Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์-ป.4

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์-ป.4

Published by 01dada, 2022-02-18 13:28:47

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์-ป.4

Search

Read the Text Version

บตั รภาพตน้ พชื ชนดิ ต่างๆ กลว้ ยไม้  ทานตะวนั

บตั รภาพตน้ พืชชนดิ ต่างๆ กหุ ลาบ  ดาวเรอื ง

บตั รภาพตน้ พชื ชนิดต่างๆ ข้าว  มะพรา้ ว

บตั รภาพตน้ พืชชนดิ ต่างๆ เฟริ น์  มอสส์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน ป.4

บตั รภาพตน้ พชื ชนดิ ต่างๆ หางสิงห์  ต้นปรง

บตั รภาพตน้ ขา้ วโพด 

บตั รภาพตน้ ทานตะวนั 

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 ความหลากหลายของสัตว์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ิต ระยะเวลา 4 ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั ว 1.3 ป.4/3 จาแนกสัตว์ออกเป็นสตั วม์ ีกระดกู สันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลงั โดยใชก้ ารมกี ระดกู สัน หลงั เป็นเกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้ ป.4/4 บรรยายลกั ษณะเฉพาะที่สงั เกตไดข้ องสัตวม์ ีกระดูกสันหลงั ในกลมุ่ ปลากล่มุ สัตว์สะเทนิ น้า สะเทินบก กล่มุ สตั วเ์ ลอ้ื ยคลาน กลมุ่ นก และกลมุ่ สตั ว์เล้ียงลูกด้วยน้านม และยกตวั อย่างสิง่ มีชีวติ ใน แตล่ ะกลุ่ม 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) สงั เกตอธบิ ายลกั ษณะภายนอกและลักษณะภายในของสัตว์ชนิดตา่ งๆ ได้ (K)(P) 2) จาแนกสัตว์ออกเปน็ สัตวม์ ีกระดูกสนั หลงั และสตั ว์ไม่มกี ระดกู สนั หลัง โดยใชก้ ารมกี ระดกู สันหลงั เป็น เกณฑ์ได้ (K) 3) ยกตัวอย่างประโยชน์ของการนาความรูเ้ รือ่ งการจาแนกกลุม่ สตั ว์ท่ปี ระยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวันได้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ ใช้การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ในการจาแนก สัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังสัตว์มี กระดูกสันหลังมีหลายกลุ่ม ได้แก่ กล่มุ ปลา กลุ่มสัตว์สะเทินน้าสะเทินบก กลุ่มสัตวเ์ ลอื้ ยคลาน กลุ่มนกและกลุ่ม สตั ว์เลี้ยงลกู ดว้ ยนา้ นม 4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด สตั ว์ต่างๆ มีมากมายหลายชนิด ในการจาแนกสัตว์ออกเป็นกลุ่มสามารถใช้การมีกระดูกสนั หลงั เป็นเกณฑ์ จึงจาแนกสตั ว์ไดเ้ ปน็ สัตว์มกี ระดูกสนั หลงั และสตั วไ์ มม่ กี ระดูกสันหลัง สตั ว์มีกระดูกสันหลังมีหลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มปลา กลุ่มสัตว์สะเทินน้าสะเทินบก กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน กลุ่ม นก และกลมุ่ สตั วเ์ ลี้ยงลกู ดว้ ยน้านม ซึ่งสัตว์แต่ละกลมุ่ จะมีลกั ษณะเฉพาะที่สังเกตได้แตกตา่ งกันไป 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ความสามารถในการสื่อสาร 1) การสงั เกต 1) มีวินัย 2)ความสามารถในการคิด 2) การจาแนกประเภท 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) การลงความเห็นจากขอ้ มูล 3)ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) การจัดกระทาและการสือ่ 3) มุ่งม่ันในการทางาน ความหมายขอ้ มูล 5) การตีความหมายและลงขอ้ สรุป

6.กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : 5Es Instructional Model ช่วั โมงที่ 1 ขน้ั นา กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทกั ษะท่ีใช้ ส่ือที่ใช/้ อุปกรณ์ ประเมนิ ผล ข้ันกระตุน้ ความสนใจ - หนงั สอื เรียนชุด - ตรวจกจิ กรรม แม่บทมาตรฐาน ลองทาดู 1. นักเรียนทากิจกรรมลองทาดู ในหนังสือเรียนชุดแม่บท วทิ ยาศาสตร์ ป. มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน้า 36 4 หน้า 36 2.นักเรียนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ จากนั้นให้นักเรียนปฏิบัติ - ทักษะการ - จิกซอวภ์ าพ - สังเกต กิจกรรมดังนี้ สงั เกต สัตว์ (ปลา กุ้ง พฤติกรรมการ และหอย) ทางานกลุ่ม 1) นกั เรียนต่อภาพจิกซอว์ท่ีได้ให้เป็นรูปที่สมบูรณ์โดยภาพ - ทักษะการ ท่ีตอ่ สาเรจ็ แลว้ ห้ามใหก้ ลมุ่ อน่ื เหน็ ระบุ - สังเกต 2) สังเกตลักษณะภายนอกของสัตว์ที่อยู่ในภาพจิกซอว์ - ทกั ษะการ พฤติกรรมการ ทไ่ี ด้รบั ระบุ ทางาน รายบคุ คล 3) สง่ ตัวแทนกลุ่มนาเสนอข้อมูลลักษณะภาพนอกของสัตว์ ที่สังเกตได้ในจิกซอว์โดยห้ามบอกช่ือเด็ดขาดท่ีหน้าช้ัน เรยี น 4) นักเรียนกลุ่มอ่ืนร่วมกันทายว่าจากลักษณะที่กลุ่ม นาเสนอบอกมา น่าจะเปน็ สง่ิ มชี ีวติ ชนดิ ใด 5) หากเพ่ือนกลุ่มอน่ื ทายถกู ถือว่าผา่ นกิจกรรม 6) อีก 2 กลมุ่ ท่เี หลอื ปฏบิ ัตเิ ช่นเดมิ กบั กลมุ่ แรก 2.นักเรียนดูภาพสัตว์ทั้ง 3 ชนิดในจิกซอว์ แล้วให้ร่วมกัน อภิปรายว่า สัตว์ท้ัง 3 ชนิดนี้ มีลักษณะเหมือนกันหรือ แตกต่างกนั อยา่ งไรบา้ ง (แนวคาตอบ ขึ้นอยู่กับคาตอบของนักเรียน ให้อยู่กับดุลย พนิ ิจของครผู ้สู อน)

ขนั้ สอน กิจกรรมการเรียนรู้ ทกั ษะทีใ่ ช้ ส่ือที่ใช้/อปุ กรณ์ ประเมนิ ผล ขนั้ สารวจคน้ หา - หนงั สอื เรียน - สงั เกต พฤติกรรมการ 1. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ออกเป็นกล่มุ ละ 4-5 คน จากนั้นใหน้ กั เรียน ชดุ แม่บท ทางานกลุ่ม ศึกษาขั้นตอนการทากิจกรรมพัฒนาทักษะกระบวนการทาง มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ท่ี 4การจาแนกกลุ่มสัตว์ ในหนังสือเรียนชุด วทิ ยาศาสตร์ แม่บทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 37-38 ป.4 หน้า 37- 38 2. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรท์ ี่ 4 การจาแนกกลุ่มสตั ว์ ปฏิบัติดังนี้ - ทกั ษะการ - หนังสือเรียน - สังเกต สังเกต ชุดแม่บท พฤตกิ รรมการ 5) นกั เรียนสง่ ตวั แทนมารบั วสั ดุ-อปุ กรณส์ าหรับทดลอง มาตรฐาน ทางานกลุ่ม - ทกั ษะการ วทิ ยาศาสตร์ 6) นาสัตว์ทีน่ ึง่ สุกแล้วทั้ง 3 ชนดิ วางลงในถาด จากนน้ั สงั เกต จาแนก ป.4 หนา้ 38 ลักษณะโครงสรา้ งภายนอกของสัตว์ แล้วบันทึกข้อมูลลง ในบันทึกผลการสังเกตลักษณะภายนอกและภายในของ - ทักษะการลง - สตั ว์ทีน่ ง่ึ สกุ สตั ว์ ในหนงั สอื เรยี นชดุ แม่บทมาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ ป.4 ความเห็นจาก หนา้ 38 ข้อมลู แลว้ เช่น ปลาทู กุ้ง หมึก 7) ใช้มีดผ่าสัตว์ตามแนวยาว (ครูอาจเป็นคนผ่าให้นักเรียน) - ทักษะการ กรรไกร/มีด จากน้ันสังเกตลักษณะโครงสร้างภายในของสัตว์ แล้ว ต้ังสมมตฐิ าน บันทึกข้อมลู - ทกั ษะการจัด 8) สบื ค้นข้อมูลสัตว์มีกระดูกสันหลงั และไม่มีกระดูกสันหลัง กระทาและ แล้วนาข้อมูลมาพิจารณากับลักษณะของสัตว์ที่สังเกตได้ การส่อื จากการทากิจกรรม เพื่อจาแนกประเภทของสัตว์โดยใช้ ความหมาย เกณฑ์กระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ แล้วบันทกึ ผล ข้อมลู 9) นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายจนไดข้ อ้ สรปุ ข้นั อธิบายความรู้ - ทกั ษะการ - สังเกต สื่อสาร พฤตกิ รรมการ 1.นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ัน ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี ทางานกล่มุ - ทกั ษะการฟัง 4) ลักษณะโครงสร้างภายนอกของสัตวท์ งั้ 3 ชนิด - สังเกต พฤติกรรมการ 5) ลกั ษณะโครงสร้างภายในของสัตวท์ ัง้ 3 ชนิดเม่ือผ่าตวั ทางาน ตามยาว รายบุคคล 6) การจาแนกประเภทของสตั ว์สัตว์ทโ่ี ดยใชเ้ กณฑก์ ารมี กระดกู สันหลงั 2.ครูสนทนกับนักเรยี นเกี่ยวกับผลการทากิจกรรมในการสารวจ โครงสร้างภายนอกและโครงสร้างภายในของปลาทู หอยและ กุ้ง จากน้ันร่วมกันสรุปว่า ปลามีกระดูกเป็นข้อๆ อยู่ภายใน ลาตัวจึงจดั เป็นสัตวม์ ีกระดกู สนั หลงั สว่ นกุ้งและหอยเมือ่ ผา่ ดู

กิจกรรมการเรยี นรู้ ทกั ษะท่ีใช้ ส่อื ท่ีใช้/อปุ กรณ์ ประเมินผล แล้วไม่พบกระดูกภายในลาตัว จึงจัดเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสัน - ทักษะการ - สังเกต หลัง ตคี วามหมาย พฤตกิ รรมการ และลงขอ้ สรปุ ทางานกล่มุ 3.นักเรยี นร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรมจนได้ข้อสรุปว่า . จาการทากิจกรรมทาให้ทราบว่าสตั วบ์ างชนิดมีกระดูกสนั หลัง - ทักษะการระบุ - สงั เกต เป็นแกนกลางของร่างกาย แต่สัตว์บางชนิดไม่มีกระดูกสัน พฤตกิ รรมการ หลังเปน็ แกนกลางของรา่ งกาย ซงึ่ สตั ว์แต่ละชนิดจะมลี ักษณะ ทางาน โครงสร้างภายนอกร่างกายและลักษณะโครงสร้างภายใน รายบคุ คล ร่างกายแตกต่างกัน จึงทาให้เราสามารถจาแนกสัตว์กลุ่ม ยอ่ ยๆ ไดอ้ กี 4. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามตอ่ ไปนี้  สัตว์มีกระดูกสันหลังกับสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง มี ลกั ษณะแตกตา่ งกนั อยา่ งไรบา้ ง (แนวคาตอบ สัตว์มีกระดูกสันหลังมีกระดูกแข็ง เป็นแกนกลางของลาตัว ส่วนสัตว์ไม่มีกระดูกสัน หลังเป็นสัตว์ท่ีไม่มีกระดูกแข็งเป็นแกนกลางของ ลาตัว)  ยกตัวอย่างสัตว์มีกระดูกสันหลัง สัตว์ชนิดใดบ้าง เป็นสตั วไ์ มม่ ีกระดกู สนั หลัง (แนวคาตอบสัตว์มีกระดูกสันหลัง เช่น สุนัข กระต่าย แมว งู จระเข้ ลิง เพนกวิน เป็นต้น สัตว์ ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น กิ้งกือ หอยทาก มด แมลงปอ เปน็ ตน้ ) ชว่ั โมงที่ 2 ข้นั สอน [ต่อ] กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทักษะที่ใช้ ส่อื ท่ีใช/้ อุปกรณ์ ประเมนิ ผล ขัน้ สารวจค้นหา - ทักษะการระบุ - บตั รภาพสตั ว์ - สงั เกต พฤติกรรมการ 1.ทบทวนความรู้จากกิจกรรมชั่วโมงท่ีแลว้ โดยนาบัตรภาพสตั ว์ ทางาน มาใหน้ ักเรียนดูแลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี รายบคุ คล - สัตว์ชนิดใดบา้ งทีเ่ ป็นสัตวม์ กี ระดูกสนั หลัง (แนวตอบไก่ นก ปลา งู กบ แมว กิ้งกา่ วัวเตา่ ปลา โลมา) - โครงสรา้ งภายนอกของสัตว์ปลา กบ ก้ิงกา่ นก วัว ตา่ งกันอยา่ งไร

กิจกรรมการเรียนรู้ ทกั ษะท่ใี ช้ สื่อท่ีใช/้ อปุ กรณ์ ประเมินผล (แนวคาตอบ ขึ้นอยูก่ บั คาตอบของนกั เรยี น โดยอยู่ - ทกั ษะการ - บัตรภาพสัตว์ - สังเกต กบั ดุลยพนิ ิจของครผู ู้สอน) จาแนก พฤตกิ รรมการ ประเภท ทางานกลมุ่ 2. นักเรยี นแต่แบง่ กลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน แล้วส่งตัวแทน 1 คนมาส่มุ หยิบบัตรภาพทีใ่ นกลอ่ งทบึ - ทักษะการระบุ - สังเกต พฤติกรรมการ หมายเหต:ุ ครูเตรยี มบตั รภาพสตั ว์เฉพาะบัตรสตั ว์มกี ระดูกสัน - ทกั ษะ - บัตรภาพสตั ว์ ทางานกลุ่ม หลังตามจานวนกลมุ่ การสังเกต - ใบงานที่ 2.2 - สังเกต 3. นักเรียนตอบคาถามเพ่ือกระตุ้นความสนใจว่า สัตว์ในบัตร - ทักษะการ สตั ว์มกี ระดกู พฤตกิ รรมการ ภาพทกี่ ลุ่มนกั เรยี นจับได้เป็นสตั ว์มสี นั หลังประเภทใด จาแนก สนั หลงั ทางานกลุม่ ประเภท (แนวคาตอบ ขึ้นอยูก่ ับคาตอบของนกั เรยี น ใหอ้ ยกู่ บั ดุลย - หนงั สือเรียน - สังเกต พนิ ิจของครผู สู้ อน) - ทกั ษะการลง ชดุ แม่บท พฤติกรรมการ ความเห็นจาก มาตรฐาน ทางานกลมุ่ 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คนเพ่ือทากิจกรรม ขอ้ มลู วทิ ยาศาสตร์ สัตวม์ ีกระดูกสันหลังโดยปฏิบตั ิดังน้ี ป.4 หน้า 39- - สังเกต 45 พฤติกรรมการ 1) สง่ ตัวแทนกล่มุ ออกมาสมุ่ หยบิ บัตรภาพสัตว์ 1 แผ่น ทางาน - ทกั ษะการ รายบคุ คล 2) ศึกษาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเพ่ือหาข้อมูลเก่ียวกับสัตว์ใน สือ่ สาร บัตรภาพสัตว์ท่ีนักเรียนได้รับ เช่น ข้อมูลลักษณะสาคัญ การเคลื่อนท่ี การหายใจของสัตว์บันทึกข้อมูลในใบงานท่ี - ทกั ษะการระบุ - หนังสือเรียน 2.2 สัตวม์ กี ระดูกสันหลงั ชุดแม่บท - ทกั ษะการลง มาตรฐาน 3) นาข้อมูลที่สืบค้นทางอินเทอร์เน็ต มาพิจารณาและ ความเห็นจาก วิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ว่าสัตว์ชนิดน้ันอยู่ในประเภท โดยศึกษาการ ข้อมูล ป.4 หน้า จ า แ น ก ป ร ะ เภ ท สั ต ว์ มี ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง เพ่ิ ม เติ ม ไ ด้ จ า ก 43-45 หนังสือเรียนชุดแม่บทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน้า 39-45 ขั้นอธบิ ายความรู้ 1. นักเรียนออกมานาเสนอผลการทากิจกรรมสัตว์มีกระดูกสัน หลังหน้าชนั้ ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1) ลักษณะสาคัญ การเคลื่อนที่ การหายใจของสัตว์ใน บตั รภาพสัตว์ทก่ี ลุม่ นักเรียนจบั ได้ 2) ประเภทของสตั ว์ พร้อมเหตผุ ล 2.นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี - นักวิทยาศาสตร์จาแนกสัตว์มีกระดูกสันหลัง ออกเป็นก่ปี ระเภทอะไรบา้ ง (แนวคาตอบ 5 ประเภท คือกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์ สะเทินน้าสะเทินบก กลุ่มสัตว์เล้ือยคลาน กลุ่มนก กลุม่ สตั ว์เลี้ยงลูกดว้ ยนา้ นม)

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทักษะท่ใี ช้ ส่ือทีใ่ ช้/อุปกรณ์ ประเมนิ ผล - สตั วก์ ลุ่มปลามลี ักษณะอย่างไรบ้าง - ทกั ษะการ - สังเกต ตคี วามหมาย (แนวคาตอบ อาศัยอยู่ในน้า รปู รา่ งเรียวยาว หายใจ และลงข้อสรุป พฤตกิ รรมการ โดยใชเ้ หงอื ก) ทางาน รายบุคคล - กลุม่ สตั ว์สะเทนิ น้าสะเทนิ บกมีลกั ษณะอย่างไรบา้ ง (แนวคาตอบ ลาตัวไม่มีขน ไม่มีคอ ผิวหนังเปียกล่ืน ตลอดเวลา ไมม่ เี กล็ด ตาโปน) - กลมุ่ สตั วเ์ ลอื้ ยคลาน มลี ักษณะอยา่ งไรบ้าง (แนวคาตอบ มีผิวหนังหนา มีเกล็ดแข็งและแห้งปก คลมุ ทัว่ ตัว หรอื มีกระดองแข็งหุ้มลาตวั ) หมายเหต:ุ สแกน QR Code 3D เต่า ในหนงั สือเรยี น ชุดแม่บทมาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 43 เพื่อ เพ่ิมเติมความเข้าใจของนกั เรียน - กลมุ่ นก มลี ักษณะอยา่ งไรบา้ ง (แนวคาตอบ มี 2 ขา มีเกล็ดที่ขาและนิ้วเท้า มีปีก 1คู่ ร่างกายปกคลุมดว้ ยขน) หมายเหตุ: สแกน QR Code 3D นก ในหนังสือ เรยี นชดุ แม่บทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 44 เพื่อเพ่ิมเติมความเข้าใจของนักเรียน - กลุ่มสตั วเ์ ลี้ยงลูกดว้ ยน้านมมีลักษณะอย่างไรบ้าง (แนวคาตอบ ตัวเมียมีต่อมน้านมไว้สาหรับเล้ียงตัว อ่อน) หมายเหตุ: สแกน QR Code 3D โครงสร้างของวัว ในหนงั สือเรยี นชดุ แม่บทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป. 4 หน้า 45 เพื่อเพ่มิ เตมิ ความเข้าใจของนกั เรียน 3. นักเรียนร่วมสรุปผลการทากิจกรรมสัตว์มีกระดูกสันหลังว่า สัตวม์ กี ระดูกสนั หลังคอื สตั วท์ ีม่ ีลักษณะของกระดกู เรยี งต่อกัน เป็นข้อๆ อยู่ภายในร่างกายทาหน้าท่ีเป็นแกนกลางของลาตัว และทาให้ร่างกายคงรูปร่างอยู่ได้ นักวิทยาศาสตร์ได้จาแนก สัตว์มีกระดูกสันหลังออกเป็น 5 ประเภท ดังน้ีกลุ่มปลา กลุ่ม สัตว์สะเทินน้าสะเทินบก กลุ่มสัตว์เล้ือยคลาน กลุ่มนก กลุ่ม สตั ว์เล้ียงลกู ด้วยน้านม

ช่วั โมงที่ 3 ข้ันสอน [ตอ่ ] กิจกรรมการเรยี นรู้ ทกั ษะที่ใช้ สอื่ ท่ใี ช/้ อุปกรณ์ ประเมินผล ข้ันสารวจค้นหา - ทักษะการระบุ 1. นักเรียนทบทวนความรู้เดิม โดยยกตัวอยา่ งสตั ว์ท่ีมกี ระดกู สัน - บัตรภาพสัตว์ - สังเกต หลังแต่ละประเภทมาอยา่ งละ 3 ชนิด พฤตกิ รรมการ ทางานกลุม่ 2. นักเรียนดูบัตรภาพสัตว์และสังเกตลักษณะแล้วจาแนกกลุ่ม ตามเกณฑ์ที่นักเรียนคดิ พร้อมอธบิ ายเหตุผล - ทักษะการ - หนังสือเรียน - สังเกต สังเกต พฤติกรรมการ หมายเหตุ:ครูเตรียมเฉพาะบัตรภาพสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ชดุ แมบ่ ท ทางานกลุ่ม และยงั ไม่เฉลยคาตอบ - ทกั ษะการลง มาตรฐาน ความเห็นจาก วิทยาศาสตร์ 3.นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน เพื่อทากิจกรรม ขอ้ มูล ป.4 หน้า46- สตั วไ์ ม่มกี ระดูกสันหลัง โดยปฏบิ ัติดังน้ี 48 - ทกั ษะการ 4) ศึกษาการจาแนกประเภทของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังใน สื่อสาร - แผนทส่ี ัตวไ์ ม่มี หนังสือเรียนชุดแม่บทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน้า 46-48 และแหลง่ ข้อมลู อ่ืนๆ - ทักษะการ กระดกู สันหลัง เชือ่ มโยง - บตั รข้อความ 5) ตัวแทนกลุ่มรับแผนที่สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังกลุ่มละ 1 แผน่ บัตรข้อความลักษณะสัตว์ในแผนที่และบัตรภาพสตั ว์ ลักษณะสตั ว์ใน ไมม่ กี ระดกู สนั หลัง8 ชนิ้ แผนที่ 6) ศึกษาลักษณะสัตว์ท้ัง 8 จุดในแผนที่จากบัตรข้อความ - บตั รภาพสตั ว์ ลักษณะสัตวใ์ นแผนท่ี จากน้ันนาบัตรภาพรูปสัตวไ์ ปติดลง ไม่มกี ระดูกสัน ในแผนท่ีตาแหนง่ ที่คิดว่าสัตวช์ นิดนัน้ อยู่ หลัง ขั้นอธิบายความรู้ - ทักษะการลง 1. นักเรียนและครูรว่ มกนั เฉลยว่า แต่ละจดุ ในแผนทค่ี ือสงิ่ มชี วี ิต ความเหน็ จาก ขอ้ มลู ชนดิ ใด หมายเหตุ:เฉลยแนบมาท้ายแผน 2. นกั เรียนปฏบิ ตั ิ ดังน้ี - ทกั ษะการลง - หนังสอื เรยี น ความเห็นจาก ชดุ แมบ่ ท 1) แสกน QR Code 3D แมงกะพรุนและQR Code 3D ข้อมลู มาตรฐาน ไส้เดือน ดิน ใน ห นั งสือเรียนชุดแม่บ ทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ป.4 หน้า 47 ป.4 หนา้ 39 2) QR Code3D ดาวทะเล ในหนังสือเรียนชุดแม่บท - หนังสือเรียน มาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ ป.4 หน้า 39 ชุดแมบ่ ท มาตรฐาน 3) นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับวีดีโอท่ีได้รับ วทิ ยาศาสตร์ ชมไป

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทกั ษะที่ใช้ ส่อื ท่ใี ช้/อปุ กรณ์ ประเมนิ ผล ป.4 หน้า 47 3. นักเรียนร่วมกันสรุปว่า จากการทากิจกรรมทาให้ทราบว่า - ทกั ษะการสรุป - สังเกต สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังคือ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็น ลงความเหน็ พฤติกรรมการ แกนกลางภายในร่างกาย ซ่ึงมีท้ังอาศัยอยู่บนบกและในน้า ทางาน สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในโลกน้ีมีมากกว่าสัตว์มีกระดูกสัน - ทักษะการระบุ - บตั รภาพสัตว์ รายบุคคล หลัง นักวิทยาศาสตร์จึงได้จาแนกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ออกเปน็ 8 ประเภท - สังเกต พฤตกิ รรมการ 4. นกั เรียนจดั กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลงั ในบตั รภาพสัตว์ท่ที า ทางานรายบุคคล ในต้นชัว่ โมงใหมใ่ ห้ถูกตอ้ ง หมายเหตุ:ครเู ตรียมเฉพาะบัตรภาพสตั ว์ไมม่ กี ระดูกสันหลงั 5. นักเรียนทากิจกรรมแบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ที่ 4 ในหนังสือ - หนังสือเรียนชดุ - ตรวจกิจกรรม เรยี นชดุ แมบ่ ทมาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 46-48 แมบ่ ทมาตรฐาน แบบฝึกพฒั นา วทิ ยาศาสตร์ ป.4 การเรยี นรทู้ ่ี 4 6. นักเรยี นทากิจกรรมพัฒนาทักษะการคิด ประจาเรื่องที่ 1 ใน หนา้ 49-51 ห นังสือเรียนชุดแม่บ ทมาตรฐาน วิทยาศ าส ตร์ ป.4 หนา้ 53-38 - หนังสอื เรียน หมายเหตุ: ครพู ิจารณาให้นักเรียนทาเป็นการบ้านหากเวลาไม่ ชุดแมบ่ ท พอ มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน้า 53-38

ชัว่ โมงท่ี 4 ข้นั สอน [ต่อ] กจิ กรรมการเรียนรู้ ทกั ษะที่ใช้ ส่อื ทใ่ี ช้/อปุ กรณ์ ประเมนิ ผล ขั้นขยายความเขา้ ใจ - ทกั ษะการระบุ - สงั เกต - ทกั ษะการ พฤติกรรมการ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คนเพ่ือศึกษาเรื่องสัตว์เล้ียงแสนรัก ทางานกลมุ่ โดยปฏิบตั ดิ ังน้ี จาแนก ประเภท - สงั เกต 1) เลือกสัตว์เลี้ยงที่กลุ่มนักเรยี นสนใจมา 1 ชนิด โดยห้ามซ้า - ทักษะการจัด พฤติกรรมการ กบั กลุ่มอ่ืน แล้วศึกษาข้อมูลลกั ษณะภายนอกและภายใน กระทาและส่อื ทางาน ของสตั วช์ นิดนน้ั ความหมาย รายบคุ คล ข้อมลู 2) นาขอ้ มลู มาวิเคราะห์และจัดประเภทของสัตว์ - ประเมนิ ผลงาน - ทักษะการ 3) นกั เรียนศึกษาวธิ ีการเล้ยี งสัตวช์ นิดน้นั และสภาพแวดล้อม วเิ คราะห์ ค ว า ม เป็ น อ ยู่ ท่ี เห ม า ะ ส ม ข อ ง สั ต ว์ เลี้ ย ง ช นิ ด น้ั น จ า ก แหล่งขอ้ มลู ท่นี ่าเช่ือถอื - ทกั ษะความคดิ สร้างสรรค์ 4) นาข้อมูลท่ีศึกษามาจัดทาข้อมูลลักษณะสัตว์การจัดกลุ่ม สตั ว์และวธิ ีการเล้ียงสัตว์ท่ีถูกมานาเสนอโดยใช้โปรแกรม - ทักษะการ คอมพิวเตอร์ เชน่ PowerPoint สื่อสาร 2. นักเรียนตอบคาถามว่า ถ้านาสุนัขและเต่าไปอยู่ด้วยกันใน บรเิ วณทีม่ อี ุณหภูมิต่า นักเรยี นคิดว่า อุณหภูมิภายในรา่ งกาย ของสตั วท์ ั้ง 2 ชนิดนี้ จะแตกต่างกนั หรอื ไม่ เพราะอะไร (แนวคาตอบ แตกต่างกัน เพราะสุนัขเป็นสัตว์เล้ียงลูกด้วย น้านม จัดเป็นสัตว์เลือดอุ่น มีอุณหภูมิร่างกายคงที่ ไม่ เป ล่ี ย น แ ป ล งไป ต าม ส ภ าพ แ วด ล้ อ ม ส่ วน เต่ าเป็ น สัตว์เล้ือยคลานจัดเป็นสัตว์เลือดเย็น มีอุณหภูมิร่างกาย เปล่ียนไปตามสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ ดังน้ัน เมื่อนาเต่าไป อยู่ในบริเวณท่ีมีอุณหภูมิต่า อุณหภูมิภายในร่างกายของเต่า จะตา่ ลงไปดว้ ย) 3. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ กล่มุ ละ 4-5 คน เพื่อทากจิ กรรม พฒั นาทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยปฏบิ ัติดังนี้ 1) แต่ละกลุ่มระดมความคิดประดิษฐ์ หนังสือนิทาน สร้างสรรค์ 1 เรื่อง โดยกาหนดให้ตัวละครเป็นพืชและ สัตวต์ า่ งๆ ในบทเรียน 2) วาดภาพประกอบ ระบายสีและนาเสนอผลงานหน้าช้ัน - ทกั ษะการ เรียนโดยใชส้ อ่ื ทนี่ ่าสนใจ ทางานรว่ มกัน - ทักษะการจดั กระทาและสอื่ ความหมาย ข้อมูล

ขัน้ สรปุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ทกั ษะทใี่ ช้ ส่อื ท่ใี ช้/อุปกรณ์ ประเมนิ ผล 1. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ เรื่อง การจาแนกกลุ่มสัตว์ว่าสัตว์ - ทกั ษะการสรปุ - สังเกต เป็นกลุ่มสง่ มีชีวิตที่สามารถเคลอ่ื นที่เองได้ แต่ไม่สามารถสร้าง ลงความเหน็ พฤตกิ รรมการ อาหารเองได้ ต้องกินส่ิงมีชีวิตอ่ืนเป็นอาหาร สัตว์บนโลกมี ทางาน หลายชนิด ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดอาจมีโครงสร้างภายนอกและ รายบุคคล ภายในร่างกายแตกต่างกันไป เพื่อให้สามารถศึกษาลักษณะ - สงั เกต ต่างๆ ของสัตว์ได้อย่างเป็นระบบมากข้ึน นักวิทยาศาสตร์จึง พฤติกรรมการ จาแนกสัตวอ์ อกเป็นกลุ่ม โดยลักษณะการมีกระดูกสันหลังเป็น ทางาน เกณฑ์ ซ่ึงสามารถแบ่งสัตว์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่สัตว์มี รายบคุ คล กระดูกสันหลังและสตั ว์ไมม่ ีกระดกู สันหลังสัตวม์ ีกระดูกสนั หลัง จาแนกออกเปน็ 5 ประเภท คือ 1) กลมุ่ ปลา 2) กลมุ่ สตั ว์สะเทนิ นา้ สะเทนิ บก 3) กลมุ่ สตั วเ์ ลอื้ ยคลาน 4) กลมุ่ นก 5) กลุ่มสัตว์เลยี้ งลกู ดว้ ยนา้ นม สตั วไ์ ม่มกี ระดกู สันหลังจาแนกออกเป็น 8 ประเภทคือ 1) ฟองนา้ 2) สตั วท์ มี่ ลี าตัวกลวงหรอื ลาตวั มีโพรง 3) หนอนตัวแบน 4) หนอนตวั กลม 5) สัตวท์ ่ีมลี าตัวเปน็ ปลอ้ ง 6) สตั วท์ ะเลผิวขรขุ ระ 7) หอยและหมกึ 8) สัตว์ทม่ี ีขาเปน็ ขอ้ 2. นักเรียนแต่ละคนเขียนแผนผงั ตาราง หรอื เขียนบรรยายเพื่อ - ทักษะการ - หนงั สือเรียนชดุ สรุป เรื่อง กลุ่มสิ่งมีชีวิต ลงในหนังสือเรียนชุดแม่บท ตีความหมาย แมบ่ ทมาตรฐาน มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4หน้า 52 ในช่ัวโมงหรือนา ขอ้ มลู และลง วิทยาศาสตร์ ป.4 กลบั ไปทาเปน็ การบ้าน แลว้ นามาส่งในชั่วโมงถัดไป หนา้ 52 ข้อสรปุ ขน้ั ประเมนิ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทกั ษะท่ใี ช้ สอ่ื ทใี่ ช/้ อปุ กรณ์ ประเมินผล ข้ันตรวจสอบ 5. นกั เรียนตรวจสอบใบงานท่ี 2.2 สตั วม์ ีกระดกู สันหลังของตนเอง - ทกั ษะการระบุ - ใบงานที่ 2.2 - สงั เกต พฤติกรรมการ วา่ ถูกต้องหรือไม่และให้แกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง สัตว์มกี ระดูก

กิจกรรมการเรยี นรู้ ทักษะท่ีใช้ สือ่ ทีใ่ ช/้ อปุ กรณ์ ประเมนิ ผล สนั หลัง ทางานรายบุคคล 6. ครตู รวจตรวจบันทกึ ผลกจิ กรรมพัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง - หนงั สือเรยี น - ตรวจบนั ทึกผล วทิ ยาศาสตร์ที่ 4การจาแนกกลุ่มสัตว์ ในหนงั สอื เรียนชุดแมบ่ ท ชดุ แมบ่ ท กิจกรรมพฒั นา มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 38 มาตรฐาน ทักษะ กระบวนการทาง 7. ตรวจแบบฝกึ พฒั นาการเรียนรทู้ ี่ 4 ในหนังสือเรยี นชุดแม่บท วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตรท์ ่ี 4 มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 46-48 ป.4 หน้า 38 การจาแนกกลุม่ 8. ครตู รวจสรปุ สาระสาคัญประจาเรือ่ งที่ 1 ในหนงั สือเรียนชุด สัตว์ แมบ่ ทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4หน้า 52 - หนังสอื เรียนชุด - ตรวจแบบฝกึ 9. ครตู รวจผลงานหนังสอื นทิ านสรา้ งสรรค์ ของนักเรยี นแต่ละกลุ่ม แม่บทมาตรฐาน พัฒนาการ วิทยาศาสตร์ ป.4 เรียนรทู้ ่ี 4 หนา้ 46-48 - หนังสือเรยี นชดุ - ตรวจสรปุ แม่บทมาตรฐาน สาระสาคัญ วทิ ยาศาสตร์ ป.4 ประจาเรอ่ื งท่ี 1 หน้า 52 - ผลงานหนงั สอื - ประเมินผล นิทานสรา้ งสรรค์ งานหนงั สอื - แบบประเมนิ ผล นทิ าน งาน สรา้ งสรรค์ 7. การวัดและประเมินผล รายการวดั วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ - แบบประเมนิ ผลงาน - ระดับคุณภาพ พอใช้ 1) หนังสือนทิ านสร้างสรรค์ - ประเมินผลงาน - หนงั สอื เรยี นชดุ แม่บท ผ่านเกณฑ์ 2) กิจกรรมพฒั นาทกั ษะ - ตรวจบนั ทกึ ผล มาตรฐานวิทยาศาสตร์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ กระบวนการทาง กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะ ป.4 หน้า 38 วทิ ยาศาสตร์ที่ 4การ กระบวนการทาง - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ จาแนกกลมุ่ สตั ว์ วทิ ยาศาสตรท์ ี่ 4การ - หนังสือเรยี นชุดแมบ่ ท จาแนกกล่มุ สัตว์ มาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ 3) แบบฝึกพัฒนาการ ป.4 หน้า 46-48 เรียนร้ทู ่ี 4 - ตรวจแบบฝึก พัฒนาการเรียนรู้ท่ี 4

รายการวดั วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 4) กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะ - ตรวจกจิ กรรมพัฒนา - หนังสือเรยี นชดุ แม่บท การคดิ ประจาเรอ่ื งที่ 1 ทักษะการคดิ ประจา มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ เร่ืองที่ 1 ป.4 หน้า 53-38 5) ใบงานท่ี 2.2 สตั วม์ ี - ตรวจใบงานที่ 2.2 - ใบงานที่ 2.2 สตั ว์มี - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ กระดกู สนั หลงั สตั วม์ กี ระดูกสนั หลงั กระดกู สันหลัง 6) สรปุ สาระสาคัญประจา - ตรวจสรุปสาระสาคญั - หนงั สือเรียนชุดแมบ่ ท - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เรือ่ งท่ี 1 กลุ่มส่งิ มีชีวิต ประจาเร่ืองท่ี 1กลุม่ มาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ ส่งิ มชี ีวิต ป.4 หน้า 52 7) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพดี ผ่าน รายบุคคล ทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล เกณฑ์ 8) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพดี กลมุ่ ทางานกลุม่ การทางานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ หมายเหตุ : แบบสังเกตพฤติกรรมประเมินรายเทอม 8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรียนรู้ 22) หนงั สอื เรยี นชดุ แมบ่ ทมาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ ป.4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2ความหลากหลายของส่งิ มีชวี ติ 23) วสั ดุ-อปุ กรณใ์ นกิจกรรมพัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ 4การจาแนกกลุ่มสัตว์ 24) ใบงานที่ 2.2 สัตวม์ ีกระดกู สันหลงั 25) QR Code 3D โครงสร้างเฟริ ์น 26) QR Code 3D เตา่ 27) QR Code 3D นก 28) QR Code 3D ไส้เดอื นดนิ 29) QR Code 3D ดาวทะเล 30) QR Code 3D แมงกะพรนุ 31) QR Code 3D โครงสร้างของวัว 32) จิกซอว์ภาพสัตว(์ ปลา ก้งุ และหอย) 33) บตั รภาพสตั ว์ 34) แผนที่สัตวไ์ มม่ ีกระดูกสันหลัง 35) บัตรข้อความลักษณะสตั ว์ในแผนที่ 36) บตั รภาพสัตวม์ กี ระดูกสันหลัง

8.2แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องเรียน 2) บริเวณตา่ งๆ ในโรงเรยี น

ใบงานท่ี 2.2 สตั ว์มีกระดูกสันหลัง คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนวาดภาพ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะสาคญั การเคลื่อนท่ี การหายใจของสัตว์ใน บัตรทกี่ ลุ่มนักเรยี นจบั ไดแ้ ละระบปุ ระเภทของสัตว์ ช่อื สัตว์มีกระดูกสนั หลงั คอื .................................................. จัดอยใู่ นประเภท............................................... ลักษณะสาคัญ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… การเคลอื่ นท่ี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… การหายใจ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใบงานท่ี 2.2

สตั ว์มกี ระดูกสันหลัง เฉลย คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนวาดภาพ ศกึ ษาขอ้ มลู เกีย่ วกบั ลักษณะสาคัญ การเคล่อื นที่ การหายใจของสัตวใ์ น บตั รท่กี ลมุ่ นกั เรียนจบั ได้และระบปุ ระเภทของสัตว์ ข้ึนอย่กู ับขอ้ มูลทนี่ กั เรียนไดร้ บั โดยพิจาณาคาตอบตามดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน ชอื่ สัตวม์ ีกระดกู สนั หลงั คอื ..................................................จดั อยใู่ นประเภท............................................... ลักษณะสาคัญ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้ึนอยู่กับขอ้ มลู ทีน่ กั เรยี นไดร้ บั โดยพิจาณาคาตอบตามดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน การเคล่อื นท่ี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… การหายใจ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

จิกซอวภ์ าพสตั ว์ จ๊ิกซอวภ์ าพสตั ว์







จ๊ิกซอวภ์ าพสตั ว์



บตั รภาพสตั ว์ เต่า  ก้งิ กา่

บตั รภาพสตั ว์ ปลา  ววั

บตั รภาพสตั ว์ นก  งู

บตั รภาพสตั ว์ ไก่  แมว

บตั รภาพสตั ว์ กบ  โลมา

บตั รภาพสตั ว์ แมงกะพรุน  พยาธิไสเ้ ดือน

บตั รภาพสตั ว์ ไสเ้ ดอื น  หอยทาก

บตั รภาพสตั ว์ ปู  ดาวทะเล

บตั รภาพสตั ว์ ฟองน้า  พลานาเรยี

บตั รภาพสตั ว์ แมงมมุ  ทากดดู เลอื ด

บตั รภาพสตั ว์ กลั ปงั หา  หมึก

แผนที่สตั วไ์ มม่ กี ระดูกสนั หลงั คาส่งั ใหน้ ักเรียนนาบัตรภาพสัตวไ์ ม่มกี ระดกู สันหลงั ตดิ ลงในแผนทใ่ี A C BD

ใหถ้ กู ตอ้ ง F E G H D

แผนที่สตั วไ์ มม่ ีกระดูกสนั หลงั คาสั่ง ให้นกั เรยี นนาบัตรภาพสัตว์ไมม่ กี ระดกู สันหลงั ตดิ ลงในแผนทใ่ี A C BD

ให้ถูกต้อง เฉลย F E G DH

บตั รขอ้ ความลกั ษณะสตั วใ์ นแผนที่  จุ ด A ลาตัวเปน็ โพรง มีชอ่ งเปดิ ดา้ นบน มีรูพรนุ โดยรอบ มหี นามเปน็ โครงค้าจุนร่างกาย ไม่มี ระบบประสาท ส่วนใหญอ่ าศัยอยู่ในนา้ เค็ม เฉลย จุด A คอื ฟองนา้ อยู่ประเภทฟองนา้ จุ ด B ลาตัวใสคล้ายวนุ้ กลางลาตัวเปน็ โพรง มีเข็มพษิ ไวป้ ้องกันตวั และใชจ้ บั เหย่ือ สว่ นใหญ่อาศยั อยู่ในนา้ เค็ม เฉลย จุด B คือ ไฮดรา อยู่ประเภทสัตวท์ ่ีมีลาตวั กลวงหรอื ลาตัวมีโพรง จุ ด C ลาตัวนม่ิ แบนยาว ไมม่ ีขา มีปาก ไมม่ ีทวารหนกั มี 2 เพศในตัวเดยี วกัน ดดู เลือดจากคน และสตั วเ์ ป็นอาหาร อาศยั อยู่ในทง้ั น้าเค็มและน้าจดื เฉลย จดุ C คือ พยาธใิ บไม้ อยปู่ ระเภทหนอนตวั แบน จุ ด D ลาตัวน่มิ กลมยาว ไม่มขี า ผวิ เรยี บ ไม่เป็นปลอ้ ง มปี ากและทวารหนกั เพศผแู้ ละเพศเมยี แยกคนละตวั สบื พันธุ์แบบอาศยั เพศ เฉลย จดุ D คอื พยาธิไสเ้ ดือน อยูป่ ระเภทหนอนตวั กลม

บตั รขอ้ ความขอ้ มูลลกั ษณะสตั วใ์ นแผน ที่ ลาตัวกลมยาว เป็นปล้องคลา้ ยวงแหวนตอ่ กนั ผิวหนังเปียกชืน้ มรี ะบบประสามและระบบ  ทางเดินอาหาร มีระบบหมนุ เวียนเลอื ดแบบปดิ สืบพนั ธ์ุแบบอาศยั เพศและไมอ่ าศยั เพศ มี จุ ด E 2 เพศในตวั เดียวกัน เฉลย จุด E คอื ทากดูดเลือดอยปู่ ระเภทสตั วท์ ี่มีลาตัวเป็นปลอ้ ง จุ ด F ผวิ ลาตวั หยาบ ขรขุ ระและแขง็ ไมม่ สี ่วนหวั มรี ูปรา่ งต่างๆ ใต้ลาตัวมีเท้าเป็นหลอดเลก็ ๆ จานวนมาก(เทา้ ทอ่ ) ใช้สาหรบั เคลื่อนไหว อาศัยอย่ใู นทะเล เฉลย จุด F คอื เม่นทะเล อยู่ประเภทสตั ว์ทะเลผิวขรขุ ระ จุ ด G ลาตวั นิ่ม ส่วนใหญ่มเี ปลอื กแขง็ เพราะเปน็ สารพวกหินปนู หุ้มภายนอก เคล่อื นที่โดยใช้ กลา้ มเน้อื ท่ยี นื่ ออกจากเปลอื ก สืบพันธ์แุ บบอาศัยเพศ ออกลูกเปน็ ไข่ อาศยั อย่ทู งั้ บนบก น้า จดื และในนา้ เค็ม เฉลย จุด G คอื หมึกทะเลอยปู่ ระเภทหอยและหมกึ ทะเล จุ ด H ขาตอ่ กนั เปน็ ขอ้ ๆ ลาตวั แบ่งเป็น 3 ส่วนคอื สว่ นหัว สว่ นอก และส่วนทอ้ ง หรือบางชนดิ มี ลาตัวเป็น 2 สว่ น มีเปลือกแขง็ หุ้มลาตัว ส่วนใหญเ่ จรญิ เตบิ โตโดยการลอกคราบ เฉลย จดุ H คือ ต๊กั แตนอยู่ประเภทสัตว์ท่มี ีขาเป็นข้อ

บตั รภาพสตั วไ์ มม่ กี ระดูกสนั หลงั  หลงั ฟองนา้ ไฮดรา พยาธใิ บไม้ พยาธไิ ส้เดอื น ทากดูดเลือด เมน่ ทะเล หมึกทะเล ต๊ักแตน

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 การลาเลียงนา้ และแร่ธาตุของพชื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ความหลากหลายของส่ิงมีชีวติ ระยะเวลา 4 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั ว 1.2 ป.4/1 บรรยายหนา้ ท่ีของราก ลาต้น ใบ และดอก ของพืชดอก โดยใช้ข้อมูลท่รี วบรวมได้ 2.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4) สังเกตและบรรยายหน้าทีร่ ากและลาตน้ ของพชื ดอกได้ (K) (P) 5) สังเกตและอธบิ ายเก่ยี วกบั โครงสร้างของท่อลาเลียงภายในตน้ พชื ได้ (K) (P) 6) ยกตวั อยา่ งการนาความรเู้ รือ่ งหน้าทขี่ องรากและลาตน้ ไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ (A) 3.สาระการเรยี นรู้ รากพืช ทาหนา้ ท่ีดดู นา้ และแร่ธาตุไปส่ลู าต้น ส่วนลาต้นพืช ทาหน้าท่ีลาเลยี งน้าสง่ ต่อไปยังส่วนตา่ งๆ ของพืช 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด รากเป็นโครงสร้างของพืชที่อยู่ใต้ดินและแผ่ขยายออกไป เพื่อยึดลาต้นให้ตั้งอยบู่ นดิน รากมหี น้าท่ีดูดน้าและ แร่ธาตุจากดนิ ขึ้นไปสู่สว่ นต่างๆ ของพชื โดยผ่านทางลาตน้ สว่ นลาต้นมีหน้าทล่ี าเลยี งน้า แรธ่ าตุ และอาหาร ไปเลีย้ ง สว่ นต่างๆ ของพชื โดยภายในลาตน้ ของพืชมีท่อลาเลียง ซึ่งประกอบด้วยท่อลาเลยี งน้า และท่อลาเลียงอาหาร เพื่อ ลาเลียงนา้ และแร่ธาตุจากดิน และลาเลียงอาหารจากใบพืช 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ความสามารถในการสอื่ สาร 7) การสังเกต 1) มีวินัย 2)ความสามารถในการคิด 8) การวัด 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3)ความสามารถในการแกป้ ัญหา 9) การต้งั สมมตฐิ าน 3) มุ่งม่นั ในการทางาน 10) การทดลอง 11)การลงความเห็นจากขอ้ มูล 12) การตีความหมายและลงข้อสรปุ

6.กิจกรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : 5Es Instructional Model ช่ัวโมงท่ี 1 ข้ันนา กจิ กรรมการเรียนรู้ ทกั ษะท่ีใช้ สือ่ ท่ใี ช/้ อปุ กรณ์ ประเมินผล ข้ันกระตุ้นความสนใจ - ทักษะการ - หนงั สือเรยี นชุด ระบุ แมบ่ ทมาตรฐาน 1.นักเรียนทากิจกรรมลองทาดู ในหนังสือเรียนชุดแม่บท วิทยาศาสตร์ ป.4 มาตรฐาน วทิ ยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 60 หน้า 60 2. นกั เรยี นสแกน QR Code 3D โครงสร้างพชื ในหนังสอื เรียน - ทักษะการ - ตน้ ไมต้ ัวอยา่ ง - สงั เกต ชดุ แมบ่ ทมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 60 แล้วนกั เรยี น สงั เกต เชน่ ต้นมะเขือ พฤตกิ รรมการ สังเกตต้นพชื ตัวอยา่ งท่ีครเู ตรยี มมา จากน้นั ให้วาดรูปต้นไม้ ทางานกลุม่ และบอกโครงสร้างของตน้ พืช - ทักษะการ ระบุ - สงั เกต หมายเหตุ : ตน้ พชื ทเ่ี ตรียมมาควรมีโครงสรา้ งภายนอกทส่ี าคัญ พฤติกรรมการ ไดแ้ ก่ ราก ลาต้น ใบ และดอก ครบทกุ สว่ น - ทกั ษะการ ทางาน ระบุ รายบคุ คล 3.นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้  โครงสร้างภายนอกท่ีสาคัญของพืชประกอบด้วยส่วน ใดบ้าง (แนวคาตอบ โครงสร้างภายนอกท่ีสาคัญของพืช ได้แก่ ราก ลาตน้ ใบ และดอก)  ถ้าต้นพืชไม่มีรากและลาต้น นักเรียนคิดว่าจะเป็น อยา่ งไร (แนวคาตอบ ต้นไม้ตายเพราะขาดน้าและแร่ธาตุ เนื่องจากรากทาหน้าท่ีดูดน้าและแร่ธาตุในดินส่วนลา ต้นทาหน้าท่ีลาเลียงน้า แร่ธาตุ และอาหารไปยังส่วน ตา่ งๆ ของพืช)

ขนั้ สอน กิจกรรมการเรียนรู้ ทักษะที่ใช้ สื่อทใ่ี ช/้ อปุ กรณ์ ประเมินผล ข้นั สารวจค้นหา - หนังสือเรียนชุด แมบ่ ทมาตรฐาน 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน แล้วศึกษาข้ันตอน วทิ ยาศาสตร์ ป.4 การทากิจกรรมพัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ท่ี 1 การลาเลียงน้าและแร่ธาตุของพืช ในหนังสือเรียนชุดแม่บท หนา้ 61-62 มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ป.4 หนา้ 61-62 - ทักษะการ - หนงั สือเรยี น - สังเกต 2. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาทักษะกระบวนการทาง สังเกต พฤติกรรมการ วิทยาศาสตร์ที่ 1 การลาเลียงน้าและแร่ธาตขุ องพืช โดยปฏิบัติ ชดุ แม่บท ทางานกลุ่ม ดังน้ี - ทกั ษะการ มาตรฐาน จาแนก วิทยาศาสตร์ 10)ต้ังสมมติฐานเกี่ยวกับการลาเลียงน้าและแร่ธาตุของ ป.4 หนา้ 63 พชื - ทกั ษะการลง ความเห็นจาก - ตน้ กระสัง 11)ส่งตัวแทนออกมารับวัสดุ-อุปกรณ์ในการทากิจกรรม ข้อมูล พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ท่ี 1 การ - สีผสมอาหารสี ลาเลียงน้าและแร่ธาตุของพชื ได้แก่ ต้นกระสงั สีผสม - ทกั ษะการ แดง อาหารสแี ดง มีด แท่งแก้วคนสาร ภาชนะใส น้าเปล่า ต้ังสมมตฐิ าน กระจกสไลด์ - มีด 12)เทน้าปริมาตร 200 มิลลิลิตร ใส่ลงไปในภาชนะใส - ทกั ษะการจัด - แท่งแกว้ คน จากน้นั เทสีผสมอาหารลงในน้าแลว้ คน กระทาและการ สาร 13)นาต้นกระสังมาล้างรากและลาต้นให้สะอาด จากนั้น นาไปตั้งไว้กลางแดด 30 นาที จากน้ันให้สังเกตราก ส่อื ความหมาย - ภาชนะใส และลาต้นของต้นกระสังบันทึกลงในตารางบันทึกผล ขอ้ มูล - นา้ เปล่า การสังเกตลักษณะของรากและลาต้น ก่อนและหลัง - กระจกสไลด์ แช่ในน้าผสมสี ในหนังสือเรียนชุดแม่บทมาตรฐาน - ทกั ษะการ วิทยาศาสตร์ ป.4 หน้า 63 ตคี วามหมาย 14)ตัดลาต้นของต้นกระสังตามแนวขวางเป็นชิ้นบางๆ และลงข้อสรุป - กล้อง แล้ววางบนกระจกสไลด์ จากนั้นใช้กล้องจุลทรรศน์ หรือแวน่ ขยายส่องดู จลุ ทรรศน/์ 15)ตัดลาต้นกระสังตามยาวให้เป็นชิ้นบางๆ จากน้ันใช้ แว่นขยาย แว่นขยายสอ่ งดู 16)สังเกตลาตน้ ของต้นกระสังท่ตี ดั ตามแนวขวางและแนว ยาว แล้วให้วางภาพลักษณะของลาต้นท่ีเห็นจากการ สอ่ งด้วยกลอ้ งจุลทรรศน์หรือแว่นขยาย แล้วบันทกึ ผล รว่ มกันอภิปรายและสรุปผลการทากิจกรรมของกลุ่ม หมายเหตุ : ในการทากิจกรรมอาจใชพ้ ชื ทีห่ างา่ ยแทนได้ เช่น ต้น เทียนแกว้ บา้ น ตน้ ขน้ึ ฉา่ ย เป็นตน้

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทักษะทใี่ ช้ ส่อื ท่ีใช/้ อปุ กรณ์ ประเมินผล 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมตัวนาเสนอผลการทากิจกรรมใน - ทักษะการจดั - สงั เกต พฤตกิ รรมการ ช่ัวโมงหน้า กระทาและการสอื่ ทางานกลมุ่ ความหมายข้อมลู ช่วั โมงท่ี 2 ขั้นสอน [ตอ่ ] กจิ กรรมการเรียนรู้ ทักษะทใี่ ช้ สอ่ื ท่ใี ช้/อปุ กรณ์ ประเมนิ ผล ขนั้ อธิบายความรู้ - ทกั ษะการ - สังเกต ส่อื สาร พฤตกิ รรมการ 1. นักเรยี นออกมานาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าชั้น ในประเด็น ทางานกลุม่ ตอ่ ไปนี้ - ทักษะการระบุ 7) ลักษณะรากและลาต้นของตน้ กระสงั ก่อนและหลังแช่ในน้า - สงั เกต ผสมสี - ทกั ษะการ พฤติกรรมการ 8) ลักษณะของลาต้นของกระสังท่ีตัดตามแนวขวางและแนว ตคี วามหมาย ทางาน ยาว และลงข้อสรปุ รายบคุ คล 9) ผลสรุปการทากจิ กรรมของกลุ่ม - สงั เกต 2. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นและตอบคาถามตอ่ ไปน้ี พฤติกรรมการ ทางานกลุ่ม - ก่อนและหลังนาลาต้นของกระสังไปแช่ในน้าผสมสี ลาตน้ ของต้นกระสงั มลี ักษณะอยา่ งไร (แนวคาตอบ ก่อนแช่ลาต้นมีลักษณะสีเขียวใส หลัง แช่ลาต้นมลี ักษณะสแี ดงใส) - เมื่อนาลาต้นของต้นกระสังมาตัดตามขวางและ ตามยาว นักเรียนสังเกตเห็นลักษณะภายในลาต้น ของต้นกระสังเป็นอย่างไร และมีส่วนประกอบ อะไรบ้าง (แนวค าตอบ ภ ายในล าต้น ของต้ นกระสังมี โครงสร้างท่ีเรียกว่า ท่อลาเลียง ซึ่งประกอบด้วยท่อ ลาเลียงน้าและท่อลาเลียงอาหาร) 3.นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรมจนได้ข้อสรุปว่า จากการทากิจกรรม เม่ือสังเกตลาต้นพืชที่ตัดตามขวางผ่าน กล้องจุลทรรศน์จะมองเห็นสีแดงเป็นจุดๆ ซึ่งเกิดจากรากพืช ดูดน้าสีแดงข้ึนไปสู่ลาต้นท่ีเป็นเช่นนี้ เพราะภายในลาต้นมีท่อ เล็กๆ อยู่ เรียกว่า ท่อลาเลียง โดยเป็นกลุ่มเซลล์เรียงต่อกัน ยาวต้ังแต่รากไปถึงลาต้น ก่งิ และใบ ทาหน้าท่ีลาเลียงน้าและ แร่ธาตุจากรากไปเล้ียงส่วนต่างๆ ของพืชและนาไปใช้ใน กิจกรรมตา่ งๆ ของพชื


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook