึกความรทู้ ่ีได้ ลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 3.2 นกั ศึกษานำความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรียนร้มู าเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดำเนินชวี ิตใน ประจำวนั ต่อไป
12 ขัน้ ประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ข้ันสรุปและประเมนิ ผล (1 ชว่ั โมง) 4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง บัญชีชาวบ้าน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ให้นักศกึ ษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. 4.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมที่ได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพื่อ การประเมินคุณธรรม 4.3 ครตู ดิ ตามงานท่ีได้มอบหมายนกั ศึกษา เพื่อติดตามความคืบหนาทางแอปพลเิ คชัน Line ดงั น้ี 4.3.1 ตดิ ตามงานท่ีได้รับมอบหมายสัปดาห์ท่ีผา่ นมา 4.3.2 ตดิ ตามการทำกิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (กพช.) 4.3.3 ติดตามสอบถามสุขภาพของนกั ศกึ ษา (การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแต่งกาย) 4.3.4 ตดิ ตามสอบถามการทำความดีในแต่ละวัน สปั ดาหท์ ี่ผา่ นมาและติดตามการบนั ทกึ กจิ กรรมท่ีทำความดลี งในสมุดบันทกึ บันทึกความดีเพ่ือการประเมินคุณธรรม 4.3.5 ติดตามสอบถามเกย่ี วกับงานอดเิ รก สุนทรียภาพ การเลน่ กีฬา การใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ ฯลฯ 4.3.6 ติดตามความก้าวหนา้ การทำโครงงาน สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นวิชาบญั ชชี าวบ้าน ทช02011 2. คู่มอื นักศึกษา 3. ใบความรู้ 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง บัญชชี าวบา้ น แบบปรนยั จำนวน 10 ข้อ 5..แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) วิชาบญั ชชี าวบ้าน ทช02011 จำนวน 10 ข้อ 6. ใบงานท่ี 1 7. ใบงานที่ 2 8. ใบงานที่ 3 9. ใบงานที่ 3 10. แบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. การมอบหมายงาน 1. ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาศึกษาเรยี นรจู้ ากหนังสือเรียนรายวิชาบญั ชีชาวบา้ น โดยศึกษาในเร่อื ง บญั ชีชาวบ้านงา่ ยนดิ เดียว, บญั ชชี าวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง,,บญั ชีชาวบ้านในครวั เรอื นและการลด รายจ่าย เพิม่ รายได้และสรปุ ลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 2. ครูมอบหมายให้นักศกึ ษาไปศกึ ษาค้นคว้าเนื้อหาจากหนังสอื เรยี นออนไลน์ รายวชิ า บญั ชชี าวบ้าน จากลง้ิ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ ที่ 1 เรื่อง บัญชีชาวบา้ นง่ายนิดเดยี ว ใบความรู้ ท่ี 2 เรื่อง บญั ชีชาวบ้านกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใบความรู้ ที่ 3 เรอ่ื ง บญั ชีชาวบา้ นในครวั เรอื น ใบความรู้ ท่ี 4 เรอ่ื ง การลดรายจา่ ย เพม่ิ รายได้ และทำใบงานที่ 1 เรอ่ื ง บัญชชี าวบ้าน ในครวั เรือน ใบงานที่ 2 เร่อื ง บัญชีชาวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใบงานที่ 3 เรื่อง บัญชชี าวบ้านใน ครวั เรอื น ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง การลดรายจา่ ย เพิ่มรายได้และให้นกั ศกึ ษาส่งงาน (โดยครจู ะสง่ ใบงานทาง Google classroom) และใหน้ ักศกึ ษาสง่ งานทาง LINE
13 การวัดและประเมินผล 1. การสังเกตพฤติกรรมการมรี ายบคุ คล/รายกลมุ่ 2. การตรวจแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชิน้ งาน 4. การตรวจใบงาน 5. การตรวจแบบทดสอบ 6. การประเมินคุณธรรม
14 วิธีการเรยี น : แบบผา่ นช่องทาง ETV (ON-Air) กระบวนการจัดการเรียนรู้ การกำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ข้นั นำเขา้ สู่บทเรยี น ( 30 นาที ) 1.1 ครทู ักทายนกั ศึกษา และนำเขา้ ส่บู ทเรียนโดยใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคิดเหน็ ในเรื่อง บญั ชชี าวบ้านตามความ เข้าใจของนักศึกษา โดยครยู กตัวอยา่ งการทำบัญชีชาวบ้านกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงจากอินเตอร์เน็ต พรอ้ มทั้ง แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ รว่ มกนั วิเคราะห์ และแสดงความคิดเหน็ รว่ มกันในกลุ่ม LINE พร้อมทั้งทำแบบทดสอบก่อน เรยี น (ชดุ แบบทดสอบ หรือ Google Form) ผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE กลมุ่ พรอ้ มอธิบายถึง เหตผุ ลความจำเปน็ ท่ตี ้องจัดกิจกรรมการเรียนรูปแบบ ( ON-Air ) 1.2 ครนู ำเขา้ สูบ่ ทเรยี นโดย ใหน้ ักศึกษาสมคั รเป็นสมาชกิ ETV ตามลิ้งต่อไปนี้ http://203.159.251.144/pattana/download เพ่อื ให้นักศึกษามีรหัสผ่านเพอ่ื เขา้ ไปศึกษาหาความรู้ตาม ตาราง ออนแอร์ ในแตล่ ะวันของสถานวี ทิ ยโุ ทรทัศน์เพื่อการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ตามลงิ้ รายการโทรทัศนส์ ่งเสริม การศึกษานอกระบบโรงเรยี น http://www.etvthai.tv/Video/VDO_Detail_Ext.aspx?ContentID=320&videoid=1087&v=1&p=5 และ และ นักศึกษาสามารถตดิ ตามขา่ วสารได้ในเฟสบ๊คุ ETV Channel ตามลิ้งตอ่ ไปนี้ https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/ การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 2. ข้นั จัดกิจกรรมการเรียนการสอน ( 4 ชั่วโมง ) 2.1 ครมู อบหมายใหน้ ักศกึ ษาเขา้ ไปศกึ ษาหาความรู้ ของสถานวี ิทยุโทรทศั น์เพ่ือการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ ารตามเว็บไซต์ www.etvthai.tv โดย เข้าสู่ระบบด้วยรหสั ผ่านทีน่ กั ศึกษาสมัครไว้แล้ว โดย สามารถดูตาราง ออนแอร์ได้ ตามล้งิ http://www.etvthai.tv/Front_ETV/FETV_Schedule.aspx และ สามารถดูรายการย้อนหลังได้ ตามลง้ิ http://www.etvthai.tv/home/home_External.aspx อีกชอ่ งทางการศึกษาหาความรู้โดยผา่ น ทีวดี จิ ิตอลช่อง 52 (กศน.) สามารถตดิ ตามข่าวสารและตาราง ออนแอร์ได้ในเฟสบุ๊ค : ETV ส่อื ดิจทิ ัลเพื่อการศึกษา สำนักงาน กศน. ตามลิ้งน้ี https://www.facebook.com/etv.digital/ 2.2 ครมู อบหมายใหน้ กั ศกึ ษาเรยี นร้แู บบ (ON-Air) ในเรอื่ งการเรียนรใู้ นรปู แบบโครงงานในหัวข้อต่อไปนี้ 1. บัญชชี าวบ้านง่ายนิดเดยี ว 2. บญั ชชี าวบา้ นกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. บญั ชีชาวบ้านในครวั เรือน 4. การลดรายจา่ ย เพม่ิ รายได้ และให้นักศึกษาสรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. นำส่งผ่านทาง Google Classroom หรือ แอป พลเิ คชนั LINE 2.3 ครสู อนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญู กตเวที ความขยัน ความประหยดั ความซ่อื สตั ย์ ความมนี ำ้ ใจ ความมวี นิ ัย ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ความเป็นไทย และยึด มน่ั ในวถิ ชี ีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ผา่ นทาง LINE กลมุ่ การปฏิบตั แิ ละนำไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏิบัติและนำไปประยุกต์ใช้ ( 30 นาที )
15 3.1 ครสู ่มุ ตวั แทนกลมุ่ นำเสนอ เพื่อแลกเปลย่ี นความคิดเห็นซ่งึ กนั และกนั สรปุ ส่ิงท่ีได้เรียนรูร้ ่วมกันและ ใหน้ กั ศึกษาบันทึกความรทู้ ่ีได้ ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานำความรูท้ ไ่ี ดจ้ ากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดำเนินชีวิตใน ประจำวันต่อไป ขน้ั ประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ข้ันสรุปและประเมนิ ผล (1 ชั่วโมง) 4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง บัญชีชาวบ้าน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ หรือจาก Google From พร้อมเฉลยและประเมินผลให้นักศึกษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการ เรียนรู้ กศน. 4.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมที่ได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพ่ือ การประเมินคุณธรรม 4.3 ครตู ิดตามงานทไ่ี ด้มอบหมายนักศึกษา เพื่อตดิ ตามความคืบหนาทางแอปพลิเคชนั Line ดงั นี้ 4.3.1 ติดตามงานที่ไดร้ ับมอบหมายสัปดาห์ที่ผ่านมา 4.3.2 ติดตามการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ติ (กพช.) 4.3.3 ติดตามสอบถามสุขภาพของนักศกึ ษา (การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย) 4.3.4 ตดิ ตามสอบถามการทำความดีในแต่ละวัน สัปดาหท์ ่ีผ่านมาและติดตามการบันทกึ กิจกรรมท่ีทำความดลี งในสมุดบนั ทึกบันทึกความดเี พ่ือการประเมนิ คุณธรรม 4.3.5 ตดิ ตามสอบถามเก่ยี วกับงานอดเิ รก สุนทรียภาพ การเลน่ กีฬา การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ฯลฯ 4.3.6 ตดิ ตามความก้าวหนา้ การทำโครงงาน สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. www.etvthai.tv 2.ทวี ีดจิ ิตอลชอ่ ง 52 (กศน.) 3. เฟสบุค๊ https://www.facebook.com/etv.digital/ และ https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/ 4. Google Classroom / แอปพลิเคชนั LINE 5. หนังสือเรียนวชิ าบญั ชชี าวบา้ นหรอื หนงั สือเรยี นออนไลน์ ลิงค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf 6. คูม่ ือนกั ศึกษา 7. วีดที ัศน์, Youtube เกย่ี วกบั บญั ชชี าวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=AG8_IOQCb88 8. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง บัญชีชาวบ้าน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ หรือ Google Form) 9. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) วิชาบัญชชี าวบ้าน ทช02011 จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form) 10. ใบงานท่ี 1 11. ใบงานท่ี 2 12. ใบงานที่ 3 13. ใบงานท่ี 4 14. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.
16 การมอบหมายงาน 1. ครูมอบหมายใหน้ ักศึกษาไปอา่ นทบทวนเน้อื หาเพม่ิ เติมจากหนังสือเรียนรายวชิ าบัญชีชาวบา้ น จากล้งิ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf (แบบเรียนออนไลน์) โดยศกึ ษาในเรื่อง บญั ชี ชาวบ้านงา่ ยนิดเดียว, บัญชชี าวบา้ นกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง,,บญั ชีชาวบ้านในครวั เรอื นและการลดรายจ่าย เพิม่ รายไดแ้ ละสรปุ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 2. ครมู อบหมายใหน้ ักศกึ ษาไปศึกษาค้นควา้ เนอ้ื หาจากหนงั สือเรียนออนไลน์ รายวิชาบัญชีชาวบ้าน จากลง้ิ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และศึกษาเนือ้ หาจากใบความรู้ ที่ 1 เร่อื ง บญั ชชี าวบ้านงา่ ยนดิ เดยี ว ใบความรู้ ที่ 2 เร่ือง บญั ชีชาวบ้านกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใบความรู้ ท่ี 3 เรือ่ ง บัญชีชาวบ้านในครวั เรอื น ใบความรู้ ที่ 4 เรื่อง การลดรายจา่ ย เพม่ิ รายได้ และทำใบงานท่ี 1 เร่อื ง บญั ชชี าวบ้าน ในครวั เรอื น ใบงานท่ี 2 เรอื่ ง บัญชชี าวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใบงานที่ 3 เร่ือง บัญชีชาวบา้ นใน ครวั เรือน ใบงานท่ี 4 เร่อื ง การลดรายจา่ ย เพิม่ รายได้และให้นักศกึ ษาส่งงาน (โดยครูจะสง่ ใบงานทาง Google classroom) และใหน้ กั ศึกษาสง่ งานทาง LINE การวดั และประเมนิ ผล 1. การสังเกตพฤติกรรมการมีรายบคุ คล/รายกลมุ่ 2. การตรวจแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ช้ินงาน 4. การตรวจใบงาน 5. การตรวจแบบทดสอบ 6. การประเมนิ คุณธรรม
17 วธิ ีการเรยี น : ผ่าน แอปพลเิ คชนั (ON-Demand) กระบวนการจัดการเรียนรู้ การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน ( 30 นาที ) 1.1 ครทู ักทายนกั ศึกษา และนำเข้าสบู่ ทเรยี นโดยใหน้ ักศึกษาแสดงความคิดเห็นในเร่ือง บัญชีชาวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตามความเข้าใจของนักศึกษา โดยครยู กตวั อยา่ งทำบัญชรี ายรับ-รายจา่ ยตามหลัก ปรชั ญาเศรษฐกจิ จากอินเตอรเ์ น็ต พรอ้ มทั้งแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ รว่ มกนั วเิ คราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกันใน ชัน้ เรยี น พรอ้ มทั้งทำแบบทดสอบก่อนเรียน (ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form) ผ่านทาง Google Classroom หรือแอปพลเิ คชัน LINE กลุม่ พร้อมอธิบายถงึ เหตุผลความจำเป็นท่ีต้องจดั กิจกรรมการเรียนรปู แบบ (ON-Demand) 1.2 ครูนำเขา้ สูบ่ ทเรยี นโดยเปิดวีดีทศั น์ เรอื่ ง บญั ชีชาวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใหน้ กั ศึกษา รบั ชมผ่านทาง YouTube จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=AG8_IOQCb88 ให้นักศึกษา รับชมเพื่อให้นักศึกษาสามารถทำบัญชรี ายรบั -รายจ่ายตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ ไดห้ รือไม่ อยา่ งไร นักศึกษา ร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแลกเปลี่ยนเรียนร้แู สดงความคิดเหน็ ผ่านทาง Google Classroom หรือ แอปพลเิ คชนั LINE เพอื่ เชื่อมโยงเขา้ สูบ่ ทเรียนต่อไป 1.3 ครูและนักศึกษาสรุปสิ่งที่อภิปรายร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และบันทึกลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ผา่ นทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชนั LINE การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขั้นจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ( 4 ช่ัวโมง ) 2.1 ครูมอบหมายใหน้ ักศกึ ษาไปศึกษาหาความรู้ เรือ่ ง บัญชชี าวบ้าน จากหนงั สอื เรยี นออนไลน์ รายวิชา ศาสนาและบัญชีชาวบา้ นลิงค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และศกึ ษาหา ความรู้ ผ่านเว็บไซต์ www.etvthai.tv และ ช่อง Yutube หรอื จากส่ือและแหล่งเรยี นร้ตู ่างๆ และให้สรุปลงใน แบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. ในหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ 1. บัญชีชาวบ้านงา่ ยนดิ เดยี ว 2. บัญชีชาวบ้านกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. บญั ชีชาวบา้ นในครัวเรือน 4. การลดรายจา่ ย เพมิ่ รายได้ 2.2 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญู กตเวทคี วามขยัน ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีนำ้ ใจ ความมวี ินยั ศาสน์ กษัตรยิ ์ รกั ความเป็นไทย และยึด มั่นในวถิ ชี ีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ผ่านทาง LINE กล่มุ การปฏิบัตแิ ละนำไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏบิ ตั ิและนำไปประยุกต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครสู ุม่ ตัวแทนกลมุ่ นำเสนอ เพ่ือแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นซึง่ กนั และกัน สรุปสิง่ ท่ีได้เรียนร้รู ่วมกนั และ ให้นกั ศึกษาบันทึกความรูท้ ี่ได้ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นกั ศกึ ษานำความรู้ทไ่ี ด้จากการเรยี นรูม้ าเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดำเนินชวี ติ ใน ประจำวันต่อไป
18 ขน้ั ประเมินผล (E : Evaluation) 4. ข้นั สรุปและประเมินผล (1 ชวั่ โมง) 4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน เร่อื ง บญั ชชี าวบ้าน แบบปรนยั จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ หรือจาก Google From พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ให้นกั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการ เรียนรู้ กศน. 4.2 ครูให้นักศกึ ษาสรุปการทำความดแี ละคุณธรรมท่ีได้ปฏบิ ัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพ่ือ การประเมนิ คณุ ธรรม 4.3 ครูติดตามงานที่ได้มอบหมายนักศึกษา เพอื่ ติดตามความคบื หนาทางแอปพลิเคชนั Line ดังนี้ 4.3.1 ติดตามงานที่ได้รบั มอบหมายสัปดาหท์ ีผ่ า่ นมา 4.3.2 ตดิ ตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวติ (กพช.) 4.3.3 ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนักศกึ ษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแต่งกาย) 4.3.4 ติดตามสอบถามการทำความดใี นแต่ละวนั สัปดาหท์ ี่ผา่ นมาและติดตามการบันทกึ กจิ กรรมท่ีทำความดลี งในสมุดบนั ทกึ บันทึกความดเี พื่อการประเมนิ คุณธรรม 4.3.5 ติดตามสอบถามเก่ยี วกับงานอดเิ รก สุนทรียภาพ การเล่นกฬี า การใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ฯลฯ 4.3.6 ตดิ ตามความกา้ วหนา้ การทำโครงงาน ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวิชา ทช02011 ชาวบา้ นหรือ หนังสือเรียนออนไลน์ ลิงค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf 2. คมู่ อื นกั ศึกษา 3. วดี ีทศั น์, Youtube เกย่ี วกับ บัญชชี าวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=AG8_IOQCb88 4. แบบทดสอบยอ่ ยก่อนเรยี น เรอ่ื ง บญั ชีชาวบา้ น แบบปรนัย จำนวน 10 ขอ้ (ชุดแบบทดสอบ หรือ Google Form) 5. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) วชิ าบญั ชชี าวบา้ น สค 02011 จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ หรือ Google Form) 6. ใบความรู้ ที่ 1 เรอื่ ง บญั ชีชาวบา้ นงา่ ยนดิ เดียว 7. ใบความรู้ ที่ 2 เรอ่ื ง บัญชีชาวบา้ นกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8. ใบความรู้ ท่ี 3 เรื่อง บญั ชีชาวบา้ นในครัวเรือน 9. ใบความรู้ ที่ 4 เรอ่ื ง การลดรายจ่าย เพ่มิ รายได้ 10. ใบงานท่ี 1 เรื่อง บัญชชี าวบา้ นในครวั เรือน 11. ใบงานที่ 2 เร่ือง บัญชชี าวบ้านกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 12. ใบงานท่ี 3 เร่ือง บัญชชี าวบ้านในครวั เรือน 13. ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง การลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ 14. แบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. การมอบหมายงาน 1. ครูมอบหมายให้นกั ศึกษาไปอา่ นทบทวนเนื้อหาเพิม่ เติมจากหนังสือเรียน เร่ือง บัญชชี าวบ้าน ในหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี บญั ชชี าวบา้ นง่ายนดิ เดยี ว, บัญชชี าวบ้านกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง,,บญั ชีชาวบ้านในครัวเรือนและการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จากหนังสือเรียนออนไลน์ รายวิชาบัญชชี าวบา้ น ลงิ คล์ ิงค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และสรุปลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน.
19 2. ครมู อบหมายใหน้ กั ศกึ ษาไปศึกษาค้นควา้ เน้ือหาจากหนังสอื เรียนออนไลน์ รายวิชาบัญชีชาวบ้าน ลิงค์ http://www.lertchaimaster.com/textbook/ws02001.pdf และศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ ที่ 1 เรื่อง บญั ชี ชาวบ้านง่ายนดิ เดยี ว ใบความรู้ ที่ 2 เร่ือง บัญชชี าวบา้ นกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใบความรู้ ท่ี 3 เร่ือง บัญชี ชาวบ้านในครวั เรือน ใบความรู้ ที่ 4 เรอ่ื ง การลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ และทำใบงานที่ 1 เรอื่ ง บัญชชี าวบา้ นใน ครวั เรอื น ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง บัญชชี าวบ้านกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใบงานท่ี 3 เร่ือง บญั ชีชาวบ้านในครวั เรอื น ใบงานท่ี 4 เรอื่ ง การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ (โดยครูจะสง่ ใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงาน ทาง LINE ตามวันเวลาที่ครกู ำหนด การวัดและประเมินผล 1. การสังเกตพฤติกรรมการมรี ายบุคคล/รายกลุม่ 2. การตรวจแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ชนิ้ งาน 4. การตรวจใบงาน 5. การตรวจแบบทดสอบ 6. การประเมนิ คุณธรรม
20 การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ครง้ั ท่ี 19 (จำนวน 34 ชัว่ โมง) สาระทกั ษะการดำเนนิ ชีวิต รายวชิ าบัญชชี าวบ้าน รหสั วชิ า ทช02011 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย คำสั่ง 1. ให้นักศึกษาแบ่งกลุม่ เป็น 4 กลุ่ม และไปทำกิจกรรมการเรยี นรูต้ ่อเน่ือง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นควา้ อ่านหนังสือ จดบันทึก จากหนังสือแบบเรียน ตำรา หนังสือ อินเตอร์เน็ต และสื่ออื่นๆ ในห้องสมุดประชาชน จังหวัด ห้องสมุดประชาชนอำเภอ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมธั ยมศกึ ษา วิทยาลัยชุมชนในพื้นที่อำเภอเมือง นราธิวาสหรอื อำเภออ่ืนๆ หรือไปสอบถามขอความร้จู ากบุคคล ในหัวข้อต่อไปน้ี กลุ่มท1ี่ ศกึ ษาเรอ่ื ง : บัญชีชาวบา้ นง่ายนิดเดยี ว กลุ่มท่ี 2 ศึกษาเรือ่ ง : บญั ชีชาวบ้านกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กลุม่ ท่ี 3 ศึกษาเร่อื ง : บัญชชี าวบ้านในครัวเรอื น กลุ่มท่ี 4 ศึกษาเรื่อง : การลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ ให้แตก่ ลุ่มสรปุ กิจกรรมการเรียนรดู้ ้วยตนเองลงเปน็ รปู เล่มรายงาน พร้อมสง่ ตัวแทนกลุ่มนำเสนอด้วย ตนเอง (กรณที ่ีทำกรต.คนเดียว) โดยให้นำเสนอผลงานตามขอ้ 2 กลมุ่ ละ/คนละไมเ่ กนิ 10 นาที ในวนั พบกลุ่มครั้ง ต่อไป 2. ใหน้ กั ศึกษาแตล่ ะกลมุ่ วางแผน การดำเนินการการจดั ทำโครงงานทน่ี ักศึกษาสนใจมากลมุ่ ละ 1 เรื่อง แบ่งหน้ามก่ี ารทำงาน ในเรื่องการหาข้อมูล การเลือกใชข้ ้อมูล การจดั การข้อมลู พรอ้ มจัดทำรปู เลม่ โครงงานที่ ถูกต้อง โดยแตล่ ะกลมุ่ นำโครงงานทเี่ ป็นผลงาน และรูปเลม่ โครงงาน ขน้ั ตอนของการไปเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) ของนกั ศึกษา มดี ังน้ี 1. แผนการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) ในแต่ละแต่ละสัปดาห์ แต่ละครั้งที่ครู กศน.ตำบล/ครู ศรช. หรือครู ประจำกลมุ่ กลมุ่ มอบหมาย 2. ให้บริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) สัปดาหล์ ะ 15 ช่งั โมงเปน็ อย่างนอ้ ย 3. อ่านหนงั สือ สอบถามผู้รู้ และจดบันทกึ ทกุ ครัง้ ทีมีการทำกิจกรรม กรต. และเก็บหลกั ฐานไว้ทุกครั้งเพื่อ ส่งครกู ศน.ตำบล/ครศู รช. หรือครปู ระจำกล่มุ ตรวจให้คะแนนการทำ กรต. 4. จดั ทำรายงานเปน็ เล่ม ตามแบบรายงานที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยกำหนด และให้สง่ ในวันที่มีการนำเสนอผลการทำกรต. ในเรื่องนน้ั ๆ 5. ตวั แทนกลมุ่ นำเสนอด้วยตนเอง (กรณีทีท่ ำกรต.คนเดียว) โดยใหน้ ำเสนอผลงานตามข้อ 2 กลุ่มละ/คน ละไม่เกนิ 10 นาที ในวนั พบกลุ่มครง้ั ตอ่ ไป
21 ใบความรู้ท่ี 1 เรือ่ ง บัญชีชาวบา้ นงา่ ยนิดเดียว รายวิชา ทช02011 บัญชชี าวบ้าน ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ความหมาย ประโยชนข์ องการทำบญั ชชี าวบา้ น ความหมายของการทำบัญชี การทำบัญชี คือ การจดบันทึก ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขปัจจัยในการดำรงชีวิตของตัวเอง และภายใน ครอบครัว ชุมชน รวมถึงประเทศ ข้อมูลที่ได้จากการบันทึกจะเป็นตัวบ่งชี้อดีตปัจจุบันและอนาคตของชีวิตของ ตัวเอง สามารถนำขอ้ มลู อดตี มาบอกปัจจุบนั และอนาคตได้ ข้อมลู ทไี่ ด้ ท่ีบนั ทกึ ไว้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การวางแผน ชวี ิตและกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิต ในครอบครวั ความหมายของการทำบัญชชี าวบา้ น บัญชีชาวบ้าน หรือ บัญชีครัวเรือน (home accounting) เป็นการนำการบัญชีมาประยุกต์ เพื่อเป็น เครื่องมืออย่างหนึ่งของปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง โดยเป็นบัญชีท่ีใช้สำหรับบันทึกรายได้และรายจ่าย รายได้และ รายจ่ายที่บันทึกอาจเป็นรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล หรือรายได้และรายจ่ายที่เป็นต้นทุนในการผลิตของธุรกิจ ขนาดย่อม เพอ่ื ท่ีจะทำให้ผู้ประกอบกิจการทราบถงึ ผลกำไรหรือขาดทุนจากการประกอบธรุ กิจ น้นั โดยในเอกสาร นี้จะกล่าวถึงการบันทึกบัญชีรายได้และรายจ่ายท่ีเป็นของส่วนบคุ คลหรือครอบครัว ทั้งนี้ข้อมูลรายไดแ้ ละรายจา่ ย ที่ได้จากการบันทึกจะถูกวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปการทำบัญชีครัวเรือนเป็นการจดบันทึกรายรับรายจ่าย ประจำวันของครวั เรือน และสามารถนำข้อมูลมาวางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดการ ออม การใช้จ่ายเงนิ อย่างประหยัดคุม้ ค่า ไม่ฟมุ่ เฟอื ย บญั ชีครวั เรือน มไิ ดห้ มายถึง การทำบญั ชีหรือบันทึกรายรับรายจ่ายประจำวันเท่าน้ัน แต่อาจหมายถึงการ บันทึกข้อมูลด้านอนื่ ๆ ในชวี ติ ในครอบครัว เป็นต้น ของเราไดด้ ว้ ย เชน่ บัญชที รพั ยส์ นิ พนั ธุ์พืช พันธไุ์ ม้ในบ้านเรา ในชุมชนเรา บัญชีความรู้ความคิดของเรา บัญชีผู้ทรงคุณ ผู้รู้ในชุมชนเรา บัญชีเด็กและเยาชนของเราบัญชีภูมิ ปัญญาด้านต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น หมายความว่า สิ่งหรือเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเรา เราจดบันทึกได้ทุกเรื่อง หากประชาชนทุกคนจดบันทึกจะมีประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศ จะเป็นแหล่งเรียนรู้ ครอบครัวเรียนรู้ ชุมชนเรียนรู้ และประเทศเรียนรู้การเรียนรู้เป็นที่มาของปัญญา ปัญญาเป็นที่มาของความเจริญ ทั้งกาย สังคม ใจ และจิตวิญญาณของมนุษย์จะเห็นว่า การทำบัญชี หรือการจดบันทึกนี้สำคัญยิ่งใหญ่มาก บุคคล สำคญั ในประเทศหลายท่านเปน็ ตัวอยา่ งทดี่ ขี องการจดบันทึก เชน่ ท่านพุทธทาส ในหลวงและสมเด็จพระเทพ ลว้ น เป็นนักบันทึกทั้งสิ้น การบันทึก คือ การเขียน เมื่อมีการเขียนย่อมมีการคิด เมื่อมีการคิดย่อมก่อปัญญา แก้ไข ปัญหาได้โดยใช้เหตุผลวเิ คราะห์พิจารณา ได้ถกู ต้อง นนั่ คือ ทางเจริญของมนษุ ย์
22 การทำบัญชีครัวเรือนในด้านเศรษฐกิจ หรือการบันทึกรายรับรายจ่ายที่ทางราชการพยายามส่งเสริมให้ ประชาชนได้ทำกัน นั่น เป็นเรื่องการบันทึกรายรับรายจ่ายประจำวันประจำเดือนว่า มีรายรับจากแหล่งใดบ้าง จำนวนเท่าใด มรี ายจ่ายอะไรบ้าง จำนวนเทา่ ใด ในแตล่ ะวนั สปั ดาห์ เดอื น และ ปี เพ่ือจะได้เห็นภาพรวมวา่ ตนเอง และครอบครัวทีรายรับเท่าใด รายจ่ายเท่าใด คงเหลือเท่าใด หรือ เงินไม่พอใช้เท่าใด คือ รายจ่ายมากกว่ารายรับ และสำรวจว่ารายการใดจ่ายน้อยจ่ายมาก จำเป็นน้อยจำเป็นมาก จำเป็นน้อย อาจลดลง จ่ายเฉพาะที่จำเป็นมาก เช่น ซื้อกับข้าว ซื้อยา ซื้อเสื้อผ้า ซ่อมแซมบ้าน การศึกษา เป็นต้น ส่วนรายจ่ายที่ไมจ่ ำเป็นใหล้ ด ละ เลิก เช่น ซ้ือ บุหรี่ ซื้อเหล้า เล่นการพนัน เป็นต้น เมื่อนำรายรับ รายจ่าย มาบวกลบกันแล้วขาดดุลเกินดุลไปเท่าใด เมื่อเห็น ตัวเลข จะทำให้เราคิดได้ว่าสิ่งไม่จำเป็นนั้นมีมากหรือน้อยสามารถลดได้หรือไม่ เลิกได้ไหม ถ้าไม่ลดไม่เลิกจะเกิด อะไร กับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ หากเราวางแผนการรับการจ่ายเงินของตนเองได้ เท่ากับว่า รู้จัก ความเป็นคนได้พัฒนาตนเอง ให้เป็นคนมีเหตุมีผล เป็นคนรู้จักพอประมาณ เป็นคนรักตนเอง รักครอบครัว รัก ชมุ ชน และรักประเทศชาตมิ ากขน้ึ จึงเหน็ ไดว้ ่า การทำบญั ชีครัวเรอื น ในเร่ืองรายรบั รายจา่ ย กค็ อื วถิ ีแห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ ปรัชญาชีวิตที่ถูกต้อง เหมาะสม พอดี สอดคล้องถูกต้องตามกฎธรรมชาติทมี่ ีทง้ั ความเปน็ เอกภาพและดลุ ยภาพอยู่เสมอ วตั ถปุ ระสงค์ของการบันทึกบัญชคี รัวเรือน ก็เพอ่ื ให้ผบู้ นั ทึก 1. สามารถวางแผนการใช้จ่ายต่อไปไดอ้ ย่างรอบคอบ ไมใ่ ช้จา่ ยเกนิ กว่าเงนิ คงเหลอื เน่อื งจากทกุ คร้งั ที่ บนั ทกึ บัญชจี ะทราบถงึ ยอด เงนิ คงเหลอื ของตน 2. ทราบถึงถงึ รายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ยของตนและครอบครวั ทงั้ รายละเอียดและภาพรวม 3. เมอ่ื ผู้บันทกึ ทาการวเิ คราะห์รายได้และคา่ ใชจ้ า่ ยของตนทีไ่ ด้บันทึกไวแ้ ลว้ จะสามารถลดคา่ ใช้จา่ ยท่ี ไม่จาเป็น ทาให้เกดิ การประหยัดและการออม และหากมีการใชจ้ ่ายเทา่ ทม่ี กี จ็ ะไมก่ ่อใหเ้ กดิ หนี้สิน จึงสามารถ แก้ไขปัญหาหนีส้ นิ ไดอ้ ย่างยง่ั ยนื ประโยชน์ของการทำบญั ชชี าวบา้ น จุดประสงค์ของการทำบัญชีชาวบ้าน เพื่อให้ทราบว่าในแต่ละวันครอบครัวได้รับเงินจ่ายเงินเป็นค่า อะไรบ้าง ดังนั้น ประโยชน์ของการทำบัญชีชาวบ้าน หรือบัญชีครัวเรือนจะทำให้เราทราบว่าในแต่ละเดือน ครอบครัวมีรายรับ-รายจ่าย อะไรบ้าง คนเราส่วนมากมักจะหลงลืม(ไม่สนใจที่จะจดจำ) เวลาจ่ายเงินออกไปหรือ รับเงินเข้ามา พอเวลาผ่านไป 2-3 วัน ก็ลืมแล้ว ดังนั้น บัญชีชาวบ้านะช่วยเตือนความจำให้เรารู้ถึงการใช้จ่ายเงนิ เพ่ือนำมาเปน็ ข้อมลู ในการวางแผนการจ่ายเงินของครอบครัวเพอื่ แก้ไขปญั หาหน้ีสิน ใหค้ รอบครัวมคี วามเปน็ อยู่ที่ดี ขน้ึ ได้ หลกั การ แนวคดิ การทำบัญชชี าวบ้าน หลักการการทำบัญชชี าวบา้ น การจดั ทำบญั ชีรายรับ รายจา่ ย เปน็ เร่ืองงา่ ยๆ ไมต่ ้องไปร่ำเรยี นวชิ าบัญชีที่ไหนกท็ ำได้ ท้ังยังมีประโยชน์ มากมายอย่างคาดไมถ่ ึง เพราะตวั เลขทุกตวั ถ้าพจิ ารณาในรายละเอยี ดของท่มี าท่ีไปแล้ว สามารถนำไปใช้ในการ ดำเนินชวี ิตไดเ้ ป็นอยา่ งดี เรมิ่ ต้งั แตร่ ายรับท่ีบันทึกวา่ ได้มาจากไหน อย่างไร เท่าไหร่ ชวนให้คดิ ตอ่ วา่ จะรักษา สถานะเดิมไวไ้ ด้อย่างไร เชน่ มีอาชพี รบั จ้างกต็ ้องคน้ หาวธิ ีท่ีจะทำใหน้ ายจ้างพอใจ เพือ่ ไม่ให้เลกิ จา้ งหรือใหเ้ พ่มิ ค่าจ้าง ถา้ เห็นว่ารายรบั น้อยก็ใชต้ ัวเลขนเี้ ปน็ แรงผลักดันให้แสวงหาชอ่ งทาง หรือวิธีท่ีจะทำใหเ้ พิ่มพูนขึ้น เชน่ หลกั เลิกงานประจำแล้วไปทำงานอืน่ ตอ่ ในสว่ นของรายจ่ายท่ีบันทกึ วา่ จ่ายค่าอะไรเพ่ืออะไร เมื่อใด เป็นเงินเท่าไหร่ เมอื่ ทบทวนดจู ะทำใหเ้ หน็ วา่ รายการใดจำเปน็ สนิ ค้าใดถูก สนิ ค้าใดแพงคุ้มคา่ ไมค่ ุ้มค่า ทำให้เกิดสติ นำไปสู่การ ยับยงั้ ชง่ั ใจกอ่ นตัดสนิ ใจใชเ้ งินคร้งั ตอ่ ๆไป หรืออย่างน้อยที่สดุ ไมค่ ิดอะไรมาก แค่เอารายจา่ ยไปลบออกจากรายรับ ถ้าเห็นเหลือน้อยจะทำใหร้ ะมัดระวงั ในการใช้จ่ายมากขึ้น มิแผนการใชเ้ งนิ ท่ีพอเหมาะจนทำใหเ้ งนิ สดไมข่ าดมือ
23 ถ้ามองในเชิงธรุ กจิ บญั ชตี ามทกี่ ล่าวถงึ ในย่อหนา้ ข้างบนก็คอื บญั ชี “กำไรขาดทุน” น่ันเอง เปน็ บัญชที ีโ่ ดยหลกั การ แล้วบันทกึ ข้อมลู สำคญั สามรายการ คือ บรรทัดแรกบนั ทึกรายรับ ตามดว้ ยรายจา่ ยในบรรทดั ทสี่ อง และบรรทดั สดุ ท้าย(Bottom line) เปน็ ผลตา่ งระหวา่ งรายรับรายจ่าย ถา้ เปน็ บวกแสดงว่ามีกำไร ถา้ เป็นลบก็ขาดทุน ตวั อยา่ งรปู การทำบัญชีชาวบา้ น (รายรบั รายจ่าย และยอดคงเหลือ) แม้จะมีเพียงสามบรรทัด แต่เรื่องราว หรือกระบวนการที่ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดนั้นมีมากมายเหลือเกิน เร่ิมตงั้ แต่บรรทัดแรก (รายรบั ) ท่เี กิดจากลูกค้านำเงินมาใหเ้ พื่อแลกเปลยี่ นกับสนิ ค้าซ่ึงรังสรรค์ขึน้ โดยฝ่ายผลิตและ นำเสนอโดยฝา่ ยขาย บรรทดั นี้จงึ มเี ร่ืองของฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย และฝา่ ยอื่นๆ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งร่วมกันทำให้ลูกค้ามีความ พงึ พอใจซ้ือสินคา้ ซอ้ื แลว้ กลับมาซ้ืออีก (ซอ้ื ซ้ำ) ซ้ือเพ่ิม ท้ังสินค้าเดิม และสนิ ค้าใหม่ รวมถึงช่วยหาลูกค้าใหม่ด้วย การบอกต่อ บรรทัดที่สอง (รายจ่าย) ที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมของฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายท่ีเป็นโครงสรา้ งพื้นฐาน และฝ่ายบริหาร บรรทัดนี้จึงเป็นที่รวมของกระบวนการต่างๆมากมาย เชน่ กระบวนการจดั ซ้อื จัดจา้ ง กระบวนการบริหารบุคคล กระบวนการทางด้านการเงิน และบัญชี ฯลฯ ถ้าอ่านบัญชีรู้ ดูบัญชีเป็น ก็จะเห็นว่ากว่าจะลงมาถึงบรรทัดสุดท้าย (Bottom line) ได้ ต้องผ่าน กระบวนการอะไรมาบ้าง ถ้าไม่ดูแลกระบวนการเหล่านั้นให้ดี โอกาสที่ผลจะออกมาดีคงยาก ดังนั้นในการบริหาร จัดการจะให้ความสำคัญเฉพาะบรรทัดสุดท้าย(Bottom line) อย่างเดียวโดยไม่ใส่ใจกระบวนการจัดการต่างๆ ที่ เกิดข้ึนกอ่ นหน้านคี้ งไมพ่ อ หลักการบริหารสมัยใหม่จึงให้ความสำคัญกับกระบวนการอย่างเท่าเทียมกับเป้าหมาย (สมดุล ) ตัวอย่างเช่น การประกันคุณภาพ ให้วางแผน (จัดทำกระบวนการ) ก่อนลงมือปฏิบัติ การบริหารความเสี่ยงที่คิด แก้ไขปัญหาลว่ งหนา้ หรือการค้นหาปัจจยั เส่ียงในกระบวนการ แลว้ ดูแลไม่ให้สร้างปัญหา (Balancescorer card) ที่ให้ความสำคัญกับทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน ลูกค้า กระบวนการภายใน และอื่นๆ อย่างทั่วถึง คน จำนวนไม่น้อยแสวงหา และจ่ายทรัพย์เพียงเพื่อให้ได้ตวั เลขใน Bottom line ออกมาตามที่ปรารถนา โดยไม่ใส่ใจ วา่ กระบวนการ หรือวิธีการจะเป็นไปดว้ ยความถูกต้องหรือไม่ เชน่ ไดท้ รพั ย์มาดว้ ยการทุจริต คอรัปช่นั เบียดเบียน ผู้อื่น หลีกเลี่ยงภาษี ฯลฯ ผลคือแม้มีทรัพย์มากมายก็หาความสุขไม่ได้ดังนั้นถ้าไม่ต้องการเป็นทุกข์ก็ต้องทำให้ ตวั เลขใน Bottom line มีที่มาจากการประพฤติดี ประพฤตชิ อบ
24 หลกั การบันทึกบญั ชี หลักการบนั ทึกบัญชีครวั เรือนคืออาจจะเร่ิมจากการมองรวมภาพใหญ่ก่อนว่า ในเดือนหน่ึงๆ หรือปีหนึ่งๆ มรี ายการอะไร ดังน้ี - รายการค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ อะไรบ้าง ที่ค่อนข้างคงที่ เช่น หรือเงินค่าเรียนหนังสอื บุตร หรือเงินค่าวัตถุดิบ ในการผลิตสินค้า เช่น ค่าปุ๋ย ค่าพันธุ์พืช และมีรายการย่อยๆ ที่เกิดประจำวันอะไรบ้าง เช่น ค่าอาหารค่าน้ำค่า ไฟฟา้ (ค่าสาธารณปู โภค) ค่าน้ำมัน เงินทำบุญทอดกฐิน ทอดผา้ ปา่ เปน็ ต้น - หนสี้ นิ กเ็ ป็นค่าใช้จา่ ยรายการใหญ่ที่เป็นภาระผูกพันท่ีต้องชดใช้คืนในอนาคต ไดแ้ ก่ ค่าดอกเบี้ยเงินท่ีไป กแู้ ละตอ้ งใช้คืนรายเดือนหลายปี จากการกยู้ ืมเงนิ จากเพื่อนบ้าน จากกองทุน หรอื ธนาคารต่างๆ หรือ การซ้ือของ ด้วยเงินเชื่อ การดว้ ยเครดิต หรือดว้ ยเงนิ ผ่อนชำระหรือการเช่าซอ้ื การจำนำ จำนอง ขายฝาก เปน็ ต้น - เงินคงเหลือ คือ เงินหรือทรัพย์สินที่วัดมูลค่าได้ หลังจากนำรายรับหักรายจ่ายแล้ว ถ้ารายรับมากกว่า รายจ่าย จะเกดิ เงนิ คงเหลือ หรือในหลกั ทางบัญชีเรียกว่า “กำไร” แต่หากหลังจากนำรายรบั หักรายจ่ายแล้วพบว่า รายจา่ ยมากกวา่ รายรบั จะทำให้เงินคงเหลือตดิ ลบ หรือทางบัญชเี รยี กว่า “ขาดทุน”นน่ั เอง แนวคดิ การทำบญั ชีชาวบา้ น การนำขอ้ มลู การใช้จา่ ยเงินภายในครอบครวั มาจัดเรยี งลำดบั ความสำคญั ของรายจา่ ย และวางแผนการใช้ จา่ ยเงิน โดยพิจารณาแต่ละรายการในแต่ละวันมรี ายจ่ายใดที่มีความสำคัญมาก และรายจา่ ยใดไม่จำเปน็ ให้ตัดออก เพื่อให้การใชจ้ ่ายเงินภายในครอบครัวมพี อใช้และเหลอื เก็บเพื่อการออมทรัพย์สำหรบั ใชจ้ ่ายสิ่งที่จำเป็นในอนาคต บัญชีครัวเรือนถือเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลัก 3 ข้อคือ การพอประมาณ ถา้ รรู้ ายรับรายจ่าย ก็จะใชแ้ บบพอประมาณ แต่ มเี หตผุ ล ร้วู ่ารายจ่ายใดจำเป็นไม่จำเป็นและเม่ือเหลือจากใช้จ่าย ก็เก็บออม นั่นคือภูมิคุ้มกัน ที่เอาไว้คุ้มกันตัวเราและครอบครัว บัญชีครัวเรือนสามารถจัดได้หมด จึงนับว่ามี ประโยชน์มาก การวางแผนการใช้จา่ ยเงินให้เหมาะสมระหว่างรายรับและรายจ่ายครอบครัวตอ้ งมีรายรับมากกว่า รายจา่ ย หากพบว่ารายรับนอ้ ยกวา่ รายจ่าย ต้องหาแนวทางนำเงินมาใชจ้ า่ ยให้เพียงพอ ข้อควรระวังในการจัดทำบัญชีครัวเรือน คือ ลืมบันทึกบัญชี ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการบันทึก และ ส่งผลใหไ้ ม่อยากบนั ทกึ ผจู้ ัดทำเขา้ ใจผดิ ในรายการบัญชี ไม่เขา้ ใจรายการท่ีเปน็ รายรบั จงึ ไม่ไดบ้ ันทกึ บัญชเี ช่น ลูก ส่งเงินมาให้พ่อแม่สำหรับใช้จ่ายทุกวันสิ้นเดือน แต่พ่อแม่ไม่ได้บันทึกบัญชีรายรับเนื่องจากเข้าใจว่าเงินที่ได้รับมา นั้นมิได้เกิดจากการประกอบอาชีพของตนเองหรือ เข้าใจผิดรายการหนี้สินแต่บันทึกว่าเป็นรายรับ ทำให้มิได้เก็บ เงนิ ไว้สำหรับจา่ ยชำระหนี้ในอนาคต เชน่ ยมื เงินจากเพื่อนบ้านมาใชจ้ ่ายภายในครอบครัว ถงึ แม้จะได้รับเงินมาแต่ รายการดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นรายรับเนื่องจากตนเองมีภาระผูกพันที่ต้องชดใช้ในอนาคต ซึ่งอาจต้องชดใช้เงินต้น พร้อมดว้ ยดอกเบยี้ ด้วย จากสาเหตดุ งั กลา่ วอาจทำใหค้ รอบครัววางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ผดิ พลาด
25 ส่วนข้อผิดพลาดอีกประการหนึ่งคือ การเขียนชื่อรายการผิด การบันทึกตัวเลขผิด การบวกหรือการลบ จำนวนเงนิ ผิดอาจเกิดจากการลืมจดบันทึกรายการบัญชี หรอื บันทกึ รายการซ้ำๆ กันหลายรายการ ปัญหาดังกล่าว แก้ไขโดยการคำนวณจำนวนเงนิ กระทบยอดเงินคงเหลือในบัญชกี ับยอดเงินฝากธนาคารที่ครอบครัวมีอยู่จริง หรือ ยอดเงินที่เก็บไว้สำหรับใช้จ่ายจริง หากพบว่ายอดเงินคงเหลือในบัญชีเท่ากับยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝาก ธนาคาร แสดงว่าการจัดทำบัญชีถูกต้อง แต่หากกระทบยอดแล้วยอดเงินทั้งสองไม่เท่ากันอาจเกิดจากการบันทึก บัญชีผดิ พลาด หรอื เงนิ สดของครอบครวั สญู หาย
26 ใบความรู้ที่ 2 เร่ือง บัญชชี าวบา้ นกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง รายวชิ า ทช02011 บัญชชี าวบา้ น ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย บัญชีชาวบ้านกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง แนวคิด หลกั การของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ ประมาท โดยคำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความ รอบคอบและคณุ ธรรม ประกอบการวางแผนการตดั สินใจและ การกระทำ
27 เศรษฐกจิ พอเพียงกับทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกจิ พอเพียงและแนวทางปฏิบตั ิของทฤษฎีใหม่เปน็ แนวทางการพัฒนาท่ีนำไปสู่ความสามารถในการ พึ่งตนเอง ในระดับต่างๆอย่างเป็นขั้นตอน โดยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันแปรของธรรมชาติ หรือการ เปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆโดยอาศยั ความพอประมาณและความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกนั ที่ดี มีความรู้ความ เพียรและความอดทนสตปิ ญั ญา การช่วยเหลอื ซ่ึงกันและกัน และความสามคั คี ในการพัฒนาประเทศนั้นจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้นเริ่มด้วยการสร้างพื้นฐาน คือความมีกิน มีใช้ของ ประชาชนก่อน ด้วยวิธีการประหยัด ระมัดระวัง และถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อพื้นฐานเกิดขึ้นมั่นคงพอควรแล้วจงึ ค่อยสร้างเสริมความเจริญขั้นสูงขึ้นตามลำดับต่อไป การถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นค่อยไป ตามลำดับ ด้วยความระมัดระวังและประหยัด เพื่อป้องกันความผิดพลาดล้มเหลว และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็ จได้ แน่นอนบริบูรณ์....จากพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระองค์นับตั้งแต่ปี 2517 เป็นต้นมา จะพบว่า พระองค์ท่านได้ทรงย้ำแนวทางการพัฒนา ที่อยู่บนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง ความพอมีพอกิน การรู้จัก พอประมาณการคำนึงถึงความมีเหตุมีผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว และทรงเตือนสติประชาชนคนไทยไม่ให้ ประมาทตลอดจนการมีคุณธรรมเป็นกรอบในการดำรงชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นที่รู้จักกันภายใต้ชื่อว่าเศรษฐกิจ พอเพยี ง บัญชีชาวบา้ นตามหลกั ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากสภาวะสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยกระแสวัตถุนิยม และความฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ จนทำให้คนไทยหลง เดินทางผดิ ไปตามกระแสนิยมจนกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะปญั หาหนส้ี ินท่ีไม่มีวนั จบสิ้น อยา่ งไรก็ตามคนไทยยัง มีทางออก ซึ่งการจะดำรงชีวิตให้อยู่รอดภายใต้สังคมในปัจจุบัน แนวทางหนึ่งที่ประชาชนไทยควรยึดถือคือการ พง่ึ ตนเอง ร้จู กั ความพอประมาณ และไมป่ ระมาท ตามแนวปรชั ญา “เศรษฐกิจพอเพยี ง” ของพระบาทสมเด็จพระ เจา้ อยู่หวั ทีท่ รงมองเห็นถึงความสำคญั ของการสรา้ งภมู ิ คุ้มกันใหก้ ับตัวเอง รจู้ ักความพอมีพอกนิ พอมีพอใช้ คำนึง ถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเอง โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินอันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตซ่ึง พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสว่า“เศรษฐกิจพอเพียง...จะทำความเจริญให้แก่ ประเทศได้แต่ ตอ้ งมคี วามเพยี รแล้วต้องอดทนต้องไม่ใจร้อนตอ้ งไม่พูดมากต้องไม่ ทะเลาะกนั ถ้าทำโดยเข้าใจกันเชอ่ื ว่าทุกคนจะมี ความพอใจได้...” พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั พระราชทานณ วนั ท๔่ี ธันวาคม๒๕๔๑ จากหลักการของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกับความหมายการบญั ชีครัวเรือน จะเหน็ วา่ การบญั ชีครัวเรือน มีส่วนช่วยให้ประชาชนเข้าถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ผ่าน มา มีการเผยแพร่สารสนเทศต่าง ๆ อยา่ งมากมายท่ีแสดงถึงความเกี่ยวขอ้ งและเกื้อหนนุ ซงึ่ กันและกัน สรปุ ได้ว่าการบัญชคี รวั เรือนมคี วามเกยี่ วข้องสมั พนั ธ์กับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งอย่างแยกกันไม่ออก และมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ประชาชนประสบผลสำเร็จในการดำเนินชีวิตตามแนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งได้ เพราะการบนั ทึกบัญชีรายรับรายจา่ ยเปน็ ประจำทุกวัน จะทำใหค้ นรจู้ ักใชจ้ ่ายอย่างพอประมาณ ไม่ใช้ จ่ายเกินตัว มีเหตุผลในการใช้จ่ายมากขึ้น รู้จักวางแผนการใช้จ่าย จึงทำให้รายจ่ายจะลดลงได้และมีเงินเหลือใช้ นำไปสู่การเก็บออมเงิน ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันตนเองสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นทำให้การดำเนินชีวิตมี ความปลอดภัยมากขึน้ ด้วย ความเกี่ยวข้องกันของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการบัญชีครัวเรือนจึงทำให้ มีผู้เรียกบัญชี ครัวเรือนในชื่อต่าง ๆ ที่แสดงความหมายไปในทิศทางเดียวกัน เช่น บัญชีชาวบ้าน บัญชีเศรษฐกิจพอเพียง บัญชี พอเพียง เปน็ ตน้ ในทัศนะของผู้เขียนแลว้ เห็นว่าถ้าจะเรียกว่า “บญั ชีเพ่ือชวี ติ ” กไ็ ม่น่าจะขัดแยง้ กนั แต่ประการใด เนอ่ื งจากเปน็ บญั ชีท่ีจัดทำขึน้ เพอ่ื ชีวิตทีด่ มี ีสุขและย่ังยนื ของตนเองและครอบครัวอยา่ งแท้จริง การบัญชีครัวเรือนเป็นการจดบันทึกรายรับ รายจ่ายประจำวันของครัวเรือน และสามารถนำข้อมลู มาวาง แผนการใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดการออม การใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดคุ้มค่า ไม่ฟุ่มเฟือย ดังนนั้ การทำบญั ชคี รัวเรือนมคี วามสำคญั ดังน้ี
28 1. ทำให้ตนเองและครอบครัวทราบรายรับ รายจ่าย หนี้สิน และเงินคงเหลือในแต่ละวัน รายรับ หรือ รายได้ คอื เงิน หรอื สนิ ทรพั ยท์ ี่วดั มูลค่าได้ ทไี่ ด้รับจากการประกอบอาชีพ หรือผลตอบแทนท่ไี ด้รับจากการให้ผู้อ่ืน ใช้สินทรัพย์ หรือ ผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบต่างๆ เช่นรายได้จากค่าจ้างแรงงาน เงินเดือนดอกเบี้ยรับ จากเงินฝากธนาคาร หรอื จากเงินใหก้ ยู้ มื รายไดจ้ ากการขายสนิ คา้ หรือบรกิ าร เปน็ ต้น รายจ่าย หรอื คา่ ใช้จา่ ย คือ เงิน หรอื สนิ ทรัพย์ท่วี ัดมูลค่าได้ ทจี่ า่ ยออกไปเพือ่ ให้ไดส้ ่งิ ตอบแทนกลับมา ส่งิ ตอบแทนอาจเป็นสินค้าหรือบริการ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า (ค่าสาธารณูปโภค) ค่าน้ำมัน ค่าหนังสือตำรา เป็นต้น หรือรายจ่าย อาจไม่ได้รับสิ่งตอบแทนคือสินค้าหรือบริการก็ได้ เช่น เงินบริจาคเพื่อการกุศล เงินทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผา้ ป่า เป็นตน้ หนี้สิน คือ ภาระผูกพันที่ต้องชดใช้คืนในอนาคต การชดใช้อาจจ่ายเป็นเงินหรือของมีค่าที่ครอบครัวหรือ ตนเองมอี ยู่ หนีส้ นิ เปน็ เงนิ หรือ สิ่งของที่มคี า่ ที่ครอบครวั หรอื ตนเองได้รับมาจากบุคคลหรือแหล่งเงนิ ภายนอก เช่น การกู้ยืมเงินจากเพ่ือนบ้าน การกยู้ ืมเงินจากกองทนุ ต่างๆ การซ้ือสินคา้ หรือบริการเป็นเงินเชอื่ การซ้ือสินทรัพย์เป็น เงนิ ผ่อนชำระ หรอื การเช่าซอ้ื เปน็ ต้น เงินคงเหลือ คือ เงิน หรือ ทรัพย์สินที่วัดมูลค่าได้ หลังจากนำรายรับลบด้วยรายจ่ายแล้วปรากฏรายรับ มากกว่ารายจ่ายจะทำให้มีเงินคงเหลือหรือในหลักทางบัญชีเรียกว่า กำไร แต่หากหลังจากนำรายรับลบด้วย รายจ่ายแลว้ ปรากฏวา่ รายจ่ายมากกว่ารายรบั จะทำให้เงินคงเหลือตดิ ลบหรอื ทางบญั ชเี รยี กวา่ ขาดทุนน่ันเอง 2. นำขอ้ มลู การใช้จ่ายเงินภายในครอบครวั มาจดั เรียงลำดบั ความสำคัญของรายจ่าย และวางแผนการใช้ จา่ ยเงิน โดยพจิ ารณาแตล่ ะรายการในแตล่ ะวันมรี ายจ่ายใดท่ีมคี วามสำคัญมาก และรายจา่ ยใดไมจ่ ำเป็นให้ตัดออก เพื่อให้การใช้จ่ายเงินภายในครอบครวั มีพอใชแ้ ละเหลือเก็บเพื่อการออมทรัพย์สำหรับใช้จ่ายสิง่ ทีจ่ ำเป็นในอนาคต บัญชีครัวเรือนถือเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลัก 3 ข้อคือ การพอประมาณ ถา้ ร้รู ายรบั รายจ่าย กจ็ ะใชแ้ บบพอประมาณ แต่ มีเหตุผล ร้วู า่ รายจ่ายใดจำเป็นไม่จำเป็นและเม่ือเหลือจากใช้จ่าย ก็เก็บออมนั่นคือภูมิคุ้มกัน ที่เอาไว้คุ้มกันตัวเราและครอบครัว บัญชีครัวเรืองสามารถจัดได้หมด จึงนับว่ามี ประโยชนม์ าก ข้อควรระวังในการจัดบัญชีครัวเรือน คือ ลืมบันทึกบญั ชี ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการบันทึก และส่งผล ใหไ้ มอ่ ยากบันทึก ผจู้ ัดทำเข้าใจผดิ ในรายการบัญชี ไม่เข้าใจรายการที่เป็นรายรับ จงึ ไมไ่ ดบ้ ันทึกบญั ชี เชน่ ลกู ส่งเงิน มาให้พ่อแม่สำหรบั ใชจ้ า่ ยทุกวันสิน้ เดือน แต่พ่อแม่ไม่ได้บันทึกบัญชรี ายรับเนื่องจากเข้าใจว่าเงนิ ที่ได้รับมานัน้ มไิ ด้ เกิดจากการประกอบอาชีพของตนเองหรือ เข้าใจผิดรายการหน้ีสินแต่บันทึกว่าเป็นรายรับ ทำให้มิได้เก็บเงินไว้ สำหรับจ่ายชำระหนี้ในอนาคต เช่น ยืมเงินจากเพื่อนบ้านมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ถึงแม้จะได้รับเงินมาแต่ รายการดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นรายรับเนื่องจากตนเองมีภาระผูกพันที่ต้องชดใช้ในอนาคต ซึ่งอาจต้องชดใช้เงินต้น พร้อมดว้ ยดอกเบี้ยดว้ ย จากสาเหตดุ ังกลา่ วอาจทำให้ครอบครัววางแผนการใช้จ่ายเงนิ ผิดพลาด ส่วนข้อผิดพลาดอีกประการหนึ่งคือ การเขียนชื่อรายการผิด การบันทึกตัวเลขผิด การบวกหรือการลบ จำนวนเงนิ ผดิ อาจเกดิ จากการลมื จดบันทึกรายการบัญชี หรอื บันทึกรายการซำ้ ๆ กันหลายรายการ ปัญหาดังกล่าว แกไ้ ขโดยการคำนวณจำนวนเงนิ กระทบยอดเงนิ คนเหลือในบญั ชีกับยอดเงินฝากธนาคารที่ครอบครัวมีอยู่จริง หรือ ยอดเงินที่เก็บไว้สำหรับใช้จ่ายจริง หากพบว่ายอดเงินคงเหลือในบัญชีเท่ากับยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝาก ธนาคาร แสดงว่าการจัดทำบัญชีถูกต้อง แต่หากกระทบยอดแล้วยอดเงินทั้งสองไม่เท่ากันอาจเกิดจากการบันทึก บัญชีผิดพลาด หรือเงินสดของครอบครัวสูญหาย นะคะ มาถึงตอนนี้แล้วท่านผู้ฟังหลายท่านอาจนึกในใจแล้วว่า การจดบันทึกเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากสำหรับการดำรงชีวิตในปัจจุบัน ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีการเงินขาดสภาพ คล่องดว้ ยแล้วละก็คิดว่าหลายทา่ นคงอยากจะหนั มาจดบนั ทึกรายรับและรายจ่ายกันบ้างแล้ว การวางแผนการใชจ้ า่ ยเงนิ ให้เหมาะสมระหว่างรายรับและรายจา่ ยครอบครวั ตอ้ งมีรายรบั มากกวา่ รายจ่าย หากพบวา่ รายรับนอ้ ยกว่ารายจา่ ยตอ้ งหาแนวทางนำเงินมาใช้จา่ ยให้เพียงพอ โดยอาจต้องกูย้ มื เงนิ มาใชจ้ า่ ยแต่การ กู้ยืมเงินไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาดงั กล่าวได้ เพียงแต่ช่วยให้การใช้จ่ายมีสภาพคล่องช่ัวขณะเท่าน้ัน และในระยะ ยาวยังส่งผลให้ครอบครวั มีภาระหนี้สินจำนวนมาท้ังเงินต้นและดอกเบ้ียซึ่งจะเพิม่ จำนวนมากขึ้นตามระยะเวลาท่ี ยาวนานในการก้ยู มื เงนิ เปน็ ปญั หาทแ่ี กไ้ ขได้ยาก สำหรบั การแก้ไข
29 บทสรปุ การจัดทำบัญชคี รัวเรอื น หรือ บัญชีรายรับรายจ่ายนี้ ไม่ใช่เป็นแต่เพียงการจดบันทึกรายการต่างๆ ที่เปน็ เงนิ เท่านัน้ แตย่ งั เป็นการสร้างความสามัคคีภายในครอบครวั รูจ้ กั ช่วยเหลือแบ่งปนั กนั ในสังคม มีการเรียนรู้ซึ่งกัน และกัน ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ต่างๆ ท่ีได้รับจากการจดบันทึกข้อมลู ที่เป็นประโยชน์ ทำให้ประชาชนทุกคนร้จู กั การบรหิ ารจดั การด้านการเงินและการวางแผนการทำงานทกุ อย่างเพ่ือให้บรรลเุ ป้าหมายได้ การทำบัญชีครัวเรือน ทำให้ครอบครัวมีความสุขใช้ชีวิตโดยยึดหลักความพอเพียง มีเหตุมีผล รู้จักพึ่งพาตนเอง มีความพอประมาณ การเงินมีสภาพคล่อง รู้จักการเก็บออม ทุกคนรู้ถึงแหล่งที่มาของรายรับและการใช้ไปของค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน สามารถนำข้อมลู การใชจ้ ่ายมาวางแผนบรหิ ารการเงินในอนาคตได้
30 ใบความรู้ที่ 3 เรอ่ื ง บญั ชชี าวบ้านในครัวเรือน รายวิชา ทช02011 บญั ชชี าวบา้ น ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย บัญชชี าวบ้านในครวั เรือน วธิ กี ารทำบัญชรี บั – จ่ายของตนเองและครอบครวั การทำบัญชี คือ การจดบันทึก ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขปัจจัยในการดำรงชีวิตของตัวเอง และภายใน ครอบครัว ชุมชน รวมถึงประเทศ ข้อมูลที่ได้จากการบันทึกจะเป็นตัวบ่งชี้อดีตปัจจุบันและอนาคตของชีวิตของ ตวั เอง สามารถนำข้อมลู อดตี มาบอกปจั จุบันและอนาคตได้ ขอ้ มลู ทีไ่ ด้ ที่บันทกึ ไว้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การวางแผน ชวี ติ และกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิต ในครอบครัว บญั ชคี รวั เรอื น มไิ ดห้ มายถึง การทำบัญชหี รือบันทึกรายรับรายจ่ายประจำวนั เท่าน้ัน แต่อาจหมายถึงการ บนั ทกึ ขอ้ มลู ด้านอื่น ๆ ในชีวิต ในครอบครวั เปน็ ต้น ของเราไดด้ ว้ ย เชน่ บัญชที รัพยส์ ิน พันธ์พุ ืช พนั ธุ์ไม้ในบา้ นเรา ในชุมชนเรา บัญชีความรู้ความคิดของเรา บัญชีผู้ทรงคุณ ผู้รู้ในชุมชนเรา บัญชีเด็กแล ะเยาชนของเราบัญชีภูมิ ปัญญาด้านต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น หมายความว่า สิ่งหรือเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเรา เราจดบันทึกได้ทุกเรื่อง หากประชาชนทุกคนจดบันทึกจะมีประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศ จะเป็นแหล่งเรียนรู้ ครอบครัวเรียนรู้ ชุมชนเรียนรู้ และประเทศเรียนรู้การเรียนรู้เป็นที่มาของปัญญา ปัญญาเป็นที่มาของความเจริญ ทั้งกาย สังคม ใจ และจิตวิญญาณของมนุษย์จะเห็นว่า การทำบัญชี หรือการจดบันทึกนี้สำคัญยิ่งใหญ่มาก บุคคล สำคัญในประเทศหลายท่านเป็นตวั อยา่ งที่ดขี องการจดบนั ทึก เชน่ ท่านพทุ ธทาส ในหลวงและสมเด็จพระเทพ ล้วน เป็นนักบันทึกทั้งสิ้น การบันทึก คือ การเขียน เมื่อมีการเขียนย่อมมีการคิด เมื่อมีการคิดย่อมก่อปัญญา แก้ไข ปญั หาไดโ้ ดยใช้เหตุผลวเิ คราะห์พจิ ารณา ได้ถูกต้อง นน่ั คือ ทางเจริญของมนษุ ย์ การทำบัญชีครัวเรือนในด้านเศรษฐกิจ หรือการบันทึกรายรับรายจ่ายที่ทางราชการพยายามส่งเสริมให้ ประชาชนได้ทำกัน นั่น เป็นเรื่องการบันทึกรายรับรายจ่ายประจำวันประจำเดือนว่า มีรายรับจากแหล่งใดบ้าง จำนวนเทา่ ใด มรี ายจ่ายอะไรบ้าง จำนวนเทา่ ใด ในแต่ละวัน สปั ดาห์ เดือน และ ปี เพื่อจะได้เหน็ ภาพรวมว่าตนเอง และครอบครัวทีรายรับเท่าใด รายจ่ายเท่าใด คงเหลือเท่าใด หรือ เงินไม่พอใช้เท่าใด คือ รายจ่ายมากกว่ารายรบั และสำรวจว่ารายการใดจ่ายน้อยจ่ายมาก จำเป็นน้อยจำเป็นมาก จำเป็นน้อย อาจลดลง จ่ายเฉพาะที่จำเป็นมาก เช่น ซื้อกับข้าว ซื้อยา ซ้ือเสื้อผ้า ซ่อมแซมบ้าน การศึกษา เป็นต้น ส่วนรายจา่ ยที่ไม่จำเป็นใหล้ ด ละ เลิก เช่น ซ้ือ บุหรี่ ซื้อเหล้า เล่นการพนัน เป็นต้น เมื่อนำรายรับ รายจ่าย มาบวกลบกันแล้วขาดดุลเกินดุลไปเท่าใด เมื่อเห็น
31 ตัวเลข จะทำให้เราคิดได้ว่าสิ่งไม่จำเป็นนั้นมีมากหรือน้อยสามารถลดได้หรือไม่ เลิกได้ไหม ถ้าไม่ลดไม่เลิกจะเกิด อะไร กับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ หากเราวางแผนการรับการจ่ายเงินของตนเองได้ เท่ากับว่า รู้จัก ความเป็นคนได้พัฒนาตนเอง ให้เป็นคนมีเหตุมีผล เป็นคนรู้จักพอประมาณ เป็นคนรักตนเอง รักครอบครัว รัก ชุมชน และรักประเทศชาติมากขนึ้ จงึ เหน็ ได้วา่ การทำบัญชีครัวเรอื น ในเรอื่ งรายรบั รายจ่าย ก็คอื วถิ แี ห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ ปรัชญาชีวิตที่ถูกตอ้ ง เหมาะสม พอดี สอดคลอ้ งถูกต้องตามกฎธรรมชาตทิ ีม่ ีท้งั ความเป็นเอกภาพและดุลยภาพอยเู่ สมอ วิธกี ารบนั ทกึ บญั ชคี รวั เรอื น 1. ชอ่ ง “วันท่ี” ใช้บนั ทกึ วันที่ เดือน และปี พ.ศ. ทเ่ี กดิ รายการรับเงนิ หรอื จา่ ยเงนิ จรงิ แต่หากจำวันท่ีเกิด รายการไมไ่ ด้ ใหใ้ ชว้ นั ทีท่ ำการบนั ทึกบญั ชแี ทน 2. ชอ่ ง “รายการ” ใชบ้ นั ทึกคำอธิบายหรือรายละเอยี ดของการรบั เงินหรือจา่ ยเงนิ การรับเงิน เช่น รบั เงนิ เดือน รับรายได้พิเศษ การจา่ ยเงนิ เช่น ค่าอาหาร คา่ พาหนะเดนิ ทาง จา่ ยค่าเล่าเรยี น เปน็ ต้น 3. ช่อง “รับ” ใช้บันทึก “จำนวนเงิน” ที่ได้รับเข้ามาทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นรายรับจากอาชีพหลักหรือ รายไดอ้ ่ืน ๆ 4. ช่อง “จา่ ย” ใช้บนั ทกึ “จำนวนเงนิ ” ทจ่ี า่ ยออกไปทกุ รายการ ไม่ว่าจะจ่ายออกไปในเร่อื งใดก็ตาม 5. ชอ่ ง “คงเหลอื ” ใชบ้ นั ทึก “จำนวนเงนิ ” คงเหลือ หลงั จากได้รบั เข้ามาหรือจ่ายออกไป ควรคำนวณทุก ครั้งที่มกี ารบนั ทึกบัญชีการรับเข้าหรือจ่ายออก เพ่ือจะไดท้ ราบว่าปัจจุบันมีจำนวนเงินคงเหลอื อยู่เท่าใด โดยตั้งต้น ด้วยจำนวนเงินคงเหลือล่าสุด นำรายการรับมาบวกเข้า และนำรายการจ่ายมาหักออก จะได้ยอดคงเหลือปัจจุบัน เพ่อื สามารถวางแผนการใชจ้ ่ายในอนาคตไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 6. ช่อง “หมายเหตุ” ใช้บันทึกรายละเอยี ด ท่ตี ้องการบันทึกเพิ่มเติมจากชอ่ งรายการ 7. บรรทัด “ยอดคงเหลอื ยกมา” ใช้บนั ทกึ “จำนวนเงิน” ในชอ่ งคงเหลือ โดยนำตวั เลขมาจากจำนวนเงิน ในช่อง “คงเหลือ” จากบรรทัด “รวม” (บรรทัดสุดท้าย) ของหน้าบัญชีก่อนหน้านี้ แต่หากเป็นการเริ่มต้นบันทึก บญั ชเี ป็นครงั้ แรกในหน้านี้ ใหใ้ สจ่ ำนวนเงนิ คงเหลือตามตัวเลขที่มเี งนิ คงเหลืออยูเ่ ปน็ ตัวเลขตงั้ ตน้ 8. บรรทัด รวม รับ, จ่าย และยอดคงเหลือยกไป ใช้บันทึก “จำนวนเงินรวม” ตามแนวตั้งในช่อง รับและ จ่าย ส่วนช่องคงเหลือ เป็นจำนวนเงนิ คงเหลอื ท่ีเป็นปจั จุบนั โดยนำตัวเลขน้ีมาจากช่องคงเหลอื ลา่ สดุ ของหน้าบัญชี นี้ ซงึ่ จำนวนเงินน้ีจะนาไปใส่ในบรรทัดยอดคงเหลือยกมาในชอ่ งคงเหลือของหนา้ บญั ชีถดั ไป แต่หากต้องการทราบ ยอดรวมของรายรับและรายจ่ายในหนา้ บัญชีถัดไปด้วย ก็ให้ยกยอดรวมในช่องรับและจ่ายไปใส่ในหน้าบญั ชีถัดไป พรอ้ มกนั จำนวนเงนิ ยอดคงเหลอื ยกไปในหนา้ บัญชนี ี้จะตอ้ งเทา่ กบั จำนวนเงนิ ยอดคงเหลือยกมาในหนา้ บัญชีถัดไป แนวทางการทำบญั ชคี รัวเรือนและการประกอบอาชพี อย่างง่าย บญั ชีรายรับรายจ่ายในครอบครัว ทำใหส้ มาชกิ ในครอบครัวมีกจิ กรรมรว่ มกนั ทกุ คนมีหน้าทรี่ ับผิดชอบร่วม บันทึก ร่วมกันทำ รว่ มกันวเิ คราะห์ ไดพ้ ดู คยุ กันมากยงิ่ ข้ึน บัญชีรับจ่ายครอบครัว ทำให้สมาชิกในครัวเห็นข้อมูลการใช้จ่ายเงิน ได้ฉุกคิด เกิดจิตสำนึกที่จะไม่ ฟุ่มเฟือย ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้บรโิ ภคนิยมท่ีกระตุ้นให้เสพมากๆ เพื่อหมุนวงล้อเศรษฐกิจกันอย่างเอาเป็นเอาตาย มีเหตุผลในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น เกิดความคิดถึงกัน เอื้ออาทรกันในครอบครัวมากขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมการใช้ จ่ายเงินทถี่ กู ทค่ี วรมากข้นึ ในสังคมอเมริกันที่เป็นสังคมบริโภคนิยมสุดโต่ง นำหน้าประเทศทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ก็มีคนส่วนหนึ่ง มองเหน็ ปญั หาของการตกเป็นเหยื่อ บริโภคนิยม ทุนนิยมท่ีบบี คนั้ สรา้ งความอยูร่ ้อนนอนทกุ ข์เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะหา รายได้ได้มากขึ้นก็ตาม พวกเขาชวนกันแสวงหาทางออกของการดำเนินชีวิตด้วยวิธกี ารหลากหลายรูปแบบซึ่งหนงึ่ ในเครอ่ื งมือที่เขาใช้เพอื่ เรยี นร้ตู นเอง เพ่อื ปรับปรุงพฤตกิ รรมตนเองกค็ ือ การทำบญั ชีรับจา่ ยครอบครัว การทำบัญชีรับจ่ายครอบครัว ไม่ใช่เครื่องมือเฉพาะของครอบครัวเกษตรกรหรือคนมีรายได้น้อย แต่เป็น เคร่ืองมอื พ้ืนฐานของทุกครอบครัวไมว่ า่ ยากดมี จี น เป็นกระจกสะทอ้ นให้รตู้ นเอง ดว้ ยตนเองและเพื่อตนเอง
32 การพฒั นาประเทศตามแนวคดิ เศรษฐกจิ ทนุ นิยม เราถกู กำหนดกรอบให้ผู้ทีค่ ิดถึงแต่การเพิ่มรายได้ให้มาก ที่สุดเท่าที่ความสามารถจะหาได้ด้วยทุกวิถีทาง และกระตุ้นให้ใช้จ่ายให้มากที่สุดเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจอยตู่ ลอดเวลา โดยทำใหเ้ ช่ือด้านเดยี วว่า การเสพมากๆ ซึ่งแท้ทจ่ี รงิ แลว้ ความอยู่เย็นเปน็ สุขจะเกิดขึ้นได้ ต้องอย่บู นความมพี อดี กนิ พอดี เปน็ พอดี อยู่พอดี ชีวติ มีความสมดุล ไมส่ ดุ โตง่ ไปทางใดทางหน่งึ เหมอื นกับเราวดิ นำ้ เข้านา เรามัวแตส่ นใจดแู ตข่ นาด ท่อน้ำเข้า ดูปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามาแล้วหาแนวทางเพิม่ ขนาดท่อสูบน้ำเข้านาใหไ้ ด้มากที่สุดเทา่ ทีจ่ ะมากได้ แต่เรา มักจะลืมดูว่ามีช่องทำให้น้ำรั่วไหลออกจากนาตรงไหนบ้างมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีช่องน้ำไหลออกมาแล้วเราไม่รู้ ไม่ สนใจปิด หรือเผลอทะลวงให้ช่องน้ำไหลออกกว้างยิ่งขึ้น ต่อให้เราสูบเข้าเท่าใด น้ำก็ไม่เคยพอนาก็ขาดน้ำมากขึ้น ไมร่ จู้ บ การทำบัญชรี ายรับ รายจา่ ยครอบครวั กค็ ือ เครื่องมอื ใหเ้ ราได้รู้ท้ังน้ำไหลเข้าไหลออก รู้ปรมิ าณน้ำท่ีสะสม อยู่ในนา และรวู้ ่าเราควรมนี ้ำสะสมไว้เท่าใด จึงจะเกดิ ความสมดลุ พอดพี อเพียงความสมดุลดีพอเพยี ง จะทำให้เกิด ความอยเู่ ยน็ เป็นสุข ความสขุ โตง่ ไปข้างใดข้างหนึ่งไมว่ ่าจะเป็นจนเกิน รวยเกิน การหาเกิน เสพเกินลว้ นสรา้ งความ อยู่รอ้ นนอนทกุ ขท์ งั้ ต่อตนเอง ต่อสงิ่ แวดลอ้ มและตอ่ ผู้อ่ืน เมื่อทำบัญชรี ายรบั รายจ่ายครอบครัว แล้วพบว่าเราไดเ้ รียนรู้อะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับชีวิตเรา ชีวิตเราและ ครอบครัวเราเพิ่มมากขน้ึ มากมาย ท่เี คยหนา้ ดำคร่ำเครียดว่งิ ไขว่คว้าหาแต่เงิน เงนิ และไล่ลา่ หาอะไรต่อมิอะไรมา เสพ เสพ กอ็ าจจะฉกุ คดิ และคน้ พบความดีความพอประมาณได้เอง ความอยเู่ ย็นเป็นสขุ แบบฉับพลัน ก็จะเกิดข้ึนได้ทันที โดยไม่ต้องให้ใครมาจับตที ะเบยี น หรือจะมาบอกว่า จะเอ้ืออาทร หรือหยิบย่ืนอะไรให้แบบเดมิ ๆ การวางแผนการจดั ทำบญั ชรี ายรบั – รายจ่าย เพอ่ื การประยุกต์ใช้ในครวั เรือนทางการประกอบ อาชีพ การวางแผนการใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมระหว่างรายรับและรายจ่าย ครอบครัวต้องมีรายรับมากกว่า รายจ่าย หากพบว่ารายรับน้อยกว่ารายจา่ ย ต้องหาแนวทางนำเงินมาใช้จ่ายใหเ้ พียงพอ โดยอาจต้องกู้ยืมเงินมาใช้ จ่าย แต่การกู้ยืมเงินไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพียงแต่ช่วยให้การใช้จ่ายมีสภาพคล่องชั่วขณะเท่านั้น และในระยะยาวยังส่งผลให้ครอบครัวมีภาระหนี้สินจำนวนมาก ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ตามระยะเวลาที่ยาวนานในการกู้ยืมเงิน เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก สำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องใน การใช้จา่ ยเงินหรอื ปัญหารายรบั ไม่เพียงพอกบั รายจ่ายนั้นมีแนวทางดังนี้ 1. การตัดรายจ่ายที่ไม่จำเปน็ ออก เพื่อลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครัว เช่น รายจ่ายเกี่ยวกับการ พนนั สง่ิ เสพติดของมนึ เมา รายจ่ายฟุม่ เฟอื ย เป็นต้น เปน็ การสร้างนสิ ัยมใิ ห้ใช้จา่ ยฟุ่มเฟือย 2. การลดรายจ่ายที่จำเป็นลง เพื่อสร้างนิสัยการประหยัด อดออม การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอย่าง ค้มุ ค่า เช่น การปลกู ผัก ผลไมไ้ วร้ บั ประทานเอง เพอ่ื ช่วยลดค่าอาหาร และค่าเดนิ ทางไปตลาด อีกทั้งทำให้สุขภาพ ดีอีกด้วย ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแล้วหันมาออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน หรือ การเดิน การวิ่งแทนการขับ รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ เป็นตน้ 3. การเพิ่มรายรับ หารายได้เสริมนอกเวลาทำงานปกติ เช่น การใช้เวลาว่างรับจา้ งตัดเย็บเส้ือผ้าการขาย อาหารหลังเลิกงาน การปลกู ผัก หรือเล้ียงสัตวไ์ วข้ าย เปน็ ตน้ 4. การทำความเข้าใจกันภายในครอบครัวเพ่ือให้ทุกคนร่วมมือกันประหยัด รู้จักอดออม การใช้ทรัพยากร ต่างๆ ลด ละ เลกิ รายจา่ ยหรือสงิ่ ท่ีไม่จำเป็น และชว่ ยกันสรา้ งรายรับใหเ้ พยี งพอ เหมาะสมกับเศรษฐกิจปัจจุบนั ประโยชนข์ องการทำบัญชีครวั เรือน การทำบัญชีครัวเรือนจะทำให้เราทราบว่าในแต่ละเดือน ครอบครัวมีรายรับ-รายจ่ายอะไรบ้าง คนเรา ส่วนมากมักจะหลงลืม(ไม่สนใจที่จะจดจำ) เวลาใช้จ่ายเงินออกไปหรือรับเงินเข้ามา พอเวลาผ่านไป 2-3 วันก็ลืม
33 แล้ว ดังน้นั บญั ชคี รวั เรือนจะช่วยเตือนความจำใหเ้ รารู้ถึงการใชจ้ ่ายเงิน เพ่อื นำมาเปน็ ข้อมูลในการวางแผนการใช้ จ่ายเงินของครอบครัวเพอื่ แก้ไขปญั หาหนส้ี นิ ให้ครอบครวั มคี วามเปน็ อยูท่ ีด่ ขี น้ึ ได้ 1. เพ่อื จดบันทึกรายการการดำเนนิ กจิ การเรียงลำดับก่อนหลัง 2. งา่ ยต่อการตรวจสอบ 3. เปน็ การควบคมุ รักษาทรัพยส์ นิ ของกิจการ 4. ป้องกันความผิดพลาดในการดำเนนิ กิจการ 5. สามารถปรบั ปรุงแก้ไขทัน 6. ทำให้ทราบฐานะของกจิ การ 7. เป็นประโยชนใ์ นการตรวจสอบผลกำไร-ขาดทุนได้ทกุ เวลา
34 ใบความรู้ที่ 4 เรือ่ ง การลดรายจา่ ย เพิ่มรายได้ รายวชิ า ทช02011 บัญชชี าวบา้ น ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย การลดรายจา่ ย เพ่ิมรายได้ การลดรายจ่าย เรอื่ งของรายรับ รายจ่าย มักถกู กลา่ วถึงเม่ือพูดเกี่ยวกบั การจัดทำบญั ชี การปลกู ฝงั ให้เด็กๆรูจ้ กั การเก็บ เงิน การออมเงิน การใช้จ่ายเงิน และการลงทนุ เป็นส่ิงทส่ี ำคัญมาก ไมเ่ ฉพาะแต่ในสภาวะเศรษฐกิจทีย่ ากลำบาก แม้ในยามท่ีเศรษฐกิจมคี วามคลอ่ งตัว เราจำเปน็ ต้องระลึกถึงรายรบั -รายจา่ ยนี้อยูเ่ สมอๆหากแผนผงั ทางความคิด คณุ มีแตร่ ายการสงิ่ ของท่คี ุณอยากจะซ้ือ สำหรบั คนที่คำวา่ เงินไมใ่ ช่อุปสรรคคงไม่เป็นเรื่องทีเ่ หลอื บา่ กวา่ แรง แต่ หากคุณเป็นคนหนึ่งท่ีอยู่ในสภาวะใชจ้ ่ายเงินเกนิ ฐานะ หรือเรยี กวา่ รายจา่ ยมีขนาดเท่าๆหรือใหญก่ วา่ รายไดแ้ ล้ว หละก็ ตอ่ ไปนีเ้ ป็นสิ่งที่คณุ จะต้องเปลย่ี นแปลง เริม่ ตน้ สำรวจ โดยทว่ั ๆไปรายรบั ของคนส่วนใหญ่ จะมาในรปู แบบของเงินเดอื น ฉะนัน้ อาจตรวจสอบว่าเงนิ เดือนมีท่า ไหร่ มรี ายได้ทางอ่นื อีกหรอื ไม่ มดี อกผลงอกเงยจากกองทรัพย์สิน คดิ คำนวณเป็นรายเดือนได้เดือนละเทา่ ไหร่ แลว้ จดลงไวใ้ นสมุดบนั ทึก รายจา่ ย แยกเป็นรายจ่ายประจำ และรายจ่าย(ไมป่ ระจำ) โดยจำนวนเงนิ ทีจ่ ำเปน็ ตอ้ งจ่ายแน่ ๆในแตล่ ะ เดอื น เรยี กว่ารายจา่ ยประจำ เชน่ คา่ นำ้ คา่ ไฟ ค่าอาหาร โดยเฉล่ียรายวัน คา่ เดินทาง ค่าผอ่ นบา้ น ผ่อนรถายจ่าย เพ่อื ครอบครวั รายจ่ายขา้ วของเคร่ืองใชใ้ นบ้าน ฯลฯ ส่วนรายจา่ ย (ไม่ประจำ) เชน่ คา่ เบย้ี ประกันชวี ิตค่าเทอมตร อาจถูกนำมารวมไว้กับรายจ่ายประจำวันได้ ดว้ ยวิธีการเฉล่ียรายเดอื น (หาร 12) เป็นต้น วิเคราะห์ความเป็นไปได้ เมอื่ ยอดรายรับรวม และยอดรายจ่ายรวม นำรายรับมาหักรายจ่าย จะทราบว่ามีเงินเก็บ หรือใช้ จ่ายเงนิ แบบเดือนชนเดือน และในบางคร้ังอาจมหี น้เี พิ่มพูนมากข้นึ ซ่ึงถ้าหากเลือกได้ ย่อมเลือกให้บัญชี ทรพั ยส์ ินเป็นบวกมากๆ คงไม่มใี ครต้องการใชจ้ ่ายเงินแบบชักหนา้ ไม่ถงึ หลัง หรอื เปน็ หน้เี พม่ิ พูน
35 แนวทางการลดรายจ่าย การแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องในการใช้จ่ายเงินหรือปัญหารายรับไม่เพียงพอกับรายจ่ายนั้นมี แนวทางดังนี้ 1. การตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก เพื่อลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครัว เช่น รายจ่ายเกี่ยวกับการ พนนั สิง่ เสพติดของมึนเมา รายจา่ ยฟุ่มเฟอื ย เปน็ ตน้ เปน็ การสรา้ งนสิ ัยมใิ ห้ใชจ้ ่ายฟุ่มเฟือย 2. การลดรายจา่ ยท่ีจำเป็นลง เพื่อสร้างนสิ ัยการประหยัด อดออม การใช้ทรัพยากรทีม่ ีอยู่อย่างจำกัดอย่าง คุม้ คา่ เช่น การปลูกผกั ผลไมไ้ ว้รบั ประทานเอง เพือ่ ชว่ ยลดค่าอาหาร และคา่ เดินทางไปตลาด อีกทั้งทำให้สุขภาพ ดีอีกด้วย ลดการใช้นำ้ มันเช้ือเพลิง แล้วหันมาออกกำลังกายโดยการปัน่ จักรยาน หรือ การเดิน การวิ่งแทนการขับ รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ เป็นต้น ความต้องการของตลาดเป็นหลัก มิใช่ความต้องการของผู้จำหน่าย เพราะ บางคนไม่ชอบขายสนิ คา้ A แต่เลอื กที่จะขายสินค้า B เพราะตนเองชื่นชอบ แตก่ ลบั กลายเป็นว่าคนต้องการซ้ือส้ิน ค้า A มากกว่า นี่เป็นตวั อย่างหน่งึ ของการทำธรุ กิจท่ตี นเองช่นื ชอบ แตไ่ ม่ประสบความสำเร็จด้านการตลาด เป็นตน้ สิ่งท่กี ล่าวถงึ คร่าวๆ เปน็ รูปแบบของการวางแผนในเร่ืองของรายรบั -รายจ่าย จะว่าไปเปน็ เรือ่ งที่ใกล้ตัวแต่ หลายคนไม่ตระหนกั สภาพเศรษฐกจิ ของปัจเจกบคุ คล สง่ ผลกระทบต่อรปู แบบการใชช้ วี ิต หรืออาจหมายถงึ การมี คุณภาพชวี ติ ทด่ี ี คนทไี่ ม่มเี งนิ จะพบว่าเงินเริ่มมีความสำคญั ก็ต่อเมือ่ เขามีความจำเปน็ ทจ่ี ะต้อง “ใชเ้ งิน” เช่น มีลูก ต้องการส่งลกู เรียน, พอ่ แม่เจบ็ ป่วย ตอ้ งการให้ได้รบั การรักษาในโรงพยาบาลท่ีดีๆ, มีแฟนตอ้ งการพาแฟนไปเที่ยว , ฝันหวานได้น่ันอยากได้นี่ ฯลฯ ส่วนคนที่มเี งิน (ด้วยการหาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง) จะทราบและเข้าใจเรื่อง ของรายรับ-รายจ่ายเป็นอย่างดี พวกเขาอาจไม่ต้องจดบันทึกไว้ในสมุด แต่เรื่องราวเหล่านี้จะฝังอยู่ในสมองของ พวกเขา ทำใหค้ นรวย รวยยง่ิ ขน้ึ คนจน จนซำ้ ซาก เพราะอาจสับสนและนำไปปะปนกับเรื่องของความพอเพยี ง ว่า เป็นเรื่องของการ “ไม่ต้อง” มีเงินมากไม่ต้องใช้ความพยายามในการหาเงิน ก็อาจเป็นได้ หลายๆคนจึงยอมที่จะ ผลกั รายรับทตี่ นเองมอี ยอู่ อกไป และเพิ่มรายจ่ายใหม้ ากขึ้น จึงจนซ้ำซอ้ นโดยตลอด (Always Poor) สิ่งที่ต้องรู้และเข้าใจคือ ความพอเพียง ไม่ได้หมายความวา่ ไม่ต้องมีเงินมาก หากความคิดที่ว่า “ไม่ต้องมี เงินมาก” ฝังลึกในความคิด สิ่งที่จะตอบสนองออกมา ก็คือการขาดสติในการใช้จ่ายเงิน ดังนั้นต้องต้องระวัง ทศั นคติท่ีมีต่อความพอเพียงด้วย ความพอเพยี ง คอื พอเพียงที่พฤติกรรม ไมโ่ ลภมาก อยากมอี ยากได้ “เกิน”ความ จำเป็น และไม่ใชว้ ธิ ที ่ีเป็นการเบยี ดเบยี นผู้อ่ืน หรือทำในสิง่ ที่ผิดกฎหมาย และควรแยกออกจากการทำความเข้าใจ เร่อื งรายรบั -รายจา่ ยน้ี มิเช่นน้นั กจ็ ะเกิดความสบั สนว่าการมเี งิน เป็นเรอื่ งของความโลภ หรอื ส่ิงท่ีไม่ดี วิธีควบคุมการใช้จ่าย นอกจากแรงกดดันทางการตลาดแล้ว ความรู้สึกและนิสยั ส่วนตัวก็อาจทำให้เรากลายเป็นคนท่ีใช้จ่ายเกนิ ตัว วิธีการควบคุมการใชจ้ า่ ยสามารถทำไดด้ งั น้ี 1. อย่าซื้อเพราะอารมณ์ หากมีความรู้สึกต่ืนเต้นกับการจบั จ่ายซ้ือของและหาสินคา้ ลดราคา นั่นคือสิ่งท่ี แสดงถึงการซื้อของเพราะอารมณ์ วิธีแก้คือ อย่ารีบซื้อและให้คิดตามความเป็นจริง ว่าการซื้อของชิ้นนั้นจะมีผล อย่างไรในระยะยาว และคณุ จะดูแลรักษาได้อย่างไร หยุดคิดสกั นดิ และคิดถงึ การเสียใจภายหลังเพราะซ้ือของด้วย อารมณ์
36 2. อยา่ ซอ้ื ของแกเ้ ครียด การจบั จา่ ยซ้อื ของอาจชว่ ยใหผ้ ู้ซื้อมีความสุข มอี ารมณ์ดขี น้ึ ได้สักพักหนึ่งแต่เม่ือ ความเครียดกลับมาอีก อาจรู้สึกว่าต้องซื้อให้หนักข้ึนเพื่อบรรเทาความเครียด แทนที่จะแก้เครียดด้วยการซื้อ อาจจะหาทางคลายเครียดโดยการพดู คุยกบั เพ่ือนทเี่ ขา้ ใจปญั หาของคุณหรือทำกิจกรรมทตี่ อ้ งใชแ้ รง เช่น เดนิ ออกกำลังกายแทน 3. อย่าซื้อของเป็นงานอดิเรก ห้างสรรพสินค้าต่างๆพยายามตกแต่งอย่างหรูหราเพื่อให้การจับจ่าย กลายเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน บางครั้งการเดินห้างหรือเล่นอินเทอร์เน็ตเพียงเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ อาจจะเป็น การกระตุ้นให้คุณอยากซื้อ ดังนั้น จงไปซื้อของเฉพาะเมื่อมีรายการของที่จะซื้ออยู่ในใจแล้วจริงๆ และไม่ซื้อนอก รายการโดยเด็ดขาด. 4. เลือกเพื่อนให้ดี รูปแบบชีวิตของเพื่อนและเรือ่ งที่พูดคุยมีอทิ ธิพลมากต่อความคิด หากการจ่ายเกนิ ตัว เพ่ือจะมขี องทกุ อยา่ งทัดเทียมเพื่อนฝูง ควรเลือกคบเพือ่ นท่ไี ม่มนี ิสัยฟุง้ เฟ้อ นิยมวตั ถุหรือพดู คยุ แตเ่ รอื่ ง เงนิ ๆทองๆ 5. ใชบ้ ัตรเครดิตอย่างฉลาด บัตรเครดติ ทำใหซ้ ้อื ของไดง้ ่ายๆ โดยไม่คำนึงถงึ ผลท่ตี ามมา ควรจะพยายาม จ่ายหนี้บัตรเครดิตเต็มจำนวนทุกเดือน เพื่อไม่ให้มียอดค้างชำระ และต้องรู้ว่าบัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยและ คา่ ธรรมเนียมตา่ งๆ เทา่ ไร เปรียบเทียบขอ้ เสนอของแตล่ ะธนาคาร และเลอื กใชบ้ ตั รที่เหมาะกับรายได้ ระวังบัตรพ รีเมียมท่มี ีดอกเบ้ียสงู และให้สทิ ธปิ ระโยชนท์ ่ีเกินความจำเปน็ แทนท่ีจะจา่ ยทุกอยา่ งดว้ ยบัตรเครดติ จงเก็บบัตรไว้ ใชเ้ ฉพาะเม่อื ตอ้ งซอ้ื ของราคาสูง แลว้ ซ้อื ของทวั่ ไปด้วยเงนิ สด 6. รู้สถานะทางการเงินของตัวเอง เป็นเรื่องง่ายที่จะใช้จ่ายเกินตัว ถ้าไม่รู้สถานะทางการเงินของตนเอง การทำบันทึกการใช้จ่ายเป็นประจำ เพื่อจะรู้จำนวนเงินทั้งหมดที่มี วางแผนการใช้จ่ายแต่ละเดือนตามความเป็น จรงิ โดยคำนงึ ถึงรายได้และคา่ ใช้จา่ ยในช่วงทผ่ี า่ นมา ตรวจเชค็ รายจ่ายและใบเสร็จต่างๆเพื่อดูว่าการใช้จ่ายเป็นไป ตามแผนท่วี างไวห้ รอื ไม่ ปรึกษาเพือ่ นทไี่ ว้ใจเมือ่ มขี ้อสงสัยหรือปญั หาทางการเงิน การเพิม่ รายไดแ้ ละแนวทางการเพิ่มรายได้ รายได้ หมายถึง ผลตอบแทนที่กิจการได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการตามปกติของกิจการ รวมท้ัง ผลตอบแทนอ่นื ๆ ทไ่ี มไ่ ดเ้ กดิ จากการดำเนินงานตามปกติ รายได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. รายไดจ้ ากการขาย (Sale revenue) หมายถงึ รายได้ทเี่ กดิ จากการขายสนิ ค้าหรือบริการอนั เป็นรายได้ จากการดำเนินงานตาม ปกติ เชน่ กิจการซื้อขายสินคา้ รายได้ของกจิ การ คือ รายไดจ้ ากการขายสินค้าส่วนกิจการ ให้บรกิ าร เชน่ ซอ่ มเคร่ืองไฟฟ้า รายไดข้ องกิจการ คือ รายได้คา่ ซอ่ ม 2. รายได้อื่น (Other incomes) หมายถึง รายได้ท่ีมิได้เกิดจากการดำเนินงานตามปกตขิ องกิจการซึ่งเปน็ รายได้ที่ไม่ใช่ รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการนั่นเองในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองในปัจจุบัน เราสามารถหา รายได้เพิม่ จากกจิ กรรมปกติในชีวิตประจำวนั ดังน้ี 1. สรา้ งตารางขน้ั บนั ได อัตราดอกเบ้ียเงินฝาก ของแตล่ ะธนาคาร แล้วเลอื กธนาคาร และลำดับขนั้ ที่ ใหอ้ ตั ราดอกเบยี้ เงินฝากสูงทีส่ ดุ 2. เปลีย่ นบญั ชเี งินฝาก ไปเป็นแบบทใ่ี ห้ดอกเบ้ยี สงู กว่าเงนิ ฝากออมทรัพย์ 3 ยมื เงินจากเครอื ขา่ ยทางสงั คม เชน่ ญาติ หรือ เพอ่ื นฝงู แทนเงินกู้ 4. ขายหนังสอื และตำรา ท่ีใช้แล้ว และเก็บไว้เฉยๆ 5. ใช้บัตรเครดิต ทีม่ กี ารให้ตอบแทนเปน็ การ คืนเงินสด (cash back) 6. ลงทะเบียนสมคั รเป็นสมาชิก รับการสำรวจทางการตลาด (Panel) เพอ่ื รับเงนิ สด 7. ทำงานพิเศษ เป็น freelancing เชน่ ออกแบบบ้าน แปลหนังสอื , ฯลฯ 8. รบั สว่ นลดเงนิ สดเมื่อช้อปปิ้งออนไลน์ หรอื ห้างฯท่ีมีสว่ นลดเงินสด 9. เขียนบล็อก สร้างเวบ็ ไซต์ 10. เขยี นบทความ เชน่ เร่ืองฟงั เพลง, การดหู นงั , ฯลฯ 11. นำเสนอบริการพนื้ ฐาน เชน่ , บริการพ่ีเล้ยี งเด็ก, แมบ่ า้ น, ทำสวน, ภาพวาด, ฯลฯ
37 12. นำเสนอบรกิ ารทม่ี ีทกั ษะ เช่น คำปรกึ ษาดา้ นธุรกิจ การพฒั นาบล็อก การออกแบบโลโก้ ฯลฯ 13. เปลย่ี นงานอดเิ รกของคุณใหเ้ ปน็ รายได้ เชน่ การถา่ ยภาพ, ถา่ ย video, การปลกู กลว้ ยไมฯ้ ลฯ 14. ส่งชนิ้ ส่วน ชงิ โชค 15. ขายสินคา้ ทำด้วยมือ 16. เปลยี่ นการใช้จา่ ยในชวี ติ ประจำวันของคุณให้เป็นเงนิ ฝากออมทรัพย์ โดยการเปน็ สมาชิสหกรณ์ 17. รบั งานเป็นตวั แทนกลุ่มในการศึกษาการตลาด (focus group) 18. รับงานเปน็ นักชอ้ ปปรศิ นา (Mystery shopping) 19. ซอ้ื สินค้าจำนวนมาก และไปขายปลีกบนเวป็ Amazon 20. ขายสนิ ค้าที่ไมไ่ ด้ใชบ้ นอีเบย์ การวางแผนการลดรายจา่ ยและเพม่ิ รายได้ของตนเองและครอบครัว หลกั การใชช้ วี ิตแบบพอเพียงท่ีทำได้ง่ายๆ คือการรจู้ ักบรหิ ารการเงินของตวั เอง มีน้อย ใช้นอ้ ย และร้จู ัก ออม อกี ทั้งต้องรู้จักมวี นิ ัยในการใชจ้ า่ ยเพอ่ื ชีวิตและอนาคตอนั ม่นั คง เพิม่ รายได้ ลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การลงทุนทำมาค้าขาย หาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ โดยอาจ ตอ้ งลงทั้งทนุ ลงทงั้ แรง หรือศึกษาหาความรู้เพ่ิมเตมิ เพอ่ื เปา้ หมายในการเพมิ่ เงินเดอื น หรือหาโอกาสกา้ วหน้าขึ้น ในอนาคต โดยรายได้ในแต่ละเดือนของครอบครวั ควรจัดสรรใชจ้ ่ายอย่างเหมาะสม เช่น ค่าทอี่ ย่อู าศยั ไม่ควรให้มี การผ่อนชำระเกิน 30% ของรายได้ครอบครัว หรือถ้าจะก่อหนี้เงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ ก็ไม่ควรให้มีภาระการผ่อน ชำระเกิน 15% ของรายได้ครอบครัว นอกจากนั้น ค่าอาหารแบ่งใช้ไป 25% ค่าเนื้อผ้าและค่าเดินทาง 10% ค่า สาธารณูปโภค 5% ค่ารักษาพยาบาล 5% และที่สำคัญอย่าลืมเก็บเงินออมหรือเงินทุน 5-10% ของรายได้ต่อ ครอบครวั ฉลาดซ้อื ฉลาดใช้ การ ลดรายจา่ ย คือการฉลาดใช้สิ่งของตา่ งๆ รอบตัวใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด และตอ้ งฉลาดซื้อดว้ ยเลือกซ้ือ แต่สินค้าที่คุ้มค่าคุ้มประโยชน์ และฉลาดใช้ด้วยการรักษาสิ่งของต่างๆ ให้คงอยู่ในสภาพที่เหมาะกับการใช้งานได้ นานๆ รวมถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายจำพวก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ที่สำคัญคือการฉลาดใช้ชีวิตดูแลสุขภาพให้ แขง็ แรง สมบรู ณ์ เพราะการเจ็บป่วย ย่อมนำไปสคู่ า่ ใช้จา่ ยทไ่ี มจ่ ำเป็น วางแผนเกษยี ณอายุ เพราะ เราไม่ไดม้ ีแรงทำงานไปตลอดชีวติ เมอ่ื ถึงจดุ หนง่ึ ท่ีต้องหยุดทำงาน ดังน้นั การวางแผนการเงิน ในชว่ งเกษียณอายุการทำงานจึงเป็นส่งิ ทไี่ ม่ควรมองข้าม การหาระยะเวลาแห่งช่วงชวี ติ ปจั จุบนั นี้มนุษย์มีอายุ เฉลี่ยอย่ไู ด้ถึง 72-75 ปี และดว้ ยเทคโนโลยีทางการแพทยป์ ัจจบุ นั ทำใหม้ นษุ ยม์ อี ายนุ านข้นึ ซงึ่ อาจบวกเพม่ิ ได้ ถึง 20 ปี จากค่าเฉลี่ยนั้น สิ่งที่ควรคำนึงในการเก็บเงินเพื่ออายุช่วงเกษียณคือระดับเงินเฟ้อ ที่มีแนวโน้มหรือคาด ว่าน่าจะเป็นไปในช่วงเวลาของการเกษียณอายุ ซึ่งอาจทำให้เงินออมที่คุณหามาด้วยความยากลำบากในแต่ละปี ดอ้ ยค่าลงอย่างชว่ ยไม่ได้ ดงั นน้ั เราต้องการเงินประมาณ 70-75% ของ รายไดก้ ่อนการเกษียณอายุเพ่ือเอาไว้เป็น ค่าใช้จ่ายยามเกษียณอายุ โดยเฉพาะ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพที่จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเราแก่ตัวลงโดยจำนวนเงินน้ี อาจแตกต่างกันไป ข้ึนอยกู่ ับวิถหี รือไลฟส์ ไตลข์ องแต่ละคน
38 บนั ทึกค่าใช้จ่าย เคย คิดบา้ งไหม ว่าทำไมเงนิ ทห่ี ามาทัง้ เดือนหมดไปอยา่ งรวดเรว็ สาเหตกุ ค็ ือ เพราะเราขาดความยับยง้ั ชั่ง ใจใช้จา่ ยโดยไมจ่ ำเปน็ ขาดการวางแผนการใช้เงนิ ที่ดี มารตู้ ัวอีกทีก็ไม่มีจะจ่ายแลว้ หากอยากปรบั เปล่ียนการใช้ จา่ ยให้รดั กมุ กวา่ เดมิ วธิ งี ่ายท่ีสดุ คอื ต้องบันทึกคา่ ใช้จา่ ยทกุ บาท ทุกสตางค์ ทจ่ี ่ายออกไปในแตล่ ะวนั หมัน่ สรา้ ง หลกั ฐานเตือนตัวเองใหเ้ ห็นว่าในแตล่ ะเดือนมีค่าใช่จา่ ยอะไรบ้าง ท่ีจำเปน็ และไม่จำเป็นเพ่อื จะได้รู้วา่ คา่ ใช้จ่ายสงิ่ ไหนควรตดั ทง้ิ ไปในเดือนต่อไป บริหารเงินออม สุดท้ายเมอื่ คุณสามารถบรหิ ารรายได้ และคา่ ใชจ้ า่ ยของคุณอย่างรัดกมุ แลว้ เงนิ สว่ นท่คี ุณเกบ็ ไดค้ ือเงนิ ออม โดยอาจนำไปฝากธนาคาร ซ้ือกรมธรรมป์ ระกันชวี ติ หรอื นำไปลงทุน เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนมากวา่ เงนิ เฟ้อ ท่ีเป็นอยูใ่ นปัจจบุ นั หรือจะเพิ่มขึ้นในอนาคต การนำเงนิ ไปฝากธนาคาร คงเป็นวิธบี ริหารเงินออมที่ดีอกี วิธีหนงึ่ ซ่งึ ผ้อู อมจะได้รบั ดอกเบยี้ จากการฝากเงนิ จำนวนดอกเบ้ยี ท่ไี ดร้ ับก็ข้ึนอยู่กบั ประเภทของการฝาก เช่น เงินฝาก ออมทรพั ย์ เงนิ ฝากประจำ หรอื เงนิ ฝากกระแสรายวัน ผู้ออมควรเลือกประเภทเงนิ ฝากให้เหมาะกบั ตัวเอง หาก ตอ้ งการใช้เงินบอ่ ยครัง้ ต่อวัน กเ็ ลอื กฝากเงินแบบออมทรัพย์ ซึง่ สามารถฝาก-ถอน ได้หลายคร้ังต่อวนั ธนาคาร จะคิดอัตราดอกเบย้ี รายวนั แตก่ รณีทีต่ ้องการดอกเบยี้ มากกวา่ การฝากแบบออมทรัพย์ ผ้อู อมสามารถเลือกฝาก เงินแบบฝากประจำ ซ่งึ มรี ะยะเวลาในการฝากต่างกัน เชน่ 3 เดอื น 6 เดือน 12 เดือน หรอื ฝากประจำรายเดือน ยกเวน้ ภาษี แตห่ ากต้องการใชเ้ ชค็ ในการส่งั จ่าย กส็ ามารถใช้บรกิ ารแบบเงนิ ฝากกระแสรายวัน กลยุทธ์ : ลดรายจา่ ย เพ่ิมรายได้ สรา้ งภมู คิ ้มุ กัน เมอ่ื ทราบว่าเงนิ ในกระเป๋าจะไม่พอใชใ้ นอนาคต หรอื ต้องการเงินลดรายจ่ายและเพมิ่ รายไดเ้ พ่ือสร้างความ มน่ั คงทางการเงนิ หรือท่เี รยี กวา่ \"สรา้ งภมู คิ ุ้มกนั ทางการเงิน\" ใหก้ ับตนเองนน้ั จะมีวิธใี ดบ้าง ขอสรุปพอสังเขป เพื่อสร้างความเข้าใจงา่ ยๆ ดงั นี้ กลยทุ ธท์ ่ี 1 ลดรายจา่ ย บางทา่ นไมท่ ราบว่าในแตล่ ะวัน ตนเองได้ใช้จา่ ยเงนิ ไปมากน้อยเทา่ ไหร่ เพราะไม่มกี ารจดบันทกึ ค่าใชจ้ ่าย เอาไว้ ดงั นน้ั กลยุทธใ์ นข้อนี้ ขอเรมิ่ ตน้ จากเร่ืองใกล้ตวั ดงั น้ี 1. ทำการจดบนั ทึกค่าใชจ้ า่ ยประจำวนั เพอ่ื จะไดท้ ราบวา่ ในแต่ละวนั มีรายจ่ายในเรื่องอะไร จำนวนทา่ ไหร่บ้าง เรื่องไหนจำเปน็ ต้องจ่าย เร่อื งไหนเปน็ รายจ่ายฟุม่ เฟอื ย หากเรอ่ื งไหนเป็นรายจ่ายท่ีไมส่ ำคัญและฟุ่มเฟือย ก็ควรงดและตัดออกไป 2. ลดและงด อาหารจำพวก ชา กาแฟ น้ำอดั ลม ขนมหวาน เพราะมีราคาแพงและสิน้ เปลอื งค่าใชจ้ า่ ยโดย ไม่จำเป็น เช่น ดื่มกาแฟเยน็ วันละ 1 แก้วๆ ละ 50 บาท 1 เดอื น เสยี คา่ ใช้จา่ ยกาแฟ จำนวน 50X30เทา่ กับ 1,500 บาท 1 ปี เทา่ กบั 1,500x12 เทา่ กับ 18,000 บาท 3. เปล่ียนจากการใชโ้ ทรศัพท์รายเดือนมาเป็นแบบเตมิ เงิน เพอ่ื ควบคมุ ค่าใช้จ่ายในแตล่ ะเดือน ไม่ให้มาก จนเกินไป หรอื หมนั่ ตรวจสอบโปรโมช่ันโทรศัพท์ของตนเอง และเปลย่ี นไปใชแ้ พค็ เกต็ หรือโปรโมชนั่ ที่เหมาะสมกบั ตนเองมากท่ีสุด เพอื่ ประหยัดเงิน การเปลีย่ นโทรศัพท์จากรายเดอื นมาเปน็ แบบเติมเงนิ จะทำให้ไมม่ ีขอ้ ผูกมัดเรื่อง ค่าใช้จา่ ยในแต่ละเดอื น 4. ลดการซ้อื ของฟุ่มเฟอื ยที่ไมจ่ ำเป็น เชน่ สนิ ค้าแบรนด์เนมราคาแพงๆ ไม่วา่ จะเป็นเส้ือผา้ นำ้ หอมาฬิกา โทรศัพท์มือถอื รุ่นใหมๆ่ หากจำเป็น ควรซื้อไว้ใช้ในปริมาณท่ีเหมาะสมเทา่ นัน้ ยกตัวอย่าง บางคนซ้ือเสอ้ื ผา้ มาเกบ็ ไว้ในปรมิ าณมาก และบางชดุ ไมเ่ คยนำออกมาสวมใสจ่ นเวลาผา่ นไปมีร่างกายที่อ้วนข้นึ หรือผอมลง ก็ไม่สามารถวม ใส่ได้ก็ท้งิ เสอ้ื ผ้าชุดนัน้ ไปอย่างน่าเสยี ดาย น้ันคือการท้งิ เงินไปน่นั เอง
39 5. ลดการรบั ประทานทานอาหารนอกบา้ นหรือลดการรับประทานอาหารจำพวก Fast Food ลงเพราะมี ราคาแพงแถมทำใหร้ ่างกายได้รับแป้ง ไขมัน น้ำตาล โซเดียม และพลังงานเกนิ ความพอดี ทำใหเ้ กิดโรคอ้วน โรค ความดันโลหิตสงู หรอื โรคหัวใจตามมา 6. ประหยัดการใชน้ ำ้ และไฟฟ้าลง หรอื ใชเ้ ท่าทจี่ ำเปน็ วธิ ีนี้จะทำให้ใบแจง้ หนีค้ ่าไฟฟ้าและประปาลดลงได้ ในแตล่ ะเดือน 7. ปลกู พืชผกั สวนครัวไวร้ ับประทาน วธิ ีนี้ จะได้ลดคา่ ใชจ้ า่ ยและได้รับประทานผักปลอดสารพษิ ไป พรอ้ มๆ กัน กลยุทธท์ ่ี 2 เพิ่มรายได้ 1. ขยะจำพวก แก้ว กระดาษ หรอื หนังสอื พิมพ์ สามารถเปลยี่ นเปน็ เงินได้จำนวนมาก โปรดอยา่ มองข้าม เช่น ซ้อื น้ำดื่มบรรจขุ วดมาด่ืม เมื่อดมื่ หมดแลว้ อย่าทิ้งขวด ใหท้ ำการเกบ็ รวบรวมใสถ่ ุงไว้ เม่อื ได้ในปริมาณมาก พอสมควร ก็นำไปขายให้กับร้านรบั ซื้อของเกา่ เพียงเทา่ น้ีก็สามารถสรา้ งรายไดเ้ พ่ิมขึ้น และช่วยลดขยะของโลกใบ ลง สามารถตรวจสอบราคารับซื้อของเก่าทุกชนิดไดท้ น่ี ่ี 2. หลงั จากทีเ่ ปล่ยี นจากการใช้โทรศพั ทแ์ บบรายเดอื น มาใช้แบบเตมิ เงนิ ขอแนะนำใหส้ มคั รเป็นตัวแทน เตมิ เงนิ มือถือเพ่ือรับเติมเงินมือถือ เพ่ือสรา้ งรายไดเ้ พ่ิม และไวส้ ำหรับเตมิ เงินมอื ถอื ใหก้ ับตวั เองและคนในรอบครวั เรยี กวา่ เปล่ยี นรายจา่ ยเปน็ รายได้3. สรา้ งรายได้เสรมิ ด้วยการคลกิ ชมโฆษณาทางเวบ็ ไซต์ หรือเรยี กวา่ Pay Per Click : PPC 4. อกี หนึง่ วิธใี นการหาเงนิ เพ่ิมโดยจบั เสือมือเปล่า หากขยันและมที ักษะเขียนเวบ็ ไซต์หรือเวบ็ บลอ็ ก สามารถติดต่อนำโฆษณามาติดทเ่ี ว็บไซตห์ รือเว็บบล็อกของตวั เอง เมอ่ื มีผู้เขา้ มาชมเวบ็ ไซตแ์ ละคลกิ ชมโฆษณากจ็ ะ ไดร้ บั เงินทนั ที (จำนวนเงนิ เป็นไปตามทเี่ วบ็ ไซต์กำหนด ตัง้ แต่ 0.01 บาท 0.80 บาท หรอื 4 บาท ต่อการคลิ๊ก 1 ครั้ง ไม่ซ้ำกัน) 5. หารายได้อิสระทำเสรมิ เพ่ิมรายได้ เช่น ทำอาหาร/ขนมขาย เพม่ิ เตมิ หากท่านมีฝีมือทำอาหารอรอ่ ย วธิ ีนี้นา่ สนใจและสนับสนุนใหท้ ำอยา่ งยิ่ง 6. สมคั รทำธรุ กิจขายตรง เช่น แอมเวย์ กิฟฟารนี เปน็ ตน้ วิธีนีข้ ้นึ อยกู่ บั ความช่ืนชอบส่วนตวั ในการสมคั ร เป็นนกั ธรุ กจิ อสิ ระของแต่ละท่าน ซ่งึ วิธีนกี้ ็สามารถสรา้ งรายได้เสริมได้ดีอีกวธิ ีหน่ึง กลยทุ ธ์ที่ 3 สร้างภูมคิ ุม้ กัน วิธสี ร้างภมู คิ ุ้มกันทางการเงินทีด่ ีท่สี ุดและคลาสสิคทสี่ ุด คือ การออมเงิน และนำบางสว่ นของเงินท่ีเหลือ จากค่าใชจ้ า่ ยตา่ งๆ ไปลงทุนเพิ่ม ดังนี้ 1. การฝากเงินออมไวก้ บั ธนาคาร ซง่ึ ปจั จบุ ันได้รบั ผลตอบแทนนอ้ ยมากเพยี ง 0.75% ต่อปี แตห่ ากไป ฝากไว้กบั สหกรณอ์ อมทรัพย์ต่างๆ ก็อาจจะไดด้ อกเบยี้ เพ่ิมข้ึน ท้งั น้ี ข้นึ อยู่กับการยอมรับสภาพความเสยี่ งทจ่ี ะ เกดิ ขึน้ ของแต่ละท่านในการตัดสนิ ใจ 2. การลงทนุ ในตลาดทุน (เล่นหุน้ ) การลงทนุ กับทองคำ การลงทุนในพันธบตั ร หรอื หนุ้ กู้ ในการลงทนุ วธิ ี นี้ มีปัจจัยหลายด้านทเี่ ข้ามาเกยี่ วขอ้ งและมีการเปลี่ยนแปลงท่รี วดเรว็ ดงั นน้ั การลงทนุ วธิ ีนี้ตอ้ งอาศัยความ เช่ยี วชาญและขอ้ มูลหลากหลายด้านประกอบการตัดสนิ ใจลงทนุ ผลู้ งทุนตอ้ งศกึ ษาข้อมูลให้ดที ่สี ดุ ก่อนการ ตัดสินใจ 3. การซื้อประกันภัย ประกนั สขุ ภาพ หรอื ประกันชวี ิต ควรตรวจสอบรายละเอยี ด เง่อื นไข ของกรมธรรม์ ใหด้ ีและรอบคอบก่อนการตัดสินใจ รวมทงั้ นำปจั จยั อตั ราดอกเบ้ยี อัตราเงนิ เฟ้อ คา่ เงนิ ระยะเวลาเข้ามาคำนวณ ผลตอบแทนก่อนการลงทุนทุกคร้ัง 4. วธิ สี ดุ ทา้ ย คอื การน้อมนำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง มาปรับใชแ้ ละปฏบิ ตั ิให้เปน็ วิถชี วี ติ ของ ตนเอง
Search