บนั ทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรุง) ท…่ี …………………วันที่ ………… เดือน …………………….. พ.ศ.๒๕๖๓ เร่อื ง ขออนญุ าตใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์ บำรุง) ได้รบั มอบหมายให้ปฏบิ ัติหน้าท่ีการสอน รายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค๑๖๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ ตามหลักการพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสาร หนว่ ยการเรยี นท่ี ๔ ชือ่ หน่วย ทศนิยม เวลาเรียน ๑๗ ช่ัวโมง มาพร้อมกบั เอกสารน้ี จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ ลงช่อื (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา) ตำแหนง่ ครู ลงชือ่ (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ความเหน็ ผ้อู ำนวยการโรงเรียน อนุญาต ไมอ่ นุญาต เพราะ ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ ( นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ............./................../.............
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ เร่อื ง ทศนิยม ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั ค๑๖๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา โรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรุง) สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑ สำนักานคณะกรรมการการศึกษาขนึ้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ค๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง ศึกษาตัวประกอบ จำนวนเฉพาะ และตัวประกอบเฉพาะ การแยกตัวประกอบ ห.ร.ม. ค.ร.น. โจทย์ ปัญหาเกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. การเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ การเรียงลำดับเศษส่วนและ จำนวนคละ การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน และจำนวนคละ ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม การหารทศนิยมที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยม ไม่เกิน 3 ตำแหน่ง โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับทศนิยม อัตราส่วน อัตราส่วนที่เท่ากัน มาตราส่วน โจทย์ปั ญหา อัตราสว่ นและมาตราส่วน โจทย์ปญั หารอ้ ยละ ชนดิ และสมบัตขิ องรูปสามเหล่ียม การสรา้ งรูปสามเหล่ยี ม ส่วน ต่าง ๆ ของวงกลม การสร้างวงกลม ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม มุมภายในของรูปหลาย เหล่ยี ม ความยาวรอบรปู และพ้ืนท่ีของรูปหลายเหล่ียม โจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรูปและพื้นท่ีของรูป หลายเหล่ยี ม ความยาวรอบรปู และพนื้ ท่ขี องวงกลม โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู และพ้ืนที่ของวงกลม ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย และพีระมิด รูปคลี่ของทรงกระบอก กรวย ปริซึม และพีระมิด ปริมาตรของรูป เรขาคณิตสามมิติที่ประกอบด้วยทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมิติท่ี ประกอบดว้ ยทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก การแก้ปัญหาเก่ยี วกบั แบบรปู และการนำเสนอข้อมลู โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตุผล การเชื่อมโยง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ และกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิง่ ต่าง ๆ และใช้ในชีวติ ประจำวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ มีความคดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรคแ์ ละมคี วามเช่ือมน่ั ในตนเอง รหัสตวั ช้วี ดั ค ๑.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ป.๖/๗ ป.๖/๘ ป.๖/๙ ป.๖/๑๐ ป.๖/๑๑ ป.๖/๑๒ ค ๑.๒ ป.๖/๑ ค ๒.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ค ๒.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ค ๓.๑ ป.๖/๑ รวมท้งั หมด ๒๑ ตวั ชี้วัด
ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู ร/ออ รหัส ค๑๖๑๐๑ วชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถ ครผู สู้ อน นางสาวแพร หนว่ ยที่ มฐ ตัวชีว้ ดั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๔ ค ป.๖/๙ :หาผลหารของทศนิยมทตี่ วั หาร ๑.บอกหลกั การเขียนเศษส่วนและ ทศนยิ ม ๑.๑ และผลหาร เป็นทศนิยมไมเ่ กนิ ๓ จำนวนคละเปน็ ทศนยิ มได้ (K) ๒.เขียนแสดงการแปลงเศษสว่ น ตำแหน่ง และจำนวนคละทีก่ ำหนดให้ในรูป ของทศนิยมได้ (P) ๑.บอกหลักการหารทศนิยมท่ี ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยมไม่ เกนิ ๓ ตำแหนง่ ได้ (K) ๒.เขียนแสดงวิธีหาผลหารทศนิยม ที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยม ไม่เกนิ ๓ ตำแหน่งได้ (P) ๑.บอกหลักการหารทศนิยมที่ ตัวหารและผลหาร เป็นทศนิยมไม่ เกนิ ๓ ตำแหนง่ ได้ (K) ๒.เขียนแสดงวธิ ีหาผลหารทศนิยม ที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยม ไม่เกนิ ๓ ตำแหนง่ ได้ (P) ๑.บอกหลักการแลกเปลี่ยน เงนิ ตราได้ (K) ๒.เขยี นแสดงวธิ หี าการ แลกเปลย่ี นเงนิ ตราได้ (P) ๓.นำความรู้เกี่ยวกับการ แลกเปลี่ยนเงินตราไปใช้ในชีวิต จริงได้ (A)
อกแบบหน่วยการเรียนรู้ ชิ้นงาน สอื่ การสอน วัดผล/ เวลา ถมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เรียน รวรุ่ง ศรีประภา ๒ สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ /ภาระงาน ประเมิน ๑.การเขยี นเศษส่วนและ อธิบาย จานพิซซ่า ๑.ตารางสบิ ๑.ทดสอบ จำนวนคละในรปู ทศนยิ ม แสดง ๒.บตั รโจทย์ (ก่อนเรียน) ทศนิยม ๒.ตรวจ แบบฝกึ หัด ๑.การหารทศนิยมด้วย - ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๒ จำนวนนับ การหาร แบบฝึกหัด ทศนิยม ๑.การหารทศนิยมด้วย - ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๒ ทศนิยมหนง่ึ สอง สาม การหาร แบบฝึกหดั ตำแหน่ง ทศนยิ ม ๑.การแลกเปลีย่ นเงนิ ตรา - ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๑ ปัญหา แบบฝกึ หัด
หนว่ ยท่ี มฐ ตวั ช้ีวัด จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ป.๖/๑๐ :แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ ๒.เขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหา ปญั หาการบวก การลบ การคูณ การหาร คำตอบได้จากโจทย์ปัญหาการ ทศนยิ ม 3 ขน้ั ตอน หารเศษสว่ นจำนวนคละได้ (P) ๑.บอกขน้ั ตอนการแกโ้ จทย์ปัญหา เก่ียวกบั ทศนยิ มที่กำหนดให้ได้ (K) ๒.เขียนแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหา และหาคำตอบเกี่ยวกับทศนิยมไม่ เกินสามตำแหน่งที่กำหนดให้ได้ (P) ๓.นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหา ทศนิยมไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ ได้ (A) ๑.บอกข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหา เกยี่ วกบั ทศนยิ มท่กี ำหนดให้ได้ (K) ๒.เขียนแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหา และหาคำตอบเกี่ยวกับทศนิยมไม่ เกินสามตำแหน่งที่กำหนดให้ได้ (P) ๓.นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหา ทศนยิ มไปใช้ในชีวติ จริงได้ (A) ๑.บอกขนั้ ตอนการแก้โจทย์ปัญหา เกี่ยวกบั ทศนยิ มทกี่ ำหนดใหไ้ ด้ (K) ๒.เขียนแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหา และหาคำตอบเกี่ยวกับทศนิยมไม่ เกินสามตำแหน่งที่กำหนดให้ได้ (P) ๓.นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหา ทศนยิ มไปใช้ในชวี ิตจรงิ ได้ (A)
สาระการเรียนรู้ กระบวนการ ชน้ิ งาน สอ่ื การสอน วดั ผล/ เวลา อธบิ าย /ภาระงาน ประเมิน เรียน ๑.โจทยป์ ญั หาการบวก - ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๒ ทศนยิ ม ปัญหา แบบฝกึ หัด ๑.โจทยป์ ญั หาการลบ - ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๒ ทศนยิ ม ปญั หา แบบฝกึ หัด ๑.โจทย์ปญั หาการคูณ ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๒ ทศนยิ ม ปญั หา แบบฝกึ หดั
หนว่ ยท่ี มฐ ตวั ชี้วดั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.บอกข้ันตอนการแกโ้ จทย์ปัญหา เก่ยี วกับทศนิยมท่ีกำหนดให้ได้ (K) ๒.เขียนแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหา และหาคำตอบเกี่ยวกับทศนิยมไม่ เกินสามตำแหน่งที่กำหนดให้ได้ (P) ๓.นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหา ทศนิยมไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) ๑.บอกขนั้ ตอนการแกโ้ จทย์ปัญหา เก่ียวกบั ทศนิยมท่ีกำหนดให้ได้ (K) ๒.เขียนแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหา และหาคำตอบเกี่ยวกับทศนิยมไม่ เกินสามตำแหน่งที่กำหนดให้ได้ (P) ๓.นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหา ทศนิยมไปใชใ้ นชีวิตจริงได้ (A)
สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชน้ิ งาน สอ่ื การสอน วัดผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมนิ เรยี น ๑.โจทย์ปญั หาการหาร ๑.แถบโจทย์ ทศนิยม - ปญั หา ๑.ตรวจ ๒ แบบฝกึ หัด ๑.โจทยป์ ญั หาการ - ๑.แถบโจทย์ ๑.ตรวจ ๒ แลกเปลย่ี นเงินตรา ปญั หา แบบฝึกหดั
โรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) โครงการสอนปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหัส ค๑๖๑๐๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลาเรยี น ๔ ชวั่ โมง/สัปดาห์ ครผู ้สู อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรียนร/ู้ เรอื่ ง มฐ/ตัวชว้ี ดั ๑-๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ค ๑.๑ ๑-๒ ตัวประกอบ ๔-๖ ๓-๕ จำนวนเฉพาะ ป.๖/๔ ๖-๙ ตัวหารรว่ มมาก ( ห.ร.ม.) ป.๖/๕ ๑๐-๑๒ ตัวคณู รว่ มน้อย ( ค.ร.น.) ป.๖/๖ ๑๓-๑๔ โจทยป์ ญั หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ค ๑.๑ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เศษส่วน ป.๖/๑ ป.๖/๗ ๑-๒ การเปรยี บเทยี บ และเรยี งลำดับเศษสว่ น ๓-๔ การบวกเศษสว่ นและจำนวนคละ ๕-๖ การลบเศษสว่ นและจำนวนคละ ๗-๘ การบวก ลบ เศษสว่ นและจำนวนคละระคน ๙-๑๐ การคูณ หาร เศษสว่ นและจำนวนคละระคน ๑๑-๑๒ การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วนและจำนวนคละระคน ๗-๑๐ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ โจทย์ปัญหาเศษสว่ น ค ๑.๑ ป.๖/๗ ๑๑-๑๔ ๑-๒ โจทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนและจำนวนคละ ๓-๔ โจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ นและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป.๖/๙ ๕-๖ โจทยป์ ญั หาการคูณเศษสว่ นและจำนวนคละ ป.๖/๑๐ ๗-๘ โจทยป์ ัญหาการหารเศษส่วนและจำนวนคละ ๙-๑๐ โจทยป์ ัญหาการบวก ลบเศษส่วนและจำนวนคละ ๑๑-๑๒ โจทยป์ ญั หาการคูณ หารเศษสว่ นและจำนวนคละ ๑๓-๑๔ โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารเศษสว่ นและจำนวน หน่วยการเครลียะนร้ทู ี่ ๔ ทศนยิ ม ๑-๒ การเขยี นเศษส่วน และจำนวนคละให้อยใู่ นรปู ทศนิยม ๓-๔ การหารทศนิยมดว้ ยจำนวนนับ ๕-๗ การหารทศนยิ มดว้ ยทศนิยมหนึง่ ถงึ สามตำแหน่ง ๘ การแลกเปลีย่ นเงนิ ตรา ๙-๑๐ โจทยป์ ญั หาการบวกทศนิยม
สปั ดาห์ คาบที่ หนว่ ยการเรยี นรู้/เร่ือง มฐ/ตัวชี้วัด ๑๑-๑๒ โจทยป์ ญั หาการลบทศนยิ ม ๑๓-๑๔ โจทย์ปัญหาการคูณทศนิยม ๑๕-๑๖ โจทย์ปญั หาการหารทศนยิ ม ๑๗ โจทย์ปัญหาการแลกเปลีย่ นเงินตรา ๑๕-๑๘ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ รอ้ ยละ ค ๑.๑ ๑-๕ โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับร้อยละ ป.๖/๑๑ ๖-๙ โจทย์ปัญหาการซ้ือขาย ป.๖/๑๒ ๑๐-๑๒ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับดอกเบ้ยี ๑๘-๒๐ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ อัตราส่วน ค ๑.๑ ป.๖/๒ ๑ อตั ราส่วน ป.๖/๓ ๒ อตั ราสว่ นทเ่ี ท่ากัน ไมเ่ ๓กนิ ๑๐ม๐า,ต๐ร๐า๐ส่วน ๔-๕ โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับอตั ราสว่ น ๖-๗ โจทย์ปญั หาเกยี่ วกับมาตราสว่ น ค ๑.๑ ๒๑ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๗ แบบรูป ป.๖/๑ ๑-๒ แบบรปู และความสมั พันธ์ ๓-๔ การแกป้ ัญหาเกีย่ วกบั แบบรปู ๒๒-๒๕ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๘ รปู สามเหลี่ยม ค ๒.๒ ป.๖/๑ ๑-๒ มุม ป.๖/๒ ๓-๔ การจำแนกชนดิ ของรปู สามเหล่ยี มโดยพจิ ารณาจาก ๕-๖ ขกนาราจดำขแอนงกมชุมนดิ ของรปู สามเหลย่ี มโดยพจิ ารณาจาก ความยาวของด้าน ๗ การจำแนกชนดิ ของรูปสามเหลย่ี มโดยพิจารณาจากมมุ และดา้ น ๘-๙ สว่ นประกอบของรูปสามเหลี่ยม ๑๐-๑๑ มมุ ภายในของรูปสามเหลีย่ ม ๑๒-๑๔ การสร้างรูปสามเหล่ียม ๒๖-๒๘ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๙ ความยาวรอบรูป และพ้นื ท่ขี องรูป ค ๒.๑ สามเหลยี่ ม ป.๖/๑ ป.๖/๒ ๑-๒ ความยาวรอบรปู ของรปู สามเหลีย่ ม ๓-๕ พ้นื ทีข่ องรปู สามเหลีย่ ม ๖-๗ โจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรปู ของรปู สามเหลี่ยม
สัปดาห์ คาบท่ี หนว่ ยการเรียนรู้/เรื่อง มฐ/ตัวชว้ี ดั ๒๙-๓๒ ค ๒.๑ ๘-๙ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั พน้ื ที่ของรปู สามเหลย่ี ม ๓๓-๓๕ ๑๐-๑๑ โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับพ้นื ทแ่ี ละความยาวรอบรูปของรูป ป.๖/๒ ๓๖-๓๙ ป.๖/๓ สามเหล่ียม หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๐ รปู หลายเหลย่ี ม ค ๒.๑ ป.๖/๑ ๑-๖ มมุ ภายในของรูปหลายเหล่ยี ม ป.๖/๒ ๗-๘ ความยาวรอบรปู ของรูปหลายเหลยี่ ม ค ๒.๒ ป.๖/๑ ๙-๑๐ การหาพื้นทข่ี องรปู สี่เหล่ยี มคางหมู ป.๖/๒ ๑๑ การหาพื้นทข่ี องรูปสี่เหลย่ี มจัตรุ สั โดยใช้เสน้ ทแยงมมุ ค ๒.๒ ป.๖/๓ ๑๒ การหาพืน้ ทีข่ องรปู ส่ีเหลยี่ มขนมเปยี กปูนโดยใชเ้ สน้ ป.๖/๔ ทแยงมมุ ๑๓ การหาพนื้ ทข่ี องรปู สี่เหลย่ี มรูปวา่ วโดยใชเ้ ส้นทแยงมมุ ๑๔ การหาพ้นื ที่ของรปู ส่ีเหลี่ยมโดยแบง่ เป็นรูปสามเหลี่ยม ๑๕ การหาพื้นที่ของรูปสเ่ี หลย่ี มโดยแบง่ เปน็ รูปสามเหลี่ยม หรือรปู สี่เหลี่ยม ๑๖-๑๗ โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู ของรูปหลาย เหลี่ยม ๑๘-๑๙ โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับพ้ืนทข่ี องรปู หลายเหลย่ี ม หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๑ รูปวงกลม ๑-๒ สว่ นประกอบของวงกลม ๓-๖ การสร้างวงกลม ๗-๘ ความยาวของเสน้ รอบวง ๙-๑๐ พืน้ ที่ของวงกลม ๑๑-๑๒ โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ความยาวของเส้นรอบวง ๑๓-๑๔ โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั พน้ื ทีข่ องวงกลม ๑๕-๑๖ โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับความยาวของเสน้ รอบวงและพ้นื ที่ ของวงกลม หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๒ รปู เรขาคณิตสามมติ ิ ๑ ลกั ษณะและสว่ นตา่ งๆ ของปริซมึ ๒ ลักษณะและสว่ นต่างๆ ของพีระมิด ๓ ลักษณะและส่วนต่างๆ ของทรงกระบอก ๔ ลักษณะและส่วนต่างๆ ของกรวย ๕ ลักษณะและสว่ นต่างๆ ของทรงกลม ๖-๘ รปู คลี่ของรปู เรขาคณติ สามมิติ ๙-๑๐ ปรมิ าตรของทรงสี่เหลีย่ มมุมฉาก
สัปดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรยี นร/ู้ เรือ่ ง มฐ/ตัวช้ีวัด ๔๐ ๑๑-๑๒ ความจขุ องทรงสีเ่ หลย่ี มมุมฉาก ๑๓-๑๕ โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั ปริมาตรหรอื ความจุของทรง ค ๓.๑ ป.๖/๑ สเี่ หล่ยี มมมุ ฉาก หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๓ การนำเสนอข้อมลู ๑-๒ การอา่ นแผนภูมริ ูปวงกลม ๓-๔ โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับแผนภมู ิวงกลม สอบปลายภาค ๑-๒ ทบทวนบทเรียน ๓ ทบทวนบทเรยี น ๔ สอบปลายภาค ๕ สอบปลายภาค เทคนิค /กระบวนการ/ วิธกี ารสอน การจดั การเรยี นรตู้ ามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นตอนที่ ๑ : เตรียมความพร้อม เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง ตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลือ่ นไหว ร่างกายอย่างมีความสุข สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมาก ช่วยให้มีจิตใจที่ สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin) และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและ สนุกสนาน ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า ทุกชั่วโมงที่ครูเข้าสอน ครูจะต้อง Warm Up กอ่ นเสมอ โดยใช้เวลาไม่เกิน ๕ นาที ขัน้ ตอนท่ี ๒ : เรียนรู้ ในข้นั ตอนนี้จะคำนึงถึงหลกั การทำงานของสมองท่ีวา่ “เรียนรจู้ ากงา่ ยไปหายาก เรยี นรู้จาก ของจริง และจากการสัมผัส” จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า “มือ” เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผล ต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ “ปาก” นั่นก็หมายถึง ต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสาร การสื่อสารจะช่วยให้เด็กสามารถ เชื่อมโยงเรื่องได้ ดังนั้น การออกแบบรูปแบบการสอน สื่อการสอน คุณครูต้องคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอยา่ งมาก การเรียนการสอนจึงจะประสบความสำเร็จ ในขั้นตอนที่ ๒ นี้ มีขั้นตอนย่อยที่สำคัญหนึ่งคือ “การสรุปในแต่ละชั่วโมง” ทางโรงเรยี นได้สนับสนนุ ให้มีการฝึกอบรม Graphic Organizer ให้แกค่ ุณครูทกุ กลุ่มสาระ ตลอดจนหนังสอื ท่เี ก่ียวข้องจาก ต่างประเทศ เพื่อใหค้ ณุ ครใู ชเ้ ปน็ เคร่อื งมือในการสรปุ ทีช่ ่วยใหเ้ ด็กเกดิ ความสนกุ เกิดการเรียนรู้ และจดจำได้ง่ายขน้ึ ข้นั ตอนท่ี ๓ : ข้นั การฝึก ขั้นน้ีจะสอดคล้องกับหลกั การทำงานของสมองที่ว่า “สมองจะจดจำได้ดนี ำไปสู่ความจำ ระยะยาว (Long-term Memory) ตอ้ งผ่านกระบวนการฝกึ ซำ้ ๆ” คำวา่ “ซำ้ ๆ” ในท่นี ไี้ มไ่ ด้หมายถึง การทำโจทย์เดิมซ้ำๆ แต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวก ก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์ คุณครูจึงจำเป็นต้อง ออกแบบใบงานทแ่ี ตกตา่ งออกไป เพ่ือให้นกั เรียนไดฝ้ กึ ฝนเรอ่ื ยๆ ขั้นตอนที่ ๔ : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วย ซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นการ สรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย โดยใช้ Graphic Organizer ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยง ความรูภ้ ายในบทเรียน สอดคลอ้ งกับหลักการทำงานของสมองทว่ี ่า “สมองเรยี นรู้เป็นองค์รวม” ซง่ึ ขั้นตอนน้ีมีความสำคัญ ต่อเด็กมาก และเปน็ ขั้นตอนทคี่ อ่ นขา้ งยาก ครเู องกจ็ ำเปน็ ตอ้ งฝึกฝนบอ่ ยๆ เช่นกัน ขั้นตอนที่ ๕ : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใด การที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้น ทำให้เกิดการ เรียนรไู้ ด้ถึงรอ้ ยละ ๙๐ ดงั นัน้ เมือ่ จบบทเรียน คณุ ครตู อ้ งคดิ ตอ้ งออกแบบ เชื่อมโยงความรู้ทั้งหนว่ ย นำข้อสอบมาให้เด็ก ทดลองทำ
การวัดและประเมินผล วธิ กี ารเกบ็ คะแนน คะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = ๗๐ : ๓๐ โดยแบ่งดงั น้ี เร่อื งทีเ่ ก็บคะแนน คะแนน ประเภทเคร่ืองมือ ๑.คะแนนเกบ็ ก่อนกลางปี ๒๕ ๑.๑ ผลงานนกั เรยี น ๑๕ สมุด แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ช้นิ งาน ๑.๒ ทดสอบหลงั เรียน ๑๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ๒. สอบกลางปี ๒๐ แบบทดสอบ ๓.คะแนนหลังกลางปี ๒๕ ๓.๑ ผลงานนกั เรียน ๑๕ สมดุ แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชิน้ งาน ๓.๒ ทดสอบหลังเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ๔.สอบปลายปี ๓๐ รวม ๑๐๐ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ -สือ่ ประจำหนว่ ยการจดั การเรียนรู้ -หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ และแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท
แผนผงั มโนทัศน์เป้าหมายการเรียนรู้/ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทักษะ/กระบวนการ(Process: P) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. บอกหลักการเขียนเศษส่วนและ 1. เขียนแสดงการแปลงเศษส่วนและ 1. มีวนิ ัย จำนวนคละเป็นทศนยิ มได้ (K) จำนวนคละที่กำหนดใหใ้ นรูปของ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 2.บอกหลักการหารทศนิยมที่ตัวหาร ทศนยิ มได้ (P) 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน และผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน 3 2.ประดิษฐจ์ านพิซซ่าแสดงทศนยิ ม ตำแหนง่ ได้ (K) (P) 3.บอกหลักการหารทศนิยมที่ตัวหาร 3.เขียนแสดงวิธีหาผลหารทศนิยมที่ และผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน 3 ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยมไม่ ตำแหนง่ ได้ (K) เกิน 3 ตำแหน่งได้ (P) 4.บอกหลักการแลกเปลี่ยนเงินตราได้ 4.เขียนแสดงวธิ หี าผลหารทศนยิ มที่ (K) ตัวหารและผลหารเป็นทศนยิ มไม่ 5.บอกขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา เกิน 3 ตำแหน่งได้ (P) เก่ยี วกับทศนิยมทก่ี ำหนดให้ได้ (K) 5.เขียนแสดงวิธีหาการแลกเปลี่ยน เงนิ ตราได้ (P) 6.เขียนแสดงวธิ ีแก้โจทย์ปัญหาและ หาคำตอบเก่ยี วกบั ทศนิยมไมเ่ กิน สามตำแหนง่ ที่กำหนดให้ได้ (P) เปา้ หมายการเรียน เรอื่ ง ทศนยิ ม หลกั ฐานการเรยี นรู้ -จานพิซซา่ แสดงทศนยิ ม
แผนผงั มโนทัศนข์ ้นั ตอนการทำกจิ กรรมประกอบการจัดการเรยี นร้ดู ้วย การสอนตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ศกึ ษามาตรฐานการรเรยี นรู้ / ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงคก์ าร เรยี นรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นร้ตู ามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขนั้ ที่ ๑ เตรียมความพรอ้ ม ขนั้ ท่ี ๒ เรยี นรู้ ขนั้ ที่ ๓ ขนั้ การฝึ ก ขนั้ ท่ี ๔ ขนั้ การสรปุ ขนั้ ท่ี ๕ ขนั้ การประยกุ ต์ใช้ทนั ทีทนั ใด ทดสอบหลงั เรยี น (ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๖๐)
ผังมโนทศั น์ หน่วยการเ หน่วยการเรียน จานวน ๑ แผนที่ ๑ การเขยี นเศษส่วนและจำนวนคละ แผนที่ ๒ การหารทศน ใหอ้ ย่ใู นรูปทศนิยม แผนท่ี ๕ โจทยป์ ัญหา แผนท่ี ๔ การแลกเปลยี่ นเงินตรา แผนที่ ๘ โจทย์ปัญหาก แผนท่ี ๗ โจทยป์ ัญหาการคณู ทศนิยม การเรยี นรู้แบ ภาษาไทย 1.ฟังแสดงความคิดเห็น 2.พดู แสดงความคิดเหน็ และตอบคำถามอา่ นและสะกดคำ ๓.การเขยี นสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
เรยี นรทู้ ี่ ๔ ทศนิยม นร้ทู ่ี ๔ ทศนิยม ๑๗ ชวั่ โมง นิยมดว้ ยจำนวนนบั แผนท่ี ๓ การหารทศนยิ มด้วยทศนิยมหนงึ่ าการบวกทศนยิ ม สอง และสามตำแหนง่ การหารทศนยิ ม แผนท่ี ๖ โจทยป์ ัญหาการลบทศนิยม บบบรู ณาการ แผนท่ี ๙ โจทยป์ ญั หาการแลกเปล่ียน เงนิ ตรา ศิลปะ : ทศั นศิลป์ ๑. การออกแบบตกแตง่ งานจานพิซซ่าแสดงทศนิยม
แผนบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี มู คิ ุ้มกันในตวั ทีด่ ี 1. ออกแบบการจัดกจิ กรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรียนรสู้ ง่ เสรมิ กระบวนการคดิ 1. ศึกษาแนวทางการจดั การเรียนรลู้ ว่ งหนา้ ตวั ชว้ี ัด 2. ใช้เทคนิคการจดั การเรียนรู้ที่หลากหลาย 2. จดั เตรยี มการวดั ผลประเมินผล และแบบ 2. เลอื กส่อื แหล่งเรยี นรเู้ หมาะสม สังเกตพฤตกิ รมนกั เรยี น 3. วดั ผลประเมินผลตรงตามเนือ้ หา เงือ่ นไขความรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. รู้จักเทคนิคการสอนทสี่ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ และนักเรียน 1. มีความขยนั เสยี สละ และมงุ่ มนั่ ในการจัดหาสือ่ มาพฒั นานักเรยี น สามารถเรียนรูไ้ ด้อย่างมีความสขุ ให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพื่อพัฒนานกั เรยี นโดยใช้เทคนคิ การสอนท่ี หลากหลาย นักเรียน ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมภี ูมิคมุ้ กันในตัวทดี่ ี 1. การใชเ้ วลาในการทำกจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝึกกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาคน้ คว้าอิสระ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝกึ กระบวนการแสดงขนั้ ตอนการหาผลลัพธ์ 2. นำความรู้เรอ่ื งเศษส่วน ไปใช้ใน 2. เลือกสมาชกิ กลมุ่ ได้เหมาะสมกบั เนื้อหาท่ี ชีวิตประจำวันได้ เรยี นและศกั ยภาพของตน เงอ่ื นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม 1. มคี วามรู้เรื่องทศนยิ มตลอดจนสามารถสรา้ งจดั ทำชน้ิ งาน ได้ตาม 1. มีความรบั ผิดชอบ และปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงของกลมุ่ วตั ถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มาธิช่วยเหลอื กนั ในการทำงานรว่ มกนั สง่ ผลตอ่ การพัฒนา 4 มิตใิ ห้ย่ังยืนยอมรับตอ่ การเปล่ยี นแปลงในยุคโลกาภวิ ัฒน์ วตั ถุ สงั คม สิง่ แวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความรคู้ วามเข้าใจ เรื่องทศนิยม มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจ มคี วามรู้และเขา้ ใจ มคี วามรู้และเข้าใจการ กระบวนการทำงาน เกี่ยวกบั ส่งิ แวดลอ้ ม ชว่ ยเหลือ แบง่ ปัน กลุ่ม และส่งิ ตา่ ง ๆรอบตัว ทักษะ (P) สร้างชิน้ งาน เร่ืองทศนยิ ม ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตาม ใชแ้ หลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลอื แบง่ ปันซ่ึง เป้าหมาย ดว้ ย ทำลายส่ิงแวดลอ้ ม กนั และกนั กระบวนการกล่มุ คา่ นยิ ม (A) เหน็ ประโยชนข์ องเรียนรเู้ กี่ยวกบั เห็นคณุ คา่ และ เห็นคุณคา่ ของการใช้ ปลกู ฝังนสิ ยั การ เรื่องทศนิยม ภาคภมู ใิ จในการ แหล่งเรยี นรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลือแบ่งปัน ทำงานร่วมกนั ได้ ทำลายสิ่งแวดลอ้ ม สำเรจ็
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เรอ่ื ง ทศนยิ ม วิชาคณติ ศาสตร์ เวลา 17 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ ของจำนวน ผลทเ่ี กิดขนึ้ จากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนินการ และการนำไปใช้ ตัวชีว้ ดั ป.6/7 : แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเศษสว่ นและจำนวนคละ 2 – 3 ข้นั ตอน ป.6/9 :หาผลหารของทศนยิ มทต่ี ัวหารและผลหาร เป็นทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ตำแหน่ง 2.สาระสำคญั การเขียนเศษสว่ นให้อยูใ่ นรูปของทศนิยม อาจทำได้โดยทำสว่ นของเศษสว่ นนนั้ ให้เป็น 10, 100, 1,000, . แล้วใช้ความสมั พนั ธ์ระหว่างทศนยิ มกับเศษสว่ น เขียนเศษส่วนน้ันใหอ้ ยูใ่ นรูปทศนิยม การเขียนเศษส่วนให้อยใู่ น รปู ทศนิยมนนั้ อาจทำไดโ้ ดยใช้วธิ ีการหารยาวระหวา่ งตวั เศษกับ ตวั ส่วนของเศษสว่ นน้ัน การเขยี นจำนวนคละให้ อยู่ในรปู ทศนิยม อาจใช้วธิ ที ำจำนวนคละใหเ้ ป็นเศษเกินกอ่ นแล้วใชว้ ธิ ีเดียวกบั การเขียนเศษส่วนใหอ้ ยูใ่ นรปู ทศนยิ ม การเขยี นจำนวนคละให้อยู่ในรูปทศนิยมน อาจใช้วิธีทำเศษสว่ นให้เปน็ ทศนยิ มกอ่ นแล้วจึงบวกกับจำนวน นับของจำนวนคละน้ัน การหารทศนิยมด้วยจำนวนนับอาจหาได้โดยใช้ความสัมพันธ์ของทศนิยมและเศษส่วน การหาผลหารเม่ือตัวหารเปน็ ทศนยิ มหนงึ่ ตำแหนง่ ใช้วิธีการเขยี นทศนยิ มให้อยใู่ นรูปเศษสว่ นแลว้ หาผลหาร โดยใช้ความรู้เรื่องการหารเศษส่วนหรือใช้วธิ ที ำตัวหารเปน็ จำนวนนบั การหาผลหารเม่อื ตวั หารเปน็ ทศนิยมสอง ตำแหน่ง ใช้วธิ กี ารเขียนทศนิยมให้อยูใ่ นรูปเศษส่วนแล้วหาผลหาร โดยใช้ความรเู้ ร่อื งการหารเศษส่วนหรอื ใช้วิธี ทำตวั หารเปน็ จำนวนนับ การแลกเปล่ียนเงนิ ตราต่างประเทศ ถา้ ต้องการแลกเงินบาทเปน็ สกลุ เงินอนื่ ๆ ให้ดตู าราง แลกเปลย่ี นในชอ่ งขาย แต่ถา้ ตอ้ งการแลกสกลุ เงนิ อ่ืนเป็นเงนิ บาท ใหด้ ูตารางแลกเปลย่ี นเงินในช่องซือ้ 3. สาระการเรยี นรู้ - การเขียนเศษสว่ นและจำนวนคละในรปู ทศนยิ ม - การหารทศนยิ มด้วยจำนวนนบั - การหารทศนิยมดว้ ยทศนิยมหนึ่ง สอง และสามตำแหน่ง - การแลกเปลย่ี นเงนิ ตรา - โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหารทศนิยม 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. จานพซิ ซ่าแสดงทศนิยม 7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วิธกี าร แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 ตรวจแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 แบบฝึกหดั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ระดับคุณภาพ 2 ตรวจแบบฝึกหัดหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 ผ่านเกณฑ์ ตรวจชน้ิ งานหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 ชน้ิ งานหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ สงั เกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมน่ั ใน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 การทำงาน ผ่านเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี 1 การเขียนเศษส่วนและจำนวนคละในรูปทศนิยม ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครูใหน้ กั เรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ให้นกั เรียนทบทวนความรู้ เร่ือง ทศนิยมหนง่ึ ตำแหนง่ โดยครตู ิดตารางสบิ บนกระดาน ดงั นี้ 3. ใหผ้ ู้แทนนักเรยี นออกมาเขยี นทศนิยมแสดงสว่ นที่ระบายสบี นกระดาน (0.1) และใหผ้ แู้ ทน นกั เรยี นอกี 1 คนอ่านทศนยิ มดังกลา่ ว (ศนู ย์จุดหนึง่ ) ครถู ามคำถามนักเรยี นเพิม่ เตมิ ดงั นี้ - ตารางนแ้ี บง่ ออกเปน็ ก่สี ว่ น (10 สว่ น) - แต่ละส่วนมขี นาดเท่ากันหรือไม่ (เทา่ กนั ) - ภาพที่ระบายสมี ีกสี่ ว่ น (1 สว่ น) ในทงั้ หมดก่ีส่วน (10 ส่วน) - ถา้ ระบายสี 2 ชอ่ ง แสดงวา่ ภาพที่ระบายสมี ีก่ีส่วน (2 สว่ นใน 10 ส่วน) - เขียนเป็นทศนิยมได้อย่างไร (0.2) - อ่านไดอ้ ยา่ งไร (ศูนย์จุดสอง) - ถ้าระบายสี 10 ช่อง แสดงว่าภาพท่รี ะบายสมี กี ่ีสว่ น (10 ส่วนใน 10 สว่ น) - เขยี นเป็นทศนิยมได้อย่างไร (1.0) - ตวั เลขท่ีอยหู่ ลังจุดทศนยิ มในตำแหนง่ ทห่ี นงึ่ เปน็ ตัวเลขในหลักใด (หลักส่วนสิบ) - มีค่าประจำหลกั เท่าไร ( 1 หรอื 0.1) 10
4. ใหน้ กั เรียนดูบตั รโจทยบ์ นกระดานแล้วร่วมกันอภิปรายวา่ จะมีวิธกี ารทำไดอ้ ย่างไร (ทำใหส้ ่วนเปน็ 10, 100, 1,000) แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั แสดงวธิ ที ำ ซึ่งจะได้ดังน้ี จงเขยี น 25 เป็นทศนิยม 8 วธิ ีทำ 25 = 25×125 8 8×125 = 3125 1000 = 3.125 5. ให้นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายอีกว่ามวี ธิ ีการอ่ืนอีกหรือไม่ทที่ ำ 25 เปน็ ทศนยิ ม (มี คือ ใช้วิธีการหาร 8 ยาวระหวา่ งตัวเศษและตวั สว่ น) ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั แสดงวิธีทำ ซง่ึ จะได้ดังน้ี 25 = 25 ÷ 8 8 25 = 25.000 3.125 8 25.000 24 10 8 20 16 40 40 00 ดังนั้น 25 = 3.125 8
5. ใหน้ ักเรียนฝกึ เขียนเศษส่วนใหอ้ ยูใ่ นรูปทศนยิ ม ดังน้ี เศษสว่ น ทศนิยม ������ ������������ ������������ ������������ ������������ ������������������ ������������������ ������������������ ������������������ ������������ ������������ ������������������������ ������ ������ ������������ ������������ ������������ ������������ ������������������ ������������������ ������������ ������������������ ������������������ ������������������ ������������������ ������������������������ ������������������������ ������������������������ 6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้รว่ มกัน ดังน้ี การทำเศษสว่ นท่ีมีตวั สว่ นไมเ่ ปน็ 10, 100, 1,000, ... ใหอ้ ย่ใู นรูปทศนยิ มซง่ึ จะไดด้ ังน้ี - ทำส่วนของเศษส่วนใหเ้ ปน็ 10, 100, 1,000, ... แลว้ ใชค้ วามสมั พนั ธ์ระหว่างทศนิยมกบั เศษส่วน เขยี นเศษสว่ นน้ันใหอ้ ยู่ในรูปทศนิยม - ใช้วิธหี ารยาวระหวา่ งเศษและสว่ นของเศษส่วนน้นั 8. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงท่ี 2 1. ครูให้นกั เรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้ัน ใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรียน 2. ทบทวนการเขยี นเศษส่วนใหอ้ ย่ใู นรปู ทศนิยมทเ่ี รียนมาแลว้ โดยให้นักเรยี นกำหนดโจทย์ แลว้ ชว่ ยกนั แสดงวิธีทำ 1 จำนวน 3. ให้นกั เรียนดบู ัตรโจทยบ์ นกระดานแลว้ รว่ มกนั อภิปรายว่าจะมวี ธิ ีการทำไดอ้ ยา่ งไร (ทำจำนวน คละใหเ้ ป็นเศษเกินก่อน แลว้ ใช้วธิ เี ดียวกับการเขียนเศษส่วนใหอ้ ยใู่ นรปู ทศนิยม) แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกัน
แสดงวิธที ำ ซึ่งจะไดด้ ังนี้ จงเขยี น 3 1 ให้อยู่ในรูปทศนิยม 4 วธิ ที ี่ 1 3 1 = 13 = 13 ÷ 4 4 4 13 = 13.000 25 = 25.000 3.25 4 13.000 12 10 8 20 20 00 วิธีที่ 2 3 1 = 3 + 0.25 4 = 3.25 0.25 มาจาก 1 = 1 ÷ 4 4 0.25 4 1.000 8 20 20 00 4. ใหน้ กั เรยี นฝกึ จำนวนคละให้เป็นทศนยิ ม ดงั น้ี 3 1 , 8 1 , 4 3 , 2 5 , 6 2 5 2 4 18 9
5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ส่ิงทไี่ ด้เรยี นรู้ร่วมกนั ดังนี้ การเขียนจำนวนคละให้อย่ใู นรูป ทศนยิ มซึ่งจะไดด้ ังน้ี - ทำจำนวนคละให้เป็นเศษเกนิ แลว้ ใชว้ ธิ เี ดียวกบั การเขียนเศษส่วนให้อยใู่ นรปู ทศนิยม - ใชว้ ธิ ีทำเศษสว่ นใหเ้ ปน็ ทศนยิ มก่อน แลว้ จึฃงบวกกันจำนวนนบั ของจำนวนคละนนั้ 6. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมที่ 2 การหารทศนยิ มด้วยจำนวนนบั ช่วั โมงท่ี 1 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากนัน้ ให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนการเขยี นเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเป็น 10, 100, 1,000 ให้อย่ใู นรปู ทศนิยม โดยให้ นักเรยี นออกไปเขยี นบนกระดาน เชน่ 5 = 0.5 10 120 = 1.20 100 34 = 0.03 1000 3. ครูติดแถบโจทย์การหารทศนยิ มหนึ่งตำแหน่งด้วยจำนวนนับ โดยให้นักเรียนใช้ความสัมพนั ธ์ ของทศนยิ มและเศษส่วน เช่น 0.8 ÷ 4 = ครแู นะนำนกั เรียนว่า สามารถหาผลหารไดโ้ ดยเขียนทศนิยมใน รูปเศษสว่ น แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั เขยี นแสดงวิธหี าผลหาร ดังนี้ วิธีทำ 0.8 ÷ 4 = 8 ÷ 4 10 1 = 8 ×1 10 4 = 2×1 10×1 =2 10 = 0.2 ดังนัน้ 0.8 ÷ 4 = 0.2 4. ครตู ดิ แถบโจทยก์ ารหารทศนิยมอีก 2 – 3 ตวั อยา่ ง แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกนั แสดงวธิ ที ำ เชน่ ตัวอยา่ งที่ 1 8.24 ÷ 4 วธิ ที ำ 8.24 ÷ 4 = 824 ÷ 4 100 1 = 824 × 1 100 4 = 206×1 100×1 = 206 100
= 2.06 ดังนั้น 8.24 ÷ 4 = 2.06 ตวั อย่างท่ี 2 4.968 ÷ 8 วธิ ีทำ 4.968 ÷ 8 = 4968 ÷ 8 1000 1 = 4968 × 1 1000 8 = 621×1 1000×1 = 621 1000 = 0.621 ดงั นน้ั 4.968 ÷ 8 = 0.621 ตวั อย่างที่ 3 4.5 ÷ 3 วธิ ที ำ 4.5 ÷ 3 = 45 ÷ 3 10 1 = 45 × 1 10 3 = 15×1 10×1 = 15 10 = 1.5 ดังนน้ั 4.5 ÷ 3 = 1.5 6. นกั เรียนช่วยกันเขยี นแสดงวิธีหาผลหารของทศนิยม ดังนี้ ข้อท่ี 1) 1.5 ÷ 5 ข้อท่ี 2) 1.9 ÷ 2 ข้อที่ 3) 23.02 ÷ 4 ข้อท่ี 4) 8.091 ÷ 3 5. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ส่ิงทีไ่ ด้เรยี นรู้ร่วมกัน ดังน้ี การหารทศนยิ มดว้ ยจำนวนนับ อาจหา ไดโ้ ดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องทศนิยมและเศษส่วน 6. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงที่ 2 1. ครูใหน้ ักเรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้นั ใหน้ กั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ทบทวนการหารเศษส่วนใหน้ กั เรยี นอภิปรายวา่ จะหาคำตอบได้อยา่ งไร (เปลย่ี นเครื่องหมาย หารเปน็ คูณกับเศษเปน็ ส่วน) แลว้ ชว่ ยกนั แสดงวิธีทำ ดังน้ี
1÷1 = 1×2 32 31 = 1×2 3×1 =2 3 3. ครูแนะนำการหารทศนยิ มไมเ่ กินสามตำแหนง่ ดว้ ยจำนวนนบั โดยใช้การหารยาวใชห้ ลกั เดยี วกบั การหารจำนวนนบั และใส่จดุ ทศนิยมท่ผี ลหาร เชน่ 0.9 ÷ 3 = 0.3 3 0.9 9 0 ดงั นน้ั 0.9 ÷ 3 = 0.3 4. ครูติดแถบโจทยก์ ารหารทศนิยมอกี 2 – 3 ตวั อยา่ ง แล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกันแสดงวิธีทำ เชน่ ตวั อย่างท่ี 1 1.75 ÷ 5 0.35 5 1.75 15 25 25 00 ดงั นัน้ 1.75 ÷ 5 = 0.35 ตัวอยา่ งท่ี 2 6.012 ÷ 4 1.503 4 6.012 4 20 20 1 0 12
12 00 ดังนัน้ 6.012 ÷ 4 = 1.503 5. นกั เรยี นชว่ ยกันเขียนแสดงวธิ หี าผลหารของทศนิยม ดงั น้ี ขอ้ ที่ 1) 10.5 ÷ 7 ข้อที่ 2) 10.8 ÷ 9 ข้อที่ 3) 428.42 ÷ 4 ข้อท่ี 4) 88.072 ÷ 8 6. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดงั นี้ การหารทศนิยมดว้ ยจำนวนนบั สามารถหาผลหารแสดงวิธที ำผลหารได้เช่นเดียวกับการหารจำนวนนับโดยเขยี นจุดทศนิยมของผลหารให้ ตรงกับจดุ ทศนิยมของตวั ตงั้ 7. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมที่ 3 การหารทศนิยมด้วยทศนยิ ม ชั่วโมงท่ี 1 1. ครใู ห้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากนนั้ ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครูทบทวนการเขียนเศษส่วนที่มีตัวสว่ นเป็น 10, 100, 1,000 ใหอ้ ยใู่ นรปู ทศนิยม โดยให้ นกั เรยี นออกไปเขยี นบนกระดาน เช่น 5 = 0.5 10 120 = 1.20 100 34 = 0.034 1000 3. ครูตดิ แถบโจทย์การหารทศนิยม เชน่ 0.6 ÷ 0.3 = ใหน้ กั เรยี นใช้ความสมั พันธ์ของ ทศนยิ มและเศษสว่ นเขียน 0.6 ÷ 0.3 ในรปู เศษสว่ น และช่วยกนั แสดงวิธหี าคำตอบ จะได้ดังนี้ วิธีทำ 0.6 ÷ 0.3 = 6 ÷3 = 10 10 6 × 10 10 3 =2 ดังนน้ั 0.6 ÷ 0.3 = 2 4. ครตู ิดแถบโจทยก์ ารหารทศนยิ มอกี 2 – 3 ตัวอยา่ ง แล้วใหน้ ักเรยี นช่วยกนั แสดงวิธที ำ เชน่ ตัวอยา่ งท่ี 1 1.8 ÷ 0.3 วธิ ที ำ 1.8 ÷ 0.3 = 18 ÷ 3 10 10
= 18 × 10 10 3 =6 ดงั นัน้ 1.8 ÷ 0.3 = 6 ตวั อยา่ งท่ี 2 1.25 ÷ 0.5 วิธที ำ 1.25 ÷ 0.3 = 125 ÷ 5 100 10 = 125 × 10 100 5 = 2.5 ดังนน้ั 1.25 ÷ 0.5 = 2.5 ตัวอยา่ งที่ 3 8.075 ÷ 0.5 วธิ ที ำ 8.075 ÷ 0.5 = 8075 ÷ 5 1000 10 = 8075 × 10 1000 5 = 16.15 ดังนั้น 8.075 ÷ 0.5 = 16.15 5. นกั เรียนชว่ ยกันเขียนแสดงวิธหี าผลหารของทศนิยม ดังน้ี ข้อท่ี 1) 3.5 ÷ 0.7 ขอ้ ที่ 2) 10.8 ÷ 0.9 ขอ้ ที่ 3) 428.42 ÷ 0.4 ข้อท่ี 4) 88.072 ÷ 0.8 6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสง่ิ ท่ีได้เรยี นร้รู ่วมกัน ดังนี้ การหาผลหารเมื่อตัวหารเป็นทศนยิ ม หนึง่ ตำแหนง่ ใช้วธิ ีการเขียนทศิยมให้อยูใ่ นรปู เศษสว่ นแลว้ หาผลหาร โดยใชค้ วามรู้เรื่องการหารเศษสว่ น หรอื ใช้วธิ ีทำตัวหารเปน็ จำนวนนบั 7. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงท่ี 2 1. ครใู ห้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้นั ใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนการหารทศนิยมด้วยทศนิยมสองตำแหนง่ หนึ่งตำแหนง่ โดยใหน้ กั เรยี นออกไป เขยี นบนกระดาน เชน่ - 0.9 ÷ 0.2 = (4.5) - 1.29 ÷ 0.3 = (4.3) - 3.765 ÷ 0.5 = (7.53)
3. ครูติดแถบโจทย์การหารทศนิยม เชน่ 1.008 ÷ 0.12 = ใหน้ กั เรยี นใชค้ วามสัมพันธข์ อง ทศนยิ มและเศษส่วนเขยี น 1.008 ÷ 0.12 ในรูปเศษสว่ น และช่วยกนั แสดงวิธหี าคำตอบ จะได้ดังนี้ วธิ ที ำ 1.008 ÷ 0.12 = 1008 ÷ 12 = 1000 100 1008 × 100 1000 12 = 8.4 ดงั นั้น 1.008 ÷ 0.12 = 8.4 4. ครูตดิ แถบโจทยก์ ารหารทศนิยมอกี 2 – 3 ตัวอย่าง แล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั แสดงวิธีทำ เชน่ ตวั อยา่ งท่ี 1 6.25 ÷ 0.25 วธิ ที ำ 6.25 ÷ 0.25 = 625 ÷ 25 100 100 = 625 × 100 100 25 = 25 ดังนนั้ 6.25 ÷ 0.25 = 25 ตัวอยา่ งท่ี 2 32.7 ÷ 0.25 วิธที ำ 32.7 ÷ 0.25 = 327 ÷ 25 10 100 = 327 × 100 10 25 = 130.8 ดังนน้ั 32.7 ÷ 0.25 = 130.8 ตวั อยา่ งที่ 3 2.808 ÷ 0.54 วธิ ที ำ 2.808 ÷ 0.54 = 2808 ÷ 54 = = 1000 10 2808 × 10 1000 54 5.2 ดังนั้น 2.808 ÷ 0.54 = 5.2 5. ครูติดแถบโจทย์การหารทศนยิ ม เชน่ 1.2 ÷ 0.002 = ให้นกั เรียนใช้ความสัมพันธ์ของ ทศนิยมและเศษสว่ นเขยี น 1.2 ÷ 0.002 ในรูปเศษสว่ น และช่วยกันแสดงวิธีหาคำตอบ จะได้ดังนี้ วิธีทำ 1.2 ÷ 0.002 = 12 ÷ 2 10 1000 = 12 × 1000 10 2 = 600
ดงั นัน้ 1.2 ÷ 0.002 = 600 6. ครตู ิดแถบโจทยก์ ารหารทศนิยมอีก 2 – 3 ตัวอย่าง แลว้ ให้นักเรียนช่วยกนั แสดงวิธีทำ เชน่ ตวั อยา่ งท่ี 1 13.3 ÷ 0.035 วธิ ที ำ 13.3 ÷ 0.035 = 133 ÷ 35 = = 10 1000 133 × 1000 10 35 380 ดงั นั้น 13.3 ÷ 0.035 = 380 ตัวอย่างที่ 2 1.26 ÷ 0.048 วธิ ที ำ 1.26 ÷ 0.048 = 126 ÷ 48 = = 100 1000 126 × 1000 100 48 26.25 ดังนั้น 1.26 ÷ 0.048 = 26.25 ตวั อย่างท่ี 3 59.08 ÷ 0.007 วธิ ีทำ 59.08 ÷ 0.007 = 5908 ÷ 7 = = 100 1000 5908 × 1000 100 7 8,440 ดงั นั้น 59.08 ÷ 0.007 = 8,440 7. ใหก้ ำหนดจำนวนคละ 2 – 3 ตัวอยา่ ง ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันแสดงการหารทศนิยมด้วยทศนิยม สองตำแหนง่ จนนักเรยี นเกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจดแี ลว้ 8. นักเรยี นช่วยกันเขยี นแสดงวิธีหาผลหารของทศนิยม ดังนี้ ข้อท่ี 1) 73.5 ÷ 0.07 ขอ้ ท่ี 2) 108.9 ÷ 0.09 ข้อที่ 3) 428.42 ÷ 0.04 ขอ้ ท่ี 4) 19.602 ÷ 0.22 9. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปสิง่ ที่ไดเ้ รียนร้รู ่วมกัน ดงั น้ี การหาผลหารเมื่อตวั หารเป็นทศนยิ ม สองตำแหนง่ ใชว้ ธิ ีการเขียนทศยิ มใหอ้ ยูใ่ นรปู เศษส่วนแล้วหาผลหาร โดยใช้ความรเู้ ร่อื งการหารเศษสว่ น หรือใช้วิธที ำตวั หารเป็นจำนวนนับ 10. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท.
กิจกรรมท่ี 4 การแลกเปลีย่ นเงนิ ตรา ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครใู ห้นกั เรยี นท่องสูตรคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากนั้นให้นักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครูส่มุ นักเรยี น 2-3 คู่ ออกมานำเสนอความรู้เกีย่ วกับสกุลเงนิ ของประเทศต่างๆ ทนี่ กั เรยี น รู้จัก โดยครูและนกั เรียนคู่ทีเ่ หลือร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง และครอู ธิบายเพ่ิมเติมเพ่ือให้นักเรียน เข้าใจมากยงิ่ ขน้ึ 3. ครูเลา่ สถานการณ์ใหน้ กั เรียนฟงั ดงั นี้ ในวนั พรงุ่ น้ี ครูต้องการเดนิ ทางไปประเทศญปี่ ุ่น และต้องการนำเงนิ ไปใช้ใน ประเทศญ่ปี ุ่นจำนวน 30,000 บาท ครจู ะมีเงินกี่เยน 4. ครูติดอตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ ระหวา่ ง เยนและไทยบนกระดาน พร้อมตง้ั คำถามกระตุ้นความคิด นกั เรยี นเพ่มิ เติม ดังนี้ สกุลเงนิ ธนบัตรราคารบั ซอื้ ธนบัตรราคาขาย JYP 0.29 0.30 1 เยน = 0.29 บาท 1 เยน = 0.30 บาท จากนั้นครตู ง้ั คำถามกระตุน้ ความคดิ นักเรียน ดงั นี้ - ประเทศญ่ีปุ่นใชส้ กลุ เงินใด (เยน (JPY)) - จะแลกเงนิ ในอตั ราธนบัตรราคารับซ้ือเมื่อใด (เมื่อต้องการแลกเงินเยนเปน็ เงินไทย) - และจะแลกเงินในอตั ราธนบตั รราคาขายซื้อเม่ือใด (เม่อื ต้องการแลกเงนิ ไทยเป็นเงินเยน) - ในกรณนี ี้ ครูต้องใช้อัตราการแลกเงินใด (อตั ราธนบตั รราคาขาย) - การหาคำตอบในขอ้ นี้ เกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา นกั เรยี นตอ้ งนำความร้ใู ดมา ชว่ ย (การเทยี บบัญญตั ิไตรยางศ์) - ดังนั้นครจู ะแลกเงนิ 25,000 บาทไทยได้ก่ีเยน (0.30 บาท เท่ากับ 1 เยน ดังน้ัน 25,000 บาท เท่ากบั 30,000 ÷ 0.30 = 100,000 เยน) 5. จากนั้นครูเลา่ สถานการณ์ใหมใ่ หน้ กั เรียนฟงั ดงั น้ี เมอ่ื ครูเดินทางกลบั จากประเทศญี่ปุน่ ครูมีเงินเหลอื 2,000 เยน ครูจะแลกเป็น เงินบาทไทยไดเ้ ท่าไร จากน้นั ครูตง้ั คำถามกระตุน้ ความคิดนกั เรยี น ดงั นี้ - ดังน้ันครูจะแลกเงิน 2,000 เยนไดก้ ่ีบาท (1 เยน เท่ากบั 0.29 บาท ดังนั้น 2,000 เยน เท่ากบั 2,000 × 0.29 = 580 บาท) 5. ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกต้อง 1 นทีเดนิ ทางไปท่องเทีย่ วท่ีประเทศมาเลเซยี หลงั จากกลับมามเี งนิ เหลืออยู่ 123 ริงกติ ถา้ นที นำเงนิ ไปแลกทธี่ นาคารในอัตรา 1 รงิ กิต เท่ากับ 7.3703 บาท นทีจะแลกเงนิ คืนเป็นเงิน ไทยได้กี่บาท 2 หน่อยไปเทยี่ วญปี่ นุ่ ในช่วงปใี หม่ เม่ือกลบั มาประเทศไทย เหลือเงนิ 28,500 เยน จงึ นำเงินท่ี เหลือไปแลกคนื โดยธนาคารใหแ้ ลกคืนท่ีอัตรา 1 เยน เท่ากับ 3.31 บาท ดงั นั้น หน่อยแลก เงนิ คนื เปน็ เงนิ ไทยไดก้ บ่ี าท
3 สม้ โอเดนิ ทางไปท่องเที่ยวทปี่ ระเทศองั กฤษหลงั จากกลบั มามเี งินเหลอื อยู่ 22 ปอนด์ ถา้ ส้ม โอนำเงินไปแลกทธ่ี นาคารในอัตรา 1 ปอนด์ เท่ากับ 40.58 บาท ส้มโอจะแลกเงินคืนเป็น 9, เงินไทยได้กบี่ าท 6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปสงิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดงั น้ี - ถา้ ตอ้ งการแลกเงินบาทเปน็ สกลุ เงนิ อ่ืน ๆ ให้ดูตารางแลกเปลี่ยนในช่องขาย - ถ้าตอ้ งการแลกสกุลเงนิ อ่นื เป็นเงนิ บาท ใหด้ ูตารางแลกเปลี่ยนเงินในช่องซ้ือ 7.ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. กิจกรรมท่ี 5 โจทย์ปัญหาการบวกทศนยิ ม ชัว่ โมงท่ี 1 1. ครใู ห้นกั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้นั ใหน้ ักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนการบวกทศนิยมว่าตอ้ งต้งั หลกั ตวั เลขและจดุ ทศนยิ มให้ตรงกนั แล้วจงึ บวกกัน เหมือนการบวกจำนวนนบั เช่น - 8.23 + 4.56 = - 54.29 + 9.02 = - 456.8 + 23.87 = 3. ครนู ำเสนอโจทยป์ ัญหาการบวกทศนิยมใหน้ ักเรียนทัง้ ช้ันรว่ มกันอ่าน ในการสอบเกบ็ คะแนนครั้งท่ีหนึ่งพิมพท์ ำคะแนนสอบได้ 69.75 คะแนน คร้ังทีส่ องทำคะแนน สอบได้ 84.03 คะแนน พิมพ์ทำคะแนนรวมท้งั สองครั้งได้เท่าไร 4. นักเรียนอ่านโจทยป์ ัญหาพร้อมกัน จากนนั้ ฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หา โดยครตู ้งั คำถามนำ ดังน้ี - ส่ิงทีโ่ จทย์ถาม (พมิ พท์ ำคะแนนรวมทัง้ สองคร้ังไดเ้ ท่าไร) - สง่ิ ท่ีโจทยบ์ อก (ในการสอบเก็บคะแนนครง้ั ที่หน่งึ พมิ พท์ ำคะแนนสอบได้ 69.75 คะแนน ครัง้ ทีส่ องทำคะแนนสอบได้ 84.03 คะแนน) - นักเรียนจะหาคำตอบโดยวิธใี ด (วธิ ีบวก) เพราะเหตใุ ด (เปน็ การรวมคะแนนท้งั สองคร้ัง) - คำตอบเป็นเทา่ ไร (153.78 คะแนน) 5. ยกตัวอย่างโจทยป์ ัญหาการบวกมาให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์ เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ และหา คำตอบอกี 2 ตวั อยา่ ง โดยใชแ้ ถบประโยค เช่น สดุ ามเี งนิ อยู่ 987.75 บาท ขายผักไดเ้ งินมาเพ่ิมอีก 214.50 บาท สดุ ามเี งนิ รวมกนั เท่าไร ในคาบพละสมชายขวา้ งลูกบอลได้ไกล 32.52 เมตร สมปองขว้างลูกบอลได้ไกลกว่าสมชาย 9.68 เมตร สมปองขว้างลูกบอลได้ก่ีเมตร 6. ให้นักเรียนวิเคราะห์โจทย์ปัญหา พร้อมทงั้ เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบ 1 ไมท้ ่อนทหี่ น่งึ ยาว 14.25 เมตร ไม้ท่อนที่สองยาว 23.50 เมตร นำไม้ทัง้ สองท่อนมาวางต่อ 9, กันจะยาวกเ่ี มตร
2 เสื้อยดื ราคาตวั ละ 125.50 บาท กางเกงราคาตวั ละ 253.75 บาท เสือ้ ยืดและกางเกงรวมกัน 9, เปน็ เงินก่ีบาท 3 พอ่ สูง 172.60 เซนตเิ มตร แม่สูง 162.30 เซนติเมตร พอ่ กับแม่มสี ว่ นสูงรวมกันกีเ่ ซนติเมตร 9, 7. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ สิง่ ที่ได้เรยี นรู้ร่วมกัน ดังน้ี การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกทศนิยม จะตอ้ งวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาวา่ โจทยบ์ อกอะไร ตอ้ งการทราบอะไร แลว้ ดำเนนิ การตามกระบวนการแก้ โจทยป์ ัญหาและหาคำตอบ 8. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงที่ 2 1. ครใู ห้นกั เรียนท่องสตู รคูณโดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากนั้นใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครูทบทวนการแกโ้ จทย์ปัญหาการบวกทศนยิ ม โดยครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหาบนกระดานดำ ลุงเดินจากบ้านไปสวนผลไมเ้ ปน็ ระยะทาง 2.135 กโิ ลเมตร เดนิ ต่อจากสวนผลไม้ไปถงึ ทุ่งนา เป็นระยะทาง 3.087 กิโลเมตร ลุงเดินทางเปน็ ระยะทางทัง้ หมดก่ีกิโลเมตร 3. นักเรยี นอ่านโจทย์ปัญหาพรอ้ มกัน จากน้นั ฝึกวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาโดยครตู ัง้ คำถามนำ 4. ครูนำแผนภูมโิ จทยป์ ัญหาการบวกมาตดิ ไวบ้ นกระดานดำ นกั เรยี นทกุ คนอ่านโจทยป์ ญั หา พรอ้ มกนั แล้วฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์ โดยนักเรียนตอบถามและครูเขยี นคำตอบบนแผนภมู ิ ดังนี้ พ่อไดร้ บั เงนิ เดือน 8,500.50 บาท แม่ไดร้ บั เงนิ เดือน 6,500.25 บาท พ่อและแม่ไดร้ บั เงนิ เดอื นรวมกันกีบ่ าท - โจทยท์ ีโ่ จทย์ถาม (พ่อและแมไ่ ดร้ ับเงนิ เดือนรวมกันกี่บาท) - โจทย์ที่โจทย์บอก (พอ่ ไดร้ ับเงนิ เดือน 8,500.50 บาท แมไ่ ด้รับเงนิ เดอื น 6,500.25 บาท) - นักเรียนจะหาคำตอบโดยวธิ ีใด (วธิ บี วก) - จะเขียนเปน็ ประโยคสัญลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร (8,500.50 + 6,500.25 = ) 5. ครูนำแผนภมู ิโจทยป์ ัญหาการบวกในขอ้ 1. ดำเนนิ การแกโ้ จทย์ปัญหามาตดิ บนกระดานดำ 6. ครอู ธิบายการปฏิบัติกิรรมโดยการแสดงวธิ ีทำเพอ่ื หาคำตอบให้นักเรียนดู เช่น วธิ ีทำ พ่อไดร้ ับเงินเดอื น 8500.50 บาท แม่ได้รับเงนิ เดือน 6500.25 + บาท บาท พ่อและแมไ่ ด้รับเงินเดือนรวมกนั 15000.75 ตอบ พ่อและแมไ่ ดร้ ับเงนิ เดอื นรวมกนั ๑๕,๐๐๐.๗๕ บาท
7. ครูนำแผนภมู ิโจทย์ปญั หาการบวกติดบนกระดานดำอีก 2 ข้อ ให้นกั เรียนได้ชว่ ยกนั แก้โจทย์ ปญั หา 8. ให้นกั เรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละแสดงวิธีหาคำตอบ 1 แม่มีเงิน 745.50 บาท ป้าให้มาอีก 452.50 บาท แมม่ เี งนิ ท้ังหมดกี่บาท 2 สุดาฝากเงินธนาคาร 8,750 บาท ครบ 1 ปี ธนาคารคิดดอกเบี้ยให้ 322.75 บาท สุดามีเงิน 9, ในธนาคารรวมทัง้ ส้ินกบี่ าท ขั้น39ต, อนทบจ9่ี่า.ุญ4ยคยเ:รงืนูแกนิ ซลาทอื้ ะรง้ั ตสนหเู้รักยมุปเ็นดรรยีเทานคา่ รใา่วดม1ก2ัน,5ส0ร0ุป.7ส5่ิงทบไี่ าดท้เรซียื้อนโรท้รู รว่ ทมศักนนั ์รดาังคนาี้ 10,250.50 บาท บุญยนื ต้อง การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวกทศนยิ ม จะต้องวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาวา่ โจทยบ์ อกอะไร ต้องการทราบอะไร แลว้ ดำเนนิ การตามกระบวนการแก้ โจทยป์ ญั หาและหาคำตอบ 10. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. กิจกรรมท่ี 6 โจทยป์ ัญหาการลบทศนยิ ม ชว่ั โมงที่ 1 1. ครูให้นักเรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากนนั้ ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครูทบทวนการลบทศนยิ มว่าตอ้ งต้งั หลักตัวเลขและจุดทศนิยมใหต้ รงกันแลว้ จงึ ลบกนั เหมอื น การลบจำนวนนบั เชน่ - 8.23 - 4.56 = - 54.29 - 9.02 = - 456.8 - 23.87 = 3. ครูนำเสนอโจทยป์ ญั หาการลบทศนิยมใหน้ ักเรียนทงั้ ชนั้ รว่ มกนั อ่าน เชือกเส้นแรกยาว 318.75 เมตร เชือกเสน้ ทส่ี องยาว 287.25 เมตร เชอื กเส้นแรกยาวกว่าเส้น ทส่ี องเทา่ ไร 4. นกั เรยี นอ่านโจทย์ปญั หาพร้อมกัน จากนัน้ ฝึกวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา โดยครตู ้งั คำถามนำ ดงั น้ี - สง่ิ ท่ีโจทย์ถาม (เชือกเสน้ แรกยาวกว่าเสน้ ทส่ี องเทา่ ไร) - สงิ่ ท่ีโจทยบ์ อก (เชอื กเสน้ แรกยาว 318.75 เมตร เชือกเสน้ ทส่ี องยาว 287.25 เมตร) - นกั เรียนจะหาคำตอบโดยวธิ ใี ด (วธิ ลี บ) เพราะเหตุใด (หาความยาวต่างกันของเชอื กเส้นแรกและเส้นท่สี อง) - คำตอบเปน็ เทา่ ไร (31.5 เมตร) 5. ยกตัวอย่างโจทย์ปญั หาการลบมาใหน้ กั เรียนฝกึ วิเคราะห์ เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ และหา คำตอบอกี 2 ตวั อย่าง โดยใช้แถบประโยค เช่น สมชายมเี งนิ อยู่ 9,725.75 บาท นำไปซ้ือเสอ้ื ราคา 228.25 บาท สมชายจะเหลือเงนิ เท่าไร นดิ มเี งนิ อยู่ 2,714.75 บาท ซื้อพดั ลมไป 937.50 บาท นดิ จะเหลือเงนิ เท่าไร
6. ให้นักเรียนวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หา พร้อมทง้ั เขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบ 1 เชาวม์ เี งนิ 1,250 บาท ซื้อพดั ลมราคา 785.75 บาท เขาจะเหลอื เงนิ เทา่ ใด 9, 2 ถนนภายในโรงเรียนยาว 50.40 เมตร ราดยางแล้ว 28.50 เมตร ยงั เหลือไมไ่ ด้ราดยางอกี กี่ 9, เมตร 3 ป้ยุ มีเงนิ ในบญั ชีธนาคาร 8,350.50 บาท ในเดือนทีผ่ ่านมาถูกหกั ค่าไฟฟา้ 475.25 บาท ค่า 9, น้ำประปา 195.25 บาท ปุ้ยมีเงินคงเหลอื ในบัญชีกบ่ี าท 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งท่ีไดเ้ รียนรูร้ ่วมกัน ดังน้ี การแกโ้ จทยป์ ญั หาการลบทศนยิ ม จะต้องวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หาว่าโจทยบ์ อกอะไร ตอ้ งการทราบอะไร แลว้ ดำเนนิ การตามกระบวนการแก้ โจทยป์ ญั หาและหาคำตอบ 8. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงท่ี 2 1. ครใู หน้ กั เรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากน้ัน ให้นกั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนการแกโ้ จทยป์ ัญหาการลบทศนยิ ม โดยครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหาบนกระดานดำ ป้าอ้อยปลูกข้าวโพด 18.125 ไร่ เกดิ แมลงศตั รูพชื ขา้ วโพดเสียหาย 12.36 ไร่ ป้าอ้อยเหลือ ขา้ วโพดก่ีไร่ 3. นกั เรยี นอา่ นโจทยป์ ัญหาพรอ้ มกนั จากนนั้ ฝึกวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาโดยครูต้ังคำถามนำ 4. ครูนำแผนภมู โิ จทย์ปัญหาการลบมาตดิ ไวบ้ นกระดานดำ นักเรยี นทกุ คนอ่านโจทยป์ ัญหา พรอ้ มกันแล้วฝึกวเิ คราะห์โจทย์ โดยนักเรยี นตอบถามและครูเขยี นคำตอบบนแผนภูมิ ดงั น้ี ในการวง่ิ แข่งขนั 400 เมตร คงเดชใช้เวลา 55.52 วนิ าที สมชายใช้เวลา 57.63 วินาที คงเดชวง่ิ เรว็ กว่าสมชายเท่าใด - โจทย์ท่โี จทย์ถาม (คงเดชว่งิ เรว็ กว่าสมชายเท่าใด) - โจทย์ทโ่ี จทยบ์ อก (ในการว่งิ แขง่ ขัน 400 เมตร คงเดชใชเ้ วลา 55.52 วนิ าที สมชายใช้เวลา 57.63 วนิ าที) - นกั เรยี นจะหาคำตอบโดยวิธใี ด (วิธีลบ) - จะเขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์ไดอ้ ยา่ งไร (57.63 – 55.52 = ) 5. ครูนำแผนภมู โิ จทย์ปัญหาการลบมาติดบนกระดานดำ ครูอธิบายการปฏิบัตกิ ริ รมโดยการ แสดงวิธีทำเพอื่ หาคำตอบใหน้ ักเรยี นดู เช่น วิธที ำ สมชายใช้เวลาวิง่ 57.63 - วินาที คงเดชใชเ้ วลาวิง่ 55.52 วนิ าที
คงเดชวิง่ เร็วกว่าสมชาย 5.11 วินาที ตอบ คงเดชวิง่ เรว็ กวา่ สมชาย ๕.๑๑ วนิ าที 6. ครูนำแผนภูมิโจทย์ปญั หาการลบติดบนกระดานดำอกี 2 ข้อ ใหน้ กั เรียนได้ช่วยกันแก้โจทย์ ปัญหา 7. ใหน้ ักเรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละแสดงวธิ หี าคำตอบ 1 เดือนมกราคมแม่จา่ ยคา่ ไฟ 345.25 บาท เดือนกมุ ภาพันธ์จา่ ย 294.75 บาท แมจ่ ่ายค่าไฟ 9, เดือนมกราคมมากกวา่ เดือนกุมภาพนั ธเ์ ทา่ ไร 2 เปามีเงนิ ในกระปุกออมสิน 150.25 บาท แป้งมีเงินในกระปุกออมสินนอ้ ยกว่าเปา 21.50 9, บาท แป้งมเี งนิ ในกระปุกออมสินกบ่ี าท 3 ลุงทองส่งขา้ วโพดขาย 20.326 ตัน สง่ อ้อยขาย 35.458 ตนั ลงุ ทองสง่ อ้อยขายมากกว่า 9, ขา้ วโพด กี่ตัน 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดงั น้ี การแกโ้ จทยป์ ัญหาการลบทศนยิ ม จะตอ้ งวิเคราะห์โจทย์ปญั หาวา่ โจทย์บอกอะไร ต้องการทราบอะไร แลว้ ดำเนินการตามกระบวนการแก้ โจทย์ปญั หาและหาคำตอบ 9. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมท่ี 7 โจทยป์ ัญหาการคูณทศนยิ ม ช่ัวโมงที่ 1 1. ครูใหน้ กั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้ัน ให้นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครทู บทวนการคณู ทศนยิ ม เชน่ - 4.75 × 2 = - 31.3 × 6 = - 56.1 × 12 = 3. ครูนำเสนอโจทย์ปัญหาการคณู ทศนยิ มให้นักเรยี นท้ังชน้ั รว่ มกนั อ่าน ปลกู ข้าวโพด 1 ไร่ ต้องใชเ้ มล็ดพันธุ์ 14.5 กโิ ลกรัม ถา้ ลุงเป้ปลูกขา้ วโพด 9 ไร่ ลุงเปต้ ้องใช้ เมลด็ พนั ธข์ุ า้ วโพดกกี่ ิโลกรมั 4. นักเรยี นอ่านโจทย์ปัญหาพรอ้ มกนั จากนนั้ ฝกึ วิเคราะห์โจทย์ปญั หา โดยครตู ้ังคำถามนำ ดังนี้ - ส่ิงทโ่ี จทย์ถาม (ลงุ เป้ตอ้ งใชเ้ มล็ดพันธ์ุขา้ วโพดกีก่ โิ ลกรมั ) - ส่ิงทโี่ จทยบ์ อก (ปลูกข้าวโพด 1 ไร่ ต้องใชเ้ มลด็ พันธ์ุ 14.5 กิโลกรมั ถ้าลุงเปป้ ลกู ขา้ วโพด 9 ไร่) - นักเรียนจะหาคำตอบโดยวธิ ใี ด (วิธีคูณ) เพราะเหตใุ ด (หาผลรวมทั้งหมดของเมล็ดพันธข์ุ ้าวโพดท่ตี ้องใช้) - คำตอบเป็นเทา่ ไร (130.50 กโิ ลกรมั ) 5. ยกตัวอยา่ งโจทย์ปัญหาการลบมาใหน้ ักเรยี นฝกึ วเิ คราะห์ เขียนประโยคสญั ลักษณ์ และหาคำตอบ อกี 2 ตวั อยา่ ง โดยใชแ้ ถบประโยค เช่น
นำ้ ปลาราคาขวดละ 27.50 บาท ซ้อื มา 5 ขวด คดิ เป็นเงินเทา่ ไร นำ้ ผลไมห้ น่ึงกล่องมปี ริมาณ 1.5 ลิตร มนี ำ้ ผลไม้ 2.5 กลอ่ ง มปี ริมาณทัง้ หมดเทา่ ไร 6. ให้นักเรยี นวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา พรอ้ มทั้งเขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคำตอบ 1 คุณพ่อเติมนำ้ มันไป 35 ลิตร ถา้ นำ้ มนั ราคาลิตรละ 25.75 บาท คณุ พ่อต้องจา่ ยเงินพนักงาน 9, ปม๊ั ทง้ั หมดเทา่ ไร 2 ขายปลาดกุ ราคากิโลกรัมละ 25.50 บาท มปี ลาดุกอยู่ 8.5 กโิ ลกรมั ถ้าขายท้งั หมดจะได้เงิน 9, เท่าไร 3 ปลาราคากิโลกรัมละ 65.75 บาท แม่ต้องการซ้ือ 25 กิโลกรมั แม่จะต้องจา่ ยเงินท้งั หมดกี่ 9, บาท 7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ทไ่ี ด้เรียนรู้รว่ มกัน ดงั น้ี การแก้โจทย์ปัญหาการคูณทศนิยมจะต้อง วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาว่าโจทยบ์ อกอะไร ต้องการทราบอะไร แลว้ ดำเนินการตามกระบวนการแกโ้ จทย์ ปัญหาและหาคำตอบ 8. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงท่ี 2 1. ครใู หน้ ักเรียนท่องสูตรคูณโดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจากน้ัน ให้นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครูทบทวนการแก้โจทยป์ ัญหาการคณู ทศนยิ ม โดยครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาบนกระดานดำ ในชั่วโมงลูกเสือเนตรนารี มีฐานวางไม้พลองต่อกนั ไม้พลองหน่งึ อันยาว 2.625 เมตร มีไม้ พลอง 12 อัน นำมาวางตอ่ กนั จะมีความยาวเท่าไร 3. นกั เรยี นอ่านโจทย์ปญั หาพรอ้ มกนั จากน้นั ฝึกวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาโดยครูตง้ั คำถามนำ 4. ครูนำแผนภูมิโจทยป์ ญั หาการคูณมาตดิ ไวบ้ นกระดานดำ นักเรยี นทกุ คนอา่ นโจทยป์ ญั หา พร้อมกนั แลว้ ฝึกวิเคราะห์โจทย์ โดยนักเรียนตอบถามและครูเขยี นคำตอบบนแผนภมู ิ ดงั นี้ น้ำมนั รถยนตร์ าคาลิตรละ 38.24 บาท ถ้าเตมิ 6.3 ลติ ร ต้องจา่ ยเงนิ เท่าใด - โจทยท์ ี่โจทยถ์ าม (ตอ้ งจ่ายเงนิ ค่าน้ำมันรถเท่าใด) - โจทย์ท่ีโจทยบ์ อก (น้ำมนั รถยนตร์ าคาลติ รละ 38.24 บาท ถา้ เติม 6.3 ลติ ร) - นกั เรยี นจะหาคำตอบโดยวธิ ีใด (วิธีคูณ) - จะเขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณไ์ ด้อย่างไร (38.24 × 6.3 = ) 5. ครนู ำแผนภมู ิโจทย์ปัญหาการคูณในข้อ 1. ดำเนินการแกโ้ จทยป์ ัญหามาตดิ บนกระดานดำ 6. ครอู ธบิ ายการปฏบิ ตั ิกิจรรมในขอ้ 1. โดยการแสดงวิธีทำเพื่อหาคำตอบให้นกั เรยี นดู เชน่
วิธีทำ นำ้ มันรถยนตร์ าคาลิตรละ 38.24 บาท ถ้าเติม 6.30 ลติ ร ตอ้ งจา่ ยเงนิ ทัง้ หมด 38.24 × 6.30 = 240.912 บาท ตอบ ตอ้ งจา่ ยเงนิ ท้ังหมด ๒๔๐.๙๑๒ บาท 7. ครนู ำแผนภมู โิ จทยป์ ญั หาการคูณตดิ บนกระดานดำอีก 2 ขอ้ ให้นักเรียนไดช้ ว่ ยกนั แกโ้ จทย์ ปัญหา 8. ให้นกั เรียนเขียนประโยคสัญลักษณแ์ ละแสดงวธิ หี าคำตอบ 1 นทั ได้รบั ทด่ี ินจากคุณปู่ ที่ดินเปน็ รปู สีเ่ หล่ียมผืนผ้า มคี วามกว้าง 12.25 เมตร ยาว 15.2 9, เมตร นัทมที ด่ี นิ กตี่ ารางเมตร 2 นา้ มนั 1 ลติ ร รถวิ่งได้ 22.5 กโิ ลเมตร ถา้ ปอ้ งเตมิ น้ามนั 13.6 ลติ ร รถจะว่ิงได้กกี่ โิ ลเมตร 9, 3 ปลากระป๋องราคากระป๋องละ 25.25 บาท ซ้อื 2 โหล จะตอ้ งจ่ายเงนิ ทั้งหมดกบี่ าท 9, 9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกนั ดังนี้ การแกโ้ จทย์ปัญหาการคูณทศนยิ ม จะตอ้ งวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาว่าโจทยบ์ อกอะไร ตอ้ งการทราบอะไร แล้วดำเนนิ การตามกระบวนการแก้ โจทยป์ ญั หาและหาคำตอบ 10. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมท่ี 8 โจทย์ปัญหาการหารทศนยิ ม ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครูให้นักเรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จากน้ัน ให้นักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ครูทบทวนการคณู ทศนยิ ม เช่น - 4.2 ÷ 3 = - 1.08 ÷ 0.12 = - 1.12 ÷ 0.06 = 3. ครนู ำเสนอโจทย์ปญั หาการหารทศนิยมให้นักเรยี นท้ังช้ันรว่ มกันอ่าน สมุดวาดเขียนราคาโหลละ 96.60 บาท สมุดวาดเขียนราคาเลม่ ละเทา่ ไร 4. นักเรียนอา่ นโจทยป์ ญั หาพรอ้ มกนั จากน้ันฝกึ วิเคราะหโ์ จทย์ปญั หา โดยครูตัง้ คำถามนำ ดังนี้ - ส่งิ ทโ่ี จทยถ์ าม (สมุดวาดเขยี นราคาเล่มละเทา่ ไร) - สิง่ ทีโ่ จทย์บอก (สมุดวาดเขียนราคาโหลละ 96.60 บาท) - นักเรยี นจะหาคำตอบโดยวธิ ใี ด (วิธีหาร) เพราะเหตุใด (หาราคาสมุดต่อเล่ม) - คำตอบเป็นเท่าไร (8.05 บาท) 5. ยกตัวอย่างโจทยป์ ัญหาการลบมาใหน้ ักเรยี นฝึกวเิ คราะห์ เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ และหา
คำตอบอกี 2 ตวั อยา่ ง โดยใชแ้ ถบประโยค เช่น ลุงบญุ มที ำนำ้ หมกั ชีวภาพได้ 16 ลิตร ต้องการบรรจขุ วดละ 0.64 ลิตร จะตอ้ งใช้ขวดก่ีใบ ปุ๊กซ้ือข้าวเหนียวถงุ หนึ่งหนกั จึง6จกะโิบลรกรรจัมนุ ำ้รหาคมากั ช1ีว5ภ4า.5พ0ไดบ้หามทดขพ้าอวดเหี นียวราคากโิ ลกรัมละเท่าใด 6. ใหน้ กั เรียนฝึกวเิ คราะห์ เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ และหาคำตอบดงั น้ี 1 คนงานทำถนนคอนกรีตได้ยาว 25.25 เมตรตอ่ วนั ถ้าต้องการทำถนนยาว 757.50 เมตร 9, จะต้องใช้เวลากว่ี นั จงึ จะทำงานแล้วเสรจ็ 2 น้ำตาลทรายถงุ หนง่ึ หนัก 5 กิโลกรัม ตดิ ราคาขายไว้ 125.75 บาท น้ำตาลถุงน้รี าคากิโลกรมั 9, ละเท่าไร 3 สายไฟเส้นหนงึ่ ยาว 15.225 เมตร ต้องการตดั ออกเปน็ สามสว่ นเท่าๆ กัน แต่ละสว่ นจะยาว 9, เทา่ ใด 7. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปสงิ่ ทีไ่ ด้เรียนรูร้ ว่ มกัน ดงั น้ี การแกโ้ จทย์ปัญหาการหารทศนิยม จะต้องวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาวา่ โจทยบ์ อกอะไร ตอ้ งการทราบอะไร แลว้ ดำเนินการตามกระบวนการแก้ โจทยป์ ัญหาและหาคำตอบ 8. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี 2 1. ครูให้นกั เรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้แกว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลังจากน้ัน ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ 2. ครูทบทวนการแก้โจทย์ปัญหาการหารทศนยิ ม โดยครูติดแถบโจทยป์ ญั หาบนกระดานดำ ดาวมีเมลด็ ผักชี 17.5 กโิ ลกรัม แบง่ ใส่ถงุ ถุงละ 2.5 กิโลกรัม จะได้กถ่ี ุง 3. นักเรยี นอ่านโจทยป์ ญั หาพรอ้ มกัน จากนนั้ ฝึกวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาโดยครูต้งั คำถามนำ 4. ครูนำแผนภูมิโจทยป์ ญั หาการหารมาตดิ ไว้บนกระดานดำ นกั เรยี นทกุ คนอา่ นโจทย์ปัญหา พร้อมกนั แล้วฝกึ วิเคราะห์โจทย์ โดยนกั เรยี นตอบถามและครูเขยี นคำตอบบนแผนภูมิ ดงั นี้ ร้านป้าจอ่ ยมีขา้ วคว่ั อยู่ 22.4 กโิ ลกรมั ต้องการแบ่งใส่ถงุ ถุงละ 1.6 กโิ ลกรมั จะแบ่งใส่ถุงได้กี่ถุง - โจทยท์ ีโ่ จทยถ์ าม (จะแบ่งใส่ถุงได้ก่ีถุง) - โจทย์ทโี่ จทย์บอก (ร้านปา้ จอ่ ยมีข้าวค่วั อยู่ 22.4 กิโลกรมั ต้องการแบ่งใสถ่ ุง ถุงละ 1.6 กโิ ลกรัม) - นกั เรียนจะหาคำตอบโดยวธิ ใี ด (วิธีหาร)
- จะเขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์ไดอ้ ยา่ งไร (22.4 ÷ 1.6 = ) 5. ครนู ำแผนภมู โิ จทย์ปญั หาการคูณในข้อ 1. ดำเนนิ การแกโ้ จทยป์ ัญหามาตดิ บนกระดานดำ 6. ครอู ธบิ ายการปฏิบตั กิ ิจรรมในขอ้ 1. โดยการแสดงวธิ ีทำเพ่ือหาคำตอบให้นักเรียนดู เชน่ วธิ ที ำ รา้ นป้าจ่อยมีขา้ วคว่ั อยู่ 22.4 กิโลกรัม ต้องการแบ่งใสถ่ ุง ถงุ ละ 1.6 กิโลกรัม จะแบง่ ใส่ถุงได้กถี่ ุง 22.4 ÷ 1.6 = 14 ถงุ ตอบ จะแบง่ ข้าวค่ัวใสถ่ ุงได้ ๑๔ ถุง 7. ครนู ำแผนภูมิโจทย์ปัญหาการหารติดบนกระดานดำอีก 2 ข้อ ใหน้ กั เรียนไดช้ ่วยกนั แกโ้ จทย์ ปัญหา 8. ให้นกั เรียนฝกึ วิเคราะห์โจทย์ปญั หาและหาคำตอบ ดงั น้ี 1 ครซู อื้ เส่ือน้ำมันมา 1 ผนื มีขนาด 5.44 เมตร นำมาตัดแบง่ เพ่ือคลุมโต๊ะกินขา้ ว ผนื ละ 1.36 9, เมตร เทา่ ๆ กนั จะได้กี่ผืน 2 ข้าวเหนยี วถงุ หนง่ึ หนกั 5 กโิ ลกรัม ติดราคาไว้ 189.20 บาท ข้าวเหนยี วถุงน้ีราคากโิ ลกรัม 9, ละก่ีบาท 3 ลงุ ดินมปี ุย๋ คอกอยู่ 40.04 กโิ ลกรัม ถา้ ต้องการแบง่ ใส่กระสอบ กระสอบละ 1.3 กิโลกรมั จะ 9, แบ่งใส่กระสอบได้ก่ีกระสอบ 9. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรูร้ ่วมกัน ดงั น้ี การแกโ้ จทย์ปัญหาการหารทศนิยม จะตอ้ งวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาวา่ โจทย์บอกอะไร ต้องการทราบอะไร แล้วดำเนนิ การตามกระบวนการแก้ โจทยป์ ัญหาและหาคำตอบ 10. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. กิจกรรมท่ี 9 โจทย์ปัญหาการแลกเปลย่ี นเงนิ ตรา ชว่ั โมงที่ 1 1. ครูใหน้ ักเรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคณู หลงั จากน้ัน ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี น จากน้ันครูทบทวนสง่ิ ทต่ี ้องพจิ ารณาในการแกโ้ จทยป์ ัญหาเกีย่ วกับ ทศนยิ ม ดงั นี้ - สง่ิ ทีโ่ จทยก์ ำหนดใหค้ ืออะไร - สิ่งทโ่ี จทย์ถามคอื อะไร - จะสามารถวาดแผนภาพบารโ์ มเดลไดอ้ ย่างไร - เขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ไดอ้ ยา่ งไร - การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบทำได้อย่างไร 3. ครูนำแผนภมู ิโจทย์ปญั หาการหารมาตดิ ไวบ้ นกระดานดำ นกั เรยี นทุกคนอา่ นโจทย์ปัญหา พรอ้ มกนั แล้วฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์ โดยนักเรยี นตอบถามและครูเขยี นคำตอบบนแผนภูมิ ดงั นี้
ในวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2563 จอยตอ้ งการแลกเปลีย่ นเงนิ บาทเป็นสกุลเงินดอลลาร์ สงิ คโปร์ โดยมอี ตั ราการขายเป็น 1 ดอลลารส์ ิงคโปร์ ต่อ 22.63 บาท ถ้าจอยตอ้ งการแลก เงนิ 20,000 บาท เป็นสกุลเงินดอลลาร์สงิ คโปร์ จอยจะได้รบั เงินกดี่ อลลาร์สิงคโปร์ (ตอบ เป็นทศนยิ ม 2 ตำแหนง่ ) - โจทย์ที่โจทยถ์ าม (จอยจะได้รับเงนิ กีด่ อลลาร์สงิ คโปร์) - โจทย์ท่ีโจทย์บอก (ในวนั ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2563 จอยตอ้ งการแลกเปลี่ยนเงนิ บาทเป็นสกุล เงนิ ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีอัตราการขายเป็น 1 ดอลลารส์ งิ คโปร์ ตอ่ 22.63 บาท ถ้า จอยตอ้ งการแลก เงนิ 20,000 บาท เป็นสกุลเงนิ ดอลลารส์ ิงคโปร)์ - นกั เรยี นจะหาคำตอบโดยวิธใี ด (วธิ ีหาร) - จะเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้อยา่ งไร (20,000 ÷ 22.63 = ) 4. ครนู ำแผนภูมโิ จทย์ปญั หาในข้อ 1. ดำเนนิ การแกโ้ จทยป์ ัญหามาติดบนกระดานดำ 5. ครูอธบิ ายการปฏิบัตกิ ิจรรมในข้อ 1. โดยการแสดงวธิ ีทำเพือ่ หาคำตอบให้นกั เรยี นดู เชน่ วิธีทำ จอยต้องการแลกเปลีย่ นเงนิ บาทเป็นสกลุ เงินดอลลาร์สงิ คโปร์ โดยมีอัตราการขาย เป็น 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ ต่อ 22.63 บาท ถ้าจอยต้องการแลกเงิน 20,000 บาท เป็นสกุลเงินดอลลาร์สงิ คโปร์ จ อ ย จ ะ 20,000 ÷ 22.63 ≈ 883.78 ดอลลาร์สิงคโปร์ ได้รับเงิน ตอบ จอยจะได้รับเงนิ ๘๘๓๗๘ ดอลลาร์สิงคโปร์ 6. ครูนำแผนภูมโิ จทย์ปัญหาการแลกเปล่ยี นเงินตราตดิ บนกระดานดำอกี 2 ขอ้ ให้นักเรียนได้ ชว่ ยกนั แก้โจทยป์ ญั หา 7. ให้นักเรยี นเขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละแสดงวิธหี าคำตอบ 1 ต้นขายเสอ้ื ราคาตัวละ 289 บาท ลกู ค้าชาวต่างชาติต้องการจ่ายเปน็ สกลุ เงนิ หยวน ลกู คา้ ชาวตา่ งชาติต้องจา่ ยเงนิ อยา่ งนอ้ ยกีห่ ยวน (1 หยวน เทา่ กับ 4.37 บาท และตอบเป็น 9, จำนวนเตม็ ) 2 ปอขายกระเป๋าราคาใบละ 1,250 บาท ลกู ค้าชาวตา่ งชาติต้องการจ่ายเป็นเงนิ ดอลลาร์ สหรฐั ลกู ค้าชาวตา่ งชาตติ อ้ งจ่ายเงนิ อยา่ งน้อยกี่ดอลลารส์ หรัฐ (1 ดอลลาร์สหรัฐ เทา่ กบั 9, 30.83 บาท และตอบเปน็ จำนวนเต็ม) 3 ตูมตามขายกระโปรงราคาตัวละ 590 บาท ลูกค้าชาวตา่ งชาติต้องการจ่ายเป็นสกลุ เงนิ ริงกิต ลูกค้าชาวต่างชาตติ ้องจา่ ยเงนิ อยา่ งน้อยกี่ริงกติ (1 ริงกิต เท่ากับ 7.37 บาท และตอบเป็น 9, จำนวนเต็ม)
4 ปเู ปก้ ลับจากการไปเทยี่ วบรูไน มสี กลุ เงนิ ดอลลาร์บรไู นเหลอื กลบั มาที่ไทย 104 ดอลลาร์ บรูไน ถา้ ปูเป้นำเงนิ ไปแลกทธ่ี นาคารในอัตรา 1 ดอลลาร์บรูไน เท่ากบั 22.1708 บาท ปูเป้ 9, จะได้รับเงนิ กี่บาท 5 เก่งกลบั จากการไปเทยี่ วเวียดนาม มสี กลุ เงินด่งเหลือกลับมาท่ไี ทย 35,000 ดง่ ถ้าเก่งนำเงิน 9, ไปแลกท่ีธนาคารในอตั รา 1 ด่ง เท่ากบั 0.0013 บาท เดง่ จะไดร้ ับเงนิ กบ่ี าท ชั่วโมงท่ี 2 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรูร้ ่วมกนั ดังนี้ การแกโ้ จทยป์ ัญหาการแลกเปล่ยี น เงินตราจะตอ้ งวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาวา่ โจทย์บอกอะไร ตอ้ งการทราบอะไร แลว้ ดำเนนิ การตาม กระบวนการแกโ้ จทย์ปัญหาและหาคำตอบ 2. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 9. สอื่ / แหล่งเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรยี น ๒. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ๓. ตารางสบิ ๔. แถบโจทยก์ ารหารทศนยิ มกับจำนวนนบั ๕. แถบโจทย์การหารทศนิยม หน่ึง สอง และสามตำแหน่ง ๖. แถบโจทย์การแลกอตั ราเงิน
โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดริ์ าษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี ข้อสอบบทที่ 3 ทศนิยม มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด ค1.1 ป.6/9 ป.6/10 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นทำเคร่ืองหมาย x ทบั อกั ษรหนา้ คำตอบที่ถูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 20 ขอ้ ขอ้ 1. จงเขียน 25 เปน็ ทศนยิ ม ขอ้ 8. กอ้ ยตอ้ งการเดนิ ทางไปท่องเทย่ี วที่ 8 ประเทศจีน และต้องการนำเงินไปใชใ้ นประเทศจีน ก. 3.125 ข. 5.800 40,000 บาท ก้อยจะมเี งนิ ก่ีหยวน (ถา้ อัตรา 1 หยวน เทา่ กับ 6.51 บาท) ค. 25.8 ง. 258.0 ก. 3,230.02 หยวน ข. 5,004.13 หยวน ขอ้ 2. 3.57 ÷ 7 มีค่าเทา่ ใด ค. 6,144.39 หยวน ง. 8,000.50 หยวน ก. 0.51 ข. 1.57 ค. 3.577 ง. 35.57 ขอ้ 3. 0.79 ÷ 2 มีค่าเทา่ ใด ข้อ 9. นทีเดนิ ทางไปท่องเทยี่ วทีป่ ระเทศมาเลเซีย หลงั จากกลบั มามีเงินเหลอื อยู่ 123 รงิ กติ ถา้ นทีนำ ก. 0.125 ข. 0.395 เงนิ ไปแลกทธี่ นาคารในอัตรา 1 รงิ กติ เท่ากับ 7.37 บาท นทจี ะแลกเงินคืนเป็นเงนิ ไทยได้กบ่ี าท ค. 2.889 ง. 4.078 ก. 906.51 บาท ข. 675.80 บาท ข้อ 4. 11.043 ÷ 9 มีค่าเท่าใด ค. 300.50 บาท ง. 125.37 บาท ก. 11.125 ข. 5.643 ค. 1.227 ง. 0.043 ขอ้ 10. ไมท้ ่อนท่ีหนงึ่ ยาว 14.25 เมตร ไมท้ อ่ นท่ี สองยาว 23.50 เมตร นำไมท้ ้ังสองท่อนมาวางต่อ ข้อ 5. 2.45 ÷ 0.05 มคี า่ เทา่ ใด กนั จะยาวกี่เมตร ก. 3.125 ข. 5.45 ค. 45.8 ง. 49.0 ก. 13.12 เมตร ข. 15.76 เมตร ค. 25.81 เมตร ง. 37.75 เมตร ข้อ 6. 1.782 ÷ 0.495 มีค่าเทา่ ใด ก. 3.6 ข. 4.9 ขอ้ 11. เส้ือยืดราคาตวั ละ 125.50 บาท กางเกง ค. 5.8 ง. 7.7 ราคาตวั ละ 253.75 บาท เส้อื ยดื และกางเกง รวมกนั เปน็ เงินก่ีบาท ขอ้ 7. 2.553 ÷ 0.111 มีค่าเทา่ ใด ก. 1.1 ข. 2.55 ก. 3.125 บาท ข. 5.800 บาท ค. 23 ง. 25.0 ค. 379.25 บาท ง. 258.0 บาท
ขอ้ 12. สดุ าฝากเงินธนาคาร 8,750 บาท ครบ 1 ขอ้ 18. ทอ่ ประปาเสน้ หน่ึงยาว 3.74 เมตร ถ้านำมา ตัดเป็นทอ่ นละ 0.34 เมตร จะได้ท่อประปาก่ีทอ่ น ปี ธนาคารคดิ ดอกเบ้ยี ให้ 322.75 บาท สดุ ามีเงนิ ในธนาคารรวมทงั้ สนิ้ ก่ีบาท ก. 3 ท่อน ข. 7 ทอ่ น ค. 11 ทอ่ น ง. 18 ทอ่ น ก. 6,430.75 บาท ข. 9,072.75 บาท ค. 25.8 ง. 258.0 ขอ้ 13. อน้ นำ้ หนัก 60.75 กโิ ลกรัม ปอน้ำหนกั ขอ้ 19. ลุงดินมปี ยุ๋ คอกอยู่ 40.04 กิโลกรัม ถ้า 50.50 กโิ ลกรมั เอกนำ้ หนัก 43.25 กโิ ลกรัม ทัง้ ตอ้ งการแบง่ ใส่กระสอบ กระสอบละ 1.3 กิโลกรัม สามคนนำ้ หนกั รวมกนั กกี่ โิ ลกรมั จะแบง่ ใส่กระสอบไดก้ ่กี ระสอบ ก. 94.25 กิโลกรัม ข. 100.50 กิโลกรมั ก. 30.8 กระสอบ ข. 42.7 กระสอบ ค. 104.75 กิโลกรัม ง. 154.50 กิโลกรัม ค. 56.6 กระสอบ ง. 77.8 กระสอบ ข้อ 14. เชาว์มีเงิน 1,250 บาท ซอ้ื พัดลมราคา ข้อ 20. ตูมตามขายกระโปรงราคาตวั ละ 590 บาท 785.75 บาท เขาจะเหลือเงินเทา่ ใด ลกู คา้ ชาวต่างชาตติ ้องการจา่ ยเป็นสกลุ เงินริงกติ ก. 464.25 บาท ข. 365.25 บาท ค. 274.50 บาท ง. 258.75 บาท ลูกคา้ ชาวต่างชาติตอ้ งจ่ายเงนิ อยา่ งน้อยก่ีรงิ กติ ข้อ 15. ในการฝกึ ซอ้ ม อนุชาว่งิ ไดร้ ะยะทาง (1 ริงกิตเท่ากับ 7.38 บาทและตอบเป็นจำนวนเตม็ ) 12.325 กโิ ลเมตร จตุรงค์วิ่งไดร้ ะยะทาง 12.614 กโิ ลเมตร จตุรงค์วิ่งได้ระยะทางมากกวา่ อนุชา ก่ี ก. 80 รงิ กติ ข. 87 รงิ กิต กโิ ลเมตร ค. 90 รงิ กิต ง. 98 ริงกิต ก. 0.289 กโิ ลเมตร ข. 2.278 กิโลเมตร ค. 4.119 กโิ ลเมตร ง. 6.765 กิโลเมตร ********** ขอใหท้ ุกคนโชคดี ************ ขอ้ 16. ขายปลาดุกราคากิโลกรมั ละ 25.50 บาท มปี ลาดกุ อยู่ 8.5 กโิ ลกรัม ถ้าขายทง้ั หมดจะไดเ้ งิน เท่าไร ก. 106.25 บาท ข. 114.75 บาท ค. 200.50 บาท ง. 216.75 บาท ข้อ 17. นำ้ มนั เบนซินราคาลติ รละ 29.25 บาท ผ้ตู รวจขอ้ สอบ ลงช่ือ.................................................ครูผสู้ อน ถ้าเตมิ นำ้ มันเบนซนิ ใสถ่ งั 22 ลิตร จะตอ้ งจา่ ยเงิน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรปี ระภา) เทา่ ไร ก. 200.25 บาท ข. 321.25 บาท ค. 643.50 บาท ง. 804.70 บาท
ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ดา้ น คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี น ในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งวา่ ง ใหต้ รงกบั ระดบั คะแนน และตามความเป็นจรงิ โดยมีเกณฑก์ ารให้คะแนน ดังน้ี 4 = พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนมาก และบอ่ ยครง้ั สม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ 2 = พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง 1 = พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิบางคร้งั คณุ ลักษณะอัน ระดบั คะแนน พึงประสงค์ รายการประเมิน 4 321 ด้าน 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรัก และภูมิใจในความเปน็ ชาติ กษัตรยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรักภักดีตอ่ สถาบัน พระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ 2.1 ปฏิบัติตามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน สจุ ริต 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเปน็ จริงต่อผู้อ่นื 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรยี บร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความร้ไู ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและร้คู ณุ ค่า 5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งม่ันในการ 6.1 มคี วามตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับ ทำงาน มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อุปสรรค เพอ่ื ให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย ไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อสว่ นรวม และเพ่ือผูอ้ ื่น สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรือการให้ความช่วยเหลอื ผอู้ ่ืน 8.3 เข้าร่วมกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพื่อส่วนรวมเมื่อมโี อกาส ชือ่ ......................................................................................................................ชั้ น.................เลขที.่ .................
แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ผลการประเมนิ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) ปีการศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรปุ ผลการประเมินคุณภาพ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัมพันธ์กัน การสนทนาเ ื่รอง ่ีทกำหนด การ ิตด ่ตอ ื่สอสาร พฤ ิตกรรมการทำงานก ุ่ลม รวม ระดับ ุคณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ ได้คะแนน 11-13 คะแนน =3 (ด)ี (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา) ได้คะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช)้ วนั ....เดือน...............ป.ี ...... ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรบั ปรงุ ) * เกณฑผ์ า่ นการประเมินตอ้ งได้ 2 (พอใช)้ ขึน้ ไป
แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ปกี ารศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนน และสรุปผลการประเมนิ คุณภาพ ผลการประเมิน เลขท่ี ชอื่ -สกลุ คะแนน ระดับ ุคณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ไดค้ ะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงช่ือ.........................................ผปู้ ระเมิน ได้คะแนน 11-13 คะแนน = 3 (ด)ี (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน = 2 (พอใช)้ วัน....เดือน...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน = 1 (ปรับปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ตอ้ งได้ 2 (พอใช้) ขนึ้ ไป
แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำแบบทดสอบ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรงุ ) ปกี ารศึกษา 2562 คำช้ีแจง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น และประเมินผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนก่อนเรียน(10) คะแนนหลงั เรยี น(10) ้รอยละ ่ผาน/ไม่ ่ผาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผเู้ รียนต้องมีคะแนนสอบหลังเรยี นผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ) ลงช่อื .........................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวแพรวรงุ่ ศรปี ระภา) วนั ....เดือน...............ปี.......
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104