Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.5

Published by moopraew54, 2021-07-19 02:26:41

Description: เรื่อง รูปสี่เหลี่ยม

Search

Read the Text Version

บนั ทึกขอ้ ความ สว่ นราชการ โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรุง) ท…่ี …………………วันท่ี ………… เดอื น …………………….. พ.ศ.๒๕๖๓ เรอื่ ง ขออนญุ าตใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์ บำรงุ ) ไดร้ บั มอบหมายให้ปฏิบตั ิหน้าท่ีการสอน รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค๑๕๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ ตามหลักการพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสาร หนว่ ยการเรยี นท่ี ๙ ช่ือหน่วย รปู ส่ีเหลย่ี ม เวลาเรียน ๒๔ ช่วั โมง มาพรอ้ มกบั เอกสารน้ี จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ ลงชอื่ (นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา) ตำแหนง่ ครู ลงช่อื (นางสาวแพรวรงุ่ ศรปี ระภา) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ความเหน็ ผู้อำนวยการโรงเรียน อนญุ าต ไม่อนุญาต เพราะ .................................................................................... .......................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ( นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถิ ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรงุ ) ............./................../.............

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๙ เรอื่ ง รูปสเี่ หล่ียม ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั ค๑๕๑๐๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา โรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑ สำนักานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ึ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง ศึกษาฝึกทักษะการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การบวก การลบ การคูณ และการหารของ โจทย์ปัญหาจำนวนนับและ 0 เปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก การลบ การคูณ การหาร การ บวก ลบ คูณ หารระคน และการแก้โจทย์ปัญหาของเศษส่วนและจำนวนคละ ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วน และทศนยิ ม ค่าประมาณของทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำแหน่งทเ่ี ปน็ จำนวนเต็ม ทศนิยม 1 ตำแหนง่ และ 2 ตำแหน่ง การใช้เครื่องหมาย ≈ การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม การประมาณผลลัพธ์ การแก้โจทย์ปัญหา เกี่ยวกับทศนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาว เซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตร กับเมตร โดยใช้ความรู้เรื่องทศนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยน้ำหนัก กิโลกรัมกับกรัมโดยใช้ความรู้เรื่อง ทศนิยม การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั ความยาวและนำ้ หนักโดยใช้ความรู้เรื่องการเปลยี่ นหนว่ ยและทศนิยม การ แก้โจทย์ปญั หาโดยใช้บญั ญตั ิไตรยางศ์ การอา่ นและการเขียนร้อยละหรือเปอร์เซน็ ต์ การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ การหาปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความสัมพันธ์ระหว่าง มิลลิลติ ร ลติ ร ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร และลกู บาศกเ์ มตร การแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับปริมาตรของทรงสีเ่ หลี่ยมมุม ฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก เส้นตั้งฉากและสัญลักษณ์แสดงการตั้งฉาก เส้นขนานและ สัญลักษณ์แสดงการขนาน การสร้างเส้นขนาน มุมแย้ง มุมภายในและมุมภายนอกที่อยู่บนข้างเดียวกันของ เส้นตัดขวาง (Transversal) ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยม การสร้างรูปสี่เหลี่ยม ความยาวรอบรูปของรูป สี่เหล่ียม พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และการแก้โจทย์ปัญหา ลักษณะและ สว่ นต่าง ๆ ของปรซิ มึ การอา่ นและการเขยี นแผนภูมิแท่ง การอา่ นกราฟเสน้ โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลายแก้ปัญหา ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่าง เหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสม เชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ในคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์ กับศาสตร์อ่ื นๆ มี ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อใหค้ ณุ คา่ และมเี จตคติท่ีดตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มี ความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ เชื่อมั่นในตนเอง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มั่นในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และ มจี ิตสาธารณะ รหสั ตัวชวี้ ัด ค ๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ป.๕/5 ป.๕/6 ป.๕/7 ป.๕/8 ป.๕/9 ค 2.1 ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ค 2.2 ป.๕/๑ ป.๕/2 ป.๕/3 ป.๕/4 ค 3.1 ป.๕/๑ ป.๕/2 รวมทั้งหมด ๑๙ ตวั ชี้วัด

ตารางวิเคราะห์หลักสูตร/ออ รหัส ค๑๕๑๐๑ วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถ ครูผสู้ อน นางสาวแพร หนว่ ยท่ี มฐ ตวั ชี้วดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สา หน่วยท่ี ๙ ค ป.5/2 จำแนกรปู สเ่ี หล่ยี ม ๑.บอกลกั ษณะของรูป ๑.ชน รูปสี่เหลยี่ ม ๒.๒ โดยพจิ ารณาจากสมบัตขิ องรูป สเ่ี หล่ยี มต่างๆได้ (K) ของร ๒.จำแนกรปู ส่ีเหลยี่ มโดย พจิ ารณาจากสมบตั ิของรูป สีเ่ หลีย่ มได้ (P) ๑.บอกลกั ษณะของรูป ๑.ชน ของร ส่เี หล่ียมตา่ งๆได้ (K) สมบ ๒.เขยี นจำแนกรูปส่ีเหล่ียม ส่เี หล โดยพจิ ารณาจากสมบตั ิของ ทแย รูปสเี่ หลี่ยมได้ (P) ป.5/3 สร้างรูปสเ่ี หลย่ี มชนดิ ๑.บอกลักษณะและสมบัติ ๑.กา ตา่ ง ๆ เมอ่ื กำหนดความยาว ของรูปสีเ่ หลี่ยมต่างๆได้ (K) สเ่ี หล ของด้าน และขนาดของมุม ๒.สรา้ งรปู สเ่ี หลีย่ มเม่อื หรือเมอื่ กำหนดความยาวของ กำหนดความยาวของด้าน เสน้ ทแยงมุม และขนาดของมุมได้ (P) ๑.บอกลักษณะและสมบตั ิ ๑.กา ของรูปสีเ่ หลี่ยมตา่ งๆจาก สี่เหล เสน้ ทแยงมุมได้ (K)

อกแบบหน่วยการเรียนรู้ ถมศึกษาปีท่ี ๕ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รวรุ่ง ศรีประภา าระการเรยี นรู้ กระบวนการ ช้นิ งาน ส่ือการสอน วัดผล/ เวลา /ภาระงาน - ประเมิน เรียน นิดและสมบตั ิ อธิบาย - ๑.ทดสอบ ๓ รปู สเี่ หล่ยี ม ก่อนเรียน ๒.ตรวจ แบบฝึกหดั นดิ และสมบัติ - ๑.โพรแทรกเตอร์ ๑.ตรวจ ๒ รปู สเ่ี หลยี่ ม แบบฝึกหดั บตั ขิ องรูป ล่ยี มเก่ยี วกบั เสน้ - ๑.โพรแทรกเตอร์ ๑.ตรวจ ๓ ยงมมุ แบบฝกึ หดั ารสร้างรปู ล่ยี ม ารสร้างรปู - - ๑.ตรวจ ๒ ล่ียม แบบฝึกหัด

หนว่ ยท่ี มฐ ตัวชวี้ ดั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สา ค ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของ ๒.เขียนสรา้ งรูปสเี่ หล่ียม ๒.๑ โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาว ตามความยาวของเส้น รอบรูปของรปู สีเ่ หลี่ยม และ พื้นท่ีของรูปส่เี หล่ยี มดา้ นขนาน ทแยงมุมได้ (P) และรปู สี่เหลีย่ มขนมเปยี กปนู ๑.บอกการหาพน้ื ท่ีของรปู ๑.หา สี่เหลย่ี มดา้ นขนานและ สเ่ี หล บอกสูตรได้ (K) ๒.เขยี นวิธหี าพ้ืนทีข่ องรูป สเ่ี หลย่ี มด้านขนานได้ (P) ๑.บอกการหาพื้นท่ีของรูป ๑.หา สี่เหลี่ยมขนมเปียกปนู และ ส่ีเหล บอกสตู รได้ (K) ปูน ๒.เขียนวธิ ีหาพื้นทีข่ องรปู ส่ีเหล่ยี มขนมเปียกปูนได(้ P) ๑.บอกการหาพืน้ ท่ีของรปู ๑.พ้นื หลายเหลยี่ มได้ (K) เหล่ีย ๒.เขียนวิธีหาพื้นทข่ี องรูป หลายเหลีย่ มได้ (P) ๑.บอกความหมายของรปู ๑.คว สเ่ี หล่ียมได้ (K) ของร ๒.เขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบ ของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับ ความยาวรอบรปู ของรูป สี่เหลย่ี มได้ (P)

าระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชิ้นงาน สอื่ การสอน วดั ผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมิน เรียน อธบิ าย าพ้ืนทข่ี องรูป - ๑.บตั รภาพรูป ๑.ตรวจ ๒ ลย่ี มด้านขนาน สี่เหลี่ยม แบบฝกึ หดั าพ้ืนทข่ี องรปู - ๑.บัตรภาพรปู ๑.ตรวจ ๒ ลยี่ มขนมเปยี ก ส่เี หลีย่ ม แบบฝึกหดั นท่รี ูปหลาย - - ๑.ตรวจ ๑ ยม แบบฝึกหัด วามยาวรอบรูป - - ๑.ตรวจ ๒ รปู ส่เี หลย่ี ม แบบฝกึ หัด

หนว่ ยท่ี มฐ ตวั ชี้วดั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สา ๑.บอกความหมายของการ ๑.กา หาพื้นทีข่ องรูปส่ีเหล่ียม เก่ยี ว ด้านขนานได้ (K) สเ่ี หล ๒.เขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบ ของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั การหาพนื้ ที่ของรูปส่ีเหลย่ี ม ด้านขนานได้ (P) ๑.ความหมายของการหา ๑.กา พนื้ ทข่ี องรปู สี่เหล่ียมขนม เกี่ยว เปยี กปนู ได้ (K) ส่เี หล ๒.เขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบ ปูน ของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกับ การหาพนื้ ทข่ี องรปู สีเ่ หลย่ี ม ขนมเปียกปูนได้ (P) ๓.ประดษิ ฐ์เส้นด้ายแสดง ความยาวรอบรูป(P) ๔.มีเหน็ คุณค่าของรูป สเ่ี หล่ียม (A)

าระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชิ้นงาน สื่อการสอน วัดผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมิน เรียน ารแกโ้ จทย์ปญั หา อธิบาย - ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๓ วกับพืน้ ทข่ี องรปู แบบฝกึ หัด ลี่ยมดา้ นขนาน ารแกโ้ จทย์ปญั หา -ประดิษฐ์ ๑.แถบโจทย์ ๑.ทดสอบ ๔ วกับพ้นื ที่ของรปู เสน้ ด้าย หลงั เรยี น ล่ียมขนมเปียก แสดงความ ๒.ตรวจ ยาวรอบรปู แบบฝึกหัด

โรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) โครงการสอนปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวิชา คณติ ศาสตร์ รหสั ค๑๕๑๐๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น ๔ ชัว่ โมง/สัปดาห์ ครผู ูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา สปั ดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรยี นร/ู้ เรอ่ื ง มฐ/ตัวช้วี ดั ๑-๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เศษส่วน ค ๑.๑ ป.๕/๓ ๖-๙ ๑-๒ การเปรยี บเทยี บเศษสว่ นและจำนวนคละ ป.๕/๔ ๙-๑๔ ๓-๔ การเรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป. ๕/๕ ๕-๖ การบวก เศษสว่ นและจำนวนคละ ป. ๔/๙ ๗-๘ การลบ เศษสว่ นและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป.๕/๑ ๙-๑๐ การคูณจำนวนนบั กับเศษส่วน ป.๕/๖ ๑๑- การคณู เศษสว่ นกับเศษสว่ น ป.๕/๗ ๑๑๓๒- การคณู จำนวนคละ ป. ๔/๑๒ ๑๖๕ สว่ นกลบั ของเศษสว่ น ๑๗ การหารจำนวนนับกบั เศษส่วน ค ๒.ป๑.๕ป/.๑๕/๑ ๑๘- การหารเศษส่วนกับเศษส่วน ป.๕/ป๒ป.๕.๕//๒๒ ๒๑๐๙- การหารจำนวนคละ หน๒ว่ ๑ยการเรียนรู้ที่ ๒ โจทยป์ ัญหาเศษสว่ น ๑-๒ โจทย์ปญั หาการบวกเศษสว่ น ๓-๔ โจทย์ปญั หาการลบเศษส่วน ๕-๖ โจทย์ปัญหาการคูณเศษสว่ น ๗-๘ โจทยป์ ัญหาการหารเศษส่วน ๙-๑๐ การบวก ลบ คณู หารระคน ๑๑- โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน หน๑ว่ ๓ยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ ทศนยิ ม ๑-๓ การเขียนเศษส่วนที่มตี วั ส่วนเปน็ ตัวประกอบ ๑๐ ๑๐๐ หรอื ๑,๐๐๐ ๔-๗ การหาคา่ ประมาณ ๘-๙ การคณู โดยใชค้ วามสัมพันธร์ ะหว่างทศนิยม ๑๐- การคูณแนวต้ัง ๑๑๔๓- การคณู สมบตั ิการสลบั ท่ี ๑๑๖๕- การหารโดยการเขยี นในรปู ทศนิยม ๑๗

สัปดาห์ คาบที่ หนว่ ยการเรยี นร/ู้ เรอ่ื ง มฐ/ตัวช้วี ัด (ต่อ) ๑๕-๑๗ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ ทศนยิ ม ค ๑.๑ ป.๕/๘ ๑๙-๒๐ ค ๓.๑ ป.๕/๑ ๑๘ การหารโดยต้ังหาร ๒๑-๒๒ ๑๙ การหารทศนิยมกบั จำนวนนับ ป.๕/๒ ๒๒-๒๕ ๒๐- การหารดว้ ย ๑๐, ๑๐๐, ๑,๐๐๐ ๒๑๒ ทศนิยมกับการวัด ค ๑.๑ ป.๕/๑ ๒๖-๒๙ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ โจทย์ปญั หาทศนยิ ม ค ๑.๑ ป.๕/๙ ๑-๔ โจทย์ปญั หาการคูณ ทศนยิ ม ๓๐-๓๕ ๕-๘ โจทยป์ ญั หาการหาร ทศนยิ ม ค ๒.๒ ป.๕/๑ ๙-๑๒ โจทยป์ ญั หาการคูณ และหารทศนยิ ม หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ การนำเสนอข้อมูล ค ๒.๑ ป.๕/๔ ๑-๓ การอ่านแผนภมู แิ ท่งทมี่ ีการย่นระยะ ค ๒.๒ ป.๕/๒ ๔-๕ การอ่านแผนภูมิแทง่ เปรยี บเทียบ ๖ การเขียนแผนภูมิแท่งที่มีการยน่ ระยะ ป.๕/๓ ๗ การเขยี นแผนภมู แิ ท่งเปรียบเทียบ ๘-๙ การอา่ น และเขียนกราฟเสน้ ๑๐- โจทยป์ ัญหาการนำเสนอขอ้ มูล หน๑่ว๒ยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ บัญญัตไิ ตรยางศ์ ๑-๙ การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใช้บัญญัตไิ ตรยางค์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๗ ร้อยละ ๑-๓ การอา่ นและเขยี นร้อยละหรือเปอร์เซน็ ต์ ๔-๖ ร้อยละของจำนวนนบั ๗-๙ โจทย์ปญั หาร้อยละ ๑๐- โจทยป์ ญั หาการลดราคา ๑๑๔๓- โจทยป์ ญั หากำไร ขาดทนุ หน๑ว่ ๗ยการเรียนร้ทู ่ี ๘ เสน้ ขนาน ๑-๓ เส้นตงั้ ฉากและเส้นขนาน ๔-๕ มมุ ทเ่ี กดิ จากเสน้ ตดั ขวางตัดเส้นตรงคูห่ น่งึ ๖-๙ สมบตั ิของเสน้ ขนาน ๑๐- การสรา้ งเสน้ ขนาน หน๑่ว๓ยการเรยี นรู้ท่ี ๙ รูปสเี่ หลี่ยม ๑-๓ ชนิดและสมบตั ขิ องรปู ส่เี หลี่ยม ๔-๕ สมบัติของรปู ส่เี หลยี่ มเกี่ยวกับเส้นทแยงมุม ๖-๘ การสร้างรูปสี่เหล่ยี มเม่ือกำหนดความยาวของด้านและ ขนาดของมุม ๙-๑๐ การสรา้ งรปู สีเ่ หล่ียมเมื่อกำหนดความยาวของเส้นทแยง มมุ

สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรยี นรู้/เรอื่ ง มฐ/ตัวชีว้ ดั ๓๖-๔๐ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๙ รปู ส่เี หลีย่ ม ค ๒.๑ ป.๕/๓ ค ๒.๒ ป.๕/๔ ๑๑- พ้ืนทข่ี องรูปสีเ่ หลี่ยมดา้ นขนาน ไม๑๑๑่เก๓๕๒๔นิ- ๑๐พพ๐นนื้ื้ ,๐ทท๐่ีข่ีข๐อองงรรปููปสหเ่ีลหาลยย่ี เหมลขีย่นมมเปยี กปนู ๑๖- ความยาวรอบรปู ของรูปสี่เหลี่ยม ๑๑๘๗- โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับพื้นท่ขี องรปู สี่เหลีย่ มดา้ นขนาน ๒๒๑๐- โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับพ้ืนท่ีของรูปสี่เหลย่ี มด้านขนมเปยี ก ๒๔ ปูน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ ปริมาตรและความจุของทรงส่ีเหลย่ี ม ๑-๒ รปู เรขาคณติ สองมิตแิ ละสามมิติ ๓-๔ ปริซึม ๕-๖ ทรงส่เี หลี่ยมมุมฉาก ๗-๘ หน่วยของปรมิ าตรและการหาปรมิ าตร ๙-๑๑ การหาปรมิ าตรทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉาก ๑๒- การหาความจทุ รงส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก ๑๑๕๔- โจทยป์ ัญหาปรมิ าตรและความจุ สอ๑บ๗ปลายภาค ๑-๒ ทบทวนบทเรียน ๓ ทบทวนบทเรียน ๔ สอบปลายภาค ๕ สอบปลายภาค เทคนิค /กระบวนการ/ วธิ ีการสอน การจัดการเรยี นรูต้ ามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นตอนที่ ๑ : เตรียมความพร้อม เพื่อเป็นการกระตุน้ สมอง ตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลื่อนไหว ร่างกายอย่างมีความสขุ สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมาก ช่วยให้มีจิตใจท่ี สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin) และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและ สนุกสนาน ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า ทุกชั่วโมงที่ค รูเข้าสอน ครูจะต้อง Warm Up กอ่ นเสมอ โดยใช้เวลาไม่เกนิ ๕ นาที ขั้นตอนที่ ๒ : เรยี นรู้ ในขั้นตอนนจ้ี ะคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองท่ีว่า “เรียนรจู้ ากง่ายไปหายาก เรยี นรู้จาก ของจริง และจากการสัมผัส” จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า “มือ” เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผล ต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ “ปาก” นั่นก็หมายถึง ต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสาร การสื่อสารจะช่วยให้เด็กสามารถ เชื่อมโยงเรื่องได้ ดังนั้น การออกแบบรูปแบบการสอน สื่อการสอน คุณครูต้องคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอย่างมาก

การเรียนการสอนจึงจะประสบความสำเร็จ ในขั้นตอนที่ ๒ นี้ มีขั้นตอนย่อยที่สำคัญหนึ่งคือ “การสรุปในแต่ละชั่วโมง” ทางโรงเรยี นได้สนบั สนนุ ให้มีการฝึกอบรม Graphic Organizer ให้แก่คุณครูทุกกลุ่มสาระ ตลอดจนหนงั สือท่เี กี่ยวข้องจาก ต่างประเทศ เพ่ือใหค้ ุณครใู ชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการสรุปทีช่ ่วยใหเ้ ด็กเกดิ ความสนกุ เกิดการเรียนรู้ และจดจำไดง้ า่ ยขนึ้ ขัน้ ตอนท่ี ๓ : ขน้ั การฝึก ขัน้ นี้จะสอดคลอ้ งกับหลกั การทำงานของสมองทว่ี า่ “สมองจะจดจำได้ดีนำไปสู่ความจำ ระยะยาว (Long-term Memory) ตอ้ งผ่านกระบวนการฝึกซ้ำๆ” คำวา่ “ซำ้ ๆ” ในทนี่ ้ีไม่ไดห้ มายถึง การทำโจทย์เดิมซ้ำๆ แต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวก ก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์ คุณครูจึงจำเป็นต้อง ออกแบบใบงานท่ีแตกตา่ งออกไป เพือ่ ให้นกั เรียนไดฝ้ กึ ฝนเรือ่ ย ๆ ขั้นตอนที่ ๔ : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วย ซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นการ สรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย โดยใช้ Graphic Organizer ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยง ความรภู้ ายในบทเรยี น สอดคล้องกับหลักการทำงานของสมองที่ว่า “สมองเรียนรูเ้ ปน็ องค์รวม” ซึ่งขน้ั ตอนน้ีมีความสำคัญ ตอ่ เด็กมาก และเป็นขัน้ ตอนที่คอ่ นข้างยาก ครเู องกจ็ ำเป็นตอ้ งฝึกฝนบ่อยๆ เช่นกนั ขั้นตอนที่ ๕ : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใด การที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้น ทำให้เกิดการ เรียนรูไ้ ดถ้ ึงร้อยละ ๙๐ ดังนนั้ เม่อื จบบทเรียน คุณครตู ้องคิด ตอ้ งออกแบบ เชอื่ มโยงความรู้ท้ังหน่วย นำข้อสอบมาให้เด็ก ทดลองทำ การวดั และประเมินผล วธิ กี ารเกบ็ คะแนน คะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = ๗๐ : ๓๐ โดยแบ่งดังน้ี เร่ืองที่เก็บคะแนน คะแนน ประเภทเคร่อื งมือ ๑.คะแนนเกบ็ กอ่ นกลางปี ๒๕ ๑.๑ ผลงานนกั เรียน ๑๕ สมุด แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชิน้ งาน ๑.๒ ทดสอบหลังเรยี น ๑๐ แบบทดสอบหลังเรยี น ๒. สอบกลางปี ๒๐ แบบทดสอบ ๓.คะแนนหลงั กลางปี ๒๕ ๓.๑ ผลงานนกั เรียน ๑๕ สมดุ แบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช้นิ งาน ๓.๒ ทดสอบหลงั เรียน ๑๐ แบบทดสอบหลังเรยี น ๔.สอบปลายปี ๓๐ ๑๐๐ รวม สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ -สอ่ื ประจำหน่วยการจดั การเรียนรู้ -หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ และแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท

แผนผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรู้/ หลกั ฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ(Process: P) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. มีวินัย ๑.บอกลกั ษณะของรูปสเี่ หลี่ยมตา่ งๆได้ (K) ๑.จำแนกรปู ส่เี หล่ยี มโดยพจิ ารณาจาก ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ๒.บอกลกั ษณะของรปู สเ่ี หลี่ยมตา่ งๆได้ (K) สมบัตขิ องรปู สีเ่ หลี่ยมได้ (P) ๓.บอกลักษณะและสมบตั ขิ องรูปสี่เหลี่ยม ๒.เขียนจำแนกรูปสีเ่ หลยี่ มโดยพิจารณา ต่างๆได้ (K) จากสมบตั ิของรูปสีเ่ หลี่ยมได้ (P) ๔.บอกลักษณะและสมบตั ิของรูปสีเ่ หล่ียม ๓.สร้างรปู สเ่ี หล่ยี มเม่อื กำหนดความยาว ตา่ งๆจากเส้นทแยงมุมได้ (K) ของด้านและขนาดของมุมได้ (P) ๕.บอกการหาพ้นื ทข่ี องรูปสี่เหลี่ยมดา้ น ๔.เขยี นสร้างรปู ส่เี หลี่ยมตามความยาว ขนานและบอกสตู รได้ (K) ๖.บอกการหาพืน้ ที่ของรูปสี่เหล่ยี มขนม ของเสน้ ทแยงมมุ ได้ (P) ๕.เขยี นวิธหี าพนื้ ที่ของรปู สเี่ หล่ยี มด้าน เปยี กปูนและบอกสตู รได้ (K) ขนานได้ (P) ๗.บอกการหาพน้ื ที่ของรูปหลายเหลย่ี มได้ ๖.เขยี นวธิ ีหาพน้ื ท่ีของรปู สเี่ หลี่ยมขนม ๘.บอกความหมายของรูปสเ่ี หลยี่ มได้ (K) ๙.บอกความหมายของการหาพ้นื ทข่ี องรปู เปียกปูนได(้ P) ๗.เขียนวิธีหาพื้นทีข่ องรูปหลายเหลย่ี มได้ สี่เหลี่ยมดา้ นขนานได้ (K) ๘.เขียนแสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ ๑๐.ความหมายของการหาพน้ื ทขี่ องรปู ปญั หาเกยี่ วกบั ความยาวรอบรปู ของ สเ่ี หลีย่ มขนมเปยี กปนู ได้ (K) รูปส่ีเหลีย่ มได้ (P) ๙.เขยี นแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ ปญั หาเกีย่ วกบั การหาพน้ื ทข่ี องรูป ส่ีเหลีย่ มดา้ นขนานได้ (P) ๑๐.เขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ ปญั หาเก่ยี วกบั การหาพนื้ ท่ีของรปู สี่เหลย่ี มขนมเปียกปนู ได้ (P) ๑๑.ประดิษฐเ์ ส้นดา้ ยแสดงความยาวรอบ รูป เป้าหมายการเรยี น เรอ่ื ง รูปส่เี หล่ียม หลักฐานการเรียนรู้ -ประดษิ ฐ์เสน้ ด้ายแสดงความยาวรอบรูป

แผนผังมโนทัศนข์ ้ันตอนการทำกิจกรรมประกอบการจดั การเรียนรู้ด้วย การสอนตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ศึกษามาตรฐานการรเรียนรู้ / ตวั ช้ีวดั และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักการพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นท่ี ๑ เตรียมความพร้อม ข้ันที่ ๒ เรยี นรู้ ข้นั ที่ ๓ ขัน้ การฝึก ขน้ั ที่ ๔ ข้นั การสรปุ ขั้นท่ี ๕ ขน้ั การประยุกตใ์ ช้ทันทีทันใด ทดสอบหลังเรียน (ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๖๐)

ผงั มโนทัศน์ หนว่ ยการเรีย หนว่ ยการเรยี นร จำนวน 2 แผนท่ี 1 ชนิดและสมบัติของรปู สเ่ี หลยี่ ม แผนท่ี 2 ชนิดและสมบัตขิ รปู สีเ่ หล่ยี มเกี่ยวก แผนที่ 4 การสร้างรูปส่เี หลย่ี มเมื่อกำหนดความยาว ของเสน้ ทแยงมุม แผนท่ี 5 หาพื้นที่ของร แผนท่ี 7 พนื้ ที่รูปหลายเหลี่ยม แผนที่ 8 ความยาวรอ แผนท่ี 10 การแกโ้ จทยป์ สี่เหลี่ยมขน ภาษาไทย การเรียนรแู้ บ 1.ฟังแสดงความคิดเหน็ 2.พดู แสดงความคดิ เห็น และตอบคำถามอ่านและสะกดคำ 3.การเขียนสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์

ยนรทู้ ี่ 9 รปู ส่ีเหล่ียม รู้ท่ี 9 รปู สี่เหลีย่ ม 24 ช่วั โมง ของรูปส่ีเหล่ยี ม สมบตั ขิ อง แผนท่ี 3 การสรา้ งรูปสีเ่ หลีย่ มเมอ่ื กำหนดความยาว กับเส้นทแยงมมุ ของดา้ นและขนาดของมุม รปู ส่เี หล่ยี มด้านขนาน แผนท่ี 6 หาพื้นทีข่ องรปู สี่เหลย่ี มขนมเปียกปูน อบรปู ของรูปสเี่ หลีย่ ม แผนที่ 9 การแกโ้ จทย์ปญั หาเก่ยี วกับพืน้ ทขี่ องรปู สเ่ี หลีย่ มด้านขนาน ปญั หาเกย่ี วกับพื้นที่ของรปู นมเปยี กปูน บบบูรณาการ ศิลปะ : ทัศนศิลป์ 1.การออกแบบลวดลายเสน้ ด้ายแสดงความยาวรอบรปู

แผนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมีภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ที่ดี 1. ออกแบบการจัดกิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นรสู้ ่งเสริมกระบวนการคิด 1. ศกึ ษาแนวทางการจัดการเรยี นรู้ลว่ งหน้า ตวั ชี้วดั 2. ใชเ้ ทคนิคการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย 2. จัดเตรยี มการวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลอื กสื่อ แหล่งเรยี นรเู้ หมาะสม สงั เกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วดั ผลประเมนิ ผลตรงตามเนื้อหา เง่อื นไขความรู้ เงือ่ นไขคณุ ธรรม 1. รูจ้ กั เทคนคิ การสอนทีส่ ง่ เสริมกระบวนการคดิ และนกั เรยี น 1. มคี วามขยนั เสยี สละ และมุ่งมนั่ ในการจดั หาสอื่ มาพฒั นานักเรียน สามารถเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มีความอดทนเพอ่ื พัฒนานกั เรียนโดยใช้เทคนิคการสอนที่ หลากหลาย นักเรยี น ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมีภูมคิ ุ้มกันในตวั ทีด่ ี 1. การใช้เวลาในการทำกจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝึกกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาค้นคว้าอิสระ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝึกกระบวนการแสดงขัน้ ตอนการหาผลลัพธ์ 2. นำความรเู้ รอ่ื งรปู สเ่ี หลี่ยม ไปใช้ใน 2. เลอื กสมาชกิ กลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั เนือ้ หาที่ ชีวิตประจำวนั ได้ เรยี นและศักยภาพของตน เงอ่ื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. มคี วามรู้เร่อื งรปู สเ่ี หลยี่ ม ตลอดจนสามารถสร้างจัดทำชิ้นงาน ได้ 1. มคี วามรับผดิ ชอบ และปฏิบัตติ ามข้อตกลงของกลุ่ม ตามวตั ถุประสงค์ 2. มสี ติ มสี มาธชิ ว่ ยเหลือกันในการทำงานร่วมกัน สง่ ผลตอ่ การพฒั นา 4 มติ ิให้ย่ังยืนยอมรบั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงในยคุ โลกาภิวฒั น์ วตั ถุ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความร้คู วามเข้าใจ เรื่องรปู สเ่ี หลย่ี ม มีความรู้และเขา้ ใจ มีความรแู้ ละเขา้ ใจ มคี วามรู้และเขา้ ใจการ กระบวนการทำงาน เก่ยี วกบั สิ่งแวดล้อม ชว่ ยเหลือ แบ่งปัน กลมุ่ และส่ิงตา่ ง ๆรอบตัว ทกั ษะ (P) สรา้ งชิ้นงานเส้นดา้ ยแสดงความยาวรอบ ทำงานได้สำเร็จตาม ใชแ้ หล่งเรยี นรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลือ แบ่งปนั ซงึ่ รปู เปา้ หมาย ดว้ ย ทำลายส่ิงแวดลอ้ ม กัน และกัน กระบวนการกลุ่ม คา่ นยิ ม (A) เห็นประโยชน์ของเรียนรู้ เกย่ี วกบั เห็นคณุ คา่ และ เห็นคณุ คา่ ของการใช้ ปลูกฝงั นิสยั การ เร่ืองรูปสเ่ี หลย่ี ม ภาคภมู ิใจในการ แหลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ชว่ ยเหลือแบ่งปัน ทำงานร่วมกนั ได้ ทำลายสง่ิ แวดล้อม สำเรจ็

กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เรือ่ ง รูปส่เี หล่ยี ม วิชาคณิตศาสตร์ เวลา 24 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเก่ียวกบั การวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสิง่ ที่ต้องการวัดและนาไปใช้ ตัวช้ีวัด ป.5/3 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ียวกับความยาวรอบรูปของรูปสีเ่ หล่ียมและพน้ื ทข่ี องรูป ส่ีเหล่ยี มดา้ นขนานและรปู ส่ีเหลี่ยมขนมเปยี กปูน มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณติ สมบัติของรูปเรขาคณิตความสัมพนั ธ์ระหว่าง รูปเรขาคณิต และ ทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนาไปใช้ ตัวชว้ี ดั ป.5/2 จาแนกรปู สเี่ หลย่ี มโดยพจิ ารณาจากสมบตั ิของรปู ป.5/3 สรา้ งรูปส่ีเหลย่ี มชนดิ ตา่ ง ๆ เม่ือกาหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมมุ หรือเมอ่ื กาหนด ความยาวของเสน้ ทแยงมมุ 2. สาระสำคัญ รูปส่ีเหล่ยี มจัตรุ สั เป็นรปู สี่เหล่ียมท่ีมมี ุมทุกมมุ เปน็ มุมฉาก ดา้ นทกุ ดา้ นยาวเท่ากัน ด้านตรงข้ามขนาน กัน 2 คู่ เส้นทแยงมุม ยาวเท่ากนั แบง่ ครง่ึ ซึ่งกันและกัน และตัดกันเปน็ มมุ ฉาก รปู สเี่ หลี่ยมผืนผ้า เป็นรูปสีเ่ หลีย่ ม ทมี่ มี ุมทุกมมุ เป็นมมุ ฉาก ดา้ นตรงข้ามยาวเท่ากันและขนานกัน 2 คู่ ดา้ นที่อยู่ ติดกนั ยาวไม่เท่ากนั เสน้ ทแยงมมุ ยาวเท่ากนั และแบง่ ครึ่งซึ่งกันและกนั รปู สีเ่ หล่ยี มขนมเปยี กปูน เป็นรปู สีเ่ หลยี่ มที่มีมุมทุกมุมไมเ่ ป็นมุมฉาก มมุ ที่ อย่ตู รงข้ามกนั มีขนาดเทา่ กัน ดา้ น ทุกด้านยาวเท่ากนั ดา้ นตรงขา้ มขนานกัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมมุ แบ่งคร่ึงซ่งึ กนั และ กนั และตดั กนั เป็นมุมฉาก รูปสเ่ี หล่ยี มด้านขนาน เปน็ รปู ส่ีเหล่ียมท่ีมมี ุมทอ่ี ยู่ตรงข้ามกนั มีขนาดเทา่ กัน ดา้ นตรง ข้ามยาวเทา่ กนั และ ขนานกัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ ครึ่งซ่ึงกนั และกนั รูปสเ่ี หล่ยี มคางหมู เปน็ รปู สี่เหลีย่ มท่ีมดี า้ น ขนานกนั 1 คู่ รปู สีเ่ หลี่ยมรปู วา่ ว เปน็ รูปสเี่ หลี่ยมทมี่ มี มุ ท่ีอยตู่ รงขา้ มกันมีขนาด เท่ากนั 1 คู่ และดา้ นท่ีอย่ตู ดิ กนั ยาวเท่ากัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมมุ ตัดกนั เปน็ มุมฉาก และมีเสน้ ทแยงมมุ เพยี งเสน้ เดียวท่ีถูกแบ่งครึ่ง ดว้ ยเส้นทแยง มุมอกี เส้นหนง่ึ รูปส่ีเหลีย่ มด้านขนาน เปน็ รปู ส่ีเหล่ียมที่มีมุมที่อย่ตู รงข้ามกนั มขี นาดเทา่ กนั ด้านตรงขา้ มยาว เทา่ กนั และขนานกนั 2 คู่ เส้นทแยงมุมแบ่งคร่งึ ซ่ึงกนั และกัน รปู สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เป็นรูปสเี่ หล่ยี มทมี่ มี ุมทกุ มุมไมเ่ ป็นมุมฉาก มุมที่อยตู่ รงข้ามกันมีขนาดเท่ากัน ด้านทกุ ดา้ นยาวเท่ากนั ด้านตรงขา้ มขนานกนั 2 คู่ เส้นทแยงมุมแบ่งคร่ึงซึง่ กนั และกัน และตัดกันเปน็ มมุ ฉาก พน้ื ทข่ี องรปู สีเ่ หล่ียมดา้ นขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน พ้ืนที่ของรูปส่เี หล่ยี มขนมเปียกปนู = ความสูง × ความยาวของฐาน

การแก้โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรปู ของรูปสี่เหลีย่ มอาจใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาตามขัน้ ตอน ดังนี้ ข้นั ที่ 1 ทำความเข้าใจปัญหา ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา ข้ันที่ 3 ดำเนินการตามแผน ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบ 3. สาระการเรยี นรู้ - ชนดิ และสมบตั ิของรปู สี่เหลีย่ ม - ชนิดและสมบตั ิของรปู สเี่ หลี่ยม สมบัติของรูปสี่เหล่ยี มเก่ียวกบั เสน้ ทแยงมุม - การสรา้ งรปู ส่เี หล่ยี ม - หาพนื้ ทข่ี องรปู ส่ีเหลีย่ มดา้ นขนาน - หาพ้ืนทีข่ องรูปสเี่ หลี่ยมขนมเปยี กปนู - พ้ืนที่รูปหลายเหลย่ี ม - ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหล่ยี ม - การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกีย่ วกับพนื้ ท่ขี องรูปสี่เหล่ียมดา้ นขนาน - การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั พน้ื ท่ีของรูปสี่เหล่ียมขนมเปยี กปูน 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ประดษิ ฐ์เสน้ ด้ายแสดงความยาวรอบรปู

7. การวดั และประเมินผล วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 9 แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรยี น ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 ตรวจแบบฝึกหัดหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 9 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 9 ตรวจช้นิ งานหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 9 แบบฝกึ หดั หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 9 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม สงั เกตความมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ใน ช้นิ งานหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 ระดับคุณภาพ 2 การทำงาน ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี 1 ชนิดและสมบตั ิของรปู ส่ีเหลี่ยม ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครใู ห้นักเรียนท่องสูตรคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลังจาก นัน้ ให้นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ครทู บทวนความรู้เกย่ี วกบั รปู สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก โดยอาจให้นักเรียนสำรวจห้องเรียนของตนเอง แลว้ ให้ บอกวา่ พบรูปสเี่ หล่ยี มมมุ ฉากท่ีใดบา้ ง พร้อมบอกชนดิ ของรปู สี่เหลย่ี มมมุ ฉากท่ีพบ 3. ให้นกั เรยี นใช้กระดาษทพี่ บั เป็นมมุ ฉาก ไม้ฉาก หรือโพรแทรกเตอร์ในการตรวจสอบขนาดของมมุ 4. จากนัน้ ใชภ้ าพหน้าเปิดบทนำสนทนาเพ่ือกระตุ้นความสนใจเกยี่ วกับรูปสเี่ หลี่ยมชนดิ อื่น ๆ 5. กิจกรรมเตรียมความพร้อมในหนงั สอื เรยี นหน้า 90-91 เปน็ การตรวจสอบความรู้พนื้ ฐานที่จำเปน็ สำหรับการเรียนบทน้ี ถา้ พบว่านกั เรยี นยงั มีความร้พู นื้ ฐานไมเ่ พยี งพอ ควรทบทวนก่อน 6. ครสู รุปเก่ยี วกับความยาวดา้ น ของรปู สีเ่ หลย่ี มผืนผ้าวา่ ด้านทสี่ ั้นกว่า เรียกวา่ ด้านกว้าง และดา้ นที่ ยาวกว่า เรียกวา่ ดา้ นยาว 7. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 7.1 เป็นรายบุคคล ช่วั โมงท่ี 2 1. ครใู หน้ กั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลังจาก นนั้ ให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครสู อนชนดิ ของรปู สี่เหล่ยี มโดยใหน้ ักเรยี น สามารถจำแนกและบอกลักษณะของรูปส่เี หล่ยี ม แต่ละชนดิ ได้ ซึง่ ครูจัดกิจกรรมโดยเริ่มจาก การทบทวนความรู้เกี่ยวกบั มุมและเส้นขนาน 3. ใหน้ กั เรยี นแสดงวิธีวดั ขนาดของมุม และตรวจสอบว่า มสี ว่ นของเส้นตรงคู่ใดบ้างท่ขี นานกนั

4. จากน้ันครูแนะนำเพิม่ เตมิ เก่ียวกับมุมท่ีอยู่ตรงข้ามกันของรูปส่เี หลีย่ มว่าเปน็ มุมท่ีไม่อยู่ติดกัน และไมม่ ี แขนของมุมร่วมกนั 5. ทำกจิ กรรมสำรวจรปู สเ่ี หลย่ี มในหนังสือเรยี นหนา้ 92 6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายเก่ยี วกบั ผลท่ไี ด้จากการสำรวจ เพื่อนำไปสู่ ข้อสรปุ เก่ียวกบั การจำแนก ชนิดของรปู สีเ่ หลีย่ ม หน้า 93 7. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงท่ี 3 1. ครใู ห้นกั เรียนท่องสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก นัน้ ใหน้ กั เรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ครตู ิดบตั รภาพรูปสเี่ หลีย่ มชนิดต่างๆไวบ้ นกระดาน ให้นักเรียนเลน่ เกม “ตอบเรว็ ตอบไว” โดยให้ นกั เรียนเขียนชอ่ื ของรปู สี่เหลี่ยมนน้ั ๆ ให้ถูกตอ้ งและรวดเร็ว จึงจะชนะ 3. ในหนงั สอื เรียนหนา้ 93-94 เป็นชนดิ ของรปู สี่เหลีย่ ม พร้อมตวั อย่าง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากขนาดของมุม ความยาวของดา้ น และการขนานกนั ของด้าน สามารถจำแนกได้ 6 ชนดิ ได้แก่ รปู สี่เหล่ียมจตั ุรสั รูป สี่เหลยี่ มผืนผา้ รปู สีเ่ หล่ียมขนมเปียกปนู รปู สเ่ี หลยี่ มด้านขนาน รปู สีเ่ หล่ียมคางหมู และรูปสเ่ี หล่ยี มรูปว่าว 4. สำหรบั รูปส่ีเหลี่ยมรปู วา่ ว ครตู อ้ งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมุมทม่ี ีขนาดเท่ากัน 1 คู่ วา่ เปน็ มมุ ที่อยตู่ รง ขา้ มกนั และมดี า้ นที่ยาวไม่เท่ากัน เป็นแขนของมมุ 5. ครยู กตัวอยา่ งรูปส่เี หลี่ยมเพมิ่ เติม ให้นักเรยี นตรวจสอบและบอกชนิดของรูปส่ีเหล่ียม พรอ้ มระบุ เหตุผล แลว้ รว่ มกันอภิปรายว่ารปู สี่เหลี่ยมชนดิ ใดบ้างทเี่ ปน็ รปู สี่เหลี่ยมด้านขนาน เพราะเหตใุ ด 6. จากนั้นร่วมกนั ทำกิจกรรมในหนังสอื เรยี นหนา้ 95 แลว้ ใหท้ ำแบบฝึกหัด 7.2 เป็นรายบุคคล ❖ รปู สเ่ี หลย่ี มจตั ุรัส เป็นรปู สเี่ หลี่ยมท่ีมมี มุ ทกุ มุมเป็นมุมฉาก ดา้ นทุกดา้ นยาวเท่ากนั ด้านตรงขา้ มขนาน กนั 2 คู่ ❖ รูปสี่เหลยี่ มผนื ผ้า เปน็ รปู ส่เี หล่ียมทมี่ มี ุมทุกมุมเปน็ มุมฉาก ด้านตรงขา้ มยาวเทา่ กนั และขนานกัน 2 คู่ ดา้ นที่ อยู่ตดิ กันยาวไมเ่ ท่ากัน ❖ รปู สเ่ี หลยี่ มขนมเปยี กปูน เป็นรปู สเ่ี หลี่ยมทม่ี ีมุมทกุ มุมไม่เป็นมุมฉาก มมุ ท่ีอย่ตู รงข้ามกันมขี นาดเท่ากนั ดา้ น ทกุ ดา้ นยาวเท่ากัน ดา้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่ ❖ รปู สี่เหลี่ยมด้านขนาน เปน็ รปู สเี่ หลี่ยมท่มี มี ุมท่ีอยตู่ รงข้ามกัน มีขนาดเท่ากัน ด้านตรงข้ามยาวเท่ากนั และ ขนานกนั 2 คู่ ❖ รูปส่ีเหล่ียมคางหมู เป็นรูปส่ีเหล่ยี มทม่ี ีดา้ นขนานกนั 1 คู่ ❖ รูปสี่เหลยี่ มรปู ว่าว เปน็ รูปส่เี หล่ียมที่มมี ุมท่ีอยู่ตรงข้ามกนั มขี นาด เทา่ กนั 1 คู่ และดา้ นที่อยูต่ ิดกนั ยาวเท่ากัน 2 คู่ 7. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท.

กจิ กรรมท่ี 2 สมบตั ิของรูปสเี่ หลยี่ มเกย่ี วกับเสน้ ทแยงมุม ช่ัวโมงที่ 1 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก น้นั ใหน้ ักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. การสอนสมบตั ิของรูปสีเ่ หล่ยี มเกีย่ วกบั เสน้ ทแยงมุม ครอู าจจดั กจิ กรรมโดยเร่ิมจากการทบทวน ความรเู้ กี่ยวกับเส้นทแยงมุม 3. จากนนั้ ตดิ บัตรภาพบนกระดาน 4. ใหน้ ักเรียนบอกว่า ส่วนของเสน้ ตรงใดเปน็ เส้นทแยงมมุ ของ ACDE เพราะเหตุใด ส่วนของเส้นตรงใดเป็นเส้นทแยงมมุ ของ BCDE เพราะเหตุใด 5. จากนั้นทบทวนความหมายของคำวา่ “แบ่งคร่งึ ซ่ึงกันและกนั ” 6. ใหท้ ำกิจกรรมสำรวจเส้นทแยงมุมในหนังสือหนา้ 96-97 แลว้ ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกบั ผลท่ีได้จากการ สำรวจ เพอื่ นำไปสู่ขอ้ สรุปเกย่ี วกับสมบัตขิ องรูปส่เี หล่ยี มในหนงั สือเรยี นหนา้ 98-99 7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุป สมบัติของรปู สเ่ี หลยี่ มเกี่ยวกับเสน้ ทแยงมมุ ❖ รูปสีเ่ หลี่ยมจตั ุรสั เป็นรปู สีเ่ หล่ียมทมี่ มี มุ ทุกมุมเปน็ มุมฉาก ดา้ นทกุ ด้านยาวเท่ากัน ดา้ นตรงข้ามขนาน กนั 2 คู่ เส้นทแยงมุม ยาวเท่ากนั แบง่ ครงึ่ ซึง่ กันและกัน และตัดกันเปน็ มุมฉาก ❖ รูปส่เี หล่ียมผืนผ้า เป็นรปู สี่เหลี่ยมที่มมี มุ ทกุ มุมเปน็ มุมฉาก ด้านตรงขา้ มยาวเท่ากนั และขนานกนั 2 คู่ ดา้ นท่ี อยตู่ ดิ กนั ยาวไม่เท่ากนั เส้นทแยงมุมยาวเทา่ กนั และแบง่ ครงึ่ ซึง่ กนั และกนั ❖ รูปสเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู เป็นรูปสีเ่ หล่ยี มที่มมี ุมทกุ มุมไม่เปน็ มมุ ฉาก มุมที่อย่ตู รงข้ามกันมีขนาดเท่ากัน ดา้ น ทุกด้านยาวเท่ากัน ดา้ นตรงข้ามขนานกนั 2 คู่ เส้นทแยงมุมแบง่ ครง่ึ ซึ่งกนั และกนั และตัดกันเปน็ มุมฉาก ❖ รปู สี่เหลี่ยมด้านขนาน เป็นรูปส่ีเหลีย่ มทมี่ ีมมุ ทอี่ ยู่ตรงข้ามกนั มีขนาดเทา่ กัน ด้านตรงข้ามยาวเท่ากนั และ ขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบ่งครึ่งซง่ึ กันและกัน ❖ รปู สีเ่ หลยี่ มคางหมู เป็นรูปสเ่ี หลีย่ มท่ีมีด้านขนานกนั 1 คู่ ❖ รูปส่เี หลีย่ มรปู วา่ ว เป็นรปู ส่ีเหลย่ี มทม่ี ีมุมท่ีอยู่ตรงขา้ มกันมีขนาด เทา่ กัน 1 คู่ และด้านทอ่ี ย่ตู ิดกนั ยาวเทา่ กัน 2 คู่ เส้นทแยงมุม ตัดกนั เปน็ มุมฉาก และมีเส้นทแยงมุมเพียงเส้นเดียวทถ่ี กู แบ่งคร่ึง ดว้ ยเส้นทแยงมมุ อกี เสน้ หนง่ึ 8. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 2 1. ครูใหน้ ักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก นนั้ ใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ใหน้ ักเรยี นทบทวนความรเู้ รือ่ ง รปู สีเ่ หลี่ยมและชนิดของรูปสเ่ี หลยี่ ม โดยครูตดิ รปู สี่เหลย่ี ม บนกระดาน 2 รูป 3. ในหนังสือเรยี นหนา้ 98-99 เป็นสมบัตขิ องรูปส่เี หลีย่ มชนดิ ตา่ ง ๆ ซ่งึ ครูอาจใช้การซักถาม และให้แสดงเหตผุ ล 4. จากนนั้ ร่วมกนั ทำกิจกรรมหน้า 100 แลว้ ใหท้ ำแบบฝกึ หัด 7.3 เปน็ รายบุคคล 5. เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจและสรปุ ความรู้ทีไ่ ด้ ใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมหน้า 101 เป็นรายบคุ คล

6. จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายเกี่ยวกับสมบัติของเสน้ ทแยงมุมของรปู สเี่ หลีย่ มวา่ มอี ะไรบา้ ง โดยใหผ้ ู้แทนนกั เรียนออกมาเขยี นสรปุ เปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน 7. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมที่ 3 การสร้างรปู สเี่ หล่ียมเมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาดของมมุ ช่วั โมงที่ 1 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก นั้นใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครสู อนสร้างรปู สี่เหลย่ี ม เม่อื กำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุม โดยเร่ิมจากการทบทวน ความรเู้ กี่ยวกับลักษณะของรูปสี่เหลยี่ มแตล่ ะชนิด การสรา้ งรูปสเี่ หลย่ี มมุมฉาก การสร้างมมุ และการสรา้ งเส้น ขนาน 3. ครูนำสนทนาเกย่ี วกบั การสร้างรูปสี่เหลย่ี มด้านขนาน CDEF ตามขอ้ กำหนดในหนังสอื เรยี น หนา้ 102-103 4. ให้นักเรียนวิเคราะหว์ ่าโจทยก์ ำหนดอะไร และโจทยต์ ้องการอะไรให้นักเรยี นเขียนรูปครา่ ว ๆ ตาม ขอ้ กำหนด ซง่ึ อาจเขียนได้ 4 แบบ 5. ครูเลอื กรปู คร่าว ๆ มา 1 รูป แลว้ ร่วมกันวางแผนและจดั ลำดับขนั้ การสรา้ ง พร้อมให้เหตผุ ล 6. จากนัน้ ครสู าธติ การสร้างทีละขัน้ จนได้รูปสเ่ี หลี่ยมตามกำหนด แล้วให้ นักเรียนทำตามครูทีละขน้ั จน ไดร้ ปู ตามต้องการ 7. ครคู วรให้นักเรยี นสร้างรูปสี่เหล่ียมด้านขนาน CDEF แบบอน่ื ๆ ทต่ี ่างจากแบบท่คี รสู าธิต 8. ใหน้ ักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้  การสรา้ งรปู ส่ีเหลี่ยมใด ๆ จะต้องทราบลกั ษณะของรูปส่ีเหลีย่ มนัน้ ๆ 9. ใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครถู ามคำถามท้าทาย ดงั น้ี  นกั เรยี นสามารถนำความรู้เร่ือง การสรา้ งรปู ส่เี หล่ียมเม่อื กำหนดความยาวของด้านและขนาด ของมุมไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั เรื่องใดไดบ้ ้าง 10. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. แบบฝึกหดั 2.4 เปน็ รายบุคคล ช่ัวโมงท่ี 2 1. ครใู หน้ ักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลงั จาก นน้ั ให้นกั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครูนำสนทนาถึงการสร้างรูปสีเ่ หลย่ี มในหนงั สอื หน้า 104 เปน็ การใชว้ งเวยี นชว่ ยในการสร้างรูป ส่เี หลยี่ ม ซึง่ ครคู วรแนะนำวิธีใช้วงเวียน และฝกึ ให้นักเรียนมีทกั ษะการใช้วงเวยี นก่อน 3. จากน้ันจึงแนะนำวิธสี รา้ งรูปส่เี หลี่ยมรูปวา่ ว ABCD ซงึ่ ครอู าจจดั กิจกรรมทำนองเดยี วกันกับการสรา้ ง รปู สเ่ี หลี่ยมดา้ นขนาน CDEF ในหนังสือเรยี นหน้า 102-103 4. ครูแนะนำเพ่มิ เติมว่า การสร้างรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน CDEF อาจใช้วงเวียนในการสร้างขั้นท่ี 3 ดงั นี้

กางวงเวียนรัศมี 4.5 เซนติเมตร ใช้จดุ F เป็นจุดศูนยก์ ลาง เขยี นส่วนโค้ง และกางวงเวียนรัศมี 3 เซนตเิ มตร ใช้จุด D เปน็ จดุ ศูนย์กลางเขยี นสว่ นโค้งให้ตัดกบั สว่ นโค้งแรกทจ่ี ดุ E 5. จากน้นั เขียน FE และ DE จะไดร้ ูปส่ีเหล่ยี มด้านขนาน CDEF ตามตอ้ งการ 6. ใหน้ ักเรยี นและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ ดังน้ี  การสรา้ งรูปสเ่ี หลย่ี มใด ๆ จะต้องทราบลกั ษณะของรปู ส่เี หลยี่ มน้ัน ๆ 7. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงที่ 3 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลงั จาก น้นั ให้นักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนความรเู้ ดมิ เกี่ยวกับการสรา้ งโดยใช้ โพรแทรกเตอร์ 3. ครสู อนการสรา้ งรูปสเี่ หลี่ยมในหนังสือเรียนหน้า 105 เป็นการสรา้ งโดยใช้ โพรแทรกเตอร์ 4. ครูจัดกิจกรรมโดยให้นักเรียนวเิ คราะห์ วา่ โจทยก์ ำหนดอะไร และโจทย์ต้องการอะไร ใหน้ ักเรยี นเขียน รูปครา่ ว ๆ ตามข้อกำหนด 5. ร่วมกนั วางแผน และจัดลำดับข้นั การสร้าง พร้อมให้เหตุผล 6. ครสู าธิตการสร้างทลี ะขนั้ จนไดร้ ูปสเ่ี หลี่ยมตามกำหนด แลว้ ให้นักเรยี นทำตามครูทลี ะขั้นจนได้รปู ตาม ตอ้ งการ 7. ใหน้ ักเรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี  การสร้างรปู สีเ่ หลีย่ มใด ๆ จะต้องทราบลักษณะของรูปสเ่ี หล่ยี มนั้น ๆ และเลอื กใชเ้ ครื่องมอื ในการ สรา้ งไดอ้ ย่างเหมาะสมและถูกตอ้ ง 8. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 7.4 เปน็ รายบุคคล กิจกรรมท่ี 4 การสร้างรูปสเ่ี หลยี่ มเมื่อกำหนดความยาวความยาวของเสน้ ทแยงมุม ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จาก นนั้ ใหน้ ักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ใหน้ ักเรยี นทบทวนความร้เู รอ่ื ง สมบตั ิของเสน้ ทแยงมุมของรูปส่เี หลีย่ ม โดยครูติดแถบโจทย์บน กระดาน แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกชนดิ ของรูปสเี่ หลยี่ มท่ีตรงกบั โจทย์ 3. ครูตดิ แถบโจทย์บนกระดาน 4. ครถู ามคำถามกระตุ้นความคิดของนกั เรียน 5. จากนั้นครอู ธิบายข้นั ตอนการสร้างรูปส่ีเหลี่ยม 6. ครูให้ผูแ้ ทนนกั เรยี น 2 คน ออกมาสรา้ งรปู สเ่ี หลย่ี มจากแถบโจทย์ตามขน้ั ตอน 7. ดำเนนิ กจิ กรรมขอ้ 2 อีกครั้ง โดยครตู ิดแถบโจทย์บนกระดาน

8. ใหน้ ักเรียนทกุ คนสร้างรปู สี่เหลี่ยมตามขน้ั ตอนคนละ 1 รูป จากนน้ั ใหผ้ ูแ้ ทนนกั เรยี น 2 คน ออกมาเสนอผลงานของตนเองและบอกขั้นตอนการสรา้ งรูปส่ีเหล่ียม ครูและนักเรียนในห้องร่วมกนั ตรวจสอบความ ถกู ต้อง 9. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน ครูแจกแถบโจทยใ์ หน้ กั เรียนกลมุ่ ละ 1 แผ่น แล้วให้ นกั เรยี นรว่ มกันคดิ วธิ ีสรา้ งรปู ส่เี หลี่ยมดังกล่าวและสง่ ผแู้ ทนกลุม่ ออกมานำเสนอผลงาน พรอ้ มทั้งอธิบายขัน้ ตอน การสร้างรปู ส่เี หล่ียม นักเรียนกลุ่มอ่ืน ๆ และครูรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง 10. ให้นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี  การสร้างรูปสีเ่ หลยี่ มใด ๆ จะต้องทราบลักษณะของรูปสีเ่ หลีย่ มนน้ั ๆ และเลอื กใชเ้ คร่ืองมือในการ สรา้ งได้อยา่ งเหมาะสมและถูกตอ้ ง 11. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงที่ 2 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสูตรคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก นนั้ ให้นกั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครจู ดั กจิ กรรมโดยอาจเรมิ่ จากการทบทวน ความร้เู กยี่ วกบั เส้นทแยงมมุ ของรปู สีเ่ หลย่ี มแต่ละชนดิ 3. จากนัน้ แนะนำวิธีสร้างรปู ส่เี หลี่ยมในหนงั สอื เรยี นหน้า 107-109 โดยจัดกจิ กรรมทำนองเดียวกนั กับการ สร้างรปู ส่ีเหลี่ยม เมอื่ กำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมมุ 4. คำถามท้ายในหนังสอื เรยี นหนา้ 108 ครอู าจแนะนำให้ นกั เรียนเขียนรูปครา่ ว ๆ ประกอบการตอบ คำถาม ซึ่งในการสรา้ งรปู สีเ่ หลย่ี ม CALS ใหม้ ีขนาดแตกต่างกัน จะข้นึ อยู่กับเสน้ ทแยงมุมท่ีถูกแบง่ ครึ่ง และจดุ ตัด ของเสน้ ทแยงมุม 5. ครใู หน้ ักเรียนฝกึ สรา้ งรูปสเ่ี หล่ียมอ่ืนเพ่ิมเตมิ แล้วร่วมกนั ทำกจิ กรรมในหนังสือเรียนหนา้ 110 6. ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันวเิ คราะหโ์ จทยแ์ ละเขียนรปู ครา่ วๆ แล้วรว่ มกันวางแผนและจดั ลำดบั ข้นั การสร้าง ก่อน 7. หลงั จากสร้างรูปเสร็จแล้ว ครคู วรให้นกั เรียนใชไ้ ม้ฉาก หรือโพรแทรกเตอร์ตรวจสอบรปู ท่สี ร้างวา่ เปน็ รปู สเ่ี หล่ยี มชนิดใด พร้อมบอกเหตุผล จากนั้นใหท้ ำแบบฝึกหดั 7.5 เป็นรายบคุ คล 8. เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความรู้ท่ีได้ ให้นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนังสือหน้า 111 เป็น รายบุคคล 9. ให้นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี  การสร้างรูปสเี่ หลย่ี มใด ๆ จะต้องทราบลกั ษณะของรูปส่เี หลีย่ มนัน้ ๆ และเลือกใชเ้ ครอ่ื งมือในการ สรา้ งได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง 10. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท.

กจิ กรรมท่ี 5 พน้ื ทีข่ องรปู สเ่ี หลย่ี มดา้ นขนาน ช่วั โมงที่ 1 1. ครูใหน้ ักเรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลงั จาก นั้นให้นักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครแู นะนำใหน้ ักเรยี นรู้จักฐาน และสว่ นสูงของรปู สี่เหลี่ยมดา้ นขนาน โดยใช้กระดาษรปู ส่ีเหลยี่ มด้าน ขนาน ประกอบการอธิบาย 3. ใหน้ ักเรยี นพิจารณารปู ในหนังสอื เรยี นหนา้ 112 แลว้ ชว่ ยกันระบุฐานและส่วนสงู ของรปู 4. ครอู ธบิ ายเพ่มิ เติมเกี่ยวกบั การระบุส่วนสูงและฐานของ ABCD 5. จากนัน้ แนะนำพรอ้ มสาธิตวธิ วี ดั ความสูงของกระดาษรูปสเี่ หล่ียมด้านขนานข้างต้น โดยใชค้ วามรู้ เกีย่ วกับการวดั ระยะห่างของเส้นขนาน 6. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันทำกิจกรรมในหนงั สอื หน้า 113 และทำแบบฝึกหดั 7.6 เป็นรายบุคคล 7. ครูใหน้ ักเรยี นปฏิบตั ติ ามกจิ กรรมในหนังสือเรียนหน้า 114-115 พรอ้ มการถาม-ตอบ ประกอบการ อธบิ าย 8. จากนนั้ ให้นักเรียนเขียนรูปส่เี หลี่ยมดา้ นขนานทม่ี ีความยาวของฐานและความสูง เป็นจำนวนนับ คนละ 1 รูป ซง่ึ แตล่ ะคนควรเขียนรูปท่ีมีขนาดแตกต่างกนั โดยเขียนลงในกระดาษตารางรปู ส่เี หล่ียมจัตรุ สั ที่มีความยาว ดา้ นละ 1 เซนติเมตร พร้อมระบายสี 9. ใหป้ ฏบิ ตั กิ จิ กรรมทำนองเดียวกัน กับการหาพ้ืนท่ีของรปู ส่ีเหลี่ยมด้านขนาน อปพร หรือรปู สีเ่ หลยี่ ม ดา้ นขนาน YMCK 10. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม เพือ่ ให้ได้ข้อสรปุ วา่ พน้ื ที่ของรูปสเ่ี หลี่ยมด้าน ขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน 11. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงท่ี 2 1. ครใู หน้ ักเรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้ันให้นกั เรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. นักเรยี นทบทวนเรอ่ื ง รปู ส่ีเหล่ียมด้านขนานโดยให้ผู้แทนนกั เรยี น 2 คน แข่งขนั กันออกมาวาดรูป สเี่ หลีย่ มด้านขนานบนกระดานตามท่คี รูกำหนดให้ 3. จากกิจกรรมข้อ 1 ครูถามคำถามนักเรยี น 4. ครใู ช้การถาม-ตอบประกอบการอธิบายตัวอย่างในหนังสือเรยี นหน้า 116 แล้วรว่ มกันหาพ้นื ทข่ี องรูป สเ่ี หล่ียมด้านขนาน 5. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายผลการปฏิบัติกจิ กรรม เพอ่ื ให้ได้ขอ้ สรปุ วา่ รูปส่เี หล่ียมด้านขนาน เป็น รปู สี่เหล่ียมที่มมี มุ ทอ่ี ยตู่ รงข้ามกัน มขี นาดเท่ากนั ด้านตรงขา้ มยาวเทา่ กันและขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบ่งครง่ึ ซงึ่ กนั และกนั พน้ื ที่ของรปู ส่ีเหล่ียมด้านขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน 6. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 7.7 เปน็ รายบุคคล

กิจกรรมที่ 6 พ้ืนท่ีของรูปสเ่ี หลีย่ มขนมเปียกปนู ชั่วโมงท่ี 1 1. ครใู ห้นกั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก นนั้ ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. นำบตั รภาพรปู ส่เี หลย่ี มด้านขนาน และรปู ส่เี หล่ียมขนมเปยี กปูน ให้นักเรยี นพิจารณาลักษณะที่ เหมือนกนั ของรปู ส่เี หลยี่ มทัง้ สองรปู 3. นักเรียนจะได้ว่า รูปสี่เหลยี่ มขนมเปยี กปนู มีดา้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่ ดังนน้ั จึงมฐี านและสว่ นสงู เช่นเดียวกันกบั รปู ส่ีเหลี่ยมด้านขนาน 4. ให้นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเกย่ี วกบั วิธีหาพ้นื ที่ของรูปสเี่ หล่ียมขนมเปยี กปนู ซ่ึงจะได้ว่า อาจใชว้ ธิ กี าร เดียวกนั กับการหาพ้ืนที่ของรูปส่เี หล่ียมด้านขนาน คือ ความสงู คูณ ความยาวของฐาน 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันหาพ้ืนท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปยี กปูนในหนงั สอื เรยี นหน้า 117 และทำ แบบฝกึ หดั 7.8 เป็นรายบคุ คล 6. จากนน้ั ช่วยกนั สรปุ ใหไ้ ดว้ ่า พ้นื ท่ีของรปู ส่เี หลยี่ มขนมเปียกปนู = ความสูง × ความยาวของฐาน แล้ว รว่ มกนั 7. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงที่ 2 1. ครูให้นักเรยี นท่องสูตรคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลงั จาก นัน้ ให้นักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ให้ผแู้ ทนนกั เรียนออกมาวาดรูปส่เี หล่ยี มขนมเปียกปูนบนกระดานตามที่ครกู ำหนดให้ 3. นกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง และครูถามคำถามนักเรยี น 4. ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครแู จกรปู ส่ีเหลี่ยมดา้ นขนาน/รปู สีเ่ หลีย่ มขนมเปยี กปนู ให้นักเรียนคนละ 1 รูป แลว้ ให้นกั เรียนบอก วา่ เป็นรปู สเ่ี หลีย่ มใด พร้อมท้ังหาพ้นื ท่ีของรูปสเี่ หลีย่ มนนั้ 6. นกั เรยี นแต่ละคนออกมาเฉลยหนา้ ช้ันเรยี น นักเรียนคนอ่ืน ๆ และครรู ่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 7. ครูติดตารางโจทย์บนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนแข่งขนั กนั ออกมาเขยี นคำตอบลงในช่องว่าง ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง และรว่ มกันอภปิ รายวิธกี ารหาคำตอบ 8. เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความร้ทู ี่ได้ ให้นักเรียนทำกจิ กรรมในหนงั สือเรยี นหนา้ 178 เป็น รายบคุ คล 9. จากนน้ั ช่วยกนั สรุปให้ไดว้ ่าพนื้ ที่ของรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยี กปูน = ความสูง × ความยาวของฐาน แลว้ รว่ มกัน 10. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท.

กจิ กรรมที่ 7 พน้ื ท่ีของรปู หลายเหล่ียม ช่วั โมงที่ 1 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก น้ันใหน้ ักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครูจดั กิจกรรมด้วยการนำรปู หลายเหลี่ยมมาต่อกันให้เป็นรปู สเี่ หล่ียมดา้ นขนาน หรือแบง่ รูปหลาย เหลยี่ ม ใหเ้ ปน็ รูปสี่เหล่ยี มดา้ นขนาน แล้วจงึ หาพื้นที่จากรูปสเี่ หลยี่ มด้านขนานน้ัน 3. ครูใหน้ ักเรยี นพิจารณา กขคง ในหนังสอื เรยี นหนา้ 119 วา่ เปน็ รปู สี่เหล่ียมชนิดใด เพราะเหตุใด 4. รว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับการหาพืน้ ท่ีของรูปสีเ่ หลย่ี มดงั กล่าว โดยใชค้ วามรู้เก่ียวกับการหาพน้ื ท่ขี องรปู สเี่ หลี่ยมด้านขนาน ซ่งึ จะได้ว่าพื้นท่ขี องรปู สเี่ หลยี่ มคางหมู กขคง เปน็ ครง่ึ หนึง่ ของพ้นื ท่ีของรูปสีเ่ หล่ยี มดา้ นขนาน กขจฉ 5. จากน้นั ครใู ช้การถาม-ตอบ ประกอบการอธิบายเก่ียวกบั การหาพื้นที่ของ รูปหลายเหลย่ี มในหนงั สอื เรยี นหนา้ 119 6. ร่วมกันทำกิจกรรมในหนงั สือเรียนหนา้ 120 แล้วทำแบบฝึกหดั 7.9 เปน็ รายบุคคล 7. สำหรบั กจิ กรรมหนา้ 120 โจทย์บางข้อ ครคู วรให้นักเรยี นนำเสนอวธิ คี ิดท่ีแตกต่างกันพร้อมอธิบาย เหตุผล และครคู วรอธิบายวิธีคิดอน่ื ท่ีแตกต่างจากวิธีคิดของนักเรยี นเพ่ือใหเ้ หน็ วิธคี ดิ ทีห่ ลากหลาย 8. จากนั้นชว่ ยกนั สรปุ ให้ได้วา่ พน้ื ท่ีของรูปหลายเหล่ยี มว่าควรแบง่ รูปใหเ้ ป็นรปู สีเ่ หล่ยี มด้านขนานหรอื สี่เหล่ยี มขนมเปยี กปนู ใหไ้ ด้ก่อน แล้วจงึ ใช้สตู รหาพื้นที่รปู ส่ีเหลี่ยมด้านขนานหรอื สเี่ หลีย่ มขนมเปยี กปนู แล้วนำแต่ ละรูปมารวมกัน 9. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมท่ี 8 ความยาวรอบรูปของรปู ส่เี หลี่ยม ชัว่ โมงท่ี 1 1. ครใู หน้ ักเรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้นั ใหน้ ักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. การแก้โจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรปู ของรูปสเี่ หลย่ี ม ครนู ำสถานการณ์ปัญหาในหนังสือเรียน หนา้ 121 ให้นกั เรียนร่วมกันพจิ ารณาแลว้ ใชก้ ารถาม-ตอบประกอบการอธบิ ายตามข้ันตอนการแก้ปญั หา 3. ครแู นะนำให้นักเรยี นวาดรูปประกอบการคิดเพื่อช่วยในการวางแผนแก้ปญั หา 4. ยำ้ ให้นักเรยี น ตรวจสอบความถกู ต้องหรือพิจารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบทกุ ครง้ั โดยอาจใช้ เครือ่ งคดิ เลขชว่ ยในการคำนวณ 5. จากนนั้ ให้นกั เรยี นพิจารณาสถานการณป์ ัญหาจากตวั อยา่ งในหนงั สือเรียนหน้า122และเขียนรปู ครา่ วๆ ประกอบ 6. จากนน้ั ใชก้ ารซกั ถามเพือ่ นำไปสกู่ ารวางแผนแกป้ ัญหา แล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง หรอื พิจารณาความสมเหตุของคำตอบ และร่วมกันทำกิจกรรม หนา้ 122 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ว่า การหาความยาวรอบรูป คือ การนำความยาวของทุกๆด้านของรปู สี่เหลยี่ มมารวมกนั

8. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. 7.10 เป็นรายบคุ คล ชว่ั โมงท่ี 2 1. ครใู ห้นักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จาก น้นั ให้นกั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. สนทนาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปของรปู ส่ีเหล่ียมโดยใหน้ ักเรียนส่งตวั แทนออกมาวาดรปู ส่ีเหลี่ยม แบบตา่ งๆ ทนี่ ักเรียนรูจ้ กั พร้อมท้งั ช่วยกนั กำหนดความยาวแตล่ ะดา้ น 3. ครแู นะนำวา่ ความยาวรอบรปู คือบริเวณขอบของรปู ทั้งหมด 4. วิธีการคำนวณคอื นำบริเวณขอบทั้งหมดมาบวกกันผลลพั ธ์ทีไ่ ด้คือความยาวรอบรปู ของรปู นั้น มีหน่วย ตามท่ีโจทย์กำหนด 5. ครยู กตัวอย่างโจทยป์ ญั หาโดยการติดบัตรโจทย์บนกระดาน 6. นกั เรยี นร่วมกันวเิ คราะห์โจทย์ปญั หา 7. ครูใหน้ ักเรยี นจับกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน จบั บัตรโจทย์กลุ่มละ 1 ใบ จากนัน้ ร่วมกันวิเคราะห์โจทย์ ปญั หาและหาคำตอบเก่ียวกับความยาวรอบรปู ของรูปส่ีเหล่ียม 8. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปว่า การหาความยาวรอบรปู คอื การนำความยาวของทุกๆด้านของรูป สี่เหลย่ี มมารวมกนั 9. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมท่ี 9 โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั พนื้ ทีข่ องรูปส่ีเหลย่ี มด้านขนาน ชั่วโมงท่ี 1 1. ครใู หน้ ักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นน้ั ให้นักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ใหน้ ักเรียนทบทวนความรเู้ ร่อื ง การหาพ้ืนท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมด้านขนาน โดยครใู ห้ ออกมาเขยี นสตู รการ หาพนื้ ท่บี นกระดาน 4. ใหน้ กั เรยี นอา่ นโจทย์พร้อมกัน และครูถามคำถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรียน 5. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เร่ืองแกโ้ จทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั พ้ืนท่ีของรูปสเี่ หล่ียมดา้ นขนานในหนังสือเรยี น หน้า 123-125 6. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ เก่ยี วกับการแกโ้ จทยป์ ญั หาเกีย่ วกับพื้นท่ขี องรูปส่เี หลีย่ มด้านขนานตาม กระบวนการแกป้ ญั หาตามข้ันตอน ดงั น้ี ขนั้ ที่ 1 ทำความเข้าใจปญั หา ข้ันท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา ขน้ั ที่ 3 ดำเนินการตามแผน ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบ 7. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท.

ช่วั โมงที่ 2 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก นน้ั ให้นกั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสนทนาว่ามสี ถานการณ์ใดบ้างท่นี ักเรียนจะนำความรูเ้ ร่ืองการหาพน้ื ท่ีด้านขนาน ไปใช้ในชวี ิตจรงิ 3. ครยู กตวั อย่างโดยติดแถบโจทย์บนกระดาน 4. ให้นักเรยี นอ่านโจทย์พรอ้ มกนั และครูถามคำถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรยี น 5. จากนน้ั ให้นักเรยี นรว่ มกนั ทำกิจกรรมในหนังสือเรยี นหน้า 125 แลว้ ทำแบบฝึกหัด 7.11 เป็น รายบุคคล 6. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ เกย่ี วกบั การแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกับพ้ืนที่ของรปู ส่ีเหล่ยี มด้านขนานตาม กระบวนการแกป้ ญั หาตามข้ันตอน 7. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี 3 1. ครูให้นกั เรียนท่องสูตรคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก นน้ั ให้นักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ให้นักเรียนเลน่ เกม ไหนฐานไหนสงู โดยครูตดิ บตั รภาพรูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนานหลายๆภาพ จากนั้นให้ นักเรยี นบอกว่าความยาวของฐาน และความสูง อยู่ที่เส้นใดบนภาพ 3. ครูยกตัวอย่างโดยตดิ แถบโจทยบ์ นกระดาน 4. ให้นักเรยี นอ่านโจทย์พรอ้ มกัน และครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน 5. เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความรู้ที่ได้ ให้นักเรยี นทำกิจกรรมในหนังสือหนา้ 126 เป็น รายบคุ คล 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ เกยี่ วกบั การแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั พนื้ ทข่ี องรูปสเ่ี หลี่ยมด้านขนานตาม กระบวนการแก้ปญั หาตามขน้ั ตอนจะทำใหแ้ ก้โจทยป์ ญั หาได้ถกู ต้องและรวดเรว็ ข้ึน 7. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมที่ 10 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพืน้ ท่ีของรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยี กปูน ชั่วโมงท่ี 1 1. ครใู ห้นักเรียนท่องสูตรคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก นน้ั ใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ใหน้ กั เรยี นทบทวนความร้เู ดมิ เกย่ี วกบั รูปสเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู วา่ มีลกั ษณะและเสน้ ทแยงมมุ เปน็ อยา่ งไร (ดา้ นทุกด้านยาวเทา่ กนั มมุ ตรงข้ามมีขนาดเท่ากัน เส้นทแยงมุมยาวไมเ่ ท่ากนั แตแ่ บง่ คร่งึ ซงึ่ กันและกัน เสน้ ทแยงมมุ ตัดกันเปน็ มุมฉาก) 3. ครยู กตัวอย่างโดยตดิ แถบโจทย์บนกระดาน 4. ใหน้ กั เรียนอา่ นโจทย์พร้อมกัน และครูถามคำถามกระตนุ้ ความคดิ ของนักเรียน

5. นักเรยี นจบั คกู่ บั เพ่ือน ครูแจกแถบโจทยป์ ัญหาใหค้ นละ 1 แถบ แลว้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันวเิ คราะห์ โจทย์ แสดงวธิ ีหาคำตอบลงในกระดาษเปลา่ 6. ครูเลอื กผู้แทนกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น นกั เรยี นกลุ่มอน่ื ๆ รว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง ครเู สนอแนะเพิ่มเติม 7. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปเกยี่ วกบั การแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกับพนื้ ท่ีของรูปสเี่ หลยี่ มขนมเปยี กปูนตาม กระบวนการแก้ปัญหาตามขน้ั ตอนจะทำให้แก้โจทยป์ ญั หาไดถ้ ูกต้องและรวดเร็วขึน้ 8. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงที่ 2 1. ครูใหน้ ักเรียนท่องสูตรคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลงั จาก นั้นให้นักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ครนู ำสถานการณ์ปัญหาในหนังสือเรยี นหน้า 127-128 ให้นกั เรียนร่วมกันพจิ ารณา และเพ่อื ช่วยให้ การทำความเข้าใจปัญหา และการวางแผนแก้ปัญหาได้ง่ายยิง่ ขึ้น 3. ครเู น้นย้ำเก่ียวกบั การตคี วามหมายของคำหรอื ขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นโจทย์ปัญหา และเขียนรปู คร่าว ๆ ประกอบการคิด 4.จากนน้ั ครใู ช้การถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ ายตามขนั้ ตอนการแก้ปญั หา 5.ครใู ชก้ ารถาม-ตอบประกอบการอธบิ ายเกย่ี วกบั ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งความยาวรอบรูปกบั ความยาวของ ด้านของรปู สเ่ี หลี่ยมขนมเปยี กปูน ความสัมพนั ธร์ ะหว่างพ้ืนทข่ี องรูปสเ่ี หลีย่ มขนมเปียกปูน กับความสูงและความ ยาวของฐานเพ่อื นำไปใช้ในการแก้โจทย์ปัญหา 6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เกย่ี วกบั การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพ้นื ทข่ี องรูปสีเ่ หลี่ยมขนมเปยี กปนู ตาม กระบวนการแกป้ ัญหาตามขั้นตอนจะทำใหแ้ ก้โจทย์ปญั หาไดถ้ ูกต้องและรวดเร็วขนึ้ 7. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงท่ี 3 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสตู รคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคณู หลังจาก นน้ั ให้นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2.ให้นกั เรียนทบทวนความรเู้ ร่อื ง โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั การหาพื้นที่ของรปู ส่เี หลีย่ ม โดยครูติดแถบโจทย์ ปญั หาอย่างง่ายบนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั วิเคราะห์โจทย์และสรุปคำตอบ 3. ใหน้ กั เรยี นพิจารณาสถานการณ์ปัญหาจากตวั อย่างในหนงั สอื เรยี นหนา้ 129 และเขียนรูปคร่าว ๆ ประกอบ 4.จากน้ันใช้การซักถามเพ่ือนำไปสกู่ ารวางแผนแกป้ ัญหา 5. ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง หรือพิจารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบ 6. ร่วมกันทำกิจกรรมในหนงั สอื เรยี นหน้า 129 แล้วทำแบบฝึกหัด 7.12 เป็นรายบคุ คล 7. เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความร้ทู ี่ได้ ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรยี นหนา้ 130 เป็น รายบคุ คล

8. เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจและสรปุ ความรทู้ ี่ได้ ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมในหนงั สือเรยี นหน้า 130 เป็น รายบคุ คล 9. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกับการแกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกับพน้ื ทีข่ องรูปสี่เหลยี่ มขนมเปียกปนู ตาม กระบวนการแกป้ ญั หาตามข้ันตอนจะทำให้แกโ้ จทยป์ ัญหาได้ถกู ต้องและรวดเรว็ ขึน้ 10. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงที่ 4 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จาก น้ันให้นักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. รว่ มคิดรว่ มทำเป็นกิจกรรมกลมุ่ ทม่ี ุ่งใหน้ กั เรยี น นำความรเู้ กยี่ วกบั ความยาวรอบรูปและพื้นทีข่ องรูป สเ่ี หล่ยี ม ด้านขนานและรูปสีเ่ หลยี่ มขนมเปียกปนู และเรื่องอ่นื ๆ ที่เรียนมาแล้ว ไปใชใ้ นการแก้ปัญหาผ่าน กจิ กรรม 3. ครูอาจแบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน ช่วยกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมแลว้ นำเสนอผลงาน 4. ครแู ละเพื่อนในชั้นร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นต่าง ๆ 5. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ เก่ียวกบั การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพ้นื ทข่ี องรปู ส่ีเหลย่ี มขนมเปยี กปนู ตาม กระบวนการแกป้ ญั หาตามขัน้ ตอนจะทำใหแ้ กโ้ จทย์ปัญหาไดถ้ ูกต้องและรวดเร็วขน้ึ ดงั น้ี ขัน้ ที่ 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา ข้ันท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ขนั้ ท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน ขัน้ ท่ี 4 ตรวจสอบ พื้นท่ขี องรูปส่ีเหลย่ี มขนมเปยี กปูน = ความยาวฐาน × ความสูง 6. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน 9. ส่อื / แหล่งเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อน และหลงั เรียน 2. หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 สสวท. 3. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 4. โพรแทรกเตอร์ 5. ไม้ฉาก 6. วงเวียน 7. แถบโจทย์ 8. บตั รภาพรูปส่ีเหลีย่ ม 9. ตารางโจทย์

โรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ข้อสอบบทที่ 9 รูปสเี่ หล่ียม มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ค2.1 ป.5/4 , ค2.2 ป.5/2 ป.5/3 คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นทำเครื่องหมาย x ทบั อกั ษรหนา้ คำตอบท่ถี ูกตอ้ งที่สุดเพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 10 ขอ้ ข้อ 1. ถ้า FGCL มี ���̂��� = ���̂��� และ ���̂��� = ���̂��� ดา้ น ขอ้ 5 . จากภาพ พ้นื ท่ขี องรูปสเี่ หลีย่ มด้านขนานมีพื้นที่กี่ ตรงข้ามยาวเทา่ กนั แตด่ ้านท่ีอยู่ติดกนั ยาวไมเ่ ท่ากัน ตารางเซนติเมตร FGCL เปน็ รูปส่เี หลย่ี มชนดิ ใดไดบ้ า้ ง ก. 14 ตารางเซนตเิ มตร ก. รูปสเี่ หลี่ยมผนื ผ้า และรปู สีเ่ หลยี่ มด้านขนาน ข. 10 ตารางเซนติเมตร ข. รูปส่เี หล่ยี มจตั รุ สั และรูปสีเ่ หลีย่ มดา้ นขนาน ค. 15 ตารางเซนตเิ มตร ค. รูปสเ่ี หลีย่ มจัตรุ ัส และรูปสีเ่ หล่ยี มดา้ นขนาน ง. 125 ตารางเซนตเิ มตร ง. รูปสีเ่ หล่ียมจัตรุ ัส และรปู สีเ่ หลย่ี มรูปว่าว ข้อ 6. จากภาพ พ้ืนที่ของรูปสเ่ี หลีย่ มขนมเปียกปูนมีพน้ื ทีก่ ี่ ตารางเซนตเิ มตร ข้อ 2 . ถ้า MDBK มี MD // BK และมุมที่อยตู่ รงข้ามกนั มี ขนาดไมเ่ ทา่ กัน MDBK เป็นรูปสี่เหลยี่ มชนิดใด ก. รูปสี่เหล่ยี มจตั ุรสั ข. รูปสีเ่ หล่ยี มคางหมู ค. รปู สี่เหลี่ยมรปู วา่ ว ง. รูปส่ีเหลย่ี มผืนผ้า ข้อ 3 . ถา้ PUNS เป็นรูปสเี่ หลย่ี มดา้ นขนาน มุมคู่ใดบา้ งท่ีมี ขนาดเท่ากนั ก. ���̂��� = ���̂��� ข. ���̂��� = ���̂��� ค. ���̂��� = ���̂��� ง. ขอ้ ก และ ข ถูก ก. 9.8 ตารางเมตร ข. 10.2 ตารางเมตร ขอ้ 4 . ข้อใดถูกตอ้ ง ค. 1.50 ตารางเมตร ก. รูปสีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก เปน็ รูปสี่เหลย่ี มท่มี เี สน้ ทแยง ง. 1.25 ตารางเมตร มุมตดั กันเป็นมุมฉาก ข้อ 7. ฟา้ ใสต้องการนำลวดมาดดั ให้เป็นรปู สีเ่ หล่ยี มขนม ข. รปู สี่เหล่ยี มท่ีมดี า้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่ เปน็ เปียกปนู ท่ีมีความยาวดา้ นละ 10 เซนติเมตร รปู สี่เหล่ยี มด้านขนาน จำนวน 5 ชิ้น เขาจะต้องเตรียมลวดยาวอย่างนอ้ ยเท่าใด ค. รูปสเี่ หล่ียมทกุ รูปทดี่ ้านทุกด้านยาวเท่ากนั เป็น ก. 200 เซนตเิ มตร รูปสเ่ี หลีย่ มจตั รุ ัส ข. 102 เซนตเิ มตร ง. รปู สี่เหลี่ยมทกุ รูปทม่ี ีมมุ ที่อยู่ตรงขา้ มกนั มขี นาด ค. 150 เซนตเิ มตร เทา่ กนั 1 คู่ เป็นรูปสเี่ หลี่ยมรูปว่าว ง. 125 เซนติเมตร

ขอ้ 8. แผน่ กระเบ้ืองปูพน้ื รปู สเ่ี หล่ยี มขนมเปยี กปนู ยาวดา้ น ละ 0.3 เมตร ดา้ นตรงข้ามหา่ งกัน 0.25 เมตร จำนวน 200 แผ่น จะใชป้ ูพืน้ ท่ีได้มากท่ีสดุ ก่ีตารางเมตร ก. 15 ตารางเมตร ข. 102 ตารางเมตร ค. 150 ตารางเมตร ง. 125 ตารางเมตร ขอ้ 9. แผ่นป้ายเปน็ รปู สี่เหล่ยี มด้านขนานมฐี านยาว 50 เซนตเิ มตร ฐานกับด้านตรงข้ามกบั ฐานหา่ งกนั 20 เซนติเมตร ถ้าต้อมทาสที ้งั สองดา้ นคิดเป็นพน้ื ที่ก่ตี าราง เซนตเิ มตร ก. 4,000 ตารางเซนติเมตร ข. 1,000 ตารางเซนตเิ มตร ค. 3,000 ตารางเซนตเิ มตร ง. 2,000 ตารางเซนตเิ มตร ข้อ 10. แดงใช้เชือกทงั้ หมด 30 เมตร ขึงล้อมรอบบริเวณ เพ่ือทำสวนหยอ่ มรูปสี่เหล่ยี มด้านขนานโดยใหด้ ้านที่อยตู่ รง ข้ามกนั คู่หนง่ึ ยาว 6 เมตร และดา้ นอีกคู่หนงึ่ ห่างกัน 5 เมตร สวนหย่อมนมี้ ีพ้นื ทเ่ี ท่าใด ก. 45 ตารางเมตร ข. 50 ตารางเมตร ค. 55 ตารางเมตร ง. 125 ตารางเมตร ผตู้ รวจขอ้ สอบ ลงช่อื .................................................ครูผสู้ อน (นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา)

ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี น ในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในช่องวา่ ง ให้ตรงกบั ระดับคะแนน และตามความเปน็ จริง โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน ดังน้ี 4 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนมาก และบอ่ ยครั้งสม่ำเสมอ 3 = พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครง้ั 1 = พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติบางครัง้ คุณลักษณะอนั ระดบั คะแนน พึงประสงค์ รายการประเมนิ 4 321 ด้าน 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษัตรยิ ์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซือ่ สตั ย์สจุ รติ 2.1 ปฏิบัติตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ตอ่ ผ้อู ืน่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบยี บของห้อง 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมเี หตผุ ล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั พอเพยี ง 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มงุ่ มนั่ ในการ 6.1 มคี วามต้ังใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค เพ่ือให้งานสำเรจ็ 7. รักความเปน็ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักการให้เพ่ือสว่ นรวม และเพ่ือผู้อื่น 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ำ้ ใจหรอื การให้ความชว่ ยเหลอื ผอู้ ื่น 8.3 เข้าร่วมกจิ กรรมบำเพ็ญตนเพื่อส่วนรวมเมือ่ มีโอกาส ช่ือ......................................................................................................................ชั้น.................เลขท.ี่ .................

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) ปีการศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรปุ ผลการประเมินคุณภาพ ผลการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัมพันธ์กัน การสนทนาเ ื่รอง ่ีทกำหนด การ ิตด ่ตอ ื่สอสาร พฤ ิตกรรมการทำงานก ุ่ลม รวม ระดับ ุคณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 4 2 3 3 2 4 1 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ (ด)ี (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา) ได้คะแนน 11-13 คะแนน = (พอใช)้ วนั ....เดือน...............ป.ี ...... (ปรบั ปรงุ ) ได้คะแนน 8-10 คะแนน = ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน = * เกณฑผ์ า่ นการประเมินตอ้ งได้ 2 (พอใช)้ ขึน้ ไป

แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ปกี ารศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนน และสรุปผลการประเมนิ คุณภาพ ผลการประเมิน เลขท่ี ชอื่ -สกลุ คะแนน ระดับ ุคณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ไดค้ ะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงช่ือ.........................................ผปู้ ระเมิน ได้คะแนน 11-13 คะแนน =3 (ด)ี (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช)้ วัน....เดือน...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรับปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ต้องได้ 2 (พอใช)้ ขนึ้ ไป

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำแบบทดสอบ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) ปีการศกึ ษา 2562 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น และประเมินผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนก่อนเรียน(10) คะแนนหลังเรียน(10) ้รอยละ ่ผาน/ไม่ ่ผาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผเู้ รียนต้องมีคะแนนสอบหลังเรยี นผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ) ลงชื่อ.........................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) วนั ....เดือน...............ป.ี ......

บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรปุ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนกั เรยี นทไ่ี ม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ 3. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ไมผ่ า่ น............ คน ผา่ น.............คน ดี..................คน ดเี ยย่ี ม................คน ระดบั ดขี น้ึ ไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ไมผ่ า่ น............ คน ผา่ น.............คน ดี..................คน ดเี ย่ยี ม................คน ระดบั ดีข้ึนไป ร้อยละ..................... 5. นกั เรียนเกดิ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใดบ้าง ทำเคร่ืองหมาย / ในช่องวา่ งทตี่ รงกับทักษะท่ีเกดิ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปัญหา การสร้างสรรค์ ความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ การสือ่ สาร ด้านความร่วมมอื การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ ทกั ษะการเปลีย่ นแปลง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรียนการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแก้ไข • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื งชนดิ และสมบตั ขิ องรูปสี่เหลี่ยม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................................ • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ งชนิดและสมบัตขิ องรปู ส่เี หลยี่ ม สมบตั ิของรูปสเี่ หลย่ี มเกี่ยวกับเส้นทแยงมุม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ............................................. • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื งการสร้างรูปสเ่ี หลย่ี มเม่อื กำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรื่องการสรา้ งรปู ส่ีเหลย่ี มเม่ือกำหนดความยาวของเส้นทแยงมุม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ...................................................

ผลการจัดการเรียนการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เร่ืองการหาพืน้ ที่ของรูปสีเ่ หลยี่ มด้านขนาน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6 เรือ่ งการหาพน้ื ท่ีของรูปส่ีเหล่ยี มขนมเปียกปูน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................. ................................... • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 เรื่องพื้นที่รูปหลายเหล่ยี ม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................................ • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 เรื่องความยาวรอบรปู ของรปู สเ่ี หลย่ี ม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................ ................................ • แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพ้นื ที่ของรปู สเี่ หลย่ี มด้านขนาน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................................ • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่องการหารโดยการเขียนในรูปทศนยิ ม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ......................................................................................................................................... ...................................... ................................................................................................................................................................................ ลงชือ่ .................................................. (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา)

ความคิดเหน็ หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้/ผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ…………………………………………………… (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา ) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ .................../......................./......................... ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. .... .............................................................................................................................. ................................................................... ......................................................................................... .................................................................... .................................... ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถ)ิ โรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดิร์ าษฎรบ์ ำรุง) ................../......................./......................

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 รูปส่เี หล่ียม เวลา 24 ชั่วโมง เรอ่ื ง ชนดิ และสมบัติของรูปสีเ่ หลีย่ ม เวลา 3 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รปู สี่เหลย่ี มจตั ุรสั เป็นรปู ส่ีเหล่ียมทีม่ มี มุ ทกุ มุมเป็นมุมฉาก ด้านทุกด้านยาวเทา่ กนั ด้านตรงขา้ มขนาน กัน 2 คู่ เส้นทแยงมุม ยาวเท่ากัน แบ่งครึ่งซง่ึ กนั และกัน และตดั กนั เป็นมมุ ฉาก รปู สี่เหลย่ี มผนื ผ้า เปน็ รูปสเ่ี หลยี่ มทีม่ มี มุ ทกุ มมุ เปน็ มุมฉาก ด้านตรงขา้ มยาวเท่ากันและขนานกัน 2 คู่ ดา้ นท่ีอยู่ ตดิ กนั ยาวไมเ่ ท่ากนั เสน้ ทแยงมมุ ยาวเท่ากัน และแบง่ คร่ึงซง่ึ กนั และกัน รูปสเ่ี หล่ยี มขนมเปยี กปูน เปน็ รูปส่ีเหลย่ี มทมี่ ีมมุ ทุกมุมไมเ่ ป็นมุมฉาก มุมท่ีอยตู่ รงขา้ มกนั มขี นาดเท่ากนั ดา้ น ทุกด้านยาวเท่ากนั ด้านตรงขา้ มขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบ่งครึ่งซ่ึงกนั และกัน และตดั กันเป็นมุมฉาก รูปสี่เหลย่ี มด้านขนาน เปน็ รูปส่ีเหลี่ยมทม่ี ีมุมท่ีอยตู่ รงข้ามกัน มีขนาดเท่ากนั ดา้ นตรงข้ามยาวเท่ากันและ ขนานกนั 2 คู่ เส้นทแยงมุมแบ่งครง่ึ ซ่ึงกนั และกนั รปู สี่เหลี่ยมคางหมู เปน็ รูปสเ่ี หลีย่ มทีม่ ีด้านขนานกนั 1 คู่ รปู สี่เหลีย่ มรูปว่าว เป็นรปู สเ่ี หลี่ยมทมี่ ีมุมทอี่ ยู่ตรงขา้ มกันมีขนาด เท่ากนั 1 คู่ และดา้ นท่ีอยตู่ ดิ กันยาวเท่ากนั 2 คู่ เส้นทแยงมุม ตดั กันเป็นมมุ ฉาก และมีเสน้ ทแยงมุมเพียงเส้นเดียวที่ถูกแบ่งครึ่ง ดว้ ยเส้นทแยงมมุ อีกเสน้ หนึง่ 2. ตวั ช้วี ัด ค 2.2 ป.5/2 จำแนกรปู สี่เหลี่ยมโดยพจิ ารณาจากสมบัติของรปู 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกลกั ษณะของรูปสีเ่ หลยี่ มตา่ งๆได้ (K) 2. จำแนกรปู สีเ่ หล่ยี มโดยพิจารณาจากสมบัติของรปู สี่เหลยี่ มได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ ชนิดและสมบตั ขิ องรปู ส่ีเหล่ยี ม 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ม่งุ มั่นในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 ข้นั ตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จาก นั้นใหน้ กั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบกอ่ นเรยี น ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครูทบทวนความรเู้ ก่ียวกับรปู ส่เี หลี่ยมมุมฉาก โดยอาจใหน้ ักเรียนสำรวจห้องเรียนของตนเอง แลว้ ให้ บอกวา่ พบรปู สีเ่ หลย่ี มมุมฉากทใ่ี ดบา้ ง พร้อมบอกชนิดของรปู ส่เี หลี่ยมมมุ ฉากที่พบ ขน้ั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 3. ใหน้ ักเรียนใช้กระดาษท่ีพบั เป็นมมุ ฉาก ไม้ฉาก หรือโพรแทรกเตอร์ในการตรวจสอบขนาดของมมุ 4. จากนัน้ ใช้ภาพหนา้ เปิดบทนำสนทนาเพื่อกระตุน้ ความสนใจเก่ยี วกับรูปส่เี หล่ยี มชนดิ อ่ืน ๆ 5. กิจกรรมเตรียมความพร้อมในหนงั สอื เรยี นหน้า 90-91 เป็นการตรวจสอบความรู้พ้ืนฐานทีจ่ ำเป็น สำหรับการเรยี นบทน้ี ถ้าพบว่านักเรียนยังมีความรู้พื้นฐานไมเ่ พยี งพอ ควรทบทวนก่อน ขน้ั ตอนท่ี 4 : การสรปุ 6. ครสู รุปเกี่ยวกบั ความยาวด้าน ของรูปสีเ่ หล่ยี มผืนผ้าวา่ ด้านทสี่ ้ันกวา่ เรียกว่า ด้านกว้าง และด้านท่ี ยาวกวา่ เรียกวา่ ดา้ นยาว ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใชท้ นั ที 7. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 7.1 เปน็ รายบคุ คล ช่วั โมงท่ี 2 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครใู ห้นกั เรยี นท่องสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นน้ั ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครสู อนชนิดของรปู สี่เหล่ียมโดยให้นักเรียน สามารถจำแนกและบอกลกั ษณะของรปู ส่เี หล่ยี ม แต่ละชนิดได้ ซ่ึงครูจัดกจิ กรรมโดยเรมิ่ จาก Dการทบทวนความร้เู กย่ี วกับมุมและเส้นขนาน เชน่ B E AC ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 3. ใหน้ ักเรียนแสดงวธิ วี ดั ขนาดของมุม และตรวจสอบวา่ มีส่วนของเส้นตรงคู่ใดบ้างท่ีขนานกนั

4. จากนนั้ ครูแนะนำเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกับมุมท่ีอยู่ตรงข้ามกันของรูปสีเ่ หลีย่ มวา่ เป็นมุมที่ไมอ่ ยู่ตดิ กัน และไมม่ ี แขนของมุมร่วมกัน 5. ทำกิจกรรมสำรวจรปู สีเ่ หลยี่ มในหนังสือเรียนหนา้ 92 ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับผลทไี่ ดจ้ ากการสำรวจ เพอ่ื นำไปสู่ ข้อสรปุ เก่ียวกับการจำแนก ชนิดของรปู สีเ่ หลย่ี ม หน้า 93 ขั้นตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ช้ทันที 7. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงท่ี 3 ขั้นตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ ักเรียนท่องสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจาก น้นั ใหน้ กั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครตู ดิ บตั รภาพรปู สี่เหลย่ี มชนดิ ตา่ งๆไว้บนกระดาน ใหน้ กั เรียนเลน่ เกม “ตอบเร็ว ตอบไว” โดยให้ นกั เรียนเขยี นชอ่ื ของรูปสีเ่ หล่ียมนัน้ ๆ ให้ถกู ตอ้ งและรวดเร็ว จงึ จะชนะ 3. ในหนงั สอื เรยี นหน้า 93-94 เป็นชนิดของรปู ส่ีเหลี่ยม พร้อมตวั อยา่ ง ซึ่งเมื่อพจิ ารณาจากขนาดของมุม ความยาวของดา้ น และการขนานกนั ของด้าน สามารถจำแนกได้ 6 ชนดิ ได้แก่ รูปสเ่ี หลยี่ มจตั ุรัส รูป สเ่ี หล่ียมผนื ผ้า รูปสีเ่ หล่ียมขนมเปียกปนู รูปสเ่ี หลย่ี มดา้ นขนาน รูปสเี่ หล่ยี มคางหมู และรปู ส่ีเหล่ียมรูปว่าว 4. สำหรบั รปู สี่เหลย่ี มรูปว่าว ครูตอ้ งสรา้ งความเข้าใจเกี่ยวกบั มุมทม่ี ขี นาดเท่ากนั 1 คู่ ว่า เปน็ มุมที่อยตู่ รง ขา้ มกนั และมีดา้ นท่ยี าวไม่เท่ากนั เป็นแขนของมมุ ขั้นตอนที่ 3 : การฝึก 5. ครูยกตวั อยา่ งรปู สเี่ หลีย่ มเพม่ิ เติม ให้นักเรียนตรวจสอบและบอกชนิดของรูปสเ่ี หลี่ยม พร้อมระบุ เหตุผล แล้วร่วมกันอภปิ รายว่ารปู ส่ีเหลีย่ มชนิดใดบา้ งท่เี ป็นรูปสีเ่ หลยี่ มด้านขนาน เพราะเหตใุ ด ข้ันตอนท่ี 4 : การสรุป 6. จากน้นั ร่วมกันทำกจิ กรรมในหนงั สือเรียนหนา้ 95 แลว้ ให้ทำแบบฝกึ หัด 7.2 เป็นรายบุคคล ❖ รูปสีเ่ หลย่ี มจตั ุรสั เปน็ รปู สเี่ หลีย่ มที่มมี ุมทุกมุมเปน็ มุมฉาก ดา้ นทกุ ด้านยาวเทา่ กัน ด้านตรงข้ามขนาน กนั 2 คู่ ❖ รูปสเ่ี หลีย่ มผนื ผ้า เป็นรูปสี่เหล่ียมท่มี มี ุมทกุ มมุ เป็นมุมฉาก ด้านตรงข้ามยาวเทา่ กันและขนานกัน 2 คู่ ด้านท่ี อยตู่ ดิ กนั ยาวไมเ่ ท่ากัน ❖ รปู สเ่ี หลี่ยมขนมเปยี กปนู เป็นรปู สเ่ี หลย่ี มที่มมี ุมทกุ มุมไม่เป็นมมุ ฉาก มุมที่อย่ตู รงข้ามกันมขี นาดเท่ากัน ดา้ น ทกุ ด้านยาวเทา่ กนั ด้านตรงข้ามขนานกัน 2 คู่ ❖ รูปสเ่ี หลี่ยมดา้ นขนาน เปน็ รปู สเ่ี หลีย่ มทีม่ มี ุมที่อยู่ตรงขา้ มกัน มขี นาดเทา่ กัน ดา้ นตรงข้ามยาวเทา่ กันและ ขนานกัน 2 คู่ ❖ รูปสี่เหลย่ี มคางหมู เปน็ รูปสี่เหลยี่ มทม่ี ดี า้ นขนานกนั 1 คู่

❖ รูปสเ่ี หล่ียมรูปว่าว เป็นรูปสเ่ี หลีย่ มทมี่ ีมุมที่อยู่ตรงข้ามกนั มขี นาด เท่ากัน 1 คู่ และด้านทอี่ ยู่ตดิ กนั ยาวเท่ากัน 2 คู่ ขั้นตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทันที 7. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวัดผลและประเมนิ ผล การวัดผล 1. สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มน่ั ในการทำงาน 2. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น การประเมินผล 1. ถอื เกณฑ์ผา่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรับผูท้ ี่ได้ระดบั คุณภาพตัง้ แต่ 2 ขึน้ ไป 2. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรับผู้ท่ีทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตง้ั แต่ 2 ขึน้ ไป 3. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผทู้ ่ีทำงานได้ระดับคณุ ภาพตงั้ แต่ 2 ขึ้นไป 4. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผู้ท่ีทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรยี นได้ร้อยละ 60 ข้นึ ไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 3. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 สสวท. 4. โพรแทรกเตอร์ 5. ไมฉ้ าก

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 24 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 รูปสี่เหล่ยี ม เวลา 2 ชว่ั โมง เรื่องสมบัติของรูปสเ่ี หลี่ยมเกี่ยวกบั เสน้ ทแยงมุม 1. สาระสำคัญ รูปสเ่ี หลย่ี มจัตรุ ัส เปน็ รูปสเี่ หล่ยี มทม่ี มี ุมทกุ มุมเปน็ มุมฉาก ด้านทุกด้านยาวเทา่ กนั ดา้ นตรงขา้ มขนาน กนั 2 คู่ เส้นทแยงมุม ยาวเทา่ กนั แบง่ ครึง่ ซึง่ กนั และกนั และตัดกนั เป็นมมุ ฉาก รูปสี่เหลยี่ มผืนผา้ เป็นรูปสี่เหลี่ยมทม่ี ีมุมทุกมุมเปน็ มุมฉาก ด้านตรงขา้ มยาวเทา่ กนั และขนานกัน 2 คู่ ดา้ นท่ีอยู่ ตดิ กันยาวไม่เท่ากัน เสน้ ทแยงมมุ ยาวเท่ากนั และแบ่งคร่ึงซึง่ กนั และกัน รปู สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เป็นรปู สี่เหล่ียมท่ีมมี ุมทุกมุมไม่เป็นมุมฉาก มุมที่อยู่ตรงข้ามกันมขี นาดเท่ากัน ดา้ น ทกุ ด้านยาวเทา่ กัน ด้านตรงขา้ มขนานกัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ คร่ึงซึ่งกันและกัน และตัดกันเป็นมุมฉาก รูปสี่เหลีย่ มดา้ นขนาน เป็นรปู สีเ่ หล่ียมทม่ี มี มุ ที่อยตู่ รงข้ามกัน มขี นาดเทา่ กนั ด้านตรงข้ามยาวเทา่ กนั และ ขนานกัน 2 คู่ เส้นทแยงมมุ แบ่งคร่งึ ซึ่งกันและกัน รปู สเ่ี หลีย่ มคางหมู เป็นรูปสี่เหลี่ยมทมี่ ดี ้านขนานกนั 1 คู่ รปู สเ่ี หลยี่ มรูปว่าว เปน็ รูปสเี่ หลยี่ มทมี่ มี ุมทอ่ี ยู่ตรงข้ามกนั มขี นาด เท่ากนั 1 คู่ และด้านทอี่ ย่ตู ิดกันยาวเทา่ กัน 2 คู่ เส้นทแยงมุม ตัดกันเป็นมมุ ฉาก และมีเส้นทแยงมุมเพียงเส้นเดียวทีถ่ ูกแบ่งครง่ึ ดว้ ยเสน้ ทแยงมุมอีกเสน้ หน่งึ 2. ตวั ชว้ี ดั ค 2.2 ป.5/2 จำแนกรปู สี่เหลีย่ มโดยพิจารณาจากสมบตั ิของรูป 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกลักษณะของรูปสีเ่ หล่ียมตา่ งๆได้ (K) 2. เขียนจำแนกรปู สเ่ี หลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูปส่ีเหลยี่ มได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ ชนดิ และสมบัตขิ องรปู สเี่ หลีย่ ม สมบตั ขิ องรปู สี่เหลี่ยมเกยี่ วกับเส้นทแยงมุม 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรียนท่องสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก น้นั ใหน้ กั เรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. การสอนสมบตั ิของรูปส่ีเหลี่ยมเก่ียวกับเส้นทแยงมุม ครอู าจจดั กจิ กรรมโดยเรม่ิ จากการทบทวน ความรูเ้ ก่ยี วกบั เส้นทแยงมุม 3. จากนั้นติดบตั รภาพบนกระดาน 4. ให้นกั เรียนบอกวา่ ส่วนของเสน้ ตรงใดเปน็ เสน้ ทแยงมมุ ของ ACDE เพราะเหตใุ ด สว่ นของเส้นตรงใดเปน็ เส้นทแยงมมุ ของ BCDE เพราะเหตุใด 5. จากนัน้ ทบทวนความหมายของคำวา่ “แบ่งครงึ่ ซ่ึงกันและกนั ” ขนั้ ตอน ท่ี 3 : การฝึก 6. ให้ทำกิจกรรมสำรวจเส้นทแยงมุมในหนังสอื หน้า 96-97 แลว้ ร่วมกันอภปิ รายเก่ียวกับผลทไี่ ดจ้ ากการ สำรวจ เพอื่ นำไปสู่ขอ้ สรุปเก่ียวกับสมบตั ขิ องรปู สเ่ี หล่ียมในหนังสอื เรียนหน้า 98-99 ขัน้ ตอนที่ 4 : การสรุป 7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุป สมบัติของรูปส่เี หลี่ยมเกยี่ วกับเสน้ ทแยงมุม ❖ รูปสเ่ี หลยี่ มจตั รุ ัส เป็นรปู สีเ่ หลีย่ มทีม่ มี มุ ทกุ มมุ เป็นมุมฉาก ด้านทกุ ดา้ นยาวเทา่ กนั ดา้ นตรงขา้ มขนาน กัน 2 คู่ เส้นทแยงมมุ ยาวเท่ากนั แบ่งครง่ึ ซึง่ กันและกัน และตัดกนั เปน็ มุมฉาก ❖ รปู สี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นรูปสี่เหลีย่ มท่ีมีมุมทกุ มุมเปน็ มุมฉาก ด้านตรงข้ามยาวเทา่ กันและขนานกัน 2 คู่ ดา้ นที่ อย่ตู ดิ กนั ยาวไมเ่ ท่ากนั เสน้ ทแยงมุมยาวเทา่ กนั และแบ่งคร่งึ ซึ่งกันและกนั ❖ รูปสีเ่ หลี่ยมขนมเปยี กปูน เป็นรูปส่ีเหลี่ยมที่มมี มุ ทุกมุมไมเ่ ปน็ มุมฉาก มมุ ท่ีอยู่ตรงขา้ มกันมีขนาดเท่ากนั ดา้ น ทุกด้านยาวเทา่ กัน ดา้ นตรงข้ามขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบ่งคร่ึงซงึ่ กนั และกนั และตัดกันเปน็ มมุ ฉาก ❖ รปู สี่เหลี่ยมด้านขนาน เป็นรปู สีเ่ หลี่ยมที่มีมมุ ท่อี ยตู่ รงขา้ มกัน มีขนาดเทา่ กัน ด้านตรงข้ามยาวเท่ากันและ ขนานกนั 2 คู่ เส้นทแยงมุมแบง่ คร่ึงซง่ึ กันและกัน ❖ รปู สีเ่ หลีย่ มคางหมู เปน็ รปู ส่เี หลี่ยมท่มี ีดา้ นขนานกนั 1 คู่

❖ รูปส่เี หลย่ี มรปู วา่ ว เปน็ รูปสเ่ี หลีย่ มทม่ี ีมมุ ที่อยู่ตรงขา้ มกนั มีขนาด เทา่ กัน 1 คู่ และดา้ นทอ่ี ยูต่ ดิ กนั ยาวเท่ากนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุม ตดั กนั เป็นมมุ ฉาก และมีเสน้ ทแยงมุมเพียงเส้นเดียวทีถ่ กู แบ่งครง่ึ ด้วยเสน้ ทแยงมุมอกี เสน้ หนึ่ง ขนั้ ตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 8. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี 2 ข้นั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูให้นักเรยี นท่องสตู รคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก น้นั ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ให้นกั เรยี นทบทวนความรู้เร่ือง รูปส่เี หลีย่ มและชนิดของรปู สเ่ี หลีย่ ม โดยครตู ิดรปู ส่เี หลีย่ ม บนกระดาน 2 รูป ดงั ตัวอยา่ ง Q RM N AB T รูปที่ 1 SP รปู ท่ี 2 O ครถู ามคำถามกระต้นุ ความคิดของนักเรียน ดงั นี้  รปู ที่ 1 มชี อ่ื วา่ อะไร ( QRST) เป็นรูปสเ่ี หลยี่ มอะไร (ส่เี หล่ยี มผืนผ้า)  เสน้ ทแยงมมุ คือเสน้ ใด ( QS และ RT ) เส้นทแยงมุมตัดกันทจี่ ุดใด (จุด A)  รูปท่ี 2 มชี อื่ วา่ อะไร ( MNOP) เป็นรปู สีเ่ หล่ียมอะไร (ส่เี หลย่ี มคางหมู)  เส้นทแยงมมุ คือเสน้ ใด ( MO และ PN ) เสน้ ทแยงมมุ ตัดกนั ทจ่ี ุดใด (จุด B) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 3. ในหนังสอื เรยี นหน้า 98-99 เป็นสมบตั ขิ องรปู ส่เี หลยี่ มชนิดต่าง ๆ ซ่งึ ครูอาจใชก้ ารซกั ถาม และใหแ้ สดงเหตุผล ขั้นตอน ที่ 3 : การฝึก 4. จากน้นั รว่ มกนั ทำกิจกรรมหนา้ 100 แล้วให้ทำแบบฝกึ หดั 7.3 เปน็ รายบคุ คล 5. เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความรู้ที่ได้ ให้นักเรียนทำกิจกรรมหน้า 101 เป็นรายบุคคล ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรุป 6. จากนน้ั ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกับสมบตั ิของเส้นทแยงมุมของรปู ส่เี หลย่ี มวา่ มอี ะไรบ้าง โดยให้ผู้แทนนักเรยี นออกมาเขยี นสรุปเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดังตัวอยา่ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook