Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนพัฒนาดิจิทัลไทยแลนด์2559

แผนพัฒนาดิจิทัลไทยแลนด์2559

Published by Prachyanun Nilsook, 2016-07-05 19:52:26

Description: แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ.2559-2561

Keywords: ดิจิทัลไทยแลนด์,แผนพัฒนา

Search

Read the Text Version

แผนพัฒนาดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รับความเหน็ ชอบจากคณะรัฐมนตรี 5 เมษายน พ.ศ. 2559พิมพ์ครั้งที่ 1 (พฤษภาคม พ.ศ. 2559)จานวน 3,000 เลม่จัดทาและเผยแพร่โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธนั วาคม 2550เลขที่ 120 หมู่ 3 อาคารรวมหน่วยราชการ (อาคารบ)ีถนนแจง้ วฒั นะ แขวงท่งุ สองห้อง เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหานคร 10210โทรศัพท์ 0 2141 6774, 0 2141 7096 โทรสาร 0 2143 8022-3เว็บไซต์ www.mict.go.th



สารบญั 1 9บทสรปุ ผบู้ ริหาร 11อารัมภบท 111. บรบิ ทของประเทศไทยในยคุ ดจิ ิทัล: ความท้าทายและโอกาส 14 17 1.1 ทิศทางการพฒั นาประเทศ: ความทา้ ทายและโอกาสของประเทศไทยในภาพรวม 24 1.2 ความท้าทายจากพลวตั ของเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล 24 1.3 สถานภาพการพฒั นาด้านดจิ ทิ ัลในประเทศไทย 252. วิสยั ทัศน์ และเป้าหมายการพัฒนาดิจทิ ัลเพอื่ เศรษฐกจิ และสังคมของประเทศไทย 27 2.1 วิสัยทัศน์ของการพฒั นาดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสังคม 35 2.2 เป้าหมายและตวั ชีว้ ัดความสาเรจ็ 36 2.3 ภมู ทิ ัศนด์ จิ ิทลั ของประเทศไทย (Thailand Digital Landscape) 393. ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาดิจิทัลเพอื่ เศรษฐกิจและสังคม 42 ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาโครงสร้างพน้ื ฐานดจิ ทิ ัลประสิทธิภาพสงู ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 46 ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 ขับเคล่อื นเศรษฐกจิ ดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล 50 ยุทธศาสตร์ท่ี 3 สร้างสังคมคุณภาพท่ที ่วั ถึงเทา่ เทยี มดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ิทัล 53 ยทุ ธศาสตร์ท่ี 4 ปรบั เปลย่ี นภาครฐั สู่การเปน็ รฐั บาลดิจิทลั 57 ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 5 พฒั นากาลงั คนให้พร้อมเขา้ ส่ยู คุ เศรษฐกจิ และสงั คมดิจิทัล 57 ยุทธศาสตร์ที่ 6 สรา้ งความเชอ่ื มัน่ ในการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัล 564. กลไกการขับเคล่ือน 61 4.1 การขบั เคลื่อนดว้ ยกิจกรรม/โครงการทเ่ี ปน็ รูปธรรมในระยะเรง่ ดว่ น (1 ปี 6 เดอื น) 62 4.2 กลไกการขบั เคล่อื นภายใต้การเปล่ียนแปลงโครงสร้างเชิงสถาบัน ผ1 4.3 กลไกการบรู ณาการและการจดั สรรงบประมาณและทรัพยากรอนื่ ๆ ในการดาเนนิ งาน ผ1 4.4 กลไกติดตามความก้าวหน้าของนโยบาย แผนงาน ผ 235. ภาคผนวก ผ 82 อภธิ านศพั ท์ มติคณะรฐั มนตรี และความเห็นหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง รายนามผู้มสี ่วนรว่ มดาเนนิ การจดั ทาแผนพฒั นาดจิ ิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

บทสรุปผูบ้ รหิ าร • การบริหารจัดการการเข้าสู่สังคมสูงวัยที่ ประเทศไทยต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ปัจจุบันโลกเริ่มเข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจและ ประชากรที่มีนัยต่อผลิตภาพของประเทศ รวมถงึ ความ สั ง ค ม ดิ จิ ทั ล ท่ี เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล จ ะ ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น เ พี ย ง ต้องการใชเ้ ทคโนโลยใี นการดแู ลผสู้ ูงอายุ เครื่องมือสนับสนุนการทางานเฉกเช่นที่ผ่านมาอีก ต่อไป หากแต่จะหลอมรวมเข้ากับชวี ติ คนอย่างแทจ้ ริง • การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น อันเป็นปัญหาเรื้อรัง และจะเปล่ยี นโครงสร้างรปู แบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ของประเทศ โดยสร้างความโปร่งใสให้กับภาครัฐ กระบวนการผลติ การคา้ การบรกิ าร และกระบวนการ ด้วยการเปิดเผยข้อมูล เพื่อให้ประชาชนสามารถ ทางสังคมอ่ืนๆ รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มสี ว่ นรว่ มในการตรวจสอบการทางานของภาครัฐได้ ไปอย่างส้ินเชิง ประเทศไทยจึงต้องเร่งนาเทคโนโลยี ดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือสาคัญในการขับเคลื่อนการ • การพัฒนาศักยภาพของคนในประเทศทั้ง พัฒนาประเทศ โดยในบริบทของประเทศไทย บุคลากรด้านเทคโนโลยี บุคลากรที่ทางานในภาค เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถตอบปัญหาความท้าทายท่ี เกษตร อุตสาหกรรม และบริการ รวมถึงคนท่ัวไปที่ ประเทศกาลังเผชิญอยู่หรือเพ่ิมโอกาสในการพัฒนา จะต้องชาญฉลาด ร้เู ท่าทนั สอื่ เทา่ ทันโลก ทางเศรษฐกิจและสงั คม เชน่ ด้ ว ย ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ค ว า ม ท้ า ท า ย แ ล ะ โ อ ก า ส • การก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางที่เป็น ดังกล่าว รัฐบาลไทย โดยกระทรวงเทคโนโลยี หนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาประเทศเร่งด่วนของ สารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้จัดทาแผนพัฒนา รัฐบาล ด้วยการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมที่มี ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับน้ีขึ้น เพ่ือใช้เป็น อยู่แล้วในประเทศและอุตสาหกรรมกระแสใหม่ท่ี กรอบในการผลักดันให้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไก รวมถงึ อตุ สาหกรรมดจิ ิทลั สาคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งรวมถึงการปรบั เปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางความคิดใน • การพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจใน ทุกภาคส่วน การปฏิรูปกระบวนการทางธุรกิจ ประเทศท้ังภาคการเกษตร การผลิต และการบริการ การผลิต การค้า และการบริการ การปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม SMEs และวิสาหกิจชุมชน ประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน และการ ให้แข่งขันในโลกสมัยใหมไ่ ด้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อันจะนาไปสู่ ความมั่นคง มั่งคั่ง และย่ังยืนของประเทศไทยตาม • การปรับตัวและฉกฉวยโอกาสจากการ นโยบายของรัฐบาลในทา้ ยท่สี ดุ รวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ท่ีมี นัยสาคัญต่อการเคล่ือนย้ายสินค้าและกาลังคนจาก ไทยไปสู่โลก • การแก้ปัญหาความเหล่ือมล้าของสังคม โดยเฉพาะอย่างย่ิงด้านรายได้ การศึกษา การ รักษาพยาบาล สิทธิประโยชน์การเข้าถึงข้อมูล ฯลฯ ใ ห้ เ กิ ด ก า ร ก ร ะ จ า ย ท รั พ ย า ก ร แ ล ะ โ อ ก า ส ท่ี ท่ั ว ถึ ง เทา่ เทยี ม และเป็นธรรมย่งิ ขึ้น

-2-วสิ ยั ทศั น์ • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทาง เศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการใช้นวัตกรรมและ ปฎริ ูปประเทศไทยสู่ เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเคร่ืองมือหลักในการสร้างสรรค์ ดจิ ทิ ลั ไทยแลนด์ นวตั กรรมการผลติ การบรกิ าร ดิจิทัลไทยแลนด์ (Digital Thailand) หมายถึง • สร้างโ อกาสทางสังคมอย่างเท่าเทียมประเทศไทยที่สามารถสร้างสรรค์ และใช้ประโยชน์ ด้วยข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆ ผ่านสื่อดิจิทัลเพ่ือจากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนา ยกระดับคณุ ภาพชีวิตของประชาชนโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม ข้อมูล ทุนมนุษย์ และทรัพยากรอ่ืนใด เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ • เตรียมความพร้อมให้บุคลากรทุกกลุ่มและสังคมของประเทศ ไปสู่ความม่ันคง ม่ังคั่ง และ มีความรู้และทักษะท่ีเหมาะสมต่อการดาเนินชีวิตและย่ังยืน โดยแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม การประกอบอาชีพในยุคดิจทิ ัลจะมีเปา้ หมายในภาพรวม 4 ประการดงั ตอ่ ไปนี้ • ปฏิรูปกระบวนทัศน์การทางานและการ ให้บริการของภาครัฐ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการใช้ ประโยชน์จากข้อมูล เพ่ือให้การปฏิบัติงานเกิดความ โปรง่ ใส มปี ระสิทธภิ าพ และประสิทธผิ ล การพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศไทย มุ่งเน้นการพัฒนาระยะยาวอย่างย่ังยืน สอดคล้องกับการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลมีการเปล่ียนแปลงอย่าง รวดเร็ว ดังนั้น แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคมฉบับนี้ จึงกาหนดภูมิทัศน์ดิจิทัล เพ่ือกาหนด ทิศทางการพฒั นาและเป้าหมายใน 4 ระยะ ดงั นี้ ภมู ิทัศน์ดจิ ทิ ัลของไทยในระยะเวลา 20 ปี ระยะที่ 1 ระยะท่ี 3 Digital Foundation Digital Thailand II:ประเทศไทยลงทุน และสรา้ ง Full Transformationฐานรากในการพฒั นาเศรษฐกจิ ประเทศไทยกา้ วสดู่ จิ ิทัลไทยแลนด์ และสังคมดิจิทลั ทขี่ บั เคล่ือนและใชป้ ระโยชน์จาก นวัตกรรมดจิ ิทลั ได้อยา่ งเต็มศักยภาพ ๑1ปปี ๖ี 6เเดดอื อื นน ๑๐10ปปี ี 5๕ ปปี ี 1๑0๐--2๒0๐ปปี ี ระยะท่ี 2 ระยะท่ี 4Digital Thailand I: Inclusion Global Digital Leadership ทุกภาคสว่ นของประเทศไทย ประเทศไทยอยใู่ นกลมุ่ ประเทศที่มีสว่ นรว่ มในเศรษฐกิจและสงั คม พัฒนาแลว้ สามารถใช้เทคโนโลยี ดิจิทลั ตามแนวทางประชารฐั ดจิ ทิ ลั สรา้ งมลู ค่าทางเศรษฐกิจ และคณุ คา่ ทางสงั คมอยา่ งยัง่ ยืน

-3-ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาดจิ ทิ ัลเพ่อื เศรษฐกจิ และสงั คม 6. สรา้ งความเชือ่ ม่ัน ในการใช้เทคโนโลยีดิจทิ ลั 5. พฒั นา กฎระเบียบทนั สมัย 1. พฒั นาโครงสรา้ ง เช่ือมั่นในการลงทนุกาลงั คนให้พร้อม มีความมน่ั คงปลอดภยั พน้ื ฐานดิจิทลั ประสิทธภิ าพสงูเขา้ สูย่ ุคเศรษฐกิจ ให้ครอบคลมุ ท่ัวประเทศ เข้าถงึ พร้อมใช้ จา่ ยได้ และสงั คมดิจทิ ัล ยุทธศาสตร์ 2. ขับเคล่ือนเศรษฐกิจ สรา้ งคน สรา้ งงานสร้างความเขม้ แข็งจาก ดว้ ยเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใน ขบั เคล่ือน New S-Curve เพมิ่ ศกั ยภาพ 4. ปรบั เปล่ียน สร้างธุรกิจ ภาครัฐสกู่ ารเป็น เพ่ิมมูลค่ารฐั บาลดจิ ิทัล 3. สร้างสังคมคุณภาพโปร่งใส อานวยความ ท่ีท่ัวถึงเท่าเทียมด้วยสะดวก รวดเร็ว เชื่อมโยง เทคโนโลยีดิจิทลัเป็นหนึ่งเดียว สร้างการมีส่วนร่วม การใชป้ ระโยชน์อยา่ งทั่วถงึ และ เท่าเทยี ม เพ่ือให้วิสัยทัศน์และเป้าหมายในการพัฒนา 1. พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลบรรลุผล ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ มีความทันสมัย มีเสถียรภาพแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คมจงึ ได้กาหนด ต อ บ ส น อ ง ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ใ ช้ ง า น ข อ ง ทุ ก ภ า ค ส่ ว นกรอบยุทธศาสตร์การพฒั นา 6 ดา้ นคือ ในราคาทเี่ หมาะสมและเปน็ ธรรมยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจทิ ัล 2. ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางประสทิ ธิภาพสงู ใหค้ รอบคลุมทั่วประเทศ การเช่ือมต่อและแลกเปล่ียนข้อมูลของอาเซียน โดยเป็น เส้นทางผ่านการจราจรของข้อมูลในภูมิภาค และเป็น จ ะ มุ่ ง พั ฒ น า โ ค ร ง ส ร้ า ง พ้ื น ฐ า น ดิ จิ ทั ล ท่ตี งั้ ของผปู้ ระกอบการเนือ้ หารายใหญ่ของโลกประสทิ ธภิ าพสูง ท่ีประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้แบบทุกที่ ทุกเวลา โดยกาหนดให้ 3. จัดให้มีนโยบายและแผนบริหารจัดการเทคโนโลยีที่ใช้มีความเร็วพอเพียงกับความต้องการ โครงสร้างพื้นฐาน คล่ืนความถี่ และการหลอมรวมของและให้มีราคาค่าบริการที่ไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าถึง เทคโนโลยีในอนาคต เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรของบรกิ ารของประชาชนอีกต่อไป นอกจากนี้ ในระยะยาว ประเทศอย่างมีประสิทธภิ าพสูงสุดโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จะกลายเป็นสาธารณูปโภคข้ันพ้ืนฐาน เช่นเดียวกับ ถนน 4. ปรับรัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมให้เหมาะสมกับไฟฟ้า น้าประปา ท่ีสามารถรองรับการเช่ือมต่อของ สถานการณ์และความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมดจิ ทิ ัลทุกคน และทกุ สรรพสงิ่ โดยยุทธศาสตร์นี้ประกอบดว้ ย เพ่ือใหเ้ ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงในอนาคตแผนงานเพ่ือขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตร์ 4 ดา้ น คือ

-4-ยุทธศาสตร์ท่ี 2 ขับเคล่ือนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3 สร้างสงั คมคุณภาพที่ทั่วถงึ เท่าเทียมดจิ ิทัล ด้วยเทคโนโลยดี ิจิทลั จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยผลักดันให้ จ ะ มุ่ ง ส ร้ า ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ท่ี ป ร ะ ช า ช น ทุ ก ก ลุ่ มภาคธุรกิจไทยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการลดต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรกร ผู้ที่อยู่ในชุมชนการผลิตสินค้าและบริการ เพิ่มประสิทธิภาพในการ ห่างไกล ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และคนพิการ สามารถดาเนินธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาไปสู่การแข่งขันเชิงธุรกิจ เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากบริการต่างๆ ของรัฐผ่านรูปแบบใหม่ในระยะยาว นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ยัง เทคโนโลยีดิจิทัล มีข้อมูล องค์ความรู้ ทั้งระดับประเทศมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศสาหรับธุรกิจดิจิทัล เพื่อ และระดับท้องถิ่น ในรูปแบบดิจิทัลท่ีประชาชนสามารถเสริมความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย เข้าถึงและนาไปใช้ประโยชน์ได้โดยง่ายและสะดวก และที่จะส่งผลต่อการขยายฐานเศรษฐกิจและอัตราการ มีประชาชนที่รู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร และมีทักษะในการจ้างงานของไทยอย่างย่ังยืนในอนาคต โดยยทุ ธศาสตร์น้ี ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ จ า ก เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล อ ย่ า ง มี ค ว า มประกอบด้วยแผนงานเพ่ือขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ รับผิดชอบต่อสังคม โดยยุทธศาสตร์นี้ประกอบด้วย4 ด้าน คอื แผนงานเพือ่ ขบั เคลื่อนยุทธศาสตร์ 5 ดา้ น คือ 1. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ 1. สรา้ งโอกาสและความเท่าเทียมในการเข้าถึงภาคธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยผลักดันธุรกิจให้ แ ล ะ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ จ า ก เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล ส า ห รั บเข้าสู่ระบบการค้าดิจิทัลสู่สากล และให้เกิดการใช้ ประช าช นโ ดยเฉพา ะ อย่ างย่ิ ง กลุ่มผู้สูง อ า ยุเทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อปฏิรูปการผลิตสินค้าและ กลมุ่ ผู้พกิ าร กลุม่ ผูท้ ี่อยู่อาศัยในพ้นื ทีห่ ่างไกลบริการ 2. พัฒนาศักยภาพของประชาชนในการใช้ 2. เร่งสร้างธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล (digital เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์technology startup) ให้เป็นฟันเฟืองสาคัญในการ รวมถึงความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และแยกแยะขับเคล่อื นเศรษฐกิจดิจิทัล ข้อมลู ข่าวสารในสงั คมดจิ ทิ ลั ทีเ่ ปิดกว้างและเสรี 3. พัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล 3. สร้างสื่อ คลังส่ือและแหล่งเรียนรู้ดิจิทัลข อ ง ไ ท ย ใ ห้ มี ค ว า ม เ ข้ ม แ ข็ ง แ ล ะ ส า ม า ร ถ แ ข่ ง ขั น เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตท่ีประชาชนเข้าถึงได้อย่างเชิงนวัตกรรมได้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สะดวก ผ่านท้ังระบบโทรคมนาคม ระบบแพร่ภาพอุตสาหกรรมท่ีไทยมีศักยภาพและเป็นอุตสาหกรรม กระจายเสียง และสื่อหลอมรวมแห่งอนาคต 4. เพ่ิมโอกาสการได้รับการศึกษาท่ีมีมาตรฐาน 4. เพิ่มโอกาสทางอาชีพเกษตรและการค้าขาย ของนักเรียนและประชาชน แบบทุกวัย ทุกที่ ทุกเวลาสินค้าของชุมชนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยดาเนินการ ดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ทิ ลัร่วมกันระหว่างหน่วยงานจากท้ังภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน 5. เพิ่มโอกาสการได้รับบริการทางการแพทย์ และสุขภาพที่ทันสมัยท่ัวถึง และเท่าเทียม สู่สังคม สงู วยั ดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ิทัล

ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ปรับเปล่ียนภาครัฐสู่การเป็น -5-รัฐบาลดิจิทัล ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนากาลังคนให้พร้อมเข้าสู่ จ ะ มุ่ ง ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล ใ น ก า ร ป รั บ ป รุ ง ยคุ เศรษฐกจิ และสังคมดิจิทัลประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานรัฐท้ังส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้เกิดบริการภาครัฐ จ ะ ใ ห้ ค ว า ม ส า คั ญ กั บ ก า ร พั ฒ น า ก า ลั ง ค นในรูปแบบดิจิทัลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้ วัยทางานทุกสาขาอาชีพ ท้ังบุคลากรภาครัฐ และโดยไม่มีข้อจากัดทางกายภาพ พื้นที่ และภาษา ภาคเอกชน ให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์และนาไปสู่การหลอมรวมการทางานของภาครัฐเสมือน ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างชาญฉลาดในการประกอบเปน็ องค์กรเดยี ว นอกจากน้ี รัฐบาลดิจทิ ัลในอนาคตจะ อาชีพ และการพัฒนาบุคลากรในสาขาเทคโนโลยีเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกาหนด ดิจิทัลโดยตรง ให้มีความรู้ ความสามารถ และความแนวทางการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ การบริหาร เช่ียวชาญเฉพาะด้าน ในระดับมาตรฐานสากลบ้านเมือง และเสนอความคิดเห็นต่อการดาเนินงาน เพื่อนาไปสู่การสร้างและจ้างงานท่ีมีคุณค่าสูงในยุคของภาครัฐ โดยยุทธศาสตร์น้ีประกอบด้วยแผนงาน เศรษฐกิจและสังคมท่ีใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นปัจจัยเพื่อขับเคลอ่ื นยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ หลักในการขับเคล่ือน โดยยุทธศาสตร์น้ีประกอบด้วย แผนงานเพื่อขับเคลอื่ นยทุ ธศาสตร์ 3 ดา้ น คือ 1. จดั ให้มบี ริการอจั ฉรยิ ะทขี่ ับเคล่อื นโดยความต้องการของประชาชนหรือผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะ 1. พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่อย่างยิ่งบริการท่ีอานวยความสะดวกต่อประชาชน บุคลากรในตลาดแรงงาน ที่รวมถึงบุคลากรภาครัฐนักธุรกจิ และนักท่องเทยี่ ว ภาคเอกชน บุคลากรทุกสาขาอาชีพ และบุคลากร ทกุ ช่วงวัย 2. ปรับเปลี่ยนการทางานของภาครัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ให้มีประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาล 2. ส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความเชี่ยวชาญโ ด ย เ น้ น บู ร ณ า ก า ร ก า ร ล ง ทุ น ใ น ท รั พ ย า ก ร เทคโนโลยีเฉพาะด้าน ให้กับบุคลากรในสายวิชาชีพการเช่ือมโยงข้อมูล และการทางานของหน่วยงานรัฐ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ท่ีปฏิบัติงานในภาครัฐและเขา้ ด้วยกัน เอกชน เพอ่ื รองรับความต้องการในอนาคต 3. สนับสนุนให้มีการเปิดเผยข้อมูลท่ีเป็น 3. พัฒนาผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศให้ประโยชน์ตามมาตรฐาน open data และส่งเสริมให้ สามารถวางแผนการนาเทคโนโลยีดิจิทัลไปพัฒนาเ กิด กา ร มีส่ ว น ร่ ว มข อง ป ร ะช า ช น แ ล ะภ า คธุ ร กิ จ ใ น ภารกิจ ตลอดจนสามารถสร้างคุณค่าจากข้อมูลของกระบวนการทางานของรัฐ องค์กร 4. พัฒนาแพลตฟอร์มบริการพ้ืนฐานภาครัฐ ยุทธศาสตร์ท่ี 6 สร้างความเช่ือมั่นในการใช้(government service platform) เพื่อรองรับการ เทคโนโลยดี จิ ิทัลพฒั นาต่อยอดแอปพลเิ คช่ันหรือบริการรูปแบบใหม่ จะมุ่งเน้นการมีกฎหมาย กฎระเบียบ กติกาและ มาตรฐานท่ีมีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสอดคล้องกับ หลักเกณฑส์ ากล เพื่ออานวยความสะดวก ลดอปุ สรรค เ พิ่ ม ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ใ น ก า ร ป ร ะ ก อ บ กิ จ ก ร ร ม แ ล ะ ทาธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ รวมถึงสร้างความมั่นคง ปลอดภัย และความเชื่อม่ัน ตลอดจนคุ้มครองสิทธิ์ ใ ห้ แ ก่ ผู้ ใ ช้ ง า น เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล ใ น ทุ ก ภ า ค ส่ ว น เพ่ือรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลและการใช้ งานทเี่ พิม่ ข้ึนในอนาคต โดยยทุ ธศาสตร์นี้ประกอบด้วย แผนงานเพ่ือขบั เคลื่อนยทุ ธศาสตร์ 3 ด้าน คือ

1. กาหนดมาตรฐาน กฎ ระเบียบ และกติกา -6-ด้านดิจิทัลให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพ่ืออานวยความสะดวกดา้ นการค้า พัฒนาดิจิทัลของประเทศ เป็นไปอย่างมีเอกภาพ และและการใช้ประโยชน์ในภาคเศรษฐกิจและสงั คม ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลสูงสดุ 2. ปรับปรุงกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ 3. การบูรณาการงาน งบประมาณ และและสงั คมดจิ ิทลั ให้มคี วามทันสมยั สอดคลอ้ งต่อพลวัต ทรัพยากรในการดาเนินงาน โดยจะต้องบูรณาการของเทคโนโลยีดิจทิ ลั และบรบิ ทของสังคม การทางานร่วมกันหรือเชื่อมโยงงานและข้อมูลใน ลักษณะที่เป็นองค์รวม กาหนดเจ้าภาพรับผิดชอบ 3. สร้างความเชื่อม่ันในการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั แต่ละภารกิจ ปรับปรุงกฎระเบียบ และระบบและการทาธรุ กรรมออนไลน์ ด้วยการสร้างความม่ันคง งบประมาณให้เอื้ออานวยต่อการทางานร่วมกันของป ล อ ด ภั ย ข อ ง ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ แ ล ะ ก า ร สื่ อ ส า ร ส่วนราชการ มีระบบประสานงานระหวา่ งสว่ นราชการการคมุ้ ครองขอ้ มูลสว่ นบุคคล การคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค ในการให้บริการประชาชน นอกจากน้ี กลไกข้อน้ีจะ รวมถึงการจัดต้ังกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจกลไกการขบั เคลอื่ นยุทธศาสตรก์ ารพัฒนา และสังคม ให้เป็นกลไกทางเลือกในการสนับสนุนทางดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสังคม ก า ร เ งิ น กั บ โ ค ร ง ก า ร ด้ า น ก า ร พั ฒ น า ดิ จิ ทั ล เพ่ือเศรษฐกิจและสังคม นอกเหนือจากการสนับสนุน การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในคร้ังนี้ ด้วยงบประมาณรายจา่ ยประจาปีของภาครัฐจะต้องดาเนินการผ่านกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อย่างครบวงจรและเต็มรูปแบบเพ่ือวางรากฐาน 4. กลไกติดตามความก้าวหน้าของนโยบายเศรษฐกิจและสังคมไทยให้พร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยมี แผนงาน โดยจะต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ และประเดน็ ใน 4 ดา้ น ดงั ต่อไปนี้ ประเมินผลความเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ เมื่อพบปัญหาและอุปสรรคในการนานโยบายสู่การ 1. การขับเคล่ือนท่ีเป็นรูปธรรมในระยะเรง่ ดว่ น ปฏิบัติ ต้องจัดให้มีกลไกช่วยเหลือแก้ปัญหาหรือโดยจัดให้มีกิจกรรมและโครงการระยะเร่งด่วนที่สุด จั ด ส ร ร ท รั พ ย า ก ร เ พิ่ ม เ ติ ม ต า ม ค ว า ม จ า เ ป็ น แ ล ะ(1 ปี 6 เดือน) ท่ีมุ่งเน้นการลงทุนด้านโครงสร้าง เหมาะสมอย่างเพียงพอและทันท่วงที และนาผลที่ได้พ้ืนฐานดิจิทัลและสร้างรากฐานการพัฒนาดิจิทัล จากการติดตามมาทบทวนเพ่ือปรับปรุงให้สามารถใน 6 ด้านตามยุทธศาสตร์การพัฒนาดิจิทัลฯ ต้ังแต่ ดาเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ จะตอ้ งเปิดการพัฒนาความพร้อมด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน การเร่ง โอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาเข้าสู่สังคม ปรึกษาหารือ การเปิดรับฟังความเห็นของประชาชนดจิ ิทลั การปฏิรูปการดาเนินการภาครฐั การพัฒนาทุน ไปจนถึงการตรวจสอบ ติดตามความคืบหน้าการมนุษย์ ไปจนถึงการวางรากฐานด้านกฎ กติกา ดาเนินงาน เพื่อนาไปสู่การบริหารจัดการภาครัฐท่ีมาตรฐานดา้ นดจิ ทิ ัล มุ่งเน้นความโปร่งใสและผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงาน เป็นหลัก 2. การเปล่ียนแปลงโครงสร้างเชิงสถาบันโดยจะต้องมกี ารปรบั ปรุงรูปแบบและวิธกี ารทางานของ  ขบั เคลือ่ นเปน็ภาครัฐ บูรณาการการทางานในลักษณะข้ามกระทรวง รปู ธรรมและเรง่ ดว่ นเพ่ิมประสิทธิภาพของระบบราชการ ลดบทบาทภาครัฐกระจายและมอบอานาจการปฏิบัติราชการ นอกจากน้ี  ปฏริ ปู การทางานกลไกข้อนี้จะรวมถึงการจัดให้มีหน่วยงานกลาง เพ่ือทาหน้าที่กาหนดนโยบาย ประสาน และขับเคลอื่ นใหก้ าร กลไก  บรู ณาการงานและ ทรพั ยากร  ตดิ ตามและประเมนิ ผล

กิจกรรม/โครงการในระยะเรง่ ด่วน -7- เพ่ือให้การขับเคล่ือนแผนพัฒนาดิจิทัลเพ่ือ • โครงการพัฒนากาลังคนในธุรกิจเทคโนโลยีเศรษฐกิจและสังคม สามารถบรรลุผลอย่างเป็น ดิจิทัล (digital technology startup) เพ่ือให้เกิดรูปธรรมได้อย่างชัดเจน จึงต้องมีการจัดลาดับ บุคลากรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญใช้นวัตกรรมความสาคัญเร่งด่วน ซึ่งในช่วง 1 ปี 6 เดือนแรกของ เพอ่ื สรา้ งสนิ คา้ และบรกิ ารรปู แบบใหม่แผนฯ จะเปน็ การเตรียมความพร้อมพนื้ ฐานดา้ นดิจิทัลที่จาเป็นสาหรับประเทศ โดยมีตัวอย่างโครงการเด่น • โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและไดแ้ ก่ สอ่ื สร้างสรรค์ เพือ่ สรา้ งอนาคตใหธ้ ุรกจิ ไทยในเวทโี ลก ด้านสงั คม โครงสรา้ งพ้นื ฐาน • โครงการพัฒนาเครือข่ายศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพ่ือให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป็นจุดบริการ • โครงการขยายโ ครงข่ ายอิ นเทอ ร์ เน็ ต ภาครัฐสู่ชุมชนผา่ นระบบดจิ ิทัล และเปน็ ศนู ยก์ ลางการความเร็วสงู ใหค้ รอบคลุมหมู่บา้ นทั่วประเทศ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ • โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของ • โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านประเทศไทยให้เชื่อมต่อโดยตรงกับศูนย์กลางการ บริการ e-learning และบริการการเรียนรู้ระบบเปิดแลกเปล่ยี นข้อมูลอนิ เทอร์เน็ตของโลก สาหรับมหาชน (MOOC) เศรษฐกิจ • โครงการสง่ เสริมการใช้ดจิ ิทลั ให้เกิดประโยชน์ และสร้างสรรค์ เพ่ือเสริมสร้างทักษะดิจิทัล ให้แก่ เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป • โครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ ดา้ นบรกิ ารภาครฐัฐานราก เพ่ือเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและขยายตลาดชุมชนสตู่ ลาดเมอื ง • โครงการยกระดับคุณภาพงานบริการภาครัฐ เพ่ือปรับกระบวนการดาเนินงานภาครัฐ บูรณาการ • โครงการเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขัน ข้อมูลและระบบงาน และอานวยความสะดวกแก่ให้กับภาคธุรกิจไทย เพื่อเข้าสู่ระบบการค้าดิจิทัลและ ประชาชนเชอ่ื มโยงไปส่รู ะบบการค้าสากล • การผลกั ดันชุดกฎหมายที่เกี่ยวกับการส่งเสริม • โครงการผลักดันการพัฒนาคลัสเตอร์ดิจิทัล และพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมดิจิทัลตามนโยบายส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษและ supercluster

-9-อารัมภบท ปจั จุบนั ประเทศไทยภายใตก้ ารนาของพลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี กาลังอยู่ในวาระของการปฏริ ปู ประเทศครงั้ ใหญใ่ นทุกมติ ิของการพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม โดยในการนร้ี ัฐบาลไดต้ ระหนักถงึความจาเปน็ เรง่ ดว่ นในการใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั มาเป็นเคร่ืองมือสาคัญ ในการปฏริ ปู ประเทศไทยไปสคู่ วามมน่ั คงมัง่ คัง่ และยง่ั ยนื และได้แถลงนโยบายต่อสภานิตบิ ัญญตั แิ ห่งชาติในด้านนโยบายเศรษฐกิจและสงั คมดิจิทลั ดังน้ี “ข้อ 6.18 ส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้เริ่มขับเคลื่อนได้อย่าง จริงจัง ซ่ึงจะทาให้ทุกภาคเศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ทันโลกและสามารถแข่งขันในโลกสมัยใหม่ได้ ซ่ึงหมาย รวมถึงการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์ดิจิทัลโดยตรง ทั้งผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ สื่อสารดิจทิ ลั อุปกรณโ์ ทรคมนาคมดจิ ิทลั และการใชด้ ิจิทลั รองรับการให้บริการของภาคธรุ กิจการเงินและ ธุรกิจบริการอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงภาคส่ือสารและบันเทิง ตลอดจนการใช้ดิจิทัลรองรับการผลิตสินค้า อุตสาหกรรม และการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปรับปรุงบทบาทและภารกิจของหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ โดยตรงให้ดูแลและผลักดันงานสาคัญของประเทศชาติในเรื่องนี้ และจะจัดให้มีคณะกรรมการระดับชาติ เพ่อื ขับเคล่ือนเรือ่ งน้อี ยา่ งจริงจงั ” โดยเพ่ือให้เกิดการดาเนินงานด้านน้ีอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเป็นรูปธรรมสูงสุดคณะรัฐมนตรีจึงได้ลงมติเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทาแผนพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแทนแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (ไอซีที) ของประเทศ เพ่ือเป็นกรอบแนวทางการดาเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของรัฐบาลให้เกิดการนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยและหลากหลายมาเปล่ียนแปลงวิธีการดาเนินธุรกิจ การดาเนินชีวิตของประชาชน และการดาเนินงานของภาครัฐ ซ่ึงจะส่งผลให้เกดิ ความมั่งคง่ั ทางเศรษฐกิจท่ีแขง่ ขันได้ในเวทีโลก และความมนั่ คงทางสังคมของประเทศต่อไป แผนพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสงั คมฉบับนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่สาหรับประเทศไทย หากแตเ่ ปน็ การต่อยอดการพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทามาอย่างต่อเน่ือง โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคประชาชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม อย่างไรก็ตามปัจจุบันเทคโนโลยีและบริบททางเศรษฐกิจและสังคมกาลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่ยุคดิจิทัล และหลากหลายประเทศท่ัวโลก เช่น สหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซียอินเดีย ฯลฯ กาลังแข่งขันกันพัฒนาและขับเคล่ือนประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้น แผนพัฒนาดิจิทัลฯฉบับน้ี จึงมุ่งหวังปฎิรูปประเทศไทยให้ทันต่อบริบทดังกล่าวด้วยเช่นกัน ต้ังแต่การเร่งวางรากฐานดิจิทัลของประเทศผ่านการลงทุนคร้ังใหญ่ การสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลท่ีทุกคนมีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐ การขับเคล่ือนระบบเศรษฐกิจและสังคม และใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพจนถึงการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ที่สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างมลู ค่า และขบั เคล่ือนระบบเศรษฐกิจและสงั คมอย่างย่ังยนื ในระยะยาว

- 10 -โดยแผนพฒั นาดิจทิ ัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม มหี ลักการนาทาง 5 ขอ้ ดงั นี้ 2 การใชป้ ระโยชน์ 1 ความสอดคล้องก า ร ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ สู ง สุ ด จ า ก พ ล วั ต ข อ ง ความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศเทคโนโลยีดิจิทัล แผนพัฒนาดิจิทัลฯ ต้อง แผนพัฒนาดิจิทัลฯ ต้องเป็นไปอย่างสอดคล้องและเกื้อหนุนให้ทุกภาคส่วนสามารถใช้ประโยชน์ สนบั สนนุ ทศิ ทางการพัฒนาของประเทศโดยรวม ทง้ัสูงสุดจากพลวัตของเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีมีการ การนาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และส่งผลต่อ ความท้าทายของประเทศในยุคปัจจุบัน และรองรับโ ค ร ง ส ร้ า ง ข อ ง ร ะ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม ความท้าทายด้านต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในท้ังเชิงบวกและลบ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถ อนาคตใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งก้าวกระโดด 3 การเขา้ ถึง 4 การวางแผน การเข้าถึงของคนทุกกลุ่ม ยุทธศาสตร์และการวางแผนจากข้อมลู ความพร้อมของประเทศ แผนงานของแผนพัฒนาดจิ ิทัลฯ ต้องสนับสนนุ การก า ร ก า ห น ด ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ แ ล ะ แ ผ น ง า น ข อ ง เข้าถึงของคนทุกกลุ่ม หรือให้มากกลุ่มที่สุดแ ผ น พั ฒ น า ดิ จิ ทั ล ฯ ต้ อ ง ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ซึ่งรวมถึงผู้ที่อยู่อาศัยในพ้ืนที่ห่างไกลและยากจนความพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศ ผ้สู ูงอายุ ผ้พู กิ าร และผดู้ อ้ ยโอกาสอนื่ ๆ โดยมงุ่ เน้นไทยในมิติต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การมีส่วนร่วม และการเข้าถึงเทคโนโลยี ข้อมูลการเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยีของประชาชน ข่าวสาร สื่อการเรียนรู้ และบริการดิจิทัลของรัฐภาคธรุ กิจ หนว่ ยงานรัฐ ความพรอ้ มดา้ นบุคลากร ในทกุ บรกิ ารอุตสาหกรรม ฯลฯ เพ่ือให้มาตรการต่างๆท่ีกาหนดตามแผนพัฒนาดิจิทัลฯ ฉบับน้ี นาไปสู่ 5 การขับเคลือ่ นการพฒั นาท่ีเปน็ ไปไดจ้ รงิ ในทางปฏิบตั ิ การรวมพลังทุกภาคส่วนในการขับเคล่ือน การขับเคล่ือนแผนพัฒนาดิจิทัลฯ ไปสู่การปฏบิ ตั ิ ตอ้ งเป็นไปตามแนวทาง “ประชารัฐ” ซงึ่ เนน้ ความ ร่วมมือ ร่วมใจ และรวมพลังของทุกภาคส่วน ท้ังภาคประชาชน ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ หรือ ภาครัฐ และท้ายสุดผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะ กลับคืนสู่ทุกภาคส่วน โดยในกรณีของการพัฒนา ดิจทิ ลั จะเน้นให้ภาคประชาชนและภาคธรุ กิจเป็น ผู้นาการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม และ ภาครัฐจะเป็นผู้อานวยความสะดวก และส่งเสรมิ สนับสนุนภาคประชานและภาคธุรกจิ ควบคู่ไปกับ การปรับปรุงประสิทธภิ าพของภาครัฐดว้ ยดจิ ิทลั

- 11 -1. บรบิ ทของประเทศไทยในยคุ ดิจิทัล: ความทา้ ทายและโอกาส ประเทศไทยให้ความสาคัญกับการพัฒนาและการนาไอซีที มาใช้เป็นเคร่ืองมือสนับสนุน (enablingtechnology) การพัฒนาประเทศมาโดยตลอด ท่ีได้มุ่งเน้นให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพ้ืนฐานด้านไอซีทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (broadband) กระจายอย่างทั่วถึงเสมือนบริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานท่ัวไป ประชาชนมีความรอบรู้ เข้าถึง สามารถพัฒนาและใช้ประโยชน์จากสารสนเทศได้อย่างรู้เท่าทันอุตสาหกรรมไอซีทีมีบทบาทเพิ่มขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ประชาชนมีโอกาสในการสร้างรายได้และคุณภาพชวี ติ ดขี ้ึน และไอซีทมี ีบทบาทต่อการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมทีเ่ ป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อม1 สาหรับปัจจุบัน รัฐบาลได้ตระหนักถึงอิทธิพลของเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซ่ึงเป็นท้ังโอกาสและความท้าทายของประเทศไทย ที่จะปรับปรุงทิศทางการดาเนินงานของประเทศด้วยการใชป้ ระโยชนส์ งู สุดจากเทคโนโลยีดจิ ิทลั โดยความทา้ ทายและโอกาสของประเทศไทยดา้ นเศรษฐกิจและสังคม ความท้าทายจากพลวัตของเทคโนโลยีดิจิทัล และสถานภาพการพัฒนาด้านดิจิทัลในประเทศไทยในปจั จุบัน สามารถสรุปโดยสังเขปได้ดงั ต่อไปน้ี1.1 ทิศทางการพัฒนาประเทศ: ความทา้ ทายและโอกาสของประเทศไทยในภาพรวม กระแสการเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนอย่างรวดเร็ว ทั้งการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศและการเปลย่ี นแปลงของบริบทโลก ทาให้สภาพแวดล้อมของการพัฒนาประเทศไทยในปัจจุบันและท่ีจะเกิดในอนาคต 20 ปีเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสาคัญ โดยสภาพแวดล้อมดังกล่าวเป็นท้ังเงื่อนไข ปัญหา ความท้าทาย ที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญและแนวทางรองรับหรือแก้ไข ซึ่งเป็นโอกาสสาหรับการพัฒนาประเทศ หากประเทศไทยสามารถปรับเปลีย่ นตนเองใหส้ ามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหลา่ นัน้ โดยบรบิ ททเ่ี ป็นความทา้ ทายและโอกาสของประเทศไทย มีตัวอยา่ ง ได้แก่ 1 ก้าวขา้ มกบั ดกั รายได้ปานกลาง การก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง (middle income trap) ที่ประเทศไทยตกอยู่ ในภาวะดังกล่าวอย่างยาวนาน การก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่การเป็น ประเทศที่มีรายได้ระดับสูงเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาประเทศเร่งด่วนของ รัฐบาล ด้วยการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วในประเทศ และ อุตสาหกรรมกระแสใหม่ท่ีหมายรวมถึงอตุ สาหกรรมดจิ ิทัล1 กรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ระยะ พ.ศ. 2554-2563 ของประเทศไทย ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะรฐั มนตรเี มือ่วนั ที่ 22 มนี าคม พ.ศ. 2554 และถูกนามาใชเ้ ปน็ กรอบแนวทางในการจัดทาแผนแมบ่ ทเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ระยะ 5 ปี

- 12 - 2 พฒั นาขดี ความสามารถของภาคเกษตร อตุ สาหกรรม และ บริการ • การเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ที่ยังไม่สามารถกา้ วไปอยู่ ในกลุ่มประเทศท่ีแข่งขันด้วยนวัตกรรมได้2 และยังคงอาศัยประสิทธิภาพภาครัฐ และภาคธุรกิจ ปัจจัยกาลงั คนราคาถกู และปัจจยั ทุนดว้ ยการนาเข้าจากต่างประเทศ เปน็ ตวั ขบั เคลอื่ น มากกวา่ การใชเ้ ทคโนโลยแี ละโครงสรา้ งพ้ืนฐานสารสนเทศ • การเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ SMEs ซ่ึงแม้มีการจ้างงานรวมถึงร้อยละ 80.4 ของประเทศ แต่มูลค่าการดาเนินธุรกิจของ SMEs คิดเปน็ สดั ส่วนรอ้ ยละ 37.3 ของ GDP3 และผลิตภาพของ SMEs ไทยยังไม่สูงนัก นอกจากนี้ SMEs มีการเข้าถึงและ ใช้งานเทคโนโลยีดจิ ิทลั ในระดับต่าเมอ่ื เทยี บกับธรุ กจิ ขนาดใหญ่4 3 ปรับตวั และฉกฉวยโอกาสจากการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ • การใช้ประโยชน์จากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการก้าวสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 รวมถึงการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจใน ภูมิภาคต่างๆ ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย การปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจโลก แบบหลายศูนย์กลาง กอปรกับปญั หาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจชนั้ นาของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นต้น จะเป็นประเด็นยุทธศาสตร์สาคัญใน การขับเคล่อื นระบบเศรษฐกิจของประเทศ • การใช้โอกาสจากการที่ประเทศไทยมีจุดเด่นตรงท่ีตั้งอยู่กลางคาบสมุทรอินโดจีน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความหลากหลายทางชีวภาพของท้ังพืชและสัตว์มาก อันเป็นรากฐานม่ันคงของการผลิตในภาคเกษตรกรรม มีสถานท่ีท่องเที่ยวท่ี หลากหลายท่สี ุดประเทศหนึ่ง คุณภาพฝมี อื แรงงานเป็นทีย่ อมรบั ในระดบั สากล2 World Economic Forum จัดลาดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ ท่ัวโลกโดยคานึงถึงลาดับข้ันการพัฒนาทางเศรษฐกิจ(Stage of Development) ทีแ่ ตกต่างกนั และแบง่ ประเทศออกเป็น 3 กล่มุ คือ กล่มุ การแข่งขนั ด้วยปจั จัยพน้ื ฐานกลมุ่ การแข่งขนั ดว้ ยประสิทธภิ าพการลงทุนและกลุ่มการแข่งขนั ด้วยนวตั กรรม ซึง่ ประเทศไทยถกู จัดอยู่ในกลุม่ ทแ่ี ข่งขันด้วยประสทิ ธิภาพการลงทุน(GlobalCompetitivenessReport(http://www.weforum.org/issues/globalcompetitiveness/index.html))3 สานกั งานสง่ เสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเลก็ (สสว.), 2556, สถานการณเ์ เละตวั ชี้วัดเชิงเศรษฐกิจของ SMEs พ.ศ. 2556 เเละ พ.ศ. 2557,http://www.sme.go.th/th/images/data/SR/download/2014/07july/บทท่ี 1 GDP SMEs พ.ศ. 2556.pdf4 สานกั งานส่งเสรมิ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มและกรมทรัพย์สนิ ทางปญั ญา,http://www.ipthailand.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=52&Itemid=186

- 13 -4 แก้ปัญหาความเหลือ่ มลา้ ของสงั คม • การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้าในสังคม ซึ่งมีหลากหลายมิติ ทั้งด้านการพัฒนา คุณภาพคน ด้านการศึกษา ด้านรายได้ ด้านโอกาสทางสังคมและการได้รับสิทธิ ประโยชน์ต่างๆ รวมถึงบริการของภาครัฐ และยังรวมถึงความเหล่ือมล้าทางดิจิทัล (digital divide) หรือความแตกต่างและช่องว่างระหว่างผู้ท่ีสามารถเข้าถึงและ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลกับผู้ที่เข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจ และไม่สามารถใช้ ประโยชน์จากไอซีที5 บริหารจดั การสงั คมผสู้ งู อายุ • การบริหารจัดการกับการเข้าสู่สังคมสูงวัยของโลกและของประเทศไทยอย่าง ต่อเน่ือง จากรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประเทศไทยจะมี จานวนประชากรสูงอายุมากข้ึนอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยคาดกันว่าจานวนผู้มีอายุ มากกว่า 65 ปี จะมีจานวนราวร้อยละ 20 ของประชากรใน พ.ศ. 2568 และ เพิ่มเป็นร้อยละ 30 ใน พ.ศ. 2593 ตามลาดับ การเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง โครงสรา้ งประชากร จะมีนัยตอ่ ผลิตภาพ (productivity) และการมีส่วนรว่ มในภาค แรงงานในอนาคต รวมถึงความต้องการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ เทคโนโลยีดิจทิ ัลในการดูแลผู้สงู อายุ6 พัฒนาศกั ยภาพคนในประเทศ • การพัฒนาศักยภาพของคนในประเทศ เทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นเคร่ืองมือในการ สร้างศักยภาพของทุกคน ยกระดับคนไปสู่สังคมฐานความรู้ ให้มีความสามารถ สามารถขยับไปสู่การผลิตท่ีใช้เทคโนโลยีหรือรู้จักใช้เทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสาร ในการประกอบอาชีพมากข้ึน สาหรับคนทั่วไปเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้เข้าถึง ข้อมลู ข่าวสาร สามารถพฒั นาตนเองใหเ้ ปน็ คนทีฉ่ ลาด รู้เทา่ ทันสอ่ื เทา่ ทนั โลกด้วย

- 14 - 7 แกป้ ญั หาคอรปั ชน่ั • การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศ ส่งผลกระทบต่อ โครงสร้างและการพัฒนาประเทศในทุกมิติ คอร์รัปช่ันเป็นอุปสรรคอันดับหน่ึงใน ทรรศนะของนักลงทุนต่างชาติ ที่จะตัดสินใจลงทุนและทาธุรกิจในประเทศไทย5 โดยกรณีคอร์รัปชั่นท่ีสาคัญคือการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและการใช้ งบประมาณประจาปี6 ท้ังน้ีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมีสถิติเร่ืองร้องเรียนทุจริต สูงสุด จาเป็นต้องมีการสร้างความโปร่งใสให้กับภาครัฐด้วยการเปิดเผยข้อมูล เพื่อให้ภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนในการตรวจสอบการทางานของภาครัฐได้ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายและกฎระเบียบที่เก่ยี วข้อง 8 ภัยคุกคามไซเบอร์ • การจัดการกับภัยในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงภัยคุกคามจากสารสนเทศรูปแบบต่างๆ มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือ เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรในการรักษาความม่ันคงปลอดภัย และการพัฒนาทักษะความรู้ เพื่อป้องกันตนเองและหน่วยงาน ลดความเสี่ยงจาก การถูกโจมตีหรือภัยคุกคาม และลดความเสยี หายจากผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ข้นึ1.2 ความท้าทายจากพลวัตของเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเปน็ เทคโนโลยีท่ีมีอิทธิพลอย่างมากต่อการใชช้ วี ิตของประชาชนทุกคน การดาเนนิ งานของภาคธรุ กจิ ภาครฐั และภาคประชาสังคมทุกๆ องค์กร แต่เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเทคโนโลยีที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาและยากต่อการคาดเดาในระยะยาว ดังน้ัน การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงต้องตระหนักและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่จะเกิดข้ึนในอนาคตและนัยจากการเปลี่ยนแปลงนั้น ดังมีตัวอยา่ งของการเปลย่ี นแปลงและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงดา้ นเทคโนโลยีดิจทิ ัล ดงั น้ี5 จากการประเมนิ ของ The Global Competitiveness Report (2013-2014)6 https://www.nacc.go.th

- 15 - 1 การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี เกิดความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีมีบทบาทสาคัญในช่วง 5 ปีข้างหน้า ได้แก่ เทคโนโลยีสื่อสารท่ี มี ค ว า ม เ ร็ ว แ ล ะ คุ ณ ภ า พ สู ง ม า ก (newcommunications technology) เ ท ค โ น โ ล ยีอุปกรณ์เคลื่อนท่ีเพื่อการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตแบบทุกท่ีทุกเวลา (mobile/ wearable computing)เทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์ (cloud computing) เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (big dataanalytics) เทคโนโลยีการเช่ือมต่อของสรรพส่ิง (internet of things) เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ (3D printing)และเทคโนโลยีความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (cyber security) โดยมีเทคโนโลยีอ่ืน เช่น robotics หรือautonomous car เป็นเร่ืองสาคัญในอนาคตระยะยาว 2 การหลอมรวมของกิจกรรม 3 ผู้บรโิ ภคกลายเป็นผู้ผลิต เกิดการหลอมรวมระหว่างกิจกรรมทาง เ กิ ด แ น ว โ น้ ม ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ลเศรษฐกิจสังคมของโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เกิดการผลิตมากข้ึน (consumption to(convergence of online and offline production) โดยในอดีตที่ผา่ นมาสงั คมในระดับactivities) โดยท่ีเทคโนโลยีใหม่หรือการใช้ ประชาชนยังใช้เทคโนโลยีเพื่อการส่ือสาร การเทคโนโลยีเดิมในรูปแบบใหม่ ทาให้เส้นแบ่ง เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร หรือกิจกรรมสาระบันเทิงระหว่างระบบเศรษฐกิจสังคมของโลกเสมือนและ เป็นส่วนใหญ่ แต่ในยุคปัจจุบันนั้นจะเป็นโลกท่ีโลกทางกายภาพเกือบจะเลือนหายไป โดยกิจกรรม ป ร ะ ช า ช น แ ล ะ ผู้ บ ริ โ ภ ค ก ล า ย ม า เ ป็ น ผู้ ผ ลิ ตของประชาชน ธุรกิจ หรือรัฐ จะถูกย้ายมาอยู่บน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อทาให้เกิดผลผลิตระบบออนไลน์มากขนึ้ เช่น การส่อื สาร การซอ้ื ขาย และรายได้มากขน้ึสินค้า การทาธุรกรรมทางการเงิน การเรียนรู้การดูแลสขุ ภาพ การบริการของภาครัฐ ฯลฯ

- 16 -4 การแข่งขันบนฐานนวตั กรรม 5 ยคุ ของระบบอจั ฉรยิ ะ เ กิ ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ท่ี อ ยู่ บ น พื้ น ฐ า น ข อ ง เกิดการใช้ระบบอัจฉริยะ ( smartนวัตกรรมสินค้าและบริการ ( innovation everything) มากขึ้นเรื่อยๆ จากน้ีไปจะเป็นeconomy) โดยในโลกยุคดิจทิ ัลนี้ การแขง่ ขันใน ยุคของการใช้เทคโนโลยีและแอปพลิเคช่ันเชิงราคาจะเป็นเรื่องของอดีต (เช่น การตัดราคา อัจฉริยะต่างๆ ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสินค้าและบริการกันทางออนไลน์) และธุรกิจที่ สังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ระดับประชาชนไม่สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับเปลี่ยน เช่น การใช้ชีวิตประจาวันในบ้าน การเดินทางกระบวนการทางธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ การดูแลสุขภาพ การใช้พลังงาน ไปถึงระดับสินค้าและบริการเดิมของตน หรือสร้างสินค้า อุตสาหกรรม เช่น การเกษตร การผลิตสินค้าและบรกิ ารใหม่ๆ ท่ีตอบสนองความต้องการของ ในโรงงาน หรือแม้กระท่ังเรื่องการเฝ้าระวังตลาด จะไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป ภัยพิบัติ การดูแลส่ิงแวดล้อม และอื่นๆ อีก มากมายในอนาคต 6 การแข่งขนั ด้วยข้อมลู 7 การแพร่ระบาดของภัยไซเบอร์  นวตั กรรม เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เกิดข้อมูลทั้งจากผู้ใช้งาน และจาก ตามมาอีกหลายรูปแบบ เช่น การก่อกวน สร้างความอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆ จานวนมหาศาล ราคาญแก่ผู้ใช้ระบบ การเข้าถึงข้อมูลและระบบโดยโลกดิจิทัลจึงเป็นโลกของการแข่งขันด้วยข้อมูล ไมไ่ ดร้ บั อนุญาต การยับย้งั ข้อมูลและระบบ การสร้างซ่ึงศักยภาพในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ความเสียหายแก่ระบบ การจารกรรมข้อมูลบนระบบจะเป็นเร่ืองจาเป็น และเป็นพื้นฐานสาหรับทุก คอมพิวเตอร์ (ข้อมูลการค้า การเงิน หรือข้อมูลหน่วยงานและองค์กรท้ังภาครัฐและเอกชน ส่วนตัว) หรือแม้แต่การโจมตีโครงสร้างพ้ืนฐานที่มีนอกจากน้ี ข้อมูลส่วนบุคคลมีความสาคัญมาก ความสาคัญยิ่งยวดที่สามารถทาให้ระบบเศรษฐกิจทั้งในเชิงธุรกิจ และการคุ้มครองข้ อ มู ล หยุดชะงักและได้รับความเสียหายหรือเกิดอันตรายส่วนบุคคลจะกลายเป็นประเด็นสาคัญที่สุด ต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน โดยที่ภัยไซเบอร์ในยุคของ big data เหล่านี้ล้ว นแล้ว แต่พัฒนาอย่างรว ดเร็ว ตาม ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และบ่อยครั้งยังเป็น ข้อมลู เร่ืองท่ีทาจากนอกประเทศ ทาให้การป้องกันหรือ ติดตามจับกุมการกระทาผิดเป็นเร่ืองที่ยากและ สลับซบั ซ้อนมากข้นึ อีกดว้ ย

- 17 -8 การเปลี่ยนโครงสรา้ งกา้ ลังคน เกิดการเปล่ียนแปลงครงั้ ใหญ่ในเรอื่ งของโครงสร้างกาลังคนทั้งในเชิงลบและเชิงบวก งานหลายประเภทโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม โรงงาน และภาคบริการ จะเริ่มถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีสามารถทาได้ดีกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า (เช่น พนักงานขายต๋ัว การใช้บริการทางการเงิน)ขณะเดียวกันก็จะมีงานรูปแบบใหม่ท่ีต้องใช้ความรู้และทักษะสูงเกิดข้ึน เช่น นักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญด้านความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์ ผู้เช่ียวชาญด้านโซเชียลเนต็ เวริ ์ค นักธุรกิจดิจิทลั ฯลฯนอกจากน้จี ะมงี านบางประเภทที่อาจต้องเปลยี่ นบทบาทไป เช่น ครู กลายเป็นผู้อานวยการสอนมากกว่าผูส้ อน ดังที่นาเสนอขา้ งต้น พลวัตของเทคโนโลยดี ิจิทัลที่เปลีย่ นแปลงอย่างรวดเรว็ และไม่หยุดยั้ง สง่ ผลกระทบอย่างมากต่อวิถีชีวิต รูปแบบ กิจกรรมของปัจเจกชนและองค์กร รวมถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลจึงเป็นปัจจัยสาคัญของการพัฒนาประเ ทศ ดังที่หลากหลายประเทศได้ตระหนักและมีการลงทุน พัฒนา และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือนาไปสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่หมายถงึ ระบบเศรษฐกจิ และสังคมทเ่ี ทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกสาคัญในการดาเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม การใช้ชีวิตประจาวันของประชาชน การเปล่ียนกระบวนทัศน์ทางความคิดรปู แบบการมปี ฏสิ มั พนั ธ์ของคนในสงั คม การปฏริ ปู กระบวนการทางธรุ กจิ ซ่ึงรวมถงึ การผลติ การคา้ การบรกิ ารและการบริหารราชการแผ่นดิน อันนามาสู่พัฒนาทางเศรษฐกิจการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทยนั้นจะตั้งอยู่บนคุณลักษณะสาคัญท่ีเกิดจากความสามารถและพลวัตของเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล อันได้แก่1 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเคร่ืองมือในการ การเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ 2 เชื่อมต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรม โดยเฉพาะ 4ของประชาคมในประเทศและประชาคมโลก อย่างยิ่งนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อสร้างการเช่ือมต่อดังกล่าวนาไปสู่การแบ่งปัน คุ ณ ค่ า ( value creation) แ ล ะ ขี ดทรัพยากร แนวคิดใหม่และผลประโยชน์ ความสามารถทางการแข่งขันในระดับร่วมกันอย่างไร้พรมแดน โดยที่ประชาชนใน ส า ก ล ต ล อ ด จ น ก า ร ย ก ร ะ ดั บประเทศสามารถมีบทบาทและมีส่วนร่วมได้ “คุณภาพชีวิต ” ของประชาชนใน ประเทศอยา่ งทัว่ ถึงและเท่าเทียม การสร้างและใช้ประโยชน์จากข้อมูลจานวน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลท่ีแพร่กระจาย มหาศาล ทั้งที่เป็นข้อมูลท่ีมีการบันทึกโดยคน แทรกซึมไปทุกภาคสว่ น เพื่อสร้างโอกาส เช่น ข้อมูลการเงิน ข้อมูลลูกค้า ข้อมูล social ให้คนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในการสร้างและ media และขอ้ มูลทมี่ กี ารจดั เกบ็ โดยอุปกรณ์และ นาพาประเทศไทยไปสู่สังคมที่ทุกคน ไหลผ่านเครือข่าย (internet of things) มา สามารถกลายเป็นผู้ผลิตและสร้างมลู คา่ วิเคราะห์ผ่านระบบประมวลผลขนาดใหญ่ เพอื่ ใช้ ประโยชน์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการ ดาเนนิ งานในการผลติ และบรกิ าร และสรา้ งความ3 ได้เปรียบในการแข่งขันในยุคดิจิทัลของประเทศ รวมถึงการให้บริการประชาชน

- 18 -1.3 สถานภาพการพฒั นาดา้ นดจิ ิทัลในประเทศไทย ประเทศไทยจะสามารถนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศได้มากน้อยเพียงใดนั้นเงื่อนไขทีส่ าคัญคือ ความพรอ้ มด้านเทคโนโลยีดิจิทลั ของประเทศทเ่ี ปน็ อยู่ ณ ปัจจุบัน และความสามารถในการพัฒนา เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านดิจิทัลของประเทศในอนาคต ดังน้ัน การจัดทาแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คมจึงต้องมีการประเมินสถานภาพปัจจุบันของการพัฒนาด้านดิจทิ ลั1. โครงสรา้ งพื้นฐานดิจทิ ัล โครงสร้างพื้นฐานด้านการส่ือสารดิจิทัลของประเทศไทย ยังคงมีจุดอ่อนในการแพร่กระจายและส่งผลถึงการเข้าถึงและ การใช้งานในภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ท่ีมีระดับ ต่า ดังจะเห็นได้จากการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ของประชาชนไทยที่มีจานวนครัวเรือนเพียงร้อยละ 29.96 หรือประชากรเพียงร้อยละ 8.997 ของประชากรทั้งหมดท่ีเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่ายโทรศัพท์ประจาที่ (fixed broadband penetration) แม้ว่าอัตราการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่ายโทรศัพทเ์ คลอ่ื นจะมีมากพอสมควรคือ ร้อยละ 52.5 ของประชากร นอกจากน้ี หากพิจารณาถึงการเข้าถึงอย่างท่ัวถึงและเท่าเทียมในมิติของพ้ืนที่ พบว่า โครงสร้างพ้ืนฐานด้านการสื่อสารดิจิทัลยังไม่ครอบคลุมทุกพ้ืนที่ โดยเฉพาะระดับหมู่บ้าน มีหมู่บ้านประมาณร้อยละ 53จากจานวน 74,965 หมู่บ้าน ที่สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ส่วนท่ีเหลือเป็นหมู่บ้านท่ีอยู่ห่างไกลซึ่งยังขาดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมท่ีเพียงพอ ทั้งน้ี หน่วยงานภาครัฐที่สาคัญ เช่นโรงเรียน โรงพยาบาลสุขภาพประจาตาบล (รพ.สต.) องค์การบริหารส่วนตาบลหลายแห่ง ยังไม่สามารถเข้าถึงโครงขา่ ยอินเทอร์เนต็ ความเรว็ สูงได้ ความสามารถในการเข้าถึงและใช้งานของประชาชนและองค์กร ยังข้ึนกับอัตราค่าบริการที่เหมาะสมกับระดับค่าครองชีพ (affordability) ซ่ึงราคาค่าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 5.8ของรายได้มวลรวมประชาชาติ (หรอื GNI) ในขณะทคี่ ่าบริการของประเทศเพอ่ื นบ้านมีราคาทต่ี ่ากว่ามาก อินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ระหว่างประเทศ (international internet bandwidth) และการเช่ือมต่อโครงขา่ ยระหวา่ งประเทศ เป็นตัวชว้ี ดั หน่ึงที่บ่งบอกถงึ คณุ ภาพของโครงสร้างพน้ื ฐานดิจิทัล ซง่ึ ในช่วงทศวรรษท่ีผ่านมาอินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ระหว่างประเทศในภมู ิภาคและประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีปริมาณเพ่ิมข้ึนอย่างมากเพ่ือรองรับการประยุกต์ใช้งานและบริการที่มีการรับส่งข้อมูลปริมาณมากผ่านเครือข่ายความเร็วสูง ปริมาณอินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ระหว่างประเทศของไทยมากกว่าร้อยละ 50 มีการติดต่อสื่อสารไปยังประเทศท่ีเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ต มีแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่เป็นท่ีต้องการของผู้ใช้งานได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยประเทศไทยมีโครงข่ายส่ือสารระหว่างประเทศเชื่อมต่อกับประเทศเพ่ือนบ้านผ่านสายใยแก้วนาแสงทางภาคพ้ืนดิน และเชื่อมโยงกับประเทศอ่ืนๆผ่านเคเบิลใต้น้า แต่โครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศของไทย โดยเฉพาะโครงข่ายสื่อสารผ่านเคเบิลใต้น้ายังน้อยกว่าประเทศเพ่ือนบ้าน โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีเคเบิลใต้น้าเพียง 11 เส้น (ใช้งานอยู่จริง 5 เส้น)และมี 4 landing stations7 http://www.nbtc.go.th/TTID/

- 19 -2. การใชป้ ระโยชนเ์ ทคโนโลยีดิจทิ ัลของประชาชนและภาคสงั คม เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถช่วยยกระดับคุณภาพ ชีวิตของประชาชนได้ในหลากหลายมิติ เช่น การสร้าง โอกาสทางการเรียนรู้ การเพิ่มรายได้ การเข้าถึงบริการ ของภาครัฐ แต่การมีการใชเ้ ทคโนโลยีไอซที ี (คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต)8 ของไทยยังคงต่าอยู่ โดยในปีพ.ศ. 2558 มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์เพียงร้อยละ 34.9 และผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ร้อยละ 39.3 นอกจากนี้ กลุ่มผู้ใช้ในเมือง(เขตเทศบาล) มีการเข้าถึงท่ีดีกว่ากลุ่มผู้อาศัยในเขตนอกเมือง (นอกเขตเทศบาล) และกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็นผู้ท่ีมีอายุ 15-34 ปี โดยท่ีผ่านมากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนข้ึนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน เป็นจานวน 1,980 แห่งเพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ ช่วยลดช่องว่าง เพ่ิมโอกาส และช่องทางการเข้าถึงสารสนเทศให้แก่ประชาชนอย่างไรก็ตาม ศูนยฯ์ เหล่าน้ยี งั ไมค่ รอบคลุมทว่ั ประเทศ และยังตอ้ งมีการปรับเปล่ียนรูปแบบการใหบ้ ริการเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพด้วย และมีศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีในลักษณะเดียวกันท่ีดาเนินการโดยหน่วยงานอ่ืนๆ จากท้ังภาครัฐและเอกชน เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสาคัญต่อการเรียนรู้และการศึกษา ปัจจุบันมีสถานศึกษากว่า 30,000 แห่งท่ีต้ังอยู่ทั่วประเทศไทย ยังประสบปัญหาด้านการเช่ือมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และโรงเรียนอีกจานวนมากยังมีปัญหาเรื่องความเร็วในการเช่ือมต่อ การให้บริการไม่ทั่วถึง นอกจากน้ี จานวนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การเรียนการสอนยังมีไม่เพียงพอต่อผู้เรียน และล้าสมัย รวมทั้งครูผู้สอนขาดความชานาญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยเี ข้ากับการสอน ทาใหไ้ มส่ ามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นการสอนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ นอกจากนี้ประเทศไทย ยังมีเนื้อหาในรูปแบบสื่อดิจิทัลที่หลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของคนในประเทศไม่เพียงพอ กล่าวคือยังคงมีปัญหาความเหลื่อมล้าทางด้านเน้ือหา (contentdivide)9 ซ่ึงเป็นอีกมิติหน่ึงของความเหล่ือมลา้ ดิจทิ ัล (digital divide) เนื้อหาท่ีสาคัญท่ียังขาดไป อาทิ ส่ือการเรยี นรเู้ พ่อื นาไปใชป้ ระกอบอาชีพ (เชน่ จากอาชวี ศกึ ษา) และสอื่ ทีต่ อบสนองต่อความต้องการของประชาชนในระดับทอ้ งถิ่นท้งั ในเชงิ เศรษฐกจิ สังคม การศึกษา และวฒั นธรรม ที่ตา่ งกนั ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่า ในขณะท่ีประชาชนเริ่มมีการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ิมขึ้นเร่ือยๆโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ จากอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์เคลอ่ื นท่ี และแท็บเลต็ แตป่ ระชาชนสว่ นใหญ่ยังคงเน้นการใช้เทคโนโลยดี ิจิทัลเพื่อความสนกุ สนาน บันเทิง โดยไม่ได้นาเทคโนโลยีไปก่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร และยังต้องมีการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่จาเป็นสาหรับสงั คมใหม่ ท่ีรวมถึงการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ส่ือต่างๆ และการใชเ้ ทคโนโลยีอย่างมคี วามรับผิดชอบต่อสังคมด้วย8 สานกั งานสถติ ิแหง่ ชาติ, สารวจการมกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในครัวเรอื น พ.ศ. 2558.9 OECD, ISOC, UNESCO. (2012). “The Relationship between Local Content, Internet Development and Access Prices.”

- 20 -3. ภาคธรุ กจิ กบั เทคโนโลยีดิจิทลั ก า ร ใ ช้ ง า น ด้ า น เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล ใ น ภ า ค ธุ ร กิ จ ยังไม่สูงมากนัก โดยเฉพาะอย่างย่ิง ธุรกิจ SMEs ที่มีการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลในระดับค่อนข้างต่า จากการสารวจการมีการ ใช้ไอซที ใี นสถานประกอบการ พ.ศ. 255810 โดยสานักงานสถิติ แหง่ ชาติ พบว่า ธุรกจิ SMEs (ขนาดการจ้างงาน 1-9 คน) มกี ารใช้คอมพิวเตอร์เพียงร้อยละ 22.5 และมกี ารใช้ อินเทอร์เน็ตเพียงร้อยละ 18.3 ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่มีการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมากถึงร้อยละ 99.6 และร้อยละ 99.1 ตามลาดับ และเมื่อพิจารณาการขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต พบว่า ธุรกิจ SMEs มีการขายสินค้าออนไลน์เพียงร้อยละ 2.6 จึงมีความจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องมีการส่งเสริมและกระตุ้นให้ ธุรกิจ SMEs ตลอดจนกล่มุ วสิ าหกจิ ชมุ ชนที่เปน็ กลุ่มธุรกจิ สว่ นใหญ่ของประเทศให้เข้าสู่ระบบการคา้ ดจิ ิทลั เพือ่ เพิม่ โอกาสทางการตลาดและยกระดับเศรษฐกจิ ฐานรากของไทยให้เขม้ แขง็ ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล ปัจจุบันประเทศไทยมีนโยบายที่ผลักดันการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ (S-curve) ใน 2 รูปแบบ คือ (1) การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วในประเทศ เพ่ือเพิ่ม ประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยผลิต โดยการลงทุนชนิดนี้จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะส้ันและ ระยะกลาง (2) การลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เพ่ือเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยี โดยอุตสาหกรรมใหม่ หรืออุตสาหกรรมอนาคตเหล่าน้ีจะเป็นกลไกท่ีสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (new growth engines) ของ ประเทศ ซึง่ ในกรณนี ี้คลสั เตอรด์ จิ ทิ ลั ถูกกาหนดให้เป็นกลไกหลัก11 อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมดิจิทัล (หรืออุตสาหกรรมไอซีที) ของไทยในปัจจุบัน เผชิญกับสถานการณ์ ความผนั ผวนทางเศรษฐกจิ โลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องค่าแรงข้ันต่าที่เพิ่มสูงข้ึนเมื่อเทียบ กับประเทศเพ่ือนบ้านอย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย ส่งผลให้ได้รับผลกระทบจากการย้ายฐานการผลิตไปยัง ประเทศท่ีมีค่าแรงถูกกว่าประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน ธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล (digital technology startup) ซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ท่ีสาคัญในการพัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เร่ิมเป็นท่ีกล่าวถึงและ ได้รับความสนใจ เพราะเปน็ ธุรกจิ ทีม่ ีศักยภาพในการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั เพ่ือสร้างธุรกิจใหมบ่ นพ้ืนฐาน ของการต่อยอดเทคโนโลยีดิจิทัลในเชิงพาณิชย์ (disruptive business) ปัญหาท่ีสาคัญของธุรกิจเทคโนโลยี ดิจิทัลในประเทศ คือ ส่วนใหญ่ยังเป็นธุรกิจขนาดเล็กมาก (micro SMEs) และมีมูลค่าไม่สูงพอที่จะดึงดูดเงิน ลงทนุ จากนักลงทนุ (venture capital) ท้ังในและต่างประเทศ 10 สานักงานสถิติแห่งชาติ, สรปุ ผลขอ้ มูลเบ้ืองต้น สารวจการมกี ารใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในสถานประกอบการ พ.ศ. 2558. 11 สานักงานเศรษฐกจิ การคลัง, http://www.mof.go.th/home/Press_release/News2015/109.pdf

- 21 -4. ความพรอ้ มของภาครัฐ การจัดอันดับความพร้อมของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ปีพ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) ในรายงาน UN e-Government Readiness Ranking 2014 ประเทศไทยถูกลดอันดับลงจาก ปีพ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) (อนั ดบั ท่ี 92 คะแนน 0.5083) มาอยู่ในอันดับที่ 102 (คะแนน 0.4631) จาก 193 ประเทศ และในรายละเอียด พบว่า การใช้ประโยชน์จากไอซีทีของภาครัฐของไทย (government usage) อยู่ในระดับต่า โดยในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) อันดับของgovernment usage อยู่อันดับที่ 80 จาก 143 ประเทศ ในขณะที่ผลการจัดอับดับประเทศที่มีข้อมูลเปิดภาครัฐมากท่ีสุดในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) จาก The Global Open Data Index 2015 ประเทศไทย ได้รับการจัดอยู่ในอันดับท่ี 42 จาก 122 ประเทศ เพิ่มข้ึน 17 อันดับ จากปีก่อนหน้า ที่อยู่ในอันดับท่ี 59 จาก 97ประเทศ นอกจากน้ี ระบบสารสนเทศภาครัฐยังไม่ได้มีการบูรณาการเช่ือมต่อกันมากเท่าที่ควร การใช้ข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐยังทาได้ยาก หน่วยงานภาครัฐจัดเก็บข้อมูลซ้าซ้อน ประชาชนจึงยังต้องยื่นขอ้ มลู ซา้ ๆ ตามเง่อื นไขการรับข้อมลู ที่ตา่ งกนั ของแตล่ ะหน่วยงาน ขอ้ มลู ยงั ขาดความเป็นเอกภาพ ทาใหใ้ ชเ้ วลาในการให้บริการมาก และมีภาระค่าใช้จ่ายสูง ท่ีบ่อยคร้ังไม่ก่อให้เกิดคุณค่าเพิ่มแก่ท้ังหน่วยงานภาครัฐเองและประชาชน โดยอุปสรรคสาคัญของการบูรณาการระบบสารสนเทศภาครัฐ คือ ขาดการบูรณาการข้ันตอนการทางานข้ามหน่วยงาน เง่ือนไขการจัดเก็บข้อมูล และหลักเกณฑ์ในการกาหนดช่ือรายการข้อมูลแตกต่างกนั ไปในแต่ละหนว่ ยงาน โครงสรา้ งและรูปแบบของขอ้ มลู อิเล็กทรอนิกสท์ ่ีไดร้ ับการออกแบบมพี ื้นฐานอยู่บนชื่อรายการข้อมูลที่ต่างกัน การใช้กฎเกณฑ์การสื่อสารในการร้องขอและตอบสนองระหว่างระบบที่แตกต่างกันทาให้บูรณาการเชือ่ มโยงได้ยาก5. ทรัพยากรมนุษย์ ผู้ทางานด้านไอซีทีที่มีอยู่ในตลาดแรงงาน12 ระหว่าง พ.ศ. 2554-2557 พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในปี พ.ศ.2557 ผู้ทางานด้าน ไอซีที มีจานวน 570,705 ราย ทั่วประเทศ แต่คิดเป็นร้อยละของ กาลังคนด้านไอซีทีต่อจานวนกาลงั คนทั้งประเทศเพียงร้อยละ 1.49และมีสัดส่วนคงที่ตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปีท่ีผ่านมา ซ่ึงนับว่าประเทศไทยมีจานวนกาลังคนทางด้านดิจิทัลต่ามากเม่อื เทยี บกบั ประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ผทู้ างานดา้ นไอซที ีของประเทศไทย 2 อนั ดับแรก เปน็กลุ่มช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มช่างเทคนิคด้านไอซีที ตามลาดับ ซ่ึงเป็นกาลังคนระดับล่าง ในขณะที่ผู้ทางานด้านไอซีทที ่เี ป็นกลุ่มผ้ปู ระกอบวชิ าชีพด้านไอซที ี มจี านวนเพียงรอ้ ยละ 11.6 ของผทู้ างานดา้ นไอซีทีของประเทศไทย ในกรณีของกาลังคนทางด้านซอฟต์แวร์13 พบว่ามีจานวนประมาณ 50,934 ราย โดยมีพนักงานท่ีเป็นโปรแกรมเมอร์มากที่สุด ขณะท่ีบุคลากรด้านซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัวมีเพียง 1,536 ราย ซึ่งแสดงถึงการขาดแคลนบุคลากรอย่างรุนแรงและต่อเน่ือง นอกจากน้ี วิชาชีพทางด้าน business analyst ด้าน software12 เนอ่ื งด้วยกาลงั คนทางด้านดิจิทลั (digital workforce) เป็นเรื่องใหมท่ ่จี าเปน็ ต้องมีการปรบั เปลี่ยนกระบวนการจัดเกบ็ ข้อมลู และแนวคดิ ของการปรับโครงสรา้ งกาลงั คนทางดา้ นดจิ ิทลั อย่างบรู ณาการรว่ มกบั หนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ ง สถานภาพกาลังคนทางด้านดจิ ิทลั ภายใต้แผนพฒั นาดิจิทัลเพอื่เศรษฐกจิ และสังคม พ.ศ. 2559-2563 จงึ ใช้สถานภาพของบคุ ลากรไอซที ีเพือ่ ประเมินวัดและเปน็ ฐานการวิเคราะหบ์ ริบทของการพฒั นากาลังคนทางดา้ นดิจทิ ัลภายใตก้ ารดาเนนิ งานของแผนฯ13 สานกั สง่ เสริมอตุ สาหกรรมซอฟต์แวรแ์ หง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน), การสารวจกาลงั คนทางด้านซอฟตแ์ วร์ พ.ศ. 2556

- 22 -engineer และด้าน system engineer มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลภายในประเทศ โดยทักษะของบุคลากรที่จะเปน็ ที่ต้องการของตลาดแรงงานทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมากท่ีสุดคือ ทักษะประเภท object oriented design และ programming นอกจากนี้ จากรายงานของสานักงานสถิติแหง่ ชาติ ได้จดั กลุ่มสายงานวิชาชีพด้านไอซีทีท่ีคาดว่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทยภายในระยะเวลา 5 ปี ได้แก่ 1) สายงานด้าน cloud computing 2) สายงานด้าน big data และ3) สายงานด้าน mobile application and business solution เนื่องจากมีการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีที่สามารถรองรับความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่ มผู้บริโภคท่ีมีความหลากหลายได้อย่างมีประสิทธภิ าพ กลุ่มผู้ปฏิบัติงานท่ีมีการใช้ไอซีทีในการทางาน และผู้ประกอบการเป็นบุคลากรอีกกลุ่มท่ีสาคัญแต่ปัจจุบัน สัดส่วนของกลุ่มผู้ปฏิบัติงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในสถานประกอบการ ยังไม่สูงนัก ซ่ึงสถานประกอบการเหล่านี้ยังไม่เห็นความจาเป็นในการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ประกอบธุรกิจ ดังน้ัน การสร้าง digitalcompetency ในกลุ่มผูป้ ระกอบการ โดยเฉพาะผู้บรหิ ารระดบั สูง เป็นสิ่งจาเปน็ อยา่ งย่งิ ในสถานการณ์ปัจจุบันท้งั นี้ การสรา้ งแรงจูงใจ (incentive) เพ่ือให้ผู้ประกอบการหนั มาใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทัลในการปฏิบัตงิ านถือเป็นสิ่งทผ่ี ้กู าหนดนโยบายเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ัลต้องคานึงถึง ดังนั้น ประเทศไทยจาเป็นต้องมีการพัฒนากาลังคนท้ังปริมาณและคุณภาพ กล่าวคือ พัฒนากลุ่มทักษะท่ีเป็นที่ต้องการ นอกจากน้ี ยังต้องมีการปรับโครงสร้างกาลังคนทางด้านดิจทิ ัลอย่างเป็นระบบในลกั ษณะของการบูรณาการ เพ่ือเตรียมความพร้อมทางด้านกาลังคนดิจิทัลร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เก่ียวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ไปสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมท่ีขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรม ทจ่ี ะเกิดวิชาชีพใหม่ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกับการพัฒนาอตุ สาหกรรมเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลแหง่ อนาคต6. กฎหมาย กฎเกณฑ์ และกฎระเบียบท่ีเอ้อื ตอ่ การพฒั นาดิจิทลั แม้ว่าในปัจจุบันการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การค้าขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะมีท้ังปริมาณและ มูลค่าเพิ่มข้ึนทุกปี พบว่าใน พ.ศ. 2557-255814 มีมูลค่า 2.03 ล้านล้านบาท และ 2.11 ล้านล้านบาท ตามลาดับ แต่ประชาชนจานวนมากยังขาดความเช่ือม่ันในการทาธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ เน่ืองจากกลัวการถูกฉ้อโกงจากการซ้ือสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์ นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางไอซีทียังมาควบคู่กันกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึง่ สรา้ งความเสียหายแก่ระดับบุคคลและระดับประเทศ โดยข้อมูลสถิติด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์ของไทยปี พ.ศ. 2557 รวบรวมโดย ThaiCERT พบวา่ Malicious code ซึง่ เปน็ โปรแกรมที่ถูกพัฒนาขนึ้ เพ่ือให้ระบบเกิดความขัดข้องหรือเสียหาย เป็นภัยคุกคามไซเบอร์อันดับ 1 ของประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 43.3 และจากสถิติภัยคุกคามประจาปี พ.ศ. 2558 ปรากฏว่ามีภัยคุกคามประเภทต่างๆ รวมท้ังส้ิน4,371 เรื่อง และไทยเป็นประเทศท่ีมีการแจ้งเหตุภัยคุกคามมากท่ีสุดเป็นอันดับหน่ึง รองลงมาคือประเทศเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา ตามลาดับ การเฝ้าระวัง การป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามจึงต้องอาศัยความรวดเร็ว เพราะมีผลกระทบต่อการขาดความเชื่อมั่นในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในมิติต่างๆ รวมถึงความสญู เสียและความเสยี หายทจี่ ะเกิดขน้ึ 14 สานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (องค์การมหาชน), การสารวจมลู คา่ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ในประเทศไทย พ.ศ. 2558

- 23 - ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐมีการให้บริการภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์หรือท่ีเรียกว่า e-service มากขึ้นรวมถึงมีการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว ข้อมูลสาคัญหลายอย่างท่ีเก่ียวข้องกับการให้บริการประชาชนและการบริหารราชการ ถูกจัดเก็บและประมวลผลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพ่ิมมากข้ึน แต่ยังมีหน่วยงานภาครัฐจานวนหนึ่งท่ียังมิได้ตระหนักถึงภัยและผลกระทบ อันเนื่องจากการถูกละเมิดการรักษาความม่ันคงปลอดภัยของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงการละเมดิ ขอ้ มลู ส่วนบุคคล แม้ว่าพระราชกฤษฎีกากาหนดหลักเกณฑ์และวิธกี ารในการทาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นกฎหมายลาดับรองภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาตรา 35 ได้กาหนดให้หน่วยงานภาครัฐที่มีการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ต้องจัดทาแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัยของข้อมูลในระบบสารสนเทศและแนวนโยบายและแนวปฏบิ ัติในการคุ้มครองข้อมลู ส่วนบคุ คลของหนว่ ยงานภาครฐั เพื่อใหก้ ารดาเนนิ การใดๆด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มีความม่ันคงปลอดภัยและเช่ือถือได้ และให้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์น้ันมีผลตามกฎหมายวา่ ด้วยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ จากสถานภาพการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทยดังกล่าวข้างต้น พบว่าประเทศไทยได้ก้าวมาไกลมากในการพัฒนาด้านดิจทิ ัลน้ี หากแต่ในการเข้าสูร่ ะบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง ยังจะต้องเร่งปฎิรปูประเทศไทย ในด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายและโอกาสของประเทศให้รวดเร็วขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นความจาเป็นเร่งด่วนทางในทางเศรษฐกิจ ความท้าทายทางสังคม การพลิกโฉมการบริหารจัดการและการบริการของรัฐและการแก้ปัญหาคอรัปช่ันของประเทศ หรือแม้แต่การปรับตัวเพ่ือฉกฉวยโอกาสการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลใหม่ๆ ในการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมในอนาคต

- 24 -2. วสิ ัยทศั น์ และเปา้ หมายการพฒั นาดจิ ิทลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศไทย การกาหนดแนวทางการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามแผนฯ นี้ ได้ดาเนินการโดยยึดถือหลกั การพน้ื ฐาน ดงั ทไ่ี ดน้ าเสนอก่อนหน้านี้ คือ ความสอดคล้องกบั ทิศทางการพฒั นาประเทศ การใช้ประโยชน์สูงสุดจากพลวัตของเทคโนโลยีดิจิทัล การประกันการเข้าถึงของคนทุกกลุ่ม การวางแผนจากข้อมูลความพร้อมของประเทศ และการรวมพลังทุกภาคส่วนในการขับเคล่ือนแผนฯ ตามแนวทางประชารัฐ เพ่ือให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริงในภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และภาครัฐ โดยได้กาหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และภูมิทัศน์ของการพัฒนาดิจทิ ัลเพือ่ เศรษฐกิจและสังคม ดังต่อไปนี้2.1 วิสยั ทศั น์ของการพัฒนาดจิ ทิ ัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม วิสัยทัศน์และเป้าหมายของการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองในระยะยาวอย่างย่งั ยืน ใหส้ อดคลอ้ งกับการจัดทายุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี แตเ่ พื่อใหแ้ ผนฯ สามารถรองรับพลวัตของเทคโนโลยีดิจิทัล จึงได้กาหนดแนวทางการพัฒนาหรือภูมิทัศน์ดิจิทัลออกเป็น 4 ระยะ เพื่อนาไปสู่ความสาเร็จในการพัฒนาประเทศ ตามท่ีกาหนดในวสิ ยั ทัศน์ คอื ปฎริ ูปประเทศไทยสู่ ดิจทิ ลั ไทยแลนด์ ดจิ ทิ ัลไทยแลนด์ (Digital Thailand) หมายถึง ประเทศไทยที่สามารถสรา้ งสรรค์และใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั อยา่ งเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐาน นวัตกรรม ข้อมูล ทุนมนุษย์และทรพั ยากรอื่นใด เพ่ือขับเคล่อื นการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศไปสคู่ วามมั่นคง มั่งคั่ง และย่งั ยืน

- 25 -2.2 เปา้ หมายและตัวชี้วดั ความสาเรจ็ 15เป้าหมายระยะ 10 ปี4. ปฏริ ปู กระบวนทัศนก์ ารทา้ งาน 1. เพิ่มขีดความสามารถ และการใหบ้ รกิ ารของภาครัฐ ในการแข่งขัน กา้ วทันเวทโี ลก3. พฒั นาทนุ มนษุ ยส์ ่ยู คุ ดจิ ทิ ลั ดจิ ิทัลไทยแลนด์ 2. สร้างโอกาสทางสงั คม อย่างเทา่ เทียมเป้าหมายที่ 1 เพมิ่ ขดี ความสามารถในการแข่งขัน กา้ วทนั เวทโี ลก ดว้ ยการใช้นวตั กรรมและเทคโนโลยดี ิจิทัล เปน็ เคร่ืองมือหลกั ในการสร้างสรรคน์ วัตกรรมการผลติ การบรกิ าร• ประเทศไทยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนานวัตกรรม และสร้างสรรค์ ธุรกจิ แนวใหม่ ให้สามารถแข่งขันไดใ้ นเวทโี ลก• อุตสาหกรรมดิจิทัลมีบทบาทและความสาคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมเพ่ิมขึ้น ตลอดจนเปน็ ที่รู้จกั และยอมรับในประชาคมโลก• เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็งจากภายใน โดยธุรกิจฐานราก และ SMEs ใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างศักยภาพในการทาธุรกิจ และสร้างโอกาสในการเข้าสู่ ตลาดโลก15 ปัจจุบัน สหภาพยุโรปได้มีการพัฒนาดัชนี The Digital Economy and Society Index ที่ใช้ประเมินวัดความสามารถและวิวัฒนาการของประเทศทางดา้ นดิจทิ ัลโดยตรง โดยพิจารณาการพฒั นาใน 5 มิติ คือ conncectivity, human capital, use of internet, integration of digitaltechnology, digital public services อยา่ งไรก็ดี การประยกุ ต์ใช้ดัชนดี ังกล่าวยงั คงเป็นไปอยา่ งจากัดเฉพาะกล่มุ ประเทศสหภาพยุโรปเทา่ นน้ัIcon made by [Freepik] from www.flaticon.com

- 26 -ตัวชีวดั 1) ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศใน World Competitiveness Scoreboard อยูใ่ นกลุม่ ประเทศท่ีมกี ารพฒั นาสูงสุด 15 อันดบั แรก 2) อตุ สาหกรรมดจิ ิทัลมสี ว่ นสาคญั ในการขบั เคล่อื นประเทศไทยสกู่ ารเป็นประเทศที่มี รายได้สงู โดยสัดสว่ นมลู คา่ อตุ สาหกรรมดจิ ิทลั ต่อ GDP เพมิ่ ข้ึน เปน็ ร้อยละ 25 เป้าหมายที่ 2 สร้างโอกาสทางสังคมอย่างเท่าเทียม ด้วยข้อมูลข่าวสารและบรกิ าร ผา่ นสอื่ ดิจิทลั เพือ่ ยกระดับคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน • ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางสังคม สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี ดิจทิ ัล และส่อื ดจิ ิทลั อย่างเทา่ เทยี ม • คุณภาพชีวิตของประชาชนดีข้ึน จากการเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศและบริการ สาธารณะ โดยเฉพาะบรกิ ารพ้ืนฐานทจ่ี าเป็นต่อการดารงชีวติ ผา่ นเทคโนโลยดี จิ ิทลัตัวชวี ดั 3) ประชาชนทุกคนต้องสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เสมือนเป็น สาธารณปู โภคพน้ื ฐานประเภทหนึ่ง 4) อนั ดบั การพัฒนาดา้ นไอซีทีของประเทศในดัชนี ICT Development Index (IDI) อยู่ ในกลมุ่ ประเทศทีม่ ีการพัฒนาสูงสดุ 40 อันดบั แรก เปา้ หมายที่ 3 พัฒนาทุนมนุษย์สู่ยุคดิจิทัล ด้วยการเตรียมความพร้อมให้บุคลากร ทุกกลุ่ม มีความรู้และทักษะที่เหมาะสมต่อการดาเนินชีวิตและ การประกอบอาชพี ในยคุ ดจิ ทิ ลัตัวชีวัด • ประชาชนมีความสามารถในการพัฒนาและใช้สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ มีความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิด ประโยชน์และสรา้ งสรรค์ (digital literacy) • ประเทศไทยมีกาลังคนดา้ นดิจิทลั ทีม่ ีความรู้ความสามารถและความเชย่ี วชาญระดับ มาตรฐานสากล และกาลังคนในประเทศมีความรอบรู้และสามารถใช้เทคโนโลยี ดจิ ิทลั เปน็ เครื่องมือในการปฏิบตั ิและสรา้ งสรรค์ผลงาน 5) ประชาชนทุกคนมีตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ละสรา้ งสรรค์Icon made by [Freepik] from www.flaticon.com

- 27 - เป้าหมายที่ 4 ปฏิรูปกระบวนทัศน์การทางานและการให้บริการของภาครัฐ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพ่ือให้ การปฏิบัติงานโปร่งใส มปี ระสทิ ธิภาพ และประสิทธผิ ล • กระบวนทัศน์การปฏิบัติงาน การบริหารจัดการ และการให้บริการของภาครัฐ เปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือให้บริการประชาชน ธุรกิจ และทุกภาคส่วนตวั ชีวดั อยา่ งมีประสิทธิภาพ มีความมนั่ คงปลอดภยั และมีธรรมาภิบาล 6) อันดบั การพฒั นาด้านรฐั บาลดิจิทลั ในการจดั ลาดบั ของ UN e-Government rankings อย่ใู นกลุ่มประเทศท่มี กี ารพฒั นาสงู สดุ 50 อนั ดับแรก2.3 ภมู ทิ ศั นด์ จิ ทิ ลั ของประเทศไทย (Thailand Digital Landscape) การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทย มุ่งเน้นการพัฒนาระยะยาวอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วดังนน้ั แผนพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกจิ และสังคม จงึ กาหนดภูมทิ ศั น์ดจิ ิทลั หรือทศิ ทางการพัฒนาและเป้าหมายออกเป็น 4 ระยะ ดงั น้ี ภมู ทิ ัศนด์ จิ ทิ ลั ของไทยในระยะ 20 ปี ระยะที่ 1 ระยะท่ี 3 Digital Thailand II: Digital Foundation Full Transformationประเทศไทยลงทนุ และสร้างฐานราก ประเทศไทยกา้ วสู่ดจิ ิทัลไทยแลนด์ในการพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมดจิ ทิ ัล ทข่ี บั เคล่อื นและใช้ประโยชนจ์ าก นวตั กรรมดิจิทัลได้อยา่ งเต็มศักยภาพ 1 ๑ปี ป6ี เ๖ดือเดนอื น 10 ๑ป๐ี ปี 5 ปี ๕ ปี 10 - 2๑0๐ปี- ๒๐ ปี ระยะท่ี 2 ระยะที่ 4 Digital Thailand I: Inclusion Global Digital Leadership ทกุ ภาคสว่ นของประเทศไทยมีส่วนร่วม ประเทศไทยอย่ใู นกลุ่มประเทศทพี่ ัฒนาแลว้ ในเศรษฐกจิ และสงั คมดิจิทลั สามารถใช้เทคโนโลยดี ิจทิ ลั ตามแนวทางประชารฐั สรา้ งมูลค่าทางเศรษฐกิจ และคุณค่าทางสงั คมอยา่ งยัง่ ยนื

- 28 - ระยะท่ี 1 ระยะท่ี 2 ระยะที่ 3 ระยะท่ี 4 Digital Foundation Digital Thailand I : Inclusion Digital Thailand II : Global Digital Leadership ประเทศไทยลงทุน และสร้างฐานราก Full Transformation ประเทศไทยอยใู่ นกลุม่ ประเทศทพี่ ัฒนา ในการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม ทกุ ภาคสว่ นของประเทศไทย ประเทศไทยก้าวสดู่ จิ ทิ ลั ไทยแลนด์ แล้ว สามารถใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัล สรา้ ง มสี ว่ นร่วมในเศรษฐกจิ และสังคมดจิ ิทัล ท่ขี บั เคลอื่ นและใช้ประโยชนจ์ าก มูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม ดจิ ิทลั นวัตกรรมดิจทิ ัล ได้อยา่ งเต็มศกั ยภาพ ตามแนวทางประชารัฐ อยา่ งย่ังยนืโครงสร้างพ้นื ฐาน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึงทุก อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึงทุกหมู่บ้าน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึงทุกบ้านและ อินเทอร์เน็ตเช่ือมต่อทุกท่ี ทุกเวลาเศรษฐกจิ หมู่บ้านท่ัวประเทศ เป็นฐานของ และเช่อื มกบั ประเทศในภมู ภิ าคอื่น รองรับการหลอมรวมและการเชื่อมต่อ ทุกอุปกรณ์ อยา่ งไรร้ อยต่อสังคมรฐั บาล กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมอน่ื ๆ ทกุ อุปกรณ์ทุนมนษุ ย์ความเชอ่ื ม่ัน ก า ร ท า ธุ ร กิ จ ผ่ า น ร ะ บ บ ดิ จิ ทั ล ภาคเกษตร การผลิต และบริการ ภาคเกษตร การผลิต และบริการ กิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกกิจกรรม คล่องตัว และติดอาวุธดิจิทัลให้ เปล่ียนมาทาธุรกิจด้วยดิจิทัลและข้อมลู แข่งขันได้ด้วยนวัตกรรมดิจิทัล และ เช่ือมต่อภายในและระหว่างประเทศ SMEs วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร ตลอดจน digital technology startup เช่ือมโยงไทยสู่การค้าในระดับภูมิภาค ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นาประเทศไทย ให้มาอยู่บนระบบออนไลน์ พร้อมทั้ง และคลัสเตอร์ดิจิทัลเร่ิมมีบทบาทใน และระดับโลก ส่คู วามม่ังคั่ง วางรากฐานให้เกิดการลงทุนใน ระบบเศรษฐกจิ ไทย คลัสเตอร์ดิจทิ ลั ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ประชาชนเช่ือม่ันในการใช้ดิจิทัล และ ประชาชนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี/ เป็นประเทศที่ไม่มีความเหล่ือมล้าด้าน ความเรว็ สงู และบริการพื้นฐานของรฐั เข้าถึงบริการการศึกษา สุขภาพ ข้อมูล ขอ้ มูล ทกุ กิจกรรมในชีวิตประจาวัน ดิจิทัล ตลอดจนชุมชนใช้ดิจิทัลเพื่อ อย่างท่วั ถงึ และเทา่ เทยี ม และการเรยี นรตู้ ลอดชีวิตผา่ นดจิ ทิ ลั พฒั นาทอ้ งถิ่นตนเอง หน่วยงานรัฐมีการทางานที่เชื่อมโยง การทางานระหว่างภาครัฐจะเช่ือมโยง รัฐจัดให้มีบริการท่ีขับเคล่ือนโดยความ เป็นประเทศผู้นาในภูมิภาคด้านรัฐบาล และบูรณาการข้อมลู ข้ามหนว่ ยงาน และบรู ณาการเหมอื นเปน็ องค์กรเดียว ต้องการของประชาชน เปิดเผยข้อมูล ดิจิทัล ท้ังการบริหารจัดการรัฐและ และให้ประชาชนมีสว่ นร่วม บรกิ ารประชาชน กาลังคน (ทุกสาขา) มีทักษะด้าน กาลังคนสามารถทางานผ่านระบบ ประเทศไทยเกิดงานคุณค่าสูง และ เป็นหน่ึงในศูนย์กลางด้านกาลังคนดิจิทัล ดิจิทัลเป็นท่ียอมรับในตลาดแรงงาน ดิจิทัลแบบไร้พรมแดน มีผู้เช่ียวชาญ กาลังคนที่มีความเชี่ยวชาญดิจิทัล ข อ ง ภู มิ ภ า ค ทั้ ง ใ น ร า ย ส า ข า แ ล ะ ทั้งในและตา่ งประเทศ ดจิ ิทลั ต่างประเทศเข้ามาทางานในไทย เฉพาะดา้ นเพียงพอต่อความตอ้ งการ ผู้เชยี่ วชาญดิจทิ ัล รัฐบาลออกชุดกฎหมายดิจิทัลท่ี ไทยมีสภาพแวดล้อมเอ้ือต่อการทา ประเทศไทยไม่มีกฎหมาย/ ระเบียบท่ี เป็นประเทศต้นแบบที่มีการพัฒนา ครอบคลุม และปฏิรูปองค์กรที่ ธุรกรรมดิจิทัล มีระบบอานวยความ เป็นอุปสรรคต่อการค้า การทาธุรกรรม ทบทวน กฎระเบียบ กติกา ด้านดิจิทัล เก่ียวข้องในการขบั เคล่อื นงาน สะดวกและมีมาตรฐาน ดิจิทัล อย่างตอ่ เน่ือง จรงิ จัง 1 ปี 6 เดอื น 5 ปี 10 ปี 20 ปี

- 29 -ระยะที่ 1 (1 ปี 6 เดือน) Digital Foundation ประเทศไทยลงทนุ และสร้างฐานราก ในการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมดจิ ทิ ลั Digital Foundation มิติด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทยจะมีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะเข้าถึงชุมชน10,000 แห่ง และมีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังหมู่บ้านท่ัวประเทศ พร้อมท้ังเตรียมการลงทุนเพ่ือให้ประเทศไทยมีโครงข่ายโทรคมนาคมความเร็วสูง เช่ือมต่อกับประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างเพียงพอท้ังทางภาคพืน้ ดิน ภาคพื้นนา้ มิติด้านเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศเพ่ือปรับสมดุลทางเศรษฐกิจด้วยการปรับปรุงและปรับเปลีย่ นบรบิ ทในการทาธรุ กิจในยุคดิจทิ ัลให้ล่นื ไหลมากข้ึน (frictionless) รวมถึงการสง่ เสรมิ ให้กลุ่มธรุ กจิ ทเี่ ดิมยงั ไม่ไดใ้ ช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัลมากนักให้เข้ามาส่รู ะบบเศรษฐกจิ ท่ีใช้เทคโนโลยีดิจิทลั เป็นฐาน โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในกล่มุ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวสิ าหกจิ ชมุ ชน มิติด้านสังคม ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในชนบทและผู้ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงอนิ เทอรเ์ น็ตความเร็วสูง เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั และบริการของรฐั ได้ โดยไม่มขี ้อจากัดทางกายภาพ หรอื พ้นื ท่ี ผา่ นช่องทางบริการดิจิทัลท่ีหลากหลาย และมีการสร้างความตระหนัก เพ่ือให้ประชาชนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ สถาบันการศึกษาและหน่วยงานท่ีให้บริการสาธารณะในท้องถ่ินทกุ พ้นื ท่มี กี ารใช้งานเทคโนโลยีดิจิทลั และเชือ่ มต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสงู มิติด้านภาครัฐ การบริหารจัดการของรัฐจะถูกปรับเปล่ียนเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างเป็นระบบ มีการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แทนกระดาษมากข้ึน เกิดการใช้ทรัพยากรดิจิทัลร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเริ่มบรู ณาการขอ้ มลู และทรัพยากรรว่ มกนั นาไปสู่การเชื่อมโยงหนว่ ยงานภาครฐั (connected government)และการมชี ุดขอ้ มลู และระบบบรกิ ารพื้นฐานภาครฐั (government service platform) ท่มี ีมาตรฐาน สามารถเข้าถงึ แลกเปลย่ี น เชื่อมโยง และใช้งานรว่ มกนั ได้ มิติด้านทุนมนุษย์ กาลังคนในประเทศได้รับการเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลท่ีมีมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับในตลาดแรงงานท้ังในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมท้ังบุคลากรที่เป็นผู้เช่ียวชาญในสาขาเทคโนโลยีดิจิทัล (digital specialist) และกาลังคนทั่วไปที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ (digital competent workforce) มิตดิ า้ นความเช่ือมน่ั มีกฎหมาย/กฎระเบียบที่เอื้อต่อเศรษฐกิจและสงั คมดิจิทลั กลมุ่ กฎหมายที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลมีผลใช้บังคับ ซ่ึงจะก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางด้านโครงสร้างเชิงสถาบนั การจดั ตง้ั หนว่ ยงานทท่ี าหนา้ ทขี่ ับเคลื่อนอย่างเปน็ รูปธรรม

- 30 -ระยะท่ี 2 (5 ปี ) Digital Thailand Inclusion ทุกภาคสว่ นของประเทศไทยมีส่วนรว่ ม ในการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคม ดิจิทลั ตามแนวประชารฐั Digital Thailand Inclusion มิติด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน ประเทศไทยมีโครงข่ายความเร็วสูงแบบใช้สายและแบบไร้สาย เข้าถึงทุกหมู่บ้าน และครอบคลุมท่ัวประเทศ โดยประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางในการเชอ่ื มต่อและแลกเปลยี่ นข้อมูลในภูมิภาค ที่มีศูนย์ข้อมูลท่ีได้มาตรฐานกระจายอยู่ทุกภูมิภาค และมีศูนย์ข้อมูลของผู้ให้บริการข้อมูลรายใหญ่ท่ีสาคัญตั้งอยู่ในประเทศ นอกจากนี้ การแพร่ภาพและกระจายเสียงทางวิทยุและโทรทัศน์จะต้องเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีโครงข่ายแพร่สัญญาณภาพและกระจายเสียงระบบดิจิทัลทค่ี รอบคลุมพนื้ ที่บริการไดอ้ ย่างทว่ั ถึง มิติด้านเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ เตบิ โตด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและการใช้ประโยชนจ์ ากข้อมูล (data-driven) และเตรยี มความพร้อมเพ่ือพัฒนากระบวนการผลิตของภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ ให้มีความทันสมัยและพัฒนาไปสู่การทาธุรกิจด้วยระบบอัตโนมัติ นอกจากน้ี ธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล (digital innovation-driven entrepreneur หรือtechnology startup) มีบทบาทในการขบั เคลือ่ นประเทศ มิติด้านสังคม ประชาชนเข้าถึงโครงข่ายอินเทอร์เนต็ ความเร็วสูงและบริการสาธารณะพื้นฐานผ่านทางส่อื ดจิ ิทลั และนาดิจทิ ลั มาใช้เพอ่ื การพฒั นาในมติ ติ ่างๆ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ด้านการเรียนรู้ และการใชด้ ิจทิ ัลเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาครู หลักสูตร และส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีสื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตท่ีมีเน้ือหาเหมาะกับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของชาวบ้าน มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการช่วยส่งเสริมดูแลสุขภาพสาหรับผูค้ นทั้งในเมอื งและในชนบทท่ีหา่ งไกลหรอื ขาดแคลนแพทย์ มิติด้านภาครัฐ เกิดการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐและบูรณาการข้อมูลข้ามหน่วยงานโดยสมบูรณ์ผู้บริหารภาครัฐ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกระดับ และใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อประกอบการวางแผนและการตัดสินใจอย่างถูกต้อง ทันสถานการณ์ พัฒนาบริการท่ีขับเคลื่อนโดยความต้องการของประชาชนหรือผู้ใช้บริการ (citizen driven) ตามหลักการออกแบบท่ีเป็นสากล (universaldesign) ผ่าน single window เพ่ิมข้ึน รัฐสนับสนุนการดาเนินธุรกิจโดยการเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลบริการ รวมท้ังนวัตกรรมของการบริการ และระบบการบริหารจัดการของภาครัฐ การบริหารจัดการและการบริการต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเชิงนโยบายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (connected governance) ได้อย่างสะดวก ทันต่อสถานการณ์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลทีม่ ีความม่นั คงปลอดภยั และรกั ษาความเปน็ ส่วนตัวของข้อมูล และใหส้ ามารถตรวจสอบได้และนาไปสูก่ ารดาเนินงานที่มีความโปรง่ ใส (transparency) และนา่ เช่อื ถอื (accountability)

- 31 - มิติด้านทุนมนุษย์ ประเทศไทยปรับเปลี่ยนโครงสร้างกาลังคนทางด้านดิจิทัล เพื่อเร่งสร้างและพัฒนากาลังคนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ท่ีรูปแบบการจ้างงานและวัฒนธรรมการทางานเปลี่ยนแปลงไป จากการท่ีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเทคโนโลยีท่ีไร้พรมแดนและเอื้อให้ธุรกิจจากทั่วโลกสามารถทางานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวก นามาซ่ึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจใหม่ ซ่งึ ประเทศไทยจะมีผเู้ ชี่ยวชาญตา่ งประเทศดา้ นดจิ ิทลั เขา้ มาทางานในประเทศมากขน้ึ มิตดิ า้ นความเชื่อมัน่ มกี ฎหมาย/กฎระเบยี บที่เอ้อื เศรษฐกิจและสงั คมดิจิทลั มกี ารปรับปรุงกฎระเบยี บและกระบวนการทางานของภาครัฐที่เก่ียวข้อง ทาให้การทา e-business ในประเทศไทย มีความสะดวกรวดเรว็ ลดตน้ ทุน และน่าเชอื่ ถอื การเคล่อื นยา้ ยสินคา้ มปี ระสทิ ธภิ าพมากข้นึ ดว้ ยระบบ e-logistics ด้านระบบการชาระเงินมีวิวัฒนาการใหม่ๆ เพ่ือสนับสนุนการทาธุรกรรมทางการเงินของประเทศท่ีสะดวก รวดเร็วมีประสิทธิภาพ และนา่ เช่อื ถอื มกี ารเชอื่ มโยงและแลกเปลย่ี นข้อมูลแบบทันที กฎหมายทีส่ นบั สนุนและจาเป็นตอ่ นโยบาย digital economy จะมกี ารบังคบั ใช้ครบถ้วนระยะที่ 3 (10 ปี) Full Transformation ประเทศไทยกา้ วสู่การเปน็ “ดจิ ิทลั ไทยแลนด์” ที่ขบั เคล่อื นและใชป้ ระโยชนจ์ าก นวัตกรรมดจิ ิทลั ไดอ้ ยา่ งเต็มศักยภาพ Full Transformation มติ ิด้านโครงสร้างพน้ื ฐาน ประเทศไทยจะมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทลั ท่ีทันสมัยทัดเทียมประเทศพัฒนาแล้วและโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะกลายเป็นสาธารณูปโภคขั้นพ้ืนฐาน เช่นเดียวกับ ถนน ไฟฟ้าน้าประปา ด้วยโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบใช้สายท่ีเข้าถึงทุกบ้าน และรองรับการหลอมรวม(convergence) มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงท่ีสามารถเข้าถึงได้ในทุกสถานที่ ทุกเวลา สาหรับผู้ใช้หรือทุกสรรพสิ่งที่ต้องการเชื่อมต่อ โครงข่ายโทรคมนาคมหลักจะมีเส้นทางเช่ือมต่อกับต่างประเทศด้วยเทคโนโลยีหลากหลายรองรับปริมาณความต้องการใช้งานที่เพ่ิมขึ้นอย่างไม่จากัด ระยะทางและความเร็วจะไม่ได้เป็นอปุ สรรคในการเชือ่ มโยงโครงข่ายระหว่างประเทศ ข้อมูลของผู้ใช้อินเทอรเ์ น็ตส่วนใหญ่จะถูกเกบ็ ไว้ท่ีศูนย์ข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถเข้าถึงและโยกย้ายได้ตลอดเวลา โดยไม่ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและผู้ให้บริการระบบการแพร่ภาพและกระจายเสียงแบบดิจิทัลจะถูกหลอมรวม โดยส่งผ่านส่ือหลายรูปแบบด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย ครอบคลุมพื้นที่ทว่ั ประเทศ มิติด้านเศรษฐกิจ ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนดิจิทัล ภาคอุตสาหกรรมสามารถนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพ่ือปรับปรุงประสิทธิภาพของการทางานเข้าสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะ (smartfactory) รองรับการเข้าสู่อุตสาหกรรมในยุคที่ 4 (Industry 4.0) และภาคการเกษตรทั่วประเทศ ตั้งแต่ขนาดใหญ่

- 32 -ไปจนถึงขนาดเล็กปรบั เปลย่ี นรูปแบบสกู่ ารทาการเกษตรแบบอจั ฉริยะ (smart agriculture) ขณะเดียวกันกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยสามารถนานวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาขับเคล่ือนธุรกิจ(innovation driven enterprises: IDE) จนสามารถเขา้ ไปมบี ทบาทในเวทีระหวา่ งประเทศได้ มิติด้านสังคม ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และคนพิการ สามารถเข้าถงึ การมีบริการต่างๆ ของรัฐไดท้ ุกท่ี ทกุ เวลา ผา่ นเทคโนโลยดี ิจิทัล ตลอดจนมีการรวบรวมและแปลงข้อมูลองค์ความรู้ของประเทศ ท้ังระดับประเทศและระดับท้องถิ่นให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและนาไปใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย สะดวก และสร้างสรรค์ พร้อมกับสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการอนุรักษ์และเผยแพร่ สร้างจุดยืนของประเทศไทย นาความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาจัดเก็บและต่อยอดสร้างมูลค่าเพ่ิมในระยะยาว ในขณะเดียวกันประชาชนสามารถรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร อ่านออกเขียนได้ทางดิจิทัล มีทักษะการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีส่วนร่วมในการกาหนด ออกแบบ พัฒนา และขับเคลอื่ นการพัฒนาทอ้ งถ่นิ และประเทศ มิติด้านภาครฐั รัฐบาลมกี ระบวนการทางานเปน็ ระบบดิจิทลั โดยสมบูรณ์ เชื่อมโยงการทางานและข้อมูลระหวา่ งภาครัฐจนเสมอื นเปน็ องคก์ รเดยี ว (one government) และเชือ่ มโยงประชาชนในการเขา้ ถึงข้อมูลและมสี ว่ นร่วมในการกาหนดแนวทางการบริหารจัดการภาครฐั การพฒั นาสังคมและเศรษฐกิจ โดยรฐั จะแปรสภาพเป็นผู้จัดให้มีการบริการของรัฐจากรูปแบบเดิม ไปสู่รูปแบบการบริการสาธารณะในลักษณะอัตโนมัติ(automated public services) ตามหลักการออกแบบท่ีเป็นสากล (universal design) ผ่านระบบดิจิทัลท่ีสอดคล้องกับสถานการณ์ และความต้องการของผู้รับบริการแต่ละบุคคล โดยผู้ใช้งานไม่ต้องร้องขอต่อรัฐการกาหนดนโยบายและการตัดสินใจอยู่บนพ้ืนฐานของข้อมูลท่ีทันสมัย มีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน มิติด้านทุนมนุษย์ การปรับเปล่ียนโครงสร้างกาลังคนทางด้านดิจิทัลเป็นงานต่อเน่ืองระยะยาวที่จะเห็นผลในช่วง 10-20 ปี หากมีการเตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม ประเทศไทยจะสามารถสร้างงานที่มีคุณค่าสูงด้วยการพัฒนาทักษะของกาลังคนทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในระดับสูง (advanced digital skill) เพ่ือให้สามารถผลิตกาลังคนทางด้านดิจิทัลที่เพียงพอ สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศในระยะนี้ ทกั ษะและวชิ าชีพทม่ี งุ่ ตอบสนองการทางานรูปแบบใหมจ่ ะเป็นท่ีต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะกาลังคนท่ีเกี่ยวข้องกับการสร้างเครือข่ายของการประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์อัจฉริยะ ประเทศไทยจะมีระบบนิเวศของการทางานรูปแบบใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล (digital workplace ecology) เป็นแกนกลางสาคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมท่ีมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคม โดยไม่ยึดติดกับสถานท่ีและเวลา (mobility workplace) มีการใช้ประโยชน์ร่วมกันในรูปแบบของระบบเศรษฐกิจและสังคมแหง่ การแบ่งปัน (sharing economy) รวมถงึ มกี าลังคนรุ่นใหมท่ ่ีมีทักษะดจิ ิทัลระดับสูงและเป็นทักษะเฉพาะด้านที่ผสมผสานองค์ความรู้ อนั เป็นผลจากการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยดี ิจิทลั มิติด้านความเช่ือมั่น มีกฎหมาย/ กฎระเบียบท่ีเอื้อต่อเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ในระยะยาว (10 ปี)ประเทศไทยต้องไม่มีกฎเกณฑ์ กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า การลงทุนดิจิทัล และต้องมีการทบทวนกฎหมาย กฎ ระเบียบ กติกาอย่างต่อเนื่อง เพ่ือสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นส่วนหน่ึงของระบบเศรษฐกิจโลกอย่างแท้จริง

- 33 -ระยะที่ 4 (10-20 ปี) Global Digital Leadership ประเทศไทยอยใู่ นกลมุ่ ประเทศท่ีพัฒนาแล้ว สามารถใช้เทคโนโลยดี ิจทิ ลั สรา้ งมลู ค่าทาง เศรษฐกจิ และคณุ ค่าทางสงั คมอย่างยงั่ ยืน Global Digital Leadership มิติด้านโครงสร้างพ้ืนฐานการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา จึงยากที่จะคาดการณ์ภาพอนาคตได้ แต่อาจกล่าวได้ว่าในระยะ 10 ปีต่อจากนี้ เทคโนโลยีดิจิทัล จะไม่ใช่ส่ิงแปลกใหม่ในสังคม เพราะการแพร่กระจายและการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทาให้ประชาชนคุ้นเคยและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลโดยอัตโนมัติ ทาให้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเสมือนปัจจัยที่ห้าในการใช้ชีวิตประจาวัน การดาเนินกิจกรรมทุกประเภท ดังน้ัน ประชาชนอาจไม่ได้สังเกตหรือรู้สึกถึงการมีอยู่ของเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั แตห่ ากขาดเทคโนโลยีดิจิทลั การดาเนินงานตา่ งๆ จะหยดุ ชะงักลงโดยสิ้นเชงิ มิติด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจประเทศไทยเช่ือมโยงกับระบบเศรษฐกิจโลกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การผลิต การลงทุน หรือการจ้างงาน ทาให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงทัดเทียมประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอาจส่งผลต่อการนาหุ่นยนต์และระบบอัจฉริยะมาทดแทนกาลังคนในกระบวนการผลิตของภาคการผลติ และการบรกิ ารเปน็ จานวนมาก มิติด้านสังคม ประเทศไทยจะปรับเปล่ียนแนวคิดจากการพัฒนาจากศูนย์กลางไปยังชนบทเป็นการพัฒนาความเจริญจากชนบทเข้าสู่ศูนย์กลาง ควบคู่ไปกับการสร้างให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัยทัดเทียมประเทศท่ีเจริญแล้ว โครงสร้างพ้ืนฐานดิจิทัลจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่มาแทนที่ และการใช้งานจะถูกพัฒนาให้เป็นบริการที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งการเข้าถึงบริการจะสามารถทาได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะที่หลากหลาย การใช้บริการโครงข่ายดิจิทัลเพ่ือติดต่อส่ือสารกับผู้ท่ีอยู่ห่างไกลกัน สามารถทาได้เสมือนกับเป็นการส่ือสารแบบใกล้ตัว ข้อมูลปริมาณมหาศาลจะถูกจัดเก็บในศูนย์ข้อมูลหรือแหล่งเก็บข้อมูลที่กระจายอยู่ท่วั บนเครอื ข่าย เปรียบเสมือนกับข้อมูลท่ีจัดเก็บมีอยู่ทุกที่และสามารถเขา้ ถึงไดแ้ บบทนั ทเี มื่อต้องการ มิติด้านภาครัฐ การทางานของภาครัฐที่หลอมรวมกันเสมือนเป็นองค์กรเดียวที่ทางานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล อย่างชาญฉลาด รวดเร็ว โปร่งใส เปล่ียนแปลงบทบาทภาครัฐในอนาคต โดยรัฐจะไม่เป็นผู้สร้างบริการสาธารณะอีกต่อไป แต่แปรเปล่ียนไปเป็นผู้อานวยความสะดวกในการสร้างบริการสาธารณะโดยเอกชนและประชาชน เรียกว่า บรกิ ารระหวา่ งกัน (peer to peer) ตามหลักการออกแบบท่ีเปน็ สากล (universal design)ท่ีประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้โดยไม่มีข้อจากัดทางกายภาพ พื้นที่ และภาษา โดยบทบาทของรัฐในอนาคตเป็นเพียงผู้อานวยความสะดวก ผู้กากับดูแล บริหารจัดการการให้บริการระหว่างกันให้เกิดความ

- 34 -เป็นธรรม ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการปกครองและบริหารบ้านเมืองโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้จากความสาเร็จในการก้าวเข้าสู่การเป็น one government ทาให้ประเทศไทยเป็นผู้นาด้านรัฐบาลดิจิทัลทั้งการบริหารจัดการรัฐและบริการประชาชนในภมู ภิ าคอาเซียน มิติด้านทุนมนุษย์ ด้วยการเตรียมความพร้อมในการสร้างกาลังคนและการจ้างงานรูปแบบใหม่ๆในระยะก่อนหน้า ประเทศไทยจะมีความพร้อมและเป็นหน่ึงในศูนย์กลางด้านกาลังคนดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน ขณะเดียวกัน ด้วยการเคลื่อนย้ายบุคลากรท่ีเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น กาลังคนด้านดิจิทัลท่ีทางานในประเทศไทยจะมีความหลากหลาย โดยมีผูเ้ ชีย่ วชาญและกาลงั คนจากต่างประเทศดา้ นดจิ ิทลั เข้ามาทางานในประเทศไทยมากข้ึน ผ้เู ช่ียวชาญดา้ นดจิ ิทลั ของประเทศไทยทางานให้กับบริษัทท่ีตง้ั อย่ตู ่างประเทศมากขน้ึ มิตดิ า้ นความเช่ือม่ัน มกี ฎหมาย/ กฎระเบียบท่ีเอ้ือเศรษฐกิจและสังคมดิจทิ ัล ประเทศไทยเป็นประเทศต้นแบบทม่ี กี ารพฒั นา ทบทวน กฎระเบียบ กติกาดา้ นดิจิทัลอยา่ งต่อเน่ืองจรงิ จัง ในภูมิภาคอาเซียน

- 35 -3. ยุทธศาสตร์การพฒั นาดิจทิ ัลเพ่อื เศรษฐกิจและสังคม เพื่อขบั เคล่ือนการพฒั นาดิจทิ ลั ของประเทศไทยตามวสิ ัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาตามภูมิทศั น์ดิจิทัล4 ระยะ แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้กาหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาไว้ 6 ยุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมซ่ึงกันและกัน มีการกาหนดเป้าหมาย เพื่อให้สามารถติดตามและประเมินความก้าวหน้าได้อย่างชดั เจน และแผนงานเพื่อดาเนนิ การตามยุทธศาสตร์ ดงั นี้ 6. สรา้ งความเชือ่ ม่ัน 1. พัฒนาโครงสรา้ ง ในการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัล พนื ฐานดจิ ิทัล ประสทิ ธภิ าพสูง กฎระเบียบทนั สมัย ให้ครอบคลุมท่วั ประเทศ เช่ือมั่นในการลงทนุ มคี วามมน่ั คงปลอดภยั5. พฒั นากา้ ลงั คน เข้าถึง พรอ้ มใช้ จา่ ยได้ใหพ้ รอ้ มเข้าสู่ยคุเศรษฐกิจและสงั คม ดิจทิ ัล 2. ขับเคล่อื นเศรษฐกจิสรา้ งคน สร้างงาน ด้วยเทคโนโลยีดจิ ทิ ลัสร้างความเขม้ แขง็จากภายใน ขบั เคลอื่ น 4. ปรบั เปล่ียน ยทุ ธศาสตร์ New S-Curve เพมิ่ ศกั ยภาพภาครัฐสกู่ ารเป็น 3. สร้างสงั คมคุณภาพ สรา้ งธรุ กิจ รฐั บาลดิจิทัล เพ่ิมมูลคา่ โปรง่ ใส อ้านวยความ ดว้ ยเทคโนโลยีดิจทิ ลัสะดวก รวดเร็ว เชอ่ื มโยง สร้างการมสี ว่ นร่วม เปน็ หนึ่งเดยี ว การใช้ประโยชนอ์ ยา่ ง ท่วั ถงึ และเทา่ เทยี ม

- 36 -ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดจิ ทิ ลั ประสทิ ธิภาพสงู ให้ครอบคลมุ ท่วั ประเทศ โครงสร้างพ้ืนฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ที่ทุกคนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ เพื่อรองรับการเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ เป็นการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานดิจิทลั ท่ีสาคญั ประกอบดว้ ย โครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ โทรคมนาคม และการแพร่ภาพกระจายเสียงท่ีมีความทันสมัย มีคุณภาพ ขนาดเพียงพอ ครอบคลุมทุกพ้ืนท่ี และสามารถให้บริการได้อย่างต่อเน่ือง เพ่ือรองรับการติดต่อสื่อสาร การเช่ือมต่อ การแลกเปล่ียนข้อมูลสารสนเทศ การค้าและพาณิชย์ การบริการภาครฐัและเอกชน ตลอดจนการใช้งานรูปแบบต่างๆ อนั เป็นประโยชนต์ ่อการสร้างความมงั่ คั่งทางเศรษฐกจิ และความมน่ั คงทางสังคมของประเทศ รวมทงั้ เพือ่ รองรับการเป็นศูนยก์ ลางดา้ นดจิ ิทัลในอนาคต สาหรับยุทธศาสตร์ท่ี 1 นี้ จะสร้างให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัย ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชนไ์ ด้ ซึ่งการเข้าถึงบริการจะสามารถทาได้ทุกที่ ทุกเวลา อย่างมีคุณภาพ ด้วยอินเทอร์เนต็ความเร็วสูงท่ีรองรับความต้องการ และราคาค่าบริการที่ต้องจ่ายจะต้องไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงบริการดิจิทัลอีกต่อไป ในอนาคตโครงสร้างพ้ืนฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะกลายเป็นสาธารณูปโภคขั้นพ้ืนฐานเชน่ เดียวกับ ถนน ไฟฟ้า น้าประปา ทีส่ ามารถรองรบั การเช่อื มต่อกบั ทกุ สรรพส่ิง

เป้าหมายยุทธศาสตร์ - 37 - คา่ บรกิ ารอนิ เทอร์เนต็ 2 1 โครงข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตความเร็วสูงไม่เกินรอ้ ยละ 2 ความเร็วสูงเขา้ ถึงทุกหมบู่ า้ น ของรายได้มวลรวม  ทุกหม่บู า้ นมีบริการอนิ เทอรเ์ นต็ ความเรว็ สงู เขา้ ถึง ประชาชาตติ ่อหวั ภายใน 2 ปี (พ.ศ.2560) 3  รอ้ ยละ 90 ของผูใ้ ช้ในเขตเทศบาลเมืองทกุ จงั หวดั และพนื้ ทีเ่ ศรษฐกจิ สามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารอินเทอรเ์ น็ต ประเทศไทยเป็น ความเร็วไม่ตา่ กว่า 100 Mbps ภายใน 3 ปี ศูนย์กลางเช่ือมตอ่ และ (พ.ศ.2561) แลกเปล่ยี นขอ้ มลู  รอ้ ยละ 95 ของโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพ ระหวา่ งประเทศ ตาบล องค์การบริการสว่ นทอ้ งถน่ิ และศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ไอซที ชี มุ ชน มบี ริการอนิ เทอร์เนต็ เขา้ ถงึ ดว้ ยความเรว็ มีจดุ เช่อื มตอ่ และแลกเปลีย่ น ไมต่ า่ กว่า 30 Mbps ภายใน 5 ปี (พ.ศ.2563) ขอ้ มูลจราจรอนิ เทอรเ์ น็ต ระหวา่ งประเทศ (IXP) ทเี่ ป็น  มีบริการอินเทอรเ์ นต็ เคล่อื นท่ีความเรว็ สงู (mobile ศนู ย์กลางของ ASEAN broadband) ทส่ี ามารถเขา้ ถึงและพร้อมใชแ้ ก่ ตอนเหนือ ภายใน 2 ปี ประชาชน โดยครอบคลุมพืน้ ท่ที กุ หมบู่ า้ น พ้ืนทช่ี ุมชน และสถานทท่ี อ่ งเท่ียวภายใน 2 ปี มผี ้ใู ห้บรกิ ารขอ้ มูล (content provider) 4 โครงขา่ ย แพรส่ ัญญาณภาพ ระดับโลกมาลงทุนตัง้ โทรทัศน์และกระจายเสียงวิทยุ ศนู ยข์ อ้ มูล ภายใน 3 ปี ระบบดิจิทลั ครอบคลมุ ทั่วประเทศ  มีโครงข่ายดจิ ทิ ัลทวี คี รอบคลุม ท่วั ประเทศ ภายใน 1 ปี  มีระบบวทิ ยดุ ิจิทัลใหบ้ รกิ ารภายใน 3 ปีแผนงาน 1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมท่ัวประเทศ มีความทันสมัยมีเสถียรภาพ ตอบสนองความต้องการการใช้งานของทุกภาคส่วน ด้วยราคาท่ีเหมาะสมและเป็นธรรมเพื่อสรา้ งโอกาสการเขา้ ถึงและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยดี ิจทิ ัลทกุ รปู แบบได้อยา่ งเท่าเทยี มกัน 1.1 มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงพ้ืนท่ีต่างๆ ทั่วประเทศด้วยเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมโดยภาครัฐให้การสนับสนุนความต้องการการใช้งาน (demand) ข้ันพื้นฐานของสถานศึกษา โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบล และศูนย์สารสนเทศชมุ ชน รวมถงึ บรกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ สาธารณะสชู่ ุมชน 1.2 ให้ผู้ประกอบการใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม โครงข่ายท่ีใช้ในกิจการแพร่ภาพและกระจายเสียง และสิ่งอานวยความสะดวกร่วมกัน เพื่อให้เกิดการบูรณาการการใช้งานทรัพยากรสื่อสารลดปญั หาความซ้าซ้อนในการลงทนุ พร้อมท้ังวางรูปแบบสถาปัตยกรรมโครงขา่ ยให้สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ใน

- 38 -ลักษณะโครงข่ายเชื่อมต่อแบบเปิด (open network/open access) ให้เป็นโครงข่ายเดียวสามารถให้บริการประชาชนอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง ตลอดจนส่งเสริมการแข่งขันในตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ในส่วนบริการปลายทาง (last mile access) ทัง้ แบบใช้สายและแบบไร้สาย 1.3 ปรับปรุงแก้ไข กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ และสร้างกลไกในการทางานร่วมกันเพื่ออานวยความสะดวกในการขอใช้สิทธิผ่านทางในการวางโครงข่ายโทรคมนาคม (right of way) และกาหนดให้มีหน่วยงานกลางหรือคณะทางานเฉพาะกิจ (common utility commission) เพ่ือทาหน้าที่บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐท่ีเกี่ยวข้องด้านโครงสร้างพ้ืนฐานให้เกิดความร่วมมือในการทางานอย่างสัมฤทธผิ์ ล 2. ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นหน่ึงในศูนย์กลางการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลภูมิภาคอาเซียนโดยการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ทั้งการเป็นเส้นทางผ่านการจราจรของข้อมลู สาหรบั ภูมิภาค และเป็นทตี่ ั้งสาหรับผู้ประกอบการเนื้อหารายใหญ่ของโลก 2.1 จัดพน้ื ท่ี โครงสรา้ งพน้ื ฐานโทรคมนาคม สง่ิ อานวยความสะดวก และสภาพแวดล้อมท่เี หมาะสมรวมทั้ง ปรับปรุงกฎหมายที่เก่ียวข้องเพื่อดึงดูดการลงทุนศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานสากล เป็นแหล่งบม่ เพาะธุรกิจดจิ ทิ ลั และนวัตกรรมดจิ ทิ ลั เพ่ือรองรบั เศรษฐกิจดิจทิ ัลทั้งภายในประเทศและจากต่างประเทศ 2.2 ส่งเสริมให้มีการลงทุนและร่วมใช้ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานท้ังโครงข่ายสื่อสารหลักภายในประเทศและระหว่างประเทศ ในภาคพืน้ ดนิ และเคเบลิ ใตน้ า้ สาหรบั การเช่ือมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านให้มีขนาดเพียงพอ และมีเส้นทางเป้าหมายหลายเส้นทาง เพื่อให้สามารถบริการสื่อสารระหว่างประเทศได้อย่างมเี สถียรภาพและต่อเน่ือง รองรบั การใชง้ านภายในประเทศและของประเทศเพ่ือนบา้ นทัง้ ภูมภิ าคอาเซียนอยา่ งเสรีและเปน็ ธรรม 3. จัดให้มีนโยบายและแผนบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน คลื่นความถ่ี (refarm and release) และการหลอมรวมของเทคโนโลยีในอนาคต รวมท้ังปรับแก้กฎหมาย เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ทันต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ท้ังด้านการส่ือสารโทรคมนาคม และการแพร่ภาพกระจายเสยี ง รวมถึงการหลอมรวมของเทคโนโลยที ี่เกย่ี วข้อง และสอดคล้องกับความตอ้ งการใชง้ านในปจั จุบนั และอนาคต ตลอดจนการบริหารจดั การโครงสรา้ งพ้ืนฐานในภาวะวกิ ฤติ 3.1 มีนโยบายและแผนบริหารจดั การโครงสร้างพื้นฐานเพ่ือรองรับการขยายตัวในการเช่ือมต่อของอุปกรณก์ ับทกุ สรรพส่งิ และการหลอมรวมของเทคโนโลยใี นปจั จุบนั และอนาคต 3.2 ให้มีนโยบายการบริหารกิจการดาวเทียมของประเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการใช้วงโคจรดาวเทียมและบริการข้อมูลผ่านดาวเทียม เพื่อให้มีการแข่งขันในการเข้าถึงวงโคจรดาวเทียมค้างฟ้าและพัฒนากิ จการบริการขอ้ มลู ผ่านดาวเทียมทถ่ี กู กฎหมาย 3.3 กาหนดนโยบายด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน และการใช้คลื่นความถ่ีให้เหมาะสมเพียงพอกับภารกิจเชิงพาณชิ ย์ การบรกิ ารสาธารณะ ดา้ นความมนั่ คง และการบริหารจดั การภาวะวิกฤติ 3.4 ปรับปรุงกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง เช่น กฎหมายในเรื่องการกากับดูแล เพ่ือให้เกิดเครือข่ายที่เป็นกลาง (net neutrality) รองรับการหลอมรวม (convergence) ของเทคโนโลยีส่ือ และบริการ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและทันต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ทั้งด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและการแพร่ภาพกระจายเสยี ง

- 39 - 4. ปรับรฐั วิสาหกิจโทรคมนาคมใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์และความก้าวหนา้ ของอุตสาหกรรมดิจิทัลให้เทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงในอนาคต 4.1 กาหนดนโยบายให้แยกหน่วยธุรกิจของรัฐวิสาหกิจที่มีอนาคตเป็นองค์กรที่แข่งขันได้เชงิ พาณชิ ย์ 4.2 ปรบั ปรงุ และสร้างกลไกการบริหารจดั การ รวมถงึ แปรรปู หน่วยงานรัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมให้มีความคลอ่ งตัวโปรง่ ใส และมปี ระสทิ ธิภาพ เพ่อื สร้างคุณค่าจากทรพั ย์สนิ ของรัฐทีม่ ีอยู่ยทุ ธศาสตร์ที่ 2ขบั เคลือ่ นเศรษฐกจิ ดว้ ยเทคโนโลยีดจิ ิทลั การขับเคล่ือนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หมายถึง การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือให้ภาคธุรกิจสามารถลดต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการดาเนินธุรกิจ ตลอดจนวางรากฐานการแข่งขันเชิงธุรกิจรูปแบบใหม่ในระยะยาว ภายใต้ การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลจึงจาเป็นต้องเร่งสร้างระบบนิเวศสาหรับธุรกิจดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ ที่จะส่งผลต่อการขยายฐานเศรษฐกิจและอัตราการจ้างงานของไทยอยา่ งยั่งยืนในอนาคต สาหรับยุทธศาสตร์ท่ี 2 น้ี เป็นการเร่งส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (digital economyacceleration) โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศสาหรับธุรกิจดิจิทัล (digital business ecosystem) ควบคู่กับการพัฒนาระบบโครงสร้างพ้ืนฐานดิจิทัล และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดจิ ิทัลในเชงิ ธุรกิจ และกระตุ้นให้ภาคเอกชนเกิดความตระหนักถงึ ความสาคัญ และจาเปน็ ทจ่ี ะต้องเรยี นรู้และปรบั ปรุงแนวทางการทาธรุ กิจด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างย่ิงธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) รวมถึงธุรกิจใหม่(start up) ในด้านเศรษฐกิจชมุ ชน เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยเชือ่ มโยงท้องถิ่นกับตลาดโลก สร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับสนิ ค้าชมุ ชน

- 40 -เปา้ หมายยุทธศาสตร์ สดั สว่ นของธุรกิจ SMEs ไทย 2 ขดี ความสามารถในการทงั้ ในภาคเกตร ภาคอตุ สาหกรรมและภาคบริการเขา้ ถงึ เทคโนโลยี 1 แข่งขนั ของผูป้ ระกอบการดจิ ทิ ัลสามารถแข่งขนั ไดท้ ้ังในเวที ไทยเพม่ิ ข้นึ จากการใช้ เทคโนโลยีดจิ ิทลั ภูมิภาคและเวทีโลก  สัดส่วนมลู คา่ การผลติ สนิ คา้ และบริการ ภายในประเทศของธุรกจิ SMEs เพมิ่ เปน็ รอ้ ยละ 50 เพมิ่ สัดส่วนของธุรกิจ SMEs และวิสาหกจิ ชุมชน ตอ่ ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมภายในประเทศ ในการขายสินค้าออนไลนเ์ พมิ่ ขนึ้ รอ้ ยละ 20  ผลติ ภาพการผลติ ของธรุ กิจ SMEs เพม่ิ ขึ้นจาก การใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั4 3 ธุรกจิ SMEs สามารถใช้นวตั กรรมสดั สว่ นมลู ค่าเพิ่มของอตุ สาหกรรม และมีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลตอ่ GDP เพม่ิ ขนึ้ เทคโนโลยเี พมิ่ ขึน้  อนั ดับของประเทศไทยในดัชนีช้ีวัดการใช้ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 25 นวัตกรรมและความเช่ยี วชาญในการใชเ้ ทคโนโลยี ภายใต้ Global Competitiveness Index อยูใ่ นอันดบั ที่ 30 ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผนู้ า 5 อุตสาหกรรมดิจทิ ัลของภมู ิภาค  มลู ค่าของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ดจิ ิทลั ของไทยตดิ 1 ใน 3 อนั ดับตน้ ของภูมภิ าค (Top 3 Digital Industry Leader)  เพ่มิ มูลค่าการลงทนุ ของ อตุ สาหกรรมเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ภายในประเทศเพม่ิ ขึ้นแผนงาน 1. เพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและส่งเสริมขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ดว้ ยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลปฏริ ปู การทาธรุ กิจตลอดหว่ งโซ่คุณค่า 1.1 ผลักดันให้ธุรกิจ SMEs วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือเข้าสู่ระบบธรุ กจิ และทาการค้าผ่านส่ือดจิ ิทลั รวมถงึ การใช้ระบบสนับสนนุ ต่างๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง เช่น ระบบการเงิน เป็นต้น 1.2 เร่งผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเช่ือมโยงระบบการค้าดิจิทัลของไทยกับต่างประเทศตลอดห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจร เพื่อให้ประเทศไทยเป็นส่วนหน่ึงของระบบห่วงโซ่มูลค่าโลก (global value

- 41 -chain) โดยเร่งให้มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการบริหารจัดการภายในองค์กร การจัดการระบบห่วงโซ่อปุ ทาน ตลอดจนเร่งผลักดันใหเ้ กิดระบบฐานขอ้ มลู กลาง เช่อื มโยง และใชง้ านมาตรฐานสนิ ค้าสากล 1.3 มมี าตรการสง่ เสริมการใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั และการใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู ในการปฏิรูปกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ เพ่ือพัฒนาภาคธุรกิจให้ทันสมัย ทั้งภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ อาทิ การประยุกต์ใช้ระบบซอฟต์แวร์อัตโนมัติ (autonomous software) ระบบโรงงานอัจฉริยะ(smart factory) ระบบการเกษตรอัจฉริยะ (smart agriculture) ระบบการวิเคราะห์และประมวลผลขนาดใหญ่ เพ่อื เพ่มิ ประสิทธภิ าพและลดตน้ ทุนการผลิต 2. เพิ่มโอกาสทางอาชีพเกษตรและการค้าขายสินค้าของชุมชนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยดาเนินการรว่ มกันระหว่างหนว่ ยงานจากท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน 2.1 ขยายผลการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจชุมชน เช่น วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ชุมชน เพ่ือสร้างรายได้ โดยเน้นเร่ืองการพัฒนาประชาชนท่ัวประเทศให้สามารถขายสินค้าออนไลน์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มชอ่ งทางการประชาสัมพันธ์การบริการของชุมชน (เช่น ธุรกิจท่องเทีย่ ว ธุรกจิ แพทย์ทางเลือก ฯลฯ) และการนาความรผู้ า่ นเทคโนโลยีไปใช้สร้างอาชพี ใหม่ๆ 2.2 เร่งบูรณาการการนาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าสู่ชุมชนเกษตรกร ท่ีครอบคลุมการจัดทาทะเบียนเกษตรกรรายแปลง การทาระบบจัดการและแลกเปล่ียนความรู้ทางการเกษตร การบริหารจัดการพ้ืนที่เพาะปลูกและฟาร์ม การบริหารจัดการระบบน้าและการใช้น้า การวางแผนการผลิต การทาระบบบัญชีการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน การทาการตลาด และการตรวจสอบยอ้ นกลบั ของผลติ ภณั ฑเ์ กษตร (food traceability) เปน็ ต้น 2.3 จัดให้มีระบบโลจิสติกส์สู่ชุมชนท่ีครบวงจร เพ่ือบริหารการจัดการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบของชุมชน รวมถึงการส่งเสริมกลไกการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) ที่น่าเชื่อถือ ในราคาที่เหมาะสม เพอ่ื อานวยความสะดวกของการทาธุรกิจชุมชน 3. เร่งสร้างธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล (digital technology startup) เพื่อให้เป็นฟันเฟืองสาคัญในการขบั เคล่อื นเศรษฐกิจดิจทิ ัล โดย 3.1 สนับสนุนระบบนิเวศที่เอ้ือต่อการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีศักยภาพ อาทิ จัดให้มีทุนหรือสนับสนุนการร่วมทุน จัดให้มีศูนย์อานวยความสะดวกทางธุรกิจแบบเบ็ดเสร็จ (one stop service)จดั ใหม้ ีสิ่งอานวยความสะดวกที่เอ้ือต่อการสร้างสรรคน์ วตั กรรมทางธรุ กิจและการต่อยอดเทคโนโลยีดิจทิ ัล และจัดให้มีการสร้างความเข้าใจและความตระหนักต่อรูปแบบการดาเนินธุรกิจนวัตกรรมภายในประเทศทั้งในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมถงึ ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 3.2 จัดให้มีทุนสนับสนุนงานนวัตกรรมบริการขนาดใหญ่ท่ีเป็นบริการพ้ืนฐาน (service platform)ของการคิดค้นรูปแบบธุรกิจใหม่ (disruptive business) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบนวัตกรรมบริการที่เป็นพื้นฐานของการใชป้ ระโยชน์จากอุปกรณ์อัจฉริยะ (smart devices) และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเปิดในเชิงพาณชิ ย์ 3.3 บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาและการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน ตลอดจนสามารถต่อยอดและสร้างเทคโนโลยีและนวตั กรรมดิจทิ ัลทเ่ี หมาะสมและสอดคล้องกบั บรบิ ทการพฒั นาภายในประเทศ

- 42 - 4. พัฒนาอตุ สาหกรรมเทคโนโลยดี ิจทิ ัลใหม้ ีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้ในอนาคต 4.1 สนับสนุนการวจิ ัย พัฒนา ทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจทิ ัล เพื่อสร้างความเข้มแข็งของอตุ สาหกรรมเทคโนโลยดี จิ ิทัลและอุตสาหกรรมเปา้ หมายทร่ี องรบั การพฒั นาเศรษฐกิจ 4.2 ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทยทั้งจากในและต่างประเทศ ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (public private partnership) ตลอดจนจัดให้มีมาตรการส่งเสริม เช่น การอานวยความสะดวกด้านการเคล่ือนย้ายบุคลากรท่ีมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางการให้สิทธิประโยชน์ทางการลงทุน และการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลแหง่ อนาคต 4.3 สนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลข้ึนบัญชีนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมโอกาสทางการตลาดดว้ ยการเปิดตลาดภาครฐั ให้ซอ้ื ผลติ ภัณฑ์และบริการของไทยอยา่ งเป็นระบบ 4.4 สนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลและศูนย์ให้บริการระบบวิเคราะห์เชิงธุรกิจท่ีเป็นระบบบริการแบบเปิด เพ่ือส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อมูลในเชงิ ธุรกิจ (business insight) ให้มีการต่อยอดการใชป้ ระโยชน์จากขอ้ มูลเปิด เช่น มลู ค่าการตลาด การส่งออก เพอ่ื นาไปใช้ในการทาธุรกจิ เป็นต้น 4.5 ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยดี ิจทิ ัลท่ีมีศักยภาพและเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตซ่ึงเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมการผลิตและการบริการในระบบเศรษฐกิจ เพื่อรองรับกิจการที่ใช้เทคโนโลยีข้นั สงู ในอนาคตยุทธศาสตร์ที่ 3สร้างสังคมคุณภาพที่ทวั่ ถึงเท่าเทยี มดว้ ยเทคโนโลยีดจิ ิทัล การสร้างสังคมคุณภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หมายถึง การพัฒนาประเทศไทยที่ประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะอย่างย่ิงกลุ่มเกษตรกร ผู้ท่ีอยู่ในชุมชนห่างไกล ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และคนพิการ สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากบริการต่างๆ ของรัฐผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล มีการรวบรวมและแปลงข้อมูล องค์ความรู้ของประเทศท้ังระดับประเทศและระดับท้องถิ่นให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและนาไปใช้ประโยชน์ได้โดยง่ายและสะดวก โดยประชาชนมีความรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร และมีทักษะในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจทิ ลั อยา่ งมีความรับผิดชอบต่อสังคม

- 43 - สาหรับยุทธศาสตร์ที่ 3 น้ี เป็นการสร้างสังคมดิจิทัลที่มีคุณภาพ (digital society) มุ่งหวังที่จะลดความเหล่ือมล้าทางโอกาสของประชาชนท่ีเกิดจากการเข้าไม่ถึงโครงสร้างพื้นฐาน การขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล หรือการไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลท่ียังมีราคาแพงเกินไปและให้ความสาคัญกับการพัฒนาพลเมืองที่ฉลาด รู้เท่าทันข้อมูล และมีความรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์ โดยสุดท้าย เมื่อโครงสร้างพ้ืนฐานดิจิทัลพร้อม และพลเมืองดิจิทัลพร้อมแลว้เทคโนโลยีดิจทิ ลั จะเป็นเครือ่ งมือในการยกระดบั คุณภาพชีวิตของคนทุกกลุ่มผ่านบริการดจิ ทิ ลั ต่างๆเปา้ หมายยุทธศาสตร์ประชาชนทกุ คนมคี วามตระหนกั ความรู้ 2 ประชาชนทกุ กลุม่ โดยเฉพาะกลุ่มความเขา้ ใจ ทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยี ดจิ ทิ ัลใหเ้ กิดประโยชน์และสรา้ งสรรค์ 1 ผู้อาศัยในพ้ืนที่ห่างไกล ผูส้ ูงอายุ และคนพกิ ารสามารถเขา้ ถงึ และ (Digital Literacy) ใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล  ศนู ย์ดิจิทลั ชุมชนทม่ี บี รกิ ารอปุ กรณเ์ ชื่อมต่อ และ Free-Wi-Fi ครอบคลุมทกุ ตาบล ทัว่ ประเทศ  สัดสว่ นของกลมุ่ ผู้ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ทีอ่ ายเุ กิน 50 ปี เพิ่มเปน็ ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 25 ภายในปี พ.ศ. 2563  ประชาชนทุกกลุ่ม (โดยเฉพาะผดู้ อ้ ยโอกาส ท้ังดา้ นพน้ื ทแี่ ละข้อจากัดดา้ นร่างกาย) สามารถใช้บริการภาครัฐไดโ้ ดยไมม่ ี ขอ้ จากัดดา้ นพื้นที่ ดา้ นเวลา และภาษาประชาชนสามารถเขา้ ถงึ การศกึ ษา 3สาธารณสขุ และบริการสาธารณะ ผา่ นระบบดจิ ิทลั ประชาชนทกุ วยั ท่ัวประเทศ สามารถเข้าถึงบรกิ าร การเรยี นรู้ระบบเปดิ สาหรบั มหาชน (MOOCs) ได้ตามความต้องการ ประชาชนทุกพ้นื ทสี่ ามารถเข้าถงึ บริการดา้ นการให้ คาแนะนาดา้ นสขุ ภาพ และวนิ จิ ฉยั โรคเบอื้ งต้น ประชาชนทกุ พื้นท่ีสามารถเข้าถงึ บรกิ ารแบบ one stop service ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับชีวติ ประจาวัน ตลอดทุกช่วงอายตุ งั้ แต่เกดิ จนตายผา่ นเทคโนโลยดี ิจิทัล

- 44 -แผนงาน 1. สร้างโอกาสและความเท่าเทียมในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสาหรับประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุม่ ผ้สู ูงอายุ กลมุ่ ผู้พกิ าร กล่มุ ผ้ทู ี่อยอู่ าศัยในพนื้ ที่หา่ งไกล 1.1 สนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลหรือเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวกให้แก่คนพิการ และกาหนดให้สอ่ื ดิจิทัล การพฒั นาเว็บไซต์ แอปพลเิ คช่ัน และบรกิ ารดจิ ิทลั ของรฐั ต้องพฒั นาตามหลักการออกแบบทเี่ ป็นสากล 1.2 ขยายผลศูนย์สารสนเทศชุมชนไปสู่ทุกตาบลให้เป็นศูนย์บริการของชุมชนท่ีบูรณาการการทางานร่วมกับหน่วยงานภาครฐั ทงั้ ส่วนกลางและท้องถิ่น สามารถให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ เป็นจุดรับบริการภาครัฐ ให้ความรดู้ า้ นการทาธรุ กจิ และประกอบอาชพี ผา่ นระบบออนไลนข์ องชุมชน และพน้ื ที่ของชุมชนในการทากิจกรรมทางเศรษฐกิจและสงั คมโดยเน้นบริการด้านการศึกษา การเกษตร การดแู ลสุขภาพ การค้าขายการบรกิ ารท่องเท่ียว สิทธิ และสวสั ดกิ ารสังคม 2. พัฒนาศักยภาพของประชาชนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์ รวมถึงความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ และแยกแยะข้อมลู ข่าวสารในสังคมดิจทิ ัลที่เปดิ กวา้ งและเสรี 2.1 เพ่ิมศักยภาพและทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์ของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ผ่านการอบรมโดยศูนย์ดิจิทัลชุมชนร่วมกับหน่วยงานพนั ธมติ ร และจดั ให้มีการกาหนดมาตรฐานการเรียนรู้เทคโนโลยดี ิจทิ ลั ขั้นพื้นฐานสาหรับคนกลุ่มต่างๆ 2.2 ส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีในโลกดิจิทัล โดยบรรจุเรื่องการรู้เท่าทันสื่อท่ีเป็นมาตรฐานในหลักสูตรการศึกษาทุกระดบั ดาเนินการวดั ระดบั การรู้เท่าทันสื่อตามเกณฑ์ท่ีกาหนดให้ชดั เจน รณรงคใ์ หเ้ กิดความรู้ด้านการรู้เท่าทันส่ือในวงกว้าง โดยมุ่งเน้นในเร่ืองความสามารถในการแยกแยะ วิเคราะห์สื่อและข้อมูลข่าวสารการใชเ้ ทคโนโลยีอย่างมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สังคม และการไม่ละเมดิ สทิ ธิในทรัพย์สนิ ทางปญั ญา 2.3 สร้างกลไกติดตามข้อมูลข่าวสารออนไลน์ สาหรับเฝ้าระวังข้อมูลท่ีเป็นอันตรายต่อสังคมแบบทันสถานการณ์ (real time) เช่น ความเช่ือท่ีผิดในเร่ืองอาหารและยา สื่อลามกอนาจารเด็ก ข้อมูลเท็จและกระแสขา่ วท่ีทาใหส้ งั คมตน่ื ตระหนก ฯลฯ เพ่อื ส่งต่อไปใหห้ นว่ ยงานที่เกีย่ วขอ้ งให้ข้อมลู ทถี่ ูกต้องแก่สังคม 3. สร้างส่ือ คลังสื่อ และแหล่งเรียนรู้ดิจิทัลเพ่ือการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่ประชาชนเข้าถึงได้อย่างสะดวกผ่านทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบแพรภ่ าพกระจายเสียง และส่อื หลอมรวม 3.1 กาหนดให้หน่วยงานเจ้าของข้อมูลต่างๆ เช่น เอกสารสาคัญของราชการ ข้อมูล สถิติ ความรู้เชิงอาชีพ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสาระบันเทิงต่างๆ เป็นต้น เร่งผลิตหรือแปลงข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ ของหน่วยงานให้อยู่ในรูปแบบดิจทิ ัล และเปิดให้ประชาชนเข้าถึง สืบค้นได้ รวมถึงมีกลไกท่อี นญุ าตใหป้ ระชาชน หรอื ธุรกิจสามารถนาขอ้ มูลไปตอ่ ยอดใช้ประโยชน์ 3.2 สร้างและส่งเสริมให้เกิดแหล่งความรู้ดิจิทัลทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น เพื่อเป็นแหล่งความรู้ท่ีน่าเชื่อถือของสังคมไทย โดยมีมาตรการ เช่น สร้างเครือข่ายผู้พัฒนาแหล่งความรู้ ให้ทุนสนับสนุนการดาเนินการ จัดหาแพลตฟอร์ม รับรองความน่าเช่ือถือของข้อมูลและองค์ความรู้ บูรณาการแหล่งความรเู้ พ่ือใหป้ ระชาชนเข้าถงึ ข้อมูลและความรู้ได้งา่ ย เปน็ ต้น 3.3 ส่งเสริมให้ภาคเอกชนและภาคประชาชน ผลิตส่ือดิจิทัลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เช่นการผลิตสื่อผ่านกิจกรรมท่ีรับผิดชอบต่อสังคมโดยหน่วยงานเอกชน หรือการผลิตสื่อภูมิปัญญาท้องถ่ินโดยประชาชนและชุมชน ท้ังนี้ ส่ือท่ีผลิตขึ้นใหม่จะต้องรองรับความหลากหลายในสังคม ท้ังด้านภาษา วัฒนธรรมสภาพร่างกาย พ้นื ที่ทางภมู ิศาสตร์ ฐานะทางเศรษฐกิจ การเป็นประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก

- 45 - 3.4 พัฒนาแพลตฟอร์มสาหรับรวบรวมข้อมูล องค์ความรู้ ความสามารถของบุคคล โดยเฉพาะบุคลากรวัยเกษียณ ปราชญ์ชุมชน นักวิชาการ และผู้มีจิตอาสา ให้เป็นเวทีแลกเปล่ียนประสบการณ์ เรียนรู้ร่วมกัน และถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น จากชุมชนสู่ชุมชน นาไปสู่เศรษฐกิจและสังคมแห่งการแบง่ ปนั 4. เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ และได้รับบริการการศึกษาที่มีมาตรฐานของนักเรียนและประชาชนแบบทกุ วยั ทกุ ท่ี ทุกเวลา ดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล 4.1 บรู ณาการการนาเทคโนโลยีดจิ ิทลั เข้าส่โู รงเรียนในพ้ืนทีห่ ่างไกล ชายขอบ เช่น โรงเรยี นในพ้นื ที่ห่างไกลและเดินทางลาบาก โรงเรียนในพื้นท่ีชายแดน หรือพ้ืนที่ท่ีมีความขัดแย้งสูง โดยการบูรณาการจะรวมถงึ เทคโนโลยีพลงั งานแสงอาทติ ย์ เทคโนโลยีสอ่ื สารโทรคมนาคมและแพร่ภาพกระจายเสยี ง และเทคโนโลยีการศึกษาผ่านระบบอินเทอรเ์ น็ตทีเ่ อ้ือต่อการศึกษาและเรียนรู้ของนักเรียน ประชาชนและชุมชน 4.2 พัฒนาและส่งเสริมบริการการเรียนรู้ผ่านระบบเปิดสาหรับมหาชน (Massive open onlinecourse: MOOC) ที่ครอบคลุมถึงหลักสูตรเสริมการศึกษาในระบบโรงเรียนประถมและมัธยม หลักสูตรด้านอาชีวศึกษา หลักสูตรในระดับมหาวิทยาลัยท่ีผู้เรียนสามารถเรียนรู้ข้ามสถาบันการศึกษาได้ หลักสูตรสาหรับอาเซียน ไปจนถึงหลักสูตรเพ่ือประชาชนทั่วไปที่ต้องการเรียนรู้เพ่ิมเติมตลอดชีวิตตามความสนใจ และการสร้างกลไกความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาขน และภาคประชนชนให้เกิดการขับเคล่ือนงานด้านนี้ในระดับชาติ 4.3 ผลิตส่ือ และคลังสื่อสาระออนไลน์ เพื่อการศึกษาเรียนรู้ ที่มีลิขสิทธ์ิถูกต้อง หรือใช้ระบบลิขสิทธิ์แบบเปิด รวมถึงการอบรมให้ครูและผู้สนใจมีทักษะด้านการผลิตส่ือออนไลน์ เพ่ือให้เกิดการต่อยอดการผลติ สือ่ การเรยี นร้ทู ้งั ในระบบ และนอกระบบการศึกษา 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาและบูรณาการระบบทะเบียนประวัติการศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกันท่ัวประเทศ ทป่ี ระชาชนสามารถเข้าถงึ ภายใต้เง่ือนไขและหลักเกณฑท์ ี่กาหนด เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ การพัฒนาตลอดชีวิต รวมท้งั เป็นขอ้ มลู ทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ 5. เพิม่ โอกาสการไดร้ ับบรกิ ารทางการแพทย์และสุขภาพท่ีทนั สมยั ทว่ั ถงึ และเท่าเทยี ม รองรับการเข้าสู่สงั คมสงู วยั ดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ิทัล 5.1 บูรณาการระบบประวัติสุขภาพผู้ป่วยอิเล็กทรอนิกส์ซ่ึงเช่ือมต่อกันทั่วประเทศที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพของตนได้ เพ่ืออานวยความสะดวกในการเข้ารับการรักษา และเป็นขอ้ มูลสาคัญประกอบการรักษากรณีฉุกเฉนิ 5.2 บูรณาการและส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสม ท่ีครอบคลุมถึงระบบการให้บรกิ ารแพทย์ทางไกล (telemedicine) การสร้างพน้ื ทปี่ รึกษาปญั หาและแลกเปล่ียนเรียนรู้ การเฝ้าระวังและสื่อสารเตือนภัยด้านสุขภาพและอนามัย รวมไปถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพในรูปแบบใหม่เพ่ือสนับสนุนการมีสุขภาพ สุขภาวะที่ดี หรือลดปัญหาสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในพื้นทหี่ า่ งไกล กลุ่มแม่และเด็ก กลมุ่ ผู้สูงอายุ และผูพ้ ิการ 5.3 เร่งจัดทานโยบายและแผนการดาเนินงานการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทางด้านการแพทย์ เทคโนโลยีดิจิทัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการพฒั นาสงั คม

- 46 -ยทุ ธศาสตร์ท่ี 4ปรบั เปลีย่ นภาครัฐสู่การเปน็ รัฐบาลดิจิทลั ปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล หมายถึง การนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานรัฐท้ังส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างมีแบบแผนและเป็นระบบจนพัฒนาสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลโดยสมบูรณ์ โดยลักษณะของบริการภาครัฐหรือบริการสาธารณะจะอยู่ในรูปแบบดิจิทัลท่ีขับเคลื่อนโดยความต้องการของประชาชนหรือผู้ใช้บริการ ซึ่งประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้โดยไม่มีข้อจากัดทางกายภาพ พ้ืนที่ และภาษา และในระยะต่อไป รัฐบาลสามารถหลอมรวมการทางานของภาครัฐเสมือนเป็นองค์กรเดียว ภาครัฐจะแปรเปล่ียนไปเป็นผู้อานวยความสะดวกในการสร้างบรกิ ารสาธารณะโดยเอกชนและประชาชน เรยี กวา่ บริการระหว่างกนั (peer to peer) ตามหลักการออกแบบที่เป็นสากล (universal design) ประชาชนมีส่วนร่วมในการกาหนดแนวทางการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจการปกครอง/บริหารบา้ นเมอื ง และเสนอความคดิ เห็นต่อการดาเนนิ งานของภาครัฐได้อย่างสมบูรณ์ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 4 น้ี เปน็ การมุง่ เนน้ การใช้เทคโนโลยีดิจทิ ลั ในกระบวนการทางานและการให้บริการภาครัฐเพื่อให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการทางานและข้ันตอนการให้บริการ ให้มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว อานวยความสะดวกให้ผ้ใู ช้บริการ สร้างบริการของรัฐท่ีมธี รรมาภิบาล และสามารถใหบ้ รกิ ารประชาชนแบบเบ็ดเสร็จณ จดุ เดยี ว ผา่ นระบบเชอ่ื มโยงข้อมลู อัตโนมัติ การเปดิ เผยข้อมลู ของภาครฐั ที่ไม่กระทบต่อสิทธสิ ว่ นบุคคลและความมั่นคงของชาติ ผ่านการจัดเก็บ รวบรวม และแลกเปล่ียนอย่างมีมาตรฐาน ให้ความสาคัญกับการรักษาความม่ันคงปลอดภยั ไซเบอร์และข้อมูล รวมไปถงึ การสรา้ งแพลตฟอร์มการใหบ้ ริการภาครฐั เพือ่ ใหภ้ าคเอกชนหรือนักพัฒนาสามารถนาข้อมูลและบริการของรัฐไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมบริการ และสร้างรายได้ใหก้ ับระบบเศรษฐกจิ ต่อไป

- 47 -เปา้ หมายยทุ ธศาสตร์ ใหป้ ระชาชนเข้าถงึ ข้อมลู 2 1 บรกิ ารภาครฐั ตอบสนองประชาชน ภาครัฐได้สะดวก และ ผ้ปู ระกอบการทุกภาคส่วนเหมาะสม เพอื่ สง่ เสริมความ ได้อย่างสะดวก รวดเรว็ และแมน่ ยาโปรง่ ใส และการมีสว่ นร่วม  ลดการใช้สาเนาเอกสารในบริการของภาครฐั (smart service) ไม่น้อยกวา่ 79 บรกิ าร ของประชาชน ภายใน 1 ปี  มีระบบอานวยความสะดวกผู้ประกอบการใน อันดับการประเมินดชั นี การดาเนนิ ธรุ กิจ (doing business platform) Corruption Perception โดยมกี ารจดั ทาระบบสนับสนุนการดาเนินธรุ กจิ Index ของไทยดขี นึ้ 10 อันดับ ในชว่ งเริ่มตน้ ดชั นี e-Participation ใน UN มีโครงสรา้ งพน้ื ฐานดจิ ิทลั ภาครฐั e-Government Index มี การจัดเก็บและบรหิ ารฐานขอ้ มลู ที่ อันดบั เพมิ่ ขึน้ 10 อันดบั 3 บรู ณาการไม่ซ้าซอ้ น สามารถรองรบั การเช่ือมโยงการทางานระหว่าง หน่วยงาน และใหบ้ ริการประชาชนได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ  มกี ฎหมาย e-Gov ทม่ี ีหลักการครอบคลุมถึง นโยบายและแผน ยทุ ธศาสตรร์ ฐั บาลดจิ ดิ ัล กาหนดและรับรองมาตรฐานบริการ ดจิ ิทัลของรฐั การปกป้องการข้อมูล ดแู ลความมน่ั คงปลอดภัย ขอ้ มลู หน่วยงานรัฐ ติดตามการปฎบิ ตั ิตามแผนและมาตรฐาน  มีบรกิ ารโครงสร้างพ้นื ฐานกลางภาครัฐ (Government Shared Infrastructure/Data Center) ผ่านบรกิ ารเครือข่าย ภาครฐั (GIN) บริการ G-Cloud และ ระบบจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์กลางเพอ่ื สอ่ื สารในภาครฐั (MailGoThai)แผนงาน 1. จดั ให้มบี ริการอัจฉริยะ (smart service) ท่ขี บั เคลอื่ นโดยความต้องการของประชาชนหรือผ้ใู ช้บริการ(citizen driven) 1.1 พัฒนาบริการอัจฉริยะ (smart service) โดยแปรสภาพบริการของรัฐจากรูปแบบเดิมไปสู่บรกิ ารดจิ ทิ ัลทผ่ี ้รู บั บริการสามารถเลอื กใช้บรกิ ารผ่านอุปกรณ์ทห่ี ลากหลาย รวมท้งั การพฒั นาไปสู่บริการดิจิทัลในลักษณะอัตโนมัติ (automated public services) ตามหลักการออกแบบท่ีเป็นสากลและสอดคล้องกับความตอ้ งการ โดยผรู้ บั บรกิ ารไม่ต้องร้องขอหรือย่ืนเร่ืองต่อรัฐ เช่น เม่อื มเี ดก็ เกิดใหม่ ผู้ปกครองไม่ต้องแจ้งเกิดแต่ระบบจะเช่ือมโยงข้อมูลจากโรงพยาบาลไปยังฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และส่งหลักฐานให้ผู้ปกครองของเด็กเกิดใหม่เอง ทั้งน้ี การปรับเปลย่ี นบริการของรัฐเปน็ บริการในรูปแบบดิจิทลั สามารถสร้างนวัตกรรมบรกิ ารบนบริการรูปแบบเดิม หรือสร้างบริการใหม่ได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับข้ันตอนการให้บริการรูปแบบเดิม และเปดิ โอกาสให้นกั พัฒนาภาคเอกชน หรือนกั พฒั นาอสิ ระเขา้ รว่ มการพฒั นาบรกิ ารดังกลา่ วได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook