ระเบียบและกฎหมายที่ควรรู้

ระเบยี บและกฎหมายท่ีควรรู้ ทบทวน ชำนำญค้ำ นิตกิ รชำนำญกำรพเิ ศษ กน.สพร.สพฐ.

พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ หมวด ๖ วินัยและกำรรักษำวนิ ัย มำตรำ ๘๒ – มำตรำ ๙๗

วนิ ัยข้าราชการครูมี ๒ ประเภท ๑. วินัยไม่ร้ายแรง ๒. วนิ ัยอย่างร้ายแรง

ลักษณะวนิ ัย๑. ไม่มีอายุความ๒. ยอมความไม่ได้๓. ลาออก วินัยดาเนินการต่อไป๔. ตาย วินัยยุติ

โทษทางวนิ ัย มี ๕ สถาน๑. ภาคทณั ฑ์ (อำจ งด ได้)๒. ตดั เงนิ เดือน๓. ลดขัน้ เงนิ เดอื น๔. ปลดออก๕. ไล่ออก

มำตรำ ๘๒๑. ต้องรักษาวนิ ัย - ข้อห้ำม - ข้อปฏิบตั ิ๒. อย่ำงเคร่งครัด

มติ ค.ร.ม.ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรี ที่ น.ว.89/2497 ลงวนั ท่ี 1 เมษายน 2497 ข้าราชการผปู้ ฏิบตั ิหน้าที่....จะอ้างว่า ไมร่ กู้ ฎหมาย หรือระเบยี บแบบแผน ข้อบงั คบั อนั ตนจาเป็นต้องปฏิบตั ิและ อย่ใู นหน้าท่ีของตน มิได้

มาตรา ๘๓• ต้องสนับสนุนกำรปกครองระบอบ ประชำธิปไตย• มีหน้ำทีว่ ำงรำกฐำนให้เกดิ ระบอบ กำรปกครอง

มาตรา ๙๓ ต้องเป็ นกลำงทำงกำรเมอื งในกำรปฏบิ ัติหน้ำท/่ีในกำรปฏิบตั ิกำรอน่ื ที่เกยี่ วข้องกบั ประชำชน โดยต้องไม่อำศัยอำนำจ/หน้ำท่ีรำชกำรของตนแสดงกำรฝักใฝ่ ส่งเสริม..... กล่มุ บุคคลหรือพรรคกำรเมืองใด ต้องไม่เกยี่ วข้องกำรทุจริต โดยกำรซื้อสิทธิหรือขำยเสียงในกำรเลอื กตั้ง.... รวมท้ังต้องไม่ส่งเสริมสนับสนุนหรือชักจงู ให้ผ้อู น่ื กระทำในลกั ษณะเดยี วกนั ...

มาตรา ๘๔ ปฏบิ ัตหิ น้าทดี่ ้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสมอภาคและเทย่ี งธรรม วิริยะ อุตสาหะ ขยันหม่ันเพยี ร ดแู ลเอาใจใส่รักษาประโยชน์และปฏบิ ตั ติ ามจรรยาบรรณวิชาชีพ ห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผู้อ่ืนอาศัยอานาจหน้าท่ีทง้ั ทางตรง /อ้อม หาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น ปฏบิ ตั ิ / ละเว้น ... โดยมชิ อบ เพื่อ...ได้ประโยชน์ท่ีมิควรได้ เป็ นทุจริต ผดิ วินัยอย่างร้ายแรง

หนงั สอื สำนกั เลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๒๐๖/ว.๒๓๔ ลงวันท่ี ๒๔ ธนั วำคม ๒๕๓๖ กำรลงโทษขำ้ รำชกำรทก่ี ระทำควำมผิดฐำนทจุ ริตตอ่ หนำ้ ท่ีรำชกำร และละทงิ้ หน้ำท่รี ำชกำรติดต่อในครำวเดียวกนั เกินกว่ำสบิ หำ้ วนั เปน็ ควำมผิดวนิ ัยอย่ำงร้ำยแรง สมควรลงโทษไล่ออกจำกรำชกำร กำรนำเงินทีท่ จุ รติ ไปแลว้ มำคนื หรอื มเี หตอุ ันควรปรำณีอ่ืนใดไม่เป็นเหตลุ ดหยอ่ นโทษเป็นปลดออกจำกรำชกำร

หนังสือสำนักงำน ก.พ. ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ว๘ ลงวนั ที่ ๒๖ กรกฎำคม ๒๕๓๖ กำรใช้สิทธิขอเบิกเงินจำกทำงรำชกำรเป็ นเท็จโดยเจตนำทุจริต ฉ้อโกงเงินของทำงรำชกำรอย่ำงแน่ นอน เช่ น กำรทุจริ ตเบิกเงินค่ ำเบี้ยเลี้ยงค่ำพำหนะเดินทำง และเงินอ่ืนในทำนองเดียวกันอันเป็ นเท็จ เป็ นควำมผิดวินัยอย่ ำงร้ ำยแรงฐำนประพฤตชิ ั่วอย่ำงร้ำยแรง

มาตรา ๘๕ ปฏบิ ตั หิ น้าท่รี าชการตามกฎหมาย ระเบยี บแบบแผนราชการ หน่วยงานการศกึ ษา มติ ค.ร.ม.หรือนโยบายของรัฐบาล โดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน และไม่ให้เสียหายแก่ราชการ จงใจไม่ปฏบิ ตั .ิ .. ประมาทเลินเล่อ ขาดความเอาใจใส่... เสียหายราชการร้ายแรง ผิดร้ายแรง

พรบ.ควำมรับผดิ ทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำท่ี พ.ศ. 2539 มาตรา 5 หน่ำยงำนของรัฐต้องรับผดิ ต่อผ้เู สียหำยในผลแห่งละเมิดทเี่ จ้ำหน้ำทข่ี องตนได้กระทำในกำรปฏิบัตหิ น้ำท่ี ในกรณนี ี้ผ้เู สียหำยอำจฟ้องหน่วยงำนของรัฐดงั กล่ำวได้โดยตรงแต่จะฟ้องเจ้ำหน้ำทไี่ ม่ได้

ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลกั เกณฑ์การปฏิบัตเิ กยี่ วกบั ความรับผดิ ทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี ข้อ 8 เมือ่ เกดิ ควำมเสียหำยแก่ หน่วยงำนของรัฐแห่งใด... ให้หัวหน้ำหน่วยงำนของรัฐดงั กล่ำวแต่งตั้งคณะกรรมกำรสอบข้อเท็จจริงควำมรับผดิทำงละเมดิ ... เพอ่ื พจิ ำรณำเสนอควำมเห็นเกยี่ วกบัผ้ตู ้องรับผดิ และจำนวน ค่ำสินไหมทดแทน

มาตรา 8 ... ให้หน่วยงำนของรัฐเรียกให้เจ้ำหน้ำทผ่ี ้ทู ำละเมิดชดใช้ค่ำสินไหมทดแทนแก่หน่วยงำนของรัฐ ถ้ำเจ้ำหน้ำทไี่ ด้กระทำไปด้วยควำม จงใจ หรือ ประมำทเลนิ เล่ออย่ำงร้ ำยแรง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์มาตรา ๔๓๐ ครูบาอาจารย์ ... จาต้องรับผดิ ร่วมกบั ผู้ไร้ความสามารถ ในการละเมดิ ซ่ึงเขาได้กระทาลงในระหว่างทอ่ี ยู่ในความดูแลของตน ... (เว้นแต่ ได้ใช้ความระมัดระวงั ตามสมควร)

มาตรา ๘๖ ปฏบิ ตั ิตามคาสั่งของผบู้ ังคบั บญั ชาซึ่งสัง่ ในหนา้ ทโ่ี ดยชอบด้วยกฎหมาย/ระเบียบราชการโดย ไมข่ ดั ขนื -หลกี เลยี่ ง แตถ่ ้าเห็นวา่ จะเสียหาย/ไมร่ ักษาประโยชน์ราชการ จะยนื่ หนังสอื ใน ๗ วันให้ทบทวนก็ได้ ถา้ ยนื ยนั ตอ้ งปฏบิ ตั ิตามเสียหายร้ายแรง ผิดร้ายแรง

มาตรา ๙๑ ไม่คดั ลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวชิ าการของผู้อ่ืนโดยมชิ อบหรือนาเอาผลงานทางวชิ าการของผู้อ่ืน หรือ จ้าง วาน ใช้ผู้อ่นื ทาผลงานทางวชิ าการ เพ่อื ใช้ในการขอปรับปรุงการกาหนดตาแหน่ง การเล่ือนวทิ ยฐานะหรือการให้ได้รับเงนิ เดอื นสูงขึน้ ผิดวินัยอย่างร้ายแรง

ผู้ร่วมดำเนินกำรคัดลอก ลอกเลียนผลงำนของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือรับจัดทำผลงำนไม่ว่ำมีค่ำตอบแทนหรือไม่ เพื่อให้ผู้อ่ืนนำผลงำนไปใช้ประโยชน์ตำมวรรคหน่ึงเป็นควำมผิดวนิ ยั อยำ่ งรำ้ ยแรง

มาตรา ๘๘ เป็ นแบบอย่ำงทดี่ ี แก่ ผ้เู รียน ชุมชน สังคมสุภาพเรียบร้อย รักษาความสามคั คชี ่วยเหลือเกือ้ กลูผ้เู รียน และระหว่างข้าราชการ หรือ ผู้ร่วมปฏิบัติราชการ ต้อนรับประชำชนผ้มู ำติดต่อรำชกำร กำรกลนั่ แกล้ง ดหู มิ่น เหยยี ดหยำม กดขี่ข่มเหง ผ้เู รียนหรือประชำชนผ้มู ำติดต่อผดิ วินัยอย่ำงร้ำยแรง

มาตรา ๘๙ ต้องไม่กลนั่ แกลง้ กล่าวหา หรือรอ้ งเรยี นผอู้ ่ืนโดยปราศจากความเป็นจรงิ การกระทาตามวรรคหน่ึง ถา้ เปน็ เหตุใหผ้ ู้อืน่ ไดร้ บั ความเสยี หายอย่างร้ายแรงเปน็ ความผิดวนิ ยั อยา่ งร้ายแรง

มาตรา ๘๗ ตรงต่อเวลา อุทศิ เวลาของตนให้แก่ทางราชการและผู้เรียน จะละทงิ้หรือทอดทงิ้ หน้าท่รี าชการ โดยไม่ได้มีเหตุผลอนั สมควรมิได้

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกาหนดเวลาทางาน และวนั หยดุ ราชการของสถานศึกษา พ.ศ.2547ข้อ 5 ให้สถานศกึ ษาเริ่มทางาน ต้ังแต่เวลา 08.30 น. ถงึ 16.30 น. หยุดกลางวันเวลา 12.00 น. ถงึ 13.00 น. เป็ นเวลาทางานตามปกติ

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกาหนดเวลาทางาน และวนั หยุดราชการของสถานศึกษา พ.ศ.2547ข้อ 5 (ต่อ) โดยมีวันหยุดราชการประจา สัปดาห์คือ วันเสาร์ และวันอาทติ ย์ หยุดราชการเตม็ วันทง้ั สองวัน

ข้อ 6 วันปิ ดภาคเรียนให้ถือว่าเป็ น วันพักผ่อนของนักเรียน สถานศึกษา อาจให้ข้าราชการครูหยุดพกั ผ่อน ด้วยกไ็ ด้ แต่ ถ้ามีราชการจาเป็ น ต้องมาปฏบิ ตั ริ าชการเหมอื น การมาปฏบิ ตั ริ าชการตามปกติ

ระเบียบว่าด้วยการลาของขา้ ราชการ พ.ศ.๒๕๕๕ ข้อ ๑๘ ข้าราชการซงึ่ ประสงค์จะลาป่ วยเพื่อรักษาตัว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถงึ ผู้มีอานาจอนุญาตก่อนหรือในวันทล่ี า เว้นแต่ในกรณีทจ่ี าเป็ นจะเสนอหรือส่งใบลาในวันแรกทมี่ าปฏบิ ัตริ าชการกไ็ ด้

ข้อ ๑๒ การลาให้ใช้ใบลาตามแบบท้ายระเบยี บนี้ เว้นแต่กรณีจาเป็ นหรือรีบด่วนจะใช้ใบลาทมี่ ีข้อความไม่ครบถ้วนตามแบบ หรือจะลาโดยวธิ ีการอย่างอ่ืนกไ็ ด้แต่ทง้ั น้ีต้องส่งใบลาตามแบบในวันแรกทมี่ าปฏบิ ัตริ าชการ

ข้อ ๑๐ กำรนับวันลำ ให้นับตำมปี งบประมำณ กำรนับวันลำเพอ่ื ประโยชน์ในกำรเสนอหรือจดั ส่งใบลำ อนุญำตให้ลำ และคำนวณวนั ลำในนับต่อเนื่องกนั โดยนับวนั หยดุ รำชกำรทอ่ี ย่ใู นระหว่ำงวันลำประเภทเดียวกนั รวมเป็ นวนั ลำด้วย เว้นแต่กำรนับเพอ่ื ประโยชน์ในกำรคำนวณวนั ลำ..........ให้นับเฉพำะวันทำกำร

ข้ำรำชกำรทไ่ี ด้รับอนุญำตให้ลำไปช่วยเหลอืภริยำทคี่ ลอดบุตร ลำกจิ ส่วนตัวซึ่งมใิ ช่ลำกจิส่วนตัวเพอื่ เลยี้ งดบู ุตรตำมข้อ ๒๒ หรือลำพกั ผ่อนซ่ึงได้หยดุ รำชกำรไปยงั ไม่ครบกำหนด ถ้ำมีรำชกำรจำเป็ นเกดิ ข้นึ บงั คบั บญั ชำหรือผ้มู อี ำนำจอนุญำตจะเรียกตัวมำปฏบิ ัติรำชกำรระหว่ำงกำรลำกไ็ ด้

ขอ้ ๒๑ ข้ำรำชกำรมสี ิทธิลำกจิ ส่วนตัว โดยได้รับเงินเดอื นปี ละไม่เกนิ ๔๕ วนั ทำกำร ขอ้ ๑๓ ข้ำรำชกำรซึ่งประสงค์จะไปต่ำงประเทศในระหว่ำงกำรลำตำมระเบียบนี้ หรือในระหว่ำงวันหยดุ รำชกำรให้เสนอขออนุญำตต่อ ผ้บู งั คบั บญั ชำตำมลำดับจนถงึ หัวหน้ำส่วนรำชกำร เมื่อได้รับอนุญำตแล้วให้รำยงำนปลัดกระทรวงทรำบด้วย

มาตรา ๘๗ ตรงต่อเวลา อุทศิ เวลาของตนให้ราชการและ ผู้เรียน จะละทงิ้ หรือทอดทงิ้ หน้าท่.ี .ไม่ได้ ละทงิ้ / ทอดทงิ้ โดยไม่มีเหตผุ ลอันสมควรเป็ นเหตุเสยี หายราชการร้ายแรงหรือละทงิ้ ตดิ ต่อกนั เกนิ กว่า สบิ ห้าวนัโดยไม่มเี หตผุ ลสมควร... ผิดร้ายแรง

ละทงิ้ = ตวั ไม่อยู่ งานไม่ทาทอดทงิ้ = ตวั อยู่ งานไม่ทา

ผลการละทงิ้๑. ได้รับโทษทางวนิ ัย๒. เงนิ เดอื นในวันนัน้ ไม่ได้รับ๓. เงนิ เดือนไม่ขนึ้๔. ถ้าตายในวนั นัน้ สิทธปิ ระโยชน์ท่ี เป็ นตัวเงนิ จะไม่ได้รับ

มาตรา ๙๔ รักษาช่ือเสียงของตนและเกยี รตศิ ักด์ิตาแหน่งหน้าท่รี าชการมใิ ห้เส่ือมเสียโดยไม่กระทาการใดๆ อนั ได้ช่ือว่าเป็ นผู้ประพฤตชิ ่ัว

มติ ก.ค.ศ. เร่ืองการปลอมลายมือช่ือข้าราชการครูด้วยกนั ไปหาผลประโยชน์ เมื่อวนั ท่ี ๒๑ เมษายน ๒๕๓๗ ข้าราชการครูปลอมลายมือช่ือข้าราชการครูด้วยกันไปหาประโยชน์เช่น กู้เงนิ จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ฯเป็ นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

กระทาผิดอาญาจนได้รับโทษจาคุกหรือหนักกว่าโดยคาพพิ ากษาถงึ ท่สี ุดเว้นแต่ได้กระทาโดยประมาท หรือลหโุ ทษ หรือ กระทาการอันได้ช่ือว่าเป็ นผู้ประพฤตชิ ่ัวร้ายแรง ผิดร้ายแรง

หนังสือกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ น.๘๒๖/๒๔๘๒ ลงวนั ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๔๘๒ผู้ใดต้องหาในคดีอาญาหรือคดแี พ่งหรือคดีล้มละลาย ให้รายงานต่อเจ้ากระทรวง ทบวง กรมสังกัดทราบโดยด่วน

หนังสือกระทรวงการคลงั ที่ กค ๐๕๐๓/๕๕๕๗ ลงวนั ท่ี ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ข้าราชการท่ถี กู จบั กุมคุมขงั ไม่ต้องย่นื ใบลา....แต่ต้องรายงานให้ผู้บงั คับบญั ชาทราบ

เสพยาเสพตดิ หรือ สนับสนุนผู้อ่ืนเสพเล่นการพนันเป็ นอาจณิ ล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียนหรือนักศกึ ษา ไม่ว่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของตนหรือไม่ ผดิ ร้ายแรง

การพจิ ารณาว่าช่ัวหรือไม่๑. เกยี รตขิ องข้าราชการ

การใช้ตาแหน่ง ในการปล่อยตวั ช่ัวคราว ระดบั วงเงนิ ไม่เกนิ 3 - 5 ตนเอง 60,000 6 - 8 หรือ 200,000 9 - 10 ผู้อื่น 500,000 11 หน่ึงล้าน

การพจิ ารณาว่าช่ัวหรือไม่๑. เกยี รตขิ องข้าราชการ๒. ความรู้สึกของสังคม

ความรู้สึกของสังคมสังคมไม่รังเกยี จ ไม่ผดิสังคมรังเกยี จไม่มาก ประพฤตชิ ั่วสังคมรังเกยี จมาก ประพฤติช่ัวร้ายแรง

กำรพจิ ำรณำว่ำชั่วหรือไม่๑. เกยี รติของข้าราชการ๒. ความรู้สึกของสังคม๓. เจตนาท่ีกระทา

เรื่องท่ปี ระชาชนหนักใจต่อการกระทาของครู 1. ล่วงละเมิดทางเพศ 39.06 2. ส่งเสริมหรือค้ายาเสพติด 27.94 3. การลงโทษทรี่ ุนแรงเกนิ เหตุ 22.23 4. มวั่ สุมอบายมุขไม่สอนตามหน้าท่ี 9.16สวนดุสิตโพล สารวจในหัวข้อครูในสายตาประชาชนจากประชากร 7,849 คน ในโอกาส “หักไม่เรียว”

กรณีชู้สาว๑. สถานภาพของคู่กรณี๒. ความเส่ือมเสียในสายตาของบคุ คลภายนอก๓. ผลเสียหายท่เี กดิ แก่ครอบครัวของค่กู รณี

ครูสตรีตกเป็ นภรรยำน้อย (มิใช่ภรรยำท่ีถูกต้องตำมกฎหมำย) อย่ใู นฐำนะนำงบำเรอซึ่งไม่มีทำงใดทจี่ ะเปลย่ี นคำนำหน้ำช่ือและชื่อสกลุ ในสมุดประวตั ิได้ กรณเี ช่นน้ีย่อมเป็ นกำรขดั กบั ควำมรู้สึกของประชำชน ก.ศึกษำธิกำรกพ็ จิ ำรณำเฉพำะรำยทม่ี ีเรื่องเกดิ ข้ึนพฤตกิ ำรณ์เช่นน้ี ก.ศึกษำธิกำรรังเกยี จ

มติ ค.ร.ม.แนวทางการลงโทษข้าราชการเล่นการพนัน และการเสพสุรา เม่ือวนั ที่ ๓ กนั ยายน ๒๔๙๖ข้าราชการครูเล่นการพนันไม่ว่าประเภท ก. หรือประเภท ข. อาจได้รับโทษสถานหนักถงึ ให้ออกปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ

การเสพหรือเมาสุราทผ่ี ดิ วนิ ัยร้ายแรง๑. เสพสุรำในขณะปฏบิ ัตหิ น้ำทีร่ ำชกำร๒. เมำสุรำเสียหำยรำชกำร๓. เมำสุรำในทช่ี ุมชนจนเกดิ เร่ืองเสียหำย หรือ เสียเกยี รตศิ ักดแ์ิ ห่งตำแหน่งหน้ำทรี่ ำชกำร(หนังสือกรมเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี ที่ นว ๒๐๘/๒๔๙๖ ลว. ๓ กนั ยำยน ๒๔๙๖)