Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือปฏิบัตฯ สำหรับนิสิต ๓ พระรัฐนพล

คู่มือปฏิบัตฯ สำหรับนิสิต ๓ พระรัฐนพล

Description: คู่มือปฏิบัตฯ สำหรับนิสิต ๓ พระรัฐนพล

Search

Read the Text Version

คู่มอื การปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ในสถานศึกษา ๓ สำหรบั นิสิต หลักสูตรครศุ าสตรบัณฑิต สาขาวชิ าสังคมศกึ ษา(๔ ปี) หลักสูตรปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ วทิ ยาลัยสงฆ์เขตอบุ ลราชธานี มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาลยั เขตอุบลราชธานี

๑ คมู่ อื การปฏิบัติวิชาชีพในสถานศึกษา ๓ สำหรับนิสติ ชื่อ-ฉายา/นามสกลุ ชื่อ พระรฐั นพล ฉายา จารุธมโฺ ม นามสกุล รินชาลี รหัสประจำตัวนิสิต 6407502004 นิสติ ปฏิบัติวชิ าชีพในสถานศกึ ษา 3 สาขาวิชา สังคมศึกษา ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 ชอ่ื โรงเรยี นปฏิบัติวิชาชพี โรงเรยี นนาส่วงวทิ ยา ชือ่ อาจารย์นิเทศก์ พระใบฏีกาสพุ จน์ ตปสีโล ,ผศ อาจารย์พลูศักด์ิ หอมสมบัติ ช่ือครพู ่ีเล้ียง วา่ ที่รอ้ ยตรี นคร แทง่ คำ ครชู ำนาญการพิเศษ ปฏิบัตหิ นา้ ที่หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นสังคมศึกษา =================================================== ================ หลกั สตู รครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา(๔ ป)ี วทิ ยาลัยเขตอุบลราชธานี มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

๒ คำนำ วิทยาลัยสงฆ์อุบลราชธานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี ได้จัดการศึกษาในคณะครุศาสตร์ ระดับปริญญาตรี กล่าวคือ หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต (๔ ปี) ตลอด ระยะเวลาการศึกษาในคณะครศุ าสตร์ วิทยาลัยสงฆ์สุรินทร์ ตอ้ งจดั ส่งนสิ ิตออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยตรงกับสถานศึกษา ในรายวิชาปฏิบัติวิชาชีพในสถานศึกษา ๓ ซ่ึงเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ และทกั ษะการเปน็ ครมู ืออาชีพให้แก่นิสิต เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนรายวิชาปฏิบัติวิชาชีพในสถานศึกษาของวิทยาลัยสงฆ์สุรินทร์ เป็นไปตามเกณฑ์ของคณะกรรมการคุรสุ ภา จงึ ไดจ้ ัดทำคู่มือการปฏบิ ัติวิชาชีพในสถานศึกษา ๓ สำหรับ นสิ ิต และบคุ คลทเ่ี กย่ี วข้อง รวมถึงข้อมูลประกอบการนิเทศนสิ ิตฝึกปฏบิ ตั ิวชิ าชีพในสถานศกึ ษา ๓ หวังเป็นอย่างย่ิงว่าคู่มือการปฏิบัติวิชาชีพในสถานศึกษา ๓ สำหรับนิสิต จะเป็นประโยชน์และ เป็นแนวทางในการดำเนนิ การของนสิ ิตฝกึ ปฏบิ ตั ิวชิ าชพี ในสถานศกึ ษา ๓ อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ในสถานศกึ ษา ประธานคณะกรรมการบริหารหลกั สูตร เจา้ หนา้ ท่ฝี ึกประสบการณ์วิชาชพี ครู วิทยาลัยสงฆอ์ ุบลราชธานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตอบุ ลราชธานี

๓ หนา้ สารบัญ ๔ ๕ เร่ือง ๑๐ ๒๕ คำนำ ๒๖ สารบัญ สว่ นที่ ๑ ข้อมลู พื้นฐานนสิ ิต ส่วนท่ี ๒ ขอ้ มลู พน้ื ฐานของโรงเรียน ส่วนที่ ๓ แบบบนั ทึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ในสถานศกึ ษา ๓ ส่วนท่ี ๔ การปฏบิ ัติงานผู้ช่วยครูวิชาชพี ในสถานศึกษา ๓ ส่วนท่ี ๕ แบบประเมนิ ทกั ษะการจัดการเรยี นรู้

๔ ส่วนท่ี ๑ ข้อมูลพนื้ ฐานนสิ ิต ชอ่ื . พระรฐั นพล ฉายา จารธุ มฺโม นารมูปสกุล รนิ ชาลี รหัส ๖๔๐๗๕๐๒๐๐๔ สาขา วิชาสังคมศกึ ษา เบอรโ์ ทรศพั ทท์ ี่ติดตอ่ ได้ ๐๙๙-๒๓๘๓๗๐๖ E - mail [email protected] ชอ่ งทางติดต่ออื่นๆโทร ๐๙๙-๒๓๘๓๗๐๖ สำเรจ็ การศึกษาจากสถาบนั การศึกษาระดับพน้ื ฐานดงั น้ี ระดบั การศกึ ษา พ.ศ. วุฒิการศกึ ษา สถาบัน เกรด เฉลี่ย ประถมศึกษา ๒๕๕๑ ประถมท่ี ๖ โรงเรยี นบ้านนาคาย ๓.๕๘ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ๒๕๕๔ มธั ยมท่ี ๓ ดอนมดแดงวทิ ยาคม ๓.๐๗ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ๒๕๕๗ มัธยมท่ี ๖ ดอนมดแดงวทิ ยาคม ๒.๗๐ นกั ธรรมชั้นเอก ๒๕๖๔ น.อ สำนกั เรยี นวัดมงคลโกวทิ ราม - การศกึ ษา ระดับปริญญาตรสี าขาวิชาสังคมศึกษา ขณะนี้ได้เกรดเฉล่ยี รวม เกรดเฉล่ีย ๓.๔๐ วชิ าชพี พระภิกษุ เกรดเฉลีย่ วิชาเอก ๔.๐๐ (A) ความสามารถพิเศษ สวดมนต์ ภาวนา วาดภาพ เล่นกฬี า และวปิ สั นากรรมฐาน งานอดเิ รก ท่องหนงั สือ ฟงั พระธรรมเทศนา ปลูกต้นไม้ เข้ารบั การอบรมในระบบอออลไลน์ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ทุกวิทยาเขต ประสบการณ์ในการทำงาน เคยทำงานยุTOYOTA เคยทำงานยNุ ISSAN ทศั นคติที่มีตอ่ วิชาชีพครู ในอนาคตอนั ใกล้นี้อยากจะไปถ่ายทอดความรู้ ใหก้ ับเด็กยากไร้ ผดู้ ้อยโอกาส และเราจะต้อง มจี รรยาบรรณความเปน็ ครู ซือ่ สตั ย์ รักษาความจริงใจ ต้องเมตตาหวงั ดี ต้องวางใจเป็น กลาง ช่อื ครพู ี่เลยี้ ง วา่ ที่ร้อยตรี นคร แท่งคำ ครชู ำนาญการพิเศษ ปฏบิ ตั หิ น้าที่ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นสังคมศึกษา อาจารย์นเิ ทศ์ พระใบฏีกาสุพจน์ ตปสีโล ,ผศ

๕ ส่วนที่ ๒ ขอ้ มูลพืน้ ฐานของโรงเรยี น ข้อมลู พนื้ ฐานของโรงเรียน ความหมายคอื ธรรมนำความเจรญิ สชู่ ีวติ ชือ่ โรงเรยี นท่ปี ฏิบัติวิชาชีพในสถานศกึ ษา ๑ .โรงเรียนนาสว่ งวิทยา ท่ีอยู่ เลขที่ ๑๐๗ หมูท่ ี่ ๓ ถนน ประชาชน่ื ตำบลนาส่วง อำเภอเดชอุดม จงั หวดั อุบลราชธานี โทรศัพท์ ๐๔๕ ๒๕๑ ๕๘๗ โทรสาร ๐๔๕ ๒๕๑ ๕๘๗ จดั การศกึ ษาระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ถงึ ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ สังกัด ประวัตโิ รงเรียนนาสว่ งวิทยา โรงเรียนนาส่ วงวิท ยาตั้งอยู่ท่ี ตำบลนาส่วง อำเภ อเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี กระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งเม่ือปี พ.ศ.๒๕๒๔ เปิดสอนตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นพ.ศ. ๒๕๒๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ ในระยะแรกคณะกรรมการศึกษา สภาตำบลนาส่วง ผู้ปกครอง นักเรียนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์การศึกษาให้โรงเรียน ขณะน้ันทาง ราชการได้แต่งตั้ง นายเสรี ศรีสำอางค์ ศึกษาธิการอำเภอรักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ ได้เปิดทำการ สอนในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๒๔ โดยใช้สถานท่ีโรงเรียนปริยัติธรรม วัดนาส่วงใต้ นักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ จำนวน ๒ ห้องเรียน มีนักเรียนท้ังหมด ๙๘ คน ครูอาจารย์ ๔ คน นักการภาร โรง๑คน เม่ือเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ ทางราชการได้แต่งตั้งให้ นายศรีสมบัติ ภูมิเขียว มาดำรง ตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนนาส่วงวทิ ยา ต่อมาคณาจารย์กรรมการศึกษาและชาวบ้าน ผู้ปกครองนักเรียน ได้พิจารณาย้ายไปทำการเรียนการสอนในสถานท่ีจริง ในเน้ือที่ ๓๕ ไร่ ๒ งาน ซ่ึงนาย วัชรินทร์ อินทนา ผู้จัดการห้างหุ้นจำกัดวัชรินทร์ก่อสร้างเป็นผู้บริจาคเงินจำนวน ๔๘๐๐๐ บาท ก่อสร้างอาคารเรยี นช่ัวคราว ๑ หลงั จำนวน ๓ ห้องเรยี นและได้ยา้ ยมาเปิดทำการสอนในภาคเรยี นท่ี ๒

๖ ปีการศึกษา ๒๕๒๔ และในปีนี้ทางราชการได้จัดสรรงบประมาณให้บ้านพักครูจำนวน ๑หลัง ห้องน้ำ หอ้ งสว้ ม ๑หลงั ปกี ารศกึ ษา ๒๕๒๕ ได้รับงบประมาณอาคารเรยี น ๒๐๘๑ หลงั ปีการศึกษา ๒๕๒๖ กรมสามัญศึกษาได้คัดเลือกโรงเรียนให้เข้าโครงการ “โรงเรียน มธั ยมศกึ ษา เพ่อื พัฒนาชนทบท” (มพช. ๒ รนุ่ ๑) ปีการศึกษา ๒๕๒๙ กรมสามัญศึกษาอนุมัติให้เปิดหน่วยเรียนเคลื่อนท่ีตำบลนาเยีย อำเภอ เดชอุดมเรียกวา่ “หน่วยเรียนเคล่ือนท่ีโรงเรียนนาส่วงวิทยา” ทำการเรียนการสอนร่วมกับโรงเรียนพ่ี เลี้ยง โดยได้รับความร่วมมือจากครูอาจารย์โรงเรียนบ้านนาเยีย มาช่วยดูแลร่วมกับครูอาจารย์ โรงเรียนนาสว่ งวทิ ยามีนักเรียน ๑หอ้ ง ๓๖ คน ปีการศึกษา ๒๕๓๑ กรมสามัญศึกษาได้อนุมัติให้หน่วยการเรียนเคลื่อนที่โรงเรียนนาส่วงวิทยา เปดิ เป็นโรงเรียนศึกษาประจำตำบลช่ือ โรงเรียนนาเยียศกึ ษารัชมังคลาภิเษก ปีการศกึ ษา ๒๕๓๒ กรมสามัญศึกษาได้อนุมัตใิ ห้โรงเรียนนาส่วงวทิ ยาเปิดโรงเรยี นสาขาขึ้นท่ี โรงเรียนบา้ นโคกสว่าง กงิ่ อำเภอสำโรง ห่างจากโรงเรียนนาสว่ งวิทยา ๑๕ กิโลเมตร ปีการศึกษา ๒๕๓๖ กรมสามัญศึกษาได้อนุมัติให้โรงเรียนนาส่วงวิทยาเข้าโครงการฝากนักเรียน เขา้ เรียนต่อระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลายทโี่ รงเรยี นเดชอดุ ม ปีการศึกษา ๒๕๓๗ กรมสามัญศึกษาได้อนุมัติให้โรงเรียนนาส่วงวิทยาเปิดทำการสอนระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายและได้โอนนักเรียนฝากเรียนจากโรงเรียนเดชอุดมมาเป็นนักเรียนโรงเรียน นาสว่ งวิทยาโดยสมบรู ณ์ ปีการศึกษา ๒๕๓๗ กรมสามัญศึกษาอนุมัติให้โรงเรียนสาขานาส่วงวิทยาเปิดเป็นโรงเรียน มธั ยมศกึ ษาประจำตำบล ช่อื โรงเรียนโคกสวา่ งคุม้ วทิ ยานสุ รณ์ ปีการศึกษา ๒๕๓๘ โรงเรียนผ่านการประเมินตำแหน่งจากตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ เป็น ผู้อำนวยการ ปีการศึกษา ๒๕๓๙ กรมสามัญศึกษาคัดเลือกให้เข้าโครงการปฏิรูปการศึกษา และให้เปิด สอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนช้ันเรียนธยมศึกษา ตอนต้น ๔-๕ , ๑๗๒-๒๒๑-/๑๗๗ มัธยมศึกษาตอนปลาย ๒-๒-๒ (๖๖-๗๖-๔๗) รวมนักเรียน ๗๕๐ คน ครู ปฏบิ ตั กิ ารในโรงเรยี นมี ๓๘ คน ครูอตั ราจ้าง ๒ คน

๗ ปรชั ญาโรงเรียน ปญญฺ า โลกสมฺ ิ ปชโฺ ชโต ฯ ปญั ญาเป็นแสงสว่างแหง่ โลก ฯ วิสัยทศั น์ สรา้ งคุณภาพ สรา้ งโอกาส สร้างอนาคต พนั ธกิจ โรงเรียนนาส่วงวทิ ยา มพี ันธกจิ ที่สอดรับกับวิสยั ทัศน์ ๖ พนั ธกิจ ดงั น้ี จดั การศึกษาเพอื่ เสริมสร้างคุณภาพของความยั่งยนื ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อนั มี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ 1. พฒั นาศักยภาพผูเ้ รียนเพอ่ื เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแข่งขนั โดยพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียนใหม้ ี ความรู้ ทกั ษะวิชาการ ทกั ษะชีวติ และทักษะวชิ าชีพ 2. สง่ เสริมและพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาใหเ้ ปน็ มอื อาชีพ 3. สรา้ งโอกาส สร้างอนาคต ลดความเหลอื่ มล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รบั บริการทางการศึกษาอยา่ ง ท่ัวถึงและเท่าเทียม 4. สง่ เสริมการจดั การศึกษาเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชีวิต ท่ีเปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ มยดึ หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 5. พัฒนาระบบบริหารจัดการแบบบรู ณาการและส่งเสริมใหภ้ าคเี ครือข่ายมสี ว่ นร่วมในการจัด การศึกษา สปี ระจำโรงเรียน สีเหลอื ง เขยี ว ชอื่ ผู้อำนวยการ นายเอกสิทธ์ิ สอ่ งแสง

๘ บุคลากร ข้อมูลพนื้ ฐานบคุ ลากรในโรงเรยี น หมายเหตุ กรรมการสถานศึกษา จำนวน ชาย ๑ หญงิ ๗ ๘ ผู้บริหาร ๒ ชาย ครู ๒๕ ชาย ๑๓ หญิง ๒๒ นกั เรียน ๗๖๒ ชาย ๓๒๘ หญงิ ๔๓๔ ฝา่ ยสนับสนนุ ๑๒ ชาย หญิง ผลงานดีเดน่ ของโรงเรยี น ทางโรงเรียนนาส่วงวทิ ยา ได้รบั รางวัลมากมายหลายอย่าง เช่นมีการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลใน โครงการกีฬาเพ่อื พัฒนาชนบท นาส่วงคัพ ตัง้ แต่ พ.ศ ๒๕๒๕ – ๒๕๔๐ รวมการแข่งขัน ๑๕ ครง้ั ตดิ ตอ่ กนั รวมถึงครั้งท่ี ๑๗ พ.ศ ๒๕๕๐ ครั้งท่ี ๑๘ พ.ศ ๒๕๕๑ ครง้ั ท่ี ๑๙ พ.ศ ๒๕๕๒ ครงั้ ท่ี ๒๐ พ.ศ ๒๕๕๓ คร้งั ท่ี๒๑ พ.ศ ๒๕๕๔ เปน็ ต้น และยังมผี ลงานดเี ด่นทางด้านศลี ปะของนกั เรยี นชั้น ม.๓ ส่งเข้าประกวดงานปนั้ รูปเหมือนนูนต่ำระดับจังหวัด ซึง่ ไดร้ บั รางวัลที่ ๑ เปน็ ท่ีนา่ ยินดีเปน็ อย่างย่งิ สว่ นผลงานอน่ื ๆ ของโรงเรียนท่ีดเี ด่นมหี ลายอยา่ ง เช่น ดังภาพตอ่ ไปน้ี

๙ แผนผังสถานที่ต้งั โรงเรยี น

๑๐ โครงสรา้ งการบริหารโรงเรยี น และบทบาทหน้าท่แี ต่ละฝา่ ย

๑๑ ส่วนท่ี ๓ แบบบนั ทึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ในสถานศกึ ษา ๓ แบบบันทกึ ปฏิบตั ิวชิ าชพี ในสถานศกึ ษา ๓ ทดลองการจดั การเรียนรคู้ รง้ั ท่ี ๑ วัน/เดือน/ปี วันจนั ทร์ ที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ ๒๕๖๖ กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วชิ า ภูมศิ าสตร์ ระดับชั้น มธั ยมช้นั ปที ี่ ๖ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรื่อง การเปลย่ื นแปลงทางกายภาพของโลก จำนวน ๒ ชัว่ โมง 1. วิเคราะห์แผนการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะหแ์ ผนการจัดการเรียนรสู้ ังคมศึกษาโดยมีจุดประสงค์การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ มาตรฐานแผนการจัดการเรียนรู้ทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การศึกษาประเด็นดังกล่าวจะให้ ข้อมูลสําคัญที่สะท้อนให้เห็น การปฏิบัติการสอน และชี้ให้เห็นจุดบกพร่องท่ีชัดเจนซ่ึงสามารถนําไป พัฒนาการจัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ของตนเองให้มี ประสิทธภิ าพมากยิง่ ขึ้นได้ แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษามีตัวประกอบ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการ สอน ในที่น้ีจะกล่าวถึงหลักการท่ีได้สรุปมาจากการศึกษาแนวคิดของนักวิชาการและสถาบันทาง การศกึ ษา ดังน้ี 1) หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง การเปลยื่ นแปลงทางกายภาพของโลก 2) เรื่อง การเปล่ืยนแปลงทางกายภาพของโลก เวลาเรยี น 2 ซ.ม. 3) มาตรฐานการเรียนรู้ ส.5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกการใช้แผนท่ีและ เคร่อื งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการค้นหาอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 4) ตัวชี้วัด ม.4 .6/1 วิเคราะห์การเปล่ืยนแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภูมิภาค ต่างๆ 5) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6) สาระการเรียนรู้

๑๒ 7) กจิ กรรมการเรียนรู้ Active Lerning 8) สื่อการเรยี นรู้ 9) การประเมนิ แผนการเรยี นรู้ 2. วเิ คราะห์กจิ กรรม/เทคนคิ การจัดการเรียนรู้ วเิ คราะห์กิจกรรม/เทคนิคการจัดการเรียนรู้ คอื จะมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนการสอน ในปัจจุบันยังมีแนวคิดเกี่ยวกับคุณลักษณะของผู้เรียน เทคโนโลยีส่งผลให้มี คุณลกษั ณะทีแ่ ตกต่างไปจากประชากรรุ่นท่ีผ่านมาคอ่ นข้างมาก ดังท่ี ครูพเี่ ลี้ยง ได้กล่าวว่าผู้เรียน ชอบ การเรียนรู้อย่างอิสระ สนุกกับการทำงานกลุ่ม สนใจที่จะฟังเฉพาะเรื่องท่ีต้องการ หรือสนใจ มีช่วง ความสนใจ สามารถเข้าถึงข้อ มูลได้ทันทีสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างได้พร้อม ๆ กันไม่ใส่ใจ รายละเอียดมากนักมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีชอบวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ชอบวิธีการเรียน การสอน แบบตรรกะการเรียนรู้จากประสบการณ์ชอบสอนท่ีมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและช่วย อำนวยการเรียนรู้ ชอบการเรียนท่ีสามารถนําไปใช้ในในชีวิตจริง เพื่อให้นักเรียนได้กล้าแสดงออก และ ช่วงท้ายกิจกรรมก็จะมีแบบฝึกหัดให้นักเรียนได้ไปทำเพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจในคาบเรียนนั้น ดว้ ย 3. วเิ คราะหส์ ือ่ การจัดการเรยี นรู้ การวิเคราะห์สื่อการเรยี นรู้ 1) มีความสอดคล้องกับ เนอ้ื หาของบทอ่าน 2) สรา้ งความสนใจใหแ้ กผ่ เู้ รียน 3) มกี ารนำสอ่ื เทคโนโลยีมาบรู ณาการในกจิ รรมการเรียนการสอน 4) มีความเหมาะสมกับวัยของผู้เรียนและสื่อในแต่ละขั้น ตอนของการสอนตามแนวคดิ การเปลื่ยน แปลงทางกายภาพของโลกซ่ึงเปน็ วิธกี ารสอนที่ใช้ ในแผนการจดั การเรียนรู้สว่ นใหญ่ดงั น้ี • เพาเวอรพ์ อยส์เพื่อใหน้ ักเรยี นจะได้มองเห็นภาพ • ใบความรแู้ บบฝกึ หดั ท้ายคาบเรยี น

๑๓ 4. วิเคราะหก์ ารวัดและประเมินผล เมื่อวิเคราะห์รายละเอียดของการวัดและประเมินผล พบว่าส่วนใหญ่เป็นการให้ผู้เรียนทำ แบบทดสอบ/ แบบฝึกหัดในรูปแบบต่าง ๆ มีส่วนน้อยท่ีกำหนดเป็นชิ้นงาน หรือภาระงาน โดยมี รายละเอียด แบบทดสอบ ประกอบด้วย เน้ือหาสาระสำคัญเกี่ยวกับธรณีภาค ถาม-ตอบปากเปล่าเพื่อ จะได้รวู้ ่าผเู้ รียนมคี วามเข้าใจเนอื้ หาท่เี รยี นไปมากน้อยเพยี งใด 5. วเิ คราะหพ์ ฤติกรรมผู้เรียน พฤติกรรมท่ีพบ พบว่าแตล่ ะห้องเรียนนักเรยี นมที ักษะทางการเรยี นและสมาธิของแต่ละบุคคล ไม่เท่ากัน นอกจากน้ียังพบว่า การวัดและประเมินผลส่วนใหญ่เป็นการกำหนดให้ผู้เรียนทําแบบฝึกหัด ช่วงท้ายคาบ ลักษณะต่าง ๆ มีการให้ทำช้ินงาน มอบหมายภาระงานไม่มากนัก ข้อค้นพบน้ีไม่ สอดคล้องกับแนวคิดของ นักวิชาการด้านการอ่านที่กล่าวถึงการวัดและประเมินผลรูปแบบต่าง ๆ และ การวดั ประเมินผลตามสภาพจริง โดยต้องคํานึงถึงทักษะการเรียน ที่ใช้ในชีวิตจริงนอกจากนี้ทักษะการ เรียนเป็นทักษะท่ีค่อนข้างต้องใช้สมาธิ ต้องใช้เวลาใน การฝึกฝนดังน้ัน จึงควรมีกิจกรรมใหผู้เรียนไป ฝึกฝนนอกชน้ั เรียน และประเมนิ ผลผู้เรียนอยา่ งตอ่ เนอื่ ง การแก้ไขปัญหา จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น นักเรียนมีความคิดเห็นว่าการเรียนการสอนมีความลึกซึ้ง เรา ควรปรับการเรียนร้ใู ห้เข้ากับบริบทของแต่ละห้องน้ันๆ เพราะแต่ละห้องมกี ารเรียนรู้ไม่เท่ากัน บางห้อง เป็นห้องเด็กเรียนเก่ง บางห้องเป็นห้องเด็กเรียนปานกลาง เราจีงควรปรับตามสถานการณ์และบริบท ของแต่ละห้อง เพ่ือพฒั นาการจัดทํา แผนการจัดการเรยี นรขู้ องตนเอง นกั ศึกษาจึงตอ้ งการได้รับความรู้ เพิ่มเติม โดยเรื่องท่ีสนใจเรียนรู้ได้แก่การเลือก การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวช้ีวัดของ หลักสูตร โดยการบูรณาการกับทักษะอ่ืนๆ และการใช้ส่ือโดยเฉพาะอย่างย่ิงสื่อเทคโนโลยีและการ นำไปใชใ้ นการเรยี นรู้

๑๔ 6. ปัญหาและอปุ สรรค จากการมองภาพรวม วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับข้อบกพร่องต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึน โดยสามารถสรุปได้ว่าเกิดจากการมีกิจกรรมมาแทรกเวลาเรียนทำให้มีเวลาเรียนลดลง เช่น คาบแรกชองช่วงเช้าก็จะกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธง ทำให้มีการล่วงเวลาคาบช่ัวโมงสอน แผนการ จัดการเรียนรู้ พร้อมกันได้นําเสนอหัวข้อความรู้ท่ีคิด ว่าจะช่วยให้จัด ทำแผนการจดัการเรียนรู้ได้ดีข้ึน อาทิ การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวช้ีวัดของหลักสูตร วิธีการทำแบบทดสอบท้ายบท การใช้ สือ่ โดยเฉพาะอย่างย่ิงสอื่ เทคโนโลยีในการสอน การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ เป็นต้น เพ่ือไปแก้ไข ประเดน็ ข้อบกพรอ่ งทพ่ี บใน แผนการจัดการเรยี นรู้ส่วนใหญ่นั่นเอง 7. แนวทางแก้ไขปรบั ปรงุ และพัฒนาในครั้งตอ่ ไป ข้อเสนอแนะสำหรับการผลิตและการพัฒนาครูสังคมศึกษา ครูควรจัดรายวิชาท่ีเน้นการ พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะของนักศึกษาท่ีเน้นกลวิธีการเรียนรู้การทำความเข้าใจ ใช้การ สอนโดยการปฏิบัติ หรือ สาธิตให้ดู เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรงเก่ียวกับความหลากหลาย ของทักษะย่อย ของการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะการอ่าน ของตนเองและการจัดการเรียนการสอนอ่านเนื่องจาก ก่อนสอนครูจะต้องอ่าน และทำความข้าใจบท อา่ นให้ถอ่ งแท้กอ่ นจึงจะรู้ว่าจะต้องสอนอะไร ใหแ้ ก่ผู้เรียนนอกจากน้ียงั ควรมีรายวิชาเกีย่ วกับการเรียน การสอน เพื่อนกั เรยี นและครจู ะได้มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั การเรยี นการสอนทักษะนี้มากยิ่งข้ึน ( พระรัฐนพล จารธุ มโฺ ม/รินชาลี ) (วา่ ทีร่ อ้ ยตรี นคร แทง่ คำ ) นิสิตปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ในสถานศึกษา ครพู ่ีเลยี้ ง ๑๒/.มิถนุ ายน / ๒๕๖๖ ๑๒/.มถิ นุ ายน / ๒๕๖๖

๑๕ แบบบนั ทกึ ปฏิบัติวิชาชพี ในสถานศกึ ษา ๓ ทดลองการจดั การเรยี นรู้คร้งั ที่ ๒ วัน/เดอื น/ปี วันอังคาร ที่ ๑๓ มถิ ุนายน พ.ศ ๒๕๖๖ กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม วิชา ภมู ิศาสตร์ ระดับช้ัน มธั ยมช้นั ปที ี่ ๖ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง ธรณีภาค จำนวน ๒ชั่วโมง 1. วเิ คราะห์แผนการจดั การเรยี นรู้ การวิเคราะห์แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาโดยมีจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานแผนการจัดการเรียนรู้ทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การศึกษา ประเด็นดังกล่าวจะให้ข้อมูลสําคัญท่ีสะท้อนให้เห็น การปฏิบัติการสอน และชี้ให้เห็น จุดบกพร่องที่ชัดเจนซึ่งสามารถนําไปพัฒนาการจัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ของตนเองให้มปี ระสิทธภิ าพมากยิง่ ขึ้นได้ แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษามีตัวประกอบ เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดการ เรียนการสอน ในท่ีนี้จะกล่าวถึงหลักการท่ีได้สรุปมาจากการศึกษาแนวคิดของนักวิชาการและ สถาบนั ทางการศกึ ษา ดงั น้ี 1) หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรือ่ ง ธรณีภาค 2) เรอื่ ง ธรณภี าค เวลาเรียน 2 ซ.ม. 3) มาตรฐานการเรียนรู้ ส.5.1 เข้าใจลักษณะทางธรณีภาคของโลกการใช้แผนที่ และเครื่องมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการคน้ หาอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4) ตัวช้ีวัด ม.4 .6/1 วเิ คราะห์ธรณภี าคในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่างๆรอบโลก 5) จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6) สาระการเรยี นรู้ 7) กจิ กรรมการเรยี นรู้ Active Lerning 8) ส่ือการเรยี นรู้ 9) การประเมนิ แผนการเรียนรู้

๑๖ 2. วเิ คราะหก์ ิจกรรม/เทคนคิ การจดั การเรียนรู้ วิเคราะห์กิจกรรม/เทคนิคการจัดการเรียนรู้ คอื จะมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนการสอน ในปัจจุบันยังมีแนวคิดเก่ียวกับคุณลักษณะของผู้เรียน เทคโนโลยีส่งผลให้มี คณุ ลกัษณะท่ีแตกตา่ งไปจากประชากรรุ่นท่ีผ่านมาคอ่ นข้างมาก ดังที่ ครูพ่เี ล้ียง ได้กล่าวว่าผู้เรียน ชอบ การเรียนรู้อย่างอิสระ สนุกกับการทำงานกลุ่ม สนใจที่จะฟังเฉพาะเรื่องท่ีต้องการ หรือสนใจ มีช่วง ความสนใจ สามารถเข้าถึงข้อ มูลได้ทันทีสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างได้พร้อม ๆ กันไม่ใส่ใจ รายละเอียดมากนักมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีชอบวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ชอบวิธีการเรียน การสอน แบบตรรกะการเรียนรู้จากประสบการณ์ชอบสอนที่มีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและช่วย อำนวยการเรียนรู้ ชอบการเรียนท่ีสามารถนําไปใช้ในในชีวิตจริง เพ่ือให้นักเรียนได้กล้าแสดงออก และ ช่วงท้ายกิจกรรมก็จะมีแบบฝึกหัดให้นักเรียนได้ไปทำเพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจในคาบเรียนน้ัน ด้วย 3. วิเคราะหส์ ่ือการจัดการเรยี นรู้ การวิเคราะห์สอ่ื การเรียนรู้ 1) มีความสอดคล้องกบั เนอ้ื หาของบทอ่าน 2) มคี วามหลากหลาย 3) สรา้ งความสนใจให้แก่ผู้เรียน 4) มกี ารนำสอ่ื เทคโนโลยีมาบูรณาการในกจิ รรมการเรยี นการสอน 5) มีความเหมาะสมกับวยั ของผเู้ รยี นและส่ือในแตล่ ะขั้น ตอนของการสอนตามแนวคิดการสอน ธรณีภาคซง่ึ เปน็ วิธีการสอนทีใ่ ช้ ในแผนการจดั การเรยี นรสู้ ว่ นใหญ่ดังน้ี • เพาเวอร์พอยส์เพ่ือใหน้ กั เรยี นจะได้มองเห็นภาพ • ใบความรแู้ บบฝกึ หดั ทา้ ยคาบเรียน

๑๗ 4. วเิ คราะหก์ ารวัดและประเมนิ ผล เม่ือวิเคราะห์รายละเอียดของการวัดและประเมินผล พบว่าส่วนใหญ่เป็นการให้ผู้เรียนทำ แบบทดสอบ/ แบบฝึกหัดในรูปแบบต่าง ๆ มีส่วนน้อยที่กำหนดเป็นชิ้นงาน หรือภาระงาน โดยมี รายละเอียด แบบทดสอบ ประกอบด้วย เนื้อหาสาระสำคัญเก่ียวกับธรณีภาค ถาม-ตอบปากเปล่าเพื่อ จะได้รู้วา่ ผเู้ รยี นมคี วามเขา้ ใจเนอื้ หาที่เรียนไปมากน้อยเพยี งใด 5. วเิ คราะหพ์ ฤติกรรมผู้เรียน พฤติกรรมทีพ่ บ พบว่าแตล่ ะห้องเรียนนักเรียนมที ักษะทางการเรยี นและสมาธขิ องแต่ละบุคคล ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังพบว่า การวัดและประเมินผลส่วนใหญ่เป็นการกำหนดให้ผู้เรียนทําแบบฝึกหัด ช่วงท้ายคาบ ลักษณะต่าง ๆ มีการให้ทำช้ินงาน มอบหมายภาระงานไม่มากนัก ข้อค้นพบนี้ไม่ สอดคล้องกับแนวคิดของ นักวิชาการด้านการอ่านท่ีกล่าวถึงการวัดและประเมินผลรูปแบบต่าง ๆ และ การวดั ประเมินผลตามสภาพจรงิ โดยต้องคํานึงถึงทักษะการเรียน ท่ีใช้ในชีวิตจรงิ นอกจากน้ีทักษะการ เรียนเป็นทักษะท่ีค่อนข้างต้องใช้สมาธิ ต้องใช้เวลาใน การฝึกฝนดังน้ัน จึงควรมีกิจกรรมใหผู้เรียนไป ฝกึ ฝนนอกชน้ั เรียน และประเมนิ ผลผู้เรียนอยา่ งต่อเนอื่ ง การแก้ไขปัญหา จากปัญหาท่ีกล่าวมาข้างต้น นักเรียนมีความคิดเห็นว่าการเรียนการสอนมีความลึกซ้ึง เรา ควรปรบั การเรียนรใู้ ห้เข้ากับบริบทของแต่ละห้องน้ันๆ เพราะแต่ละห้องมีการเรียนรู้ไม่เท่ากัน บางห้อง เป็นห้องเด็กเรียนเก่ง บางห้องเป็นห้องเด็กเรียนปานกลาง เราจีงควรปรับตามสถานการณ์และบริบท ของแต่ละห้อง เพื่อพฒั นาการจดั ทํา แผนการจัดการเรยี นรู้ของตนเอง นักศึกษาจึงต้องการได้รับความรู้ เพิ่มเติม โดยเรื่องท่ีสนใจเรียนรู้ได้แก่การเลือก การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดของ หลักสูตร โดยการบูรณาการกับทักษะอื่นๆ และการใช้ส่ือโดยเฉพาะอย่างย่ิงสื่อเทคโนโลยีและการ นำไปใชใ้ นการเรยี นรู้

๑๘ 6. ปัญหาและอุปสรรค จากการมองภาพรวม วเิ คราะหส์ าเหตขุ องปัญหาและอุปสรรคเกย่ี วกบั ข้อบกพรอ่ งตา่ ง ๆ ที่ เกิดขึ้น โดยสามารถสรุปได้ว่าเกิดจากการมีกิจกรรมมาแทรกเวลาเรียนทำให้มีเวลาเรียนลดลง เช่น คาบแรกชองช่วงเช้าก็จะกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธง ทำให้มีการล่วงเวลาคาบชั่วโมงสอน แผนการ จัดการเรียนรู้ พร้อมกันได้นําเสนอหัวข้อความรู้ท่ีคิด ว่าจะช่วยให้จัด ทำแผนการจดัการเรียนรู้ได้ดีข้ึน อาทิ การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวช้ีวัดของหลักสูตร วิธีการทำแบบทดสอบท้ายบท การใช้ สือ่ โดยเฉพาะอย่างย่ิงสือ่ เทคโนโลยีในการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นต้น เพื่อไปแก้ไข ประเด็นข้อบกพรอ่ งที่พบใน แผนการจดั การเรียนรู้ส่วนใหญ่น่ันเอง 7. แนวทางแกไ้ ขปรับปรุงและพัฒนาในคร้งั ต่อไป ข้อเสนอแนะสำหรับการผลิตและการพัฒนาครูสังคมศึกษา ครูควรจัดรายวิชาที่เน้นการ พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะของนักศึกษาที่เน้นกลวิธีการเรียนรู้การทำความเข้าใจ ใช้การ สอนโดยการปฏิบัติ หรือ สาธิตให้ดู เพ่ือให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรงเก่ียวกับความหลากหลาย ของทักษะย่อย ของการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะการอ่าน ของตนเองและการจัดการเรียนการสอนอ่านเนื่องจาก ก่อนสอนครูจะต้องอ่าน และทำความข้าใจบท อา่ นให้ถ่องแท้กอ่ นจึงจะรู้ว่าจะต้องสอนอะไร ใหแ้ กผ่ ู้เรยี นนอกจากน้ียงั ควรมรี ายวิชาเกีย่ วกับการเรียน การสอน เพือ่ นกั เรียนและครูจะได้มคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั การเรียนการสอนทักษะน้ีมากยงิ่ ข้ึน ( พระรฐั นพล จารธุ มโฺ ม/รินชาลี ) (ว่าที่รอ้ ยตรี นครแทง่ คำ ครชู ำนาญการพเิ ศษ) นิสติ ปฏบิ ัติวชิ าชพี ในสถานศึกษา ครพู ่ีเลย้ี ง ๑๓/.มิถนุ ายน / ๒๕๖๖ ๑๓/.มถิ ุนายน / ๒๕๖๖

๑๙ แบบบันทึกปฏิบตั ิวชิ าชพี ในสถานศกึ ษา ๓ ทดลองการจดั การเรียนร้คู ร้ังที่ ๓ วนั /เดอื น/ปี วนั จันทร์ ที่ ๑๙ มิถนุ ายน พ.ศ ๒๕๖๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วิชา ภมู ิศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมช้ันปีท่ี ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เร่อื ง บรรยากาศภาค จำนวน ๒ ชว่ั โมง 1. วิเคราะหแ์ ผนการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาโดยมีจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานแผนการจัดการเรียนรู้ทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การศึกษา ประเด็นดังกล่าวจะให้ข้อมูลสําคัญที่สะท้อนให้เห็น การปฏิบัติการสอน และช้ีให้เห็น จุดบกพรอ่ งท่ีชัดเจนซึ่งสามารถนําไปพัฒนาการจัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ของตนเองให้มปี ระสิทธภิ าพมากย่ิงข้ึนได้ แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษามีตัวประกอบ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการ เรียนการสอน ในที่นี้จะกล่าวถึงหลักการที่ได้สรุปมาจากการศึกษาแนวคิดของนักวิชาการและ สถาบันทางการศกึ ษา ดังนี้ 1) หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง บรรยากาศภาค 2) เรื่อง บรรยากาศภาค เวลาเรยี น 2 ซ.ม. 3) มาตรฐานการเรียนรู้ ส.5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกการใช้แผนที่ และเคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ในการคน้ หาอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4) ตัวชี้วัด ม.4 .6/1 วิเคราะห์บรรยากาศภาคในประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆ รอบโลก 5) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6) สาระการเรียนรู้ 7) กจิ กรรมการเรียนรู้ Active Lerning 8) สอื่ การเรยี นรู้ 9) การประเมนิ แผนการเรยี นรู้

๒๐ 2. วเิ คราะหก์ ิจกรรม/เทคนคิ การจัดการเรยี นรู้ วเิ คราะห์กิจกรรม/เทคนิคการจัดการเรยี นรู้ คอื จะมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนการสอน ในปัจจุบันยังมีแนวคิดเก่ียวกับคุณลักษณะของผู้เรียน เทคโนโลยีส่งผลให้มี คุณลกัษณะทแ่ี ตกตา่ งไปจากประชากรรุ่นท่ีผา่ นมาค่อนข้างมาก ดังที่ ครูพีเ่ ล้ียง ได้กล่าวว่าผู้เรียน ชอบ การเรียนรู้อย่างอิสระ สนุกกับการทำงานกลุ่ม สนใจท่ีจะฟังเฉพาะเร่ืองที่ต้องการ หรือสนใจ มีช่วง ความสนใจ สามารถเข้าถึงข้อ มูลได้ทันทีสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างได้พร้อม ๆ กันไม่ใส่ใจ รายละเอียดมากนักมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีชอบวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ชอบวิธีการเรียน การสอน แบบตรรกะการเรียนรู้จากประสบการณ์ชอบสอนท่ีมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและช่วย อำนวยการเรียนรู้ ชอบการเรียนที่สามารถนําไปใช้ในในชีวิตจริง เพ่ือให้นักเรียนได้กล้าแสดงออก และ ช่วงท้ายกิจกรรมก็จะมีแบบฝึกหัดให้นักเรียนได้ไปทำเพ่ือทบทวนความรู้ความเข้าใจในคาบเรียนน้ัน ดว้ ย 3. วเิ คราะหส์ ือ่ การจดั การเรียนรู้ การวิเคราะหส์ อ่ื การเรียนรู้ 1) มีความสอดคล้องกบั เนอื้ หาของบทอา่ น 2) มีความหลากหลาย 3) สร้างความสนใจให้แก่ผู้เรียน 4) มกี ารนำสื่อเทคโนโลยมี าบรู ณาการในกิจรรมการเรียนการสอน 5) มีความเหมาะสมกับวยั ของผเู้ รยี นและสอื่ ในแตล่ ะขั้น ตอนของการสอนตามแนวคิดการสอน บรรยากาศภาคซ่ึงเปน็ วิธีการสอนทใี่ ช้ ในแผนการจดั การเรียนรู้ส่วนใหญด่ ังนี้ • เพาเวอร์พอยส์เพือ่ ใหน้ ักเรียนจะได้มองเห็นภาพ • ใบความรแู้ บบฝกึ หดั ทา้ ยคาบเรียน

๒๑ 4. วิเคราะห์การวดั และประเมนิ ผล เมื่อวิเคราะห์รายละเอียดของการวัดและประเมินผล พบว่าส่วนใหญ่เป็นการให้ผู้เรียนทำ แบบทดสอบ/ แบบฝึกหัดในรูปแบบต่าง ๆ มีส่วนน้อยที่กำหนดเป็นช้ินงาน หรือภาระงาน โดยมี รายละเอียด แบบทดสอบ ประกอบด้วย เน้ือหาสาระสำคัญเก่ียวกับบรรยากาศภาค ถาม-ตอบปาก เปลา่ เพอื่ จะได้รวู้ ่าผเู้ รยี นมีความเขา้ ใจเนอ้ื หาทเ่ี รียนไปมากน้อยเพยี งใด 5. วเิ คราะห์พฤติกรรมผู้เรียน พฤติกรรมที่พบ พบว่าแตล่ ะห้องเรียนนักเรยี นมที ักษะทางการเรียนและสมาธขิ องแต่ละบุคคล ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังพบว่า การวัดและประเมินผลส่วนใหญ่เป็นการกำหนดให้ผู้เรียนทําแบบฝึกหัด ช่วงท้ายคาบ ลักษณะต่าง ๆ มีการให้ทำช้ินงาน มอบหมายภาระงานไม่มากนัก ข้อค้นพบนี้ไม่ สอดคล้องกับแนวคิดของ นักวิชาการด้านการอ่านที่กล่าวถึงการวัดและประเมินผลรูปแบบต่าง ๆ และ การวัดประเมินผลตามสภาพจริง โดยตอ้ งคํานึงถึงทักษะการเรียน ที่ใช้ในชวี ิตจริงนอกจากนี้ทักษะการ เรียนเป็นทักษะท่ีค่อนข้างต้องใช้สมาธิ ต้องใช้เวลาใน การฝึกฝนดังน้ัน จึงควรมีกิจกรรมใหผู้เรียนไป ฝึกฝนนอกชัน้ เรียน และประเมินผลผูเ้ รยี นอยา่ งต่อเน่ือง การแก้ไขปญั หา จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น นักเรียนมีความคิดเห็นว่าการเรียนการสอนมีความลึกซ้ึง เรา ควรปรบั การเรยี นรูใ้ ห้เข้ากับบริบทของแต่ละห้องนั้นๆ เพราะแต่ละห้องมีการเรียนรู้ไม่เท่ากัน บางห้อง เป็นห้องเด็กเรียนเก่ง บางห้องเป็นห้องเด็กเรียนปานกลาง เราจีงควรปรับตามสถานการณ์และบริบท ของแต่ละห้อง เพ่ือพฒั นาการจัดทํา แผนการจัดการเรยี นรขู้ องตนเอง นักศึกษาจึงตอ้ งการไดร้ บั ความรู้ เพิ่มเติม โดยเรื่องท่ีสนใจเรียนรู้ได้แก่การเลือก การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดของ หลักสูตร โดยการบูรณาการกับทักษะอื่นๆ และการใช้สื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่ือเทคโนโลยีและการ นำไปใชใ้ นการเรยี นรู้

๒๒ 6. ปญั หาและอปุ สรรค จากการมองภาพรวม วิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหาและอุปสรรคเกยี่ วกบั ข้อบกพรอ่ งต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้น โดยสามารถสรุปได้ว่าเกิดจากการมีกิจกรรมมาแทรกเวลาเรียนทำให้มีเวลาเรียนลดลง เช่น คาบแรกชองช่วงเช้าก็จะกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธง ทำให้มีการล่วงเวลาคาบช่ัวโมงสอน แผนการ จัดการเรียนรู้ พร้อมกันได้นําเสนอหัวข้อความรู้ที่คิด ว่าจะช่วยให้จัด ทำแผนการจดัการเรียนรู้ได้ดีข้ึน อาทิ การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวช้ีวัดของหลักสูตร วิธีการทำแบบทดสอบท้ายบท การใช้ สื่อโดยเฉพาะอยา่ งย่ิงส่ือ เทคโนโลยีในการสอน การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ เป็นต้น เพื่อไปแก้ไข ประเด็นข้อบกพรอ่ งทพี่ บใน แผนการจดั การเรียนรู้สว่ นใหญ่น่ันเอง 7. แนวทางแกไ้ ขปรับปรุงและพัฒนาในครง้ั ต่อไป ข้อเสนอแนะสำหรบั การผลติ และการพัฒนาครสู งั คมศกึ ษา ครูควรจัดรายวชิ าทีเ่ นน้ การ พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะของนักศกึ ษาทเี่ นน้ กลวธิ ีการเรียนรู้การทำความเขา้ ใจ ใชก้ าร สอนโดยการปฏิบตั ิ หรือ สาธิตใหด้ ู เพ่ือใหน้ ักศึกษาไดร้ ับประสบการณต์ รงเก่ียวกับความหลากหลาย ของทักษะยอ่ ย ของการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ซ่ึงจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการพัฒนาทักษะการอ่าน ของตนเองและการจดั การเรียนการสอนอา่ นเน่ืองจาก ก่อนสอนครูจะต้องอา่ น และทำความข้าใจบท อ่านใหถ้ อ่ งแทก้ ่อนจึงจะรู้ว่าจะต้องสอนอะไร ใหแ้ ก่ผเู้ รยี นนอกจากนย้ี งั ควรมีรายวิชาเก่ยี วกับการเรียน การสอน เพอื่ นกั เรียนและครจู ะได้มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั การเรียนการสอนทกั ษะน้ีมากยิง่ ขึ้น ( พระรัฐนพล จารธุ มโฺ ม/รินชาลี ) (ว่าทีร่ ้อยตรีนคร แท่งคำ) นิสิตปฏิบตั ิวิชาชีพในสถานศกึ ษา ครพู ี่เลย้ี ง ๑๙/.มิถนุ ายน / ๒๕๖๖ ๑๙/.มถิ นุ ายน / ๒๕๖๖

๒๓ แบบบันทกึ ปฏบิ ตั วิ ชิ าชีพในสถานศึกษา ๓ ทดลองการจดั การเรยี นรูค้ รัง้ ที่ ๔ วัน/เดอื น/ปี วนั อังคาร ที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ ๒๕๖๖ กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วิชา ภูมิศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมชนั้ ปีที่ ๖ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง อทุ กภาค จำนวน ๒ ชั่วโมง 1. วเิ คราะห์แผนการจดั การเรยี นรู้ การวิเคราะห์แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาโดยมีจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานแผนการจัดการเรียนรู้ทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การศึกษา ประเด็นดังกล่าวจะให้ข้อมูลสําคัญท่ีสะท้อนให้เห็น การปฏิบัติการสอน และชี้ให้เห็น จุดบกพร่องท่ีชัดเจนซึ่งสามารถนําไปพัฒนาการจัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ของตนเองให้มปี ระสิทธิภาพมากยงิ่ ขึ้นได้ แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษามีตัวประกอบ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการ เรียนการสอน ในท่ีนี้จะกล่าวถึงหลักการที่ได้สรุปมาจากการศึกษาแนวคิดของนักวิชาการและ สถาบนั ทางการศกึ ษา ดังนี้ 1. หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่ือง อทุ กภาค 2. เร่อื ง อทุ กภาค เวลาเรียน 2 ซ.ม. 3. มาตรฐานการเรียนรู้ ส.5.1 เข้าใจลักษณะทางอุทกภาคของโลกการใช้แผนที่ และเครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์ในการคน้ หาอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ตวั ชีว้ ดั ม.4 .6/1 วเิ คราะห์อุทกภาคในประเทศไทยและภมู ิภาคต่างๆรอบโลก 5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. สาระการเรยี นรู้ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ Active Lerning 8. ส่ือการเรียนรู้ 9. การประเมนิ แผนการเรียนรู้

๒๔ 2. วิเคราะห์กจิ กรรม/เทคนคิ การจัดการเรียนรู้ วเิ คราะห์กิจกรรม/เทคนิคการจัดการเรยี นรู้ คอื จะมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนการสอน ในปัจจุบันยังมีแนวคิดเก่ียวกับคุณลักษณะของผู้เรียน เทคโนโลยีส่งผลให้มี คุณลกษั ณะที่แตกตา่ งไปจากประชากรรุ่นท่ีผา่ นมาค่อนข้างมาก ดังท่ี ครูพ่เี ล้ียง ไดก้ ล่าวว่าผู้เรียน ชอบ การเรียนรู้อย่างอิสระ สนุกกับการทำงานกลุ่ม สนใจที่จะฟังเฉพาะเรื่องท่ีต้องการ หรือสนใจ มีช่วง ความสนใจ สามารถเข้าถึงข้อ มูลได้ทันทีสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างได้พร้อม ๆ กันไม่ใส่ใจ รายละเอียดมากนักมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีชอบวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ชอบวิธีการเรียน การสอน แบบตรรกะการเรียนรู้จากประสบการณ์ชอบสอนท่ีมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและช่วย อำนวยการเรียนรู้ ชอบการเรียนท่ีสามารถนําไปใช้ในในชีวิตจริง เพ่ือให้นักเรียนได้กล้าแสดงออก และ ช่วงท้ายกิจกรรมก็จะมีแบบฝึกหัดให้นักเรียนได้ไปทำเพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจในคาบเรียนน้ัน ดว้ ย 3. วเิ คราะห์สอ่ื การจดั การเรยี นรู้ การวิเคราะห์สอ่ื การเรยี นรู้ 1) มีความสอดคล้องกบั เนอ้ื หาของบทอา่ น 2) มีความหลากหลาย 3) สรา้ งความสนใจให้แกผ่ ู้เรียน 4) มีการนำสอ่ื เทคโนโลยีมาบรู ณาการในกจิ รรมการเรยี นการสอน 5) มีความเหมาะสมกับวัยของผเู้ รียนและสอ่ื ในแต่ละขั้น ตอนของการสอนตามแนวคดิ การสอน อุทกภาคซ่งึ เปน็ วิธกี ารสอนท่ีใช้ ในแผนการจัดการเรยี นร้สู ่วนใหญด่ ังนี้ ▪ เพาเวอรพ์ อยส์เพ่ือให้นกั เรียนจะไดม้ องเหน็ ภาพ ▪ ใบความรู้แบบฝึกหัดทา้ ยคาบเรียน

๒๕ 4. วิเคราะห์การวัดและประเมนิ ผล เมือ่ วิเคราะห์รายละเอยี ดของการวดั และประเมินผล พบว่าส่วนใหญเ่ ป็นการใหผ้ ู้เรียนทำ แบบทดสอบ/ แบบฝกึ หดั ในรูปแบบตา่ ง ๆ มสี ่วนน้อยทก่ี ำหนดเปน็ ช้ินงาน หรือภาระงาน โดยมี รายละเอียด แบบทดสอบ ประกอบด้วย เนอื้ หาสาระสำคญั เก่ยี วกับอุทกภาค ถาม-ตอบปากเปลา่ เพ่อื จะไดร้ ู้ว่าผเู้ รียนมคี วามเข้าใจเนื้อหาทเ่ี รียนไปมากนอ้ ยเพียงใด 5. วเิ คราะหพ์ ฤติกรรมผู้เรยี น พฤติกรรมท่ีพบ พบว่าแตล่ ะห้องเรยี นนักเรียนมีทักษะทางการเรียนและสมาธขิ องแตล่ ะบคุ คล ไมเ่ ท่ากนั นอกจากนยี้ งั พบว่า การวัดและประเมนิ ผลสว่ นใหญ่เป็นการกำหนดใหผ้ ้เู รียนทําแบบฝกึ หดั ชว่ งทา้ ยคาบ ลกั ษณะต่าง ๆ มีการให้ทำชน้ิ งาน มอบหมายภาระงานไมม่ ากนัก ขอ้ คน้ พบน้ีไม่ สอดคลอ้ งกับแนวคิดของ นกั วิชาการด้านการอ่านที่กล่าวถึงการวัดและประเมินผลรปู แบบต่าง ๆ และ การวดั ประเมนิ ผลตามสภาพจริง โดยต้องคํานงึ ถึงทกั ษะการเรียน ทใ่ี ชใ้ นชีวติ จรงิ นอกจากนที้ กั ษะการ เรยี นเปน็ ทักษะทคี่ อ่ นข้างตอ้ งใช้สมาธิ ตอ้ งใช้เวลาใน การฝึกฝนดังนั้น จึงควรมกี จิ กรรมใหผู้เรยี นไป ฝกึ ฝนนอกชน้ั เรียน และประเมนิ ผลผู้เรยี นอยา่ งตอ่ เนื่อง การแก้ไขปญั หา จากปัญหาท่ีกล่าวมาข้างต้น นักเรียนมีความคิดเห็นว่าการเรียนการสอนมีความลึกซึ้ง เรา ควรปรับการเรียนรู้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละห้องนั้นๆ เพราะแต่ละห้องมกี ารเรียนรู้ไม่เท่ากัน บางห้อง เป็นห้องเด็กเรียนเก่ง บางห้องเป็นห้องเด็กเรียนปานกลาง เราจีงควรปรับตามสถานการณ์และบริบท ของแต่ละห้อง เพ่ือพฒั นาการจัดทํา แผนการจัดการเรยี นรขู้ องตนเอง นักศึกษาจึงตอ้ งการไดร้ บั ความรู้ เพิ่มเติม โดยเร่ืองที่สนใจเรียนรู้ได้แก่การเลือก การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวช้ีวัดของ หลักสูตร โดยการบูรณาการกับทักษะอ่ืนๆ และการใช้สื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่ือเทคโนโลยีและการ นำไปใชใ้ นการเรยี นรู้

๒๖ 6. ปญั หาและอุปสรรค จากการมองภาพรวม วเิ คราะหส์ าเหตขุ องปัญหาและอุปสรรคเกยี่ วกับข้อบกพร่องตา่ ง ๆ ที่ เกิดขึ้น โดยสามารถสรุปได้ว่าเกิดจากการมีกิจกรรมมาแทรกเวลาเรียนทำให้มีเวลาเรียนลดลง เช่น คาบแรกชองช่วงเช้าก็จะกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธง ทำให้มีการล่วงเวลาคาบชั่วโมงสอน แผนการ จัดการเรียนรู้ พร้อมกันได้นําเสนอหัวข้อความรู้ที่คิด ว่าจะช่วยให้จัด ทำแผนการจดัการเรียนรู้ได้ดีขึ้น อาทิ การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดของหลักสูตร วิธีการทำแบบทดสอบท้ายบท การใช้ ส่อื โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงส่ือ เทคโนโลยีในการสอน การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ เป็นต้น เพื่อไปแก้ไข ประเดน็ ข้อบกพรอ่ งท่ีพบใน แผนการจดั การเรยี นรู้สว่ นใหญน่ ่ันเอง 7. แนวทางแก้ไขปรับปรงุ และพัฒนาในครัง้ ตอ่ ไป ขอ้ เสนอแนะสำหรบั การผลติ และการพัฒนาครสู ังคมศกึ ษา ครคู วรจัดรายวิชาที่เน้นการ พัฒนาทักษะการคดิ วิเคราะห์ แยกแยะของนักศึกษาท่ีเนน้ กลวิธีการเรียนรกู้ ารทำความเขา้ ใจ ใชก้ าร สอนโดยการปฏิบตั ิ หรอื สาธิตใหด้ ู เพอื่ ใหน้ กั ศึกษาได้รับประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับความหลากหลาย ของทักษะยอ่ ย ของการการคดิ วิเคราะห์ แยกแยะ ซึ่งจะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาทักษะการอา่ น ของตนเองและการจดั การเรียนการสอนอา่ นเนอื่ งจาก กอ่ นสอนครจู ะต้องอา่ น และทำความข้าใจบท อ่านใหถ้ ่องแท้ก่อนจึงจะรู้วา่ จะต้องสอนอะไร ใหแ้ ก่ผเู้ รียนนอกจากนย้ี งั ควรมีรายวชิ าเกีย่ วกับการเรียน การสอน เพื่อนกั เรยี นและครจู ะได้มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั การเรียนการสอนทักษะนี้มากยง่ิ ข้ึน ( พระรัฐนพล จารุธมฺโม/รินชาลี ) (ว่าทร่ี ้อยตรี นคร แท่งคำ) นสิ ติ ปฏบิ ัตวิ ิชาชพี ในสถานศึกษา ครพู เ่ี ล้ียง ๒๑/.มถิ นุ ายน / ๒๕๖๖ ๒๑/.มถิ ุนายน / ๒๕๖๖

๒๗ แบบบันทกึ ปฏิบัตวิ ชิ าชีพในสถานศกึ ษา ๓ ทดลองการจัดการเรยี นรคู้ ร้ังที่ ๕ วนั /เดอื น/ปี วนั พธุ ท่ี ๒๑ มถิ ุนายน พ.ศ ๒๕๖๖ กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วิชา ภมู ิศาสตร์ ระดบั ชั้น มัธยมชัน้ ปที ี่ ๖ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรอื่ ง ชวี ภาค จำนวน ๒ ชว่ั โมง 1. วิเคราะห์แผนการจดั การเรียนรู้ การวิเคราะห์แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาโดยมีจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานแผนการจัดการเรียนรู้ทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การศึกษา ประเด็นดังกล่าวจะให้ข้อมูลสําคัญท่ีสะท้อนให้เห็น การปฏิบัติการสอน และช้ีให้เห็น จุดบกพร่องท่ีชัดเจนซ่ึงสามารถนําไปพัฒนาการจัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการการคิด วเิ คราะห์ แยกแยะ ของตนเองให้มปี ระสิทธิภาพมากย่งิ ข้ึนได้ แผนการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษามีตัวประกอบ เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดการ เรียนการสอน ในท่ีนี้จะกล่าวถึงหลักการท่ีได้สรุปมาจากการศึกษาแนวคิดของนักวิชาการและ สถาบนั ทางการศึกษา ดงั นี้ 1) หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง ชวี ภาค 2) เรอื่ ง ชีวภาค เวลาเรียน 2 ซ.ม. 3) มาตรฐานการเรียนรู้ ส.5.1 เข้าใจลักษณะทางชีวภาคของโลกการใช้แผนที่และ เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตรใ์ นการค้นหาอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4) ตวั ช้ีวดั ม.4 .6/1 วเิ คราะห์ชีวภาคในประเทศไทยและภูมิภาคตา่ งๆรอบโลก 5) จุดประสงค์การเรยี นรู้ 6) สาระการเรียนรู้ 7) กจิ กรรมการเรยี นรู้ Active Lerning 8) ส่ือการเรียนรู้ 9) การประเมนิ แผนการเรียนรู้

๒๘ 2. วิเคราะห์กจิ กรรม/เทคนิคการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์กิจกรรม/เทคนิคการจัดการเรยี นรู้ คือจะมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนการสอน ในปัจจุบันยังมีแนวคิดเก่ียวกับคุณลักษณะของผู้เรียน เทคโนโลยีส่งผลให้มี คณุ ลกษั ณะที่แตกต่างไปจากประชากรรุ่นที่ผา่ นมาค่อนข้างมาก ดังที่ ครูพ่ีเล้ียง ได้กล่าวว่าผู้เรียน ชอบ การเรียนรู้อย่างอิสระ สนุกกับการทำงานกลุ่ม สนใจท่ีจะฟังเฉพาะเร่ืองที่ต้องการ หรือสนใจ มีช่วง ความสนใจ สามารถเข้าถึงข้อ มูลได้ทันทีสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างได้พร้อม ๆ กันไม่ใส่ใจ รายละเอียดมากนักมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีชอบวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ชอบวิธีการเรียน การสอน แบบตรรกะการเรียนรู้จากประสบการณ์ชอบสอนท่ีมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและช่วย อำนวยการเรียนรู้ ชอบการเรียนที่สามารถนําไปใช้ในในชีวิตจริง เพื่อให้นักเรียนได้กล้าแสดงออก และ ช่วงท้ายกิจกรรมก็จะมีแบบฝึกหัดให้นักเรียนได้ไปทำเพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจในคาบเรียนนั้น ดว้ ย 3. วเิ คราะหส์ ือ่ การจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์สอ่ื การเรยี นรู้ 1) มีความสอดคล้องกับ เนอ้ื หาของบทอา่ น 2) มีความหลากหลาย 3) สรา้ งความสนใจใหแ้ ก่ผู้เรียน 4) มีการนำสือ่ เทคโนโลยมี าบรู ณาการในกจิ รรมการเรยี นการสอน 5) มีความเหมาะสมกับวัยของผเู้ รียนและสือ่ ในแต่ละข้ัน ตอนของการสอนตามแนวคิดการสอนชีว ภาคซงึ่ เปน็ วธิ กี ารสอนทใ่ี ช้ ในแผนการจดั การเรียนรู้ส่วนใหญ่ดงั น้ี ▪ เพาเวอร์พอยส์เพือ่ ใหน้ ักเรียนจะไดม้ องเห็นภาพ ▪ ใบความรแู้ บบฝกึ หดั ทา้ ยคาบเรียน

๒๙ 4. วเิ คราะหก์ ารวัดและประเมนิ ผล เมอ่ื วิเคราะห์รายละเอียดของการวดั และประเมินผล พบว่าส่วนใหญ่เป็นการใหผ้ ู้เรยี นทำ แบบทดสอบ/ แบบฝึกหดั ในรูปแบบต่าง ๆ มสี ่วนนอ้ ยที่กำหนดเป็นช้ินงาน หรือภาระงาน โดยมี รายละเอยี ด แบบทดสอบ ประกอบด้วย เนื้อหาสาระสำคัญเกีย่ วกับชีวภาค ถาม-ตอบปากเปลา่ เพือ่ จะ ไดร้ วู้ า่ ผเู้ รยี นมคี วามเข้าใจเน้ือหาท่ีเรยี นไปมากน้อยเพยี งใด 5. วเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมผู้เรยี น พฤติกรรมท่ีพบ พบว่าแตล่ ะห้องเรียนนักเรียนมีทักษะทางการเรียนและสมาธิของแต่ละบุคคล ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังพบว่า การวัดและประเมินผลส่วนใหญ่เป็นการกำหนดให้ผู้เรียนทําแบบฝึกหัด ช่วงท้ายคาบ ลักษณะต่าง ๆ มีการให้ทำชิ้นงาน มอบหมายภาระงานไม่มากนัก ข้อค้นพบน้ีไม่ สอดคล้องกับแนวคิดของ นักวิชาการด้านการอ่านที่กล่าวถึงการวัดและประเมินผลรูปแบบต่าง ๆ และ การวดั ประเมินผลตามสภาพจริง โดยตอ้ งคํานึงถึงทักษะการเรียน ท่ีใช้ในชวี ิตจริงนอกจากนี้ทักษะการ เรียนเป็นทักษะที่ค่อนข้างต้องใช้สมาธิ ต้องใช้เวลาใน การฝึกฝนดังน้ัน จึงควรมีกิจกรรมใหผู้เรียนไป ฝกึ ฝนนอกชน้ั เรยี น และประเมนิ ผลผเู้ รยี นอย่างตอ่ เนื่อง การแกไ้ ขปญั หา จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น นักเรียนมีความคิดเห็นว่าการเรียนการสอนมีความลึกซึ้ง เรา ควรปรบั การเรียนรู้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละห้องน้ันๆ เพราะแต่ละห้องมีการเรียนรู้ไม่เท่ากัน บางห้อง เป็นห้องเด็กเรียนเก่ง บางห้องเป็นห้องเด็กเรียนปานกลาง เราจีงควรปรับตามสถานการณ์และบริบท ของแต่ละห้อง เพื่อพฒั นาการจัดทํา แผนการจัดการเรียนรู้ของตนเอง นกั ศึกษาจึงต้องการไดร้ บั ความรู้ เพ่ิมเติม โดยเรื่องท่ีสนใจเรียนรู้ได้แก่การเลือก การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดของ หลักสูตร โดยการบูรณาการกับทักษะอ่ืนๆ และการใช้สื่อโดยเฉพาะอย่างย่ิงสื่อเทคโนโลยีและการ นำไปใชใ้ นการเรียนรู้

๓๐ 6. ปญั หาและอปุ สรรค จากการมองภาพรวม วเิ คราะหส์ าเหตขุ องปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกบั ข้อบกพรอ่ งต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้น โดยสามารถสรุปได้ว่าเกิดจากการมีกิจกรรมมาแทรกเวลาเรียนทำให้มีเวลาเรียนลดลง เช่น คาบแรกชองช่วงเช้าก็จะกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธง ทำให้มีการล่วงเวลาคาบชั่วโมงสอน แผนการ จัดการเรียนรู้ พร้อมกันได้นําเสนอหัวข้อความรู้ท่ีคิด ว่าจะช่วยให้จัด ทำแผนการจดัการเรียนรู้ได้ดีข้ึน อาทิ การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ตามตัวช้ีวัดของหลักสูตร วิธีการทำแบบทดสอบท้ายบท การใช้ สอ่ื โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่ือ เทคโนโลยีในการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นต้น เพื่อไปแก้ไข ประเด็นข้อบกพร่องที่พบใน แผนการจดั การเรยี นรู้สว่ นใหญน่ ั่นเอง 7. แนวทางแก้ไขปรบั ปรงุ และพฒั นาในครง้ั ตอ่ ไป ข้อเสนอแนะสำหรับการผลิตและการพัฒนาครูสังคมศึกษา ครูควรจัดรายวิชาที่เน้นการ พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะของนักศึกษาท่ีเน้นกลวิธีการเรียนรู้การทำความเข้าใจ ใช้การ สอนโดยการปฏิบัติ หรือ สาธิตให้ดู เพ่ือให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรงเก่ียวกับความหลากหลาย ของทักษะย่อย ของการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะการอ่าน ของตนเองและการจัดการเรียนการสอนอ่านเนื่องจาก ก่อนสอนครูจะต้องอ่าน และทำความข้าใจบท อ่านให้ถ่องแท้กอ่ นจึงจะรู้ว่าจะต้องสอนอะไร ใหแ้ ก่ผู้เรยี นนอกจากนี้ยงั ควรมีรายวิชาเก่ียวกับการเรียน การสอน เพ่ือนกั เรยี นและครจู ะได้มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั การเรียนการสอนทักษะน้ีมากยง่ิ ขึ้น ( พระรฐั นพล จารธุ มฺโม/รินชาลี ) ( ว่าที่รอ้ ยตรี นคร แทง่ คำ) นิสติ ปฏบิ ตั วิ ิชาชีพในสถานศึกษา ครพู ่ีเล้ียง ๒๓/.มิถุนายน / ๒๕๖๖ ๒๓/.มถิ นุ ายน / ๒๕๖๖

๓๑ ส่วนท่ี ๔ การปฏิบัตงิ านผู้ชว่ ยครู วิชาชพี ในสถานศกึ ษา ๓ แบบบันทึกการปฏบิ ัตงิ านทดลองสอน การปฏิบตั วิ ิชาชพี ในสถานศกึ ษา ๓ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ ๒๕๖๖ เวลา การปฏิบัติงาน หมายเหตุ ๐๗.๓๕ น. ต้อนรับนักเรยี น ๐๘.๐๐ น. กจิ กรรมหนา้ เสาธง ๐๘.๔๐ น. เตรยี มเอกสารปฏิบตั ิงานทดลองสอน ๐๙.๓๐ น. ปฏิบัตงิ านทดลองสอนคาบท2่ี ๑๐.๒๐ น. ปฏบิ ัติงานทดลองสอนคาบที่3 ๑๑.๑๐-๑๒.๐๐ น. พกั ฉันเพล-พกั เทีย่ ง ๑๓.๐๐ น. เรมิ่ ปฏิบัติงานทดลองสอนคาบบา่ ย ๑๓.๕๐ น. เตรยี มเอกสารปฏิบัตงิ านทดลองสอน ๑๔.๔๐ น. ปฏิบตั ิงานทดลองสอนคาบท่ี7 ๑๕.๓๐ น. เข้าแถวเลกิ เรียน ( พระรัฐนพล จารุธมฺโม/รินชาลี ) ( วา่ ทีร่ ้อยตรี นคร แท่งคำ) นิสติ ปฏิบัติวชิ าชพี ในสถานศกึ ษา ครพู ่เี ลีย้ ง

๓๒

๓๓

๓๔

๓๕

๓๖ ความคดิ เห็นของอาจารย์นเิ ทศก์ ๑. การปฏิบัติหน้าที่ของนสิ ิตปฏิบัตวิ ชิ าชีพในสถานศกึ ษา ๓ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๒. จุดท่คี วรพฒั นา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (.....................................................) อาจารย์นิเทศก์ …………./…...……../…………..

๓๗

๓๘ ภาคผนวก วนั แรกยืน่ ใบสง่ ตวั 01/06/2566

๓๙

๔๐ กิจกรรมหนา้ เสาธง

๔๑

๔๒

๔๓ กิจกรรมวันไหวค้ รู

๔๔

๔๕ ปฏิบัติวชิ าชพี ในสถานศึกษา ๓ สงั เกตุการณส์ อนครพู ่เี ลี้ยงบรบิ ทในหอ้ งเรยี น

๔๖

๔๗

๔๘

๔๙