Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

Published by moopraew54, 2021-07-18 10:33:39

Description: เรื่อง โจทย์ปัญหาทศนิยม

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรงุ ) ท่…ี …………………วันที่ ………… เดือน …………………….. พ.ศ.๒๕๖๓ เร่อื ง ขออนุญาตใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์ บำรุง) ไดร้ ับมอบหมายใหป้ ฏบิ ตั หิ น้าท่ีการสอน รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค๑๕๑๐๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ ตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสาร หนว่ ยการเรยี นท่ี ๔ ชอื่ หน่วย โจทย์ปัญหาทศนยิ ม เวลาเรียน ๑๓ ชัว่ โมง มาพร้อมกับเอกสารนี้ จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ ลงช่อื (นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา) ตำแหน่ง ครู ลงชอื่ (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ความเหน็ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น อนญุ าต ไม่อนญุ าต เพราะ ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ( นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรงุ ) ............./................../.............

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เรอื่ ง โจทยป์ ญั หาทศนยิ ม ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั ค๑๕๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวัสดิร์ าษฎรบ์ ำรงุ ) สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑ สำนกั านคณะกรรมการการศึกษาข้นึ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง ศึกษาฝึกทักษะการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การบวก การลบ การคูณ และการหารของ โจทย์ปัญหาจำนวนนับและ 0 เปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก การลบ การคูณ การหาร การ บวก ลบ คูณ หารระคน และการแก้โจทย์ปัญหาของเศษส่วนและจำนวนคละ ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วน และทศนิยม ค่าประมาณของทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำแหนง่ ที่เปน็ จำนวนเตม็ ทศนยิ ม 1 ตำแหน่งและ 2 ตำแหน่ง การใช้เครื่องหมาย ≈ การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม การประมาณผลลัพธ์ การแก้โจทย์ปัญหา เกี่ยวกับทศนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาว เซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตร กับเมตร โดยใช้ความรู้เรื่องทศนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยน้ำหนัก กิโลกรัมกับกรัมโดยใช้ความรู้เรื่อง ทศนยิ ม การแก้โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับความยาวและน้ำหนักโดยใช้ความรเู้ ร่ืองการเปล่ยี นหน่วยและทศนิยม การ แก้โจทยป์ ญั หาโดยใชบ้ ญั ญัตไิ ตรยางศ์ การอ่านและการเขยี นร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ การแก้โจทย์ปัญหารอ้ ยละ การหาปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความสัมพันธ์ระหว่าง มลิ ลิลิตร ลิตร ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร และลกู บาศกเ์ มตร การแกโ้ จทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ปรมิ าตรของทรงสเ่ี หล่ียมมุม ฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก เส้นตั้งฉากและสัญลักษณ์แสดงการตั้งฉาก เส้นขนานและ สัญลักษณ์แสดงการขนาน การสร้างเส้นขนาน มุมแย้ง มุมภายในและมุมภายนอกที่อยู่บนข้างเดียวกันของ เส้นตัดขวาง (Transversal) ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยม การสร้างรูปสี่เหลี่ยม ความยาวรอบรูปของรูป สี่เหลี่ยม พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และการแก้โจทย์ปัญหา ลักษณะและ ส่วนต่าง ๆ ของปรซิ ึม การอา่ นและการเขียนแผนภูมิแท่ง การอา่ นกราฟเสน้ โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลายแก้ปัญหา ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่าง เหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสม เชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ในคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์ กับศาสตร์อื่นๆ มี ความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ เพ่อื ใหค้ ณุ ค่าและมีเจตคติทีด่ ีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ มรี ะเบียบ รอบคอบ มี ความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ เชื่อมั่นในตนเอง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย และ มีจิตสาธารณะ รหัสตัวชี้วัด ค ๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ป.๕/5 ป.๕/6 ป.๕/7 ป.๕/8 ป.๕/9 ค 2.1 ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ค 2.2 ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ค 3.1 ป.๕/๑ ป.๕/2 รวมท้ังหมด ๑๙ ตัวชี้วัด

ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร/ออ รหัส ค๑๕๑๐๑ วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถ ครูผู้สอน นางสาวแพร หนว่ ยท่ี มฐ ตัวชีว้ ดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สา หนว่ ยท่ี ๔ ค ป.5/8 แสดงวิธีหาคำตอบของ ๑.บอกวธิ ีการหาคำตอบโจทย์ ๑.การแ โจทย์ทศนยิ ม ๑.๑ โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การ ปญั หาการคณู ทศนิยมได้ (K) เกย่ี วก ๒.วเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาการคณู คูณ การหารทศนิยม 2 ขัน้ ตอน ทศนิยมได้ (K) ๓.เขียนแสดงวิธที ำของโจทย์ ปญั หาการคณู ทศนยิ มได้ (P) ๑.บอกวิธีการหาคำตอบโจทย์ ๑.การแ ปัญหาการหารทศนิยมได้ (K) เก่ยี วก ๒.วิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาการหาร ทศนิยมได้ (K) ๓.เขียนแสดงวธิ ีทำของโจทย์ ปัญหาการหารทศนิยมได้ (P) ๑.บอกวธิ ีการหาคำตอบโจทย์ ๑.การแ ปญั หาการคณู และหารทศนิยม เก่ยี วก ได้ (K) ทศนิยม ๒.วิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการคณู และหารทศนยิ มได้ (K) ๓.เขียนแสดงวธิ ีทำของโจทย์ ปัญหาการคณู และหารทศนิยม ได้ (P)

อกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ รวรุ่ง ศรีประภา าระการเรียนรู้ กระบวนการ ชิ้นงาน ส่ือการสอน วัดผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมิน เรยี น แกโ้ จทย์ปญั หา อธบิ าย - -ลูกบอล ๑.ทดสอบ ๔ กบั การคณู ทศนยิ ม -โจทย์ปัญหาการคณู ก่อนเรยี น ๒.ตรวจ หรอื โจทย์ปญั หาการ แบบฝึกหัด หาร -ฉลากสีตา่ ง ๆ -โหลแกว้ -กระดาษ A4 แกโ้ จทย์ปัญหา - -แผนภาพบารโ์ มเดล ๑.ตรวจ ๔ กบั การหารทศนยิ ม -กลอ่ งใสส่ มบตั ิ แบบฝึกหัด -บัตรโจทย์ -เศษกระดาษวางกั้น แตล่ ะชัน้ แกโ้ จทย์ปัญหา -ออกแบบป้าย -ตารางบันทึก ๑.ทดสอบ ๔ กับการคณู และหาร หลังเรียน ม ขายสินค้า ๒.ตรวจ แบบฝกึ หัด ๓.ตรวจ ชิน้ งาน

โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) โครงการสอนปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวิชา คณติ ศาสตร์ รหัส ค๑๕๑๐๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น ๔ ชัว่ โมง/สัปดาห์ ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา สปั ดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรยี นร/ู้ เรอ่ื ง มฐ/ตัวช้วี ดั ๑-๕ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เศษส่วน ค ๑.๑ ป.๕/๓ ๖-๙ ๑-๒ การเปรียบเทียบเศษสว่ นและจำนวนคละ ป.๕/๔ ๙-๑๔ ๓-๔ การเรียงลำดบั เศษส่วนและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป. ๕/๕ ๕-๖ การบวก เศษสว่ นและจำนวนคละ ป. ๔/๙ ๗-๘ การลบ เศษส่วนและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป.๕/๑ ๙-๑๐ การคูณจำนวนนบั กับเศษส่วน ป.๕/๖ ๑๑- การคูณเศษสว่ นกับเศษสว่ น ป.๕/๗ ๑๑๓๒- การคูณจำนวนคละ ป. ๔/๑๒ ๑๖๕ สว่ นกลับของเศษส่วน ๑๗ การหารจำนวนนับกบั เศษส่วน ค ๒.ป๑.๕ป/.๑๕/๑ ๑๘- การหารเศษสว่ นกับเศษส่วน ป.๕/ป๒ป.๕.๕//๒๒ ๒๑๐๙- การหารจำนวนคละ หน๒ว่ ๑ยการเรียนรู้ท่ี ๒ โจทยป์ ัญหาเศษสว่ น ๑-๒ โจทยป์ ัญหาการบวกเศษสว่ น ๓-๔ โจทย์ปญั หาการลบเศษส่วน ๕-๖ โจทย์ปัญหาการคูณเศษสว่ น ๗-๘ โจทย์ปัญหาการหารเศษส่วน ๙-๑๐ การบวก ลบ คูณ หารระคน ๑๑- โจทย์ปญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน หน๑ว่ ๓ยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ ทศนยิ ม ๑-๓ การเขยี นเศษส่วนที่มตี วั ส่วนเปน็ ตัวประกอบ ๑๐ ๑๐๐ หรอื ๑,๐๐๐ ๔-๗ การหาคา่ ประมาณ ๘-๙ การคณู โดยใชค้ วามสัมพันธร์ ะหวา่ งทศนิยม ๑๐- การคณู แนวตั้ง ๑๑๔๓- การคณู สมบตั ิการสลบั ท่ี ๑๑๖๕- การหารโดยการเขยี นในรปู ทศนิยม ๑๗

สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรยี นรู้/เร่ือง มฐ/ตัวช้วี ัด (ต่อ) ๑๕-๑๗ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓ ทศนยิ ม ค ๑.๑ ป.๕/๘ ๑๙-๒๐ ค ๓.๑ ป.๕/๑ ๑๘ การหารโดยต้ังหาร ๒๑-๒๒ ๑๙ การหารทศนยิ มกบั จำนวนนบั ป.๕/๒ ๒๒-๒๕ ๒๐- การหารดว้ ย ๑๐, ๑๐๐, ๑,๐๐๐ ๒๑๒ ทศนิยมกับการวัด ค ๑.๑ ป.๕/๑ ๒๖-๒๙ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ โจทย์ปัญหาทศนิยม ค ๑.๑ ป.๕/๙ ๑-๔ โจทยป์ ัญหาการคูณ ทศนยิ ม ๓๐-๓๕ ๕-๘ โจทย์ปญั หาการหาร ทศนิยม ค ๒.๒ ป.๕/๑ ๙-๑๒ โจทยป์ ัญหาการคูณ และหารทศนยิ ม หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ การนำเสนอขอ้ มลู ค ๒.๑ ป.๕/๔ ๑-๓ การอ่านแผนภูมแิ ท่งทม่ี กี ารย่นระยะ ค ๒.๒ ป.๕/๒ ๔-๕ การอ่านแผนภูมิแทง่ เปรียบเทียบ ๖ การเขียนแผนภมู แิ ทง่ ท่ีมีการย่นระยะ ป.๕/๓ ๗ การเขยี นแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบ ๘-๙ การอ่าน และเขยี นกราฟเสน้ ๑๐- โจทย์ปญั หาการนำเสนอขอ้ มูล หน๑่ว๒ยการเรียนรูท้ ี่ ๖ บัญญัตไิ ตรยางศ์ ๑-๙ การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางค์ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๗ ร้อยละ ๑-๓ การอา่ นและเขยี นร้อยละหรือเปอร์เซน็ ต์ ๔-๖ ร้อยละของจำนวนนบั ๗-๙ โจทย์ปญั หารอ้ ยละ ๑๐- โจทย์ปญั หาการลดราคา ๑๑๔๓- โจทยป์ ัญหากำไร ขาดทนุ หน๑ว่ ๗ยการเรียนรูท้ ี่ ๘ เส้นขนาน ๑-๓ เสน้ ต้ังฉากและเสน้ ขนาน ๔-๕ มมุ ทเ่ี กิดจากเส้นตัดขวางตดั เสน้ ตรงคูห่ นงึ่ ๖-๙ สมบัตขิ องเสน้ ขนาน ๑๐- การสร้างเสน้ ขนาน หน๑่ว๓ยการเรยี นรู้ท่ี ๙ รปู สีเ่ หลี่ยม ๑-๓ ชนดิ และสมบตั ิของรปู สเ่ี หล่ยี ม ๔-๕ สมบัตขิ องรปู สี่เหล่ยี มเกีย่ วกับเสน้ ทแยงมุม ๖-๘ การสรา้ งรูปส่ีเหลี่ยมเมื่อกำหนดความยาวของดา้ นและ ขนาดของมุม ๙-๑๐ การสรา้ งรปู สเี่ หลี่ยมเมื่อกำหนดความยาวของเส้นทแยง มมุ

สัปดาห์ คาบท่ี หนว่ ยการเรียนรู/้ เร่อื ง มฐ/ตัวชวี้ ัด ๓๖-๔๐ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๙ รปู ส่เี หล่ียม ค ๒.๑ ป.๕/๓ ค ๒.๒ ป.๕/๔ ๑๑- พื้นทีข่ องรปู ส่เี หล่ยี มดา้ นขนาน ไม๑๑๑เ่ ก๓๒๕๔นิ- ๑๐พพ๐ืนน้ื้ ,๐ทท๐ีี่ข่ข๐อองงรรปููปหสี่เลหาลยีย่ เหมลขยี่นมมเปียกปูน ๑๖- ความยาวรอบรปู ของรูปสี่เหลี่ยม ๑๑๘๗- โจทยป์ ญั หาเก่ียวกับพนื้ ทขี่ องรูปสเ่ี หลย่ี มด้านขนาน ๒๒๑๐- โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพื้นท่ีของรปู สี่เหลย่ี มดา้ นขนมเปยี ก ๒๔ ปูน หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๐ ปริมาตรและความจุของทรงส่เี หลีย่ ม ๑-๒ รปู เรขาคณิตสองมิตแิ ละสามมิติ ๓-๔ ปริซมึ ๕-๖ ทรงสี่เหลยี่ มมุมฉาก ๗-๘ หนว่ ยของปรมิ าตรและการหาปริมาตร ๙-๑๑ การหาปริมาตรทรงสเี่ หล่ียมมุมฉาก ๑๒- การหาความจุทรงส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก ๑๑๕๔- โจทยป์ ัญหาปริมาตรและความจุ สอ๑บ๗ปลายภาค ๑-๒ ทบทวนบทเรยี น ๓ ทบทวนบทเรียน ๔ สอบปลายภาค ๕ สอบปลายภาค เทคนคิ /กระบวนการ/ วธิ ีการสอน การจดั การเรียนรูต้ ามหลักการพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นตอนที่ ๑ : เตรียมความพร้อม เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง ตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลือ่ นไหว ร่างกายอย่างมีความสุข สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมาก ช่วยให้มีจิตใจท่ี สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin) และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและ สนุกสนาน ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า ทุกชั่วโมงที่ครูเข้าสอน ครูจะต้อง Warm Up ก่อนเสมอ โดยใช้เวลาไมเ่ กนิ ๕ นาที ขนั้ ตอนที่ ๒ : เรยี นรู้ ในขน้ั ตอนนจ้ี ะคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองทว่ี ่า “เรยี นรจู้ ากง่ายไปหายาก เรยี นรู้จาก ของจริง และจากการสัมผัส” จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า “มือ” เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผล ต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ “ปาก” นั่นก็หมายถึง ต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสาร การสื่อสารจะช่วยให้เด็กสามารถ เชื่อมโยงเรื่องได้ ดังนั้น การออกแบบรูปแบบการสอน สื่อการสอน คุณครูต้องคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอยา่ งมาก

การเรียนการสอนจึงจะประสบความสำเร็จ ในขั้นตอนที่ ๒ นี้ มีขั้นตอนย่อยที่สำคัญหนึ่งคือ “การสรุปในแต่ละชั่วโมง” ทางโรงเรียนไดส้ นับสนนุ ให้มีการฝึกอบรม Graphic Organizer ให้แก่คุณครูทุกกลุ่มสาระ ตลอดจนหนงั สอื ทเ่ี กี่ยวข้องจาก ตา่ งประเทศ เพ่ือใหค้ ณุ ครใู ช้เปน็ เครอ่ื งมอื ในการสรุปที่ช่วยใหเ้ ด็กเกดิ ความสนกุ เกดิ การเรยี นรู้ และจดจำได้งา่ ยข้ึน ขน้ั ตอนท่ี ๓ : ขนั้ การฝึก ขั้นนจี้ ะสอดคลอ้ งกับหลกั การทำงานของสมองท่วี า่ “สมองจะจดจำได้ดนี ำไปสู่ความจำ ระยะยาว (Long-term Memory) ต้องผ่านกระบวนการฝึกซ้ำๆ” คำวา่ “ซ้ำๆ” ในท่ีนไี้ ม่ไดห้ มายถึง การทำโจทย์เดิมซ้ำๆ แต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวก ก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์ คุณครูจึงจำเป็นต้อง ออกแบบใบงานที่แตกตา่ งออกไป เพื่อให้นกั เรยี นได้ฝกึ ฝนเรือ่ ย ๆ ขั้นตอนที่ ๔ : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วย ซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นการ สรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย โดยใช้ Graphic Organizer ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยง ความรภู้ ายในบทเรยี น สอดคล้องกับหลักการทำงานของสมองที่ว่า “สมองเรยี นรเู้ ป็นองคร์ วม” ซึ่งขั้นตอนน้ีมีความสำคัญ ต่อเด็กมาก และเป็นขนั้ ตอนทีค่ ่อนข้างยาก ครูเองกจ็ ำเป็นตอ้ งฝึกฝนบ่อยๆ เช่นกนั ขั้นตอนที่ ๕ : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใด การที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้น ทำให้เกิดการ เรียนรู้ไดถ้ ึงร้อยละ ๙๐ ดงั น้ัน เมอื่ จบบทเรียน คุณครตู อ้ งคิด ตอ้ งออกแบบ เช่อื มโยงความรู้ทงั้ หน่วย นำข้อสอบมาให้เด็ก ทดลองทำ การวดั และประเมินผล วธิ ีการเก็บคะแนน คะแนนระหว่างภาค : ปลายภาค = ๗๐ : ๓๐ โดยแบ่งดงั นี้ เร่ืองทเ่ี กบ็ คะแนน คะแนน ประเภทเคร่อื งมือ ๑.คะแนนเก็บกอ่ นกลางปี ๒๕ ๑.๑ ผลงานนักเรียน ๑๕ สมุด แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช้นิ งาน ๑.๒ ทดสอบหลงั เรยี น ๑๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ๒. สอบกลางปี ๒๐ แบบทดสอบ ๓.คะแนนหลงั กลางปี ๒๕ ๓.๑ ผลงานนักเรยี น ๑๕ สมดุ แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชนิ้ งาน ๓.๒ ทดสอบหลังเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลังเรียน ๔.สอบปลายปี ๓๐ ๑๐๐ รวม ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ -สอ่ื ประจำหนว่ ยการจดั การเรยี นรู้ -หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ และแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท

แผนผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรียนรู้/ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ(Process: P) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑.บอกวธิ กี ารหาคำตอบโจทย์ปัญหา ๑.เขียนแสดงวิธีทำของโจทย์ปัญหา ๑. มวี ินยั การคณู ทศนิยมได้ (K) การคูณทศนยิ มได้ (P) ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๒.วเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการคูณ ๒.เขียนแสดงวิธีทำของโจทย์ปัญหา ๓. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ทศนิยมได้ (K) การหารทศนิยมได้ (P) ๓.บอกวิธีการหาคำตอบโจทย์ปัญหา ๓.เขียนแสดงวิธีทำของโจทย์ปัญหา การหารทศนยิ มได้ (K) การคูณและหารทศนยิ มได้ (P) ๔.วเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหาการหาร ๔.ออกแบบป้ายขายสนิ คา้ ทศนิยมได้ (K) ๕.บอกวธิ กี ารหาคำตอบโจทย์ปัญหา การคูณและหารทศนิยมได้ (K) ๖.วิเคราะห์โจทย์ปญั หาการคูณและ หารทศนิยมได้ (K) เป้าหมายการเรยี น เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาทศนิยม หลักฐานการเรียนรู้ -ปา้ ยขายสินค้า

แผนผังมโนทัศนข์ ้ันตอนการทำกิจกรรมประกอบการจดั การเรียนรู้ด้วย การสอนตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ศึกษามาตรฐานการรเรียนรู้ / ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักการพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นท่ี ๑ เตรียมความพร้อม ข้ันที่ ๒ เรยี นรู้ ข้นั ที่ ๓ ขัน้ การฝึก ขน้ั ที่ ๔ ข้นั การสรปุ ขั้นท่ี ๕ ขน้ั การประยุกตใ์ ช้ทันทีทันใด ทดสอบหลังเรียน (ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๖๐)

ผงั มโนทศั น์ หน่วยการเรียนรู้ท หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 จำนวน 1 แผนท่ี 1 โจทยป์ ญั หาการคณู ทศนยิ ม แผนที่ 2 โจทยป์ ญั ภาษาไทย การเรียนรู้แบ 1.ฟงั แสดงความคิดเหน็ 2.พูดแสดงความคิดเหน็ และตอบคำถามอา่ นและสะกดคำ 3.การเขยี นส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์

ที่ 4 โจทยป์ ญั หาทศนิยม โจทยป์ ญั หาทศนิยม 12 ชวั่ โมง ญหาการหารทศนิยม แผนท่ี 3 โจทย์ปัญหาการคูณ และหาร ทศนยิ ม บบบรู ณาการ ศลิ ปะ : ทศั นศิลป์ 1.การออกแบบปา้ ยขายสนิ ค้า

แผนบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมีภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี 1. ออกแบบการจดั กจิ กรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นรสู้ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ 1. ศกึ ษาแนวทางการจัดการเรยี นรู้ล่วงหนา้ ตัวชีว้ ัด 2. ใชเ้ ทคนิคการจดั การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 2. จดั เตรยี มการวดั ผลประเมินผล และแบบ 2. เลอื กสอ่ื แหลง่ เรียนรเู้ หมาะสม สงั เกตพฤติกรมนักเรยี น 3. วัดผลประเมนิ ผลตรงตามเนือ้ หา เง่ือนไขความรู้ เงือ่ นไขคุณธรรม 1. รูจ้ ักเทคนคิ การสอนที่สง่ เสรมิ กระบวนการคดิ และนกั เรียน 1. มคี วามขยัน เสยี สละ และมงุ่ มน่ั ในการจดั หาสือ่ มาพฒั นานกั เรยี น สามารถเรยี นรู้ได้อยา่ งมีความสขุ ใหบ้ รรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพือ่ พฒั นานกั เรียนโดยใช้เทคนิคการสอนท่ี หลากหลาย นกั เรียน ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี 1. การใชเ้ วลาในการทำกิจกรรม/ภาระงาน 1. ฝึกกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาคน้ คว้าอิสระ ได้อย่างเหมาะสม ทนั เวลา 2. ฝกึ กระบวนการแสดงขนั้ ตอนการหาผลลพั ธ์ 2. นำความรู้เร่ืองโจทย์ปัญหาทศนยิ ม ไปใช้ 2. เลอื กสมาชิกกลมุ่ ได้เหมาะสมกบั เนื้อหาท่ี ในชวี ิตประจำวนั ได้ เรียนและศักยภาพของตน เง่ือนไขความรู้ เงือ่ นไขคุณธรรม 1. มคี วามร้เู ร่อื งโจทยป์ ัญหาทศนยิ ม ตลอดจนสามารถสร้างจดั ทำ 1. มคี วามรับผิดชอบ และปฏิบัตติ ามข้อตกลงของกลุ่ม ชิ้นงาน ได้ตามวัตถปุ ระสงค์ 2. มีสติ มสี มาธิชว่ ยเหลือกันในการทำงานรว่ มกัน สง่ ผลตอ่ การพัฒนา 4 มติ ิใหย้ ่ังยืนยอมรบั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงในยคุ โลกาภิวฒั น์ วตั ถุ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม ความรู้ (K) มีความรคู้ วามเขา้ ใจ เรือ่ งโจทยป์ ญั หา มคี วามร้แู ละเข้าใจ มคี วามร้แู ละเข้าใจ มคี วามร้แู ละเข้าใจการ ทศนิยม กระบวนการทำงาน เกยี่ วกบั สงิ่ แวดล้อม ช่วยเหลอื แบง่ ปนั กลมุ่ และสิง่ ตา่ ง ๆรอบตัว ทักษะ (P) สร้างชน้ิ งานป้ายขายสินค้า ทำงานได้สำเร็จตาม ใชแ้ หล่งเรยี นรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลอื แบ่งปันซงึ่ เป้าหมาย ดว้ ย ทำลายส่ิงแวดล้อม กนั และกนั กระบวนการกลุ่ม ค่านิยม (A) เห็นประโยชน์ของเรยี นรู้ เกีย่ วกับ เหน็ คุณคา่ และ เหน็ คณุ คา่ ของการใช้ ปลูกฝังนิสยั การ เร่อื งโจทยป์ ัญหาทศนยิ ม ภาคภมู ใิ จในการ แหลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ชว่ ยเหลือแบง่ ปนั ทำงานรว่ มกนั ได้ ทำลายส่ิงแวดล้อม สำเรจ็

กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เร่อื ง โจทยป์ ญั หาทศนิยม วิชาคณติ ศาสตร์ เวลา 12 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ ของจำนวน ผลท่เี กิดขึ้นจากการดำเนินการสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้ ตัวชี้วดั ป.5/8 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม 2 ขัน้ ตอน 2. สาระสำคญั การแสดงวิธีทำและหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการคณู และการหารทศนิยม ต้องเริม่ จากการวิเคราะห์ โจทยป์ ญั หา การวางแผนแก้โจทยป์ ัญหา การแก้โจทยป์ ัญหาโดยเขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธที ำเปน็ ลำดับขน้ั ตอน แลว้ จึงหาคำตอบ พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 3. สาระการเรียนรู้ - การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกบั การคณู ทศนิยม - การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั การหารทศนิยม - การแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับการคณู และหารทศนยิ ม 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ป้ายขายสนิ คา้

7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ตรวจแบบฝกึ หัดหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 ตรวจช้นิ งานหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 แบบฝกึ หัดหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นใน ช้ินงานหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ระดับคุณภาพ 2 การทำงาน ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมท่ี 1 โจทย์ปัญหาการคณู ทศนิยม ชว่ั โมงที่ 1 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลงั จาก น้ันใหน้ กั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน แลว้ ใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมโดยให้น่ังเป็นวงกลม จากนั้นครเู ปดิ เพลงและให้ นกั เรยี นสง่ ลูกบอลต่อไปเร่อื ย ๆ หากเพลงหยุดทีน่ ักเรยี นคนใด จะตอ้ งคิดและบอกโจทย์ปัญหาการคูณหรอื โจทย์ ปัญหาการหารผลัดกันไปเรื่อย ๆ เม่ือเพ่ือนบอกโจทยป์ ญั หาเสร็จ ครูให้นกั เรยี นในชั้นเรียนรว่ มกันอภิปราย วธิ ีการเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ และครเู ขยี นคาตอบของนักเรยี นบนกระดาน 3. ครูทบทวนความรเู้ รื่อง การคณู และการหารให้กบั นักเรยี น โดยครูจะมฉี ลากสตี ่าง ๆ ที่เขียนโจทยก์ าร คูณและการหารบรรจไุ วใ้ นโหลแก้ว จากนัน้ ครใู หน้ ักเรียนออกมาจบั ฉลากหน้าช้ันเรยี น พรอ้ มทั้งรบั กระดาษ A4 คนละ 1 แผ่น เม่ือนักเรียนทุกคนได้รับเรียบร้อยแลว้ ช่วั โมงที่ 2 4. ครอู ธบิ ายให้นกั เรียนฟังวา่ ให้ทกุ คนเขียนโจทยก์ ารคณู และการหารที่ไดล้ งในกระดาษ A4 พร้อมทงั้ เขยี นแสดงวธิ ีการหาคาตอบอย่างละเอียด 5. เมื่อนกั เรียนทุกคนทาเสร็จแลว้ ครูสุ่มนกั เรียนออกมานาเสนอวิธีการหาคาตอบหน้าชั้นเรียน จากนนั้ ครแู บง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพ่อื ตรวจสอบความถกู ต้องซง่ึ กันและกนั โดยครูแบ่งให้แต่ละกลุ่มมี นกั เรยี นท่มี ีความสามารถทางคณิตศาสตร์ค่อนข้างดีอยา่ งน้อย 1 คน เพื่อช่วยอธบิ ายหากมีสมาชกิ คนใดในกลุม่ ทาไม่ ถูกต้อง 6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ว่าการแสดงวธิ ีทาและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณและการหาร ทศนิยม ต้องเรม่ิ จากการวิเคราะห์ โจทย์ปัญหา การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแกโ้ จทย์ปญั หาโดยเขยี นเปน็

ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงวธิ ีทาเป็นลาดับขน้ั ตอน แลว้ จึงหาคาตอบ พรอ้ มทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ 7. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงที่ 3 1. ครใู ห้นกั เรยี นท่องสูตรคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลงั จากนัน้ ให้นกั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครใู หแ้ ต่ละกลุ่มทากจิ กรรมตอ่ จากช่วั โมงท่ีแล้ว โดยครอู ธิบายวา่ ครูจะให้แต่ละกลุ่มแข่งขันกนั ประกวดการวาดแผนภาพบารโ์ มเดล 3. นกั เรียนทกุ คนตอ้ งรว่ มกนั อภิปรายการวางแผนแก้โจทย์ปญั หาของเพ่ือนแต่ละกล่มุ ให้ครบทง้ั หมด 4. จากน้นั สรา้ งแผนภาพบารโ์ มเดลดว้ ยกระดาษสีทีค่ รูเตรยี มไว้ให้ เมื่อทาเสรจ็ แล้วใหน้ าไปตดิ ใต้โจทย์ ปญั หาของเพ่ือน โดยครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องของแผนภาพ โดยในการตรวจสอบความถูกตอ้ ง ของแผนภาพบาร์โมเดล 5. ครเู ร่มิ จากการถามสง่ิ ท่ีโจทย์กาหนดให้และส่ิงทีโ่ จทย์ถาม จากน้นั จงึ เปน็ การสร้างแผนภาพโมเดล และได้เปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์ โดยครจู ะอธิบายอย่างละเอยี ดทีละข้อ ซง่ึ แนวคาถามท่ใี ช้ในการอธบิ าย 6. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนเขยี นโจทย์ปัญหาของแต่ละกลุม่ ลงในสมุด จากน้ันให้เขยี นขน้ั ตอนการแก้โจทย์ ปญั หา ชว่ั โมงที่ 4 7. ครูสมุ่ นกั เรยี นออกมานาเสนอขน้ั ตอนการแกโ้ จทยป์ ญั หาหน้าช้ันเรยี น จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นในชนั้ เรยี น รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ 8. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ วา่ การแสดงวธิ ีทาและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณและการหาร ทศนยิ ม ต้องเร่ิมจากการวิเคราะห์ โจทยป์ ัญหา การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้โจทยป์ ัญหาโดยเขียนเป็น ประโยคสัญลักษณ์ แสดงวธิ ที าเป็นลาดับขน้ั ตอน แล้วจงึ หาคาตอบ พร้อมทง้ั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ 9. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. กิจกรรมที่ 2 โจทยป์ ัญหาการหารทศนยิ ม ชั่วโมงที่ 1 1. ครูใหน้ กั เรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลงั จาก น้นั ให้นกั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครตู ิดแถบโจทย์ปัญหาการคูณและการหารทศนิยมบนกระดานแลว้ สนทนาเกยี่ วกบั โจทย์ 3. ครูให้นกั เรยี นอา่ นโจทยป์ ัญหาพร้อมกนั จากน้ันครูถามคาถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรียน 4. ครใู หน้ ักเรียนเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ 5. ครสู มุ่ นักเรยี นออกมาเขียนแสดงวธิ ีทาอย่างละเอยี ดบนกระดาน พร้อมทั้งตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคาตอบ โดยครูใหน้ กั เรยี นในช้ันเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง หากพบวา่ นกั เรยี นคนใด เกิดข้อสงสยั ครูอธิบายเพิม่ เติมทนั ทเี พ่อื ใหน้ กั เรยี นเข้าใจมากยง่ิ ขนึ้

ชัว่ โมงที่ 2 6. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน โดยครูแจกกระดาษฟลปิ ชารท์ ปากกาเมจิก และบตั ร โจทย์ปัญหาการคูณและการหารทศนยิ มให้แตล่ ะกล่มุ กลุม่ ละ 2 ขอ้ จากนั้นให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั วิเคราะห์โจทย์ ปัญหา แลว้ เขยี นข้นั ตอนการแกโ้ จทยป์ ญั หาลงในกระดาษทคี่ รแู จกให้ ซง่ึ โจทย์ปญั หาต่าง ๆ มี 7. ครใู ห้แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอขั้นตอนการแกโ้ จทย์ปญั หาหน้าช้นั เรยี น โดยครู ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครกู ล่าวชน่ื ชมและคอยแนะนาเมื่อนักเรยี นเกิดข้อสงสยั 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ว่าการแสดงวธิ ีทาและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณและการหาร ทศนยิ ม ตอ้ งเริ่มจากการวิเคราะห์ โจทย์ปัญหา การวางแผนแกโ้ จทย์ปัญหา การแก้โจทยป์ ญั หาโดยเขียนเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ แสดงวธิ ีทาเป็นลาดบั ข้ันตอน แล้วจึงหาคาตอบ พร้อมทง้ั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ คาตอบ 9. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงที่ 3 1. ครใู หน้ ักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก น้ันใหน้ ักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหารทศนยิ ม โดยกำหนดโจทยใ์ หแ้ ต่ ละเรอ่ื ง ครูต้ังคำถามเพื่อฝึกนักเรยี นวเิ คราะห์ 3. เมื่อฝึกนักเรยี นวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาครบทุกข้อแล้ว ครใู ห้นักเรียนเล่น เกม “หาสมบัติ” 4. นักเรยี นมาหยบิ สมบัติให้พบ ซง่ึ ในกล่องสมบตั ิจะมีสง่ิ กีดขวางอยู่ (เศษกระดาษ) ชว่ั โมงที่ 4 5. จากกิจกรรมเกม “หาสมบัติ” จากประโยคสัญลกั ษณ์ ครอู ธบิ ายพร้อมเขียนแสดงวิธที ำให้ นักเรยี นดูเปน็ ตัวอย่าง 2 ตวั อยา่ ง บนกระดานดำ พรอ้ มยกตัวอยา่ งโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ระคนของ ทศนิยมใหน้ ักเรียนเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ถูกต้อง และหาคำตอบ 6. ครแู นะนำนักเรยี นตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบที่ไดท้ ุกข้อ 7. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปวา่ การแสดงวธิ ที าและหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการคูณและการหาร ทศนิยม ตอ้ งเรม่ิ จากการวเิ คราะห์ โจทย์ปญั หา การวางแผนแกโ้ จทย์ปัญหา การแก้โจทย์ปญั หาโดยเขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงวธิ ีทาเปน็ ลาดับขัน้ ตอน แล้วจึงหาคาตอบ พรอ้ มท้งั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ 8. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. กิจกรรมท่ี 3 โจทยป์ ัญหาการคณู และการหารทศนยิ ม ชั่วโมงที่ 1 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจาก นัน้ ให้นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้

2.ครูทบทวนการแก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู และการหารระคนของทศนยิ ม โดยกำหนด โจทย์แล้วใหน้ กั เรียนนำบตั รคำ ไปวางให้ถูกตำแหนง่ ของโจทยป์ ัญหา วา่ ส่วนใดของโจทย์ปญั หาเปน็ สง่ิ ทีโ่ จทย์ กำหนดให้ สว่ นใดเปน็ สงิ่ ทโี่ จทย์ถาม และคำใดในโจทยบ์ ่งบอกวา่ เปน็ โจทย์ปญั หาการบวก ลบ คูณ หารระคน 3. ครูติดบัตรโจทย์ปัญหาแบบสองข้ันตอน ใหน้ กั เรยี นบนกระดาน 4. จากนัน้ ให้นักเรยี นรว่ มกันแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคณู และการหารแบบสองข้นั ตอนของ ทศนิยมโดยการแบ่งโจทย์ปญั หาออกเป็นสองสว่ นตามลาดับขั้นตอนการทา พร้อมทง้ั ฝกึ เขียนประโยคสัญลักษณ์ ชัว่ โมงท่ี 2 5. ครูให้นักเรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน สร้างใช้แถบกระดาษสเี พ่ือนาไปใชเ้ ปน็ แผนภาพบาร์โมเดล ของโจทยป์ ญั หาแตล่ ะขอ้ เสริมสร้างความเข้าใจดว้ ยรูปภาพ ครูคอยใหค้ าแนะนา 6. ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ระดมความคิดในการแกโ้ จทยป์ ญั หา จากนน้ั เขียนแสดงวิธที าอยา่ งละเอียดลงใน กระดาษ A4 7. เมือ่ นกั เรียนทาเสรจ็ แล้ว ครใู หแ้ ตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยครูตรวจสอบ ความถูกต้อง ครูกล่าวช่ืนชมและคอยเพมิ่ เตมิ ในจุดทย่ี ังมีขอ้ บกพร่อง 8. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ วา่ การแสดงวธิ ที าและหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการคูณและการหาร ทศนยิ ม ต้องเรม่ิ จากการวิเคราะห์ โจทยป์ ญั หา การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแกโ้ จทยป์ ัญหาโดยเขยี นเป็น ประโยคสัญลักษณ์ แสดงวธิ ีทาเปน็ ลาดบั ขัน้ ตอน แล้วจึงหาคาตอบ พร้อมท้งั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ คาตอบ 9. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 3 1. ครูใหน้ ักเรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจาก นนั้ ใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. รว่ มคิดรว่ มทำเป็นกจิ กรรมที่ให้นักเรยี นนำความรทู้ ี่ได้ จากการเรียนในบทเรียนน้มี าใช้ในการ แกป้ ญั หา โดยอาจแบง่ นักเรียนเปน็ กลุม่ กล่มุ ละ 2-3 คน 3. ครนู ำสนทนาเกยี่ วกับ การแข่งขันยกนำ้ หนกั โดยใช้ข้อมูลจากหนังสือเรยี นหนา้ 120-121 หรืออาจใช้ วดี ทิ ัศน์การแข่งขันยกน้ำหนักเพื่อแนะนำให้นักเรียนเขา้ ใจและรจู้ ักกีฬายกนำ้ หนัก แลว้ ร่วมกัน พิจารณา สถานการณเ์ พื่อหาคำตอบ 4. ครคู วรใหน้ กั เรยี นช่วยกันออกแบบวิธเี ขียนคำตอบอย่างเปน็ ระบบ ซ่งึ ครูอาจแนะนำให้นักเรยี นเขียน คำตอบในรูปตาราง ช่ัวโมงที่ 4 5. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปว่าการแสดงวิธีทาและหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการคณู และการหาร ทศนิยม ตอ้ งเริ่มจากการวิเคราะห์ โจทยป์ ญั หา การวางแผนแก้โจทยป์ ญั หา การแกโ้ จทย์ปัญหาโดยเขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงวิธที าเป็นลาดับข้ันตอน แลว้ จงึ หาคาตอบ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ 6. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น

9. สื่อ/ แหลง่ เรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน 2. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 4. ลกู บอล 5. โจทย์ปญั หาการคูณหรือโจทย์ปัญหาการหาร 6. ฉลากสีต่าง ๆ 7. โหลแก้ว 8. กระดาษ A4 9. แผนภาพบาร์โมเดล 10. กระดาษสี 11. กลอ่ งใสส่ มบตั ิ 12. บตั รโจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนของทศนยิ ม 13. ตารางบนั ทกึ

โรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 ขอ้ สอบบทที่ 4 โจทยป์ ญั หาทศนิยม มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด ค1.1 ป.5/8 คำช้แี จง : ให้นกั เรียนทำเครื่องหมาย x ทับอักษรหนา้ คำตอบที่ถกู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคำตอบเดียว จำนวน 10 ขอ้ จากขอ้ ความต่อไปน้ี จงตอบคำถามข้อ 1 – 3 ข้อ 6. หยกซอ้ื นำ้ ทง้ั หมดจำนวน 1,500 มลิ ลิลติ ร เป็นน้ำ กุ้งมีผ้าอยู่ 3 ผนื ผนื แรกยาว 0.045 กโิ ลเมตร ผืนท่ีสอง แดง 0.2 ลิตร เป็นน้ำเขียว 0.54 ลติ ร ยาว 450 เมตร ผืนท่ีสามยาว 45 ซม. ทีเ่ หลือเป็นน้ำส้ม เป็นนำ้ ส้มกี่มลิ ลลิ ิตร ข้อ 1. ผืนใดยาวมากทสี่ ุด ก. 760 มลิ ลลิ ิตร ข. 780 มลิ ลิลิตร ก. ผืนที่ 1 ข. ผืนที่ 2 ค. 1,499.26 มิลลิลติ ร ง. 660 มิลลลิ ติ ร ค. ผนื ท่ี 3 ง. ยาวเท่ากนั ทกุ ผนื ข้อ 7. ข้อใดไม่ถกู ต้อง ข้อ 2 . ถ้ากุ้งนำผ้าผืนแรก มาตดั ผนื ละ 150 เซนตเิ มตร ผนื ก. 50.9 ลิตร เทา่ กับ 50,900 มลิ ลลิ ติ ร ละเทา่ ๆกนั กุ้งจะแบง่ ผา้ ไดท้ ัง้ หมดก่สี ว่ น ข. 7,000 มลิ ลลิ ติ ร เทา่ กับ 7 ลติ ร ก. 20 ผนื ข. 10 ผืน ค. 4 ลิตร 900 มิลลลิ ติ ร เทา่ กับ 4.9 ลิตร ค. 15 ผนื ง. 30 ผนื ง. 3,650 มลิ ลิลติ ร เทา่ กับ 36.5 ลิตร ขอ้ 8. ข้อใดมคี า่ น้อยท่ีสดุ ข้อ 3 . ผา้ ท้งั สามผืนมีความยาวรวมกนั ก่ีเมตร ก. 5 เมตร ข. 0.5 กโิ ลเมตร ก. 490 เมตร ข. 495.45 เมตร ค. 500 มิลลเิ มตร ง. 5,000 เซนติเมตร ค. 490.45 เมตร ง. 485.45 เมตร ขอ้ 9. ข้อใดมคี า่ มากท่สี ุด ก. 2,100 กรัม ข. 2.09 กโิ ลกรัม ขอ้ 4 . นำ้ หวาน 2 ขวด บรรจุ 0.458 ลติ ร ถา้ ซอ้ื น้ำหวาน ค. 20 ขดี ง. 1 ตนั 10 ขวด จะมีนำ้ หวานกีม่ ิลลิลิตร ขอ้ 10. ใครสงู ท่ีสุด เม่ือกำหนดให้ ก. 2,290 มิลลิลิตร ข. 229 มิลลลิ ติ ร เก้าสงู 1 เมตร 80 เซนตเิ มตร ค. 458 มลิ ลลิ ิตร ง. 4,580 มิลลลิ ติ ร หยกเตยี้ กวา่ เกา้ 320 มิลลิเมตร บอยสงู กวา่ เกา้ 15 เซนตเิ มตร ข้อ 5 . ข้อใดตอ่ ไปนม้ี ีค่ามากทสี่ ุด ก. พลอยมีมะนาวหนักลูกละ 0.244 กรัม เกา้ เตีย้ กวา่ แฮม 0.27 เมตร มที ้งั หมด 45 ลูก ข. เพชรมีมะขามหนัก 0.019 กโิ ลกรมั ก. เกา้ ข. หยก ค. ภมู ิมีมะพรา้ ว 5 ลกู หนักลูกละ 2.19 กรัม ค. บอย ง. แฮม ง. พพี ี มีมะกรูดหนัก 10.98 กรัม ผตู้ รวจขอ้ สอบ ลงชอื่ .................................................ครผู ูส้ อน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา)

ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น ในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งว่าง ใหต้ รงกบั ระดับคะแนน และตามความเป็นจริง โดยมเี กณฑก์ ารให้คะแนน ดังนี้ 4 = พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนมาก และบ่อยครั้งสม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ 2 = พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครั้ง 1 = พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างคร้ัง คุณลกั ษณะอนั ระดบั คะแนน พึงประสงค์ รายการประเมนิ 4 321 ดา้ น 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรกั และภมู ิใจในความเป็นชาติ กษัตรยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 2.1 ปฏิบัติตามระเบยี บการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ต่อผู้อน่ื 3. มวี นิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรยี บร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้อง 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5. อย่อู ย่าง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ นิ และส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั พอเพียง 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มงุ่ มน่ั ในการ 6.1 มคี วามตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรค เพอื่ ให้งานสำเรจ็ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั การใหเ้ พือ่ สว่ นรวม และเพือ่ ผอู้ ่นื 8.2 แสดงออกถึงการมนี ้ำใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผอู้ ืน่ 8.3 เข้าร่วมกจิ กรรมบำเพ็ญตนเพอื่ ส่วนรวมเมอ่ื มีโอกาส ช่ือ......................................................................................................................ชั้ น.................เลขที.่ .................

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) ปีการศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรปุ ผลการประเมินคุณภาพ ผลการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัมพันธ์กัน การสนทนาเ ื่รอง ่ีทกำหนด การ ิตด ่ตอ ื่สอสาร พฤ ิตกรรมการทำงานก ุ่ลม รวม ระดับ ุคณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 4 2 3 3 2 4 1 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ (ด)ี (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา) ได้คะแนน 11-13 คะแนน = (พอใช)้ วนั ....เดือน...............ป.ี ...... (ปรบั ปรงุ ) ได้คะแนน 8-10 คะแนน = ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน = * เกณฑผ์ า่ นการประเมินตอ้ งได้ 2 (พอใช)้ ขึน้ ไป

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ปกี ารศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนน และสรุปผลการประเมนิ คุณภาพ ผลการประเมิน เลขท่ี ชอื่ -สกลุ คะแนน ระดับ ุคณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ไดค้ ะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงช่ือ.........................................ผปู้ ระเมิน ได้คะแนน 11-13 คะแนน =3 (ด)ี (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช)้ วัน....เดือน...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรับปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ต้องได้ 2 (พอใช้) ขนึ้ ไป

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำแบบทดสอบ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) ปีการศกึ ษา 2562 คำช้ีแจง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น และประเมินผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนก่อนเรียน(10) คะแนนหลังเรียน(10) ้รอยละ ่ผาน/ไม่ ่ผาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผเู้ รียนต้องมีคะแนนสอบหลังเรยี นผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ) ลงชื่อ.........................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) วนั ....เดือน...............ป.ี ......

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ไี ม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ 3. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ไม่ผ่าน............ คน ผา่ น.............คน ดี..................คน ดเี ยยี่ ม................คน ระดบั ดีขึน้ ไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ไม่ผา่ น............ คน ผ่าน.............คน ด.ี .................คน ดเี ย่ียม................คน ระดับดขี นึ้ ไป ร้อยละ..................... 5. นักเรียนเกดิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ใดบา้ ง ทำเครื่องหมาย / ในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับทักษะที่เกดิ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา การสรา้ งสรรค์ ความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ การส่อื สาร ดา้ นความร่วมมอื การทำงานเป็นทีมและภาวะผูน้ ำ ทกั ษะการเปล่ียนแปลง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรยี นการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื งโจทยป์ ัญหาการคณู ทศนิยม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ งโจทยป์ ญั หาการหารทศนยิ ม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ งโจทยป์ ญั หาการคูณ และการหารทศนิยม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. .......................................................................................................................................................... ...................... ลงช่ือ.................................................. (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา)

ความคิดเหน็ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้/ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่อื …………………………………………………… (นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ .................../......................./......................... ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................... .............................................................................................. .................................... ลงชอื่ …………………………………………………… (นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ) โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรุง) ................../......................./.........................

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 12 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 โจทย์ปญั หาทศนิยม เวลา 4 ช่วั โมง เร่ือง โจทย์ปัญหาการคณู ทศนิยม 1. สาระสำคัญ การแสดงวธิ ที ำและหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการคูณและการหารทศนิยม ต้องเรมิ่ จากการวเิ คราะห์ โจทยป์ ญั หา การวางแผนแกโ้ จทยป์ ัญหา การแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยเขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธีทำเปน็ ลำดบั ขน้ั ตอน แลว้ จึงหาคำตอบ พรอ้ มท้ังตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 2. ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.5/8 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 2 ขนั้ ตอน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.บอกวิธีการหาคำตอบโจทย์ปญั หาการคูณทศนิยมได้ (K) 2.วิเคราะห์โจทย์ปญั หาการคูณทศนยิ มได้ (K) 3.เขียนแสดงวิธที ำของโจทย์ปัญหาการคูณทศนยิ มได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั การคูณทศนิยม 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ม่งุ มั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู ห้นักเรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นั้นให้นักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทำแบบทดสอบก่อนเรียน ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูกลา่ วทักทายนักเรียน แลว้ ให้นักเรียนทากจิ กรรมโดยใหน้ ัง่ เป็นวงกลม จากน้ันครเู ปดิ เพลงและให้

นักเรยี นสง่ ลูกบอลต่อไปเร่ือย ๆ หากเพลงหยดุ ทีน่ ักเรียนคนใด จะต้องคดิ และบอกโจทย์ปัญหาการคูณหรอื โจทย์ ปญั หาการหารผลัดกันไปเร่อื ย ๆ เมือ่ เพื่อนบอกโจทย์ปญั หาเสร็จ ครใู ห้นกั เรยี นในช้นั เรียนรว่ มกันอภิปราย วิธีการเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ และครูเขยี นคาตอบของนักเรยี นบนกระดาน หมายเหตุ ครูให้นักเรียนทากิจกรรมเชน่ น้ี 6-8 คร้ัง 3. ครทู บทวนความรู้เร่ือง การคูณและการหารให้กบั นกั เรียน โดยครูจะมีฉลากสีต่าง ๆ ท่ีเขียนโจทย์การ คณู และการหารบรรจไุ วใ้ นโหลแก้ว จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นออกมาจบั ฉลากหน้าชัน้ เรยี น พรอ้ มทงั้ รบั กระดาษ A4 คนละ 1 แผ่น เมื่อนักเรียนทุกคนไดร้ ับเรยี บร้อยแล้ว ช่ัวโมงท่ี 2 ข้ันตอนท่ี 3 : การฝึก 4. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟังวา่ ให้ทุกคนเขยี นโจทย์การคณู และการหารที่ไดล้ งในกระดาษ A4 พร้อมทงั้ เขียนแสดงวธิ ีการหาคาตอบอยา่ งละเอียด 5. เมอื่ นกั เรยี นทุกคนทาเสร็จแล้ว ครสู มุ่ นักเรยี นออกมานาเสนอวธิ ีการหาคาตอบหน้าชั้นเรียน จากน้ัน ครแู บ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 3 คน เพอ่ื ตรวจสอบความถกู ต้องซงึ่ กนั และกัน โดยครแู บง่ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มมี นกั เรียนทมี่ ีความสามารถทางคณติ ศาสตร์คอ่ นข้างดีอย่างน้อย 1 คน เพื่อช่วยอธบิ ายหากมีสมาชกิ คนใดในกล่มุ ทาไม่ ถกู ต้อง ขนั้ ตอนที่ 4 : การสรปุ 6. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปวา่ การแสดงวธิ ีทาและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู และการหาร ทศนยิ ม ตอ้ งเริ่มจากการวเิ คราะห์ โจทยป์ ญั หา การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยเขียนเป็น ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงวิธที าเป็นลาดบั ขน้ั ตอน แล้วจงึ หาคาตอบ พร้อมทง้ั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ ข้นั ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ช้ทนั ที 7. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงที่ 3 ข้นั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครใู ห้นกั เรียนท่องสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจากน้ันใหน้ ักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่มทากจิ กรรมต่อจากช่ัวโมงที่แลว้ โดยครอู ธบิ ายวา่ ครจู ะให้แตล่ ะกลุ่มแข่งขนั กัน ประกวดการวาดแผนภาพบารโ์ มเดล 3. นักเรยี นทุกคนตอ้ งร่วมกนั อภิปรายการวางแผนแกโ้ จทย์ปัญหาของเพ่ือนแต่ละกลมุ่ ให้ครบทัง้ หมด ขนั้ ตอนท่ี 3 : การฝกึ 4. จากนัน้ สรา้ งแผนภาพบารโ์ มเดลดว้ ยกระดาษสที ่คี รเู ตรียมไว้ให้ เม่ือทาเสร็จแล้วให้นาไปติดใต้โจทย์ ปญั หาของเพ่ือน โดยครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องของแผนภาพ โดยในการตรวจสอบความถูกตอ้ ง ของแผนภาพบารโ์ มเดล 5. ครเู รมิ่ จากการถามสง่ิ ที่โจทย์กาหนดใหแ้ ละส่ิงทีโ่ จทย์ถาม จากนัน้ จงึ เป็นการสร้างแผนภาพโมเดล

และได้เปน็ ประโยคสัญลักษณ์ โดยครจู ะอธบิ ายอย่างละเอียดทีละข้อ ซง่ึ แนวคาถามทีใ่ ชใ้ นการอธิบาย ดงั นี้ - สิ่งที่โจทย์กาหนดให้ คืออะไร - สง่ิ ทโี่ จทย์ถาม คืออะไร - นักเรียนจะสามารถวาดแผนภาพบารโ์ มเดลได้อย่างไร - นักเรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณไ์ ด้อยา่ งไร ซงึ่ หากกลุ่มใดที่ทาได้ถกู ต้องสมบูรณ์ ครจู ะให้คะแนนพเิ ศษ 6. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นโจทยป์ ญั หาของแต่ละกลมุ่ ลงในสมดุ จากน้ันใหเ้ ขียนข้นั ตอนการแก้โจทย์ ปญั หา โดยมีหัวขอ้ ดงั นี้ 1) การวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หา - สงิ่ ที่โจทยก์ าหนดให้ - ส่ิงทโี่ จทยถ์ าม 2) การวางแผนแกโ้ จทย์ปัญหา 3) การแกป้ ัญหา 4) การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ชวั่ โมงที่ 4 ขนั้ ตอนท่ี 3 : การฝกึ 7. ครูสมุ่ นักเรียนออกมานาเสนอข้ันตอนการแก้โจทยป์ ัญหาหนา้ ชัน้ เรยี น จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นในช้นั เรยี น ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ ขั้นตอนที่ 4 : การสรุป 8. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ว่าการแสดงวิธีทาและหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการคูณและการหาร ทศนยิ ม ต้องเริม่ จากการวิเคราะห์ โจทยป์ ัญหา การวางแผนแกโ้ จทย์ปัญหา การแกโ้ จทย์ปญั หาโดยเขยี นเป็น ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงวธิ ีทาเป็นลาดับขนั้ ตอน แล้วจึงหาคาตอบ พรอ้ มทง้ั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใช้ทนั ที 9. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั ผลและประเมินผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน 2. แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 3. สงั เกตการทำงาน 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น การประเมนิ ผล 1. ถอื เกณฑ์ผา่ นจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรับผูท้ ี่ได้ระดบั คุณภาพต้ังแต่ 2 ข้นึ ไป 2. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผทู้ ี่ทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพตงั้ แต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผู้ที่ทำงานได้ระดับคณุ ภาพตงั้ แต่ 2 ขึ้นไป 4. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ท่ีทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรยี นได้รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป

9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. 3. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. 4. ลกู บอล 5. โจทย์ปญั หาการคูณหรือโจทย์ปญั หาการหาร 6. ฉลากสีตา่ ง ๆ 7. โหลแกว้ 8. กระดาษ A4

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 12 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 โจทย์ปัญหาทศนิยม เวลา 4 ช่วั โมง เรือ่ ง โจทยป์ ัญหาการหารทศนยิ ม 1. สาระสำคญั การแสดงวธิ ที ำและหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู และการหารทศนิยม ต้องเรม่ิ จากการวิเคราะห์ โจทย์ปัญหา การวางแผนแกโ้ จทยป์ ญั หา การแก้โจทย์ปัญหาโดยเขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงวธิ ีทำเป็น ลำดับขน้ั ตอน แล้วจงึ หาคำตอบ พรอ้ มทง้ั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 2. ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ป.5/8 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 2 ข้นั ตอน 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกวิธกี ารหาคำตอบโจทยป์ ญั หาการหารทศนิยมได้ (K) 2. วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาการหารทศนยิ มได้ (K) 3. เขยี นแสดงวธิ ที ำของโจทย์ปญั หาการหารทศนิยมได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ การแก้โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั การหารทศนยิ ม 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุง่ ม่ันในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูให้นักเรยี นทอ่ งสูตรคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก นน้ั ให้นกั เรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ข้ันตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาการคูณและการหารทศนยิ มบนกระดานแลว้ สนทนาเกี่ยวกับโจทย์ ดังน้ี ส้มมีเงนิ 20.25 บาท แม่ให้อีก 14.75 บาท จะซื้อสมดุ ราคาเลม่ ละ 6 บาท สม้ จะซ้อื สมุดได้มากท่ีสุดก่ีเล่ม

3. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านโจทยป์ ัญหาพร้อมกนั จากนัน้ ครถู ามคาถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังน้ี • ส่งิ ทีโ่ จทยก์ าหนดให้คอื อะไร (แนวตอบ สม้ มเี งนิ 20.25 บาท แมใ่ ห้อกี 14.75 บาท จะซ้ือสมดุ เลม่ ละ 6 บาท) • สง่ิ ที่โจทย์ถามคืออะไร (แนวตอบ ส้มจะซือ้ สมดุ ได้มากทส่ี ุดก่ีเลม่ ) 4. ครใู หน้ ักเรียนเขยี นประโยคสัญลักษณ์ (แนวตอบ ประโยคสัญลกั ษณ์ (20.25 + 14.75) ÷ 6 = ) 5. ครสู ุ่มนักเรียนออกมาเขียนแสดงวธิ ที าอย่างละเอียดบนกระดาน พร้อมท้ังตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคาตอบ โดยครูใหน้ กั เรยี นในชั้นเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง หากพบว่านักเรยี นคนใด เกดิ ข้อสงสัย ครอู ธิบายเพมิ่ เติมทันทเี พือ่ ให้นกั เรียนเข้าใจมากยิ่งข้นึ ชัว่ โมงท่ี 2 ขน้ั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 6. ครูแบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน โดยครูแจกกระดาษฟลปิ ชารท์ ปากกาเมจิก และบัตร โจทย์ปัญหาการคูณและการหารทศนยิ มให้แต่ละกลมุ่ กลมุ่ ละ 2 ขอ้ จากนน้ั ให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะห์โจทย์ ปัญหา แล้วเขยี นขนั้ ตอนการแกโ้ จทยป์ ญั หาลงในกระดาษท่คี รแู จกให้ ซง่ึ โจทย์ปญั หาตา่ ง ๆ มีดังนี้ นา้ ผลไมก้ ระปอ๋ งหน่งึ มปี ริมาตร 0.33 ลติ ร ถ้ามนี ้าผลไม้ 20 กระป๋อง จะมีนา้ ผลไม้ท้ังหมดกี่ลิตร น้ามันพืชราคาขวดละ 46.50 บาท ซอ้ื 4 ขวด ต้องจ่ายเงนิ เทา่ ใด ปลาชอ่ นราคากโิ ลกรมั ละ 85 บาท ซอ้ื 5.5 กโิ ลกรัม คิดเปน็ เงนิ เทา่ ใด รถยนต์คันหนึ่งวิง่ ไดร้ ะยะทาง 11 กิโลเมตร โดยใช้นา้ มัน 1 ลิตร ถา้ ต้องการเดินทาง 120 กโิ ลเมตร ตอ้ งใช้ น้ามนั ประมาณก่ลี ิตร เดก็ ชายนภดลทาข้อสอบคณติ ศาสตร์ 60 ข้อ เสร็จภายใน 90 นาที เฉลย่ี แลว้ เดก็ ชายนภดล ทาขอ้ สอบข้อละกน่ี าที นา้ มันพืชปี๊บหน่ึงมปี รมิ าตร 0.52 ลติ ร ถา้ มนี า้ มนั พืช 500 ปบี๊ จะมีน้ามนั พชื ท้งั หมดกี่ลิตร ในการตดั เส้อื ตวั หนึง่ ตอ้ งใช้ผา้ 3 เมตร ถา้ ช่างตดั เสอ้ื มีผ้า 12.4 เมตร จะตัดเสื้อไดป้ ระมาณ กี่ตัว 7. ครใู ห้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอขั้นตอนการแก้โจทย์ปญั หาหนา้ ชัน้ เรียน โดยครู ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครูกล่าวชน่ื ชมและคอยแนะนาเมอื่ นกั เรียนเกิดขอ้ สงสยั ขัน้ ตอนท่ี 4 : การสรุป 8. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปวา่ การแสดงวธิ ที าและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู และการหาร ทศนยิ ม ต้องเร่ิมจากการวิเคราะห์ โจทยป์ ญั หา การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้โจทยป์ ญั หาโดยเขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ แสดงวิธที าเป็นลาดับขน้ั ตอน แล้วจึงหาคาตอบ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ คาตอบ ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 9. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท.

ชว่ั โมงที่ 3 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู ห้นกั เรยี นท่องสูตรคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก นั้นใหน้ กั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ข้นั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูทบทวนการแก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหารทศนยิ ม โดยกำหนดโจทย์ใหแ้ ต่ ละเรอ่ื ง ครูต้ังคำถามเพอื่ ฝึกนักเรยี นวิเคราะห์ ดงั น้ี - โจทยก์ ำหนดอะไรให้บ้าง - โจทย์ถามอะไร - หาคำตอบไดอ้ ยา่ งไร - เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ 3. เมอ่ื ฝกึ นักเรยี นวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาครบทุกข้อแล้ว ครูให้นกั เรียนเล่น เกม “หาสมบัติ” 4. นกั เรยี นมาหยบิ สมบตั ิใหพ้ บ ซงึ่ ในกลอ่ งสมบัติจะมสี งิ่ กดี ขวางอยู่ (เศษกระดาษ) 5. เม่อื พบสมบัติ (โจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนของทศนิยม) ให้แต่ละคนหาคำตอบ ใครหา คำตอบไดก้ ่อน ให้ว่ิงออกมาเขียนคำตอบบนกระดานดำ 6. เพอ่ื นๆ รว่ มกนั ตรวจความถูกต้อง ใครหาคำตอบได้มากทสี่ ุดรับดาวเปน็ รางวลั ดงั รปู (45+79) × 15 = ? กล่องสมบัติ ช่วั โมงที่ 4 ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 7. จากกจิ กรรมเกม “หาสมบัติ” จากประโยคสญั ลักษณ์ ครอู ธบิ ายพร้อมเขียนแสดงวิธที ำให้ นกั เรียนดูเป็นตวั อย่าง 2 ตวั อยา่ ง บนกระดานดำ พรอ้ มยกตัวอย่างโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ระคนของ ทศนิยมให้นักเรยี นเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ถูกต้อง และหาคำตอบ 8. ครแู นะนำนกั เรียนตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบท่ีได้ทุกข้อ

ขนั้ ตอนที่ 4 : การสรปุ 9. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ว่าการแสดงวธิ ที าและหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการคูณและการหาร ทศนิยม ตอ้ งเริ่มจากการวิเคราะห์ โจทย์ปญั หา การวางแผนแกโ้ จทย์ปญั หา การแก้โจทยป์ ญั หาโดยเขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงวธิ ีทาเปน็ ลาดบั ขนั้ ตอน แล้วจึงหาคาตอบ พร้อมท้งั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ คาตอบ ขัน้ ตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ช้ทนั ที 10. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั ผลและประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน 2. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 3. สงั เกตการทำงาน การประเมินผล 1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผทู้ ่ีได้ระดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ขึน้ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผทู้ ี่ทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตั้งแต่ 2 ขนึ้ ไป 3. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผูท้ ี่ทำงานได้ระดบั คณุ ภาพต้งั แต่ 2 ข้ึนไป 9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. 3. แผนภาพบารโ์ มเดล 4. กระดาษสี 5. กลอ่ งใส่สมบตั ิ 6. บัตรโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคนของทศนยิ ม 7. เศษกระดาษวางก้นั แตล่ ะชนั้

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 12 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 โจทย์ปัญหาทศนิยม เวลา 4 ชว่ั โมง เรื่อง โจทย์ปัญหาการคณู และการหารทศนยิ ม 1. สาระสำคัญ การแสดงวธิ ีทำและหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู และการหารทศนยิ ม ตอ้ งเริ่มจากการวิเคราะห์ โจทยป์ ญั หา การวางแผนแกโ้ จทย์ปัญหา การแกโ้ จทย์ปญั หาโดยเขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงวิธที ำเป็น ลำดับข้ันตอน แล้วจึงหาคำตอบ พรอ้ มท้ังตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 2. ตวั ช้ีวดั ค 1.1 ป.5/8 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 2 ขนั้ ตอน 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกวิธกี ารหาคำตอบโจทย์ปัญหาการคูณและหารทศนิยมได้ (K) 2. วิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาการคูณและหารทศนิยมได้ (K) 3. เขยี นแสดงวธิ ีทำของโจทยป์ ญั หาการคูณและหารทศนิยมได้ (P) 4. ออกแบบปา้ ยขายสินคา้ 4. สาระการเรียนรู้ การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกีย่ วกับการคูณและหารทศนยิ ม 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขัน้ ตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครใู ห้นกั เรียนท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก น้นั ให้นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขัน้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้

2.ครทู บทวนการแกโ้ จทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหารระคนของทศนยิ ม โดยกำหนด โจทยแ์ ลว้ ใหน้ กั เรยี นนำบัตรคำ ไปวางใหถ้ ูกตำแหน่งของโจทย์ปัญหา ว่าสว่ นใดของโจทย์ปัญหา เป็นสง่ิ ท่โี จทยก์ ำหนดให้ สว่ นใดเป็นสิง่ ทโี่ จทย์ถาม และคำใดในโจทยบ์ ง่ บอกวา่ เปน็ โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน สง่ิ ทีโ่ จทยก์ ำหนด ส่งิ ท่ีโจทยถ์ าม โจทย์การบวก โจทยก์ ารลบ โจทย์การคูณ โจทยก์ ารหาร 3. ครตู ิดบตั รโจทยป์ ญั หาแบบสองขั้นตอน ให้นักเรยี นบนกระดาน นำ้ มันดเี ซลราคาลิตรละ 13.67 บาท รถประจำทางต้องเตมิ นำ้ มันวันละ 55 ลิตร เก็บคา่ โดยสารได้ 350 คน ราคาคนละ 3.50 บาท รถประจำทางไดก้ ำไรจากการวงิ่ รถเท่าไร ซื้อไขไ่ ก่ราคาฟองละ 1.50 บาท จำนวน 2 โหล และซอ้ื ไขเ่ ปด็ ราคาฟองละ 2.75 บาท จำนวน 10 ฟอง จะตอ้ งจ่ายเงินเทา่ ใด แมซ่ อ้ื นมผงมา 3 กล่อง แต่ละกลอ่ งหนัก 1.5 กก. ซอื้ เนอื้ หมู 3 แพ็ค แพ็คละ 0.6 กก. แมต่ อ้ งถือของ กลับบา้ นหนกั ก่ีกก. 4. จากน้ันใหน้ ักเรียนรว่ มกันแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหารแบบสองข้ันตอนของ ทศนิยมโดยการแบง่ โจทยป์ ญั หาออกเป็นสองส่วนตามลาดับขนั้ ตอนการทา พรอ้ มทง้ั ฝึกเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ ชวั่ โมงที่ 2 ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝึก 5. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน สรา้ งใชแ้ ถบกระดาษสเี พ่อื นาไปใช้เป็นแผนภาพบาร์โมเดล ของโจทย์ปญั หาแต่ละขอ้ เสริมสร้างความเข้าใจด้วยรปู ภาพ ครูคอยให้คาแนะนา 6. ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ระดมความคิดในการแกโ้ จทย์ปัญหา จากนน้ั เขยี นแสดงวธิ ที าอย่างละเอียดลงใน กระดาษ A4 7. เม่อื นักเรยี นทาเสร็จแล้ว ครใู หแ้ ต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น โดยครูตรวจสอบ ความถกู ต้อง ครกู ล่าวช่ืนชมและคอยเพม่ิ เติมในจดุ ท่ียงั มีขอ้ บกพร่อง ขัน้ ตอนท่ี 4 : การสรุป 8. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปว่าการแสดงวิธที าและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู และการหาร ทศนิยม ตอ้ งเร่ิมจากการวิเคราะห์ โจทย์ปญั หา การวางแผนแกโ้ จทยป์ ญั หา การแก้โจทยป์ ัญหาโดยเขียนเป็น ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงวธิ ีทาเปน็ ลาดบั ขัน้ ตอน แล้วจึงหาคาตอบ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ ข้นั ตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที 9. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท.

ชัว่ โมงท่ี 3 ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรยี นทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก นัน้ ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขัน้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. รว่ มคดิ รว่ มทำเปน็ กจิ กรรมทีใ่ หน้ ักเรียนนำความรทู้ ี่ได้ จากการเรียนในบทเรยี นนี้มาใชใ้ นการ แกป้ ัญหา โดยอาจแบง่ นักเรียนเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 2-3 คน ขัน้ ตอนท่ี 3 : การฝึก 3. ครนู ำสนทนาเกีย่ วกบั การแขง่ ขนั ยกนำ้ หนกั โดยใชข้ ้อมูลจากหนงั สือเรยี นหน้า 120-121 หรืออาจใช้ วดี ิทัศนก์ ารแข่งขนั ยกน้ำหนักเพื่อแนะนำใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจและรู้จกั กีฬายกน้ำหนัก แล้วรว่ มกัน พจิ ารณา สถานการณ์เพ่ือหาคำตอบ 4. ครูควรใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ออกแบบวิธีเขยี นคำตอบอย่างเป็นระบบ ซง่ึ ครูอาจแนะนำให้นกั เรยี นเขยี น คำตอบในรูปตาราง ชัว่ โมงที่ 4 ขน้ั ตอนท่ี 4 : การสรปุ 5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ว่าการแสดงวธิ ที าและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู และการหาร ทศนยิ ม ตอ้ งเรมิ่ จากการวิเคราะห์ โจทย์ปญั หา การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้โจทย์ปญั หาโดยเขยี นเป็น ประโยคสญั ลักษณ์ แสดงวธิ ีทาเป็นลาดับขน้ั ตอน แลว้ จึงหาคาตอบ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ คาตอบ ข้ันตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที 6. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น 8. การวดั ผลและประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงาน 2. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สงั เกตการทำงาน 4. แบบทดสอบหลังเรียน การประเมินผล 1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรับผ้ทู ี่ไดร้ ะดับคุณภาพตงั้ แต่ 2 ขน้ึ ไป 2. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผู้ที่ทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คุณภาพตง้ั แต่ 2 ขึ้นไป 3. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรับผ้ทู ่ีทำงานได้ระดับคุณภาพต้งั แต่ 2 ข้ึนไป 4. ถือเกณฑ์ผ่านสำหรับผู้ที่ทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรยี นได้รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป

9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบหลังเรียน 2. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. 3. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. 4. ตารางบันทึก

ภาคผนวก -รปู ดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ฯ

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ หน่วยการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่องโจทย์ปัญหาทศนยิ ม เวลาท่ีใช้ 12 ช่ัวโมง รหัสวชิ า ค15101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 ครูผ้สู อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ท่สี ดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถึง นอ้ ยทีส่ ดุ ขอ้ รายการประเมิน ระดับคะแนน ที่ 54321 1 ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทดั รัด ชดั เจน ครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู/้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคม์ คี วามเชื่อมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธ์กันระหว่างช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรียนรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ คี วามครอบคลุมในการพัฒนาผเู้ รยี นใหม้ ีความรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รียน และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสร้างชน้ิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั /กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รยี นตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด/ผล การเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรียนรใู้ นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกตใ์ ช้ได้จริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบตั จิ ริงได้ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ........................................................................ ลงชื่อ.................................................................. (นางสาวจิระพนั ธุ์ ปากวเิ ศษ) ผูป้ ระเมิน

พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ หน่วยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่ืองโจทย์ปัญหาทศนิยม เวลาท่ใี ช้ 12 ชั่วโมง รหสั วชิ า ค15101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 ครูผูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดทส่ี ุด 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถงึ นอ้ ยทส่ี ดุ ข้อ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ช่ือหน่วยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทดั รัด ชดั เจน ครอบคลุมเนือ้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคม์ คี วามเชือ่ มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั สาระการเรยี นรู้ 5 ความเชอื่ มโยงสมั พันธ์กนั ระหวา่ งช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรียนรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามครอบคลุมในการพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามเหมาะสมสามารถนำผูเ้ รยี นไปสู่การสร้างช้นิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด/กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมินสามารถสะทอ้ นคุณภาพผ้เู รยี นตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด/ผล การเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรยี นรู้ในแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ไดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ ริงได้ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ........................................................................ ลงชือ่ .................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผูป้ ระเมิน

พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่องโจทย์ปญั หาทศนยิ ม เวลาท่ีใช้ 12 ช่ัวโมง รหัสวชิ า ค15101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ครูผ้สู อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ มีความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ท่สี ดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถงึ น้อยที่สดุ ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลุมเนือ้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้/สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคม์ คี วามเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั สาระการเรยี นรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธ์กันระหว่างช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการเรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลุมในการพัฒนาผูเ้ รยี นใหม้ ีความรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามเหมาะสมสามารถนำผู้เรียนไปสกู่ ารสร้างช้นิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะท้อนคณุ ภาพผู้เรยี นตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด/ผล การเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรียนรใู้ นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใชไ้ ดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ รงิ ได้ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................................... .......................................................................................................................................................................................... ....... ลงช่ือ.................................................................. (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ผูป้ ระเมนิ

พ.น./วก. 03 โรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) สรปุ ผลการประเมนิ หนว่ ยการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ืองโจทย์ปญั หาทศนยิ ม เวลาที่ใช้ 12 ชั่วโมง รหสั วิชา ค15101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมนิ หน่วยการเรยี นรู้ ซึ่งเป็นแบบมาตราสว่ นประมาณคา่ (Rating Scale) จำนวน 12 ขอ้ มรี ะดบั การประเมิน 5 ระดับ คอื 5 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม มากที่สุด 4 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม น้อย 1 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม นอ้ ยที่สุด ซงึ่ ถือเกณฑ์ในการแปลความหมายของคา่ เฉลี่ย ดังน้ี 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มคี วามสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มากทส่ี ุด 3.50 – 4.49 หมายความว่า มคี วามสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความว่า มีความสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความว่า มคี วามสอดคลอ้ ง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม น้อย 1.00 – 1.49 หมายความวา่ มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม นอ้ ยทส่ี ุด คะแนนของผู้ประเมิน ค่า การแปล ข้อท่ี รายการประเมิน คนท่ี คนท่ี คนท่ี เฉล่ยี ความหมาย 123 1 ช่อื หน่วยการเรยี นรนู้ ่าสนใจ กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู/้ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์มีความเชื่อมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรยี นรู้ 5 ความเชอื่ มโยงสัมพันธก์ นั ระหว่างชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้วี ัด /ผลการเรียนรสู้ าระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ และสาระการเรยี นรู้

-2- ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนนของผู้ประเมิน คา่ การแปล คนท่ี คนที่ คนที่ เฉลย่ี ความหมาย 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผู้เรยี นให้มคี วามรทู้ ักษะ/ 123 กระบวนการ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรียนไปสู่การสร้างชิ้นงาน/ ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมนิ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพผูเ้ รียนตาม มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ 11 สอื่ การเรียนร้ใู นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไป ประยุกต์ใชไ้ ด้จรงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ ริงได้ ภาพรวม สรปุ ผลการประเมิน  ผา่ น (ความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสมตง้ั แต่ระดับปานกลางขึ้นไป)  ผา่ น (ความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสมต่ำกว่าระดบั ปานกลาง) ลงชื่อ.......................................... (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชื่อ.......................................... ลงชอื่ .......................................... (นางสาวสุวดี กาญจนาภา) (นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรื่องโจทย์ปญั หาทศนิยม เวลาทใ่ี ช้ 12 ชั่วโมง รหสั วชิ า ค15101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดีมาก 4 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ พอใช้ 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรงุ ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสัมพันธก์ ับหน่วยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถ้วนสัมพันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ ีความชดั เจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นร้สู อดคล้องกบั จดุ ประสงค์และเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละระดับชน้ั ของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ ริง 9 กจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทีด่ ีงาม 11 กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ให้ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมในชน้ั เรยี น 12 วัสดอุ ปุ กรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วัสดุอุปกรณ์ ส่อื และแหลง่ เรยี นร้เู หมาะสมกับเนื้อหาสาระ 14 ส่งเสริมให้ผ้เู รยี นค้นคว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ 15 มกี ารวดั และประเมินผลท่ีสอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเนือ้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกิจกรรมการเรยี นการสอน......................................................................................................................... ....... .......................................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ด้านการวัดและประเมนิ ผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ด้านอื่น ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงช่อื )..................................................ผูป้ ระเมนิ (นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวเิ ศษ) ............./.................../............. ส่ิงที่ไดด้ ำเนนิ การแก้ไข ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................... ................................ (ลงชอื่ )..................................................ผ้สู อน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรื่องโจทย์ปญั หาทศนิยม เวลาทใ่ี ช้ 12 ชั่วโมง รหสั วชิ า ค15101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสมั พนั ธ์กับหนว่ ยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถ้วนสัมพันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ ีความชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นร้สู อดคล้องกบั จุดประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจดุ ประสงค์และระดับชน้ั ของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ ริง 9 กจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมทส่ี ง่ เสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มทีด่ ีงาม 11 กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ให้ผูเ้ รียนมสี ่วนรว่ มในชนั้ เรยี น 12 วัสดอุ ปุ กรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วัสดุอุปกรณ์ ส่อื และแหล่งเรยี นรเู้ หมาะสมกับเนื้อหาสาระ 14 ส่งเสริมให้ผ้เู รยี นค้นคว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ 15 มกี ารวดั และประเมินผลท่ีสอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเนอ้ื หาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกิจกรรมการเรยี นการสอน......................................................................................................................... ....... .......................................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นการวัดและประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ด้านอื่น ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงชือ่ )..................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวสุวดี กาญจนาภา)) ............./.................../............. สงิ่ ทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................... ............................ (ลงชอ่ื )..................................................ผูส้ อน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา) ............./.................../............


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook