Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นายกฤษณพงศ์ จงเทพ 002

นายกฤษณพงศ์ จงเทพ 002

Published by armchin.0000arn, 2022-01-10 15:51:37

Description: นายกฤษณพงศ์ จงเทพ 002

Search

Read the Text Version

97 ชน้ิ งานท่ี 11 เรอื่ ง แนวทางแกไ้ ขปญั หาสุขภาพในชมุ ชน วนั ท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ ช่อื _____________________________เลขที่______ชน้ั __________ นักเรยี นแต่ละกลุ่มเขยี นวิธีดาเนนิ กจิ กรรมหรือโครงการท่ีเลือกจากข้อ 5 เขยี นบันทกึ รายละเอยี ดเปน็ แผนภาพความคิด และนาเสนอหน้าช้ันเรยี น

98

99

100

101 หน่วยท่ี 5 การทดสอบสมรรถภาพ

102 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวิชา สุขศึกษา ปีการศกึ ษา 2564 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 5 ช่วั โมง หนว่ ยที่ 5 การทดสอบสมรรถภาพทางกาย 1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เหน็ คุณคา่ และมีทกั ษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปอ้ งกนั โรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ ตวั ชวี้ ดั พ 4.1 ม.3/4 วางแผนและจัดเวลาในการออกกาลังกาย การพักผอ่ น และการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย พ 4.1 ม.3/5 ทดสอบสมรรถภาพทางกายและพัฒนาได้ตามความแตกต่างระหวา่ งบุ 2.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ความรู้(k) 1.นกั เรยี นอธิบายหลักการวางแผนและจัดเวลาในการออกกาลังกายการพักผอนและการ สรางเสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ 2.นักเรียนสามารถอธบิ ายองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกายและพฒั นาไดต้ ามความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลได้ 2.2 ทกั ษะ(P) 1.นกั เรยี นทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบต่าง ๆ หลงั จากปฏบิ ัตติ ามแผนทว่ี างไว้ 2.นักเรยี นทดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยการวัดค่าดัชนีมวลกายได้ 2.3 ทศั นคติ(A) 1.นกั เรยี นเหน็ ความสาคัญของการพฒั นาสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ 2.นกั เรยี นเข้าใจถงึ การทดสอบสมรรถภาพทางกายและพฒั นาความแตกต่างระหวา่ ง บคุ คลได้ 3.สาระสาคญั

103 การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทาใหท้ ราบระดับความสามารถของรา่ งกายในดา้ นต่าง ๆ ควรมกี ารทดสอบสมรรถภาพทางกายตามแบบทดสอบต่าง ๆ ทห่ี ลากหลายการวางแผนและจัดเวลา ในการออกกาลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพจะนาไปสกู่ ารมี สุขภาพทแ่ี ขง็ แรง โดยทุกคนต้องสร้างเสรมิ และพัฒนาสมรรถภาพทางกายอย่างสมา่ เสมอ โดยใช้ กจิ กรรมทเ่ี หมาะสมตามความแตกตา่ งระหว่างบุคคล 4.สาระการเรยี นรู้ 1. การทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบตา่ ง ๆ 2. การวางแผนและจดั เวลาในการออกกาลงั กาย การพกั ผ่อน และการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ 3. การพฒั นาสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด ทกั ษะการอ่าน ทกั ษะการวเิ คราะห์ ทกั ษะการประเมนิ ทักษะการเปรยี บเทียบ ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสนา กษตั รยิ ์ ซื่อสตั ย์สุจรติ มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ 5.สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ( เฉพาะทเี่ กิดในหนว่ ยการเรยี นรู้น้ี ) ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เนน้ ส่กู ารเรยี นรู้คุณภาพผ้เู รียน) ทกั ษะการอ่าน (Reading) ทกั ษะการเขียน (Writing) ทกั ษะการคิดคานวณ (Arithmetic) ทกั ษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารญาณและทกั ษะในการแกป้ ัญหา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation) ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration ,teamwork and leadership) ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทักษะดา้ น การสอื่ สาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสอ่ื (Communication information and media literacy)

104 ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing) ทักษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้ (Career and and learning self-reliance, change) ทักษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผนู้ า(Leadeship) 7.ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) 1. ชน้ิ งานที่ 12 เรื่อง การวางแผนและจดั เวลาในการออกกาลังกาย 2. ชน้ิ งานท่ี 13 เร่ือง การพฒั นาสมรรถภาพทางกายเพือ่ สุขภาพ 3. หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 4. ตารางเกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทางกาย ดัชนีมวลกาย 5. ตารางเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย ลุก-นงั่ 60 วนิ าที 6. ตารางเกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทางกาย ดันพื้น 30 วนิ าที 7. ตารางเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย ยนื กระโดดไกล 8. ตารางเกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทางกาย นง่ั งอตวั ไปข้างหน้า 9. ตารางเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย ว่ิงระยะไกล 10. แบบบนั ทกึ การทดสอบสมรรถภาพทางกาย 11. แบบบนั ทกึ การทดสอบสมรรถภาพทางกายครง้ั ที่ 2 12. กระดาษสาหรบั ทากจิ กรรม 13. แหลง่ การเรยี นรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน 8.การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน :กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps หน่วยยอ่ ยท1่ี เรอ่ื ง การทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบต่าง ๆ (3 ช่ัวโมง) ขั้นท่ี 1 Gathering (ขน้ั สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล) 1. นกั เรียนร่วมกันสนทนาเกีย่ วกบั สมรรถภาพทางกายระหวา่ งตนเองกับเพอ่ื น โดยตอบคาถาม 2. นกั เรียนสังเกตการสาธิตการปฏิบตั กิ ารลกุ -นัง่ การดนั พ้นื และการยืนกระโดดไกล จากนั้นร่วมกันสนทนาโดยตอบคาถาม 3. นกั เรยี นสังเกตการสาธิตการปฏบิ ัตกิ ารนง่ั งอตัวไปข้างหนา้ จากนั้นรว่ มกันสนทนา โดยตอบคาถาม 4. นักเรยี นศึกษาความร้แู ละรวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกบั การทดสอบสมรรถภาพ ทางกายแบบตา่ ง ๆจากแหลง่ การเรียนรตู้ ่าง ๆ เช่น หนังสือเรยี น อินเทอร์เนต็

105 ขั้นที่ 2 Processing (ข้นั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความร)ู้ 5. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ วา่ การทดสอบสมรรถภาพ ทางกายรายการใดใชเ้ พ่อื วดั องคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกายในดา้ นใด 6. นกั เรียนแบ่งกล่มุ ตามความเหมาะสมแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั วิเคราะห์ข้ันตอนการ ทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยการวัดค่าดัชนีมวลกาย และแสดงความคิดเห็น เก่ยี วกบั จุดประสงค์ในการทดสอบสมรรถภาพทางกายของการวัดค่าดัชนมี วลกาย 7. นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ข้ันตอนการ ทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยการลุก-น่ัง 60 วินาที การดันพ้ืน 30 วินาที การ ยนื กระโดดไกล การนง่ั งอตัวไปขา้ งหนา้ และการว่ิงระยะไกล และแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับจุดประสงค์ในการทดสอบสมรรถภาพทางกายของการลุก-นั่ง 60 วินาที การดันพ้ืน 30 วินาที การยืนกระโดดไกล การนั่งงอตัวไปข้างหน้าและการวิ่ง ระยะไกล 8. นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดังน้ี ∙ คนทแี่ ข็งแรงและมีสมรรถภาพทางกายที่ดจี ะต้องเปน็ คนทมี่ ีรปู ร่างดี ใชห่ รอื ไม่ เพราะเหตุใด ∙ นักเรยี นจะทราบได้อย่างไรวา่ ใครมสี มรรถภาพดีกว่ากัน ∙ ถ้าการประเมนิ ผลการทดสอบมีความผิดพลาด จะมีผลต่อการสร้าง เสรมิ สมรรถภาพทางกายหรอื ไม่ อย่างไร ขั้นท่ี 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขน้ั ปฏิบตั แิ ละสรปุ ความร้หู ลัง การปฏบิ ัต)ิ 9. นักเรียนทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยการวัดค่าดัชนีมวลกาย การลุก-นั่ง 60 วนิ าที การดันพ้ืน 30 วินาที การยืนกระโดดไกล การน่ังงอตัวไปข้างหน้า และการ ว่งิ ระยะไกล จากน้นั เปรยี บเทยี บผลการปฏบิ ตั กิ ับตารางเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพ ทางกาย ดัชนีมวลกาย ลุก-น่ัง 60 วินาที ดันพ้ืน 30 วินาที ยืนกระโดดไกล นั่งงอ ตัวไปข้างหน้า และว่งิ ระยะไกล แลว้ บันทึกผลการทดสอบลงในแบบบันทึก 10. นักเรียนร่วมกนั สรุปส่ิงที่เขา้ ใจเป็นความร้รู ่วมกัน ดงั น้ี การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทาใหท้ ราบระดับความสามารถของร่างกายใน ด้านต่าง ๆ ควรมกี ารทดสอบสมรรถภาพทางกายตามแบบทดสอบต่าง ๆ ท่ีหลากหลาย ขั้นท่ี 4 Applying the Communication Skill (ขนั้ ส่อื สารและนาเสนอ) 11. นกั เรียนนาเสนอผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยการวัดค่าดัชนีมวลกาย การ ลุก-น่ัง 60 วินาที การดันพื้น 30 วินาที การยืนกระโดดไกล การนั่งงอตัวไป ข้างหนา้ และการวิ่งระยะไกลหนา้ ชน้ั เรยี น 12. นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายสรปุ เกีย่ วกบั วธิ กี ารทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิง ระบบและวิธกี ารทางานทม่ี ีแบบแผน ข้นั ท่ี 5 Self-Regulating (ขน้ั ประเมินเพ่ือเพมิ่ คณุ คา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ)

106 13. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทา กจิ กรรมในประเด็นตอ่ ไปนี้ • ส่ิงทนี่ กั เรยี นได้เรยี นร้ใู นวันนค้ี ืออะไร • นักเรียนมีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • เพ่ือนนกั เรยี นในกล่มุ มสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพึงพอใจกับการเรยี นในวนั น้หี รอื ไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนาความรทู้ ี่ไดน้ ไ้ี ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไปได้อย่างไรจากน้ันแลกเปล่ียนตรวจสอบข้ันตอน การทางานทุกข้ันตอนว่าจะเพ่ิมคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้ มากขึ้นกว่าเดมิ ในข้นั ตอนใดบ้าง สาหรับการทางานในครงั้ ตอ่ ไป หน่วยย่อยท่ี 2 เร่ือง การวางแผนและจัดเวลาในการออกกาลังกาย การพักผ่อน และการสร้าง เสรมิ สมรรถภาพทางกายเพือ่ สขุ ภาพ (1 ชัว่ โมง) ขน้ั ที่ 1 Gathering (ขน้ั สังเกต รวบรวมขอ้ มลู ) 1. นักเรียนร่วมกันสนทนาเกย่ี วกบั หลักในการออกกาลงั กาย โดยตอบคาถาม 2. นักเรียนศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเกย่ี วกับการวางแผนและจดั เวลาใน การออกกาลังกาย การพักผ่อน และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ จากแหล่งการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ เช่น หนงั สือเรียน อนิ เทอร์เนต็ ขนั้ ที่ 2 Processing (ข้นั คิดวิเคราะห์และสรปุ ความร)ู้ 3. นกั เรยี นรว่ มกันวิเคราะห์ขัน้ ตอนการวางแผนและจัดการเวลาในการออกกาลงั กาย 4. นักเรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ขนั้ ตอนการวางแผนและจัดการเวลาในการพักผอ่ น 5. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหข์ น้ั ตอนการวางแผนและจดั การเวลาในการสร้างเสริม สมรรถภาพทางกาย 6. นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั น้ี • ก่อนพัฒนาสมรรถภาพทางกายของตนเอง นักเรยี นมีวธิ ีเตรยี มตวั อย่างไร ขนั้ ที่ 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ัต)ิ 9. นักเรียนนาเสนอแผนการออกกาลังกายและการพักผ่อนใน 1 สัปดาห์ เพ่ือการ เสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายหนา้ ชัน้ เรยี น 10. นักเรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปเก่ยี วกับวธิ กี ารทางานใหเ้ หน็ การคดิ เชงิ ระบบ และวธิ ีการทางานท่มี ีแบบแผน ขน้ั ท่ี 4 Applying the Communication Skill (ขั้นสื่อสารและนาเสนอ) 7. ตวั แทนนกั เรยี น 2-3 คน ออกมานาเสนอผลการวเิ คราะห์ปัญหาสาเหตขุ องปัญหา และความคาดหวงั ของสังคมทม่ี ีตอ่ วัยรุน่ เพ่ือป้องกนั ปัญหา ทห่ี น้าชั้นเรียน 8. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรปุ เกยี่ วกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบ และวธิ ีการทางานทม่ี ีแบบแผน

107 ขน้ั ที่ 5 Self-Regulating (ขั้นประเมินเพอื่ เพ่มิ คณุ ค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ) 11. นักเรยี นนาแผนการออกกาลงั กายและการพักผ่อนทวี่ างไว้ไปปฏบิ ตั ิอย่างเป็นประจา เพอื่ การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 12. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทา กิจกรรมในประเด็นตอ่ ไปน้ี • ส่ิงท่นี ักเรยี นได้เรยี นร้ใู นวนั น้คี อื อะไร • นักเรยี นมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด • เพอ่ื นนกั เรียนในกลุ่มมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นหี้ รอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนาความรู้ทไี่ ดน้ ี้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และ สังคมท่ัวไปได้อย่างไรจากน้ันแลกเปล่ียนตรวจสอบขั้นตอนการทางานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่ม คณุ คา่ ไปส่สู งั คม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากข้ึนกว่าเดิมในข้ันตอนใดบ้าง สาหรับการทางานในคร้ัง ต่อไป หนว่ ยยอ่ ยท่ี 3 การพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ (1 ชั่วโมง) ขน้ั ที่ 1 Gathering (ขั้นสังเกต รวบรวมขอ้ มลู ) 1. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกับการปฏบิ ัตติ ามแผนการออกกาลงั กายและการพักผ่อน ของตนเอง โดยตอบคาถาม 2. นักเรียนศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เก่ียวกบั การพฒั นาสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่าง ๆ เชน่ หนังสอื เรียน อินเทอรเ์ นต็ ขั้นที่ 2 Processing (ขั้นคิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้) 3. นกั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์หลักในการปฏบิ ตั ิการพฒั นาสมรรถภาพทางกายเพ่ือสขุ ภาพ 4. นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ดังนี้ • การปฏบิ ัติตามแผนการพัฒนาสมรรถภาพทางกายจะต้องคานึงถงึ สงิ่ ใดบ้าง จึงจะประสบผลสาเร็จ ขนั้ ท่ี 3 Applying and Constructing the Knowledge (ข้นั ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรู้หลัง การปฏิบัติ) 5. นักเรียนปฏิบตั กิ ารทดสอบสมรรถภาพทางกายครงั้ ท่ี 2 หลังจากปฏิบัติตามแผนการ ออกกาลงั กายและการพักผอ่ นทว่ี างแผนไว้ จากน้นั นาผลการทดสอบไปเปรียบเทียบ กับตารางเกณฑม์ าตรฐานในการทดสอบแตล่ ะการทดสอบ และบันทึกลงในช้ินงานที่ 13 เร่อื ง การพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพ 6. นักเรยี นรว่ มกันสรุปสิ่งท่ีเข้าใจเปน็ ความรูร้ ่วมกัน ดังนี้ การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทาให้ทราบระดับความสามารถของรา่ งกายใน ดา้ นตา่ ง ๆ ควรมีการทดสอบสมรรถภาพทางกายตามแบบทดสอบต่าง ๆ ท่ีหลากหลาย ขัน้ ที่ 4 Applying the Communication Skill (ข้ันส่อื สารและนาเสนอ) 7. นกั เรยี นนาเสนอผลปฏิบัตกิ ารทดสอบสมรรถภาพทางกายครั้งท่ี 2 หลงั จากปฏิบัติ ตามแผนการออกกาลงั กายและการพักผ่อนท่ีวางแผนไวห้ นา้ ชน้ั เรยี น

108 7. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เก่ยี วกบั วธิ ีการทางานใหเ้ หน็ การคิดเชิงระบบ และวธิ ีการทางานท่มี แี บบแผน ข้ันที่ 5 Self-Regulating (ขัน้ ประเมินเพ่อื เพิม่ คณุ ค่าบริการสงั คมและจติ สาธารณะ) 9. นกั เรยี นนาความร้ทู ่ีไดร้ บั เก่ียวกบั การพฒั นาสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ ไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวนั 10. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ ึกหลงั การเรียนและหลงั การทา กิจกรรมในประเดน็ ต่อไปนี้ • สิง่ ที่นกั เรยี นได้เรียนรใู้ นวันนี้คอื อะไร • นักเรยี นมีส่วนร่วมกจิ กรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพยี งใด • เพือ่ นนักเรียนในกลุ่มมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวันนห้ี รอื ไม่ เพียงใด • นกั เรยี นจะนาความรูท้ ี่ไดน้ ไ้ี ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และ สงั คมทวั่ ไปได้อย่างไรจากน้นั แลกเปล่ียนตรวจสอบขน้ั ตอนการทางานทุกขนั้ ตอนว่าจะเพ่ิมคุณคา่ ไปสู่ สงั คม เกดิ ประโยชน์ตอ่ สังคมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในขนั้ ตอนใดบ้าง สาหรับการทางานในครั้งต่อไป 9.การวัดประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรอื่ ง การทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบต่าง ๆ การวางแผนและจัดเวลา ในการออกกาลงั กาย การพักผ่อน และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ การพัฒนาสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ ชนิ้ งาน เร่อื ง การวางแผนและจัดเวลาในการออกกาลงั กาย (P) ด้วยแบบประเมิน 4. ประเมนิ ชน้ิ งาน เรอ่ื ง การพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ (P) ด้วยแบบประเมนิ 5. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ

109 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม กล่มุ ท่ี............................ สมาชกิ ของกลมุ่ 1. 2. 3. 4. 5. 6. ลาดับท่ี พฤติกรรม คุณภาพการปฏิบตั ิ 321 1 มีการวางแผนร่วมกนั ก่อนทางาน 2 มกี ารแสดงความคิดเห็นของสมาชกิ 3 มีการรับฟังความคิดเหน็ ของสมาชกิ 4 มกี ารปฏบิ ัตงิ านตามขนั้ ตอนท่ีวางแผนไว้ 5 สามารถใหค้ าแนะนากลุ่มอ่นื ได้ รวม ลงชอื่ ..............................................................................ผู้ประเมนิ ......................./.........................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน

110 ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้งหรือน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมิน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด √ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ 4321 ด้าน 1. รกั ชาติ 1.1 ยืนตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ ศาสน์ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าท่ขี องนกั เรียน 1.3 ให้ความรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกับ สมาชกิ ในช้นั เรยี น 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชุมชน 1.5 เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏบิ ัติ ตนตามหลักของศาสนา 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามท่ีโรงเรยี น และชมุ ชนจัดข้นึ 2. ซื่อสตั ย์ 2.1 ให้ข้อมลู ที่ถูกต้อง และเป็นจริง สุจริต 2.2 ปฏิบตั ิในสง่ิ ทีถ่ กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ที่ จะทาความผิด ทาตามสญั ญาที่ตนให้ไว้กบั เพ่ือน พ่อ แมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏิบัตติ ่อผอู้ ืน่ ด้วยความซื่อตรง 3. มวี ินัย 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ รับผดิ ชอบ ข้อบังคับของครอบครวั และโรงเรียน มีความ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรยี นร้ตู ่างๆ

111 5. อยู่อย่าง 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ พอเพยี ง 4.3 สรปุ ความรู้ได้อยา่ งมีเหตุผล 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ ของตนเอง เช่น ส่ิงของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ ง ดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุม้ คา่ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏิบตั ิตนและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มี เหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบผอู้ ่นื และไมท่ าให้ผู้อ่นื เดอื ดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเมื่อผู้อ่นื กระทาผดิ พลาด คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ 43 2 1 ดา้ น 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใช้ ชีวติ ประจาวนั บนพ้นื ฐานของความรู้ ข้อมลู ขา่ วสาร 6. มงุ่ มน่ั ในการ 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลีย่ นแปลงทางสงั คม และ ทางาน สภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรับตวั อยู่ร่วมกับผูอ้ ่ืนได้อย่าง มคี วามสขุ 7. รักความเปน็ 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ บั ไทย มอบหมาย 8. มจี ิต 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งาน สาธารณะ สาเร็จ 7.1 มีจติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญา ไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของให้ ผู้อืน่ 8.3 รู้จกั ดูแล รักษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิ่งแวดล้อมของ ห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ของ โรงเรยี น

112 ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ช่วงคะแนน ดี 191 - 108 พอใช้ 73 - 90 ปรบั ปรงุ 54 - 72 ต่ากว่า 54 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน

113 แบบประเมนิ ใบงาน/ชนิ้ งาน กลุ่มท่ี.............เรอื่ ง........................................................................................................................ รายวชิ า................................รหสั วชิ า...............................ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่................................ คาชี้แจง : ให้ครูทาเครอ่ื งหมาย ✓ลงในชอ่ งระดับคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมนิ รวม หมายเหตุ ระดับคะแนน ประเดน็ การประเมนิ ๕๔๓๒๑ ๑. รูปแบบของใบงาน/ชิ้นงาน ๒. ความถกู ตอ้ งของข้อมลู เนือ้ หาสาระ ๓. ความตรงตอ่ เวลา คะแนนรวม ลงชือ่ ……………………………….ผู้ประเมิน (………………………….……) …………/…………/……….

114 เกณฑก์ ารประเมนิ แบบประเมนิ ใบงาน/ช้นิ งาน ประเดน็ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / ระดับคุณภาพ การ ๕ ๔ ๓ ๒๑ ประเมนิ ๑. รูปแบบของงาน รูปแบบของงาน รปู แบบของ รปู แบบของ รูปแบบ รปู แบบ ถกู ต้องตามกาหนด มี ถกู ต้องตาม งานถูกต้อง งานถูกต้อง ของงาน ของใบ ความเปน็ ระเบียบ กาหนด มคี วาม ตามกาหนดมี ตามกาหนด ไม่ถูกต้อง งาน/ เรียบร้อย ตกแต่งอย่าง เปน็ ระเบยี บ ความเปน็ บางสว่ น ตาม ช้นิ งาน สวยงาม แสดงถงึ เรยี บร้อย แสดง ระเบยี บ กาหนด ความคดิ ริเริ่ม ถึงความคดิ ริเรม่ิ เรยี บร้อย สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ ๒. ความ เนื้อหาสาระถูกต้อง เนอื้ หาสาระ เนอื้ หาสาระ เนอื้ หา เนือ้ หา ถูกต้อง ครบถว้ น ละเอียด ถูกต้องครบถว้ น สว่ นมาก สาระ สาระไม่ ของขอ้ มูล ชัดเจน และมีการ ละเอียดชัดเจน ถกู ต้อง ถูกต้อง ถกู ต้อง เนอ้ื หา สบื คน้ ข้อมูลเพ่ิมเติม เพยี ง สาระ นอกเหนือจาก บางส่วน บทเรียน ๓. ความ ส่งงานภายใน ส่งงานชา้ กวา่ สง่ งานช้ากวา่ สง่ งานช้า สง่ งานชา้ ตรงต่อ ระยะเวลาที่กาหนด กาหนด ๑ วัน กาหนด ๒ กวา่ กาหนด กว่า เวลา วัน ๓ วนั กาหนด เกิน ๓ วนั ข้นึ ไป เกณฑก์ ารตดั สินระดบั คุณภาพ

115 ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑๓ – ๑๕ ดมี าก ๑๐ – ๑๒ ดี ๗–๙ ปานกลาง ๔–๖ พอใช้ ๑–๓ ควรปรับปรุง แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-Test) ชือ่ ______________________________________________ เลขที่ _______ ชน้ั ______ นักเรียน X ทบั คาตอบท่ีถูกต้องใหเ้ ต็มวง 1. ถา้ ต้องการทราบความอดทนของระบบไหลเวยี นโลหิตและหวั ใจ ควรทดสอบสมรรถภาพทาง กายข้อใด 1 ลุก-น่ัง 2 ว่ิงระยะไกล 3 ยืนกระโดดไกล 4 ดันพนื้ 30 วินาที 2. การลุก-น่ัง 60 วนิ าที พฒั นากลา้ มเนอื้ ใดมากท่ีสุด 1 กลา้ มเนื้อหลงั 2 กลา้ มเนอื้ ทอ้ ง 3 กล้ามเนอ้ื ต้นขา 4 กล้ามเนอื้ ต้นแขน 3. สมรรถภาพทางกายหมายถึงข้อใด 1 เลน่ กีฬาเกง่ 2 เล่นกฬี าได้หลายประเภท 3 มกี ลา้ มมากและยกของหนัก ๆ ได้ 4 มีความสมบรู ณ์แข็งแรงของรา่ งกาย 4. ขอ้ ใดไม่ใช่จุดประสงคข์ องการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 1 เพอื่ ปรบั ปรุงข้อบกพรอ่ งของร่างกาย 2 วดั ความแขง็ แรงของรา่ งกาย 3 เพอ่ื สร้างเสริมความแขง็ แรง 4 เพือ่ ทราบสมดลุ ของรา่ งกาย

116 5. การวางแผนออกกาลังกายในแตล่ ะเดือนมปี ระโยชน์อย่างไร 1 ทาให้มีแนวทางดาเนินชวี ิตทถี่ ูกตอ้ ง 2 ทาใหห้ ายเจบ็ ปว่ ยจากโรคเร้ือรังทเี่ ปน็ อยู่ 3 เพือ่ ใหม้ ีเวลาวา่ งในการไปเที่ยวกบั เพ่ือนมากขึน้ 4 เพอ่ื ให้มีแนวทางพฒั นาสมรรถภาพทางกายอย่างชัดเจน 6. การพักผ่อนไมเ่ พียงพอจะส่งผลอย่างไร 1 ร่างกายทรุดโทรม เจบ็ ปว่ ยได้งา่ ย 2 มแี นวโน้มที่จะเปน็ โรคอ้วนได้ง่าย 3 เกดิ ความวิตกกังวลในการดาเนนิ ชีวติ 4 ความจาเสื่อมและร่างกายหยุดการเจรญิ เติบโต 7. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกีย่ วกบั การสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย 1 การนอนตน่ื สายทาใหร้ ้สู ึกสดชืน่ และกระปรี้กระเปรา่ 2 การออกกาลงั กายเป็นประจาทาให้กลา้ มเนื้อแข็งแรง 3 การรบั ประทานอาหารเสริมช่วยให้ร่างกายแข็งแรง 4 การตรวจสุขภาพรา่ งกายประจาปชี ่วยรกั ษาโรค 8. การทดสอบสมรรถภาพทางกายมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร 1 ชว่ ยให้หายเจ็บป่วยได้งา่ ย 2 ทาให้ไม่ตอ้ งออกกาลงั กายบ่อย ๆ 3 ช่วยใหท้ ราบความบกพรอ่ งของรา่ งกาย 4 ชว่ ยให้เลน่ กฬี าทกุ ประเภทอย่างเชีย่ วชาญ 9. ขอ้ ใดชว่ ยสร้างเสรมิ สมรรถภาพและสุขภาพ 1 รับประทานอาหารท่ปี รุงเอง 2 ออกกาลังกายสปั ดาห์ละ 3 วนั 3 อ่านหนังสอื ทบทวนบทเรยี นทกุ วัน 4 รับประทานอาหารและนอนหลบั ให้มากในทกุ วนั 10. ขอ้ ใดเป็นการวางแผนการออกกาลงั กายทเ่ี หมาะสม 1 ออกกาลังกายสัปดาหล์ ะ 3-4 ครั้ง 2 ก่อนออกกาลงั กายต้องรับประทานอาหารให้อ่ิม 3 เริ่มต้นออกกาลังกายดว้ ยกจิ กรรมหนักแล้วจงึ เบาลง 4 เม่อื ออกกาลังกายเสรจ็ ควรรีบอาบน้าเปล่ียนเสอ้ื ผา้ ทันที เฉลย ข้อ 1. ตอบ 2 ข้อ 2. ตอบ 2 ข้อ 3. ตอบ 4 ข้อ 4. ตอบ 4

117 ขอ้ 5. ตอบ 4 ข้อ6. ตอบ 1 ข้อ7. ตอบ 2 ขอ้ 8. ตอบ 3 ขอ้ 9. ตอบ 2 ข้อ10. ตอบ 1 แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) ชอ่ื ________________________________________________ เลขที่ ______ ชนั้ _____ นกั เรยี น X ทับคาตอบทถ่ี ูกต้อง 1. สมรรถภาพทางกายหมายถึงข้อใด 1 เลน่ กีฬาเก่ง 2 เล่นกฬี าไดห้ ลายประเภท 3 มีกล้ามมากและยกของหนัก ๆ ได้ 4 มีความสมบูรณ์แขง็ แรงของรา่ งกาย 2. ข้อใดไม่ใช่จดุ ประสงคข์ องการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 1 เพ่อื ปรับปรุงข้อบกพรอ่ งของร่างกาย 2 วดั ความแขง็ แรงของรา่ งกาย 3 เพือ่ สรา้ งเสริมความแข็งแรง 4 เพื่อทราบสมดุลของรา่ งกาย 3. ถ้าตอ้ งการทราบความอดทนของระบบไหลเวยี นโลหิตและหัวใจ ควรทดสอบสมรรถภาพทาง กายข้อใด 1 ลกุ -นั่ง 2 วิ่งระยะไกล 3 ยนื กระโดดไกล 4 ดันพื้น 30 วินาที 4. การลุก-นง่ั 60 วินาที พฒั นากลา้ มเนื้อใดมากทีส่ ุด 1 กลา้ มเน้ือหลงั 2 กลา้ มเน้อื ทอ้ ง 3 กล้ามเน้ือตน้ ขา

118 4 กล้ามเน้อื ต้นแขน 5. การทดสอบสมรรถภาพทางกายมปี ระโยชนอ์ ย่างไร 1 ช่วยใหห้ ายเจ็บป่วยได้งา่ ย 2 ทาใหไ้ ม่ตอ้ งออกกาลงั กายบ่อย ๆ 3 ช่วยให้ทราบความบกพร่องของร่างกาย 4 ช่วยใหเ้ ล่นกฬี าทุกประเภทอย่างเชี่ยวชาญ 6. ข้อใดชว่ ยสร้างเสรมิ สมรรถภาพและสุขภาพ 1 รับประทานอาหารที่ปรงุ เอง 2 ออกกาลงั กายสปั ดาหล์ ะ 3 วนั 3 อา่ นหนงั สอื ทบทวนบทเรยี นทุกวัน 4 รับประทานอาหารและนอนหลบั ให้มากในทกุ วัน 7. ข้อใดเปน็ การวางแผนการออกกาลงั กายท่ีเหมาะสม 1 ออกกาลงั กายสปั ดาหล์ ะ 3-4 ครง้ั 2 ก่อนออกกาลังกายต้องรับประทานอาหารให้อ่มิ 3 เริ่มตน้ ออกกาลงั กายด้วยกิจกรรมหนกั แล้วจึงเบาลง 4 เมื่อออกกาลังกายเสรจ็ ควรรีบอาบน้าเปลีย่ นเสอ้ื ผ้าทันที 8. การวางแผนออกกาลังกายในแต่ละเดือนมีประโยชน์อย่างไร 1 ทาใหม้ แี นวทางดาเนินชีวติ ท่ถี ูกตอ้ ง 2 ทาให้หายเจ็บป่วยจากโรคเรื้อรงั ท่ีเป็นอยู่ 3 เพอื่ ใหม้ ีเวลาวา่ งในการไปเท่ียวกับเพอื่ นมากข้นึ 4 เพื่อให้มแี นวทางพัฒนาสมรรถภาพทางกายอยา่ งชัดเจน 9. การพักผอ่ นไมเ่ พียงพอจะสง่ ผลอยา่ งไร 1 รา่ งกายทรุดโทรม เจ็บปว่ ยได้งา่ ย 2 มแี นวโนม้ ทจี่ ะเปน็ โรคอว้ นได้งา่ ย 3 เกิดความวิตกกังวลในการดาเนินชีวิต 4 ความจาเสอื่ มและร่างกายหยุดการเจริญเตบิ โต 10. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องเกี่ยวกับการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย 1 การนอนต่ืนสายทาใหร้ ู้สกึ สดช่ืนและกระปร้ีกระเปร่า 2 การออกกาลังกายเป็นประจาทาใหก้ ลา้ มเน้ือแขง็ แรง 3 การรับประทานอาหารเสริมชว่ ยใหร้ ่างกายแข็งแรง 4 การตรวจสุขภาพรา่ งกายประจาปชี ่วยรักษาโรค เฉลย ขอ้ 1. ตอบ 4 ขอ้ 2. ตอบ 4 ข้อ 3. ตอบ 2 ข้อ 4. ตอบ 2

119 ข้อ 5. ตอบ 3 ข้อ6. ตอบ 2 ขอ้ 7. ตอบ 1 ขอ้ 8. ตอบ 4 ข้อ9. ตอบ 1 ข้อ10. ตอบ 2 ช้ินงานท่ี 12 เรื่อง การวางแผนและจัดเวลาในการออกกาลังกาย วนั ท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ ชื่อ_____________________________เลขท่ี______ชนั้ __________ นักเรียนออกแบบแผนการออกกาลงั กายและการพกั ผ่อนใน 1 สปั ดาห์ เพื่อการสรา้ งเสริม สมรรถภาพทางกายลงในตาราง แลว้ อธบิ ายผลท่เี กดิ ข้นึ ลงในแผนภาพความคิด

120 ช้ินงานท่ี 13 เรือ่ ง การพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ วนั ที่________เดอื น_______________พ.ศ.___________ ช่ือ_____________________________เลขที่______ชน้ั __________ นักเรียนปฏิบตั ติ ามแผนการออกกาลังกายและการพักผอ่ นเป็นเวลา 4 สัปดาห์ จงึ ทดสอบ สมรรถภาพทางกายตามที่กาหนดคร้งั ท่ี 2 โดยนาผลการทดสอบไปเปรยี บเทียบกบั ตารางเกณฑ์ มาตรฐานในแต่ละการทดสอบ และบันทึกลงในแบบบนั ทกึ แล้วนาเสนอหน้าช้ันเรียน แบบบนั ทึกผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายสาหรับเด็กไทยอายุ 13-18 ปี ทดสอบวนั ที่ (5) เดือน (สิงหาคม) พ.ศ. (2562) ชื่อ-นามสกลุ (ณดา สขุ ภาพดี) เพศโดยกาเนิด ชาย หญิง วนั เดือน ปี เกิด (3 มีนาคม 2548) อายุ (14) ปี (5) เดือน น้าหนัก (45) กิโลกรัม สว่ นสงู (158) เซนตเิ มตร ระดับช้นั (ม.3) ห้อง (1) โรงเรียน (พัฒนาวิชาการ) จงั หวัด (กรุงเทพมหานคร) ลาดับ รายการทดสอบ ผลการทดสอบ หน่วย ผลการเปรยี บเทยี บกบั ตารางเกณฑ์ 1. ดชั นีมวลกาย (18.026) มาตรฐาน กโิ ลกรมั /ตาราง 2. ลกุ -นง่ั 60 วนิ าที (35) เมตร (มวลกายพอเหมาะ) ครั้ง (ดี) 3. ดันพ้ืน 30 วินาที (36) ครง้ั (ดีมาก)

121 4. ยนื กระโดดไกล (175) เซนติเมตร (ดีมาก) (11) เซนติเมตร (ปานกลาง) 5. น่งั งอตวั ไป (13.45) นาทแี ละวินาที (ปานกลาง) ขา้ งหน้า 6. วงิ่ ระยะไกล* * การทดสอบวิ่งระยะไกล เด็กชายและเด็กหญงิ อายุ 13-18 ปีใชร้ ะยะทาง 1,600 เมตร ลงชื่อ (ณดา สขุ ภาพดี) ผ้รู บั การทดสอบ

122

123

124

125

126

127

128 บรรณานุกรรม นทรว์ ิภา ดิลกสัมพันธ์. เพศศกึ ษา. กรุงเทพฯ : บูรพาสาส์น, ๒๕๕๕. ตารวจแห่งชาติ, สานกั งาน คู่มือประชาชน. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ตารวจ, ๒๕๕๙. นติ ยา พิริยะพงษ์พันธ.์ กฎหมายปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ . กรงุ เทพฯ : กองนติ กิ ารสานกั งาน ป.ป.ส.. ม.ป.ป. .ชีวิตใหม่ ผู้ชายเลิกเหล้า ครอบครัวเปน็ สุข. กรุงเทพฯ : มูลนิธเิ พื่อนหญงิ ,๒๕๕๐. เมหินี พงษ์เวช. บนั ทกึ ประสบการณ์บา้ นฉุกเฉนิ : การคลายปัญหาความรนุ แรงในครอบครัว.กรุงเทพฯ : เอดสิ นั , ๒๕๕๐. วิจิตรา กสุ ุมภ์ การกูช้ ีวติ CPR 2003. พิมพ์ครงั้ ท่ี ๓. กรงุ เทพฯ : นิชการพมิ พ์, ๒๕๔๖. วิภาพร วรหาญ และคณะ. การปฐมพยาบาลและการพยาบาลฉกุ เฉิน. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑๔. ขอนแกน่ : ขอนแก่นการพมิ พ์, ๒๕๕๔. วริ ตั น์ ศรีนพคุณ และศรี ศรีนพคุณ. การปฐมพยาบาล. กรุงเทพฯ : จุฬลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๔๓. ศุภมติ ร ชณุ หสุทธิวัฒน์. ความรู้ทวั่ ไปเก่ียวกับโรคตดิ ต่อและโรคไม่ตดิ ตอ่ . เอกสารการสอนวชิ าโรคติดต่อและ ไมต่ ิดต่อ สาขาวิทยาศาสตรส์ ุขภาพ มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช, ๒๕๓๗. สงวน สุทธิเลศิ อรณุ . พฤตกิ รรมมนุษย์กับการพัฒนาตน. กรงุ เทพฯ : ทิพย์วสิ ุทธ์ิ, ๒๕๔๕. ส่งเสริมสถานภาพสตรี, สมาคม. 25 ปี บ้านพกั ฉุกเฉนิ . กรุงเทพฯ : โรงพมิ พเ์ อดิสนั เพลส, ๒๕๔๘ .รายงานประจาปี 2549. กรุงเทพฯ : โรงพิมพเ์ อดสิ ันเพลส, ๒๕๕๐. สมชาย สุพนั ธ์วุ ณิช. การป้องกนั และควบคุมโรคตดิ ตอ่ 2532. บนั ทึกเหตุการณส์ าคญั จากเวบ็ ไซต์กองระบาดวทิ ยาในรอบปี ๒๕๕0 สานักปลัดกระทรวงสาธารณสุขกระทรวงสาธารณสขุ . สุขภาพจิต, กรม. กระทรวงสาธารณสขุ . ค่มู ือคลายเครียด (ฉบับปรบั ปรงุ ใหม่. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์องค์กรสงเคราะห์ทหารผา่ นศึก, ๒๕๕๓ สุพติ ร สมาหโิ ต. แบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายสาหรบั อายุ 7-18 ป.ี สานัก วทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬา กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกิฬา ๒๕๕๕. อานวยการต่อสเู้ พ่ือเอาซนะยาเสพติดแหง่ ชาติ ศูนย์ ทกุ ปัญหาแกไ้ ขไดด้ ว้ ยกระบวนการประชาคม บทเรียนการจัดการปัญหายาเสพติดของคนคลองจรเข้นอ้ ย. กรุงเทพฯ :สานกั งาน ป.ป.ส. มป.ป.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook