Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore eventpat2bio

eventpat2bio

Published by pannawadee2004, 2021-02-18 03:46:37

Description: eventpat2bio

Search

Read the Text Version

24. การเกิดมิวเทชันตามธรรมชาติเกดิ จากการเปล่ยี นแปลงองคป์ ระกอบใดของดเี อ็นเอ 1. ชนดิ ของนา้ ตาลเพนโทส 2. ลาดับของเบสของนิวคลีโอไทด์ 3. จานวนหมูฟ่ อสเฟต 4. จานวนสายนิวคลโี อไทด์ 25. ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ งเกีย่ วกับมลั ติเปลิ แอลลีล 3. ข, ค 4. ก, ข, ค ก. ยีนเดียวควบคมุ หลายลักษณะ ข. ลกั ษณะหนึง่ ถกู ควบคมุ โดยหลายยีน ค. กลุ่มของยีนที่ควบคุมลักษณะหนึ่ง 1. ก 2. ก, ข 26. จากการทดลองดงั นี้ 4. หลอดท่ี 1, 2, 3 และ 4 หลอดท่ี 1 ใสซ่ รี ัมของเลอื ดหมู่ A + เม็ดเลอื ดแดงของหมู่ B หลอดที่ 2 ใส่พลาสมาของเลือดหมู่ B + เมด็ เลือดแดงของหมู่ A หลอดที่ 3 ใสซ่ ีรัมของเลอื ดหมู่ O + เมด็ เลือดแดงของหมู่ AB หลอดท่ี 4 ใส่พลาสมาของเลือดหมู่ AB + เมด็ เลือดของหมู่ O หลอดใดที่เกิดปฏิกิรยิ าระหวา่ งแอนตเิ จนและแอนติบอดี 1. หลอดที่ 1 และ 3 2. หลอดท่ี 2 และ 4 3. หลอดท่ี 1, 2 และ 3 27. สามภี รรยามบี ตุ ร 4 คนและมีจีโนไทปเ์ ป็น aaBBCc, AaBbcc, aaBBcc และ AabbCC จีโนไทป์ของสามภี รรยาคนู่ ี้คือ 1. aaBBCc และ AabbCc 2. AaBbCc และ aaBbCc 3. AaBBCc และ AabbCc 4. AabbCc และ AabbCc 28. จากแผนภาพพันธปุ ระวตั ขิ องลกั ษณะขนสัตว์ชนิดหนงึ่ โอกาสทล่ี กู ตัวที่ III – 2 จะมีขนหยิกเปน็ เท่าใด I1 2 , แทนขนตรง , แทนขนหยกิ II 1 1 2 3 4 III 1 1 12 1. 1 2. 1 3. 3 4. 1 4 24 51

29. ครอบครวั หน่งึ มลี ูก 3 คน ลายพมิ พ์ DNA ของทกุ คนในครอบครัวเป็นดงั ภาพด้านล่าง ลกู คนใดท่ีเป็นลูกติดพอ่ 1. ลูกคนท่ี 1 2. ลกู คนที่ 2 3. ลกู คนท่ี 3 4. ไม่มลี กู คนใดเป็นลกู ติดพอ่ 30. ข้อใดถูกตอ้ ง ก. ลีดดิงสแตรนดถ์ กู สงั เคราะห์ในทิศทางเดยี วกนั กับทศิ ทางการคลายเกลยี วของDNA แม่พมิ พ์ แต่แลกกงิ สแตรนด์ ถกู สังเคราะหใ์ นทศิ ตรงกันข้าม ข. ลีดดงิ สแตรนดถ์ ูกสงั เคราะหโ์ ดยการเตมิ นวิ คลีโอไทดท์ ป่ี ลาย 3’ แต่แลกกงิ สแตรนด์ถกู สังเคราะหโ์ ดยการเติม นิวคลโี อไทด์ทีป่ ลาย 5’ ค. การสังเคราะห์ลีดดงิ สแตรนดเ์ กิดขนึ้ อย่างตอ่ เนือ่ ง แตแ่ ลกกิงสแตรนดถ์ กู สังเคราะหเ์ ป็นสายส้นั ๆ 1. ก, ข 2. ก, ค 3. ข, ค 4. ก, ข และ ค 52

เฉลยชุดเกง็ ขอ้ สอบชีววิทยา (PAT 2) 1. ตอบขอ้ 3 เพราะถุงนา้ ดจี ะปลอ่ ยนา้ ดอี อกมาช่วยย่อยไขมัน ดงั นน้ั ถ้าคนไขต้ ดั ถุงน้าดีออกจึงไม่ควรบรโิ ภคอาหารทเี่ ป็น ไขมนั ตอบขา้ วคลุกกะปิ เพราะมีสว่ นประกอบทเ่ี ป็นไขมนั น้อย แต่ข้าวมันไกแ่ ละขา้ วหมูกรอบมสี ่วนประกอบท่ีเป็น ไขมันมากกวา่ 2. ตอบข้อ 4 เพราะเวลาพดู หรือหายใจเข้า-ออกเป็นสง่ิ เดียวกัน ดงั นน้ั เวลาพูดหรอื หายใจเขา้ ฝาปดิ กล่องเสยี งจะเปดิ แต่ เวลากลนื อาหารฝาปดิ กลอ่ งเสยี งจะปิด นอกจากนี้เวลากลนื อาหารเพดานอ่อนและลิ้นไกจ่ ะถูกดนั ขนึ้ ปดิ ทางเดนิ ลม หายใจขณะทฝ่ี าปิดกล่องเสยี งปิดดว้ ย ดงั นนั้ เวลาหายใจเขา้ อากาศจะผ่านกล่องเสยี ง แตเ่ วลากลืนอาหารอากาศจะผา่ น กลอ่ งเสยี งไม่ได้ 3. ตอบข้อ 2 เพราะสารอาหารทด่ี ดู ซมึ แล้วเขา้ สตู่ บั กอ่ นไปทห่ี ัวใจจะผ่าน hepatic portal circulation ซง่ึ จะถกู ดดู ซมึ ผ่านเส้นเลอื ดเวน และสารอาหารทถี่ ูกดดู ซมึ นัน้ จะเปน็ พวกทลี่ ะลายนา้ ได้ ไม่ละลายในไขมนั ซึ่งก็คอื กลูโคส กรดอะมโิ น และวิตามินซี ส่วนวิตามินทีล่ ะลายในไขมนั และสารอาหารพวกไขมนั จะไปทางน้าเหลือง 4. ตอบขอ้ 2 เพราะ ข้อ 1 ผดิ เพราะกลา้ มเนื้อกระบังลมตอ้ งหดตวั จึงจะทาใหก้ ะบงั ลมโคง้ ขน้ึ ขอ้ 3 ผิดเพราะกลา้ มเนือ้ ยดึ ซโ่ี ครงแถบในตอ้ งคลายตัวจึงจะทาใหก้ ระดกู ซี่โครงยกขึ้น ข้อ 4 ผดิ เพราะกลา้ มเนอื้ หนา้ ท้องหดตัวทาให้เกดิ การถอน หายใจ 5. ตอบข้อ 3 เพราะขณะเม็ดเลือดแดงลาเลียงผา่ นเน้อื เยอ่ื กล้ามเนอ้ื จะมกี ารให้ O2 และรับ CO2 จากเน้อื เย่อื ซึง่ ก็คอื สมการขอ้ ข. และ ค. 6. ตอบข้อ 1 เพราะ ขอ้ ค. ผิดตรงทีเ่ มด็ เลือดแดงไม่ได้ลาเลียงCO2 แค่สรา้ งใหอ้ ย่ใู นรูป HCO3- + H+ และไม่ไดอ้ ยู่ใน รูปของกรดอนิ ทรยี ์บางชนิดแต่อยูใ่ นรูปของไอออนของกรดอนินทรียบ์ างชนิด คือbicarbonate ion ข้อ ง. ผิดเพราะ แมลงใชร้ ะบบเทรเคยี ในการลาเลียง O2 และ CO2 สว่ นเมด็ เลือดของแมลงจะทาหน้าท่ลี าเลยี งอาหาร, นา้ , ของเสียและ สารตา่ งๆ ยกเว้นก๊าซ 7. ตอบขอ้ 1 เพราะคนเราสามารถกลัน้ หายใจไดเ้ ป็นระยะเวลาหนึ่งแตน่ านมากไม่ไดเ้ พราะกระทบกับการดารงชีวติ ซง่ึ การกลนั้ หายใจจะมีสมองส่วนซีรีบรัมเป็นตัวแทรกแซง 8. ตอบขอ้ 4 เพราะการถา่ ยทอดอเิ ล็กตรอนเปน็ substrate level phosphorelation ปฏกิ ิรยิ าไกลโคลิซสิ ในหนงั สอื ม.ปลายบอกวา่ ไม่มีการผลติ โมเลกลุ นา้ แตใ่ น text book ต่างๆ บอกว่ามี แต่ตอ้ งยดึ หนงั สอื ม.ปลายมาตอบ ปฏกิ ิรยิ า ไกลโคลิซสิ จะได้ NADH 2 โมเลกุล และ ATP 4 โมเลกลุ ในไซโทพลาสซมึ 53

9. ตอบข้อ 4 เพราะการหายใจแบบใช้ออกซิเจนมกี ารลาเลียงอเิ ล็กตรอนจากสารอาหารผา่ นตัวรับอเิ ล็กตรอนทเ่ี ยอื่ ชนั้ ใน ของไมโทคอนเดรียซึง่ เกดิ ใน electron transport chain และมอี อกซเิ จนเป็นตัวรับอิเลก็ ตรอนแลว้ มารวมตวั กับ โปรตอนไดโ้ มเลกลุ นา้ ดงั สมการ 1 O + 2e- + 2H+ → H2O ขอ้ ข. และ ง. ผดิ เพราะการผลิต ATP เกดิ ท่เี ยือ่ 2 ชัน้ ในของไมโตคอนเดรยี 10. ตอบข้อ 3 เพราะ การถ่ายทอดอิเล็กตรอนในการหายใจระดับเซลลม์ สี าระสาคัญ คอื NAD (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) และ FAD (Flavin Adenine Dinucleotide ) ซ่ึง nicotinamide กค็ ือวิตามิน niacin และ flavin คือ วติ ามนิ riboflavin 11. ตอบข้อ 2 เพราะกระบวนการไกลโคลิซิสของเซลลต์ บั จะได้ NADH ซ่ึงจะเกดิ 3 ATP ตอ่ โมเลกุล เม่อื สิน้ สุดปฏกิ ิริยา และจะได้พลงั งานทัง้ หมด 38 ATP แตก่ ระบวนการไกลโคลซิ สิ ของเซลลป์ ระสาทจะได้ NADH และเปลี่ยนตอ่ เป็น FADH2 ซึ่งจะเกิด 2 ATP ต่อโมเลกลุ เม่ือสน้ิ สุดปฏกิ ิรยิ าและจะไดพ้ ลังงานท้งั หมด 36 ATP แสดงวา่ เซลล์ตบั ผลติ ATP ไดม้ ากกว่าเซลล์ประสาท 12. ตอบข้อ 1 เพราะการสลายกลูโคสในกระบวนการหมกั แอลกอฮอลข์ องยสี ตจ์ ะมกี ารผลิต ATP ได้จานวนน้อย เนื่องจาก ไม่สามารถลาเลียงกรดไพรูวิกเข้าสู่ไมโทคอนเดรยี ไดเ้ พราะขาด O2 และไมส่ ามารถนา NADH ไปใชใ้ นกระบวนการผลิต ATP ได้เพราะไมน่ า NADH เขา้ ปฏกิ ิริยา electron transport chain หรอื chemiosmosis ข้อ ค. ผิดเพราะไมไ่ ด้ขาด เอนไซมท์ ใ่ี ช้ในกระบวนการหายใจแบบใชอ้ อกซิเจนแต่ขาด O2 13. ตอบข้อ 4 เพราะ helper T – cell จะเกย่ี วขอ้ งกับการทางานของ B – lymphocyte, memmory cell และ cytotoxic T – cell 14. ตอบข้อ 4 เพราะบริเวณ A คอื Bowman’s capsule space ซึ่งจะพบเมด็ เลือดขาวโดยเฉพาะ macrophage ซ่งึ สามารถแทรกตวั ไปได้ทกุ ทใ่ี นรา่ งกายและกลูโคสท่ผี ่านการกรองมาได้ แตจ่ ะไม่พบโปรตีนและฮอร์โมนซึง่ มขี นาดใหญ่ 15. ตอบขอ้ 4 เพราะเม่ือรา่ งกายขาดน้า ความเขม้ ขน้ ของเลอื ดในเส้นเลอื ดจะสงู ขนึ้ แรงดันออสโมติกของเลือดก็จะสงู ขึ้น ตอ่ มใต้สมองสว่ นหลังจะหลง่ั ADH เพอ่ื ใหท้ อ่ ของหนว่ ยไตดูดน้ากลบั เพ่มิ มากข้นึ 16. ตอบข้อ 2 เพราะการเพ่มิ ปรมิ าณความรอ้ นใหก้ บั ร่างกายทาไดโ้ ดยการสัน่ เพราะกล้ามเนื้อลายหดตวั และกล้ามเนื้อโคน ขนหดตวั และรา่ งกายมี metabolism เพิ่มข้ึน สว่ นการหายใจแรงและเร็วขึ้นไม่ได้ชว่ ยเพ่มิ ความร้อน 17. ตอบขอ้ 2 เพราะเม่ือมีการกระตุน้ เซลล์ประสาทดว้ ยสง่ิ เร้าท่ีมีผลใหช้ ่องโซเดยี มเปิด ทาให้โซเดยี มไหลเขา้ เซลล์ ศกั ย์เยื่อ เซลล์ (membrane potential หรอื ศักยไ์ ฟฟาู ภายในเซลล์) จงึ เพ่ิมขน้ึ ทาให้เพ่มิ การเกดิ เอกชันโพเทนเชยี ล 54

18. ตอบขอ้ 2 เพราะรีโพลาไรเซชันของเซลล์ประสาทเกดิ ขน้ึ เน่ืองจากชอ่ งโซเดียมปิดและชอ่ งโพแทสเซียมเปดิ ซ่งึ เกดิ ตอน ทเ่ี ซลลเ์ ปน็ บวกแล้วจะกลบั มาเป็นลบเหมือนเดิม 19. ตอบข้อ 2 เพราะระบบประสาทอัตโนวัตชิ นิดพาราซิมพาเทตกิ จะนาคาส่งั ยับยง้ั การเต้นของหัวใจ และเซลลป์ ระสาท ก่อนไซแนปสห์ ลัง่ แอซิตลิ โคลนี มายังเซลล์ประสาทหลงั ไซแนปส์ ข้อ ข.ผดิ เพราะต้องทาให้รมู า่ นตาหด ขอ้ ค.ผิด เพราะเซลลป์ ระสาทหลังไซแนปส์จะหลั่งแอซติ ลิ โคลนี มาควบคุมหนว่ ยปฏิบัตงิ าน 20. ตอบขอ้ 1 เพราะ ขอ้ ข. ผิดเพราะอนิ เตอร์สตเิ ชียลเซลลผ์ ลติ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพื่อกระตุน้ การหล่งั สเปริ ์มแตต่ ้อง รว่ มกบั ฮอรโ์ มน FSH ดว้ ย ข้อ ง. ผิดเพราะต่อมใต้สมองส่วนหน้าผลิตฮอร์โมน FSH เพื่อกระตนุ้ การสร้างสเปิรม์ ไม่ใช่ การผลติ ฮอรโ์ มนเพศชาย 21. ตอบข้อ 2 เพราะฮอร์โมน FSH และ LH ในเลอื ดจะสูงกว่าปกติก่อนตกไข่ 1 วัน ดงั นนั้ ข้อ ก. จึงผิด และฮอร์โมน นอรเ์ อพเิ นฟรินในเลือดจะสูงกวา่ ปกตขิ ณะตกใจ เพราะจะไปกระตุ้น sympathetic nervous system 22. ตอบขอ้ 2 เพราะฮอรโ์ มน FSH จะกระตนุ้ การเจริญของฟอลลเิ คลิ ทาให้ฮอร์โมน ก หรอื estrogen สงู ขน้ึ แล้ว estrogen ก็จะไปกระตนุ้ ฮอร์โมน ข หรือ LH สงู ขนึ้ เพ่อื ใหเ้ กิดการตกไข่ จากนน้ั corpus lutium จะผลติ estrogen และ progesterone ซ่ึงก็คือฮอร์โมน ค 23. ตอบขอ้ 4 เพราะตอ่ มใตส้ มองส่วนหลงั หล่งั ออกซโิ ทซิน 24. ตอบข้อ 2 เพราะการเกิดมิวเทชนั ตามธรรมชาตเิ กดิ จากการเปลีย่ นแปลงของลาดับเบสของนวิ คลีโอไทด์ เนือ่ งจากลาดับ เบสเปน็ ตัวกาหนดรปู แบบของการสรา้ งโปรตีนซ่ึงมผี ลต่อการแสดงออก 25. ตอบข้อ 2 เพราะมัลตเิ ปิลอลั ลลี คอื กลุ่มของยีนที่ควบคมุ 1 ลกั ษณะแต่มรี ูปแบบทแี่ สดงออกมากกว่า 2 แบบ เช่น หมู่ เลอื ด A, B, O, AB ข้อ ก. ผิดเพราะยีนเดยี วจะควบคุมหลายลกั ษณะไม่ได้ ข้อ ข.ผดิ เพราะลกั ษณะหนึ่งที่ถกู ควบคุมโดยหลายยีนคอื polygene 55

26. ตอบขอ้ 3 เพราะ หลอดท่ี 1 ใสซ่ ีรมั ของเลือดหมู่ A (มี antibody B) + เม็ดเลือดแดงของหมู่ B (มี antigen B) ทาให้ antibody B ทา ปฏกิ ริ ิยากับ antigen B หลอดท่ี 2 ใสพ่ ลาสมาของเลอื ดหมู่ B (มี antibody A) + เม็ดเลือดแดงของหมู่ A (มี antigen A) ทาให้ antibody A ทาปฏิกริ ยิ ากบั antigen a หลอดที่ 3 ใส่ซรี ัมของเลือดหมู่ O (มี antibody A และ B) + เม็ดเลือดแดงของหมู่ AB (มี antigen A และ B) ทาให้ antibody A และ B ทาปฏกิ ิรยิ ากบั antigen A และ B หลอดที่ 4 ใส่พลาสมาของเลือดหมู่ AB (ไม่มี antibody ) + เม็ดเลอื ดแดงของหมู่ O ( ไม่มี antigen ) ทาใหไ้ ม่ เกดิ ปฏกิ ริ ิยาระหว่าง antigen และ antibody 27. ตอบขอ้ 2 ข้อนีต้ ้องแยกคดิ ทล่ี ะลกั ษณะไลไ่ ปเรื่อยๆ คดิ ลกั ษณะ A ลูกเปน็ aa และ Aa แสดงวา่ พอ่ แมต่ อ้ งเป็น aa x Aa หรอื Aa x Aa คิดลักษณะ B ลกู เปน็ BB, Bb และ bb แสดงว่าพ่อแมต่ ้องเป็น Bb x Bb เทา่ นัน้ ซ่ึงตวั เลือกทม่ี ี Bb x Bb คอื ขอ้ 2 เท่านัน้ จึงตอบขอ้ 2 28. ตอบขอ้ 2 เพราะเม่ือดูจากเพดดกิ รแี ล้วพบวา่ ขนตรงเป็นยนี ดอ้ ย (autosomal recessive) โดยดจู ากรุ่น II ที่ขนตรง แตเ่ กดิ ขึน้ จากพ่อแม่ที่มขี นหยิกทงั้ คู่ คานวณลกั ษณะโดย Aa x Aa  aa Aa Aa x aa  aa Aa เม่อื Aa x aa จะไดล้ ูก Aa, Aa, aa, aa โอกาสทีล่ กู ตวั ที่ III – 2 มีขนหยิก (Aa) จึงเปน็ เปน็ 1 2 29. ตอบขอ้ 3 เพราะลายพมิ พด์ ีเอน็ เอของลกู ท่ีขน้ึ มาทุกเสน้ ต้องมีในพ่อหรือแมเ่ นอ่ื งจากลกู รบั ลักษณะทางพนั ธกุ รรมมา จากพ่อและแม่ เมือ่ พจิ ารณาดูแลว้ จะเห็นว่าลกู คนที่ 3 มีเส้นท่ตี รงกับของพอ่ แตไ่ ม่ตรงกบั แมเ่ ลย แสดงว่าลูกคนที่ 3 เป็นลูกตดิ พอ่ 30. ตอบข้อ 2 เพราะลีดดิงสแตรนดถ์ ูกสังเคราะห์ในทิศทางเดียวกับการคลายเกลยี วของดเี อ็นเอแมพ่ มิ พ์ แตแ่ ลกกง้ิ สแตรนดถ์ ูกสงั เคราะห์ในทศิ ตรงกนั ข้ามกับการคลายเกลียวของดีเอน็ เอแม่พมิ พ์ และการสงั เคราะหล์ ีดดิงสแตรนด์ เกดิ ข้นึ อย่างต่อเน่อื ง แต่แลกกงิ สแตรนด์ถกู สงั เคราะห์เปน็ สายสน้ั ๆ(Okazaki fragment) ข้อ ข. ผดิ เพราะท้งั ลดี ดงิ สแตรนด์และแลกกงิ สแตรนด์ถกู สังเคราะห์โดยการเติมนิวคลีโอไทด์ทป่ี ลาย 3’ ทง้ั สองสแตรนด์ 56


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook