Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฎหมายธุรกิจ บทที่ 5

กฎหมายธุรกิจ บทที่ 5

Published by kanjana281119, 2019-08-15 23:01:55

Description: กฎหมายธุรกิจ บทที่ 5

Search

Read the Text Version

บทท่ี 5 สัญญาเช่าทรัพย์ และสัญญาเช่าซื้อ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายลกั ษณะของสัญญาเช่าทรัพย์ได้ 2. อธิบายหลกั เกณฑ์การทาสัญญาเช่าทรัพย์ได้ 3. บอกค่าฤชาธรรมเนยี มในการทาสัญญาเช่าทรัพย์ได้ 4. บอกสถานทจี่ ดทะเบยี นการเช่าทรัพย์ได้ 5. อธิบายหน้าทแี่ ละความรับผดิ ของผู้ให้เช่าได้ 6. อธิบายหน้าทแี่ ละความรับผดิ ของผู้เช่าได้ 7. บอกอายุความในเร่ืองสัญญาเช่าทรัพย์ได้ 8. อธิบายความระงบั แห่งสัญญาเช่าทรัพย์ได้ 9. อธิบายลกั ษณะของสัญญาเช่าซื้อได้ 10. อธิบายหลกั เกณฑ์การทาสัญญาเช่าซื้อได้ 11. อธิบายการบอกเลกิ สัญญาเช่าซื้อได้

สัญญาเช่าทรัพย์

ลกั ษณะของสัญญาเช่าทรัพย์ 1. มีวตั ถุแห่งการเช่าเป็ นทรัพย์สิน 2. เป็ นสัญญาทต่ี กลงชั่วระยะเวลาอนั มจี ากดั 3. เป็ นสัญญาท่ีมิได้มีการโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สิน 4. เป็ นสัญญาต่างตอบแทน

หลกั เกณฑ์การทาสัญญาเช่า 1. การเช่าสังหาริมทรัพย์ ไม่จาต้องมี หลักฐานเป็ นหนังสือแต่อย่างใด ก็ฟ้องร้องให้ บงั คบั คดกี นั ได้

 2. การเช่าอสังหาริมทรัพย์ 2.1 การเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่เกนิ 3 ปี ตอ้ งมีหลกั ฐานเป็น หนงั สือลงลายมือช่ือฝ่ ายท่ีตอ้ งรับผิดเป็นสาคญั 2.2 การเช่าอสังหาริมทรัพย์เกนิ กว่า 3 ปี ขนึ้ ไป หรือกาหนด ตลอดอายขุ องผู้เช่าหรือของผู้ให้เช่า ตอ้ งทาเป็นหนงั สือและจด ทะเบียนต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี มิฉะน้นั จะฟ้องร้องใหบ้ งั คบั คดี ไดแ้ ต่เพยี ง 3 ปี

ค่าฤชาธรรมเนียมในการทาสัญญาเช่า ในการเช่าอสังหาริมทรัพย์เกนิ กว่า 3 ปี ขนึ้ ไป ผู้เช่าและผู้ให้ เช่าต้องไปทาสัญญาเป็ นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงาน เจ้าหน้าท่ี และต้องเสียค่าธรรมเนียมตามอัตราท่ีกฎหมาย กาหนดไว้ ค่าธรรมเนียมน้ันกฎหมายกาหนดให้ผู้เช่าและผู้ให้ เช่าเสียคนละครึ่ง แต่คู่สัญญาจะตกลงกนั ให้ฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งเป็ น ผู้เสียท้งั หมดเลยกไ็ ด้

สถานทจ่ี ดทะเบยี นการเช่า 1. การเช่าท่ีดินมีโฉนด (น.ส.4) หรือท่ีดินที่มีหนังสือรับรองการทา ประโยชน์ (น.ส.3) ต้องไปทาเป็ นหนังสือและจดทะเบียนการเช่ากัน ณ สานักงานท่ีดินจังหวัด หรือสานักงานที่ดินสาขาในจังหวัด น้ัน ๆ ในเขต กรุงเทพมหานครให้จดทะเบียน ณ สานักงานท่ีดินกรุงเทพมหานคร หรือ สานักงานทด่ี นิ กรุงเทพมหานครสาขาต่าง ๆ 2. การเช่าโรงเรือนหรือส่ิงปลูกสร้างอย่างอ่ืน ต้องไปทาเป็ นหนังสือและ จดทะเบยี นการเช่ากนั ณ สถานทต่ี ามข้อ 1.

กาหนดเวลาสูงสุดสาหรับทาสัญญาเช่า 1. การเช่าสังหาริมทรัพย์จะเช่ากนั เป็ นระยะเวลานานเท่าใด กไ็ ด้ กฎหมายไม่ได้จากดั ระยะเวลาไว้ 2. การเช่าอสังหาริมทรัพย์จะเช่ากันเกิน 30 ปี ไม่ได้ ถ้าทา สัญญากนั ไว้เกนิ กว่า 30 ปี กใ็ ห้ลดลงมาเหลือ 30 ปี 3. การเช่าสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ จะเช่ากัน ตลอดอายุของผู้เช่าหรือของผู้ให้เช่ากไ็ ด้

ลาดบั สิทธิของผู้เช่าทอ่ี าศัยมูลสัญญาเช่าต่างราย 1. กรณใี ห้เช่าสังหาริมทรัพย์ บุคคลหลายคนเรียก เอาสังหาริมทรัพย์อนั เดียวกัน อาศัยมูลสัญญาเช่าต่างราย ทรัพย์ ตกไปอยู่ในครอบครองผู้เช่ าคนใดก่ อนด้ วยสั ญญา เช่าทรัพย์น้ัน คนน้ันมีสิทธิยงิ่ กว่าคนอื่น ๆ

2. กรณใี ห้เช่าอสังหาริมทรัพย์ บุคคลหลายคน เรียกร้องเอาอสังหาริมทรัพย์อันเดียวกัน โดยอาศัยมูล สัญญาเช่าต่างราย 2.1 ถ้าการเช่าน้ันเป็ นประเภทซ่ึงมิได้บังคบั ไว้โดย กฎหมายว่าต้องจดทะเบยี น ให้ถือว่าผู้เช่าซ่ึงได้ทรัพย์สิน ไปไว้ ในครอบครองก่ อนด้ วยสั ญญาเช่ าของตนน้ันมีสิ ทธิ ยง่ิ กว่าคนอื่น ๆ

2.2 ถ้าการเช่าทุก ๆ รายเป็ นประเภท ซึ่ง บงั คบั ไว้โดยกฎหมายว่าจะต้องจดทะเบียน ให้ถือว่า ผู้เช่าซึ่งได้จดทะเบียนการเช่าของ ตนก่อนน้ันมีสิทธิยงิ่ กว่าคนอื่น ๆ

2.3 ถ้าการเช่ามีท้ังประเภทซึ่งต้องจดทะเบียน และ ปร ะ เ ภ ทซ่ึ ง ไ ม่ ต้ อง จ ด ท ะ เบี ย น ต า มก ฎ ห ม า ยยัน กัน อ ยู่ ให้ถือว่าผู้เช่าคนท่ีได้จดทะเบียนการเช่าของตนน้ันมีสิทธิ ยิ่งกว่า เว้นแต่ผู้เช่าคนอ่ืนจะได้ทรัพย์สินน้ันไปไว้ใน ครอบครอง ด้วยการเช่าของตนเสียแต่ก่อนวนั จดทะเบยี น น้ันแล้ว

หน้าทแี่ ละความรับผดิ ของผู้ให้เช่า 1. การส่งมอบ 2. รับผดิ ในความชารุดบกพร่อง 3. รับผดิ ในการรอนสิทธิ 4. รับผดิ ในความชารุดบกพร่องทเี่ กดิ ขนึ้ ในระหว่างเวลาเช่า 5. ออกค่าใช้จ่ายเพ่ือรักษาทรัพย์สินซ่ึงเช่า

1. การส่งมอบ 1.1 ผู้ให้เช่าต้องส่งมอบทรัพย์สินท่ีให้เช่าในสภาพอัน ซ่อมแซมดแี ล้ว 1.2 ถ้าผู้ให้เช่าส่งมอบทรัพย์สินท่ีให้เช่าในสภาพที่ไม่ เหมาะแก่การท่ีจะใช้เพ่ือประโยชน์ที่เช่ามา ผู้เช่าจะบอก เลกิ สัญญาเสียกไ็ ด้

2. รับผดิ ในความชารุดบกพร่อง ผู้ให้ เช่ าจะต้ องรับผิดในกรณีที่ทรัพย์ สิ นซึ่งให้ เช่ าน้ัน ชารุดบกพร่องอย่างหน่ึงอย่างใด อนั เป็ นเหตุให้ 2.1 เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์ อนั มุ่งจะใช้เป็ นปกตหิ รือ 2.2 เส่ือมราคาหรือเส่ือมความเหมาะสมแก่ประโยชน์ ทมี่ ุ่งหมายโดยสัญญา

3. รับผดิ ในการรอนสิทธิ ผู้ให้ เช่ าจะต้ องรั บผิดในการรอนสิ ทธิเม่ื อมีบุคคลใดมา รบกวนขัดสิ ทธิของผู้เช่ าในอันจะครอบครองทรั พย์ สิ นโดย ปกตสิ ุข ดงั นี้ 3.1 เพราะผู้รบกวนขัดสิทธิมีสิทธิเหนือทรัพย์สินที่เช่า น้ันอยู่ในเวลาเช่า หรือ 3.2 มผี ู้มารบกวนขดั สิทธิเพราะความผดิ ของผู้ให้เช่า

4. รับผดิ ความชารุดบกพร่องทเ่ี กดิ ขนึ้ ในระหว่างเวลาเช่า 4.1 ผู้ให้เช่าย่อมต้องรับผิดในความชารุดบกพร่อง อันเกิดขึ้นใน ระหว่างเวลาเช่า 4.2 ผู้ให้เช่าต้องจัดการซ่อมแซมทุกอย่างบรรดาซ่ึงเป็ นการจาเป็ น 4.3 การซ่อมแซมชนิดซึ่งมีกฎหมายหรือจารีตประเพณีว่าผู้เช่า จะต้องทาเองแล้วผู้ให้เช่ากไ็ ม่มีหน้าทจี่ ะต้องซ่อมแซม

 5. ออกค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์สินซ่ึงเช่า 5.1 ผู้เช่าต้องเสียค่าใช้จ่ายไปโดยความจาเป็ นและสมควรเพ่ือรักษา ทรัพย์สินซ่ึงเช่าน้ันเท่าใด ผู้ให้เช่าต้องชดใช้ให้แก่ผู้เช่า 5.2 ผู้เช่ามีหน้าท่ีต้องออกค่าใช้จ่าย เพ่ือบารุงรักษาทรัพย์สินโดย ปกติ โดยจะไปเรียกคืนจากผู้ให้เช่าไม่ได้ 5.3 ผู้เช่ามีหน้าท่ีต้องออกค่าใช้จ่ายเพื่อการซ่อมแซมทรัพย์สินท่ี เช่าเพยี งเลก็ น้อยโดยจะไปเรียกคืนจากผู้ให้เช่าไม่ได้

 หน้าทแ่ี ละความรับผดิ ของผู้เช่า 1. หน้าที่ชาระค่าเช่า 2. หน้าที่ต้องใช้ทรัพย์สินทีเ่ ช่าโดยชอบ 3. หน้าทต่ี ้องสงวนทรัพย์สินทเี่ ช่า 4. ผู้เช่าต้องยอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนเข้าตรวจตราทรัพย์สินที่เช่าเป็ นคร้ัง คราวในเวลาและระยะอนั สมควร 5. ผู้เช่าต้องยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าซ่อมแซมทรัพย์สินทเ่ี ช่า 6. ผ้เู ช่าต้องแจ้งเหตุการณ์บางอย่างให้ผ้ใู ห้เช่าทราบ 7. ผ้เู ช่าต้องไม่ดดั แปลงหรือต่อเตมิ ทรัพย์สินทเ่ี ช่า 8. ผ้เู ช่าต้องส่งมอบทรัพย์สินทเ่ี ช่าคืน 9. ผู้เช่าจะต้องรับผดิ ในความสูญหายหรือบุบสลายอนั เกดิ แก่ทรัพย์สินทเี่ ช่า

1. หน้าท่ีชาระค่าเช่า 1.1 กาหนดเวลาชาระค่าเช่า 1.1.1 กาหนดโดยสัญญา 1.1.2 กาหนดโดยจารีตประเพณี 1.1.3 กาหนดชาระค่าเช่าโดยบทบัญญตั ิแห่ง กฎหมาย

1.2 สถานท่ชี าระค่าเช่า คู่สัญญาจะตกลง กันให้ชาระค่าเช่ากันที่ใดก็ได้ ในกรณีที่ไม่ได้ตกลง กันไว้โดยเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องชาระค่าเช่ากนั ณ ท่ีใดแล้ว กฎหมายให้ชาระค่าเช่ากัน ณ สถานที่อัน เป็ นภูมลิ าเนาปัจจุบนั ของผู้ให้เช่า

1.3 ผลของการไม่ชาระค่าเช่า ผ้เู ช่าไม่ชาระค่าเช่า ผ้ใู ห้มสี ิทธิดงั นี้ 1.3.1 ฟ้องร้องต่อศาลให้ผ้เู ช่าชาระค่าเช่า หรือ 1.3.2 บอกเลกิ สัญญาเช่า (1) การเช่าทีม่ กี าหนดระยะเวลาเช่าเป็ นรายเดือนหรือยาวกว่าราย เดือนขึน้ ไป ผู้ให้เช่าต้องบอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชาระค่าเช่าภายในเวลาใด โดย ให้เวลาผ้เู ช่าไม่น้อยกว่า 15 วนั (2) การเช่าที่มีกาหนดระยะเวลาชาระค่าเช่าต่ากว่ารายเดือน ถ้าผู้ เช่าไม่ชาระค่าเช่า ผ้ใู ห้เช่าย่อมบอกเลกิ สัญญาเช่าได้ทนั ที

2. หน้าท่ตี ้องใช้ทรัพย์สินที่เช่าโดยชอบ 2.1 ใช้ตามปกติประเพณนี ิยม 2.2 ใช้ตามสัญญา

3. หน้าทต่ี ้องสงวนทรัพย์สินทเี่ ช่า ผู้เช่ าจาต้องสงวนทรัพย์สินที่เช่ าน้ัน เสมอกับที่วิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สิน ของตนเองและต้องบารุงรักษา ท้ังทาการ ซ่อมแซมเลก็ น้อยด้วย

4. ผู้เช่าต้องยอมให้ผู้ให้เช่าหรือ ตวั แทนเข้าตรวจตราทรัพย์สินที่ เช่าเป็ นคร้ังคราวในเวลาและระยะ อนั สมควร

5. ผู้เช่าต้องยอมให้ผู้ให้เช่า เข้าซ่อมแซมทรัพย์สินทเ่ี ช่า

 6. ผู้เช่าต้องแจ้งเหตุการณ์บางอย่างให้ผู้ให้เช่าทราบ 6.1 ถ้ าทรัพย์ สิ นท่ีเช่ าน้ันชารุดควรที่ผู้ให้ เช่ าจะต้ อง ซ่อมแซม หรือ 6.2 ถ้ าจะต้ องจัดการอย่ างหน่ึงอย่ างใด เพื่อปัดป้อง ภยนั ตรายแก่ทรัพย์สินน้ัน หรือ 6.3 ถ้าบุคคลภายนอกรุกล้าเข้ามาในทรัพย์สินที่เช่า หรือ เรียกอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหน่ึงเหนือทรัพย์สินน้ัน

7. ผู้เช่าต้องไม่ดดั แปลงหรือต่อ เติมทรัพย์สินท่ีเช่ า เว้นแต่จะ ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก่อน

8. ผู้เช่าต้องส่งมอบทรัพย์สินทเี่ ช่าคืน ถ้ามิได้ทาหนังสือ ลงลายมือชื่ อของคู่สั ญญาแสดงไว้ ต่ อกันว่ าทรัพย์ สิ นท่ีให้ เช่ ามี สภาพเป็ นอยู่อย่างไร ให้ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เช่ าได้รับ ทรัพย์สินท่ีเช่าน้ันไปโดยสภาพอันซ่อมแซมดีแล้ว และเม่ือ สัญญาได้เลิกหรือระงับลง ผู้เช่าก็ต้องส่งคืนทรัพย์สินในสภาพ เช่นน้ัน

9. ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความสูญหายหรือ บุบสลายอันเกิดแก่ทรัพย์สินท่ีเช่า เพราะ ความผดิ ของ 1. ผู้เช่าเอง หรือ 2. บุคคลซึ่งอยู่กบั ผู้เช่า หรือ 3. ผู้เช่าช่วง

อายคุ วามกรณผี ู้ให้เช่าฟ้องผู้เช่า 1. อายุความเก่ียวกับสัญญาเช่า ผู้ให้เช่าจะฟ้องผู้เช่า เกย่ี วแก่สัญญาเช่าน้ัน ห้ามมิให้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกาหนด 6 เดือน นับแต่วนั ส่งคืนทรัพย์สินทเ่ี ช่า การฟ้องคดีเก่ียวแก่สัญญาเช่า เช่น ผู้เช่าส่งทรัพย์สินคืน ไม่ครบ ทรัพย์สินทเ่ี ช่าบุบสลาย ผู้เช่าผดิ สัญญาเช่า เป็ นต้น

2. อายุความท่ีไม่เกยี่ วกบั สัญญาเช่า เช่น การฟ้องเรียกทรัพย์สินทเ่ี ช่าคืน มีอายุ ความ 10 ปี

3. อายุความฟ้องเรียกค่าเช่า 3.1 ผู้ประกอบธุรกิจในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ เรียกเอาค่าเช่ามอี ายคุ วาม 2 ปี 3.2 การฟ้องเรียกเอาค่าเช่าทรัพย์สินค้างชาระ นอกจากข้อ 3.1 มอี ายุความ 5 ปี

อายคุ วามกรณผี ู้เช่าฟ้องผู้ให้เช่า 1. การฟ้องผู้ให้เช่าให้รับผดิ ในการทท่ี รัพย์ขาดตกบกพร่องหรือลา้ จานวน มี อายุความ 1 ปี นับแต่เวลาส่งมอบ 2. การฟ้องผู้ให้เช่าให้รับผิดในความชารุดบกพร่องมีอายุความ 1 ปี นับแต่ เวลาทพี่ บเห็นความชารุดบกพร่อง 3. การฟ้องผู้ให้เช่าให้รับผิดในการรอนสิทธิมีอายุความ 3 เดือน นับแต่ (1) วันทค่ี าพพิ ากษาในคดเี ดิมถึงที่สุด หรือ (2) วนั ประนีประนอมยอมความ หรือ (3) วนั ทย่ี อมตามทบ่ี ุคคลภายนอกเรียกร้อง

ความระงบั แห่งสัญญาเช่า 1. สัญญาเช่าระงบั ไปด้วยเหตุแห่งระยะเวลา 2. สัญญาเช่าระงบั ไปตามข้อสันนิษฐานของกฎหมาย 3. สัญญาเช่าระงบั ไปเน่ืองจากทรัพย์สินทเ่ี ช่าสูญหาย 4. สัญญาเช่าระงบั ไปเม่ือผ้ใู ห้เช่าหรือผ้เู ช่าตาย 5. สัญญาเช่าระงับไปเพราะการโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินท่ีเช่า 6. สัญญาเช่าระงบั ไปด้วยการบอกเลกิ สัญญา

1. สัญญาเช่าระงบั ไปด้วยเหตุแห่งระยะเวลา 1.1 สัญญาเช่าที่มีกาหนดระยะเวลา สัญญาเช่า น้ันย่อมระงับไปเม่ือสิ้นกาหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน

1.2 สัญญาเช่าทไี่ ม่มกี าหนดระยะเวลา ถ้ากาหนดเวลาเช่าไม่ปรากฏในความที่ตกลงกันหรือไม่พึง สันนิษฐานได้ คู่สัญญาฝ่ ายใดจะบอกเลิกสัญญาเช่า ในขณะ เม่ือสุดระยะเวลาอันเป็ นกาหนดชาระค่าเช่าก็ได้ทุกระยะ แต่ ต้องบอกกล่าวแก่อีกฝ่ ายหนึ่งให้รู้ตัวก่อน ช่ัวกาหนดเวลาชาระ ค่าเช่าระยะหน่ึงเป็ นอย่างน้อย แต่ไม่จาเป็ นต้องบอกกล่าว ล่วงหน้ากว่า 2 เดือน

2. สัญญาเช่าระงับไปตามข้อ สันนิษฐานของกฎหมาย เช่น การ เช่าสวนน้ัน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเช่ากัน ปี หน่ึง

3. สัญญาเช่าระงบั ไปเนื่องจากทรัพย์สินทเี่ ช่าสูญหาย 3.1 ทรัพย์สินทเี่ ช่าสูญหายไปท้งั หมด สัญญาเช่ากย็ ่อมระงบั ไป 3.2 ทรัพย์สินทีเ่ ช่าสูญหายไปเพยี งบางส่วน และมิได้เป็ นเพราะ ความผิดของผู้เช่า ผู้เช่าจะเรียกให้ลดค่าเช่าลงตามส่วนท่ีสูญหายก็ได้ ในกรณี เช่นนี้ ถ้าผู้เช่าไม่สามารถใช้สอยทรัพย์สินส่วนท่ียงั คงเหลืออยู่น้ันสาเร็จประโยชน์ ได้ดงั ทไี่ ด้มุ่งหมายเข้าทาสัญญาเช่า ผู้เช่าจะบอกเลกิ สัญญาเสียกไ็ ด้

4. สัญญาเช่าระงบั ไปเม่ือผู้ให้เช่าหรือผู้เช่าตาย 4.1 ในกรณีที่เช่าทรัพย์สินโดยกาหนดว่าเช่ากนั ตลอดอายุของผู้ให้ เช่าหรือของผู้เช่า เมื่อผู้ให้เช่าหรือผู้เช่าตายสัญญาเช่าย่อมระงบั 4.2 ในกรณที เ่ี ช่าทรัพย์สินโดยไม่ได้กาหนดว่าเช่ากนั ตลอดอายุของ ผู้ให้เช่าหรือของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าตาย ทาให้สัญญาเช่าระงับ แต่ถ้าผู้ให้เช่า ตายไม่ทาให้สัญญาเช่าระงับ

5. สัญญาเช่าระงับไปเพราะการโอนกรรมสิทธ์ิใน ทรัพย์สินทเี่ ช่า 5.1 สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ ย่อมไม่ระงับไปเพราะการโอน กรรมสิทธ์ิทรัพย์สินซึ่งให้เช่า 5.2 สัญญาเช่าสังหาริมทรัพย์ ย่อมระงบั ไปเพราะการโอนกรรมสิทธ์ิ ในทรัพย์สินทเ่ี ช่า

6. สัญญาเช่าระงับไปด้วยการ บอกเลิกสัญญา เมื่อคู่สัญญาตกลงเลิก สัญญากนั ย่อมทาให้สัญญาเช่าระงบั

กรณที ่ถี ือว่ามีการทาสัญญาเช่าใหม่ต่อไปโดยไม่ มกี าหนดเวลา ในเม่ือสิ้นกาหนดเวลาเช่าซึ่งได้ตกลงกนั ไว้น้ันถ้าผู้เช่า ยังคงครองทรัพย์สินอยู่ และผู้ให้เช่ารู้ความน้ันแล้วไม่ ทกั ท้วง ให้ถือว่าคู่สัญญาเป็ นอนั ได้ทาสัญญาใหม่ต่อไปไม่ มกี าหนดเวลา

บทบญั ญตั พิ เิ ศษเกย่ี วกบั การเช่านา การเช่านาให้มีกาหนดคราวละไม่น้อยกว่า 6 ปี การเช่านารายใดท่ี ทาไว้โดยไม่มีกาหนดเวลา หรือมีแต่ต่ากว่า 6 ปี ให้ถือว่าการเช่ารายน้ันมี กาหนดเวลา 6 ปี เม่ือสิ้นระยะเวลาการเช่านาตามวรรคหนึ่ง ถ้าผู้ให้เช่านามิได้บอก เลิกการเช่านาและผู้เช่านายังทานาในท่ีนาน้ันต่อไป ให้ถือว่าได้มีการเช่า นาน้ันต่อไปอกี คราวละ 6 ปี

พระราชบัญญัติการเช่ าอสังหาริมทรัพย์เพื่อ พาณชิ ย กรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ.2542 1. การเช่าตามพระราชบัญญัตินี้ หมายความว่าการเช่า อสังหาริมทรัพย์เพ่ือพาณิชยกรรมหรื ออุตสาหกรรมที่ กาหนดเวลาเช่าไว้เกนิ 30 ปี แต่ไม่เกนิ 50 ปี

2. การเช่าตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องทาเป็ นหนังสือ และจดทะเบยี นต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี มิฉะน้ันเป็ นโมฆะ เมื่อครบกาหนดระยะเวลาเช่าแล้ว ผู้เช่าและผู้ให้เช่าอาจตก ลงกันต่อระยะเวลาการเช่าออกไปอีกได้มีกาหนดไม่เกิน 50 ปี นับแต่วันที่ตกลงกัน และต้องทาเป็ นหนังสือและจดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี มฉิ ะน้ันเป็ นโมฆะ

สัญญาเช่าซื้อ

ลกั ษณะของสัญญาเช่าซื้อ 1. เป็ นสัญญาซึ่งเจ้าของ (ผู้ให้เช่าซื้อ) เอาทรัพย์สินออก ให้เช่า 2. เจ้าของทรัพย์สินให้คาม่ันว่าจะขายทรัพย์สินน้ัน หรือว่าจะให้ทรัพย์สินน้ันตกเป็ นสิทธิแก่ผู้เช่า 3. เป็ นสัญญาซ่ึงมีเง่ือนไขว่าผู้เช่าต้องใช้เงินเป็ นจานวน เท่าน้ันเท่านีค้ ราว

สัญญาเช่าซื้อกบั สัญญาเช่าทรัพย์ 1. สัญญาเช่าซื้อจะต้องมกี ารโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินในทีส่ ุด ส่วนสัญญา เช่าทรัพย์น้ันไม่มกี ารโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สิน 2. สัญญาเช่าซื้อน้ันผู้ให้เช่าซื้อจะต้องมีกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สิน ส่วนสัญญา เช่าทรัพย์น้ันผ้ใู ห้เช่าจะมกี รรมสิทธ์ิในทรัพย์สินหรือไม่กไ็ ด้ 3. สัญญาเช่าซื้อน้ันต้องทาเป็ นหนังสือ ส่วนสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่ เกนิ 3 ปี ต้องมหี ลกั ฐานเป็ นหนังสือ สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์เกนิ กว่า 3 ปี ต้อง ทาเป็ นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี สัญญาเช่าสังหาริมทรัพย์ไม่ ต้องทาตามแบบแต่ประการใด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook