ดา้ นสงั คม วฒั นธรรมและการศึกษา ไทยและเมียนมาร์ได้ลงนามในความตกลงทางวัฒนธรรมเม่ือวันท่ี 24 สิงหาคม 2542 และมีการด�ำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โครงการอญั เชญิ ผา้ พระกฐนิ พระราชทานไปถวายแกว่ ดั ในเมยี นมาร์ การเชิญผู้สื่อข่าวเมียนมาร์เยือนไทย การสนับสนุนการสอน ภาษาไทยในมหาวทิ ยาลยั ภาษาตา่ งประเทศของเมยี นมาร์ โครงการ ความรว่ มมอื ทางวชิ าการทีไ่ ทยใหท้ ุนการศกึ ษา ทุนฝกึ อบรม/ดงู าน จดั สง่ วสั ดอุ ปุ กรณแ์ ละผเู้ ชยี่ วชาญไปใหค้ �ำปรกึ ษาแนะน�ำในดา้ นตา่ ง ๆ ในสาขาการเกษตร การศกึ ษา สาธารณสขุ และสาขาอน่ื ๆ ทที่ ง้ั สองฝา่ ย เห็นชอบร่วมกัน นอกจากน้ี เม่ือปี 2544 รัฐบาลไทยไดใ้ ห้ความ ช่วยเหลือแก่เมียนมาร์ ในโครงการพัฒนาหมู่บ้านยองข่า รัฐฉาน โดยน�ำโครงการพัฒนาดอยตุงเป็นแบบอย่างเพื่อยกระดับความ เปน็ อยขู่ องประชาชนเมยี นมารใ์ หเ้ ลกิ ปลกู ฝน่ิ และปลกู พชื ผลอยา่ งอนื่ ช่วยสรา้ งโรงเรียน โรงพยาบาล ด�ำเนนิ การด้านสาธารณสขุ ฯลฯ แต่ภายหลังเมื่อมีการปลดพลเอก ข่ิน ยุ้น โครงการดังกล่าวได้ รับผลกระทบจึงหยุดชะงักไป นอกจากนี้ไทยและเมียนมาร์ได้ร่วม ลงนามในบนั ทกึ ความเขา้ ใจวา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ดา้ นสารสนเทศและ การกระจายเสียงและแพรภ่ าพ 50 ประเทศไทยกับอาเซยี น
สาธารณรัฐฟลิ ิปปนิ ส์ ฟลิ ปิ ปนิ ส์เปน็ สมาชกิ ผู้ก่อตง้ั อาเซียนเมือ่ วนั ท่ี 8 สิงหาคม 2510 ข้อมูลท่วั ไป มีชื่อเป็นทางการว่า สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines) เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของไทยมาเป็นเวลานานและมี มุมมองยุทธศาสตร์ร่วมกันในหลายด้าน ผลักดันความร่วมมือ ในด้านการคา้ พลังงาน ความมั่นคง ประสบปญั หาเสถียรภาพทาง การเมืองและเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ือง ประสบปัญหาจากขบวนการ มสุ ลิมแบง่ แยกดนิ แดนภาคใต้ พ้ืนที่ 298,170 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวง กรุงมะนลิ า ประชากร 98 ลา้ นคน 51ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ภาษา ตากาล็อก เปน็ ภาษาประจ�ำชาติ ภาษาฟิลิปปนิ สแ์ ละภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการ ศาสนา คริสต์นิกายโรมันคาทอลิค (ร้อยละ 83) นิกายโปรเตสแตนท์ (รอ้ ยละ 9) อิสลาม (ร้อยละ 5) วันชาต ิ วันที่ 12 มถิ ุนายน วันสถาปนาความสมั พนั ธ์ทางการทตู กับไทย วันท่ี 12 กนั ยายน 2492 การเมืองการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็น ประมขุ และหวั หนา้ คณะบรหิ ารประเทศ อยใู่ นต�ำแหนง่ คราวละ 6 ปี ด�ำรงต�ำแหนง่ ไมเ่ กนิ 1 วาระ มวี ฒุ สิ มาชกิ 24 คนมาจากการเลอื ก ตั้งจากผูม้ สี ิทธิออกเสยี งท่ัวประเทศ มวี าระ 6 ปแี ละรัฐบาลจะจัด ให้มีการเลอื กตงั้ วฒุ สิ มาชิกจ�ำนวนครึง่ หนึง่ (12 คน) ทกุ 3 ปี อากาศ มรสมุ เขตรอ้ น ไดร้ บั ความชมุ่ ชนื้ จากลมมรสมุ ทงั้ 2 ฤดู ไดร้ บั ฝนจาก ลมพายไุ ตฝ้ นุ่ และดเี ปรสชนั่ บรเิ วณทฝี่ นตกมากทสี่ ดุ คอื เมอื งบาเกยี ว สกุลเงิน เปโซฟลิ ปิ ปนิ ส์ 52 ประเทศไทยกับอาเซยี น
ข้อมลู เศรษฐกจิ พืชเศรษฐกิจส�ำคัญ มะพร้าว อ้อย ป่านอบากา และข้าวเจ้า แร่ส่งออกส�ำคัญ เหลก็ โครไมต์ ทองแดง เงิน ผลติ ภณั ฑ์ส่งออกหลัก แผงวงจรไฟฟา้ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ นำ้� มนั ส�ำเรจ็ รปู รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคร่ืองส�ำอาง เหลก็ กลา้ เคมภี ณั ฑ์ เครอ่ื งจกั รกล ผลติ ภณั ฑย์ างผลติ ภณั ฑพ์ ลาสตกิ เคร่อื งรบั โทรทัศน์ และกระดาษ ตลาดสง่ ออกท่ีส�ำคญั สหรฐั อเมริกา ญป่ี ุ่น จนี เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง สงิ คโปร์ ตลาดนำ� เขา้ ทส่ี �ำคัญ สหรฐั อเมริกา ญป่ี ุ่น สงิ คโปร์ ไต้หวัน จีน เกาหลใี ต้ ความสมั พันธ์ระหวา่ งไทย – ฟลิ ิปปนิ ส์ มคี วามสมั พนั ธท์ ย่ี าวนานและราบรนื่ มาโดยตลอด ฟลิ ปิ ปนิ สน์ บั เปน็ ประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ ทางการทูตด้วย ความสมั พันธ์ดา้ นเศรษฐกิจ เปน็ คคู่ า้ ล�ำดบั ที่ 5 ของไทยในกลมุ่ อาเซยี น รองจากสงิ คโปร์ มาเลเซยี และอินโดนีเซีย ในขณะท่ีไทยเป็นคู่ค้าล�ำดับที่ 2 ของฟิลิปปินส์ ในกลุ่มอาเซยี นรองจากสิงคโปร์ 53ประเทศไทยกับอาเซียน
ดา้ นความม่นั คง ฟิลิปปินส์สนับสนุนแนวทางแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของไทยอย่างสันติ โดยเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งฟิลิปปินส์พร้อมจะให้ความสนับสนุนด้านข้อมูล ข่าวสาร และ ประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมผสานหลักสูตรทาง ศาสนากับหลักสูตรสามัญและกฎหมาย ซ่ึงฟิลิปปินส์ได้ด�ำเนิน การไปแล้วในระดับหน่ึง รวมทั้งยกร่างแผนงานเพื่อส่งเสริม ความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรม ขา้ มชาติ และสง่ เสรมิ ความเขา้ ใจอนั ดรี ะหว่างศาสนาตา่ ง ๆ โดยการ จัดสมั มนาระหว่างศาสนากบั ลทั ธคิ วามเชอ่ื (Interfaith Dialogue) ท้ังนี้ ไทยได้จัดท�ำบันทึกความเข้าใจระหว่างส�ำนักงานต�ำรวจ แห่งชาติ และส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ในเรื่องความ รว่ มมือป้องกนั และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ด้านการคา้ /การลงทุน ไทยขอใหฟ้ ลิ ปิ ปนิ สน์ �ำเขา้ ขา้ วมากขน้ึ และขอใหย้ กเลกิ มาตรการจ�ำกดั การน�ำเขา้ สนิ คา้ กระจก โดยมมี ตใิ หค้ ณะกรรมาธกิ ารรว่ มดา้ นการคา้ พิจารณาหารายละเอียดและแนวทางแก้ไขปัญหา ด้านสาธารณสุข ไทยและฟิลิปปินส์ได้หารือกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะเร่ือง ไข้หวัดนกซ่ึงทั้งสองฝ่ายห่วงกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโรค ในภมู ภิ าค โดยพรอ้ มจะรว่ มมอื กนั แลกเปลยี่ นขอ้ มลู และประสบการณ์ เพ่อื ปอ้ งกันและสกัดกั้นการขยายตัวของโรค 54 ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ดา้ นพลงั งาน ทั้งสองฝ่ายจะเร่งรัดจัดการประชุมคณะท�ำงานร่วมด้านพลังงาน (Joint Working Group on Energy) เพอ่ื สรา้ งความรว่ มมอื ทั้ง พลังงานทางเลือก พลังงานชีวภาพ การลงทุนด้านพลังงานไฟฟ้า และพลังงานอ่ืน ๆ ดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว ไทยและฟิลิปปินส์ได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้าน การทอ่ งเที่ยว เมือ่ วันท่ี 24 มีนาคม 2536 และในการประชมุ คณะกรรมาธิการรว่ มว่าด้วยความรว่ มมอื ทวิภาคีไทย - ฟิลิปปนิ ส์ เมอื่ วันท่ี 26 มนี าคม 2550 ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบทจ่ี ะกระชับความ สัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว โดยให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู การจดั พบปะระหวา่ งนกั ธรุ กจิ และการแลกเปลยี่ น บคุ ลากรดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว โดยเฉพาะในสาขาทไี่ ทยมศี กั ยภาพ เชน่ การท่องเที่ยวท่ีสนับสนุนการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและการมีส่วนร่วม ของชุมชน เป็นตน้ 55ประเทศไทยกบั อาเซียน
สาธารณรฐั สงิ คโปร์ สงิ คโปรเ์ ปน็ สมาชิกผกู้ ่อตั้งอาเซียนเมอ่ื วนั ท่ี 8 สิงหาคม 2510 ข้อมูลท่วั ไป มชี อ่ื เปน็ ทางการวา่ สาธารณรฐั สงิ คโปร์ (Republic of Singapore) มคี วามมน่ั คงดา้ นการเมอื งภายในท�ำใหม้ คี วามตอ่ เนอ่ื งของนโยบาย ในด้านต่าง ๆ และมีนโยบายการทูตเชิงรุก เป็นผู้น�ำของอาเซียน ประเทศหนงึ่ เปน็ ศนู ยก์ ลางธรุ กจิ ดา้ นการคา้ และบรกิ าร โทรคมนาคม การเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ (ธุรกิจท่ีไม่ต้องอาศัยพ้ืนที่หรือ ทรพั ยากรธรรมชาติ) โดยมีการพฒั นาระบบโครงสรา้ งพื้นฐานและ การโทรคมนาคมที่ทันสมัย เป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ กับไทยในการเข้าถึงและขยายโอกาสการค้าและการลงทุน มีระบบ การศึกษาและการแพทย์ท่ดี ใี นเอเชีย มีการพัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์ ทดี่ แี ละต่อเนือ่ ง พ้ืนท่ี 699.4 ตารางกโิ ลเมตร เมอื งหลวง สงิ คโปร์ 56 ประเทศไทยกบั อาเซียน
ประชากร 4.6 ล้านคน ภาษา มาเลย์ เปน็ ภาษาประจ�ำชาติ และใช้ภาษาองั กฤษ มาเลย์ จีนกลาง และทมฬิ เปน็ ภาษาราชการ ศาสนา พทุ ธ (รอ้ ยละ 42.5) อสิ ลาม (รอ้ ยละ 14.9) คริสต์ (รอ้ ยละ 14.6) ฮนิ ดู (ร้อยละ 4) ไม่นบั ถอื ศาสนา (ร้อยละ 25) วันชาต ิ วันท่ี 9 สงิ หาคม วนั สถาปนาความสมั พันธท์ างการทตู กับไทย วนั ท่ี 20 กันยายน 2508 การปกครอง ระบอบสาธารณรฐั ระบบรัฐสภา มีประธานาธิบดเี ปน็ ประมุข และ นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล รัฐสภามีวาระคราวละ 5 ปี นโยบายตา่ งประเทศของสงิ คโปร์ เนน้ ดา้ นเศรษฐกจิ เทคโนโลยแี ละ การลงทนุ จากต่างประเทศ อากาศ รอ้ นชน้ื มีฝนตกตลอดปี อณุ หภมู เิ ฉลี่ย 26.8 องศาเซลเซยี ส 57ประเทศไทยกับอาเซยี น
สกลุ เงนิ ดอลลาร์สงิ คโปร์ ขอ้ มลู เศรษฐกจิ จดุ แขง็ ของสงิ คโปร์ คอื เปน็ ประเทศขนาดเลก็ มปี ระชากรเพยี ง 4 - 5 ล้านคน ท�ำให้ศกั ยภาพของคนเปน็ จดุ เดน่ ของประเทศ เน่อื งจาก รฐั บาลสามารถทมุ่ งบประมาณในการพฒั นาระบบการศกึ ษาไดอ้ ยา่ ง มปี ระสทิ ธภิ าพ สงิ คโปรโ์ ดดเดน่ ในการเสนอแนวคดิ เรอื่ งความรว่ มมอื ใหม่ ๆ กับอาเซียน เช่น เสนอแผนความรว่ มมือประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น ซง่ึ เปน็ ขอ้ ตกลงทจี่ ะเรม่ิ ใชใ้ นปี 2563 และแนวคดิ เรอ่ื งการ ตกลงดา้ นการค้าระหวา่ งอาเซียน เป็นต้น พืชเศรษฐกิจท่สี �ำคญั ยางพารา มะพรา้ ว ผกั ผลไม้ ผลิตภัณฑส์ ่งออกหลัก ผลติ ภณั ฑจ์ ากปิโตรเลยี ม เคร่ืองจักร ผลิตภณั ฑ์นำ� เข้าท่ีส�ำคัญ พลังงาน (รอ้ ยละ 40 ของการน�ำเข้าท้งั หมด) และอาหาร ตลาดสง่ ออกท่สี ำ� คญั มาเลเซยี สหรฐั อเมรกิ า สหภาพยโุ รป ตลาดน�ำเข้าทส่ี ำ� คัญ มาเลเซีย สหรฐั อเมริกา ญีป่ ุ่น จนี ไตห้ วัน ไทย ฮ่องกง 58 ประเทศไทยกบั อาเซียน
ความสัมพนั ธ์ระหว่างไทย – สงิ คโปร์ ด้านการทูต ความสมั พนั ธไ์ ทย – สิงคโปรด์ �ำเนนิ มาอย่างราบรืน่ ตลอด และได้ พัฒนาไปในลักษณะ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” เนื่องจากท้ังสอง ประเทศมีจุดแข็งและมีศักยภาพที่เอื้อประโยชน์ต่อกันเป็นอย่างดี ไทยมที รพั ยากรธรรมชาติ แรงงานจ�ำนวนมากและมพี น้ื ทกี่ วา้ งใหญ่ สว่ นสงิ คโปรแ์ มจ้ ะไมม่ ที รพั ยากรธรรมชาตแิ ละมพี นื้ ทนี่ อ้ ย แตม่ คี วาม ก้าวหน้าทางทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยีและและอุตสาหกรรมใน ระดับสงู จึงได้น�ำจดุ แข็งของทั้งสองประเทศมาพัฒนารว่ มกันจนน�ำ ไปสู่การส่งเสริมความสัมพันธ์และการพฒั นาที่ย่ังยนื ด้านการเมืองและความมัน่ คง มคี วามรว่ มมอื ทวิภาคี ท้ังการประชมุ อยา่ งไมเ่ ป็นทางการ (Prime Minister Retreat) ระหว่างนายกรฐั มนตรไี ทยกบั สงิ คโปร์ เพอ่ื สร้าง ความคุ้นเคยระดับผู้น�ำและแลกเปล่ียนความคิดเห็น มีการประชุม คณะกรรมาธกิ ารบรหิ ารรว่ มดา้ นอตุ สาหกรรมปอ้ งกนั ประเทศระหวา่ ง กองทัพไทย – สงิ คโปร์ เพือ่ ส่งเสริมความสัมพันธด์ า้ นความมน่ั คง ของทัง้ สองประเทศ มีการจัดตง้ั คณะท�ำงานร่วมกองทพั เรือไทย – สงิ คโปร์ และการฝึกรว่ มผสม (Cobra Gold) เป็นต้น ด้านเศรษฐกิจ/การค้า สงิ คโปร์ มคี วามช�ำนาญเรอ่ื งของระบบการคา้ เสรเี ปน็ อยา่ งดแี ละเปน็ คูค่ า้ ส�ำคัญอนั ดบั 5 ของไทย รองจากสหรัฐอเมริกา ญ่ีปุน่ จีนและ มาเลเซีย สินคา้ สง่ ออกท่ีส�ำคัญของไทย ไดแ้ ก่ เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น�้ำมันส�ำเร็จรูป แผนวงจรไฟฟ้าและ สว่ นประกอบอากาศยาน ดา้ นการลงทนุ สงิ คโปรเ์ ปน็ ประเทศทเ่ี ขา้ มา 59ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ลงทนุ ในไทยมากเปน็ อนั ดบั 6 โดยมกี ารสง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ดา้ นสนิ คา้ อาหารและเกษตร การขนส่งและโลจสิ ติกส์ และอสงั หารมิ ทรพั ย์ ดา้ นการท่องเทย่ี ว ชาวสิงคโปร์มีทัศนคติที่ดีต่อไทยและชาวไทย และมีความรู้เกี่ยวกับ ไทยในระดบั ดี เนอ่ื งจากมคี วามนยิ มชมชอบเดนิ ทางเขา้ มาทอ่ งเทยี่ ว ในไทย ตลาดนกั ทอ่ งเทยี่ วชาวสิงคโปรจ์ งึ เป็นหนึง่ ในตลาดหลกั ของ การทอ่ งเท่ยี วของไทย ดา้ นสงั คม วฒั นธรรมและการศกึ ษา กลไกความรว่ มมอื ได้แก่ โครงการความรว่ มมอื ระหวา่ งหนว่ ยงาน ขา้ ราชการพลเรือนไทย – สงิ คโปร์ (Thailand – Singapore Civil Service Exchange Programme - CSEP) ดา้ นการศกึ ษา มแี ผนงาน เพ่ือพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยแลกเปลี่ยน คณาจารย์ นักวจิ ัย และนสิ ิตนกั ศึกษาของทั้งสองประเทศ ขอ้ ควรรู้ หน่วยราชการเปิดท�ำการวันจนั ทร์ – ศกุ ร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 13.00 น. และ 14.00 น. - 16.30 น. และวันเสาร์ เปิดท�ำการ ระหวา่ งเวลา 08.00 น. – 13.00 น. ผถู้ อื หนงั สอื เดนิ ทางไทยสามารถ เดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราและ สามารถพ�ำนกั อยไู่ ด้ 14 วนั การพ�ำนกั เกนิ ระยะเวลาทก่ี �ำหนดถอื วา่ ผดิ กฎหมายมโี ทษจ�ำคกุ สงู สดุ 6 เดอื น เฆยี่ น 3 ที ปรบั สงู สดุ 6,000 ดอลลาร์สงิ คโปร์ และหา้ มเขา้ ประเทศ การหลบหนีเข้าสิงคโปร์และ ประกอบอาชีพเร่ขายบริการผิดกฎหมาย จะถกู ลงโทษอย่างรุนแรง การลักลอบน�ำยาเสพตดิ อาวุธปนื และสิ่งผดิ กฎหมายอ่นื ๆ จะได้ รบั โทษอย่างรนุ แรงข้ันประหารชวี ติ 60 ประเทศไทยกบั อาเซียน
ราชอาณาจกั รไทย ไทยเป็นสมาชิกผกู้ ่อตัง้ อาเซียนเมือ่ วนั ท่ี 8 สงิ หาคม 2510 ข้อมลู ท่ัวไป มชี อ่ื อยา่ งเปน็ ทางการวา่ ราชอาณาจกั รไทย (Kingdom of Thailand) พืน้ ท่ี 513,115 ตารางกิโลเมตร เมอื งหลวง กรุงเทพมหานคร ประชากร 64 ลา้ นคน ภาษาราชการ ไทย ศาสนา พุทธ (รอ้ ยละ 90) พราหมณ์ ฮนิ ดู คริสต์ และอสิ ลาม 61ประเทศไทยกบั อาเซียน
วันชาต ิ วนั ท่ี 5 ธนั วาคม การเมอื งการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตย มีพระมหากษัตรยิ ์เปน็ ประมขุ อากาศ แบบเขตร้อน (tropical climate) อณุ หภูมิเฉลี่ยตลอดปี ประมาณ 18 - 34 องศาเซลเซยี ส สกลุ เงนิ บาท ข้อมลู เศรษฐกิจ มูลค่าการค้าระหว่างไทย - ประเทศในอาเซียน (มกราคม – พฤศจิกายน 2551) รวมทงั้ ส้นิ 66,146.88 ล้านดอลลาร์สหรฐั ไทยเกินดุลการค้า 9,625.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออก ทเี่ พ่มิ ขน้ึ ได้แก่ นำ้� มนั ส�ำเร็จรปู รถยนต์ อุปกรณแ์ ละสว่ นประกอบ เครื่องคอมพิวเตอรอ์ ุปกรณแ์ ละสว่ นประกอบ เหล็ก เหล็กกลา้ และ ผลิตภัณฑ์ เคมภี ณั ฑ์ ยางพารา เมด็ พลาสตกิ สนิ คา้ ส่งออกท่ลี ดลง ไดแ้ ก่ แผงวงจรไฟฟา้ เครอื่ งจกั รกลและสว่ นประกอบของเครอ่ื งจกั ร ส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์การบิน เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ ส่วนประกอบทองแดงและของท�ำด้วยทองแดง อุปกรณ์กึ่งตัวน�ำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด และวงจรพมิ พ์ เปน็ ตน้ 62 ประเทศไทยกบั อาเซียน
พืชเศรษฐกจิ ท่สี ำ� คัญ ข้าว ขา้ วโพด ยางพารา มันส�ำปะหลงั ผลไมน้ านาชนิด เช่น เงาะ ทุเรยี น สับปะรด มังคุด ลางสาด มะมว่ ง กลว้ ยหอม สม้ โอ ฯลฯ อาหาร ทะเลสดและตากแห้ง และผลติ ภัณฑแ์ ปรรูปอ่นื ๆ ประเทศไทยกบั อาเซยี น ไทยเป็นหนึ่งในห้าของสมาชิกผู้ก่อตั้งและเป็นจุดก�ำเนิดของอาเซียน และมีบทบาทอยา่ งแขง็ ขันในกิจกรรมของอาเซยี นตลอดมา รวมทง้ั ยังมีส่วนผลักดันให้อาเซียนมีโครงการความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ทท่ี นั การณแ์ ละสอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ มและสถานการณร์ ะหวา่ ง ประเทศ อาทิ การจดั ตัง้ เขตการค้าเสรีอาเซยี น การประชุมอาเซียน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความม่ันคงในภูมิภาคเอเชีย- แปซิฟิก สนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉยี งใต้ ข้อควรรู้ ธนาคารเปดิ ท�ำการตง้ั แตว่ นั จนั ทร์ – ศกุ ร์ ระหวา่ งเวลา 08.30 น. – 15.30 น. (ยกเวน้ ธนาคารตามห้างสรรพสนิ คา้ ทเ่ี ปดิ บริการทกุ วัน) 63ประเทศไทยกับอาเซียน
สาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนาม เวียดนามเป็นสมาชิกอาเซียนเม่ือวันท่ี 28 กรกฎาคม 2538 ข้อมูลทว่ั ไป มชี อื่ อยา่ งเปน็ ทางการวา่ สาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนาม (Socialist Republic of Vietnam) เป็นหุ้นสว่ นทางยทุ ธศาสตร์และมีบทบาท ส�ำคญั ดา้ นความมัน่ คงในภูมภิ าค เปน็ ตลาดใหม่ในภมู ิภาคอนิ โดจีน การบรโิ ภคในประเทศขยายตวั ตอ่ เนอื่ ง ศกั ยภาพการผลติ สงู แรงงาน ในประเทศมคี ณุ ภาพ และยงั คงมคี า่ จา้ งแรงงานตำ�่ ถกู จบั ตามองวา่ จะเปน็ คแู่ ขง่ ทางเศรษฐกจิ ทสี่ �ำคญั ของไทย อยา่ งไรกต็ าม ตง้ั แตช่ ว่ ง ต้นปี 2551 เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวไม่สมดุล อัตราเงินเฟ้อ สงู มาก ตง้ั เปา้ หมายเปน็ ประเทศอตุ สาหกรรมภายในปี 2563 พื้นที่ 331,690 ตารางกโิ ลเมตร เมอื งหลวง กรงุ ฮานอย ประชากร 87 ลา้ นคน 64 ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ภาษาราชการ เวยี ดนาม ภาษาทใี่ ชใ้ นการตดิ ตอ่ สอ่ื สารทางธรุ กจิ คอื ภาษาองั กฤษ ฝรัง่ เศส และจนี ศาสนา พุทธ (รอ้ ยละ 90) คริสต์ (รอ้ ยละ 7) ศาสนาอน่ื ๆ (ร้อยละ 3) วนั ชาต ิ วันที่ 2 กันยายน วนั สถาปนาความสัมพนั ธท์ างการทูตกบั ไทย วนั ที่ 6 สงิ หาคม 2519 การเมอื งการปกครอง ระบอบสังคมนิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เวยี ดนาม แตง่ ตั้งโดยสภา แหง่ ชาติ (National Assembly) มีวาระด�ำรงต�ำแหนง่ 5 ปี ผกู ขาด การชีน้ �ำภายใต้ระบบผ้นู �ำรว่ ม (Collective Leadership) เวียดนาม เป็นประเทศท่ีมีเสถียรภาพทางการเมือง มีเอกภาพสูง และมี การกระจายอ�ำนาจ ซ่ึงมีหลังการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ เวียดนาม สมยั ที่ 10 เมอื่ กลางปี 2549 มผี ู้น�ำท่มี ีประสบการณ์ ด้านเศรษฐกิจและมีภาพลักษณ์ของผนู้ �ำรนุ่ ใหม่ อากาศ มรสุมเขตร้อน ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเปิดโล่งรับลมมรสุม ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทพ่ี ดั ผา่ นทะเลจนี ใต้ ท�ำใหม้ โี อกาสรบั ลมมรสมุ และพายุหมนุ เขตรอ้ น จงึ มฝี นตกชุกในฤดหู นาวอณุ หภูมเิ ฉล่ยี ตงั้ แต่ 5 องศาเซลเซียส ถึง 37 องศาเซลเซยี ส 65ประเทศไทยกับอาเซียน
สกุลเงิน ด่ง ขอ้ มูลเศรษฐกจิ พืชเศรษฐกจิ ทสี่ �ำคญั ขา้ วเจา้ ยางพารา ชา กาแฟ ยาสูบ พริกไทย การประมง จบั ปลาไดเ้ ปน็ อันดบั 4 ของสินคา้ ส่งออก เช่น ปลาหมกึ กงุ้ อตุ สาหกรรมทส่ี �ำคญั อุตสาหกรรมทอผา้ อาหาร เหมืองแร่ รองเท้า ปนู ซเี มนต์ เหมอื งแรท่ ี่สำ� คัญ ถ่านหิน น้�ำมนั ปโิ ตรเลยี ม และกา๊ ซธรรมชาติ ผลติ ภัณฑ์นำ� เข้าที่สำ� คัญ วัตถุดิบ วสั ดสุ ิง่ ทอ เครอื่ งหนัง เคร่ืองจักร ผลติ ภัณฑ์ปโิ ตรเลียม ตลาดส่งออกท่ีส�ำคญั ญี่ปนุ่ สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป ตลาดนำ� เข้าทีส่ ำ� คญั สิงคโปร์ ญีป่ ุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน 66 ประเทศไทยกบั อาเซียน
ความสัมพันธ์ระหว่างไทย – เวียดนาม ไทยไดส้ ถาปนาความสัมพันธท์ างการทตู กับเวยี ดนาม เมอ่ื วันที่ 6 สิงหาคม 2519 โดยเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงฮานอยและ สถานกงสลุ ใหญท่ ่ีนครโฮจิมนิ ห์ เม่ือปี 2521 และปี 2535 ตาม ล�ำดับ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ประกอบด้วย ส�ำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารและส�ำนักงานส่งเสริมการค้าใน ตา่ งประเทศ เวยี ดนามเปดิ สถานเอกอคั รราชทตู ในไทย เมอื่ ปี 2521 ความสัมพนั ธท์ วภิ าคไี ทย - เวียดนามปจั จบุ ันอยใู่ นระดับทีด่ ี มีการ แลกเปล่ยี นการเยือนทกุ ระดบั รวมถงึ ระดับทอ้ งถนิ่ อย่างต่อเนอื่ ง ความร่วมมอื ดา้ นการค้า ทั้งสองประเทศวางกลไกความสัมพันธ์ในหลายระดับ ระดับสูงสุด คอื กรอบการประชมุ คณะรฐั มนตรรี ว่ มไทย - เวยี ดนามอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ (Joint Cabinet Retreat : JCR) ซึ่งในการประชุม JCR ครั้งท่ี 1 เม่ือปี 2547 ท้ังสองฝ่ายได้แสดงเจตนารมณ์ ใน “แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบความร่วมมือไทย - เวียดนาม ในทศวรรษแรกของศตวรรษท่ี 21” (Joint Statement on the Thailand - Vietnam Cooperation Framework in the First Decade of the 21st Century) ระบุใหม้ ีการเพมิ่ พนู ความรว่ มมือ ในทุก ๆ ด้าน และตกลงให้จัดตั้งกลไกการหารือร่วม (Joint Consultative Mechanism : JCM) เพ่ือเป็นกลไกในระดับรอง ท�ำหนา้ ทด่ี แู ล ประสานความรว่ มมอื ในภาพรวมแทนคณะกรรมาธกิ าร ร่วมไทย - เวียดนาม (Joint Commission : JC) 67ประเทศไทยกับอาเซยี น
ดา้ นการเมอื งและความมั่นคง มคี วามร่วมมือและประสานกันอยา่ งใกล้ชดิ โดยมกี รอบการประชุม คณะท�ำงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความม่ันคง (Joint Working Group on Political and Security Cooperation : JWG on PSC) เปน็ กลไกส�ำคัญ ความร่วมมอื ด้านการลงทุน ไทยลงทุนในเวียดนามสูงเป็นอันดับที่ 12 จากนักลงทุนต่างชาติ ทั้งหมด เอกชนไทยนิยมลงทุนท่ีนครโฮจิมินห์และจังหวัดข้างเคียง ในสาขาส�ำคัญ ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม เคมีภัณฑ์ อตุ สาหกรรมการเกษตร อาหารสตั ว์ อตุ สาหกรรมพลาสตกิ ชน้ิ สว่ น รถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ สาขาการลงทุนที่มีความน่าสนใจ ได้แก่ ภาคบริการ ซ่ึงไทยมีประสบการณ์และเวียดนามมีความต้องการ เพม่ิ ขน้ึ มาก เมอื่ เขา้ เปน็ สมาชกิ องคก์ ารการคา้ โลก และมกี ารขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ข้ึนอกี ระดับหนงึ่ ด้านวิชาการ สงั คมและวัฒนธรรม ประเทศไทยมคี วามร่วมมือทางวิชาการกบั เวยี ดนามตง้ั แต่ปี 2535 ผ่านกรอบการประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย - เวียดนาม นอกจากน้ี ทงั้ สองฝา่ ยยงั เหน็ ความส�ำคญั ของการแลกเปลยี่ นการสอน ภาษาระหว่างกนั โดยรฐั บาลไทยไดร้ ับความร่วมมอื ใหเ้ ปิดหลกั สตู ร สอนภาษาไทยในมหาวทิ ยาลยั ของเวยี ดนาม 5 แหง่ ทงั้ น้ี เวยี ดนาม สนบั สนุนงบประมาณ 3.5 แสนดอลลาร์สหรฐั เพ่ือสร้างโรงเรียน สอนภาษาเวียดนามที่จังหวัดนครพนม ท้ังสองฝ่ายได้แลกเปล่ียน การศึกษาดงู านระหว่างกันในดา้ นตา่ ง ๆ อยา่ งต่อเน่อื ง 68 ประเทศไทยกับอาเซยี น
ขอ้ ควรร ู้ - ผถู้ อื หนงั สอื เดนิ ทางของไทย สามารถเดนิ ทางเขา้ เวยี ดนาม โดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และพ�ำนักอยู่ในเวียดนามได้ ไมเ่ กิน 30 วนั - ชาวต่างชาติที่อยู่ในเวียดนาม ต้องถือหนังสือเดินทาง ตดิ ตวั ตลอดเวลา ท้งั น้คี วรถา่ ยเอกสารหนงั สือเดินทาง บัตรเครดติ และเอกสารส�ำคัญอื่นๆ แยกเก็บไว้ต่างหากจากต้นฉบับ เนื่องจาก โรงแรมทพ่ี กั จะขอใหแ้ ขกตา่ งชาติแสดงหนงั สอื เดนิ ทาง เพ่ือการลง ทะเบยี นและแจง้ ทางการต�ำรวจท่เี ก่ียวขอ้ ง เวยี ดนามไมอ่ นุญาตให้ ถา่ ยภาพอาคารท่ที �ำการต่างๆ ของรัฐ - หากน�ำเงนิ ตราตา่ งประเทศตดิ ตัวเขา้ มามากกวา่ 7,000 ดอลลาร์สหรฐั ต้องแจ้งให้ศลุ กากรเวียดนามทราบ การน�ำเงนิ ตรา ออกประเทศมากกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องได้รับอนุญาต จากธนาคารแห่งชาติหรือธนาคารกลางในท้องถิ่นก่อน มิเช่นน้ัน จะถูกยึดเงิน - บทลงโทษของเวียดนามในคดียาเสพติด การฉ้อโกง หนว่ ยงานของรัฐมีโทษประหารชีวิต 69ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ประเทศคเู่ จรจาอาเซยี น อาเซยี น - จนี ความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - สาธารณรฐั ประชาชนจนี เรมิ่ ขน้ึ เมอื่ ปี 2534 และในปี 2539 ไดย้ กสถานะเปน็ full dialogue partner ในปี 2549 ได้มีการประชุมสดุ ยอดอาเซียน - จีนสมัยพเิ ศษ ทนี่ ครหนานหนิง เพ่ือฉลองครบรอบ 15 ปีความสัมพันธ์อาเซียน - จีน และในปี 2554 จนี และอาเซยี นไดจ้ ดั กจิ กรรมเพอ่ื เฉลมิ ฉลองครบรอบ 20 ปี ของความสมั พนั ธ์ ดา้ นการเมืองและความมน่ั คง จีนเป็นประเทศคู่เจรจาแรกที่ภาคยานุวัติสนธิสัญญาไมตรี และความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) ในปี 2546 และเป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ประเทศแรกท่ีแสดง ความพรอ้ มทจ่ี ะลงนามในพธิ สี ารตอ่ ทา้ ยสนธสิ ญั ญาเขตปลอดอาวธุ นิวเคลียร์ในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ด้านเศรษฐกิจ จนี เปน็ ประเทศคเู่ จรจาประเทศแรกทเ่ี สนอใหม้ กี ารจดั ตง้ั เขต การคา้ เสรกี บั อาเซยี น โดยทง้ั สองฝา่ ยไดล้ งนามใน ASEAN - China Framework Agreement on Economic Cooperation เมอื่ ปี 2545 70 ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ซ่ึงวางเป้าหมายให้จัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีนกับประเทศ สมาชกิ อาเซยี นเกา่ 6 ประเทศ ไดแ้ ก่ สงิ คโปร์ อนิ โดนเี ซยี มาเลเซยี ไทย ฟิลิปปนิ ส์ และบรไู นฯ ภายในปี 2553 และกับประเทศสมาชิก อาเซียนใหม่ 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ เวยี ดนาม (CLMV) ภายในปี 2558 โดยอาเซียน - จนี ไดล้ งนาม ความตกลงด้านการค้าสินค้าในปี 2547 ความตกลงด้านการค้า บริการในปี 2550 และความตกลงดา้ นการลงทนุ ในปี 2552 ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีนมีผลสมบูรณ์เมื่อ วนั ที่ 1 มกราคม 2553 ซงึ่ ท�ำใหอ้ ตั ราภาษศี ลุ กากรสนิ คา้ สว่ นใหญ่ เหลือร้อยละ 0 (เฉพาะประเทศอาเซียนเก่า 6 ประเทศกับจีน) ในปี 2552 อาเซยี น - จนี มมี ลู คา่ การคา้ ระหวา่ งกนั 1.6 แสนลา้ น ดอลลารส์ หรฐั ลดลงจากปี 2551 ประมาณ 3 หม่ืนลา้ นดอลลาร์ สหรัฐแต่จีนได้กลายเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของอาเซียน และอาเซียน เปน็ ค่คู ้าอนั ดับ 3 ของจีนเช่นกนั อย่างไรกต็ าม มูลคา่ การลงทุน ระหวา่ งกนั ยงั อยูใ่ นระดบั ตำ่� (ปี 2551 จนี ลงทนุ ในอาเซยี น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 2.4 ของเงินลงทุนจาก ต่างชาตทิ ง้ั หมด) จีนเป็นคู่เจรจาประเทศที่ 3 ท่ีอาเซียนได้ร่วมลงนามความ ตกลงจัดตั้งศูนย์อาเซียน - จีน (ASEAN Virtual Learning Resources Centres : AVLRC) ท่กี รุงปกั กง่ิ ดา้ นการพฒั นา อาเซยี นและจนี ไดก้ �ำหนดใหม้ คี วามรว่ มมอื ใน 11 สาขาหลกั ไดแ้ ก่ เกษตร เทคโนโลยสี ารสนเทศ การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ การ ลงทนุ การพฒั นาลมุ่ นำ้� โขง การคมนาคมขนสง่ พลงั งาน วฒั นธรรม สาธารณสุข การท่องเท่ียว และสิ่งแวดลอ้ ม 71ประเทศไทยกับอาเซยี น
ดา้ นความเช่ือมโยง อาเซยี นไดผ้ ลกั ดนั เรอ่ื งความเชอื่ มโยง (Connectivity) ภายใน ภมู ิภาค และจีนได้จัดตง้ั กองทนุ อาเซียน - จีนเพือ่ การลงทนุ และ โครงการสินเช่ือเชิงพาณิชย์ โดยให้ความส�ำคัญกับการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายคมนาคม โทรคมนาคม พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติภายในอาเซียน โดยรับข้อเสนอโครงการ ท้งั จากภาครฐั และเอกชน อาเซียนและจีนได้จัดท�ำแผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริม ความรว่ มมอื ดา้ นสารสนเทศและสอื่ อาเซยี น - จนี ระหวา่ งปี 2553 - 2558 โดยมกี จิ กรรมตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การแลกเปลย่ี นการเยอื น (ในทกุ ระดับ) การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ การแลกเปล่ียนรายการและ ภาพยนตร์ ส่ือส่ิงพิมพ์ รวมทัง้ เทคโนโลยใี หม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ดา้ นโทรศัพทเ์ คลื่อนทแ่ี ละอนิ เทอร์เน็ต เปน็ ต้น 72 ประเทศไทยกบั อาเซียน
อาเซยี น - ญป่ี นุ่ ญี่ปุ่นเริ่มความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการกับอาเซียนในปี 2516 และพฒั นาความสมั พนั ธเ์ ปน็ ประเทศคเู่ จรจาของอาเซยี นในปี 2520 และในปี 2546 มกี ารประชุมสุดยอดอาเซียน - ญ่ปี นุ่ สมยั พเิ ศษ (ASEAN-Japan Commemorative Summit) ทกี่ รุงโตเกยี ว ในโอกาสครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน - ญ่ปี ุน่ โดยไดม้ ี การลงนามปฏิญญาโตเกยี วว่าดว้ ยการเป็นหนุ้ ส่วนอาเซยี น - ญีป่ นุ่ (Tokyo Declaration for the Dynamic and Enduring ASEAN - Japan Partnership) เพ่ือก�ำหนดทิศทางความร่วมมือระหว่าง สองฝ่าย ญี่ปุ่นให้การสนับสนุนการรวมตัวของอาเซียนโดยจัดต้ัง กองทนุ เพ่ือสนับสนนุ การรวมตวั กันของอาเซยี น (Japan - ASEAN Integration Fund – JAIF) และยงั เปน็ ผสู้ นบั สนนุ รายใหญท่ สี่ ดุ ของ กรอบข้อรเิ ร่มิ เพอ่ื การรวมตัว ของอาเซียน (Initiative for ASEAN Integration – IAI) อีกดว้ ย ด้านการเมอื ง ญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่เจรจาล�ำดับที่ 4 ที่ได้ภาคยานุวัติสนธิ สัญญาไมตรีและความรว่ มมือในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia - TAC) และเป็น 73ประเทศไทยกับอาเซียน
ประเทศแรก ทจ่ี ดั ตงั้ กรอบการประชมุ ความรว่ มมอื ดา้ นการตอ่ ตา้ น การกอ่ การรา้ ยอยา่ งเปน็ ทางการกบั อาเซยี น ดา้ นเศรษฐกิจ เมอื่ ปี 2524 อาเซยี นและญปี่ นุ่ ไดจ้ ดั ตงั้ ศนู ยอ์ าเซยี น - ญปี่ นุ่ เพอ่ื สง่ เสรมิ การคา้ การลงทนุ และการทอ่ งเทยี่ ว ทกี่ รงุ โตเกยี ว ทงั้ น้ี ญป่ี ุ่นเป็นคูค่ ้าอนั ดบั 1 และผ้ลู งทุนรายใหญอ่ นั ดับ 2 ของอาเซยี น เมอ่ื เดอื นเมษายน 2551 อาเซยี นและญปี่ นุ่ ไดล้ งนามความตกลงหนุ้ สว่ นเศรษฐกจิ อาเซยี น - ญป่ี นุ่ (ASEAN - Japan Comprehensive Economic Partnership - AJCEP) นอกจากน้ี อาเซียนและญป่ี นุ่ ได้จัดต้ังกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิขึ้น เพ่ือเสนอแนะแนวทางในการพัฒนา ความสมั พันธอ์ าเซียน - ญปี่ ุ่นในอนาคต โดยกลมุ่ ผู้ทรงคณุ วฒุ ไิ ด้ จัดท�ำรายงานข้อเสนอแนะต่อผู้น�ำอาเซียนและญี่ปุ่นในการประชุม สุดยอดอาเซียน - ญ่ีปุ่น ครงั้ ท่ี 12 เมอื่ เดือนตลุ าคม 2552 ที่ อ�ำเภอชะอ�ำและหวั หิน ประเทศไทย ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม ญปี่ นุ่ ใหค้ วามส�ำคญั กบั การแลกเปลยี่ นระหวา่ งประชาชนโดย เฉพาะในระดับเยาวชน จึงได้จัดตั้งโครงการ Japan East Asia Network of Exchanges for Students and Youths (JENESYS) ข้ึนโดยเชิญเยาวชนจากประเทศในเอเชียตะวันออกมาแลกเปล่ียน ที่ญป่ี ุ่นปีละประมาณ 6,000 คน ต่อเนอื่ งกันเป็นเวลา 5 ปี ต้งั แต่ เดอื นสิงหาคม 2550 ถงึ เดอื นกรกฎาคม 2555 74 ประเทศไทยกับอาเซียน
ไทยมบี ทบาทเปน็ ประเทศสมาชกิ อาเซยี นทเี่ ปน็ แหลง่ ลงทนุ ที่ ส�ำคญั ของญป่ี นุ่ ซงึ่ ญป่ี นุ่ สนใจรว่ มมอื กบั ไทยในการพฒั นาอนภุ มู ภิ าค ลุ่มน้�ำโขงโดยเฉพาะด้านการพัฒนาความเช่ือมโยง ทั้งในด้าน Hardware และ Software เพื่อส่งเสริมการลดช่องว่างระหว่าง ประเทศสมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศ และประเทศสมาชิกใหม่ 4 ประเทศ (CLMV) เพอ่ื มงุ่ ไปสเู่ ปา้ หมายของการรวมตวั เปน็ ประชาคม อาเซยี นในปี 2558 โดยได้มีการจดั การประชุมระดับรัฐมนตรแี ละ ผนู้ �ำในกรอบการประชมุ แมโ่ ขง - ญป่ี นุ่ (ประกอบดว้ ยประเทศญปี่ นุ่ ไทย ลาว เมยี นมาร์ เวยี ดนามและกมั พชู า) ซงึ่ เรม่ิ ขนึ้ ตงั้ แตป่ ี 2551 75ประเทศไทยกับอาเซยี น
อาเซยี น - สาธารณรฐั เกาหลี สาธารณรฐั เกาหลีเรม่ิ มคี วามสัมพันธก์ บั อาเซยี นในปี 2532 ในฐานะคู่เจรจาเฉพาะด้านและได้รับสถานะเป็นคู่เจรจาเต็มตัว ของอาเซียนในปี 2534 เกาหลีได้ภาคยานุวัติสนธิสัญญาไมตรี และความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation) และไดล้ งนามในปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือ การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจเม่ือเดือนพฤศจิกายน 2547 เพ่ือ สง่ เสรมิ ความสัมพันธแ์ ละความรว่ มมอื ท่รี อบด้าน ในปี 2548 อาเซียนและเกาหลีได้ลงนามในกรอบความ ตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซ่ึงก�ำหนดให้มีการ จัดต้ังเขตการค้าเสรีระหว่างกัน นอกจากน้ี อาเซียนและเกาหลีได้ รว่ มจัดตั้งศนู ยอ์ าเซียน - เกาหลี เมอ่ื วนั ท่ี 21 พฤศจิกายน 2550 ทกี่ รงุ โซล เพอ่ื สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ดา้ นการคา้ การลงทนุ การทอ่ งเทย่ี ว และการแลกเปล่ียนทางวัฒนธรรมระหว่างกัน โดยได้มีพิธีเปิด อย่างเป็นทางการเมอ่ื วนั ท1่ี 3 มีนาคม 2552 เม่ือวันท่ี 1 - 2 มิถุนายน 2552 เกาหลีเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมสุดยอดอาเซียน - เกาหลีสมัยพิเศษ ท่ีเกาะเจจู เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีความสัมพันธ์ระหว่างท้ังสองฝ่าย โดยผู้น�ำทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมการประชุม 76 ประเทศไทยกบั อาเซยี น
สุดยอดอาเซียน - เกาหลีสมัยพิเศษ มีเน้ือหามุ่งส่งเสริม ความร่วมมืออย่างรอบด้าน ปัจจุบันอาเซียนและเกาหลีมีความ รว่ มมอื ในดา้ นการคา้ การลงทนุ การขนสง่ การทอ่ งเทย่ี ว การเกษตร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านวิชาการ การรักษา สง่ิ แวดลอ้ ม สาธารณสขุ การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ การแลกเปลยี่ น ด้านวัฒนธรรม และการต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุน การลดชอ่ งวา่ งการพฒั นาและการรวมตวั ของอาเซยี นอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน - เกาหลี ครั้งท่ี 13 เมื่อวันท่ี 29 ตุลาคม 2553 สองฝ่ายได้ยกระดับความสัมพันธ์ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และได้จัดท�ำปฏิญญาร่วมว่าด้วยการ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพ่ือก�ำหนดทิศทาง การส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน - เกาหลี (2554 - 2558) นอกเหนือจากการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงในกรอบความสัมพันธ์กับ อาเซียน เกาหลียังมีบทบาทในเวทีอื่น ๆ ที่จัดต้ังขึ้นโดยอาเซียน อาทิ กรอบความร่วมมืออาเซียน+3 เวทีการประชุมสุดยอดเอเชีย ตะวันออก และการประชุมอาเซียนว่าด้วยการเมืองและความมั่นคง ในเอเชีย - แปซฟิ ิก (ASEAN Regional Forum) 77ประเทศไทยกับอาเซยี น
อาเซยี น - ออสเตรเลยี ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ ประเทศคเู่ จรจากบั อาเซยี นในปี 2517 และด�ำเนนิ ความสมั พนั ธก์ นั อย่างราบร่ืนมีการปรับเปลี่ยนล�ำดับความส�ำคัญของความร่วมมือ ในสาขาต่าง ๆ ไปตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจและความจ�ำเป็น อน่ื ๆ ทตี่ อบสนองตอ่ วสิ ัยทศั นอ์ าเซยี น โดยเฉพาะการรวมตวั เปน็ ประชาคมอาเซยี นในปี 2558 ดา้ นการเมอื งและความมนั่ คง อาเซยี นและออสเตรเลยี ได้รว่ มลงนาม ASEAN - Australia Joint Declaration for Cooperation to Combat International Terrorism เม่อื ปี 2547 และไดภ้ าคยานวุ ัติสนธิสัญญาไมตรแี ละ ความร่วมมือในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation : TAC) เมอื่ เดอื นธันวาคม 2548 นอกจากน้ี ออสเตรเลียมีบทบาทในกรอบ ASEAN Regional Forum (ARF) อยา่ งแขง็ ขนั และใหค้ วามส�ำคญั กบั สถานการณท์ างการเมอื งและความ มัน่ คงในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้เป็นอนั ดบั ต้น ๆ โดยเฉพาะ เรื่องการกอ่ การร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ และการค้ามนษุ ย์ 78 ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ด้านเศรษฐกิจ อาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ได้ร่วมลงนามความ ตกลงเขตการค้าเสรีอาเซยี น-ออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด์ (ASEAN - Australia - New Zealand Free Trade Agreement: AANZFTA) เม่ือวันที่ 27 ภุมภาพันธ์ 2552 ในชว่ งการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งท่ี 14 ณ อ�ำเภอชะอ�ำ จงั หวดั เพชรบรุ ี ความตกลง AANZFTA มผี ลบงั คบั ใชต้ งั้ แตว่ นั ที่ 1 มกราคม 2553 ส�ำหรบั ประเทศออสเตรเลยี มาเลเซยี เมยี นมาร์ ฟลิ ปิ ปนิ ส์ สงิ คโปร์ และเวยี ดนาม โดยประเทศไทย ได้แจ้งถึงความพร้อมในการบังคับใช้ความตกลงต่อประเทศภาคีใน ภายหลัง ท�ำให้ความตกลง AANZFTA มีผลบังคับใช้ส�ำหรับ ประเทศไทย ต้งั แต่วันท่ี 12 มนี าคม 2553 เป็นตน้ มา ดา้ นความร่วมมือด้านการพฒั นา ภายใต้ ASEAN - Australia Development Cooperation Program (AADCP) ระยะที่ 2 ระหว่าง ปี 2552 - 2558 ออสเตรเลียจะให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนากับอาเซียนเป็น มูลค่าประมาณ 57 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยจะเน้นการ เสรมิ สร้างขดี ความสามารถ การวิจยั และให้ค�ำแนะน�ำเชงิ นโยบาย รวมถงึ การสนบั สนนุ กลไกระดบั ภมู ภิ าคเพอ่ื การรวมตวั ทางเศรษฐกจิ เพ่ือจดั ต้งั ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี นในปี 2558 ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2549 ถึงเดอื นกรกฎาคม 2552 ประเทศไทยในฐานะประเทศผปู้ ระสานงานความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - ออสเตรเลีย มีบทบาทในการสนับสนุนและผลักดันให้อาเซียนและ ออสเตรเลียร่วมลงนามเอกสารส�ำคญั 3 ฉบับ ได้แก่ 1) Joint Declaration on ASEAN - Australia Comprehensive Partnership 79ประเทศไทยกบั อาเซยี น
(2550) 2) ASEAN - Australia - New Zealand Free Trade Agreement และ 3) ASEAN - Australia Development Cooperation Program (AADCPII) ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับออสเตรเลีย เม่ือวนั ที่ 22 กรกฎาคม 2553 ทก่ี รุงฮานอย เวยี ดนาม อาเซียน และออสเตรเลียเห็นพ้องให้เพิ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาและ การรวมตัวทางเศรษฐกิจเพ่ือเสริมสร้างประชาคมอาเซียน ในปี 2558 โดยเฉพาะด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลดช่องว่างการพัฒนา การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการภัยพิบัติ และการส่งเสริมการติดต่อระหว่างประชาชน นอกจากนี้ไทยได้เสนอให้ออสเตรเลียเข้ามามีบทบาทสนับสนุน การพัฒนาเครอื ขา่ ยเช่อื มโยงในภมู ิภาค โดยเน้นในเรอ่ื งเทคโนโลยี สะอาด การจัดการระบบคมนาคมขนส่ง และการอ�ำนวยความ สะดวกในการข้ามแดนเพื่อเพิ่มพูนและยกระดับความสัมพันธ์กับ อาเซียน ออสเตรเลียได้เสนอให้มีการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลียเป็นครั้งแรก ในปี 2553 ในช่วงเดียวกับการประชุม สุดยอดอาเซียนกับประเทศคเู่ จรจา 80 ประเทศไทยกับอาเซยี น
อาเซยี น - นวิ ซแี ลนด์ ความสมั พนั ธ์อาเซยี น - นิวซีแลนด์ เริม่ ตัง้ แตป่ ี 2518 โดย นิวซีแลนด์เป็นประเทศคู่เจรจา ล�ำดับที่ 2 ของอาเซียนหลังจาก ออสเตรเลีย เดิมความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะประเทศผู้รับกับ ประเทศผู้ให้ โดยมีจุดม่งุ หมายหลักคือความร่วมมอื เพอ่ื การพัฒนา ซ่งึ ในปัจจุบนั ความสัมพนั ธ์อาเซียน - นวิ ซีแลนดไ์ ดพ้ ัฒนาเป็นความ สัมพนั ธอ์ ยา่ งรอบดา้ น ด้านการเมอื งความม่ันคง นวิ ซแี ลนดไ์ ดภ้ าคยานวุ ตั สิ นธสิ ญั ญาไมตรแี ละความรว่ มมอื ใน ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (Treaty of Amity and Cooperation : TAC) และไดล้ งนามในปฎญิ ญารว่ มวา่ ดว้ ยความร่วมมือเพือ่ ตอ่ ตา้ น การก่อการร้ายสากลกับอาเซียน (ASEAN - New Zealand Joint Declaration for Cooperation to Combat International Terrorism) เมอื่ ปี 2548 นอกจากนีป้ ระเทศสมาชิกอาเซยี นยังได้ รบั ประโยชนจ์ ากบทบาทอนั แขง็ ขนั ของนวิ ซแี ลนดใ์ นดา้ นการตอ่ ตา้ น การก่อการร้าย โดยเฉพาะในกรอบ Interfaith Dialogue และ Alliance of Civilization ด้วย 81ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ด้านเศรษฐกิจ อาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ได้ร่วมลงนามความ ตกลงเขตการคา้ เสรีอาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซแี ลนด์ (ASEAN - Australia - New Zealand Free Trade Agreement : AANZFTA) เมือ่ วนั ที่ 27 กุมภาพนั ธ์ 2552 ในชว่ งการประชุมสดุ ยอดอาเซยี น ครงั้ ที่ 14 ณ อ�ำเภอชะอ�ำ จงั หวดั เพชรบรุ ี โดยความตกลง AANZFTA มผี ลบงั คบั ใชต้ ้ังแต่วนั ท่ี 1 มกราคม 2553 ส�ำหรับออสเตรเลีย นิวซแี ลนด์ มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟลิ ปิ ปนิ ส์ สิงคโปร์ และเวยี ดนาม โดยไทยได้แจ้งถึงความพร้อมในการบังคับใช้ความตกลงต่อประเทศ ภาคใี นภายหลงั ท�ำใหค้ วามตกลง AANZFTA มผี ลบงั คบั ใชส้ �ำหรบั ไทยตั้งแตว่ นั ที่ 12 มนี าคม 2553 เปน็ ต้นมา ดา้ นการพัฒนา ไทยได้เสนอต่อท่ีประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับ นิวซีแลนดท์ ่ีจังหวัดภเู กต็ เมอื่ วนั ที่ 22 กรกฎาคม 2552 ใหม้ ีการ ยกร่างกรอบความรว่ มมอื อาเซียน - นิวซแี ลนด์ ฉบบั ท่ี 2 ระหวา่ ง ปี 2553 - 2558 เพอ่ื ก�ำหนดแนวทางความรว่ มมอื ดา้ นการพฒั นา ระหว่างอาเซียนและนิวซีแลนด์ให้สอดคล้องและเก้ือหนุนกับการ จดั ตง้ั ประชาคมอาเซยี นในปี 2558 ซงึ่ ทปี่ ระชมุ ไดใ้ หค้ วามเหน็ ชอบ ตามข้อเสนอของไทย และต่อมาท่ีประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ อาเซียนกับนิวซีแลนด์ (PMC+1) เมอ่ื วันท่ี 22 กรกฎาคม 2553 ณ กรุงฮานอย เวียดนาม ได้รับรองเอกสารแนวทางการด�ำเนิน ความร่วมมือทางการเมืองและความม่ันคง เศรษฐกิจ สังคมและ วัฒนธรรม และการพฒั นาระหวา่ งอาเซียนและนิวซแี ลนด์ 2 ฉบับ คือ 1) ปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนที่ครอบคลุมทุกด้าน ระหว่างอาเซียนและนิวซีแลนด์ 2) แผนปฏิบัติการเพื่อปฏิบัติตาม 82 ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนท่ีครอบคลุมทุกด้านระหว่าง อาเซยี นและนวิ ซแี ลนด์ ปี 2553 - 2558 (Plan of Action to Implement the Joint Declaration for an ASEAN - NZ Com- prehensive Partnership 2010 - 2015) นอกจากนปี้ ระเทศไทยไดเ้ สนอใหน้ วิ ซแี ลนดเ์ ขา้ มามบี ทบาทใน เร่ืองความเชือ่ มโยงในอาเซยี น (ASEAN Connectivity) โดยเฉพาะ เรอื่ งความเชอ่ื มโยงทางทะเล ความมนั่ คงทางทะเล รวมทง้ั การพฒั นา Clean Technology และการจดั การเพื่อส่ิงแวดล้อมท่ีย่ังยนื ด้วย ภายใต้กรอบความรว่ มมอื ฉบับปจั จุบนั นิวซีแลนด์ ไดเ้ สนอ โครงการ flagship 4 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการให้ทุนแก่ นกั ศกึ ษาอาเซียน ปลี ะ 170 คน เปน็ เวลา 5 ป ี 2) โครงการแลก เปล่ียนนักธุรกจิ รนุ่ ใหม่ 3) การจดั การภัยพบิ ัต ิ และ 4) โครงการ แลกเปลี่ยนความรู้และแนวปฏิบัติท่ีเป็นเลิศด้านการเกษตรภายใต้ แนวคดิ เร่ือง Agricultural Diplomacy และในปี 2553 นวิ ซีแลนด์ ได้เสนอให้มีการประชุมสุดยอดอาเซียน - นิวซีแลนด์สมัยพิเศษ (Commemorative Summit) เพ่อื ฉลองโอกาสครบรอบ 35 ปี ของ ความสมั พนั ธ์อาเซยี น - นิวซแี ลนด์ 83ประเทศไทยกบั อาเซียน
อาเซยี น - อนิ เดยี อาเซียนกับอินเดียเร่ิมต้นความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการใน ปี 2535 ในลักษณะคู่เจรจาเฉพาะดา้ นและยกระดบั ขน้ึ เป็นคเู่ จรจา อยา่ งสมบรู ณ์ เมอ่ื ปี 2538 ต่อมาได้พฒั นาความสัมพนั ธ์สรู่ ะดบั การประชุมสุดยอดครั้งแรก เมื่อ 5 พฤศจิกายน 2545 ท่ีกรุง พนมเปญ กัมพูชา ความสัมพันธ์อาเซียน - อินเดีย เป็นความ สัมพันธ์อย่างรอบด้านในฐานะหุ้นส่วน โดยมีเอกสารความเป็น หุ้นส่วนระหว่างอาเซียน - อินเดีย เพ่ือสันติภาพ ความก้าวหน้า และความเจริญรุ่งเรืองรว่ มกัน (ASEAN - India Partnership for Peace, Progress and Shared Prosperity) ก�ำหนดแนวทาง ในการด�ำเนินความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในด้าน การเมอื ง เศรษฐกจิ และความรว่ มมอื เพอื่ การพฒั นา โดยมแี ผนปฏบิ ตั ิ การรองรบั ปจั จบุ นั อยภู่ ายใตแ้ ผนปฏบิ ตั กิ าร ปี 2553 - 2558 ทงั้ สองฝา่ ยได้จัดตง้ั กองทนุ อาเซียน - อินเดีย (ASEAN India Fund) เพื่อสนับสนุนการด�ำเนนิ ความร่วมมอื ดังกล่าว ด้านการเมอื งและความมน่ั คง อนิ เดยี ไดเ้ ขา้ รว่ มการประชมุ อาเซยี นวา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ดา้ น การเมืองและความมัน่ คงในภูมิในเอเชีย - แปซิฟกิ ตัง้ แต่ปี 2539 โดยมีบทบาทในเร่ืองความร่วมมือด้านความม่ันคงทางทะเล และ ได้ภาคยานุวัติสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย 84 ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ตะวันออกเฉยี งใต้ เมือ่ ปี 2546 อกี ท้งั ไดร้ บั รองแถลงการณร์ ว่ มกับ อาเซียนวา่ ด้วยความรว่ มมอื เพอื่ ตอ่ ตา้ นการกอ่ การร้ายในปีเดียวกัน นอกจากนั้นอินเดียยังได้เข้าเป็นสมาชิกของการประชุมสุดยอด เอเชยี ตะวันออกในปี 2548 ดา้ นเศรษฐกจิ อาเซียนและอินเดียได้ลงนามกรอบความตกลงว่าด้วยความ รว่ มมือทางเศรษฐกจิ อย่างรอบดา้ นในปี 2546 ซึ่งครอบคลุมการ เปดิ เสรกี ารคา้ สนิ คา้ บรกิ าร การลงทนุ และความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ สาขาต่าง ๆ และได้บรรลุผลการเจรจาจัดท�ำความตกลงด้านการ คา้ สนิ คา้ ในเดือนสิงหาคม 2551 อาเซยี น - อินเดยี ตัง้ เป้าหมาย ขยายมูลค่าการคา้ ระหวา่ งกนั เปน็ 70 พนั ลา้ นดอลลารส์ หรัฐ ในปี 2555 จากมูลคา่ การคา้ เมอื่ ปี 2551 - 2552 ประมาณ 46.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอาเซียนเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าประมาณ 7 พนั ลา้ นดอลลาร์สหรฐั ดา้ นสังคมและการพฒั นา อินเดียให้ความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาและลดช่องว่าง ในอาเซียน โดยจัดต้ังศูนย์ฝึกอบรมภาษาอังกฤษและศูนย์ฝึกอบรม ผปู้ ระกอบการในกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวยี ดนาม ตลอดจน ส่งเสริมความร่วมมือกับอาเซียนในสาขาที่อินเดียมีศักยภาพ เช่น ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมท้ังการแพทย์ และเภสัชกร โดยได้จัดตั้งกองทุน ASEAN - India Science & Technology Fund ด้วยเงนิ ตง้ั ตน้ 1 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั เพือ่ พฒั นาความรว่ มมอื ด้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การจดั ตงั้ ศูนย์ ฝกึ อบรมดา้ นไอที การตัง้ กองทนุ ASEAN - India Green Fund เพ่ือสนับสนุนกิจกรรมในการส่งเสริมการปรับตัวและลดผลกระทบ 85ประเทศไทยกับอาเซียน
จากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคโดยอินเดียออกเงิน ต้ังต้น 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การพัฒนาความร่วมมือด้านการ แพทยแ์ ผนโบราณ การใหท้ นุ การฝกึ อบรมดา้ นอายรุ เวชแกบ่ คุ ลากร ของอาเซียน โครงการความร่วมมือด้านการผลิตยา นอกจากน้ัน เพ่ือส่งเสริมความสัมพันธ์ภาคประชาสังคมอาเซียนและอินเดียมี โครงการประจ�ำปีเพ่ือแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนหลายกลุ่มท้ัง นกั ศกึ ษา ผสู้ อ่ื ขา่ ว และนกั การทตู อกี ทงั้ ก�ำลงั จะรเิ รม่ิ ใหม้ กี ารเยอื น ระหว่างสมาชกิ รฐั สภาดว้ ย ในเดือนธันวาคม 2555 อาเซียนและอินเดียจะมีการ ประชมุ สดุ ยอดเพอื่ ฉลองโอกาสครบรอบ 20 ปี ของความสมั พนั ธใ์ น ฐานะประเทศคู่เจรจา และครบรอบ 10 ปี ของการประชุมสุดยอด อาเซยี น - อนิ เดยี นอกจากนอ้ี นิ เดยี แสดงความพรอ้ มทจี่ ะสนบั สนนุ ความเชื่อมโยงระหว่างกันของอาเซียน (ASEAN Connectivity) ทงั้ การขยายทางหลวงสามฝ่ายไทย - พมา่ - อินเดีย ไปยังลาว - กัมพชู า และการพัฒนา Mekong - India Economic Corridor อกี ทงั้ สนบั สนนุ การพฒั นาการเชอื่ มโยงดา้ นไอทขี องอาเซยี น โดยเสนอ จะให้ทุนการศึกษาด้านไอทีแก่ประเทศสมาชิกอาเซียนประเทศละ 100 ทุน เป็นเวลา 5 ปี ตง้ั แตป่ ี 2554 เปน็ ตน้ ไป 86 ประเทศไทยกบั อาเซียน
อาเซียน - แคนาดา ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและแคนาดาเร่ิมต้นอย่างเป็น ทางการในปี 2520 แต่ได้ประสบภาวะชะงักงันนบั ตง้ั แตป่ ี 2540 เมื่ออาเซียนรับเมียนมาร์เข้าเป็นสมาชิก ซ่ึงแคนาดาไม่ประสงค์ให้ เมียนมารเ์ ขา้ เปน็ ภาคีความตกลงวา่ ด้วยความรว่ มมอื ด้านเศรษฐกจิ หลงั จากนน้ั ไดม้ คี วามพยายามหาทางรอื้ ฟน้ื ความสมั พนั ธ์ จนกระทงั่ ในวนั ที่ 19 มกราคม 2547 ทงั้ สองฝ่ายเหน็ ชอบให้จดั การประชุม ASEAN - Canada Dilogue เป็นคร้ังแรก ซงึ่ นบั เป็นการกลับมา ด�ำเนนิ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างกนั อีกครั้ง ในวันท่ี 22 กรกฎาคม 2552 อาเซียนได้จัดการประชุม รฐั มนตรีต่างประเทศอาเซยี น (Post Ministerial Conference – PMC+) กบั แคนาดา โดยท่ปี ระชุมได้ใหค้ วามเห็นชอบปฎิญญารว่ ม วา่ ดว้ ยความเปน็ หนุ้ สว่ นทเี่ พมิ่ พนู ระหวา่ งอาเซยี นกบั แคนาดา (Joint Declaration on the ASEAN - Canada Enhanced Partnership) ซงึ่ จะเปน็ แผนแมบ่ ทในการด�ำเนนิ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั ในอนาคต นอกจากนไี้ ทยยงั ไดเ้ ขา้ รบั หนา้ ทปี่ ระเทศผปู้ ระสานงานความสมั พนั ธ์ อาเซียน-แคนาดา เปน็ เวลา 3 ปใี นการประชุม PMC ในครง้ั นด้ี ้วย อาเซียนและแคนาดาไดจ้ ดั การประชมุ ASEAN - Canada Informal Coordinating Meeting Mechanism (ICM) ครง้ั ท่ี 4 ซง่ึ เป็นการประชุมในระดับผู้แทนถาวรประจ�ำอาเซียน ระหว่างวันที่ 87ประเทศไทยกบั อาเซียน
24 - 25 กมุ ภาพนั ธ์ 2553 ณ ส�ำนกั เลขาธกิ ารอาเซยี น กรงุ จาการต์ า อินโดนีเซีย เพื่อติดตามพัฒนาการความสัมพันธ์และกิจกรรม ความรว่ มมอื ในดา้ นตา่ ง ๆ ระหวา่ งอาเซยี นและแคนาดา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการยกร่างและแก้ไขแผนปฏิบัติการเพื่อให้เป็นไป ตามเจตนารมณ์ของปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนที่เพิ่มพูน ระหวา่ งอาเซียนกับแคนาดา ปี 2553 - 2554 (Plan of Axiton to Implement the Joint Declaration on the ASEAN - Canada Enhanced Partnership 2010 - 2015) ประเทศไทยในฐานะประเทศผปู้ ระสานงานเปน็ เจา้ ภาพจดั การ ประชมุ ASEAN - Canada Dialogue ครัง้ ที่ 7 ระหวา่ งวันท่ี 10 - 11 มถิ ุนายน 2553 ณ โรงแรมสยามซิต้ี กรงุ เทพฯ ซง่ึ เป็นการประชุมในระดับเจ้าหน้าท่ีอาวุโส ได้หารือและแลกเปล่ียน ความคิดเห็นในประเด็นทางยุทธศาสตร์ทั้งในด้านการเมือง ความ มน่ั คง เศรษฐกจิ ประเดน็ ปญั หาในภมู ภิ าคและความรว่ มมอื เพอ่ื การ พฒั นาต่าง ๆ 88 ประเทศไทยกบั อาเซียน
อาเซยี น - สหรฐั อเมรกิ า ความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - สหรฐั ฯ เรมิ่ ตน้ อยา่ งเปน็ ทางการเมอ่ื ปี 2520 โดยในระยะแรกเน้นความร่วมมือดา้ นการพัฒนา ตอ่ มา ขยายถงึ ความรว่ มมอื ดา้ นเศรษฐกจิ ทง้ั น้ี สหรฐั ฯ เนน้ การหารอื และ สง่ เสรมิ ความสมั พนั ธด์ า้ นการเมอื งและความมน่ั คงกบั อาเซยี น ขณะท่ี อาเซียนยังต้องการความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาและปรารถนา ท่ีจะสง่ เสริมในด้านเศรษฐกจิ และการคา้ กับสหรฐั ฯ ในลกั ษณะกล่มุ ประเทศ รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความส�ำคัญกับภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉยี งใตม้ ากขนึ้ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากการทส่ี หรฐั ฯ แตง่ ตง้ั เอกอคั รราชทตู กจิ การอาเซยี นเปน็ ประเทศแรก รวมทงั้ นางฮลิ ลารี คลนิ ตนั รฐั มนตรี ต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนส�ำนักเลขาธิการอาเซียนที่กรุง จาการต์ าเมอ่ื เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2552 และเขา้ รว่ มการประชมุ รฐั มนตรี ตา่ งประเทศอาเซียนกบั ประเทศคู่เจรจา ครั้งท่ี 42 ทไ่ี ทยเม่อื เดอื น กรกฎาคม 2552 ได้กล่าวย�ำ้ วา่ สหรฐั ฯ ใหค้ วามส�ำคัญกับอาเซียน ในฐานะหนุ้ สว่ นดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ และยทุ ธศาสตร์ รวมทัง้ แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับอาเซียนในประเด็นที่เป็นประโยชน์ ร่วมกันทั้งในกรอบทวิภาคีและในกรอบองค์การระหว่างประเทศใน เรื่องต่าง ๆ และสหรัฐฯ ยังได้ภาคยานุวัติสนธิสัญญาไมตรีและ 89ประเทศไทยกับอาเซียน
ความรว่ มมือในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia - TAC) ในการประชุม ดงั กล่าวดว้ ย การประชุมผู้น�ำอาเซยี น - สหรฐั ฯ ครงั้ ที่ 1 (1stASEAN - US Leaders’ Meeting) ในวนั ที่ 15 พฤศจกิ ายน 2552 ท่ี สิงคโปร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธาน การประชุมร่วมกบั ประธานาธบิ ดีสหรัฐฯ ถอื เปน็ การประชุมสดุ ยอด ครงั้ แรกระหวา่ งอาเซยี นและสหรฐั ฯ โดยทป่ี ระชมุ ไดเ้ นน้ ยำ้� ถงึ ความ สมั พันธอ์ ันแน่นแฟ้นระหวา่ งอาเซียนและสหรฐั ฯ ในฐานะหนุ้ ส่วนใน การเผชญิ กบั ปญั หาและความทา้ ทายตา่ ง ๆ ซงึ่ สหรฐั ฯ ยนิ ดรี ว่ มมอื ในการสรา้ งประชาคมอาเซยี นภายในปี 2558 ขณะทอี่ าเซยี นกย็ นิ ดี กบั นโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบัน ท่ีเร่งส่งเสริมความสมั พันธ์ กบั อาเซยี นและแสดงความพรอ้ มทจี่ ะรว่ มมอื กบั สหรฐั ฯ ในการแกไ้ ข ปัญหาต่างๆ ในภูมิภาค นอกจากนัน้ ผู้น�ำอาเซยี นและสหรฐั ฯ ยงั ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเพ่ือเป็นแนวทางในการส่งเสริมความ สมั พนั ธอ์ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม ไมว่ า่ จะเปน็ การพบหารอื ระหวา่ งรฐั มนตรี สหรัฐฯ และอาเซยี น การจัด Road Show ร่วมกันของอาเซยี นไป ยงั สหรฐั ฯ การประกาศจดั ตัง้ Eminent Person Group ในการ ส่งเสรมิ และสนับสนุนความสัมพนั ธ์ระหว่างกัน เปน็ ตน้ ในวันท่ี 22 กรกฎาคม 2553 ที่กรุงฮานอย เวียดนาม อาเซียนได้จัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและ สหรฐั ฯ (Post Ministerial Conference+1 with the US) ซ่งึ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย�้ำถึงการ เป็นประเทศแปซิฟิกของสหรัฐฯ และยืนยันการให้ความส�ำคัญ 90 ประเทศไทยกับอาเซียน
ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน รวมทั้งแสดงความ พรอ้ มทจ่ี ะใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นการสรา้ งประชาคมอาเซยี น นอกจากนี้ ยังไดป้ ระกาศว่า ประธานาธบิ ดสี หรัฐฯ ประสงคจ์ ะจัดการประชมุ สุดยอดผู้น�ำอาเซียน - สหรัฐฯ ครั้งที่ 2 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ และมอบหมายให้ นางคลินตันเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ในการประชุมสุดยอด ผู้น�ำเอเชียตะวนั ออก (East Asia Summit – EAS) ในช่วงการ ประชมุ สดุ ยอดผู้น�ำอาเซยี นในเดอื นตุลาคม 2553 91ประเทศไทยกับอาเซยี น
อาเซยี น - รสั เซยี ความสัมพันธ์อาเซียน - รัสเซีย เร่ิมต้นจากการที่รัสเซีย ได้สถาปนาความสมั พนั ธใ์ นฐานะคู่หารือ (Consultative relations) กับอาเซียนในปี 2534 และพัฒนาความสัมพันธ์จนได้รับสถานะ ประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partner) กับอาเซียนในการประชุม รฐั มนตรตี า่ งประเทศอาเซยี น สมยั ที่ 29 เมอื่ เดอื นกรกฎาคม 2539 ท่ีกรงุ จาการ์ตา โดยมีอนิ โดนีเซยี เมยี นมาร์ เปน็ ประเทศผูป้ ระสาน งานความสมั พนั ธ์ฯ ระหว่างปี 2552 - 2555 ส�ำหรบั กลไกของความสมั พนั ธจ์ ะประกอบดว้ ย (1) ASEAN - Russia Summit (ระดบั ผ้นู �ำ) จัดขน้ึ 1 ครง้ั เม่อื ปี 2548 ณ กรงุ กวั ลาลมั เปอร์ มาเลเซยี และครง้ั ที่ 2 ในชว่ งการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น คร้งั ท่ี 17 เมอ่ื วนั ท่ี 30 ตุลาคม 2553 ณ กรงุ ฮานอย เวียดนาม (2) ASEAN PMC+1 (ระดบั รฐั มนตร)ี ประชมุ ปลี ะครงั้ (3) ASEAN - Russia SOM (ระดบั ปลดั ) ประชมุ ทกุ 18 เดอื น ตงั้ Open - Ended WG endorsed by PMC+1 (4) ASEAN - Russia Joint Cooperation Committee (CPR) ประชุมปีละคร้ัง (5) ASEAN - Russia Joint Planning and Management Committee (CPR) ประชมุ ปีละคร้ัง 92 ประเทศไทยกบั อาเซียน
ความรว่ มมอื ในสาขาต่าง ๆ ระหว่างอาเซยี นกบั รสั เซีย ดงั น้ี - ความรว่ มมอื ดา้ นการเมอื งความมน่ั คง อาเซยี นและรสั เซยี ไดล้ งนามในเอกสารส�ำคัญหลายฉบับ ได้แก่ ปฏิญญารว่ มอาเซยี น - รสั เซยี วา่ ดว้ ยความเปน็ หนุ้ สว่ นเพอ่ื สนั ตภิ าพ ความมนั่ คง ความมงั่ คงั่ และการพฒั นาในภมู ภิ าคเอเชยี - แปซฟิ กิ ปี 2546 แถลงการณร์ ว่ ม อาเซยี น - รสั เซียวา่ ด้วยความร่วมมือในการตอ่ ตา้ นการกอ่ การร้าย ปี 2547 และรัสเซียได้ภาคยานุวัติสนธิสัญญาไมตรีและความ รว่ มมอื ในปี 2547 - ความรว่ มมอื ดา้ นการพฒั นา ในปี 2548 ผนู้ �ำอาเซยี นและ รัสเซยี ไดล้ งนามใน Joint Declaration of the Heads of State/ Government of the Member Countries of ASEAN and the Head of State of the Russian Federation on Progressive and Comprehensive Partnership และไดร้ บั รอง Comprehensive Programme of Action to Promote Cooperation between ASEAN and the Russian Federation ปี 2548 - 2558 ซ่งึ อาเซียนและรัสเซยี ได้จัดตั้งกองทุน ASEAN - Russia Dialogue Partnership Financial Fund (DPFF) ขนึ้ เพื่อการด�ำเนนิ กจิ กรรม ความร่วมมือต่าง ๆ โดยรสั เซียเป็นผู้มอบเงินเขา้ กองทุนฝา่ ยเดียว ขณะนี้กองทุนมเี งินประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ - ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ รัฐมนตรีต่างประเทศของ อาเซียนและรัสเซียได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทาง เศรษฐกิจและการพัฒนา ปี 2548 ท่ีกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ในปี 2552 มูลค่าการค้าระหว่างอาเซียน - รัสเซีย ประมาณ 8,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส�ำคัญที่รัสเซีย 93ประเทศไทยกับอาเซยี น
ส่งออกมาอาเซียน ได้แก่ ชิ้นส่วนประกอบโลหะ เคมีภัณฑ์ และ สินค้าประกอบจากสินแร่ ในขณะที่อาเซียนส่งออกสินค้าประเภท เครอื่ งจกั ร เครอ่ื งใชอ้ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ อาหารส�ำเรจ็ รปู นำ�้ มนั ประกอบ อาหารไปรัสเซีย รัสเซียถือเป็นตลาดใหญ่ท่ีมีศักยภาพส�ำหรับการ ขยายตลาดของอาเซยี นและจะเปน็ ประตกู ระจายสนิ คา้ อาเซยี นไปยงั กลมุ่ ประเทศเครือรัฐ เอกราช (Commonwealth of Independent States : CIS) ได้ในอนาคต - การจัดตง้ั ASEAN Centre เลขาธิการอาเซยี น ผู้แทน ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกบั อธกิ ารบดี Moscow State Institute of international Relations (MGIMO) ได้ลงนามในบันทกึ ความ เขา้ ใจเพ่อื จดั ตัง้ ศูนย์อาเซยี นในกรุงมอสโก ม่ือวนั ที่ 22 กรกฏาคม 2552 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 อาเซยี น+3 กรอบความร่วมมอื อาเซียน+3 (จีน ญปี่ ุ่น และสาธารณรัฐ เกาหล)ี เรมิ่ ตน้ ขึ้นเม่ือปี 2540 ในช่วงทเ่ี กดิ วิกฤตทางการเงินใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยผู้น�ำของประเทศสมาชิกอาเซียนและ ผู้น�ำของจนี ญ่ีปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ได้พบหารอื ระหว่างกัน เปน็ ครั้งแรก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซยี เม่อื เดอื นธนั วาคม 2540 นับแต่น้ันเป็นต้นมา การประชุมสุดยอดอาเซียน+3 ได้จัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปีในช่วงเดียวกับการประชุมสุดยอดอาเซียน กรอบความร่วมมืออาเซียน+3 เริ่มเป็นรูปเป็นร่างภายหลังการ ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือเอเชียตะวันออกเมื่อปี 2542 และการจัดตง้ั East Asia Vision Group (EAVG) ในปี 2542 เพ่ือวางวิสัยทัศน์ความร่วมมือในเอเชียตะวันออก EAVG 94 ประเทศไทยกับอาเซียน
ไดเ้ สนอแนะแนวคดิ การจดั ตงั้ ประชาคมเอเชยี ตะวนั ออก (East Asian Community - EAC) และมาตรการความรว่ มมือในดา้ นต่าง ๆ เพื่อ น�ำไปสกู่ ารจัดตั้ง EAC ต่อมา ในการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 ครั้งท่ี 9 ณ กรุง กวั ลาลมั เปอร์ มาเลเซยี เมอื่ ปี 2548 ผนู้ �ำไดล้ งนามในปฏญิ ญากรงุ กวั ลาลมั เปอรว์ า่ ดว้ ยการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น+3 (Kuala Lumpur Declaration on the ASEAN+3 Summit) ก�ำหนดใหก้ ารจัดตงั้ ประชาคมเอเชยี ตะวนั ออกเปน็ เปา้ หมายระยะยาวและใหก้ รอบความ รว่ มมืออาเซยี น +3 เปน็ กลไกหลกั ในการน�ำไปสู่เป้าหมายระยะยาว ดงั กลา่ ว และในโอกาสครบรอบ 10 ปขี องกรอบความรว่ มมอื อาเซยี น+3 ในปี 2550 ได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือ เอเชียตะวันออก ฉบับท่ี 2 และแผนงานความร่วมมืออาเซียน+3 (ปี 2550 - 2560) ไทยไดเ้ ปน็ ประธานอาเซยี นและเปน็ เจา้ ภาพจดั การประชมุ สดุ ยอด อาเซยี น+3 ครัง้ ท่ี 12 เมอ่ื วนั ท่ี 24 ตุลาคม 2552 ทีอ่ �ำเภอชะอ�ำ และหัวหนิ ซ่ึงทปี่ ระชมุ ฯ ไดร้ ับรองแถลงการณ์ ชะอ�ำ หวั หนิ วา่ ด้วยความม่ันคงด้านอาหารและการพัฒนาพลังงานชวี ภาพในกรอบ ความร่วมมอื อาเซียน+3 (Cha - am Hua Hin Statement on ASEAN Plus Three Cooperation on Food Security and Bio - Energy Development) เพอื่ สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ดา้ นอาหาร และพลงั งาน ซงึ่ รวมถงึ การจดั ตง้ั ระบบส�ำรองขา้ วฉกุ เฉนิ อาเซยี น+3 (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve – APTERR) เพอ่ื เปน็ หลกั ประกนั ความมนั่ คงดา้ นอาหารในภมู ภิ าค และการจดั ท�ำ ยุทธศาสตร์แบบบูรณาการเก่ียวกับการผลิตและการบริโภคอาหาร และพลังงานชีวภาพที่ย่ังยืนและเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน ที่ประชุมฯ ยังได้สนับสนุนไทยที่จะเป็นผู้ผลักดันการจัดตั้งกลไกความร่วมมือ 95ประเทศไทยกบั อาเซยี น
ด้านการศึกษาในกรอบความร่วมมืออาเซียน+3 นอกจากน้ี ไทยในฐานะประเทศผปู้ ระสานงานอาเซยี น+3 ในเวลานน้ั ไดอ้ อก แถลงขา่ ววา่ ดว้ ยความรว่ มมอื อาเซยี น+3 เพอื่ รบั มอื กบั วกิ ฤตเศรษฐกจิ และการเงินโลกเม่อื วนั ท่ี 3 มถิ นุ ายน 2552 ปัจจุบันความร่วมมือในกรอบอาเซียน+3 ครอบคลุมความ รว่ มมอื ในสาขาตา่ ง ๆ ประมาณ 20 สาขา ภายใตก้ รอบการประชมุ ในระดับตา่ ง ๆ ประมาณ 50 การประชุม ความร่วมมือด้านการ เงนิ ภายใตม้ าตรการรเิ ร่มิ เชยี งใหม่ (Chiang Mai Initiative - CMI) ซึ่งรเิ ร่มิ ขึน้ เมอื่ ปี 2543 เปน็ สาขาความร่วมมอื ทมี่ ีความกา้ วหน้า มากที่สุด โดยได้มีการจัดต้ังกองทุนส�ำรองพหุภาคีภายใต้ CMI หรือท่ีเรยี กวา่ “CMI Multilateralization (CMIM)” เมอ่ื วันท่ี 24 มนี าคม 2553 ซง่ึ มวี งเงนิ 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรฐั เพ่ือเปน็ กลไกชว่ ยรกั ษาเสถยี รภาพทางการเงนิ ในภมู ภิ าค และจะมกี ารจดั ตง้ั ASEAN+3 Macroeconomic Research Office (AMRO) ที่ สิงคโปร์ เพ่ือวิเคราะห์และติดตามสภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคและ สนับสนุน CMIM นอกจากนยี้ งั มีการจดั ตั้งหนว่ ยงานประกนั เครดติ และการลงทนุ (Credit Guarantee and Investment Facility : CGIF) เพือ่ สนบั สนนุ การออกพนั ธบตั รของภาคเอกชน โดยมวี งเงิน เร่ิมตน้ 700 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ประเทศอาเซียน+3 ยังได้จดั ตัง้ กองทุน ASEAN Plus Three Cooperation Fund (APTCF) ซ่ึง มเี งินทุนเริม่ ต้นจ�ำนวน 3 ลา้ นดอลลารส์ หรัฐ เพ่ือเปน็ กองทนุ รว่ ม ในการสนับสนุนการด�ำเนินมาตรการต่าง ๆ ภายใต้แผนงานความ รว่ มมอื อาเซยี น+3 (ปี 2550 - 2560) รวมทง้ั การด�ำเนนิ โครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือ อาเซียน+3 96 ประเทศไทยกับอาเซยี น
ความรว่ มมือในเวทกี ารประชุมสดุ ยอดเอเชียตะวันออก การประชมุ สดุ ยอดเอเชยี ตะวนั ออก (East Asia Summit - EAS) เดมิ ทเี ปน็ ขอ้ รเิ รมิ่ ในกรอบอาเซยี น+3 โดยจะเปน็ การววิ ฒั นาการของ การประชุมสุดยอดอาเซียน+3 ไปสู่การประชุมสุดยอดเอเชียตะวัน ออก อยา่ งไรก็ดี อาเซียนเห็นว่า ควรเปิดกวา้ งให้ประเทศนอกกลุ่ม อาเซยี น+3 เขา้ รว่ มดว้ ย จงึ ไดก้ �ำหนดหลกั เกณฑ์ 3 ประการ ส�ำหรบั การ เข้าร่วม ได้แก่ (1) การเปน็ คู่เจรจาเตม็ ตวั ของอาเซยี น (2) การ มีความสัมพันธ์ท่ีแน่นแฟ้นกับอาเซียน และ (3) การภาคยานุวัติ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia) ใน ปจั จบุ ันมีประเทศที่เขา้ ร่วมใน EAS จ�ำนวน 16 ประเทศ ได้แก่ อาเซยี น 10 ประเทศ ออสเตรเลยี จีน อนิ เดีย ญีป่ ุน่ สาธารณรัฐ เกาหลี และนวิ ซแี ลนด์ ในการประชมุ EAS ครงั้ ที่ 1 ณ กรงุ กวั ลาลมั เปอร์ มาเลเซยี เมอ่ื วนั ที่ 14 ธนั วาคม 2548 ไดม้ ีการลงนาม Kuala Lumpur Declaration on East Asia Summit ก�ำหนดให้ EAS เปน็ เวทหี ารอื ทางยุทธศาสตรท์ ีเ่ ปดิ กว้าง โปร่งใส และครอบคลมุ และได้เหน็ พอ้ ง กบั แนวความคดิ ของไทยทใี่ ห้ EAS เปน็ เวที ของผนู้ �ำทจ่ี ะแลกเปลย่ี น ความเหน็ และวสิ ัยทัศนใ์ นประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ในลกั ษณะ top - down การประชุม EAS มีข้ึนเป็นประจ�ำทุกปีในช่วงการประชุม สดุ ยอดอาเซียน โดยประเทศท่ีเป็นประธานอาเซยี นจะเป็นประธาน การประชุมฯ ในการประชุม EAS คร้ังที่ 2 ณ เมอื งเซบู ฟลิ ปิ ปนิ ส์ เม่ือเดือนมกราคม 2550 ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ก�ำหนดสาขา ความรว่ มมอื ทมี่ คี วามส�ำคญั ในล�ำดบั แรก 5 สาขา ไดแ้ ก่ ไขห้ วดั นก ความมนั่ คงดา้ นพลงั งาน การศกึ ษา การเงนิ และการจดั การภยั พบิ ตั ิ 97ประเทศไทยกับอาเซยี น
ไทยไดเ้ ปน็ ประธานและเปน็ เจา้ ภาพจดั การประชมุ ฯ ครง้ั ท่ี 4 เม่ือวันท่ี 25 ตุลาคม 2552 ท่ีอ�ำเภอชะอ�ำและหัวหิน โดยทป่ี ระชมุ ฯ ไดร้ บั รองแถลงการณช์ ะอ�ำ หวั หนิ วา่ ดว้ ยการจดั การ ภยั พบิ ตั ิ (Cha - am Hua Hin Statement on EAS Disaster Management) เพ่ือส่งเสริมการพัฒนาการเตรียมความพร้อมท่ีรอบด้านและเพ่ิม ศกั ยภาพการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ใิ นภมู ภิ าค ตลอดจนพจิ ารณา ความเปน็ ไปไดใ้ นการจดั ตงั้ เครอื ขา่ ยการประสานงานการตอบสนอง ภัยพิบัติในระดับภูมิภาคผ่านกรอบและกลไกอาเซียนและภูมิภาค ท่ีมีอยู่ เพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติในภูมิภาค นอกจากนี้ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงาน EAS ได้ออก แถลงข่าวร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียตะวันออก ว่าด้วยวิกฤต เศรษฐกิจและการเงินโลก เม่ือวันท่ี 3 มถิ ุนายน 2552 เพอ่ื แสดง เจตนาร่วมกันของประเทศ EAS ท่ีจะร่วมมือกันรับมือผลกระทบ จากวกิ ฤตเศรษฐกิจและการเงนิ โลกท่ีอบุ ตั ิขึ้นเม่อื ปี 2551 ปจั จบุ นั ประเดน็ ทผ่ี นู้ �ำ EAS ใหค้ วามสนใจ ไดแ้ ก่ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกิจ การเงิน การค้าและการลงทุน (การประชุมสุดยอด G-20 การเจรจาการค้ารอบโดฮา การส่งเสริมสินเชื่อเพื่อการค้า และการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจแบบรอบด้านในเอเชียตะวันออก) และความเชื่อมโยงในภูมิภาค (Regional Connectivity) และให้ ความส�ำคญั กบั การแลกเปลย่ี นขอ้ คดิ เหน็ เกยี่ วกบั ทศิ ทางความรว่ มมอื ในอนาคตของ EAS ในบริบทโครงสร้างสถาปัตยกรรมทางการ เมืองระหว่างประเทศในภูมิภาค (Regional Architecture) และ การขยายจ�ำนวนประเทศที่เข้าร่วม EAS รวมสหรฐั ฯ และรัสเซยี ท่ีเข้าเป็นสมาชิกในปี 2554 รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้กับ EAS เพื่อให้สามารถตอบสนองความท้าทายใหม่ ๆ 98 ประเทศไทยกับอาเซยี น
ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในขณะท่ีให้คงลักษณะการเป็นเวที การหารือด้านยทุ ธศาสตรส์ �ำหรบั ผนู้ �ำท่มี คี วามยืดหยนุ่ ไว ้ อาเซยี น - สหภาพยโุ รป อาเซียนและสหภาพยุโรปมีความสัมพันธ์ในระดับกลุ่ม ระหวา่ งกนั มาเปน็ เวลานาน สหภาพยโุ รปถอื เปน็ คเู่ จรจา (Dialogue Partner) อย่างไม่เปน็ ทางการของอาเซยี นตั้งแต่ปี 2515 และได้ พัฒนาเป็นคู่เจรจาอย่างเป็นทางการในปี 2520 และในโอกาส ครบรอบ 30 ปี การสถาปนาความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - สหภาพยโุ รป ในปี 2550 ท้ังสองฝ่ายไดจ้ ัดการประชุมสุดยอดสมยั พิเศษอาเซียน - สหภาพยุโรป (ASEAN - EU Commemorative Summit) ขนึ้ เม่อื วนั ที่ 22 พฤศจกิ ายน 2550 ที่สิงคโปร์ โดยมีบรูไนดารุสซาลาม เปน็ ประเทศผปู้ ระสานงานความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - สหภาพยโุ รป ตงั้ แต่ เดอื นกรกฎาคม 2552 (ค.ศ. 2009) มวี าระ 3 ปี ดา้ นการเมือง และความมั่นคง ปัจจุบันสหภาพยุโรปให้ความส�ำคัญกับอาเซียน มากขนึ้ ในการประชมุ รฐั มนตรตี า่ งประเทศอาเซยี น - สหภาพยโุ รป ครั้งท่ี 16 ระหวา่ งวนั ท่ี 14 - 15 มนี าคม 2550 ทป่ี ระชุมได้ รับรองปฏิญญานูเร็มเบิร์กว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนท่ีเพ่ิมพูนระหว่าง สหภาพยโุ รปกบั อาเซยี น (Nuremberg Declaration on an ASEAN - EU Enhanced Partnership) เพือ่ เปน็ แนวทางในการด�ำเนนิ ความ สมั พนั ธแ์ ละความร่วมมอื ในอนาคตท้ังในดา้ นการเมอื ง ความมัน่ คง เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม และความรว่ มมอื เพอ่ื การพฒั นา และ ตอ่ มาในการประชมุ สดุ ยอดสมยั พเิ ศษระหวา่ งอาเซยี นกบั สหภาพยโุ รป เมอ่ื เดอื นพฤศจกิ ายน 2550 ผนู้ �ำอาเซยี นและสหภาพยโุ รปไดใ้ หก้ าร รบั รองแผนปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื ด�ำเนนิ การตามปฏญิ ญานเู รม็ เบริ ก์ ฯ (Plan 99ประเทศไทยกับอาเซียน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202