Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore knowledge_th_20160109103227_1

knowledge_th_20160109103227_1

Description: knowledge_th_20160109103227_1

Search

Read the Text Version

เปรียบเทียบตนทุนโลจสิ ตกิ สของประเทศไทย สหรฐั อเมรกิ า ในขณะทีส่ �านักงานคณะกรรมการปฏิรูป และสาธารณรัฐประชาชนจีน ในชว งป 2551-2553 กฎหมาย (คปก.) มคี วามเหน็ วา่ โครงการนเ้ี ปน็ โครงการ 19.5 ทมี่ ีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม 17.1 18.1 17.8 เป็นการพัฒนาระบบคมนาคมใหม่ๆ ทัง้ ระบบ 15.2 มียุทธศาสตร์ในการพัฒนาทีเ่ ป็นรูปธรรม ชัดเจน 15.1 เป็นโครงการขนาดใหญ่ มรี ะยะเวลาการด�าเนินการ ยาวนานกว่าทกุ โครงการทีท่ ุกรัฐบาลเคยดา� เนินการ 9.4 8.3 และเป็นการลงทุนทีต่ ้องใช้งบประมาณจ�านวนมาก 7.8 คปก. มีความเห็นว่าร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ อาจขัดต่อ 2551 2552 2553 รัฐธรรมนูญ เพราะยุทธศาสตร์และแผนงาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ไทย สหรัฐอเมริกา มกี ารกา� หนดโครงการไว้อยา่ งกว้าง ไม่มีรายละเอียด ท่มี า: สศช., NDRC และ CSCMO’s 22nd Annual State of Logistics Report การดา� เนนิ การทชี่ ดั เจน บางโครงการอาจสง่ ผลกระทบ World Economic Forum จัดอันดับประเทศไทยในด้าน ต่อคุณภาพสิง่ แวดล้อม สุขภาพอนามัย หรือคุณภาพชีวิต โครงสร้างพนื้ ฐาน ในอนั ดับที่ 47 จากท้ังหมด 148 ประเทศ จงึ ควรมกี ารด�าเนนิ การเพอ่ื ใหป้ ระชาชนไดร้ บั สทิ ธใิ นการเขา้ ถงึ ตกลงมาจากอันดับที่ 46 ในปีก่อนโดยไทยยังตามหลัง ขอ้ มลู นอกจากน้นั รฐั บาลชดุ ตอ่ ไปจะถกู ผกู พนั โดยโครงการ ประเทศชน้ั นา� ของเอเชียท้งั ทางดา้ น ถนน การขนสง่ ทางเรอื ตา่ งๆ ทกี่ า� หนดไว้ ไมม่ อี สิ ระทจี่ ะเสนอโครงการพฒั นาใหมๆ่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งทางรางตามที่เรามกั จะ ไดอ้ กี เนอ่ื งจากโครงการท้ังหมดถกู กา� หนดไวแ้ ลว้ จากรฐั บาล ไดย้ นิ ขา่ วถงึ ความลา้ หลงั และปญั หาของระบบขนสง่ ทางราง ชดุ ก่อน และมผี ลผูกพนั ถึง 7 ปี ของไทย เช่น รถไฟตกราง รวมท้ังอุบัติเหตุทางรถไฟ หลายต่อหลายครั้งตลอดเวลาทผี่ ่านมา นอกจากนี้ คปก. ยังเห็นว่า ร่างโครงการดงั กล่าว ยงั ไมม่ ีมาตรการทรี่ องรบั กบั ปจั จัยเสยี่ งทจี่ ะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต ท้ังในระยะสน้ั และในระยะยาว อาทิ การขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ซง่ึ อาจต่า� กวา่ ท่ีคาด และโครงการบางโครงการอาจไมค่ มุ้ คา่ สศช. ม่นั ใจในโครงการ แต่... กบั การลงทนุ หรอื จดั ประเภทการลงทุนท่ีไมเ่ หมาะสม คปก. คปก. กังวลวา่ จะขัดรฐั ธรรมนญู จึงเสนอแนะว่า รัฐสามารถด�าเนินการได้ โดยใช้เงินกู้ตาม นายชาญวทิ ย์ อมตะมาทชุ าติ รองเลขาธิการสา� นกั งาน ระบบงบประมาณประจา� ปแี ละควรมกี ารศกึ ษาแตล่ ะโครงการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อย่างรอบด้านและด�าเนินการโครงการเฉพาะเท่าทีจ่ �าเป็น (สศช.) กลา่ ววา่ สศช. ไดท้ า� งานร่วมกับรัฐบาลในการเสนอ นอกจากนัน้ ควรมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและ ความคดิ เหน็ และคดั กรองโครงการท่ีมคี วามจา� เปน็ โดย พ.ร.บ. สุขภาพให้ครบถ้วน ควรให้ข้อมูลในการด�าเนินการ และ ฉบับนี้ มีผลส�าคัญต่อการสร้างความเชือ่ มัน่ ต่อนักลงทนุ รายละเอียดต่างๆ ของโครงการต่อประชาชนอย่างท่ัวถึง ทา� ใหเ้ หน็ ทศิ ทางการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของประเทศ รวมไปถึงการจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของ ในระยะ 7-10 ปี เน่ืองจากเป็นการลงทุนที่มีการก�าหนด ประชาชนอย่างเพียงพอและรอบดา้ น9 แหลง่ เงนิ ทุนรองรบั แนน่ อน และ สศช. มหี น้าที่ศกึ ษาและ ให้ความเห็นประกอบโครงการต่างๆ ตามข้ันตอนปกติซ่ึง สงั คมเหน็ ดว้ ยกบั การลงทนุ โครงสรา้ งพน้ื ฐาน หมายความวา่ ในขน้ั ตอนท่ีจะมกี ารเดนิ หนา้ กอ่ สรา้ งโครงการ แตก่ งั วลเรอื่ งคอรร์ ปั ชน่ั และการจดั การความเสยี่ ง ต่างๆ หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องเสนอโครงการให้ ครม. เห็นชอบ8 ผลส�ารวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กร ชนั้ นา� จากกรงุ เทพโพลล์ พบวา่ สว่ นใหญม่ องวา่ เปน็ โครงการ ทีด่ แี ละมีประโยชน์ โดย 96.6% ยืนยันถึงความจ�าเป็น 10 สถานการณ์เดน่ 49

ทจี่ ะตอ้ งลงทนุ ในโครงสรา้ งพน้ื ฐานเพอื่ สรา้ งความไดเ้ ปรยี บ ขอ้ เสนอแนะของนักวิชาการ รองรบั การเปดิ AEC ท้งั น้ี 56.7% ตอ้ งการใหด้ า� เนนิ การ ลงทนุ ดว้ ยวธิ ีการอน่ื มากกวา่ พ.ร.บ. กเู้ งิน เนอ่ื งจากเปน็ หว่ ง ผศ.ดร.ประชา คุณธรรมดี คณะเศรษฐศาสตร์ ในปัญหาต่างๆ ทอี่ าจเกิดขึน้ 25.0% เห็นว่าการออก มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ไดใ้ ห้ข้อเสนอแนะวา่ ทรี่ ัฐจะต้อง พ.ร.บ. กู้เงนิ เป็นวิธกี ารทีเ่ หมาะสมแล้วแม้ว่าอาจน�ามา ก�าหนดเงอื่ นไขบริการสาธารณะ เปิดเผยข้อมูลทจี่ �าเป็นสู่ ซึง่ ปัญหาต่างๆ บ้างแต่ก็ดีกว่าไม่ท�าอะไรเลยหรือทา� ไป สาธารณะ โดยเฉพาะการศกึ ษาความเปน็ ไปไดข้ องโครงการ ตามกรอบงบประมาณทีม่ ี ขนาดใหญ่ ก�าหนดเง่ือนไขท่ีชดั เจน เรื่องการบริหารเงินกู้ รวมถงึ การบรหิ ารจดั การโครงการ โดยคา� นงึ ถงึ การถา่ ยทอด สิ่งทนี่ ักเศรษฐศาสตร์กังวลคือ ปัญหาหนีส้ าธารณะ เทคโนโลยแี ละการกา� หนดเง่อื นไขการใชว้ สั ดภุ ายในประเทศ และการทุจริตคอร์รัปชนั่ โดยกังวลถึงหนี้สาธารณะทีอ่ าจ ภายในระยะเวลาทีก่ �าหนด นอกจากนั้นรัฐไม่ควรละเลย เพม่ิ ขนึ้ หากไทยเจอวกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ รวมถงึ รฐั บาลอาจขาด โครงสร้างพ้ืนฐานของการพัฒนาด้านที่ไม่ใช่วัตถุ เช่น สภาพคล่องเนื่องจากต้องใช้จ่ายในโครงการ (ประชานิยม) การศึกษาความพร้อมด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และ อน่ื ๆ ดว้ ย และไมค่ ่อยเชื่อมนั่ วา่ รัฐบาลจะดูแลปญั หาทุจรติ ปัจจัยด้านกลไกหรือสถาบัน ซึ่งเป็นปัญหาทีแ่ ท้จริงของ คอรร์ ัปชัน่ ท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ในโครงการน้ไี ด้10 ประเทศไทย12 กลุ่มนักวิจัย TDRI ได้ให้ข้อเสนอแนะ ของโครงการลงทุนโครงสร้างพ้ืนฐานของรัฐบาลว่า ควร TDRI กงั วลเร่อื งคอรร์ ัปชน่ั ป้องกันการคอร์รัปชัน่ ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study: FS) สร้างธรรมาภิบาลในโครงการ กลุ่มนักวิจัยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ลงทนุ และบังคบั ใชก้ ฎหมายท่เี กยี่ วขอ้ งอย่างรดั กมุ 13 (TDRI) กลา่ วว่า รา่ ง พ.ร.บ. กเู้ งนิ ฉบบั นี้ มีความเสี่ยงเรือ่ ง คอร์รัปชัน่ ทจี่ ะสร้างปัญหาต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเพิม่ ความคบื หน้าของ พ.ร.บ. คา่ ใชจ้ า่ ยภาครฐั ในการบา� รงุ รกั ษาโครงสรา้ งพน้ื ฐาน การลงทนุ โครงสร้างพ้ืนฐานทไี่ ม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจและอาจน�าไปสู่ เวลา 02.50 น. วนั ท่ี 20 พฤศจกิ ายน 2556 ทป่ี ระชมุ ปัญหาหนี้สาธารณะในระดับทีส่ ูงหรือจะเป็นการเพิม่ ต้นทุน สมาชกิ วฒุ สิ ภาลงมติเหน็ ชอบรา่ ง พ.ร.บ. น้ี ดว้ ยคะแนนเสยี ง ให้แก่ประชาชน เนือ่ งจากสาธารณูปโภคทีม่ ีคุณภาพตา�่ 63 ต่อ 13 งดออกเสียง 3 โดยให้มีเนื้อหาให้เป็นไปตาม การลงทนุ โครงสร้างพื้นฐานเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ร่างเดิมท่ีผ่านสภาผู้แทนราษฎรทุกมาตรา14 ต่อมาพรรค นอกจากนี้ในบางกรณีอาจท�าให้โครงการไม่สามารถเกิดขึ้น ประชาธิปัตย์ได้ร้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรยื่นเรื่อง ได้จรงิ และการคอรร์ ัปช่นั อาจเป็นการเบียดบงั งบประมาณ ใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู วา่ รา่ ง พ.ร.บ. ใหอ้ �านาจกระทรวงการคลงั รายจา่ ยภาครฐั ในประเดน็ อ่นื ๆ เชน่ การศกึ ษา การสาธารณสขุ กเู้ งนิ 2 ลา้ นลา้ นบาทขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู หรอื ตราขน้ึ ฯลฯ โดยไม่ถูกต้องหรือไม่ นอกจากนีใ้ นระหว่างการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. กู้เงินน้ี ส.ส. พรรคเพ่อื ไทยรายหน่ึงไดก้ ดบัตร TDRI กังวลว่าอาจมปี ัญหาความไม่โปร่งใสได้ แสดงตนแทน ส.ส. รายอ่ืน โดยมคี ลปิ บนั ทึกภาพและเสียง ทงั้ กอ่ นการดา� เนนิ โครงการ ระหวา่ งการดา� เนนิ โครงการและ เปน็ หลกั ฐาน15 ท�าใหเ้ กดิ เสยี งวพิ ากษว์ จิ ารณอ์ ยา่ งกวา้ งขวาง หลังการด�าเนินโครงการ เช่น กรณี King Power Duty เกี่ยวกับความถูกต้องชอบธรรมของกระบวนการพิจารณา Free ซึ่งมีการให้สัมปทานสินค้าปลอดภาษี โดยหลีกเลี่ยง รา่ ง พ.ร.บ. น้ี การปฏบิ ัตติ าม พ.ร.บ. รว่ มทุน และกรณโี ครงการโฮปเวลล์ ทมี่ ีความหละหลวมของข้อสัญญา ทา� ให้ บ.โฮปเวลล์ หลังจากทีร่ ัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ประกาศยุบสภาเมือ่ ฟอ้ งรอ้ งเรยี กคา่ เสยี หาย และคณะอนญุ าโตตลุ าการวนิ จิ ฉยั 9 ธนั วาคม 2556 กเ็ ป็นทถี่ กเกยี งกนั วา่ ร่าง พ.ร.บ. ฉบบั น้ี ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟคืนเงนิ ชดเชยให้ จะตกไปหรอื ไม่ เพราะรา่ ง พ.ร.บ. ดังกลา่ วผา่ นความเหน็ ชอบ บ.โฮปเวลล์ รวมกว่า 11,889 ล้านบาท11 จากรัฐสภาอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ยังไม่สามารถน�าขึ้น ทลู เกลา้ ฯ ได้ เพราะตอ้ งรอค�าวนิ ิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 50 สุขภาพคนไทย 2557

รวบรวมความเห็นต่อ พ.ร.บ. 2 ลา้ นล้านบาท วันท่ี 8 มกราคม 2557 ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยาน เหน็ ดว้ ย นัดแรก โดยหัวหน้าพรรค เปน็ การลงทนุ ท่ีจา� เปน็ เพ่อื รองรบั การคา้ ท่จี ะขยายตวั ขน้ึ จาก AEC รวมถงึ เช่อื มโยงการขนสง่ ประชาธิปัตย์ น�าทีมกฎหมาย กับประเทศเศรษฐกิจใหญ่ของโลกอย่างจีน16 พรรคประชาธปิ ัตย์เข้าให้ถ้อยค�า เปน็ การลงทนุ ท่ถี กู ทศิ ทาง ชว่ ยลดตน้ ทุนโลจสิ ตกิ สข์ องระบบขนสง่ ไทยและลดการใชพ้ ลงั งาน ต่อศาลรัฐธรรมนูญขณะที่พยาน กระจายฐานการผลติ สภู่ มู ภิ าค รองรบั การเปดิ ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น สง่ ผลตอ่ การเติบโต ฝา่ ยผถู้ กู รอ้ ง มรี กั ษาการรฐั มนตรี ของเศรษฐกิจและชว่ ยให้ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันเพ่ิมข้ึน ว่าการกระทรวงการคลัง รวมทงั้ ความต่อเนื่องของโครงการชดั เจน สร้างความเชอื่ มัน่ ต่อนักลงทุนช่วยให้ภาคเอกชนมั่นใจ รกั ษาการรฐั มนตรวี า่ การกระทรวง วางแผนล่วงหนา้ ได1้ 7 คมนาคม เขา้ ใหถ้ อ้ ยคา� ตอ่ ตลุ าการ จา� เป็นตอ้ งออกเป็น พ.ร.บ. กู้เงิน งบประมาณประจา� ปี ไมเ่ พยี งพอตอ่ การลงทนุ ในโครงการ ศาลรัฐธรรมนญู 28 ขนาดใหญ่18 ภาระหนีส้ ามารถบริหารจัดการได้ สัดส่วนหนีส้ าธารณะต่อจีดพี ียังต�า่ ทงั้ เป็นการกู้ภายใน ลา่ สดุ 12 มนี าคม 2557 ประเทศและการลงทุนจะชว่ ยใหเ้ ศรษฐกจิ ขยายตวั จะทา� ใหเ้ กบ็ ภาษีไดม้ ากขน้ึ และชว่ ยใหแ้ ขง่ ขนั ตลุ าการศาลรัฐธรรมนูญได้มี ไดด้ ีขึ้น19 คา� วนิ จิ ฉยั วา่ รา่ ง พ.ร.บ. ใหอ้ า� นาจ กระทรวงการคลังกู้เงินเพ่ือการ คัดค้าน พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานมูลค่า ประเดน็ ขอ้ กฎหมาย ตามมาตรา 6 ซงึ่ บญั ญตั ไิ วว้ า่ “รฐั ธรรมนญู เปน็ กฎหมายสงู สดุ ของประเทศ 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติใด ของกฎหมายกฎ หรือ ข้อบังคับขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้ บทบัญญัติ นั้น มาตรา 169 วรรคหน่ึง และ เป็นอันใชบ้ ังคับมิได”้ และตามมาตรา 169 ซ่งึ บญั ญตั ไิ วว้ า่ “การจา่ ยเงนิ แผน่ ดนิ จะกระทา� ได้ มาตรา 170 ดว้ ยมติ 9 ตอ่ 0 รวม เฉพาะท่ีไดอ้ นญุ าตไวใ้ นกฎหมายวา่ ดว้ ยงบประมาณรายจา่ ย กฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ กี ารงบประมาณ ทงั้ กระบวนการตราร่าง พ.ร.บ. กฎหมายเกยี่ วดว้ ยการโอนงบประมาณ หรอื กฎหมายวา่ ดว้ ยเงนิ คงคลงั …” ตอ้ งดวู า่ รา่ ง พ.ร.บ. ขดั รฐั ธรรมนญู ด้วยมติ 6 ตอ่ 2 ดังกลา่ วขดั กับรัฐธรรมนญู หรือไม่20 (มีตุลาการ 1 คน งดออกเสียง) ความเปน็ ธรรมระหวา่ งรนุ่ การใชค้ นื เงนิ กจู้ ะใชร้ ะยะเวลาประมาณ 50 ปจี ะเกดิ การผลกั ภาระ การช�าระหนไ้ี ปให้ชนรนุ่ หลงั ซึ่งก็เกดิ ปญั หาความไม่เปน็ ธรรมระหวา่ งชนรุน่ 21 เ นื ่อ ง จ า ก เ นื้ อ ห า แ ล ะ ประเด็นการทจุ ริต ไม่ควรให้อ�านาจตัดสินใจใช้เงนิ แผ่นดนิ จ�านวนมากกับฝ่ายบริหาร กระบวนการไมช่ อบดว้ ยรฐั ธรรมนญู ผ่านการปรับเปลี่ยนรายละเอียดในเอกสารประกอบการพิจารณา ในขณะทฝี่ ่ายนิตบิ ัญญัตมิ ี โดยท่ีมาตรา 169 ระบุว่า โอกาสใหค้ วามเหน็ ชอบตาม พ.ร.บ. และบญั ชแี นบทา้ ยแคเ่ พยี งคร้งั เดยี วในระยะเวลา 7 ปเี ศษ22 การจา่ ยเงินแผน่ ดนิ จะตอ้ งกระทา� โครงการจา� นวนมากยงั ไม่ผ่านการศึกษาความคมุ้ คา่ ทางการเงิน/เศรษฐกิจ ผลกระทบต่อ ผา่ นกฎหมายงบประมาณรายจา่ ย ส่ิงแวดลอ้ มและสุขภาพ หากโครงการดา� เนินการไม่ไดห้ รือลา่ ช้า ความตอ่ เนื่องทตี่ งั้ ใจใหเ้ กิด ด้วยวิธีงบประมาณ กฎหมาย จะไม่เกดิ จริงหรอื อาจมกี ารเร่งรีบสรปุ ผลการศกึ ษาในทางใหเ้ กิด โครงการทัน 7 ปี เกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ ผลตอ่ ความเส่ยี งดา้ นการคลงั ยงั มคี วามไมช่ ดั เจนเรอ่ื งแผนการลงทนุ นอกจากนร้ี ฐั บาลไมไ่ ด้ กฎหมายวา่ ดว้ ยเงินคงคลงั ดังนน้ั นา� เสนอแผนการสรา้ งรายไดอ้ น่ื 23 หนส้ี าธารณะอาจเพม่ิ ข้นึ ถงึ 60% ตอ่ จดี พี ี หากไทยเจอวกิ ฤติ การใชว้ ธิ พี เิ ศษตาม รา่ ง พ.ร.บ. นี้ เศรษฐกิจหรือฟองสบู่แตก24 จึงขัดรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้ ผลกระทบต่อรายจ่ายภาครัฐในอนาคตในเรื่องท่ีส�าคัญอื่น โดยเฉพาะรายจ่ายด้านสังคม รา่ ง พ.ร.บ. กู้ 2 ลา้ นลา้ น เปน็ อนั การพฒั นาคน และนวตั กรรมอาจกระทบตอ่ ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศในเรอ่ื งคณุ ภาพ ตกไป29 ก�าลังคน/แรงงานและไม่ชดั เจนเรือ่ งผลตอ่ ความเหลอื่ มล�้าในประเทศว่ามากข้นึ หรอื นอ้ ยลง25 ให้อ�านาจฝ่ายบริหารในการก�าหนดรายละเอียดเป็นเวลาถึง 7 ปี ซึ่งข้ามช่วงอายุปกติ ของรัฐสภาเปน็ การก้าวลว่ งอ�านาจของสภาชดุ ต่อไปในการกลน่ั กรอง/ให้ความเห็นชอบ26 เปน็ การสรา้ งภาระหน้จี า� นวนมหาศาลใหแ้ กป่ ระชาชน เปน็ การสรา้ งภาระหน้สี นิ ใหก้ บั คนไทย นานเกินกวา่ 50 ปี โดยเมอื่ รวมกบั หนสี้ าธารณะและการใช้เงนิ ในโครงการอ่นื ๆ เชน่ จา� น�าข้าว โครงการน�า้ ในขณะทรี่ ายได้จากการขายของสง่ ออกนอ้ ยลง ไทยอาจไมส่ ามารถชา� ระหน้เี งินกู้ ได2้ 7 10 สถานการณ์เด่น 51

ขา่ วนา้� มนั ร่วั กลางทะเลทจ่ี งั หวดั ระยอง เมอ่ื กลางปี 2556 เปน็ ขา่ วทม่ี ผี คู้ นสนใจตดิ ตามกนั มากขา่ วหน่งึ เนอื่ งจาก การร่วั ไหลดงั กลา่ ว สง่ ผลให้อา่ วพร้าวของเกาะเสม็ดทเ่ี ปน็ แหลง่ ทอ่ งเที่ยวสา� คัญ ได้แปรเปล่ียนจากหาดสีขาวเปน็ สีดา� ในพริบตา แม้ว่าบรษิ ัท ปตท. จ�ากดั (มหาชน) ได้กลา่ วขอโทษและแสดงความเสยี ใจตอ่ กรณีน้า� มนั รั่ว รวมท้งั พยายาม ขจดั คราบน้า� มนั จนหมดไป แตช่ มุ ชนทอ้ งถ่นิ กย็ งั ไมม่ ่นั ใจถงึ ผลกระทบทางสง่ิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพท่อี าจเกดิ ข้นึ ในอนาคต ส่วนภาครัฐกลบั ให้ความสา� คญั กับผลกระทบด้านการท่องเทยี่ วมากกว่าผลกระทบของระบบนิเวศและสุขภาพชุมชน ในระยะยาว เมอื่ อ่าวพรา้ วกลายเป็นทะเลสีด�า โดยกลุ่มบริษัท ปตท. จ�ากัด (มหาชน) ซึ่งเป็น ผู้รับผดิ ชอบในเร่ืองน้ีได้แถลงถึงสาเหตุว่าเกิดจากท่อรับ ในวันท่ี 27 กรกฎาคม 2556 ได้เกิดวิกฤตกับ นา�้ มนั ดิบขนาด 16 น้วิ รัว่ ท่บี รเิ วณทนุ่ รบั นา�้ มันดบิ ที่อย่หู ่าง สง่ิ แวดลอ้ มและระบบนเิ วศทางทะเลครงั้ สา� คญั ในประเทศไทย จากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อน้�ามันดิบรัว่ จากท่อน�้ามันกลางทะเลจนท้องทะเล ประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะทีเ่ รือบรรทุกน�า้ มัน Malan กลายเป็นสีดา� คราบน�้ามันได้เคลือ่ นตวั ออกห่างจากจุด Plato สัญชาติกรีซ ก�าลังถ่ายน้�ามันดิบผ่านทุ่นน�้ามนั ดิบ ทนี่ �้ามันรวั่ ประมาณ 15 กิโลเมตร1 คราบน�า้ มนั ดบิ ขยายตวั มายังโรงกลัน่ น�้ามันของบริษทั ท�าให้มีน�า้ มันดบิ รั่วออกมา เข้ามายังเกาะเสม็ดและชายหาดบ้านเพ จังหวัดระยอง ประมาณ 50,000 ลติ ร2 ท้งั น้ี ภาพถา่ ยดาวเทียมจากสา� นกั งาน อย่างรวดเร็ว โดยคราบน้�ามันส่วนใหญ่ถูกพัดเข้ามาท่ี พฒั นาเทคโนโลยอี วกาศและภมู สิ ารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) อ่าวพร้าว ท�าให้ผืนทรายและน้�าทะเลท่ใี สสะอาดกลายเปน็ สีด�าในเวลาอันรวดเร็ว 52 สุขภาพคนไทย 2557

แสดงใหเ้ หน็ คราบน้า� มนั ดบิ ท่ีขยายแผก่ วา้ งบนผวิ ทะเลคอ่ ยๆ ในบริเวณทีส่ ามารถใช้สารกระจายคราบน�้ามันทางเรือให้มี เคลื่อนตวั ไปทางทศิ ตะวันออกเฉียงเหนือจนถึงอ่าวพร้าว ประสทิ ธิภาพมากข้นึ อย่างไรก็ตาม ทุน่ กักน้�ามนั ใช้ไมไ่ ด้ผล เหตกุ ารณค์ รง้ั น้ที า� ใหท้ างการไดป้ ระกาศใหอ้ า่ วพรา้ วเปน็ เขต เพราะชว่ งเวลานน้ั ทะเลมคี ลน่ื ลมแรง ท�าใหม้ นี า้� มนั เลด็ ลอด ประสบภัยพบิ ัตทิ างทะเล3 ไปขึน้ ฝงั่ ที่อ่าวพร้าว เกาะเสมด็ ”5 ภาพทป่ี รากฏหลังท้องทะเลกลายเป็นสดี า� อย่างไรก็ตาม ภาคประชาสังคมและนักวิชาการได้ ร่วมกันตัง้ ค�าถามต่อสิ่งทีเ่ กิดขึน้ กับเหตกุ ารณ์น�้ามันรัว่ และ ทันทีที่เกิดน�้ามนั รั่วกลางท้องทะเล ส่ิงแรกท่ีปรากฏ ถามหาความรบั ผดิ ชอบจาก บรษิ ัท พที ที ี โกลบอล เคมคิ อล แก่สายตาสาธารณชนคือการน�าทุ่นกักน�้ามัน มาใช้เพื่อ จ�ากดั (มหาชน) หรือ PTTGC บรษิ ัทลกู ของ ปตท. ซง่ึ เปน็ จ�ากัดการขยายตัวของคราบน�า้ มันกลางท้องทะเล และ ผู้รับผิดชอบโดยตรงกับเหตกุ ารณ์ครัง้ นี้ในหลายประเดน็ นา� เครอื่ งมอื เกบ็ คราบนา้� มนั มาเกบ็ คราบนา�้ มนั ไปไวบ้ นเรอื ทง้ั การแกไ้ ขปญั หาอยา่ งไมท่ นั ทว่ งทแี ละการประชาสมั พนั ธ์ และการใช้เรือฉีดน้�ายาสลายคราบน้�ามันเพื่อให้เกิด ให้ข้อมูลท่ีอาจไม่ครบถ้วนและชัดเจน ดังท่ี น.ส.เพ็ญโฉม การแตกตวั และจมลงสทู่ อ้ งทะเล จนกระท่งั เกดิ ภาพของคน แซต่ ้งั ผอู้ า� นวยการมลู นธิ ิบรู ณะนเิ วศ ไดใ้ หส้ มั ภาษณเ์ วบ็ ไซต์ ชดุ ขาวพร้อมหน้ากากป้องกันสารพิษหมุนเปลี่ยนเวียนกัน โลกสเี ขยี ววา่ ยงั กงั วลในเรอ่ื ง “การทใ่ี หข้ อ้ มลู ทไี่ มใ่ ชข่ อ้ เทจ็ ใช้แผ่นดดู ซับน�า้ มัน (absorbent sheet) พร้อมกับใช้ถัง จริงทงั้ หมด ซึง่ ท�าให้เหตุการณ์บานปลายมากยิ่งขึน้ เช่น ตักน�้ามันทีล่ อยเข้ามาติดกับชายหาดฝั่งอ่าวพร้าวและใช้ ปรมิ าณน้า� มันทร่ี ั่วไหล สารเคมีทีใ่ ชส้ ลายอนภุ าคของน�้ามัน เคร่ืองมอื ฉีดพ่นแรงดนั สงู ทา� ความสะอาดกอ้ นหนิ มีผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศและส่งิ มชี ีวติ ในทะเลอยา่ งไร” วิกฤตทางสิง่ แวดล้อมทีเ่ กิดขึ้นท�าให้ ดร.ไพรินทร์ ต่อมา (5 สิงหาคม 2556) ภาคประชาสังคม 25 ชโู ชตถิ าวร ประธานเจา้ หนา้ ทบ่ี รหิ ารและกรรมการผจู้ ดั การ องคก์ รไดร้ ว่ มกนั ออกแถลงการณฉ์ บบั ท่ี 2 มเี นอ้ื หาสว่ นหนง่ึ ใหญ่ บรษิ ทั ปตท. จา� กดั (มหาชน) ไดก้ ลา่ วขอโทษและแสดง วา่ “คา� ถามที่ พที ที ี โกลบอล เคมิคอล ตอ้ งตอบตอ่ สาธารณะ ความเสียใจต่อกรณีน�้ามันรั่ว เม่ือวันท่ี 1 สิงหาคม 2556 ท่ีเน้นย้�าเรื่องเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงท่ีจะแสดงให้เห็น และยนื ยันว่า “กลมุ่ ปตท. พรอ้ มร่วมมอื กบั PTTGC แกไ้ ข ถึงความโปร่งใสเพือ่ น�าไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกันของทัง้ ปญั หาอยา่ งเตม็ ทใ่ี นทกุ ๆ ดา้ น รวมทง้ั การฟน้ื ฟแู ละเยยี วยา ภาครฐั เอกชน และภาคประชาสังคม และมคี วามสา� คญั ยง่ิ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ใหเ้ กดิ ประสทิ ธผิ ลและประสทิ ธภิ าพมากทสี่ ดุ ต่อการหาสาเหตุการปนเปื้อนทแี่ ท้จริง การประเมิน โดยจะดา� เนินการตามแผนการด�าเนินงานด้านความมั่นคง ผลกระทบและความเสียหาย การฟื้นฟูการปนเปื้อนมลพิษ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสิง่ แวดลอ้ ม (SSHEMS) ในระยะยาว การเยยี วยาความเสยี หายทถี่ กู ตอ้ งและเปน็ ธรรม ที่มีการด�าเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง”4 พร้อมกับให้ข้อมลู รวมถงึ มาตรการปอ้ งกันในอนาคต”6 เนอ้ื หาอกี สว่ นหนง่ึ ใน ว่า “ทันทีที่เกิดเหตุ บริษัทฯ ได้ปิดระบบวาล์วท้ังหมดโดย แถลงการณ์ คอื การตง้ั ขอ้ สงั เกตตอ่ วธิ ีการกา� จดั คราบน้า� มนั สมบรู ณ์ ดงั นน้ั จงึ มเี พยี งนา้� มนั ท่คี า้ งอยใู่ นทอ่ ระหวา่ งจดุ สง่ ของ PTTGC โดยหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี น�้ามันบนเรือและทุ่นเท่านัน้ ทมี่ ีโอกาสรัว่ ไหลออกสู่ทะเล หนงึ่ ในแกนน�า “กลมุ่ ตดิ ตามน้า� มัน ปตท. รัว่ ไหล” ท่ีเหน็ ว่า โดยประมาณการปรมิ าณทร่ี ่ัวไหล 54,341 ลติ ร ในด้านการ วธิ ีการกา� จดั คราบน้า� มนั ในระดับสากลและท่ีกรมควบคมุ มลพษิ ปฏิบตั งิ าน บริษัทฯ ได้ปฏบิ ตั ติ ามขน้ั ตอนของกระบวนการ กา� หนดคือใหท้ �าการกักน�้ามันดว้ ยทุ่นกกั นา้� มนั และดูดกลับ ท�างานและการจัดการในสภาวะฉุกเฉินกรณีน้�ามันรั่ว ด้วยเคร่อื งดูดคราบนา้� มนั ซ่ึงไมเ่ ป็นพิษตอ่ ส่ิงแวดลอ้ มกอ่ น โดยฉดี พน่ สารกระจายคราบน้า� มนั ในการปฏบิ ตั กิ ารทางเรอื เป็นอนั ดับแรก เมอื่ น้�ามันท่ีร่วั ไหลอยู่นอกเหนือการควบคุม และเพื่อเป็นการเพิม่ ประสิทธิภาพ จึงได้ใช้การปฏิบัตกิ าร จริงๆ จึงจะใช้วิธีการพ่นสารเคมีก�าจัดคราบน้�ามัน หากวิธี ทางอากาศโปรยสารกระจายคราบน้�ามันร่วมด้วย การใช้ทุ่นกักน้�ามันไม่ได้ผล ก็สามารถแก้ไขโดยการใช้เรือ แต่เนื่องจากกระแสน�้าและลมแรง คณะทา� งานประเมินว่า 2 ลา� ลากทนุ่ กกั นา้� มนั เปน็ รปู ตัว V ขบั สวนทางท่ีคราบน้า� มนั นา�้ มนั อาจจะเขา้ ฝง่ั จงึ นา� ทนุ่ กกั น้า� มนั ลง เพ่อื กกั นา้� มนั ใหอ้ ยู่ ท่ีลอยอยู่ เพ่ือกักน�้ามันไว้ให้อยู่ในทุ่น และใช้เคร่ืองดูด 10 สถานการณ์เดน่ 53

http://daypic.ru/wp-content/uploads/2013/08/120-900x576.jpg และสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาตอิ อสเตรเลยี (NOPSEMA) ไดร้ ะบุ ไวใ้ นรายงานวา่ ตอ้ งปฏิรปู การทา� งานของหนว่ ยงานรฐั บาล คราบน้า� มนั ขนึ้ เรอื อกี ที ซง่ึ วธิ นี น้ี อกจะไมท่ �าลายส่งิ แวดลอ้ ม ออสเตรเลยี ซ่งึ ทา� หนา้ ทกี่ า� กบั ดแู ลและตรวจสอบมาตรฐาน แลว้ เคร่อื งมอื และอปุ กรณท์ ่ใี ชก้ ไ็ มไ่ ดม้ รี าคาสงู เม่อื เทียบกบั การขุดเจาะน�้ามัน โดยท่ีผ่านมาบางหน่วยงานก็บกพร่อง กา� ไรในแต่ละปขี องบริษทั ในเครือ ปตท.7 ตอ่ หนา้ ท่ี ทา� ใหไ้ มส่ ามารถปอ้ งกนั เหตรุ า้ ยดงั กลา่ วได้ ทงั้ ยงั เสนอให้มีการร่างแนวทางการรับมือและจัดการภัยพิบัติซึง่ ทัง้ นี้ ภาคประชาสังคมได้เรียกร้องให้มีการเปิดเผย อาจเกดิ ข้นึ ในอนาคต เพ่อื ใหก้ ารควบคมุ สถานการณฉ์ กุ เฉนิ ข้อเท็จจริง และให้มีการก�าหนดแนวทางป้องกันหรือแก้ไข มีประสิทธิภาพสูงสุดและจะช่วยลดทอนความเสียหาย ปัญหาหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนีข้ ้ึนอีกในอนาคต ในด้านต่างๆ ได้ ในเวลาตอ่ มา ศาลออสเตรเลียได้ตัดสนิ ว่า และได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ “กรณีน�้ามันรั่วมอนทารา” PTTEPAA มีความผิด 4 ข้อหา ซึง่ รวมถึงการละเมิด หรือ “Montara Oil Spill” ท่ีได้เกิดข้ึนมาก่อนหน้าน้ี กฎหมายการขุดเจาะปิโตรเลียมนอกชายฝั่งออสเตรเลีย เมื่อ 21 สิงหาคม 2552 ซึง่ เป็นเหตกุ ารณ์ทีแ่ ท่นขุดเจาะ เป็นเหตใุ หผ้ ้อู นื่ ตกอยูใ่ นอนั ตราย และส่ังปรับอีก 510,000 “เวสตแ์ อตลาส” ระเบดิ ระหวา่ งการขดุ เจาะนา้� มนั ในทะเลตมิ อร์ ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 14,280,000 บาท)9 จนสญู เสยี นา้� มนั ไป 29,600 บารเ์ รล และเกดิ คราบนา้� มนั ใน หลังจากที่ ปตท.สผ. ได้จ่ายค่าเสียหายไปแล้วเป็นเงินกว่า ทะเลกนิ พ้นื ท่ีเกอื บ 90,000 ตารางกโิ ลเมตร ซ่งึ เปน็ โครงการ 9,724 ลา้ นบาท10 ในชว่ งปี 2552-2555 ของ พีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย (PTTEPAA/พีทที อี ีพีเอเอ) บรษิ ทั ลกู ของบรษิ ทั ปตท. สา� รวจและผลติ ปโิ ตรเลยี ม จา� กดั ผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ ชุมชน (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ซึง่ ถือเป็นเหตุการณ์ภัยพิบัติ และสิง่ แวดลอ้ ม ด้านน�า้ มันครัง้ เลวร้ายทีส่ ุดในประเทศออสเตรเลีย8 ต่อมา รัฐบาลออสเตรเลียได้ตัง้ คณะกรรมการเพือ่ สอบสวน นอกจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบนิเวศและ เหตกุ ารณ์ดงั กล่าวทีเ่ รียกว่า Montara Commission of สิ่งแวดล้อมทางทะเลแล้ว อีกปัญหาหนึ่งทีต่ ามมาในทนั ที Inquiry โดยกระทรวงความยง่ั ยนื สง่ิ แวดลอ้ ม นา้� ประชากร คอื ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกจิ มกี ารประเมินเบื้องตน้ ว่า และชมุ ชน แห่งรัฐบาลออสเตรเลีย (DSEWPaC) เหตุการณ์น�้ามันร่ัวลงทะเลในพื้นท่ีอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ไดเ้ รยี กรอ้ งให้ PTTEPAA รบั ผดิ ชอบการศกึ ษาผลกระทบ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ตอ่ ระบบนิเวศในทะเลต่อเนอื่ งกันอยา่ งนอ้ ย 2-5 ปี รวมถงึ ขนาดยอ่ ม ทง้ั ในสาขาธุรกจิ ทอ่ งเทย่ี ว ธรุ กจิ ทเ่ี กย่ี วเนอื่ งกบั จัดท�าโครงการส�ารวจและรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม การท่องเทย่ี ว ธรุ กจิ ประมง ธรุ กิจอาหารทะเลแช่แข็ง และ ในระยะยาว โดยทาง PTTEPAA ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ธรุ กจิ อนื่ ๆ มากกวา่ 32,422 ราย โดยนกั ทอ่ งเทย่ี วทง้ั ชาวไทย ค่าใช้จา่ ยทงั้ หมด ท้งั นี้ สา� นกั งานกา� กบั ดูแลความปลอดภัย และต่างชาติทลี่ ดน้อยลงได้ส่งผลกระทบไม่เพียงอ่าวพร้าว แต่ยงั รวมถึงหาดอน่ื ๆ บนเกาะเสมด็ อีกดว้ ย11 ในดา้ นการประมง คราบนา้� มนั ไดส้ ง่ ผลถงึ ระบบนเิ วศ และหว่ งโซ่อาหารทซี่ บั ซอ้ นในท้องทะเล ต้ังแตแ่ พลงก์ตอน สัตว์น้�าน้อยใหญ่ไปจนถึงปากแม่น้�าและป่าชายเลน โดยคราบน�้ามันจะไปปิดกัน้ แสงอาทติ ย์ทีจ่ �าเป็นต่อ กระบวนการสังเคราะห์แสง ท�าให้ปริมาณออกซิเจนลดลง ดร.ธรณ์ ธา� รงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดคี ณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้กล่าวถึงหลักสากลของ การก�าจัดคราบน�้ามันไว้ว่า “อย่าให้โดนฝั่ง อย่าให้โดนพื้น 54 สขุ ภาพคนไทย 2557

นั้นหมายถึง ควรเลี่ยงทุกวิถีทางทคี่ ราบน�้ามันจะสัมผัสกับ ตดิ ตาม ประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านตามแผนปอ้ งกนั รวมทง้ั พืน้ ชัน้ ตะกอน เนือ่ งจากการขจัดคราบน�า้ มันในชนั้ ตะกอน การเผยแพร่ ประชาสัมพันธแ์ ละรายงานผลการด�าเนินงาน หรือพ้ืนทรายยากกว่าบนผิวน�้าหลายสิบเท่า”12 จะท�าให้ ใหค้ ณะรฐั มนตรรี บั ทราบ ซงึ่ จะปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั หนว่ ยงาน กระบวนการย่อยสลายขาดออกซิเจนและท�าให้การสลาย ต่างๆ ดงั น้ี คราบน�า้ มันดว้ ยวิธกี ารธรรมชาติเปน็ ไปไดย้ าก ซ่งึ จะส่งผล ต่อสัตว์น�า้ และห่วงโซ่อาหารในทะเล เป็นท่นี ่าสังเกตว่า ศนู ย์ประสานงาน ด�าเนนิ การโดยกรมเจ้าทา่ ภายหลังการก�าจัดคราบน�า้ มันแล้ว ชาวประมงชายฝั่ง ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ ด�าเนินการโดย ยังพบว่าปูม้าทเี่ ก็บขึ้นมาจากลอบ 10 ตัวจะตาย 7 ตวั กรมเจ้าท่าหรือกองทพั เรอื แม้จะยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการรองรับว่าปูเหล่าน้ันตาย หน่วยปฏิบัตกิ าร ประกอบด้วย กรมเจา้ ทา่ กองทัพ จากผลของคราบนา้� มนั หรอื ไม่ แตส่ ง่ิ ทเี่ หน็ เมอื่ งดั กระดองปู เรอื หนว่ ยงานของจงั หวดั ในพน้ื ทเี่ กดิ เหตุ กรงุ เทพมหานคร ออกมากพ็ บวา่ บริเวณเหงือก มีคราบสีดา� ตดิ อยู่13 และสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรม น้า� มัน ในช่วงหนึ่งเดือนของเหตกุ ารณ์คราบน้�ามัน กลุ่ม หน่วยสนับสนุน ประกอบด้วย หน่วยงานต่างๆ องคก์ รภาคประชาสงั คมยงั คงเดนิ หนา้ ในการแกว้ กิ ฤตปญั หา จ�านวนมาก กองทัพอากาศ กองทัพบก กรมการขนส่ง ในคร้งั น้ี และมกี ารรณรงคใ์ หร้ ว่ มลงช่ือของประชาชนบนโลก ทางอากาศ กองบังคับการต�ารวจน�า้ กรมอุตนุ ิยมวิทยา ออนไลน์ ในเว็บไซต์ Change.org กว่า 32,000 รายชอื่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ส�านักเลขาธกิ าร เพื่อสนับสนนุ ให้รัฐบาลต้งั “คณะกรรมการอสิ ระตรวจสอบ ป้องกันภยั ฝา่ ยพลเรอื น) ส�านักงานนโยบายแผนทรพั ยากร น้า� มนั ร่วั ” นอกจากนี้ ตัวแทนจากภาคประชาสังคมในนาม ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมประมง “กลุ่มติดตามน�า้ มนั ปตท.รว่ั ” ซ่งึ ประกอบด้วยมูลนิธิบรู ณะ กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้น15 นิเวศ (EARTH) มูลนิธินิติธรรมสิง่ แวดล้อม (EnLAW) กรนี พซี เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (Greenpeace Southeast กลยุทธ์ในการขจดั คราบนา�้ มัน Asia) และสถาบันธรรมรัฐเพ่ือการพัฒนาสังคมและ สิ่งแวดล้อม (GSEI) ได้ยืน่ จดหมายและรายชอื่ ประชาชน แผนด�าเนินการขจัดคราบน้�ามันเม่ือมีน�้ามนั รั่วหกลง ดังกล่าวถึงรฐั บาลเมอื่ วนั ท่ี 27 สงิ หาคม 2556 แต่ในระยะ สแู่ หลง่ นา้� มงุ่ ลดผลกระทบตอ่ ประชาชนและสภาพแวดลอ้ ม เวลาทผี่ า่ นมา มเี พยี งหนงั สอื ตอบกลบั จากสา� นกั เลขาธกิ าร ให้น้อยทสี่ ุดและโดยเร็วทสี่ ุด อาจพยายามด�าเนินการ นายกรัฐมนตรีว่าได้ประสานงานเพ่ือส่งเร่ืองให้กระทรวง อยา่ งใดอย่างหน่งึ หรือหลายอย่างพรอ้ มกัน เชน่ พลงั งานพิจารณาในสว่ นทีเ่ กี่ยวขอ้ งแลว้ เท่านั้น14 1. ควบคุมและเก็บคราบน�า้ มัน โดยใช้ทุ่นกักน�า้ มัน แนวทางการแกไ้ ขปญั หานา้� มันรั่วของไทย (oil boom) ล้อมคราบน้�ามันไว้ และพยายามใช้เคร่ืองมอื ต่างๆ เกบ็ คราบน้า� มนั ใหไ้ ดม้ ากทีส่ ุด ประเทศไทยไดด้ �าเนนิ การขจดั คราบนา้� มนั ในแหลง่ นา้� โดยปฏบิ ตั ติ าม “แผนปอ้ งกนั และขจดั มลพษิ ทางนา้� เนอ่ื งจาก 2. ใช้สารกระจายเคมีท่ีช่วยให้น้�ามันแตกตัว น้า� มนั แห่งชาต”ิ โดยมหี นว่ ยงานหลกั ในการดา� เนินการขจัด (dispersant) ท�าให้น้�ามนั แตกตัวออกเป็นหยดเล็กๆ และแก้ไขปญั หาจากคราบนา�้ มันร่ัวไหล คอื คณะกรรมการ ซึ่งสามารถกระจายไปตามกระแสน�า้ ได้ง่ายขึ้น และจะถูก ปอ้ งกนั และขจดั มลพษิ ทางนา้� เนอ่ื งจากนา้� มนั หรอื กปน. ยอ่ ยสลายโดยจลุ ินทรยี ์ในทส่ี ดุ จดั ต้งั ขน้ึ เม่อื วนั ท่ี 6 มกราคม 2538 โดยระเบยี บสา� นกั นายก รัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพษิ ทางนา้� เนื่องจาก 3. เผาคราบน�้ามัน หากมีเงอื่ นไขทีเ่ หมาะสม เช่น น้า� มนั พ.ศ. 2538 โดย กปน. มีหน้าทคี่ วบคมุ ก�ากบั ดูแล การรัว่ หกในทะเลเปิด ซึ่งเป็นวิธีการขจัดคราบน�า้ มันท่ีมี และรับผิดชอบในการขจัดมลพิษทางน�้าเนื่องจากน�า้ มัน ประสิทธิภาพดี แตจ่ ะก่อใหเ้ กดิ ควนั ดา� 10 สถานการณเ์ ดน่ 55

4. ใช้วัสดซุ ับน้า� มัน (absorbent) ซ่ึงเหมาะสา� หรบั เป็นเหมือนเดิม สามารถมาเทยี่ วได้แล้วนั้นก็เป็นเรือ่ งดี การรัว่ หกปรมิ าณไมม่ าก ช่วยเหลือการทา� มาหากินทไี่ ด้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ควรจะเกิดข้ึนภายหลงั จากการน�าตวั อยา่ งของ นา้� สตั ว์ 5. ท�าความสะอาดชายฝั่ง เนื่องจากน�า้ มันทีร่ ัว่ หก ทะเล และทราย ไปตรวจสอบ ยืนยันความปลอดภัยว่า จะถูกคลื่นพัดเข้าหาชายฝั่ง ซ่ึงหมายรวมถึงการเตรียม สามารถกินได้ เล่นน�า้ ได้เป็นปกติ ไม่มีผลกระทบ สถานทที่ ี่จะเกบ็ ขยะปนเป้อื นน้า� มนั ปริมาณมหาศาล พรอ้ มยนื ยนั วา่ ไมม่ ชี าวประมงคนไหนอยากพดู ใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ ว หวาดกลัว ไม่มาเท่ยี ว ไม่มาซอ้ื แตท่ ุกวนั น้ีชาวประมงเอง 6. ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายน�า้ มัน ซึง่ เป็นวิธีการทจี่ ะ ยังไม่มัน่ ใจ กลัวว่าบริโภคไปแล้วจะสะสมก่ออันตราย ใชเ้ วลามากกวา่ วธิ อี ่นื ๆ ในภายหลัง”17 ทง้ั น้ี ภายหลังการฟนื้ ฟูและขจดั คราบน�้ามนั ในเดือนสิงหาคม 2556 เป็นต้นมา หากมองด้วยตาจะ 7. ปล่อยให้ระเหยและย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ไม่พบคราบน�า้ มันหลงเหลืออยู่ในพืน้ ทะเล แต่ผลจาก ในกรณีท่ีน�้ามันรัว่ หกในมหาสมุทรทหี่ ่างไกล แสงแดด การตรวจสอบปริมาณปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนในน�้าของ คลื่น ลม จะชว่ ยให้น้�ามันระเหยและยอ่ ยสลายไปเอง16 เกาะเสม็ด ยังพบปริมาณของปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน ในตะกอนดินบริเวณชายฝั่งทะเลและน้�ามันที่ยังคงตกค้าง บทสรุปท่ียงั ไม่มคี �าตอบของอ่าวพรา้ ว อยทู่ ผี่ วิ หนา้ ทรายและในผวิ ทรายบรเิ วณอา่ วพรา้ ว มากกวา่ หาดทรายปกติ (อ่าวหวาย) แต่ก็ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็น ในวนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2556 หลงั การฟน้ื ฟอู า่ วพรา้ ว ค่าทีเ่ กินมาตรฐานหรือไม่เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มี เพียง 3 เดือนเศษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ มาตรฐานการตรวจสอบคราบน�า้ มันในผิวดนิ ดร.สมภพ สง่ิ แวดลอ้ มไดป้ ระกาศเปดิ ใหบ้ รกิ ารอา่ วพรา้ ว ในเขตอทุ ยาน รุ่งสุภา จากสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้�า จุฬาลงกรณ์ แห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด หลังจากมีรายงาน มหาวทิ ยาลยั กลา่ วและยา้� วา่ “แนวทางการกา� จดั คราบนา้� มนั คา่ น้า� ทะเลทอ่ี า่ วพรา้ ว เกาะเสมด็ กลบั คนื สสู่ ภาวะปกติ หรอื ในหาดทรายวันนี้ จ�าเป็นต้องบ�าบัดซ�้าอย่างต่อเนือ่ ง “อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อการนันทนาการ” นอกจากนี้ เพอ่ื ฟนื้ ฟูใหก้ ลับคืนสู่ภาวะปกติใหไ้ ด้มากทสี่ ดุ ”18 บรษิ ัท PTTGC ไดร้ ว่ มมอื กบั ทมี นกั วจิ ยั ของ 3 มหาวทิ ยาลยั ไดแ้ ก่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ความไม่มั่นใจถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและ และมหาวิทยาลัยบูรพา เพ่ือส�ารวจและประเมนิ สภาพ สุขภาพท่ีอาจเกิดข้นึ ในอนาคตยังเป็นส่ิงที่สร้างความวิตก แวดลอ้ มทางทะเลชายฝง่ั ท้งั 7 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นสมทุ รศาสตร์ กงั วลให้กบั ชาวบ้าน และยังไม่มหี น่วยงานใดสามารถสร้าง แนวประการงั แหลง่ หญ้าทะเล หาดหนิ หาดทราย ป่าชาย ความม่ันใจให้กับชาวบ้านในระยะยาวได้ ปัจจุบันชุมชน เลน สัตวท์ ะเลหายากและมลพษิ โดยจะด�าเนินการติดตาม ของอ่าวพร้าวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากร่วมมือกับภาค อย่างต่อเนอ่ื งเปน็ เวลา 1 ปี จนม่ันใจวา่ ระบบนเิ วศจะกลับ ประชาสังคมเคลือ่ นไหวเพื่อติดตามประเมินผลกระทบของ คืนสู่สภาวะปกติ นอกจากนไ้ี ดม้ ีการออกโฆษณาชดุ Better ระบบนิเวศและผลกระทบต่อสุขภาพของตนในระยะยาว Samed ออกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ทีแ่ สดงภาพให้เห็นว่า และท�าความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิของตนตามกฎหมาย เกาะเสมด็ น้นั ดีขน้ึ และอยากเชิญชวนใหค้ นกลบั มาทอ่ งเท่ยี ว เพื่อสามารถด�าเนินการทางกฎหมายในการเยียวยาชุมชน ยงั เกาะเสมด็ เพอ่ื ชว่ ยกนั ฟน้ื ฟใู นเรอ่ื งวถิ ชี วี ติ และเศรษฐกจิ ของตนในอนาคต การทอ่ งเท่ียว อยา่ งไรกต็ าม ไดม้ เี สยี งสะทอ้ นของคนในพน้ื ท่ี อยา่ ง นายวรี ศกั ด์ิ คงณรงค์ ประธานกลมุ่ ชาวประมงบางกระเฌอ ทกี่ ล่าวว่า “การออกโฆษณาบอกว่า เกาะเสม็ดปลอดภัย 56 สุขภาพคนไทย 2557

จากเขื่อนแม่วงก์ สู่โครงการน้�า 3.5 แสนลา้ น จากมหาอุทกภัยปี 2554 สูโ่ ครงการบริหารจัดการนา�้ มลู ค่า 3.5 แสนลา้ น ถงึ การเดินคดั ค้านการสรา้ งเข่ือน แม่วงก์... ท้งั 3 เหตุการณ์ที่มีความเชอื่ มโยงและสร้างประวตั ิศาสตร์สูงสุดในเชิงตัวเลขด้านมลู ค่าความเสียหาย งบประมาณโครงการ และการมสี ว่ นรว่ มของภาคประชาชน น่าติดตามว่า ความเคลือ่ นไหวของภาคประชาชนในเหตุการณ์ข้างต้นทถี่ ือเป็นเหตุการณ์ “ประวัติศาสตร์” จะเป็นการ “จุดกระแสคิด” ท่ีน�าไปสู่ความเปล่ียนแปลงทางสังคมที่ย่ิงใหญ่ หรือเป็นเพียง “ปรากฏการณ์” ท่ีมาเร็ว ไปเรว็ แบบ “ไฟไหม้ฟาง” prachatai เขอ่ื นแมว่ งกก์ บั ปรากฏการณ์ และคณะได้รายงานความเคลื่อนไหวของคณะในพืน้ ทีต่ ่างๆ “คนไมเ่ อาเขอ่ื น” ผ่านเฟซบุ๊กและสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยสร้างการมีส่วนร่วม ของผู้ร่วมเดินทางหน้าใหม่ผ่านการถ่ายรูปแล้ว “อพั ” ขึ้น กระแสคัดค้านเขือ่ นแม่วงก์ หนา้ เฟซบกุ๊ แบบทนั อกทันใจ อกี ดา้ นหนง่ึ มลู นธิ ิสบื นาคะเสถยี ร เกิดขึน้ และขยายวงจนเป็นทีร่ ับรู้ และองค์กรอนรุ กั ษด์ ้านส่ิงแวดลอ้ ม 45 แหง่ ไดร้ วมตัวกนั ของคนท่ัวไป เมอ่ื มกี ารเดนิ ทางไกล ภายใต้ชอื่ “เครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมได้ ระยะทาง 388 กิโลเมตร จาก เคลือ่ นไหวคู่ขนานโดยการออกเอกสาร “ท�าไมต้องค้าน นครสวรรค์ถึงกรุงเทพฯ ของ เข่ือนแม่วงก์”1 เพือ่ ให้ข้อมูลแก่ประชาชนถึงเหตผุ ลและ กลุ่มผู้คัดค้านภายใต้การน�าของ ข้อเทจ็ จริงในการต่อต้านเขื่อนและทางเลือกเพื่อแก้ปัญหา นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการ นา�้ ทว่ มและนา้� แล้งของประชาชนในพืน้ ที่ ซึง่ เป็นขอ้ มลู ท่ถี กู มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ในโครงการ นา� ไปบอกตอ่ ทง้ั แบบปากตอ่ ปาก เผยแพรใ่ นสอ่ื กระแสหลกั “เดินเท้าคัดค้าน EHIA เข่ือนแม่วงก์” เริ่มเม่ือวันที่ 10 และสื่อสังคมออนไลน์ จนเกิดการขยายกลุ่มผู้รับรู้ข้อมูล กันยายน 2556 ในช่วงแรกกลุ่มผู้คัดค้านไม่คิดว่า อยา่ งกว้างขวางในเวลาอนั รวดเร็ว การเดินทางดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากประชาชนและ สือ่ มวลชนแขนงต่างๆ มากมายนัก จนกระทัง่ เมือ่ เดนิ เข้าใกล้กรุงเทพมหานคร ผู้คนเร่ิมเข้ามาร่วมมากข้ึน ตามล�าดับ จนเม่ือสิ้นสุดการเดินที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่ง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2556 มีผู้คน เข้าร่วมกิจกรรมนับหม่นื คน ซ่ึงถือเป็นปรากฏการณ์แห่ง ประวัติศาสตร์ของการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในประเดน็ ด้านสง่ิ แวดล้อม ความต่ืนตัวของภาคประชาชนกรณีเข่ือนแม่วงก์ ส่วนหนึง่ เป็นผลมาจากสือ่ สมัยใหม่ทีน่ �ามาใช้เพือ่ ให้เข้าถึง ประชาชนวงกว้าง ท่ามกลางข้อจา� กัดของสื่อโทรทัศน์และ วทิ ยซุ ง่ึ ใหค้ วามสา� คญั กบั ประเดน็ ขา่ วอน่ื ๆ มากกวา่ โดยศศนิ 10 สถานการณ์เดน่ 57

การน�าเสนอข้อมูลผ่านการประชาสัมพันธ์แบบใหม่ จะท�าให้ป่าเสียหาย แต่ก็มีการสัง่ ให้ปลูกทดแทน 3 เท่า ให้ตรงกับพฤติกรรมการรับรู้ข่าวสารของคนรุ่นใหม่ ท่ีชอบ และเชญิ ใหผ้ คู้ ดั คา้ นมาชว่ ยกนั ปลกู ปา่ ดว้ ย ผมจะใหเ้ งินและ ข้อมูลท่ีส้ัน กระชับ เข้าใจง่าย และมีสีสัน เช่น การท�า หาทใ่ี ห้”6 คลิปวิดีโอ นับเป็นการขยายการรับรู้ไปสู่คนกลุ่มใหม่ๆ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพยง่ิ ดังจะเหน็ ไดจ้ ากคลปิ ความยาว 4 นาที น อ ก จ า ก นี้ น า ย ป ล อ ด ป ร ะ ส พ ยั ง ก ล ่ า ว อี ก ว ่ า เกี่ยวกับความเคลือ่ นไหวดงั กล่าว ทจี่ ัดท�าโดยนักศึกษา แม้การสร้างเขื่อนแม่วงก์จะช่วยลดปัญหาน�้าท่วมได้เพียง คณะนวตั กรรมส่อื สารสงั คม มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ 1% ก็ต้องสร้าง เพราะรัฐบาลมแี ผนสู้กับน้�าท่วม 9 เร่ือง ประสานมติ รเผยแพรท่ างยทู ปู เม่อื 26 กนั ยายน 25562 และ โดยการสรา้ งเขอ่ื นเปน็ หนง่ึ ในนน้ั ซ่งึ ประกอบดว้ ยเขอ่ื นเลก็ รายการเจาะข่าวตนื้ ตอน “เฉพาะเข่อื นแม่วงก”์ ท่ีเผยแพร่ และใหญ่ รวม 21 เข่อื น เม่ือรวมพลงั กันทั้งหมดแล้วจะเปน็ ทางยูทูปเม่อื 21 กันยายน 2555 มคี นเข้าไปดูมาก พลังขนาดใหญใ่ นการสกู้ ับน้�าท่วมได7้ ถงึ คลปิ ละกวา่ สองแสนคนในชว่ งปลายเดอื นมกราคม 25573 นอกจากน้ี เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลนย์ งั ทา� ใหเ้ กดิ ปรากฏการณ์ นโยบายของรฐั ดงั กลา่ ว ทา� ใหก้ ารเคลอ่ื นไหวคดั คา้ น การเคลือ่ นไหวด้านสิ่งแวดล้อมของนักร้องนักแสดง เขื่อนแม่วงก์ได้พัฒนาขยายวงจากการคัดค้านเขื่อนแม่วงก์ โดยในชว่ งทา้ ยๆ ของการเดนิ ทางไกลครงั้ น้ี เหลา่ ดารานกั รอ้ ง ไปยังการตรวจสอบนโยบายสาธารณะที่ส่งผลกระทบต่อ ที่มีช่ือเสียงจ�านวนมากได้ออกมาติดป้าย NO DAM หรือ ระบบนเิ วศอืน่ ๆ อีกดว้ ย โดยเฉพาะโครงการบริหารจัดการ “ไมเ่ อาเขอื่ นแมว่ งก”์ และลงขอ้ ความคดั คา้ นผา่ นสอ่ื ออนไลน์ นา้� 3.5 แสนล้านบาท โดยเม่อื วนั ท่ี 2 พฤศจกิ ายน 2556 ตา่ งๆ ท้งั เฟซบกุ๊ อนิ สตาแกรม และทวติ เตอร์4 ซ่งึ ชว่ ยขยาย ไดม้ กี ารตอ่ ยอดการรณรงคค์ ร้งั นผ้ี า่ นกจิ กรรม “เดนิ -ยน่ื -หยดุ การรับรู้เรื่องเขื่อนแม่วงก์ไปในคนกลุ่มเดก็ และวัยรุ่นและ เขอ่ื นแมว่ งก”์ เดนิ เทา้ จากหอศลิ ปวฒั นธรรมกรงุ เทพมหานคร ผสู้ นใจดา้ นบนั เทงิ ซึง่ ไมไ่ ดเ้ ปน็ กลมุ่ เปา้ หมายการรบั รขู้ อ้ มลู ไปยงั อนสุ าวรยี ช์ ัยสมรภมู ิ เพอ่ื รณรงค์ใหป้ ระชาชนออกมา ข่าวสารด้านการอนุรักษ์สิง่ แวดล้อมมาก่อน กระแสสังคม คดั คา้ นโครงการท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ ธรรมชาตใิ นพ้นื ท่อี ทุ ยาน ที่ตื่นตัวคัดค้านเข่ือนแม่วงก์ท�าให้มีผู้ลงชื่อคัดค้านเข่ือน แห่งชาติแม่วงก์ และมีการก่อตงั้ เครือข่ายอาสาเพือ่ แมว่ งก์ทเ่ี วบ็ ไซต์ Change.org ซงึ่ ประกาศตวั ว่าเปน็ กลาง สง่ิ แวดลอ้ ม หรอื Green Move Thailand ซง่ึ เปน็ เครอื ขา่ ย ในการให้ผู้คนสามารถรณรงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงทางสังคม อาสาของประชาชนท่ัวประเทศทีจ่ ะท�างานเพือ่ สิง่ แวดล้อม ถึง 1.2 แสนคน5 ส่งผลให้เป็นการรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ทมี่ ี โดยมจี ุดยืนสนับสนุนการพัฒนาที่ย่ังยืน ไม่เบียดเบียน ผู้ร่วมลงชอื่ มากท่ีสุดในเอเชยี สิ่งแวดล้อมและชุมชน และท�าหน้าทตี่ ดิ ตามตรวจสอบ นโยบายสาธารณะด้านส่ิงแวดล้อม โดยเฉพาะโครงการ ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของนักการเมืองท่ี จัดการน�า้ 3.5 แสนล้านบาท ซึง่ มีแผนสร้างเขือ่ นในป่า ผลักดันการสร้างเขือ่ นอย่างต่อเนือ่ ง โดยไม่สนใจกระแส อนุรักษ์ถึงกว่า 20 แห่ง8 จึงเท่ากับว่าการเคลื่อนไหวเพื่อ คัดค้านของสังคม ได้กระตุ้นให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วน คัดค้านการสร้างเขือ่ นแม่วงก์ครั้งนีไ้ ด้ปูทางและเสริมก�าลัง รว่ มแสดงความคิดเห็นมากขนึ้ เชน่ กรณนี ายปลอดประสพ ของภาคประชาชนให้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบและแสดง สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ เจตนารมณใ์ นการคดั คา้ นโครงการขนาดใหญข่ องรฐั ท่จี ะสง่ บริหารจัดการน�้าและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวถึงการคัดค้าน ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ซึง่ อาจ การสร้างเขื่อนแมว่ งก์วา่ นา� ไปสกู่ ารเปลี่ยนแปลงทางสงั คมทย่ี ิ่งใหญต่ ่อไป “ขอขอบใจที่พวกเขาเป็นคนรกั ป่า รกั สัตวป์ ่า แต่ผม “ยกต่อไป” โครงการบริหารจดั การน�า้ รักคนไทยมากกว่า ผมเลือกเอาชีวิตของคนไทยมากกว่า 3.5 แสนล้านบาท ผมตอ้ งท�าใหค้ นไทยปลอดภยั ใหไ้ ด้ ปา่ สรา้ งได้ สตั วป์ า่ สรา้ งได้ แตถ่ า้ นา้� ทว่ มไมม่ คี นไทย ประเทศกอ็ ยไู่ มไ่ ด้ รฐั บาลตดั สนิ ใจ ก า ร ไ ม ่ ก ล ่ า ว ถึ ง โ ค ร ง ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร น� ้า แลว้ คอื สร้างเขอ่ื นแม่วงก์ ไม่มเี ปลย่ี นใจ แมก้ ารสรา้ งเข่อื น 3.5 แสนลา้ นบาท ซง่ึ เปน็ “โครงการแม่” ของเข่อื นแมว่ งก์ จะทา� ใหม้ องไมเ่ หน็ การเช่อื มโยงและภาพใหญข่ องโครงการน้ี 58 สุขภาพคนไทย 2557

ซึ่งเป็นผลมาจากเหตกุ ารณ์น�้าท่วมใหญ่เมือ่ ปลายปี 2554 เกาะตดิ การเคลอ่ื นไหวภาคประชาชน หลังเหตุการณ์น�้าท่วมใหญ่เมือ่ ปลายปี 2554 ต่อเนื่อง ถึงตน้ ปี 2555 รัฐบาลยิ่งลกั ษณ์ ชินวัตร ไดจ้ ัดท�าโครงการ นับต้ังแต่รัฐบาลก�าหนดโครงการบริหารจดั การน�้า บรหิ ารจดั การน้า� ท่ใี หญท่ ่สี ดุ ในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ภายใตช้ ่ือ 3.5 แสนล้านบาท หน่วยงานภาครัฐก็เดนิ หน้าขับเคลื่อน “โครงการระบบบริหารจัดการน�้าอยา่ งยัง่ ยืน และระบบ โครงการด้วยการออกและแก้ไขกฎหมายหลายฉบับโดย แก้ไขปัญหาอทุ กภัยของประเทศไทย” ด้วยงบประมาณ ใหเ้ หตุผลดา้ น “ความเรง่ ด่วน” การกระทา� ดงั กลา่ วผลกั ดัน 3.5 แสนลา้ นบาท ประกอบด้วยการจดั ปลกู ปา่ ในภาคเหนอื ให้องค์กรภาคประชาชนเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูล ก่อสร้างเขื่อนและจัดหาพืน้ ทีแ่ ก้มลิงกักเก็บน�า้ โดยจะสร้าง ในรายละเอียด และต่อสู้ด้วยกระบวนการทางกฎหมาย โครงข่ายเช่อื มตอ่ แมน่ �้าหลัก 4 สาย คอื ปิง วงั ยม น่าน โดยกลไกทางกฎหมายท่อี งคก์ รภาคประชาชนใช้ คอื การฟอ้ ง และก่อสร้างทางระบายน�้าหรือฟลัดเวย์ด้านตะวันออกและ ศาลปกครองให้ระงับการประมลู โครงการบริหารจดั การน�้า ตะวันตกของแม่น�า้ เจ้าพระยา โดยแบ่งเป็น 10 แผนงาน 3.5 แสนล้านซึง่ รัฐบาลได้ดา� เนินการอย่างรวบรัด (ดภู าพ (module) (ดูภาพที่ 1) โดยนายปลอดประสพ ในฐานะ ท่ี 1) ผลลัพธ์คือศาลปกครองกลางได้มีค�าส่ังให้รัฐบาล ประธานคณะกรรมการบรหิ ารจดั การน้�าและอทุ กภยั (กบอ.) กลับไปจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ ซึง่ เป็นองค์กรใหม่ทีก่ ่อตงั้ ขึน้ เพือ่ บริหารจัดการโครงการ ส่วนเสียตามรัฐธรรมนูญก่อน ต่อมา กบอ. ได้ก�าหนด กล่าวว่าจะใช้วิธีการประมูล ออกแบบ และก่อสร้างแบบ การประชาพิจารณ์ใน 36 จังหวัด ระหว่าง 15 ตลุ าคม- “ท�าไป ออกแบบไป” คือบรษิ ทั ท่ีประมูลเปน็ ผอู้ อกแบบและ 6 ธันวาคม 2556 ประชาพิจารณด์ ังกล่าวดา� เนินการอยา่ ง กอ่ สรา้ ง โดยผปู้ ระมลู จะตอ้ งสง่ แบบใหต้ รวจสอบกอ่ นจงึ จะ เร่งรีบ โดยใช้เวลาจังหวัดละ 1 วัน และผู้สนใจเข้าร่วม ด�าเนินการก่อสร้าง หากไมอ่ นุมตั กิ ็ไมส่ ามารถด�าเนนิ การได้ สามารถลงทะเบยี นไดท้ างอนิ เทอร์เน็ตเทา่ นั้น ซึ่งจะใช้เวลาดา� เนินการแล้วเสรจ็ ประมาณ 5 ปี ในขณะที่ วิธีปกติของภาครัฐจะต้องออกแบบ ประมูล และก่อสร้าง กระบวนการที่รวบรัดดังกล่าวท่ีไม่เอ้ือให้ผู้มีส่วน อาจจะต้องใช้เวลา 10-12 ปี9 ไดเ้ สยี มสี ว่ นรว่ มอยา่ งเปดิ กวา้ ง เปน็ ตวั จดุ ชนวนใหเ้ กดิ กระแส คัดค้านจากประชาชนในพ้ืนที่ ซ่งึ นอกจากจะไม่เหน็ ดว้ ยกับ ภาพที่ 1 10 Module บริหารจัดการน�า้ ท่ีมา: โครงการนา้� 3.5 แสนลา้ น โครงการยักษ์เปล่ยี นประเทศ ท่คี นไทยไมร่ ้ไู ม่ได้. 30 กันยายน 2556. คน้ เม่อื 15 มกราคม 2557, จาก OK Nation Blog เวบ็ ไซต์ : http://www.oknation.net/blog/pasalarksee/2013/09/30/entry-1 10 สถานการณ์เดน่ 59

ตารางท่ี 1 เรือ่ งน่ารูเ้ กีย่ วกบั เขอ่ื นแม่วงก์ ประเด็น รายละเอียด ข้อมลู ทว่ั ไป เขอื่ นแมว่ งกม์ ลี กั ษณะเปน็ เขอื่ นหนิ ทง้ิ แกนดนิ เหนยี วขนาดใหญ่ ความยาว 730 เมตร กวา้ ง 10 เมตร สงู 57 เมตร พื้นทีอ่ ่างเก็บน�้าประมาณ 13,000 ไร่ อยใู่ นอทุ ยานแห่งชาตแิ ม่วงก์ จ.กา� แพงเพชร และ จ.นครสวรรค์ ปริมาณ กกั เกบ็ นา�้ 250 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร งบประมาณ ณ วนั ที่ 10 เมษายน 2555 มมี ูลคา่ กอ่ สรา้ งทงั้ สนิ้ 13,000 ลา้ นบาท รายงานการศึกษา จากการท�า EIA ทง้ั 4 ครง้ั ตัง้ แตป่ ี 2538, 2541, 2545 และ 2547 ไม่ผา่ นความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ผลกระทบทาง สิ่งแวดล้อม ซึง่ ระบุให้กรมชลประทานไปหาวิธจี ัดการน�า้ แบบบูรณาการทดี่ ีกว่าสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ทีก่ ่อให้เกิด สิง่ แวดลอ้ ม (EIA) ความเสียหายต่อสิง่ แวดล้อม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีหนังสือด่วนทสี่ ุดเมือ่ วันที่ 23 มีนาคม 2555 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นว่า โครงการเขื่อนแม่วงก์ขัดต่อเจตนารมณ์ของพระราช บัญญัติอุทยานแห่งชาติและไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ีกรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ ป่า และพันธุ์พืช จะพิจารณา ให้ดา� เนนิ การได้ ทีม่ า: ตดั ตอนจาก 9 เรอื่ งทีค่ ุณควรรเู้ กี่ยวกบั เขื่อนแมว่ งก์, ดร. นณณ์ ผาณติ วงศ์ @ siamensis.org รูปแบบการประชาพิจารณ์แล้ว ยังไม่เห็นด้วย อนาคตของโครงการบริหารจดั การน�า้ กับข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ กับกระแสการคัดค้าน ทีภ่ าครัฐน�าเสนออีกด้วย ดงั ความเห็นของ นายศรสี วุ รรณ จรรยา นายกสมาคมตอ่ ตา้ นสภาวะ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 โลกร้อนและแกนน�าภาคประชาชนในการฟ้อง รฐั บาลไดเ้ ล่อื นประชาพจิ ารณอ์ อกไป เน่อื งจากติดกฎหมายการเลอื กต้งั ศาลปกครองกลางทีก่ ล่าวว่า “การเชิญกลุ่ม โดยยังเหลืออีก 3 จังหวัด และจนถึงปลายเดือนมีนาคม 2557 ผู้มีส่วนได้เสียเข้ามารับฟังยังไม่ครบถ้วน ศาลปกครองกลางยังไม่มีค�าพิพากษาในเรือ่ งนี้ จึงน่าจับตามองว่า การน�าเสนอเนื้อหารายละเอียดไม่ได้เป็นตาม รฐั บาลใหมจ่ ะมที า่ ทตี อ่ โครงการนต้ี อ่ ไปอยา่ งไร และองคก์ รภาคประชาชน ค�าสั่งของศาลปกครอง เช่น ให้เอาแผนแม่บท จะดา� เนินการเชน่ ไร ไปรับฟัง แต่รัฐบาลพยายามเอาโมดลู ไปรับฟัง ซ่งึ ขดั หรอื แยง้ ตอ่ คา� พพิ ากษาของศาล “นอกจากน้ี ประเด็นที่น่าสนใจในด้านการเคล่ือนไหวของภาคประชน ขน้ั ตอนการท�าประชาพจิ ารณต์ อ้ งเอาแผนแม่บท เก่ยี วกบั โครงการบรหิ ารจดั การนา้� คอื การต่ืนตวั ของประชาชนในพ้นื ท่ี ไปคยุ กบั ประชาชนทง้ั 65 จงั หวดั ทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบ ผ่านการติดตามข้อมูลข่าวสารทางสือ่ ต่างๆ และปรากฏตวั แสดง จากน�้าท่วมในปี 2554 ให้เรียบร้อย เสร็จแล้ว เจตนารมณ์ในเวทปี ระชาพิจารณ์ต่างๆ ดงั สะท้อนให้เห็นจากรายงาน ได้ข้อสรุปมาจึงมาก�าหนดเป็นแผนงาน แล้วจึง ข่าวของส่ือหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ถึงการปะทะกัน ไปศึกษาผลกระทบด้านคุณภาพสิง่ แวดล้อม ระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ภี าครฐั กบั ประชาชนท่ีเขา้ รว่ มการประชาพจิ ารณเ์ ปน็ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสขุ ภาพ หรอื EHIA โดย ระยะ นอกจากนีอ้ งค์กรภาคประชาชนและประชาชนในพืน้ ทสี่ ่วนหนงึ่ ขั้นตอนการศึกษา EHIA มี 5 เวที ต้องรับฟัง ได้ลุกขึ้นมาเปิดช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ความเห็น กระบวนการเหล่านี้อย่างน้อย 2 ปี เพือ่ สร้างการรับรู้และสนับสนุน ดงั ตัวอย่างของหน้าเพจในเฟสบุ๊ค ดจู ากประสบการณค์ ดมี าบตาพุดอย่างนอ้ ย 2 ปี ต่างๆ ทีเ่ ก่ียวกบั การรณรงคค์ ดั คา้ นโครงการจัดการนา้� 3.5 แสนลา้ น เรว็ กวา่ นไ้ี มไ่ ด”้ 10 ดว้ ยเหตนุ ้อี งคก์ รภาคประชาชน อาทิ “จบั ตาแม่น้า� ใหม่ อยา่ ท�าร้ายสายน�า้ แมก่ ลอง”, “ตะวนั ตกไม่เอา จึงยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง ขอไต่สวนฉุกเฉิน คลองแมน่ า้� ปงิ ”, “จบั ตา-โครงการจดั การน้า� ”, “รณรงคค์ ดั คา้ นการสรา้ ง กรณีการประชาพิจารณ์ดงั กล่าว ในการยืน่ ฟ้อง เขือ่ นแม่แจ่ม”, “เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้�าชมพู” ฯลฯ ซึ่งนับวันจะยิ่ง ครัง้ นีม้ ีการเพิ่มข้อกล่าวหาเพิ่มขึ้นอีก 5 คดี สรา้ งพนั ธมิตรจากคนกล่มุ ตา่ งๆ ทัว่ ประเทศเพ่อื เปน็ พลังในการยบั ยง้ั โดยมีการแถลงปิดคดีเม่ือ 9 มกราคม 2557 โครงการบรหิ ารจดั การนา้� ทดี่ า� เนนิ การโดยขาดความโปรง่ ใส และละเลย การมสี ว่ นร่วมของภาคประชาชน 60 สุขภาพคนไทย 2557

ตารางที่ 2 การขับเคลอ่ื นโครงการบรหิ ารจัดการน�า้ ของภาครฐั และประชาชน การขับเคลื่อนภาครฐั การขบั เคลอ่ื นภาคประชาชน 26 มกราคม 2555 พระราชก�าหนดกระทรวงการคลังกู้เงินเพ่ือ 2 พฤษภาคม 2556 ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนนัดแรก คดี การวางระบบบริหารจัดการ น�า้ และสร้างอนาคตประเทศไทย สมาคมตอ่ ตา้ นสภาวะโลกรอ้ น และชาวบา้ นผรู้ ว่ มฟอ้ ง 45 ราย ยน่ื ในวงเงินไมเ่ กนิ 3.5 แสนล้านบาทมผี ลบังคับใช้11 ค�าร้องให้ระงบั การประมลู โครงการบริหารจดั การนา�้ 3.5 แสนลา้ น 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2556 ประกาศผลผมู้ สี ทิ ธเิ ขา้ รว่ มประมลู รอบแรก 27 มิถนุ ายน 2556 ศาลปกครองกลางมคี า� สงั่ ให้รัฐบาลกลับไป ว่ามีจา� นวน 6 กลมุ่ บรษิ ทั จัดกระบวนการศกึ ษา และรับฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน และ ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา 57 วรรค 2 และ มาตรา 67 3 พฤษภาคม 2556 เปดิ ให้ผู้ประมูลท่ีไดร้ ับคดั เลือกในรอบแรก วรรค 2 ก่อนทจี่ ะด�าเนินการจ้างออกแบบและก่อสร้าง มาย่นื ซองราคา ในแต่ละแผนงาน (Module)” 17 พฤษภาคม 2556 ป.ป.ช. พจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ โครงการดงั กลา่ ว 10 ตุลาคม 2556 สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และชาวบ้าน มกี ารใชง้ บประมาณจา� นวนมาก และมจี ดุ เสยี่ งหลายจดุ จงึ มมี ติ ผรู้ ว่ มฟอ้ ง 45 ราย ย่นื คา� รอ้ งตอ่ ศาลปกครองสงู สดุ ใหไ้ ตส่ วนฉกุ เฉนิ เปน็ เอกฉนั ทส์ ง่ รายงาน “ขอ้ เสนอแนะเพอื่ ปอ้ งกนั การทุจรติ และ เพ่ือยุติหรือเพิกถอนเวทีฟังความคิดเห็นของประชาชนทวั่ ประเทศ ความเสยี หายของทางราชการ ในการดา� เนนิ การโครงการระบบ จ�านวน 36 จังหวัด ซึ่งสมาคมฯ เห็นว่าการด�าเนินการดังกล่าว บริหารจัดการทรัพยากรน้�าอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหา ไม่เป็นไปตามค�าพิพากษาของศาลปกครองกลาง ณ วันที่ 27 อุทกภยั ของประเทศไทย” ตอ่ คณะรฐั มนตรี12 มถิ ุนายน 2556 10 มิถุนายน 2556 รัฐบาล “ปดิ ซองราคา” ผ้ชู นะด้านเทคนิค 15 ตลุ าคม-ธันวาคม 2556 เกิดความวุ่นวายในการจัดท�า โครงการนา�้ 3.5 แสนลา้ นบาท “ITD POWER CHINA JV” ประชาพิจารณาระดับจงั หวัด อาทิ ได้มากสุด 5 โมดูล วงเงิน 1.09 แสนล้านบาท ขณะที่ “เค วอเตอร”์ ได้ 2 โมดลู แตง่ บฯ มากสดุ 1.62 แสนลา้ นบาท13 15 ตุลาคม ชาวบ้านจังหวัดล�าพูนคัดค้านโครงการอ่างเก็บน�้า ขนาดใหญ่ โดยเสนอให้สร้างอ่างเก็บน้�าขนาดเล็กแทน เนื่องจาก 19 มิถุนายน 2556 คณะรัฐมนตรีอนุมัตแิ ผนการกู้เงนิ ตาม กลัวการยา้ ยทีอ่ ยู่อาศัยและวถิ ีชวี ติ เปลี่ยนแปลง พระราชกา� หนดใหอ้ �านาจกระทรวงการคลงั กเู้ งินเพ่อื การวางระบบ บรหิ ารจดั การน้า� และสรา้ งอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 วงเงินทง้ั สน้ิ 22 พฤศจกิ ายน ทจี่ ังหวัดสมุทรสงคราม ชาวบ้านค้านและโห่ 314,337.87 ล้านบาท14 ไมย่ อมรบั กระบวนการทา� ประชาพจิ ารณแ์ ละขณะทร่ี ถของกรรมการ กบอ. กา� ลงั ออกจากสถานทจี่ ดั งาน ถกู กลมุ่ นกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนคิ 27 มถิ ุนายน 2556 ก่อน พรก. ไม่มีผลบังคบั ใช้ 3 วนั นายพงษ์ สมทุ รสงครามยนื ขวางหน้ารถ ต�ารวจปราบจลาจลผลกั ดันจนเกิด ภาณุ เศวตรนุ ทร์ รองปลดั กระทรวงการคลงั ลงนามในสญั ญาเงนิ กู้ การกระทบกระท่ัง วงเงนิ 324,606.27 ล้านบาท กับสถาบันการเงนิ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, กรงุ ไทย, กสกิ รไทย และออมสนิ 27 พฤศจิกายน ที่มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั หม่บู า้ นจอมบงึ อ�าเภอ จอมบึง จังหวัดราชบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวยืนยันมติ 17 กนั ยายน 2556 ส�านกั งานนโยบายและบริหารจัดการนา� และ ของที่ประชุมว่า “มติมหาชนชาวราชบุรีไม่เอาโครงการนี้” อุทกภยั แห่งชาติ (สบอช.) ก�าหนดการจัดประชุมรบั ฟงั ความคดิ หลังจากแกนน�าชาวราชบุรีต้ังค�าถามในท่ีประชุมว่ามีผู้เห็นด้วย เห็นของประชาชนใน 36 จังหวัด คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุม กับโครงการหรือไม่ ไม่ปรากฏว่าไม่มีใครยกมือเห็นด้วย และ 40,000 คน ใชง้ บประมาณ 184,643,920 บาท เมอ่ื ถามวา่ มใี ครคดั คา้ นบา้ ง ปรากฏวา่ ทงั้ หอประชมุ ตา่ งรว่ มกนั 26 ธันวาคม 2556 กกต. มคี า� ส่งั เลื่อนกระบวนการรบั ฟังความคิด ยกมอื ”15 เห็นจากประชาชนออกไปจนกว่าจะเสร็จสิน้ การเลือกตัง้ โดยยังมี อกี 3 จังหวัด ท่ยี งั ไมไ่ ด้ดา� เนนิ การ คอื นครปฐม, กาญจนบรุ ี และ 9 มกราคม 2557 ผู้ฟ้องแถลงปดิ คดี กรงุ เทพมหานคร 10 สถานการณเ์ ด่น 61

Pวง4กาPรสายธาาดรสี ณา� หสรุขบั ...จริงหรือ? prachatai ปัญหาสมองไหลของบุคลากรสาธารณสุขเป็นเร่ืองท่ีมมี าอย่างยาวนาน กระทรวงสาธารณสุขต้องการแกป้ ัญหา น้ดี ว้ ยการจา่ ยคา่ ตอบแทนแกบ่ คุ ลากรสาธารณสขุ แตล่ ะคนตามผลงาน ทเ่ี รยี กวา่ P4P เพอ่ื จงู ใจใหบ้ คุ ลากรสาธารณสขุ ต้งั ใจทา� งานเพือ่ ให้ไดผ้ ลตอบแทนมากยง่ิ ขน้ึ แต่รายละเอียดการจ่ายค่าตอบแทนแบบ P4P เป็นที่ถกเถียงในวงการสาธารณสขุ ว่า อาจส่งผลให้บุคลากร ทางการแพทย์ท่ีอยู่ในชนบทห่างไกลย้ายมาท�างานในตัวเมือง รวมท้ังอาจเป็นการลดทอนคุณภาพการให้บริการลง โดยจะเนน้ ไปทก่ี ารเพมิ่ ปรมิ าณในการใหบ้ รกิ ารแทน สงั คมคงตอ้ งตดิ ตามกนั ตอ่ ไปถงึ วธิ กี ารจา่ ยคา่ ตอบแทนแบบ P4P ว่าจะเหมาะสมและเปน็ การพัฒนาระบบสาธารณสุขโดยรวมจริงหรือไม่ ข่าวเด่นประเด็นร้อนเรือ่ งหนึง่ ในแวดวงการ P4P คอื อะไร สาธารณสุขตั้งแต่ต้นปี 2556 เปน็ ตน้ มา คงหนไี มพ่ น้ กรณี ทกี่ ระทรวงสาธารณสุขโดย นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ P4P มาจากค�าว่า Pay for Performance เป็น รฐั มนตรวี า่ การกระทรวง ณ เวลานนั้ จดุ ประเดน็ เรอ่ื งการนา� การจ่ายค่าตอบแทนแก่บุคลากรสาธารณสุขแต่ละคน ระบบจ่ายเงนิ ตามผลการท�างาน หรือทีร่ ู้จักคุ้นหูในนาม ตามผลการปฏิบัติงานท้ังงานบริการ งานบริหารและ P4P มาใช้ จนน�ามาสู่ความสับสนวุ่นวายและการต่อต้าน งานวชิ าการ โดยผลการปฏิบัตงิ าน ประกอบด้วย ปรมิ าณ อยา่ งหนักโดยเฉพาะจากกลุ่มแพทยช์ นบท ภาระงานและคุณภาพงาน ทเี่ พิ่มขึ้นเกินจากมาตรฐานที่ หนว่ ยงานก�าหนด1 จะวา่ ไปแลว้ P4P เป็นเคร่อื งมอื ท่ีมุ่งให้ 62 สุขภาพคนไทย 2557

ระบบการจ่ายค่าตอบแทน ปี 2556 ส่วนที่ 1 การจดั แบง่ กลมุ่ โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ใหม่ ให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจบุ นั การด�าเนินการเรือ่ งที่ 1 โดยการปรับพืน้ ทสี่ �าหรับการเบิกจ่ายเบีย้ เลีย้ งเหมาจ่ายแบ่งเป็น 4 กลุ่มพืน้ ที่ คือ พืน้ ทีเ่ ขตเมือง พืน้ ทีป่ กติ พื้นทเ่ี ฉพาะระดับ 1 และพนื้ ทีร่ ะดับ 2 โดยวางแผนการด�าเนินการเปน็ 2 ระยะ เพือ่ ใหบ้ ุคลากรและโรงพยาบาลมเี วลาปรบั ตวั และ ศึกษาปญั หาทีเ่ กดิ ในระหว่างดา� เนินการ เพ่ือปรบั เปลยี่ นใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพและลดช่องว่างใหน้ ้อยทสี่ ดุ จะเรมิ่ ด�าเนนิ การตามระบบใหม่ ระยะแรก ตง้ั แต่ 1 เมษายน 2556-31 มีนาคม 2557 และระยะท่ี 2 ตงั้ แต่ 1 เมษายน 2557 เป็นตน้ ไป ส่วนท่ี 2 ปรับวธิ ีการจา่ ยค่าตอบแทนเปน็ 2 ระบบคขู่ นาน ระบบ 1 การจา่ ยแบบเบ้ยี เล้ยี งเหมาจา่ ยให้บุคลากรทีป่ ฏิบัตงิ าน ระบบ 2 การจ่ายตามผลการปฏบิ ัตงิ าน หรอื P4P ซึง่ เปน็ ระบบ ในโรงพยาบาลชุมชนทวั่ ไปทอี่ ยู่ไกลเมือง อยู่ในพืน้ ทีห่ ่างไกล และ การจ่ายทีส่ ร้างความเป็นธรรม ภายในวิชาชีพและระหว่างวิชาชีพ มคี วามยากล�าบากในการเดนิ ทาง ให้แกผ่ ูป้ ฏิบัตงิ านในภาคบรกิ ารทกุ คน การด�าเนนิ การเร่อื งท่ี 2 ปรบั อตั ราคา่ เบย้ี เลย้ี งเหมาจา่ ยใหเ้ ปน็ ธรรม การดา� เนนิ การเรือ่ งที่ 3 เพ่มิ การจ่ายแบบ P4P ตามคู่มอื การจา่ ย มากขึ้น ใหส้ อดรบั กบั การปรบั ในสว่ นที่ 1 คา่ ตอบแทนตามผลการปฏิบตั งิ าน เริม่ ปรับใช้ 1 เมษายน 2556 ใช้เวลาในระยะเปลย่ี นผา่ น 1 ปี และจะใชเ้ ต็มรูปแบบ 1 เมษายน 2557 เกิดการจูงใจให้คนทา� งานในองค์กรขยัน หรือตัง้ ใจท�างาน แก่เจ้าหน้าทีท่ อี่ ยู่เวรนอกเวลาราชการ เพื่อจูงใจให้แพทย์ เพือ่ จะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านี้ กระทรวง พยาบาลท่ีอยู่เวร ขยันในการดแู ลคนไข้มากขน้ึ โครงการนี้ สาธารณสุขได้ประสบปัญหาเร่ืองการกระจายบุคลากรและ แมจ้ ะมขี อ้ เสยี อยบู่ า้ ง แตก่ น็ บั วา่ ประสบผลสา� เรจ็ เพราะเปน็ การจัดสรรทรัพยากรมานานแล้ว และได้พยายามแก้ไข มาตรการสมคั รใจ ไมบ่ งั คบั เพราะจะไดค้ า่ ตอบแทนมากขน้ึ ปัญหาระบบการจ่ายค่าตอบแทนเพื่อให้ทดั เทยี มกับ ถ้าทา� งานมากข้ึน ภาคเอกชน ซ่ึงความรเิ ริ่มคร้ังล่าสดุ ในปี 2556 คอื ระบบ การจา่ ยค่าตอบแทนแบบ P4P2 วิวาทะของวงการสาธารณสุข จะว่าไปแลว้ ระบบ P4P กเ็ ป็นหลกั การท่ีดี แต่ก็ ววิ าทะของท้ัง 2 ฝา่ ยเร่ิมต้นข้นึ เมอื่ รฐั บาลประกาศ เป็นเรือ่ งน่าคิดว่า เมือ่ กระทรวงสาธารณสุขน�าระบบนี้ ว่าจะใช้นโยบาย P4P ซึ่งจะท�าให้แพทย์ในเขตเมอื งซ่ึงมี มาใช้ ท�าไมจึงถกู ตอ่ ต้านขนาดน้ี จ�านวนคนไข้มากกว่าได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าแพทย์ในเขต ชนบท ความเห็นต่างเริม่ ลุกลามจนกลายเป็นความขัดแย้ง อันทีจ่ ริงหลักการเรื่องการจ่ายผลตอบแทนตาม ที่ดูเหมอื นจะไมจ่ บลงงา่ ยๆ นพ.เกรยี งศักดิ์ วชั รนุกลู เกยี รติ ผลงาน (Pay for Performance) ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในภาค ประธานชมรมแพทยช์ นบท และบคุ ลากรทางการสาธารณสขุ เอกชนมกี ารน�าระบบนีม้ าใชก้ วา่ 20 ปีแล้ว ต้นตอเร่มิ จาก ทีป่ ระจ�าอยู่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะภูมิภาคทีห่ ่างไกลจาก เดิมทีการจ่ายผลตอบแทนขององค์กรต่างๆ ไม่ว่าภาครัฐ ความเจริญ ได้ประท้วง นพ.ประดษิ ฐ สินธวณรงค์ รมว. หรอื เอกชนตั้งอยูบ่ นพ้นื ฐานของวัฒนธรรมการท�างานแบบ กระทรวงสาธารณสุข ดว้ ยการแต่งชุดดา� และถึงข้นั เผาหุน่ ท่เี รยี กวา่ “ถงึ เวลาต้องได”้ (Entitlement Culture) รวม นพ.ประดิษฐ โดย นพ.เกรยี งศกั ด์ิกลา่ ววา่ ไดร้ บั ความกระทบ ทั้งในวงการสาธารณสขุ ก็เช่นกัน กระเทือนจิตใจจากกรณีรัฐมนตรีพูดว่า แพทย์ชนบทไม่มี น�้าใจ ตลอดชวี ิตของท่านรัฐมนตรีไม่เคยเป็นแพทย์ชนบท กรณแี รกๆ ท่มี กี ารนา� P4P มาใชเ้ ม่อื กวา่ 30 ปที ่แี ลว้ จงึ ไมร่ วู้ า่ การท�างานของแพทยช์ นบทเปน็ อยา่ งไร4 และการนา� คือ การจ่ายเงินเพิ่มแก่โรงพยาบาลชุมชนทที่ �าหมันหญิง P4P มาใช้ทา� ให้แพทย์และบุคลากรในพื้นทีช่ นบทขาดแรง ในโครงการวางแผนครอบครัว มาตรการนีไ้ ด้ผลดี จงู ใจ จนลาออกไปซบอกเอกชนมากขน้ึ เกดิ ความขาดแคลน ทา� ในระยะหนง่ึ กเ็ ลกิ ไป เพราะบรรลเุ ปา้ หมายแลว้ 3 อกี กรณี บุคลากรในพ้ืนที่หา่ งไกล5 ทีน่ ่าสนใจคือ โครงการจ่ายค่าตอบแทนตามปริมาณงาน 10 สถานการณ์เดน่ 63

prachatai การนา� ระบบ P4P มาใชน้ ้ี เร่มิ ตน้ ดว้ ยการจดั แบง่ พน้ื ท่ี รพช. ใหมใ่ หส้ อดคลอ้ งกบั สภาพความเปน็ จรงิ บางพน้ื ท่ี จากท่ีเคย ดร.ธงชัย วชริ โรจน์ไพศาล คณะทันตแพทยศาสตร์ แบ่งเปน็ รพช. เล็ก ย่อยเป็นพน้ื ทป่ี กติ พน้ื ทที่ รุ กนั ดาร 1-2, จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั กลา่ ววา่ หลกั การทก่ี า� ลงั จะใชเ้ ปน็ รพช.กลาง ย่อยเป็นพื้นทีป่ กติ พื้นทีท่ ุรกันดาร 1-2 และ Pay for Service มากกวา่ กล่าวคือ รบั คนไขม้ ากแค่ไหนได้ รพช.ใหญ่ จะแบง่ ใหม่เป็น รพช.ขนาดเลก็ พ้ืนทีป่ กติ, พ้นื ท่ี เงินมากเทา่ น้นั ความเหน็ สว่ นตวั คดิ วา่ ระบบน้ที า� ใหค้ ณุ ภาพ เฉพาะ 1-2 รพช.กลางพืน้ ที่ปกต,ิ รพช.ใหญพ่ ื้นที่ปกติ และ ในการรักษาคนไขต้ �่าลง เนอื่ งจากระบบบงั คับใหแ้ พทย์ต้อง รพช.พน้ื ท่ชี มุ ชนเมือง ท�าแต้มเยอะๆ เพือ่ ให้ได้เงนิ ตามจ�านวนงาน ซึ่งอาจท�าให้ แพทยต์ อ้ งเรง่ ตรวจคนไขใ้ หไ้ วขน้ึ เพ่อื จะท�าแตม้ 6 ในฝง่ั ของ เมือ่ มีการแบง่ พน้ื ที่ รพช.ทมี่ อี ยู่ทง้ั สนิ้ 737 แห่งใหม่ นพ.สมชาย ศรีสมบัติ ผอ.รพ.ตากใบ ได้บอกว่า การจ่าย จะท�าให้ รพช.บางแห่ง ถูกยกเป็นพืน้ ทีป่ กติตามขนาด คา่ ตอบแทนแบบ P4P ยงิ่ สร้างความเหล่อื มล้�า โดยเฉพาะ โรงพยาบาลเลก็ กลาง ใหญ่ รวม 591 แหง่ และพนื้ ทชี่ มุ ชน ในสายงานบริหาร7 ทัง้ นี้ ความขัดแย้งทเี่ กิดขึ้นนี้ เมือง 33 แห่ง ขณะทีพ่ ืน้ ทีท่ ีย่ ังมีความทุรกันดารแท้จริง มี 2 สาเหตุ8 ยังคงถกู ระบุเช่นเดิมแตเ่ ปล่ยี นชื่อเป็นพน้ื ทเี่ ฉพาะ 1 และ 2 อาทิ รพช.ทุกแห่งใน 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้ พน้ื ที่เกาะ สาเหตุแรก คือ การจ่ายเฉพาะตามรายกิจกรรม ท่ียากลา� บากในการเดนิ ทาง พ้นื ทีช่ ายแดน และพ้นื ท่ีหา่ งไกล มากขนึ้ เชน่ ผา่ ตดั เสน้ เลอื ดหรอื เยบ็ แผลจะไดเ้ ทา่ โนน้ เทา่ นี้ เช่น รพ.ปางมะผ้า รพ.ขนุ ยวม จ.แมฮ่ ่องสอน รพ.อมุ้ ผาง กลายเป็นรายละเอียดในกิจกรรม ซ่ึงอาจจะไม่ส่งผลต่อ จ.ตาก เป็นต้น จ�านวน 113 แห่ง การถูกยกระดับให้ ความอยู่ดีมีสุขหรือการมีสุขภาพดีของคนไข้ เพราะเป็น กลายเป็นพื้นที่ปกติและพ้ืนที่ชุมชนเมืองมีผลอย่างยิ่งต่อ การมองการรักษาคนไข้แบบแยกส่วน ตามกิจกรรมการ อตั ราการได้รบั เบยี้ กันดาร ท่ีมีการทยอยปรบั เปน็ 2 ระยะ ใหบ้ รกิ าร อาจทา� ใหก้ ารดแู ลคนไขแ้ บบองคร์ วมไมเ่ กดิ ขน้ึ ได้ ตามทีค่ วรจะเป็น ระยะแรก เรม่ิ 1 เมษายน 2556 รพช.ขนาดเลก็ พนื้ ที่ ปกติ และพื้นที่เฉพาะ 1-2 ไมม่ ีการปรบั เบ้ียกันดาร ให้รบั สาเหตุที่สอง คือ แพทย์ที่ท�างานในชนบทเกรงว่า เทา่ เดิม มกี ารปรบั ลดลงในสว่ นของรพช.กลางและใหญพ่ น้ื ท่ี จะเปลี่ยนจากระบบเบี้ยเลีย้ งเหมาจ่ายในพื้นทที่ รุ กันดาร ปกติและพื้นที่ชุมชนเมอื ง และระยะที่ 2 เริ่ม 1 เมษายน มาเป็น P4P ซึง่ เป็นเรือ่ งทอี่ ่อนไหวมาก เพราะว่า แพทย์ 2557 พ้ืนทีเ่ ฉพาะ 1-2 ไม่มกี ารปรับเบยี้ กนั ดาร ส่วน รพช. ที่ท�างานในชนบทนั้นอยู่ในท่ีล�าบาก เคร่ืองมือไม่เพียงพอ พ้ืนที่ปกติท้ังขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ปรับลดลงและได้รับ ต่อการให้บริการ ทางราชการจึงจ่ายเบีย้ เลี้ยงเหมาจ่าย การจ่ายเพ่ิมเติมตามหลัก P4P และพื้นท่ีชุมชนเมือง ให้ตามพื้นที่ เพือ่ แสดงให้เห็นถึงความยากล�าบากของ จะยกเลิกเบีย้ กันดารจ่ายแบบ P4P อย่างเดยี ว หลังจาก การท�างานในพ้นื ท่ี และหากเอา P4P มาแทนกม็ ขี อ้ กงั วลวา่ ผ่านพ้น 2 ระยะจะมีการประเมินผลและพิจารณาอีกครัง้ โรงพยาบาลชมุ ชน (รพช.) คนไข้นอ้ ย หากจา่ ยตามปรมิ าณ วา่ จะมที ิศทางแนวการจา่ ยคา่ ตอบแทนอยา่ งไรตอ่ ไป งานก็อาจมีส่วนท�าให้ได้รับค่าตอบแทนน้อยลง รวมทงั้ แมจ้ ะได้รบั การคัดคา้ นอยา่ งมาก แต่ น.พ. ประดิษฐ ไดใ้ หส้ มั ภาษณผ์ า่ นหนงั สอื พมิ พไ์ ทยรฐั ฉบบั วนั ท่ี 26 เมษายน 2556 ว่า “P4P ไม่มีทางทีจ่ ะท�าให้แพทย์ลาออกมากขึน้ มแี ตจ่ ะทา� ใหแ้ พทยแ์ ละบุคลากรสาธารณสขุ ทกุ สาขาวชิ าชพี มีขวัญและก�าลังใจมากข้ึน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรับผดิ ชอบ ภาระงานท่ยี ากและมีปรมิ าณมาก” 9 ในทางกลบั กนั มเี สยี งสนบั สนนุ นโยบายนจ้ี ากบคุ ลากร ทางการแพทย์บางกลุ่ม โดยโรงพยาบาลศูนย์และโรง 64 สุขภาพคนไทย 2557

รายไดแ พทย เภสัช ทันตแพทย เดมิ ตดั แบง รายไดแพทย เภสชั ทันตแพทย ไมรวมเบยี้ เลี้ยง ท่ีตำ่ กวาเอกชนอยา งนอ ย 2-3 เทา เบยี้ เลี้ยงเหมาจา ย P4P เปลี่ยนเปน เพ่ิมปริมาณงาน รายไดลดลง เพมิ่ ภาระงาน สรางความแตกแยกใน รพช. ลดคณุ ภาพงาน เพราะใหเงินตามแตม เพราะเอาไปลอใหทำงาน เพราะมัวจดแตม เพราะตองมาปน แตมแยง เงนิ เพอ� เพิ่มปริมาณ เปดคลนิ กิ ลาออก/ยาย ไมไ หวแลว อดทน รพ.เอกชน แพทย เภสชั ทนไมไหว ลดตน ทนุ มหาศาล ทนั ตแพทย ในชนบทลดลง ประชาชน? คนรากหญา ? ผลประโยชนได ใคร? เกิด แก เจบ็ ตาย ทำไง? ท่ีมา: https://www.facebook.com/pages/ชมรมแพทย์ชนบท#sthash.q56no8Vz.dpuf พยาบาลท่วั ไป ได้เขา้ ให้กา� ลงั ใจกบั นพ.ประดษิ ฐ วา่ P4P ดงั นัน้ หากมองย้อนกลับไป คงเป็นทเี่ ข้าใจได้ว่าเหตุ มาถูกทางแลว้ เหมาะสม ยตุ ิธรรมกับคนทา� งาน ส่วนคนท่ี ใดแนวคิดเรือ่ ง P4P จึงถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาและ ไดป้ ระโยชน์ คอื ประชาชนผรู้ บั บรกิ าร นน่ั คอื ทา� มากไดม้ าก ประกาศใชเ้ ปน็ นโยบายในท่สี ดุ กเ็ พราะเช่อื วา่ ระบบการจา่ ย ท�าน้อยได้น้อย รวมทั้ง นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ผลตอบแทนแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาบุคลากรภายในองค์กร ปลดั กระทรวงสาธารณสุข แสดงความคิดเห็นผา่ นรายการ ได้ดงั ท่เี คยใชก้ บั ภาคเอกชน รัฐบาลยิง่ ลักษณ์พบประชาชนทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เม่อื วนั ท่ี 8 มถิ นุ ายน 2556 วา่ “P4P จะชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพ อันทีจ่ ริงก่อนการประกาศใช้นโยบาย P4P ในสมัย การใหบ้ ริการและชว่ ยเพมิ่ ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร รฐั บาลยง่ิ ลกั ษณ์ ชนิ วตั ร กระทรวงสาธารณสขุ ไดด้ �าเนนิ การ ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด” 10 โครงการ “ทดลองจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัตงิ าน หรือ Pay-for-Performance (P4P)” มาแล้ว เมื่อ ปัญหานีค้ าราคาซังมาพอสมควรและท�าท่าว่าจะต่อ ปีงบประมาณ 2546 โดยน�าร่องที่ โรงพยาบาลพาน เน่ืองต่อไปอีกนาน ยังไม่มีใครตอบได้ว่าสุดท้ายจะออก จ.เชยี งราย และโรงพยาบาลสงู เนนิ จ.นครราชสมี า ในลกั ษณะ “หัว” หรือ “ก้อย” แต่ค�าถามที่น่าสนใจในตอนนี้คือ การจา่ ยคา่ ตอบแทนเพม่ิ เตมิ นอกเหนอื การจา่ ยคา่ ตอบแทน “เราเรียนรอู้ ะไรจากเร่ืองนไี้ ดบ้ า้ ง?” ในรูปแบบพืน้ ฐานอืน่ ๆ จากนั้นในปีงบประมาณ 2551 ไดข้ ยายโครงการนา� รอ่ งไปท่ี โรงพยาบาลแกง่ คอย จ.สระบรุ ี ที่ผ่านมา วงการสาธารณสุขพบว่าภาวะสมองไหล โรงพยาบาลมะการักษ์ จ.กาญจนบุรี โรงพยาบาลแม่จนั ในหน่วยงานราชการโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ จ.เชียงราย โรงพยาบาลพนมสารคามและโรงพยาบาล อยู่ในระดับสูง โดยแต่ละปีกระทรวงสาธารณสุขสูญเสีย บางคล้า จ.ฉะเชงิ เทรา มาแล้ว จากนั้น ได้ประชมุ แพทย์ท่ีมีฝีมือไปไม่น้อยกว่าปีละ 600-700 คน อัตรา “สรปุ บทเรยี น” เร่อื ง P4P ท่โี รงพยาบาลพาน จงั หวดั เชยี งราย การลาออกรวมทุกประเภทของบุคลากรสายงานแพทย์ ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน พ.ศ. 2551 ซึง่ สามารถ ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุข ณ วนั ที่ 19 มีนาคม สรปุ ผลกระทบท้ังดา้ นบวกและดา้ นลบของโครงการไดด้ งั น้1ี 1 2556 ตั้งแตป่ ี 2550-2555 ตามลา� ดบั ดังน้ี 792, 736, 650, 622, 711, 675 คน 10 สถานการณ์เดน่ 65

ด้านบวก สรปุ บทเรียน เร่ือง P4P 1. เจ้าหนา้ ท่มี ีความกระตือรอื รน้ ในการทา� งาน ดา้ นลบ เพ่มิ ข้นึ 1. มีการปฏเิ สธงานทม่ี ีคะแนนน้อยหรือไม่มคี ะแนน 2. ขวญั และก�าลงั ใจของผู้ปฏบิ ตั งิ านเพม่ิ ขนึ้ 2. มีการไม่ยอมกระจายงานเพ่ือให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของการทา� งาน 3. ผู้ปฏบิ ัติงานมแี รงจูงใจในการสร้างงานและ เพราะตอ้ งการให้ตนเองไดผ้ ลงานตามตวั ช้วี ดั ท่ีก�าหนดไว้ นวัตกรรมใหมๆ่ 3. เกิดทัศนคตเิ ชิงลบและต่อตา้ นในกลุ่มที่ไม่เขา้ ใจนโยบาย ไม่มีสว่ นรว่ มหรอื 4. ผลผลิตของโรงพยาบาลเพ่มิ มากข้ึน 5. พฤตกิ รรมการใหบ้ รกิ ารของผปู้ ฏบิ ตั ิงานดีขึ้น ไม่ได้รับการสือ่ สาร/ใหข้ ้อมลู ทเ่ี พยี งพอ 4. มคี วามรูส้ กึ ไม่เป็นธรรมในการก�าหนดคะแนนระหวา่ งแผนกหรือลักษณะงาน ท่ีแตกตา่ งกัน อย่างไรก็ตาม โครงการนีย้ ังไม่สามารถตอบค�าถาม รกั ษาคนเกง่ คนดไี วไ้ ด้ แตค่ งมปี ญั หาเรอ่ื งการเกยี่ งงานและ ได้ว่า P4P จะส่งผลดตี อ่ บริการท่ปี ระชาชนจะไดร้ บั หรอื ไม่ ความรสู้ กึ วา่ ไมเ่ ปน็ ธรรมตามมา เพราะฉะนน้ั ปญั หาคงไมไ่ ด้ ข้อร้องเรียนจะลดลงหรือไม่ และอัตราความผิดพลาด อยทู่ ่ี “หลักการ” ใดดกี ว่ากัน แต่อยู่ท่ี “การนา� หลกั การไปสู่ ทางการรกั ษาจะเปลยี่ นแปลงไปอยา่ งไร รวมทงั้ จะลดภาวะ การปฏิบัต”ิ มากกว่า ซึง่ มุมมองนีส้ อดคล้องกับความเห็น สมองไหลได้อย่างไร และจากการศึกษาครัง้ นี้ แม้ว่า ของคณุ อภวิ ุฒิ พมิ ลแสงสรุ ยิ า ผู้เช่ยี วชาญดา้ นการพัฒนา โรงพยาบาลนา� รอ่ งทไี่ ดท้ ดลองใช้ P4P ไดส้ ะทอ้ นถงึ ขอ้ ออ่ น องค์กรและพัฒนาบุคลากร ซ่งึ เป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กร อาทิ ใช้ได้กับบางระบบเท่าน้ัน หรือระบบ P4P มีความ ภาครัฐและเอกชนหลายแหง่ 13 ที่มองวา่ “P4P เปน็ แนวคิด ซับซ้อนมากและต้องพัฒนาก่อนท่ีจะมีการน�ามาใช้จริง ทดี่ แี ละเหมาะสมอย่างยิ่งทจี่ ะน�ามาใช้ในการบริหารจัดการ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็ยังเร่งรัด เพือ่ ให้คนทมี่ ีผลงานดี ได้รับค่าตอบแทนทีเ่ หมาะสม ประกาศใช้ในลักษณะบังคับใช้ทวั่ ประเทศ แตกต่างจากคนทีม่ ผี ลงานปานกลางหรอื ไม่คอ่ ยดี เพอ่ื เป็น ก�าลังใจให้บุคลากรเหล่าน้ันท�าดีย่ิงๆ ข้ึนไป แต่ปัญหาท่ี ในตา่ งประเทศมกี าร ศึกษาเรือ่ ง P4P ขององคก์ าร เกดิ ขน้ึ ไมใ่ ชเ่ ปน็ เพราะหลกั การไมด่ แี ตก่ ลบั กลายเปน็ ปญั หา อนามัยโลกทีท่ �าในประเทศเอสโทเนีย เมื่อปี 2551 พบว่า ในการน�าไปปฏิบัติ ต่างหาก จุดเริม่ ต้นของความล้มเหลว การใช้ P4P อาจท�าให้เกิดการเบีย่ งเบน มุ่งบริการเฉพาะ อยู่ท่ีผู้บริหารมองการเปลี่ยนแปลงในเร่ืองน้ีเป็นโครงการ กิจกรรมท่ี “ได้แต้ม” แตล่ ะเลย “การรกั ษาให้ผปู้ ว่ ยดีขนึ้ ” (Project) แทนท่ีจะมองเปน็ กระบวนการ (Process) ซง่ึ ต้อง และการศึกษาของ Bruin และคณะ ทไี่ ดต้ พี มิ พ์ในวารสาร มีการบูรณาการปัจจัยที่เก่ียวข้องให้ครบถ้วน รวมทั้ง การแพทย์ของอังกฤษ เมื่อปี 2554 ทไี ด้ศึกษาในสหรัฐฯ ต้องดา� เนินการอย่างต่อเนือ่ งและยาวนาน ไม่ใช่คิดวันนี้... เยอรมนี และออสเตรเลีย พบว่า แม้ว่า P4P จะท�าให้ พรงุ่ น้ที า� !” “ปรมิ าณงานมากขน้ึ ” แตก่ ไ็ มม่ หี ลกั ฐานวา่ จะไดร้ บั บรกิ ารดี ขน้ึ ตรงข้ามอาจเกดิ ผลทางลบ เพื่อ “เพ่ิมแตม้ ”12 ก็เป็นได้ P4P เป็นเพยี งตวั อยา่ งหนงึ่ ของการนา� หลักการและ นโยบายที่ดีไปสู่ความล้มเหลวในการปฏิบัติ จริงอยู่แม้เรา ดงั นั้นหากมองเรื่องนี้ด้วยใจเป็นกลาง ต้องยอมรับ ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ใหม่ แต่หากใส่ใจและสนใจ วา่ การจ่ายผลตอบแทนทุกระบบล้วนมีปัญหาทัง้ สน้ิ หากใช้ ในเรือ่ งราวต่างๆ ที่ผา่ นมา ความผดิ พลาดกส็ ามารถเป็นครู วธิ ีการเดิมแบบ “ถงึ เวลาตอ้ งได”้ (Entitlement) จะสง่ ผล ช้นั ดีให้กบั เราได้ ใ ห ้ อ ง ค ์ ก ร สุ ่ ม เ ส่ี ย ง ที่ จ ะ สู ญ เ สี ย บุ ค ล า ก ร ที่ ม ีค ว า ม รู ้ ความสามารถไป ในทางกลบั กนั หากใชก้ ารจา่ ยผลตอบแทน ตามผลงาน (Pay-for-Performance) อาจช่วยให้องค์กร 66 สุขภาพคนไทย 2557

ตะกว่ั ในล�าหว้ ยคลติ ี้: คดีตัวอย่าง การเยยี วยาชมุ ชนดา้ นส่งิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพ เปน็ เวลาเกอื บสส่ี บิ ปที ช่ี าวบา้ นชมุ ชนคลติ ้ลี า่ งตอ้ งทกุ ขท์ รมานจากการสารตะก่วั ทป่ี นเปอ้ื นอยใู่ นลา� หว้ ยคลติ ซ้ี ่งึ ชาว บา้ นใชด้ ่มื กินและท�าการเกษตร ท้ังอาการเจ็บป่วย สตั วเ์ ล้ยี งตาย และการไม่มนี า�้ ดื่มน�า้ ใช้ จนถงึ ขัน้ เสียชีวิต บทเรยี น กรณขี องชาวคลติ ล้ี า่ งไดส้ ะทอ้ นภาพปญั หาใหญข่ องระบบการปกปอ้ งคมุ้ ครองดแู ลส่งิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพของประชาชน ในชุมชนตา่ งๆ ของประเทศไทย การตอ่ สขู้ องชมุ ชนคลติ ล้ี า่ งรว่ ม 15 ปี จงึ เปน็ การตอ่ สเู้ พอื่ พสิ จู นค์ วามผดิ ของผกู้ อ่ มลพษิ และชใี้ หเ้ หน็ วา่ หนว่ ย งานรฐั ตอ้ งแสดงความรับผิดชอบในการปฏบิ ัติหน้าท่ี เพื่อแกไ้ ขปญั หาสิง่ แวดลอ้ มและปญั หาสขุ ภาพของประชาชน prachatai การพัฒนาอตุ สาหกรรม ของชมุ ชน รวมไปถงึ ปัญหาสุขภาพของคนในชุมชนท่ีอาศยั กับผลกระทบด้านสขุ ภาพ อยู่ใกล้กับพื้นทีอ่ ุตสาหกรรม จนน�าไปสู่การเรียกร้องของ ภาคประชาสังคมว่านอกจากการประเมินผลกระทบด้าน การพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นนโยบายส�าคัญเพื่อ สิ่งแวดล้อมแล้ว ต้องมีมาตรการเชิงป้องกันผลกระทบ การพัฒนาประเทศและสร้างรายได้ให้กับชุมชนต่างๆ ด้านสุขภาพ โดยท�าการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ แต่ในหลายกรณี อุตสาหกรรมทีเ่ กิดขึ้นได้ก่อให้เกิด จนน�าไปสู่การบรรจุประเดน็ ดงั กล่าวในรัฐธรรมนูญแห่ง ผลกระทบทัง้ ดา้ นสง่ิ แวดล้อมและสขุ ภาพของชมุ ชน แมจ้ ะ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 67 วรรคสอง2 มีกฎหมายควบคุม1 ความว่า “การดา� เนนิ โครงการหรอื กิจกรรมท่อี าจก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทัง้ ทางด้านคุณภาพ อยา่ งไรกต็ าม ในทางปฏิบตั ิ การพฒั นาอตุ สาหกรรม สง่ิ แวดลอ้ ม ทรพั ยากรธรรมชาติ และสขุ ภาพ จะกระท�ามไิ ด้ ของไทยกลับก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมนิ ผลกระทบต่อคุณภาพ ท้งั มลพษิ ทางอากาศ การปนเปอ้ื นสารพษิ ในดิน การปนเปอ้ื น ส่งิ แวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชมุ ชน และจัดให้มี สารพษิ ในน้�า ผลกระทบตอ่ การประกอบอาชพี เกษตรกรรม 10 สถานการณ์เดน่ 67

กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วน และมีประเพณีกราบไหว้สิ่งศักด์ิสิทธ์ิในล�าห้วยเพื่อขอขมา ไดเ้ สยี กอ่ น รวมท้งั ไดใ้ หอ้ งคก์ ารอสิ ระซ่งึ ประกอบดว้ ยผแู้ ทน ต่อสายน�า้ ดว้ ย7 องค์การเอกชนด้านสิง่ แวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทน สถาบันอุดมศึกษาท่ีจัดการการศึกษาด้านส่ิงแวดล้อมหรือ วถิ ชี วี ติ ของชมุ ชนชาวคลติ ้ลี า่ งทอ่ี ยอู่ ยา่ งกลมกลนื กบั ทรพั ยากรธรรมชาตหิ รอื ดา้ นสขุ ภาพ ใหค้ วามเห็นประกอบ ธรรมชาติมานานนับร้อยปี ต้องเปล่ียนแปลงอย่างหน้ามือ กอ่ นมีการด�าเนินการดังกล่าว” เป็นหลังมือ เม่ือมีการอนุมัติให้โรงแต่งแร่คลิต้ีของบริษัท เอกชนแหง่ หนง่ึ เขา้ มาดา� เนนิ กจิ การในปี 2510 หลงั จากนน้ั แม้จะมีบทบัญญัตเิ รื่องการประเมินผลกระทบด้าน ประมาณ 8 ปี ชาวคลิต้ีล่างก็พบว่า น�้าในล�าห้วยคลิต้ีมี สง่ิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพแลว้ แตใ่ นขัน้ ตอนปฏบิ ตั มิ กี ารกา� หนด โคลนดินใต้ท้องนา�้ มากผิดปกติ มกี ล่ินเหมน็ ฉุนอย่างรุนแรง ประเภทของอุตสาหกรรมท่ีจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 67 นา้� เปน็ สนี ้า� ตาลขนุ่ เมอ่ื ด่ืมเขา้ ไปท�าใหเ้ กดิ อาการเวยี นศรษี ะ วรรคสองไว้เพียง 11 ประเภทโครงการเท่านั้น3 จนเกิด เมอ่ื อาบนา้� หรอื เลน่ นา�้ จะเกดิ อาการคนั ตามตวั ปลานอ้ ยใหญ่ ช่องว่างในการป้องกันและคุ้มครองสุขภาพของชุมชน ลอยตายเกลือ่ นล�าห้วย สัตว์เลีย้ งโดยเฉพาะควายล้มตาย ตัวอย่างหนึง่ ท่ีเป็นบทเรียนของสังคมซึ่งเป็นทรี่ ับรู้กันอย่าง ดว้ ยอาการชกั ดนิ้ นา�้ ลายฟมู ปากเกอื บทง้ั หมบู่ า้ น นอกจากน้ี กว้างขวาง คือ กรณีการปนเปื้อนสารตะกัว่ จากเหมืองแร่ ทงั้ เด็กและผู้ใหญ่ต่างเจ็บป่วยด้วยอาการผิดสังเกต เช่น ในห้วยคลิตี้ จังหวัดกาญจนบุรี ซึง่ สะท้อนให้เห็นถึง ชาตามมือ เท้า และตามร่างกาย เจ็บในข้อ ปวดกระดูก ความบกพร่อง ล้มเหลวของระบบการคุ้มครองป้องกัน ปวดศีรษะ ปวดท้องอย่างรุนแรง บุคคลอันเป็นท่ีรักของ ผลกระทบดา้ นสขุ ภาพประชาชนจากการพฒั นาอตุ สาหกรรม หลายครอบครวั เสยี ชวี ิต ผ้หู ญิงต้งั ครรภ์แทง้ ลกู เดก็ ทีเ่ กิด ของประเทศ โดยปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อเร้ือรังมาเป็นเวลา มามีสุขภาพอ่อนแอและตายก่อนวัยอันควรกว่า 30 คน ยาวนาน โดยไมท่ ราบสาเหตุ8 โดยท่ผี า่ นมา ชมุ ชนเลก็ ๆ กลางปา่ ใหญ่ ทหี่ า่ งไกลสถานพยาบาลนต้ี อ้ งพงึ่ ยาสมนุ ไพรพน้ื บา้ น แตย่ า จดุ เร่มิ ต้นของปัญหาในชมุ ชนคลติ ลี้ า่ ง พน้ื บา้ นทเ่ี คยรกั ษาโรคไดใ้ นอดตี ไมอ่ าจเยยี วยาการเจบ็ ปว่ ย ในช่วงหลายปีน้ี จนต้องพาคนป่วยเดินเท้าจากหมู่บ้าน ชุมชนชาวกะเหรีย่ งบ้านคลิตีล้ ่าง หมู่ 3 ต.นาสวน ไปรักษาท่โี รงพยาบาล แตอ่ าการปว่ ยกไ็ มไ่ ด้หายไป อ.ศรีสวสั ด์ิ และหมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภมู ิ จ.กาญจนบรุ ี เปน็ สองชมุ ชนไทยกลมุ่ ชาตพิ นั ธเ์ุ หรย่ี งโปว์ ทสี่ บื อายยุ าวนาน สารตะกัว่ กบั เสียงร้องทกุ ข์ของชาวคลิตี้ มาหลายรอ้ ยปี4 ปัจจบุ นั มีประชากรอาศยั อยู่รว่ ม 400 คน5 ด�ารงวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยการท�าไร่หมุนเวียน ปัญหาด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เกิดข้ึนจาก ในป่ารอบชุมชน ซ่งึ เป็นส่วนหนึ่งของป่าตะวันตกผืนใหญ่ อาการเจบ็ ปว่ ยและการเสยี ชวี ติ ของชาวบ้าน ปญั หานา�้ เสยี แถบทุ่งใหญ่นเรศวร ชาวกะเหรีย่ งเหล่านี้ทเี่ คยโยกย้าย การล้มตายของสัตวน์ �า้ และสตั วเ์ ลีย้ งทมี่ ากข้นึ เร่อื ยๆ ทา� ให้ ท�าไร่หมุนเวียนได้เริม่ ตัง้ บ้านเรือนเป็นหลักแหล่งถาวรเมื่อ ชาวคลิตลี้ ่างรวมตัวกันเพ่ือค้นหาถึงสาเหตุของปัญหาท่ี ปี 2440 หรือประมาณ 116 ปีมาแล้ว6 แถบล�าห้วยคลิตี้ เกิดขึ้น และหาหนทางแก้ไข จนในท่ีสดุ ทราบวา่ มกี ารปลอ่ ย ซง่ึ เกดิ จากสายหว้ ยหลายสายจากผนื ปา่ ใหญท่ งุ่ ใหญน่ เรศวร น�้าหางแรจ่ ากโรงแตง่ แร่เหนือหมู่บ้านลงล�าห้วยคลติ ้ี จึงได้ ท่ไี หลมารวมกนั ชมุ ชนเหลา่ นอ้ี าศยั นา้� ในลา� หว้ ยคลติ ้ีสา� หรบั ส่งตัวแทนชุมชนไปเจรจากับผู้จัดการของโรงแต่งแร่ กจิ กรรมทกุ อยา่ งในชีวติ ประจา� วนั ท้งั ด่มื กนิ อาบ ทา� อาหาร หลายครัง้ แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ชาวบ้านจึงพยายามหา ล้างจาน ซักผ้า เล้ยี งสัตว์ เปน็ แหล่งอาหาร เช่น กงุ้ หอย ทางอื่น ทั้งปรึกษากับหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน เช่น ปู ปลา รวมทงั้ เปน็ ทเ่ี ลน่ สนกุ และงานบญุ ประเพณที เ่ี กย่ี วเนอ่ื ง อา� เภอ ตา� รวจตระเวนชายแดน หนว่ ยพฒั นาและสงเคราะห์ กับความเชอื่ ของพวกเขา คนในชุมชนเหล่านีม้ ีข้อปฏิบัติ ชาวเขา ครู เป็นต้น แต่ก็ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ต่อลา� หว้ ยสายหลักน้ี และยดึ ถอื รว่ มกนั ดว้ ยความเคารพวา่ จนกระทั่งเมื่อปี 2541 มีองค์กรพัฒนาเอกชนน�าโดย จะไม่ท�าให้น�้าในห้วยสกปรก การจับสัตว์น�้าก็ท�าแต่พอกิน ศนู ยศ์ กึ ษากะเหรยี่ งและพฒั นา เขา้ ไปพบปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ และ 68 สขุ ภาพคนไทย 2557

prachatai นา� สอื่ มวลชนเขา้ ไปในพนื้ ท่ี ทา� ใหเ้ รอ่ื งราวของชาวคลติ ้ลี า่ ง ชว่ ยเหลอื ชุมชน จนชาวคลติ ้ีลา่ งไดร้ บั รถู้ งึ สทิ ธิทางกฎหมาย กลายเปน็ ขา่ วใหญท่ เ่ี ปดิ เผยสสู่ าธารณชน สอ่ื มวลชนหลาย ของตน นอกจากนีภ้ าคประชาสังคมได้ส่งชาวคลิตี้ล่าง แขนงทงั้ หนงั สอื พมิ พ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ พากนั รายงานขา่ วความ 8 ราย เขา้ รบั การรกั ษาท่ีคลนิ กิ อาชวี เวชศาสตร์ โรงพยาบาล เจบ็ ปว่ ยและความตายของชาวบา้ นจากสาเหตกุ ารปลอ่ ยนา�้ ราชวถิ ี และแพทยไ์ ดบ้ ง่ ช้ีวา่ ชาวคลติ ลี้ า่ งท้ัง 8 รายปว่ ยจาก เสียปนเปื้อนสารตะกั่วเข้มข้นลงสู่ล�าห้วยคลิตี้ จนทา� ให้ พิษสารตะกั่วเรื้อรัง การรักษาทีถ่ ูกต้องทา� ให้ชาวคลิตลี้ ่าง หลายหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหา กลมุ่ นม้ี ีระดบั ตะกว่ั ในเลอื ดลดลงและสขุ ภาพดขี น้ึ นอกจากนี้ แตก่ ารแกไ้ ขปญั หากท็ า� อยา่ งจา� กดั คอื เขา้ ไปตรวจวดั ระดบั ชมุ ชนชาวคลิตแี้ ละภาคประชาสังคมได้ขอความช่วยเหลือ การปนเปื้อนตะก่ัวในสิ่งแวดล้อม ไม่ได้สร้างความเข้าใจ จากสภาทนายความเพอ่ื หวงั พง่ึ กระบวนการยตุ ธิ รรมในการ ให้ชาวคลิตลี้ ่างได้รับรู้และมีส่วนร่วมในการแก้ไข และมิได้ แกไ้ ขปญั หาท้งั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพอยา่ งเปน็ ระบบ11 บอกถึงแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ทีมทนายความจากสภาทนายความ และโครงการนิตธิ รรม ส่งิ แวดล้อมจงึ ลงพ้ืนท่เี พือ่ สืบคน้ ข้อเทจ็ จรงิ รว่ มกับองค์กร ต่อมาในปี 2542 ชาวบ้านได้รับการเจาะเลือดเพื่อ พฒั นาเอกชนและสื่อมวลชน ตรวจหาระดับตะก่ัวเป็นคร้ังแรกโดยกรมอนามัย9 ผลการ ตรวจพบว่าชาวคลิตี้ล่างหลายคนมีระดับตะกั่วในเลือดสูง จนในที่สุดชาวบ้านคลิตีล้ ่างจ�านวน 8 รายทแี่ พทย์ กว่าค่ามาตรฐานหลายเท่า เหตุการณ์ด�าเนินต่อมา จนปี รับรองว่าเป็นผู้ป่วยจากพิษสารตะกั่วจึงยื่นฟ้องเพื่อเอาผิด 2545 เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขอนามัยเกริงกระเวียจึงเข้ามา กับบริษทั เอกชนผู้ก่อมลพิษในปี 254612 และต่อมาในปี ปิดป้าย “งดบริโภคน้�าและปลาในล�าห้วยชั่วคราว”10 2550 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 (แผนกคดีสิง่ แวดล้อม) ได้มี กล่าวได้ว่า ปัญหาท่ีสืบเนื่องมายาวนานท�าให้ชาวคลิตลี้ ่าง คา� พพิ ากษาตดั สนิ ใหบ้ รษิ ทั ผกู้ อ่ มลพษิ ตอ้ งชดใชเ้ งนิ คา่ เสยี หาย ได้รับความกดดันอย่างมากจากความไม่สนใจแก้ไขปัญหา ใหแ้ ก่ผูฟ้ อ้ งคดที งั้ 8 คนเป็นจา� นวนเงนิ 29,551,000 บาท13 ท้ังในส่วนของบริษัทเอกชนผู้ก่อปัญหา และจากหน่วยงาน จากนน้ั ชาวบ้านจ�านวน 151 รายจึงย่ืนฟอ้ งบรษิ ัทเอกชน ด้านส่งิ แวดลอ้ มและสุขภาพของรฐั ผู้ก่อมลพิษเพิม่ เติมอีกในปี 255014 และในปี 2554 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 (แผนกคดสี ิง่ แวดล้อม) ก็ได้พิพากษา จากการถกู ละเมดิ สิทธสิ ู่การเรยี นรู้และใช้ ให้บริษทั และกรรมการบริษัทจ่ายเงินค่าเสียหายจ�านวน สิทธิในกระบวนการยุตธิ รรม 36,050,000 บาท ในฐานเป็นผกู้ อ่ มลพษิ การแก้ไขปัญหาเริ่มเปลี่ยนไปเม่อื เกิดกระบวนการ โดยท้งั สองคดนี ้ีศาลพิจารณาว่าการทผี่ ู้ประกอบการ เรียนร้ถู งึ สิทธทิ างกฎหมายของชาวคลติ ี้ โดยองค์กรพฒั นา ระบายน�้าจากบ่อกักเก็บตะกอนสู่ล�าห้วยคลิตีจ้ นทา� ให้ เอกชน สถาบันการศึกษา และส่ือมวลชนได้เข้าไปติดตาม สารตะกั่วจากการรั่วไหลหรือแพร่กระจายสู่ล�าห้วยคลิต้ีน้ัน ข่าวอย่างต่อเน่ือง อาทิ ศูนย์ศึกษากะเหร่ียงและพัฒนา เปน็ ความผดิ ทีร่ ้ายแรง15 โดยทงั้ สองคดนี เี้ ป็นการฟอ้ งเรยี ก ได้เข้าไปร่วมพูดคุย รับฟังปัญหา และให้ค�าปรึกษาเพือ่ ค่าเสียหายทเี่ กิดกับสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก ซึง่ รวม 10 สถานการณเ์ ดน่ 69

ถงึ คา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาลกอ่ นฟอ้ งคดี และคา่ รกั ษา หน่วยงานรัฐต้องแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าท่ี พยาบาลตอ่ เน่อื ง รวมถงึ คา่ เสยี หายอนื่ ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ งทงั้ สตั ว์ เพื่อแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารตะกัว่ ในสิ่งแวดล้อมและ เลีย้ งตาย และค่าเสียประโยชน์ในการใช้ประโยชน์จากน�้า แก้ไขปัญหาสุขภาพซ่ึงถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก อย่างไรก็ตาม จนถึงส้ินปี 2556 ชมุ ชนก็ยังไม่ได้รับ ปี 2556-2557 จงึ เปน็ เพยี งการเร่มิ ตน้ ในการแกไ้ ขปญั หาดา้ น การชดเชยค่าเสียหายทางสุขภาพจากบริษทั ผู้ก่อมลพิษ ส่งิ แวดล้อมของกรมควบคมุ มลพษิ ในการฟ้ืนฟกู ารปนเป้อื น เนอ่ื งจากจา� เลยไดน้ า� คดเี ขา้ สกู่ ารพจิ ารณาของศาลฎกี าตอ่ 16 ในล�าห้วยคลิตี้ แต่ปัญหาด้านสุขภาพของชมุ ชนคลิต้ีล่าง กย็ งั คงอยู่ และยงั ไมม่ คี วามชดั เจนในเร่อื งมาตรการปอ้ งกนั นอกจากการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษทั เอกชน หรือการเฝ้าระวังคนในหมู่บ้าน และในช่วงทมี่ ีการฟื้นฟู แล้ว ชุมชนชาวคลิต้ียังได้ด�าเนินกระบวนการคู่ขนานเพ่ือ ล�าห้วยนั้นจะมีมาตรการพิเศษอย่างไรในการดูแลสุขภาพ ฟื้นฟูล�าห้วยคลิต้ีให้กลับสู่สภาพปกติท่ีชุมชนสามารถใช้ หรือไม่ เนือ่ งจากไม่ได้มีการดงึ หน่วยงานด้านสาธารณสุข ประโยชน์ได้ดังเดิม โดยยื่นฟ้องกรมควบคุมมลพิษต่อศาล เข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้ข้อมูลและการวางแผนการ ปกครองเมือ่ ปี 254717 ในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าทแี่ ละ ดา� เนนิ การในการฟ้ืนฟูลา� หว้ ยคลิต้แี ต่อย่างใด ปฏิบัติหน้าท่ีล่าช้า ให้เร่งด�าเนินการฟื้นฟูล�าห้วยคลิตี้ให้ สะอาดโดยเร็ว กระบวนการยุตธิ รรมใช้เวลานานเกือบ ชาวคลิตล้ี า่ งกบั การต่อสูก้ บั นายทุนและรฐั ทศวรรษ จนในปี 2556 ศาลปกครองสงู สดุ ไดม้ คี า� พพิ ากษา ให้ชาวคลิตีช้ นะคดี โดยให้กรมควบคุมมลพิษดา� เนินการ “พวกเราไปบอก ไปพูดคุยเรือ่ งการปล่อยน�้าแร่ ฟ้ืนฟูห้วยคลติ จี้ นกวา่ จะพบว่าค่าสารตะก่ัวในนา�้ ดนิ พชื ผัก ลงห้วยหลายครัง้ กับพวกเหมือง เขาก็รับปากแบบขอไปที และสัตว์น�้าในล�าห้วยคลิตีไ้ ม่เกินเกณฑ์มาตรฐานเป็นระยะ แลว้ ก็ปลอ่ ยน้�าลงหว้ ยเหมอื นเดิม แถมเหมอื งยงั มาท้าพวก เวลาอยา่ งนอ้ ย 1 ปี และใหช้ ดใช้ค่าเสยี หายใหแ้ ก่ผ้ฟู ้องคดี เราวา่ ถา้ อยากไดเ้ งินกใ็ หไ้ ปฟอ้ งเอา ฟงั อยา่ งน้ี กเ็ หมอื นเขา ทงั้ 22 คน เป็นเงนิ รายละ 177,199.55 บาท เนื่องจาก ดถู กู เรามากๆ เหน็ วา่ เราไมม่ ปี ญั ญา พอดมี อี าจารยห์ นอน19 ปรมิ าณสารตะกวั่ ในสตั วน์ า้� ยงั คงเกนิ คา่ มาตรฐาน ชาวบา้ น กบั นกั ข่าวมาช่วย เรากเ็ ลยตัดสินใจฟ้อง” ยะเสอะ นาสวน จึงยังคงได้รับความเสียหายทตี่ ้องแบกรับภาระในการซือ้ สุวรรณ, ผชู้ ว่ ยผใู้ หญ่บ้านคลิตลี้ า่ ง20 อาหาร และยงั ถกู ละเมดิ สทิ ธิในการไดป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากร ธรรมชาตแิ ละความหลากหลายทางชีวภาพ เน่อื งจากชุมชน วกิ ฤตทง้ั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพท่เี กดิ ขน้ึ ไดเ้ ปน็ ชาวคลิตล้ี า่ งมวี ิถกี ารดา� รงชีพท่ีต้องพึ่งพงิ ธรรมชาติ18 ตัวหล่อหลอมให้เกิดพลังต่อสู้กับความอยุติธรรมทเี่ กิดขึ้น ชาวคลติ ลี้ ่างจงึ พร้อมสู้ในทุกวถิ ีทาง การตอ่ สูไ้ ดเ้ กดิ ข้ึนผา่ น การต่อสู้ของชุมชนคลิต้ีล่างร่วม 15 ปีน้ันจงึ เป็น วนั ผา่ นคนื แบบวถิ ชี าวบา้ น กลมุ่ ผนู้ า� แกนนา� ไดร้ วมกลมุ่ กนั การต่อส้เู พอื่ พสิ ูจนค์ วามผิดของผกู้ ่อมลพิษ และชีใ้ ห้เห็นว่า ไปพบผจู้ ดั การเหมอื งแรเ่ พอ่ื เจรจาถงึ การกระทา� ของเหมอื ง ป้ายห้ามบรโิ ภคน�้าชว่ั คราว และหา้ มกนิ สตั วน์ �้าชว่ั คราว ภายในชมุ ชนบ้านคลิตี้ล่าง (ตดิ ปี 2542) ท่มี า: มูลนธิ นิ ิตธิ รรมสิ่งแวดล้อม (ENLAWTHAI Foundation) 70 สขุ ภาพคนไทย 2557

2464 เรม่ิ ตง้ั หมบู า นเปน หลกั แหลง ถาวร 2498 เรม่ิ มกี ารขดุ บอ แรค ลติ ้ี (บอ งาม) 2510 2518 ชาวบา นหลายคนเหน็ การปลอ ยนำ้ เสยี ลงหว ย ปลาตายจำนวนมาก น้ำขุนเทา รสชาติคงเดิมแตดื่มแลวจะรูสึกไมสบาย คันคอ และมึนหัว บ.ตะกว่ั ฯเรม่ิ ดำเนนิ การโรงแตง แรท บ่ี า นคลติ บ้ี น บรเิ วณรมิ หว ยคลติ ้ี 2523-2524 บอ เกบ็ นำ้ แรเ ตม็ โรงแตง แรไ ดเ อาหวั ฉดี ฉดี ตะกอนแรใ นบอ นำ้ เสยี 2521 ชาวบา น 6 คนรอ งเรยี นเหมอื ง เรอ่ื งปลอ ยนำ้ เสยี ลงสูลำหวยในชวงฤดูฝน และปลอยน้ำแรลงลำหวยโดยปลอย 3 วัน ปด 3 วัน 2532-41 ชาวบา นเจบ็ ปว ยผดิ ปกติ มอี าการคลา ยคลงึ กนั คอื ถา ยทอ ง ปวดหวั เจบ็ กระดกู 2531 บ.ตะกว่ั ฯ เขา มาขดุ บอ นำ้ ใหช าวบา นคลติ ล้ี า ง แตก ลบั ทำใหบ อ นำ้ เดมิ ใชไ มไ ด ชาตามรางกาย เปนตน บางรายตาบอดสนิท และบางรายถึงขั้นเสียชีวิต เด็กบางราย หลังจากการขุดบอดังกลาว เหมืองก็ปลอยน้ำแรลงหวยคลิตี้อยางหนักทั้งวันทั้งคืน เกดิ มาผดิ ปกตทิ างดา นรา งกายและสมอง ววั ควายลม ตายเปน จำนวนมาก 21 เม.ย.41 ทำหนงั สอื ถงึ อธบิ ดกี รมควบคมุ มลพษิ เรอ่ื ง “ขอใหต รวจสอบมลพษิ ทางนำ้ ” เม.ย.41 บ.ตะกว่ั ฯ ใหเ หตผุ ลวา บอ บำบดั นำ้ เสยี พงั เพราะลมพายุ 22 เม.ย.41 นสพ.มตชิ น ขา วสด และบางกอกโพสต ลงขา วกรณชี าวบา นคลติ ล้ี า ง นำ้ เสยี จงึ ทะลกั ลงไปในลำหว ยคลติ ้ี 6 พ.ค.41 ทำหนงั สอื ถงึ สาธารณสขุ จ.กาญจนบรุ เี รอ่ื ง “ขอใหต รวจสขุ ภาพราษฎร” 23 เม.ย.41 กรมทรัพยากรธรณีมีคำสั่ง โรงแตง แรป ด ทำการ 2541 20 พ.ค.41 ศูนยศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา และมูลนิธิ ใหบ .ตะกว่ั ฯหยดุ ประกอบกจิ กรรมแตง แร สืบนาคเสถียร ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เรื่อง “ขอใหเ พกิ ถอนใบอนญุ าตแตง แรข องบรษิ ทั ตะกว่ั คอนเซนเตรทสฯ ” 27 เม.ย.41 กรมควบคมุ มลพษิ ลงตรวจสอบขอ เทจ็ จรงิ ครง้ั ท่ี 1 เกบ็ ตวั อยา งนำ้ ดนิ ตะกอน และสตั วน ำ้ มาวเิ คราะห 8 ก.พ.42 ชาวบา นไดร บั การเจาะเลอื ดเพอ่ื ตรวจหาระดบั ตะกว่ั พบวา มกี ารปนเปอ นจากตะกว่ั ในปรมิ าณทส่ี งู โดยเฉพาะบรเิ วณใตโ รงแตง แรแ ละถดั ลงไปอกี เปน ระยะทาง 8 กม. เปน ครง้ั แรก โดยกรมอนามยั ผลการตรวจพบวา ชาวคลติ ล้ี า ง 19 ม.ิ ย.41 คพ.ประชมุ กบั หนว ยงานทเ่ี กย่ี วขอ ง (กรมทรพั ยากรธรณี กรมอนามยั กรมปา ไม และบ.ตะกว่ั ฯ) ครง้ั ท่ี 1 มรี ะดบั ตะกว่ั ในเลอื ดสงู กวา คา มาตรฐานหลายเทา มีมติใหบ.ตะกั่วฯ ฟนฟูลำหวยคลิตี้ โดยการขุดลอกดินตะกอนที่ปนเปอนสารตะกั่วออกไปกำจัด 2542 น้ำในหวยยังมีสีดำแดง มีกลิ่นเหม็นทำใหปวดหัว และใหสำรวจและศึกษาการปนเปอนกอนดำเนินการ พญ.อรพรรณ เมธาดลิ กกลุ ไดอ อกใบรบั รองแพทยใ หช าวบา น 24 พ.ค.-21 ม.ิ ย.42 บ.ตะกว่ั ฯ ขดุ ลอกตะกอนดนิ ทป่ี นเปอ นสารตะกว่ั ในชว ง KC2-KC3 รวมทง้ั สน้ิ 3,753 ตนั บางคนวา เปน โรคพษิ สารตะกว่ั และอยรู ะหวา งเตรยี มการกอ สรา งเขอ่ื นดกั ตะกอนกง่ึ ถาวร (rock check dam) 2544-2545 ชาวบาน เด็กบางสวนเสียชีวิตเพิ่ม ตาบอด 22 พ.ค.43 คพ.ตรวจสอบผลการฟน ฟลู ำหว ย ซง่ึ จากการเกบ็ ตวั อยา งดนิ ตะกอนฝง บรเิ วณ KC2-KC3 เรม่ิ ไปรกั ษาตวั ทโ่ี รงพยาบาลราชวถิ ี พบวายังมีตะกั่วปนเปอนในปริมาณที่สูง 2545 29 ก.ค.45 เจาหนาที่สาธารณสุขอนามัยเกริงกระเวีย เขา มาปด ปา ย “งดบรโิ ภคนำ้ และปลาในลำหว ยชว่ั คราว” การฟน ฟสู น้ิ สดุ เหลอื เพยี งการตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ ม 2546 ม.ค.-ก.พ.45 บ.ตะกั่วฯ กอสรางเขื่อนดักตะกอนกึ่งถาวร 2 แหงบริเวณ ชาวบา นเรม่ิ ฟอ งคดตี อ ศาล ใตโ รงแตง แรล งมา 4.5 กม. และ 8 กม. ตามลำดบั 30 ม.ค.46 (คดีแพง-1) ชาวบาน 8 คน ฟองบ.ตะกั่วฯ ตอศาลจ.กาญจนบุรี ใหชดเชยคาเสียโอกาส คา รกั ษาพยาบาล พรอ มกบั ฟน ฟลู ำหว ย เรยี กคา เสยี หาย 119,036,400 บาท 2545–ปจ จบุ นั นบั จากสรา งเขอ่ื นดกั ตะกอนกง่ึ ถาวรแลว เสรจ็ ยงั ไมม กี าร 23 ก.พ.47 (คดีปกครอง) ตัวแทนชาวบาน 22 คน ฟองกรมควบคุมมลพิษตอศาลปกครองกลาง ดดู ตะกอนเพอ่ื นำไปกำจดั ดว ยวธิ กี ารเหมาะสมตามหลกั วชิ าการแตอ ยา งใด ฐานละเวน การปฏบิ ตั หิ นา ทแ่ี ละปฏบิ ตั หิ นา ทล่ี า ชา ในการฟน ฟลู ำหว ย ม.ี ค.47 คพ.อา งวา หารอื กบั ผเู ชย่ี วชาญจากหนว ยงานตา งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ งวา ไมค วร ดำเนนิ การสบู หรอื ขดุ ลอกตะกอนดนิ จงึ ระงบั การดำเนนิ การไวช ว่ั คราว และ จะเกบ็ ตวั อยา งสง่ิ แวดลอ ม เพอ่ื ตดิ ตามตรวจสอบและเฝา ระวงั ระดบั ตะกว่ั ตอ ไป 15 ส.ค.49 (คดแี พง-1) ศาลจ.กาญจนบรุ ีพิพากษาใหบ.ตะกัว่ ฯจา ยเงิน 4.26 ลานบาท ฐานเปน ผกู อ มลพษิ บ.ตะกว่ั ฯและชาวบา นยน่ื อทุ ธรณ 3 มี.ค.49 คพ.อางวาประชุมกับผูเชี่ยวชาญในประเทศ เพื่อหาวิธีจัดการ 19 ต.ค.50 (คดีแพง-2) ชาวบาน 151 คน ฟองศาลจ.กาญจนบุรี เรียกคาเสียหาย ตะกอนดนิ ทอ งนำ้ ไดข อ สรปุ วา จะใชว ธิ ปี ลอ ยใหธ รรมชาตฟิ น ฟู จากบริษัทและกรรมการบรษิ ทั ผปู ลอ ยมลพษิ ลงลำหว ยคลติ ้ี 21 พ.ค.51 คพ.อา งวา ประชมุ กบั ผเู ชย่ี วชาญในประเทศ เพอ่ื หาแนวทางแกไ ข 18 ธ.ค.50 (คดีแพง-1) ศาลอุทธรณภาค 7 (แผนกคดีสิ่งแวดลอม) พิพากษาวา ปญ หาปนเปอ นสารตะกว่ั ไดข อ สรปุ วา การปลอ ยใหฟ น ฟตู ามธรรมชาตเิ ปน วธิ ี บริษัทมีความผิดใหจ า ยเงนิ ชดใชเ พม่ิ รวมเปน จำนวน 29,551,000 บาท ตามหลกั วชิ าการทไ่ี ดร บั การยอมรบั ใชเ วลาในการฟน ฟนู าน และมคี วาม เหมาะสมกบั สภาพพน้ื ทค่ี ลติ ้ี โดยใหค พ.ดำเนนิ งานเพม่ิ เตมิ เพอ่ื ใหเ กดิ ความ 6 พ.ค.51 (คดีปกครอง) ศาลปกครองชั้นตนพิพากษาวากรมควบคุมมลพิษลาชาในการปฏิบัติหนาที่ มน่ั ใจวา ตะกอนทอ งนำ้ ทป่ี นเปอ นจะไมก อ ใหเ กดิ ผลกระทบตอ สง่ิ แวดลอ ม ฟน ฟหู รอื ระงบั การปนเปอ นสารตะกว่ั ในลำหว ย และใหช ดใชค า เสยี หายจำนวน 743,226 บาท 2552-ปจ จบุ นั คพ.จดั หาแนวทางจดั การตะกอนในหลมุ ฝง กลบรมิ หว ย ซึ่งเปนหลุมฝงกลบเดิมที่เคยทำไวตั้งแตป 2543-45 โดยกอนหนานี้ 20 ธ.ค.53 (คดแี พง -2) ศาลจ.กาญจนบรุ พี พิ ากษาใหบ รษิ ทั และกรรมการบรษิ ทั จา ยเงนิ 36,050,000 บาท มกี ารรั่วซึมกลบั สูลำหว ย และยงั ไมเ คยมกี ารแกปญหามากอ น ฐานเปนผูกอมลพิษ และใหรวมกันขจัดมลพิษใหหมดสิ้น หากไมดำเนินการใหชาวบานมีอำนาจ ก.ค.54 คพ.เสนอ “โครงการศึกษาแนวทางการฟนฟูลำหวยจากการ กระทำการแทน โดยบรษิ ัทและกรรมการบริษัทออกคา ใชจ า ย ภายใตพ .ร.บ.สงิ่ แวดลอ ม 2535 ปนเปอ นตะกว่ั ” มาทดแทนการฟน ฟดู ว ยกระบวนการตามธรรมชาติ แตร ะงบั ไป เพราะมีคำพิพากษาศาลจ.กาญจนบุรี (คดีแพง-2) แตยังคงเสนอ 29 พ.ย.54 (คดแี พง -2) ศาลอทุ ธรณภ าค 7 (แผนกคดสี ง่ิ แวดลอ ม) พพิ ากษาใหบ รษิ ทั และกรรมการบรษิ ทั “โครงการสำรวจออกแบบเพอ่ื ปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพเขอ่ื นดกั ตะกอนทง้ั 2 แหง จา ยเงนิ 36,050,000 บาท ฐานเปน ผกู อ มลพษิ และพพิ ากษาวา พ.ร.บ.สง่ิ แวดลอ ม 2535 ไมไ ดบ ญั ญตั ิ เพราะตรวจสอบวา สภาพเขอ่ื นดกั ตะกอนเดมิ ไมส ามารถดกั ตะกอนไดแ ลว ” ใหส ทิ ธชิ าวบา นมอี ำนาจขอบงั คบั ใหบ รษิ ทั และกรรมการรว มกนั ฟน ฟลู ำหว ย เพราะเปน อำนาจของกรมควบคมุ มลพษิ 2555 ในนำ้ มสี ารตะกว่ั ชาวบา นยงั คงเจบ็ ปว ย และคดคี วามยงั ไมส น้ิ สดุ เรยี บเรยี ง: โครงการนติ ธิ รรมสง่ิ แวดลอ ม / ภาพ: โครงการหมบู า นคลติ ้ี ชวี ติ สายนำ้ ความหวงั / ศลิ ปกรรม: ขนษิ ฐา แซเ อย้ี ว และพนั ธกานต ตงฉนิ / ทป่ี รกึ ษา: เกอ้ื เมธา ฤกษพ รพพิ ฒั น / พมิ พค รง้ั ท่ี 1 (พฤษภาคม 2555)

ท่ีปลอ่ ยนา้� หางแรล่ งสลู่ า� หว้ ย ทวา่ การเจรจาไมเ่ ปน็ ผลอนั ใด กฎหมายอาจมีอยู่น้อย แต่จิตใจอันเข้มแข็ง วิถีชวี ิตทีม่ ี และเม่ือคืนวันผ่านไป ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยา อตั ลกั ษณเ์ ปน็ ของตนเองและผกู พนั อยกู่ บั ธรรมชาติ สายนา้� เลยแม้แต่น้อยกลุ่มแกนน�าเริม่ มีความรู้สึกว่า “การสู้กับ อยา่ งเตม็ เป่ยี ม ดงั นนั้ แม้จะถกู เรียกขานว่าเป็นหมู่บา้ นสาร เจา้ ของเหมอื งแรซ่ ง่ึ เปน็ ผมู้ อี ทิ ธิพลชา่ งยากเยน็ ย่งิ สกู้ ย็ ง่ิ ทอ้ ตะกัว่ แต่แทนทชี่ ุมชนจะก้มหน้ารับชะตากรรมทเี่ กิดขึน้ เหมือนเอาเท้าไปเตะภเู ขา ยิง่ เตะมากเทา่ ใด ก็ยงิ่ เจบ็ ”21 พวกเขากลับลุกขึน้ เรียกร้องสิทธใิ ห้ตนเอง และทรัพยากร ธรรมชาติ มากวา่ 16 ปี และปัจจุบนั การต่อสู้ก็ยังไม่ส้ินสุด การทชี่ มุ ชนลุกขึน้ มาต่อสู้กับนายทนุ และไม่เกิดการ ชุมชนยังคงรวมตัวกันอย่างเข้มแข็งตดิ ตามการด�าเนินการ แก้ไขปัญหาแม้ว่าจะรู้สึกท้อไปบ้าง แต่ความจริงท่ีเกิดขึ้น ของหนว่ ยงานรฐั ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นการฟน้ื ฟลู า� หว้ ยคลติ ้ี จากความเจ็บป่วย ความสูญเสียที่ไม่สามารถเรียกคืนกลับ ตามคา� พพิ ากษา รวมทง้ั มีการประเมินความเสย่ี งทางสขุ ภาพ มาได้ แกนนา� จึงสรา้ งขวญั ก�าลงั ใจให้กบั คนในชุมชนในการ ของชมุ ชนและเตรียมความพร้อมในการทีจ่ ะใช้วิถีชีวิต ต่อสู้กันต่อไป กระทัง่ เมือ่ ชมุ ชนรู้ถึงสิทธขิ องตนเองตาม ทปี่ ลอดภัยในช่วงทมี่ ีการด�าเนินการฟื้นฟูล�าห้วยคลิตี้ เช่น กฎหมายและกา้ วเขา้ สกู่ ระบวนการยตุ ิธรรมท้ังศาลแพง่ และ การจดั หานา้� สะอาดใหค้ รบทกุ ครวั เรอื นโดยการทา� โครงการ ศาลปกครองการตอ่ สอู้ กี ข้นั ตอนหนงึ่ กเ็ รม่ิ ขน้ึ ความประหมา่ ประปาภูเขาหมู่บ้านคลิตีล้ ่าง เริม่ ต้นด�าเนินการโดยใช้ทุน ไม่คุ้นชินกับกระบวนการในชัน้ ศาล ปัญหาเรือ่ งการสือ่ สาร ทรัพย์และแรงกายของคนในชุมชนบางส่วนและขอรับ ภาษาไทยก็เป็นปัญหาส�าคัญประการหนึ่งที่ท�าให้ชุมชน การช่วยเหลือจากภายนอกเพิ่มเติม ท้ังยังร่วมมือกับภาคี มีความกังวลมาก แต่ชุมชนก็พยายามทจี่ ะเรียนรู้และท�า เครือข่ายในการพัฒนาชมุ ชนตนเองให้เข้มแข็งขึน้ ความเขา้ ใจกบั กระบวนการตอ่ สใู้ นชนั้ ศาลผา่ นทางทนายความ การผลักดนั รณรงค์ให้เกิดการแก้ไขกฎหมาย และกลไกใน ท่เี ขา้ ไปชว่ ยเหลอื อยา่ งเตม็ ท่ี และการกา้ วเขา้ สกู้ ระบวนการ การช่วยเหลือประชาชนทไี่ ด้รับผลกระทบทางสุขภาพและ ยตุ ิธรรมชน้ั ศาลนนั้ ชมุ ชนก็เสมอื นกบั กา้ วเข้าสกู่ ารต่อสกู้ บั ส่งิ แวดลอ้ มอนั เกดิ จากการปนเปอ้ื นมลพษิ ในส่งิ แวดลอ้ มดว้ ย นายทุนเจ้าของโรงแต่งแร่ และต่อสู้กับรัฐคือกรมควบคุม มลพิษอย่างเป็นทางการอีกด้วย กระบวนการต่อสู้ของ คลติ ้ลี ่างกบั บรรทัดฐานใหมใ่ นการปกป้อง ชุมชนคลิตลี้ ่าง มีลักษณะทเี่ ปิดรับการเรียนรู้จากภายนอก ชุมชนดา้ นสิ่งแวดลอ้ มและสขุ ภาพ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ซึง่ นอกจากทมี ทนายความทมี่ าชว่ ยเหลอื ทาง คดแี ล้ว ยังเปิดรับการเรียนรู้และการช่วยเหลือจากบุคคล เรอ่ื งราวท่ีเกดิ ขน้ึ กบั ชาวคลติ ้ี เปน็ ตวั อยา่ งท่ชี ้ใี หเ้ หน็ กลมุ่ คน องค์กรพฒั นาเอกชน นกั วิชาการจากมหาวิทยาลยั วา่ กระทรวงอตุ สาหกรรมตอ้ งคา� นงึ ใหห้ นกั วา่ การมงุ่ พฒั นา ต่างๆ และสื่อมวลชน อย่างเตม็ ทีเ่ พือ่ เสริมสร้างศักยภาพ อตุ สาหกรรมโดยขาดการพจิ ารณาอยา่ งรอบดา้ นนน้ั อาจเปน็ ความเข้มแข็งในการคิดการตดั สินใจของชุมชนในการต่อสู้ ต้นเหตขุ องความเจบ็ ปว่ ย ความตาย และความสูญเสยี ทาง อย่างมีส่วนร่วมของชุมชนเอง ดังสะท้อนจากค�ากล่าวของ ส่งิ แวดล้อม ตลอดจนผลกระทบด้านสขุ ภาพของประชาชน สมพงษ์ ทองผาไฉไล ทไี่ ดก้ ลา่ ววา่ ได้ ส่วนหน่วยงานด้านสาธารณสุขนั้นก็มีบทบาทส�าคัญ โดยตอ้ งเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มท้ังกอ่ นท่ีจะมกี จิ กรรมทีม่ คี วามเสยี่ ง “ส�าหรับตวั ชาวบ้านเอง ก็อยากมีส่วนร่วมในสิ่งที่ ด้านสุขภาพ การจัดทา� ข้อมลู พื้นฐานด้านสุขภาพก่อนมี คนข้างนอกช่วย คนอื่นช่วยเรามาเยอะแล้ว เราอยากทา� กิจกรรมนั้นๆ รวมถึงมาตรการในการเฝ้าระวังด้านสุขภาพ ดว้ ยตวั เองบา้ ง แตก่ ม็ ขี อ้ จา� กดั วา่ ไมค่ อ่ ยรขู้ า่ วสารสกั เทา่ ไหร่ ทอี่ าจเกิดข้ึนจากการประกอบกิจการอุตสาหกรรม และก็ไม่รู้กฎหมายอะไรต่างๆ ถ้ามีอะไรก็ช่วยส่งข่าวบอก สว่ นกระทรวงสาธารณสขุ กค็ วรมนี โยบายในเรอ่ื งการพฒั นา ด้วย เพราะทุกอยา่ งก็เป็นเรอื่ งของเรา ท�าอะไรเรากอ็ ยาก อุปกรณ์และแพทย์ผู้เชยี่ วชาญเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจาก รว่ มคิดด้วย” 22 การประกอบกิจการอุตสาหกรรม หรือโรคจากสิง่ แวดล้อม เพม่ิ มากขึ้น ชุมชนคลิตลี้ ่าง แม้จะเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ ทอี่ ยู่ หา่ งไกลตวั เมอื ง ความรคู้ วามเขา้ ใจภาษาไทย และสทิ ธติ าม 72 สขุ ภาพคนไทย 2557

ทุจรติ การสอบครูhttp://www.obec.go.th/sites/obec.go.th/files/photos/21906/227527.JPG, ภาพสะทอ้ นคณุ ภาพการศกึ ษาไทย การสอบคัดเลือกครผู ู้ชว่ ยในแตล่ ะปี เปน็ การสอบท่มี ีอัตราการแข่งขนั สงู มาก มีต�าแหน่งว่างเพียงหลักพนั อัตรา ในขณะท่ผี ู้สมคั รสอบมีหลายหมืน่ ถึงหลักแสนราย เม่ือต้นปี 2556 ข่าวการทจุ ริตในการสอบครูผู้ช่วยท�าให้สังคม ตระหนกตกใจกบั กรณดี ังกลา่ ว โดยพบว่ามีการโกงอย่างเปน็ ขบวนการ ท้ังผู้เข้าสอบ ผ้จู ัดสอบ และยังเก่ยี วพนั ไปถงึ ข้าราชการระดับสูงด้วย และเป็นสิ่งที่น่าขบคิดว่า ปัญหาของระบบการศึกษาไทยที่สะสมมานานท้ังปัญหาการทุจริต ปัญหาจริยธรรม และคุณภาพของครู จะสง่ ผลกระทบตอ่ คณุ ภาพของการศกึ ษาของประเทศอย่างไร ปัญหาการทจุ ริตในแวดวงการศึกษาไทยดจู ะเป็น การศกึ ษาไทยและปญั หาเร่อื งจรยิ ธรรมของพอ่ พมิ พแ์ มพ่ มิ พ์ ปัญหาทอี่ ยู่คู่กันมายาวนาน แม้ภาครัฐ สถานศึกษาและ ของชาติ ซึ่งย่อมส่งผลต่อการหล่อหลอมเยาวชนไทยซ่ึง ทกุ ฝ่ายทีเ่ กี่ยวข้องจะพยายามพัฒนาการศึกษาของไทย เปน็ อนาคตของชาตดิ ้วย ควบคไู่ ปกบั การสรา้ งเสรมิ จรยิ ธรรมและแกป้ ญั หาการทุจรติ แตก่ ด็ เู หมอื นจะยงั ไมส่ ามารถแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม สอบครผู ชู้ ่วย ขบวนการโกงแบบมโหฬาร ข่าวการทุจริตในการสอบครูผู้ช่วยเมื่อต้นปี 2556 ซึง่ ดา� เนนิ การอยา่ งเปน็ ขบวนการและมผี เู้ ขา้ รว่ มเปน็ จา� นวนมาก การสอบคดั เลือกครูผู้ชว่ ย1 ในแตล่ ะปี เปน็ การสอบ โดยมีผู้เข้าสอบทถี่ ูกชมี้ ูลความผิดฐานทจุ ริตถึง 344 ราย ท่มี อี ตั ราการแขง่ ขนั สงู มาก โดยมตี �าแหนง่ วา่ งเพยี งหลกั พนั รวมถงึ ผอู้ า� นวยการโรงเรยี นท่ีถกู ต้ังขอ้ หาวา่ ขายเฉลยขอ้ สอบ อัตรา ในขณะที่ผู้สมัครสอบมีหลายหม่นื ถึงหลักแสนราย ให้แกผ่ เู้ ขา้ สอบ และยงั เกี่ยวพนั กบั ขา้ ราชการระดับสงู ของ ในอดตี ส�านักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากร ส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน (สพฐ.) ทางการศกึ ษา กา� หนดหลกั เกณฑใ์ หก้ ารจดั สอบ ออกขอ้ สอบ ได้สร้างความผิดหวังให้กับสังคมไทยอย่างกว้างขวาง และตรวจข้อสอบ เป็นหน้าทีข่ องเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา ต่อมา และก่อให้เกิดค�าถามทีส่ �าคัญเกี่ยวกับคุณภาพของระบบ สมยั ที่นายสุชาติ ธาดาธ�ารงเวช ด�ารงต�าแหน่งรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ก�าหนดหลักเกณฑ์ใหม่ 10 สถานการณ์เด่น 73

กระบวนการทจุ ริตสอบครูผู้ช่วย2 กรมสอบสวนคดพี ิเศษ เชื่อวา่ การทจุ รติ สอบครูผู้ช่วยในครัง้ นี้ มีการกระทา� เปน็ กระบวนการ ระหว่างเจา้ หน้าทส่ี ว่ นกลาง สว่ นภูมิภาค และผู้เข้าสอบ และมีการเตรียมการมาต้งั แต่ต้น โดยมพี ยานหลักฐาน ดงั นี้ 1) มีการก�าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพือ่ บรรจุและแต่งต้ังเข้ารับราชการโดยก�าหนดให้ส่วนราชการ สพฐ. เปน็ ผดู้ า� เนนิ การออกข้อสอบ ซึง่ เดิมสา� นกั งานเขตพื้นทจ่ี ะเป็นผ้ดู �าเนินการออกขอ้ สอบและจดั สอบเอง 2) มกี ารจัดท�าขอ้ สอบ โดยจ้างบริษทั จนั วาณิชย์ ซเี คยี วรติ ้ี พรน้ิ ต้ิง จา� กดั เป็นผู้จดั พิมพ์ 3) มกี ารจัดส่งข้อสอบ โดยจา้ งบรษิ ัทไปรษณยี ์ไทย จ�ากดั ซ่งึ เดมิ ส�านกั งานเขตพนื้ ทจ่ี ะมารับขอ้ สอบเอง 4) มกี ารสัง่ ใหบ้ คุ คลไปสมัครสอบตา่ งพนื้ ท่ีและยงั ใหไ้ ปสมัครในพื้นท่ีอ่นื อีกกอ่ นทีจ่ ะมีการสอบ (วันท่ี 6-12 ธนั วาคม 2555 โดยไม่เว้น วนั หยุดราชการ) 5) มกี ารจัดผังทน่ี ่ังสอบใหม่เออื้ ประโยชนใ์ ห้กับผทู้ ี่เขา้ สอบ 6) มกี ารฝึกอบรมการใชเ้ ครือ่ งมือ (โทรศัพท)์ กอ่ นมีการสอบ 2 วนั (วันที่ 10 มกราคม 2556) 7) มีการส่งเฉลยขอ้ สอบมาให้กอ่ นวันสอบ 1 วัน (คนื วันท่ี 12 มกราคม 2556) 8) มกี ารให้จดเฉลยข้อสอบเพ่ือท่องเขา้ ไปในห้องสอบโดยได้เฉลยก่อนวันสอบ 1 วนั (วันท่ี 12 มกราคม 2556) 9) มีการจดเฉลยข้อสอบเข้าไปในห้องสอบ (วันที่ 13 มกราคม 2556) ให้ สพฐ. เปน็ หนว่ ยงานกลางจดั สอบในทุกข้นั ตอน ในปแี รก 4-7 แสนบาท โดยมผี บู้ รหิ ารบางคนจาก สพฐ. เกยี่ วขอ้ งกบั (ปี 2555) สพฐ. ไดม้ อบหมายใหม้ หาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนดุสติ การน�าเฉลยข้อสอบออกไปขาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปน็ ผูอ้ อกข้อสอบ-จดั สอบ ซ่งึ ไมพ่ บปัญหาการทุจรติ แตใ่ น มหี ลกั ฐานวา่ ผอู้ า� นวยการโรงเรยี นแหง่ หน่งึ ใน จ.นครราชสมี า ปี 2556 สพฐ. ได้ดา� เนินการจัดสอบเองทกุ ขั้นตอน และพบ เปน็ ผขู้ ายเฉลยขอ้ สอบใหก้ บั ผทู้ ่ีตอ้ งการสอบบรรจคุ รผู ชู้ ว่ ย วา่ มปี ญั หาการทุจรติ เกดิ ขน้ึ เมอ่ื 20 มนี าคม 2556 กระทรวง จ�านวน 48 ราย โดยพบหลกั ฐานเฉลยข้อสอบทง้ั 43 วชิ า ศึกษาธิการและกรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกันแถลงข่าว และบัญชีธนาคารทีม่ ีการโอนเงินเข้าช่วงก่อนสอบและ โดยเชอื่ วา่ มกี ารทจุ รติ เกดิ ขน้ึ ในการสอบคดั เลอื กบคุ คลเพื่อ ในชว่ งสอบ ไมต่ า่� กวา่ 5 ลา้ นบาท3 สา� หรบั ผเู้ ขา้ สอบครผู ชู้ ว่ ย บรรจแุ ละแตง่ ต้ังบคุ คลเขา้ รบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละ 344 ราย ทถ่ี ูกช้ีมูลวา่ กระท�าการทจุ ริตในการสอบ บางราย บุคลากรทางการศกึ ษา ต�าแหน่งครผู ชู้ ว่ ย เมื่อ 13 มกราคม ท่ีไดร้ บั การบรรจแุ ละแตง่ ต้ังแลว้ ตอ้ งถกู ใหอ้ อกจากราชการ 2556 ในเขตพื้นทีก่ ารศึกษาต่างๆ ของภาคตะวันออก โดยบางรายได้ขอลาออกจากราชการเอง ส่วนรายทมี่ ี เฉียงเหนือหลายเขตการศึกษา การทุจริตเกิดข้ึนหลาย การรอ้ งทกุ ข์ กใ็ หม้ ีการพจิ ารณาคา� รอ้ งทกุ ขต์ ามกระบวนการ รูปแบบ อาทิ มีบุคคลอื่นเข้าสอบแทน ผู้เข้าสอบได้เฉลย ข้ันตอนใหเ้ สรจ็ สน้ิ ข้อสอบผ่านข้อความ SMS ผู้เข้าสอบน�าเครื่องมือสื่อสาร เพ่อื ส่งสญั ญาณเฉลยข้อสอบ และมีการนา� ค�าเฉลยขอ้ สอบ ข้อมูลสถิตมิ ดั ตัวคนโกง 344 คน เข้าไปในห้องสอบ เป็นต้น จากการตรวจสอบผลคะแนน พบวา่ มผี ทู้ ที่ า� คะแนนสอบไดส้ งู ผดิ ปกตถิ งึ 486 ราย ในจา� นวน ในบรรดาผู้เข้าสอบครูผู้ช่วยนับแสนคน ส�าหรับผู้ที่ ผู้ที่สอบผา่ นการคดั เลอื ก 9,242 ราย จากจ�านวนทีส่ ามารถ ไมม่ หี ลกั ฐานการทจุ รติ อยา่ งชดั แจง้ ทางกระทรวงศกึ ษาธกิ าร บรรจไุ ด้ 2,161 ราย และกรมสอบสวนคดพี ิเศษจะทราบได้อย่างไรว่าผู้เข้าสอบ รายใดทา� การทจุ ริตบา้ ง ต่อมา คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้พบว่า เฉลยขอ้ สอบ 4 ชดุ วิชา ถกู ลักลอบนา� ไปใหข้ บวนการทจุ ริต ดร.ชอบ ลีซอ ผู้เช่ียวชาญด้านสถิติ ประธาน และขายให้กับผู้ท่ีต้องการสอบบรรจุครูผู้ช่วย ในราคา คณะอนุกรรมการฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลการสอบ ของผู้เข้าสอบคัดเลือกประจ�าคณะกรรมการประจ�าศูนย์ 74 สขุ ภาพคนไทย 2557

ให้ค�าปรึกษาและติดตามผลการคัดเลือกครูผู้ช่วย กล่าวว่า อ่ืนหลายหนว่ ยงาน นจี่ ึงเปน็ เหตุผลสา� คัญที่ท�าใหม้ คี นสนใจ โดยท่ัวไปกราฟคะแนนของผู้เข้าสอบจะอยู่ในรูปโค้งปกติ อยากสอบเขา้ เปน็ ขา้ ราชการครจู า� นวนมาก โดยเฉพาะอยา่ ง แตก่ ารสอบครง้ั นก้ี ราฟชว่ งปลายดา้ นขวาซง่ึ เปน็ ชว่ งคะแนน ยิง่ ในภาคอีสาน ภาคเหนือ ทโี่ อกาสของลูกหลานจะได้รับ เกิน 90% เส้นกราฟสูงเกินโค้งปกติอย่างชัดเจน คือมี ราชการกค็ อื เปน็ ขา้ ราชการครแู ละตา� รวจ เพราะสองอาชพี น้ี ผไู้ ดค้ ะแนนเกิน 90% ถึงกวา่ 500 คน (ตามหลกั สถิติจะมี ใชต้ น้ ทนุ คอ่ นขา้ งตา�่ ในการสง่ ลกู เรยี นเมอื่ เทยี บกบั อาชพี อนื่ ๆ6 แค่ 3 คน) ซ่ึงโอกาสเกิดกราฟแบบน้ีมีน้อยมาก และใน จา� นวนผูท้ ไี่ ดค้ ะแนนสงู ผดิ ปกติ มี 344 ราย ท่เี ลือกค�าตอบ การทจุ รติ สอบครูผู้ช่วยกบั จรยิ ธรรม “ก” ในขอ้ 34 ของขอ้ สอบฉบบั ท่ี 1 วชิ าความรอบรู้ ซงึ่ เปน็ ในวงการการศกึ ษา คา� ตอบทผี่ ิด ทง้ั ทเี่ ปน็ คา� ถามทง่ี า่ ย (ดชั นคี วามยากของขอ้ น้ี อยทู่ ่ี 71% คอื ใน 100 คนจะมคี นตอบถกู 71 คน) เนอ่ื งจาก สวนดสุ ติ โพล ไดเ้ ปิดเผยผลสา� รวจพบวา่ ผตู้ อบแบบ สพฐ. ได้เปล่ยี นขอ้ สอบขอ้ ท่ี 34 ใหม่ โดยขอ้ สอบขอ้ นีเ้ ดิม ส�ารวจ 82% เห็นว่าข่าว “การทจุ ริตสอบครูผู้ช่วย” เฉลยขอ้ “ก” แตก่ อ่ นพมิ พข์ อ้ สอบกรรมการรายหนงึ่ เหน็ วา่ มีผลกระทบตอ่ “กระทรวงศกึ ษาธิการ” มาก เพราะครูคือ ข้อสอบข้อนี้มีความผิดพลาด จึงเปลีย่ นค�าถามใหม่ ทา� ให้ ต้นแบบ เป็นแบบอย่างที่ดีส�าหรับเด็ก ขณะท่ี 27% เฉลยขอ้ สอบเปลี่ยนจาก ขอ้ “ก” เป็น ขอ้ “ข” แตเ่ ฉลย มองว่าการทุจริตเช่นน้ีเกิดขึ้นมานานและมีอยู่ทุกวงการ/ ขอ้ สอบทห่ี ลดุ ออกไปนนั้ นา� ออกไปกอ่ นจะมีการแกไ้ ขขอ้ สอบ4 แก้ไขได้ยาก ด้านแนวทางป้องกันหรือแก้ไข 50% ช้วี ่า ต้องมมี าตรการป้องกันการทุจริตอย่างเข้มงวด บทลงโทษ ความหละหลวมของระบบการสอบ ชดั เจนและเด็ดขาด ด�าเนินคดีกับผู้ทีท่ �าผิด ในขณะที่ 41% มองวา่ ควรปลกู ฝงั จติ สา� นกึ สรา้ งคา่ นยิ มทดี่ ใี นแวดวง นางพนติ า กา� ภู ณ อยธุ ยา ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ข้าราชการครู7 ในฐานะประธานคณะกรรมการสบื สวนขอ้ เท็จจรงิ กรณที จุ รติ การสอบครูผู้ช่วย กล่าวว่า ปัญหาส�าคัญท่ีเกิดข้นึ คือ ในขณะทีส่ ังคมไทยมองว่าการทุจริตการสอบครู ระบบการจัดการสอบทีห่ ละหลวมทุกขัน้ ตอน5 โดยพบว่า เปน็ สง่ิ ท่ผี ดิ จรยิ ธรรมอยา่ งมาก แตท่ ศั นคตขิ องนสิ ติ นกั ศกึ ษา ข้าราชการของ สพฐ. มีความผดิ พลาดในการเก็บรักษา ตอ่ การทจุ รติ กลบั ไมส่ ะทอ้ นภาพเชน่ นน้ั จากผลสา� รวจเรอ่ื ง ขอ้ มลู ลบั ในการสอบครผู ชู้ ว่ ยหลายข้นั ตอน ทุกกระบวนการ “ทัศนคตขิ องนิสิตนักศึกษาต่อการทุจริต การโกง ในการ หละหลวม ทัง้ กระบวนการออกข้อสอบ การเก็บตัวผู้ออก เรยี นการสอบ” โดย รศ.พาชิตชนตั ศริ พิ านชิ สถาบนั บณั ฑติ ข้อสอบ การถ่ายข้อสอบจากเครื่องพีซีมายังคอมพิวเตอร์ พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) พบว่า นิสิตนักศึกษา 16% โนต้ บกุ๊ แตไ่ มม่ ีการระวังดแู ลเก็บรักษาโนต้ บกุ๊ ทีด่ พี อ เคยทุจริตในการสอบ ขณะที่ 30% เคยช่วยเพ่ือนทุจริต ในการสอบ แต่ทนี่ ่าห่วงมากท่ีสุด คือ นักศึกษาทีท่ ุจริต ทา� ไมต้องทุจรติ สอบครู หรือช่วยเพื่อนทจุ ริต มองว่าการทุจริตไม่ผิดหรือผิดน้อย และนักศึกษาที่เคยช่วยเพื่อนทุจริต ทราบว่า การทุจริต อดศิ ร เนาวนนท์ คณบดีบณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั เปน็ เรือ่ งรา้ ยแรงน่าละอาย แต่กย็ ังท�าเปน็ ประจา� 8 ไมเ่ พียง ราชภฏั นครราชสีมา ประธาน อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา เร่ืองจริยธรรมของนักเรียน นักศึกษาเท่าน้ันท่ีเป็นประเด็น ประถมศกึ ษา นครราชสีมา เขต 7 ให้สาเหตุสา� คัญที่ทา� ใหม้ ี ร้อนในสังคมไทย แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงของสถานศึกษา ผู้สมคั รสอบครูจา� นวนมากจนก่อให้เกิดการทุจริตสอบครู ชั้นน�าก็ยังมีข่าวเกี่ยวกับจริยธรรม เช่น กรณีอธิการบดี เพราะครมู ีบัญชเี งนิ เดือน เงนิ ได้อนื่ ๆ คา่ ตอบแทน รวมทง้ั มหาวิทยาลัยช้ันน�าแก้ผลการเรียนให้กับลูกตนเองจ�านวน สวสั ดกิ ารต่างๆ เช่น เงินวทิ ยฐานะ มปี ิดเทอม สวัสดกิ าร 8 รายวิชา จนถูกถอดถอนให้พ้นจากตา� แหน่งอธกิ ารบด9ี รกั ษาพยาบาลทั้งคู่สมรส บดิ า มารดา ซึ่งดกี วา่ ข้าราชการ เปน็ ตน้ 10 สถานการณเ์ ดน่ 75

จากปญั หาทจุ รติ สอบครู ความสามารถของผู้ท่ีสมัครสอบคัดเลือกท่ีไม่เพียงพอต่อ สปู่ ญั หาคณุ ภาพการศึกษาไทย การสอบเข้าบรรจคุ รซู ึ่งเป็นเรอื่ งทีน่ า่ ตกใจอยา่ งมาก12 ปัญหาของระบบการศึกษาไทยทสี่ ะสมมานาน สาเหตสุ า� คญั สว่ นหนง่ึ นา่ จะมาจากการพฒั นาการศกึ ษา ทงั้ ปัญหาการทจุ ริต ปัญหาจริยธรรม และคุณภาพของครู ทไ่ี มม่ กี ารวางแผนพฒั นาบคุ ลากรอยา่ งเหมาะสม สาเหตหุ นงึ่ ได้สง่ ผลกระทบมายงั คุณภาพของการศกึ ษา แม้ว่าเด็กไทย เกดิ จากรฐั บาลขาดการเหลยี วแลเพ่อื พฒั นาในดา้ นดังกลา่ ว หลายคนจะมีความสามารถสูง สามารถคว้ารางวัลระดับ เนือ่ งจากนโยบายของรัฐทุ่มไปเพ่ือพัฒนาบุคลากรในสาขา นานาชาติ ทงั้ ดา้ นคณติ ศาสตร์ ฟสิ กิ ส์ เคมี หรอื ทางดา้ นหนุ่ ขาดแคลน ท�าให้การพัฒนาครูขาดความต่อเนื่อง และ ยนต์ มาให้คนไทยได้ชื่นชม แต่เม่ือมองภาพการศึกษา ไม่ไดร้ บั การสนับสนนุ อยา่ งจริงจังจากรฐั บาล โดยรวมพบวา่ คณุ ภาพการศกึ ษาของไทยกลบั รง้ั อนั ดบั ทา้ ยๆ ของภูมิภาคอาเซียน รายงานการจัดอันดับความสามารถ ส�าหรับปัญหาการขาดแคลนครูและปัญหาโรงเรียน ในการแขง่ ขันของประเทศต่างๆ 148 ประเทศ โดย World ไมส่ ามารถบรรจคุ รไู ดต้ รงกบั ความตอ้ งการนน้ั นายจาตรุ นต์ Economic Forum (WEF) ปี 2013 เปิดเผยวา่ คุณภาพ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) การศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษาของไทย (Quality of Primary เปิดเผยว่าภายใน 5 ปีจะมีการขาดแคลนครูและบุคลากร Education) อยอู่ นั ดบั ที่ 86 ของโลก ลดลง จากอนั ดบั ท่ี 82 ทางการศกึ ษาจากการเกษยี ณอายรุ าชการ ถงึ 155,225 คน ในปีก่อน และอยู่ในอันดับที่ 7 จาก 10 ประเทศอาเซียน มกี ารขาดแคลนครทู กุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ รวม 51,462 อตั รา น�าหน้าเพียงลาว กัมพูชา และเมียนมาร์เท่านัน้ ส่วน ในสาขาวชิ าทเ่ี ปน็ พนื้ ฐานสา� คญั คอื ภาษาองั กฤษ คณติ ศาสตร์ การศึกษาระดบั อุดมศึกษาของไทย (Higher education ภาษาไทย และวิทยาศาสตร์13 ซึ่งความขาดแคลนทเี่ กดิ ข้ึน and training) ก็ตกลงมาทีอ่ ันดับ 66 จากอันดบั ที่ 60 อยา่ งตอ่ เนอื่ งน้ี เปน็ เพราะหนว่ ยงานทคี่ วบคมุ อตั รากา� ลงั คน ในปีก่อนหน้า และเป็นอันดับที่ 5 ของอาเซียนเท่านัน้ ภาครัฐ มีนโยบายลดก�าลังคนภาครัฐลง และนโยบาย น�าหนา้ กเ็ พยี งฟลิ ปิ ปินส์ เวียดนาม ลาว กมั พูชา และพม่า10 ดงั กล่าวได้ถูกน�ามาใช้กับบุคลากรทางการศึกษาด้วย ซึ่งสวนทางกับนโยบายการพัฒนาประเทศของไทยทมี่ ุ่ง บวกกบั มขี า้ ราชการครทู ่ีเขา้ รว่ มโครงการเกษยี ณอายรุ าชการ ใหไ้ ทยเปน็ ศูนย์กลางทางเศรษฐกจิ ของอาเซียน ก่อนก�าหนดเปน็ จ�านวนมาก จงึ ท�าให้ขาดครูเพิ่มขึ้นไปอีก14 ทงั้ นีก้ ารแก้ปัญหาการขาดแคลนครูต้องดูทัง้ ระบบ ปญั หาการขาดแคลนครู ทัง้ การขอคืนอัตราเกษยี ณ การเกลี่ยครูจากโรงเรียนทคี่ รู เกินไปยังโรงเรียนทคี่ รูขาด การเกลีย่ ให้ครูได้สอนตรงตาม นอกจากปัญหาจริยธรรมในการสอบครูผู้ช่วยแล้ว วิชาเอก รวมทัง้ การหาครูใหม่มาทดแทน ซึง่ ขณะนี้ก็ยังมี ปญั หาเรอ่ื งครมู คี วามรเู้ กยี่ วกบั วชิ าทตี่ วั เองสอนไมเ่ พยี งพอ ปญั หาเร่อื งการผลติ ครไู มต่ รงกบั ความตอ้ งการ อยา่ งไรกต็ าม การขาดแคลนครูและปัญหาโรงเรียนไม่สามารถบรรจคุ รู ตนคิดว่าการเพิ่มคนอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีการน�า ได้ตรงกับความต้องการก็เป็นปัญหาที่ส�าคัญท่ีต้องการ เทคโนโลยกี ารศกึ ษาเขา้ มาชว่ ยในการเรยี นการสอนใหม้ ากขึน้ การแก้ไขอย่างเร่งด่วน ในการสอบคัดเลือกบรรจุครูผู้ช่วย และน�าระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์มาช่วยในการเกลีย่ ประจ�าปี 2556 พบว่า มีผู้สอบผ่านเกณฑ์ 60% จ�านวน ก�าลังคน และการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อ เพียง 1,536 ราย จากจ�านวนผู้เข้าสอบ 21,773 ราย การจัดสรรอัตราก�าลงั คนทเี่ หมาะสม15 หรือมีผู้สอบผ่านเพียง 7% เท่านั้น นอกจากนีใ้ นเขตพืน้ ที่ การศึกษา ประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 3 มผี ู้สอบ ไดค้ ะแนนตา่� กวา่ เกณฑเ์ ปน็ ประวตั กิ ารณแ์ ละไมม่ ผี สู้ อบผา่ น วชิ าเอกคณติ ศาสตรแ์ มแ้ ตร่ ายเดยี ว11 แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความรู้ 76 สขุ ภาพคนไทย 2557

ปญั หาข้อพิพาทเรอ่ื งดินแดนมอี ยู่ในทกุ ภมู ิภาคของโลก คดปี ราสาทพระวิหารระหวา่ งไทยและกมั พชู าทแี่ ม้ว่า ศาลโลกได้มีการตัดสินให้ตัวปราสาทตกเป็นของกัมพูชาต้ังแต่ปี 2505 แต่ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ กย็ ังไมย่ ุติ โดยไทยและกัมพูชาต่างอ้างพื้นทร่ี อบตัวปราสาท และเกดิ ความตงึ เครียดตามแนวชายแดนเป็นระยะ คา� ตดั สนิ ของศาลโลกในปี 2556 มคี วามสา� คญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ อนาคตความสมั พนั ธท์ วภิ าครี ะหวา่ งสองประเทศ ในการลดความตึงเครียดที่สะสมมานาน โดยให้ทั้งสองประเทศไปด�าเนินการรว่ มกันเพ่ือก�าหนดเสน้ ขอบเขตบริเวณ ใกล้เคยี งปราสาทพระวิหาร แต่หลายฝ่ายกไ็ ด้ตีความผลของการตัดสนิ ไปในหลายทาง ท้ังในด้านบวกและลบ (คภาดคีป2)ราสาทพระวหิ าร แม้ว่าศาลโลกจะพิพากษาให้ปราสาทพระวิหารเป็น การตคี วามค�าพิพากษาปี 2505 ของคดปี ราสาท ของกัมพูชาต้ังแต่ปี 2505 แต่ความขัดแย้งระหว่างไทย พระวิหารเป็นเหตุการณ์ส�าคัญทสี่ ุดเหตกุ ารณ์หนึง่ ของไทย กับกัมพูชาในกรณีเขาพระวิหารก็ยังไม่ยุติ ความขัดแย้ง และกมั พชู า ในปี 2556 และมีความสา� คญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ อนาคต รอบใหม่รุนแรงข้ึน ภายหลังปราสาทพระวิหารได้รับการ ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศ อีกทัง้ ยังเป็น ขึน้ ทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี 2551 เหตกุ ารณ์ทคี่ รองพืน้ ทใี่ นสื่อมวลชนได้มากนับแต่ต้นปี ตามการยืน่ เสนอของกัมพูชา เนื่องจากไทยและกัมพูชา เลยทเี ดยี ว เมือ่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชยั กุล รัฐมนตรี ตา่ งอา้ งกรรมสทิ ธ์พิ ้นื ท่รี อบเขาพระวหิ ารท่ที บั ซอ้ นกนั ท�าให้ ว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้นได้ประเมินว่า ในปี 2554 กัมพูชาได้ยื่นขอให้ศาลโลกตคี วามเกีย่ วกับ โอกาสทไี่ ทยจะชนะคดปี ราสาทพระวิหารมีน้อยมาก ความหมายและขอบเขตของค�าพิพากษาเดิมที่ศาลตัดสิน หากแม้นว่าไทยชนะคดีคือศาลไม่รับตีความตามค�าขอของ ไว้ต้ังแต่ปี 2505 ซ่งึ การตีความค�าพิพากษานี้ อาจส่งผล กัมพูชา ไทยก็ยงั แค่เสมอตัว และคา� พดู เช่นนน้ั กลายเปน็ กระทบตอ่ การสญู เสยี ดนิ แดนของประเทศใดประเทศหนง่ึ ได้ ทีว่ ิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า รัฐบาลยอมอ่อนข้อให้กับ และเป็นเหตุการณ์ส�าคัญท่ีเกิดข้ึนท่ามกลางความขัดแย้ง ฝ่ายกมั พชู าในการว่าคดดี ังกล่าว1 ตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงหลายปีทผี่ ่านมา จนมีการปะทะกันทางทหารและส่งผลกระทบต่อประชาชน ค�าพพิ ากษาของศาลโลกปี 2556 ในพนื้ ทใ่ี กลช้ ายแดน ในวันที่ 11 พฤศจกิ ายน 2556 ศาลยุตธิ รรมระหว่าง ประเทศ โดยมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่า ศาลมีอ�านาจตาม 10 สถานการณ์เด่น 77

มาตรา 60 ของธรรมนูญศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สมัยรัฐบาลอภสิ ิทธ์ิ ความขัดแยง้ รุนแรงมากขึน้ จนเป็นเหตุ ทจี่ ะตีความคา� พิพากษาคดปี ราสาทพระวิหารใน ค.ศ. 1962 ใหเ้ กดิ การปะทะกนั ทางทหาร รวมท้งั ลกุ ลามไปพน้ื ทอ่ี น่ื เชน่ (พ.ศ. 2505) ตามคา� ขอของกัมพูชา และศาลรบั คา� ขอน้นั ไว้ พน้ื ทใี่ กลเ้ คียงปราสาทตาเมือน จ.สุรนิ ทร์ ในเดอื นเมษายน ตคี วาม และตดั สนิ ใหก้ มั พชู ามอี า� นาจอธิปไตยเหนอื ยอดเขา 2554 ทา� ให้เกิดการสูญเสียชวี ิตท้งั ทหารและพลเรือน ทงั้ หมดของภูพระวิหารตามทไี่ ด้นิยามเอาไว้ในย่อหน้า 98 ทัง้ สองฝา่ ย ของค�าพิพากษาปัจจุบัน (จะได้กล่าวถึงต่อไป) และโดย ผลแหง่ การนนั้ ประเทศไทยมพี นั ธะทจี่ ะตอ้ งถอนทหาร ตา� รวจ ปญั หาท่เี กดิ ข้นึ กอปรกบั ความประสงคใ์ นการบรหิ าร หรือเจ้าหนา้ ทอี่ ืน่ ใดทร่ี กั ษาพนื้ ที่อยอู่ อกจากท่นี น้ั 2 จัดการปราสาทพระวิหารในฐานะมรดกโลก ทา� ให้กัมพูชา ต้องการให้ศาลยุตธิ รรมระหว่างประเทศชี้ขาดว่าพืน้ ที่ ค�าพิพากษาดังกล่าวนั้น ก่อให้เกิดปฏิกิริยาไปใน ใกลเ้ คยี งปราสาทพระวหิ ารนน้ั มขี อบเขตเพยี งใด โดยกมั พชู า หลายทาง บ้างว่าไทยแพ้อย่างราบคาบก่อให้เกิดการเสีย เห็นว่า เม่ือศาลได้ตัดสินในปี 2505 ว่าปราสาทพระวิหาร ดนิ แดนอยา่ งชดั เจน3 แตร่ ฐั บาลและเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั บาลไทย ตงั้ อยใู่ นอาณาเขตภายใตอ้ า� นาจอธปิ ไตยของกมั พชู า ดงั นน้ั พอใจกับค�าตัดสินและเห็นว่าค�าตัดสินเป็นประโยชน์ต่อไทย กัมพูชาจงึ ขอให้ศาลประกาศว่า ประเทศไทยมีพันธะท่ีจะ อย่างมาก4 ทางด้าน ฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและ ต้องถอนทหารหรือบุคลากรอื่นใดท่ีเฝ้าพื้นที่อยู่ออกจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาในฐานะ ตวั ปราสาทหรือพื้นทีใ่ กล้เคียง (vicinity) ของปราสาท หัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายกัมพูชา กล่าวว่า ทัง้ สองฝ่าย พระวิหารด้วย8 ทางฝ่ายไทย เห็นว่า เรือ่ งตัวปราสาทนัน้ ตา่ งไดร้ บั ชัยชนะดว้ ยกนั ท้ังคแู่ ละจะตอ้ งประชุมปรกึ ษาหารอื ฝ่ายไทยไม่ติดใจเพราะถือว่าได้ปฏิบัติตามค�าพิพากษา กันว่าจะดา� เนินการตามค�าพิพากษากันอย่างไรให้เหมาะสม ของศาลต้ังแต่ปี 2505 โดยมอบปราสาทให้กัมพูชาไปแล้ว ทส่ี ดุ 5 สว่ น น.ส.รสนา โตสติ ระกลู วฒุ สิ มาชิก กรงุ เทพมหานคร แต่ปัญหาส�าคัญในตอนน้ีคือ พื้นที่ใกล้เคียงตัวปราสาท ได้อภิปรายในรัฐสภาเมือ่ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 ว่า ทีก่ มั พูชากล่าวถงึ นั้นมีขอบเขตมากน้อยเพยี งใด เมอ่ื ปี 2505 นน้ั ประเทศไทยเสยี แคต่ ัวปราสาทไปใหก้ มั พชู า แต่ผลจากการตคี วามของศาลยุตธิ รรมระหว่างประเทศ การตอ่ สคู้ ดรี ะหวา่ งไทยกบั กมั พูชา เมื่อ 11 พฤศจกิ ายน 2556 นน้ั ทา� ใหไ้ ทยเสียภพู ระวิหาร ทัง้ ลกู ให้กมั พูชาไป และนายกษติ ภิรมย์ สมาชิกสภาผแู้ ทน ศาลโลกได้เปิดการไต่สวนโดยวาจาคร้ังแรกในเดือน ราษฎรพรรคประชาธปิ ัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กรกฎาคม 2554 และมคี �าส่ังออกมาตรการช่ัวคราวในวันที่ การตา่ งประเทศ อภิปรายแสดงความสงสัยว่า ค�าพิพากษา 18 กรกฎาคม 2554 ใหไ้ ทยและกัมพูชาถอนทหารออกจาก ของศาลท่ีอาศัยหลักภูมศิ าสตร์ท่ียกภูเขาทั้งลูกให้กัมพูชา พ้นื ท่พี พิ าทและบรเิ วณใกลเ้ คยี ง พรอ้ มท้งั ใหก้ ลมุ่ อาเซยี นสง่ ไปนัน้ ยืนอยู่บนหลักกฎหมายใด และค�าพิพากษาเช่นนัน้ ผู้สังเกตการณ์ไปดูแลการถอนทหารและห้ามไม่ให้ไทย เปน็ ส่งิ ท่ีคนไทย รฐั บาลไทยและประเทศไทยสมควรจะยอมรบั ขดั ขวางการเขา้ ออกของฝา่ ยกมั พชู าและเจา้ หนา้ ท่ีท่ีจะเขา้ ไป หรอื ไม6่ บรหิ ารจดั การปราสาทพระวหิ ารในฐานะมรดกโลก9 จากนน้ั ศาลได้นัดการไต่สวนด้วยวาจาอีกครั้งหน่ึงระหว่างวันที่ กมั พชู าไดย้ ่นื คา� รอ้ งตอ่ ศาลยตุ ิธรรมระหวา่ งประเทศ 15-19 เมษายน 2556 โดยครั้งหลังนี้เป็นเสมือนการสรุป หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม “ศาลโลก” เม่ือ 28 เมษายน และขมวดประเด็นส�าคัญท่ีทั้งสองฝ่ายต้องการช้ใี ห้ศาลเห็น 2554 ขอใหศ้ าลใชอ้ า� นาจตามมาตรา 60 ของธรรมนญู ศาล ในขอ้ ตอ่ สขู้ องตนเอง โดยในระหวา่ งท่มี กี ารใหก้ ารดว้ ยวาจาน้ี ตคี วามเก่ยี วกบั ความหมายและขอบเขตของคา� พพิ ากษาเดิม ปรากฏว่าผูพ้ ิพากษา อบั ดลุ กาวี อาเมด็ ยูซปู ไดร้ อ้ งขอให้ ท่ีศาลตัดสินไว้ตั้งแต่ปี 2505 หลังจากท่ีไทยและกัมพูชา คคู่ วามใหค้ า� นยิ ามเกย่ี วกบั พน้ื ทใี่ กลเ้ คยี งปราสาทพระวหิ าร ขัดแย้งมาโดยตลอดเกี่ยวกับพ้ืนที่ใกล้เคียงตัวปราสาท (vicinity) ตามความเขา้ ใจของฝา่ ยตนใหศ้ าลพจิ ารณาดว้ ย10 พระวิหาร โดยไทยเห็นว่ากัมพูชาต้องการน�าพ้ืนท่ีใกล้เคียง และทงั้ สองฝ่ายได้จัดส่งเอกสารและค�าชแี้ จงรวมทัง้ แผนที่ ไปใช้เพือ่ จัดการปราสาทหินแห่งนีใ้ นฐานะท่เี ป็นมรดกโลก7 ประกอบไปใหก้ ับศาลในวันท่ี 3 พฤษภาคม 2556 78 สขุ ภาพคนไทย 2557

ฝา่ ยไทยนน้ั ไดโ้ ตแ้ ยง้ ท้ังในขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ กฎหมาย อธปิ ไตยของกมั พชู า สว่ นพน้ื ทที่ างดา้ นตะวนั ตกและตะวนั ตก ซึ่งสามารถประมวลสรุปได้ 4 ขอ้ ดังตอ่ ไปน้ี เฉียงเหนือนัน้ นัน้ พืน้ ทีล่ าดลงไป แม้ว่าจะลาดชนั น้อยกว่า หนา้ ผาแตก่ เ็ หน็ ไดช้ ดั วา่ ลาดลงไปสหู่ บุ เขาซง่ึ แยกภพู ระวหิ าร 1) ศาลไม่มีอ�านาจตีความค�าพิพากษาปี 2505 ออกจากพนมทรอบหรือพนมซบั หรือภูมะเขอื ในภาษาไทย เนื่องจากค�าพิพากษาน้ันมีความชัดเจนดีแล้วและคู่กรณี ก็เห็นพ้องกันมาโดยตลอดจนกระท่ังเม่ือกัมพูชามีความ 2) ทางดา้ นทิศเหนอื ขอบเขตของภพู ระวหิ ารอยทู่ ่ีเสน้ ต้องการจะใช้พื้นท่ีเพิ่มเติมหลังการข้นึ ทะเบียนปราสาท ตามแผนทภี่ าคผนวก 1 จากจดุ ทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื พระวิหารเป็นมรดกโลกในปี 2550 ของตัวปราสาทตรงท่ีเส้นตดั กับขอบหน้าผาลากไปสู่ทิศ ตะวนั ตกเฉยี งใตท้ ห่ี บุ เขาตนี ภมู ะเขือ แตท่ างด้านทศิ เหนอื น้ี 2) ไทยได้ปฏิบัตติ ามค�าพิพากษาปี 2505 ศาลไม่ได้บอกลักษณะรูปพรรณสัณฐานของภูมิประเทศว่า ครบถ้วนแล้วทกุ ประการ โดยได้ด�าเนินการจัดทา� ขอบเขต เป็นเช่นใด และศาลเองยอมรับตามความเห็นของฝ่ายไทย ปราสาทพระวิหารและพืน้ ท่ใี กล้เคียงเป็นพืน้ ทีข่ นาด 0.25 วา่ การถา่ ยทอดเสน้ ตามแผนท่ภี าคผนวก 1 ลงสภู่ มู ปิ ระเทศ ตารางกิโลเมตรพร้อมทัง้ ได้ท�ารั้วลวดหนามกั้นและปักป้าย จริงน้ัน เป็นไปด้วยความยากล�าบาก ดังนั้นตามท่ีระบุ แสดงโดยชัดเจน ซ่ึงฝ่ายกัมพูชาก็ยอมรับการด�าเนินการ ในย่อหน้าท่ี 99 ให้ทง้ั สองฝา่ ยหาทางร่วมมอื กนั ด�าเนินการ เช่นน้ันมาโดยตลอด โดยสุจริตและห้ามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ว่าไทยหรือกัมพูชา ด�าเนนิ การฝ่ายเดียวโดยเด็ดขาด12 3) ส่วนท่กี ัมพูชาน�ามาขอให้ศาลตีความนัน้ มุ่งเน้น ไปท่ีปัญหาเสน้ เขตแดนและแผนที่ภาคผนวกที่ 1 หรือทร่ี จู้ กั แม้ว่าค�าพิพากษาข้างต้นจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ กันดีในแผนท่ีมาตราส่วน 1:200,000 ซ่ึงไม่ใช่ส่วนของ แตกต่างกันและสร้างความไม่พอใจให้กับคนบางกลุ่ม แต่ บทปฏบิ ัติการ ซึ่งตามหลกั การตีความค�าพพิ ากษานั้นจะท�า นายวรี ชัย พลาศรยั เอกอคั รทตู ไทยประจา� กรงุ เฮก ประเทศ ไดเ้ ฉพาะในส่วนท่ีเปน็ บทปฏบิ ตั ิการเท่าน้ัน เนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะทีมกฎหมายฝ่ายไทย กล่าวว่า ค�าพิพากษานัน้ เป็นผลดีต่อไทยหลายประการ 4) บริเวณใกล้เคียงปราสาทพระวิหาร ตาม ทส่ี า� คญั ท่สี ดุ คอื ไทยไมไ่ ดเ้ สยี พ้นื ท่พี พิ าท 4.6 ตารางกโิ ลเมตร ค�าพิพากษาเดิมนัน้ ไม่จ�าเป็นเสมอไปว่าจะต้องเป็นดินแดน ท้งั หมดรวมท้ังภมู ะเขอื ใหก้ มั พชู า อกี ท้งั ศาลไมไ่ ดต้ ัดสนิ เรอ่ื ง ของกัมพูชา เส้นทีใ่ ช้แบ่งขอบเขตปราสาทก็ไม่จ�าเป็นว่า เขตแดน ไมไ่ ดใ้ หฐ้ านะแกแ่ ผนท่ี 1:200000 ซ่งึ กมั พชู านา� มา จะต้องเป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศเสมอไป อีกทงั้ อ้างในการก�าหนดเขตแดนนอกบริเวณปราสาทพระวิหาร เสน้ ทีก่ ัมพชู าอ้างตามแผนท่ภี าคผนวกที่ 1 ในคดปี จั จุบันนี้ สิ่ ง ที่ ไ ท ย เ สี ย ไ ป โ ด ย ผ ล ข อ ง ค� า พิ พ า ก ษ า ก็ เ ป ็ น เ พี ย ง ก็เปน็ คนละเส้นกับท่ีมีการพดู กันในคดเี ดิม11 เส้นขอบเขตตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2505 เท่าน้ันเพราะ ศาลไม่ยอมรบั เสน้ ดังกลา่ ว13 ท้ังน้ี ศาลใหเ้ วลาประมาณ 6 เดือนนบั จากการใหก้ าร โดยวาจาในเดือนเมษายน 2556 จนถงึ วันตดั สนิ โดยไดท้ า� การตีความเร่ืองดนิ แดน ค�าตัดสินและนัดอ่านค�าพิพากษาในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ซง่ึ ไดต้ ดั สินว่า กัมพชู ามอี �านาจอธปิ ไตยเหนอื ชะง่อน ประเด็นส�าคัญทีอ่ ยู่ในความสนใจของสาธารณชน ผา (promontory) พระวหิ ารท้งั หมด โดยมรี ายละเอยี ดของ มากท่สี ดุ คือปัญหาว่าดว้ ยการเสยี ดนิ แดน การพิจารณาวา่ ค�าตัดสิน ดังน้ี เสียดินแดนหรือไม่นัน้ ขึ้นอยู่กับมุมมองว่ายืนอยู่บนพืน้ ฐาน เดิมอย่างไร หากพิจารณาว่าพืน้ ทีน่ อกเส้นขอบเขตตาม 1) ศาลไดช้ ้ี (ตามยอ่ หนา้ 98) วา่ promontory หรอื มตคิ ณะรัฐมนตรีปี 2505 นั้นเป็นของไทยมาแต่เดมิ ชะง่อนผา หรือยอดเขานัน้ เป็นไปตามลักษณะธรรมชาติ การทีศ่ าลไม่ยอมรับเส้นดงั กล่าวก็ทา� ให้คิดได้ว่า เสียพืน้ ที่ ของภูมิประเทศทีต่ วั ปราสาทตงั้ อยู่ กล่าวคือ ทางด้านทิศ นน้ั ไป แตห่ ากพจิ ารณาโดยขอ้ เท็จจรงิ ท่วี า่ มตคิ ณะรฐั มนตรี ตะวันออก ทิศใต้ และตะวันตกเฉียงใต้ ยอดเขานี้ดิง่ ลง ปี 2505 น้ัน ไม่สะท้อนส่วนใดในค�าพิพากษาเดิมเพราะ เป็นหน้าผาชนั ลงสู่ทีร่ าบกัมพูชาซึ่งคู่กรณีเห็นร่วมกันแล้ว ว่าหน้าผานีล้ งไปจนถึงพืน้ ทีท่ ี่ตนี ของมันอยู่ภายใต้อ�านาจ 10 สถานการณ์เดน่ 79

ไมไ่ ดอ้ ธบิ ายคา� วา่ ยอดเขาและไมไ่ ดบ้ อกวา่ อาศยั หลกั การใด กันเพ่ือด�าเนินการร่วมกันต่อไป ไม่สามารถก�าหนดเส้น เป็นตวั ก�าหนดอาณาบริเวณใกล้เคียงปราสาท แต่สะท้อน โดยฝา่ ยหน่งึ ฝา่ ยใดโดยล�าพงั ได้ เพยี งเจตนาของทางการไทยในสมยั นน้ั วา่ จะใหซ้ ากปราสาท และพน้ื ดินสว่ นนอ้ ยทส่ี ดุ เทา่ ท่จี ะท�าไดเ้ พ่อื รองรบั ตัวปราสาท ประการส�าคัญ แนวทางการหารือกับฝ่ายกัมพูชา ให้กับกัมพูชาไปเท่านั้นเอง และการก�าหนดเช่นนัน้ ก็ท�า ในอนาคต ฝ่ายไทยจะยึดหลัก 4 ประการ ซ่ึงรัฐสภาเห็น แต่ฝ่ายเดยี ว ทงั้ ศาลก็ได้พิจารณาโดยชัดแจ้งว่ากัมพูชา สอดคลอ้ ง ได้แก่ 1) การแกไ้ ขปัญหาโดยสนั ติวธิ ี 2) การ ไมเ่ คยยอมรับซา้� ยังได้ทว้ งติงมาโดยตลอด ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติ 3) การรักษา ความสมั พนั ธก์ บั กมั พชู าในฐานะประเทศเพอ่ื นบา้ นและสมาชกิ อยา่ งไรกต็ ามรฐั บาลไดต้ ง้ั คณะกรรมการชดุ หนง่ึ โดย ประชาคมอาเซยี น และ 4) การรกั ษาเกยี รตภิ มู ขิ องประเทศไทย มนี ายสีหศกั ด์ิ พวงเกตแุ กว้ ปลดั กระทรวงการตา่ งประเทศ ในสงั คมโลก14 เป็นประธาน นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจ�ากรุงเฮกในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการว่าคดี บทสรปุ เป็นเลขานุการ เพือ่ ทา� การศึกษาค�าพิพากษาของศาล ปี 2556 นี้ เพ่ือท�าความเข้าใจต่อสาธารณะเกีย่ วกับ ค�าตัดสินของศาลโลกถือว่าช่วยลดความตึงเครียดที่ ผลของค�าพิพากษา รวมทัง้ แปลค�าพิพากษาเป็นภาษาไทย สะสมมานานระหว่างไทยกบั กมั พูชา โดยใหท้ ้งั สองประเทศ และเสนอแนะแนวทางต่อรัฐบาลในการปฏิบัตติ ่อ ไปด�าเนนิ การรว่ มกนั เพอ่ื กา� หนดเสน้ ขอบเขตบรเิ วณใกลเ้ คยี ง ค�าพิพากษานั้น ในเบื้องต้นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปราสาทพระวหิ าร ซึง่ ในอนาคต หากความสมั พนั ธท์ วิภาคี แถลงวา่ ในการตดั สนิ คดนี น้ั ศาลเหน็ วา่ เสน้ ขอบเขตบรเิ วณ ระหว่างสองประเทศราบรืน่ ก็อาจเจรจาเพือ่ หาข้อตกลง ใกลเ้ คยี งปราสาทพระวหิ ารตามมตคิ ณะรฐั มนตรปี ี 2505 นน้ั รว่ มกนั ได้ แตจ่ นถงึ ส้นิ ปี 2556 รฐั บาลไทยยงั ไมไ่ ดแ้ สดงทา่ ที ไม่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณใกล้เคียงท้ังหมด เนื่องจาก อยา่ งเปน็ ทางการเกย่ี วกบั คา� พพิ ากษาการตคี วามคดปี ราสาท ไมค่ รอบคลมุ ถงึ ทตี่ ้ังของสถานตี �ารวจไทยซ่งึ อยทู่ างตะวนั ออก พระวิหาร โดยยังไม่มีการระบุชีช้ ัดลงไปว่า พืน้ ทตี่ าม เฉียงเหนอื ของปราสาทพระวิหาร ค� า พิ พ า ก ษ า นั้ น อ ยู ่ บ ริ เ ว ณ ใ ด แ ล ะ มี ข น า ด เ ท ่ า ใ ด ใ น ภูมิประเทศจริง ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ประการต่อมา ฝ่ายไทยยังไม่สามารถระบุขอบเขต การต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล กล่าวว่าเม่ือ ของบรเิ วณใกลเ้ คยี งปราสาท (vicinity) ซ่งึ ศาลกา� หนดตาม ไทยก�าหนดท่าทีและจุดยืนอย่างเป็นทางการแน่ชัดแล้ว ค�าพิพากษาว่า คือ promontory (ค�าแปลช่ัวคราว คือ จะน�าเข้าผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาตาม มาตรา 190 ยอดเขาพระวิหาร) ได้ว่า มีอาณาบริเวณและพ้ืนที่เท่าใด ของรัฐธรรมนูญและจะได้มีการนัดหารือกับฝ่ายกัมพูชาใน เน่อื งจากตอ้ งศกึ ษาคา� พพิ ากษาโดยละเอยี ด ท้ังยงั ตอ้ งลงไป กรอบคณะกรรมาธกิ ารร่วม (Joint Commission) เพ่อื หา ดสู ภาพภมู ศิ าสตรใ์ นพน้ื ทจ่ี รงิ เสยี กอ่ น แตส่ งิ่ ทส่ี ามารถยนื ยนั ทางแกไ้ ขปญั หารว่ มกนั ตอ่ ไป15 แตส่ ถานการณท์ างการเมอื ง ได้จากค�าพิพากษาของศาลคือ บริเวณใกล้เคียงปราสาท ในประเทศท�าให้รัฐบาลภายใต้การน�าของนายกรัฐมนตรี ไม่ใชพ่ ืน้ ที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร และเสน้ เขตแดนบนแผนที่ ยิ่งลักษณ์ ชนิ วัตร ไม่สามารถยืนยาวต่อไปได้จนถึงวันนั้น ภาคผนวก 1 มาตราส่วน 1: 200,000 ไมผ่ กู พนั ไทยในฐานะ อนั เน่อื งมาจากผลของประกาศยบุ สภาเมอื่ วันที่ 9 ธนั วาคม เสน้ เขตแดนท่วั ไประหวา่ งไทย-กมั พูชา ตามทก่ี มั พชู ากลา่ ว 2556 ทา� ใหก้ ารดา� เนนิ การใดๆ เก่ยี วกบั ปราสาทพระวหิ าร อ้างมาโดยตลอด ซึ่งแสดงว่าศาลรับฟังข้อต่อสู้ทฝี่ ่ายไทย ดเู หมอื นหยดุ ชะงกั ลง แมว้ า่ คณะท�างานจะยงั คงดา� เนนิ การ นา� เสนอ ตอ่ ไป แตแ่ นวทางการดา� เนนิ งานของไทยในเรอื่ งนี้ คงขนึ้ อยู่ กบั รฐั บาลในอนาคตวา่ จะมที า่ ทใี นเรอื่ งนอี้ ยา่ งไร มหากาพย์ อีกประการหน่ึง ศาลไดย้ อมรับวา่ การถา่ ยทอดเสน้ เรือ่ งปราสาทพระวิหารจึงยังคงด�าเนินต่อไป ขอบเขตบรเิ วณใกลเ้ คยี งปราสาทพระวหิ ารตามคา� พพิ ากษา โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ดา้ นทิศเหนอื ของตัวปราสาทพระวิหาร น้นั ทา� ไดย้ าก และท้ังไทยและกัมพูชาจะตอ้ งหารอื เจรจา 80 สุขภาพคนไทย 2557

กเณบั แรนคว�าทาพงกราะรนแอก้ปกญัรตีหา ชวี ติ ของพระภกิ ษใุ นพระพทุ ธศาสนาถา้ มคี วามมกั นอ้ ย สนั โดษ ต้งั ใจศกึ ษาและปฏบิ ตั ธิ รรมแลว้ กจ็ ะมศี ลี จรยิ วตั ร ทงี่ ดงามเป็นทีเ่ ลอื่ มใสศรัทธาของประชาชน แต่ถ้าพระภกิ ษุเร่มิ สะสมความมัง่ คัง่ และแสวงหาอา� นาจแล้ว ในทสี่ ุด จะกลายเป็น “พระนอกรตี ” ท่ีมีเรอ่ื งอ้ือฉาวเกี่ยวกับสกี าและทรพั ยส์ นิ อยา่ งหลีกเล่ยี งไมไ่ ด้ กรณีของเณรคา� กเ็ ชน่ กนั ภาพเณรค�าทใี่ ช้สินค้าหรหู ราฟุ่มเฟือยและประพฤติตนไม่เหมาะสมก่อให้เกิดกระแสต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม อย่างกว้างขวาง ปัญหาพระนอกรีต นอกจากจะเป็นพฤติกรรมทไี่ ม่เหมาะสมของปัจเจกบคุ คลแล้ว ยังเป็นปัญหา เชงิ โครงสร้างของ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ปัจจุบัน ทีไ่ ม่ทันยุคสมัย ขาดประสทิ ธิภาพ และทา� ให้อ�านาจการตรวจสอบของ ภาคประชาชนและภาครฐั ต่อคณะสงฆล์ ดนอ้ ยลง ในรอบปที ่ีผ่านมา มีเรื่องอือ้ ฉาวเกีย่ วกบั พระนอกรีต เรอ่ื งออ้ื ฉาวเกย่ี วกบั เณรคา� เกดิ ขน้ึ เม่อื มกี ารแพรภ่ าพ ทเี่ ป็นข่าวใหญ่ติดต่อกันนานนับเดือน จนกรมสอบสวนคดี เณรค�าในหลายอิริยาบถท่ผี ิดอาจาระของสงฆ์ เชน่ เณรค�า พิเศษต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็คือกรณีเณรค�า หรืออดตี ในเครื่องบินส่วนตวั พร้อมกับถือกระเป๋าหรูหราราคาแพง1 พระวิรพล ฉัตตโิ ก ผู้เคยเป็นประธานสงฆ์ส�านักสงฆ์วัดป่า ภาพถ่ายแนบหน้ากับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นต้น ขนั ตธิ รรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรสี ะเกษ ทมี่ ีชอื่ เสยี ง จนเกิดกระแสต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่าง อย่างมากจากความสามารถในการเทศนา โดยแฝงเรื่อง กว้างขวาง หลังจากนั้น สือ่ ต่างๆ ได้ให้ความสนใจในการ อิทธปิ าฏิหาริย์ ดังปรากฏในงานเขยี นท่ีแพร่หลายตาม สบื ประวตั แิ ละเร่อื งราวท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั เณรคา� จนปรากฏภาพ รา้ นหนงั สอื ท่ัวไป อาทิ “ชาตหิ นา้ ไมข่ อมาเกดิ ” และ “นพิ พาน ท่นี ่าตกใจของเณรคา� นอนกับหญิงสาวรายหนึง่ 2 นอกจากน้ี มีจริง” แม้จะมีอายุเพียง 34 ปี เมือ่ ปี 2556 แต่ลูกศิษย์ ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาในหนังสือ “ชาติหน้าไม่ขอ และผมู้ จี ติ ศรทั ธาตา่ งพากนั เรยี ก ‘หลวงปเู่ ณรคา� ’ เนอื่ งจาก มาเกิด” และ “เพชรน้�าหน่ึง” ที่อดีตพระวิรพลแต่งข้ึน ความเชือ่ ถือศรัทธาในภูมิธรรมของอดตี พระวิรพล แม้แต่ ว่าเป็นการอวดอุตริมนุสธรรม เนือ่ งจากอ้างตนว่าเป็น ข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจท่ีมชี ่ือสียงจา� นวนมาก พระอรหันต์ที่หลุดพ้นจากวัฏสงสารแล้ว จนส�านักงาน ตา่ งพากนั มาเปน็ ลกู ศษิ ยท์ ่ีใกลช้ ดิ จนเปน็ ท่มี าของลาภสกั การะ พระพทุ ธศาสนาตอ้ งดา� เนนิ การตรวจสอบในเรอื่ งน3้ี กระแส มหาศาล สังคมได้กดดันให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของอดีต 10 สถานการณ์เด่น 81

พระวริ พลทง้ั ในเรอ่ื งวตั รปฏบิ ตั ิ และเรอ่ื งอ้อื ฉาวเก่ยี วกบั เงนิ เงนิ บรจิ าคกับการจดั การศาสนสมบตั ิ บรจิ าค จนกรมสอบสวนคดีพเิ ศษเขา้ มาตรวจสอบในเรือ่ งน้ี และมกี ารต้ังขอ้ หาในฐานความผดิ ถงึ 8 ขอ้ หา ไดแ้ ก่ การใช้ เรอื่ งออื้ ฉาวทเ่ี กดิ ขนึ้ เปน็ ขา่ วบอ่ ยครงั้ เมอ่ื มพี ระนอกรตี สอ่ื สารสนเทศลงโฆษณาอันเปน็ เทจ็ (ตาม พ.ร.บ. คอมพวิ เตอรฯ์ คือความไมโ่ ปรง่ ใสเรื่องเงนิ บรจิ าค ดงั ตัวอยา่ งกรณีเณรค�า มาตรา 14 เน่ืองจากมกี ารอา้ งวา่ ไดเ้ ข้าเฝ้าพระอินทร์แล้ว ทีม่ ีผู้ร้องเรียนจ�านวนมากว่า มีการน�าเงินบริจาคไปใช้ พระอินทร์รับสั่งให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่) กรณี ผิดวัตถุประสงค์ รวมถึงน�าเงินบางส่วนไปใช้ซ้ือทรัพย์สิน การกระท�าชา� เราเด็กหญงิ และพรากผเู้ ยาว์ (ความผดิ อาญา สว่ นตวั เชน่ บา้ น รถยนต์ จนนา� ไปสกู่ ารตรวจสอบการใชเ้ งนิ มาตรา 277 และ 317 วรรค 3) พฤตกิ รรมหลบเล่ยี งภาษี โดยทางราชการ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขอให้ รถหรู กรณีเสพยาเสพติดให้โทษ การแสดงและใช้วุฒิ ส�านักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) การศกึ ษาเท็จ (ความผิดตาม พ.ร.บ. การอดุ มศึกษาเอกชน) ตรวจสอบในเรือ่ งนี้ และรองเลขาธกิ าร ได้แถลงข่าวว่า คดฆี า่ คนตายโดยประมาทจากการขบั รถชนคนตาย ความผิด ปปง. ไดต้ รวจสอบขอ้ มูลหลกั ฐานเสน้ ทางการเงนิ ของหลวงปู่ ฐานฟอกเงิน (กรณีการเบียดบังเงินบริจาคไปซ้ือทรัพย์สิน เณรคา� และสา� นกั สงฆว์ ดั ปา่ ขนั ตธิ รรม ซง่ึ เปน็ ขอ้ มลู ท่ไี ดร้ บั และนา� เงนิ ไปฝากในตา่ งประเทศ) และการอวดอตุ ริ อภนิ หิ าร4 จากสถาบนั การเงนิ โดยเปน็ การเปดิ บญั ชเี พอ่ื รบั บรจิ าคเงนิ แตอ่ ดตี พระวริ พลไดอ้ า้ งกจิ นมิ นตเ์ พ่อื เดินทางไปตา่ งประเทศ สรา้ งพระแกว้ องคใ์ หญม่ เี งินหมนุ เวยี นประมาณ 200 ลา้ นบาท8 และถือโอกาสหลบหนีคดี ในทสี่ ุดคณะสงฆ์จังหวัด นอกจากนี้ ส�านักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อบุ ลราชธานแี ละคณะสงฆจ์ งั หวดั ศรสี ะเกษไดข้ บั พระวริ พล ยงั เปดิ เผยวา่ ไดส้ ง่ั การใหส้ า� นกั งานพระพทุ ธศาสนาจงั หวดั ออกจากสมณเพศเม่อื 13 กรกฎาคม 2556 เนื่องจากผิด (พศจ.) ทัว่ ประเทศ เร่งดา� เนินการตรวจสอบสถานะสาขา วนิ ัยสงฆ์รา้ ยแรง ไดแ้ ก่ เสพเมถุนและต้องอาบตั ิปาราชกิ 5 ของส�านักสงฆ์วัดป่าขันติธรรมทวั่ ประเทศว่าขออนุญาต ต่อมามีตวั แทนของเณรค�าให้ข่าวว่าเณรค�าได้ลาสิกขาแล้ว ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ การเขา้ ไปจดั ตง้ั สา� นกั ปฏิบตั ธิ รรมไดข้ ออนญุ าต ท่ีวดั แหง่ หน่งึ ในสหรฐั อเมรกิ า เมอ่ื 26 กรกฎาคม ปเี ดยี วกนั 6 ตามขนั้ ตอนหรอื ไม่ ทดี่ นิ ท่ตี ง้ั เปน็ ของใคร เจา้ คณะปกครอง แตไ่ ม่มีใครทราบแน่ชัดว่า เณรคา� หลบหนไี ปอยู่ทีใ่ ด ในพื้นทีท่ ราบเรื่องหรือไม่ รวมถึงพระสงฆ์ไปพ�านักท่ี สา� นกั สงฆแ์ ตล่ ะสาขาไดข้ ออนญุ าตเจา้ คณะปกครองหรอื ไม่ ขา่ วคราวของ “พระนอกรีต” ทปี่ ระพฤติมชิ อบตาม รวมทั้งให้ตรวจสอบด้วยว่าการเรี่ยไรเงินบริจาคของ หลักพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่อดีต แต่ละสาขาไดน้ �าไปท�ากจิ กรรมอะไรบา้ ง9 พระยันตระเมือ่ หลายสิบปีก่อนจนถึงอดตี พระเณรค�าใน ปัจจุบัน ทตี่ ้องคดถี ึงขัน้ อาบัตปิ าราชิก เช่น อวดอ้าง ยิง่ ไปกว่านัน้ ความเป็นมาของส�านักสงฆ์วัดป่า คณุ วเิ ศษเพ่อื หลอกลวงประชาชน และการแอบมเี พศสมั พนั ธ์ ขันติธรรม ก็มีประวัติของการใช้ที่ดินบริจาค ท่ีไม่ตรงกับ กับสีกา เป็นต้น จนกระทัง่ เมือ่ ไม่นานมานี้จิตรกรผู้หนึง่ วตั ถปุ ระสงคข์ องผบู้ รจิ าคมาแตเ่ ดิม โดยนางลอน มนสั หรอื ได้เขียนรูป “ภิกษสุ ันดานกา”7 วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรม คณุ แมล่ อน อายุ 68 ปี ซ่งึ เปน็ เจ้าของท่ดี ินประมาณ 15 ไร่ อันไม่เหมาะสมของ “มารศาสนา” ผ้แู อบแฝงมาในรูปของ ที่มอบให้อดีตพระวิรพล สุขผล ด�าเนินการสร้างวัดป่า พระสงฆ์เพื่อแสวงหาลาภสักการะ หรือมีพฤติกรรมมิชอบ ขันตธิ รรมทบี่ ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ผิดสมณะวิสัย อนั ไม่อาจเรียกวา่ ภิกษสุ งฆ์อีกตอ่ ไป นับเป็น ไดเ้ ปิดเผยวา่ จุดม่งุ หมายตัง้ แตแ่ รกในการมอบทด่ี นิ ให้อดีต “กาฝาก” ท่ีคอยบ่อนท�าลายพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ พระวิรพล ก็สืบเนื่องมาจากหลวงปู่เณรค�าได้ถูกชาวบ้าน และปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ สะท้อนให้เห็นว่าพระพุทธ ชุมนุมขับไล่ให้ออกไปจากป่าช้าของชาวบ้าน ท�าให้ต้องหา ศาสนาในสงั คมไทยกา� ลงั ประสบปญั หาท่ีอาจกอ่ ใหเ้ กดิ วกิ ฤต ทอ่ี ยใู่ หม่ ตนจึงไดม้ อบทด่ี นิ ของตวั เองจ�านวนประมาณ 15 ไร่ ศรัทธาในอนาคต ให้สร้างวัด และต้องการท�าบุญโดยการสร้างวัดทีส่ มบูรณ์ แบบ จนกระทัง่ ระยะเวลาผ่านไปนานร่วม 10 ปีก็ยังไม่มี การด�าเนินการสร้างวัดแต่อย่างใด มีเพียงแค่การยืน่ เรือ่ ง เสนอทางกรมการศาสนาเพอ่ื ขอสรา้ งวดั และขอใบอนญุ าต 82 สุขภาพคนไทย 2557

ตง้ั วัด กระท่งั ใบอนุญาตได้หมดอายตุ ามก�าหนดเวลา 5 ปี ศาสนสมบัติไมไ่ ดด้ �าเนนิ การระเบยี บปฏบิ ัตแิ ละขอ้ กฎหมาย ก็ยังไม่สามารถด�าเนินการสร้างวัดได้ส�าเร็จ เม่ือตนได้ไป ต่างๆ โดยกรณีส�านักสงฆ์วัดป่าขันติธรรมมีการเปิดบัญชี สอบถามข้อเท็จจริง กลับได้ค�าตอบว่าจะไม่มีการสร้างวัด ในนามบคุ คล ท�าให้สามารถเบิกจา่ ยและโอนเงินได้โดยไมม่ ี แตจ่ ะสรา้ งเป็นวหิ ารหลวง ซงึ่ ไมเ่ ป็นไปตามสัญญา10 การตรวจสอบ ขาดความโปรง่ ใสจนเปน็ เหตใุ หเ้ กดิ เรอื่ งออ้ื ฉาว เกีย่ วกับการใช้เงนิ ผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคตามที่ ประเด็นเร่ืองสถานะของวัดมีความส�าคัญอย่างยิ่ง เปน็ ขา่ ว ดว้ ยเหตนุ ี้ เณรคา� จงึ ไมย่ อมตงั้ วดั อยา่ งถกู ตอ้ งตาม ต่อการตรวจสอบควบคุมการใช้เงนิ บริจาค เนือ่ งจากตาม เจตนาของนางลอนซ่งึ เป็นผบู้ ริจาคท่ดี นิ พระราชบัญญตั คิ ณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 วดั ในพระพทุ ธศาสนา เปน็ นติ บิ คุ คลตามกฎหมาย ดงั นน้ั กจิ การและทรพั ยส์ นิ ของ พ.ร.บ. คณะสงฆใ์ นบริบทของสงั คมไทย นิตบิ ุคคล ซึง่ ผู้มีหน้าทรี่ ับผิดชอบในการปกครองดแู ลก็คือ เจ้าอาวาสจะต้องด�าเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ปัญหาเรื่องพระนอกรีตและความไม่โปร่งใสของ คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และกฎกระทรวงทเี่ กีย่ วข้อง เงนิ บริจาค นัน้ ในด้านหนึ่ง ก็มาจากปัญหาปัจเจกบุคคล ซึ่งมีระเบียบวิธปี ฏิบัตเิ กีย่ วกับเงินบริจาคและการจัดการ การประพฤติมชิ อบของพระนอกรีตน้ันเกิดจากพฤติกรรม ศาสนสมบตั ิอยา่ งชดั เจน โดยถา้ เปน็ เงนิ ผลประโยชนข์ องวดั สว่ นตวั ของอดตี พระสงฆน์ ้นั ๆ แตใ่ นอกี ดา้ นหนง่ึ กเ็ ปน็ ปญั หา ให้วัดเก็บไว้ได้ 3,000 บาท เป็นอย่างมาก ส่วนที่เกิน เชงิ โครงสรา้ งของการกา� กบั ดแู ล โดยการปกครองในแนวดง่ิ 3,000 บาทใหฝ้ ากไวก้ บั ธนาคาร โดยระบชุ ่อื บญั ชวี า่ เปน็ เงนิ ของคณะสงฆต์ าม “พระราชบญั ญัตกิ ารปกครองคณะสงฆ”์ ของวดั นั้นๆ หา้ มฝากในนามบุคคล ในกรณีท่ฝี ากเงนิ ไว้กับ (พ.ร.บ. คณะสงฆ์) นัน้ เองเป็นปญั หาเชิงโครงสร้าง ทก่ี อ่ ให้ ธนาคารให้ระบุชอ่ื ผู้มีอ�านาจถอนเงนิ ไว้อย่างนอ้ ย 3 คน คือ เกดิ กรณพี ระนอกรตี อยเู่ นอื งๆ เนอ่ื งจากขาดกลไกเชิงระบบ 1) เจ้าอาวาส 2) ไวยาวัจกรหรือผู้ท�ากิจธุระแทนพระสงฆ์ ทีจ่ ะแก้ไขปัญหาพระนอกรีตเหล่านั้นอย่างมีประสิทธภิ าพ ที่เจ้าอาวาสแต่งต้ัง 3) ผู้ที่เจ้าอาวาสเห็นสมควร แต่ เช่น เมื่อเกิดข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับพระสงฆ์ทตี่ ้องอธกิ รณ์ การส่งั จา่ ยใหล้ งนามในเช็คส่งั จา่ ยพรอ้ มกนั โดยมเี จา้ อาวาส แม้ชาวบ้านในชุมชนจะรู้และหนังสือพิมพ์จะประโคมข่าว ลงนามด้วยทกุ ครั้ง จึงจะถอนเงนิ ได้ ส่วนเงินการกศุ ล นน้ั แตถ่ า้ พระสงฆซ์ ่งึ เปน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาเบอ้ื งบน เชน่ เจา้ อาวาส การดแู ลรักษาตลอดจนการใช้จ่ายเงิน ให้เป็นไปตามความ เจา้ คณะตา� บล เจา้ คณะอา� เภอ เจา้ คณะจงั หวดั เจา้ คณะภาค ประสงค์อย่างชัดเจนว่า จะให้เก็บรักษาที่ไหน อย่างไร หรือแม้แต่มหาเถรสมาคม ไม่สัง่ การลงไป พระสงฆ์ทตี่ ้อง ซ่งึ วดั กอ็ าจปฏบิ ตั เิ ชน่ เดียวกบั การเกบ็ รกั ษาเงินผลประโยชน์ อธิกรณ์น้ันก็ยังคงอยู่ได้ การให้คุณให้โทษแก่พระสงฆ์น้ัน โดยอนุโลม ดังนั้น การเบิกจ่ายหรือใช้เงินของวัดต่างๆ ไม่ได้อยู่ที่ “พุทธบริษัทสี่” ดังเช่นในอดีต แต่อยู่ท่ี “ระบบ จึงไม่สามารถท�าตามอา� เภอใจของใครคนใดคนหนึง่ ได้ ราชการ” ในคณะสงฆ์ที่มาพรอ้ มกบั พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ปญั หาของสา� นกั สงฆว์ ดั ปา่ ขนั ตธิ รรม คอื ปญั หาเรอ่ื ง พระพทุ ธศาสนาไดเ้ จรญิ รงุ่ เรอื งอยบู่ นผนื แผน่ ดนิ ไทย สถานะทมี่ ิใช่วัด ท่ีจริงแล้วควรจะเรียกให้ถูกต้องว่า ทีพ่ ัก มานาน12 ปจั จยั สา� คญั แหง่ ความเจรญิ รงุ่ เรอื งดงั กลา่ วมาจาก สงฆ์ เน่ืองจากกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 1 (พ.ศ. 2507) ทีอ่ าศัย “ความสัมพันธ์ 3 เส้า” ทไี่ ด้สมดลุ กันระหว่างพระสงฆ์ อ�านาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 32 แห่งพระราช ประชาชน และรัฐ ในอดีตประชาชนหรือชุมชนควบคุม บัญญัตคิ ณะสงฆ์ พ.ศ. 2550 ได้บัญญัตถิ ึงการสร้างวัด พระสงฆ์ในเชิงวัตถุ เช่น ประชาชนเป็นผู้ทสี่ ร้างวัดให้แก่ การต้ังวัด การรวมวัด การย้ายวัด การยุบเลิกวัด และ พระสงฆ์ที่ตนเคารพนับถือ บ�ารุงพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา โดยไม่ได้กล่าวถึง ปฏบิ ตั ชิ อบดว้ ยวตั ถปุ จั จยั ตา่ งๆ หากพระสงฆร์ ปู ใดประพฤติ การสร้างส�านักสงฆ์ ดังนัน้ ส�านักสงฆ์ทีก่ ระจายอยู่ทัว่ ล่วงละเมิดพระธรรมวินัย ประชาชนในชุมชนนั้นเม่อื ทราบ ประเทศไทยจ�านวนมาก เป็นทพี่ �านักของพระภิกษุทีไ่ ม่ได้ กจ็ ะถอนการอุปัฏฐากบา� รงุ เลี้ยง พระสงฆร์ ปู นั้นก็ไม่อาจจะ ขออนุญาตสร้างวัดและตั้งวัด11 ซ่ึงท่ีพักสงฆ์มิได้อยู่ภายใต้ อยู่ในชมุ ชนนั้นได้อีก ต้องสึกหาลาเพศไปตามแต่กรณี บงั คบั พระราชบญั ญตั ิคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ท�าใหก้ ารจดั การ นีเ่ ปน็ อา� นาจการตรวจสอบของประชาชนทมี่ ีตอ่ พระสงฆ์ 10 สถานการณ์เดน่ 83

ขณะเดยี วกันพระสงฆ์ควบคุมประชาชนในเชงิ จิตใจ รฐั เปน็ เพยี งเลขานกุ าร และประชาชนถกู กดี กนั ใหอ้ ยวู่ งนอก พระสงฆม์ หี นา้ ทห่ี ลกั คอื ศกึ ษาและปฏบิ ตั ธิ รรม แลว้ นา� ความ ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ คณะสงฆ์จึงปราศจากการถว่ งดุล รู้ทีไ่ ด้นั้นมาสั่งสอนประชาชน ว่ากล่าวตักเตือนประชาชน และการตรวจสอบทง้ั จากภาคประชาชนและภาครัฐ มิให้ประพฤตติ นเสือ่ มเสีย ประชาชนทถี่ ูกพระสงฆ์ติเตียน ก็จะได้ส�านึกกลับเนือ้ กลับตวั เป็นคนดี พระสงฆ์จึงควบคุม พ.ร.บ. คณะสงฆใ์ นบรบิ ทของคณะสงฆ1์ 3 ประชาชนในเชิงจติ ใจ การรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี ส่วนรัฐนั้นมีหน้าทใี่ นการปกป้องภัยอันจะเกิดแก่ 2500 จอมพลสฤษดิไ์ ด้หันมาท�าลายระบอบประชาธปิ ไตย พระพทุ ธศาสนา ภยั ภายในกค็ อื เม่อื มผี ปู้ ลอมปนมาบวชเปน็ ในฝา่ ยศาสนจกั ร โดยการยกเลกิ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบบั ที่ 2 พระภกิ ษุเพ่อื แสวงหาลาภสกั การะ ประพฤตติ นเปน็ ท่ีเส่อื มเสยี ซ่ึงมีเนื้อหาเป็นประชาธิปไตย และประกาศใช้ พ.ร.บ. รัฐมีหน้าท่ีโดยตรงในการขจัดภัยเหล่านั้น โดยการเข้าไป คณะสงฆ์ ฉบับที่ 3 ในปี 2505 ซึ่งรวบอ�านาจคณะสงฆ์ ตรวจสอบ วินจิ ฉัย และจับสกึ เม่ือผิดจริง ส่วนภยั ภายนอก ไวท้ ่ี “มหาเถรสมาคม” ซง่ึ เปน็ กลมุ่ พระราชาคณะอาวโุ สจาก กค็ อื การคกุ คามจากศาสนาหรอื ลทั ธคิ วามเชอ่ื อน่ื ในอนั ท่จี ะ การแต่งตัง้ จ�านวน 10 กว่ารูป โดยมีสมเดจ็ พระสังฆราช บ่อนทา� ลายพระพทุ ธศาสนาทง้ั ทางตรงและทางอ้อม รฐั จะ ทรงเปน็ ประมขุ สงู สดุ ทา� หนา้ ทที่ ง้ั ฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ ฝา่ ยบรหิ าร ต้องเข้มแข็งเด็ดขาดในการขจัดภัยจากศาสนาอ่ืนหรือลัทธิ และฝา่ ยตลุ าการควบกนั ไป ปกครองพระภกิ ษสุ งฆท์ วั่ ประเทศ ความเชอื่ อน่ื เหลา่ นนั้ และกา� ราบใหเ้ ข็ดขยาดมใิ หม้ ากลา้� กราย นับเป็นระบอบ “คณาธปิ ไตย” ทปี่ กครองคณะสงฆ์ไทย พระพทุ ธศาสนาได้อกี จวบกระทัง่ ถึงปจั จบุ นั การประกาศใช้ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ 3 ฉบบั ในรอบกว่า ข้อดีของ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบับที่ 3 ก็คือ 100 ปีทผี่ ่านมา ได้น�าความเปลีย่ นแปลงมาสู่รากฐานของ พระมหากษตั ริย์ยังทรงไว้ซึง่ พระราชอ�านาจในการแต่งต้ัง พระพุทธศาสนาในสังคมไทยอย่างใหญ่หลวง โดยการน�า สมเดจ็ พระสงั ฆราช ประมขุ แหง่ รฐั ยงั คงมอี า� นาจตรวจสอบ “ระบบราชการ” ซึ่งมีการบังคับบัญชาตามล�าดับชัน้ มาใช้ คณะสงฆ์ในระดับหนึง่ ส่วนข้อเสียของ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ การใหค้ ณุ ใหโ้ ทษแกพ่ ระสงฆข์ น้ึ อยกู่ บั ผมู้ อี า� นาจในคณะสงฆ์ ฉบับนีค้ ือ พระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิเสียงในการปกครอง ตามลา� ดับชัน้ มิได้อยูท่ ี่ประชาชนในชุมชนอีกตอ่ ไป และรัฐ คณะสงฆ์ คณะสงฆ์เติบโตโดยปราศจากการถ่วงดุลและ ก็มิได้ทา� หน้าทีต่ รวจสอบคณะสงฆ์และปกป้องภัยของ การตรวจสอบทงั้ จากภาคประชาชนและภาครัฐ พระเถระ พระพุทธศาสนาดงั เดมิ แต่กลับท�าหน้าทเี่ ป็นเพียง ผู้มีอ�านาจส่วนใหญ่ชราภาพ ท�าให้ขาดความคล่องตัว “เลขานกุ าร” ของคณะสงฆ์ ทา� ให้ “ความสมั พนั ธ์ 3 เสา้ ” ในการแกป้ ญั หาภายในคณะสงฆ์ รวมท้งั จดั การกบั ภยั คกุ คาม ระหวา่ งประชาชน พระสงฆ์ และรฐั ซึง่ แตเ่ ดมิ มคี วามสมดลุ พระพทุ ธศาสนาทง้ั จากภายในและจากภายนอก และทา� หนา้ ทต่ี รวจสอบซง่ึ กันและกนั ตอ้ งแตกสลายลง โครงสร้างของ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบบั ท่ี 3 เมอื่ ประชาชนไมอ่ าจควบคมุ พระสงฆใ์ นเชงิ วตั ถไุ ดอ้ กี เวลามีพระสงฆ์ท่ีประพฤติมชิ อบเกิดขึ้น แม้ประชาชนจะ อาณาจกั ร ศาสนจกั ร รวมตัวกันต่อต้านคัดค้านพระสงฆ์ทีต่ ้องอธิกรณ์น้ัน แต่ถ้า 1. ผ้นู �าสูงสดุ 1. สมเด็จพระสงั ฆราช ผู้บังคับบัญชาปกป้อง พระสงฆ์รูปน้ันก็ยังคงอยู่ได้ 2. คณะรฐั มนตรี 2. มหาเถรสมาคม ส่วนรัฐเองก็ไม่อาจขจัดภัยที่เกิดข้ึนภายในคณะสงฆ์เอง 3. ประชาชน 3. พระสงฆ์ และภัยจากภายนอกได้ เพราะ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ทั้ง 3 ฉบบั ยกสงฆ์ให้เป็นใหญ่ในกิจการพระพุทธศาสนาทัง้ ปวง 84 สุขภาพคนไทย 2557

พ.ร.บ. พทุ ธบรษิ ัทสี่ บทสรปุ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบับปี 2505 ทีใ่ ช้มานานกว่า ชวี ติ ของพระภกิ ษใุ นพระพทุ ธศาสนาถา้ มคี วามมกั นอ้ ย คร่งึ ศตวรรษ (แมจ้ ะมกี ารแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ ในปี 2535) ไมเ่ หมาะสม สันโดษ ตง้ั ใจศกึ ษาและปฏิบัตธิ รรมแลว้ กจ็ ะมศี ีลจรยิ วัตร กับยุคสมัยปัจจุบัน ท�าให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มกี ารออก ท่ีงดงามเปน็ ท่ีเล่อื มใสศรทั ธาของประชาชน แตถ่ า้ พระภกิ ษุ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบบั ใหมข่ น้ึ มา เนอ่ื งจากความเจรญิ รงุ่ เรอื ง เริ่มสะสมความมั่งคัง่ และแสวงหาอ�านาจแล้ว ในทีส่ ุด ของพระพุทธศาสนาในอดตี ขึน้ อยู่กับความสัมพันธ์ระหว่าง จะกลายเปน็ “พระนอกรตี ” ท่มี เี ร่อื งอ้อื ฉาวเก่ยี วกบั สกี าและ ประชาชน พระสงฆ์ และรัฐทีไ่ ด้สมดลุ จึงมีการเสนอแนว ทรัพย์สินอย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ทีผ่ ่านมา ความคิด “พ.ร.บ. พุทธบริษัทสี่” ขึน้ 14 โดยมีสาระส�าคัญ ไดท้ า� ใหค้ ณะสงฆต์ กอยภู่ ายใต้ “ระบบราชการ” ท่กี ารตัดสนิ อยู่ท่ีโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน พระสงฆ์ คดีอ้อื ฉาวขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาในคณะสงฆ์เพียงอย่าง และรฐั อนั เปน็ องค์ประกอบพนื้ ฐานที่สา� คญั โดยรัฐจะตอ้ ง เดียว กลายเปน็ “ระบบอปุ ถมั ภ”์ ท่ที �าใหพ้ ระนอกรตี ซ่งึ มง่ั คง่ั ถอนคืน “ระบบราชการ” ออกจากคณะสงฆ์ ท�านุบ�ารุง และมีเส้นสายยังคงอยู่ได้ อ�านาจการตรวจสอบของภาค พระพทุ ธศาสนาโดยองคร์ วมอยหู่ า่ งๆ จดั สรรงบประมาณให้ ประชาชนและภาครัฐท่ีมตี ่อคณะสงฆ์ได้ลดน้อยลงจนเกือบ ปกปอ้ งคมุ้ ครองพระพทุ ธศาสนาจากปญั หาภายใน เชน่ การ ไม่เหลืออยู่ ขจดั ผปู้ ลอมปนมาบวช และตรวจสอบพระสงฆท์ ตี่ อ้ งอธกิ รณ์ เปน็ ตน้ ปกปอ้ งอารกั ขาพระพทุ ธศาสนาจากปญั หาภายนอก พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ทีผ่ ่านมาทัง้ 3 ฉบับสะท้อน เชน่ สงคราม การกอ่ การรา้ ยเพอื่ บอ่ นทา� ลายพระพทุ ธศาสนา การปกครองของฝา่ ยอาณาจกั รใน 3 ยุคสมยั คือ ฉบบั ที่ 1 การรกุ เชงิ นติ บิ ญั ญตั แิ ละกมุ กลไกอา� นาจรฐั เพอ่ื เผยแพรล่ ทั ธิ สะทอ้ นระบอบ “สมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์” ฉบับที่ 2 สะทอ้ น ของตนและเบยี ดพระพทุ ธศาสนาใหต้ กไป รวมท้งั การรกุ เชิง ระบอบ “ประชาธิปไตย” แบบเกา่ และฉบับท่ี 3 สะท้อน วัฒนธรรม เป็นต้น ส่วนการบริหารจัดการภายในของ ระบอบ “เผดจ็ การทหาร” แมบ้ ้านเมอื งจะเปลยี่ นแปลงไป พระพุทธศาสนานั้น พุทธบริษทั สี่ อันได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อยา่ งมากในรอบ 50 ปที ี่ผา่ นมากต็ าม แต่ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ อบุ าสก และอุบาสิกา ควรจะไดร้ ับโอกาสให้ดูแลกนั เอง ฉบับที่ 3 ยังคงใช้อยู่ จึงไม่อาจตอบสนองต่อสังคมไทยใน ปัจจบุ ันได้ กลายเปน็ ปญั หาเชิงโครงสรา้ งของคณะสงฆไ์ ทย ประชาชนควรจะควบคุมพระสงฆ์ได้ในเชิงวัตถุ เช่น แนวทางในการแก้ปัญหาจึงอยู่ท่ีการเปลี่ยนแปลงเชิง อาหาร เครือ่ งนุง่ ห่ม ทอ่ี ยอู่ าศยั และยารักษาโรค รวมทัง้ โครงสร้างเพือ่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดย การก่อสรา้ งศาสนสถาน และศาสนวตั ถุ เป็นต้น ประชาชน การยกร่าง พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบบั ใหม่ ควรจะเปน็ ผคู้ ดั เลอื กพระภกิ ษสุ ามเณรท่จี ะมาพา� นกั อยใู่ นวดั หรือส�านักสงฆ์ในชมุ ชนของตน รวมทัง้ พระอุปัชฌาย์และ ความรงุ่ เรอื งของพระพทุ ธศาสนาในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย เจ้าอาวาส และประชาชนควรเป็นผู้เสนอสมณศักดิใ์ ห้แก่ ท่ผี ่านมา ขึน้ อยกู่ ับ “ความสมั พนั ธ์ 3 เส้า” ท่ลี งตวั ระหว่าง พระสงฆผ์ ปู้ ฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบ (ถา้ หากจะคงระบบสมณศกั ดไิ์ ว)้ ประชาชน พระสงฆ์ และรัฐ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบับใหม่ ส่วนหน้าทขี่ องพระสงฆ์คือ ศึกษาพระธรรมวินัยและ จงึ ควรจะขยายเพ่ือให้ครอบคลุมภาคประชาชนและภาครัฐ ปฏบิ ตั ธิ รรม สง่ั สอนประชาชน เปน็ ท่ีพ่งึ ทางจติ ใจแกป่ ระชาชน ด้วย จงึ ควรจะออกมาในรูปของ “พ.ร.บ. พุทธบริษัทสี่” และเป็นผู้น�าทางสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาสังคม เช่น ทส่ี อดคล้องกบั การปกครอง “ระบอบประชาธิปไตย” และ ความยากจน ยาเสพติด และอบายมุข เป็นต้น และชนี้ �า สอดคลอ้ งกับพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ดงั พุทธด�ารัส สังคมตามหลักพระพุทธศาสนา ให้ออกจากวิกฤตการณ์ทงั้ ท่วี า่ “พระพทุ ธศาสนาจะรงุ่ เรอื งหรอื เส่อื มน้นั มไิ ดข้ ้นึ อยกู่ บั ทางการเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม สาธารณสขุ และ คณะสงฆเ์ พยี งฝา่ ยเดยี ว แตข่ ้นึ อยกู่ บั พทุ ธบรษิ ัทส่ี อนั ไดแ้ ก่ สงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ ตน้ ภกิ ษุ ภกิ ษุณี อบุ าสก และอบุ าสกิ า” 10 สถานการณ์เดน่ 85

4 ผลงานดีๆ 1หมอไกรสิทธิ์ไดร้ ับรางวลั นกั โภชนาการโลก ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ นายแพทยไ์ กรสทิ ธ์ิ ตันติศริ นิ ทร์ ท่ปี รกึ ษาอาวโุ สสถาบนั โภชนาการ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล และประธานคณะกรรมการประเมนิ ผลของ สสส. ควา้ รางวลั ระดบั โลกจากสหพนั ธโ์ ภชนาการนานาชาติ โดยไดร้ ับรางวัล The IUNS Lifetime Achievement Award 2013 เปน็ คนท่ี 8 ของโลก ในฐานะเปน็ ผู้อทุ ิศ ตนเพอ่ื การศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นาดา้ นโภชนาการ มผี ลงานท่ไี ดร้ บั การตพี มิ พเ์ ผยแพรก่ วา่ 90 เรอ่ื ง เพอ่ื ลดปญั หา ทุพโภชนาการของประชากรในประเทศก�าลังพัฒนาทั่วโลก รางวัลนี้จะพิจารณามอบแก่นักโภชนาการจากทวั่ โลกทุกๆ 4 ปี ครัง้ ละ 1 รางวัลเทา่ น้นั นอกจาก น.พ.ไกรสทิ ธ์ิแลว้ นกั โภชนาการของไทยอกี หลายทา่ นยงั ไดร้ บั การยกยอ่ งไปท่ัวโลก โดยสหพนั ธ์ โภชนาการนานาชาติได้ยกย่อง ศ.เกียรติคุณ พ.ญ.คุณสาคร ธนมิตต์ ทีป่ รึกษาอาวุโส สถาบันโภชนาการ มหาวทิ ยาลัยมหิดล ให้เปน็ บุคคลในต�านานโภชนาการ เนือ่ งจากมบี ทบาทส�าคัญในการพัฒนาภาวะโภชนาการ ของประเทศไทย นอกจากนี้ รศ.ดร.ประภาศรี ภูวเสถียร ท่ีปรึกษาอาวุโส สถาบันเดียวกันยังได้รับรางวัล ศาสตราจารยเ์ นวนิ สกรมิ ชอว์ ซง่ึ มอบแกน่ กั วชิ าการท่รี เิ รม่ิ และทมุ่ เทท�างานดา้ นฐานขอ้ มลู คณุ คา่ ทางโภชนาการ ทัง้ ระดบั ชาตแิ ละนานาชาตอิ ีกด้วย 2ศิริราชคว้ารางวลั ธาลัสซีเมียระดบั โลก แพทย์ศิริราชสร้างชอื่ ด้วยการคว้ารางวัลระดับโลกเกี่ยวกับการรักษาโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียถึง สองรางวลั ไดแ้ ก่ รางวลั ประเภทสถาบัน และรางวัลประเภทบคุ คล โดยศนู ยธ์ าลัสซเี มยี คณะแพทยศาสตร์ ศริ ริ าชพยาบาล ไดร้ บั รางวลั สถาบนั แหง่ ความเปน็ เลศิ ดา้ นการดูแลผปู้ ว่ ยธาลสั ซเี มยี จากมลู นธิ เิ พ่อื มนษุ ยธรรม และวิทยาศาสตร์ สุลตาน บินคาลฟิ า อัล นายาน (H.H Sheikh Sultan Bin Kalifa AL Nahyan) ประเทศ สหรัฐอาหรบั เอมิเรตส์ และ ศ.เกยี รติคณุ นพ.ประเวศ วะสี ผู้เช่ียวชาญดา้ นโลหติ วทิ ยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตรศ์ ิริราชพยาบาล ไดร้ ับรางวัลประเภทบคุ คลจากมลู นธิ ิเดียวกนั ท้งั นี้ ศนู ย์ธาลสั ซเี มีย ไดเ้ ปดิ รกั ษาผู้ป่วยธาลสั ซเี มียแบบครบวงจรมานานกวา่ 10 ปี และสามารถรกั ษา ให้หายขาดได้ สว่ น นพ.ประเวศ วะสี เป็นผ้เู ช่ียวชาญดา้ นโลหิตวิทยาทีว่ จิ ัยถึงกลไกการเกดิ โรคทางพนั ธุกรรม และมีผลงานวิจัยและบทความทางวิชาการทีไ่ ด้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการต่างประเทศกว่า 200 เรื่อง และยงั แต่งต�าราวิชาการและค่มู ือโลหิตวิทยาใหแ้ กแ่ พทย์ร่นุ หลงั จา� นวนมาก 86 สุขภาพคนไทย 2557

เพ่อื สขุ ภาพคนไทย 3 วนั ดินโลก องค์การสหประชาชาตยิ กย่องพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช โดยประกาศให้ วันที่ 5 ธนั วาคมของทุกปีเป็นวันดินโลก ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเม่ือเดือนธันวาคม 2556 ได้เห็นชอบกับข้อมตขิ ององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ทีป่ ระกาศให้ทุกวันที่ 5 ธนั วาคมของทกุ ปีซึง่ ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นวันดนิ โลก (World Soil Day)เพอ่ื เปน็ การเฉลิมพระเกยี รติพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวฯ ท่ที รงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณียกิจ เกย่ี วกบั การพฒั นาดินมาอยา่ งยาวนาน นอกจากน้ี องคก์ ารสหประชาชาตจิ ะจดั กจิ กรรมตา่ งๆ อาทิ การประกาศ ให้ปี 2558 เป็น “ปีดนิ สากล” (International Year of Soils) เพือ่ ให้ความส�าคัญเกีย่ วกับบทบาทและ ความส�าคญั ของทรพั ยากรดนิ ทมี่ ตี ่อความมน่ั คงทางอาหารของโลก อนึ่ง เม่อื ปี 2555 ศ.เกียรตคิ ุณ ดร.สตเี ฟน นอร์ตคลฟิ ฟ์ กรรมการบริหารสหภาพวทิ ยาศาสตรท์ างดนิ นานาชาติ (The International Union of Soil Sciences: IUSS) ไดเ้ คยเขา้ เฝ้าพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว เพอ่ื ทลู เกลา้ ทลู กระหม่อมถวายรางวลั นักวทิ ยาศาสตร์ดินเพือ่ มนษุ ยชาติ (The Humanitarian Soil Scientist Award) มาแล้ว 4 ผลงานดี กีฬาเด่น ปี 2556 นับเปน็ ปีทองของวงการกีฬาไทย เนือ่ งจากนกั กฬี าไทยหลากหลายประเภทสามารถควา้ แชมป์ ระดับนานาชาติจนสร้างความสุขและความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยอย่างถ้วนหน้า เริ่มจากกีฬาตบลูกหนัง ท่ที มี วอลเลยบ์ อลสาวไทยสามารถควา้ แชมปเ์ อเชียเปน็ สมยั ท่ี 2 อกี กฬี าหนง่ึ ท่ีสรา้ งแรงบนั ดาลใจใหก้ บั เยาวชน ของไทย คือแบดมินตัน ทีน่ ักตบลูกขนไก่สาวไทย “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ เจ้าของแชมป์เยาวชนโลก 3 สมยั ซ้อน สามารถควา้ แชมป์แบดมินตันชิงแชมปโ์ ลก ด้วยวยั เพียง 18 ปี นอกจากนี้ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 27 ทสี่ าธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ทัพนักกีฬาไทย ประสบความส�าเร็จอย่างงดงาม โดยสามารถคว้าแชมป์ซีเกมส์มาได้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคว้า เหรยี ญทองมาไดค้ รบทง้ั 4 เหรยี ญ ทัง้ แชมป์ฟุตบอลชาย แชมปฟ์ ตุ บอลหญิง แชมป์ฟตุ ซอลชาย และแชมป์ ฟตุ ซอลหญงิ จนไดร้ บั ฉายาวา่ “แขง้ จตรุ เทพ” นอกจากนน้ั ทมี วอลเลย่ บ์ อลและทมี ตะกรอ้ ทง้ั ชายและหญงิ ตา่ งก็ ควา้ เหรียญทองมาได้แบบสบายๆ เช่นเดียวกบั ทมี กรฑี าไทยทีพ่ ากนั กวาดเหรียญรางวลั มาอย่างเปน็ ล�า่ เปน็ สนั 4 ผลงานดๆี เพ่ือสุขภาพคนไทย 87





}ยทุ ธศาสตร์ปฏิรูปประเทศจะตอ้ งยึดเอาชมุ ชนทอ้ งถ่นิ เป็นตัวตง้ั และแนวทางท่ีเหมาะสมคือใหช้ มุ ชนท้องถนิ่ จัดการตนเองใหม้ ากท่สี ุด ~ ชุมชนท้องถนิ่ คอื ฐานรากของประเทศ ประเทศไทยประกอบดว้ ยชมุ ชนทอ้ งถ่นิ เชน่ นน้ี บั พนั นบั หมน่ื จึงไม่ผิดถ้าจะบอกว่า ชมุ ชนท้องถิ่นทงั้ หมดก็คือประเทศไทย คนไทย 65 ล้านคนอยู่ในชมุ ชน ทงั้ ในชนบท และฐานรากของประเทศไทยกค็ อื ชุมชนทอ้ งถนิ่ และในเมือง ทง้ั ขนาดเลก็ และขนาดใหญ่ ขนาดเลก็ คอื หมบู่ า้ น หลายหมบู่ า้ นในอาณาบรเิ วณหน่งึ ๆ รวมกนั เปน็ ลองนึกดูวา่ ถา้ ชมุ ชนท้องถนิ่ ทัง้ หมดจัดการปัญหาต่างๆ ท้องถิน่ หรือบางทกี ็เรียกว่าชมุ ชนท้องถิ่น ซึ่งโดยมาก ในวิถีชีวิตของคนไม่ได้ คอยแต่จะรับความช่วยเหลือทรี่ ัฐจะ หมายถึงชุมชนระดับตา� บล แต่ในบทความนีจ้ ะใช้ค�า หยิบยื่นให้ ขาดพลังท่ีจะเรียนรู้ แก้ปัญหาของตนเองไม่เป็น “ชมุ ชน” และ “ชุมชนทอ้ งถ่นิ ” ในความหมายเดยี วกัน เช่นนั้นแล้วคนไทยทัง้ ประเทศจะมีชวี ิตทีข่ าดความผาสุก และ หรือแทนกันได้ ในบางทีท่ ตี่ ้องการหมายถึงทั้งชมุ ชน ประเทศชาติจะขาดความม่นั คงเพยี งใด ในทางกลบั กนั ถา้ ชมุ ชน ระดบั หมบู่ า้ นและเหนอื ระดบั หมบู่ า้ นขน้ึ ไปจะใชค้ า� รวมๆ ทอ้ งถนิ่ ทงั้ หมดจดั การตนเองได้ มีศกั ยภาพในการเรยี นรู้ ปรบั ตวั วา่ “ชมุ ชนท้องถน่ิ ” และจดั การปญั หาในเร่อื งสา� คญั ๆ ของตนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดย สามารถรบั มอื กบั ความเปล่ยี นแปลง ท้งั ท่เี กดิ จากภายในและท่ีมา ชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ในความหมายทก่ี ลา่ วมานไ้ี มไ่ ดเ้ ปน็ จากภายนอกได้ คนไทยและประเทศไทยจะมัน่ คงผาสกุ เพยี งใด เพียงทอี่ ยู่ของคนเท่าน้ัน แต่ยังเป็นแหล่งทรัพยากร และสงิ่ แวดลอ้ มสา� คญั ท่กี อ่ ใหเ้ กดิ อาชพี เปน็ แหลง่ งาน บทความน้ีเริม่ จากความจริงท่วี ่า ชมุ ชนทอ้ งถิน่ เป็นพ้นื ท่ี และเปน็ วถิ ชี วี ติ ท่สี ่งั สมสบื ทอดเปน็ วฒั นธรรม บม่ เพาะ ฐานรากส�าคัญของประเทศ ดังน้ัน การที่จะปฏิรูปประเทศให้มี ผูกร้อยผู้คนด้วยสายสัมพันธ์หลากหลาย ต้ังแต่ ความมน่ั คงย่งั ยนื ในทุกๆ ดา้ นจา� เปน็ ตอ้ งปฏริ ปู จากพ้นื ท่ีฐานราก ความเกี่ยวพันกันทางเครือญาติ ไปจนถึงความสัมพันธ์ ยทุ ธศาสตรป์ ฏิรปู ประเทศจะตอ้ งยดึ เอาชมุ ชนทอ้ งถน่ิ เปน็ ตวั ตงั้ เชือ่ มโยงกันทางงานอาชพี และความเชือ่ ทางศาสนา แนวทางท่เี หมาะสมคอื ใหช้ ุมชนทอ้ งถน่ิ จดั การตนเองใหม้ ากท่ีสดุ จนเกดิ เป็นสังคม 90 สขุ ภาพคนไทย 2557

ชุมชนทอ้ งถิ่น ตามความหมายทใี่ หไ้ ว้ใน พระราชบัญญัตสิ ภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551 “ชมุ ชน” หมายถึงกล่มุ ประชาชน ท่รี วมตวั กนั โดยมีผลประโยชนแ์ ละวตั ถปุ ระสงคร์ ่วมกนั เพื่อช่วยเหลอื หรือสนบั สนุนกัน หรอื ท�ากจิ กรรมอันชอบดว้ ย กฎหมายและศลี ธรรมรว่ มกนั หรือด�าเนินการอนื่ อนั เป็นประโยชน์ร่วมกนั ของสมาชิก มกี ารด�าเนนิ การอย่างต่อเนอ่ื ง และมรี ะบบบรหิ ารจดั การและการแสดงเจตนาแทนกลุ่มได้ สว่ น “ชมุ ชนทอ้ งถ่ิน” หมายถงึ ชุมชนท่ีอยูร่ ว่ มกนั ในพ้นื ท่ี หม่บู า้ นหรือตา� บล ในทางสงั คมวิทยา ชุมชนคือกลุ่มคนที่มีวิถชี ีวติ และมีการติดตอ่ ส่ือสารหรอื สัมพันธ์กนั อยา่ งเป็นปกตติ อ่ เนอื่ ง อันเนือ่ งมาจากการมีถ่นิ ที่อยใู่ นพื้นทเ่ี ดยี วกนั หรือมีความสนใจรว่ มกัน เชน่ มีอาชีพเดียวกัน ประกอบกจิ การเดยี วกนั มีวัฒนธรรม หรือความเชอื่ รว่ มกนั ตามความหมายท่ีกลา่ วข้างตน้ ชมุ ชนอาจมีอาณาเขตทีส่ ามารถกา� หนดไดช้ ดั เจน ภายในพืน้ ทท่ี างภมู ศิ าสตร์ แห่งใดแห่งหนง่ึ เชน่ หมูบ่ ้านหรือต�าบลในชนบท หรอื ชมุ ชนในเมือง แตก่ ไ็ มจ่ �าเป็นต้องเปน็ เชน่ นั้นเสมอไป เพราะ ชุมชนยังหมายรวมถึงกลุ่มคนทีม่ กี ารติดต่อสมั พันธ์เป็นปกติอย่างต่อเนอื่ งเพราะมคี วามสนใจ มีอาชีพ หรือมี ผลประโยชน์รว่ มกนั ดว้ ย ในกรณเี ชน่ นัน้ อาณาเขตเชงิ พื้นทีอ่ าจไม่ใชส่ ิง่ สา� คัญ และสมาชกิ ของชุมชนเชน่ นั้นไม่จ�าเป็น ต้องอยูใ่ นพน้ื ทแ่ี หง่ เดียวกนั เชน่ สมาชิกของสมาคมผู้ปลกู อ้อย สมาชิกสมาคมผู้ประกอบการขนสง่ รวมทัง้ ชุมชน ทเ่ี กิดข้นึ ในเครือขา่ ยทางสังคมออนไลน์ (social networks) เปน็ ต้น บทความน้ีจะพูดถึงชุมชน ชมุ ชนท้องถ่นิ และองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นในระดับตา่ งๆ ประเภทที่มขี อบเขตก�าหนดได้ ชัดเจน คือชุมชนในชนบทและ 1. แบง่ ตามรปู แบบการปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น* จา� นวน ชุมชนในเมืองเท่าน้ัน ในชนบท หมบู่ ้าน 74,944 นัน้ ชุมชนที่เลก็ ที่สุดคือหมู่บ้าน ต�าบล/แขวง 7,409 ถัดจากหมู่บ้านขึน้ ไปคือ กลุ่ม อา� เภอ/เขต หมู่บ้านทีใ่ ช้ทรัพยากรและ จงั หวัด (ไมร่ วม กทม.) 927 โครงสร้างพ้นื ฐานต่างๆ ร่วมกัน 2. แบ่งตามประเภทองคก์ ารปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ** 76 เชน่ ถนนหนทาง แหลง่ นา�้ พลงั งาน องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัด 76 และบรกิ ารสาธารณสุข กลมุ่ ชมุ ชน เทศบาลนคร 30 หมู่บ้านเช่นน้เี รียกว่าท้องถ่ิน เทศบาลเมอื ง 172 ทอ้ งถน่ิ ขนาดเลก็ คอื ตา� บล ขณะท่ี เทศบาลต�าบล 2,081 ในเมืองนั้นมีชุมชนหลายระดับ องค์การบริหารส่วนต�าบล (อบต) 5,492 ซึง่ มกี ารจดั ตงั้ ตามกฎหมาย หรือ ระเบียบการปกครองรูปแบบใด องค์กรปกครองทอ้ งถน่ิ รปู แบบพเิ ศษ (กทม. และเมืองพทั ยา) 2 รปู แบบหนงึ่ เช่น ชมุ ชนรายได้ตา่� หรอื ชมุ ชนแออัด และชมุ ชนบ้านจัดสรร หลายชุมชนในเมืองรวมกนั ภายใต้รูปแบบ การปกครองท่เี รยี กว่าเทศบาล ซึ่งมสี ามระดับ ได้แกเ่ ทศบาลต�าบล เทศบาลเมอื ง และเทศบาลนคร โดยท่วั ไปชุมชน ในชนบทและในเมอื งต่างกนั ทง้ั ในด้านรปู แบบ โครงสรา้ ง และความหลากหลายของผู้คน หมายเหต:ุ * ขอ้ มลู กรมการปกครอง ปี 2554 สบื คน้ เมอ่ื 15 กมุ ภาพนั ธ์ 2557 จาก http://www.agriinfo.doae.go.th/year54/general/village54. pdf ** ขอ้ มูลจากกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ ปี 2555 สืบคน้ เม่อื 15 กมุ ภาพนั ธ์ 2557 จากhttp://www.dla.go.th/work/abt/index.jsp ชุมชนทอ้ งถ่ินจัดการตนเอง...ส่กู ารปฏริ ปู ประเทศจากฐานราก 91

การพัฒนาในแนวทางท่ีรัฐเป็นผู้มีบทบาทส�าคัญน้ี แทนที่จะท�าให้ชุมชนท้องถิ่นยืนอยู่บนขาของตัวเองได้อย่างม่ันคง กลับกลายเป็นถูกท�าให้อ่อนแอ ชมุ ชนท้องถ่นิ ในกระแสการเปล่ียนผ่าน ในทุกดา้ น สว่ นการติดตอ่ กบั ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ อน่ื น้นั เกดิ ขน้ึ เปน็ ปกตธิ รรมดาอยู่แล้ว โดยเฉพาะการตดิ ต่อแลกเปลีย่ น ในชว่ งเวลาตง้ั แตก่ ่อนการเปลีย่ นแปลงการปกครอง ผลผลติ แบบถอ้ ยทีถอ้ ยอาศยั และเปน็ เครอื ขา่ ยกนั ในทอ้ งถนิ่ พ.ศ. 2475 จนถงึ ปัจจุบัน พลวัตของนโยบายดา้ นเศรษฐกจิ เงนิ และตลาดมบี ทบาทนอ้ ย หรอื แทบไมม่ บี ทบาทเลย ระบบ สงั คม การเมือง รวมทั้งกระแสโลก มีผลต่อชมุ ชนท้องถิน่ เศรษฐกิจชุมชนท้องถิน่ ในอดตี จึงเป็นแบบเบ็ดเสร็จ แม้ว่า ทัง้ โดยตรงและโดยอ้อม โดยเฉพาะกระบวนทัศน์และ ในเวลาตอ่ มาทุนนิยมจะเรมิ่ คบื คลานเขา้ ไป แตจ่ นถงึ ช่วงท่ี โครงการพัฒนา ทงั้ ของรัฐและของหน่วยงานองค์กรอืน่ ๆ เกดิ การเปลย่ี นแปลงระบอบการปกครองใน พ.ศ. 2475 และ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่หลังสงครามโลกคร้ังที่สองเป็นต้นมาน้ัน แม้ในช่วง 1-2 ทศวรรษหลังจากน้ัน ชุมชนชนบทไทย มีความเชือ่ มโยงกับการเปลีย่ นแปลงโฉมหน้าของชมุ ชน สว่ นใหญก่ ย็ งั ไมไ่ ดถ้ กู ดงึ เขา้ สรู่ ะบบเศรษฐกจิ และสงั คมของ ท้องถิ่นไทยอย่างแยกไม่ออก การจดั การตนเองของชุมชน โลกสมัยใหม่อย่างเต็มตวั ท้องถนิ่ ซงึ่ เปน็ เรื่องท่คี อ่ นขา้ งใหม่ในปัจจบุ ัน ก็อาจนับไดว้ ่า เป็นคล่นื ลูกลา่ สดุ ในกระแสวิวัฒนาการนี้ หลังสงครามโลกคร้ังที่สองสถานการณ์เปล่ียนไป ในด้านหนึง่ ความสูญเสียอันเกิดจากสงครามทา� ให้มี การศึกษาเศรษฐกิจหมู่บ้านไทยในอดีตตงั้ แต่ก่อน ความจ�าเป็นทีจ่ ะต้องฟื้นฟูประเทศ และในการฟื้นฟูน้ันรัฐ เปล่ียนแปลงระบอบการปกครองของ ฉัตรทิพย์ นาถสุภา ในฐานะเป็นองค์อธปิ ัตย์ก็อ้างความชอบธรรมทจี่ ะเป็น ช้ใี ห้เห็นว่า ชมุ ชนท้องถิ่นส่วนมากมคี วามเป็นอสิ ระและ ผจู้ ดั การ อย่างน้อยก็ในดา้ นนโยบายและการสนับสนุนอน่ื ๆ คอ่ นขา้ งเบด็ เสรจ็ ในตวั เอง ไมเ่ ฉพาะในดา้ นเศรษฐกจิ เทา่ นน้ั ผ่านกลไกของรัฐในหลายระดับ อีกด้านหนึง่ สถานการณ์ แต่ในด้านสังคม สุขภาพ ศาสนา และการปกครองดูแล สงครามเย็นทีป่ รากฏชัดขึ้นในช่วงหลังสงคราม ท�าให้ ตนเองด้วย แต่ท้ังนี้ ไม่ได้หมายความว่าชุมชนท้องถ่ิน ประเทศมหาอ�านาจอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้น�าค่าย ในประวัติศาสตร์เป็นสังคมท่ีโดดเดีย่ วและเป็นอิสระจาก เสรนี ิยม พยายามขยายอทิ ธพิ ลเข้าไปในภมู ิภาคตา่ งๆ ของ อา� นาจรฐั แตห่ มายความวา่ ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ในอดตี อยหู่ า่ งไกล โลก รวมถึงภูมภิ าคเอเชียอาคเนยท์ ีไ่ ทยก็เปน็ ส่วนหนง่ึ ดว้ ย จากอทิ ธพิ ลของอา� นาจของรฐั ท�าใหอ้ า� นาจรฐั ไมม่ ผี ลโดยตรง เพื่อยันกับอิทธิพลของค่ายคอมมิวนิสต์ สิง่ ทีส่ �าคัญมาก ต่อวิถีชีวิตของผู้คนมากนัก ชมุ ชนท้องถิน่ ต้องพึ่งตนเอง อยา่ งหนง่ึ ในยคุ สงครามเยน็ คอื การชว่ งชงิ มวลชน เคร่อื งมอื 92 สุขภาพคนไทย 2557

ส�าคัญของรัฐในเร่ืองน้ีคือการพัฒนา ดังน้ันนโยบายและ กา� ลงั คนดว้ ย) ไหลออกไปขา้ งนอกมากขน้ึ ขณะท่อี า� นาจและ โครงการพัฒนาทสี่ ่งผลกระทบถึงท้องถิน่ ชนบทจึงเกิดขึน้ อทิ ธิพลจากภายนอกก็ไหลบ่าเข้าไปในชมุ ชนอย่างมากด้วย จ�านวนมาก และด�าเนินต่อมาอย่างเข้มข้นต้ังแต่ช่วง เช่นกัน จนชมุ ชนในชนบทส่วนมากตงั้ รับไม่ทนั กลายเป็น ตน้ ทศวรรษ 2500 เปน็ ต้นมา สงั คมทีต่ ้องพง่ึ พงิ การพัฒนาภายใต้อุดมการณ์ช่วงชงิ มวลชนใน โดยรวมแล้ว การพัฒนาในแนวทางทรี่ ัฐเป็นผู้มี ยุคสงครามเย็นนี้ ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาทรี่ ัฐเป็นผู้ริเริม่ บทบาทส�าคัญน้ี แทนท่ีจะท�าให้ชุมชนท้องถิ่นยืนอยู่บนขา ในการออกแบบและจดั การให้ โดยชมุ ชนทอ้ งถนิ่ เปน็ ฝา่ ยรบั ของตวั เองได้อย่างมัน่ คง กลับกลายเป็นถูกท�าให้อ่อนแอ เพราะรัฐอ้างความชอบธรรมที่มอี �านาจเหนือชุมชนท้องถ่ิน และสูญเสียอัตลักษณ์ของตน รวมทัง้ สูญเสียทนุ ทางสังคม ขณะเดยี วกนั กเ็ หน็ วา่ หากไมท่ า� ใหช้ มุ ชนทอ้ งถนิ่ ดขี ึน้ รฐั กจ็ ะ ทุนทางปญั ญาและทรพั ยากรธรรมชาติดว้ ย นบั วา่ เปน็ ขอ้ เสยี สูญเสียความชอบธรรมและเพลี่ยงพล้�าต่อฝ่ายตรงข้าม ท่ีส�าคญั ของการพัฒนาตามแนวทางนี้ รูปธรรมของการพัฒนาในช่วงนีส้ ะท้อนให้เห็นได้ชดั จาก การตั้งหน่วยงานระดับกรมข้ึนในกระทรวงมหาดไทย ในช่วงเวลาต่อมาจึงเกิดกระแสแนวคิดทีต่ ้องการ ในช่วงหลัง พ.ศ. 2500 เพือ่ รองรับกิจการดา้ นน้ีโดยเฉพาะ เปลย่ี นการพฒั นาจากการพง่ึ พารฐั สว่ นกลาง ไปสกู่ ารพฒั นา คอื กรมการพฒั นาชุมชน และสา� นกั งานเรง่ รดั พฒั นาชนบท ท่ีชมุ ชนทอ้ งถ่นิ พ่งึ ตนเอง ซ่งึ เรม่ิ มาต้งั แตก่ อ่ นทศวรรษ 2520 (หน่วยงานหลังนีต้ ่อมาได้ยกฐานะเป็นกรม ในกระทรวง กระแสนี้เร่ิมในประเทศแถบละตินอเมริกาก่อน แล้วแพร่ มหาดไทย แตไ่ ดถ้ ูกยุบรวมเขา้ กับกรมอน่ื ไปแล้วในปจั จบุ ัน) ไปยังประเทศก�าลังพัฒนาในส่วนอืน่ ๆ ของโลก รวมทงั้ ประเทศไทยด้วย แนวคิดน้ีให้ความส�าคัญเป็นพิเศษกับ การพัฒนาในช่วงนี้มีฐานความคิดมาจากเรื่อง การพึง่ ตนเองของชมุ ชนท้องถิน่ เพราะเชือ่ ว่าชุมชนมี “ความทนั สมัย” ซึ่งมองว่าการพัฒนาคือการท�าให้ชุมชน ศักยภาพท่ีจะพึ่งตนเองได้ในเรื่องส�าคัญๆ ท้ังในด้าน ทอ้ งถน่ิ มคี วามทนั สมยั (modernization) รฐั จงึ ตอ้ งเรง่ สรา้ ง ทรัพยากรธรรมชาติ ก�าลังคน ภูมิปัญญา รวมถึงเรื่อง สิ่งบ่งชี้หรือสัญลักษณ์ของความทนั สมัยต่างๆ ให้ชุมชน สุขภาพด้วย ดังที่สะท้อนออกมาให้เห็นในการพัฒนาการ ทอ้ งถ่ิน เช่น ถนน ไฟฟา้ สขุ าภิบาล โรงเรียน สถานีอนามัย สาธารณสุขมูลฐาน ซึ่งมุ่งทา� ให้ชุมชนพึ่งตนเองได้ทาง โรงพยาบาล ฯลฯ ในดา้ นหน่งึ โครงสรา้ งพ้นื ฐานเหลา่ นท้ี �าให้ สุขภาพ แนวคิดนี้เรียกร้องให้ใส่ใจในศักยภาพของชุมชน การด�าเนินชีวิตของคนในชุมชนท้องถ่ินสะดวกสบายข้นึ ทัง้ ในด้านทรัพยากร ทนุ ทางสังคมและทนุ ทางวัฒนธรรม แต่ในอีกด้านหนึง่ ก็ได้เชอื่ มโยงชมุ ชนท้องถิน่ เข้ากับโลก เพราะเช่อื วา่ สง่ิ เหลา่ นค้ี อื จดุ แขง็ หรอื ทนุ ท่มี อี ยขู่ องทุกชมุ ชน ภายนอก ซึง่ ในระยะยาวทา� ให้ทรัพยากรในชุมชน (รวมถึง ท�าให้เกิดกระแสการพัฒนาทีใ่ ห้ความส�าคัญกับวัฒนธรรม ชมุ ชนทอ้ งถ่ินจดั การตนเอง...สกู่ ารปฏิรปู ประเทศจากฐานราก 93

}โดยสาระสา� คญั แลว้ สมชั ชา ไมว่ ่าจะเปน็ ในระดับใดก็ตาม กค็ ือ กระบวนการที่ประชาชนและชมุ ชนรว่ มกัน ก�าหนดนโยบายและออกแบบการพฒั นา ท่พี วกเขาสามารถจดั การตนเองได้ ในทุกดา้ นและทุกระดบั ~ ท้องถิ่น ซึง่ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดใี นกลุ่มองค์กร วัฒนธรรมและภูมิปัญญาชาวบ้านซบเซาลง และดูเหมือน ท่ที า� งานดา้ นการพฒั นา ท้งั ในภาครัฐและภาคเอกชน หรอื บทบาทของกล่มุ องคก์ รพัฒนาเอกชน ก็ซบเซาลงไปไม่นอ้ ย เอน็ จโี อ (NGO) ด้วย ชุมชนท้องถิน่ ถูกดึงเข้าสู่ระบบทุนนิยมมากขึ้น และ ยิ่งมากขนึ้ ไปอีกในชว่ งทศวรรษถัดมา การพัฒนาในสายวัฒนธรรมชุมชนน้ี ได้กลายเป็น กระแสหลักอันหนึ่งมาตงั้ แต่ช่วงทศวรรษ 2520 ต่อมา นโยบายเปลีย่ นสนามรบเป็นสนามการค้าอยู่ได้ ได้ตกผลึกเป็นแนวคิดภูมิปัญญาชาวบ้าน (หรือภูมิปัญญา ช่ัวเวลาอนั สนั้ ในช่วงเวลาเดยี วกนั นน้ั เองกไ็ ด้เรม่ิ เกดิ ความ ชุมชน, ภูมิปัญญาท้องถิ่น) ซึ่งนักพัฒนาในช่วงนั้นให้ เคลอื่ นไหวอยา่ งใหมข่ องชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ซงึ่ อาจเรยี กรวมๆ วา่ ความส�าคัญกันมาก จนได้รับการยอมรับในวงการพัฒนา ขบวนการชมุ ชน (community movement) ขบวนการน้ี หลายด้าน โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและการเกษตร ซึ่ง เรม่ิ จากการท่ีชุมชนจา� นวนหน่ึง ซึง่ ได้บม่ เพาะแนวคดิ เรอื่ ง เกดิ มกี ระแสเกษตรทางเลอื ก เกษตรผสมผสาน หรอื เกษตร สทิ ธแิ ละการพ่งึ ตนเองมาบา้ งต้งั แตใ่ นชว่ งกอ่ นหนา้ จากการ พึง่ ตนเอง ทีอ่ ิงอยู่กับการผลิตโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้ติดต่อกับกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน ชุมชนเหล่านี้ได้เริ่ม มีการฟื้นฟูวัฒนธรรมและวิถีชีวิตทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ของ ตระหนักรู้ในปัญหาที่ตนเผชิญอยู่ และเร่ิมเช่อื มโยงกันเป็น ท้องถิ่น ชุมชนท้องถิน่ ในช่วงนีจ้ ึงถูกชีน้ �าให้หันกลับไปหา เครอื ขา่ ยหลวมๆ มกี ารรว่ มถกแถลงกนั ในเวทตี า่ งๆ รวมทงั้ รากเดมิ ทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ซึง่ เชือ่ ว่าเป็น ในวงวิชาการด้วย เพื่อหาทางออก ขณะเดียวกันก็มชี ุมชน ความเข้มแขง็ ของตน ท้องถิ่นจ�านวนหนึ่งท่ีลุกข้ึนมาเรียกร้องสิทธิต่างๆ จากรัฐ เพอ่ื ปกปอ้ งทรพั ยากรในทอ้ งถนิ่ ของตน โดยมอี งคก์ รพฒั นา แตพ่ อถงึ ชว่ งตน้ ทศวรรษ 2530 กเ็ กดิ การเปลย่ี นแปลง เอกชนชว่ ยประสาน การเกดิ ขบวนการชมุ ชนขนึ้ เชน่ นท้ี จี่ รงิ อย่างส�าคัญขึ้นในโลก นั่นคือการล่มสลายของระบอบ แลว้ กค็ อื หนอ่ ออ่ นอนั หน่งึ ของ ประชาสงั คม (civil society) คอมมิวนิสต์ ซ่ึงเป็นการส้ินสุดยุคสงครามเย็น ท�าให้ ซง่ึ เปน็ แนวคดิ ท่คี อ่ นขา้ งใหมส่ า� หรับสงั คมไทยในเวลานนั้ ความจ�าเป็นท่จี ะชว่ งชิงมวลชนหมดไป นโยบายของรัฐไทย ในช่วงนีจ้ ึงหันไปให้ความส�าคัญกับการค้าขาย เพือ่ สร้าง เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึน้ ในปี 2540 คนไทย รายได้เป็นหลัก ทีช่ ดั เจนก็คือนโยบายเปลีย่ นสนามรบเป็น ท้ังประเทศไดร้ บั ผลกระทบกนั ท่ัวหนา้ ในชว่ งน้ชี ุมชนทอ้ งถน่ิ สนามการค้า ในสมัยรัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ได้รับความสนใจในฐานะเป็นภาคส่วนทีด่ ดู ซับผลกระทบ (พ.ศ. 2531-2534) ในชว่ งนง้ี านดา้ นการพฒั นาชนบทในสาย อนั รุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกจิ ไดใ้ นระดับหนงึ่ ขณะเดยี วกัน 94 สขุ ภาพคนไทย 2557

กเ็ กดิ การเปลย่ี นแปลงส�าคญั ทางการเมอื งอกี อยา่ งหนงึ่ คอื หลายรปู แบบและเพอ่ื วตั ถปุ ระสงคท์ ่แี ตกตา่ งกนั ท้ังในระดับ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มผี ลบงั คบั ใช้ ชาติ ระดบั ภาค ระดับจงั หวดั และระดับชุมชนท้องถ่ิน เชน่ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ (และต่อเนื่องมาถึง รัฐธรรมนูญ ฉบับ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ สมัชชาเฉพาะประเด็น สมัชชา พ.ศ. 2550) ใหค้ วามส�าคัญกบั ความเปน็ อสิ ระในการจัดการ เฉพาะพน้ื ท่ี สมัชชาปฏิรูปประเทศไทย สมัชชาสภาองค์กร ตนเองของท้องถิน่ มากทสี่ ุดเท่าทีเ่ คยมีมา พร้อมกันนัน้ ชมุ ชน ฯลฯ แต่โดยสาระส�าคัญแล้ว สมัชชาไม่ว่าจะเป็น แนวคดิ เรอื่ งเศรษฐกจิ พอเพยี ง ท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในระดับใดก็ตาม ก็คือกระบวนการทปี่ ระชาชนและชุมชน ทรงให้ไวก้ อ่ นหนา้ นัน้ ก็ได้รับความสนใจในฐานะเปน็ “ยา” ร่วมกันก�าหนดนโยบายและออกแบบการพัฒนาท่ีพวกเขา ขนานหนึ่ง ทีเ่ ชื่อว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากวิกฤต สามารถจัดการตนเองได้ในทกุ ด้านและทกุ ระดับ อนึง่ เศรษฐกิจได้ แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งซ่ึงเน้นหลักส�าคัญ 3 ควรจะกลา่ วดว้ ยวา่ สมชั ชาสขุ ภาพซ่งึ เรม่ิ ท�ากนั อยา่ งเขม้ ขน้ ประการ คือ ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ท่ีเหมาะสม มาตัง้ แต่ปี 2544 นั้น ได้เป็นพลังส�าคัญมากอันหนึ่ง และความมีเหตุผล ได้รับการบรรจุเป็นหลักปรัชญาส�าคัญ ในการขับเคลือ่ นให้เกิด พระราชบัญญัตสิ ุขภาพแห่งชาติ ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 พ.ศ. 2550 (ดู ข้อความในกรอบ) (2545-2549) แต่ก็ดูเหมอื นว่าชมุ ชนท้องถ่ินจะขานรับ แนวคิดนี้ในระดับหน่ึงเท่านัน้ ปลายทศวรรษ 2540 อาจถอื วา่ เปน็ ชว่ งเวลาท่ีชมุ ชน ทอ้ งถ่นิ ไดร้ บั ความสนใจอยา่ งมาก ไมเ่ ฉพาะในแงท่ ่ถี กู เอารดั ในช่วงทศวรรษ 2540 การขยายตัวของชุมชน เอาเปรยี บจากระบบทุนนยิ มเทา่ นน้ั แตใ่ นทางกลบั กนั ชุมชน เศรษฐกจิ พอเพียงยงั อยู่ในวงจา� กดั และยงั ไม่มีพลังมากพอ ทอ้ งถน่ิ ถกู มองในแงท่ เ่ี ปน็ ความหวงั ในการพลกิ ฟน้ื หรอื ปฏริ ปู ท่จี ะตา้ นกระแสอนั เช่ยี วกรากของทุนนยิ ม กพ็ อดมี าประจวบ สังคมไทยจากฐานรากด้วย มีนิมิตหมายบางอย่างทีเ่ ริ่ม เข้ากับนโยบายประชานิยมของรัฐบาลในช่วงนัน้ นโยบาย สง่ สญั ญาณใหส้ งั คมตระหนกั วา่ การใหช้ ุมชนทอ้ งถน่ิ จดั การ ประชานิยมพุ่งเป้าไปท่ีคนในชุมชนชนบทเป็นหลัก ชุมชน ตนเองในการพฒั นาเปน็ แนวทางท่เี หมาะสมทีส่ ดุ และไม่ใช่ เศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเริ่มมีการขานรับท่นี ั่นบ้างทีน่ ี่บ้าง ส่ิงทอ่ี าจจะปิดก้นั ได้อกี ต่อไปแลว้ จึงยงั เปน็ แค่ทางเลือกสา� หรบั ชมุ ชนส่วนน้อย ขณะที่ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ สว่ นใหญถ่ กู ดดู เขา้ ไปในกระแสการพฒั นาทข่ี บั เคลอ่ื น นิมิตหมายอันแรก คือการกระจายอ�านาจซึ่งได้ ด้วยระบบทุนนิยม-ประชานยิ มมากข้ึน ก�าหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 และในกฎหมายลูก รวมทัง้ กฎหมายอืน่ ๆ อีกหลายฉบับ ในจ�านวนนัน้ รวมถึง อีกด้านหนึง่ ขบวนการชุมชนซึง่ ได้เริม่ ก่อตวั มาแล้ว พระราชบญั ญตั ิสภาองคก์ รชมุ ชน พ.ศ. 2551 ดว้ ย กฎหมายน้ี ต้ังแต่ช่วงทศวรรษ 2540 หรือก่อนหน้าน้ัน ดูเหมอื นจะ มเี จตนารมณท์ จี่ ะใหช้ มุ ชนมคี วามเขม้ แขง็ “สามารถจดั การ ท�างานอยู่อย่างขมักเขม้นและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในด้าน ตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมทัง้ มีบทบาทส�าคัญในการพัฒนา การปฏิรูปสขุ ภาพ การปกปอ้ งทรัพยากร สง่ิ แวดล้อม หรือ ประเทศ การสรา้ งระบอบประชาธปิ ไตย และระบบธรรมาภบิ าล สทิ ธิชมุ ชนกต็ าม ตัวอยา่ งท่ชี ดั เจนจะเหน็ ไดจ้ ากการเคล่อื นไหว ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติรับรอง ของกลุ่มคนในชุมชนด้านสุขภาพ ซึง่ สามารถสืบย้อนไปได้ สิทธิชมุ ชนและประชาชน ให้มีบทบาทส�าคัญในการพัฒนา ถึงตน้ ทศวรรษ 2530 ผลท่ีตามมาอยา่ งหนง่ึ ของขบวนการ ท้องถนิ่ ตามความหลากหลายของวิถชี ีวิต วฒั นธรรมและ ชุมชนในแนวนี้คือการก่อตวั ขึ้นของ “ขบวนการสมัชชา” ภมู ปิ ัญญาของทอ้ งถ่นิ ” เฉพาะอย่างยิง่ “สมัชชาสุขภาพ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทาง สังคมทีอ่ อกแบบมาเพือ่ ขับเคลือ่ นประเดน็ เชิงนโยบาย นิมิตหมายอย่างที่สอง คือการต่ืนตัวของชุมชน ตงั้ แต่ระดับชาตไิ ปจนถึงระดับท้องถิ่น ขบวนการสมัชชา ทอ้ งถน่ิ ในทุกภาคของประเทศ แมย้ งั ไมใ่ ชท่ ้งั หมด แตจ่ า� นวน ซึง่ เริม่ จากกลุ่มบุคคลและเครือข่ายผู้ทเี่ กีย่ วข้องกับวงการ ก็เพิ่มมากข้ึนอย่างต่อเน่ือง ขณะเดียวกัน ชุมชนท้องถ่ิน สุขภาพเป็นหลัก ได้พัฒนาต่อมาเป็นขบวนการสมัชชา ทสี่ ามารถจัดการตนเองจนประสบความส�าเร็จได้ก็มีเป็น จ�านวนมาก ชมุ ชนท้องถิน่ เหล่านี้เป็นตวั อย่างทีม่ ีชีวิตและ ชมุ ชนทอ้ งถ่นิ จัดการตนเอง...สูก่ ารปฏริ ูปประเทศจากฐานราก 95

จากสมชั ชาสขุ ภาพ...สู่ขบวนการสมชั ชาหลากหลาย สมชั ชา เปน็ นวตั กรรมทางสังคม ทเ่ี ปดิ พ้นื ทส่ี าธารณะใหก้ บั ทกุ ฝา่ ยในสงั คม ไดแ้ ก่ องคก์ รประชาสังคม องคก์ รภาคเอกชน องค์กรทางวชิ าการและวชิ าชพี รวมท้งั ภาคการเมืองและราชการ ท้งั ในส่วนกลาง ส่วนภมู ิภาค และท้องถ่ิน ไดเ้ ข้ามาร่วมกนั ทา� งานเชงิ นโยบาย ตามวถิ ีทางประชาธิปไตยแบบมสี ว่ นรว่ ม ควบคไู่ ปกับประชาธปิ ไตยแบบตัวแทน ในประเทศไทย การจัดการประชุมในรูปของสมชั ชามขี ึ้นครั้งแรก ใน พ.ศ. 2531 เม่อื คณะกรรมการระบาดวทิ ยาแหง่ ชาตไิ ดร้ ว่ มกบั กระทรวง สาธารณสุขและอกี หลายหนว่ ยงานจดั ประชมุ สมชั ชาสาธารณสุขแหง่ ชาติ ขน้ึ และมกี ารเสนอแนวคดิ ในการจดั ตง้ั “สภาสาธารณสขุ ” เพอ่ื เปน็ องคก์ ร ประสานระหวา่ งสาขาและกระทรวงตา่ งๆ ใหม้ ารว่ มกนั ทา� งานพฒั นาสุขภาพ แตไ่ มป่ ระสบความสา� เรจ็ หลังจากน้ันไมป่ รากฏวา่ มีหนว่ ยงานใดจดั สมชั ชา เช่นนี้อกี เลย จนกระทัง่ ปี 2543 เมือ่ มี “ระเบียบสา� นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การปฏริ ปู ระบบสขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. 2543” ไดม้ กี ารแตง่ ตง้ั คณะกรรมการ ปฏริ ปู ระบบสุขภาพ (คปรส.) มีสา� นกั งานปฏิรูประบบสขุ ภาพ (สปรส.) ซงึ่ เปน็ หน่วยงานภายใต้สถาบันวจิ ยั ระบบสาธาณสุข (สวรส.) เป็นหนว่ ยเลขานกุ าร ทา� หน้าทป่ี ระสานงานกับทกุ ภาคส่วนของสงั คม เพื่อจดั ท�ารา่ ง พ.ร.บ. สุขภาพแหง่ ชาติ ภารกิจ ของ สปรส. ไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ กระบวนการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ของทกุ ภาคสว่ น จนเกดิ เคร่อื งมือ “การพฒั นานโยบายสาธารณะเพ่อื สขุ ภาพ แบบมีส่วนรว่ ม” (Participatory Healthy Public Policy: PHPP) หรอื ท่ีเรียกในเวลาตอ่ มาวา่ สมัชชาสุขภาพ ในชว่ งท่ดี า� เนินการจัดท�าร่าง พ.ร.บ. สุขภาพแหง่ ชาตินั้น มีการจดั งาน “ตลาดนดั (ปฏิรปู ระบบ) สขุ ภาพ” ข้นึ ในปี 2544 ในงานดงั กลา่ วมีการจัดประชมุ “สาธิตสมชั ชาสขุ ภาพแห่งชาต”ิ ดว้ ย ในปตี อ่ มา (2545) มกี ารจดั “สมชั ชาสุขภาพ แห่งชาติ พ.ศ. 2545 วา่ ดว้ ย พ.ร.บ. สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ.....” จากนนั้ มาก็ไดม้ ีการประชุมสมชั ชาสุขภาพแหง่ ชาติอยา่ ง ต่อเนอ่ื ง รวมท้งั หมด 6 คร้ัง และเมอ่ื มี พ.ร.บ. สุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. 2550 เป็นทางการแลว้ จึงมกี ารจดั สมัชชาสุขภาพ แห่งชาติ อย่างเป็นทางการ โดยครัง้ ที่ 1 จัดขึน้ ในปี 2551 ปัจจุบันมกี ารจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เป็นทางการมาแล้ว 5 ครง้ั นอกจากนกี้ ็มกี ารสนบั สนนุ ให้พืน้ ที่และเครือข่ายองค์กรภาคีที่สนใจจัด “สมชั ชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่” และ “สมัชชา สขุ ภาพเฉพาะประเดน็ ” ท่หี ลากหลายควบค่มู าโดยตลอดด้วย เนอ่ื งจากเปน็ กระบวนการจดั ทา� นโยบายสาธารณะทป่ี ระชาชนทกุ ภาคสว่ นมสี ว่ นรว่ มอยา่ งเทา่ เทยี มกนั แนวคดิ ของสมัชชา สขุ ภาพจงึ ไดร้ บั ความสนใจ ถกู น�าไปปรบั ใชอ้ ยา่ งกวา้ งขวางในหลายดา้ นและหลายระดบั ต้ังแตร่ ะดบั ชาตไิ ปจนถงึ ระดับชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน เช่น มีการจดั สมชั ชาปฏริ ูประดบั ชาติ 3 คร้ัง (พ.ศ. 2554-2556) โดยคณะกรรมการสมัชชาปฏริ ปู ประเทศ (คสป.) นอกจากน้ียังมกี ารจัด “สมัชชาครอบครัว” “สมัชชาเด็กและเยาวชน” สมชั ชาผู้พกิ าร” “สมชั ชาเครือข่ายองค์กรชุมชน” และ สมชั ชาระดับภาคและระดับท้องถิน่ อีกจ�านวนมาก เหตุทีแ่ นวคิดของสมัชชาซึง่ เป็นกระบวนการจัดท�านโยบายสาธารณะได้รับ ความนยิ มมากข้นึ ตามล�าดบั นอกจากเป็นเพราะสมชั ชาเป็นกระบวนการท่เี ป็นประชาธิปไตยแบบมสี ่วนร่วมแลว้ ขอ้ ตกลงหรอื นโยบายสาธารณะท่ีได้จากกระบวนการสมัชชา ยังเป็นข้อตกลงที่มีความผูกพนั ในเชิงการปฏิบัติสูง เน่ืองจากสมาชิกจากทุก ภาคส่วนได้ช่วยกันก�าหนดข้ึนด้วยตนเอง (มีความเป็นเจ้าของ) และมีส่วนส�าคัญในการผลักดันและขับเคลื่อนการปฏิบัติไปสู่ ความส�าเร็จรว่ มกนั ด้วย ทม่ี า: http://www.samatcha.org/?q=ha-introduction ; http://www.reform.or.th/ 96 สุขภาพคนไทย 2557

มบี ทเรยี นแบง่ ปนั ใหช้ มุ ชนทอ้ งถน่ิ อน่ื ๆ นา� ไปประยกุ ตใ์ ชต้ าม ประชานิยม แทบทุกอย่างในชุมชนท้องถ่ินมุ่งสนองความ ความเหมาะสมและศกั ยภาพของตน ต้องการของตลาดเปน็ หลัก ตัง้ แต่การผลิตข้าวปลาอาหาร ผู้คน (แรงงาน) หรือแม้กระทัง่ ความงามของธรรมชาติ การจัดการตนเองของชมุ ชนท้องถิ่นนัน้ มีผลดี รวมท้ังประเพณแี ละศลิ ปวฒั นธรรมกไ็ มเ่ วน้ แตข่ ณะเดยี วกนั อยา่ งนอ้ ย 2 ประการ ประการแรก ประชาชนสามารถออกแบบ ก็มี “ชุมชนก้าวหน้า” จ�านวนหนึ่งทถี่ ูกท�าให้ตืน่ ตวั ทาง การพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้มากทีส่ ุด การเมืองมากขึ้น ประชาชนในชมุ ชนเหล่านั้นเริม่ ตระหนัก และการพัฒนาเช่นนัน้ มีความยั่งยืนกว่าการพัฒนาทหี่ น่วย ในสิทธทิ จี่ ะปกป้องสิง่ แวดล้อมและทรัพยากรของตน จาก งานข้างนอกออกแบบและวางแผนมาให้ ประการทสี่ อง การถูกกลุ่มทุนเข้าไปกอบโกย ท�าให้เกิดการประท้วงและ ชุมชนมคี วามเขม้ แข็ง เพราะประชาชนได้ผ่านกระบวนการ การชมุ นมุ เรยี กรอ้ งมากอยา่ งท่ีไมเ่ คยมมี ากอ่ น บางปเี กดิ ข้นึ เรยี นรู้และมสี ่วนรว่ มคิดร่วมทา� กันอย่างกว้างขวาง นับร้อยๆ ครง้ั ชมุ ชนทอ้ งถิน่ จงึ เร่มิ ไม่ได้เป็นฝา่ ยถกู กระทา� อกี ตอ่ ไป ในชว่ งนเ้ี องท่หี นอ่ ออ่ นของขบวนการประชาชนเรม่ิ จากกระแสการเปลย่ี นผา่ นท่กี ลา่ วมาขา้ งตน้ จะเหน็ วา่ ผลใิ บเปน็ เครอื ขา่ ยกลมุ่ พลเมอื งท่ีรหู้ นาวรรู้ อ้ นในปญั หาของ โฉมหน้าของชุมชนท้องถิ่นไทยเปลีย่ นแปลงไปตาม ตน ท้ังในชุมชนเมืองและชุมชนชนบท การเกิดขึ้นของ กระบวนทศั นแ์ ละนโยบายท่ชี ้ีนา� การพฒั นาในแตล่ ะชว่ งเวลา “สมัชชาสุขภาพ” ในระดับต่างๆ ก็อาจถือว่าเป็นรูปธรรม ในยุคแรกๆ ของการพัฒนา ชุมชนท้องถิน่ อยู่ในฐานะเป็น อันหนงึ่ ของขบวนการประชาชน ซึ่งมเี ปา้ หมายอย่ทู จี่ ดั การ ผถู้ กู กระท�าโดยรฐั เพือ่ มงุ่ จะให้มีความทันสมยั แตผ่ ลท่ีตาม ตนเอง และนับวา่ เปน็ แนวโนม้ ใหม่ในปจั จุบนั มา กลายเปน็ “ทนั สมยั แตไ่ มพ่ ฒั นา” ดงั ที่ นอรแ์ มน เจคอบ (Norman Jacob) ตง้ั ขอ้ สงั เกตเอาไวใ้ นหนงั สอื ของเขาเมอื่ สชู่ ุมชนทอ้ งถนิ่ จดั การตนเอง กว่า 40 ปี มาแล้ว นโยบายการพัฒนาแบบน้ีท�าให้ชุมชน ทอ้ งถนิ่ ตกอยใู่ นฐานะพง่ึ พงิ และออ่ นแอ นอกจากจะสญู เสยี ถ้าวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงระดับมหภาคในช่วง เอกลักษณ์ของตนแล้ว ยังสูญเสียทนุ ทางสังคม และ เวลาประมาณ 20-30 ปีทีผ่ า่ นมาน้ี สิง่ หนึ่งทีเ่ ห็นไดช้ ดั คือ ทรพั ยากรธรรมชาตดิ ว้ ย ความหยอ่ นประสทิ ธภิ าพของอา� นาจรฐั ในการจดั การปญั หา สา� คญั ๆ หลายประการ คงจะไมผ่ ดิ ถา้ จะกลา่ ววา่ ความหยอ่ น ในยคุ ตอ่ มาทกี่ ารพัฒนาชแู นวคิดการพง่ึ ตนเอง โดย ประสทิ ธภิ าพของอา� นาจรฐั นเ้ี องเปน็ เช้ือมลู สา� คญั อยา่ งหนง่ึ หันไปหาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นนัน้ ก็ไม่ได้ทา� ให้ ทที่ า� ใหพ้ ลเมอื งท่ีรหู้ นาวรรู้ อ้ นในชมุ ชนทอ้ งถน่ิ หลายแหง่ เร่มิ ชมุ ชนท้องถิน่ มีความเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้อย่างยัง่ ยืน ลุกขึน้ มาจัดการปัญหาต่างๆ ด้วยตนเอง แทนทีจ่ ะรอคอย แม้ว่าวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิน่ จะเป็นรากเดมิ ท่ี ความชว่ ยเหลอื จากรฐั หรอื องคก์ รอน่ื จากภายนอก ตวั อยา่ ง เขม้ แขง็ แตก่ ารพฒั นาท่ขี าดมติ ิสา� คญั คอื การจดั การตนเอง ของความหย่อนประสิทธภิ าพของรัฐดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ ของชุมชน กไ็ มไ่ ด้ทา� สถานการณข์ องชมุ ชนดีขึ้นมากนกั ใน ในเรื่องทีส่ า� คญั 3 เรือ่ งต่อไปน้ี แงห่ น่งึ ชุมชนทอ้ งถ่นิ กลบั ถกู มองเสมอื นวา่ เปน็ สงั คมอดุ มคติ ทา่ มกลางกระแสการเปลย่ี นแปลงจากโลกาภวิ ตั นท์ ่นี บั วนั จะ 1. การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม มากขน้ึ สดุ ทา้ ยชมุ ชนทอ้ งถ่นิ กย็ งั คงไมเ่ ขม้ แขง็ และในหลาย แทบไมม่ ขี อ้ สงสยั เลยวา่ นโยบายเศรษฐกจิ ทเ่ี นน้ การเติบโต กรณกี ลบั เปราะบางมากขน้ึ เสยี อกี โดยเฉพาะในเม่อื คนรนุ่ ใหม่ ของภาคอตุ สาหกรรมเพอ่ื สง่ ออกเปน็ หลกั ไดท้ �าใหท้ รพั ยากร หันไปชื่นชมกับความเปลี่ยนแปลงจากกระแสโลกาภิวัตน์ ในภาคเกษตร ซึง่ รองรับวิถีชีวิตของคนในชุมชนท้องถิ่น มากข้นึ และการตัดสนิ ใจอนาคตของชุมชนทอ้ งถ่นิ สว่ นมาก ส่วนมาก ถูกน�าไปใช้เพือ่ สนับสนุนภาคอุตสาหกรรม และ กย็ งั รวมศูนย์อย่ทู ส่ี ่วนกลางหรอื องค์กรที่อยูเ่ หนือขึน้ ไป ในบางกรณถี กู แยง่ ชงิ ไปโดยมอี า� นาจรฐั อยเู่ บอ้ื งหลงั หรอื ไม่ กม็ โี ครงสรา้ งทางสังคมที่ไม่เปน็ ธรรมค้า� จุนอยู่ ไม่วา่ จะเปน็ มาถงึ ยุคทุนนยิ ม-ประชานยิ ม ในชว่ งทศวรรษ 2530 และ 2540 ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ สว่ นมากถกู ดดู เขา้ สกู่ ระแสทนุ นยิ ม- ชุมชนท้องถน่ิ จดั การตนเอง...สกู่ ารปฏิรูปประเทศจากฐานราก 97

}ในโลกปัจจบุ ัน อา� นาจรฐั โดยเฉพาะอา� นาจรัฐทรี่ วมศูนย์ เป็นจักรกลท่เี ลก็ เกนิ ไปส�าหรับปัญหาใหญ่ๆ ในชวี ติ ของผคู้ น แตข่ ณะเดยี วกันมันก็ใหญ่เทอะทะเกนิ ไป ส�าหรับปัญหาเล็กๆ ที่เกิดข้นึ กบั ผคู้ น ~ ปัญหาเรือ่ งป่าไม้ แหล่งน�้า แร่ธาตุ ทดี่ ิน หรือมลพิษ กลางจัดสรรมาให้นั้น ส่วนหนึง่ ยังเป็นงบประมาณทีร่ ะบุ อตุ สาหกรรม ชุมชนทอ้ งถนิ่ คอื ฝา่ ยทสี่ ญู เสยี โดยทอี่ �านาจรฐั รายการใชจ้ า่ ยเฉพาะ (earmarked budget) เชน่ คา่ อาหาร ซึง่ แม้จะมีประสิทธิภาพอยู่บ้างในบางครัง้ แต่ก็ยังไม่เพียง กลางวันเด็กนักเรียน เงนิ อุดหนุนอาสาสมัครสาธารณสุข พอทีจ่ ะจัดการปัญหาทรัพยากรและสิง่ แวดล้อมในระดบั เป็นต้น โดยองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน (อปท.) ไม่สามารถ ชุมชนท้องถ่ินได้ เพราะความหย่อนประสิทธิภาพของกลไก นา� ไปใชท้ �าอยา่ งอน่ื ไดเ้ ลย นอกจากนใ้ี นการใชจ้ า่ ยงบประมาณ อ�านาจรฐั รากเหงา้ ของปญั หาจึงยงั ไมไ่ ด้รบั การแก้ไขอย่าง ยงั มี “ลอ็ ค” ทางระเบียบและกฎหมายทไ่ี ม่ส่งเสรมิ การกระ จริงจัง จายอ�านาจเท่าทคี่ วร รัฐส่วนกลางยังมีการควบคุมอยู่ค่อน 2. การกระจายอ�านาจ แม้ว่าการกระจายอ�านาจ ข้างมาก ในดา้ นการมีสว่ นร่วมของประชาชนแม้จะมีโอกาส ไปสู่ท้องถิ่นจะเป็นข้อก�าหนดทีม่ ีอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่ง อยู่บ้าง แต่ความเคยชนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ราชอาณาจักรไทย (ต้ังแต่รฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2540 ต่อเนื่อง กย็ งั ไมไ่ ดต้ อบสนองเจตนารมณก์ ารมสี ว่ นรว่ มของประชาชน มาถงึ รฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2550) และในกฎหมายลกู (organic อยา่ งจรงิ จงั ดงั นน้ั ถา้ ถอื ตามกติกาของรฐั ท่ีมอี ยู่ การกระจาย laws) ตามรฐั ธรรมนูญ โดยเฉพาะ พระราชบญั ญตั กิ �าหนด อ�านาจให้ประชาชนก�าหนดการพัฒนาได้ด้วยตนเองก็ยัง แผนและขั้นตอนการกระจายอ�านาจให้แก่องค์กรปกครอง ไมไ่ ดเ้ กดิ ข้ึนจรงิ ๆ ส่วนท้องถิน่ พ.ศ. 2542 รวมทัง้ กฎหมายทเี่ กี่ยวข้องอีก 3. การกระจายรายได้ นับตั้งแต่เร่ิมยุคพัฒนา หลายฉบับ แต่รูปธรรมของการกระจายอ�านาจก็ยังตดิ ขัด เศรษฐกจิ และสงั คมเมอ่ื 50 ปีที่แล้ว รายไดข้ องชาตกิ ระจกุ อยู่มาก ทา� ใหอ้ �านาจในการจัดการตนเองจรงิ ๆ ขององค์กร ตัวอยใู่ นมอื ของคนสว่ นน้อยตลอดมา คนทรี่ วยทีส่ ดุ ร้อยละ ปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ และประชาชนมีข้อจา� กัด เช่น ในด้าน 20 ของประเทศ (กลุ่มบนสุด) มีส่วนแบ่งรายได้มากกว่า งบประมาณ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นกย็ ังต้องพง่ึ รัฐเป็น ร้อยละ 54 ของทัง้ ประเทศ (ตวั เลขปี 2554) ชนบทซึ่ง ส่วนมาก ข้อก�าหนดใน พ.ร.บ.ก�าหนดแผนและขัน้ ตอน เป็นทีอ่ ยู่ของคนส่วนใหญ่ มีส่วนแบ่งรายได้น้อยกว่าเมือง การกระจายอ�านาจฯ ทเี่ คยกา� หนดใหร้ ฐั สว่ นกลางตอ้ งจดั สรร ภาคการเกษตรซึ่งรองรับแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศมี งบประมาณใหท้ ้องถ่ินไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 35 ใน พ.ศ. 2549 สว่ นแบง่ ความมง่ั คงั่ ของชาตเิ พยี งแคร่ อ้ ยละ 10 ของท้งั หมด ก็ไม่ด�าเนินการให้บรรลุ และยังได้มกี ารแก้ไขกฎหมายนี้ ครัวเรือนเกษตรกรส่วนใหญ่มีหนี้สิน คนจนในสลัมเมือง ใน พ.ศ. 2550 โดยยกเลิกกา� หนดเวลาดังกล่าวด้วย จนถึง มชี ีวติ อยอู่ ยา่ งไรค้ วามหวงั ฯลฯ สถานการณท์ ่ีแยเ่ ชน่ น้ดี �ารง พ.ศ. 2556 องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทง้ั หมดไดร้ บั งบประมาณ อยทู่ งั้ ๆ ทร่ี ฐั มนี โยบายลดช่องวา่ งทางรายได้มาตลอด ผลท่ี เพยี งร้อยละ 27 ของรายได้ท้งั ประเทศเทา่ นน้ั ยังหา่ งไกล ปรากฏจึงฟ้องว่ารัฐยังไม่มีประสิทธภิ าพเพียงพอในด้านนี้ จากตัวเลขร้อยละ 35 มาก ท่ีส�าคัญงบประมาณที่รัฐส่วน ท้ังน้ีมไิ ยต้องกล่าวถึงความเหล่ือมล�้าในการเข้าถึงบริการ 98 สขุ ภาพคนไทย 2557


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook