นวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ Learning Loss ป.4

1

คำนำ คณะครูโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวัสดิร์ าษฎรบ์ ำรุง) ได้จัดทำแบบฝกึ ทกั ษะฉบับน้ีข้ึนเพ่ือ ฝึกและพัฒนาฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ โดยการบูรณาการจาก 5 กลุ่มสาระ คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม และสุข ศึกษา พลศึกษามีจุดเน้นเพื่อต้องการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม สาระ จึงไดจ้ ดั ทำแบบฝึกทักษะเล่มน้ีเพอ่ื ใชส้ ำหรบั จดั การเรยี นการสอนในชน้ั เรยี น แบบฝึกทกั ษะเล่มนี้ จัดเรียงลำดบั ของเนื้อหาให้สอดคลอ้ งกบั การพัฒนาของผู้เรียน โดย ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การอ่าน คำราชาศัพท์ ศัพท์ภาษาอังกฤษ แม่สูตรคูณ และส่ิงต่างๆรอบตัว ซึง่ เปน็ พนื้ ฐานที่สำคญั ต่อการนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ผเู้ รยี นจะได้ทำกิจกรรม ฝึกปฏิบัติ ตอบ คำถาม เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ และสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ ในการจัดทำแบบฝึกทักษะเล่มน้ี ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ทรงคุณวุฒิ ครูผู้สอน และสถานศึกษา จึงขอขอบคุณไว้ ณ ทีน่ ้ี คณะครูโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) หวังเป็นอย่างยิง่ วา่ แบบฝึกทกั ษะเลม่ นี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เรียน ที่จะช่วยให้ผู้เรียนฝึกและพัฒนาฟื้นูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ คณะผู้จดั ทำ 2

เรือ่ ง สารบญั คำนำ หนา้ สารบญั ก ข คำชแ้ี จงสำหรบั นกั เรียน ค แบบฝึกทักษะบรู ณาการ 5 9 - วิชาภาษาไทย 17 - วิชาวิทยาศาสตร์ 19 - วชิ าสังคมศกึ ษา 30 - วชิ าคณิตศาสตร์ 30 - วชิ าองั กฤษ - วิชาสขุ ศึกษา และพลศกึ ษา 3

คำช้แี จงสำหรบั นักเรียน เมื่อนักเรียนนำแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ไปใช้ มีข้อควร ปฏบิ ัติดงั นี้ 1. นกั เรียนทำแบบฝกึ ทักษะเพอ่ื พฒั นาภาวะถดถอยทางการเรยี นรอู้ ยา่ งตัง้ ใจ 2. นักเรียนมีความซื่อสัตย์ โดยไม่คัดลอกเพื่อน หรือให้เพื่อนทำให้ หรือแอบดูคำตอบ กอ่ นทำแบบฝึกทกั ษะ 3. เมื่อนักเรียนไม่เข้าใจแบบฝึกทักษะ ให้นักเรียนสามารถถามจากครูผู้สอนได้ ตลอดเวลา 4. นักเรียนตอ้ งทำแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ครั้งละ 1 แบบ ฝึกเทา่ นน้ั 4

แบบประเมินการเขยี นคำพน้ื ฐาน ชดุ ท่ี ๑ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเขียนคำพน้ื ฐานตามคำอา่ นทกี่ ำหนดให้ ถา้ เขียนถูก ใส่เครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งทเ่ี ขยี นได้ ถา้ เขยี นถูผิด ใสเ่ ครอ่ื งหมาย x ในช่องท่ีเขยี นไม่ได้ ที่ คำอา่ น เขียนคำศัพท์ ประเมนิ การเขียน เขยี นได้ เขยี นไมไ่ ด้ ๑ กด - หมาย ๒ กด - เกน ๓ แค - ร็อด ๔ โคด - สะ - นา ๕ ทา - ยาด ๖ ปรา - กด ๗ สำ - มะ - นา ๘ สี - สะ ๙ อดุ - ทะ - ยาน ๑๐ อะ - นุ - ยาด 5

แบบประเมนิ การเขยี นคำพ้นื ฐาน ชดุ ที่ ๒ คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนเขยี นคำพน้ื ฐานตามคำอา่ นท่กี ำหนดให้ ถ้าเขียนถูก ใสเ่ ครอ่ื งหมาย ✓ ในช่องท่เี ขียนได้ ถา้ เขยี นถผู ิด ใสเ่ ครือ่ งหมาย x ในชอ่ งทเี่ ขยี นไม่ได้ ท่ี คำอา่ น เขยี นคำศพั ท์ ประเมินการเขยี น เขยี นได้ เขยี นไม่ได้ ๑ กะ - เสยี น - อา - ยุ ๒ กนั - โชก ๓ โค - ต้า ๔ ประ - ดิด ๕ ยุก – โบ - ราน ๖ พูม - ปัน - ยา ๗ มะ - หัด - สะ - จนั ๘ สัง – ขะ - หยา ๙ วดั - ทะ – นะ - ทำ ๑๐ อี - หยบิ 6

แบบประเมินการเขียนคำพื้นฐาน ชดุ ที่ ๓ คำชแี้ จง ให้นักเรียนเขยี นคำพืน้ ฐานตามคำอ่านที่กำหนดให้ ถ้าเขยี นถูก ใสเ่ ครอ่ื งหมาย ✓ ในช่องทเ่ี ขยี นได้ ถา้ เขียนถผู ดิ ใสเ่ คร่อื งหมาย x ในชอ่ งท่เี ขยี นไม่ได้ ท่ี คำอา่ น เขียนคำศัพท์ ประเมินการเขยี น เขียนได้ เขยี นไมไ่ ด้ ๑ ต้น - กะ - ถิน ๒ คะ - มะ - นา - คม ๓ เดยี - รัด - ฉาน ๔ ปะ - เรียน ๕ มะ - หอ - ระ - สบ ๖ มกั - คุ - เทด ๗ สี – สะ - เกด ๘ สาบ - สนู ๙ เวด - มน ๑๐ อัด - สะ - จัน 7

แบบประเมนิ การเขยี นคำพื้นฐาน ชุดท่ี ๔ คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเขียนคำพนื้ ฐานตามคำอ่านทก่ี ำหนดให้ ถา้ เขยี นถกู ใสเ่ คร่ืองหมาย ✓ ในช่องที่เขียนได้ ถา้ เขยี นถูผิด ใสเ่ ครือ่ งหมาย x ในช่องทีเ่ ขียนไม่ได้ ท่ี คำอ่าน เขียนคำศพั ท์ ประเมินการเขยี น เขยี นได้ เขยี นไมไ่ ด้ ๑ กรงุ - รัด - ตะ นะ - โก -สนิ ๒ กน - ไก ๓ ขะ – หมี – ขะ - หมนั ๔ ซาม - ไว ๕ นกั - ปราด ๖ บนิ - ทะ บาด ๗ ปราด - ทะ - หนา ๘ ทด – สะ - กัน ๙ สะ - เหน่ ๑๐ โสก - สนั 8

วิทยาศาสตรน์ ่ารู้ เร่อื งการมองสิง่ ต่างๆ ผ่านวัตถุทนี่ ํามากนั้ 9

ใบงาน คะแนนเต็ม 10 วิชาวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง การมองเห็นสง่ิ ตา่ งๆผา่ นวตั ถุ คะแนนทไี่ ด้ ช่อื ....................................................................ชน้ั .............เลขท่.ี ........... คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นทำเคร่ืองหมำย ✓ ลงในช่องตวั กลำงแต่ละชนิดใหถ้ ูกตอ้ ง ท่ี สสารและวัตถตุ ่างๆ ชนดิ ของตัวกลาง โปร่งใส โปรง่ แสง ทบึ แสง 1 ลูกบอล 2 กล่องลงั 3 น้ำ 4 กระจกฝ้ำ 5 ตกุ๊ ตำหมี 6 ตู้ไม้ 7 ขวดแกว้ ใส 8 กระดำษสี 9 โอ่งมงั กร 10 แว่นขยำย 11 ไมป้ ิงปอง 12 กระดำษไข 13 กระจกเงำ 14 แว่นสำยตำ 15 อำกำศ 16 แผน่ พลำสติกใส 17 แผน่ อลูมเิ นียม 18 กระดำนดำ 19 ช้อน 20 หมอก ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมิน (........................................................................) 10

วิทยาศาสตรน์ ่ารู้ เรอ่ื งมวลและแรงโน้มถว่ งของโลก เคยกนิ แอปเป้ิลหรอื ไม่ แอปเป้ิลบางผลมรี สหวาน บางผลมรี สเปรย้ี ว กลา่ วกนั วา่ การกนิ แอปเป้ิลวนั ละผล ทาํ ใหห้ า่ งไกลจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ ได้ รหู้ รอื ไม่วา่ ผลแอปเป้ิล กค็ อื มวลของแอปเป้ิลนนั่ เอง มวลเป็น ปรมิ าณเน้อื ของสสารทงั้ หมดท่ี ประกอบกนั เป็นวตั ถุ มหี น่วยเป็นกรมั หรอื กโิ ลกรมั มวลของวตั ถุจะไม่ เปลย่ี นแปลงไม่ว่าวตั ถจุ ะไปอยู่ ทใ่ี ดบนโลก หรอื ในอวกาศ แต่ถา้ มเี น้อื ของวตั ถุ บางสว่ นหลุดออกไปหรอื เพม่ิ ขน้ึ มา มวลของวตั ถจุ งึ จะ เปลย่ี นแปลง น้ําหนกั เหมอื นกบั มวลของแอปเป้ิลหรอื ไม่ ถา้ ยอ้ นเวลาไปราว 3๐๐ กว่าปีกอ่ น แอปเป้ิลถอื เป็นจดุ เรมิ่ ตน้ การคน้ พบของนกั วทิ ยาศาสตร์ ชาวองั กฤษท่านหน่งึ นนั่ คอื เซอร์ ไอแซก นิวตนั ทต่ี งั้ ขอ้ สงสยั จากการสงั เกตผลแอปเป้ิลทห่ี ล่น จาก ตน้ ลงสพู่ น้ื ซง่ึ ทาํ ใหน้ วิ ตนั คน้ พบว่าโลกมแี รงดงึ ดดู วตั ถหุ รอื แรงโน้มถ่วงซง่ึ มที ศิ ทางเขา้ สู่ ศูนยก์ ลาง โลก และการทโ่ี ลกมแี รงโน้มถ่วงกระทาํ กบั วตั ถุ ทาํ ใหว้ ตั ถมุ นี ้ําหนกั เพอ่ื เป็นเกยี รติ แก่ เซอร์ ไอแซก นวิ ตนั นกั วทิ ยาศาสตรจ์ งึ กําหนดหน่วยของแรงเป็น นิวตนั น้ําหนกั ซง่ึ เป็น แรงชนิดหน่งึ จงึ มหี น่วย เป็นนวิ ตนั ดว้ ย 11

ใบงาน คะแนนเต็ม 10 วชิ าวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง แรงโนม้ ถ่วงของโลก คะแนนท่ไี ด้ ชื่อ......................................................................ชน้ั .............เลขท.่ี ........... แรง ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมนิ (........................................................................) 12

วิทยาศาสตรน์ ่ารู้ การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงเป็นกระบวนการสรา้ งอาหารของพชื อาหารทพ่ี ชื สรา้ งขน้ึ คอื น้ําตาล พชื ใชน้ ้ํา แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดแ์ สงและคลอโรฟิลลใ์ นใบพชื ในกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ผลจากการ สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื นอกจากจะได้ น้ําตาลแลว้ ยงั ไดแ้ ก๊สออกซเิ จนและน้ําอกี ดว้ ย คลอโรฟิลลห์ รอื สารสเี ขยี วจะพบอยบู่ รเิ วณทม่ี สี เี ขยี วของพชื ดงั นนั้ การสงั เคราะห์ ดว้ ยแสงของพชื สว่ นใหญจ่ ะเกดิ ขน้ึ ทใ่ี บ อย่างไรกต็ าม นอกจากใบแลว้ ส่วนอ่นื ๆ ของพชื กส็ ามารถสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้ เช่น ลําตน้ รากของกลว้ ยไม้ ในกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง พชื จะใชค้ ลอโรฟิลลด์ ดู พลงั งานจากแสงอาทติ ย์ รบั แก๊ส คารบ์ อนไดออกไซด์จากอากาศเขา้ ทางปากใบ และใชข้ นรากดดู น้ําจากดนิ แลว้ ลาํ เลยี งสง่ มาตามท่อลําเลยี ง จากรากไปสลู่ าํ ตน้ และใบ อาหารทไ่ี ดจ้ ากการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง คอื น้ําตาล พชื จะเปลย่ี นน้ําตาลเป็นแป้ง เกบ็ สะสมไวต้ าม ราก ลําต้น ใบ หรอื ลําเลยี งไปยงั สว่ นอน่ื ๆ ของพชื ทส่ี รา้ งอาหารไมไ่ ด้ เพอ่ื ใหน้ ําไปใชป้ ระโยชน์ 13

ใบงาน คะแนนเตม็ 10 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื คะแนนทไี่ ด้ ชอ่ื ......................................................................ชน้ั .............เลขที่............ คาชีแ้ จง นำข้อควำมท่ีกำหนดใหไ้ ปเตมิ ในแผนภำพให้ถูกต้อง จงตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกต้อง 1. สำรสีเขียวทอ่ี ยใู่ นพชื เรยี กว่ำอะไร และมีควำมสำคญั อย่ำงไรในกระบวนกำร สังเครำะหด์ ว้ ยแสง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. น้ำที่พืชใช้ในกระบวนกำรสังเครำะห์ดว้ ยแสงมำจำกทีใ่ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. อำหำรทไ่ี ด้จำกกำรสังเครำะหด์ ้วยแสงคืออะไร และพืชเก็บสะสมไวใ้ ชป้ ระโยชน์ อยำ่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .....................................................ผูป้ ระเมิน 14 (........................................................................)

วิทยาศาสตร์น่ารู้ เร่อื ง สถานะของสาร สมบตั ิของสาร ตวั อย่างของสาร พลาสติก ไม้ หิน เหลก็ จะมปี ริมาตรและรปู ร่างคงที่ ทอง เนื่องจากโครงสรา้ งภายในของสารมี ขวดพลาสติก แก้วน้า เงิน อนุภาคเรยี งชิดติดกนั ทาให้อนุภาค เหรียญ สารไม่สามารถเคลือ่ นที่ได้ ดินสอ ไมบ้ รรทดั ยางลบ ของแข็ ง ตวั อยา่ งของสาร สถานะของ ของเห อากาศ แกส๊ ฮีเลียม สาร ลว แกส๊ หงุ ต้ม ไอน้า สมบตั ิของสาร จะมปี ริมาตรคงที่แต่มรี ปู รา่ งเปล่ียนไป แกส๊ ตามภาชนะ เน่ืองจากโครงสรา้ งภายใน ของสารมีอนุภาค ไมเ่ รยี งชิดติดกนั สมบตั ิของสาร ทาให้อนุภาคภายในสามารถเคลอ่ื นที่ จะมีปริมาตรและรปู รา่ งไมค่ งท่ี ได้ เปล่ียนไปตามภาชนะที่บรรจุ เน่ืองจากโครงสร้างภายในมี ตวั อย่างของสาร อนุภาคท่ีห่างกนั มากทาให้ น้า น้ามนั พืช นม น้าผึง้ อนุภาคสารสามารถเคล่อื นที่ได้ น้ามนั เบนซิน แอลกอฮอล์ อยา่ งอิสระ 15

ใบงาน คะแนนเตม็ 10 วิชาวิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง สถานะของสาร คะแนนทไ่ี ด้ ชื่อ....................................................................ชน้ั .............เลขท.่ี ........... คาชี้แจง เลอื กสถำนะของสำรใหต้ รงกบั ลกั ษณะของสำรท่ีกำหนดให้ ของแขง็ ของเหลว แกส๊ 1. มอี นภุ ำคอย่หู ่ำงกนั มำกทำใหม้ ชี ่องว่ำงระหว่ำงอนุภำคมำก 2. ไม่สำมำรถรกั ษำรูปร่ำงใหค้ งที่ได้ แตป่ รมิ ำตรคงที่ 3. มีปริมำตรเท่ำกับภำชนะทีบ่ รรจุ 4. มีรปู ร่ำงคงทไี่ มเ่ ปล่ียนไปมำ 5. มีอนุภำคเรยี งกันเปน็ ระเบียบและชิดกันมำก 6. มีปริมำตรไมค่ งท่ี 7. มีรปู ร่ำงเปล่ยี นไปตำมภำชนะทใ่ี ส่ 8. อนภุ ำคเคล่อื นท่ไี ดอ้ ย่ำงอสิ ระทกุ ทิศทำง ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ 9. สำมำรถแทรกเข้ำไปอยู่ในที่วำ่ งไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ เทำ่ กับปรมิ ำตรที่สำรมีอยู่ 10. เมอื่ อุณหภูมสิ งู ข้นึ จะลอยสูด่ ้ำนบน ลงช่อื .....................................................ผ้ปู ระเมิน (........................................................................) 16

คำสอนรชั กาลที่ 5 ในจดหมายถงึ พระราชโอรสก่อนไปเรียนยุโรป พ.ศ.2428 ถ้ากล่าวโดยทว่ั ไป จดหมายฉบับนัน้ เป็นจดหมายธรรมดาๆ ฉบบั หนงึ่ ที่พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั ทรง พระราชนิพนธ์แก่บรรดาพระราชโอรสท่ีจะออกไปเรยี นหนังสือในยโุ รป เมอ่ื พ.ศ.2428 โดยมใี จความเกี่ยวกบั พระบรมราโชวาทถึงการวางตัว การใชช้ วี ิต การใช้จ่าย ความขยันหมน่ั เพยี ร และไมล่ ืมรากเหงา้ ความเป็นไทย เน่อื งจากพระองค์มีพระราชประสงคส์ ่งพระราชโอรสไปศกึ ษา เพื่อนำความรู้และวิทยาการกลบั มา พฒั นาสยามประเทศ ใหก้ า้ วหน้าทันสมัย และเพื่อป้องกนั แผน่ ดินจากจักรวรรดินิยมตะวันตกท่มี ักอา้ งความชอบธรรมในการยึดครองเมืองอ่ืนวา่ การ ทำให้บ้านเมืองเจริญกา้ วหน้าน้นั เปน็ ‘ภาระของคนขาว’ ในกาลปัจจบุ นั เรารู้แลว้ ว่ารชั กาลท่ี 5 ทรงรกั ษาเอกราชแผ่นดนิ สยามไว้ได้ แต่มนี ้อยคนนกั ทมี่ ีโอกาสได้อ่านเนื้อความ ในจดหมายฉบบั ดังกล่าว จดหมายท่แี มจ้ ะเป็นจุดเลก็ ๆ ในประวตั ศิ าสตร์ แต่มีความหมายและคุณคา่ นานา แมว้ ่าเวลาจะลว่ ง ผ่านมานานกว่า 137 ปี “การซง่ึ จะให้ออกไปเรียนคร้ังนี้ มีความประสงค์ม่งุ หมายแต่จะให้ไดว้ ชิ าความรู้อยา่ งเดียว ไม่มน่ั หมายจะใหเ้ ป็น เกียรตยิ ศชือ่ เสียงอย่างหนึง่ อยา่ งใดในชน้ั ” ซึ่งยงั เป็นผ้เู รยี นวชิ าอยู่น้ีเลย เพราะฉะนัน้ ที่จะไปครง้ั นี้อยา่ ให้ไว้ยศวา่ เปน็ เจา้ ใหถ้ ือเอาบรรดาศักดิ์เสมอลูกผู้มีตระกูลในกรุงสยาม …และถ้าเปน็ เจา้ นายแลว้ ตอ้ งรกั ษายศศกั ด์ิในกิจการทง้ั ปวง ทจี่ ะทำทุกอย่างเป็นเคร่อื งล่อตาลอ่ หูคนทั้งปวงทีจ่ ะให้พอใจ ดู พอใจฟัง จะทำอันใดก็ต้องระวังตวั ไปทุกอย่าง ท่สี ุดจนจะซ้อื จา่ ยอนั ใดก็แพงกวา่ คนสามัญ เพราะเขาถอื วา่ ม่ังมี เป็นการเปลอื ง ทรัพยใ์ นที่ไม่ควรจะเปลอื ง เพราะเหตวุ ่า “ถงึ จะเป็นเจา้ กด็ ี เป็นไพร่ก็ดี เมอ่ื อยูใ่ นประเทศไมใ่ ช่บ้านเมอื งของตวั ก็ไม่มอี ำนาจท่ี จะทำฤทธเ์ิ ดชอันใดผดิ ไปกับคนสามญั ได้ เพราะฉะนั้น จงึ ขอห้ามเสียวา่ อย่าไดไ้ ปอวดอ้างเอง หรอื อย่าให้คนใช้สอยอวดอ้าง ว่าเปน็ เจา้ นายอนั ใด จงประพฤตใิ หถ้ กู ตามคำสั่งน้ี” ให้นกั เรียนอ่านบทความดังกล่าว และหาความหมายของคำท่กี ำหนดให้ 1. พระราชนพิ นธ.์ ......................................................................................................................................................... 2. พระราชโอรส........................................................................................................................................................... 3. พระราชประสงค.์ ..................................................................................................................................................... 4. พระบรมราโชวาท................................................................................................................... ................................. 5. จักรวรรดนิ ิยม.......................................................................................................................................................... 6. สยามประเทศ.......................................................................................................................................................... 7. บรรดาศักด์ิ............................................................................................................................. ................................ 8. เอกราช............................................................................................................................. ...................................... คะแนนทีไ่ ด.้ .......................คะแนน ............................................. ผู้ประเมนิ 17

พระราชวงั เอกราช สถาปนา พระมหากรุณาธิคุณ พระปรชี าสามารถ ให้นักเรียนนำคำทก่ี ำหนดใหม้ าแตง่ เป็นเร่ืองราวใหไ้ ด้ใจความ พร้อมกับระบายสีรปู ภาพให้สวยงาม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คะแนนทไ่ี ด้........................คะแนน ............................................. ผ้ปู ระเมนิ 18

ชุดที่ 1 ชอ่ื ชนั้ เลขท่ี ขอ้ คำชแี้ จง : จงหาผลลัพธ์ต่อไปนี้ใหถ้ ูกต้อง 1. 2 X 10 20 2. 2 X 1 2 3. 2 X 6 12 4. 2 X 4 8 5. 2 X 5 10 6. 2 X 8 16 7. 2 X 11 22 8. 2 X 12 24 9. 2 X 2 4 10. 2 X 7 14 11. 2 X 9 18 12. 2 X 3 6 คะแนนที่ได้ ................................................. 19 ผูต้ รวจคำตอบ

ชดุ ท่ี 2 ช่ือ ช้นั เลขท่ี ขอ้ คำช้ีแจง : จงหาผลลัพธ์ต่อไปน้ีให้ถกู ตอ้ ง 1. 3 X 9 27 2. 3 X 2 6 3. 3 X 7 21 4. 3 X 6 18 5. 3 X 11 33 6. 3 X 1 3 7. 3 X 5 15 8. 3 X 4 12 9. 3 X 8 24 10. 3 X 3 9 11. 3 X 12 36 12. 3 X 10 30 คะแนนทีไ่ ด้ ................................................. 20 ผตู้ รวจคำตอบ

ชดุ ที่ 3 ชื่อ ชน้ั เลขที่ ขอ้ คำชี้แจง : จงหาผลลพั ธต์ อ่ ไปน้ใี หถ้ ูกต้อง 1. 4 X 7 28 2. 4 X 2 8 3. 4 X 10 40 4. 4 X 8 32 5. 4 X 1 4 6. 4 X 9 36 7. 4 X 6 24 8. 4 X 11 44 9. 4 X 3 12 10. 4 X 4 16 11. 4 X 12 48 12. 4 X 5 20 คะแนนท่ีได้ ................................................. 21 ผตู้ รวจคำตอบ

ชดุ ที่ 4 ชอ่ื ชน้ั เลขท่ี ขอ้ คำชแี้ จง : จงหาผลลพั ธ์ต่อไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง 1. 5 X 1 5 2. 5 X 5 25 3. 5 X 10 50 4. 5 X 7 35 5. 5 X 11 55 6. 5 X 2 10 7. 5 X 4 20 8. 5 X 12 60 9. 5 X 8 40 10. 5 X 6 30 11. 5 X 9 45 12. 5 X 3 15 คะแนนท่ไี ด้ ................................................. ผูต้ รวจคำตอบ 22

ชุดที่ 5 ชอ่ื ชนั้ เลขที่ ขอ้ คำชแ้ี จง : จงหาผลลพั ธ์ตอ่ ไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง 1. 6 X 5 30 2. 6 X 2 12 3. 6 X 9 54 4. 6 X 3 18 5. 6 X 8 48 6. 6 X 11 66 7. 6 X 4 24 8. 6 X 7 42 9. 6 X 12 72 10. 6 X 10 60 11. 6 X 6 36 12. 6 X 1 6 คะแนนทีไ่ ด้ ................................................. 23 ผตู้ รวจคำตอบ

ชุดท่ี 6 ช่ือ ชน้ั เลขที่ ขอ้ คำช้ีแจง : จงหาผลลพั ธต์ อ่ ไปนี้ใหถ้ กู ต้อง 1. 7 X 4 28 2. 7 X 2 14 3. 7 X 5 35 4. 7 X 8 56 5. 7 X 11 77 6. 7 X 9 63 7. 7 X 6 42 8. 7 X 10 70 9. 7 X 1 7 10. 7 X 12 84 11. 7 X 7 49 12. 7 X 3 21 คะแนนทีไ่ ด้ ................................................. 24 ผตู้ รวจคำตอบ

ชดุ ที่ 7 ช่ือ ชน้ั เลขท่ี ขอ้ คำช้ีแจง : จงหาผลลพั ธ์ตอ่ ไปนี้ให้ถกู ต้อง 1. 8 X 5 40 2. 8 X 4 32 3. 8 X 7 56 4. 8 X 6 48 5. 8 X 9 72 6. 8 X 11 88 7. 8 X 2 16 8. 8 X 12 96 9. 8 X 10 80 10. 8 X 8 64 11. 8 X 1 8 12. 8 X 3 24 คะแนนท่ีได้ ................................................. 25 ผู้ตรวจคำตอบ

ชดุ ที่ 8 ช่ือ ชนั้ เลขท่ี ขอ้ คำชแ้ี จง : จงหาผลลพั ธ์ต่อไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง 1. 9 X 1 9 2. 9 X 3 27 3. 9 X 6 54 4. 9 X 10 90 5. 9 X 8 72 6. 9 X 12 108 7. 9 X 5 45 8. 9 X 9 81 9. 9 X 11 99 10. 9 X 7 63 11. 9 X 4 36 12. 9 X 2 18 คะแนนท่ไี ด้ ................................................. 26 ผ้ตู รวจคำตอบ

ชดุ ที่ 9 ชือ่ ชน้ั เลขท่ี ขอ้ คำช้ีแจง : จงหาผลลพั ธต์ ่อไปน้ใี หถ้ กู ต้อง 1. 10 X 5 50 2. 10 X 1 10 3. 10 X 6 60 4. 10 X 10 100 5. 10 X 12 120 6. 10 X 2 20 7. 10 X 7 70 8. 10 X 11 110 9. 10 X 3 30 10. 10 X 8 80 11. 10 X 9 90 12. 10 X 4 40 คะแนนทไี่ ด้ ................................................. ผตู้ รวจคำตอบ 27

ชุดท่ี 10 ชอ่ื ช้นั เลขท่ี ขอ้ คำช้ีแจง : จงหาผลลัพธ์ต่อไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง 1. 11 X 8 88 2. 11 X 3 33 3. 11 X 12 132 4. 11 X 11 121 5. 11 X 2 22 6. 11 X 7 77 7. 11 X 1 11 8. 11 X 9 99 9. 11 X 4 44 10. 11 X 10 110 11. 11 X 5 55 12. 11 X 6 66 คะแนนทไ่ี ด้ ................................................. 28 ผูต้ รวจคำตอบ

ชุดท่ี 11 ช่อื ช้นั เลขท่ี ขอ้ คำช้แี จง : จงหาผลลพั ธ์ตอ่ ไปนใี้ ห้ถูกต้อง 1. 12 X 6 72 2. 12 X 8 96 3. 12 X 1 12 4. 12 X 10 120 5. 12 X 3 36 6. 12 X 11 132 7. 12 X 12 144 8. 12 X 4 48 9. 12 X 5 60 10. 12 X 7 84 11. 12 X 9 108 12. 12 X 2 24 คะแนนทไ่ี ด้ ................................................. 29 ผู้ตรวจคำตอบ

บญั ชีคาศพั ท์ ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 ชดุ ที่ 1 หมวด รา่ งกาย : Body No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. Body บอดี รา่ งกาย 2. head เฮด หวั 3. face เฟสฺ ใบหน้า 4. head เฮด หวั 5. eye อาย ตา 6. ear เอียรฺ หู 7. nose โนสฺ จมูก 8. arm อารม แขน 9. hand แฮนดฺ มอื 10. leg เลก็ ขา ชุดที่ 2 หมวด กีฬา : Sports No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. Volleyball วอล ลีบอล วอลเลยบ์ อล 2. Baseball บาสเคทบอล บาสเกตบอล 3. Table tennis เทเบิลเทนนิส ปิ งปอง 4. Tennis เทนนิ ส เทนนิ ส 5. Football ฟทุ 'บอล ฟตุ บอล 6. judo จโู ด ยโู ด 7. running รนั นิง) วิ่งแขง่ 8. bowling โบลิง โบวล์ ิ่ง 9. Boxing บอค ซิง มวย 10. Golf กอ็ ลฟ กอลฟ์ 30

ชุดที่ 3 หมวด อาหาร : Food No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. noodle นูดเดิล กว๋ ยเต๋ียว 2. salad แซเ๊ ลิด 3. burger เบอ๊ เกอะ สลดั 4. cake เคก๊ เบอรเ์ กอร์ 5. candy แคน๊ ดิ 6. pizza พ๊ิซซะ เค้ก 7. coffee คอ๊ ฟฟิ ลูกอม 8. hot dog ฮอ็ ท ดอ็ ก พิซซ่า 9. papaya salad กาแฟ 10. biscuit พะพายา-แซลเลิด ไส้กรอก บิสคิท ส้มตา ขนมปังกรอบ ชุดท่ี 4 หมวด ผลไม้ : Fruits No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. apple แอพ๊ เพิล แอปเปิ้ ล 2. banana บะน๊านะ กล้วย 3. coconut โคโ๊ คนัท มะพรา้ ว 4. grape เกรพ 5. lemon เลม็ เมิน องุ่น 6. mango แมง็ โก มะนาว 7. orange ออ๊ รินจ มะมว่ ง 8. papaya พะไพย๊ ะ 9. pineapple ไพแ๊ นพเพิล ส้ม 10. strawberry สตรอ๊ เบริ มะละกอ สปั ปะรด สตรอเบอรร์ ่ี 31

ชุดที่ 5 หมวด สตั ว์ : Animals No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. Ant แอ้น มด 2. Bat แบท 3. Eagle อี'เกิล ค้างคาว 4. Bear แบ นกอินทรี 5. Snake สเนค 6. Tiger หมี 7. Zebra ไท'เกอะ งู 8. Rhino ซี'บระ เสือ 9. Dolphin ไร'โน มา้ ลาย 10. camel ดอล'ฟิ น แรด แคม'เมิล ปลาโลมา อฐู ชดุ ที่ 6 หมวด สถานท่ี : Places No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. Bank แบงค ธนาคาร 2. Airport แอพ๊ อท สนามบิน 3. Shop ชอ็ พ รา้ นค้า 4. Supermarket ซปุ เปอรม์ ารเ์ กต็ 5. Cinema ซพุ๊ เพอะมาคิท โรงหนัง 6. Bookshop ซี๊นะเมอะ ร้านขายหนังสือ 7. zoo บุค๊ ชอ็ ป สวนสตั ว์ 8. school ซู โรงเรียน 9. home สกลู 10. park โฮม บา้ น พาค สาวสาธารณะ 32

ชุดที่ 7 หมวด อาชีพ : Occupations No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. pilot ไพ ลอท นักบิน 2. teacher ทิชเชอร์ คณุ ครู 3. Doctor ดอ๊ กเทอร์ หมอ 4. Nurse เนิ ส พยาบาล 5. police โพ ลิช ตารวจ 6. soldier โซล เจอะ ทหารบก 7. actor แอค เทอะ นักแสดงชาย 8. writer ไร เทอะ นักเขียน 9. singer ซิง เงอะ นักร้อง 10. dancer แดน เซอะ นักเต้น ชุดที่ 8 หมวด ยานพาหนะ : Vehicle No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. airplane แอเ๊ พลน เครือ่ งบิน 2. bicycle ไบซ๊ ิเคิล รถจกั รยาน 3. bus บสั 4. car คา รถบสั 5. motorcycle รถยนต์ 6. ship โมเทอะไซเ๊ คิล จกั รยานยนต์ 7. taxi ชิพ เรือใหญ่ 8. train แทก็ ซิ แทก็ ซี่ 9. van เทรน รถไฟ 10. rocket แวน รถตู้ จรวด รอ็ ค เคท็ 33

ชุดท่ี 9 หมวด สิ่งของในห้องเรียน : Things in classroom No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. book บุค หนังสือ 2. chair แช เก้าอี้ 3. paper กระดาษ 4. pen เพเ๊ พอะ ปากกา 5. pencil เพน็ ดินสอ 6. ruler ไมบ้ รรทดั 7. table เพน็ เซิล 8. desk รลู๊ เลอะ โตะ๊ 9. eraser เทเ๊ บิล โตะ๊ นักเรยี น 10. map เดส็ ค อิเรเ๊ สอะ ยางลบ แมพ็ แผนท่ี ชดุ ท่ี 10 หมวด คากริยา : Verbs No. Vocabulary Pronunciation Meaning 1. sit ซิท นัง่ 2. run รนั ว่ิง 3. move มฝู 4. go โก เคลือ่ น ย้าย 5. play เพล ไป 6. Listen เล่น 7. read ลิส'เซิน 8. write รีด ลิส'เซิน 9. say ไรท อ่าน 10. see เซ เขียน ซี พดู เหน็ 34

35

36

37

38

39

40