แผนการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย วิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒ นางสาววาสนา ทองแดง
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 จัดทำโดย นางสาววาสนา ทองแดง เลขท่ี 23 เสนอ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พัชรีภรณ์ บางเขียว แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้เปน็ สว่ นหนึง่ ของรายวชิ าการจดั การเรียนรแู้ ละการจัดการช้นั เรยี น รหัสวิชา 1100301 คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจา้ พระยา
คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาไทย ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ จดั ทำข้ึนเพือ่ กำหนดหรอื วางแผนเร่อื งท่ีจะสอนอย่างเป็นระบบให้สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั ของกลุ่มของสาระการ เรียนรภู้ าษาไทย ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๑ แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วยเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้ แผนการจัดการเรียนรู้รายปีซึ่ง ประกอบด้วยมาตรฐานและตวั ชี้วัดกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย แผนการเรยี นรรู้ ายคาบท้ังหมด 3 แผน จัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย น้ำใส ครัวป่า และชีวิต ซึ่งแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ได้ระบุมาตรฐาน ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ หลากหลาย อันได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ การพัฒนาทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา และการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถาม ซึ่งแต่ละรูปแบบมีวิธีการจัดการเรียนการสอนที่แตกต่างกันแต่ ทั้งหมดนำมาซึ่งการบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีใบงานและเกณฑ์การวัดและประเมินผล เพื่อใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนว่าหลังจากเสร็จสิ้นการเรียน นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เนื้อหาสาระมากน้อยเพยี งใด ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ หรือไม่ ผู้จัดทำขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร.พัชรีภรณ์ บางเขียว เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้คำปรึกษา และคำแนะนำตลอดระยะเวลาการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการ เรียนรู้เล่มน้ีเป็นประโยชน์กับการจดั การเรยี นรู้ในห้องเรียน ทำใหผ้ เู้ รียนสามารถพฒั นาการเรียนรู้ได้อย่าง มีประสิทธภิ าพตอ่ ไป นางสาววาสนา ทองแดง ผจู้ ัดทำ
สารบัญ หนา้ เรือ่ ง 1 9 แผนการจดั การเรียนร้รู ายปี 14 ตารางโครงสร้างรายวิชา 25 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 นำ้ ใส 26 27 ใบงานท่ี 1 28 ใบงานท่ี 2 29 ใบงานที่ 3 30 ใบงานท่ี 4 31 ใบงานที่ 5 36 ใบงานที่ 6 44 ใบงานท่ี 7 45 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 ครวั ป่า 46 ใบงานท่ี 1 47 ใบงานที่ 2 51 ใบงานท่ี 3 ใบงานท่ี 4 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 ชวี ิตใหม่
1 แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาพ้นื ฐาน รหัสวิชา ท13101 รายวิชาภาษาไทย สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง จำนวน ๕ หน่วยกิต ครูผ้สู อน นางสาววาสนา ทองแดง ๑.มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่อื นำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชวี ิต และมนี สิ ยั รกั การอา่ น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณคา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปญั หา ในการดำเนินชีวติ และมนี สิ ัยรักการอา่ น ท ๑.๑ ป.๒/๑ อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองงา่ ย ๆ ไดถ้ ูกต้อง ท ๑.๑ ป.๒/๒ อธบิ ายความหมายของคำและข้อความทีอ่ ่าน ท ๑.๑ ป.๒/๓ ต้งั คำถามและตอบคำถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน ท ๑.๑ ป.๒/๔ ระบใุ จความสำคัญและรายละเอยี ดจากเรื่องท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๒/๕ แสดงความคดิ เห็นและคาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๒/๖ อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเร่ืองท่ีอ่าน ท ๑.๑ ป.๒/๗ อา่ นขอ้ เขียนเชิงอธิบาย และปฏบิ ัติตามคำสง่ั หรอื ข้อแนะนำ ท ๑.๑ ป.๒/๘ มีมารยาทในการอา่ น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียน เรอื่ งราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมี ประสิทธิภาพ ท ๒.๑ ป.๒/๑ คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด ท ๒.๑ ป.๒/๒ เขยี นเร่ืองส้ัน ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์
2 ท ๒.๑ ป.๒/๓ เขียนเร่ืองสน้ั ๆ ตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป.๒/๔ มมี ารยาทในการเขยี น มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ความคดิ และ ความรสู้ กึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ท ๓.๑ ป.๒/๑ ฟงั คำแนะนำ คำส่งั ทซ่ี บั ซ้อน และปฏิบตั ิตาม ท ๓.๑ ป.๒/๒ เลา่ เร่อื งทีฟ่ งั และดูท้งั ทีเ่ ปน็ ความร้แู ละความบันเทงิ ท ๓.๑ ป.๒/๓ บอกสาระสำคัญของเรอ่ื งทีฟ่ งั และดู ท ๓.๑ ป.๒/๔ ตง้ั คำถามและตอบคำถามเก่ยี วกับเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู ท ๓.๑ ป.๒/๕ พดู แสดงความคิดเหน็ และความร้สู ึกจากเร่ืองท่ีฟงั และดู ท ๓.๑ ป.๒/๖ พูดสอื่ สารไดช้ ัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ท ๓.๑ ป.๒/๗ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ท ๔.๑ ป.๒/๑ บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ท ๔.๑ ป.๒/๒ เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ ท ๔.๑ ป.๒/๓ เรียบเรียงคำเปน็ ประโยคได้ตรงตามเจตนาของการสอ่ื สาร ท ๔.๑ ป.๒/๔ บอกลกั ษณะคำคล้องจอง ท ๔.๑ ป.๒/๕ เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคณุ คา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ ท ๕.๑ ป.๒/๑ ระบุข้อคิดทีไ่ ดจ้ ากการอา่ นหรือการฟังวรรณกรรมสำหรบั เด็ก เพื่อ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ท ๕.๑ ป.๒/๒ รอ้ งบทร้องเลน่ สำหรับเด็กในท้องถน่ิ ท ๕.๑ ป.๒/๓ ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทร้อยกรองทีม่ ีคุณคา่ ตามความ สนใจ ๒.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ ความรู้ (K) ๑.นกั เรียนสามารถอธิบายการอา่ นออกเสยี งคำได้ (K) 2.นกั เรียนสามารถอธิบายการอ่านคำคลอ้ งจองได้ (K) 3.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการอ่านขอ้ ความได้ (K) 4.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองง่าย ๆ ได้ (K) 5.นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของคำได้ (K) 6.นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของขอ้ ความได้ (K) 7.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการตง้ั คำถามได้ (K) 8.นักเรยี นสามารถอธิบายการตอบคำถามได้ (K)
3 9.นกั เรียนสามารถระบุใจความสำคญั จากเรอ่ื งท่อี ่านได้ (K) 10.นกั เรยี นสามารถสรุปรายละเอยี ดจากเรือ่ งทอ่ี ่านได้ (K) 11.นักเรยี นสามารถอธบิ ายการคาดคะเนเหตกุ ารณไ์ ด้ (K) 12.นกั เรียนเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจได้ (K) 13.นักเรียนเลือกวธิ กี ารนำเสนอเรอ่ื งท่ีอ่านได้ (K) 14.นกั เรยี นสามารถบอกวธิ กี ารอา่ นขอ้ เขียนเชิงอธิบายได้ (K) 15.นกั เรียนสามารถบอกวิธีการอ่านขอ้ ปฏบิ ตั ติ ามคำสั่งได้ (K) 16.นกั เรยี นสามารถบอกวธิ กี ารอา่ นข้อแนะนำได้ (K) 17.นกั เรยี นสามารถอธิบายมารยาทในการอา่ นได้ (K) 18.นกั เรยี นสามารถยกตัวอยา่ งเรื่องส้นั ๆ เก่ยี วกับประสบการณไ์ ด้ (K) 19.นักเรยี นสามารถยกตัวอย่างเรื่องส้ัน ๆ ตามจนิ ตนาการได้ (K) 20.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายมารยาทในการเขียนได้ (K) 21.นกั เรยี นสามารถสรปุ การฟังคำแนะนำได้ (K) 22.นกั เรียนสามารถสรุปคำส่ังทีซ่ ับซ้อนได้ (K) 23.นักเรียนสามารถเลอื กเล่าเรอื่ งทีฟ่ ังทง้ั ทเี่ ปน็ ความร้แู ละความบันเทิงได้ (K) 24.นกั เรียนสามารถเลือกเรื่องทดี่ ทู งั้ ทีเ่ ป็นความรูแ้ ละความบนั เทิงได้ (K) 25.นักเรียนสามารถบอกสาระสำคญั ของเรื่องที่ฟังได้ (K) 26.นักเรียนสามมรถบอกสาระสำคญั ของเรอื่ งท่ีดูได้ (K) 27.นักเรียนสามารถอธิบายการตง้ั คำถามเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและดไู ด้ (K) 28.นกั เรยี นสามารถอธิบายการตอบคำถามเกยี่ วกับเรอ่ื งที่ฟังและดูได้ (K) 29.นกั เรยี นสามารถสรุปการพูดแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งท่ีฟังและดูได้ (K) 30.นกั เรยี นสามารถสรปุ ความรู้สกึ จากเร่อื งที่ฟังและดไู ด้ (K) 31.นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์การพูดสอื่ สารได้ชดั เจนตรงตามวัตถปุ ระสงค์ได้ (K) 32.นักเรียนสามารถบอกมารยาทในการฟัง การดู และการพูดได้ (K) 33. นักเรียนสามารถบอกพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทยได้ (K) 34.นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำได้ (K) 35.นักเรียนสามารถอธิบายการเรียงคำเป็นประโยคให้ได้ใจความที่ถูกต้องและตรงเจตนาของ การส่ือสารได้ (K) 36.นักเรียนสามมรถบอกความหมายของคำคลอ้ งจองได้ (K) 37.นักเรยี นสามารถเลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ (K) 38.นกั เรยี นสามารถเลือกใช้ภาษาถนิ่ ได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ (K) 39.นักเรียนสามารถระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับเด็ก เพื่อนำไปใช้ ในชวี ิตประจำวนั ได้ (K) 40.นักเรยี นสามารถวิเคราะหบ์ ทร้องเล่นสำหรับเด็กในท้องถิน่ ได้ (K) 41.นกั เรียนสามารถเลือกท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดได้ (K)
4 42.นกั เรยี นสามารถเลือกท่องจำบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจได้ (K) ๒.2 ทักษะ (P) 1.นักเรียนสามารถอา่ นออกเสยี งคำได้ถกู ต้อง (P) 2.นักเรียนสามารถอา่ นออกเสียงคำคลอ้ งจองได้ถูกต้อง (P) 3.นกั เรยี นสามารถอา่ นข้อความได้ถูกตอ้ ง (P) 4.นักเรียนสามารถอา่ นบทร้อยกรองงา่ ย ๆ ไดถ้ กู ต้อง (P) 5.นกั เรยี นมีสว่ นร่วมในการช่วยกันอธบิ ายความหมายของคำท่ีอ่าน (P) 6.นักเรียนมีสว่ นรว่ มในการช่วยกันอธิบายความหมายของข้อความที่อา่ น (P) 7.นักเรยี นเขยี นตงั้ คำถามเก่ียวกบั เร่อื งท่อี ่าน (P) 8.นกั เรียนตอบคำถามเก่ยี วกบั เรื่องท่อี า่ น (P) 9.นกั เรยี นมีส่วนรว่ มในการระบใุ จความสำคัญจากเร่อื งท่อี ่าน (P) 10.นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในการนำเสนอรายละเอยี ดจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน (P) 11.นักเรียนแสดงความคดิ เหน็ จากเรือ่ งท่อี ่าน (P) 12.นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการคาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรื่องทอ่ี า่ น (P) 13.นกั เรียนนำเสนอหนงั สอื ตามความสนใจจากเรื่องทอ่ี า่ น (P) 14.นักเรยี นนำเสนอเรื่องท่อี า่ น (P) 15.นกั เรยี นสามารถปฏิบตั ิตามการอา่ นขอ้ เขียนเชงิ อธิบายได้ (P) 16.นักเรียนสามารถปฏบิ ัตติ ามคำส่ังได้ (P) 17.นกั เรียนสามารถปฏิบัตติ ามข้อแนะนำได้ (P) 18.นักเรียนปฏิบัตติ ามมารยาทในการอ่านได้ (P) 19.นักเรียนคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัดได้ (P) 20.นักเรียนเขียนเร่อื งส้ัน ๆ เกยี่ วกบั ประสบการณไ์ ด้ (P) 21.นักเรยี นเขยี นเรอ่ื งสัน้ ๆ ตามจินตนาการได้ (P) 22.นกั เรยี นปฏบิ ตั ิตามมารยาทในการเขียนได้ (P) 23.นกั เรียนปฏิบตั ติ ามคำแนะนำได้ (P) 24.นกั เรียนปฏบิ ัติตามคำสัง่ ที่ซบั ซ้อนได้ (P) 25.นักเรยี นเขยี นเล่าเร่อื งทฟ่ี ังท้ังทเี่ ป็นความรู้และความบนั เทงิ ได้ (P) 26.นกั เรียนเขยี นเลา่ เร่ืองทีด่ ทู ง้ั ท่เี ปน็ ความรแู้ ละความบันเทิงได้ (P) 27.นกั เรยี นสามารถเปรียบเทียบสาระสำคัญของเรื่องที่ฟงั ได้ (P) 28.นกั เรียนสามารถเปรยี บเทยี บสาระสำคญั ของเรอ่ื งท่ีดไู ด้ (P) 29.นักเรียนมีสว่ นรว่ มในการต้งั คำถามเกี่ยวกับเร่อื งทฟี่ งั และดูได้ (P) 30.นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการตอบคำถามเก่ยี วกบั เร่ืองทฟี่ ังและดูได้ (P) 31.นักเรยี นสามารถนำเสนอการพูดแสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งท่ีฟงั และดูได้ (P) 32.นักเรยี นสามารถนำเสนอความรูส้ กึ จากเร่ืองท่ีฟังและดูได้ (P) 33.นกั เรยี นพูดสอ่ื สารได้ชัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงคไ์ ด้ (P)
5 34.นกั เรยี นแสดงออกในเร่ืองมารยาทในการฟงั การดู และการพดู ได้ถกู ต้อง (P) 35.นักเรียนสามารถเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทยได้ (P) 36.นักเรียนสามารถเขยี นสะกดคำได้ (P) 37. นักเรียนนำเสนอการเรยี บเรียงคำเป็นประโยคไดต้ รงตามเจตนาของการส่อื สารได้ (P) 38.นกั เรียนสามรถเขยี นคำคล้องจองได้ (P) 39.นักเรียนสามารถเขยี นภาษาไทยมาตรฐานได้เหมาะสมกับกาลเทศะ (P) 40.นักเรยี นสามารถเขยี นภาษาถิ่นได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ (P) 41.นักเรียนสามารถนำเสนอข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับเด็กเพื่อ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ (P) 42.นกั เรยี นสามารถรอ้ งบทร้องเล่นสำหรับเดก็ ในท้องถิ่นได้ (P) 43.นักเรียนสามารถทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดได้ (P) 44.นกั เรยี นสามารถท่องจำบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจได้ (P) ๒.3 ทัศนคติ (A) 1.นักเรียนมีความกระตอื รือร้นในการอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรอง (A) 2.นักเรยี นเหน็ คณุ ค่าของคำและขอ้ ความทอ่ี า่ น (A) 3.นักเรยี นเห็นประโยชน์ของการตง้ั คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกับเร่อื งที่อ่าน (A) 4.นักเรยี นเหน็ ความสำคญั ของการระบใุ จความสำคัญและรายละเอยี ดจากเร่ืองท่ีอา่ น (A) 5.นักเรียนเห็นความสำคญั ของการแสดงความคิดเห็นและการคาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองท่ีอ่าน (A) 6.นักเรียนเหน็ ประโยชนข์ องการอา่ นหนงั สอื และนำเสนอเร่อื งที่อ่าน (A) 7.นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ (A) 8.นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน (A) 9.นกั เรยี นช่นื ชมการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั (A) 10.นักเรยี นพึงพอใจกับการเขยี นเรอ่ื งสั้น ๆ เกยี่ วกับประสบการณ์ (A) 11.นักเรียนพงึ พอใจกับการเขียนเรอื่ งสนั้ ๆ ตามจนิ ตนาการ (A) 12.นักเรยี นมีมารยาทในการเขียน (A) 13.นักเรยี นเห็นความสำคัญของการฟังคำแนะนำ คำสัง่ ทซ่ี ับซอ้ นและปฏิบัติตาม (A) 14.นักเรียนพึงพอใจในการเล่าเร่อื งทฟ่ี งั และดูทง้ั ทเี่ ปน็ ความรแู้ ละความบนั เทิง (A) 15.นกั เรยี นมีความต้ังใจในการบอกสาระสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู (A) 16.นักเรยี นให้ความรว่ มมอื ในการตั้งคำถามและตอบคำถามเก่ยี วกบั เร่อื งที่ฟังและดู (A) 17.นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการพดู แสดงความคดิ เห็นและความรูส้ ึกจากเรือ่ งท่ีฟงั และดู (A) 18.นักเรียนใหค้ วามรว่ มมือในการพูดสอ่ื สารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ (A) 19.นกั เรียนมีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู (A)
6 20.นักเรยี นเหน็ ประโยชน์ในการเรยี นร้เู รอื่ งพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย (A) 21.นักเรยี นใหค้ วามร่วมมือในการเขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ (A) 22.นักเรยี นเห็นความสำคัญในการเรยี นเรื่องการเรียบเรียงคำเป็นประโยคไดต้ รงตามเจตนาของ การส่ือสาร (A) 23.นกั เรยี นมคี วามมงุ่ มน่ั ในการทำงานเรอ่ื งคำคลอ้ งจอง (A) 24.นักเรียนมีความตั้งใจในการเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับ กาลเทศะ (A) 25.นักเรียนมีความรับผิดชอบในการระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับ เด็ก เพอื่ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน (A) 26.นกั เรียนพึงพอใจต่อการร้องบทร้องเลน่ สำหรบั เดก็ ในท้องถิน่ (A) 27.นักเรียนเห็นความสำคัญของการท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และบทร้อยกรองที่มี คุณค่าตามความสนใจ (A) สาระสำคัญ ศึกษาการอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ อธิบายความหมาย ของคำและข้อความที่อ่าน ตั้งคำถามและตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ระบุใจความสำคัญและ รายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน แสดงความคิดเห็นและคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน อ่านหนังสือตาม ความสนใจและนำเสนอเรื่องที่อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเรื่องสั้น ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์และจินตนาการ ฟังคำแนะนำ คำสัง่ ทซ่ี บั ซ้อน และปฏบิ ัตติ าม เล่าเรอื่ งท่ีฟงั และดูทั้งทเ่ี ปน็ ความรู้และความบนั เทิง บอกสาระสำคัญของ เรื่องที่ฟังและดู ตั้งคำถามและตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก จากเรื่องที่ฟังและดู พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ เรียบเรียงคำเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของ การสื่อสาร บอกลักษณะคำคล้องจอง เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับเด็กเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ร้องบทร้อง เล่นสำหรบั เด็กในทอ้ งถ่ิน ท่องจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนด และบทร้อยกรองที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจ สาระการเรียนรู้ 1.การอา่ นออกเสยี งคำ คำคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทรอ้ ยกรองง่าย ๆ 2.การอธิบายความหมายของคำและขอ้ ความที่อา่ น 3.การตั้งคำถามและตอบคำถามจากเรื่องที่อา่ น 4.การระบุใจความสำคญั และรายละเอียดจากเร่อื งท่ีอา่ น 5.การแสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรื่องท่อี า่ น 6.การอ่านหนังสือตามความสนใจ 7.การอ่านขอ้ เขยี นเชงิ อธิบาย และปฏบิ ตั ติ ามคำส่งั หรือขอ้ แนะนำ 8.การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัดตามรูปแบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย 9.การเขียนเร่อื งส้นั ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์และจินตนาการ
7 10.การฟังและปฏิบตั ติ ามคำแนะนำ คำสง่ั ที่ซับซอ้ น 11.การเล่าเรอื่ งท่ีฟงั และดู ท้ังที่เปน็ ความรู้และความบนั เทงิ 12.การบอกสาระสำคัญจากเรือ่ งทฟ่ี ังและดู 13.การตัง้ คำถามและตอบคำถามจากเร่ืองท่ีฟังและดู 14.การพดู แสดงความคิดเห็นและความร้สู ึกจากเรอื่ งท่ีฟังและดู 15.การพดู สอื่ สารในชวี ติ ประจำวัน 16.พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย 17.ทบทวนหลกั การใช้ภาษาไทย ชน้ั ป.๑ 18.การแตง่ ประโยค การเรียบเรียงประโยคเป็นขอ้ ความสนั้ ๆ 19.คำคลอ้ งจอง 20.ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถน่ิ 21.วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพนื้ บ้าน 22.บทร้องเลน่ ทมี่ คี ุณค่า 23.บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองที่มคี ุณคา่
8 คำอธบิ ายรายวิชา อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ อธิบายความหมายของคำและ ข้อความทอ่ี า่ น ตั้งคำถามและตอบคำถามเก่ียวกับเร่อื งที่อ่าน ระบุใจความสำคญั และรายละเอียดจากเร่ือง ที่อ่าน แสดงความคิดเห็นและคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน อ่านหนังสือตามความสนใจอย่าง สมำ่ เสมอและนำเสนอเร่ืองท่ีอา่ น อ่านข้อเขียนเชิงอธบิ าย และปฏิบัตติ ามคำส่ังหรือข้อแนะนำ มีมารยาท ในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด เขียนเร่ืองสั้น ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนเรื่องสั้น ๆ ตาม จนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขียน ฟงั คำแนะนำ คำส่งั ที่ซบั ซ้อน และปฏบิ ัตติ าม เล่าเรือ่ งท่ฟี ังและดูทั้งท่ี เปน็ ความรู้และความบันเทิง บอกสาระสำคัญของเร่ืองที่ฟังและดู ตง้ั คำถามและตอบคำถามเก่ียวกับเรื่อง ที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรงตาม วัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลข ไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมาย ของคำ เรียบเรียงคำเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการ สือ่ สาร บอกลกั ษณะคำคลอ้ งจอง เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุ ข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับเด็ก เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ร้องบทร้องเล่น สำหรบั เดก็ ในทอ้ งถ่นิ ท่องจำบทอาขยานตามทีก่ ำหนด และบทร้อยกรองท่มี คี ุณค่าตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการเรียนภาษาได้แก่ ทำความเขา้ ใจสญั ลักษณ์ สรา้ งความคดิ รวบยอด ส่ือความ หมายความคิด พัฒนาความสามารถ กระบวนการปฏิบัติ ทักษะทางภาษา รวมถึงฝึกทักษะในสาระการ เรียนรู้ภาษาไทย ดา้ นการอ่าน การเขยี น ความสามารถในการฟงั ดู พูด เพื่อให้เกิดความเข้าใจหลักภาษา เกิดทักษะในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร เห็นคุณค่าและ ตระหนักถึงความสำคัญของการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันในการแก้ปัญหาและสร้าง ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเอง มีมารยาทในการอ่าน เขียน ฟัง ดูและพูด ก่อให้เกิดนิสัยรักการอ่าน มีความชนื่ ชม เห็นคุณคา่ ภมู ิปัญญาไทยและภูมิใจในภาษาประจำชาติ รหสั ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕, ป. ๒/๖, ป. ๒/๗, ป. ๒/๘ ท ๒.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔ ท ๓.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕, ป. ๒/๖, ป. ๒/๗ ท ๔.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕ ท ๕.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓ รวม 27 ตวั ช้วี ดั
9 ตารางโครงสร้างรายวิชา รายวิชาพืน้ ฐาน รหัสวิชา ท๑๓๑๐1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษา ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ จำนวน ๒๐๐ ชวั่ โมง/ ๕ หน่วยกติ มาตรฐาน เวลา (ชั่วโมง) การเรียนรู้/ตัวชี้วดั ๑ น้ำใส ๒๕ ๑.๑ การอา่ นออกเสียง ท ๑.๑ ป.๒/๑ ๙ - คำทมี่ รี ูปวรรณยกุ ต์และไม่มีรูปวรรณยุกต์ - คำท่ีมีตวั สะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา ท ๑.๑ ป.๒/๒ ๘ - คำทม่ี ีพยัญชนะควบกล้ำ ท ๔.๑ ป.๒/๔ ๘ ๑.๒ บอกความหมายของคำทอ่ี า่ นออกเสียง ท ๑.๑ ป.๒/๓ ๒๐ - คำที่มอี กั ษรนำ ท ๑.๑ ป.๒/๔ ๔ - คำทีม่ ตี วั การันต์ ท ๑.๑ ป.๒/๕ - คำทมี่ ี รร ท ๑.๑ ป.๒/๗ ๔ - คำที่มพี ยญั ชนะและสระทีไ่ มอ่ อกเสียง ๔ ๑.๓ บอกลกั ษณะคำคลอ้ งจอง - คำคล้องจอง ๓ ๒ ใจหาย ท ๑.๑ ป.๒/๘ ๑ ๕ ๒.๑ การต้งั คำถามและตอบคำถามจากเรื่องทอี่ ่าน ท ๔.๑ ป.๒/๑ 4 - นิทาน ท ๒.๑ ป.๒/๑ 1 - บทเพลงและบทรอ้ ยกรองง่ายๆ ๑๗ ๒.๒ การจับใจความสำคัญจากเร่อื งทีอ่ ่าน - นทิ าน - บทเพลงและบทร้อยกรองง่ายๆ ๒.๓ แสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องทีอ่ า่ น - นิทาน - บทเพลงและบทร้อยกรองง่ายๆ 2.4 การอ่านขอ้ เขียนเชิงอธิบายและปฏบิ ัตติ ามคำสงั่ - คำแนะนำการใช้เครื่องใช้ทจ่ี ำเปน็ ในบ้านและใน โรงเรยี น - การใช้สถานทีส่ าธารณะ ๒.5 มารยาทในการอา่ น ๓ ครวั ปา่ ๓.๑ บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๓.๒ คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั ๔ กลวั ทำไม
10 หน่วยที่ ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐาน เวลา (ช่ัวโมง) ๔.1 การเขยี นสะกดคำและบอกความหมาย การเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด - การสะกดคำการแจกลกู และการอา่ นเป็นคำมาตรา ท ๔.๑ ป.๒/๒ ๑๖ ตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา - คำทีม่ พี ยัญชนะควบกลำ้ ท ๒.๑ ป.๒/๔ ๑ - คำทีม่ ีความหมายตรงข้ามกนั ท ๓.๑ ป.๒/๑ ๑๒ - ความหมายของคำ ท ๓.๑ ป.๒/๒ ๑๒ ๒๑ ๔.2 มารยาทในการเขียน ท ๓.๑ ป.๒/๓ ๖ ๕ ชวี ติ ใหม่ ๕.๑ การฟงั และปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำคำสั่งท่ซี ับซ้อน ๗ ๖ มนี ้ำใจ ๖.๑ การเลา่ เรื่องทีฟ่ ังและดทู ัง้ ทีเ่ ป็นความรแู้ ละความบันเทิง ท ๓.๑ ป.๒/๔ ๗ - เรือ่ งเล่าและสารคดสี ำหรบั เด็ก ท ๓.๑ ป.๒/๗ ๑ - นิทานการ์ตนู และเร่อื งขบขัน ท ๕.๑ ป.๒/๒ ๖.๒ บอกสาระสำคญั ของเรอ่ื งท่ฟี งั และดู ๒๐ - รายการสำหรบั เดก็ ท ๓.๑ ป.๒/๖ ๒๐ - ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจำวนั ท ๒.๑ ป.๒/๒ - เพลง ท ๒.๑ ป.๒/๓ ๒๐ ๖.๓ การตงั้ คำถามและตอบคำถามจากเรอ่ื งที่ฟังและดู ๘ - เรือ่ งเล่าและสารคดสี ำหรบั เด็ก ๒ - นิทานการ์ตนู และเรอื่ งขบขัน ๒ - ขา่ วและเหตุการณ์ประจำวนั - รายการสำหรับเด็ก - เพลง 6.4 มารยาทในการฟังและดู สอบปลายภาค ภาคเรียนที่ ๑ ๗ นักคดิ สมองใส ๗.๑ รอ้ งบทร้องเลน่ สำหรับเดก็ ในท้องถ่ิน - บทรอ้ งเลน่ ในท้องถ่ิน - บทรอ้ งเลน่ ในการละเลน่ ของเด็กไทย ๘ โลกรอ้ น ๘.๑ การพดู สื่อสารในชีวิตประจำวนั - การเล่าประสบการณใ์ นชวี ติ ประจำวัน 8.2 การเขยี นเรอ่ื งสนั้ เกี่ยวกับประสบการณ์ - การเขียนสะกดคำพนื้ ฐาน 8.3 การเขยี นเรื่องสนั้ เก่ยี วกบั จนิ ตนาการ
11 หน่วยที่ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน เวลา (ชั่วโมง) การเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั - การเขยี นสะกดคำพื้นฐาน ๘.4 เลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ท๔.๑ป.๒/๕ ๘ - ภาษาไทยมาตรฐาน - ภาษาถิน่ ๙ รกั พอ่ รักแม่ ๑๐ ๙.๑ เรยี บเรยี งคำเป็นประโยคไดต้ รงตามเจตนาของการสื่อสาร ท ๔.๑ ป.๒/๓ ๑๐ - การแต่งประโยค - การเรยี บเรยี งประโยคเปน็ ขอ้ ความสั้นๆ ๑๐ เข็ดแล้ว ๑๐ ๑๐.๑ การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ ท ๑.๑ ป.๒/๖ ๑๐ - หนงั สอื ที่นกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วยั - หนังสอื ทีค่ รูและนกั เรยี นกำหนดรว่ มกนั ๑๑ เดก็ ดี ๒๐ ๑๑.๑ พดู แสดงความคิดเหน็ และความรสู้ กึ จากเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู ท ๓.๑ ป.๒/๕ ๑๐ - เรอื่ งเลา่ และสารคดสี ำหรบั เด็ก - นทิ านการต์ ูนและเรอ่ื งขบขัน - รายการสำหรับเด็ก - ขา่ วและเหตุการณ์ประจำวัน - เพลง 11.2 ระบุขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการอา่ นการฟังวรรณกรรมสำหรบั เดก็ ท๕.๑ป.๒/๑ ๑๐ - นิทานหรือเร่อื งในท้องถน่ิ - เรือ่ งสน้ั ง่ายๆปรศิ นาคำทาย - บทรอ้ ยกรอง - เพลงพ้นื บา้ น - เพลงกลอ่ มเด็ก - วรรณกรรมและวรรณคดใี นบทเรยี นและ ตามความ สนใจ ๑๒ ชาตขิ องเรา ๒๐ ๑๒.๑ ท่องจำบทอาขยานและบทร้อยกรองตามความสนใจ ท ๕.๑ ป.๒/๓ ๒๐ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด - บทร้อยกรองตามความสนใจ สอบปลายภาค ภาคเรยี นที่ ๒ รวม 200
12 แผนการจัดการเรียนรรู้ ายหนว่ ย
13 แผนการจัดการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 1
14 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 รายวชิ าภาษาไทย ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒๕ ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรื่อง น้ำใส ๑.มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้วี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพื่อนำไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาใน การดำเนนิ ชีวิต และมนี สิ ัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และ พลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ ตวั ช้วี ดั ท ๑.๑ ป.๒/๑ อา่ นออกเสยี งคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองงา่ ย ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง ท 1.1 ป.2/2 อธิบายความหมายของคำและขอ้ ความทอ่ี ่าน ท 4.1 ป.2/4 บอกลกั ษณะคำคล้องจอง ๒.จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) - นกั เรียนสามารถอธิบายการอ่านออกเสียงคำได้ - นักเรียนสามารถอธบิ ายการอา่ นคำคล้องจองได้ - นกั เรยี นสามารถอธิบายการอา่ นขอ้ ความได้ - นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ - นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของคำได้ - นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของขอ้ ความได้ - นักเรียนสามมรถบอกความหมายของคำคล้องจองได้ ด้านทักษะ (P) - นักเรยี นสามารถอา่ นออกเสียงคำได้ถูกต้อง - นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสยี งคำคล้องจองได้ถูกต้อง - นกั เรยี นสามารถอา่ นขอ้ ความได้ถกู ตอ้ ง - นักเรียนสามารถอา่ นบทรอ้ ยกรองง่าย ๆ ไดถ้ กู ต้อง - นักเรียนมสี ่วนร่วมในการช่วยกันอธบิ ายความหมายของคำที่อา่ น - นักเรียนมีส่วนร่วมในการช่วยกนั อธิบายความหมายของข้อความท่อี ่าน - นักเรียนสามารถเขยี นคำคลอ้ งจองได้ ด้านจติ พสิ ัย (A) - นักเรียนมคี วามกระตือรอื รน้ ในการอ่านออกเสยี งคำ คำคลอ้ งจอง ข้อความ และบทรอ้ ยกรอง
15 - นักเรียนเห็นคุณคา่ ของคำและขอ้ ความท่อี า่ น - นักเรยี นมคี วามมงุ่ มัน่ ในการทำงานเร่อื งคำคลอ้ งจอง ๓.สาระสำคัญ ศึกษาการอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ โดยประกอบด้วย คำที่มีรูปวรรณยุกต์และไม่มีรูปวรรณยุกต์ คำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา คำที่มี พยัญชนะควบกล้ำ คำที่มีอักษรนำ คำที่มีตัวการันต์ คำที่มี รร คำที่มีพยัญชนะและสระที่ไม่ออกเสียง คำคล้องจองและสามารถอา่ นออกเสียงคำได้ถกู ต้อง ๔.สาระการเรยี นรู้ 1.การอ่านออกเสยี งคำ คำคล้องจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองงา่ ย ๆ 2.กาอธบิ ายความหมายของคำและขอ้ ความที่อ่าน 3.บอกลกั ษณะคำคล้องจอง ๕.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (เฉพาะที่เกดิ ในหน่วยการเรยี นรนู้ )้ี ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๖.ทกั ษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น) ทกั ษะการอ่าน (Reading) ทักษะการ เขียน (Writing) ทักษะการ คดิ คำนวณ (Arithmetic) ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) ทักษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation) ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration , teamwork and leadership) ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding) ทกั ษะด้าน การสอ่ื สาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั สื่อ (Communication information and media literacy) ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing) ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change) ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Skills) ภาวะผู้นำ (Leadership)
16 ๗.ชน้ิ งานหรือภาระงาน ( หลักฐาน / รอ่ งรอยแสดงความรู้ ) ๗.๑ ใบงานท่ี ๑ การอา่ นออกเสียงคำทีม่ รี ูปวรรณยุกต์และไมม่ รี ูปวรรณยุกต์ ๗.๒ ใบงานท่ี ๒ การอา่ นออกเสียงคำทม่ี ตี ัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา ๗.๓ ใบงานท่ี ๓ การอา่ นออกเสียงคำที่มีพยัญชนะควบกลำ้ 7.4 ใบงานท่ี 4 บอกความหมายของคำทม่ี ีอกั ษรนำ 7.5 ใบงานที่ 5 บอกความหมายของคำทม่ี ตี วั การันต์ 7.6 ใบงานท่ี 6 บอกความหมายของคำท่ีมี รร 7.7 ใบงานท่ี 7 บอกความหมายคำท่ีมีพยัญชนะและสระที่ไม่ออกเสียง 7.8 ใบงานที่ 8 บอกลักษณะคำคล้องจอง 7.9 แบบทดสอบเกบ็ คะแนนประจำหนว่ ยการเรียนรู้ ๘.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบการจดั การเรียนการสอน : การเรียนรู้แบบรว่ มมอื หน่วยย่อยท่ี ๑ เรอื่ ง การอา่ นออกเสียง (ชวั่ โมงที่ ๑-๙) ขั้นที่ ๑ ขนั้ เตรยี ม 1.ครใู หน้ ักเรยี นจับค่ลู ะ 2 คน หรือ 3 คน 2.ครใู ห้นักเรียนจดแบบฝกึ หัดลงสมุดแบ่งหวั ข้อทจ่ี ะเรียนเป็นหวั ข้อยอ่ ย ๆ คอื คำที่มีรปู วรรณยุกตแ์ ละไม่มรี ปู วรรณยุกต์ คำท่ีมีตวั สะกดตรงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา และคำที่มี พยญั ชนะควบกลำ้ 3.อธบิ ายขน้ั ตอนการทำใบงานภายในเวลาท่ีกำหนด ข้ันที่ 2 ขน้ั สอน 1.ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรยี นและแนะนำเน้อื หาเกีย่ วกบั คำทีม่ ีรูปวรรณยุกตแ์ ละไม่มรี ูปวรรณยุกต์ คำทม่ี ี ตัวสะกดตรงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา และคำท่ีมีพยัญชนะควบกล้ำ 2.มอบหมายภาระงานให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มโดยใช้ใบงาน ภายในกลุ่มจะไดใ้ บงานท้งั หมด 3 ใบ แตล่ ะใบจะประกอบด้วยคำท่ีมรี ูปวรรณยกุ ตแ์ ละไม่มีรูปวรรณยุกต์ คำท่มี ีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ ตรงตามมาตรา และคำที่มีพยัญชนะควบกลำ้ 3.ครทู บทวนขนั้ ตอนการทำใบงานอยา่ งชัดเจน ข้ันท่ี 3 ข้นั ทำกจิ กรรมกลุ่ม 1.นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามใบงาน 2.ครคู อยสังเกตสถานการณก์ ารของการทำงาน 2.ครูคอยให้คำปรึกษาเม่ือนักเรยี นมีขอ้ คำถาม ข้นั ท่ี 4 ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ หลงั จากเสร็จสิน้ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมแลว้ ครูสรุปเรือ่ ง “การอ่านออกเสยี งในแต่ละประเภท” อีก ครง้ั หรืออาจมีการซกั ถามเป็นกลุม่ หรือรายบุคคลเพ่ือท่ีจะไดร้ วู้ า่ นกั เรยี นมีความเขา้ ใจมากน้อยเพยี งใด พรอ้ มท้งั ให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัดที่ครูกำหนด
17 รูปแบบการจดั การเรยี นการสอน : การเรียนร้แู บบร่วมมือ หน่วยยอ่ ยท่ี ๒ เร่ือง บอกความหมายของคำทอี่ ่านออกเสยี ง (ชั่วโมงที่ 10-17) ข้นั ที่ ๑ ข้ันเตรียม 1.ครใู ห้นกั เรยี นจบั กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน 2.ครใู หน้ กั เรยี นจดแบบฝกึ หัดลงสมุดแบ่งหวั ข้อทจ่ี ะเรียนเป็นหวั ข้อย่อย ๆ คอื คำที่มีอักษรนำ คำที่มตี วั การนั ต์ คำทีม่ ี รร และคำที่มีพยัญชนะและสระท่ีไม่ออกเสยี ง ให้เท่ากับจำนวนสมาชิกในกลุ่ม 3.อธิบายขน้ั ตอนการทำใบงานภายในเวลาที่กำหนด ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สอน 1.ครูนำเข้าส่บู ทเรยี นและแนะนำเนื้อหาเกี่ยวกับคำที่มีอกั ษรนำ คำทีม่ ีตัวการนั ต์ คำท่ีมี รร และ คำท่ีมีพยญั ชนะและสระทไี่ ม่ออกเสยี ง 2.มอบหมายภาระงานให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ โดยใชใ้ บงาน 3.ครทู บทวนข้นั ตอนการทำใบงานอยา่ งชัดเจน ข้นั ท่ี 3 ข้นั ทำกิจกรรมกลุม่ 1.นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ตา่ งแจกแจงใบงานที่ไดร้ บั มอบหมายและลงมอื ปฏบิ ตั ิ เชน่ คนที่ 1 ทำใบงานเร่ือง คำท่มี อี ักษรนำ คนท่ี 2 ทำใบงานเร่ือง คำทม่ี ีตวั การนั ต์ คนที่ 3 ทำใบงานเรื่อง คำทม่ี ี รร คนท่ี 4 ทำใบงานเรอ่ื ง คำทม่ี ีพยัญชนะและสระทีไ่ มอ่ อกเสยี ง ขน้ั ท่ี 4 ข้ันตรวจสอบผลงานและทดสอบ 1.หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติกจิ กรรมแลว้ ครูสรุปเรือ่ ง “การบอกความหมายของคำที่อ่านออก เสียง” อีกครง้ั หรืออาจมกี ารซกั ถามเปน็ กล่มุ หรือรายบุคคลเพ่ือทจี่ ะได้รวู้ า่ นักเรียนมีความเข้าใจมากน้อย เพียงใดพร้อมทง้ั ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั ที่ครูกำหนดและทำแบบทดสอบท้ายบทเรยี น รูปแบบการจดั การเรยี นการสอน : การเรียนรแู้ บบรว่ มมือ หนว่ ยยอ่ ยที่ 3 เร่อื ง บอกลกั ษณะคำคล้องจอง (ชัว่ โมงท่ี 18-25) ขั้นที่ ๑ ขั้นเตรยี ม 1.ครูให้นกั เรียนจบั คู่ คู่ละ 2 คน 2.ครูให้นักเรียนจดแบบฝึกหัดลงสมุดมอบหมายใบงานคำคล้องจองให้คู่ละ 1 ใบ มีทั้งหมด 8 ข้อ ใหน้ กั เรียนแบง่ จำนวนข้อออกเปน็ คนละ 4 ข้อ ข้ันท่ี 2 ข้ันสอน 1.นักเรียนแต่ละคศู่ กึ ษาในแตล่ ะขอ้ ท่ตี นเองเลอื ก 2.ครูทบทวนขั้นตอนการปฏบิ ตั ิอกี ครง้ั อยา่ งชดั เจน 3.ครใู ห้เวลาทำใบงานและฝึกอ่านภายใน 15 นาที
18 ข้ันที่ 3 ข้นั ทำกจิ กรรมกลมุ่ 1.นักเรียนแต่ละคู่ต่างพากันปรึกษากันและเลือกคำตอบมาเติมในแตล่ ะข้อพร้อมทั้งฝึกอ่านออก เสียงตามขอ้ ทต่ี นเองเลอื ก 2.เมื่อหมดทำใบงานและฝึกอ่าน ครูสุ่มเรียกคู่เพื่อเป็นตัวแทนในการอ่านออกเสียงให้เพื่อน ๆ ตา่ งกลุ่มฟัง 3.หลังจากที่ตัวแทนปฏิบัติกิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูสุ่มถามสมาชิกกลุ่มอื่น เพื่อเป็นการ ตรวจสอบว่านกั เรียนฟังเพ่ือนทกี่ ำลงั อ่านออกเสียงหรือไม่ ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ ตรวจสอบผลงานและทดสอบ 1.หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติกิจกรรมแล้ว ครูพูดคุยหรือซักถามกับนักเรียนถึงปัญหาหรือ กจิ กรรมในวันน้ีวา่ สนกุ หรือไมแ่ ละนำไปปรับใชอ้ ยา่ งไรไดบ้ ้าง 9. ส่ือการสอน 9.1 ใบงาน/แบบทดสอบ 9.2 สื่อการเรยี นการสอนประกอบการนำเสนอ powerpoint 10.แหลง่ เรยี นร้ใู นหรอื นอกสถานท่ี - 11. การวัดและประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ วี ดั ผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมิน นักเรียนสามารถอธิบายการอา่ นออก ตรวจใบงานท่ี 1 ใบงานที่ 1 เรอื่ ง 9-10 คะแนน= ดมี าก ระดบั พอใช้ขนึ้ ไปถือ เสยี งคำได้ เรอื่ งการอา่ นออก การอา่ นออก 7-8 คะแนน=ดี วา่ ผา่ น เสยี งคำทีม่ ีรปู เสยี งคำท่มี ีรูป 5-6 คะแนน=พอใช้ วรรณยุกตแ์ ละไม่ วรรณยุกตแ์ ละ 0-4 คะแนน=ปรับปรงุ มีรูปวรรณยุกต์ ไมม่ รี ูป วรรณยกุ ต์ นักเรียนสามารถอธิบายการอา่ นคำ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต 2-3คะแนน=ดี ระดับพอใช้ขึน้ ไปถอื คลอ้ งจองได้ ของนักเรยี นในการ พฤติกรรมการทำ 1 คะแนน=พอใช้ ว่าผา่ น ทำกิจกรรม กิจกรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรงุ นกั เรียนสามารถอธบิ ายการอ่าน ตรวจใบงานที่ 4 ใบงานที่ 4 เรื่อง 9-10 คะแนน= ดมี าก ระดับพอใชข้ ้นึ ไปถือ ขอ้ ความได้ เร่อื งอักษรนำ อกั ษรนำ 7-8 คะแนน = ดี ว่าผา่ น 5-6 คะแนน = พอใช้ นกั เรียนสามารถอธบิ ายการอา่ นออก สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต 0-4คะแนน=ปรบั ปรุง พฤตกิ รรมราย 3-4คะแนน=ดี ระดับพอใช้ขึ้นไปถอื เสยี งบทรอ้ ยกรองง่ายๆได้ ของนกั เรียนราย กล่มุ ในการทำ 1-2คะแนน=พอใช้ วา่ ผา่ น กจิ กรรม กลมุ่ ในการทำ 0 คะแนน=ปรบั ปรงุ กิจกรรม
19 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีวัดผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมิน นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมาย ระดบั พอใชข้ ึ้นไปถือ ของคำได้ ตรวจใบงานที่ 3 ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง 9-10 คะแนน= ดมี าก วา่ ผ่าน เรื่อง การอ่านออก นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมาย เสยี งคำท่ีมี การอา่ นออก 7-8 คะแนน = ดี ระดับพอใชข้ น้ึ ไปถอื ของขอ้ ความได้ พยญั ชนะควบกล้ำ เสยี งคำที่มี 5-6 คะแนน = พอใช้ วา่ ผา่ น พยัญชนะควบ 0-4คะแนน=ปรบั ปรงุ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของ ตรวจใบงานที่ 6 กลำ้ ระดบั พอใชข้ น้ึ ไปถือ คำคลอ้ งจองได้ เรื่อง บอก ว่าผา่ น ความหมายของคำ ใบงานที่ 6 เรอื่ ง 9-10 คะแนน= ดีมาก นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสียงคำได้ ทม่ี ี รร ระดับพอใชข้ ้นึ ไปถือ ถูกต้อง บอกความหมาย 7-8คะแนน=ดี วา่ ผ่าน สังเกตพฤตกิ รรม ของคำที่มี รร 5-6คะแนน=พอใช้ นักเรยี นสามารถอ่านออกเสยี งคำ ของนักเรยี นในการ ระดบั พอใชข้ ึ้นไปถอื คลอ้ งจองไดถ้ ูกตอ้ ง ทำกิจกรรม 0-4คะแนน=ปรบั ปรงุ วา่ ผ่าน นกั เรยี นสามารถอา่ นขอ้ ความได้ ตรวจใบงานที่ 2 แบบสังเกต 2-3คะแนน=ดี ระดับพอใช้ขึ้นไปถือ ถูกต้อง เรอ่ื งการอ่านออก พฤติกรรมการทำ 1 คะแนน=พอใช้ ว่าผ่าน เสียงคำท่ีมี กิจกรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรุง นกั เรียนสามารถอา่ นบทรอ้ ยกรอง ตวั สะกดตรงตาม ระดบั พอใช้ขึ้นไปถือ ง่ายๆไดถ้ กู ต้อง มาตราและไม่ตรง ใบงานที่ 2 เรือ่ ง 9-10 คะแนน= ดีมาก วา่ ผา่ น ตามมาตรา นักเรียนมสี ่วนรว่ มในการชว่ ยกัน สังเกตพฤติกรรม การอา่ นออก 7-8คะแนน=ดี ระดับพอใช้ขึ้นไปถือ อธบิ ายความหมายของคำท่อี ่าน ของนักเรยี นในการ เสยี งคำทม่ี ี 5-6คะแนน=พอใช้ ว่าผ่าน ทำกิจกรรม ตวั สะกดตรงตาม มาตราและไม่ 0-4คะแนน=ปรบั ปรงุ ตรวจใบงานท่ี 5 เรื่อง บอก ตรงตามมาตรา ความหมายของคำ ทม่ี ีตวั การันต์ แบบสังเกต 3-4คะแนน=ดี สังเกตพฤตกิ รรม พฤตกิ รรมการทำ 1-2คะแนน=พอใช้ ของนักเรียนในการ กจิ กรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรงุ ทำกิจกรรม ใบงานที่ 5เรอ่ื ง 9-10 คะแนน= ดีมาก ตรวจใบงานที่ 7 เรื่อง บอก บอกความหมาย 7-8คะแนน=ดี ความหมายคำท่ีมี ของคำทมี่ ตี ัว พยญั ชนะและสระ การันต์ 5-6 คะแนน = พอใช้ ทไี่ ม่ออกเสยี ง 0-4คะแนน=ปรบั ปรุง แบบสังเกต 2-3คะแนน=ดี พฤติกรรมการทำ 1 คะแนน=พอใช้ กิจกรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรุง ใบงานท่ี 7 เรือ่ ง 9-10 คะแนน= ดมี าก บอกความหมาย 7-8คะแนน=ดี คำท่ีมพี ยัญชนะ 5-6คะแนน=พอใช้ และสระท่ไี ม่ ออกเสยี ง 0-4คะแนน=ปรบั ปรงุ
20 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธีวัดผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ นักเรียนมีส่วนรว่ มในการช่วยกัน อธิบายความหมายของขอ้ ความที่ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต 3-4คะแนน=ดี ระดับพอใช้ขน้ึ ไปถือ อ่าน ของนกั เรียนราย พฤตกิ รรมราย 1-2คะแนน=พอใช้ ว่าผ่าน กลุ่มในการทำ กลุ่มในการทำ 0 คะแนน=ปรบั ปรุง นกั เรียนสามรถเขียนคำคลอ้ งจองได้ กิจกรรม กิจกรรม ระดบั พอใชข้ ึ้นไปถือ ว่าผา่ น นกั เรียนมีความกระตือรือร้นในการ ตรวจใบงานที่ 8 ใบงานที่ 8 เรอ่ื ง 9-10 คะแนน= ดีมาก อา่ นออกเสียงคำคำคล้องจอง เรอ่ื งคำคลอ้ งจอง คำคล้องจอง 7-8คะแนน=ดี ขอ้ ความและบทร้อยกรอง นกั เรยี นเหน็ คุณคา่ ของคำและ 5-6 คะแนน = พอใช้ ขอ้ ความท่ีอ่าน 0-4คะแนน=ปรบั ปรุง นักเรียนมีความมุง่ มน่ั ในการทำงาน เร่อื งคำคล้องจอง สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต 2-3คะแนน=ดี ระดับพอใช้ขน้ึ ไปถือ ของนักเรยี นในการ พฤติกรรมการทำ 1 คะแนน=พอใช้ วา่ ผ่าน ทำกจิ กรรม กิจกรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรุง สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต 3-4คะแนน=ดี ระดบั พอใช้ข้นึ ไปถือ ของนักเรียนในการ พฤติกรรมการทำ 1-2คะแนน=พอใช้ วา่ ผา่ น ทำกิจกรรม กิจกรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรุง สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต 3-4คะแนน=ดี ระดับพอใช้ขึ้นไปถือ ของนกั เรียนในการ พฤตกิ รรมการทำ 1-2คะแนน=พอใช้ วา่ ผา่ น ทำกิจกรรม กิจกรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรุง
21 แบบประเมนิ สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คำชแ้ี จง : ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสงั เกตพฤตกิ รรมทน่ี ักเรยี นปฏิบัติ รายการ สรปุ ผลการประเมนิ ให้ความรว่ มมอื มคี วามกลา้ ตรงตอ่ เวลา เลขที่ ชือ่ -สกุล ในการทำ แสดงออก กจิ กรรม 0 1 0 1 0 1 ผ่าน ไมผ่ ่าน ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมนิ (........................................................) ............./.........../................
22 แบบประเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมรายกลุ่ม คำชีแ้ จง : ใหท้ ำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสงั เกตพฤตกิ รรมทีน่ กั เรยี นปฏิบัติ รายการ สรปุ ผลการประเมิน ใหค้ วามรว่ มมอื มีความกล้า ตรงต่อเวลา เลขท่ี ชื่อ-สกลุ ในการทำ แสดงออก กจิ กรรม 0 1 0 1 0 1 ผา่ น ไมผ่ า่ น ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมนิ (........................................................) ............./.........../...............
23 12. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 13. บันทึกผลหลงั การสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน นกั เรียนท้ังหมดจำนวน.....................คน จุดประสงคก์ ารเรยี นร้ขู อ้ ที่ จำนวนนกั เรยี นทผี่ ่าน จำนวนนักเรยี นที่ไม่ผา่ น จำนวนคน ร้อยละ จำนวนคน รอ้ ยละ 1. 2. 3. 15. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. .. .
24 16. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... . ลงชือ่ ........................................................................ () ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ....................................... ลงช่อื ................................................................ หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ (………………………………………..) ความเห็นของหวั หน้าสถานศกึ ษา ไดท้ ำการตรวจแผนการเรียนรขู้ อง....................................................แล้วมคี วามคดิ เห็นดงั นี้ 1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม ยังไมเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป 3. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงชื่อ............................................................................................... ( ………………………………………………… ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน......................................................
25 ใบงานท่ี ๑ เร่อื ง “คำทีม่ ีรปู วรรณยกุ ต์และไม่มีรูปวรรณยกุ ต”์ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนฝกึ เตมิ คำท่ีมีวรรณยกุ ต์ พร้อมอา่ นออก เสยี ง 1.นำ้ โก โก่ โก้ 2.เสอ้ื ผา้ สวย สว่ ย 3.ปลาบู่ ทอ่ ง ทอง 4.กระ เป้า เปา๋ 5.เกา้ อี้ อี๋ 6.นก แกว แกว้ 7.นำ้ แฟน ตา ต้า 8.ถงุ เทา เทา้ 9.ไข่ ไก ไก่ 10.ต่อ สู สู้
ใบงานท่ี 2 26 เร่ือง “คำท่ีมตี ัวสะกดตรงตามมาตรา และไมต่ รงตามมาตรา” คำชแี้ จง จงนำคำท่กี ำหนดให้ในกรอบมาเตมิ ในชอ่ งวา่ งให้ถกู ต้อง พรอ้ มอา่ นออกเสียง ฉิ่ง กา้ ง ฆอ้ ง ขาน กาญ วนั นม บอล บญุ ฝัน บา้ น กง่ิ ปลา ขนนุ วาฬ รกั แคน เดอื น ลิ้น สาร นาน ร่ม อ่าน แกม้ คุณ เอว เหมือน มีด เปด็ แรด รถ อูฐ อิฐ เห็ด พัด คำทม่ี ีตวั สะกดตรงตามมาตรา คำท่มี ตี ัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา ........................................................... ................................................................. ........................................................... ................................................................. ............................................................ ................................................................. ........................................................... ................................................................. ........................................................... ................................................................. ........................................................... .................................................................
ใบงานที่ 3 27 เรอ่ื ง “คำท่ีมีพยญั ชนะควบกล้ำ” คำชแี้ จง : โยงเสน้ จบั คู่ภาพกับคำใหถ้ ูกต้อง พรอ้ มอา่ นออกเสยี ง 1. พระ 2. ครู 3. ไม้กวาด 4. ควาย 5. ปลา 6. ขลุ่ย
ใบงานท่ี 4 28 เรอื่ ง “อกั ษรนำ” คำชี้แจง : อ่านบทรอ้ ยกรองและเลอื กคำที่มี “ห” นำ และคำที่ มีอกั ษรนำ (มเี สียง อะ แตไ่ มม่ รี ปู ) เขียนลงในชอ่ งว่าง ไข่หวานคือขนม คนแอบชมอร่อยยิ่ง ใบหนา้ งดงามจรงิ หลายคำวิง่ หนีหมีดำ หมอไปไหนใหจ้ ดจำ ผา้ ไหมตดั ชมุ ใหม่ สินค้านำของชมุ ชน หมอนองิ ฉลาดทำ คำทม่ี ี “ห” นำ คำทมี่ ีเสยี ง อะ แตไ่ ม่มรี ปู อะ ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ...............................................................................
29 ตัวการันต์ คำชีแ้ จง : เตมิ พยัญชนะทมี่ ไี ม้ทัณฑฆาต ์ ของคำตอ่ ไปนี้และ เขียนคำอา่ น ตวั อยา่ ง อ่านว่า ประ – โหยด ประโยชน์ อา่ นวา่ 1.ดวงอาทิต อา่ นว่า 2.อศั จรร อา่ นว่า 3.มนษุ อา่ นวา่ 4.ภาพยน อา่ นว่า 5.โทรทศั อา่ นวา่ 6.ซอ่ื สัต อ่านว่า 7.มหศั จรร อา่ นวา่ 8.แพท
ใบงานที่ 5 30 เรือ่ ง “รร” คำชแี้ จง : เติมคำที่มี “รร” และมีความหมายตรงกบั คำทายลง ในช่องว่าง ธรรมชาติ ไม้บรรทดั คณะกรรมการ สรรหา กรรไกร 1.มีไว้ขีดเสน้ ไม่เอนไมเ่ อยี ง ................................................................................................ 2.ภูเขาลำธาร เบิกบานหวั ใจ ................................................................................................ 3.ไวต้ ดั กระดาษ ให้ขาดจากกัน ................................................................................................ 4.รวมกันเป็นหมู่ ช่วยดูชว่ ยทำ ................................................................................................ 5.อยากได้คนดี ปนี ีต้ ้องเลือก ................................................................................................
31 ใบงานที่ 6 เรอ่ื ง “คำที่มีพยญั ชนะและสระที่ไมอ่ อกเสียง” คำชแ้ี จง : เตมิ คำพยัญชนะหรอื สระท่ไี มอ่ อกเสยี งลงในชอ่ งว่าง ภูมิใจ สาเหตุ บตั รประชาชน อัศจรรย์ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ 1.เพียงแค่เดอื นเดยี วมีท้ังฤดหู นาว ฤดฝู น และฤดรู ้อน ช่างนา่ _______________ ใจจริงๆ 2.เรา __________________ ทเ่ี กิดเป็นคนไทย 3.นักเรยี นไดช้ ม ___________________ สารคดี จาก __________________ 4. __________________ ของโลกร้อนเชน่ การเผาขยะ ท่อไอเสยี เครอ่ื งปรบั อากาศ 5.ขั้วโลกซง่ึ อากาศเย็นจดั จนกระทง่ั น้ำใน __________________ กลายเปน็ นำ้ แข็ง 6.คณุ พ่อนำ __________________ ไปเปน็ หลักฐานเพอ่ื ใช้ สทิ ธลิ์ งคะแนนเสยี งเลือกตั้ง
32 ใบงานท่ี 7 เรอ่ื ง “คำคลอ้ งจอง” คำชแ้ี จง : เติมคำคลอ้ งจองทป่ี ระสมดว้ ยเสียงสระ เ-อ ใหม้ ี ความหมาย และฝกึ อา่ น เงย เกิด เปิด เพม่ิ เธอ เตย เจอ เดนิ 1.พบ....................................... 2...................................................ฉัน 3.วัน....................................... 4.............................................เทอม 5.....................................................ให้ 6.ใบ...................................... 7..................................................หน้า 8.ทา่ ......................................
แบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น 33 คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องท่ีสุด 1.วรรณยกุ ต์แบง่ ออกเป็นกี่ชนิด ก.2 ชนิด ข.3 ชนิด ค.4 ชนิด ง.5 ชนิด 2.รูปวรรณยกุ ต์มีท้ังหมดกี่รูป ก.3 รปู ข.4 รูป ค.5 รูป ง.6 รูป 3.คำในข้อใดอย่ใู นมาตราตัวสะกดแม่กนทั้งหมด ก.การ หนู วาฬ ข.เจริญ กาล พณิ ค.นก สญู งาน ง.โบราณ สาร พิษ 4.คำในข้อใดออกเสียงตัวสะกดเหมือน คำว่า “พรรค” ก.ลาภ ข.ชาติ ค.มิตร ง.เลข 5.คำในข้อใดเปน็ คำควบกลำ้ แท้ ก.ทราย ข.สรา้ ง ค.จริง ง.กรวด 6.ขอ้ ใดเปน็ คำควบกล้ำ ก.หวาน ข.ปลูก ค.ตวาด ง.ตลาด 7.ข้อใดอา่ นถูกต้อง ก.หลบั อ่านวา่ หะ-ลบั ข.อยู่ อา่ นวา่ อะ-ยู่ ค.ผนวช อ่านวา่ ผะ-หนวด ง.ถนน อา่ นวา่ ถะ-นน 8.คำในข้อใดมวี ธิ กี ารออกเสียงต่างจากพวก ก.จรวด ข.อยู่ ค.ใหญ่ ง.หนาว 9.พระลัก_______ จงเตมิ ตัวการันต์ใหถ้ กู ต้อง ก.ษณ์ ข.ณ์ ค.ษ์ ง.ษมณ์ 10.สปั ดา____หนึ่งมี 7 วัน คือ ต้ังแต่วนั จนั ____ถึงวันอาทติ ____ จงเติมตัวการันตใ์ ห้ถกู ต้อง ตามลำดับ ก.ษ,์ ทร,์ ย์ ข.ษ,์ ร,์ ย์ ค.ห์, ทร,์ ย์ ง.ห,์ ร,์ ย์
34 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงาน ประเดน็ การประเมนิ คะแนน 9-10 (ดีมาก) 7-8 (ด)ี 5-6 (พอใช้) 0-4 (ปรบั ปรุง) ผลงานไม่สอดคลอ้ งกับ 1.ผลงานตามจดุ ประสงค์ ผลงานมีความ ผลงานมีความ ผลงานมคี วาม เน้อื หาทเี่ รยี น สอดคล้องกับ สอดคลอ้ งกบั สอดคล้องกับ จุดประสงค์ของเน้ือหา จุดประสงค์ของ จดุ ประสงคข์ อง ท่ีเรียนทกุ ประเดน็ เน้ือหาท่ีเรียนเปน็ เนือ้ หาทเี่ รยี นบาง สว่ นใหญ่ ประเดน็ 2.ผลงานมคี วามถูกต้อง เนื้อหาสาระถูกตอ้ ง เนอื้ หาสาระถูกต้อง เนือ้ หาสาระถกู ตอ้ ง เน้ือหาสาระไมถ่ กู ต้อง สมบรู ณ์ ครบถว้ น เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางประเด็น กับเนอื้ หาทเ่ี รียน 3.ผลงานมีความเปน็ ผลงานมีความเปน็ ผลงานมีความเปน็ ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานไม่มคี วามเป็น ระเบยี บเรยี บรอ้ ย ระเบียบเรยี บร้อยนา่ ระเบียบเรยี บร้อยแต่ ระเบียบเรยี บรอ้ ยแต่ ระเบียบเรยี บรอ้ ย อ่าน ยังมีขอ้ บกพร่อง ยังมขี ้อบกพรอ่ ง บางส่วน เล็กนอ้ ย 4.การสง่ งานตรงตอ่ เวลา สง่ งานตรงตามเวลาที่ สง่ งานชา้ เลยเวลาที่ สง่ งานชา้ เลยเวลาท่ี ส่งงานชา้ เลยเวลาที่ กำหนด กำหนด1-2วนั กำหนด3-5วนั กำหนดมากกว่า5วนั
35 แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายหน่วยท่ี 2
36 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 รายวชิ าภาษาไทย ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒๕ ช่ัวโมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง ครวั ปา่ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรือ่ งราว ในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวช้วี ดั ท 4.1 ป.2/1 บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ท 2.1 ป.2/1 คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด ๒.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) - นกั เรียนสามารถบอกพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทยได้ ดา้ นทกั ษะ (P) - นกั เรียนสามารถเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทยได้ - นักเรียนคัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั ได้ ด้านจติ พิสยั (A) - นกั เรยี นเหน็ ประโยชนใ์ นการเรยี นรเู้ รือ่ งพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย - นักเรยี นชืน่ ชมการคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั ๓.สาระสำคญั ศึกษาพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ เลขไทย และสามารถคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตาม รปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทยไดถ้ กู ต้อง ๔.สาระการเรยี นรู้ 1.บอกและเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย 2.การคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั ตามรูปแบบการเขียนตวั อกั ษรไทย
37 ๕.สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น (เฉพาะที่เกิดในหนว่ ยการเรียนรู้นี)้ ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖.ทักษะของผูเ้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น) ทักษะการอา่ น (Reading) ทกั ษะการเขียน (Writing) ทักษะการ คิดคำนวณ (Arithmetic) ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork and leadership) ทักษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทกั ษะดา้ น การสื่อสาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทันสือ่ (Communication information and media literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing) ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change) ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผนู้ ำ (Leadership) ๗.ชิน้ งานหรอื ภาระงาน ( หลกั ฐาน / รอ่ งรอยแสดงความรู้ ) 7.1 ใบงานท่ี 1 พยัญชนะ 7.2 ใบงานที่ 2 สระ 7.3 ใบงานท่ี 3 วรรณยกุ ต์ 7.4 ใบงานที่ 4 เลขไทย 7.5 แบบทดสอบเกบ็ คะแนนประจำหน่วยการเรียนรู้ ๘.การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รูปแบบการจดั การเรียนการสอน : การพฒั นาทกั ษะ/กระบวนการแกป้ ัญหา หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย (ช่ัวโมงที่ 1-4 )
38 ขั้นที่ ๑ ทำความเขา้ ใจปัญหาหรอื วเิ คราะห์ปัญหา 1.ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ใบงานคือใบงานเรื่องพยัญชนะ ใบงานเรื่องสระ ใบงานเรื่อง วรรณยกุ ต์ ใบงานเร่ืองเลขไทย 2.โดยครูกำหนดใบงานขึน้ มาเองโดยพิจารณาจากบทเรียน เนื้อหาตอนใดเหมาะสมทีจ่ ะนำมาทำ เป็นใบงานในการต้งั ปัญหาเพอื่ นำไปสูก่ ารเรยี นรู้ 3.ครูเน้นให้นักเรยี นทำความเข้าใจเกี่ยวกับใบงานที่พบในประเด็นต่าง ๆ เช่น คำสั่งในใบงานให้ ทำอะไร มีข้อมูลใดแลว้ บ้าง ขนั้ ที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา 1.ครูอธิบายขั้นตอนการทำอย่างชัดเจนเพื่อที่นักเรียนจะได้เข้าใจในตัวใบงานมากขึ้น ว่าคำสั่ง ต้องการอะไร ใหท้ ำอะไร 2.นักเรียนคิดหาคำตอบในการทำใบงาน หรืออาจจะใช้หนังสือเรียนเป็นแนวทางในการค้นหา คำตอบ หรือทำความเข้าใจกับเนอ้ื หา ข้นั ที่ 3 ดำเนนิ การแก้ปญั หา 1.นกั เรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามใบงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ข้ันท่ี 4 ตรวจสอบหรอื มองยอ้ นกลบั 1.ครนู ำใบงานท่นี กั เรียนลงมือปฏิบัติมาตรวจสอบ รปู แบบการจดั การเรียนการสอน : การพัฒนาทักษะ/กระบวนการแกป้ ัญหา หนว่ ยย่อยท่ี 2 เรอ่ื ง คดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด (ช่ัวโมงที่ 5 ) ขั้นท่ี ๑ ทำความเข้าใจปัญหาหรอื วเิ คราะห์ปญั หา 1.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั วิเคราะห์ใบงานคอื ใบงานเร่อื งเลขไทย 2.โดยครกู ำหนดใบงานข้ึนมาเองโดยพิจารณาจากบทเรียน เน้ือหาตอนใดเหมาะสมทจี่ ะนำมาทำ เปน็ ใบงานในการตง้ั ปญั หาเพื่อนำไปสกู่ ารเรียนรู้ 3.ครูเน้นให้นักเรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับใบงานที่มอบหมายให้ที่พบในประเด็นต่าง ๆ เช่น คำสงั่ ในใบงานให้ทำอะไร มขี ้อมลู ใดแล้วบ้าง ขั้นที่ 2 วางแผนแกป้ ัญหา 1.ครูอธิบายขั้นตอนการทำอย่างชัดเจนเพื่อที่นักเรียนจะได้เข้าใจในตัวใบงานมากขึ้น ว่าคำสั่ง ตอ้ งการอะไร ให้ทำอะไร 2.นักเรียนลงมือคดั ลายมือตามแบบท่ีกำหนดมาให้ในใบงาน ข้นั ที่ 3 ดำเนินการแกป้ ญั หา 1.นกั เรียนปฏิบัติกจิ กรรมตามใบงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ขั้นที่ 4 ตรวจสอบหรือมองย้อนกลบั 1.ครนู ำใบงานทนี่ ักเรียนลงมอื ปฏบิ ตั ิมาตรวจสอบ
39 9. สอ่ื การสอน 9.1 หนงั สือแบบเรยี น 9.2 ใบงาน/แบบทดสอบ 9.3 สือ่ การเรยี นการสอนประกอบการนำเสนอ powerpoint 10.แหล่งเรยี นรใู้ นหรือนอกสถานที่ 10.1 ห้องสมุด 11. การวัดและประเมินผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีวดั ผล เคร่อื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมนิ ระดบั พอใชข้ น้ึ ไปถอื ว่า นกั เรยี นสามารถบอกพยัญชนะ ตรวจใบงานที่ 1 ใบงานท่ี 1 เร่ือง 9-10 คะแนน= ดมี าก ผา่ น สระ วรรณยุกต์ และเลขไทยได้ เรอ่ื งพยัญชนะ พยญั ชนะ 7-8 คะแนน= ดี ระดับพอใชข้ น้ึ ไปถอื วา่ ผ่าน 5-6 คะแนน= พอใช้ ระดับพอใชข้ ึ้นไปถือว่า 0-4 คะแนน= ปรับปรงุ ผ่าน นกั เรียนสามารถเขยี น ตรวจใบงานที่ 2 ใบงานท่ี 2เรอื่ งสระ 9-10 คะแนน= ดีมาก ระดบั พอใชข้ ึ้นไปถอื ว่า ผ่าน พยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ เรอื่ งสระ 7-8 คะแนน=ดี ระดบั พอใช้ขนึ้ ไปถอื ว่า และเลขไทยได้ 5-6 คะแนน=พอใช้ ผา่ น 0-4 คะแนน=ปรับปรงุ นกั เรียนคัดลายมือตัวบรรจง ตรวจใบงานที่ 4 ใบงานท่ี 4เร่ืองเลข 9-10 คะแนน= ดมี าก เตม็ บรรทดั ได้ เร่ืองเลขไทย ไทย 7-8 คะแนน=ดี 5-6 คะแนน=พอใช้ 0-4 คะแนน=ปรบั ปรงุ นกั เรียนเหน็ ประโยชนใ์ นการ ตรวจใบงานท่ี 3 ใบงานที่ 3เรอ่ื ง 9-10 คะแนน= ดมี าก เรียนรู้เร่ืองพยญั ชนะ สระ เรอ่ื งวรรณยุกต์ วรรณยกุ ต์ 7-8 คะแนน=ดี วรรณยุกต์ และเลขไทย 5-6 คะแนน=พอใช้ 0-4 คะแนน=ปรับปรงุ นักเรียนชนื่ ชมการคัดลายมือ สังเกตพฤตกิ รรมของ แบบสังเกต 2-3 คะแนน = ดี ตัวบรรจงเตม็ บรรทัด นกั เรยี นในการทำ พฤติกรรมการทำ 1 คะแนน=พอใช้ กจิ กรรม กิจกรรม 0 คะแนน=ปรบั ปรุง
40 แบบประเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คำชีแ้ จง : ให้ทำเคร่อื งหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤตกิ รรมท่ีนกั เรยี นปฏบิ ัติ รายการ สรุปผลการ ใหค้ วามร่วมมอื ใน มีความกลา้ ตรงตอ่ เวลา ประเมนิ เลขท่ี ชื่อ-สกุล การทำกจิ กรรม แสดงออก 0 1 0 1 0 1 ผา่ น ไมผ่ ่าน ลงชือ่ .................................................ผู้ประเมนิ (..........................................................) ............/............/..............
41 12. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ 13. บันทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรยี นการสอน นักเรยี นทัง้ หมดจำนวน.....................คน จุดประสงคก์ ารเรยี นรขู้ ้อท่ี จำนวนนกั เรยี นที่ผ่าน จำนวนนกั เรียนทไี่ ม่ผา่ น 1 จำนวนคน ร้อยละ จำนวนคน รอ้ ยละ 2 3 15. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................. ...
42 16. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ลงช่ือ........................................................................ () ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ....................................... ลงชือ่ ................................................................ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชอื่ .......................................................... รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ (………………………………………..) ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ไดท้ ำการตรวจแผนการเรยี นรขู้ อง....................................................แลว้ มคี วามคิดเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. การจัดกจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ยงั ไม่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป
43 3. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ .............................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ลงช่ือ............................................................................................... ( ………………………………………………… ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน………………………………………………………...
44 ใบงาน “พยัญชนะ” คำช้แี จง : เลือกพยญั ชนะตอ่ ไปนี้เติมคำใหม้ คี วามหมาย กข ค ฆย บป พ ฟภ ตวั อย่าง เด็ก ยีรา อร่อ เรีย โร ลา ลอย ชว่ กัน กอ้ นเม รปู ภา โย เหยก ปลกี ล้ว ครอ ครวั เล หก ชา้ งพลา ลา ไก่
45 ใบงาน “สระ” คำช้ีแจง : เลอื กคำท่เี หมาะสมแล้วเติมลงในช่องว่างและฝกึ อา่ น 1.คณุ ออ่ นเพลยี เพราะ เหงื่อ สุนขั แผลเพราะบาดเจบ็ (เลีย,เสีย) 2.ฝูงไกช่ อบคุย้ รถเขา้ ออกแล่นปร๋ือ (เกยี ร์,เข่ีย) 3.งัว เพ่ิงตืน่ หรอื เสยี งร้องฮือหนู เอง (เปีย,เงีย) 4.น้าบอกไมใ่ หส้ วมเส้อื ตงึ และสวม เดนิ เสียงดงั (เกี๊ยะ,เปร๊ยี ะ)
ใบงาน “วรรณยกุ ต์” 46 คำช้แี จง : ผนั คำในวงเล็บแล้วเลอื กคำเติมในชอ่ งวา่ งใหไ้ ดใ้ จความ 1.ภผู าและน้ำใสไปดู ทส่ี วนสัตว์ (หมี หมี่ หมี้) 2.แม่หงุ ขา้ วใน (หมอ หมอ่ หม้อ) 3.เดก็ ๆ ตอ้ งขยัน ศึกษา (หมนั หมนั่ หมนั้ ) 4.เดก็ ๆ กำลังรับประทาน (นอ้ ยหนา หนอ้ ยหน่า น้อยหนา้ ) 5.คณุ แมส่ วมเสอ้ื ตวั (ใหม ใหม่ ไหม)้ 6.ภผู ามีหน้าตา เหลา (หลอ หลอ่ หล้อ)
Search