หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การประเมนิ ความนา่ เช่ือถือขอ้ มูล ใบกิจกรรมท่ี 3 เรอ่ื งแหลง่ ขอ้ มลู ทีน่ ่าเช่ือถอื ชอ่ื ..................................................................เลขท่ี.................ชนั้ ........................ จงพิจารณารปู ภาพดงั ตอ่ ไปนี้ แลว้ บอกวา่ เปน็ ข้อมูลประเภทใดเพราะเหตใุ ด 12 ขอ้ มูลประเภท.................................................. ขอ้ มูลประเภท.................................................. เพราะ.............................................................. เพราะ.............................................................. ..ค...า..ต...อ...บ...ข..น้ึ...อ...ย...่กู ...ับ...ด...ลุ ..ย....พ...นิ ...จิ ...ข..อ..ง..ค...ร..ูผ...ู้ส...อ..น. ค..า..ต....อ..บ...ข...ึน้ ...อ..ย...่กู...ับ...ด...ุล...ย...พ...นิ...ิจ...ข...อ..ง..ค...ร.ผู...สู้...อ...น... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... .......................................................................
แบบสงั เกตพฤติกรรม คาชีแ้ จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน ลาดับที่ ช่อื -สกลุ ตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบใน ของผรู้ บั การประเมิน การทางาน 1 2 3 4 5 6 7 8 เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดีมาก 9 – 11 ดี ตา่ กว่า 8 ปานกลาง
มการทางานรายบคุ คล นแล้วขดี √ ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ความร่วมมือในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ มวี นิ ัย รวม 15 การเรยี นการสอน คะแนน ลงชือ่ .............................................. ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
พฤตกิ รรมของนักเรยี นในการประเมิน รายการประเมิน ดีมาก (3) ระดบั คุณภาพ ปรับปรงุ (1) ดี (2) 1. ตรงตอ่ เวลา - การเขา้ เรียนตรงเวลา - การเข้าเรยี นชา้ กวา่ เวลา - การเขา้ เรียนช้ากวา่ เวลา - การส่งงานตรงตามเวลา 2. ความรับผิดชอบในการ 5 นาที 10 นาที ทางาน กาหนด - การสง่ งานชา้ กว่าเวลา - การส่งงานช้ากว่าเวลา 3. ความรว่ มมือในกจิ กรรม - การเข้าร่วมทากิจกรรม กาหนด กาหนด 1 วนั ข้ึนไป การเรียนการสอน - การเข้าร่วมทากิจกรรมชา้ - การเขา้ ร่วมทากิจกรรมช้า 4. ใฝเ่ รียนรู้ กว่าเวลา 5 นาที กว่าเวลา 10 นาที 5. มวี ินยั การทางานตามทไี่ ดร้ บั การทางานตามท่ไี ดร้ บั การทางานตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย สนใจ และลงมือ มอบหมาย สนใจ และลงมอื มอบหมายลา่ ชา้ ปฏิบตั ไิ ด้อย่างละเอียด ปฏบิ ัตไิ ด้ เรียบร้อย ร่วมตอบคาถามและการทา ร่วมตอบคาถามและการทา ไมม่ ีรว่ มตอบคาถามและ กจิ กรรมอยา่ งกระตอื รือร้นใน กจิ กรรมอย่างกระตือรอื รน้ การทากิจกรรมอย่าง การเรียน สนใจและปฏิบตั ิ ในการเรยี น กระตือรอื รน้ ในการเรียน กจิ กรรมอยา่ งเตม็ ท่ี มคี วามกระตือรือรน้ ในการ มีความกระตือรือรน้ ในการ มคี วามกระตือรอื รน้ ในการ เรยี นทางานระดบั พอใช้ เรยี นบางครั้ง เรยี น ต้ังใจในการเรยี นและ การทาชิ้นงาน การแสดงความเคารพ รกั ษา การแสดงความเคารพ รักษา การแสดงความเคารพ ความสะอาด ความเปน็ ความสะอาด ความเป็น รักษาความสะอาด ความ ระเบยี บ การตรงต่อเวลา ระเบยี บ การตรงต่อเวลา เป็นระเบยี บ การตรงต่อ และในขณะการเรียนการ และในขณะการเรยี นการ เวลา และในขณะการเรยี น สอนปฏิบตั ติ นเรียบรอ้ ย ไม่ สอนปฏิบัติตนเรียบรอ้ ย การสอนปฏบิ ตั ิตน พดู คยุ กนั เสยี งดงั เรยี บรอ้ ย แตอ่ าจจะมีการ ตอ้ งตกั เตือนเปน็ บางครง้ั
แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสา ระ กา รเรีย นรู้วิทย าศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้นป ระถมศึก ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 4 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 เร่ือง มารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรณิชา หนนู วล มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรูก้ ารทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวดั ว 4.2 ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าท่ี ของตน เคารพในสิทธิของผ้อู ื่นแจง้ ผู้เกีย่ วขอ้ งเมือ่ พบขอ้ มูลหรอื บคุ คลท่ีไม่เหมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกมารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านอนิ เทอร์เนต็ ได้ (K) 2. สบื คน้ ข้อมูลจากแหล่งสารสนเทศเกยี่ วกับมารยาทในการตดิ ต่อสอ่ื สารผา่ นอินเทอร์เนต็ ได้ (P) 3. สนใจใฝเ่ รียนรใู้ นการศกึ ษาและนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ (A) สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยใหก้ ารดาเนินชีวิตหรอื การทางานสะดวกสบายมากขน้ึ สามารถเข้าถึง ขอ้ มูลต่าง ๆ ไดอ้ ย่างหลากหลายและงา่ ยยงิ่ ขึ้น จึงมขี ้อมลู จานวนมาก ซง่ึ เปน็ ข้อมลู เป็นประโยชน์ หรือเป็น ขอ้ มลู ท่อี าจก่อให้เกิดโทษ จึงควรพิจารณาเลอื กใช้อย่างเหมาะสม การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอาจต้องติดต่อหรอื เก่ียวข้องกับบคุ คลต่าง ๆ มากมาย ซ่ึงอาจเปน็ บุคคลที่ เรารู้จักและไมร่ ู้จัก การมมี ารยาทท่ดี ใี นการตดิ ต่อสื่อสารจะช่วยสร้างมิตรภาพท่ีดีของการอยู่ร่วมกันในสังคม และควรป้องกันตนเองจากคนทีไ่ มร่ ้จู กั หรอื คนร้าย ซ่ึงจะนาความเดือดรอ้ นและสร้างความเสียหายให้แก่เรา เน้ือหาสาระ/สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง - การประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถือของข้อมลู เช่นเปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบรู ณข์ องข้อมลู จากหลายแหล่ง แหลง่ ตน้ ตอของขอ้ มลู ผู้เขียนวันทเ่ี ผยแพรข่ อ้ มูล - มารยาทในการตดิ ต่อสอื่ สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ (บรู ณาการกับวิชาทเี่ ก่ียวข้อง) ความรู้ อธิบายมารยาททด่ี ใี นการติดต่อส่อื สารโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สมรรถนะทาง ICT ICA5 การใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม
กระบวนการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการสอนแบบ cooperative learning การเรียนร้แู บบร่วมมือ เปน็ เทคนคิ การจดั กจิ กรรม การเรียนรทู้ ่ใี ห้นกั เรียนไดเ้ รียนร้รู ว่ มกนั เปน็ กลมุ่ เลก็ ๆ แตล่ ะกลุม่ ประกอบด้วยสมาชกิ ทมี่ คี วามรคู้ วามสามารถ แตกตา่ งกันแต่ละคนมสี ว่ นรว่ มอยา่ งแท้จริงในการเรียนรู้ ชน้ิ งาน/หลักฐานการเรียนรู้ของผเู้ รยี น แผนทคี่ วามคดิ เรอ่ื ง บัญญตั ิ 10 ประการในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรือ่ ง มารยาทตอ้ งมาก่อน การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 1 - ขั้นนา (15 นาที ) 1. ครผู สู้ อนถามคาถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นว่า“ปัจจุบันน้ีเราติดต่อสื่อสารกันผ่านทาง ชอ่ งทางใดได้บา้ ง”(แนวตอบ : ผเู้ รยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคาตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอน เช่น โทรศัพทม์ ือถอื สังคมออนไลน์ต่าง ๆ เชน่ Facebook Line Twitter เปน็ ต้น) 2. ครูผู้สอนถามคาถามประจาหวั ขอ้ ว่า“การตดิ ต่อสือ่ สารทด่ี ผี า่ นอนิ เทอร์เน็ตควรทาอย่างไร”(แนว ตอบ :ผู้เรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคาตอบขน้ึ อยู่กับดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน เช่น ใช้ภาษา สุภาพและถูกต้องตามหลกั ไวยากรณ์ หลีกเล่ยี งการใชภ้ าษาท่ีดถู ูกเหยียดหยามผู้อ่นื ไมเ่ ผยแพรข่ อ้ ความหรือ ภาพทผี่ ิดกฎหมายหรอื ขดั กับศีลธรรมอันดงี ามของสงั คมไทย) - ขัน้ สอน (45 นาที ) 3. ครผู ูส้ อนอธิบายโยงเข้าบทเรยี นในเรอ่ื งบญั ญัติ 10 ประการในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 4. นักเรียนศกึ ษาเพิม่ เตมิ เกยี่ วกบั มารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตจากหนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 5. ผูเ้ รียนสรปุ แผนทคี่ วามคิด เร่ือง บญั ญตั ิ 10 ประการในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสืบค้นจาก คอมพิวเตอร์ 6. สุ่มผู้เรยี นนาเสนอแผนทค่ี วามคดิ เรอื่ ง บญั ญตั ิ 10 ประการเกี่ยวกบั มารยาทในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศหน้าช้นั เรยี น 8. ครถู ามคาถามกระตุ้นนกั เรียนว่า“ถ้าทุกคนบนโลกไม่เขา้ ใจเร่ืองมารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ตจะ เปน็ อยา่ งไร”(แนวตอบ : ผู้เรียนตอบตามประสบการณข์ องตนเอง โดยคาตอบข้นึ อยกู่ ับดุลยพินิจของครผู ู้สอน เช่น การละเมดิ สิทธ์ขิ องผอู้ ่ืนอาจเกดิ การทะเลาะเบาะแว้งมกี ารฟอ้ งร้องหมิน่ ประมาททาให้ผู้อื่นได้รับความ เสียหาย ความเดอื ดร้อน หรอื เส่อื มเสยี ชื่อเสียงจากการเผยแพร่ขอ้ ความและภาพนง่ิ ทผี่ ดิ กฎหมายหรอื ขดั กับ ศีลธรรมอันดีงามของสงั คมไทย) 9. ครูผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ควรกระทาและไม่ควรกระทาในการ ตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ วา่ “สง่ิ ท่ีควรระวังในการติดต่อสือ่ สารผา่ นอินเทอร์เน็ต คือ คาพูดการ เลอื กใชค้ าพดู ควรเลอื กใหเ้ หมาะสมตามกาลเทศะ 10. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพื่อให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนการ ติดต่อส่อื สารผ่านเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ นต็ และตระหนักถึงมารยาทในการโตต้ อบโดยใช้คาพดู ทเี่ หมาะสม 11. ผูเ้ รียนทาใบกิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง มารยาทต้องมากอ่ น
-ขั้นสรปุ (15 นาที ) 7. ผู้เรยี นและครผู สู้ อนรว่ มกนั สรปุ เก่ยี วกบั บัญญัติ 10 ประการในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสิ่งท่คี วรกระทาและไม่ควรกระทาในการติดต่อสอ่ื สารผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต 8. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสงั เกตพฤติกรรมจากการตอบคาถาม การแสดงความคิดเหน็ ความ สนใจในการเรยี นรู้และการทาใบกจิ กรรม สอื่ การสอนและแหลง่ เรยี นรู้ สือ่ อุปกรณ์ 1.หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วทิ ยาการคานวณ) ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 2. แผนที่ความคิด เรอื่ ง บัญญตั ิ 10 ประการในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ใบกิจกรรมที่ 1 เร่อื ง มารยาทตอ้ งมาก่อน แหล่งเรียนรู้ - ห้องคอมพิวเตอร์ การวดั ผลและประเมินผล ส่งิ ทต่ี อ้ งการวัด วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. บอกมารยาทในการ ตรวจใบงาน ใบกิจกรรมที่ 1 เร่ือ ง รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ติ ด ต่ อ ส่ื อ ส า ร ผ่ า น มารยาทตอ้ งมาก่อน อนิ เทอร์เนต็ ได้ (K) 2. สืบ ค้นข้อ มูล จาก ตรวจใบงาน แผนที่ความคิด เรื่อ ง รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ แ ห ล่ ง ส า ร ส น เ ท ศ บัญญัติ 10 ประการ เกีย่ วกบั มารยาทในการ เกย่ี วกบั มารยาทในการ ติ ด ต่ อ ส่ื อ ส า ร ผ่ า น ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี อนิ เทอร์เนต็ ได้ (P) สารสนเทศ 3.ส น ใ จใ ฝ่ เรี ย นรู้ ใ น สังเกตพฤติกรรม แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ระดับคุณ ภาพ ดี ผ่าน การศึกษาและนาไปใชใ้ น คุณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง เกณฑ์ ชวี ติ ประจาวนั ได้ (A) ประสงค์ 4.สมรรถนะทาง ICT ตรวจใบงาน ใบกิจกรรมท่ี 1 เร่ือ ง รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ มารยาทตอ้ งมาก่อน ICA5 ก า ร ใ ช้ ICT อยา่ งเหมาะสม
ใบกิจกรรม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เรื่อง มารยาทในการ ติดต่อสอ่ื สารผ่านอนิ เทอร์เนต็
เฉลยใบกจิ กรรม แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 5 เร่อื ง มารยาทในการ ตดิ ตอ่ สือ่ สารผา่ นอินเทอร์เนต็
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง :ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ตี รง กับระดับคะแนน รายการประเมนิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี รวมคะแนน 9 คะแนน มีทกั ษะ สามารถนา ระ ัดบ ุคณภาพ ลาดับท่ี ชื่อ - สกุล เลอื กและใช้ กระบวนการ เทคโนโลยีไป เทคโนโลยีได้ ทางเทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน อย่างเหมาะสม ใช้พัฒนา ตนเอง 3 21 321321 1 2 3 4 5 6 7 รวม เกณฑ์การตัดสินระดับคณุ ภาพ ดีมาก = 6 – 9 คะแนน ดี = 1 – 5 คะแนน ปรับปรุง = 0 เกณฑก์ ารสรุปผล ผ่านเกณฑ์ = 1 – 9 คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์ = 0 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก หมายถึง พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจน สม่าเสมอ (3 คะแนน) ดี หมายถึง พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง (2 คะแนน) ปรับปรุง หมายถึง พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัติเปน็ บ้างครั้ง (1 คะแนน)
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดบั คุณภาพ ดี (2) ปรับปรุง (1) ดมี าก (3) 1.เลือกใช้ เลือกและใช้เทคโนโลยที ่เี หมาะสมเพอื่ ลดขน้ั ตอนเวลา เลอื กและใช้ เลอื กและใช้ เทคโนโลยใี น ทรพั ยากรในการทางานและนาเสนอผลงานที่เป็น เทคโนโลยที ี่ เทคโนโลยีเพอ่ื การทางาน ประโยชน์ต่อตนเองและสังคมโดยมคี วามหลากหลาย เหมาะสมเพ่อื ลดข้นั ตอน อย่างเหมาะสม แปลกใหม่นา่ สนใจไม่ลอกเลียนแบบไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื ลดขั้นตอน เวลา เดือดรอ้ นไมม่ ผี ลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ มและสามารถ เวลาทรัพยากร ทรพั ยากรใน แนะนาผอู้ น่ื ได้ ในการทางาน การทางาน และนาเสนอ และนาเสนอ ผลงานท่ีเป็น ผลงานไดโ้ ดย ประโยชนต์ ่อ ต้องมผี แู้ นะนา ตนเองและ สงั คมโดยไม่ทา ให้ผอู้ ื่น เดือดรอ้ นไมม่ ี ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม 2. มีทกั ษะ มีทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยีท่ีเหมาะสมในการสร้างสรรคไ์ ด้ มีทักษะการใช้ มที กั ษะการใช้ กระบวนการ ด้วยตนเองทาให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและสงั คมโดย เทคโนโลยที ่ี เทคโนโลยีใน ทางเทคโนโลยี ไมท่ าให้ผอู้ ื่นเดือดรอ้ น เหมาะสมใน การแก้ปัญหา การสรา้ งสรรค์ ได้โดยต้องมผี ู้ ได้ดว้ ยตนเอง แนะนา ทาให้เกดิ ประโยชน์ต่อ ตนเองและ สังคม 3. สามารถนา มีการนาเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้เพอื่ พัฒนาการทาใบ มีการนาเอา มีการนาเอา เทคโนโลยีไปใช้ งานในหน่วยตา่ งๆไดแ้ ละมปี ระโยชน์ต่อตนเองและไมท่ า เทคโนโลยีมา เทคโนโลยมี า พัฒนาตนเอง ให้ผ้อู น่ื เดอื ดรอ้ น ปรบั ใชเ้ พ่อื ปรับใช้โดยใช้ พฒั นาการทา ผอู้ น่ื ชว่ ยใน ใบงานในหนว่ ย การเพื่อ ตา่ งๆได้ พฒั นาการใช้ เทคโนโลยีของ ตนเอง
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาชี้แจง :ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องทีต่ รง กับระดับคะแนน รายการประเมนิ ใฝ่เรยี นรู้ แลกเปลีย่ น รวมคะแนน 9 คะแนน ระ ัดบ ุคณภาพ ความรู้ ดว้ ย เอาใจใสก่ าร สรุปผลการประเมิน ลาดับที่ ชือ่ - สกลุ วธิ กี ารตา่ งๆ เรยี น และมี ต้ังใจเรยี น และนาไปใช้ใน ความเพียร ชีวติ ประจาวนั พยายามใน สรุปความร้ไู ด้ การเรียน อย่างมเี หตุผล 3 21321321 1 2 3 4 5 6 7 รวม เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 6 – 9 ดีมาก 1 – 5 ดี 0 ปรับปรงุ *เกณฑ์การสรปุ ผล 1 – 9 ผ่าน 0 ไม่ผ่าน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
1. ใฝ่เรยี นรู้ รายการประเมิน ดมี าก (3) ระดบั คุณภาพ ปรับปรงุ (1) 1. ตง้ั ใจเรียน ดี (2) เข้าเรียนไม่ตรงเวลาสาย เขา้ เรยี นตรงเวลา ส่งงาน เกนิ 15 ที ส่งงานไม่ตาม 2. แลกเปลีย่ นความรู้ ตรงตามเวลา ทางาน เข้าเรยี นตรงเวลา สง่ งาน กาหนด ดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ และ เรยี บรอ้ ยไม่ว่าจะเป็น ตรงตามเวลา ทางาน นาไปใช้ใน ช้นิ งาน หรือใบงานปฏบิ ตั ิ เรยี บรอ้ ย ไม่มแี สดงความคดิ เหน็ ชีวติ ประจาวันสรปุ ตามกฎระเบยี บท่ีกาหนด แลกเปล่ียนความร้กู บั ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล มีการแสดงความคดิ เห็น มกี ารแสดงความคดิ เหน็ เพือ่ นหรอื คุณครู 3. เอาใจใส่การเรียน แลกเปลี่ยนความรกู้ ับ แลกเปล่ยี นความรกู้ บั และมีความเพียร เพ่ือนหรือคุณครไู ดแ้ ละ เพื่อนหรอื คณุ ครูได้ มีความกระตอื รือร้นใน พยายามในการเรียน สามารถนาไปปรบั ใช้ใน บางคร้ัง การเรยี นบางคร้งั ชวี ิตประจาวนั ได้ มีความกระตอื รือรน้ ในการ มีความกระตอื รือร้นใน เรยี น ต้ังใจในการเรียนและ การเรยี นทางานระดับ การทาชน้ิ งาน พอใช้
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสา ระ กา รเรีย นรู้วิทย าศาสตร์ และเทคโนโลยี ช้ันป ระถมศึก ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 4 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง การติดต่อสื่อสารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ เวลา 2 ช่วั โมง ผู้สอน นางสาวอรณิชา หนนู วล มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวติ จรงิ อย่างเปน็ ขั้นตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรูก้ ารทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม ตัวชี้วดั ว 4.2 ป.5/5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย มมี ารยาท เขา้ ใจสิทธิและหน้าท่ี ของตน เคารพในสิทธขิ องผอู้ ่ืนแจ้งผู้เกี่ยวขอ้ งเมอ่ื พบข้อมลู หรอื บคุ คลท่ไี มเ่ หมาะสม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการตดิ ต่อสื่อสารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ (K) 2. สามารถใชเ้ ทคโนโลยตี ดิ ต่อสอ่ื สารผ่านทางอนิ เทอร์เนต็ ได้ (P) 3. สนใจใฝ่เรียนรู้ในการศกึ ษาและนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ (A) สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ในปจั จุบันการติดต่อสอื่ สารผ่านอินเทอรเ์ น็ตทาได้หลากหลายและชว่ ยตอบสนองความต้องการของ มนษุ ย์ ให้มีความสะดวกสบายมากยิง่ ข้ึนในด้านการส่ือสาร ดังน้ัน จึงมีผู้ใช้ค อมพิวเตอร์และเครือข่าย คอมพิวเตอรเ์ ปน็ เคร่อื งมือในการกระทาความผิด เพ่อื ใหผ้ อู้ ืน่ เสียหายหรือเสื่อมเสยี ช่อื เสยี ง โดยมักจะเรยี กว่า อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ดงั นน้ั ผใู้ ชค้ อมพวิ เตอรท์ ีด่ จี ะต้องมแี นวทางป้องกันการเกิดอาชญากรรมทาง อนิ เทอร์เนต็ รวมถึงการใช้อนิ เทอร์เน็ตอย่างมมี ารยาท เพราะนอกจากการติดต่อสื่อสารแล้ว อินเทอร์เน็ตยัง ถกู นามาใช้สาหรับการวเิ คราะห์ขอ้ มูล การรวบรวมขอ้ มลู การประมวลผลข้อมูล เพื่อพิจารณาทางเลือกท่ี เปน็ ไปได้ และเหมาะสมมากที่สดุ เน้ือหาสาระ/สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตในการตดิ ตอ่ สื่อสารและทางานรว่ มกัน เชน่ ใชน้ ดั หมายในการประชุม กลมุ่ ประชาสมั พนั ธก์ ิจกรรมในห้องเรยี นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นในการเรยี นภายใตก้ ารดแู ลของครู - มารยาทในการติดตอ่ ส่ือสารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ (บรู ณาการกบั วิชาท่เี กยี่ วข้อง) - การประเมินความนา่ เชื่อถือของข้อมูล เช่นเปรยี บเทียบความสอดคลอ้ ง สมบรู ณข์ องขอ้ มูล จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของขอ้ มูล ผ้เู ขียนวันท่เี ผยแพร่ข้อมูล - อันตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต ความรู้ อธบิ ายการติดต่อสอ่ื สารผา่ นอนิ เทอร์เน็ตได้และสามารถใชเ้ ทคโนโลยีติดตอ่ ส่อื สารผา่ นทาง อินเทอร์เน็ต คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สมรรถนะทาง ICT ICA5 การใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม กระบวนการจัดการเรียนรู้ การเรยี นรแู้ บบแลกเปล่ียนความคดิ (Think-Pair-Share) คอื การจัดกิจกรรมการเรียนรูท้ ่ีให้ผ้เู รียนคิด เก่ยี วกับประเดน็ ท่ีกาหนดแตล่ ะคน ชน้ิ งาน/หลักฐานการเรียนรขู้ องผู้เรยี น ใบกิจกรรมที่ 2 เร่อื ง การนาอนิ เทอรเ์ นต็ เข้ามาใชใ้ นการติดต่อสอ่ื สารมปี ระโยชนอ์ ย่างไร เขียนอเี มลภายใต้ช่อื เรื่องการแนะนาตนเอง การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 - ขั้นนา (15 นาที ) 1. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี น ว่า “ปจั จุบนั นักเรยี นได้ใช้อินเทอรเ์ นต็ ทาสิ่งใดบา้ ง” (แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคาตอบขนึ้ อย่กู บั ดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น ใช้ ติดตอ่ สอื่ สาร ขายของออนไลน์ ศกึ ษาหาความรู้ เป็นตน้ ) 2. ครถู ามคาถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนโดยใช้คาถามประจาหัวข้อกับนักเรียนเพ่ือกระตุ้น ความคิดของนกั เรยี นนกั เรียนคดิ วา่ การนาอนิ เทอรเ์ นต็ เขา้ มาใช้ในการตดิ ตอ่ สอื่ สารมีประโยชนอ์ ย่างไร” (แนว ตอบ : นกั เรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคาตอบขึน้ อยู่กับดลุ ยพินิจของครูผ้สู อน เช่น สะดวกใน การทางาน ประหยดั เวลา เป็นตน้ ) - ข้นั สอน (45 นาที ) 3. ครผู สู้ อนซักถามนักเรียนว่า“นกั เรยี นรู้จกั การติดตอ่ สื่อสารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ แบบใดบ้าง” 4. นักเรียนศึกษาการตดิ ต่อสอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตในปจั จบุ นั จากหนังสอื เรยี นหรือจากอินเทอร์เนต็ 5. ครูผู้สอนเปดิ เวบ็ ไซต์ www.gmail.com เพือ่ เขา้ ใช้งานไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนกิ สห์ รอื อเี มลจากน้นั ให้ นกั เรยี นเข้าสู่เว็บไซต์ตามในเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 6. นักเรยี นสารวจตนเองว่ามบี ัญชผี ู้ใชข้ องเวบ็ ไซต์ www.gmail.com หรือไม่ หากไม่มีให้นักเรียน สร้างบัญชีผ้ใู ชต้ ามข้ันตอนจากครผู ูส้ อนในคาบเรียน ชั่วโมงที่ 2 - ขนั้ สอน (45 นาที ) 7. ทบทวนเน้ือหาการเรยี นเม่อื ชวั่ โมงทีแ่ ลว้ เก่ียวกับการตดิ ต่อสื่อสารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ และการสมัคร บญั ชผี ้ใู ช้อเี มล 8. ครผู สู้ อนอธบิ ายเกยี่ วกบั การเขยี นอเี มลต้องพมิ พใ์ นส่วนใดบ้างทาเปน็ ตวั อย่างใหน้ กั เรยี นดใู นคาบ เรียน 9. เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนสืบคน้ ข้อมลู เกย่ี วกบั การเขียนอเี มล จากหนังสอื เรยี นหรือเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ของตนเอง
10. นักเรยี นทาใบกจิ กรรมที่ 2 เรอื่ ง การนาอินเทอรเ์ น็ตเข้ามาใช้ในการติดต่อสื่อสารมีประโยชน์ อยา่ งไรและเขียนอเี มลภายใต้ชื่อเร่ืองการแนะนาตนเองและส่งมายงั ทีอ่ ยอู่ ีเมลของครูผู้สอน -ขัน้ สรปุ (15 นาที ) 13. ผเู้ รยี นและครผู ้สู อนรว่ มกันสรุปการตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ในชั้นเรยี น 14. ครปู ระเมนิ ผลนักเรยี นจากการสังเกตพฤติกรรมจากการตอบคาถาม การแสดงความคิดเห็น ความสนใจในการเรียนรู้และการทาใบกิจกรรม ส่อื การสอนและแหลง่ เรยี นรู้ ส่ืออปุ กรณ์ 1. หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วิทยาการคานวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 2. ใบกิจกรรมที่ 2 เรื่อง การนาอินเทอรเ์ นต็ เขา้ มาใช้ในการติดตอ่ สือ่ สารมีประโยชน์อย่างไร 3. เขยี นอเี มลภายใตช้ ือ่ เรื่องการแนะนาตนเอง แหล่งเรียนรู้ - หอ้ งคอมพวิ เตอร์ การวดั ผลและประเมนิ ผล สงิ่ ทีต่ อ้ งการวดั วธิ ีการวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ 1.อ ธิ บ า ย ก า ร ตรวจใบงาน ใบกจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื ง การนา ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ติ ด ต่ อ สื่ อ ส า ร ผ่ า น อนิ เทอร์เน็ตเข้ามาใช้ในการ อนิ เทอรเ์ น็ตได้ (K) ติดต่อสื่อส ารมีประโ ยช น์ อย่างไร 2. ส า ม า ร ถ ใ ช้ ตรวจใบงาน ใบกจิ กรรมท่ี 2 เรอ่ื ง การนา ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เทคโนโลยีติดต่อส่ือสาร อนิ เทอร์เนต็ เข้ามาใช้ในการ ผา่ นทางอินเทอร์เน็ตได้ (P) ติดต่อสื่อส ารมีประโ ยช น์ อยา่ งไร 3.ส นใ จ ใ ฝ่เรี ย นรู้ใ น สงั เกตพฤติกรรม การศึกษาและนาไปใช้ แบบประเมินคุณลักษณะอัน ระดับคณุ ภาพ ดี ผ่าน ในชีวิตประจาวนั ได้ (A) พึงประสงค์ เกณฑ์ 4.สมรรถนะทาง ICT ตรวจใบงาน เขียนอีเมลภายใต้ช่ือเรื่อง รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ICA5 ก า ร ใ ช้ ICT การแนะนาตนเอง อยา่ งเหมาะสม
ใบกจิ กรรม แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่อื ง การติดต่อสอ่ื สารผา่ น อนิ เทอรเ์ น็ต
เฉลยใบกจิ กรรม แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 เร่ือง การตดิ ต่อส่ือสารผา่ น อนิ เทอรเ์ น็ต
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง :ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ตี รง กับระดับคะแนน รายการประเมนิ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี รวมคะแนน 9 คะแนน มีทกั ษะ สามารถนา ระ ัดบ ุคณภาพ ลาดับท่ี ชื่อ - สกุล เลอื กและใช้ กระบวนการ เทคโนโลยีไป เทคโนโลยีได้ ทางเทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน อย่างเหมาะสม ใช้พัฒนา ตนเอง 3 21 321321 1 2 3 4 5 6 7 รวม เกณฑ์การตัดสินระดับคณุ ภาพ ดีมาก = 6 – 9 คะแนน ดี = 1 – 5 คะแนน ปรับปรุง = 0 เกณฑก์ ารสรุปผล ผ่านเกณฑ์ = 1 – 9 คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์ = 0 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก หมายถึง พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจน สม่าเสมอ (3 คะแนน) ดี หมายถึง พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง (2 คะแนน) ปรับปรุง หมายถึง พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัติเปน็ บ้างครั้ง (1 คะแนน)
พฤติกรรมบง่ ช้ี ดีมาก (3) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง (1) ดี (2) 1.เลือกใชเ้ ทคโนโลยีใน เลือกและใชเ้ ทคโนโลยที ี่ เลอื กและใช้เทคโนโลยที ี่ เลอื กและใช้เทคโนโลยี การทางานอยา่ ง เหมาะสมเพ่อื ลดขน้ั ตอน เหมาะสมเพ่อื ลดขนั้ ตอน เพ่ือลดขนั้ ตอนเวลา เหมาะสม เวลาทรัพยากรในการ เวลาทรัพยากรในการ ทรัพยากรในการทางาน ทางานและนาเสนอผลงาน ทางานและนาเสนอ และนาเสนอผลงานได้ ทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง ผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชน์ โดยตอ้ งมผี ้แู นะนา และสังคมโดยมีความ ตอ่ ตนเองและสงั คมโดย หลากหลายแปลกใหม่ ไม่ทาใหผ้ ูอ้ ่นื เดอื ดรอ้ นไม่ น่าสนใจไมล่ อกเลยี นแบบ มีผลกระทบต่อ ไมท่ าใหผ้ ู้อน่ื เดอื ดรอ้ นไม่มี สง่ิ แวดล้อม ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม และสามารถแนะนาผอู้ ืน่ ได้ 2. มที ักษะกระบวนการ มที กั ษะการใช้เทคโนโลยีที่ มที กั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี มีทกั ษะการใช้เทคโนโลยี ทางเทคโนโลยี เหมาะสมในการสรา้ งสรรค์ ท่ีเหมาะสมในการ ในการแก้ปญั หาได้โดย ไดด้ ว้ ยตนเองทาให้เกดิ สร้างสรรค์ไดด้ ้วยตนเอง ตอ้ งมีผ้แู นะนา ประโยชน์ต่อตนเองและ ทาให้เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมโดยไมท่ าใหผ้ ้อู ่ืน ตนเองและสงั คม เดอื ดรอ้ น 3. สามารถนา มกี ารนาเอาเทคโนโลยมี า มีการนาเอาเทคโนโลยมี า มีการนาเอาเทคโนโลยีมา เทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นา ปรบั ใชเ้ พ่ือพฒั นาการทา ปรบั ใช้เพื่อพฒั นาการทา ปรับใช้โดยใชผ้ ู้อน่ื ช่วยใน ตนเอง ใบงานในหน่วยต่างๆได้ ใบงานในหนว่ ยต่างๆได้ การเพอ่ื พฒั นาการใช้ และมีประโยชนต์ อ่ ตนเอง เทคโนโลยขี องตนเอง และไมท่ าให้ผอู้ น่ื เดอื ดรอ้ น
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้ีแจง :ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องทต่ี รง กับระดบั คะแนน รายการประเมนิ ใฝ่เรยี นรู้ แลกเปลย่ี น รวมคะแนน 9 คะแนน ระ ัดบ ุคณภาพ ความรู้ ด้วย เอาใจใสก่ าร สรุปผลการประเมิน ลาดับที่ ช่ือ - สกุล วธิ ีการต่างๆ เรียน และมี ตงั้ ใจเรียน และนาไปใชใ้ น ความเพยี ร ชวี ติ ประจาวัน พยายามใน สรุปความรู้ได้ การเรยี น อย่างมเี หตุผล 3 21 321321 1 2 3 4 5 6 7 รวม เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 6 – 9 ดีมาก 1 – 5 ดี 0 ปรับปรงุ *เกณฑก์ ารสรุปผล 1 – 9 ผ่าน 0 ไมผ่ ่าน เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างบางครง้ั ให้ 1 คะแนน 1. ใฝ่เรียนรู้
รายการประเมิน ดีมาก (3) ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ (1) ดี (2) 1. ต้ังใจเรยี น เขา้ เรยี นตรงเวลา ส่งงาน เขา้ เรยี นตรงเวลา ส่งงาน เข้าเรียนไม่ตรงเวลาสาย ตรงตามเวลา ทางาน ตรงตามเวลา ทางาน เกนิ 15 ที ส่งงานไมต่ าม เรยี บรอ้ ยไมว่ า่ จะเป็น เรยี บร้อย กาหนด ชิ้นงาน หรอื ใบงานปฏิบตั ิ ตามกฎระเบยี บทก่ี าหนด 2. แลกเปลยี่ นความรู้ มีการแสดงความคิดเหน็ มกี ารแสดงความคดิ เหน็ ไมม่ ีแสดงความคิดเหน็ ดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ และ แลกเปลย่ี นความรกู้ ับ แลกเปลย่ี นความรู้กบั แลกเปลย่ี นความรูก้ ับ นาไปใชใ้ น เพอื่ นหรอื คณุ ครูได้และ เพื่อนหรือคุณครูได้ เพอ่ื นหรือคุณครู ชีวิตประจาวันสรุป สามารถนาไปปรับใช้ใน บางครงั้ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล ชีวติ ประจาวันได้ 3. เอาใจใส่การเรียน มีความกระตอื รอื รน้ ในการ มีความกระตือรือร้นใน มีความกระตือรอื รน้ ใน และมีความเพยี ร เรียน ตัง้ ใจในการเรยี นและ การเรียนทางานระดบั การเรยี นบางคร้ัง พยายามในการเรยี น การทาชน้ิ งาน พอใช้
แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสา ระ กา รเรีย นรู้วิทย าศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้นป ระถมศึก ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 4 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 7 เรอื่ ง อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ เวลา 1 ชวั่ โมง ผูส้ อน นางสาวอรณชิ า หนูนวล มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ญั หาทพ่ี บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรกู้ ารทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจริยธรรม ตวั ช้วี ดั ว 4.2 ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย มมี ารยาท เขา้ ใจสิทธิและหน้าที่ ของตน เคารพในสิทธขิ องผอู้ น่ื แจ้งผเู้ กีย่ วขอ้ งเม่ือพบขอ้ มลู หรือบุคคลที่ไมเ่ หมาะสม จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ยกตวั อย่างอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ได้ (K) 2. สืบค้นขอ้ มลู เกี่ยวกับแนวทางการปอ้ งกนั การเกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ได้ (P) 3. สนใจใฝเ่ รียนรูใ้ นการศึกษาและนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ (A) สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตมีจานวนเพิ่มมากข้ึนเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการใช้ คอมพิวเตอร์และเครอื ข่ายคอมพิวเตอรเ์ ป็นเคร่อื งมอื ในการกระทาความผดิ เพื่อใหผ้ ้อู นื่ เกิดความเสียหายความ เดอื ดร้อน และเส่อื มเสียช่ือเสียง ดังนั้น ผู้ใช้งานท่ีดีควรปฏิบัติตนตามแนวทางป้องกันการเกิดปัญหา อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ เพ่อื ป้องกนั อนั ตรายทีอ่ าจเกิดขน้ึ จากการใชง้ านอินเทอรเ์ น็ต เนือ้ หาสาระ/สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มลู เชน่ เปรยี บเทยี บความสอดคลอ้ ง สมบรู ณ์ของขอ้ มลู จากหลายแหลง่ แหลง่ ต้นตอของขอ้ มลู ผู้เขียนวันที่เผยแพรข่ ้อมลู - อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต ความรู้ แนวทางการป้องกันการเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สมรรถนะทาง ICT ICA5 การใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม กระบวนการจัดการเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบ cooperative learning การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื เปน็ เทคนคิ การจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ทใี่ ห้นักเรียนไดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั เป็นกล่มุ เล็กๆ แต่ละกลมุ่ ประกอบดว้ ยสมาชิกทมี่ คี วามรู้ความสามารถ แตกตา่ งกันแต่ละคนมีสว่ นร่วมอยา่ งแทจ้ รงิ ในการเรียนรู้ ชิ้นงาน/หลักฐานการเรียนรู้ของผเู้ รียน ใบกจิ กรรมที่ 3 เรื่อง รปู แบบอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ใบกจิ กรรมท่ี 4 เร่อื ง ทาความเข้าใจอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 - ขน้ั นา (15 นาที ) 1. ครูผู้สอนกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นโดยถามคาถามประจาหัวขอ้ ว่า“นกั เรยี นมีวิธีป้องกันการ เกดิ อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ทอ่ี าจจะเกดิ ข้นึ กับตนเองอย่างไร”(แนวตอบ : ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทุกคร้ังหลงั เลิกใช้งาน ไมเ่ ปิดเผยข้อมลู ส่วนตัวลงบนเว็บไซตต์ ่าง ๆ) - ข้นั สอน (45 นาที ) 2. ครตู ง้ั คาถามร่วมกบั นกั เรียนภายในห้องเรียนว่า“นักเรียนคดิ ว่าการเกิดปัญหาอาชญากรรมทาง อนิ เทอร์เน็ตมอี ะไรบ้าง”(แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเหน็ ของตนเอง โดยคาตอบข้นึ อยูก่ ับดลุ ยพินิจ ของครผู สู้ อน เช่น การแพร่ภาพอนาจารทางออนไลน์ การละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิ เป็นตน้ ) 3. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่ือทาความเข้าใจเก่ียวกับ อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต จากหนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี(วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการ เรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภัย 4. เปดิ โอกาสให้นักเรียนสืบคน้ ข้อมลู เก่ียวกับการกอ่ อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต ในรูปแบบต่าง ๆ จากหนังสอื เรยี นหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง 5. ทาใบกิจกรรมที่ 3 เรอื่ ง รปู แบบอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต 6. ครอู ธิบายกบั นักเรยี นว่า“ในปจั จบุ นั ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ มจี านวนเพ่มิ มากขึ้น และ เพอ่ื เปน็ การปอ้ งกันตนเองจากปญั หาดังกลา่ วเราจึงควรปฏบิ ตั ติ นตามแนวทางป้องกนั การเกดิ ปญั หา อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ” 7. นกั เรยี นศกึ ษาแนวทางการปอ้ งกนั การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตจากหนังสือเรียน และแหล่งขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เชน่ อนิ เทอร์เนต็ หนังสือ เป็นต้น 8. ครถู ามคาถามกระตุ้นผ้เู รียนวา่ “นกั เรียนคดิ ว่าอะไรเป็นสาเหตุทท่ี าใหเ้ กิดปญั หาอาชญากรรมทาง อนิ เทอร์เน็ต”(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคาตอบขึ้นอยู่กับดุ ลยพินิจของ ครผู ูส้ อน เช่น เปดิ เผยขอ้ มูลสว่ นตวั ของตนเองลงบนอนิ เทอรเ์ นต็ ต้ังรหัสผา่ นที่คาดเดาไดง้ ่าย ดาวนโ์ หลดไฟล์ หรือข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ทตี่ ดิ ไวรัส เปน็ ตน้ ) 9. นักเรยี นสังเกตการใช้งานอนิ เทอร์เนต็ ท่ีอาจกอ่ ให้เกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ตและแนว ทางการป้องกนั เมื่อพบปญั หาจากหนังสอื เรียนหรือคอมพวิ เตอร์ 10. ทาใบกจิ กรรมท่ี 4 เร่ือง ทาความเขา้ ใจอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต
-ขนั้ สรุป (15 นาที ) 11. ผ้เู รียนและครูผูส้ อนร่วมกันสรุปเกย่ี วกับความหมายของอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต การก่อ อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต แนวทางการป้องกันการเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ 12. ครูประเมนิ ผลนักเรยี นจากการสงั เกตพฤตกิ รรมจากการตอบคาถาม การแสดงความคิดเห็น ความสนใจในการเรยี นรู้และการทาใบกิจกรรม ส่อื การสอนและแหลง่ เรียนรู้ สอ่ื อุปกรณ์ 1. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วทิ ยาการคานวณ) ชั้น ประถมศึกษาปที ่ี 5 2. ใบกจิ กรรมที่ 3 เรื่อง รูปแบบอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ 3. ใบกจิ กรรมท่ี 4 เรอ่ื ง ทาความเข้าใจอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ แหล่งเรียนรู้ - หอ้ งคอมพิวเตอร์ การวัดผลและประเมนิ ผล ส่งิ ท่ตี ้องการวัด วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1.ยกตัวอยา่ งอาชญากรรมทาง ตรวจใบงาน ใ บ กิจก รรมท่ี 3 เร่ือ ง รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ อินเทอรเ์ นต็ ได้ (K) รปู แบบอาชญากรรมทาง อนิ เทอรเ์ น็ต 2. สืบค้นข้อมูลเก่ียวกับแนว ตรวจใบงาน ใ บ กิจก รรมที่ 3 เร่ือ ง รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ รปู แบบอาชญากรรมทาง ทางการปอ้ งกนั การเกิดปัญหา อินเทอร์เน็ต อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ได้ (P) 3.สนใจใฝ่เรียนรู้ในการศึกษา สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ ดี ผ่าน และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ อันพงึ ประสงค์ เกณฑ์ (A) 4.สมรรถนะทาง ICT ตรวจใบงาน ใบกิจกรรมท่ี 4 เรื่อง ทา ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ICA5 ก า ร ใ ช้ ICT อ ย่ า ง ความเขา้ ใจอาชญากรรม ทางอนิ เทอรเ์ น็ต เหมาะสม
ใบกิจกรรม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 เร่อื ง อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็
เฉลยใบกิจกรรม แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง :ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ตี รง กับระดับคะแนน รายการประเมนิ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี รวมคะแนน 9 คะแนน มีทกั ษะ สามารถนา ระ ัดบ ุคณภาพ ลาดับท่ี ชื่อ - สกุล เลอื กและใช้ กระบวนการ เทคโนโลยีไป เทคโนโลยีได้ ทางเทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน อย่างเหมาะสม ใช้พัฒนา ตนเอง 3 21 321321 1 2 3 4 5 6 7 รวม เกณฑ์การตัดสินระดับคณุ ภาพ ดีมาก = 6 – 9 คะแนน ดี = 1 – 5 คะแนน ปรับปรุง = 0 เกณฑก์ ารสรุปผล ผ่านเกณฑ์ = 1 – 9 คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์ = 0 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก หมายถึง พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจน สม่าเสมอ (3 คะแนน) ดี หมายถึง พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง (2 คะแนน) ปรับปรุง หมายถึง พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัติเปน็ บ้างครั้ง (1 คะแนน)
พฤติกรรมบง่ ช้ี ดีมาก (3) ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง (1) ดี (2) 1.เลือกใชเ้ ทคโนโลยีใน เลือกและใชเ้ ทคโนโลยที ี่ เลอื กและใช้เทคโนโลยที ี่ เลอื กและใช้เทคโนโลยี การทางานอยา่ ง เหมาะสมเพ่อื ลดขนั้ ตอน เหมาะสมเพ่อื ลดขนั้ ตอน เพ่ือลดขนั้ ตอนเวลา เหมาะสม เวลาทรัพยากรในการ เวลาทรัพยากรในการ ทรัพยากรในการทางาน ทางานและนาเสนอผลงาน ทางานและนาเสนอ และนาเสนอผลงานได้ ทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง ผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชน์ โดยตอ้ งมผี ้แู นะนา และสังคมโดยมคี วาม ตอ่ ตนเองและสงั คมโดย หลากหลายแปลกใหม่ ไมท่ าให้ผูอ้ น่ื เดือดรอ้ นไม่ น่าสนใจไมล่ อกเลยี นแบบ มีผลกระทบต่อ ไมท่ าใหผ้ ู้อน่ื เดอื ดรอ้ นไม่มี สง่ิ แวดล้อม ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม และสามารถแนะนาผอู้ ืน่ ได้ 2. มที ักษะกระบวนการ มที กั ษะการใช้เทคโนโลยีที่ มที กั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี มีทกั ษะการใช้เทคโนโลยี ทางเทคโนโลยี เหมาะสมในการสร้างสรรค์ ท่ีเหมาะสมในการ ในการแก้ปญั หาได้โดย ไดด้ ว้ ยตนเองทาใหเ้ กดิ สรา้ งสรรค์ไดด้ ้วยตนเอง ตอ้ งมีผ้แู นะนา ประโยชน์ต่อตนเองและ ทาใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ สงั คมโดยไมท่ าใหผ้ ู้อน่ื ตนเองและสงั คม เดอื ดรอ้ น 3. สามารถนา มกี ารนาเอาเทคโนโลยมี า มีการนาเอาเทคโนโลยมี า มีการนาเอาเทคโนโลยีมา เทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นา ปรบั ใชเ้ พ่ือพฒั นาการทา ปรบั ใช้เพื่อพฒั นาการทา ปรับใช้โดยใชผ้ ู้อน่ื ช่วยใน ตนเอง ใบงานในหน่วยตา่ งๆได้ ใบงานในหนว่ ยต่างๆได้ การเพอ่ื พฒั นาการใช้ และมีประโยชน์ตอ่ ตนเอง เทคโนโลยขี องตนเอง และไมท่ าให้ผอู้ น่ื เดือดรอ้ น
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง :ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องทีต่ รง กบั ระดบั คะแนน รายการประเมนิ ลาดับที่ ชือ่ - สกลุ ต้ังใจเรยี น ใฝ่เรยี นรู้ เอาใจใสก่ าร รวมคะแนน 9 คะแนน แลกเปลีย่ น เรยี น และมี ระ ัดบ ุคณภาพ 1 3 21 ความรู้ ดว้ ย ความเพียร 2 วธิ กี ารตา่ งๆ พยายามใน สรุปผลการประเมิน 3 และนาไปใช้ใน การเรียน 4 ชีวติ ประจาวนั 5 สรุปความร้ไู ด้ 321 6 อย่างมเี หตุผล 7 321 รวม เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 6 – 9 ดีมาก 1 – 5 ดี 0 ปรับปรงุ *เกณฑ์การสรปุ ผล 1 – 9 ผ่าน 0 ไม่ผ่าน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
1. ใฝ่เรยี นรู้ รายการประเมิน ดมี าก (3) ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง (1) 1. ตง้ั ใจเรียน ดี (2) เข้าเรียนไมต่ รงเวลาสาย เขา้ เรยี นตรงเวลา ส่งงาน เกนิ 15 ที ส่งงานไม่ตาม 2. แลกเปลีย่ นความรู้ ตรงตามเวลา ทางาน เข้าเรยี นตรงเวลา สง่ งาน กาหนด ดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ และ เรยี บรอ้ ยไม่ว่าจะเป็น ตรงตามเวลา ทางาน นาไปใช้ใน ช้นิ งาน หรือใบงานปฏิบตั ิ เรยี บรอ้ ย ไมม่ ีแสดงความคดิ เหน็ ชีวติ ประจาวันสรปุ ตามกฎระเบยี บที่กาหนด แลกเปลยี่ นความร้กู บั ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล มีการแสดงความคิดเห็น มกี ารแสดงความคดิ เหน็ เพื่อนหรือคณุ ครู 3. เอาใจใส่การเรียน แลกเปลี่ยนความรกู้ บั แลกเปล่ยี นความรกู้ บั และมีความเพียร เพ่ือนหรือคุณครไู ด้และ เพื่อนหรอื คณุ ครูได้ มีความกระตือรือร้นใน พยายามในการเรียน สามารถนาไปปรบั ใชใ้ น บางคร้ัง การเรยี นบางคร้งั ชวี ิตประจาวนั ได้ มีความกระตอื รือร้นในการ มีความกระตอื รือร้นใน เรยี น ต้ังใจในการเรียนและ การเรยี นทางานระดับ การทาชน้ิ งาน พอใช้
แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง การแกป้ ญั หา เวลา 4 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 เร่อื ง การพิจารณาแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวจันทิมา บัวทอง มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาทีพ่ บในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชว้ี ัด ป.5/1ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ าย การทางาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ จากปญั หาอยา่ งงา่ ย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.อธบิ ายการพจิ ารณาแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะและวเิ คราะห์วิธีการเล่นเกมซูโดกแุ ละ คาดการณ์ผลลพั ธ์ได้ (K) 2.ลงมือทาแบบฝกึ หดั เรอ่ื งการแก้ปญั หาเชงิ ตรรกะโดยใชเ้ กมโซโดกไุ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง (P) 3.สนใจใฝ่เรียนรใู้ นการศึกษาและเห็นประโยชน์ของการพิจารณาปญั หาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ (A) สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหาเป็นวิธีการที่เปน็ การนากฎเกณฑ์หรือเง่อื นไขทีครอบคลุมทุก กรณมี าใชเ้ พอ่ื พิจารณาปัญหา วธิ ีการแก้ปัญหา ทาให้สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ท่ีจะเกิดขึ้นได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ เช่น การพจิ ารณาปญั หาโดยใช้กฎเกณฑ์หรือเงื่อนไข การพจิ ารณาปญั หาเกมซโู ดกุ เนือ้ หาสาระ/สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) การพจิ ารณาปญั หาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ 1. หลักการแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ 2. วิธีการพิจารณาเกมโซโดกุ ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. การส่ือสาร - ทกั ษะการส่ือสาร - ทกั ษะการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู
2. การคดิ การตัดสินใจและการแกป้ ัญหา - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทกั ษะการคิดเชิงคานวณ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการแกป้ ัญหา - ทกั ษะการสงั เกต คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มีวินยั รับผดิ ชอบ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ สมรรถนะทาง ICT ICA4 การแกไ้ ขปัญหาในบรบิ ทโลกดิจทิ ัลและการคดิ เชิงคานวณ กระบวนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีการสอนโดยใช้สถานการณจ์ าลอง (Simulation) วิธีการสอนโดยเน้นการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ (Collaborative learning) วิธกี ารสอนโดยเนน้ การเรยี นรแู้ บบใชเ้ กม (Games) ชิ้นงาน/หลกั ฐานการเรยี นรขู้ องผูเ้ รียน ใบกจิ กรรมที่1 การแก้ปัญหาเชงิ ตรรกะโดยใชเ้ กมโซโดกุ ใบกจิ กรรมที่ 2 เร่ือง การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 - ขัน้ นา (15 นาที ) 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ เพือ่ วดั ความรู้เดมิ ของนักเรยี นก่อนเขา้ สูก่ ิจกรรม 2. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมกบั นักเรียนเพ่อื เชือ่ มโยงเขา้ ส่บู ทเรียนเกีย่ วกบั การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตุผล เชงิ ตรรกะว่า“การแก้ปญั หาเชงิ ตรรกะจะช่วยให้เข้าใจปัญหาได้อย่างถูกต้อง สง่ ผลให้สามารถจดั ลาดบั การ ทางาน หรือแก้ปญั หาได้อยา่ งแมน่ ยา รวมถงึ สามารถคาดการณ์ส่งิ ทเ่ี กดิ ข้ึนไดอ้ กี ด้วย” - ขนั้ สอน ( 30 นาที ) 3. นกั เรียนศึกษาและสังเกตตวั อยา่ งการพจิ ารณาปัญหาโดยใช้กฎเกณฑ์หรอื เงื่อนไข จากหนังสอื เรยี น 4. ครอู ธิบายเพิ่มเติมกับนกั เรยี นว่า“นกั เรยี นจะเห็นได้ว่าเมือ่ ภาพไมต่ รงตามกฎเกณฑห์ รือเงื่อนไขที่ กาหนดจะ “เกิดขอ้ ผิดพลาด” 5.นกั เรียนเรียน ทาแบบฝึกเกมซูโดกุ 1 ข้อ ไปพรอ้ มกบั ผ้สู อน อธบิ ายความเขา้ ใจในการพิจารณาหลกั และแถวของเกมดงั กลา่ ว 6.มอบหมายให้นกั เรียนเรยี นทาใบกจิ กรรมที1่ การแกป้ ญั หาเชิงตรรกะโดยใชเ้ กมโซโดกุ
6.นักเรียนและครรู ว่ มกันเฉลยใบกิจกรรมท1ี่ การแกป้ ญั หาเชงิ ตรรกะโดยใชเ้ กมโซโดกุ ชั่วโมงที่ 2 - ขัน้ สอน ( 30 นาที ) 7.ครูทบทวนความรูเ้ ดมิ ของนกั เรยี นพอสังเขป 8. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “นักเรียนรู้หรือไม่ว่า เกมซูโดกุคือเกมอะไรมี วิธีการเล่นอยา่ งไร” (แนวตอบ : คาตอบของนักเรยี นข้นึ อยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน เชน่ เกมซูโดกเุ ปน็ เกมปริศนาที่มลี กั ษณะเปน็ ตารางตัวเลข โดยผ้เู ล่นจะตอ้ งเติมตัวเลขทข่ี าดหายไปลงในชอ่ งว่างในตารางโดยไมซ่ า้ กนั ทั้งแนวนอน แนวตัง้ และตารางย่อย) 9.นักเรียนลงมอื ทาใบกิจกรรมที่ 2 เร่ือง การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะโดยให้นักเรียน พิจารณาร่วมกันถงึ สถานการณ์และเงอื่ นไขตา่ ง ๆ ที่มสี ่วนช่วยในการแกป้ ัญหาจากน้นั ให้นักเรียนเขียนวิธีการ แกป้ ัญหาโดยใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ 10.นักเรยี นแต่ละคนออกมานาเสนอผลงานจากการทาใบงานบริเวณหนา้ ชัน้ เรยี น โดยแสดงถงึ วธิ กี าร พิจารณาสถานการณ์ เง่ือนไขตา่ ง ๆ และวิธีการแกป้ ัญหาโดยใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะตามความคิดของแต่ละคน 11.ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ กับนักเรยี นเก่ียวกบั การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะว่า“การแกป้ ัญหาอยา่ ง มตี รรกะจะชว่ ยใหเ้ กดิ โอกาสผิดพลาดน้อย เพราะเมื่อเกดิ ความเคยชินกับการแก้ปญั หาอย่างมีตรรกะจะทาให้ ไม่เชอ่ื เร่ืองอะไรง่าย ๆ นอกจากนน้ั ยงั ทาใหค้ วามคดิ ของเราท่ีมีการนาเสนอออกไปไดร้ ับการยอมรบั จากผอู้ ื่น มากขึน้ ด้วย” - ข้นั สรปุ (15 นาที ) 12. ครูประเมนิ ผลนกั เรียนจากการสังเกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และการทา กิจกรรมของนกั เรยี น 13. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ เกยี่ วกับการพจิ ารณาปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ การพิจารณา ปญั หาโดยใช้กฎเกณฑ์หรอื เงอ่ื นไข และการพิจารณาปัญหาเกมซูโดกุ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ สื่ออปุ กรณ์ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วิทยาการคานวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 2. ใบกิจกรรมท1่ี การแก้ปญั หาเชงิ ตรรกะโดยใช้เกมโซโดกุ 3. ใบกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะโดยให้นกั เรียนพิจารณา ร่วมกนั ถึง แหล่งเรยี นรู้ -
การวดั ผลและประเมนิ ผล สงิ่ ท่ีตอ้ งการวดั วิธกี ารวัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน 1.อธิบายการแก้ปญั หาโดยใช้ สงั เกตการตอบ แบบทดสอบคาถาม ประเมนิ ตามสภาพจรงิ เหตุผลเชงิ ตรรกะและอธบิ าย คาถาม วธิ ีการพิจารณาเกมโซโดกไุ ด้ (K) 2.ทาแบบฝึกหัดเรอื่ งการ ตรวจใบงาน ใบกิจกรรมท่ี1 การ ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ แก้ปัญหาเชงิ ตรรกะโดยใชเ้ กมโซ โดกุไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (P) แก้ปญั หาเชิงตรรกะโดย ใช้เกมโซโดกุ 3.สนใจใฝเ่ รียนรู้ในการศกึ ษาและ สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ ดี ผ่าน สามารถนาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปปรบั ใช้ การทางานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล เกณฑ์ ในชีวติ ประจาวันได้ (A) 4. ICA4 การแก้ไขปญั หาในบรบิ ท ตรวจใบงาน ใบกิจกรรมท่ี 2 เรือ่ ง การ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ โลกดิจทิ ลั และการคดิ เชิงคานวณ แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ล เชิงตรรกะโดยให้นกั เรียน พจิ ารณาร่วมกนั ถึง สถานการณ์และเงอื่ นไข ต่าง ๆ ท่มี สี ว่ นช่วยในการ แกป้ ญั หาจากนัน้ ให้ นกั เรยี นเขียนวิธีการ แกป้ ัญหาโดยใช้เหตุผล เชิงตรรกะ
ใบงาน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การแกป้ ัญหา ใบกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื งการแก้ปัญหาเชิงตรรกะโดยใช้เกมซโู ดกุ การพจิ ารณาปญั หา เกมซโู ดกุ พิจารณาเกมตอ่ ไปน้ีตามหลักการเล่นเกมซูโดกุ แล้วเติมคาตอบลงในช่องวา่ ง ชื่อ....................................................................เลขท.ี่ .............ชนั้ ..........................
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การแก้ปัญหา ใบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ งการแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ พจิ ารณารูปภาพต่อไปนี้ แล้ววง รูปภาพทีห่ ายไป :? :? :?
เฉลยใบงาน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การแกป้ ัญหา ใบกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื งการแก้ปัญหาเชิงตรรกะโดยใช้เกมซโู ดกุ การพจิ ารณาปญั หา เกมซโู ดกุ พิจารณาเกมตอ่ ไปน้ีตามหลักการเล่นเกมซูโดกุ แล้วเติมคาตอบลงในช่องวา่ ง ชื่อ....................................................................เลขท.ี่ .............ชนั้ ..........................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161