วนั สำคญั ทำงพระพทุ ธศำสนำ ผู้สอน ครูรัตนำ เพช็ รคล้ำย
พระพทุ ธศำสนำเป็ นศำสนำประจำชนชำตไิ ทย มำต้งั แต่โบรำณกำล พทุ ธศำสนิกชนชำวไทย จะมีประเพณี พธิ ีกรรมบูชำวนั สำคญั ทำงพระพทุ ธศำสนำขนึ้ เพอ่ื น้อมระลกึ ถงึ คุณ พระพทุ ธ คุณพระธรรม และคุณ พระสงฆ์- เพอื่ น้อมนำเอำหลกั ธรรมมำประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ให้เกดิ ประโยชน์สูงสุดแก่ตนเอง และผู้อนื่ ตำมกำลงั ของตน อย่ำงถูกต้อง และเหมำะสม
วนั สำคญั ทำงพระพทุ ธศำสนำ ได้แก่วนั วสิ ำขบูชำ วนั อฏั ฐมีบูชำ วนั อำสำฬหบูชำวนั มำฆบูชำ วนั เข้ำพรรษำ วนั ออกพรรษำและวนั ธรรมสวนะ มีประวตั คิ วำมเป็ นมำ หลกั ธรรม ทเี่ กย่ี วข้องและกำรปฏิบตั ติ นของชำวพทุ ธ ดงั ต่อไปนี้
วนั วสิ ำขบูชำ1. ควำมหมำยของวนั วนั วสิ ำขบูชำวนั วสิ ำขบูชำ แปลว่ำ กำรบูชำในวนั เพญ็ เดอื นวสิ ำขะ ซึ่ง เป็ นช่ือเดอื นของอนิ เดยีวนั วสิ ำขบูชำ ตรงกบั วนั เพญ็ ขนึ้ 15 คำ่ เดอื น 6 เป็ น กลำงเดอื นวสิ ำขะ พระจนั ทร์เสวย วสิ ำขฤกษ์ ถ้ำปี ใดมอี ธิกมำส คอื เดอื น 8 สองหน กจ็ ะ เลอ่ื นเป็ น วนั เพญ็ ขนึ้ 15 คำ่ เดอื น 7
2 . เหตุกำรณ์สำคญั ทเี่ กดิ ขนึ้ ในวนั วสิ ำขบูชำ มดี งั ต่อไปนี้ 2.1 พระพทุ ธเจ้ำทรงประสูตทิ สี่ วนลมุ พนิ ีวนัระหว่ำงเมอื งกบลิ พสั ด์ุ กบั เมอื งเทวทหะ อยู่ในเขตประเทศเนปำลปัจจุบนั ก่อนพทุ ธศักรำช 80 ปี 2.2 พระพทุ ธเจ้ำทรงตรัสรู้อนุตรสัมมำสัมโพธิ-ญำณใต้ร่มพระศรีมหำโพธ์ิ ริมฝั่งแม่นำ้ เนรัญชรำ ตำบลอรุ ุเวลำเสนำนิคม แคว้นมคธ เมื่อพระชนมำยุได้ 35 พรรษำ ก่อนพทุ ธศักรำช 45 ปี
2.3 พระพทุ ธเจ้ำเสดจ็ ดบั ขนั ธปรินิพพำนเมือ่ พระชนมำยุ 80 พรรษำณ ดงไม้สำละกรุงกสุ ินำรำ แคว้นมลั ละก่อนพทุ ธกำล 1 ปี
ภำพเกย่ี วกบัวนั วสิ ำขบูชำ ประสูติ
สังเวชนียสถำนแห่งที่ ๑ สถำนทป่ี ระสูติ เสำหินพระเจ้ำอโศกมหาราช ปักไวท้ ี่ที่ พระบรมศาสดาออกจาก พระครรภข์ องพระมารดา อยู่ ในเขตประเทศเนปาล ซ่ึง ต้งั อยทู่ างทิศเหนือของ ประเทศอินเดีย ภาษาทาง ราชการเรียกวา่ \"ลมุ มนิ เด\" แต่ชาวบา้ น กย็ งั เรียกวา่ \"ลุมพนิ ี\"
ตรัสรู้
สังเวชนียสถำนแห่งที่ ๒ สถำนที่ตรัสรู้ วหิ ำรตรัสรู้ ทย่ี งั หลงเหลอื อยู่ สมบูรณ์ทส่ี ุด ปัจจุบนั สถำนทต่ี รัสรู้นีเ้ รียก ตำบลพทุ ธคยำขนึ้ อยู่กบั จงั หวดั คยำ
ปรินิพพำน
สังเวชนียสถำนแห่งท่ี ๔ สถำนทด่ี บั ขนั ธปรินิพพำน สาลวโนทยาน เมืองกสุ ินารา มีสถปู และ วิหาร เป็น สญั ลกั ษณ์ เป็น อุทยานท่ีไดร้ ับ การรักษาจาก ทางการอินเดีย เป็นอยา่ งดี
3. ประวตั วิ นั วสิ ำขบูชำ ในประเทศไทย ประเพณบี ูชำวนั วสิ ำขบูชำ ในประเทศไทยจำกหนังสือตำรับท้ำวศรีจุฬำลกั ษณ์ หรือ นำงนพมำศทำให้ทรำบว่ำ พทุ ธศำสนิกชนชำวไทย มีกำรประกอบบูชำวนั วสิ ำขบูชำ มำต้งั แต่สมยั สุโขทยั คร้ังถงึ สมยั กรุงศรีอยธุ ยำธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น ไม่ปรำกฏหลกั ฐำนว่ำมกี ำรปฏิบัตบิ ูชำแต่อย่ำงใด
จนกระทง่ั ถงึ สมยั รัชกำลท่ี 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คอืสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้ำนภำลยั ทรงฟื้ นฟูประเพณนี ีข้ นึ้ มำใหม่ และทรงกำหนดให้เป็ นพระรำชพธิ ี ปัจจุบนั ทำงรำชกำรได้กำหนดให้วนั วสิ ำขบูชำ เป็ นวนั หยดุ รำชกำร 1 วนั เพอ่ื เปิ ดโอกำสให้พทุ ธบริษทั ได้มีเวลำประกอบพธิ ีกรรมบูชำในวนั วสิ ำขบูชำ ตำมประเพณนี ิยม
4. จุดมุ่งหมำยของกำรประกอบพธิ ีกรรมบูชำในวนั วสิ ำขบูชำ วนั วสิ ำขบูชำเป็ นวนั ทม่ี ีเหตุกำรณ์สำคญั น่ำอศั จรรย์ เป็ นอย่ำงยงิ่ เกย่ี วกบั พระพทุ ธเจ้ำ เกดิ ขนึ้ ในวนั เพญ็ ขนึ้ 15 คำ่ เดอื น 6 เป็ นกลำงเดอื น วสิ ำขะ ถงึ 3 ประกำร คอื กำรประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพำน พทุ ธศำสนิกชนจงึ จดั พธิ ีบูชำทย่ี งิ่ ใหญ่ขนึ้
เพอื่ น้อมระลกึ ถงึ พระคุณอนั ยง่ิ ใหญ่ขององค์สมเดจ็ พระสัมมำสัมพทุ ธเจ้ำ ผู้เป่ี ยมล้นไปด้วยพระทศพลญำณพระปัญญำคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหำกรุณำคุณชี้นำสัตว์โลกท้งั หลำย ให้รู้วธิ ีกำรประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นเพอื่ กำรดบั ทุกข์ จนกระทง่ั หลดุ พ้นจำกกำรเวยี นว่ำยตำยเกดิในวฏั สงสำรในทสี่ ุด
5.1 ทำบุญตกั บำตรทห่ี น้ำบ้ำน หรือนำภตั ตำหำรไปถวำย พระทวี่ ดั5.2 รับศีล 5 ศีล 8 หรืออโุ บสถศีล เพอื่ รักษำกำย วำจำ ใจ ให้ บริสุทธ์ิ5.3 ฟังพระธรรมเทศนำ เพอื่ พฒั นำสตปิ ัญญำ ให้รู้แจ้งเห็น จริงเกย่ี วกบั โลก และชีวติ ตำมควำมเป็ นจริง ไม่ให้ตกอยู่ ใต้อำนำจของรำคะ โทสะ และโมหะ อนั เป็ นเหตุแห่งทุกข์
5.4 ทำสมำธิ ภำวนำ เพอ่ื ชำระจติ ใจให้สะอำดบริสุทธ์ิ เป็ นอสิ ระจำกกำรครอบงำ ของกเิ ลส ตณั หำท้งั ปวง5.5 จุดประทปี โคมไฟ ท้งั ในพระอำรำม อำคำรบ้ำนเรือนทวั่ ไป เป็ นพทุ ธบูชำ5.6 นำดอกไม้ธูปเทยี น ไปเวยี นเทยี นทวี่ ดัในตอนบ่ำย หรือตอนกลำงคนื เพลำคำ่ เพอื่ บูชำพระรัตนตรัย
5.7 บริจำคเงนิ ทำนุบำรุงพระพทุ ธศำสนำ ให้มีควำม เจริญรุ่งเรืองมั่นคง ตำมกำลงั ทรัพย์ และกำลงั ศรัทธำ5.8 ปลดปล่อยชีวติ สัตว์ เช่น เต่ำ หอย นก ปลำ ววั ควำย ตำมแต่จะเห็นสมควร เป็ นพทุ ธบูชำ ธรรมบูชำง และสังฆบูชำ *******************
เร่ือง วนั อฏั ฐมบี ูชำ
วนั อฏั ฐมบี ูชำ1. ควำมหมำยของ วนั อฏั ฐมีบูชำ วนั อฏั ฐมบี ูชำ หมำยถงึ กำรบูชำวนั ถวำยพระเพลงิ พระพทุ ธสรีระ หลงั จำกวนั วสิ ำขบูชำซ่ึงเป็ นวนั ทพ่ี ระพทุ ธเจ้ำเสดจ็ ดบั ขนั ธปรินิพพำนได้ 8 วนั ตรงกบั แรม 8 คำ่ เดอื น 6
2. เหตุกำรณ์สำคญั วนั วนั อฏั ฐมีบูชำ เม่ือพระพทุ ธเจ้ำเสดจ็ ดบั ขนั ธปรินิพพำน 8 วนัมลั ลกษตั ริย์ แห่งนครกสุ ินำรำ และประชำชนพร้อมพระภกิ ษุสงฆ์ มีพระมหำกสั สปเถระเป็ นประธำนสงฆ์ ได้พร้อมใจกนั ถวำยพระเพลงิพระพทุ ธสรีระ ณ มกฏุ พนั ธนเจดยี ์ ในนครกสุ ินำรำท่ำมกลำงควำมเศร้ำโศกเสียใจ และอำลยั อำวรณ์องค์สมเดจ็ พระบรมศำสดำสัมมำสัมพทุ ธเจ้ำ อย่ำงสุดที่จะประมำณได้
เพรำะพระพทุ ธองค์ทรงเป่ี ยมล้นไปด้วยพระปัญญำคุณพระบริสุทธิคุณ และพระมหำ-กรุณำคุณทยี่ งิ่ ใหญ่ไพศำลต่อพทุ ธศำสนิกชนทุกคน และต่อทุกสรรพสัตว์ท้งั ปวงอย่ำงไม่สำมำรถหำผู้ใดมำเสมอเหมอื นได้
ภำพเกยี่ วกบั วนั อฏั ฐมบี ูชำ ปรินิพพำน
พธิ ีถวำยพระเพลงิ พระบรมศพหลงั จำกพระผู้มพี ระภำคเจ้ำเสดจ็ ปรินิพพำน
3. จุดมุ่งหมำยของวนั อฏั ฐมบี ูชำ มีดงั น้ี วนั อฏั ฐมีบูชำ เป็นวนั ถวายพระเพลิงพระสรีระของพทุ ธเจา้ พทุ ธศาสนิกชนท้งั หลายจึงประกอบพิธีบูชาข้ึน เพื่อนอ้ มถึงวนั ท่ีพระสรีระของ พทุ ธเจา้ ไดถ้ กู เผามอดไหมไ้ ปในกองเพลิง ดว้ ย ความรู้สึกอาลยั และสลดสงั เวชใจวา่ แมแ้ ต่พระพทุ ธเจา้ กเ็ สดจ็ ดบั ขนั ธปรินิพพาน และตอ้ งถูกเผามอดไหมไ้ ป เหลือแต่พระธรรมคาสงั่ สอน
ให้เป็ นพงึ่ ทย่ี ดึ เหน่ียวของพทุ ธบริษทั ท้งั หลำยได้น้อมนำเอำไปประพฤตปิ ฏบิ ัติ เพอ่ื กำรดบั ทุกข์ตำมกำลงั ศรัทธำ วริ ิยะของแต่ละบุคคล จนกำรทง่ั เข้ำสู่เป้ ำหมำยสูงสุดของพระพทุ ธศำสนำ คอื พระนิพพำนในทส่ี ุด
4. ข้อปฏบิ ตั ขิ องพทุ ธศำสนิกชนในวนั อฏั ฐมบี ูชำมดี งั ต่อไปนี้4.1 ทาบุญตกั บาตร ถวายจตุปัจจยั ไทยธรรม เพอื่ บารุงพระ พระพทุ ธศาสนาใหม้ ีความเจริญ รุ่งเรือง มงั่ คง สืบต่อไป4.2 รักษาศีล 5 ศีล 8 หรืออโุ บสถศีล เพอ่ื รักษากาย วาจา ใหบ้ ริสุทธ์ิ4.3 ฟังพระธรรมเทศนา เพอื่ พฒั นาสติปัญญาใหม้ ีความรอบ รู้ และสูงยง่ิ ๆ ข้ึนไป
4.4 ทำสมำธิภำวนำ เพอ่ื ชำระจติ ใจให้สะอำดบริสุทธ์ิ4.5 งดเว้นอบำยมุข อนั เป็ นทำงแห่งควำมเส่ือมท้งั ปวง4.6 กรวดนำ้ แผ่เมตตำ อทุ ศิ กศุ ลให้แก่ญำตมิ ติ รทล่ี ่วงลบั และสรรพสัตว์ท้งั หลำย *************
เร่ือง วนั มำฆบูชำ
วนั มำฆบูชำ1. ควำมหมำยของวนั มำฆบูชำ มำฆบูชำ แปลวา่ การบูชาในวนั เพญ็ เดือนมาฆะ ซ่ึงเป็น ช่ือเดือนของอินเดียวนั มำฆบูชำ ตรงกบั วนั เพญ็ ข้ึน 15 ค่า เดือน 3 เป็น กลางเดือนมาฆะ พระจนั ทร์เสวยมาฆะฤกษ์ ถา้ ปี ใดมี อธิกมาส คือ เดือน 8 สองหน กจ็ ะเลื่อนเป็นวนั เพญ็ ข้ึน 15 ค่า เดือน 4
2 . เหตุกำรณ์สำคญั ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในวนั มำฆบูชำ มีดงั ต่อไปน้ี2.1 พระอรหันตสำวก จำนวน 1,250 รูป มำประชุมกนั ณ เวฬุวนั มหำวหิ ำรในกรุงรำชคฤห์2.2 พระอรหันตสำวกเหล่ำน้ัน ล้วนบวชด้วย วธิ ีเอหิภกิ ขุอุปสัมปทำ คอื ได้รับกำรอุปสมบทจำก พระพทุ ธเจ้ำท้งั สิ้น2.3 พระอรหันตสำวกเหล่ำน้ัน มำประชุมกนั โดยมิได้นัดหมำยมำก่อน
2.4 วนั น้ันเป็ นวนั เพญ็ เดอื นมำฆะ คอืวนั เพญ็ เดอื น 3 กำรทมี่ เี หตุกำรณ์สำคญั 4 ประกำรเกดิ ขนึ้ พร้อมกนั ในวนั นี้ จงึ นิยมเรียกว่ำ “จตุรงคสันนิบำต”แปลว่ำ “กำรประชุมอนั ประกอบด้วยองค์ 4” พระพทุ ธเจ้ำทรงเห็นเป็ นเร่ืองอศั จรรย์ จงึ ทรงแสดงพระธรรมเทศนำ“ โอวำทปำติโมกข์ ” ให้ปรำกฎต่อ มหำสังฆสันนิบำต คอืกำรประชุมสงฆ์หมู่ใหญ่
ภำพเกย่ี วกบั วนั มำฆบูชำ พระพทุ ธเจ้ำ ทรงแสดง โอวำทปำตโิ มกข์
พระโอวำทปำติโมกข์ มีใจความสาคญัดงั ต่อไปน้ี คือ1) อุดมกำรณ์ของกำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ ไดแ้ ก่ 1.1) ตอ้ งมีความอดทนต่อการกล่าวร้ายต่าง ๆ 1.2) ตอ้ งรู้จกั จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพทุ ธศาสนา คือ นิพพาน 1.3) ตอ้ งไม่เบียดเบียนทาร้ายผอู้ ่ืน
2) คำสอนโดยสรุปย่อในพระพทุ ธศำสนำ 2.1) การไม่ทาบาปท้งั ปวง 2.2) การทาความดีใหถ้ ึงพร้อม 2.3) การทาจิตใจของตนใหส้ ะอาด ผอ่ งแผว้
3) ข้อปฏิบตั ทิ เี่ ป็ นกำรฝึ กตนเอง และ เพอ่ื นำไปสอนผู้อน่ื 3.1) กำรไม่กล่ำวร้ำยผู้อนื่ 3.2) กำรไม่ทำร้ำยผู้อน่ื 3.3) กำรสำรวมศีลของตนตำมพระธรรมวนิ ัย 3.4) กำรรู้จกั ประมำณ ในกำรบริโภค 3.5) กำรอยู่ในสถำนทอ่ี นั สงดั ไม่เห็นแก่กำรหลบั นอน บนทนี่ อนสูงใหญ่
3.6) กำรบำเพญ็ เพยี รทำงจิตอย่ำงยง่ิ ยวด เพอื่ ให้สงบ ต้งั มนั่เหมำะแก่กำรเผยแผ่ธรรม วนั มำฆบูชำ ยงั มเี หตุกำรณ์สำคญั อน่ื ๆ อกี คอื เป็ นวนั ทพี่ ระพทุ ธเจ้ำทรงแต่งต้งั พระอคั รสำวกเบือ้ งซ้ำย คอืพระโมคคลั ลำนะ และพระอคั รสำวกเบือ้ งขวำ คอื พระสำรีบุตร และเป็ นวนั ทพี่ ระพทุ ธเจ้ำทรงปลงอำยสุ ังขำร พระองค์ทรงกำหนดพระทยั อย่ำงแน่วแน่ว่ำ อกี 3 เดอื น ข้ำงหน้ำ คอืวนั เพญ็ เดอื นวสิ ำขะ พระองค์จะเสดจ็ ดบั ขนั ธปรินิพพำน
3. ประวตั วิ นั มำฆบูชำ ในประเทศไทย เน่ืองจำกมีเหตุกำรณ์พเิ ศษหลำยอย่ำงเกดิ ขนึ้ ในวนั เพญ็ เดอื นมำฆะ จงึ นับได้ว่ำเป็ นวนั สำคญั ทำงพระพทุ ธศำสนำวนั หนึ่ง พระบำทสมเดจ็ พระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเห็นว่ำยงั ไม่เคยมีพธิ ีบูชำใด ๆ ทำ ให้คนส่วนมำกไม่สนใจ พระองค์จงึ โปรดเกล้ำ ฯ ให้มีพระรำชพธิ ีประกอบกำรกศุ ลขนึ้ ทำงรำชกำรกำหนดให้หยดุ รำชกำร 1 วนั เพอ่ื ให้พทุ ธศำสนิกชนไปประกอบพธิ ีตำม ประเพณนี ิยม
4. จุดมุ่งหมำยของกำรประกอบพธิ ีกรรมบูชำ ในวนั มำฆบูชำกำรประกอบพธิ ีกรรมบูชำในวนั มำฆบูชำ ของ พทุ ธศำสนิกชนเพอ่ื น้อมระลกึ ถงึ กำรประชุมใหญ่ของพระสงฆ์ หลกั พระธรรมคำสอนในโอวำทปำติโมกข์ ซ่ึงถอื ว่ำเป็ นแม่บท หรือหัวใจของคำสอนในพระพทุ ธศำสนำ และหลกั กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำตลอดถงึ กำรปลงอำยุสังขำรขององค์สมเดจ็ พระสัมมำ-สัมพทุ ธเจ้ำ ซ่ึงทำให้เกดิ กำรสลดสังเวชใจว่ำ แม้แต่พระพทุ ธเจ้ำผู้ทรงทศพลญำณ กท็ รงหนคี วำมตำยไม่พ้น
5. ข้อปฏิบตั ติ นของพทุ ธศำสนิกชนในวนั มำฆบูชำ มี การปฏิบตั ิเช่นเดียวกบั วนั วสิ าขบชู า5.1 ทำบุญตกั บำตร ถวำยจตุปัจจยั ไทยธรรม เพอื่ บำรุงพระ พระพทุ ธศำสนำให้มคี วำมเจริญ รุ่งเรือง ม่งั คง สืบต่อไป5.2 รักษำศีล 5 ศีล 8 หรืออุโบสถศีล เพอ่ื รักษำกำย วำจำ ให้บริสุทธ์ิ5.3 ฟังพระธรรมเทศนำ เพอื่ พฒั นำสตปิ ัญญำให้มคี วำม รอบรู้ และสูงยงิ่ ๆ ขนึ้ ไป
5.4 ทาสมาธิภาวนา เพอ่ื ชาระจิตใจใหส้ ะอาดบริสุทธ์ิ5.5 งดเวน้ อบายมุข อนั เป็นทางแห่งความเส่ือมท้งั ปวง5.6 กรวดน้า แผเ่ มตตา อุทิศกศุ ลใหแ้ ก่ญาติมิตรที่ล่วงลบัและสรรพสตั วท์ ้งั หลาย
เร่ือง วนั อำสำฬหบูชำ
วนั อำสำฬหบูชำ1. ควำมหมำยของวนั อำสำฬบูชำอำสำฬบูชำ แปลว่ำ กำรบูชำในวนั เพญ็ เดอื นอำสำฬหะซ่ึงเป็ นชื่อเดอื นของอนิ เดยีวนั อำสำฬบูชำ ตรงกบั วนั เพญ็ ขนึ้ 15 คำ่ เดอื น 8 เป็ นกลำงเดอื นอำสำฬหะ พระจนั ทร์เสวยฤกษ์อำสำฬหะ ถ้ำปี ใดมีอธิกมำส คอื เดอื น 8 สองหน กจ็ ะเลอ่ื นไป เดอื น 8 หลงั
2. เหตุกำรณ์สำคญั ทเี่ กดิ ขนึ้ ในวนั อำสำฬหบูชำมดี งั ต่อไปนี้2.1 เป็ นวนั แรกทพี่ ระพทุ ธเจ้ำทรงประกำศพระพทุ ธศำสนำ2.2 เป็ นวนั แรกทพี่ ระพทุ ธเจ้ำทรงแสดงธรรม คอื ปฐมเทศนำ โปรดปัญจวคั คยี ์ ได้แก่ โกณฑญั ญะ วปั ปะ ภทั ทยิ ะ มหำนำมะ และอสั สชิ ณ ป่ ำอสิ ิปตนมฤคทำยวนั แขวงเมอื งพำรำณสี พระธรรมน้ันมชี ่ือว่ำ“พระธรรมจกั กปั ปวตั นสูตร” ซึ่งมีใจควำมสำคญั ดงั นี้
2.2.1 พระพทุ ธเจ้ำตรัสถงึ ทำง 3 สำย ไวด้ งั น้ี 1) กำมสุขลั ลกิ ำนุโยค เป็นทางที่ยอ่ หยอ่ น คือหมกมุ่นอยใู่ นกาม มุ่งแสวงหากามสุข (จากรูป รส กล่ินเสียง สมั ผสั ) ไม่เป็นหนทางแห่งการตรัสรู้ได้ 2) อตั ตกลิ มถำนุโยค เป็นทางท่ีตึงเครียด คือ การทรมานตนใหล้ าบาก ดว้ ยประการต่าง ๆ ตามความนิยมของนกั บวชในสมยั น้นั ไม่เป็นหนทางแห่งการตรัสรู้ได้
3) มชั ฌมิ ำปฏิปทำ เป็ นทำงสำยกลำง ดำเนินไปพอดี ไม่ตดิ ข้อง หรือเอนเอยี งไปหำกำมสุขลั ลกิ ำนุโยคและอตั ตกลิ มถำนุโยค เป็ นทำงทพ่ี ระพทุ ธเจ้ำตรัสรู้ เป็ นหนทำงแห่งกำรตรัสรู้ได้ คอื ทำงสำยกลำง ได้แก่ ควำมเห็นชอบ ควำมคดิ ชอบ กำรพูดชอบ กำรกระทำชอบ อำชีพชอบ พยำยำมชอบ กำรระลกึ ชอบ และกำรมจี ติ ต้งั ม่ันชอบ
2.2.2 พระพทุ ธเจ้ำตรัสถงึ อริยสัจ 4 ไว้ดงั นี้อริยสัจ 4 คือ ความจริงอนั ประเสริฐ 4 ประการมีองคส์ าคญั ดงั น้ี1) ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจควรกาหนดรู้2) สมุทยั คือ เหตุใหเ้ กิดทุกข์ ไดแ้ ก่ตณั หา คือความทะยานอยาก ควรกาหนดละ3) นิโรธ คือ ความดบั ทุกข์ ควรทาใหแ้ จง้4) มรรค คือขอ้ ปฏิบตั ิใหถ้ ึงความดบั ทุกข์ ควรทาใหม้ ีข้ึน กิจเหล่าน้ี พระพทุ ธเจา้ ทรงทาสาเร็จแลว้ พระองคจ์ ึงไดต้ รัสรู้และปฏิญาณพระองคว์ า่ เป็นพระพทุ ธเจา้
2.3 เป็นวนั แรกท่ีพระสงฆเ์ กิดข้ึนในโลก เม่ือพระโกณฑญั ญะไดด้ วงตาเห็นธรรม กราบทูลขอบวช พระพทุ ธเจา้ ทรงประทานการอปุ สมบทใหด้ ว้ ยวธิ ีเอหิภิกขอุ ุปสมั ปทา โดยทรงเปล่งพระวาจาวา่“ท่ำนจง เป็ นภกิ ษุมำเถดิ ธรรมอนั เรำกล่ำวดแี ล้ว ท่ำนจงประพฤติพรหมจรรย์ ทำทส่ี ุดแห่งทุกข์โดยชอบเถดิ ”2.4 เป็นวนั แรกท่ีพระรัตนตรัยครบองค์ 3 คือ พระพทุ ธ พระธรรมและในพระสงฆ์
ภำพเกย่ี วกบั วนั อำสำฬหบูชำแสดงปฐมนิเทศนำ คอืธรรมจกั กปั ปวตั นสูตรเป็ นผลให้เกดิ มพี ระสำวกรูปแรกขนึ้ ในพระพทุ ธศำสนำ
Search