Buddhist teachings

หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา

พระรัตนตรัย• พระรัตนตรัย แปลวา่ แกว้ อนั ประเสริฐหรือสิงลาํ คา่ สิงทีควร เคารพบูชา สูงสุดในพระพทุ ธศาสนา ๓ ประการ ไดแ้ ก่ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์

• พระพทุ ธ หมายถึง ผ้กู ่อตงั พระพทุ ธศาสนา และเป็ นผ้คู ้นพบพระธรรมด้วยพระองค์เอง• พระธรรม หมายถงึ คาํ สงั สอนของ พระพทุ ธเจ้า• พระสงฆ์ หมายถงึ ชายทีบวชเป็ นพระภกิ ษุ ในพระพทุ ธศาสนา

หลกั ธรรมทีนกั เรียนควรศึกษา๑.พระพทุ ธคุณ ๓ คือ พระคณุ ของพระพทุ ธเจ้าทีทรงเสียสละ อนั ยิงใหญ่ ๓ ประการ ๑.พระปัญญาคณุ หมายถึง พระพทุ ธเจ้าเป็นผ้เู ลศิ ด้วยปัญญาสามารถรู้ การเกิดและการตายของสตั ว์โลก จนค้นพบความจริง ๔ ประการ -รู้ทกุ ข์ -รู้เหตเุ กิดความทกุ ข์ -รู้ความดบั ทกุ ข์ -รู้ข้อปฏิบตั ขิ องการดบั ทกุ ข์ ซงึ เรียกวา่ “อริยสจั 4”

๒.พระบริสทุ ธิคณุ หมายถงึ จิตของพระองค์บริสทุ ธิผอ่ งใส สงบ สะอาดจนตรัสรู้หลดุ พ้นจากกิเลศ คอื -ไมโ่ ลภ -ไมโ่ กรธ -ไมห่ ลง๓.พระกรุณาธิคณุ หมายถงึ หลงั จากทีพระพทุ ธเจ้าตรัสรู้แล้ว ทรงสงั สอนประชาชนให้รู้หลกั ธรรม โดยไมร่ ู้จกั เหน็ดเหนือย เป็นเวลา ๔๕ ปี

๒.หลกั กรรม• กรรม หมายถงึ การกระทําทางกาย ทางวาจา ทีทําด้วยเจตนาดแี ละเจตนาชวั• กรรมแบง่ ออกเป็ น ๒ ประเภท คอื กรรมดี กบั กรรมชวักรรมดี กรรมชวั- ความไมโ่ ลภ - ความโลภ- ความไมโ่ กรธ - ความโกรธ- ความไมห่ ลง - ความหลง

• กฎแห่งกรรม หมายถึง กฎของการกระทํา ผ้ใู ดกระทําสงิ ใดไว้ยอ่ มได้รับ ผลกรรมนนั เช่น หนีโรงเรียน (ทํากรรมไมด่ )ีกรรม คือ หนีโรงเรียนผลของกรรมคอื โดนครูลงโทษ ผลการเรียนตาํ เป็ นคนไมม่ ีระเบยี บวนิ ยั มีผลตอ่ การดําเนินชีวิตในอนาคต

• เดก็ ตงั ใจเรียน (ทํากรรมด)ีกรรม คือ ทํากรรมดี ตงั ใจเรียนผลของกรรม คือ เป็ นทีรักใคร่ชืนชม ประสบความสําเร็จในชีวติ ได้ ประพฤตปิ ฏิบตั ดิ ี ผลการเรียนดี ได้งานทําทีดี

๓.ศรัทธา ๔• ศรัทธา ๔ หมายถึง ความเชือ ความเลือมใสในความดี หรือ ความสามารถของผ้อู ืน ไมใ่ ชแ่ บบงมงาย เป็ นความเชือทีเกิดขนึ จาก จิตใจ พระพทุ ธศาสนาสอนให้มี ศรัทธา ๔ คือ๑.เชือในหลกั กรรม คือ เชือวา่ กรรมทีกระทําทกุ อยา่ งไมว่ า่ จะดีหรือชวั ยอ่ มได้รับผลกรรมตามเหตปุ ัจจยั นนั ๆ เช่น - นกั เรียนทีตงั ใจเรียน ผลทีได้คอื เรียนสาํ เร็จ มีอนาคตทีดี มีความสขุ - นกั เรียนทีขีเกียจเรียน ผลทีได้คอื เรียนไมส่ ําเร็จ ทํางานลาํ บาก ประสบกบั ความทกุ ข์

๒.เชือในกฎแหง่ กรรม คอื เชือวา่ คนทีทําความดยี อ่ มได้รับผลดี คนทีทํา ความชวั ยอ่ มได้รับผลชวั ตอบแทน เชน่ - ทําในสงิ ทีดี ผลทีได้คอื ชีวิตมีความสขุ- ทําในสงิ ทีไมด่ ี ผลทีได้คือ ชีวิตมีความทกุ ข์

3.เชือวา่ สตั ว์โลกมกี รรมเป็ นของตนเอง คือ เชือวา่ คนและสตั ว์ทีถือกําเนิด ขนึ บนโลกนีมีความแตกตา่ งกนั เช่น - คนทีเกิดมาสวย เพราะจติ ใจดีงาม มีความเมตตากรุณา มีความ ออ่ นโยน - สว่ นคนทีเกิดมาไมส่ วย เพราะเป็ นคนขีโกรธ จิตใจหยาบกระด้างไมม่ ี เหตผุ ล

• คนทีเกิดมามีอายยุ ืน เพราะเป็ นผ้ทู ีมีความเมตตากรุณาตอ่ สตั ว์เว้นจาก การฆา่ สตั ว์• คนทีมีอายสุ นั เพราะเป็ นผ้ทู ีมีนิสยั โหดร้าย ชอบฆา่ สตั ว์ ทารุณสตั ว์

๔.เชือในพระปัญญาการตรัสรู้ของพระพทุ ธเจ้าเป็ นความจริง คือ เชือวา่ พระพทุ ธเจ้ามพี ระคณุ อนั ใหญ่หลวงทีสงั สอนให้ผ้คู นทีเลอื มใสศรัทธา ในพระพทุ ธศาสนาได้พ้นจากความทกุ ข์ เพราะฉะนนั เราจะต้องมีความ ศรัทธาคําสอนของพระองค์