Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หมวด การจัดการศึกษาและนักศึกษา (e-book) edit

หมวด การจัดการศึกษาและนักศึกษา (e-book) edit

Published by autauttapon08, 2021-11-30 07:40:03

Description: หมวด การจัดการศึกษาและนักศึกษา (e-book) edit

Search

Read the Text Version

๔๐งานกฎหมายและนิตกิ าร (๕) คณะกรรมการวินัยนักศึกษามหาวิทยาลัยมีมติให้ออกเพราะมีความประพฤติเส่ือมเสีย หรือ บกพรอ่ งต่อหนา้ ท่ีหรือหยอ่ นความสามารถ (๖) เปน็ บุคคลลม้ ละลาย (๗) เปน็ บุคคลไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมือนไรค้ วามสามารถ ในกรณีที่กรรมการตามวรรคหนงึ่ พ้นจากตําแหน่งก่อนครบวาระใหด้ ําเนินการสรรหาแทนตําแหน่ง ท่ีว่างและอยู่ในวาระเท่าท่ีเหลืออยู่ของผู้ซ่ึงตนแทน เว้นแต่วาระเหลือเวลาน้อยกว่าเก้าสิบวันของผู้ซ่ึงพ้นจาก ตําแหน่งจะไม่แต่งต้ังแทนก็ได้ ให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษามหาวิทยาลัยประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ มอี าํ นาจและปฏบิ ตั ิหน้าทีต่ ่อไปได้ ในกรณีที่กรรมการตามวรรคหนง่ึ เหลือวาระการดํารงตําแหน่งไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันใหด้ ําเนินการ ให้ไดม้ าซง่ึ กรรมการตามวรรคหนง่ึ ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในสามสบิ วนั การพ้นตําแหน่งตามวรรคสอง (๕) ต้องมีคะแนนเสียงลงมติไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวน คณะกรรมการวินยั นกั ศกึ ษามหาวิทยาลยั ขอ้ ๒๕ คณะกรรมการวนิ ัยนกั ศกึ ษามหาวิทยาลัย มีอาํ นาจหน้าที่ ดังต่อไปน้ี (๑) กํากบั ดแู ลงานวินัยนกั ศึกษาของมหาวทิ ยาลัย (๒) เสนอปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคําส่ังเกี่ยวกับงานวินัยนักศึกษาต่อ อธกิ ารบดี (๓) เสนอหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนทางวินัยศึกษา รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการอุทธรณ์ เสนอต่ออธิการบดี (๔) เสนอแนวทางและมาตรการเกยี่ วกับการพัฒนาความเปน็ ระเบียบวินัยของนักศึกษา (๕) แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยนักศึกษาที่เป็นความผิดวินัยร้ายแรง หรือ ความผิดวินัยที่กระทําโดยนักศึกษาหลายคณะ ท้ังนี้ คณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวตอ้ งมีนายกองคก์ ารนักศึกษา หรอื ผ้แู ทนรว่ มเป็นกรรมการดว้ ย (๖) พิจารณาผลการสอบสวนความผิดทางวินัยนักศึกษาและออกคําส่ังลงโทษวินัยนักศึกษา พรอ้ มแจง้ สทิ ธอิ ทุ ธรณ์คาํ สัง่ ลงโทษวินยั นกั ศึกษาภายในสามสบิ วนั นบั ตง้ั แตร่ บั แจ้งคําส่งั ลงโทษวินัย (๗) แต่งต้ังคณะทํางาน อนุกรรมการ คณะบุคคล หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพื่อช่วยปฏิบัติหน้าท่ี ของคณะกรรมการวินยั นักศึกษามหาวทิ ยาลัยตามความเหมาะสมและจาํ เปน็ (๘) ปฏบิ ัติงานอืน่ ท่ีเกยี่ วข้องหรอื ตามทอี่ ธกิ ารบดีมอบหมาย (๙) มีอํานาจหน้าที่อน่ื ทก่ี าํ หนดไว้ในขอ้ บงั คบั น้ี ข้อ ๒๖ คณะกรรมการวินยั นกั ศึกษาประจําคณะ ประกอบดว้ ย (๑) รองคณบดีหรือผู้ท่คี ณบดีมอบหมาย เปน็ ประธานกรรมการ

๔๑งานกฎหมายและนิตกิ าร (๒) ผู้แทนคณาจารย์ประจําจากสาขาวิชาภายในคณะ โดยคัดเลือกกันเอง จํานวนไม่เกินสามคน เปน็ กรรมการ (๓) เจา้ หน้าท่ีประจาํ คณะ โดยคณบดเี สนอแตง่ ต้ัง จํานวนหนึ่งคน เป็นกรรมการและเลขานุการ ประธานกรรมการตาม (๑) จะแต่งตงั้ ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ ารจาํ นวนหนึ่งคนดว้ ยกไ็ ด้ ข้อ ๒๗ ให้กรรมการตามข้อ ๒๖ (๒) มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสองปีและอาจได้รับการ แตง่ ตง้ั ใหมอ่ ีกได้ นอกจากพ้นตาํ แหนง่ ตามวาระแลว้ อาจพน้ ตําแหน่งในกรณตี ่อไปนี้ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบตั ขิ องการเปน็ กรรมการในประเภทนั้น (๔) ถกู จําคกุ โดยคําพิพากษาถงึ ท่ีสุดใหจ้ าํ คุก (๕) คณะกรรมการวินัยนักศึกษาประจําคณะ มีมติให้ออกเพราะมีความประพฤติเส่ือมเสีย หรือ บกพร่องตอ่ หน้าท่หี รอื หยอ่ นความสามารถ (๖) เปน็ บคุ คลลม้ ละลาย (๗) เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีท่ีกรรมการตามวรรคหนึ่ง พ้นจากตําแหน่งก่อนครบวาระใหด้ ําเนินการสรรหาแทนตําแหน่งที่วา่ งและอยใู่ นวาระเทา่ ทเ่ี หลืออยู่ของผ้ซู ึ่งตน แทน เว้นแต่วาระเหลือเวลาน้อยกว่าเก้าสิบวันของผซู้ ึ่งพ้นจากตําแหน่งจะไม่แต่งตั้งแทนก็ได้ให้คณะกรรมการ วินัยนกั ศึกษาประจําคณะประกอบดว้ ยกรรมการเท่าที่มีอยู่ มีอํานาจและปฏิบตั ิหน้าท่ตี อ่ ไปได้ ในกรณีที่กรรมการตามวรรคหนึ่งเหลือวาระการดํารงตําแหน่งไมน่ ้อยกว่าเก้าสิบวันใหด้ ําเนินการ ใหไ้ ด้มาซง่ึ กรรมการตามวรรคหนึ่งให้แลว้ เสรจ็ ภายในสามสิบวัน การพ้นตําแหน่งตามวรรคสอง (๕) ต้องมีคะแนนเสียงลงมติไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวน คณะกรรมการวนิ ยั นักศกึ ษาประจาํ คณะ ขอ้ ๒๘ คณะกรรมการวินยั นกั ศกึ ษาประจาํ คณะ มอี าํ นาจหน้าท่ี ดงั ต่อไปนี้ (๑) กาํ กบั ดแู ลงานวินยั นักศกึ ษาของคณะ (๒) เสนอแนวทางและมาตรการเกี่ยวกับการพัฒนาความมีระเบียบวินัยของนักศึกษา ภายใน คณะตอ่ คณะกรรมการวนิ ยั นักศึกษามหาวทิ ยาลัย (๓) ควบคุมความประพฤตนิ กั ศกึ ษาภายในคณะ (๔) แต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยนักศึกษาของคณะที่เป็นความผิดวินัย ไม่ร้ายแรง ท้ังน้ี คณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวต้องมีนายกสโมสรนักศึกษาประจําคณะหรือผู้แทนร่วมเป็น กรรมการด้วย

๔๒งานกฎหมายและนติ ิการ (๕) พิจารณาผลการสอบสวนความผิดทางวินัยนักศึกษาและออกคําส่ังลงโทษวินัยนักศึกษาของ คณะท่ีเปน็ ความผดิ วินัยไม่ร้ายแรงพร้อมแจ้งสทิ ธิอุทธรณ์คําสง่ั ลงโทษวินัยนักศึกษาภายใน สามสบิ วันนบั ต้ังแต่ รบั แจ้งคําสั่งลงโทษวนิ ยั (๖) ดําเนินการอื่นท่ีเก่ียวข้องหรือตามท่ีคณะกรรมการวินัยนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือตามที่ อธิการบดีมอบหมาย (๗) มีอํานาจหน้าท่อี น่ื ทก่ี าํ หนดไวใ้ นข้อบงั คับน้ี ข้อ ๒๙ คณะกรรมการวนิ ัยนักศกึ ษาประจาํ หอพกั ประกอบดว้ ย (๑) ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมายจากอธกิ ารบดี เป็นประธานกรรมการ (๒) คณาจารย์ประจําผู้ดูแลรับผิดชอบประจําหอพักนักศึกษา โดยคัดเลือกกันเอง จํานวนไม่เกิน สามคน เปน็ กรรมการ (๓) เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยท่ีรับผิดชอบงานด้านหอพักนักศึกษา จํานวนหน่ึงคน เป็นกรรมการ และเลขานกุ าร ประธานกรรมการตาม (๑) จะแต่งต้ังผชู้ ว่ ยเลขานุการจาํ นวนหนง่ึ คนดว้ ยกไ็ ด้ ข้อ ๓๐ ให้กรรมการตามข้อ ๒๙ (๒) มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสองปีและอาจได้รับการ แต่งตั้งใหม่อกี ได้ นอกจากพ้นตาํ แหน่งตามวาระแลว้ อาจพ้นตาํ แหนง่ ในกรณีตอ่ ไปน้ี (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบตั ิของการเป็นกรรมการในประเภทนั้น (๔) ถูกจาํ คกุ โดยคําพพิ ากษาถึงทสี่ ดุ ใหจ้ ําคุก (๕) คณะกรรมการวินัยนักศึกษาประจําหอพักมีมติให้ออกเพราะมีความประพฤติเส่ือมเสีย หรือ บกพร่องตอ่ หน้าทห่ี รอื หย่อนความสามารถ (๖) เปน็ บุคคลล้มละลาย (๗) เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีท่ีกรรมการตามวรรคหนึ่ง พ้นจากตําแหน่งก่อนครบวาระให้ดําเนินการสรรหาแทนตําแหน่งท่ีว่างและอยู่ในวาระเท่าท่ีเหลืออยู่ของผู้ซึ่งตน แทน เว้นแต่วาระเหลือเวลาน้อยกว่าเก้าสิบวันของผู้ซ่ึงพ้นจากตําแหน่งจะไม่แต่งตั้งแทนก็ได้ ให้คณะกรรมการ วินัยนกั ศกึ ษาประจาํ หอพักประกอบดว้ ยกรรมการเท่าท่ีมีอยู่ มอี ํานาจและปฏบิ ัตหิ น้าทีต่ ่อไปได้ ในกรณีท่ีกรรมการตามวรรคหนง่ึ เหลือวาระการดํารงตําแหน่งไมน่ ้อยกว่าเก้าสิบวันให้ดําเนินการ ใหไ้ ดม้ าซงึ่ กรรมการตามวรรคหน่ึงให้แลว้ เสรจ็ ภายในสามสิบวัน การพ้นตําแหน่งตามวรรคสอง (๕) ต้องมีคะแนนเสียงลงมติไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวน คณะกรรมการวินยั นกั ศึกษาประจาํ หอพัก

๔๓งานกฎหมายและนติ กิ าร ข้อ ๓๑ คณะกรรมการวินัยนกั ศึกษาประจาํ หอพกั มีอํานาจหนา้ ท่ี ดังต่อไปนี้ (๑) กํากับดแู ลงานวินยั นกั ศกึ ษาของหอพกั (๒) เสนอแนวทางและมาตรการเก่ียวกับการพัฒนาความมีระเบียบวินัยของนักศึกษาภายใน หอพกั ต่อคณะกรรมการวนิ ัยนกั ศึกษามหาวิทยาลยั (๓) ควบคมุ ความประพฤตินกั ศกึ ษาภายในหอพัก (๔) แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยนักศึกษาประจําหอพักท่ีเป็นความผิดวินัย ไมร่ า้ ยแรง ทงั้ นี้ คณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวตอ้ งมีหัวหน้านักศกึ ษาประจาํ หอพกั หรือผู้แทนร่วมเป็นกรรมการด้วย (๕) พิจารณาผลการสอบสวนความผิดทางวินัยนักศึกษาและออกคําสั่งลงโทษวินัยนักศึกษาประจํา หอพักที่เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรงพร้อมแจ้งสิทธิอุทธรณ์คําสั่งลงโทษวินัยนักศึกษา ภายในสามสิบวันนับตั้งแต่ รับแจ้งคาํ สงั่ ลงโทษวนิ ัย (๖) ดําเนินการอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องหรือตามท่ีคณะกรรมการวินัยนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือตามที่ อธกิ ารบดีมอบหมาย (๗) มีอาํ นาจหนา้ ที่อ่นื ท่กี ําหนดไวใ้ นขอ้ บังคับนี้ ข้อ ๓๒ ให้กองพัฒนานักศึกษาเป็นสํานักงานเลขานุการคณะกรรมการวินัยนักศึกษาทําหน้าท่ี กํากับดูแลเก่ียวกับวินัยและการดําเนินการทางวินัยนักศึกษา และเก็บรวบรวมสํานวนหรือข้อมูลเกี่ยวกับการ ลงโทษวินัยนกั ศึกษาเพ่อื ให้การดาํ เนนิ การตามขอ้ บังคบั เปน็ ไปดว้ ยความถูกต้องเรยี บรอ้ ย ข้อ ๓๓ เมื่อความปรากฎหรือมีผู้ร้องเรียนว่านักศึกษากระทําผิดวินัยโดยมีหลักฐานตามสมควร ว่าได้กระทําผิดวินัย ให้กองพัฒนานักศึกษาเป็นหน่วยงานรับเร่ืองร้องเรียนดังกล่าวเพื่อดําเนินการทางวินัย นักศกึ ษาตามขอ้ บังคบั น้ี หมวด ๓ การพิจารณาเกย่ี วกบั ความผิดทางวินัยนกั ศกึ ษา ส่วนที่ ๑ สทิ ธิและหนา้ ทขี่ องนักศึกษาผถู้ ูกร้องเรียน ข้อ ๓๔ สิทธิในการได้รับแจ้งสิทธิและหน้าท่ีของตนจากเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณา เก่ียวกับความผิดทางวินยั นกั ศกึ ษาตามความจาํ เปน็ แก่กรณี ข้อ ๓๕ สิทธิท่ีจะได้รับการแนะนําเพื่อแก้ไขเพ่ิมเติมให้ถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ ในกรณีคําให้การ หรือคําชี้แจงมีข้อบกพร่อง หรือมีข้อความที่อ่านไม่เข้าใจ หรือผิดหลงอันเห็นได้ชัดว่าเกิดจากความไม่รู้ หรือ ความเลินเล่อของนักศึกษาผ้ถู กู รอ้ งเรยี น

๔๔งานกฎหมายและนิติการ ขอ้ ๓๖ สิทธิท่ีจะได้รับโอกาสรับทราบขอ้ เท็จจรงิ อย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดง พยานหลักฐานของตนในกรณี คําสั่งของคณ ะกรรมการวินัยนักศึก ษาอาจจะกระทบถึงสิทธิของนักศึกษา ผูถ้ กู ร้องเรียนจากเจา้ หน้าท่ี ความในวรรคหนึ่ง มิให้นํามาใช้บังคับในกรณีดังต่อไปน้ี เว้นแต่เจ้าหน้าท่ีจะเห็นสมควรปฏิบัติ เป็นอย่างอืน่ (๑) เมื่อมีความจําเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เน่ินช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ ผหู้ น่งึ ผ้ใู ดหรอื จะกระทบต่อประโยชนส์ าธารณะ (๒) เมอ่ื เป็นขอ้ เทจ็ จรงิ ทน่ี ักศึกษาผู้ถูกรอ้ งเรียนน้นั เองได้ให้ไว้ในคาํ ให้การหรอื คาํ ชีแ้ จง (๓) เมอื่ โดยสภาพเห็นได้ชัดในตวั วา่ การใหโ้ อกาสดังกล่าวไมอ่ าจจะกระทําได้ (๔) เมือ่ เป็นมาตรการบงั คบั ทางปกครอง ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ให้โอกาสตามวรรคหนึ่ง ถ้าจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประโยชน์ สาธารณะ ข้อ ๓๗ สิทธิที่จะขอตรวจดูเอกสารท่ีจําเป็นต้องรู้เพื่อการโต้แย้งหรือชี้แจงหรือป้องกันสิทธิของ ตนได้ แต่ถ้ายังไม่ได้ทําคําส่ังลงโทษวินัยนักศึกษาของคณะกรรมการวินัยนักศึกษา นักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนไม่มี สทิ ธิขอตรวจดเู อกสารอนั เป็นต้นร่างคาํ วินิจฉัย การตรวจดูเอกสาร ค่าใช้จ่ายในการตรวจดูเอกสารหรือจัดการทําสําเนาเอกสารให้เป็นไปตาม หลกั เกณฑ์และวธิ ีการทคี่ ณะกรรมการวินัยนักศึกษากาํ หนด ข้อ ๓๘ สิทธิในการนําทนายความหรือท่ีปรึกษาของตนเข้ามาในการพิจารณาเก่ียวกับความผิด ทางวนิ ัยนักศึกษา ในกรณที ี่นกั ศึกษาผู้ถกู ร้องเรียนตอ้ งมาปรากฏตัวต่อเจ้าหน้าที่ การใดท่ีทนายความหรือท่ีปรึกษาได้ทําลงต่อหน้านักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนถือว่าเป็นการกระทํา ของนกั ศึกษาผถู้ กู รอ้ งเรยี น เว้นแต่นักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนจะไดค้ ดั คา้ นเสยี แต่ในขณะนน้ั ข้อ ๓๙ สิทธิท่ีจะทราบเหตุผลในคําสั่งของคณะกรรมการวินัยนักศึกษา และเหตุผลน้ันอย่างน้อย ต้องประกอบด้วย (๑) ขอ้ เทจ็ จรงิ อนั เป็นสาระสําคญั (๒) ข้อกฎหมายทอ่ี ้างองิ (๓) ข้อพิจารณาและขอ้ สนบั สนุนในการใชด้ ลุ พนิ ิจ ข้อ ๔๐ นักศึกษาผู้ถูกรอ้ งเรียนมีหน้าท่ีต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าท่ใี นการพิสูจน์ขอ้ เท็จจริง และมีหน้าท่ีแจง้ พยานหลกั ฐานทีต่ นทราบแกเ่ จ้าหน้าที่

๔๕งานกฎหมายและนติ กิ าร สว่ นที่ ๒ เจ้าหนา้ ที่ ข้อ ๔๑ เจ้าหน้าที่ดังตอ่ ไปนี้จะทําการพจิ ารณาเก่ยี วกบั ความผดิ ทางวนิ ยั นักศึกษาไม่ได้ (๑) เป็นค่กู รณีเอง (๒) เปน็ คหู่ ม้ันหรอื คสู่ มรสของคกู่ รณี (๓) เป็นญาติของคู่กรณี คือ เป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานไม่ว่าช้ันใด ๆ หรือเป็นพี่น้อง หรือ ลูกพลี่ กู น้องนบั ได้เพยี งภายในสามชั้น หรือเปน็ ญาติเก่ียวพนั ทางแต่งงานนบั ไดเ้ พียงสองชั้น (๔) เปน็ หรือเคยเป็นผ้แู ทนโดยชอบธรรมหรอื ผพู้ ทิ ักษ์ ผแู้ ทนหรือตวั แทนของค่กู รณี (๕) เปน็ เจ้าหนีห้ รือลูกหนี้ หรือเปน็ นายจ้างของคู่กรณี (๖) กรณอี ื่นทค่ี ณะกรรมการวินยั นักศึกษากาํ หนด ข้อ ๔๒ เมื่อมีกรณีตามข้อ ๔๑ หรือคู่กรณีคัดค้านว่าเจ้าหน้าท่ีมีลักษณะดังกล่าวให้ประธาน กรรมการวินัยนักศึกษามหาวิทยาลัย ประธานกรรมการวินัยนักศึกษาประจําคณะ ประธานกรรมการวินัย นักศึกษาประจาํ หอพัก หรอื ประธานกรรมการสอบสวนความผิดวนิ ัยนักศึกษา เรียกประชมุ คณะกรรมการท่ีตน เปน็ ประธานแล้วแตก่ รณี เพ่อื พิจารณาเหตุคัดคา้ นน้ัน ในการประชุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ผู้ถกู คัดค้านเมื่อได้ชีแ้ จง ข้อเทจ็ จรงิ และตอบขอ้ ซกั ถามแล้วต้องออกจากห้องประชมุ ถ้าเจ้าหน้าท่ีผู้ถูกคัดค้านต้องออกจากท่ีประชุม ให้ถือว่าคณะกรรมการคณะน้ันประกอบด้วย กรรมการทุกคนทไี่ มถ่ กู คดั ค้าน ถ้าที่ประชุมมีมติให้เจ้าหน้าท่ีผู้ถูกคัดค้านปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองใน สามของกรรมการท่ีไม่ถูกคัดค้าน ก็ให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ มติดังกล่าวให้กระทํา โดยวิธี ลงคะแนนลบั และใหเ้ ปน็ ที่สดุ การย่ืนคําคัดค้านและการพิจารณาคําคัดค้านให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ วินยั นกั ศกึ ษามหาวิทยาลยั กําหนด ขอ้ ๔๓ ในกรณีมีเหตุอื่นใดนอกจากที่กําหนดไว้ในข้อ ๔๑ เกี่ยวกับเจ้าหน้าท่ีซ่ึงมีสภาพร้ายแรง อันอาจทําให้การพิจารณาเกี่ยวกับความผิดทางวินัยนักศึกษาไม่เป็นกลาง เจ้าหน้าท่ีผู้นั้นจะทําการพิจารณา เกยี่ วกบั ความผดิ ทางวนิ ัยนักศกึ ษาในเร่ืองนั้นไม่ได้ ในกรณตี ามวรรคหนึ่งใหด้ าํ เนินการดังต่อไปนี้ (๑) ถ้าผู้น้ันเห็นเองวา่ ตนมกี รณดี งั กล่าวให้ผู้นั้นหยดุ การพิจารณาเรือ่ งไวก้ อ่ น และแจง้ ให้ประธานทราบ (๒) ถ้ามีคู่กรณีคัดค้านว่าผู้นั้นมีเหตุดังกล่าว หากผู้นั้นเห็นว่าตนไม่มีเหตุตามท่ีคัดค้านน้ัน ผู้นั้นจะ ทาํ การพิจารณาเรือ่ งตอ่ ไปก็ได้แต่ต้องแจง้ ให้ประธานทราบ

๔๖งานกฎหมายและนิติการ (๓) ให้คณะอนุกรรมการหรือคณะกรรมการท่ีมีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับความผิดทางวินัย นักศกึ ษาซึง่ ผู้นั้นเป็นอนกุ รรมการหรือกรรมการอยู่มคี ําสง่ั หรอื มมี ติโดยไมช่ ักชา้ แลว้ แตก่ รณี ว่าผ้นู นั้ มีอาํ นาจใน การพจิ ารณาเกีย่ วกับความผิดวนิ ัยนกั ศกึ ษาในเรอ่ื งนั้นหรือไม่ ใหน้ ําข้อกําหนดในข้อ ๔๒ วรรคสอง วรรคสามและวรรคสี่มาใช้บังคบั โดยอนุโลม ข้อ ๔๔ การกระทําใด ๆ ของเจ้าหน้าท่ีท่ีถูกคัดค้าน ท่ีได้กระทําไปก่อนหยุดพิจารณาตามข้อ ๔๓ ยอ่ มไมเ่ สยี ไป เว้นแต่เจ้าหน้าท่ีผู้เขา้ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ถกู คดั ค้านจะเห็นสมควรดําเนินการสว่ นหนึ่งส่วนใดเสียใหม่ ก็ได้ ข้อ ๔๕ ข้อกําหนดตามข้อ ๔๑ ถึงข้อ ๔๔ ไม่ให้นํามาใช้บังคับกับกรณีท่ีมีความจําเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้ล่าช้าไปจะเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะหรือสิทธิของบุคคลจะเสียหายโดยไม่มีทางแก้ไขได้ หรือไม่มีเจา้ หนา้ ท่ีอน่ื ปฏิบตั ิหนา้ ทีแ่ ทนผู้นน้ั ได้ ข้อ ๔๖ ถ้าปรากฏภายหลังว่าเจ้าหน้าท่ีในคณะอนุกรรมการหรือคณะกรรมการแล้วแต่กรณี ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หรอื การแต่งต้ังไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้ผนู้ ั้นต้องพ้นจากตําแหน่ง การพน้ จากตําแหน่งเช่นวา่ นี้ไม่กระทบกระเทือนถึงการใดท่ีผนู้ ้ันได้ปฏบิ ัติไปตามอํานาจหนา้ ที่ สว่ นที่ ๓ วิธพี จิ ารณาเกีย่ วกับความผิดทางวนิ ัยนักศกึ ษาของเจา้ หน้าที่ ข้อ ๔๗ ในการพิจารณาเกย่ี วกบั ความผิดทางวนิ ัยนักศึกษาใช้ระบบไต่สวน ข้อ ๔๘ เอกสารทย่ี นื่ ตอ่ เจา้ หนา้ ที่ใหจ้ ัดทําเปน็ ภาษาไทย ข้อ ๔๙ เจ้าหน้าที่อาจตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ตามความเหมาะสมในเรื่องนั้นโดยไม่ต้องผูกพัน อยู่กับคาํ ร้องเรียน คําให้การ คําชแี้ จงหรือพยานหลักฐานของคู่กรณี ขอ้ ๕๐ เจ้าหน้าท่ีต้องพจิ ารณาพยานหลักฐานท่ีตนเห็นว่าจําเป็นแก่การพิสูจนข์ ้อเท็จจริง ในการนี้ ใหร้ วมถงึ การดําเนินการ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) แสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างที่เก่ียวข้อง รับฟังพยานหลักฐาน คําชแี้ จงหรอื ความเห็นของ คู่กรณี หรือของพยานบุคคลหรอื พยานผเู้ ชี่ยวชาญท่ีคู่กรณีกลา่ วอา้ ง เว้นแต่เจ้าหน้าท่ีเห็นวา่ เป็นการกล่าวอ้าง ทไ่ี ม่จําเป็นฟมุ่ เฟือยหรอื เพื่อประวิงเวลา (๒) ขอข้อเท็จจรงิ หรอื ความเห็นจากคูก่ รณี พยานบุคคล หรอื พยานผ้เู ชย่ี วชาญ (๓) ขอให้ผูค้ รอบครองเอกสารสง่ เอกสารท่ีเกี่ยวข้อง (๔) ออกไปตรวจสถานที่

๔๗งานกฎหมายและนิติการ ข้อ ๕๑ เจ้าหน้าท่ีอาจไม่อนุญาตให้คู่กรณีตรวจดูเอกสารหรือพยานหลักฐานได้ ถ้าเป็นกรณีที่ ต้องรกั ษาไว้เปน็ ความลบั ข้อ ๕๒ ในการพิจารณาเกี่ยวกับความผิดทางวินัยนักศึกษาให้คณะอนุกรรมการหรือคณะกรรมการ แต่ละคณะดาํ เนินการใหแ้ ลว้ เสร็จโดยมิชกั ชา้ สว่ นท่ี ๔ อํานาจและหนา้ ท่ขี องคณะกรรมการสอบสวนความผดิ ทางวินัยนกั ศึกษา ข้อ ๕๓ เม่ือประธานกรรมการสอบสวนได้รับแจ้งคําส่ังแต่งต้ังจากคณะกรรมการวินัยนักศึกษา ให้ดําเนินการสอบสวนนักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนเพ่ือทําการสอบสวนนักศึกษาผู้ถูกร้องเรยี นนั้นว่าได้ประพฤติผิด วนิ ัยนักศึกษาหรือไม่ อย่างไร แล้วเสนอรายงานต่อคณะกรรมการวินัยนักศึกษาเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับความผิด ทางวนิ ยั นกั ศึกษาและออกคําส่ังลงโทษวนิ ยั นักศึกษา ข้อ ๕๔ ให้ประธานกรรมการสอบสวนดําเนินการประชุมคณะกรรมการสอบสวนโดยมิชักช้า เพ่ือกําหนดประเด็นในการสอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริงตลอดจนพยานหลักฐานที่เกีย่ วข้อง ข้อ ๕๕ เม่ือคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่า พยานหลักฐานที่เก่ียวข้องเพียงพอแล้วให้สรุปกําหนด ประเด็นความผิดทางวินัยของนักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนท้ังหมด ข้อร้องเรียนพร้อมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ ประเด็นความผิดวินัย แล้วส่งให้นักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนได้โต้แย้งหรือช้ีแจงเพ่ือป้องกันสิทธิของตนโดยทําคําให้การ หรือคําช้ีแจงเป็นเอกสารส่งมายังคณะกรรมการสอบสวนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และนักศึกษา ผู้ถูกร้องเรียนมีสิทธิในการขอขยายเวลายื่นคําชี้แจงเพ่ือโต้แย้งประเด็นความผิดโดยย่ืนต่อประธานกรรมการ สอบสวนและให้อยู่ในดุลพินิจของประธานกรรมการสอบสวนจะอนุญาตขยายเวลาใหต้ ามสมควร ข้อ ๕๖ เมื่อนักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนส่งคําให้การหรือคําช้ีแจงภายในเวลาท่ีกําหนดหรือภายในเวลาท่ี ประธานกรรมการสอบสวนขยายให้หรือไม่ได้จัดส่งคําให้การหรือคําชี้แจงมาภายในเวลาดังกล่าว เพื่อความเป็น ธรรมในการพิจารณาเก่ียวกับความผดิ ทางวินัยนักศกึ ษาให้เปน็ หนา้ ที่ของคณะกรรมการสอบสวน ต้องมหี นังสือเชิญ ผู้ร้องเรียนหรือบุคคลอื่นท่ีเก่ียวข้องมาให้ถ้อยคําตามเวลาที่คณะกรรมการสอบสวนกําหนดก่อนและหนังสือเชิญ นักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนมาแจ้งข้อร้องเรียน และให้โอกาสชี้แจงโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานอย่างเต็มท่ีตามวันเวลาท่ี คณะกรรมการสอบสวนกําหนดในภายหลัง เพื่อให้นักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน ทงั้ หมดตอ่ ประเด็นความผิดวนิ ัยและพยานหลักฐาน ทั้งหลายต่อหน้าคณะกรรมการสอบสวน ข้อ ๕๗ เมื่อคณะกรรมการสอบสวนได้ดําเนินการสอบสวนสิ้นสุดแล้วให้มีการประชุมคณะกรรมการ สอบสวนเพือ่ สรุปสํานวนการสอบสวนและความเห็น โดยต้องมีเหตผุ ลอยา่ งน้อยต้องประกอบดว้ ย (๑) ขอ้ เทจ็ จริงและพยานหลักฐานอันเปน็ สาระสาํ คัญ (๒) ขอ้ กฎหมายทอ่ี ้างอิง

๔๘งานกฎหมายและนติ ิการ (๓) ขอ้ พจิ ารณาและขอ้ สนบั สนุนในการใชด้ ุลพินิจ ข้อ ๕๘ ความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนที่จะเสนอต่อคณะกรรมการวินัยนักศึกษาให้ถือตาม ความเห็นของกรรมการสอบสวนฝ่ายข้างมาก โดยให้เสนอพร้อมพยานหลักฐานทั้งปวง หากมีความจําเป็นหรือ เหน็ เปน็ การสมควรท่จี ะไมส่ ่งพยานหลักฐานรายการใดใหร้ ะบุรายการท่มี ิได้ส่งไวใ้ นสาํ นวนการสอบสวนด้วย ในกรณีท่ีกรรมการสอบสวนผู้ใดมีความเห็นแตกต่างจากกรรมการสอบสวนฝ่ายข้างมากและ ตอ้ งการใหบ้ ันทึกความเหน็ ทแ่ี ตกตา่ งไวก้ ็ให้กระทําได้ ข้อ ๕๙ สาํ นวนการสอบสวนและความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนทเี่ สนอต่อคณะกรรมการ วนิ ัยนักศึกษาอยา่ งนอ้ ยต้องมีสาระสําคญั ดังนี้ (๑) วนั เดือน ปี ทค่ี ณะกรรมการสอบสวนพิจารณาสรปุ สาํ นวนสอบสวนและความเห็น (๒) เลขรับเรอ่ื งที่ ... /พ.ศ. ... วนั ที่ ... เดอื น ... พ.ศ. ... (๓) ช่ือ ท่ีอยู่ รหัสนกั ศึกษา สงั กัด ของนกั ศกึ ษาผถู้ ูกร้องเรียน (๔) วนั เดอื น ปี และสถานที่ ทเี่ กิด เช่ือหรืออ้างว่าเกดิ การกระทําความผิดทางวินยั นักศกึ ษา (๕) ขอ้ เท็จจริงประกอบด้วยพฤตกิ รรมโดยย่อของนักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนที่ปรากฏในคําร้องเรียน และพฤติการณอ์ ่ืนตลอดจนพยานหลกั ฐานทีค่ ณะกรรมการสอบสวนได้มาเพ่ิมเติม (๖) ข้อกฎหมายทีอ่ า้ งองิ (๗) ความเห็นของกรรมการสอบสวนฝ่ายข้างมากพร้อมทั้งข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ ดุลพินิจว่านักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนประพฤติผิดวินัยนักศึกษาตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยวินัย และการดาํ เนนิ การทางวินัยนักศึกษา ข้อใดหรือไม่ (๗.๑) ถ้าเห็นว่านักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนไม่ประพฤติผิดวินัยนักศึกษาก็ให้เสนอความเห็นว่า ให้ยกขอ้ ร้องเรียน (๗.๒) ถ้าเห็นวา่ นักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนประพฤติผิดวินัยนักศึกษาก็ให้ระบวุ ่าประพฤติผิดวินัย หมวดใด ข้อใด พรอ้ มทัง้ เสนอการลงโทษ ในการพิจารณาเสนอการลงโทษ ให้คณะกรรมการสอบสวนพิจารณาเหตุอันควรปรานีต่อ นกั ศกึ ษาผู้ถกู ร้องเรียนโดยคํานึงถงึ ปัจจยั ดังตอ่ ไปนี้ ก. ผูก้ ระทําผดิ มีคุณความดมี าก่อน ข. ผกู้ ระทําผดิ รสู้ กึ สาํ นกึ ถึงความผิดและพยายามบรรเทาผลรา้ ยแหง่ ความผดิ น้ัน ค. ผู้กระทําความผิดยอมรับผิดหรือให้ความรู้แก่คณะกรรมการสอบสวนอันเป็นประโยชน์ แกก่ ารพจิ ารณา ง. เหตุอ่ืน ๆ ท่คี ณะกรรมการเหน็ วา่ มีลกั ษณะทํานองเดยี วกัน (๘) ความเหน็ ของกรรมการสอบสวนฝ่ายข้างน้อยทแ่ี ตกต่างไปจากความเห็นใน (๗) ถา้ มี

๔๙งานกฎหมายและนติ ิการ ขอ้ ๖๐ ในกรณีท่ีนักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนรับสารภาพวา่ ได้กระทําความผิดวินัย ให้นักศึกษาผู้น้ัน ทําคํารับสารภาพเป็นหนังสือย่ืนต่อคณะกรรมการวินัยนักศึกษาเพ่ือพิจารณาโทษทางวินัยนักศึกษาโดยจะไม่ ตอ้ งทําการสอบสวนกไ็ ด้ สว่ นที่ ๕ อาํ นาจและหน้าทข่ี องคณะกรรมการวินัยนักศึกษา ข้อ ๖๑ ในการพิจารณาสํานวนการสอบสวนและความเห็นของคณะกรรมการสอบสวน ให้คณะกรรมการวนิ ัยนักศึกษาพจิ ารณาเกย่ี วกับความผิดทางวินัยนักศึกษา วนิ ิจฉัยชข้ี าดทีล่ ะประเด็น ดังตอ่ ไปน้ี (๑) กรณีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานไม่เพียงพอท่ีจะวินิจฉัย ก็ให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษา กําหนดประเด็นทต่ี ้องการใหค้ ณะกรรมการสอบสวนทําการสอบสวนเพิม่ เตมิ (๒) กรณีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัย ก็ให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษา พจิ ารณาวนิ จิ ฉัยชี้ขาดพรอ้ มเหตุผล ดังต่อไปน้ี (๒.๑) พฤติกรรมที่ปรากฏไม่ผิดวินัยตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยวินัย และการดําเนินการทางวนิ ัยนักศึกษา ก็ใหย้ กขอ้ ร้องเรียน (๒.๒) พฤติกรรมที่ปรากฏว่าผิดวินัยตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยวินัย และการดําเนินการทางวินัยนักศึกษานั้น หมวดใด ข้อใด พร้อมพิจารณาเหตุอันควรปรานีและให้ออกคําสั่ง ลงโทษทางวนิ ัยนักศกึ ษา (๓) กรณีที่คณะกรรมการวินัยนักศึกษามีความเห็นแตกต่างจากคณะกรรมการสอบสวน ให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษาวินิจฉัยชี้ขาดได้ แต่ต้องมีเหตุผลหนักแน่นประกอบและให้แจ้งมติคณะกรรมการ วนิ ยั นกั ศกึ ษาพร้อมท้ังเหตุผลท่ตี ่างไปแก่ประธานกรรมการสอบสวนเพื่อทราบ (๔) ในกรณีที่นักศึกษาผู้ถูกร้องเรียนรับสารภาพตามข้อ ๖๐ ให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษา พิจารณาลงโทษทางวินัยนักศึกษาตามควรแก่กรณีได้เลยหากเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอให้วินิจฉัยช้ีขาด ความผิด เว้นแต่พยานหลักฐานไม่เพยี งพอจะทําการไตส่ วนหาพยานหลักฐานเพ่ิมเติมก็ได้ ในการวินิจฉัยช้ีขาดของคณะกรรมการวินัยนักศึกษาให้เป็นไปตามกรรมการฝา่ ยข้างมาก ถ้ากรรมการ ผู้ใดมคี วามเห็นแตกตา่ งไปจากกรรมการฝ่ายขา้ งมากและตอ้ งการบนั ทกึ ความเหน็ ท่ีแตกตา่ งไว้ ก็ให้กระทําได้ หมวด ๔ การอทุ ธรณ์วินยั นกั ศกึ ษา สว่ นที่ ๑ คณะกรรมการอทุ ธรณ์วินยั นักศึกษา ขอ้ ๖๒ ใหอ้ ธิการบดแี ตง่ ตง้ั คณะกรรมการอทุ ธรณว์ ินัยนกั ศึกษา ประกอบดว้ ย

๕๐งานกฎหมายและนิตกิ าร (๑) ผูท้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมายจากอธิการบดี เป็นประธานกรรมการ (๒) ผู้ชว่ ยอธกิ ารบดีหรือบคุ คลทอี่ ธิการบดีมอบหมาย จํานวนหนงึ่ คน เป็นรองประธานกรรมการ (๓) ผู้ทรงคณุ วฒุ ดิ ้านกฎหมาย จาํ นวนหนึ่งคน เปน็ กรรมการ (๔) ผอู้ ํานวยการสาํ นกั งานอธกิ ารบดี เป็นกรรมการ (๕) นติ ิกรหรอื อาจารยส์ าขาวชิ านติ ิศาสตร์ จาํ นวนหน่งึ คน เปน็ กรรมการและเลขานุการ ประธานกรรมการตาม (๑) จะแตง่ ตง้ั ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารจาํ นวนไมเ่ กินสองคนด้วยกไ็ ด้ ประธานหรือกรรมการอุทธรณ์วนิ ัยนักศึกษาตอ้ งไม่เป็นคณะกรรมการวินัยนักศึกษา และผู้มสี ่วน ได้เสียกับนักศึกษาผู้อุทธรณ์หรือเคยร่วมพิจารณาในการดําเนินการทางวินัยเรื่องนั้นมาก่อน ไม่มีสิทธิเข้าร่วม พจิ ารณาอทุ ธรณใ์ นเรอื่ งนัน้ ทง้ั น้ี ให้ดําเนินการพิจารณาเท่าทีก่ รรมการที่เหลอื อยู่ ข้อ ๖๓ ให้กรรมการตามข้อ ๖๒ (๓) มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสามปีและอาจได้รับการ แต่งต้ังใหมอ่ ีกได้ นอกจากพน้ ตําแหนง่ ตามวาระแล้ว อาจพน้ ตําแหน่งในกรณีตอ่ ไปน้ี (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคณุ สมบัติของการเป็นกรรมการในประเภทน้ัน (๔) ถกู จําคุกโดยคาํ พิพากษาถึงทสี่ ุดให้จําคุก (๕) คณะกรรมการอุทธรณ์วินัยนักศึกษามีมติให้ออกเพราะมีความประพฤติเส่ือมเสีย หรือ บกพรอ่ งต่อหนา้ ที่หรือหยอ่ นความสามารถ (๖) เป็นบุคคลลม้ ละลาย (๗) เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีท่ีกรรมการตามวรรคหนึ่ง พ้นจากตําแหน่งก่อนครบวาระให้ดําเนินการสรรหาแทนตําแหน่ง ท่ีว่างและอยู่ในวาระเท่าท่ีเหลืออยู่ของผู้ซ่ึงตน แทน เว้นแต่วาระเหลือเวลาน้อยกว่าเก้าสิบวันของผู้ซึ่งพ้นจากตําแหน่งจะไม่แต่งต้ังแทนก็ได้ ให้คณะกรรมการ อทุ ธรณ์วนิ ยั นักศกึ ษาประกอบดว้ ยกรรมการเท่าท่ีมีอยู่ มีอํานาจและปฏิบตั ิหน้าทตี่ ่อไปได้ ในกรณีที่กรรมการตามวรรคหนึง่ เหลือวาระการดาํ รงตําแหน่งไมน่ ้อยกว่าเก้าสิบวันใหด้ ําเนินการ ให้ไดม้ าซง่ึ กรรมการตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสรจ็ ภายในสามสิบวนั การพ้นตําแหน่งตามวรรคสอง (๕) ต้องมีคะแนนเสียงลงมติไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวน คณะกรรมการอทุ ธรณว์ นิ ยั นกั ศึกษา ข้อ ๖๔ คณะกรรมการอุทธรณ์วนิ ยั นกั ศึกษา มอี าํ นาจหน้าท่ี ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ดําเนินการพิจารณาอุทธรณ์ โดยคณะกรรมการอุทธรณ์วินัยนักศึกษาพิจารณาทบทวนคําส่ัง ลงโทษวินัยนักศึกษาของคณะกรรมการวินัยนักศึกษาได้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย หรือ ความเหมาะสมของการกาํ หนดโทษวนิ ยั นักศกึ ษา และใหม้ มี ตโิ ดยเสยี งข้างมาก ดังตอ่ ไปน้ี

๕๑งานกฎหมายและนติ ิการ ก. กรณีเห็นว่าอุทธรณ์ฟังข้ึน ให้มีมติเพิกถอนคําส่ังลงโทษวินัยนักศึกษาเดิมหรือ เปลี่ยนแปลงคําส่ังน้ันไปในทางใด ทั้งน้ี ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มภาระหรือลดภาระหรือใช้ดุลพินิจแทนในเรื่อง ความเหมาะสมของการทําคาํ สง่ั ลงโทษวนิ ยั นกั ศึกษาหรือมขี ้อกําหนดเปน็ เงื่อนไขอยา่ งใดก็ได้ ข. กรณีเห็นว่าอุทธรณฟ์ งั ไมข่ ้นึ ใหม้ มี ตยิ กอุทธรณ์ ค. กรณีเห็นว่าการดําเนินการสอบสวนไม่ชอบหรือขั้นตอนใดขั้นตอนหน่ึงไม่ชอบด้วย กฎหมาย ใหม้ มี ติให้คณะกรรมการวินยั นักศกึ ษาดําเนินการใหมใ่ ห้ถกู ต้อง (๒) ดาํ เนินการอ่นื ๆ ที่เก่ยี วข้องกับการอทุ ธรณว์ ินยั นกั ศกึ ษา สว่ นที่ ๒ การอทุ ธรณ์คําสั่งลงโทษวินยั นักศึกษา ข้อ ๖๕ การอุทธรณ์คําส่ังลงโทษวินัยนักศึกษาให้นักศึกษาผู้ถูกลงโทษวินัยดําเนินการเป็นหนังสือ ด้วยตนเอง ข้อ ๖๖ ให้นักศึกษาผู้ถูกลงโทษวินัยมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คําสั่งลงโทษวินัยนักศึกษาต่อผู้ออกคําสั่ง ลงโทษวินัยนักศึกษาภายในสามสิบวันนับตั้งแต่รับแจ้งคําสั่งลงโทษวินัยนักศึกษา โดยคําอุทธรณ์ต้องทําเป็น หนังสอื โดยระบขุ ้อโตแ้ ย้งคาํ สั่งลงโทษวนิ ัยไม่ถูกต้องอย่างไร และประกอบด้วยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายทอี่ ้างอิง ข้อ ๖๗ ให้ผู้ออกคําสั่งลงโทษวินัยนักศึกษาพิจารณาคําอุทธรณ์และแจ้งนักศึกษาผู้อุทธรณ์ โดยไม่ชักช้า แต่ต้องไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับคําอุทธรณ์ ในกรณีที่เห็นด้วยกับคําอุทธรณ์ไม่ว่าท้ังหมด หรือแต่บางส่วนก็ให้ดําเนินการเปล่ียนแปลงคําส่ังลงโทษวินัยนักศึกษาตามความเห็นของตนภายในกําหนดเวลา ดังกลา่ วด้วย ถ้าผู้ออกคําส่ังลงโทษวินัยนักศึกษาไม่เห็นด้วยกับคําอุทธรณ์ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ให้เร่ง รายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังคณะกรรมการอุทธรณ์วินัยนักศึกษาภายในกําหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการอุทธรณ์วินัยนักศึกษาพิจารณาให้แลว้ เสร็จภายในสามสิบวนั นับแต่วันท่ีตนได้รบั รายงานพร้อม ความเห็นดังกล่าว ถ้ามีความจําเป็นไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าวได้ ให้คณะกรรมการ อุทธรณ์วินัยนักศึกษามีหนังสือแจ้งให้นักศึกษาผู้อุทธรณ์ทราบก่อนครบกําหนดเวลาดังกล่าว ในการนี้ ให้ขยาย เวลาพจิ ารณาอทุ ธรณ์ออกไปไดไ้ มเ่ กินสามสิบวันนบั แต่วันท่ีครบกําหนดดังกล่าว ข้อ ๖๘ เมื่อคณะกรรมการอุทธรณ์วินัยนักศึกษา มีมติเป็นประการใดแล้ว ให้เสนอความเห็น พรอ้ มสํานวนการสอบสวนตอ่ อธิการบดเี พ่อื วนิ จิ ฉยั ช้ีขาดและมคี าํ สงั่ เก่ียวกับอทุ ธรณ์ การแจ้งผลการอุทธรณ์ และคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิการบดีต่อนักศึกษาผู้อุทธรณ์ให้แจ้งสิทธิและ ระยะเวลาในการฟ้องคดตี ่อศาลปกครองภายในเก้าสิบวัน และแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ มติของคณะกรรมการ อุทธรณว์ นิ ยั นักศึกษา และคาํ วนิ จิ ฉยั อทุ ธรณ์ของอธิการบดีต่อผู้ออกคําสั่งลงโทษวินยั นักศึกษาเพ่ือทราบดว้ ย

๕๒งานกฎหมายและนิตกิ าร หมวด ๕ กรณอี ืน่ ๆ ข้อ ๖๙ ในกรณีอ่ืน ๆ ที่ไม่ได้กําหนดไว้ในข้อบังคับน้ีให้เป็นไปตามที่กําหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วย วิธปี ฏบิ ัตริ าชการทางปกครองโดยอนโุ ลม บทเฉพาะกาล ข้อ ๗๐ การกระทําความผิดวินัยที่อยู่ระหว่างการสอบสวนในขณะที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ ให้การ สอบสวนความผิดทางวินัยนักศึกษาดําเนินการต่อไปได้เพียงเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ เว้นแต่การสอบสวน ความผิ ดทางวินั ยนั กศึ กษาได้ เสร็จสิ้ นแล้ วให้ การสอบสวนนั้ นเป็ นอั นใช้ ได้ และให้ ลงโทษวิ นั ย ตามระเบี ยบ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ นักศึกษาท่ีกระทําความผิดวินัยก่อนท่ีข้อบังคับน้ีใช้บังคับ ให้ทําการสอบสวนตามข้อบังคับน้ี สว่ นการลงโทษวนิ ยั นักศึกษาใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยวนิ ัยนักศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศ ณ วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ประสทิ ธิ์ ปทมุ ารกั ษ์ (นายประสทิ ธิ์ ปทุมารักษ์) นายกสภามหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม

ขอ้ บังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม วา่ ด้วยการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๕ และทแี่ กไ้ ขเพิม่ เติม

๕๓งานกฎหมายและนิติการ ข้อบังคับมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับปรญิ ญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับ อนุปริญญาและปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ และเพ่ือให้การจัดการศึกษา ระดับปริญญาตรีของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐมมีหลักเกณฑท์ ี่เหมาะสม อันจะทําให้การจัดการศึกษาดาํ เนินไป ด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘ (๒) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ สภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ในคราวประชุม ครั้งท่ี ๔/๒๕๕๕ เม่ือวันที่ ๑๐ มนี าคม ๒๕๕๕ จงึ ออกขอ้ บังคบั ไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับ ปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๕” ข้อ ๒ ข้อบังคับน้ีให้ใช้บังคับกับนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๕ เปน็ ต้นไป บรรดาข้อบงั คบั ระเบยี บ ประกาศหรือคาํ สงั่ อื่นใด ซ่ึงขัดหรือแยง้ กบั ขอ้ บังคบั น้ี ให้ใช้ข้อบังคับน้ีแทน ให้ยกเลิกข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยการจัดการศึกษา ระดับอนุปริญญาและ ปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ เม่ือนักศึกษาระดับอนุปรญิ ญาและปริญญาตรี ทเ่ี ขา้ ศกึ ษากอ่ นปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๕ พ้นสภาพการเปน็ นักศกึ ษาแล้วทกุ คน ขอ้ ๓ ในข้อบงั คับนี้ “สภาวชิ าการ” หมายถงึ สภาวชิ าการมหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม “นักศึกษา” หมายถึง ผู้ที่รายงานตัวข้ึนทะเบียนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมระดับ ปรญิ ญาตรี “คณะกรรมการบริหารวิชาการ” หมายถึง คณะกรรมการบรหิ ารวิชาการมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม “คณะกรรมการประจําคณะ” หมายถงึ คณะกรรมการประจําคณะในมหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม “คณะกรรมการบริหารสาขาวิชา” หมายถึง คณะกรรมการบริหารสาขาวิชาในมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครปฐม “อาจารยท์ ีป่ รึกษา” หมายถึง อาจารยท์ ่ีปรกึ ษาในมหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม “สํานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน” หมายถึง สํานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนของ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม “นายทะเบียน” หมายถึง เจ้าหน้าท่ีของมหาวิทยาลัยท่ีได้รับแต่งต้ังให้มีหน้าท่ีรับผิดชอบเก่ียวกับ งานทะเบยี นนักศึกษา

๕๔งานกฎหมายและนติ ิการ ข้อ ๔ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับน้ี และมีอํานาจออกประกาศ หรือ คาํ ส่ังเพอ่ื ประโยชน์ในการปฏิบัติตามขอ้ บงั คับนี้ ในกรณีท่ีมีปัญหาอันเกิดจากการปฏิบัติตามข้อบังคับน้ี ให้อธิการบดีเป็นผู้มีอํานาจตีความและ วินิจฉัยช้ขี าด หมวด ๑ ระบบการบริหารงาน ดังตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๕ มหาวิทยาลัยจัดการบริหารงานวิชาการ โดยให้มีหน่วยงาน บุคคล และคณะบุคคลดําเนินงาน (๑) สภาวิชาการ (๒) คณะกรรมการบรหิ ารวิชาการ (๓) คณะ (๔) คณะกรรมการประจําคณะ (๕) คณะกรรมการบริหารสาขาวิชา (๖) อาจารย์ท่ปี รึกษา ข้อ ๖ การแตง่ ตง้ั สภาวิชาการ ใหเ้ ป็นไปตามบทบัญญัตใิ นมาตรา ๒๐ แหง่ พระราชบัญญัติมหาวทิ ยาลัย ราชภฏั พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๗ อํานาจและหน้าท่ีของสภาวิชาการ ให้เป็นไปตามบทบัญญัตใิ นมาตรา ๒๒ แหง่ พระราชบัญญัติ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๘ ให้อธิการบดแี ต่งต้งั คณะกรรมการบริหารวชิ าการ ประกอบด้วย (๑) อธกิ ารบดี หรอื รองอธิการบดีท่ไี ดร้ บั มอบหมาย เปน็ ประธาน (๒) ผู้อํานวยการสาํ นักส่งเสริมวชิ าการและงานทะเบียน เป็นกรรมการ (๓) รองผ้อู าํ นวยการสํานกั สง่ เสรมิ วชิ าการและงานทะเบยี น จํานวน ๑ คน เป็นกรรมการ (๔) คณบดีทกุ คณะ เปน็ กรรมการ (๕) รองคณบดที ่ดี แู ลงานวิชาการคณะทกุ คณะ เป็นกรรมการ (๖) หัวหนา้ สํานกั งานผูอ้ าํ นวยการสาํ นกั สง่ เสรมิ วิชาการและงานทะเบยี น เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร ข้อ ๙ ให้คณะกรรมการบริหารวิชาการมหี นา้ ที่ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) พิจารณากลั่นกรองหลักสูตรการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผลการศึกษา (๒) พิจารณากลั่นกรองร่างประกาศ ระเบียบหรือข้อบังคับท่ีเก่ียวกับการจัดการศึกษาก่อนนําเสนอ สภาวิชาการ

๕๕งานกฎหมายและนิตกิ าร (๓) พจิ ารณากลนั่ กรองบคุ คลเพือ่ แตง่ ต้งั เปน็ อาจารยพ์ ิเศษ (๔) กาํ กบั ดูแลการจดั การเรียนการสอนให้เปน็ ไปตามระเบียบ ขอ้ บังคับ และนโยบายของมหาวิทยาลยั (๕) พิจารณาการเทียบโอนผลการเรียน (๖) พจิ ารณาผมู้ ีสิทธเิ ข้าสอบปลายภาค (๗) พจิ ารณากลน่ั กรองแผนการรับนักศกึ ษา (๘) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพ่ือปฏิบัติหน้าที่อย่างหน่ึ งอย่างใดอันอยู่ในอํานาจหน้าท่ีของ คณะกรรมการบริหารวชิ าการ (๙) ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่อืน่ ๆ ตามท่อี ธิการบดมี อบหมาย ข้อ ๑๐ ให้คณะเป็นหน่วยงานผลิตบัณฑิตตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ซึ่งบริหารงานวิชาการ โดยคณบดีและคณะกรรมการประจาํ คณะ ข้อ ๑๑ การได้มา อํานาจ หรือหน้าท่ีของคณบดีและคณะกรรมการประจําคณะ ให้เป็นไปตาม ข้อบังคบั ของมหาวิทยาลยั ว่าดว้ ยการนนั้ ข้อ ๑๒ ใหม้ หาวทิ ยาลัยแต่งตั้งคณะกรรมการบรหิ ารสาขาวชิ าตามคําแนะนําของคณบดี ให้คณะกรรมการบริหารสาขาวิชามีจํานวนไมน่ ้อยกว่า ๕ คนจากอาจารย์ประจําท่ีมีคุณวฒุ ิตรงหรือ สมั พนั ธ์กบั สาขาวชิ านั้น ๆ ข้อ ๑๓ คณะกรรมการบริหารสาขาวชิ ามีหนา้ ท่ี ดังต่อไปนี้ (๑) พัฒนา หรือปรับปรุงหลักสูตรให้ตรงตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา หรือ ประกาศอ่นื ใดของกระทรวงศึกษาธิการหรือสภาวิชาชพี (๒) จัดทําโครงการพัฒนาสาขาวิชา เอกสาร ตํารา สื่อ ประกอบการเรียนการสอน และจัดทําแนว การสอนทกุ รายวิชา (๓) จดั ทาํ อัตรากําลังผสู้ อนเสนอตอ่ คณบดี (๔) เสนอขอแต่งต้งั อาจารยพ์ ิเศษ (๕) เสนอแตง่ ต้งั อาจารย์ทป่ี รกึ ษาต่อคณบดี (๖) เสนอแผนการดาํ เนนิ การพฒั นานกั ศกึ ษาทกุ ชั้นปีตามวัตถุประสงค์ของหลักสตู รและสาขาวิชา (๗) ดาํ เนินการประเมินผลการผลิตบณั ฑติ ประจาํ ปตี ามนโยบายของมหาวิทยาลยั (๘) ดําเนินงานการประกนั คุณภาพการศกึ ษา (๙) ปฏิบตั ิหนา้ ทอี่ ื่นตามท่คี ณบดมี อบหมาย ข้อ ๑๔ ให้มหาวิทยาลัยแต่งต้ังบุคคลเพื่อทําหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษา โดยมีหน้าท่ีให้คําปรึกษา ดแู ล สนับสนุนทางด้านวชิ าการ วธิ ีการเรียน แผนการเรียน และให้มีส่วนในการประเมนิ ผลความก้าวหนา้ ในการ เรยี นของนักศกึ ษา และภารกิจอนื่ ทีม่ หาวทิ ยาลยั มอบหมาย

๕๖งานกฎหมายและนิตกิ าร ขอ้ ๑๕ หลกั สูตรและระบบการจดั การศึกษา ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอดุ มศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร หรอื สภาวชิ าชีพ หมวด ๒ คณุ สมบตั ิของผูเ้ ข้าศึกษา ข้อ ๑๖ คุณสมบตั ิของผู้เข้าศึกษา (๑) ระดับปริญญาตรี ต้องสําเร็จการศึกษาไม่ต่ํากว่าชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากสถาบนั การศกึ ษา ท้ังในประเทศหรือตา่ งประเทศตามท่ีกระทรวงศึกษาธกิ ารหรือสภามหาวทิ ยาลยั รับรอง (๒) มีคุณสมบัติอื่นตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขที่คณะ สาขาวิชากําหนด หรือตามประกาศของ มหาวิทยาลัย ข้อ ๑๗ การรับสมัคร การคัดเลือก การรับเข้าศึกษา และการรายงานตัวเข้าเป็นนักศึกษา ให้เป็นไป ตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการตามประกาศของมหาวิทยาลัย หมวด ๓ การลงทะเบียนเรยี น การเทยี บโอนผลการเรยี น และการเปล่ียนสาขาวชิ า ข้อ ๑๘ การลงทะเบยี นวิชาเรียน (๑) การลงทะเบียนวิชาเรียน ให้เป็นไปตามโครงสร้างหลักสูตร และได้รับความเห็นชอบจาก อาจารย์ทปี่ รึกษา (๒) การลงทะเบยี นวิชาเรียนแบง่ ออกเป็น ๓ ประเภท ก. การลงทะเบยี นทน่ี บั หนว่ ยกติ และคิดคา่ ระดบั คะแนน ข. การลงทะเบยี นเรยี นตามเกณฑ์มาตรฐานหลกั สูตร โดยไม่นับหน่วยกิตและไม่คดิ ค่าระดับ คะแนน ค. การลงทะเบยี นเพ่อื ร่วมฟัง (๓) เกณฑ์การลงทะเบียนเรียน เกณฑ์การสําเร็จการศึกษา เกณฑ์การพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑม์ าตรฐานหลกั สตู รระดบั อุดมศึกษา (๔) นักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนครบตามหลักสูตรรวมแลว้ แต่ยังไม่สําเร็จการศึกษาและนกั ศึกษา ทพี่ กั การเรียน ต้องชําระเงนิ คา่ รกั ษาสถานภาพนกั ศกึ ษาตามประกาศของมหาวทิ ยาลัย ข้อ ๑๙ การเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยว่าด้วยการเทียบโอน ผลการเรยี น

๕๗งานกฎหมายและนิติการ ขอ้ ๒๐ มหาวิทยาลัยอาจอนุญาตใหน้ ักศกึ ษาเปล่ียนสาขาวิชาได้ตามความจําเป็น ท้ังน้ี ต้องเป็นไป ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของมหาวทิ ยาลัย หมวด ๔ การประเมินผลการศกึ ษา ข้อ ๒๑ การประเมินผลการเรียนรายวิชา และการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ให้อาจารย์ผู้สอน ประเมินผลการเรียนให้ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์ของรายวิชา โดยวิธีการที่คณะเห็นชอบ และต้องมีการ สอบปลายภาคการศกึ ษาในเวลาท่ีมหาวทิ ยาลยั กาํ หนด หรอื ตามท่ีไดร้ ับอนญุ าตจากมหาวทิ ยาลัย นกั ศึกษาท่ีมีสิทธสิ อบปลายภาคการศึกษา ตอ้ งมเี วลาเรยี นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน ทั้งหมด หรือได้รบั อนุญาตจากคณะกรรมการบริหารวิชาการ ในกรณีที่มเี วลาเรียนน้อยกวา่ ร้อยละ ๖๐ จะไม่มี สทิ ธิสอบในรายวิชาน้ัน ข้อ ๒๒ ใหม้ ีการประเมนิ ผลการเรยี นในรายวิชาตา่ งๆ ตามหลักสูตรเป็น ๒ ระบบ ดังต่อไปนี้ (๑) ระบบมคี า่ ระดบั คะแนน แบ่งเปน็ ๘ ระดบั ดังตาราง ระดบั คะแนน ความหมายของผลการเรยี น คา่ ระดบั คะแนน A ดีเยย่ี ม (Excellent) ๔.๐ B+ ดีมาก (Very Good) ๓.๕ B ดี (Good) ๓.๐ C+ ดีพอใช้ (Fairty Good) ๒.๕ C พอใช้ (Fair) ๒.๐ D+ ออ่ น (Poor) ๑.๕ D อ่อนมาก (Very Poor) ๑.๐ E ตก (Fail) ๐ ระดับน้ีใช้สําหรับการประเมินผลรายวิชาที่เรียนตามหลักสูตร ค่าระดับคะแนนที่ถือว่าสอบได้ ตอ้ งไม่ตํ่ากว่า D ถ้านักศึกษาได้ค่าระดับคะแนน E ในรายวิชาบังคับ ต้องลงทะเบียนเรียนใหม่ จนกว่าจะสอบได้ กรณีวิชาเลือกได้ค่าระดบั คะแนน E สามารถเปลยี่ นไปเลือกเรียนวชิ าอน่ื ๆ ไดต้ ามโครงสร้างหลักสตู รทนี่ ักศึกษา เรียนอยู่ ส่วนการประเมินผลรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และรายวิชาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ถ้าได้ค่าระดับคะแนนต่ํากว่า C ถือวา่ สอบตก นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนหรือฝึกประสบการณ์วชิ าชีพใหม่ และถา้ ได้รับการประเมนิ ผลต่ํากวา่ C เป็นครงั้ ท่สี องถือว่าหมดสภาพการเป็นนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ กรณีการประเมินผลรายวิชาในหมวดวิชาชีพการพยาบาล ถ้าได้ระดับ คะแนนตํา่ กว่า C ถือว่าสอบตก นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนใหม่

๕๘งานกฎหมายและนติ กิ าร (๒) ระบบไมม่ ีคา่ ระดบั คะแนน กาํ หนดสัญลกั ษณ์การประเมิน ดังตาราง ผลการเรียน ระดับการประเมิน ผา่ นดเี ยี่ยม PD (Pass with Distinction) ผ่าน P (Pass) ไม่ผา่ น F (Fail) ระบบนี้ใช้สําหรับการประเมินผลรายวิชาปรับพื้นซึ่งหลักสูตรบังคับให้เรียนเพ่ิมเติมตาม ข้อกําหนดเฉพาะและรายวิชาท่ีมหาวิทยาลัยกําหนดให้เรียนเพ่ิมรายวิชาที่ได้ผลการประเมิน F นักศึกษาต้อง ลงทะเบยี นเรยี นใหม่จนกว่าจะสอบได้ ข้อ ๒๓ สัญลกั ษณ์อนื่ มดี ังต่อไปนี้ Au (Audit) ใชส้ าํ หรับการลงทะเบยี นเพอื่ รว่ มฟงั โดยไม่นับหน่วยกิต W (Withdraw) ใช้สําหรับการบันทึก กรณีการถอนเฉพาะรายวิชา ก่อนสอบปลายภาคเรียน ไม่น้อยกว่า ๒ สัปดาห์หรือตามท่ีมหาวิทยาลัยกําหนด หรือการถอนรายวิชาเนื่องจากนักศึกษาลาพัก การศกึ ษา T (Transfer) ใช้สําหรบั การบนั ทกึ การเทียบโอนผลการเรียน I (Incomplete) ใช้สําหรับบันทึกการประเมินผลท่ีไม่สมบูรณ์ในรายวิชาที่นักศึกษายังทํางาน ไมเ่ สร็จเมื่อสิน้ ภาคการศกึ ษาหรือขาดสอบปลายภาค นักศึกษาท่ีได้ I ต้องดําเนินการขอรับการประเมินผล เพื่อเปลี่ยนค่าระดับคะแนนให้เสร็จสิ้น ภายในระยะเวลาท่ีกาํ หนดในภาคการศกึ ษาถดั ไป ถา้ ไม่เสร็จสิ้นให้ผสู้ อนพิจารณาผลงานท่คี ้างอยู่เปน็ ศนู ย์และ ประเมินผลการเรียนจากคะแนนและผลงานทีม่ ีอยู่ กรณีนักศึกษาขาดสอบปลายภาคการศึกษาและไม่ได้รับอนุญาตให้สอบ ให้นายทะเบียนเปล่ียน ผลการเรยี นเป็น E หรือ F แล้วแตก่ รณี ข้อ ๒๔ การหาค่าระดับคะแนนเฉล่ียประจําภาคการศึกษาและค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสม ต้งั แต่ เร่มิ เข้าศึกษาเปน็ ต้นมา ใหค้ ิดเป็นเลขทศนิยม ๒ ตําแหนง่ โดยไมป่ ดั เศษ และใหป้ ฏบิ ัติดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ค่าระดับคะแนนเฉล่ียประจําภาคการศกึ ษาให้คิดเฉพาะรายวชิ าทม่ี ีการประเมินผลตามขอ้ ๒๒ (๑) เท่านั้น โดยเอาผลคูณของหน่วยกิตกับค่าระดับคะแนนของแต่ละวิชาที่ประเมินในภาคการศึกษารวมกัน แล้วหารด้วยผลรวมของจํานวนหน่วยกิตของรายวิชาดังกล่าว ยกเว้นรายวิชาที่มีผลการเรียน I อยู่ไม่นํามาคิด รวมด้วย เม่อื ได้ผลการประเมนิ ที่เปล่ียนจาก I แล้วจึงนาํ มาคดิ ในภาคการศึกษาทเ่ี ปล่ยี นเรยี บร้อยแล้วนน้ั

๕๙งานกฎหมายและนิติการ (๒) ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสม ให้คิดเฉพาะรายวิชาที่มีการประเมินผลตามข้อ ๒๒ (๑) ยกเว้น E โดยเอาผลคูณของหน่วยกิตกับค่าระดับคะแนนของทุกรายวิชาท่ีประเมินผลและลงทะเบียนเรียน รวมกัน แล้วหารดว้ ยผลรวมของจํานวนหน่วยกิตของรายวชิ าดังกล่าว สว่ นรายวิชาที่มผี ลการเรียน I ให้ปฏิบัติ เช่นเดยี วกบั ขอ้ ๒๔ (๑) สําหรับผลการเรียนเป็น E ไม่มีการนับหน่วยกิตของรายวิชาท่ีได้ระดับคะแนนนี้และไม่นําไป คาํ นวณหาค่าระดับคะแนนเฉล่ยี (๓) ผลการเรียนระบบไม่มีค่าระดับคะแนน ไม่ต้องนับรวมหน่วยกิตเป็นตัวหาร แต่ให้นับหน่วย กติ เพ่ือพจิ ารณารายวิชาเรียนครบตามเกณฑม์ าตรฐานหลักสูตร (๔) กรณีทีน่ กั ศึกษาลงทะเบียนเรยี นวชิ ากับรายวิชาทส่ี อบไดแ้ ล้ว ให้นายทะเบยี นตัดรายวิชาที่ได้ ค่าระดบั คะแนนตาํ่ ท้งิ ข้อ ๒๕ เม่ือนักศึกษาเรียนครบตามโครงสร้างของหลักสูตรแล้ว และได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ีย สะสมต้ังแต่ ๑.๘๐ แต่ไม่ถึง ๒.๐๐ ให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนรายวิชาเดิมหรือเลือกเรียนรายวิชาเพ่ิมเติม เพ่ือทาํ ค่าระดบั คะแนนเฉลี่ยสะสมให้ถงึ ๒.๐๐ ขอ้ ๒๕/๑๑ เมื่อความปรากฏวา่ นักศึกษาทุจริตในการศึกษาหรือการสอบ ให้มหาวิทยาลัยดาํ เนินการ สอบหาข้อเท็จจริงโดยไม่ชักช้า หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่านักศึกษาทุจริตในการศึกษาหรือการสอบรายวิชาหน่ึงวิชา ใด ให้นายทะเบียนเปล่ียนผลการเรียนในการศึกษาหรือการสอบรายวิชาน้ันเป็น E หรือ F แล้วแต่กรณี และ ให้ดาํ เนินการทางวินยั นักศึกษาตามความร้ายแรงแห่งกรณีดว้ ย หมวด ๕ การสาํ เรจ็ การศกึ ษา ข้อ ๒๖ ผู้สําเร็จการศึกษาตามหลกั สตู ร ตอ้ งมีคณุ สมบตั ิครบถ้วนทกุ ขอ้ ดงั ต่อไปนี้ (๑) มีความประพฤตดิ ี (๒) ผา่ นกิจกรรมตามท่ีมหาวิทยาลัยกําหนด (๓) มเี วลาศกึ ษาในมหาวทิ ยาลยั ตามเกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตร (๔) สอบได้รายวชิ าตา่ ง ๆ ครบตามโครงสรา้ งของหลักสูตรและเกณฑ์การประเมินผล (๕) ได้ค่าระดบั คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลกั สูตรไมต่ าํ่ กว่า ๒.๐๐ (๖) ไดร้ ะดับคะแนนเฉลยี่ สะสมในหมวดวชิ าเฉพาะ เฉพาะวิชาเอกไมต่ ํา่ กว่า ๒.๐๐ (๗) สอบผา่ นการประเมินความรแู้ ละทกั ษะตามที่มหาวิทยาลยั กาํ หนด ๑ ขอ้ ๒๕/๑ เพิ่มโดยข้อบงั คบั มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐมว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับปรญิ ญาตรี (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗

๖๐งานกฎหมายและนติ กิ าร ข้อ ๒๗ การขออนมุ ัตสิ าํ เร็จการศกึ ษา (๑) นักศึกษาต้องย่ืนคําร้องขอสําเร็จการศึกษาต่อสํานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนใน ภาคเรยี นสุดท้ายท่ลี งทะเบียนเรียนภายในกําหนดเวลาตามประกาศของมหาวิทยาลัย (๒) นักศึกษาท่ีจะได้รับพิจารณาเสนอชื่อขออนุมัติสําเร็จการศึกษาต่อสภาวิชาการต้องเป็น ผู้สําเร็จการศึกษาตามข้อ ๒๖ และไม่ค้างชําระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไม่ติดค้างวัสดุสารสนเทศ หรืออยู่ระหว่าง ถูกลงโทษทางวินยั ข้อ ๒๘ ผสู้ าํ เรจ็ การศกึ ษาในระดับปริญญาตรีที่มสี ิทธไิ ด้รบั เกียรตินิยม ตอ้ งมคี ุณสมบัติ ดงั นี้ (๑) สอบได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมไม่น้อยกว่า ๓.๖๐ จะได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หรือ ไม่น้อยกว่า ๓.๒๕ แต่ไม่ถึง ๓.๖๐ จะได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง และต้องไม่เคยลงทะเบียนเรียนซ้ํากับรายวิชาท่ี สอบได้แล้ว (๒) สอบได้รายวิชาใด ๆ ไม่ตํ่ากวา่ C ตามระบบมีค่าระดับคะแนน และไม่ได้ F ตามระบบไมม่ ีค่า ระดับคะแนน (๓) นักศึกษาภาคปกติ มีเวลาเรียนไม่เกิน ๔ ภาคการศึกษาปกติติดต่อกันสําหรับหลักสูตรระดับ ปริญญาตรี ๔ ปี หรอื มีเวลาเรยี นไม่เกิน ๑๐ ภาคการศึกษาปกตติ ิดต่อกันสาํ หรบั หลักสตู รระดบั ปริญญาตรี ๕ ปี (๔) นักศึกษาประเภทอ่ืน มีเวลาเรียนไม่เกิน ๑๒ ภาคการศึกษาติดต่อกันสําหรับหลักสูตรระดับ ปรญิ ญาตรี ๔ ปี หรอื มีเวลาเรยี นไมเ่ กนิ ๑๕ ภาคการศกึ ษาติดตอ่ กนั สาํ หรับหลกั สูตรปริญญาตรี ๕ ปี หมวด ๖ การลาพัก การรกั ษาสถานภาพ การลาออก การพ้นสภาพการเปน็ นกั ศึกษา และการขอคนื สภาพการเปน็ นกั ศกึ ษา ข้อ ๒๙ การลาพักการศึกษา การรักษาสถานภาพ และการลาออกของนักศึกษา มีหลักเกณฑ์ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) นักศึกษาผู้ประสงค์จะลาพักการศึกษา ต้องยื่นคําร้องต่อสํานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน และตอ้ งไดร้ ับอนมุ ัติจากมหาวิทยาลัย (๒) นักศึกษาผู้ได้รับอนุมัติให้ลาพักการศึกษา ต้องรักษาสถานภาพนักศึกษาทุกภาคการศึกษาท่ี ลาพกั การศึกษา ภายในเวลาท่ีมหาวทิ ยาลัยกาํ หนด (๓) นักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนครบรายวิชาตามหลักสูตรแล้ว แต่ยังไม่สําเร็จการศึกษาต้องรักษา สถานภาพการเปน็ นักศึกษาทุกภาคการศึกษาจนกวา่ จะสําเร็จการศึกษา (๔) นักศึกษาผู้ประสงค์จะลาออกจากการเป็นนักศึกษา ต้องยื่นคําร้องต่อสํานักส่งเสริมวิชาการ และงานทะเบยี น เพื่อให้มหาวทิ ยาลยั อนุมัติ

๖๑งานกฎหมายและนติ ิการ ขอ้ ๓๐ นกั ศกึ ษาจะพ้นสภาพการเปน็ นกั ศกึ ษาเม่ืออยู่ในเกณฑ์ข้อหน่ึงขอ้ ใด ดังต่อไปนี้ (๑) สําเรจ็ การศึกษาตามหลักสตู ร (๒) ผลการประเมินได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมต่ํากว่า ๑.๘๐ เม่ือสิ้นภาคการศึกษาที่ ๔ สําหรับ หลักสูตรปริญญา ๔ ปี และสนิ้ ภาคการศึกษาที่ ๖ สาํ หรับหลักสูตรปริญญาตรี ๕ ปี (๓) มีผลการเรียนรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ หรือรายวิชาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ตาํ่ กวา่ C เปน็ ครง้ั ที่สอง (๔) ลงทะเบยี นเรียนครบตามโครงสรา้ งของหลักสตู ร ไดค้ ่าระดับคะแนนเฉลย่ี ตํา่ กว่า (๕) ไม่ได้รักษาสถานภาพการเป็นนกั ศกึ ษา ข้อ ๓๑ นักศึกษาท่ีพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเพราะไม่ได้รักษาสถานภาพการเป็นนักศึกษา สามารถยื่นคําร้องต่อสํานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนเพื่อขออนุมัติคืนสภาพการเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลยั และเมื่อได้รับอนมุ ตั ิแล้วตอ้ งชําระเงนิ คา่ ธรรมเนียมการขอกลับคนื สภาพการเปน็ นกั ศึกษา หมวด ๗ การควบคุมคณุ ภาพ ข้อ ๓๒ การควบคมุ คณุ ภาพการศกึ ษา ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรระดบั อุดมศกึ ษา ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ นรนิติ เศรษฐบตุ ร (ศาสตราจารยพ์ ิเศษ นรนติ ิ เศรษฐบตุ ร) นายกสภามหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม

ข้อบงั คับมหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม วา่ ดว้ ยการเทียบโอนผลการเรยี นระดับปริญญาตรี....... .พ.ศ. ๒๕๕๕

๖๒งานกฎหมายและนิติการ ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม วา่ ดว้ ยการเทียบโอนผลการเรียนระดับปรญิ ญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยการเทียบโอนผลการ เรียนระดับอนุปริญญาและปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ และเพื่อให้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมปฏิบัติภารกิจใน ฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพ่ือพัฒนาท้องถ่ินตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ อาศัยอํานาจตามความใน มาตรา ๑๘ (๒) แห่งพระราชบญั ญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ สภามหาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม ในคราว ประชมุ ครง้ั ที่ ๔/๒๕๕๕ เมอ่ื วันที่ ๑๐ มนี าคม ๒๕๕๕ จึงออกข้อบังคบั ไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบังคับน้ีเรยี กวา่ “ข้อบังคบั มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมวา่ ดว้ ยการเทียบโอนผลการเรียน ระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๕” ข้อ ๒ ข้อบังคับน้ีให้ใช้บังคับกับนักศึกษาระดับปริญญาตรีท่ีเข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๕ เปน็ ต้นไป บรรดาขอ้ บังคบั ระเบยี บ ประกาศหรอื คําส่งั อ่นื ใด ซงึ่ ขัดหรอื แย้งกับขอ้ บังคับนี้ ให้ใชข้ อ้ บงั คบั นี้แทน ให้ยกเลิกข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยการเทียบโอนผลการเรยี นระดับอนุปริญญา และปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ เมื่อนักศึกษาระดับอนุปริญญาและปริญญาตรีท่ีเข้าศึกษาก่อนปีการศึกษา ๒๕๕๕ พน้ สภาพการเปน็ นักศึกษาแลว้ ทุกคน ข้อ ๓ ในขอ้ บงั คับนี้ “นักศึกษา” หมายถึง ผู้ท่ีรายงานตัวขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมระดับ ปรญิ ญาตรี “สถาบันอุดมศึกษา” หมายถึง สถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนในระดับหลัง มธั ยมศึกษาตอนปลาย หลักสูตรไมต่ ํ่ากว่าอนปุ ริญญาหรือเทียบเท่า “การเทียบโอนผลการเรียน” หมายถึง การโอนผลการเรียน การยกเว้นการเรียนรายวิชาการเทียบ โอนผลการเรยี นจากการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย “การโอนผลการเรียน” หมายถึง การนําหน่วยกิตและค่าระดับคะแนนทุกรายวิชาท่ีศึกษาในหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมมาใชโ้ ดยไม่ต้องศึกษารายวิชาน้นั อีก “การยกเว้นการเรียนรายวิชา” หมายถงึ การนําหนว่ ยกิตของรายวชิ าในหลกั สตู รมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครปฐมหรือสถาบนั อุดมศกึ ษาอืน่ มาใช้โดยไมต่ อ้ งศกึ ษารายวชิ านนั้ อกี

๖๓งานกฎหมายและนิตกิ าร “การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หมายถึง การนํา ความรู้นอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย การฝึกอาชีพ หรือการนําประสบการณ์ทํางาน มาเทียบโอนรายวิชาหรือ ชุดวิชาหรอื ชุดวิชาใดชุดวชิ าหนึ่งในหลักสตู รมหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม “แฟ้มสะสมงาน” หมายถงึ เอกสารและหลักฐานท่ีใช้ประกอบเพ่ือแสดงว่ามีความรู้ตามรายวิชา ทเี่ ทยี บโอนผลการเรียนน้ัน ข้อ ๔ นักศึกษาผู้ขอโอนผลการเรียน ยกเว้นการเรียนรายวิชา หรือการเทียบโอนผลการเรียนจาก การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต้องกระทําให้เสร็จส้ินในภาคการศึกษาแรกท่ีเข้าศึกษาใน มหาวทิ ยาลัยตามประกาศของมหาวิทยาลัย มิฉะน้นั ต้องเสยี คา่ ปรับ ข้อ ๕ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ และมีอํานาจออกประกาศ หรือ คาํ สั่งเพื่อประโยชน์ในการปฏบิ ัติตามขอ้ บงั คับนี้ ในกรณีท่ีมีปัญหาอันเกิดจากการปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ ให้อธิการบดีเป็นผู้มีอํานาจตีความและ วินจิ ฉัยชขี้ าด หมวด ๑ การโอนผลการเรียน ขอ้ ๖ นกั ศกึ ษาผู้มีสิทธิโอนผลการเรยี นต้องเคยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม ข้อ ๗ นักศึกษาผู้ขอโอนผลการเรียนต้องมีระดับคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ํากว่า ๑.๘๐ และการโอนผลการ เรียนตอ้ งทําทุกรายวชิ า หมวด ๒ การยกเวน้ การเรยี นรายวชิ า ข้อ ๘ นกั ศึกษาท่ีมีสิทธิยกเว้นการเรียนรายวิชาจะต้องเป็นผูท้ ่ีเคยศึกษารายวชิ าท่ีขอยกเว้นการ เรียนรายวิชาจากมหามหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอ่ืนท่ีเนื้อหาสาระไม่น้อยกว่าสามในสี่ของเนื้อหา สาระในรายวิชาของหลักสตู รมหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม ข้อ ๙ รายวิชาที่นํามาขอยกเว้นต้องเป็นรายวิชาที่มีจํานวนหน่วยกิตไม่น้อยกว่ารายวิชาที่ขอยกเว้น และได้รับคะแนนไม่ต่ํากว่า C หรือ ๒.๐๐ ในรายวิชาที่นับหน่วยกิต หรือไม่ตํ่ากว่า P หรือ ผ่านในรายวิชาที่ไม่นับ หนว่ ยกิต ข้อ ๑๐ จํานวนหน่วยกิตท่ีได้รับการยกเว้นการเรียนรายวิชารวมแล้วต้องไม่เกินสองในสามของ หน่วยกติ ข้นั ต่าํ ซง่ึ กําหนดไว้ในสาขาวชิ าทีก่ ําลังศึกษาในมหาวิทยาลัย

๖๔งานกฎหมายและนิติการ ข้อ ๑๑ ผู้สําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีมาแล้ว และเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีในอีก สาขาหนึ่งในมหาวิทยาลัยให้ได้รับการยกเว้นการเรียนรายวิชาในหมวดวิชาศึกษาท่ัวไปท้ังหมดรวมเข้าไปใน เกณฑก์ ารสําเรจ็ การศกึ ษา ทั้งนี้ ไมน่ ําข้อ ๙ มาพจิ ารณา ข้อ ๑๒ ผู้สําเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาหรือเทียบเท่าเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ให้ได้รับ การยกเว้นการเรียนรายวิชาในหมวดวิชาศึกษาทั่วไปจํานวนไม่เกิน ๑๒ หน่วยกิตรวมเข้าไปในเกณฑ์ สําเร็จการศึกษาและเรียนไม่น้อยกว่า ๑๘ หน่วยกิตให้ครบทุกกลุ่มวิชาโดยไม่นับรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือก ทงั้ นี้ ไมน่ ําขอ้ ๙ มาพิจารณา หมวด ๓ การเทยี บโอนผลการเรยี นจากสถาบันศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ข้อ ๑๓ การเทียบโอนผลการเรยี นจากการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจะเทียบ โอนผลการเรียนได้ไม่เกินสองในสามของจํานวนหน่วยกิตในหลักสูตรปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครปฐม โดยกระทาํ ไดใ้ นกรณีใดกรณีหน่งึ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ผ่านการทดสอบจากมหาวิทยาลยั (๒) ผลการทดสอบจากองค์กรวชิ าชีพเฉพาะทาง (๓) การประเมนิ ผลการศึกษาหรอื การอบรมจากหนว่ ยงานต่าง ๆ (๔) การเสนอแฟ้มสะสมงาน ซงึ่ คณะทเ่ี ปิดสอนรายวิชาน้ัน ๆ เห็นชอบ ข้อ ๑๔ การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องได้รับ การประเมนิ ไม่ตํ่ากวา่ C หรือ ๒.๐๐ หมวด ๔ การดําเนินงาน ข้อ ๑๕ นักศึกษาท่ีจะทําเรื่องการเทียบโอนผลการเรียนต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ ปรึกษาและย่ืนคําร้องตามประกาศของมหาวิทยาลัย ข้อ ๑๖ คณะกรรมการบริหารวิชาการเป็นผู้พิจารณาการโอนผลการเรียน การยกเว้นการเรียน รายวิชา สําหรบั การเทียบโอนผลการเรยี นจากการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต้องได้รับความ เหน็ ชอบจากคณะท่เี ก่ยี วขอ้ งในรายวิชาดังกลา่ ว

๖๕งานกฎหมายและนิติการ หมวด ๕ ระยะเวลาในการศกึ ษาและสิทธขิ องนกั ศกึ ษา ข้อ ๑๗ นักศึกษาท่ีได้รับการเทียบโอนผลการเรยี น ต้องมีเวลาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่า สองภาคการศึกษา ข้อ ๑๘ การนับภาคการศึกษาสําหรับนักศึกษาที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนให้ถือเกณฑ์ จาํ นวนหน่วยกติ ตามเกณฑ์มาตรฐานหลกั สตู รระดับอุดมศึกษา ข้อ ๑๙ ผู้ที่ได้รับการโอนผลการเรียนไม่เสียสิทธิที่จะได้รับปริญญาเกียรตินิยม แต่การยกเว้น การเรียนรายวิชา การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยไม่มีสิทธิท่ีจะ ได้รับปรญิ ญาเกยี รตนิ ยิ ม หมวด ๖ การชาํ ระเงิน ข้อ ๒๐ การชําระเงินการเทียบโอนผลการเรียน ให้เป็นไปตามระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครปฐมว่าด้วยการเกบ็ คา่ ธรรมเนียมการศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี หมวด ๗ คา่ ระดับคะแนนการประมวลผล ข้อ ๒๑ การโอนผลการเรยี นให้ไดร้ บั ค่าระดับคะแนนเดิม ข้อ ๒๒ การยกเว้นการเรียนรายวิชา และการเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้ได้รับค่าระดับคะแนนการประเมินผลเป็น T เว้นแต่การยกเว้นรายวิชาในหมวด วิชาศึกษาทว่ั ไป ข้อ ๑๑ และขอ้ ๑๒ ไมต่ ้องบนั ทกึ ผลการเรียน ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๐ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ นรนิติ เศรษฐบตุ ร (ศาสตราจารย์พิเศษ นรนติ ิ เศรษฐบุตร) นายกสภามหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม

ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม วา่ ด้วยโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม....... .พ.ศ. ๒๕๔๙ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ

๖๖งานกฎหมายและนิตกิ าร ข้อบังคบั มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม ว่าดว้ ยโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยท่ีเป็นการสมควรออกขอ้ บงั คบั ว่าด้วยโรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘ (๒) (๕) (๑๒) (๑๓) และ (๑๔) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พ.ศ. ๒๕๔๗ สภามหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐมจึงออกข้อบงั คบั ไว้ ดงั น้ี ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกวา่ “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยโรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัย ราชภฏั นครปฐม พ.ศ. ๒๕๔๙” ขอ้ ๒ ข้อบังคบั นี้ให้ใช้บังคบั นับถัดจากวนั ประกาศเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ ขอ้ บงั คบั ระเบียบ ประกาศ หรือคําส่ังอื่นใดที่ขัดหรือแยง้ กับข้อบังคับนี้ ใหใ้ ช้ขอ้ บงั คบั นี้แทน นครปฐม ขอ้ ๔ ในขอ้ บังคบั น้ี “มหาวทิ ยาลยั ” หมายถงึ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม “สภามหาวทิ ยาลยั ” หมายถงึ สภามหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม “อธกิ ารบดี” หมายถงึ อธกิ ารบดมี หาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม “คณะกรรมการบริหารโรงเรียน” หมายถึง คณะกรรมการบริหารโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏ “โรงเรยี นสาธิต” หมายถึง โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม “ผ้อู ํานวยการ” หมายถงึ ผู้อํานวยการโรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ข้อ ๕ ให้อธิการบดเี ปน็ ผรู้ กั ษาการตามขอ้ บังคบั น้ี หมวด ๑ ฐานะ วัตถุประสงค์ และอาํ นาจหนา้ ที่ ข้อ ๖ กําหนดให้โรงเรียนสาธิตเป็นหน่วยงานในมหาวิทยาลัยในกํากับของสภามหาวิทยาลัย และใหม้ คี ณะกรรมการบริหารโรงเรยี นเปน็ ผู้มอี าํ นาจควบคมุ ดูแล ขอ้ ๗ โรงเรียนสาธติ มีวตั ถปุ ระสงค์ ดังนี้ (๑) เพอ่ื บริหารจัดการและดําเนนิ การจัดการเรียนการสอนในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (๒) เพื่อเป็นแหล่งทดลอง ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ได้แก่ ศึกษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศาสตร์ สารสนเทศศาสตร์

๖๗งานกฎหมายและนิตกิ าร (๓) เพ่ือเป็นต้นแบบในดา้ นการจดั การเรยี นการสอนและการบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก (๔) เพอ่ื เป็นสวัสดกิ ารแกบ่ คุ ลากรในมหาวิทยาลยั ข้อ ๘ เพ่ือใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ตามข้อ ๗ ใหโ้ รงเรียนสาธิตมีอํานาจหน้าท่ี ดงั นี้ (๑) ดาํ เนนิ การเรียนการสอนในระดับมธั ยมศึกษา (๒) พัฒนาหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ และแหล่งการเรียนรู้สําหรับใช้ใน โรงเรียน (๓) ส่งเสริมและร่วมมือกับคณะครุศาสตร์และหน่วยงานต่าง ๆ ในการทดลอง ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาองคค์ วามรู้ดา้ นศกึ ษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศาสตร์ สารสนเทศศาสตร์ (๔) ดําเนินการและส่งเสริมให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องและภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการ พัฒนามาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน หมวด ๒ การบรหิ าร และการดาํ เนินการ ข้อ ๙ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งท่ีอธิการบดีแต่งต้ังตามความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัย เรยี กวา่ “คณะกรรมการบริหารโรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม” ประกอบด้วย (๑) อธิการบดี เปน็ ประธานกรรมการ (๒) กรรมการ ประกอบด้วย ก. รองอธิการบดีที่อธิการบดีมอบหมาย ข. คณบดีคณะครุศาสตร์ ค. คณบดคี ณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ ง. คณบดีคณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จ. ผู้ทรงคุณวุฒจิ ากสภามหาวิทยาลยั ๑ คน (๓) กรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิจาํ นวนไมเ่ กิน ๕ คน สรรหาโดยกรรมการในขอ้ (๑) และข้อ (๒) วาระของกรรมการตามข้อ ๙ (๒) จ. และ ๙ (๓) มีวาระในการดํารงตําแหน่งคราวละ ๓ ปี และ สามารถได้รบั การแตง่ ตงั้ ใหมไ่ ด้ ให้ผู้อํานวยการเป็นกรรมการและเลขานุการโดยตําแหน่ง และให้ผู้อํานวยการแต่งต้ังบุคลากร ของโรงเรยี นสาธติ เป็นผู้ชว่ ยเลขานุการ ข้อ ๑๐ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน มีอํานาจหน้าท่ีควบคุมดูแลโรงเรียนสาธิตให้ดําเนินกิจการ ใหเ้ ป็นไปตามวตั ถุประสงค์ท่กี ําหนดไว้ อํานาจหนา้ ทน่ี ้ีให้รวมถึง (๑) กําหนดนโยบายการบริหารงาน การบริหารงบประมาณ การเงนิ และการคลงั และให้ความเห็นชอบ แผนการดําเนินงานของโรงเรยี นสาธิต

๖๘งานกฎหมายและนิติการ (๒) อนมุ ัตแิ ผนการดาํ เนินงานประจําปี และแผนงบประมาณประจาํ ปีของโรงเรียนสาธิต (๓) ควบคุมดูแลการดําเนินงานและการบริหารท่ัวไป ตลอดจนออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือ ข้อกาํ หนดเกี่ยวกับโรงเรยี นสาธติ ในด้านต่าง ๆ ดังน้ี ก. การบริหารงานทั่วไปของโรงเรียนสาธิต การจัดแบ่งส่วนงานของโรงเรียน สาธิต และขอบเขต หนา้ ทข่ี องส่วนงานดงั กล่าว ข. การกําหนดตําแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะตําแหน่ง อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง และเงินอื่น ๆ ของบุคลากรในโรงเรียน ค. การคัดเลือก บรรจุ การแต่งต้ัง การประเมินผลงาน การถอดถอน วินัยและ การลงโทษ ทางวินัย การพ้นจากตาํ แหนง่ ของบคุ ลากรในโรงเรียน รวมทงั้ วธิ ีการและเงื่อนไขในการจ้าง บุคลากรในโรงเรยี น ง. การจดั สวสั ดิการและสิทธิประโยชนอ์ น่ื ๆ แก่บคุ ลากรในโรงเรยี น จ. การกําหนดค่าธรรมเนยี ม ค่าบาํ รุง ค่าตอบแทน คา่ บริการ (๔) การกระทําอ่ืนใดที่จําเป็นหรอื ต่อเน่ืองเพอื่ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโรงเรียนสาธติ (๕) แต่งต้ังผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีความเช่ียวชาญให้เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน และแต่งต้ังคณะอนกุ รรมการเพ่ือพจิ ารณาหรือดาํ เนนิ การอยา่ งใดอย่างหนึง่ ตามทีค่ ณะกรรมการมอบหมาย ข้อ ๑๑ การประชุมของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึง ของจํานวนกรรมการท้งั หมด จึงจะเป็นองค์ประชมุ กําหนดให้มีการประชุมอย่างน้อยภาคเรียนละ ๒ ครั้ง การประชุมและการปฏิบัติหน้าท่ีของกรรมการ ใหเ้ ป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารโรงเรียนกําหนด ให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียน ท่ีปรึกษา และอนุกรรมการ ได้รับเบ้ียประชุมตามหลักเกณฑ์ที่ สภามหาวทิ ยาลยั กําหนด ข้อ ๑๒ ใหโ้ รงเรยี นสาธติ มผี ูอ้ าํ นวยการคนหนง่ึ คณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน เปน็ ผ้มู ีอาํ นาจในการสรรหา แต่งต้ัง และถอดถอนผอู้ ํานวยการ ขอ้ ๑๓ การสรรหาผอู้ าํ นวยการ (๑) สรรหาจากข้าราชการของมหาวิทยาลัย หรือบุคคลอื่นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ บรหิ ารโรงเรยี นกําหนด (๒) คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาผู้อํานวยการ ให้เป็นไปตามข้อกําหนดของคณะ กรรมการบริหารโรงเรียน

๖๙งานกฎหมายและนิติการ ข้อ ๑๔๑ ผู้อํานวยการมีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละห้าปีและอาจได้รับการแต่งต้ังใหม่ได้ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระแล้ว ให้ผู้อํานวยการพ้นจากตําแหน่งเมื่อตาย ลาออก หรอื ออกตามมติ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน ข้อ ๑๕ ผู้อํานวยการมีหน้าที่บริหารกิจการของโรงเรียนให้เป็นไปตามข้อบังคับ และวัตถุประสงค์ ของโรงเรียน และ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกําหนด นโยบาย มติและประกาศ ของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน และ เป็นผู้บังคับบญั ชาบคุ ลากรของโรงเรียนสาธติ รวมท้งั มีอาํ นาจหน้าท่ี ดงั ต่อไปน้ี (๑) เสนอเป้าหมาย แผนการดําเนินงานของโรงเรียนสาธิตในวาระท่ีดํารงตําแหน่ง เพื่อขอความ เห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารโรงเรยี น (๒) เสนอแผนการดําเนินงานประจําปี และแผนงบประมาณประจําปีของโรงเรียนสาธิต เพื่อขออนุมัติ จากคณะกรรมการบริหารโรงเรียน (๓) เสนอรายงานประจําปีเก่ียวกับผลการดําเนินงานด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนสาธิตต่อ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนและสภามหาวิทยาลัย (๔) เสนอความเหน็ เกีย่ วกับการปรับปรงุ กจิ การ และการดําเนินงานของโรงเรยี นสาธติ ให้มปี ระสทิ ธิภาพ และเป็นไปตามวัตถุประสงคต์ ่อกรรมการบริหารโรงเรยี น (๕) อนุมตั ิผลการเรยี นและการสาํ เร็จการศึกษาของนักเรียน (๖) บรรจุ แต่งต้ัง เลื่อน ลด ตดั เงนิ เดือนหรอื คา่ จา้ ง ลงโทษและการใหอ้ อกจากงานของบุคลากร ในโรงเรียนสาธติ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น (๗) ออกระเบียบเก่ียวกับการดําเนินงานของโรงเรียน โดยไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบ ข้อกําหนด นโยบาย มติ หรือประกาศทค่ี ณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียนกําหนด (๘) เป็นผ้แู ทนของโรงเรยี นสาธิตในกจิ การทว่ั ไป หมวด ๓ บคุ ลากรของโรงเรียนสาธิต ขอ้ ๑๖๒ (ยกเลกิ ) ขอ้ ๑๗๓ การบรหิ ารงานบคุ คลของโรงเรียนสาธิตใหเ้ ปน็ ไปตามทค่ี ณะกรรมการบริหารโรงเรียนกําหนด พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑ ข้อ ๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒ ข้อ ๑๖ ยกเลิกโดยข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓ ข้อ ๑๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม (ฉบับที่ ๓)

๗๐งานกฎหมายและนิตกิ าร หมวด ๔ ทุน รายได้ และทรัพย์สนิ ขอ้ ๑๘ ทุนและทรัพย์สนิ ในการดาํ เนินกจิ การของโรงเรยี นสาธติ ประกอบดว้ ย (๑) เงนิ งบประมาณจากรัฐบาล (๒) เงินจากค่าธรรมเนียม ค่าบํารุงการศึกษา ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือรายได้จากการดําเนินงาน ของโรงเรยี นสาธติ (๓) เงนิ อดุ หนุนจากภาคเอกชน หรือองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น หรือองคก์ รอืน่ (๔) เงนิ หรือทรพั ยส์ ินท่มี ผี บู้ ริจาค (๕) ดอกผลของเงนิ หรือรายไดจ้ ากทรัพยส์ นิ ของโรงเรยี น (๖) กองทนุ ตามข้อ ๒๑ ข้อ ๑๙ ทรัพย์สินและรายได้ของโรงเรียนสาธิต ให้เก็บไว้ในบัญชีเฉพาะของมหาวิทยาลัยในส่วนของ โรงเรียนสาธิต และใหน้ าํ มาใช้จ่ายเพื่อกิจการของโรงเรียนสาธิตตามระเบยี บที่กรรมการบริหารโรงเรียนกําหนด ข้อ ๒๐ การเก็บรักษาและการเบกิ จ่ายเงินของโรงเรียนสาธติ ให้ดําเนินการดังน้ี (๑) เงินท่ีได้จากงบประมาณแผ่นดิน ตามข้อ ๑๘ (๑) ให้เป็นไปตามระเบียบและข้ันตอนของ กระทรวงการคลงั และของสาํ นักนายกรัฐมนตรี (๒) เงินรายได้ตามข้อ ๑๘ (๒) และ ๑๘ (๕) ให้เป็นไปตามที่ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ว่าด้วยการเงินและทรัพย์สนิ ของมหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม พ.ศ.๒๕๔๘ โดยอนโุ ลม (๓) เงินรายได้ตามข้อ ๑๘ (๓) และ ๑๘ (๔) ให้เป็นไปตามท่ีเจ้าของเงินเป็นผู้กําหนด และแจ้งให้ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนทราบ ข้อ ๒๑ ให้โรงเรียนสาธิตจัดต้ังกองทุนเพ่ือพัฒนาโรงเรียนสาธิต มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการคุณภาพของโรงเรียนสาธิต และให้นําเงินตามข้อ ๑๘ (๒) , ๑๘ (๕) ท่ีเหลือจ่ายในแต่ละ ปีงบประมาณสมทบเข้ากองทุน การนาํ เงินจากกองทุนมาใช้จ่ายให้เปน็ ไปตามมติของคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน หมวด ๕ การงบประมาณ การตรวจสอบ และการประเมินผลงานของโรงเรยี น ข้อ ๒๒ ให้โรงเรียนสาธิตจัดทําแผนงบประมาณประจําปี จากเงินรายได้ตามข้อ ๑๘ เพ่ือขอความ เห็นชอบจากคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น ข้อ ๒๓ ให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นคณะหนึ่ง มีหน้าที่ ตรวจสอบภายในเก่ยี วกบั การเงนิ การบญั ชี และการพัสดุของโรงเรียน เปน็ รายปที กุ ปี

๗๑งานกฎหมายและนิติการ ข้อ ๒๔ ให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลงาน มีหน้าท่ีประเมินผล การดําเนินงานของโรงเรยี นสาธติ ตามระยะเวลาท่ีคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียนกาํ หนดแต่ไม่นานกวา่ สองปี ข้อ ๒๕ ให้โรงเรยี นสาธติ ทาํ รายงานประจําปี เสนอคณะกรรมการบริหารโรงเรยี นและสภามหาวิทยาลัย รายงานน้ใี ห้ประกอบด้วย ผลงานของโรงเรยี นสาธิตในปีทล่ี ่วงมาแล้ว การใช้จา่ ย งบประมาณคําชี้แจงเก่ียวกับนโยบาย โครงการ และแผนงานที่จะจัดทาํ ในภายหน้า บทเฉพาะกาล ขอ้ ๒๖ ใหผ้ ้อู ํานวยการในปจั จบุ ัน ปฏบิ ัตหิ น้าที่ผอู้ ํานวยการจนส้ินภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๕๐ ขอ้ ๒๗ การดําเนนิ งานของโรงเรียน ปกี ารศกึ ษา ๒๕๔๙ ให้เป็นไปตามระเบียบเดิม ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ภาวิช ทองโรจน์ (ศาสตราจารยพ์ ิเศษ ภาวิช ทองโรจน)์ นายกสภามหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม

ข้อบังคับมหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม วา่ ดว้ ยการจัดการศึกษาระดับอนุปริญญาและปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เติม

๗๒งานกฎหมายและนิติการ ข้อบังคบั มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม ว่าดว้ ยการจดั การศกึ ษาระดับอนุปริญญาและปรญิ ญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อให้การจัดการศึกษาระดับอนุปริญญาและปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม อันจะทาให้การจัดการศึกษาดาเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๘ (๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ สภามหาวิทยาลัย ราชภัฏนครปฐม จึงออกขอ้ บังคับไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับ อนปุ ริญญาและปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๘” ข้อ ๒ ให้ใช้ข้อบังคับนี้สาหรับนักศึกษาที่เข้าศึกษาต้ังแต่ภาคการศึกษาท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๔๙ เป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ขอ้ บังคับ ระเบียบ ประกาศ หรอื คาสง่ั อื่นใด ท่ีขดั หรอื แย้งกับขอ้ บังคบั น้ี ใหใ้ ช้ข้อบงั คับน้แี ทน ข้อ ๔ ในขอ้ บังคบั นี้ “มหาวิทยาลัย” หมายถงึ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม “สภามหาวิทยาลัย” หมายถึง สภามหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม “สภาวชิ าการ” หมายถึง สภาวิชาการมหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม “อธิการบดี” หมายถงึ อธิการบดมี หาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม “คณบดี” หมายถึง คณบดีในมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม “นกั ศึกษา” หมายถงึ ผ้ทู รี่ ายงานตวั ขน้ึ ทะเบียนเปน็ นักศึกษามหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม “คณะกรรมการบริหารวชิ าการ” หมายถงึ คณะกรรมการบริหารวชิ าการมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม “คณะกรรมการประจาคณะ” หมายถึง คณะกรรมการประจาคณะในมหาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม “คณะกรรมการบริหารโปรแกรมวิชา” หมายถึง คณะกรรมการบริหารโปรแกรมวิชาในมหาวิทยาลัย ราชภฏั นครปฐม “อาจารยท์ ี่ปรกึ ษา” หมายถึง อาจารยท์ ปี่ รกึ ษาในมหาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม “สานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน” หมายถึง สานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ข้อ ๕ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับน้ีและเป็นผู้ชี้ขาดในกรณีเกิดปัญหา จากการใช้ขอ้ บงั คับน้ี

๗๓งานกฎหมายและนิติการ หมวด ๑ ระบบการบริหารงาน ข้อ ๖ มหาวิทยาลัย จัดการบรหิ ารงานวิชาการ โดยให้มีหน่วยงาน บุคคล และคณะบุคคลดาเนินงาน ดังน้ี (๑) สภาวชิ าการ (๒) คณะกรรมการบรหิ ารวชิ าการ (๓) คณะ (๔) คณะกรรมการประจาคณะ (๕) คณะกรรมการบรหิ าร โปรแกรมวชิ า (๖) อาจารยท์ ี่ปรึกษา ข้อ ๗ การแต่งตงั้ สภาวชิ าการ ให้เป็นไปตามบทบัญญตั ใิ นมาตรา ๒๐ แหง่ พระราชบัญญตั ิมหาวทิ ยาลัย ราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ ขอ้ ๘ อาณาและหน้าที่ของสภาวิชาการ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติในมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พ.ศ. ๒๕๔๗ ขอ้ ๙ ให้อธิการบดีแตง่ ตงั้ คณะกรรมการบริหารวิชาการ ประกอบดว้ ย (๑) อธกิ ารบดี หรอื รองอธกิ ารบดีท่ไี ดร้ ับมอบหมายเปน็ ประธาน (๒) ผู้อานวยการสานักสง่ เสริมวชิ าการและงานทะเบยี น เป็นกรรมการ (๓) รองผู้อานวยการสานักสง่ เสริมวิชาการและงานทะเบียน ๑ คน เป็นกรรมการ (๔) คณบดีทุกคณะ เปน็ กรรมการ (๕) ผูแ้ ทนสภาคณาจารย์ และข้าราชการ ๑ คน เป็นกรรมการ (๖) หวั หน้าสานกั งานผู้อานวยการสานกั ส่งเสรมิ วชิ าการ และงานทะเบียน เป็นกรรมการและเลขานกุ าร ข้อ ๑๐ ให้คณะกรรมการบริหารวชิ าการ มีหน้าทด่ี ังนี้ (๑) พจิ ารณากล่นั กรองหลกั สตู รการเรียนการสอน การวัดผลและประเมนิ ผลการศึกษา (๒) พิจารณากลน่ั กรองรา่ งระเบียบท่เี กี่ยวกบั การจดั การศึกษาก่อนนาเสนอต่อสภาวิชาการ (๓) พจิ ารณากลัน่ กรองการแต่งต้งั อาจารย์พเิ ศษ (๔) ดูแลกากบั การจัดการเรยี นการสอนให้เปน็ ไปตามระเบียบ ข้อบังคบั และนโยบายของมหาวิทยาลยั (๕) พจิ ารณาการเทยี บโอนผลการเรียน (๖) พจิ ารณาผูม้ สี ทิ ธเิ ขา้ สอบปลายภาค (๗) พิจารณากลัน่ กรองแผนการรับนกั ศกึ ษา

๗๔งานกฎหมายและนิติการ (๘) แต่งตง้ั คณะอนุกรรมการ (๙) ปฏิบตั หิ น้าท่ีอื่น ๆ ตามท่มี หาวทิ ยาลยั มอบหมาย ข้อ ๑๑ ให้คณะเป็นหน่วยงานผลิตบัณฑิต ตามนโยบายของมหาวิทยาลัยบริหารงานวิชาการ โดยคณบดแี ละคณะกรรมการประจาคณะ ขอ้ ๑๒ การได้มา อานาจหน้าที่ของคณบดี และคณะกรรมการประจาคณะ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ของมหาวทิ ยาลัย ข้อ ๑๓ ให้มหาวิทยาลัยแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโปรแกรมวิชาตามคาแนะนาของคณบดี โปรแกรมวชิ าละไมน่ ้อยกว่า ๕ คน จากอาจารย์ประจาทมี่ ีคุณวฒุ ิตรง หรอื สัมพนั ธ์กับโปรแกรมวิชา ข้อ ๑๔ คณะกรรมการบรหิ ารโปรแกรมวิชา มหี นา้ ที่ดงั น้ี (๑) พัฒนา และหรือ ปรับปรุงหลักสูตรให้ตรงตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา หรอื ประกาศอนื่ ใดของกระทรวงศกึ ษาธิการ (๒) จัดทาโครงการพัฒนาโปรแกรมวิชา เอกสาร ตารา สื่อ ประกอบการเรียนการสอน และจัดทา แนวการสอนทกุ รายวชิ า (๓) จัดทาอัตรากาลังผูส้ อน เสนอตอ่ คณบดี (๔) เสนอแตง่ ตั้งอาจารย์พเิ ศษต่อคณบดี (๕) เสนอแตง่ ต้ังอาจารย์ท่ปี รกึ ษาต่อคณบดี (๖) เสนอแผนการดาเนินการพัฒนานักศึกษาทุกช้ันปีตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรและ โปรแกรมวิชา (๗) ดาเนินการประเมินผลการผลติ บัณฑติ ประจาปี ตามนโยบายของมหาวทิ ยาลัย (๘) ดาเนนิ งานการประกันคุณภาพการศึกษา (๙) ปฏิบตั ิหน้าทอี่ ่นื ตามทค่ี ณะหรอื มหาวิทยาลัยมอบหมาย ข้อ ๑๕ ให้มหาวิทยาลัยแต่งต้ังบุคคลเพื่อทาหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษา โดยมีหน้าที่ให้คาปรึกษา ดูแลสนับสนุนทางด้านวิชาการ วิธีการเรียน แผนการเรียน และให้มีส่วนในการประเมินผล ความก้าวหน้าใน การเรียนของนกั ศึกษา และภารกจิ อน่ื ท่ีมหาวทิ ยาลัยมอบหมาย ข้อ ๑๖ หลักสูตรและระบบการจัดการศกึ ษา ใหเ้ ป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตรระดับอดุ มศึกษา ขอ้ ๑๗ การจดั การศึกษา มหาวทิ ยาลัยอาจตั้งศูนย์การศึกษานอกมหาวิทยาลัยได้

๗๕งานกฎหมายและนิติการ หมวด ๒ คณุ สมบัตขิ องผูเ้ ข้าศึกษา ขอ้ ๑๘ คุณสมบัติของผเู้ ข้าศึกษา (๑) ระดับอนุปริญญาหรือปริญญาตรี ต้องสาเร็จการศึกษาไม่ต่ากว่าช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย จากสถาบนั การศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามท่กี ระทรวงศกึ ษาธิการ หรือสภามหาวทิ ยาลยั รับรอง (๒) ระดบั ปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ต้องสาเร็จการศกึ ษาไม่ตา่ กว่าระดับอนปุ ริญญา จากสถาบนั การศึกษา ทัง้ ในประเทศหรอื ต่างประเทศ ตามที่สภามหาวทิ ยาลยั รบั รอง (๓) มีคณุ สมบัตอิ นื่ ตามหลกั เกณฑ์ เงอ่ื นไข ท่ีคณะกาหนด ข้อ ๑๙ การรับสมัคร การคัดเลือก การรับเข้าศึกษา และการรายงานตัวเข้าเป็นนักศึกษา ให้เป็นไป ตามเงอ่ื นไข หลกั เกณฑ์ และวธิ กี าร ท่ีมหาวิทยาลัยกาหนด หมวด ๓ การลงทะเบียนเรยี น การเทียบโอนผลการเรยี น และการเปล่ยี นโปรแกรมวิชา ขอ้ ๒๐ การลงทะเบียนวิชาเรยี น (๑) การลงทะเบียนวชิ าเรียน ให้เป็นไปตามโครงสร้างหลักสูตรและได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ ที่ปรึกษา (๒) การลงทะเบยี นวชิ าเรียนแบ่งออกเปน็ ๓ ประเภท ก. การลงทะเบียนเรยี นทน่ี บั หนว่ ยกติ และคดิ ค่าระดบั คะแนน ข. การลงทะเบียนเรียนตามเกณฑม์ าตรฐานหลักสูตร โดยไมค่ ิดคา่ ระดบั คะเเนน ค. การลงทะเบียนเรยี นเพอ่ื ร่วมฟัง (๓) เกณฑ์การลงทะเบียนเรียน เกณฑ์การสาเร็จการศึกษา เกณฑ์การพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดบั อุดมศกึ ษา (๔) นักศึกษาที่ลงทะเบยี นเรียนครบตามหลักสตู รรวมแล้วแต่ยังไมส่ าเร็จการศึกษา และนกั ศกึ ษา ที่พักการเรยี น ตอ้ งชาระเงินค่ารกั ษาสถานภาพนักศึกษาตามท่ีมหาวิทยาลัยกาหนด (๕) นักศึกษาสามารถลงทะเบยี นเรียนต่างมหาวิทยาลัยได้ โดยความเหน็ ชอบของมหาวทิ ยาลัย ขอ้ ๒๑ การเทยี บโอนผลการเรยี น ใหเ้ ป็นไปตามข้อบังคบั ของมหาวิทยาลยั วา่ ดว้ ยการเทยี บโอน ผลการเรยี น ข้อ ๒๒ มหาวิทยาลัยอาจอนุญาตให้นักศึกษาเปล่ียนโปรแกรมวิชาได้ตามความจาเป็น ทั้งน้ี ต้องเปน็ ไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของมหาวทิ ยาลัย

๗๖งานกฎหมายและนิติการ หมวด ๔ การประเมนิ ผลการศกึ ษา ข้อ ๒๓ การประเมินผลการเรียนรายวิชา และการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ให้อาจารย์ผู้สอน ประเมินผลการเรียนให้ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์ของรายวิชา โดยวิธีการที่คณะเห็นชอบและต้องมีการสอบ ปลายภาคการศกึ ษาในเวลาท่ีมหาวิทยาลัยกาหนด หรือตามที่ได้รับอนญุ าตจากมหาวทิ ยาลยั นักศึกษาที่มีสิทธิสอบปลายภาคการศึกษา ต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน ท้ังหมด หรือได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการบริหารวิชาการ ในกรณีที่มีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ จะไม่มี สทิ ธสิ อบในรายวชิ านน้ั ข้อ ๒๔ ใหม้ กี ารประเมินผลการเรียนในรายวิชาต่าง ๆ ตามหลักสตู รเป็น ๒ ระบบ ดังน้ี (๑) ระบบมีค่าระดบั คะแนน แบง่ เป็น ๘ ระดบั ระดบั คะแนน ความหมายของผลการเรียน ค่าระดบั คะแนน A ดีเย่ยี ม (Excellent) ๔.๐ B+ ดมี าก (Very Good) ๓.๕ B ดี (Good) ๓.๐ C+ ดีพอใช้ (Fairly Good) ๒.๕ C พอใช้ (Fair) ๒ D+ ออ่ น (Poor) ๑.๕ D ออ่ นมาก (Very Poor) ๑ E ตก (Fail) ๐ ระบบนี้ใช้สาหรับการประเมินผลรายวิชาที่เรียนตามหลักสูตรค่าระดับคะแนนท่ีถือว่าสอบได้ ต้องไม่ต่ากว่า “D” ถ้านักศึกษาได้ค่าระดับคะแนน “E” ในรายวิชาบังคับ ต้องลงทะเบียนเรียนใหม่จนกว่าจะ สอบได้ กรณีวิชาเลือกได้ค่าระดับคะแนน “E” สามารถเปล่ียนไปเลือกเรียนรายวิชา อ่ืน ๆ ได้ ตามโครงสร้าง หลักสูตรที่นักศึกษาเรียนอยู่ ส่วนการประเมินผลรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และรายวิชาการฝึก ประสบการณ์วิชาชีพ ถ้าได้ค่าระดับคะแนนต่ากว่า “C” ถือว่าสอบตก นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนหรือ ฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพใหม่ และถ้าได้รบั การประเมินผลต่ากวา่ “C” เป็นครงั้ ท่ีสอง ถือว่าหมดสภาพการเป็น นักศกึ ษา ทง้ั น้ี ยกเวน้ นักศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี ท่ีประสงค์จะรับวุฒอิ นปุ ริญญา

๗๗งานกฎหมายและนิติการ กรณีคณะพยาบาลศาสตร์ การประเมินผลรายวิชาปฏิบัติการการพยาบาล ถ้าได้ระดับคะแนน ต่ากว่า “C” ถือว่าสอบตก นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนใหม่ และถ้าได้รับการประเมินผลต่ากว่า “C” เปน็ ครง้ั ทสี่ อง ถือวา่ หมดสภาพการเปน็ นักศึกษา๑ (๒) ระบบไม่มีคา่ ระดับคะแนน กาหนดสัญลกั ษณก์ ารประเมินดงั นี้ ผลการเรยี น ระดับการประเมนิ ผ่านดเี ย่ียม PD (Pass with Distinction) ผา่ น P (Pass) ไมผ่ า่ น F (Fail) ระบบน้ีใช้สาหรับการประเมินผลรายวิชาปรับพ้ืน ที่หลักสูตรบังคับให้เรียนเพิ่มเติมตามข้อกาหนด เฉพาะและรายวิชาที่มหาวิทยาลัยกาหนดให้เรียนเพิ่ม รายวิชาท่ีได้ผลการประเมิน “F” นักศึกษาต้องลงทะเบียน เรียนใหมจ่ นกว่าจะสอบได้ ข้อ ๒๕ สัญลักษณ์อนื่ มีดงั นี้ Au (Audit) ใช้สาหรับการลงทะเบียนเพือ่ รว่ มฟัง โดยไม่นบั หนว่ ยกติ W (Withdraw) ใช้สาหรับการบันทึก กรณีการถอนเฉพาะรายวิชา ก่อนสอบปลายภาคเรียน ไมน่ ้อยกวา่ ๒ สัปดาห์หรือตามท่ีมหาวิทยาลัยกาหนด หรอื การถอนรายวชิ าเน่ืองจาก นักศกึ ษาลาพกั การศึกษา T (Transfer) ใช้สาหรับการบันทกึ การเทียบโอนผลการเรียน I (Incomplete) ใช้สาหรับบันทึกการประเมินผลที่ไม่สมบูรณ์ในรายวิชาท่ีนักศึกษายังทางาน ไมเ่ สรจ็ เม่ือสิ้นภาคการศกึ ษาหรือขาดสอบปลายภาค นักศึกษาท่ีได้ “I” ต้องดาเนินการขอรับการประเมินผลเพื่อเปลี่ยนค่าระดับคะแนนให้เสร็จสิ้น ภายในระยะเวลาท่ีกาหนดในภาคการศึกษาถัดไป ถ้าไม่เสร็จสิ้น ให้ผู้สอนพิจารณาผลงานที่ค้างอยู่เป็นศูนย์ และ ประเมินผลการเรียนจากคะแนนและผลงานท่ีมีอยู่ กรณีนักศึกษาขาดสอบปลายภาคการศึกษาและไม่ได้รับอนุมัติ ใหส้ อบ ให้นายทะเบียนเปล่ียนผลการเรียนเปน็ “E” หรือ “F” แล้วแตก่ รณี ขอ้ ๒๖ กรณีนักศึกษาเข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) จะลงทะเบียนรายวิชาซ้า หรือ รายวิชาเทียบเท่ากบั รายวิชาท่ีเคยศึกษามาแล้วในระดับอนุปริญญาไม่ได้ หากลงทะเบยี นเรียนซ้า ให้เว้นการนับ หนว่ ยกิตในหลกั สตู รที่กาลงั ศกึ ษาอยู่ ข้อ ๒๗ การหาค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจาภาคการศึกษาและค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ต้ังแตเ่ รม่ิ เข้าศึกษาเป็นตน้ มา ให้คิดเปน็ เลขทศนิยม ๒ ตาแหนง่ โดยไม่ปดั เศษ และให้ปฏิบัติดังน้ี ๑ ขอ้ ๒๔ (๑) วรรคสาม เพมิ่ โดยข้อบงั คบั มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐมวา่ ดว้ ยการจดั การศกึ ษาระดบั อนปุ รญิ ญาและปรญิ ญาตรี (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔

๗๘งานกฎหมายและนิติการ (๑) คา่ ระดับคะแนนเฉลี่ยประจาภาคการศึกษาให้คิดเฉพาะรายวชิ าท่มี ีการประเมินผลตามขอ้ ๒๔ (๑) เท่าน้ัน โดยเอาผลคูณของหน่วยกิตกับค่าระดับคะแนนของแต่ละวิชาท่ีประเมินในภาคการศึกษารวมกัน แล้วหารด้วยผลรวมของจานวนหน่วยกิตของรายวิชาดังกล่าว ยกเว้นรายวิชาที่มีผล การเรียน “I” อยู่ไม่นามาคิด รวมด้วย เมอื่ ได้ผลการประเมินทเ่ี ปลี่ยนจาก “I” แลว้ จึงนามาคดิ ในภาคการศกึ ษาทเ่ี ปล่ยี นเรยี บร้อยแล้วนน้ั (๒) ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสม ให้คิดเฉพาะรายวิชาท่ีมีการประเมินผลตามข้อ ๒๔ (๑) ยกเว้น “E” โดยเอาผลคูณของหน่วยกิตกับค่าระดับคะแนนของทุกรายวิชาที่ประเมินผลและลงทะเบียนเรียนรวมกัน แล้วหารด้วยผลรวมของจานวนหน่วยกิตของรายวิชาดังกล่าว ส่วนรายวิชาท่ีมีผลการเรียน “I” ให้ปฏิบัติ เชน่ เดยี วกับขอ้ ๒๗ (๑) สาหรับผลการประเมินเป็น “E” ไม่มีการนับหน่วยกิตของรายวิชาท่ีได้ระดับคะแนนน้ี และไม่นาไป คานวณหาคา่ ระดับคะแนนเฉลีย่ (๓) ผลการเรียนระบบไม่มีค่าระดับคะแนน ไม่ต้องนับรวมหน่วยกิตเป็นตัวหาร แต่ให้นับหน่วย กิตเพ่อื พจิ ารณารายวิชาเรียนครบตามเกณฑ์มาตรฐานหลกั สูตร (๔) กรณีท่ีนักศึกษาลงทะเบียนเรียนวิชากับรายวิชาที่สอบได้แล้ว ให้นายทะเบียนตัดรายวิชา ท่ไี ดค้ า่ ระดบั คะแนนต่าทง้ิ ข้อ ๒๘ เมื่อนักศึกษาเรียนครบตามโครงสร้างของหลักสูตรแล้ว และได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ีย สะสมต้ังแต่ ๑.๘๐ แต่ไม่ถึง ๒.๐๐ ให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนรายวิชาเดิมตามข้อ ๒๗ (๔) หรือเลือกเรียน รายวิชาเพม่ิ เตมิ เพอื่ ทาค่าระดับคะแนนเฉลย่ี สะสมให้ถึง ๒.๐๐ หมวด ๕ การสําเร็จการศกึ ษา ข้อ ๒๙ ผู้สาเร็จการศึกษาตามหลกั สตู ร ตอ้ งมคี ณุ สมบัตคิ รบถว้ นทุกขอ้ ดังน้ี (๑) มคี วามประพฤติดี (๒) ผา่ นกิจกรรมตามท่ีมหาวิทยาลยั กาหนด (๓) มีเวลาศึกษาในมหาวิทยาลยั ตามเกณฑ์มาตรฐานหลกั สตู ร (๔) สอบไดร้ ายวิชาต่างๆครบตามโครงสรา้ งของหลักสูตรและเกณฑ์การประเมนิ ผล (๕) ได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ยี สะสมไม่ตา่ กวา่ ๒.๐๐ (๖) ได้ระดับคะแนนเฉลยี่ สะสมในหมวดวชิ าเฉพาะ เฉพาะวชิ าเอกไม่ตา่ กวา่ ๒.๐๐ (๗) สอบผ่านการประเมนิ ความรู้และทกั ษะตามที่มหาวทิ ยาลยั กาหนด นักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรีท่ีไม่สาเร็จการศึกษา ประสงค์จะรับวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญา ต้องศึกษารายวิชาต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า ๙๐ หน่วยกิต โดยต้องศึกษารายวิชาศึกษาท่ัวไปครบ ๓๐ หน่วยกิต และ รายวิชาในหลักสูตรครบทุกกลุ่มรายวิชาอีกไม่น้อยกว่า ๖๐ หน่วยกิต โดยได้รับค่าระดับคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ากว่า

๗๙งานกฎหมายและนิติการ ๒.๐๐ ทั้งน้ี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไขที่มหาวิทยาลัยกาหนด และต้องยื่นเร่ืองขออนุมัติต่อ มหาวิทยาลยั ขอ้ ๓๐ การขออนมุ ัตสิ าเรจ็ การศึกษา (๑) นักศึกษาต้องย่ืนคาร้องขอสาเร็จการศึกษา ต่อสานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนใน ภาคเรียนสดุ ทา้ ยท่ีลงทะเบียนเรยี น และภายในกาหนดเวลาตามประกาศของมหาวทิ ยาลยั (๒) นักศึกษาท่ีจะได้รับพิจารณาเสนอชื่อขออนุมัติสาเร็จการศึกษาต่อสภาวิชาการ ต้องเป็น ผู้สาเร็จการศึกษาตามข้อ ๒๙ และไม่ค้างชาระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไม่ติดค้างวัสดุสารสนเทศ หรืออยู่ระหว่าง ถูกลงโทษทางวินยั ขอ้ ๓๑ ผูส้ าเรจ็ การศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรีท่มี ีสทิ ธิไดร้ บั เกียรตินยิ ม ต้องมีคณุ สมบัติ ดังน้ี (๑) สอบได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมไม่น้อยกว่า ๓.๖๐ จะได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หรือ ไม่น้อยกว่า ๓.๒๕ แต่ไม่ถึง ๓.๖๐ จะได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง และต้องไม่เคยลงทะเบียนเรียนซ้ากับ รายวิชาท่สี อบไดแ้ ล้ว นักศึกษาในระดับปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ต้องได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยจากระดับ อนุปริญญาหรือ ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือประกาศนียบัตรอื่นใดที่เทียบเทา่ ไม่นอ้ ยกว่า ๓.๖๐ จึงจะได้รับเกียรตินิยม อันดับหนึ่ง หรือได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียจากระดับอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง หรือ ประกาศนียบตั รอน่ื ใดที่เทยี บเทา่ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๓.๒๕ แตไ่ มถ่ งึ ๓.๖๐ จึงจะได้รบั เกียรตนิ ิยมอนั ดับสอง (๒) สอบได้รายวิชาใด ๆ ไม่ต่ากว่า “C” ตามระบบมีค่าระดับคะแนนและไม่ได้ “F” ตามระบบ ไมม่ ีคา่ ระดับคะแนน (๓) นักศึกษาภาคปกติ มีเวลาเรียนไม่เกิน ๔ ภาคการศึกษาปกติติดต่อกันสาหรับหลักสูตรระดับ ปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ไม่เกิน ๘ ภาคการศึกษาปกติติดต่อกันสาหรับหลักสูตรระดับปริญญาตรี ๔ ปี ไม่เกิน ๑๐ ภาคการศึกษาปกติติดตอ่ กนั สาหรับหลกั สูตรระดบั ปรญิ ญาตรี ๕ ปี (๔) นักศึกษาประเภทอ่ืน มีเวลาเรียนไม่เกิน ๘ ภาคการศึกษาติดต่อกันสาหรับหลักสูตรระดับ ปริญญาตรี (ต่อเน่ือง) ไม่เกิน ๑๒ ภาคการศึกษาติดต่อกันสาหรับหลักสูตรระดับปริญญาตรี ๔ ปี ไม่เกิน ๑๕ ภาคการศึกษาติดตอ่ กันสาหรับหลกั สูตรระดบั ปรญิ ญาตรี ๕ ปี หมวด ๖ การลาพัก การรกั ษาสถานภาพ การลาออก การพ้นสภาพการเปน็ นกั ศกึ ษา และการขอคนื สภาพการเป็นนักศกึ ษา ข้อ ๓๒ การลาพักการศกึ ษา การรกั ษาสถานภาพ และการลาออกของนกั ศึกษา (๑) นักศึกษาผู้ประสงค์จะลาพักการศึกษา ต้องยนื่ คาร้องต่อสานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน และตอ้ งได้รับอนุมัติจากมหาวทิ ยาลยั

๘๐งานกฎหมายและนิติการ (๒) นักศึกษาผู้ได้รับอนุมัติให้ลาพักการศึกษา ต้องรักษาสถานภาพนักศึกษาทุกภาคการศึกษาที่ ลาพกั ภายในเวลาท่ีมหาวทิ ยาลยั กาหนด (๓) นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนครบรายวิชาตามหลักสูตรแล้วแต่ยังไม่สาเร็จการศึกษา ต้องรักษา สถานภาพการเป็นนักศึกษาทุกภาคการศึกษา จนกวา่ จะสาเรจ็ การศึกษา (๔) นักศึกษาผู้ประสงค์จะลาออกจากการเป็นนักศึกษา ต้องย่ืนคาร้องต่อสานักส่งเสริมวิชาการ และงานทะเบียน เพอ่ื ให้มหาวิทยาลัยอนุมัติ ขอ้ ๓๓ การพ้นสภาพการเป็นนกั ศกึ ษา นกั ศึกษาจะพน้ สภาพการเปน็ นักศึกษาเม่ืออยู่ในเกณฑ์ข้อหน่ึงข้อใด ดังต่อไปนี้ (๑) สาเร็จการศึกษาตามหลักสตู ร (๒) ผลการประเมินได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ากว่า ๑.๘๐ เม่ือสิ้นภาคการศึกษาปกติที่ ๒ นับตั้งแต่เรมิ่ มสี ภาพเปน็ นกั ศึกษาสาหรับหลกั สตู รอนุปรญิ ญาและหลักสตู รปริญญาตรี (ตอ่ เนื่อง) (๓) ผลการประเมินได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ากว่า ๑.๘๐ เม่ือสิ้นภาคการศึกษาท่ี ๔ สาหรบั หลักสูตรปริญญา ๔ ปี และสน้ิ ภาคการศึกษาท่ี ๖ สาหรบั หลักสตู รปริญญาตรี ๕ ปี (๔) มีผลการเรยี นรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วชิ าชพี หรือการฝึกประสบการณ์วิชาชีพตา่ กว่า “C” เปน็ คร้ังที่ ๒ (๕) ลงทะเบยี นเรียนครบตามโครงสรา้ งของหลกั สูตร ไดค้ ่าระดับคะแนนเฉล่ียตา่ กว่า ๑.๘๐ (๖) ไมร่ กั ษาสถานภาพนกั ศกึ ษา (๗) นักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี ๔ ปี และ ๕ ปี พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเมื่อได้รับอนุมัติ ใหไ้ ด้รบั วฒุ กิ ารศกึ ษาระดบั อนปุ รญิ ญา ข้อ ๓๔ นักศึกษาท่ีพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา เพราะไม่ได้รักษาสถานภาพการเป็นนักศึกษา สามารถยื่นคาร้องต่อสานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนเพ่ือขออนุมัติคืนสภาพการเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยและเมอื่ ได้รบั อนมุ ัตแิ ล้วตอ้ งชาระเงินคา่ ธรรมเนยี มการขอกลับคืนสภาพการเปน็ นกั ศึกษา หมวด ๗ การควบคุมคณุ ภาพ ขอ้ ๓๕ การควบคมุ คณุ ภาพการศึกษา ให้เป็นไปตามมาตรฐานหลกั สูตรระดับอุดมศึกษา ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ภาวชิ ทองโรจน์ (ศาสตราจารย์พิเศษ ภาวชิ ทองโรจน)์ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม

ขอ้ บังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ว่าด้วยกิจกรรมนกั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม

๘๑งานกฎหมายและนิติการ ขอ้ บังคับมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม ว่าดว้ ยกิจกรรมนกั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อให้การดําเนินงานกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นอนั หนึ่งอันเดยี วกัน และเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา ให้นักศึกษามสี ่วนรว่ มในการ ดําเนินกิจกรรมและตรวจสอบการดําเนินกิจกรรมขององค์การนักศึกษา อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘ (๒) แห่งพระราชบญั ญตั ิมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ สภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จึงตราขอ้ บังคบั ไว้ดงั น้ี ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘” ขอ้ ๒ ขอ้ บังคับน้ใี ห้ใชบ้ ังคับต้ังแต่วันถดั จากวันประกาศเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ ในขอ้ บงั คบั น้ี “มหาวทิ ยาลยั ” หมายถึง มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม “สภามหาวทิ ยาลยั ” หมายถงึ สภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม “อธิการบดี” หมายถึง อธกิ ารบดมี หาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม “คณบด”ี หมายถงึ คณบดมี หาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม “คณะ” หมายถึง คณะตามการแบง่ ส่วนราชการในมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม “สํานักศิลปะและวฒั นธรรม” หมายถงึ สาํ นักศลิ ปะและวฒั นธรรม มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม “ผู้อํานวยการสํานักศิลปะและวัฒนธรรม” หมายถึง ผู้อํานวยการสํานักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม “สภานกั ศกึ ษา” หมายถงึ สภานักศกึ ษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม “องคก์ ารนักศึกษา” หมายถงึ องคก์ ารนักศึกษามหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม “สโมสรนักศกึ ษา” หมายถงึ สโมสรนักศึกษาคณะต่าง ๆ ของมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม “กรรมาธิการ” หมายถึง คณะบุคคลที่สภานักศึกษาแต่งต้ังเพื่อดําเนินกิจกรรมตามที่สภานักศึกษา มอบหมาย “นกั ศกึ ษา” หมายถึง นกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม “ชมรม” หมายถงึ ชมรมกิจกรรมนกั ศึกษา ซึ่งสงั กัดองคก์ ารนักศึกษา “ชมุ นมุ ” หมายถึง ชมุ นุมกจิ กรรมนักศึกษา ซ่งึ สังกัดสโมสรนกั ศึกษา “อาจารย์ที่ปรึกษา” หมายถึง อาจารย์ที่ทําหน้าท่ีให้คําปรึกษาแก่องค์การนักศึกษา สภานักศึกษา สโมสรนักศกึ ษา ชมรม ชมุ นมุ และกลุ่มกจิ กรรม

๘๒งานกฎหมายและนิติการ “พรรคนักศึกษา” หมายถึง กลุ่มนักศึกษาท่ีมีแนวคิดและวัตถุประสงค์ร่วมกัน เพื่อจะดําเนินการ บรหิ ารงานองคก์ ารนกั ศึกษา “ปกี ารศกึ ษา” หมายถงึ ระยะเวลาตัง้ แต่ วนั ท่ี ๑ มิถนุ ายน ถงึ วนั ท่ี ๓๑ พฤษภาคม ของปถี ัดไป ขอ้ ๔ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ประกาศ หรือคําส่งั อนื่ ใดทขี่ ัดหรือแยง้ กับข้อบังคับน้ี ให้ใชข้ ้อบงั คับนแ้ี ทน ข้อ ๕ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับน้ี และเป็นผู้วินิจฉัยช้ีขาด ในกรณีที่เกิด ปญั หาตามขอ้ บังคับน้ี หมวด ๑ วัตถปุ ระสงค์ ขอ้ ๖ การดาํ เนนิ งานกจิ กรรมนกั ศึกษามีวตั ถปุ ระสงค์ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) เพอื่ สง่ เสริมและสนบั สนุนการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษัตริย์เปน็ ประมุข (๒) ให้นักศึกษาได้เรียนรู้และฝึกตนเองในการใช้สิทธิเสรีภาพและปฏิบัติหน้าท่ีอย่างครบถ้วน ตลอดจนการปกครองตนเองตามหลักประชาธิปไตย (๓) เพอื่ สง่ เสริมสามัคคธี รรมในหมู่นักศึกษา (๔) เพือ่ ส่งเสรมิ กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตรทางวชิ าการและประสบการณ์ในวชิ าชพี แกน่ ักศึกษา (๕) เพือ่ สง่ เสริมใหน้ กั ศกึ ษามีบคุ ลิกภาพพลานามยั และมนุษยสัมพันธ์ท่ีดี (๖) เพื่อสง่ เสริมวฒั นธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณที ี่ดงี ามของไทย (๗) เพือ่ สง่ เสรมิ ใหน้ กั ศึกษามคี วามคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ มวี ิสยั ทัศน์ (๘) เพอื่ ปลกู ฝังให้นักศกึ ษามีความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคมส่วนรวม หมวด ๒ สทิ ธแิ ละหนา้ ท่ขี องนักศกึ ษา ข้อ ๗ นกั ศกึ ษามีสถานะและสทิ ธเิ ทา่ เทยี มกนั และอยูใ่ นความคุม้ ครอง แหง่ ข้อบงั คบั น้ีเสมอกัน ข้อ ๘ นักศึกษามสี ิทธิ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) มีสิทธิเท่าเทียมกันในการร่วมกิจกรรมต่างๆของนักศึกษาตามระเบียบข้อบังคับเก่ียวกับ กิจการน้นั ๆ (๒) มีสิทธิแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์อย่างเสรี ภายในขอบเขตของกฎหมาย และข้อบังคับ ตลอดจนระเบียบแบบแผนของมหาวิทยาลัย โดยให้กระทาํ เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรเสนอตอ่ มหาวิทยาลัย (๓) มีสทิ ธิในการดาํ เนนิ กจิ กรรมตามวัตถุประสงค์ของกจิ กรรมนกั ศึกษา (๔) มสี ิทธิขอรบั หนงั สอื รบั รองการทํากจิ กรรมของมหาวิทยาลัย เมือ่ จบการศึกษา

๘๓งานกฎหมายและนิติการ ข้อ ๙ นกั ศึกษามหี นา้ ที่ ดังต่อไปน้ี (๑) มหี น้าท่ธี าํ รงไวซ้ ่งึ ความสามคั คี เกียรติยศ และชอ่ื เสียงของมหาวทิ ยาลยั (๒) มหี น้าทีศ่ กึ ษาเลา่ เรยี นอยา่ งเต็มกาํ ลังความสามารถ (๓) มีหน้าท่ีปฏิบัติตาม ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําส่ัง และประเพณีอันดีงามของมหาวิทยาลัย และปฏิบัติตนตามครรลองระบอบประชาธิปไตยภายในมหาวทิ ยาลัย (๔) มีหนา้ ที่ผดงุ ไว้ซึง่ ขนบธรรมเนยี มและวฒั นธรรมอันดีงามของชาติไทย (๕) มีหน้าทใ่ี นการใชส้ ทิ ธเิ ลอื กต้ัง และออกเสียงประชามตโิ ดยสุจริต และมุ่งประโยชน์ สว่ นรวม หมวด ๓ การจดั สว่ นบริหารกิจกรรมนักศึกษา ข้อ ๑๐ ให้การบริหารกิจกรรมนกั ศกึ ษา แบ่งเป็น ๒ ส่วน คอื (๑) สภานกั ศึกษา (๒) องค์การนักศึกษา ข้อ ๑๑ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ใช้อักษรย่อว่า สนฐ. เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ว่า The student Council of Nakhon Pathom Rajabhat University ใช้อักษรย่อว่า SNP. เคร่ืองหมายของ สภานักศึกษา ใช้ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย และมีข้อความว่า สภานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม อยูใ่ ต้ตราสญั ลักษณ์ของมหาวิทยาลยั ข้อ ๑๒ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ใช้อักษรย่อว่า อนฐ. เรียกช่ือเป็น ภาษาอังกฤษ ว่า The Student Organization of Nakhon Pathom Rajabhat University ใช้อักษรย่อว่า SONP. เครื่องหมายขององค์การนักศึกษาใช้ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย และมีข้อความว่าองค์การนักศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม อยใู่ ต้ตราสญั ลักษณข์ องมหาวิทยาลยั หมวด ๔ สภานักศกึ ษา ขอ้ ๑๓ สภานักศกึ ษา ประกอบดว้ ย กรรมการสภานักศึกษา จํานวนไม่น้อยกว่า ๑๕ คน แต่ไม่เกิน ๒๐ คน โดยคัดเลือกจากหัวหน้า หมเู่ รียนของทุกคณะ โดยต้องมกี รรมการจากทุกคณะ ๆ ละไมน่ อ้ ยกวา่ ๓ คน ใหก้ รรมการสภานักศึกษาตามวรรคแรก ประชมุ เพ่อื คัดเลือกผู้ดํารงตําแหนง่ ประธานสภานักศึกษา รองประธานสภานกั ศึกษา เลขานกุ ารสภานักศกึ ษา ผู้ช่วยเลขานกุ ารสภานกั ศกึ ษา และประชาสมั พันธ์

๘๔งานกฎหมายและนิติการ ข้อ ๑๔ ให้สํานักศิลปะและวัฒนธรรมดําเนินการให้ได้มาซ่ึงกรรมการสภานักศึกษา โดยจัดให้มี การคัดเลือกกรรมการสภานักศึกษาจากหัวหน้าหมู่เรียน ท้ังน้ีให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์ท่ี ๓ ของปีการศึกษา การดาํ เนินการดงั กล่าวใหเ้ ป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลยั ใหอ้ ธกิ ารบดีเปน็ ผ้ลู งนามแตง่ ตง้ั กรรมการสภานกั ศกึ ษา ข้อ ๑๕ ให้กรรมการสภานักศึกษาอยู่ในตําแหน่งคราวละ ๑ ปีการศึกษา และรักษาการอยู่ใน ตําแหน่งจนกว่ากรรมการสภานกั ศกึ ษาชดุ ใหมจ่ ะเข้ารับหนา้ ที่ ข้อ ๑๖ กรรมการสภานกั ศึกษาพน้ จากตําแหน่งเม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ออกตามวาระ (๔) พน้ สภาพการเปน็ หวั หน้าหมู่เรียน (๕) ขาดการประชุมสภานักศึกษาต่อเน่ืองกัน ๓ ครั้ง โดยไม่มีเหตุผลอันสําคัญ และท่ีประชุม สภานกั ศึกษามีมตใิ หพ้ ้นสภาพด้วยเสยี งกง่ึ หนึ่งของกรรมการที่เขา้ ประชุม (๖) กระทําการอันเส่ือมเสียเกียรติของการเป็นกรรมการสภานักศึกษา หรือขาดความรับผิดชอบ ต่อหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย และท่ีประชุมสภานักศึกษามีมติให้พ้นสภาพด้วยเสียงก่ึงหนึ่งของกรรมการที่เข้า ประชุม (๗) มหาวทิ ยาลยั ประกาศยบุ สภานกั ศึกษา ขอ้ ๑๗ หากตําแหน่งประธานสภานักศึกษาหรือตําแหน่งอนื่ ว่างลงก่อนครบวาระ ใหม้ ีการเลือก แทนตําแหนง่ ท่วี ่างภายใน ๑๕ วัน เว้นแตว่ าระทีเ่ หลอื ไม่ถึง ๖๐ วัน จะไม่ดําเนินการดงั กล่าวขา้ งต้นก็ได้ ข้อ ๑๘ สภานักศึกษามอี าํ นาจหน้าที่ ดังน้ี (๑) พิจารณาให้ความเห็นชอบ ระเบียบ ข้อบังคับขององค์การนักศึกษา ซ่ึงไม่ขัดต่อระเบียบของ มหาวทิ ยาลัย (๒) กาํ กบั ดแู ลการบริหารงานขององคก์ ารนักศึกษา ให้เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ (๓) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และอนุมัติงบประมาณเงินกิจกรรมประจําปีขององค์การ นกั ศกึ ษา ตามโครงการตา่ ง ๆ ขององคก์ ารนักศึกษา (๔) ตรวจสอบการดําเนินงาน การเงนิ การบญั ชี และควบคุมการใช้จา่ ยเงินขององคก์ ารนักศึกษา (๕) แตง่ ตั้งกรรมาธกิ าร เพ่อื ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีตามท่สี ภานกั ศึกษามอบหมาย (๖) ส่งเสริม รกั ษาความสามคั คีและสัมพนั ธภาพอันดีระหวา่ งนักศึกษา อาจารย์และมหาวิทยาลยั (๗) เปดิ อภิปรายเพ่อื ซกั ถามขอ้ ข้องใจเก่ียวกบั การบรหิ ารงานขององค์การนักศึกษา (๘) เรยี กกรรมการองค์การนักศึกษา หรือ กรรมการสโมสรนักศึกษา มาชี้แจงผลการปฏิบตั ิงาน (๙) ลงมตไิ มไ่ วว้ างใจกรรมการองค์การนักศึกษาเป็นรายบุคคลหรือท้ังคณะ ภายใต้บงั คบั ขอ้ ๒๔ (๕)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook