พระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๓๕ Page 1
เป็ นกิจการตามกฎหมายสาธารณสขุไมเ่ ป็ นกิจการตามกฎหมายสาธารณสขุ Page 2
ใบอนญุ าต ปี ต่อปีกาหนดหลกั เกณฑเ์ ฉพาะกจิ การ = ประเมินความ เสย่ี งดา้ นอนามยั สงิ่ แวดลอ้ ม ไมต่ อ้ งรอเกดิ เหต ุ ราคาญ หรอื ปรบั ปรงุ กรณียงั มีเหตรุ าคาญยกรา่ งขอ้ บญั ญตั ิใหม่ หรอื แกไ้ ขเพ่ิมเติม C must Dการติดตาม ตรวจสอบ ดำเนินกำร ติดตำมและพฒั นำ ผล กิจกำรตำมกฎหมำย เหตรุ ำคำญเป็นศนู ย์ Page 3
การคุ้มครองประชาชนของกฎหมายสาธารณสุข กิจกำรที่ต้องควบคมุ ตำมกฎหมำย กิจกำรทวั่ ไป••• กกกิจิจิจกกกำำำรรรรเตำ้กนลบ็ ำอดขำนห/ำกรำจดั ส่ิงปฏิกลู /มลู ฝอย(ธรุ กิจ) • บ้ำน/ ครวั เรอื่ ง/ ชมุ ชน• กกำิจรกขำำรยทส่ีเินปค็น้ำอในันตทร่ี/ทำยำงตส่อำสธขุ ำภรณำพะ (135ประเภท) โรงเรียน/ สถำนศึกษำ • วดั / ศำสนสถำน• • สถำนที่สะสมอำหำร ••ๆ•• สสสถถถำำำนนนีพขปนรยะำสกบ่งอ/ำบสลถกำิจนกีรำถรอไฟื่น • กำรเลีย้ งสตั วห์ รือปล่อยสตั ว์ ก่อน ประกำศปรตะ้อกงขออบกำร ต้องปฏิบตั ิ เพ่ิมอนุญำต / ให้ถกู ต้องดแู ล ต้องไม่ก่อ แจ้ง สขุ ลกั ษณะ ต้องกำจดั อำคำรให้ถกู เหตรุ ำคำญ ส่ิงปฏิกลู / สขุ ลกั ษณะ มลู ฝอยเจ้ำพนักงำนท้องถ่ิน ข้อกำหนดของท้องถ่ินรำชกำรส่วนท้องถ่ิน Page 4 4
หลกั กฎหมายจารตี Page 5 5 ประเพณีการพฒั นาของหลกั กฎหมายเหตรุ าคาญ จากการปองป้ อง สิทธิในทรพั ยส์ ิน สกู่ ารปกป้ องสทิ ธิ การดาเนินชีวิตอยา่ ง ปรกติสขุ และสขุ ภาพ ภาพความสมั พนั ธ์
ฐานส่ิงแวดลอ้ มกฎหมำยปกครอง ฐานอนามยั ส่งิ แวดลอ้ ม ฐานความเดอื ดรอ้ นและ ทรัพยส์ นิ Page 6 6
มาตรฐานคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ มมาตรฐานควบคมุ มลพิษจากแห่งกาเนิด Page 7
ค่าแยก่ ว่ามาตรฐาน = เหตใุ หเ้ สื่อมหรอื อาจเป็ นอนั ตรายต่อ สขุ ภาพคา่ ไดต้ ามาตรฐาน หรอื คา่ ดีกว่ามาตรฐาน ไมเ่ ท่ากบั ไม่มีเหตรุ าคาญ Page 8
มาตรา 79 (7) ของ EPA 1990 ไดใ้ หน้ ิยามอนั ตรายหรอื อาจ กอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายต่อสขุ ภาพ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน ดงั น้ี “คาว่ากอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายต่อสขุ ภาพ ผพู้ ิพากษาช้ีว่ามี ความหมายทวั่ ไปถึงสงิ่ ซึ่งเป็ นการรบกวน ความแข็งแรงและพลงั ชีวิต ของความเป็ นอยทู่ ่ีดีดว้ ย มีขอ้ สงั เกตว่าความเสียหายนนั้ ตอ้ งมีความเป็ นไปได้ หากเป็ นความน่าจะเกดิ ความเสียหายอาจ ไมเ่ พียงพอ โดยการทาใหเ้ กดิ ความเสียหายอยู่ ภายใตแ้ นวคิด เป็ นความคกุ คามต่อสขุ ภาพจนทาใหเ้ กดิ ความกลวั โดยอาจเป็ น ผลโดยออ้ ม เช่น นอนไมห่ ลบั และผลกระทบต่อสขุ ภาพอาจไมไ่ ด้ เกิดเป็ นพิเศษแต่เป็ นเหตกุ ารณก์ ระทบต่อสขุ ภาพทวั่ ไปก็ได”้ Page 9 9
การทาใหเ้ ป็ นเหตรุ าคาญคือการรบกวนความสะดวกสบาย ของบคุ คล เพ่ือนบา้ น หรอื ชมุ ชนใกลเ้ คียง ซ่ึงเป็ นการ กระทาที่ไมส่ ามารถยอมรบั ได้ โดยคาว่าไม่สามารถยอมรบั ได้ มีความหมายธรรมดาท่ีวิญญชู นพึ่งพิจารณาไดถ้ ึงความไม่มี เหตผุ ลอนั สมควร Robert Mc Cracken , Gregory Jones , James Pereira, Simon Payne. Statutory Nuisance. UK London:Butterworths. 2001 P2 Page 1100
พรบ การสาธารณสขุ ไมก่ าหนดโทษการเกดิ เหตรุ าคาญเป็ นนิติเหต ุใหเ้ กิดอานาจในการกระทาทางปกครอง หมวดเหตรุ าคาญ - ออกคาสง่ั ทางปกครอง - กระทาทางกายภาพเป็ นนิติเหต ุเป็ นการปฏิบตั ิท่ีไมเ่ ป็ นตามกฎหมาย และ ขอ้ บญั ญตั ิทอ้ งถิ่น มาตรา 45 กรณีเป็ นกิจการ ผล ปรบั รายวนั ได้ Page 11
เสยี ง รงั สี ความรอ้ นกลน่ิ เหม็น จาก สารพิษ ของหมกั หมมจานวนสตั วเ์ กินสมควรสงิ่ มีพิษ ความสน่ั สะเทือน ฝ่ นุ ละออง เขม่า เถา้ หรือกรณีอื่น ใด เป็นหรอื น่ำจะเป็นที่เพำะพนั ธพ์ุ ำหะนำโรค Page 12
การรวบรวมขอ้ เท็จจรงิ (พยาน หลกั ฐาน)- ความเดือดรอ้ น- ผอู้ ยใู่ กลเ้ คียงหรอื ผปู้ ระสบเหต ุ- กอ่ ใหเ้ กิดความเสือ่ ม - เหตใุ หเ้ ส่อื ม- หรอื อาจเป็ นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ- ความสมั พนั ธข์ องเหตแุ ละผล การปรบั กฎหมายกบั ขอ้ เท็จจรงิ - เหตรุ าคาญตามกฎหมายแจง้ อยา่ งมีพลงั มาตรการ Page 13 - การระงบั และจดั การเหตรุ าคาญ - การติดตาม
ขนั้ ตอนการลงพ้ืนท่ีสานกั อนามยั สง่ิ แวดลอ้ ม กรมอนามยั แสดงบตั รประจำตวั ตงั้ เข้ำบำ้ นผรู้ ้องเรียนก่อน ประเมินปัจจยั เคร่อื งมอื / เส่ียง/ เกบ็ ข้อมูล/ เข้ำตรวจสอบสถำน ประกอบกิจกำร กระบวนกำร สงั เกต ผลิต/สำรเคมีที่ เกบ็ ข้อมลู ประชำชนถำมควำมเหน็ ใกล้เคียง ใช้ในงำน Page 14
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญพระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๓๕ เหตุเดอื ดรอ้ นราคาญ ม ๒๕ ออกคาสงั่ เป็นหนงั สอื เพอ่ื ระงบั กาจดั และ ควบคมุ เหตุราคาญในทห่ี รอื ทางสาธารณะหรอื สถานทเ่ี อกชน ม ๒๖
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญพระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ออกคาสงั่ เป็นหนงั สอื ใหบ้ ุคคลซง่ึ เป็นตน้ เหตุหรอื เกย่ี วขอ้ งกบั การกอ่ หรอื อาจกอ่ ใหเ้ กดิ เหตุราคาญนนั้ ระงบั หรอื ป้องกนั เหตุราคาญในทห่ี รอื ทางสาธารณะ ม ๒๗ ออกคาสงั่ เป็นหนงั สอื เพอ่ื ระงบั กาจดั และควบคมุ เหตุ ราคาญในสถานทเ่ี อกชน ม ๒๘
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญพระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๓๕ สงั่ ใหผ้ ดู้ าเนนิ กจิ การนนั้ แกไ้ ขหรอื ปรบั ปรุงใหถ้ กู ตอ้ ง สงั่ ใหห้ ยดุ กจิ การ ม ๔๕ ออกคาสงั่ ใหผ้ กู้ ระทาการไมถ่ กู ตอ้ งหรอื ฝา่ ฝืนดงั กลา่ ว แกไ้ ขหรอื ระงบั เหตุนนั้ หรอื ดาเนนิ การใด ๆ เพอ่ื แกไ้ ข หรอื ระงบั เหตุนนั้ ไดต้ ามสมควร ม ๔๖
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญพระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๓๕ สงั่ พกั ใชใ้ บอนุญาต ม ๕๙ สงั่ เพกิ ถอนใบอนุญาต ม ๖๐
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญ\"มาตรา ๒๕ ในกรณที ม่ี เี หตุอนั อาจก่อใหเ้ กดิ ความเดอื ดรอ้ นแก่ผอู้ ยู่อาศยั ในบรเิ วณใกลเ้ คยี งหรอื ผทู้ ต่ี อ้ งประสบกบั เหตุนนั้ ดงั ต่อไปน้ี ให้ถอื วา่ เป็นเหตุราคาญ(๑) แหลง่ น้า ทางระบายน้า ทอ่ี าบน้า สว้ ม หรอื ทใ่ี สม่ ลู หรอื เถา้ หรอืสถานทอ่ี ่นื ใดซง่ึ อยใู่ นทาเลไมเ่ หมาะสม สกปรก มกี ารสะสมหรอืหมกั หมมสงิ่ ของมกี ารเททง้ิ สง่ิ ใดเป็นเหตุใหม้ กี ลน่ิ เหมน็ หรอื ละอองสารเป็นพษิ หรอื เป็นหรอื น่าจะเป็นทเ่ี พาะพนั ธพุ์ าหะนาโรค หรอืกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสอ่ื มหรอื อาจเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญ(๒) การเลย้ี งสตั วใ์ นทห่ี รอื โดยวธิ ใี ด หรอื มจี านวนเกนิสมควรจนเป็นเหตุใหเ้ สอ่ื มหรอื อาจเป็นอนั ตรายตอ่สขุ ภาพ(๓) อาคารอนั เป็นทอ่ี ยขู่ องคนหรอื สตั ว์ โรงงานหรอืสถานทป่ี ระกอบการใดไมม่ กี ารระบายอากาศ การระบายน้า การกาจดั สงิ่ ปฏกิ ลู หรอื การควบคมุ สารเป็นพษิ หรอื มีแต่ไมม่ กี ารควบคมุ ใหป้ ราศจากกลนิ่ เหมน็ หรอื ละอองสารเป็นพษิ อยา่ งพอเพยี งจนเป็นเหตุใหเ้ สอ่ื มหรอื อาจเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญ(๔) การกระทาใด ๆ อนั เป็นเหตุใหเ้ กดิ กลนิ่ แสง รงั สี เสยี งความรอ้ น สง่ิ มพี ษิ ความสนั่ สะเทอื น ฝนุ่ ละออง เขมา่ เถา้หรอื กรณอี น่ื ใด จนเป็นเหตุใหเ้ สอ่ื มหรอื อาจเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ(๕) เหตอุ น่ื ใดทร่ี ฐั มนตรกี าหนดโดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญมาตรา ๒๖ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ มอี านาจหา้ มผหู้ น่งึ ผใู้ ดมใิ หก้ อ่เหตุราคาญในทห่ี รอื ทางสาธารณะหรอื สถานทเ่ี อกชนรวมทงั้ การระงบั เหตุราคาญดว้ ย ตลอดทงั้ การดแู ล ปรบั ปรงุ บารงุ รกั ษา บรรดาถนน ทางบก ทางน้า รางระบายน้า คู คลอง และสถานทต่ี า่ ง ๆ ในเขตของตนใหป้ ราศจากเหตุราคาญ ในการน้ี ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิมอี านาจออกคาสงั่ เป็นหนงั สอื เพอ่ื ระงบั กาจดั และควบคุมเหตุราคาญต่าง ๆ ได้
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญมาตรา ๒๗ ในกรณที ม่ี เี หตุราคาญเกดิ ขน้ึ หรอื อาจเกดิ ขน้ึ ในทห่ี รอืทางสาธารณะ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ มอี านาจออกคาสงั่ เป็นหนงั สอืใหบ้ ุคคลซง่ึ เป็นตน้ เหตหุ รอื เกย่ี วขอ้ งกบั การกอ่ หรอื อาจกอ่ ใหเ้ กดิเหตุราคาญนนั้ ระงบั หรอื ป้องกนั เหตุราคาญภายในเวลาอนั สมควรตามทร่ี ะบุไวใ้ นคาสงั่ และถา้ เหน็ สมควรจะใหก้ ระทาโดยวธิ ใี ดเพอ่ืระงบั หรอื ป้องกนั เหตุราคาญนนั้ หรอื สมควรกาหนดวธิ กี ารเพอ่ืป้องกนั มใิ หม้ เี หตุราคาญเกดิ ขน้ึ อกี ในอนาคต ใหร้ ะบุไวใ้ นคาสงั่ ได้
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญในกรณที ป่ี รากฏแกเ่ จา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ วา่ ไมม่ กี ารปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ของเจา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ ตามวรรคหน่งึ และเหตุราคาญทเ่ี กดิ ขน้ึ อาจเกดิ อนั ตรายอยา่ งรา้ ยแรงต่อสขุ ภาพ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ ระงบัเหตุราคาญนนั้ และอาจจดั การตามความจาเป็นเพอ่ื ป้องกนั มใิ หเ้ กดิเหตุราคาญนนั้ ขน้ึ อกี โดยบุคคลซง่ึ เป็นตน้ เหตหุ รอื เกย่ี วขอ้ งกบั การก่อหรอื อาจกอ่ ใหเ้ กดิ เหตุราคาญตอ้ งเป็นผเู้ สยี คา่ ใชจ้ ่ายสาหรบั การจดั การนนั้
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญมาตรา ๒๘ ในกรณีทม่ี เี หตุราคาญเกดิ ขน้ึ ในสถานทเ่ี อกชน ใหเ้ จา้พนกั งานทอ้ งถน่ิ มอี านาจออกคาสงั่ เป็นหนงั สอื ใหเ้ จา้ ของหรอื ผู้ครอบครองสถานทน่ี นั้ ระงบั เหตุราคาญภายในเวลาอนั สมควรตามท่ีระบุไวใ้ นคาสงั่ และถา้ เหน็ วา่ สมควรจะใหก้ ระทาโดยวธิ ใี ดเพอ่ื ระงบัเหตุราคาญนนั้ หรอื สมควรกาหนดวธิ กี ารเพอ่ื ป้องกนั มใิ หม้ เี หตุราคาญเกดิ ขน้ึ ในอนาคต ใหร้ ะบุไวใ้ นคาสงั่ ได้
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญในกรณที ไ่ี มม่ กี ารปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ ของเจา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ ตามวรรคหน่งึ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ มอี านาจระงบั เหตุราคาญนนั้ และอาจจดั การตามความจาเป็นเพอ่ื ป้องกนั มใิ หม้ เี หตุราคาญเกดิ ขน้ึ อกี และถา้เหตุราคาญเกดิ ขน้ึ จากการกระทา การละเลย หรอื การยนิ ยอมของเจา้ ของหรอื ผคู้ รอบครองสถานทน่ี นั้ เจา้ ของหรอื ผคู้ รอบครองสถานท่ีดงั กลา่ วตอ้ งเป็นผเู้ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยสาหรบั การนนั้
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญในกรณที ป่ี รากฏแกเ่ จา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ วา่ เหตรุ าคาญทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสถานทเ่ี อกชนอาจเกดิ อนั ตรายอยา่ งรา้ ยแรงต่อสขุ ภาพ หรอื มีผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยทู่ เ่ี หมาะสมกบั การดารงชพี ของประชาชน เจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ จะออกคาสงั่ เป็นหนงั สอื หา้ มมใิ ห้เจา้ ของหรอื ผคู้ รอบครองใชห้ รอื ยนิ ยอมใหบ้ ุคคลใดใชส้ ถานทน่ี นั้ทงั้ หมดหรอื บางสว่ น จนกวา่ จะเป็นทพ่ี อใจแกเ่ จา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ วา่ไดม้ กี ารระงบั เหตุราคาญนนั้ แลว้ กไ็ ด้
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญมาตรา ๔๕ ในกรณที ป่ี รากฏวา่ ผดู้ าเนนิ กจิ การใด ๆ ตามทร่ี ะบุไวใ้ นพระราชบญั ญตั นิ ้ี ปฏบิ ตั ไิ มถ่ กู ตอ้ งตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี กฎกระทรวงขอ้ กาหนดของทอ้ งถน่ิ หรอื ประกาศทอ่ี อกตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี หรอื คาสงั่ ของเจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ ทก่ี าหนดไวเ้ กย่ี วกบั การดาเนนิ กจิ การนัน้ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ มอี านาจสงั่ ใหผ้ ดู้ าเนินกจิ การนนั้ แกไ้ ขหรอื ปรบั ปรุงใหถ้ กู ตอ้ งได้ และถา้ ผู้ดาเนนิ กจิ การไมแ่ กไ้ ข หรอื ถา้ การดาเนนิ กจิ การนนั้ จะกอ่ ใหเ้ กดิ หรอื มเี หตุอนั ควรสงสยั วา่ จะเกดิ อนั ตรายอยา่ งรา้ ยแรงต่อสขุ ภาพของประชาชน เจา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ จะสงั่ ใหผ้ นู้ นั้ หยดุ ดาเนินกจิ การนนั้ ไวท้ นั ทเี ป็นการชวั่ คราวจนกวา่ จะเป็นทพ่ี อใจแก่เจา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ วา่ ปราศจากอนั ตรายแลว้ กไ็ ด้
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญคาสงั่ ของเจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ ตามวรรคหน่งึ ใหก้ าหนดระยะเวลาท่ีจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ ไวต้ ามสมควรแตต่ อ้ งไมน่ ้อยกว่าเจด็ วนั เวน้แต่เป็นกรณที ม่ี คี าสงั่ ใหห้ ยุดดาเนินกจิ การทนั ที และตอ้ งทาเป็นหนงั สอื แจง้ ใหผ้ ดู้ าเนนิ กจิ การซง่ึ จะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ ทราบ ในกรณีทไ่ี มพ่ บผดู้ าเนนิ กจิ การหรอื ผดู้ าเนนิ กจิ การไมย่ อมรบั คาสงั่ ดงั กลา่ วใหส้ ง่ คาสงั่ โดยทางไปรษณยี ล์ งทะเบยี นตอบรบั หรอื ปิดคาสงั่ นนั้ ไวใ้ นทเ่ี ปิดเผยเหน็ ไดง้ า่ ย ณ ภมู ลิ าเนาหรอื สานกั ทาการงานของผดู้ าเนินกจิ การ และใหถ้ อื วา่ ผนู้ นั้ ไดท้ ราบคาสงั่ แลว้ ตงั้ แต่เวลาทค่ี าสงั่ ไปถงึหรอื วนั ปิดคาสงั่ แลว้ แต่กรณี
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญมาตรา ๔๖ ในกรณที เ่ี จา้ พนกั งานสาธารณสขุ ตรวจพบเหตทุ ไ่ี ม่ถูกตอ้ งหรอื มกี ารกระทาใด ๆ ทฝ่ี า่ ฝืนต่อบทแหง่ พระราชบญั ญตั นิ ้ีหรอื ขอ้ กาหนดของทอ้ งถนิ่ ใหเ้ จา้ พนกั งานสาธารณสขุ แจง้ เจา้พนกั งานทอ้ งถนิ่ เพอ่ื ดาเนนิ การตามอานาจหน้าทต่ี ่อไปโดยไมช่ กั ชา้
เหตเุ ดือดรอ้ นรำคำญในกรณที เ่ี จา้ พนกั งานสาธารณสขุ เหน็ วา่ เหตตุ ามวรรคหน่ึงจะมีผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยทู่ เ่ี หมาะสมกบั การดารงชพี ของประชาชน หรอื จะเป็นอนั ตรายอยา่ งรา้ ยแรงต่อสขุ ภาพของประชาชนเป็นสว่ นรวมซง่ึ สมควรจะดาเนนิ การแกไ้ ขโดยเรง่ ด่วน ให้เจา้ พนกั งานสาธารณสขุ มอี านาจออกคาสงั่ ใหผ้ กู้ ระทาการไมถ่ ูกตอ้ งหรอื ฝา่ ฝืนดงั กลา่ วแกไ้ ขหรอื ระงบั เหตุนนั้ หรอื ดาเนินการใด ๆ เพอ่ืแกไ้ ขหรอื ระงบั เหตนุ นั้ ไดต้ ามสมควร แลว้ ใหแ้ จง้ เจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ ทราบ
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญมาตรา ๕๙ ในกรณที ป่ี รากฏวา่ ผรู้ บั ใบอนุญาตสาหรบั กจิ การใดไม่ปฏบิ ตั หิ รอื ปฏบิ ตั ไิ มถ่ ูกตอ้ งตามบทแหง่ พระราชบญั ญตั นิ ้ี กฎกระทรวงหรอื ขอ้ กาหนดของทอ้ งถนิ่ ทอ่ี อกตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี หรอื เงอ่ื นไขท่ีระบุไวใ้ นใบอนุญาตในเรอ่ื งทก่ี าหนดไวเ้ กย่ี วกบั การประกอบกจิ การตามทไ่ี ดร้ บั ใบอนุญาตนนั้ เจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ มอี านาจสงั่ พกั ใช้ใบอนุญาตไดภ้ ายในเวลาทเ่ี หน็ สมควร แต่ตอ้ งไมเ่ กนิ สบิ หา้ วนั
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญมาตรา ๖๐ เจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ มอี านาจออกคาสงั่ เพกิ ถอนใบอนุญาตเมอ่ื ปรากฏวา่ ผรู้ บั ใบอนุญาต(๑) ถกู สงั่ พกั ใชใ้ บอนุญาตตงั้ แตส่ องครงั้ ขน้ึ ไปและมเี หตุทจ่ี ะตอ้ งถกูสงั่ พกั ใชใ้ บอนุญาตอกี(๒) ตอ้ งคาพพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ วา่ ไดก้ ระทาความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
เหตเุ ดือดร้อนรำคำญ(๓) ไมป่ ฏบิ ตั หิ รอื ปฏบิ ตั ไิ มถ่ กู ตอ้ งตามบทแหง่ พระราชบญั ญตั นิ ้ีกฎกระทรวงหรอื ขอ้ กาหนดของทอ้ งถน่ิ ทอ่ี อกตามพระราชบญั ญตั นิ ้ีหรอื เงอ่ื นไขทร่ี ะบุไวใ้ นใบอนุญาตในเรอ่ื งทก่ี าหนดไวเ้ กย่ี วกบั การประกอบกจิ การตามทไ่ี ดร้ บั ใบอนุญาต และการไมป่ ฏบิ ตั หิ รอื การปฏบิ ตั ิไมถ่ กู ตอ้ งนนั้ กอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายอยา่ งรา้ ยแรงต่อสขุ ภาพของประชาชนหรอื มผี ลกระทบตอ่ สภาวะความเป็นอยทู่ เ่ี หมาะสมกบั การดารงชพี ของประชาชน
Page 35
ประเภทเสยี ง แบง่ ตามลกั ษณะการเกิดเสยี งได้ 3 ลกั ษณะ 1. เสยี งดงั แบบต่อเน่ือง (Continuous Noise) เป็นเสยี งดงั ท่เี กิดข้นึอยา่ งต่อเน่อื ง เป็น 2 ลกั ษณะ คอื 1.1 เสยี งดงั ต่อเน่ืองแบบคงท่ี (Steady-state Noise) เป็นเสยี งดงั ต่อเน่ืองทม่ี รี ะดบั เสยี งเปลย่ี นแปลงไมเ่ กนิ 3 เดซเิ บล เช่น เสยี งจาก เคร่อื งทอผา้ เคร่อื งปนั่ ดา้ ย เสยี งพดั ลม เป็นตน้ 1.2 เสยี งดงั ต่อเน่ืองท่ไี ม่คงท่ี (Non-steady State Noise)เป็นเสยี งท่มี รี ะดบั เสยี งเปล่ยี นแปลงเกินกว่า 10 เดซิเบล เช่น เสยี งจากเล่อื ยวงเดอื น เคร่อื งเจยี ร เป็นตน้ Page 3366
2. เสยี งดงั เป็ นช่วงๆ (Intermittent Noise) เป็นเสยี งท่ดี งั ไม่ต่อเน่ืองเงยี บหรือเบาเป็นระยะๆ สลบั ไปมา เช่น เสยี งเคร่ืองปมั๊ /อดั ลม เสยี งจราจร เสยี งเคร่อื งบนิ ทบ่ี นิ ผา่ นไปมา เป็นตน้ 3. เสยี งดงั กระทบหรอื กระแทก (Impact of Impulse Noise) เป็นเสยี งทเ่ี กิดข้นึ และส้นิ สุดนอ้ ยกว่า 1 วนิ าที มกี ารเปลย่ี นแปลงมากกว่า 40 เดซเิ บลเช่น เสยี งการตอกเสาเขม็ การปมั ๊ ช้นิ งาน การทบุ เคาะอย่างแรง เป็นตน้กลไกการไดย้ นิ เสยี ง เป็นพลงั งานท่เี กิดการเปลย่ี นแปลงความดนั บรรยากาศในตัวกลางต่างๆ (อากาศ ของเหลว และของแขง็ ) ความเร็วของเสยี งข้นึ กบั ชนิดของตวั กลางท่ีเสยี งผ่าน ความหนาแน่นมาก เช่น ของแขง็ จงึ นาเสยี งไดด้ กี ว่าหรอื เร็วกวา่ ตวั กลางทม่ี คี วามหนาแน่นนอ้ ยกวา่ เช่น ของเหลว และกา๊ ซ Page 3377
การตรวจวดั ระดบั เสียง เป็ นไปตาม ประกาศคณะกรรมการ ส่งิ แวดลอ้ มแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 29 (พ.ศ.2550) เร่ือง คา่ ระดบั เสียงรบกวนและประกาศคณะกรรมการควบคุมมลพิษ เรื่อง วิธีการตรวจวัดระดบั เสียงพื้นฐาน ระดบั เสียงขณะไม่ มีการรบกวน การตรวจวัดและคานวณระดับเสียงขณะมี การรบกวนการคานวณคา่ ระดบั การรบกวน และแบบบนั ทึก การตรวจวดั เสยี งรบกวน สรปุ ไดด้ งั นี้ Page 38
มลพษิ หน่วย มาตรฐานระดบั เดซิเบล เอ เสียงรบกวนระดบั ความ มากกวา่ 10แตกต่างของ เดซิเบล เอระดบั เสียงขณะมีการรบกวน กบั Page 39ระดบั เสียงพ้นื ฐาน (L90)
ระดบั เสียงสงู สดุ ไม่เกิน 115 dBA Page 40
1. การป้ องกนั เสียงจากภายนอกอาคาร - การควบคมุ ดว้ ยระยะทาง เช่น การเพ่ิมระยะทางของแหลง่ กาเนิดเสียงกบั อาคารใหม้ ากข้ึน - การหลกี เลี่ยงจดุ กระทบเสยี งโดยตรง เช่น การทากาแพง รว้ั หรือการปลกู ตน้ ไม้ เป็ นตน้ Page 41
1. การป้ องกนั เสียงจากภายนอกอาคาร - การวางผงั อาคาร เช่น การเปลย่ี นพ้ืนที่เสียงดงั ไปบรเิ วณอื่น - การใชว้ สั ดกุ นั เสยี ง เช่น การใชก้ ระจก สองชนั้การใชฉ้ นวนกน้ั เสียง หรอื ใยแกว้ เป็ นตน้ Page 42
2. การป้ องกนั เสยี งจากภายในอาคารการลดเสียงจากแหลง่ กาเนิด เช่น การกนั้ หอ้ งของแหลง่ กาเนิดเสียง ใหม้ ิดชิด เป็ นตน้- การลดเสยี งท่ีตกกระทบ เช่น การใชว้ สั ดดุ ดู ซบั เสียงเป็ นตน้- การวางผงั อาคาร เช่น การเปลย่ี นพ้ืนที่เสียงดงั ไปบริเวณอ่ืน ๆ Page 43
3. ประเภทวสั ดุดูดซับเสียง 3.1 วสั ดดุ ูดซับเสียงทม่ี ลี กั ษณะโปร่งเบา เป็ นรูพรุน เช่น ฉนวนใยแก้ว ฉนวนเซลลูโลส หรือโฟมชนิดต่าง ๆ เป็ นต้น Page 44
3. ประเภทวสั ดดุ ูดซับเสียง 3.2 วสั ดดุ ูดซับเสียงทม่ี ีผวิ ปรุเป็ นรู เช่น ยปิ ซั่มบอร์ด หรือแผ่นชานอ้อย หรือแผ่นไม้คอร์ค Page 45
3. ประเภทวสั ดดุ ูดซับเสียง 3.3 วสั ดดุ ูดซับเสียงทเ่ี ป็ นเยอ่ื แผ่น เช่น ผนังทม่ี ีหลายช้ันกระจกสองช้ัน หรือการตดิ ผ้าม่านท่มี คี วามหนา เป็ นต้น Page 46
3. ประเภทวสั ดดุ ูดซับเสียง 3.4 วสั ดดุ ูดซับเสียงทมี่ พี นื้ ผวิ มาก ลดเสียงสะท้อน เช่น ผนังท่ีออกแบบเป็ นช่อง เป็ นรู เป็ นต้น Page 47
ความเห็นประชาชนหรอื ผเู้ ดือดรอ้ น มาตรฐานกลิ่น Page 48
แหล่งเกดิ กล่นิ ในงานอุตสาหกรมทส่ี าคญั วตั ถดุ บิ ทก่ี ่อใหเ้กิดกลน่ิ ไดแ้ ก่ Solvent, แอมโมเนีย, คลอรีน, กรด, ใบยาสูบและสารเคมอี กี หลายชนิด ขบวนการผลติ ทก่ี ่อใหเ้กิดกลน่ิ ไดแ้ ก่ อบรมควนั ยาง, เย่อื กระดาษ, พ่นส,ี ป๋ยุ ,กระดูกสตั ว,์ ขนไก่, ควั่ กาแฟ, ควั่ พรกิ , ปลาป่น และหมกั ดองพชื เป็นตน้ ระบบบาบดั น้าเสยี คอื กลน่ิ จากการย่อยสลายของสารอนิ ทรยี โ์ ดยจลุ นิ ทรยี ภ์ ายใต้สภาวะไรอ้ ากาศ มกั ถกู เรยี กหรอื รูจ้ กั กนั ในนามของ “septicity” หรอื สภาวะเน่าดาทวคี วามรุนแรงข้นึ ภายใตส้ ถานการณ์ อุณหภูมสิ ูง BOD สูง ระดบั ของ sulfateสูง และมี reducing chemicals เกิดการสรา้ งก๊าซ methane (CH4),hydrogen sulfide (H2S), ammonia (NH3) organic sulfur, amines ในระหวา่ งการเกดิ การหมกั (fermentation) Page 4499
ความเดอื ดรอ้ นราคาญ (nuisance) เป็นกล่ินอนั ไม่พึงประสงค์ รบกวน เดือดรอ้ นราคาญ สัมผสับ่อยครงั้ และความเขม้ ขน้ สูงมผี ลเป็นอย่างมากต่อสภาวะทางจิตใจของบคุ คล ผลตอ่ สขุ ภาพ (health effects) ความเขม้ ขน้ ทท่ี าใหเ้กดิ อนั ตรายต่อสุขภาพ จะสูงกว่าระดบั ความเขม้ ขน้ ท่ีทาใหไ้ ดร้ ับรูก้ ล่ินค่อนขา้ งมาก เช่น ก๊าซ H2S มี odorthreshold อยู่ท่ี 0.1 ppm ในมาตรฐานป้องกนั อนั ตรายต่อสุขภาพ 10ppm ถงึ 20.0 ppm ในบางประเทศ ผลกระทบต่อสุขภาพของกลน่ิ มีดงั น้คี อื Page 5500
Search