Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพยาบาลระบบต่อมไร้ท่อ

การพยาบาลระบบต่อมไร้ท่อ

Published by ratreemad, 2021-02-24 08:18:22

Description: DM_html

Keywords: การพยาบาลต่อม,ไร้ท่อ

Search

Read the Text Version

การพยาบาลผูปว ยระบบตอ มไรท อ คณะพยาบาลศาสตร์ มรภ.นครปฐม a โรคเบาหวาน b เมตาบอลิกซนิ โดรม



บอกสาเหตุ พยาธิสภาพของโรคท่ีเกิดจากความผิดปกติ ของตอ่ มไรท้ อ่ ได้ บอกอาการ อาการแสดงและการรกั ษาของโรคท่ีเกิดจาก ความผิดปกติของตอ่ มไรท้ อ่ ได้ วางแผนการพยาบาลโรคท่ีเกิดจากความผิดปกติของตอ่ ม ไรท้ อ่ ได้



Beta- cell: F- cell: Insulin 70% Pancreatic polypeptide 5% Alpha- Delta- cell: cell: Somatostantin Glucagon 20% 5% ตบั ออ่ นทาหนา้ ท่ีเป็นทง้ั ตอ่ มมีทอ่ และตอ่ มไรท้ อ่ สรา้ งฮอรโ์ มน เซลลท์ ่ีทานา้ ท่ีผลิตฮอรโ์ มนจะรวมกนั เป็นกลุม่ ช่ือวา่ ไอเลตสอ์ อฟ แลงเกอรฮ์ าน(Islets of Langerhans)

type1 Diabetes American Diabetic Association Other specific type 2 Diabetes (ADA) types of diabetes โรคเบาหวาน (Diabetic mellitus) หมายถึง ภาวะท่ีร่างกายมีระดบั น้าตาลในเลือดสูงกวา่ Gestational Unclassified ปกติ เกิดจากความบกพร่องในการหลง่ั อินซูลินหรือการ diabetes diabetes ทางานของอินซูลิน ทาใหร้ ะดบั น้าตาลในเลือดสูงเป็ น เวลานาน สง่ ผลใหอ้ วยั วะตา่ ง ๆ เกิดความเสียหายและ Hybrid forms of ทางานไมม่ ีประสิทธิภาพ ไดแ้ ก่ เสน้ ประสาทตา ไต และ diabetes หลอดเลือดหวั ใจ เป็นตน้

ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ามาก หิวบ่อยและรบั ประทานจุ น้าหนกั ตวั ลดลง อื่น ๆ เช่น ตาพร่ามวั อ่อนลา้ อาการชา หรือติดเช้ือที่ผิวหนงั

HbA1c≥6.5% FBS≥126 DTX≥200 mg/dl mg/dl OGTT≥200 mg/dl

การใหค้ วามรแู้ ละสรา้ งทกั ษะในการดแู ลตวั เอง การใหค้ วามรู้ การตรวจวดั ระดบั น้าตาลการป้องกนั ภาวะแทรกซอ้ น การปรบั เปล่ียนพฤติกรรม การควบคุมอาหาร การออกกาลงั กาย งดบุหร่ ี และยาสูบ ยารับประทาน การใหย้ ารกั ษา ยาฉีด GLP-1 analog ยาฉีดอินซูลิน

วิธีการฉีดอินซูลิน :ใหย้ าเขา้ ชนั้ ใตผ้ ิวหนัง ตาแหน่งท่ีดีท่ีสุด คือ บริเวณหน้าทอ้ ง โดย หลีกเล่ียงการฉีดชิดกบั สะดือในระยะ 1 น้ิว รองลงมา ไดแ้ ก่ ตน้ ขา ตน้ แขนและสะโพก ไมฉ่ ีดซา้ ตาแหน่งเดิม ควรฉีดหมุนเวียนตาม เข็มนาฬิกา ที่มา http://www.siphhospital.com/th/news/article/share/902

Hypoglycemia Diabetic Hyperglycemic ketoacidosis Hyperosmolar 70 mg/dl NonKetotic Coma (DKA) ปวดศีรษะ ตาพร่ามวั ออ่ นเพลีย หิว (HHNK) กระหายน้า ชีพจรเบาเร็ว ใจส่นั เหง่ือ ออก ผิวหนังเย็น มึนงง สบั สน 250 – 800 mg/dl 800-2,000 mg/dl มีอาการหายใจหอบลึก มีกล่ินผลไม้ ผิวหนังแหง้ ตาลึก มีอาการทาง ห รื อ ก ล่ิ น อ ะ ซิ โ ต น ( fruity) ระบบประสาท เกิดการชกั เกร็งทั้ง แบบเฉพาะท่ีและชกั เกร็งแบบท่วั ตวั ผิวหนังแห้ง อ่อนเพลีย คล่ื นไ ส้ ร ะ ดับ ค ว า ม รู ้สึ ก ตัว เ ป ล่ ี ย น แ ป ล ง สับสน ซึมลง จนถึงขั้นหมดสติ อาเจียน เกิดภาวะขาดน้าอยา่ งรุนแรง เสียชีวิตได ้

1. หลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ ( macrovascular complication) ทาใหอ้ วยั วะท่ีขาดเลือดหรือเลือดไปเล้ียงไมพ่ อน้ันเสีย หนา้ ท่ีหรือตายได้ เชน่ กลา้ มเน้ือหวั ใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดสว่ นปลายตีบแข็ง 2. หลอดเลือดแดงขนาดเล็ก (microvascular complication) 2.1ตา (Diabetic retinopathy) ทาใหป้ วดตา เห็นภาพซอ้ น ตามวั มองเห็นไมช่ ดั หากมีการแตกของหลอดเลือด ท่ีจอตาทาใหเ้ ลือดไหลเขา้ สูจ่ อรับภาพ ทาใหเ้ ห็นจุดดาลอยไปมา เห็นแสงวูบวาบ หรือสูญเสียการมองเห็นอยา่ งเฉียบพลนั 2.2 ไต (Diabetic nephropathy) ทาใหเ้ กิดเป็นอาการของ nephrotic syndrome ตอ่ มาอตั ราการ กรองของลดลงเร่ือย ๆ ทาใหม้ ีของเสียคง่ั และเขา้ สูภ่ าวะไตวายในท่ีสุด ทาใหเ้ กิดโรคไตเร้ือรัง (CKD) 3. เทา้ (Diabetic foot) เกิดจากปลายประสาทเส่ือม ผูป้ ่วยจะเกิดอาการชา ไมร่ ูส้ ึกรอ้ น เย็นหรือรูส้ ึกเจ็บแป๊ บ คลา้ ยเข็มตา โดยเฉพาะบริเวณขา เป็นตะคริว กลา้ มเน้ือออ่ นแรง เกิดแผลไดง้ า่ ย กระบวนการหายของแผลชา้ อาจทาใหถ้ ูกตดั เทา้ ได้ 4. ระบบภูมิคุม้ กนั (Immune system) พบวา่ เม็ดเลือดขาวไมส่ ามารถทาหนา้ ท่ีไดต้ ามปกติ มีการติดเช้ือไดง้ า่ ย และรุนแรงกวา่ คนปกติ นอกจากน้ีการท่ีมีภาวะเลือดเป็นกรดหรือมีการสะสมของสารคีโตน ทาใหเ้ ม็ดเลือดแดงมีอายุสน้ั ลง จึงเกิดการขาดออกซิเจน ไดง้ า่ ย

✓การพยาบาลผูป้ ่วยโรคเบาหวานควรพิจารณาตามอาการและอาการแสดง ขอ้ มูลสนับสนุนของผูป้ ่วยขณะท่ีอยูใ่ นความดูแล เนน้ การสง่ เสริมให้ ผูป้ ่วยมีความสามารถในการดูแลตวั เองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ✓ การพยาบาลผูป้ ่วยโรคเบาหวานในภาวะฉุกเฉินพยาบาล 1.ภาวะน้าตาลในเลือดต่า < 70mg/dl มีอาการใจส่นั ใจเตน้ เร็ว รูส้ ึกหิว รูส้ ึกรอ้ น เหง่ือออก มือส่นั ความดนั โลหิตสูง กงั วล คล่ืนไส้ ออ่ นเพลีย มึนงงและปวดศีรษะ สามารถชว่ ยเหลือตวั เองได้ ระดบั รุนแรง คือไมส่ ามารถชว่ ยเหลือตวั เองได้ มีอาการชกั หมดสติ ถา้ ผูป้ ่วยมีอาการในระดบั ไมร่ ุนแรงและปานกลางใหด้ ่ืมน้าหวาน น้าผลไมป้ ระมาณ 30 ซีซี น้าสม้ 180 ซีซี น้าผ้ึง 3 ชอ้ นชา นม 1 แกว้ น้าตาล 3 กอ้ น หลงั จากน้ันใหเ้ จาะน้าตาลตาลหลงั รับประทานอาหารท่ี 15-20 นาที ถา้ ระดบั น้าตาล ยงั นอ้ ยกวา่ 70 mg/dl ให้ รบั ประทานอาหารอีกจนกวา่ อาการจะดีข้ึนหรือระดบั น้าตาลในเลือดมากกวา่ หรือเทา่ กบั 80 mg/dl และใหร้ ับประทานอาหารม้ือหลกั ตอ่ เน่ือง หากตอ้ งรออาหารม้ือหลกั มากกวา่ 1 ชว่ั โมงใหร้ ับประทานอาหารวา่ ง หากผูป้ ่วยมีอาการในระดบั รุนแรงไมก่ ระตุน้ ใหผ้ ูป้ ่วยด่ืมน้าหวานจะทาให้ สาลกั ได้ ควรโทรเรียกรถฉุกเฉินทนั ที 2.ภาวะน้าตาลในเลือดสูง DKA และ HHNS การดูแลใหไ้ ดร้ บั สารน้าตามแผนการรกั ษา ผูป้ ่วยจะไดร้ ับ NSS 1 ลิตรใน 1 ชว่ั โมงแรกจากน้ันในชว่ั โมงตอ่ ๆ ไปจะเลือกตามระดบั อิเลคโทไลทแ์ ละภาวะขาดน้า, การดูแลใหไ้ ดร้ ับอิเลคโทไลท์ และติดตามคา่ K+ ในเลือด ทุก 2 ชว่ั โมง โดยกอ่ นให้ insulin คา่ K+ เทา่ กบั 3.3 mEq/l 5.5 mEq/l, การดูแลใหไ้ ดร้ บั อินซูลิน กอ่ นใหอ้ ินซูลินควรมีการตรวจ ระดบั คา่ โปแตสเซียมในเลือดกอ่ น การให้ regular Insulin ทางหลอดเลือดดาตามแผนการ ควรผสม RI ใน NSS

1. ขาด/พร่องความรูเ้ ก่ียวโรค การรักษาและการดูแลตวั เอง 2. การปรบั ตวั ไดไ้ มม่ ีประสิทธิภาพเน่ืองจากไมส่ ามารถจดั การตวั เองขณะเจ็บป่วยได้ 3. เสียคุณคา่ ในตวั เองเน่ืองจากเจ็บป่วยเร้ือรงั 4. เส่ียงตอ่ การติดเช้ือไดง้ า่ ยเน่ืองจากเม็ดเลือดขาวทาหนา้ ท่ีไดไ้ มด่ ี 5. เส่ียงตอ่ การเกิดการบาดเจ็บไดง้ า่ ย/อาจเกิดเน้ือตาย เน่ืองจากเลือดไปเล้ียงบริเวณเทา้ ลดลงและมีการเส่ือม ของระบบประสาทสว่ นปลาย 6. เกิดภาวะขาดน้าอยา่ งรุนแรงเน่ืองจากมีระดบั น้าตาลในเลือดสูง 7. เส่ียงตอ่ ระดบั ความรูส้ ึกตวั ลดลงเน่ืองจากมีของเสียคง่ั จากไตทางานเสียหนา้ ท่ี 8. เส่ียงตอ่ การเกิดภาวะแทรกซอ้ นจากการมีระดบั น้าตาลในเลือดสูง 9. เส่ียงตอ่ การเกิดภาวะแทรกซอ้ นจากการมีระดบั น้าตาลในเลือดต่า 10. เส่ียงตอ่ การเกิดอบุ ตั ิเหตุไดง้ า่ ยเน่ืองจากการมองเห็นลดลง 11.เส่ียงตอ่ ระดบั ความรูส้ ึกตวั เปล่ียนแปลงเน่ืองจากระดบั น้าตาลในเลือดสูงหรือต่า



สถิติของภาวะเมตาบอลิกซินโดรม สถานการณท์ วั่ โลก ไทยเป็ นอนั ดบั 3 ของเอเชีย

ความหมายของภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic ระดบั syndrome) หมายถึง เป็ นกลุ่มอาการท่ีมีความ น้าตาลใน ผิดปกติเก่ียวกบั การเผาผลาญ ทาใหม้ ีโอกาสเกิดโรค เลือดสงู ในระบบหัวใจและหลอดเลือด ภาวะด้ืออินซูลิน อว้ นลงพุง โรคความ ดนั โลหิตสงู โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง ไขมนั ไขมนั ไตรกลี HDL ตา่ เซอไรดส์ ูง

เกณฑก์ ารวินิจฉัยภาวะเมตาบอลิกซินโดรม 1.เส้นรอบเอว ≥40 นิว้ ในผู้ชาย และ 35 นิว้ ในเพศหญงิ 2. ค่า Triglyceride ≥150 mg/dl 3. ค่า HDL ≤ 40 mg/dl ในเพศชาย 35 mg/dl ในเพศหญงิ 4. ค่า FBS≥ 100 mg/dl 5.ค่า SBP130 ≥mmHg และ/หรือ DBP ≥85 mmHg

การรกั ษาภาวะเมตาบอลิกซินโดรม - การรับประทานอาหาร ควร การใหย้ า การปรบั เปล่ียนพฤติกรรม รบั ประทานผกั ใบเขียว บลอคโคล่ี แคร รอท อาหารจาพวกผลไม้ เชน่ แอบเป้ิล กลว้ ย สม้ องุน่ ลูกแพร และพรุน อาหารท่ีไมม่ ีไขมนั หรือไขมนั ต่า และ 1. การใชย้ าเพ่ือควบคุมระดบั น้าตาลในเลือด 2.1 การปรบั พฤติกรรมการกิน โปรตีนจากเน้ือปลาท่ีมีโอเมกา้ -3 เชน่ 2. การใชย้ าเพ่ือรกั ษาระดบั ความดนั โลหิต 2.2 การควบคุมน้าหนัก ปลาเซมอล ทูน่า เป็นตน้ - จากดั โซเดียม 2,300 มิลลิกรัมตอ่ วนั 3. การใชย้ ารกั ษาระดบั ไขมนั ในเลือด 2.3 การจดั การความเครียด - จากดั ไขมนั ทราน 2.4 การออกกาลงั กาย - จากดั น้าตาล ในเคร่ืองด่ืมท่ีมีรสหวาน การพบผูใ้ หค้ าปรึกษา 2.5 การงดสูบบุหร่ี เชน่ น้าผลไม้ ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ เขา้ ร่วมโปรแกรมการ และอาหารวา่ งหรือของหวาน เชน่ เคก้ จดั การความเครียด คุกก้ี บราวน่ี ไอศกรีม เป็นตน้ การรบั ประทานยา ควรออกกาลงั กาย สปั ดาหล์ ะ 2.30 ชว่ั โมง BMI = 18.5 – 24.9 - จากดั แอลกอฮอล์ ทากิจกรรมโยคะ และไทชิ มีความหนักระดบั ปานกลาง เชน่ แอโรบิค

ภาวะแทรกซอ้ นภาวะเมตาบอลิกซินโดรม • กระตุน้ RASS ในการควบคุมความดนั โลหิตและสมดลุ ของเกลือโซเดียมในร่างกาย HT ทาใหห้ ลอดเลือดหดตวั เกิดแรงตา้ น BP สูง • การเพ่ิมจานวนของไขมนั แอลดีแอลคลอเลสเตอรอล ชนิดเล็กและหนา ซ่ึงเป็นสาเหตุ DLP ท่ีทาใหเ้ กิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง • จากกระบวนการเผาผลาญไขมนั ไตรกลีเซอไรดท์ ่ีสะสมอยูใ่ น visceral fat จะ DM ถูกเปล่ียนใหเ้ ป็นกรดไขมนั อิสระในกระแสเลือดมากข้ึน สง่ ผลใหเ้ กิดภาวะด้ืออินซูลิน

ภาวะแทรกซอ้ นภาวะเมตาบอลิกซินโดรม • การเพ่ิมของระดบั แอลดีแอลคลอเลสเตอรอล มีปริมาณ adiponectin ในเลือดลดลง ไดแ้ ก่ โรคหลอดเลือดหวั ใจโคโรนารี โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดสว่ นปลายซ่ึงเพ่ิม CVD ความเส่ียงตอ่ การเกิดโรคหวั ใจและหลอดเลือดสูงกวา่ คนปกติ 5 เทา่ CKD • ระดบั น้าตาลและไขมนั ในเลือดท่ีสูงกวา่ ปกติ ร่วมกบั สารชีวเคมีท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กระบวนการอกั เสบ เชน่ IL-6 และ TNF มีผลทาลายหลอดเลือดฝอยในไต • หลอดเลือดภายในไตทาเลือดไปเล้ียงไตลดลง เกิดการกระตุน้ ระบบอารเ์ อเอส (RAS) ตามมา ร่วมกบั การ กระตุน้ ทาใหเ้ กิดการดูดกลบั ของโซเดียมบริเวณทอ่ ไตสว่ นตน้ สุดทา้ ยเกิดความดนั ในโกลเมอรูลสั สูงข้ึน ทาใหไ้ ต สว่ นของโกลเมอรูลสั ใหญข่ ้ึน รวมทงั้ มีการสะสมของสารตา่ ง ๆ รว่ มกบั การเกิดพงั ผืดของไตตามมา ทาใหม้ ีไข่ ขาวร่ัวออกมาในปัสสาวะ CA • คนอว้ นเน้ือเย่ือไขมนั จะผลิตสาร TNF-alpha ออกมาในปริมาณมาก ซ่ึงสารดงั กลา่ ว นอกจะมีผลตอ่ ภาวะด้ือตอ่ อินซูลินทางออ้ มแลว้ ยงั พบวา่ มีความเก่ียวขอ้ งกบั การเกิดโรคมะเร็ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook