Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือคู่มือครูมืออาชีพฉบับย่อ

หนังสือคู่มือครูมืออาชีพฉบับย่อ

Description: หนังสือคู่มือครูมืออาชีพฉบับย่อ

Search

Read the Text Version

สมหญงิ สายธนู 101 มาเป็นทอง เด็กสงสยั เขียนค�ำถามมาว่า ท�ำไมถึง ขี้ออกมาเป็ นทอง ท�ำไมพระพุทธรูปถึงมีหลาย องค์มาก ท�ำไมเขาถึงใช้ไม้ไผ่สานพระพุทธรูป ไดใ้ หญ่มาก หลงั จากนน้ั เราก็เดินออ้ มกลบั มาทีโ่ รงเรียน และจะผ่านบา้ นของยายไหล ยายไหลท�ำงานเกีย่ ว กบั ฝ้ าย อนั นีเ้ ป็นความตง้ั ใจของครู ครูนดั แนะกบั ยายไหลใหย้ ายช่วแสดงใหเ้ ด็กดูหน่อย ว่าใชฝ้ ้ าย ท�ำอะไร อย่างไร เด็กถามว่ายายเอาฝ้ ายมาจาก ไหน ท�ำไมเป็ นเส้นด้าย เครื่องป่ันด้ายมนั ท�ำได้ อย่างไร มนั ท�ำใหด้ า้ ยจากเป็นกอ้ นๆ แลว้ มาเป็น เสน้ เล็กๆ ไดอ้ ย่างไร (#๑๓) จากนน้ั เราก็กลบั มา ทีโ่ รงเรียน ครบ ๓ ชวั่ โมงพอดี ตอนบ่ายครูให้ นกั เรียนเขียนค�ำถาม พี่จะคอยนง่ั ดูน้องเขียน ค�ำถาม เนื่องจากแต่ละกลุ่มมักมีคนเก่งเป็ น คนเขียน กล่มุ นีไ้ กด์เป็นคนเขียนมีอาร์มช่วยเป็น บางครั้ง (#๑๔) รวบรวมตงั้ แต่ต้น เขียนลงบน กระดาษปรู๊ฟ เป็นอนั จบกิจกรรมส�ำรวจชมุ ชน

102 คมู่ ือครูมอื อาชพี ในศตวรรษที่ ๒๑ หลงั จากนนั้ ช่วงปิ ดเทอมครูจะน�ำค�ำถาม เด็กมานง่ั คยุ กนั ค�ำถามจะมาจากทกุ ชนั้ ครูเลย มาแบ่งค�ำถามเด็กออกเป็นหวั ขอ้ หลกั (#๑๕) เช่น ค�ำถามเกีย่ วกบั ดา้ นกายภาพ ดา้ นชีวภาพ และ ดา้ นวิถีชมุ ชน เพราะสว่ นมากทีส่ มั ผสั จากการเรียน การสอนมา ไม่ค่อยพ้น ๓ หัวข้อนี้เท่าไรนัก วิถีชุมชนไม่ค่อยมีในบทเรียนเท่าไร บางทีเรา มีกิจกรรมทีต่ อ้ งพาเด็กออกไปขา้ งนอก จึงนา่ จะเอา มาเป็นหนว่ ยการเรียนรู้ ครูก็ตกลงกนั วา่ นา่ จะเรียน ทง้ั 3 ช่วงชนั้ ตง้ั แต่ ป.๑-ป.๓ ป.๔-ป.๖ และมธั ยม เพียงแตเ่ ราแยกความยากงา่ ย ลงไปในรายละเอียด อีก มธั ยมก็ตอ้ งเรียนยากกว่าประถม ตวั อย่างหวั ขอ้ เช่น (#๑๖) ดา้ นกายภาพ เด็กจะถามว่าท�ำไมแม่น้�ำถึงมีสี ชีวภาพก็จะถามว่า ในแม่น้�ำนี้มีสตั ว์อะไรบ้าง วิถีชุมชนจะถามว่า เขาใชแ้ ม่น�้ำนีท้ �ำอะไรบา้ ง นอกจากแบ่ง 3 หวั ขอ้ นี้ แลว้ เรายงั ใหม้ ีความเชื่อมโยงระหว่างหวั ข้อทาง กายภาพ ชีวภาพ และวิถีชมุ ชนดวู ่ามีหวั ขอ้ อนั ไหน ที่พอจะเชื่อมโยงกนั ได้ เช่น ไม้ไผ่เราก็โยงไปหา ชุมชนเรื่องการจักสาน จากนนั้ ครูก็หาว่าจะเอา

สมหญงิ สายธนู 103 ถึงเวลาเปิ ดเทอม นกั เรียนเลือ่ นชนั้ เรียนสงู ข้ึนไปหนึ่งชนั้ “นกั สืบสายน�้ำ” เป็นหน่วยแรกของ เทอม ครูฝนเล่าเรื่องต่อและเป็ นกลุ่มเด็กสาย ชน้ั แรก ป.๑-ป.๓ ทีค่ รูฝนรบั ผิดชอบ “...แบ่งนกั เรียนเป็น ๑๓ กล่มุ รวมพีม่ ธั ยม กล่มุ ทีจ่ ะเล่าเป็นกล่มุ ของ ออม ป.๑ นีโน่ ป.๒ อิม ป.๓ และกีตา้ ร์ ป.๓ ครูเป็นคนจดั กล่มุ ใหแ้ ละถูก แบ่งคลา้ ยๆ กนั (#๑๘) คราวนีก้ ่อนออกไปแม่น้�ำ ครูให้โจทย์ไปส�ำรวจและเก็บสตั ว์น�้ำหรือส่ิงมีชีวิต หรือไม่มีชีวิตที่เราเจอกลบั มา เดี๋ยวไปถึงแม่น�้ำ ครูจะมีอุปกรณ์ให้ มี เทอร์โมมิเตอร์ มะนาว ลูกปิ งปอง กระชอน และถงั น�้ำ ทีเ่ ตรียมแบบนีใ้ ห้ เพราะ ครูวิทยาศาสตร์บอกว่า น่าจะมีการวดั อตั รา การไหลของน�้ำ ระหวา่ งทีเ่ ราพานกั เรียนเดินไปแมน่ ้�ำ ดช.นีโน่ชอบเล่นตลอดเวลา ไม่อยู่นิ่ง เดินไม่ค่อย ระวงั กีตาร์จะเป็นคนคอยบอกนิโน่ให้เดินชิดขวา หน่อย เพราะเส้นทางเดินไปทางขวา พี่มธั ยม จะอยตู่ น้ น�้ำซึ่งเป็นตน้ ทางทีจ่ ะศึกษา ครูใหเ้ ชือกฟาง ไปและมีไม้บรรทดั บอกให้กลุ่มละ ๕๐ เมตร พีม่ ธั ยมเขาก็คิดได้ พบั เชือกฟางทีละ ๒๕ เซนติเมตร

104 คู่มอื ครูมืออาชีพในศตวรรษที่ ๒๑ ๔ ครั้ง ได้ความยาว ๑ เมตร ทบอีก ๑๐ คร้ัง เป็น ๑๐เมตร เขาก็ยืนต่อๆ กนั มาได้ ๕๐ เมตร จบ ๑กล่มุ แต่ของนอ้ งๆ ท�ำเองไม่ได้ คือ เหมือน พีช่ ่วยหน่อย พีม่ ธั ยมก็มาท�ำให้เป็นจุดเริ่มตน้ และ จดุ สิ้นสดุ ช่วงแรกๆ นิโน่ก็เล่นน้�ำ กีตาร์คอยสะกิด เตือนพดู ดว้ ยภาษากลาง ใหม้ าช่วยกนั ดมู ีสตั ว์อะไร บา้ ง กล่มุ อืน่ เขาไดก้ นั แลว้ เดีย๋ วกล่มุ เราไม่มีของ กลบั ไปโรงเรียน นีโน่เหลียวดูกล่มุ อืน่ พอเห็นว่า กลุ่มอื่นเขาได้กนั แล้ว ก็เร่ิมเข้ามาช่วย (#๑๙) ส่วนอิมก็ช่วยเพือ่ นดี ในขณะทีเ่ ก็บตวั อย่างน�้ำและ วดั อณุ หภูมิ เด็กหนา้ ตามีความสขุ มาก บอกว่า ฉนั เจอสตั ว์นนั่ นี่ นู่นกนั ไป มีบางสตั ว์น้�ำทีไ่ ม่รู้จกั หนั มาถามครู แมงอะไรครับครู ครูตอบไปว่า ไม่รู้จกั เหมือนกนั ซ่ึงก็ไม่รู้จกั จริงๆ บอกใหล้ องเก็บ ไปก็ไดน้ ะ แลว้ เราไปหาขอ้ มูลเอา กลมุ่ นีจ้ บั ปลา จิงโจน้ ้�ำ หอย สาหร่ายไดแ้ ลว้ ครูวิทยาศาสตร์ก็บอกว่า อย่าลืมวดั อตั ราการไหล ของน้�ำมาดว้ ย เด็กๆ ถามมนั คืออะไร ไม่รู้จกั ก็เลย

สมหญิง สายธนู 105 อธิบายว่าน้�ำมนั ไหลเร็วเท่าไร ลองดูว่าของเรากบั ของเพือ่ นกล่มุ อืน่ น�้ำไหลเร็วเท่ากนั ไหม นีโน่พอได้ ฟังก็ไปดขู องคนอืน่ แลว้ มาบอกวา่ มนั ไหลไม่เทา่ กนั นน่ั แหละครูเขาอยากรู้ว่ามนั ไหลต่างกนั ไดอ้ ย่างไร บางกล่มุ เอาลูกปิ งปองลอยก่อน (#๒๐) แต่เหมือน มนั ไหลไม่เป็นไปตามกระแสน�้ำ ลมพดั ออกไปก็ท�ำ ไม่ได้ ตอนนน้ั นีโน่ยงั ไม่ท�ำ ไดแ้ ต่วิ่งไปดูกล่มุ อืน่ ก่อนว่าเขาท�ำอย่างไร แลว้ จึงมาลองเอาลูกมะนาว โยนลงไป มนั ก็ผลบุ ๆ โผล่ๆ ไม่จมเพราะแรงดนั น้�ำช่วย ก็บอกว่าสงสยั ไม่ไดแ้ ลว้ ครบั ครู ส่วนครู ก็ เ ห มื อ น จ ะ ใ จ อ่ อ น เ พ ร า ะ ไ ม่ ไ ด้ท ด ล อ ง ม า ก่ อ น ไม่รู้ว่ามนั ท�ำไม่ได้ ได้แต่บอกว่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ความที่นีโน่เป็ นเด็กซน ก็เอาถุงพลาสติกที่ครู ใส่อปุ กรณ์ไวใ้ นถงั ไปลอยน้�ำเล่น เอามะนาวใส่ไว้ ในถงุ แลว้ มนั ลอยน้�ำไดด้ ี เขาก็บอกว่า นีไ่ งครบั ได้แล้ว แต่ยงั ไม่ได้จับเวลา จึงเร่ิมท�ำใหม่โดย จบั เวลาดว้ ย เลยเป็นความส�ำเร็จของนีโ่ น่ (#๒๑) กลมุ่ อืน่ ก็ท�ำตามแบบนีไ้ ป พอเก็บของเสร็จ รองเทา้ ของนีโนเ่ ปียก ทง้ั กล่มุ ก็เปียกแต่นีโนเ่ ปียกมากทีส่ ดุ ไม่รู้จะท�ำอย่างไร แลว้ ก็เป็นคนทีเ่ ป็นแผลเป็นต่มุ ขึ้นงา่ ย นีโนบ่ อกวา่ เดีย๋ วเขาจะถอดรองเทา้ เดินกลบั

106 คู่มือครูมืออาชีพในศตวรรษที่ ๒๑ มาโรงเรียน กลบั มาทีโ่ รงเรียน ครูแจกหนงั สือกล่มุ ละ ๑ เล่ม ในหนงั สือจะมีดชั นีบอกว่าน้�ำจะสะอาดแค่ ไหนโดยเราดูภาพสตั ว์ที่จบั มาได้ ถ้าน�้ำสภาพดี มีรูปหนา้ ย้ิมแฉ่ง ถา้ น�้ำเสียจะเป็นหนา้ ไม่ยิ้ม กล่มุ นี้นีโน่เขียนหนงั สือได้ดีที่สุดก็เป็ นคนอาสาเขียน ช่วยกัน ตงั้ ใจกันมาก อยากรู้ว่าสตั ว์ที่ตวั เอง เก็บมามนั ชื่ออะไรกนั แน่ เช่น แมงกระดิ่งจะมีทง้ั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษอยู่ดว้ ย นีโนจ่ ะจดและ วาดรูปเล็กๆ ลงในสมดุ ก่อน กีตาร์ดจู ิงโจน้ �้ำ เขาบอก ว่าแมงกระดิ่งท�ำใหน้ ้�ำดีหนา้ ก็ย้ิม ตอ้ งวาดรูปหนา้ ยิ้มดว้ ยนะ ท�ำกนั ไปเรื่อยๆ พอไดใ้ นสมดุ เล็กก็ไปท�ำ ในกระดาษแผ่นใหญ่ อิมกบั ออมก็เป็ นคนอาสา วาดรูป นีโน่เป็นคนเขียน ตอนน�ำเสนอหนา้ หอ้ งก็ เกี่ยงกนั ออมกบั อิมเร่ิมร้องไห้ กีตาร์ก็บอกเขา ไม่น�ำเสนอ ครูก็บอกว่าตอ้ งมีคนไปน�ำเสนอหนา้ ห้อง นีโน่ก็เลยบอกว่าไม่เป็ นไรเดี๋ยวน�ำเสนอเอง (#๒๒) ตอนที่เด็กๆ เกี่ยงกัน เราไม่ได้ดุอะไร ไดแ้ ต่มองดูยิ้มๆ คือ คิดว่าเขาตอ้ งไดเ้ รียนรู้ ครูหวงั

สมหญงิ สายธนู 107 ว่าครั้งต่อๆ ไปน่าจะเป็ นเด็กคนอื่นจะได้พฒั นา ครง้ั นีเ้ ป็นครง้ั แรกก็ดวู า่ จะเป็นอยา่ งไร ตอนน�ำเสนอ กีตาร์เห็นว่านีโน่พดู ได้ เลยขอนีโน่พดู บา้ ง มาขอ ตอนทีอ่ ิมและออมมาเป็นคนถือกระดาษให้ (#๒๓) ตรงนีม้ ีสตั ว์เป็นหอย เป็นจิงโจ้น�้ำ หลงั จากนน้ั วนั รุ่งข้ึนครูก็เอากระดาษปรู๊ฟ ที่เด็กๆ วาดมาเรียงต่อกนั เป็นแถวเหมือนสายน้�ำ หนึ่งสายน้�ำ แต่ละรูปจะพบสัตว์คล้ายๆ กัน บางกล่มุ เจอปลิง พีม่ ธั ยมจบั ปลาไดก้ ็วาดรูปปลา เพิ่ม แต่นอ้ งๆ เป็นสตั ว์เล็กๆ ทีห่ าไดง้ ่าย แลว้ ก็ให้ เด็กๆ ช่วยกนั ตอบว่า แม่น�้ำของบา้ นเรายงั ดีอยู่ไหม ถา้ ดูจากหนา้ ยิ้ม นกั เรียนก็บอกว่าดีอยู่ครบั มีหนา้ ยิ้มอยู่หลายอนั แต่มีอีกอย่างคือวดั ค่าน�้ำ น้�ำที่ นกั เรียนตกั จากแม่น�้ำมา พอดีช่วงนน้ั โรงเรียนไดร้ บั ทีแ่ จกเครื่องมือวดั น้�ำประปาทีเ่ ขามาท�ำใหท้ ีโ่ รงเรียน ใชด้ ืม่ กนั ครูอยากลองเลยใหเ้ ด็กแต่ละกล่มุ เก็บน้�ำ

108 ค่มู อื ครูมอื อาชพี ในศตวรรษที่ ๒๑ ที่ตวั เองเอามามีทงั้ น�้ำประปาที่นกั เรียนใช้ดื่มกนั น�้ำที่ครูซื้อดื่ม วดั ค่า EC1 ถ้ามีค่านี้อยู่ตงั้ แต่ 50 ขึ้นไป น้�ำสามารถน�ำมาใชบ้ ริโภคได้ ถา้ ไดต้ �่ำกว่า ก็ใหใ้ ชอ้ ปุ โภค อนั นีค้ รูอธิบายใหน้ กั เรียนฟัง แตต่ อน ท�ำให้นกั เรียนลองจุ่มดูว่าได้ค่าเท่าไร ตอนนน้ั พี่ มธั ยมอยากรู้วา่ คา่ น้�ำสิงห์เทา่ ไร ก็วิ่งไปหอ้ ง ผอ.เอา น้�ำสิงห์มาวดั น้�ำสิงห์ก็ไม่ต่างจากน�ำลงั 30 บาท เด็กก็เลยบอกว่า ถา้ อย่างนน้ั ผอ.ก็ซือ้ น�้ำแพงมากิน แต่ว่าจริงๆ เรากินน�้ำทีบ่ า้ นเราก็ได้ เป็นวนั ทา้ ยๆ ของกิจกรรม อีกวนั ต่อมา ครูใหน้ กั เรียนเลือกสิ่งมีชีวิต หนึ่งอย่างทีอ่ ยากรู้ แต่หา้ มซ�้ำกนั กบั กล่มุ อืน่ กีตาร์ เลือกจิงโจ้น�้ำ นีโน่เลือกปลา แต่ละคนชอบ 1 หมายถงึ ค่าการน�ำไฟฟ้าของเกลอื (ในไฮโดรโพนิกส์จะหมายถงึ เกลอื ของธาตุ อาหาร) ท้ังหมดท่ลี ะลายอยู่ในน�ำ้ โดยปกตแิ ลว้ นบริสุทธ์ิจะมีค่าความน�ำไฟฟ้าเป็น ศูนย์ แตเ่ ม่ือน�ำธาตอุ าหารละลายในนำ้� เกลือของธาตุอาหารเหล่าน้จี ะแตกตัวเปน็ ประจุบวก และประจุลบ ซ่ึงจะเป็นตวั น�ำไฟฟา้ ท�ำให้มคี า่ ความน�ำไฟฟา้ (Electric Conductivity) ซ่ึงค่าน�ำไฟฟ้าท่ีเกิดขึ้นจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณเกลือของ ธาตุอาหารที่ละลายอยู่ในน�้ำ ดังนั้น เราจึงใช้การวัดค่าการน�ำไฟฟ้าของสารละลาย (คา่ EC) เพอ่ื เปน็ ตวั บอกปรมิ าณเกลอื ธาตอุ าหารทล่ี ะลายในนำ�้ แตก่ ารวดั คา่ EC นน้ั เป็นเพียงการวัดค่าโดยรวมไมส่ ามารถแยกบอกความเขม้ ขน้ ของเกลอื แตล่ ะตวั ได้

สมหญงิ สายธนู 109 หน่วยการเรี ยนรู้อะไรที่เป็ นเรื่องหลักๆ ใหญ่ๆ ทีน่ กั เรียนสงสยั เช่น เรื่องท�ำนา เรื่องน�้ำ เรื่องตน้ ไม้ เรื่องแมลง อย่างเรื่องฝ้ ายก็มี เพราะเขาผ่าน เหตกุ ารณ์ ตรงนนั้ มา เขามีค�ำถามเยอะก็มีหน่วย ฝ้ ายข้ึนมา พอไดห้ นว่ ยการเรียนรู้ ก็ถึงขนั้ ตอนการสอน อย่างเช่น ทีเ่ กีย่ วกบั น�้ำ เราไดช้ ือ่ หน่วยการเรียนรู้ “นกั สืบสายน�้ำ” ครูจะมาก�ำหนดตวั ชีว้ ดั (#๑๙) โดย ทาบว่า ป.๑-ป.๓ เราจะให้เด็กเรียนรู้ถึงแค่ไหน เราใหร้ ู้ว่าในน�้ำมีสตั ว์อะไรอาศยั อยู่บา้ ง น�้ำดี/น้�ำไม่ ดีเป็ นอย่างไร ส่วน ป.๑-ป.๔ ก็จะเพิ่มข้ึนมาอีก พอเรารู้วา่ จะใหเ้ ดก็ เรียนรู้แคไ่ หน ก็เอาตวั ชีว้ ดั แตล่ ะ ม า ต ร ฐ า น ไ ป จั บ ว่ า เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ ตั ว ชี้ วั ด ไ ห น เช่น วิทยาศาสตร์ ตวั ชีว้ ดั ที่ ว.๑๑ บอกว่า นกั เรียน สามารถจ� ำแนกส่ิ งมี ชี วิ ตและสิ่ งไม่มี ชี วิ ตได้ ครูก็ออกแบบกิจกรรมจะท�ำอย่างไรให้เด็กรู้ถึงสิ่ง มีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ถึงตอนนีค้ รูไดแ้ ต่ละหน่วย มาก็เป็นเวลาเปิ ดเทอมพอดี...”

110 คู่มอื ครมู อื อาชพี ในศตวรรษที่ ๒๑ ไม่เหมือนกนั นีโน่ก็ไปฟังกล่มุ อืน่ เขาบอกกล่มุ พี่คิงเลือกปลาไปแล้ว กลุ่มพี่อุ้มเลือกปูไปแล้ว เขาก็เลยบอกเอาจิงโจ้น้�ำของพีก่ ีตาร์ และเป็นทีม่ า ของชื่อกล่มุ จิงโจ้น�้ำ ครูใหเ้ ด็กตงั้ ค�ำถามเกี่ยวกบั จิงโจ้ทีส่ งสยั เขียนลงในกระดาษ คนละ ๒ ค�ำถาม เช่น นีโน่: ท�ำไมจิงโจ้น้�ำมีขาและกระโดดบน น้�ำได้ ท�ำไม จิงโจ้น�้ำไม่ตกน�้ำ กีตาร์: ท�ำไมจิงโจ้น้�ำถึงอยู่บนน้�ำได้ ท�ำไม จิงโจ้วา้ ยนา้ ได้ ครูเห็นว่าเขียนผิด แต่ตง้ั ใจ ยงั ไม่แกไ้ ขตอนนี้ ออม: ท�ำไมจิงโจน้ ้�ำกระโดดสงู ท�ำไมจิงโจ้ น�้ำถึงตอ้ งใชข้ าเวลากระโดดบนน�้ำ อิม: ท�ำไมจิงโจ้น้�ำจึงไม่ตกน้�ำ ท�ำไม จิงโจ้น�้ำถึงบินได้ (#๒๔) พอได้ ๘ ค�ำถามแลว้ ครูถามว่าอยากรู้เรื่อง อะไรมากทีส่ ดุ ก็มีการโตเ้ ถียงกนั อย่างนีโน่บอก ว่าท�ำไมจิงโจ้น�้ำถึงกระโดดได้ ก็เหมือนกบั เอาของ ตวั เอง ครูบอกจะเอาของใครก็เลือกมา เด็กๆ เลือก เอาค�ำถามของออม ท�ำไมจิงโจ้น�้ำอยู่บนน้�ำได้

สมหญงิ สายธนู 111 ครูใหเ้ ด็กลองคาดเดาค�ำตอบเป็นเพราะอะไร โดย ในกล่มุ ตกลงกนั ว่า ใหเ้ ดากนั มาคนละ ๒ ค�ำตอบ นีโน่: เพราะจิงโจ้น�้ำกระโดดได้ เพราะ จิงโจ้น้�ำตวั เบา กีตาร์: เพราะจิงโจ้น�้ำมีขา เพราะจิงโจ้น�้ำ มีปี ก ออม: เพราะจิงโจ้น้�ำตวั เล็ก เพราะจิงโจ้ น�้ำตวั แข็ง อิมคาดเดาค�ำตอบได้ข้อเดียว แล้วก็เริ่ม ร้องไห้ แต่นีโน่ปลอบอิมว่า พี่อิมไม่เป็ นไรนะ กล่มุ เราไดค้ �ำตอบเยอะแลว้ ครูถามต่อ ถา้ ครูเอา อะไรเบาๆ ไปวางไว้บนน้�ำมนั จะอยู่หมดเลยหรือ แลว้ แมงตวั อืน่ ๆ ไม่เบาหรือมนั ถึงลอยน้�ำไม่ได้ เด็ก เปลีย่ นมาคาดเดาวา่ เป็นเพราะจิงโจน้ ้�ำมีขา ครูถาม ต่อว่า แลว้ เราจะรู้ไดอ้ ย่างไรเพราะมนั มีขาจึงลอย น�้ำได้ กีตาร์บอกก็เอาจิงโจ้น�้ำทีม่ ีขาและไม่มีขามา วางอยู่บนน้�ำดู จากนน้ั ครูใหน้ กั เรียนลองวางแผน การทดลองดู โดยถามต่อแล้วจะท�ำอย่างไรเพือ่ ทดสอบว่าเพราะจิ งโจ้น�้ำมีขาเลยอยู่บนน้�ำได้ นีโน่เสนอใหห้ กั ขามนั ออกครับ เพือ่ นๆ ในกล่มุ ก็

112 คมู่ อื ครมู อื อาชพี ในศตวรรษที่ ๒๑ เห็นด้วย ครูก็เลยยอม จริงครูคิดอีกแบบหนึ่ง มนั ดูโหดร้าย มาทบทวนภายหลงั ครูน่าจะไกด์ ค�ำถามไปว่าเราควรเอาอะไรพนั ขา แต่ก็ปล่อยให้ เด็กลองท�ำดู เด็กๆ ก็ถือกระชอนพากันไปจับ จิงโจ้น�้ำทีแ่ ม่น้�ำหนา้ โรงเรียนซึ่งใกลก้ ว่า ตอนแรกก็ จับกนั ไม่ได้ จนออมขออาสาจับ เขาก็จับใส่ถงั น�้ำมา ๒ ตวั นีโน่หกั ขาออกแต่เหมือนหกั ไม่หมด (#๒๖) หกั แค่ขอ้ แรก แลว้ เอาไปปล่อยในน้�ำอีกที มนั จมน�้ำ ด้ินไม่ไดเ้ หมือนอีกตวั ครูถามเล่นๆ ว่า อาจเป็ นเพราะจิ งโจ้น้�ำเจ็บขาหรื อเปล่านะ ในทีส่ ดุ เด็กๆ พากนั สรุป จิงโจ้อยู่บนน�้ำได้ เพราะมีขา ครูบอกว่า ถา้ อย่างงนั้ เขียนใส่กระดาษ ปรู๊ฟ ว่าค�ำถามเราคืออะไร นีโน่และออมเป็ น คนวาดรูปหกั ขา กีตาร์ช่วยเขียน นีโน่เป็นคนน�ำ เสนอ พีๆ่ เขาก็ถามกนั ว่าเป็นเพราะขาจริงๆ หรือที่ ท�ำใหอ้ ยู่บนน�้ำได้ นีโนบ่ อกจริงเพราะหกั ขาแลว้ มนั จม แตต่ วั ทีไ่ ม่ไดห้ กั ขาลอยอยู่ขา้ งบน นีโนส่ ามารถ เล่าเรื่องสิ่งทีต่ นเองท�ำใหค้ นอืน่ รู้เรื่องได้ แต่พอพีๆ่ ถามวา่ ท�ำไมขาจิงโจถ้ ึงท�ำใหจ้ ิงโจล้ อยน้�ำได้ คราว นีใ้ นกล่มุ ก็หนั มาคยุ กนั แลว้ นีโนก่ ็หนั มาตอบวา่ ไม่รู้

สมหญงิ สายธนู 113 แต่พี่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร เด็กแต่ละกลุ่มจะมี ค�ำถามคา้ งทีต่ อบกนั ไม่ไดก้ นั ทงั้ นน้ั ครูมานง่ั คยุ กนั ในช่วงทีเ่ ด็กพกั เราจะท�ำ อย่างไรกนั ดี เด็กยงั ไม่สามารถเข้าไปถึงเนื้อหา ท�ำไมจิงโจ้น้�ำถึงลอยบนน�้ำได้ จึงเอาโน๊ตบ๊คุ ของครู และของโรงเรี ยนมาให้เด็กแต่ละกลุ่มหาค� ำตอบ คน้ หาใน Google นีโน่เขาบอกว่าบา้ นเขามีคอมฯ เขาท�ำได้ ใชค้ �ำ “จิงโจล้ อยน้�ำได”้ คน้ หา คล๊ิกเขา้ ไป ดูหนา้ เว๊ป เขาอ่านแลว้ ก็บอกว่าเป็นเพราะแรงตึง ผิว และหนั มาถามครู แรงตึงผิวคืออะไร (#๒๗) เขาไม่รู้จกั เรื่องราวมนั ยาว นีโน่จึงอ่านใหเ้ พือ่ นฟัง บอกว่า ทีจ่ ิงโจ้น้�ำลอยน้�ำไดเ้ พราะว่าแรงตึงผิวของ น้�ำ และขาของมนั มีขน ออมวาดรูปจิงโจ้น้�ำแลว้ ตรงขามีขน หนั ไปบอกนีโน่ใหก้ ลบั ไปพดู สน้ั ๆ อีกที ว่าจิงโจ้ลอยน้�ำไดเ้ พราะทีข่ ามนั มีขน ครูบอกว่า เรียนแบบนีม้ นั่ ใจช่วยนกั เรียน อ่านออกเขียนได้ เพราะในหอ้ งเรียนเด็กอาจไม่รบั การสนใจ แต่ถา้ แบบนีค้ รูอยู่ร่วมจริงๆ เห็นว่าเขา แลกเปลีย่ นกนั เวลาทีน่ ีโน่สะกดค�ำ เช่น ค�ำว่าแมง

114 คู่มือครูมอื อาชพี ในศตวรรษท่ี ๒๑ เขาจะเขียนแลว้ อ่านออกเสียงใหเ้ พือ่ นฟัง มอ-แอ- แม-แม-งอ-แมง เหมือนการสอนโดยที่ครูไม่ต้อง สอน อิมกบั ออมค่อนข้างอ่อนภาษาไทย เขียน ตวั สะกดไม่ได้ เพราะตวั สะกดเขาก็ยงั ไม่รู้ พอเห็น แบบนีก้ ็มน่ั ใจ ตอนออมอยู่ ป.๑ ใหม่ๆ ตอนเขาเห็น จ.จาน เขาจะนึกถึงว่า จอ.จานเขียนอย่างไร เด็กสะสมค�ำไปเรื่อยๆ ครูก็คอยเสริมบางอย่าง บาง ค�ำก็พูดแบบนีโน่บ้าง เช่น กระโดด ครูจะพูดว่า ดอ-โอ-ดอ-โดด แต่ออมจะเขียนตวั ด.เด็กก่อน แมว้ ่าเวลาเขียนจริงตอ้ งเขียนสระโอก่อน พอเราพดู ว่า ดอ.เด็ก เขาก็เลยเขียน ด.เด็กก่อน ครูเลยใหด้ ู นามสกลุ ของออม ออมนามสกลุ คณาโรจน์ มีสระ โอ ก็ถามออมว่าทีน่ ามสกลุ ออมกบั ร. ตวั ไหนมา ก่อน ออมบอกสระโอมาก่อน เขาบอกผมเขียนผิด ครบั เขาก็เลยยา้ ยสระโอมาอยู่ขา้ งหนา้ ...” (#๒๘) ครูฝนม่ันใจ การเรี ยนรู้แบบนักเรี ยน ลงมือท�ำ ประโยชน์เกิ ดขึ้นกับผู้เรี ยนแน่นอน ทง้ั วิชาการและพฤติกรรม และประเมินผลการ เรียนรู้ โดย

สมหญิง สายธนู 115 “... เราออกแบบกิจกรรมมาตามตวั ชี้วดั ประเมินโดยดูจากผลงานเด็ก เช่น ทีเ่ ขาเขียนสิ่งมี ชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ส�ำหรบั วิชาวิทยาศาสตร์ก็จะ เห็นว่ามีทงั้ กอ้ นหิน ถามต่อว่าปเู ป็นส่ิงมีชีวิตหรือ ไม่ ออมบอกว่าเป็น ครูไม่หยดุ ถาม เพราะอะไรถึง คิดวา่ ปเู ป็นส่ิงมีชีวิต ออมบอกเพราะปเู ดินได้ จริงๆ อาจมีอีกหลายขอ้ ทีบ่ อกว่าอะไรคือสิ่งมีชีวิต แต่เมือ่ เด็กตอบไดแ้ ค่นี้ เรายอมรบั ได้ ผ่านไป ๑ ปี (#๒๙) ตอนช่วงออมอยู่ ป.๑ยงั อา่ นค�ำไม่ได้ ตอนท�ำกิจกรรม นีโนแ่ สดงออก ชัดเลยว่าอ่านได้ เหมือนว่านีโน่จะคอยสอน จนเปิ ดเทอมมา ครูลองทดสอบออม สมมตุ ิพดู ว่า ตอ-อา ออมก็ตอบ “ตา” ถา้ ครูพดู ว่า ตอ-อา-ตา- ตา-มอ เขาก็อ่านไดว้ ่า “ตาม” อนั นีเ้ หมือนชวนกนั คยุ เล่นๆ ตอนนน้ั ก็มีครูสอนภาษาไทยตอน ป.๑ อยู่ ดว้ ย เขาก็แปลกใจ ตอนเรียนในหอ้ ง ออมยงั ไม่ ค่อยได้ ก็เลยถามออมว่าออมท�ำไมถึงอ่านไดแ้ ลว้ ไปเรี ยนพิเศษเหรอ ออมตอบไม่ได้เรี ยนครับ ปิ ดเทอมนานก็เลยไปฝึ กอ่านจะได้อ่านเก่งเหมือน พีน่ ีโน่ (#๓๐) ในการเรียนปกติถา้ เราคิดวา่ เราอยาก

116 คู่มอื ครมู ืออาชีพในศตวรรษที่ ๒๑ ไดอ้ ะไรมาก บางทีเราอาจไปบงั คบั เด็กมากไปหรือ เปล่า อีกกล่มุ หน่ึงตอนข้ึนมา ป.๕ ตอน ป.๔เรียน คนเดียว งานของฉนั ต้องเสร็จ พอมาอยู่ ป.๕ ครูใหท้ �ำงานเป็นกล่มุ งานกล่มุ ตอ้ งเสร็จ เขาก็ช่วย กนั คือเห็นความเปลีย่ นแปลงของตวั เขา ถึงบางที กล่มุ เขาจะเสร็จทีหลงั เขาก็ยอมรบั ได้ (#๓๑) หรื ออย่าง ด.ช.เบียร์ เมื่อก่อนเป็ นคนที่ ท�ำอะไรจะคิด จะตอบค�ำถามอะไรครูก็กลวั ผิด แต่ทีนี้เขากล้าที่จะเสนอความคิด เช่น การท�ำ แผนทีป่ ระเทศไทย ครูถามว่ารู้จกั จงั หวดั ไหม เบียร์ บอกรู้จักจังหวัดล�ำปาง แล้วจังหวัดอื่นๆ ล่ะ เขาบอกไม่ค่อยรู้จกั ครบั รู้จกั แค่ จงั หวดั อยธุ ยาที่ แม่อยู่ จงั หวดั ล�ำพนู ทีพ่ อ่ อยู่ แลว้ เราจะท�ำอย่างไร ใหเ้ รารู้จกั จงั หวดั ในประเทศไทยเพิ่มมากข้ึน จริงๆ ครูก็ถามทงั้ หอ้ ง เมือ่ ก่อนเคยท�ำระบายสีแต่จ�ำไม่ ได้ ดช.เบียร์เขาบอกว่า ครูน่าจะให้พวกผมท�ำ กิจกรรมอะไรสกั อย่างหน่ึง แลว้ ใหพ้ วกผมเห็นเป็น ภาพเหมือนตอนที่เราเรี ยนองค์รวม (#๓๒)

สมหญิง สายธนู 117 เขาพดู แบบนีค้ ่ะ เป็นครูก็รู้สึกดีค่ะ รู้สึกปลืม้ ทีเ่ ห็นนกั เรียน เขามีความสขุ นอกจากดูกริยาท่าทางของเขาแลว้ มนั มองเห็นถึงแววตาอย่างอารมณ์ นีโน่เห็นไดช้ ดั ว่าเขามีความสขุ ทีเ่ ขาไดเ้ รียนแบบนี้ พอผ่านไป 1 ปี แต่ปี นีไ้ ม่มีอย่างนี้ เขาก็ถามหาอยู่ตลอดว่า ครูครบั เมือ่ ไหร่เราจะไดเ้ รียนองค์รวมอีก ปี ๒๕๕๙ ไม่มีเรียนแบบนี้อีกแล้ว ครูย้ายออกไป ๒ คน ผอ.ก็เกษียณ ประชมุ สถานศึกษากนั แล้วจะไม่มี การเรียนแบบนีอ้ ีก แต่สว่ นตวั หนู ก็จะยืนหยดั สอน แบบนีต้ ่อไปค่ะ (#๓๓)..”

118 คูม่ ือครมู ืออาชพี ในศตวรรษที่ ๒๑ องคป์ ระกอบ PBLท่ีดี มี ไม่มี อา้ งอิง ๑. สมั พนั ธก์ ับชุมชน #๒, #๑๘ #๓, #๙,#๑๘ ๒. แบง่ นักเรยี นออกเป็นกลุ่ม #๑, #๒๐ ฝกึ การท�ำ งานร่วมกันเปน็ ทมี ๓.สมาชิกกลุ่มหลากหลายมติ ิ #๒๘ ๔.ออกแบบหนา้ ที่ใหน้ ักเรยี น ๑.ทักษะการเรียนรู้ ทักษะคิดเชงิ วพิ ากษ์ : ได้ลงมอื ทำ� และท�ำ อะไรบางอยา่ ง #๕, #๑๐,#๑๑, #๑๒, สำ�เรจ็ #๑๓, #๒๔, #๒๕ ทักษะสอื่ สาร: ๕.มงุ่ กระบวนการหาคำ�ตอบ #๒๒, #๒๓, #๓๒ ทักษะทำ�งานรว่ มกนั ๖.บรู ณาการ ๓ วิชาพ้นื ฐานสำ�คัญ เปน็ ทีม : #๘ ,#๑๔, ของมนษุ ย์ การอ่าน การเขียน #๑๘, #๑๙#๒๑, #๒๒, ๗.บรู ณาการวิชาพืน้ ฐาน สังคม #๒๓, #๓๒ มากกว่าคำ�ตอบ ๘ .บรู ณาการ ๔ วิชาอนาคต สุขภาพ เศรษฐศาสตรส์ ง่ิ แวดล้อม ความเป็นพลเมอื งมากกว่าค�ำ ตอบ ๙ .ไมม่ ุ่งมอบความรู้ แตม่ ุ่งเนน้ พัฒนาทักษะ

สมหญิง สายธนู 119 องคป์ ระกอบ PBLที่ดี มี ไม่มี อา้ งองิ 2.ทักษะชวี ติ วางแผน : ๙. ไมม่ ุง่ มอบความรู้ แต่ม่งุ #๔ เนน้ พัฒนาทกั ษะ ความรบั ผดิ รบั ชอบ : #๖ , #๗,#๒๙ #๓๐ #๓๑ ๑๐. ครูชวนนักเรียนประเมนิ (self-esteem) ผลการเรยี นรู้ AAR ๓. ทักษะ IT #๒๕ ๑๑. ครมู กี ารรวมตัวกันจดั วงประชมุ PLC ๑๒. พสิ จู น์ไดว้ า่ นักเรยี นเปน็ นักเรยี นรู้ อา่ นออกเขียนได้ คดิ คำ�นวณเปน็ มีความสามารถทางวชิ าการ อื่นๆ บทบาทโค้ช การเปล่ียนแปลงในตัวครู

120 คู่มอื ครูมืออาชีพในศตวรรษที่ ๒๑ จากตัวอย่างเร่ืองเล่าข้างต้น องค์ประกอบ ท่ีมไิ ดเ้ ขียนไว้ มิไดแ้ ปลว่าพรอ่ ง ขอให้ลองอา่ นทวน อกี สกั ครง้ั แลว้ วเิ คราะหแ์ ตล่ ะองคป์ ระกอบตามความ เข้าใจของตนเอง อย่างไรก็ตามจะร่ืนรมย์กว่ามาก ถา้ คณุ ครเู ลา่ เรอ่ื งแลว้ รว่ มกนั วเิ คราะหใ์ นวง PLC ดว้ ย วธิ กี ารเชน่ นี้ คุณครจู ะไมร่ สู้ ึกโดดเดี่ยว มเี พ่ือนรว่ ม เรยี นรตู้ ลอดทาง มีเพ่ือนร่วมอดุ มการณ์เดียวกนั จิตวญิ ญาณความเปน็ ครูอยู่ท่ตี ัวเรานี่เอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook