Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่-5

บทที่-5

Published by Natnicha Panghae, 2020-01-09 03:25:10

Description: บทที่-5

Search

Read the Text Version

บทที่5 หลกั การทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช

หลกั การทางานของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 1.ศึกษาขอ้ มูล ก่อนพระองคจ์ ะเสดจ็ พระราชดาเนินยงั พ้ืนท่ี ใดๆ น้นั จะทรงศึกษาขอ้ มูลจากเอกสารและ แผนที่ตา่ งๆ 2.การหาขอ้ มูล เม่ือพระองคถ์ ึงพ้ืนท่ีน้นั จะทรงหาขอ้ มูลรายระเอียดเพม่ิ เติมอีกคร้ังเพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ มูล ปัจจุบนั ท่ีสุด 3.การศึกษาขอ้ มูลและการจดั ทาโครงการ เม่ือเจา้ หนา้ ท่ีผเู้ ก่ียวขอ้ งไดร้ ับพระราชทานพระราชดาริ จะไป ศึกษาขอ้ มูลรายระเอียดตา่ งๆ 4.การดาเนินงานตามโครงการ หลงั จากจดั ทาโครงการเสร็จเรียบร้อยแลว้ และผา่ นการพิรจารณาจาก หน่วยเหนือตามลาดบั ข้นั ตอนจนถึงการอนุมตั ิ 5.การติดตามงาน ในการติดตามผลงานการดาเนินงานน้นั แต่ละหน่วยงานรวมท้งั สานกั งาน กปร. จะได้ มีการประเมินผลเป็ ยระยะ

หลกั การทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช 1. จะทำอะไรต้องศึกษำข้อมูลให้เป็ นระบบ ทรงศึกษาขอ้ มูลรายละเอียดอยา่ งเป็นระบบจากขอ้ มูลเบ้ืองตน้ ท้งั เอกสาร แผนท่ี สอบถามจากเจา้ หนา้ ท่ี นกั วชิ าการ และราษฎรในพ้นื ท่ีใหไ้ ดร้ ายละเอียดที่ถูกตอ้ ง 2.ระเบดิ จำกภำยใน จะทาการใดๆ ตอ้ งเร่ิมจากคนท่ีเก่ียวขอ้ งเสียก่อน ตอ้ งสร้างความเขม้ แขง็ จากภายในใหเ้ กิดความเขา้ ใจและ อยากทา ไม่ใช่การสง่ั ใหท้ า คนไม่เขา้ ใจกอ็ าจจะไม่ทากเ็ ป็นได้ 3.แก้ปัญหำจำกจุดเลก็ ควรมองปัญหาภาพรวมก่อนเสมอ แต่เมื่อจะลงมือแกป้ ัญหาน้นั ควรมองในสิ่งที่คนมกั จะมองขา้ ม แลว้ เริ่ม แกป้ ัญหาจากจุดเลก็ ๆ เสียก่อน เมื่อสาเร็จแลว้ จึงค่อยๆ ขยบั ขยายแกไ้ ปเร่ือยๆ ทีละจุด เราสามารถเอามา ประยกุ ตใ์ ชก้ บั การทางานได้

4. ทำตำมลำดบั ข้ัน เริ่มตน้ จากการลงมือทาในสิ่งที่จาเป็นก่อน เมื่อสาเร็จแลว้ กเ็ ริ่มลงมือส่ิงท่ีจาเป็นลาดบั ต่อไป ดว้ ยความรอบคอบ และระมดั ระวงั ถา้ ทาตามหลกั น้ีได้ งานทุกสิ่งกจ็ ะสาเร็จไดโ้ ดยง่าย… 5. ภูมสิ ังคม ภูมศิ ำสตร์ สังคมศำสตร์ การพฒั นาใดๆ ตอ้ งคานึงถึงสภาพภูมิประเทศของบริเวณน้นั วา่ เป็นอยา่ งไร และสงั คมวทิ ยาเก่ียวกบั ลกั ษณะนิสยั ใจคอคน ตลอดจนวฒั นธรรมประเพณีในแตล่ ะทอ้ งถิ่นที่มีความแตกต่างกนั 6. ทำงำนแบบองค์รวม ใชว้ ธิ ีคิดเพือ่ การทางาน โดยวธิ ีคิดอยา่ งองคร์ วม คือการมองส่ิงตา่ งๆ ท่ีเกิดอยา่ งเป็นระบบครบวงจร ทุกส่ิงทุก อยา่ งมีมิติเชื่อมตอ่ กนั มองส่ิงที่เกิดข้ึนและแนวทางแกไ้ ขอยา่ งเช่ือมโยง

7. ไม่ติดตำรำ เม่ือเราจะทาการใดน้นั ควรทางานอยา่ งยดื หยนุ่ กบั สภาพและสถานการณ์น้นั ๆ ไม่ใช่การยดึ ติดอยกู่ บั แคใ่ น ตาราวชิ าการ เพราะบางท่ีความรู้ท่วมหวั เอาตวั ไม่รอด 8. รู้จกั ประหยดั เรียบง่ำย ได้ประโยชน์สูงสุด ในการพฒั นาและช่วยเหลือราษฎร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใชห้ ลกั ในการแกป้ ัญหาดว้ ยความเรียบง่ายและ ประหยดั ราษฎรสามารถทาไดเ้ อง 9. ทำให้ง่ำย ทรงคิดคน้ ดดั แปลง ปรับปรุงและแกไ้ ขงาน การพฒั นาประเทศตามแนวพระราชดาริไปไดโ้ ดยง่าย ไม่ยงุ่ ยาก ซบั ซอ้ นและที่สาคญั อยา่ งยงิ่ คือ สอดคลอ้ งกบั สภาพความเป็นอยขู่ องประชาชนและระบบนิเวศโดยรวม “ทา ใหง้ ่าย” 10. กำรมีส่วนร่วม ทรงเป็นนกั ประชาธิปไตย ทรงเปิ ดโอกาสใหส้ าธารณชน ประชาชนหรือเจา้ หนา้ ที่ทุกระดบั ไดม้ าร่วมแสดง ความคิดเห็น

11. ต้องยดึ ประโยชน์ส่วนรวม ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงระลึกถึงประโยชนข์ องส่วนรวมเป็นสาคญั ดงั พระราชดารัสตอนหน่ึงวา่ “…ใคร ต่อใครบอกวา่ ขอใหเ้ สียสละส่วนตวั เพ่ือส่วนรวม 12. บริกำรทจี่ ุดเดยี ว ทรงมีพระราชดาริมากวา่ 20 ปี แลว้ ใหบ้ ริหารศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาหลายแห่งทว่ั ประเทศโดยใชห้ ลกั การ “การบริการรวมท่ีจุดเดียว : One Stop Service 13. ใช้ธรรมชำตชิ ่วยธรรมชำติ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9 ทรงเขา้ ใจถึงธรรมชาติและตอ้ งการใหป้ ระชาชนใกลช้ ิดกบั ทรัพยากรธรรมชาติ ทรงมองปัญหาธรรมชาติอยา่ งละเอียด 14. ใช้อธรรมปรำบอธรรม ทรงนาความจริงในเรื่องธรรมชาติและกฎเกณฑข์ องธรรมชาติมาเป็นหลกั การแนวทางปฏิบตั ิในการ แกไ้ ขปัญหาและปรับปรุงสภาวะที่ไม่ปกติเขา้ สู่ระบบท่ีปกติ

15. ปลูกป่ ำในใจคน การจะทาการใดสาเร็จตอ้ งปลูกจิตสานึกของคนเสียก่อน ตอ้ งใหเ้ ห็นคุณคา่ เห็นประโยชน์กบั ส่ิงท่ีจะทา…. “เจา้ หนา้ ท่ีป่ าไมค้ วรจะปลูกตน้ ไมล้ งในใจคนเสียก่อน แลว้ คนเหลา่ น้นั กจ็ ะพากนั ปลูกตน้ ไมล้ งบนแผน่ ดิน และจะรักษาตน้ ไมด้ ว้ ยตนเอง” 16. ขำดทุนคือกำไร หลกั การในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9 ที่มีต่อพสกนิกรไทย “การให”้ และ “การเสียสละ” เป็น การกระทาอนั มีผลเป็นกาไร คือความอยดู่ ีมีสุขของราษฎร 17. กำรพง่ึ พำตนเอง การพฒั นาตามแนวพระราชดาริ เพ่อื การแกไ้ ขปัญหาในเบ้ืองตน้ ดว้ ยการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ เพอื่ ใหม้ ี ความแขง็ แรงพอที่จะดารงชีวิตไดต้ ่อไป แลว้ ข้นั ตอ่ ไปกค็ ือ การพฒั นาใหป้ ระชาชนสามารถอยใู่ นสังคมได้ ตามสภาพแวดลอ้ มและสามารถ พ่งึ ตนเองไดใ้ นที่สุด

18. พออยู่พอกนิ ใหป้ ระชาชนสามารถอยอู่ ยา่ ง “พออยพู่ อกิน” ใหไ้ ดเ้ สียก่อน แลว้ จึงค่อยขยบั ขยายใหม้ ีขีดสมรรถนะท่ีกา้ วหนา้ ต่อไป 19. เศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นปรัชญาท่ีในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานพระราชดารัสช้ีแนะแนวทางการดาเนินชีวิต ใหด้ าเนินไปบน “ทางสายกลาง” เพ่อื ใหร้ อดพน้ และสามารถดารงอยไู่ ดอ้ ยา่ งมน่ั คงและยงั่ ยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั นแ์ ละการ เปล่ียนแปลงต่างๆ ซ่ึงปรัชญาน้ีสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดท้ ้งั ระดบั บุคคล องคก์ ร และชุมชน บทความท่ีเก่ียวขอ้ ง : เดินตามรอยเทา้ พอ่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 20. ควำมซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกนั ผทู้ ี่มีความสุจริตและบริสุทธ์ิใจ แมจ้ ะมีความรู้นอ้ ย กย็ อ่ มทาประโยชนใ์ หแ้ ก่ส่วนรวมไดม้ ากกวา่ ผทู้ ่ีมีความรู้มาก แต่ไม่มีความสุจริต ไม่มีความบริสุทธ์ิใจ

21. ทำงำนอย่ำงมคี วำมสุข ทางานตอ้ งมีความสุขดว้ ย ถา้ เราทาอยา่ งไม่มีความสุขเราจะแพ้ แต่ถา้ เรามีความสุขเราจะชนะ สนุกกบั การ ทางานเพียงเท่าน้นั ถือวา่ เราชนะแลว้ หรือจะทางานโดยคานึงถึงความสุขที่เกิดจากการไดท้ าประโยชน์ใหก้ บั ผอู้ ่ืนกส็ ามารถทาได้ “…ทางานกบั ฉนั ฉนั ไม่มีอะไรจะให้ นอกจากการมีความสุขร่วมกนั ในการทา ประโยชนใ์ หก้ บั ผอู้ ่ืน…” 22. ควำมเพยี ร การเริ่มตน้ ทางานหรือทาส่ิงใดน้นั อาจจะไม่ไดม้ ีความพร้อม ตอ้ งอาศยั ความอดทนและความมุ่งมนั่ ดงั เช่น พระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” กษตั ริยผ์ เู้ พยี รพยายามแมจ้ ะไม่เห็นฝ่ังกจ็ ะวา่ ยน้าต่อไป เพราะถา้ ไม่เพยี รวา่ ย กจ็ ะตกเป็นอาหารปู ปลาและไม่ไดพ้ บกบั เทวดาท่ีช่วยเหลือมิใหจ้ มน้า 23. รู้ รัก สำมคั คี รู้ คือ รู้ปัญหาและรู้วธิ ีแกป้ ัญหาน้นั รัก คือ เมื่อเรารู้ถึงปัญหาและวธิ ีแกแ้ ลว้ เราตอ้ งมีความรัก ที่จะลงมือทา ลงมือแกไ้ ขปัญหาน้นั สามคั คี คือ การแกไ้ ขปัญหาต่างๆ ไม่สามารถลงมือทาคนเดียวได้ ตอ้ งอาศยั ความร่วมมือร่วมใจกนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook