i สัตฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทสี่ งู สตั ฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนทสี่ ูง ศนู ย์วจิ ัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ สถาบนั วจิ ัยพืชสวน กรมวชิ าการเกษตร
i สตั ฤาษี (ตีนฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนท่สี ูง คานา สตั ฤาษี (Paris polyphylla Smith.) เป็นพืชสมุนไพรบนพน้ื ท่ีสูง มีประวัติการใช้ประโยชนก์ ันมาอย่างยาวนาน ในภมู ิภาคเอเชยี จดั เป็นพืชสมนุ ไพรท่มี ีศักยภาพ เนื่องจากมสี รรพคณุ ในการรกั ษาและบารงุ ร่างกายหลายดา้ น อาทิ เป็น ยาละลายเสมหะ รักษาพิษไข้ พิษจากอาหาร แก้พิษงู และพิษแมลงกัด บรรเทาผลกระทบจากยาเสพติด ต้มรากรักษา แผลคอตีบ โรคต่อมน้าเหลือง ต่อมทอนซิล คางทูม โรคเต้านมอักเสบ โรคไขข้อ บรรเทาฝี และรักษาแผลภายในลาคอ รักษาบาดแผลภายนอก แก้ปวด ประเทศจีนใช้เป็นส่วนผสมหลักในยารักษาตับ ท้อง จมูก ปอด คอ และมะเร็งเต้านม รกั ษาเนื้องอก ห้ามเลือด ตอ่ ตา้ นการอักเสบ ลดอาการปวดบวม มะเร็งปอด มะเรง็ กล่องเสียง และใช้เป็นสว่ นประกอบท่ี สาคัญของสิทธิบัตรยาจีน อาทิ ยาแคปซูล Gongxuening Jidesheng Sheyao และ Biyan Qingdu Keli ต่างประเทศ โดย International Union for Conservation of Nature and Natural Resources (IUCN) กาหนดให้สตั ฤาษีเปน็ หนึ่ง ในพชื สมุนไพรท่ีระบุว่ามีความเสี่ยงภายใต้ภัยคุกคาม ในประเทศไทย สานักคุ้มครองภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย จดั สัต ฤาษีไว้เป็นสมุนไพรท่ีอาจสูญพันธ์ุและมีความสาคัญทางเศรษฐกิจ สานักงานสวนสาธารณะจัดสัตฤาษีเป็นพืชพื้นเมือง ของไทยทีค่ วรคา่ แก่การอนุรกั ษพ์ นั ธกุ รรม อกี ทง้ั สตั ฤาษียงั ถือเป็นพืชอนุรกั ษ์สาคัญ ในโครงการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพืชอัน เน่ืองมาจากพระราชดารใิ น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ปัจจุบันสัตฤาษีถูกลักลอบนาออกจากป่าเพื่อส่งจา หน่ายไปยังต่างประเทศ จนพบว่าในหลายพื้นท่ี สตั ฤาษเี รมิ่ หมดไปจากป่าธรรมชาติ หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ตอ่ ไป สัตฤาษีอาจหมดไปจากป่าในประเทศไทยในไม่ ชา้ ดังน้ันการรวบรวมองคค์ วามรู้ทางวิชาการ ตลอดจนข้อมูลที่เก่ียวข้องทั้งโดยผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร และข้อมูลจากการค้นคว้าเพ่ิมเติมด้านการผลิต การขยายพันธ์ุไปจนถึงการจัดการโรคและแมลง รวมทั้งการแปรรูป เบื้องต้นและเกณฑ์มาตรฐานคณุ ภาพผลผลิตชั้นต่างๆ จะเป็นแนวทางในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ของสัตฤาษีอย่าง ยัง่ ยนื ต่อไป (นายพจิ ิตร ศรปี นิ ตา ผู้อานวยการศนู ย์วจิ ัยเกษตรหลวงเชียงใหม่
ii สัตฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทีส่ ูง เอกสารวิชาการ : สัตฤาษี (ตีนฮุง้ ดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนท่ีสูง เรยี บเรยี งและจดั ทาโดย : สุพัฒธณกิจ โพธส์ิ ว่าง ศูนย์วิจยั เกษตรหลวงเชียงใหม่ 313 /11 หมู่ 12 ต. หนองควาย อ. หางดง จ. เชียงใหม่ โทรศัพท์ (053) 114133-36 โทรสาร (053) 114072 สงวนลขิ สทิ ธิ์ : พ.ศ. 2563 พิมพค์ ร้งั ที่ 2 : ตุลาคม พ.ศ. 2563 พมิ พ์ที่ : ศนู ย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่
iii สัตฤาษี (ตนี ฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทีส่ ูง กติ ตกิ รรมประกาศ ผู้จัดทาขอขอบคุณผู้ประสานงานโครงการอนุรักษ์พันธุ กรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ภาคเหนือ นายวินัย แสงแก้ว นายพิจิตร ศรีปินตา ผู้อานวยการศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ดร. วินัย สมประสงค์ ผู้เช่ียวชาญ ดา้ นคุ้มครองพันธุ์พืช กองคุ้มครองพันธุ์พืช นายเกษม ทองขาว ข้าราชการบานาญ ศูนย์วิจยั เกษตรหลวงเชียงใหม่ ดร. วิลาสนิ ี จิตต์บรรจง นกั วิชาการเกษตรชานาญการพเิ ศษ กองคมุ้ ครองพนั ธพ์ุ ืช ท่ีให้คาปรึกษา ชแี้ นะและช่วยอานวยความ สะดวกในการทางานดว้ ยดี และขอขอบคุณนักวิชาการเกษตร พนักงานราชการ และพนั กงานศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ นางสาวพชั ธาวดี ขนุ ไกร นางสาวสายชล โนสวุ รรณ และนางฟองจันทร์ กรรณิกา ทช่ี ่วยดาเนนิ งานทดลองจนสาเร็จลลุ ่วง ดว้ ยดี
iv สตั ฤาษี (ตนี ฮุง้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทสี่ ูง สารบญั หนา้ I เรือ่ ง II คานา III กิตตกิ รรมประกาศ VI สารบญั V สารบัญตาราง สารบัญภาพ 1 บทที่ 1 ถน่ิ กาเนิด ความสาคัญและสถานการณ์การผลติ 1 3 1.1 ถ่นิ กาเนดิ 4 1.2 ความสาคญั 1.3 แหลง่ กระจายพนั ธุ์ 5 1.4 เอกสารอ้างองิ 12 13 บทที่ 2 ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ 14 2.1 ลักษณะพฤกษศาสตร์ 15 2.2 พันธุ์ 16 2.2.1 Paris dunniana 17 2.2.2 Paris cronquistii (Takhtajan) 18 2.2.3 Paris vietnamensis (Takhtajan) 19 2.2.4 Paris delavayi Franchet 20 2.2.5 Paris daliensis 21 2.2.6 Paris undulate 22 2.2.7 Paris mairei 23 2.2.8 Paris wenxianensis 24 2.2.9 Paris luquanensis 25 2.2.10 Paris marmorata Stearn 26 2.2.11 Paris polyandra 27 2.2.12 Paris fargesii Franchet 28 2.2.13 Paris thibetica Franchet 29 2.2.14 Paris axialis 2.2.15 Paris forrestii (Takhtajan) 2.2.16 Paris vaniotii 2.2.17 Paris rugosa
v สัตฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนท่ีสูง สารบัญ เร่อื ง หนา้ 2.2.18 Paris dulongensis 30 2.2.19 Paris verticillata 31 2.2.20 Paris bashanensis 32 2.2.21 Paris quadrifolia Linnaeus 33 2.2.22 Paris Japonica 34 2.2.23 Paris polyphylla Smith 35 2.2.23.1 Paris polyphylla var. alba 36 2.2.23.2 Paris polyphylla var. chinensis 37 2.2.23.3 Paris polyphylla var. emeiensis 38 2.2.23.4 Paris polyphylla var. kwantungensis 39 2.2.23.5 Paris polyphylla var. latifolia 40 2.2.23.6 Paris polyphylla var. minor 41 2.2.23.7 Paris polyphylla var. nana 42 2.2.23.8 Paris polyphylla var. polyphylla 43 2.2.23.9 Paris polyphylla var. pseudothibetica 44 2.2.23.10 Paris polyphylla var. stenophylla 45 2.2.23.11 Paris polyphylla var. yunnanensis 46 2.3 เอกสารอ้างอิง 47 บทที่ 3 การขยายพนั ธุ์ 50 3.1 การเพาะเมลด็ 50 3.2 การขยายพันธ์จุ ากจดุ เจรญิ 51 3.3 การเช่ือมลาต้น 52 3.4 การเพาะเลีย้ งเน้ือเยอ่ื บทที่ 4 การปลกู และดแู ลรกั ษา 4.1 การเลือกพ้นื ที่ 54 4.2 การเตรียมพื้นท่ี 54 4.3 การปลกู 55 4.4. การให้นา้ 55 4.5. การให้ปุ๋ย 56 4.6. การปอ้ งกนั การโค่นล้ม 56 4.7 ข้อมูลสภาพแวดลอ้ มที่เหมาะสมตอ่ การเจริญเตบิ โตและให้ผลผลิต (Crop Requirement) 58 4.8 เอกสารอ้างอิง 59
vi สตั ฤาษี (ตนี ฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทสี่ งู สารบัญ (ตอ่ ) หนา้ เรอื่ ง 60 บทท่ี 5 ศตั รูพชื ที่สาคัญและการปอ้ งกนั กาจัด 60 61 5.1 โรคศัตรสู ัตฤาษที ส่ี าคญั และการป้องกันกาจัด 62 5.1.1 โรคราเขม่า 62 5.1.2 โรคเหยี่ ว 62 5.1.3 โรคเหย่ี วหรือโรคเน่าของเหงา้ และรากจากเชือ้ แบคทเี รยี 63 5.1.4 โรคเห่ยี วทเี่ กดิ จากเช้อื รา 63 5.1.5 โรคใบจุด 64 5.2 แมลงศตั รพู ืชสตั ฤาษี 64 5.2.1 หนอนชอนใบ 64 5.2.2 หนอนเจาะลาต้น 64 5.2.3 ตั๊กแตนหนวดสัน้ 65 5.2.4 หอยทาก 5.2.5 เพลย้ี แป้ง 66 5.3 เอกสารอ้างองิ 66 68 บทท่ี 6 การเกบ็ เก่ยี วและวิทยาการหลงั การเก็บเก่ยี วสตั ฤาษี 69 6.1 การเกบ็ เกี่ยว 6.2 ลกั ษณะผลผลิตที่ใชแ้ ละคณุ ภาพ 70 6.3 การบรรจุภัณฑ์และการเก็บรักษา 71 6.4 เอกสารอ้างอิง 71 72 บทท่ี 7 การแปรรูป 7.1 สัตฤาษีแห้งทั้งเหง้า 73 7.2 สัตฤาษีแห้งแบบแผน่ 77 7.3 สัตฤาษีผง 80 7.4 เอกสารอา้ งอิง 81 บทท่ี 8 มาตรฐานสนิ คา้ เกษตรและอาหารแห่งชาติ 85 8.1 สัตฤาษีสด 87 8.2 สตั ฤาษอี บแห้ง 88 8.3 เอกสารอา้ งองิ บทท่ี 9 มาตรฐานผลิตภัณฑช์ ุมชน 9.1 มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชมุ ชนผักและผลไมแ้ ห้ง 9.2 ภาคผนวก ก. สุขลักษณะ 9.3 ประกาศสานักงานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรมฉบับท่ี ๒๐๑๙ (พ.ศ. ๒๕๕๘) 9.4 เอกสารอา้ งอิง
vii สัตฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทีส่ ูง สารบญั ตาราง ตารางที่ 1 ผลการวเิ คราะห์ความต้านทานในการตา้ นอนมุ ูลอสิ ระในหัวสัตฤาษี หน้า 2 ตารางที่ 2 ปริมาณสารซาโปนนิ (Total saponins) ในหัวสัตฤาษีจากแต่ละแหล่งสารวจ 2 ตารางที่ 3 ปริมาณฟินอลกิ ในหวั สตั ฤาษจี ากแต่ละแหล่งสารวจ 3 ตารางท่ี 4 ขอ้ มูลท่ัวไปและลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ของสัตฤาษี 6 ตารางที่ 5 ขอ้ มลู ของผลสตั ฤาษีจากแต่ละแหล่งสารวจ 11 ตารางที่ 6 ข้อมลู ของเมลด็ สตั ฤาษีจากแต่ละแหล่งสารวจ 11 ตารางท่ี 7 ขอ้ มูลสภาพแวดล้อมทเี่ หมาะสมต่อการเจริญเติบโตและใหผ้ ลผลติ (Crop Requirement) 58 ตารางที่ 8 การเปลย่ี นแปลงของน้าหนกั สัตฤาษี ณ อณุ หภูมิคงท่ีในระยะเวลาการอบทีต่ า่ งกนั 67 ตารางท่ี 9 การเปลย่ี นแปลงของความชน้ื สัตฤาษี ณ อุณหภูมคิ งท่ใี นระยะเวลาการอบท่ตี ่างกนั 68 ตารางที่ 10 ปรมิ าณสารซาโปนนิ ในหัวสตั ฤาษี ณ อุณหภมู คิ งท่ใี นระยะเวลาการอบทีต่ ่างกนั 68 ตารางท่ี 11 ขนาดและน้าหนักของเหงา้ สัตฤาษที แี่ บ่งตามเกณฑ์มาตรฐานสินคา้ เกษตรและอาหารแหง่ ชาติ 74 ตารางท่ี 12 หลักเกณฑ์การให้คะแนนในการทดสอบสี กลนิ่ และกลิ่นรส 84
viii สตั ฤาษี (ตนี ฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทส่ี ูง สารบัญภาพ หน้า 3 ภาพท่ี 1 การกระจายตวั ของพชื สัตฤาษี 5 ภาพท่ี 2 ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยาของสตั ฤาษี 7 ภาพที่ 3 การตรวจสอบอายุสัตฤาษีจากการนบั รอยแผลจากจุดเจริญเดิม 7 ภาพท่ี 4 ลกั ษณะลาต้นใต้ดนิ สัตฤาษจี ากการสารวจในภาคเหนือของประเทศไทย 8 ภาพที่ 5 ลักษณะลาต้นเหนือดินของสัตฤาษี 8 ภาพท่ี 6 ลกั ษณะใบสัตฤาษี 9 ภาพท่ี 7 ลักษณะดอกสัตฤาษี 10 ภาพท่ี 8 ลักษณะการตดิ ผลของสตั ฤาษี 10 ภาพที่ 9 ลักษณะเมลด็ ในผลทส่ี กุ แก่ 11 ภาพที่ 10 เมลด็ ท่ีสุกแกท่ างสรีรวิทยา 12 ภาพที่ 11 การบันทกึ ข้อมลู เมล็ดสตั ฤาษี 12 ภาพที่ 12 แผนท่ีความสมั พันธท์ างพันธุกรรมสัตฤาษีจาก 7 แหลง่ สารวจ 13 ภาพท่ี 13 ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris dunniana 14 ภาพท่ี 14 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris cronquistii (Takhtajan) 15 ภาพท่ี 15 ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris vietnamensis (Takhtajan) 16 ภาพที่ 16 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris delavayi Franchet 17 ภาพที่ 17 ลักษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris daliensis 18 ภาพที่ 18 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris undulate 19 ภาพที่ 19 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris mairei 20 ภาพท่ี 20 ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris wenxianensis 21 ภาพที่ 21 ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris luquanensis 22 ภาพท่ี 22 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris marmorata Stearn 23 ภาพท่ี 23 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris polyandra 24 ภาพที่ 24 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris fargesii Franchet 25 ภาพที่ 25 ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris thibetica Franchet 26 ภาพท่ี 26 ลักษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris axialis 27 ภาพที่ 27 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris forrestii (Takhtajan) 28 ภาพท่ี 28 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris vaniotii 29 ภาพท่ี 29 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris rugosa 30 ภาพที่ 30 ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris dulongensis 31 ภาพท่ี 31 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris verticillata
ix สัตฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทสี่ งู สารบญั ภาพ (ตอ่ ) หนา้ 32 ภาพท่ี 32 ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris bashanensis 33 ภาพที่ 33 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris quadrifolia Linnaeus 34 ภาพท่ี 34 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris Japonica 35 ภาพท่ี 35 ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris polyphylla Smith 36 ภาพที่ 36 ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris polyphylla var. alba 37 ภาพท่ี 37 ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. chinensis 38 ภาพท่ี 38 ลักษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. emeiensis 39 ภาพท่ี 39 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. kwantungensis 40 ภาพท่ี 40 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. latifolia 41 ภาพท่ี 41 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris polyphylla var. minor 42 ภาพที่ 42 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. nana 43 ภาพท่ี 43 ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. polyphylla 44 ภาพที่ 44 ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของ Paris polyphylla var. pseudothibetica 45 ภาพที่ 45 ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. stenophylla 46 ภาพที่ 46 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris polyphylla var. yunnanensis 50 ภาพท่ี 47 การเพาะเมล็ดสตั ฤาษีโดยใชท้ รายเป็นวัสดุเพาะ 51 ภาพท่ี 48 การขยายพนั ธจ์ุ ากจุดเจรญิ 52 ภาพที่ 49 การเช่อื มลาต้น 53 ภาพที่ 50 การเพาะเลีย้ งเนอ้ื เยื่อสตั ฤาษี 54 ภาพที่ 51 การเตรียมพื้นทปี่ ลูกสัตฤาษภี ายใต้สภาพโรงเรอื น 55 ภาพท่ี 52 การปลกู สัตฤาษี 57 ภาพที่ 53 การค้ายันและพยงุ ตน้ 61 ภาพที่ 54 ลกั ษณะการเกดิ โรคราเขม่าในสตั ฤาษี 63 ภาพท่ี 55 ลกั ษณะการเกดิ โรคใบจุดในสัตฤาษี 70 ภาพที่ 56 สัตฤาษีอบแหง้ ท้งั หัว 71 ภาพที่ 57 สัตฤาษหี ั่นเปน็ แผน่ อบแหง้ 71 ภาพที่ 58 สัตฤาษีผง
1 สตั ฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนทส่ี งู บทท่ี 1 ถน่ิ กาเนดิ ความสาคัญและสถานการณก์ ารผลิต 1.1 ถ่ินกาเนดิ สัตฤาษี Paris (Daiswa) polyphylla Smith) หรือ ตีนฮุ้งดอย มีถ่ินกาเนิดในประเทศจีน อนุทวีปอินเดีย และคาบสมุทรอินโดจีน เปน็ สมุนไพรหายาก มีชื่อเรียกอื่นๆว่า หวานก๊ันจอง แปลเป็นไทยตรงๆ คือ ว่านร่ม (หวาน หมายถงึ ว่าน, ก๊ันจอง หมายถึง ร่ม) เป็นยาสาคญั อยู่ในตารบั ยาประจาชาติของจีนท่ีชื่อ ยนู นานไป่เย่า หรือมีอีกชื่อ หนึ่งท่ีสหายทหารป่าสงั กดั พรรคคอมมวิ นสิ ตแ์ ห่งประเทศไทยรู้จักดีคือ ยาขาว เป็นไม้ล้มลุก มหี ัวใต้ดิน ลาต้นสงู ไดถ้ ึง 1 เมตร ใบเปน็ ใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบข้อ 4-9 ใบ รปู รีแกมขอบขนาน กวา้ ง 3-5 เซนติเมตร ยาว 8-15 เซนตเิ มตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ดอกสีเหลืองแกมส้ม ออกเป็นดอกเด่ียว ลักษณะเป็นกระจุกที่ปลายยอด มีก้านดอกยืด ยาว 5-30 เซนติเมตร มีใบประดบั 4-6 ใบ ยาว 5-10 เซนติเมตร กลบี ดอกเปน็ เส้นเล็กสเี ขียว ยาว 6-12 เซนตเิ มตร มี เกสรตัวผู้ 10-22 อัน แตกตามยาว ผลมลี ักษณะเป็นกอ้ นกลม ผิวเรียบ ขนาด 4-5 เซนติเมตร เมล็ดสีแสดแดง (สุภา ภรณ์, 2554) สัตฤาษีชอบข้ึนตามพื้นในป่าสนเขา ที่มีเรือนยอดโปร่ง ความสูงตั้งแต่ 1,000 เมตรจากระดับน้าทะเล (เกรียงไกรและคณะ, 2551) CNC-DIVERSITAS (2012) ได้รายงานสายพันธ์ุไว้ว่าพบ Paris polyphylla Smith. 12 สายพันธ์ุท่ัวโลก Qin et al., (2013) รายงานว่า Paris polyphylla Smith. แบ่งออกได้มากกว่า 10 สายพันธุ์ มี 2 สายพันธุ์ท่ีสาคัญ คือ Paris polyphylla var chinensis และ Paris polyphylla var. yunnanensis ซ่ึงมีเขตการ กระจายพนั ธ์ุตงั้ แตแ่ ถบหิมาลัยไปยงั ประเทศจีน ทเิ บต เนปาล เทอื กเขาหิมาลัย จีน ไต้หวัน เมียนมาร์ ลาว เวยี ดนาม และไทย (eMonocot, 2011) และส่วนใหญ่อยู่ในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแถบตะวันตกเฉียงใต้ของ ประเทศจนี โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ในมณฑลยูนนาน มณฑลเสฉวน และมณฑลกุ้ยโจว (CNC-DIVERSITAS, 2012) ในไทย พบเฉพาะสายพันธุ์ Paris polyphylla var chinensis โดยพบเฉพาะทางภาคเหนือ แถบจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ข้ึนในป่าดิบเขาระดับความสูง 900-1,900 เมตร ในต่างประเทศพบในระดับความสูงจนถึง 3,000 เมตร (สานักงานหอพรรณไม้, 2550) 1.2 ความสาคัญ สัตฤาษีมีลาต้นใต้ดินแบบเหง้า (rhizome) ออกดอกเดอื นเมษายนถงึ มถิ ุนายน (สานักงานโครงการอนุรักษ์พนั ธกุ รรม พืชอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, 2544) ส่วนของเหงา้ นยิ มนาไปใช้ ประโยชน์กันอย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ เช่น ในประเทศเนปาลใช้เป็นยาละลายเสมหะ รักษาพิษไข้ พิษจาก อาหาร แก้พิษงูและแมลงกัด เป็นยาบรรเทาผลกระทบจากยาเสพติด หัวใช้เค้ียวรักษาแผลภายในคอ ฝนหัวรักษา บาดแผลภายนอก ใช้เปน็ ยาแก้ปวด ต้มหวั รักษาแผลคอตีบ โรคตอ่ มนา้ เหลือง ตอ่ มทอนซิล คางทมู เต้านมอักเสบ ไข ขอ้ และบรรเทาฝี ในตารับยาจนี ใช้เป็นส่วนผสมหลักในยารักษาตับ ท้อง จมูก ปอด คอ และมะเร็งเต้านม (Madhu et al., 2010) และยงั รกั ษาเนื้องอก ห้ามเลือด ตา้ นการอักเสบ ลดอาการปวดบวม มะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง และ เป็นส่วนประกอบท่ีสาคัญของสิทธิบัตรยาจีน คือ แคปซูล \"Gongxuening\" \"Jidesheng Sheyao\" \"Biyan Qingdu Keli\" (Wen et al., 2012; Shah et al., 2012; Qin et al., 2013) ทรัพยากรของสมุนไพรนี้มีปริมาณลดลงอย่าง รวดเรว็ เน่ืองจากการเจริญเติบโตของเหงา้ ชา้ มาก และสามารถเก็บเกย่ี วผลผลิตหลังจากปลูกไปแล้วเม่ือมีอายุ 5-7 ปี ขึ้นไป ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1990 ประเทศจีนเกิดปัญหาการขาดแคลนวัตถดุ ิบ การผลิตมีปริมาณนอ้ ยกว่า 1,000 ตัน ต่อปี ในขณะที่ความตอ้ งการมีประมาณ 2,000 ตันต่อปี (Wen et al., 2012) รัฐมณีปุระของประเทศอินเดีย มีการ ส่งออกไปจาหนา่ ยยงั ประเทศจนี และประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ผา่ นทางประเทศเมียนมารอ์ ยา่ งผิด กฎหมาย (Shah et al., 2012) ทง้ั นี้ International Union for Conservation of Nature and Natural Resources (IUCN) จดั ใหส้ ตั ฤาษเี ปน็ หนึง่ ในพืชสมนุ ไพรที่ระบุวา่ มีความเสีย่ งภายใตภ้ ัยการคกุ คาม (Madhu et al., 2010)
2 สัตฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทสี่ งู การศึกษาสารประกอบของสัตฤาษี สามารถแยกสารประกอบหลักได้ 8 ชนิด คือ Falcarindiol, β- ecdysterone และ saponins อีก 6 ชนดิ ซ่ึงมีฤทธต์ิ ้านมะเร็งอย่างมีนัยสาคญั โดย saponins มีฤทธต์ิ ้านเน้ืองอกได้ นอกจากน้ียังสามารถบรรเทาอาการบวมน้าที่ปอดและกล้ามเนื้อหัวใจ (Shah et al., 2012) สอดคล้องกับงานวิจัย ของสพุ ัฒธณกิจ และคณะ (2560) ท่ีมีการสารวจและวิเคราะห์คุณสมบตั ิสารสาคัญสัตฤาษีในภาคเหนือของไทยดังท่ี แสดงในตารางท่ี 1-3 ตารางที่ 1 ผลการวิเคราะหค์ วามต้านทานในการต้านอนุมลู อสิ ระในหวั สตั ฤาษี (สพุ ัฒธณกิจ และคณะ, 2560) แหล่งตวั อยา่ ง วิเคราะห์ความสามารถในการต้านอนุมูลอสิ ระดว้ ยวิธี DPPH คา่ เฉลย่ี หน่วย ดอยสะเกด็ (เชยี งใหม)่ 15.33 % (ร้อยละ) ขุนแมล่ าว (1) (เชยี งใหม่) 12.43 ขุนแม่ลาว (2) (เชียงใหม่) 13.73 เชยี งดาว (เชยี งใหม่) 13.87 ขุนวาง (เชยี งใหม)่ 18.79 สะเมงิ (เชยี งใหม)่ 23.63 แมจ่ อนหลวง (เชียงใหม)่ 11.67 นา่ น (นา่ น) 8.53 ตารางที่ 2 ปริมาณสารซาโปนนิ ในหัวสตั ฤาษีจากแตล่ ะแหล่งสารวจ (สพุ ฒั ธณกิจ และคณะ, 2560) แหลง่ ตวั อย่าง วิเคราะห์ปรมิ าณสารซาโปนนิ ท้ังหมด (Total saponin colourimetry assay) ค่าเฉล่ีย หน่วย ดอยสะเก็ด (เชียงใหม)่ 28.20 ขุนแม่ลาว (1) (เชยี งใหม่) 17.15 เชยี งดาว (เชียงใหม)่ 27.36 Mg/ g. ตัวอยา่ ง ขนุ วาง (เชยี งใหม่) 22.68 สะเมงิ (เชยี งใหม)่ 23.55 แมจ่ อนหลวง (เชยี งใหม)่ 32.2 แมจ่ รมิ (นา่ น) 15.47
3 สตั ฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมุนไพรศักยภาพบนท่สี งู ตารางที่ 3 ปริมาณฟนิ อลกิ ในหวั สัตฤาษีจากแต่ละแหลง่ สารวจ (สพุ ฒั ธณกิจ และคณะ, 2560) รายละเอียดการวเิ คราะห์ วเิ คราะห์ปริมาณฟินอลิกทงั้ หมด (Folin ciacalteu colorimetrie assay) คา่ เฉลย่ี หน่วย ดอยสะเกด็ (เชียงใหม)่ 4.40 ขุนแม่ลาว (1) (เชียงใหม่) 9.00 ขนุ แม่ลาว (2) (เชยี งใหม่) 4.20 เชียงดาว (เชียงใหม)่ 4.40 µg galic/ g Sample ขุนวาง (เชียงใหม)่ 5.00 สะเมงิ (เชียงใหม่) 6.60 แมจ่ อนหลวง (เชียงใหม่) 3.50 แมจ่ รมิ (น่าน) 3.90 1.3 แหล่งกระจายพันธุ์ สัตฤาษีมีการแพร่กระจายท่ีจากัดท้ังในและนอกประเทศไทย (ธวัชชัย, มปป) พบในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย อาทิ จีน อินเดีย เนปาล ภูฎาน ญ่ีปุ่น เวยี ดนาม เมียนมาร์ และไทย เกรยี งไกรและคณะ (2551) รายงานว่า สัตฤาษี ชอบขึน้ ในป่าสนเขาท่มี ีเรือนยอดโปร่งในป่าลกึ โดยเฉพาะบริเวณทเ่ี ปน็ ป่าดิบเขา สานักคุ้มครองภมู ิปญั ญาการแพทย์ แผนไทย (2555) จัดสัตฤาษีไว้เป็นสมุนไพรท่ีอาจจะสูญพันธ์ุ ในพ้ืนที่เขตอนุรักษ์ป่าดอยม่อนฤๅษี ในเขตป่าสงวน แห่งชาตปิ ่าขุนแม่กวง ตาบลเทพเสด็จ อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชยี งใหม่ จากการสารวจของสพุ ัฒธณกิจ และคณะ (2560) พบการกกระจายตวั ของสัตฤาษีในภาคเหนอื ตอนบนตามภเู ขาสงู ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลาปาง พะเยา และนา่ น โดยจะพบเจริญเตบิ โตในสภาพปา่ ร่มราไร ตามไหล่เขาที่ระดับความสูงต้ังแต่ 1,000 เมตรถงึ 1,500 เมตร ภาพที่ 1 การกระจายตวั ของพืชสัตฤาษี (Madhu et al., 2010)
4 สัตฤาษี (ตีนฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทีส่ งู เอกสารอา้ งองิ เกรยี งไกร เพาะเจรญิ และคณะ. 2551. พืชอาหารและสมุนไพรท้องถนิ่ บนพนื้ ท่ีสงู ชุดท่ี 1 บ้านปางมะโอ. สถาบันวจิ ยั และพฒั นาพื้นทีส่ ูง (องคก์ ารมหาชน). 190 หนา้ . ธวัชชัย สันติสุข. มปป. พนั ธุ์พืชหายากและถกู คกุ คามของดอยเชียงดาว ภเู ขาหนิ ปนู ในจังหวัดเชยี งใหม่ ภาคเหนอื ของ ประเทศไทย ความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนเิ วศภูเขา. รายงานการประชมุ วันสากลแห่งความหลากหลาย ทางชีวภาพ. กรุงเทพฯ. หนา้ 53-64. สานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก. 2555. การ คุ้มครองสมุนไพรในพื้นทเี่ ขตอนรุ กั ษ.์ [ระบบออนไลน์]. แหลง่ ทม่ี า http://ip.hrdior.th. (13 สิงหาคม 2556). สานักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมาร.ี 2544. พชื ถ่ินเดียวและพชื หายากของประเทศไทย. [ระบบออนไลน]์ . แหลง่ ท่ีมา http://www.rspg.or.th (13 สิงหาคม 2556) สานักงานสวนสาธารณะสานกั ส่ิงแวดล้อม 2554. พรรณไม้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพชื อันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริ. ฉบับท่ี 1. กรงุ เทพฯ. 158 น. สานกั งานหอพรรณไม้ สานักวิจยั การอนรุ ักษ์ปา่ ไมแ้ ละพนั ธุพ์ ืช กรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตวป์ ่า และพันธ์พุ ชื . 2550. สตั ฤาษี สารานุกรมพชื ในประเทศไทย. [ระบบออนไลน]์ . แหล่งทม่ี า http://web3dnp.go.th/botany/detail. aspx?wordsnamesci=Paris polyphylla Smith. var. chinensis (Franchet) H. Hara (13 สิงหาคม 2556). สพุ ัฒธณกจิ โพธิ์สว่าง วลิ าสินี จติ ต์บรรจง เกษม ทองขาว จนั ทร์เพ็ญ แสนพรหม อนนั ต์ ปัญญาเพม่ิ ลดั ดาวลั ย์ อนิ ทร์ สังข์ และสมคดิ รัตนบุรี. 2560. ศึกษาวิจยั ลักษณะทางพันธุกรรม ลักษณะประจาพันธุ์ และพฤกษเคมขี องตนี ฮุง้ ดอย (Daiswa polyphylla Sm.) ในถิ่นท่ีอยู่ เพ่ือการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร. รายงานผลงานวิจัยสิ้นสุดปี 2560. ศูนย์วิจยั เกษตรหลวงเชยี งใหม.่ เชยี งใหม่. สภุ าภรณ์ ปิตพิ ร. 2554. บนั ทกึ ของแผ่นดนิ ๔ สมนุ ไพร ยากาลงั . พมิ พ์ครัง้ ที่ 2. กรงุ เทพฯ.หน้า 1-131. CNC-DIVERSITAS. 2012. Catalogue of Life China 2012 AnnualChecklist.[online].Availablehttp://data.sp2000.cn/2012_cnnode_e/show_species_details.php ? Name_code=e21cc83d-5c35-4ba5-afe2-69a3830c74c9 (21 August 2013). eMonocot. 2011. Paris polyphylla Sm. [online]. Available http://e-monocot.org (13 August 2013). Madhu, K.C., S. Phoboo and P. K. Jha. 2010. Ecological study of Paris polyphylla Sm. ECOS 17: 87- 93. Qin, X., C. Chen, W. Ni, H. Yan and H. Liu. 2013. C22-steroidal lactone glycosides from stems and leaves of Paris polyphylla var. yunnanensis. Fitoterapia 84: 248–251. Shah, S. A., P.B. Mazumder and M. D. Choudhury. 2012. Medicinal properties of Paris polyphylla Smith: A review. Journal of Herbal Medicine and Toxicology 6(1):27-33. Wen, F., H. Yin, C. Chen, X. Liu, D. Xue, T. Chen, J. He and H. Zhang. 2012. Chemical characteristics of saponins from Paris fargesii var. brevipetala and cytotoxic activity of its main ingredient, paris saponin H. Fitoterapia 83: 627–635.
5 สัตฤาษี (ตีนฮุง้ ดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนทส่ี ูง บทที่ 2 2.1 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ สัตฤาษีเป็นไม้ล้มลุกมีหัวอยู่ใต้ดิน ต้นมีความสูงประมาณ 35-60 เซนติเมตร เคยอยู่ภายใต้วงศ์ Liliaceae และ Trilliaceae ปัจจุบันอยู่วงศ์ย่อย Melanthiaceae ร่วมกับสกุล Veratrum และสกุล Paris พบในเอเชียและ ยโุ รป ในไทยมชี นิดเดียว มีชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ว่า Paris polyphylla Smith หรอื Daiswa polyphylla Smith มจี านวน โครโมโซม 20 แท่ง หรือ 2n = 20 ไม่มีพืชอื่นท่ีอยู่วงศ์เดียวกับสัตฤาษี (Chatterjee et al., 1989) ซ่ึงมีลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ท่วั ไปดังตอ่ ไปนี้ ภาพท่ี 2 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของสัตฤาษี (Madhu et al., 2010)
6 สัตฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนที่สงู ตารางท่ี 4 ขอ้ มูลท่ัวไปและลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ของสัตฤาษี Paris polyphylla Smith var. chinensis (สุพัฒธณกจิ และคณะ, 2560) -Evaluation environment (สภาพแวดลอ้ มท่ีเจริญเติบโต) 800-1,900 m. -Type of planting (ชนิด/รูปแบบสว่ นทป่ี ลูก) Rhizome -Vigor of the plant (ความแขง็ แรงของพชื ) Not good -Topography (ลักษณะภูมิประเทศ) Mountainous -Country of characterization and/ or evaluation (สภาพพนื้ ที)่ Higher-level landform -Crop agriculture (ลักษณะพืช) Perennial field cropping -Soil moisture (ลกั ษณะดนิ ) Slightly moist -Soil fertility (ความอดุ มสมบูรณข์ องดนิ ) Moderate -Light (สภาพแสง) Sunny -Bland shape of mature leaf (ลกั ษณะใบโตเต็มท)่ี elliptic -Leaf color (สีใบ) Dark green -Leaf color variegation (การเปลย่ี นแปลงของสใี บ) Present -Number of lobes in mature leaf (จานวนเส้นใบหลกั ) Few -Foliation density (การแตกใบ) Whorled -Leaf growth habit (attitude) (การเจริญของใบ) Semi-erect -Leaf type (รูปแบบใบ) -Leaf margin color (สขี อบใบ) Simple -Vein color (สีเส้นกลางใบ) Green -Leaf density (ความหนาแนน่ ใบ) Green -Stem branching (การแตกแขนง) Intermediate -Plant growth habit (ลักษณะทรงพุม่ ) Erect -Stem growth habit (การเจริญเตบิ โตลาต้น) Erect -Plant height (ความสงู ของพืช) Erect 10-100 cm. -Stem color (สตี น้ ) Purplish green 2.1.1 ลาต้น ลาตน้ ใตด้ ิน ลาต้นใต้ดินของสัตฤาษีมีลักษณะแบบเหง้า (Rhizome) พบว่าส่วนใหญ่เป็นเหง้าแบบแนวนอน สัต ฤาษีจะมีการเจริญเติบโตทางลาต้นเหนือดนิ บริเวณจุดเจริญทีเ่ หง้า เมื่อพชื พักตวั จุดเจริญจะกลายเป็นรอยแผล และ การเจริญเติบโตในปีถัดไปจะเกิดจากจุดเจริญจุดใหม่ไปเร่ือยๆ จะเพ่ิมขึ้นทุกปีในช่วงที่พืชพักตัวในฤดูหนาว และ สามารถตรวจสอบอายุของพชื ได้ โดยนบั จากจานวนรอยแผล (Chitta et al., 2015)
7 สัตฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนท่สี ูง ภาพที่ 3 การตรวจสอบอายสุ ัตฤาษีจากการนบั รอยแผลจากจดุ เจริญเดิม (Chitta et al., 2015) ab ภาพที่ 4 ลักษณะลาตน้ ใตด้ นิ สัตฤาษีจากการสารวจในภาคเหนอื ของประเทศไทย (สพุ ัฒธณกจิ และคณะ, 2560)
8 สตั ฤาษี (ตนี ฮ้งุ ดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนท่สี งู ลาตน้ เหนือดนิ ลาต้นเหนือดินจะเจริญจากหน่อใต้ดิน ลาต้นจะสูงเฉลี่ย 35-60 เซนติเมตร แต่บางต้นอาจสูงได้ถึง 1 เมตร ต้นตัง้ ตรง และค่อนข้างบอบบาง และหกั งา่ ย ซ่ึงลาต้นเหนือดินเจริญเตบิ โตอย่างรวดเร็วเม่ือลาต้นใตด้ ินพ้นระยะพัก ตวั (Madhu, 2010) ภาพที่ 5 ลกั ษณะลาต้นเหนือดนิ สตั ฤาษี (สุพัฒธณกิจ และคณะ, 2560) 2.1.2 ใบ ใบของต้นสัตฤาษีมีลักษณะเป็นใบแบบใบเด่ียวออกเรียงเวยี นวนรอบข้อ 4-9 ใบ รูปใบรี (elliptic) การเรียง เส้นใบแบบร่างแหรูปฝ่ามือ (palmately netted vernation) ปลายใบแหลม (accuminate) โคนใบมนรูปล่ิม (cuneate) (สุพฒั ธณกิจ และคณะ, 2560) ก้านใบสีน้าตาล กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 8-15 เซนติเมตร ใบมีสีเขียว คล้า และใบมลี กั ษณะแผ่กระจายออกเป็นแนวนอนด้านบนลาตน้ (Dawa, 2019) ภาพท่ี 6 ลกั ษณะใบสตั ฤาษี (สุพัฒธณกิจ และคณะ, 2560)
9 สัตฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนที่สงู 2.1.3 ดอก ดอกของต้นสัตฤาษีเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ (Perfect flower) โดยมีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียอยู่บน ดอกเดียวกนั เป็นพืชทส่ี ามารถผสมตัวเอง เป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองหรือสสี ้ม ออกท่ีปลายยอด มีใบประดับ 4-6 ใบ โดย มเี กสรตวั ผู้ รังไข่ มผี ลและเมลด็ และกลบี ดอกดังท่แี สดงในภาพที่ 7 ดอกจะเริม่ บานในช่วงเดือนมีนาคม ถึง เมษายน (Fenner, 1998) ภาพท่ี 7 ลักษณะดอกสตั ฤาษี (สุพฒั ธณกิจ และคณะ, 2560) 2.1.4 ผล ผลของต้นสัตฤาษีมีลักษณะผลเป็นแบบแคปซูล (Capsule) ทรงกลม ผิวเรียบ ซ่ึงการติดผลของต้นสัตฤาษี ขน้ึ อยู่กับช่วงแสง ในธรรมชาตกิ ารติดผลถา้ ได้รับความร้อนในช่วงการพัฒนาเปน็ ผลจะทาให้ติดผลได้น้อยหรอื ไม่ติดผล (สพุ ัฒธณกจิ เละคณะ 2560; Zhang et al., 2011) การตดิ เมลด็ เร่มิ ต้งั แต่เดอื นเมษายนจนถึงเดือนกรกฎาคม ภาพที่ 8 ลกั ษณะการตดิ ผลของสตั ฤาษี (สุพัฒธณกิจ และคณะ, 2560)
10 สัตฤาษี (ตนี ฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนที่สงู 2.1.5 เมลด็ เมล็ดของสัตฤาษีจะเกาะเป็นกลมุ่ ภายในผลหรือฝัก เม่อื สกุ แก่เต็มท่ีเปลอื กผลที่หุ้มเมลด็ จะแตกออก จานวน เมล็ดเฉลี่ยในผลมีประมาณ 20-35 เมล็ด มลี ักษณะกลมสสี ้มแดง (ภาพที่ 9) และจะมีเมล็ดจริงค่อนขา้ งแขง็ สขี าวครีม อยภู่ ายใน (Li et al., 2010) ซ่งึ ในปี 2017 สพุ ฒั ธณกิจ และคณะ (2560) ไดท้ าการศกึ ษาการเจริญเติบโตของสัตฤาษี ท่ไี ด้จาการสารวจในแหลง่ ตา่ งๆ ที่นามาเพาะปลกู ดูแลรกั ษาในศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชยี งใหม่ หนว่ ยย่อยแมจ่ อนหลวง ได้ดาเนินการเก็บข้อมูลเมล็ดที่สุกแก่พร้อมในการขยายพันธุ์ โดยทาการเก็บข้อมูลจานวนต้นที่ติดฝัก จานวนเมล็ด ขนาดของเมลด็ และนา้ หนักเมล็ด (ตารางท่ี 5) ภาพท่ี 9 ลกั ษณะเมลด็ ในผลท่สี กุ แก่ (สพุ ัฒธณกจิ และคณะ, 2560) ตารางท่ี 5 ข้อมูลของผลสัตฤาษีจากแต่ละแหลง่ สารวจ (สพุ ัฒธณกจิ และคณะ, 2560) ความกวา้ งผล ความยาวผล น้าหนักรวมผล (กรมั ) (มลิ ลเิ มตร) (มลิ ลเิ มตร) 9.0 สะเมงิ 19 21.0 23.9 6.0 0.8 แมจ่ อนหลวง 4.0 11.2 10.1 7.0 ดอยสะเก็ด 3.0 4.10 5.20 5.7 ขุนวาง 6.0 23.6 28.8 รวม 32 15.0 17.0
11 สตั ฤาษี (ตนี ฮุง้ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนทส่ี งู ตารางท่ี 6 ข้อมูลของเมล็ดของสตั ฤาษีจากแต่ละแหลง่ สารวจ (สพุ ัฒธณกิจ และคณะ, 2560) นา้ หนกั เมล็ด ความกว้างเมล็ด ความยาวเมล็ด (กรมั ) (มิลลิเมตร) (มิลลิเมตร) สะเมิง 465 24.5 5.6 6.8 8.0 แมจ่ อนหลวง 47.0 11.8 2.6 6.3 8.1 ดอยสะเกด็ 22.0 7.30 1.5 6.2 7.9 ขุนวาง 147 24.5 5.4 7.2 8.2 รวม 681 21.3 3.8 6.6 8.0 ภาพที่ 10 เมลด็ ทีส่ ุกแก่ทางสรีรวทิ ยา (สุพฒั ธณกิจ และคณะ, 2562) ภาพที่ 11 การบนั ทกึ ข้อมูลเมลด็ สตั ฤาษี (สพุ ฒั ธณกิจ และคณะ, 2560)
12 สัตฤาษี (ตนี ฮุง้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนท่สี งู 2.2 พันธ์ุ สตั ฤาษีที่พบในประเทศไทยมีลักษณะประจาพันธุ์ และลักษณะทางการเกษตรท่ีแตกต่างกัน ลักษณะท่ีใช้ใน การจาแนกพันธุ์สัตฤาษี ได้แก่ ลักษณะใบประดับ สีใบประดับ และลักษณะใบ แต่พบว่าสัตฤาษีเป็นพืชที่มีการ ขยายพันธุ์โดยเมล็ด ลักษณะสัณฐานท่ีปรากฏจึงมีความหลากหลาย สุพัฒธณกิจ และคณะ (2560) ได้ทาการศึกษา ลกั ษณะของสัตฤาษี โดยนาตัวอยา่ งสัตฤาษีทส่ี ารวจจากแหล่งต่างๆ ในภาคเหนือตอนบน และรวบรวมไว้ ณ ศูนย์วจิ ัย เกษตรหลวงเชียงใหม่ (แม่จอนหลวง) ท้ังหมด 7 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ดอยสะเกด็ (A) ขุนแม่ลาว (B) สะเมงิ (C1) แม่ จอนหลวง (C2) ขุนวาง (C3) และเชียงดาว 1 (ชด.1) เชียงดาว 2 (ชด. 2) มาทาการตรวจสอบดีเอ็นเอโดยใช้เทคนิค AFLP โดยใช้ไพรเ์ มอร์ทง้ั หมด 16 คู่ และจากการวเิ คราะห์ความคล้ายคลงึ ทางพันธุกรรม พบวา่ ตวั อยา่ ง C1 และ C2 มีความคล้ายคลงึ กันมากท่ีสุด และจากการทาแผนทท่ี างพันธกุ รรม (Dendrogram) แสดงความสัมพันธ์ทางพนั ธุกรรม ของสัตฤาษที ้งั 7 ตัวอย่าง สามารถแบง่ ออกเป็น 2 กลุม่ ท่มี ีความแตกตา่ งทางพนั ธุกรรม คือระหวา่ งกล่มุ ตวั อย่าง A B C1 C2 C3 แ ล ะ ก ลุ่ ม ตั ว อ ย่ า ง ช ด . 1 แ ล ะ ช ด . 2 (ภาพที่ 12) ภาพที่ 12 แผนท่ีความสัมพันธท์ างพันธุกรรมสตั ฤาษีจาก 7 แหล่งสารวจ (สพุ ัฒธณกิจ และคณะ, 2560)
13 สัตฤาษี (ตีนฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนทีส่ งู จากการสบื คน้ ขอ้ มูลและการตรวจเอกสารเพม่ิ เติม พบวา่ มกี ารจัดจาแนกพันธสุ์ ัตฤาษีไว้ ดังนี้ 2.2.1. Paris dunniana มีถน่ิ กาเนดิ ในประเทศจนี แถบมณฑลกุ้ยโจว มณฑลไหหลา และมณฑลยูนนานไปจนถงึ ประเทศเวียดนาม ใน สภาพป่าท่มี คี วามสูงจากระดบั นา้ ทะเลปานกลางประมาณ 1,100 เมตร ต้นสูงประมาณ 150 เซนติเมตร เหง้ามีความ หนาประมาณ 2 ถึง 5 เซนติเมตร กา้ นช่อดอกยาว 60-140 เซนติเมตร กลีบดอกสเี หลืองออกดอกช่วงเดอื นมนี าคมถึง เดือนเมษายน ติดผลชว่ งเดือนตลุ าคมถงึ เดือนพฤศจิกายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Nguyen et al., 2016) ใบ: ใบขนาด 15-30 x 7.5-16 เซนตเิ มตร ใบรูปขอบขนาน-ไขก่ ลับ (obovate-oblong) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในช่วงฤดูร้อน (มนี าคม-เมษายน) มีดอกสมบรู ณ์เพศ มีเกสรเพศผ้ยู าว 0.8-1.5 เซนติเมตร และเกสรเพศเมยี ยาว 1.2-2.1 เซนตเิ มตร ผล : เร่มิ ติดผลในช่วงฤดหู นาว การตดิ ผลขึน้ อย่กู ับชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู มีความยาว เสน้ ผ่าศนู ย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร เมล็ดห้มุ ด้วยเปลอื กสีสม้ ขนาดประมาณ 4 มิลลิเมตร ภาพที่ 13 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris dunniana (Nguyen et al., 2016)
14 สัตฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทส่ี ูง 2.2.2 Paris cronquistii (Takhtajan) มีถ่ินกาเนิดในจีนตอนกลางตอนใต้จนถึงจีนตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศเวียดนาม แถบป่าดิบบนเนิน หินปูน ที่ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 900-2,100 เมตร ต้นสูงประมาณ 100 เซนติเมตร เหง้ามี ความหนาประมาณ 2 ถงึ 3 เซนติเมตร กา้ นช่อดอกยาว 60 เซนตเิ มตร กลีบดอกสเี ขียว ออกดอกชว่ งเดือนพฤษภาคม ถงึ เดอื นมิถุนายน ติดผลชว่ งเดือนตลุ าคมถึงเดือนพฤศจกิ ายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Nguyen et al., 2015) ใบ: ใบขนาด 11-17 x 6-11 เซนติเมตร ใบรูปหอก (lanceolate) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบเรยี ว แหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูรอ้ น และฤดใู บไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมีเกสรเพศผูย้ าว 8-15 เซนติเมตร และเกสรเพศเมยี ยาว 1.2 เซนติเมตร อยูบ่ นตน้ เดียวกัน มีใบประดบั 6-8 ใบ ผล : เริม่ ตดิ ผลในชว่ งฤดูหนาว การตดิ ผลขน้ึ อยูก่ บั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู มีความยาว เส้นผ่าศนู ย์กลางประมาณ 4 เซนตเิ มตร เมล็ดจะถกู ห่อหมุ้ ด้วยเปลอื กสสี ้มขนาดประมาณ 4 มิลลิเมตร ภาพท่ี 14 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris cronquistii (Takhtajan) (Nguyen et al., 2015)
15 สตั ฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมุนไพรศักยภาพบนที่สงู 2.2.3 Paris vietnamensis (Takhtajan) มีถ่ินกาเนิดแถบมณฑลยูนนานประเทศจีนจนถึงประเทศเวียดนาม แถบป่าดิบชื้น ที่ความสูงจากระดับน้าทะเลปาน กลางประมาณ 1,200-1,900 เมตร ต้นสูงประมาณ 100-150 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 1.5 ถึง 3.5 เซนตเิ มตร มใี บ 4-6 ใบ กา้ นช่อดอกยาว 30-90 เซนติเมตร กลบี ดอกสีเหลืองอมเขียว ออกดอกช่วงเดอื นเมษายนถึง เดอื นกรกฎาคม ติดผลช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตลุ าคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li, 1984) ใบ: ใบขนาด 23-26 x 14-16 เซนติเมตร ใบรูปไขก่ ลบั -ขอบขนาน (obovate-oblong) ขอบใบคลื่น (undulate) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูรอ้ น และฤดูใบไมร้ ่วง ดอกแบบสมบรู ณ์เพศมเี กสรเพศผู้ยาว 5-15 เซนติเมตร และ เกสรเพศเมียยาว 1.2 เซนติเมตร อยบู่ นต้นเดยี วกัน มีใบประดบั 5 ใบ ผล : เร่ิมตดิ ผลในช่วงฤดูหนาว การติดผลขึ้นอยกู่ บั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล เสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง ประมาณ 2-3 เซนติเมตร เมลด็ จะถูกหอ่ หุ้มด้วยเปลือกสีส้มขนาดประมาณ 4 มิลลิเมตร ภาพท่ี 15 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris vietnamensis (Takhtajan) (Li, 1984)
16 สัตฤาษี (ตีนฮงุ้ ดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนท่สี งู 2.2.4 Paris delavayi Franchet มถี ่ินกาเนิดในประเทศจีน แถบมณฑลกุ้ยโจว หูเปย่ หูหนาน เจียงซี และเสฉวน จนถงึ ประเทศเวียดนาม แถบป่าดิบ ชื้นที่ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,300-2,000 เมตร ต้นสูงประมาณ 50-150 เซนติเมตร เหง้ามี ความหนาประมาณ 0.8 ถึง 1.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 75 เซนติเมตร กลีบดอกสีเขียวอมม่วง ออกดอกช่วง เดือนเมษายนถงึ เดือนกรกฎาคม ตดิ ผลชว่ งเดอื นสงิ หาคมถึงเดือนตลุ าคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li et al., 2006) ใบ: ใบขนาด 6-15 x 2-3 เซนติเมตร ใบรูปหอก (lanceolate) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดใู บไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมเี กสรเพศผู้ยาว 5-15 เซนติเมตร และ เกสรเพศเมียยาว 1.2 เซนตเิ มตร อยู่บนต้นเดยี วกนั มใี บประดบั 4-5 ใบ ผล : เริ่มติดผลในช่วงฤดูหนาว การติดผลข้ึนอยู่กับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมีความยาเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร เมล็ดจะถูกหอ่ ห้มุ ดว้ ยเปลอื กสีส้มขนาดประมาณ 4 มิลลิเมตร ภาพที่ 16 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris delavayi Franchet (Li et al., 2006)
17 สัตฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศกั ยภาพบนทสี่ ูง 2.2.5 Paris daliensis มีถิ่นกาเนิดในประเทศจีนแถบมณฑลยูนนาน แถบป่าดิบช้ืน ที่ความสงู จากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 2,600 เมตร ต้นสูงประมาณ 70-90 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 0.1 ถึง 1.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 10-18 เซนติเมตร กลบี ดอกสเี ขียวอมเหลือง ออกดอกชว่ งเดือนมถิ ุนายน ตดิ ผลชว่ งเดอื นสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Yin et al., 2013) ใบ: ใบขนาด 11.0-15.5 x 3.2-4.5 เซนตเิ มตร ใบรปู หอก (lanceolate) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบ เรยี วแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูรอ้ น และฤดใู บไม้ร่วง ดอกแบบสมบรู ณ์เพศมีเกสรเพศผู้ยาว 5-7 เซนตเิ มตร และ เกสรเพศเมยี ยาว 2-3 เซนติเมตร อย่บู นตน้ เดยี วกัน มีใบประดบั 3 ใบ ผล : เรม่ิ ติดผลในชว่ งฤดูหนาว การตดิ ผลข้นึ อยู่กบั ชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู มคี วามยาว เสน้ ผา่ ศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร เมลด็ จะถูกหอ่ หุ้มด้วยเปลอื กสีส้มขนาดประมาณ 4 มลิ ลเิ มตร ภาพท่ี 17 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris daliensis (Yin et al., 2013)
18 สัตฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทส่ี ูง 2.2.6 Paris undulate มีถิ่นกาเนิดในประเทศจีน แถบมณฑลเสฉวน ในป่าดิบช้ืนที่ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,000- 1,200 เมตร ต้นสงู ประมาณ 90 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 0.1 ถึง 1.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 20- 30 เซนติเมตร กลีบดอกสีเขยี วอมเหลอื ง ออกดอกช่วงเดือนมิถุนายน ติดผลชว่ งเดอื นสงิ หาคมถึงเดอื นตุลาคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li, 1992) ใบ: ใบขนาด 10-12 x 4.0-4.5 เซนตเิ มตร ใบรปู รี (elliptic) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบ มีติ่งแหลม (apiculate) ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดใู บไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณ์เพศมีเกสรเพศผยู้ าว 5-6 เซนตเิ มตร และ เกสรเพศเมียยาว 2-3 เซนตเิ มตร อยู่บนต้นเดยี วกัน มีใบประดับ 4 ใบ ผล : เร่มิ ติดผลในช่วงฤดูหนาว การตดิ ผลข้นึ อยกู่ ับชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู มีความยาว เสน้ ผา่ ศนู ย์กลางประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร เมล็ดจะถกู หอ่ หุ้มดว้ ยเปลอื กสสี ้มขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร ภาพที่ 18 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris undulate (Li, 1992)
19 สัตฤาษี (ตีนฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนที่สูง 2.2.7 Paris mairei มถี ิ่นกาเนิดในประเทศจีนแถบมลฑลกุ้ยโจว เสฉวน และยูนนาน ในป่าดิบช้ืนท่ีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง ประมาณ 1,800-3,500 เมตร ต้นสูงประมาณ 100 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 1 ถงึ 2 เซนติเมตร ก้านช่อ ดอกยาว 20-30 เซนติเมตร กลีบดอกสีเขียวอมเหลือง ออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ติดผลช่วงเดือน สิงหาคมถงึ เดอื นกันยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Ji et al., 2017) ใบ: ใบขนาด 5.0-14 x 2-5 เซนตเิ มตร ใบรปู หอก (lanceolate) ขอบเป็นคลืน่ (undulate) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในช่วงฤดูร้อน และฤดูใบไม้รว่ ง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมเี กสรเพศผ้ยู าว 10-16 เซนตเิ มตร และ เกสรเพศเมยี ยาว 3 เซนติเมตร อยบู่ นต้นเดียวกัน มใี บประดับ 5ใบ ผล : เร่ิมตดิ ผลในชว่ งฤดูหนาว การติดผลขน้ึ อยกู่ บั ชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมีความยาว เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร เมล็ดจะถูกห่อหุ้มด้วยเปลอื กสสี ม้ ขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร ภาพที่ 19 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris mairei (Ji et al., 2017)
20 สัตฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทสี่ งู 2.2.8 Paris wenxianensis มีถิ่นกาเนิดในประเทศจีน แถบมลฑลกุ้ยโจว ในป่าดิบช้ืนท่ีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,900- 2,400 เมตร ตน้ มีขนสูงประมาณ 60-100 เซนตเิ มตร เหง้ามคี วามหนาประมาณ 1 ถงึ 2 เซนตเิ มตร ก้านช่อดอกยาว 20-30 เซนติเมตร กลีบดอกสีเขียวอมเหลือง ออกดอกช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ติดผลช่วงเดือนสิงหาคมถึง เดอื นกนั ยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Ji et al., 2007) ใบ: ใบขนาด 14-19 x 2.5-5.5 เซนติเมตร รูปหอก (lanceolate) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดใู บไมร้ ว่ ง ดอกแบบสมบรู ณ์เพศมเี กสรเพศผูย้ าว 2.7-3.7 เซนตเิ มตร และเกสรเพศเมียยาว 3 เซนติเมตร อยูบ่ นตน้ เดยี วกนั มใี บประดบั 5ใบ ผล : เร่มิ ติดผลในชว่ งฤดหู นาว การติดผลขน้ึ อยู่กบั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมีความยาว เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร เมลด็ จะถูกห่อหุ้มดว้ ยเปลอื กสีสม้ ขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร ภาพที่ 20 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris wenxianensis (Ji et al., 2007)
21 สัตฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนที่สงู 2.2.9 Paris luquanensis มีถ่ินกาเนิดแถบมลฑลยูนนานประเทศจีน ในป่าดิบช้ืนที่ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 2,100-2,800 เมตร ลาต้นมีสีมว่ ง ต้นสงู ประมาณ 6-12 เซนติเมตร เหง้ามคี วามหนาประมาณ 2 ถึง 3 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 2.5-5.0 เซนตเิ มตร กลีบดอกสเี ขยี วอมเหลอื ง ออกดอกชว่ งเดือนมิถุนายนถึงกนั ยายน ติดผลชว่ งเดอื นกันยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li, 1984) ใบ: ก้านใบส้ัน โคนใบมีสีเขียวซีดออกม่วง ใบขนาด 3.2-5.0 x 2.0-3.7 เซนติเมตร รูปไข่ (ovate) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดูใบไมร้ ว่ ง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมเี กสรเพศผยู้ าว 2.7-3.7 เซนติเมตร และเกสรเพศเมียยาว 3 เซนติเมตร อยบู่ นต้นเดียวกัน มใี บประดับ 5ใบ ผล : เริม่ ตดิ ผลในชว่ งฤดูหนาว การติดผลขึ้นอยูก่ ับชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมคี วามยาว เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร เมลด็ จะถกู หอ่ ห้มุ ดว้ ยเปลือกสีสม้ ขนาดประมาณ 5 มลิ ลิเมตร ภาพที่ 21 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris luquanensis (Li, 1984)
22 สตั ฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนทส่ี งู 2.2.10 Paris marmorata Stearn มถี ิน่ กาเนิดในประเทศจนี (มณฑลยนู นาน) ภูฏาน อินเดยี และเนปาล ในสภาพป่าท่ีมคี วามสงู จากระดับน้าทะเลปาน กลางประมาณ 2,400-2,800 เมตร ต้นสูงประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร เหง้ามคี วามหนาประมาณ 2 ถงึ 5 เซนติเมตร ก้ า น ช่ อ ด อ ก สี เ ขี ย ว มี แ ต้ ม สี ข า ว ข อ บ สี ม่ ว ง แ ด ง บ ริ เ ว ณ โ ค น ย า ว 1-2 เ ซ น ติ เ ม ต ร กลบี ดอกสีเหลืองอมมว่ ง ออกดอกชว่ งเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถนุ ายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Singh et al., 2006) ใบ: ใบขนาด 6.5-8.5 เซนตเิ มตร ใบรูปรี (elliptic) ขอบเปน็ คลนื่ (undulate) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) มจี านวนใบ 7-8 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดรู ้อน และฤดูใบไม้รว่ ง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมเี กสรเพศผ้ยู าว 2.5-3.5 เซนตเิ มตรและ เกสรเพศเมียยาว 1.5 เซนติเมตร รังไขม่ สี เี ขยี วอยบู่ นต้นเดยี วกนั มีใบประดบั 6-8 ใบ ผล : เริม่ ติดผลในช่วงฤดหู นาว การตดิ ผลขึ้นอยูก่ ับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู สีมว่ งเข้ม เสน้ ผ่าศนู ย์กลางประมาณ 4 เซนตเิ มตร เมลด็ จะถูกห่อห้มุ ดว้ ยเปลอื กสมี ่วง ขนาดประมาณ 4-5 มิลลิเมตร ภาพที่ 22 ลักษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris marmorata Stearn (Singh et al., 2006)
23 สัตฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมุนไพรศักยภาพบนทส่ี งู 2.2.11 Paris polyandra มีถิ่นกาเนิดในประเทศจีน ในสภาพป่าที่มีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,200-1,600 เมตร ต้นสูง ประมาณ 25-65 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 2 ถึง 3 เซนติเมตร มีแต้มสีม่วงบริเวณฐานรอง ก้านช่อดอก ยาว 7-12 เซนติเมตร กลบี ดอกสีเหลืองอมมว่ ง ออกดอกช่วงเดอื นพฤษภาคมถึงเดอื นมถิ ุนายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Zhengyi and Roven, 2000) ใบ: ใบขนาด 7.0-9.0 x 3.5-5.0 เซนตเิ มตร ใบรปู รี (elliptic) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) มีจานวนใบ 5-6 ใบ ดอก : ออกดอกในช่วงฤดูร้อน และฤดูใบไมร้ ว่ ง ดอกแบบสมบรู ณเ์ พศมเี กสรเพศผยู้ าว 1.2-1.5 เซนตเิ มตรและ เกสรเพศเมียยาว 1.0-1.3 เซนติเมตร อยูบ่ นตน้ เดยี วกนั มใี บประดบั 6-8 ใบ ผล : เร่มิ ติดผลในชว่ งฤดูหนาว การตดิ ผลขน้ึ อย่กู บั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล ภาพท่ี 23 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris polyandra (Zhengyi and Roven, 2000)
24 สัตฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนทสี่ ูง 2.2.12 Paris fargesii Franchet มีถิ่นกาเนิดในมลฑลยูนนานประเทศจีน ในสภาพป่าท่ีมีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 500-2,100 เมตร ต้นสูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 1.5 ถึง 2.5 เซนติเมตร ก้านชอ่ ดอกยาว 20-40 เซนตเิ มตร กลบี ดอกสีเหลืองอมเขยี ว ออกดอกชว่ งเดือนเมษายนถึงเดอื นมิถุนายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Wilbert, 2016) ใบ: ใบขนาด 9-20 x 4.5-15 เซนตเิ มตร ใบรปู รี (elliptic) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) มจี านวนใบ 4-6 ใบ ดอก : ออกดอกในช่วงฤดรู ้อน และฤดใู บไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณ์เพศมเี กสรเพศผยู้ าว 0.5-1.5 เซนติเมตรและ เกสรเพศเมยี ยาว 0.35-0.60 เซนติเมตร อย่บู นต้นเดียวกนั มีใบประดับ 6-8 ใบ ผล : เร่ิมตดิ ผลในชว่ งฤดูหนาว การตดิ ผลข้ึนอยกู่ บั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู ภาพที่ 24 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris fargesii Franchet (Wilbert, 2016)
25 สตั ฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทสี่ ูง 2.2.13 Paris thibetica Franchet มีถิ่นกาเนิดในประเทศจีนแถบมณฑลยูนนาน ประเทศภูฏาน และประเทศเมียนมาร์ ในสภาพป่าท่ีมีความสูงจาก ระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,400-3,800 เมตร ต้นสูงประมาณ 35-90 เซนตเิ มตร เหง้ามีความหนาประมาณ 0.8 ถึง 2.0 เซนติเมตร มีใบ 7-12 ใบ ก้านช่อดอกยาว 20-40 เซนติเมตร กลีบดอกสีเหลืองอมเขียว ออกดอกช่วง เดอื นเมษายนถงึ เดอื นกรกฎาคม ตดิ เมล็ดชว่ งเดือนกรกฎาคมถงึ เดอื นสิงหาคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Yunheng et al., 2006) ใบ: ใบขนาด 4-15 x 1.0-3.0 เซนติเมตร ใบรูปแถบ (linear) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) มจี านวนใบ 4-5 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดรู ้อน และฤดใู บไมร้ ว่ ง ดอกแบบสมบูรณ์เพศมเี กสรเพศผ้ยู าว 0.5-1.5 เซนติเมตรและ เกสรเพศเมยี ยาว 0.25-0.50 เซนติเมตร อยบู่ นตน้ เดยี วกัน มใี บประดับ 6-8 ใบ ผล : เรมิ่ ตดิ ผลในช่วงฤดหู นาว การติดผลขึน้ อยู่กบั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล ภาพที่ 25 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris thibetica Franchet (Yunheng et al., 2006)
26 สตั ฤาษี (ตีนฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนท่สี งู 2.2.14 Paris axialis มถี น่ิ กาเนดิ ในประเทศจีน (มณฑลยูนนาน) ภูฏาน และเมยี นมาร์ ในสภาพป่าทม่ี ีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง ประมาณ 700-3,000 เมตร ตน้ สูงประมาณ 30-55 เซนติเมตร เหง้ามคี วามหนาประมาณ 1 ถึง 1.7 เซนติเมตร ก้าน ช่อดอกยาว 20-40 เซนติเมตร กลีบดอกสเี หลอื งอมนา้ ตาล ออกดอกชว่ งเดอื นเมษายนถงึ เดือนมิถนุ ายน ตดิ เมล็ดชว่ ง เดอื นกรกฎาคมถึงเดอื นสงิ หาคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li, 1984) ใบ: ใบขนาด 7.0-10 x 4.5-7.0 เซนติเมตร ใบรูปรี ขอบใบเป็นคลืน่ (undulate) ปลายแหลม (acuminate) มี จานวนใบ 4-6 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดใู บไม้ร่วง ดอกแบบสมบูรณ์เพศมีเกสรเพศผู้ยาว 4.5-7.0 เซนติเมตรและ เกสรเพศเมยี ยาว 2 เซนตเิ มตร อยู่บนตน้ เดยี วกนั มใี บประดับ 6-8 ใบ ผล : เริ่มติดผลในช่วงฤดูหนาว การตดิ ผลขึ้นอยู่กบั ชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู ภาพท่ี 26 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris axialis (Li, 1984)
27 สัตฤาษี (ตนี ฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนท่ีสูง 2.2.15 Paris forrestii (Takhtajan) มีถ่ินกาเนดิ ในมณฑลยูนนานประเทศจีน และประเทศเมียนมาร์ ในสภาพพื้นท่ีปา่ ท่ีมีความสูงจากระดับน้าทะเลปาน กลางประมาณ 1,900-3,500 เมตร ต้นสูงประมาณ 18-100 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 2.0 ถึง 4.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 20-40 เซนติเมตร กลีบดอกสีเหลืองอมน้าตาล ออกดอกช่วงเดือนเมษายนถึงเดือน มถิ นุ ายน ติดเมล็ดช่วงเดือนกรกฎาคมถงึ เดือนสิงหาคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li, 1984) ใบ: ใบประกอบขนาด 6.5-16 x 2.4-6.5 เซนติเมตร ใบรปู รี (elliptic) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) มีจานวนใบ 4-5 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดรู อ้ น และฤดูใบไม้ร่วง ดอกแบบสมบูรณ์เพศมเี กสรเพศผ้ยู าว 2.5-6.5 เซนตเิ มตรและ เกสรเพศเมียยาว 2.5-3.0 เซนติเมตร อยบู่ นต้นเดียวกนั มีใบประดับ 6-8 ใบ ผล : เรมิ่ ติดผลในช่วงฤดูหนาว การติดผลข้ึนอย่กู ับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล ภาพที่ 27 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris forrestii (Takhtajan) (Li, 1984)
28 สัตฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนทีส่ งู 2.2.16 Paris vaniotii มีถ่ินกาเนิดในประเทศจีนแถบมณฑลยูนนาน และเมียนมาร์ ในสภาพป่าที่มีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง ประมาณ 1,000-1,800 เมตร ตน้ สงู ประมาณ 30-50 เซนตเิ มตร เหง้ามีความหนาประมาณ 3 ถึง 35 เซนติเมตร ก้าน ช่อดอกยาว 10-15 เซนติเมตร กลีบดอกสเี หลอื งอมนา้ ตาล ออกดอกชว่ งเดอื นมถิ นุ ายน ตดิ เมล็ดช่วงเดอื นสิงหาคมถึง เดือนกนั ยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Leveille, 1906) ใบ: ใบขนาด 7.5-14 x 2.5-5.5 เซนตเิ มตร ใบรูปรี (elliptic) ขอบใบเปน็ คลนื่ (undulate) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) มจี านวนใบ 5-6 ใบ ดอก : ออกดอกในช่วงฤดรู อ้ น และฤดูใบไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมีเกสรเพศผยู้ าว 3.5-4.5 เซนติเมตรแล เกสรเพศเมยี ยาว 2.5-3.0 เซนติเมตร อยบู่ นตน้ เดียวกนั มีใบประดับ 6-8 ใบ ผล : เรม่ิ ตดิ ผลในช่วงฤดูหนาว การติดผลขึ้นอยู่กับชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู ภาพที่ 28 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris vaniotii (Leveille, 1906)
29 สตั ฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมุนไพรศักยภาพบนท่สี งู 2.2.17 Paris rugosa มถี ิ่นกาเนิดในมณฑลยนู นานประเทศจีน ในสภาพป่า 1,500-1,700 เมตร ต้นสูงประมาณ 50-70 เซนตเิ มตร เหง้ามี ความหนาประมาณ 3 ถึง 4 เซนตเิ มตร ก้านช่อดอกยาว 9-25 เซนติเมตร กลีบดอกสีเหลืองอมน้าตาล ออกดอกช่วง เดอื นมิถนุ ายน ติดเมลด็ ชว่ งเดือนสิงหาคมถึงเดอื นกันยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li, 1992) ใบ: ใบขนาด 10-15 x 6.3-10 เซนตเิ มตร ใบรปู ไข่กลับ (obovate) ขอบใบเปน็ คลนื่ (undulate) ปลายใบเรียว แหลม (acuminate) มจี านวนใบ 4-5 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดูใบไมร้ ่วง ดอกแบบสมบรู ณเ์ พศมเี กสรเพศผู้ยาว 1.7-3.5 เซนตเิ มตรและ เกสรเพศเมียยาว 1.0 เซนติเมตร อยูบ่ นต้นเดียวกนั มีใบประดับ 6-8 ใบ ผล : เร่มิ ติดผลในช่วงฤดูหนาว การตดิ ผลขน้ึ อยู่กับชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล ภาพที่ 29 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris rugosa (Li, 1992)
30 สัตฤาษี (ตีนฮุง้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนท่สี ูง 2.2.18 Paris dulongensis มถี ิ่นกาเนดิ ในมณฑลยนู นานประเทศจีน ในสภาพป่าท่ีมีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,500-1,600 เมตร ต้นสูงประมาณ 50-115 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 2.5 ถึง 4.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 35 เซนตเิ มตร กลีบดอกสีเหลืองอมนา้ ตาลออก ดอกช่วงเดอื นมิถุนายน ติดเมลด็ ชว่ งเดอื นสงิ หาคมถงึ เดือนกนั ยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li and Kurita, 1992) ใบ: ใบขนาด 25 x 9.0 เซนติเมตร ใบรูปหอกกลับ (oblanceolate) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรียว แหลม (acuminate) มจี านวนใบ 9-10 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดรู ้อน และฤดใู บไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมเี กสรเพศผูย้ าว 3.5 เซนตเิ มตรและ เกสรเพศเมียยาว 1.5-2.0 เซนตเิ มตร อย่บู นต้นเดยี วกัน มีใบประดับ 6-8 ใบ ผล : เร่มิ ติดผลในช่วงฤดหู นาว การตดิ ผลขน้ึ อยกู่ บั ชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล ภาพที่ 30 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris dulongensis (Li and Kurita, 1992)
31 สัตฤาษี (ตีนฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนที่สูง 2.2.19 Paris verticillata มีถิ่นกาเนิดในไซบีเรีย จีน เกาหลี และญ่ีปุ่นในสภาพป่าท่ีมีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,100- 3,600 เมตร ต้นสูงประมาณ 25-60 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 3-5 เซนตเิ มตร ก้านช่อดอกยาว 4.5-12 เซนติเมตร กลบี ดอกสีเหลืองอมน้าตาล ออกดอกช่วงเดือนมถิ ุนายนถึงเดือนกรกฎาคม ติดเมลด็ ช่วงเดอื นสิงหาคมถึง เดือนกนั ยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10, 15 และ 20 (Hoang et al., 2014) ใบ: ใบขนาด 7-15 x 1.5-5.0 เซนติเมตร ใบรูปหอกกลับ (oblanceolate) ขอบใบเปน็ คล่ืน (undulate) ปลายใบ เรยี วแหลม (acuminate) มจี านวนใบ 6-8 ใบ ดอก : ออกดอกในช่วงฤดรู อ้ น และฤดูใบไม้รว่ ง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศ มเี กสรเพศผู้ยาว 3.5 เซนตเิ มตรและ เกสรเพศเมยี ยาว 2.0-2.5 เซนติเมตร อย่บู นตน้ เดยี วกนั มีใบประดบั 8 ใบ ผล : เรมิ่ ติดผลในชว่ งฤดูหนาว การติดผลขึ้นอยกู่ บั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู ภาพที่ 31 ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris verticillata (Hoang et al., 2014)
32 สตั ฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนทสี่ ูง 2.2.20 Paris bashanensis มีถ่ินกาเนิดในประเทศจีน ในสภาพป่าท่ีมีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,400-4,300 เมตร ต้นสูง ประมาณ 25-45 เซนตเิ มตร เหง้ามีความหนาประมาณ 2-4 เซนตเิ มตร ก้านช่อดอกยาว 15-20 เซนติเมตร กลีบดอก สีเหลอื งอมน้าตาล ออกดอกชว่ งเดือนพฤษภาคมถึงเดอื นกรกฎาคม ติดเมล็ดช่วงเดอื นสิงหาคมถงึ เดอื นกนั ยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Wang and Tang, 1978) ใบ: ใบขนาด 4.9 x 2.0-3.5 เซนติเมตร ใบรูปรี (elliptic) ขอบใบเป็นคล่ืน (undulate) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) มีจานวนใบ 6-8 ใบ ดอก : ออกดอกในช่วงฤดรู ้อน และฤดใู บไมร้ ว่ ง ดอกแบบสมบรู ณ์เพศ มเี กสรเพศผู้ยาว 1.6-3.4 เซนติเมตรและ เกสรเพศเมยี ยาว 0.5-1.5 เซนตเิ มตร อยู่บนต้นเดยี วกัน มใี บประดับ 6-7 ใบ ผล : เริ่มตดิ ผลในช่วงฤดหู นาว การติดผลข้นึ อยู่กับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล ภาพที่ 32 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris bashanensis (Wang and Tang, 1978)
33 สตั ฤาษี (ตีนฮ้งุ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนทส่ี ูง 2.2.21 Paris quadrifolia Linnaeus มีถน่ิ กาเนดิ ใน มองโกเลยี รสั เซีย และยุโรป ในสภาพป่า 1,400-4,300 เมตร ตน้ สูงประมาณ 25-40 เซนติเมตร เหง้า มีความหนาประมาณ 2 ถงึ 5 เซนติเมตร กา้ นช่อดอกยาว 7-10 เซนตเิ มตร กลบี ดอกสีเหลืองอมน้าตาลออก ดอกชว่ ง เดือนพฤษภาคมถงึ เดอื นกรกฎาคม ตดิ เมล็ดช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดอื นกนั ยายน จานวนโครโมโซม 2n = 15, 20, 25, 30 (Jacquemynt et al., 2008) ใ บ : ใ บ ข น า ด 5-10 x 2.5-5.0 เ ซ น ติ เ ม ต ร ใ บ รู ป รี แ ก ม ไ ข่ ( elliptic-ovate) ข อ บ ใ บ เ รี ย บ ( entire) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) มีจานวนใบ 4-5 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูรอ้ น และฤดใู บไมร้ ว่ ง ดอกแบบสมบูรณ์เพศมีเกสรเพศผยู้ าว 1.5-3.0 เซนติเมตรและ เกสรเพศเมยี ยาว 0.5-1.0 เซนตเิ มตร อยบู่ นต้นเดียวกนั มีใบประดับ 6-7 ใบ ผล : เริ่มติดผลในชว่ งฤดหู นาว การตดิ ผลข้ึนอยูก่ ับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซลู ภาพที่ 33 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris quadrifolia Linnaeus (Jacquemynt et al., 2008)
34 สตั ฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศักยภาพบนทสี่ งู 2.2.22 Paris Japonica มีถ่ินกาเนิดในบางภูมิภาคของญ่ีปุ่น เป็นพืชสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่อยู่ในวงศ์ Melanthiaceae ลาต้นเหนือดิน เจริญเติบโตได้ช้า ออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคม ดอกมีลักษณะคล้ายดาวมีสีขาวหาได้ยาก และมีลักษณะเด่นอยู่ เหนอื วงใบ มปี ระดับประมาณ 8 ใบ ชอบสถานทเี่ ย็นและสภาพแสงราไร (Yang et al., 2019) ใบ : ใบขนาด 5-15 x 2.5-5.5 เซนติเมตร มีใบรปู รี (elliptic) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) ดอก : ดอกเปน็ ดอกประดับมกี ลบี ดอก 8-10 กลีบ มสี ขี าว ดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตวั ผ้แู ละเกสรตัวเมียอย่บู น ตน้ เดียวกนั เกสรตวั ผูย้ าว 1.5-3.0 เซนตเิ มตร เกสรตัวเมยี ยาว 0.5-1.0 เซนตเิ มตร มีใบประดบั 7-8 ใบ ผล : ผลแบบแคปซูล การติดผลในช่วงฤดหู นาว ข้ึนอยู่กบั สภาพแวดลอ้ มและสภาพอากาศท่ีเยน็ เป็นตวั กระตนุ้ ภาพท่ี 34 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris Japonica (Yang et al., 2019)
35 สัตฤาษี (ตีนฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนทส่ี ูง 2.2.23 Paris polyphylla Smith มีถิ่นกาเนิดแถบประเทศ ภูฎาน อินเดีย ลาว เมียนมาร์ เนปาล ไทย และเวียดนาม แถบป่าดิบช้ืนท่ีความสูงจาก ระดับนา้ ทะเลปานกลางประมาณ 1,000-3,500 เมตร ตน้ สูงประมาณ 100 เซนติเมตร เหง้ามคี วามหนาประมาณ 0.1 ถึง 2.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 65 เซนติเมตร กลบี ดอกสีเขียวอมเหลอื ง ออกดอกชว่ งเดอื นมิถนุ ายน ติดผลชว่ ง เดือนสงิ หาคมถงึ เดอื นตลุ าคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Madhu et al., 2010) ใบ: ใบขนาด 10-15 x 4-6 เซนตเิ มตร ใบรปู รี (elliptic) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) ดอก : ออกดอกในช่วงฤดรู ้อน และฤดูใบไมร้ ่วง ดอกแบบสมบรู ณเ์ พศมีเกสรเพศผู้ยาว 8-12 เซนติเมตร และ เกสรเพศเมยี ยาว 2-3 เซนตเิ มตร อย่บู นต้นเดยี วกนั มีใบประดบั 4 ใบ ผล : เริ่มติดผลในช่วงฤดหู นาว การติดผลข้ึนอยกู่ ับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมีความยาวเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร เมลด็ จะถูกห่อห้มุ ด้วยเปลือกสสี ้มขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร ภาพท่ี 35 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris polyphylla Smith (Madhu et al., 2010)
36 สัตฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมุนไพรศักยภาพบนทส่ี ูง สาหรบั สายพันธข์ุ อง Paris Polyphylla มีท่ังหมด 11 สายพันธด์ุ งั น้ี 2.2.23.1 Paris polyphylla var. alba มีถ่ินกาเนิดในประเทศจีนแถบมณฑลกุ้ยโจว มณฑลหูเป่ย มณฑลยูนนาน ในสภาพป่าทีม่ ีความสูงจากระดับนา้ ทะเล ปานกลางประมาณ 1,500-2,900 เมตร ตน้ สูงประมาณ 100 เซนติเมตร เหงา้ มคี วามหนาประมาณ 2 ถึง 5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 60-140 เซนติเมตร กลีบดอกสีเหลือง ออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ติดผลช่วงเดือน ตุลาคมถงึ เดือนพฤศจกิ ายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Li and Mitchell, 1986) ใบ: ใบขนาด 10-15 x 6-8 เซนตเิ มตร ใบรูปหอก (lanceolate) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) มีจานวนใบ 7-8 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดรู อ้ น และฤดูใบไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณ์เพศมีเกสรเพศผู้ยาว 1.5-2.0 เซนติเมตร และเกสรเพศเมยี ยาว 1.0-1.5 เซนติเมตร อยบู่ นต้นเดยี วกัน มีใบประดับ 6-8 ใบ ผล : เร่ิมติดผลในชว่ งฤดหู นาว การติดผลข้ึนอยู่กับชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมีความยาวเส้นผา่ ศูนย์กลาง ประมาณ 4 เซนติเมตร เมล็ดจะถูกห่อหุม้ ด้วยเปลอื กสสี ้มขนาดประมาณ 4-5 มลิ ลิเมตร ภาพที่ 36 ลักษณะทางสณั ฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. alba (Li and Mitchell, 1986)
37 สัตฤาษี (ตนี ฮุ้งดอย) สมนุ ไพรศกั ยภาพบนท่ีสงู 2.2.23.2 Paris polyphylla var. chinensis มีถ่ินกาเนิดในประเทศจีนแถบมณฑลกุ้ยโจว หูเป่ย ยูนนาน นานเจียง ซูเจียง เสฉวน ไต้หวัน ประเทศลาว ประเทศ เมียนมาร์ ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม ในสภาพป่าทึบ 2,800-3,000 เมตร ต้นสูงประมาณ 40-130 เซนตเิ มตร เหง้ามีความหนาประมาณ 2 ถงึ 5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 60 เซนตเิ มตร กลีบดอกสีเหลอื งออกดอก ช่วงเดอื นมนี าคมถึงเดอื นเมษายน ตดิ ผลช่วงเดือนตุลาคมถึงเดอื นพฤศจกิ ายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Hara, 1969) ใบ: ใบขนาด 10-18 x 3-9 เซนตเิ มตร ใบรูปไขข่ อบขนาน (ovate-oblong) ขอบใบเปน็ คลน่ื (undulate) ปลายใบเรียวแหลม (acuminate) มีจานวนใบ 7-8 ใบ ดอก : ออกดอกในช่วงฤดรู อ้ น และฤดูใบไมร้ ว่ ง ดอกแบบสมบรู ณ์เพศมีเกสรเพศผู้ยาว 5-6 เซนติเมตร และเกสรเพศเมยี ยาว 1.0-1.2 เซนตเิ มตร อยบู่ นต้นเดียวกัน มีใบประดบั 7-8 ใบ ผล : เริม่ ตดิ ผลในช่วงฤดูหนาว การติดผลข้ึนอยู่กบั ช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมคี วามยาวเส้นผา่ น ศนู ยก์ ลางประมาณ 4 เซนติเมตร เมลด็ จะถูกหอ่ ห้มุ ดว้ ยเปลอื กสีส้มขนาดประมาณ 3-4 มลิ ลิเมตร ภาพที่ 37 ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris polyphylla var. chinensis (Hara, 1969)
38 สตั ฤาษี (ตีนฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศกั ยภาพบนที่สงู 2.2.23.3 Paris polyphylla var. emeiensis มีถิ่นกาเนิดในประเทศจีนแถบมณฑลเสฉวน ในสภาพป่าทึบท่ีมีความสูงจากระดบั นา้ ทะเลปานกลางประมาณ 1,900 เมตร ต้นสูงประมาณ 40-130 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 2 ถึง 5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 60 เซนตเิ มตร กลีบดอกสเี หลอื ง ออกดอกชว่ งเดอื นมีนาคมถงึ เดอื นเมษายน ติดผลช่วงเดอื นตุลาคมถึงเดอื นพฤศจกิ ายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Min et al., 2020) ใบ: ใบขนาด 5-10 x 1.5-2.5 เซนติเมตร ใบรปู รี (elliptic) ขอบใบเปน็ คลนื่ (undulate) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) มีจานวนใบ 7-8 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดใู บไม้รว่ ง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมเี กสรเพศผยู้ าว 0.8-1.5 เซนติเมตร และเกสรเพศเมยี ยาว 0.5-1.2 เซนตเิ มตร อยู่บนต้นเดียวกัน มีใบประดับ 7-8 ใบ ผล : เริ่มติดผลในช่วงฤดหู นาว การติดผลข้ึนอยู่กับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมีความยาวเส้นผา่ ศูนย์กลาง ประมาณ 4 เซนตเิ มตร เมล็ดจะถกู ห่อหุ้มดว้ ยเปลอื กสีสม้ ภาพที่ 38 ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยาของ Paris polyphylla var. emeiensis (Min et al., 2020)
39 สตั ฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมุนไพรศักยภาพบนท่สี งู 2.2.23.4 Paris polyphylla var. kwantungensis มีถ่ินกาเนิดในจีนจนถึงประเทศเวียดนามในสภาพป่าทึบท่ีมีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 1,900- 2,500 เมตร ตน้ สูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 1.0 ถึง 1.5 เซนติเมตร ก้านชอ่ ดอกยาว 50-70 เซนตเิ มตร กลีบดอกสีเหลอื ง ออกดอกชว่ งเดอื นมนี าคมถึงเดอื นพฤษภาคม ติดผลช่วงเดอื นเดอื นกันยายน จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Miao and Yun, 1995) ใบ: ใบขนาด 10-15 x 5-6 เซนติเมตร ใบรูปรี (elliptic) ขอบใบเรยี บ (entire) ปลายใบเรยี วแหลม (acuminate) มจี านวนใบ 7-8 ใบ ดอก : ออกดอกในช่วงฤดูร้อน และฤดูใบไมร้ ่วง ดอกแบบสมบรู ณเ์ พศมีเกสรเพศผู้ยาว 1.5-2.0 เซนติเมตร และ เกสรเพศเมยี ยาว 0.5-1.0 เซนติเมตร อยบู่ นต้นเดยี วกนั มใี บประดับ 7-8 ใบ ผล : เร่ิมติดผลในช่วงฤดหู นาว การตดิ ผลข้นึ อยกู่ ับชว่ งแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูลมี เมล็ดจะถกู หอ่ ห้มุ ด้วยเปลอื กสีส้ม ภาพที่ 39 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. kwantungensis (Miao and Yun, 1995)
40 สัตฤาษี (ตนี ฮงุ้ ดอย) สมนุ ไพรศกั ยภาพบนทส่ี งู 2.2.23.5 Paris polyphylla var. latifolia มีถิ่นกาเนิดในจีนจนถึงประเทศเวียดนามในสภาพป่าทึบที่มีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ 2,300- 3,000 เมตร ต้นสูงประมาณ 50-55 เซนติเมตร เหง้ามีความหนาประมาณ 1.0 ถึง 1.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 30-45 เซนตเิ มตร กลบี ดอกสเี หลืองออกดอกชว่ งเดอื นมนี าคม ติดผลชว่ งเดือนเดอื นสงิ หาคม จานวนโครโมโซม 2n = 10 (Mostaph and Uddin, 2013) ใบ: ใบขนาด 10-15 x 2.5-6.0 เซนตเิ มตร ใบรปู หอก (lanceolate) ขอบใบเปน็ คลน่ื (undulate) ปลายใบเรียว แหลม (acuminate) มีจานวนใบ 8-13 ใบ ดอก : ออกดอกในชว่ งฤดูร้อน และฤดใู บไมร้ ่วง ดอกแบบสมบูรณเ์ พศมเี กสรเพศผู้ยาว 1.5-2.5 เซนตเิ มตร และเกสรเพศเมียยาว 0.5-1.0 เซนตเิ มตร อยู่บนตน้ เดยี วกัน มใี บประดบั 5-6 ใบ ผล : เร่ิมตดิ ผลในช่วงฤดูหนาว การตดิ ผลขึน้ อยกู่ ับช่วงแสงในธรรมชาติ ผลแบบแคปซูล เมลด็ จะถูกห่อหมุ้ ด้วยเปลือกสีสม้ ภาพที่ 40 ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของ Paris polyphylla var. latifolia (Mostaph and Uddin, 2013)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111