ภูมิศาสตร์ (Geography) 8
ภมู ศิ าสตร์ 9 ๑. เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ ๒. ลักษณะทางกายภาพของโลก ๓. ทรัพยากรธรรมชาติ ๔. ภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาติ ๕. การเปล่ยี นแปลงภูมิอากาศ ๖. วิกฤตการณด์ า้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๗. ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพกบั กจิ กรรมของมนษุ ย์ ๘. มาตรการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
๑ เคร่อื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ แผนท่ี สิ่งทแ่ี สดงถึงลกั ษณะของพนื้ ผวิ โลก หรอื สิ่งทปี่ รากฏบนพืน้ โลกทั้งทเ่ี กดิ ข้ึนเองโดยธรรมชาติ และสง่ิ ท่ีมนุษย์สร้างขึน้ มกี ารย่อสว่ นข้อมูลเหลา่ นั้นลงบนวัตถุที่มีผิวเรยี บ และมีการแทน ลักษณะของข้อมลู เหล่านนั้ ด้วยสญั ลักษณ์ ประเภทของแผนที่ แผนทภี่ มู ิประเทศ แผนท่ภี ูมิประเทศ แผนทท่ี แ่ี สดงรายละเอียดของ แผนท่ีเฉพาะเรือ่ ง ภมู ิประเทศ ทง้ั แนวราบและแนวดิ่ง หรอื อาจแสดงให้เห็นเปน็ ๓ มิติ องค์ประกอบของแผนท่ี 10
ภมู ศิ าสตร์ 11 แผนทีเ่ ฉพาะเรือ่ ง แผนทท่ี ส่ี รา้ งขน้ึ จากแผนทพ่ี น้ื ฐานเพื่อแสดงรายละเอียดเฉพาะอย่าง ประเภทแผนที่เฉพาะเร่อื ง แผนที่แสดงดว้ ยจุด แผนทแี่ สดงดว้ ยเส้น ๑) แผนทจี่ ุด : แสดงต�าแหนง่ ทต่ี ้ัง ๑) แผนทีเ่ ส้น : แสดงโครงขา่ ยของข้อมลู และการกระจายหรือมลู ค่าของข้อมูล แผนทีก่ ารกระจายประชากร แผนท่เี สน ทางการบิน ภายในประเทศ ๒) แผนทสี่ ญั ลักษณ์สดั ส่วน : แสดงข้อมลู เชิงปริมาณด้วยจุดท่มี ีขนาดทแ่ี ตกต่างกนั ๒) แผนที่ไหลเวยี น : แสดงข้อมลู เชิงปริมาณ ด้วยเส้นที่มจี ดุ เร่มิ ต้นและจดุ สิ้นสุด แผนที่จํานวนประชากรของเมอื งระดบั โลก แผนท่ีการคาทาสขา มมหาสมทุ รแอตแลนตกิ แผนท่ีแสดงดว้ ยพ้ืนที่ ๑) แสดงต�าแหนง่ ทีต่ งั้ และการกระจายของขอ้ มลู ๒) แสดงขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณท่มี กี ารแบง่ ชน้ั บนพนื้ ท่ี ทางกายภาพเพียงชนิดเดียว แผนทเี่ ขตภมู ิอากาศ แผนทจ่ี ํานวนผใู ช Facebook
รูปถ่ายทางอากาศ คอื รูปถ่ายของลักษณะภูมปิ ระเทศพน้ื ผวิ โลกจากการถา่ ยรูปในระยะไกล ดว้ ยกล้องถา่ ยรูปท่ตี ดิ กับเครอ่ื งบินในการถา่ ยภาพ แบง่ ได้เปน ๓ ประเภท ประเภทของรปู ถา่ ยทางอากาศ รูปถา่ ยแนวด่ิง รปู ถ่ายเฉียงต่�า รูปถ่ายเฉียงสูง • ไดจ้ ากกลอ้ งถา่ ยรูปทต่ี ดิ ต้ัง • ก�าหนดให้แกนกลอ้ งท�ามุมกับ • ก�าหนดใหแ้ กนกลอ้ งทา� มุมกบั ใหแ้ นวแกนกล้องถา่ ยรูป แนวดงิ่ แนวดงิ่ โดยมีมมุ เอียงที่มาก ขนานกับแนวดิ่ง • ไมป่ รากฏแนวขอบฟ้าบนรปู ถา่ ย • ปรากฏแนวขอบฟ้าบนรปู ถ่าย • นยิ มใช้อย่างกวา้ งขวาง เช่น งานรังวัดจากรูปถ่าย และงานแปลความหมาย ในกิจการต่างๆ ตวั อยางภาพจากดาวเทียม ภาพถา่ ยช่วงคลน่ื ตามองเห็น และอนิ ฟราเรดใกล้ ภดาาวพเจทาียกม ภาพถ่าย ช่วงคล่ืน คอื ภาพเชิงเลข อนิ ฟราเรด ทแ่ี สดงข้อมูลพ้นื ผวิ ความร้อน ภมู ปิ ระเทศ ดว้ ยเทคนคิ ภาพถ่ายชว่ งคลน่ื ไมโครเวฟ การรับรูจ้ ากระยะไกล โดยอาศยั ดาวเทียม ในการบันทกึ ข้อมลู เพอื่ การส�ารวจ ทรัพยากรธรรมชาติ 12
ภมู ิศาสตร์ 13 เทคโนโลยีภมู ิสารสนเทศ บุคลากร ซอฟตแ์ วร์ GIS ขอ้ มลู ฮาร์ดแวร์ วิธกี าร การบูรณาการความร้แู ละเทคโนโลยีทางด้าน ระบบข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมโยงกับ การรับรู้จากระยะไกล (Remote Sensing [RS]) คา่ พกิ ดั ภมู ศิ าสตรแ์ ละรายละเอยี ดของ ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ (Geographic Information วตั ถบุ นพน้ื โลก โดยใชค้ อมพิวเตอร์ท่ี System [GIS]) และระบบดาวเทยี มน�าหนของโลก ประกอบดว้ ยฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ (Global Navigation Satellite System [GNSS]) เพ่อื การนา� เขา้ จัดเก็บ ปรับแก้ แปลง เพื่อประยุกต์ใชง้ านในด้านตา่ งๆ ให้เปน็ ไปอย่าง วิเคราะห์ข้อมูล และแสดงผลลัพธ์ใน มีประสทิ ธภิ าพ รปู แบบต่างๆ การรบั ร้จู ากระยะไกล (RS) ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ (GIS) ระบบดาวเทยี มนา� หนของโลก (GNSS) วิทยาศาสตร์และศิลปะของการ เทคโนโลยีในการก�าหนดต�าแหน่งและน�าหนบนพื้นโลกโดย ไดม้ าซงึ่ ขอ้ มูล เกี่ยวกบั วตั ถุ พน้ื ที่ อาศัยดาวเทยี ม สถานีภาคพ้ืนดิน และเคร่ืองรบั สญั ญาณ หรือปรากฏการณ์ จากเคร่ืองมือ บันทึกข้อมูล โดยปราศจากการ เข้าไปสัมผัสวัตถุเป้าหมายแต่ใช้ คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสื่อในการ ได้มาของข้อมูล
๒ลักษณะทางกายภาพของโลก ธรณภี าค โครงสร้างภายในโลก หเปนาล0ือ-1ก00โลกมก. ฐานธรณภี าค ธรณภี าค (เปลือกโลกและ แก่นโลก เนอ้ื โลกส่วนบน) เ ื้นอโลก เนอ้ื โลก 2,900 กม. แกน่ โลกชนั้ นอก 5,100 กม. liquid แกน่ โลกชนั้ ใน solid 6,378 กม. แผ่นเปลือกโลกหลกั พน้ื สมุทร และพนื้ ทวีป ๑๕ แผน่ N การเคลอื่ นที่ของแผนอินเดยี เขาหาแผน ยเู รเซีย Ocean ridge การเคลือ่ นทข่ี องแผนเปลอื กโลกเขาหากัน N 14
ภมู ิศาสตร์ 15 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของโลก ที่ราบดนิ ดอนสามเหลย่ี ม ทีร่ าบน�้าทว่ มถงึ ทร่ี าบสงู ระหวา่ งเขา ท่ีราบลุ่ม ท่รี าบสงู ภูเขาสูงปานกลาง ทีร่ าบ ภูเขา ภูเขาสูง ทะเลทราย ภเู ขาไฟ ภูเขาหินคดโคง้ ชายฝง ยกตวั ชายฝง จมตัว เกาะปะการัง
อุทกภาค วฏั จกั รนา้� กระแสน้�าในมหาสมทุ ร Warm Cold กระแสน้�าในมหาสมุทรเป็นการเคล่ือนท่ีของ กระแสนา�้ ในมหาสมทุ รอาจไหลเปน็ ระยะทาง นา�้ ในมหาสมทุ รทคี่ อ่ นขา้ งถาวร ตอ่ เนอื่ ง และมที ศิ ทาง หลายพันกิโลเมตร และมีส่วนก�าหนดภูมิอากาศของ ซึ่งเกิดจากการหมุนรอบตัวเองของโลก ลมประจ�า ทวีปโดยเฉพาะอุณหภูมิ ในซีกโลกเหนือกระแสน้�า ความแตกต่างของความร้อนท่ีได้รับจากดวงอาทิตย์ ไหลเวยี นตามเขม็ นาฬกิ า สว่ นในซกี โลกใตไ้ หลทวนเขม็ ความเคม็ และความหนาแน่นของน้า� นาฬกิ า 16
บรรยากาศภาค ภมู ิศาสตร์ 17 สว่ นประกอบของบรรยากาศ ระบบลมบนพน้ื โลก สมั พนั ธ์กบั แนวความกดอากาศจากเส้นศูนย์สตู ร ไปยงั ขัว้ โลกเหนอื และขว้ั โลกใต้ Ni7tr8o%gen O20xy.9g%en Arg0o.9n0g%ases Ot0h.e1r7g%ases ชนั้ บรรยากาศ Carb0o.n03d%ioxide เขตละติจูดตามปจ จัยของภมู ิอากาศ PLarotiptuodrteio; nscaallteo area: LaSNAtiurotcubrttdaihcretpizcoolnaer s: Arctic Circle North Pole Midlatitude Subtropical โทรโพสเฟียร์ เป็นช้ันที่ติดกับพ้ืนผิวโลก มีความ Tropic of Cancer 23 ½ Tropical หนาแน่นมาก อุณหภูมิของอากาศลดลงตาม Equator ความสูงของพ้ืนที่ มีความสมั พันธก์ ับโลกมากทีส่ ุด Equatorial โดยเฉพาะดา้ นอุตุนิยมวิทยา Tropic of Capricorn 23 ½ Tropical CAinrctalerctic South Pole Subtropical Midlatitude SASounubtatahrncttpaicorclatirc
เขตภมู อิ ากาศของโลก • เขตภูมอิ ากาศจา� แนกโดยใช้ขอ้ มลู ค่าเฉล่ียอุณหภูมแิ ละหยาดนา้� ฟา้ • ภมู ิอากาศแตกต่างกันตามละตจิ ดู ลกั ษณะภูมิประเทศ ระยะใกล้ไกลจากทะเล และกระแสนา�้ เขตภมู อิ ากาศของโลกจัดตาม เคปิ เพิน-ไกเกอร์ A ภมู ิอากาศช้นื แบบศนู ยส์ ูตร C ภมู อิ ากาศอบอ่นุ ชื้น a = ฤดูร้อนร้อน E ภมู ิอากาศหนาวแบบขั้วโลก ไม่มฤี ดูแล้ง ไมม่ ฤี ดแู ล้ง b = ฤดรู อ้ นเยน็ สบาย ทุนดราและน�้าแขง็ ฤดูแลง้ สน้ั ฤดแู ล้งสั้น c = ฤดูร้อนส้นั และเยน็ สบาย ฤดูหนาวแหง้ แล้ง ฤดูหนาวแห้ง d = ฤดหู นาวหนาวจดั H ภูมิอากาศแบบท่ีสูง ที่สูงทั่วไป B ภูมิอากาศแหง้ แล้ง D ภูมิอากาศหนาวชืน้ กง่ึ แลง้ h = รอ้ น ไมม่ ฤี ดูแลง้ ดดั แปลงจาก H.J. de Blij, P.O. Muller, and John Wiley & Sons, Inc., 2012 แลง้ k = หนาว ฤดหู นาวแหง้ Aw Cfa Cfb Cs BWh กราฟภูมิอากาศ (climograph) แสดงความสมั พนั ธข์ ององค์ประกอบภมู ิอากาศ เส้นกราฟแสดงอุณหภูมิ เฉลี่ยรายเดอื น กราฟแท่งแสดงปรมิ าณฝนเฉลีย่ รายเดือน 18
ชีวภาค ภมู ิศาสตร์ 19 ชวี นิเวศ (biome) คือ พ้ืนท่ีทมี่ ภี มู ิอากาศ ลักษณะทางกายภาพ ปา่ ฝนเขตรอ้ น (tropical rainforest) และลักษณะของกลมุ่ สง่ิ มีชีวิต (พชื และสัตว์) ทคี่ ล้ายคลงึ กัน ปา่ สน (taiga) ปา่ ไมพ้ ุ่มเตยี้ (chaparral) เสน้ ศูนย์สตู ร ป่าฝนเขตร้อน ทุ่งหญ้าเขตอบอนุ่ ภเู ขาสูง ทงุ่ หญา้ สะวันนา ปา่ ไมใ้ บกวา้ งเขตอบอุ่น เขตน�า้ แขง็ ขั้วโลก ทะเลทราย ป่าสน ปา่ ไม้พุ่มเต้ยี ทนุ ดรา แผนท่ีเขตชวี นเิ วศ ทะเลทราย (desert) ทุ่งหญ้าสะวนั นา (savanna) ทงุ่ หญา้ เขตอบอนุ่ (steppe)
๓ ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ มีประโยชน์ และสามารถตอบสนองต่อความต้องการ ในการด�ำรงชีวิตของมนุษย์ได้ ทรพั ยากรทดแทนได้ ทรัพยากรทดแทนไม่ได้ เปน็ ทรพั ยากรท่ีเกดิ ขึน้ ทดแทนไดท้ นั ใชแ้ ลว้ หมดไปหรือเกดิ ขึ้นใหม่ได้ชา้ จนทำ� ให้ กับการใชข้ องมนษุ ย์ เชน่ นำ�้ ดิน ปา่ ไม้ ไมเ่ พียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ เชน่ เชื้อเพลิงฟอสซิล แร่ ทรพั ยากรนำ้� ทธทรรส่ีรพั มำ� ยคชาญัากตริ ส�ำคัญตอ่ การดำ� รงชวี ิตของมนุษย์ แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท น�้ำผิวดิน เกดิ จากหยาดนำ้� ฟ้า หรอื น�ำ้ ในบรรยากาศ และไหลบา่ หรอื อาจถูกกกั เกบ็ บนพนื้ ผิวของโลก ไดแ้ ก่ แมน่ ำ้� ล�ำธาร คลอง หนอง บึง ทะเลสาบ และพนื้ ที่ช่มุ นำ�้ น้�ำใตด้ นิ แทรกตวั อยใู่ นชอ่ งวา่ งใตผ้ ิวดินและชน้ั หนิ นำ้� ใตด้ ินทอี่ ยใู่ นเขตอิม่ นำ้� เรียกว่า “น�้ำบาดาล” ทรพั ยากรดนิ เกิดจากการแปรสภาพ และการผพุ งั ของหนิ และแร่ ผสมกบั อินทรียวตั ถุท่ีเน่าเป่อื ย เม่อื มีอากาศและ นำ้� ในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม ดินจะเปน็ แหล่งคำ้� จุนและ เปน็ แหลง่ อาหารทสี่ ำ� คัญของพชื 20
ภูมิศาสตร์ 21 ทรัพยากรปา่ ไม้ เปน็ แหล่งวตั ถดุ ิบของปจั จยั สี่ และรกั ษาสมดลุ ของส่งิ แวดล้อม • ป่าไม้เนอ้ื แขง็ เขตรอ้ น อยูใ่ กลเ้ ขตศูนยส์ ตู ร ไดร้ ับแสงแดดสม่ำ� เสมอ และมีปริมาณฝนตกชกุ อณุ หภมู ิสูงสม่ำ� เสมอ ๒๐ - ๓๕ องศาเซลเซียส • ป่าไม้เนอ้ื แข็งเขตอบอุน่ อยรู่ ะหวา่ งละตจิ ูด ๒๓ - ๕๘ องศาเหนือและใต้ • ป่าไมเ้ นื้อออ่ น อย่ตู ้งั แตล่ ะตจิ ูด ๕๘ องศาเหนือขึ้นไปถึงข้วั โลก ทรัพยากรแร่ เปน็ ธาตหุ รอื สารประกอบอนนิ ทรียท์ ่ีเกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ มีโครงสรา้ งและสว่ นประกอบท่แี นน่ อน มสี มบตั ติ ่างๆ เฉพาะตวั แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ แรป่ ระกอบหนิ กับแร่เศรษฐกจิ • แรโ่ ลหะ เช่น เหลก็ ดีบกุ ทองคำ� ตะก่ัว อะลูมเิ นียม • แรอ่ โลหะ เช่น ซิลกิ า ก�ำมะถนั หินเกลอื ไมกา ดนิ ขาว เช้อื เพลิงฟอสซลิ เป็นทรัพยากรพลังงานประเภททดแทนไม่ได้ เกดิ จากการทับถม และแปรสภาพของซากส่ิงมีชีวิตท้ังพืชและสัตว์ ได้แก่ น�้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถา่ นหนิ พลังงานทดแทน ใช้ทดแทนเชอ้ื เพลงิ ฟอสซิล • พลงั งานทางเลอื ก (alternative energy) เชน่ หนิ น้�ำมนั (oil shale) ทรายน้�ำมัน (tar sand) • พลงั งานหมนุ เวียน (renewable energy) ไดจ้ าก แสงอาทิตย์ น�ำ้ ลม คลืน่ และพลงั งานความรอ้ นใตพ้ ภิ พ องค์ประกอบทีส่ �ำคัญ ได้แก่ แร่ นำ�้ อากาศ และอินทรียวตั ถุที่เหมาะสม • ดนิ เหนียว มเี นอ้ื ละเอยี ด ยืดหยนุ่ สูงเมื่อเปยี กนำ้� อมุ้ นำ้� ไดด้ ี • ดนิ รว่ น มเี นอ้ื ค่อนขา้ งละเอยี ด ยดื หยุ่นพอควร ระบายน้�ำไดด้ ปี านกลาง • ดินทราย มีเนอื้ เกาะกันไม่แน่น ระบายนำ�้ และอากาศได้ดีมาก อุ้มน�ำ้ ได้น้อย
๔ ภยั พิบัตธิ รรมชาติ อันตรายหรือหายนะทีเ่ กดิ จากธรรมชาติ มีความรนุ แรง และกอ ใหเ กดิ ความเสียหายตอ ชวี ิตและทรัพยสิน ในพืน้ ท่ีต้ังแตร ะดบั ชุมชน ประเทศ หรอื ภูมิภาค เขตภยั พิบตั ิธรรมชาตปิ ระเภทตางๆ ของโลก azards เขตแผน ดนิ ไหว N atural Hเขตพายหุ มนุ เขตรอนเขตพายหุ มนุ นอกเขตรอ น เขตภเู ขาไฟปะทุ เขตทมี่ ีคลนื่ สงู มากกวา ๕ เมตร ชายฝง ท่ีเกดิ สึนามื และคลื่นพายซุ ัดฝง ภยั พิบัติดานธรณีภาค แผนดินไหวต้นื 0 - 70 กม. แผนดนิ ไหวลึกปานกลาง 70 – 300 กม. แผนดนิ ไหวลกึ มาก >300 กม. แผน ดนิ ไหว O(ccoenavnertgreenncceh) การสั่นสะเทอื นของแผน ดินบนพ้ืนผิวโลก รอยเลอื่ นมพี ลัง (active fault) S(Dmheaealpilnolewyatrehtahrruqthsutqafkuaeauskletisng) 22 จุดเหนอื ศนู ยแ ผนดินไหว (epicenter) ศนู ยเ กดิ แผนดนิ ไหว (focus)
ไฟไหม ภมู ศิ าสตร์ 23 การสั่นไหวของแผน ดิน ประเภทแผนดนิ ไหว (types of earthquake) ตามขนาดแผน ดินไหว earthquake ขนาดเล็กมาก (micro earthquake) มีขนาด ๐ – ๓.๐ ขนาดเลก็ (minor earthquake) มขี นาด ๓.๐ – ๓.๙ ขนาดเบา (light earthquake) มขี นาด ๔.๐ – ๔.๙ ขนาดปานกลาง (moderate earthquake) มขี นาด ๕.๐ – ๕.๙ ขนาดรนุ แรง (strong earthquake) มีขนาด ๖.๐ – ๖.๙ ขนาดรุนแรงมาก (major earthquake) มขี นาด ๗.๐ – ๗.๙ ขนาดใหญมาก (great earthquake) มีขนาด ๘.๐ และ > รอยแตกบนพนื้ ดนิ การทำใหดินเหลว แผน ดนิ ถลม สึนามิ
ภเู ขาไฟปะทุ การปะทุแบบพเิ นียน volcanic eruptionการปะทแุ บบสต รอมโบเลยี น ลกั ษณะท่ีแมกมาใตพ นื้ ผิวโลกแทรกดนั การปะทุแบ หรอื ปะทุขนึ้ มาตามรอยแยก แผน ธรณภี าค หรอื ปลองภูเขาไฟ จนพนพน้ื ผวิ แผน ดนิ ภเู ขาไฟ มีพลงั สว นใหญกระจายอยูบริเวณ ขอบแผน ธรณภี าค มีทง้ั ทีอ่ ยบู นแผน ดินทวีป เกาะ และใตม หาสมุทร บฮาวายเอียน ภัยพิบตั ิจากภเู ขาไฟปะทุ จะมผี ลกระทบ เกดิ ตามมาแตกตางกัน ขน้ึ อยกู ับขนาดความรุนแรง และลกั ษณะรปู แบบการปะทุ ของภเู ขาไฟแตล ะลูก ภยั พิบตั ิหลกั ทเ่ี กิดจาก ภูเขาไฟปะทุ ประกอบดว ย ฝนุ ภเู ขาไฟ CO2 เถา ธุลี กรวด และพัมมซิ หนิ ตะกอนภเู ขาไฟหลาก ทีฟรา (pyroclastic flow) กาซ (tephra) SO2 H2O แผนดนิ ถลม (gas) (landslide) บอมบภ เู ขาไฟ เ ้นือหาที่สามารถเ ิปดแอปพลิเคชันดูไ ้ด ฝนกรด ลาฮาร (lahar) ลาวาหลาก (lava flow) 24
ภมู ิศาสตร์ 25 การเคลือ่ นทขี่ องมวลวตั ถุ ของมวล วปตั ถระุ แเภตทกตกาางรกเคนั ลอ่ื นที่ เศษหิน ดนิ หรือหินฐาน เคลอื่ นท่ีตามความลาดชนั ภายใต อิทธิพลแรงดงึ ดดู ของโลก ตามความเร็ว แลกขสะาอภสรงเาภควพาลตั พแื่อถหมนใุ นงนี ทำ้ ี่ ในการเคล่อื นที่ เ ็รว ัอตราการเคลื่อน ่ที ชา สภาพแหง ประเภทการเคล่ือนทข่ี องมวลวัตถุ สภาพมนี ้ำ เ ็รว ชา กถาลรมเแคนลวื่อดนิ่ง ดินคบื การไหลลงของดนิ กหารรเอื ลกือ่ านรถเลลอื่ ม นหไมถนุล ดนิ ไหล หินพัง เศษหินดนิ ถลม โคลนไหล สภาพแหง สภาพมนี ้ำ mmoasvsement
tsunami ไมร ูสาเหตุ สึนามิ 10% การเกิดชดุ คล่ืนทกี่ อ ตัวเปนคล่ืนสงู เหมอื นกำแพงน้ำขนาดใหญ แผใตนท ดะนิ เไลหว ปะภทเู ใุ ขตาทไฟะเล แผใน ตดทินะเถลลม เม่อื เคลอื่ นเขาสเู ขตนำ้ ตน้ื ใกลชายฝง 75% มอตหกุ กกาลสางบมใาุทนตร 8% คลื่นจะซดั ไหลทวมชายฝงอยา งรวดเรว็ 5% เกิดจากมวลนำ้ ในทะเลและมหาสมุทร ถกู รบกวนอยางรนุ แรง จากสาเหตตุ า งๆ 2% คลน่ื ทไ่ี หลทวมชายฝง จะมีพลงั ทำลาย และสรา งความสูญเสียตอชีวิต ทรพั ยสิน สาเหตุการเกิ ดสึนามิ เศรษฐกิจ สังคม และส่งิ แวดลอม ในบรเิ วณชายฝง ทะเลท่ีเกิด เสนทางอพยพภัยสึนามิ Motion of fault block แผนดินไหวรุนแรงใตท ะเล เหตกุ ารณสึนามทิ สี่ ำคญั ที่เกิดข้ึนในชว ง พ.ศ. ๒๕๓๓ - ๒๕๕๔ (ประเทศทเ่ี กดิ ปท เ่ี กดิ ความสูงคลื่นสึนามิ (เมตร) และจำนวนผเู สยี ชีวติ ) ผคเูวสาปยีMมช๒สeีวงูx๕ิตi๓c๑๑o๘๑คมน. ผเู คสวยีNาปชiมcวี ๒สaิตrูง๕a๑๓๑g๗u๕๐๐aมค.น ผูเ สียคIชnววีdาปติมiaส๒n๒ูง๕๘O>๔๐๑c๗,e๐๐a๐nม๐. คน คผวเู สIาnปยีมdชส๒oวีูง๕nติ ๓e๓๙s.๙๔iaคมน. ผูเคสวยีMปาชiมnวี๒สติd๕งู o๓๔๗r๗๙oมค.น ผูเคสวยี าปชมJีว a๒สิตpงู๕a๒๓๓n๓๖๑๙มค.น ผเู สียคชวีวาปมิตJ a๒ส๑pงู๕๕a๕๑n,๘๔๐๙ม๔. คน ผูเสคยี Iวrปชาiaวีม๒nติส๕งูJ๑๓a๘๖y๙๑aม.คน Aotlcaenatnic poacceiafinc ผเู สคียNวชeาปวีwมติ ๒สGงู๕๒u๔,๑๒in๑๕๐e๐มa.คน ผูเคสวยี าปชSมวีa๒สิตmงู๕๑o๕๑๐a๒๐๐มค.น ผูเคสวยี ปาชมPวี๑สeิต๕rงู u๓๑๕๙๒มค.นpoacผceคูเiaสfiวnียาcปชมC วี๒สhติงู๕il๕๖e๖๓๐ม.ค+น ioncdeiaann ผเู คสวยีInาปชมdีว ๒สoติ งู๕n๖e๔๒๕s๙iม๐a.+คน ผเู คสวียInาปชมdีว ๒สoิตูง๕n๒e๒๑๓s๗๔i๘aมค.น ผูเ สคียวชInาปวี มdติ ๒สoูง๕๑ne๓,๒๐s๕๖๐ia๐ม.คน 26 กาแรลเเปะกเขเริดสาตสยี่ ะพนึ งบน้ื ตาาทมอง่ิี เกดิ อยูในบริเวณ ชายฝงแมปหาซสิฟมทุ กร
ภัยพบิ ตั ิดา นอทุ กภาค (riจvาeนกr้ำแทflมวoน มo้ำd) ภมู ิศาสตร์ 27 อทุ กภัย น(fl้ำทaหsวรhมอื นฉflับ้ำoปพoา ลdนั) การไหลลนของน้ำเขา ทวมแผกวาง SOURCE : GIEC บนแผน ดนิ ทปี่ กตแิ หง เกดิ จากฝนตกหนัก หรือหิมะละลาย หรอื คลื่นทะเลสูง พัดข้นึ ฝง หรอื เข่อื นพัง การไหลลน ของนำ้ เขาทว มจะเกดิ ขึ้นได ทงั้ อยางรวดเรว็ และเกิดขึ้นอยางชาๆ มคี าบเวลาที่ใชเ วลาหลายวนั หรอื หลายสปั ดาห หรอื เปนเดือน อุทกภยั ทเี่ กิดข้ึนสว นใหญจ ะมีความสมั พนั ธ เกย่ี วขอ งกบั ภัยดานกาลอากาศทรี่ นุ แรง ภัยแลง เกิดจากการ มีฝนตกนอ ยกวา ปกติ หรือไมตกตองตามฤดูกาล ทำใหข าดแคลนนำ้ d การกระจายของพน้ื ที่ภัยแลง -4 -2 0 2 4 ขาดแคลนนำ้ นำ้ มมี ากเกนิ
ภัยพิบัติดานบรรยากาศภาค บรเิ วณทเ่ี กดิ เสน ทาง และระดบั ความรนุ แรงพายุหมุนเขตรอ น TD TS 1 2 3 4 5 ดีเปรสช่นั พายุโซนรอน มาตรวัดระดับความรนุ แรงพายุเฮอรร เิ คน พายไุ ตฝนุ ไตฝ นุ ทีแ่ รงมาก ไตฝ นุ ทร่ี นุ แรงมาก ซเู ปอรไ ตฝนุ พายุไซโคลน ไซโคลนท่แี รงมาก ไซโคลนทร่ี นุ แรงมาก ซูเปอรไซโคลน ไซโคลนทแ่ี รง >322 km/h 267-322 km/h 218-266 km/h 178-217 km/h 138-177 km/h 105-137 km/h เ ้นือหาที่สามารถเ ิปดแอปพลิเคชันดูไ ้ด EFE0F0 EFE1F1 EFE2F2 EEFF33 EEFF44 EEFF55 กำลงั แรง รนุ แรงมาก 2๒8๘ทฝนอรฟวนชิา าาคสโะดังนคกไมอมำงไลดซเูเงั กปอดิ อจอราเ นซกลพลายุ ฝทนอรฟนาาคโะดนเกอดิงซจาูเปกอพราเ ยซุลล ความเร็วลมและระดบั ความเสียหาย
ภยั พิบัตดิ านชีวภาค ภูมิศาสตร์ 29 (grไoฟuพn้ืนdดfiินre) (suไrฟfaพcน้ื eผfiวิ re) (ไcฟroเรwือnนยfiอreด) ไฟปา ท่ีเผาไหม ไฟปาท่ีเผาไหมเ ชอ้ื เพลงิ ไฟปาที่เผาไหม เชือ้ เพลงิ ทท่ี ับถมอยูในดิน ทอ่ี ยูบ นพนื้ ปา เรอื นยอดของตน ไม ธรรมชาตไิ ฟปา หัวไฟ พฤติกรรมไฟปา จะประกอบดว ย ทเ่ี ผาไหมจะรนุ แรงนอยหรอื มาก ไฟ ๓ สว น คือ ข้นึ อยูกบั 3 องคป ระกอบ หัวไฟ ไฟดานขาง ไฟ ดาน ขาง ไฟดา นขา ง และหางไฟ หางไฟ สงั คมพืช ดนิ น้ำ อากาศ สัตวปา คขวอางมธรสรวมยชงาาตมิ wildfire
๕ การเปล่ียนแปลงภมู อิ ากาศ ปรากฏการณเรือนกระจก • บรรยากาศทห่ี อหุมโลกรกั ษาอุณหภมู ิของพื้นผิวโลกใหอยใู นระดับทม่ี นษุ ยส ามารถดำรงชีวิตอยไู ด • การเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศของโลกเกดิ ข้นึ ทง้ั ตามธรรมชาติและจากกิจกรรมของมนษุ ย ความรอน ความรอน กลบั ไปสูอ วกาศ กลับไปสอู วกาศ มากข้นึ นอยลง ดวงอาทติ ย ความรอ น ความรอน าทติ ย ดวงอาทิตย ที่แผซำ้ มีนอยลง ทีแ่ ผซำ้ มีมากขน้ึ การแ CO2 บร กรายซาเกืราอศนกระจก CH4 ามรอ น ี่ทสะ ทอนก กา รังสีจากดวงอ าซเรCอื Hนก4ระจกมNมี2Oากขน้ึลบั N2O งอาท ความรอ น สะทอ นกลบัท่ี คว รแผ กCO2 ติ ย ผร งั สจี ากดว ๙มีเทนคงอยูในอ%ากาศ กา สซดั เรสือว นนกขรอะงจก ๖% ในชวงเวลาทส่ี นั้ กวา ๓ไมแไดนลีพปะิษตรมมระีเาทมสั กานอกณอวา๑กค๒ไาซ๐รบดปอคนงไอดยอใู อนกอไาซกดา ศ คารบอนไดออกไซด แตกกั เก็บความรอนไวมากกวา กมพีาิษซมกา%ลกกมุ วฟาคลาอูรบออรนิเไนดตออเปกนไซสดารเคมที ี่มนุษยส รา งขน้ึ ๘๒ ๖๕คทเคาาลงร่อืวบนัฏเจอข%กั านร–คไอดาอรอกบ จออานกกไอซากดาศ % ๑๖ % ๖% มีเทน ไนตรสั ออกไซด 30 กเารรขอืสปนอัดลงกสอโรว ลยะนกกจากซ คารบอนไดออกไซด ๑๑ % ๒% จากการเผาไหมเ ช้อื เพลิง คารบอนไดออกไซด กา ซกลมุ ฟลอู อรเิ นต ฟอสซิลและกระบวน จากการทำปา ไม อตุ สกาาหรกผรลริตมใตนางๆ และการใชท ดี่ นิ อน่ื ๆ
กผอภาันลูมรขเอิ นเอาป่อื กงลงภา่ยีจศานาวกแะปโลลกงรอ น ภูมิศาสตร์ 31 ๑ ๒ ทำใหโ ลกอบอนุ ทำใหอณุ หภมู ิ จากการกกั เกบ็ ของพื้นดินและพื้นผวิ ความรอนไว มหาสมทุ รสูงขนึ้ หรอื โลกรอ นขึ้น ภเกาิดวทอะโะำลไใรกหบร อางน ทะเลทราย พายเุ ฮอรรเิ คน บรเิ วณที่มี ระดบั น้ำ ขยายตัว และพายหุ มุน หมิ ะปกคลมุ และ ทะเลสูงข้ึน สะทอ นกลับ รุนแรงขนึ้ นำ้ ทว มชายฝง นำ้ แข็งทะเล ลดลง การแผร ังสที เ่ี จาะผานชนั้ บรรยากาศ ดดู ซบั ขอบบรรยากาศ CFCS ทีก่ ากชดาเดูรรแซือผับนร ไกงัวรส ะี จก เครอ่ื งยนตท ่ีใชน ำ้ มัน การปทา ำไมลาย จกะาสราลมดากราถรตปอ ลตอา ยนกภา าชวเะรโือลนกกรรอะนจไกด
รใโู นหชว้ัน โอโซน โอโซน คือ ความเขม ขนของ กาซทปี่ ระกอบดวย โอโซนผันแปรตามความสูง เกิดอขอึ้นกตซาิเจมนธร๓รมอชะาตตอิเปมน(ปOร3ิม) าณ นอยในบรรยากาศ ความเขมขน สูงสดู ชน้ั สแตรโทสเฟยร (เฉลีย่ ๘ โมเลกุลของโอโซน (๑๐-๕๐ กิโลเมตร เหนือพน้ื ผิวโลก) ตอ ๑ ลา น โมเลกุลในบรรยากาศ) อยทู รี่ ะดับ ๓๐-๓๕ กิโลเมตร เหนือพ้นื ผวิ โลก 100 ปจจยั ทีท่ ำใหเ กิดรูโหวใน ความสูง (กม.) 80 เมโซสเฟยร ชั้นโอโซน คือ การใชส ารเคมี 60 กลุมคลอโรฟลอู อโรคารบอน 40 36 สแตรโทสเฟยร 9 (ซีเอฟซี) เปน สารทำความเยน็ 20 โทรโพสเฟย ร และตวั ทำละลาย เมอื่ ซเี อฟซี 00 ความเขม ของโอโซน (สว นตอลานสวน) แตกตวั จะปลอยอะตอมของ คลอรีนออกมาทำลาย โมเลกลุ ของโอโซนไดมากกวา ๑๐๐,๐๐๐ โมเลกลุ โอโซนตอ ๑ โมเลกลุ คลอรีน รูโหวใ นชัน้ โอโซนเหนือทวปี แอนตารกติกา ณ วันท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๘ พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ศ. ๒๕๔๘ พ.ศ. ๒๕๕๓ พ.ศ. ๒๕๕๘ ภาพสีเท็จของโอโซนรวม เหนอื ทวีปแอนตารก ตกิ า สมี วงและสนี ำ้ เงินแสดงบริเวณทม่ี ีปรมิ าณโอโซนตำ่ สุด 0 100 200 300 400 500 600 700 สเี หลืองและสีแดงแสดงบรเิ วณทีม่ ีปรมิ าณโอโซนสงู สดุ เปรยี บเทยี บตั้งแต พ.ศ. ๒๕๒๘ Total Ozone (Dobson units) เมื่อมีการคนพบรโู หวใ นช้ันโอโซนเปน คร้ังแรก https://ozonewatch.gsfc.nasa.gov/Scripts/big_image. เม่อื วนั ท่ี ๑๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ สหประชาชาติไดป ระกาศใหวันที่ ๑๖ กันยายนของทกุ ป เปนวันสากลแหง การอนรุ ักษชน้ั โอโซน (International Day for the Preservation of the Ozone Layer) เพื่อระลึกถึงการลงนามในพธิ ีสารมอนทรีออลวาดว ยสารท่ที ำลายชน้ั โอโซน 32 การยกเลกิ การผลติ สารทีท่ ำลายโอโซน ทำใหก ารปกปอ งชน้ั โอโซนมีความหวงั มากขึ้น
ภมู ิศาสตร์ 33 ระบบธารน้ำแขง็ อินพุต : หิมะและฝน กระบวนการ : การถอนหลดุ ของหิน การครูดถู การเสยี ดกรอ น การสะสมตวั และ การเคล่อื นยา ย เแอลาะตพกอุตงต: ะนก้ำอจนากธหาริมนะ้ำลแะขลง็ าย { การเคลือ่ นท่ี { ของนำ้ แข็ง การสะสมตัวของธารนำ้ แขง็ วดี ทิ ัศนธารน้ำแขง็ ละลายที่แอนตารกติกา ค.ศ. 2002 - 2016 การครดู ถู (การละลาย) ของธารนำ้ แข็ง ธารนำ้ แข็งสำคัญอยา งไร • เปน ตวั ช้วี ัดทส่ี ำคญั ของภาวะโลกรอ นและการเปล่ียนแปลง ภมู อิ ากาศ การละลายของพืดนำ้ แข็งอยา งตอ เน่อื ง มีสวนทำใหระดบั น้ำทะเลสูงขึ้น • เม่อื พืดนำ้ แขง็ ในทวปี แอนตารก ตกิ าและเกาะกรีนแลนด ละลายนอกจากจะทำใหระดับน้ำในมหาสมุทรสงู ข้นึ แลว ยงั เปนการเพมิ่ นำ้ จดื ใหม หาสมุทรทกุ วนั พดื นำ้ แข็ง ธรปูารอนฒั ้ำจแนัขท็งรโ คง ธารนำ้ แขง็ หบุ เขา เน้อื หาที่สามารถเปดแอปพลเิ คชนั ดไู ด้ ธารน้ำแข็ง
๖ วแดกิลา นฤะสตทิง่กรแพัาวรยณดาลก อรมธรรมชาติ ทวีความรุนแรงมากขนึ้ จนสงผลตอชวี ติ ความเปนอยูของประชาชน และการพฒั นาของประเทศตางๆ ท่วั โลก ความเส่อื มโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติ ญ หาสารพษิ ตกคา งในดนิ ทะเลและมหาสมุทร ซากเ ืรอใเปน แหลง ทรพั ยากรธรรมชาติท่สี มบูรณท ั้ง พืช สตั ว แร ในปจจบุ นั ประบบนเิ วศทางทะเลกำลังถูกคุกคามจากกจิ กรรมตางๆ ของมนษุ ย ทะเลอารัลเปน ตัวอยางหนึ่งทีถ่ กู คกุ คามอยางหนกั Aral Sea นทะเลอารลั ปญหาของทะเลอารัล พ.ศ. ๒๕๓๐ พ.ศ. ๒๕๕๗ เดมิ เปนทะเลปด ทีใ่ หญเ ปน อันดับ ๔ ของโลก ปจจบุ นั ปริมาณน้ำทะเลลดลงอยา งรุนแรง เพราะแมนำ้ อามูดารย า และแมน ำ้ เซียรดารยา ท่ีนำนำ้ ไหลลงสูทะเลอารลั เปล่ยี นเสน ทาง เน่อื งจากโครงการชลประทาน ซึง่ เปน สว นหนง่ึ ของแผนการสง เสริมการปลกู ฝาย ทำใหประเทศอซุ เบกิสถานกลายเปน ผูสง ออกฝาย ใหญท ส่ี ดุ ประเทศหน่ึงของโลก 34 ภาพจากดาวเทียมแสดงความแตกตา งของทะเลอารัล
ภูมิศาสตร์ 35 ความเสื่อมโทรมของดนิ ปญ หาดิน อยูอาศัย การขุดหนาดินไปใชประโยชนอื่นๆ โครงสรางทางธรณี • ภูมิอากาศ • ลม • หิมะ • แมน้ำ • ธารน้ำแข็ง การเผาและตัดไมทำลายปาเพ่ือขยายพื้นที่ทำกินและท่ี ช้ันดนิ เยือกแขง็ คงตัว ดนิ เค็ม ดินเปรี้ยว ผวิ ดินหนาตั้งแต ดนิ มปี รมิ าณเกลือ เกดิ จากการทับถมของ ๓๐ ซ.ม – ๑,๐๐๐ เมตร ทีล่ ะลายนำ้ ไดมากเกนิ ไป ตะกอนน้ำกรอ ยซึ่งเคย ปกคลุมพื้นทีป่ ระมาณ ทำใหด ินขาดน้ำจนเปน ถูกน้ำทะเลทว มถึงมากอน ๑ ใน ๕ ของดินในโลกมี อนั ตรายตอ พชื และเกดิ จากการใชป ุยเคมี อณุ หภมู ใิ ตจุดเยือกแข็ง ดนิ เคม็ มกั เห็นขยุ เกลอื เปน ระยะยาว สว นใหญ เชน บรเิ วณพืน้ ทขี่ ั้วโลก ขน้ึ ตามผิวดิน เชน มักพบในบริเวณทเ่ี ปนลมุ นำ้ เหนอื และใต ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ มีน้ำแชขงั หลายๆ เดือน ของประเทศไทย เน้อื ดินเปนดินเหนยี ว เม่ือขดุ ลงไปพบ สารสเี หลอื งคลายกำมะถนั
ปา ไม การทำลายปา ไมใ นลมุ นำ้ แอมะซอน ของโลกเหลือเพียง มีแนวโนม ลดลงเรื่อยๆ ปญ หาปา ไมใ นลุม นำ้ แอมะซอน พ.ศ. ๒๔๙๓ พ.ศ. ๒๕๒๘ พ.ศ. ๒๕๔๓ เปน สาเหตขุ องการเพมิ่ ข้นึ พ.ศ. ๒๕๔๘ พ.ศ. ๒๕๕๓ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของกา ซเรือนกระจก ปญหาภัยแลงทวีความรุนแรงเพม่ิ ขน้ึ พืน้ ที่ปาไมบนเกาะบอรเ นียว ระดบั น้ำในแมนำ้ ลดลงตำ่ สดุ ในรอบ ๑๐๙ ป ปญหาปาไมใ นเกาะบอรเนยี ว เกดิ ไฟปา เกดิ ควัน ปกคลมุ ทวั่ พ้ืนทป่ี า ระบบนเิ วศถูกทำลาย พ้นื ท่ปี า ฝนที่อุดมสมบรู ณที่สดุ แหง หนง่ึ ของโลก ความหลากหลายทางชีวภาพ ตองสญู เสียพื้นที่ไปอยา งรวดเรว็ จากการรกุ พืน้ ทีป่ า ถูกผลกระทบอยา งรุนแรงมาก เพ่ือการปลกู ปาลมนำ้ มนั และการทำเหมืองถานหิน ที่สดุ แหงหนงึ่ ของโลก เปนนโยบายการขยายพนื้ ท่ปี ลกู ปาลม ของรัฐบาล เพื่อใหเ ปน สวนปาลมขนาดใหญที่สุดของโลก 36
พลังงาน ภมู ิศาสตร์ 37 น้ำมัน ถานหิน กาซธรรมชาติ ปจจบุ ันกาซธรรมชาติ 36.5%ถูกนำมาใช ของพลงั งานทใ่ี ช ความตอ งการใชน ำ้ มนั ถานหนิ ของมนษุ ยส งู มากขน้ึ เร่อื ยๆ แตความสามารถในการผลิต 27%โลกใชอ ยู ยงั คงเทาเดมิ 155 ปเหลอื ใชไ ดอ ีก ๑วกิ ฤตการณ น้ำมันเกิดจาก ความไมส มดลุ ของความตอ งการ ในการใชน้ำมนั กับ ๒ ปรมิ าณนำ้ มนั ทีม่ อี ยอู ยางจำกดั ปญ หาการเมอื ง ภายในประเทศและ ระหวา งประเทศ ของผผู ลิตนำ้ มัน กา ซธรรมชาติ
วกิ ฤตการณทางสิ่งแวดลอม มลพษิ ทางนำ้ สาเหตุ ที่มโลพภีสฝหภูเดั ขนะาพาตหพาไกนฟเเปถจักปาาน ะสคกกทาบวรรุนัรดไมรฟมลยฝาไพาุนหกกิษลบัมาะจปลศอามา อกง ปอญ อกหซาิเขจยนะตใน่ำกแวหา ลมง านต้ำรทฐำาในห สารมตแีะกบวั่คเทกเีินรมยี าแตลระฐาน น้ำจเาสกยี อทาี่ปคลาอรบยลานงแเรมอื น น้ำโโดรยงงไมานม อกี ุตารสบาหำบกัดรรกมอ น ท่ใี ชพสน้ืารทเท่ีคำมกปี ารระเเกภษทตตรางๆ กากอตุ สาหกรรม สภาพของเสยี จากแมน้ำที่ไหลลงสูทะเล การบกุ รุกปา ชายเลน การถา ยเทนำ้ จากการเลยี้ งกุง การท้งิ เทขยะ 38
ทมลางพอษิ ากาศ ภมู ิศาสตร์ 39 ฝนกรด เกดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ เกิดจากการกระทำของมนษุ ย เชน ฝนุ ละอองจากลมพายุ มลพิษจากทอไอเสียของรถยนต ภเู ขาไฟปะทุ แผน ดินไหว โรงงานอตุ สาหกรรม ไฟไหมป า รวมทั้งกระบวนการผลติ จากกิจกรรมดา นการเกษตร จากการระเหยของกา ซบางชนิด ซงึ่ เกดิ จากขยะมลู ฝอย การละลาย และพดั พาปยุ ลงสูแหลง น้ำ หมอกควันพษิ การทำลายส่ิงปลกู สรา ง ทางประวัติศาสตร
มลพิษทางดิน สาเหตุ กากราทง้ิรขทยง้ิะขยะ จใอเททมกบำตัลำำดิ พนใใรพกหหาวืชิษากพมนแรทาีกืชพหตราาดงชืกสงรเูดดคครเหปซานิาอีย่ งงลมึยมวคข่ียสๆีผลอนไาลมอลงรแเสมโพดสปราดีลยีษิลฟรอสงจงพลกำทึงลษิคเาไลจใญั มงนรดเมตญิคพลผีอมงืชเลรตีขะิบสอบงโงบตผดชนลนิ าใเิ วหลศง การปลอ ยนำ้ เสยี จากกระบวนการผลิต สภาวะฝนกรด ดนิ ปนเปอ น การใชปยุ วทิ ยาศาสตร ท่ตี ดิ ตอ กนั เปน เวลานาน ดนิ เปน กรด การใชสารเคมี กำจดั ศัตรพู ืช ซง่ึ สว นใหญ ทำลายส่งิ มชี วี ติ รวมทง้ั มนษุ ยดว ย 40
กขาอรงขทยะาเลยทตรัวาย ภมู ศิ าสตร์ 41 ปจจบุ นั ทะเลทรายมีการขยายตวั อยางรวดเรว็ แผนท่ีแสดงเขตทะเลทราย เริม่ จากดนิ เส่อื มคณุ ภาพ เพราะกจิ กรรม ทางเศรษฐกจิ ของมนุษย ทำเกษตรกรรมเกินตวั สาเหตุ หกั รา งถางพง ตดั ไมทำลายปา การใชห ญา เลย้ี งสัตว มากเกนิ ไปจนหญา ไมส ามารถข้นึ มาทดแทนไดทัน สหประชาชาติคาดการณว าภายใน เวลา ๑๐ ปขา งหนาการขยายอาณาเขต ของทะเลทรายจะสง ผลรา ยใหประชาชน ไรท่อี ยูอาศยั แหลง ทำมาหากิน ประชาชนตอ งอพยพยา ยถิ่นฐาน จำนวนมากถึง ๕๐ ลา นคนทั่วโลก การลกั ลอบ ตดั ไมทำลายปา การหักรา งถางพง การทำลายพืชคลุมดิน สภาวะ อากาศเปลี่ยนแปลง ภาวะโลกรอน ทะเลทรายคมุ ทัก ขยายตัวเขาไป เขตเมอื งตุนหวาง
ผลกระทบของวกิ ฤตการณด า นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม การขาดแคลนอาหาร ประชากรโลกเพ่ิมอยา งรวดเร็ว แปลจ ะจเุบพนั ม่ิ ปขรึน้ ะอชยาากงรตโอลเกนม่อื ีถงงึ ๗,๓๐๐ ลา นคน สาเหตุ พ้นื ทีเ่ พาะปลกู มปี รมิ าณเพ่มิ ขน้ึ การขาดแคลน อาหาร ไมมากนกั ในบางพน้ื ที่ และลดลงในบางพน้ื ที่ แอ ภมู ิอากาศโลกเปลีย่ นแปลง มีผลตอ ผลผลติ ทางการเกษตร ฟรกิ า และการผลิตอาหารทั่วโลก ความเสือ่ มโทรมของดนิ พนื้ ทเ่ี กษตรกรรมประมาณ รอยละ ๔๐ ของโลก ดอ ยคณุ ภาพลงอยางรนุ แรง เอเ ปญหาภยั แลง ชยี ใต 42
สขุ ภาพ (โรคตดิ เชอ้ื ) ภูมิศาสตร์ 43 มลพษิ ทา ทปทีาเ่ญกงหิดสจาภสาากขุพมภแลาวพพดษิลอ ม งอากาศ พษิ ทางนำ้ พษิ จากของเสยี ขยะมลู ฝมล อย โรคทางเดนิ หายใจเฉียบพลัน โรคทางเดินหายใจ โโรรคคปทาองดเดินหายใจเรือ้ รัง โรคภูมิแพ โรคหภดื ูมหแิอพบ หดื หอบ โรคเย่อื จมกู อักเสบ ไขฟ าง โรคเยอื่ จมูกอักเสบ โรคฉ่หี นู โรคผวิ หนงั โรคผวิ หนงั ฯลฯ อหิวาตกโรค มลพษิ ทางนำ้ สารมล โรคทางเดนิ อาหาร ไทฟอยด ฯลฯ โรคบดิ ปญ หาสุขภาพทเ่ี กดิ จากสภาพแวดลอ มที่เออ้ื ตอ การ อโรหควิ ฉาห่ี ตนกูโรค แยงุพเรปก น รพะจาหายะขนอำโงรโครคทท่ีเป่ีเกนดิ ภจัยาคกกุ แคมาลมง ฯลฯ สขุ ภาพของมนษุ ยม ากทสี่ ุดและ ไขเลอื ดออก มคี วามสำคญั ระดับโลก โรคเทาชา ง โรคชากาส มาลาเรยี
๗ ปขสทภอาฏงงาิสกมพัมานแพยษุวันภดยธาล์ ์รพ้อะกมหับวก่าจิ งกรรม ประชากรและการตัง้ ถน่ิ ฐาน สภาพแวดล้อมทาง ประชากรกระจุกตัว ซกี โลกเหนอื มปี ระชากร กายภาพมีอทิ ธพิ ลต่อ ในบริเวณท่รี าบ ท่รี าบลุ่มแม่นํ้า มากกว่าซีกโลกใต้ กจิ กรรมของมนษุ ย์ และชายฝงของเขตร้อน เน่อื งจากซกี โลกเหนือ ทงั้ การต้งั ถ่ินฐาน และเขตอบอุน่ มีพน้ื ทมี่ ากกวา่ และการประกอบ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ประชากรเบาบางบนท่สี งู ความหนาแนน่ ของประชากรโลก ประชากรหนาแน่นมาก ประชากรหนาแน่นปานกลาง ประชากรเบาบาง 44
ภมู ศิ าสตร์ 45 คสกวบัภาากมสพามั รแพดวันาํ ดธร์รลงะอ้หชวมวี า่ ทิตง าขงอกงามยนภาุษพย์ ยูเครน ไทย า บอตสวาน มองโกเลีย เนปาล อรุ ุกวยั ญี่ปุ่น ไอซแ์ ลนด์
เคกวษาตมรหกลรารกมห:ลแายหขลอง่ กงพําเืชนอิดาแหลาะร ยโุ รปตะวนั ตกเฉียงใต้ ยุโรปตะวันออกเฉยี งใต้ เอเชียกลาง ยุโรปเหนอื อเมริกาเหนือ เอเชยี ตะวนั ตก เอเชยี ตะวันออก เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เมดเิ ตอร์เรเนียนใตแ้ ละตะวนั ออก เอเชียใต้ แอฟรกิ าตะวนั ออก ภูมภิ าคแปซิฟก อเมรกิ ากลางและเม็กซโิ ก แครบิ เบยี น แอนดีส แอฟรกิ าตะวนั ตก อเมรกิ าใต้เขตรอ้ น แอฟรกิ ากลาง อเมรกิ าใต้เขตอบอุน่ แอฟรกิ าตอนใต้ • อัลฟัลฟา • ถ่วั ลันเตา • โคลเวอร์ • มะเขือม่วง • ฮอปส์ • เมล่อน • แพร์ • ข้าวเจา้ • ทานตะวัน • อัลมอนด์ • บลูเบอรร์ ี • เมลด็ โกโก้ • ถ่วั ปากอา้ • กีวี • ข้าวฟ่างเมล็ดเล็ก • ถว่ั ตระกูลลนั เตา • ขา้ วไรย์ • มันเทศ • แอปเปล • กะหล�่าปลี • มะพร้าว • มะเด่ือฝรั่ง • ต้นหอมญปี่ ุ่น • ขา้ วโอต • ถั่วมะแฮะ • งา • เผอื ก • เอพริคอต • แครร์ อต • กาแฟ • กระเทยี ม • เลมอนและมะนาว • มะกอก • สับปะรด • ขา้ วฟ่าง • ชา • อาร์ทโิ ชก • มนั ส�าปะหลงั • น้า� มันเมล็ดฝา้ ย • ขิง • ถัว่ เลนทิล • หอมใหญ่ • พลัม • ถ่ัวเหลือง • มะเขอื เทศ • หนอ่ ไมฝ้ รง่ั • เชอร์รี • ถวั่ ฝกั ยาว • เกรปฟรุต • ผักกาดแกว้ • ส้ม • มันฝรัง่ • ปวยเลง้ • วานิลลา • อาโวคาโด • ถั่วลูกไก่ • แครนเบอร์รี • องุ่น • ขา้ วโพด • ปาลม์ นา้� มัน • ฟักทอง • สตรอว์เบอรร์ ี • แตงโม • กล้วยและกลา้ ย • พริกและพรกิ ไทย • แตงกวา • ถั่วลสิ ง • มะม่วง • มะละกอ • คนี วั • หวั ผักกาดหวาน • ขา้ วสาลี • ขา้ วบาร์เลย์ • อบเชย • อินทผลมั • เฮเซลิ นตั • มาเต (ชาบราซิล) • พชี และ เนก็ ทารนี • ผกั กาดกา้ นขาว • อ้อย • มันเทศ และเมลด็ มสั ตารด์ 46
ภูมศิ าสตร์ 47 คเกวษาตมรหกลรารกมห:ลายของการเลยี้ งสตั ว์ แคนาดา รสั เซีย สหรัฐอเมรกิ า ยูเครน สหภาพยุโรป ญป่ี นุ่ จีน เกาหลี ตุรกี อหิ ร่าน มาเลเซีย อนิ โดนีเซยี แอลจีเรยี ซาอดุ อี าระเบยี อินเดยี อยี ปิ ต์ เม็กซิโก ปากีสถาน บราซลิ บังกลาเทศ เซาท์แอฟริกา โค ออสเตรเลีย สุกร นิวซีแลนด์ ชิลี อุรุกวยั สตั วป์ ก อารเ์ จนตนิ า แกะ แพะ การผลิตเนื้อสตั วของโลกเฉลีย่ ระหวา ง พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๕ (ลา นตนั )
อุตสาหกรรมการผลติ การกระจายของอุตสาหกรรมการผลติ ของโลก พ.ศ. ๒๕๕๙ 48
ภมู ิศาสตร์ 49 การแปรรปู วตั ถุดบิ ท่ีจับตอ้ งไดใ้ ห้เปน็ สนิ ค้า ทม่ี มี ลู ค่าเพิ่มซ่ึงตอ้ งกระทําท่จี ุดผลิต (โรงงาน) ต้องใช้แรงงานมนษุ ย์บางสว่ น และต้องผลติ สินค้า มาตรฐานเดียวกนั เปน็ จํานวนมาก อาหาร/เครื่องดื่ม โลหะ/แร ่ โลหะมีคา่ /แร่ ผลติ ภัณฑไ์ ม้ น้�ามนั สงิ่ ทอ/เครอ่ื งนงุ่ ห่ม แเคลระื่อชง้ินจสักว่รน/อุปกรณ์การขนส่ง อเิ ลก็ ทรอนิกส์ อืน่ ๆ
แตหลาลดง่ กทา่อรงทเท่อี่ยงวเทแี่ยตวล่ หะลภกัมู จิภาากค พ.ศ. ๒๕๖๐ จนี สหรฐั อเมรกิ า และรสั เซีย เป็นตลาดการท่องเท่ยี วหลกั ยุโรป เอเชีย 58..10 % 21.41.9% 121.7.3% 73..51 % จนี ไตห้ วัน ฮอ่ งกง มาเกา 0.4 0.3 0.3 0.2 261.2 7.9 19.2 รสั เซีย สหราชอาณาจกั ร เยอรมนี ฝร่งั เศส อเมรกิ าเหนอื และอเมริกาใต้ สหรัฐอเมรกิ า 444.8.4% 2.0 แคนาดา 24.9 01..02 % เมก็ ซิโก 24.03.2% แอฟรกิ า แปซฟิ ก 0.8 12.0 0.4 0.2 05..54 % --00..040%1 105.0.003% ออสเตรเลีย จํานวนไปรพยว.งัมศภข.มูอ๒ภิง๕นา๖คกั ๐เทอ่อเ(ชงลียเา้ ทแนีย่ ปควซนนฟิ)ากนาชาติ อัตราการขยายตัว ๒๕๖๐/๒๕๕๙ เซาทแ์ อฟรกิ า ลเิ บีย % จํานวน (ล้านคน) 630.2 5.9 35.1 50
การท่องเท่ียวเปน็ กจิ กรรมสรา้ งรายได้ ภมู ิศาสตร์ 51 ค่ายานพาหนะและเชื้อเพลิง คา่ อาหาร คา่ ทพ่ี ัก คา่ มัคคเุ ทศก์ การรักษาความปลอดภัย ค่าซักรีด คา่ ของท่รี ะลึกกับสินคา้ อ่นื ๆ ค่าโทรศพั ท์ ค่าอนิ เทอร์เน็ต คา่ เกบ็ ขยะ เสน้ ทางของรายได้ นักท่องเทีย่ ว ชาํ ระเงนิ จากการทอ่ งเที่ยว $฿€£¥ โดยตรงไปยัง การบริการตา่ งๆ รถไฟ บริษทั เดนิ เรือ ธนาคาร วตั ถดุ ิบ รถทศั นาจร เพอ่ื การทย่อางนเยทนี่ยตว์ สายการบิน รา้ นอาหาร ซึง่ กลายเป็น บริษัทท่องเทีย่ ว ศูนยก์ ารประชมุ คา่ จ้างแรงงาน เงินเดือน กําไร ภาษี ทีพ่ ัก รถยนต์เชา่ สนามกฬี า กิจกรรมบันเทงิ เชอื้ เพลิง รา้ นค้า สวนสนกุ อันจะเป็นรายได้เพ่อื การสอ่ื สาร โรงมหรสพ ธนาคาร การบริการต่างๆ สตั วเ์ ลย้ี ง โรงเรียน รา้ นคา้ วัตถุดบิ อสงั หารมิ ทรพั ย์ โรงพยาบาล ฟารม์ การคมนาคม เทคโนโลยี โครงสรา้ งพนื้ ฐาน นกั ท่องเทีย่ วท่ใี ช้จ่ายมากท่ีสุด ๕ อนั ดับแรก พ.ศ. ๒๕๖๐ จีน 261 พนั ลา้ นเหรียญสรอ. สหรัฐอเมริกา 122 พันล้านเหรียญสรอ. 81 พันลา้ นเหรียญสรอ. เยอรมนี 64 พนั ลา้ นเหรยี ญสรอ. สหราชอาณาจักร 41 พันลา้ นเหรียญสรอ. ฝรั่งเศส
๘ แมทแลลารตัพะะแสรยกกิ่งาแาไ้กขรวรปปดธอ้ญลรรง้อหกมมาันชาติ องคก์ รด้านสง่ิ แวดล้อมระหว่างประเทศ สา� นักงานโครงการสิ่งแวดล้อม กองทุนสตั วป์ ่าโลก [WWF] แหง่ สหประชาชาต ิ [UNEP] ท�างานอนรุ ักษ์ ๓ ดา้ น คือ ทรพั ยากรปา่ ไม ้ ท�าหน้าทีป่ ระสานงานและร่วมมือกับองคก์ รอื่นๆ ทรพั ยากรน้า� จืด ทรพั ยากรทะเลและชายฝงั ในสหประชาชาตทิ ั้งภาครฐั และเอกชน กรนี พซี (Greenpeace) เกิดจากการรวมกลุ่มของคน ในเมืองแวนคูเวอร ์ ประเทศแคนาดา ดแู ลดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม 52
ภูมิศาสตร์ 53 กฎหมายส่ิงแวดลอ้ มระหวา่ งประเทศ อนุสัญญาเวียนนาเพื่อการพิทักษ์ช้ัน อนุสญั ญารอตเตอร์ดมั วา่ ด้วย โอโซนและพิธีสารมอนทรีออลว่าด้วย กระบวนการแจ้งขอ้ มลู สารเคมี สารทาํ ลายชน้ั โอโซน พทิ กั ษช์ นั้ โอโซนใน ล่วงหนา้ สําหรบั สารเคมีอันตราย บรรยากาศและแก้ไขปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม และสารเคมปี ้องกันกําจดั ศตั รูพชื ท่เี กดิ จากรูโหว่ของโอโซน และสัตวบ์ างชนดิ ในการค้า ระหว่างประเทศ [PIC] ควบคุม พธิ สี ารเกยี วโต เรือนกระจก การน�าเขา้ และการส่งออกสารเคม ี ลดปริมาณการปล่อยกาซเรอื น อนสุ ัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการ กระจกของประเทศจากประเทศ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ [UNFCCC] ลดปริมาณการปลอ่ ย อุตสาหกรรมท่พี ฒั นาแลว้ กาซเรอื นกระจกลงโดยเฉล่ียรอ้ ยละ ๕ ภายใน พ.ศ. ๒๕๕๑ – ๒๕๕๕ อนสุ ัญญาบาเซิลวา่ ด้วยการ ในพธิ ีสารเกียวโต ควบคมุ การเคล่อื นย้ายขา้ มแดน ของของเสียอันตรายและการ กาํ จดั แกป้ ญั หาการลักลอบนา� ของเสยี อนั ตรายไปท้งิ หรือก�าจดั ท�าลายในประเทศด้อยพัฒนา กอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบต่อสขุ ภาพ อนามยั ของมนษุ ย์และสง่ิ แวดลอ้ ม อนสุ ญั ญาแรมซาร์ [Ramsar] อนสุ ัญญาสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลาย อนุรกั ษแ์ หล่งที่อยู่อาศยั ทางชีวภาพ [CBD] อนรุ กั ษค์ วามหลากหลาย ทเ่ี ปน็ พ้ืนท่ีชุม่ น้า� ของชนิดพันธ์ุของสง่ิ มีชีวติ และเพ่ือใหเ้ กิด การแบ่งปันผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม และเท่าเทียมกัน อนุสญั ญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซ่งึ ชนดิ สตั วป์ ่าและพืชปา่ ท่ใี กล้จะ สญู พนั ธหุ์ รอื ไซเตส [CITES]) เพอ่ื ปอ้ งกันการสูญพนั ธ์ ุ
องคก์ รดา้ นสิง่ แวดล้อมในไทย มลู นธิ สิ ถาบันส่งิ แวดลอ้ มไทย แหล่งศกึ ษาวิจัยองค์ความรูด้ า้ น สง่ิ แวดล้อม มู ล นิ ธิ โ ล ก สี เ ขี ย ว พัฒนาจิตส�านึกและ พฤติกรรมของมนุษย์ ต่อสง่ิ แวดลอ้ ม มูลนิธสิ ่งิ แวดลอ้ มศึกษา เพอื่ การพฒั นาอย่าง ยง่ั ยืน (ประเทศไทย) [FEED] อนุรกั ษธ์ รรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการ พฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื 54
ภมู ศิ าสตร์ 55 มูลนธิ ิสืบนาคะเสถียร รณรงคใ์ หม้ กี ารรกั ษาป่า อนุรักษ์ และเผยแพร่ความรู้ มลู นิธิช้างแห่งประเทศไทย ถา่ ยทอดปัญหาและวธิ กี าร ช่วยเหลอื ช้าง
กฎหมายส่ิงแวดลอ้ ม มาตรา ๕๐ (๘) รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ ได้กาํ หนดบทบัญญตั ิ คมุ้ ครองสิง่ แวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ทีเ่ กย่ี วกบั สิง่ แวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้ง มรดกทางวัฒนธรรม มาตรา ๕๗ (๒) มาตรา ๗๒ อนุรักษ์ คุ้มครอง บ�ารุงรักษา ฟืนฟู บริหาร จัดการ และใช้หรือจัดให้มีการใช้ประโยชน์จาก รฐั พงึ ดา� เนนิ การเกยี่ วกบั ทดี่ นิ ทรพั ยากรนา�้ และพลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาต ิ สง่ิ แวดลอ้ ม ความหลากหลาย ดังตอ่ ไปนี้ ทางชีวภาพ ให้เกิดประโยชน์อย่างสมดุลและ (๑) วางแผนการใช้ที่ดินของประเทศให้เหมาะสมกับ ย่ังยืน โดยต้องให้ประชาชนและชุมชนในท้องถ่ิน สภาพของพ้ืนท่ีและศักยภาพของที่ดินตามหลักการ ท่ีเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมด�าเนินการและได้รับ พัฒนาอย่างย่งั ยนื ประโยชน์จากการด�าเนินการดังกล่าวด้วย (๒) จัดให้มีการวางผังเมืองทุกระดับและบังคับการให้ ตามทกี่ ฎหมายบญั ญตั ิ เปน็ ไปตามผงั เมอื งอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพรวมตลอดทงั้ พัฒนาเมืองให้มีความเจริญโดยสอดคล้องกับความ มาตราท่ี ๔๓ (๒) ต้องการของประชาชนในพื้นท่ี (๓) จัดให้มีมาตรการกระจายการถือครองท่ีดินเพื่อให้ จดั การบ�ารงุ รักษา และใชป้ ระโยชน์ ประชาชนสามารถมีที่ท�ากินได้อย่างทั่วถึงและ จากทรพั ยากรธรรมชาต ิ สงิ่ แวดลอ้ ม เป็นธรรม และความหลากหลายทางชีวภาพ (๔) จัดให้มีทรัพยากรน�้าที่มีคุณภาพและเพียงพอ อย่างสมดุลและย่ังยืนตามวิธีการท่ี ต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน รวมทั้งการ กฎหมายบญั ญัติ ประกอบเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและการอืน่ (๕) สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษพ์ ลงั งานและการใชพ้ ลงั งานอยา่ ง คมุ้ คา่ รวมทงั้ พฒั นา และสนบั สนนุ ใหม้ กี ารผลติ และ การใช้พลังงานทางเลือกเพื่อเสริมสร้างความม่ันคง ดา้ นพลังงานอย่างยง่ั ยนื มาตรา ๕๘ การด�าเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตให้ ผู้ใดด�าเนินการ ถ้าการน้ันอาจมีผลกระทบต่อ ทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตหรือส่วนได้เสียส�าคัญอ่ืนใดของ ประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รัฐ ต้องด�าเนินการให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบ ต่อคุณภาพส่ิงแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน หรือชุมชน และการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของ ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่เก่ียวข้องก่อน เพื่อน�ามาประกอบการพจิ ารณาดา� เนนิ การหรอื อนญุ าต ตามทีก่ ฎหมายบญั ญตั ิ 56
ภมู ศิ าสตร์ 57 พระราชบญั ญัตสิ ง่ เสรมิ และรักษาคุณภาพ พระราชบัญญัตสิ ง่ เสริมและรักษาคณุ ภาพ สง่ิ แวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ สิง่ แวดลอ้ มแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นกฎหมายที่ก�ำหนดให้มีคณะกรรมการ เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการจัดท�ำรายงาน สง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ โดยมนี ายกรฐั มนตรเี ปน็ ประธาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับ จัดต้ังกองทุนส่ิงแวดล้อม การคุ้มครองส่ิงแวดล้อม บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การควบคุมมลพิษ มาตรการส่งเสริม ความรับผิด พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๕๘ และมาตรา ๒๗๘ ทางแพ่งซึ่งเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งก�ำเนิด มลพิษต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือค่า ๒ เสียหาย และบทก�ำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามคำ� สง่ั พระราชบญั ญตั ริ กั ษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ๑ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ เปน็ กฎหมายทใ่ี หอ้ ำ� นาจราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ พระราชบัญญัติรักษาความสะอาด ในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยและก�ำหนดอัตรา และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง คา่ ธรรมเนยี มการใหบ้ รกิ าร รวมทงั้ กำ� หนดใหร้ าชการ พ.ศ. ๒๕๓๕ สว่ นทอ้ งถน่ิ มอี ำ� นาจนำ� สงิ่ ปฏกิ ลู และมลู ฝอยทจ่ี ดั เกบ็ เ ป ็ น ก ฎ ห ม า ย ที่ ก� ำ ห น ด ก า ร รั ก ษ า ได้ไปใชป้ ระโยชน์หรือหาประโยชนไ์ ด้ ความสะอาด การดูแลรักษาต้นไม้ การห้ามท้ิง ส่ิงปฏิกูลมูลฝอยในท่ีสาธารณะและสถานสาธารณะ การรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยท่ัวไป และบทก�ำหนดโทษผู้ท่ฝี ่าฝนื
Search