(2) ไฟฟา้ จังหวัดกำแพงเพชรมีหน่วยงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รับผิดชอบการให้บริการไฟฟ้า แก่บ้านเรือนท่ีอยู่อาศัย และภาคธุรกิจ 2 หน่วยงาน ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร รับผิดชอบพื้นที่ 7 อำเภอ คือ อำเภอเมืองกำแพงเพชร พรานกระต่าย ลานกระบือ ไทรงาม คลองลาน ปางศลิ าทอง และโกสมั พีนคร และการไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาคอำเภอขาณุวรลักษบรุ ี รับผิดชอบพ้นื ท่ี 4 อำเภอ คือ อำเภอขาณุวรลักษบุรี คลองขลุง ทรายทองวัฒนา และบึงสามัคคี โดยให้บริการไฟฟ้ารวม ทั้ง 2 จุดรวมงาน (11 อำเภอ) เท่ากับ 232,211 ราย แยกเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน จำนวน 202,905 ราย และภาค ธุรกิจ/ส่วนราชการ 29,306 ราย มีเปอร์เซ็นต์ปริมาณการจ่ายโหลดไฟฟ้ารวม 168.19 เม็กกะวัตต์ และ ยงั มีเปอร์เซ็นตก์ ารรองรับการใช้ไฟฟ้าทจ่ี ะเพมิ่ ข้นึ ได้อกี 62.62 % หรอื 281.81 เมก็ กะวัตต์ การให้บรกิ ารไฟฟ้าในพืน้ ทจี่ ังหวดั กำแพงเพชรของการไฟฟา้ ส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หน่วยงาน/ประเภทการใชไ้ ฟฟ้า จำนวน % ปรมิ าณ % การรองรบั (ราย) การจา่ ยโหลดไฟฟา้ การใช้ไฟฟ้าที่จะ (เมก็ กะวัตต์) เพิม่ ข้ึน (เม็กกะวัตต์) 1. การไฟฟ้าสว่ นภมู ภิ าคจังหวัด กำแพงเพชร (๑) ทอี่ ย่อู าศยั 142,230 115.62 MW. 109.38 MW. (๒) กิจการธุรกจิ -ราชการ 20,999 รวม 163,229 51.39 48.61 2. การไฟฟา้ ส่วนภูมิภาคอำเภอ ขาณวุ รลกั ษบุรี (๑) ทอ่ี ยอู่ าศัย 60,675 52.57 MW. 172.43 MW. (๒) กิจการธรุ กจิ -ราชการ 8,307 รวม 68,982 23.36 76.63 รวม (1+2) (๑) ที่อยอู่ าศัย 202,905 168.19 MW. 281.81 MW. (๒) กิจการธรุ กิจ-ราชการ 29,306 รวม 232,211 37.38 62.62 ท่มี า : การไฟฟา้ สว่ นภมู ภิ าคจงั หวัดกำแพงเพชร (ปี 2564) (3) ประปาส่วนภมู ิภาค พ้ืนท่ีการให้บริการของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ในพ้ืนที่จังหวัดกำแพงเพชรจะครอบคลุม เฉพาะพื้นท่ีชุมชนที่มีบ้านเรือนและประชากรหนาแน่น มีผู้รับบริการ จำนวน 34,938 ราย (ปี 2563) จากจำนวนครวั เรอื นทั้งหมดของจังหวัดจำนวน 242,831 ครัวเรอื น หรือคิดเปน็ รอ้ ยละ 14.38 ดังนี้ (๑) การประปาสว่ นภมู ภิ าคสาขากำแพงเพชร ผู้รับบรกิ าร 27,429 ราย ดังน้ี (1.1) แม่ข่ายกำแพงเพชร มีพ้ืนที่ให้บริการในเขตชุมชนของอำเภอเมือง-กำแพงเพชร อำเภอ พรานกระต่าย และเทศบาล/ อบต. มสี ถานผี ลิตและจ่ายนำ้ ดังนี้ - สถานผี ลติ นำ้ หนองปลงิ แหล่งน้ำดิบแม่น้ำปิง พ้ืนที่ใหบ้ รกิ ารในเขตชุมชนของอำเภอ เมอื งกำแพงเพชร ไดแ้ ก่ เทศบาลเมอื งกำแพงเพชร เทศบาลตำบลนครชมุ เทศบาลตำบลหนองปลงิ แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 45
- สถานีผลิตน้ำศูนย์ราชการ แหล่งน้ำดิบแม่น้ำปิง พื้นที่ให้บริการในเขตชุมชนของ อำเภอพรานกระต่าย เทศบาลตำบลบา้ นพราน อบต.ถำ้ กระต่ายทอง อบต.สระแกว้ เทศบาลตำบลหนองปลงิ - สถานีผลิตน้ำหนองน้ำขาว แหล่งน้ำดิบแม่น้ำปิง พ้ืนท่ีให้บริการในเขตชุมชนของ อำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้แก่ เทศบาลตำบลปากดง เทศบาลตำบลท่าขุนราม เทศบาลตำบลไตรตรึงษ์ อบต.อา่ งทอง และ อบต.นครชุม (1.2) หน่วยบริการลานกระบือ มีพ้ืนที่ให้บริการในเขตชุมชนของอำเภอลานกระบือ ได้แก่ เทศบาลตำบลลานกระบือ อบต.จนั ทิมา และ อบต.โนนพลวง (1.3) หน่วยบริการคลองลาน มีพื้นท่ีให้บริการในเขตชุมชนของอำเภอคลองลาน ได้แก่ เทศบาลตำบลคลองลานพฒั นา และ อบต.คลองนำ้ ไหล (2) การประปาส่วนภูมิภาคสาขาขาณุวรลักษบุรี ผู้รับบริการ 7,121 ราย มีพื้นท่ีให้บริการ ในเขตชุมชนของอำเภอขาณุวรลักษบรุ ี ได้แก่ เทศบาลตำบลขาณุวรลักษบุรี เทศบาลตำบลสลกบาตร เทศบาล ตำบลทา่ มะเขือ และเทศบาลตำบลคลองขลุง ดงั นี้ - สถานีผลิตน้ำขาณุวรลักษบุรี แหล่งน้ำดิบแม่น้ำปิง พ้ืนท่ีให้บริการในเขตชุมชน ได้แก่ เทศบาลตำบลขาณวุ รลักษบุรี และเทศบาลตำบลสลกบาตร - สถานีผลิตน้ำท่ามะเขือ แหล่งน้ำดิบแม่น้ำปิง พ้ืนท่ีให้บริการในเขตชุมชน ได้แก่ เทศบาล ตำบลท่ามะเขอื และเทศบาลตำบลคลองขลุง (4) ประปาหมูบ่ า้ น จังหวัดกำแพงเพชรมีหมู่บ้านที่มีระบบประปาหมู่บ้านใช้แล้ว จำนวน 933 หมู่บ้าน คดิ เป็นร้อยละ 98.73 โดยมีระบบประปาหมู่บ้านถึง จำนวน 1,284 แห่ง จากจำนวนหมู่บ้านทั้งหมด 945 หมู่บ้าน และยังมีหมู่บ้านที่ยังไม่มีระบบประปาหมู่บ้านอีกเพียง จำนวน 12 หมู่บ้าน เท่าน้ัน หรือคิดเป็น ร้อยละ 1.3 แต่ทั้งนี้หมู่บ้านท่ยี ังไม่มีระบบประปาดังกล่าว บางหมู่บ้านก็ใช้ประปาหมู่บ้านร่วมกบั หมู่บ้านอื่น หรอื ระบบประปาภูเขา หรือจากประปาสว่ นภูมภิ าคจังหวดั ตาก รวมท้งั มบี างหมบู่ า้ นทใี่ ช้น้ำจากบ่อน้ำตื้น การเข้าถึงน้ำประปาของประชาชนในหม่บู า้ นในอำเภอตา่ ง ๆ ของจังหวดั กำแพงเพชร หมบู่ า้ นท่ีมปี ระปาหมบู่ ้าน หม่บู ้าน ที่ยงั ไมม่ ี ท่ี อำเภอ จำนวน จำนวนหมู่บา้ น จำนวนประปา ประปาหมู่บา้ น หมบู่ า้ น (แห่ง) จำนวน ร้อยละ (หมู่บา้ น) 1 เมืองกำแพงเพชร 210 207 98.75 289 3 2 ขาณุวรลักษบรุ ี 143 143 100 216 - 3 ไทรงาม 71 71 100 89 - 4 ทรายทองวฒั นา 38 38 100 48 - 5 บงึ สามคั คี 45 45 100 58 - 6 พรานกระตา่ ย 116 105 90.52 125 11 7 ลานกระบอื 69 69 100 127 - 8 ปางศิลาทอง 42 42 100 86 - 9 คลองลาน 67 64 95.52 95 3 10 คลองขลุง 98 98 100 110 - 11 โกสมั พีนคร 43 43 100 41 - รวม 942 925 98.19 1,284 17 ทมี่ า : สำนกั งานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวดั กำแพงเพชร แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 46
ขอ้ มูลดา้ นสาธารณสุข จังหวัดกำแพงเพชร มีโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 12 แห่ง มีโรงพยาบาลท่ีมีบริการ ผู้ป่วยใน (IPD) 12 แห่ง และในปี พ.ศ. 2565 มีสถานพยาบาลทผี่ ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานระบบ รับรองคุณภาพโรงพยาบาล (Hospital Accreditation : HA) จำนวน 12 แห่ง โดยคิดเป็นรอ้ ยละ 100 ของ สถานบริการสาธารณสุข (โรงพยาบาล) ทั้งน้ี จังหวัดได้ขยายการให้บริการด้านสาธารณ สุขครอบคลุมทุกพ้ืนที่หมู่บ้าน ตำบล ทั่วทั้งจังหวัด กล่าวคือในระดับอำเภอมีโรงพยาบาลทุกอำเภอ จำนวน ๑๒ แห่ง มีจำนวนเตียงพยาบาลจริง ในโรงพยาบาลของรัฐ รวมทั้งส้ินจำนวน ๙76 เตียง โรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง จำนวนเตียงรวม 60 เตียง สำหรับในระดับตำบล มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระจายอยทู่ กุ ตำบล รวม 125 แห่ง ในปี พ.ศ. 25๖5 จังหวัดมีจำนวนแพทย์ 176 คน ทันตแพทย์ ๖9 คน เภสัชกร 90 คน และ พยาบาลวิชาชีพ 1,115 คน เม่ือเทียบสัดส่วนประชากรต่อบุคลากรสาธารณสุข พบว่า แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลสูงกว่าระดับเขต โดยมีแพทย์ 1 คน ต่อประชากร 5,236 คน 5,041 คน และ 4,046 คน ในปี พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2564 และ พ.ศ. 2565 ตามลำดับ ซ่ึงไม่เป็นไปตามค่ากลางของ ประเทศท่ีมีบุคลากรการแพทย์ 1 คน ต่อประชากร 3,275 คน ในปี พ.ศ. 2565 ซึ่งถือว่ายังเป็นปัญหาใน การให้บริการท่ีไม่ครอบคลุมประชากร และเป็นภาระหนักของบุคลากรสาธารณสุขอยู่ ซ่ึงสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร มีแผนพัฒนาศักยภาพของหน่วยบริการสุขภาพ เพื่อรองรับการให้บริการทาง การแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ใหไ้ ดต้ ามเกณฑม์ าตรฐาน ภาพรวมอตั ราสว่ นประชากรต่อบุคลากรสาธารณสขุ ประเภทบุคลากร จำนวน อตั ราส่วนต่อประชากรตอ่ ประชากรสาธารณสุข กำแพงเพชร เขตสุขภาพที่ 3 ประเทศ แพทย์ 176 4,046 2,407 3,275 ทนั ตแพทย์ 69 10,321 7,710 11,620 เภสัชกร 90 7,913 5,752 7,719 พยาบาลวิชาชีพ 1,115 639 553 623 ท่มี า : กล่มุ งานทรัพยากรบุคคล สำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวัดกำแพงเพชร (ขอ้ มลู ณ 31 พฤษภาคม ๒565) หมายเหตุ: *จำนวนแพทย์ทป่ี รากฏในตารางสรุปน้ีคือแพทย์ท่ีอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐ สงั กัดกระทรวงสาธารณสุขเท่าน้ัน ไมไ่ ด้หมายรวมแพทย์ ของโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกตา่ ง ๆ แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 47
2.2 สถติ ิการเกดิ สาธารณภยั ของจังหวดั สถานการณ์สาธารณภัยของจังหวัดกำแพงเพชร ที่เกิดข้ึนและสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนในรอบ 10 ปีท่ีผ่านมา (พ.ศ.2555-2564) มดี ังน้ี 2.2.1. วาตภัย (Wind Storm) วาตภัย เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติท่ีมีสาเหตุจากลมแรงจนทำให้เกิดความเสียหายแก่อาคาร บ้านเรือน ส่ิงก่อสร้าง ต้นไม้ เรือกสวนไร่นา ยานพาหนะ และระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร โทรคมนาคม รวมถึงชีวิตของประชาชน สำหรับจังหวัดกำแพงเพชร สาเหตุของวาตภัย คือ พายุฝนฟ้าคะนอง พายฤุ ดรู ้อน และพายุหมนุ เขตร้อน (ดีเปรสชั่น โซนร้อน ใต้ฝุ่น) โดยเฉพาะพายุหมนุ เขตร้อน จะส่งผลกระทบต่อพ้ืนที่เป็นบริเวณกว้าง นับร้อยตารางกิโลเมตร (บริเวณรอบศูนย์กลางของพายุจะเป็น บรเิ วณที่ได้รับผลกระทบจากวาตภยั มากที่สุด) หากพายุ มีกำลังแรงขึน้ เป็นพายุโซนร้อนหรือไตฝ้ ุ่นจะก่อให้เกิด วาตภัย อุทกภัย ซึ่งเป็น อันตรายและสร้างความเสียหายโดยในปัจจุบันแนวโน้มความเสียหายยังมีมูลค่าสูง แมว้ า่ จำนวนผเู้ สยี ชีวิตจะลดลง ซ่ึงเปน็ ผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศของโลก ตารางสถิติสถานการณ์วาตภัย ระหวา่ งปี พ.ศ.2555 - 2564 จำนวน จำนวน ความเสยี หาย (ครง้ั ) (อำเภอ) ปี พ.ศ. จำนวน (หมู่บา้ น) จำนวน มลู คา่ (บาท) (ตำบล) 2555 2 6 29 13 1,090,588 2556 19 8 860 (ครัวเรอื น) 33 4,919,039 2557 41 11 2,100 (ครวั เรอื น) 64 9,060,521 2558 43 11 2,138 (ครวั เรือน) 55 6,581,727 2559 30 11 415 72 5,451,632 2560 32 11 414 71 8,338,085 2561 33 11 313 62 10,420,210 2562 29 11 602 68 12,512,140 2563 32 8 417 66 3,520,100 2564 31 9 242 43 4,004,722 ทีม่ า : สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัด, มถิ นุ ายน 2565 2.2.2. อัคคภี ัย (Fire) อัคคีภัยในจังหวัดกำแพงเพชร เป็นภัยท่ีเกิดจากไฟ ซ่ึงไฟเป็นพลังงานอย่างหน่ึงที่ให้ความร้อน เม่ือขาดการควบคุมและดูแล จะทำให้เกิดการติดต่อลุกลามไปตามบริเวณที่มีเชื้อเพลิงจนเกิดการลุกไหม้ ต่อเนื่อง หากปล่อยเวลาของการลุกไหม้ นานเกินไป และเกิดการลุกลามมากย่ิงข้ึน สภาวะของไฟจะรุนแรง มากขึ้น ถ้าการลุกไหม้มีเช้ือเพลิงหนุนหรือมีไอ ของเช้ือเพลิงถูกขับออกมามากความร้อนแรงก็จะมากยิ่งข้ึน ซงึ่ เชื้อเพลิง ได้แก่ สารเคมวี ัตถใุ ด ๆ ที่มีสถานะเป็น ของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซท่ีอยู่ในภาวะพร้อมจะเกิดการ สันดาปจากการจุดติดใด ๆ หรือจากการสันดาปเอง ประกอบกับมีการขยายตัวของพ้ืนท่ีเขตเมือง และ บ้านเรือนทอี่ ยู่อาศัยของประชาชนเพิ่มขน้ึ ดังนั้น แนวโน้มและ ความเสี่ยงทเี่ กิดจากอคั คภี ยั จงึ เพ่มิ มากข้ึน แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 48
ตารางสถิติสถานการณ์อัคคีภัย ระหว่างปี พ.ศ.2555 - 2564 ปี พ.ศ. จำนวน จำนวน จำนวน (หมบู่ า้ น) ความเสยี หาย มูลคา่ (บาท) (ครั้ง) (อำเภอ) จำนวน (ตำบล) 2555 21 10 2,845 (ครวั เรือน) 43 13,166,223 2556 18 8 17 (ครวั เรือน) 15 1,769,135 2557 20 8 21 (ครวั เรือน) 15 8,639,850 2558 37 8 52 (ครัวเรือน) 29 19,354,000 2559 10 5 14 10 4,630,000 2560 16 6 14 14 1,770,000 2561 20 9 20 20 2,800,000 2562 9 6 13 17 600,000 2563 23 8 29 25 3,270,100 2564 16 7 21 16 อยรู่ ะหว่างสำรวจ ทีม่ า : สำนกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด, มิถุนายน 2565 2.2.3. อทุ กภัย (Flood) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมเป็นเวลานาน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำทว่ มฉับพลัน น้ำท่วมขัง และน้ำล้นตลิง่ ประชาชนได้รับความเดอื ดร้อน สิ่งสาธารณประโยชน์และทรัพย์สิน ของประชาชนได้รับความเสียหายโดยมีสาเหตุหลักได้แก่ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ซ่ึงในประเทศไทยจะพัดอยู่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม มรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม ประเทศไทยและอ่าวไทยในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ รอ่ งมรสุมท่ีพาดผ่านบริเวณประเทศไทย ในช่วงของแต่ละเดอื น หย่อมความกดอากาศตำ่ และพายหุ มนุ เขตรอ้ น (ดเี ปรสชนั่ โซนร้อน และไต้ฝ่นุ ) ทงั้ นี้แนวโน้ม ผ้ไู ดร้ ับผลกระทบไมค่ งท่ขี นึ้ อยกู่ ับจำนวนของพายุที่เกิดขึ้นในแต่ ละปอี ยา่ งไรกต็ าม จำนวนผเู้ สยี ชวี ิต และมลู ค่า ความเสยี หายจากอุทกภัยมแี นวโนม้ ลดลง ตารางสถิติสถานการณ์อุทกภยั ระหว่างปี พ.ศ.2555 - 2564 จำนวน จำนวน ความเสยี หาย (ครัง้ ) (อำเภอ) ปี พ.ศ. จำนวน (หมู่บา้ น) จำนวน มูลค่า (บาท) (ตำบล) 2555 3 11 21,346 (ครัวเรอื น) 61 90,404,602 2556 1 11 15,723 (ครวั เรอื น) 64 48,800,907 2557 - - - -- 2558 1 6 6,181 (ครัวเรอื น) 34 13,934,300 2559 - - 260 31 20,468,400 2560 2 9 323 43 28,576,398 2561 1 2 8 4 1,036,279 2562 1 2 13 5 1,153,810 2563 1 5 60 17 1,348,676 71 61,655,387 2564 1 11 670 ท่ีมา : สำนกั งานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัด, มถิ นุ ายน 2565 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 49
2.2.4. ภยั แล้ง (Drought) เป็ น ภั ยท่ี เกิด จากธรรม ชาติส ภาพอากาศแห้ งแล้งและขาด แคลน น้ ำเป็ นระย ะเวลานาน โดยทั่วไป เกิดขึ้นเมื่อพื้นท่ีที่ได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอเกิดฝนตกต่ำกว่าค่าเฉล่ีย นอกจากนี้ภัยแล้งในแต่ละปี ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรซ่ึงถือว่าเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศและผลกระทบที่เกิดจากภัยแล้งอาจ นำไปสู่ การพังทลายของผิวดิน การเกิดฝุ่นละออง พายุฝุ่น การรุกล้ำของน้ำเค็ม และโอกาสเกิดไฟป่าสูงขึ้น สร้างความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจของประเทศ ท้ังน้ีการเกิดภัยแล้งมีแนวโน้มลดลงซึ่งเป็นผลจากการบริหาร จัดการนำ้ จากทุกภาคส่วน ตารางสถติ สิ ถานการณ์ภัยแล้ง ระหวา่ งปี พ.ศ.2555 - 2564 ปี พ.ศ. จำนวน จำนวน ความเสยี หาย (ครัง้ ) (อำเภอ) จำนวน (หมู่บา้ น) จำนวน (ตำบล) มลู คา่ (บาท) 2555 1 10 25,438 (ครวั เรือน) 57 27,533,600 2556 1 8 27,113 (ครวั เรอื น) 49 22,237,650 2557 - - - -- 2558 1 6 23,779 (ครัวเรอื น) 21 3,306,000 2559 1 9 525 54 3,504,166 2560 - - - -- 2561 - - - -- 2562 - - - -- 2563 - - - -- 2564 - - - -- ทมี่ า : สำนกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด, มิถุนายน 2565 2.2.5. ภัยจากไฟป่าและหมอกควัน (Forest Fire and Smoke) เป็นภัยท่ีมักเกิดขึ้นในป่าธรรมชาติหรือสวนป่าแล้วลุกลามไปได้โดยอิสระปราศจากการควบคุม ตลอดจนเป็นผลให้ฝุ่นควนั และอนุภาคแขวนลอยในบรรยากาศมีปริมาณมากภายใต้กระแสลมอ่อนและอากาศ สามารถลอยตัวสูงข้ึนไปในบรรยากาศช้ันบนได้สถานการณ์ไฟป่าและหมอ กควันส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คณุ ภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสภาพเศรษฐกจิ โดยรวมของจังหวัด ทั้งน้ีแนวโน้มการเกิดภัยจากไฟป่า และหมอกควัน ยังคงมีสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนทุกปีอย่างต่อเน่ืองจากการเกิดไฟป่าตามธรรมชาติและการเผาป่า เพอ่ื เตรยี มพ้นื ท่ี ในการเกษตร โดยสถิติสถานการณไ์ ฟปา่ ในจงั หวดั กำแพงเพชร ปรากฎตามตาราง ตารางสถิติสถานการณ์ไฟป่า ระหว่างปี พ.ศ.2561 - 2564 ของจงั หวดั กำแพงเพชร ปี พ.ศ. จำนวนการเกิด /Hotspot ในเขตป่า นอกเขตปา่ (จุด) (จดุ ) (จุด) 2555 299 29 270 2556 3,441 1,568 1,873 2557 3,352 1,287 2,065 2558 3,285 1,388 1,897 2559 4,055 2,234 1,821 2560 2,570 1,255 1,315 2561 2,418 884 1,534 แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 50
2562 4,837 2,971 1,866 2563 5,861 3,356 2,505 2564 2,750 1,452 1,298 รวม 32,868 16,424 16,444 ท่ีมา : ระบบดาวเทียม VIRS ; กรมปา่ ไม้ https://wildfire.forest.go.th/firemap/index.html 2.2.6. โรคระบาด (Pandemic) เป็นโรคติดต่อหรือโรคท่ียังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคแน่ชัดซึ่งอาจแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้อย่าง รวดเร็ว และกว้างขวาง หรือมีภาวะของการเกิดโรคมากกว่าปกติที่เคยเป็นมา (พระราชบัญญัติโรคติดต่อ, 2558) องคก์ ารอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) แถลงการณ์เม่ือวันท่ี11 มีนาคม 2563 ยกระดับการแพรร่ ะบาดของไวรสั โคโรนา 2019 หรือ COVID -19 จากโรคระบาด (Epidemic) เป็นโรคระบาด ใหญ่ (Pandemic) หลังจากมีการลุกลามไปหลายประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก สำหรับการประกาศโรค ระบาดของ ประเทศไทย ให้เป็นไปตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้การระบาด ของโรคในพนื้ ทีจ่ งั หวดั กำแพงเพชร สถานการณโ์ รคติดเชอื้ ไวรัลโคโรนา 2019 (Coronavirus disease 2019: COVID-19) ของจงั หวดั กำแพงเพชร ปี พ.ศ. จำนวนผู้ป่วยตดิ เชื้อในจงั หวดั (คน) จำนวนผู้เสียชีวิต (คน) 2563 2 0 2564 8,499 114 2565 17,758 149 รวม 26,257 263 ท่ีมา : สำนกั งานสาธารณสุขจังหวดั กำแพงเพชร ณ วันที่ 23 สงิ หาคม 2565 2.2.7. ภยั หนาว (cold spells) ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับอิทธิพล จากลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ และเปน็ ช่วงเปลยี่ นจากฤดฝู นเป็นฤดหู นาว ส่งผลให้อากาศแปรปรวนเรมิ่ มี อากาศเย็น ประกอบกับความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่อิทธิพลลงมาปก คลุมพื้นท่ีของประเทศไทย ทำให้มีสภาพอากาศหนาวจัด โดยอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และลดลง ต่อเนอื่ งยาวนานตดิ ต่อกนั เกนิ 3 วนั ซ่งึ ประชาชนไดร้ บั ผลกระทบอย่างรนุ แรงและกว้างขวาง แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 51
2.3 สถานการณแ์ นวโนม้ การเกดิ ความเสย่ี งจากสาธารณภยั ท่เี กิดขน้ึ ในพืน้ ที่ จังหวัดกำแพงเพชร มีความหลากหลายในการเกิดสาธารณภัย มีความเส่ียงจากสาธารณภัยทั้งจาก ภยั ที่เกดิ จากธรรมชาติ คือ วาตภยั อัคคีภัย อทุ กภัย ภยั แล้ง และภยั ท่ีเกดิ จากมนษุ ย์ คือ ภัยจากการคมนาคม นอกจากน้ใี นช่วงท่ีผ่านมายงั ตอ้ งเผชิญกับภัยคุกคามรปู แบบใหม่ อยา่ งเช่นโรคระบาด เป็นตน้ ตารางแสดงปัจจยั /สาเหตุท่ีทำให้เกิดความเสีย่ งจากสาธารณภยั ระดบั ความเสี่ยงภัย ประเภทของภัย เสย่ี งสงู เสยี่ ง เส่ยี งตำ่ ปัจจัย/สาเหตุ ที่ทำให้เกิดความเส่ียงจาก สาธารณภัย ปานกลาง 1.วาตภยั เมอื งกพ., โกสัมพนี คร, พรานกระตา่ ย, ความเปราะบาง/ความล่อแหลม 2.อคั คีภยั ลานกระบือ, คลองขลงุ , ทรายทองวฒั นา 1.โครงสรา้ งอาคารบา้ นเรือน ไมแ่ ขง็ แรง ไม่ได้มาตรฐาน คลองลาน, ปางศลิ าทอง, 2.ท่ีอยอู่ าศยั อยู่ในพนื้ ท่ีโล่งแจ้ง /ช่องลม 3.อทุ กภยั ไทรงาม, ขาณวุ รลักษบุรี 3.สภาพอากาศแปรปรวนในชว่ งเปลี่ยนฤดกู าล บึงสามัคคี 4.ลักษณะภูมิอากาศโดยทว่ั ไปตกอยู่ ภายใต้อิทธิพลของ ลมมรสุม เมอื งกพ., คลองลาน, ทรายทองวัฒนา, ศักยภาพ ขาณุวรลกั ษบรุ ี, ปางศลิ าทอง, บึงสามัคคี, 1.อปท.มีความพร้อมด้านบุคลากร และอุปกรณ์ คลองขลงุ , ไทรงาม, โกสัมพีนคร, เครอื่ งมือ ยานพาหนะเพ่ือชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัย พรานกระต่าย, ลานกระบอื , 2.อปท.มี พรบ.ควบคุมอาคารฯ เมื่อจะดำเนินการ กอ่ สรา้ งบา้ นอยู่อาศยั ต้องมีแบบแปลนเพ่ือขออนุญาต เมอื งกพ., บึงสามคั คี, ทรายทองวฒั นา, 3.ชุมชนเสี่ยงได้รับการอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการ ขาณุวรลกั ษบรุ ี, โกสมั พีนคร, ไทรงาม, ภัยพิบัติจึงมีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติและ คลองขลงุ , ลานกระบอื , มกี ารป้องกันในเบ้ืองต้น คลองลาน, พรานกระต่าย, ความเปราะบาง/ความลอ่ แหลม ปางศิลาทอง 1.เป็นชมุ ชนหนาแน่น 2.มีลกั ษณะเปน็ บ้านไม้ บ้านเก่าแก่ ปลกู สร้างมานาน 3.ถนนแคบ บางจุดผ่านได้เฉพาะรถขนาดเล็กหรือ รถจักรยานยนต์ 4.ขาดการตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในครัวเรอื น และอาคาร ตา่ ง ๆ 5.ขาดระบบการป้องกันและระงับอัคคีภัย และไม่มี อุปกรณ์ระงับเหตุเพลิงไหม้ หรือมีแต่ไม่มีการทดสอบ ตามกำหนด ศักยภาพ 1.อปท.ทุกแห่งมีความพร้อมด้านบุคลากรและอุปกรณ์ เครอื่ งมอื ยานพาหนะ 2.มีการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและระงับอัคคีภัยให้กับ เจา้ หน้าทีแ่ ละชุมชน 3.มเี ครอื ข่ายในการระงบั อคั คภี ยั 4.อปท.จดั ผงั ท่อี ยูอ่ าศยั ใหถ้ กู ลักษณะ 5.อปท.มี กฎหมายทเ่ี กยี่ วข้องกบั การก่อสรา้ งท่ีอยอู่ าศัย มี พรบ.ควบคมุ อาคารฯ 6.ชุมชนบางแห่งได้รับการอบรมให้ความรู้ด้านการ จดั การภัยพิบัติจึงมีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติ และมีการปอ้ งกนั ในเบื้องต้น ความเปราะบาง/ความล่อแหลม 1.เป็นพ้ืนที่ราบลุ่มต่ำ ราบลุ่ม เชิงเขา และบางพื้นท่ีมี ความลาดชนั สูง 2.มีแมน่ ้ำไหลผ่าน ลำน้ำคดเคี้ยว แคบและตน้ื เขิน 3.มสี ง่ิ กอ่ สรา้ งและวสั ดุตา่ ง ๆ กีดขวางทางน้ำ เช่น ถนน อาคาร บา้ นทีอ่ ยู่อาศัย แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 52
ระดับความเสี่ยงภัย ประเภทของภัย เสย่ี งสงู เสี่ยง เสย่ี งต่ำ ปจั จัย/สาเหตุ ที่ทำใหเ้ กดิ ความเสี่ยงจาก สาธารณภัย ปานกลาง 4.การระบายน้ำ/ท่อระบายน้ำในชุมชน ไม่สามารถ 4.ภัยแลง้ คลองลาน, ปางศลิ าทอง, เมืองกพ., ระบายน้ำฝนออกไปได้อย่างรวดเรว็ โกสัมพีนคร, ขาณวุ รลกั ษบุรี, 5.ความสามารถของแหลง่ กักเก็บน้ำลดลง เพราะตน้ื เขิน พรานกระตา่ ย คลองขลงุ , ถกู บกุ รุก ลานกระบือ, 6.เกิดการเบี่ยงเบนของเส้นทางไหลของนำ้ ไทรงาม, 7.พน้ื ทปี่ ่าไม้ไว้คอยดูดซบั นำ้ ถกู บุกรกุ ตัด ทำลาย ทรายทองวัฒนา, 8.การใชป้ ระโยชนท์ ีด่ ินไมเ่ หมาะสม บงึ สามัคคี ศักยภาพ 1.อปท.และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องมีการดำเนินการแก้ไข 5.ภยั จากไฟปา่ และ ปางศิลาทอง,คลอง เมืองกพ., ขาณุวรลักษบรุ ี, และป้องกันและจดั สรรงบประมาณเพ่ือดำเนินการ หมอกควัน ลาน, คลองขลงุ , พรานกระต่าย 2.ชุมชนพื้นที่เส่ียงบางแห่ง ได้ผ่านการอบรมเสริมสร้าง โกสมั พนี คร, ไทรงาม, ทรายทองวัฒนา, ศักยภาพชมุ ชนดา้ นการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย บงึ สามัคคี,ลาน 3.ชุมชนบางพื้นทมี่ ีเครอื ขา่ ยอาสาสมัครแจ้งเตือนภัย กระบอื 4.มีการฝึกซ้อมแผนและการแจ้งเตอื นภัย ความเปราะบาง/ความล่อแหลม 1.เป็นพื้นท่ีดอนราบและสูงพื้นที่ ลาดเทตามเชงิ เขา 2.พน้ื ทีม่ ีความลาดชันสูง อตั ราการระเหยของน้ำสูง 3.มีแหลง่ กกั เก็บน้ำ ไม่ทัว่ ถึงและมีไมเ่ พยี งพอ 4.แหล่งกักเก็บน้ำที่มีอยู่ท้ังตามธรรมชาติและสร้าง เพิ่มขึน้ มีความสามารถในการกกั เก็บ นำ้ น้อย เพราะเส่ือมโทรมและตืน้ เขิน 5.มีการบุกรุกพ้ืนท่ีป่าต้นน้ำ ทำให้ขาดพ้ืนที่ป่าและ ตน้ ไมท้ ี่คอยทำหน้าทีด่ ูดซบั นำ้ และ ชะลอการไหลของน้ำ ทำให้น้ำไหลออกพื้นท่ีอย่าง รวดเรว็ 6.การใชป้ ระโยชน์จากทีด่ นิ ไม่เหมาะสมกบั สภาพ 7.การใช้น้ำปริมาณมากและเพิ่มขนึ้ อย่างต่อเนือ่ ง ศักยภาพ 1.อปท.และหน่วยงาน ท่ีเก่ียวข้องมีการดำเนินการแกไ้ ข และปอ้ งกนั และจัดสรรงบประมาณ เพอ่ื ดำเนินการ 2.ชุมชนพ้ืนท่ีเสี่ยงบางแห่งได้ผ่านการอบรมเสริมสร้าง ศกั ยภาพชมุ ชนดา้ นการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั 3.มีการเร่ิมสร้างป่าชุมชน อนุรักษ์พื้นท่ีป่ามากข้ึน พร้อมทัง้ บังคับใช้กฎหมาย มากขึ้น 4.มีการตง้ั กลุ่มผูใ้ ช้น้ำเพ่ือบรหิ ารจดั การนำ้ ในพ้นื ทอี่ ยา่ ง คุม้ ค่า 5.สรา้ งแหล่งกักเก็บน้ำขนาดเลก็ เพ่มิ ข้นึ 6.ชุมชนมกี ารดแู ลแหลง่ นำ้ เดิมที่มี ความเปราะบาง/ความลอ่ แหลม 1.มปี ระชาชนอยอู่ าศยั บริเวณริมชายปา่ มาก 2.ถกู บกุ รุก/เผาทำลาย 3 .บ ริ เว ณ ริ ม ช า ย ป่ า มี พื้ น ท่ี ก า ร เก ษ ต ร ท่ี ป ร ะ ช า ช น เพาะปลกู หลงั จากการเพาะปลกู มกี ารเผาพื้นที่ 4.ประชาชนมกี ารล่าสัตว/์ หาของปา่ 5.ประชาชนขาดจิตสำนึก/ไม่รู้ข้อห้ามในการท่องเท่ียว ป่า แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 53
ระดับความเสี่ยงภัย ประเภทของภยั เสี่ยงสงู เส่ียง เส่ยี งตำ่ ปัจจยั /สาเหตุ ท่ีทำให้เกิดความเสีย่ งจาก สาธารณภยั ปานกลาง 6.ภัยหนาว ทกุ อำเภอ ศกั ยภาพ 1 .ห น่ ว ย ง า น ท่ี เกี่ ย ว ข้ อ ง ได้ มี ก า ร ค ว บ คุ ม ดู แ ล อ ย่ า ง สม่ำเสมอ 2.มีการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและระงับอัคคีภัยให้กับ เจา้ หนา้ ท่แี ละชมุ ชน 3.มเี ครอื ขา่ ยในการระงบั อคั คีภัย ความลอ่ แหลม -ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ อณุ หภูมทิ ี่เปลีย่ นแปลงไป ศักยภาพ -ให้ความรู้แก่ประชาชนในการรักษาสุขภาพช่วงอากาศ เปล่ยี นแปลง จากการวิเคราะห์และประเมินความเส่ียงจากสาธารณภัย สามารถจัดลำดับความเสี่ยงต่อการเกิดสาธารณภัย ของจังหวดั ได้ ดังนี้ (เสย่ี งภัยมากไปหานอ้ ย) สาธารณภัยท่ีเกิดจากธรรมชาติ สาธารณภัยที่เกิดจาก การกระทำของมนุษย์ 1. วาตภยั อคั คีภัย 2. อุทกภยั 3. ภยั แล้ง 4. ภัยจากไฟป่าและหมอกควนั 5 ภยั หนาว แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 54
2.4 ปฏิทินสาธารณภัยประจำปีของจงั หวัด สาธารณภัยเกิดขึ้นเป็นประจำโดยแบ่งตามห้วงเวลาของการเกิดภัยน้ัน ๆ ในรอบ 1 ปี ซ่ึงมีท้ังสาธารณภัย ท่ีสามารถคาดการณ์ได้หรือสาธารณภัยรูปแบบใหม่และ/หรือมีรูปแบบท่ีเปล่ียนไปจากเดิม เน่ืองจาก การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ (Climate Change) ซ่ึงทำให้คาดการณ์ได้ยากหรือมีความไม่แน่นอนสูง ตาราง : ปฏิทนิ สาธารณภัย ภัย/เดือน ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. ระยะเวลาที่เกิดภัย เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. วาตภัย อัคคีภยั ปใี หม่ ตรุษจีน ลอย ปีใหม่ อุทกภัย กระทง ภยั แลง้ ฤดูแลง้ ฝนทงิ้ ช่วง ไฟป่า หมอกควนั PM 2.5 ภยั หนาว หมายเหตุ : ……………… เฝา้ ระวงั ตลอดทั้งปี แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 55
บทที่ 3 มาตรการในการลดความเสยี่ งจากสาธารณภัยของจังหวดั จังหวัดกำแพงเพชร ได้กำหนดมาตรการลดความเส่ียงจากสาธารณภัยเพ่ือเป็นแนวคิดและวิธีปฏิบัติ ในการลดโอกาสของความรุนแรงและผลกระทบท่ีเกิดจากสาธารณภัยในพ้ืนท่ี เพื่อนำมากำหนดนโยบายแผน และมาตรการ ในการแก้ไขต้นเหตุของปัญหาในการลดความเส่ียงท่ีเกิดแก่ชุมชนและสังคม โดยการมุ่งเน้นการลดความ เส่ียงที่มีอยู่เดิม และป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงใหม่ด้วยการลดความล่อแหลม ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดความ เปราะบาง และเพิ่มศักยภาพในการจัดการให้สังคมมีความพร้อมในการเผชิญเหตุ และฟ้ืนฟูให้ดีกว่าและ ปลอดภยั กว่าเดมิ อนั นำไปสกู่ ารรู้รบั - ปรับตวั - ฟ้ืนเร็วท่ัว - อย่างยง่ั ยนื (Resilience) ความเส่ียงจากสาธารณภัย (Disaster Risk) หมายถึง โอกาสท่ีสาธารณภัยทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ความเป็นอยู่และภาคบริการต่างๆในชุมชนใดชุมชนหน่ึง ณ ห้วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต ซ่ึงสามารถแทนด้วยสมการแสดงความสัมพันธ์ของปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ได้แก่ ภัยความล่อแหลม ความเปราะบางและศักยภาพ ดงั น้ี ความเสี่ยง (Risk) = ภยั (Hazard) x ความลอ่ แหลม (Exposure) x ความเปราะบาง (Vulnerability) ศักยภาพ (Capacity) 3.1 การประเมนิ ความเสีย่ งจากสาธารณภยั การประเมินความเส่ียงจากสาธารณภัย เป็นวิธีการระบุลักษณะความรุนแรงและโอกาสในการเกิ ด ผลกระทบทางลบจากภัย ด้วยการวิเคราะห์ภัยท่ีอาจเกิดข้ึน ความล่อแหลมในพื้นที่ และประเมินสภาพ ความเปราะบางท่ีอาจก่อให้เกิดอันตรายท้ังต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผน การพัฒนาและตดั สินใจเชงิ นโยบายตั้งแต่ระดับชาติ จนถงึ ระดับพื้นท่ี กำหนดให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กองอำนวยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยอำเภอ และกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมถึง หนว่ ยงานหลักและหนว่ ยงานสนบั สนนุ ในทุกภาคส่วนเป็นหนว่ ยรับผิดชอบประเมิน ความเสี่ยงจากสาธารณภัย ตามแนวทางปฏบิ ัติ ดงั นี้ จังหวัดกำแพงเพชร ได้กำหนดให้มีแนวทางในการประเมนิ ความเส่ียงจากสาธารณภัย ดงั นี้ (1.1) สำรวจและจัดทำฐานข้อมูล (Baseline Data) และชุดข้อมูล (Data Set) ท่ีจำเป็นสำหรับการ จัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัด เช่น ฐานข้อมูลสถิติ สาธารณภัย ฐานข้อมูลผู้ประสบภัย ฐานข้อมูลเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ และฐานข้อมูลอื่นๆ ท่ีจำเป็นเพื่อให้พร้อมเรียกใช้งาน ไดท้ ันทเี มื่อเกิดภาวะฉุกเฉนิ และมกี ารเช่ือมโยงข้อมูลทุกภาคส่วนในทุกระดบั โดยกำหนดใหม้ ีข้อตกลงระหวา่ ง หน่วยงานในการขอใช้ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ในการประเมนิ ความเสี่ยงจากสาธารณภัยร่วมกัน เพ่ือให้ได้แผนที่ ความเส่ียง (Risk Map) ท้ังน้ี ให้มีการปรับปรุงฐานข้อมูลเชิงสถิติเพ่ือการประเมินความเสี่ยงจากสาธารณภัย อย่างสมำ่ เสมอ (1.2) วิเคราะห์ความเส่ียงโดยสร้างฉากทัศน์ (Scenario - base risk assessment) เป็นการใช้สถานการณ์ หรือสถิติของภัยท่ีเคยเกิดข้ึนในอดีต เพื่อค้นหาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (Future Risk Scenario) หรือการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นท่ีนำความรู้ และแนวทางปฏิบัติจากภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้ร่วมกับความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ ผนวกกับปัจจัยที่เก่ียวข้องกับ ความเสี่ยงในทกุ มิติ (Inclusive DRR) แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 56
3.2 มาตรการลดความเส่ียงจากสาธารณภยั ในพน้ื ท่ี จังหวัดกำแพงเพชร วางแผนเพื่อป้องกันความเสี่ยง แก้ไขปัญหาความเปราะบาง และความล่อแหลม การเตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพในการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยในทุกระดับ โดยนำผลการประเมิน ความเสี่ยงมาเป็นแนวทางในการกำหนดแผนงาน/โครงการในการลดความเส่ียงจากสาธารณภัยจากทุกหน่วยงาน มาใช้ในการลดความเส่ียงจากสาธารณภัยตามภัยประเภทต่างๆ เพื่อจัดลำดับความสำคัญ และจัดสรรทรัพยากร รวมถึงการสร้างนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยบรรจุในแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนพฒั นาจงั หวัด ดงั น้ี แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 57
ตารางแผนงาน/โครงการในการลดความเส่ียงจากสาธารณภัย ประเภทของภยั พืน้ ท่ีและระดบั ความเส่ยี ง แนวทางการลดความ ระดับสูง ระดับกลาง ระดับต่ำ สาธารณภยั 1.วาตภัย เมืองกพ., โกสัมพีนคร, พรานกระตา่ ย, 1. เฝา้ ระวงั และตดิ ตามส ลานกระบอื , คลองขลงุ , ทรายทองวัฒนา อากาศของหน่วยงานท่ีเ คลองลาน, ปางศิลาทอง, ตลอด 24 ชัว่ โมง 2 . แจ้ งข่า วเตื อน ภั ย ไ ไทรงาม, ขาณุวรลักษบรุ ี อปท.ให้ เฝ้าร ะวังและ พรอ้ มรับสถานการณ์ บงึ สามคั คี 2.อัคคภี ยั เมอื งกพ., คลองลาน, ทรายทองวัฒนา, 1. จดั ทำฐานขอ้ มลู สถติ ขาณวุ รลักษบุรี, ปางศลิ าทอง บึงสามคั คี, แออดั หรอื ชมุ ชนทมี่ ีปร คลองขลุง, ไทรงาม, โกสัมพีนคร, อาศัยหนาแน่น เพื่อนำม พรานกระต่าย, ลานกระบอื , พนื้ ทเี่ ส่ยี งภัย 2. วเิ คราะห์ปัจจยั เสยี่ ง ของการเกิดภัย 3. จัดเจา้ หนา้ ทีเ่ ฝ้าระว ตดิ ตามสถานการณ์การเ
มเสี่ยงจาก แผนงาน/โครงการในการลด หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ แหลง่ งบประมาณ ย ความเส่ยี งจากสาธารณภัย -สนง.โยธาธิการฯ จงั หวดั -แขวงการทางหลวงฯ งปม.รายจ่าย สภาพ ไมใ่ ช้โครงสรา้ ง -แขวงทางหลวงชนบทฯ ประจำปี -สนง.ปภ. จังหวัด -งปม. เกี่ยวขอ้ ง - ใหค้ วามรู้กบั ประชาชนในการสรา้ ง/ -อำเภอ ยทุ ธศาสตร์ -อปท. จังหวัด ปรบั ปรุงของบ้านทอ่ี ยู่อาศยั อาคาร -งปม.อปท. -สนง.โยธาธิการฯ จังหวัด -งปม.อนื่ ๆ ป ยั งอ ำเภ อ / สถานที่ ใหไ้ ดม้ าตรฐาน -สนง.ปภ. จังหวัด ะเตรีย มความ - ตัดแตง่ ก่งิ ไม้ เพื่อปอ้ งกนั การร่วง -สนง.พลงั งานจังหวัด -งปม.รายจา่ ย -อำเภอ ประจำปี หล่นลงมาทำความเสียหายทำใหเ้ กิด -อปท. -งปม. ยทุ ธศาสตร์ เป็นอันตรายได้ จังหวัด -งปม.อปท. - ตรวจสอบความแขง็ แรงของเสา ไฟฟา้ ป้ายโฆษณาตา่ ง ๆ - เสรมิ สรา้ งความร้ถู ึงอนั ตรายทีเ่ กดิ จากวาตภัยใหป้ ระชาชนไดร้ ับทราบและ ตระหนักถงึ การปอ้ งกันบา้ นท่ีอยู่อาศัย และชุมชน - องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินเตรียม ความพร้อมทง้ั ดา้ นอุปกรณ์ เคร่อื งมือ และบุคลากร เพือ่ ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัย ติ / ชุมชน ไม่ใชโ้ ครงสร้าง ระชากร - จดั ตง้ั ศูนย์เตรยี มความพรอ้ มป้องกัน มาวเิ คราะห์ ภยั ชมุ ชนจากอคั คีภัย - ตรวจเช็คระบบไฟฟา้ ในครัวเรือน ง และสาเหตุ หรืออาคาร สถานประกอบการอยา่ ง สมำ่ เสมอ วังและ - ตดิ ตัง้ อปุ กรณ์แจ้งเตือน การเกดิ เกดิ อคั คีภยั อัคคีภัย แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 58
ประเภทของภยั พ้นื ทีแ่ ละระดับความเส่ยี ง แนวทางการลดความ สาธารณภัย ระดบั สงู ระดบั กลาง ระดับต่ำ
มเส่ียงจาก แผนงาน/โครงการในการลด หนว่ ยงานรบั ผิดชอบ แหล่ง ย งบประมาณ ความเส่ียงจากสาธารณภยั -งปม.อ่นื ๆ - สำรวจ ตรวจสอบอาคาร สถานี บริการน้ำมันเช้ือเพลงิ /ก๊าซ คลงั นำ้ มนั โรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ ตา่ งๆ ท่ีมคี วามเส่ยี ง เพื่อใช้เป็นข้อมลู ในการวางแผนการป้องกนั อคั คภี ัย - จัดระบบการรับแจ้งเหตอุ ัคคภี ยั โดย การประชาสมั พันธ์หมายเลขโทรศพั ท/์ สายด่วนของหนว่ ยงานทใี่ ช้รับแจง้ เหตุ อคั คีภยั ให้ประชาชนทราบโดยท่วั กัน - ขยายถนนในพ้นื ทีเ่ ส่ียงอคั คีภยั เพื่อ ความสะดวก ในการเขา้ ถงึ พื้นทเี่ กดิ อัคคภี ยั - จดั หา และจดั เตรยี มอปุ กรณ์ ดบั เพลงิ ใหเ้ หมาะสมกับสภาพพน้ื ที่ - ตรวจสอบสถานที่ทม่ี ีความเสยี่ งและ ใหม้ ีการปอ้ งกนั ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน - จดั ทำแผนฉุกเฉนิ อัคคภี ัย และใหม้ ี การทบทวนและซกั ซอ้ มแผนอย่าง สม่ำเสมอ - เสรมิ สร้างความรถู้ ึงอนั ตรายที่เกดิ จากอัคคภี ยั ให้ประชาชนไดร้ บั ทราบและ ตระหนักถงึ การปอ้ งกนั บ้านทีอ่ ยอู่ าศัย และชมุ ชน - องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ เตรียม ความพร้อมในการระงบั เหตุ ทั้งด้าน อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื และบุคลากร แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 59
ประเภทของภัย พ้ืนที่และระดบั ความเส่ยี ง แนวทางการลดความ 3.อุทกภยั ระดบั สูง ระดับกลาง ระดับต่ำ สาธารณภยั เมืองกพ., บึงสามคั ค,ี ทรายทองวัฒนา, 1.จัดทำฐานข้อมูลสถติ ิ วิเคราะห์พนื้ ที่เสยี่ งภยั ขาณุวรลกั ษบุร,ี โกสมั พนี คร, ไทรงาม, 2. สร้างระบบการแจ้งเตือ ประสิทธภิ าพ คลองขลุง, ลานกระบือ, 3. วิเคราะห์ปัจจัยเส่ียงแ ของการเกิดภัย คลองลาน, 4. ประเมินความเส่ียงภัย และดินโคลนถล่มโดยกา พรานกระต่าย, แล ะความ ล่ อแ ห ล มเพ โอกาสหรือความเป็ นไป ปางศลิ าทอง อทุ กภยั และดนิ โคลนถล่ม ศึ กษ าวิ ธี ล ดผ ลกระท บ กำหนดมาตรการท่ี เหม บริหารจดั การภยั จากอทุ ก ดินโคลนถลม่
มเส่ียงจาก แผนงาน/โครงการในการลด หน่วยงานรับผดิ ชอบ แหล่ง ย งบประมาณ ความเสยี่ งจากสาธารณภยั -สนง.ปภ.จงั หวดั เพ่ือนำมา -โครงการชลประทาน -งปม.รายจ่าย ใช้โครงสร้าง -สนง.ทสจ. ประจำปี อนภัยให้มี - โครงการขดุ ลอกลำน้ำสาธารณะและ -แขวงทางหลวงฯ -งปม. -แขวงทางหลวงชนบทฯ ยทุ ธศาสตร์ และสาเหตุ การขดุ สระกักเกบ็ นำ้ เพื่อปอ้ งกันและ -สนง.โยธาธิการฯ จังหวดั จงั หวดั แก้ไขปญั หาภัยแล้งและอทุ กภยั -สนง. สาธารณสุข -งปม.อปท. ยจากอุทกภัย -สนจ. -งปม.อื่นๆ ารประเมินภัย - โครงการลอก รอ้ื กำจดั วัชพืชและ -สถานีอตุ ุนิยมวทิ ยา พื่ อ ป ระเมิ น ส่งิ กดี ขวางทางนำ้ -สนง.พัฒนาท่ดี นิ จงั หวดั ฯ ปได้ ท่ี จะเกิ ด -อำเภอ ม รวมทง้ั - การสรา้ งอา่ งเก็บกกั น้ำ และสรา้ ง -อปท. บ เพื่ อน ำไป ระบบระบายนำ้ มาะสมในการ - โครงการก่อสร้างฝาย/เขอื่ นป้องกนั - ทกภัยและ ตล่ิงรมิ แมน่ ้ำ - - - โครงการขดุ เจาะบ่อบาดาล - วางทอ่ ลอดถนน - สร้างฝายชะลอนำ้ - ก่อสร้างระบบระบายน้ำ ไมใ่ ช้โครงสร้าง - การวางแผนการใช้ประโยชน์ท่ีดิน จะทำให้ประชาชนได้เข้าถึงทรัพยา กร อย่างเท่าเทียม กัน แล ะเป็นการสร้าง ความ ต ระห นักให้ ป ระชาชนเข้าใจว่า พื้นท่ีใดทีเ่ ปน็ พืน้ ทเ่ี ส่ียง - ก า ร จั ด ผั ง เมื อ ง ผั ง ชุ ม ช น ห รื อ หมู่บา้ น ไม่ให้มคี วามหนาแน่นจนเกินไป เพราะอาจได้รับอันตรายเม่ือเกิดภัย จะ ทำให้เกิดการกระจายตัวของประชากร และลดโอกาสที่ประชากรบางส่วน ต้อง ส ร้ า ง บ้ า น อ ยู่ ใ น พื้ น ที่ ล่ อ แ ห ล ม แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 60
ประเภทของภยั พ้นื ทีแ่ ละระดับความเส่ยี ง แนวทางการลดความ สาธารณภัย ระดบั สงู ระดบั กลาง ระดับต่ำ
มเส่ียงจาก แผนงาน/โครงการในการลด หนว่ ยงานรับผดิ ชอบ แหลง่ ย งบประมาณ ความเสี่ยงจากสาธารณภยั โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ประชากรทย่ี ากจน - การออกกฎหมายต้องมีการบังคับใช้ อ ย่ า ง เ ค ร่ ง ค รั ด ใ น ข ณ ะ เ ดี ย ว กั น ประชาชนต้องมี ความเข้าใจและเคารพ กฎ ห ม าย ในกรณี ที่ไม่ ได้ มี บทล งโท ษ สำหรับประชาชนที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น สร้างบ้านในพ้ืนที่ทางน้ำไหล อาจไม่มี โท ษป รับ แต่ อาจ ไม่ ได้ รับการเยี ย วย า ซ่ อ ม แ ซ ม ห า ก ได้ รั บ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก น้ำทว่ ม เปน็ ตน้ - การพัฒนา ส่งเสริม ความรู้ ความ เข้าใจ และสร้างความตระหนักเก่ียวกับ ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ บ ร ร เ ท า สาธารณภยั แกส่ าธารณชน - การเผยแพร่และประชาสมั พนั ธ์ - จั ดทำแผนการป้ องกั นและบรรเทา สาธารณภัยระดบั จังหวดั อำเภอ - จั ด ท ำแผ นป ฏิ บั ติ การขององค์ก ร ปกครองสว่ นท้องถิน่ - จัดทำแผนการอพยพในพ้ืนที่เสี่ยง จากสาธารณภัย - จัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยสำหรับ การอพยพ /ศูนยพ์ ักพงิ ชว่ั คราว - ฝึ กซ้ อมแผนการป้ องกั นและบรรเทา สาธารณภั ยให้ หน่ วยงานท่ี เก่ี ยวข้ อง และ ประชาชนในพ้ืนท่ีเส่ียงภยั แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 61
ประเภทของภัย พนื้ ทีแ่ ละระดับความเสีย่ ง แนวทางการลดความ สาธารณภยั ระดบั สูง ระดบั กลาง ระดบั ต่ำ 4.ภยั แลง้ คลองลาน, ปางศลิ าทอง, เมืองกพ., 1.จัดทำฐานข้อมลู สถติ ิ โกสมั พนี คร, ขาณุวรลกั ษบุรี, พรานกระตา่ ย คลองขลงุ , วิเคราะหพ์ นื้ ที่เสยี่ งภยั ลานกระบอื , 2 .วิ เค ร า ะ ห์ ปั จ จั ย เส่ี ย ง ไทรงาม, ของการเกิดภยั ทรายทองวัฒนา, บึงสามคั คี
มเส่ียงจาก แผนงาน/โครงการในการลด หนว่ ยงานรับผิดชอบ แหล่ง ย งบประมาณ ความเสย่ี งจากสาธารณภยั - โครงการชลประทาน เพ่ือนำมา - สนง.ปภ. -งปม.รายจ่าย ง และสาเหตุ - ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม ใ ห้ ค ว า ม รู้ ส ร้ า ง - สนง.ทสจ. ประจำปี ศักยภาพให้กับชุมชน เช่น การฝึกอบรม - อำเภอ -งปม. CBDRM - อปท. ยุทธศาสตร์ จังหวดั - การสร้ างเครื อข่ ายการแจ้ งเตื อนภั ย , -งปม.อปท. การกูช้ ีพกู้ภัย -งปม.อนื่ ๆ - เ ต รี ย ม เ ค ร่ื อ ง มื อ อุ ป ก ร ณ์ ยานพาหนะ - พัฒนาระบบการพยากรณแ์ ละแจ้ง เตือนภัย ใช้โครงสรา้ ง - โครงการขุดลอกลำน้ำสาธารณะ และการขดุ สระกกั เก็บน้ำเพอ่ื ป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาภัยแลง้ และอุทกภัย - ขุดลอกแหล่งน้ำเดิมเพ่ือกักเก็บน้ำ ช่วงฤดูฝนไว้ใช้ในฤดูแล้ง - สร้างเข่อื นเก็บกักน้ำ - พัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ขุด เจาะบ่อบาดาล - โครงการเป่าล้างบ่อบาดาล - ขุดลอกคูคลอง แหล่งน้ำธรรมชาติ กำจดั วชั พืช - ก่อสร้างฝายชะลอน้ำขุดลอกแกม้ ลงิ ไม่ใช้โครงสร้าง - จัดหาแหล่งน้ำหลัก แหล่งน้ำสำรอง เพอื่ การอปุ โภคบริโภค แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 62
ประเภทของภยั พื้นที่และระดับความเส่ียง แนวทางการลดความ สาธารณภยั ระดับสูง ระดบั กลาง ระดับต่ำ 5.ภัยจากไฟป่า ปางศลิ าทอง, เมืองกพ., ขาณุวรลักษบุรี, 1.จัดทำฐานข้อมูลสถิติ และหมอกควัน คลองลาน, คลองขลงุ , พรานกระต่าย วเิ คราะห์พืน้ ท่ีเส่ยี งภัย โกสมั พนี คร, ไทรงาม, ทรายทองวฒั นา, บึงสามัคคี, 2.สร้างระบบการแจ้งเตือ ลานกระบือ ประสิทธภิ าพ 3.วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง แ ของการเกิดภัย
มเสี่ยงจาก แผนงาน/โครงการในการลด หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ แหล่ง ย งบประมาณ ความเสีย่ งจากสาธารณภัย - สนง.ทสจฯ เพ่ือนำมา - ศนู ยป์ ่าไมก้ ำแพงเพชร -งปม.รายจ่าย อนภัยให้มี - จัดหาที่กักเก็บน้ำกลาง เช่น ถังเก็บ - สำนกั บริหารพ้ืนที่ ประจำปี และสาเหตุ นำ้ อนรุ กั ษท์ ี่ 12 -งปม. - สำนักจดั การทรัพยากร ยทุ ธศาสตร์ - จดั ระบบการจดั สรรน้ำให้ครอบคลุม ปา่ ไม้ที่ 4 จงั หวดั พน้ื ท่ี - ขนสง่ จงั หวดั -งปม.อปท. - สนง.ปภ. จงั หวดั -งปม.อ่นื ๆ - การให้ความรู้เรื่องและ สนับสนุน - อำเภอ การเพาะปลูกพชื ทใี่ ช้น้ำนอ้ ย - อปท. - ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม ใ ห้ ค ว า ม รู้ ส ร้ า ง ศักยภาพให้กับชุมชน เช่น การฝึกอบรม CBDRM ไม่ใชโ้ ครงสร้าง - ทำแผนการปอ้ งกนั ไฟป่าและหมอก ควัน (การลาดตระเวน) - การเตรยี มบคุ ลากร / เครอื่ งมอื ใน การดับไฟป่า - การจดั การเชอื้ เพลงิ / ทำแนวกนั ไฟ - ติดประชาสัมพันธ/์ ป้ายเตือน แจกสอ่ื ส่งิ พมิ พ์ตา่ ง ๆ - อบรมให้ความรู้ความเขา้ ใจดา้ น ไฟปา่ แก่ประชาชน - จัดตงั้ ศูนยบ์ ญั ชาการเหตุการณ์ฯ ระดบั จังหวดั - มอี าสาสมคั รดบั ไฟปา่ ในพ้นื ที - ส่งเสรมิ อปท.ในการปฏบิ ตั ิงาน ปอ้ งกันและควบคุมไฟปา่ และหมอกควัน - จดั ทำโครงการรณรงค์ ประชาสมั พนั ธ์ ผลกระทบจากปญั หา แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 63
ประเภทของภัย พื้นทแ่ี ละระดับความเสีย่ ง แนวทางการลดความ สาธารณภยั ระดับสงู ระดับกลาง ระดบั ต่ำ 6.ภยั หนาว ทกุ อำเภอ 1.จดั ทำฐานข้อมลู สถิติ วิเคราะห์พนื้ ที่เสย่ี งภยั 7.โรคตดิ ตอ่ อบุ ตั ิ ทุกอำเภอ 2.วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง แ ใหม(่ COVID-19) ของการเกิดภัย 1.เฝ้าระวงั และคดั กรอง ผใู้ กล้ชดิ 2.ใหค้ วามรู้กับประชาช ปอ้ งกนั ตวั เอง
มเส่ียงจาก แผนงาน/โครงการในการลด หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ แหลง่ ย - สถานอี ุตนุ ยิ มวิทยา งบประมาณ ความเสี่ยงจากสาธารณภัย เพ่ือนำมา -ระเบียบ กค.ว่า และสาเหตุ ไฟป่าและหมอกควัน ดว้ ยเงนิ ทดรอง - สง่ เสริมสนบั สนุนการแก้ไขปัญหา ราชการเพ่ือ ชว่ ยเหลอื ไฟป่าและหมอกควนั โดยการมสี ว่ นรว่ ม ผปู้ ระสบภยั ของทกุ ภาคส่วน พบิ ตั กิ รณฉี ุกเฉิน พ.ศ. 2562 - จดั ซอ้ มแผนการควบคมุ และระงบั ไฟ ปา่ - งบประมาณ รายจ่าย ไม่ใช้โครงสร้าง ประจำปี - การคาดหมายลักษณะอากาศ - เงนิ ทดรอง ราชการฯ ตดิ ตามสถานการณส์ ภาพอากาศ - ประชาสมั พันธ์ แจง้ เตอื น - อบรมให้ความร้คู วามเขา้ ใจแก่ ประชาชน งผูป้ ่วยและ ไม่ใช้โครงสรา้ ง - สสจ. ชนในการ การตรวจคัดกรองเชิงรุก - สนง.ปภ.จงั หวัด - อำเภอ - อปท.ในพ้นื ท่ี แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 64
3.3 การสร้างความรคู้ วามเข้าใจเรื่องการลดความเสยี่ งจากสาธารณภยั ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ จังหวัดกำแพงเพชร ได้กำหนดให้มีสร้างความรู้ความเข้าใจเร่ืองการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย เพ่อื นำไปสู่การปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 3.3.1 สร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับความเสี่ยงของพื้นท่ีให้แก่ประชาชนและทุกภาคส่วนได้รับทราบ ความเสีย่ งของพ้ืนท่ีตนเอง เพื่อให้มีความตระหนัก เข้าใจความเสี่ยงในพ้ืนที่รู้เท่าทันภัย และเตรยี มความพร้อม รับมือกับสาธารณภัยในการวางแผนและการลงทุนในการลดความเส่ียงจากสาธารณภัย โดยการสนับสนุน ให้ส่ือประชาสัมพันธ์ทุกแขนงมีบทบาทในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ในชีวิตประจำวัน เชน่ การใช้ถนนอย่างปลอดภัย การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน การเตรียมการในการรับมือ สาธารณภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่ือประชาสัมพันธ์ที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น วทิ ยุ โทรทศั น์ หนงั สือ อนิ เตอร์เนต็ 3.3.2 จัดทำ ปรับปรุง และพัฒนาคู่มือการประเมินความเสี่ยงจากสาธารณภัย (Disaster Risk Assessment Guideline) โดยให้หน่วยงานภาครัฐในระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถ่ิน ประเมินความเส่ียง จากสาธารณภยั ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสยี ในภาคส่วนตา่ งๆ ไดร้ บั รูค้ วามเสย่ี งของพน้ื ท่ี 3.3.3 ส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรเครือข่ายในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัครต่างๆ มีส่วนร่วมในการรณรงค์ ในเร่อื งความปลอดภัยอย่างตอ่ เน่ือง 3.4 การหลีกเล่ยี งความเส่ยี ง 3.4.1 ย้ายที่ตั้งชุมชน หมู่บ้านและอาคารสถานที่ออกนอกพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดสาธารณภัย หรือ การออกแบบโครงสร้างและใชว้ ัสดุในการก่อสรา้ งที่มคี วามคงทนและปลอดภัย 3.4.2 กำหนด/จัดทำโซนน่ิง เพอ่ื วางแผนการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัย 3.4.3 จัดทำผังเมือง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงจากสาธารณภัย และ มีการบังคบั ใช้อยา่ งเครง่ ครัด พร้อมทั้งจัดทำกฎระเบียบมาตรฐานด้านความปลอดภยั ในชมุ ชนที่อยู่อาศัย แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 65
บทที่ 4 การเตรยี มความพร้อม จังหวัดกำแพงเพชร กำหนดให้มีการเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์สาธารณภัยในพ้ืนที่ โดยมีการเตรียมพร้อมด้านทรัพยากรสาธารณภัย บุคลากร การเตรียมการอพยพ การแจ้งเตือนภัย การจัดต้ัง ศูนย์พักพิง การฝึกการป้องกันสาธารณภัย การจัดทำโครงสร้างองค์กร การประสานองค์กรสาธารณกุศล การส่งเสรมิ ให้ทุกภาคส่วนและทกุ ระดับในการลดความเสยี่ งจากสาธารณภัย ดังนี้ 4.1 ด้านทรัพยากรสาธารณภัย 4.1.1 จดั ให้มสี งิ่ ของสำรองจ่ายเพ่ือการช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบภัย ได้แก่ อาหาร เสื้อผ้า เคร่ืองน่งุ ห่ม เตน็ ท์ ที่พักช่ัวคราว ยารักษาโรค อุปกรณ์เคร่ืองใช้ท่ีจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เคร่ืองจักรกลสาธารณภัย อุปกรณ์ เคร่ืองมอื พเิ ศษสำหรับแตล่ ะประเภทภยั วสั ดุส้นิ เปลือง รวมท้ังสง่ิ อำนวยความสะดวกตา่ ง ๆ 4.1.2 จัดให้มีการระดมทรัพยากรอ่ืน ๆ เช่น คน งบประมาณ ระบบเทคโนโลยี ข้อมูลสาธารณภัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญพิเศษ การเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรเพื่อเป็นการสร้างความเป็นหุ้นส่วนร่วมกันของ ทกุ หนว่ ยงานทัง้ ภาครฐั ภาคเอกชน ชุมชน องคก์ รท่ไี ม่แสวงหาผลกำไร และมูลนิธติ า่ ง ๆ 4.1.3 บูรณาการระดมทรัพยากรจากหลายหน่วยงานให้มีความพร้อมรับมือกับสาธารณภัย ได้แก่ การประเมินความต้องการในการใช้ทรัพยากรในแต่ละประเภทภัย การประมาณทรัพยากรท่ีจำเป็นต้องใช้ การตรวจสอบสถานะความพร้อมใช้ของทรัพยากร การบำรุงรักษา การฝึกทักษะความชำนาญในการใช้งาน อุปกรณ์และระบบต่าง ๆ การจัดทำฐานข้อมูลบัญชีทรัพยากร ตามภาคผนวก ซ การวางระบบการจัดสรร ทรัพยากร รวมท้ังระบบการระดมสรรพกำลัง การวางแผนระบบโลจิสติกส์ การจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน และ การจัดทำแผนและขั้นตอนขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ เคร่ืองมือเครื่องใช้ และ ยานพาหนะเพ่อื ใช้ในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ตามภาคผนวก ฌ 4.2 ด้านบุคลากร 4.2.1 ข้อมูลบุคลากรหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์การสาธารณกุศล หน่วยงาน เครือข่ายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณภัย อาสาสมัคร (OTOS) อปพร. ฯลฯ ท่ีมีอยู่ในปัจจบุ นั ตามภาคผนวก ฉ 4.2.2 แผนการเพิ่มและพัฒนาบุคลากรในจังหวัด โดยการมอบหมายองค์การบริหารส่วนจังหวัด กำแพงเพชรและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินทุกแห่ง พิจารณาจัดต้ังงบประมาณประจำปีในการฝึกอบรมและ พัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เช่น หลักสูตรเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย หลักสูตรนักป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั หลกั สูตรการบัญชาการเหตกุ ารณ์ (ICS) เปน็ ต้น 4.2.3 แผนการจัดอบรมสร้างความรู้ในการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยให้แก่ภาคีเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร. ประชาชน เช่น โครงการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภยั ศูนยเ์ ตรยี มพร้อมป้องกนั ภัยประจำหมู่บา้ น มสิ เตอรเ์ ตือนภยั เปน็ ต้น 4.3 การเตรียมการอพยพ กำหนดให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ จัดทำแผนอพยพ แผนอพยพ ส่วนราชการ หรือวางมาตรการการอพยพ โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย บัญชีจำนวนผู้อพยพ บัญชีส่วนราชการ ส่ิงอำนวยความสะดวกในการอพยพ การกำหนดเขตพ้ืนท่ีรองรับ การอพยพให้อยู่ในพ้ืนที่ เหมาะสม การกำหนดเจ้าหน้าที่หรือผู้รับผิดชอบการอพยพไว้ให้ชัดเจน การกำหนดเส้นทางอพยพหลัก และ เส้นทางอพยพสำรองสำหรับแต่ละประเภทภัย รวมท้ังการสำรวจและการจัดเตรียมพาหนะ น้ํามันเช้ือเพลิง แหลง่ พลงั งาน และระบบส่ือสารสำหรบั การอพยพ แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 66
เพ่ือเป็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนและส่วนราชการ และสามารถ ดำเนินการอพยพเคล่ือนย้ายเป็นไปอย่างมีระบบสามารถระงับการแตกตื่นเสียขวัญของประชาชนไปสู่สถานที่ ปลอดภยั ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ การเตรยี มการอพยพ ใหด้ ำเนินการดังน้ี 1) จดั ทำแผนอพยพในพ้นื ทเ่ี สี่ยงจากสาธารณภัยและแผนอพยพส่วนราชการ 2) จดั หาสถานที่ปลอดภัยสำหรบั การอพยพประชาชน 3) จัดเตรียมเสน้ ทางอพยพหลกั และเส้นทางสำรองสำหรับแตล่ ะประเภทภยั 4) จัดทำปา้ ยแสดงสัญญาณเตือนภยั บอกเส้นทางอพยพไปส่สู ถานท่ีปลอดภยั 5) จัดเตรยี มสรรพกำลงั หนว่ ยปฏิบัตกิ ารฉุกเฉิน หรือหนว่ ยอพยพ 6) จดั เตรียมยานพาหนะ เคร่อื งมอื อุปกรณ์ เช่น รถยนต์ขับเคลอื่ น 4 ล้อ ไฟฉาย พลุส่องสวา่ ง นกหวีด เส้ือชูชีพ ฯลฯ 7) จัดประชมุ หรืออบรมให้ความรู้ในการช่วยเหลือตวั เองเม่ืออยู่ในภาวะฉุกเฉิน 8) จัดให้มกี ารฝกึ ซอ้ มแผนอพยพจากสาธารณภยั 9) จัดทำคมู่ อื การอพยพจากสาธารณภยั ให้ประชาชนศกึ ษา ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนอพยพ การอพยพส่วนราชการ ได้กำหนดรายละเอียดและจัดทำบัญชีจำนวน ผู้อพยพไว้ล่วงหน้า โดยแยกประเภทตามลำดับความเร่งด่วน การกำหนดเขตพ้ืนที่ รวมพลและพื้นท่ีรองรับ การอพยพ การกำหนดเจ้าหน้าที่ดำเนินการอพยพไว้ล่วงหน้า โดยระบุหน้าท่ีความรับผิดชอบไว้ให้ชัดเจน การสำรวจยานพาหนะ นำ้ มันเช้อื เพลงิ ตลอดจนระบบการสื่อสารสำหรับการอพยพ การกำหนดเส้นทางอพยพ หลัก และเส้นทางรองที่ชัดเจน การกำหนดสถานที่ปลอดภัยเป็นพ้ืนที่รองรับการอพยพ การกำหนดระเบียบ ปฏิบัติในการรกั ษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในการอพยพการอยู่อาศัยในพื้นที่รองรับการอพยพ ตลอดจนการอพยพกลับ การให้ความช่วยเหลือ และบริการในการดำรงชีพและระบบสุขลักษณะตาม สมควรจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมตลอดจนร่างระเบียบในการควบคุม การใช้ส่งิ เหลา่ น้ี นอกจากน้ี ให้แบ่งการปกครองในพ้ืนท่ีอพยพออกเป็นกลุ่ม และจัดทำทะเบียนและจัดระเบียบการปกครอง โดยการจัดแบ่งประเภทของบุคคลตามลำดับเร่งด่วน เช่น ผู้ป่วยทุพพลภาพ คนพิการ คนชรา เด็ก และสตรี ตามลำดับ และจัดเตรียมพื้นที่รองรับการอพยพไว้ล่วงหน้าให้เป็นตามลักษณะความจำเป็น เชน่ ตอ้ งห่างจาก พ้ืนที่อนั ตราย ไม่กดี ขวางหรือเหน่ียวร้ังการปฏิบัติการ เป็นพื้นที่ท่ีสามารถจัดการด้านสุขลักษณะได้ มีความสะดวก ในเส้นทางคมนาคม และมสี ง่ิ อำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภคตามสมควร 4.4 การแจ้งเตือนภัย การแจ้งเตือนภัย (Warning) เป็นการดำเนินการแจ้งเตือนภัยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการลดความ เสี่ยงจากสาธารณภัยท่ีจะเกิดข้ึน เพื่อเตรียมความพร้อม การป้องกัน และการลดผลกระทบ โดยการให้ข้อมูล ขา่ วสารเกี่ยวกับสาธารณภัยและการแจ้งเตือนภัยที่รวดเร็วไปยังพ้ืนที่และกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้หน่วยงานและ ประชาชนเตรยี มความพรอ้ มรบั มือกับสาธารณภัยท่ีจะเกิดขน้ึ ได้อย่างทันทว่ งที ทงั้ นี้ การแจ้งเตือนภัยจะหมาย รวมถึงการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning) ต้ังแต่การให้ข้อมูลข่าวสารท่ีเป็นประโยชน์และ ทันเหตุการณ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไปยังหน่วยงาน/องค์กร และประชาชน เพื่อให้หน่วยงานและ/หรือบุคคล ที่กำลังเผชิญความเสี่ยงต่อการเกิดสาธารณภัยสามารถกระทำการอย่างใดอย่างหน่ึง (ติดตาม วิเคราะห์ และ ประเมินสถานการณ์) โดยระบบเตือนภัยแบบครบวงจร (End-to-End Warning System) จะมุ่งเน้น กระบวนการดำเนินการตั้งแต่ต้นทางในการวิเคราะห์ ประเมินความเส่ียง เพ่ือแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานแล ะ ประชาชนให้มีความพร้อมในการรับมือกับสาธารณภัยและสามารถอพยพไปยังพ้ืนที่ปลอดภัยได้อย่าง มีประสทิ ธิภาพ ผ่านชอ่ งทางสือ่ สารต่าง ๆ ทไ่ี ด้จดั เตรียมไว้ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 67
4.4.1 แนวทางปฏิบัติของระบบการเตือนภัย ดำเนินการจัดหา ติดตั้ง และพัฒนาโครงสร้าง ระบบเตือนภัย ระบบสื่อสารและโครงสร้างพื้นฐานด้านการเตือนภัยในการพัฒนาการแจ้งเตือนภัย วิเคราะห์ ข้อมูลสาธารณภัยและการส่งข้อมูลท่ีถูกต้องรวดเร็วไปยังส่วนราชการ หน่วยงานที่เก่ียวข้องและประชาชน ซึ่งการพัฒนาและเช่ือมโยงระบบการแจ้งเตือนและเฝ้าระวังภัยที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 4 องคป์ ระกอบหลัก ไดแ้ ก่ แผนภาพ : องค์ประกอบสำคัญของระบบการเตือนภัย (1) การรับรู้และเข้าใจความเสี่ยง (Risk Knowledge) โดยการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ที่เป็นระบบ และคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของภัยอันเนื่องจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น การขยายตัวของเมือง ฯลฯ มาใช้ในการประเมินความเส่ียงจากสาธารณภัย เพ่ือนำมาสนับสนุน/ตัดสินใจในการแจ้งเตือนภัยให้ตรงกับ พ้ืนท่ีท่ีจะได้รับผลกระทบเม่ือสาธารณภัยเกิดข้ึนการประเมินความเส่ียงไม่ควรดำเนินการเพียงคร้ังเดียว ควรมกี ารปรบั ปรงุ ตามระยะเวลา โดยขนึ้ อยู่กบั การเปลีย่ นแปลงสภาพแวดลอ้ ม กาลเวลา และบรบิ ทของพืน้ ท่ี (2) ติดตามสถานการณ์และการพยากรณ์ (Monitoring and Forecasting) เป็นขั้นตอนในการ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และการวิเคราะห์คาดการณ์สาธารณภัยที่จะเกิดขึ้นเชิงพนื้ ที่ในแต่ละระดับ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นวัตกรรม แบบจำลองการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก (Data Analytical BIG DATA) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เพื่อให้การคาดการณ์มีความถูกต้อง แม่นยำ ครอบคลุม และรวดเรว็ (3) การแจ้งเตือนภัยและการสื่อสาร (Dissemination_and Communication) ต้องจัดทำข้อความ หรอื คำแจ้งเตือนที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และเกิดประโยชน์ตอ่ ชมุ ชน/ประชาชนมากที่สดุ (เวลาทจี่ ะเกิดสาธารณภัย ระยะเวลาการเกิด พื้นท่ที ี่จะได้รับผลกระทบ แนวทางการปฏบิ ัติและการเตรยี มพร้อม ฯลฯ) เพื่อให้ประชาชนไม่เกิด ความสับสนและสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกวิธี รวมทั้งจะต้องจัดเตรียมโครงสร้างพ้ื นฐานระบบสื่อสาร (Communication Infrastructure) และระบบ/อปุ กรณ์เตือนภยั ใหค้ รอบคลมุ พืน้ ทเ่ี สย่ี งภยั (4) ความตระหนักรู้และการตอบสนองต่อการแจ้งเตือนภัย (Public Awareness and Response Capability) เมื่อชุมชน/ประชาชนในพื้นที่ได้รับข้อความ/สัญญาณแจ้งเตือนแล้วต้องรู้เท่าทันภัย โดยตระหนักถึงความปลอดภัย การป้องกันและเตรียมความพร้อมรับมือกับสาธารณภัยที่จะเกิดขึ้น ตั้งแต่ การสร้างความเข้มแข็งในชุมชน การป้องกันและลดผลกระทบ ความสามารถจัดการในภาวะฉุกเฉิน ตลอดจนการอพยพไปยงั พืน้ ท่ปี ลอดภยั แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 68
4.4.2 แนวทางปฏิบัติการแจ้งเตือนภัย เนื่องจากสาธารณภัยท่ีเกิดขึ้นโดยเฉพาะภัยธรรมชาติ มีระยะเวลาในการเกิดที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในการแจ้งเตือนภัยให้พิจารณาระยะเวลาของการแจ้งเตือนภัย ตามแตล่ ะประเภทของสาธารณภัย จังหวดั กำแพงเพชร กำหนดกระบวนการเตือนภัย ดงั น้ี (1) การเฝา้ ระวัง ติดตามสถานการณ์ เป็นการติดตามข้อมูลความเคล่ือนไหวของเหตุการณ์ท่ีอาจส่งผลให้เกิดสาธารณภัย รวมท้ังทำหน้าท่ีเฝ้าระวัง ให้ข้อมูลและข่าวสารแก่ประชาชน โดยมีส่วนราชการและหน่วยงานเกี่ยวข้องที่มี ความรู้และเครื่องมือทางเทคนิค เช่น อุตุนิยมวิทยากำแพงเพชร โครงการชลประทานกำแพงเพชร ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร ป้องกันจังหวัดกำแพงเพชร ท้องถ่ินจังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกำแพงเพชร มีหน้าท่ีเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ทุกภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องจัดเตรียม จัดหาอุปกรณ์ และเครื่องมือสื่อสารสำหรับเชื่อมกับ ระบบส่ือสารให้เพยี งพอและใชก้ ารได้ตลอดเวลา โดยให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัด แลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสาร วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ เพอื่ ตดั สินใจในการเตรยี มรับมือกบั สาธารณภยั (2) การแจ้งเตือนล่วงหน้า เป็นการแจ้งข้อมูลข่าวสารท่ีบ่งชี้ว่า มีแนวโน้มท่ีจะเกิดสาธารณภัยข้ึนในพ้ืนที่ท่ีมีความ เส่ียงภัยไปยังส่วนราชการ หน่วยงาน และกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ และประชาชน เพอ่ื ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวอยา่ งต่อเนอ่ื ง ทั้งน้ี ระยะเวลาสำหรบั การแจ้ง เตือนล่วงหน้าข้ึนอยู่กับสาธารณภัยแต่ละประเภท โดยให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กำแพงเพชร สถานีอตุ ุนิยมวิทยากำแพงเพชร โครงการชลประทานกำแพงเพชร เป็นหน่วยประสานงานร่วมกับ สำนักงานประชาสัมพนั ธ์จังหวัดกำแพงเพชร ในการจัดวางแนวทาง มาตรการ และขั้นตอนการปฏิบัติร่วมกับ หน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีในการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และแจกจ่ายข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้การแจ้งเตือนล่วงหน้าที่มีมาตรฐานเป็นรูปแบบเดียวกันซ่ึงสะดวกต่อการรับทราบและทำความเข้าใจ กับขอ้ มูลทไี่ ด้รบั (3) การแจ้งเตอื นภยั หากประเมินสถานการณ์แล้วคาดว่ามีโอกาสเกิดสาธารณภัยมากกว่าร้อยละ 60_ให้มีการ แจ้งเตือนภัยทันทีกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับและประชาชนในพ้ืนที่เส่ียงภัย ในการเตรียมความพร้อมรับมอื กับสาธารณภัยท่จี ะเกดิ ขึ้น โดยมขี ้อมูลการแจง้ เตือนภยั ดังนี้ คาดการณ์ระยะเวลา และบริเวณพนื้ ที่ท่ีจะเกิดสาธารณภยั ผลกระทบที่อาจเกดิ ข้นึ และความยาวนานของภัย (ระยะเวลา) แนวทางการปฏบิ ตั ติ นของสว่ นราชการ หน่วยงาน และประชาชน การเตรียมความพรอ้ มรับมือ เช่น อาหาร น้ำด่มื ยารักษาโรค เปน็ ตน้ (4) รบั มือและอพยพ หากคาดว่าสาธารณภัยท่ีเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชนในพ้ืนท่ี ให้ดำเนินการแจ้งผู้อำนวยการจังหวัดส่ังการให้อพยพไปยังพ้ืนท่ีปลอดภัย หรือพื้นท่ี ท่ีหน่วยงานราชการ มูลนิธิ องค์กร หรือเอกชนได้จัดเตรียมไว้ โดยกำหนดแนวทางและข้ันตอนการปฏิบัติ รวมท้ังแผนเผชิญเหตุ สำหรบั ส่วนราชการ หน่วยงาน และองค์กรเอกชน ในการรับมือกับสาธารณภัยที่เกิดขึ้น โดยจะประสานหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในพื้นท่ี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต กองกำลังทหารเป็น หน่วยงานสนับสนุนทรัพยากร ยานพาหนะ เครื่องมือพิเศษ ทั้งนี้ หากเกินศักยภาพท่ีจะรับมือกับสถานการณ์ ได้ ให้รายงานกองอำนวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั กลางทราบทนั ที ทั้งน้ี ระยะเวลาในการแจ้งเตือนล่วงหน้าขึ้นอยู่กับสถานการณ์และประเภทของสาธารณภัย เช่น ดนิ โคลนถล่ม/น้ำป่าไหลหลากอาจมีระยะเวลาในการแจ้งเตือน 1 - 2 วัน ในขณะท่ีธรณีพิบัติภัยสึนามิจะมีระยะเวลา 1-2 ชวั่ โมงในการแจ้งให้อพยพ โดยจงั หวัดกำแพงเพชร กำหนดวธิ ีการแจ้งเตือนภยั ดังนี้ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 69
(1) แจ้งเตือนผ่านหน่วยงาน โดยใช้กลไกระบบการบริหารราชการแจ้งเตือนผ่านองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมถึง การปกครองท้องท่ี ได้แก่ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน หน่วย ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยผ่านหน่วยงานระดับต่างๆ ไปสู่ระดับพ้ืนท่ี ให้กับกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ และ ประชาชนทั่วไป (2) แจ้งเตือนประชาชนโดยตรง โดยผ่านทางสถานโี ทรทัศน์ วิทยชุ ุมชน วทิ ยุสมัครเล่น โทรสาร โทรศัพท์มือถือ หอกระจายข่าว หอเตือนภัย เสียงตามสาย ไซเรนเตือนภัยแบบมือหมุน โทรโข่ง นกหวีด หรือ สัญญาณเสยี งท่กี ำหนดใช้เป็นสญั ญาณเตือนภัยประจำหมู่บ้านหรอื ตำบล หรอื แอพพลิเคช่นั ไลน์ (Line) วธิ ีการแจง้ เตือนภัย แจ้งเตือนผา่ นหนว่ ยงาน แจง้ เตือนประชาชนโดยตรง โดยผ่านทาง - สว่ นราชการภายในอำเภอ - สถานวี ทิ ยกุ ระจายเสียง /สถานโี ทรทัศน์ - องคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ ในเขตพ้นื ที่ - วิทยสุ มัครเล่น โทรศัพทม์ อื ถือ /โทรสาร - กำนัน/ผู้ใหญ่บา้ น - หอกระจายข่าวเสยี งตามสาย - กลมุ่ ผู้ได้รับผลกระทบ (พ้ืนทเี่ สย่ี งภัย) เชน่ - ไซเรนเตือนภัยแบบมือหมุน กลมุ่ ผปู้ ระกอบการ - แอพพลิเคชนั่ ไลน์ (Line) ฯลฯ 4.4.3 แนวทางปฏิบัติพัฒนาและเชื่อมโยงระบบการแจ้งเตือนของคนและชุมชนในพื้นท่ีเสี่ยงภัย เพ่ือทำให้การเตือนภัยมีความแม่นยำ น่าเช่ือถือและมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน โดยมีแนวทาง ดังน้ี (1) นำเทคโนโลยี นวัตกรรม มาใช้ในการพยากรณ์ คาดการณ์ ติดตามสถานการณ์การเกิด สาธารณภัย (2) จัดทำระเบียบปฏิบัติประจำ (Standard Operating Procedure : SOP) และเสริมสร้าง ขีดความสามารถของเจ้าหนา้ ท่ผี ้ปู ฏบิ ัตงิ าน (3) จดั วางระบบสื่อสารหลัก อย่างนอ้ ย 2 ระบบ และระบบสือ่ สารสำรอง ⚫ ระบบสอ่ื สารหลกั ทก่ี ำหนดไว้ คอื 161.200 MHz ⚫ ระบบสื่อสารสำรองที่กำหนดไว้ คือ 166.475 MHz (4) เตรียมความพร้อมและสร้างความตระหนัก รวมถึง ให้ประชาชนมีการรับรู้และเข้าใจความ เส่ยี งจากขอ้ มลู ทีไ่ ด้รับ โดยจดั ให้มีการฝึกอบรม เช่น อาสาสมัครแจ้งเตือนภัยในชุมชนเมือง ตำบลและหมู่บา้ น เพ่ือเสริมสร้างความเขา้ ใจเกีย่ วกบั ระบบเตือนภัยที่มีความแตกตา่ งกนั ของภัยแตล่ ะประเภท เป็นต้น (5) จัดให้มีการฝึกกระบวนการระบบเตือนภัยเพ่ือเป็นการทดสอบแผนปฏิบัติการแผนเผชิญ เหตุ ขั้นตอน เคร่ืองมือ อุปกรณ์ และความพร้อมของประชาชนท้ังในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน อย่างนอ้ ยปีละ 1 ครัง้ 4.4.4 แนวทางปฏิบัติเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ให้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ เช่น แผนท่ีเสี่ยงภัย แอพพลิเคช่ัน จัดทำ Web Service ในการนำเสนอข้อมูลและ Mobile Application เพื่อเป็นช่องทางในการให้บริการข้อมูล และแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชน และกลุ่มเปราะบางผ่านสมาร์ทโฟน (Smart Phone) หรือแทบ็ เลต็ (Tablet) หรอื ระบบอนื่ ทสี่ ามารถเข้าถงึ ได้โดยงา่ ย แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 70
4.5 การเตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงช่ัวคราว ศูนย์พักพิงชั่วคราวเป็นการแก้ปัญหาท่ีอยู่อาศัยชั่วคราวในสถานการณ์ ท่ีเกิดสาธารณภัยข้ึน ซึ่งรัฐต้องมีการเตรียมแผนรับมือต่อจากการอพยพในภาวะฉุกเฉิน โดยกำหนดอาคารที่จะใช้เป็นศูนย์พักพิง ช่ัวคราวไว้และการบริหารจัดการในศูนย์พักพิงช่ัวคราว เพราะจะมีผลโดยตรงต่อการดำรงชีวิตและศักดิ์ศรี กับผู้ประสบภัยท่ีเข้าพักพิง ทั้งน้ี การเตรียมการจัดต้ังศูนย์พักพิงช่ัวคราวท่ีเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ควรประกอบด้วยอย่างน้อย ดงั นี้ 4.5.1 จัดหาสถานที่ต้ังศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละ ระดับต้องดำเนินการคัดเลือกสถานที่ตั้งจากการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดซ้ำ มีการคมนาคมที่สะดวก มีความพร้อมของสาธารณูปโภค เช่น ประปา ไฟฟา้ รวมทง้ั ต้องกำหนดนโยบายในการเปดิ และปิดศูนย์พักพิงชวั่ คราวใหช้ ัดเจน ตามภาคผนวก ฎ 4.5.2 กำหนดให้มีปัจจัยความจำเปน็ ขัน้ ตาํ่ ของศูนยพ์ กั พิงช่ัวคราวทีเ่ หมาะสมตามมาตรฐานสเฟยี ร์ 4.5.3 จัดการภายในศูนย์พักพิงช่ัวคราว ให้กําหนดผู้รับผิดชอบภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว ตามโครงสร้างแผนการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้แก่ ผู้จัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ซ่ึงอาจเป็นได้ ทั้งหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ผู้นำชุมชน หรือผู้อำนวยการโรงเรียน (กรณีโรงเรียน เป็นศูนย์ฯ) ทั้งนี้ ศูนย์พักพิงช่ัวคราวอาจมีโครงสร้างภายในแบ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายอำนวยการตาม ความเหมาะสม 4.5.4 ให้มีการบริหารจัดการข้อมูลผู้อพยพ โดยมีการเก็บบันทึกข้อมูลที่จำเป็น ประกอบด้วย ข้อมูล ประชากร ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลด้านธุรการ โดยให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ จงั หวัดเป็นหนว่ ยงานหลกั ในการจดั ทำแผนบรหิ ารจดั การศนู ยพ์ กั พงิ ชัว่ คราว 4.6 การฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นเคร่ืองมือและกิจกรรมในการสร้างความพร้อมและเพิ่ม ศักยภาพของหน่วยงานและบุคลากรรวมทั้งเป็นการทดสอบการประสานงานและการบูรณาการความร่วมมือทำให้ ทราบจุดบกพร่องและช่องว่างในการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแผนการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ แผนปฏิบตั กิ าร และแผนเผชญิ เหตุให้มีความสมบูรณ์มากยง่ิ ข้ึน จังหวัดกำแพงเพชร กำหนดให้มีการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพ่ือเป็นการบูรณาการ หน่วยงานท่ีรับผิดชอบให้พร้อมรับสถาน การณ์ ภัยพิบัติที่อาจเกิดข้ึน โดย กำหนดให้มีการฝึกฯ ท้ังระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถ่ิน ระดับละอย่างน้อย 1 ประเภทภัย เช่น การฝึกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จังหวัด กรณีอุทกภัย ในรูปแบบการฝึกซ้อมบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) , การฝึกการปฐมพยาบาล ณ จุดเกิดเหตุ ในรูปการฝึกซ้อมแผนเฉพาะหน้าท่ี (Functional Exercise: FEX) หรือการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ (The Full-Scale Exercise) ภายใต้การจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินให้เสมือนจริงมากที่สุด โดยพิจารณา ประเภทของภัยท่ีเปน็ นโยบายเน้นหนกั ของรฐั บาล หรอื ภัยท่ีมีความเสี่ยงสูง ตามความจำเปน็ ของสภาพพ้ืนท่ี 4.7 โครงสร้างองค์กร การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยภายใต้แนวคิด “ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (Emergency Operation Center : EOC)” โดยเรียกชื่อว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ มีการกำหนด ลำดับการบังคับบัญชาที่ชัดเจน ระหว่างหน่วยงานตา่ ง ๆ ว่าจะรับหนา้ ที่และภารกิจจากผู้ใด หน่วยงานใดเป็น หน่วยงานหลักในการเผชิญเหตุสาธารณภัยที่เกิดขึ้น หน่วยงานใดทำหน้าท่ีสนับสนุน รวมท้ังมีการแบ่งความ รบั ผิดชอบต่อสถานการณ์ด้วยการกำหนดแนวทางปฏิบัติ (วัตถุประสงค์) กลยุทธ์/ยุทธวธิ ีที่ชัดเจน ซ่ึงจะทำให้ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในการเผชิญเหตุสาธารณภัย ท่ีเกิดข้ึนสามารถปฏิบัติงานได้เป็นไป ในทศิ ทางเดียวกันอยา่ งรวดเร็ว ราบรืน่ และมีประสิทธภิ าพ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 71
กลไกการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภั ยระดับปฏิ บั ติเป็ นศูนย์กลางในการอำนวยการและ การประสานการปฏิบัติของหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับ มีหน้าที่ในการจัดการความเสี่ยงจาก สาธารณภัยด้วยการบังคับบัญชา อำนวยการ ควบคุม กำกับ และประสานการปฏิบัติ ระหว่างภาคส่วนตั้งแต่ ภาวะปกติจนถึงเมื่อคาดว่าจะเกิดหรือเกิดสาธารณภัย โดยจะต้องมีการกำหนดโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และ มอบหมายเจา้ หน้าท่ีปฏิบัติงานในภารกิจหน้าท่ีต่าง ๆ และตอ้ งมีการจัดทำแนวปฏิบัติหรือคู่มือการปฏิบัติงาน ตามข้ันตอนในแต่ละระดับการปฏิบัติการ (Level of Activation) รวมท้ัง ต้องจัดให้มีสถานท่ี และส่ิงอำนวย ความสะดวก (Facilities) สำหรับการปฏิบัติงานโดยเม่ือเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยขึ้นกลไกดังกล่าว จะปรับเข้าสู่กระบวนการปฏบิ ัติในภาวะฉุกเฉนิ โดยการจัดตง้ั “ศนู ย์บัญชาการเหตกุ ารณ”์ ขนึ้ ในระบบการจัดการสาธารณภัยจำเป็นต้องมีโครงสร้างองค์กรปฏิบัติที่มีความยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถ ตอบโต้กับเหตุการณ์ท่ีอาจเกิดข้ึนได้ทกุ ประเภทและทกุ ขนาด เน่ืองจากต้องอาศยั การประสาน การดำเนินงาน ระหว่างหน่วยงาน ขอบเขตอำนาจหน้าท่ี พ้ืนท่ีรบั ผิดชอบ รวมถึงสาขาวชิ าชีพท่ีหลากหลาย ดังน้ัน โครงสร้าง ขององค์กรปฏบิ ัติจงึ ต้องมคี วามยืดหยุ่นสอดคลอ้ งกับแต่ละสถานการณ์ทีเ่ กิดขน้ึ โดยอาจปรบั เปลยี่ นท้ังจำนวน บุคลากร บทบาทหนา้ ที่ และกิจกรรม เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยข้ึน ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กำแพงเพชร จัดตง้ั ศนู ยบ์ ัญชาการเหตกุ ารณ์จังหวัดกำแพงเพชร เพ่ือเป็นศูนยก์ ลาง ในการระดมสรรพกำลัง และทรัพยากรในการจัดการสาธารณภัยจากส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนให้แก่ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับพ้ืนท่ี รวมทั้งอำนวยการและประสานการเผชิญเหตุ ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ท้ังฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร ตลอดจน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน และองค์การ สาธารณกศุ ลในพนื้ ท่ีท่ีรับผิดชอบได้อยา่ งมีเอกภาพและประสิทธภิ าพ 4.8 การประสานองค์กรสาธารณกุศล การปฏิบัติเมื่อเกิดสาธารณภัยเป็นการขจัดหรือลดความรุนแรงของภัย รวมท้ังการรักษาขวัญกำลังใจ ของประชาชนและความเป็นระเบียบในการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีและอาสาสมัครให้คงไว้ ซ่ึงเป็นงาน ที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินการเพ่ือให้สภาวะภัย หมดสน้ิ โดยเร็ว โดยมแี นวทางในการปฏิบตั ิ ดงั นี้ (1) ให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลในพ้ืนท่ีร่วมกับองค์กรสาธารณกุศลจัดทำแนวทางปฏิบัติ ในการสนับสนุนกำลังทรัพยากร เจ้าหน้าท่ี อุปกรณ์ และเครื่องมือ เพ่ือการปฏิบัติงานขององค์กรปฏิบัติ ในการจัดการสาธารณภัยแต่ละระดับ (2) ให้หน่วยงานทุกหน่วยจัดเจ้าหน้าที่ ประสานงานกับองค์กรปฏิบัติในการจัดการภาวะฉุกเฉิน แต่ละระดับ (กรณีเกิดสาธารณภัย) เพื่อร่วมปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการช่วยเหลือ สงเคราะห์ผู้ประสบภัยให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ โดยให้จัดทำแนวทางการประสานงานและการปฏิบัติงาน ร่วมกันโดยกำหนดผู้ประสานงานหลัก (Focal Point) เพื่อปฏิบัติงานภายใต้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ แต่ละระดบั ตลอด 24 ชั่วโมง (3) กรณีท่ีได้รับการประสานจากหน่วยงานท่รี ับผิดชอบ เช่น สำนักงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัด ตำรวจ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ให้องค์กรสาธารณกุศลจัดชุดเคลื่อนท่ีเร็วออกไปยัง ทเี่ กดิ เหตุ และให้รายงานตวั กบั ผ้บู ญั ชาการเหตุการณ์เพอ่ื รับมอบภารกิจในการปฏบิ ัติการ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 72
(4) เม่ือเกิดสาธารณภัยถ้าเจ้าหน้าท่ีขององค์กรสาธารณกุศลไปถึงพ้ืนที่ประสบภัยก่อน ให้ก้ันเขตพ้ืนท่ี อนั ตรายและกันไม่ให้ผทู้ ่ีไม่เกี่ยวข้องเขา้ ไปยงั พ้ืนท่ีอันตราย พร้อมท้ังแจ้งหน่วยงานหรือเจ้าหน้าท่ีผรู้ ับผิดชอบ โดยทันที เพื่อดำเนินการควบคุมสถานการณ์ ท้ังน้ีให้รายงานสถานการณ์สาธารณภัยไปยัง ศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์จังหวัด และแจ้งให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องสนับสนุนการจัดการสาธารณภัย และประชาสัมพันธ์ข่าว สถานการณใ์ ห้ประชาชนไดร้ บั ทราบ การปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยของจังหวัดต้องอา ศัยความร่วมมือจากทุกภ าคส่วน ทั้งภาคราชการพลเรือน ทหาร ภาคเอกชน มูลนิธิ/อาสาสมัคร และองค์กรสาธารณกุศล มาร่วมบูรณาการ ให้การปฏิบัติการบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ ซ่ึงจะต้องมีการประสานการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ และ เกื้อกูลกัน โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยประสานแผนงาน/โครงการและบูรณาการ ปฏบิ ตั กิ ารป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ของทกุ ภาคส่วน เพื่อนำไปสกู่ ารปฏิบตั อิ ยา่ งเป็นรปู ธรรม 4.9 การส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนและทุกระดับเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนในการลดความ เส่ียงจากสาธารณภัย เป็นการมุ่งเน้นบทบาทการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในฐานะหุ้นส่วนในการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ด้วยการกำหนดบทบาทของแต่ละภาคส่วนให้มีความชัดเจน เพ่ือสร้างการรับรู้บทบาท ภารกิจ และความรู้สึกในความเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยร่วมกัน โดยเปิดโอกาสให้ “ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา” ตามวงจรการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย ซึ่งเป็น แนวทางในการนำเร่อื งการลดความเสย่ี งจากสาธารณภัยเข้าสู่กระแสหลักในการพัฒนาอย่างย่ังยืนของประเทศ (Mainstreaming Disaster Risk Reduction into Development) และเสริมสร้างความเข้มแข็งหรื อ ภมู ิคมุ้ กนั ให้แก่ชมุ ชน สังคม และประเทศต่อไป ทั้งน้ี จังหวัดกำแพงเพชร ได้กำหนดนโยบายการสร้างความเป็นหุ้นส่วนในการจัดการความเสี่ยงจาก สาธารณภัยเป็นนโยบายสำคัญของจังหวัด โดยขับเคลื่อนการบูรณาการการลดความเส่ียงจากสาธารณภัย ใหน้ ำไปสู่การปฏิบตั ิอย่างเปน็ รูปธรรม รวมท้ังให้ความสำคญั ในการวางแผน และจัดสรรงบประมาณเพอื่ สนบั สนนุ การดำเนินงาน ดงั น้ี (1) แนวทางปฏบิ ัตใิ นการกำหนดใหเ้ ปน็ นโยบายของจังหวัดกำแพงเพชร (1.1) ส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในฐานะหุ้นส่วนในการลดความเส่ียงจาก สาธารณภยั ได้แก่ การร่วมจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั แผนการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยอำเภอ และแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และระบุการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยไว้ในแผนพัฒนาและ แผนยุทธศาสตร์ของหน่วยงานระดับจังหวัด สนบั สนุนความเป็นหนุ้ ส่วนรฐั ร่วมกบั เอกชน กระบวนการวางแผน และขน้ั ตอนการจัดสรรงบประมาณ (1.2) สนับสนุนและจัดสรรงบประมาณสำหรับการลดความเส่ียงจากสาธารณภัยการเผชิญเหตุ และการฟ้นื ฟู ไดแ้ ก่ งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณในลักษณะบรู ณาการเชงิ ยทุ ธศาสตร์ เป็นตน้ (1.3) ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการความร่วมมือภาครัฐและเอกชนโดยการให้เอกชน เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการจัดสร้าง ปรับปรุง และพัฒนาการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและ สาธารณูปการขั้นพ้ืนฐานรวมถึงการให้บริการที่เก่ียวข้องอื่นๆ ให้แก่ประชาชนภายใต้กรอบความเสี่ยงและ ระยะเวลาทีก่ ำหนด (1.4) จัดทำบันทึกข้อตกลงระหว่างภาคประชาสังคม/ภาคเอกชน กับภาครัฐในการนำนโยบาย การลดความเสย่ี งจากสาธารณภัยไปสกู่ ารปฏบิ ัติ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 73
(1.5) พัฒนาและส่งเสริมการสร้างความตระหนักให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ท้ังภาคประชา สังคม ภาคเอกชน ตลอดจนชุมชนในสังคม ให้เป็นผู้รู้เท่าทันภัยโดยสามารถตัดสินใจและมีบทบาทในการ บรหิ ารจัดการในฐานะหุ้นส่วนผู้ดำเนินภารกจิ การลดความเส่ียงจากสาธารณภัย (To Empower) (1.6) พัฒนาและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนตั้งแต่ระดับจังหวัดถึงชุมชนดำเนินแผนงาน โครงการ/ กิจกรรม/เวทีสาธารณะ ท่ีเกีย่ วกับการลดความเส่ียงจากสาธารณภยั เช่น การประเมินความเส่ียง การจัดลำดับ ความเสีย่ งทตี่ อ้ งมีมาตรการเสรมิ สรา้ งความร่วมมือ/การมีส่วนร่วม แผนสนับสนนุ งบประมาณ เป็นต้น (1.7) ส่งเสริมการบริหารความพร้อมตอ่ สภาวะวิกฤตและการจดั ทำแผนรองรับการบริหารความ ต่อเน่ืองให้แก่ทุกภาคส่วนโดยให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนบริหารความต่อเน่ือง (Business Continuity Plan : BCP) ของหน่วยงาน (1.8) จัดต้ังกองทุนการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยและกองทุนพิเศษ เพื่อการจัดการ ความเสย่ี งจากสาธารณภัย โดยใหส้ ำนักงานคลังจังหวัด เป็นหนว่ ยหลกั ในการจัดตัง้ กองทนุ การบริหารกองทุน การจัดหารายได้ การเบิกจา่ ย และการใช้จา่ ยเงินกองทนุ (1.9) ส่งเสริมสถาบันประกันภัย สถาบันการเงิน เพ่ือให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เข้าถึง ระบบประกันความเสี่ยง การทำประกันภัย การให้สินเชื่อฉุกเฉิน หรือการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ ชมุ ชน/ครอบครวั เพ่ือการถ่ายโอนความเส่ียงจากสาธารณภยั (2) แนวทางปฏบิ ัติในการรว่ มเป็นหุ้นสว่ นการลดความเสยี่ งจากสาธารณภยั (2.1) ภาคประชาสงั คม เส ริ ม ส ร้ า ง ให้ ภ า ค ป ร ะ ช า สั ง ค ม มี ส่ ว น ร่ ว ม ด้ า น ก า ร ล ด ค ว า ม เส่ี ย ง จ า ก ส า ธ า ร ณ ภั ย การเผชิญเหตุ และการฟื้นฟู เช่น การให้ความรู้เฉพาะทาง ให้คำแนะนำในทางปฏิบัติท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดทำ และดำเนินงานตามกรอบกฎเกณฑ์ มาตรฐาน และแผนงานที่เก่ียวกับการลดความเส่ียงจากสาธารณภัย โดยสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน ชุมชนมีความพร้อมรับมือและการฟ้ืนกลับเร็ว รวมทั้งให้มีการรับฟัง ความคิดเหน็ ของประชาชน (2.2) สถาบนั ทางการศึกษา นกั วชิ าการ ผู้เชยี่ วชาญ องคก์ รวจิ ัย ศึกษา พัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการจัดการความเสี่ยงจาก สาธารณภัย รวมทั้งเผยแพรค่ วามรูใ้ นเร่ืองดังกล่าวเพือ่ ประโยชน์ในการประยุกต์ใช้ใหเ้ หมาะสมกับบรบิ ทของประเทศ และพ้นื ท่ี ตลอดจนส่งเสรมิ ความรว่ มมอื ทางวชิ าการ พรอ้ มทัง้ รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ให้คำปรึกษา (2.3) ภาคเอกชน เช่น องค์กรธรุ กจิ สถาบนั การเงิน มุ่งเน้ น แล ะส่ งเส ริ ม ให้ ด ำเนิ น งาน ท างธุร กิจ ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ ต่ อ สั งค ม แ ล ะ ส่ิ งแ ว ด ล้ อ ม ที่ ปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรมและครบวงจร (Corporate Social Responsibility : CSR) และมีการบริหารความต่อเน่ือง ทางธุรกิจ รวมถงึ สง่ เสริมให้นำแนวทางการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยมาผนวกเข้ากับรปู แบบและวิธีดำเนินธรุ กิจ ด้วยการใช้ข้อมูล ความรู้ประกอบการลงทุนสร้างความตระหนักรู้ให้กับพนักงาน ลูกค้า ตลอดจนสนับสนุนให้ เกิดงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีสำหรับการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัย โดยแบ่งปันและเผยแพร่ ข้อมูล ความรู้ และแนวทางปฏิบัตทิ ่ีเปิดเผยได้ รวมทั้งสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ เครอ่ื งมอื เคร่ืองจักร อปุ กรณ์เพื่อ การจดั การความเส่ียงจากสาธารณภยั (2.4) สื่อ ส่งเสริมบทบาทและสนับสนุนการมีส่วน ร่วมกันกับ ภาครัฐในก ารสร้างความรู้ความ เข้าใจ ความตระหนัก และรู้เท่าทันภัยให้แก่ประชาชน โดยส่ือสารข้อความท่ีเป็นประเด็นสำคัญในการใช้เผยแพร่ ข่าวสาร (Key Message) การส่ือสารความเสี่ยงสาธารณภัย (Risk Communication) สู่สาธารณะ และ เผยแพร่ข้อมูลท่ีถูกต้อง เชื่อถือได้ มีความหลากหลาย เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยปฏิบัติตามนโยบาย การสื่อสารความเสี่ยงจากสาธารณภัย สนับสนุนระบบเตือนภัยล่วงหน้า กระตุ้นและสร้างวัฒนธรรม ความปลอดภัย (Safety Culture) และการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างจริงจังในการรณรงค์เผยแพร่ความรู้ ให้แกป่ ระชาชนทุกกลมุ่ และนำเสนอในช่วงเวลาท่เี หมาะสมตามแนวทางปฏบิ ตั ทิ ่ีกำหนดรว่ มกัน แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 74
บทที่ 5 การจัดการในภาวะฉุกเฉนิ แบบบูรณาการ การจัดการในภาวะฉุกเฉิน เป็นการปฏิบัติการเผชิญเหตุเพ่ือบรรเทาความรุนแรงของสาธารณภัย รวมท้ังการรักษาขวัญ สร้างความมั่นใจ และปฏิบัติหน้าท่ีอย่างเป็นระเบียบของเจ้าหน้าท่ีและประชาชน โดย ให้ยึดถือว่าการรักษาชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนลำดับแรก ท่ีจะต้องเร่งเข้าระงับเหตุ และให้ความช่วยเหลือ ท้ังน้ี การจัดการในภาวะฉุกเฉินต้องให้ความสำคัญ กับมาตรฐาน เอกภาพ ด้วยการ ใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยการจัดโครงสร้างองค์กรปฏิบัติระบบการจัดการ ทรัพยากร และแบ่งมอบภารกิจความรับผิดชอบตามความเหมาะสม ทรัพย์สิน ทรัพยากร สภาพแวดล้อม และสังคมใหม้ ีผลกระทบน้อยที่สดุ ดังน้นั ในภาวะปกติจึงตอ้ งมีการเตรียมความพร้อมไว้เพื่อให้ สามารถเผชิญ กบั เหตสุ าธารณภยั ท่เี กิดขน้ึ ได้ 5.1 การเผชิญเหตุ 5.1.1 การแจง้ เตอื นภัยของหน่วยงานภาครฐั ในการจัดการสาธารณภัย จังหวัดกำแพงเพชร ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการแจ้งเตือนภัยของหน่วยงานภาครัฐในการ จดั การสาธารณภัย โดยใช้แนวทางตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ซ่ึงกำหนดระดับของ สถานการณ์สาธารณภัย สำหรับใช้เป็นกรอบแนวคิดในการแจ้งเตือนภัย และเพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงาน ที่เก่ียวข้องนำไปปรับใช้ตามภารกิจ/หนา้ ที่ของหนว่ ยงานในการจัดการสาธารณภัย โดยกำหนดความหมายของ สีตามสถานการณข์ องสาธารณภัยไว้ 5 ระดับ ดังนี้ สีแดง หมายถงึ สถานการณ์อยู่ในภาวะอันตรายสูงสุด ให้อาศัยอยู่แต่ในสถานที่ปลอดภัย หรอื ต้องอพยพไปยังสถานท่ปี ลอดภยั และปฏบิ ัตติ ามข้อสงั่ การ สสี ม้ หมายถงึ สถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง เจ้าหน้าที่กำลังควบคุม สถานการณ์ ใหอ้ พยพไปยังสถานที่ปลอดภัย และปฏบิ ัติตามแนวทางท่ี กำหนด สเี หลอื ง หมายถงึ สถานการณ์อยู่ในภาวะเส่ียงอันตราย มีแนวโน้มท่ีสถานการณ์จะ รุนแรงมากขึ้น ใหจ้ ัดเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และปฏิบัติตาม คำแนะนำ สีน้ำเงนิ หมายถงึ สถานการณอ์ ยใู่ นภาวะเฝ้าระวัง ให้ตดิ ตามข้อมลู ข่าวสารอย่างใกลช้ ิด สเี ขียว หมายถงึ สถานการณอ์ ยูใ่ นภาวะปกติ ใหต้ ดิ ตามขอ้ มูลข่าวสารเปน็ ประจำ 5.1.2 การจัดการเม่ือเกิดสาธารณภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 (1) ในเขตจังหวดั อำเภอ และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ให้ดำเนินการดังนี้ (1.1) เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยขึ้นในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งพ้ืนท่ีใด ให้เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพ้ืนที่นั้นเข้าดำเนินการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยเร็ว และให้แจ้งผู้อำนวยการอำเภอท่ีรับผิดชอบในเขตพ้ืนท่ี และผอู้ ำนวยการจังหวัดทราบทนั ที แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 75
(1.2) กรณีท่ีพ้ืนที่ท่ีเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยอยู่ในความรับผิดชอ บของ ผู้อำนวยการทอ้ งถ่นิ หลายคน ผอู้ ำนวยการทอ้ งถิน่ คนหน่ึงคนใดจะใช้อำนาจหรอื ปฏบิ ัตหิ น้าที่ไปพลางก่อนก็ได้ แล้วใหแ้ จง้ ผอู้ ำนวยการท้องถ่นิ อ่ืนทราบโดยเร็ว (1.3) กรณีผู้อำนวยการท้องถิ่นมีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐท่ีอยู่นอกเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแห่งพ้ืนท่ีของตนให้แจ้งให้ ผู้อำนวยการอำเภอ หรอื ผู้อำนวยการจงั หวดั แล้วแตก่ รณีเพื่อสั่งการโดยเรว็ ตอ่ ไป (1.4) ผู้อำนวยการในเขตพ้ืนที่ที่ติดต่อหรือใกล้เคียงมีหน้าท่ีสนับสนุนการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแก่ผู้อำนวยการซึ่งรับผิดชอบในการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ที่เกิดข้ึนในพื้นทีต่ ิดต่อ หรือใกล้เคียงน้ัน (1.5) เมื่อเกิดสาธารณภัยข้ึน เจ้าพนักงานที่ประสบเหตุมีหน้าที่ต้องเข้าดำเนินการ เบื้องต้นเพ่ือระงบั ภัยน้ัน แล้วรีบรายงานให้ผู้อำนวยการท้องถ่ินเพ่ือส่ังการต่อไป และในกรณีจำเป็นอันไม่อาจ หลีกเล่ียงได้ ให้เจ้าพนักงานมีอำนาจดำเนินการใดเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองชีวิตหรือป้องกันอันตราย ที่จะเกดิ แก่บคุ คลได้ (1.6) กรณีเจ้าพนักงานจำเป็นต้องเข้าไปในอาคาร หรือสถานท่ีท่ีอยู่ใกล้เคียงกับ บริเวณ ที่เกดิ สาธารณภัยเพ่ือทำการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ให้กระทำไดต้ ่อเมื่อไดร้ ับอนุญาตจาก เจ้าของหรือ ผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่แล้ว เว้นแต่ไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองอยู่ในเวลาน้ัน ห รือ เม่ือมีผู้อำนวยการอยู่ด้วย และหากทรัพย์สินนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสาธารณภัยได้ง่าย ให้เจ้าพนักงานมีอำนาจ ส่ังให้ เจ้าของหรือผู้ครอบครองขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารหรือสถานท่ีดังกล่าวได้ หากเจ้าของหรือ ผู้ครอบครอง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้เจ้าพนักงานมีอำนาจขนย้ายทรัพย์สินน้ันได้ตามความจำเป็นแก่การ ปอ้ งกันและบรรเทา สาธารณภัย โดยเจ้าพนักงานไม่ต้องรับผิดชอบบรรดาความเสยี หายอันเกดิ จากการกระทำ ดังกลา่ ว (1.7) ให้ผู้อำนวยการในเขตพ้ืนท่ีท่ีรับผิดชอบสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นและทำบัญชี รายช่ือผู้ประสบภัยและทรัพย์สินท่ีเสียหายไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภัย ไว้เป็น หลักฐานในการรับการสงเคราะหแ์ ละฟน้ื ฟู (1.8) ในกรณีที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรงอย่างย่ิง (ระดับ 4) นายกรัฐมนตรีหรือ รองนายกรัฐมนตรซี ่ึงนายกรฐั มนตรีมอบหมายมอี ำนาจสงั่ การผู้บญั ชาการ ผู้อำนวยการ หนว่ ยงานของรัฐ และ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้ดำเนินการอย่างหน่ึงอย่างใดเพ่ือการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดท้ัง ให้ความช่วยเหลอื แก่ประชาชน โดยมีอำนาจเช่นเดียวกับผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และ ผ้อู ำนวยการแตล่ ะระดับ 5.1.3 การจัดตงั้ องคก์ รปฏบิ ัติการจัดการในภาวะฉกุ เฉิน องคก์ รปฏิบัตกิ ารจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ทำหน้าที่เป็นกลไกท่ีเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติการจัดการในภ าวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Centre : EOC) เพื่อให้การวิเคราะห์ ประเมิน ประสานงาน และปฏิบัติภารกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการเหตุการณ์หน่ึง ๆ ในภาวะฉุกเฉินมีความเป็นเอกภาพ โดยมีองค์ประกอบ และโครงสร้างภายใน องค์กรที่จำเป็น เหมาะสม และสอดคล้องกับภารกิจในการจัดการภาวะฉุกเฉินในแต่ละห้วงของเหตุการณ์ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความคลอ่ งตวั มคี วามยดื หยุน่ และมีประสทิ ธิภาพ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 76
แผนภาพ การจดั ต้งั องค์กรปฏิบัตกิ ารจดั การในภาวะฉกุ เฉิน (EOC) 5.1.4 การบญั ชาการเหตุการณ์ (Incident Command) การบัญชาการเหตุการณ์เป็นเครื่องมือท่ีใช้ในการส่ังการ ควบคุม และประสาน ความร่วมมือ ของแต่ละหน่วยงานในการจัดการในภาวะฉุกเฉิน และเป็นระบบปฏิบัติการในการระดมทรัพ ยากรไปยัง ที่เกิดเหตุ เพื่อให้สามารถปกป้องชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุ วัตถุประสงค์ โดยให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชนใช้ระบบบัญชาการเหตุการณ์เป็นระบบ มาตรฐานในการจัดการในภาวะฉุกเฉิน จังหวัดกำแพงเพชร ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการบัญชาการณ์ เหตุการณ์ ไว้ ดังน้ี (1) วตั ถปุ ระสงคก์ ารบญั ชาการเหตุการณ์ (1.1) ความปลอดภยั ทง้ั ผปู้ ระสบภยั และเจ้าหนา้ ท่ผี ปู้ ฏิบัตงิ าน (1.2) ใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั ิงานอย่างคุ้มคา่ และมีประสิทธิภาพ (1.3) การจัดการสาธารณภยั มปี ระสทิ ธิผล (2) โครงสรา้ งการบัญชาการเหตกุ ารณ์ จังหวัดกำแพงเพชร กำหนดโครงสร้างองค์กรปฏิบัติรับผิดชอบในการจัดการสาธารณภัย ในภาวะฉุกเฉินในรูปแบบโครงสร้างของ “ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดกำแพงเพชร” (การจัดการสาธารณ ภัย ระดับ 2 ) (โครงสร้างศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดตามแผนภาพ) โดยมีผู้อำนวยการจังหวัดเป็น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีอำนาจในการควบคุม ส่ังการ และบัญชาการ ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในพื้นที่ หากเม่ือสาธารณภัยในพ้ืนท่ีจังหวัดกำแพงเพชรลุกลามขยายเป็นวงกว้างประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวนมากและ ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ หรือนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยกระดับ การจัดการสาธารณภัย ของจังหวัดกำแพงเพชรเป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) หรือ การจัดการสาธารณภัยรา้ ยแรง อย่างยิ่ง (ระดับ 4) ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดกำแพงเพชร (ศบก.จ.กพ) จะแปรสภาพ เป็น “ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัดกำแพงเพชร”และรับข้อสั่งการจาก แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 77
กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติไปปฏิบัติโดยกำหนดรูปแบบองค์กรปฏิบัติต้ังแต่ระดับ จงั หวัดถึงระดบั พนื้ ที่ ดงั นี้ ระดบั การจดั การ องคก์ รรบั ผิดชอบการจดั การ องคก์ รรับผิดชอบใน ผ้บู ญั ชาการ สาธารณภัย สาธารณภยั ในภาวะปกติ ภาวะฉกุ เฉนิ (ผูม้ ีอำนาจตามกฎหมาย) (ในชว่ งไม่เกดิ สาธารณภัย) (ในช่วงเกิดหรือคาดว่า จะเกดิ สาธารณภยั ) ระดับ 1 กองอำนวยการปอ้ งกันและ บรรเทา ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ท้องถ่ิน ผอู้ ำนวยการท้องถนิ่ (อ ำ เภ อ /เท ศ บ า ล / สาธารณภัยเทศบาลเมือง /เทศบาล (กอปภ.ทม./ทต.) องค์การบริหารส่วน ตำบล ตำบล /องค์การบริหาร ส่วนตำบล เข้าควบคุมสถานการณ์สา (กอปภ.ทม./ทต./อบต.) ธารณภยั ) กองอำนวยการปอ้ งกันและ บรรเทา ศูนย์บัญ ชาการเหตุการณ์ ผูอ้ ำนวยการอำเภอ สาธารณภัยอำเภอ (กอปภ.อ.) อำเภอ(กอปภ.อ.จัดตั้ง ศูนย์ฯ อำเภอ) ระดับ 2 กองอำนวยการปอ้ งกันและ บรรเทา ศูนย์บัญ ชาการเหตุการณ์ ผู้อำนวยการจังหวดั (จั ง ห วั ด เข้ า ค ว บ คุ ม สาธารณภัยจังหวดั จังหวัด (กอปภ.จ.จัดต้ังศูนย์ฯ สถานการณส์ าธารณภัย) จงั หวดั ) (2.1) ศนู ยป์ ฏิบตั กิ ารฉกุ เฉนิ ท้องถิน่ (ศปก.อปท.) ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งพื้นท่ี (องค์การบริหาร ส่วนตำบล/ เทศบาล/เมอื งพัทยา) จัดตั้งศูนย์ปฏิบัตกิ ารฉุกเฉินทอ้ งถนิ่ เม่ือเกิดหรอื คาดวา่ จะเกิดสาธารณภัย ในพ้ืนที่ โดยมีผู้อำนวยการท้องถ่ินเป็นผู้ควบคุมและส่ังการเพื่อทำหน้าที่จัดการสาธารณภัยที่เกิดข้ึนจนกว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งประสานกับส่วนราชการและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในพ้ืนท่ี ที่รับผิดชอบ และประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดการสาธารณภัย ทุกข้ันตอน หากในกรณี ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์สาธารณภัยตามขีดความสามารถโดยลำพัง ให้ขอรับการสนับสนุนจาก กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตพื้นที่ติดต่อ หรือใกล้เคียง และหรือกองอำนวยการ ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำเภอ (2.2) ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอ (ศบก.อ.) ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ จัดต้ังศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์อำเภอ เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยขึ้นโดยมีผอู้ ำนวยการอำเภอเป็นผู้ควบคุม และสั่งการ เพื่อทำหน้าท่ีในการจัดการสาธารณภัยที่เกิดข้ึนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ พร้อมท้ัง เป็นศูนย์กลางในการระดมสรรพกำลังและทรัพยากรในการจัดการสาธารณภัยท่ีเกิดขึ้น รวมท้ัง อำนวยการ และประสานการปฏิบัติ ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร ตลอดจนองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินและองค์กรสาธารณกุศลในพื้นท่ีท่ีรับผิดชอบได้อย่างมีเอกภาพ รวดเร็ว และทั่วถึง หากในกรณีไม่สามารถควบคุมสถานการณ์สาธารณภัยตามขีดความสามารถโดยลำพัง ให้ขอรับการสนับสนุน จากกองอำนวยการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัด แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 78
(2.3) ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จงั หวดั (ศบก.จ.) ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดตั้งศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์จังหวัด เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยขึ้น โดยมีผู้อำนวยการจังหวัดเป็นผู้ควบคุม สั่งการ และบัญชาการ เพื่อทำหน้าท่ีรับผิดชอบในการจัดการสาธารณภัยในพ้ืนท่ีจังหวัดจนกว่า สถานการณ์ จะเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมท้ังเป็นศูนย์กลางในการระดมสรรพกำลังและทรัพยากรในการจัดการสาธารณภัย จากส่วนราชการและหน่วยงานท่ีเกย่ี วข้อง เพ่ือสนับสนุนให้แกก่ องอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในระดับพ้ืนที่ รวมทั้งอำนวยการและประสานการเผชิญเหตุระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายพลเรือน และฝ่ายทหาร ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และองค์กรสาธารณกุศลในพื้นท่ีท่ีรับผิดชอบได้อย่าง มีเอกภาพและประสิทธิภาพ ในกรณีเม่ือมีการยกระดับเป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) หรือ การจัดการสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง (ระดับ 4) ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด แปรสภาพเป็น ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัด (ศบก.(ส่วนหน้า) จ.) ของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ ให้มีหน้าท่ีปฏิบัติงานตามการบัญชาการจากกองบัญชาการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ หรือกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) โดยรับผิดชอบ อำนวยการ ควบคุม ปฏิบัติงาน และประสานการปฏิบัติเก่ียวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขต พ้ืนท่ีจังหวัด พร้อมทั้ง เป็นศูนย์กลางในการระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเพ่ือการจัดการสาธารณภัยและ ประสานการปฏิบัติ ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ภายในจังหวัด ทั้งฝ่ายพลเรือน และฝ่ายทหาร ตลอดจน องคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ และองค์กรสาธารณกศุ ลในพืน้ ทท่ี รี่ บั ผิดชอบ แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 79
โครงสรา้ งศูนยบ์ ัญชาการเหตกุ ารณจ์ งั หวัด/ศูนย์บัญชาการเหตุการณส์ ่วนหนา้ จังหวัด ผู้อำนวยการจังหวดั ท่ีปรกึ ษา/ผู้เชีย่ วชาญ ศูนย์ประสานการปฏบิ ตั ิ ศนู ยข์ อ้ มูลประชาสมั พันธ์ ร่วม ส่วนปฏบิ ตั กิ าร ส่วนอำนวยการ แผนกสนบั สนุน ส่วนสนบั สนุน แผนกการเงิน หนว่ ยการเงนิ บญั ชี พื้นที่ กลมุ่ ภารกิจ หน่วยสถานการณ์ หน่วยจดั หา แผนกบริการ หนว่ ยจัดซ้ือ จัดจา้ ง ศนู ย์บญั ชาการเหตุการณอ์ ำเภอ หนว่ ยทรัพยากร สิง่ อปุ กรณ์ หนว่ ยสื่อสาร หนว่ ยพสั ดุ หนว่ ยเอกสาร หน่วยแพทย์ หน่วยสถานท่ี หนว่ ยเสบยี ง หนว่ ยสนบั สนุน ภาคพนื้ แผนภาพ : โครงสรา้ งศนู ยบ์ ัญชาการเหตุการณ์จังหวัด/ศูนย์บญั ชาการเหตุการณส์ ่วนหนา้ จงั หวดั หมายเหตุ : โครงสร้างดังกล่าวสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์โดยยึดหลักมาตรฐาน เอกภาพในการจัดการ และความยืดหยุ่นของโครงสรา้ งองคก์ รการจัดการในภาวะฉุกเฉิน (2.4) กองอำนวยการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั กลาง (กอปภ.ก.) ใน กรณี การจัดการสาธารณ ภั ยขน าดเล็ก (ระดับ 1) และการจัดการ สาธารณภัยขนาด กลาง (ระดับ 2) ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางรับผิดชอบ อำนวยการ ประสานการปฏิบัติ ประเมินสถานการณ์ และสนับสนุนการสั่งการจากกองบัญชาการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ รวมทั้งติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ วิเคราะห์สถานการณ์ รายงาน และเสนอ ความคิดเห็นตอ่ ผู้บญั ชาการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาติหรือนายกรัฐมนตรี เพื่อตัดสนิ ใจยกระดับ เป็นการจัดการสาธารณภยั ขนาดใหญ่ (ระดบั 3) หรือการจัดการสาธารณภัยรา้ ยแรงอย่างยิ่ง (ระดบั 4) (2.5) กองบญั ชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาต(ิ บกปภ.ช.) ให้รับผิดชอบบังคับบัญชา อำนวยการ วินิจฉัยสั่งการ ควบคุม และประสาน ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการจัดการสาธารณภัยในกรณีการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) หรือการจดั การสาธารณภยั รา้ ยแรงอยา่ งยง่ิ (ระดับ 4) (2.6) กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(ส่วนหน้า) บกปภ.ช. (สว่ นหนา้ ) ในกรณีเมื่อมีการยกระดับเป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) หรือ การ จัดการสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยง่ิ (ระดับ 4) ซ่ึงสถานการณ์มีความรุนแรงมากครอบคลุมในพื้นที่ กว้างขวาง หลายอำเภอหรือหลายจังหวัด และอาจใช้เวลาในการเผชิญเหตุที่ยาวนานกว่าปกติ ให้กองบัญชาการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติพิจารณาจัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทา แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 80
สาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) และแต่งตั้งผู้กำกับควบคุมพ้ืนท่ี (Area Commander) เพ่ือช่วยเหลือ ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติในการบังคับบัญชาและส่ังการ ในพ้ืนที่ท่ีได้รับมอบหมาย พร้อมท้ังควบคุม และกำกับ การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ โดยศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัด (ศบก.จ. (ส่วนหน้า)) มีหน้าที่ ปฏิบัติงานตามการบัญชาการจากกองบัญชาการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติหรือกองบัญชาการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(ส่วนหน้า) บทบาทหน้าท่ีโครงสร้างศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จงั หวัด (ศบก.จ.) (1) ผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Commander) มีหน้าท่ี อำนวยการ ส่ังการ กำกับ ควบคุม เหตุการณ์ตามระเบียบกฎหมาย โดยกําหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการบัญชาการเหตุการณ์ การติดตามสถานการณ์ของเหตุการณ์เพื่อจัดลําดับความสําคัญของกิจกรรมหรือมาตรการตามแผนเผชิญเหตุ (Incident Action Plan, IAP) โดยคํานึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงการติดตาม ประเมิน แก้ไข ปัญหาการดําเนินงานในส่วนต่างๆ เช่น บริหารจัดการทรัพยากร ประสานงานระดับนโยบายกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ตัดสินใจยก-ลดระดับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รวมทั้งเสริมสร้างขวัญและกําลังใจในการ ปฏบิ ตั ิงาน ให้แก่ผู้ปฏบิ ัตงิ าน (2) ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ (Technical Specialist) มีหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะคำแนะนำ ข้อมูลทางวิชาการ การสังเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ และเทคนิคการปฏิบัติท่ีเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ สาธารณภัยที่เกิดขึ้น โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนใด ตามทผ่ี ู้บัญชาการจังหวดั เหน็ สมควร ท้ังนี้ จำนวนและคุณลักษณะของคณะทปี่ รึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญใหเ้ ป็นไป ตามที่ เหน็ สมควรสอดคล้องกบั เหตกุ ารณ์ (3) ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วม (Join Information Center : JIC) มีหน้าท่ีประสานข้อมูล เหตุการณ์กบั ส่วนต่างๆ ภายใต้โครงสร้างองคก์ รปฏิบัติ เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลและส่ือสาร ตลอดจน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับเหตุการณ์สู่ประชาชน และส่ือมวลชน รวมท้ังปฏิบัติการด้านข่าวสาร (Information Operation) ที่ครอบคลุมการจัดการข่าวปลอม ข่าวลือ และการปฏิบัติการ จิตวิทยามวลชน ในอนั ท่จี ะสรา้ งความเขา้ ใจ และการรบั รขู้ ้อมูลขา่ วสารทถ่ี ูกตอ้ ง รวดเร็ว ทนั เหตุการณ์ โดยให้ประชาสัมพันธจ์ ังหวัดเป็นหน่วยงานหลัก รับผิดชอบการจัดทำขอบเขต แผนงานภารกิจ และโครงสร้างภายในศูนย์ข้อมลู ประชาสมั พนั ธ์ร่วม และมีหนว่ ยงานสนบั สนุน ได้แก่สถานวี ิทยุกระจายเสยี ง (4) ศูนย์ประสานการปฏิบัติ(Liaison Officer) มีหน้าที่ประสานงานและประสานการ ปฏิบัติกับ หน่วยงานต่าง ๆ ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม โดยให้จัดทำแนวทางการประสานงานและ การปฏิบัติงานสนับสนุนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โดยให้หน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีดังกล่าว ร่วมกันจัดทำ ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ และโครงสรา้ งภายในของศูนยป์ ระสานการปฏบิ ตั ิ (5) ส่วนปฏิบัติการ (Operation Section) มีหน้าท่ีปฏิบัติการเพื่อลดและบรรเทาภยันตราย ทเี่ กิดข้ึน ด้วยการเข้าควบคุมสถานการณ์เพื่อรกั ษาชีวิตและปกป้องทรัพย์สนิ ให้กลับสู่ภาวะปกติ โดยเรว็ เช่น การปฏิบตั ิการดับเพลิง ค้นหาและกภู้ ัย ตอบโต้สารเคมีและวัตถุอันตราย ใหบ้ ริการการแพทย์ และสาธารณสุข อำนวยความสะดวกด้านคมนาคม รักษาความสงบเรียบร้อย รวมถึงประสานการปฏิบัติ ร่วมกับฝ่ายทหาร โดยให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดังกล่าวร่วมกันจัดทำ ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ และโครงสร้าง ภายในของ ส่วนปฏบิ ตั ิการ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 81
(6) ส่วนอำนวยการ (Planning Section) มีหน้าท่ีติดตาม วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ แจ้งเตือนภัย ประสาน รวบรวมข้อมูลสถานะทรัพยากร เพื่อใช้ในการประเมินความต้องการและความจำเป็น ในการสนับสนุนทรัพยากรในภาวะฉุกเฉิน โดยจัดให้มีการประชุมเพื่อร่วมจัดทำแผนเผชิญเหตุโดยใช้ข้อมูล ท่ีได้รับจากส่วนปฏิบัติการและส่วนสนับสนุนเป็นฐานดำเนินการ โดยให้หน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีดังกล่าวร่วมกัน จัดทำ ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ และโครงสร้างภายในของส่วนแผนงาน พร้อมท้ังให้การสนับสนุนสถานที่ ปฏิบัตงิ านแกศ่ นู ยบ์ ญั ชาการเหตุการณ์ (7) ส่วนสนับสนุน (Logistics and Administration Section) มีหน้าท่ีสนับสนุนการส่งกำลัง บำรุงท่ีจำเป็น และตอบสนองการร้องขอรับการสนับสนุนในด้านงบประมาณ การเงิน การคลัง และการรับ บริจาค เพ่ือให้การจัดการในภาวะฉุกเฉินดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล โดยให้หน่วยงานท่ี รับผิดชอบภารกิจในแต่ละด้านร่วมกันจัดทำ ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ และโครงสร้างภายในของส่วน สนับสนุน ผู้มีอำนาจหน้าท่ีในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้ที่เกี่ยวข้องอยา่ งเป็นเอกภาพและ ชัดเจนแต่ละ ระดับ ตงั้ แตร่ ะดับประเทศ ระดับจังหวัด อำเภอ และระดับทอ้ งถิน่ แผนภาพ การกำหนดบุคคลผู้มอี ำนาจในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ตามพระราชบญั ญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. 2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 82
5.1.5 การสนบั สนนุ และการระดมทรัพยากร การเตรยี มความพร้อมด้านทรัพยากรสาธารณภยั (1) จัดให้มสี ่ิงของสำรองจ่ายเพ่ือการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้แก่ อาหาร เส้ือผ้า เคร่ืองนุ่งห่ม เต็นท์ ท่ีพักชั่วคราว ยารกั ษาโรค อุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เครอ่ื งจักรกลสาธารณภยั อุปกรณ์ เครื่องมือพเิ ศษสำหรับแตล่ ะประเภทภยั วสั ดุสิ้นเปลอื ง รวมท้งั ส่ิงอำนวยความสะดวกต่าง ๆ (2) จัดให้มีการระดมทรัพยากรอ่ืน ๆ เช่น คน งบประมาณ ระบบเทคโนโลยี ข้อมูลสาธารณภัย รวมถึงผู้เช่ียวชาญพิเศษ การเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรเพื่อเป็นการสร้างความเป็นหุ้นส่วนร่วมกันของ ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชมุ ชน องคก์ รทไ่ี ม่แสวงหาผลกำไร และมูลนิธิตา่ ง ๆ (3) บูรณาการระดมทรัพยากรจากหลายหน่วยงานให้มีความพร้อมรับมือกับสาธารณภัย ได้แก่ การประเมินความต้องการในการใช้ทรัพยากรในแต่ละประเภทภัย การประมาณทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ การตรวจสอบสถานะความพร้อมใช้ของทรัพยากร การบำรุงรักษา การฝึกทักษะความชำนาญในการใช้งาน อปุ กรณ์และระบบต่าง ๆ การจัดทำฐานข้อมูลบัญชีทรัพยากร การวางระบบการจัดสรรทรัพยากร รวมท้ังระบบ การระดมสรรพกำลงั การวางแผนระบบโลจิสติกส์ และการจัดทำคมู่ ือปฏบิ ัติงาน (4) ให้มีการสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณเพื่อการป้องกันและลดผลกระทบ การเตรียมความ พร้อม การเผชิญเหตุและการจัดการในภาวะฉุกเฉิน รวมถึงการฟน้ื ฟูอย่างย่ังยืน 5.1.6 การอพยพ/ศนู ย์พักพิงชั่วคราว แนวทางการปฏบิ ตั ใิ นการอพยพ เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยขึ้นในพ้ืนที่ใด และการอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่นั้นจะเป็น อันตราย ให้ ผู้มีอำน าจตามมาตรา 28 แห่ งพ ระราช บัญ ญั ติป้ องกันและบ รรเท าสาธารณ ภั ย พ.ศ. 2550 มีอำนาจสัง่ อพยพผู้ซง่ึ อยู่ในพ้นื ที่น้นั ออกไปจากพื้นทอ่ี ย่างเป็นระเบียบ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการอพยพ ก่อนเกิดสาธารณภัย และจัดให้มีกำลังเจ้าหน้าท่ีเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย เพ่ือป้องกันทรัพย์สินของ ประชาชน โดยใหด้ ำเนินการ ดงั นี้ การอพยพเคลื่อนยา้ ย (1) จัดลำดับความสำคัญ ของผู้อพยพ โดยแบ่งกลุ่มผู้อพ ยพที่ต้องได้รับการดูแล เป็นพิเศษ (กลุ่มเปราะบาง) เช่น กลุ่มผู้ป่วยทุพพลภาพ คนพิการ คนชรา เด็ก สตรี ควรได้รับการพิจารณา ให้อพยพไปก่อน เป็นต้น กรณีเด็ก บิดาและมารดาควรอพยพไปด้วยกันท้ังครอบครัว และควรอพยพเป็นกลุ่ม โดยให้ท่ีทำการปกครองอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นท่ี เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักและ หน่วยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ งเป็นหน่วยสนบั สนุน (2) จัดให้มีสถานท่ีปลอดภัยและท่ีพักพิงช่ัวคราวแก่ผู้อพยพและเจ้าหน้าท่ี โดยจัดระเบียบ พ้ืนท่ีพักพิงให้เหมาะสมเป็นสัดส่วนและมีระบบสุขาภิบาล โดยให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนษุ ย์จังหวัด เป็นหน่วยงานรบั ผดิ ชอบหลัก และหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งเปน็ หน่วยสนบั สนนุ (3) การบริหารจัดการศูนย์พักพิงช่ัวคราว และสนับสนุนกิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์ เพื่อการฟื้นฟูด้านสังคมและจิตใจให้แก่ผู้ประสบภัย และผู้ประสบปัญหาทางสังคม โดยให้สำนักงานพัฒนาสังคม และความม่ันคงของมนุษย์จงั หวัด เป็นหน่วยงานรบั ผิดชอบหลัก และหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องเป็นหน่วยสนับสนุน (4) จัดระเบียบการจราจรช่ัวคราวในพื้นท่ีท่ีเกิดสาธารณภัยและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้ง จดั ระเบียบการจราจรในพนื้ ทพ่ี กั พิงชั่วคราวเพอ่ื รองรับการอพยพ เพ่ือเปน็ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนและส่วนราชการ และสามารถดำเนินการอพยพเคลื่อนย้าย เป็นไปอย่างมีระบบ สามารถระงับการแตกต่ืนเสยี ขวัญของประชาชนไปสู่สถานท่ีปลอดภัยได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ โดยให้กองบังคับ การตำรวจภธู รจังหวดั เปน็ หน่วยงานรับผดิ ชอบหลัก และทท่ี ำการปกครองจังหวดั เป็นหน่วยสนบั สนุน แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 83
(5 ) ให้ ค ว าม ช่ ว ย เห ลื อ ผู้ อ พ ย พ ใน ก า รข น ย้ า ย ท รั พ ย์ สิ น ข อ งใช้ ใน พื้ น ท่ี ที่ เกิ ด สาธารณภัยและพ้ืนที่ใกล้เคียงตามท่ีได้รับการร้องขอ โดยให้แขวงทางหลวงกำแพงเพชร แขวงทางหลวงชนบท กำแพงเพชร และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร่วมกันดำเนินการ หากไม่เพียงพอประสานหน่วยงานทหารใน พื้นที่ (6) ให้มีการจัดทำทะเบียนเพ่ือตรวจสอบจำนวนผู้อพยพและผู้ท่ียังติดค้างในพื้นที่ โดยให้ท่ีทำ การปกครองอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่ รว่ มกนั ดำเนินการ (7) จัดให้มีการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพ้ืนที่อพยพ โดยให้สำนั กงาน สาธารณสขุ จังหวดั และโรงพยาบาลในเขตพน้ื ท่ี รว่ มกนั ดำเนินการ (8) จัดให้มีระบบการรักษาความสงบเรียบร้อยของพื้นท่ีรองรับการอพยพ โดยจัดกำลัง เจ้าหนา้ ทีต่ ำรวจและอาสาสมคั รตามความเหมาะสม (9) จัดให้มีเจ้าหน้าที่ประสานงานกับเจ้าหน้าท่ีตำรวจในพื้นท่ีเพ่ือจัดกำลังดูแลบ้านเรือน และ ทรพั ย์สนิ ของผู้อพยพเป็นระยะๆ หากกำลังเจ้าหน้าทต่ี ำรวจไม่เพียงพอ ให้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากศูนย์ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จังหวัด อำเภอ หรือจัดหาอาสาสมัครจากประชาชน แต่หาก สถานการณ์ล่อแหลมเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตห้ามเจ้าหน้าท่ี/อาสาสมัครออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงโดย เด็ดขาดจนกว่าสถานการณ์จะบรรเทาความรุนแรงลง และสามารถเข้าไปตรวจในพื้นท่ีได้ โดยไม่มีความเส่ียง พรอ้ มทั้งให้มกี ารประชาสัมพนั ธ์ให้ผ้อู พยพทราบสถานการณ์อยา่ งต่อเนื่องและทว่ั ถึง (10) จัดหาพื้นท่ีรองรับสำหรับการอพยพสัตว์เล้ียง โดยให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพ้ืนที่ ดำเนินการสำรวจ จัดทำบัญชี ประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์และผู้ประกอบการ รวมทัง้ จัดเตรียมยานพาหนะ เครอื่ งจักรกล สำหรับใชใ้ นการอพยพ หากไม่เพียงพอให้ประสานงานหน่วยงาน ทม่ี ีเคร่อื งจักรกล ยานพาหนะ การยกเลกิ สถานการณ์ ให้มกี ารติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนอื่ งโดยประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชนทราบถึงสถานการณ์เป็นระยะๆ เพ่ือป้องกันความสับสน พร้อมท้ัง ให้มีการยืนยันความชัดเจนถึง การยกเลกิ สถานการณ์ และแจ้งให้ผู้อพยพเตรียมพรอ้ มในการอพยพกลบั ส่พู นื้ ทีอ่ ยู่อาศัยตอ่ ไป การอพยพกลบั (1) เมอ่ื ไดร้ ับข่าวสารการแจ้งว่าสถานการณภ์ ัยได้ส้นิ สุดลงแลว้ ใหแ้ จ้งให้ประชาชนเตรียมตัวให้ พรอ้ มสำหรับการอพยพกลับและรอรับแจ้งจุดอพยพกลบั (2) ผนู้ ำชุมชนหรือผู้นำหมบู่ ้าน ตอ้ งจัดระเบียบและจัดลำดับกอ่ นหลงั ของการอพยพ อย่างเป็น ระบบไปสู่ที่ตั้งเดมิ และประสานงานการอพยพกับเจ้าหน้าทีท่ ่ดี ำเนนิ การควบคุมดูแลการอพยพ (3) หน่วยอพยพ เม่ือได้รับการแจ้งข่าวว่าสถานการณ์ภัยได้ส้ินสุดลงแล้วต้องทราบเส้นทาง กลับสู่พื้นที่เป้าหมาย (ทั้งชุมชนหรือหมู่บ้าน) และต้องตรวจสอบสภาพยานพาหนะสำหรับการอพยพให้พร้อม ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งติดต่อประสานงานกับผู้นำชุมชนหรือผู้นำหมู่บ้านทุกระยะให้เตรียมตัวให้พร้อม สำหรบั การอพยพกลบั และรอรบั แจ้งจดุ อพยพกลับทต่ี ้งั เดิมอย่างปลอดภยั การอพยพส่วนราชการและองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ เป็น การเคลื่อน ย้าย หน่ วยราชการแล ะองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มาอยู่ ใน พื้นที่ปล อดภัย เพ่ือให้สามารถให้บริการประชาชนได้ตามปกติ โดยให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในเขตพื้นที่แบ่งประเภทส่วน ราชการที่จะอพยพตามลำดับและความจำเป็นเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดพ้ืนที่รองรับการอพยพส่วนราชการ และครอบครัวส่วนราชการ และองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินไว้ล่วงหนา้ และจดั ทำแผนอพยพส่วนราชการ โดย กำหนดรายละเอยี ด ดงั นี้ แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 84
(1) สำรวจและจดั ทำบัญชีส่วนราชการไวล้ ่วงหน้า และแยกประเภทความเร่งด่วนในการอพยพ โดยเนน้ ความจำเปน็ ของประชาชนเป็นลำดับแรก (2) กำหนดเขตพน้ื ที่รองรับการอพยพ ตลอดจนพ้ืนทข่ี องแตล่ ะส่วนราชการให้อยู่ในพ้ืนท่ีท่เี หมาะสม (3) กำหนดเจ้าหนา้ ท่ดี ำเนินการอพยพไวล้ ่วงหน้าโดยระบุหน้าท่คี วามรับผดิ ชอบไวใ้ ห้ชดั เจน (4) กำหนดรายการและจำนวนสิง่ ของพัสดุ เอกสารราชการท่จี ำเป็นต้องขนยา้ ย (5) สำรวจยานพาหนะและนำ้ มนั เชอ้ื เพลงิ ตลอดจนระบบการสื่อสารสำหรับการอพยพ (6) กำหนดเส้นทางอพยพหลักและเส้นทางอพยพรอง ท่ีไมข่ ัดขวางต่อการปฏบิ ตั ิงานของทหาร (7) วางระเบียบปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในการอพยพ การเข้าไปอยูใ่ นพ้ืนทอ่ี พยพ ตลอดจนการอพยพกลบั (8) ระหว่างการอพยพให้พิจารณาจดั สว่ นราชการ ณ ที่ต้ังเดิมไว้ตามความจำเป็น และที่อพยพ เฉพาะส่วนเพื่อใหบ้ ริการประชาชนได้ (9) การอพยพส่วนราชการให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด/ผู้อำนวยการ จงั หวัด หรอื ผู้ได้รับมอบหมาย ทัง้ นี้ ไดก้ ำหนดหนว่ ยงานหลกั และหนว่ ยงานสนับสนนุ ในการดำเนินการอพยพ ดังนี้ • หน่วยงานหลัก (1) ศนู ยบ์ ัญชาการเหตุการณจ์ งั หวดั ทำหน้าท่ีอำนวยการ ควบคุม สนับสนุนการปฏิบัติของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทุกระดับ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะบัญชาการเหตุการณ์จังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัด ทำหน้าที่บังคับบัญชา เจ้าหน้าท่ีในการปฏิบัตใิ นเขตพนื้ ที่จงั หวัด (2) ศนู ยบ์ ญั ชาการเหตุการณอ์ ำเภอ ทำหน้าท่ีดำเนินการในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการอพยพประชาชนและส่วนราชการ ได้แก่ จดั หากำลงั เจา้ หน้าที่สนบั สนนุ การปฏิบตั งิ านดำเนินการอพยพประชาชนในระดบั อำเภอให้มปี ระสทิ ธภิ าพ (3) ศนู ย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถน่ิ ทำหน้าทอี่ พยพประชาชนและส่วนราชการในเขตความรบั ผิดชอบของตน และปฏิบัติตาม การสั่งการของศนู ย์บัญชาการเหตกุ ารณ์ชัน้ เหนือขึน้ ไป แนวทางปฏิบตั ใิ นการจัดตง้ั ศูนยพ์ ักพิงช่ัวคราว ศูนย์พกั พิงช่ัวคราวเป็นสถานท่ซี ่ึงได้จดั เตรียมไว้สำหรับผู้ประสบภัยท่ีจำเป็นต้องย้ายออกจากที่ อยู่อาศัยเดิมเน่ืองจากได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ผู้บัญชาการเหตุการณ์จะสั่ง การให้ดำเนินการเปิดศูนย์พักพงิ ข้ึน โดยผ้ปู ระสบภัยจะอาศัยอยชู่ ่ัวคราวจนกว่าสถานการณภ์ ยั จะยตุ ิ หรือท่ีอยู่ อาศยั เดิมจะได้รับการฟืน้ ฟ/ู มีการซอ่ มสร้างใหส้ ามารถอพยพกลับไปอาศัยได้ ทั้งนี้ การบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวให้เป็นไปตามมาตรฐานของแผนการบริหารจัดการ ศูนย์พักพิง โดยจะต้องสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานให้แก่ผู้ประสบภัยได้อย่างพอเพียงทั้งการ บริการด้านโภชนาการอาหาร และน้ำด่ืม ความปลอดภัย คุณภาพชีวิต สาธารณูปโภค รวมถึงสุขาภิบาลและ สขุ อนามยั โดยจะต้องดำเนินการ ดงั นี้ การเปิดศนู ย์พกั พงิ ชว่ั คราว (1) จัดให้มีการทำทะเบียนผู้อพยพอย่างละเอียดโดยคำนึงถึงกลุ่มเปราะบางทางสังคม เพื่อให้ ทราบความต้องการพื้นฐาน และความต้องการพิเศษของผู้อพยพ ท้ังข้อมูลประชากร ข้อมูลส่วนบุคคล และ รายงานให้ศนู ยบ์ ัญชาการเหตุการณท์ ราบ (2) จัดใหม้ ีอาหาร น้ำดืม่ และความตอ้ งการพิเศษอย่างพอเพยี ง เชน่ นมเด็กทารก แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั กำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 85
(3) จัดให้มีการกำหนดพื้นที่อาศัยภายในศูนย์พักพิงช่ัวคราวโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของ ผอู้ พยพ ซึ่งหมายความรวมถึงข้อจำกดั ทางการแพทย์ ประเด็นทางเพศสภาพ และมิตหิ ญงิ ชายดว้ ย (4) ให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวจัดให้มีระบบสาธารณูปโภค เช่น ประปา ไฟฟ้า เพื่ออำนวยความ สะดวกใหแ้ กผ่ อู้ พยพ ใหเ้ พียงพอ และทวั่ ถึง (5) จัดให้มีระบบการแพทย์และสาธารณสุขสนับสนุนภายในศูนย์พักพิงเพื่อดูแลท้ังสุขภาพกาย และสขุ ภาพจิตของผูอ้ พยพ การบรหิ ารศูนย์พักพิงชั่วคราว (1) คัดเลือกสถานที่ตั้งศูนย์พักพิง โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก ต้องมีการคมนาคมสะดวก มีความพร้อมของสาธารณูปโภค เช่น ประปา ไฟฟ้า เป็นต้น เป็นพ้ืนท่ีที่อยู่เหนือ ระดบั น้ำท่วม และต้องมีพืน้ ท่เี ป็นคลังสนิ ค้าของบริจาค พน้ื ที่สำหรบั คลินกิ และสำนกั งาน (2) การบริหารจัดการขอ้ มูลในศูนย์พักพิงเป็นสงิ่ ที่สำคัญและจำเป็นที่สดุ ของการบริหารจัดการ ศูนย์พักพิง โดยข้อมูลที่จำเป็นต้องเก็บบันทึก ประกอบด้วย ข้อมูลประชากรผู้อพยพ ข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้อพยพ ข้อมูลด้านธุรการ (3) การจัดระเบียบศนู ย์พกั พงิ ช่วั คราวและการอำนวยความปลอดภัย (3.1) ประสานงานลว่ งหน้ากับหน่วยงานที่เป็นเจา้ ของสถานท่ีปลอดภยั สำหรับการอพยพ ในการจัดพ้ืนที่ให้เหมาะสมกับจำนวนประชาชนท่ีจะอพยพเข้ามา หากเน้ือท่ีไม่เพียงพอจะต้องจัดหาสถานที่ ปลอดภยั แหง่ อน่ื ไวร้ องรับ โดยศึกษาจากฐานข้อมูลประชากรในชุมชนหรือหมบู่ ้านเปา้ หมาย (3.2) จัดเตรียมสถานที่ให้มรี ะบบสาธารณูปโภคพื้นฐานใหแ้ ก่ ผอู้ พยพตามมาตรฐานขั้นตำ่ (3.3) จัดแบ่งพืน้ ท่ีให้เป็นสัดส่วนของแต่ละครอบครวั หรือของแต่ละชุมชนให้เป็นระเบียบ เพื่อใหเ้ กดิ ความสะดวกแกก่ ารสื่อสาร การสงเคราะห์ และการเกบ็ ข้อมูล (3.4) จัดระเบียบเวรยามโดยอาจประสานงานขอกำลังจากเจ้าหน้าท่ีตำรวจในพื้นที่หรือ ใช้กำลังจากหน่วยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนหรือจดั หาอาสาสมัครจากประชาชนผู้อพยพ เพ่ืออำนวย ความสะดวกและความปลอดภัยแกผ่ ้อู พยพ (4) การดูแลความปลอดภยั บ้านเรอื นของผอู้ พยพ ศูนย์พักพิงชั่วคราวประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพ้ืนท่ีเพื่อจัดกำลังสายตรวจไปดูแล บ้านเรือนของผู้อพยพเป็นระยะๆ หากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอศูนย์พักพิงชั่วคราวอาจขอรับกำลัง สนับสนุนจากหน่วยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนหรือจัดหาอาสาสมัครจากประชาชนผู้อพยพ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือข้อมูลสถานการณ์ภัยพิบัติที่เป็นปัจจุบัน ภายหลังจากเสร็จภารกิจควรนำข้อมูลกลับมา รายงานหวั หน้าศูนย์พักพิงช่ัวคราว เพ่ือแจ้งข้อมูล/ข่าวสารแก่ผอู้ พยพโดยเรว็ จะทำให้ผูอ้ พยพหมดความกังวล ในความปลอดภัยในทรพั ยส์ นิ ของตน (5) การอำนวยความสะดวกแกผ่ ้อู พยพ ดูแลด้านความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะ จัดให้มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น น้ำบริโภค น้ำอุปโภค กระแสไฟฟ้า ให้เพียงพอกับความต้องการ จัดสัดส่วนพ้ืนท่ีรักษาพยาบาล พ้ืนที่ซักล้าง พน้ื ท่ีตากผา้ พื้นที่ออกกำลังกาย พน้ื ท่สี ันทนาการ พ้ืนทป่ี ระกอบศาสนกิจให้สอดคล้องกับจำนวนผอู้ พยพ และ การจัดระบบรับของบริจาค โดยจัดให้มีสถานีรับบริจาค สำรวจความต้องการรับของบริจาค ตามลำดับ ความสำคัญสำหรับ แต่ละครอบครวั หรือแต่ละกลุ่ม เมอ่ื มขี องบริจาคมาถึงให้พยายามกระจายแก่ผู้อพยพตาม ความต้องการอย่างท่วั ถงึ และเปน็ ธรรม (6) การแจง้ ความเคลือ่ นไหวของสถานการณ์ ศูนย์พักพิงชั่วคราวติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเน่ือง จากทางส่ือทุกทางและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง แล้วนำข้อมูลข่าวสารดังกล่าวมาแจ้งแก่ผู้อพยพทุกระยะ เพ่ือให้ แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 86
ผู้อพยพผ่อนคลายความวิตกกังวล และเมื่อมีข่าวสารยืนยันอย่างชัดเจนจากผู้บังคับบัญชาถึงการยกเลิก สถานการณใ์ หร้ บี แจง้ ผู้อพยพเตรยี มพร้อมในการอพยพกลบั สทู่ ่ีตั้งต่อไป การปิดศนู ยพ์ ักพงิ ชว่ั คราว เม่ือสถานการณ์ภัยยุติ และผู้อพยพสามารถอพยพกลับไปยังท่ีอยู่อาศัยเดิมหรือท่ีอยู่ อาศัยใหม่ ให้ดำเนินการ (1) จัดให้มีการแจ้งการปิดศูนย์พักพิงช่ัวคราวให้ผู้อพยพทราบล่วงหน้า พร้อมจัดทำ ทะเบียนผอู้ พยพกลับอยา่ งเปน็ ระบบ (2) ประสานการเตรียมความพร้อมอพยพกลับตามแผนการส่งกลบั (3) ให้มีแจ้งประกาศปิดศูนย์พักพิงช่ัวคราวอย่างเป็นทางการ พร้อมท้ังรายงาน ใหศ้ ูนยบ์ ัญชาการเหตุการณท์ ีร่ บั ผิดชอบทราบ ทงั้ น้ี ในทุกระยะการดำเนินการใหร้ ายงานขอ้ มูลใหผ้ บู้ ัญชาการเหตุการณ์จงั หวัดทราบ เป็นระยะ เพ่อื เป็นขอ้ มูลในการบริหารจัดการเหตกุ ารณ์ จนกวา่ เหตุการณ์จะยตุ ิ ให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร เป็นหน่วย รับผดิ ชอบหลักในการกำหนดมาตรฐานและจัดทำคูม่ อื การบรหิ ารศูนยพ์ ักพิงช่ัวคราว 5.1.7 การประกาศเขตพนื้ ทีป่ ระสบสาธารณภยั /ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยพบิ ัติกรณีฉุกเฉิน (1) การประกาศเขตพื้นท่ีประสบสาธารณภัย กรณีเกิดสาธารณภัยตามนิยามของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย พ.ศ. 2550 ซึ่งปรากฏชัดเป็นที่ทราบโดยท่ัวไปในเขตพ้ืนท่ีน้ัน ให้มีการประกาศเขตพื้นท่ีประสบ สาธารณภัยทนั ที หรือในกรณีเพื่อประโยชน์ต่อการจัดการสาธารณภัยในเขตพ้ืนที่ดังกล่าวตามข้อเทจ็ จริงท่ีปรากฏ และใช้เป็นหลักฐานยืนยันถึงข้อเท็จจริงเก่ียวกับสาธารณภัยที่เกิดข้ึน เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน สามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ตามระเบียบ กฎหมายทเี่ ก่ยี วข้องก็สามารถออกประกาศเขตพ้ืนท่ีประสบสาธารณภัยได้ โดยมแี นวทางการปฏิบตั ิ ดังนี้ (1.1) เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นท่ีใดให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยอำเภ อและหรือกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยเทศบาล/องค์การบริหารส่วน ตำบล ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานสถานการณ์สาธารณภัยท่ีเกิดข้ึน ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั จงั หวดั กำแพงเพชรทราบ เพอ่ื เปน็ ขอ้ มูลประกอบการตดั สนิ ใจประกาศเขตพืน้ ท่ีประสบภยั (1.2) เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้นและส่งผลกระทบต่อสาธารณชน และก่อให้เกิดอันตราย ต่อชีวิต ร่างกาย หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน ในพ้ืนท่ีให้ผู้อำนวยการจังหวัด ประกาศเขตพนื้ ที่ประสบภัยสาธารณภัยตามดุลพนิ จิ โดยมีแนวทางการประกาศ ดงั น้ี (1) ระบปุ ระเภทสาธารณภยั (2) สาเหตุการเกดิ สาธารณภัย (3) ชว่ งเวลา ทเี่ กิดสาธารณภัย (4) พื้นทีท่ ี่เกดิ สาธารณภัย (5) ผลกระทบต่อสาธารณชนและก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ ก่อให้เกดิ ความเสยี หายแกท่ รพั ย์สนิ ของประชาชน เพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยในเขตพ้ืนที่ กำหนดให้มีการออกประกาศ เขตพ้ืนที่ประสบสาธารณภัยได้ตามดุลยพินิจ เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน สามารถให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยไดต้ ามระเบยี บกฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. 2564 – 2570 : 87
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207