Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ราชกิจจานุเบกษา 1 พ.ค.62

ราชกิจจานุเบกษา 1 พ.ค.62

Published by kannika.kannika128, 2020-05-05 00:22:02

Description: กฏมหายต่างๆ

Search

Read the Text Version

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๘ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา พระราชบัญญตั ิ สภานโยบายการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ให้ไว้ ณ วนั ที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปที ่ี ๔ ในรัชกาลปัจจบุ ัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยท่ีเป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติทาหนา้ ทร่ี ฐั สภา ดังตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ (๑) พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สนบั สนนุ การวจิ ัย พ.ศ. ๒๕๓๕ (๒) พระราชบญั ญตั ิว่าดว้ ยวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ (๓) คาส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๒/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิรูประบบวิจัย และนวัตกรรมของประเทศ ลงวนั ท่ี ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๙ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน้ี “สภานโยบาย” หมายความว่า สภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม แหง่ ชาติ “การอุดมศึกษา” หมายความว่า การศึกษาในระดับท่ีสูงกว่าการศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามกฎหมาย ว่าด้วยการศกึ ษาแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้และนวัตกรรม ผลิตและ พฒั นากาลงั คนในดา้ นวชิ าการและวิชาชพี ชัน้ สูง “สถาบันอุดมศึกษา” หมายความว่า สถาบันที่จัดการอุดมศกึ ษาระดับปริญญาและระดับต่ากว่า ปริญญาทัง้ ทเ่ี ปน็ ของรฐั และของเอกชน “หนว่ ยงานในระบบวิจยั และนวตั กรรม” หมายความวา่ หนว่ ยงานของรัฐและเอกชน รวมทง้ั สถาบนั อุดมศึกษาทดี่ าเนินการเก่ยี วกับการวจิ ัยและนวัตกรรม “การวิจัย” หมายความว่า การศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ หรือทดลองอย่างเป็นระบบ อันจะ ทาให้ได้มาซ่ึงข้อเท็จจริง ความรู้ใหม่ หรือหลักการไปใช้ในการต้ังกฎ ทฤษฎี แนวทางในการปฏิบัติ เพื่อเป็นพ้นื ฐานของการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศลิ ปวิทยาการ แขนงตา่ ง ๆ รวมทั้งเพ่อื สรา้ งนวัตกรรม อนั จะสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ได้ “ระบบวิจัย” หมายความว่า การทางานร่วมกันอย่างเป็นระบบของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ด้านการวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือสร้างความเชื่อมโยงกันอย่างประสานสอดคล้อง และเป็นไปในทิศทาง เดยี วกนั เพื่อนาไปสู่การบรรลเุ ป้าหมายตามท่กี าหนด “มาตรฐานการวิจัย” หมายความวา่ ข้อกาหนดเกยี่ วกบั คณุ ลักษณะและคุณภาพที่พงึ ประสงค์ ของการวจิ ยั และนวัตกรรมทตี่ ้องการให้เกิดขน้ึ ในทกุ กระบวนการของการวิจัยและนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ท้งั น้ี รวมถงึ จริยธรรมทน่ี ักวจิ ยั พึงปฏบิ ัตดิ ้วย “นวัตกรรม” หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ สิ่งประดิษฐ์ บริการ กรรมวิธีที่เกี่ยวกับการผลิต การจัดโครงสร้างองค์กร ระบบบริหารจัดการ การบริหารการเงิน ธุรกิจ การตลาด หรือในการอื่นใด ทั้งน้ี ซ่ึงเป็นส่ิงใหม่หรือพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมีนัยสาคัญและนาไปใช้ประโยชน์ได้ในวงกว้าง ทั้งในเชิงพาณชิ ย์และสาธารณะ “กองทุน” หมายความว่า กองทนุ ส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม “กระทรวง” หมายความวา่ กระทรวงการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๑๐ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม รกั ษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี นายกรัฐมนตรีมีอานาจกากับนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ แผน และการจัดสรรงบประมาณ รวมทงั้ ให้มีอานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามท่ีกาหนดไว้ในบทเฉพาะกาล ของพระราชบัญญัตินี้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มอี านาจกากับดูแลหนว่ ยงานในกากับ หมวด ๑ สภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรมแห่งชาติ สว่ นท่ี ๑ สภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมแห่งชาติ มาตรา ๖ ให้มีสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย (๑) นายกรฐั มนตรี เป็นประธานสภานโยบาย (๒) รองนายกรฐั มนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรมี อบหมาย เปน็ รองประธานสภานโยบายคนทห่ี น่ึง (๓) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม เปน็ รองประธาน สภานโยบายคนทสี่ อง (๔) กรรมการโดยตาแหน่ง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงพาณชิ ย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการสภาพัฒนา การเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ผูอ้ านวยการสานกั งบประมาณ ประธานกรรมการการอุดมศกึ ษา และ ประธานกรรมการส่งเสรมิ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (๕) กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิ จานวนไม่เกินเก้าคน ซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจาก บุคคลผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญและความสามารถเป็นท่ีประจักษ์ด้านการอุดมศึกษาไม่เกินสามคน ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ไม่เกินสามคน และด้านสังคมศาสตร์หรือมนุษยศาสตร์ ไม่เกินสามคน โดยแต่ละดา้ นต้องแตง่ ตงั้ จากผซู้ ง่ึ ทปี่ ระชมุ อธกิ ารบดแี หง่ ประเทศไทย ทีป่ ระชุมคณะกรรมการอธกิ ารบดี

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๑๑ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ และสมาคมสถาบันอุดมศกึ ษา เอกชน รว่ มกนั เสนอด้านละหนึ่งคน (๖) กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิ จานวนหน่ึงคน ซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคล ซึง่ หนว่ ยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมที่มใิ ชส่ ถาบันอดุ มศกึ ษาร่วมกนั เสนอ ให้ปลัดกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ผู้อานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นกรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร หลักเกณฑ์และวธิ กี ารได้มาซง่ึ กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคณุ วุฒิตาม (๕) และ (๖) รวมท้งั การได้มาซึ่งกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๕) และ (๖) เพื่อดารงตาแหน่งแทนผู้ซ่ึงพ้นจาก ตาแหน่งกอ่ นวาระตามมาตรา ๙ วรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบท่ีคณะรัฐมนตรีกาหนด กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๕) และ (๖) ต้องไม่เป็นข้าราชการ พนักงานหรอื ลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เว้นแต่เป็นบุคลากร ของสถาบนั อดุ มศึกษาหรอื หน่วยงานในระบบวจิ ยั และนวัตกรรม มาตรา ๗ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมให้มีการผลิตกาลังคนให้เป็นไปตามความต้องการ ของประเทศและให้มีการนาวิทยาศาสตร์ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ให้สภานโยบายแต่งตั้งที่ปรึกษาของสภานโยบายจานวนไม่เกินห้าคน และให้ท่ีปรึกษาของสภานโยบาย เข้าร่วมประชุมสภานโยบายและมสี ิทธชิ ้แี จงแสดงความคิดเห็นแตไ่ ม่มสี ทิ ธิออกเสยี งลงคะแนน ความในวรรคหน่ึงให้นาไปใช้บังคับแก่คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คณะกรรมการอานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ และคณะกรรมการอานวยการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ด้วยโดยอนุโลม แต่ให้แตง่ ต้ังที่ปรึกษาไดจ้ านวนไมเ่ กนิ สามคน มาตรา ๘ กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวฒุ ติ ามมาตรา ๖ (๕) และ (๖) ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลกั ษณะต้องห้าม ดังต่อไปน้ี (๑) มสี ัญชาติไทย (๒) มีอายไุ มเ่ กินเจ็ดสิบหา้ ปี (๓) ไมเ่ ปน็ หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจรติ (๔) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรอื คนเสมอื นไร้ความสามารถ

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๑๒ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๕) ไม่เคยได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงท่ีสุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิด ท่ไี ดก้ ระทาโดยประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ (๖) ไม่เคยถกู ไลอ่ อก ปลดออก หรอื ให้ออกจากราชการ หนว่ ยงานของรฐั รฐั วสิ าหกจิ หรอื หน่วยงานของเอกชน เพราะทจุ รติ ต่อหนา้ ทห่ี รือประพฤตชิ ั่วอยา่ งรา้ ยแรง มาตรา ๙ กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๖ (๕) และ (๖) มีวาระ การดารงตาแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งต้ังใหม่อีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระ ไม่ได้ ในกรณีกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๖ (๕) หรือ (๖) พ้นจากตาแหน่งก่อน ครบวาระ ให้สภานโยบายประกอบด้วยกรรมการสภานโยบายเท่าที่เหลืออยู่ ในกรณีนี้ คณะรัฐมนตรี อาจแต่งตง้ั ผู้อื่นแทนได้ และใหผ้ ูไ้ ดร้ บั แต่งตั้งแทนตาแหน่งท่วี า่ งอยู่ในตาแหนง่ เท่ากับวาระทเ่ี หลืออย่ขู อง ผ้ซู ่งึ ตนแทน เว้นแตว่ าระเหลอื อยนู่ ้อยกวา่ เกา้ สบิ วนั จะไม่แต่งตั้งแทนก็ได้ ในกรณีทีม่ กี ารแตง่ ต้งั กรรมการสภานโยบายผูท้ รงคณุ วฒุ ติ ามมาตรา ๖ (๕) เพ่ิมขน้ึ ในระหวา่ ง ท่ีกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๖ (๕) ซ่ึงได้รับการแต่งต้ังไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตาแหน่ง ให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตง้ั ใหเ้ ปน็ กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๖ (๕) เพิ่มข้ึนอยู่ในตาแหน่ง เท่ากบั วาระท่เี หลืออยขู่ องกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวฒุ ิตามมาตรา ๖ (๕) ซง่ึ ได้รบั แต่งตงั้ ไว้แล้ว ในกรณีที่กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๖ (๕) หรือ (๖) พ้นจากตาแหน่ง ตามวาระ แต่ยังมิได้ดาเนินการให้ได้มาซ่งึ กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๖ (๕) หรือ (๖) ขึ้นใหม่ ให้กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวฒุ ิตามมาตรา ๖ (๕) หรือ (๖) ซ่ึงพ้นจากตาแหนง่ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ตี ่อไป จนกวา่ จะไดแ้ ตง่ ตงั้ กรรมการสภานโยบายผูท้ รงคณุ วุฒติ ามมาตรา ๖ (๕) หรอื (๖) ขึน้ ใหม่ มาตรา ๑๐ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระ กรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๖ (๕) หรอื (๖) พ้นจากตาแหน่งเมอื่ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะบกพร่องต่อหน้าท่ี มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือ หย่อนความสามารถ (๔) สภานโยบายมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนกรรมการสภานโยบาย ท้ังหมดเท่าทมี่ อี ยู่ ให้พ้นจากตาแหน่งเนื่องจากกระทาการหรือมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าท่ี กรรมการสภานโยบาย

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๑๓ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๕) ขาดคณุ สมบตั ิหรือมีลักษณะตอ้ งห้ามอยา่ งหน่งึ อย่างใดตามมาตรา ๘ มาตรา ๑๑ ให้สภานโยบายมหี นา้ ทแี่ ละอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) เสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากาลังคนของ ประเทศ และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแมบ่ ท และแผนอ่ืน รวมทงั้ นโยบายของรัฐบาล ตอ่ คณะรัฐมนตรเี พื่อให้ความเห็นชอบ (๒) พิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบกรอบวงเงนิ งบประมาณประจาปีดา้ นการอดุ มศึกษาในความรบั ผิดชอบ ของกระทรวง และงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ก่อนที่สานักงบประมาณ จะนาเสนอคณะรัฐมนตรี รวมทัง้ เสนอระบบการจัดสรรและบรหิ ารงบประมาณแบบบรู ณาการท่ีมุง่ ผลสัมฤทธ์ิ ตามกรอบวงเงินดังกล่าว ให้สอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนตาม (๑) ต่อคณะรัฐมนตรี เพ่อื พิจารณาอนุมตั ิ (๓) กากับให้คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คณะกรรมการ การอุดมศึกษาและคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานใน ระบบวจิ ัยและนวตั กรรมของประเทศ ดาเนนิ งานให้เปน็ ไปในทิศทางที่มีความเช่ือมโยงและสอดคล้องกับ นโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนตาม (๑) (๔) เสนอต่อคณะรฐั มนตรเี พ่อื ให้มกี ารเร่งรัดและติดตามให้มกี ารเสนอหรือการปรับปรงุ กฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับ ท่ีเกี่ยวข้องกับการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้ สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก เช่ือมโยงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกับผู้ประกอบการ ภาคเอกชนและภาครัฐ และสามารถพฒั นาและแก้ไขปญั หาของชุมชนและสังคมได้อย่างย่ังยืน (๕) เสนอแนะตอ่ คณะรัฐมนตรีเพ่ือให้มกี ารกาหนดมาตรการและแรงจูงใจทางการเงินการคลงั และสิทธิประโยชน์อ่ืนสาหรับการระดมทุน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวตั กรรม (๖) จัดให้มีการติดตามและประเมินผลการดาเนินการตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผน ด้านการอดุ มศกึ ษา รวมท้งั แผนด้านวทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรมของประเทศ (๗) กากับ เร่งรัด และติดตามให้มีการจัดทาฐานข้อมูลการอุดมศึกษา ฐานข้อมูลมาตรฐาน การอุดมศึกษา และฐานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนการบูรณาการและ การเช่ือมโยงกันระหว่างฐานข้อมูลดังกล่าว และประกาศกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการเปดิ เผยข้อมลู ดงั กล่าวตอ่ สาธารณชน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๑๔ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๘) แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง คณะอนุกรรมการ เพื่อปฏิบัติงาน ตามที่สภานโยบายมอบหมายหรอื มอบใหท้ าการแทน และรายงานให้สภานโยบายทราบ (๙) ออกระเบยี บ ข้อบังคับ หรอื ประกาศ เพอ่ื ปฏบิ ตั ิการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตนิ ห้ี รอื กฎหมายอื่น (๑๐) เสนอรายงานประจาปีเก่ียวกบั การอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมตอ่ คณะรฐั มนตรี และรัฐสภา (๑๑) ปฏิบตั หิ น้าทอ่ี ่นื ตามท่บี ญั ญตั ไิ ว้ในพระราชบญั ญัตนิ แี้ ละกฎหมายอืน่ หรือตามทคี่ ณะรฐั มนตรี หรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย มาตรา ๑๒ เม่ือคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินตามมาตรา ๑๑ (๒) แล้ว ในการเสนอขอจัดสรรงบประมาณด้านการอุดมศึกษา และงบประมาณดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม ให้ดาเนินการ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) งบประมาณด้านการอุดมศึกษา ให้นายกรัฐมนตรโี ดยข้อเสนอของรัฐมนตรีและคณะกรรมการ การอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม แต่งต้ังคณะกรรมการพิจารณางบประมาณดา้ นการอุดมศกึ ษาข้นึ คณะหนง่ึ ประกอบดว้ ย บุคคลซึ่งสภานโยบายมีมติแตง่ ตง้ั เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนคณะกรรมการการอดุ มศึกษาจานวนไมเ่ กนิ สองคน ผู้แทนสานกั งบประมาณจานวนไมเ่ กินสองคน เปน็ กรรมการ และปลัดกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นกรรมการและเลขานุการ และจะแต่งตั้งผู้แทนสานักงบประมาณ ตามจานวนที่เห็นสมควรเป็นผู้ช่วยเลขานกุ ารก็ได้ ทาหน้าท่ีพิจารณาคาของบประมาณรายจ่ายประเภท งบลงทุนและงบเงินอุดหนุนในการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาและการผลิตกาลังคนระดับสูง เฉพาะทางตามความต้องการของประเทศของสถาบันอดุ มศกึ ษาทุกแหง่ ในความรับผิดชอบของกระทรวง กอ่ นเสนอไปยงั สานกั งบประมาณเพอื่ เสนอคณะรัฐมนตรี (๒) งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้นายกรัฐมนตรีโดยข้อเสนอของ คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมข้ึนคณะหน่ึง ประกอบด้วย บุคคลซ่ึงสภานโยบายมีมติแต่งต้ัง เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนคณะกรรมการส่งเสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจานวนไมเ่ กนิ สองคน ผู้แทนสานักงบประมาณจานวนไม่เกินสองคน เป็นกรรมการ และผูอ้ านวยการสานักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ และจะแต่งตั้งผู้แทนสานัก งบประมาณตามจานวนท่ีเห็นสมควรเป็นผู้ช่วยเลขานกุ ารกไ็ ด้ ทาหน้าท่ีพิจารณาคาของบประมาณของ กองทุน กอ่ นเสนอไปยังสานกั งบประมาณเพอื่ เสนอคณะรัฐมนตรี

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๑๕ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่สภานโยบาย กาหนด โดยสอดคล้องกับนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแผนตามมาตรา ๑๑ (๑) มาตรา ๑๓ การทาคาขอและการจัดสรรงบประมาณให้สถาบันอุดมศึกษาในความรับผิดชอบ ของกระทรวงหรือหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการอุดมศึกษา หรอื กฎหมายว่าดว้ ยการส่งเสรมิ วิทยาศาสตร์ การวจิ ัยและนวตั กรรม แล้วแตก่ รณี มาตรา ๑๔ เพื่อประโยชน์ในการดาเนนิ การวิจัยและส่งเสริมนวัตกรรมดา้ นใหมท่ ีม่ ีความสาคัญ ยิ่งต่อการพัฒนาประเทศหรือเป็นประโยชน์ยิ่งต่อประชาชน หรือเพ่ือประโยชน์ในการผลิตกาลังคน ระดับสูงเฉพาะทางที่มีความสาคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ สภานโยบายอาจมอบหมายให้บุคคล คณะบุคคล หนว่ ยงานของรฐั หรือหนว่ ยงานภาคเอกชน รบั ผิดชอบดาเนินการวจิ ยั หรอื สร้างนวตั กรรม ด้านใหม่นั้น หรือดาเนินการผลิตกาลังคนระดับสูงเฉพาะทาง ทั้งน้ี โดยให้ได้รับการส่งเสริมและ สิทธิประโยชน์ หรือการยกเว้นมิให้นาบทบญั ญัติของกฎหมายหรอื กฎขอ้ บังคับใดมาใช้บงั คบั แก่การดาเนนิ งาน ของบุคคล คณะบุคคล หรือหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานภาคเอกชน ตามท่ีคณะรัฐมนตรีกาหนด โดยขอ้ เสนอของสภานโยบาย การให้การส่งเสรมิ และสิทธปิ ระโยชนต์ ามวรรคหนึ่ง ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎกี า สาหรับการยกเวน้ มิให้นาบทบัญญัติของกฎหมายหรือกฎข้อบังคับใดมาใช้บังคบั แกก่ ารดาเนินการวจิ ัยหรือสร้างนวตั กรรม ด้านใหม่ หรือดาเนนิ การผลิตกาลังคนระดับสูงเฉพาะทางให้ดาเนินการตามกฎหมายที่เก่ยี วข้อง เพื่อให้ มีการยกเวน้ การใช้บงั คบั ดังกล่าวตอ่ ไป มาตรา ๑๕ เพื่อประโยชนใ์ นการดาเนนิ การวิจยั และส่งเสริมนวัตกรรมด้านใหม่ที่มีความสาคัญยงิ่ ต่อการพัฒนาประเทศหรือเป็นประโยชน์ยิ่งต่อประชาชน หรือเพ่ือประโยชน์ในการผลิตกาลังคน ระดับสูงเฉพาะทางท่ีมีความสาคัญย่ิงตอ่ การพัฒนาประเทศ คณะรัฐมนตรีโดยขอ้ เสนอของสภานโยบาย อาจมีมตใิ ห้จัดตัง้ หนว่ ยงานซง่ึ มีฐานะเป็นนติ บิ ุคคลทีม่ ใิ ชส่ ว่ นราชการตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน มิใช่รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และให้มีหน้าที่และอานาจใน การวิจัยและสร้างนวัตกรรมดา้ นใหมห่ รือมีหน้าที่และอานาจในการผลิตกาลงั คนระดบั สูงเฉพาะทางนนั้ ก็ได้ โดยใหต้ ราเป็นพระราชกฤษฎีกา ในพระราชกฤษฎกี าจัดต้ังหนว่ ยงานตามวรรคหนึ่ง อย่างนอ้ ยจะตอ้ งมีข้อความ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ชื่อหนว่ ยงาน (๒) ทตี่ ั้งของหนว่ ยงาน (๓) วตั ถุประสงค์ หน้าที่ และอานาจกระทากจิ การตา่ ง ๆ ภายในขอบแห่งวตั ถุประสงค์ (๔) บคุ ลากรของหนว่ ยงาน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๑๖ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๕) ทนุ รายได้ งบประมาณ และทรัพยส์ นิ (๖) การบรหิ ารหนว่ ยงาน การบรหิ ารงานบคุ คล สวสั ดิการ และสทิ ธปิ ระโยชนอ์ ่ืน (๗) การกากับดูแล การตรวจสอบ และการประเมินผลงานของหน่วยงานซง่ึ ต้องประเมนิ ทกุ สี่ปี (๘) การยุบเลิกหน่วยงานในกรณีที่ตั้งข้ึนโดยมีกาหนดเวลาสิ้นสุดหรือไม่ผ่านการประเมินผลงาน ของหนว่ ยงาน (๙) ขอ้ กาหนดอน่ื อันจาเปน็ เพ่อื ใหก้ จิ การของหน่วยงานดาเนินการไปไดโ้ ดยเรยี บร้อย ให้นาความในวรรคสองของมาตรา ๑๔ มาใชบ้ งั คบั แก่หนว่ ยงานที่จัดตง้ั ขนึ้ ตามมาตรานด้ี ว้ ย ให้สานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการดาเนินการของหน่วยงานตามมาตรานี้ ตามทจี่ าเปน็ และเพียงพอ มาตรา ๑๖ การประชุมสภานโยบายต้องมีกรรมการสภานโยบายมาประชมุ ไม่น้อยกวา่ กึ่งหนึ่ง ของจานวนกรรมการสภานโยบายทง้ั หมดเท่าทีม่ ีอยู่จงึ จะเปน็ องคป์ ระชุม ในการประชุมสภานโยบาย ถ้าประธานสภานโยบายไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ีได้ ให้รองประธานสภานโยบายคนท่ีหน่ึงเป็นประธานในที่ประชุม ถ้ารองประธานสภานโยบายคนท่ีหน่ึง ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ีได้ให้รองประธานสภานโยบายคนที่สองเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานสภานโยบาย รองประธานสภานโยบายคนท่ีหนึ่ง และรองประธานสภานโยบายคนที่สอง ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการสภานโยบายคนหนึ่งเป็นประธาน ในทป่ี ระชุม การวินจิ ฉัยช้ีขาดของที่ประชุมให้ถอื เสียงขา้ งมาก กรรมการสภานโยบายคนหนึ่งใหม้ ีเสียงหน่ึง ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเทา่ กันใหป้ ระธานในทป่ี ระชุมออกเสียงเพม่ิ ขน้ึ อกี เสียงหนงึ่ เปน็ เสยี งชข้ี าด การประชมุ สภานโยบายใหเ้ ป็นไปตามระเบียบท่สี ภานโยบายกาหนด มาตรา ๑๗ ให้มีการประชุมสภานโยบายอยา่ งนอ้ ยหนง่ึ คร้งั ทุกสามเดือน มาตรา ๑๘ ในการปฏิบัติตามหน้าท่ีและอานาจของสภานโยบายตามมาตรา ๑๑ ในเร่ืองใด ที่สภานโยบายเห็นว่ามีความจาเป็นที่ต้องพิจารณาดาเนนิ การตามภารกิจท่ีได้รบั มอบหมายเป็นพิเศษ หรือ มีเหตุอ่นื เพ่อื ประโยชนใ์ นการปฏบิ ตั ติ ามหนา้ ทีแ่ ละอานาจของสภานโยบาย ให้สภานโยบายมีอานาจแต่งตั้ง คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเร่อื งเพอ่ื ดาเนินการแทนสภานโยบายได้ คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรอื่ งตามวรรคหนง่ึ ประกอบด้วย ประธานกรรมการหน่งึ คน และ กรรมการอื่นอีกไมเ่ กนิ หา้ คนซึง่ แต่งต้ังจากกรรมการสภานโยบาย และให้ผู้อานวยการสานักงานสภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ แต่งต้ังพนักงานสานักงานสภานโยบาย

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๑๗ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ทาหน้าท่ีเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ ในกรณีจาเป็นสภานโยบายอาจมีมตใิ ห้เชิญบุคคลซ่ึงมีความรู้ความเช่ียวชาญหรอื มีประสบการณ์เก่ยี วกบั เรื่องท่ีจะพิจารณา ให้เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งคราวในฐานะกรรมการด้วยก็ได้ ในกรณีเช่นน้ี ให้ผู้ซ่ึง ได้รบั เชญิ และมาประชุมมีฐานะเปน็ กรรมการสาหรบั การประชมุ คร้ังที่ได้รบั เชิญนนั้ วาระการดารงตาแหน่ง การพ้นจากตาแหนง่ หน้าทีแ่ ละอานาจ ตลอดจนการดาเนนิ งานของ คณะกรรมการพเิ ศษเฉพาะเรอื่ ง ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บทีส่ ภานโยบายกาหนด เมอื่ คณะกรรมการพเิ ศษเฉพาะเรื่องไดม้ มี ตใิ นเร่ืองใดแล้ว ให้ถือวา่ เป็นมติของสภานโยบายและ ให้สานักงานสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรมแห่งชาติ ดาเนินการตามมตินั้น เวน้ แตส่ ภานโยบายจะกาหนดเปน็ อย่างอน่ื เฉพาะกรณี มาตรา ๑๙ เพ่ือประโยชน์ในการติดตามและประเมินผลการดาเนนิ การตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนด้านการอุดมศึกษา และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศตามมาตรา ๑๑ (๑) ใหส้ ภานโยบายแต่งตง้ั คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรือ่ งตามมาตรา ๑๘ เพ่อื ดาเนินการดังกล่าวแล้วรายงาน ใหส้ ภานโยบายทราบ ตามหลกั เกณฑ์และระยะเวลาตามระเบยี บทีส่ ภานโยบายกาหนด มาตรา ๒๐ ให้ประธานสภานโยบาย กรรมการสภานโยบาย ที่ปรึกษาของสภานโยบาย คณะกรรมการ คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเร่ือง คณะอนุกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ไดร้ ับคา่ ตอบแทน ค่าใช้จา่ ย เบ้ยี ประชมุ และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามทค่ี ณะรัฐมนตรีกาหนด ความในวรรคหน่ึงให้นาไปใช้บังคับแก่คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คณะกรรมการอานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ และคณะกรรมการอานวยการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ทีป่ รึกษาของคณะกรรมการดังกลา่ วด้วยโดยอนุโลม ส่วนที่ ๒ สานักงานสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ มาตรา ๒๑ ให้มีสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “สอวช.” ทาหน้าที่รับผิดชอบงานวิชาการและงานธุรการของสภานโยบาย มีวัตถุประสงค์เพื่อสง่ เสรมิ และสนับสนนุ ใหเ้ กดิ การพฒั นาและการบรู ณาการดา้ นการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนตามมาตรา ๑๑ (๑) เพื่อให้เกิดประโยชน์ ในการผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ และ

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๑๘ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในระดบั โลกได้ โดยใช้การวิจัยและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชน และสังคม รวมท้ังสนับสนุนการนาผลงานวจิ ัยและนวัตกรรมที่สาเร็จแล้วไปสู่ การผลติ ที่ไดม้ าตรฐานเพ่อื ใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ สอวช. เป็นหน่วยงานของรัฐ มีฐานะเป็นนติ ิบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ย ระเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดิน หรอื รัฐวสิ าหกจิ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณหรอื กฎหมายอื่น กิจการของ สอวช. ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมาย ว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายวา่ ด้วยเงินทดแทน แต่พนกั งานของ สอวช. ตอ้ งไดร้ ับประโยชนต์ อบแทนโดยรวมไมน่ ้อยกว่า ที่กาหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมาย วา่ ด้วยเงนิ ทดแทน มาตรา ๒๒ ให้ สอวช. มีหนา้ ที่และอานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) รับผิดชอบงานวิชาการและงานธุรการ รวมถึงสนับสนุนและอานวยความสะดวกให้ การปฏบิ ัตหิ น้าท่ขี องสภานโยบาย คณะกรรมการ คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง และคณะอนกุ รรมการ เปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพ (๒) เสนอความเห็นต่อสภานโยบายเก่ียวกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนด้านการอุดมศึกษา และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศท่ีสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนอื่น รวมทัง้ นโยบายของรฐั บาล (๓) เสนอความเห็นต่อสภานโยบายเกี่ยวกับกรอบวงเงินงบประมาณประจาปดี ้านการอุดมศึกษา และด้านวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ รวมท้ังระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณ แบบบูรณาการท่มี ุง่ ผลสมั ฤทธใิ์ หส้ อดคลอ้ งกับนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแผนตามมาตรา ๑๑ (๑) (๔) เสนอความเหน็ ตอ่ สภานโยบายเก่ียวกับการเรง่ รัดและตดิ ตามให้มีการเสนอหรือการปรับปรุง กฎหมาย กฎ ระเบยี บ หรอื ขอ้ บังคับทีเ่ กี่ยวข้องกับการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (๕) สนับสนุนการดาเนินการ การตดิ ตามและประเมินผลของคณะกรรมการพิเศษเฉพาะเร่ือง ตามมาตรา ๑๘ (๖) ประสานงานใหม้ กี ารจดั ทา บูรณาการ และเชอ่ื มโยงฐานขอ้ มูลการอดุ มศกึ ษา ฐานขอ้ มลู มาตรฐานการอุดมศึกษา และฐานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมท้ังสามารถเข้าถึง ฐานข้อมูลดังกล่าวเพื่อใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล ประกอบการพิจารณากาหนด นโยบาย ทิศทาง และการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาการอุดมศึกษา และการวิจัยและนวตั กรรม ตลอดจนเปิดเผยขอ้ มูลและผลการวเิ คราะห์ สงั เคราะหต์ อ่ สาธารณชนตามประกาศตามมาตรา ๑๑ (๗)

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๑๙ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๗) ประสานงานและให้ความร่วมมือกบั สว่ นราชการ หน่วยงานอน่ื ของรัฐ หนว่ ยงานภาคเอกชน ทง้ั ในประเทศและต่างประเทศท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (๘) จัดทารายงานประจาปขี องสภานโยบายตามมาตรา ๑๑ (๑๐) (๙) ปฏิบัติหน้าท่ีอื่นตามท่ีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอ่ืน หรือตามที่ นายกรัฐมนตรี รฐั มนตรี สภานโยบาย หรอื คณะกรรมการอานวยการ สอวช. มอบหมาย มาตรา ๒๓ สอวช. อาจมรี ายไดจ้ าก (๑) เงนิ และทรพั ย์สนิ ทรี่ ับโอนมาตามมาตรา ๖๖ (๒) เงินอุดหนุนทว่ั ไปทีร่ ฐั บาลจัดสรรใหต้ ามความเหมาะสมเป็นรายปี (๓) เงนิ หรอื ทรัพย์สินท่ีมีผูบ้ ริจาคหรือมอบให้ (๔) รายได้หรอื ผลประโยชน์ทเี่ กดิ จากการดาเนนิ งานหรือการให้บริการ (๕) ดอกผลและผลประโยชน์จากเงินหรือทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) และ รายได้อื่นใด ทรัพย์สินของ สอวช. ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดแี ละบคุ คลใดจะยกอายุความหรอื ระยะเวลาในการครอบครองขน้ึ เปน็ ขอ้ ตอ่ สกู้ บั สอวช. ในเร่ืองทรพั ยส์ นิ ของ สอวช. มไิ ด้ เงินและทรพั ยส์ นิ ของ สอวช. ไมต่ ้องนาส่งคลังเปน็ รายได้แผน่ ดิน มาตรา ๒๔ ในการดาเนินกิจการของ สอวช. ให้มีคณะกรรมการอานวยการคณะหน่ึง ประกอบด้วย ประธานกรรมการซึ่งสภานโยบายแต่งต้ัง ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวั ตกรรม ประธานท่ีประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิจานวนหกคนซึ่งสภานโยบายแต่งต้ัง เปน็ กรรมการ และผูอ้ านวยการ สอวช. เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามระเบียบท่ีสภานโยบาย กาหนด ใหน้ าความในมาตรา ๘ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ มาใชบ้ งั คบั แก่ผทู้ รงคณุ วฒุ โิ ดยอนุโลม มาตรา ๒๕ คณะกรรมการอานวยการ สอวช. มีหน้าท่ีและอานาจควบคุมดูแลกิจการทั่วไป ของ สอวช. เพอื่ ให้เปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ทกี่ าหนดไว้ หนา้ ที่และอานาจเชน่ ว่านีใ้ ห้รวมถึง (๑) กาหนดนโยบายการบริหารงานและให้ความเหน็ ชอบแผนการดาเนนิ งานของ สอวช. (๒) อนมุ ตั ิงบประมาณประจาปี งบการเงิน แผนการลงทุน และแผนการเงนิ ของ สอวช.

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๒๐ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๓) ให้คาแนะนาหรือเสนอแนะการแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคอันเกิดจากการบริหารจัดการ ตลอดจนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือสภานโยบายเพ่ือพิจารณาส่ังการในกรณี มีปัญหาหรืออุปสรรคเก่ียวกบั การประสานงานในการดาเนินการตามวัตถุประสงค์และหน้าที่และอานาจ ของ สอวช. (๔) ออกระเบยี บ ขอ้ บังคับ ประกาศ หรอื ข้อกาหนดเก่ยี วกบั สอวช. ในเรอื่ ง ดังตอ่ ไปนี้ (ก) การบริหารงานทว่ั ไป การจดั แบ่งส่วนงาน และขอบเขตหนา้ ทีข่ องสว่ นงานดังกลา่ ว (ข) การสรรหา การแตง่ ตง้ั และการถอดถอนผู้อานวยการ สอวช. การปฏิบัติงานและ การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้อานวยการ สอวช. รวมทั้งการรักษาการแทนและการมอบให้ผู้อื่น ปฏบิ ตั งิ านแทน (ค) การกาหนดตาแหนง่ คุณสมบตั เิ ฉพาะตาแหน่ง อัตราเงินเดอื น ค่าจ้าง และเงินอ่นื ของพนกั งานของ สอวช. (ง) การกาหนดประมวลจรยิ ธรรมในการปฏบิ ัติงานของคณะกรรมการอานวยการ สอวช. ผู้อานวยการ สอวช. และพนกั งานของ สอวช. (จ) การคัดเลือก การบรรจุ การแต่งตัง้ การพัฒนา การประเมินผลงาน การถอดถอน วินัยและการลงโทษทางวนิ ัย การออกจากตาแหน่ง การร้องทุกข์และการอทุ ธรณ์ การลงโทษพนกั งาน ของ สอวช. รวมท้งั หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่อื นไขในการจ้างที่ปรกึ ษา ผู้เช่ยี วชาญ และพนกั งานของ สอวช. (ฉ) การบริหารและจัดการการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินของ สอวช. รวมทั้งการบัญชี และการจาหน่ายทรพั ยส์ ินจากบญั ชเี ปน็ สูญ (ช) การกาหนดค่าธรรมเนยี ม คา่ บารงุ ค่าตอบแทน และคา่ บริการในการดาเนินกิจการ ของ สอวช. (ซ) การจัดสวสั ดิการและสทิ ธิประโยชน์อืน่ แก่พนกั งานของ สอวช. (ฌ) การแตง่ ตง้ั และหน้าทแี่ ละอานาจของคณะกรรมการตรวจสอบ (ญ) การกาหนดขอบเขตเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าท่ีของคณะกรรมการตรวจสอบและ ผู้ตรวจสอบภายใน (ฎ) การกาหนดเครอ่ื งแบบผูอ้ านวยการ สอวช. พนักงานของ สอวช. และเคร่อื งหมาย สอวช.

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๒๑ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๕) แตง่ ตั้งคณะอนุกรรมการเพอ่ื ปฏิบัตงิ านตามทค่ี ณะกรรมการอานวยการ สอวช. มอบหมาย (๖) แต่งต้งั ท่ปี รกึ ษาของคณะกรรมการอานวยการ สอวช. จากบุคคลในภาคเอกชน (๗) ให้ความเห็นชอบรายงานประจาปขี อง สอวช. ตามมาตรา ๕๒ เพื่อเสนอต่อนายกรฐั มนตรี รัฐมนตรี และสภานโยบาย (๘) กระทาการอ่นื ใดทีจ่ าเปน็ หรอื ต่อเน่อื งเพ่ือให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ อง สอวช. (๙) ปฏิบัติหน้าท่ีอื่นตามท่ีบัญญัติในพระราชบัญญัติน้ี หรือตามท่ีนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และสภานโยบายมอบหมาย ระเบียบเกย่ี วกบั การจาหน่ายทรัพยส์ นิ จากบญั ชีเป็นสญู ตาม (๔) (ฉ) ตอ้ งเป็นไปตามกฎหมาย และหลกั เกณฑ์ที่คณะรฐั มนตรีกาหนด มาตรา ๒๖ ในการควบคมุ ดูแลการดาเนนิ งานของ สอวช. ใหค้ ณะกรรมการอานวยการ สอวช. พิจารณากาหนดแนวทางการปฏิบัตงิ านของ สอวช. ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองท่ีดี ซ่ึงต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจ ความมีประสิทธิภาพ ความคุม้ ค่าในเชงิ ภารกิจ ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต การลดข้ันตอนการปฏิบตั งิ าน การกระจายอานาจการตดั สินใจ การอานวยความสะดวก และการตอบสนองความต้องการของประชาชน มาตรา ๒๗ การประชุมของคณะกรรมการอานวยการ สอวช. ให้เป็นไปตามระเบียบท่ี คณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด มาตรา ๒๘ ให้ สอวช. มีผอู้ านวยการคนหนงึ่ ซึง่ นายกรฐั มนตรแี ตง่ ต้ัง มหี นา้ ทบ่ี รหิ ารกจิ การ ของ สอวช. ขน้ึ ตรงต่อสภานโยบายและคณะกรรมการอานวยการ สอวช. และจะใหม้ ีรองผ้อู านวยการ ตามจานวนที่คณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบตั ิงานรองจากผอู้ านวยการ สอวช. ก็ได้ การแต่งต้ังผู้อานวยการ สอวช. ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา ทีค่ ณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด มาตรา ๒๙ ผอู้ านวยการ สอวช. ต้องมคี ณุ สมบตั ิและไม่มลี ักษณะต้องหา้ ม ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) มีสญั ชาติไทย (๒) สามารถทางานให้แก่ สอวช. ได้เต็มเวลา (๓) มอี ายไุ ม่เกินหกสิบห้าปี (๔) เปน็ ผมู้ ีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในดา้ นการอดุ มศึกษา และวทิ ยาศาสตร์ หรอื วจิ ัยและนวัตกรรม

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๒๒ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๕) ไมเ่ ป็นบคุ คลลม้ ละลายหรอื เคยเป็นบคุ คลลม้ ละลายทุจรติ (๖) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมอื นไร้ความสามารถ (๗) ไม่เคยได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิด ท่ีได้กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหโุ ทษ (๘) ไมเ่ คยถกู ไลอ่ อก ปลดออก หรือใหอ้ อกจากราชการ หนว่ ยงานของรฐั รฐั วิสาหกิจ หรอื หน่วยงานของเอกชน เพราะทุจรติ ต่อหน้าท่หี รอื ประพฤตชิ ่ัวอยา่ งรา้ ยแรง (๙) ไมเ่ คยถูกถอดถอนออกจากตาแหน่งตามกฎหมาย (๑๐) ไมเ่ ป็นผูด้ ารงตาแหนง่ ทางการเมอื ง สมาชิกสภาทอ้ งถ่นิ หรอื ผบู้ ริหารทอ้ งถิ่น กรรมการ หรอื ผ้ดู ารงตาแหน่งซงึ่ รับผดิ ชอบการบริหารพรรคการเมือง ทป่ี รกึ ษาพรรคการเมือง หรอื เจา้ หน้าทขี่ อง พรรคการเมอื ง (๑๑) ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่เก่ียวข้องกับ สอวช. หรือกิจการที่ขัดหรือแย้งกับ วัตถุประสงค์ของ สอวช. ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่เป็นผู้ถือหุ้นเพ่ือการลงทุนโดยสุจริต ในบริษัทจากัดหรือบริษัทมหาชนจากัด หรือเปน็ หนุ้ ส่วนจาพวกจากัดความรบั ผิดในกจิ การท่ีกระทาการ อันมสี ่วนไดเ้ สยี เช่นวา่ น้นั ทัง้ นี้ ต้องไม่เกนิ ร้อยละศนู ย์จุดห้าของจานวนหุ้นหรือทุน มาตรา ๓๐ ผู้อานวยการ สอวช. มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละส่ีปี และอาจได้รับ แตง่ ตง้ั ใหม่อีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งตดิ ต่อกันเกนิ สองวาระไม่ได้ มาตรา ๓๑ เพ่ือประโยชน์ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้อานวยการ สอวช. ให้คณะกรรมการอานวยการ สอวช. จัดให้มีการประเมินโดยผู้ประเมินภายนอกท่ีเป็นกลางและอิสระ ทัง้ นี้ ตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารที่คณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด มาตรา ๓๒ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๓๐ ผู้อานวยการ สอวช. พน้ จากตาแหนง่ เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะกรรมการอานวยการ สอวช. ให้ออก เพราะไมผ่ ่านการประเมิน (๔) คณะกรรมการอานวยการ สอวช. ถอดถอนด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของจานวน กรรมการทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ เพราะมคี วามประพฤตเิ สื่อมเสีย หรอื ก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายร้ายแรงแก่ สอวช. (๕) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะต้องหา้ มอย่างหนง่ึ อยา่ งใดตามมาตรา ๒๙

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๒๓ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๓๓ เม่ือผู้อานวยการ สอวช. พน้ จากตาแหน่งใหร้ องผูอ้ านวยการ สอวช. พ้นจาก ตาแหน่งด้วย และในกรณีผู้อานวยการ สอวช. พ้นจากตาแหน่งตามมาตรา ๓๒ (๓) จะแต่งตั้ง รองผ้อู านวยการ สอวช. ทีพ่ ้นจากตาแหน่งนนั้ เป็นผอู้ านวยการ สอวช. มิได้ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวรรคหน่ึง รองผู้อานวยการ สอวช. พ้นจากตาแหน่ง เมอื่ ผ้อู านวยการ สอวช. สง่ั ให้พน้ จากตาแหนง่ มาตรา ๓๔ ให้ผอู้ านวยการ สอวช. มหี น้าท่แี ละอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) บริหารงานของ สอวช. ให้เกิดผลสัมฤทธติ์ ามภารกิจของ สอวช. และระเบียบ ขอ้ บงั คบั ประกาศ นโยบาย หรือมตทิ ี่สภานโยบายและคณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด (๒) วางระเบียบเก่ียวกับการดาเนนิ งานของ สอวช. โดยไมข่ ัดหรอื แย้งกับระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ นโยบาย หรือมตทิ ่สี ภานโยบายและคณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด (๓) เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานทุกตาแหน่ง และประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานของ สอวช. ทุกตาแหนง่ ตามระเบียบหรอื ขอ้ บงั คบั ของคณะกรรมการอานวยการ สอวช. (๔) แต่งต้ังรองผู้อานวยการ สอวช. จากผู้ซ่ึงมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม และ ไม่เกนิ จานวนทีค่ ณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด (๕) บรรจุและแต่งต้ัง เลื่อนเงินเดือนหรือคา่ จ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงาน ตลอดจนให้พนักงาน ออกจากตาแหน่ง ท้ังน้ี ตามระเบียบหรือขอ้ บังคับทีค่ ณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด (๖) ปฏบิ ตั ิการอืน่ ใดตามระเบยี บ ข้อบงั คับ ประกาศ นโยบาย และมตขิ องสภานโยบายและ คณะกรรมการอานวยการ สอวช. มาตรา ๓๕ ในกิจการท่ีเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้อานวยการ สอวช. เป็นผู้แทนของ สอวช. และเพื่อการนี้ผู้อานวยการ สอวช. จะมอบอานาจให้บุคคลใดปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนก็ได้ แต่ท้งั นี้ ต้องเปน็ ไปตามระเบียบทคี่ ณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด การรักษาการแทนและการปฏิบัติหน้าท่ีแทน ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการอานวยการ สอวช. กาหนด มาตรา ๓๖ ให้คณะกรรมการอานวยการ สอวช. เป็นผู้กาหนดอตั ราเงนิ เดือนและประโยชน์ ตอบแทนอ่นื ของผอู้ านวยการ สอวช. ตามหลกั เกณฑท์ คี่ ณะรัฐมนตรกี าหนด มาตรา ๓๗ ข้าราชการหรอื เจ้าหน้าทข่ี องรฐั ซ่งึ อยูร่ ะหว่างการปฏิบตั ิงานชดใช้ทุนการศึกษา ท่ไี ด้รับจากสว่ นราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ที่ได้โอนยา้ ยมาปฏบิ ัตหิ นา้ ทีท่ ่ี สอวช. โดยไดร้ บั ความเหน็ ชอบ จากผู้บงั คับบญั ชาตน้ สงั กดั ให้ถือเปน็ การชดใช้ทุนตามสัญญา และมีสทิ ธินบั ระยะเวลาการปฏิบัตงิ านใน สอวช. เปน็ ระยะเวลาในการชดใช้ทุนตามสญั ญาดว้ ย

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๒๔ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๓๘ การบัญชขี อง สอวช. ใหจ้ ัดทาตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐ มาตรา ๓๙ ให้ สอวช. จัดทางบดุล งบการเงิน และบัญชีทาการส่งผู้สอบบัญชีภายใน เก้าสิบวันนบั แต่วนั สิน้ ปงี บประมาณ ให้สานักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชี และประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของ สอวช. ทุกรอบปี แล้วทารายงานผลการสอบบัญชีเสนอต่อคณะกรรมการอานวยการ สอวช. ภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวัน นับแตว่ นั สิ้นปงี บประมาณ หมวด ๒ คณะกรรมการสง่ เสรมิ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สว่ นท่ี ๑ คณะกรรมการสง่ เสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม มาตรา ๔๐ ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เรียกโดยย่อว่า “กสว.” ประกอบดว้ ย (๑) ประธานกรรมการซงึ่ คณะรัฐมนตรีแตง่ ตง้ั จากผทู้ รงคณุ วุฒิทมี่ ีความรู้และประสบการณอ์ ยา่ งสูง ในด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยหรือนวตั กรรมตามข้อเสนอของสภานโยบาย (๒) กรรมการโดยตาแหน่ง จานวนสี่คน ได้แก่ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อานวยการสานักงบประมาณ และอธิบดกี รมบญั ชกี ลาง (๓) กรรมการซ่ึงผู้แทนหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมท่ีมิได้สังกัดกระทรวงเลือกกันเอง จานวนหนึง่ คน (๔) กรรมการซึ่งผู้แทนหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมท่ีสังกัดกระทรวง ซึ่งมิใช่ สถาบันอุดมศึกษาเลือกกันเอง จานวนหนึ่งคน และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาซ่ึงได้รับงบประมาณวิจัย และนวัตกรรมเลอื กกนั เอง จานวนหนึง่ คน (๕) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จานวนไม่เกินส่ีคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและความสามารถเป็นท่ีประจักษ์ด้านวิทยาศาสตร์ ไม่เกินสองคน ด้านสังคมศาสตร์ จานวนหนงึ่ คน และดา้ นมนษุ ยศาสตร์ จานวนหนึ่งคน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๒๕ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ให้ผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นกรรมการ และเลขานกุ าร ประธานกรรมการ กรรมการตาม (๓) และ (๔) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๕) มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละสี่ปีและอาจได้รับแต่งต้ังใหม่อีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกันเกิน สองวาระไมไ่ ด้ หลักเกณฑ์ วิธีการไดม้ า คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การแต่งต้ัง และการพ้นจากตาแหนง่ ของประธานกรรมการ กรรมการตาม (๓) และ (๔) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๕) ให้เป็นไป ตามระเบยี บทีส่ ภานโยบายกาหนด มาตรา ๔๑ กสว. มหี นา้ ท่ีและอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) เสนอแนะต่อสภานโยบายในการจัดทานโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมของประเทศทส่ี อดคล้องกบั ยุทธศาสตรช์ าติ แผนแมบ่ ท และแผนอ่นื ตามมาตรา ๑๑ (๑) (๒) เสนอแนะกรอบวงเงินงบประมาณประจาปีด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ต่อสภานโยบาย รวมทั้งเสนอระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการท่ีมุ่งผลสัมฤทธ์ิ ตามกรอบวงเงนิ ดังกล่าว ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนตามมาตรา ๑๑ (๑) (๓) ให้คาแนะนาในการพิจารณาคาของบประมาณของกองทุนแก่คณะกรรมการพิจารณา งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมตามมาตรา ๑๒ (๒) (๔) กาหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทาคาของบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้แก่ หน่วยงานในระบบวิจัยและนวตั กรรม (๕) เสนอต่อนายกรัฐมนตรีในการแตง่ ต้งั คณะกรรมการพจิ ารณางบประมาณดา้ นวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามมาตรา ๑๒ (๒) (๖) บริหารกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามมาตรา ๕๔ ให้เป็นไป ตามระเบียบที่สภานโยบายกาหนด (๗) พิจารณาคาของบประมาณและจัดสรรงบประมาณจากกองทุนให้แก่หน่วยงานในระบบ วิจัยและนวัตกรรม ให้สอดคล้องกับแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศและหลักเกณฑ์ ตาม (๔) (๘) กาหนดทิศทางและแนวทางการดาเนินงานของหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม ซ่ึงต้องสอดคล้องกับแผนดา้ นวิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรมของประเทศตามมาตรา ๑๑ (๑)

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๒๖ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๙) กากับ เร่งรัด และติดตามให้มีการปรับปรุงและแก้ไขระบบหรือกลไกการบริหารจัดการ งานวิจัยและนวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน เพ่ือให้สามารถนาผลงานวิจัยไปใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด (๑๐) กาหนดมาตรฐานการวิจัยและจริยธรรมการวิจัยโดยความเห็นชอบของสภานโยบาย กาหนดข้อกาหนดหรือแนวทางปฏิบัติที่เก่ียวกับการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เพื่อให้เป็นไป ตามมาตรฐานสากล และกากับดูแล ติดตาม และส่งเสริมให้เป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรม และ ขอ้ กาหนดหรอื แนวปฏบิ ัตนิ ั้น (๑๑) ส่งเสริมและสนับสนุนการทางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน และบุคคลหรือหน่วยงานในต่างประเทศในด้านการวิจัยและนวัตกรรม การถ่ายทอด วิทยาการหรือเทคโนโลยี รวมถึงเสนอแนะต่อสภานโยบายเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการกาหนด มาตรการ สิทธิประโยชน์ และแรงจูงใจ เพอ่ื ใหก้ ารดาเนินการดงั กล่าวเกิดผลเปน็ รปู ธรรม (๑๒) กาหนดหลกั เกณฑ์การใหร้ างวลั ผลงานวจิ ัยและนวตั กรรมท่ีได้รบั การประเมินและพิสูจน์แลว้ วา่ เป็นประโยชน์แก่เศรษฐกิจ สังคม และวิชาการของประเทศ และหลักเกณฑ์การประกาศเกียรติคุณ หรอื ยกยอ่ งบคุ คลหรือหนว่ ยงานทมี่ ีผลงานวจิ ยั และนวตั กรรมท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ สาธารณะอยา่ งต่อเนอื่ ง (๑๓) กากับ เรง่ รัด และติดตามให้มีการจัดทาและการดาเนินการตามแผนด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ รวมท้ังติดตาม ประเมินผลการใช้งบประมาณของหน่วยงานใน ระบบวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือให้เป็นไปตามแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ตามมาตรา ๑๑ (๑) (๑๔) กากับ เรง่ รัด และติดตามให้มีการจัดทาฐานขอ้ มูลการวิจัยและนวตั กรรมของประเทศ (๑๕) มอบหมายให้คณะอนกุ รรมการ คณะบุคคล หรอื บุคคลปฏบิ ัติงานตามที่ กสว. มอบหมาย (๑๖) ออกระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติน้ี โดยไม่ขดั หรอื แย้งกับมติของสภานโยบาย (๑๗) ปฏบิ ตั ิหน้าทอ่ี ่นื ตามทบี่ ัญญตั ไิ ว้ในพระราชบญั ญตั นิ ้แี ละกฎหมายอ่นื หรอื ตามที่คณะรฐั มนตรี หรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย มาตรา ๔๒ ให้นาความในมาตรา ๙ และมาตรา ๑๖ มาใช้บังคับแก่ กสว. และ คณะอนุกรรมการที่ กสว. แต่งตัง้ โดยอนโุ ลม

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๒๗ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ส่วนที่ ๒ สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม มาตรา ๔๓ ให้มีสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เรียกโดยย่อว่า “สกสว.” ทาหน้าที่รับผิดชอบงานวิชาการและงานธุรการของ กสว. มีวัตถุประสงค์ เพ่ือสง่ เสริม สนบั สนนุ และขบั เคลื่อนระบบการวจิ ัยและนวตั กรรมของประเทศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และสหวิทยาการ เพ่ือสร้างองค์ความรู้ พัฒนานโยบายสาธารณะ และ สนบั สนนุ การนาผลงานวจิ ัยและนวัตกรรมไปใช้ในเชิงเศรษฐกิจและสงั คม เพอ่ื ใหเ้ กิดการพฒั นาประเทศ อยา่ งสมดลุ และยั่งยนื แตจ่ ะต้องไม่ดาเนนิ การวจิ ัยเอง สกสว. เป็นหน่วยงานของรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือ กฎหมายอ่ืน กิจการของ สกสว. ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมาย ว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน แต่พนักงานและลูกจ้างของ สกสว. ต้องได้รับประโยชน์ตอบแทน โดยรวมไม่น้อยกว่าท่ีกาหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน มาตรา ๔๔ ให้ สกสว. มหี นา้ ท่แี ละอานาจ ดงั ต่อไปนี้ (๑) รับผิดชอบงานวิชาการและงานธุรการ รวมถึงสนับสนุนและอานวยความสะดวก ใหก้ ารปฏิบัตหิ นา้ ทีข่ อง กสว. และคณะกรรมการพจิ ารณางบประมาณดา้ นวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม ตามมาตรา ๑๒ (๒) เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ (๒) ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมในด้านการวิจัยและนวัตกรรมในระดับชาตแิ ละนานาชาติ เพอ่ื นาเสนอต่อสภานโยบายในการกาหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผน รวมทง้ั งบประมาณเพอ่ื การวิจัย และนวัตกรรม (๓) จัดทานโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เสนอต่อ กสว. (๔) จัดทากรอบวงเงินงบประมาณดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรมของประเทศ เสนอตอ่ กสว.

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๒๘ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๕) จัดทาคาของบประมาณของกองทุนเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามมาตรา ๑๒ (๒) (๖) จัดทาหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทาคาของบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้แก่ หน่วยงานในระบบวิจัยและนวตั กรรม เสนอตอ่ กสว. (๗) กลั่นกรองคาของบประมาณของหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับ แผนด้านวิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรมของประเทศ และหลักเกณฑ์ตามมาตรา ๔๑ (๔) (๘) จัดทาขอ้ เสนอ และรเิ ริ่มโครงการวจิ ัยและนวัตกรรมทีส่ าคัญของประเทศทต่ี ้องดาเนนิ การ ของหน่วยงานของรฐั และภาคเอกชน รวมทั้งขบั เคลื่อนและประสานการดาเนินงานดงั กล่าวใหส้ ัมฤทธผิ์ ล ทั้งน้ี โดยการมสี ่วนรว่ มของหน่วยงานในระบบวิจัยและนวตั กรรม (๙) เสนอความเห็นต่อ กสว. เกี่ยวกับทิศทางและแนวทางการดาเนินงานของหน่วยงานใน ระบบวิจัยและนวัตกรรม (๑๐) เสนอความเห็นต่อ กสว. เกี่ยวกับการกากับ เร่งรัด และติดตามให้มีการปรับปรุงและ แกไ้ ขระบบหรือกลไกการบรหิ ารจดั การงานวิจยั และนวตั กรรม (๑๑) เสนอความเห็นต่อ กสว. เกี่ยวกับการส่งเสริมและสนับสนุนการทางานร่วมกันระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และบุคคลหรือหน่วยงานในต่างประเทศ ในด้านการวิจัยและนวัตกรรม การถ่ายทอดวิทยาการหรือเทคโนโลยี รวมทั้งจัดทาและเสนอมาตรการ สิทธปิ ระโยชน์ และแรงจงู ใจ เพอื่ สง่ เสริมการดาเนนิ การดงั กลา่ ว (๑๒) เสนอความเห็นต่อ กสว. เก่ียวกับการกากับ เร่งรัด และติดตามให้มีการจัดทาและ การดาเนินการตามแผนด้านการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ รวมถึง การกากบั เร่งรดั ติดตาม ประเมนิ ผลการใช้งบประมาณของหนว่ ยงานในระบบวจิ ยั และนวตั กรรม (๑๓) ประสานงานและให้ความร่วมมอื กับสว่ นราชการ หน่วยงานอ่นื ของรฐั และเอกชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น บุคคลหรือหน่วยงานในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและนวัตกรรม และ การดาเนินการตามหนา้ ทแี่ ละอานาจของ กสว. และกองทุน (๑๔) จัดทารายงานประจาปีของ กสว. และกองทุน เสนอต่อนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และ สภานโยบาย (๑๕) ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนตามท่ีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญตั ินี้ หรือตามที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สภานโยบาย หรอื กสว. มอบหมาย

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๒๙ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๔๕ สกสว. อาจมีรายไดจ้ าก (๑) เงนิ อดุ หนุนทัว่ ไปทรี่ ฐั บาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสมเป็นรายปี (๒) เงนิ หรอื ทรัพยส์ ินที่มีผู้บรจิ าคหรือมอบให้ (๓) รายได้หรอื ผลประโยชนท์ ีเ่ กดิ จากการดาเนินงานหรอื การให้บรกิ าร (๔) ดอกผลและผลประโยชนจ์ ากเงินหรอื ทรัพย์สนิ ตาม (๑) (๒) และ (๓) และรายได้อืน่ ใด ทรัพย์สินของ สกสว. ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีและบคุ คลใดจะยกอายุความหรอื ระยะเวลาในการครอบครองขนึ้ เปน็ ขอ้ ต่อสูก้ บั สกสว. ในเรอ่ื งทรัพยส์ ินของ สกสว. มิได้ เงินและทรพั ย์สนิ ของ สกสว. ไม่ต้องนาส่งคลงั เป็นรายไดแ้ ผ่นดนิ มาตรา ๔๖ ในการดาเนินกิจการของ สกสว. ให้มีคณะกรรมการอานวยการคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ประธานกรรมการซ่ึงรัฐมนตรีแต่งต้ัง ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม ผอู้ านวยการ สอวช. และผู้ทรงคุณวฒุ จิ านวนเจ็ดคนซึ่ง กสว. แต่งตั้ง ในจานวนนี้ อยา่ งนอ้ ยคนหน่ึงต้องมาจากผแู้ ทนหนว่ ยงานในระบบวิจยั และนวัตกรรม เป็นกรรมการ และผอู้ านวยการ สกสว. เป็นกรรมการและเลขานกุ าร หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารแต่งตง้ั ผู้ทรงคณุ วฒุ ิตามวรรคหนึ่งใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบที่ กสว. กาหนด ใหน้ าความในมาตรา ๘ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ มาใชบ้ ังคบั แกผ่ ้ทู รงคณุ วุฒิโดยอนโุ ลม มาตรา ๔๗ ให้นาความในมาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๗ มาใช้บังคับแก่ คณะกรรมการอานวยการ สกสว. โดยอนโุ ลม มาตรา ๔๘ ให้ สกสว. มผี ู้อานวยการคนหนงึ่ ซ่งึ กสว. แตง่ ต้งั โดยข้อเสนอของคณะกรรมการ อานวยการ สกสว. มีหน้าที่บรหิ ารกจิ การของ สกสว. ขึน้ ตรงต่อ กสว. และคณะกรรมการอานวยการ สกสว. และจะให้มรี องผูอ้ านวยการ สกสว. เป็นผ้ชู ่วยสง่ั และปฏิบัตงิ านรองจากผอู้ านวยการ สกสว. กไ็ ด้ การแต่งต้ังผู้อานวยการ สกสว. ตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารสรรหาท่ี กสว. กาหนด มาตรา ๔๙ ใหน้ าความในมาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๕ และมาตรา ๓๖ มาใชบ้ งั คบั แก่ผูอ้ านวยการ สกสว. โดยอนุโลม มาตรา ๕๐ ให้ผอู้ านวยการ สกสว. มีหนา้ ทีแ่ ละอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) บรหิ ารงานของ สกสว. ใหเ้ กิดผลสมั ฤทธติ์ ามภารกจิ ของ สกสว. และระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ นโยบาย หรือมติท่ี กสว. และคณะกรรมการอานวยการ สกสว. กาหนด

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๓๐ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๒) วางระเบยี บเก่ียวกับการดาเนนิ งานของ สกสว. โดยไมข่ ัดหรอื แยง้ กับระเบียบ ข้อบังคบั ประกาศ นโยบาย หรอื มตทิ ่ี กสว. และคณะกรรมการอานวยการ สกสว. กาหนด (๓) เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างทุกตาแหน่ง และประเมินผลการปฏิบัติงานของ พนักงานและลูกจ้างของ สกสว. ทุกตาแหน่งตามระเบียบหรือข้อบังคับท่ีคณะกรรมการอานวยการ สกสว. กาหนด (๔) แต่งตั้งรองผู้อานวยการ สกสว. จากผู้ซ่ึงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม และ ไม่เกินจานวนท่ี กสว. กาหนด (๕) บรรจุและแต่งตงั้ เลื่อนเงนิ เดือนหรอื คา่ จ้าง ลงโทษทางวินยั พนกั งานและลกู จา้ ง ตลอดจน ให้พนกั งานและลกู จ้างออกจากตาแหนง่ ท้งั น้ี ตามระเบยี บหรอื ข้อบงั คับทคี่ ณะกรรมการอานวยการ สกสว. กาหนด (๖) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ นโยบายและมติของสภานโยบาย กสว. และคณะกรรมการอานวยการ สกสว. มาตรา ๕๑ ใหน้ าความในมาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ และมาตรา ๓๙ มาใชบ้ ังคบั แก่ สกสว. โดยอนุโลม หมวด ๓ การกากบั ดูแล มาตรา ๕๒ ให้ สอวช. และ สกสว. แล้วแต่กรณี จัดทารายงานประจาปีเสนอต่อ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และสภานโยบายภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ และ เผยแพรร่ ายงานนต้ี อ่ สาธารณชน รายงานประจาปีตามวรรคหน่ึง ให้แสดงรายละเอยี ดของงบการเงนิ ที่ผู้สอบบัญชีได้รบั รองแลว้ พร้อมท้ังผลงานและรายงานการประเมินผลการดาเนนิ งานประจาปขี อง สอวช. และ สกสว. แลว้ แตก่ รณี ในปีทีล่ ว่ งมา มาตรา ๕๓ ใหน้ ายกรัฐมนตรแี ละรฐั มนตรีมอี านาจกากบั ดแู ลการดาเนนิ กจิ การของ สอวช. และ สกสว. ตามที่กาหนดไวใ้ นมาตรา ๕ ให้เป็นไปตามหน้าทแี่ ละอานาจตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ในการจัดตั้ง ยุทธศาสตร์ชาติ แผนท่ีเกี่ยวข้อง นโยบายของรัฐบาล และมติคณะรัฐมนตรีท่ีเก่ียวข้อง เพ่อื การน้ใี ห้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมอี านาจส่ังใหผ้ ู้อานวยการ สอวช. หรอื ผอู้ านวยการ สกสว. ชีแ้ จง แสดงความคิดเหน็ หรือทารายงาน และมีอานาจยับยั้งการกระทาของ สอวช. และ สกสว. ที่ขัดตอ่

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๓๑ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา กฎหมาย หน้าท่ีและอานาจของ สอวช. และ สกสว. วัตถุประสงค์ในการจัดต้ัง ยุทธศาสตร์ชาติ แผนทเ่ี กี่ยวขอ้ ง นโยบายของรัฐบาล มตคิ ณะรัฐมนตรีท่เี กย่ี วข้อง ตลอดจนสงั่ สอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ เกย่ี วกับ การดาเนนิ การของ สอวช. และ สกสว. ได้ หมวด ๔ กองทนุ สง่ เสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม มาตรา ๕๔ ให้จัดต้ังกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมขึ้นใน สกสว. มีวัตถุประสงค์เพ่ือส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และสหวิทยาการ เพื่อสร้างองค์ความรู้ พัฒนานโยบายสาธารณะ และสนับสนุนการนาผลงานวจิ ัยและนวัตกรรมไปใช้ในเชิงเศรษฐกิจและสังคม เพอื่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาประเทศอย่างสมดุลและยงั่ ยนื รวมทั้งมวี ตั ถปุ ระสงค์ ดังตอ่ ไปน้ดี ว้ ย (๑) สง่ เสริมการผลิตและพัฒนากาลงั คนด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวจิ ัยและนวัตกรรม รวมทั้งยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการ ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ ของประเทศ (๒) พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจยั และนวตั กรรม โครงสร้าง พืน้ ฐานด้านคณุ ภาพ และปัจจยั เออ้ื ที่สนบั สนนุ การวจิ ัยและนวตั กรรม (๓) ส่งเสริมให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศหรือโครงการลงทุนท่ีรัฐเห็นสมควรกาหนด เปน็ กลไกของการพฒั นาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ัยและนวัตกรรม เพือ่ พฒั นาประเทศอยา่ งยั่งยนื (๔) สนบั สนุนการเพ่มิ สมรรถนะในการเลอื ก การรบั การถา่ ยทอด และการรว่ มมือกบั บุคคล หรือหน่วยงานต่างประเทศ เพ่ือให้ได้วิทยาการและเทคโนโลยีและนวตั กรรมที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสม (๕) ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม หน่วยงานอื่นของรัฐ และเอกชน รวมท้ังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนา ระดบั ชมุ ชนและพ้ืนที่ (๖) บกุ เบกิ การวิจัยข้ันแนวหนา้ และการสร้างนวตั กรรมเพื่อเพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ มาตรา ๕๕ กองทุนตามมาตรา ๕๔ ประกอบดว้ ยเงินและทรพั ยส์ ิน ดงั ต่อไปน้ี (๑) เงนิ และทรัพย์สนิ ทไ่ี ด้รับโอนมาตามมาตรา ๗๑

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๓๒ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๒) เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปีตามกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีโดยข้อเสนอของ คณะกรรมการพิจารณางบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามมาตรา ๑๒ (๒) ได้ให้ ความเห็นชอบแล้ว (๓) เงินอุดหนนุ จากต่างประเทศรวมทงั้ องค์การระหวา่ งประเทศ (๔) เงินหรอื ทรัพย์สินทม่ี ีผบู้ ริจาคหรือมอบให้เพอ่ื สมทบกองทนุ (๕) เงินหรือทรพั ย์สนิ ทต่ี กเป็นของกองทนุ หรอื ทีไ่ ด้รบั ตามกฎหมายหรอื นติ กิ รรมสญั ญา (๖) คา่ ตอบแทนหรอื รายได้จากการดาเนนิ กิจการของกองทุน รวมท้ังผลประโยชน์จากทรัพย์สิน ทางปัญญา (๗) ดอกผล ผลประโยชน์ หรือรายได้อนื่ ท่เี กิดจากเงนิ หรอื ทรพั ยส์ ินของกองทุน ใหร้ ัฐจัดสรรงบประมาณใหก้ องทนุ ตามสมควรและจาเปน็ เมอื่ เงนิ ไม่เพยี งพอในการดาเนนิ การ มาตรา ๕๖ รายได้ของกองทนุ ให้นาเข้าสมทบกองทนุ โดยไม่ตอ้ งส่งคลงั เปน็ รายไดข้ องแผ่นดิน มาตรา ๕๗ การใชจ้ ่ายเงนิ กองทุนใหเ้ ป็นไปตามที่ กสว. กาหนด โดยใหใ้ ชต้ ามวัตถปุ ระสงค์ ของกองทุนเพอื่ กจิ การ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) การจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนท่ัวไปแก่หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม ให้สอดคล้องกับ แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมของประเทศ และหลักเกณฑต์ ามมาตรา ๔๑ (๔) (๒) การดาเนินการอนื่ เพื่อใหเ้ ปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ของกองทนุ ตามมาตรา ๕๔ (๓) การติดตามประเมินผล การเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรม และการส่งเสริมการนา ผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ (๔) ค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทนุ (๕) คา่ ใช้จา่ ยอนื่ ๆ ตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสว. กาหนด โดยความเห็นชอบของสภานโยบาย มาตรา ๕๘ การจัดสรรเงินกองทุนให้เป็นไปโดยอิสระภายใต้วัตถุประสงค์ของกองทุน ตามมาตรา ๕๔ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนตามมาตรา ๑๑ (๑) และเป็นไป ตามความต้องการของประเทศอย่างแท้จริง โดยไม่เลือกปฏิบัติด้วยการจัดสรรให้เฉพาะหน่วยงาน ในบังคับบัญชาหรอื ในกากบั ดูแลของนายกรฐั มนตรีและรฐั มนตรี การดาเนินการตามวรรคหน่ึงต้องคานึงถึงความคล่องตัว มีความโปร่งใส ไม่มีการขัดกันระหว่าง ผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชนส์ ว่ นรวม และปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง มาตรา ๕๙ การรบั เงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงนิ ของกองทนุ ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบ ท่ี กสว. กาหนด โดยความเห็นชอบของสภานโยบาย

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๓๓ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๖๐ กองทุนต้องจัดให้มีระบบบัญชีที่เหมาะสมเพ่ือบันทึกรายการทางบัญชีและ แสดงผลการดาเนนิ งานและฐานะการเงนิ ของกองทุนโดยถกู ตอ้ ง การบันทกึ รายการในสมุดบัญชตี ามวรรคหนึง่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานการบญั ชภี าครฐั มาตรา ๖๑ ให้กองทุนจัดทารายงานการเงินเพื่อแสดงผลการดาเนินงานและฐานะการเงิน ของกองทุนเสนอผ้สู อบบัญชภี ายในเกา้ สิบวันนับแต่วนั สิ้นปงี บประมาณ มาตรา ๖๒ ใหส้ านกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินหรือผู้สอบบญั ชีท่ีสานักงานการตรวจเงนิ แผ่นดิน ใหค้ วามเห็นชอบเป็นผูส้ อบบัญชขี องกองทุน ให้ผู้สอบบัญชีทารายงานการสอบบญั ชีของกองทุนเสนอตอ่ กสว. ภายในหน่ึงร้อยแปดสบิ วนั นบั แตว่ นั ส้ินปีงบประมาณ มาตรา ๖๓ ให้มีคณะกรรมการตรวจสอบคณะหน่ึงทาหน้าท่ีตรวจสอบเพื่อรายงานผล การตรวจสอบโดยตรงต่อ กสว. คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบดว้ ย ผูแ้ ทนกระทรวงการคลัง เปน็ ประธานกรรมการ ผแู้ ทน สานักงบประมาณคนหน่ึง และผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึง กสว. แต่งต้ังคนหน่ึง เป็นกรรมการ และให้ สกสว. จดั ใหม้ ีผู้ทาหนา้ ที่ชว่ ยเหลือคณะกรรมการตรวจสอบในการปฏิบตั ิหน้าทีต่ ามสมควร ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและค่าตอบแทนคณะกรรมการตรวจสอบ ให้เป็นไปตามระเบียบท่ี กสว. กาหนด มาตรา ๖๔ ให้มีคณะกรรมการติดตามและประเมนิ ผลการสนับสนนุ วทิ ยาศาสตร์ การวจิ ัย และนวัตกรรม ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีความรู้และประสบการณ์สูงด้านการวิจัยและนวัตกรรม ซง่ึ สภานโยบายแต่งตง้ั เป็นประธานกรรมการ ผ้แู ทนกระทรวงกลาโหม ผแู้ ทนกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทน สานักงบประมาณ ผู้แทนสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแหง่ ประเทศไทย ผู้แทนสภาหอการคา้ แหง่ ประเทศไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย และผ้ทู รงคณุ วฒุ อิ ื่นทม่ี ีความร้แู ละประสบการณ์สงู ดา้ นการประเมนิ ผลงานวิจยั และนวตั กรรม ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ด้านสังคมศาสตร์ และด้านมนุษยศาสตร์ ซึ่งสภานโยบายแต่งตั้งจานวนไม่น้อยกว่าสี่คน แต่ไม่เกินเก้าคนเป็นกรรมการ และให้คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรมแตง่ ตงั้ เลขานกุ ารและผู้ช่วยเลขานุการได้ ให้นาความในมาตรา ๑๖ และมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง มาใชบ้ งั คบั โดยอนโุ ลม ให้ กสว. จัดสรรเงินกองทุนเพื่อสนับสนุนการดาเนินการของคณะกรรมการติดตามและ ประเมนิ ผลการสนบั สนนุ วิทยาศาสตร์ การวจิ ัยและนวัตกรรมตามวรรคหนงึ่

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๓๔ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๖๕ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจยั และ นวัตกรรมตามมาตรา ๖๔ มหี นา้ ทแ่ี ละอานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลงานวจิ ัยและนวัตกรรมท่ไี ด้รับการสนับสนุนจากกองทุน (๒) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดาเนินงานของ สกสว. และหน่วยงานในระบบ วิจัยและนวัตกรรมทไ่ี ด้รบั การสนับสนุน (๓) รายงานผลการปฏิบตั ิงานพร้อมทัง้ ข้อเสนอแนะตอ่ กสว. เพ่อื เสนอสภานโยบายตอ่ ไป บทเฉพาะกาล มาตรา ๖๖ ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าท่ี หนี้ ภาระผูกพัน พนักงาน ลูกจ้าง และเงนิ งบประมาณของสานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม แห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติท่ีมีอยู่ในวันก่อนวันที่ พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ไปเป็นของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติตามพระราชบัญญตั นิ ้ี ให้พนักงานและลูกจ้างของสานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ นวัตกรรมแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ซ่ึงได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง รวมทั้งสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับได้รับ เงินเดือนหรือค่าจ้าง รวมท้ังสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เท่าที่เคยได้รับอยู่เดิมไปพลางก่อน จนกว่าจะได้รับบรรจุหรือแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งในสานักงานสภานโยบายการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติตามพระราชบัญญัติน้ี แต่จะได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างต่ากว่าเงินเดือนหรือ คา่ จ้างที่ได้รบั อยูเ่ ดิมไมไ่ ด้ มาตรา ๖๗ ในวาระเร่ิมแรก ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย กรรมการสภานโยบายตามมาตรา ๖ (๑) (๒) (๓) และ (๔) ให้ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ และ ให้ผู้อานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เพื่อปฏิบัติหน้าท่ีสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติตามพระราชบัญญัติน้ีไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งต้ังกรรมการสภานโยบาย ผู้ทรงคุณวฒุ ิตามมาตรา ๖ (๕) และ (๖) ท้ังนี้ ต้องไมเ่ กนิ หนึง่ รอ้ ยแปดสิบวันนบั แตว่ ันทพี่ ระราชบัญญตั ิน้ี ใชบ้ ังคับ

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๓๕ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๖๘ ในวาระเร่ิมแรก ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติตามมาตรา ๖๗ ปฏิบัติหน้าท่ีคณะกรรมการอานวยการสานักงานสภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแหง่ ชาตติ ามพระราชบัญญตั นิ ้ไี ปพลางก่อนจนกวา่ จะมี การแต่งต้ังคณะกรรมการอานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแหง่ ชาติตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ ท้งั น้ี ตอ้ งไม่เกินหนง่ึ รอ้ ยแปดสบิ วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ี ใชบ้ ังคับ มาตรา ๖๙ ให้ผู้ดารงตาแหน่งเลขาธิการสานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ อยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ดารงตาแหน่งเป็นผู้อานวยการสานักงานสภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมิให้ถือว่าเป็น การเลิกจ้าง และให้ได้รับเงินเดอื นหรือคา่ จ้าง รวมทั้งสทิ ธิประโยชน์ตา่ ง ๆ เท่าท่เี คยได้รบั อยู่เดมิ ไปพลางกอ่ น จนกว่าจะครบวาระท่ีมีอยู่เดมิ ตามกฎหมายว่าด้วยวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแหง่ ชาติ และ ให้นับเป็นวาระการดารงตาแหน่งของผู้อานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ให้ดาเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้อานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติตามพระราชบัญญัติน้ี ภายในหนึ่งร้อยย่ีสิบวันก่อนวันท่ีผู้ดารงตาแหน่ง ตามวรรคหนง่ึ จะครบวาระ มาตรา ๗๐ ข้าราชการ พนกั งานราชการ และลูกจ้างของสานกั งานปลดั กระทรวงการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสานักงานการวิจัยแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้ใดสมัครใจจะไปเปน็ พนักงานของสานกั งาน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ให้แสดงเจตนาเป็นหนังสือ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ และเม่ือผ่านการคัดเลือกหรือการประเมิน ตามหลกั เกณฑท์ ีค่ ณะกรรมการอานวยการสานกั งานสภานโยบายการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และ นวัตกรรมแห่งชาติกาหนดแล้ว ให้สานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยแ ละ นวัตกรรมแห่งชาติดาเนินการบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรมแหง่ ชาติ

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๓๖ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา การแสดงเจตนาตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการอานวยการสานักงาน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติกาหนดและเม่ือได้ยื่นแสดง เจตนาแล้วจะถอนมิได้ ข้าราชการที่พ้นจากราชการเพื่อไปเป็นพนักงานของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นการให้ออกจากราชการ เพราะ ทางราชการเลกิ หรอื ยุบตาแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยบาเหน็จบานาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าดว้ ยกองทุน บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ แล้วแต่กรณี ท้งั นี้ นับแต่วันทไ่ี ดร้ บั การบรรจุและแต่งต้ังเปน็ พนักงาน ลูกจ้างของส่วนราชการท่ีไปเป็นพนักงานของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นการออกจากงานเพราะทางราชการเลิกหรือ ยุบตาแหน่งหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดและให้ได้รับบาเหน็จตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย บาเหนจ็ ลกู จ้าง ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างของส่วนราชการซึ่งมิได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง เป็นพนักงานของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ตามพระราชบญั ญัตนิ ีใ้ ห้ยังคงสถานะความเปน็ ข้าราชการ พนกั งานราชการ หรือลูกจา้ งของสว่ นราชการตอ่ ไป ตามกฎหมายหรอื ระเบียบวา่ ดว้ ยการนนั้ ข้าราชการซ่ึงเป็นสมาชิกกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการอยู่แล้ว ให้มีสิทธิขอเป็นสมาชิก ต่อไปได้แม้จะออกจากราชการแล้ว ในกรณีเช่นน้ี ให้ถือว่าเป็นข้าราชการบานาญและมีสิทธิได้รับ สวัสดกิ ารจากทางราชการเชน่ เดยี วกับผไู้ ด้รับบานาญตามกฎหมายวา่ ดว้ ยกองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการ ให้นาความในมาตรา ๖๖ วรรคสอง มาใช้บังคับแก่ข้าราชการ พนักงานราชการ และ ลูกจ้างของสานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสานักงาน การวิจัยแห่งชาติ ท่ีได้รับการบรรจุและแต่งต้ังเป็นพนักงานของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแหง่ ชาติตามวรรคหนงึ่ โดยอนุโลม มาตรา ๗๑ ให้โอนบรรดากจิ การ ทรัพยส์ ิน สิทธิ หน้าท่ี หน้ี ภาระผูกพนั โครงการวจิ ยั และกิจกรรมท่ีเก่ียวเนื่องกับการวิจัย เงินงบประมาณ และเงินของกองทุนสนับสนุนการวิจัยตามกฎหมาย ว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการวิจัยที่มีอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ไปเป็นของกองทุน ส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรมซึ่งอยใู่ นสานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และ นวตั กรรมตามพระราชบญั ญตั นิ ี้

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๓๗ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ในวาระเริ่มแรก ให้กันเงินท่ีโอนมาตามวรรคหน่ึงเป็นจานวนร้อยละสิบของเงินจากกองทุน สนับสนุนการวิจัยตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการวิจัยที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ เพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานของสานักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และ นวัตกรรมตามพระราชบญั ญตั ินี้ ให้สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมยังคงดาเนนิ โครงการวจิ ยั และกิจกรรมที่เกยี่ วเนื่องกบั การวจิ ยั ต่อไปจนกวา่ จะสิน้ สดุ โครงการหรอื กจิ กรรมดงั กลา่ ว มาตรา ๗๒ ในวาระเร่ิมแรก ให้คณะกรรมการนโยบายกองทุนสนับสนนุ การวิจัยตามกฎหมาย ว่าดว้ ยกองทุนสนบั สนุนการวจิ ัยซ่งึ ดารงตาแหนง่ อยู่ในวนั กอ่ นวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใชบ้ ังคบั ปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะกรรมการอานวยการสานักงาน คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตนิ ้ีไปพลางก่อน จนกว่าจะมี การแต่งต้ังคณะกรรมการสง่ เสรมิ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือคณะกรรมการอานวยการสานักงาน คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ข้ึนใหม่ตามพระราชบญั ญัตินี้ แล้วแต่กรณี ท้ังน้ี ต้องไม่เกินหนึง่ ร้อยแปดสบิ วันนับแตว่ นั ทีพ่ ระราชบญั ญัติน้ีใชบ้ งั คับ มาตรา ๗๓ ในวาระเรมิ่ แรก ให้ผดู้ ารงตาแหนง่ ผอู้ านวยการสานกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั ตามกฎหมายว่าดว้ ยกองทนุ สนับสนุนการวิจยั อยใู่ นวันก่อนวันท่ีพระราชบญั ญตั นิ ีใ้ ชบ้ งั คับ ดารงตาแหนง่ ผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมใิ ห้ถือวา่ เปน็ การเลกิ จา้ ง และให้ไดร้ บั เงนิ เดอื นหรือคา่ จ้าง รวมทงั้ สิทธิประโยชน์ตา่ ง ๆ เท่าทีเ่ คยไดร้ บั อยู่เดิมไปพลางก่อน จนกว่าจะครบวาระที่มีอยู่เดิมตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการวิจัย และ ให้นับเป็นวาระการดารงตาแหน่งของผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี ให้ดาเนินการสรรหาและแต่งต้ังผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ ภายในหนึ่งร้อยย่ีสิบวันก่อนวนั ท่ีผูด้ ารงตาแหนง่ ตามวรรคหนึ่ง จะครบวาระ มาตรา ๗๔ ให้โอนพนักงานและลูกจ้างของสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยตามกฎหมาย ว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการวิจัยที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ไปเป็นของสานักงาน คณะกรรมการสง่ เสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ ให้นาความในมาตรา ๖๖ วรรคสอง มาใชบ้ ังคบั แกพ่ นกั งานและลกู จ้างของสานกั งานกองทุน สนบั สนุนการวิจยั ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสนบั สนนุ การวจิ ัยโดยอนโุ ลม

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๓๘ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๗๕ ให้นาความในมาตรา ๗๐ มาใช้บังคับแก่ข้าราชการ พนักงานราชการ และ ลูกจ้างของสานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสานักงาน การวิจัยแห่งชาตติ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงการอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัย และนวัตกรรม ซึ่งสมัครใจจะไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรมตามพระราชบญั ญัตนิ ีโ้ ดยอนุโลม มาตรา ๗๖ เพอื่ ประโยชนใ์ นการนับเวลาการทางานสาหรับการคานวณสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของบุคลากรซ่ึงโอนมาตามมาตรา ๖๖ และมาตรา ๗๔ ให้นับเวลาทางานในขณะท่ีเปน็ พนักงานหรือ ลูกจา้ งของสานกั งานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมแหง่ ชาตติ ามกฎหมาย ว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของสานักงานกองทุน สนับสนุนการวิจัยตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการวิจัย ต่อเนื่องกับเวลาทางานของพนักงาน ของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือพนักงาน หรือลูกจ้างของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ แลว้ แต่กรณีด้วย มาตรา ๗๗ คดีท่ีสานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม แห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติและคดีที่กองทุนสนับสนนุ การวิจัยตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการวิจัยซ่ึงโอนกิจการตามมาตรา ๖๖ และมาตรา ๗๑ ไปเป็นของสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี บรรดาซ่ึงได้ฟ้องต่อศาลไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญตั ินี้ใช้บังคับ ให้สานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี เข้าสวมสิทธิเป็นคู่ความแทน ในการน้ี ให้สานักงาน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือสานักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดาเนินกระบวนพิจารณาไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และให้ถือว่า ผู้รับมอบอานาจให้ดาเนินคดีแทนสานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม แห่งชาติ หรือกองทุนสนับสนนุ การวิจัย แล้วแต่กรณี ในคดีน้ัน ๆ เป็นผู้รับมอบอานาจจากสานักงาน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือสานักงานคณะกรรมการ ส่งเสรมิ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม แล้วแต่กรณีตามพระราชบญั ญตั นิ ้ีด้วย

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๓๙ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา ในกรณีที่ศาลได้มีคาพิพากษาคดีตามวรรคหน่ึงแล้ว ให้สานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือสานักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม แล้วแต่กรณีตามพระราชบัญญัติน้ี เข้าสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้ตามคาพิพากษาหรือลูกหนี้ ตามคาพพิ ากษานัน้ มาตรา ๗๘ บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คาสั่ง หรือ มติคณะรฐั มนตรใี ดทใี่ ช้บังคบั อยูใ่ นวันก่อนวนั ท่ีพระราชบญั ญตั นิ ใี้ ช้บงั คับ อ้างถึง “คณะกรรมการนโยบาย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ” “สานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ” “เลขาธิการสานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแหง่ ชาติ” และ “พนักงานของสานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมแห่งชาติ” ตามกฎหมายว่าดว้ ยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมแหง่ ชาติ ให้ถือว่าอ้างถึง “สภานโยบายการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ” “สานักงาน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ” “ผู้อานวยการสานักงาน สภานโยบายการอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ” และ “พนกั งานของสานกั งาน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ” ตามพระราชบัญญัติน้ี แล้วแต่กรณี มาตรา ๗๙ บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คาสั่ง หรือ มติคณะรัฐมนตรีใดทใี่ ช้บงั คบั อยใู่ นวนั ก่อนวนั ท่พี ระราชบัญญัตนิ ใ้ี ชบ้ งั คับ อ้างถึง “คณะกรรมการนโยบาย กองทุนสนับสนุนการวิจัย” “กองทุนสนับสนุนการวิจัย” “ผู้อานวยการสานักงานกองทุนสนับสนุน การวิจยั ” และ “พนักงานของสานักงานกองทุนสนบั สนุนการวจิ ยั ” ตามกฎหมายวา่ ด้วยกองทนุ สนับสนุน การวิจัย ให้ถือว่าอ้างถึง “คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” “สานักงาน คณะกรรมการสง่ เสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม” “ผอู้ านวยการสานกั งานคณะกรรมการส่งเสรมิ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” และ “พนักงานของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” ตามพระราชบัญญัติน้ี แลว้ แตก่ รณี มาตรา ๘๐ ให้บรรดาประกาศ ข้อกาหนด คาส่ัง หรือมติของสภานโยบายวิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติตามคาส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี ๖๒/๒๕๕๙ เร่ือง การปฏิรูป ระบบวิจัยและนวตั กรรมของประเทศ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ซ่ึงใช้บังคับอยู่ในวนั ก่อน วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงมีผลใช้บังคับได้ต่อไปเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติน้ี จนกว่าจะมกี ารออกระเบียบ ขอ้ บังคับ ประกาศ หรอื ขอ้ กาหนดตามพระราชบัญญตั นิ ้ี

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๔๐ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ให้บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ข้อกาหนด หรือคาส่ังของสานักงานคณะกรรมการ นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ และของกองทุนสนบั สนนุ การวจิ ัยตามกฎหมายว่าดว้ ยกองทุนสนับสนนุ การวิจัย ซ่ึงใช้บังคับอยู่ในวันกอ่ นวนั ที่พระราชบัญญตั ินีใ้ ช้บังคบั ยังคงมีผลใช้บังคับได้ตอ่ ไปเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกบั พระราชบัญญตั นิ ้ี จนกวา่ จะมีการออกระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ หรอื ข้อกาหนดตามพระราชบัญญัติน้ี ให้ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกาหนดตามพระราชบัญญัตินี้ให้แล้วเสร็จภายใน สองปนี ับแตว่ ันทพี่ ระราชบัญญัตินใี้ ช้บังคบั ผรู้ บั สนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๔๑ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยท่ีการพัฒนาประเทศจาเป็นต้องอาศัย การขับเคล่อื นดา้ นการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม เป็นกลไกสาคญั ในการสร้างความเข้มแข็ง ให้แก่ระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมท้ังเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้มีความผาสุก สมควรกาหนดให้มีสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อทาหน้าที่ในการกาหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนด้านการอุดมศึกษา และแผน ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้มีเอกภาพและเปน็ ระบบ ตลอดจนการจดั สรรงบประมาณ และการประเมินผลการปฏิบัติให้เป็นไปโดยเหมาะสมและมีประสทิ ธิภาพ จึงจาเปน็ ตอ้ งตราพระราชบัญญัติน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook