Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 04 ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร

04 ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร

Description: 04 ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร

Search

Read the Text Version

ถอดบทเรียนคูม่ ือปฏิบัตงิ านเจา้ หนา้ ทีส่ ง่ เสริมการเกษตร งานสง่ เสรมิ การเกษตร ISBN 978-974-403-944-6 กรมส่งเสริมการเกษตร

ค่มู อื ปฏิบัติงานเจ้าหนา้ ท่ีสง่ เสรมิ การเกษตร ถอดบทเรยี นงานสง่ เสริมการเกษตร ISBN 978-974-403-944-6 พมิ พค์ รงั้ ที่ 1 ปี 2556 จำ� นวน 10,000 เล่ม พมิ พท์ ี่ โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ� กดั

คำ� นำ� การท�ำงานส่งเสริมการเกษตร เป็นการท�ำงานท่ีมุ่งปรับปรุงคุณภาพชีวิตและ ความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยเจ้าหน้าท่ีส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้น�ำความรู้และ เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม ถ่ายทอดสู่เกษตรกรกลมุ่ เปา้ หมาย ปี 2556 กรมสง่ เสริมการเกษตรไดจ้ ดั ท�ำ “ค่มู ือปฏิบัติงานเจ้าหน้าท่สี ง่ เสริม การเกษตร” เพื่อเปน็ องค์ความรู้ใหเ้ จา้ หนา้ ทส่ี ่งเสริมการเกษตร ได้ใช้เปน็ แนวทาง การปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรในพ้ืนท่ี โดยได้รวบรวมและเรียบเรียงเน้ือหา ตามหลักวชิ าการทถ่ี ูกตอ้ ง สามารถอ้างองิ ได้ และถอดบทเรียนจากหลกั ปฏิบัติจริง สามารถประยุกต์ใชก้ ับงานสง่ เสริมการเกษตรในแตล่ ะพื้นที่ จ�ำนวน 24 รายการ แบง่ เปน็ เนอ้ื หา ดา้ นการเพมิ่ ประสิทธภิ าพการผลิตพืชเศรษฐกจิ ด้านเคหกิจเกษตร และการเพิ่มมลู ค่าสินค้าเกษตร และดา้ นเทคนคิ การทำ� งานสง่ เสรมิ การเกษตร คู่มือปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เร่ือง “ถอดบทเรียนงานส่งเสริม การเกษตร” เลม่ น้ี ประกอบดว้ ยเนอื้ หาทส่ี ำ� คญั ไดแ้ ก่ ความหมายของการถอดบทเรยี น องคป์ ระกอบในการถอดบทเรยี น คณุ สมบตั ขิ องคนทำ� หนา้ ทถี่ อดบทเรยี น เทคนคิ วธิ กี าร และตวั อยา่ งการถอดบทเรยี น ซึ่งเจ้าหนา้ ท่ีสง่ เสริมการเกษตร สามารถนำ� ไปปรบั ใชใ้ ห้ เหมาะสมกบั ลกั ษณะการทำ� งานตามบทบาท และหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ และหวงั ใหเ้ กดิ แนวคดิ การพฒั นาทกั ษะในการทำ� งานสง่ เสรมิ การเกษตร เพอื่ ประโยชนข์ องเกษตรกร ต่อไป กรมสง่ เสรมิ การเกษตร ขอขอบคณุ ในความรว่ มมอื อยา่ งดยี ง่ิ จากหนว่ ยงาน และ เจา้ หนา้ ทที่ เี่ กยี่ วขอ้ งในการใหข้ อ้ มลู และภาพประกอบสำ� หรบั การจดั ทำ� หนงั สอื เลม่ น้ี และหากเจ้าหน้าทีส่ ่งเสรมิ การเกษตร มขี อ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ขอได้โปรดแจง้ มายัง กรมส่งเสริมการเกษตรใหท้ ราบด้วย ทัง้ น้ี เพ่ือประโยชนใ์ นการปรับปรงุ สำ� หรับการ ใชง้ านคร้ังต่อไป (นางพรรณพิมล ชญั ญานุวตั ร) อธบิ ดีกรมส่งเสริมการเกษตร สงิ หาคม 2556

สารบัญ 2 6 ทำ� ไมต้องถอดบทเรียน 10 การถอดบทเรยี นคอื อะไร 14 ถา้ จะถอดบทเรียนตอ้ งมอี ะไรบ้าง 20 คนท�ำหนา้ ท่ถี อดบทเรียนควรมคี ณุ สมบัตอิ ยา่ งไร 24 เทคนคิ การถอดบทเรียนมอี ะไรบ้าง วธิ ีการถอดบทเรยี นมอี ะไรบ้าง 28 ❖ วิธที ่ี 1 46 การถอดบทเรียนจากการด�ำเนินงานโครงการ 54 ❖ วธิ ที ี่ 2 70 การถอดบทเรยี นแบบเลา่ เรื่อง (Stroytelling) ❖ วธิ ที ี่ 3 การเรียนรูจ้ ากบทเรียนที่ดีหรอื วธิ ีปฏบิ ัตทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice) ตัวอย่าง การถอดบทเรียนจาก Best Practice กรณที ่ี 1 ถอดบทเรียนการด�ำเนนิ งานพัฒนาการเกษตร ของ ศบกต.ทุ่งตำ� เสา อ�ำเภอหาดใหญ่ จงั หวัดสงขลา

สารบัญ กรณีท่ี 2 82 การถอดบทเรยี นตลาดชุมชนสินคา้ เกษตร 88 กรณตี ลาดดอนแขวน ต�ำบลสุขไพบูลย์ อำ� เภอเสิงสาง จงั หวดั นครราชสีมา 96 107 กรณีที่ 3 109 การถอดบทเรยี นการบริหารจัดการ 111 เพอ่ื ป้องกนั กำ� จัดเพล้ยี แปง้ ในมันสำ� ปะหลงั ของส�ำนักงานเกษตรจงั หวัดนครราชสีมา กรณที ่ี 4 การถอดบทเรยี นการบรหิ ารจดั การศัตรูมะพรา้ ว (หนอนหัวดำ� ) อำ� เภอกุยบุรี จงั หวดั ประจวบครี ขี ันธ์ บทสรปุ บรรณานุกรม รายชือ่ คณะผ้จู ัดท�ำ คมู่ ือปฏิบตั งิ านเจา้ หนา้ ทสี่ ง่ เสริมการเกษตร ถอดบทเรียนงานสง่ เสรมิ การเกษตร



ทำ� ไม? ต้องถอดบทเรียน

2 ถอดบทเรยี นงานสง่ เสริมการเกษตร ท�ำไม ตอ้ งถอดบทเรียน? คนเรามักเก็บส่ิงที่รู้ไว้มิดชิดเกินกว่าจะน�ำมาถ่ายทอด หรือ แลกเปล่ียนเรียนรูก้ ับผูอ้ ่ืนนบั วา่ เป็นการสูญเสยี “งบดุล” ทางชวี ิต และสงั คมอยา่ งมาก หากเราและคนรอบขา้ งจะผดิ พลาดในสงิ่ เดยี วกนั ซ้�ำแล้วซ้�ำเล่า โดยไม่ได้น�ำเอาความรู้ที่ตกผลึกหรือท่ีเรียกว่า “ความรฝู้ งั ลกึ ” (Tacit Knowledge) ทอ่ี ยใู่ นงานนนั้ มาใชป้ ระโยชน์ แลว้ จะท�ำอยา่ งไร ที่จะนำ� ความรู้ฝงั ลกึ นน้ั มาแลกเปล่ยี นเรียนรูก้ บั ผู้อนื่ เผอ่ื แผ่ผ่านประสบการณ์ของเราหรอื เจ้าของความรู้ ตรงนเี้ อง เปน็ ท่ีมาของการถอดบทเรียน (จตุพร วิศษิ ฏ์โชติองั กรู , 2553)

ถอดบทเรยี นงานส่งเสริมการเกษตร 3 ถอดบทเรียนเป็นเคร่ืองมอื ในการผลติ ความรู้ ❖ คน้ หา ความรู้จากการปฏบิ ัติ ❖ สรา้ ง ความรจู้ ากการปฏบิ ตั ิ ❖ ใช้ ความรจู้ ากการปฏิบตั ิคร้ังกอ่ นเพอื่ การปฏบิ ตั ิซ�้ำ ❖ ปรับปรุง พัฒนาความรู้ เพ่อื การปฏิบตั คิ รงั้ ต่อไป ❖ หัวใจ คือ แลกเปล่ียนเรียนรู้สร้างความสัมพันธ์ท่ีดี ระหว่างคนทำ� งาน ทพ.อทุ ยั วรรณ กาญจนกามล

4 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร

ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร 5 การถอดบทเรยี น คืออะไร?

6 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร การถอดบทเรยี น คืออะไร? ถอดบทเรียน มาจากค�ำวา่ ถอด + บทเรยี น “ถอด” แปลวา่ เอาออก หลดุ ออก “บทเรยี น” แปลวา่ บทสรปุ ทอ่ี ธบิ ายผลการทำ� งานตามเปา้ หมาย ทกี่ ำ� หนดไว้ และปจั จยั เงอื่ นไขสำ� คญั ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ผลเชน่ นน้ั บทเรยี น จะอธิบายปรากฎการณแ์ ละเงือ่ นไขทเ่ี กิดขึ้น และคำ� อธบิ ายน้นั ตอ้ ง มคี ุณคา่ ในการน�ำไปปฏิบตั ิ คำ� อธิบายที่ชดั เจนจะต้องมีตัวช้ีวดั ที่ดี ที่สะท้อนว่าเกิดอะไรขึ้น และเกิดการเรียนรู้ในกระบวนการน้ัน บทเรยี นตอ้ งมใิ ช่เร่ืองเลา่ ในอดีตเทา่ น้นั บทเรียนตอ้ งระบุว่า “อะไรใหม่” หรอื “อะไร คอื ข้อมูลใหม่” ข้อคน้ พบใหม่หรือความร้”ู ท่ไี ดจ้ ากกระบวนการทำ� งาน ความรู้ ที่เป็นรูปธรรมทไ่ี ดจ้ ากกระบวนการทำ� งาน ซงึ่ ข้อค้นพบใหม่น้ี คือ การอธิบายผลการท�ำงานที่เกิดข้ึน โดยไม่ได้คาดหมาย ท้ังท่ีพึง ประสงค์ และไมพ่ งึ ประสงค์ แตเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ การทำ� งานใหด้ ขี น้ึ กวา่ เดิม และปจั จัยเง่ือนไขทที่ �ำให้ส่งิ นัน้ เกดิ ขึ้น

ถอดบทเรยี นงานส่งเสริมการเกษตร 7 ความหมายของการถอดบทเรียน กระบวนการดึงเอาความรู้จากการท�ำงานออกมาใช้เป็นทุน ในการบริหารจัดการในเร่ืองท่ียาก หรือซับซ้อนขึ้นไปจากเดิม (ศภุ วลั ย์ พลายนอ้ ย, 2551) ดว้ ยการสรปุ ผล อธบิ ายปรากฏการณ์ หรือข้อมูลใหม่ท่ีเกิดข้ึนระหว่างการท�ำงานและปัจจัยเงื่อนไขท่ี ท�ำใหเ้ กดิ ปรากฎการณด์ ังกล่าว นอกจากน้ี ยังเป็นการถอดองค์ความรู้การด�ำเนินงานของ หน่วยงานต่างๆ ทั้งในหน่วยงานราชการ องค์กรชุมชน ฯลฯ ออกมาเป็นบทเรียนท่ีสามารถน�ำไปสรุปสังเคราะห์เป็นชุดความรู้ คมู่ อื สอื่ รปู แบบต่างๆ เพ่ือให้ผู้สนใจได้น�ำไปปรบั ใช้ให้เหมาะสมกับ บริบทต่อไป ผลท่ีได้จากการถอดบทเรียน นอกจากส่ือชุดความรู้แล้ว สงิ่ สำ� คญั ทส่ี ดุ คอื ผรู้ ว่ มกระบวนการถอดบทเรยี นไดเ้ กดิ การเรยี นรู้ ร่วมกันจากกระบวนการถอดบทเรียน ท�ำให้ผู้ร่วมกระบวนการ ได้ปรับวิธีคิด วิธีการท�ำงานที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพยิ่งข้ึน (ประภาพรรณ อุน่ อบ, 2552)

8 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร

ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร 9 ถา้ จะถอดบทเรยี น ต้องมีอะไรบ้าง?

10 ถอดบทเรียนงานสง่ เสรมิ การเกษตร ถา้ จะถอด \"บทเรียน\" ตอ้ งมีอะไรบ้าง? การถอดบทเรยี น มหี ลายองคป์ ระกอบทเ่ี กย่ี วขอ้ งเพอื่ ใหก้ าร ถอดบทเรียนบรรลเุ ป้าหมายทีต่ ้งั ไว้ ดงั นี้ ประเด็นที่ตอ้ งการถอดบทเรยี น ต้องก�ำหนดวัตถุประสงค์ในการถอดบทเรียน และการน�ำ ไปใช้ประโยชน์ทีช่ ัดเจน บคุ คลท่ีเกย่ี วขอ้ ง ❖ ผู้ถอดบทเรียน มีความพร้อมในเร่ืองประเด็นค�ำถาม วตั ถปุ ระสงคใ์ นการถอดบทเรยี น ความพรอ้ มในเรอ่ื งกรอบแนวคดิ ในการถอดบทเรยี น (พรอ้ มทฤษฎเี บอื้ งหลงั เพอ่ื ใชใ้ นการวเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ อ้ มลู ) นอกจากน้ี ทกั ษะในการพดู คยุ สรา้ งความสมั พนั ธ์ การจับประเดน็ ก็เปน็ สิง่ สำ� คัญเชน่ กนั

ถอดบทเรยี นงานสง่ เสริมการเกษตร 11 ❖ ผถู้ กู ถอดบทเรยี น มคี วามเตม็ ใจและเขา้ ใจวตั ถปุ ระสงค์ ในการด�ำเนินการถอดบทเรียน สามารถเล่าเรื่องได้อย่างเต็มท่ี มคี วามสุข ความภาคภูมใิ จในส่ิงทต่ี วั เองได้ทำ� มา กจิ กรรมท่ีด�ำเนนิ การ มีกจิ กรรมอะไรบา้ ง และผลทเ่ี กิดขนึ้ เปน็ อย่างไร ความสัมพนั ธข์ องคน/กล่มุ คน ที่เราท�ำการถอดบทเรียนควรมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน มีความเท่าเทียมกัน มคี วามเป็นกนั เอง สิ่งแวดลอ้ ม บรรยากาศรอบขา้ งเออื้ ตอ่ การพดู คยุ เปน็ กนั เอง ไมม่ เี สยี งดงั รบกวน

12 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร

ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร 13 คนทำ� หนา้ ท่ี \"ถอดบทเรียน\" ควรมคี ณุ สมบัติ อยา่ งไร

14 ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร คนทำ� หนา้ ท่ี \"ถอดบทเรยี น\" ควรมี คุณสมบัติอยา่ งไร เป็นบคุ คลเรียนรู้ ชอบการเรยี นรู้ ชอบอ่าน ชอบทา้ ทาย ชอบคน้ คว้า หาความรูใ้ หม่ๆ มองการเรยี นรู้สง่ิ ใหม่ มีทกั ษะการคิดเชงิ ระบบ วธิ งี า่ ยๆ คอื ใชแ้ ผนทีค่ วามคิด เป็นเรือ่ งทา้ ทาย ทำ� ให้มพี ลงั ใน (Mind Map) ในการช่วยคิด การอยากเรียนรสู้ งิ่ ใหมอ่ ยเู่ สมอ ทำ� ใหเ้ ราจดั ระบบความคดิ ทดี่ ขี นึ้ ทำ� ใหไ้ ด้รายละเอียดทุกแง่มุม สามารถมองภาพรวมออก เชอ่ื ในศักยภาพของ มนุษย์ที่มี ความเทา่ เทยี มกัน ความเชอื่ ขอ้ น้ี มที ักษะการสือ่ สาร (สขุ ) ท้ังภาษาพูดและ ภาษากาย การสอื่ สารท่ีดี คือ การสอื่ สาร เปน็ พนื้ ฐาน ในการ วางสถานะของตวั ตน ทีช่ ัดเจน จรงิ ใจ สอื่ ความหมายได้ เพอ่ื เปิดใจผู้คนที่ ถูกต้อง เปน็ คนชา่ งเจรจา ท่ีส�ำคญั คือ การ เขา้ รว่ มเวทใี หพ้ รอ้ ม มีความสขุ จากข้างในตัวเราเอง สงิ่ ทอ่ี ยู่ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ขา้ งในทไ่ี ดร้ บั การพัฒนาจะสอดคล้องกับ การแสดงพฤติกรรมของตัวเราเอง ดังนั้น การทเี่ ปน็ คนเตม็ สขุ การทีเ่ ป็นคนมี คุณธรรม จริยธรรม การเป็นคนดีสามารถ สัมผัสกนั ได้

ถอดบทเรยี นงานสง่ เสริมการเกษตร 15 คนท�ำหน้าที่ “ถอดบทเรยี น” ควรมีคณุ สมบัตเิ หลา่ นี้ มีความเปน็ ตวั ของตัวเอง เปน็ ธรรมชาติ สอดคล้องกับ ศักยภาพของตัวเราเอง มที ักษะการเขยี น การสรปุ ความ การจับประเด็น การตงั้ คำ� ถาม และน�ำเสนอ ซึง่ จ�ำเป็น เพราะการถอดบทเรียนจำ� เป็น ต้องเขียน วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูลท่ีไดอ้ ย่างเป็นระบบ ใชใ้ น กรณที เี่ ราตอ้ งนำ� เสนอจดั ระบบ ความคิดแบบฉับพลนั ในเวที หรอื การเกบ็ ขอ้ มูลเพื่อจดั ท�ำ รายงาน

16 ถอดบทเรยี นงานสง่ เสรมิ การเกษตร ท�ำเรื่องยากให้เป็นเร่ืองงา่ ย พยายามออกแบบกระบวนการใหง้ า่ ย และเปน็ ธรรมชาตทิ สี่ ดุ เพราะความงา่ ย ความไม่เป็นทางการ ความเป็น ธรรมชาตทิ ีส่ อดคลอ้ งกับผคู้ นเปน็ หัวใจของความสำ� เรจ็ ในเวที ถอดบทเรยี น มีจุดมุ่งหมายและ พลังในตวั เอง ซงึ่ ท�ำให้คน รอบขา้ งที่เราทำ� งานดว้ ย ได้รับการถ่ายทอดพลงั ในการทำ� งานทมี่ ีจดุ มุ่งหมาย อย่างสร้างสรรคไ์ ด้ดว้ ย

ถอดบทเรียนงานสง่ เสริมการเกษตร 17 มีทกั ษะการถ่ายภาพ ภาพหนึง่ ภาพแทนค�ำพูด พันคำ� เพราะภาพถา่ ยสามารถส่อื ความหมายไดม้ ากมาย ดงั นั้น การบันทึกภาพ เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ที่เกิดขน้ึ ในเวทีถอดบทเรยี น เอาไว้ สามารถใช้เป็นข้อมลู ที่ส�ำคัญของ การถอดบทเรยี นทเ่ี ป็นรปู ธรรม อีกรูปแบบหน่งึ (จตุพร วิศิษฏ์โชตอิ งั กรู , 2553) \"ทำ� ไปเถอะ ทำ� ใหเ้ ต็มท่ี เต็มความสามารถ ของเรา ท�ำใหม้ คี วามสุขเบิกบาน แล้วทกุ อย่างจะดเี อง\" จตพุ ร วศิ ษิ ฏ์โชตอิ ังกรู

18 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร

ถอดบทเรียนงานส่งเสรมิ การเกษตร 19 เทคนคิ \"การถอดบทเรยี น\" มีอะไรบา้ ง

20 ถอดบทเรียนงานส่งเสรมิ การเกษตร เทคนิค \"การถอดบทเรยี น\" มีอะไรบ้าง? เทคนิค “การถอดบทเรยี น” ❖ ท�ำให้เนียน ท�ำให้เป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้วิธีการ สงั เกต การจบั ประเด็นพูดคยุ การซกั ถามสารทกุ ข์สขุ ดบิ หรือลงไป สัมภาษณ์พูดคุยประเด็นท่ีเราสนใจเม่ือมีประเด็นที่น่าสนใจ เราก็ ลงลึกในประเด็นเหล่านั้นทันที โดยให้เป็นไปแบบธรรมชาติ ในบรรยากาศทเ่ี ป็นกันเอง ❖ การใชก้ ารพูดคุยแบบคนต่อคนหรือกลมุ่ เล็กๆ และใช้ ภาษาที่เขา้ ใจง่ายจะทำ� ใหไ้ ด้ขอ้ มูลที่ถกู ต้อง ละเอยี ด

ถอดบทเรยี นงานสง่ เสริมการเกษตร 21 ❖ ความส�ำเร็จในการถอดบทเรียนอยู่ท่ีเราสามารถทลาย ความเป็นคนแปลกหน้า ทลายความหวาดระแวง กระชับความ สมั พันธ์นำ� ไปสู่การไว้ใจ และเปดิ ใจในทส่ี ุดแลว้ ทกุ อยา่ งก็จะไปได้ดี ❖ หน้าท่ีของผู้น�ำกระบวนการถอดบทเรียน คือ สร้าง บรรยากาศให้เหมือนสนทนาระหวา่ งเพ่อื นสนิท นอกจากเราจะ ไดผ้ ลลพั ธอ์ ยา่ งทเี่ ราอยากไดน้ นั่ คอื “บทเรยี น” เรายงั ได้ “มติ รภาพ” เพิม่ มาจากกระบวนการดว้ ย ❖ การใชภ้ าษาพดู หรอื ภาษาเขยี น ควรเปน็ ภาษาทเี่ ขา้ ใจงา่ ยๆ เหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมายท่ีพดู คยุ กันดว้ ย “ภาษาชาวบา้ น”

22 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร

ถอดบทเรียนงานส่งเสรมิ การเกษตร 23 วิธกี าร \"ถอดบทเรยี น\" มอี ะไรบ้าง

24 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร วธิ กี าร \"ถอดบทเรยี น\" มอี ะไรบา้ ง? ในการถอดบทเรียนมีวิธีการท่ีหลากหลาย แต่คุณค่าของ วิธีการท่เี ราเลอื กใช้ ไม่ได้อยทู่ ีค่ วามแพรห่ ลายท่ีนิยมใช้ แตอ่ ย่ทู ี่ว่า วิธกี ารที่เราเลือกใช้นั้น ได้สรา้ งความร้แู ละนำ� ไปสูก่ ารใชป้ ระโยชน์ จากความรนู้ ้นั ไดม้ ากนอ้ ยเพียงใด สง่ิ ที่ควรตระหนักคือ การสรปุ บทเรยี นท่ีได้ตรงกบั ความจริงทเี่ กิดข้นึ และสามารถอ้างองิ เพ่ือไป ใช้ประโยชน์ หากจะสรุปวิธีการท่ีน�ำมาใช้ในการถอดบทเรียน อาจแยกเป็น 3 วิธี คือ

ถอดบทเรียนงานส่งเสรมิ การเกษตร 25 1. การถอดบทเรยี นจากการด�ำเนนิ งานโครงการ 2. การถอดบทเรยี นแบบเล่าเรือ่ ง 3. การถอดบทเรยี นจากวธิ ปี ฏิบตั ทิ ่เี ปน็ เลศิ



วธิ ีท่ี 1 การถอดบทเรยี นจากการ ด�ำเนนิ งานโครงการ

28 ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร วิธที ี่ 1 การถอดบทเรยี นจาก การดำ� เนินงานโครงการ RPeeterorAsApfteesrcstAiscttion Review การถอดบทเรียนจากการด�ำเนินงานโครงการ เปน็ การถอดบทเรยี นจากโครงการทเ่ี ราดำ� เนนิ การอยู่ เปน็ การ เติมช่องว่างในการพัฒนา โดยสามารถถอดบทเรียนได้ตลอด ช่วงเวลาของการด�ำเนินงาน ซ่ึงหากจ�ำแนกตามระยะเวลาใน การด�ำเนินงานโครงการอาจแยกได้เป็น 3 ลกั ษณะ คอื 1) การเรียนรเู้ มื่อเริม่ โครงการ (Peer Assist : PA) 2) การเรยี นร้หู ลงั ปฏบิ ัตกิ าร (After Action Review : AAR) 3) การเรยี นรูห้ ลังการด�ำเนินงาน (Retrospect) สามารถแสดงใหเ้ ห็นถึงลักษณะการถอดบทเรียนเม่อื เทยี บ กบั ระยะเวลาในการดำ� เนินงานโครงการไดต้ ามภาพท่ี 1

ถอดบทเรยี นงานสง่ เสรมิ การเกษตร 29 ถอดบทเรยี นหลังปฏิบัตกิ าร (After Action Review : AAR) 2. หลงั ปฏบิ ตั กิ าร การเรียนรู้ เปา้ หมาย 1. เรม่ิ โครงการ 3. หลงั ดำ� เนินการ ผลลัพธ์ โครงการ ระดมความคิดเหน็ เพื่อนพอ้ ง ถอดบทเรียนหลงั การด�ำเนนิ การ (Peer Assist : PA) (Retrospect) ภาพท่ี 1 ลกั ษณะการถอดบทเรยี นเมอ่ื เทยี บกับระยะเวลา ในการด�ำเนนิ งานโครงการ ทีม่ า : ประภาพรรณ อนุ่ อบ (2552) หากจะกลา่ วถึงรายละเอียดในการด�ำเนินการถอดบทเรยี น ในแต่ละลักษณะสามารถสรปุ สาระสำ� คญั ได้ดังนี้ วิธีที่ 1 การถอดบทเรียนจากการด�ำเนินงานโครงการ เป็นการถอดบทเรียนจากโครงการที่เราด�ำเนินการ ซึ่งเป็น การเติมช่องว่างในการพัฒนา โดยถอดบทเรียนการด�ำเนินการ ตลอดโครงการ ตงั้ แตก่ ารเรยี นรเู้ มอื่ เรม่ิ โครงการ การเรยี นรรู้ ะหวา่ ง ด�ำเนินการโครงการและการเรยี นรูห้ ลังส้ินสุดโครงการ

30 ถอดบทเรียนงานสง่ เสริมการเกษตร 1) การเรยี นรเู้ ม่ือเรม่ิ โครงการ เป็นการเรียนรู้จากเพื่อน (Peer Assist : PA) กอ่ นท�ำกจิ กรรม โดยค�ำวา่ “เพอ่ื น” ในทนี่ ี้ อาจเปน็ ทีมจากอ�ำเภออน่ื หนว่ ยงานใกลเ้ คยี ง หรอื ทีมจากจังหวัดอนื่ เป็นตน้ ลกั ษณะการเรยี นรู้เมอ่ื เริ่มโครงการ What Who When Why ท�ำอะไร ใคร ท�ำเม่อื ไร ทำ� ทำ� ไม ประชุม แลกเปลยี่ น ❖ เพื่อนผ้รู ู้ เมอื่ ตอ้ งการเรยี นรู้ ❖ คน้ หาแนวทางใหมๆ่ เรียนรู้ ❖ ผดู้ ำ� เนินการ จากผูอ้ ืน่ ก่อนเริม่ งาน /แนวทางท่ีเป็นไปไมไ่ ด้ ❖ ผรู้ ว่ มกระบวนการ ❖ ส่งเสริมการ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ❖ สร้างเครือข่าย กา้ วแรก How กา้ วท่สี อง ทำ� อย่างไร ก้าวตอ่ มา กำ� หนดวตั ถุประสงค์ อะไรคอื โจทย์ท่ตี อ้ งการเรยี นรู้ บทสรุป หาเพอื่ นทพี่ รอ้ มจะแลกเปล่ียนเรยี นรู้ กำ� หนดวนั เวลา สถานท่ี ดำ� เนนิ การ คำ� ถามทีใ่ ชใ้ นการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ❖ อะไรทท่ี ่านรใู้ นบริบทของทา่ น ❖ อะไรที่เราทั้งสองรู้ ❖ อะไรที่ฉันรูใ้ นบริบทของฉนั ❖ อะไรท่เี ราร่วมกันสร้าง สิ่งทเ่ี รียนรใู้ นการด�ำเนนิ การในอนาคต

ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร 31 ตัวอย่าง การเรยี นรู้เมอื่ เรมิ่ โครงการ (Peer Assist : PA) โครงการพัฒนางานวจิ ัยในงานประจำ� (R2R) เรม่ิ จากกรมสง่ เสรมิ การเกษตรได้ “คน้ ควา้ ” หาความรจู้ ากหนว่ ยงาน ทรี่ เิ รม่ิ ทำ� วจิ ยั ในงานประจำ� (Routine to Research : R2R) คอื สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสุข โดย ศ.นายแพทย์ วิจารณ์ พานิช ได้ริเรมิ่ น�ำเทคนิคน้ี มาใชเ้ พอื่ ใหค้ นปฏบิ ตั งิ านสามารถสรา้ งความรจู้ ากงานทร่ี บั ผดิ ชอบไดด้ ว้ ยตนเอง เปน็ การเปลยี่ นงานประจำ� ทจี่ ำ� เจ ใหเ้ ปน็ งานทท่ี า้ ทาย สนกุ สนาน สรา้ งคณุ คา่ ความภาคภูมิใจให้คนทำ� งาน กองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรจึงได้น�ำแนวคิดดังกล่าว มา “ประชมุ ” รว่ มกบั “ทมี งานทเ่ี คยนำ� กระบวนการจดั การความรู้ (Knowledge Management : KM)” มาใชใ้ นการพฒั นางานสง่ เสรมิ การเกษตร เพือ่ น�ำมา ปรบั ใชใ้ นการดำ� เนนิ งานโครงการวิจยั ในงานประจ�ำ “บทสรุป” ทไี่ ด้จากการแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ อ่ นดำ� เนนิ งานโครงการ ❖ ควรมีการประชาสมั พนั ธเ์ ชญิ ชวนผสู้ นใจเข้ารว่ มโครงการ ❖ ควรสร้างความเข้าใจ แนวคิด R2R แก่ผู้สนใจเพื่อน�ำแนวคิด ดงั กล่าวไปพฒั นางานทีร่ บั ผิดชอบ ❖ ควรให้ R2R เปน็ เครื่องมือหนงึ่ ในการพฒั นางาน ไม่ใช่การเพิ่มงาน

32 ถอดบทเรยี นงานส่งเสรมิ การเกษตร 2) การเรยี นรหู้ ลงั ปฏบิ ตั กิ าร (After Action Review : AAR) เป็นการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนระหว่างด�ำเนินกิจกรรม ในโครงการ เป็นการทบทวนความส�ำเรจ็ หรือความลม้ เหลว ภายหลัง จากดำ� เนินกจิ กรรม เพื่อค้นหาวา่ อะไรเกิดขน้ึ ท�ำไมจงึ เกดิ และจะ ด�ำรงจุดแข็ง ปรับปรุงจุดอ่อนได้อย่างไรเป็นเคร่ืองมือท่ีจะช่วยให้ องคก์ รได้ประโยชน์สงู สดุ หัวใจของกระบวนการ AAR คือ การเปิดใจและ ความมุ่งมั่นท่ีจะเรียนรู้ร่วมกันมากกว่าการวิพากษ์วิจารณ์เพราะมิใช่ เป็นการประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน รวมถงึ การปรบั ปรุงการปฏิบัติงาน อย่างตอ่ เนอ่ื ง

ถอดบทเรียนงานสง่ เสริมการเกษตร 33 ค�ำถามส�ำคัญในการเรียนร้หู ลงั ปฏิบัติการ (AAR) คำ� ถาม ตัวอย่างคำ� ถาม ขอ้ เสนอแนะ ชุดที่ 1 สิง่ ท่เี ราก�ำหนด/คาดหวังว่า ชุดค�ำถามนี้ต้องการสร้างความเข้าใจ นำ้� หนัก 25% จะให้เกดิ ข้นึ /หรือวา่ จะทำ� ? รว่ มกนั เกย่ี วกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ สิ่งที่เกิดขนึ้ จรงิ คอื อะไรบา้ ง? อาจขอให้หัวหน้าโครงการ/คณะท�ำงาน สรปุ รายละเอยี ด และใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มเพมิ่ เตมิ ให้สมบรู ณ์ ชุดที่ 2 ทำ� ไมส่งิ ทเี่ กิดขึน้ จริงจึง วเิ คราะหใ์ หม้ ากๆ ถงึ เงอ่ื นไขปจั จยั ทท่ี ำ� ให้ น้ำ� หนกั 25% แตกต่างไปจากสิ่งที่คาดหวัง เป็นเช่นนนั้ จะใหเ้ กดิ ? ชดุ ที่ 3 ในการทำ� กจิ กรรมตอ่ ไปเราจะ วทิ ยากรอาจตง้ั ค�ำถาม น�้ำหนัก 50% ทำ� สิ่งใดท่ีดขี นึ้ หรือแตกตา่ ง “หากตอ้ งเร่มิ ทำ� กิจกรรมใหมอ่ ีกคร้ัง ไปจากเดมิ บา้ ง? จะทำ� อะไรแตกตา่ งจากเดมิ บ้าง” ตอ้ งการใหผ้ รู้ ว่ มโครงการใหข้ อ้ เสนอแนะ ท่ีเจาะจงและปฏิบัติได้ ควรมีการบันทึกผลการถอดบทเรียนไว้ เปน็ สว่ นหน่งึ ของรายงาน

34 ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร How ท�ำอย่างไร (สามารถยืดหย่นุ ได้ตามความเหมาะสม ) ก้าวแรก ก�ำหนดเวลา ซึ่งควรเปน็ หลังจากสถานการณ์จบสิน้ ทันที (ความจ�ำยังสด และกนั ลมื ) ก้าวทส่ี อง ก�ำหนดประเดน็ ถอดบทเรยี น กา้ วต่อมา วิทยากรกระบวนการด�ำเนินการใช้ค�ำถามในตารางข้างตน้ สรา้ งบรรยากาศในการเรียนรู้ บทสรปุ ไดช้ ุดของข้อเสนอแนะที่น�ำไปปฏบิ ตั ไิ ด้ทนั ที

ถอดบทเรียนงานสง่ เสรมิ การเกษตร 35 ตวั อยา่ ง การเรียนรูห้ ลงั ปฏบิ ตั ิการ (After Action Review : AAR) โครงการพฒั นางานวจิ ัยในงานประจ�ำ (R2R) ค�ำถามสำ� คญั ในการเรียนร้หู ลังปฏิบตั ิการ (AAR) ชุดที่ ค�ำถาม ค�ำตอบ คำ� ถามชดุ ท่ี 1 ส่งิ ท่ีเราก�ำหนด/คาดหวังว่าจะให้ หนว่ ยงานที่เขา้ รว่ มโครงการเขา้ ใจแนวคิด น�้ำหนัก 25% เกิดขน้ึ /หรือว่าจะท�ำ ? R2R และน�ำแนวคิดนี้ไปใช้ในการพัฒนา งานตามแผนการดำ� เนนิ งานวจิ ยั ดว้ ยการ กลบั ไปชกั ชวนคนคอเดยี วกนั มาเปน็ ทมี งาน ในการทำ� R2R สง่ิ ที่เกดิ ขน้ึ จริงคืออะไรบ้าง? หน่วยงานต่างๆ ไดก้ ลับไปชักชวนคน คอเดยี วกันเพื่อมาร่วมทำ� R2R หลายๆ หนว่ ยงานหวั หนา้ ใหก้ ารสนบั สนนุ บางหนว่ ยงานหาคนคอเดยี วกนั ไดม้ ากมาย ขณะท่ีบางหนว่ ยงานหาคนคอเดียวกัน ไมไ่ ดเ้ พ่อื นร่วมงานถามวา่ “จะหางานเพมิ่ ทำ� ไม ??” ActionARefvtieewr

36 ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร คำ� ถามส�ำคัญในการเรียนรู้หลงั ปฏิบตั ิการ (AAR) ชดุ ท่ี ค�ำถาม ค�ำตอบ ค�ำถามชุดท่ี 2 น�้ำหนกั 25% ทำ� ไมสิง่ ทเี่ กิดขน้ึ จรงิ จึงแตกต่างไป ปัจจัยท่ที ำ� ให้หาคนคอเดยี วกันได้ คำ� ถามชุดที่ 3 จากสงิ่ ท่ีคาดหวังจะให้เกดิ ขึ้น? ❖ ผบู้ รหิ ารใหค้ วามสำ� คญั ทำ� ใหก้ าร ดำ� เนนิ งาน นำ้� หนกั 50% R2R เปน็ ไปไดด้ ว้ ยดี ❖ เจ้าหนา้ ท่ใี นจังหวัดมคี วามสมั พันธ์อันดี ตอ่ กัน มที ีมงานในการท�ำงาน ปัจจยั ท่ที ำ� ใหห้ าคนคอเดียวกนั ไม่ได้ ❖ ผบู้ รหิ ารไมเ่ หน็ ความส�ำคัญ ❖ เจา้ หนา้ ทไี่ มม่ ที ศั นคตทิ ดี่ ตี อ่ งานวจิ ยั คดิ วา่ เปน็ การเพิ่มภาระงานประจ�ำ ❖ คดิ ว่าเปน็ เรื่องใหม่ เรอ่ื งยาก ในการทำ� กจิ กรรมต่อไปเราจะ ❖ ประชาสัมพันธ์ สรา้ งความเข้าใจแนวคดิ ทำ� สิง่ ใดทดี่ ีขึ้นหรอื แตกต่างไป การทำ� วิจัยในงานประจำ� (R2R) แกเ่ จา้ หน้าท่ี จากเดมิ บา้ ง? สง่ เสรมิ การเกษตรทุกระดบั ❖ ประชาสมั พนั ธต์ วั อย่างการท�ำวิจัยใน งานประจำ� (R2R) ท่เี จ้าหน้าทีส่ ง่ เสริม การเกษตรทำ� แลว้ ประสบความสำ� เรจ็ เพอ่ื จุดประกายให้กบั เจ้าหน้าทีท่ ี่สนใจต่อไป ❖ ทำ� ใหเ้ ปน็ เรอ่ื งงา่ ยดว้ ยการปรบั กระบวนการ ทำ� วิจัยในงานประจ�ำ (R2R) ใหง้ า่ ยตอ่ การท�ำ ไมซ่ ับซ้อนสามารถเห็นผลไดช้ ดั เจน

ถอดบทเรียนงานสง่ เสริมการเกษตร 37 3) การเรยี นรู้หลงั การด�ำเนินงาน (Retrospect) การเรียนรู้หลังการด�ำเนินงานมีรายละเอียด ลึกซ้งึ กวา่ การเรียนรู้หลงั ปฏบิ ตั กิ าร เพราะใช้ในกรณถี อดบทเรียน ทั้งโครงการไม่ใช่เฉพาะกิจกรรมวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้หลัง การด�ำเนินงาน เพ่ือสร้างความตระหนักในการเรยี นรนู้ ำ� บทเรียน ทไี่ ดไ้ ปใชใ้ นโครงการตอ่ ไป ตามปรชั ญาของการทำ� งานทว่ี า่ “ทกุ ครงั้ ทเี่ ราทำ� อะไรซำ�้ เราควรทำ� ใหด้ กี วา่ ครงั้ สดุ ทา้ ย” นอกจากน้ี ความรู้ ทไ่ี ดจ้ ากการถอดบทเรยี นยงั เปน็ การชว่ ยผอู้ นื่ ใหท้ ำ� งานของเขาไดด้ ขี น้ึ What Who When Why ทำ� อะไร ใคร ท�ำเม่ือไร ท�ำทำ� ไม ❖ ประชุมพรอ้ มหนา้ ❖ แกนหลักของ (face to face) โครงการ เม่ือสิ้นสดุ โครงการ ❖ ทบทวนวัตถุประสงค์ ไม่ควรใชก้ ารประชุม ❖ ผู้ใชค้ วามรใู้ น ไม่ใชส่ ้นิ สดุ แต่ละ แผนงาน และ กระบวนการ ทางไกลหรืออีเมล์ อนาคต กจิ กรรม ดำ� เนินงานโครงการที่ ผา่ นมา ❖ เป็นการประชุม ❖ วิทยากร ❖ ตั้งค�ำถามว่าอะไรท่ี ทีมเพอ่ื มองอนาคต กระบวนการควร ด�ำเนินการไปได้ดี และ เป็นคนท่ีมที ักษะ ทำ� ไม? และมขี อ้ เสนอแนะ และไมค่ วรเป็นผทู้ ่ี ในอนาคตอย่างไร “หลีก เกีย่ วข้องใกลช้ ิด เลี่ยงค�ำถามท่ีตอกย�้ำ โครงการเพือ่ ความผิด” พจิ ารณาว่า “เรา ❖ อะไรที่สามารถท�ำให้ดี ควรจะท�ำอะไร” ยิง่ ขนึ้ “ทุกๆ ความส�ำเรจ็ ในอนาคต มีชอ่ งว่างของการพัฒนา เสมอ” ❖ อะไรคือปัญหา/ อุปสรรคทเ่ี กดิ ข้ึน และ พยายามหลกี เลย่ี งการ ท�ำผิดซ้ำ�

38 ถอดบทเรียนงานสง่ เสริมการเกษตร กา้ วแรก How กา้ วทีส่ อง ท�ำอยา่ งไร (สามารถยดื หยุ่นได้ตามความเหมาะสม ) ก้าวตอ่ มา กำ� หนดเวลา ซึง่ ควรเป็นหลังเสรจ็ สิ้นโครงการ บทสรปุ ทบทวนแผน และกระบวนการ วิทยากรกระบวนการด�ำเนินการใช้ ค�ำถาม ❖ เราไดท้ �ำอะไร ❖ เราบรรลุผลท่ีเราตง้ั ใจไว้หรือไม่ ❖ เราจะด�ำเนินการตอ่ ไปให้ดีข้ึนอย่างไรดว้ ยวิธใี ด ทำ� ใหเ้ ป็นที่พอใจไดอ้ ยา่ งไร (คำ� ถามคลา้ ยกบั AAR แต่ลงลกึ กวา่ ) ❖ สรา้ งบรรยากาศในการเรยี นรู้ ❖ บันทกึ ขอ้ เสนอ ท่เี จาะจงน�ำไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ไดช้ ุดของขอ้ เสนอแนะท่ีน�ำไปปฏิบัตไิ ดใ้ นอนาคต

ถอดบทเรยี นงานสง่ เสรมิ การเกษตร 39 ข้นั ตอนสำ� คญั ของการเรยี นรหู้ ลงั การดำ� เนินงาน ❖ กิจกรรมอุน่ เครอ่ื ง เป็นการเตรียมพรอ้ มความทรงจ�ำและ ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและผลการด�ำเนินงานโครงการ เพอื่ ใหผ้ รู้ ว่ มกระบวนการไดท้ บทวนทมี่ าทไ่ี ปของโครงการ กระบวนการ ดำ� เนนิ งานและผลสำ� เรจ็ ของโครงการรว่ มกนั กอ่ นซงึ่ จะเปน็ ประโยชน์ ต่อการวิเคราะห์เหตุปัจจัยต่างๆ นอกจากน้ีกิจกรรมอุ่นเครื่อง ยงั เปน็ การเตรยี มความเขา้ ใจรว่ มกนั เกย่ี วกบั กระบวนการถอดบทเรยี น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกระบวนการได้เข้าใจเก่ียวกับหลักการ เป้าหมาย และกระบวนการถอดบทเรียนท่ีจะท�ำร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งส�ำคัญต่อ บรรยากาศและคุณภาพของกระบวนการถอดบทเรียน ควรย�้ำถึง หัวใจของการถอดบทเรียนจนเปน็ คุณค่าร่วมทท่ี กุ คนยึดถือตรงกนั ❖ กระบวนการถอดบทเรียน เป็นกระบวนการระดมความ คดิ จากกลุ่มมคี ำ� ถามช่วยคดิ 4 ข้อ ดังนี้ (ประภาพรรณ อุ่นอบ, 2552)

40 ถอดบทเรียนงานสง่ เสรมิ การเกษตร คำ� ถาม ข้อคิด 1. ท่านเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เพอ่ื ให้ผเู้ ขา้ รว่ มมีสมาธิ และมงุ่ เนน้ ประเด็นการถอดบทเรยี น อยา่ งไร ? ทกี่ �ำหนดไว้ ❖ อะไรเป็นแรงจูงใจที่ท�ำให้ ❖ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ทบทวนความรู้สึกและบทบาทของ ท่านเข้าร่วมโครงการนี?้ ตนเองในโครงการ ❖ เปน็ การช่วยใหบ้ รรยากาศการพูดคยุ ผ่อนคลาย 2. โครงการนเี้ กดิ ข้นึ ได้อย่างไร เปน็ คำ� ถามทชี่ ว่ ยใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มไดเ้ รม่ิ ทบทวนทม่ี าทไ่ี ปและจดุ มงุ่ หมาย ของโครงการ ❖ สภาพความสำ� เร็จของ ❖ การสะทอ้ น “สงิ่ ทเ่ี กดิ ขึน้ จริง” ของโครงการกับ โครงการนเ้ี ปน็ อยา่ งไร? “ความคาดหวัง” ❖ และสภาพที่เกิดขนึ้ จรงิ เปน็ อย่างไร? 3. ทำ� ไมจงึ เป็นเชน่ นนั้ ? เพอ่ื ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มเกดิ การเรยี นรดู้ ว้ ยการวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บภาพ (ควรวิเคราะหเ์ งื่อนไขปัจจัย ที่คาดหวังไว้กับสิ่งท่ีเกิดขึ้นจริง เพื่อหาสาเหตุปัจจัยที่ท�ำให้ ให้ครอบคลุม ตง้ั แต่เริม่ โครงการบรรลเุ ปา้ หมาย หรอื ประสบความสำ� เรจ็ ระดบั หนง่ึ หรอื ระหว่าง และเม่อื ส้ินสุด ไมป่ ระสบความส�ำเร็จ โครงการ) 4. ท่านได้เรียนรู้อะไรจากการท�ำ เพอื่ สงั เคราะหบ์ ทเรยี นและขอ้ เสนอแนะรว่ มกนั หากตอ้ งทำ� โครงการ โครงการน้ี ? ในลกั ษณะ เชน่ น้อี กี ในอนาคต ❖ ทา่ นมขี อ้ เสนอแนะอะไรหาก ❖ คณะทำ� งานจะตอ้ งดำ� เนนิ งานอยา่ งไร ทจ่ี ะทำ� ใหส้ ง่ิ ดๆี ต้องการท�ำโครงการนี้อีกใน เหล่าน้ีเกิดข้ึนอีก และจะต้องด�ำเนินการอย่างไรเพ่ิมเติม อนาคต? เพอื่ ยกระดับสงิ่ ดๆี ใหด้ ยี ่ิงข้นึ ❖ อุปสรรคท่ีท�ำให้การท�ำโครงการไม่เป็นไปตามท่ีคาด หวังจะตอ้ งด�ำเนินการป้องกันหรอื หลีกเลย่ี งอยา่ งไร

ถอดบทเรียนงานส่งเสริมการเกษตร 41 ตวั อยา่ ง การเรยี นรู้หลังการดำ� เนินการ (Retrospect) โครงการพัฒนางานวจิ ัยในงานประจำ� (R2R) ค�ำถามส�ำคญั ในการเรียนรหู้ ลังการปฏิบตั ิการ (Retrospect) ชดุ ที่ ค�ำถาม คำ� ตอบ ค�ำถามชดุ ที่ 1 เราได้ทำ� อะไร? การดำ� เนนิ งานโครงการพฒั นางานวจิ ยั ในงานประจำ� (R2R) เพอื่ ให้ผ้เู ข้ารว่ ม โครงการนำ� กระบวนการวจิ ยั ไปพฒั นางาน ที่รบั ผดิ ชอบด้วยการจดั ประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ าร 3 คร้งั ❖ ครัง้ ท ี่ 1 เพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจ แนวคิด R2R และวางแผนการดำ� เนินงาน ❖ ครั้งท ี่ 2 เพอ่ื เตมิ เต็มการวเิ คราะห์ ข้อมลู และการเขียนรายงานวจิ ัย ❖ ครัง้ ท่ี 3 เพอื่ สรุปผลการดำ� เนินงาน และการเผยแพรผ่ ลการดำ� เนนิ งานวจิ ยั ใน งานประจ�ำ เราบรรลผุ ลท่ตี ง้ั ใจไว้ ❖ ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ R2R ประมาณ 50% หรอื ไม่? สามารถน�ำกระบวนการวิจัยไปพฒั นางานท่ี รบั ผดิ ชอบ ซ่งึ ยงั ไมบ่ รรลผุ ลโครงการที่ ต้องการใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการ 80% น�ำกระบวนการวจิ ัยไปพฒั นางาน

42 ถอดบทเรยี นงานสง่ เสรมิ การเกษตร ค�ำถามสำ� คัญในการเรยี นร้หู ลงั การปฏบิ ตั ิการ (Retrospect) ชุดท่ี ค�ำถาม ค�ำตอบ ค�ำถามชุดที่ 2 เพราะเหตุใดจึง ปัจจัยทีท่ ำ� ให้การดำ� เนนิ งานประสบความสำ� เรจ็ เกิดผลเชน่ นัน้ ขึน้ ? ❖ สามารถน�ำกระบวนการวิจัยไปใช้ในการ ปรับปรงุ การทำ� งานท่รี บั ผิดชอบและพัฒนา การปฏิบัตงิ านในพืน้ ทไ่ี ด้ ❖ การจัดเวทยี ่อยๆ เพ่อื ตดิ ตามการด�ำเนนิ งาน และเตมิ เต็มในสว่ นทข่ี าดหาย เช่น การเขยี น โครงรา่ งงานวิจัย วเิ คราะห์ข้อมูล และ การออกแบบสอบถาม เป็นตน้ ปัจจยั ทท่ี ำ� ให้การดำ� เนินงานประสบความ ล้มเหลว ❖ ผบู้ ริหารไม่ใหก้ ารสนับสนุน ❖ ทศั นคตขิ องผทู้ ำ� ทค่ี ดิ วา่ งานวจิ ยั เปน็ เรอ่ื งยาก