Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายทวีป พลายพยัคฆ์

อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายทวีป พลายพยัคฆ์

Published by Jane, 2020-08-17 03:33:23

Description: อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายทวีป พลายพยัคฆ์

Search

Read the Text Version

อนุสรณ์ งานพระราชทานเพลิงศพ นาย ทวีป พลายพยัคฆ์ ป.ม., ท.ช. ณ สุสานไตรลักษณ์ อ. เมอื ง จ.ลำปาง วัน พุธ ท่ี 19 สิงหาคม พ.ศ.2563 เวลา 15.00 น.

สำนึกในพระมหากรณุ าธิคณุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โกศโถฉตั รเบญจาต้ังประดบั และพระราชทาน เพลิงศพ นายทวีป พลายพยัคฆ์ ซึ่งนบั เป็นพระมหากรณุ าธิคุณ ล้นเกล้าลน้ กระหมอ่ ม เปน็ เกียรติอันสูงสุดแก่ผวู้ ายชนม์ และวงศ์ตระกลู อยา่ ง หาที่สุดมไิ ด้ หากความทราบโดยญาณวิถีดวงวิญญาณของนายทวีป พลายพยคั ฆ์ ได้ดว้ ยประการใดในสมั ปรายภพ คงจะมีความปลาบปลื้มซาบซึง้ เป็นล้นพน้ ใน พระมหากรุณาธิคณุ ทีไ่ ด้รบั พระราชทานเกียรตยิ ศอนั สูงยิง่ ในวาระสดุ ท้ายแหง่ ชีวติ ข้าพระพุทธเจา้ ผเู้ ป็นภรรยา ธิดาและหลานๆขอพระราชทานกราบถวาย บังคมแทบเบือ้ งพระยคุ ลบาทด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคณุ อย่างหา ทีส่ ดุ มไิ ด้และจะเทิดทนู ไว้เหนอื เกล้าเหนอื กระหม่อม เปน็ สรรพสิรมิ งคลแก่ ข้าพระพุทธเจ้า และวงศต์ ระกูลตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจา้ ครอบครวั พลายพยคั ฆ์

กราบขอบพระคณุ เจ้าภาพขอกราบขอบพระคุณ แด่ท่านผู้มเี กียรติและญาติมิตรทั้งหลาย ที่ ได้ให้เกียรติสละเวลามาในงานพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พิธีธรรมสวด พระอภิธรรม จนถึงงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ทวีป พลายพยคั ฆ์ ป.ม,ท.ช และให้ความอนเุ คราะหด์ ้วยประการต่างๆ จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี เจ้าภาพรู้สึกซาบซึง้ ในความกรุณาของท่านเปน็ อย่างยิง่ มากมีสิง่ ใดขาด ตกบกพร่อง เจ้าภาพกราบขออภยั และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ ครอบครวั พลายพยัคฆ์

นายทวีป พลายพยัคฆ์ ชาตะ : 15 มีนาคม พ.ศ. 2485 มรณะ : 14 สงิ หาคม พ.ศ. 2563



ประวัติโดยย่อ นายทวีป พลายพยคั ฆ์ ป.ม. , ท.ช.

นายทวีป พลายพยัคฆ์ เปน็ บุตรของ นายบณั ฑติ ย์ และนางโตะ๊ พลายพยัคฆ์ (ครอบครัวพลายพยัคฆ์ สกุลเดิม เสือ-กลนั่ ) เกิดเมอ่ื วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2485 ณ บ้านที่ ตำบลคลองข่อย อำเภอโพธาราม จงั หวัดราชบรุ ี มีพ่นี ้อง ร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน ดังน้ี 1. นายทวีป พลายพยัคฆ์ ( ผวู้ ายชนม์ ) 2. นางวรรณวดี โพธิ์ยี่ 3. นางสาวอบุ ลวรรณ พลายพยัคฆ์ 4. นายวิวัฒน์ พลายพยัคฆ์ ( ถึงแก่กรรม ) 5. นางสาวยวุ ดี พลายพยคั ฆ์ 6. นางกณั หา มุจจลินท์วิมุติ 7. เด็กหญิงศริ ิน เสือ-กลัน่ ( ถึงแก่กรรม ) 8. นางสาววิวรรณ พลายพยัคฆ์ การครองรักครองเรือน ได้สมรสกบั นางวีนสั พลายพยัคฆ์ (สกุลเดิม สิรสิ ืบ) มีธิดา 1 คน ชือ่ นางสาวนัสวรรณ พลายพยัคฆ์

การศึกษา - ประถมศึกษาปีที่ 1-2 โรงเรียน ประชาสงเคราะห์ ปากเกร็ด ระดับประถมศกึ ษา - ประถมศึกษาปีที่ 3-4 โรงเรียน ระดบั มัธยมตน้ เทศบาลวดั ไทรอารีรักษ์ อำเภอ โพธาราม จังหวัดราชบุรี ระดับมธั ยมปลาย ระดับประกาศนยี บตั ร- - มัธยมศกึ ษาปีที่ 1-2 โรงเรียน วิชาชีพข้ันสงู ราษฎรบ์ ำรุงวิทย์ อำเภอโพธาราม ระดบั ปริญญาตรี จังหวัดราชบุรี ระดับปริญญาโท - มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนวดั เขมมาภริ ตาราม จังหวัดนนทบุรี - มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัด เขมมาภริ ตาราม จังหวดั นนทบรุ ี - โรงเรียนพาณิชยการวัดเชตพุ นตั้ง ตรงจติ รวิทยาลยั - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทมุ - คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตำแหนง่ ทางราชการ พ.ศ. 2505 เสมียนพนักงานที่ทำการขนสง่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2508 เสมียนพนักงานทีท่ ำการขนสง่ จังหวดั ลำปาง พ.ศ. 2510 เสมียนพนกั งานทีท่ ำการขนสง่ จังหวัดกาญจนบรุ ี พ.ศ. 2511 เสมียนพนักงานทีท่ ำการขนสง่ จังหวดั ราชบรุ ี พ.ศ. 2512 ประจำแผนก แผนกใบอนญุ าต กองควบคุมกิจการ ขนส่งกรมการขนสง่ ทางบก พ.ศ. 2516 พนักงานขนส่งชั้นตรี สำนักงานขนส่งจังหวดั มหาสารคาม พ.ศ. 2519 เจา้ หนา้ ทีข่ นส่ง 3 หมวดใบอนุญาตออกใหม่ กอง ควบคมุ กิจการขนส่ง กรมการขนนส่งทางบก พ.ศ. 2520 นกั วิชาการขนสง่ 4 งานค้นคว้าและการวิจัยเศรษฐกิจ การขนส่ง กองวิชาการและแผนงาน กรมการขนส่ง ทางบก พ.ศ. 2522 เจ้าหน้าที่ขนสง่ 5 หน่วยใบอนุญาตประกอบการขนสง่ งานใบอนญุ าตกิจการขนส่ง กองควบคุมกิจการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก พ.ศ. 2525 เจ้าหน้าทีข่ นส่ง 6 งานใบอนุญาตประกอบการขนส่ง กองควบคุมกิจการขนส่ง กรมการขนสง่ ทางบก

พ.ศ. 2530 ขนสง่ จงั หวัดยะลา พ.ศ. 2531 เจา้ หนา้ ทีบ่ ริหารงานขนส่ง 7 ฝ่ายใบอนุญาต พ.ศ. 2537 ประกอบการขนส่ง กองควบคุมกิจการขนส่ง กรมการ พ.ศ. 2542 ขนสง่ ทางบก พ.ศ. 2544 พ.ศ. 2545 ขนสง่ จงั หวดั ลำปาง ขนส่งจังหวดั นครสวรรค์ ผตู้ รวจราชการกรมการขนส่งทางบก ผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะด้านนโยบายและแผน กรมการขนส่ง ทางบก

เครื่องราชอิสริยาภรณแ์ ละเหรียญ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณช์ ้างเผอื ก 5 ธันวาคม 2512 จัตรุ ถาภรณ์มงกฎุ ไทย 5 ธนั วาคม 2518 ตริตาภรณม์ งกฎุ ไทย 5 ธนั วาคม 2520 ตริตาภรณ์ช้างเผอื ก 5 ธนั วาคม 2522 ทวิตยิ าภรณ์มงกฎุ ไทย 5 ธนั วาคม 2527 จักรพรรดิมาลา 5 ธันวาคม 2530 ทวีตยิ าภรณ์ช้างเผอื ก 5 ธันวาคม 2532 ประถมาภรณม์ งกุฎไทย 5 ธันวาคม 2535 5 ธันวาคม 2545

อาลัยเพื่อน รู้สกึ ใจหายเมอ่ื ได้รบั แจง้ จากลูกสาวของคุณทวีป วา่ คุณพ่อเสีย ทั้งๆที่ ได้ทำใจไว้ล่วงหนา้ แล้ว เพราะตั้งแต่เพื่อนเข้ารกั ษาตวั ที่โรงพยาบาล ตั้งแต่ต้นปี จนกระท่งั กลับไปพกั ฟืน้ ที่บ้าน ก็ได้ตดิ ต่อไถถ่ ามอาการจากลกู สาวมาตลอด ครั้งสดุ ท้ายลกู สาวบอกว่าพ่ออาการหนกั กไ็ ด้แตป่ ลอบใจและขอให้ทำใจ เพราะไมม่ ีอะไรในชีวติ ของคนเราทีจ่ ะคงทนถาวรอยู่ได้ตลอดไป ผมกับคณุ ทวีป พลายพยัคฆ์ และเพื่อนอีก ๕ คน รวม ๗ คน บรรลุ เป็นข้าราชการสำนักงานขนส่งจงั หวดั ร่นุ แรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕ และเราสอง คนได้ย้ายเข้าทำงานสว่ นกลาง ณ กรมการขนส่งทางบก พรอ้ มกนั เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ผมปกั หลักอย่กู ับที่ สว่ นเพือ่ นย้ายไปย้ายมาอกี สามรอบ ผมกับคุณ ทวีป จงึ สนทิ สนมกันมากกวา่ เพือ่ นคนอ่นื ๆที่นานๆพบกันคร้ังหน่ึง ด้วยความอาลยั ในนามของเพือ่ นๆ ขอให้ผลบุญที่ได้ส่ังสมมา รวมทั้ง ผลบญุ ที่เพื่อนฝูงลูกหลานอุทิศให้ ขอใหด้ วงวิญญาณของเพือ่ นไปสสู่ ขุ คติใน สัมปรายภพด้วยเทอญ. กรีฑา สังวรกาญจน์ ในนามกลุม่ ศษิ ยเ์ กา่ กคส.

คำไวอ้ าลัย คุณทวีป พลายพยัคฆ์ อดีตผู้ตรวจราชการกรมการขนสง่ ทางบก “คณุ พ่อเสียแล้วค่ะ” คือคำบอกเลา่ ของบตุ รสาว “ป๋าทวีป พลาย พยคั ฆ์” เม่อื เวลา ๐๓.๐๔ น. ผ่านทางแอพพลิเคชนั่ ไลน์ ซึง่ ผมมาอ่านพบ ในช่วงเช้าตรูข่ องวนั ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ น่าจะเปน็ เวลาเช้าวันทีอ่ ากาศดี นา่ จะสดช่นื เปน็ อย่างยิง่ เพราะมีฝนตกเบามาตลอดท้ังคืน แต่ทุกอยา่ งกลับ ตรงกนั ข้าม ผมรู้สกึ อ่อนเพลีย ออ่ นแรง เศร้า และเสียใจเป็นอย่างยิง่ “ป๋า” “ป๋าทวีป” หรอื “ป๋าวีป” ที่คนสนทิ สนมคุ้นเคยใช้เรียก ท่านทวีป พลายพยคั ฆ์ อดีตผตู้ รวจราชการกรมการขนส่งทางบก ไม่วา่ จะอายุรุ่นไหนๆ ก็ ตาม ตั้งแต่ท่านย้ายจากจังหวดั ลำปางมาดำรงตำแหน่ง “ขนส่งจังหวัด นครสวรรค”์ พวกเราชาวขนส่งจังหวดั นครสวรรค์ในสมัยน้ัน ทราบดีว่า “ป๋า” ไมเ่ คยถือตวั เลยตั้งแต่รจู้ ัก “ป๋า. เข้าถึงได้ง่าย แตด่ ว้ ยรูปรา่ งสูงใหญ่ ไว้หนวด และด้วยความใจนักเลงของท่าน ทำใหบ้ คุ ลิกท่านดูนา่ เกรงขาม แต่ท่านเป็นคน ใจดี เป็นกนั เอง เร่อื งงานเป็นงาน คอ่ นข้างเอาจรงิ เอาจังเปน็ อยา่ งยิง่ ทั้งงาน ด้านวิชการและงานด้านการพัฒนา ผลงานที่น่าชื่นชมของทา่ น คือการพฒั นา สำนกั งานขนสง่ จงั หวัดนครสวรรค์จนได้รางวลั สำนกั งานดีเดน่ ได้รับถ้วยรางวัล จากท่านชวน หลกั ภยั นายกรฐั มนตรี ทา่ นสอนให้พวกเราทำงานด้วยความ ซื่อสัตย์ ประหยดั มีวนิ ยั ต้องอดทน “ป๋า” มกั จะเล่าประวัติของท่านให้ฟังเพือ่ เตือนใจตัวเองอยเู่ สมอ ท่านมีความโอมอ้อมอารีอยู่ในหัวใจชอบชว่ ยเหลอื ทุก คน “ป๋า” จึงอยูใ่ นความทรงจำและอยู่ในหวั ใจของพวกเราทุกคน พวกเรารัก

ท่านเปรียบเสมอื นญาติผูใหญ่ที่เคารพรักอยา่ งยิ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะผมเอง แมจ้ ะเคยถกู ตำหนจิ าก “ป๋า” อย่บู ้าง แต่นั่นไมไ่ ด้ทำให้ความเคารพรัก “ป๋า” ลดลงแต่อย่างใด กลับเป็นแรงผลกั ดนั ให้มีความรกั ความผกู พนั กันแนบแน่น เพิ่มมากยิ่งขนึ้ ไปอีก หลงั จากทา่ นเกษียณอายรุ าชการไปแล้ว พวกเรายงั คงติดต่อทา่ นไปมา หาสู่ เยีย่ มเยียนทา่ นที่บ้านพกั จังหวัดลำปางอยู่เสมอ และหาก “ป๋า” มกี ิจธรุ ะ เรือ่ งอะไรที่จังหวัดนครสวรรค์ ก็จะเดินทางมารว่ มงานอยู่เสมอเช่นกัน ปกติ “ป๋า” เป็นคนแขง็ แรง สามารถขับรถยนต์ไปไหนๆ ได้ด้วยตนเอง รวมถึงการ เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการของข้าราชการ กรมการขนส่งทาง บก ทกุ ปีไมเ่ คยขาด เม่อื ทราบข่าวว่า “ป๋า” ป่วย พวกเราก็เดินทางมาเยี่ยม อาการป่วยอยู่หลายครั้ง “ป๋า” บ่นว่าทานอะไรไมค่ อ่ ยได้ อยากทานปลาเกลือ และลูกชิ้นปลากรายของนครสวรรค์ พวกเราจัดไปให้ทา่ นอยู่บอ่ ยๆ แล้ววนั น้ี ก็ มาถึง วนั ทีท่ กุ ชีวิตตอ้ งพบเจอด้วยกันทุกคน ถึงแมว้ ่าพวก เราจะรู้และเข้าใจดีว่าต้องมีวนั นี้ “ป๋า” ผมู้ ีพระคณุ ผเู้ ป็นต้นแบบ ผู้ที่ส่งั สอนให้ เราเข้าใจในทกุ แง่มุมของชีวิต ทั้งชีวติ สว่ นตัวและวิถีชีวิตแหง่ ราชการ ท่านได้ จากเราไปแล้ว ตลอดกาล

พวกเราทุกคนหวังเปน็ อย่างยิ่ง ดว้ ยคุณงามความดีที่ “ป๋า” ได้สั่งสอน มาตลอดชีวติ ของท่าน จงเป็นดัง่ แสงสว่างของดวงประทีปส่องทางนำพาดวง วิญญาณของ “ป๋า” ใหไ้ ปสถิตเสถียร ณ แดนสวรรค์ ในสมั ปรายภพอันสขุ สงบ ตลอดนิรันดร์ อรรถ ศรีสำรวล จณิ ณภา บางเขน ไพศาล ฤทธิ์จรญู นิพนธ์ สุนดิ า ม่นั ต่าย ณรงค์ เยน็ ฤดี บญุ แต้ม ลดั ดา เอ้ือไพศาล สิตา ตนั สวุ รรณ ชเู กียรติ สอนเมือง พิทยา ธนธาดาพงศ์ ไพรัตน์ พานทอง เดชา นุชนารถ (ผเู้ รียบเรียง) ในนาม “พวกเราชาวขนส่ง จังหวดั นครสวรรคใ์ นสมยั น้ัน” และลูกหลาน ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๓

พ่อพระของศรีภรรยา ไปสูส่ รวงสวรรค์ภพภูมทิ ีด่ ี ไม่ต้องหว่ งลกู และเมีย ให้พ่อหลับ พักผ่อนให้สบายนะคนดีของฉนั พอ่ ทำงานมาหนกั มากพอแล้ว พ่อไมเ่ คยบ่น วา่ ฉนั สักคำ ฉันอยากได้อะไรมีแตพ่ ่อหามาให้ ตามใจฉนั ทุกอยา่ ง พอ่ อดทน กับฉนั ในทกุ ๆเร่อื ง ความดีของพอ่ อยใู่ นใจฉนั ตลอดเวลา พ่อมีแตค่ วามเมตตา กับทกุ ๆคน ตอ่ จากนี้ไปคงจะเหลือแต่ความทรงจำ ยากทีจ่ ะลืมได้ ขอให้ดวง วิญญาณไปสสู่ ขุ ติ ช้ันภพภูมิทีด่ ี สมกบั ที่เป็นคนดีของฉันเสมอมา ด้วยรักและอาลยั ตุ๊

พ่อจา๋ ..... ลกู ภูมใิ จมากทีไ่ ด้เกิดมาเปน็ ลูกพ่อทีแ่ สนดีคนนี้ ต้ังแต่ลกู จำความได้ เหน็ พอ่ ทำงานเหน็ดเหนอ่ื ยเพือ่ ครอบครัวมาตลอด พ่อเลี้ยงดลู กู ใหค้ วามรัก ความอบอนุ่ มาตลอด ให้ลูกทกุ อย่างทีล่ กู อยากได้ หลายสิบปีทีพ่ อ่ ต้องสู้ คอยอุ้มชู ดูแลครอบครัวมาตลอด คอยอบรมสั่งสอนใหล้ กู เป็นคนดี โอบอ้อม อารีกับคนรอบข้าง และสอนไม่ใหเ้ ออาเปรียบใคร ลูกคนนจี้ ะจดจำและปฏิบัติ ตามคำส่ังสอนของพ่อตลอดไป คำสง่ั สอนจะอยูใ่ นใจลูก และสง่ ต่อไปถึงลกู หลาน ลูกคิดถึงพอ่ ทีร่ กั ตลอดกาล ทุกวนั วานรำลึกถึงพระคณุ พ่อ ลกู ขอให้พ่อสถิตสบายใจอยู่บน สรวงสวรรค์ แมก้ ายห่างจากพรากกนั ในใจนน้ั พอ่ คงอยนู่ ิรนั ดร ด้วยรักและอาลยั อ้อย

คุณตาจา๋ หนูดใี จท่ไี ด้เกิดเป็นหลานของคณุ ตา คุณตาเปน็ ผู้ที่คอยเล้ียงดู หนมู าตง้ั แต่เล็กจนตอนน้หี นูโตข้ึนมากแล้ว ตั้งแต่จำความไดต้ อน เดก็ ๆคุณตาจะคอยไปรับไปสง่ หนตู ้ังแต่อนุบาลจนจบม.6 และไมว่ า่ ตอนเด็กหนจู ะงอแงหรอื ด้อื แค่ไหนคุณตากไ็ มเ่ คยทจ่ี ะดจุ ะด่าหนแู รงๆ เลยแม้แต่นิดดยี ว คุณตาเปน็ คนทีม่ ีความอบอนุ่ รักและดูแลหลานเป็น อย่างดี เวลาอยากไดอ้ ะไรหรืออยากทานอะไรคุณตาก็ไมเ่ คยห้าม มี แตจ่ ะคอยหามาให้ สนับสนุนเร่ืองการเรียนทุกๆอย่าง หนูสญั ญาว่าหนูจะต้ังใจเรยี นให้จบตามที่คุณตาได้ทุ่มเท ตั้งใจ และหวงั ไว้ให้หนูมีงานทด่ี ที ำ เป็นคนดี จะขยนั หมนั่ เพียรให้เหมือนท่ี คณุ ตานนั้ ขยันทำงาน ดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี ต่อไปนีก้ ็คงเหลอื เพยี งความทรงจำทด่ี ที ห่ี นูจะจดจำและคิดถึงคณุ ตาตลอดไป ดว้ ยรักและอาลยั เจน

ดว้ ยความเคารพ...รกั และจะระลกึ ถึงตลอดไป พีท่ วีป พลายพยคั ฆ์ เป็นพี่ชายคนโตของนอ้ งๆจำนวน 7 คน คอื วรรณ วดี อุบลวรรณ วิวัฒน์ ยุวดี กณั หา ศริ ินและวิวรรณ พีท่ วีปจะรกั และหว่ งใย เอื้อเฟือ้ เผอ่ื แผน่ ้องๆ ตลอดจนหลานๆ พี่จะคอย ให้คำแนะนำและให้ความชว่ ยเหลอื เรือ่ งทนุ ทรัพย์ เพื่อใหน้ ้องและหลานๆ ได้ สำเรจ็ การศกึ ษาเพือ่ มอี าชีพสำหรบั ดำเนินชีวิตตอ่ ไป พี่เปน็ คนทีม่ เี มตตาและโอบอ้อมอารีต่อผอู้ ืน่ เปน็ คนที่มีจิตใจดี ยิ้มแย้ม แจ่มใส รักน้องๆและหลานๆ ตลอดจนครอบครวั ญาติ และผรู้ ว่ มงานทุกคน พีไ่ ม่เคยคิดรา้ ยต่อใครเลย พี่เปน็ ที่รกั ของคนรู้จัก ญาติพ่นี ้องและลกู น้องทุกๆ คน พีเ่ ป็นคนรกั ความก้าวหนา้ ในหน้าทีก่ ารงาน พีม่ คี วามพยายามเรียนจนถึง ปริญญาตรีดว้ ยวยั 51 ปี และจบปริญญาโทด้วยวัย 57 ปี จึงทำให้พีป่ ระสบ ความสำเร็จในชวี ิตราชการเป็นอย่างสงู และจะเปน็ ตัวอยา่ งใหห้ ลานต่อไป พีร่ กั และเป็นหว่ งครอบครัวของพี่มาก ถึงพ่เี จ็บปว่ ยพี่กม็ ีกำลังใจที่เข้มแข็ง เพือ่ ทีจ่ ะดำเนินชีวติ กบั ครอบครัวตอ่ ไป แต่พี่กไ็ ม่สามารถตอ่ สู้กบั โรคร้ายได้ น้องๆทุกคน ขอกศุ ลคุณความดีทีพ่ ี่ปฏิบตั ิมาโดยตลอดและบุญกุศลที่ น้องๆและญาติบำเพญ็ อุทิศไปให้ โปรดนำดวงวิญญาณของพีไ่ ปส่สู ัมปรายภพ ทีด่ ที ีพ่ ี่ได้ทำไว้ด้วยเทอญ รักพี่มาก น้องๆของพี่

การศึกษา

ชีวติ ราชการ

วาระสุดท้ายของชีวติ วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 พระเดชพระคุณหลวงพอ่ เจา้ คณุ พระเทพ ปัญญาภรณ์ (ริต ริตเวที ป.ธ.9, กศ.ม.)เจ้าอาวาสวดั ตากฟ้า พระอารามหลวง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ และคณะได้มาเยีย่ มและสวดเจริญพรให้ เปน็ ความ ปราบปลืม้ ใจของครอบครวั พลายพยคั ฆแ์ ละขอกราบขอบพระคณุ อยา่ งสงู

วันที่ 6-7 สิงหาคม 2563 น้องๆ ศษิ ยเ์ กา่ กองควบคุมกิจการขนส่ง มาเยีย่ ม ให้กำลังใจปา๊ ครอบครวั พลายพยัคฆ์ ขอขอบคุณอย่างสงู

ผลงานระหว่างรับราชการ 1. ขณะดำรงตำแหนง่ ขนส่งจังหวัดลำปาง บริหารและพัฒนาสำนกั งานขนสง่ จังหวดั จนได้รบั รางวัลจากกรมการขนส่งทางบก ดังนี้ 1.1 สำนักงานขนส่งจังหวดั ลำปางได้รับรางวัลสำนกั งานดีเดน่ ระดบั ประเทศ อนั ดบั ทีห่ นึ่ง ประจำปี 2538 1.2 สำนกั งานขนส่งจังหวดั ลำปาง สาขาอำเภอแจห้ ่ม ได้รบั รางวลั ชมเชย ระดับเขต ประเภทสำนักงานขนสง่ ของตนเอง ประจำปี 2538 1.3 สำนกั งานขนสง่ จังหวดั ลำปาง ได้รบั รางวัลประเภทการพัฒนาดีเดน่ อนั ดบั ที่ 2 ในการประกวดสถานีขนส่งผโู้ ดยสารจังหวัดลำปาง ประจำปี 2538

2. ขณะดำรงตำแหนง่ ขนส่งจงั หวัดนครสวรรค์ บริหารและพัฒนาสำนักงาน ได้รับโล่ประกาศเกียรติคณุ จากนายกรัฐมนตรี (นายชวน หลีกภยั ) รางวัล จังหวดั ที่มีผลงานได้รบั การชมเชยในการให้บริการประชาชน ด้านการคมนาคม การขนสง่ ทางบก ทางน้ำ ประจำปี 2543 และในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2544 กรมการขนส่งทางบกได้มอบโลห่ ์แสดงความยินดีกบั สำนกั งานขนส่งจังหวัด นครสวรรค์ ในโอกาสได้รบั รางวัลชมเชยจากนายกรัฐมนตรี (นายชวน หลีกภัย) และกรมการขนส่งทางบกได้มอบแหวนทองให้ นายทวีป พลายพยัคฆ์ ขนสง่ จงั หวัดนครสวรรค์ ทีส่ ร้างชือ่ เสียงใหแ้ กก่ รมการขนส่งทางบก

บทสวดมนต์ สำหรับผู้ทส่ี นใจทจ่ี ะสวดมนต์เปน็ ประจำ วิธสี วด ให้เรม่ิ สวด ตง้ั แตบ่ ทบชู าพระรัตนตรยั , กราบพระรตั นตรยั , นมสั การพระพุทธเจา้ , ไตรสรณคมน์, (ถ้าจะสวดก็ต่อดว้ ยการ สมาทานศีล ๕ หรือ ศีล ๘ ตามต้องการ) พุทธคุณ, ธรรมคณุ , สงั ฆคณุ , พาหุงฯ, อติ ปิ โิ สเทา่ อายุเกนิ ๑ เช่น อายุ ๒๕ ให้สวด ๒๖ จบ, บทกรณีเมตตาสตู ร, ชินบญั ชรฯ, คำอธษิ ฐานจิต, ขออโหสิกรรม, แผเ่ มตตาและอุทศิ บุญกุศล

คำบชู าพระรตั นตรยั อมิ ินา สกั กาเรนะ พุทธัง อะภิปชู ะยามิ อมิ ินา สกั กาเรนะ ธมั มัง อะภิปูชะยามิ อมิ ินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปชู ะยามิ บทกราบพระรัตนตรยั อะระหงั สัมมาสมั พุทโธ ภะคะวา พุทธงั ภะคะวันตงั อภิวาเทมิ (กราบ) สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธมั มงั นะมสั สามิ (กราบ) สปุ ะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ) นมัสการพระพทุ ธเจา้ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธัสสะ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พทุ ธัสสะ

ไตรสรณคมน์ พทุ ธัง สะระณัง คจั ฉามิ ธมั มงั สะระณงั คจั ฉามิ สังฆงั สะระณงั คัจฉามิ ทุติยัมปิ พทุ ธงั สะระณัง คัจฉามิ ทุติยมั ปิ ธัมมงั สะระณงั คจั ฉามิ ทุติยัมปิ สงั ฆงั สะระณงั คัจฉามิ ตะตยิ มั ปิ พุทธงั สะระณงั คัจฉามิ ตะตยิ ัมปิ ธัมมัง สะระณงั คัจฉามิ ตะตยิ มั ปิ สังฆัง สะระณงั คจั ฉามิ คำสมาทานศีล ๕ หรือ ๘ (ตามศรัทธา) พุทธคุณ ธรรมคณุ สังฆคุณ (คุณของพระพทุ ธเจ้า พระธรรม พระสงฆ)์

อติ ปิ โิ ส ภะคะวา อะระหัง สมั มา สัมพทุ โธ วิชชาจะระณะสมั ปนั โน สุคะโต โลกะวทิ ู อะนตุ ตะโร ปุริสะทมั มะสาระถิ สตั ถา เทวะมะ นสุ สานงั พุทโธ ภะคะวาติ สะวากขาโต ภะคะวาตา ธัมโม สันทฏิ ฐิโก อะกาลโิ ก เอหิปสั สโิ ก โอปะนะยิโก ปจั จัตตัง เวทติ ัพโพ วญิ ญหู ีติ สปุ ะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สามีจิปะ -ฏิตปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปรุ ิสะยคุ านิ อัฏฐะปรุ ิสะ ปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหเุ นยโย ทกั ขิเณยโย อัญชะลกี ะระณีโย อะนุตตะรงั ปุญญกั เขตตัง โลกัสสาติ พุทธชยั มงคลคาถา คาถาบทพาหงุ พาหุงสะหสั สะมะภินมิ มิตะสาวธุ ันตัง ครเี มขะลงั อทุ ิตะโฆ ระสะเสนะมารัง ทานาทิธมั มะวธิ นิ า ชิตะวา มนุ นิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ

มาราติเร กะมะภิยุชฌิตะสพั พะรัตติง โฆรมั ปะนาฬะวะกะมักขะมะถทั ธะยกั ขัง ขันตสี ุทันตะวธิ นิ า ชิตะวา มุนนิ โท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ นาฬาคิรงิ คะชะวะรงั อะตมิ ตั ตะภตู งั ทาวัคคิจกั กะมะสะนีวะ สทุ ารณุ ันตัง เมตตมั พเุ สกะวธิ ินา ชิตะวา มนุ นิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ อกุ ขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารณุ นั ตงั ธาวนั ติโยชะนะปะถงั คุลิมาละวนั ตงั อทิ ธภี ิสงั ขะตะมะโน ชิตะวา มนุ นิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรงั อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทฏุ ฐะวะจะนัง ชะยะกายะมัชเฌ สนั เตนะ โสมะวิธินา ชติ ะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ สจั จัง วิหายะ มะติสจั จะกาวาทะเกตงุ วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตงั ปญั ญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนนิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

นันโทปะนนั ทะภุชะคงั วิพุธัง มะหิทธงิ ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยนั โต อทิ ธปู ะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนนิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ทคุ คาหะทฏิ ฐิภุชะเคนะ สทุ ฏั ฐะหตั ถงั พรัหมัง วิสทุ ธชิ ุตมิ ิทธพิ ะกาภิธานงั ญาณาคะเทนะ วิธนิ า ชิตะวา มุนนิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอฉั ฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทเิ น สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวธิ านิ จุปัททะวานิ โมกขงั สขุ งั อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ มหาการณุ ิโก มหาการณุ ิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปเู รตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธมิ ุตตะมงั เอเตนะ สจั จะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมงั คะลัง ฯ ชะยันโต โพธยิ า มูเล สักยานงั นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยสั สุ ชะยะมงั คะเล อะปะราชติ ะปัลลังเก สเี ส ปะฐะวิโปกขะเร

อะภิเสเก สพั พะพทุ ธานัง อคั คปั ปัตโต ปะโมทะติ ฯ สนุ กั ขัตตงั สุมังคะลงั สุปะภาตงั สุหุฏฐิตัง สขุ ะโณ สมุ ุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจารสิ ุ ปะทกั ขิณัง กายะกัมมงั วาจากมั มงั ปะทกั ขณิ งั ปะทักขิณงั มะโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขณิ า ปะทักขณิ านิ กตั วานะ ละภนั ตัตเถ ปะทักขเิ ณ ฯ ภะวะตุ สัพพะมงั คะลงั รกั ขนั ตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพทุ ธานภุ าเว นะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ ภะวะตุ สพั พะมังคะลงั รกั ขนั ตุ สัพพะเทวะตา สพั พะธมั มานภุ าเว นะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลงั รกั ขนั ตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสงั ฆานุภาเว นะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ อิติปิ โส เทา่ อายบุ วกดว้ ย ๑ จบ อติ ปิ ิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพทุ โธ วิชชาจะระณะสมั ปนั โน สคุ ะโต โลกะวทิ ู อะนุตตะโร ปรุ สิ สะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะ มนุสสานงั พทุ โธ ภะคะวาติ

กะระณียะเมตตะสตุ ตัง เมตตญั จะ สพั พะโลกสั ๎มิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณงั อุทธัง อะโธ จะ ตริ ิยญั จะ อะสัมพาธงั อะเวรงั อะสะปตั ตงั ตฏิ ฐญั จะรัง นสิ ินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ เอตัง สะติง อะธฏิ เฐยยะ พ๎รหั ม๎ ะเมตงั วิหารัง อิธะมาหุ ทฏิ ฐิญจะ อะนปุ ะคัมมะ สลี ะวา ทัสสะเนนะ สมั ปันโน กาเมสุ วเิ นยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คพั ภะเสยยงั ปนุ ะเรตตี ฯิ พระคาถาชนิ บญั ชร เพ่อื ให้เกิดอานุภาพมากยิง่ ข้นึ ก่อนเจริญภาวนา ตง้ั นะโม ๓ จบ ก่อนแลว้ นอ้ มระลกึ ถึงพระรตั นตรยั และบูชาสมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (โต พรหมรังสี) แล้วตั้งจิตอธษิ ฐาน วา่ ปตุ ตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานงั ปิยะตงั สุตตะวา อติ ปิ โิ สภะคะวา ยะมะราชาโน ทา้ วเวสสวุ ัณโณ มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพทุ ธายะ (แล้วจงึ เจรญิ ภาวนา)

ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตวา มารงั สะวาหะนัง จะตสุ ัจจาสะภัง ระสัง เย ปวิ ิงสุ นะราสะภา. ตณั หังกะราทะโย พทุ ธา อฏั ฐะวสี ะติ นายะกา สพั เพ ปะตฏิ ฐิตา มยั หัง มตั ถะเกเต มนุ ิสสะรา. สเี ส ปะตฏิ ฐิโต มัยหงั พทุ โธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะตฏิ ฐิโต มยั หัง อเุ ร สัพพะคุณากะโร. หะทะเย เม อะนุรทุ โธ สารีปตุ โต จะทักขิเณ โกณฑัญโญ ปฏิ ฐิภาคสั มิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก. เกสันเต ปฏิ ฐิภาคัสมิง สรุ ิโย วะ ปะภงั กะโร นสิ นิ โน สิริสมั ปนั โน โสภิโต มุนปิ งุ คะโว กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จติ ตะ วาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะตฏิ ฐาสิคุณากะโร. ปณุ โณ องั คลุ มิ าโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี เถรา ปญั จะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ.

เสสาสีติ มะหาเถรา วิชติ า ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สลี ะเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐติ า. ระตะนงั ปรุ ะโต อาสิ ทกั ขิเณ เมตตะ สตุ ตะกงั ธะชัคคงั ปจั ฉะโต อาสิ วาเม องั คลุ ิมาละกงั ขนั ธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกงั อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสณั ฐิตา ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตปั ปาการะ ลงั กะตา วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌตั ตุปทั ทะวา. อะเสสา วนิ ะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพทุ ธะปัญชะเร. ชินะปญั ชะระมชั ฌมั หิ วิหะรนั ตัง มะฮี ตะเล สะทา ปาเลนตุ มงั สัพเพ เต มะหาปุรสิ าสะภา. อจิ เจวะมนั โต สุคตุ โต สุรกั โข ชินานภุ าเวนะ ชิตุปทั ทะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานภุ าเวนะ ชิตันตะราโย สทั ธมั มานุภาวะปาลโิ ต จะรามิ ชินะ ปญั ชะเรต.ิ

คำตัง้ จิตอธิษฐาน ขา้ พเจ้าขอต้ังจิตอธิษฐาน ดว้ ยอำนาจแห่งบุญกศุ ลทีเ่ กิดจากการ เจริญภาวนานี้ จงเป็นพลวะปจั จัย เป็นนิสยั ตามสง่ ให้ขา้ พเจ้าเกิด ความสุข ความเจริญ และเกดิ ปัญญาญาณ ทั้งในชาตินี้ ชาตหิ น้า ตลอดชาติอยา่ งยิง่ จนบรรลุถึงพระนพิ พาน ในอนาคตกาลนนั้ เทอญ คำอโหสิกรรม ขา้ พเจ้าของดโทษ และขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใด ในชาติ ใดๆ กต็ าม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรม ให้กบั ข้าพเจา้ อย่าไดจ้ องเวรจองกรรมต่อไปเลย แม้แตก่ รรมที่ใครๆ ไดท้ ำกับ ขา้ พเจ้าก็ตาม ข้าพเจา้ ขออโหสกิ รรมให้ท้ังส้ิน และขอยกถวาย พระพทุ ธเจ้า เปน็ อภยั ทาน เพอ่ื จะได้ไม่มีเวรกรรมตอ่ ไป ด้วยอานิสงส์ แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ขา้ พเจา้ และครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศา คณาญาติ และผู้มีอปุ การคณุ ของข้าพเจ้า จงมีความสขุ ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งทด่ี ี และสิง่ ท่ีชอบดว้ ยเทอญ.

บทแผเ่ มตตาใหแ้ ก่ตนเอง อะหัง สขุ ิโต โหมิ ขอให้ขา้ พเจ้ามีความสุข นทิ ทุกโข โหมิ ปราศจากความทกุ ข์ อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร อพั ยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายท้ังปวง อะนโี ฆ โหมิ ปราศจากความทกุ ขก์ ายทกุ ใจ สขุ ี อตั ตานงั ปะริหะรามิ จงมีความสขุ กาย สขุ ใจ รกั ษาตนให้พ้นจาก ทกุ ขภ์ ัยทงั้ สิน้ เถิด บทแผ่เมตตาใหส้ รรพสตั ว์ สัพเพ สัตตา สตั วท์ งั้ หลายทีเ่ ป็นเพื่อนทกุ ขเ์ กดิ แก่เจบ็ ตายด้วยกนั ทง้ั หมดท้ังส้ิน อะเวรา โหนตุ จงเป็นสขุ เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรตอ่ กนั และกันเลย อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสขุ เปน็ สุขเถิด อย่าได้เบยี ดเบยี น ซึ่งกนั และกนั เลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเปน็ สุขเถิด อย่าได้มีความทุกขก์ ายทกุ ข์ใจเลย สขุ ี อตั ตานงั ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สขุ ใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทง้ั สิน้ เถิด บทแผส่ ่วนกุศล อทิ งั เม มาตาปิตูนงั โหตุ สขุ ิตา โหนตุ มาตาปิตะโร ขอสว่ นบุญนจี้ งสำเร็จแกบ่ ิดามารดาของขา้ พเจ้า ขอให้บดิ ามารดา ของข้าพเจ้ามีความสขุ อทิ งั เม ญาตนี ัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนีจ้ งสำเรจ็ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจา้ ขอให้ญาติ ทง้ั หลายของขา้ พเจ้ามีความสขุ อทิ งั เม ครุ ปู ชั ฌายาจริยานงั โหตุ สขุ ิตา โหนตุ ครุ ูปชั ฌายา จริยา ขอส่วนบุญนีจ้ งสำเรจ็ แก่ครอู ปุ ชั ฌายอ์ าจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครู อปุ ชั ฌายอ์ าจารยข์ องขา้ พเจา้ มีความสุข

อทิ ัง สพั พะเทวะตานงั โหตุ สุขิตา โหนตุ สพั เพ เทวา ขอส่วนบุญนีจ้ งสำเร็จแกเ่ ทวดาทง้ั หลายทั้งปวง ขอให้เทวดา ทง้ั หลายทั้งปวงมีความสขุ อทิ งั สพั พะเปตานงั โหตุ สุขิตา โหนตุ สพั เพ เปตา ขอสว่ นบุญนจี้ งสำเรจ็ แกเ่ ปรตทงั้ หลายท้ังปวง ขอให้เปรตทงั้ หลาย ทงั้ ปวงมีความสขุ อทิ ัง สพั พะเวรีนงั โหตุ สขุ ิตา โหนตุ สพั เพ เวรี ขอสว่ นบุญนีจ้ งสำเรจ็ แก่เจ้ากรรมนายเวรท้ังหลายทั้งปวง ขอให้เจ้า กรรมนายเวรทั้งหลายท้ังปวงมีความสขุ อทิ งั สัพพะสัตตานงั โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา ขอส่วนบุญนจี้ งสำเรจ็ แกส่ ัตว์ทงั้ หลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ท้ังหลายทง้ั ปวงมีความสุขทว่ั หนา้ กันเทอญ

พระธรรมคำสอนของพระธรรมสงิ หบรุ าจารย์ (หลวงพ่อจรญั ) พระทา่ นสอนว่า กิจโฉ มนุสสปฎิลาโภ การเกิดเปน็ มนุษยแ์ สนจะยาก ยิ่งมหี น้าตาดียิ่งหายากทีส่ ุด บางคน มศี ลี มาไมค่ รบ เกิดมา ขรี้ วิ้ ขีเ้ หรบ่ างคนเกิดมาง่อยเปลีย้ เสียขา บางคนตาบอดหหู นวก บางคนแถมยัง ปัญญาอ่อน บางคนเปน็ อัมพาต บางคนมมี า ทานดี แต่ชาติกอ่ น กม็ าเกิดเปน็ ลูกมหาเศรษฐีม่ังมศี รีสุข แตเ่ มือ่ ชาตกิ อ่ นเขาได้ทำการเบียดเบียนสตั ว์มา ชาตนิ ี้ จงึ สามวนั ดีสว่ี นั ไข้ มีเงินก็ช่วยไมไ่ ด้ บางคน ไมไ่ ด้สร้างเหตุแห่งปญั ญามา ถึง เกิดเป็นลูกเศรษฐี เงนิ กช็ ่วยซอื้ วิชาไม่ได้ บางคนบ้านใหญ่บ้านโตราวกับวัง แต่ กินข้าวกบั น้ำตาไม่เว้นแต่ละวัน สร้างกรรม เราเปน็ คนทำ เราต้องเป็นคนแก้ จะไปให้คนอ่ืนแก้ไม่ได้ การเจรญิ กรรมฐาน ทำให้รู้กฎแหง่ กรรมว่าเราเคยทำอะไรไว้จะได้แก้กรรม (ชดใช้กรรม) ของตัวเอง ไม่ใช่คนอื่นแก้ให้ เราไปขอยืมเงินของเขามา แล้วให้คน อื่นรบั ใช้มนั จะถูกต้องไหม คงจะไม่ยตุ ิธรรมกระมัง กฎแห่งกรรมนะ ทา่ น ทั้งหลาย บางคนด่ากันว่ากัน พ่อบางคน เตะลกู ทั้งรองเท้า เป็นเวรกรรมเจริญ กรรมฐานไมไ่ ด้หรอก ต้องอโหสิกรรมกันก่อน บางคนด่าสามีทำกรรมฐานไม่ ได้ผล เพราะไมไ่ ด้อโหสิกรรมก่อน บางคนคิดไมด่ ีกับพอ่ คิดไม่ดีกับแม่ ไม่ต้อง ทำกรรมฐานนะ ไมไ่ ด้ผลถ้าไม่อโหสิกรรมก่อนไม่ได้ผล เหมอื นเราไปแจง้ ความ ที่โรงพัก ถ้าไม่ถอนแจ้งความ มนั ก็มีความผดิ ตอ่ ไป เปน็ กฎแหง่ กรรมนะ เรา ต้องถอนเราไปพดู ด่าเขา ก็อโหสิกรรมถอนคำพูดออกจากการด่าเขาเสีย ถึงจะ ไมม่ ีเวรกรรมตดิ ตวั ไป อันนี้มีประโยชน์มาก ผทู้ ี่เจรญิ กรรมฐานถึงจะรู้ได้ ขอ

เจริญพรวา่ การแผส่ ว่ นกุศล หรือแผ่เมตตาแก้กรรม จะแก้บทใดอย่าพดู เรือ่ ง นั้น อย่าไปด่าไปวา่ จะไม่มีทางแก้ไขได้ จะเป็นการหยิบเล็บเจบ็ เนือ้ จะเหลือวิสยั วิธีแก้กรรม อยา่ ไปผูกใจเจ็บ ให้อโหสิกรรมเสียกจ็ ะเป็นสขุ ทุกฝา่ ย คำว่า ตัวกรรมเห็นชดั คือ เวทนา ถ้าเราน่งั เม่ือยแล้วเลิก เดินจงกรม เมื่อยแลว้ เลิก รบั รองทำอีกหม่นื ปี กไ็ ม่พบกฎแห่งกรรม จากการกระทำของคน ไมพ่ บแน่ ขอฝากปรารภธรรมไว้ในข้อน้ี กรรมคร้ังอดตี น้ัน ต้องแก้ด้วยการเจรญิ ทุกขเวทนา มเี วทนาแล้วตอ้ งสู้ เวทนาจะ เกิดข้ึน ตั้งอย่แู ล้วดับไป เราจะรู้ว่าเราทำกรรมอะไรไว้ กรรมปจั จุบนั แก้ด้วยการกำหนดทางอายตนะ ธาตุอนิ ทรีย์ หน้าที่การ งาน ให้มนั ดับไป อยา่ มาติดใจและข้องอยู่ แต่ประการใด ไฟราคะ โทสะ โมหะ กจ็ บไมล่ ุกลามไปจนถึงอนาคต บญุ กับบาป ลบล้างกนั ไม่ได้ บญุ กอ็ ย่สู ่วนบุญ บาปก็อยู่สว่ นบาป เปรียบเหมอื นน้ำกบั น้ำมัน หากเราสร้างกรรมดี สร้างบุญกศุ ลให้มากเข้าไว้ แม้ บุญกุศลจะไมส่ ามารถล้างกรรมชว่ั ได้ แต่หากบาปกรรมชวั่ มีนอ้ ย ก็จะยังตาม ไมท่ ัน เพราะกุศลบารมีมีมากกว่า เมื่อเราสร้างบญุ กุศลเป็นบารมมี ากขึ้น เราก็ แผ่สว่ นกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวร สรา้ งบุญกศุ ลคร้ังใด กอ็ ทุ ิศทุกครั้งไป หาก กรรมชว่ั เรามีน้อยก็จะจางไป เพราะสว่ นกุศลทีเ่ ราอทุ ิศจะชดใช้หนีก้ รรมไปใน ตวั เม่อื เราสร้างบุญกุศลมากขึน้ กรรมช่วั ถึงไมจ่ างก็ค่อยหา่ งออกไป ยังตามไม่ ทัน แต่หากหยดุ สร้างบญุ กุศลและหันมาสร้างกรรมชวั่ สร้างบาปต่อไป กรรมชัว่ ก็จะเข้าใกล้ ติดตามมาทันสนองเรว็ ขึน้ หากเปน็ กรรมหนกั ก็ยากทีจ่ ะหลบหลีก ให้พ้นได้ แม้จะสร้างกรรมดีเพียงใดกต็ าม ก็ต้องรบั กรรมหนกั ชาติน้ไี ปก่อน

จนกว่าจะหมดเวร สว่ นกรรมดีกจ็ ะสนองภายหลังหรอื ชาติหน้า หรอื เมือ่ ใช้หนี้ อกุศลกรรมหมดแล้ว (เรือ่ งนีห้ ลวงพอ่ ได้เล่าเปรียบเทียบไว้น่าฟังเปน็ อีกเหตผุ ลหน่งึ วา่ เหมอื น เราไปยืมสตางค์เขามาแล้วไม่ใช้ กค็ ือเปน็ หน้ีเขาต้องชดใช้ทั้งดอกและต้น เรา อาจขอทำงานรบั ใช้เขา เพือ่ ลดดอก เม่อื เขาเห็นความดีเรามากเข้า เขาอาจไม่ คิดดอก อดทนทำความดีให้เจ้าหน้ีเห็นยิง่ ๆขึน้ เขาอาจยกหนีใ้ ห้หมดเลย : ผู้ รวบรวม) คนทีเ่ ป็นหนี้ (กรรม) เขา ยังใช้หนี้ (กรรม) ไม่หมด สร้างความดไี มข่ ึ้น หากินไมข่ ึ้น บางคนค้าขายร่ำรวยจรงิ แต่เกบ็ เงินไมอ่ ยู่ ทำอยา่ งไรกไ็ มอ่ ยู่ ไม่รู้ ออกไปทางไหนหมด อาตมาก็ดใู ห้ บอกให้มาน่ังกรรมฐาน แก้กรรมน้ีเสีย กไ็ ด้ ความว่า สรา้ งเวร สร้างกรรม มามาก ยงั ใชไ้ ม่หมด พอใช้เวรใช้กรรมหมดก็ อโหสิกรรมแผเ่ มตตา บำเพ็ญกศุ ลเรียบร้อย ทีน้ีเก็บเงินอยูล่ ะ เปน็ เศรษฐีได้น่ี กลายเปน็ คนมีเงนิ มที องไปแล้ว น่แี หละ ใช้หน้ีใครไม่หมด ไมเ่ จริญหรอก ทำมา หากินไม่ขึ้น ขอฝากไว้สั้นๆ ท่านท้ังหลายเอ๋ย ทีเ่ ราสร้างบญุ สร้างบาปกันมานี่แหละ พ่อแม่สร้าง ความไม่ดีให้กับลกู ทำความไมถ่ ูกใหก้ ับหลาน เวรกรรมกจ็ ะโอนให้ลกู ของตน ถ้าพอ่ มบี ญุ แม่มีบุญได้เจริญกรรมฐาน ลกู ออกมาก็จะมีบญุ วาสนาด้วย ถ้าพ่อ มีเวร แม่ซ้ำมีเวร สร้างเวรสร้างกรรมร่วมกนั มา ลกู จะมีสมองดีไม่ได้ เสียจริต ผดิ มนษุ ย์ ไม่สามารถจะสอนให้เขาดไี ด้ อย่างทีพ่ ระพุทธเจา้ สอนไว้ ทีเ่ ราสวด มนต์กันว่า “กัมมทายาโท กัมมโยนิ กมั มพนั ธุ กมั มปฎิสรโน ยัง กมั มังกริสสามิ กลั ปย์ าณังวาปาปะกงั วา”

คนที่มบี ญุ วาสนา จะกตญั ญพู ่อแม่ คนเถียงพอเถียงแม่เอาดไี มไ่ ด้ คน ไม่พูดกบั พอ่ แม่ น่งั กรรมฐานรอ้ ยปี กไ็ มไ่ ด้อะไร? ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ขออโหสิกรรม ที่คิดไมด่ ีกบั พ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไมด่ ีกับ พีๆ่ น้องๆ จะไมเ่ อาอีกแล้ว เอาน้ำไปขนั หน่งึ เอาดอกมะลิโรย กายกมั มงั วจีกัมมงั มโนกัมมัง โยโทโส อนั ว่าโทษทณั ฑ์ใด ความผิดพลาดอนั ใด ที่ข้าพเจ้า พลั้งเผลอสติไป ดว้ ยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจกด็ ี ทั้งตอ่ หนา้ และลับหลงั ขอให้คณุ พอ่ คณุ แม่ คณุ ปคู่ ุณยา่ คณุ ตาคณุ ยาย คณุ พี่คณุ น้อง อโหสิกรรมให้ ด้วย แลว้ เอาน้ำรดมอื รดเท้า นี่แหละท่านทั้งหลาย เปน็ หนีบ้ ุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนา ทวงไร่ ทวงตกึ มาเป็นของเราอีกหรอื ตวั เองกพ็ ึง่ ตวั เองไม่ได้สอนตัวเองไมไ่ ด้ เปน็ คนอัปรียจ์ ัญไรในโลกมนษุ ย์ ไปทวงหน้พี อ่ แม่ พ่อแมใ่ ห้แล้ว (ใหช้ ีวิต ให.้ .. ให้... ให้... ฯลฯ) เรยี นสำเร็จแล้ว ยังช่วยตวั เองไมไ่ ด้ มีหนีต้ ิดค้าง รับรองทำมา หากินไม่ขึ้นฯ หน้บี ุญคณุ อันยิง่ ใหญ่ เหลอื จะนบั ประมาณน้ัน คือหน้ีบญุ คณุ ของบิดา มารดาฯ การอุทิศส่วนกศุ ลใหบ้ รรพบุรุษ บิดามารดาชาติเก่าอีกครั้งอดตี กม็ ี โอกาสมารับส่วนบุญกศุ ลด้วย เรามบี ิดามารดา มาหลายชาติ หลายกัปหลาย กลั ป์ มาชาติน้กี ม็ ิทราบได้วา่ ใครเปน็ บิดามารดาของเรา พระเกจอิ าจารย์ท่าน เลา่ สบื มา บางที บิดามารดา ญาติวงศพ์ งศามาเกิด เป็นสนุ ขั เป็นวัว เปน็ ควาย ฯลฯ เราก็หารู้ไม่ เพราะล้มหายตายจากไปหลายชาติ หลวงพอ่ ยกตวั อยา่ ง ชาย หนมุ่ จากจังหวัดปัตตานีขึน้ ไป รบั จ้างทำไร่ไถนาที่จงั หวัดพิจติ ร ได้พบครอบครวั

ทีใ่ นอดีตชาติเขาเคยเปน็ พ่อบ้านของครอบครัวนี้ และเมื่อลูกหลานบ้านนี้ทำบุญ ให้บรรพบุรษุ ครั้งไร กร็ ู้สึกอิ่มท้องตลอดท้ังวนั ท้ังคืนฯ (จากหนงั สอื อนุสาสนีปาฏิหาริย)์ ถ้าโยมทำบุญได้บุญ น่งั เจริญกรรมฐานได้ที่ มีคนมาขอสว่ นบุญนะ ค้าขายไมไ่ ด้เลยไมม่ ีใครมาทวงหน้ี ยิง่ ขายดิบขายดี ยิ่งมีคนมาทวงหน้ี คือกฎ แห่งกรรม ต้องมีเร่อื ง มเี หตุอิจฉา มาน่ังกรรมฐาน ถ้ามีบญุ วาสนาเดี๋ยวก็มี เปรตมาขอส่วนบญุ (ตวั อยา่ งที่วดั นีม้ ีมาก แตท่ ีห่ ลวงพอ่ พูดถึงบ่อยๆ คอื พระเฟือ่ ง เคยเป็นพระลูกที่ วดั นี่ ตายแล้วเปน็ เปรตอยู่ในวดั ไม่ไปผุดไปเกิด ได้มาปรากฎกาย เพื่อขอสว่ น บุญกับแพทย์หญิงบุญเยีย่ ม ผู้ซึ่งมานั่งกรรมฐานแล้วได้ผล : ผู้รวบรวม) วิธีสร้างความดีน้ไี ม่ใช่สร้างได้ทกุ คนนะ ทำได้ยากมาก เหตุผลอย่างไร เรียกวา่ ทำได้ยาก เพราะมีศัตรใู นใจ ศตั รูในใจมันมาปิดบังอำพรางบญุ มีแต่ กรรมบัง มันไม่อย่างใหส้ ร้างความดี มันมาแย้งกยั เราคือศตั รูในใจ พระเอก นางเอก ต้องลำบากที่สดุ จนชีวติ หาไม่ แต่ตวั โกง ตัวเฉฉวน ชวนใหเ้ ราหลง งง ในโมหะ มันบอกเราว่า อยบ่าทำกรรมฐานเมือ่ ยเปลา่ ๆ ไมเ่ กิดประโยชน์ นี่แห ลพศตั รมู ารทั้งหลายมากระซิบ นัง่ ทำไม มนั เมอ่ื ย ขบไปหมด มาทรมานกายไม่ ดีเลย นีศ่ ัตรใู ชไ่ หม เรือ่ งจรงิ ที่พิสูจนแ์ ล้ว คอื อานิสงคข์ องการทำบุญตกั บาตรแลว้ สวดมนต์ ทุกวัน แม้จะยากจนเขญ็ ใจก็ทำเท่าทีท่ ำได้แม้เพียงนอ้ ยนิด ขอให้ทำด้วยความ ศรัทธา ทำดว้ ยความตงั้ ใจ ทำแล้วก็ช่นื ใจ เรอื กสวนไร่นา ก็ใหผ้ ลงอกงามดี นี่

คือเร่อื งจริงของตาแป๊ะกบั ยายซิม้ นานมาแล้ว ในขณะทีค่ นในระแวกน้ันไม่มีใคร สนใจทำบุญไหว้พระสวดมนต์ ปรากฏว่าสองคนผวั เมียคนู่ ีก้ ลับดีวนั ดีคนื ก็ยิง่ มนั่ ใจในพระพุทธศาสนามากยิง่ ขึน้ เวลานิมนตพ์ ระมาทีบ่ ้าน หลังจากจดั สำรบั พระสงคฆ์แล้ว แกถวายอาหารพระพุทธเป็นหมอ้ ๆ เลย แกบอกวา่ ลูกศษิ ย์ พระพทุ ธเจ้าเยอะ ซึง่ ก็จรงิ ดงั แกว่า ชาวบ้านมาตักกับข้าวไปหมด แล้วแกก็ สาธๆุ ๆ ขนมเข่งหลังจากทำบญุ แลว้ แกก็แจกหวั บ้านท้ายบ้าน ทำบุญแล้วตอ้ ง ให้ทานต่อ อย่าหวง ทำบญุ แล้วให้ทาน รวย ทำบญุ แล้วไม่ให้ทาน จน เราจงึ เรียกวา่ “ทำบุญสนุ ทาน” ทา่ นสาธชุ นทั้งหลาย การจะแผเ่ มตตาสร้างความดี ให้มีกำไรชวี ิตแล้ว ท่านจะไม่มีอุปสรรค จักต้องทำแบบนี้ อย่าไปริษยาเขา อยา่ ไปผกู พยาบาท ฆาตพยาเวร เวรยอ่ มระงบั ด้วยการไมจ่ องเวร อยา่ งน้ีจะถกู นะ บาปยอ่ มระงบั ด้วยการไม่สร้างบาป ความดีมบี ญุ ต้องต่อคณุ ประโยชน์ เมอ่ื เปน็ พระใจ ประเสริฐแล้ว รับรองได้เลยวา่ ทา่ นทำงานไม่มีอุปสรรค จะไม่มีอะไรขดั ขวาง ระหว่างทางดว้ ย (จากหนังสอื ใบไม้ในกำมือ)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook