Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Culture2-2016

Culture2-2016

Description: Culture2-2016

Search

Read the Text Version

๓๔ 99เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

มองผา่ นหนามเตย สมบตั ิ ภกู่ าญจน์ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ คณะกรรมการภาพยนตรฯ์ แหง่ ชาติ การตรวจพจิ ารณาภาพยนตร์ (๒) ในข้อเขยี นตอนท่แี ลว้ กฎหมายเขียนไว้ว่าเมื่อดูหนังจบ ต้องมีการพิจารณากันเป็น ขน้ั แรกว่าหนงั ที่ดูจบไปนน้ั ควรจัดให้อยู่ใน ‘ประเภท’ ใด ผมได้กลา่ วมาแล้ววา่ การตรวจพจิ ารณาภาพยนตร์ตาม ‘กฎหมายหนงั ’ ฉบบั ใหมท่ ใ่ี ชอ้ ยใู่ นขณะน้ี แตกตา่ งจากการตรวจ ซึ่ง ‘ประเภทของภาพยนตร’์ นนั้ ปรากฏอยู่ในกฎหมาย พจิ ารณาแบบเดมิ เพราะกฎหมายใหม่เขยี น ‘ส่งิ ทต่ี ้องทา� ’ ไว้ ใหญ่คือ พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในมาตรา ให้ผู้ท�าหน้าทต่ี รวจมากมาย ๒๖ (ดังทกี่ ล่าวมาแล้ว) ส่วน ‘รายละเอยี ดของแต่ละประเภท’ มอี ยใู่ นกฎกระทรวงมชี อื่ วา่ “กฎกระทรวงกา� หนดลกั ษณะของ นับต้ังแต่ การจัดประเภทหนัง กฎหมายก็ก�าหนดไว้ ประเภทภาพยนตร์ พ.ศ. ๒๕๕๒” อกี ตา่ งหากอนั มรี ายละเอยี ด แน่นอนว่ามี ๗ ประเภท (ตามมาตรา ๒๖) ผู้ท�าหน้าที่ตรวจ อกี ๗ ข้ออกี เหมอื นกัน ซึ่งมีช่ือว่า “กรรมการพิจารณาภาพยนตร์” ก็ต้องยึดตามท่ี 100

ภาพยนตร์ในต่างประเทศกม็ ีการกา� หนดเรตไว้เช่นเดียวกนั ส่วนการตรวจภาพยนตร์ตามกฎหมายใหม่ กรรมการฯ จะต้องท�าตามขั้นตอนท่ีกฎหมายเขียนไว้ทุกอย่างคือ พอสรุป การตรวจภาพยนตรใ์ นยคุ นจี้ งึ ตา่ งจากการตรวจแบบเดมิ ที่ ได้ว่าหนังอยู่ในประเภทใดแล้วจึงค่อยลงมติอนุญาต ด้วยการ เรยี กกนั คนุ้ หวู า่ “เซน็ เซอร”์ มาก เพราะวธิ เี ซน็ เซอรแ์ บบเดมิ นน้ั ระบุว่า ‘อนุญาต ให้อยู่ในประเภท...’ ใดประเภทหน่ึงดังท่ี การพจิ ารณาวา่ จะ ‘อนญุ าต’ หรอื ‘ไมอ่ นญุ าต’ ขนึ้ อยกู่ บั การตคี วาม กล่าวมา ในกฎหมายทเ่ี ขยี นไวก้ วา้ งๆ วา่ ตอ้ งไมฝ่ า่ ฝนื ‘ตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ย หรอื ศลี ธรรมอนั ด’ี เทา่ นนั้ เปน็ สา� คญั ดว้ ยเหตดุ งั กลา่ วหนงั หลาย มตอิ นญุ าตนส้ี ามารถทา� ไดแ้ คห่ นงั ๖ ประเภทเทา่ นน้ั คอื เรอ่ื งทผี่ า่ นการตรวจพจิ ารณาจงึ ตอ้ งใชว้ ธิ ตี ดั ทอนออกบา้ ง ทา� เบลอ ประเภทที่ (๑) ถงึ ประเภทท่ี (๖) สว่ นประเภทท่ี (๗) นนั้ กฎหมาย เสียบ้าง เพ่ือให้หนงั ในส่วนที่เหลอื ผ่านการอนุญาตได้เพราะยัง เขยี นไวว้ า่ ‘ภาพยนตรท์ หี่ า้ มเผยแพรใ่ นราชอาณาจกั ร’ เพราะ อยู่ในกรอบของความสงบเรยี บร้อยหรอื ศลี ธรรมอนั ดี ฉะนน้ั ถา้ กรรมการลงมตกิ นั (ดว้ ยเสยี งเอกฉนั ทห์ รอื เสยี งขา้ งมาก อย่างใดอย่างหน่ึง) ว่าหนังอยู่ในประเภทน้ีแล้ว มติน้ันต้องใช้ ค�าว่า ‘ไม่อนุญาต’ เพราะค�าว่าอนุญาตให้ห้ามเผยแพร่ใน ราชอาณาจักรนั้นดจู ะไม่เคยปรากฏในภาษาราชการไทย ท้ังหมดนี้คือสิ่งท่ีเขียนก�าหนดไว้ในมาตราต่างๆ ของ กฎหมายท่ีใช้กันทุกวันนี้ และด้วยธรรมชาติของกฎหมาย คือ เม่ือมีข้อก�าหนดแล้วก็ต้องมีข้อยกเว้นตามมาด้วย ส�าหรับการ แก้ปัญหาแตกต่างทอี่ าจจะเกิดมขี ึ้นได้บ้างในบางกรณี ขอ้ ยกเวน้ ปรากฏอยใู่ นมาตรา ๒๙ ของ พ.ร.บ. ภาพยนตรฯ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ทร่ี ะบขุ ้อความว่า “ในการพิจารณาอนุญาตภาพยนตร์ตามมาตรา ๒๕ ถ้าคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์เห็นว่า ภาพยนตรใ์ ดมเี นอ้ื หาทเ่ี ปน็ การบอ่ นท�าลาย ขดั ตอ่ ความสงบ เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจกระทบ กระเทอื นตอ่ ความมนั่ คงของรฐั และเกยี รตภิ มู ขิ องประเทศไทย ให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์มีอา� นาจ สงั่ ใหผ้ ขู้ ออนญุ าตแกไ้ ขหรอื ตดั ทอน กอ่ นอนญุ าต หรอื จะไม่ อนญุ าตก็ได้ ภาพยนตรท์ ผี่ า่ นการตรวจพจิ ารณาและไดร้ บั อนญุ าต ตามมาตรา ๒๕ มิให้ถือว่าภาพยนตร์นั้นมีลักษณะที่ฝ่าฝืน บทบัญญตั ิตามวรรคหนง่ึ ” 101เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

สองวรรคนค้ี อื ข้อความท่มี ีอยู่ในมาตราน้ี อนั เป็นมาตรา ขอ้ กา� หนด สารพดั สารพนั อยา่ งของกจิ การภาพยนตรแ์ ละวดี ทิ ศั น์ เดียว ในจ�านวน ๙๑ มาตราของกฎหมายหนังฉบับปี ๒๕๕๑ ซงึ่ รวมงานทง้ั หมดของหนงั ทงั้ หนงั ทจี่ ะฉายในโรงและทจี่ ะขายเปน็ ท่ี ‘ใหอ้ �านาจ’ แก่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ แผ่นและวีดิทัศน์ ที่ยุคนั้นยังมีแค่คาราโอเกะกับเกมเป็นตัวนา� กค็ ่อยๆ ทยอยออกตามมาเช่นเดยี วกัน คอื อา� นาจทีก่ รรมการฯ จะสง่ั ให้ ‘ผู้ขออนญุ าต’ แก้ไข ตัดทอนก่อนที่จะอนญุ าต หรืออ�านาจท่ีจะ ‘ไมอ่ นุญาต’ ได้อีก ผมจ�าได้ว่าในยุคต้นๆ ก่อนท่ีจะมีกฎกระทรวงเรื่องการ ถา้ เกดิ กรณที ว่ี า่ แมแ้ กไ้ ขตดั ทอนแล้ว แตเ่ นอ้ื หาหรอื สง่ิ ทป่ี รากฏ ก�าหนดลักษณะประเภทภาพยนตร์นั้น เราเคยเห็นร่วมกันว่า ในหนงั กย็ งั มสี ง่ิ ที่ ‘บอ่ นทา� ลาย-ขดั ตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ความรุนแรงท่ีปรากฏในหนังและวีดิทัศน์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศลี ธรรมอนั ดฯี -หรอื ความกระทบกระเทอื นฯ’ หลงเหลอื อยอู่ กี ในหนงั ต่างประเทศ ซงึ่ มกั จะเป็นผู้เร่มิ ขน้ึ ก่อน แล้วหลงั จากนนั้ ด้วยประการใดๆ ถา้ หนงั แนวดงั กลา่ วเกดิ ฮติ หนงั ในประเทศกจ็ ะตามขบวนแหก่ นั ต่อๆ มาอีกเยอะ) เราควรจะคา� นึงถึงความชินชาของคนดูหรือ นคี่ อื กระบวนการตรวจพจิ ารณาภาพยนตรต์ ามกฎหมาย คนเล่นทั้งประเทศด้วย ซึ่งส่วนหน่ึงของคนดูคนเล่นเหล่าน้ี หนังฉบับใหม่ท่ีเราเร่ิมใช้กันมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๑ หลายคนอาจจะมีวัยวุฒิและประสบการณ์ในชีวิตที่อาจจะยัง เมอื่ รทู้ ฤษฎแี ลว้ เรากน็ า่ จะมารกู้ ารปฏบิ ตั กิ นั ตอ่ ดว้ ยวา่ มอี ะไร ไมม่ ากนกั ซง่ึ อาจจะชนิ ชากบั ความรนุ แรงเหลา่ นม้ี ากขน้ึ ได้ เพราะ เกิดข้นึ บ้างในการปฏิบตั ิที่ผ่านมา ฉะน้นั การทจี่ ะตัดสนิ ใจเลอื กประเภท เรากค็ วรคิดกนั ให้กว้างๆ ว่ามติท่ีเราเห็นว่า ‘เหมาะสมกับคนอายุเท่าน้ันเท่านี้’ ต้อง จะเป็นโชคดหี รอื โชคร้ายกไ็ มแ่ นใ่ จนกั ทผี่ มมโี อกาสไดใ้ ช้ ครอบคลมุ หรอื คา� นงึ ไปถงึ สงิ่ เหลา่ นด้ี ว้ ย เพราะฉะนนั้ ถา้ เราจะทา� กฎหมายฉบบั นม้ี าตง้ั แตแ่ รกเรม่ิ เมอ่ื ผมไดร้ บั แตง่ ตง้ั จากรฐั มนตรี หน้าที่กันอย่างจริงจังเคร่งครัดแล้ว หลายกรณีท่ีวิจารณญาณ วา่ การกระทรวงวฒั นธรรมใหเ้ ปน็ ‘กรรมการพจิ ารณาภาพยนตร’์ อาจจะเหมาะสมกวา่ ลายลกั ษณอ์ กั ษร นเ่ี ปน็ ตวั อยา่ งของความคดิ ตามกฎหมายน้ีด้วยคนหนง่ึ เป็น ๑ ใน ๗ ของคณะกรรมการซงึ่ และการปฏบิ ตั ทิ เี่ รายดึ ถอื และกระทา� กนั อยู่ กอ่ นทกี่ ฎระเบยี บตา่ งๆ กฎหมายกา� หนดให้มาจากภาคราชการ ๔ คน และภาคเอกชน จะถูกเขยี นข้นึ ในยคุ ต่อมา ๓ คน ตาม พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา๑๖ วรรคสาม อย่างไรก็ตามดังท่ีกล่าวมาแล้วว่า การตรวจพิจารณา ภาพยนตร์ตามกฎหมายใหม่ กรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ ขณะทเ่ี รม่ิ ทา� หนา้ ทนี่ นั้ ‘กฎกระทรวงกา� หนดลกั ษณะของ ตอ้ งทา� หนา้ ทที่ งั้ การพจิ ารณาหนงั โรง (คอื หนงั ทจ่ี ะเขา้ ฉายในโรง) ประเภทภาพยนตร์’ ยงั ไม่ออก การท�างานของคณะกรรมการ และหนงั แผน่ (คอื หนงั ในรปู ของแผน่ ซดี แี ละดวี ดี )ี และทงั้ วดี ทิ ศั น์ พจิ ารณาภาพยนตรฯ์ จงึ ต้องใชก้ ฎหมายใหม่ฉบบั นเ้ี พยี วๆ โดย ทยี่ นื โรงดว้ ยคาราโอเกะและเกม ซงึ่ หนงั แผน่ คอ่ นขา้ งจะมปี ญั หา ไม่มมี กิ เซอร์หรือออนเดอะรอ็ กด้วยประการใดๆ คณะกรรมการ จกุ จกิ กวา่ หนงั โรง เพราะมจี า� นวนมากกวา่ ฝา่ ยเลขานกุ ารจงึ แนะนา� ชุดแรกเริ่มต้องบกุ เบิกงานกนั อยู่ในสภาพน้นี านพอประมาณ การตัง้ ‘อนกุ รรมการ’ ขน้ึ ช่วยพิจารณาก่อนในข้ันแรก ก่อนจะ ส่งต่อให้คณะกรรมการพิจารณาฯ ลงมติในข้ันต่อมาอีกที สนกุ ครบั ! เถยี งกนั หนา้ ดา� หนา้ แดงกวา่ จะไดม้ ติ และไดร้ ู้ แต่ถึงกระน้ันปัญหาของหนังแผ่นก็ไม่ค่อยจะมีอะไรยุ่งยาก ธรรมชาตขิ องกนั และกนั วา่ ใครเปน็ คนแบบใดแคไ่ หน? และใครมี เพราะผู้ขออนุญาตส่วนใหญ่ยอมรับมติอย่างไรก็ได้ (หรอื ไมม่ )ี ‘กน๋ึ ’ อย่างไรหรอื ไม?่ ทสี่ ามารถจะนา� มาใช้ประโยชน์ ส่วนวีดิทัศน์ค่อนข้างมีปัญหามาก แต่บังเอิญโลกยุค ได้ในการท�าหน้าท่ีเป็นกรรมการ ปี ๒๕๕๑ ถึง ๒๕๕๒ สังคมไทยยังมีแค่คนกลุ่มน้อยเล่นเกม กับคนกลุ่มใหญ่กินเหล้าเคล้าคาราโอเกะ จึงมีแค่ปัญหาร้าน อยา่ งไรกต็ ามการโตแ้ ยง้ กนั บนฐานของเหตผุ ลทที่ กุ คน มีอยู่และแต่ละคนควรจะมี สร้างความกลมกลืนให้เกิดข้ึน ทลี ะนอ้ ยๆ กอ่ นนา� ไปสสู่ งิ่ ทน่ี า่ จะเรยี กวา่ เปน็ ‘มาตรฐาน’ รว่ มกนั ได้ ในระยะเวลาตอ่ มา ขณะเดยี วกบั ทกี่ ฎกระทรวงประกาศฯ ระเบยี บวธิ ี 102

๑ คาราโอเกะริมทางท่ีกลายเป็นหน้าท่ีเด่นในการท�างานของ การตรวจพิจารณาภาพยนตร์มาเกิดการเปลี่ยนแปลง คณะกรรมการภาพยนตร์แห่งชาตอิ ยู่นานหลายปี ครง้ั ใหญ่ขน้ึ เมอื่ ประมาณ ๔ ปที ผี่ า่ นมาเมอื่ กระทรวงวฒั นธรรม ภายใตก้ ารนา� ของปลดั กระทรวงสมยั หนง่ึ ไดป้ รบั ปรงุ คณะกรรมการ ส�าหรับหนังโรง ปัญหาส่วนน้อยจากการตรวจพิจารณา พจิ ารณาภาพยนตรใ์ หม้ จี า� นวนมากขนึ้ จากทเี่ คยมเี พยี ง ๑ คณะ ที่อาจจะมีบ้างก็คือ การที่หนังบางเรื่องได้รับการจัดให้อยู่ใน ก็เพ่มิ ขน้ึ เป็น ๕ คณะ ท้ังนไ้ี ม่นับอีก ๑ คณะทรี่ ับผดิ ชอบเฉพาะ ประเภท (๖) คือห้ามผู้มีอายุต�่ากว่า ๒๐ ปีดู ผู้ท่ีขออนุญาต การตรวจพจิ ารณาวดี ทิ ศั นแ์ ตเ่ พยี งอยา่ งเดยี ว การตรวจพจิ ารณา อาจจะไมแ่ ฮปปเ้ี พราะเกรงวา่ การทห่ี นงั ถกู จดั ใหอ้ ยใู่ นประเภทนี้ ภาพยนตร์จึงเร่ิมปรากฏเป็นข่าวมากข้ึนซ่ึงหลายเร่ืองเป็นข่าว อาจจะมผี ลตอ่ รายไดจ้ ากการฉายในโรงทอี่ าจลดนอ้ ยถอยลงไปบา้ ง ที่โด่งดังเกรียวกราวกว่ายุคแรกและทุกเรื่องก็มักเป็นไปตาม จงึ อยากตอ่ รองคณะกรรมการใหห้ าทางออกเพอ่ื ลดประเภทลงมา ธรรมชาตขิ องขา่ ว คอื ขา่ วรา้ ยจะขายดกี วา่ ขา่ วดี พรอ้ มๆ กบั ขา่ ว ปญั หานอ้ี ยใู่ นวสิ ยั ทจี่ ะแกไ้ ขไดถ้ า้ ผขู้ ออนญุ าตจะยอมรบั มตนิ น้ั การปรบั ปรงุ แกไ้ ขพระราชบญั ญตั หิ นงั ซง่ึ มที งั้ ขา่ วทร่ี าชการเสนอ ไปก่อน แล้วร่วมมือกับผู้ท�าหนังยอมแก้ไขตัดทอนภาพหรือ แก้ไขเอง และข่าวที่เอกชนเรียกร้องให้ราชการแก้ไขในประเด็น เนื้อหาบางอย่างตามท่ีคณะกรรมการช้ีแนะ จากน้ันก็ส่งหนังท่ี บางเร่ืองท่ีเอกชนกลุ่มน้ันมีส่วนเก่ียวข้องและได้รับผลท่ีไม่น่า แก้ไขแล้วมาเข้าสู่กระบวนการตรวจพิจารณาใหม่อีกครั้ง สิ่งท่ี พึงพอใจบางประการ ต้องการกอ็ าจจะบรรลุผลไปได้ด้วยดี 103เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

ผมเหน็ ดว้ ยอยา่ งยงิ่ กบั ความคดิ ทตี่ อ้ งมกี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ข ทกุ เพศวยั ทงั้ คนจนคนรวย คนฉลาดคนไมฉ่ ลาด ยกเวน้ กลมุ่ เดยี ว ท้ังเน้ือหาบางอย่างของกฎหมาย และทั้งวิธีการใช้กฎหมาย คอื คนทพ่ี ิการทางสายตา ด้วยความเชอื่ ท่ีว่ากฎหมายใดก็ตามท่ีใช้มานานพอสมควรแล้ว ควรได้รบั การปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหท้ นั ยคุ ทนั สมยั มากขนึ้ โดยเฉพาะ ทา� อยา่ งไรเราจะตรวจพจิ ารณาหนงั โดยใหค้ นทงั้ สามฝา่ ยน้ี อยา่ งยง่ิ ในโลกยคุ ใหมท่ ท่ี งั้ เทคโนโลยแี ละจติ ใจคนลว้ นเปลย่ี นแปลง ‘ได้’ โดยเฉลี่ยไปใกล้เคียงกันทั้งหมด มิใช่ให้ฝ่ายหน่ึงฝ่ายใด มากขนึ้ และเรว็ ขน้ึ น้ี การปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงกย็ งิ่ จา� เปน็ มากขน้ึ ได้มากกว่าอกี ฝ่ายหนงึ่ หรือท้งั สองฝ่าย ในยุคปัจจุบนั กล่าวคือ เริ่มตั้งแต่ฝ่ายท่ี ๑ คือฝ่ายหนังก็ได้ คือหนัง ผมมคี วามเหน็ สว่ นตวั ในการมองภาพกวา้ งวา่ การตรวจ ของเขาได้ฉาย ส่วนฝ่ายท่ี ๒ ราชการก็ได้ คือได้ใช้กฎหมาย พิจารณาภาพยนตร์ในสังคมไทยทุกวันน้ีล้วนเกี่ยวข้องอยู่กับ ได้ดแู ลไม่ให้มกี ารฝ่าฝืนกฎหมาย จนในท่ีสดุ ฝ่ายท่ี ๓ คอื คนดู กลุ่มคน ๓ ฝ่ายนี้เท่านนั้ คือ ๑) ฝ่ายหนัง ๒) ฝ่ายราชการ และ กไ็ ด้ คือได้ดหู นงั ดังท่ีตนต้องการ ๓) ฝ่ายคนดหู นงั แม้ว่าส่ิงที่ได้นั้นจะไม่ใช่ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์แห่งความ ฝ่ายที่ ๑ นับรวมท้ังหมดต้ังแต่เจ้าของเงิน คนท�าหนัง ต้องการที่แต่ละฝ่ายอยากได้รับ แต่ถ้าเราจะท�า หรือพยายาม คนหากินกับหนงั ท่ีมีอยู่สารพัดธุรกิจซง่ึ รวมทัง้ โรงหนัง ท�าให้ทุกฝ่าย ‘ได้’ ให้มากท่ีสุดเท่าท่ีจะเป็นไปได้ และ ‘ได้’ ในปรมิ าณท่ใี กล้เคียงกันแล้ว ผลทไี่ ด้ก็น่าจะเป็นไปได้ดี ฝ่ายที่ ๒ คือผู้ใช้กฎหมายหนัง อันมีทั้งข้าราชการ ท้งั คณะกรรมการ ท่ีเก่ยี วข้องกับกฎหมายหนงั ในปัจจุบัน ท้ังหมดน้ีคือประสบการณ์และข้อคิดที่ผมขอฝากแด่ ผู้สนใจเรื่องหนงั ทกุ ท่านไว้ด้วยความรกั และนบั ถอื ฝ่ายท่ี ๓ คือประชาชนคนดูหนังทั้งประเทศท่ีมีคน 104



วฒั นธรรมวพิ ากษ์ อโนมา สอนบาลี สมั ภาษณ์ สทุ ศั น์ รุ่งศริ ิศิลป์ ภาพ ดนกาตร‘รปไีรทบั ปยรน’ทางวฒั นธรรม แตโ่ ด“ยผพมนื้ เฐปาน็ นอผามจเาปรน็ยคส์ นอนดนทตางรดไี ทา้ ยน”ดรนศต. รดีรเ.ปณน็ รงนคกัช์ ยดั นปฎิตกรรวี ชั ทิ ตย์ อาาจทารา� ยงป์ ารนะจทา� าสงาขดาา้ วนชิ าวดจิ นยั ตดรวีนทิ ตยราี วทิ ยาลยั ดรุ ยิ างคศลิ ป์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล กลา่ วยม้ิ ๆ เมอื่ เอย่ ถงึ ความเชย่ี วชาญพนื้ ฐาน ซงึ่ สอดคลอ้ งอยา่ งยง่ิ กบั ประเดน็ ทางวัฒนธรรมทตี่ ้องการวพิ ากษ์ในครงั้ นี้ คือเร่อื งของดนตรไี ทยกับความเปลย่ี นแปลงในแต่ละ ยคุ สมยั นอกจากจะอธบิ ายอยา่ งถอ่ งแทถ้ งึ ดนตรไี ทยในแตล่ ะยคุ สมยั แลว้ อาจารยย์ งั วพิ ากษถ์ งึ “ความไร้ กาลเวลา” ของดนตรไี ทยไดอ้ ยา่ งถงึ แกน่ ชวนตดิ ตามอยา่ งยง่ิ พฒั นาการของดนตรไี ทยในแตล่ ะชว่ งประวตั ศิ าสตรเ์ ปน็ อย่างไร โดยองิ ตามบริบทของสภาพสังคมทีเ่ ปลย่ี นไป โดยภาพรวมตง้ั แตป่ ลายสมยั อยธุ ยา ในชว่ งแรกดนตรไี ทย มีสองมิติ คือดนตรีท่ีเก่ียวกับพิธีกรรม หรือพระราชพิธีใน พระราชส�านัก และอีกประเภทหนึ่งคือวงดนตรีไทยเพื่อการฟัง คอื วงมโหรี นยิ มกนั ในหมขู่ า้ ราชการชน้ั ผใู้ หญท่ ม่ี กั จะมวี งดนตรี ของตัวเอง ต่อมาภายหลังราชส�านักจึงน�ามาใช้บ้าง ต่อมาใน สมยั รัตนโกสินทร์ พฒั นาการของดนตรีไทยเหน็ ได้ชดั ในรชั กาล ท่ี ๒ พระองค์ท่านทรงเป็นศลิ ปินและทรงเล่นดนตรีด้วย เครื่อง ดนตรีช้ินเอกก็คือซอสามสายที่ชื่อว่าสายฟ้าฟาด เม่ือในหลวง ทรงโปรดดนตรจี งึ เกดิ วงดนตรขี น้ึ มากมาย โดยเฉพาะการละเลน่ อยู่อย่างหน่ึงท่ีเกิดขึ้นในยุคนั้นคือการขับเสภา เมื่อแรกนั้นเกิด จากการเล่านทิ าน ตอนหลังจึงมกี ลอนเข้ามา พระองค์ท่านทรง 106

107เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

๑ ๒ ๑-๒ วงมโหรี คือวงดนตรไี ทยเพือ่ การบรรเทิง เป็นทีน่ ยิ มกนั ในหมู่ข้าราชการชัน้ ผใู้ หญใ่ นสมยั ก่อนมาก ซงึ่ สว่ นใหญม่ ักมวี งดนตรีเปน็ ของตนเอง นา� เสภามาเลน่ เขา้ กบั ดนตรี เกดิ วงดนตรที เี่ รยี กวา่ “วงปพ่ี าทย์ พอถึงรัชกาลท่ี ๕ พระองค์ท่านทรงโปรดดนตรีไทยและทรงมี เสภา” เรยี กวา่ เปน็ การปฏวิ ตั อิ ยา่ งแรงในชว่ งเวลานน้ั เพราะวา่ วงดนตรีเป็นของพระองค์เอง วงดนตรีไทยในสมัยรัชกาลท่ี ๕ วงปี่พาทย์จะใช้เพื่อพิธีกรรม ไม่เคยมีวงปี่พาทย์เล่นเพ่ือความ จงึ ไดร้ บั ความนยิ มอยา่ งมาก เกดิ การแขง่ ขนั การแตง่ เพลงใหมๆ่ บนั เทิงมาก่อนเลย ด้วยความแพร่หลายท่ีเกิดขึ้น ช่วงนน้ั จงึ เกิด ความนิยมนี้ได้เร่ิมกระจายไปสู่หัวเมืองต่างๆ ในต่างจังหวัด นักดนตรขี นึ้ มากมาย จนกระทง่ั ถงึ รชั กาลที่ ๖ ซง่ึ ดนตรีไทยนับว่ามคี วามรุ่งเรืองมาก เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นท้ังนักแต่งเพลงและมีนักดนตรี ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีอีกเหตุการณ์หนึ่งท่ีส่งผลกับ มีวงก�ากับ และยงั มีวงอุปถัมภ์ข้างนอกพระราชสา� นกั ดนตรีไทย นั่นคือใน พ.ศ. ๒๓๙๙ มีงานพิธีฉลองสมโภช พระแก้วมรกต จ�าเป็นต้องมีวงดนตรี ดนตรีพิธีกรรมใน ในรัชสมัยของรัชกาลท่ี ๖ มีนักดนตรีไทยท่ีมีฝีมือเยี่ยม วังหลวงมีแล้ว แต่ต้องการวงดนตรีบรรเลงเฉลิมฉลองพระแก้ว มากมาย จนถงึ ขนาดพระองคแ์ ตง่ ตงั้ ราชทนิ นามใหมพ่ ระราชทาน มรกตด้วย พระองค์ท่านจึงทรงขอแรงวงปี่พาทย์จากบรรดา แก่นักดนตรีถึง ๕๐ กว่าชื่อ เช่น พระยาประสานดุริยศัพท์ เจ้านายและข้าราชการ เป็นวงปี่พาทย์เสภาถงึ ๑๖ วง แบ่งเป็น พระประดบั ดรุ ยิ กจิ หลวงประดษิ ฐไพเราะ พระยาเสนาะดรุ ยิ างค์ วงปี่พาทย์เสภาท่ีบรรเลงด้วยศิลปินชาย ๑๒ วง วงปี่พาทย์ พระสรรเพลงสรวง หลวงพวงสา� เนยี งรอ้ ย หลวงสรอ้ ยสา� เนยี งสนธ์ิ เสภาทศ่ี ลิ ปนิ หญงิ บรรเลง ๔ วง นบั เปน็ การสนองพระราชดา� รขิ อง หลวงคนธรรพบรรเลง หลวงบรรเลงเลิศเลอ ขุนบา� เรอจิตรจรุง ในหลวง ซงึ่ สามารถระดมวงป่พี าทยเ์ สภามาได้เป็นจ�านวนมาก ขนุ บา� รงุ จติ รเจรญิ เปน็ ต้น ในขณะทเี่ มอื่ ถงึ รชั กาลท่ี ๗ พระองค์ 108

ท่านรวมท้ังสมเด็จพระนางเจ้าร�าไพพรรณี ทรงดนตรีไทย ในหลวงรชั กาลปจั จบุ นั ทา่ นทรงใหค้ วามส�าคญั กบั ดนตรี ท้ังสองพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงจะเข้ และในหลวง ไทย และได้เคยมพี ระราชด�ารัสเกี่ยวกบั เรือ่ ง “โนต้ ๗ ตวั ” รัชกาลท่ี ๗ ทรงซอ และทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้ ๓ เพลง เอาไว้ รายละเอียดและความส�าคญั ของเรื่องน้ีเป็นอย่างไร คือ “โหมโรงคลน่ื กระทบฝง่ั สามช้ัน” “เขมรลออองค์” และ “ราตรีประดับดาว” ส่วนรัชกาลท่ี ๘ ท่านทรงดนตรีสากล พูดถึงระบบเสียงท่ัวๆ ไปก่อน ระบบเสียงของสากลมี และในรัชกาลปัจจุบันคือในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองค์ทรง เครอื่ งเสยี งระบบเซมโิ ทน คอื ๑๒ ครงึ่ เสยี ง นคี่ อื โครงสรา้ งสากล โปรดด้านดนตรแี จ๊ส แต่ทรงสนบั สนุนดนตรไี ทย เช่น พระองค์ แต่เม่ือ ๒๐๐ ปีท่ีแล้ว นักวิชาการในยุโรปได้ตกลงในเร่ืองของ ท่านเคยทรงเรียกคุณครูเทียบ คงลายทอง ผู้เป็นเอตทัคคะ ระบบเสียงที่ยึดเป็นมาตรฐาน ถกเถียงประชุมกันหลายเที่ยว ทางด้านปี่ เพื่อให้เข้าไปแล้วถวายแนะน�าความรู้ทางด้านปี่ ทา้ ยทสี่ ดุ จงึ ตกลงไดค้ วามถม่ี าตรฐานของโนต้ ตวั A (ลา) กา� หนด รวมทั้งทรงส่งเสริมพระราชโอรส พระราชธิดาให้ทรงดนตรีไทย ไว้ที่ ๔๔๐ เฮริ ตซ์ เป็นความถ่ที วี่ งออเคสตราใช้เป็นหลักในการ สมเด็จเจ้าฟ้าชายทรงขับร้องเพลงไทยไพเราะมาก ส่วนสมเด็จ ตง้ั เสยี ง จนกระทงั่ ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ในหลวงทรงมพี ระราชด�าริ พระเทพรตั นฯ ทรงเลน่ ดนตรไี ทยไดห้ ลายประเภท แตเ่ ดมิ พระองค์ ให้ทางคณะวิศวกรรม จุฬาลงกรณ์ฯ ท�าการศึกษาระบบเสียง ท่านทรงซอก่อน ตอนหลงั ทรงโปรดทรงระนาดเอกด้วย ดนตรไี ทย โดยสา� รวจบา้ นนกั ดนตรซี งึ่ คอื สา� นกั ดนตรไี ทยหลายๆ ส�านกั เช่น หลวงประดษิ ฐไพเราะ เรียกบ้านฝั่งพระนคร เป็นต้น 109เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงพระปรีชาสามารถในการทรงเคร่ืองดนตรีไทยอยา่ งเชีย่ วชาญ สรปุ คือได้ค่าความถี่มาท่ตี วั โด ๕๐๐ ในขณะที่ค่าความ ทลู เกลา้ ฯ ถวายในหลวง ใหท้ รงประทานพระราชวนิ จิ ฉยั วา่ ควรหา เป็นกลางของตะวันตกคือ ๕๒๓ เมื่อคณะส�ารวจไปวัดระดับ ค่าเป็นกลางของเสียงหรือไม่ ในหลวงพระองค์ท่านมีพระราช- เสียงแล้วปรากฏว่าค่าอ๊อกเทฟ ๗ เสียง ของทุกส�านักวัดใน วินิจฉัยว่า ความต่างระดับเสียงของแต่ละบ้านแต่ละส�านัก ช่วง ๑ ทบเสียง จากเสียงท่ี ๑ ถึงเสียงท่ี ๘ มีค่าระดับเท่า คือความเป็นวัฒนธรรมดนตรีของไทย จึงให้รักษาไว้ให้เป็น กนั หมด ต่างกันเฉพาะรายละเอียด เช่น เมือ่ เริม่ ระดับเสยี งต่�า เอกลักษณ์ทาง “เสยี ง” ของแต่ละบ้านแต่ละส�านักดนตรี สุดปลายทางจะต�่า ถ้าเริ่มต้นสูง ปลายทางจะสูง คือความยาว ของ ๑ ทบเสยี งเท่ากนั แต่ระดับเสียงเริม่ ต้นมีความแตกต่างกัน นอกจากพระองค์ท่านจะทรงให้ความส�าคัญกับความ คณะท�างานของคณะวิศวกรรมศาสตร์จึงน�าข้อมูลดังกล่าว ละเอียดอ่อนของดนตรีไทยแล้ว การที่พระองค์ท่านสนับสนุน ใหพ้ ระราชโอรสและพระราชธดิ าใหส้ นใจในดนตรไี ทย โดยเฉพาะ 110

อยา่ งยงิ่ สมเดจ็ พระเทพรตั นฯ ผมคดิ วา่ เปน็ คณุ ปู การทเ่ี ราอธบิ าย คอื เปลย่ี นไปเลย สว่ นคา� วา่ “ปรน” คอื คอ่ ยๆ ผอ่ นปรบั ไปตามยคุ ด้วยค�าพูดไม่ได้เลย ผมเคยถามเด็กๆ ว่า ความฝันคืออะไร สมยั ของกาลเวลา มเี ดก็ คนหนงึ่ ใหค้ า� ตอบวา่ “ในชวี ติ อยากเลน่ ดนตรรี ว่ มวงดนตรี กับสมเด็จพระเทพฯ” แล้วปรากฏว่าเด็กคนน้ีพยายามเรียน ส่วนความไพเราะและเอกลักษณ์ของดนตรีไทยน้ันมี อยา่ งหนกั ในทสี่ ดุ กส็ อบเขา้ ศกึ ษาทคี่ ณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์ ครบทุกรสเลย นอกจากนั้นยังมีการปรับเปล่ียนมาตลอด มหาวทิ ยาลยั ทสี่ ดุ กส็ มหวงั ดงั มงุ่ ไว้ วนั หนง่ึ เดก็ คนทวี่ า่ นม้ี าบอก คล้ายๆ กับเมื่อเราพูดถึงคนไทยที่ยังเป็นคนไทยอยู่เหมือนเดิม ผมวา่ “อาจารยณ์ รงคช์ ยั ครบั ความฝนั ของผมเปน็ จรงิ แลว้ ” เพียงแค่เปล่ียนเสื้อ วันพระไปท�าบุญที่วัดสวมแบบหนึ่ง วัน เพราะในงานดนตรีไทยอุดมศึกษา เขาได้ร่วมวงมหาดุริยางค์ สงกรานต์เป็นวันเทศกาลตามประเพณีสวมอีกแบบ แต่ไม่ว่า นีเ่ ป็นเพยี งหนึง่ ในตัวอย่างของแรงบนั ดาลใจ จะสวมเสื้อผ้าแบบไหน ย่อมหมายถึงว่าเป็นคนไทยที่พูด ภาษาไทย มีชีวิตอยู่ในบริบทของวัฒนธรรมไทย เพราะฉะน้ัน ในมมุ มองของนกั ดนตรวี ทิ ยา ดนตรไี ทยสามารถปรบั เปลย่ี น ผมบอกไดเ้ ลยวา่ ดนตรไี ทยไมห่ ยดุ นง่ิ ถามวา่ มกี ารแตง่ เพลงไหม บรบิ ทใหเ้ ขา้ กบั ยคุ ปจั จบุ นั อยา่ งไร ความไพเราะหรอื เอกลกั ษณ์ ค�าตอบก็คอื ยงั คงมีการแต่งเพลงใหม่อยู่ การบรรเลงดนตรีไทย ของดนตรไี ทยท่กี า้ วข้ามกาลเวลาคืออะไร มที งั้ ทย่ี งั คงรกั ษาแบบแผนดง้ั เดมิ และทป่ี รบั ปรนเขา้ กบั ยคุ สมยั ผสานร่วมยุคกับปัจจุบัน เช่น การบรรเลงดนตรีไทยร่วมกับ ในยคุ สมยั หนงึ่ จา� นวนคนทส่ี นใจดนตรไี ทยมจี า� นวนนอ้ ย ดนตรีสากล สิ่งเหล่านี้คือการปรับปรนท่ีปรากฏอยู่ กลุ่มคนที่ แต่แน่น เข้ม รู้ลึก เล่นจริง แต่คนในสมัยนั้นอยู่ในแวดวงท่ีแคบ นิยมฟังดนตรีไทยแบบแผนยังมีมาก คนฟังดนตรีไทยร่วมสมัย ในขณะที่ปัจจุบันผมมองว่าดนตรีไทยยังอยู่ และยังอยู่อย่าง ก็มีมากเช่นกัน เมื่อคนฟังที่ถือว่าเป็นผู้บริโภคดนตรีไทยทั้ง แขง็ แรงดว้ ย แตเ่ ราตอ้ งไมเ่ ทยี บกบั จา� นวนประชากรนะ ไมเ่ ทยี บกบั ๒ แบบ มีมากจึงไม่น่าห่วงถึงอนาคตของดนตรีไทย เพลงไทย ความแพร่กระจายของวฒั นธรรมตะวนั ตก ซ่งึ เข้ามาแล้วดึงคน โดยภาพรวมก็คือ รสนิยมของผู้ฟังที่มีต่อดนตรีไทยยังคง ออกไปหมดเลย ซ่ึงเป็นปัญหาของทุกชาติเมื่อพูดถึงดนตรีไทย ด�าเนนิ ต่อไป แบบแผน ในปัจจุบันดนตรีไทยยังแผ่ขยายออกไป การแผ่ขยาย ออกมานเี้ กดิ จากระบบการศกึ ษา การศกึ ษาสมยั กอ่ นเรยี นดนตรี ปัจจบุ ันดนตรีไทยยังอยู่อยา่ งแข็งแรง ซ่งึ มที ้ังทบี่ รรเลงในแบบแผนด้งั เดิม ตอ้ งไปเรยี นในบา้ นครู แตใ่ นหลกั สตู รการศกึ ษาปจั จบุ นั ทกุ คนตอ้ ง และปรบั ปรนเพ่อื ใหเ้ ข้ากบั ยุคสมัย เรยี นดนตรไี ทย และในบางโรงเรยี น บางมหาวทิ ยาลยั เปดิ สอนวชิ า เอกดนตรมี ากมาย ลองไปดกู ารจดั ประกวดดนตรไี ทยตา่ งๆ เชน่ 111เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙ มลู นธิ หิ ลวงประดษิ ฐไพเราะ เดก็ ๆ มาประกวดกนั ใชเ้ วลาเปน็ เดอื นๆ ยังไม่หมดเลย เพราะฉะนั้นการแผ่ขยายความนิยมของดนตรีไทย ในยุคปัจจุบัน สถาบันการศึกษารับหน้าท่ีน้ีไป แม้กระทั่งในแง่ ของคนทั่วไปที่เรียนเพ่ือเป็นคนบริโภคดนตรีไทย ยังนับว่า คุ้มแล้ว ในส่วนของช่องทางในการเสพดนตรไี ทย อย่าลมื นะว่า การฟังดนตรีในปัจจุบัน ไม่จ�าเป็นต้องมีวงมาเล่นแล้ว แต่ผลิต ออกไปขายในรปู ของซดี ี ตามช่องทางของผ้บู รโิ ภค ดนตรมี นั อยู่ ทเี่ สยี ง เสยี งมนั ยา้ ยเขา้ ไปอยใู่ นแผน่ เสยี ง อยใู่ นเครอื่ งอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เกยี่ วกบั การปรบั ตวั ในเรอื่ งน้ี ผมใชค้ า� วา่ “ปรบั ปรน” ทางวฒั นธรรม ดนตรี คอื จา� เปน็ ตอ้ งมกี ารปรบั แตไ่ มใ่ ชเ่ ปลยี่ นนะ เพราะถา้ เปลย่ี น

112

นิทศั นว์ ฒั นธรรม สทุ ศั น์ รุ่งฯ เร่อื งและภาพ หออคั รศลิ ปนิคลงั แหง่ งานขศอลิ งปแช์ ผนั้ น่ เดลนิศิ ดว้ ยความสนพระราชหฤทยั สว่ นพระองคผ์ นวก กบั พระอจั ฉรยิ ภาพ ทา� ใหพ้ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเปน็ เลศิ ทางดา้ นศลิ ปะหลายสาขา ไมว่ า่ จะเปน็ ดา้ น การดนตรีและการพระราชนิพนธ์เพลง ด้านทัศนศิลป์ ดา้ นวรรณศลิ ป์ ฯลฯ จนเปน็ ทป่ี ระจกั ษช์ ดั ถงึ พระปรชี า สามารถอันหาท่ีเปรียบมิได้ ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการ วฒั นธรรมแหง่ ชาตจิ งึ ไดท้ ลู เกลา้ ฯ ถวายพระราชสมญั ญา อคั รศลิ ปนิ ซงึ่ แปลวา่ ผมู้ ศี ลิ ปะอนั เลอเลศิ หรอื ผเู้ ปน็ ใหญใ่ นศลิ ปนิ แดพ่ ระองคท์ า่ น เมอื่ วนั ที่ ๒๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๒๙ อีกหนึ่งทศวรรษต่อมา ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ กรมส่งเสริม วัฒนธรรม กระทรวงวฒั นธรรม จงึ ได้ก่อตง้ั หออัครศิลปิน เพอ่ื เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาส ทที่ รงครองราชยค์ รบ ๕๐ ปี ณ ตา� บลคลองหา้ อา� เภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเม่ือวันจันทร์ท่ี ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ พระราชด�าเนนิ แทนพระองค์ 113เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

ทรงเป็นวิศษิ ฏศลิ ปิน รายล้อมด้วยอาคารรูปตวั U ซง่ึ เป็นส่วน จัดแสดงนิทรรศการประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ ตวั อาคารมี ๓ ชัน้ แบ่งเป็น ๗ ห้อง ประกอบด้วย ห้อง บริหาร ๑ ห้อง ห้องนิทรรศการชว่ั คราว ๑ ห้อง ห้องนทิ รรศการ ถาวร ๕ หอ้ ง ซงึ่ แบง่ เปน็ การจดั แสดงนทิ รรศการพระอจั ฉรยิ ภาพ ดา้ นศลิ ปะและวฒั นธรรมของอคั รศลิ ปนิ ๒ หอ้ ง และนทิ รรศการ เผยแพร่ประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ ๓ ห้อง โดย ใช้สื่อผสมท่ีทันสมัย เช่น วีดิทัศน์ คอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย วิดีโอซีดี ภาพดรู าแทน ไดโอรามา คาราโอเกะ ตู้ถ่ายสติกเกอร์ และสไลด์มัลติวิชัน เพื่อถ่ายทอดให้ผู้เข้าชมได้ประจักษ์แจ้ง ในผลงานอันเกิดจากพระปรีชาสามารถอันหาท่ีเปรียบมิได้ของ ๑ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั หออัครศิลปินแห่งน้ีถือก�าเนิดด้วยความมุ่งหวังให้เป็น พืน้ ท่ีจัดแสดงผลงานแห่งองคร์ าชนั ย์ ศูนย์กลางจัดแสดงผลงานพระอัจฉริยภาพด้านศิลปวัฒนธรรม ในฐานะทรงเป็น “อคั รศลิ ปนิ ” และเพ่ือสนองพระราชด�ารัส สว่ นจดั แสดงทเ่ี ปรยี บไดก้ บั หวั ใจสา� คญั ของหออคั รศลิ ปนิ ของสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ท่ีว่า แห่งนี้ ได้แก่ ห้องอัครศิลปิน บนชั้นท่ี ๒ จัดแสดงผลงานแห่ง พระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของพระบาท “ผลงานของศลิ ปนิ แหง่ ชาตเิ ปน็ มรดกทางศลิ ปะอนั ลา้� คา่ สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว และ ห้องอัครศิลปิน บนชน้ั ที่ ๓ จัดแสดง ของชาติเป็นเครื่องหมายแสดงอารยธรรมอันสูงส่งของชาติไทย ดนตรีและการพระราชนพิ นธ์เพลง ควรแกก่ ารภาคภมู ใิ จของคนไทยทงั้ ชาตจิ งึ จา� เปน็ ตอ้ งจดั ทา� เนยี บ ข้ึนบัญชีอย่างเป็นระบบ เพ่ือประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า ส�าหรับห้องอัครศิลปิน บนชั้นท่ี ๒ พื้นท่ีกลางห้องเป็น และรกั ษาไว้เป็นสมบัตขิ องชาติโดยส่วนรวมต่อไป” ท่ีประดิษฐานพระราชลัญจกรประจ�าองค์รัชกาลที่ ๙ จ�าลอง บนพานแว่นฟ้า อยู่ภายในบุษบกไม้ประดับกระจกปิดทอง เป็น ปจั จบุ นั เปดิ เปน็ แหลง่ การเรยี นรแู้ ละขมุ ทรพั ยท์ างปญั ญา เสมอื นตวั แทนพระองคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั บรเิ วณฐาน แก่นิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไป และใช้เป็นศูนย์กลาง โดยรอบมสี อื่ วดี ทิ ศั นแ์ สดงพระราชประวตั แิ ละพระราชกรณยี กจิ ฝึกอบรมวิชาศิลปะสารพัดแขนงโดยเหล่าศิลปินแห่งชาติ เพ่ือ จา� นวน ๙ ตอน โดยมฉี ากหลังเป็นจิตรกรรมฝาผนงั เรอื่ งไตรภูมิ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และถ่ายทอดความรู้ระหว่างศิลปิน ดา้ นซา้ ยและดา้ นขวาเปน็ กระจกแกะลายเทพชมุ นมุ สอื่ ความหมาย นกั เรยี น นสิ ิต นักศึกษา และประชาชนทว่ั ไป ว่าเหล่าเทพเทวดาล้วนสักการะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เปรยี บประดจุ สมมุติเทพ ตัวอาคารมีรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบไทยร่วมสมัย ท่ีประยุกต์จากสถาปัตยกรรมไทยประเพณี ออกแบบโดย บริเวณโดยรอบน�าเสนอพระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะ นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ภายใต้ และวฒั นธรรมทงั้ ๖ ดา้ นของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อาทิ แนวคิด “อคั รศลิ ปนิ รายลอ้ มดว้ ยศลิ ปนิ แหง่ ชาติ ซง่ึ พระองค์ คุณธรรมตามพระราชด�ารัส ๙ ประการ พระอัจฉริยภาพด้าน ทรงใหก้ ารอปุ ถมั ภ”์ ภายในอาคารจึงประกอบด้วยพ้ืนที่หลัก หตั ถศลิ ป์ พระอจั ฉรยิ ภาพดา้ นภมู สิ ถาปตั ยกรรม พระอจั ฉรยิ ภาพ ซ่ึงจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและผลงานศิลปะ ด้านจติ รกรรม พระอัจฉรยิ ภาพด้านวรรณศลิ ป์ เป็นต้น ฝีพระหัตถ์ขององค์อัครศิลปิน และพระราชประวัติและผลงาน ของสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า สยามบรมราชกมุ ารี ในฐานะท่ี ด้านภูมิสถาปัตยกรรม น�าเสนอด้วยสื่อวีดิทัศน์และ ภาพพระราชกรณียกิจหลากหลายโครงการ ด้านหัตถกรรม 114 นา� เสนอพระปรชี าสามารถในการสร้างเรอื ใบซเู ปอรม์ ด มมุ ดา้ น

๓ ๒๔ ๑ พระราชลัญจกรประจำาองคร์ ัชกาลที่ ๙ บรเิ วณศนู ย์กลางหอ้ งอัครศิลปนิ บนชัน้ ท่ี ๒ ๒ มมุ น่าสนใจภายในห้องดนตรีและการพระราชนิพนธ์เพลง บนชั้นที่ ๓ ๓-๕ ผลงานอนั ทรงคณุ คา่ มากมาย อนั เป็นทป่ี ระจักษ์วา่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ทรงเป็นเอตทคั คะทางศลิ ปะหลายสาขา วรรณศลิ ปแ์ ละวาทศลิ ป์ จดั แสดงผลงานพระราชนพิ นธต์ า่ งๆ อนั ๕ ไดแ้ ก่ พระมหาชนก ทองแดง พระราชนพิ นธแ์ ปลเรอ่ื ง นายอนิ ทร์ ผปู้ ดิ ทองหลงั พระ และ ตโิ ต ทงั้ หมดลว้ นเปน็ ผลงานทเ่ี พยี บพรอ้ ม ด้วยเนื้อหาสาระ แฝงข้อคิดและมีความงดงามของภาษา อัน ประจกั ษ์ถงึ ความเป็นผู้ทรงพระอัจฉรยิ ภาพทางงานวรรณกรรม ดงั ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ประทานพระบรมราโชวาท ถึงจรรยาบรรณในการเขียนหนังสือในทัศนะของพระองค์ แก่ คณะกรรมการสมาคมนกั เขยี นแหง่ ประเทศไทย ณ พระต�าหนกั จติ รดารโหฐาน เมอ่ื วันศุกร์ท่ี ๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๕ ดงั นี้ 115เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

๒ ๑๓ ๑ บางส่วนของผลงานและรายนามศิลปินแหง่ ชาติ ภายในห้องจดั แสดงศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศลิ ป์ บนช้นั ที่ ๒ ๒ หอ้ งจดั แสดงผลงานศิลปนิ แห่งชาตสิ าขาวรรณกรรม อย่ชู นั้ ล่างของหออคั รศลิ ปนิ ๓ โรงหนังขนาดยอ่ ม ในสว่ นจดั แสดงผลงานศิลปินแห่งชาติสาขาศลิ ปะการแสดง บนช้ันท่ี ๒ ๔ ห้องวศิ ิษฏศิลปิน จัดแสดงผลงานชิ้นเยีย่ มของสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี “นักเขียน นกั ประพันธ์ งานส�าคญั ก็คอื แสดงความคิด จะไม่แสลง ไม่ท�าลายความคิดของประชากร ไม่ท�าลายผู้อื่น ของตนออกมาเป็นเร่ืองชีวิต หรือเร่ืองแต่งขึ้นมา เพื่อให้ผู้อ่ืน และตนเอง คือมีเสรีภาพในการเขียนอย่างเต็มท่ีในขอบเขต ได้ประโยชน์ คือความรู้บ้าง บันเทิงบ้าง นักแสดงความคิด ของศีลธรรม” สา� คญั มาก เพราะวา่ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ ชวี ติ ของมวลมนษุ ย์ อาจท�าให้ เกิดความคล้อยตามไป และตัวท่านเขียนดีก็ย่ิงคล้อยตาม ในส่วนของมุมจัดแสดงผลงานด้านจิตรกรรม น�าเสนอ กนั มาก ฉะนนั้ นกั ประพนั ธต์ ้องมคี วามรบั ผดิ ชอบสงู เพราะท่าน ผลงานจติ รกรรมฝพี ระหตั ถ์ตน้ ฉบบั ทพ่ี ระองค์ทรงสร้างสรรค์ขน้ึ เป็นผู้ปั้นความคิดและความบริสุทธ์ิในความคิดจึงเป็นเร่ืองที่ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๐๕ และ พ.ศ. ๒๕๐๗ ใหไ้ ดช้ มกนั อยา่ งใกลช้ ดิ ขณะที่ สา� คญั ดงั บทความกลน่ั กรองไวใ้ นสมองวา่ สงิ่ ทจี่ ะเขยี นออกมา มมุ จดั แสดงผลงานดา้ นประตมิ ากรรมและทางดา้ นการถา่ ยภาพ ของพระองคล์ ว้ นแตเ่ ปน็ ผลงานแหง่ อคั รศลิ ปนิ ทหี่ าชมไดย้ ากยงิ่ 116

ระบบการน�าเสนอในห้องจัดแสดงที่ส�าคัญนี้ได้น�าส่ือ ๔ คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเพ่ิมความน่าสนใจและช่วยประหยัด พลังงานตามวิถีแห่งความพอเพียง เม่ือผู้เข้าชมคุกเข่ารอบ ขณะทส่ี าขาศลิ ปะการแสดง แบง่ การจดั แสดงออกไปอยา่ ง บุษบก หรือเดินชมจุดต่างๆ โดยรอบ บรรยากาศภายในห้อง หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านดนตรีไทย ด้านนาฏศิลป์ ด้าน ก็จะค่อยๆ สว่างโดยอัตโนมัติพร้อมระบบบรรยายท้ังภาพ คตี ศลิ ป์ ดา้ นดนตรพี น้ื บา้ น ดา้ นเพลงลกู ทงุ่ ขบั รอ้ ง นกั แตง่ เพลง และเสียงผ่านส่ือวีดิทัศน์ และภาพพลิก ๓ มิติประกอบเสียง ดา้ นนกั พากย์ นกั แสดง ดา้ นภาพยนตรแ์ ละละคร โดยออกแบบพนื้ ที่ โดยท้ังหมดจะค่อยๆ ปิดการท�างานลงโดยอัตโนมัติเม่ือผู้ชม จดั แสดงบางสว่ นใหด้ คู ลา้ ยโรงมหรสพกลางแจง้ และโรงภาพยนตร์ เดินออกจากห้องจดั แสดง หออัครศิลปินนับว่าเป็นสถานท่ีที่มีความส�าคัญและ สา� หรบั หอ้ งอคั รศลิ ปนิ บนชนั้ ท่ี ๓ จดั แสดงพระอจั ฉรยิ ภาพ ทรงคณุ คา่ ยงิ่ ของไทย จนอาจเรยี กไดว้ า่ เปน็ สถานทส่ี �าคญั เพยี ง ด้านคีตศิลป์และการพระราชนิพนธ์เพลง เป็นที่ทราบกันดีอยู่ หน่ึงเดียวในประเทศไทยที่เหมาะแก่การศึกษาค้นคว้า อ้างอิง แลว้ วา่ พระองคท์ รงสนพระราชหฤทยั ดนตรมี าตงั้ แตท่ รงพระเยาว์ เกย่ี วกบั พระอจั ฉรยิ ภาพดา้ นศลิ ปวฒั นธรรมของพระบาทสมเดจ็ - ทรงจดั ต้งั วงดนตรีของพระองค์เองช่อื ว่า วงลายคราม และทรง พระเจา้ อยหู่ วั และศกึ ษาประวตั ผิ ลงานของศลิ ปนิ แหง่ ชาตสิ าขา พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จดั ตัง้ สถานีวทิ ยุ อ.ส. ขึ้นเม่อื ปี พ.ศ. ตา่ งๆ ทน่ี า� มารวบรวมไว้ ณ สถานทเ่ี ดยี วกนั โดยมเี จตจา� นงเพอื่ ๒๔๙๕ อีกทั้งทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้มากกว่า ๔๐ เพลง สร้างจิตส�านึกให้ตระหนักถึงคุณค่าความสา� คัญแห่งมรดกทาง ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสถึงพระอัจฉริยภาพอันเป็นท่ีประจักษ์ ศลิ ปวฒั นธรรมอนั เปน็ เอกลกั ษณป์ ระจา� ชาติ และชว่ ยกนั อนรุ กั ษ์ ในระดับนานาชาติ ผ่านการน�าเสนอด้วยระบบเสียงและภาพ ให้ด�ารงอยู่สืบไป ผ่านกิจกรรมแลกเปล่ียนประสบการณ์ และ ท่ีสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยตู้จัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ ถา่ ยทอดความรโู้ ดยศลิ ปนิ แหง่ ชาตสิ าขาตา่ งๆ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ขณะทรงดนตรีขนาดใหญ่ และตู้จัดแสดงของใช้ส่วนพระองค์ บริเวณกลางห้องเป็นการฉายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ใน หออคั รศิลปนิ : พระอริ ยิ าบถต่างๆ บนเพดานโค้ง และเวทกี ารแสดงขนาดย่อม ตงั้ อยทู่ ถ่ี นนเลยี บคลองหา้ ต�าบลคลองหา้ อา� เภอคลองหลวง พนื้ ทจี่ ดั แสดงผลงานของเหลา่ ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ จงั หวดั ปทุมธานี เปดิ วนั องั คาร-วนั อาทติ ย์ (หยดุ วนั จนั ทร)์ เวลา ๐๙.๓๐-๑๖.๐๐ น. นิทรรศการถาวรท่ีจัดแสดงประวัติและผลงานอันล้�าค่า ผู้สนใจสามารถเข้าชมโดยไม่เสยี ค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถาม ของศิลปินแห่งชาตจิ า� นวน ๑๕๑ ท่าน มีจา� นวน ๓ ห้อง ตั้งอยู่ บนช้ัน ๑ และช้ัน ๒ จัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการภาพและ โทรศพั ท์ ๐-๒๙๘๖-๕๐๒๐-๔ โทรสาร ๐-๒๙๘๖-๕๐๒๐ เทคโนโลยที ท่ี นั สมยั ซงึ่ ชว่ ยถา่ ยทอดผลงานและภมู ปิ ญั ญาของ ศลิ ปนิ แหง่ ชาตทิ งั้ ๔ สาขา คอื สาขาวรรณศลิ ป์ ศลิ ปะการแสดง 117เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙ ทัศนศิลป์ และสถาปัตยกรรม ให้มีความน่าสนใจน่าติดตาม โดยในแต่ละสาขาได้ลงรายละเอียดแยกย่อยอีกหลาย ด้าน ตวั อย่างเช่น สาขาวรรณกรรม แบ่งหัวข้อเป็น เชิดชูเกียรติ ศิลปินแห่งชาติ, ร้อยเรียงวรรณศิลป์, รังสรรค์ผลงาน, ประตูสู่ โลกแหง่ โลกวรรณศลิ ป,์ นทิ รรศการวรรณศลิ ป์ และหอ้ งถา่ ยทอด ภมู ปิ ัญญา สาขาทัศนศลิ ป์ แบ่งมมุ จดั แสดงออกเป็น ด้านจติ รกรรม ดา้ นสถาปตั ยกรรม ดา้ นภาพพมิ พ์ ดา้ นหตั ถศลิ ป์ ดา้ นออกแบบ ประยุกต์ศลิ ป์ ศลิ ปะงานผ้า และด้านภาพถ่ายศลิ ปะ

เปดิ อา่ น วนั ใหม่ เรอื่ ง ฉอคับรับศเยิลาปวนิ ชน เลิศล้�าในโลกหล้า สว่างฟา้ ดินเดียว กรมสง่ เสริมวฒั นธรรม ผู้แตง่ : ออ้ ม ประนอม ผ้แู ต่ง : กองบรรณำธิกำรมตชิ น กระทรวงวัฒนธรรม ส�ำนกั พิมพ์ : สถำพรบุ๊คส์ สำ� นกั พมิ พ์ : มติชน จัดพิมพ์เผยแพร่เน่ืองในวโรกาส หนังสือซ่ึงรวบรวมพระราชด�ารัส บอกเล่าเร่ืองราวพระราชประวัติ มหามงคลทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และพระบรมราโชวาทที่ส�าคัญของ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้ังแต่ ทรงครองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๗๐ ปี และเพอ่ื พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทพ่ี ระราชทาน ประสตู ิ เขา้ รบั การศกึ ษา พระอจั ฉรยิ ภาพ สง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นใหเ้ ดก็ และเยาวชน ในโอกาสต่างๆ อันมีสาระแง่คิดที่ดี อาหารทรงโปรด สุนัขท่ีทรงเลี้ยง และ จึงน�าเสนอผ่านภาพประกอบสวยงาม มปี ระโยชน์ หากน�าไปพจิ ารณาไตร่ตรอง คณุ ปู การทท่ี รงมอบไวแ้ กแ่ ผน่ ดนิ ไทย โดย อา่ นสนกุ เขา้ ใจงา่ ย เตม็ เปย่ี มดว้ ยเนอื้ หา และปฏิบัติให้เหมาะสม ย่อมน�าไปสู่ ถ่ายทอดผ่านความทรงจ�าของบรรดา สาระเกยี่ วขอ้ งกบั พระอจั ฉรยิ ภาพในดา้ น ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง เปน็ มงคลแกช่ วี ติ โดยได้ ลกู ศษิ ย์ ขา้ ราชการ นกั เรยี นทนุ ตลอดจน ต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสรมิ คา� อธบิ ายและตวั อยา่ งเพอ่ื ให้เข้าใจ ผู้ที่เคยรับใช้ใต้เบอ้ื งพระบาท ด้วยสา� นกึ ไมว่ า่ จะเปน็ ดา้ นจติ รกรรม ประตมิ ากรรม ง่ายและลึกซึ้งย่ิงขึ้น ก่อให้เกิดคุณค่า ในพระมหากรุณาธิคุณที่ตราตรึงอยู่ใน การถา่ ยภาพ ดนตรี หตั ถศลิ ป์ วรรณศลิ ป์ ในการพัฒนาชีวติ ต่อไป หัวใจอนั มิอาจลืมเลือน วาทศลิ ป์ และภูมิสถาปัตยกรรม จนเป็น ที่ยอมรับและช่ืนชมในพระปรชี าสามารถ ของพระองค์ในฐานะ “อัครศิลปิน” 118

เพหรตะกุ เจาา้รแณผส์ น่ า� ดคินัญขใอนงรเชัราสแมลยั ะ ปรีดิฉายาลกั ษณ์ ขอมองตพะเ่อพลงและดนตรี ผู้แต่ง : กองบรรณำธิกำรส�ำนกั พมิ พ์ ผแู้ ตง่ : เอนก นำวกิ มูล, ผแู้ ตง่ : พินิจ จนั ทร ศรีปญั ญำ ธงชัย ลขิ ติ พรสวรรค์ ส�ำนกั พิมพ์ : ปญั ญำชน สำ� นกั พิมพ์ : ศรปี ัญญำ ส�ำนักพมิ พ์ : พิมพค์ ำ� พระเจ้าแผ่นดินของเราทรงมีส่วน บันทึกประวัติศาสตร์พระราชวงศ์ พระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่ได้ ชว่ ยใหป้ ระเทศไทยเปลยี่ นผา่ นจากระบอบ ผา่ นพระบรมฉายาลกั ษณห์ รอื พระบรมรปู รับการกล่าวขานและยกย่องไปทั่วโลก ทหารเขา้ สรู่ ะบอบประชาธปิ ไตย พระองค์ ใน “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้านหน่ึง คือ การทรงพระราชนิพนธ์ ทรงช่วยให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติมา สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ บทเพลงและทรงการดนตรี พระองค์ทรง หลายตอ่ หลายครงั้ “พระเจา้ แผน่ ดนิ ของ และพระบรมวงศานวุ งศ”์ จากปกนติ ยสาร มีพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีหลากหลาย เราและเหตกุ ารณส์ า� คญั ในรชั สมยั ” จดั ทา� และหนงั สอื เกา่ อนั ทรงคณุ คา่ จ�านวนมาก ประเภท รวมทั้งยังเคยทรงดนตรีร่วมวง ขึ้นเพ่ือเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระมหา พร้อมค�าอธิบายเหตุการณ์ใต้ภาพซ่ึงให้ กบั คณะดนตรรี ะดบั โลกมาแลว้ หลายครง้ั กรุณาธิคุณ ตลอดจนพระราชกรณียกิจ สาระความรอู้ ยา่ งนา่ สนใจ นบั เปน็ สงิ่ พมิ พ์ ตลอดทง้ั บทเพลงทท่ี รงพระราชนพิ นธก์ ไ็ ด้ ทท่ี กุ พระองคท์ รงมตี อ่ ปวงชนชาวไทย อนั อันเป็นมงคลท่ีพสกนิกรชาวไทยจะได้มี ถกู นา� ไปบรรเลงจากวงดนตรรี ะดบั โลกมา เปน็ ทป่ี ระจกั ษ์และภาคภมู ใิ จของคนไทย ไว้เป็นศรีแก่ครอบครัว และห้องสมุดทุก แล้วหลายครา จนเป็นที่รู้จักและชื่นชอบ ท้งั ประเทศ เพ่ือจารึกไว้ในประวตั ศิ าสตร์ แห่งท่วั ประเทศไทยควรมีไว้เป็นหลักฐาน อย่างแพร่หลาย นับได้ว่าเป็นบทเพลง และเทิดทูนม่ิงขวัญของปวงชนชาวไทย สา� คัญ อันเป็นอมตะนิรนั ดร์กาลโดยแท้ ทุกคน 119เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

วัฒนธรรมปริทรรศน์ เมฉหลมิกพรรระมเกวียัฒรตนฯิ ธวรฒั รนมธรวรมิถนีถ�ำน่ิควำวมิถสไีุขทสยูช่ ำวไทย สืบสานมรดกวัฒนธรรมไทยให้มีความ ย่ังยืนสืบไป นอกจากการจัดงานที่ พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมำประกร จดั โดย กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม กระทรวง กรุงเทพมหานครแล้ว ยังได้กระจายการ รองนำยกรฐั มนตรี เป็นประธานเปิดงาน วฒั นธรรม จดั งานไปยังภูมิภาคต่างๆ ใน ๔ จังหวดั มหกรรมวัฒนธรรม วิถีถิ่น วิถีไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เพชรบุรี กระบี่ เฉลมิ พระเกยี รติ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ - จากนโยบายกระทรวงวัฒนธรรม และหนองคาย อยหู่ วั เนอ่ื งในโอกาสทรงครองสริ ริ าชสมบตั ิ ในการน�าความเป็นไทยสู่ใจประชาชน ครบ ๗๐ พรรษา และเฉลิมพระเกียรติ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจึงได้น�านโยบาย นำยวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรี สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ดังกล่าวมาสานต่อเป็นงำนมหกรรม ว่ำกำรกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนอื่ งในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลมิ วฒั นธรรม วถิ ถี นิ่ วถิ ไี ทย เฉลมิ พระเกยี รตฯิ กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม กระทรวงวฒั นธรรม พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม เพอื่ สบื สานมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ได้ตระหนักถึงความส�าคัญของมรดก ๒๕๕๙ เมอื่ วนั ที่ ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๙ ณ สร้างรายได้ให้แก่ศิลปินแห่งชาติ ศิลปิน ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ และ เวทกี ลางทอ้ งสนามหลวง กรงุ เทพมหานคร พื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์งานช่างฝีมือ มุ่งท่ีจะขับเคลื่อนให้เกิดความภาคภูมิใจ อาหารไทยใหแ้ กช่ มุ ชน นบั เปน็ การอนรุ กั ษ์ ในความเป็นไทยให้สืบสานอย่างยั่งยืน 120 ด้วยการปลกู ฝัง ส่งเสริม ค่านิยมพื้นฐาน ๑๒ ประการ สร้างความอยู่ดีมีสุข น�า รายไดท้ ย่ี ง่ั ยนื สคู่ รวั เรอื น ทอ้ งถน่ิ ประเทศ ชาติ จากการทอ่ งเทย่ี ว สนิ คา้ บรกิ ารทาง วัฒนธรรมและสินค้าจากภูมิปัญญาไทย ดว้ ยการจดั ทา� โครงการมหกรรมวฒั นธรรม วถิ ถี น่ิ วถิ ไี ทย เฉลิมพระเกยี รติฯ ด้วยมุ่ง สง่ เสรมิ อตั ลกั ษณค์ วามเปน็ ไทยใหป้ ระชาชน ชาวไทยมสี ว่ นรว่ มแสดงคา่ นยิ มความเปน็ ไทยในชีวิตประจา� วันเพมิ่ ขน้ึ

โดยภายในงานมหกรรมวัฒนธรรม นา� โดย ศิลปินแห่งชาติ ครชู ลธี ธำรทอง ภำคเหนอื จงั หวดั เชยี งราย ณ ศนู ยฝ์ กึ ครั้งน้ีมีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ การแสดงมหกรรมลิเกรวมดารา นา� โดย กองก�าลงั รกั ษาดนิ แดน วนั ที่ ๑๘-๒๒ นา่ สนใจมากมาย ตลอดระยะเวลา ๓ วนั เดน่ ชยั อเนกลำภ การแสดงรา� วง-ลลี าศ มนี าคม ๒๕๕๙ พบการแสดงพนื้ บา้ น ระหว่างวนั ท่ี ๒๖-๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๙ ของวงสุนทราภรณ์ ของลา้ นนา และการแสดงจากประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมหกรรมกำรแสดงพนื้ บำ้ น อนิ โดนีเซีย กัมพชู า และบงั กลาเทศ จำกท่ัวประเทศ ได้แก่ มหกรรมสะล้อ อีกท้ังพ้ืนท่ีโดยรอบสนามหลวงยังมี ภำคกลำง จงั หวดั เพชรบรุ ี ณ อทุ ยาน ซอ ซึง การแสดงกลองสะบัดชัย จาก การสาธติ มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม เฉลมิ พระเกยี รติ รชั การท่ี ๔ วนั ที่ ๒๕ ภาคเหนอื มหกรรมเพลงพน้ื บา้ นคณะแม่ ตา่ งๆ อาทิ กจิ กรรมภมู ปิ ญั ญาแพทยแ์ ผน - ๒๙ มนี าคม ๒๕๕๙ มกี ารแสดง อาทิ ขวญั จติ ร ศรปี ระจนั ต์ มหกรรมกลองยาว ไทย นวดแผนไทยจากวดั โพธิ์ การฝกึ อาชพี ร�าซัดชาตรี ลิเก เพลงอีแซว ล�าตัด มหกรรมแตรวง จากภาคกลาง มหกรรม การจ�าหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และการแสดงจากประเทศฟิลิปปินส์ โนรา, มหกรรมดิเกร์ฮลู ู , มหกรรมซมั เป็ง นอกจากน้ันประชาชนยังได้ร่วมสนุกกับ ศรลี งั กา และบรไู น จากภาคใต้ มหกรรมหมอล�า มหกรรม กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านและกีฬาไทย ภำคใต้ จงั หวดั กระบ่ี ณ สวนสาธารณะ พณิ แคนโปงลาง มหกรรมเรอื มอนั เร จาก เชน่ มหกรรมวา่ วไทย หมากรกุ คน โถกเถก ธารา วันที่ ๕ - ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ภาคอสี าน และการแสดงทน่ี า่ ตน่ื ตาตน่ื ใจ กระตว้ั แทงเสอื และทส่ี า� คญั ยงั มกี ารสาธติ พบการแสดงซัมเป็ง มะโย่ง โนรา กับมหกรรมคอนเสิร์ตลูกทุ่งแห่งสายน�้า และจา� หนา่ ยอาหารใหผ้ มู้ ารว่ มงานไดช้ มิ ดิเกร์ฮูลู การแสดงของศิลปินชื่อดัง และเรยี นรถู้ งึ วถิ ถี นิ่ กนิ แบบไทยอกี ดว้ ย เอกชัย ศรีวิชยั วงฌามา บ่าววี การ แสดงนานาชาติจากประเทศลาว เวียดนาม และบลั กาเรีย ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัด หนองคาย ณ ลานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยาม- บรมราชกมุ ารี วนั ที่ ๖-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ชมการแสดงฟ้อนไทพวน การแสดงประกอบแสง สี เสยี ง ตน้ กา� เนดิ แมน่ า้� โขง การแสดงของศลิ ปนิ แหง่ ชาติ บานเย็น รากแก่น ฉวีวรรณ ด�าเนิน ป. ฉลาดนอ้ ย และการแสดงจากประเทศ เมียนมา จนี และมาเลเซยี ตดิ ตามรายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ไดท้ ่ี www. culture.go.th หรอื ทาง www.facebook. com/DCP.culture (เฟซบกุ๊ กรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรม) ส่วนภูมิภาคติดต่อได้ที่ ส�านกั งานวัฒนธรรมจังหวัดท่ีจดั งาน 121เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

ตำมหำบคุ คลในภำพถวำยงำนเบอ้ื งพระยคุ ลบำท ๒ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ภำพที่ ๓ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม- สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดา� เนนิ เปน็ ราชกมุ ารี ทรงเจรญิ พระชนมายุ ๖๑ พรรษา องค์ประธานในพิธีเปิดงานภาคนิทรรศการ 122 ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๙ กรมส่งเสริม ในงาน “การนา� เสนอผลงานวจิ ยั แหง่ ชาติ วัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จึงได้จัด ๒๕๕๒” กรุงเทพมหานคร เม่ือวันที่ ๒๘ กิจกรรมตามหาบุคคลในภาพที่ได้มีโอกาส สิงหาคม ๒๕๕๒ คือ นายภูวเนศวร์ ถวายงานรบั ใชเ้ บอื้ งพระยคุ ลบาท ในขณะท่ี แกว้ บตุ รดี อาจารยโ์ รงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม ทรงประกอบพระราชกรณยี กจิ ทหี่ ลากหลาย วดั โพนชยั อา� เภอดา่ นซา้ ย จงั หวดั เลย จากทวั่ ทกุ ภมู ภิ าค ซงึ่ ผา่ นการคดั เลอื กจา� นวน ๖ ภาพ โดยมงุ่ หวงั ใหเ้ ดก็ และเยาวชนคนรนุ่ ใหม่ ภำพท่ี ๔ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ และประชาชนทั่วไปได้รับรู้ถึงพระจริยวัตร สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�าเนิน อนั งดงาม อนั เปน็ แนวทางในการอนรุ กั ษส์ บื สาน ไปทอดพระเนตรสา� นกั งานโครงการพฒั นา สรา้ งสรรคง์ านมรดกทางวฒั นธรรมตอ่ ไป พันธุ์กาแฟ จังหวัดเชียงราย เมื่อวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๔๒ คอื นางอารยี ์ อนุ่ กระโทก บคุ คลในภาพทงั้ ๖ ภาพ ไดแ้ ก่ ปจั จบุ นั ประกอบอาชพี ปลกู ดอกรกั ขาย และ ภำพท่ี ๑ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ รบั จา้ งทว่ั ไป สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�าเนิน ทรงเยี่ยมสวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพมหานคร ภำพที่ ๕ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ เมอื่ วนั ที่ ๗ มกราคม ๒๕๒๙ บคุ คลในภาพ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�าเนิน คอื นายกรชิ ชยั ยะ อดตี พนกั งานองคก์ าร โดยเฮลคิ อปเตอร์ ไปยงั เกาะปยู ู ตา� บลู ปยู ู สวนสตั ว์ สวนสตั วด์ สุ ติ อา� เภอเมอื ง จงั หวดั สตลู เมอื่ วนั ที่ ๔ มนี าคม ภำพที่ ๒ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ๒๕๕๒ ประทับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�าเนิน พระท่ีน่ัง ไปท่าเทียบเรือบ้านเกาะปูยู คือ ทรงสาธติ วธิ กี ารปรงุ อาหาร ในระหวา่ งเสดจ็ ฯ นายนาซาด หมดั ตกุ งั ปจั จบุ นั เปน็ สมาชกิ เยยี่ มโครงการอาหารกลางวนั ตามพระราชดา� ริ อบต. เกาะสาหรา่ ยชยั พฒั นา อ�าเภอเมอื ง โรงเรียนต�ารวจชายแดน บ้านส�านักเอาะ จงั หวดั สตลู ต�าบลเขาแดง อ�าเภอสะบ้าย้อย จังหวัด สงขลา เมอื่ วนั ที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๓๑ จา� นวน ภำพท่ี ๖ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ๒ ราย คอื นางพชั นี พชื มงคล ขา้ ราชการ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�าเนิน บา� นาญ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ไปทรงปลูกป่าชายเลนตามโครงการขยาย นางชะอมุ่ ดจุ ชาตบษุ ย์ เจา้ พนกั งานเคหกจิ พน้ื ทใี่ หม่ ตา� บลคลองโคน อา� เภอเมอื ง จงั หวดั เกษตรชา� นาญงาน สงั กดั สา� นกั งานเกษตร สมทุ รสงคราม เมอื่ วนั ท่ี ๗ กรกฎาคม ๒๕๔๒ จงั หวดั สงขลา คอื นายเดชา จอื เหลยี ง อดตี ผใู้ หญบ่ า้ น คลองโคน ปัจจุบันประกอบอาชีพธุรกิจ นากงุ้ ทจ่ี งั หวดั สมทุ รสงคราม

๖เทิดกพมุ ระภเกำยี พรตันิพธร์ ะวเจัน้ำมเสวือยไทย และกำรเปดิ ตวั ศนู ยฝ์ กึ มวยไทย โดย สวธ. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรมวยไทย คัดสรร คณะรฐั มนตรไี ดม้ มี ตเิ หน็ ชอบประกาศ ส�าหรับในปีนี้ สวธ. ได้จัดกิจกรรมวัน นกั มวยชนั้ ครชู อ่ื ดงั ในอดตี ทเ่ี ชยี่ วชาญใน ให้วันท่ี ๖ กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็น มวยไทยอย่างย่ิงใหญ่ โดยในช่วงเช้า แมไ่ มม้ วยไทยมารวมตวั กนั เพอ่ื ถา่ ยทอด “วันมวยไทย” ซึ่งตรงกับวันที่สมเด็จ ของวันที่ ๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๙ จัดให้มี ความรู้ เทคนิคด้านมวยไทยให้แก่ผู้เรียน พระสรรเพชญ์ท่ี ๘ (พระเจ้าเสือ) หรือ พธิ บี วงสรวงดวงพระวญิ ญำน “พระเจำ้ นอกจากจะท�าให้ครูมวยเหล่านี้ได้ใช้ ขนุ หลวงสรศักดิ์แห่งกรงุ ศรีอยุธยา เสดจ็ เสือ” พิธีไหว้ครูมวยไทย ต่อด้วยการ วิชาชีพให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ขึ้นครองราชย์ ตามต�านานน้ันขุนหลวง เเสดงการชกมวยโบราณ และในช่วงเย็น แลว้ ยงั เปน็ การสง่ เสรมิ เยาวชน คนรนุ่ ใหม่ สรศกั ดเ์ิ ปน็ ผทู้ มี่ คี วามสามารถดา้ นมวยไทย ได้จัดกำรเเข่งขันมวยไทยในรูปเเบบ ได้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาของชาติให้ อยา่ งมาก ทงั้ ยงั สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนไดเ้ หน็ ยุทธลีลำ ชิงถ้วยรางวัลนายกรัฐมนตรี อยู่คู่กับประเทศไทยต่อไป และส่งท้าย ถงึ คุณค่าของมวยไทยอกี ด้วย โดยไดร้ บั ความสนใจจากนกั เรยี น นกั ศกึ ษา กิจกรรมวันมวยไทยด้วยการแข่งขันการ และประชาชนทว่ั ไป เขา้ รว่ มในการแขง่ ขนั ชกมวยไทยระหว่างนักชกไทยช่ือดัง กับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) อย่างมากมาย ส่วนในภาคค�่าได้จัด นักชกนานาชาติชาย-หญิง ๒๐ คู่ ใน กระทรวงวัฒนธรรม ได้ตระหนักใน กำรแสดงจนิ ตลลี ำละครเทดิ พระเกยี รติ ระบบ One Round Knockout ยกเดยี วจอด ความสา� คญั ของมวยไทยกฬี าประจา� ชาติ พระมหากษัตริย์ต�านานนักสู้มวยไทย ถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง ๓ SD โดยได้ โดยได้ข้ึนทะเบียนเป็นมรดกภมู ปิ ญั ญำ “พระเจำ้ เสอื ” ซ่งึ ได้ บัวขาว บัญชาเมฆ รับเกียรติจาก นำยวรี ะ โรจนพ์ จนรตั น์ ทำงวฒั นธรรมของชำติ สำขำกฬี ำภมู -ิ มาเป็นผู้ถ่ายทอดบทบาทพระเจ้าเสือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มา ปัญญำไทย มำตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นประธานในงานวันมวยไทย ณ ศูนย์ วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 123เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙

กกับำกรำสรมับรมิหนำรำจผัดู้นกำ�ำรองำงนควก์ ัฒรนปธรกรคมรปอรงะจสำ� ว่ ปนี ๒ท๕อ้ ๕ง๙ถิน่ เม่ือวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ และศำสตรำจำรยส์ ำยนั ต์ ไพรชำญจติ ร นำงพิมพ์รวี วัฒนวรำงกูร อธิบดีกรม อาจารยป์ ระจา� คณะสงั คมสงเคราะหศ์ าสตร์ ส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดกำร มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ นอกจากนน้ั แลว้ สัมมนำผู้น�ำองค์กรปกครองส่วนท้อง ยังได้น�าผู้เข้าสัมมนาลงพื้นที่ศึกษา ถนิ่ กบั กำรบรหิ ำรจดั กำรงำนวฒั นธรรม ดงู านการบรหิ ารจดั การงานวฒั นธรรมของ ประจ�ำปี ๒๕๕๙ เพื่อส่งเสริมความรู้ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีประสบผล ความเข้าใจให้แก่องค์กรปกครองส่วน ส�าเร็จในพ้ืนท่ีชุมชนเกาะเกร็ด อ�าเภอ ท้องถนิ่ (อปท.) ในการร่วมมือกันส่งเสริม เมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เพ่ือน�ามา ใจอย่างต่อเนอ่ื งนบั ต้งั แต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ การด�าเนินงานวฒั นธรรมในส่วนภูมิภาค สรุปแนวทางส่งเสริมการบริหารจัดการ และเพอื่ ใหก้ ารดา� เนนิ งานดา้ นวฒั นธรรม อย่างมีพลัง โดยมีผู้บริหาร อปท. และ และบูรณาการการด�าเนินงานวัฒนธรรม เปน็ ไปอยา่ งตอ่ เนอ่ื งในปงี บประมาณ พ.ศ. เจ้าหน้าทผี่ ู้รบั ผดิ ชอบ จา� นวน ๑๐๓ คน ของท้องถ่ินต่อไป ๒๕๕๙ สวธ. จึงได้จัดสัมมนาเร่ืองผู้น�า เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้และนับเป็น องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ กบั การบรหิ าร โอกาสอันดียิ่งท่ีทุกคนจะได้รับความรู้ กองกจิ การเครอื ขา่ ยทางวฒั นธรรม สวธ. จัดการงานวัฒนธรรม เมื่อวันที่ ๑๗-๑๙ ๒ จากผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ างด้านการบรหิ ารงาน ไดด้ า� เนนิ การสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การดา� เนนิ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๙ เพอื่ ใหเ้ กดิ การบรู ณาการ งานดา้ นวฒั นธรรมขององคก์ รปกครองสว่ น งานวัฒนธรรมกับองค์กรภาคีเครือข่าย วฒั นธรรม ไดแ้ ก่ นำยสมชำย เสยี งหลำย ทอ้ งถน่ิ โดยการมอบโลย่ กยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ ในการร่วมอนุรักษ์และสืบสานงานศิลป- อดตี ปลดั กระทรวงวฒั นธรรม นำงสนุ นั ทำ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ดเี ดน่ ทางดา้ น วฒั นธรรมของชาตสิ บื ไป มติ รงำม รองอธบิ ดกี รมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม วัฒนธรรม เพ่ือเป็นการสร้างขวัญก�าลัง 124

เสสฉยวลำธิมมพ.บรรจะมัดเรกกำยี ชำรกตรุมสิปำมรรเีดะจ็ กพวรดะเคทัดพรลัตำนยรมำชือสุดำฯ กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม (สวธ.) กระทรวงวฒั นธรรม ร่วมกบั และยังสร้างพฤติกรรมที่เป็นนิสัยติดตัวไปในระยะยาว ท�าให้รู้จัก มลู นธิ สิ มเดจ็ พระเทพรตั นรำชสดุ ำ ได้จัดการประกวดคัดลายมือ ความเปน็ ระเบยี บ มกี ารทา� งานทเี่ รยี บรอ้ ย และยงั ชว่ ยในเรอ่ื งการจดั ระดบั ประถมศกึ ษา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ ระบบความคดิ อกี ดว้ ย” โดยผทู้ ไ่ี ดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ โลเ่ กยี รตยิ ศจาก สยามบรมราชกมุ ารี รอบชงิ ชนะเลศิ ระดบั ประเทศ ณ ศนู ยว์ ฒั นธรรม สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี พรอ้ มเงนิ รางวลั แหง่ ประเทศไทย เมอ่ื วนั ท่ี ๑๔ มนี าคม ๒๕๕๙ เพอื่ เปน็ การอนรุ กั ษ์ ๕๐,๐๐๐ บาท ไดแ้ ก่ เดก็ หญงิ ฐติ ชิ ญำ แนวโนนทนั โรงเรยี นบา้ นเปา้ ภาษาไทยทถ่ี กู ตอ้ งและสง่ เสรมิ ใหเ้ ยาวชน โดยเฉพาะนกั เรยี นระดบั (สา� ราญไชยวิทยา) จังหวดั ชยั ภูมิ ประถมศกึ ษา ไดพ้ ฒั นาทกั ษะการเขยี นมคี วามเขา้ ใจในรปู แบบของ อกั ษรไทยและสรา้ งทกั ษะในการเขยี นอกั ษรไทยได้ถกู ตอ้ งสวยงาม นำงพิมพ์รวี วัฒนวรำงกูร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ตามแบบแผนมากข้นึ กล่าวว่า คร้ังน้ีมีเยาวชนจากทัว่ ประเทศกว่า ๑,๐๐๐ คน เข้าร่วม การประกวด จงึ เป็นทนี่ า่ ยนิ ดวี ่าเยาวชนตระหนกั ถงึ คณุ คา่ และเหน็ โดยนำยด�ำรงค์ ทองสม รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็น ความส�าคญั ของภาษาไทย น�าไปสู่การส่งเสรมิ การใช้ภาษาไทยให้ ประธานในการมอบรางวลั และไดก้ ลา่ วใหโ้ อวาทความตอนหนงึ่ วา่ ถกู ตอ้ งและสวยงามตามแบบแผนของภาษาไทย กระตนุ้ ใหเ้ ยาวชน “การคดั ลายมอื น�าไปส่กู ารมลี ายมอื ทดี่ เี ป็นการฝึกสมาธอิ ยา่ งหนง่ึ มีการอนุรกั ษ์และสบื สานเอกลักษณ์ภาษาไทยร่วมกนั เมยหอื นกถร่ินรดมินวแดฒั นนลำ้ธนรนรำมวถิ ถี ิ่น วถิ ไี ทย กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม ร่วมกบั จงั หวดั เชยี งรำย และ ๑๕ นกั แสดงทมี่ ชี อ่ื เสยี งดา้ นดนตรพี นื้ เมอื ง การจดั นทิ รรศการเฉลมิ จังหวัดในภำคเหนือ จัดงำนมหกรรมวัฒนธรรมวิถีถิ่น วิถี พระเกียรติฯ นิทรรศการศิลปินแห่งชาติภาคเหนือ ภูมิปัญญา ไทย เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั เนอื่ งใน สล่าเชียงราย การสาธติ และจ�าหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวฒั นธรรม โอกำสทรงครองสริ ริ ำชสมบตั คิ รบ ๗๐ ปี และเฉลมิ พระเกยี รติ ของภาคเหนือและภาคต่างๆ งานมหกรรมวัฒนธรรมวิถีถ่ิน สมเดจ็ พระนำงเจำ้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมรำชนิ นี ำถ เนอื่ งในโอกำส วถิ ไี ทย ครอบคลุมพืน้ ที่การจัดงานใน ๕ ภูมภิ าค ส่งเสรมิ ความ พระรำชพธิ มี หำมงคลเฉลมิ พระชนมพรรษำ ๗ รอบ ๑๒ สงิ หำคม หลากหลายของศิลปวัฒนธรรมไทย สร้างความภาคภูมิใจใน ๒๕๕๙ ระหว่างวันท่ี ๑๘-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ สนามฝึก ประวัติศาสตร์และนา� ไปสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับ นักศกึ ษาวิชาทหาร (รด.) จงั หวัดทหารบกเชยี งราย เชงิ สะพาน ประชาชน ระดับชาติ และระดบั นานาชาติ ตลอดจนเพม่ิ มลู ค่า แม่ฟ้าหลวง อา� เภอเมอื งเชยี งราย จงั หวัดเชียงราย ทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยอกี ทางหนึง่ ด้วย ระยะเวลาในการจัดงาน ๕ วัน เต็มไปด้วยกิจกรรมทาง 125เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙ วัฒนธรรมของล้านนาท่ีมีความน่าสนใจอย่างย่ิง ท้ังขบวนแห่ วัฒนธรรมของ ๑๖ จังหวัดภาคเหนือ การประกวดการแสดง ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงของศิลปินพ้ืนบ้านและ

สพทฒัวำงธนวำ. ศัฒคักดัยนภธ๕ำรพ๐รมแขหอลงง่ ชเมุรยี ชนนรู้ สครำ่ ำ้ยง“๖ล๒ำนยกั ลเขักียษนณร่นุ ์วใหรมรจ่ ณำกศทิล่วั ปปร์ ะรเุน่ทศท่ี ๒” กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม (สวธ.) ได้ตระหนักถึงบทบาท เมอื่ วันท่ี ๘-๑๑ มีนาคม ท่ีผ่านมา หออคั รศลิ ปนิ กรมสง่ เสรมิ และความส�าคัญของเครือข่ายแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม วัฒนธรรม (สวธ.) ได้จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “ลำยลักษณ์ ของชมุ ชน ซงึ่ เปน็ ศนู ยก์ ลางในการอนรุ กั ษ์ สบื สาน ถา่ ยทอด วรรณศลิ ป์ รนุ่ ที่ ๒” เพอื่ เปน็ การถา่ ยทอดผลงาน ความรู้ ประสบการณ์ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละความรขู้ องผคู้ นในชมุ ชน สวธ. จงึ ไดด้ า� เนนิ ของศลิ ปนิ แหง่ ชาตใิ หแ้ กบ่ คุ ลากรดา้ นการศกึ ษา นกั เรยี น นกั ศกึ ษา การคดั เลือกแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของชุมชน ๕๐ แห่ง เยาวชนท่ีมีความสนใจในศิลปะการใช้ภาษาไทย การเขียนนิยาย เพ่ือเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ “กำรพัฒนำศักยภำพ เร่ืองสน้ั กวนี ิพนธ์ ร้อยแก้ว ร้อยกรอง การประพนั ธ์ค�าร้อง เป็นการ แหลง่ เรยี นรทู้ ำงวฒั นธรรมของชมุ ชน” ระหวา่ งวนั ท่ี ๙-๑๑ ต่อยอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ พัฒนาทักษะความเช่ียวชาญ มนี าคม ๒๕๕๙ ณ โรงแรมเจา้ พระยาปารค์ กรงุ เทพมหานคร ในด้านวรรณศิลป์ ส�าหรับน�าไปเผยแพร่และพัฒนาตนเองให้เป็น นักเขียนท่ีมีคุณภาพ มีความรับผิดชอบ รักษาความงดงามของ นำงสนุ นั ทำ มติ รงำม รองอธบิ ดีกรมส่งเสรมิ วัฒนธรรม ภาษาไทย และนา� ความรปู้ ระสบการณท์ ไ่ี ดร้ บั ไปใชใ้ นการสรา้ งสรรค์ ประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งน้ีได้กล่าว ผลงานวรรณกรรมทม่ี ีคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาตใิ นอนาคต ว่า สวธ. ได้ทา� หน้าทีส่ ่งเสรมิ และสนับสนนุ แหล่งเรยี นรู้ทาง ดา้ นวฒั นธรรมของชมุ ชนในหลายๆ ดา้ น อาทิ การสนบั สนนุ “ลำยลกั ษณว์ รรณศลิ ป์ รนุ่ ท่ี ๒” มผี เู้ ขา้ รบั การอบรมรวม ๖๒ คน องค์ความรู้ทางวิชาการเพื่อการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ การนา� โดยได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิ ในสาขา ผลติ ภณั ฑท์ างวฒั นธรรมทไ่ี ดร้ บั การคดั เลอื กมาจดั แสดง เผย วรรณศลิ ป์ และศลิ ปะการแสดง มารว่ มถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ จา� นวน แพร่ ประชาสมั พนั ธ์ให้เป็นท่รี ู้จกั อย่างกว้างขวาง พร้อมทัง้ ๑๑ คน ประกอบดว้ ย ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาวรรณศลิ ป์ นายเนาวรตั น์ สนบั สนนุ แหล่งเรยี นรทู้ างวฒั นธรรมให้รวมตวั เป็นเครอื ข่าย พงษ์ไพบลู ย์ นายอศั ศริ ิ ธรรมโชติ นายสถาพร ศรีสัจจงั นายเจรญิ เพ่ือให้เกิดพลังในการด�าเนินงานในอนาคต มาลาโรจน์ นางชมยั ภร บางคมบาง (แสงกระจา่ ง) นายธรี ภาพ โลหติ กลุ นายไพวรนิ ทร์ ขาวงาม ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง ไดแ้ ก่ นอกเหนือจากการฟังบรรยายให้ความรู้โดย ศ.ดร. นายสมนกึ ทองมา (ชลธี ธารทอง) นายประยงค์ ชนื่ เยน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ สกุ ญั ญำ สจุ ฉำยำ และนำยวษิ ณุ เอมประณตี ย์ แลว้ ผ้แู ทน ไดแ้ ก่ นางชตุ มิ า เสวกิ ลุ และนายนเิ วศน์ กนั ไทยราษฎร์ สา� หรบั ผลงาน แหล่งเรยี นรทู้ างวฒั นธรรมของชมุ ชนจากทว่ั ประเทศทงั้ ๕๐ วรรณศิลป์ท่ีผู้เข้าอบรมได้สร้างสรรค์ข้ึนน้ัน ศิลปินแห่งชาติจะท�า แหง่ ยงั ไดม้ โี อกาสศกึ ษาดงู านนอกสถานท่ี ณ ศนู ยว์ ฒั นธรรม การคดั เลอื กผลงานเขยี นทดี่ เี ดน่ ในแตล่ ะประเภท เพอ่ื น�าไปจดั พมิ พ์ เฉลมิ ราชวัดฝั่งคลอง จังหวัดนครนายก อีกด้วย และเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ต่อไป 126

ฉบบั หนำ้ อ ร่ อ ย . . . ร ส ไ ท ย ๑. รถมำ้ ๑ ชวี ติ หมนุ วน คนทา� ล้อรถม้า ๒. ลกู ขำ่ ง การขว้างทชี่ วนหลงใหล ๓. ขำ้ วหลำม ภมู ิปัญญาอาหารไทย ๒ ๓

‘หอไทยนิทัศน’์พบความเปน็ มาของชนชาติไทย ไดท้ ่ีนี่ สถานท่ีจัดแสดงเร่ืองราวทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตไทย ภาษาวรรณคดี และประชาคมอาเซยี น ดว้ ยสอ่ื ลา้ํ สมยั ทอ่ งไปในอดตี ท่ี เราไมเ่ คยไดส้ มั ผสั มากอ่ น มาชมแลว้ ไดท้ ง้ั ความรแู้ ละความสนกุ สนาน เพลดิ เพลนิ และภาคภมู ใิ จไปกบั วถิ คี วามเปน็ ไทย หอไทยนิทศั น์ ศนู ย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๒๐ โทรศัพท์ ๐-๒๒๔๗-๐๐๒๘ ต่อ ๔๒๐๖, ๔๒๐๗ เปิดให้เข้าชม วันจันทร์ – วันศุกร์ เว้นวันนักขัตฤกษ์ ระหว่างเวลา ๐๙.๓๐-๑๖.๓๐ น.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook