Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประโยค

ประโยค

Description: ประโยค

Search

Read the Text Version

วลี วลี คอื กลุม่ คำทมี่ ำรวมกนั เพอ่ื ใหม้ คี วำมหมำยมำกขน้ึ ชดั เจนขน้ึ แต่ยงั ไม่ครบสมบูรณ์อย่ำงประโยค โดยประโยคต้องประกอบด้วย ๒ ส่วน คอื ภำคประธำน และภำคแสดง ถำ้ เป็นวลจี ะประกอบด้วยอย่ำงใดอย่ำงหนงึ่ เท่ำนน้ั

เช่น แมวสีขาวตัวอ้วนกลม เป็นวลี กินข้าวอย่างตะกระมมู มาม เป็นวลี แมวสีขาวตัวอ้วนกลมกินข้าวอย่าง ตะกระมมู มาม เป็นประโยค

ประโยค ประโยค หมายถึง หน่วยหนึ่งของภาษา ที่มีความสมบูรณ์โดย เป็ นการแทนความหมายของสภาพ จะประกอบด้วยสองส่วนเป็ น อย่างน้อย คือ ภาคประธานและภาคแสดง การประกอบจะประกอบคาซึ่งมีสอง คาหลักทาหน้าที่เป็ นคานามในภาคประธาน และคากริยาในภาค แสดง

ประโยคแบ่งได้เป็ น ๓ ชนิด คือ ๑. ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) ๒. ประโยคความรวม (อเนกรรถประโยค) ๓. ประโยคความซ้อน (สังกรประโยค)

๑. ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) คอื ประโยคทมี่ ใีจควำมสำคญั เพยี งหนงึ่ เดยี วมภี ำคประธำนภำคเดยี ว ภำคแสดงภำคเดยี ว สงั เกตได้จำกมกี รยิ ำสำคญั เพยี งตวั เดยี ว เช่น ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง หมายเหตุ ฝนตก ฝน ตก ประโยคท่ีกริยา ลมพดั ลม ไมต่ ้อง มีกรรม ไฟดับ ไฟ พดั มารับ ดับ

ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง หมายเหตุ นักศึกษาทา นักศึกษา ทาการบา้ น การบา้ น ทา = กริยา ฉันกินผลไม้ ฉัน กินผลไม้ การบา้ น = กรรม สนุ ัข กัดไก่ สนุ ัขกัดไก่ กิน = กริยา ผลไม้ = กรรม กัด = กรยิ า ไก่ = กรรม

ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง หมายเหตุ คุณพอ่ เป็ น คณุ พอ่ เป็ นตารวจ เป็ น = กริยา ตารวจ ตารวจ = ส่วน เติมเต็ม หมายเหตุ - \"เป็ น\" เป็ นกริยาที่ต้องอาศัยส่วนเติมเต็มเพอ่ื ให้เน้ือความสมบรู ณ์

๒. ประโยคความรวม (อเนกรรถประโยค) คือประโยคท่ีรวมเอา ประโยคความเดียวตั้งแต่ ๒ ประโยค ข้ึนไปมารวมกัน โดยใช้สันธานเป็ น ตัวเช่ือมแต่ก็สามารถแยกออกเป็ นประโยคความเดียวที่มใี จความสมบรู ณ์ได้ เหมือนเดิมโดยไม่ต้องเพม่ิ ส่วนใดส่วนหนึ่งในประโยค เช่น ประโยคความรวม ประโยคความเดียว ๑ ประโยคความเดียว ๒ สันธาน ฉันอ่านหนงั สือแต่ ฉันอ่านหนังสือ น้องเล่นต๊กุ ตา แต่ น้องเล่นต๊กุ ตา

๒.๑ ประโยคที่มเี น้ือความคล้อยตามกัน คอื ประโยคควำมเดยี ว ๒ ประโยค ทนี่ ำมำรวมกนั โดยมเีนอ้ื ควำมสอดคลอ้ งกนั มสี นั ธำน และ แลว้ แลว้ ...ก็ ครงั้ ...จงึ พอ...ก็ ฯลฯ ๒.๒ ประโยคที่มเี น้ือความขัดแย้งกัน คอื ประโยคควำมเดยี ว ๒ ประโยค ทนี่ ำมำรวมกนั โดยมเีนอ้ื ควำมขดั แยง้ กนั กรยิ ำในแต่ละประโยคตรงกนั ขำ้ มกนั ส่วนใหญ่ จะมสี นั ธำน แต่ แต่ทว่ำ กว่ำ...ก็ ฯลฯ

๒.๓ ประโยคที่มีเน้ือความให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหน่ึง คอื ประโยคทม่ี ี กรยิ ำ ๒ กรยิ ำทต่ี ่ำงกนั มสี นั ธำน หรอื หรอื ไม่ก็ มฉิ ะนน้ั ...ก็ ฯลฯ ๒.๔ ประโยคที่มีเน้ือความเป็ นเหตุเป็ นผล คอื ประโยคทม่ี ปี ระโยคควำมเดยี ว ประโยคหนง่ึ มเีนอ้ื ควำมเป็นประโยคเหตุและมปี ระโยคควำมเดยี วอกี ประโยคหนงึ่ มเีนอ้ื ควำม เป็นประโยคผล มสี นั ธำน จงึ ฉะนน้ั ดงั นนั้ เพรำะฉะนน้ั ฯลฯ

๓. ประโยคความซ้อน (สงั กรประโยค) คอื ประโยคทป่ี ระกอบด้วยประโยคหลกั (มุขย ประโยค)และประโยคย่อย (อนุประโยค) มำรวมเป็นประโยคเดยี วกนั โดยมี ประพนั ธสรรพนำม (ผู,้ ท,ี่ ซงึ่ , อนั ) ประพนั ธวเิศษณ์ หรอื บุพบทเป็นบทเชอ่ื ม ประโยคหลัก (มขุ ยประโยค) คอื ประโยคทเ่ีป็นใจควำมสำคญั ทต่ี ้องกำรสอ่ื สำร ประโยคย่อย (อนปุ ระโยค) คอื ประโยคทท่ี ำหนำ้ ทข่ี ยำยควำมประโยคหลกั ให้ สมบูรณ์ยงิ่ ขน้ึ

ประโยคความซ้อน ประโยคหลัก ประโยคย่อย ตัวเชื่อม (มขุ ยประโยค) (อนปุ ระโยค) ท่ี ฉันรักเพอื่ นท่ีมนี สิ ัย ฉันรกั เพอ่ื น ท่ีมนี ิสัยเรยี บร้อย (แทนคาว่า“เพอื่ น”) เรียบรอ้ ย พอ่ แมท่ างานหนักเพอ่ื พอ่ แมท่ างานหนกั ลกู จะมอี นาคตสดใส เพอ่ื ลกู จะมอี นาคตสดใส (ขยายวิเศษณ์ “หนกั ”)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook