12.2 แหล่งการเรียนรู้ 3.ห้องสมุด 1.หนงั ส่อื 2.อิเตอร์เน็ต 13) การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครือ่ งมือวดั และ เกณฑก์ าร ดา้ นความรู้ (K) วดั ผลและ ประเมนิ ผล วดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การ ประเมนิ ผล 1. ด้านความรู้ (K) สงั เกตการ แบบทดสอบการ ผา่ นเกณฑ์ นักเรยี นสามารถอธบิ ายวิธีการ ฝกึ ปฏิบัติ ปฏิบตั ิ ไมน่ อ้ ย ลูกจับบอลและวิธีการส่งและรับลูก กว่า 60 % แบบกระดอนได้อย่างถูกตอ้ ง นักเรียนมาร ถ บอกลักษณะ ของการเคล่ือนท่ี การยืน และการ ส่ ง -รั บ ลู ก ก ร ะ ด อ น ใ น กี ฬ า แฮนด์บอลไดถ้ กู ตอ้ ง ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการ เครอ่ื งมอื วดั และ เกณฑ์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วดั ผลและ ประเมนิ ผล การวดั การ ประเมนิ ผล 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) สงั เกตการ แบบประเมนิ การ ผ่าน นั ก เ รี ย น มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ ฝึ ก ฝกึ ปฏิบัติ ทากจิ กรรม เกณฑไ์ ม่ น้อยกว่า ทักษะการส่งและรับลูกกระดอนใน การฝกึ ทกั ษะได้ 60 % นั ก เ รี ย น มี ทั ก ษ ะ ก า ร
เคล่ือนไหวข้ันพ้ืนฐาน และจับบอล แ ล ะ สั ม ผั ส กั บ ลู ก แ ฮ น ด์ บ อ ล ใ น รูปแบบตา่ งๆได้ถูกตอ้ ง ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม (A) วธิ ีการ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วดั ผลและ เครอื่ งมือวดั และ เกณฑ์ การ ประเมนิ ผล การวดั ประเมนิ ผล 3. ดา้ นเจตคติ /คณุ ลักษณะฯ (A) สงั เกตการ แบบสังเกต ระดบั ฝกึ ปฏิบัติ พฤติกรรมการ คณุ ภาพ นักเรยี นนาทกั ษะจากการ และความ ทางานรวมกนั เปน็ ไม่น้อย เรียนรู้ และทาความคุ้นเคยท่ีฝึกใน กว่าระดบั คาบนี้ไปฝึกเพ่ิมเติมเพื่อพัฒนาการ มุง่ มัน่ ทีมและแบบ 2 ผ่าน เล่นของตนเองได้ ประเมินรายบุคคล เกณฑ์ นักเรียนนาทักษะไปฝึก เพ่ิมเติมเพื่อพัฒนาการเล่นให้กับ ตัวเองให้เกิดความชานาญแล้วมา สอนใหก้ ับเพ่อื นได้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ า แฮนดบ์ อล รหัสวชิ า พ21102 สาระการเรยี นรู้(พน้ื ฐาน/เพม่ิ เตมิ ) ภาคเรียนที่ 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ทกั ษะเบอ้ื งตน้ ของการเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อล เรือ่ ง ทักษะการเลย้ี งลกู แฮนดบ์ อล เวลา 2 ชวั่ โมง 1.มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ สาระท่ี ๓ การเคล่ือนไหวการ ออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา ตัวช้ีวัด ม. ๑/๒ เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและ ทีมโดยใชท้ กั ษะพ้ืนฐานตามชนิด กีฬา อย่างละ ๑ ชนิด 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการลูกเล้ียงบอลในรูปแบบต่างๆได้ อยา่ งถูกต้อง นักเรียนสามารถบอกลักษณะของการเคล่ือนที่ในการเลื่อนที่ การยืน และการส่ง-รับ ในเวลาทจี่ ากดั ในกฬี าแฮนด์บอลได้ถูกต้อง 2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนมีความสามารถปฏิบัติทักษะการเลี้ยงลูกแฮนด์บอลได้ อย่างถูกตอ้ ง นักเรียนมีความสามรถฝึกและปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวข้ัน พื้นฐาน และปฏิบัติทักษะการเลี้ยงบอลได้ถูกวิธีในรูปแบบต่างๆได้ ถกู ต้อง 3. ด้านเจตคติ /คณุ ลักษณะฯ (A)
นักเรียนเข้าและนาทักษะจากการเรียนรู้นาไปฝึกเพิ่มเติมเพื่อ สร้างความคุ้นเคยของการเลี้ยงบอลท่ีฝึกในคาบเรียนไปฝึกเพิ่มเติมเพ่ือ พฒั นาการเล่นของตนเองได้ นักเรียนมีทักษะการฝึกการเลี้ยงบอลเพ่ิมเติมเพื่อพัฒนาการ เลน่ ใหก้ ับตัวเองใหเ้ กิดความชานาญแลว้ มาสอนให้กับเพอ่ื นได้ 3 สาระสาคญั /แนวคดิ หลกั การเล้ียงลูกแฮนด์บอลคือทักษะที่สาคัญเพ่ือทาการครอบครอง ลกู แฮนด์บอลหรอื การใช้ในการหา พ้ืนท่ีการเล่นใหม่มากข้ึนรวมทั้งการ เคล่ือนท่ีอย่างไม่จากัดในการเคล่ือนที่เพ่ือการบุกทีมตรงข้ามและ สามารถใชใ้ นการรอจงั หวะเพื่อนในทีมเพื่อหาจังหวะในการเล่นท่ีดีและ สามารถใช้ในการดงึ เวลาเพื่อคยุ กบั เพอ่ื นในการเริ่มเล่นแผนต่างๆขณะ การเลน่ 4. สาระการเรยี นรู้ การเลยี้ งลูกแฮนดบ์ อล 1.การกดลูกลงสูพ่ ื้น 2.ตาแหนง่ ของร่างกายเวลาเลี้ยงลกู 3.การเปล่ยี นทิศทางและ การหยุด การเล้ียงลกู บอล เพ่ือหลบหลีกคู่แขง่ ผเู้ ลย้ี ง จะต้องใชม้ ือไดท้ ง้ั 2 ขา้ ง การเลยี้ งลกู บอลตา่ ลูกบอลจะอย่ใู นลกั ษณะต่า สงู ไมเ่ กินเอว ใชใ้ นการ เคลื่อนไหว รวดเร็ว และ หลบหลกี คตู่ ่อสู้ การเลย้ี งลกู บอลสงู ลูกจะสูงถงึ บรเิ วณหน้าอก ใช้ในการหาทิศทางการส่ง 5. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถในการแก้ปัญหาความสามารถในการใช้ ทกั ษะชีวิต 6.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ = แสดงออกถงึ การเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความสามัคคปี รองดอง ภูมิใจ เชิดชูความเปน็ ชาตไิ ทย ปฏบิ ตั ิตนตาม หลกั ศาสนาทตี่ นนับถือ และแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ ซ่อื สัตย์สจุ รติ = ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงทัง้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจรงิ ความถกู ต้อง มีวนิ ัย = ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบยี บ ข้อบังคับ ของช้ันเรียน ใฝ่เรยี นรู้ = แสดงออกถงึ ความตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี น และร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ทง้ั ภายใน และภายนอกโรงเรียน เลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม อยู่อย่างพอเพยี ง = ประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวงั อยู่ ร่วมกบั ผ้อู ืน่ ดว้ ยความรบั ผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผ้อู นื่ เหน็ คณุ คา่ ของ ตนเองและผู้อืน่ และพรอ้ มรบั การเปล่ียนแปลง ม่งุ มั่นในการทางาน = ตง้ั ใจปฏิบตั ิหน้าท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมายดว้ ย ความเพยี รพยายาม ทุ่มเทในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ ใหส้ าเร็จลุล่วง ตามเป้าหมายท่กี าหนดดว้ ยความรบั ผิดชอบ และมีความภาคภมู ิใจใน ผลงาน รกั ความเปน็ ไทย = มคี วามภาคภูมิใจ เหน็ คณุ ค่า ชื่นชม ใช้ ภาษาไทยในการสื่อสารอยา่ งถูกต้องเหมาะสม มีจิตสาธารณะ = เปน็ ผใู้ ห้และชว่ ยเหลอื ผ้อู นื่ เข้าใจ เหน็ ใจผ้ทู ่ีมี ความเดือดร้อน ไม่หวังส่ิงตอบแทน 7.จดุ เนน้ ส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ทกั ษะศตวรรษที่ 21 การเรยี นรู้ 3Rs 8Cs การอา่ น (Reading) การเขียน (Writing) การคดิ เลขเป็น (Arithmetic)
การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross- cultural Understanding) ทักษะด้านการสื่อสารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั สื่อ (Communication, Information, and Media) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning Skills) ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change Skills) ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี ความยืดหยุน่ และการปรับตัว การรเิ ริม่ สร้างสรรคแ์ ละการเป็นตัวของตวั เอง ทักษะสังคม และสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผู้ผลิต และความรับผดิ ชอบเชื่อถือได้ ภาวะผนู้ าและความรับผดิ ชอบ 8.คุณธรรมอัตลกั ษณ์ 5 ประการ พอเพียง ประมาณตน มเี หตุผล รอบคอบ ระมดั ระวงั อยู่รว่ มกับ ผ้อู น่ื ด้วยความรบั ผดิ ชอบ ไมเ่ บียดเบียนผ้อู ื่น เหน็ คณุ คา่ ของตนเองและ ผอู้ นื่ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง จิตอาสา เป็นผู้ให้และช่วยเหลือผ้อู นื่ เข้าใจ เหน็ ใจผู้ทม่ี ีความ เดือดรอ้ น ช่วยเหลือโดยไมห่ วงั สิ่งตอบแทน สามคั คี มีความสามคั คีปรองดอง มคี วามพร้อมเพรียงกัน เปน็ นา้ หนึ่งใจเดียวกัน
มวี ินัย ปฏิบัติตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ขอ้ บังคับ ของชัน้ เรียน รบั ผิดชอบ ต้งั ใจปฏบิ ัติหน้าท่ีท่ไี ด้รบั มอบหมายด้วยความเพียร พยายาม ให้สาเร็จลลุ ว่ งตามเปา้ หมายทีก่ าหนดด้วยความรับผิดชอบ 9. มาตรฐานสากล สอ่ื สารสองภาษา ลา้ หนา้ ทาง เปน็ เลศิ ทางวิชาการ ร่วมกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลก ความคิด ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์ 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.ขน้ั เตรยี ม 1.ให้นักเรียนจัดแถวตอน 4 แถวครูสารวจรายชือ่ นักเรียน = ครู = นกั เรยี น 2.อบอุ่นรา่ งกาย ( Warm – up ) โดยครูนานกั เรยี นยดื เหยยี ดกลา้ มเนื้อ ท่าที่1ยดื กลา้ มเนื้อบริเวณคอ - ยืนเท้าแยกกนั ประมาณชว่ งไหลต่ ามองไปขา้ งหน้าหมุน คอโดยเร่มิ จากหมนุ ไปด้านซ้ายกม้ หน้าลงหมุนไปดา้ นขวา เลยหน้าข้นึ เร่มิ จาก ทางซ้าย 10 ครั้ง ขวา 10 ครั้ง
ท่าที่ 2 หมุนหัวไหล่ - ยนื เท้าแยกกนั ประมาณช่วงไหลป่ ล่อยแขนตามสบายในลักษณะอยู่ ข้างลา ตวั ค่อยๆหมุนหัวไหลท่ ้ัง สองขา้ งไปดา้ นหน้า 10รอบ และสลับไปดา้ นหลัง 10รอบ ทา่ ท่ี 3 การยดื กล้ามเนอื้ หน้าท้อง - ยืนตัวตรงเทา้ แยกประมาณหนึ่งช่วงไหลจ่ ากน้ันประสานมือขึ้นเหนือ ศีรษะยดื ออกดา้ นบนให้รู้สกึ ตงึ แล้วค้างไว้ประมาณ 10วนิ าที ทา่ ที่ 4 ยืดกล้ามเน้ือบริเวณตน้ ข้างด้านหน้า
- ยนื บนเทา้ ขา้ งเดียวงอเขา่ เล็กน้อยเพอ่ื การสร้างความสมดลุ มือจบั หรือตน้ ขาปลายเท้าดงึ ขึ้นให้สน้ เท้าติดกัน คา้ งไวจ้ นรู้สึกตึงทหี่ นา้ ขา หากไมส่ ามารถทรงตัวกใ็ ห้มองตรงจุดใดจุดหนึง่ คา้ งไว้ 10 วินาท ท่าท่ี 5 ยนื เขย่งปลายเทา้ - เขยง่ ดว้ ยปลายเท้าขึ้นลง 10 คร้ัง ทา่ ท่ี 6 กระโดดตบ - ยืนตรงในท่าเตรียม กระโดดแยกเท้าพรอ้ มยกมือขึ้นตบเหนือศรี ษะ แลว้ กระโดดเทา้ ชดิ พร้อมเอามอื ลงกลับส่ทู ่าเตรียม 15 ครั้ง 2.ขัน้ สอน 1.ครูอธบิ ายและสาธติ การเลี้ยงลกู แฮนด์บอล
-การเล้ยี งลกู บอลตา่ -การเลี้ยงลกู บอลสงู 2.ครูอธิบายและสาธิตลักษณะการเลี้ยงในขณะส่งและรับลูกบอลโดยไม่ ใช้อปุ กรณ์ 3.ครูอธิบายและสาธิตลักษณะการเลี้ยงในขณะส่งและรับลูกบอลโดยใช้ อปุ กรณ์ 4.ครขู อตัวแทนนักเรียน 1 คนออกมาสาธิตทักษะท่ีถูกต้องให้เพ่ือนๆได้ ดู = ครู = นกั เรยี น 3.ขน้ั ฝกึ หดั 1.การเลย้ี งบอลตรง ใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็น 4 แถวเทา่ ๆกันแล้วเลย้ี งบอลโดยให้เล้ียง บอลในลักษณะการเลยี งบอลต่า ไปออ้ มกรวย เมอ่ื เลี้ยงกลับมาใหเ้ ลย้ี ง ในลักษณะเลยี้ งบอลสูง
CCC C CC ครู = นักเCรยี น = การเลย้ี งตา่ = การเลี้ยงสงู = 2.เลยี้ งบอลซกิ แซก ครูให้นักเรียนฝึกการเล้ี ยงลูกบอลแบบเคล่ือนที่โดยจะให้ นักเรียนเล้ียงลูกไปส่งให้เพื่อนที่ยืนอยู่กรวยถัดไป เป็นรูปฟันปลา และ เม่ือส่งถึงกรวยสุดท้ายให้คนที่รับบอลคนสุดท้ายเลี้ยงบอลกลับมาให้ เพื่อนในแถวแล้วต่อหลังเพื่อนในแถวถ้านักเรียนเริ่มเล้ียงบอลคล่องขึ้น และชนิ กบลั กบู อลแล้วใหเ้ ลยี้ งลูกให้เร็วขน้ึ CCCC C CC 4.ขนั้ ใช้ 1.ครสู งั่ นักเรียนต้ังแถว 4 แถว เท่าๆกนั แลว้ จดั แถวให้เรยี บร้อย 2.ครูให้นักเรียนทาการแข่งกันกัน โดยแบ่งทีมตามแถวท่ีนักเรียน ไดย้ นื อยู่ และใหย้ นื หา่ งกนั 1 เมตร
3.ครูให้นักเรียนแข่งขันกันโดยให้นักเรียนเลี้ยงบอลต่าและบอลสูง เลีย้ งซกิ แซก เพื่อนในแถวไปกลับ CC CC CC CC C CC C CC C C 4.เมือ่ ทีมทเี่ ล้ียงเสรจ็ แล้วใหน้ ักเรียนน่งั ลง 5.ขน้ั สรปุ 1.ครใู ห้นกั เรียนจดั แถว 4 แถวตอนลึก 2.ครูสมุ่ นักเรยี นออกมาอธบิ ายการเล้ียงจากที่เรยี นไป 3.ครสู รุป อธบิ ายข้อบกพร่องของนักเรยี นและชมเชยนกั เรยี นท่ี ปฏิบัตไิ ด้ดี 4.ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นได้ซกั ถาม 5.ครูนัดหมายการเรียนในคร้ังตอ่ ไปพรอ้ มกบั ดูการแต่งกายของ นกั เรยี น 6.ครใู หห้ ัวหน้าบอกเลกิ เรียนขอบคุณครูผู้สอน 11. สอ่ื การเรยี นรู้ 11.1 สอื่ /วสั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรียนรู้ 1.นกหวดี 2. นาฬกิ าจับเวลา 3. กรวย 4. ลูกแฮนด์บอล 12. แหลง่ การเรยี นรู้
12.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 3.หอ้ งสมุด 1.หนงั สื่อ 2.อเิ ตอร์เน็ต 13) การวดั และประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ (K)
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี าร เคร่ืองมอื วดั และ เกณฑก์ าร วดั ผลและ ประเมนิ ผล วดั การ ประเมนิ ผล 1. ด้านความรู้ (K) สังเกตการ แบบทดสอบการ ผา่ นเกณฑ์ นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการ ฝึกปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั ิ ไม่น้อย ลู ก เ ลี้ ย ง บ อ ล ใ น รู ป แ บ บ ต่ า ง ๆ ไ ด้ อย่างถกู ต้อง กวา่ 60 % นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ บ อ ก ลั ก ษ ณ ะ ของการเคลื่อนที่ ในการเล่ือนที่ การยืน และการส่ง-รับ ในเวลาที่ จากัด ในกีฬาแฮนด์บอลไดถ้ กู ตอ้ ง ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี าร เครื่องมอื วดั และ เกณฑ์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วดั ผลและ ประเมนิ ผล การวดั การ ประเมนิ ผล 2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) สังเกตการ แบบประเมนิ การ ผา่ น นักเรียนมีความสามารถปฏิบัติ ฝกึ ปฏบิ ัติ ทากิจกรรม เกณฑไ์ ม่ นอ้ ยกว่า ทั ก ษ ะ ก า ร เ ลี้ ย ง ลู ก แ ฮ น ด์ บ อ ล ไ ด้ เครอ่ื งมอื วดั และ อย่างถูกตอ้ ง ประเมนิ ผล 60 % นักเรียนมีความสามรถฝึกและ เกณฑ์ ปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไ หวขั้น การวดั พื้นฐาน และปฏิบัติทักษะการเล้ียง บ อ ล ไ ด้ ถู ก วิ ธี ใ น รู ป แ บ บ ต่ า ง ๆ ไ ด้ ถูกตอ้ ง ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม (A) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีการ วดั ผลและ
การ ประเมนิ ผล 3. ดา้ นเจตคติ /คณุ ลกั ษณะฯ (A) สังเกตการ แบบสังเกต ระดับ ฝกึ ปฏบิ ัติ พฤตกิ รรมการ คุณภาพ นักเรียนเข้าและนาทักษะจาก และความ ทางานรวมกันเป็น ไม่น้อย ก า ร เ รี ย น รู้ น า ไ ป ฝึ ก เ พิ่ ม เ ติ ม เ พื่ อ กว่าระดบั ส ร้ า ง ค ว า ม คุ้ น เ ค ย ข อ ง ก า ร เ ล้ี ย ง มุ่งม่ัน ทีมและแบบ 2 ผ่าน บ อ ล ที่ ฝึ ก ใ น ค า บ เ รี ย น ไ ป ฝึ ก ประเมินรายบุคคล เกณฑ์ เ พ่ิ ม เ ติ ม เ พ่ื อ พั ฒ น า ก า ร เ ล่ น ข อ ง ตนเองได้ นักเรียนมีทักษะการฝึกการ เล้ียงบอลเพ่ิมเติมเพื่อพัฒนาการ เ ล่ น ใ ห้ กั บ ตั ว เ อ ง ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม ชานาญแลว้ มาสอนให้กับเพื่อนได้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ า แฮนดบ์ อล รหสั วิชา พ21102 สาระการเรยี นรู้(พน้ื ฐาน/เพมิ่ เติม) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ทักษะเบื้องตน้ ของการเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อล เรอื่ ง ทักษะการยงิ ประตู เวลา 2 ชวั่ โมง 1.มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี ๓ การเคล่ือนไหวการ ออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า ตัวช้ีวัด ม. ๑/๒ เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและ ทมี โดยใช้ทักษะพื้นฐานตามชนดิ กีฬา อยา่ งละ ๑ ชนิด 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) นักเรยี นสามารถปฏบิ ัติทักษะการยิงประตูได้อยา่ งถูกต้อง นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะการยืนยิงและกระโดดยิงได้อย่าง ถูกตอ้ ง 2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนมีความสามารถในการปฏิบัติทักษะการยิงประตูได้ อยา่ งถกู ตอ้ ง นักเรียนมีความสามรถฝึกและปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวขั้น พื้นฐาน และปฏิบัติทักษะการยืนยิงและกระโดดยิงเลี้ยงได้ถูกวิธีใน รูปแบบตา่ งๆไดถ้ กู ต้อง 3. ด้านเจตคติ /คุณลกั ษณะฯ (A) นักเรียนเข้าและนาทักษะจากการเรียนรู้นาไปฝึกเพ่ิมเติมเพื่อ สร้างความคุ้นเคยของการยิงประตูท่ีฝึกในคาบเรียนไปฝึกเพ่ิมเติมเพื่อ พฒั นาการเลน่ ของตนเองได้ นักเรียนมีทักษะการฝึกยิงประตูเพิ่มเติมเพ่ือพัฒนาการเล่น ใหก้ บั ตวั เองใหเ้ กิดความชานาญแลว้ มาสอนให้กับเพื่อนได้ 3 สาระสาคัญ/แนวคดิ หลกั การยิงประตูในกีฬาแฮนด์บอลคือทักษะที่สาคัญเพ่ือใช้ในการ ทาคะแนนเพอ่ื ชยั ชนะการยิงประตูมีหลายรูปแบบทั้งการยืนยิงประตูและ การกระโดดยิงประตูแต่ละรูปแบบมีขั้นตอน และวิธีการใช้ท่ีต่างกันตาม สถานการณท์ ่ีเจอขณะแข่งขนั ในสนาม
4. สาระการเรยี นรู้ การยงิ ประตู การเขา้ ทาประตูฝา่ ยตรงข้ามมวี ธิ ีการและทกั ษะท่ีแตกตา่ งกัน ทงั้ นี้ขน้ึ อยกู่ บั สถานการณแ์ ละการตดั สินใจขอผูเ้ ล่น จึงแยกออกได้ดังนี้ การยนื ยงิ ประตู 1.การยนื ยงิ ประตอู ยูก่ บั ท่แี บบเหนอื ไหล่ 2.การยืนยิงประตอู ยกู่ ับทแี่ บบระดับไหล่ 3.การยนื ยงิ ประตูอยกู่ บั ท่แี บบเหว่ยี ง 4.การยนื ยงิ ประตอู ย่กู ับที่แบบตา่ การกระโดดยงิ ประตู 1.การกระโดดยงิ ประตูแนวดิง่ ดว้ ยเทา้ คู่ 2.การกระโดดยงิ ประตูแนวดิ่งดว้ ยขาข้างเดียวลูกจะสงู ถึงบรเิ วณ หน้าอก ใช้ในการหาทิศทางการส่ง 5. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการแก้ปัญหาความสามารถในการใช้ ทักษะชวี ิต 6.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ = แสดงออกถงึ การเป็นพลเมอื งดีของชาติ มคี วามสามัคคปี รองดอง ภมู ิใจ เชิดชูความเป็นชาติไทย ปฏบิ ตั ิตนตาม หลักศาสนาท่ตี นนับถอื และแสดงความจงรักภักดตี ่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ ซอื่ สัตย์สุจรติ = ประพฤติตรงตามความเป็นจริงท้ังทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจรงิ ความถูกตอ้ ง มีวนิ ยั = ปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ และระเบยี บ ข้อบงั คบั ของชน้ั เรียน ใฝเ่ รยี นรู้ = แสดงออกถงึ ความตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี น และร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรทู้ ั้งภายใน และภายนอกโรงเรียน เลอื กใช้ส่ืออย่างเหมาะสม
อยู่อย่างพอเพยี ง = ประมาณตน มเี หตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ ร่วมกับผู้อ่นื ด้วยความรบั ผดิ ชอบ ไม่เบียดเบยี นผู้อนื่ เห็นคณุ ค่าของ ตนเองและผู้อื่น และพร้อมรับการเปล่ียนแปลง มุ่งมน่ั ในการทางาน = ต้ังใจปฏิบัติหน้าทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมายดว้ ย ความเพยี รพยายาม ทุ่มเทในการปฏบิ ัติกิจกรรมต่างๆ ให้สาเร็จลลุ ว่ ง ตามเป้าหมายทก่ี าหนดด้วยความรบั ผิดชอบ และมีความภาคภมู ใิ จใน ผลงาน รักความเปน็ ไทย = มีความภาคภูมิใจ เหน็ คณุ ค่า ช่ืนชม ใช้ ภาษาไทยในการส่ือสารอย่างถูกต้องเหมาะสม มีจติ สาธารณะ = เปน็ ผู้ให้และชว่ ยเหลือผูอ้ น่ื เขา้ ใจ เห็นใจผู้ท่มี ี ความเดอื ดรอ้ น ไม่หวังส่ิงตอบแทน 7.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ทกั ษะศตวรรษท่ี 21 การเรียนรู้ 3Rs 8Cs การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การคดิ เลขเป็น (Arithmetic) การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross- cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นการสอื่ สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันสื่อ (Communication, Information, and Media)
ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning Skills) ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change Skills) ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชพี ความยืดหยุ่นและการปรบั ตวั การรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์และการเป็นตวั ของตัวเอง ทักษะสงั คม และสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผู้ผลิต และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ 8.คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ 5 ประการ พอเพียง ประมาณตน มเี หตุผล รอบคอบ ระมัดระวงั อยู่รว่ มกับ ผ้อู ื่นดว้ ยความรับผดิ ชอบ ไมเ่ บียดเบยี นผอู้ ื่น เห็นคณุ ค่าของตนเองและ ผู้อน่ื และพร้อมรับการเปลีย่ นแปลง จิตอาสา เป็นผใู้ หแ้ ละช่วยเหลอื ผู้อ่ืน เขา้ ใจ เหน็ ใจผ้ทู ี่มีความ เดอื ดร้อน ชว่ ยเหลือโดยไม่หวงั ส่งิ ตอบแทน สามคั คี มีความสามคั คีปรองดอง มคี วามพรอ้ มเพรยี งกนั เปน็ น้า หนงึ่ ใจเดยี วกัน มวี นิ ยั ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบงั คบั ของช้นั เรียน รับผดิ ชอบ ตงั้ ใจปฏบิ ัติหน้าท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมายด้วยความเพียร พยายาม ให้สาเร็จลลุ ่วงตามเปา้ หมายทก่ี าหนดดว้ ยความรับผิดชอบ 9. มาตรฐานสากล สอ่ื สารสองภาษา ลา้ หนา้ ทาง เปน็ เลศิ ทางวิชาการ รว่ มกนั รบั ผิดชอบตอ่ สงั คมโลก ความคิด ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.ขน้ั เตรยี ม
1.ใหน้ ักเรยี นจดั แถวตอน 4 แถวครูสารวจรายชือ่ นักเรียน = ครู = นักเรยี น 2.อบอุ่นรา่ งกาย ( Warm – up ) โดยครนู านักเรยี นยืดเหยยี ดกลา้ มเน้ือ ทา่ ที่1ยืดกลา้ มเน้ือบรเิ วณคอ - ยืนเทา้ แยกกัน ประมาณชว่ งไหล่ตามองไปข้างหนา้ หมุน คอโดยเริ่ม จากหมุน ไปดา้ นซ้ายก้ม หน้าลงหมุนไปด้านขวา เลยหน้าขน้ึ เรมิ่ จาก ทางซา้ ย 10 คร้ัง ขวา 10 ครั้ง ท่าท่ี 2 หมนุ หัวไหล่ - ยืนเทา้ แยกกันประมาณชว่ งไหลป่ ลอ่ ยแขนตามสบายในลักษณะอยู่ ข้างลา ตวั ค่อยๆหมุนหัวไหล่ท้ัง สองขา้ งไปดา้ นหน้า 10รอบ และสลับไปด้านหลัง 10รอบ
ทา่ ที่ 3 การยดื กล้ามเนื้อหนา้ ทอ้ ง - ยนื ตัวตรงเท้าแยกประมาณหน่ึงชว่ งไหลจ่ ากน้ันประสานมือข้ึนเหนือ ศีรษะยืดออกดา้ นบนให้รสู้ ึกตึง แลว้ คา้ งไวป้ ระมาณ 10วนิ าที ทา่ ท่ี 4 ยดื กล้ามเนื้อบริเวณต้นขา้ งดา้ นหนา้ - ยืนบนเทา้ ข้างเดียวงอเข่าเลก็ น้อยเพือ่ การสรา้ งความสมดลุ มือจบั หรอื ตน้ ขาปลายเท้าดึงขึ้นให้ส้น เท้าติดกัน คา้ งไวจ้ นร้สู ึกตงึ ท่ีหน้าขา หากไมส่ ามารถทรงตวั กใ็ หม้ องตรงจุดใดจดุ หนึ่ง ค้างไว้ 10 วนิ าท ทา่ ที่ 5 ยืนเขยง่ ปลายเท้า - เขย่งดว้ ยปลายเท้าข้นึ ลง 10 คร้ัง ทา่ ท่ี 6 กระโดดตบ
- ยนื ตรงในท่าเตรียม กระโดดแยกเท้าพรอ้ มยกมอื ขนึ้ ตบเหนอื ศีรษะ แลว้ กระโดดเทา้ ชดิ พร้อมเอามือลงกลับสูท่ า่ เตรียม 15 คร้ัง 2.ขน้ั สอน 1.ครูอธิบายและสาธิตทักษะการยิงประตู การยืนยิง และการกระโดดยิง ประตู 2.ครอู ธบิ ายและสาธิตทกั ษะการยนื ยงิ ประตู ได้แก่ -การยนื ยงิ ประตอู ยกู่ ับท่ีแบบเหนอื ไหล่ -การยืนยิงประตอู ยู่กบั ที่แบบระดับไหล่ -การยนื ยิงประตูอยู่กับท่แี บบเหวี่ยง -การยืนยงิ ประตอู ยูก่ บั ท่ีแบบตา่ 3.ครูอธิบายและสาธิตทักษะการกระโดดยิงประตู -การกระโดดยิงประตูแนวด่ิงดว้ ยเทา้ คู่ -การกระโดดยงิ ประตแู นวด่ิงด้วยขาขางเดียว = ครู = นักเรยี น 3.ขน้ั ฝกึ หดั การยงิ ประตู
1.ครใู ห้นกั เรียนจัดแถวตอนเป็น 4 แถว เท่ากนั หันหน้าเขา้ ประตู แล้วใหน้ ักเรยี นฝกึ การยงิ ประตูแบบยืนยิงด้วยทา่ ทางตา่ งๆดงั น้ีแลว้ วน ไปทางขวาตามลาดับโดยแถวที่ แถวท่ี 1 การยืนยิงประตอู ยกู่ ับที่แบบเหนอื ไหล่ แถวท่ี 2 การยืนยงิ ประตอู ยกู่ ับทีแ่ บบระดบั ไหล่ แถวที่ 3 การยนื ยิงประตูอยู่กับทีแ่ บบเหว่ยี ง แถวท่ี 4 การยืนยงิ ประตูอยกู่ บั ท่แี บบต่า 2.จดั นกั เรียนเป็น 2 แถวเทา่ กนั หันหน้าเขา้ ประตใู ห้นักเรยี นฝกึ การกระโดดยงิ ประตูโดยใหน้ ักเรยี นถือบอลและทาการกระโดดยงิ ประตู เองอาจมีการเล้ียงบอล 1 คร้ังเพื่อเป็นการเร่มิ ทักษะ - การกระโดดยิงประตแู นวดิ่งดว้ ยเท้าคู่ - การกระโดดยงิ ประตแู นวดิ่งดว้ ยขาข้างเดยี ว แถวท่ี 1 แถวที่ 2 แถวที่ 3 แถวท่ี 4
= ครู = นกั เรยี น 4.ขนั้ ใช้ 1.จัดนักเรียนออกเป็น 2 แถวเท่าๆกันหันหน้าเข้า หาประตูโดยให้ ทุกคนถือบอลคนละ1ลูกยกเว้น คนท่ี 1 ของแถวท่ี 1 โดยให้แถวตรง ขา้ มสง่ บอลให้ เพอ่ื นทีไ่ มม่ ีบอลสลับกนั 2.แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทีม ให้นักเรียนเล่นทีม แข่งขันกีฬา แฮนดบ์ อล = ครู = นกั เรยี น = การกระโดดยงิ /
5.ขนั้ สรปุ 1.ครูให้นกั เรียนจัดแถว 4 แถวตอนลึก 2.ครูสมุ่ นักเรียนออกมาอธิบายการยิงประตูจากท่ีเรยี นไป 3.ครูสรปุ อธิบายขอ้ บกพร่องของนักเรียนและชมเชยนกั เรียนท่ี ปฏบิ ตั ิไดด้ ี 4.ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นไดซ้ ักถาม 5.ครูนดั หมายการเรียนในครั้งต่อไปพรอ้ มกับดกู ารแต่งกายของ นักเรยี น 6.ครูใหห้ ัวหนา้ บอกเลิกเรยี นขอบคุณครผู ้สู อน 11. สือ่ การเรยี นรู้ 11.1 สอื่ /วสั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรยี นรู้ 1.นกหวีด 2. นาฬิกาจบั เวลา 3. กรวย 4. ลูกแฮนดบ์ อล
12. แหลง่ การเรยี นรู้ 12.2 แหลง่ การเรยี นรู้ วธิ กี าร เครื่องมือวดั และ เกณฑก์ าร 1.หนงั สื่อ วดั ผลและ ประเมนิ ผล วดั 2.อิเตอร์เนต็ 3.หอ้ งสมุด การ 4.หอ้ งพละ ประเมนิ ผล 13) การวดั และประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ (K) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) สงั เกตการ แบบทดสอบการ ผ่านเกณฑ์ นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะ ฝกึ ปฏิบัติ ปฏิบัติ ไมน่ อ้ ย การยิงประตไู ด้อยา่ งถูกตอ้ ง นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะ กว่า 60 % การยืนยิงและกระโดดยิงได้อย่าง ถูกต้อง ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี าร เครือ่ งมือวดั และ เกณฑ์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วดั ผลและ ประเมนิ ผล การวดั การ ประเมนิ ผล 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) สังเกตการ แบบประเมินการ ผ่าน นักเรียนมีความสามารถในการ ฝึกปฏิบัติ ทากจิ กรรม เกณฑไ์ ม่ นอ้ ยกว่า ปฏิบัติทักษะการยิงประตูได้อย่าง ถกู ต้อง 60 % นักเรียนมีความสามรถฝึกและ
ปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไ หวขั้น พื้นฐาน และปฏิบัติทักษะการยืนยิง แ ล ะ ก ร ะ โ ด ด ยิ ง เ ล้ี ย ง ไ ด้ ถู ก วิ ธี ใ น รปู แบบตา่ งๆไดถ้ กู ต้อง ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม (A) วธิ กี าร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วดั ผลและ เคร่อื งมือวดั และ เกณฑ์ การ ประเมนิ ผล การวดั ประเมนิ ผล 3. ดา้ นเจตคติ /คณุ ลักษณะฯ (A) สังเกตการ แบบสังเกต ระดบั ฝกึ ปฏิบัติ พฤติกรรมการ คุณภาพ นักเรยี นเขา้ และนาทักษะจาก และความ ทางานรวมกนั เปน็ ไม่น้อย การเรียนรนู้ าไปฝกึ เพมิ่ เติมเพ่ือ กว่าระดบั สรา้ งความคนุ้ เคยของการยงิ ประตู มงุ่ มัน่ ทมี และแบบ 2 ผ่าน ทฝี่ กึ ในคาบเรยี นไปฝึกเพิ่มเตมิ เพ่ือ ประเมนิ รายบุคคล เกณฑ์ พัฒนาการเลน่ ของตนเองได้ นั ก เ รี ย น มี ทั ก ษ ะ ก า ร ฝึ ก ยิ ง ประตูเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาการเล่น ให้กับตัวเองให้เกิดความชานาญ แล้วมาสอนใหก้ ับเพอื่ นได้
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ า แฮนดบ์ อล รหัสวิชา พ21102 สาระการเรยี นรู้(พน้ื ฐาน/เพมิ่ เตมิ ) ภาคเรยี นท่ี 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ทักษะเบอ้ื งตน้ ของการเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อล เรอื่ ง ทักษะการเปน็ ผรู้ กั ษาประตู เวลา 1 ชว่ั โมง 1.มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ สาระท่ี ๓ การเคล่ือนไหวการ ออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า ตัวชี้วัด ม. ๑/๒ เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและ ทมี โดยใชท้ กั ษะพนื้ ฐานตามชนิด กีฬา อยา่ งละ ๑ ชนิด 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ (K) นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ อ ธิ บ า ย ข อ ง ก า ร เ ป็ น ผู้ รั ก ษ า ป ร ะ ตู ไ ด้ อ ย่ า ง ถกู ต้อง นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ทั ก ษ ะ ก า ร เ ป็ น ผู้ รั ก ษ า ป ร ะ ตู ไ ด้ อ ย่ า ง ถกู ตอ้ ง 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนมีความสามารถในการปฏิบัติทักษะการเป็นผู้รักษา ประตูไดอ้ ย่างถกู ต้อง นั ก เ รี ย น มี ค ว า ม ส า ม ร ถ ใ น ก า ร ฝึ ก แ ล ะ ป ฏิ บั ติ ทั ก ษ ะ ก า ร เ ป็ น ผรู้ กั ษาประตูได้ 3. ดา้ นเจตคติ /คุณลกั ษณะฯ (A)
นักเรียนเข้าและนาทักษะจากการเรียนรู้นาไปฝึกเพ่ิมเติมเพ่ือ สร้างความคุ้นเคยของในการเป็นผู้รักษาประตูท่ีฝึกในคาบเรียนไปฝึก เพ่มิ เตมิ เพื่อพฒั นาการเล่นของตนเองได้ นั ก เ รี ย น มี ทั ก ษ ะ ก า ร เ ล่ น ท่ี ดี ยิ ง แ ล ะ ส า ม า ร ถ ฝึ ก เ พ่ิ ม เ ติ ม เ พื่ อ พัฒนาการเล่นให้กับตัวเองให้เกิดความชานาญแล้วมาสอนให้กับเพ่ือน ได้ 3 สาระสาคญั /แนวคิดหลกั ผู้ รั ก ษ า ป ร ะ ตู ใ น กี ฬ า แ ฮ น ด์ บ อ ล เ ป็ น ห น้ า ที่ ท่ี ห นึ่ ง ที่ มี ความสาคัญ และมีบทบทหน้าท่ีอย่างมาก ผู้ที่จะมาทาหน้าที่นี้ได้ต้องมี ความม่ันยา และสามารถกะระยะทาง ทิศทางของลูกบอลให้ดี ซึ่ง สามารถชานาญได้หากมีการฝึกฝนเป็นประจา โดยผู้รักษาประตูเองมี กตกิ าให้ศึกษามากมายหลายขอ้ ผู้ทที่ าหนา้ ท่ีน้ีต้องศกึ ษาอยา่ งระเอียด 4. สาระการเรียนรู้ การยงิ ประตู 1.จะส่งลกู เมื่อลกู บอลได้ขา้ มออกนอกเส้นประตู 2.การสง่ ลกู สามารถส่งไดเ้ ลย ไม่จาเปน็ ต้องฟังสัญญาณจาก นกหวีด จากภายในเขตประตูใหอ้ อกจากเส้นเขตประตู 3.ถ้าลูกบอลอยู่ในเขตประตู ผ้รู ักษาประตูต้องนาลูกบอลกลับสู่การ เล่นหรอื การแข่งขัน 4.ผูร้ กั ษาประตตู ้องไม่ถูกลกู บอลลกู นน้ั อีก เม่อื ทาการสง่ ลกู จนกวา่ ลกู บอลลูกนั้นไดส้ ัมผสั กบั ผ้เู ลน่ คนอืน่ ๆในสนาม 5. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใชท้ ักษะ ชีวิต 6.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ = แสดงออกถึงการเปน็ พลเมอื งดีของชาติ มีความสามัคคีปรองดอง ภมู ิใจ เชิดชูความเป็นชาติไทย ปฏบิ ัติตนตาม
หลักศาสนาทต่ี นนับถือ และแสดงความจงรกั ภักดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ ซือ่ สัตย์สุจรติ = ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงท้ังทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความจริง ความถกู ตอ้ ง มีวินัย = ปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคบั ของช้นั เรียน ใฝเ่ รยี นรู้ = แสดงออกถึงความตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น และรว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรทู้ ั้งภายใน และภายนอกโรงเรียน เลอื กใช้ส่ืออย่างเหมาะสม อยู่อย่างพอเพยี ง = ประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมดั ระวัง อยู่ ร่วมกบั ผูอ้ น่ื ด้วยความรบั ผิดชอบ ไมเ่ บียดเบียนผู้อนื่ เห็นคณุ ค่าของ ตนเองและผู้อื่น และพรอ้ มรบั การเปลีย่ นแปลง มุง่ ม่นั ในการทางาน = ตั้งใจปฏิบัตหิ น้าที่ทไี่ ด้รบั มอบหมายดว้ ย ความเพยี รพยายาม ทุ่มเทในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่างๆ ใหส้ าเร็จลุลว่ ง ตามเปา้ หมายทกี่ าหนดด้วยความรบั ผิดชอบ และมีความภาคภมู ใิ จใน ผลงาน รกั ความเปน็ ไทย = มีความภาคภูมิใจ เหน็ คุณคา่ ช่ืนชม ใช้ ภาษาไทยในการส่ือสารอยา่ งถูกต้องเหมาะสม มีจติ สาธารณะ = เปน็ ผ้ใู หแ้ ละชว่ ยเหลอื ผู้อื่น เข้าใจ เหน็ ใจผทู้ ีม่ ี ความเดือดร้อน ไม่หวังสิง่ ตอบแทน 7.จดุ เนน้ สูก่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ทักษะศตวรรษท่ี 21 การเรียนรู้ 3Rs 8Cs การอ่าน (Reading) การเขยี น (Writing) การคดิ เลขเป็น (Arithmetic) การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)
ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross- cultural Understanding) ทกั ษะด้านการสอ่ื สารสนเทศ และรู้เท่าทนั ส่ือ (Communication, Information, and Media) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning Skills) ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change Skills) ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชพี ความยดื หยนุ่ และการปรบั ตวั การริเรม่ิ สร้างสรรคแ์ ละการเปน็ ตวั ของตวั เอง ทกั ษะสังคม และสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเป็นผสู้ รา้ งหรือผ้ผู ลิต และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ ภาวะผนู้ าและความรับผดิ ชอบ 8.คณุ ธรรมอัตลกั ษณ์ 5 ประการ พอเพียง ประมาณตน มเี หตผุ ล รอบคอบ ระมัดระวัง อยูร่ ว่ มกับ ผ้อู น่ื ด้วยความรับผดิ ชอบ ไมเ่ บียดเบียนผอู้ น่ื เห็นคณุ ค่าของตนเองและ ผอู้ น่ื และพร้อมรับการเปลีย่ นแปลง จิตอาสา เป็นผใู้ หแ้ ละช่วยเหลอื ผอู้ ื่น เขา้ ใจ เหน็ ใจผู้ทม่ี คี วาม เดอื ดรอ้ น ชว่ ยเหลือโดยไม่หวงั ส่งิ ตอบแทน สามคั คี มีความสามัคคีปรองดอง มีความพรอ้ มเพรียงกัน เป็นน้า หนึ่งใจเดยี วกนั
มวี ินัย ปฏิบัตติ นตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ขอ้ บังคับ ของชัน้ เรียน รบั ผิดชอบ ตัง้ ใจปฏบิ ัติหน้าท่ีท่ไี ด้รบั มอบหมายด้วยความเพียร พยายาม ให้สาเร็จลลุ ว่ งตามเปา้ หมายทีก่ าหนดด้วยความรับผิดชอบ 9. มาตรฐานสากล สอ่ื สารสองภาษา ลา้ หนา้ ทาง เปน็ เลศิ ทางวิชาการ ร่วมกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลก ความคิด ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์ 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.ขน้ั เตรยี ม 1.ให้นักเรียนจัดแถวตอน 4 แถวครูสารวจรายชือ่ นักเรียน = ครู = นกั เรยี น 2.อบอุ่นรา่ งกาย ( Warm – up ) โดยครูนานกั เรยี นยดื เหยยี ดกลา้ มเนื้อ ท่าที่1ยดื กลา้ มเนื้อบริเวณคอ - ยืนเท้าแยกกนั ประมาณชว่ งไหลต่ ามองไปขา้ งหน้าหมุน คอโดยเร่มิ จากหมนุ ไปด้านซ้ายกม้ หน้าลงหมุนไปดา้ นขวา เลยหน้าข้นึ เร่มิ จาก ทางซ้าย 10 ครั้ง ขวา 10 ครั้ง
ท่าท่ี 2 หมนุ หัวไหล่ - ยืนเทา้ แยกกันประมาณชว่ งไหลป่ ลอ่ ยแขนตามสบายในลักษณะอยู่ ขา้ งลา ตวั ค่อยๆหมุนหวั ไหล่ท้ัง สองขา้ งไปด้านหน้า 10รอบ และสลับไปด้านหลัง 10รอบ ทา่ ที่ 3 การยดื กล้ามเนอ้ื หน้าทอ้ ง - ยืนตัวตรงเทา้ แยกประมาณหนึ่งชว่ งไหลจ่ ากน้ันประสานมอื ขน้ึ เหนือ ศรี ษะยืดออกดา้ นบนให้รูส้ กึ ตึง แล้วค้างไว้ประมาณ 10วินาที ท่าท่ี 4 ยดื กลา้ มเนื้อบรเิ วณตน้ ขา้ งดา้ นหนา้ - ยนื บนเท้าข้างเดียวงอเขา่ เล็กน้อยเพือ่ การสรา้ งความสมดลุ มอื จับ หรอื ต้นขาปลายเท้าดงึ ขึ้นให้ส้น เท้าติดกนั ค้างไวจ้ นร้สู ึกตงึ ทหี่ น้าขา หากไม่สามารถทรงตวั ก็ให้มองตรงจุดใดจดุ หนง่ึ ค้างไว้ 10 วินาท
ทา่ ที่ 5 ยืนเขยง่ ปลายเท้า - เขย่งดว้ ยปลายเทา้ ข้นึ ลง 10 คร้ัง ท่าที่ 6 กระโดดตบ - ยืนตรงในท่าเตรียม กระโดดแยกเท้าพรอ้ มยกมือขึน้ ตบเหนือศรี ษะ แลว้ กระโดดเทา้ ชดิ พร้อมเอามือลงกลับสทู่ ่าเตรียม 15 ครั้ง 2.ขน้ั สอน 1 . ค รู อ ธิ บ า ย แ ล ะ ส า ธิ ต ทั ก ษ ะ ก า ร เ ป็ น ผู้ รั ก ษ า ป ร ะ ตู ใ ห้ กั บ นั ก เ รี ย น ไ ด้ ดกู ่อน 2.ครอู ธิบายและสาธติ ทกั ษะการตาแหนง่ การยืนของผ้รู ักษาประตู 3.การเป็นผู้รักษาประตูต้องต้องคู่ไปกับการยิงประตู ฉะนั้น การเป็น ผรู้ ักษาประตูต้องร้แู ละเขา้ ใจกบั เพื่อนรว่ มทีมของตนเอง
= ครู = นกั เรยี น 3.ขนั้ ฝกึ หดั การเปน็ ผรู้ กั ษาประตู 1.ครใู ห้นักเรยี นจัดแถวตอนเป็น 4 แถว เท่ากนั ๆ 2.ครูใหค้ นหนา้ สุดไปผเู้ ปน็ ผู้รกั ษาประตู แล้วสลับกันหลงั จากเพื่อน คนท่ียงิ ประตูไปแลว้
3.ใหน้ กั เรยี นที่ไมไ่ ดเ้ ป็นผรู้ ักษาประตยู ิงโดยใช่ทกั ษะการยิงใน รปู แบบต่างๆทคี่ รไู ด้สอนไป 4.เม่ือนักเรียนที่ทาการยิงประตไู ปแลว้ ใหส้ ลบั กันไปเปน็ ผู้รกั ษา ประตูแทน = ครู = นกั เรยี น 4.ขน้ั ใช้ 1.จดั นกั เรยี นออกเป็น 2 แถวเทา่ ๆกันหนั หน้าเขา้ หาประตู 2.แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทมี ใหน้ ักเรียนแขง่ กันทาประตู
3.ทีมไดสามารถปอ้ งกันประตไู ด้มากสดุ ถงึ เปน็ ทีมทชี่ นะ 4.ครใู หน้ กั เรียนเล่นทีม = ครู = นกั เรยี น / 5.ขน้ั สรปุ 1.ครใู ห้นกั เรียนจดั แถว 4 แถวตอนลกึ 2.ครูสมุ่ นักเรียนออกมาอธบิ ายการยงิ ประตจู ากท่ีเรียนไป 3.ครูสรุป อธบิ ายขอ้ บกพร่องของนักเรียนและชมเชยนักเรยี นท่ี ปฏบิ ัติได้ดี 4.ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรยี นไดซ้ ักถาม 5.ครูนดั หมายการเรยี นในครงั้ ตอ่ ไปพรอ้ มกบั ดกู ารแต่งกายของ นกั เรียน 6.ครใู ห้หัวหน้าบอกเลิกเรียนขอบคณุ ครูผู้สอน 11. สอ่ื การเรยี นรู้ 11.1 สอ่ื /วสั ดุอปุ กรณก์ ารเรียนรู้
1.นกหวีด 2. นาฬิกาจับเวลา 3. กรวย 4. ลกู แฮนด์บอล 12. แหลง่ การเรยี นรู้ 12.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1.หนังสอื 2.อเิ ตอรเ์ นต็ 3.หอ้ งสมุด 4.ห้องพละ 13) การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมอื วดั และ เกณฑก์ าร ดา้ นความรู้ (K) วดั ผลและ ประเมนิ ผล วดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การ
ประเมนิ ผล 1. ดา้ นความรู้ (K) สงั เกตการ แบบทดสอบการ ผา่ นเกณฑ์ นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะ ฝกึ ปฏบิ ัติ ปฏิบตั ิ ไม่น้อย การยงิ ประตไู ด้อยา่ งถูกตอ้ ง นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะ กวา่ 60 % การยืนยิงและกระโดดยิงได้อย่าง ถกู ตอ้ ง ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี าร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วดั ผลและ เครื่องมอื วดั และ เกณฑ์ การ ประเมนิ ผล การวดั ประเมนิ ผล 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) สงั เกตการ แบบประเมนิ การ ผา่ น นักเรียนมีความสามารถในการ ฝกึ ปฏบิ ัติ ทากจิ กรรม เกณฑ์ไม่ น้อยกว่า ปฏิบัติทักษะการยิงประตูได้อย่าง ถกู ต้อง 60 % นักเรียนมีความสามรถฝึกและ ปฏิบัติทักษะการเคล่ือนไ หวข้ัน พื้นฐาน และปฏิบัติทักษะการยืนยิง แ ล ะ ก ร ะ โ ด ด ยิ ง เ ล้ี ย ง ไ ด้ ถู ก วิ ธี ใ น รปู แบบตา่ งๆไดถ้ ูกต้อง ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม (A) วธิ กี าร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วดั ผลและ เครื่องมอื วดั และ เกณฑ์ การ ประเมนิ ผล การวดั ประเมนิ ผล 3. ดา้ นเจตคติ /คณุ ลักษณะฯ สงั เกตการ แบบสังเกต ระดับ (A) ฝึกปฏบิ ัติ พฤตกิ รรมการ คุณภาพ และความ ทางานรวมกนั เปน็ ไม่นอ้ ย
นกั เรยี นเขา้ และนาทกั ษะจาก มุ่งมัน่ ทมี และแบบ กวา่ ระดับ การเรียนรนู้ าไปฝกึ เพ่ิมเติมเพื่อ ประเมนิ รายบุคคล 2 ผา่ น สรา้ งความคุ้นเคยของการยิงประตู ทฝี่ ึกในคาบเรยี นไปฝึกเพ่ิมเติมเพ่ือ เกณฑ์ พฒั นาการเล่นของตนเองได้ นั ก เ รี ย น มี ทั ก ษ ะ ก า ร ฝึ ก ยิ ง ประตูเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาการเล่น ให้กับตัวเองให้เกิดความชานาญ แล้วมาสอนให้กบั เพอ่ื นได้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ า แฮนดบ์ อล รหัสวิชา พ21102 สาระการเรยี นรู้(พนื้ ฐาน/เพม่ิ เติม) ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การเลน่ เปน็ ทีมของกีฬาแฮนดบ์ อล เรื่อง วธิ กี ารเลน่ เปน็ ทมี เวลา 2 ชวั่ โมง 1.มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหวการ ออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที กั ษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด ม. ๑/๒ เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและ ทีมโดยใชท้ ักษะพืน้ ฐานตามชนดิ กฬี า อย่างละ ๑ ชนดิ มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก าลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏบิ ตั ิเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิกฎ กติกา มีน้า ใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณใน การแข่งขันและช่นื ชมในสนุ ทรภี าพของกฬี า ตัวช้ีวัด ม.1/2.อธิบายสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ญั ญาท่ีเกิดจากการออก ก าลังกาย และเล่นกีฬา เปน็ ประจาจนเปน็ วถิ ีชวี ติ ม. 1/2.เลือกเขา้ ร่วมกจิ กรรมออกกาลังกายเล่นกีฬาตาม ความถนัดด้วยความสนใจ พร้อมทั้งวิเคราะห์ ความแตกต่างระหว่าง บุคคลเพือ่ เป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง ม.1/3.มีวินัย ปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการ เล่นกฬี าทีเ่ ลือก 4.วางแผนการรุกและป้องกันในการเล่นกีฬาท่ีเลือกและนาไปใช้ในการ เลน่ อย่างเหมาะสมกบั ทมี 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิทกั ษะการเลน่ เป็นทีมได้ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนมีความสามารถในการปฏิบัติทักษะการเล่นทีมได้อย่าง ถกู ต้อง นักเรียนมีความสามรถฝึกและปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวข้ัน พื้นฐาน และเขา้ ใจวธิ กี ารเล่นในรูปแบบตา่ งๆไดถ้ ูกตอ้ ง
3. ด้านเจตคติ /คุณลกั ษณะฯ (A) นักเรียนเข้าและนาทักษะจากการเรียนรู้นาไปฝึกเพิ่มเติมเพ่ือ พัฒนาการเลน่ ทมี เขา้ ใจในการเล่นทมี นักเรียนมีความตั้งใจเรียนมีระเบียบวินัยในการเรียน และมี ความสนกุ สนานตอ่ การเรียน นักเรียนสามารถแข่งขันกันด้วย น้าใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้ อภัย ได้ 3 สาระสาคญั /แนวคิดหลกั ใน 1 ทีม ทีมหน่ึงต้องส่งตัวผู้เล่น 12 คน (รวมผู้เล่นสารอง) และลงสนามได้ 7 คน คือ ผู้เล่น 6 คน ผู้รักษาประตู 1 คน โดยสามารถเปล่ียนตัวเข้าเล่นได้ทุกเวลา และ สามารถเปลีย่ นตวั กลบั เขา้ ในสนามใหมไ่ ด้ ผู้เล่นฝ่ายรกุ ประกอบด้วย 1. ตาแหน่งหลัง (Backs) ในการเล่นแฮนด์บอลถือว่าผู้เล่นกอง หลังเป็นหวั ใจและมันสมองของทีม ผู้เลน่ ใน ตาแหน่งน้ีจะต้องมีรูปร่างแข็งแรง มีประสบการณ์และความชานาญท่ีดี สามารถสง่ั การและบัญชาการเกมได้ 2. ตาแหน่งปีก (Wingers) จะต้องมีความเร็วคล่องตัวมี สมรรถภาพทางกายดี สามารถยิงประตไู ดอ้ ยา่ งแม่นยา โดยเฉพาะการยิงประตูทางมมุ แคบจากทางด้านข้าง 3. ตาแหน่งหน้า (Forward or line players) ต้องมีการสร้างสรรค์ เกมรุกด้านหน้า ต้องมีรูปร่างแข็งแรงบึกบึนและมีความคล่องตัวสูงการ ป้องกันในการเล่นแฮนด์บอลมีจุดมุ่งหมายคือป้องกันการท าประตูจาก ฝา่ ยทีไ่ ดค้ รอบครองลูก ทักษะป้องกนั พน้ื ฐานทส่ี าคัญมี 2 ประการ คอื 1. การป้องกนั แบบตัวต่อตัว 2. การป้องกันแบบทมี 4. สาระการเรยี นรู้ การเลน่ ทมี ใน 1 ทมี ทีมหนงึ่ ต้องส่งตวั ผูเ้ ลน่ 12 คน (รวมผู้เล่นสารอง) และลง สนามได้ 7คน คอื ผเู้ ลน่ 6 คน ผู้รักษา
ประตู 1 คน โดยสามารถเปลย่ี นตวั เขา้ เลน่ ไดท้ กุ เวลา และสามารถ เปล่ียนตวั กลบั เขา้ ในสนามใหม่ได้ผู้เล่นฝา่ ยรกุ ประกอบด้วย 1. ตาแหนง่ หลงั (Backs) ในการเล่นแฮนดบ์ อลถอื ว่าผู้เล่นกองหลงั เป็นหวั ใจและมันสมองของ ทมี ผูเ้ ลน่ ในตา แหนง่ นจ้ี ะต้องมี รูปร่างแข็งแรง มปี ระสบการณ์และความชานาญทด่ี ีสามารถสัง่ การและ บญั ชาการเกมได้ 2. ตาแหนง่ ปกี (Wingers) จะต้องมีความเร็วคล่องตวั มีสมรรถภาพทางกายดีสามารถยิงประตู ได้อยา่ งแมน่ ยา โดยเฉพาะการยิงประตทู างมุมแคบจากทางดา้ นขา้ ง 3. ตาแหนง่ หนา้ (Forwardor line players) ตอ้ งมีการสรา้ งสรรคเ์ กมรกุ ด้านหน้าตอ้ งมีรูปร่างแข็งแรงบึกบึนและ มคี วามคล่องตวั สูง 5. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการแก้ปญั หาความสามารถในการใช้ ทักษะชวี ิต 6.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ = แสดงออกถึงการเป็นพลเมอื งดีของชาติ มคี วามสามคั คปี รองดอง ภูมใิ จ เชดิ ชูความเปน็ ชาติไทย ปฏบิ ตั ิตนตาม หลกั ศาสนาท่ีตนนับถอื และแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ ซ่อื สัตย์สุจริต = ประพฤติตรงตามความเป็นจริงทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึดหลกั ความจรงิ ความถูกตอ้ ง มีวนิ ยั = ปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบงั คบั ของชัน้ เรียน
ใฝ่เรียนรู้ = แสดงออกถึงความต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียน และร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรทู้ งั้ ภายใน และภายนอกโรงเรียน เลือกใชส้ ่ืออย่างเหมาะสม อยอู่ ย่างพอเพียง = ประมาณตน มเี หตผุ ล รอบคอบ ระมัดระวงั อยู่ รว่ มกบั ผูอ้ น่ื ด้วยความรับผิดชอบ ไมเ่ บียดเบยี นผู้อนื่ เหน็ คณุ คา่ ของ ตนเองและผู้อื่น และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มุ่งมัน่ ในการทางาน = ต้ังใจปฏิบตั หิ น้าทที่ ีไ่ ดร้ บั มอบหมายดว้ ย ความเพียรพยายาม ทุ่มเทในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ให้สาเร็จลุล่วง ตามเปา้ หมายท่กี าหนดดว้ ยความรับผิดชอบ และมีความภาคภมู ใิ จใน ผลงาน รักความเปน็ ไทย = มีความภาคภูมิใจ เหน็ คณุ ค่า ช่ืนชม ใช้ ภาษาไทยในการส่ือสารอย่างถูกต้องเหมาะสม มีจติ สาธารณะ = เปน็ ผู้ให้และช่วยเหลอื ผู้อน่ื เขา้ ใจ เห็นใจผูท้ ่ีมี ความเดอื ดร้อน ไม่หวงั ส่ิงตอบแทน 7.จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ทักษะศตวรรษที่ 21 การเรยี นรู้ 3Rs 8Cs การอ่าน (Reading) การเขยี น (Writing) การคิดเลขเป็น (Arithmetic) การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross- cultural Understanding)
ทกั ษะด้านการสื่อสารสนเทศ และรู้เท่าทนั สื่อ (Communication, Information, and Media) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning Skills) ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change Skills) ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชพี ความยดื หยุน่ และการปรบั ตวั การรเิ ริ่มสร้างสรรคแ์ ละการเป็นตวั ของตวั เอง ทกั ษะสงั คม และสงั คมขา้ มวัฒนธรรม การเปน็ ผ้สู ร้างหรอื ผผู้ ลิต และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ 8.คุณธรรมอตั ลกั ษณ์ 5 ประการ พอเพียง ประมาณตน มีเหตผุ ล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่รว่ มกบั ผู้อื่นดว้ ยความรบั ผิดชอบ ไมเ่ บียดเบียนผูอ้ น่ื เห็นคณุ คา่ ของตนเองและ ผู้อืน่ และพร้อมรับการเปล่ียนแปลง จติ อาสา เป็นผใู้ ห้และชว่ ยเหลือผูอ้ น่ื เขา้ ใจ เหน็ ใจผู้ทีม่ ีความ เดือดรอ้ น ชว่ ยเหลือโดยไมห่ วังสง่ิ ตอบแทน สามคั คี มีความสามัคคีปรองดอง มีความพร้อมเพรียงกนั เป็นนา้ หนึง่ ใจเดยี วกนั มวี นิ ัย ปฏิบัตติ นตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบงั คับ ของชั้นเรียน รบั ผิดชอบ ตั้งใจปฏบิ ัติหนา้ ท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมายด้วยความเพียร พยายาม ให้สาเรจ็ ลุล่วงตามเปา้ หมายทกี่ าหนดด้วยความรบั ผดิ ชอบ 9. มาตรฐานสากล ส่อื สารสองภาษา ลา้ หนา้ ทาง เป็นเลศิ ทางวิชาการ รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสงั คมโลก ความคดิ ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1.ขนั้ เตรียม 1.ให้นักเรยี นจัดแถวตอน 4 แถวครูสารวจรายชอ่ื นักเรียน = ครู = นกั เรยี น 2.อบอุน่ รา่ งกาย ( Warm – up ) โดยครูนานักเรยี นยดื เหยียดกล้ามเนื้อ ทา่ ที่1ยืดกล้ามเนื้อบริเวณคอ - ยืนเท้าแยกกนั ประมาณชว่ งไหล่ตามองไปข้างหนา้ หมุน คอโดยเรม่ิ จากหมนุ ไปด้านซ้ายกม้ หนา้ ลงหมุนไปด้านขวา เลยหน้าขนึ้ เริ่มจาก ทางซ้าย 10 คร้ัง ขวา 10 ครั้ง ทา่ ที่ 2 หมนุ หัวไหล่ - ยืนเท้าแยกกนั ประมาณช่วงไหล่ปล่อยแขนตามสบายในลักษณะอยู่ ขา้ งลา ตวั ค่อยๆหมุนหัวไหล่ทั้ง สองข้างไปดา้ นหน้า 10รอบ และสลบั ไปดา้ นหลัง 10รอบ
ท่าท่ี 3 การยืดกล้ามเน้อื หน้าทอ้ ง - ยนื ตัวตรงเท้าแยกประมาณหน่ึงช่วงไหล่จากนั้นประสานมอื ข้นึ เหนอื ศีรษะยืดออกด้านบนให้รูส้ กึ ตึง แลว้ ค้างไวป้ ระมาณ 10วินาที ท่าท่ี 4 ยดื กล้ามเน้ือบริเวณตน้ ข้างด้านหน้า - ยนื บนเท้าขา้ งเดียวงอเข่าเลก็ น้อยเพอื่ การสร้างความสมดลุ มือจับ หรือต้นขาปลายเท้าดึงขึ้นให้ส้น เท้าติดกัน คา้ งไว้จนร้สู ึกตงึ ทห่ี น้าขา หากไม่สามารถทรงตวั กใ็ ห้มองตรงจุดใดจดุ หน่งึ ค้างไว้ 10 วนิ าท ทา่ ท่ี 5 ยืนเขยง่ ปลายเท้า - เขย่งดว้ ยปลายเทา้ ขึ้นลง 10 คร้ัง
ทา่ ที่ 6 กระโดดตบ - ยนื ตรงในท่าเตรียม กระโดดแยกเท้าพร้อมยกมือขนึ้ ตบเหนอื ศีรษะ แล้วกระโดดเทา้ ชดิ พร้อมเอามอื ลงกลับสทู่ ่าเตรียม 15 คร้ัง 2.ขนั้ สอน 1.ครูอธบิ ายและสาธิตการเล่นทมี อธบิ ายหนา้ ที่ของตาแหน่งตา่ งๆ 2.ครอู ธิบายการปอ้ งกนั ทง้ั 3 รปู แบบ -การปอ้ งกันแบบตัวต่อตวั -การป้องกันแบบทีม = ครู = นกั เรยี น 3.ขนั้ ฝกึ หดั การเล่นเร็ว
ให้ผู้เล่นส่งบอลให้ผู้รักษาประตูแล้วเล่นว่ิงไป เพื่อทาการบุกให้ผู้รักษา ประตูส่งบอลให้ผู้เล่น ผู้ เล่นรับบอลพร้อมทาการยิงประตู การบุก-รับ แบบทีม –การเล่นเร็วแบบ 1 คน –การเล่นเร็วแบบ 2 คน การเล่นทีม ครู ให้นักเรียนแบ่งทีม ทีมละ6คน(เฉพาะผู้เล่น) ให้แต่ละทีมจับคู่กัน ให้ทีม ที่1เป็นทีมฝ่ายรุก ให้ ทีมท่ี 2 เป็นทีมฝ่ายรับ ให้เวลา5นาที ให้ฝ่ายรุก พยายามบุกเพื่อทาประตแู ละทีมท่รี บั ก็พยายามปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ สียประตู ฝา่ ยรบั ฝา่ ยรกุ 4.ขนั้ ใช้ 1.การบุกแบบเลน่ เรว็ 1คน ให้ผ้เู ลน่ ตอ่ แถวอยู่ ด้านขา้ งประตูให้ผู้เล่น ถือบอลและส่งบอลให้ ประตูพร้อมกับวิ่งไปกลางสนามเพ่ือรับบอลจาก ประตู เมอ่ื รับบอลได้ให้เลยี้ งบอลกลับมาเพื่อทา การยิงประตู 2.แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทีม ให้นักเรียนเล่นทีม แข่งขันกีฬา แฮนดบ์ อล เล่นทมี = ครู = นกั เรยี น = การกระโดดยงิ /
5.ขน้ั สรปุ 1.ครูใหน้ กั เรียนจัดแถว 4 แถวตอนลึก 2.ครูสมุ่ นักเรยี นออกมาอธบิ ายการยงิ ประตจู ากท่ีเรียนไป 3.ครูสรปุ อธบิ ายขอ้ บกพร่องของนักเรียนและชมเชยนักเรยี นท่ี ปฏบิ ัตไิ ด้ดี 4.ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนไดซ้ ักถาม 5.ครูนดั หมายการเรียนในครัง้ ต่อไปพรอ้ มกับดกู ารแต่งกายของ นกั เรยี น 6.ครใู ห้หวั หนา้ บอกเลิกเรยี นขอบคุณครผู สู้ อน 11. สอ่ื การเรยี นรู้ 11.1 สอ่ื /วสั ดุอปุ กรณก์ ารเรียนรู้ 1.นกหวีด 2. นาฬิกาจับเวลา 3. กรวย 4. ลกู แฮนดบ์ อล 12. แหลง่ การเรยี นรู้ 12.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1.หนงั สอ่ื 2.อเิ ตอร์เน็ต
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118