Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการเพาะเห็ด

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการเพาะเห็ด

Published by จักรพงษ์ แสงแก้ว, 2021-05-10 01:52:00

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการเพาะเห็ด

Search

Read the Text Version

กำรจดั ทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ รำยวิชำ กำรเพำะเห็ด ง 20207 ช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี 2 – 3 (วชิ ำเลอื ก) กลมุ่ สำระกำรงำนอำชีพ จัดทำโดย นำยจักรพงษ์ แสงแก้ว ตำแหน่ง พนักงำนรำชกำร ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 2563 โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ตำบลช่ำงเค่งิ อำเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพเิ ศษ สำนักงำนกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2-3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรียนที่ 1 เรอ่ื ง ความรู้ท่วั ไปเกยี่ วกบั เพาะเหด็ ใชเ้ วลา 14 ช่ัวโมง เรอ่ื ง ความหมายของเหด็ นางฟ้า เวลา 2 ช่วั โมง/คาบ ********************************************************************************* ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั 1.บอกความหมาย ความสาคัญของการเพาะเห็ดได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกลกั ษณะของเห็ดนางฟา้ ได้ถูกต้อง 2. อธบิ ายสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตอ่ การเพาะเหด็ ได้ 3. อธิบายลกั ษณะวงจรชวี ิตของเหด็ ได้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 4. รวบรวมขอ้ มูลเก่ียวลักษณะและธรรมชาติของเห็ดได้ ดา้ นคณุ ลักษณะ 5. นาความรู้เร่อื งลักษณะและธรรมชาติเปน็ แนวทางในการเพาะเห็ดได้ สาระสาคญั เหด็ นางฟา้ มดี อกสคี ล้ากวา่ เห็ดนางรม ลักษณะดอกจะเจริญจากอาหารหรือวสั ดเุ พาะ เปน็ ดอกเด่ยี วหรือเปน็ กระจกุ ก้านดอกจะเป็นเน้ือเดยี วกับหมวก หมวกดอกจะมีสีน้าตาลอ่อน มคี รบี อย่ดู า้ นลา่ ง สีจางกวา่ ตวั ดอก ลกั ษณะของเสน้ ใยจะมสี ขี าว เห็ดนางฟา้ มวี งจรชีวิตท่ีสลับซับซ้อน โดยมีการ เปล่ียนแปลงจากระยะเส้นไปเป็นระยะสร้างดอก มีปัจจัยต่างๆที่เก่ียวข้องกับการเจริญเติบโต เช่น อุณหภูมิ ความชืน้ และปรมิ าณธาตุอาหารในวสั ดุเพาะ สาระการเรยี นรู้ รแู้ ละเข้าใจเกยี่ วกับลักษณะทั่วไปและธรรมชาติของเห็ดนางฟา้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (อธบิ ายใหล้ ะเอยี ด ทกุ ขนั้ ตอน : ขัน้ นา ข้นั สอน ข้ันสรปุ )

ข้นั นา 1. รว่ มกนั อภปิ รายเก่ียวกบั เห็ดป่าทน่ี กั เรยี นรู้จกั ภายในชุมชนของนักเรียนและเห็ดทนี่ กั เรยี นรจู้ ัก 2. ครใู หน้ กั เรยี นฝกึ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ขน้ั สอน 1. ครใู ห้อธบิ ายลกั ษณะและธรรมชาตขิ องเหด็ นางฟา้ และใหน้ กั เรยี นศกึ ษาตามใบความรู้ที่ 1 เพ่อื ใหศ้ ึกษา ลักษณะและธรรมชาติของเหด็ นางฟา้ 2. ครกู บั นักเรียนมกี ารถาม – ตอบ เกีย่ วกบั แลกเปลี่ยนความร้เู กยี่ วกับเห็ดนางฟ้า ข้นั สรปุ 1. ครูสรปุ เนือ้ หาของลักษณะและธรรมชาติของเห็ดนางฟ้าให้กับนักเรยี น และการสอบถามความเข้าใจของ เน้อื ทเี่ รียน 2. ครเู ฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นให้กบั นักเรียน และให้นกั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ ตอ่ ไป สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียนเรื่อง ลกั ษณะและธรรมชาตขิ องเห็ดนางฟ้า 2. ใบความรู้ท่ี 1เรื่อง ลกั ษณะและธรรมชาตขิ องเห็ดนางฟ้า การวดั ผลและประเมินผล วิธีการวัด เครอื่ งมอื การวัดผล - ตรวจคาตอบของแบบ - แบบฝึกทกั ษะ จุดประสงค์การเรียนรู้ ฝกึ ทักษะ - แบบสังเกตพฤติกรรม 1. บอกลักษณะของเหด็ นางฟา้ ได้ถูกต้อง - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม 2. อธบิ ายสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพาะ - สงั เกตพฤตกิ รรม - เหด็ นางฟ้าได้ - 3. อธิบายลักษณะวงจรชวี ติ ของเหด็ นางฟา้ ได้ - แบบฝกึ หดั 4. รวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วลกั ษณะและธรรมชาติของ - ตรวจคาตอบของ เหด็ นางฟ้าได้ แบบฝึกหัด 5. นาความรเู้ ร่ืองลักษณะและธรรมชาติเปน็ แนวทางในการเพาะเหด็ นางฟา้ ได้

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รบู รกิ ส์) (4) ระดบั คณุ ภาพ (1) ประเดน็ การประเมิน ดมี าก (3) (2) ปรบั ปรุง ทาได้อยา่ งถกู ต้อง ดี กาลังพัฒนา ทาได้อยา่ งถกู ต้อง แบบฝึกทกั ษะ/แบบฝึกหดั รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป ทาได้อยา่ ง ทาได้อย่าง ต่ากวา่ ร้อยละ 40 ถูกตอ้ งร้อยละ ถูกตอ้ งร้อยละ มคี วามรอบคอบในการทางาน มีการวางแผน 70-79 40-69 ไมม่ ีการวางแผน การดาเนินการ มกี ารวางแผน มกี ารวางแผน การดาเนินการ อย่างครบทกุ การดาเนินการ การดาเนนิ การ อย่างไม่มีขั้นตอน มี ขัน้ ตอน และ อยา่ งถกู ต้อง อยา่ งไมค่ รบทุก ความผดิ พลาดตอ้ ง แต่ไมค่ รบถว้ น ข้นั ตอนและไม่ ถูกตอ้ ง แก้ไข ถกู ตอ้ ง มีความรบั ผิดชอบตอ่ งานท่ี ทางานเสร็จและ ทางานเสรจ็ และ ทางานเสรจ็ แต่ ทางานไม่เสร็จ ไดร้ บั มอบหมาย ส่งตรงเวลา ทา สง่ ตรงเวลา ทา ส่งช้า ทาไม่ สง่ ไมต่ รงเวลา ทา ถูกต้อง ละเอียด ถูกตอ้ ง ละเอียด ถูกตอ้ ง และไม่ ไมถ่ กู ต้อง และไม่มี มคี วามละเอยี ด ความละเอียดใน ในการทางาน การทางาน เกณฑ์การตัดสนิ - รายบคุ คล นักเรยี นมีผลการเรยี นรูไ้ ม่ตา่ กว่าระดับ 2 จงึ ถอื ว่าผ่าน - รายกลุ่ม ร้อยละ....75....ของจานวนนกั เรียนทง้ั หมดมีผลการเรยี นรไู้ มต่ า่ กว่าระดับ 2 ข้อเสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรับปรงุ ลงชือ่ ( นายนา่ นมงคล อินด้วง ) หวั หน้ากลุม่ สาระเกษตร วนั ที.่ .......เดือน..............พ.ศ..........

คาช้แี จง แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง ลักษณะและธรรมชาติของเห็ดนางฟ้า ใหเ้ ลอื กคาตอบทถ่ี ูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว แลว้ ทาเคร่อื งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบทีแ่ จกให้ 1. เหด็ นางฟา้ จัดอยู่ในตระกลู เดียวกับเหด็ ชนิดใด ก. เห็ดหหู นู เหด็ หอม ข. เหด็ หูหนู เห็ดเปา๋ ฮื้อ ค. เห็ดหูหนู เห็ดนางรม ง. เห็ดนางรม เหด็ เป๋าฮอื้ 2. เหด็ นางฟา้ มีถน่ิ กาเนิดในประเทศใด ก. จีน ข. อนิ เดีย ค. เนปาล ง. บังคลาเทศ 3. อุณหภมู ทิ ่ีเหมาะสมในการเจริญเติบโตของเหด็ นางฟ้าคอื ก. 10 องศาเซลเซียส ข. 15 องศาเซลเซยี ส ค. 20 องศาเซลเซยี ส ง. 25 องศาเซลเซียส 4. ส่วนประกอบใดไมป่ รากฏในเหด็ นางฟ้า ก. วงแหวน ข. กา้ นดอก ค. ครีบดอก ง. หมวกดอก

5. สปอรเ์ ห็ดนางฟา้ จะพบในบริเวณใด ก. ครีบดอก ข. วงแหวน ค. ก้านดอก ง. โคนดอก 6. ข้อใดอธบิ ายลักษณะกา้ นดอกเหด็ นางฟา้ ได้ถูกตอ้ ง ก. ก้านดอกเป็นเนื้อเดียวกบั ดอกคล้ายเห็ดฟาง ข. ก้านดอกเป็นเน้อื เดียวกบั ดอกคล้ายเห็ดหอม ค. ก้านดอกเปน็ เนอ้ื เดียวกบั ดอกคล้ายเหด็ หหู นู ง. ก้านดอกเป็นเน้อื เดียวกับดอกคล้ายเหด็ นางรม 7. ลักษณะเดน่ ของเห็ดนางฟา้ ภูฐานคอื ขอ้ ใด ก. ต้านทานราเขียวและราดาได้ดี ข. ตา้ นทานราแดงและราขาวได้ดี ค. ต้านทานโรคและแมลงทุกชนิด ง. ตา้ นทานตอ่ เชือ้ แบคทเี รยี ทุกชนดิ 8. เสน้ ใยข้ันตน้ ในวงจรชวี ติ ของเห็ดนางฟ้า มีก่นี วิ เคลียส ก. 1 นวิ เคลยี ส ข. 2 นิวเคลียส ค. 4 นิวเคลยี ส ง. 8 นวิ เคลียส 9. การเจริญเตบิ โตของเสน้ ใยเหด็ นางฟ้าในข้ันใดท่ีสามารถสรา้ งดอกเหด็ ได้ ก. เสน้ ใยขัน้ ที่ 1 ข. เสน้ ใยข้ันที่ 2 ค. เส้นใยข้นั ท่ี 3 ง. เส้นใยขั้นท่ี 4 10. เส้นใยเห็ดนางฟ้ามีลกั ษะคลา้ ยเสน้ ใยเห็ดชนดิ ใด ก. เห็ดบด ข. เหด็ เปาฮื้อ ค. เห็ดนางรม ง. เหด็ ขอนขาว

ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง เห็ดนางฟ้า เห็ดนางฟ้า จัดเป็นเห็ดที่อยู่ในสกุลเดียวกับเห็ดเป๋าฮื้อ และเห็ดนางรม\"เห็ดนางฟ้า\" เป็นชื่อที่ต้ังขึ้นใน เมืองไทย คนไทยบางคนเรียกว่าเห็ดแขก เน่ืองจากมีผู้พบเห็นเห็ดน้ีครั้งแรกท่ีประเทศอินเดีย พบข้ึนตาม ธรรมชาติบนตอไม้ แถบเมืองแจมมู (Jammu) บริเวณภูเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย ในธรรมชาติ เห็ดนางฟ้า ชอบเจริญเติบโตตามตอไม้ผุ ๆ ในบริเวณท่ีมีอากาศช้ืนและเย็น เห็ดพวกน้ีมีลักษณะคล้ายเห็ดนางรมและเห็ด เปา๋ ฮ้ือ แตด่ อกเห็ดจะมสี ีขาวนวลถึงสีน้าตาลอ่อน เห็ดนางฟา้ สามารถเจริญเตบิ โตไดใ้ นช่วงอณุ หภูมริ ะหวา่ ง 15 - 35 องศาเซลเซยี ส แตอ่ ุณหภมู ิ 25 องศาเซลเซยี ส จดั เปน็ อุณหภมู ทิ ีเ่ หมาะสมตอ่ การเจริญเติบโตมากท่ีสุด เห็ด นางฟา้ ได้ถูกนาเข้ามาทดลองเพาะในประเทศไทย เม่ือพ.ศ. 2518 โดย ดร.ศิริพงศ์ บุญหลง ได้ทาการเพาะเลี้ยง เหด็ นางฟ้าทีส่ ถาบันวทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ตแ์ ห่งประเทศไทย ปรากฏวา่ เหด็ ชนิดน้สี ามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพ ภูมิอากาศของประเทศไทย ต่อมา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้นามาทดลองเพาะเล้ียงในอาหารชนิดต่างๆ ปรากฏวา่ เห็ดนางฟา้ สามารถเจรญิ เติบโตได้ดี และในปพี .ศ.2520 กองวิจัยโรคพืช กรมวิชาการเกษตร ได้นามา ทดลองพบวา่ เหด็ ชนิดนี้เจริญเตบิ โตได้ดี วิธีการเพาะก็ง่าย และให้ผลผลิตเร็ว จึงได้มีการเพาะกันอย่างแพร่หลาย ในรูปของการค้ามากข้ึน เพราะเหด็ นางฟา้ จัดเปน็ เหด็ ทม่ี ีขนาดดอกปานกลางเนอ้ื แนน่ รสชาติดี เหมาะท่ีจะนามา แปรรปู

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง ลักษณะและธรรมชาติของเหด็ นางฟา้ จานวน 10 ขอ้ 1.ง 2.ข 3.ง 4.ก 5.ก 6.ง 7.ก 8.ก 9.ข 10.ค

การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ครูผูส้ อนใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในขัน้ เตรยี มการสอน/จดั การเรยี นรู้ ดงั นี้ หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ เหตผุ ล มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี ประเดน็ เวลา เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรม เวลาท่ีใช้ในการจดั กิจกรรมการ ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น 25 การเรยี นรูท้ ้งั หมดในแผนการ เรียนรู้ ดงั น้ี ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น ใช้ นาที นกั เรยี นจะได้ นี้ 2 ชัว่ โมง มคี วาม เวลา 25 นาที แบ่งกลมุ่ นกั เรียน 5 ทบทวนความรพู้ ืน้ ฐาน เหมาะสมคอื ขน้ั นาเขา้ สู่ นาที ชแ้ี จง้ จุดประสงค์ลาย และเปน็ การเตรียม บทเรยี น 25 นาที ละเอียดในการเรยี น 5 นาที ความรใู้ นการเรยี น ข้ันสอน 75 นาที ทบทวนความรเู้ ดมิ เพ่อื เชอ่ื มโยงกับ ข้นั สอน 75 นาที ข้ันสรุป 20 นาที เรียนทจ่ี ะเรยี น 15 นาที ขน้ั สอน นักเรียนสามารถ 75 นาที เริม่ ดว้ ยการสนทนากับ วเิ คราะห์ แก้ปญั หาอ่ืน นักเรยี นเกยี่ วกบั เรื่องท่จี ะเรยี นและ ๆ ได้ ขัน้ สรปุ 20 นาที เรื่องท่ตี อ้ งนามาเชอ่ื มโยงในการหา นกั เรียนจะได้รับความรู้ คาตอบ 15 นาที อธิบายตวั อย่างให้ ทีค่ งทนและถูกหลกั ของ นกั เรยี นอย่างละเอียดชัดเจน 30 การเพาะเห็ด นาที แลว้ ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหัด โดยมีครคู วบคุมดูแลให้คาปรึกษา 30 นาที ขัน้ สรปุ 20 นาทีใหน้ กั เรยี นร่วมกัน สรปุ โดยมคี รเู สริมความรูท้ ่ขี าดหา และให้ชดั เจนมาขน้ึ เนอื้ หา 1.มคี วามเหมาะสมกบั เพราะหลักสูตรแกนกลางการศึกษา การเรียนเรือ่ งการเพาะ นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษา ข้ันพืน้ ฐานกาหนดไว้ในสาระ เห็ด ให้ถกู ตอ้ งตามหลกั ปที ี่ 1-3 ทาให้นักเรยี นสามารถ 2.มคี วามเหมาะสมกบั ความรู้ นาไปใช้ในการดาเนิน พ้ืนฐานของนักเรียน ชีวิตประจาวนั

3.มีความเหมาะสมกบั เวลา หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ เหตุผล มภี มู ิคมุ้ กันในตัวท่ีดี ประเด็น สือ่ /อุปกรณ์ มีความเหมาะสมกับชว่ งวยั การให้นักเรยี นได้เรียนรูจ้ าก - นักเรียนสามารถ - แบบฝกึ ทกั ษะ ความตอ้ งการความสามารถ ตวั อยา่ งทาใหน้ กั เรยี นได้เหน็ ภาพ ทางานได้เป็นข้ันตอน - แบบฝกึ หัด และเรื่องที่เรียนของนักเรยี น ชัดเจน เข้าใจมากขึ้น ได้ทาด้วย การเรียนและปัญหาอ่ืน ในระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ตนเอง ได้ 1-3 ความรูท้ ่คี รู ครูมีความร้เู กี่ยวกบั หลักสูตร เน้อื หาสาระและกจิ กรรมการเรียนการสอน จาเปน็ ตอ้ งมี ครมู คี วามรูใ้ นการวิเคราะห์นักเรียน และรศู้ ักยภาพของนกั เรียน ครมู คี วามรู้ในเรื่องการการเพาะเหด็ ครูมคี วามรใู้ นเรอื่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ คุณธรรมของครู มีความขยัน รบั ผิดชอบในการสอน มีความเสียสละ ไมป่ ดิ บงั ความรู้ มีความเมตตาและปรารถนาดีต่อศิษย์ มีความตง้ั ใจในการผลิตส่ือการเรยี นรใู้ ห้นา่ สนใจ มีความเพียงพยายามทจ่ี ะมุ่งม่นั ใหน้ กั เรียนมคี วามรู้ มคี วามอดทนในสอน แนะนา ตรวจแกไ้ ขผลงานของนกั เรียน

- นกั เรียนจะไดเ้ รียนรูท้ จี่ ะอยอู่ ย่างพอเพยี งจากกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังตอ่ ไปนี้ ผ้เู รียนไดเ้ รยี นรหู้ ลักคิด และฝกึ ปฏิบัตติ าม 3 หว่ ง 2 เงือ่ นไข ดงั น้ี ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมคิ ุ้มกันในตวั ท่ดี ี 1.นกั เรียนรู้จักบริหารเวลาในการศึกษา 1.นักเรียนมีเหตุผลใน 1.นกั เรียนนาความรเู้ ร่ืองการเพาะเห็ดไป ค ว า ม รู้ ท า กิ จ ก ร ร ม จ า ก ใ บ ง า น การทางานเปน็ ข้นั ตอน ใช้ในการประกอบอาชีพได้ แบบฝึกหดั การทากจิ กรรมกลุม่ 2. นักเรียนวิเคราะห์ 2. นักเรียนนาความรู้ทไี่ ดร้ ับจากการ 2.นักเรียนทากิจกรรมได้เต็มศักยภาพ และ ลงมือปฏิบัติไ ด้ เรียนนาไปเผยแพรก่ บั ผ้ทู ่ีสนใจ หรือใน ของตนเอง อย่างสมเหตสุ มผล ชุมชน 3.นักเรียนใช้วัสดุ อุปกรณ์ ในการทา กจิ กรรมอย่างประหยัด ความรทู้ ีต่ อ้ งมีกอ่ นเรียน 1.ตอ้ งมสี มาธิ มคี วามตั้งใจ ในการเรยี น คุณธรรม 2.ตอ้ งมีความรอบคอบในการทางาน 3.ต้องมีมารยาทในการทางาน ไม่สง่ เสยี งดงั ไมเ่ ล่นหรือไมล่ ุกจากที่ นั่งโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต 4. ต้องมคี วามรบั ผิดชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ส่งตรงตอ่ เวลา 1.นักเรยี นมคี วามซื่อสตั ย์ สุจริตและตรงต่อเวลา 2. นกั เรียนมวี นิ ัยในตนเอง - ผลลพั ธท์ ่คี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ กับนักเรยี น (อยอู่ ย่างพอเพียง – สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงดา้ น ต่างๆ) ดา้ นความรู้ (K) ด้านทักษะ กระบวนการ (P) ด้านคุณลกั ษณะ (A) 1.สามารถแยกข้อมูลของการเพาะ 1.มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา 1. มคี วามรอบคอบในการทางาน เห็ด 2. มีความสามารถในการทางาน 2. มคี วามรับผิดชอบต่องานที่ กบั ชีวติ ประจาวนั ไดร้ ับมอบหมาย

บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ช้นั ม. 2 ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นรู้  ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุ ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการทากจิ กรรม  ดี  พอใช้  ปรับปรุง ความเหมาะสมของส่อื การเรียนรู้  ดี  พอใช้  ปรบั ปรุง ความเหมาะสมของเกณฑก์ ารประเมิน  ดี  พอใช้  ปรบั ปรุง อน่ื ๆ ............................................................................................................................................................ สรุปผลการประเมินผเู้ รียน นกั เรยี นจานวน…….คน คิดเป็นร้อยละ………..มผี ลการเรียนรฯู้ อยใู่ นระดบั 1 นกั เรยี นจานวน…….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..มีผลการเรยี นรู้ฯ อยใู่ นระดับ 2 นักเรียนจานวน…….คน คิดเป็นร้อยละ………..มผี ลการเรยี นรฯู้ อยู่ในระดับ 3 นกั เรยี นจานวน…….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………..มผี ลการเรยี นรฯู้ อยู่ในระดบั 4 สรุปโดยภาพรวมมนี กั เรียนจานวน………คน คดิ เปน็ ร้อยละ………ที่ผ่านเกณฑร์ ะดบั 2 ขึ้นไป ซ่งึ สูง (ตา่ ) กวา่ เกณฑ์ท่กี าหนดไวร้ ้อยละ………มีนกั เรยี นจานวน………คน คิดเปน็ ร้อยละ…… ที่ไมผ่ ่านเกณฑท์ กี่ าหนด ชน้ั ม. 3 ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้  ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุ ความเหมาะสมของเวลาที่ใชใ้ นการทากจิ กรรม  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ ความเหมาะสมของสื่อการเรยี นรู้  ดี  พอใช้  ปรับปรุง ความเหมาะสมของเกณฑ์การประเมนิ  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ

อ่ืน ๆ ............................................................................................................................................................ สรปุ ผลการประเมินผู้เรยี น นักเรยี นจานวน…….คน คิดเป็นร้อยละ………..มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยู่ในระดับ 1 นกั เรียนจานวน…….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………..มผี ลการเรียนรู้ฯ อยู่ในระดบั 2 นกั เรยี นจานวน…….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………..มีผลการเรียนรฯู้ อยู่ในระดับ 3 นกั เรียนจานวน…….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..มผี ลการเรียนรู้ฯ อยูใ่ นระดับ 4 สรุปโดยภาพรวมมีนกั เรยี นจานวน………คน คดิ เป็นร้อยละ………ท่ีผ่านเกณฑ์ระดับ 2 ข้ึนไป ซง่ึ สงู (ต่า) กวา่ เกณฑท์ ่ีกาหนดไวร้ อ้ ยละ………มีนักเรียนจานวน………คน คิดเปน็ ร้อยละ…… ท่ไี มผ่ ่านเกณฑท์ กี่ าหนด ขอ้ สังเกต/ค้นพบ จาการตรวจผลงานของนักเรียนพบวา่ ชั้นม.2 นกั เรยี น ............... คน สามารถพจิ ารณาปัญหาเกีย่ วกับการจดั ส่ิงของตา่ ง ๆ - นักเรยี นผ่านเกณฑร์ ะดับ 2 ข้ึนไป จานวน ......................... คน - นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ระดบั 2 จานวน ......................... คน ชั้นม.3 นกั เรยี น ............... คน สามารถพจิ ารณาปัญหาเก่ียวกบั การจดั สง่ิ ของต่าง ๆ - นักเรยี นผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2 ขึ้นไป จานวน ......................... คน - นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2 จานวน ......................... คน 1. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแตล่ ะด้าน ดังน้ี ช้ัน ม.2 ทักษะการแกไ้ ขปัญหา - นักเรยี นผา่ นเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 )จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนตอ้ งปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ทักษะการเช่อื มโยงทางการงานอาชีพ - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดบั 4 )จานวน ......................... คน - นักเรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน

- นกั เรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน ......................... คน ชั้น ม.3 ทักษะการแก้ไขปัญหา - นกั เรยี นผา่ นเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน - นักเรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน ......................... คน ทักษะการเช่อื มโยงทางการงานอาชพี - นักเรียนผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดบั 4 )จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นตอ้ งปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ทกั ษะการเชือ่ มโยงทางการงานอาชพี - นกั เรยี นผา่ นเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 )จานวน ......................... คน - นักเรียนผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นักเรียนผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรยี นต้องปรบั ปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน 2. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินในแตล่ ะดา้ น ดังน้ี ชน้ั ม.2 ความรอบคอบในการทางาน - นักเรียนผา่ นเกณฑ์ดมี าก ( ระดบั 4 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนตอ้ งปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ความรบั ผิดชอบในการทางาน - นักเรียนผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นักเรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน

- นักเรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ช้นั ม.3 ความรอบคอบในการทางาน - นักเรยี นผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน ......................... คน - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนตอ้ งปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ความรบั ผิดชอบในการทางาน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน - นักเรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรยี นตอ้ งปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน แนวทางการแกไ้ ขปัญหาเพื่อปรบั ปรุง ชน้ั ม.2 1. นกั เรียนทไ่ี ดค้ ะแนนอยูใ่ นระดบั ท่ี 2 , 3 และ 4 ได้จากกจิ กรรมสอนเสรมิ โดย ใหท้ าแบบฝึกหดั เพม่ิ เตมิ เปน็ การบา้ น ............................................................................................................................... 2. นักเรียนทไี่ ดค้ ะแนนอยู่ในระดับที่ 1 ไดจ้ ากกจิ กรรมสอนซอ่ ม โดย ให้ทาแบบฝกึ หัดเพม่ิ เติม เป็นการบ้าน .............................................................................................................................. 3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้ นกั เรยี นทราบเป็นรายบคุ คลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ใน ด้านทักษะการเชือ่ มโยงทางคณติ ศาสตร์ และการคิดวิเคราะห์ 4. ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ 1 ( ตอ้ งปรับปรงุ ) ครไู ด้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้นกั เรยี นทราบเปน็ รายบุคคลว่า นกั เรียนจะต้องแกไ้ ขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑท์ ้ายแผนการจดั การเรียนรู้ ใน ด้านการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบ

ชัน้ ม.3 1. นักเรียนทไ่ี ด้คะแนนอยู่ในระดบั ท่ี 2 , 3 และ 4 ไดจ้ ากกจิ กรรมสอนเสรมิ โดย ให้ทาแบบฝึกหดั เพ่ิมเตมิ เปน็ การบ้าน ............................................................................................................................... 2. นักเรยี นทไ่ี ด้คะแนนอยู่ในระดบั ท่ี 1 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนซ่อม โดย ใหท้ าแบบฝกึ หัดเพม่ิ เติม เปน็ การบา้ น .............................................................................................................................. 3. ด้านทกั ษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ให้นักเรียน ทราบเปน็ รายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ใน ด้านทักษะการ เชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ และการคดิ วเิ คราะห์ 4. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ให้ นกั เรียนทราบเปน็ รายบุคคลว่า นักเรียนจะตอ้ งแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ในด้านการ ทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบ ผลการพฒั นา พบว่านกั เรยี นทีไ่ ดร้ ะดบั 1 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับ การจัดสิง่ ของตา่ ง ๆนาความรู้เกี่ยวกับกฎเบื้องต้นเก่ียวกับการนับไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ได้ และได้ผล การเรียนรู้อยู่ในระดับ 2 ส่วนอีก........................... คน ยังต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไปซึ่งผู้สอนได้แนะนาให้ ............................................................................................ และปรบั ปรุงงานอีกครงั้ พบว่านกั เรียนที่ไดร้ ะดับ 2 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเก่ียวกับ การจดั สิ่งของต่าง ๆนาความรูเ้ ก่ยี วกบั กฎเบอ้ื งต้นเกีย่ วกบั การนบั ไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ได้ ซึ่งผู้สอนได้ แนะนาให้ พบวา่ นักเรยี นทไี่ ดร้ ะดับ 3 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับ การจัดสิ่งของต่าง ๆนาความรู้เก่ียวกับกฎเบื้องต้นเก่ียวกับการนับใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ ซึ่งผู้สอนได้ แนะนาให้ พบว่านักเรียนทไี่ ดร้ ะดับ 4 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเก่ียวกับ การจัดส่ิงของต่าง ๆนาความรู้เกี่ยวกับกฎเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการนับใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ ได้ ซ่ึงผู้สอนได้ แนะนาให้ ลงชอื่ (นายจักรพงษ์ แสงแกว้ )

ผ้สู อน

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2-3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 หน่วยการเรียนท่ี 1 เรอ่ื ง ความรู้ท่วั ไปเกย่ี วกบั เพาะเหด็ ใชเ้ วลา 14 ชั่วโมง เร่อื ง ลกั ษณะของเห็ดนางฟา้ เวลา 12 ช่วั โมง/คาบ ********************************************************************************* ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั 1.บอกขอ้ มลู ท่วั ไป ลกั ษณะของเหด็ นางฟ้า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะของเหด็ นางฟ้าไดถ้ กู ต้อง 2. อธบิ ายสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพาะเหด็ ได้ 3. อธิบายลักษณะวงจรชีวติ ของเหด็ ได้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 4. รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวลกั ษณะและธรรมชาติของเห็ดได้ ด้านคุณลกั ษณะ 5. นาความรู้เรอ่ื งลกั ษณะและธรรมชาตเิ ป็นแนวทางในการเพาะเห็ดได้ สาระสาคญั เหด็ นางฟา้ มีดอกสีคลา้ กว่าเหด็ นางรม ลักษณะดอกจะเจริญจากอาหารหรือวัสดเุ พาะ เปน็ ดอกเดยี่ วหรอื เปน็ กระจกุ กา้ นดอกจะเป็นเน้อื เดียวกับหมวก หมวกดอกจะมีสนี ้าตาลออ่ น มคี รีบอยู่ด้านลา่ ง สจี างกวา่ ตัวดอก ลักษณะของเส้นใยจะมสี ีขาว เห็ดนางฟา้ มีวงจรชวี ิตที่สลับซับซ้อน โดยมีการ เปลี่ยนแปลงจากระยะเส้นไปเป็นระยะสร้างดอก มีปัจจัยต่างๆที่เก่ียวข้องกับการเจริญเติบโต เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และปรมิ าณธาตุอาหารในวสั ดุเพาะ

สาระการเรียนรู้ ร้แู ละเข้าใจเกีย่ วกับลกั ษณะทัว่ ไปและธรรมชาติของเห็ดนางฟา้ กจิ กรรมการเรียนรู้ (อธบิ ายใหล้ ะเอยี ด ทกุ ข้ันตอน : ข้ันนา ขั้นสอน ขน้ั สรุป) ข้นั นา 1. ครใู ห้นักเรียนเลา่ เรื่องราวของเหด็ ที่เรยี นมาครั้งกอ่ น แลว้ สอบถามลกั ษณะของเหด็ วา่ เปน็ อย่างไร 2. ครใู หน้ ักเรียนลองอธบิ ายลกั ษณะของเหด็ นางฟา้ ตามที่นักเรยี นเคยเห็น หรือทกี่ นิ มาเล่าใหเ้ พ่อื นๆใน ห้องเรยี นฟงั ขน้ั สอน 1. ครูใหอ้ ธบิ ายสายพนั ธขุ์ องเหด็ นางฟ้าในประเทศไทให้กับนักเรยี น 2. ครกู ับนักเรียนมีการถาม – ตอบ เกี่ยวกบั แลกเปล่ียนความรเู้ กีย่ วกบั เหด็ นางฟ้า 3. ครแู บ่งกลุ่มให้กับนักเรยี น กล่มุ ละ 4-5 คน พรอ้ มท้ังแจกใบความรู้ เห็ดนางฟา้ ภูฐาน และให้นกั เรยี นไป ศกึ ษาและทาใบงาน ขั้นสรุป 1. ครสู รุปเรือ่ ง เห็ดนางฟ้าภฐู านให้กับนกั เรยี น สอบถามความเข้าใจของเนือ้ ท่ีเรียน และให้ตัวแทนกลุ่ม ออกมาสรุปเรอ่ื งทเ่ี รียนของวันนใี้ นห้องเรยี น ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ เห็ดนางฟา้ ภูฐาน 2. ใบความรู้ท่ี 2 เรือ่ ง สรปุ ลักษณะและธรรมชาติของเหด็ นางฟา้ การวัดผลและประเมนิ ผล วิธีการวัด เคร่อื งมอื การวดั ผล - ตรวจคาตอบของแบบ - แบบฝกึ ทกั ษะ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ฝึกทักษะ - แบบสงั เกตพฤติกรรม 1. บอกลักษณะของเห็ดนางฟา้ ไดถ้ ูกตอ้ ง - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม 2. อธบิ ายสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมตอ่ การเพาะ - สังเกตพฤตกิ รรม - เหด็ นางฟ้าได้ - 3. อธิบายลักษณะวงจรชวี ติ ของเห็ดนางฟา้ ได้ 4. รวบรวมข้อมูลเกีย่ วลกั ษณะและธรรมชาติของ เห็ดนางฟ้าได้

5. นาความรู้เรอ่ื งลักษณะและธรรมชาตเิ ป็น - ตรวจคาตอบของ - แบบฝกึ หดั แนวทางในการเพาะเห็ดนางฟา้ ได้ แบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รบู ริกส์) (4) ระดับคุณภาพ (1) ประเด็นการประเมิน ดมี าก (3) (2) ปรบั ปรงุ ทาได้อย่างถกู ต้อง ดี กาลังพฒั นา ทาไดอ้ ย่างถูกต้อง แบบฝกึ ทกั ษะ/แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ทาไดอ้ ยา่ ง ทาได้อย่าง ต่ากว่าร้อยละ 40 ถูกตอ้ งรอ้ ยละ ถูกต้องร้อยละ มคี วามรอบคอบในการทางาน มีการวางแผน 70-79 40-69 ไมม่ กี ารวางแผน การดาเนินการ มกี ารวางแผน มีการวางแผน การดาเนนิ การ อยา่ งครบทุก การดาเนินการ การดาเนนิ การ อยา่ งไมม่ ีขน้ั ตอน มี ขน้ั ตอน และ อยา่ งถูกตอ้ ง อย่างไม่ครบทุก ความผดิ พลาดตอ้ ง แต่ไม่ครบถว้ น ขน้ั ตอนและไม่ ถูกต้อง แกไ้ ข ถูกตอ้ ง มคี วามรบั ผดิ ชอบต่องานที่ ทางานเสร็จและ ทางานเสรจ็ และ ทางานเสร็จแต่ ทางานไมเ่ สร็จ ได้รับมอบหมาย ส่งตรงเวลา ทา สง่ ตรงเวลา ทา สง่ ชา้ ทาไม่ สง่ ไมต่ รงเวลา ทา ถกู ตอ้ ง ละเอยี ด ถูกต้อง ละเอียด ถกู ตอ้ ง และไม่ ไม่ถูกต้อง และไม่มี มีความละเอยี ด ความละเอียดใน ในการทางาน การทางาน เกณฑก์ ารตดั สนิ - รายบคุ คล นกั เรียนมีผลการเรยี นรไู้ มต่ ่ากว่าระดับ 2 จึงถือวา่ ผ่าน - รายกลมุ่ ร้อยละ....75....ของจานวนนักเรยี นทง้ั หมดมีผลการเรียนรู้ไมต่ ่ากวา่ ระดับ 2

ขอ้ เสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรับปรุง ลงช่อื ( นายน่านมงคล อินดว้ ง ) หัวหนา้ กลุ่มสาระเกษตร วนั ที.่ .......เดือน..............พ.ศ...........

เห็ดนางฟ้าภูฐาน ในปัจจุบัน ได้มกี ารผสมพันธแ์ุ ละปรับปรงุ พันธ์ุเห็ดเพอื่ ให้ไดผ้ ลผลิตสูงอยตู่ ลอดเวลา รวมทง้ั การนาพนั ธ์ุ จากต่างประเทศเขา้ มาทดลองเพาะในประเทศไทย พบวา่ เห็ดนางฟ้าภูฐานที่นามาจากประเทศภูฐานจัดเปน็ พนั ธุ์ท่ี ดพี ันธุห์ น่ึง เหด็ พันธุ์น้ีมีขอ้ ดหี ลายประการดังนี้ (บรรณ บรู ณะชนบท. ม.ป.ป. : 12) 1. เสน้ ใยของเห็ดนางฟา้ ภฐู านเจรญิ เตบิ โตไดด้ ีในอาหารวุ้น พี.ด.ี เอ (P.D.A) ท่ใี ช้ในการเลยี้ งเชอ้ื เหด็ ชนิดอืน่ ๆ โดยเฉพาะอาหารวุ้นทีผ่ สมถั่วเหลอื งหรอื ถวั่ เขยี วแล้วเสน้ ใยจะเจรญิ เตบิ โตได้ดีมาก 2. เสน้ ใยเหด็ นางฟา้ ภูฐานเจรญิ เติบโตอย่างรวดเร็วในเมล็ดธญั พืชทที่ าหวั เชื้อ ในระยะแรกเส้นใยจะเดนิ บาง ๆ และจะหนาขึน้ เมื่อเสน้ ใยเดนิ เตม็ ขวดเมล็ดธัญพชื 3. เห็ดนางฟา้ ภฐู าน จดั เปน็ พันธ์ทุ ีอ่ อกดอกเร็ว หลังจากเขยี่ หวั เช้อื ลงปุ๋ยหมกั จะใชเ้ วลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ก็เจรญิ เตม็ ถุงกอ้ นเช้ือและสามารถเปิดถงุ ให้ออกดอกได้ นอกจากน้ีชว่ งหา่ งในการเก็บผลผลิตจะสน้ั กลา่ วคอื หลงั จากเกบ็ ผลผลิตแล้ว เหด็ จะพกั ตัว 5 - 7 วันเท่าน้นั กจ็ ะออกดอกและเกบ็ ผลผลิตรุ่นต่อไปได้ 4. เหด็ นางฟา้ ภูฐานมีประสิทธิภาพในการเปลย่ี นอาหารท่ีอยู่ในวสั ดุมาใช้ในการเจรญิ เติบโตไดส้ ูงมาก นอกจากน้ียงั มีความต้านทานต่อราเขียว และราดาไดด้ ี จงึ ทาให้ก้อนเชอื้ มีโอกาสเสยี น้อยลง 5. เหด็ นางฟา้ ภูฐาน เปน็ เห็ดท่มี ีรสชาตอิ รอ่ ยเหมอื นเห็ดนางรม มกี ล่ินหอมรสหวานและ มคี วามกรอบ เห็ดนางฟ้าภูฐานสามารถเก็บเอาไว้ไดน้ านกวา่ เห็ดนางรม โดยเฉพาะถา้ เกบ็ ไว้ในตูเ้ ย็นจะเก็บเอาไว้ ได้นาน 3 - 4 วนั 6. เหด็ นางฟา้ ภูฐานให้ผลผลิตตอบแทนสงู กวา่ เหด็ ทอ่ี ยู่ในสกุลเดียวกบั เหด็ นางรมพันธ์ุ อน่ื ๆ และโอกาสท่กี ้อนเชื้อเหด็ จะเสยี มีน้อย นอกจากนี้ ยงั สามารถเพาะในวสั ดุชนดิ ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างดี และสามารถเพาะได้ทุกฤดูกาล

ลกั ษณะของเห็ดนางฟ้า เหด็ นางฟา้ จัดเปน็ เห็ดที่อยใู่ นสกุลเดียวกบั เห็ดนางรมและเห็ดเปา๋ ฮื้อ แต่เห็ดนางฟ้าจะมี หมวกดอกหนาและเนอื้ แนน่ กวา่ เห็ดนางรม ลักษณะของดอกทวั่ ๆ ไปประกอบดว้ ยส่วนต่างๆดงั น้ี (สทุ ธิชัย ปทมุ ลอ่ ง. 2545 : 84) 1. หมวกดอก (Cap) หมวกดอกจะมีเนือ้ แนน่ และมีสีคล้าคล้าย เหด็ เปา๋ ฮื้อ แตส่ ีของหมวกดอกจะจางกวา่ หมวกดอก จะมเี สน้ ผ่าศนู ยก์ ลางประมาณ 3 - 6 นิว้ ดอกอาจจะออก มาเปน็ ดอก เดี่ยวๆ หรอื เปน็ กระจกุ กไ็ ด้ ภาพท่ี 1 ลักษณะของหมวกดอกเหด็ นางฟา้ 2. กา้ นดอก (Stalk) ภาพที่ 2 ลกั ษณะของกา้ นดอกเห็ดนางฟ้า ก้านดอกของเหด็ นางฟ้าจะเปน็ เน้ือเดยี ว กบั หมวกดอก คล้ายเห็ดนางรม แต่มีเน้ือแน่นสขี าว และไมม่ วี งแหวนรอบก้านดอก ถ้าเห็ดนางฟา้ เจรญิ เตบิ โตใน สภาพธรรมชาตติ ามขอนไม้ ดอกเหด็ จะมีลกั ษณะ เรยี งรายลดหลัน่ กันเปน็ ชั้น ๆ ก้านดอก จะสัน้ มาก 3. ครบี ดอก (Gills) ครีบดอกของเห็ดนางฟา้ จะมสี ีขาว ยาวตลอดและบริเวณครบี ดอกจะเปน็ แหล่ง สรา้ งสปอร์ของเหด็ นางฟา้

4. เส้นใยของเห็ดนางฟ้า (Mycelim) เส้นใยจะมลี ักษณะค่อนข้างละเอียด และมสี ี ขาวมากกวา่ เหด็ นางรมเลก็ น้อย การเจรญิ เติบโตของ เสน้ ใยจะมีลกั ษณะคลา้ ยเหด็ นางรม ภาพท่ี 4 เสน้ ใยเหด็ นางฟา้ 3. ปรมิ าณธาตุอาหารในวสั ดุเพาะ นับวา่ มีความสาคญั ต่อการเพิ่มผลผลิตเห็ดนางฟ้ามาก จากการทดลองเพ่ิมป๋ยุ แอมโมเนียมไนเตรท สามารถเพม่ิ ไนโตรเจนในดอกเห็ดได้ 5.32 เปอร์เซน็ ต์ และถา้ ใช้ถวั่ เหลืองจะเพิ่มธาตุไนโตรเจน 5.46 เปอรเ์ ซน็ ต์ วงจรชวี ิตของเห็ดนางฟา้ เหด็ มีวงจรชีวติ ท่สี ลบั ซบั ซ้อน โดยมกี ารเปลย่ี นแปลงจากระยะเสน้ ใยเป็นระยะ การสร้างดอก และจากดอกสามารถเจริญเตบิ โตเปน็ เสน้ ใยได้ โดยเจรญิ มาจากสปอรห์ รอื จากเนอ้ื เยื่อภายในของ ดอกเหด็ โดยตรง ดงั นั้น การเพาะเห็ดนางฟา้ จะตอ้ งผ่านการเล้ยี งเชอื้ ก่อน แล้วจึงนามาเพาะใหเ้ กิดดอกเหด็ วงจรชีวิตเหด็ นางฟา้ (บุญสง่ เกรยี งไกร. 2543 : 11-12) 1. ดอกเหด็ นางฟ้าเม่ือโตเต็มทีจ่ ะสร้างสปอร์บรเิ วณครบี โดยการปลอ่ ยสปอรเ์ มื่อแก่ ออกเป็นระยะ ๆ 2. เม่ือดอกเหด็ ปลอ่ ยสปอร์ออกมาแล้ว สปอรก์ ็ปลวิ ไปตามกระแสลม 3. เมอื่ สปอร์ปลิวไปตกในสภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสม ก็จะงอกออกมาเป็นเสน้ ใยข้นั ตน้ มี 1 นวิ เคลียส 4. เส้นใยขัน้ ท่ี 1 เมื่อเจรญิ เตม็ ที่แลว้ กจ็ ะมารวมตัวกัน ซึ่งอาจมาจากต่างสปอรก์ ัน

การรวมตัวของเสน้ ใยขน้ั ที่ 1 จะเปน็ การเชอ่ื มกนั แล้วถา่ ยทอดนิวเคลียสมาอย่ใู นเซลเดียวกนั กลายเป็น เสน้ ใยข้นั ที่ 2 5. หลังจากเสน้ ใยข้ันที่ 1 รวมตวั กันเป็นเสน้ ใยข้ันท่ี 2 แล้วก็จะเจรญิ เติบโตและสรา้ งเส้นใยเห็ดแทนเส้น ใยขนั้ ที่ 1 อย่างรวดเร็วบนอาหาร 6. เมือ่ เส้นใยขน้ั ท่ี 2 เจรญิ บนอาหารและโตเต็มทแี่ ลว้ จะสะสมอาหารแลว้ รวมตัวกันอกี ครัง้ เพ่อื สร้าง ดอกเหด็ ตอ่ ไป

ภาพที่ 5 วงจรชีวติ ของเหด็ นางฟา้ ใบงานที่ 1 เรือ่ ง สรปุ ลักษณะและธรรมชาติของเหด็ นางฟา้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนสามารถสรปุ องค์ความรู้เร่ือง ธรรมชาติของเห็ดนางฟ้า คาช้แี จง 1. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาใบความรู้ เรื่อง ลกั ษณะและธรรมชาติของเห็ดนางฟ้า แลว้ สรปุ เปน็ แผนผังความคดิ (Mind Mapping ) ลงในแบบสรปุ 2. เลขานุการกลุ่มนาผลงานปิดป้ายนเิ ทศหน้าหอ้ งเรยี น ขอ้ เสนอแนะ มปี ัญหาหรือข้อสงสยั ใด ๆ ควรปรึกษาครู สรปุ องคค์ วามรูใ้ นหนา้ ตอ่ ไปคะ่

ใบงานท่ี 1 (ตอ่ ) กลุ่มท่.ี .................................................................. ประธานกล่มุ ...................................................................................................... เลขานกุ ารกลุ่ม................................................................................................... สมาชิกกลมุ่ 1......................................................2.................................................................. 3......................................................4.................................................................. 5......................................................6................................................................. 7......................................................8.................................................................. 9........................................................ ธรรมชาติ ของ เหด็ นางฟา้

ใบงานที่ 2 เรือ่ ง ลกั ษณะของเหด็ นางฟ้า จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ อธิบายลกั ษณะของเห็ดนางฟา้ ได้ กลมุ่ ท.ี่ .................................................................. ประธานกลุม่ ...................................................................................................... เลขานกุ ารกลุ่ม................................................................................................... สมาชกิ กลมุ่ 1...........................................................2............................................................ 3..........................................................4............................................................ 5..........................................................6............................................................ 7...........................................................8............................................................ 9........................................................... คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนเก็บเหด็ นางฟ้าจากโรงเพาะเห็ดของนายเทียน พรหมรกั ษ์ แลว้ ศึกษาเกย่ี วกบั หมวกดอก ครีบดอก กา้ นดอก และเส้นใยของเหด็ นางฟา้ และสภาพแวดล้อมในโรงเพาะเห็ด อยา่ งละเอยี ด บนั ทึกแล้ว รายงานครู ขอ้ เสนอแนะ ควรบันทกึ วัน เดือน ปี ท่ีสรปุ ผลการปฏิบัตงิ านทุกครั้ง สรุปผลการปฏิบตั ิงาน 1. วัสดอุ ุปกรณ์ทใี่ ช้ ...................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................

2. ขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน .............................................................................................................................................................. ...................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................... 3. ผลการปฏบิ ัติงาน 3.1 ลกั ษณะของหมวกดอก .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3.2 ลกั ษณะของครบี ดอก .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3.3 ลักษณะของก้านดอก .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3.4 ลักษณะของเส้นใย .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4. สภาพแวดลอ้ มโดยท่ัวไปของโรงเพาะเหด็ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 5. ประโยชนท์ ่ีได้รบั จากการปฏิบัติ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................

แนวการตอบ แนวการตอบใบงานที่ 1 ลกั ษณะของเห็ดนางฟา้ สภาพแวดลอ้ ม ทเี่ หมาะสม 1. หมวก ลักษณะและ 1. อุณหภมู ิ 2. กา้ น ธรรมชาติของ 2. ความช้นื 3. ครีบ เหด็ นางฟ้า 4. เส้นใย วงจรชวี ิต 3. ปริมาณธาตุอาหาร สปอร์ เส้น ดอก ใย

การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ครูผู้สอนใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในขั้นเตรียมการสอน/จดั การเรยี นรู้ ดังน้ี หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ เหตผุ ล มภี ูมคิ ุม้ กนั ในตวั ที่ดี ประเด็น เวลา เวลาที่ใชใ้ นการจดั กิจกรรม เวลาท่ีใช้ในการจัดกิจกรรมการ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 25 การเรียนรูท้ ง้ั หมดในแผนการ เรยี นรู้ ดงั นี้ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน ใช้ นาที นักเรียนจะได้ นี้ 2 ช่วั โมง มคี วาม เวลา 25 นาที แบ่งกลุม่ นกั เรียน 5 ทบทวนความรูพ้ ื้นฐาน เหมาะสมคอื ขั้นนาเข้าสู่ นาที ชแ้ี จง้ จดุ ประสงคล์ าย และเป็นการเตรยี ม บทเรยี น 25 นาที ละเอียดในการเรียน 5 นาที ความรใู้ นการเรยี น ขนั้ สอน 75 นาที ทบทวนความรเู้ ดิมเพ่ือเชือ่ มโยงกบั ขัน้ สอน 75 นาที ขั้นสรปุ 20 นาที เรยี นทจ่ี ะเรียน 15 นาที ข้นั สอน นักเรยี นสามารถ 75 นาที เริม่ ด้วยการสนทนากับ วิเคราะห์ แกป้ ญั หาอ่ืน นักเรียนเกย่ี วกบั เรื่องท่ีจะเรยี นและ ๆ ได้ ข้ันสรุป 20 นาที เรอ่ื งทีต่ อ้ งนามาเชือ่ มโยงในการหา นักเรยี นจะไดร้ บั ความรู้ คาตอบ 15 นาที อธบิ ายตัวอยา่ งให้ ที่คงทนและถกู หลักของ นักเรียนอยา่ งละเอียดชดั เจน 30 การเพาะเหด็ นาที แล้วใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัด โดยมคี รูควบคมุ ดูแลใหค้ าปรกึ ษา 30 นาที ขน้ั สรุป 20 นาทีใหน้ กั เรยี นร่วมกนั สรปุ โดยมคี รเู สรมิ ความรทู้ ี่ขาดหา และใหช้ ดั เจนมาข้ึน เน้อื หา 1.มีความเหมาะสมกบั เพราะหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา การเรยี นเร่อื งการเพาะ นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษา ขัน้ พืน้ ฐานกาหนดไว้ในสาระ เห็ด ให้ถกู ตอ้ งตามหลัก ปที ่ี 1-3 ทาใหน้ ักเรยี นสามารถ 2.มีความเหมาะสมกบั ความรู้ นาไปใชใ้ นการดาเนิน

พ้ืนฐานของนกั เรียน ชวี ิตประจาวัน 3.มคี วามเหมาะสมกบั เวลา หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ เหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวทีด่ ี ประเด็น สือ่ /อุปกรณ์ มคี วามเหมาะสมกับชว่ งวัย การให้นกั เรียนไดเ้ รยี นร้จู าก - นกั เรียนสามารถ - แบบฝึกทกั ษะ ความตอ้ งการความสามารถ ตัวอย่างทาใหน้ กั เรียนไดเ้ หน็ ภาพ ทางานไดเ้ ป็นข้นั ตอน - แบบฝึกหัด และเรอ่ื งท่ีเรยี นของนกั เรยี น ชัดเจน เขา้ ใจมากขึน้ ไดท้ าดว้ ย การเรยี นและปญั หาอื่น ในระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ตนเอง ได้ 1-3 ความรทู้ ี่ครู ครมู คี วามรูเ้ ก่ียวกบั หลกั สตู ร เน้ือหาสาระและกิจกรรมการเรยี นการสอน จาเป็นตอ้ งมี ครูมคี วามร้ใู นการวิเคราะห์นกั เรยี น และรศู้ ักยภาพของนักเรยี น ครูมีความรู้ในเรื่องการการเพาะเหด็ ครมู คี วามร้ใู นเร่อื งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ คณุ ธรรมของครู มีความขยัน รับผดิ ชอบในการสอน มคี วามเสยี สละ ไมป่ ดิ บงั ความรู้ มีความเมตตาและปรารถนาดีต่อศษิ ย์ มคี วามตัง้ ใจในการผลติ ส่อื การเรยี นรูใ้ ห้นา่ สนใจ มคี วามเพียงพยายามทจี่ ะมงุ่ มั่นให้นักเรียนมคี วามรู้ มีความอดทนในสอน แนะนา ตรวจแก้ไขผลงานของนักเรียน - นักเรียนจะไดเ้ รียนร้ทู ี่จะอยอู่ ย่างพอเพยี งจากกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังตอ่ ไปนี้

ผู้เรียนไดเ้ รียนรู้หลกั คดิ และฝกึ ปฏิบัตติ าม 3 ห่วง 2 เง่ือนไข ดงั นี้ ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิคมุ้ กนั ในตัวทด่ี ี 1.นักเรียนรู้จักบริหารเวลาในการศึกษา 1.นักเรียนมีเหตุผลใน 1.นักเรียนนาความรเู้ รื่องการเพาะเห็ดไป ค ว า ม รู้ ท า กิ จ ก ร ร ม จ า ก ใ บ ง า น การทางานเปน็ ขนั้ ตอน ใชใ้ นการประกอบอาชีพได้ แบบฝกึ หดั การทากิจกรรมกลมุ่ 2. นักเรียนวิเคราะห์ 2. นกั เรียนนาความรทู้ ่ไี ด้รับจากการ 2.นักเรียนทากิจกรรมได้เต็มศักยภาพ และ ลงมือปฏิบัติไ ด้ เรยี นนาไปเผยแพร่กบั ผู้ทส่ี นใจ หรือใน ของตนเอง อยา่ งสมเหตุสมผล ชุมชน 3.นักเรียนใช้วัสดุ อุปกรณ์ ในการทา กิจกรรมอยา่ งประหยัด ความรทู้ ่ีต้องมีกอ่ นเรยี น 1.ต้องมีสมาธิ มคี วามตั้งใจ ในการเรยี น คณุ ธรรม 2.ต้องมคี วามรอบคอบในการทางาน 3.ตอ้ งมมี ารยาทในการทางาน ไม่สง่ เสียงดงั ไม่เล่นหรอื ไมล่ ุกจากที่ นง่ั โดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต 4. ต้องมีความรับผิดชอบในงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย สง่ ตรงต่อเวลา 1.นักเรียนมีความซือ่ สัตย์ สุจรติ และตรงตอ่ เวลา 2. นกั เรยี นมีวนิ ัยในตนเอง - ผลลพั ธท์ ค่ี าดว่าจะเกดิ ขึน้ กับนกั เรียน (อยอู่ ย่างพอเพียง – สมดลุ และพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลงดา้ น ตา่ งๆ) ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นทกั ษะ กระบวนการ (P) ด้านคณุ ลักษณะ (A) 1.สามารถแยกข้อมูลของการเพาะ 1.มีความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. มีความรอบคอบในการทางาน เห็ด 2. มีความสามารถในการทางาน 2. มีความรบั ผิดชอบต่องานท่ี กับชีวิตประจาวนั ได้รบั มอบหมาย

บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ช้นั ม. 2 ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นรู้  ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุ ความเหมาะสมของเวลาทใ่ี ชใ้ นการทากิจกรรม  ดี  พอใช้  ปรับปรุง ความเหมาะสมของส่อื การเรียนรู้  ดี  พอใช้  ปรบั ปรุง ความเหมาะสมของเกณฑก์ ารประเมิน  ดี  พอใช้  ปรบั ปรุง อน่ื ๆ ............................................................................................................................................................ สรุปผลการประเมินผูเ้ รียน นักเรียนจานวน…….คน คิดเป็นร้อยละ………..มผี ลการเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับ 1 นกั เรียนจานวน…….คน คิดเปน็ ร้อยละ………..มีผลการเรยี นรู้ฯ อยใู่ นระดับ 2 นักเรียนจานวน…….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..มผี ลการเรียนรู้ฯ อยใู่ นระดับ 3 นักเรียนจานวน…….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………..มผี ลการเรยี นรูฯ้ อยใู่ นระดับ 4 สรปุ โดยภาพรวมมนี ักเรียนจานวน………คน คดิ เปน็ ร้อยละ………ทผ่ี า่ นเกณฑ์ระดับ 2 ขึน้ ไป ซึ่งสูง (ต่า) กวา่ เกณฑ์ทีก่ าหนดไวร้ ้อยละ………มีนกั เรียนจานวน………คน คิดเปน็ ร้อยละ…… ที่ไมผ่ ่านเกณฑท์ กี่ าหนด ชน้ั ม. 3 ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนรู้  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ ความเหมาะสมของเวลาทีใ่ ช้ในการทากิจกรรม  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ ความเหมาะสมของสื่อการเรียนรู้  ดี  พอใช้  ปรบั ปรุง ความเหมาะสมของเกณฑก์ ารประเมนิ  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ

อ่ืน ๆ ............................................................................................................................................................ สรุปผลการประเมนิ ผเู้ รยี น นกั เรียนจานวน…….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..มีผลการเรยี นรูฯ้ อยู่ในระดับ 1 นักเรยี นจานวน…….คน คิดเป็นร้อยละ………..มีผลการเรียนรูฯ้ อยใู่ นระดบั 2 นักเรียนจานวน…….คน คิดเปน็ ร้อยละ………..มผี ลการเรียนรฯู้ อย่ใู นระดบั 3 นักเรยี นจานวน…….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..มีผลการเรียนรฯู้ อยู่ในระดบั 4 สรุปโดยภาพรวมมีนักเรยี นจานวน………คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ………ท่ผี า่ นเกณฑ์ระดบั 2 ขนึ้ ไป ซ่ึงสูง (ตา่ ) กว่าเกณฑ์ท่กี าหนดไว้รอ้ ยละ………มนี กั เรยี นจานวน………คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…… ทไี่ มผ่ า่ นเกณฑ์ทกี่ าหนด ขอ้ สงั เกต/ค้นพบ จาการตรวจผลงานของนกั เรยี นพบวา่ ช้นั ม.2 นกั เรียน ............... คน สามารถพจิ ารณาปัญหาเกี่ยวกับการจดั สิ่งของตา่ ง ๆ - นักเรียนผ่านเกณฑ์ระดบั 2 ข้ึนไป จานวน ......................... คน - นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ระดบั 2 จานวน ......................... คน ชัน้ ม.3 นักเรียน ............... คน สามารถพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับการจัดสิ่งของตา่ ง ๆ - นักเรยี นผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2 ขนึ้ ไป จานวน ......................... คน - นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ระดบั 2 จานวน ......................... คน 1. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแต่ละด้าน ดงั นี้ ชั้น ม.2 ทกั ษะการแกไ้ ขปญั หา - นักเรียนผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 )จานวน ......................... คน - นักเรยี นผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นต้องปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ทกั ษะการเชื่อมโยงทางการงานอาชพี - นักเรยี นผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นตอ้ งปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน

ชั้น ม.3 ทกั ษะการแก้ไขปัญหา - นกั เรียนผา่ นเกณฑด์ ีมาก ( ระดับ 4 )จานวน ......................... คน - นักเรียนผ่านเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนต้องปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ทกั ษะการเช่ือมโยงทางการงานอาชีพ - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดับ 4 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นต้องปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ทักษะการเชอื่ มโยงทางการงานอาชีพ - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดีมาก ( ระดับ 4 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรยี นต้องปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน 2. ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินในแต่ละดา้ น ดงั นี้ ชนั้ ม.2 ความรอบคอบในการทางาน - นักเรยี นผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน ......................... คน - นักเรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน - นักเรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนต้องปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน ......................... คน ความรับผดิ ชอบในการทางาน - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นตอ้ งปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน ......................... คน ชัน้ ม.3

ความรอบคอบในการทางาน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นักเรียนต้องปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน ความรับผิดชอบในการทางาน - นกั เรียนผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน ......................... คน - นักเรยี นผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 )จานวน ......................... คน - นกั เรียนผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน ......................... คน - นกั เรยี นต้องปรบั ปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน ......................... คน แนวทางการแกไ้ ขปญั หาเพอ่ื ปรับปรงุ ช้ัน ม.2 1. นกั เรียนที่ได้คะแนนอยูใ่ นระดบั ที่ 2 , 3 และ 4 ได้จากกจิ กรรมสอนเสรมิ โดย ให้ทาแบบฝึกหดั เพ่มิ เตมิ เป็นการบา้ น ............................................................................................................................... 2. นกั เรยี นท่ไี ด้คะแนนอยู่ในระดับที่ 1 ได้จากกจิ กรรมสอนซอ่ ม โดย ให้ทาแบบฝึกหัดเพิม่ เตมิ เปน็ การบ้าน .............................................................................................................................. 3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ให้ นักเรยี นทราบเปน็ รายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ใน ด้านทกั ษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ และการคดิ วิเคราะห์ 4. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครไู ด้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ใหน้ กั เรียนทราบเป็นรายบคุ คลว่า นกั เรยี นจะต้องแกไ้ ขและทาอยา่ งไรบ้างตามเกณฑ์ทา้ ยแผนการจัดการเรียนรู้ ใน ด้านการทางานเป็นระบบ ความรอบคอบ

ชัน้ ม.3 1. นักเรยี นท่ไี ดค้ ะแนนอยู่ในระดบั ท่ี 2 , 3 และ 4 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนเสริมโดย ให้ทาแบบฝึกหัดเพม่ิ เติม เป็นการบา้ น ............................................................................................................................... 2. นักเรียนที่ไดค้ ะแนนอยูใ่ นระดับท่ี 1 ได้จากกจิ กรรมสอนซ่อม โดย ใหท้ าแบบฝึกหัดเพิ่มเตมิ เปน็ การบา้ น .............................................................................................................................. 3. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูไดอ้ ธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้นักเรียนทราบเป็น รายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ใน ด้านทักษะการเช่ือมโยงทาง คณิตศาสตร์ และการคดิ วเิ คราะห์ 4. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ให้นักเรียน ทราบเปน็ รายบุคคลว่า นักเรียนจะตอ้ งแกไ้ ขและทาอยา่ งไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ในด้านการทางานเป็นระบบ ความรอบคอบ ผลการพัฒนา พบวา่ นักเรียนทไ่ี ด้ระดบั 1 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับการจัด สง่ิ ของต่าง ๆนาความรู้เกย่ี วกับกฎเบอ้ื งต้นเกย่ี วกับการนับไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ และได้ผลการเรียนรู้อยู่ใน ร ะ ดั บ 2 ส่ ว น อี ก ........................... ค น ยั ง ต้ อ ง ป รั บ ป รุ ง แ ก้ ไ ข ต่ อ ไ ป ซึ่ ง ผู้ ส อ น ไ ด้ แ น ะ น า ใ ห้ ............................................................................................ และปรบั ปรุงงานอีกครง้ั พบวา่ นกั เรียนที่ได้ระดับ 2 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับการจัด สิ่งของตา่ ง ๆนาความรู้เกย่ี วกบั กฎเบื้องตน้ เกี่ยวกับการนบั ไปใชแ้ กป้ ัญหาในสถานการณท์ ่กี าหนดให้ได้ ซ่ึงผ้สู อนไดแ้ นะนาให้ พบวา่ นักเรยี นท่ไี ดร้ ะดบั 3 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับการจัด สง่ิ ของต่าง ๆนาความรู้เกี่ยวกบั กฎเบื้องตน้ เกยี่ วกับการนบั ใช้แก้ปัญหาในสถานการณท์ ีก่ าหนดใหไ้ ด้ ซ่งึ ผ้สู อนไดแ้ นะนาให้ พบวา่ นักเรียนทไ่ี ด้ระดบั 4 จานวน .................... คน จาก ......................... คน สามารถพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับการจัด สิ่งของตา่ ง ๆนาความรู้เก่ียวกับกฎเบอื้ งต้นเก่ยี วกบั การนบั ใช้แกป้ ญั หาในสถานการณท์ ี่กาหนดให้ได้ ซ่ึงผสู้ อนไดแ้ นะนาให้ ลงช่อื (นายจักรพงษ์ แสงแก้ว) ผ้สู อน

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2-3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรยี นที่ 2 เรอื่ ง เหด็ เศรษฐกจิ ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ใช้เวลา 4 ช่วั โมง เรอื่ ง ความหมายของเห็ดเศรษฐกิจ เวลา 2 ชวั่ โมง/คาบ ********************************************************************************* ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 1.บอกความหมายของเห็ดเศรษฐกจิ ได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บอกความหมายของเห็ดเศรษฐกิจได้ 2.บอกการเพาะเห็ดตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ สาระสาคญั เหด็ เศรษฐกิจ และการเพาะเหด็ ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง สาระการเรียนรู้ เห็ดเศรษฐกิจ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมการเรยี นรู้ (อธบิ ายให้ละเอยี ด ทุกขั้นตอน : ข้นั นา ขัน้ สอน ขัน้ สรุป) ขน้ั นา 1. ครูกับนกั เรยี นอภิปราย เร่ืองเหด็ ท่ีมขี ายตามทอ้ งตลาดกับนักเรียน 2. ครูให้นกั เรียนลองแนะนาเห็ดทีน่ กั เรยี นคิดว่ามรี าคาแพง และสามารถเพาะไดง้ ่ายใหก้ บั เพ่อื นๆฟัง ขน้ั สอน 1. ครใู ห้แจกใบงานใหก้ ับนกั เรียน แล้วใหน้ กั เรยี นศึกษาใบงาน เพ่อื หาความหมายของเหด็ เศรษฐกิจ 2. ครูให้นกั เรียนทา mapping เกี่ยวกบั ความหมายเศรษฐกจิ พอเพยี ง *งานกลุม่

ขน้ั สรปุ 1. ครสู รุปเรื่อง เหด็ เศรษฐกิจ ให้นักเรยี นหาความหมาย และว่าเห็ดอะไรบา้ ง และเห็ดแตล่ ะชนดิ มีความสาคัญ อยา่ งไร 2. ใหน้ กั เรยี นออกออกมาหนา้ ชั้นเรียนและมาอธบิ ายหน้าช้ันเรียน และครสู รุปเนอื้ หาให้กับนักเรียนอกี ครง้ั สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ท่ี3 เหด็ เศรษฐกิจ 2. ใบงานที่ 3 เร่ืองความหมายของ เหด็ เศรษฐกจิ การวัดผลและประเมนิ ผล วิธีการวดั เครือ่ งมือ การวัดผล - ตรวจคาตอบของแบบ - แบบฝกึ ทักษะ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ฝึกทักษะ - แบบสังเกตพฤติกรรม 1. บอกลกั ษณะของเหด็ เศรษฐกจิ ได้ถกู ต้อง - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม 2. อธิบายสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพาะ - สงั เกตพฤติกรรม - เหด็ เศรษฐกจิ ได้ - 3. อธิบายลกั ษณะวงจรชวี ิตของเหด็ นางฟา้ ได้ - แบบฝึกหดั 4. รวบรวมข้อมลู เกยี่ วลกั ษณะและธรรมชาติของ - ตรวจคาตอบของ เห็ดเศรษฐกิจได้ แบบฝึกหัด 5. นาความรเู้ รอื่ งลกั ษณะและธรรมชาติเปน็ แนวทางในเห็ดเศรษฐกิจได้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รูบรกิ ส)์ (4) ระดับคณุ ภาพ (1) ประเดน็ การประเมนิ ดมี าก (3) (2) ปรบั ปรงุ ทาได้อยา่ งถูกต้อง ดี กาลังพฒั นา ทาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง แบบฝกึ ทกั ษะ/แบบฝึกหดั ร้อยละ 80 ขึน้ ไป ทาได้อย่าง ทาได้อย่าง ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 40 ถูกต้องร้อยละ ถกู ตอ้ งร้อยละ มีความรอบคอบในการทางาน มีการวางแผน 70-79 40-69 ไมม่ ีการวางแผน มกี ารวางแผน มกี ารวางแผน

การดาเนนิ การ การดาเนินการ การดาเนนิ การ การดาเนนิ การ อย่างครบทกุ อย่างถกู ตอ้ ง อย่างไมค่ รบทกุ อย่างไม่มขี ั้นตอน มี ขน้ั ตอน และ แต่ไมค่ รบถ้วน ขนั้ ตอนและไม่ ความผดิ พลาดต้อง ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง แกไ้ ข มีความรบั ผิดชอบต่องานที่ ทางานเสร็จและ ทางานเสรจ็ และ ทางานเสรจ็ แต่ ทางานไม่เสรจ็ ไดร้ บั มอบหมาย สง่ ตรงเวลา ทา ส่งตรงเวลา ทา สง่ ชา้ ทาไม่ สง่ ไม่ตรงเวลา ทา ถกู ตอ้ ง ละเอียด ถูกต้อง ละเอียด ถกู ต้อง และไม่ ไม่ถูกตอ้ ง และไมม่ ี มีความละเอียด ความละเอยี ดใน ในการทางาน การทางาน เกณฑก์ ารตดั สิน - รายบุคคล นักเรยี นมีผลการเรียนรูไ้ ม่ต่ากว่าระดบั 2 จึงถอื วา่ ผ่าน - รายกลุม่ ร้อยละ....75....ของจานวนนักเรียนทัง้ หมดมีผลการเรยี นรู้ไมต่ ่ากว่าระดับ 2 ขอ้ เสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรับปรงุ ลงชอ่ื ( นายนา่ นมงคล อินดว้ ง ) หัวหน้ากลมุ่ สาระเกษตร วนั ท.่ี .......เดือน..............พ.ศ...........

ใบความรู้ท่ี 3 เหด็ เศรษฐกิจ เหด็ เศรษฐกจิ คือ เห็ดทต่ี ลาดมีความต้องการสูง จาหน่ายงา่ ย มีช่องทางการจาหน่ายอย่าง เปดิ กวา้ ง เชน่ เห็ดนางฟา้ ภูฐาน เหด็ ฮังการี เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดขอนขาว เห็ดยานางิ (เห็ดโคนญ่ีป่นุ ) เป็นต้น และขยายผลส่เู กษตรกร อีกทง้ั เป็นท่ีนิยมในการบริโภค เพราะมีรปู แบบในการบริโภค หลายๆ รปู แบบ เปน็ เห็ดทเี่ พาะงา่ ยให้ผลผลติ ตอบแทนคมุ้ ค่าอาชีพเพาะเห็ด เปน็ อาชพี ทาง การเกษตรอาชพี หนง่ึ ทไ่ี ดร้ ับความนยิ ม เพราะเป็นอาชีพท่ลี งทุนตา่ และให้ผลตอบแทนเรว็ สามารถ นาวสั ดุเหลอื ใช้ทางการเกษตรมาเป็นวสั ดุเพาะได้หลายชนดิ ปัจจุบนั การเพาะเห็ดได้ ขยายพื้นท่ีปลูก ไปท่วั ประเทศ

ลักษณะดอก เป็นแผน่ คล้ายหหู นู ไม่มีครบี มกี ้านสัน้ มากหรอื ไมม่ ี เมอื่ แกเ่ ต็มที่ ปลายขอบดอกจะบานเห็นหยัก ดอกหนานมุ่ ขนยาว พนั ธุไ์ ด้แก่ พันธ์ดุ อกสีนา้ ตาลเขา้ (นา้ ตาลแดง) และพันธ์ุสขี าว สภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสม อุณหภูมปิ ระมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ความช้ืนชว่ งเหด็ ออกดอกไม่ตา่ กวา่ 95% ให้แสงบา้ งพอสมควร ความ เปน็ กรดเปน็ ดา่ งอยูร่ ะหวา่ ง 4.5-7.5 โรงเรอื นควรมกี ารถา่ ยเทอากาศได้พอสมควร วธิ ีการเพาะ เพาะไดท้ ง้ั ในถงุ พลาสติกและในท่อนไม้ (เพาะเลยี นแบบธรรมชาต)ิ ปญั หาในการเพาะ หากโรงเรือนมคี วามชน้ื มากเกินไป จะทาใหด้ อกเหด็ เจริญออกมาแลว้ เน่าเละ การแก้ไข ให้ความชน้ื ในโรงเรือนทพ่ี อเหมาะ โรงเรือนตอ้ งมคี วามสะอาด อากาศถ่ายเทได้ด

ลกั ษณะดอก เร่ิมแรกจะเกดิ เปน็ ดอกสขี าวมปี ลอกคลมุ พอโตข้ึนมาจะมีลกั ษณะคลา้ ยรม่ ด้านลา่ งหมวกจะมคี รบี ดอกเห็ด แรกบานจะมสี ขี าว เมื่อแก่จะเปล่ยี นเปน็ สีชมพอู มม่วงอ่อน พันธ์ุ ได้แก่ พนั ธพุ์ นื้ เมอื งของไทย (ดอกสขี าว) และพนั ธไุ์ ตห้ วัน (ดอกสนี ้าตาลดา) สภาพแวดลอ้ มท่เี หมาะสมในการออกดอก อณุ หภูมิประมาณ 35-37 องศาเซลเซยี ส ความชื้นภายในกองฟาง 60-70% ความชนื้ สมั พัทธ์ไมต่ ่ากว่า 80% ความเป็นกรดเป็นดา่ งอยู่ระหว่าง 6.5-7 ใหม้ แี สงสวา่ งเขา้ มาในโรงเรือนไดบ้ า้ งเลก็ น้อย วธิ ีการเพาะ สามารถเพาะไดท้ ้งั แบบกองเต้ีย กองสูง (บนพน้ื ดิน) หรือโรงเรือนแล้วอบไอนา้ ปัญหาในการเพาะ ดอกเห็ดท่ีเพาะได้มีขนาดเล็ก เส้นใยเดนิ ไม่สม่าเสมอ การแกไ้ ข เส้นใยเหน็ ไม่ควรตอ่ เชือ้ หลายครั้ง และควรให้มแี สงสว่างเข้ามาในโรงเรือนบา้ ง

เหด็ หอม  ลักษณะดอก หมวกดอกมีลักษณะกลม ผวิ หมวกด้านบน มสี นี ้าตาล-น้าตาลปนแดง บางพนั ธ์ุอาจมขี นหรอื เม็ดหยาบ ๆ ติดอยู่บนหมวกดอก  พันธุ์ ไดแ้ ก่ พนั ธเุ์ บอร์ 1 และเบอร์ 3 ของกรมวชิ าการเกษตร เนื่องจากมีเสน้ ใยท่ีทนต่ออุณหภมู ทิ ี่แปรปรวนได้ สงู  สภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสม อณุ หภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซยี ส ความเปน็ กรดเป็นด่าง อยู่ระหว่าง 3.5-4.5 เหด็ หอมต้องการแสงชว่ ง การเจรญิ ของดอกเห็ด  วธิ ีการเพาะ เพาะในถงุ ขีเ้ ลื่อย และท่อนไมเ้ น้ืออ่อน เชน่ ไมก้ ่อ  ปญั หาในการเพาะ เกิดเชื้อราชนดิ อื่นในกอ้ นเชื้อเห็ดระหว่างการเพาะ  การแก้ไข โรงเรอื นตอ้ งสะอาด และมอี ากาศถ่ายเทได้สะดวก

เห็ดนางรม ลกั ษณะดอก หมวกดอกคล้ายหอยนางรม กา้ นดอกชขู น้ึ ก้านส้ัน ครบี ดอกเปน็ แผน่ บาง ๆ สีขาวหรือเทา พนั ธ์ุ ได้แก่ พนั ธด์ุ อกสีขาวและสเี ทา สภาพแวะลอ้ มทีเ่ หมาะสมในการออกดอก อุณหภมู ปิ ระมาณ 2.4-33.5 องศาเซลเซยี ส ความชืน้ 70-80% เห็ดนางรมต้องการแสงสว่างอย่างนอ้ ย 15 นาท/ี วนั วธิ กี ารเพาะ เพาะในท่อนไม้เนอ้ื อ่อน หรอื ในถงุ พลาสติก ปัญหาในการเพาะ เห็ดออกดอกชา้ หลังจากเปิดถงุ แล้ว การแก้ไข หลงั จากทเี่ สน้ ใยเดินเต็มถงุ แลว้ ควรปลอ่ ยให้เสน้ ใยรดั ตวั ใหแ้ นน่ ประมาณ 8-10 วนั จากนน้ั จงึ เปิดถุงออก

เหด็ นางฟา้  ลักษณะดอก หมวกดอกมเี น้อื แนน่ สคี ลา้ ดอกออกมาเป็นดอกเดยี่ ว ๆ หรอื เป็นกระจกุ ก็ได้ ก้านดอกจะมวี งแหวนรอบ ก้านส้ัน ครบี ดอกมสี ีขาว  พันธุ์ ได้แก่ พนั ธุ์เบอร์ 1 และเบอร์ 2 ของกรมวิชาการเกษตร ดอกมสี ีนา้ ตาลดาอมเทา  สภาพแวดล้อมทีเ่ หมาะสม อุณหภูมปิ ระมาณ 25 องศาเซลเซยี ส ความชืน้ 80-85%  วธิ กี ารเพาะ เพาะในถงุ พลาสตกิ  ปญั หาในการเพาะ กอ้ นเชอ้ื เสียเน่อื งจากมีเช้อื ราอนื่ ข้ึนปะปน  การแกไ้ ข ไมค่ วรใสอ่ าหารเสรมิ ในกอ้ นเช้อื มากเกนิ ไป น่งึ ฆา่ เชื้อโรคในกอ้ นเชื้อ ทอี่ ุณหภมู ปิ ระมาณ 70-100 องศา เซลเซียส นาน 2 ชวั่ โมง และโรงเรือนตอ้ งสะอาด

ลักษณะดอก คล้ายหอยโข่งทะเล ดอกหนา ผิวดอกมีสีคล้า พันธุ์ ได้แก่พันธ์เุ บอร์ 1 ของกรมวชิ าการเกษตร ดอกสีนา้ ตาล สภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสม อณุ หภมู ปิ ระมาณ 22-28 องศาเซลเซยี ส ความชื้น 75-78% ความเปน็ กรดเปน็ ด่าง อยู่ระหว่าง 6.5-7.2 ตอ้ งการ แสงสวา่ งมาก วิธีการเพาะ เพาะในถงุ พลาสติก ปัญหาในการเพาะ เกิดเมือกสีน้าตาล รบกวนการเกิดดอกบนกอ้ นเชื้อ และมีกลิน่ เหม็น การแกไ้ ข ขดู เมือกดงั กล่าวทิ้ง และลา้ งดว้ ยน้าเกลือทมี่ ีความเข้มข้น 10%

ใบงานที่ 3 เรือ่ งความหมายของ เหด็ เศรษฐกจิ 3.1 ความหมายของเห็ดเศรษฐกิจ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3.2 ชนิดของเห็ดเศรษฐกิจ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3.3 เหด็ ชนดิ ไหนที่เพาะพนั ธุ์ง่าย และให้ผลผลิตทส่ี ูง .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3.4 ปัจจัยทม่ี ีผลต่อราคาตามทอ้ งตลาดของเหด็ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4. สภาพแวดล้อมโดยทวั่ ไปของโรงเพาะเหด็ ที่เหมาะสมสาหรบั การเพาะในภาคเหนอื ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................

การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ครูผูส้ อนใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในขัน้ เตรยี มการสอน/จดั การเรยี นรู้ ดงั นี้ หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ เหตุผล มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี ประเดน็ เวลา เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรม เวลาท่ีใช้ในการจดั กิจกรรมการ ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น 25 การเรยี นรูท้ ้งั หมดในแผนการ เรียนรู้ ดงั น้ี ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น ใช้ นาที นกั เรยี นจะได้ นี้ 2 ชัว่ โมง มคี วาม เวลา 25 นาที แบง่ กลมุ่ นกั เรียน 5 ทบทวนความรพู้ ืน้ ฐาน เหมาะสมคอื ขน้ั นาเขา้ สู่ นาที ชแ้ี จง้ จดุ ประสงค์ลาย และเปน็ การเตรียม บทเรยี น 25 นาที ละเอียดในการเรยี น 5 นาที ความรใู้ นการเรยี น ข้ันสอน 75 นาที ทบทวนความร้เู ดมิ เพ่อื เชอ่ื มโยงกับ ข้นั สอน 75 นาที ข้ันสรุป 20 นาที เรียนทจ่ี ะเรยี น 15 นาที ขน้ั สอน นักเรียนสามารถ 75 นาที เริม่ ดว้ ยการสนทนากับ วเิ คราะห์ แก้ปญั หาอ่ืน นกั เรยี นเกยี่ วกับเร่อื งท่จี ะเรยี นและ ๆ ได้ ขัน้ สรปุ 20 นาที เรื่องท่ตี อ้ งนามาเช่ือมโยงในการหา นกั เรียนจะได้รับความรู้ คาตอบ 15 นาที อธบิ ายตวั อย่างให้ ทีค่ งทนและถูกหลกั ของ นกั เรยี นอย่างละเอียดชัดเจน 30 การเพาะเห็ด นาที แลว้ ใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหัด โดยมีครคู วบคมุ ดูแลให้คาปรึกษา 30 นาที ขัน้ สรปุ 20 นาทีใหน้ กั เรยี นร่วมกัน สรปุ โดยมคี รูเสริมความรูท้ ่ขี าดหา และให้ชดั เจนมาข้ึน เนอื้ หา 1.มคี วามเหมาะสมกบั เพราะหลักสูตรแกนกลางการศึกษา การเรียนเรือ่ งการเพาะ นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษา ข้ันพืน้ ฐานกาหนดไว้ในสาระ เห็ด ให้ถกู ตอ้ งตามหลกั ปที ี่ 1-3 ทาให้นักเรยี นสามารถ 2.มคี วามเหมาะสมกบั ความรู้ นาไปใชใ้ นการดาเนิน พ้ืนฐานของนักเรียน ชีวิตประจาวนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook