คำนำ เอกสาร “แผนพัฒนาตนเอง ประจาปีการศึกษา 2563” เล่มนี้ เกิดขึ้นจากการท่ีกระทรวงศึกษาธิการได้ กาหนดนโยบายการปฏิรปู การศกึ ษาในทศวรรษท่ีสอง (พ.ศ.2552 – 2563) โดยมีวสิ ยั ทัศน์ให้คนไทยได้เรียนรตู้ ลอด ชวี ิตอย่างมีคุณภาพ ภายในปี 2563 จะต้องมี การปฏริ ปู การศึกษาและการเรียนรู้อย่างเปน็ ระบบใน 3 ประเด็นหลัก คือ การพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานการศึกษา และการเรียนรู้ของคนไทย เพ่ิมโอกาสทางการศึกษา และการเรียนรู้ที่มี คุณภาพอย่างทั่วถึง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการบริหารและการจัดการศึกษา ทั้งน้ีได้กาหนดกรอบ แนวทางในการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้อย่างเป็นระบบไว้ 4 ประการ คือ การพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ การพัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่ การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ และการพัฒนาคุณภาพการ บริหารจัดการใหม่ และจากการที่สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ได้ประกาศการใช้ เกณฑ์วิทยฐานะ ว21/2563 ซ่ึงกาหนดข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดทาแผนพัฒนาตนเองเพื่อ ประโยชนใ์ นการจัดการเรียนการสอน และวางแผนการทางานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้จดั หลักสูตรการพัฒนาสถานศึกษาทั่วประเทศ ดว้ ยการอบรมบุคลากรทางการศึกษา เพราะปัจจัยสาคัญท่ีสุดท่ีมีผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษา คือ “ครูผู้สอน” โดยต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัด การศึกษาในระดับสถานศึกษาโดยเฉพาะตวั ครผู สู้ อน ซึ่งเปน็ บคุ คลสาคัญทีส่ ุดที่จะขับเคลื่อนงานการจดั การศึกษาของ โรงเรียนให้พัฒนาก้าวหน้า โดยการประเมินสมรรถนะของตนเอง และจัดทาแผนพัฒนาตนเองข้ึนเป็นการสร้างนิสัย การทางานโดยใชข้ ้อมูลเปน็ ฐานการพฒั นาตนเอง และการพฒั นางานดว้ ยการสร้างแรงบนั ดาลใจ จึงได้ประเมินตนเอง เพื่อสรุปข้อมูลจัดทาเอกสาร “แผนพัฒนาตนเอง” เสร็จสมบูรณ์ สาหรับปฏิบัติใช้ในปีการศึกษา 2563 หวังว่า เอกสารเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในการพัฒนาตนเอง ให้บรรลุเป้าหมายการ จดั การศกึ ษาต่อไป แพรวรงุ่ ศรีประภา 1 เมษายน 2563
แผนกำรพัฒนำตนเองสำหรับครู ( Individual Development Plan : ID Plan ) ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลผจู้ ัดทำแผนพัฒนำตนเอง ชื่อ นางสาวแพรวร่งุ ชื่อสกุล ศรปี ระภา ตำแหนง่ ครู วิทยฐำนะ - อำยุกำรทำงำน 4 ปี ๖ เดือน ระยะเวลำดำรงตำแหนง่ ปัจจบุ ัน 2 ปี ๖ เดอื น วฒุ ิกำรศกึ ษำ ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑติ (ศษ.ม.) วชิ ำ คณติ ศาสตรศกึ ษา วิชำโท - - เงินเดือน อันดับ คศ.๑ ขนั้ - อัตรำเงินเดอื น ๒๐,89๐ บาท สถำนที่ทำงำน โรงเรียน วัดพืชนิมิต (คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง) สังกัด สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ที่อย่ทู ่ีสำมำรถติดตอ่ ได้ เลขที่ 511/2๔ ม.6 ถนน ......-....... ตำบล เชยี งรากนอ้ ย อำเภอ บางปะอิน จังหวัด พระนครศรีอยธุ ยา โทรศัพทม์ ือถอื 08๐ - ๑๕๖๘๘๐๓ งำนในหน้ำทท่ี ่รี ับผิดชอบ ๑. กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ที่สอน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ และชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ จานวน ๔ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ รวม ๑๖๐ ชั่วโมง/ปีการศึกษา โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี ๑.1 วชิ า คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 1๔101 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน 4 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ๑.๒ วชิ า คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 10 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.3 วชิ า คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 16101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 จานวน 4 ช่วั โมง/สัปดาห์ 2. กจิ กรรมพัฒนำผ้เู รยี น 2.1 ลกู เสือเนตรนารี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 จานวน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ 2.2 สวดมนต/์ บาเพญ็ สาธารณประโยชน์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 จานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 2.3 ชมุ นุมชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 จานวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ รวมงำนสอน จำนวน 21 ชวั่ โมง/สัปดำห์
งำนทีไ่ ด้รบั มอบหมำยเปน็ งำนพเิ ศษ ดังน้ี (เช่น) 1. ครปู ระจาช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 2. กล่มุ งานบริหารท่ัวไป ผลงำนทีเ่ กดิ จำกกำรปฏิบัติหนำ้ ทใ่ี นตำแหนง่ ปจั จบุ นั (ย้อนหลงั ไม่เกนิ 2 ปี) 1. ผลท่เี กดิ จำกกำรจดั กำรเรียนรู้ 1.1 ร่วมกับคณะครูจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา วิเคราะห์หลักสูตร จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ และนา แผนการจดั การเรียนรูไ้ ปใช้ในการจัดประสบการณ์ให้กบั นกั เรียน 1.2 ครูมีการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบมีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใชส้ อื่ ทหี่ ลากหลาย เน้นกระบวนการคิด 1.3 มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง โดยใช้เครื่องมืออย่างหลากหลายและนาผลไปใช้ใน การพฒั นาผเู้ รยี น 1.4 นักเรียนมีระดับผลการเรียนต้ังแต่ 2 ข้ึนไป คิดเป็นร้อยละ 65 ผลการทดสอบระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-Net) ในกลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตรร์ ะดับชัน้ ป.6 ปีการศกึ ษา 2562 เพมิ่ ขึน้ รอ้ ยละ 5 ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยร่วมกับคณะครูจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาระดับ ประถมศกึ ษา วิเคราะหห์ ลักสตู ร จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ และนาแผนการจดั การเรียนรไู้ ปใช้ในการจดั การเรียน การสอนให้กบั นกั เรียน มีการวดั ผลประเมินผลตามสภาพจริง โดยใชแ้ ฟม้ สะสมผลงาน ช้ินงาน แบบฝึก โดยการวดั ผล ประเมินผลดังกล่าวครอบคลุมทุกๆ ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ การปฏิบัติ กระบวนการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ท้งั นเี้ พื่อส่งเสริมพัฒนาการของนกั เรยี นท้ัง 4 ด้าน ไดแ้ ก่ ดา้ นร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปญั ญา และมี คุณธรรม จรยิ ธรรม ทง้ั นีเ้ พอื่ ใหน้ ักเรียนมพี ฒั นาการ ทดี่ มี คี ุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ตลอดจนมีการบนั ทึกหลงั การจัด กจิ กรรมการสอนอย่างสมา่ เสมอ ทั้งนี้เพอ่ื จะไดช้ ่วยแก้ไขข้อบกพร่องใหก้ บั นักเรียนทีม่ ีปัญหา 2. ผลทีเ่ กดิ จำกกำรพัฒนำวชิ ำกำร 2.1 มีการจดั หา พฒั นา ประยกุ ต์ใชส้ ่ือนวตั กรรมในการจดั การเรียนรู้ สามารถนาไปใชไ้ ดผ้ ลดี 2.2 การใชค้ วามคิดเชิงระบบในการพัฒนางานอย่างครบวงจร และมปี ระสทิ ธภิ าพอย่างต่อเนือ่ ง 2.3 การนาความรดู้ า้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศมาพฒั นาระบบการเรยี นรูไ้ ด้ 2.4 การสง่ เสรมิ การคดิ ท่ีเนน้ ผลคุณภาพที่ตวั ผู้เรียน 2.5 การนาวิธกี ารวิจยั และพัฒนามาแกป้ ญั หา พรอ้ มทง้ั พฒั นางานอย่างครบวงจร ผลท่ีเกิดจากการพัฒนาตนเองทางด้านวิชาการ ส่งผลให้ตนเองได้รับการปรับวุฒิการศึกษาให้สูงขึ้นและผ่าน ประเมินพัฒนาอย่างเข้มเป็นตาแหน่ง ครู โดยพัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมความมีวินัยในตนเอง ซ่ึงมีผลงาน เปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ ตลอดจนได้ร่วมพัฒนาบคุ ลากรในโรงเรียน โรงเรยี นมีการเปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดีขึ้นโดยบุคลากรใน โรงเรียน และโรงเรียนเป็นท่ียอมรับของบุคคลทั่วไปและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการเผยแพร่ผลงานทางด้าน วิชาการ นอกจากนน้ั โรงเรยี นยังสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ให้บคุ ลากรได้พฒั นาสอื่ และนวตั กรรม 3. ผลทเ่ี กิดกบั ผเู้ รยี น 3.1 นักเรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม และมีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามสถานศึกษากาหนด 3.2 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นผา่ นเกณฑก์ าหนดของโรงเรยี น 3.3 นักเรียนได้รับการพัฒนาทันต่อความก้าวหน้าทางวิชาการและการเปล่ียนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ และสงั คม
การจัดกิจกรรมการการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติจริง เพื่อให้ นักเรียนได้มีทักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมท่ีดีงาม ความมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนมี คณุ ธรรมจรยิ ธรรม มวี ินยั ในตนเอง มสี มั มาคารวะมีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มคี วามสามารถในการใช้ภาษาในการ ส่ือสาร และการมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นส่ิงท่ีผู้เรียนสามารถนาความรู้ความเข้าใจและทักษะไป บูรณาการและประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวันเปน็ การเพ่มิ พนู สมรรถนะตนเองใหม้ ากขึน้ และส่งผลให้การใชช้ วี ิตภายหน้า บนพน้ื ฐานคุณธรรม นาความรู้ และเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการอยู่รว่ มกันในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข 4. ผลทีเ่ กดิ กับสถำนศกึ ษำ 4.1 สถานศกึ ษาได้รบั การสนบั สนุนจากผู้ปกครอง ชุมนมุ หน่วยงาน องคก์ รต่างๆ 4.2 มบี รรยากาศท้งั ในและนอกหอ้ งเรยี นที่เออ้ื ต่อการเรยี นรู้ของครแู ละผูเ้ รียน 4.3 เปน็ แหลง่ เรยี นรขู้ องสถานศกึ ษาหรือหน่วยงานตา่ งๆ 4.4 การนิเทศตดิ ตามผลการปฏิบัติงานของครูทาให้การปฏบิ ัติงานมีความสมบูรณ์ และเป็นไปตามเวลาท่ี กาหนด 4.5 มรี ะบบการทางานเป็นทีมมากขึน้ 4.6 มแี นวปฏิบัตดิ า้ นเอกสาร หลกั ฐานทางการศกึ ษาที่ถกู ต้อง 4.7 การพัฒนางานมีระบบถูกตอ้ งและครบวงจร จากการที่สถานศึกษามีการวางแผนปฏิบัติราชการในการพัฒนา มีเป้าหมาย มีทิศทางในการดาเนินงานเพื่อ พัฒนาสถานศึกษา โดยมีการจัดกิจกรรมโครงการตา่ งๆ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนักเรียนและครูมีส่วนร่วมในการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรม ทาให้ผลการดาเนินงานเปน็ ทย่ี อมรบั ของผู้ปกครอง ชุมชน ทอ้ งถิ่น 5. ผลท่เี กดิ กับชมุ ชน 5.1 ครู ผู้บรหิ าร และผปู้ กครอง มีการประชมุ ทกุ ภาคเรียน 5.2 ครู และผูบ้ ริหารรว่ มกิจกรรมสาคญั ในชมุ ชนอย่างสมา่ เสมอ 5.3 โรงเรียนให้บริการแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชนในด้านต่างๆ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนให้ชุมชนมีความ เข้มแข็ง 5.4 ชุมชนใหค้ วามรว่ มมือและสนบั สนนุ กิจกรรมต่างๆ ของโรงเรยี นดว้ ยดี สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชมุ ชน ในกิจกรรมต่างๆ ตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมท่ีเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณี และพธิ ีกรรมทางศาสนา เชน่ ประเพณีแห่เทยี นเข้าพรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ การ ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กิจกรรมวันสาคัญ ได้แก่ กิจกรรมวันแม่ กิจกรรม ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น จนทาให้เกิดความร่วมมือ ความเข้าใจท่ีดีต่อกัน เกิดความรักและความภาคภูมิใจใน โรงเรียนและท้องถ่ิน นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมการประชมุ ผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พื้นฐานในแต่ละภาคเรียนเพื่อช้ีแจงนโยบายของโรงเรียนและเพ่ือหาแนวทางในการร่วมพัฒนาโรงเรียนท้ังพัฒนา อาคารสถานทแ่ี ละพัฒนาทางวชิ าการให้เป็นไปในทางทศิ ทางเดียวกนั
สว่ นท่ี 2 รำยละเอยี ดกำรพัฒนำตนเอง อนั ดบั วธิ ีกำร /รปู แ ควำม กำรพฒั น ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนำ สำคญั 1 สมรรถนะหลัก 1 กำรมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ (T) 1.1 ความสามารถในการวางแผนการปฏบิ ตั งิ าน (S) 1.2 ความสามารถในการปฏิบัตงิ าน (OJT) 1.3 ผลการปฏบิ ัติงาน 8 2 กำรบริกำรทด่ี ี (T) 2.1 ความสามารถในการสร้างระบบการให้บรกิ าร (T) 2.2 ความสามารถในการใหบ้ ริการ 4 3 กำรพัฒนำตนเอง (S) 3.1 ความสามารถในการวเิ คราะหต์ นเอง (A) 3.2 ความสามารถในการใช้ภาษาไทยเพือ่ การ (OJT) สื่อสาร 3.3 ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษ (S) เพอื่ การแสวงหาความรู้ 3.4 ความสามารถในการตดิ ตามความเคลอื่ นไหว (C) ทางวชิ าการและวชิ าชพี 3.5 ความสามารถในการประมวลความรู้และ การนาความรู้ไปใช้
แบบ ระยะเวลำ กำรขอรับงบประมำณ ประโยชน์ท่ีคำดวำ่ จะไดร้ ับ นำ ในกำรพัฒนำ สนับสนนุ จำก หน่วยงำน เรม่ิ ต้น ส้ินสดุ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - จดั การเรียนร้ไู ด้ตามเป้าหมายของ ก.ค.63 เม.ย.64 ปีงบประมาณ หลักสตู ร ก.ค.63 เม.ย.64 ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - มรี ะบบการให้บริการทีด่ ี ก.ค.63 เม.ย.64 ปีงบประมาณ ก.ค.63 เม.ย.64 - ไม่ใชง้ บประมาณ - ปฏบิ ัติหน้าท่ไี ด้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ก.ค.63 เม.ย.64 - ไม่ใช้งบประมาณ - สามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ก.ค.63 เม.ย.64 - งบประมาณอบรม - ใชภ้ าษาองั กฤษเพื่อการแสวงหา พฒั นาบุคคลากร ความรไู้ ด้ ก.ค.63 เม.ย.64 - งบประมาณอบรม - มคี วามรู้ทางวชิ าการและวิชาชีพ พฒั นาบคุ คลากร ก.ค.63 เม.ย.64 - ไม่ใชง้ บประมาณ - ประมวลความรู้และการนาความรู้ ไปใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม
สว่ นที่ 2 รำยละเอยี ดกำรพฒั นำตนเอง (ตอ่ ) อันดับ วิธกี ำร /รูปแ ควำม กำรพฒั น ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นำ สำคัญ 4 กำรทำงำนเป็นทมี 5 4.1 ความสามารถในการวางแผนเพอ่ื การ (T) ปฏบิ ตั ิงานเป็นทีม 4.2 ความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานร่วมกนั (P) สมรรถนะประจำสำยงำน 2 1 กำรจัดกำรเรยี นรู้ ( T) 1.1 ความสามารถในการสรา้ งและพัฒนาหลักสูตร 1.2 ความสามารถในเนื้อหาสาระท่สี อน (F) 1.3 ความสามารถในการจดั กระบวนการเรียนรู้ (T) ทเ่ี นน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั (T) 1.4 ความสามารถในการใช้และพฒั นานวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการจดั การเรยี นรู้ 1.5 ความสามารถในการวดั และประเมินผล (T) การเรยี นรู้
แบบ ระยะเวลำ กำรขอรบั งบประมำณ ประโยชน์ทค่ี ำดวำ่ จะไดร้ ับ นำ ในกำรพฒั นำ สนับสนนุ จำก หน่วยงำน เร่มิ ต้น สน้ิ สุด ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - วางแผนเพ่ือการปฏบิ ตั งิ านเป็นทมี ได้ ก.ค.63 เม.ย.64 ปงี บประมาณ - จดั ทาโครงการตาม - ปฏบิ ตั ิงานร่วมกันได้อยา่ งมี ปีงบประมาณ ประสิทธิภาพ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สรา้ งและพฒั นาหลกั สูตร ก.ค.63 เม.ย.64 ปีงบประมาณ ได้เหมาะสมกบั ผู้เรียน ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถสอนเน้ือหาสาระไดถ้ ูกต้อง ก.ค.63 เม.ย.64 ปงี บประมาณ แม่นยา - จดั ทาโครงการตาม - ความสามารถในการจัดกระบวนการ ปงี บประมาณ เรยี นรทู้ ่เี น้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ได้ - จดั ทาโครงการตาม - ความสามารถในการใช้และพฒั นา ปีงบประมาณ นวตั กรรม เทคโนโลยี สารสนเทศ เพ่อื การจัดการเรียนรู้ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - ความสามารถในการวดั และ ปงี บประมาณ ประเมินผลการเรยี นรู้
สว่ นท่ี 2 รำยละเอยี ดกำรพัฒนำตนเอง (ตอ่ ) อนั ดบั วธิ ีกำร / รูป ควำม กำรพฒั น ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นำ สำคญั 2 กำรพัฒนำผู้เรยี น 6 2.1 ความสามารถในการปลูกฝงั คณุ ธรรม (T) จรยิ ธรรม 2.2 ความสามารถในการพัฒนาทกั ษะชีวติ (A) (T) สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต 2.3 ความสามารถในการปลูกฝงั ความเป็น (T) ประชาธิปไตย 2.4 ความสามารถในการปลูกฝังความเป็นไทย (OJT) 2.5 ความสามารถในการจดั ระบบดแู ลและ 7 (A) ชว่ ยเหลอื ผเู้ รียน (S) 3 กำรบรหิ ำรจดั กำรช้ันเรียน 3.1 ความสามารถในการจดั บรรยากาศการเรียนรู้ 3.2 ความสามารถในการจัดทาขอ้ มูลสารสนเทศ (T) และเอกสาร (S) 3.3 ความสามารถในการกากับดแู ลชน้ั เรียน
ปแบบ ระยะเวลำ กำรขอรับงบประมำณ นำ ในกำรพัฒนำ สนับสนุนจำก ประโยชนท์ ี่คำดวำ่ จะได้รับ หนว่ ยงำน ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถปลูกฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม ก.ค.63 เม.ย.64 ปงี บประมาณ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถพฒั นาทักษะชีวติ ก.ค.63 เม.ย.64 ปงี บประมาณ สุขภาพกายและสุขภาพจิต ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถปลูกฝังความเป็น ปงี บประมาณ ประชาธปิ ไตยได้ - จดั ทาโครงการตาม - สามารถปลูกฝงั ความเป็นไทย ปีงบประมาณ - จดั ทาโครงการตาม - สามารถจัดระบบดูแล และช่วยเหลือ ปงี บประมาณ ผ้เู รียนได้ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถจัดบรรยากาศการเรียนรู้ทด่ี ี ก.ค.63 เม.ย.64 ปงี บประมาณ ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถจดั ทาข้อมลู สารสนเทศ ปงี บประมาณ และเอกสารได้ - ตามปีงบประมาณ - สามารถการกากับดูแลช้ันเรียน
สว่ นที่ 2 รำยละเอียดกำรพัฒนำตนเอง (ต่อ) อันดับ วิธกี ำร / รปู แ ควำม กำรพฒั นำ ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นำ สำคญั 4 กำรวิเครำะห์ สังเครำะห์และกำรวิจยั 3 4.1 ความสามารถในการวิเคราะห์ (T) 4.2 ความสามารถในการสงั เคราะห์ (T) 4.3 ความสามารถในการเขียนเอกสารทาง (E) วชิ าการ (T) 4.4 ความสามารถในการวจิ ยั 5 กำรสรำ้ งควำมร่วมมือกบั ชุมชน 10 5.1 ความสามารถในการนาชุมชนมสี ่วนรว่ มใน กิจกรรมสถานศึกษา (S) 5.2 ความสามารถในการเข้ารว่ มกจิ กรรมของ (S) ชุมชน
แบบ ระยะเวลำใน กำรขอรบั งบประมำณ ประโยชน์ท่ีคำดว่ำจะได้รบั ำ กำรพัฒนำ สนับสนนุ จำก หนว่ ยงำน เรม่ิ ต้น สน้ิ สุด ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - มีความสามารถในการวเิ คราะหไ์ ด้ ก.ค.63 เม.ย.64 ปงี บประมาณ - มคี วามสามารถในการสงั เคราะหไ์ ด้ ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถเขียนเอกสารทางวชิ าการได้ ก.ค.63 เม.ย.64 ปีงบประมาณ - มสี ามารถในการทาการวจิ ยั ได้ - จดั ทาโครงการตาม ปงี บประมาณ - จัดทาโครงการตาม ปีงบประมาณ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถนาชมุ ชนเข้ามามสี ่วนร่วม ก.ค.63 เม.ย.64 ปงี บประมาณ ในกิจกรรมสถานศกึ ษาได้ - จดั ทาโครงการตาม - สามารถเข้ารว่ มกิจกรรมของชุมชนได้ ปีงบประมาณ
สว่ นที่ 2 รำยละเอียดกำรพฒั นำตนเอง (ต่อ) อนั ดับ วธิ กี ำร / ควำม รูปแบบ ที่ สมรรถนะท่ีจะพฒั นำ สำคญั กำรพัฒน 6 วินยั คุณธรรม จริยธรรมและจรรยำบรรณ 9 วชิ ำชีพ 6.1 การมีวนิ ยั (S) 6.2 การประพฤติ ปฏิบัติตนเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี (S) 6.3 การดารงชีวติ อยา่ งเหมาะสม (S) 6.4 ความรกั และความศรัทธาในวชิ าชีพ (S) 6.5 ความรับผดิ ชอบในวชิ าชพี (S)
/ ระยะเวลำใน กำรขอรบั งบประมำณ กำรพฒั นำ สนับสนนุ จำก ประโยชน์ท่ีคำดวำ่ จะไดร้ บั นำ เรม่ิ ต้น ส้นิ สุด หน่วยงำน ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - มีวนิ ัยในตนเอง ก.ค.63 ปีงบประมาณ ก.ค.63 - ประพฤติ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ ง ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม ที่ดีได้ ก.ค.63 ปีงบประมาณ - ดารงชีวติ ได้อยา่ งเหมาะสม เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - รกั และความศรทั ธาในวชิ าชพี ปงี บประมาณ - รับผดิ ชอบในวชิ าชพี เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม ปงี บประมาณ เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม ปีงบประมาณ
สว่ นที่ 3 ตำรำงสรปุ แผนพัฒนำตนเอง อนั ดับ สมรรถนะที่จะพัฒนำ วธิ ีกำร / รูปแบบกำรพฒั นำ ควำมสำคญั 1 การม่งุ ผลสมั ฤทธ์ิ (T) (S) (OJT) 2 การจดั การเรยี นรู้ (T) 3 การวิเคราะห์ สังเคราะห์และ (T) การวจิ ัย 4 การพัฒนาตนเอง (S) (A) (OJT) (C) 5 การทางานเป็นทมี (T) (P) 6 การพฒั นาผู้เรียน (OJT) (T) (A) 7 การบริหารจดั การช้ันเรียน (S) (T)
ระยะเวลำ กำรขอรบั งบประมำณ ประโยชนท์ ่คี ำดว่ำจะไดร้ ับ ในกำรพัฒนำ สนบั สนนุ จำกหนว่ ยงำน เริ่มตน้ สนิ้ สุด ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ ตามปงี บประมาณ ความสามารถในการจดั การเรยี นรู้ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ ตามปีงบประมาณ การวิเคราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวิจัย ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ ตามปงี บประมาณ พฒั นาตนเองให้มีความก้าวหน้า ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ ในวิชาชีพ ตามปงี บประมาณ มีทักษะในการทางานเปน็ ทมี ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ ตามปีงบประมาณ พัฒนาผ้เู รียนให้มีความรู้ ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ ความสามารถตรงตามหลกั สตู ร ตามปงี บประมาณ สามารถจัดการช้ันเรียนให้เหมาะสม ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ กับการจัดการเรียนการสอน ตามปีงบประมาณ
สว่ นท่ี 3 ตำรำงสรปุ แผนพัฒนำตนเอง วิธกี ำร / รปู แบบกำรพฒั นำ อันดับ ควำมสำคัญ สมรรถนะท่ีจะพัฒนำ 8 การบรกิ ารทด่ี ี (T) 9 วินัย คุณธรรม จริยธรรมและ (S) จรรยาบรรณวิชาชีพ (S) 10 การสร้างความรว่ มมอื กบั ชมุ ชน
ระยะเวลำ กำรขอรับงบประมำณ ประโยชนท์ ่คี ำดวำ่ จะไดร้ บั ในกำรพฒั นำ สนบั สนุนจำกหนว่ ยงำน เรมิ่ ต้น สิ้นสุด มรี ะบบในการให้บริการทด่ี ี ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ ตามปีงบประมาณ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรมและ ก.ค.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ จรรยาบรรณในวิชาชพี ตามปงี บประมาณ ใหช้ มุ ชมมบี ทบาทในการจัดการศึกษา ก.ค.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ และให้ความร่วมมือกับกิจกรรมใน ตามปีงบประมาณ ชุมชน
สว่ นที่ 4 ควำมต้องกำรในกำรพัฒนำ 1. หลกั สตู รใดทีท่ ำ่ นต้องกำรพัฒนำ มีความต้อการในการพัฒนาหลักสูตรทเี่ ก่ียวกับการพัฒนาความสามารถในกา รายวชิ าคณิตศาสตร์ ร่วมกบั กระบวนการและการแกป้ ัญหาทักษะทางคณติ ศ เรอ่ื งการทาผลงานเพ่ือเลือ่ นวทิ ยฐานะ 2. เพรำะเหตใุ ดจึงตอ้ งกำรเลอื กหลกั สูตรท่ีเกี่ยวข้องในข้อ 1 เพราะมเี หตผุ ลคอื 2.1 ต้องการนาความรู้ ความสามารถทมี่ มี าใช้ในการพฒั นาการจัดก 2.2 ต้องการนาวิธีการและเทคนิคการเรียนรู้ต่างๆ มาใช้ประกอบก คณิตศาสตร์ ให้สงู ยงิ่ ขน้ึ ไป 2.3 เพือ่ พัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองในการเข้าสู่ครู Tha 2.4 เพือ่ นาความรทู้ ไ่ี ด้รับจากหลักสูตรมาขยายผลการเรยี นรู้สู่ครผู ู้ส 3. ท่ำนคำดหวงั สงิ่ ใดจำกกำรเขำ้ รับกำรพฒั นำในหลักสูตรที่ทำ่ นเลือกพัฒนำ 3.1 ความรูเ้ ร่ือง นวัตกรรมประกอบการเรยี นการสอน 3.2 ทักษะการจดั การเรียนรู้เชิงรุก Active Learning 3.3 ทักษะการเรียนรู้ด้านเน้ือหาวชิ าการในระดบั ชว่ งชนั้ ที่ 2 4. ทำ่ นจะนำควำมรจู้ ำกหลกั สูตรไปพฒั นำกำรสอนของทำ่ นไดอ้ ยำ่ งไร ต้องการนาความรู้ที่ได้รับมาใช้ประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน สามารถนาความรู้ทีไ่ ด้รบั มาสรรสรา้ งนวตั กรรมเพ่อื พฒั นาผู้เรยี น
ารจัดการเรียนรู้เชงิ รุก Active Learning มาใช้ร่วมกับกระบวนการเรียนการสอน ใน ศาสตร์ เพ่อื การพฒั นาความรคู้ วามสามารถในรายวิชาคณิตศาสตร์ และตอ่ ยอดความรู้ การเรียนการสอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ การจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในรายวิชา ailand 4.0 สอนในระดบั ชว่ งชน้ั ท่ี ๒ เพอื่ พัฒนาการเรยี นการสอนในระดับช่วงช้ันท่ี ๒ ำ นในรายวิชาคณิตศาสตร์ ให้ผู้เรียนเกิดผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ท่ีดี และมีประสิทธิภาพ
สว่ นท่ี 5 คำรบั รองแผนพัฒนำตนเองของผ้บู งั คับบัญชำ ......................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ควำมคดิ เห็นของผูบ้ งั คับบญั ชำ ......................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................
....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ลงช่ือ (นางสาวแพรวรงุ่ ศรปี ระภา) ผจู้ ัดทาแผนพัฒนาตนเอง ..................................................................... ................................................................ .................................................................................. ..................................................... ................................................................................................ ..................................... .................................................................................... ................................................. ........................................................................ .............................................................. ........................................................... .......................................................................... ลงชอื่ (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถิ) ผู้อานวยการโรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คาสวัสดิ์ราษฎร์บารุง)
หมำยเหตุ คำอธิบำยวธิ กี ำรพัฒนำส A : Active Learning (เรียนรจู้ ากการปฏิบัติ) CE : Continuing Education (ศึกษาตอ่ ) F : Field Trip (ศึกษาดงู าน) M : Mentoring (ติดตามโดยพี่เลยี้ ง) OJT : On the Job Training (สอนขณะปฏบิ ัติงาน) S : Self Study (ศึกษาดว้ ยตนเอง)
สมรรถนะ สญั ลกั ษณ์ และควำมหมำย C : Coaching (การสอนงาน) E : Expert Briefing (พบผูเ้ ชยี่ วชาญ) J : Job Swap (แลกเปล่ยี นงาน) JR : Jop Rotation (หมุนเวยี นงาน) ) P : Project Assignment (มอบหมายงาน) T : Training, Workshop (การฝกึ อบรม/ประชุมปฏบิ ัตกิ าร)
ผลกำรประเมนิ สมรรถนะครู สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน ชือ่ คณุ ครแู พรวรุง่ ศรีประภา ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ - - โรงเรียน วัดพืชนิมติ (คาสวัสดริ์ าษฎร์บารงุ ) สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 - สมรรถนะ คะแนนเฉลี่ย ระดบั คณุ ภำพ สมรรถนะหลัก (Core Competency) 001. การมุง่ ผลสัมฤทธใ์ิ นการปฏิบัติงาน 002. การบรกิ ารท่ีดี 003. การพัฒนาตนเอง 004. การทางานเป็นทมี 005. จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) 001. การบรหิ ารจดั การหลกั สตู รและการจัดการเรยี นรู้ 002. การพัฒนาผ้เู รยี น 003. การบรหิ ารจดั การช้ันเรียน 004. การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัยเพื่อพัฒนา ผู้เรยี น 005. ภาวะผูน้ าครู 006. การสรา้ งความสมั พันธแ์ ละความรว่ มมือกบั ชุมชน สรปุ ผล จานวน 10 สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คุณภาพสงู จานวน 1 สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คณุ ภาพปานกลาง จานวน - สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คุณภาพควรปรับปรงุ
แบบประเมนิ สมรรถนะครผู สู้ อน สังกดั สำนกั งำนเขตพืน้ ทกี่ ำรศึกษำประถมศกึ ษำปทุมธำนี เขต 1 ช่ือ-สกลุ คุณครแู พรวรุ่ง ศรีประภา โรงเรยี น วัดพืชนิมิต (คาสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ารุง) สพป.ปทุมธานี เขต 1 ผู้ประเมิน ตนเอง เพอื่ นครูผสู้ อน ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา คำชแี้ จง 1. แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับนี้สาหรับให้ครูผู้สอนทาการประเมินสภาพการ ปฏิบัติงานของตนเอง เพ่ือนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจริง เพ่ือเป็น ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ รับรองผลการประเมินอีกครง้ั หนง่ึ 2. แบบประเมินสมรรถนะฉบบั น้ี แบง่ ออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อมูลเก่ยี วกบั ครผู สู้ อน ตอนที่ 2 การประเมนิ สมรรถนะของครูผูส้ อน ประกอบดว้ ยสมรรถนะหลกั 5 สมรรถนะ และสมรรถนะประจาสายงาน 6 สมรรถนะ 3. ใหผ้ ู้ประเมนิ อา่ นรายการคาถามในแต่ละสมรรถนะให้ดีกอ่ นท่จี ะทาการประเมนิ สมรรถนะ การปฏบิ ัติงาน 4. วิธีการประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ให้ท่านทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงาน ในแตล่ ะรายการคาถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จริง ตอนท่ี 1 ข้อมลู เกีย่ วกับผู้รบั การประเมนิ 1. เพศ ชาย หญงิ 2. ตาแหนง่ ปัจจุบันของผูร้ ับการประเมิน ครูผู้ช่วย ครู คศ. 1 ครู คศ. 2 ครู คศ. 3 ครู คศ. 4 ครู คศ. 5 3. ระดับการศึกษาสูงสุด ตา่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก 4. อายรุ าชการ ปี เดอื น (นบั ถึง 10 พฤศจกิ ายน 2563) 5. กลุ่มสาระการเรียนรทู้ ถี่ นัดหรือเช่ยี วชาญ คอื ตอนท่ี 2 การประเมินสมรรถนะในการปฏิบตั ิงานของครผู ู้สอน (ผู้รับการประเมนิ ) ให้ท่านพิจารณาสภาพการดาเนินงานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผู้ รับการประเมินแล้ว ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในประเด็นย่อยของแต่ละสมรรถนะตามสภาพ ความเปน็ จรงิ
1. สมรรถนะหลัก (Core Competency) ระดบั กำรปฏบิ ตั ิ มำก ทีส่ ุด รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปำน มำก ทส่ี ุด กลำง 1. สมรรถนะกำรมุ่งผลสัมฤทธิใ์ นกำรปฏบิ ัตงิ ำน 1.1 วิเคราะห์ภารกจิ งานเพ่อื วางแผนการแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบ 1.2 กาหนดเปา้ หมายในการปฏบิ ัติงานทกุ ภาคเรยี น 1.3 กาหนดแผนการปฏิบัตงิ านอยา่ งเปน็ ข้ันตอน 1.4 ใฝ่เรียนรู้เกยี่ วกบั การจดั การเรยี นรู้ 1.5 ริเรมิ่ สร้างสรรค์ในการพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ 1.6 แสวงหาความร้ทู เ่ี ก่ยี วกับวิชาชพี ใหม่ ๆ เพ่ือการพฒั นาตนเอง 1.7 ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของตนเอง 1.8 ใช้ผลการประเมนิ ในการปฏบิ ตั ิงานมาใชป้ รบั ปรุง/พฒั นา การทางานใหด้ ีย่งิ ขึน้ 1.9 พัฒนาการปฏบิ ัติงานเพอ่ื ตอบสนองความต้องการของผ้เู รยี น ผปู้ กครอง และชมุ ชน 2. สมรรถนะกำรบรกิ ำรทด่ี ี 2.1 ให้บริการด้วยความยมิ้ แย้มใจใส่ เห็นอกเหน็ ใจผู้มารบั บรกิ าร 2.2 ใหบ้ รกิ ารอยา่ งรวดเรว็ ทันใจ ไมล่ ่าชา้ 2.3 ให้บริการอย่างมีความเคารพยกย่อง อ่อนนอ้ มใหเ้ กยี รติ ผู้รบั บริการ 2.4 ใหบ้ รกิ ารด้วยความมงุ่ มัน่ ตง้ั ใจและเตม็ อกเต็มใจ 2.5 แก้ปญั หาใหก้ บั นักเรยี น และผูป้ กครองหรอื ผมู้ าขอรับบริการ 2.6 ให้บรกิ ารโดยยึดความตอ้ งการของผู้รบั บริการเปน็ หลกั 2.7 ให้บรกิ ารเกนิ ความคาดหวัง แม้ต้องใช้เวลา หรือ ความพยามยามอยา่ งมาก 3. สมรรถนะกำรพัฒนำตนเอง 3.1 ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ มงุ่ มน่ั และแสวงหาโอกาสพฒั นา ตนเองดว้ ยวิธที ี่หลากหลาย 3.2 วิเคราะหจ์ ดุ แข็งและจุดออ่ นเกี่ยวกับการจดั การเรยี นรู้ ของตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 3.3 ศกึ ษา คน้ ควา้ หาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ทางวชิ าการเพอ่ื พฒั นา ตนเองและวชิ าชพี 3.4 แลกเปลี่ยนเรียนร้กู บั ผูอ้ น่ื เพือ่ การพฒั นาตนเองทกุ ครัง้ ที่มโี อกาส 3.5 เข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาตนเองจากหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนอื่ ง
รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม ระดบั กำรปฏิบตั ิ มำก ที่สดุ 3.6 ใหค้ าปรกึ ษา แนะนา นเิ ทศ และถ่ายทอดความรู้ นอ้ ย น้อย ปำน มำก ประสบการณ์ทางวชิ าชีพแก่ผู้อ่ืน ที่สุด กลำง 3.7 มีการสรา้ งเครือข่ายการเรียนรู้เพอ่ื การพฒั นาตนเองทัง้ ใน และนอกสถานศึกษา 4. สมรรถนะกำรทำงำนเปน็ ทมี 4.1 สรา้ งสัมพันธภาพท่ดี ีในการทางานรว่ มกับผอู้ ื่น 4.2 ทางานร่วมกบั ผู้อน่ื ตามบทบาทหนา้ ทีท่ ่ีได้รับมอบหมาย 4.3 ชว่ ยเหลือเพ่อื นรว่ มงานเพ่อื สเู่ ป้าหมายความสาเรจ็ ร่วมกัน 4.4 ให้เกยี รติ ยกย่องชมเชย ให้กาลังใจแกเ่ พือ่ นร่วมงานในโอกาส ท่ีเหมาะสม 4.5 มีทักษะในการทางานรว่ มกบั บคุ คล/กล่มุ บุคคลไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา และในทกุ สถานการณ์ 4.6 แสดงบทบาทผูน้ าหรอื ผู้ตามในการทางานร่วมกับผู้อนื่ ได้ เหมาะสมในทุกโอกาส 4.7 แลกเปลย่ี น/รับฟังความคิดเหน็ และประสบการณ์ภายใน ทีมงาน 4.8 รว่ มกับเพื่อนรว่ มงานในการสร้างวฒั นธรรมการทางานเป็นทมี ให้เกดิ ขน้ึ ในสถานศึกษา 5. สมรรถนะจริยธรรมและจรรยำบรรณวชิ ำชีพครู 5.1 ยึดม่ันในอดุ มการณข์ องวชิ าชพี ปกปอ้ งเกยี รตแิ ละศักด์ิศรี ของวิชาชีพ 5.2 เสยี สละ อุทิศตนเพ่ือประโยชนต์ ่อวิชาชีพและเป็นสมาชิกทีด่ ี ขององค์กรวชิ าชีพ 5.3 ยกย่อง ชืน่ ชมบุคคลที่ประสบความสาเร็จในวชิ าชีพ 5.4 ซ่ือสตั ย์ตอ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใช้จ่าย และใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั 5.5 ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ และขนบธรรมเนยี ม ประเพณี 5.6 ปฏิบตั ิตนและดาเนินชวี ติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งไดเ้ หมาะสมกบั สถานะของตน 5.7 รกั ษาสทิ ธปิ ระโยชน์ของตนเอง และไม่ละเมดิ สิทธิของผู้อืน่ 5.8 เอื้อเฟอ้ื เผอ่ื แผ่ ช่วยเหลือ และไม่เบียดเบียนผอู้ ่ืน 5.9 มคี วามเปน็ กัลยาณมติ รตอ่ ผเู้ รยี นเพอื่ นรว่ มงาน และผู้รบั บริการ
ระดับกำรปฏิบัติ รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปำน มำก มำก 5.10 ปฏบิ ัติตนตามหลักการครองตน ครองคน ครองงาน ทสี่ ดุ กลำง ท่สี ดุ เพ่อื ให้การปฏบิ ตั ิงานบรรลผุ ลสาเร็จ 2. สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย ระดับกำรปฏบิ ตั ิ มำก ทีส่ ดุ ที่สุด 1. สมรรถนะกำรบรหิ ำรจดั กำรหลกั สูตรและกำรจดั กำรเรยี นรู้ นอ้ ย ปำน มำก 1.1 ออกแบบกิจกรรมการเรียนร้อู ย่างหลากหลายสอดคล้อง กลำง กบั วยั ความตอ้ งการของผูเ้ รียน ชุมชน 1.2 เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนมสี ่วนร่วมในการกาหนดกิจกรรมและ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1.3 ใช้รูปแบบ/เทคนิควิธีการสอนอยา่ งหลากหลายเพือ่ ใหผ้ ู้เรียน พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ 1.4 จดั กจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่ปลกู ฝงั /ส่งเสรมิ คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์และสมรรถนะของผู้เรียน 1.5 ใช้หลักจิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรใู้ หผ้ ู้เรยี นเรียนรู้อยา่ งมี ความสุขและพฒั นาเตม็ ศกั ยภาพ 1.6 ใชแ้ หล่งเรียนร้แู ละภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ในชุมชนใน การจัดการเรยี นรู้ 1.7 ใชส้ ื่อ นวตั กรรม และเทคโนโลยีหลากหลายและเหมาะสมกับ เนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้ 1.8 ใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรใ์ นการผลิตส่ือ/นวัตกรรมท่ใี ช้ ในการเรียนรู้ 1.9 ออกแบบวิธีการวัดและประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกับ เนือ้ หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.10 สร้างและนาเครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผลไปใชอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม 1.11 วดั และประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง 1.12 นาผลการประเมินการเรยี นรมู้ าใช้ในการพัฒนา การจดั การเรียนรู้
2. สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) (ต่อ) รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย ระดบั กำรปฏิบตั ิ มำก ท่ีสดุ ทส่ี ดุ 2. สมรรถนะกำรพัฒนำผ้เู รียน นอ้ ย ปำน มำก 2.1 สอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรมแก่ผู้เรยี นในการจดั การเรียนรู้ กลำง ในชน้ั เรยี น 2.2 จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหแ้ กผ่ เู้ รียนโดยให้ ผู้เรียนมีส่วนรว่ มในการวางแผนกจิ กรรม 2.3 จดั ทาโครงการ/กจิ กรรมท่ีสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจริยธรรม ใหแ้ ก่ผู้เรียน 2.4 จัดกจิ กรรมเพอื่ พฒั นาผูเ้ รยี นด้านการดูแลตนเอง มที กั ษะใน การเรียนรู้ การทางาน การอยรู่ ว่ มกันในสังคม และรเู้ ท่าทัน การเปลีย่ นแปลง 2.5 สอดแทรกความเป็นประชาธปิ ไตย ความภูมิใจในความเป็น ไทยใหแ้ ก่ผเู้ รยี นในการจัดการเรียนรู้ 2.6 จดั ทาโครงการ/กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย 2.7 ใหผ้ ูป้ กครองมีสว่ นร่วมในการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน รายบคุ คล 2.8 นาข้อมลู นักเรยี นไปใชช้ ่วยเหลือ/พัฒนาผู้เรียนทัง้ ด้าน การเรียนร้แู ละปรบั พฤติกรรมเป็นรายบคุ คล 2.9 จัดกจิ กรรมเพ่ือปอ้ งกันแกไ้ ขปญั หาและส่งเสรมิ พัฒนาผูเ้ รียน ให้แกน่ ักเรียนอยา่ งทัว่ ถงึ 2.10 ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รยี นปฏิบตั ิตนใหถ้ ูกต้องเหมาะสมกับคา่ นยิ ม ท่ดี งี าม 2.11 ดแู ลนักเรยี นทกุ คนอยา่ งทว่ั ถึง ทนั เหตุการณ์ 3. สมรรถนะกำรบริหำรจัดกำรช้นั เรยี น 3.1 จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรียนรู้ 3.2 ส่งเสริมการมปี ฏิสมั พนั ธ์ทีด่ ีระหว่างครกู ับผู้เรยี นและผูเ้ รยี น กบั ผเู้ รียน 3.3 ตรวจสอบสิ่งอานวยความสะดวกในหอ้ งเรยี นให้พรอ้ มใช้ และปลอดภยั 3.4 จดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศของนักเรียนเปน็ รายบคุ คลและ เอกสารประจาช้นั เรยี นครบถว้ น เป็นปจั จบุ นั
รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย ระดบั กำรปฏบิ ตั ิ มำก ท่ีสดุ ทส่ี ุด 3.5 นาขอ้ มูลสารสนเทศไปใช้ในการพฒั นาผู้เรียนได้อยา่ ง นอ้ ย ปำน มำก เตม็ ศกั ยภาพ กลำง 3.6 ใหผ้ ู้เรยี นมสี ่วนร่วมในการกาหนดกฎ กตกิ า ข้อตกลง ในชนั้ เรียน 3.7 แกป้ ญั หา/พัฒนานกั เรยี นดา้ นระเบียบวนิ ัยโดยการสร้างวินยั เชงิ บวกในชน้ั เรียน 3.8 ประเมิน การกากับดูแลชนั้ เรียน และนาผลการประเมินไปใช้ ในการปรับปรงุ และพัฒนา 4. สมรรถนะกำรวิเครำะห์ สงั เครำะห์ และกำรวจิ ัยเพือ่ พัฒนำ ผูเ้ รยี น 4.1 สารวจปญั หาเกี่ยวกับนักเรียนที่เกดิ ข้นึ ในช้ันเรียนเพอ่ื วางแผนการวจิ ยั เพือ่ พัฒนาผเู้ รียน 4.2 วิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหาเก่ียวกับนักเรยี นที่เกิดข้นึ ใน ช้นั เรยี นเพ่อื กาหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปญั หาระบุ สภาพปัจจบุ ัน 4.3 รวบรวม จาแนกและจัดกลุ่มของสภาพปญั หา แนวคิดทฤษฏี และวธิ กี ารแก้ปัญหาเพอื่ สะดวกต่อการนาไปใช้ 4.4 มีการประมวลผลหรือสรุปข้อมลู สารสนเทศท่เี ปน็ ประโยชน์ ต่อการแกไ้ ขปัญหาในช้ันเรียนโดยใช้ขอ้ มูลรอบดา้ น 4.5 มีการวิเคราะหจ์ ุดเด่น จดุ ดอ้ ย อปุ สรรคและโอกาส ความสาเร็จของการวจิ ยั เพื่อแก้ปัญหาทเี่ กิดขึ้นในชั้นเรยี น 4.6 จดั ทาแผนการวิจยั และดาเนนิ กระบวนการวจิ ยั อย่างเปน็ ระบบตามแผนดาเนนิ การวิจยั ท่กี าหนดไว้ 4.7 ตรวจสอบความถูกต้องและความนา่ เชอื่ ถือของผลการวจิ ัย อย่างเป็นระบบ 4.8 มีการนาผลการวิจยั ไปประยุกตใ์ ช้ในกรณีศึกษาอน่ื ๆ ที่มี บรบิ ทของปญั หาที่คลา้ ยคลงึ กัน 4.9 นาขอ้ มูลนกั เรยี นไปใช้ชว่ ยเหลอื /พัฒนาผเู้ รยี นทงั้ ด้าน การเรยี นร้แู ละปรับพฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคล 4.10 จดั กิจกรรเพื่อปอ้ งกนั แกไ้ ขปญั หาและสง่ เสริมพัฒนาผเู้ รียน ให้แก่นักเรยี นอย่างท่ัวถึง 5. สมรรถนะภำวะผู้นำครู 5.1 เห็นคณุ คา่ ให้ความสาคัญในความคิดเห็นหรอื ผลงานและ ใหเ้ กยี รตผิ อู้ น่ื
รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย ระดับกำรปฏิบตั ิ มำก ที่สดุ ทส่ี ดุ 5.2 กระตุ้นจูงใจ ปรับเปลีย่ นความคดิ และการกระทาของผู้อน่ื น้อย ปำน มำก ให้มีความผูกพนั และมุง่ มัน่ ต่อเปา้ หมายในการทางานร่วมกนั กลำง 5.3 มีปฏิสัมพันธ์ในการสนทนาอย่างสร้างสรรค์กับผู้อ่ืนโดย มงุ่ เนน้ ไปการเรียนรู้ และการพฒั นาวชิ าชพี 5.4 มีทักษะการฟัง การพดู และการตัง้ คาถามเปิดใจกว้าง ยดื หยุ่น ยอมรับทศั นะทีห่ ลากหลายของผอู้ ่ืนเพอื่ เปน็ แนวทาง ใหม่ ๆ ในการปฏิบตั ิงาน 5.5 ให้ความสนใจต่อสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเี่ ป็นปัจจุบนั โดยมีการ วางแผนอย่างมีวสิ ัยทัศนซ์ งึ่ เชื่อมโยงกบั วสิ ยั ทศั น์ เปา้ หมาย และพนั ธกจิ ของโรงเรยี น 5.6 ริเร่ิมการปฏบิ ัติทนี่ าไปส่กู ารเปลย่ี นแปลงและพฒั นา นวตั กรรม 5.7 กระตนุ้ ผู้อ่ืนใหม้ ีการเรียนรู้และความร่วมมือกนั ในวงกวา้ ง เพอื่ พฒั นาผู้เรียน สถานศึกษา และวชิ าชพี 5.8 ปฏบิ ัตงิ านร่วมกบั ผ้อู ่นื ภายใตร้ ะบบ/ข้ันตอนทีเ่ ปลย่ี นแปลง ไปจากเดิมได้ 5.9 สนบั สนนุ ความคดิ ริเรมิ่ ซงึ่ เกิดจากการพิจารณาไตร่ตรองของ เพ่อื นร่วมงาน และมสี ว่ นร่วมในการพฒั นานวัตกรรมต่าง ๆ 5.10 ใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการหลากหลายในการตรวจสอบประเมนิ การปฏบิ ตั งิ านของตนเองและผลการดาเนนิ งานสถานศกึ ษา 5.11 กาหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรยี นรทู้ ท่ี า้ ทาย ความสามารถของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏิบัตใิ ห้ บรรลผุ ลสาเรจ็ ได้ 5.12 ยอมรับข้อมูลป้อนกลับเก่ียวกับความคาดหวังด้านการ เรยี นรู้ ของผู้เรยี นจากผู้ปกครอง 6. สมรรถนะกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์และควำมรว่ มมือกับชุมชน เพอื่ กำรจดั กำรเรียนรู้ 6.1 มปี ฏสิ มั พนั ธ์ท่ีดกี ับผปู้ กครองและชมุ ชนในการติดตอ่ ส่ือสาร เพอ่ื การจัดการเรียนรู้ 6.2 ประสานงานกบั ผ้ปู กครองและชมุ ชนให้เข้ามามสี ว่ นร่วม ในการจัดการเรียนร้อู ยา่ งต่อเนือ่ งตลอดปีการศึกษา
รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย ระดบั กำรปฏิบัติ มำก ที่สดุ ที่สดุ 6.3 เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องเข้าร่วมวางแผนการจั ด นอ้ ย ปำน มำก กิจกรรม กลำง การเรยี นรูใ้ นระดบั ชน้ั เรียน 6.4 เปดิ โอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามาแลกเปล่ียนเรยี นรู้ เกย่ี วกบั การจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา 6.5 สร้างเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ระหว่างครู ผู้ปกครอง ชมุ ชนและ องค์กรอืน่ ๆ ท้งั ภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู สารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ 6.6 จดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีใหป้ ราชญ์ชาวบา้ นหรือภูมปิ ัญญา ในท้องถิ่นเข้ามามีสว่ นร่วม 6.7 มีการเปิดโอกาสให้ผู้มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสียของสถานศกึ ษาเข้ามา มสี ว่ นรว่ มในการประเมินผลการจดั การศกึ ษา 6.8 มกี ารเสนอผลการจดั การเรียนรตู้ อ่ ฝ่ายตา่ ง ๆ ของชมุ ชน เพอื่ แลกเปลยี่ นเรียนรแู้ ละแกไ้ ขปัญหาร่วมกนั ในทกุ ภาคเรียน ลงชอื่ .................................................. ผู้ประเมนิ (คุณครแู พรวร่งุ ศรปี ระภา ) ตาแหน่ง ครู
แบบประเมนิ สมรรถนะครผู ู้สอน สังกดั สำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำปทุมธำนี เขต 1 ชือ่ -สกลุ คณุ ครูแพรวรุง่ ศรีประภา โรงเรียน วดั พืชนมิ ิต (คาสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ารงุ ) สพป.ปทมุ ธานี เขต 1 โรงเรยี น วัดพชื นิมิต (คาสวสั ด์ริ าษฎร์บารุง) สพป.ปทมุ ธานี เขต 1 ผปู้ ระเมิน ตนเอง เพื่อนครูผู้สอน ผู้บริหารสถานศกึ ษา คำชแ้ี จง 1. แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับน้ีสาหรับให้ครูผู้สอนทาการประเมินสภาพการ ปฏิบัติงานของตนเอง เพ่ือนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจริง เพ่ือเป็น ข้อมูลพ้ืนฐานในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ รบั รองผลการประเมนิ อกี คร้ังหนึ่ง 2. แบบประเมนิ สมรรถนะฉบับน้ี แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนท่ี 1 ข้อมูลเกย่ี วกบั ครผู ู้สอน ตอนท่ี 2 การประเมินสมรรถนะของครผู ู้สอน ประกอบด้วยสมรรถนะหลกั 5 สมรรถนะ และสมรรถนะประจาสายงาน 6 สมรรถนะ 3. ใหผ้ ูป้ ระเมนิ อา่ นรายการคาถามในแต่ละสมรรถนะใหด้ ีก่อนท่ีจะทาการประเมินสมรรถนะ การปฏิบตั ิงาน 4. วิธีการประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ให้ท่านทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงาน ในแต่ละรายการคาถามของแตล่ ะสมรรถนะตามสภาพความเป็นจริง ตอนที่ 1 ขอ้ มูลเกีย่ วกับผรู้ บั การประเมนิ 1. เพศ ชาย หญงิ 2. ตาแหน่งปัจจุบนั ของผรู้ ับการประเมิน ครผู ้ชู ่วย ครู คศ. 1 ครู คศ. 2 ครู คศ. 3 ครู คศ. 4 ครู คศ. 5 3. ระดบั การศึกษาสูงสดุ ตา่ กว่าปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปรญิ ญาเอก 4. อายรุ าชการ ปี เดือน (นับถงึ 10 พฤศจิกายน 2563) 5. กลุม่ สาระการเรยี นรู้ท่ถี นัดหรอื เชี่ยวชาญ คอื ตอนที่ 2 การประเมนิ สมรรถนะในการปฏิบตั งิ านของครูผ้สู อน (ผรู้ ับการประเมนิ ) ให้ท่านพิจารณาสภาพการดาเนินงานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผู้ รับการประเมินแล้ว ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในประเด็นย่อยของแต่ละสมรรถนะตามสภาพ ความเป็นจรงิ
1. สมรรถนะหลัก (Core Competency) ระดบั กำรปฏบิ ตั ิ มำก ทีส่ ุด รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปำน มำก ทส่ี ุด กลำง 1. สมรรถนะกำรมงุ่ ผลสัมฤทธิใ์ นกำรปฏบิ ัตงิ ำน 1.1 วิเคราะห์ภารกจิ งานเพอ่ื วางแผนการแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบ 1.2 กาหนดเปา้ หมายในการปฏบิ ตั ิงานทกุ ภาคเรยี น 1.3 กาหนดแผนการปฏิบัตงิ านอยา่ งเป็นข้ันตอน 1.4 ใฝ่เรียนรู้เกยี่ วกบั การจัดการเรยี นรู้ 1.5 ริเรมิ่ สร้างสรรค์ในการพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ 1.6 แสวงหาความร้ทู เ่ี ก่ยี วกบั วิชาชพี ใหม่ ๆ เพ่ือการพฒั นาตนเอง 1.7 ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของตนเอง 1.8 ใช้ผลการประเมนิ ในการปฏบิ ัติงานมาใชป้ รบั ปรุง/พฒั นา การทางานใหด้ ีย่งิ ขึน้ 1.9 พัฒนาการปฏิบัติงานเพอื่ ตอบสนองความต้องการของผ้เู รยี น ผปู้ กครอง และชมุ ชน 2. สมรรถนะกำรบรกิ ำรท่ีดี 2.1 ให้บริการด้วยความยมิ้ แยม้ ใจใส่ เห็นอกเหน็ ใจผู้มารบั บรกิ าร 2.2 ใหบ้ รกิ ารอยา่ งรวดเรว็ ทันใจ ไมล่ ่าชา้ 2.3 ให้บริการอย่างมีความเคารพยกย่อง อ่อนนอ้ มใหเ้ กยี รติ ผู้รบั บริการ 2.4 ใหบ้ รกิ ารด้วยความมุ่งมน่ั ต้ังใจและเตม็ อกเต็มใจ 2.5 แก้ปญั หาใหก้ บั นักเรยี น และผูป้ กครองหรอื ผมู้ าขอรับบริการ 2.6 ให้บรกิ ารโดยยดึ ความตอ้ งการของผู้รับบริการเปน็ หลกั 2.7 ให้บริการเกนิ ความคาดหวัง แม้ต้องใช้เวลา หรือ ความพยามยามอยา่ งมาก 3. สมรรถนะกำรพัฒนำตนเอง 3.1 ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ มุง่ มนั่ และแสวงหาโอกาสพฒั นา ตนเองดว้ ยวิธที ห่ี ลากหลาย 3.2 วิเคราะหจ์ ดุ แข็งและจุดอ่อนเกี่ยวกบั การจดั การเรยี นรู้ ของตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 3.3 ศกึ ษา คน้ ควา้ หาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ทางวชิ าการเพอ่ื พฒั นา ตนเองและวชิ าชพี 3.4 แลกเปลี่ยนเรยี นร้กู บั ผู้อื่นเพอ่ื การพฒั นาตนเองทกุ ครัง้ ที่มโี อกาส 3.5 เข้ารบั การอบรมเพื่อพัฒนาตนเองจากหน่วยงานต่างๆ อย่างตอ่ เนอื่ ง
รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม ระดบั กำรปฏิบตั ิ มำก ที่สดุ 3.6 ใหค้ าปรกึ ษา แนะนา นเิ ทศ และถ่ายทอดความรู้ นอ้ ย น้อย ปำน มำก ประสบการณ์ทางวชิ าชีพแก่ผู้อน่ื ที่สุด กลำง 3.7 มีการสรา้ งเครือข่ายการเรยี นรู้เพอ่ื การพฒั นาตนเองทัง้ ใน และนอกสถานศึกษา 4. สมรรถนะกำรทำงำนเปน็ ทีม 4.1 สรา้ งสัมพันธภาพท่ดี ีในการทางานรว่ มกับผูอ้ ่ืน 4.2 ทางานร่วมกบั ผู้อน่ื ตามบทบาทหนา้ ทีท่ ่ีได้รบั มอบหมาย 4.3 ชว่ ยเหลือเพ่อื นรว่ มงานเพ่อื สเู่ ปา้ หมายความสาเร็จร่วมกัน 4.4 ให้เกยี รติ ยกย่องชมเชย ให้กาลงั ใจแกเ่ พือ่ นร่วมงานในโอกาส ท่ีเหมาะสม 4.5 มีทักษะในการทางานรว่ มกบั บคุ คล/กล่มุ บคุ คลไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพทั้งภายในและภายนอกสถานศกึ ษา และในทกุ สถานการณ์ 4.6 แสดงบทบาทผูน้ าหรอื ผู้ตามในการทางานร่วมกับผู้อนื่ ได้ เหมาะสมในทุกโอกาส 4.7 แลกเปลย่ี น/รับฟังความคิดเหน็ และประสบการณ์ภายใน ทีมงาน 4.8 รว่ มกับเพื่อนรว่ มงานในการสร้างวฒั นธรรมการทางานเป็นทมี ให้เกดิ ขน้ึ ในสถานศึกษา 5. สมรรถนะจริยธรรมและจรรยำบรรณวชิ ำชพี ครู 5.1 ยึดม่ันในอดุ มการณข์ องวชิ าชพี ปกปอ้ งเกยี รตแิ ละศักดศ์ิ รี ของวิชาชีพ 5.2 เสยี สละ อุทิศตนเพ่ือประโยชนต์ ่อวิชาชีพและเป็นสมาชิกทีด่ ี ขององค์กรวชิ าชีพ 5.3 ยกย่อง ชืน่ ชมบุคคลที่ประสบความสาเรจ็ ในวชิ าชีพ 5.4 ซ่ือสัตย์ตอ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใช้จ่าย และใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั 5.5 ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ และขนบธรรมเนยี ม ประเพณี 5.6 ปฏิบตั ิตนและดาเนินชวี ติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งไดเ้ หมาะสมกบั สถานะของตน 5.7 รกั ษาสทิ ธปิ ระโยชน์ของตนเอง และไม่ละเมดิ สิทธิของผู้อืน่ 5.8 เอื้อเฟอ้ื เผอ่ื แผ่ ช่วยเหลือ และไม่เบียดเบียนผอู้ ่ืน 5.9 มคี วามเปน็ กัลยาณมติ รตอ่ ผเู้ รยี นเพื่อนรว่ มงาน และผู้รบั บริการ
ระดับกำรปฏิบัติ รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปำน มำก มำก 5.10 ปฏบิ ัติตนตามหลักการครองตน ครองคน ครองงาน ทสี่ ดุ กลำง ท่สี ดุ เพ่อื ให้การปฏบิ ตั ิงานบรรลผุ ลสาเร็จ 2. สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย ระดับกำรปฏบิ ตั ิ มำก ทีส่ ดุ ที่สุด 1. สมรรถนะกำรบรหิ ำรจดั กำรหลกั สูตรและกำรจดั กำรเรยี นรู้ นอ้ ย ปำน มำก 1.1 ออกแบบกิจกรรมการเรียนร้อู ย่างหลากหลายสอดคลอ้ ง กลำง กบั วยั ความตอ้ งการของผูเ้ รียน ชุมชน 1.2 เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนมสี ่วนรว่ มในการกาหนดกิจกรรมและ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1.3 ใช้รูปแบบ/เทคนิควิธีการสอนอยา่ งหลากหลายเพ่อื ใหผ้ ู้เรียน พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ 1.4 จดั กจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่ปลกู ฝงั /ส่งเสรมิ คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์และสมรรถนะของผู้เรียน 1.5 ใช้หลักจิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรใู้ หผ้ ู้เรยี นเรียนรอู้ ยา่ งมี ความสุขและพฒั นาเตม็ ศกั ยภาพ 1.6 ใชแ้ หล่งเรียนร้แู ละภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ในชุมชนใน การจัดการเรยี นรู้ 1.7 ใชส้ ื่อ นวตั กรรม และเทคโนโลยีหลากหลายและเหมาะสมกับ เนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้ 1.8 ใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรใ์ นการผลิตส่อื /นวตั กรรมที่ใช้ ในการเรียนรู้ 1.9 ออกแบบวิธีการวัดและประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกับ เนือ้ หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.10 สร้างและนาเครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผลไปใชอ้ ยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 1.11 วดั และประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง 1.12 นาผลการประเมินการเรียนรมู้ าใช้ในการพัฒนา การจดั การเรียนรู้
2. สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) (ต่อ) รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย ระดบั กำรปฏิบตั ิ มำก ท่ีสดุ ทส่ี ดุ 2. สมรรถนะกำรพัฒนำผ้เู รียน นอ้ ย ปำน มำก 2.1 สอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรมแก่ผู้เรยี นในการจัดการเรียนรู้ กลำง ในชน้ั เรยี น 2.2 จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหแ้ กผ่ เู้ รียนโดยให้ ผู้เรียนมสี ่วนรว่ มในการวางแผนกจิ กรรม 2.3 จดั ทาโครงการ/กจิ กรรมท่สี ง่ เสริมคุณธรรมจริยธรรม ใหแ้ ก่ผู้เรยี น 2.4 จัดกจิ กรรมเพอื่ พัฒนาผูเ้ รยี นด้านการดแู ลตนเอง มที กั ษะใน การเรียนรู้ การทางาน การอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คม และรเู้ ท่าทัน การเปลยี่ นแปลง 2.5 สอดแทรกความเป็นประชาธปิ ไตย ความภูมิใจในความเป็น ไทยให้แก่ผู้เรยี นในการจัดการเรียนรู้ 2.6 จดั ทาโครงการ/กจิ กรรมที่ส่งเสริมความเปน็ ประชาธิปไตย ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย 2.7 ใหผ้ ูป้ กครองมีสว่ นร่วมในการดูแลช่วยเหลือนกั เรียน รายบคุ คล 2.8 นาข้อมลู นักเรยี นไปใชช้ ่วยเหลือ/พฒั นาผู้เรียนทัง้ ด้าน การเรยี นรแู้ ละปรบั พฤติกรรมเป็นรายบคุ คล 2.9 จัดกิจกรรมเพื่อป้องกันแกไ้ ขปญั หาและสง่ เสรมิ พัฒนาผูเ้ รียน ให้แก่นักเรียนอยา่ งทัว่ ถงึ 2.10 ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รยี นปฏิบตั ิตนใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมกับคา่ นยิ ม ท่ดี งี าม 2.11 ดแู ลนกั เรยี นทกุ คนอยา่ งทว่ั ถึง ทนั เหตกุ ารณ์ 3. สมรรถนะกำรบริหำรจัดกำรช้นั เรยี น 3.1 จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ 3.2 ส่งเสรมิ การมปี ฏิสมั พนั ธ์ทีด่ ีระหว่างครูกับผู้เรยี นและผูเ้ รยี น กบั ผเู้ รยี น 3.3 ตรวจสอบสิ่งอานวยความสะดวกในหอ้ งเรยี นให้พรอ้ มใช้ และปลอดภยั 3.4 จดั ทาขอ้ มูลสารสนเทศของนักเรยี นเป็นรายบคุ คลและ เอกสารประจาช้นั เรยี นครบถว้ น เปน็ ปัจจุบนั
รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย ระดบั กำรปฏบิ ตั ิ มำก ท่ีสดุ ทส่ี ุด 3.5 นาขอ้ มูลสารสนเทศไปใช้ในการพฒั นาผู้เรียนได้อยา่ ง นอ้ ย ปำน มำก เตม็ ศกั ยภาพ กลำง 3.6 ใหผ้ ู้เรยี นมีส่วนร่วมในการกาหนดกฎ กตกิ า ข้อตกลง ในชนั้ เรียน 3.7 แกป้ ญั หา/พัฒนานกั เรยี นดา้ นระเบียบวนิ ัยโดยการสร้างวินยั เชงิ บวกในชน้ั เรียน 3.8 ประเมิน การกากับดูแลชนั้ เรียน และนาผลการประเมินไปใช้ ในการปรับปรงุ และพัฒนา 4. สมรรถนะกำรวิเครำะห์ สงั เครำะห์ และกำรวจิ ัยเพื่อพัฒนำ ผูเ้ รยี น 4.1 สารวจปญั หาเกี่ยวกับนักเรียนที่เกดิ ข้นึ ในช้ันเรียนเพอ่ื วางแผนการวจิ ยั เพือ่ พัฒนาผเู้ รียน 4.2 วิเคราะห์สาเหตขุ องปญั หาเก่ียวกับนักเรยี นทีเ่ กิดข้นึ ใน ช้นั เรยี นเพ่ือกาหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปญั หาระบุ สภาพปัจจบุ ัน 4.3 รวบรวม จาแนกและจัดกลุ่มของสภาพปญั หา แนวคิดทฤษฏี และวธิ กี ารแก้ปัญหาเพอื่ สะดวกต่อการนาไปใช้ 4.4 มีการประมวลผลหรือสรุปข้อมลู สารสนเทศทเ่ี ปน็ ประโยชน์ ต่อการแกไ้ ขปัญหาในช้ันเรียนโดยใช้ขอ้ มูลรอบดา้ น 4.5 มีการวิเคราะหจ์ ุดเด่น จดุ ดอ้ ย อปุ สรรคและโอกาส ความสาเรจ็ ของการวจิ ยั เพื่อแก้ปัญหาทเี่ กิดขึ้นในชนั้ เรยี น 4.6 จดั ทาแผนการวิจยั และดาเนนิ กระบวนการวจิ ยั อยา่ งเปน็ ระบบตามแผนดาเนนิ การวิจยั ท่กี าหนดไว้ 4.7 ตรวจสอบความถูกต้องและความนา่ เชอื่ ถือของผลการวจิ ัย อย่างเป็นระบบ 4.8 มีการนาผลการวิจยั ไปประยุกตใ์ ช้ในกรณีศึกษาอน่ื ๆ ที่มี บรบิ ทของปญั หาที่คลา้ ยคลงึ กัน 4.9 นาขอ้ มูลนกั เรยี นไปใช้ชว่ ยเหลอื /พัฒนาผเู้ รียนท้งั ด้าน การเรยี นรู้และปรับพฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคล 4.10 จดั กิจกรรเพื่อปอ้ งกนั แกไ้ ขปญั หาและสง่ เสริมพฒั นาผเู้ รียน ให้แก่นักเรียนอย่างท่ัวถึง 5. สมรรถนะภำวะผู้นำครู 5.1 เห็นคณุ คา่ ให้ความสาคัญในความคิดเห็นหรือผลงานและ ใหเ้ กยี รตผิ อู้ น่ื
รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย ระดับกำรปฏบิ ตั ิ มำก ที่สดุ ที่สดุ 5.2 กระตุ้นจูงใจ ปรบั เปลีย่ นความคดิ และการกระทาของผู้อ่นื น้อย ปำน มำก ให้มีความผูกพันและมุง่ ม่ันตอ่ เปา้ หมายในการทางานร่วมกนั กลำง 5.3 มีปฏิสัมพันธ์ในการสนทนาอย่างสร้างสรรค์กับผู้อื่นโดย มุ่งเนน้ ไปการเรียนรู้ และการพฒั นาวิชาชพี 5.4 มีทักษะการฟงั การพูด และการตง้ั คาถามเปิดใจกว้าง ยดื หยุ่น ยอมรบั ทัศนะท่หี ลากหลายของผูอ้ ืน่ เพ่ือเปน็ แนวทาง ใหม่ ๆ ในการปฏบิ ัติงาน 5.5 ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเป็นปจั จบุ ันโดยมีการ วางแผนอย่างมวี สิ ัยทัศน์ซง่ึ เชื่อมโยงกับวสิ ัยทศั น์ เป้าหมาย และพนั ธกจิ ของโรงเรยี น 5.6 ริเร่ิมการปฏบิ ัติทนี่ าไปสูก่ ารเปลี่ยนแปลงและพฒั นา นวตั กรรม 5.7 กระตนุ้ ผู้อ่ืนให้มีการเรยี นร้แู ละความร่วมมอื กันในวงกวา้ ง เพอื่ พฒั นาผูเ้ รยี น สถานศกึ ษา และวชิ าชีพ 5.8 ปฏบิ ัตงิ านร่วมกับผ้อู นื่ ภายใต้ระบบ/ขัน้ ตอนท่ีเปลย่ี นแปลง ไปจากเดิมได้ 5.9 สนบั สนนุ ความคดิ รเิ ร่ิมซ่ึงเกดิ จากการพิจารณาไตร่ตรองของ เพ่อื นร่วมงาน และมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นานวัตกรรมตา่ ง ๆ 5.10 ใชเ้ ทคนคิ วิธกี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมนิ การปฏบิ ตั งิ านของตนเองและผลการดาเนินงานสถานศึกษา 5.11 กาหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรียนร้ทู ี่ท้าทาย ความสามารถของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏิบัติให้ บรรลผุ ลสาเรจ็ ได้ 5.12 ยอมรับข้อมูลป้อนกลับเกี่ยวกับความคาดหวังด้านการ เรยี นรู้ ของผู้เรยี นจากผูป้ กครอง 6. สมรรถนะกำรสรำ้ งควำมสมั พันธ์และควำมร่วมมือกับชุมชน เพอื่ กำรจดั กำรเรียนรู้ 6.1 มปี ฏสิ มั พนั ธ์ท่ดี ีกบั ผปู้ กครองและชุมชนในการติดต่อสื่อสาร เพอ่ื การจัดการเรยี นรู้ 6.2 ประสานงานกบั ผู้ปกครองและชุมชนใหเ้ ขา้ มามสี ว่ นร่วม ในการจัดการเรียนรอู้ ยา่ งต่อเน่อื งตลอดปีการศึกษา
รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย ระดับกำรปฏิบัติ มำก ที่สดุ ที่สดุ 6.3 เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องเข้าร่วมวางแผนการจัด นอ้ ย ปำน มำก กจิ กรรม กลำง การเรยี นรใู้ นระดับชัน้ เรียน 6.4 เปดิ โอกาสให้ผูป้ กครองและชุมชนเขา้ มาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ เกยี่ วกบั การจัดการเรียนการสอนในสถานศกึ ษา 6.5 สรา้ งเครอื ข่ายความรว่ มมอื ระหวา่ งครู ผู้ปกครอง ชุมชนและ องค์กรอ่นื ๆ ทง้ั ภาครฐั และเอกชนในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู สารสนเทศเพื่อการจดั การเรียนรู้ 6.6 จดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ให้ปราชญช์ าวบ้านหรอื ภมู ปิ ญั ญา ในทอ้ งถ่นิ เขา้ มามีส่วนร่วม 6.7 มีการเปดิ โอกาสให้ผู้มสี ่วนได้สว่ นเสยี ของสถานศกึ ษาเขา้ มา มีสว่ นร่วมในการประเมินผลการจัดการศกึ ษา 6.8 มกี ารเสนอผลการจดั การเรียนรตู้ ่อฝา่ ยต่าง ๆ ของชุมชน เพื่อแลกเปลย่ี นเรียนร้แู ละแก้ไขปญั หาร่วมกนั ในทุกภาคเรียน ลงช่อื .................................................. ผู้ประเมิน (คณุ ครู.................................................) ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ .......................................
แบบประเมินสมรรถนะครูผสู้ อน สังกัด สำนกั งำนเขตพ้ืนทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำปทุมธำนี เขต 1 ชือ่ -สกลุ คณุ ครูแพรวรุ่ง ศรปี ระภา โรงเรยี น วัดพืชนิมิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) สพป.ปทมุ ธานี เขต 1 ผู้ประเมิน ตนเอง เพือ่ นครผู ้สู อน ผบู้ ริหารสถานศึกษา คำชีแ้ จง 1. แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับน้ีสาหรับให้ครูผู้สอนทาการประเมินสภาพการ ปฏิบัติงานของตนเอง เพ่ือนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจริง เพ่ือเป็น ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ รบั รองผลการประเมนิ อีกครั้งหน่ึง 2. แบบประเมนิ สมรรถนะฉบบั นี้ แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนท่ี 1 ข้อมูลเกีย่ วกบั ครูผู้สอน ตอนท่ี 2 การประเมนิ สมรรถนะของครูผ้สู อน ประกอบด้วยสมรรถนะหลกั 5 สมรรถนะ และสมรรถนะประจาสายงาน 6 สมรรถนะ 3. ใหผ้ ปู้ ระเมินอา่ นรายการคาถามในแต่ละสมรรถนะใหด้ ีกอ่ นที่จะทาการประเมนิ สมรรถนะ การปฏบิ ัตงิ าน 4. วิธีการประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ให้ท่านทาเครื่องหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงาน ในแต่ละรายการคาถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จริง ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู เกย่ี วกับผู้รบั การประเมิน 1. เพศ ชาย หญงิ 2. ตาแหนง่ ปัจจบุ ันของผรู้ ับการประเมิน ครูผ้ชู ่วย ครู คศ. 1 ครู คศ. 2 ครู คศ. 3 ครู คศ. 4 ครู คศ. 5 3. ระดับการศึกษาสงู สุด ตา่ กว่าปริญญาตรี ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท ปริญญาเอก 4. อายุราชการ ปี เดือน (นับถึง 10 พฤศจกิ ายน2 559) 5. กลุม่ สาระการเรียนรู้ทีถ่ นัดหรอื เชี่ยวชาญ คือ ตอนท่ี 2 การประเมนิ สมรรถนะในการปฏิบตั งิ านของครูผูส้ อน (ผ้รู ับการประเมนิ ) ให้ท่านพิจารณาสภาพการดาเนินงานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผู้ รับการประเมินแล้ว ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในประเด็นย่อยของแต่ละสมรรถนะตามสภาพ ความเปน็ จริง
1. สมรรถนะหลัก (Core Competency) ระดบั กำรปฏบิ ตั ิ มำก ทีส่ ุด รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปำน มำก ทส่ี ุด กลำง 1. สมรรถนะกำรมุ่งผลสัมฤทธิใ์ นกำรปฏบิ ัตงิ ำน 1.1 วิเคราะห์ภารกจิ งานเพอ่ื วางแผนการแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบ 1.2 กาหนดเปา้ หมายในการปฏบิ ัติงานทกุ ภาคเรียน 1.3 กาหนดแผนการปฏิบัตงิ านอยา่ งเปน็ ข้ันตอน 1.4 ใฝ่เรียนรู้เกยี่ วกบั การจัดการเรยี นรู้ 1.5 ริเรมิ่ สร้างสรรค์ในการพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ 1.6 แสวงหาความร้ทู เ่ี ก่ยี วกบั วิชาชพี ใหม่ ๆ เพ่ือการพัฒนาตนเอง 1.7 ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของตนเอง 1.8 ใช้ผลการประเมนิ ในการปฏบิ ตั ิงานมาใชป้ รบั ปรุง/พฒั นา การทางานใหด้ ีย่งิ ขึน้ 1.9 พัฒนาการปฏบิ ัติงานเพอื่ ตอบสนองความต้องการของผ้เู รยี น ผปู้ กครอง และชมุ ชน 2. สมรรถนะกำรบรกิ ำรท่ีดี 2.1 ให้บริการด้วยความยมิ้ แยม้ ใจใส่ เห็นอกเหน็ ใจผู้มารบั บรกิ าร 2.2 ใหบ้ รกิ ารอยา่ งรวดเรว็ ทันใจ ไมล่ ่าชา้ 2.3 ให้บริการอย่างมีความเคารพยกย่อง อ่อนนอ้ มใหเ้ กยี รติ ผู้รบั บริการ 2.4 ใหบ้ รกิ ารด้วยความมุ่งมนั่ ตง้ั ใจและเตม็ อกเต็มใจ 2.5 แก้ปญั หาใหก้ บั นักเรยี น และผูป้ กครองหรอื ผมู้ าขอรับบริการ 2.6 ให้บรกิ ารโดยยึดความตอ้ งการของผู้รบั บริการเปน็ หลกั 2.7 ให้บริการเกนิ ความคาดหวัง แม้ต้องใช้เวลา หรือ ความพยามยามอยา่ งมาก 3. สมรรถนะกำรพัฒนำตนเอง 3.1 ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ มุง่ มน่ั และแสวงหาโอกาสพฒั นา ตนเองดว้ ยวิธที ี่หลากหลาย 3.2 วิเคราะหจ์ ดุ แข็งและจุดอ่อนเกี่ยวกับการจดั การเรยี นรู้ ของตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 3.3 ศกึ ษา คน้ ควา้ หาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ทางวิชาการเพอ่ื พฒั นา ตนเองและวชิ าชพี 3.4 แลกเปลี่ยนเรียนร้กู บั ผู้อื่นเพือ่ การพฒั นาตนเองทกุ ครัง้ ที่มโี อกาส 3.5 เข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาตนเองจากหน่วยงานตา่ งๆ อย่างตอ่ เนอื่ ง
รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม ระดบั กำรปฏิบตั ิ มำก ที่สดุ 3.6 ใหค้ าปรกึ ษา แนะนา นเิ ทศ และถ่ายทอดความรู้ นอ้ ย น้อย ปำน มำก ประสบการณ์ทางวชิ าชีพแก่ผู้อน่ื ที่สุด กลำง 3.7 มีการสรา้ งเครือข่ายการเรียนรู้เพอ่ื การพฒั นาตนเองทัง้ ใน และนอกสถานศึกษา 4. สมรรถนะกำรทำงำนเป็นทมี 4.1 สรา้ งสัมพันธภาพท่ดี ีในการทางานรว่ มกับผอู้ ื่น 4.2 ทางานร่วมกบั ผู้อน่ื ตามบทบาทหนา้ ทีท่ ่ีได้รับมอบหมาย 4.3 ชว่ ยเหลือเพ่อื นรว่ มงานเพ่อื สเู่ ป้าหมายความสาเรจ็ ร่วมกัน 4.4 ให้เกยี รติ ยกย่องชมเชย ให้กาลังใจแกเ่ พือ่ นร่วมงานในโอกาส ท่ีเหมาะสม 4.5 มีทักษะในการทางานรว่ มกบั บคุ คล/กล่มุ บุคคลไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา และในทกุ สถานการณ์ 4.6 แสดงบทบาทผูน้ าหรอื ผู้ตามในการทางานร่วมกับผู้อนื่ ได้ เหมาะสมในทุกโอกาส 4.7 แลกเปลย่ี น/รับฟังความคิดเหน็ และประสบการณ์ภายใน ทีมงาน 4.8 รว่ มกับเพื่อนรว่ มงานในการสร้างวฒั นธรรมการทางานเป็นทมี ให้เกดิ ขน้ึ ในสถานศึกษา 5. สมรรถนะจริยธรรมและจรรยำบรรณวชิ ำชีพครู 5.1 ยึดม่ันในอดุ มการณข์ องวิชาชพี ปกปอ้ งเกยี รตแิ ละศักด์ิศรี ของวิชาชีพ 5.2 เสยี สละ อุทิศตนเพ่ือประโยชนต์ ่อวิชาชีพและเป็นสมาชิกทีด่ ี ขององค์กรวชิ าชีพ 5.3 ยกย่อง ชืน่ ชมบุคคลที่ประสบความสาเรจ็ ในวชิ าชีพ 5.4 ซ่ือสตั ย์ตอ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใช้จ่าย และใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั 5.5 ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ และขนบธรรมเนยี ม ประเพณี 5.6 ปฏิบตั ิตนและดาเนินชีวติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งไดเ้ หมาะสมกบั สถานะของตน 5.7 รกั ษาสทิ ธปิ ระโยชน์ของตนเอง และไม่ละเมดิ สิทธิของผู้อืน่ 5.8 เอื้อเฟอ้ื เผอ่ื แผ่ ช่วยเหลือ และไม่เบียดเบียนผอู้ ่ืน 5.9 มคี วามเปน็ กัลยาณมติ รต่อผเู้ รยี นเพอื่ นรว่ มงาน และผู้รบั บริการ
ระดับกำรปฏิบัติ รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปำน มำก มำก 5.10 ปฏบิ ัติตนตามหลักการครองตน ครองคน ครองงาน ทสี่ ดุ กลำง ท่สี ดุ เพ่อื ให้การปฏบิ ตั ิงานบรรลผุ ลสาเร็จ 2. สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย ระดับกำรปฏบิ ตั ิ มำก ทีส่ ดุ ที่สุด 1. สมรรถนะกำรบรหิ ำรจดั กำรหลกั สูตรและกำรจดั กำรเรยี นรู้ นอ้ ย ปำน มำก 1.1 ออกแบบกิจกรรมการเรียนร้อู ย่างหลากหลายสอดคลอ้ ง กลำง กบั วยั ความตอ้ งการของผูเ้ รียน ชุมชน 1.2 เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนมสี ่วนร่วมในการกาหนดกิจกรรมและ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1.3 ใช้รูปแบบ/เทคนิควิธีการสอนอยา่ งหลากหลายเพ่อื ใหผ้ ู้เรียน พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ 1.4 จดั กจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่ปลกู ฝงั /ส่งเสรมิ คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์และสมรรถนะของผู้เรียน 1.5 ใช้หลักจิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรใู้ หผ้ ู้เรยี นเรียนรอู้ ยา่ งมี ความสุขและพฒั นาเตม็ ศกั ยภาพ 1.6 ใชแ้ หล่งเรียนร้แู ละภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ในชุมชนใน การจัดการเรยี นรู้ 1.7 ใชส้ ื่อ นวตั กรรม และเทคโนโลยีหลากหลายและเหมาะสมกับ เนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้ 1.8 ใช้เทคโนโลยคี อมพิวเตอรใ์ นการผลิตส่อื /นวตั กรรมที่ใช้ ในการเรียนรู้ 1.9 ออกแบบวิธีการวัดและประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกับ เนือ้ หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.10 สร้างและนาเครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผลไปใชอ้ ยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 1.11 วดั และประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง 1.12 นาผลการประเมินการเรยี นรมู้ าใช้ในการพัฒนา การจดั การเรียนรู้
2. สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) (ตอ่ ) รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย ระดบั กำรปฏิบตั ิ มำก ทีส่ ุด ทสี่ ดุ 2. สมรรถนะกำรพฒั นำผู้เรยี น น้อย ปำน มำก 2.1 สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมแก่ผเู้ รียนในการจัดการเรยี นรู้ กลำง ในชน้ั เรียน 2.2 จดั กิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรมให้แกผ่ ้เู รยี นโดยให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนกิจกรรม 2.3 จดั ทาโครงการ/กิจกรรมทีส่ ่งเสรมิ คณุ ธรรมจริยธรรม ใหแ้ กผ่ ู้เรียน 2.4 จัดกจิ กรรมเพื่อพัฒนาผูเ้ รียนด้านการดูแลตนเอง มที กั ษะใน การเรียนรู้ การทางาน การอยู่รว่ มกันในสังคม และร้เู ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลง 2.5 สอดแทรกความเป็นประชาธิปไตย ความภูมิใจในความเปน็ ไทยให้แก่ผเู้ รียนในการจดั การเรยี นรู้ 2.6 จดั ทาโครงการ/กิจกรรมทสี่ ง่ เสริมความเป็นประชาธปิ ไตย ความภาคภมู ใิ จในความเปน็ ไทย 2.7 ใหผ้ ูป้ กครองมสี ่วนร่วมในการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน รายบคุ คล 2.8 นาขอ้ มูลนักเรยี นไปใช้ชว่ ยเหลอื /พฒั นาผเู้ รียนทั้งดา้ น การเรยี นรแู้ ละปรบั พฤตกิ รรมเป็นรายบคุ คล 2.9 จัดกิจกรรมเพอื่ ป้องกันแกไ้ ขปัญหาและสง่ เสริมพฒั นาผเู้ รียน ให้แกน่ ักเรียนอย่างทัว่ ถึง 2.10 ส่งเสริมให้ผู้เรียนปฏิบตั ิตนให้ถกู ต้องเหมาะสมกบั ค่านิยม ท่ดี งี าม 2.11 ดแู ลนักเรียนทุกคนอยา่ งทว่ั ถงึ ทันเหตุการณ์ 3. สมรรถนะกำรบริหำรจัดกำรชน้ั เรยี น 3.1 จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นท่ีเอ้ือต่อ การเรียนรู้ 3.2 ส่งเสรมิ การมีปฏสิ มั พนั ธ์ทดี่ รี ะหว่างครกู ับผู้เรยี นและผเู้ รยี น กบั ผเู้ รยี น 3.3 ตรวจสอบสิง่ อานวยความสะดวกในหอ้ งเรียนใหพ้ รอ้ มใช้ และปลอดภัย 3.4 จดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบคุ คลและ เอกสารประจาชัน้ เรยี นครบถว้ น เป็นปจั จุบนั
รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย ระดบั กำรปฏบิ ตั ิ มำก ท่ีสดุ ทส่ี ุด 3.5 นาขอ้ มูลสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาผเู้ รียนไดอ้ ยา่ ง นอ้ ย ปำน มำก เตม็ ศกั ยภาพ กลำง 3.6 ใหผ้ ู้เรยี นมสี ่วนร่วมในการกาหนดกฎ กติกา ข้อตกลง ในชนั้ เรียน 3.7 แกป้ ญั หา/พัฒนานกั เรยี นดา้ นระเบยี บวนิ ัยโดยการสร้างวินยั เชงิ บวกในช้นั เรียน 3.8 ประเมิน การกากับดูแลชนั้ เรียน และนาผลการประเมินไปใช้ ในการปรับปรงุ และพัฒนา 4. สมรรถนะกำรวิเครำะห์ สงั เครำะห์ และกำรวจิ ัยเพือ่ พัฒนำ ผูเ้ รยี น 4.1 สารวจปญั หาเกี่ยวกับนักเรียนที่เกดิ ขนึ้ ในชั้นเรียนเพอ่ื วางแผนการวจิ ยั เพ่อื พัฒนาผเู้ รียน 4.2 วิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหาเกี่ยวกบั นักเรยี นทีเ่ กิดข้นึ ใน ช้นั เรยี นเพ่อื กาหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปญั หาระบุ สภาพปัจจบุ นั 4.3 รวบรวม จาแนกและจัดกลุ่มของสภาพปัญหา แนวคิดทฤษฏี และวธิ กี ารแก้ปัญหาเพอื่ สะดวกต่อการนาไปใช้ 4.4 มีการประมวลผลหรือสรุปข้อมลู สารสนเทศท่เี ปน็ ประโยชน์ ต่อการแกไ้ ขปัญหาในช้ันเรียนโดยใชข้ ้อมลู รอบดา้ น 4.5 มีการวิเคราะหจ์ ุดเดน่ จดุ ดอ้ ย อุปสรรคและโอกาส ความสาเร็จของการวจิ ยั เพื่อแก้ปญั หาทเี่ กดิ ขึ้นในชั้นเรยี น 4.6 จดั ทาแผนการวิจยั และดาเนินกระบวนการวจิ ยั อย่างเปน็ ระบบตามแผนดาเนินการวิจยั ที่กาหนดไว้ 4.7 ตรวจสอบความถูกต้องและความนา่ เชอ่ื ถือของผลการวจิ ัย อย่างเป็นระบบ 4.8 มีการนาผลการวิจยั ไปประยุกต์ใช้ในกรณศี กึ ษาอน่ื ๆ ทม่ี ี บรบิ ทของปญั หาที่คลา้ ยคลงึ กนั 4.9 นาขอ้ มูลนกั เรยี นไปใช้ชว่ ยเหลือ/พฒั นาผ้เู รยี นทงั้ ด้าน การเรยี นรแู้ ละปรับพฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคล 4.10 จดั กิจกรรเพื่อปอ้ งกนั แกไ้ ขปญั หาและสง่ เสริมพัฒนาผเู้ รียน ให้แก่นักเรยี นอย่างท่ัวถึง 5. สมรรถนะภำวะผู้นำครู 5.1 เห็นคณุ คา่ ให้ความสาคัญในความคิดเห็นหรอื ผลงานและ ใหเ้ กยี รตผิ อู้ น่ื
รำยกำรสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย ระดับกำรปฏิบตั ิ มำก ที่สดุ ทส่ี ดุ 5.2 กระตุ้นจูงใจ ปรับเปลีย่ นความคดิ และการกระทาของผู้อ่นื น้อย ปำน มำก ให้มีความผูกพนั และมุง่ มัน่ ต่อเปา้ หมายในการทางานร่วมกนั กลำง 5.3 มีปฏิสัมพันธ์ในการสนทนาอย่างสร้างสรรค์กับผู้อ่ืนโดย มุ่งเนน้ ไปการเรียนรู้ และการพฒั นาวชิ าชพี 5.4 มีทักษะการฟัง การพดู และการตัง้ คาถามเปิดใจกวา้ ง ยดื หยุ่น ยอมรับทศั นะทีห่ ลากหลายของผอู้ ่ืนเพอื่ เปน็ แนวทาง ใหม่ ๆ ในการปฏิบตั ิงาน 5.5 ให้ความสนใจต่อสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเี่ ป็นปัจจุบนั โดยมกี าร วางแผนอย่างมีวสิ ัยทัศนซ์ งึ่ เชื่อมโยงกบั วสิ ยั ทศั น์ เปา้ หมาย และพนั ธกจิ ของโรงเรยี น 5.6 ริเร่ิมการปฏบิ ัติทนี่ าไปส่กู ารเปลย่ี นแปลงและพฒั นา นวตั กรรม 5.7 กระตนุ้ ผู้อ่ืนใหม้ ีการเรียนรู้และความร่วมมือกนั ในวงกวา้ ง เพอื่ พฒั นาผู้เรียน สถานศึกษา และวชิ าชพี 5.8 ปฏบิ ัตงิ านร่วมกบั ผ้อู ่นื ภายใตร้ ะบบ/ข้ันตอนทีเ่ ปล่ียนแปลง ไปจากเดิมได้ 5.9 สนบั สนนุ ความคดิ ริเรมิ่ ซงึ่ เกิดจากการพิจารณาไตร่ตรองของ เพ่อื นร่วมงาน และมสี ว่ นร่วมในการพฒั นานวัตกรรมต่าง ๆ 5.10 ใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการหลากหลายในการตรวจสอบประเมนิ การปฏบิ ตั งิ านของตนเองและผลการดาเนนิ งานสถานศกึ ษา 5.11 กาหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรียนรทู้ ท่ี า้ ทาย ความสามารถของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏิบัตใิ ห้ บรรลผุ ลสาเรจ็ ได้ 5.12 ยอมรับข้อมูลป้อนกลับเก่ียวกับความคาดหวังด้านการ เรยี นรู้ ของผู้เรยี นจากผปู้ กครอง 6. สมรรถนะกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์และควำมรว่ มมือกับชุมชน เพอื่ กำรจดั กำรเรียนรู้ 6.1 มปี ฏสิ มั พนั ธ์ท่ีดกี ับผปู้ กครองและชมุ ชนในการติดตอ่ สื่อสาร เพอ่ื การจัดการเรียนรู้ 6.2 ประสานงานกบั ผ้ปู กครองและชมุ ชนใหเ้ ข้ามามสี ว่ นร่วม ในการจัดการเรียนร้อู ยา่ งต่อเนือ่ งตลอดปีการศึกษา
รำยกำรสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย ระดบั กำรปฏบิ ัติ มำก ทส่ี ุด ทสี่ ดุ 6.3 เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องเข้าร่วมวางแผนการ จัด น้อย ปำน มำก กจิ กรรม กลำง การเรยี นรใู้ นระดบั ชัน้ เรยี น 6.4 เปดิ โอกาสใหผ้ ู้ปกครองและชุมชนเข้ามาแลกเปล่ียนเรยี นรู้ เกีย่ วกับการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา 6.5 สรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมอื ระหวา่ งครู ผู้ปกครอง ชุมชนและ องค์กรอืน่ ๆ ทัง้ ภาครฐั และเอกชนในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู สารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ 6.6 จัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ใี่ หป้ ราชญช์ าวบา้ นหรอื ภมู ิปญั ญา ในทอ้ งถนิ่ เขา้ มามสี ว่ นรว่ ม 6.7 มีการเปดิ โอกาสใหผ้ ้มู สี ว่ นไดส้ ่วนเสยี ของสถานศกึ ษาเข้ามา มสี ่วนรว่ มในการประเมนิ ผลการจัดการศึกษา 6.8 มกี ารเสนอผลการจัดการเรยี นรตู้ อ่ ฝา่ ยต่าง ๆ ของชมุ ชน เพ่ือแลกเปลย่ี นเรียนรแู้ ละแก้ไขปัญหารว่ มกนั ในทุกภาคเรียน ลงชื่อ .................................................. ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถ)ิ ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารุง)
Search