Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนเทคโนโลยีม.2

แผนการสอนเทคโนโลยีม.2

Published by ความสุข ของทุกคน, 2023-06-20 03:44:18

Description: แผนการสอนเทคโนโลยีม.2

Search

Read the Text Version

หนา้ สารบญั มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง วทิ ยาศาสตร์ พเิ ศษ 1 คำอธิบายรายวชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2 พเิ ศษ 3 โครงสร้างรายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2 พิเศษ 4 โครงสรา้ งแผนการจดั การเรยี นรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2 พเิ ศษ 6-9 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 การเปล่ยี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี 11 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 วัสดุอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี 26 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ความรูเ้ กย่ี วกับวสั ดุ 39 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เครื่องกลและเครอ่ื งมอื ในการสรา้ งช้นิ งาน 63 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เสยี งและอปุ กรณ์ท่ที ำให้เกดิ เสยี ง 74 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 ไฟฟา้ และอุปกรณท์ ่ีทำใหเ้ กิดแสง 81 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 84 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 96 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 106 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การคิดเชิงออกแบบ 121 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 กระบวนการคดิ เชงิ ออกแบบ 133 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 ถอดความคิดเชงิ ออกแบบของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร 141 มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง วทิ ยาศาสตร์ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพือ่ การดำรงชวี ติ ในสงั คมทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรแู้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพื่อแกป้ ัญหาหรอื พัฒนางานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม ชั้น ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.2 1. คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีทจี่ ะเกิดข้ึน  สาเหตุหรอื ปจั จัยต่าง ๆ เช่น ความกา้ วหน้าของศาสตร์ โดยพจิ ารณาจากสาเหตุหรือปัจจยั ทส่ี ง่ ผล ต่าง ๆ กาเรปลี่ยนแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม ตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี และ วฒั นธรรม ทำใหเ้ ทคโลยมี กี ารเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ ตัดสนิ ใจ เลือกใช้  เทคโนโลยแี ตล่ ะประเภทมีผลกระทบตอ่ ชีวิต สังคม และ เทคโนโลยี โดยคำนึงถงึ ผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ สง่ิ แวดล้อมทแี่ ตกต่างกัน จึงตอ้ งวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบ ต่อชวี ติ สงั คม และสงิ่ แวดล้อม ขอ้ ดี ข้อเสยี และตดั สนิ ใจเลือกใช้ใหเ้ หมาะสม 2. ระบปุ ญั หาหรอื ความต้องการในชุมชน  ปญั หาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถ่ินมีหลาย หรือท้องถิ่น สรปุ กรอบของปัญหา อย่าง ขึน้ กบั บริบทหรือสถานการณ์ท่ปี ระสบ เชน่ รวบรวม วเิ คราะห์ ขอ้ มูลและแนวคดิ ที่ ดา้ นพลังงาน สิ่งแวดล้อม การเกษตร การอาหาร เกย่ี วข้องกบั ปัญหา  การระบุปัญหาจำเปน็ ต้องมกี ารวเิ คราะหส์ ถานการณ์ของ ปัญหาเพื่อสรปุ กรอบของปญั หาแลว้ ดำเนนิ การสบื คน้ รวบรวมข้อมูล ความรจู้ ากศาสตร์ต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง เพอื่ นำไปสูก่ ารออกแบบแนวทางการแก้ปญั หา 3. ออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หา โดยวเิ คราะห์  การวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสนิ ใจเลอื กข้อมลู ท่ี เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมลู ที่ จำเป็น โดยคำนึงถงึ เง่ือนนไขและทรัพยากร เชน่ ง จำเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มอี ยู่ งบประมาณ เวลา ข้อมลู และสารสนเทศ วสั ดุ เคร่ืองมือ นำเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ ้อู ืน่ และอุปกรณ์ช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปญั หาที่เหมาะสม เข้าใจ วางแผนขัน้ ตอนการทำงานและ  การออกแบบแนวทางการแก้ปญํ หาทำได้หลากหลายวธิ ี ดำเนนิ การแก้ปญั หาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน เชน่ การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ การเขียนผังงาน  การกำหนดข้ันตอนระยะเวลาในการทำงานก่อน ดำเนนิ การแก้ปัญหาจะชว่ ยให้การทำงานสำเรจ็ ได้ตาม เป้าหมาย และลดข้อผดิ พลาดของการทำงานที่ อาจเกิดขึน้ พิเศษ 1

ชนั้ ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 4. ทดสอบ ประเมนิ ผล และอธิบายปัญหา  การทดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การตรวจสอบช้นิ งาน หรอื ข้อบกพรอ่ งที่เกดิ ขน้ึ ภายใต้กรอบ หรือวิธกี ารว่าสามารถแกป้ ญั หาไดต้ ามวตั ถุประสงค์ เงอื่ นไข พร้อมทั้งหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข ภายใตก้ รอบของปญั หา เพื่อหาข้อบกพร่อง และ และนำเสนอผลการแกป้ ญั หา ดำเนนิ การปรบั ปรงุ ให้สามารถแก้ไขปัญหาได้  การนำเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคิดเพ่ือให้ผู้อน่ื เขา้ ใจเก่ียวกับกระบวนการทำงานและชิ้นงานหรือวธิ กี าร ทีไ่ ด้ ซงึ่ สามารถทำไดห้ ลายวธิ ี เช่น การเขยี นรายงาน การทำแผน่ นำเสนอผลงาน การจดั นิทรรศการ 5. ใชค้ วามรู้ และทักษะเก่ยี วกับวสั ดุ อปุ กรณ์  วสั ดุแตล่ ะประเภทมีคณุ สมบัติแตกตา่ งกัน เชน่ ไม้ โลหะ เครอ่ื งมอื กลไก ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ พลาสติก จงึ ต้องมีการวเิ คราะหส์ มบตั เิ พ่ือเลอื กใชใ้ ห้ เพอ่ื แกป้ ญั หาหรือพัฒนางานได้อย่าง เหมาะสมกับลักษณะของงาน ถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย  การสร้างช้ินงานอาจใช้ความรู้ เรอื่ งกลไล ไฟฟา้ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED มอเตอร์ บซั เซอร์ เฟือง รอก ลอ้ เพลา  อปุ กรณ์และเครื่องมอื ในการสร้างชิ้นงานหรอื พฒั นา วิธีการมหี ลายประเภท ต้องเลือกใชใ้ ห้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั รวมท้งั ร้จู ักเก็บรกั ษา พิเศษ 2

คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 20 ชัว่ โมง ศกึ ษาสาเหตุหรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลง เทคโนโลยตี ่อมนุษย์ และสงั คม ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยตี อ่ เศรษฐกจิ ผลกระทบจากการ เปลย่ี นแปลงเทคโนโลยตี อ่ ส่งิ แวดล้อม ประเภท ของวสั ดุอุปกรณเ์ พ่อื ใหส้ ามารถสรา้ งชิน้ งานไดต้ รงกับความตอ้ งการ มคี วามปลอดภัย และใชท้ รพั ยากรได้อยา่ งค้มุ คา่ เครอื่ งกลในการสรา้ งชิน้ งาน ได้แก่ รอก คาน ลอ้ และเพลา พ้นื เอียง ลม่ิ สกรู เครอื่ งมือในการสร้างช้ินงาน เคร่ืองมอื วัด เคร่ืองมือตัด เครื่องมือ ยึดติด เคร่ืองมอื เจาะ เสียงและอุปกรณ์ท่ี ทำใหเ้ กิดเสียง อปุ กรณท์ ีท่ ำให้เกดิ เสยี ง ไฟฟ้าและอปุ กรณ์ทท่ี ำใหเ้ กดิ แสง วงจรไฟฟ้าและ การต่อตัวต้านทาน ประเภทและการต่อวงจรไฟฟ้า ความสมั พันธข์ องกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์แนวคดิ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ระบบเทคโนโลยีการคิดเชงิ ออกแบบ แนวคิดหลัก ของการคดิ เชงิ ออกแบบ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ และความคิดเชงิ ออกแบบของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกา- ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยอาศัยกระบวนการเรียนรโู้ ดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning) และการเรยี นรู้แบบ สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบตั ิ ฝึกทกั ษะการคดิ เผชญิ สถานการณ์ การแกป้ ัญหาวางแผนการเรียนรู้ และ นำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเข้าใจ ความสัมพนั ธ์ของความรู้วิทยาศาสตรท์ ี่มผี ลต่อการพฒั นาเทคโนโลยี ประเภทต่าง ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยที ี่ส่งผลใหม้ ีการคิดคน้ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ท่กี ้าวหนา้ ผลของเทคโนโลยี ต่อชวี ติ สังคม และสิง่ แวดลอ้ ม ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยไี ปใชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์ตอ่ สังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการ แกป้ ัญหาและการจดั การทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตดั สนิ ใจ เปน็ ผู้ที่มีจติ วทิ ยาศาสตร์มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์ ตวั ชีว้ ัด ว 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 รวม 5 ตัวชว้ี ดั พิเศษ 3

โครงสร้างรายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ช้นั ม.2 ลำดับที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน มโนทัศน์สำคญั เวลา 1. เทคโนโลยีกับชวี ิต การเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั (ชม.) 2. วสั ดุ อุปกรณ์ทาง ว 4.1 ม.2/1 มนุษย์ค้นพบและสร้างองค์ความรู้หลายสาขา 2 เทคโนโลยี เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาสตร์ท่ีส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง มาก คือ วิทยาศาสตร์ เป็นความรู้ท่ีเก่ียวกับสิ่ง ต่าง ๆ ในธรรมชาติท้ังที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต โดยมีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการสืบ เสาะหาความรู้นั้นอาศัยการสังเกตเป็นพ้ืนฐาน และคณิตศาสตร์ท่ีเก่ียวข้องกับการอธิบาย โครงสร้าง ความสัมพันธ์ ระเบียบ รูปแบบ หรือแบบแผนต่าง ๆ ทั้งท่ีอยู่ในธรรมชาติ รอบตัวและภาพที่อยู่ในสมอง เท่าที่มนุษย์จะ สามารถรับรู้ได้ท้ังในเชิงนามธรรมและเชิง รูปธรรม โดยอาศัยการคำนวณและโมเดลทาง คณิตศาสตร์มาอธิบาย ดังน้ัน การค้นพบทาง วิทยาศาสตร์ท่ีมีการอธิบายในรูปแบบของ สมการทางคณิตศาสตร์ที่แม่นยำจะช่วยให้เกิด เทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย และ เท ค โน โล ยี ท่ี พั ฒ น าขึ้ น ส ร้ า งผ ล ก ร ะ ท บ ทั้ ง ทางด้านมนุษย์และสังคม ด้านเศรษฐกิจ และ ดา้ นสง่ิ แวดล้อม ว 4.1 ม.2/5 ปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาและ 8 ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงได้มีการนำความรู้ เห ล่ า นี้ ม า พั ฒ น า แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง วั ส ดุ ต่าง ๆ เพ่ือตอบสนองต่อความต้องการ ที่หลากหลาย โดยผ่านกระบวนการทาง เทคโนโลยี และถูกส่งต่อจนพัฒนามาเป็น กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยการ พเิ ศษ 4

ลำดบั ที่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน มโนทศั นส์ ำคัญ เวลา 3. กระบวนการออกแบบ การเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั (ชม.) เชิงวิศวกรรม สร้างเครื่องมือหรอื ชิ้นงาน ความรู้เกี่ยวกับวสั ดุ 4. การคดิ เชงิ ออกแบบ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก เสียง แสง ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกสเ์ ป็นส่ิงสำคัญ ซ่ึงจะ ช่ ว ย ท ำ ใ ห้ ส ร้ า ง ช้ิ น ง า น ได้ เห ม า ะ ส ม แ ล ะ ปลอดภัย ว 4.1 ม.2/2 กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เป็น 6 ม.2/3 กระบวนการที่สามารถนำมาแก้ปัญหาหรือ ม.2/4 สร้างสรรค์ส่ิงใหม่ ๆ ซึ่งกระบวนการออกแบบ วิศวกรรมจะเริ่มจากการระบุปัญหาหรือส่ิงท่ี ต้องการท่ีจะสร้างข้ึน จากนั้นรวบรวม องค์ ความรู้ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา วางแผน ดำเนินการ ประเมินผล และนำเสนอการ แก้ปญั หาหรอื ผลงานของชิน้ งาน ซง่ึ กระบวน- การเหล่าน้ีเรียกว่า STEM ที่เป็นการรวบรวม ศาสตร์ต่าง ๆ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิ ศ ว ก ร ร ม ศ า ส ต ร์ แ ล ะ ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ มาประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาหรือ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ว 4.1 ม.2/2 การคิดเชิงออกแบบเป็นแนวคิดที่ใช้ในการ 4 ม.2/3 แก้ปัญหา โดยยึดเอาคนหรือประสบการณ์ ม.2/4 ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง และร่วมกันค้นคิดวิธีการ แก้ปัญหาร่วมกันของทีมงานอย่างสร้างสรรค์ ทำให้ต้นแบบที่ผลิตข้ึนมาเป็นเทคโนโลยีที่มี ความท่ีมีข้อผิดพลาดน้อย และเทคโนโลยีนั้น มีมูลค่าที่สูงข้ึน ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาด้วย การเน้นทำความเข้าใจว่าคนต้องการอะไร แท น ท่ี วิธีก ารแบ บ เดิ ม ที่ มัก เริ่ม ต้น จาก “ปญั หา” พเิ ศษ 5

โครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเท หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ สี อน/วิธีการจดั 1. เทคโนโลยกี ับชีวติ กิจกรรมการเรียนรู้ แผนที่ 1 การเปลีย่ นแปลงและ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es ผลกระทบของ (5Es Instructional Model) เทคโนโลยี 2. วัสดุ อปุ กรณ์ แผนท่ี 1 ความรเู้ ก่ยี วกับวสั ดุ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es ทางเทคโนโลยี (5Es Instructional Model) พเิ ศ

ทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2 เวลา 20 ชั่วโมง ทักษะท่ไี ด้ การประเมนิ เวลา (ชวั่ โมง) 1. ทักษะการส่อื สาร 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 2. ทักษะการแลกเปลี่ยนข้อมลู เรอ่ื ง เทคโนโลยีกบั ชีวติ 2 3. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทักษะการสังเกต 2. ตรวจใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง เศรษฐกจิ พอเพียง 2 5. ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 6. ทักษะการสืบค้นขอ้ มลู 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 5. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 1. ทักษะการสื่อสาร 6. สงั เกตความซื่อสัตย์ สุจริต ความมวี ินัย 2. ทักษะการแลกเปล่ียนขอ้ มลู 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน7. 4. ทกั ษะการสังเกต ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 5. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั เรอื่ ง เทคโนโลยกี บั ชวี ิต 6. ทักษะการสบื คน้ ข้อมลู 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 วัสดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี 2. ตรวจใบงานท่ี 2.1.1 เรอ่ื ง นกั ออกแบบผลิตภัณฑ์ 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 5. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 6. สงั เกตความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ ความมวี ินยั ความรับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน ศษ 6

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธีสอน/วิธีการจัด กจิ กรรมการเรียนรู้ แผนท่ี 2 เคร่อื งกลและเครอ่ื งมือ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es ในการสร้างช้นิ งาน (5Es Instructional Model) แผนที่ 3 เสียงและอปุ กรณ์ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es ท่ีทำให้เกดิ เสียง (5Es Instructional Model) แผนที่ 4 ไฟฟา้ และอุปกรณ์ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es ท่ีทำใหเ้ กิดแสง (5Es Instructional Model) พิเศ

ทกั ษะท่ไี ด้ การประเมิน เวลา (ชัว่ โมง) 1. ทกั ษะการสื่อสาร 1. ตรวจใบงานที่ 2.2.1 เรือ่ ง เครือ่ งมือชา่ ง 2. ทักษะการแลกเปล่ียนขอ้ มลู 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 2 3. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 4. ทักษะการทำงานร่วมกนั 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 2 5. ทกั ษะการสบื ค้นขอ้ มลู 5. สงั เกตความซอื่ สตั ย์ สจุ รติ ความมวี ินัย 2 1. ทักษะการสื่อสาร ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน 2. ทักษะการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู 3. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 1. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 4. ทักษะการสงั เกต 2. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 5. ทักษะการทำงานรว่ มกัน 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 6. ทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มลู 4. สงั เกตความซื่อสัตย์ สจุ รติ ความมวี ินยั 1. ทกั ษะการสอ่ื สาร ความรับผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน 2. ทักษะการแลกเปลี่ยนข้อมลู 3. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 1. ตรวจใบงานที่ 2.4.1 เร่อื ง ไฟฟา้ และอปุ กรณ์ 4. ทกั ษะการสังเกต ท่ที ำให้เกดิ แสง 5. ทกั ษะการทำงานร่วมกนั 6. ทกั ษะการสบื ค้นขอ้ มลู 2. ประเมินการนำเสนอผลงาน 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 5. สังเกตความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ ความมวี ินยั ความรับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 วสั ดุ อปุ กรณ์ทางเทคโนโลยี ศษ 7

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ สี อน/วธิ กี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3. กระบวนการออกแบบ แผนท่ี 1 กระบวนการทาง แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เชิงวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ (5Es Instructional Model) แผนที่ 2 กระบวนการออกแบบ แบบใช้ปญั หาเป็นฐาน เชิงวิศวกรรม (Problem–based Learning) 4.การคิดเชิงออกแบบ แผนท่ี 1 กระบวนการคดิ เชิง แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ออกแบบ (Problem–based Learning) พิเศ

ทกั ษะทีไ่ ด้ การประเมนิ เวลา 1. ทกั ษะการส่ือสาร (ชัว่ โมง) 2. ทักษะการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 3. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 2 4. ทกั ษะการสงั เกต 5. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 2. ตรวจใบงานท่ี 3.1.1 เร่ือง กระบวนการทาง 4 6. ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู วิทยาศาสตร์ 2 1. ทกั ษะการสอ่ื สาร 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน 2. ทักษะการแลกเปลีย่ นข้อมลู 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 3. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 4. ทักษะการสงั เกต 6. สังเกตความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ 5. ทกั ษะการทำงานร่วมกนั 6. ทกั ษะการสืบค้นข้อมลู มุ่งม่นั ในการทำงาน 1. ประเมินการนำเสนอผลงาน 1. ทกั ษะการส่ือสาร 2. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 2. ทกั ษะการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม 3. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 4. ตรวจชิ้นงานการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 4. ทักษะการทำงานร่วมกัน 5. สงั เกตความมีวินัย ความรับผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ 5. ทักษะการสบื ค้นขอ้ มลู มุ่งม่นั ในการทำงาน ศษ 8 6. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การคิดเชงิ ออกแบบ 2. ประเมินการนำเสนอผลงาน 3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม 5. สงั เกตความซือ่ สัตย์ สจุ รติ ความมวี ินยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธีสอน/วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ แผนที่ 2 ถอดความคดิ เชงิ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es ออกแบบของ (5Es Instructional Model) พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดช มหาราช บรมนาถ บพิตร พิเศ

ทกั ษะที่ได้ การประเมิน เวลา (ชวั่ โมง) 1. ทกั ษะการสอ่ื สาร 1. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 2. ทักษะการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 2 3. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 4. ทักษะการสังเกต 4. สังเกตความมีวินัย ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 5. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 6. ทักษะการสบื คน้ ข้อมลู มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การคิดเชิงออกแบบ ศษ 9

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยีกับชวี ิต หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยีกบั ชีวิต เวลา 2 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสงั คมที่มีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพื่อแก้ปญั หาหรือ พฒั นางานอย่างมีความคดิ สร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่ิงแวดล้อม ว 4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโนม้ เทคโนโลยที ี่จะเกิดข้ึน โดยพิจารณาจากสาเหตหุ รือ ปจั จัยทส่ี ่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ ตัดสนิ ใจ เลือกใชเ้ ทคโนโลยี โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทเ่ี กดิ ขึน้ ตอ่ ชีวติ สงั คม และสิง่ แวดล้อม 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1) สาเหตหุ รือปัจจัยตา่ ง ๆ เช่น ความก้าวหน้าของศาสตรต์ า่ ง ๆ การเปลี่ยนแปลงทางด้าน เศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม ทำใหเ้ ทคโนโลยีมีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา 2) เทคโนโลยแี ตล่ ะประเภทมีผลกระทบต่อชีวิตสังคม และสิ่งแวดลอ้ มท่แี ตกต่างกนั จงึ ต้องวเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บขอ้ ดี ข้อเสยี และตัดสินใจเลือกใช้ให้เหมาะสม 2.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ (พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา) 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด มนษุ ย์ค้นพบและสรา้ งองค์ความรู้มากมายหลายสาขา เชน่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สงั คมศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงศาสตรท์ ส่ี ง่ ผลต่อการพฒั นาเทคโนโลยีอย่างมาก คอื วทิ ยาศาสตร์ เป็นความรู้ท่เี กี่ยวกบั สิง่ ต่าง ๆ ในธรรมชาตทิ งั้ ท่มี ชี ีวติ และไม่มีชีวติ โดยมีวธิ ีการทาง วิทยาศาสตรท์ ี่ใช้ในการสืบเสาะหาความรู้นน้ั อาศัยการสังเกตเป็นพนื้ ฐาน และคณติ ศาสตร์ที่เก่ยี วข้องกับ การอธบิ ายโครงสร้าง ความสัมพนั ธ์ ระเบยี บ รปู แบบ หรือแบบแผนตา่ ง ๆ ทงั้ ทอี่ ยู่ในธรรมชาตริ อบตวั และ ภาพท่อี ยู่ในสมอง เทา่ ที่มนุษย์จะสามารถรับรู้ไดท้ ้ังในเชิงนามธรรมและเชิงรปู ธรรม โดยอาศัยการคำนวณ และโมเดลทางคณิตศาสตรม์ าอธบิ าย ดังนัน้ การคน้ พบทางวทิ ยาศาสตร์ที่มีการอธบิ ายในรูปแบบของ สมการทางคณติ ศาสตร์ทแ่ี ม่นยำจะช่วยใหเ้ กิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขนึ้ มาอกี มากมาย และเทคโนโลยีที่ พัฒนาข้ึนสร้างผลกระทบท้งั ทางดา้ นมนุษย์และสังคม ดา้ นเศรษฐกิจ และดา้ นส่ิงแวดล้อม เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 1

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ิต 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. ซ่ือสัตย์ สจุ รติ - ทักษะการสื่อสาร 2. มวี ินยั รับผดิ ชอบ - ทักษะการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 2. ความสามารถในการคดิ 5. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทกั ษะการสงั เกต 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทกั ษะการสืบค้นขอ้ มูล 5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - 6. การวดั และการประเมินผล รายการวัด วิธีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมินตามสภาพจริง - แบบทดสอบก่อนเรยี น ก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวติ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจัด - ใบงานที่ 1.1.1 - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 กจิ กรรม การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 1) ผลกระทบของเทคโนโลยี 2) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล 3) พฤติกรรมการทำงานกล่มุ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 2

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ รายการวดั วธิ ีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 4) การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ 5) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลงาน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 7.3 การประเมินหลังเรียน - สงั เกตความซ่ือสัตย์ - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ - แบบทดสอบหลงั เรียน สุจริต ความมวี นิ ัย คณุ ลักษณะ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ความรับผดิ ชอบ อันพึงประสงค์ เร่อื ง เทคโนโลยกี บั ชีวิต ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่าง พอเพยี ง และมุ่งม่ัน ในการทำงาน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ หลังเรยี น 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง เทคโนโลยกี บั ชีวิต เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 3

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยีกบั ชวี ติ เรื่องที่ 1: การเปลยี่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี เวลา 4 ชว่ั โมง วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขัน้ นำ ข้นั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. นักเรยี นสแกนคิวอาร์โคด้ เร่อื ง การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยีจากหนังสือเรยี น โดยให้นักเรียน สรปุ ประเด็นสำคัญทีไ่ ด้จากการดูคลิปวดี โิ อลงในสมุดประจำตวั ของตนเอง 2. นักเรียนสังเกตภาพพฒั นาการของยานพาหนะจากอดีตถึงปัจจบุ นั โดยครอู ธิบายเพิ่มเติมกับ นกั เรียนเพ่ือเชือ่ มโยงเขา้ สู่บทเรยี น ขน้ั สอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน หรือตามความเหมาะสม โดยใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั สบื คน้ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยที ่มี ผี ลกระทบทำใหส้ ังคมมนุษย์ดีข้นึ จากทางอนิ เทอรเ์ นต็ ทเี่ ครอ่ื งคอมพิวเตอรข์ องตนเอง โดยครสู ่มุ นักเรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 2. นกั เรียนดภู าพการเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยีทางการสอื่ สารและภาพการเปลย่ี นแปลงของ เทคโนโลยีโทรศพั ทใ์ นรูปแบบของนวัตกรรม และเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกัน วิเคราะหจ์ ากตวั อย่างการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยขี องแต่ละกลุ่มตนเอง ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม (กลุ่มเดิม) และร่วมกันวิเคราะห์ตวั อย่างการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี ทแี่ ตล่ ะกลุ่มคัดเลือกมาว่าเทคโนโลยีดังกล่าวส่งผลกระทบทั้งทางบวกและลบในแตล่ ะด้าน อย่างไร ตามหัวข้อทกี่ ำหนดให้ ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 4. นกั เรียนแตล่ ะคนทำกิจกรรมทสี่ อดคล้องกบั เนอ้ื หาโดยให้ผู้เรยี นฝกึ ปฏิบัตเิ พื่อพฒั นาความรู้ และทกั ษะ (Design Activity) 5. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม (กลมุ่ เดิม) เพ่ือทำใบงานที่ 1.1.1 เร่อื ง ผลกระทบของเทคโนโลยี 6. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอข้อมูลหนา้ ชัน้ เรียน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยีกับชวี ติ ขนั้ สรปุ ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลการนำเสนอของนักเรียน 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องจากการทำใบงานที่ 1.1.1 3. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้เกยี่ วกับเทคโนโลยีกบั ชวี ิต 4. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ทบทวนความรู้ ความเข้าใจ และพฒั นาทกั ษะการคิดของผูเ้ รียน (Unit Activity) จากนั้นใหน้ ักเรียนตอบคำถามลงในสมดุ ประจำตัว 5. นักเรียนตรวจสอบระดับความสามารถของตนเอง (Self-Check) โดยพจิ ารณาขอ้ ความว่า ถูกหรอื ผดิ หากนกั เรยี นพจิ ารณาข้อความไมถ่ ูกต้อง ใหน้ กั เรยี นกลบั ไปทบทวนเน้ือหา ตามหัวข้อที่กำหนดให้ 6. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง เทคโนโลยกี บั ชวี ิต เพอื่ วัดความรทู้ นี่ กั เรียนไดร้ ับหลังจากผ่านการเรยี นรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 5

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เทคโนโลยีกับชีวติ 8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชีวติ 2) ใบงานท่ี 1.1.1 เรื่อง ผลกระทบของเทคโนโลยี 3) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 8.2 แหลง่ เรยี นรู้ 1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 6

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ิต แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกล่าวถงึ เทคโนโลยี 5. สมาร์ทโฟน เปน็ เทคโนโลยที ี่พฒั นาขึ้นจากปัจจยั ก. การสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาตอิ ยา่ ง การเปล่ียนแปลงในขอ้ ใด ตอ่ เน่อื ง ก. การตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์ ข. นำทฤษฎีมาใช้ประโยชนท์ ำให้เกดิ ความแมน่ ยำ ข. ความกา้ วหน้าของศาสตรต์ ่าง ๆ ในการทำนาย ค. การแกป้ ัญหาต่างท่ีเกดิ ขนึ้ ในสังคม ค. นำความรมู้ าประยุกต์ใช้ในการสร้างเคร่ืองมอื ง. การผลติ สินคา้ ทเี่ พ่ิมมากขนึ้ ทอ่ี ำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ 6. ไฟฟ้าทีเ่ กิดจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นเทคโนโลยี ง. ใช้ความคดิ สร้างสรรค์พัฒนาและผลิตสินคา้ ใหม่ ที่พฒั นาขึน้ จากปัจจัยการเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี เพอ่ื ประโยชนใ์ นเชงิ พาณชิ ย์ ในขอ้ ใด 2. ข้อใดไม่ใช่ประโยชนข์ องเทคโนโลยี ก. การตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์ ก. ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชวี ิตมนุษย์ ข. ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ ข. ช่วยแกป้ ญั หาทเี่ กิดขน้ึ ในสังคม ค. การแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดขนึ้ ในสังคม ค. ทำให้เกิดการใชท้ รัพยากรธรรมชาติ ง. การผลิตสินคา้ ทเ่ี พม่ิ มากขนึ้ ฃ มากข้นึ 7. “อนิ เทอรเ์ น็ต” ทำใหเ้ กิดการแลกเปล่ยี นความร้แู ละ ง. ทำให้กระบวนการผลติ มีประสทิ ธิภาพมากขึ้น วฒั นธรรมของคนทั่วโลก จงึ กลา่ วไดว้ ่าอนิ เทอร์เน็ต 3. ข้อใดไมใ่ ช่ปจั จัยที่ทำให้เกดิ การเปลีย่ นแปลง ส่งผลกระทบด้านใดจากการเปลีย่ นแปลงเทคโนโลย เทคโนโลยี ก. ด้านสังคมและมนุษย์ ก. การตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์ ข. ด้านเศรษฐกจิ ข. ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ตา่ ง ๆ ค. ดา้ นส่งิ แวดล้อม ค. การแกป้ ัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม ง. ด้านกฎหมาย ง. การเปลยี่ นแปลงทางสังคม 8. “การโอนเงินผา่ นมือถอื ” ส่งผลกระทบดา้ นใด 4. “การใชเ้ ปลือกของก้งุ ลอ็ บสเตอรม์ าผลติ เป็น จากการเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี พลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายง่าย” สง่ ผลกระทบ ก. ด้านสงั คมและมนษุ ย์ ดา้ นใดจากการเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี ข. ด้านเศรษฐกิจ ก. ด้านสังคมและมนษุ ย์ ข. ดา้ นเศรษฐกิจ ค. ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม ค. ด้านสิง่ แวดล้อม ง. ดา้ นกฎหมาย ง. ดา้ นกฎหมาย เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 7

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เทคโนโลยีกับชีวติ 9. ความรเู้ รอ่ื งฟ้าผ่า เป็นปรากฏการณท์ างธรรมชาติ 10. เพราะเหตุใดเราจึงต้องวิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบข้อดี ทเี่ กดิ ข้นึ จากอเิ ล็กตรอนจำนวนมากเคลื่อนท่ีไปมา ข้อเสียทีเ่ กดิ ขึ้นกอ่ นลงมอื สร้างเทคโนโลยี ระหวา่ งเมฆกบั เมฆหรอื ระหวา่ งเมฆกับพน้ื โลก ก. เพราะจะไดส้ ร้างเทคโนโลยีท่ีมีต้นทนุ ตำ่ ทสี่ ุด เปน็ ความรู้ท่ีเกย่ี วข้องกับศาสตร์ดา้ นใด ข. เพราะเทคโนโลยที ี่สร้างขึ้นมีความสามารถ ก. วทิ ยาศาสตร์ ดที ่สี ดุ ข. คณิตศาสตร์ ค. เพราะเทคโนโลยีท่ีสร้างขึ้นสร้างรายได้ ค. สังคมศาสตร์ ใหป้ ระเทศมากข้นึ ง. เศรษฐศาสตร์ ง. เพราะเทคโนโลยีที่สร้างข้ึนจะเกิดประโยชน์ สูงสุดแก่มนษุ ย์ เฉลย 1. ค 2. ค 3. ง 4. ค 5. ก 6. ค 7. ก 8. ข 9. ก 10. ง เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 8

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยีกับชีวิต แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 คำช้แี จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 5. เทคโนโลยีใดทพี่ ัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการ ก. การใชเ้ ปลอื กของกุ้งล็อบสเตอร์มาผลติ เป็น ของมนษุ ย์ ทำให้มนษุ ย์ได้รับความสะดวกมากข้ึน พลาสติกชวี ภาพ ก. สมาร์ทโฟน ข. ฟา้ ผา่ เปน็ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่ีเกดิ ขึ้น ข. ยานอวกาศ จากอเิ ล็กตรอนจำนวนมากเคล่อื นท่ไี ปมา ค. ไฟฟา้ จากพลังงานแสงอาทิตย์ ระหว่างเมฆกบั เมฆหรือระหว่างเมฆกับพ้นื โลก ง. ดาวเทยี ม ค. หุน่ ยนต์เชอ่ื มโลหะในสายการผลติ ของโรงงาน 6. เทคโนโลยใี ดทพ่ี ัฒนาข้นึ เพื่อแก้ปญั หาการขาดแคลน ง. โดรนปฏิบัตกิ ารพน่ สารเคมี ปุ๋ย ฮอร์โมนพืช พลังงาน 2. การนำความรูว้ ทิ ยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้สำหรับ ก. โดรน การสร้างเคร่ืองมือท่ีอำนวยความสะดวกใหก้ ับมนุษย์ ข. ยานอวกาศ คอื อะไร ค. กงั หนั ลม ก. เทคโนโลยี ข. วศิ วกรรม ง. ดาวเทยี ม ค. นวัตกรรม ง. คณิตศาสตร์ 7. ขอ้ ใดไมเ่ ก่ียวขอ้ งกับเทคโนโลยีทท่ี ำใหเ้ กิดรูปแบบ 3. ขอ้ ใดจัดเปน็ การใชเ้ ทคโนโลยเี พ่อื แกป้ ัญหา การค้นหาข้อมูลในห้องสมดุ ของนักเรยี นทปี่ ลี่ยนไป การขาดแคลนพลังงาน ก. คลนื่ แม่เหล็กไฟฟา้ ก. หนุ่ ยนตเ์ ช่ือมโลหะในสายการผลติ ของโรงงาน ข. อนิ เทอรเ์ นต็ ข. การผลิตไฟฟ้าจากพลงั งานแสงอาทติ ย์ ค. ดาวเทยี ม ค. การใชเ้ ปลือกของก้งุ ล็อบสเตอรม์ าผลิต ง. ยานอวกาศ เป็นพลาสตกิ ชีวภาพ 8. ข้อใดคือผลกระทบทางลบท่รี ุนแรงทีส่ ุดทเี่ กิดจาก ง. การใชโ้ ดรนปฏิบัตกิ ารพน่ สารเคมี ปุ๋ย ฮอร์โมนพืช การใช้เทคโนโลยีท่ีชาญฉลาด 4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ปัจจัยทีท่ ำใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลง ก. การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าทมี่ ากขึ้น เทคโนโลยี ข. ทำใหค้ วามสัมพันธ์ของมนุษย์เสอ่ื มลง ก. การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ค. สายตาเสยี จากการใช้คอมพวิ เตอร์เป็นเวลานาน ข. การแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ทเี่ กิดขึน้ ในสงั คม ง. การยกเลกิ การจา้ งแรงงานคนในการทำงาน ค. การเปลี่ยนแปลงทางสังคม บางดา้ น ง. ความกา้ วหน้าของศาสตรต์ า่ ง ๆ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 9

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ิต 10. การลงมอื สรา้ งเทคโนโลยเี พ่ือก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ สูงสดุ ของมนุษยจ์ ะตอ้ งทำส่ิงใด 9. ข้อใดคอื ผลกระทบทางบวกของการใช้เทคโนโลยี ก. วิเคราะห์เปรยี บเทียบข้อดี-ข้อเสียก่อนลงมอื อนิ เทอรเ์ น็ต สรา้ งเทคโนโลยี ก. ทำให้ติดต่อส่ือสารกับบคุ คลอ่ืนได้อย่างลา่ ชา้ ข. สำรวจความตอ้ งการของผใู้ ชง้ าน ข. ทำใหต้ ลาดการค้าขายถดถอย ค. เปรยี บเทียบกับคู่แข่งก่อนลงมือสร้างเทคโนโลยี ค. ทำใหต้ ิดตามเคลอื่ นไหวจากข่าวสารท่วั โลก ง. คดั เลอื กวสั ดทุ ่ีดที ส่ี ุดในการสร้างเทคโนโลยี อยา่ งรวดเร็ว ง. ทำใหม้ ีการใช้ไฟฟา้ มากข้นึ ส่งผลกระทบ ตอ่ สายตา เฉลย 1. ข 2. ก 3. ข 4. ค 5. ก 6. ค 7. ข 8. ง 9. ค 10. ก เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 10

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การเปล่ยี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี 1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด เวลา 2 ช่ัวโมง 1.1 ตัวชว้ี ัด คาดการณแ์ นวโน้มเทคโนโลยที ีจ่ ะเกิดขึน้ โดยพจิ ารณาจากสาเหตหุ รือปจั จัย ว 4.1 ม.2/1 ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ ตัดสนิ ใจ เลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถงึ ผลกระทบทีเ่ กิดข้ึนตอ่ ชวี ิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยีไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 2. ยกตัวอย่างเทคโนโลยแี ละวิเคราะห์ว่าเกดิ จากปัจจยั ตอ่ การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยไี ด้ถกู ต้อง (K) 3. เขียนผลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบของเทคโนโลยีได้ (P) 4. เล็งเห็นถึงความสำคัญของผลกระทบท้ังทางบวกและผลกระทบทางลบในสรา้ งเทคโนโลยี (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - สาเหตหุ รอื ปจั จัยต่าง ๆ เชน่ ความก้าวหน้า ของศาสตร์ต่าง ๆ การเปล่ียนแปลงทางดา้ น เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ทำใหเ้ ทคโนโลยี มกี ารเปล่ยี นแปลงตลอดเวลา - เทคโนโลยแี ต่ละประเภทมผี ลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ มท่แี ตกต่างกัน จึงต้อง วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบข้อดี ขอ้ เสยี และตัดสินใจ เลือกใช้ใหเ้ หมาะสม เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 11

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยกี บั ชีวติ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 การเปล่ยี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด มนษุ ย์ค้นพบและสร้างองค์ความรู้มากมายหลายสาขา เชน่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งศาสตร์ท่สี ่งผลตอ่ การพฒั นาเทคโนโลยีอย่างมาก คอื วิทยาศาสตร์ เป็นความรู้ทเี่ กย่ี วกบั ส่งิ ตา่ ง ๆ ในธรรมชาติท้งั ที่มีชวี ิตและไมม่ ชี วี ิต โดยมีวธิ กี ารทาง วิทยาศาสตรท์ ่ีใชใ้ นการสบื เสาะหาความรู้นนั้ อาศัยการสงั เกตเป็นพน้ื ฐาน และคณติ ศาสตร์ท่ีเกย่ี วข้องกบั การอธิบายโครงสร้าง ความสัมพันธ์ ระเบียบ รปู แบบ หรือแบบแผนตา่ ง ๆ ท้ังทอ่ี ยู่ในธรรมชาตริ อบตัวและ ภาพทีอ่ ยู่ในสมอง เท่าท่ีมนษุ ย์จะสามารถรับรู้ไดท้ ง้ั ในเชงิ นามธรรมและเชงิ รูปธรรม โดยอาศัยการคำนวณ และโมเดลทางคณิตศาสตรม์ าอธบิ าย ดงั นั้น การค้นพบทางวทิ ยาศาสตรท์ ี่มีการอธบิ ายในรูปแบบของ สมการทางคณิตศาสตรท์ แ่ี ม่นยำจะช่วยให้เกิดเทคโนโลยใี หม่ ๆ ข้นึ มาอกี มากมาย และเทคโนโลยีที่ พฒั นาขึน้ สรา้ งผลกระทบท้ังทางด้านมนุษย์และสังคม ด้านเศรษฐกิจ และดา้ นสิ่งแวดล้อม 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. ซอื่ สัตย์ สุจรติ - ทักษะการส่ือสาร 2. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ - ทกั ษะการแลกเปลี่ยนข้อมูล 3. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ความสามารถในการคิด 4. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 5. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทกั ษะการสงั เกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - ทักษะการทำงานรว่ มกนั 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสืบคน้ ขอ้ มูล 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 12

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชีวติ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเปลีย่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ช่วั โมงที่ 1 ข้นั นำ ข้ันท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง เทคโนโลยกี บั ชวี ติ 2. นักเรียนสแกนควิ อาร์โคด้ เร่ือง การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี จากหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอื่ ง เทคโนโลยี กับชีวติ โดยให้นักเรยี นสรปุ ประเดน็ สำคัญที่ไดจ้ ากการดูคลิปวีดโิ อลงในสมดุ ประจำตวั ของ ตนเอง 3. ครูสรุปความรรู้ ่วมกับนักเรยี นจากการดวู ีดทิ ัศน์ว่า“การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีมีผลตอ่ การเปลย่ี นกจิ กรรมของมนุษย์ โดยอำนวยความสะดวกและตอบสนองความตอ้ งการของมนษุ ย์ ในดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ ววิ ัฒนาการของการสอ่ื สารจากอดีตถึงปัจจบุ นั โดยเริ่มจากการสง่ รหัสมอรส์ > จดหมาย > โทรศัพท์ > โทรสาร > อีเมล์ > โปรแกรมสนทนาออนไลน์ จะเห็นไดว้ า่ เป็น การพฒั นาข้ึนเพื่อตอบสนองให้มนษุ ย์ส่อื สารได้หลากหลายรูปแบบ และทำใหก้ ารส่ือสาร เกดิ ประโยชน์สูงสดุ กบั มนุษย์” 4. นักเรยี นสังเกตภาพพัฒนาการของยานพาหนะจากอดตี ถึงปัจจบุ นั จากหนังสอื เรียน เพ่อื ให้ นกั เรียนเข้าใจถึงการเปลยี่ นแปลงของยานพาหนะจากอดีตถึงปัจจุบนั ทมี่ ผี ลกระทบทด่ี ีขึ้น ตอ่ ชีวิตมนุษย์ 5. ครูอธิบายเพ่ิมเติมกับนกั เรียนว่า“กอ่ นปฏวิ ัตอิ ุตสาหกรรมไดม้ ีการใช้ยานพาหนะท่ใี ชแ้ รงงาน สตั ว์เกดิ ขึน้ เพื่อตอบสนองการเดินทางหรอื การขนย้ายสง่ิ ของทม่ี ีนำ้ หนักมาก แต่การเดินทาง ดว้ ยสัตว์เปน็ ไปอยา่ งล่าช้า จงึ ไดม้ ีการพัฒนายานพาหนะทขี่ ับเคลื่อนด้วยพลงั งานไอนำ้ ทำให้ มนษุ ยเ์ ดินทางไดเ้ ร็วขึน้ แต่เน่ืองจากพาหนะทีข่ บั เคลื่อนดว้ ยพลงั งานไอนำ้ ต้องใช้ทรัพยากร ธรรมชาติเป็นเช้ือเพลิงหลักจึงสง่ ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ดังนัน้ จงึ ได้มกี ารพัฒนา และประดิษฐ์เครื่องยนต์ท่ีใชน้ ำ้ มันดเี ซลข้นึ ซงึ่ เปน็ พาหนะท่ีมคี นนิยมใชม้ ากเพราะรวดเร็ว และสะดวกสบาย แตก่ ม็ ผี ลกระทบให้มีการใชน้ ้ำมนั สงู ขน้ึ จนมกี ารพยากรณว์ า่ การผลิตนำ้ มนั จะเรมิ่ ลดจำนวนลงหลังปี ค.ศ. 2020 จึงมีการคน้ ควา้ และพัฒนาพาหนะทใ่ี ช้พลงั งานทางเลือก โดยใช้พลงั งานไฟฟ้าจากแสงอาทิตยเ์ ปน็ เช้ือเพลงิ หลัก ดงั นั้นพาหนะท่ใี ช้พลงั งานไฟฟา้ จาก แสงอาทิตย์จึงนิยมจนถึงปัจจบุ นั เพราะชว่ ยใหก้ ารเดนิ ทางสะดวกมากขนึ้ และช่วยลดปญั หา การใช้พลังงานเกนิ ความจำเป็น” เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 13

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ข้ันสอน ข้นั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน หรอื ตามความเหมาะสม โดยให้นักเรยี นรว่ มกันสืบคน้ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยที ่ีมีผลกระทบทำใหส้ ังคมมนุษย์ดขี ึน้ จากทางอนิ เทอร์เน็ต ทเี่ ครื่องคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 2. ครสู ุ่มนักเรยี น 2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอข้อมลู ตามท่ีได้สืบคน้ หนา้ ชั้นเรยี น โดยครู เปิดโอกาสให้เพื่อนรว่ มช้นั สามารถซกั ถามขอ้ สงสัยได้อย่างอสิ ระ โดยครูคอยให้คำแนะนำ เพ่ิมเติมตามความเหมาะสม 3. ครอู ธบิ ายกบั นักเรียนว่า“การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยเี กิดขึ้นจากหลายปจั จัย แต่ปจั จัย ทม่ี ผี ลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีอยา่ งต่อเนื่อง คอื 3 ปจั จัย ดงั น้ี 1) การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ 2) ความก้าวหนา้ ของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ 3) การแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดขน้ึ ในสงั คม” 4. นักเรียนดูภาพการเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยีทางการสื่อสารและภาพการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยีโทรศพั ทใ์ นรปู แบบของนวตั กรรม พร้อมวิเคราะห์ถึงการเปลยี่ นแปลงจากอดีต ส่ปู ัจจุบนั 5. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั วิเคราะหจ์ ากตัวอย่างการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยขี องแต่ละกลุม่ วา่ เทคโนโลยดี ังกลา่ วเกดิ ขึน้ จากปจั จยั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีปัจจัยใด โดยใหน้ กั เรียน วิเคราะหแ์ ละสรปุ ร่วมกันภายในกลมุ่ จากน้นั ให้แตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอขอ้ มลู หนา้ ชนั้ เรยี น ช่ัวโมงที่ 2 ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 6. ครอู ธิบายกบั นักเรียนวา่ “เทคโนโลยีทีอ่ ำนวยความสะดวกสบายกก็ ่อใหเ้ กิดข้อเสียหลายอยา่ ง ต่อการใช้ชีวติ ของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรง 3 ดา้ น คือ 1) ด้านมนุษย์และสงั คม 2) ด้านเศรษฐกจิ 3) ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม 7. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม (กลุม่ เดมิ ) และร่วมกันวเิ คราะห์ตวั อยา่ งการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ทแี่ ต่ละกลมุ่ คัดเลือกมาวา่ เทคโนโลยีดงั กลา่ วส่งผลกระทบท้ังทางบวกและลบในแต่ละด้าน อยา่ งไร ตามหัวข้อดงั นี้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 14

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเปลีย่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี 1) ด้านมนุษย์และสังคม 1.1) ความต้องการของสังคม 1.2) ความกา้ วหน้าของวิทยาการ 1.3) การเปลย่ี นแปลงทางวฒั นธรรม 2) ด้านเศรษฐกจิ 3) ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม 8. ครูอธิบายเกรด็ เสริมความรู้เกี่ยวขอ้ งกับเนื้อหา (Design Focus) เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงทาง วัฒนธรรมว่า“วัฒนธรรมเป็นสิง่ ท่เี ปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา วัฒนธรรมในสงั คมจะมกี าร เปล่ียนแปลงเรว็ หรือชา้ ขึน้ อยู่กับสังคมนน้ั มีโอกาสสมั ผสั กับวฒั นธรรมภายนอกไดส้ ะดวก มากหรือน้อย โอกาสทว่ี ทิ ยาการต่าง ๆ เขา้ สู่สงั คมยอ่ มมีผลกระทบต่อวฒั นธรรม ปัจจุบัน วิทยาการตา่ ง ๆ ก้าวหนา้ ไปมาก ประกอบกบั มีอนิ เทอรเ์ นต็ เชื่อมตอ่ กนั ถึงทว่ั โลก จึงเกิด การเปลยี่ นแปลงดา้ นวัฒนธรรมอยา่ งรวดเรว็ ” ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 9. นักเรียนแตล่ ะคนทำกจิ กรรมทส่ี อดคล้องกบั เนือ้ หาโดยให้ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิเพ่ือพฒั นาความรู้ และทกั ษะ (Design Activity) โดยให้นักเรยี นพิจารณาภาพและวเิ คราะห์ถงึ ข้อดีและข้อเสยี ของเทคโนโลยี พรอ้ มอธบิ ายถงึ การทำงานของเทคโนโลยีนั้นว่าสามารถนำไปใช้ใหเ้ กิด ประโยชน์อย่างไร 10. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม (กลุม่ เดมิ ) เพ่ือทำใบงานที่ 1.1.1 เรอ่ื ง ผลกระทบของเทคโนโลยี โดยให้ นักเรียนอา่ นและทำความเข้าใจเนอื้ ห าพร้อมตอบคำถามลงในประเด็นท่กี ำหนดใหอ้ ย่าง ถกู ต้อง 11. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อมลู หน้าชน้ั เรียน Note วตั ถุประสงค์ของกิจกรรมเพอื่ ใหน้ ักเรียน - มที ักษะการทำงานรว่ มกนั โดยใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทำงานหรอื การทำ กจิ กรรมเพ่ือใหเ้ กดิ การส่ือสารและแลกเปลี่ยนขอ้ มูลรว่ มกันภายในกลุม่ - มที กั ษะการสบื ค้นข้อมลู โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต เพอ่ื สบื เสาะหาความรูต้ ามหัวขอ้ ที่ได้รับมอบหมาย - มที กั ษะการสังเกต โดยให้นักเรยี นสงั เกตภาพพฒั นาการทางเทคโนโลยีจากอดีต จนถึงปจั จบุ ันจากหนังสือเรียนเพือ่ นำไปปรับใชใ้ นการเรยี นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - มีทักษะการคดิ วเิ คราะห์ โดยให้นกั เรยี นพจิ ารณาเน้ือหาจากการสืบคน้ หรือศึกษา ขอ้ มลู จากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ เชน่ หนังสือเรยี น อินเทอรเ์ น็ต เป็นต้น เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 15

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี บั ชีวิต แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเปลีย่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ขน้ั สรุป ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลการนำเสนอของนกั เรยี น 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องจากการทำใบงานที่ 1.1.1 3. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปความรเู้ ก่ียวกบั เทคโนโลยีกับชวี ิตว่า“เทคโนโลยที ม่ี กี ารพฒั นา อย่างต่อเน่ืองเกิดจากปัจจัยสำคญั ๆ ได้แก่ 1) การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ 2) ความก้าวหนา้ ของศาสตรต์ ่าง ๆ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงศาสตร์ดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละ คณิตศาสตร์ 3) การแกป้ ัญหาต่างที่เกิดข้นึ ในสังคม ซง่ึ การพัฒนาเทคโนโลยหี รือเลอื กใช้เทคโนโลยี สง่ิ สำคัญคือการประเมินวา่ เทคโนโลยนี ัน้ สง่ ผลกระทบทง้ั ทางบวกและทางลบ ดา้ นมนุษยแ์ ละสงั คม ด้านเศรษฐกจิ และดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งไรเพ่ือเป็นแนวทาง ในการพัฒนาเทคโนโลยีหรอื เลือกใชเ้ ทคโนโลยนี ้ัน ๆ ได้อย่างเหมาะสม” 4. นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ทบทวนความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาทกั ษะการคดิ ของผเู้ รียน (Unit Activity) จากนัน้ ให้นักเรียนตอบคำถามลงในสมุดประจำตวั 5. นักเรยี นตรวจสอบระดับความสามารถของตนเอง (Self-Check) โดยพิจารณาขอ้ ความวา่ ถกู หรอื ผดิ หากนักเรยี นพิจารณาข้อความไมถ่ ูกต้อง ใหน้ กั เรยี นกลบั ไปทบทวนเนื้อหา ตามหัวขอ้ ท่กี ำหนดให้ 6. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง เทคโนโลยีกับชีวติ เพ่ือ วัดความรู้ที่นักเรียนได้รับหลังจากผา่ นการเรยี นรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 16

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเปลย่ี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี 7. การวดั และประเมินผล วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน รายการวดั - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจรงิ 7.1 การประเมินก่อนเรียน ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 - ใบงานท่ี 1.1.1 - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวิต - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 7.2 การประเมินระหว่างการจัด กิจกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 1) ผลกระทบของเทคโนโลยี ผา่ นเกณฑ์ 2) พฤตกิ รรมการทำงาน การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม รายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ผลงาน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 4) การนำเสนอผลงาน - สงั เกตความซื่อสตั ย์ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ สจุ รติ ความมีวนิ ัย คุณลักษณะ 5) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ความรับผดิ ชอบ อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ย่าง 7.3 การประเมินหลงั เรียน พอเพยี ง และมุ่งม่นั - แบบทดสอบหลงั เรยี น ในการทำงาน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง เทคโนโลยกี ับชีวิต - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินตามสภาพจริง หลงั เรยี น เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 17

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยกี บั ชีวติ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การเปล่ยี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยีกบั ชีวติ 2) ใบงานท่ี 1.1.1 เร่ือง ผลกระทบของเทคโนโลยี 3) เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 8.2 แหล่งเรียนรู้ 1) หอ้ งคอมพิวเตอร์ 2) อนิ เทอรเ์ น็ต เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 18

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชีวิต แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเปล่ยี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ใบงานที่ 1.1.1 เรือ่ ง ผลกระทบของเทคโนโลยี คำช้แี จง : ให้นกั เรยี นอา่ นและทำความเขา้ ใจกับเน้ือหา พร้อมตอบคำถามลงในประเด็นที่กำหนดให้ บรษิ ทั สตารท์ อัพ Shell works ประเทศองั กฤษได้พัฒนาพลาสตกิ ชวี ภาพ ใชเ้ ปลือกของกุ้ง ลอ็ บสเตอร์ ซึง่ ในเปลอื กกงุ้ ล็อบสเตอร์มสี ารพอลเิ มอร์ชีวภาพทเ่ี รียกวา่ ไคตนิ (Chitin) เปน็ องค์ประกอบสูงมาก สามารถนำมาพัฒนาเป็นวสั ดุทีย่ อ่ ยสลายไดแ้ ละยงั สามารถนำกลับมาใชใ้ หมไ่ ดอ้ ีกดว้ ย โดยขัน้ แรกเริม่ จากการนำ เปลอื กล็อบสเตอร์มาปั่นใหเ้ ปน็ ผงและย่อยสลายตอ่ โดยใชต้ ัวทำละลายอนิ ทรีย์ เพือ่ สกดั เอาไคตินออกมา ไคตนิ จะถูก นำไปทำปฏิกริ ิยากบั สารละลายกรดเบส จนไดเ้ ปน็ ผงไคโตซาน ทีไ่ ดม้ าผสมกับนำ้ สม้ สายชู จนไดส้ ารละลายพลาสตกิ ชีวภาพ ซงึ่ สามารถนำไปใชท้ ำผลติ ภัณฑส์ ามมติ ิ เช่น ถุงพลาสตกิ พลาสติกชีวภาพจากเปลือกก้งุ ลอ็ บสเตอร์ มคี ณุ สมบตั ิพเิ ศษทสี่ ามารถตา้ นทานเช้อื ราและแบคทเี รยี ได้รวมท้งั สามารถยอ่ ยสลายกลายเป็นปุ๋ยได้ โดยไม่ก่อให้เกดิ อนั ตรายต่อสง่ิ แวดลอ้ ม อยา่ งไรก็ตาม แมบ้ รรดานกั วิจัยจะหวงั ว่า ในอนาคตจะมีการใช้พลาสติกชวี ภาพผลติ ช้อนส้อมแบบใชแ้ ล้วทงิ้ แพร่หลายขน้ึ แตบ่ างคนบอกวา่ เราอาจจะไม่ไดเ้ ห็น ถุงพลาสติกจากก้งุ ลอ็ บสเตอรใ์ นเรว็ ๆ นี้ เพราะกระบวนการผลติ นน้ั มีราคาค่อนขา้ งสงู เมอ่ื เทียบกบั พลาสติกทีผ่ ลติ ใน อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทมี่ า : http://www.nsm.or.th/other-service/679-online-science/knowless-inventory/science- news/science-news-science-museum/3734 ผลกระทบทางบวกและลบของเทคโนโลยีการผลิตพลาสตกิ ชวี ภาพ ผลกระทบ ผลกระทบทางบวก ผลกระทบทางลบ ดา้ นสงั คม ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม การตัดสนิ ใจเลือกใช้เทคโนโลยี  เลอื กใช้  ไม่เลอื กใช้ เหตผุ ล ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... ........................................... เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 19

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี ับชีวติ เฉลย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ใบงานท่ี 1.1.1 เรอ่ื ง ผลกระทบของเทคโนโลยี คำช้แี จง : ให้นักเรียนอ่านและทำความเข้าใจกบั เนื้อหา พร้อมตอบคำถามลงในประเด็นที่กำหนดให้ บรษิ ทั สตาร์ทอพั Shell works ประเทศองั กฤษได้พฒั นาพลาสตกิ ชวี ภาพ ใชเ้ ปลอื กของกงุ้ ลอ็ บสเตอร์ ซ่งึ ในเปลอื กกุ้งล็อบสเตอรม์ สี ารพอลเิ มอรช์ วี ภาพที่เรียกว่า ไคตนิ (Chitin) เป็นองคป์ ระกอบสงู มาก สามารถนำมาพัฒนาเปน็ วสั ดุทย่ี ่อยสลายได้และยงั สามารถนำกลบั มาใช้ใหม่ได้อีกด้วย โดยข้ันแรกเร่ิมจากการนำ เปลอื กล็อบสเตอรม์ าปน่ั ใหเ้ ป็นผงและยอ่ ยสลายตอ่ โดยใชต้ ัวทำละลายอินทรยี ์ เพอ่ื สกัดเอาไคตินออกมา ไคตนิ จะถกู นำไปทำปฏิกริ ยิ ากบั สารละลายกรดเบส จนไดเ้ ปน็ ผงไคโตซาน ทไี่ ดม้ าผสมกับนำ้ ส้มสายชู จนไดส้ ารละลายพลาสติก ชวี ภาพ ซ่ึงสามารถนำไปใช้ทำผลติ ภณั ฑ์สามมิติ เชน่ ถงุ พลาสติก พลาสตกิ ชวี ภาพจากเปลือกกุง้ ลอ็ บสเตอร์ มคี ณุ สมบตั พิ ิเศษท่สี ามารถต้านทานเชอ้ื ราและแบคทีเรยี ได้รวมท้ัง สามารถย่อยสลายกลายเปน็ ปุ๋ยได้ โดยไมก่ ่อให้เกดิ อนั ตรายต่อส่ิงแวดลอ้ ม อย่างไรกต็ าม แมบ้ รรดานกั วจิ ัยจะหวังว่า ในอนาคตจะมกี ารใชพ้ ลาสตกิ ชวี ภาพผลติ ช้อนส้อมแบบใช้แล้วทง้ิ แพรห่ ลายขึน้ แตบ่ างคนบอกว่าเราอาจจะไม่ไดเ้ ห็น ถงุ พลาสตกิ จากกุ้งล็อบสเตอร์ในเร็ว ๆ นี้ เพราะกระบวนการผลิตนนั้ มรี าคาค่อนขา้ งสูงเมื่อเทียบกบั พลาสตกิ ทผี่ ลติ ใน อตุ สาหกรรมขนาดใหญ่ ทม่ี า : http://www.nsm.or.th/other-service/679-online-science/knowless-inventory/science- news/science-news-science-museum/3734 ผลกระทบทางบวกและลบของเทคโนโลยกี ารผลติ พลาสตกิ ชีวภาพ ผลกระทบ ผลกระทบทางบวก ผลกระทบทางลบ ดา้ นสังคม พลาสตกิ ชีวภาพจากเปลอื กกงุ้ ลอ็ บสเตอร์ มี - คุณสมบัตพิ เิ ศษทส่ี ามารถต้านทานเชอื้ ราและ แบคทเี รีย เหมาะกับการบรรจุอาหาร ด้านเศรษฐกิจ สามารถนำไปสรา้ งบรรจภุ ณั ฑ์แทนพลาสติก ต้นทุนการผลติ ราคาค่อนข้างสงู ทำให้สนิ ค้า กระดาษ หรอื ทรัพยากรท่มี แี นวโนม้ ลดลง เปน็ ราคาสงู ขนึ้ ทางเลือกสำหรับผูบ้ รโิ ภคทร่ี ักษ์โลก - พลาสติกชวี ภาพ (Bioplastic) ทส่ี ามารถยอ่ ย - สลายไดใ้ นธรรมชาตแิ ละเปน็ ปยุ๋ ในดนิ ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม - ลดขยะทเ่ี กดิ จากพลาสตกิ ทมี่ มี ากขึน้ การตดั สินใจเลอื กใช้เทคโนโลยี  เลอื กใช้  ไม่เลือกใช้ เหตผุ ล .ม..ีผ...ล..ก..ร..ะ...ท..บ...ใ.น...ท...า..ง..บ..ว..ก...ม..า..ก..ก...ว..า่..ท...า..ง.ล...บ.....แ..ล...ะ..ป...ัจ..จ..ุบ...นั ..ม...ีป...ร..ิม..า..ณ...ข...ย..ะ..จ...า..ก..ถ..ุง..พ..ล...า..ส..ต..ิก...ท..่มี...า..ก..ข...ึ้น.................. .............ซ...ึง่ .ท...ำ..ล..า..ย...ย..า..ก....ร..ว..ม..ท...้ัง..เ.ป...็น..ภ...ัย..ต...่อ..ส..ัต...ว..โ์.ล...ก..ท...่ีม..า..ก...ข..้ึน....โ..ด..ย..เ.ฉ...พ...า..ะ..อ..ย..่า..ง..ย...่งิ .ส...ตั ..ว..์ท..ะ..เ..ล....................................... เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 20

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวิต แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเปลย่ี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32  1 การแสดงความคดิ เหน็  2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผู้อนื่   3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย   4 ความมีนำ้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 21

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง ทต่ี รงกับระดับคะแนน การมี ลำดบั ที่ ชือ่ –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม ของนกั เรียน ความ ฟังคนอนื่ ตามท่ไี ด้รบั น้ำใจ การ 15 คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม 3 2 1 3 2 13 2 1 3 2 13 2 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ............./.................../............... ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 22

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวติ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเปลยี่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน คำช้แี จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา   2 ความคดิ สรา้ งสรรค์   3 วิธีการนำเสนอผลงาน   4 การนำไปใชป้ ระโยชน์   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชื่อ ................................................... ผูป้ ระเมนิ ............/................./................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 23

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงคด์ ้าน 32 1 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษัตรยิ ์ 1.2 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทีส่ รา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามที่โรงเรียนจดั ข้นึ 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ ้อมูลที่ถกู ต้องและเปน็ จริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นส่ิงทีถ่ กู ตอ้ ง 3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครัว มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 ร้จู ักใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้ 4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เช่ือฟงั คำส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรยี น 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินและสงิ่ ของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และร้คู ุณคา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ 7. รักความเปน็ ไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน 8.2 รจู้ กั การดูแลรักษาทรพั ย์สมบัติและส่ิงแวดลอ้ มของหอ้ งเรยี นและ โรงเรียน ลงช่อื ..................................................ผู้ประเมนิ ............/.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 51–60 ดีมาก พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี 30–40 พอใช้ พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างครงั้ ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 24

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ . แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเปล่ยี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ) ....... 9 ความเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชือ่ ( ตำแหน่ง 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น  ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทีม่ ีปัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 25

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 วัสดุ อุปกรณท์ างเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 วัสดุ อุปกรณ์ ทางเทคโนโลยี เวลา 8 ชัว่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพอื่ การดำรงชวี ิตในสังคมทีม่ ีการเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ นื่ ๆ เพื่อแกป้ ัญหาหรือ พฒั นางานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สงั คม และส่ิงแวดล้อม ว 4.1 ม.2/5 ใช้ความรู้ และทักษะเกย่ี วกบั วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้า และ อิเล็กทรอนิกสเ์ พ่ือแกป้ ญั หาหรือพฒั นางานได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม และ ปลอดภยั 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1) วัสดแุ ต่ละประเภทมีสมบัติแตกตา่ งกนั เช่น ไม้ โลหะ พลาสตกิ จึงตอ้ งมีการวิเคราะห์สมบตั ิ เพอ่ื เลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน 2) การสร้างชน้ิ งานอาจใชค้ วามรู้ เร่อื งกลไก ไฟฟ้า อเิ ล็กทรอนิกส์ เชน่ LED มอเตอร์ บัซเซอร์ เฟือง รอก ลอ้ เพลา 3) อปุ กรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิน้ งาน หรือพัฒนาวิธีการมหี ลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั รวมทงั้ รจู้ กั เก็บรักษา 2.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ (พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา) 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ปจั จบุ นั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาและกา้ วหน้าอยา่ งรวดเร็ว จึงไดม้ กี ารนำความรู้เหลา่ น้ี มาพฒั นาและปรบั ปรงุ วัสดตุ า่ ง ๆ เพอ่ื ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย โดยผ่านกระบวนการ ทางเทคโนโลยี และถูกสง่ ต่อจนพัฒนามาเปน็ กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม โดยการสรา้ งเคร่ืองมือ หรือชน้ิ งาน ความรู้เกยี่ วกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมอื กลไก เสยี ง แสง ไฟฟ้า และอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ เปน็ สงิ่ สำคญั ซ่งึ จะช่วยทำให้สร้างชิ้นงานได้เหมาะสมและปลอดภยั เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 26

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 วสั ดุ อปุ กรณ์ทางเทคโนโลยี 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต - ทกั ษะการสื่อสาร 2. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ - ทักษะการแลกเปล่ยี นขอ้ มูล 3. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ความสามารถในการคิด 4. มุ่งมนั่ ในการทำงาน - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ทักษะการสังเกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทักษะการสบื ค้นข้อมลู 5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - 6. การวัดและการประเมนิ ผล รายการวดั วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง วสั ดุ อปุ กรณ์ ทางเทคโนโลยี 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัด - ใบงานที่ 2.1.1 - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ กิจกรรม - ใบงานที่ 2.2.1 - ตรวจใบงานท่ี 2.2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1) นักออกแบบผลิตภัณฑ์ 2) เครอ่ื งมือช่าง - ตรวจใบงานท่ี 2.4.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) ไฟฟา้ และอปุ กรณ์ทที่ ำให้ - ใบงานท่ี 2.4.1 เกดิ แสง เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 27

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 วัสดุ อปุ กรณท์ างเทคโนโลยี รายการวัด วธิ ีวัด เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 5) พฤติกรรมการทำงานกล่มุ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 6) การนำเสนอผลงาน การทำงานกลุม่ การทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 7) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ ผลงาน การนำเสนอผลงาน 7.3 การประเมินหลังเรยี น ประเมินตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบหลงั เรียน - สังเกตความซื่อสัตย์ - แบบประเมนิ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 สจุ ริต ความมีวนิ ยั คุณลักษณะอันพึง เรอื่ ง วสั ดุ อุปกรณ์ ความรบั ผดิ ชอบ ประสงค์ ทางเทคโนโลยี ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรียน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง วสั ดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 28

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 วสั ดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เร่ืองท่ี 1 : ความรู้เกย่ี วกบั วสั ดุ เวลา 2 ชว่ั โมง วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขัน้ นำ ขน้ั ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนสงั เกตภาพผลิตภัณฑ์จากวสั ดปุ ระเภทตา่ ง ๆ ในหนงั สอื เรยี นและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรยี นอภปิ รายร่วมกันภายในชัน้ เรยี นว่าภาพดังกล่าวประกอบดว้ ยวสั ดปุ ระเภทใดบา้ ง 2. จากนัน้ ครูถามคำถามเพ่ือกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นว่า“การเลอื กใช้วสั ดุท่เี หมาะสม มีผลต่อการสร้างได้อยา่ งไร” และเชอ่ื มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี น ขนั้ สอน ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน หรอื ตามความเหมาะสม โดยใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สืบค้นข้อมลู เร่ือง ประเภทของวสั ดุ จากหนังสือเรยี น หรอื สบื ค้นเพ่ิมเติมจากอินเทอร์เน็ตท่ีเครื่อง คอมพิวเตอร์ของตนเอง ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 2. นกั เรียนสแกนควิ อาร์โค้ด เรอ่ื ง วสั ดุสงั เคราะห์ จากหนังสือเรยี นและอภิปรายความร้เู พื่อสรุป ประเดน็ สำคญั ทไี่ ด้จากการดคู ลปิ วดี ิโอ ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเปน็ 4 กล่มุ ให้เล่นเกม วัสดุอะไรเอ่ย 4. นกั เรียนวเิ คราะห์ความสมั พนั ธข์ องวสั ดศุ าสตร์และวัสดวุ ศิ วกรรมจากผงั ความคดิ วสั ดุศาสตร์ และวสั ดุวศิ วกรรมจากหนงั สือเรยี น 5. ครถู ามนักเรยี นว่า“นกั เรยี นรู้จกั เส้นใยแกว้ นำแสงหรือไม่” จากน้นั ครูอธบิ ายเกร็ดเสรมิ ความรู้ ทเ่ี กีย่ วข้องกบั เน้ือหา (Design Focus) เรอื่ ง เส้นใยแก้วนำแสง 6. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม(กล่มุ เดมิ ) เพ่ือรว่ มกนั ทำใบงานที่ 2.1.1 เรอื่ ง นกั ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ และให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 29

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 วสั ดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี ขนั้ สรปุ ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลจากการนำเสนอผลงานของนักเรยี น 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องจากใบงานท่ี 2.1.1 เรื่อง นักออกแบบผลติ ภัณฑ์ 3. ครถู ามคำถามเพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจของนักเรียนว่า“วัสดแุ ต่ละประเภทมสี มบตั ิ ท่ีแตกตา่ งกันหรือไม่ แตล่ ะประเภทมสี มบตั ิเด่นอยา่ งไร” 4. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปเกี่ยวกับความรเู้ กี่ยวกบั วัสดุ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 30

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 วสั ดุ อุปกรณท์ างเทคโนโลยี เรอ่ื งที่ 2 : เครือ่ งกลและเครือ่ งมอื ในการสร้างชน้ิ งาน เวลา 2 ชั่วโมง วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขัน้ นำ ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นว่า“นักเรยี นเคยขับรถจักรยานหรอื ไม่ และ นกั เรยี นคดิ วา่ รถจักรยานมลี กั ษณะการทำงานอย่างไร” 2. ครูถามคำถามกระต้นุ ความคิด โดยใชค้ ำถามประจำหวั ขอ้ เพอื่ ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เห็นว่า “เครือ่ งกลมสี ว่ นช่วยในการ สร้างชนิ้ งานอย่างไร” จากนั้นครอู ธิบายกับนักเรยี นเพื่อเชอื่ มโยง เขา้ สูบ่ ทเรยี น ข้ันสอน ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรยี นแต่ละคนสบื ค้นข้อมูลเก่ียวกบั เรอ่ื งเครื่องกลในการสรา้ งชน้ิ งาน ซง่ึ เครอื่ งกลอย่างงา่ ย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน มี 6 ประเภท จากน้ันครสู ุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมา นำเสนอข้อมูลท่ีไดส้ บื ค้นหนา้ ชนั้ เรยี น ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 2. ครูอธบิ ายเกร็ดเสริมความรทู้ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั เนื้อหา (Design Focus) เร่อื ง การได้เปรียบเทยี บ เชงิ กล และเปดิ โอกาสให้นกั เรียน 3-4 คน อภปิ รายรว่ มกันภายใตค้ ำถาม“อุปกรณ์ใดบา้ งทีเ่ ป็น เครอื่ งกลประเภทล้อ และมีการทำงานอย่างไร” โดยครสู ุ่มนกั เรียน 3-4 คน ออกมาตอบ คำถามหนา้ ชน้ั เรียน 3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น 6 กลมุ่ โดยให้แต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเร่อื งอุปกรณ์ น่ารู้ เพื่อเลือกอุปกรณ์ 1 ชนิด จากน้ันให้นักเรียนสืบคน้ และอภปิ รายรว่ มกันว่าอปุ กรณ์ ดังกลา่ วใชห้ ลกั การเครอ่ื งกลประเภทใด 4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครรู ่วมอภปิ รายและให้ ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 31

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 วัสดุ อปุ กรณ์ทางเทคโนโลยี ขั้นที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 5. ครวู าดผังมโนทศั นเ์ ร่ืองเครื่องมือในการสรา้ งชนิ้ งาน ลงบนกระดานหนา้ ชัน้ เรยี น จากน้นั ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั บอกเคร่อื งมือต่าง ๆ ทนี่ กั เรียนใช้ในชีวติ ประจำวนั ตามประเภทข้างตน้ โดยครูพิจารณาคำตอบและบันทกึ ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน 6. นักเรียนทำใบงานท่ี 2.2.1 เร่ือง เครื่องมือช่าง โดยใหน้ กั เรียนสบื ค้นและศึกษาเพ่ือ ทำความเข้าใจพร้อมวางแผนการเลอื กเคร่ืองมือในการผลติ ช้นิ งานได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ขน้ั สรุป ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลการนำเสนอผลงานของนกั เรยี น 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องจากใบงานที่ 2.2.1 เร่ือง เครือ่ งมือช่าง 3. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปเก่ียวกบั นวตั กรรมและเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 32

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 วสั ดุ อปุ กรณท์ างเทคโนโลยี เรื่องท่ี 3 : เสียงและอกุ รณท์ ท่ี ำใหเ้ กิดเสยี ง เวลา 2 ชว่ั โมง วธิ กี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขน้ั นำ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครใู ห้นักเรยี นใชม้ ือแตะทีล่ ำคอเมื่อไม่มกี ารเปล่งเสียง และเมอ่ื มีการเปลง่ เสียงวา่ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร 2. ครยู กตัวอย่างการทดลองของโรเบิรต์ บอยล์ 3. ครูถามคำถามประจำหวั ข้อว่า“เสียงเกดิ จากการสัน่ และมลี ักษณะเปน็ คลืน่ ดังน้นั ลำโพงทำไม ถึงเกดิ เสียงได้” ข้ันสอน ข้ันท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนสงั เกตการสน่ั ของเสียงจากแหล่งกำเนดิ เสียงท่ีเปน็ ส่วนอดั และส่วนขยายตัวจาก หนังสอื เรียน และให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน หรือตามความเหมาะสม และรว่ มกัน สืบค้นขอ้ มูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของตนเอง ภายใต้คำถามว่า“ตัวกลางที่เสยี ง เดินทางไดม้ อี ะไรบา้ ง” 2. ครสู มุ่ นกั เรยี น 3-4 กลุ่ม ออกมาอภิปรายวา่ รว่ มกนั ว่ามีตัวกลางของเสยี งมีอะไรบ้าง จากนั้นให้ แต่ละกลุ่มเรียงลำดับตวั กลางทีเ่ สียงเดนิ ทางผา่ น จากความเรว็ สูงทส่ี ดุ ไปหาความเรว็ นอ้ ยทส่ี ดุ ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 3. ครูส่มุ นกั เรยี นออกมาอภปิ รายเกร็ดเสริมความรู้ทีเ่ กยี่ วข้องกับเน้อื หา (Design Focus) เรอื่ ง อัตราเร็วของเสียง ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 4. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม (กลุ่มเดมิ ) เพอ่ื สบื ค้นอปุ กรณท์ ่ีทำใหเ้ กดิ เสยี งตา่ ง ๆ จากหนังสอื เรียนหรือ อินเทอรเ์ นต็ จากน้ันบันทกึ คำตอบลงในสมุดประจำตัว ขั้นสรุป ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลจากการนำเสนอผลงานของนักเรยี น 2. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้เกีย่ วกับเสยี งและอุปกรณ์ท่ีทำใหเ้ กดิ เสยี ง เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 33

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 วสั ดุ อุปกรณท์ างเทคโนโลยี เรื่องท่ี 4 : ไฟฟา้ และอุปกรณ์ท่ที ำใหเ้ กิดแสง เวลา 2 ชวั่ โมง วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขัน้ นำ ข้นั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครทู ดลองเปดิ -ปดิ สวติ ซ์ของหลอดไฟหนา้ ช้ันเรยี น จากน้ันครถู ามคำถามประจำหัวข้อกบั นักเรียนวา่ “แสงเกิดจากอะไร และวงจรไฟฟา้ ทำให้เกดิ แสงได้อย่างไร” 2. ครอู ธบิ ายกับนักเรียนเพอ่ื เชอื่ มโยงเข้าสูบ่ ทเรียน ขน้ั สอน ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน หรอื ตามความเหมาะสม จากนั้นให้นักเรียนศึกษาขอ้ มลู เกี่ยวกบั วงจรไฟฟ้าและการต่อตัวตา้ นทานทัง้ แบบอนุกรมและแบบขนาน จากหนังสอื เรยี นหรือสืบคน้ ขอ้ มลู เพิม่ เติมจากอนิ เทอร์เน็ตท่ีเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง เพื่อหาคำตอบว่าการท่ีหลอด ไฟฟ้าสวา่ งขนึ้ จะต้องมีการต่อวงจรไฟฟ้า ซึง่ ส่วนประกอบที่สำคัญของวงจรไฟฟ้ามอี ะไรบ้าง 2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอวา่ ส่วนประกอบที่สำคัญของวงจรไฟฟ้ามี อะไรบา้ ง และอภิปรายเก่ียวกับกระบวนการต่าง ๆ ท่ีทำให้หลอดไฟฟา้ มีแสงสว่าง 3. ครดู ำเนนิ การสาธติ ให้นักเรยี นดูเกีย่ วกับการต่อวงจรไฟฟ้าของหลอดไฟฟ้าทง้ั 2 แบบคอื 1) การต่อวงจรไฟฟ้าแบบเปิด 2) การต่อวงจรไฟฟา้ แบบปิด 4. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นปฏิบัตกิ ารต่อวงจรไฟฟา้ ตามความเข้าใจ โดยครแู จกอปุ กรณก์ ารต่อ วงจรไฟฟ้าและคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชดิ ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 5. ครอู ธบิ ายความรู้เรื่องวงจรไฟฟา้ และตวั ต้านทานเพ่ือทบทวนความรู้ 6. นกั เรยี นศึกษาเกร็ดเสรมิ ความรูท้ เี่ ก่ยี วกบั เน้ือหา (Design Focus) เรอื่ ง แหล่งกำเนิดไฟฟ้า 7. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม (กล่มุ เดมิ ) จากช่ัวโมงทผี่ ่านมา เพ่ือรว่ มกันทำใบงาน 2.4.1 เร่อื ง ชา่ งไฟฟา้ จากน้นั ครสู ุ่มนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาอภปิ รายนำผลการทำใบงานโดยครคู อยช้ีแนะคำตอบให้ ตามความเหมาะสม เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี 34

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 วัสดุ อปุ กรณ์ทางเทคโนโลยี ขั้นสรุป ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลการนำเสนอของนกั เรยี นและตรวจสอบความถกู ต้องจากการทำใบงานที่ 2.4.1 เรอ่ื ง ชา่ งไฟฟ้า 2. ครตู ้งั คำถามเพื่อให้นกั เรยี นคาดเดาว่า“หากเพิ่มถ่านไฟฉายในวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม จะเกิด อะไรขน้ึ ในวงจรไฟฟา้ ” 3. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปความร้เู ก่ยี วกบั ความสมั พันธ์ของวทิ ยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสต 4. นักเรียนทำกจิ กรรมทีส่ อดคล้องกบั เน้ือหาโดยให้ผ้เู รยี นฝึกปฏบิ ัติเพ่อื พัฒนาความรู้และทกั ษะ (Design Activity) และทำแบบฝกึ หัดทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจ และพัฒนาทักษะการคิดของ ผู้เรยี น (Unit Activity) โดยให้นักเรยี นตอบคำถามใหถ้ ูกต้องลงในสมุดประจำตัว 5. นักเรียนตรวจสอบระดับความสามารถของตนเอง (Self-Check) โดนพจิ ารณาข้อความวา่ ถูก หรือผิด หากนกั เรียนพิจารณาขอ้ ความไม่ถูกตอ้ ง ใหน้ ักเรยี นกลบั ไปทบทวนเน้ือหาตามหัวขอ้ ทกี่ ำหนดให้ 6. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง วัสดุ อปุ กรณ์ทางเทคโนโลยี เพอื่ วัดความรทู้ ่ีนกั เรยี นไดร้ ับหลังผา่ นการเรียนรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 35


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook