unit 4

1 หน่วยท่ี 4การออมเงนิ และการลงทุน 4.1 การออมเงนิ ความหมายของการออมเงนิ การออมเงิน หมายถึง การกนั เงินสว่ นหนงึ่ ของรายได้ที่เราไมใ่ ช้ให้หมดไปกบั การบริโภคปัจจบุ นั โดยเลือกท่ีจะนาเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตแทน สรุปได้วา่ การออม หมายถึงรายได้สว่ นหนง่ึ ที่บคุ คลเก็บสะสมไว้นอกเหนือ จากรายจา่ ยปกติ หรือเงินคงเหลือจากรายจา่ ยปกตใิ นแตล่ ะเดือน โดยทว่ั ไปการออมจะเกิดขนึ ้ ก็ตอ่ เม่ือบคุ คลนนั้ มีรายได้มากกวา่ รายจา่ ย หนทางท่ีเพ่มิ เงินออมทาได้ด้วยการเพิม่ รายได้จากการทางานให้มากขนึ ้ การปรับปรุงงานที่ทาอย่หู รือใช้เวลาว่างเพื่อหารายได้พเิ ศษ เป็นต้นนอกจากนีถ้ ้าลดรายจา่ ยลง โดยใช้จา่ ยเทา่ ท่ีจาเป็นและเหมาะสมก็จะทาให้มีการออมเกิดขนึ ้ ได้เหมือนกนั ความสาคัญของการออมเงนิ เงินออมเป็นปัจจยั ที่จะทาให้บคุ คลบรรลเุ ป้ าหมายซง่ึ กาหนดไว้ในอนาคต เชน่ ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองในอนาคต เงินออมจะเป็นปัจจยั ท่ีกาหนดเป้ าหมายที่วางไว้ให้เป็นจริงขนึ ้ มาได้ นอกจากนีก้ ารออมเป็นการสะสมเงินไว้ใช้ยามจาเป็ นเมื่อเกิดปัญหาทางการเงินที่เกิดขนึ ้ อยา่ งคาดไมถ่ งึ เชน่ ถ้าหากถกู ไลอ่ อกจากงานทาให้ขาดรายได้ และมีเงินออมท่ีมากพอก็จะไมป่ ระสบปัญหาทางการเงินมากนกั จานวนเงินออมที่เหมาะสมขนึ ้ อยู่กบั บคุ คลแตล่ ะคนแตกตา่ งกนั ไปตามสภาวะแวดล้อมหรือความเป็นอยู่ ส่ิงจูงใจในการออม “เป้ าหมาย” เป็นสิ่งที่เราต้องการและกาหนดไว้อนาคต เมื่อมีเป้ าหมายท่ี ต้องการชดั เจนแนน่ อนทาให้เกิดความกระตือรือร้นที่อยากจะได้สิ่งเราต้องการ ดงั นนั้ “เป้ าหมาย”จงึ เป็นสง่ิ จงู ใจที่สาคญั อยา่ งหนงึ่ ท่ีทาให้บคุ คลบรรลุ เป้ าหมายของตนเอง อาจแตกตา่ งกนั แล้วแตค่ วามจาเป็ นและความต้องการเชน่ บางคนอยากมีบ้านและท่ีดนิ เป็ นของตวั เอง มีการศกึ ษาสงู อยากมีชีวิตท่ีสขุ สบายในยามปลดเกษียณ ดงั นนั้เป้ าหมายในการออมท่ีแตกตา่ งกนั จงึ เป็นสิง่ ที่กาหนดให้จานวนเงินออมและระยะเวลาในการออมแตกตา่ งกนั ไป เป้ าหมายในการออม เป้ าหมายในการออมเป็นตวั กาหนดทิศทางการใช้จา่ ยเงิน ซง่ึ เป้ าหมายใน การออมของแตล่ ะคนยอ่ มแตกตา่ งกนั ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการใช้จา่ ยในอนาคต เช่น ต้องการมีรถยนต์ มีบ้าน เป็นของตนเอง การศกึ ษาของบตุ รหลาน การแตง่ งาน มีเงินไว้ใช้ยามฉกุ เฉินหรือเก็บเงินไว้ใช้หลงั เกษียณอายุ ประโยชน์ของการออมเงนิ 1) ด้านการพฒั นาเศรษฐกิจ ถ้าประชาชนมีการออมกนั มากจะกอ่ ให้เกิดการลงทนุ มีการจ้างงานและกระจายรายได้สชู่ มุ ชน

2 2) ชว่ ยเสริมสร้างความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ประเทศที่มีอตั ราการออมสงู การลงทนุ ในประเทศไม่จาเป็นต้องอาศยั เงินทนุ จากตา่ งประเทศ ตวั อยา่ งเชน่ ประเทศสงิ คโปร์และไต้หวนั เป็นประเทศท่ีมีการออมสงูสามารถพง่ึ ตนเองด้านเงินทนุ ในการพฒั นาประเทศ จงึ ทาให้ประเทศมีการพฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่องและมน่ั คง 3) ยกระดบั มาตรฐานการครองชีพของประชาชน เมื่อประชาชนมีการออมทาให้เกิดความมง่ั คง่ั แก่ตนเอง สามารถหาสิ่งที่จาเป็นตอ่ การดารงชีพเพ่ือเสริมสร้างคณุ ภาพชีวติ ของตนเอง เชน่ การมีบ้าน มีอาหารการกินท่ีดี มีการศกึ ษา และสง่ิ อานวยความสะดวกตา่ ง ๆ 4) สร้างหลกั ประกนั ให้กบั ชีวิตของตนในระหวา่ งท่ียงั ทางานอยู่ ถ้าหากบคุ คลมีการออมเงินไว้บางสว่ นในอนาคตเงินออมจานวนนีส้ ามารถเป็นหลกั ประกนั ได้วา่ ตนเองสามารถใช้ชีวิตท่ีสะดวกสบายและมีเงินจบั จา่ ยใช้สอยในยามท่ีต้องการ 5) สร้างอนาคตที่มนั่ คงทางด้านการเงินให้กบั ครอบครัว หากมีการออม ไมว่ า่ จะเป็ นการฝากเงินที่ธนาคาร สถาบนั การเงินหรือรูปแบบของการซือ้ หลกั ทรัพย์และตราสารฯ ในอนาคตเงินออมเหลา่ นีจ้ ะมีมลู คา่ มากขนึ ้ กอ่ ให้เกิดความมน่ั คงทางการเงินของครอบครัว 6) เพื่อมีเงินไว้ใช้ในยามชราหรือเกษียณอายหุ รือไว้เป็นมรดกให้ลกู หลานและสงั คม เชน่ การประกนัชีวติ หรือการซือ้ ห้นุ ของสหกรณ์ออมทรัพย์หรือพนั ธบตั รท่ีมีระยะเวลา เงินออมเหลา่ นีจ้ ะใช้ได้ก็ตอ่ เมื่อครบกาหนดระยะเวลา ดงั นนั้ ผลตอบแทนของการออมจงึ ทาให้ผ้อู อมเงินมีเงินไว้ใช้ในยามชราหรือเกษียณอายุ 7) เพื่อเป็นเงินทนุ ในการประกอบอาชีพ เม่ือมีการออมเงินระยะเวลาหนง่ึ จานวนเงินออมเพม่ิ มากขนึ ้บคุ คลนนั้ สามารถนาเงินที่ออมไว้ไปเป็นเงินลงทนุ ในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กบั ตนเองและครอบครัว 8) เพ่ือชาระหนีเ้งินกู้ การก้ยู ืมเงินจากสถาบนั การเงินและบคุ คลตา่ ง ๆ ผ้เู ป็นลกู หนีจ้ าเป็นต้องกนั เงินจานวนหนงึ่ จากรายได้หรือผลตอบแทนที่ตนเองได้รับจากการทางานมาเป็นเงินออม ที่สามารถนามาชาระหนี ้เงินก้ไู ด้ การวางแผนการออมเงนิ การวางแผนการใช้จา่ ยเงินและการออม นบั วา่ เป็นสง่ิ จาเป็นอย่างหนงึ่ ท่ีชว่ ยให้บคุ คลประสบความสาเร็จตามเป้ าหมายท่ีตนเองตงั้ ไว้ไมว่ า่ ในระยะสนั้ หรือระยะยาว บคุ คลแตล่ ะคนควรจดั สรรรายได้ของตนเพ่ือเป็นคา่ ใช้จา่ ยปัจจบุ นั และเป็นเงินออมในอนาคต บคุ คลอาจมีความต้องการท่ีจะออมเงินมากขนึ ้ หรือลดลงเน่ืองจากปัจจยั สาคญั ดงั ตอ่ ไปนี ้ 1) ผลตอบแทนที่ผ้อู อมได้รับจากการออม 2) มลู คา่ ของอานาจซือ้ ของเงินในปัจจบุ นั 3) รายได้สว่ นบคุ คลสทุ ธิ 4) ความแน่นอนของจานวนรายได้ในอนาคตหลงั การเกษียณอายุ

3 รูปแบบของการออม ในปัจจบุ นั พบวา่ ทางเลือกในการออมและการลงทนุ มีหลายทางให้เลือก การตดั สินใจวา่ จะออมรูปแบบใดขนึ ้ อยกู่ บั พืน้ ฐานความรู้ ความพงึ พอใจและความเสี่ยงท่ียอมรับได้ ดงั นนั้ จงึ แบง่ ประเภทรูปแบบของการออมได้ 4 ประเภทดงั นี ้ 1) การฝากเงินกบั ธนาคารและสถาบนั การเงิน การฝากเงินกบั ธนาคารเป็ นการออมท่ีได้รับความปลอดภยั สงู และได้รับดอกเบีย้ ในอตั ราที่แนน่ อน รูปแบบของการฝากเงินกบั ธนาคารมี 3 รูปแบบดงั นี ้เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจาและเงินฝากกระแสรายวนั 2) สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ออมทรัพย์จดั ตงั้ ขนึ ้ โดยมีวตั ถปุ ระสงคร์ ับฝากเงินจากสมาชิกและให้สมาชกิ ก้ยู ืมเงินโดยคดิ ดอกเบยี ้ ซงึ่ ไมไ่ ด้คานงึ ผลกาไร สมาชกิ สามารถออมทรัพย์ได้ 2 รูปแบบ คือ การซือ้ ห้นุ และการฝากเงิน รูปแบบของการฝากเงินมี 2 ประเภทคอื เงินฝากประเภทออมทรัพย์และเงินฝากประเภทประจาหลกั การฝากเงินจะคล้ายคลงึ กบั การฝากเงินกบั ธนาคารพาณิชย์ 3) บริษัทประกนั ชีวิต การประกนั ชีวิตเป็นการให้ความค้มุ ครองทางการเงินและความมนั่ ใจในการดารงชีวิตแก่ตนเองและครอบครัว การประกนั ชีวิตสง่ เสริมและฝึกนิสยั บคุ คลให้รู้จกั การออมทรัพย์เสริมสร้างการวางแผนการเงิน รูปแบบของการประกนั ชีวิตมี 4 รูปแบบ ได้แก่ แบบกาหนดระยะเวลา แบบตลอดชีพ แบบสะสมทรัพย์และแบบรายได้ประจา 4) กองทนุ รวม กองทนุ รวม คอื เคร่ืองมือในการลงทนุ (investment vehicle) สาหรับผ้ลู งทนุ รายยอ่ ยที่ประสงคจ์ ะนาเงินมาลงทนุ ในตลาดเงินตลาดทนุ ผ้จู ดั ตงั้ กองทนุ รวมเพ่ือเสนอขายให้แกป่ ระชาชนต้องเป็น “บริษัทหลกั ทรัพย์จดั การกองทนุ รวม” หรือเรียกกนั ยอ่ ๆ วา่ “บลจ.” หรือเรียกกนั วา่ “บริษัทจดั การ” ท่ีได้รับอนญุ าตให้ประกอบกิจการจากกระทรวงการคลงั โดยมีสานักงานคณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือท่ีเรียกวา่ “สานกั งานคณะกรรมการ ก.ล.ต.” ทาหน้าที่คอยดแู ลให้ บลจ. ตา่ ง ๆ ดแู ลและบริหารกองทนุ ให้เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์ที่ระบไุ ว้ ประเภทของกองทนุ รวมแบง่ ได้ 2 ลกั ษณะ คือ แบง่ ตามลกั ษณะนโยบายการลงทนุ และแบง่ ตามลกั ษณะการรับซือ้ คืนหนว่ ยลงทนุ ปัญหาในการออม ปัญหาในการออมเงินสว่ นบคุ คล สามารถพิจารณาได้ 2 ประเดน็ ดงั นี ้ 1) ปัญหาท่ีมาจากปัจจยั ภายในของบคุ คล เชน่ ไมม่ ีความตงั้ ใจในการออม ไมม่ ีความอดทนเพียงพอหรือการขาดวนิ ยั ในการออม 2) ปัญหาที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก เชน่ ภาวะเศรษฐกิจ การเมือง การเกิดเหตกุ ารณ์ฉกุ เฉินนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น4.2 การใช้เงนิ อย่างมีประสทิ ธิภาพ การใช้เงนิ เก่ียวกับรายจ่ายส่วนบุคคล บคุ คลต้องมีรายได้ให้เพียงพอตอ่ ความต้องการของตนเองและครอบครัว การใช้เงินเก่ียวกบั รายจา่ ยสว่ นบคุ คลแบง่ ออกเป็น 3 ด้านคอื 1) คา่ ใช้จา่ ยที่หลีกเลี่ยงไมไ่ ด้ เชน่ คา่ เชา่ บ้าน คา่ งวดบ้าน คา่ งวดรถ คา่ ประกนั ชีวติ คา่ ประกนั รถยนต์ เป็นต้น 2) การออม การออมจะเกิดขนึ ้ ก็ตอ่ เมื่อบคุ คลนนั้ มีรายได้มากกวา่ รายจา่ ย อย่างน้อยบคุ คลควรมีการออมไว้

4 เผื่อเกิดเหตฉุ กุ เฉิน เชน่ การเจ็บป่ วย ได้รับอบุ ตั เิ หตหุ รือตกงานกะทนั หนั เป็ นต้น 3) คา่ ใช้จา่ ยในชีวิตประจาวนั เป็นคา่ ใช้จา่ ยเก่ียวกบั อาหาร เสือ้ ผ้า เครื่องใช้ในครัวเรือนและคา่ ใช้จา่ ยส่วนตวัของสมาชิกในครอบครัว คา่ ใช้จา่ ยสว่ นนีเ้ป็นสว่ นของรายได้ที่เหลือจากคา่ ใช้จา่ ยประจาและการออมของครอบครัว ท่ีนาไปจดั สรรให้กบั สมาชิกและสว่ นกลางในครัวเรือน ปัจจัยพนื้ ฐานท่มี ีผลต่อรายจ่ายเก่ียวกับค่าอาหาร 1) จานวนรายได้ของครอบครัวรวมทงั้ หมด 2) อายขุ องสมาชกิ ในครอบครัว 3) รูปแบบและประเภทของอาหารท่ีแตล่ ะครอบครัวรับประทาน 4) ระดบั ราคาอาหารและการวางแผนการซือ้ อาหาร ปัจจัยท่ที าให้เกดิ รายจ่ายเก่ียวกับค่าเสือ้ ผ้าเคร่ืองนุ่งห่ม 1) ฤดกู าล 2) อาชีพ 3) อายแุ ละวยั 4) สมยั นยิ มมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเสือ้ ผ้า ปัจจัยท่ที าให้เกิดรายจ่ายค่าเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าภายในบ้าน 1) ราคา 2) คา่ ใช้จา่ ยในการดาเนินกาและการบริการ 3) การประเมนิ อายกุ ารใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้ า 4) อายกุ ารใช้งานของเคร่ืองใช้นนั้ ๆ 5) การดแู ลบารุงรักษา 6) การซอ่ มแซมภายหลงั การซือ้ เครื่องใช้ไฟฟ้ า การใช้เงนิ เก่ียวกับท่อี ยู่อาศัย ท่ีอย่อู าศยั เป็นหนงึ่ ในส่ีปัจจยั ที่จาเป็นสาหรับการดาเนินชีวิตของมนษุ ย์ สงั คมก็มีการพฒั นามากขนึ ้ เทา่ ใดท่ีอย่อู าศยั ก็มีการพฒั นามากขนึ ้ ไปด้วยเทา่ นนั้ จนเกิดเป็นรูปแบบของท่ีอยอู่ าศยั ตา่ ง ๆ มากมายรูปแบบของที่อย่อู าศยั มีอยดู่ ้วยกนั 2 แบบ คือ การซือ้ และการเชา่ ประเภทของท่ีอย่อู าศัย 1) บ้านเด่ียว (Single – family home) 2) อาคารพาณิชย์หรือตกึ แถว (Shop house) 3) ทาวน์เฮาส์ (Townhouse) 4) แฟลตหรืออพาร์ทเม้นท์ (Flat or apartment) 5) คอนโดมเิ นียม (Condominium) 6) สหกรณ์เคหสถาน (Cooperative housing) 7) บ้านเคล่ือนท่ี (Mobile home)

58) บ้านที่แบง่ เวลาการพกั อาศยั (Time – hare home)การซือ้ บ้าน (Buying House) การซือ้ บ้านมีปัจจยั พิจารณาดงั ตอ่ ไปนี ้1) ทาเลท่ีตงั้ (Location) 2) ยา่ นที่ตงั้ (Zoning) 3) สนามหญ้า (Yard)4) สงิ่ กอ่ สร้างภายนอก (Exterior construction) 5) ส่งิ กอ่ สร้างภายในบ้าน (Interior construction)การประเมนิ กาลังเงนิ ในการซือ้ บ้าน หลกั ในการพิจารณาท่ีจะซือ้ บ้านมีแนวทางดงั นี ้1) มลู คา่ บ้านที่ซือ้ ไมค่ วรเกินสองเทา่ ของรายได้ทงั้ สนิ ้ ของครอบครัว เช่น ถ้ารายได้ทงั้ สนิ ้ ของครอบครัวปี ละ 250,000 บาท ควรซือ้ บ้านในราคาสงู ไมเ่ กิน 500,000 บาท2) คา่ ใช้จา่ ยทงั้ สนิ ้ ของการมีบ้าน (Total housing costs) จะต้องไมเ่ กินหนง่ึ ในสี่ของรายได้ที่ได้รับในแตล่ ะเดือน(Gross income)การเช่าบ้าน (Renting) บ้านเชา่ มีความเป็นอยทู่ ่ีคอ่ นข้างสะดวกสบายสว่ นใหญ่มกั ตงั้ อยใู่ นกลางเมืองสะดวกตอ่ การคมนาคมและ complex เชน่ สโมสร สระวา่ ยนา้ สนามเทนนสิ มีเจ้าหน้าที่ดแู ลรักษาความสะอาด บ้านเชา่ หรือห้องเชา่ สว่ นมากจะอยตู่ ดิ กนั หรือใกล้กนั ทาให้สงั คมกว้างขนึ ้ ได้รู้จกั กนั ความเป็ นอยขู่ องผ้เู ชา่ไมส่ ะดวกมากนกั เพราะมีข้อจากดั จากผ้ใู ห้เชา่ เชน่ ห้ามเลีย้ งสตั ว์ ห้ามแก้ไขปรับปรุงห้องเชา่ เป็นต้น ในด้านความเป็ นสว่ นตวั และความภมู ใิ จ (Privacy and pride) ผ้เู ชา่ ขาดความเป็นอสิ ระสว่ นตวั เนื่องจากผ้ใู ห้เชา่ มีสทิ ธิท่ีจะเข้ามาตรวจสอบดแู ลห้องพกั หรือบ้านเชา่ ได้เสมอ การซอ่ มแซมและบารุงรักษาผ้เู ชา่ รับผิดชอบเฉพาะความเสียหายที่เกิดขนึ ้ กบั ทรัพย์สินของตนท่ีอยใู่ นท่ีเชา่ เทา่ นนั้ ไมต่ ้องรับผิดชอบบ้านหรือบริเวณภายนอกเพราะการป้ องกนั ความปลอดภยั ของบ้านและทรัพย์สนิ ภายนอกเป็ นหน้าท่ีของผ้ใู ห้เชา่การใช้เงนิ เก่ียวกับยานพาหนะ ปัจจบุ นั ยานพาหนะเพื่อการเดนิ ทางมีบทบาทในชีวิตประจาวนั ของบคุ คลเป็นอยา่ งมากไมว่ า่ จะเป็นทางด้านธุรกิจ การทางาน การพกั ผอ่ นทศั นาจร ตลอดจนการตดิ ตอ่ การค้าในภมู ิภาคตา่ ง ๆ ทวั่ โลก อยา่ งไรก็ตามคนสว่ นใหญ่ต้องทางานอาศยั ยานพาหนะโดยเฉพาะรถยนต์สว่ นบคุ คลจดุ ประสงค์ของการมียานพาหนะ1) ต้องการลดเวลาในการเดนิ ทางโดยเฉพาะเวลารีบเร่ง2) ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภยั ในการเดนิ ทาง3) ต้องการความรวดเร็วและประหยดั คา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทาง4) เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจรายจา่ ยประจาของการใช้รถยนต์ รายจา่ ยประจา เป็นรายจา่ ยที่ต้องจา่ ยเสมอไมว่ า่ จะใช้รถยนต์หรือไม่ รายจา่ ยประจาของรถยนต์ ได้แก่ คา่ เส่ือมราคารถยนต์ คา่ ประกนั อบุ ตั เิ หตุ คา่ ผอ่ นชาระและคา่ ใช้จา่ ยในการทาใบขบั ขี่และตอ่ ทะเบียนรถยนต์ประจาปีรายจา่ ยแปรได้ของการใช้รถยนต์ คา่ ใช้จา่ ยแปรได้ของการใช้รถยนต์ เป็นคา่ ใช้จา่ ยท่ีเกิดขนึ ้ จริงจากการใช้รถยนต์ ซง่ึ สามารถจาแนกออกได้เป็น 2 หมวด คือ1) คา่ ใช้จา่ ยเก่ียวกบั รถยนตท์ ี่ทาให้รถยนต์สามารถใช้งานได้ซงึ่ ได้แก่ คา่ นา้ มนั เบนซินหรือนา้ มนั ดเี ซล นา้ มนั เคร่ืองและคา่ บารุงรักษา

6 2) คา่ ใช้จา่ ยในการดแู ลรักษาเพ่ือให้รถยนต์อยใู่ นสภาพใช้การได้ การซือ้ รถยนต์ใหม่ (Buying a new car) โดยมีข้อควรพจิ ารณาดงั นี ้ 1) ต้องการรถยนต์ชนิดใดและวงเงินท่ีจา่ ยเป็นจานวนทงั้ สนิ ้ เทา่ ใด 2) จดุ มงุ่ หมายของการใช้รถยนต์คนั ใหมเ่ ป็ นระยะเวลานานเทา่ ใด การซือ้ รถยนต์ท่ีใช้แล้ว (Buying a used cars) ในปัจจบุ นั รถยนตใ์ หมม่ ีราคาแพง ผ้บู ริโภคบางรายจงึหนั มาพิจารณาซือ้ รถยนตท์ ่ีใช้แล้วเพราะคดิ วา่ ราคาถกู กวา่ แตม่ ีข้อเสีย เชน่ ข้อจากดั ในเร่ืองสีและแบบ การเช่าซือ้ การเชา่ ซือ้ เกิดขนึ ้ ในกรณีท่ีไมม่ ีเงินเพียงพอที่จะซือ้ รถยนต์คนั ใหมห่ รือที่ใช้แล้ว การเชา่ ซือ้จงึ เป็นอีกทางเลือกหนง่ึ ท่ีจะเป็นเจ้าของรถยนต์ ในปัจจบุ นั มีราคาคอ่ นข้างสงู ดงั นนั้ การเชา่ ซือ้ ยานพาหนะจาเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงินอยา่ งรอบคอบเพื่อในแตล่ ะงวดจะมีเงินพอจา่ ยให้กบั ผ้เู ชา่ การวางแผนการใช้เงนิ ในวัยเกษียณ คนทว่ั ไปส่วนใหญ่ไมค่ อ่ ยคดิ ถงึ ชีวติ ในวยั หลงั เกษียณหรือวยั ชราด้วยเหตผุ ลสองประการคือ ประการแรก ให้ความสนใจกบั การใช้จา่ ยเพื่อหาความสขุ เฉพาะหน้าในปัจจบุ นั และประการท่สี อง สถานการณ์การครองชีพปัจจบุ นั บีบรัดตวั จงึ ทาให้ไมม่ ีเงินออม แตเ่ มื่ออายเุ ร่ิมมากขนึ ้ เชน่ อายขุ นึ ้หลกั เลข 5 จะเร่ิมคดิ ได้ การออมในตอนนนั้ ก็อาจสายเกินไปหรือต้องออมในสดั สว่ นที่สงู ขนึ ้ เชน่ 50% ของรายได้ สิ่งที่ตามมาพร้อมกบั การเกษียณอายแุ ละควรคานงึ ถงึ ได้แก่ 1) การสญู เสียรายได้หลกั 2) โรคภยั ไข้เจบ็3) การเปล่ียนแปลงวธิ ีการดาเนินชีวติ ไมว่ า่ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านสถานะทางสงั คม การเปลี่ยนแปลงในบทบาทและหน้าที่ หลายคนอาจปรับตวั ไมไ่ ด้ในชว่ งแรก ๆ ทาให้รู้สึกหงดุ หงิดและสนิ ้ หวงั กบั ชีวิตได้ อยา่ งไรก็ตามปัญหาดงั กล่าวข้างต้นจะเกิดขนึ ้ น้อยลงหรือไมเ่ กิดขนึ ้ เลยถ้าหากมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมทงั้ ทางด้านการเงินและจิตใจ ทาให้สามารถดาเนนิ ชีวิตในบนั้ ปลาย ได้อยา่ งมีความสขุ การเตรียมความพร้อมสามารถแบง่ ออกเป็น 2 ด้าน คือ ด้านท่ี 1 การเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจ จะทาให้มีความเข้าใจและเช่ือมน่ัในตนเองอยรู่ ่วมกบั สงั คมและครอบครัวได้อยา่ งมีความสขุ ได้แก่ การปรับ เปล่ียนทศั นคตแิ ละยอมรับตนเองต้องปรับตวั ให้เข้ากบั สงั คมและงานท่ีเหมาะสม รักษาสขุ ภาพร่างกายให้แข็งแรงโดยการออกกาลงั กายและหมนั่ ตรวจสขุ ภาพอยา่ งสม่าเสมอ ทาจติ ใจให้แจม่ ใสและทากิจกรรมทางศาสนาให้มากขนึ ้ เป็นต้น ด้านที่ 2 การเตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน เป็นเร่ืองสาคญั อยา่ งหนงึ่ ที่ต้องมีการเตรียมการไว้ลว่ งหน้า การเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินมีขนั้ ตอน ดงั นี ้ ขนั้ ท่ี 1 ประมาณการอายทุ ่ีคาดวา่ จะมีชีวิตอยหู่ ลงั เกษียณอายไุ ปจนสิน้ อายขุ ยั ขนั้ ท่ี 2 กาหนดเป้ าหมายการดาเนนิ ชีวิตที่ต้องการ เชน่ ต้องการมีเงินสาหรับเป็นคา่ ใช้จา่ ยตอ่ เดือนให้เทา่ กบั คา่ ใช้จ่ายในชว่ งก่อนเกษียณอายุ หรือต้องการมีเงินสาหรับไปท่องเที่ยวตา่ งประเทศ นาเงินไปใช้ในการทาบญุ เพ่ือรองรับคา่ ใช้จา่ ยในการดแู ลรักษาสขุ ภาพ เป็นต้น

7 ขนั้ ท่ี 3 ประมาณการคา่ ใช้จา่ ยสาหรับการเกษียณอายุ หลงั จากได้กาหนดเป้ าหมายการดาเนินชีวิตชว่ งหลงั เกษียณอายแุ ล้ว ให้ประมาณการวา่ คา่ ใช้จา่ ยท่ีต้องใช้ในชว่ งเกษียณอายทุ งั้ หมดนนั้ มีจานวนเทา่ ใด