แก้ กลุ่ม3

โครงงาน เร่ือง ยาดม สมุนไพรจาก ตะไคร้

โครงงานคอมพิวเตอร์ เร่ืองยาดมสมนุ ไพรจากตะไคร้ โดย 1. นางสาวณชั วดี โนจิตร เลขท่ี 6 2,นายชยานนั ต์ ถงุ เสน เลขท่ี 11 3.นายชยั ธวชั ออ่ นนวล เลขท่ี 12 4.นายนวพล ธนะตา เลขท่ี 14 5.นางสาวรบั พร นนั ตวฒุ ิกลุ เลขท่ี 37 ชน้ั มธั ยมศึกษาปี่ ที่ 5/4 รายงานฉบบั นเี้ ป็ นสว่ นประกอบของโครงงานคอมพิวเตอร์ ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 โรงเรียนปัว เสนอ คณุ ครดู ารงค์ คนั ธะเรศย์

ก บทคดั ยอ่ การจัดทาโครงงานในครั่งนี้เพอื่ ประดิษฐ์ และ สรรค์สร้างนาดม สมนุ ไพรเพื่อสุขภาพโดยสรา้ งเปน็ หนงั สือ E-bookเพอื่ เผยแพร่และนาเสนอ ความรจู้ ากการปฏบิ ตั ิจริง ผลงานจักทาโครงงานพบวา่ การพฒั นาโครงานสรา้ ง e-book ยาดมสมุนไพรจากตะไคร้ เพอ่ื เผยแพรค่ วามรเู้ ก่ยี วกับสรรพคณุ ของสมุนไพร แตล่ ะชนิดนน้ั ได้ทง่ั ความรู้และความเพลิดเพลิน คณะผจู้ ดั ทาไดด้ าเนินงาน ตามขัน้ ตอน ตามทีว่ างแผนไว้ และได้นาเสนอเผยแพร่ผลงานผา่ นเครอื ข่าย หนังสือe-bookออนไลน์ ที่สามารถเข้าถงึ ได้ทุกเวลา และทกุ สถานท่ี ซ่งึ เป็น แหลง่ เรียนรู้ในโลกออนไลนแ์ ละมีความรวดเร็วในการรบั ขอ้ มูล บุคคลท่วั ไป สามารถเขา้ รบั ชนได้ เพราะเป็น e-bookทม่ี ปี ระโยชน์ เหมาะสมแก่การศกึ ษา

ข กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรอ่ื งนปี้ ระกอบดว้ ยการดาเนนิ งานหลายขน้ั ตอน นับตง้ั แต่การศึกษาหาข้อมลู การทดลองการวเิ คราะหผ์ ลการทดลองการ จดั ทาโครงงานเป็นรูปเลม่ จนกระทัง่ โครงงานนสี้ าเร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยดี ตลอดระยะเวลาดงั กล่าวคณะผ้จู ดั ทาโครงงานไดร้ ับความช่วยเหลอื และ คาแนะนาในด้านตา่ งๆตลอดจนได้รบั กาลงั ใจจากบคุ คลหลายๆท่านคณะ ผจู้ ัดทาตระหนักและซาบซึ้งในความกรุณาจากทกุ ๆทา่ นเปน็ อยา่ งยิ่ง ณ โอกาสนีข้ อขอบคุณทุกๆทา่ นท่ใี หค้ วามชว่ ยเหลือในการใหค้ วามรู้ เกี่ยวกบั สมนุ ไพรแตล่ ะชนดิ ท่ีจะมาทาเป็นยาดมสมนุ ไพร กราบขอบพระคณุ ครดู ารง คันธะเรศย์ ครูท่ีปรึกษากล่มุ สาระ เทคโนโลยีโรงเรยี นปวั ท่ีผใู้ ห้คาแนะนาและไดเ้ มตตาให้ความชว่ ยเหลือใน ทกุ ๆด้านตลอดจนใหค้ วามคดิ และคาแนะนาตา่ งๆที่ทาใหโ้ ครงงานยาดม สมุนไพรจากตะไครป้ ระสบความสาเรจ็ ไปได้ดว้ ยดี คณะผูจ้ ดั ทา

สารบญั หน้า ก เร่ือง ข บทคดั ย่อ กติ ตกิ รรมประกาศ 1 บทท่ี 1 1. บทท่ี1 1 1 ความเป็ นมา วัตถุประสงค์ 2 ขอบเขตการทาโครงงาน 2 ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ 3-4 2. บทท่ี2 เอกสารท่ีเก่ียวข้อง 5 ความรู้ท่ัวไปของต้นตะไคร้ 5 สรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด 6 3. บทท่ี3 6 อุปกรณ์ และ วธิ ีการดาเนินงาน แผนผังระยะเวลาในการทาโครงงาน 7 ขนั้ ตอนการสร้างชนิ้ งานตามแบบ 7 วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ หรือโปรแกรมท่ใี ช้ในการพฒั นา 4. บทท่ี4 8 ผลการดาเนินงาน 9 การนาไปใช้ให้ครอบคลุมหน่วยบรรณาการของกลุ่มสาระต่าง 10 5. บทท่ี5 ผลการทดลอง บรรณานุกรม ภาคผนวก

1 บทท่ี1 บทนา ความเป็ นมา ในปจั จุบันสภาพอากาศนนั้ คอ่ นขา้ งแปรปรวน จึงทาใหเ้ กดิ อาการปว่ ย ได้ง่าย และในช่วงน้ีทกุ คนสว่ มใสห่ น้ากนั อาจจะหายใจไม่คอ่ ยสะดวกอีกท้ังยงั มมี ลพษิ ในอากาศ เช่น กลิ่นควนั รถ, กลน่ิ เหมน็ จากน้าเสีย, กล่นิ เหมน็ จากขยะ เป็นตน้ จึงทาให้ผู้คนหนั มาใชย้ าดมสมุนไพรกนั มากขนึ้ เนอื่ งจากทามาจากธรรมชาตแิ ละมี กลนิ่ หอม และทาให้หายใจไดส้ ะดวก ทางคณะผู้จัดทา จงึ จัดทาโครงงานยาดม สมุนไพรตะไคร้ขน้ึ โดยมุ่งเนน้ ศกึ ษาสมนุ ไพรตะไครท้ ่ีมีสรรพคณุ ชว่ ยบรรเทาอาการ หวดั วิงเวยี นศีรษะ หนา้ มดื อ่อนเพลีย เพ่ือตอบสนองผใู้ ช้ยาดมในปจั จบุ นั วตั ถุประสงค์ 1.เพ่ือตอบสนองความต้องการใชย้ าดมสมุนไพรตะไครข้ องผใู้ ชอ้ ย่างตรงจุด 2.เพื่อนาไปประกอบอาชพี สร้างรายได้ 3.เพ่ือจัดทายาดมสมุนไพรตะไคร้ทีป่ ราศจากสารพษิ และสารเคมี 4.สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลติ ยาดม ขอบเขตการทาโครงงาน 1. ศกึ ษาความพึงพอใจในการใช้ยาดมจากตะไคร้ 2. ศึกษาหาประโยชน์จากตะไคร้ ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ 1.ใช้ทรพั ยากรท้องถ่นิ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุดและคมุ้ คา่ 2.นาไปต่อยอดเป็นธรุ กิจทางการค้าได้ 3.ใช้บรรเทาอาการวิงเวยี นศรี ษะได้ 4.ผ้สู นใจมีความเขา้ ใจและให้ความสาคญั เก่ียวกบั สมุนไพรไทย5.ไดร้ บั ความรเู้ ก่ยี วกบั การทายาดม

2 บทที่2 เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง ในการจัดทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ พฒั นาเพอื่ ศกึ ษาประโยชน์ และ สรรพคณุ ของตะไคร้ คณะผจู้ ักทาไดศ้ ึกษาขอ้ มลู เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง ดงั น้ี 2.1. ความรู้ทว่ั ไปของต้นตะไคร้ 2.2. สรรพคณุ ของสมนุ ไพรแต่ละชนดิ 2.1. ความรู้ทว่ั ไปของต้นตะไคร้ ความหมายของสมุนไพรหมายถงึ หรือที่ใช้เปน็ ยาแร่ธาตแุ ละสตั วพ์ ืชได้ จากผลิตผลธรรมชาต”ิ เพ่อื บาบัดโรคผสมกบั สารอ่ืนตามตารบั ยาบารงุ ร่างกายหรอื ใชเ้ ป็น ยาพิษหากนาเอาสมนุ ไพรตั้งแต่สองชนิดขึน้ ไปมาผสมรวมกันซง่ึ จะเรยี กว่ายาในตารบั ยา นอกจากพืชสมุนไพรแลว้ ยังอาจประกอบด้วยสัตว์และแร่ธาตอุ ีกด้วยเราเรยี กพืชสตั ว์หรือ แร่ธาตุทเ่ี ปน็ ส่วนประกอบของยาน้ีวา่ เภสัชวัตถพุ ืชสมนุ ไพรบางชนิดเชน่ เร่วกระวานกานพลู และจันทนเ์ ทศเป็นต้น ตะไคร้ ภาษาอังกฤษมีชอ่ื เรียกวา่ Lemon Grass หรือ Lapine (ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Cymbopogon citratus Stapf.) เป็นญาติกบั พชื ตระกูลหญ้า การเติบโตขึ้นเป็นกอ ประโยชน์ ของตะไคร้ ใช้เป็นวัตถดุ บิ ประกอบอาหาร เพราะมีเกลือแร่จาเป็นหลายชนิด ได้แก่ แคลเซยี ม ฟอสฟอรัส เหลก็ และวิตามิน นาตะไครม้ าสกัดกล่นั กลิน่ ใชเ้ ป็นน้ามัน หอมระเหย รวมถึงตะไครห้ อมมคี ณุ สมบตั ิกันยุงไดด้ ้วย รากตะไคร้ สรรพคุณของราก ตะไคร้ ชว่ ยบารงุ ธาตุ ขับปสั สาวะ แก้ขดั เบา แกน้ ่วิ แก้ปวดกระเพาะ รวมถึงรักษากลาก เกลื้อนไดอ้ ีกด้วยลาตน้ ตะไคร้ สรรพคณุ ของลาต้นตะไคร้นามาใช้แกป้ วด จากการปวดข้อ และฟกชา้ แก้โรคทางเดินปสั สาวะ แกป้ ระจาเดือนมาไมป่ กติ รวมถึงช่วยใหเ้ จรญิ อาหาร แกท้ อ้ งเสยี แกท้ ้องอืด แก้จุกเสียด แน่นทอ้ ง ขบั ลมในลาไส้ วธิ ใี ชค้ อื รับประทานสด หรือ ผงึ่ แห้งแล้วนามาใชต้ ม้ ดืม่ ใบตะไคร้ สรรพคณุ ของใบตะไคร้ช่วยลดความดันโลหิตสูง นามาใช้สกัดทาน้ามนั หอมระเหย

2.2 สรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด 3 2.2.1 การบูรเกล็ดมีลักษณะเปน็ เกล็ดเล็ก ๆ สีขาวมสี รรพคณุ ขบั ลมแกจ้ ุกเสียดแน่น เฟ้อแก้ปวดทอ้ งขับเหงอ่ื ทาแก้เคล็ดบวมขดั ยอกแพลงแกพ้ ิษแมลงสัตวก์ ัดต่อยและโรค ผวิ หนังเรอื้ รัง 2.2.2 เมนทอลเมีลักษณะเปน็ ผลกึ สีขาวกล่ินหอมเย็นมีสรรพคุณใช้เปน็ ยาภายนอก เก่ยี วกับการลดอาการปวดเมื่อยฆา่ เชื้อและใช้เปน็ ยาขับลมทใ่ี หค้ วามเยน็ ซาบซา่ 2.2.3 พิมเสนมลี กั ษณะเป็นเกลด็ เลก็ ๆ สขี าวขุ่นสรรพคณุ ของพมิ เสนมกี ลน่ิ หอมเยน็ ใช้ สูตรดมแก้ลมวงิ เวยี นทาภายนอกแกเ้ คล็ดขดั ยอก 2.2.4 ตะไคร้ ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ใช้เปน็ ยาแก้อาเจียนหากนาไปใชร้ ่วมกบั สมนุ ไพร ชนดิ อ่ืนๆ(หัวตะไคร้) ชว่ ยแกอ้ าการกษัยเส้นและแกล้ มใบ (หัวตะไคร้) ชว่ ยแกอ้ าการเสยี ด แน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)

4 2.2.5 นา้ มันยคู าลิปตสั การรกั ษาหวดั และไข้หวัดใหญ่ดูแลเส้นผมช่วยบรรเทาอาการ ปวดกลา้ มเนอ้ื และปอ้ งกันฟันผุ นอกจากนย้ี งั ชว่ ยในการสง่ เสริมภมู คิ ้มุ กนั และการ รกั ษาการตดิ เชอ้ื ราเชน่ เดยี วกับบาดแผล

5 บทที่3 ผลการดาเนินงาน 3.1 แผนผงั ระยะเวลาในการทาโครงงาน วัน/เดือน/ปี ขัน้ ตอนดาเนินงาน 05/07/2564 ประชุมเพ่อื ใหส้ มาชิกแต่ละคนเลือกหัวข้อ ท่ีสนใจ 19/07/2564 ประชุมสรุปและเลือกหวั ขอ้ ทีจ่ ะศึกษา 05/08/2564 สืบคน้ ขอ้ มลู 28/08/2564 30/08/2564 จดั เตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ 18/09/2564 21/09/2564 ประชมุ นดั สมาชกิ เพือ่ จัดทาโครงงาน จัดทาบทท่ี 1และ 2 จัดทาบทท่ี 3-5 ตรวจสอบความถูกต้องและจดั รูปแบบทา เล่ม

3.2 ข้นั ตอนการสร้างชิ้นงานตามแบบ 6 ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน ข้นั ท่ี 1 ขั้นตอนเตรยี มพิมเสนนา้ 1. นาส่วนผสมทงั้ 3 ชนดิ คอื เมนทอล 3 สว่ นพมิ เสน 1 ส่วนการบรู 1 ส่วนเทผสม รวมกันในภาชนะสาหรบั ผสมสาร 2. ใช้ช้อนคนให้สว่ นผสมท้งั หมดละลายเป็นของเหลวหรอื ใชว้ ิธีการเขย่าขวดให้ ส่วนผสมละลายกไ็ ด้ 3. นาพมิ เสนท่ไี ด้บรรจขุ วดปากกว้างปิดฝาพักไว้ ขน้ั ที่ 2 ขน้ั เตรียมสมุนไพร 1.เตรยี มตะไครต้ ากแห้ง 2. นาสมนุ ไพรทีไ่ ด้ใสใ่ นขวดปากกว้างท่เี ตรยี มไว้ในขนั้ ตอนท่ี 1 ปดิ ฝาขวดใหส้ นิท 3. แช่สมุนไพรทง้ิ ไว้ 1 คืน 4. นาสว่ นผสมท่ีได้บรรจุในขวดมีฝาปิดและหอ่ ดว้ ยผ้าขาวบางเพื่อนาไปใชป้ ระโยชน์ ต่อไป 3.3 วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมอื หรือโปรแกรมทใ่ี ช้ในการพฒั นา พิมเสน 20 กรมั การบูร 10 กรัม เมนทอล 30 กรมั น้ามนั ยคู าลิปตสั 5 cc ตะไคร้ 20 กรมั อุปกรณ์ ภาชนะใสส่ ว่ นผสม ผ้าขาวบาง ภาชนะบรรจุ ชอ้ นคนสว่ นผสม

บทท่ี4 7 ผลงานดาเนินการ 4.1ผลการดาเนินงาน โครงงานยามดมสมนุ ไพรได้บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามความต้องการทเี่ ราไดต้ ง้ั ไว้ สามารถนาไปใช้เพ่ือ สนองความตอ้ งการช่วยบรรเทาอาการแก้วิงเวยี น ปวดศีรษะได้ และยงั สามรถสรา้ งรายไดใ้ ห้เเกเ่ ราได้ด้วย 4.2 การนาไปใช้ให้ครอบคลุมหน่วยบรรณาการของกลุ่มสาระต่าง 1.กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง\"พลังงานพอเพยี ง ในการทายาดมสมนุ ไพร เราไดเ้ ลือกใช้สมุนไพรจากในชมุ ชน ท้ังเปน็ การประหยัดต้นทุนในการ ทาและได้ยาดมท่ีมคี ณุ ภาพ 2.กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เร่อื ง\"คณิตกับชีวติ ประจาวนั \" สามารถนาความรเู้ กย่ี วกบั การแบ่งอัตราส่วนของส่วนประกอบในการทายาดมสมุนไพร แตล่ ะชนดิ ได้อย่างถูกต้อง 3.กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย เร่ือง\"ภาษาสร้างสรรค์\" ใชภ้ าษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและสละสลวย 4.กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เร่อื ง\"ธรรมะสร้างงาน\" มคี ุณธรรมในการทาผลิตภณั ฑ์ใช้วัตถดุ ิบในการทาทม่ี คี ณุ ภาพไมค่ ดโกง 5.กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพละศึกษา เรอ่ื ง\"อยู่ดมี สี ขุ \" ทาผลติ ภณั ฑใ์ ห้ถูกตอ้ งตามสขุ ลกั ษณะอนามัย ใช้ทรพั ยากรอย่างพอเพยี งคุม้ ค่าไม่กอ่ ความวุน่ วายตอ่ ผู้อื่น 6.กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ เรอ่ื ง\"ศิลป์สร้างสรรค\"์ การออกแบบขวดบรรจภุ ณั ฑ์ใหส้ วยงามและประหยัด นา่ เช่ือถอื 7.กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี เรอ่ื ง\"ทักษะสร้างอาชีพ\" สามารถสรา้ งรายได้ภายในครอบครัวไดโ้ ดยการทาเป็นของชาร่วยหรอื ขายในโอกาสต่างๆ 8.กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ เร่อื ง\"English Around as\" มคี วามรเู้ กยี่ วกับคาศัพทต์ ่างๆทเ่ี ปน็ ส่วนประกอบในยาดม 9.กลมุ่ สาระการเรยี นรู้กิจกรรมแนะแนว เรอื่ ง\"เเนะแนวสร้างอาชพี \" เม่ือเรามคี วามรู้ในการทายาดมสมนุ ไพร เราก็สามารถนาไปแนะแนวแบง่ ปนั ความรูใ้ ห้แก่ผู้อ่นื

บทที่5 8 ผลการทดลอง ผลการทดลองได้ใหท้ กุ วัยได้ลองยาดมสมนุ ไพรปรากฏว่าทกุ คนมี ความเห็นวา่ มคี วามสกึ ตอนทด่ี มมีความรสู้ ึกเยน็ สบาย หายใจสะดวก แกอ้ าการมนึ หวั หน้ามืด และ การสรา้ งผลติ ภณั ฑ์นี้เพอ่ื เปน็ การ ประยุกต์สงิ่ ของต่างๆใกล้ตัวมาทาให้เกดิ ประโยชนม์ ากย่ิงขึ้นในทนี่ ค้ี อื การนาสมุนไพรท่ีหาได้ง่ายตามทอ้ งถน่ิ มาทาเป็นยาดมสมนุ ไพร ทดี่ ตี อ่ สุขภาพและเป็นการเพมิ่ มูลคา่ ของทรัพยากรในทอ้ งถิน่ ท่มี อี ยู่ ทาให้เรามรี ายไดเ้ สริมเพ่ิมมากยิง่ ข้นึ

9 บรรณานกุ รม http://baibua40.blogspot.com/2017/08/stem.html https://sites.google.com/site/khorngnganisreuxngnasmunphi r/kittikrrmprakas ผลงานจากการทาโครงงาน

10 ภาคผนวก

Thank you