บทท่ี 6 งาน พลังงาน และกาํ ลัง 6.1 ความนาํ แนวคิดหลักของพลังงานเป็นหน่ึงในความสําคัญทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ใน ชีวิตประจําวันพลังงานจะอยู่ในรูปของนํ้ามันเช้ือเพลิง สําหรับการขนส่งและการทําความร้อนให้เป็น ไอนาํ้ เพอ่ื ปั่นกระแสไฟฟ้าสาํ หรับใหค้ วามสว่างและการนําไปประยุกต์อนื่ ๆ การนิยามปรมิ าณต่างๆ เช่น ตาํ แหนง่ ความเรว็ ความเรง่ และแรง ซง่ึ มีความสัมพนั ธ์กันและ สามารถใช้กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันสําหรับแก้ปัญหา แต่บางปัญหาไม่สามารถแก้ได้ด้วยกฎของนิว ตัน อย่างไรก็ตามสามรถทําให้การแก้ปัญหาได้ง่ายข้ึนในแบบวิธีที่ต่างกันออกไป ในบทน้ีจะทําการหา วธิ ีการใหมท่ ี่จะชว่ ยแกป้ ญั หา ซ่ึงจะต้องนยิ ามปรมิ าณทเ่ี จาะจงกับความหมายในทางฟสิ ิกส์มากกว่าใน ชีวิตประจําวนั โดยเรมิ่ ตน้ จากการกลา่ วถงึ เรอ่ื งของงาน 6.2 งานที่ทาํ ด้วยแรงคงท่ี (Work Done by a Constant Force) พิจารณาภาพที่ 6.1 แรง F กระทําต่อวัตถุมวลในทิศทํามุม กับพื้นราบทําให้วัตถุ เคลื่อนที่ไปได้กระจัด r ดังน้ัน นิยามของงาน คือ ผลของแรงที่กระทําให้วัตถุเคล่ือนท่ีไปตาม ทศิ ทางของแรงน้นั (Serway, 2008, p. 165) เขยี นสมการไดว้ ่า W F cosr 6.1 Fr cos เมอื่ W งาน มหี น่วยเปน็ จูล (J) หรอื นวิ ตัน.เมตร (N.m) F แรงท่ีกระทาํ มีหน่วยเปน็ นิวตัน (N) r การกระจัดระยะทาง (m) มุมระหวา่ งแรง F และการกระจัด r
120 6.5 งานเนื่องจากแรงไม่คงที่ พิจารณาอนุภาคเคล่ือนที่ยาวไปตามแนวแกน x ภายใต้แรงท่ีเปลี่ยนตามตําแหน่ง อนุภาคมี การกระจัดในทิศทางท่ีเพ่ิมข้ึนจาก xi ถึง xf ในกรณีที่ไม่สามารถใช้สมการ 6.1 ได้ เพราะสมการน้ี ใช้ได้กรณีแรง F คงที่ท้ังขนาดและทิศทางเท่าน้ัน อย่างไรก็ตามเราสามารถหางานท่ีเกิดข้ึนของ อนุภาคได้โดยการแบ่งการกระจัดออกเป็นส่วนน้อยๆ x ดังภาพที่ 6.3 งานเน่ืองจากแรง Fx และ การกระจดั x จะสามารถประมาณได้ว่า Fx มคี ่าคงที่ในชว่ งการกระจัด x ดงั น้ันจะเขยี นสมการ ของงานที่ถกู กระทําโดยแรงได้ คอื W Fx ix 6.7 ภาพที่ 6.3 งานทเี่ กดิ จากแรง F ไมค่ งที่ จําเป็นต้องแบ่งการกระจดั ออกเป็นส่วนน้อย x ท่ีมา (Serway, 2008, p.170) ภาพที่ 6.4 งานทีเ่ กดิ จากองค์ประกอบของแรง F จากจุด xi ถึง xf ท่มี า (Serway, 2008, p. 170) จากภาพที่ 6.4 เปน็ กราฟแสดงความสัมพันธข์ อง Fx และ x งานท้ังหมดที่ทาํ โดยแรง Fx คอื ผลรวมของแรง Fx คณู กับการกระจัด x ต้งั แต่ xi ถงึ xf จะเขียนสมการ
123 ภาพที่ 6.6 แรงกกระทําต่อมวลทต่ี าํ แหนง่ ตา่ งๆทส่ี มั พันธ์กบั ตาํ แหน่งสมดุล ทม่ี า (Serway, 2008, p.171) เคร่ืองหมายลบ (-) ของสมการ 6.13.และ 6.14 แสดงถึงแรงท่ีกระทําโดยสปริงในทุกทิศ ทางตรงข้ามกับการกระจัดจากจุดสมดลุ เมอื่ x 0 ในภาพท่ี 6.6a กลอ่ งอยู่ทางขวามือของจุดสมดุล แรงดึงสปริงมีทิศตรงข้ามไปทางซ้าย เมื่อ x 0 ภาพที่ 6.6c กล่องจะอยู่ทางซ้ายของจุดสมดุล แรง สปริงจะมีทิศทางไปทางขวาในทิศทาง x และเมื่อ x 0 สปริงไม่มีการยึดหรือถูกอัด x 0 และ Fs 0 เพราะว่าแรงสปรงิ จะเขา้ หาจุดสมดุลเสมอที่ตําแหน่ง x 0 บางครัง้ เรียกว่า แรงดึงกลับของ สปริง (Restoring Force) ถ้าสปริงถกู อัดอยทู่ จี่ ุด xmax แลว้ ปลอ่ ยทําให้กล่องเคล่ือนท่ีจาก xmax ผา่ นจุดสมดลุ x 0 ตอ่ เนอื่ งถงึ xmax และกล่องจะกลบั ทิศทางไปถึง xmax และต่อเนอื่ งจนเปน็ การเคลื่อนที่ แบบสนั่ กลบั ไปมา สําหรับในบทนี้จะพิจารณาการเคล่ือนท่ีที่มีการกระจดั น้อยๆ สมมตใิ หก้ ล่องถูกผลักไปทางซ้ายอย่ทู ี่ xmax และทําการปลอ่ ยจะหางาน Ws ทท่ี าํ โดยแรง ดึงกลับของสปริงต่อกล่องจาก xi xmax ถงึ xf 0 จากสมการ 6.12 ได้สมการวา่
126 จากกฎการเคลื่อนที่ขอ้ ทีส่ องของนิวตนั และแทนขนาดของแรงลัพธ์ F ma ลงในสมการ 6.17 จะไดว้ ่า xf Wnet madx xi Wnetxf mdv dx xi dt xf mdv dx dx xi dt dx xf mvdv xi 1 mv 2 1 mvi2 6.18 2 f 2 เม่ือ vi คือ อัตราเร็วต้นของกล่องท่ี x xi และ vf คือ อัตราเร็วปลายท่ี x xi สมการ โดยท่ัวไปใช้ในกรณีการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ และเป็นสมการที่บอกว่างานท่ีทําโดยแรงลัพธ์บนอนุภาค ของมวล m มีค่าเท่ากับผลต่างระหว่างค่าเริ่มต้นและค่าสุดท้ายของปริมาณ 1 mv2 ซ่ึงปริมาณ 2 1 mv2 แทนพลังงานท่ีมีความสัมพันธ์กับการเคล่ือนท่ีของอนุภาค ปริมาณน้ีมีความสําคัญและมีชื่อ 2 เรยี กว่า พลงั งานจลน์ (Kinetic Energy) K 1 mv2 6.19 2 พลังงานจลน์เป็นปริมาณสเกลาร์มีหน่วยเป็น จูล (J) เช่นเดียวกับงาน ดังนั้นสมการ 6.18 บอกถึงงานที่เกิดจากแรงลัพธ์ ทกี่ ระทําต่อกล่องมีค่าเท่ากับการเปล่ียนแปลงพลังงานจลน์ของอนุภาค และบสามารถเขียนในรปู สมการดงั น้ี Wnet K f Ki K 6.20
129 6.9 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานและพลงั งานศักย์โน้มถ่วง จากภาพท่ี 6.12 เมอ่ื ยกวตั ถุมวล m จากตําแหนง่ ที่ 1 ไปยงั ตาํ แหนง่ 2 จะได้ว่า งานที่ทํา เท่ากับ การเปล่ียนแปลงพลังงานศักย์ W12 mgh2 mgh1 Ep2 Ep1 W12 E p 6.22 m ตําแหนง่ ทÉี 2 m ตําแหนง่ ทีÉ 1 ภาพที่ 6.12 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงานและพลงั งานศักย์โนม้ ถว่ ง 6.10 หลักการอนุรกั ษข์ องพลังงาน (Conservation of Energy) เม่ือไม่มแี รงภายนอกมากระทํา ผลรวมของพลังงานจะคงท่ีเสมอ u=0 EK Ep EK Ep m 0 mgh mgh x =½ mv2 mg(h-x) mgh h = ½ m(u2+2gx) m =mgx =½ mv2 0 mgh = ½ m(u2+2gh) vm =mgh ภาพท่ี 6.13 หลักการอนรุ ักษข์ องพลงั งานกล
132 แบบฝึกหดั บทท่ี 6 6.1 แรง F 6iˆ 2 ˆj N กระทําตอ่ อนภุ าคได้การกระจดั เปน็ r 3iˆ ˆjm จงหา 1) งานที่ทําโดยแรงน้ี 2) มุมระหวา่ ง F และ r 6.2 ให้ A 3iˆ ˆj kˆ, B iˆ 2 ˆj 5kˆ และ C 2 ˆj 3kˆ จงหา Ci A B 6.3 วตั ถมุ วล 2.50 kg ถูกผลักด้วยแรง 16.0 N ในทิศทาํ มุม 25.0๐ กบั แนวราบทาํ ใหว้ ตั ถเุ คลื่อนไป บนพ้นื ราบไม่มีความฝืดไดร้ ะยะ 2.20 m จงหางานทีโ่ ดยแรงต่อไปนี้ 1) แรงที่กระทําต่อวตั ถนุ ้ี 2) แรงในในแนวตงั้ ฉาก 3) แรงโนม้ ถ่วง 4) งานทั้งหมด 6.4 อนภุ าคถูกแรง F 8x 16 N เม่อื ݔมหี น่วยเป็นเมตร 1) เขยี นกราฟระหวา่ ง F และ x จาก x 0 ถงึ x 3.0 m 2) จากกราฟข้อท่ี 1) งานที่แรงน้ที ําต่ออนภุ าคให้เคลอ่ื นท่ีจาก x 0 ถงึ x 3.0 m 6.5 แรงกระทาํ ต่ออนุภาค แสดงได้ดังภาพท่ี 6.14 จงหางานที่ทาํ ได้ดงั นี้ 1) จาก x=0 ถึง x=8.00 m 2) จาก x=8.00 ถึง x=10.00 m 3) จาก x=0 ถึง x=10.00 m ภาพท่ี 6.14 กราฟความสัมพันธร์ ะหว่าง Fx และ ระยะ x สําหรบั แบบฝกึ หดั ข้อที่ 6.5 ท่มี า (Serway, 2008, p. 189)
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: