Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

Published by moopraew54, 2021-07-18 10:34:38

Description: เรื่อง บัญญัติไตรยางค์

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรุง) ท่ี……………………วันที่ ………… เดือน …………………….. พ.ศ.๒๕๖๓ เรื่อง ขออนุญาตใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรุง) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์ บำรงุ ) ไดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏบิ ัติหนา้ ท่ีการสอน รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค๑๕๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ ตามหลกั การพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสาร หนว่ ยการเรยี นที่ ๖ ชื่อหน่วย บญั ญตั ไิ ตรยางค์ เวลาเรยี น ๙ ชัว่ โมง มาพร้อมกับเอกสารน้ี จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ ลงชอ่ื (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) ตำแหนง่ ครู ลงชอื่ (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ความเหน็ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น อนญุ าต ไมอ่ นญุ าต เพราะ .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ( นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวัสดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ............./................../.............

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๖ เรือ่ ง บัญญตั ิไตรยางค์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหัส ค๑๕๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ครูผสู้ อน นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา โรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑ สำนักานคณะกรรมการการศกึ ษาขึ้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ค๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง ศึกษาฝึกทักษะการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การบวก การลบ การคูณ และการหารของ โจทย์ปัญหาจำนวนนับและ 0 เปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก การลบ การคูณ การหาร การ บวก ลบ คูณ หารระคน และการแก้โจทย์ปัญหาของเศษส่วนและจำนวนคละ ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วน และทศนิยม คา่ ประมาณของทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ตำแหน่งทเ่ี ปน็ จำนวนเตม็ ทศนยิ ม 1 ตำแหน่งและ 2 ตำแหน่ง การใช้เครื่องหมาย ≈ การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม การประมาณผลลัพธ์ การแก้โจทย์ปัญหา เกี่ยวกับทศนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาว เซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตร กับเมตร โดยใช้ความรู้เรื่องทศนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยน้ำหนัก กิโลกรัมกับกรัมโดยใช้ความรู้เรื่อง ทศนิยม การแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวและนำ้ หนักโดยใช้ความรเู้ ร่ืองการเปล่ยี นหน่วยและทศนยิ ม การ แก้โจทยป์ ญั หาโดยใชบ้ ญั ญตั ไิ ตรยางศ์ การอ่านและการเขียนร้อยละหรือเปอรเ์ ซน็ ต์ การแกโ้ จทย์ปญั หาร้อยละ การหาปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความสัมพันธ์ระหว่าง มลิ ลลิ ิตร ลิตร ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร และลูกบาศก์เมตร การแกโ้ จทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุม ฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก เส้นตั้งฉากและสัญลักษณ์แสดงการตั้งฉาก เส้นขนานและ สัญลักษณ์แสดงการขนาน การสร้างเส้นขนาน มุมแย้ง มุมภายในและมุมภายนอกที่อยู่บนข้างเดียวกันของ เส้นตัดขวาง (Transversal) ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยม การสร้างรูปสี่เหลี่ยม ความยาวรอบรูปของรูป สี่เหล่ียม พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และการแก้โจทย์ปัญหา ลักษณะและ ส่วนตา่ ง ๆ ของปรซิ มึ การอา่ นและการเขยี นแผนภูมิแทง่ การอา่ นกราฟเสน้ โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลายแก้ปัญหา ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่าง เหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสม เชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ในคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์ กับศาสตร์อื่ นๆ มี ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพอื่ ให้คุณคา่ และมเี จตคติทดี่ ีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบยี บ รอบคอบ มี ความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ เชื่อมั่นในตนเอง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ มัน่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย และ มีจิตสาธารณะ รหัสตวั ช้วี ดั ค ๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ป.๕/5 ป.๕/6 ป.๕/7 ป.๕/8 ป.๕/9 ค 2.1 ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ค 2.2 ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ค 3.1 ป.๕/๑ ป.๕/2 รวมท้งั หมด ๑๙ ตัวช้ีวดั

ตารางวิเคราะหห์ ลักสตู ร/ออ รหัส ค๑๕๑๐๑ วิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถ ครูผูส้ อน นางสาวแพร หน่วยที่ มฐ ตัวช้ีวดั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หน่วยที่ ๖ ค ป.5/2 แสดงวิธหี าคำตอบของ ๑.จำแนกโจทยป์ ญั หาทใี่ ช้ ๑.ก บญั ญัติไตรยางค์ ๑.๑ โจทยป์ ัญหาโดยใช้ การเทยี บบญั ญัติไตรยางศ์ ปัญ บัญญัตไิ ตรยางศ์ ได(้ K) ไตร ๒.วิเคราะห์และแสดงวิธี หาคำตอบของโจทย์ปัญหา โดยใชบ้ ญั ญัตไิ ตรยางศไ์ ด้ (P)

อกแบบหน่วยการเรียนรู้ ถมศึกษาปีท่ี ๕ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ รวรุ่ง ศรีประภา สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชน้ิ งาน สือ่ การสอน วัดผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมิน เรียน การแก้โจทย์ ญหาโดยใชบ้ ัญญตั ิ อธบิ าย -มินบิ อร์ด ๑.แถบประโยค ๑.ทดสอบ ๙ ร -ยางศ์ ๒.แถบโจทย์ กอ่ น-หลัง ปญั หา เรยี น ๒.ตรวจ แบบฝึกหัด

โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) โครงการสอนปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวิชา คณติ ศาสตร์ รหัส ค๑๕๑๐๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น ๔ ชัว่ โมง/สัปดาห์ ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา สปั ดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรยี นร/ู้ เรอ่ื ง มฐ/ตัวช้วี ดั ๑-๕ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เศษส่วน ค ๑.๑ ป.๕/๓ ๖-๙ ๑-๒ การเปรียบเทียบเศษสว่ นและจำนวนคละ ป.๕/๔ ๙-๑๔ ๓-๔ การเรียงลำดบั เศษส่วนและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป. ๕/๕ ๕-๖ การบวก เศษสว่ นและจำนวนคละ ป. ๔/๙ ๗-๘ การลบ เศษส่วนและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป.๕/๑ ๙-๑๐ การคูณจำนวนนบั กับเศษส่วน ป.๕/๖ ๑๑- การคูณเศษสว่ นกับเศษสว่ น ป.๕/๗ ๑๑๓๒- การคูณจำนวนคละ ป. ๔/๑๒ ๑๖๕ สว่ นกลับของเศษส่วน ๑๗ การหารจำนวนนับกบั เศษส่วน ค ๒.ป๑.๕ป/.๑๕/๑ ๑๘- การหารเศษสว่ นกับเศษส่วน ป.๕/ป๒ป.๕.๕//๒๒ ๒๑๐๙- การหารจำนวนคละ หน๒ว่ ๑ยการเรียนรู้ท่ี ๒ โจทยป์ ัญหาเศษสว่ น ๑-๒ โจทยป์ ัญหาการบวกเศษสว่ น ๓-๔ โจทย์ปญั หาการลบเศษส่วน ๕-๖ โจทย์ปัญหาการคูณเศษสว่ น ๗-๘ โจทย์ปัญหาการหารเศษส่วน ๙-๑๐ การบวก ลบ คูณ หารระคน ๑๑- โจทย์ปญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน หน๑ว่ ๓ยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ ทศนยิ ม ๑-๓ การเขยี นเศษส่วนที่มตี วั ส่วนเปน็ ตัวประกอบ ๑๐ ๑๐๐ หรอื ๑,๐๐๐ ๔-๗ การหาคา่ ประมาณ ๘-๙ การคณู โดยใชค้ วามสัมพันธร์ ะหวา่ งทศนิยม ๑๐- การคณู แนวตั้ง ๑๑๔๓- การคณู สมบตั กิ ารสลบั ท่ี ๑๑๖๕- การหารโดยการเขยี นในรปู ทศนิยม ๑๗

สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรยี นรู้/เร่ือง มฐ/ตัวช้วี ัด (ต่อ) ๑๕-๑๗ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓ ทศนยิ ม ค ๑.๑ ป.๕/๘ ๑๙-๒๐ ค ๓.๑ ป.๕/๑ ๑๘ การหารโดยต้ังหาร ๒๑-๒๒ ๑๙ การหารทศนยิ มกบั จำนวนนบั ป.๕/๒ ๒๒-๒๕ ๒๐- การหารดว้ ย ๑๐, ๑๐๐, ๑,๐๐๐ ๒๑๒ ทศนิยมกับการวัด ค ๑.๑ ป.๕/๑ ๒๖-๒๙ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ โจทย์ปัญหาทศนิยม ค ๑.๑ ป.๕/๙ ๑-๔ โจทยป์ ัญหาการคูณ ทศนยิ ม ๓๐-๓๕ ๕-๘ โจทย์ปญั หาการหาร ทศนิยม ค ๒.๒ ป.๕/๑ ๙-๑๒ โจทยป์ ัญหาการคูณ และหารทศนยิ ม หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ การนำเสนอขอ้ มลู ค ๒.๑ ป.๕/๔ ๑-๓ การอ่านแผนภูมแิ ท่งทม่ี กี ารย่นระยะ ค ๒.๒ ป.๕/๒ ๔-๕ การอ่านแผนภูมิแทง่ เปรียบเทียบ ๖ การเขียนแผนภมู แิ ทง่ ท่ีมกี ารย่นระยะ ป.๕/๓ ๗ การเขยี นแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบ ๘-๙ การอ่าน และเขยี นกราฟเสน้ ๑๐- โจทย์ปญั หาการนำเสนอขอ้ มูล หน๑่ว๒ยการเรียนรูท้ ี่ ๖ บัญญัตไิ ตรยางศ์ ๑-๙ การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางค์ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๗ ร้อยละ ๑-๓ การอา่ นและเขยี นร้อยละหรือเปอร์เซน็ ต์ ๔-๖ ร้อยละของจำนวนนบั ๗-๙ โจทย์ปญั หารอ้ ยละ ๑๐- โจทย์ปญั หาการลดราคา ๑๑๔๓- โจทยป์ ัญหากำไร ขาดทนุ หน๑ว่ ๗ยการเรียนรูท้ ี่ ๘ เส้นขนาน ๑-๓ เสน้ ต้ังฉากและเสน้ ขนาน ๔-๕ มมุ ทเี่ กิดจากเส้นตัดขวางตดั เสน้ ตรงคูห่ นงึ่ ๖-๙ สมบตั ขิ องเสน้ ขนาน ๑๐- การสร้างเสน้ ขนาน หน๑่ว๓ยการเรยี นรู้ท่ี ๙ รปู สีเ่ หลี่ยม ๑-๓ ชนดิ และสมบตั ิของรปู ส่ีเหล่ยี ม ๔-๕ สมบตั ขิ องรปู สี่เหล่ยี มเกีย่ วกับเสน้ ทแยงมุม ๖-๘ การสรา้ งรูปส่ีเหลี่ยมเม่ือกำหนดความยาวของดา้ นและ ขนาดของมุม ๙-๑๐ การสรา้ งรปู สเี่ หลี่ยมเมื่อกำหนดความยาวของเส้นทแยง มมุ

สัปดาห์ คาบท่ี หนว่ ยการเรยี นรู/้ เร่ือง มฐ/ตัวช้วี ัด ๓๖-๔๐ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๙ รปู ส่เี หล่ียม ค ๒.๑ ป.๕/๓ ค ๒.๒ ป.๕/๔ ๑๑- พื้นทีข่ องรปู ส่เี หลย่ี มด้านขนาน ไม๑๑๑เ่ ก๓๒๕๔นิ- ๑๐พพ๐ืนน้ื้ ,๐ทท๐ีี่ข่ข๐อองงรรปููปหสี่เลหาลย่ียเหมลข่ียนมมเปียกปูน ๑๖- ความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หล่ียม ๑๑๘๗- โจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั พนื้ ที่ของรปู สเี่ หลี่ยมดา้ นขนาน ๒๒๑๐- โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั พื้นท่ีของรปู ส่เี หล่ียมด้านขนมเปยี ก ๒๔ ปูน หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๐ ปริมาตรและความจุของทรงสี่เหล่ยี ม ๑-๒ รปู เรขาคณิตสองมิติและสามมติ ิ ๓-๔ ปริซมึ ๕-๖ ทรงสี่เหลยี่ มมุมฉาก ๗-๘ หนว่ ยของปรมิ าตรและการหาปริมาตร ๙-๑๑ การหาปริมาตรทรงสเี่ หลี่ยมมุมฉาก ๑๒- การหาความจุทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉาก ๑๑๕๔- โจทยป์ ัญหาปริมาตรและความจุ สอ๑บ๗ปลายภาค ๑-๒ ทบทวนบทเรยี น ๓ ทบทวนบทเรียน ๔ สอบปลายภาค ๕ สอบปลายภาค เทคนคิ /กระบวนการ/ วธิ ีการสอน การจดั การเรียนรูต้ ามหลักการพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นตอนที่ ๑ : เตรียมความพร้อม เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง ตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลือ่ นไหว ร่างกายอย่างมีความสุข สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมาก ช่วยให้มีจิตใจท่ี สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin) และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและ สนุกสนาน ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า ทุกชั่วโมงที่ครูเข้าสอน ครูจะต้อง Warm Up ก่อนเสมอ โดยใช้เวลาไมเ่ กนิ ๕ นาที ขนั้ ตอนที่ ๒ : เรยี นรู้ ในขน้ั ตอนนีจ้ ะคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองทีว่ า่ “เรยี นรู้จากง่ายไปหายาก เรยี นรู้จาก ของจริง และจากการสัมผัส” จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า “มือ” เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผล ต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ “ปาก” นั่นก็หมายถึง ต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสาร การสื่อสารจะช่วยให้เด็กสามารถ เชื่อมโยงเรื่องได้ ดังนั้น การออกแบบรูปแบบการสอน สื่อการสอน คุณครูต้องคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอยา่ งมาก

การเรียนการสอนจึงจะประสบความสำเร็จ ในขั้นตอนที่ ๒ นี้ มีขั้นตอนย่อยที่สำคัญหนึ่งคือ “การสรุปในแต่ละชั่วโมง” ทางโรงเรียนได้สนับสนุนให้มกี ารฝึกอบรม Graphic Organizer ใหแ้ ก่คณุ ครูทุกกลุ่มสาระ ตลอดจนหนงั สือที่เก่ียวข้องจาก ตา่ งประเทศ เพ่ือใหค้ ณุ ครูใช้เป็นเครอื่ งมอื ในการสรปุ ทีช่ ่วยให้เด็กเกิดความสนกุ เกิดการเรยี นรู้ และจดจำไดง้ ่ายขนึ้ ขัน้ ตอนท่ี ๓ : ขัน้ การฝึก ขั้นน้จี ะสอดคล้องกบั หลักการทำงานของสมองที่วา่ “สมองจะจดจำได้ดีนำไปสู่ความจำ ระยะยาว (Long-term Memory) ตอ้ งผา่ นกระบวนการฝึกซ้ำๆ” คำวา่ “ซำ้ ๆ” ในท่ีนไ้ี มไ่ ดห้ มายถงึ การทำโจทย์เดิมซ้ำๆ แต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวก ก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์ คุณครูจึงจำเป็นต้อง ออกแบบใบงานที่แตกตา่ งออกไป เพือ่ ให้นกั เรียนได้ฝึกฝนเร่ือย ๆ ขั้นตอนที่ ๔ : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วย ซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นการ สรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย โดยใช้ Graphic Organizer ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยง ความรภู้ ายในบทเรยี น สอดคล้องกับหลักการทำงานของสมองทวี่ ่า “สมองเรียนร้เู ปน็ องคร์ วม” ซึ่งข้ันตอนนี้มีความสำคัญ ตอ่ เดก็ มาก และเป็นขนั้ ตอนที่คอ่ นขา้ งยาก ครเู องกจ็ ำเปน็ ต้องฝกึ ฝนบ่อยๆ เชน่ กัน ขั้นตอนที่ ๕ : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใด การที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้น ทำให้เกิดการ เรยี นร้ไู ด้ถงึ รอ้ ยละ ๙๐ ดงั น้ัน เมอ่ื จบบทเรยี น คณุ ครตู ้องคิด ตอ้ งออกแบบ เชือ่ มโยงความรู้ทั้งหนว่ ย นำข้อสอบมาให้เด็ก ทดลองทำ การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารเก็บคะแนน คะแนนระหว่างภาค : ปลายภาค = ๗๐ : ๓๐ โดยแบง่ ดงั น้ี เร่ืองทเ่ี ก็บคะแนน คะแนน ประเภทเครอ่ื งมือ ๑.คะแนนเกบ็ กอ่ นกลางปี ๒๕ ๑.๑ ผลงานนักเรียน ๑๕ สมดุ แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชน้ิ งาน ๑.๒ ทดสอบหลงั เรยี น ๑๐ แบบทดสอบหลังเรียน ๒. สอบกลางปี ๒๐ แบบทดสอบ ๓.คะแนนหลงั กลางปี ๒๕ ๓.๑ ผลงานนักเรียน ๑๕ สมุด แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชนิ้ งาน ๓.๒ ทดสอบหลังเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลังเรยี น ๔.สอบปลายปี ๓๐ ๑๐๐ รวม ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ -สอ่ื ประจำหนว่ ยการจัดการเรยี นรู้ -หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์ และแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท

แผนผงั มโนทัศนเ์ ปา้ หมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทักษะ/กระบวนการ(Process: P) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มีวินยั ๑.จำแนกโจทยป์ ัญหาทใี่ ช้ ๒.วิเคราะห์และแสดงวธิ ี ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ การเทยี บบัญญตั ไิ ตรยางศ์ หาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๓. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ได้(K) โดยใชบ้ ญั ญตั ิไตรยางศไ์ ด้ (P) เปา้ หมายการเรียน เรื่อง บัญญัติไตรยางค์ หลักฐานการเรยี นรู้ -มนิ ิบอรด์ แสดงวิธคี ดิ แก้โจทย์ปญั หาโดยใช้บัญญตั ิไตรยางค์

แผนผังมโนทัศนข์ ้ันตอนการทำกิจกรรมประกอบการจดั การเรียนรู้ด้วย การสอนตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ศึกษามาตรฐานการรเรียนรู้ / ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักการพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นท่ี ๑ เตรียมความพร้อม ข้ันที่ ๒ เรยี นรู้ ข้นั ที่ ๓ ขัน้ การฝึก ขน้ั ที่ ๔ ข้นั การสรปุ ขั้นท่ี ๕ ขน้ั การประยุกตใ์ ช้ทันทีทันใด ทดสอบหลังเรียน (ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๖๐)

ผังมโนทัศน์ หนว่ ยการเรียนร หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 จำนวน 9 แผน การแกโ้ จทยป์ ัญหาโด ภาษาไทย การเรยี นรู้แบ 1.ฟังแสดงความคดิ เหน็ 2.พดู แสดงความคดิ เห็น และตอบคำถามอา่ นและสะกดคำ 3.การเขยี นสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์

ร้ทู ่ี 6 บัญญตั ิไตรยางค์ 6 บัญญตั ิไตรยางค์ 9 ชวั่ โมง นท่ี 1 ดยใช้บญั ญัตไิ ตรยางค์ บบบรู ณาการ ศลิ ปะ : ทศั นศิลป์ 1.การออกแบบมนิ บิ อรด์

แผนบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมภี ูมคิ มุ้ กนั ในตัวท่ีดี 1. ออกแบบการจดั กิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรียนรสู้ ง่ เสริมกระบวนการคดิ 1. ศกึ ษาแนวทางการจดั การเรียนรลู้ ว่ งหนา้ ตัวชีว้ ดั 2. ใช้เทคนคิ การจัดการเรยี นรูท้ หี่ ลากหลาย 2. จดั เตรยี มการวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลือกส่ือ แหลง่ เรียนรเู้ หมาะสม สงั เกตพฤติกรมนักเรยี น 3. วัดผลประเมนิ ผลตรงตามเน้ือหา เงือ่ นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม 1. รูจ้ กั เทคนคิ การสอนที่ส่งเสรมิ กระบวนการคดิ และนกั เรียน 1. มคี วามขยัน เสยี สละ และมุ่งมน่ั ในการจัดหาส่ือมาพัฒนานกั เรยี น สามารถเรยี นร้ไู ดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพอ่ื พฒั นานกั เรียนโดยใช้เทคนิคการสอนท่ี หลากหลาย นกั เรยี น ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมีภูมิค้มุ กนั ในตวั ท่ดี ี 1. การใชเ้ วลาในการทำกจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝึกกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาคน้ คว้าอสิ ระ ได้อยา่ งเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝึกกระบวนการแสดงขน้ั ตอนการหาผลลพั ธ์ 2. นำความรเู้ รอื่ งบญั ญัตไิ ตรยางค์ ไปใช้ใน 2. เลือกสมาชกิ กลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั เนอ้ื หาที่ ชวี ิตประจำวนั ได้ เรยี นและศักยภาพของตน เง่ือนไขความรู้ เงือ่ นไขคณุ ธรรม 1. มคี วามรเู้ รื่องบัญญตั ิไตรยางค์ ตลอดจนสามารถสรา้ งจดั ทำช้นิ งาน 1. มคี วามรับผิดชอบ และปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงของกลมุ่ ได้ตามวตั ถุประสงค์ 2. มสี ติ มสี มาธชิ ว่ ยเหลือกันในการทำงานรว่ มกนั ส่งผลตอ่ การพฒั นา 4 มิตใิ ห้ยั่งยืนยอมรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงในยคุ โลกาภวิ ฒั น์ วัตถุ สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม วฒั นธรรม ความรู้ (K) มคี วามรู้ความเขา้ ใจ เรือ่ งบัญญตั ไิ ตรยางค์ มีความรูแ้ ละเขา้ ใจ มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจ มคี วามรู้และเขา้ ใจการ กระบวนการทำงาน เก่ยี วกบั สง่ิ แวดล้อม ช่วยเหลอื แบ่งปัน กล่มุ และสง่ิ ต่าง ๆรอบตัว ทักษะ (P) สร้างชน้ิ งานมินิบอรด์ แสดงวิธแี กโ้ จทย์ ทำงานได้สำเรจ็ ตาม ใช้แหล่งเรยี นรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลอื แบง่ ปันซึ่ง ปญั หาบญั ญัตไิ ตรยางค์ เป้าหมาย ดว้ ย ทำลายสิ่งแวดล้อม กนั และกัน กระบวนการกลมุ่ คา่ นิยม (A) เห็นประโยชนข์ องเรียนรู้ เกีย่ วกับ เหน็ คุณคา่ และ เหน็ คุณคา่ ของการใช้ ปลกู ฝงั นสิ ยั การ เรื่องบญั ญตั ไิ ตรยางค์ ภาคภูมิใจในการ แหลง่ เรียนรู้โดยไม่ ชว่ ยเหลอื แบ่งปนั ทำงานร่วมกนั ได้ ทำลายสง่ิ แวดล้อม สำเรจ็

กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เรื่อง บญั ญัตไิ ตรยางค์ วชิ าคณติ ศาสตร์ เวลา 9 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนนิ การและนำไปใช้ ตัวชวี้ ัด ป.5/2 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาโดยใช้บัญญัตไิ ตรยางค์ 2. สาระสำคญั โจทย์ปัญหาการคูณและการหารที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสิ่ง 2 สิ่ง สิ่งละ 2 จำนวน โดย โจทย์กำหนดปริมาณของสง่ิ 2 สิ่ง ให้ 3 จำนวน ซ่ึงเป็นปริมาณของสิ่งเดยี วกัน 2 จำนวน และเปน็ ปริมาณของอีก สง่ิ หนงึ่ 1 จำนวน อาจหาปรมิ าณของอกี สิง่ หนึ่ง อีก 1 จำนวนได้ โดยใช้บญั ญัตไิ ตรยางศ์ การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใช้บัญญัตไิ ตรยางศ์ เรมิ่ จากทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา ดำเนนิ การ ตามแผน และตรวจสอบการเขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบโดยใช้ บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ ทำได้ ดังน้ี บรรทัดท่ี 1 เขยี นความสมั พันธ์ระหว่างปริมาณของสงิ่ 2 ส่ิง ตามโจทย์กำหนด โดยใหจ้ ำนวนของสิง่ ทตี่ ้องการหา ไว้ทางขวา บรรทดั ท่ี 2 หาจำนวนของสงิ่ ทีอ่ ยูท่ างขวา โดยให้จำนวนของ ส่งิ ทอี่ ยู่ทางซ้ายเปน็ 1 หน่วย บรรทัดท่ี 3 หาจำนวนของสง่ิ ทอี่ ยทู่ างขวาตามทีโ่ จทย์ตอ้ งการ 3. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. มนิ บิ อรด์ แสดงวิธแี ก้โจทย์ปญั หาบญั ญัตไิ ตรยางศ์

7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ตรวจแบบฝึกหัดหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 ตรวจชิ้นงานหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 แบบฝึกหดั หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่นใน ช้ินงานหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 ระดับคุณภาพ 2 การทำงาน ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 การแก้โจทย์ปัญหาโดยใชบ้ ญั ญัติไตรยางค์ ช่วั โมงท่ี 1 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จาก น้นั ใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรียน 2. ใช้ข้อมูลหน้าเปิดบทซึ่งเป็นสถานการณเ์ กี่ยวกบั การซอ้ื ขายสนิ คา้ ในตลาดเพ่ือสร้างความสนใจเกยี่ วกบั การเลอื กซอื้ สนิ ค้า ทมี่ ีการขายเปน็ ชิน้ เปน็ หอ่ เป็นถุง หรอื เปน็ แพค็ โดยอาจใชค้ ำถามกระตนุ้ ความสนใจ 3. ครูนำตวั อย่างสถานการณ์ทีเ่ หลอื อีก 2 ตวั อย่าง มาต้งั เปน็ ประเดน็ คำถามให้นักเรยี นตอบซึง่ คำตอบของ นกั เรยี น อาจแตกต่างกัน 4. เตรยี มความพร้อมเปน็ การตรวจสอบความรพู้ ืน้ ฐานทจี่ ำเป็นสำหรับการเรยี นบทนี้ โดยอาจจัดกิจกรรม ดงั นี้ 5. ทบทวนความรูเ้ กย่ี วกับการคูณ การหารจำนวนนบั และการคูณเศษสว่ นกับจำนวนนับ แล้วให้ นกั เรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรยี นหน้า 4 6. ทบทวนการวิเคราะหโ์ จทย์และหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการคณู การหารจำนวนนบั เศษสว่ นและ ทศนิยม แลว้ ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สือเรยี นหน้า 5 7. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงท่ี 2 1. ครูใหน้ กั เรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จาก นั้นให้นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ

2. ครนู ำเข้าสบู่ ทเรียนดว้ ยการแกโ้ จทย์ปัญหาเกยี่ วกับการหาจำนวนของส่งิ ตา่ ง ๆ 1 หนว่ ย 3. ครนู ำสถานการณ์ปัญหาในหนงั สอื เรยี น หน้า 6 ให้นักเรียนรว่ มกนั พจิ ารณาแล้วใชก้ ารถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ ายตามขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา 4. ครยู กตัวอย่างสถานการณเ์ พิม่ เติม เพ่ือฝกึ ทักษะการหาปริมาณของ สง่ิ ต่าง ๆ 1 หนว่ ย เชน่ 5. ครกู ระตุ้นโดยตั้งคำถามให้นกั เรยี นคิด เก่ยี วกบั การหาปรมิ าณท่มี ากกว่า 1 หน่วย เชน่ 6. ครูตดิ แถบประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรายเกีย่ วกบั คำตอบว่าจะมีจำนวนมากขน้ึ หรือ น้อยลงกวา่ จำนวนท่ีกำหนดให้ แลว้ ให้ผแู้ ทนนกั เรยี นออกมาเติมคำตอบลงในชอ่ งว่างวา่ “มากขน้ึ ” หรือ “นอ้ ยลง” 7. นกั เรียนจบั คกู่ ับเพอื่ น ครูแจกแถบประโยคให้นกั เรียนคู่ละ 1 แผน่ เพอื่ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันวิเคราะหว์ า่ คำตอบจะมากขึ้นหรือน้อยลง จากนน้ั แต่ละคนู่ ำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนนักเรียนคอู่ ่นื ร่วมกนั ตรวจสอบความ ถูกต้อง ครเู สนอแนะเพิ่มเติม 8. นกั เรียนและครูรว่ มกันอภิปรายวา่ “การคำนวณโจทย์ปัญหาการคูณและการหารต้องทราบว่าสิง่ ที่ โจทยต์ ้องการมคี า่ มากข้นึ หรือนอ้ ยลง ถา้ มากขน้ึ หาผลคูณ ถ้าน้อยลงหาผลหาร 9. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงที่ 3 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก นั้นใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ให้นักเรียนทบทวนความรูเ้ ร่อื ง โจทยป์ ัญหาการคูณและการหารโดยครวู างดนิ สอ 3 แท่งไวบ้ นโต๊ะ และกำหนดวา่ ดินสอ 3 แท่ง ราคา 15 บาท ครูถามคำถาม 3. ครูใชก้ ารถาม-ตอบประกอบการอธบิ ายสถานการณป์ ัญหาในหนังสอื เรียนหนา้ 9 เพ่อื เชอ่ื มโยงไปสู่การ เขียนแสดงวิธหี าคำตอบ โดยใชบ้ ญั ญตั ไิ ตรยางศแ์ ละการพจิ ารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบในหนงั สือเรยี น หน้า 10 4. ครตู ิดแถบโจทย์ปัญหาบนกระดาน 5. ให้นักเรียนอ่านโจทย์พรอ้ มกนั และครูถามคำถามนกั เรียน 6. ครูเขยี นแสดงวธิ หี าคำตอบ โดยใช้บัญญัตไิ ตรยางศ์บนกระดาน 7. ครูติดแถบโจทยบ์ นกระดานอีก 1 ข้อ แล้วใหผ้ ู้แทนนักเรียนเขียนแสดงวิธีหาคำตอบ โดยใช้ บญั ญตั ไิ ตรยางศจ์ ากโจทยป์ ัญหา 8. ครตู ดิ แถบโจทย์บนกระดาน แล้วให้ผู้แทนนักเรียนออกมาเขียนตวั เลขแทนจำนวนในช่องว่าง ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและอภิปรายถงึ วิธกี ารหาคำตอบ 9. ครแู บ่งกลุ่มนกั เรยี นเปน็ กลุ่มละ 3-4 คน แจกแถบโจทย์ปญั หาให้นักเรียนกลุม่ ละ 1 แถบ แล้วให้เขยี น แสดงวิธหี าคำตอบ โดยใช้บญั ญตั ิไตรยางศ์จากโจทยป์ ญั หาพร้อมหาคำตอบ 10. นักเรยี นและครรู ่วมกันอภิปรายวา่ ลกั ษณะโจทย์ปัญหาบางประเภทเป็นการแสดงความสัมพนั ธ์ ระหว่างของสองส่งิ คู่แรกเป็นความสัมพนั ธจ์ ากสงิ่ ทโี่ จทย์กำหนดให้ คูท่ ่ีสองเปน็ ความสัมพันธ์ระหวา่ งส่ิงที่ โจทยก์ ำหนดใหก้ ับส่งิ ที่โจทย์ต้องการ

11. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 4 1. ครูให้นกั เรยี นทอ่ งสูตรคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก น้ันใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ให้นกั เรียนทบทวนความรู้เรอ่ื งโจทยป์ ัญหาการคูณและการหาร โดยครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาบน กระดานแล้วใหผ้ ูแ้ ทนนักเรยี น 3 คน ออกมาแข่งขันกนั สร้างกลอ่ งแสดงความสัมพนั ธ์ของจำนวนและคิดหา คำตอบ 3. จากโจทย์ปญั หาครูแนะนำวธิ ีการเขยี นแสดงวธิ ีทำ 4. ครูใชก้ ารถาม-ตอบประกอบการอธิบายตวั อย่าง 1-3 ในหนังสือเรียนหน้า 11-12 พร้อมวิธพี ิจารณา ความสมเหตุสมผลของคำตอบ 5. ครูติดแถบโจทย์ปัญหาบนกระดาน แลว้ ใหผ้ ู้แทนนักเรยี นช่วยกันออกมาเขียนแสดงวิธีทำบนกระดาน 6. นักเรียนและครรู ่วมกันอภปิ รายว่า ขั้นตอนการคดิ หาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคูณและการหารมี ดังนี้ การเขียนแสดงวิธหี าคำตอบโดยใช้ บญั ญตั ิไตรยางศ์ ทำได้ ดังน้ี บรรทัดท่ี 1 เขยี นความสัมพันธร์ ะหวา่ งปริมาณของสิ่ง 2 สงิ่ ตามโจทย์กำหนด โดยใหจ้ ำนวนของส่ิงทีต่ อ้ งการหา ไวท้ างขวา บรรทัดท่ี 2 หาจำนวนของส่ิงที่อยูท่ างขวา โดยใหจ้ ำนวนของ สงิ่ ท่ีอยทู่ างซ้ายเป็น 1 หนว่ ย บรรทดั ที่ 3 หาจำนวนของสงิ่ ทอี่ ย่ทู างขวาตามที่โจทย์ต้องการ 7. จากนน้ั ให้นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมในหนงั สอื เรยี นหน้า 12 แลว้ ทำแบบฝกึ หดั 4.3 เป็นรายบุคคล ช่ัวโมงท่ี 5 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสูตรคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก นน้ั ให้นกั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครูใหน้ กั เรียนพจิ ารณาสถานการณ์ปญั หาในหนังสือเรยี นหนา้ 13-14 โดยทำความเข้าใจในสิง่ ท่โี จทย์ ถาม และสิ่งท่ีโจทยบ์ อกใหช้ ดั เจน 3. ครูใช้การถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ าย โดยร่วมกนั วเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา เพอ่ื นำไปสกู่ ารหาคำตอบ อย่างเป็นขั้นตอน 4. จากน้ันครูอธบิ ายวธิ ีหาคำตอบเชอ่ื มโยงไปส่กู ารหาคำตอบโดยใช้บญั ญตั ิไตรยางศ์ โดยแนะนำใหน้ ัก เรียบเรยี บเรียงโจทย์ใหม่ เพ่ือใหโ้ จทยแ์ สดงความสัมพันธ์ระหวา่ งปริมาณท่ีกำหนดให้ชดั เจน และไดใ้ จความ ครบถว้ น 5. ครูใช้การถาม-ตอบ ประกอบการอธิบายการเขียนแสดงการแกป้ ัญหา โดยใชบ้ ญั ญตั ไิ ตรยางศ์ หน้า 14 และร่วมกัน พจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบที่ได้ 6. นักเรียนและครรู ว่ มกันอภปิ รายวา่ ขนั้ ตอนการคิดหาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคูณและการหารมี ดังน้ี การเขียนแสดงวิธีหาคำตอบโดยใช้ บัญญัติไตรยางศ์ ทำได้ ดังนี้ บรรทดั ที่ 1 เขียนความสัมพนั ธร์ ะหว่างปริมาณของสิ่ง 2 ส่งิ ตามโจทย์กำหนด โดยให้จำนวนของสิ่งท่ี

ตอ้ งการหาไวท้ างขวา บรรทัดท่ี 2 หาจำนวนของส่ิงที่อยทู่ างขวา โดยให้จำนวนของ ส่ิงที่อยทู่ างซา้ ยเป็น 1 หน่วย บรรทดั ท่ี 3 หาจำนวนของสง่ิ ที่อยู่ทางขวาตามทโ่ี จทย์ต้องการ 7. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 6 1. ครใู หน้ ักเรียนท่องสูตรคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลังจาก นัน้ ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ให้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครถู ามคำถามท้าทาย ดงั น้ี - นักเรยี นเคยนำความรเู้ รื่อง โจทย์ปัญหาการคูณ และการหารไปใช้ในชีวติ ประจำวนั บา้ ง หรือไม่ 3. ครถู าม-ตอบประกอบการอธบิ ายตวั อย่างในหนงั สอื เรยี นหน้า 15 ควรเนน้ ยำ้ ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาความ สมเหตสุ มผลของคำตอบของโจทยป์ ัญหาทุกครงั้ 4. จากน้ันครแู ละนักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมในหนังสือเรียนหน้า 15 แลว้ ทำแบบฝกึ หัด 4.4 เป็น รายบุคคล 5. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แจกแถบโจทย์ปัญหาใหก้ ลุ่มละ 1 แถบ เพอื่ ให้นักเรียน ช่วยกันแสดงวิธีทำและสรปุ คำตอบ 6. จากนัน้ ผู้แทนกล่มุ ออกมานำเสนอผลงาน หน้าชั้นเรียน นักเรยี นกลุ่มอืน่ ๆ และครูรว่ มกันตรวจสอบ ความถูกต้อง 7. นักเรียนและครรู ว่ มกนั อภิปรายวา่ ขนั้ ตอนการคดิ หาคำตอบจากโจทยป์ ัญหาการคณู และการหารมี ดงั น้ี การเขียนแสดงวธิ หี าคำตอบโดยใช้ บญั ญัติไตรยางศ์ ทำได้ ดงั นี้ บรรทดั ที่ 1 เขยี นความสมั พนั ธ์ระหวา่ งปริมาณของสง่ิ 2 สง่ิ ตามโจทย์กำหนด โดยใหจ้ ำนวนของสิ่งท่ี ตอ้ งการหาไว้ทางขวา บรรทัดที่ 2 หาจำนวนของสง่ิ ที่อยทู่ างขวา โดยให้จำนวนของ สง่ิ ที่อย่ทู างซา้ ยเปน็ 1 หน่วย บรรทัดท่ี 3 หาจำนวนของสงิ่ ท่ีอยทู่ างขวาตามท่โี จทยต์ ้องการ 8. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงท่ี 7 1. ครูใหน้ ักเรียนท่องสตู รคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก นน้ั ให้นกั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ให้นักเรียนทบทวนความรเู้ ดมิ โดยชว่ ยกันยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาโดยใชบ้ ญั ญัติไตรยางศ์ใน ชีวิตประจำวัน 3. ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน

4. จากน้ันแต่ละกล่มุ จะได้รบั ใบโฆษณาราคาสนิ ค้ากลุ่มละ 1 ใบ และใหส้ ร้างโจทยป์ ัญหาโดยใช้ บัญญตั ไิ ตรยางศ์ พร้อมทัง้ แสดงวิธที ำและหาคำตอบ 5. นำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น 6. เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความรู้ที่ได้ ใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมในหนงั สอื เรียนหน้า 16 เป็น รายบุคคล 7. นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายว่า ขั้นตอนการคิดหาคำตอบจากโจทยป์ ัญหาการคณู และการหารมี ดงั นี้ การเขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบโดยใช้ บญั ญัตไิ ตรยางศ์ ทำได้ ดังน้ี บรรทดั ท่ี 1 เขียนความสมั พันธ์ระหวา่ งปริมาณของส่งิ 2 ส่งิ ตามโจทย์กำหนด โดยให้จำนวนของสิ่งที่ ต้องการหาไว้ทางขวา บรรทดั ที่ 2 หาจำนวนของสง่ิ ท่ีอยู่ทางขวา โดยใหจ้ ำนวนของ สงิ่ ทีอ่ ยู่ทางซ้ายเปน็ 1 หนว่ ย บรรทัดท่ี 3 หาจำนวนของส่งิ ทอี่ ยู่ทางขวาตามท่โี จทยต์ ้องการ 8. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงท่ี 8 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก นั้นใหน้ ักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ใหน้ กั เรียนทบทวนความรเู้ ดิม โดยชว่ ยกนั ยกตัวอย่างโจทยป์ ัญหาโดยใช้บญั ญตั ิไตรยางศ์ใน ชวี ิตประจำวัน 3. ใหน้ ักเรียนค้นคว้าโจทย์ปัญหาแบบใชบ้ ญั ญตั ิไตรยางศ์ในอินเตอร์เน็ต กลมุ่ ละ 3 ข้อ 4. ใหน้ ักเรยี นช่วยกันแก้โจทย์ปัญหาใช้บัญญัติไตรยางศ์ภายในกลุม่ ตนเองลงในกระดาษบร๊ฟู 5. จากนนั้ นำโจทย์ปัญหาของกลุ่มตนเองไปใชใ้ นการเล่นเกม ทายสฉิ นั มคี ่าเทา่ ไร 6. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ใช้โจทยป์ ัญหาทค่ี ้นควา้ มาออกมาติดบนกระดานใหเ้ พอื่ นกลุม่ อื่นๆชว่ ยกันหา คำตอบ กลุม่ ใดตอบได้คะแนนสูงสุดเป็นฝ่ายชนะ 7. จากนัน้ นำกระดาษบรู๊ฟท่ีเป็นเฉลย อธิบายให้เพ่ือนฟงั 8. นักเรียนและครรู ่วมกนั อภิปรายวา่ ข้ันตอนการคดิ หาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคูณและการหารมี ดังน้ี การเขียนแสดงวิธีหาคำตอบโดยใช้ บัญญัติไตรยางศ์ ทำได้ ดงั น้ี บรรทดั ที่ 1 เขยี นความสัมพันธร์ ะหว่างปริมาณของสิ่ง 2 สิ่ง ตามโจทย์กำหนด โดยให้จำนวนของส่งิ ที่ ต้องการหาไวท้ างขวา บรรทดั ที่ 2 หาจำนวนของสง่ิ ท่ีอยูท่ างขวา โดยใหจ้ ำนวนของ สงิ่ ท่อี ยู่ทางซา้ ยเป็น 1 หน่วย บรรทัดท่ี 3 หาจำนวนของสิ่งท่ีอย่ทู างขวาตามท่โี จทย์ต้องการ 9. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท.

ชวั่ โมงที่ 9 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก น้ันให้นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. รว่ มคดิ ร่วมทำเปน็ กจิ กรรมกลุ่มที่มุง่ ใหน้ กั เรยี น นำความรู้เกีย่ วกบั การแกโ้ จทย์ปญั หาโดยใช้ บัญญัติไตรยางศ์ และเร่อื งอ่ืน ๆ ท่เี รียนมาแล้วไปใช้ในการแกป้ ัญหาผา่ นกจิ กรรม 3. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกล่มุ กล่มุ ละ 3-4 คน ชว่ ยกนั ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเกย่ี วกบั ระบบสุรยิ ะแลว้ นำเสนอ ผลงาน 4. ครูและเพ่ือนในชั้นร่วมกันอภปิ ราย แสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นตา่ ง ๆ เชน่ เราสามารถเปรยี บเทยี บ ความเร็ว และระยะเวลาของ การหมนุ ของดาวเคราะหแ์ ต่ละดวง โดยใช้ส่ิงใดเปน็ เกณฑ์ 5. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น 9. สื่อ/ แหลง่ เรียนรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ น - หลังเรียน 2. หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. 3. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. 4. แถบประโยค 5. แถบโจทยป์ ญั หา

โรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คำสวัสดริ์ าษฎรบ์ ำรงุ ) อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ข้อสอบบทที่ 6 บัญญตั ิไตรยางค์ มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ค1.1 ป.5/2 คำชี้แจง : ให้นกั เรียนทำเครื่องหมาย x ทบั อักษรหน้าคำตอบทถี่ ูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดียว จำนวน 10 ขอ้ ข้อ 1. หนูขาวมสี ี 4 กระป๋อง แตล่ ะกระปอ๋ ง ใช้ทาผนงั ได้ 50 ขอ้ 7. อาหารแมว 6 ถงุ ใชเ้ ล้ียงแมวได้ 10 ตัว ใน 1 ตารางเมตรหนขู าวใชส้ ีทงั้ หมดทาผนังได้ก่ีตารางเมตร สัปดาห์ ถ้าศนู ยด์ ูแลสัตว์มแี มว 35 ตัวใน 1 สัปดาหต์ ้องใช้ อาหารแมวกี่ถุง ก. 100 ตารางเมตร ข. 200 ตารางเมตร ค. 300 ตารางเมตร ง. 400 ตารางเมตร ก. 21 ถุง ข. 22 ถงุ ค. 42 ถุง ง. 45 ถงุ ข้อ 2 . ปลานลิ 2 กโิ ลกรัม ราคา 500 บาท ปลานลิ 1 กิโลกรัม ราคาเท่าใด ขอ้ 8. ข้าวสาร 5 กิโลกรัม นดิ หุงรบั ประทานม้ือละเทา่ ๆ ก. 100 บาท ข. 200 บาท กนั ได้ 20 มื้อ ข้าวสาร 1 กิโลกรัม นิดหุงรบั ประทานได้กี่ม้ือ ค. 250 บาท ง. 300 บาท ก. 6 มื้อ ข. 8 มื้อ ขอ้ 3 . สม้ 8 ถุง แตล่ ะถุงมจี ำนวนสม้ เทา่ ๆ กัน ซ่งึ นบั รวม ค. 4 มอื้ ง. 2 ม้ือ ได้ 40 ผล ถ้าฟ้าใสซอ้ื ส้ม 6 ถุง จะไดส้ ้มทัง้ หมดก่ผี ล ขอ้ 9. ขนม 4 หอ่ ราคา 24 บาท ถา้ ปา้ ซ้ือขนม 10 หอ่ ก. 10 ผล ข. 20 ผล จ่ายเงนิ เทา่ ใด (ค 1.1ป.5/2) ค. 25 ผล ง. 30 ผล ก. 60 บาท ข. 80 บาท ข้อ 4 . แม่ค้าขายขนม 6 ชิน้ ราคา 21 บาท แดงซื้อขนม 35 ค. 100 บาท ง. 150 บาท บาท จะไดก้ ่ีชน้ิ ข้อ 10. รา้ นค้าจดั รายการสง่ เสริมการขายโดยแจ้งว่าถ้าซอื้ ก. 10 ชิน้ ข. 20 ชิ้น สมุด 3 เลม่ จะแถมดินสอ 2 แท่ง ฟ้าใสซือ้ สมุด 1 โหล หลนิ ค. 25 ชน้ิ ง. 30 ช้ิน ได้แถมดินสอกแ่ี ท่ง (ค 1.1ป.5/2) ข้อ 5 . อิฐมอญ 24 ก้อน หนัก 8 กิโลกรัม ถา้ รถบรรทุก ก. 8 แทง่ ข. 9 แท่ง บรรทุกอฐิ มอญหนัก 1,000 กิโลกรมั จะบรรทกุ อฐิ มอญก่ี กอ้ น ค. 10 แทง่ ง. 12 แทง่ ก. 1,000 กอ้ น ข. 2,000 กอ้ น ค. 2,500 กอ้ น ง. 3,000 ก้อน ขอ้ 6. สบู่สมุนไพร 12 ก้อน ราคา 360 บาท ถ้าจิราพร จา่ ยเงนิ ซอื้ สบชู่ นดิ นี้ 270 บาท จะได้สบู่กี่ก้อน ก. 9 กอ้ น ข. 10 กอ้ น ค. 12 กอ้ น ง. 15 ก้อน ผูต้ รวจขอ้ สอบ ลงชื่อ.................................................ครผู สู้ อน (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา)

ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น ในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งว่าง ใหต้ รงกบั ระดับคะแนน และตามความเป็นจริง โดยมเี กณฑก์ ารให้คะแนน ดังนี้ 4 = พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนมาก และบอ่ ยครั้งสม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครั้ง 1 = พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างคร้ัง คุณลกั ษณะอนั ระดบั คะแนน พึงประสงค์ รายการประเมนิ 4 321 ดา้ น 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรกั และภมู ิใจในความเป็นชาติ กษัตรยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตริย์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 2.1 ปฏิบัติตามระเบยี บการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ต่อผอู้ ่ืน 3. มวี นิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรยี บร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้อง 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5. อย่อู ย่าง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและส่ิงของของโรงเรยี นอย่างประหยดั พอเพียง 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มงุ่ มน่ั ในการ 6.1 มคี วามตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรค เพ่ือให้งานสำเรจ็ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั การใหเ้ พือ่ สว่ นรวม และเพือ่ ผอู้ น่ื 8.2 แสดงออกถึงการมนี ้ำใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผอู้ ่ืน 8.3 เข้าร่วมกจิ กรรมบำเพ็ญตนเพอื่ ส่วนรวมเมือ่ มโี อกาส ช่ือ......................................................................................................................ชั้ น.................เลขที.่ .................

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) ปีการศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรปุ ผลการประเมินคุณภาพ ผลการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัมพันธ์กัน การสนทนาเ ื่รอง ่ีทกำหนด การ ิตด ่ตอ ื่สอสาร พฤ ิตกรรมการทำงานก ุ่ลม รวม ระดับ ุคณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 4 2 3 3 2 4 1 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ (ดี) (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา) ได้คะแนน 11-13 คะแนน = (พอใช)้ วนั ....เดือน...............ป.ี ...... (ปรบั ปรงุ ) ได้คะแนน 8-10 คะแนน = ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน = * เกณฑผ์ า่ นการประเมินตอ้ งได้ 2 (พอใช)้ ขึน้ ไป

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ปกี ารศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนน และสรุปผลการประเมนิ คุณภาพ ผลการประเมิน เลขท่ี ชอื่ -สกลุ คะแนน ระดับ ุคณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ไดค้ ะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงช่ือ.........................................ผปู้ ระเมิน ได้คะแนน 11-13 คะแนน =3 (ด)ี (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช)้ วัน....เดือน...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรับปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ต้องได้ 2 (พอใช้) ขนึ้ ไป

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำแบบทดสอบ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) ปีการศกึ ษา 2562 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น และประเมินผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนก่อนเรียน(10) คะแนนหลังเรียน(10) ้รอยละ ่ผาน/ไม่ ่ผาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผเู้ รียนต้องมีคะแนนสอบหลังเรยี นผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ) ลงชื่อ.........................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) วนั ....เดือน...............ป.ี ......

บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนกั เรยี นทีไ่ ม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ 3. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ไมผ่ า่ น............ คน ผ่าน.............คน ดี..................คน ดเี ยี่ยม................คน ระดับดีขน้ึ ไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ไมผ่ า่ น............ คน ผา่ น.............คน ด.ี .................คน ดเี ย่ยี ม................คน ระดบั ดีขนึ้ ไป ร้อยละ..................... 5. นักเรยี นเกิดทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทำเครื่องหมาย / ในชอ่ งวา่ งที่ตรงกับทักษะท่เี กิด การคดิ อย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา การสร้างสรรค์ ความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ การสื่อสาร ดา้ นความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ ำ ทักษะการเปลีย่ นแปลง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ ผลการจดั การเรียนการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแก้ไข • แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่องบัญญัติไตรยางค์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................ .................... .............................................................................................................. ................................................................. ................................................................................................................................................................................ ลงช่ือ.................................................. (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา) ความคดิ เหน็ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้/ผูท้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง .............................................................................................................................. ................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ .................../......................./.........................

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. .... .............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................. ................................................................ .................................... ลงช่ือ…………………………………………………… (นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถิ) โรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ำรงุ ) ................../......................./......................

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 9 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 บัญญัตไิ ตรยางค์ เวลา 9 ชว่ั โมง เรอ่ื ง การแก้โจทยป์ ญั หาโดยใชบ้ ัญญตั ไิ ตรยางค์ 1. สาระสำคญั โจทยป์ ัญหาการคูณและการหารท่ีแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสิ่ง 2 ส่ิง สิ่งละ 2 จำนวน โดย โจทย์กำหนดปริมาณของสง่ิ 2 ส่งิ ให้ 3 จำนวน ซง่ึ เป็นปรมิ าณของส่ิงเดียวกัน 2 จำนวน และเป็นปริมาณของอีก สงิ่ หน่ึง 1 จำนวน อาจหาปริมาณของอกี สิ่งหนงึ่ อีก 1 จำนวนได้ โดยใช้บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ การแก้โจทย์ปญั หาโดยใช้บัญญตั ไิ ตรยางศ์ เร่ิมจากทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา ดำเนินการ ตามแผน และตรวจสอบการเขียนแสดงวิธีหาคำตอบโดยใช้ บัญญตั ไิ ตรยางศ์ ทำได้ ดงั นี้ บรรทดั ท่ี 1 เขยี นความสัมพนั ธ์ระหว่างปริมาณของส่งิ 2 สง่ิ ตามโจทย์กำหนด โดยใหจ้ ำนวนของสิง่ ทต่ี อ้ งการหา ไว้ทางขวา บรรทัดที่ 2 หาจำนวนของสิ่งท่อี ยูท่ างขวา โดยให้จำนวนของ สงิ่ ทีอ่ ยู่ทางซา้ ยเปน็ 1 หนว่ ย บรรทดั ที่ 3 หาจำนวนของส่งิ ท่ีอย่ทู างขวาตามทโ่ี จทยต์ อ้ งการ 2. ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.5/2 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใช้บัญญัตไิ ตรยางศ์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. จำแนกโจทย์ปัญหาท่ีใช้การเทยี บบญั ญัติไตรยางศ์ได้ (K) 2. วิเคราะหแ์ ละแสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาโดยใช้บญั ญัติไตรยางศ์ได้ (P) 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ทีท่ ี่ได้รบั มอบหมาย (A) 4. สาระการเรียนรู้ การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 ขัน้ ตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ ักเรียนท่องสูตรคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก นัน้ ให้นักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ใช้ข้อมูลหนา้ เปดิ บทซ่งึ เป็นสถานการณ์เกี่ยวกับการซือ้ ขายสนิ คา้ ในตลาดเพ่ือสร้างความสนใจเกย่ี วกบั การเลอื กซือ้ สนิ ค้า ทม่ี ีการขายเป็นช้ิน เป็นห่อ เปน็ ถุง หรอื เปน็ แพค็ โดยอาจใชค้ ำถามกระตุ้นความสนใจ เชน่ ❖ ไขไ่ ก่ 1 แพค็ มี 10 ฟอง ราคา 45 บาท ไขไ่ ก่ 1 ฟอง ราคาเท่าใด ❖ ไข่ไก่ 1 แผง มี 30 ฟอง ราคา 120 บาท ไข่ไก่ 1 ฟอง ราคาเทา่ ใด ❖ ไขไ่ ก่ 1 จาน มี 4 ฟอง ราคา 20 บาท ไขไ่ ก่ 1 ฟอง ราคาเท่าใด ❖ การขายไข่ไก่ท้ังสามแบบ แบบใดทีไ่ ขไ่ ก่ 1 ฟอง ราคาถูกท่ีสดุ ❖ ถา้ ต้องการซื้อไข่ไก่ 60 ฟอง จะซ้อื ไข่ไก่แบบใดไดบ้ า้ ง และแบบใดท่จี ่ายเงินนอ้ ยทีส่ ุด 3. ครูนำตัวอยา่ งสถานการณ์ทเี่ หลอื อีก 2 ตวั อย่าง มาต้ังเปน็ ประเด็นคำถามให้นกั เรยี นตอบซ่ึงคำตอบของ นกั เรยี น อาจแตกตา่ งกัน ขน้ั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 4. เตรยี มความพร้อมเป็นการตรวจสอบความร้พู นื้ ฐานทจ่ี ำเปน็ สำหรบั การเรียนบทนี้ โดยอาจจัดกจิ กรรม ดงั น้ี 5. ทบทวนความร้เู ก่ียวกับการคูณ การหารจำนวนนับและการคณู เศษส่วนกับจำนวนนับ แล้วให้ นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สือเรยี นหน้า 4 ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรปุ 6. ทบทวนการวิเคราะห์โจทย์และหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการคูณ การหารจำนวนนบั เศษสว่ นและ ทศนยิ ม แลว้ ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สอื เรียนหน้า 5 ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 7. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงท่ี 2 ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นน้ั ให้นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครนู ำเขา้ สู่บทเรยี นดว้ ยการแก้โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับการหาจำนวนของสงิ่ ต่าง ๆ 1 หนว่ ย

3. ครนู ำสถานการณ์ปัญหาในหนงั สอื เรยี น หน้า 6 ใหน้ ักเรียนรว่ มกันพิจารณาแล้วใชก้ ารถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ ายตามขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา 4. ครยู กตัวอย่างสถานการณ์เพิม่ เติม เพ่ือฝึกทักษะการหาปรมิ าณของ ส่งิ ตา่ ง ๆ 1 หนว่ ย เช่น ❖อั๋นขบั รถยนตร์ ะยะทาง 96 กิโลเมตร ใช้น้ำมนั 8 ลติ ร น้ำมัน 1 ลติ ร รถยนต์จะแลน่ ไดร้ ะยะทางเทา่ ใด ❖อาหารสนุ ัข 4 ถุง ใชเ้ ลี้ยงสนุ ขั ได้ 28 มอื้ อาหารสุนขั 1 ถุง ใช้เลย้ี งสุนขั ได้กี่มอ้ื 5. ครกู ระตนุ้ โดยตง้ั คำถามให้นกั เรียนคดิ เก่ยี วกบั การหาปริมาณทมี่ ากกวา่ 1 หน่วย เชน่ ❖อั๋นขบั รถยนต์ระยะทาง 96 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 8 ลติ ร ถ้ามีน้ำมันเหลืออยู่ 10 ลติ ร รถยนตจ์ ะแลน่ ได้ ระยะทางเท่าใด ❖อาหารสุนัข 4 ถงุ ใช้เลี้ยงสนุ ัขได้ 28 มือ้ อาหารสุนัข 7 ถงุ ใช้เลย้ี งสนุ ขั ไดก้ ่ีมอ้ื ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 6. ครูตดิ แถบประโยคบนกระดาน ให้นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายเกย่ี วกับคำตอบวา่ จะมจี ำนวนมากข้นึ หรอื น้อยลงกวา่ จำนวนทกี่ ำหนดให้ แล้วให้ผู้แทนนกั เรยี นออกมาเตมิ คำตอบลงในชอ่ งวา่ งว่า “มากขึ้น” หรือ “น้อยลง” ดังตัวอยา่ ง ❖สมดุ 8 เล่ม ราคา 96 บาท นทีกระโดดเชือก 10 ครัง้ ใชเ้ วลา 6 วินาที ❖ นทีกระโดดเชือก 20 คร้ังใชเ้ วลา (มากข้ึน) ❖สมุด 1 เลม่ ราคา (นอ้ ยลง) 7. นักเรยี นจบั คู่กับเพื่อน ครแู จกแถบประโยคใหน้ กั เรียนคู่ละ 1 แผน่ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนรว่ มกันวเิ คราะห์วา่ คำตอบจะมากขึ้นหรือน้อยลง จากนน้ั แต่ละคนู่ ำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี นนักเรยี นคอู่ นื่ ร่วมกันตรวจสอบความ ถกู ต้อง ครูเสนอแนะเพมิ่ เติม ขั้นตอนที่ 4 : การสรปุ 8. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปรายวา่ “การคำนวณโจทยป์ ัญหาการคูณและการหารต้องทราบว่าสงิ่ ที่ โจทยต์ ้องการมีค่ามากข้นึ หรือนอ้ ยลง ถ้ามากขน้ึ หาผลคูณ ถ้าน้อยลงหาผลหาร ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 9. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี 3 ข้ันตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูให้นักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก น้ันให้นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ให้นักเรียนทบทวนความร้เู รอื่ ง โจทย์ปัญหาการคูณและการหารโดยครวู างดินสอ 3 แทง่ ไว้บนโต๊ะ และกำหนดว่า ดนิ สอ 3 แท่ง ราคา 15 บาท ครูถามคำถาม ดังน้ี ▪ ดินสอ 3 แท่ง บนโต๊ะราคาเทา่ ไร (15 บาท) ▪ ดงั นนั้ ดินสอ 1 แท่ง จะมีราคามากขึน้ หรือน้อยลงจากราคา 15 บาท (น้อยลง)

▪ คำนวณดินสอ 1 แทง่ ได้อย่างไร (หาผลหาร) ▪ น่ันคอื ดนิ สอ 1 แท่ง ราคาเท่าไร (15 ÷ 3 = 5 บาท) ▪ ถ้าครนู ำดินสอมาวางบนโต๊ะอีก 7 แทง่ จะรวมเป็นดนิ สอบนโต๊ะก่แี ท่ง (10 แท่ง) ▪ ดนิ สอ 10 แทง่ บนโต๊ะราคาเทา่ ไร (50 บาท) ▪ คำนวณเพื่อหาคำตอบได้อย่างไร (10 × 5 = 50) 3. ครใู ช้การถาม-ตอบประกอบการอธบิ ายสถานการณ์ปัญหาในหนงั สือเรียนหน้า 9 เพ่ือเชือ่ มโยงไปสูก่ าร เขียนแสดงวิธีหาคำตอบ โดยใชบ้ ญั ญัติไตรยางศ์และการพิจารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบในหนังสือเรยี น หนา้ 10 ขั้นตอนท่ี 3 : การฝกึ 4. ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาบนกระดาน ดินสอ 5 แท่ง ราคา 40 บาท ตอ้ งการซ้ือ 7 แทง่ ราคาเทา่ ไร 5. ใหน้ กั เรยี นอา่ นโจทย์พรอ้ มกัน และครูถามคำถามนกั เรียน ดังน้ี  โจทยป์ ัญหานเี้ ป็นเรื่องเกีย่ วกบั อะไร (ราคาดินสอ)  โจทยก์ ำหนดอะไร (ดินสอ 5 แท่ง ราคา 40 บาท ต้องการซื้อ 7 แท่ง)  โจทยถ์ ามอะไร (ดนิ สอ 7 แท่ง ราคาเท่าไร)  ความสัมพนั ธ์ระหว่างสงิ่ ท่โี จทยก์ ำหนดคืออะไร (ดนิ สอ 5 แท่ง ราคา 40 บาท)  ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ ท่ีโจทยก์ ำหนดกับสง่ิ ท่ีโจทยต์ อ้ งการคืออะไร(ดนิ สอ 7 แท่ง ราคาเทา่ ไร) 6. ครูเขยี นแสดงวธิ หี าคำตอบ โดยใชบ้ ญั ญตั ไิ ตรยางศ์บนกระดาน ดินสอ 5 แทง่ ราคา 40 บาท ดนิ สอ 1 แทง่ ราคา 8 บาท ดนิ สอ 7 แท่ง ราคา 56 บาท 7. ครตู ิดแถบโจทย์บนกระดานอีก 1 ข้อ แลว้ ให้ผู้แทนนักเรียนเขียนแสดงวิธหี าคำตอบ โดยใช้ บัญญัตไิ ตรยางศจ์ ากโจทยป์ ัญหา คนงาน 4 คนใชเ้ วลา 16 ชั่วโมง ถา้ มีคนงาน 8 คน จะให้เวลาทำงานกีช่ ่วั โมง 8. ครตู ิดแถบโจทย์บนกระดาน แล้วให้ผแู้ ทนนักเรียนออกมาเขยี นตัวเลขแทนจำนวนในช่องว่าง ดงั ตัวอยา่ ง ขนมโดนัท 6 ชนิ้ ราคา 42 บาท ขนมโดนัท 1 ช้ิน ราคา 7 บาท ขนมโดนทั 2 ชน้ิ ราคา 14 บาท ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและอภิปรายถงึ วธิ ีการหาคำตอบ 9. ครแู บ่งกลุ่มนักเรยี นเป็นกล่มุ ละ 3-4 คน แจกแถบโจทย์ปญั หาให้นักเรยี นกลมุ่ ละ 1 แถบ แลว้ ให้เขียน แสดงวธิ ีหาคำตอบ โดยใชบ้ ญั ญัตไิ ตรยางศ์จากโจทย์ปัญหาพร้อมหาคำตอบ

ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรปุ 10. นักเรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายว่า ลกั ษณะโจทยป์ ญั หาบางประเภทเป็นการแสดงความสัมพนั ธ์ ระหว่างของสองสิ่ง คู่แรกเป็นความสมั พนั ธ์จากส่งิ ท่ีโจทย์กำหนดให้ คู่ทีส่ องเป็นความสมั พันธร์ ะหว่างส่งิ ที่ โจทยก์ ำหนดให้กบั ส่งิ ท่ีโจทย์ตอ้ งการ ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยกุ ต์ใชท้ ันที 11. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงท่ี 4 ข้นั ตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ ักเรียนท่องสตู รคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก น้นั ให้นกั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ให้นกั เรยี นทบทวนความรู้เร่อื งโจทย์ปญั หาการคูณและการหาร โดยครูตดิ แถบโจทย์ปัญหาบน กระดานแล้วใหผ้ ้แู ทนนกั เรยี น 3 คน ออกมาแขง่ ขนั กนั สรา้ งกลอ่ งแสดงความสมั พันธ์ของจำนวนและคิดหา คำตอบ ดังตัวอย่าง สบู่ 6 กอ้ น ราคา 78 บาท ถา้ ตอ้ งการซื้อสบู่ 9 ก้อน ต้องจ่ายเงนิ เท่าไร จำนวนสบู่ (กอ้ น) ราคา (บาท) 6 7 9 8 ? ตอบ ๑๑๗ บาท 3. จากโจทยป์ ญั หาครแู นะนำวธิ ีการเขยี นแสดงวธิ ที ำ ดังนี้ สบู่ 6 กอ้ นราคา 78 บาท สบู่ 1 ก้อนราคา 78 ÷ 6 = 13 บาท สบู่ 9 ก้อนราคา 9 × 13 = 117 บาท ตอบ อยู่ ๙ ก้อน ราคา ๑๑๗ บาท 4. ครูใชก้ ารถาม-ตอบประกอบการอธิบายตัวอย่าง 1-3 ในหนังสอื เรยี นหนา้ 11-12 พร้อมวธิ พี ิจารณา ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ ข้ันตอนที่ 3 : การฝกึ 5. ครูตดิ แถบโจทย์ปญั หาบนกระดาน แล้วให้ผูแ้ ทนนักเรยี นช่วยกันออกมาเขียนแสดงวิธีทำบนกระดาน วุฒชิ ยั ใชเ้ วลาอ่านหนังสือ 78 นาที ได้ 12 หนา้ ถา้ วุฒิชยั ใช้เวลา 299 นาที เขาจะอ่านหนงั สือได้กีห่ นา้

อ่านหนงั สอื 78 นาที ได้ 12 หน้า อา่ นหนงั สือ 1 นาที ได้ 12 ÷ 78 = 12 หน้า 78 12 อา่ นหนังสอื 299 นาที ได้ 299 × 78 = 46 หน้า ตอบ เขาจะอ่านหนังสือได้ ๔๖ หน้า ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 6. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายวา่ ขั้นตอนการคดิ หาคำตอบจากโจทยป์ ัญหาการคณู และการหารมี ดังนี้ การเขยี นแสดงวิธหี าคำตอบโดยใช้ บญั ญัติไตรยางศ์ ทำได้ ดังน้ี บรรทดั ท่ี 1 เขยี นความสมั พนั ธ์ระหว่างปริมาณของส่งิ 2 ส่งิ ตามโจทยก์ ำหนด โดยใหจ้ ำนวนของส่ิงทีต่ อ้ งการหา ไวท้ างขวา บรรทัดที่ 2 หาจำนวนของส่งิ ที่อยทู่ างขวา โดยใหจ้ ำนวนของ สิง่ ท่ีอยู่ทางซ้ายเป็น 1 หน่วย บรรทัดที่ 3 หาจำนวนของส่งิ ทีอ่ ยู่ทางขวาตามที่โจทย์ต้องการ ขัน้ ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 7. จากนั้นใหน้ กั เรียนร่วมกันทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี นหน้า 12 แลว้ ทำแบบฝึกหัด 4.3 เป็นรายบุคคล ช่วั โมงที่ 5 ข้นั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จาก น้นั ให้นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครูให้นักเรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ปญั หาในหนงั สือเรียนหนา้ 13-14 โดยทำความเข้าใจในส่งิ ท่ีโจทย์ ถาม และส่ิงทโี่ จทยบ์ อกให้ชัดเจน 3. ครใู ชก้ ารถาม-ตอบ ประกอบการอธิบาย โดยร่วมกนั วเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา เพือ่ นำไปสกู่ ารหาคำตอบ อยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน 4. จากนน้ั ครอู ธิบายวิธีหาคำตอบเชอ่ื มโยงไปสูก่ ารหาคำตอบโดยใชบ้ ญั ญตั ิไตรยางศ์ โดยแนะนำให้นัก เรียบเรยี บเรียงโจทยใ์ หม่ เพื่อใหโ้ จทย์แสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งปรมิ าณที่กำหนดใหช้ ัดเจน และไดใ้ จความ ครบถว้ น ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครใู ช้การถาม-ตอบ ประกอบการอธิบายการเขยี นแสดงการแกป้ ัญหา โดยใช้บญั ญัตไิ ตรยางศ์ หน้า 14 และรว่ มกัน พิจารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบที่ได้ ข้ันตอนท่ี 4 : การสรุป 6. นักเรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายวา่ ขน้ั ตอนการคิดหาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคูณและการหารมี ดงั น้ี การเขียนแสดงวิธีหาคำตอบโดยใช้ บญั ญัตไิ ตรยางศ์ ทำได้ ดงั นี้ บรรทดั ท่ี 1 เขียนความสัมพนั ธ์ระหว่างปรมิ าณของส่ิง 2 ส่ิง ตามโจทย์กำหนด โดยให้จำนวนของสิ่งท่ี

ต้องการหาไว้ทางขวา บรรทัดที่ 2 หาจำนวนของสง่ิ ท่ีอยู่ทางขวา โดยใหจ้ ำนวนของ ส่ิงท่ีอยู่ทางซา้ ยเป็น 1 หนว่ ย บรรทดั ที่ 3 หาจำนวนของส่งิ ที่อยู่ทางขวาตามทโ่ี จทยต์ ้องการ ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที 7. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงท่ี 6 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นกั เรียนท่องสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จาก นั้นให้นักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขัน้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครถู ามคำถามท้าทาย ดงั นี้ - นักเรียนเคยนำความรูเ้ ร่ือง โจทย์ปัญหาการคูณ และการหารไปใช้ในชีวติ ประจำวันบ้าง หรอื ไม่ 3. ครถู าม-ตอบประกอบการอธิบายตวั อย่างในหนังสือเรยี นหน้า 15 ควรเน้นย้ำให้นกั เรียนพจิ ารณาความ สมเหตุสมผลของคำตอบของโจทย์ปญั หาทุกคร้ัง 4. จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันทำกจิ กรรมในหนงั สือเรยี นหน้า 15 แล้วทำแบบฝึกหดั 4.4 เป็น รายบคุ คล ขั้นตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครแู บ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน แจกแถบโจทยป์ ัญหาใหก้ ลุ่มละ 1 แถบ เพ่อื ใหน้ กั เรียน ช่วยกนั แสดงวธิ ที ำและสรปุ คำตอบ 6. จากน้นั ผู้แทนกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงาน หน้าช้ันเรยี น นักเรยี นกล่มุ อื่น ๆ และครูร่วมกันตรวจสอบ ความถกู ต้อง ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรุป 7. นกั เรยี นและครูร่วมกันอภิปรายว่า ข้ันตอนการคดิ หาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคณู และการหารมี ดังน้ี การเขียนแสดงวิธีหาคำตอบโดยใช้ บญั ญัติไตรยางศ์ ทำได้ ดังนี้ บรรทดั ที่ 1 เขยี นความสมั พันธ์ระหว่างปริมาณของสง่ิ 2 สงิ่ ตามโจทย์กำหนด โดยใหจ้ ำนวนของสิง่ ท่ี ตอ้ งการหาไว้ทางขวา บรรทัดที่ 2 หาจำนวนของสง่ิ ท่ีอย่ทู างขวา โดยใหจ้ ำนวนของ สิ่งท่ีอย่ทู างซา้ ยเป็น 1 หน่วย บรรทัดท่ี 3 หาจำนวนของสง่ิ ท่ีอย่ทู างขวาตามทีโ่ จทย์ต้องการ ขนั้ ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใช้ทันที 8. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท.

ชว่ั โมงท่ี 7 ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ ักเรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลงั จาก นัน้ ใหน้ กั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ให้นกั เรยี นทบทวนความร้เู ดมิ โดยชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งโจทย์ปัญหาโดยใชบ้ ญั ญตั ิไตรยางศ์ใน ชวี ติ ประจำวัน ขนั้ ตอนท่ี 3 : การฝึก 3. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน 4. จากน้ันแต่ละกลมุ่ จะได้รบั ใบโฆษณาราคาสินคา้ กลุ่มละ 1 ใบ และให้สร้างโจทย์ปญั หาโดยใช้ บัญญตั ิไตรยางศ์ พร้อมท้ังแสดงวธิ ีทำและหาคำตอบ 5. นำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น 6. เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความรทู้ ่ีได้ ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมในหนงั สือเรียนหนา้ 16 เป็น รายบุคคล ขั้นตอนที่ 4 : การสรปุ 7. นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภิปรายว่า ขน้ั ตอนการคิดหาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคณู และการหารมี ดังน้ี การเขียนแสดงวิธหี าคำตอบโดยใช้ บญั ญัตไิ ตรยางศ์ ทำได้ ดังนี้ บรรทดั ท่ี 1 เขยี นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปริมาณของสงิ่ 2 สง่ิ ตามโจทย์กำหนด โดยใหจ้ ำนวนของสิ่งที่ ต้องการหาไวท้ างขวา บรรทัดท่ี 2 หาจำนวนของสงิ่ ท่ีอย่ทู างขวา โดยให้จำนวนของ สงิ่ ท่อี ยู่ทางซ้ายเปน็ 1 หน่วย บรรทดั ท่ี 3 หาจำนวนของสง่ิ ที่อยูท่ างขวาตามทโ่ี จทย์ตอ้ งการ ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที 8. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี 8 ขนั้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรียนท่องสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก น้นั ให้นกั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ

ข้ันตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ให้นกั เรยี นทบทวนความร้เู ดมิ โดยช่วยกันยกตวั อยา่ งโจทย์ปญั หาโดยใช้บญั ญตั ิไตรยางศ์ใน ชีวติ ประจำวนั ข้ันตอนท่ี 3 : การฝกึ 3. ใหน้ ักเรียนคน้ ควา้ โจทย์ปัญหาแบบใช้บัญญตั ิไตรยางศ์ในอินเตอรเ์ น็ต กล่มุ ละ 3 ข้อ 4. ให้นกั เรยี นชว่ ยกันแก้โจทย์ปัญหาใชบ้ ญั ญัตไิ ตรยางศ์ภายในกลมุ่ ตนเองลงในกระดาษบรู๊ฟ 5. จากน้นั นำโจทยป์ ญั หาของกลมุ่ ตนเองไปใชใ้ นการเล่นเกม ทายสฉิ นั มคี ่าเท่าไร 6. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มใช้โจทยป์ ญั หาทคี่ ้นคว้ามาออกมาตดิ บนกระดานให้เพื่อนกลมุ่ อ่ืนๆช่วยกันหา คำตอบ กลมุ่ ใดตอบไดค้ ะแนนสงู สดุ เปน็ ฝา่ ยชนะ 7. จากนัน้ นำกระดาษบรู๊ฟท่ีเปน็ เฉลย อธบิ ายให้เพ่ือนฟัง ข้นั ตอนท่ี 4 : การสรุป 8. นกั เรยี นและครูร่วมกนั อภิปรายวา่ ขั้นตอนการคดิ หาคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคณู และการหารมี ดงั นี้ การเขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบโดยใช้ บัญญัติไตรยางศ์ ทำได้ ดังนี้ บรรทัดท่ี 1 เขยี นความสมั พนั ธ์ระหว่างปริมาณของส่ิง 2 ส่ิง ตามโจทย์กำหนด โดยใหจ้ ำนวนของส่งิ ที่ ตอ้ งการหาไวท้ างขวา บรรทัดที่ 2 หาจำนวนของส่ิงท่ีอยทู่ างขวา โดยให้จำนวนของ สงิ่ ทีอ่ ยู่ทางซา้ ยเปน็ 1 หน่วย บรรทัดท่ี 3 หาจำนวนของส่ิงที่อยู่ทางขวาตามทโี่ จทย์ต้องการ ข้ันตอนที่ 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที 9. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงที่ 9 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก น้นั ให้นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. รว่ มคิดร่วมทำเปน็ กิจกรรมกล่มุ ท่ีมงุ่ ให้นกั เรยี น นำความรเู้ กี่ยวกับการแก้โจทยป์ ัญหาโดยใช้ บญั ญัติไตรยางศ์ และเรือ่ งอนื่ ๆ ที่เรยี นมาแล้วไปใชใ้ นการแก้ปญั หาผา่ นกจิ กรรม ขั้นตอนที่ 3 : การฝึก 3. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน ช่วยกันปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเกีย่ วกบั ระบบสุรยิ ะแล้วนำเสนอ ผลงาน ขัน้ ตอนท่ี 4 : การสรปุ 4. ครแู ละเพื่อนในชั้นร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเหน็ ในประเดน็ ตา่ ง ๆ เช่น เราสามารถเปรยี บเทยี บ ความเรว็ และระยะเวลาของ การหมนุ ของดาวเคราะห์แต่ละดวง โดยใชส้ งิ่ ใดเปน็ เกณฑ์

ขั้นตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ช้ทันที 5. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น 8. การวดั ผลและประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน 2. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน 4. แบบทดสอบหลังเรยี น การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรับผู้ท่ีได้ระดับคุณภาพตัง้ แต่ 2 ข้ึนไป 2. ถือเกณฑ์ผ่านสำหรบั ผู้ท่ีทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตั้งแต่ 2 ข้ึนไป 3. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ี่ทำงานไดร้ ะดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ขึ้นไป 4. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผู้ท่ีทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรียนได้ร้อยละ 60 ขึน้ ไป 9. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ น - หลงั เรยี น 2. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. 3. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. 4. แถบประโยค 5. แถบโจทยป์ ญั หา

ภาคผนวก -รปู ดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ฯ

พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เร่ืองบัญญตั ิไตรยางค์ เวลาทใ่ี ช้ 9ชว่ั โมง รหัสวิชา ค15101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสุดทส่ี ดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถึง นอ้ ยทสี่ ุด ข้อ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ช่อื หน่วยการเรยี นรู้น่าสนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลุมเนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู/้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์มคี วามเชื่อมโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรยี นรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพนั ธก์ ันระหวา่ งช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรู้และกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั /ผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรยี นให้มีความรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคัญของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรียนรมู้ คี วามเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสร้างชน้ิ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะท้อนคุณภาพผเู้ รยี นตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั /ผล การเรยี นรู้ 11 สือ่ การเรียนรใู้ นแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใช้ได้จรงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบตั จิ รงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ .............................................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................... ........................................................................ ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวจริ ะพันธุ์ ปากวเิ ศษ) ผ้ปู ระเมนิ

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ หน่วยการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ืองบัญญัตไิ ตรยางค์ เวลาท่ใี ช้ 9ชว่ั โมง รหสั วิชา ค15101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดทสี่ ุด 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถึง น้อยที่สุด ขอ้ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ชอื่ หนว่ ยการเรยี นร้นู า่ สนใจ กะทดั รดั ชัดเจน ครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นร้/ู สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคม์ ีความเช่ือมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับสาระการเรยี นรู้ 5 ความเช่อื มโยงสมั พนั ธก์ ันระหว่างชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ดั / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรูแ้ ละสาระการเรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรยี นใหม้ คี วามรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคัญของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสร้างชน้ิ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมินสามารถสะทอ้ นคุณภาพผ้เู รียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด/ผล การเรยี นรู้ 11 ส่ือการเรยี นร้ใู นแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกตใ์ ช้ไดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ รงิ ได้ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................................ ....................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผู้ประเมนิ

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 เรื่องบัญญตั ไิ ตรยางค์ เวลาทใี่ ช้ 9ชว่ั โมง รหัสวชิ า ค15101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสดุ ทีส่ ุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถงึ นอ้ ยทสี่ ุด ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ชอ่ื หน่วยการเรียนรนู้ า่ สนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลุมเนอ้ื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์มคี วามเช่อื มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชอ่ื มโยงสัมพันธ์กนั ระหวา่ งชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นร้แู ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ 7 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลุมในการพฒั นาผู้เรยี นให้มีความรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามเหมาะสมสามารถนำผเู้ รียนไปสู่การสร้างชนิ้ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมนิ สามารถสะทอ้ นคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด/ผล การเรยี นรู้ 11 ส่อื การเรียนรู้ในแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยกุ ต์ใช้ไดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏิบัตจิ รงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................................... .......................................................................................................................................................................................... ....... ลงชือ่ .................................................................. (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถิ) ผปู้ ระเมนิ

พ.น./วก. 03 โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรงุ ) สรุปผลการประเมนิ หนว่ ยการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เรื่องบัญญตั ิไตรยางค์ เวลาทใี่ ช้ 9ช่วั โมง รหสั วิชา ค15101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ครูผู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมนิ หนว่ ยการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 12 ข้อ มีระดบั การประเมิน 5 ระดับ คือ 5 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มากท่ีสุด 4 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม น้อย 1 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม น้อยที่สดุ ซงึ่ ถอื เกณฑใ์ นการแปลความหมายของค่าเฉลยี่ ดงั นี้ 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มคี วามสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม มากท่สี ุด 3.50 – 4.49 หมายความว่า มีความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความว่า มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความว่า มีความสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม น้อย 1.00 – 1.49 หมายความว่า มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม นอ้ ยทีส่ ุด คะแนนของผู้ประเมิน คา่ การแปล ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คนที่ คนท่ี คนที่ เฉลี่ย ความหมาย 123 1 ชือ่ หน่วยการเรยี นร้นู ่าสนใจ กะทดั รดั ชัดเจน ครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นร้/ู สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มคี วามเชือ่ มโยงกนั อยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั สาระการเรยี นรู้ 5 ความเช่ือมโยงสัมพันธก์ นั ระหว่างชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ัด /ผลการเรียนรูส้ าระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรู้และ กิจกรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ และสาระการเรยี นรู้

-2- ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนนของผู้ประเมิน คา่ การแปล คนท่ี คนที่ คนที่ เฉลย่ี ความหมาย 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผู้เรยี นให้มคี วามรทู้ ักษะ/ 123 กระบวนการ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรียนไปสู่การสรา้ งช้นิ งาน/ ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมนิ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพผูเ้ รียนตาม มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ 11 สอื่ การเรียนร้ใู นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไป ประยุกต์ใชไ้ ด้จรงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ รงิ ได้ ภาพรวม สรปุ ผลการประเมิน  ผา่ น (ความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสมตง้ั แต่ระดับปานกลางขนึ้ ไป)  ผา่ น (ความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสมต่ำกว่าระดบั ปานกลาง) ลงชื่อ.......................................... (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชื่อ.......................................... ลงชอื่ .......................................... (นางสาวสุวดี กาญจนาภา) (นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสด์ริ าษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เร่ืองบัญญตั ไิ ตรยางค์ เวลาที่ใช้ 9ชั่วโมง รหสั วิชา ค15101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 ครผู ู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดมี าก 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ พอใช้ 1 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ ปรับปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นรูส้ อดคล้องสมั พนั ธ์กบั หน่วยการเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ นสัมพนั ธ์กนั 3 การเขียนสาระสำคญั ในแผนถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรียนรู้มคี วามชัดเจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 5 กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ 7 กจิ กรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์และระดบั ชนั้ ของนักเรียน 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ 9 กจิ กรรมการเรียนรู้เปน็ กิจกรรมทสี่ ่งเสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทีด่ ีงาม 11 กจิ กรรมการเรียนรู้เน้นให้ผเู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในช้ันเรยี น 12 วสั ดอุ ุปกรณ์ สื่อ นวตั กรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดุอุปกรณ์ สือ่ และแหล่งเรียนรเู้ หมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนค้นควา้ หาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ 15 มกี ารวดั และประเมนิ ผลทสี่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเน้อื หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ด้านกจิ กรรมการเรยี นการสอน......................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................... ........................................................................ ............................................................................................................................. .................................................................. ด้านการวดั และประเมินผล...................................................................................................................................... ...................................................................................... ................................................................... ...................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ดา้ นอนื่ ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ................................................................................................................. ................................................................... ........... ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงชื่อ)..................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวิเศษ) ............./.................../............. สิง่ ท่ไี ดด้ ำเนินการแก้ไข ............................................................................................... ................................................................... ............................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................... ................................ (ลงชื่อ)..................................................ผ้สู อน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรปี ระภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 04 โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวัสด์ริ าษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่ืองบัญญตั ไิ ตรยางค์ เวลาที่ใช้ 9ชั่วโมง รหสั วิชา ค15101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 ครผู ู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ปรับปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคล้องสมั พนั ธ์กับหน่วยการเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นรู้มีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ นสมั พนั ธ์กนั 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรียนรมู้ คี วามชดั เจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นร้สู อดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกบั จุดประสงค์และระดบั ชั้นของนักเรียน 8 กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ 9 กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ กิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มทด่ี ีงาม 11 กจิ กรรมการเรียนรูเ้ น้นให้ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มในช้ันเรียน 12 วสั ดอุ ุปกรณ์ สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดุอปุ กรณ์ สือ่ และแหล่งเรียนรเู้ หมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 สง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ ควา้ หาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ 15 มกี ารวดั และประเมินผลที่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้

-2- ขอ้ เสนอแนะ ด้านเนือ้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................ ....................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ด้านกิจกรรมการเรยี นการสอน......................................................................................................................... ....... .......................................................................................... ..................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นการวดั และประเมินผล...................................................................................................................................... ......................................................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงช่อื )..................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวสุวดี กาญจนาภา)) ............./.................../............. สิ่งทไี่ ดด้ ำเนินการแก้ไข ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................... ............................ (ลงชอื่ )..................................................ผู้สอน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 04 โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวัสด์ริ าษฎร์บำรุง) แบบประเมินแผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เรื่องบัญญตั ไิ ตรยางค์ เวลาที่ใช้ 9ชั่วโมง รหสั วิชา ค15101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 ครผู ู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ปรับปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นรูส้ อดคล้องสมั พนั ธ์กับหน่วยการเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถว้ นสมั พนั ธ์กนั 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรียนรมู้ คี วามชดั เจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกบั จดุ ประสงคแ์ ละระดบั ชั้นของนักเรียน 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ 9 กจิ กรรมการเรียนรเู้ ป็นกิจกรรมทสี่ ่งเสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นิยมทด่ี ีงาม 11 กจิ กรรมการเรียนรู้เน้นให้ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มในช้ันเรียน 12 วสั ดอุ ุปกรณ์ สอื่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดุอุปกรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ 15 มกี ารวัดและประเมินผลที่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook