Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โคงงานเทียนหอม

โคงงานเทียนหอม

Published by yukiyuuyui16, 2021-09-29 03:59:24

Description: โคงงานISกลุ่ม2

Search

Read the Text Version

โครงงาน เรื่อง เทียนหอมจากไขถว่ั เหลือง จดั ทาโดย 1.นางสาวกนั ฐมณี ณะรินทร์ เลขท่ี1 2.นางสาวพิมพพ์ ิไล แซ่เตน็ เลขท่ี11 3.นางสาวณฏั ฐณิชา ไชยวฒั น์สิริ เลขท่ี14 4.นางสาวจุฑารัตน์ ทีวะรัตน์ เลขที่38 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่5/5 ครูที่ปรึกษา นาย ดารงค์ คนั ธะเรศย์ โรงเรียนปัว เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 37

คานา โครงงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS) เร่ือง เทียนจากไขถว่ั เหลืองไดค้ ิดคน้ เพอื่ แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจาวนั ของคนทว่ั ไปท่ีมกั จะมปี ัญหาเหนื่อยลา้ เครียดจากการทางานและกิจกรรมต่างๆและสาหรับผทู้ ่ี ตอ้ งการผอ่ นคลายจากกลิน่ ดอกไม้ ผลไม้ โครงงานเล่มน้ียงั ใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั ดอกไมแ้ ละผลไมท้ ่ีใชเ้ ป็นส่วนประกอบในการทาโครงานแก่ผทู้ ่ีตอ้ งการ ศึกษาเกี่ยวกบั ดอกไมแ้ ละผลไมเ้ พ่ือเป็นประโยชยใ์ นการเรียน ท้งั น้ีในการจดั ทาโครงงานเรื่องน้ีคณะผจู้ ดั ทาหวงั ว่าความรู้ต่างๆที่อยใู่ นโครงงานเลม่ น้ีจะเป็นประโยชนต์ ่อผู้ ศกึ ษา หากมขี อ้ ผดิ พลาดประการใดคณะผจู้ ดั ทาคณะผจู้ ดั ทากข็ อนอ้ มรับไวแ้ ลว้ ขออภยั มา ณ ที่น้ี คณะผู้จัดทา

สารบัญ หน้า เรื่อง ก ข บทคดั ยอ่ กิตติกรรมประกาศ บทที่ ๑ บทนา ๑.๑ ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา ๑.๒ วตั ถปุ ระสงค์ ๑.๓ ขอบเขตการศึกษา ๑.๔ สมมุติฐาน ๑.๕ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ บทที่ ๒ เอกสารท่เี กย่ี วข้อง ๒.๑ เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง ๒.๒ ศพั ทแ์ พราะ บทท่ี ๓ วธิ กี ารดาเนนิ การ ๓.๑ แผนการปฏิบตั ิงาน บทที่ ๔ ผลการดาเนนิ การ บทท่ี ๕ สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ๕.๑ สรุป ๕.๒ อภิปรายผล บรรณานุกรม ภาคผนวก

ช่ือโครงงาน : เทียนหอมจากไขถวั่ เหลอื ง ผ้จู ดั ทาโครงงาน : 1. นางสาวกนั ฐมณี ณะรินทร์ เลขที่1 2. นางสาวพิมพพ์ ไิ ล แซ่เต็น เลขที่11 3. นางสาวณัฏฐณิชา ไชยวฒั นส์ ิริ เลขที่14 4. นางสาวจุฑารัตน์ ทีวะรตั น์ เลขที่38 ครูทปี่ รึกษา : นายดารง คนั ธะเรศย์ ระดบั ช้ัน : มธั ยมศกึ ษปี ที่5 ปี การศึกษา : 2564 ________________________________________________________________________________________ บทคดั ย่อ โครงงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS) เร่ือง เทียนหอมจากไขถวั่ เหลืองจดั ทาข้ึนโดยมี วตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ศึกษาขอ้ มูลของกลนิ่ ดอกไม้ และ ผลไมต้ ่างๆที่จะใส่ลงในเทียนท่ีมสี รรพคุณในการผผอ่ น คลายและเพือ่ ประดิษฐเ์ ทียนหอมที่ช่วยในการผอ่ นคลายที่สามารถใชง้ านไดจ้ ริงโดยมมี ลี กั ษณะเป็นส่ิงประดิษฐ์ ออกแบบโดยใชว้ สั ดุที่มอี ยตู่ ามธรรมชาติและหาไดต้ ามทอ้ งตลาด การดาเนินงานไดว้ างแผน่ รวบรวมขอ้ มลู ลง มือปฏิบตั ิงาน ทดสอบและประเมนิ ผลของเทียนหอมในดา้ นต่างๆ ซ่ึงมีความปลอดภยั และอานวยความสะดวก สาหรับการนาไปใชง้ านในชีวติ ประจาวนั และบรรเทาความเหนื่อยลา้ จากการทากิจกรรมต่างๆ ผลการทดสอบการใชง้ านเทียนหอมพบวา่ เทียนหอมสามารถช่วยผอ่ นคลายและลดความเครียดลงได้ บาบดั และทาใหผ้ ใู้ ชอ้ ารมณ์ดีข้ึนไดอ้ ยา่ งมีประสิภาพในระดบั หน่ึง คณะผจู้ ดั ทา

กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานเรื่อง “เทียนหอมจากไขถวั่ เหลือง”น้ีสาเร็จลุลว่ งไดด้ ว้ ยดี ดว้ ยความกรุณาจาก อาจารยด์ ารง คนั ธะเรศย์ อาจารยท์ ่ีปรึกษาโครงงานท่ีไดช้ ว่ ยใหค้ าปรึกษา ช้ีแนะถึงแนวทางการแกไ้ ขขอ้ บก พร้องต่างๆจนโครงงานสาเร็จลุลว่ งได้ คณะผจู้ ดั ทาจึงขอขอบพระคุณอยา่ งยงิ่ ขอกราบขอบพระคุณอาจารยท์ ่ีปรึกษา คุณพ่อและคุณแม่ ที่ใหค้ าปรึกษาในเรื่องต่างๆ รวมท้งั เป็น กาลงั ใจใหต้ ลอดการทาโครงงานและสุดทา้ ยขอบคณุ เพอ่ื นๆท่ีใชใ้ หค้ วามร่วมมอื เป็นอยา่ งดีตลอดการทา โครงงาน รวมท้งั ผทู้ ่ีมสี ่วนสนบั สนุนท่ีไมอ่ าจกลา่ วไดท้ ้งั หมด ตลอดจนแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ที่ไดน้ ามาประกอบ คณะผจู้ ดั ทา

บทท่1ี บทนา ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา เนื่องจากปัจจุบนั สงั คมมนุษยเ์ ปิ ดกวา้ งมากข้ึนทาใหท้ ้งั สภาพแวดลอ้ ม สงั คมของมนุษยก์ ่อเปลย่ี นไป ทุก คนจึงมีหนา้ ที่ของตวั เองที่ตอ้ งรับผดิ ชอบในการใชช้ ีวิต แต่เนื่องจากกิจกรรมต่างๆทาใหเ้ กิดความเครียดความ เหนื่อยลา้ และ ความตึงเครียด ทาใหส้ ่งผลต่อสุขภาพท้งั ร่างกายและจิตใจ นอกจากน้ีจากความเครียดต่างๆ และ อาการเหน่ือยลา้ ท่ีเป็นปัญหา ทาใหผ้ ปู้ ระสบปัญหาจาเป็นตอ้ งหาทางออก ในปัจจุบนั น้ีมีสิ่งน่าสนใจท่ีช่วยสาหรับผอ่ นคลายมากมายสาหรับมนุษยห์ น่ึงในส่ิงท่ีไดร้ ับ ความสนใจจากประชาชนมากคือ “เทียนหอม” ท่ีมีรูปลกั ษณ์ทนั สมยั น่าใช้ เนื่องจาก กาลงั อยใู่ นกระแสเทรนด์ สุขภาพหรือท่ีเรารู้จกั ช่ือกนั วา่ สุคนธบาบดั ซ่ึงเป็นการนาน้ามนั หอมระเหยมาใชด้ ูแลสุขภาพ เป็นทางเลือก บาบดั อาการทางกายและอารมณ์ ช่วยใหร้ ่างกายผอ่ นคลาย คลายเครียด กาลงั ไดร้ ับความนิยมกนั อยา่ ง แพร่หลายท้งั ในและต่างประเทศ การทาเทียน จึงตอบโจทยค์ วามตอ้ งการที่หลากหลาย เนื่องจากเราสามารถเลือกใชว้ ตั ถดุ ิบที่มี คุณภาพ และเลือกใชก้ ลิ่นน้ามนั หอมระเหยไดต้ ามความตอ้ งการที่แตกต่างกนั เทียนหอมน้ีอาจจุดประกาย ความคิดใหป้ ระชาชนพฒั นาเป็นผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพจากแฮนดเ์ มด ท่ีเหมาะสาหรับเป็นของขวญั ที่ใหค้ วามสุขท้งั ผใู้ หแ้ ละผรู้ ับในเทศกาลปี ใหม่ท่ีใกลจ้ ะถงึ น้ี หรือใชใ้ นกิจการบริการสุขภาพ เสริมเสน่ห์ใหส้ ปาไทย สร้าง เศรษฐกิจใหป้ ระเทศได้ คณะผจู้ ดั ทาจึงมีความคิดที่จะทาเทียนหอมจากไขถวั่ เหลอื ง ที่มีการสกดั น้ามนั หอมระเหยกล่นิ ดอกไม้ และ ผลไม้ เพอื่ นามาทดสอบประสิทธิภาพของของกลิ่นแต่ละกลิ่นวา่ มปี ระสิทธิภาพในการคลายความเครียด และผอ่ นคลายอารมณ์โดยการใหก้ ลมุ่ ประชากรช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ที่5 ของโรงเรียนปัวเป็นผทู้ ดลองประสิทธิภาพ ของแต่ลกลน่ิ เพือ่ นามาเป็นขอ้ มูล

ดงั น้นั โครงงานเรื่องเทียนหอมจากไขถว่ั เหลอื ง คณะผจู้ ดั ทาจึงตอ้ งศกึ ษาหาแนวทางในการนาไขถวั่ เหลืองและนามนั หอมระเหยกลน่ิ ต่างๆเพื่อนามาทาเป็นเทียนหอมเพอื่ ลดปัญหาความเครียดและอาการเหนื่อยลา้ ท่ีมีผลต่อสุขภาพของผปู้ ระสบปัญหา วตั ุประสงค์ 1เพอ่ื ศกึ ษาคุณสมบตั ิของไขถว่ั เหลอื งในการนาไปทาเป็นเทียนหอม 2.เพื่อศกึ ษาวธิ กี ารทาเทียนหอมในรูปแบบท่ีใชไ้ ขถวั เหลือง 3.เพอ่ื สร้างผลิตภณั ฑร์ ูปแบบใหม่ใหก้ บั ทางชุมชน 4.เพ่ือทดสอบประสิทธิภาพนากรช่วยผอ่ นคลายความเครียดและความเหน่ือยลา้ ขอบเขตของการศึกษา 1.ประชาการที่ใชใ้ นการศึกษา บุคลทวั่ ไปหรือนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท5ี่ กล่มุ เลก็ ๆ หรือสมาชิกในกลุม่ จานวน4คน 2.พ้ืนที่ดาเนินการ 59 หมู่11 ตาบลศรีภูมิ อาเภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน 3. เน้ือหาที่ใชใ้ นการศกึ ษา เน้ือหาที่ใชใ้ นการศกึ ษาเป็นเน้ือหาที่เลือกจากความสนใจ คือการทาเทียนหอมจากไขถว่ั เหลอื งโดยมี น้ามนั หอมละเหยะกลนิ่ กหุ ลาบ พีช ลาเวนเดอร์และเปเปอร์มิน้ ทซ์ ่ึงเป็นการทาเทียนหอมเพอื่ ทดสอบ ประสิทธิภาพของไขถว่ั เหลอื งและความสมารถของน้ามนั หอมระเหยลน่ิ ต่างๆ โดยทดสอบจากประสิภาพใน การคลายเครียดแลผ่ อ่ นคลายอาการเหนื่อยลา้ 4.ระยะเวลา ภาคเรียนที่1 ปีการศกึ ษา2564 5.ตวั แปลท่ีใชใ้ นการศึกษา ตวั แปรตน้ : กลิ่นของน้ามนั หอมละเหย

ตวั แปรตาม : ประสิทธิภาพในการคลายเครียดละผอ่ นคลายอาการเหน่ือยลา้ ตวั แปลควบคุม : ปริมารไขถวั่ เหลือง น้ามนั หอมระเหยที่เท่ากนั ในแต่ละกลิ่น สมมุตฐิ าน เทียนหอมสามารถทาใหค้ ลายความเครียดละผอ่ นคลายความเหน่ือยลา้ เน่ืองจากมนี ้ามนั หอมระเหยที่สะกดั จากธรรมชาติมคี ุณสมบตั ิในการบาบดั และผอ่ นคลาย ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รบั 1. ไดป้ ระสบการณ์การทาเทยี นหอม 2.สามารถสร้างรายไดใ้ หก้ บั ตนเองได้ 3.ผรู้ ่วมโครงงานสามารถนาเทยี นหอมไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ 4.แนวทางในการผอ่ นคลายจากการตรึงเครียด ช่วยทาใหจ้ ิตใจสงบ

บทท2ี่ เอกสารทเี่ ก่ียวข้อง การศกึ ษาในคร้ังน้ี ผศู้ กึ ษาไดศ้ กึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง ดงั น้ี 1.ความสาคญั ของปัญหาความเครียด ความเครียด เป็น สิ่งหน่ึงที่ร่างกายตอบสนองต่อการเปลย่ี นแปลงท่ีเกิดข้ึนทาใหเ้ รามกี ารตอบสนองต่อ เรื่องราวต่างๆท่ีเขา้ มากระทบร่างกายท้งั ทางดา้ น ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ แทจ้ ริงแลว้ ความเครียด น้นั เป็น ปฏิกิริยาตอบสนองอยา่ งหน่ึงของร่างกายท่ีมีต่อเร่ืองราวต่าง ๆที่เกิดข้ึนในชวี ิต ไม่วา่ จากภายใน ตวั เองหรือจาก สิ่งแวดลอ้ มภายนอก ความเครียดสามารถเกิดไดท้ ุกแห่งทกุ เวลา อาจจะเกิดจากสาเหตุ ภายนอก เช่น การยา้ ย บา้ น การเปลย่ี นงาน ความเจบ็ ป่ วย การหยา่ ร้าง ภาวะวา่ งงาน ความสมั พนั ธก์ บั เพ่อื น ครอบครัว หรืออาจจะเกิด จากภายในผปู้ ่ วยเอง เช่น ความตอ้ งการเรียนดี ความตอ้ งการเป็นหน่ึง หรือความเจบ็ ป่ วยของร่างกาย ความเครียดเป็นระบบเตือนภยั ของร่างกาย ใหเ้ ตรียมพร้อมท่ีกระทาสิ่งใดสิ่งหน่ึง การมี ความเครียดนอ้ ยเกนิ ไป และมากเกินไปไมเ่ ป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่เขา้ ใจวา่ ความเครียดเป็นส่ิงไม่ดีที่ มนั ก่อใหเ้ กิดอาการปวด ศรี ษะ ปวดกลา้ มเน้ือ หวั ใจเตน้ เร็ว แน่นทอ้ ง มือเทา้ เยน็ แต่ความเครียดก็มีส่วน ดีเช่น ทาใหเ้ รามคี วามตื่นเตน้ ความทา้ ทายและความสนุก ชนิดของความเครียด 1. Acute stress ( ความเครียดเฉียบพลนั ) คือ ความเครียดที่เกิดข้ึนทนั ที และร่างกายก็ตอบสนองต่อ ความเครียดน้นั ทนั ทีเหมือนกนั และเม่อื ความเครียดหายไป ร่างกายกจ็ ะกลบั สภาวะสู่ปกติเหมอื นเดิม ตวั อยา่ งความเครียดเฉียบพลนั ไดแ้ ก่  เสียง  อากาศเยน็ หรือร้อน  ชุมชนท่ีคนมากๆ  ความกลวั  ตกใจ

 หิวขา้ ว  อนั ตราย 2. Chronic stress ( ความเครียดเร้ือรัง ) เป็นความเครียดที่เกิดข้ึนทุกวนั และร่างกายไม่สามารถ ตอบสนอง หรือแสดงออกต่อความเครียดน้นั ในทนั ทีแลว้ หายไปแต่เมอ่ื นานวนั เขา้ ความเครียดน้นั กจ็ ะ สะสมมาก ข้ึนเร่ือยๆจนเป็นความเครียดเร้ือรัง ตวั อยา่ งความเครียดเร้ือรัง ไดแ้ ก่  ความเครียดที่ทางาน  ความเครียดท่ีเกิดจากความสมั พนั ธร์ ะหว่างบุคคล  ความเครียดของการอดทนอดกล้นั ต่อสิ่งท่ีไม่พงึ ประสงค์  ความเหงา ศัพท์เฉพาะ น้ามนั หอมละเหย คือ น้ามนั ท่สี กดั ไดม้ าจากพชื เช่น ส่วนดอก ใบ ผล ลาตน้ มาใชใ้ นการบาบดั ตามศาสตร์ สุคนธบาบดั (Aromatherapy) ซ่ึงหมายถงึ การบาบดั รักษา โดยการใชก้ ลิ่นหอมของสารหอมในพชื ไขถว่ั เหลอื ง คือ ไขท่ีสกดั จากพืชท่ผี ลิตจากน้ามนั ของถวั่ เหลืองโดยข้นั ตอนการผลติ เร่ิมตน้ ต้งั แต่ การเกบ็ เกีย่ ว ทาความสะอาดเมลด็ ถว่ั เหลอื งบบี อดั ใหแ้ ตกแลว้ รีดเมลด็ เพอื่ ใหไ้ ดน้ ้ามนั จากเมลด็ ถวั่ เหลอื ง จากน้นั จึงนา น้ามนั ถวั่ เหลอื งเขา้ เครื่องไฮโดรเจนเพ่ือแยกประเภทไขมนั ใหเ้ หลือแต่ไขมนั ท่ีสามารถแขง็ ตวั ไดใ้ นอณุ หภมู ิหอ้ ง สารสกดั ธรรมชาติ คือ เป็นสาระสาคญั (Active Compounds) ทีส่ กดั จากพชื แทจ้ ริงโดยออกฤทธ์ิเฉพาะทาง เท่าน้นั ดีมาก คือ ช่วยคลายเครียดได้ โดยกลิ่นไมฉ่ ุน ดี คือ ช่วยคลายเครียดไดแ้ ต่มกี ลิน่ ฉุน พอใช้ คือ ไม่สามารถคลายเครียดไดม้ ีเพยี งกลิ่นฉุน

บทที่3 วธิ ีการดาเนินการ แผนการปฏิบัตงิ าน 1.ระเบยี บวธิ ีทใี่ ช้ในการศึกษา ในการศึกษาใชร้ ูปบบการสืบคน้ ขอ้ มุลจากหนงั สือและอนิ เทอร์เน็ต การสอบถามจากครุท่ีปรึกษาการทา การทดลองท่ีวางแผนไว้ และหาขอ้ สรุปผลการศึกษา 2.ประชากร : ประชากร ประชากรที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ีเป็นนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5 โรงเรียนปัว ปี การศกึ ษา2564 จานวน จานวนภายใน1 หอ้ งเรียน เป็นนกั เรียนท้งั ส้ิน 4 คน : ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการศกึ ษา ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการศกึ ษา ในภาคเรียนที่1 ปีการศกึ ษา2564 3.วธิ กี ารดาเนินการศึกษา ผศู้ ึกษาไดด้ าเนินการตามข้นั ตอนดงั น้ี 3.1 กาหนดเร่ืองท่ีจะศกึ ษา โดยสมาชิกท้งั 4 คนประชุมร่วมกนั และร่วมกนั คิดและวางแผนว่าจะศึกษาเรื่อง ใด 3.2 เลือกเร่ืองที่จะศึกษา โดยเลอื กเร่ืองที่สมาชิกมีความสนใจมากที่สุดเพื่อเป็นรงจูงใจในการคน้ หาคาตอบ 3.3 ศกึ ษาแนวคดิ ที่เกี่ยวขอ้ ง 3.4 ต้งั ชื่อเร่ือง

3.5 สมาชิกท้งั 4 คนของกลุ่ม พบครุผสู้ อนเพือ่ ปรึกษา วางแผนและรับฟังความคกิ เห็นปรับปรุงแกไ้ ข 3.6 เขียนความสาคญั และความเป็นมาของปัญหา วตั ถปุ ระสงค์ สมมุติบาน ขอบเขตการศึกษาและประโยชน์ ที่คาดว่าจะไดร้ ับ โดยศึกษาขอ้ มูลจากหนงั สือวิทยาพนธแ์ ละสืบคน้ ขอ้ มลู จากอนิ เตอร์เนต็ และจดบนั ทึก โครงร่างรายงานเชิงวิชาการ 3.7 ทาการทดลอง/การประดิษฐ์ 3.8 บนั ทึกผลการทดลอง 3.9 สรุปผลการศึกษา 4.การทดลอง/การประดิษฐ์ 4.1 วสั ดุอุปกรณ์ 1) แกว้ เป๊ กแบบตรงสีใส ขนาด 1 oz 2) แกว้ กาแฟ ขนาด 8 oz 3) ไขถวั่ เหลอื งธรรมชาติ 70 กรัม 4) ไขปาลม์ 30 กรัม 5)น้ามนั หอมระเหย กลิ่น ไดแ้ ก่ กลนิ่ ลาเวนเดอร์ พีช ดอกกุหลาบ เปเปอร์ม้ินท์ อยา่ งละ 6) ชอ้ นสาหรับคน 7) สีไมกา้ ผสมเทยี นหอม ขนาด 2 กรัม ไดแ้ ก่ สีชมพูมุก สีม่วงเขม้ สีแดง สีละ 8) หลอดดดู สาร 9) ประดาส่ีเหลี่ยมเจาะรู 10) ไกรกรร

4.2 วิธีการทดลอง/ประดิษฐ์ 1.เตรียมแกว้ เป๊ ก ไสเ้ ทียนสาเร็จรูป ชอ้ นไมส้ าหรับคนสาร กล่ินสงั เคราะห์จากธรรมชาติท่ีตอ้ งใช้ ไขถว่ั เหลอื งและไขปาลม์ กรรไกร กระดาษแข็งรูปสี่เหลยี่ มเจาะรูตรงกลาง แกว้ น้าสแตนเลสที่ไมใ่ ชแ้ ลว้ และแกว้ พลาสติก 4 ใบ 2.ต้งั กระทะตม้ น้าแลว้ แบ่งไขถวั่ เหลอื งที่ผสมกบั ไขปาลม์ ลงในแกว้ สแตนเลสจานวนหน่ึงส่วนสี่ของ ท้งั หมด 3.พอน้าเริ่มจะเดือด เอาแกว้ สแตนเลสที่มไี ขปาลม์ และไขถว่ั เหลืองลงไปวางในน้าร้อนจากน้นั ค่อยๆ คนไปเล่ือยๆใหไ้ ขถวั่ เหลืองละลายจนเขา้ กนั ดี จากน้นั จึงตกั ใส่แกว้ พลาสติกในภาพใหอ้ นุ่ 4.ทาซ้าในข้นั ตอนที่สามจานวนสามคร้ัง 5.ใส่กลิ่นสังเคราะหธ์ รรมชาติโดยการใชห้ ลอดดดู สารดูดกล่นิ ลาเวนเดอร์ แลว้ บีบลงไปในแกว้ พลาสตกิ ใบท่ีหน่ึงบบี ลงไปกระประมาณหน่ึงใน 10จากน้นั จึงใส่สีสาหรับการทาเทียนหอมลงไปตามท่ตี อ้ งการจากน้นั จึงใชห้ ลอดคนใหเ้ ขา้ กนั แลว้ จึงเท ลงไปในแกว้ เป๊ กที่ไดใ้ ส่เทยี นสาเร็จลงไปแลว้ แลว้ จึงใชก้ ระดาษแขง็ ทีเ่ จาะรูตรงกลางมาลงเพื่อใหไ้ สเ้ ทียนต้งั ตรง แลว้ จึง นาเอาแกว้ เป๊ กไปพกั รอจนใหเ้ ทียนแขง็ ตวั 6.ใส่กล่นิ พชี และสีสงั เคราะหล์ งไปในแกว้ พลาสติกอีกหน่ึงในแกว้ พลาสติกอีกหน่ึงใบใส่กลนิ่ กหุ ลาบและสี สงั เคราะห์ลงไปในแกว้ พลาสติกใบสุดทา้ ย 7.ทาซ้าของแต่ละสีเหมือนกบั ในข้นั ตอนทหี่ า้

บทท4ี่ ผลการดาเนินการ จากการทดลองการทาเทียนหอมจากไขถว่ั เหลอื งโดยมนี ้ามนั หอมละเหยท่ีมีคุณสมบตั ิช่วยผอ่ นคลาย ความเครียดและอาการเหนื่อยลา้ ได้ผลการทดลองดงั นี้ ตารางผลการทดลอง เทียนหอมจากไขถั่วเหลือง พอใช้ กลน่ิ กหุ ลาย กล่นิ พีช และ กลนิ่ ลาเวนเดอร์ / กล่นิ กหุ ลาบ ดีมาก ดี / พชี / ลาเวนเดอร์

บทท่5ี สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการทดลอง/การศึกษา จากการทดลองเพือ่ เปรียบเทียบประสิทธิภาพของกล่นิ ของเทียนหอมไขถว่ั เหลืองท่ีทาใหค้ ลาย ความเครียดละผอ่ นคลายความเหนื่อยลา้ เน่ืองจากมนี ้ามนั หอมระเหยท่ีสกดั จากธรรมชาติมีคุณสมบตั ิในการ บาบดั และผอ่ นคลาย พบว่า กลน่ิ วาเวนเดอร์และกลนิ่ กหุ ลาบมปี ระสิทธิภาพมากกวา่ กล่นิ พชี 5.2 อภปิ รายผลการทดลอง/การศึกษา จากการทดลอง เมือ่ ทดลองจุดไสเ้ ทียนหอมทีละกลน่ิ ๆ ไปสกั พกั หน่ึง พอเทียนไขเริ่มละลายมี น้าตาเทียนก็เริ่มส่งกล่ินหอทเฉพาะตวั ออกมา โดยไดท้ ดสอบประสิทธิภาพของกลิ่นเทียนหอมแต่ละกลน่ิ กบั บุคคล 3 ท่านที่มอี าการเคร่งเครียดเม่ือไดส้ ูดดมกลน่ิ ท้งั 3 ผลปรากฏว่า บุคคลที่1 ชอบกลน่ิ กหุ ลาบมากที่สุด รองลงมากล่ินลาเวนเดอร์ และกลน่ิ พีช ตามลาดบั ,บุคคลท2ี่ ชอบกลิน่ ลาเวนแดอร์มากท่ีสุด รองลงมากลิ่น กหุ ลาบ และกลนิ่ พชี ตามลาดบั และ บุคคลที่3 ชอบกล่นิ กหุ ลาบและกลิ่นลาเวนเดอร์ มากท่ีสุด รองลงมา กลิน่ พีช และท้งั สามคนก็รู้สึกชอบและรู้สึกทาใหใ้ หค้ ลาความเครียดและรู้สึกผอ่ นคลายตามอนั ดบั ความชอบของแต่ ละคน 5.3 ข้อคดิ เหน็ /ข้อนาเสนอ 1.หากประดิษฐเ์ ทียนหอมไขถวั่ เหลืองมากกว่าน้ีก็จะสามารถนาไปขายได้ 2.เทียนหอมไขถว่ั เหลอื งเป็นไหมส้ ะอาด จึงช่วยใหผ้ อ่ นคลายไดด้ ีกวา่ เทียนหอมท่ีทาจากพาราฟิ น 3.ขอ้ เสียของเทียนท่ีทาจากไขถวั่ เหลืองผสมกบั ไขปาลม์ 70/30 คือ เซต็ ตวั ไดช้ า้ 4.การทาเทียนหอมดว้ ยไขถว่ั เหลอื งหรือไขปาลม์ ถอื วา่ เป็นตวั เลือกหน่ึงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม

บรรณานุกรม สานักงานบริหารและพฒั นาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ทีเคพาร์ค (TKpark)(2561:ออนไลน์)สืบคน้ 25 สิงหาคม 2564,จาก https://www.okmd.or.th/okmd- kratooktomkit/3320/Aromatic-Candle สถาบนั การแพทยแ์ ผนไทย(2550:ออนไลน)์ สืบคน้ 26 สิงหาคม 2564,จาก http://wwwlbo.moph.go.th/rxthai/rxthai/gen2.html?fbclid=IwAR0qp3TUZ9CNgkvL6g RWeiFCyLHQk2ouNmSfNGrdfFUUYrQX2rQ_AE9yXiI บริษทั แวลู อินดสั เตรียล โปรดกั ส์ จากดั (2563:ออนไลน์)สืบคน้ 28 สิงหาคม 2564,จาก http://www.vip.co.th/ Cosyegy แบรนสินคา้ แฮนเมด(2564:ออนไลน)์ สืบคน้ 29 สิงหาคม 2564,จาก https://th.cosyegy.com/whyusesoywax/ นางสาวชนกนนั ท์ หานศุภชิ น(2560:Facebook)สืบคน้ 30 สิงหาคม 2564,จาก https://sites.google.com/a/srp.ac.th/srp33070/khorng-ngan-keiyw-kab- khwamkheriyd?fbclid=IwAR3ZCFvLNjJKnSoKv4YK_2oSpO2E5u4m9_xfYD0S- bmTs0bty7UjbPV_Wng

ภาคผนวก




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook