Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

Published by moopraew54, 2021-07-19 02:26:41

Description: เรื่อง รูปสี่เหลี่ยม

Search

Read the Text Version

เสน้ ทแยงมมุ ยาว เทา่ กัน เส้นทแยงมุม สมบตั ขิ องเสน้ ทแยง เสน้ ทแยงมุม แบง่ รูปสี่เหลย่ี มเปน็ มุม ของรูปส่ีเหล่ยี ม แบ่งครึ่งซ่ึงกันและกัน รปู สามเหลยี่ มสองรูป เส้นทแยงมมุ ตดั กันเป็นมุมฉาก ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ช้ทนั ที 7. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมินผล การวัดผล 1. สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สงั เกตการทำงาน การประเมนิ ผล 1. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรบั ผู้ท่ีไดร้ ะดบั คุณภาพตงั้ แต่ 2 ขน้ึ ไป 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ่ีทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพตัง้ แต่ 2 ขึน้ ไป 3. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ่ีทำงานไดร้ ะดับคุณภาพต้ังแต่ 2 ข้ึนไป 9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท. 3. โพรแทรกเตอร์

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 24 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 9 รปู ส่ีเหล่ยี ม เวลา 3 ช่ัวโมง เรื่องการสร้างรูปส่ีเหลี่ยมเมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุม 1.สาระสำคัญ การสร้างรูปสี่เหลย่ี ม เปน็ การสรา้ งตามลกั ษณะหรอื สมบตั ขิ องรปู ส่ีเหลย่ี มแต่ละชนดิ ซึ่งต้องอาศัยทกั ษะ การวัดความยาว การใชโ้ พรแทรกเตอร์หรือวงเวียน 2. ตัวช้วี ดั ค 2.2 ป.5/3 สรา้ งรูปสเ่ี หลีย่ มชนดิ ต่าง ๆ เมื่อกำหนดความยาวของด้าน และขนาดของมมุ หรือเม่ือ กำหนดความยาวของเสน้ ทแยงมมุ 3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะและสมบัติของรูปสเ่ี หล่ียมตา่ งๆได้ (K) 2. สรา้ งรูปสเี่ หล่ยี มเมื่อกำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุมได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ การสรา้ งรปู ส่ีเหล่ียม 5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขั้นตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก น้ันใหน้ กั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครูสอนสร้างรูปส่ีเหลี่ยม เมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุม โดยเริม่ จากการทบทวน ความรเู้ ก่ียวกับลักษณะของรูปสี่เหลีย่ มแตล่ ะชนิด การสร้างรูปสีเ่ หล่ยี มมุมฉาก การสรา้ งมมุ และการสรา้ งเส้น ขนาน

3. ครูนำสนทนาเกย่ี วกับการสรา้ งรปู สี่เหลย่ี มดา้ นขนาน CDEF ตามข้อกำหนดในหนังสอื เรียน หน้า 102-103 ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝึก 4. ให้นักเรยี นวิเคราะหว์ ่าโจทย์กำหนดอะไร และโจทย์ต้องการอะไรใหน้ ักเรียนเขียนรปู ครา่ ว ๆ ตาม ขอ้ กำหนด ซึง่ อาจเขยี นได้ 4 แบบ ดังน้ี 5. ครเู ลอื กรูปครา่ ว ๆ มา 1 รปู แล้วรว่ มกันวางแผนและจดั ลำดบั ขัน้ การสรา้ ง พร้อมให้เหตุผล 6. จากนั้นครูสาธิต การสร้างทลี ะขน้ั จนไดร้ ปู ส่เี หล่ยี มตามกำหนด แล้วให้ นกั เรยี นทำตามครูทลี ะขนั้ จน ได้รูปตามต้องการ 7. ครูควรให้นกั เรยี นสร้างรปู ส่ีเหล่ยี มดา้ นขนาน CDEF แบบอน่ื ๆ ทีต่ า่ งจากแบบท่ีครูสาธิต ขั้นตอนที่ 4 : การสรปุ 8. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี  การสรา้ งรูปสี่เหล่ยี มใด ๆ จะต้องทราบลักษณะของรปู ส่ีเหล่ยี มน้นั ๆ 9. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูถามคำถามทา้ ทาย ดังน้ี  นักเรียนสามารถนำความรู้เรือ่ ง การสรา้ งรูปสี่เหลย่ี มเมอื่ กำหนดความยาวของด้านและขนาด ของมุมไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันเรื่องใดได้บา้ ง ขั้นตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ช้ทนั ที 10. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. แบบฝึกหัด 2.4 เป็นรายบุคคล ชว่ั โมงท่ี 2 ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ กั เรียนท่องสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จาก นน้ั ให้นักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ

ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูนำสนทนาถงึ การสรา้ งรูปสี่เหล่ยี มในหนังสอื หน้า 104 เปน็ การใชว้ งเวียนช่วยในการสรา้ งรูป สเ่ี หลย่ี ม ซึ่งครคู วรแนะนำวธิ ใี ช้วงเวียน และฝกึ ให้นักเรยี นมีทักษะการใชว้ งเวียนก่อน 3. จากนน้ั จึงแนะนำวิธีสรา้ งรูปสี่เหล่ยี มรปู ว่าว ABCD ซ่งึ ครูอาจจดั กจิ กรรมทำนองเดยี วกันกับการสรา้ ง รปู สีเ่ หลย่ี มดา้ นขนาน CDEF ในหนังสือเรียนหนา้ 102-103 ขั้นตอนท่ี 3 : การฝึก 4. ครูแนะนำเพิม่ เติมว่า การสรา้ งรปู สี่เหล่ียมดา้ นขนาน CDEF อาจใช้วงเวยี นในการสรา้ งขั้นท่ี 3 ดังน้ี กางวงเวียนรัศมี 4.5 เซนตเิ มตร ใชจ้ ดุ F เป็นจุดศูนย์กลาง เขียนส่วนโคง้ และกางวงเวียนรัศมี 3 เซนติเมตร ใช้จุด D เปน็ จุดศนู ยก์ ลางเขียนสว่ นโค้งใหต้ ัดกบั ส่วนโค้งแรกท่จี ุด E 5. จากนน้ั เขยี น FE และ DE จะไดร้ ูปส่ีเหลยี่ มด้านขนาน CDEF ตามต้องการ หมายเหตุ การใช้วงเวยี นเขยี นวงกลมหรอื สว่ นโคง้ ครูควรเน้นยำ้ ว่าให้ถ่ายน้ำหนกั มือมาที่จุดศนู ยก์ ลาง เพอ่ื ไมใ่ ห้วงเวียนเล่อื น และให้หมุนวงเวยี นไปในทิศทางเดียวกัน ขั้นตอนท่ี 4 : การสรปุ 5. ให้นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้  การสรา้ งรูปส่เี หลี่ยมใด ๆ จะต้องทราบลักษณะของรูปสเี่ หล่ียมนัน้ ๆ ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทันที 6. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท.

ช่ัวโมงท่ี 3 ข้นั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจาก นน้ั ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครทู บทวนความรู้เดมิ เกี่ยวกบั การสรา้ งโดยใช้ โพรแทรกเตอร์ 3. ครูสอนการสร้างรปู สี่เหลย่ี มในหนงั สอื เรยี นหน้า 105 เป็นการสรา้ งโดยใช้ โพรแทรกเตอร์ ขนั้ ตอนท่ี 3 : การฝกึ 4. ครูจัดกิจกรรมโดยให้นักเรียนวิเคราะห์ ว่าโจทยก์ ำหนดอะไร และโจทยต์ ้องการอะไร ใหน้ ักเรยี นเขียน รปู คร่าว ๆ ตามข้อกำหนด 5. รว่ มกันวางแผน และจดั ลำดับขนั้ การสร้าง พรอ้ มให้เหตุผล 6. ครสู าธติ การสร้างทีละขัน้ จนไดร้ ปู ส่ีเหล่ียมตามกำหนด แล้วใหน้ กั เรยี นทำตามครทู ลี ะขั้นจนได้รูปตาม ตอ้ งการ ข้ันตอนท่ี 4 : การสรปุ 7. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การสรา้ งรปู สี่เหลีย่ มใด ๆ จะต้องทราบลักษณะของรูปสเ่ี หล่ยี มนัน้ ๆ และเลอื กใช้เครื่องมือในการ สร้างไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและถูกตอ้ ง ข้ันตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที 8. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. 7.4 เป็นรายบคุ คล 8. การวัดและประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน 2. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สงั เกตการทำงาน การประเมินผล 1. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรับผ้ทู ่ีได้ระดับคุณภาพต้ังแต่ 2 ขึน้ ไป 2. ถือเกณฑ์ผ่านสำหรบั ผทู้ ่ที ำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตัง้ แต่ 2 ขึ้นไป 3. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรับผูท้ ี่ทำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตัง้ แต่ 2 ข้ึนไป 9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท. 3. โพรแทรกเตอร์ 4. วงเวยี น

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 รปู ส่ีเหล่ียม เวลา 24 ช่วั โมง เร่ืองกการสรา้ งรูปสีเ่ หลย่ี มเม่อื กำหนดความยาวความยาวของเส้นทแยงมุม เวลา 2 ชว่ั โมง 1. สาระสำคญั การสร้างรปู สเ่ี หลย่ี ม เป็นการสร้างตามลกั ษณะหรอื สมบตั ขิ องรปู สเี่ หลย่ี มแตล่ ะชนดิ ซ่งึ ตอ้ งอาศยั ทักษะการ วัดความยาว การใช้โพรแทรกเตอร์หรือวงเวยี น 2. ตวั ชวี้ ดั ค 2.2 ป.5/3 สร้างรปู สเ่ี หลย่ี มชนดิ ต่าง ๆ เมอื่ กำหนดความยาวของดา้ น และขนาดของมมุ หรือเม่อื กำหนดความยาวของเสน้ ทแยงมุม 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกลกั ษณะและสมบัติของรปู สเ่ี หลี่ยมต่างๆจากเสน้ ทแยงมมุ ได้ (K) 2. เขยี นสร้างรปู สเ่ี หล่ยี มตามความยาวของเสน้ ทแยงมมุ ได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ การสรา้ งรูปสเ่ี หลย่ี ม 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ข้ันตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก นนั้ ใหน้ กั เรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ใหน้ ักเรียนทบทวนความรูเ้ รือ่ ง สมบัตขิ องเส้นทแยงมุมของรูปส่เี หล่ียม โดยครูติดแถบโจทยบ์ น กระดาน แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกชนิดของรปู สี่เหลี่ยมท่ีตรงกับโจทย์ ดงั ตวั อย่าง

รูปสีเ่ หลยี่ มท่ีมีเสน้ ทแยงมุมแบง่ ครงึ่ ซ่งึ กนั และกนั (รปู ส่ีเหลย่ี มจตั รุ สั รปู ส่เี หลยี่ มผืนผ้า รูปสีเ่ หล่ียมด้านขนาน รูปสเ่ี หล่ยี มขนมเปียกปูน) รูปสเ่ี หล่ียมทีม่ ีเสน้ ทแยงมุมยาวเทา่ กัน (รปู สเ่ี หลี่ยมจตั ุรสั รูปส่ีเหลี่ยมผืนผ้า รปู สี่เหล่ียมด้านขนาน) รูปส่เี หลยี่ มทีม่ เี สน้ ทแยงมุมตัดกนั เป็นมมุ ฉาก (รปู สีเ่ หลี่ยมจัตุรสั รูปสีเ่ หลี่ยมขนมเปียกปนู รปู สเี่ หลยี่ มรูปวา่ ว) 3. ครตู ิดแถบโจทย์บนกระดาน สรา้ งรปู ส่ีเหลีย่ มผืนผา้ ภมยร ใหม้ เี ส้นทแยงมุมยาวเส้นละ 1.8 น้ิว 4. ครถู ามคำถามกระต้นุ ความคดิ ของนกั เรียน ดังน้ี  โจทยก์ ำหนดอะไรมาให้ (ความยาวของเสน้ ทแยงมมุ ของรปู สเ่ี หล่ียมผืนผ้า)  กอ่ นสรา้ งรูปสี่เหลี่ยมนักเรียนตอ้ งทราบอะไรก่อน (ทราบลักษณะของรปู สี่เหลี่ยมผนื ผ้า)  รปู สเี่ หล่ียมผืนผา้ มลี กั ษณะอย่างไร (เส้นทแยงมุมแบง่ ครง่ึ ซ่ึงกันและกนั ความยาวของเสน้ ทแยงมมุ ทงั้ สองเสน้ ยาวเทา่ กัน และเสน้ ทแยงมุมแบ่งรูปสี่เหลี่ยมออกเป็นรปู สามเหลี่ยมสองรูป)  นักเรียนมีขัน้ ตอนการสรา้ งรูปสเ่ี หลี่ยมอย่างไร (เขียนรปู ขึ้นมาครา่ วๆ) 5. จากนนั้ ครูอธิบายขน้ั ตอนการสรา้ งรปู สี่เหล่ียม ดงั นี้  ข้ันที่ 1 ลาก ภย ยาว 1.8 น้ิว  ขั้นที่ 2 แบ่งครึ่ง ภย ทจ่ี ุด ก  ข้ันที่ 3 ลาก มร ผา่ นจดุ ก โดยให้ มร มคี วามยาวเทา่ กบั ภย  ขนั้ ที่ 4 ลาก ภร รย ยม และ มภ จะได้รปู ส่เี หล่ียมผนื ผา้ ภมยร 6. ครูให้ผแู้ ทนนกั เรยี น 2 คน ออกมาสรา้ งรปู สเี่ หล่ียมจากแถบโจทยต์ ามขน้ั ตอน เช่น รภ  ภม ก ก รย ยม

7. ดำเนินกจิ กรรมขอ้ 2 อีกคร้ัง โดยครตู ดิ แถบโจทย์บนกระดาน ดังนี้ สรา้ งรปู สเ่ี หล่ยี มขนมเปียกปนู LION ทมี่ ีเสน้ ทแยงมมุ ยาว 3.6 เซนตเิ มตร และ 5 เซนติเมตร ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝึก 8. ให้นักเรียนทกุ คนสร้างรปู ส่ีเหลยี่ มตามข้นั ตอนคนละ 1 รปู จากน้ันให้ผู้แทนนักเรยี น 2 คน ออกมาเสนอผลงานของตนเองและบอกข้ันตอนการสรา้ งรปู สี่เหลย่ี ม ครูและนักเรียนในห้องร่วมกันตรวจสอบความ ถูกต้อง ดังตวั อยา่ ง I L L A O N K I O N 9. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน ครูแจกแถบโจทย์ให้นักเรียนกล่มุ ละ 1 แผ่น แลว้ ให้ นกั เรยี นรว่ มกนั คิดวธิ สี รา้ งรูปส่เี หล่ียมดังกลา่ วและสง่ ผแู้ ทนกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงาน พร้อมทั้งอธิบายขนั้ ตอน การสร้างรปู สีเ่ หลี่ยม นักเรียนกลมุ่ อื่น ๆ และครูรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง ข้นั ตอนที่ 4 : การสรปุ 10. ใหน้ กั เรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังน้ี  การสร้างรปู สเ่ี หลยี่ มใด ๆ จะต้องทราบลักษณะของรูปสีเ่ หลย่ี มนัน้ ๆ และเลอื กใช้เครื่องมือในการ สรา้ งได้อยา่ งเหมาะสมและถูกตอ้ ง ขั้นตอนท่ี 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 11. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงท่ี 2 ขนั้ ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นั้นให้นักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครจู ดั กิจกรรมโดยอาจเร่มิ จากการทบทวน ความรเู้ ก่ยี วกบั เสน้ ทแยงมมุ ของรูปสีเ่ หล่ียมแต่ละชนิด

3. จากน้นั แนะนำวิธีสรา้ งรูปสเ่ี หล่ียมในหนงั สอื เรยี นหน้า 107-109 โดยจัดกิจกรรมทำนองเดยี วกนั กบั การ สรา้ งรูปสเี่ หลี่ยม เมอ่ื กำหนดความยาวของด้านและขนาดของมมุ 4. คำถามทา้ ยในหนังสือเรยี นหนา้ 108 ครอู าจแนะนำให้ นักเรียนเขยี นรปู คร่าว ๆ ประกอบการตอบ คำถาม ซึ่งในการสร้างรปู ส่เี หลีย่ ม CALS ให้มขี นาดแตกต่างกนั จะขึน้ อยูก่ ับเสน้ ทแยงมุมท่ีถูกแบ่งครึ่ง และจุดตัด ของเสน้ ทแยงมุม ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 5. ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ สร้างรูปส่เี หลย่ี มอนื่ เพิ่มเติม แลว้ ร่วมกนั ทำกิจกรรมในหนงั สือเรียนหนา้ 110 6. ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันวเิ คราะห์โจทย์และเขียนรูปครา่ วๆ แลว้ ร่วมกันวางแผนและจดั ลำดบั ขน้ั การสรา้ ง ก่อน 7. หลงั จากสร้างรูปเสรจ็ แลว้ ครคู วรใหน้ ักเรยี นใชไ้ ม้ฉาก หรือโพรแทรกเตอรต์ รวจสอบรูปท่สี ร้างว่าเป็น รปู ส่เี หลีย่ มชนิดใด พรอ้ มบอกเหตุผล จากนนั้ ให้ทำแบบฝึกหดั 7.5 เปน็ รายบุคคล 8. เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความรทู้ ี่ได้ ให้นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สือหนา้ 111 เป็น รายบคุ คล ข้นั ตอนที่ 4 : การสรปุ 9. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้  การสร้างรปู สเ่ี หลี่ยมใด ๆ จะต้องทราบลกั ษณะของรูปสเ่ี หลยี่ มนน้ั ๆ และเลือกใช้เครอ่ื งมอื ในการ สร้างได้อย่างเหมาะสมและถูกตอ้ ง ขั้นตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ นั ที 10. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมินผล การวัดผล 1. สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่นั ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรบั ผทู้ ่ีได้ระดับคุณภาพตง้ั แต่ 2 ขึ้นไป 2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผทู้ ่ีทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตง้ั แต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผ้ทู ี่ทำงานได้ระดบั คณุ ภาพต้งั แต่ 2 ขึ้นไป 9. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท. 3. โพรแทรกเตอร์ 4. แถบโจทย์

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 9 รูปสเ่ี หลย่ี ม เวลา 24 ชัว่ โมง เร่ืองพื้นทขี่ องรูปสเี่ หลี่ยมดา้ นขนาน เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รปู ส่ีเหล่ยี มดา้ นขนาน เปน็ รปู สเี่ หล่ียมท่มี มี มุ ทอี่ ย่ตู รงข้ามกนั มีขนาดเทา่ กัน ดา้ นตรงขา้ มยาวเท่ากันและ ขนานกัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ ครึง่ ซ่ึงกันและกัน พืน้ ทขี่ องรูปสเ่ี หล่ยี มดา้ นขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน 2. ตวั ชวี้ ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หล่ียม และพ้นื ทข่ี อง รปู สี่เหลีย่ มด้านขนานและรูปสี่เหลยี่ มขนมเปียกปูน 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกการหาพ้ืนท่ีของรปู ส่เี หลยี่ มดา้ นขนานและบอกสูตรได้ (K) 2. เขยี นวธิ หี าพื้นที่ของรปู ส่เี หล่ียมดา้ นขนานได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ 1.หาพื้นทขี่ องรปู สีเ่ หลี่ยมด้านขนาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั ตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครใู ห้นักเรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจาก น้ันให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขั้นตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครแู นะนำให้นกั เรียนรู้จกั ฐาน และส่วนสงู ของรูปสีเ่ หล่ียมดา้ นขนาน โดยใชก้ ระดาษรปู สเ่ี หลีย่ มดา้ น

ขนาน ประกอบการอธบิ าย 3. ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณารูปในหนังสอื เรียนหน้า 112 แลว้ ช่วยกันระบุฐานและส่วนสูงของรปู 4. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมเกี่ยวกบั การระบุสว่ นสูงและฐานของ ABCD 5. จากน้นั แนะนำพรอ้ มสาธติ วิธวี ดั ความสูงของกระดาษรูปสเี่ หลย่ี มด้านขนานขา้ งต้น โดยใช้ความรู้ เกี่ยวกับการวัดระยะหา่ งของเสน้ ขนาน ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 6. ให้นักเรยี นรว่ มกนั ทำกิจกรรมในหนังสอื หน้า 113 และทำแบบฝึกหัด 7.6 เป็นรายบคุ คล 7. ครใู ห้นักเรียนปฏิบตั ติ ามกิจกรรมในหนังสือเรยี นหน้า 114-115 พรอ้ มการถาม-ตอบ ประกอบการ อธิบาย 8. จากนัน้ ใหน้ ักเรียนเขยี นรปู สีเ่ หลย่ี มดา้ นขนานท่มี ีความยาวของฐานและความสูง เปน็ จำนวนนับ คนละ 1 รูป ซง่ึ แตล่ ะคนควรเขยี นรูปทม่ี ขี นาดแตกต่างกนั โดยเขียนลงในกระดาษตารางรูปสี่เหลีย่ มจัตรุ สั ที่มีความยาว ด้านละ 1 เซนตเิ มตร พร้อมระบายสี 9. ให้ปฏิบตั กิ จิ กรรมทำนองเดยี วกนั กับการหาพ้ืนทขี่ องรปู สีเ่ หล่ียมด้านขนาน อปพร หรือรปู ส่ีเหล่ียม ดา้ นขนาน YMCK ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 10. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายผลการปฏิบัตกิ จิ กรรม เพ่อื ใหไ้ ด้ขอ้ สรปุ วา่ พ้ืนที่ของรูปส่เี หลี่ยมดา้ น ขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน ข้อแนะนำ ในการกำหนดเส้นแสดงส่วนสูง ควรกำหนดเสน้ แสดงสว่ นสงู ตามแนวเส้นในตาราง เพ่ือใหน้ ับพืน้ ท่ไี ด้ งา่ ย ขั้นตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 11. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงท่ี 2 ขัน้ ตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครใู หน้ ักเรยี นท่องสตู รคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จาก นนั้ ให้นักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขัน้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. นักเรยี นทบทวนเร่ือง รูปสีเ่ หลีย่ มด้านขนานโดยให้ผู้แทนนกั เรียน 2 คน แข่งขันกันออกมาวาดรปู สเ่ี หลยี่ มดา้ นขนานบนกระดานตามทค่ี รูกำหนดให้ ดงั ตวั อย่าง MN 2 ซม. 3 ซม. R 8 ซม. O

3. จากกจิ กรรมข้อ 1 ครูถามคำถามนักเรียน ดงั นี้  เส้นใดเปน็ เส้นทแยงมมุ ( MO )  ลักษณะของรูปสเี่ หล่ียมดา้ นขนานเปน็ อย่างไร (เสน้ ทแยงมมุ จะแบ่งรปู ส่ีเหลี่ยมออกเป็นรูปสามเหลีย่ ม 2 รปู ซึ่งมพี ้ืนที่เท่ากนั )  ถ้าต้องการหาพ้ืนท่ีรปู สี่เหลย่ี มด้านขนานจะหาได้อยา่ งไร (หาได้จากพืน้ ที่ของรปู สามเหลีย่ ม 2 รปู ) 1  เขียนได้อย่างไร (2 × พืน้ ท่รี ูปสามเหลย่ี ม หรือ 2 × 2 × ความสูง × ความยาวฐาน)  ความสงู ของรปู สามเหลย่ี มคอื ส่วนใดของรูปสเ่ี หลีย่ มด้านขนาน (ความสูงของรปู สี่เหลี่ยมดา้ นขนาน)  ความยาวของฐานรปู สามเหลย่ี มคือสว่ นใดของรปู ส่เี หลีย่ มด้านขนาน (ความยาวของฐานรูปส่ีเหลีย่ ม ด้านขนาน)  ดงั นน้ั สรปุ เป็นสูตรการหาพื้นท่ีได้อยา่ งไร (พืน้ ท่ีรปู ส่ีเหลย่ี มดา้ นขนาน = ความสงู × ความยาวฐาน)  พ้นื ทีร่ ูปสเ่ี หล่ียม MNOR เทา่ กบั เท่าไร (2 × 8 = 16 ตารางเซนตเิ มตร) ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 4. ครูใชก้ ารถาม-ตอบประกอบการอธิบายตวั อยา่ งในหนงั สือเรียนหน้า 116 แลว้ รว่ มกันหาพน้ื ทีข่ องรปู สี่เหลีย่ มดา้ นขนาน ขนั้ ตอนที่ 4 : การสรุป 5. ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม เพือ่ ให้ได้ข้อสรุปว่า รูปส่ีเหลีย่ มด้านขนาน เป็น รปู สเี่ หล่ยี มทีม่ ีมุมท่อี ย่ตู รงข้ามกัน มีขนาดเทา่ กนั ดา้ นตรงขา้ มยาวเท่ากนั และขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบ่งครึง่ ซ่งึ กนั และกนั พืน้ ที่ของรูปส่เี หล่ยี มด้านขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน ขนั้ ตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทันที 6. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 7.7 เป็นรายบคุ คล 8. การวัดและประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มนั่ ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรับผทู้ ี่ไดร้ ะดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ข้นึ ไป 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรับผู้ทที่ ำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคณุ ภาพตั้งแต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผู้ทท่ี ำงานได้ระดบั คุณภาพตัง้ แต่ 2 ขน้ึ ไป

9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 3. โพรแทรกเตอร์ 4. กระดาษตารางรปู ส่ีเหลยี่ มจัตรุ สั ทมี่ คี วามยาว ดา้ นละ 1 เซนติเมตร 5. กระดาษรปู สเ่ี หลี่ยมดา้ นขนานและรปู ส่เี หลย่ี ม ขนมเปยี กปนู ที่มีความยาวของฐานและความสูง เป็น จำนวนนบั 6. กรรไกร ดนิ สอสี

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 6 กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 24 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 รปู ส่เี หล่ยี ม เวลา 2 ชั่วโมง เรื่องพื้นทขี่ องรูปสี่เหล่ียมขนมเปยี กปูน 1. สาระสำคญั รูปสเ่ี หลย่ี มขนมเปยี กปูน เปน็ รูปสีเ่ หลย่ี มทีม่ มี ุมทกุ มุมไม่เป็นมมุ ฉาก มมุ ที่อยูต่ รงขา้ มกนั มขี นาดเท่ากนั ดา้ นทุกดา้ นยาวเท่ากัน ดา้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่ เส้นทแยงมมุ แบ่งครึง่ ซง่ึ กนั และกัน และตดั กันเปน็ มุมฉาก พ้นื ทข่ี องรูปสเ่ี หล่ียมขนมเปยี กปนู = ความสูง × ความยาวของฐาน 2. ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปของรปู สี่เหลี่ยม และพื้นท่ขี อง รูปสเ่ี หลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหล่ียมขนมเปียกปนู 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.บอกการหาพ้นื ทข่ี องรูปส่ีเหลีย่ มขนมเปียกปูนและบอกสูตรได้ (K) 2.เขียนวธิ หี าพืน้ ท่ขี องรปู สี่เหล่ยี มขนมเปียกปูนได้(P) 4. สาระการเรียนรู้ 1.หาพืน้ ที่ของรูปส่ีเหล่ียมขนมเปียกปนู 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสูตรคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก น้ันให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขนั้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. นำบตั รภาพรูปสี่เหลย่ี มด้านขนาน และรปู ส่เี หล่ียมขนมเปยี กปนู ใหน้ ักเรียนพิจารณาลกั ษณะที่

เหมอื นกนั ของรูปส่ีเหล่ียมท้งั สองรูป รูปส่ีเหล่ยี มขนมเปยี กปูน รปู ส่เี หลีย่ มดา้ นขนาน 3. นกั เรียนจะได้ว่า รปู สเี่ หล่ียมขนมเปียกปูน มีดา้ นตรงข้ามขนานกนั 2 คู่ ดังนนั้ จึงมีฐานและสว่ นสูง เช่นเดียวกันกบั รูปสเี่ หล่ยี มด้านขนาน ข้ันตอนท่ี 3 : การฝกึ 4. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกบั วธิ หี าพื้นท่ีของรูปสเี่ หลี่ยมขนมเปยี กปนู ซ่ึงจะไดว้ ่า อาจใชว้ ธิ ีการ เดยี วกันกับการหาพ้ืนที่ของรูปสเี่ หลีย่ มดา้ นขนาน คือ ความสูง คณู ความยาวของฐาน ข้ันตอนที่ 4 : การสรปุ 5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั หาพ้นื ท่ขี องรูปสเ่ี หลยี่ มขนมเปยี กปนู ในหนังสือเรยี นหน้า 117 และทำ แบบฝกึ หัด 7.8 เปน็ รายบุคคล 6. จากนน้ั ชว่ ยกันสรุป ใหไ้ ดว้ ่า พื้นที่ของรูปสี่เหล่ียมขนมเปยี กปนู = ความสูง × ความยาวของฐาน แล้ว รว่ มกนั ขนั้ ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใช้ทันที 7. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงที่ 2 ขนั้ ตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครใู ห้นักเรียนทอ่ งสูตรคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลังจาก น้ันให้นักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนท่ี 2 : เรยี นรู้ 2. ใหผ้ ูแ้ ทนนักเรยี นออกมาวาดรูปสเ่ี หล่ียมขนมเปียกปนู บนกระดานตามท่ีครกู ำหนดให้ 3.5 ซม. KC 3. นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบค4วาซมมถ.ูกต้อง และครถู ามคำถามนักเรยี น ดังนี้  เส้นใดเปน็ เส้นทแยงมมุ ( LC )

 ลกั ษณะของรูปสเี่ หล่ยี มขนมเปียกปูนเป็นอย่างไร (เส้นทแยงมมุ จะแบ่งรปู ส่ีเหลย่ี มออกเปน็ 2 รูป ซึ่งมี พนื้ ทีเ่ ทา่ กนั )  ดงั น้นั การหาพื้นทีข่ องรปู ส่ีเหลย่ี มขนมเปยี กปนู ใชส้ ูตรเดียวกับการหาพน้ื ที่ของรูปสเี่ หลี่ยมดา้ นขนานได้ หรอื ไม่ (ได)้  พ้ืนท่ี LOCK เท่ากับเทา่ ไร (3.5 × 4 = 14 ตารางเซนตเิ มตร) 4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง ข้นั ตอนที่ 3 : การฝกึ 5. ครูแจกรปู สี่เหล่ยี มด้านขนาน/รปู สีเ่ หลยี่ มขนมเปียกปนู ให้นักเรยี นคนละ 1 รปู แล้วให้นักเรียนบอก วา่ เป็นรปู สี่เหล่ยี มใด พรอ้ มท้ังหาพ้ืนที่ของรูปสเี่ หล่ียมนน้ั 6. นักเรียนแต่ละคนออกมาเฉลยหน้าช้นั เรยี น นกั เรยี นคนอื่น ๆ และครูร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง 7. ครตู ิดตารางโจทย์บนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นแข่งขันกนั ออกมาเขยี นคำตอบลงในช่องว่าง ความยาวฐาน ความสงู พื้นท่รี ปู สเี่ หล่ียมดา้ นขนาน 6 ฟุต 3 ฟุต ( 18 ) ตารางฟตุ ( 4 ) นิ้ว 2.5 นิ้ว 10 ตารางน้ิว 12 เซนตเิ มตร ( 7 ) เซนตเิ มตร 84 ตารางเซนติเมตร ครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง และร่วมกันอภปิ รายวิธกี ารหาคำตอบ ขนั้ ตอนท่ี 4 : การสรุป 8. เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรูท้ ี่ได้ ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมในหนังสอื เรียนหนา้ 178 เป็น รายบุคคล 9. จากนน้ั ช่วยกันสรุปใหไ้ ดว้ ่าพนื้ ที่ของรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน = ความสงู × ความยาวของฐาน แลว้ ร่วมกัน ข้ันตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ช้ทนั ที 8. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน 2. สังเกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมินผล 1. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรบั ผู้ที่ได้ระดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ขน้ึ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผ้ทู ่ที ำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพต้ังแต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผ้ทู ท่ี ำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตั้งแต่ 2 ข้ึนไป

9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท. 3. บัตรภาพรปู สีเ่ หล่ยี ม 4. ตารางโจทย์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 9 รูปส่ีเหลย่ี ม เวลา 24 ช่วั โมง เรอื่ งพืน้ ทข่ี องรูปหลายเหลย่ี ม เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รปู สเี่ หล่ยี มดา้ นขนาน เปน็ รปู สีเ่ หล่ียมท่ีมีมุมทีอ่ ยตู่ รงข้ามกัน มขี นาดเทา่ กนั ดา้ นตรงขา้ มยาวเทา่ กันและ ขนานกัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ ครึง่ ซง่ึ กนั และกัน รปู สเ่ี หลี่ยมขนมเปยี กปูน เปน็ รูปสีเ่ หลีย่ มทม่ี ีมมุ ทกุ มุมไมเ่ ป็นมุมฉาก มมุ ที่อยูต่ รงขา้ มกนั มขี นาดเท่ากัน ด้านทุกด้านยาวเท่ากัน ด้านตรงขา้ มขนานกัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ ครึ่งซงึ่ กันและกัน และตดั กนั เป็นมุมฉาก พ้ืนที่ของรปู สเ่ี หลย่ี มดา้ นขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน พนื้ ท่ีของรปู สเี่ หลย่ี มขนมเปียกปนู = ความสงู × ความยาวของฐาน 2. ตัวชี้วดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับความยาวรอบรปู ของรปู สเี่ หล่ียม และพืน้ ท่ี ของรูปสเ่ี หลีย่ มดา้ นขนานและรูปส่เี หลี่ยมขนมเปียกปูน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกการหาพ้ืนท่ีของรูปหลายเหล่ยี มได้ (K) 2. เขียนวิธหี าพน้ื ท่ขี องรูปหลายเหล่ียมได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ 1.พ้นื ท่ีรูปหลายเหลยี่ ม 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ข้ันตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จาก นน้ั ใหน้ ักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครูจดั กจิ กรรมดว้ ยการนำรูปหลายเหลยี่ มมาต่อกนั ให้เป็นรปู สี่เหลยี่ มดา้ นขนาน หรอื แบ่งรูปหลาย เหลยี่ ม ใหเ้ ป็นรูปสีเ่ หล่ยี มดา้ นขนาน แลว้ จึงหาพื้นที่จากรูปสเี่ หลย่ี มดา้ นขนานนนั้ 3. ครูใหน้ ักเรยี นพจิ ารณา กขคง ในหนังสือเรียนหน้า 119 วา่ เปน็ รปู สี่เหลี่ยมชนดิ ใด เพราะเหตุใด 4. รว่ มกันอภปิ รายเก่ียวกับการหาพ้ืนท่ขี องรูปสเี่ หลี่ยมดังกล่าว โดยใชค้ วามร้เู ก่ียวกบั การหาพน้ื ที่ของรปู ส่ีเหลย่ี มด้านขนาน ซ่งึ จะไดว้ ่าพ้นื ท่ีของรปู สีเ่ หลี่ยมคางหมู กขคง เปน็ ครึ่งหน่ึงของพืน้ ที่ของรูปสี่เหลยี่ มด้านขนาน กขจฉ 5. จากน้ันครใู ช้การถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ ายเกี่ยวกับการหาพืน้ ทขี่ อง รปู หลายเหลี่ยมในหนงั สอื เรยี นหนา้ 119 ข้นั ตอนที่ 3 : การฝกึ 6. ร่วมกันทำกจิ กรรมในหนังสือเรียนหน้า 120 แล้วทำแบบฝึกหัด 7.9 เป็นรายบุคคล 7. สำหรบั กิจกรรมหนา้ 120 โจทยบ์ างข้อ ครคู วรให้นักเรียนนำเสนอวิธีคิดท่ีแตกตา่ งกนั พร้อมอธิบาย เหตุผล และครูควรอธิบายวิธคี ิดอน่ื ท่ีแตกต่างจากวิธีคดิ ของนักเรยี นเพ่ือใหเ้ ห็นวธิ คี ดิ ท่หี ลากหลาย ขัน้ ตอนที่ 4 : การสรุป 8. จากน้ันชว่ ยกนั สรปุ ให้ได้ว่าพืน้ ที่ของรปู หลายเหลี่ยมว่าควรแบ่งรูปใหเ้ ป็นรูปส่เี หลย่ี มด้านขนานหรอื สเ่ี หลีย่ มขนมเปยี กปูนใหไ้ ด้ก่อน แล้วจงึ ใช้สตู รหาพนื้ ท่รี ปู สี่เหล่ียมด้านขนานหรอื สเี่ หลีย่ มขนมเปยี กปูน แล้วนำแต่ ละรูปมารวมกัน ขั้นตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใชท้ ันที 9. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มนั่ ในการทำงาน 2. สังเกตการทำงาน 3. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถอื เกณฑ์ผา่ นจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรับผูท้ ี่ได้ระดับคุณภาพต้ังแต่ 2 ขึน้ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผู้ที่ทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคุณภาพตง้ั แต่ 2 ขึ้นไป 3. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ี่ทำงานได้ระดับคุณภาพตัง้ แต่ 2 ข้นึ ไป 9. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท.

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 8 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 9 รูปสเี่ หล่ียม เวลา 24 ชว่ั โมง เร่ืองความยาวรอบรปู ของรูปสเ่ี หลยี่ ม เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระสำคัญ การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปของรปู สี่เหล่ียมอาจใช้กระบวนการแกป้ ัญหาตามขัน้ ตอน ดงั นี้ ข้ันท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ข้ันท่ี 3 ดำเนินการตามแผน ข้ันที่ 4 ตรวจสอบ 2. ตัวชว้ี ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรปู ของรปู ส่ีเหล่ียม และพื้นทขี่ อง รูปส่ีเหลยี่ มดา้ นขนานและรูปส่เี หลย่ี มขนมเปียกปูน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.บอกความหมายของรปู สีเ่ หล่ยี มได้ (K) 2.เขียนแสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลย่ี มได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ 1.ความยาวรอบรปู ของรูปส่เี หล่ยี ม 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูใหน้ กั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก นน้ั ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกับความยาวรอบรปู ของรูปส่ีเหลย่ี ม ครนู ำสถานการณ์ปญั หาในหนังสอื เรยี น หน้า 121 ให้นักเรียนรว่ มกนั พจิ ารณาแล้วใช้การถาม-ตอบประกอบการอธบิ ายตามขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา 3. ครูแนะนำใหน้ ักเรยี นวาดรูปประกอบการคิดเพื่อชว่ ยในการวางแผนแก้ปัญหา 4. ย้ำใหน้ ักเรียน ตรวจสอบความถูกต้องหรือพิจารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบทกุ ครัง้ โดยอาจใช้ เครื่องคิดเลขชว่ ยในการคำนวณ ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. จากนนั้ ให้นักเรยี นพจิ ารณาสถานการณป์ ญั หาจากตวั อยา่ งในหนังสือเรยี นหนา้ 122และเขยี นรปู คร่าวๆ ประกอบ 6. จากนน้ั ใชก้ ารซกั ถามเพอื่ นำไปสกู่ ารวางแผนแกป้ ัญหา แล้วให้นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง หรอื พิจารณาความสมเหตุของคำตอบ และรว่ มกนั ทำกิจกรรม หน้า 122 ขนั้ ตอนที่ 4 : การสรุป 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปว่า การหาความยาวรอบรปู คอื การนำความยาวของทุกๆดา้ นของรปู ส่เี หลี่ยมมารวมกัน ข้นั ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ นั ที 8. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 7.10 เป็นรายบคุ คล ชั่วโมงท่ี 2 ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูให้นักเรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จาก น้นั ให้นักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. สนทนาเกย่ี วกับความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หล่ยี มโดยให้นักเรยี นสง่ ตัวแทนออกมาวาดรูปสีเ่ หลย่ี ม แบบต่างๆ ทนี่ ักเรียนรจู้ ัก พร้อมท้งั ช่วยกันกำหนดความยาวแตล่ ะดา้ น 3. ครูแนะนำว่าความยาวรอบรปู คอื บรเิ วณขอบของรูปทั้งหมด 4. วิธีการคำนวณคือนำบรเิ วณขอบท้ังหมดมาบวกกันผลลพั ธ์ที่ได้คือความยาวรอบรูปของรปู น้นั มหี น่วย ตามท่ีโจทย์กำหนด เชน่ นำรปู ส่เี หลี่ยมต่างๆมาให้นักเรียนชว่ ยกันหา ความยาวรอบรปู ความยาวรอบรูป = 4+2+4+2 = (2+2)+(4+4) = (22)+(24)

= 2(2+4) = 26 = 12 หน่วย 5. ครยู กตวั อยา่ งโจทย์ปัญหาโดยการตดิ บัตรโจทยบ์ นกระดาน สนามหญา้ แหง่ หนงึ่ เป็นรปู สี่เหลยี่ มมุมฉาก มดี ้านกว้าง 22 เมตร ดา้ นยาว 25 เมตร สนามแห่งน้ีมีความยาวรอบสนามเทา่ ใด ขั้นตอนท่ี 3 : การฝกึ 6. นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะห์โจทยป์ ัญหา - โจทยก์ ำหนดอะไรให้บา้ ง (สนามรปู ส่เี หลีย่ มมุมฉาก มดี า้ นกว้าง 22 เมตร ดา้ นยาว 25 เมตร) - โจทยถ์ ามอะไร (หาความยาวรอบสนาม) - สนามแหง่ น้ีเปน็ รูปส่เี หล่ยี มชนิดใด เพราะเหตุใด (เปน็ รูปสีเ่ หลี่ยมผืนผา้ เพราะมีด้านตรงข้ามยาวเท่ากัน 2 คู่ ดา้ นท่ีติดกันยาวไมเ่ ท่ากัน) - วาดรปู ครา่ วๆ ได้อย่างไร 22 เมตร 25 เมตร - หาความยาวรอบรปู ได้อย่างไร (นำความยาวของด้านทกุ ด้านมาบวกกนั หรือนำความยาวของดา้ นกว้างบวกกับ ความยาวของด้านยาว แลว้ คูณดว้ ย 2) - ไดค้ ำตอบ คอื (25+22)×2= 94 เมตร 7. ครูใหน้ ักเรยี นจบั กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน จับบัตรโจทย์กลมุ่ ละ 1 ใบ จากนัน้ ร่วมกันวเิ คราะหโ์ จทย์ ปญั หาและหาคำตอบเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลี่ยม ข้ันตอนท่ี 4 : การสรุป 8. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปว่า การหาความยาวรอบรูป คือ การนำความยาวของทุกๆด้านของรูป ส่ีเหลี่ยมมารวมกัน ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที 9. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท.

การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑ์ผา่ นจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรบั ผทู้ ่ีไดร้ ะดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ข้ึนไป 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผู้ทที่ ำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตัง้ แต่ 2 ข้นึ ไป 3. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ่ที ำงานได้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ 2 ขน้ึ ไป 9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท. 3. เครื่องคดิ เลข 4. บตั รโจทย์

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 24 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 9 รปู สเ่ี หลี่ยม เวลา 3 ชว่ั โมง เรื่องโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพืน้ ท่ขี องรปู สเี่ หลี่ยมด้านขนาน 1. สาระสำคัญ การแก้โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับพื้นท่ขี องรูปสีเ่ หล่ียมดา้ นขนาน อาจใช้กระบวนการแก้ปญั หาตามข้นั ตอน ดงั น้ี ขั้นที่ 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา ข้ันท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน ข้นั ท่ี 4 ตรวจสอบ พ้นื ท่ขี องรปู สเ่ี หล่ยี มดา้ นขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน 2. ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปของรปู ส่เี หลย่ี ม และพื้นทข่ี อง รูปสีเ่ หลี่ยมด้านขนานและรปู ส่เี หลยี่ มขนมเปียกปูน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.บอกความหมายของการหาพน้ื ที่ของรปู สเี่ หลี่ยมด้านขนานได้ (K) 2.เขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลีย่ มดา้ นขนานได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ การแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกบั พื้นทข่ี องรปู สี่เหล่ยี มด้านขนาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน

7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้ันตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก นั้นให้นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ให้นกั เรยี นทบทวนความร้เู รอื่ ง การหาพื้นท่ีของรูปส่เี หล่ียมดา้ นขนาน โดยครูให้ ออกมาเขยี นสตู รการ หาพน้ื ท่บี นกระดาน ดังน้ี  พนื้ ทีร่ ูปสเ่ี หลีย่ มดา้ นขนาน = ความสงู × ความยาวฐาน 3. ครยู กตวั อยา่ งโดยติดแถบโจทยบ์ นกระดาน ลานจอดรถแห่งหน่ึงเป็นรปู ส่เี หลยี่ มด้านขนานมีความยาวฐาน 600 เมตร และความสูง 300 เมตร ลานจอดรถแห่งน้ีมีพืน้ ท่ีเทา่ ไร ขั้นตอนท่ี 3 : การฝึก 4. ให้นกั เรยี นอ่านโจทย์พรอ้ มกัน และครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดงั น้ี  โจทย์กำหนดอะไร (ลานจอดรถแหง่ หน่ึงเป็นรูปสเ่ี หลีย่ มด้านขนาน มคี วามยาวฐาน 600 เมตร และ ความสงู 300 เมตร)  โจทย์ถามอะไร (ลานจอดรถแห่งนม้ี ีพ้ืนทเ่ี ทา่ ไร)  หาคำตอบได้อย่างไร (หาพน้ื ทขี่ องลานจอดรถรูปส่ีเหลยี่ มด้านขนาน)  แสดงวธิ ที ำไดอ้ ย่างไร วิธีทำ ลานจอดรถแห่งน้ีมพี น้ื ท่ี = ความยาวของฐาน × ความสงู = 600 × 300 = 180,000 ตารางเมตร 5. ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เรื่องแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกับพน้ื ท่ีของรูปส่เี หลยี่ มดา้ นขนานในหนังสือเรยี น หน้า 123-125 ข้ันตอนท่ี 4 : การสรปุ 6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปเก่ยี วกับการแก้โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับพนื้ ทข่ี องรูปสเ่ี หลี่ยมด้านขนานตาม กระบวนการแก้ปัญหาตามขั้นตอน ดงั น้ี ขัน้ ที่ 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา ขั้นท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ขนั้ ที่ 3 ดำเนินการตามแผน ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบ

ข้นั ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ช้ทันที 7. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงที่ 2 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูให้นกั เรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลงั จาก น้ันใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ข้ันตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาว่ามสี ถานการณ์ใดบ้างท่ีนกั เรยี นจะนำความรู้เรื่องการหาพื้นที่ดา้ นขนาน ไปใชใ้ นชวี ติ จริง 3. ครูยกตัวอย่างโดยติดแถบโจทย์บนกระดาน สนามหน้าบา้ นเป็นรูปสเี่ หลี่ยมดา้ นขนานท่ีมคี วามสงู 5 เมตร ความยาวฐาน 7.2 เมตร ตอ้ งการปูหญา้ ให้เต็มสนามโดยหญ้า 1 แผน่ มีความสงู 1.5 เมตร ความยาวฐาน 2 เมตร ชาวสวนจะตอ้ งใชห้ ญ้าท้งั หมดกแ่ี ผน่ ข้นั ตอนที่ 3 : การฝกึ 4. ใหน้ ักเรยี นอ่านโจทย์พร้อมกัน และครูถามคำถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรยี น ดงั นี้  โจทย์กำหนดอะไร (สนามหน้าบ้านเป็นรปู สี่เหล่ียมด้านขนานที่มคี วามสูง 5 เมตร ความยาวฐาน 7.2 เมตร ต้องการปูหญ้าให้เต็มสนามโดยหญ้า 1 แผน่ มีความสูง 1.5 เมตร ความยาวฐาน 2 เมตร)  โจทย์ถามอะไร (จะตอ้ งใช้หญา้ ท้งั หมดกี่แผน่ )  หาคำตอบได้อย่างไร (หาพนื้ ทขี่ องสนาม แล้วนำมาหารดว้ ยพ้ืนท่ีของหญ้าจะรจู้ ำนวนแผน่ หญา้ ที่ ต้องใช้)  แสดงวิธที ำอย่างไร = 5  7.2 วิธีทำ พืน้ ท่สี นามหญ้า = 36 ตารางเมตร พน้ื ท่หี ญา้ แผน่ = 1.5  2 = 3 ตารางเมตร จะตอ้ งใชห้ ญ้าทัง้ หมด = 36 = 12 แผ่น 3 ตอบ จะต้องใช้หญ้าทัง้ หมด ๑๒ แผ่น 5. จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันทำกิจกรรมในหนังสือเรียนหน้า 125 แล้วทำแบบฝึกหัด 7.11 เป็น รายบคุ คล

ข้นั ตอนท่ี 4 : การสรปุ 6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกับการแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพื้นทขี่ องรูปสีเ่ หลี่ยมด้านขนานตาม กระบวนการแก้ปญั หาตามข้ันตอน ดงั นี้ ขั้นท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปญั หา ขัน้ ที่ 3 ดำเนินการตามแผน ข้ันที่ 4 ตรวจสอบ พนื้ ที่ของรปู ส่เี หล่ยี มดา้ นขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน ขัน้ ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใช้ทนั ที 7. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงท่ี 3 ขัน้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก นัน้ ให้นกั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ใหน้ กั เรยี นเล่นเกม ไหนฐานไหนสูง โดยครตู ดิ บัตรภาพรูปสเ่ี หลย่ี มด้านขนานหลายๆภาพ จากน้นั ให้ นักเรยี นบอกวา่ ความยาวของฐาน และความสูง อยู่ทเ่ี สน้ ใดบนภาพ 3. ครยู กตัวอย่างโดยตดิ แถบโจทย์บนกระดาน 1. นวิ ใชเ้ ชือกท้งั หมด 30 เมตร ขงึ รอบบรเิ วณเพ่ือทำสวนหย่อมรูปสเี่ หลีย่ ม ด้านขนาน โดยให้ดา้ นท่ีอยูต่ รงขา้ มกันคู่หนงึ่ ยาว 6 เมตร และด้านอีกคู่หนง่ึ หา่ ง กนั 5 เมตร สวนหย่อมน้ีมีพ้ืนที่เทา่ ใด ขั้นตอนที่ 3 : การฝกึ 4. ให้นักเรยี นอา่ นโจทย์พร้อมกัน และครูถามคำถามกระตุน้ ความคดิ ของนักเรยี น ดังน้ี  โจทยก์ ำหนดอะไร (นิวใชเ้ ชือกทั้งหมด 30 เมตร ขงึ รอบบริเวณเพื่อทำสวนหยอ่ มรูปสเ่ี หล่ียมดา้ น ขนาน โดยใหด้ า้ นทีอ่ ย่ตู รงข้ามกันคหู่ น่ึงยาว 6 เมตร และดา้ นอกี คู่หนง่ึ ห่างกัน 5 เมตร)  โจทย์ถามอะไร (สวนหย่อมนี้มีพ้ืนที่เท่าใด)  หาคำตอบได้อย่างไร (วาดรปู คร่าวๆ เพอื่ หาด้านอกี ด้านหนง่ึ ท่เี ปน็ ความยาวฐาน) 6 เมตร 5 เมตร 6 เมตร ? เมตร

 แสดงวธิ ที ำอย่างไร 30 เมตร วธิ ที ำ นิวใชเ้ ชอื กทั้งหมด ขึงรอบบริเวณเพื่อทำสวนหย่อมรูปสีเ่ หลย่ี มด้านขนาน ใหด้ า้ นท่อี ยู่ตรงขา้ มกันคู่หน่ึงยาว 6 เมตร ดงั นั้นความยาวรอบรปู ทุกด้านตอ้ งรวมกัน ได้ 30 เมตร จะได้ความยาวดา้ นทเ่ี หลือ 30-12 = 18 เมตร ความยาวฐานด้านละ 18  2 = 9 เมตร และด้านอกี คหู่ น่ึงหา่ งกัน 5 เมตร ตามรปู ที่วาดคือความสงู 5 เมตร สวนหย่อมนี้มพี ื้นที่ = ความยาวฐาน × ความสูง = 9×5 = 45 ตารางเมตร 5. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรทู้ ี่ได้ ใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื หน้า 126 เป็น รายบุคคล ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเก่ียวกับการแกโ้ จทยป์ ญั หาเกีย่ วกับพน้ื ทีข่ องรปู สเี่ หลี่ยมด้านขนานตาม กระบวนการแก้ปัญหาตามขน้ั ตอนจะทำให้แก้โจทย์ปัญหาไดถ้ ูกต้องและรวดเร็วข้นึ ดงั นี้ ขั้นที่ 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา ขั้นท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ขัน้ ท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน ข้นั ท่ี 4 ตรวจสอบ พืน้ ที่ของรูปสี่เหล่ยี มด้านขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน ขัน้ ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที 7. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมินผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน 2. สังเกตการทำงาน 3. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรับผูท้ ี่ไดร้ ะดับคุณภาพต้ังแต่ 2 ขึน้ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผู้ทท่ี ำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตัง้ แต่ 2 ข้ึนไป 3. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ที่ ำงานได้ระดับคุณภาพตัง้ แต่ 2 ขน้ึ ไป

9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 3. แถบโจทย์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 24 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 9 รูปสเี่ หลีย่ ม เวลา 4 ช่ัวโมง เร่ืองโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั พื้นท่ีของรปู สเี่ หล่ียมขนมเปียกปนู 1. สาระสำคัญ การแก้โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับพื้นทีข่ องรปู สเ่ี หลย่ี มขนมเปยี กปูน อาจใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาตามข้นั ตอน ดงั นี้ ขน้ั ที่ 1 ทำความเข้าใจปญั หา ขนั้ ที่ 2 วางแผนแก้ปญั หา ข้ันท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน ขนั้ ท่ี 4 ตรวจสอบ พ้ืนทข่ี องรูปส่ีเหล่ียมขนมเปียกปนู = ความยาวฐาน × ความสูง 2. ตวั ช้ีวัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับความยาวรอบรูปของรปู ส่ีเหลย่ี ม และพื้นท่ขี อง รูปสเี่ หลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหล่ยี มขนมเปยี กปนู 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.ความหมายของการหาพ้นื ท่ีของรูปสีเ่ หลยี่ มขนมเปียกปูนได้ (K) 2.เขียนแสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับการหาพน้ื ทีข่ องรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปยี กปนู ได้ (P) 3.ประดิษฐเ์ สน้ ดา้ ยแสดงความยาวรอบรูป (P) 4.มีเห็นคณุ ค่าของรูปสเี่ หล่ียม (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1.การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกับพนื้ ทขี่ องรูปส่ีเหล่ียมขนมเปียกปนู 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งม่นั ในการทำงาน

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ กั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลงั จาก นน้ั ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ใหน้ ักเรียนทบทวนความรู้เดมิ เกีย่ วกบั รปู สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนว่ามีลักษณะและเส้นทแยงมมุ เป็น อยา่ งไร (ดา้ นทุกด้านยาวเทา่ กัน มุมตรงข้ามมีขนาดเท่ากัน เส้นทแยงมุมยาวไมเ่ ท่ากนั แต่แบ่งครึง่ ซ่งึ กนั และกัน เส้นทแยงมมุ ตัดกนั เป็นมมุ ฉาก) 3. ครูยกตัวอยา่ งโดยติดแถบโจทยบ์ นกระดาน แผ่นกระเบื้องปพู ้ืนรูปสีเ่ หล่ียมขนมเปยี กปนู ยาวด้านละ 0.3 เมตร ด้านตรงข้าม ห่างกัน 0.25 เมตร จำนวน 200 แผน่ จะใช้ปูพืน้ ทไี่ ด้มากที่สดุ ก่ีตารางเมตร 4. ให้นกั เรยี นอ่านโจทย์พรอ้ มกนั และครูถามคำถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรยี น ดังน้ี  โจทย์กำหนดอะไร (แผ่นกระเบอ้ื งปูพ้ืนรปู ส่ีเหล่ียมขนมเปียกปูนยาวดา้ นละ 0.3 เมตร ดา้ นตรง ข้ามหา่ งกนั 0.25 เมตร จำนวน 200 แผ่น)  โจทย์ถามอะไร (จะใชป้ ูพ้ืนที่ไดม้ ากท่สี ุดก่ตี ารางเมตร)  หาคำตอบไดอ้ ย่างไร (วาดรปู คร่าวๆ) 0.3 เมตร 0.25 เมตร 0.3 เมตร  แสดงวธิ ที ำอย่างไร วธิ ีทำ แผน่ กระเบื้องปูพน้ื รูปสีเ่ หล่ยี มขนมเปยี กปูนยาวดา้ นละ 0.3 เมตร ดา้ นตรงขา้ มห่างกัน 0.25 เมตร แผน่ กระเบ้ืองปูพ้นื แต่ละแผ่นมพี น้ื ท่ี = ความยาวฐาน × ความสงู = 0.3 × 0.25 แผน่ กระเบื้องปูพื้นแต่ละแผน่ มพี น้ื ท่ี = 0.075 ตารางเมตร จำนวน 200 แผ่น จะใช้ปพู ืน้ ท่ีได้มากท่ีสุด = 0.075×200 = 15 ตารางเมตร

ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. นกั เรียนจบั คูก่ ับเพือ่ น ครูแจกแถบโจทย์ปัญหาให้คนละ 1 แถบ แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันวเิ คราะห์ โจทย์ แสดงวธิ ีหาคำตอบลงในกระดาษเปล่า 6. ครูเลือกผแู้ ทนกลุม่ ออกมานำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น นกั เรยี นกลมุ่ อ่นื ๆ รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง ครเู สนอแนะเพิ่มเติม ข้นั ตอนท่ี 4 : การสรุป 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกับการแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพื้นทข่ี องรปู สเ่ี หล่ียมขนมเปยี กปูนตาม กระบวนการแกป้ ญั หาตามข้ันตอนจะทำใหแ้ ก้โจทยป์ ญั หาได้ถกู ต้องและรวดเรว็ ข้ึน ดังน้ี ขน้ั ท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา ขนั้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบ พืน้ ทข่ี องรปู สี่เหลยี่ มขนมเปียกปูน = ความยาวฐาน × ความสงู ขัน้ ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 8. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงที่ 2 ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูใหน้ กั เรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก นัน้ ใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ข้นั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครนู ำสถานการณ์ปัญหาในหนังสือเรียนหน้า 127-128 ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันพจิ ารณา และเพอ่ื ช่วยให้ การทำความเขา้ ใจปัญหา และการวางแผนแกป้ ัญหาไดง้ ่ายย่ิงข้นึ 3. ครเู น้นยำ้ เก่ยี วกบั การตีความหมายของคำหรอื ข้อความที่ใชใ้ นโจทยป์ ัญหา และเขียนรปู คร่าว ๆ ประกอบการคิด 4.จากนัน้ ครใู ชก้ ารถาม-ตอบ ประกอบการอธิบายตามขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝึก 5.ครูใช้การถาม-ตอบประกอบการอธิบายเก่ียวกบั ความสัมพนั ธร์ ะหว่างความยาวรอบรูปกบั ความยาวของ ดา้ นของรูปสีเ่ หลย่ี มขนมเปยี กปูน ความสมั พันธ์ระหว่างพ้ืนทขี่ องรปู สี่เหล่ยี มขนมเปียกปนู กบั ความสูงและความ ยาวของฐานเพือ่ นำไปใช้ในการแกโ้ จทยป์ ัญหา ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรุป 6. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เกย่ี วกบั การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพ้นื ที่ของรูปส่เี หล่ยี มขนมเปียกปนู ตาม กระบวนการแก้ปญั หาตามข้นั ตอนจะทำใหแ้ กโ้ จทยป์ ญั หาไดถ้ กู ต้องและรวดเรว็ ข้ึน ดังน้ี ข้ันท่ี 1 ทำความเข้าใจปญั หา ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา

ข้นั ท่ี 3 ดำเนินการตามแผน ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบ พืน้ ที่ของรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปียกปนู = ความยาวฐาน × ความสงู ขั้นตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ ันที 8. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี 3 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรยี นท่องสตู รคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จาก น้ันใหน้ ักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2.ใหน้ กั เรยี นทบทวนความรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั การหาพนื้ ท่ขี องรปู สี่เหล่ยี ม โดยครูตดิ แถบโจทย์ ปัญหาอย่างง่ายบนกระดาน แล้วให้นักเรยี นชว่ ยกันวิเคราะหโ์ จทยแ์ ละสรุปคำตอบ 3. ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ปัญหาจากตัวอยา่ งในหนงั สือเรยี นหน้า 129 และเขยี นรูปครา่ ว ๆ ประกอบ 4.จากนนั้ ใชก้ ารซักถามเพ่ือนำไปส่กู ารวางแผนแกป้ ญั หา 5. ให้นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง หรือพิจารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบ ข้นั ตอนที่ 3 : การฝึก 6. รว่ มกันทำกจิ กรรมในหนังสือเรียนหน้า 129 แล้วทำแบบฝึกหัด 7.12 เปน็ รายบุคคล 7. เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรู้ที่ได้ ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียนหน้า 130 เป็น รายบุคคล 8. เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรทู้ ี่ได้ ใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมในหนังสือเรียนหนา้ 130 เป็น รายบคุ คล ข้นั ตอนท่ี 4 : การสรุป 9. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปเกีย่ วกับการแกโ้ จทย์ปัญหาเกีย่ วกับพ้นื ทีข่ องรปู สี่เหลยี่ มขนมเปยี กปูนตาม กระบวนการแก้ปัญหาตามขั้นตอนจะทำให้แก้โจทย์ปญั หาได้ถกู ต้องและรวดเรว็ ขึ้น ดงั นี้ ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจปัญหา ขนั้ ที่ 2 วางแผนแก้ปญั หา ข้ันท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน ขั้นที่ 4 ตรวจสอบ พน้ื ที่ของรปู สเี่ หลย่ี มขนมเปยี กปนู = ความยาวฐาน × ความสงู ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใช้ทนั ที 10. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท.

ชั่วโมงท่ี 4 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครใู หน้ กั เรียนท่องสตู รคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจาก นั้นให้นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. รว่ มคิดรว่ มทำเปน็ กจิ กรรมกลุ่มท่ีมงุ่ ให้นักเรียน นำความรูเ้ กย่ี วกบั ความยาวรอบรูปและพ้นื ท่ขี องรูป สีเ่ หลีย่ ม ด้านขนานและรปู ส่ีเหลีย่ มขนมเปยี กปูน และเรื่องอืน่ ๆ ท่ีเรียนมาแล้ว ไปใช้ในการแก้ปัญหาผา่ น กจิ กรรม ขั้นตอนท่ี 3 : การฝึก 3. ครอู าจแบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน ช่วยกันปฏิบตั กิ จิ กรรมแล้วนำเสนอผลงาน 4. ครแู ละเพ่ือนในชัน้ ร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ ในประเดน็ ตา่ ง ๆ เชน่ - รปู สเ่ี หลย่ี มด้านขนานทม่ี ีความยาวของฐาน และความสูงเปน็ จำนวนนับ และมีพ้นื ที่ 12 ตารางเซนติเมตร มีก่ี แบบ อะไรบา้ ง - รปู สีเ่ หล่ียมดา้ นขนานที่มีพื้นที่ 12 ตารางเซนติเมตร ความยาวรอบรปู จะเทา่ กนั หรือไม่ - รปู สี่เหล่ยี มด้านขนานทมี่ คี วามยาวรอบรูปเทา่ กัน จะมพี ื้นที่เท่ากนั หรือไม่ - สามารถสรา้ งรูปสีเ่ หล่ยี มขนมเปยี กปนู ทม่ี ีพ้ืนท่ี 12 ตารางเซนตเิ มตร ได้หรอื ไม่อยา่ งไร ขั้นตอนที่ 4 : การสรุป 5. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับการแกโ้ จทย์ปัญหาเกี่ยวกับพืน้ ที่ของรูปสี่เหลยี่ มขนมเปียกปูนตาม กระบวนการแกป้ ัญหาตามข้นั ตอนจะทำใหแ้ กโ้ จทยป์ ัญหาไดถ้ ูกต้องและรวดเรว็ ขึน้ ดังน้ี ขนั้ ที่ 1 ทำความเข้าใจปญั หา ข้นั ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ข้นั ที่ 3 ดำเนนิ การตามแผน ขน้ั ท่ี 4 ตรวจสอบ พื้นที่ของรูปส่ีเหล่ียมขนมเปยี กปูน = ความยาวฐาน × ความสูง ขั้นตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 6. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น 8. การวัดและประเมนิ ผล การวัดผล 1. สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท.

การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรับผทู้ ่ีไดร้ ะดับคณุ ภาพต้ังแต่ 2 ข้ึนไป 2. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรับผู้ท่ีทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคณุ ภาพตง้ั แต่ 2 ขึ้นไป 3. ถือเกณฑ์ผ่านสำหรับผ้ทู ที่ ำงานได้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ 2 ข้นึ ไป 9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 3. แถบโจทย์

ภาคผนวก -รปู ดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ฯ

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดร์ิ าษฎร์บำรุง) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 9 เร่ืองรปู สเี่ หลีย่ ม เวลาทีใ่ ช้ 24 ชวั่ โมง รหัสวิชา ค15101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ครูผูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มีความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสดุ ทสี่ ุด 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถึง น้อยท่ีสุด ข้อ รายการประเมิน ระดับคะแนน ที่ 54321 1 ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรนู้ ่าสนใจ กะทัดรดั ชดั เจน ครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มคี วามเชอ่ื มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชือ่ มโยงสมั พนั ธก์ นั ระหวา่ งชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้และสาระการเรียนรู้ 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลุมในการพฒั นาผเู้ รยี นให้มคี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคัญของผเู้ รียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผ้เู รียนไปสกู่ ารสร้างชนิ้ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ัด/กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผเู้ รยี นตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั /ผล การเรยี นรู้ 11 สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยกุ ต์ใชไ้ ดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบตั จิ รงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................................ ....................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................................. (นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวิเศษ) ผ้ปู ระเมนิ

พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 9 เร่ืองรปู สเี่ หลีย่ ม เวลาท่ใี ช้ 24 ชวั่ โมง รหัสวชิ า ค15101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ท่ีสดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถงึ น้อยทส่ี ดุ ข้อ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ที่ 54321 1 ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรนู้ า่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลมุ เน้ือหาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคม์ คี วามเช่ือมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพนั ธ์กนั ระหว่างชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรูแ้ ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผูเ้ รยี นให้มคี วามรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รียนไปส่กู ารสรา้ งช้ินงาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะท้อนคุณภาพผู้เรยี นตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผล การเรยี นรู้ 11 ส่ือการเรียนรู้ในแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใช้ไดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ รงิ ได้ ข้อเสนอแนะ .............................................................................................. .................................................................................................... ............................................................................................................................................ ....................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผูป้ ระเมนิ

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) แบบประเมินหน่วยการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 9 เร่ืองรูปสเี่ หลี่ยม เวลาทใ่ี ช้ 24 ชั่วโมง รหัสวิชา ค15101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ครูผูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มีความสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสดุ ทีส่ ุด 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถึง นอ้ ยทีส่ ุด ข้อ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ชอ่ื หน่วยการเรยี นรนู้ ่าสนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลุมเนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้/สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์มคี วามเชอื่ มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชือ่ มโยงสมั พนั ธก์ ันระหวา่ งชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรแู้ ละกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้และสาระการเรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ คี วามครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีความรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รียน และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามเหมาะสมสามารถนำผเู้ รยี นไปสกู่ ารสร้างช้นิ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด/กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมนิ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั /ผล การเรยี นรู้ 11 สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกบั เวลาและการนำไปประยกุ ต์ใช้ได้จริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏิบตั จิ ริงได้ ขอ้ เสนอแนะ ................................................................................................................................................................ .................................. ............................................................................................... .................................................................................................... ............................................................. ............................................................................................... ..................................... ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ผปู้ ระเมิน

พ.น./วก. 03 โรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) สรุปผลการประเมินหนว่ ยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 9 เรื่องรปู ส่ีเหลย่ี ม เวลาทีใ่ ช้ 24 ชั่วโมง รหสั วิชา ค15101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมินหนว่ ยการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นแบบมาตราส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) จำนวน 12 ขอ้ มีระดบั การประเมิน 5 ระดับ คือ 5 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มากท่ีสุด 4 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม น้อย 1 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม น้อยท่ีสดุ ซง่ึ ถอื เกณฑ์ในการแปลความหมายของค่าเฉลี่ย ดงั น้ี 4.50 – 5.00 หมายความว่า มีความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม มากที่สุด 3.50 – 4.49 หมายความวา่ มีความสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความว่า มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความว่า มีความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม น้อย 1.00 – 1.49 หมายความวา่ มคี วามสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม นอ้ ยท่ีสดุ คะแนนของผปู้ ระเมนิ ค่า การแปล ข้อท่ี รายการประเมิน คนท่ี คนที่ คนที่ เฉล่ยี ความหมาย 123 1 ช่ือหน่วยการเรียนรูน้ า่ สนใจ กะทดั รดั ชดั เจน ครอบคลมุ เนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นร้/ู สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์มีความเชื่อมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเชื่อมโยงสัมพันธก์ ันระหวา่ งชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด /ผลการเรยี นรูส้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละ กิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ และสาระการเรยี นรู้

-2- ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนนของผู้ประเมิน ค่า การแปล คนท่ี คนที่ คนที่ เฉลี่ย ความหมาย 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผู้เรยี นให้มีความรทู้ กั ษะ/ 123 กระบวนการ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรียนไปสู่การสรา้ งช้นิ งาน/ ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมนิ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพผูเ้ รียนตาม มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ 11 สอื่ การเรียนร้ใู นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไป ประยุกต์ใชไ้ ด้จรงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ รงิ ได้ ภาพรวม สรปุ ผลการประเมิน  ผา่ น (ความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสมตง้ั แต่ระดับปานกลางขน้ึ ไป)  ผา่ น (ความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสมต่ำกว่าระดบั ปานกลาง) ลงชื่อ.......................................... (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชื่อ.......................................... ลงชือ่ .......................................... (นางสาวสุวดี กาญจนาภา) (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 9 เรื่องรูปส่เี หล่ยี ม เวลาทใ่ี ช้ 24 ช่วั โมง รหสั วิชา ค15101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ดมี าก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ พอใช้ 1 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรงุ ข้อที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรียนรสู้ อดคล้องสัมพันธ์กับหนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่กำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้มอี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ นสมั พันธ์กัน 3 การเขียนสาระสำคญั ในแผนถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรียนร้มู คี วามชัดเจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กิจกรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์และเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละระดบั ชัน้ ของนกั เรยี น 8 กิจกรรมการเรียนรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิได้จริง 9 กิจกรรมการเรียนรเู้ ป็นกิจกรรมทส่ี ่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรียน 10 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มท่ดี ีงาม 11 กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ น้นให้ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในชัน้ เรยี น 12 วสั ดุอุปกรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยีมคี วามหลากหลาย 13 วสั ดอุ ปุ กรณ์ ส่ือ และแหลง่ เรยี นร้เู หมาะสมกับเนอ้ื หาสาระ 14 ส่งเสริมใหผ้ ้เู รียนค้นคว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ 15 มกี ารวัดและประเมนิ ผลทส่ี อดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

-2- ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ............................................................................................ ........... ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. ดา้ นกิจกรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ .......................................................................................................................... ..................................................................... ................................................................................................................................................... ............................................ ...................................................................................... ......................................................................................................... ด้านการวัดและประเมินผล............................................................................................................................. ......... ............................................................................................................................. .................................................................. .................................................................................................................................................................................. ............. ..................................................................................................................... .......................................................................... ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชอ่ื )..................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวเิ ศษ) ............./.................../............. ส่งิ ท่ไี ดด้ ำเนินการแกไ้ ข ............................................................................................................................. .................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. .... .............................................................................................................................. ................................................................. (ลงช่อื )..................................................ผู้สอน (นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 04 โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 9 เร่ืองรูปส่เี หลี่ยม เวลาทีใ่ ช้ 24 ช่ัวโมง รหสั วิชา ค15101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ ดมี าก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรงุ ข้อที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคล้องสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่กำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสำคัญครบถ้วนสมั พันธ์กัน 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรยี นรมู้ คี วามชัดเจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกับจดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และระดับชั้นของนกั เรยี น 8 กิจกรรมการเรียนรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏิบตั ิได้จริง 9 กิจกรรมการเรียนรเู้ ป็นกิจกรรมทสี่ ่งเสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นิยมท่ดี ีงาม 11 กจิ กรรมการเรียนรูเ้ น้นใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นร่วมในช้นั เรียน 12 วสั ดุอุปกรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดอุ ปุ กรณ์ ส่ือ และแหลง่ เรียนรเู้ หมาะสมกบั เนอื้ หาสาระ 14 สง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหล่งเรยี นร้ตู ่างๆ 15 มกี ารวัดและประเมนิ ผลทสี่ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเน้ือหาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ....................................... ............................................................................................ ................................................................................................... ดา้ นกจิ กรรมการเรยี นการสอน......................................................................................................................... ....... .......................................................................................................................... ..................................................................... .......................................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นการวดั และประเมนิ ผล...................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................. .................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ดา้ นอ่นื ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ....................................................................... ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงชอื่ )..................................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา)) ............./.................../............. สิง่ ท่ไี ดด้ ำเนินการแกไ้ ข ...................................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... ..................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................ (ลงชอื่ )..................................................ผสู้ อน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 9 เร่ืองรูปส่ีเหล่ียม เวลาทใ่ี ช้ 24 ช่วั โมง รหสั วิชา ค15101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ดีมาก 4 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปรบั ปรงุ ข้อที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรียนรสู้ อดคล้องสมั พนั ธก์ ับหนว่ ยการเรียนรูท้ ี่กำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้มอี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถ้วนสมั พนั ธ์กัน 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกตอ้ ง 4 จุดประสงค์การเรยี นรมู้ คี วามชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์และระดบั ชัน้ ของนกั เรยี น 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏิบตั ิได้จริง 9 กิจกรรมการเรียนรเู้ ป็นกิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มท่ดี ีงาม 11 กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ น้นใหผ้ ู้เรียนมสี ่วนร่วมในชนั้ เรียน 12 วสั ดอุ ุปกรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยีมีความหลากหลาย 13 วสั ดุอปุ กรณ์ ส่ือ และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกับเนอ้ื หาสาระ 14 สง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นคน้ ควา้ หาความรู้ จากแหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ 15 มกี ารวัดและประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ด้านเนือ้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกิจกรรมการเรียนการสอน......................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................ .................................................................................. ..... ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นการวัดและประเมินผล...................................................................................................................................... ....................................................................... .................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ด้านอนื่ ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. .................................................................................................. .................................................................................. ........... ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงช่ือ)..................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถิ) ............./.................../............. สงิ่ ท่ีได้ดำเนินการแกไ้ ข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................... ................................ (ลงช่ือ)..................................................ผูส้ อน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 05 โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) สรปุ ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 เรื่องรูปสเ่ี หล่ียม เวลาท่ใี ช้ 24 ชัว่ โมง รหสั วิชา ค15101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั นอ้ ย 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั น้อยมาก ซ่งึ ถือเกณฑ์ในการแปลความหมายของค่าเฉลีย่ ดังนี้ (ธานินทร์ ศลิ ปะจารุ. 2555:112) 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดีมาก 3.50 – 4.49 หมายถงึ หมายความวา่ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดี 2.50 – 3.49 หมายถึง หมายความว่า มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถึง หมายความว่า มีความเหมาะสมในระดับ น้อย 1.00 – 1.49 หมายถึง หมายความว่า มคี วามเหมาะสมในระดับ น้อยมาก ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนนของผู้ประเมนิ คา่ การแปล คนท่ี 1 คนที่2 คนท่ี 3 เฉลย่ี ความหมาย 1 แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคลอ้ งสมั พนั ธ์กับหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ีกำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นร้มู อี งคป์ ระกอบสำคัญครบถว้ นสมั พนั ธ์กนั 3 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถกู ต้อง 4 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรมู้ คี วามชัดเจนครอบคลมุ เน้อื หาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละระดบั ช้ันของนักเรยี น 8 กิจกรรมการเรียนรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ 9 กิจกรรมการเรยี นรเู้ ปน็ กิจกรรมทสี่ ง่ เสริมกระบวนการคดิ ของนักเรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งแทรกคณุ ธรรมและคา่ นิยมทดี่ งี าม 11 กิจกรรมการเรียนรเู้ นน้ ใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในชัน้ เรยี น 12 วัสดอุ ปุ กรณ์ ส่อื นวตั กรรมและเทคโนโลยมี คี วามหลากหลาย 13 วัสดุอุปกรณ์ สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้เหมาะสมกับเน้ือหาสาระ 14 ส่งเสริมให้ผเู้ รยี นค้นคว้าหาความรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆ 15 มกี ารวดั และประเมินผลท่ีสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-2- ขอ้ เสนอแนะ ดา้ นเนื้อหาสาระ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................. .............................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกิจกรรมการเรยี นการสอน.............................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................. .................................................. ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล..................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............... สรุปผลการประเมิน  ผา่ น (มีความเหมาะสมตง้ั แตร่ ะดับปานกลางขึน้ ไป)  ไม่ผ่าน (ความเหมาะสมตำ่ กว่าระดับปานกลาง) ลงชือ่ .......................................... (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชอื่ .......................................... ลงชื่อ.......................................... (นางสาวสวุ ดีกาญจนาภา) (นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook